คำนำ

ขอขอบคุณที่ท่านเลือกใช้ BYD ATTO 3 เพื่อการใช้งานและดูแลรักษา BYD ATTO 3 ได้เป็นอย่างดี

โปรดอ่านคู่มือนี้อย่างละเอียดและเก็บไว้อย่างดีหลังจากอ่านแล้ว

คำแนะนำพิเศษ : BYD แนะนำให้คุณเลือกใช้อะไหล่แท้ บำรุงรักษา และซ่อมแซมรถอย่างเหมาะสมตาม

คู่มือนี้ การใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ที่ไม่ใช่ของแท้ในการเปลี่ยนหรือดัดแปลงรถจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของรถ
ทั้งคัน โดยเฉพาะความปลอดภัย ความทนทาน และจะเกิดความเสียหายต่อรถได้ ปัญหาด้าน
ประสิทธิภาพที่เกิดจากการใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ที่ไม่ใช่ของแท้ จะไม่ครอบคลุมอยู่ในการรับประกัน นอกจาก
นี้การดัดแปลงรถยนต์อาจละเมิดกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับของประเทศ และข้อบังคับของรัฐบาลท้อง
ถิ่น

ขอขอบคุณอีกครั้งที่ท่านเลือก BYD ATTO 3 และยินดีรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอันมีค่าของคุณ

เพื่อความสะดวกกับการบริการที่ดียิ่งขึ้น โปรดระบุข้อมูลการติดต่อปัจจุบันของคุณ หากมีการ
เปลี่ยนแปลงข้อมูล โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการ เพื่อปรับปรุง
ข้อมูลในระบบให้เป็นปัจจุบัน นอกจากนี้คุณควรให้ความสนใจกับกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของ
ประเทศที่เกี่ยวข้อง นโยบายท้องถิ่น และลงทะเบียนยานพาหนะโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นการลงทะเบียนยาน
พาหนะอาจจะมีปัญหาได้

กรุณาให้ความสนใจกับสัญลักษณ์ "หมายเหตุ" "ข้อควรระวัง" และ "คำเตือน" ในคู่มือนี้ และปฏิบัติตาม

คำแนะนำอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บหรือความเสียหาย สัญลักษณ์เหล่านี้ถูกกำหนดดังนี้

หมายเหตุ : รายการที่ต้องสังเกตเพื่ออำนวยความสะดวกในการบำรุงรักษา ฯลฯ

ข้อควรระวัง : รายการที่ต้องสังเกตเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อรถ

คำเตือน : รายการที่ต้องปฏิบัติตามเพื่อความปลอดภัยส่วนบุคคล

เป็นเครื่องหมายความปลอดภัยที่บ่งบอกถึงการดำเนินการที่ไม่ควรทำ หรือเหตุการณ์ที่ไม่ควร
เกิดขึ้น

1
 คำอธิบายที่มีเครื่องหมายดอกจัน (*) ในคู่มือนี้ เฉพาะสำหรับรถบางรุ่นเท่านั้น และใช้ได้
* เฉพาะรถที่มีอุปกรณ์เหล่านี้เท่านั้น รูปภาพที่นำมาแสดง มาจากรุ่นที่มีอุปกรณ์
หากมีความแตกต่างกับรถที่คุณซื้อโปรดดูที่รถจริง

คู่มือนี้คาดว่าจะช่วยให้คุณใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้อง และคู่มือนี้ไม่ได้ให้คำอธิบายใดๆเกี่ยวกับการ
กำหนดค่าและเวอร์ชันซอฟต์แวร์ สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการกำหนดค่าผลิตภัณฑ์ และเวอร์ชัน
ซอฟต์แวร์ โปรดดูสัญญา (ถ้ามี) ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์นี้ หรือปรึกษาผู้ขายที่ขายรถให้กับคุณ

สงวนลิขสิทธิ์ © BYD Auto Industry Co., Ltd.

ห้ามทำซ้ำ หรือ ส่งต่อส่วนใดส่วนหนึ่งของเอกสารนี้ในรูปแบบใดๆ หรือโดยวิธีใดๆ โดยไม่ได้รับ
ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจาก BYD Auto Industry Co., Ltd.

ติดต่อเรา
หากคุณต้องการความช่วยเหลือหรือคำชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายหรือขั้นตอน โปรดติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์
อีเมล์: autoservice.contact@byd.com.

2
 ภาพรวมโมเดล
BYD ATTO 3 เป็นการใช้พลังงานรูปแบบใหม่ กำลังแบบใหม่ และเป็นรถยนต์นั่งไฟฟ้า เป็นผลิตภัณฑ์ที่
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ BYD ทุ่มเทให้กับการผลิต มันมีคานรับน้ำหนัก ตลอดแนวจากด้านหน้าไปด้าน
หลัง และชุดแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่รวมเข้ากับตัวถังเพื่อความปลอดภัยของแบตเตอรี่และยานพาหนะ
BYD ATTO 3 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าในสภาพการทำงานที่หลากหลาย ดังนั้นจึงปล่อยมลพิษเป็น
ศูนย์ได้
เนื่องจากเป็นรถยนต์ไฟฟ้า BYD ATTO 3 จึงมีระดับเสียงภายในและภายนอกที่ต่ำมาก มอบ
ประสบการณ์การขับขี่ และการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งไม่มีรถยนต์สันดาปภายในใครเทียบได้
การออกแบบรถยนต์คันนี้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าแรงสูง เพื่อความปลอดภัยของ
ผู้ขับขี่และผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
รถยนต์คันนี้มีระบบจัดการแบตเตอรี่ที่คอยตรวจสอบพลังงานของแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง ปรับกำลังการ
ใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพต่างๆ เช่น แรงดันและกระแสไฟของแต่ละเซลล์แบตเตอรี่ และป้องกัน
ปัญหาที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ เช่น การประจุไฟเกิน การคายประจุเกิน และความร้อนสูง
เกินไป จึงมั่นใจได้ว่าแบตเตอรี่จะทำงานภายใต้สภาวะที่เหมาะสม
มอเตอร์ขนาด 150 กิโลวัตต์ ให้พละกำลังแก่ ATTO 3 ด้วยความเร็วสูง แรงบิดสูง และอัตราเร่งอันทรง
พลัง

3
4
ดัชนีภาพประกอบ
ภายนอก.......................................................10
แผงหน้าปัด..................................................11
คอนโซลกลาง...............................................12
ประตู............................................................13
ความปลอดภัย
เข็มขัดนิรภัย ................................................16
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเข็มขัดนิรภัย................16
การใช้เข็มขัดนิรภัย...........................................16
ระบบถุงลมนิรภัย.............................................19
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับถุงลมนิรภัย..................19
ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ
และผู้โดยสารตอนหน้า.....................................20
ถุงลมนิรภัยด้านข้างเบาะนั่งด้านหน้า...............21
ม่านนิรภัยด้านข้าง............................................22
เงื่อนไขการทำงานของถุงลมนิรภัย และ
หมายเหตุ..........................................................22
ระบบที่นั่งสำหรับเด็ก....................................26
ระบบที่นั่งสำหรับเด็ก.......................................28
ระบบป้องกันการโจรกรรม............................34
ระบบป้องกันการโจรกรรม...............................34
การรวบรวมและประมวลผลข้อมูล...............35
การรวบรวมและประมวลผลข้อมูล...................35
จอแสดงผลสำหรับคนขับ
สัญลักษณ์บนจอแสดงผลสำหรับคนขับ........40
สัญลักษณ์บนจอแสดงผลสำหรับคนขับ............40
ไฟแสดงและสัญลักษณ์เตือน............................41
ระบบควบคุมการทำงาน
ประตูและกุญแจรถ ......................................52
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกุญแจ............................52
การล็อค/ปลดล็อคประตู...................................55
ระบบควบคุมการเข้าออกอัจฉริยะ และ การเปิด
การทำงานรถ....................................................62
ล็อคป้องกันเด็ก................................................64
ที่นั่ง .............................................................64
ข้อมูลที่นั่ง ........................................................64
การปรับเบาะนั่งด้านหน้า.................................65
การพับที่นั่งด้านหลัง.........................................66
ที่รองรับศีรษะ...................................................66
พวงมาลัย.....................................................68
สวิตช์............................................................71
สวิตช์ไฟหน้า.....................................................71
สวิตช์ที่ปัดน้ำฝน...............................................76
สวิตช์ประตูหน้า................................................77
สวิตช์สลับมาตรวัดระยะทาง.............................80
กลุ่มสวิตช์ช่วยเหลือการขับขี่............................80
สวิตช์ควบคุมหน้าต่างด้านผู้โดยสาร.................80
ปุ่มไฟเตือนฉุกเฉิน.............................................80
กลุ่มสวิตช์โหมดขับขี่.........................................81
PAB สวิตช์*……………………………………………….82
สวิตช์ซันรูฟ .....................................................83
สวิตช์ไฟภายในห้องโดยสาร..............................84
การใช้งานและการขับขี่
การชาร์จ/การคายประจุ...............................88
คำแนะนำในการชาร์จ .................................88
วิธีการชาร์จ.......................................................94
การจ่ายพลังงานภายนอก*.............................100
ฟังค์ชั่นควบคุมล็อคไฟฟ้า
ของพอร์ตชาร์จ..............................................101
แสดงระยะการขับขี่........................................101
ตั้งค่าการเบรกพร้อมการสร้างกระแสไฟฟ้า....102
5
แบตเตอรี่....................................................103
แบตเตอรี่สําหรับระบบขับเคลื่อน...................103
แบตเตอรี่แรงดันต่ำ (12 โวลต์).......................105
สิ่งจําเป็นในการใช้งาน................................106
ช่วงเวลาเริ่มใช้งานรถใหม่...............................106
แนวทางปฏิบัติในการลากจูง..........................107
ข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัยในการขับขี.่ ...107
ข้อแนะนำในการใช้รถยนต์.............................107
วิธีประหยัดพลังงาน และยืดอายุ
การใช้งานรถยนต์...........................................108
การบรรทุกสัมภาระ........................................109
ข้อควรระวังในการขับลุยน้ำ...........................110
การป้องกันอัคคีภัย.........................................111
การสตาร์ทรถและการขับขี่.........................113
การสตาร์ทรถ.................................................113
การขับขี่.........................................................115
การควบคุมการเปลี่ยนเกียร์...........................116
เบรคมือไฟฟ้า (EPB) .....................................117
เบรกอัตโนมัติเมื่อรถจอดอยู่กับที่ (AVH)........120
หมายเหตุสำคัญเกี่ยการวกับขับขี.่ ..................122
ระบบช่วยเหลือการขับขี่.............................124
ระบบ ACC*...................................................124
ระบบเบรกฉุกเฉินแบบคาดการณ์ล่วงหน้า.....128
ระบบจดจำป้ายจราจร*.................................128
ระบบรักษาช่องทางเดินรถ*...........................129
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ*.......131
ระบบตรวจจับจุดอับสายตา*..........................132
การตรวจสอบแรงดันลมยาง...........................135
ระบบมุมมองพาโนรามา*...............................137
ระบบช่วยจอด................................................139
ระบบความปลอดภัยในการขับขี.่ ...................142
ระบบเสียงเตือนเมื่อขับเคลื่อน
ด้วยความเร็วต่ำ (AVAS).................................147
6
ประสบการณ์อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม..........147
คำแนะนำสำหรับฟังค์ชั่นหลักอื่นๆ................148
กระจกมองหลัง...............................................148
กระจกมองข้างปรับมุมด้วยไฟฟ้า...................149
ที่ปัดน้ำฝน......................................................150
เครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทาง*.....................151
อุปกรณ์ในรถยนต์
ระบบปรับอากาศ .......................................154
แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศ.........................154
การทำงานของระบบปรับอากาศ....................156
คำจำกัดความของฟังค์ชั่น...............................157
ช่องระบายอากาศ...........................................159
ระบบฟอกอากาศ*.........................................161
การเปิด A/C จากทางไกล .............................163
ช่องเก็บของ ..............................................163
ช่องเก็บของในแผงประตู ...............................163
ลิ้นชักเก็บของ.................................................163
ช่องใส่สัมภาระในคอนโซลกลาง.....................164
ช่องกระเป๋าเก็บเอกสาร..................................164
ที่วางแก้ว........................................................164
อุปกรณ์อื่นๆ...............................................164
ที่บังแดด.........................................................164
มือจับนิรภัย....................................................165
พอร์ต USB.....................................................165
ช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์ .....................................166
ตําแหน่งชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย.................166
ฝาช่องเก็บสัมภาระ*.......................................168
ระบบสาระบันเทิง.......................................168
แผงควบคุมระบบสาระบันเทิง.......................168
วิดเจ็ต ...........................................................169
การตั้งค่าภาษา...............................................170
การบำรุงรักษา ข้อมูลจำเพาะของยานพาหนะ
ข้อมูลการบำรุงรักษา..................................171 ข้อมูลจำเพาะของยานพาหนะ....................210
รอบการบำรุงรักษา........................................172 มิติ ขนาด ......................................................210
ตารางการบำรุงรักษา.....................................173 หมายเลขประจําตัวรถ....................................214
การบํารุงรักษาประจำ.................................179 ข้อมูลเพิ่มเติม.............................................215
การป้องกันการกัดกร่อนของยานพาหนะ.......180 ป้ายเตือน ......................................................215
ข้อแนะนำในการบำรุงรักษาสี.........................180 ตำแหน่งการติดตั้งเสารับสัญญาณดาวเทียม...217
การทำความสะอาดรถ....................................181
การทำความสะอาดภายใน.............................182
การบำรุงรักษาด้วยตนเอง...........................184
การบำรุงรักษาซันรูฟ......................................186
ที่เก็บรถ..........................................................187
ฝากระโปรงหน้า.............................................187
ระบบระบายความร้อน...................................188
ระบบเบรก......................................................189
ระบบปรับอากาศ...........................................190
ใบปัดน้ำฝน.....................................................190
ยางรถยนต์......................................................191
ฟิวส์ ...............................................................194

เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้น
เมื่อเกิดข้อผิดพลาด....................................202
แบตเตอรี่สมาร์ทคีย์หมด.............................202
ระบบปิดฉุกเฉิน..............................................202
กู้ภัยขณะรถไฟไหม้.........................................203
การกู้ภัยแบตเตอรี่รั่ว......................................203
กรณีรถต้องลากจูง..........................................204
กรณียางแบน..................................................205
เมื่อแบตเตอรี่หมด..........................................207
เมื่อต้องการยกรถ...........................................208

7
8
01 ดัชนีภาพประกอบ
ภายนอก.........................................................10
แผงหน้าปัด ...................................................11
คอนโซลกลาง.................................................12
ประตู ............................................................13

9
ภายนอก

1. ตัวล็อคฝากระโปรงท้าย 5. ประตู
ฝากระโปรงท้าย 6. ไฟหน้า
เครื่องมือประจำรถ 7. การเปิดฝากระโปรงหน้า
2. ที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง น้ำยาระบบระบายความร้อน
3. กระจกมองข้าง น้ำมันเบรก
4. ช่องชาร์จ AC ด้วยเครื่องชาร์จแบบพกพา กล่องจ่ายไฟใต้ฝากระโปรงหน้า (PDB)
ช่องชาร์จ AC ด้วยเครื่องชาร์จแบบติดผนัง
ช่องชาร์จ DC ที่สถานีชาร์จ
ช่องจ่ายกระแสไฟฟ้า

10
แผงหน้าปัด
1. แผงควบคุมระบบสาระบันเทิง
ระบบปรับอากาศ
การตั้งค่าระบบปรับอากาศ
2. ช่องระบายอากาศ
3. ลิ้นชักเก็บของ
4. ปุ่ม สตาร์ท/หยุด การทำงาน
5. AVH สวิตช์
01
ดัชนีภาพประกอบ
6. EPB สวิตช์
7. การปรับระยะพวงมาลัย
ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย
8. จอแสดงผลสำหรับคนขับ
9. ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าและที่ฉีดน้ำล้างกระจก
ที่ปัดน้ำฝนกระจกหลังและที่ฉีดน้ำล้างกระจก
10. กระจกมองหลัง
11
คอนโซลกลาง

1. สวิตช์ควบคุมไฟหน้า 4. ช่องใส่สัมภาระในคอนโซลกลาง
2. คันเกียร์ 5. ตัวล็อคเข็มขัดนิรภัย
3. ที่วางแก้ว 6. สวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่

12
ประตู
01

ดัชนีภาพประกอบ
1. มือจับสำหรับเปิดประตู 3. ที่เปิดฝากระโปรงหน้า
2. สวิตช์ควบคุมกระจกไฟฟ้า 4 สวิตช์ควบคุมฝากระโปรงท้าย
ปุ่มล็อคหน้าต่าง
ปุ่มล็อคประตู
สวิตช์ปรับกระจกมองข้าง

13
14
02 ความปลอดภัย
เข็มขัดนิรภัย....................................................16
ถุงลมนิรภัย......................................................19
ระบบที่นั่งสำหรับเด็ก......................................26
ระบบป้องกันการโจรกรรม..............................34
การรวบรวมข้อมูลและประมวลผล..................35

15

เข็มขัดนิรภัย
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเข็มขัดนิรภัย
จากการศึกษาพบว่าการใช้เข็มขัดนิรภัยอย่าง
เหมาะสมสามารถลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตได้
ในการเบรกฉุกเฉิน การบังคับเลี้ยวกะทันหัน
หรือการชนกัน โปรดอ่านข้อมูลต่อไปนี้อย่าง
ละเอียดและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ข้อควรระวัง !
• คาดเข็มขัดนิรภัยเสมอในขณะที่รถกำลัง
เคลื่อนที่
• ก่อนขับรถ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้โดยสาร
ทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างเหมาะสม
เพื่อป้องกันการบาดเจ็บสาหัส
• เข็มขัดนิรภัยสำหรับรถยนต์ออกแบบมา
สำหรับผู้ใหญ่ ไม่เหมาะสำหรับเด็ก ตรวจ
สอบให้แน่ใจว่าได้เลือก ที่นั่งสำหรับเด็กที่
เหมาะสมตามอายุและขนาดของเด็ก (ดู
ส่วน ที่นั่งสำหรับเด็ก)
• หากเข็มขัดนิรภัยเสียหายหรือทำงานผิด
ปกติ โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อ
ทำการซ่อมแซม และยืนยันว่าสามารถใช้
งานได้เป็นปกติ ก่อนการซ่อมแซมอย่าใช้
ที่นั่งนั้น
• ผู้โดยสารทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอด
เวลา หากไม่ปฏิบัติตามจะเพิ่มความเสี่ยงต่อ
การบาดเจ็บในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
16
• เด็กต้องนั่งเบาะหลังและคาดเข็มขัดนิรภัยเพื่อ
ป้องกัน สถิติอุบัติเหตุระบุว่าเด็กที่นั่งเบาะหลัง
และใช้อุปกรณ์นิรภัยสำหรับเด็กอย่างเหมาะ
สมจะปลอดภัยกว่าเด็กที่นั่งด้านหน้ามาก
• อย่าให้เด็กเดินทางโดยยืนหรือคุกเข่าบนเบาะ
หลัง หรือนั่งบนตักของใครก็ตาม เพราะมี
ความเสี่ยงสูงที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสในกรณีที่
เบรกฉุกเฉินหรือชนกัน
ฟังค์ชั่นล็อคฉุกเฉินของเข็มขัดนิรภัย
• เมื่อคนขับเลี้ยวเร็ว เบรกกะทันหัน เมื่อเกิด
การชนกัน หรือเมื่อผู้โดยสารโน้มตัวไปข้าง
หน้าอย่างรวดเร็ว เข็มขัดนิรภัยจะล็อคโดย
อัตโนมัติเพื่อยับยั้งและปกป้องผู้โดยสาร
• ผู้โดยสารสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระเมื่อรถ
วิ่งอย่างราบรื่น และเข็มขัดนิรภัยจะดึงรั้งหรือ
หดเข้าอย่างช้าๆ
• หากเข็มขัดนิรภัยล็อคเนื่องจากการดึงกลับ
อย่างกะทันหัน ให้ดึงเข็มขัดกลับเข้าไปเล็ก
น้อยแล้วค่อยๆ ดึงกลับ
ฟังค์ชั่นเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับ
และตัวจำกัดแรง*
เมื่อเกิดการชนกันที่ด้านหน้าอย่างรุนแรง ตรง
ตามเงื่อนไขการกระตุ้นของระบบดึงกลับและตัว
จำกัดแรง เข็มขัดนิรภัยจะดึงรั้งกลับอย่างรวดเร็ว
เพื่อเพิ่มการป้องกัน ตัวจำกัดแรงต้านของเข็มขัด
นิรภัยจะทำงาน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากแรง
ดึงที่มากเกินไป
การใช้เข็มขัดนิรภัย
1. ปรับตำแหน่งเบาะนั่งและมุมพนักพิง (โปรดดู
การปรับเบาะนั่งด้านหน้าแบบ
อิเล็กทรอนิกส์)

2. ปรับตำแหน่งเข็มขัดนิรภัย
• รักษาท่านั่งที่เหมาะสม ดึงเข็มขัดนิรภัยจนชิด
หน้าอก เข็มขัดไม่ควรอยู่ใต้วงแขนหรือพาด
ผ่านหลังคอ
• เก็บส่วนคาดเข็มขัดไว้ใกล้กับสะโพกมากที่สุด
3. ใส่แผ่นสลักเข้าไปในหัวเข็มขัดจนกว่าจะได้ยิน
เสียง "คลิก" จากนั้นดึงกลับเพื่อให้แน่ใจว่า
ล็อคแน่นดีแล้ว อย่าคาดเข็มขัดนิรภัยอย่าง
บิดเบี้ยว
4. ความสูงของเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าสามารถ
ปรับได้เพื่อความสบายและการป้องกันสูงสุด
• กดปุ่มปลดล็อคและเลื่อนปรับขึ้นหรือลงไปยัง
ตำแหน่งที่ต้องการ ปล่อยปุ่มเพื่อล็อคตัวปรับ
ดึงเข็มขัดให้แน่นเพื่อตรวจสอบว่าล็อคอยู่หรือ
ไม่
02
ความปลอดภัย
หมายเหตุ
• เพื่อให้แน่ใจว่าเข็มขัดนิรภัยมีการป้องกัน
ที่เหมาะสมและป้องกันการบาดเจ็บ
เข็มขัดควรพาดผ่านตรงกลางไหล่ของผู้
โดยสาร โดยให้ห่างจากคอ และไม่หลุด
ง่าย
• สายคาดเอวควรคาดไว้ที่สะโพกให้ต่ำที่สุด
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เข็มขัดนิรภัยรัดหน้า
ท้องและทำร้ายผู้โดยสารในกรณีที่เกิด
อุบัติเหตุ
• เพื่อการป้องกันที่เหมาะสม เข็มขัดนิรภัย
จะต้องสัมผัสกับร่างกายของผู้โดยสาร
ตลอดเวลา
5. การปลดล็อคเข็มขัดนิรภัย
• กดปุ่มปลดล็อคสีแดงที่หัวเข็มขัด แผ่นสลักจะ
หลุดออกมา และเข็มขัดนิรภัยจะดึงกลับโดย
อัตโนมัติ
• หากเข็มขัดนิรภัยไม่ดึงกลับอย่างราบรื่นและ
อัตโนมัติ ให้ดึงออกมาและตรวจดูว่าสายบิด
หรือไม่
17

ข้อควรระวัง !
• เข็มขัดนิรภัยแต่ละเส้นใช้ครั้งละหนึ่งคน
เท่านั้น โปรดอย่าใช้เข็มขัดนิรภัยกับผู้
โดยสารสองคนหรือมากกว่านั้นขึ้นไป ถึง
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเด็กก็ตาม
• หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยปรับพนักพิง
เอนนอนมากเกินไป ยิ่งพนักพิงตั้งตรงมาก
เท่าไร การป้องกันก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น
• เพื่อป้องกันความเสียหาย อย่าให้ส่วน
หนึ่งส่วนใดของเข็มขัดนิรภัยเข้าไปติดอยู่
ที่ประตูหรือหลังเบาะ
• ตรวจสอบเข็มขัดนิรภัยของรถทั้งหมดว่ามี
การสึกหรอ หลวม การคลายตัว หรือ
ปัญหาอื่นๆ หากพบปัญหาใดๆ โปรด
ติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ
BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อยืนยันและ
ดำเนินการซ่อมแซม และยืนยันว่า
สามารถใช้งานได้เป็นปกติ ก่อนการ
ซ่อมแซมโปรดอย่าใช้ที่นั่งนั้น
• ห้ามถอด ถอดประกอบ หรือดัดแปลง
เข็มขัดนิรภัยโดยไม่ได้รับอนุญาต
18
ข้อควรระวัง !
• หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ให้ตรวจสอบเข็มขัด
นิรภัยที่ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่
ได้รับอนุญาตของ BYD หากฟังค์ชั่นพรี
โหลดทำงาน จะต้องเปลี่ยนเข็มขัดนิรภัย
• ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง แม้ว่าจะไม่
เกิดความเสียหายที่เห็นได้ชัด ควรเปลี่ยน
เข็มขัดนิรภัยพร้อมกับส่วนประกอบที่นั่ง
และระบบถุงลมนิรภัยควรได้รับการตรวจ
สอบอย่างละเอียด
• สตรีมีครรภ์ควรคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยวิธีที่
ถูกต้องเช่นเดียวกับผู้โดยสารคนอื่นๆ โดย
เฉพาะอย่างยิ่ง ต้องแน่ใจว่าได้จัด
ตำแหน่งเข็มขัดนิรภัยส่วนหน้าตักของ
เข็มขัดนิรภัยให้ต่ำที่สุดที่สะโพกเท่าที่เป็น
ไปได้ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บสาหัส
• วิธีการรัดเข็มขัดนิรภัยด้านหลังเหมือนกับ
การคาดเข็มขัดนิรภัยด้านหน้า เพื่อการ
ป้องกันที่เหมาะสม ตรวจสอบให้แน่ใจว่า
ได้ใส่สลักเข้าไปในตัวล็อคที่ตรงกัน เป็น
ความรับผิดชอบของผู้ขับขี่ที่จะต้องเตือน
ผู้โดยสารให้คาดเข็มขัดนิรภัยให้ถูกต้อง
• เพื่อป้องกันความเสียหาย ห้ามสอดวัตถุ
แปลกปลอมเข้าไปในหัวเข็มขัด
ฟังค์ชั่นเตือนไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
หากผู้โดยสารคนใดไม่คาดเข็มขัดนิรภัยหลังจากที่
เปิดการทำงานรถแล้ว สัญญาณเตือนด้วยภาพ
และเสียงจะดังจนกว่าจะคาดเข็มขัดนิรภัยให้ถูก
ต้อง
• ตัวแสดงเตือนไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
• หากมีที่นั่งไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ไฟแสดง
การไม่คาดเข็มขัดนิรภัยจะกะพริบ
• แสดงตำแหน่งที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
• ไฟแสดงสถานะจะแสดงตำแหน่งที่นั้งที่ไม่
ได้คาดเข็มขัดนิรภัย
• การเตือนไม่คาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้โดยสาร
• หากเข็มขัดนิรภัยถูกปลดออกหลังจากเปิด
การทำงานรถแล้ว (ไฟแสดง "OK" บนหน้า
จอ) ไฟแสดงสถานะจะแสดงตำแหน่งที่นั่งที่
ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย หากยังไม่คาดเข็มขัด
นิรภัยหลังจากที่รถเริ่มเคลื่อนที่ ระบบจะส่ง
เสียงเตือนเพื่อเตือนให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัด
นิรภัย
หมายเหตุ
• หากพบข้อผิดพลาดใดๆ โปรดติดต่อ
ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ BYD
หรือผู้ให้บริการเพื่อยืนยัน และจัดการ
ซ่อมแซมจนกว่าการใช้งานจะกลับเป็น
ปกติ อย่าใช้ที่นั่งนั้นจนกว่าจะได้รับการ
ซ่อมแซม
• จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ใช้รถทุกคนจะต้องคาด
เข็มขัดนิรภัยเมื่อรถเคลื่อนที่ ไม่เช่นนั้นจะ
เสี่ยงต่อการบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตได้
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
ระบบถุงลมนิรภัย
เบื้องต้นเกี่ยวกับถุงลมนิรภัย 02
• ระบบถุงลมนิรภัยเป็นส่วนหนึ่งของระบบช่วย
ความปลอดภัย
ลดแรงกระแทกจากอุบัติเหตุ และยังเป็นส่วน
เสริมของเบาะนั่งและเข็มขัดนิรภัย เมื่อรถเกิด
การชนที่รุนแรงตรงตามเงื่อนไข ถุงลมนิรภัย
จะทำงานและให้การป้องกันศีรษะพร้อมกับ
เข็มขัดนิรภัยที่หน้าอก
• ถุงลมนิรภัยแบ่งเป็นประเภทหน้า และข้าง
ตามประเภทการชน ถุงลมนิรภัยด้านหน้ามีถุง
ลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุง
ลมนิรภัยด้านข้าง มีถุงลมนิรภัยด้านข้างเบาะ
นั่งด้านหน้า และถุงลมม่านนิรภัย
• ถุงลมนิภัยเป็นส่วนหนึ่งของระบบป้องกัน
ความปลอดภัยภายหลังเกิดอุบัติเหตุ ระบบถุง
ลมนิรภัยไม่ได้มาแทนที่เข็มขัดนิรภัย และต้อง
ใช้ร่วมกับเข็มขัดนิรภัยเพื่อเพิ่มการป้องกันสูง
สุดฟังค์ชั่น
ระบบเบรกอัตโนมัตหลังจากการชน
• หากเกิดอุบัติเหตุจนถุงลมนิรภัยด้านหน้า
ทำงาน รถจะทำการเบรกอัตโนมัติ
• ลดความเร็วพร้อมเข้าควบคุมระบบช่วยการ
ขับขี่ (ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
(ESC), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS)
จะช่วยให้รถรักษาเสถียรภาพและอยู่ในช่อง
ทางเดินรถ
• ไฟฉุกเฉินและไฟเบรกจะสว่างขึ้นเพื่อเตือน
การจราจรที่สวนทางมาและป้องกันการชน
กันอีก
19
 • เพื่อให้การช่วยเหลือฉุกเฉินและการกู้คืน
ยานพาหนะเป็นไปได้อย่างสะดวก เบรกจะ
คืนตัวเป็นปกติและไฟเบรกจะดับลงหลัง
จากเกิดอุบัติเหตุ
• คนขับสามารถยกเลิกระบบนี้เมื่อใดก็ได้โดย
การเหยียบคันเร่งหรือเบรก
ข้อควรระวัง !
• ผู้โดยสารต้องนั่งในตำแหน่งที่เหมาะสม
เพื่อเพิ่มการป้องกันสูงสุดจากเข็มขัด
นิรภัยและระบบถุงลมนิรภัย
• ห้ามถอดประกอบหรือประกอบส่วน
ประกอบของถุงลมนิรภัยโดยไม่ได้รับ
อนุญาต
• การใช้ที่หุ้มเบาะนั่งนอกเหนือจาก
ผลิตภัณฑ์ของ BYD อาจส่งผลให้
ประสิทธิภาพการทำงานของถุงลมนิรภัย
ที่ไม่ดีและการบาดเจ็บได้ ห้ามวางสิ่งของ
ใดๆ ระหว่างถุงลมนิรภัยด้านข้างกับผู้
โดยสาร
• อย่ากระแทกนั่งด้านข้างบริเวณที่ติดตั้งถุง
ลมนิรภัยด้านข้างด้วยความรุนแรง
• หลังจากการชน แม้ว่าถุงลมนิรภัยจะไม่ได้
ทำงาน และเครื่องดึงเข็มขัดนิรภัยไม่ได้
ล็อคเข็มขัดนิรภัย คอมพิวเตอร์ถุงลม
นิรภัยก็อาจได้รับสั่งให้ปกป้องผู้โดยสาร
จากอันตรายจากไฟฟ้าแรงสูง .ให้ติดต่อ
ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD เพื่อทำการทดสอบ
20
ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ
และผู้โดยสารตอนหน้า
รถคันนี้ติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสาร
ตอนหน้า เมื่อระบบควบคุมการทำงานถุงลม
นิรภัย (ECU) ตรวจพบการกระแทกด้านหน้า
ระดับปานกลางถึงรุนแรง และตรงตามเงื่อนไข
การกระตุ้นระบบ ถุงลมนิรภัยจะทำงาน
การทำงานของถุงลมนิรภัยด้านหน้า
• ในการชนด้านหน้าระดับปานกลางถึงรุนแรง
เซ็นเซอร์ตรวจจับการชะลอตัวที่รวดเร็ว จะส่ง
สัญญาณไปยัง ECU เพื่อกระตุ้นให้ถุงลมนิรภัย
ด้านหน้าทำงาน
• เมื่อเกิดการชนด้านหน้า เข็มขัดนิรภัยจะยึด
ร่างกายส่วนล่าง และลำตัวของผู้โดยสารให้เข้า
ที่ ถุงลมนิรภัยจะปกป้องศีรษะ และหน้าอก
ของผู้โดยสาร
• เมื่อแรงกระแทกไม่ถึงเกณฑ์การทำงานของถุง
ลมนิรภัย เข็มขัดนิรภัยจะให้การป้องกันที่เพียง
พอ
• ถุงลมนิรภัยด้านหน้าจะยุบตัวลงทันทีหลังจาก
พองตัวโดยไม่ส่งผลต่อการมองเห็นของผู้ขับขี่
และความสามารถในการควบคุมพวงมาลัย
หรือระบบควบคุมอื่นๆ
• ถุงลมนิรภัยจะทำงานภายในหนึ่งในพันวินาที
• เสียงดังที่เกิดขึ้นเมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน ไม่ก่อ
ให้เกิดการบาดเจ็บ แต่อาจทำให้หูอื้อหรือไม่
ได้ยินชั่วคราวได้
• ฝุ่นของถุงลมนิรภัยอาจฟุ้งกระจายออกมาเมื่อ
ถุงลมนิรภัยทำงาน แม้ว่าผงดังกล่าวจะไม่เป็น
พิษ แต่บุคคลที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ
อาจรู้สึกไม่สบายบ้างชั่วคราว
• ถุงลมนิรภัยผู้โดยสารตอนหน้าควบคุมโดย
สวิตช์ PAB (ดูเรื่อง PAB สวิตช์*)
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
เบาะนั่งด้านหน้า
รถที่มีถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับเบาะนั่งด้าน
หน้าด้านซ้ายและขวา (ติดตั้งที่ขอบด้านนอกของ
พนักพิงเบาะหน้าและมีเครื่องหมาย "AIRBAG"
ตามภาพ):
• เมื่อ ECU ตรวจพบการกระแทกด้านข้างระดับ
ปานกลางถึงรุนแรง และตรงตามเงื่อนไข ถุง
ลมนิรภัยด้านข้างจะทำงานเพื่อปกป้องหน้าอก
ของผู้โดยสาร
• เมื่อเกิดการกระแทกด้านข้างใด โดยทั่วไปจะมี
เฉพาะถุงลมนิรภัยด้านนั้นที่จะทำงานเท่านั้น
• หากแรงกระแทกเกิดขึ้นที่ฝั่งผู้โดยสาร ถุงลม
นิรภัยด้านผู้โดยสารจะทำงาน แม้ว่าจะไม่มีผู้
โดยสารอยู่ในที่นั่งก็ตาม
• เพื่อให้ถุงลมนิรภัยด้านข้างปกป้องได้ดีที่สุด ผู้ 02
โดยสารต้องคาดเข็มขัดนิรภัยและนั่งในท่าตั้ง
ความปลอดภัย
ตรง
ถุงลมนิรภัยด้านหน้าตรงกลาง :
• รถที่มีถุงลมนิรภัยด้านหน้าตรงกลาง (ติดตั้งที่
ขอบด้านในของ ที่นั่งคนขับ และมีเครื่องหมาย
"AIRBAG" ตามภาพ):
• เมื่อ ECU ตรวจพบการกระแทกด้านหน้าหรือ
ด้านข้างในระดับปานกลางถึงรุนแรง และตรง
ตามเงื่อนไข ถุงลมนิรภัยด้านหน้าตรงกลางจะ
ทำงานเพื่อปกป้องศีรษะและไหล่ของผู้ขับขี่
และผู้โดยสารด้านหน้า
• หากแรงกระแทกเกิดขึ้นที่ฝั่งผู้โดยสารตอน
หน้า ถุงลมนิรภัยตรงกลางด้านหน้าจะทำงาน
แม้ว่าจะไม่มีผู้โดยสารอยู่ในเบาะนั่งก็ตาม
• เพื่อให้ถุงลมนิรภัยตรงกลางด้านหน้าปกป้อง
ได้ดีที่สุด ผู้โดยสารต้องคาดเข็มขัดนิรภัยและ
นั่งในท่าตั้งตรง
21
ในรถยนต์ที่มีถุงลมนิรภัยด้านข้างที่นั่ง: เงื่อนไขการทำงานของถุงลมนิรภัย
• อย่าให้พนักพิงเปียก หากเปียกฝนหรือน้ำ และหมายเหตุ
กระเซ็น ระบบถุงลมนิรภัยด้านข้างอาจทำงาน
ไม่ถูกต้อง กรณีที่ถุงลมนิรภัยอาจจะทำงาน
• ผู้ใช้จะไม่คลุมหรือเปลี่ยนวัสดุคลุมเบาะด้วยตัว
ใต้กันชนของรถชนกับพื้นเมื่อข้ามร่องลึก
เอง ที่หุ้มเบาะที่ไม่เหมาะสมอาจ ขัดขวางการ
ทำงานของถุงลมนิรภัย
ม่านนิรภัยด้านข้าง

รถชนสิ่งกีดขวางหรือขอบถนน

• รถยนต์ที่ติดตั้งม่านนิรภัยด้านซ้ายและด้าน
ขวา (ติดตั้งที่จุดเชื่อมต่อของแผ่นปิดด้านข้าง
ตัวรถและเพดาน และมีเครื่องหมาย "Curtain
AIRBAG" ที่แถบขอบเสา A, แผ่นปิดเสา B
และแผ่นปิดเสา C ตามภาพที่ปรากฏ):
• เมื่อ ECU ตรวจพบแรงกระแทกระดับปาน
ใต้กันชนของรถชนกับพื้นเมื่อลงทางลาดชัน
กลางถึงรุนแรงและตรงตามเงื่อนไข ม่านนิรภัย
จะทำหน้าที่ปกป้องศีรษะของผู้โดยสาร
• เมื่อเกิดการกระแทกด้านข้างใด โดยทั่วไปจะมี
เฉพาะถุงลมนิรภัยด้านนั้นที่ทำงานเท่านั้น
• เพื่อให้ม่านนิรภัยปกป้องได้ดีที่สุด ผู้โดยสาร
ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยและนั่งในท่าตั้งตรง

22
ด้านหนึ่งของรถถูกรถอีกคันหนึ่งชน ถูกรถคันอื่นชนท้าย

02

ความปลอดภัย
กรณีที่ถุงลมนิรภัยอาจจะไม่ทำงาน รถพลิกคว่ำ.

รถชนกับเสาคอนกรีต ต้นไม้ หรือวัตถุที่คล้ายกัน

รถชนกำแพงหรือยานพาหนะอื่นในแนวทแยงมุม
ยานพาหนะอยู่ใต้รถบรรทุกหรือยานพาหนะ
ขนาดใหญ่อื่นๆ

23
ส่วนอื่นที่ไม่ใช่ห้องโดยสาร ได้รับแรงกระแทกจาก
ด้านข้าง
คำเตือน
• ถุงลมนิรภัยได้รับการพัฒนาเพื่อให้เข้ากับ
รถรุ่นต่างๆ การเปลี่ยนแปลงใดๆ ต่อ
ระบบกันสะเทือน ขนาดยาง กันชน แชส
ซี และอุปกรณ์เดิม อาจส่งผลเสียต่อ
ระบบถุงลมนิรภัย ผู้ใช้จะต้องไม่ใช้ชิ้น
ส่วนอะไหล่ใดๆของระบบถุงลมนิรภัยใน
รถยนต์รุ่นอื่น การทำเช่นนี้อาจทำให้
ระบบถุงลมนิรภัยทำงานล้มเหลว
ด้านข้างของรถถูกกระแทกในแนวทแยงมุม • ผู้ขับขี่ควรรักษาระยะห่างระหว่างหน้าอก
และพวงมาลัยอย่างน้อย 25 ซม. เพื่อให้
ระบบปกป้องผู้ขับขี่ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพสูงสุด
• คาดเข็มขัดนิรภัยและนั่งให้เหมาะสมใน
ขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ ถ้าไม่ได้คาด
เข็มขัดนิรภัย หากผู้โดยสารเอนไปข้าง
หน้าหรือนั่งอย่างไม่เหมาะสม การทำงาน
ของถุงลมนิรภัยอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อ
การบาดเจ็บได้
ด้านข้างรถชนกับเสา
• ห้ามติดสติกเกอร์ หุ้ม หรือตกแต่งพวง
มาลัย ด้านขวาของแผงหน้าปัด หรือพื้น
ผิวของคิ้วเสา A B และ C ทำความ
สะอาดพื้นผิวเหล่านี้ด้วยผ้าแห้งหรือชุบ
น้ำหมาดๆ โดยไม่ต้องใช้แรงกดมากเกิน
ไป
• ห้ามเด็กนั่งในเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า
และห้ามนั่งบนตักของผู้โดยสารด้านหน้า
เพื่อป้องกันการบาดเจ็บสาหัสหรือการ
เสียชีวิตจากการติดตั้งถุงลมนิรภัย
• ไม่ติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น ที่วางโทรศัพท์
ที่วางแก้ว หรือที่เขี่ยบุหรี่บนถุงลมนิรภัย
หรือภายในขอบเขตถุงลมนิภัยทำงาน
24
 คำเตือน
• ถุงลมนิรภัยด้านข้างถูกกระตุ้นโดยแรง
กระแทกที่ความเร็วสูง ดังนั้น ผู้โดยสาร
ต้องไม่พิงประตูรถที่ติดตั้งถุงลมนิรภัย
ประเภทนี้ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่
• ห้ามวางอุปกรณ์หรือสิ่งของอื่นใดภายใน
ระยะการทำงานของม่านนิรภัยด้านข้าง
เช่น กระจกบังลม กระจกประตูด้านข้าง
แผ่นปิดเสา A เพดาน แผ่นปิดเสา B แผ่น
ปิดเสา C และที่จับเสริม เมื่อม่านนิรภัย
ด้านข้างทำงาน อุปกรณ์หรือสิ่งของอาจ
ถูกโยนด้วยแรงกระแทกจากม่านนิรภัย
ด้านข้าง หรือม่านนิรภัยด้านข้างอาจไม่
สามารถใช้งานได้ตามปกติ
• เมื่อโอนกรรมสิทธิ์รถ ให้ส่งเอกสารของรถ
ให้ครบถ้วน
• ห้ามถอดประกอบหรือซ่อมแซมแผ่นปิด
เสา A, เพดาน, แผ่นปิดเสา B หรือแผ่น
ปิดเสา C ที่มีม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจทำให้ระบบ
ทำงานล้มเหลวหรือม่านนิรภัยอาจทำงาน
ได้เอง
• ห้ามเปลี่ยนส่วนประกอบใดๆ ของระบบ
ถุงลมนิรภัย รวมถึงฉลากที่เกี่ยวข้อง การ
ดำเนินการใดๆ กับถุงลมนิรภัยจะต้อง
ดำเนินการโดยตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้
บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD
• ถุงลมนิรภัยสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว
เท่านั้น เมื่อถุงลมนิรภัยทำงานหรือเสีย
หาย จะต้องเปลี่ยนถุงลมนิรภัยใหม่
คำเตือน
• เมื่อทิ้งรถหรือทิ้งชิ้นส่วนของระบบถุงลม
นิรภัย ให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ 02
ด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องและขั้น
ความปลอดภัย
ตอนการกำจัดทิ้ง
• ระบบถุงลมนิรภัยมีคุณสมบัติป้องกันการ
รบกวนและป้องกันการรบกวนจาก
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ห้ามใช้
รถในสภาพแวดล้อมที่มีคลื่นแม่เหล็ก-
ไฟฟ้า สูงเหนือกว่าช่วงที่รัฐอนุมัติ
• ระบบถุงลมนิรภัยของรถยนต์คันนี้ได้รับ
การพัฒนาโดยพิจารณาจากสภาพถนน
และปัจจัยด้านต่างๆ อย่างไรก็ตามขอ
แนะนำให้ผู้ขับขี่ขับรถอย่างระมัดระวังใน
ภูมิประเทศที่ขรุขระ เพื่อหลีกเลี่ยงการ
กระแทกที่ท้องรถ
• ระบบถุงลมนิรภัยของรถยนต์คันนี้ได้รับ
การตรวจสอบอย่างครบถ้วนเพื่อทำงาน
เข้ากับรถได้อย่างลงตัว การดัดแปลง
เปลี่ยนแปลงสายไฟอาจทำให้ถุงลมนิรภัย
ทำงานโดยไม่มีเหตุที่เหมาะสมหรือใช้งาน
ไม่ได้ในกรณีที่เกิดการชน
หากเกิดเหตุการณ์ใดๆ ต่อไปนี้ โปรด
ติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต
ของ BYD หรือผู้ให้บริการทันที
• ถุงลมนิรภัยทำงานแล้ว
• ไฟเตือนถุงลมนิรภัย บนหน้าจอแสดงผล
สำหรับคนขับสว่างขึ้นผิดปกติ
25
 • ระบบถุงลมนิรภัยถูกตรวจสอบโดย ECU
และมีฟังค์ชั่นการวินิจฉัยตนเอง สามารถ
ตรวจสอบไฟเตือนถุงลมนิรภัยบนแผงหน้า
ปัดเพื่อระบุสถานะระบบถุงลมนิรภัย
• เมื่อกดปุ่ม START/STOP การทำงาน "OK"
หากไฟเตือนถุงลมนิรภัยติดสว่างเป็นเวลา
ประมาณ 5 วินาทีและดับลง แล้วดับนาน
กว่า 5 วินาที ระบบเป็นปกติ • ฝาครอบถุงลมนิรภัยแตก ร้าว หรือเสียหา
• หากถุงลมนิรภัยไม่ทำงาน ไฟเตือนจะติด • จำเป็นต้องถอดถุงลมนิรภัยออก ติดตั้ง หรือ
ตลอดเวลา ถุงลมนิรภัยจะไม่สามารถใช้งาน ซ่อมแซม
ได้
หากเกิดเหตุการณ์ต่อไปนี้ ระบบที่นั่ง
ระบบถุงลมนิรภัยจะไม่ทำงาน:
• สวิตช์กดปุ่ม START/STOP การทำงาน"OK"
สำหรับเด็ก
แต่ไฟเตือนดับลง ระบบที่นั่งสำหรับเด็ก
• สวิตช์กดปุ่ม START/STOP การทำงาน"OK"
แต่ไฟเตือนไม่ดับภายใน 5 วินาที หรือดับแล้ว เลือกที่นั่งสำหรับเด็กที่เหมาะสมกับ
น้ำหนักและส่วนสูงของเด็ก
เปิดใหม่อีกครั้ง
• เลือกที่นั่งสำหรับเด็กที่เหมาะสมสำหรับบุตร
• สวิตช์กุญแจอยู่ที่ "OFF" แต่ไฟเตือนสว่างขึ้น
หลานของคุณ เด็กที่ตัวใหญ่เกินไปที่จะใช้ที่นั่ง
• ไฟเตือนติดหรือกะพริบขณะขับรถ หากเกิดข้อ สำหรับเด็กควรนั่งเบาะหลังและใช้เข็มขัด
ผิดพลาด ให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้ นิรภัย
บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD เพื่อทำการ
ตรวจสอบและซ่อมแซมโดยเร็วที่สุด เมื่อไม่ได้ใช้ที่นั่งสำหรับเด็ก
• มีการชนกับด้านหน้าของรถ (ในบริเวณที่ • ยึดที่นั่งสำหรับเด็กบนที่นั่งอย่างเหมาะสม
แสดง) แต่ถุงลมนิรภัยด้านหน้าไม่ทำงาน ห้ามวางที่นั่งสำหรับเด็กไว้บนเบาะนั่งผู้
โดยสารหรือท้ายรถโดยไม่ได้ยึดไว้

26
 ข้อควรระวัง !
• ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารอุ้มเด็กหรือทารก
บนตัก
02
• เด็กต้องนั่งในที่นั่งสำหรับเด็กที่เหมาะสม

ความปลอดภัย
เสมอ
• เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กนั่งอย่างปลอดภัย ให้
ปฏิบัติตามคำแนะนำทั้งหมดในเอกสารนี้
และผู้ผลิตที่นั่งสำหรับเด็ก • เบาะนั่งด้านหลังมีสายรัดยึดที่ด้านหลังเบาะนั่ง

หมายเหตุ
• BYD ขอแนะนำให้เด็กใช้ระบบที่นั่ง
สำหรับเด็กที่เหมาะสม และแนะนำให้นั่ง
ที่เบาะนั่งด้านหลัง
• ปฏิบัติตามคำแนะนำโดยละเอียดจากผู้
ผลิตระบบที่นั่งสำหรับเด็กเสมอ
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าที่นั่งสำหรับเด็กรัด การติดตั้งระบบที่นั่งสำหรับเด็ก
แน่น จุดยึดที่เหมาะสมและการติดตั้งที่นั่งสำหรับเด็ก
• ยึดสายรัดด้านบนให้แน่นเมื่อติดตั้งที่นั่ง
สำหรับเด็ก

การติดตั้งที่นั่งแบบ ISOFIX/i-Size
ตำแหน่งเบาะนั่งด้านหลัง
• มีการติดตั้งจุดยึดติด ISOFIX/i-Size ที่เบาะนั่ง
ด้านหลัง
• ตำแหน่งจุดยึดจะมีเครื่องหมาย (ดูภาพ
ประกอบ) ซึ่งอยู่ที่พนักพิง จุดยึดจะอยู่ตรงกับ ข้อควรระวัง !
เครื่องหมาย
• จุดยึดอยู่ในช่องว่างระหว่างเบาะรองนั่งและ
พนักพิงที่นั่ง

27
 ข้อควรระวัง !
• ก่อนติดตั้งสายยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ให้
ถอดฝาครอบช่องเก็บสัมภาระท้ายรถออก
• หากถอดพนักพิงศีรษะ โปรดเก็บไว้ในช่อง
เก็บสัมภาระอย่างปลอดภัย
• BYD แนะนำให้ติดตั้งระบบที่นั่งสำหรับเด็ก
โดยใช้จุดยึด ISOFIX ของรถ
เมื่อติดตั้งระบบที่นั่งสำหรับเด็กใดๆ ยกเว้นเบาะที่
นั่งเสริมที่ไม่มีพนักพิง ขอแนะนำให้ถอดพนักพิง การติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็กที่
ศีรษะแบบปรับได้ของรถออกและเก็บไว้อย่าง เบาะผู้โดยสารตอนหน้า
ปลอดภัย
• เมื่อใช้เบาะนั่งสำหรับเด็กแบบหันไปทางด้าน
เมื่อติดตั้งเบาะนั่งเสริมที่ไม่มีพนักพิง พนักพิง
หลัง ให้หมุนสวิตช์ PAB ไปที่ OFF เพื่อปิดการ
ศีรษะแบบปรับได้ของรถยนต์จะต้องยังคงติดตั้งไว้
ทำงานของถุงลมนิรภัยเบาะนั่งผู้โดยสารตอน
และปรับความสูงให้เหมาะสมกับเด็กที่นั่ง
หน้า
เมื่อตำแหน่งเบาะนั่งไม่มีระบบที่นั่งสำหรับเด็ก
• สำหรับรายละเอียด โปรดดูที่ PAB Switch*
หรือเบาะนั่งเสริมใดๆติดตั้งอยู่ พนักพิงศีรษะแบบ
ปรับได้ของรถจะต้องยังคงติดตั้งไว้ และปรับความ • ภาพแสดงจุดยึดที่เหมาะสมและติดตั้งระบบที่
สูงให้เหมาะสมสำหรับผู้โดยสาร นั้งสำหรับเด็ก
ติดสายโยงเข้ากับจุดยึด จากนั้นขันสายรัดด้านบน
ให้แน่นตามคำแนะนำของผู้ผลิตเบาะนั่งสำหรับ
เด็ก
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายโยงยึดแน่นดี
(1) สายคาด
(2) จุดยึด
• หากเบาะนั่งคนขับกีดขวางหรือขัดขวางการ
ติดตั้งระบบเบาะนั่งสำหรับเด็กที่ถูกต้อง ให้ติด
ตั้งระบบเบาะนั่งสำหรับเด็กที่เบาะนั่งด้านหลัง
อีกด้านหนึ่ง

28
 • เบาะนั่งหลังติดตั้งจุดยึด ISOFIX/i-Size
คำเตือน ตำแหน่งจุดยึดจะระบุด้วยเครื่องหมาย (ดูภาพ
• ห้ามใช้เบาะนั่งสำหรับเด็กแบบหันไปทาง ประกอบ) ที่พนักพิงที่นั่ง จุดยึดจะอยู่ตรงกับ
ด้านหลังที่นั่งผู้โดยสารตอนหน้าโดยที่ถุง เครื่องหมาย 02
ลมนิรภัยเปิดการทำงานอยู่

ความปลอดภัย
• ผู้โดยสารที่หันหน้าไปทางด้านหน้า (เด็ก
หรือผู้ใหญ่) ต้องไม่นั่งเบาะผู้โดยสารด้าน
หน้าในขณะที่ปิดระบบการทำงานถุงลม
นิรภัยสำหรับผู้โดยสาร
• เมื่อใช้ระบบที่นั่งสำหรับเด็กแบบหันไป
ข้างหน้าที่เบาะผู้โดยสารตอนหน้า ตรวจ
สอบให้แน่ใจว่าเบาะนั่งอยู่ในตำแหน่งที่
ไกลสุดจากบริเวณที่ถุงลมนิรภัยทำงาน • เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้ามีสายรัดแบบโยงที่
• ก่อนที่เด็กจะนั่ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ด้านหลังของเบาะนั่ง
ระบบที่นั่งสำหรับเด็กได้รับการติดตั้ง • เมื่อติดตั้งระบบเบาะนั่งเด็กขนาดคลาส R3
อย่างแน่นหนาและไม่หมุนหรือเคลื่อนที่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบาะนั่งเลื่อนไปหลังจน
ออกจากที่นั่ง สุดก่อนการติดตั้ง
• เมื่อใช้ระบบที่นั่งสำหรับเด็ก ให้แน่ใจ • ในกรณีที่สามารถใช้สายรัดแบบมีสายรัดด้าน
เสมอว่า: ที่ยึดไม่กีดขวาง เข็มขัดนิรภัยอยู่ บนกับระบบพนักพิงสำหรับเด็ก โปรดตรวจ
ในตำแหน่งที่ถูกต้อง และติดตั้งระบบที่นั่ง สอบให้แน่ใจว่าได้ร้อยสายรัดผ่านรูที่พนักพิง
เด็กอย่างแน่นหนา ศีรษะก่อนจะติดและเกี่ยวสายรัดไปยังจุดยึดที่
• การไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำที่ให้มา หรือ ฐานของเบาะนั่ง
คำแนะนำจากผู้ผลิตระบบที่นั่งสำหรับ
เด็ก อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือนำไปสู่
การบาดเจ็บสาหัสได้

ข้อควรระวัง !
• อาจต้องใช้สายรัดเสริมเพื่อเชื่อมต่อสาย
รัดด้านบนเข้ากับจุดยึด หากความยาว
สายรัดด้านบนไม่เพียงพอ ข้อควรระวัง !
• ใช้รูปภาพเพื่อแสดงการกำหนดเส้นทาง
ของการปล่อยสายรัดจากบนสุด
29
• สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการติดตั้งระบบ
ที่นั่งสำหรับเด็กบนที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า
โปรดดูคำอธิบายก่อนหน้านี้
การยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กโดยใช้เข็มขัดนิรภัย
• ใช้เฉพาะเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กที่ BYD
แนะนำ ได้รับการรับรองแบบสากล หรือแบบ
กึ่งอเนกประสงค์ และระบุรุ่นรถไว้ในรายชื่อ
รถยนต์ของผู้ผลิตเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก
• ตัวเลือกการติดตั้งแสดงในตารางด้านล่าง

30
 เบาะผู้โดยสารตอนหน้า
กลุ่ม น้ำหนักเด็ก ผู้โดยสารตอนหน้า ผู้โดยสารตอนหน้า ผู้โดยสารด้าน
เปิดระบบถุงลม ปิดระบบถุงลม หลัง 02
นิรภัย นิรภัย

ความปลอดภัย
0 สูงสุด 10 กก. X U U
0 สูงสุด 13 กก. X U U
หันไปทางด้านหลัง 9 ถึง 18 กก. X U U
1
หันไปทางด้านหน้า 9 ถึง 18 กก. U X U
2 15 ถึง 25 กก. U X U
3 22 ถึง 36 กก. U X U

คำจำกัดความของตาราง :
U : สากล
x : ที่นั่งไม่เหมาะสำหรับการยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กของกลุ่มนี้
คู่มือฉบับย่อเกี่ยวกับการติดตั้ง ISOFIX และ i-Size
• เครื่องหมายระบุจุดยึด ISOFIX หรือ i-Size ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ต่างกันไปในแต่ละประเทศ
• ตารางต่อไปนี้แสดงตัวเลือกการติดตั้งสำหรับที่นั่งสำหรับเด็กระบบ ISOFIX หรือ i-Size ที่จุดยึด
ISOFIX หรือ i-Size ของตำแหน่งรถยนต์แต่ละคัน

31
 เบาะผู้โดยสารตอนหน้า
การวาง ผู้โดยสาร ผู้โดยสาร
ผู้โดยสาร
ตำแหน่งที่ คลาส ขนาด/ ตอนหน้า ตอนหน้า ผู้โดยสาร
กลุ่ม ตรงกลาง
นั่งสำหรับ คลาส ISOFIX เปิดระบบถุงลม ปิดระบบถุงลม ด้านหลัง
ด้านหลัง
เด็ก นิรภัย นิรภัย
หันไปทาง
0 ถึง 10 กก. E/R1 X IL-SU IL-SU X
ด้านหลัง
E/R1
0+ ถึง 13 หันไปทาง
D/R2 X IL-SU IL-SU X
กก. ด้านหลัง
C/R3

หันไปทาง D/R2
X IL-SU IL-SU X
ด้านหลัง C/R3
1:9 ถึง 18
B/F2X
กก.
หันไปทาง
B1/F2X IL-SU, IUF X IL-SU, IUF X
ด้านหน้า
A/F3
2:15 ถึง 25 หันไปทาง
- IL-SU X IL-SU X
กก. ด้านหน้า
3:22 ถึง 36 หันไปทาง
- IL-SU X IL-SU X
กก. ด้านหน้า
หันไปทาง
ระบบที่นั้ง -/R2 X i-U i-U X
ด้านหลัง
เด็ก
i-Size หันไปทาง
-/B2, F2X i-U X i-U X
ด้านหน้า
เบาะเสริมรอง หันไปทาง
-/B2, B3 i-B X i-B X
นั่ง ด้านหน้า

32
คลาส ขนาด :
• ระดับขนาดที่แสดงสอดคล้องกับช่วงน้ำหนักที่อนุญาตของเด็กที่ใช้เบาะนั่ง
• ระดับขนาดระบุไว้บนฉลากการรับรอง ECE สำหรับเบาะนั่งสำหรับเด็กที่มีการอนุมัติ "สากล" หรือ
"กึ่งสากล" 02
• ป้ายบอกระดับขนาดจะติดอยู่ที่เบาะนั่งสำหรับเด็ก

ความปลอดภัย
X:
• ที่นั่งไม่เหมาะสำหรับการยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX หรือ i-Size ในกลุ่มนี้
IL-SU:
• เบาะนั่งเหมาะสำหรับติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX โดยได้รับอนุมัติ “กึ่งสากล"
• โปรดดูรายชื่อรถที่ผู้ผลิตเบาะนั่งสำหรับเด็กให้มา
IUF :
• เบาะนั่งเหมาะสำหรับติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX ที่ผ่านการรับรอง "สากล"
i-U :
• เบาะนั่งเหมาะสำหรับการติดตั้ง หันหน้าไปทางด้านหน้าหรือด้านหลัง เบาะนั่งสำหรับเด็กพร้อมการ
อนุมัติ "สากล"
i-UF :
• เบาะนั่งเหมาะสำหรับติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็กแบบ i-Size แบบหันหน้าไปทางด้านหน้าและได้รับการ
รับรองมาตรฐาน "สากล"
i-B :
• เบาะนั่งเหมาะสำหรับติดตั้งเบาะนั่งเสริม ISOFIX แบบหันหน้าไปทางด้านหน้าของกลุ่ม 2/3 รวมถึง
เบาะนั่งสำหรับเด็กแบบ i-Size แบบหันหน้าไปทางด้านหน้าสำหรับเด็กที่มีความสูง 100 – 150 ซม.
(ประมาณ 39 – 59 นิ้ว)

33

ระบบป้องกันการ
โจรกรรม
ระบบป้องกันการโจรกรรม
ระบบป้องกันการโจรกรรม
หากรถอยู่ในโหมดป้องกันการโจรกรรม ระบบจะ
ส่งเสียงเตือนและไฟเลี้ยวจะกะพริบเมื่อประตูถูก
เปิดออก
การเปิดใช้งานระบบป้องกันการโจรกรรม
1. กดปุ่มปิดระบบขับเคลื่อน (STAR/STOP) ไป
ที่ OFF
2. หลังจากผู้โดยสารทุกคนลงจากรถ ล็อคประตู
ไฟแสดงสถานะระบบป้องกันการโจรกรรมจะ
สว่างขึ้น ระบบกันขโมยจะเปิดใช้งานโดย
อัตโนมัติใน 10 วินาทีต่อมา หลังจากระบบ
สัญญาณป้องกันการโจรกรรมทำงานไฟแสดง
สถานะจะเริ่มกะพริบ
3. หลังจากตรวจดูให้แน่ใจว่าไฟแสดงสถานะ
กะพริบแล้ว สามารถไปจากรถได้ ระบบกัน
ขโมยจะทำงานหากมีคนเปิดหรือปลดล็อค
ประตูจากภายในรถ ดังนั้นอย่าปล่อยให้ใคร
อยู่ในรถในขณะที่เปิดใช้งานระบบกันขโมย
34
เมื่อระบบป้องกันการโจรกรรมทำงาน
• ระบบป้องกันการโจรกรรมจะสร้างสัญญาณ
เตือนภัยเสียง ในกรณีต่อไปนี้:
• ประตู ท้ายรถ หรือฝากระโปรงหน้าใดๆ ถูก
เปิดออกโดยไม่ใช้กุญแจสมาร์ทคีย์
• รถเปิดการทำงานโดยไม่่ใช้สมาร์ทคีย์
การปิดระบบป้องกันการโจรกรรม
• สามารถปิดเสียงเตือนได้โดยวิธีการดังต่อไปนี้ :
• ใช้สมาร์ทคีย์ที่ถูกต้องเพื่อปลดล็อครถ
• การใช้ NFC เพื่อปลดล็อครถ
• กดสวิตช์ปลดล็อครถที่ไมโครสวิตซ์
• ใช้สมาร์ทคีย์ที่ถูกต้องเพื่อปลดล็อคจาก
ระยะไกล
• ใช้สมาร์ทคีย์ที่ถูกต้องเพื่อสตาร์ทรถจาก
ระยะไกล
• กดปุ่ม Start/Stop บนสมาร์ทคีย์ที่ถูกต้อง
ภายในรถ
คำเตือน
• ห้ามทำการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติม
ระบบกันขโมย การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
อาจทำให้ระบบทำงานผิดพลาดได้
ไฟแสดงสถานะ
เมื่อระบบป้องกันการโจรกรรมทำงาน ไฟแสดง
สถานะจะติดค้างเป็นเวลา 10 วินาที

การรวบรวมและ
ประมวลผลข้อมูล
การรวบรวมและประมวลผลข้อมูล
• ส่วนนี้จะให้ข้อมูลสำคัญบางประการแก่คุณ
เกี่ยวกับวิธีการรวบรวมและประมวลผลข้อมูล
ส่วนบุคคลเมื่อคุณใช้รถ BYD
• สำหรับภาพรวมโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
การประมวลผลข้อมูล การปกป้องข้อมูล และ
สิทธิ์ของเจ้าของข้อมูล โปรดอ่านเวอร์ชัน
ปัจจุบันของนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับ
ยานพาหนะที่มีอยู่ในเว็บไซต์ BYD
การประมวลผลข้อมูลยานพาหนะ
• ข้อมูลจะถูกเก็บรวบรวมเมื่อยานพาหนะใช้งาน
เช่น ข้อมูลที่รวบรวมหรือส่งโดยเซ็นเซอร์หรือ
ชุดควบคุมของยานพาหนะ ซึ่งจำเป็นสำหรับ
การทำงานที่ปลอดภัยของรถของคุณ
• ในบางกรณี ข้อมูลจะใช้เพื่อสนับสนุนการขับขี่
(ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี)่ หรือเพื่อเปิดใช้งาน
ความสะดวกสบายเฉพาะเจาะจงหรือระบบ
สาระบันเทิง
• ข้อมูลส่วนบุคคลที่รวบรวมและประมวลผล
ส่วนใหญ่ประกอบด้วยข้อมูลในรถยนต์ ข้อมูล
ที่เกี่ยวข้องกับบริการระยะไกล และข้อมูลอื่นๆ
ตามที่ระบุไว้เพิ่มเติมด้านล่าง
ข้อมูลภายในรถยนต์
ข้อมูลการดำเนินงาน
• เมื่อรถถูกใช้งาน ข้อมูลสถานะรถต่างๆ (เช่น
ความเร็ว ระดับแบตเตอรี่ ระบบเบรก) หรือ
สภาพแวดล้อม (เช่น เซ็นเซอร์วัดระยะทาง
เซ็นเซอร์วัดปริมาณน้ำฝน เซ็นเซอร์อุณหภูมิ)
จะถูกรวบรวมและประมวลผล
• ข้อมูลนี้มักจะไม่ถูกจัดเก็บ แต่มีชุดควบคุม
เซ็นเซอร์ หรือส่วนประกอบอื่นๆ ติดตั้งอยู่ใน 02
รถ ที่บันทึกข้อมูลดังกล่าว เช่น บันทึกข้อ
ความปลอดภัย
กำหนดการบำรุงรักษา ข้อความแสดงข้อผิด
พลาด หรือข้อมูลอื่นๆ
• ข้อมูลในรถยนต์จะถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ในรถ
เท่านั้น แต่สามารถอ่านได้ผ่านอินเทอร์เฟซ
OBD ("On Board Diagnostics") ที่ BYD
อนุญาตเท่านั้น เช่น โดยตัวแทนจำหน่ายที่ได้
รับอนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการ หรือ
บุคคลที่สามอื่นๆ
• ในกรณีที่การเข้าถึงข้อมูลระหว่างการบำรุง
รักษายานพาหนะ ข้อมูลสามารถถูกส่งไปยัง
วิศวกรของ BYD เพื่อการประกันคุณภาพ
รายงานข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์ หรือการ
ตรวจสอบการเคลมของลูกค้า
การเปิดเผยข้อมูลจากระยะไกล
บริการตรวจสอบจากระยะไกล
• รถรุ่นนี้มีบริการตรวจสอบจากระยะไกล
• ซึ่งรวมถึงบริการตรวจสอบระยะไกล เช่น การ
วินิจฉัยระยะไกล การปรับปรุงระบบให้ทัน
สมัยแบบ Over the air (OTA) เพื่อความ
มั่นคงและความปลอดภัย (ขึ้นอยู่กับการอนุมัติ
ของเจ้าของ)
• บริการตรวจสอบเหล่านี้มีจุดประสงค์ดังต่อไป
นี้: การจัดหาบริการ (การสนับสนุนระยะไกล/
การวินิจฉัย) การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการ
รักษาความปลอดภัย/ความปลอดภัย
สาธารณะ
35
• ขึ้นอยู่กับประเทศและติดตั้ง ข้อมูลรถต่างๆ
สามารถ ถูกส่งไปยัง BYD เพื่อวัตถุประสงค์
ข้างต้น รวมถึงข้อมูลตำแหน่งของรถ สถานะ
รถ เช่น การใช้พลังงาน ความเร็วของรถ
ตำแหน่งเกียร์ โหมดกำลัง สถานะ ESC
สถานะระบบบังคับเลี้ยว สถานะแบตเตอรี่
สถานะระบบส่งกำลัง และสถานะ
ประสิทธิภาพโดยรวมของรถ
อื่น
ระบบสาระบันเทิง
• ขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าของรถแต่ละคัน ผู้ใช้
สามารถเพิ่มข้อมูลลงในระบบสาระบันเทิงได้
เอง เช่น วิดีโอ ข้อมูที่อยู่สำหรับใช้ในระบบ
นำทาง หรือข้อมูลสำหรับใช้ในบริการออนไลน์
• ขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าของรถแต่ละคัน
สามารถป้อนการตั้งค่าส่วนบุคคลในรถได้
• ข้อมูลที่เก็บไว้ในรถสามารถลบได้ตลอดเวลา
• BYD ไม่มีอำนาจควบคุมข้อมูลที่ถ่ายโอนไปยัง
บุคคลที่สาม (จากการใช้เนื้อหาของบุคคลที่
สาม โดยเฉพาะในส่วนของบริการออนไลน์)
การให้บริการ่วมกับอุปกรณ์เคลื่อนที่
• ขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าของรถ อุปกรณ์
เคลื่อนที่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมผ่าน
ระบบสาระบันเทิงของรถได้
• อาจมีความจำเป็นที่หน้าจอหรือเสียงของ
อุปกรณ์จะแสดง/เล่นผ่านระบบสาระบันเทิง
หรือส่งไปยังอุปกรณ์นั้น
• ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ตำแหน่งหรือข้อมูลรถ
สามารถส่งผ่านแอปพลิเคชันเพื่อใช้ในระบบ
นำทาง การสื่อสาร หรือบริการอื่นๆ ของ
บุคคลที่สาม
36
• ประมวลผลข้อมูลประเภทเฉพาะเจาะจงขึ้นอยู่
กับการทำงานที่เกี่ยวข้อง และควบคุมโดยผู้ใช้
หรือบุคคลที่สาม เช่น ผู้ให้บริการอุปกรณ์หรือ
บริการที่เกี่ยวข้อง
การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
และบริการที่เชื่อมต่อ
• ขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าของรถ อินเทอร์เน็ต
สามารถเข้าถึงได้บางการทำงานหรือบริการ
BYD ผ่านอุปกรณ์เครือข่ายระบบสาระบันเทิง
ของรถ
• BYD จะไม่รับผิดชอบต่อบริการดังกล่าวที่
จัดหาให้โดยบุคคลอื่น
• ในกรณีนี้ ให้ขอรับข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการ
อินเตอร์เนทและบริการเชื่อมต่อจากผู้ให้
บริการนั้นๆ
กล้องบันทึกภาพ / และกล้อมรอบทิศทาง
• รถรุ่นนี้มีกล้อง/เซ็นเซอร์จำนวนหนึ่งติดตั้งไว้
• เหตุผลก็คือการทำงานบางอย่างของรถ
ต้องการที่จะตรวจจับและประเมิน ซึ่งจะทำ
โดยกล้องที่ตรวจจับวัตถุในบริเวณโดยรอบรถ
(เช่น สิ่งกีดขวาง)
• รูปภาพจะถูกส่งไปยังอุปกรณ์ควบคุมที่
เกี่ยวข้องสำหรับการวิเคราะห์เพิ่มเติมที่จำเป็น
ในการใช้งานระบบ
• ภาพบางภาพได้รับการประมวลผลในหน่วย
ความจำชั่วคราว (RAM) จะไม่ถูกจัดเก็บ
ภาพอื่นๆ อาจถูกจัดเก็บ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ
อุปกรณ์ของรถ
• รถอาจติดตั้งกล้องหันหน้าออก (OFC) ที่
สามารถใช้บันทึกภาพบริเวณโดยรอบได้
(กล้องติดหน้ารถ)
• รถอาจติดตั้งกล้องหันหน้าเข้า (Inward
Facing Camera - IFC) ซึ่งสามารถใช้ถ่าย
วิดีโอภายในรถได้
• วีดีโอทั้งจาก OFC และ IFC จะถูกจัดเก็บไว้
• เป็นความรับผิดชอบของเจ้าของที่จะต้อง
ทราบกฎหมายที่เกี่ยวข้องของประเทศของตน
ก่อนที่จะเปิดกล้อง OFC หรือ IFC (ในบาง
ประเทศจำเป็นต้องได้รับความยินยอมในการ
ใช้ IFC และในบางแห่ง OFC นั้นมีข้อจำกัดใน
การใช้เป็นกล้องติดหน้ารถ)
• สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือก
กล้อง ให้ไปที่ ส่วนบันทึกการเดินทางและมุม
มองแบบพาโนรามา ของคู่มือนี้
การโอนยานพาหนะถาวร
ไปยังบุคคลที่สามและโหมดออฟไลน์
• กรณีโอนยานพาหนะถาวร เช่น ขายรถ หรือ
การโอนยานพาหนะไปบุคคลที่สามเพื่อการใช้
งานถาวร ขอเตือนว่าผู้ใช้ใหม่อาจเข้าถึงการตั้ง
ค่าส่วนบุคคล/การตั้งค่าผู้ใช้ผ่านระบบสาระ
บันเทิง (เช่น รายการที่อยู่ ระบบนำทาง ฯลฯ)
• การสื่อสารในรถกับเซิร์ฟเวอร์ข้อมูล BYD
สามารถจำกัดได้ และสามารถตั้งค่าการ
ประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรถและข้อมูล
ส่วนบุคคลเป็นโหมดออฟไลน์ของรถได้
• แตะที่ PAD เพื่อปิด Wi-Fi
• Wi-Fi สามารถปิดได้ด้วยการแตะ
ON → DiLink → Link→ WLAN → OFF
02
ความปลอดภัย
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อเจ้าหน้าที่
• BYD เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เท่าที่บุคคลที่สาม
จะได้รับอนุญาตตามกฎหมายและเมื่อได้รับ
ความยินยอมจากผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม ภายใต้
กฎหมายที่บังคับใช้ หน่วยงานของรัฐอาจได้รับ
อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลยานพาหนะ (เช่น
ข้อมูลจากชุดควบคุมถุงลมนิรภัยเพื่อชี้แจง
อุบัติเหตุ) หากกฎหมายกำหนด
• BYD ก็อาจมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลตาม
คำร้องขอของหน่วยงานของรัฐ เช่น การเปิด
เผยข้อมูล ในกรณีที่มีการสอบสวนความผิด
ทางอาญา
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
• BYD ให้ความเคารพในความเป็นส่วนตัวของ
ลูกค้าอย่างแข็งขัน และปฏิบัติตามกฎหมาย
คุ้มครองข้อมูลทั้งหมดอย่างเคร่งครัด โดย
เฉพาะอย่างยิ่งระเบียบว่าด้วยการคุ้มครอง
ข้อมูลทั่วไป (GDPR) และกฎหมายท้องถิ่นที่
บังคับใช้
• ตามกฎหมายเหล่านี้ เจ้าของมีสิทธิ์เฉพาะเมื่อ
มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล:
• เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์ในข้อมูลและการเข้าถึง ใน
การแก้ไข การลบข้อมูลส่วนบุคคล ('สิทธิ์ที่จะ
ถูกลืม') และสิทธิ์ในการคัดค้านการประมวล
ผลข้อมูลส่วนบุคคลหรือจำกัด (หรือเพิกถอน
37
 ความยินยอมที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้ ตลอดจนสิทธิ
ในการโอนข้อมูลส่วนบุคคล)
• สิทธิ์เหล่านี้อาจถูกจำกัดในบางกรณี ตัวอย่าง
เช่น หากสามารถแสดงให้เห็นว่ามีภาระผูกพัน
ทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูล หรือ
หากการให้ข้อมูลจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ของผู้อื่น หรือมีการป้องกันทางกฎหมายจาก
การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
• ในบางกรณี นี่อาจหมายความว่าข้อมูล
สามารถยับยั้งได้แม้ว่าจะเพิกถอนความ
ยินยอมก็ตาม
• สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประมวลผล
ข้อมูล การปกป้อง และสิทธิ์อื่นๆ โปรดไปที่
นโยบายความเป็นส่วนตัวเวอร์ชันล่าสุดบน
เว็บไซต์ BYD

38
03
จอแสดงผล
สำหรับคนขับ
สัญลักษณ์บนจอแสดงผลสำหรับคนขับ............40

39
สัญลักษณ์บนจอแสดงผลสำหรับคนขับ
สัญลักษณ์บนจอแสดงผลสำหรับคนขับ
สัญลักษณ์บนจอ LCD แสดงผลสำหรับคนขับ

1. นาฬิกา 6. มาตรวัดระยะทางทั้งหมด
2. มาตรวัดวัดกำลัง 7. ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้อีก
3. มาตรวัดความเร็ว 8. สถานะเกียร์
4. มาตรวัดปริมาณไฟในแบตเตอรี่ (SOC) 9. โหมดขับขี่
5. อุณหภูมิภายนอก 10. ข้อมูลการสร้างพลังงานกลับคืน

40
ไฟแสดงสัญลักษณ์เตือน
จ่ายกระแสไฟออก
สัญลักษณ์แสดงและสัญลักษณ์เตือน
เซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำฝนและแสง 03
ไฟเลี้ยว

จอแสดงผลสำหรับคนขับ
ACC สถานะพร้อมทำงาน(สีเทา)*
ไฟหน้า
แสดงความเร็ว ACC
ไฟสูง
ACC สถานะทำงาน*
ไฟตัดหมอกหลัง
ระบบ AVH พร้อมทำงาน (สีขาว)
ไฟพร้อมการขับขี่
ระบบควบคุมความเร็วคงที่
ไฟตัดหมอกหน้า*
ระบบควบคุมความเร็วคงที่หลัก
โหมดขับขี่แบบประหยัด
ระบบช่วยเหลือใน
โหมดขับขี่แบบสปอร์ท การจราจรติดขัด (TJA)

ระบบ AVH ทำงาน คำเตือนการชนกันแบบคาดการ

ล่วงหน้า (PCW) (สีเขียว)

ระบบช่วยการลงเขา
ไฟเตือนเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)

สวิตซ์ไฟภายนอก
ไฟเตือนระบบสมาร์ทคีย์

ไฟสูงแบบแอคทีฟ HMA*
ไฟเตือนแรงดันลมยาง

41
 สัญญาณเตือนหลัก
ไฟเตือนระบบ ESC ปิด
ไฟเตือนระบบ ESC
ไฟเตือนระบบ
เบรกป้องกันล้อล็อค (ABS)
ไฟเตือนขีดจำกัดกำลังขับ
ระบบระบายความร้อนมอเตอร์
อุณหภูมิสูงเกินไป
ไฟเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย
ไฟเตือนถุงลมนิรภัย
ไฟแสดงเบรกจอดรถแบบ
อิเล็กทรอนิกส์ (EPB)
ไฟเตือนระบบเบรกจอดรถ

ไฟเตือนไฟหน้า
ไฟเตือนระบบบังคับเลี้ยว
โหมดขับขี่บนหิมะ
ไฟแสดงการเชื่อมต่อการชาร์จ
แบตเตอรี่
ไฟเตือนปริมาณพลังงานต่ำ (SOC)
ไฟเตือนระบบไฟฟ้าแรงดันต่ำ
ไฟเตือน ACC
ไฟเตือนแบตเตอรี่ร้อนเกินไป
ไฟแสดงการตรวจจับจุดบอด (BSD)*
ไฟเตือนแบตเตอรี
ไฟเตือน PCW (สีแดง)
ไฟเตือนระบบไฟฟ้า
ไฟเตือนมอเตอร์ร้อนเกินไป
แสดงข้อมูลป้ายจราจร (RSR)

42
คำอธิบายไฟเตือน
และไฟแสดงสถานะ
ไฟเตือนระบบสมาร์ทคีย์
• หากกุญแจไม่ได้อยู่ในรถเมื่อกดปุ่ม START/
STOP คำเตือนนี้จะสว่างขึ้นสองสามวินาที จะ
ได้ยินเสียง บี๊บ และข้อความ "No key
detected, please check whether the
key is in the car" (“ไม่พบกุญแจ โปรดตรวจ
สอบว่ากุญแจอยู่ในรถหรือไม่”) จะแสดงบน
จอแสดงผลสำหรับคนขับ
• หากสมาร์ทคีย์ที่ตรงกับรถอยู่ภายใน เมื่อกด
ปุ่ม START/STOP การเตือนจะไม่สว่างขึ้น
และรถจะเปิดการทำงานตามปกติ
• หากไฟเตือนกะพริบเมื่อกดปุ่ม START/STOP
แสดงว่าแบตเตอรี่ของสมาร์ทคีย์เหลือน้อย
• หากกุญแจไม่ได้อยู่ในรถ แผงหน้าปัดจะแจ้งว่า
"No key detected, please check
whether the key is in the car”
ไฟเตือน ABS
• เมื่อกดปุ่ม START/STOP การทำงาน"OK" ไฟ
เตือนนี้จะสว่างขึ้น หากระบบ ABS ทำงาน
ตามปกติ ไฟเตือนนี้จะดับลงในไม่กี่วินาที ถ้า
ABS ผิดปกติ ไฟเตือนจะสว่างขึ้นอีกครั้ง
จนกว่าความผิดปกติจะหายไป
• เมื่อไฟเตือนระบบเบรก ABS ติดขึ้น (ไฟเตือน
ระบบเบรกจอดรถดับลง) ระบบเบรก ABS จะ
ไม่ทำงาน แต่ระบบเบรกยังทำงานได้ตามปกติ
• เมื่อระบบ ABS ไม่ทำงาน ล้ออาจจะล็อคใน
การเบรกฉุกเฉินหรือเบรกบนถนนที่ลื่น
• หากเกิดกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้ แสดงว่ามี
ข้อผิดพลาดในส่วนประกอบ ที่ตรวจสอบเจอ
โดยระบบไฟเตือน ในกรณีดังกล่าว โปรด
ติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ
BYD หรือผู้ให้บริการโดยเร็วที่สุด
• เมื่อกดปุ่ม START/STOP การทำงาน"OK" แต่ 03
ไฟเตือนนี้ไม่ติดหรือติดค้าง
จอแสดงผลสำหรับคนขับ
• ไฟเตือนนี้จะติดขณะขับรถ
หมายเหตุ
• ไฟเตือนที่ติดขึ้นชั่วขณะระหว่างการใช้
งานไม่ได้แสดงว่ามีปัญหา
• หากไฟเตือนระบบเบรกจอดรถและไฟ
เตือน ABS สว่างขึ้นในเวลาเดียวกัน ให้
หยุดรถอย่างปลอดภัยทันที และติดต่อ
ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD ในกรณีนี้ ไม่เพียงแค่
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อคจะไม่ทำงาน
เท่านั้น แต่รถจะควบคุมได้ยากอย่างยิ่ง
• หากทั้งไฟเตือน ABS และไฟเตือนระบบเบรก
ติดสว่างหลังจากปล่อย EPB แสดงว่าระบบ
กระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD)
ไปที่ยางหน้าและล้อหลังมีปัญหาเช่นกัน
ไฟเตือนแรงดันลมยาง
• เมื่อกดปุ่ม START/STOP การทำงาน"OK" ไฟ
เตือนนี้จะสว่างขึ้น มันจะดับลงในไม่กี่วินาที
หากระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS)
ทำงานได้ตามปกติ หากระบบผิดพลาด ไฟ
เตือนนี้จะสว่างขึ้นอีกครั้ง
• เมื่อไฟเตือนแรงดันลมยางติดสว่าง หรือ
กะพริบ แผงหน้าปัดจะแสดง ""Please
check the tire pressure monitoring
43
 system" และแรงดันลมยางจะแสดงเป็น "---"
บนหน้าจอ แสดงว่า TPMS ทำงานผิดปกติ
• เมื่อ TPMS แสดง "Signal Abnormal" แสดง
ว่าสัญญาณแรงดันลมยางที่ตำแหน่งของรถ
อาจถูกรบกวนหรือโมดูล TPMS เสียหาย
• เมื่อไฟเตือนแรงดันลมยางกะพริบเร็ว และแรง
ดันลมยางอย่างน้อยหนึ่งเส้นที่แสดงบนจอ
เปลี่ยนเป็นสีแดง แสดงว่ายางเส้นนั้นรั่วอย่าง
รวดเร็ว
• เมื่อไฟเตือนแรงดันลมยางคงที่ และแรงดันลม
ยางอย่างน้อยหนึ่งเส้นที่แสดงบนแผงหน้าปัด
เปลี่ยนเป็นสีเหลือง แสดงว่าแรงดันลมยางที่
เกี่ยวข้องนั้นต่ำเกินไป เมื่ออุณหภูมิของยาง
หนึ่งเส้นขึ้นไปเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แสดงว่า
อุณหภูมิยางสูงเกินไป
หากเกิดกรณีเหล่านี้ขึ้น โปรดติดต่อตัวแทน
จำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการ
เพื่อทำการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด
ไฟเตือนระบบควบคุมเสถียรภาพ
การทรงตัว (ESC)
• เมื่อกดปุ่ม START/STOP การทำงาน"OK" ไฟ
เตือนนี้จะสว่างขึ้น หากฟังค์ชั่น ESC ทำงาน
ตามปกติ ไฟเตือนนี้จะดับลงในไม่กี่วินาที หาก
ระบบ ESC ผิดพลาด ไฟเตือนนี้จะสว่างขึ้นอีก
ครั้งจนกว่าความผิดปกติจะหายไป
• หากไฟเตือน ESC กะพริบขณะขับรถ แสดงว่า
ระบบ ESC กำลังทำงาน
• หากไฟเตือน ESC ติด (ไฟเตือน ABS และไฟ
เตือนระบบเบรกจอดรถดับ) แสดงว่ามีข้อผิด
พลาดของ ESC แต่ ABS และระบบเบรกยังคง
ทำงานตามปกติ
44
• เมื่อฟังค์ชั่น ESC ล้มเหลว รถจะควบคุมได้ยาก
อย่างยิ่งเมื่อเลี้ยวโค้ง และหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง
• หากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ส่วนประกอบที่ตรวจ
สอบพบโดยระบบไฟเตือนอาจมีความผิดปกติ
ในกรณีนี้ โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อทำการ
ตรวจสอบโดยเร็วที่สุด
• เมื่อเปิดสวิตช์กุญแจแล้ว ไฟเตือนนี้ไม่ติด (และ
ไม่ตรวจสอบตัวเอง)
• ไฟเตือนนี้จะติดขณะขับรถ
• หากไฟเตือนนี้กะพริบขณะขับรถ แสดงว่า
ระบบ ESC กำลังทำงาน
หมายเหตุ
• ระหว่างการใช้งาน ไฟเตือนที่ติดขึ้นชั่วครู่ไม่
ได้ระบุว่ามีปัญหา
• หากไฟเตือน ESC ยังคงติดอยู่ในขณะที่ไฟ
เตือน ABS และไฟเตือนระบบเบรกติดอยู่
ให้หยุดรถอย่างปลอดภัยและติดต่อตัวแทน
จำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ
BYD ในกรณีนี้ เมื่อใช้เบรก ไม่เพียงแต่รถจะ
ควบคุมได้ยากมากเท่านั้น ระบบเบรก
ป้องกันล้อล็อคก็จะไม่ทำงานด้วยเช่นกัน
ไฟเตือน ESC OFF
• เมื่อกดสวิตช์ ESC OFF ไฟเตือน ESC OFF
จะติดสว่าง และฟังค์ชั่น ESC จะไม่ทำงาน
เมื่อกดสวิตช์ ESC OFF อีกครั้ง ไฟเตือนนี้จะ
ดับลง และฟังค์ชั่น ESC จะกลับมาทำงาน
 หมายเหตุ
• •หากไฟเตือน ESC OFF เปิดอยู่ ผู้ขับขี่จะ
ต้องตื่นตัวและรักษาความเร็วในการขับขี่ให้
ช้าลงเมื่อถึงทางเลี้ยวหักศอกและเมื่อต้อง
หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง ในกรณีนี้ เมื่อเหยียบ
เบรก ฟังค์ชั่นระบบ ESC จะไม่ทำงาน และ
รถจะควบคุมได้ยาก
ไฟเตือนขีดจำกัดกำลังขับ
• เมื่อกำลังของรถถูกจำกัด ไฟเตือนนี้จะสว่าง
ขึ้น ในกรณีนี้ โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือ
ผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD ในขณะที่
ไฟแสดง
ไฟเตือนไฟหน้า
• หากไฟเตือนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแสดงว่าไฟ
หน้าผิดปกติ ในกรณีนี้ ให้นำรถไปที่ตัวแทน
จำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ BYD หรือผู้ให้
บริการเพื่อทำการตรวจสอบ
สัญญาณเตือนหลัก
• หากไฟแสดงสถานะนี้สว่างขึ้น ให้ตรวจสอบ
ข้อความแจ้งข้อผิดพลาดหรือข้อมูลคำเตือนใน
จอแสดงข้อมูล
ไฟเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย
• เมื่อกดปุ่ม START/STOP การทำงาน"OK"
หากที่นั่งแถวหน้าไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ไฟ
แสดงสถานะเข็มขัดนิรภัยจะสว่างขึ้น ไฟแสดง
สถานะจะไม่ดับ เว้นระทั่งจะคาดเข็มขัดนิรภัย
ไฟเตือนถุงลมนิรภัย
• เมื่อกดปุ่ม START/STOP การทำงาน"OK" ไฟ
เตือนนี้จะสว่างขึ้น และจะดับลงในไม่กี่วินาที
หากระบบถุงลมนิรภัยทำงานตามปกติ ไฟ
เตือนนี้ใช้สำหรับตรวจสอบ ECU, เซ็นเซอร์
การชน, การพองตัว, ไฟเตือน, สายไฟ และ
แหล่งจ่ายไฟของถุงลมนิรภัย 03
• หากเกิดกรณีใดกรณีหนึ่งต่อไปนี้ ส่วน
จอแสดงผลสำหรับคนขับ
ประกอบที่ตรวจสอบพบโดยระบบไฟเตือน
อาจมีข้อผิดพลาด ในกรณีนี้ โปรดติดต่อ
ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ BYD หรือ
ผู้ให้บริการเพื่อทำการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด
• เมื่อกดปุ่ม START/STOP การทำงาน"OK"
ไฟเตือนนี้ไม่ติดหรือติดค้าง
• ไฟเตือนนี้ติดสว่างขณะขับรถ
ไฟเตือนระบบเบรกจอดรถ
เมื่อระดับน้ำมันเบรกต่ำหรือระบบเบรกผิดปกติ
ไฟเตือนนี้จะสว่างขึ้น หากเกิดกรณีเหล่านี้ขึ้น ให้
หยุดทันทีและติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้
บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD
• เมื่อกดปุ่ม START/STOP การทำงาน"OK"
และระดับน้ำมันเบรกต่ำ ไฟเตือนนี้จะสว่างขึ้น
หมายเหตุ
• เมื่อระดับน้ำมันเบรกต่ำ ให้จอดรถเพราะ
จะเป็นอันตรายในการขับขี่ต่อไป
• หลังจากสตาร์ทรถแล้ว หากระดับน้ำมันเบรก
เป็นปกติและ EPB ทำงานตามปกติ (สามารถ
ดึงและปล่อยสวิตช์ EPB ได้ตามปกติ และไม่มี
ข้อความ "Please check the EPB" ปรากฏ
ขึ้น) ไฟเตือนแสดงขึ้นมา
• ทั้งไฟเตือนระบบเบรกจอดรถและไฟเตือน
ABS แสดงขึ้นมา
45
 หมายเหตุ
• หากไฟเตือนนี้สว่างขึ้นชั่วขณะระหว่าง
การทำงาน ไม่ได้แสดงว่ามีปัญหา
ไฟเตือนระบบบังคับเลี้ยว
• หากระบบบังคับเลี้ยวผิดปกติ ไฟเตือนนี้จะติด
สว่างตลอดเวลา ในกรณีนี้ ให้ส่งรถไปยัง
ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ BYD หรือ
ผู้ให้บริการเพื่อตรวจสอบ
หมายเหตุ
• ระบบบังคับเลี้ยวใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อผ่อน
แรงที่ต้องใช้ในการหมุนพวงมาลัย
• เมื่อหมุนพวงมาลัย อาจได้ยินเสียงฮัมจาก
มอเตอร์ที่กำลังทำงาน นี่ไม่ได้แสดงว่า
มอเตอร์เสีย
• ห้ามหมุนพวงมาลัยจนสุดค้างไว้มากกว่า
5 วินาที มิฉะนั้น ระบบป้องกันอุณหภูมิ
สูงจะทำงาน ระบบบังคับเลี้ยวอาจจะเสีย
หายหรือพวงมาลัยจะหนักขึ้น
• หากหมุนพวงมาลัยบ่อยครั้งเมื่อรถไม่เคลื่อนที่
ระบบช่วยผ่อนแรงจะทำงานลดลงเพื่อป้องกัน
ไม่ให้ระบบพวงมาลัยร้อนเกินไป
• ดังนั้น การหมุนพวงมาลัยอาจรู้สึกยาก
แม้ว่าไฟเตือนจะไม่ติด ในกรณีนี้ ให้ลด
ความถี่ในการบังคับเลี้ยวหรือปิดการทำงาน
รถ และระบบจะกลับคืนเป็นปกติภายใน
10 นาที
46
คำเตือน
• หากไฟเตือนระบบพวงมาลัยติดสว่าง ให้
จอดรถอย่างปลอดภัยทันที และติดต่อ
ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD
ไฟเตือนระบบไฟฟ้าแรงดันต่ำ
• ในสถานะไม่ชาร์จ หรือ คายประจุ ไฟเตือนนี้
ระบุสถานะการทำงานระบบไฟกระแสตรง
และโมดูลแบตเตอรี่แรงดันต่ำ
• ไฟเตือนนี้บ่งชี้ว่า สถานะการชาร์จไม่ทำงาน
• หากไฟเตือนนี้ทำงานขณะขับขี่ ระบบไฟ
กระแสตรง หรือระบบจ่ายไฟแรงดันต่ำมีข้อ
บกพร่อง ในกรณีนี้ ให้ปิดเครื่องปรับอากาศ
และพัดลม จอดรถอย่างปลอดภัยทันที และ
ติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD
ไฟเตือนระบบไฟฟ้า
• ไฟเตือนนี้จะติดขึ้นหากระบบไฟฟ้าขัดข้อง
• หากเกิดกรณีใดๆขึ้น ส่วนประกอบที่ตรวจสอบ
พบโดยระบบไฟเตือนอาจมีข้อผิดพลาด ใน
กรณีนี้ โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อทำการ
ตรวจสอบโดยเร็วที่สุด
• เมื่อกดปุ่ม START/STOP การทำงาน"OK ไฟ
เตือนนี้ติด
• ไฟเตือนนี้จะติดขณะขับรถ

ข้อควรระวัง !
•พยายามอย่าขับรถในขณะที่ไฟเตือนติด
สว่าง ติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้
บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD เพื่อ
• ไฟยังคงติดอยู่หรือบางครั้งยังคงดำเนินต่อ
ไปในขณะขับรถ
มอเตอร์มีความร้อนสูงเกินไป
03
• หากไฟแสดงสถานะนี้สว่างขึ้น แสดงว่า

จอแสดงผลสำหรับคนขับ
ตรวจสอบปัญหาโดยเร็วที่สุด อุณหภูมิของมอเตอร์สูงเกินไป ในกรณีนี้ ให้
ไฟเตือนแบตเตอรี่ร้อนเกินไป จอดรถในที่ปลอดภัยทันที ออกจากรถ และ
ติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ
• หากไฟเตือนนี้สว่างขึ้น แสดงว่าอุณหภูมิของ BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อทำการตรวจสอบโดย
แบตเตอรี่สูงเกินไป ในกรณีนี้ ให้จอดรถเพื่อ เร็วที่สุด
ทำให้รถเย็นลง หากไฟเตือนนี้กะพริบ ให้จอด
รถในที่ปลอดภัยทันที และออกจากรถ
• แบตเตอรีอาจร้อนเกินไปเมื่อรถยนต์:
• ขับขึ้นทางลาดชันเป็นเวลานานในสภาพ
อากาศร้อน
• หยุดและเร่งออกตัวบ่อย เร่งแซงบ่อย เบรก
กะทันหัน หรือวิ่งเป็นเวลานานโดยไม่หยุด
พัก
ไฟเตือนแบตเตอรี
• การเตือนนี้จะสว่างขึ้นมื่อกดปุ่ม START/
STOP การทำงาน"OK" แล้วจะดับลงหาก
แบตเตอรี่ทำงานตามปกติ หลังจากนั้นหาก
ระบบเกิดข้อผิดพลาด ไฟเตือนนี้จะสว่างขึ้น
อีกครั้ง ในกรณีนี้ โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่าย
ที่ได้รับอนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อ
ทำการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด
• หากเกิดกรณีใดๆขึ้น ส่วนประกอบที่ตรวจสอบ
พบโดยระบบไฟเตือนอาจมีข้อผิดพลาด ใน
กรณีนี้ โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อทำการ
ตรวจสอบโดยเร็วที่สุด
• เมื่อกดปุ่ม START/STOP การทำงาน"OK"
แล้ว ไฟเตือนนี้ยังคงติดสว่าง
47
คำอธิบายของข้อบกพร่องอื่นๆ
แผงหน้าปัดอาจแสดงข้อความผิดปกติต่อไปนี้ .ให้แก้ไขตามวิธีที่แนะนำ
เครื่องหมาย ข้อความ วิธีแก้ไข
ระบบการชาร์จออนบอร์ดผิดปกติ ในกรณีนี้
ให้ตรวจสอบการเชื่อมต่อการชาร์จ และเชื่อม
Please check the on-board
ต่ออุปกรณ์ชาร์จอีกครั้ง หากยังคงมีปัญหาอยู่
charging system.
โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่
ได้รับอนุญาตจาก BYD
รถอาจถูกตัดการเชื่อมต่อจากเครือข่ายข้อมูล
Please check the data ในกรณีนี้ ให้จอดรถทันที และติดต่อตัวแทน
network of the vehicle. จำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ
BYD
ไฟหน้ามีความผิดปกติ ในกรณีนี้ ให้ติดต่อ
Please check the headlight. ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตจาก BYD
ระบบ PCW ผิดพลาด ในกรณีนี้ ให้จอดรถ
Please check the PCW
และติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่
system.*
ได้รับอนุญาตของ BYD
ระบบ AEB ผิดพลาด ในกรณีนี้ ให้จอดรถ
The AEB function is limited.* และติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่
ได้รับอนุญาตของ BYD
BSD ผิดพลาด ในกรณีนี้ ให้จอดรถและ
Please check the BSD
ติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
system.*
อนุญาตของ BYD
ฟังค์ชั่น BSD ถูกจำกัด ในกรณีนี้ ให้จอดรถ
The BSD function is limited.* และติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่
ได้รับอนุญาตของ BYD

48

Please check the shifter.
Please check the
infotainment system.*
The function of the
infotainment system is
limited.*
The smart camera is
unavailable.*
Please check the LDWS.*
Please check the ICC or LKS.* ผิดปกติ ในกรณีนี้ ให้จอดรถและติดต่อ
The function of the ICC or
LKS is limited.*
ตัวควบคุมการเข้าเกียร์มีข้อบกพร่อง ในกรณี
นี้ ให้จอดรถทันที และติดต่อตัวแทนจำหน่าย
หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD
03
ระบบสาระบันเทิงผิดพลาด ในกรณีนี้ ให้จอด
จอแสดงผลสำหรับคนขับ
รถและติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการ
ที่ได้รับอนุญาตของ BYD
ระบบสาระบันเทิงทำงานอย่างจำกัด ในกรณี
นี้ ให้จอดรถและติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้
ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD
กล้องอัจฉริยะไม่พร้อมใช้งาน ในกรณีนี้ ให้
จอดรถและติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้
บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD
ระบบเตือนการออกนอกเลน (LDWS) ทำงาน
ผิดปกติ ในกรณีนี้ ให้จอดรถและติดต่อ
ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD
ระบบความคุมความเร็วแบบอัจฉริยะ (ICC)
หรือระบบรักษาช่องทางเดินรถ (LKS) ทำงาน
ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD
การทำงานของ ICC หรือ LKS นั้นทำงาน
อย่างจำกัด ในกรณีนี้ ให้จอดรถและติดต่อ
BYD ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาต
49
50
04 ระบบควบคุม
การทำงาน
ประตูรถและกุญแจ..........................................52
ที่นั่ง..................................................................64
พวงมาลัย.........................................................68
สวิตช์................................................................71

51
ประตูรถและกุญแจ ข้อควรระวัง !
» ห้ามถอดชิ้นส่วนสมาร์ทคีย์โดย
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกุญแจ ไม่ได้รับอนุญาต
» อย่าให้สมาร์ทคีย์กระแทกโดนวัตถุอื่น
กุญแจต่างๆ ได้แก่ สมาร์ทคีย์ ดอกกุญแจ (ติดตั้ง
หรือตกจากที่สูง
ในสมาร์ทคีย์) และคีย์การ์ด Near Field
Communication (NFC)* » อย่าปล่อยให้สมาร์ทคีย์เปียก
» เก็บสมาร์ทคีย์ให้ห่างจากอุปกรณ์ปล่อย
สมาร์ทคีย์
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เช่น สมาร์ทโฟน
กดไมโครสวิตช์ที่ประตูหน้าซ้าย/ขวา เพื่อปลด » ห้ามติดวัตถุใดๆ (เช่น ซองโลหะ) ที่อาจ
ล็อคหรือล็อคประตูทุกบาน หรือกดปุ่มบนสมาร์ท ตัดคลื่นวิทยุเมื่อใช้สมาร์ทคีย์
คีย์เพื่อ ล็อค/ปลดล็อคประตู เปิดท้ายรถ และ
» หากต้องการเพิ่มกุญแจสำรองสำหรับรถ
สตาร์ทรถจากระยะไกล
คันเดียวกัน ขอรายละเอียดได้ที่ตัวแทน
(1) ไฟแสดงการทำงาน จำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต
(2) ปุ่มล็อค ของ BYD
(3) ปุ่มปลดล็อค
• หากสมาร์ทคีย์ไม่สามารถควบคุมประตูได้
(4) ปุ่มเปิดประตูท้ายรถ ภายในระยะทางปกติ หรือหากไฟแสดง
(5) ปุ่ม START/STOP สถานะบนกุญแจหรี่หรือดับลง:
(6) ดอกกุญแจ
» ตรวจสอบว่าอยู่ใกล้สถานีวิทยุ หรือ
เครื่องส่งวิทยุสนามบินที่อาจรบกวนการ
ทำงานปกติของสมาร์ทคีย์ได้
» แบตเตอรี่สมาร์ทคีย์อาจหมด
ให้ตรวจสอบแบตเตอรี่สมาร์ทคีย์
หากจำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ โปรด
ติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่
ได้รับอนุญาตจาก BYD
ข้อควรระวัง ! • หากสมาร์ทคีย์สูญหาย โปรดติดต่อ
ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ BYD
• สมาร์ทคีย์เป็นส่วนประกอบ
หรือผู้ให้บริการโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกัน
อิเล็กทรอนิกส์ ปฏิบัติตามคำแนะนำต่อ
การโจรกรรมหรืออุบัติเหตุ
ไปนี้เพื่อป้องกันความเสียหาย:
» อย่าให้สมาร์ทคีย์สัมผัสกับอุณหภูมิสูง
เช่น บนคอนโซล
52
 ข้อควรระวัง !
• ห้ามเปลี่ยนความถี่ในการส่งสัญญาณ เพิ่ม
กำลังส่ง (รวมถึงการติดตั้งเครื่องขยาย
สัญญาณเพิ่มเติม) เชื่อมต่อเสาอากาศ
ภายนอก หรือใช้เสาอากาศรับส่งสัญญาณ
อื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต
• อย่าสร้างสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตราย
ต่อบริการสื่อสารทางวิทยุที่ถูกกฎหมาย
เมื่อใช้สมาร์ทคีย์ เมื่อพบการรบกวนใดๆ
ให้หยุดใช้สมาร์ทคีย์ทันที และใช้
มาตรการเพื่อป้องกันการรบกวนก่อนใช้
งานต่อไป
• เมื่อใช้อุปกรณ์ที่มีการส่งคลื่นวิทยุขนาด
เล็ก ให้หลีกเลี่ยงการรบกวนจากคลื่นวิทยุ
ต่างๆ หรือการรบกวนทางรังสีจาก
อุปกรณ์ในงานอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์
และอุปกรณ์ทางการแพทย์
• ห้ามใช้อุปกรณ์ดังกล่าวใกล้กับเครื่องบิน
หรือสนามบิน
• ผู้ที่มีเครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือใช้ครื่อง
กระตุกหัวใจ ควรอยู่ห่างจากเสาอากาศ
ระบบ
สมาร์ทคีย์ เนื่องจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
อาจรบกวนการทำงานปกติของอุปกรณ์
เหล่านี้
ดอกกุญแจ
ใช้ดอกกุญแจ (ภายในสมาร์ทคีย์) เพื่อล็อคหรือ
ปลดล็อคประตูรถหลัก ใส่ดอกกุญแจกลับเข้าไป
ในสมาร์ทคีย์เมื่อไม่ได้ใช้งาน
ข้อควรระวัง !
• สำหรับผู้ที่มีเครื่องกระตุ้นหัวใจหรือใช้ครื่
องกระตุกหัวใจ แล้วผู้ที่ใช้อุปกรณ์ 04
อิเล็กทรอนิกส์ ทางการแพทย์อื่นๆ ควร
ระบบควบคุมการทำงาน
ปรึกษาผู้ผลิตเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์
ทางการแพทย์ดังกล่าวภายใต้อิทธิพลของ
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
อาจมีผลที่คาดเดาไม่ได้สำหรับการใช้
อุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าว
• เมื่อลงจากรถ อย่าลืมพกกุญแจและล็อค
รถตลอดเวลา อย่าทิ้งใครไว้ในรถ(โดย
เฉพาะเด็ก)
การถอดอกกุญแจ
กดสลัก (2) ดึงดอกกุญแจไปทิศทางตามภาพ (1)
และดึงดอกกุญแจกออกมา
• กดสลัก (2) และใส่ดอกกุญแจกลับเข้าไปใน
สมาร์ทคีย์เมื่อไม่ได้ใช้งาน
ป้ายทะเบียนหมายเลขดอกกุญแจ
• หมายเลขดอกกุญแจจะแสดงอยู่บนป้าย
ทะเบียน หากดอกกุญแจสูญหายหรือจำเป็น
ต้องคัดลอก ให้ใช้หมายเลขดอกกุญแจเพื่อคัด
ลอกที่ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD
53

หมายเหตุ
• แน่ใจว่าได้เก็บทะเบียนหมายเลขกุญแจไว้
ในที่ปลอดภัย อย่าเก็บไว้ในรถ
• ขอแนะนำให้บันทึกหมายเลขกุญแจและ
เก็บไว้ในที่ปลอดภัย
คีย์การ์ด NFC*
• ถือคีย์การ์ด NFC ไว้ใกล้กับป้าย NFC ที่
กระจกมองข้างขวา จากนั้น ประตูทุกบาน
สามารถปลดล็อคหรือล็อคได้เมื่อรถปิดการ
ทำงาน
ข้อควรระวัง !
• การ์ด NFC เป็นผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์
เพื่อป้องกันไม่ให้การ์ด NFC ทำงานผิด
ปกติหรือสร้างความเสียหายให้กับการ์ด
NFC ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ :
54
ข้อควรระวัง !
» เมื่อเปิดเครื่องชาร์จไร้สาย อย่าวาง
การ์ด NFC ในพื้นที่ชาร์จ» ห้ามติด
วัตถุใดๆ (เช่น ซองโลหะ หรือ
เคสโทรศัพท์โลหะ) ที่อาจตัดคลื่น
แม่เหล็กไฟฟ้าเมื่อใช้การ์ด NFC
» อย่าให้การ์ด NFC สัมผัสกับอุณหภูมิ
สูง เช่น บนแผงหน้าปัด
» อย่างอการ์ด NFC
» ห้ามใส่การ์ด NFC ร่วมกับวัตถุแข็งอื่นๆ
การ์ด NFC ใช้สำหรับการสื่อสารในระยะใกล้
เพื่อให้การอ่านข้อมูลได้ถูกต้อง จำเป็นต้องวาง
การ์ดให้ตรงจุดของ NFC
» ระยะระบุตัวตนของการ์ด NFC อยู่
ภายใน 1 - 2 ซม.
» เพื่อการอ่านการ์ด NFC ให้สำเร็จ
จำเป็นต้องสัมผัสการ์ดบนกระจก
มองข้าง
» การระบุตัวตนอาจใช้เวลา 1 ถึง 2
วินาที
• สมาร์ทการ์ด NFC เป็นกุญแจที่กำหนดค่า
ไว้สำหรับใช้งานรถด้วยวิธีการสื่อสาร
ระยะใกล้ เพื่อความปลอดภัยของรถ
โปรดเก็บรักษาด้วยความระมัดระวัง หาก
ทำหาย ให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้
บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD เพื่อทำ
บัตรใหม่และยกเลิกการใช้งานบัตรที่
สูญหาย
ล็อค/ปลดล็อคประตู
การล็อค/ปลดล็อคด้วยดอกกุญแจ
ใส่ดอกกุญแจเข้าไปในรูกุญแจ หมุนและถอด
กุญแจออก แล้วดึงที่จับประตูเพื่อเปิดประตู
• หากต้องการปลดล็อคประตูด้านคนขับ ให้
หมุนกุญแจตามเข็มนาฬิกา
• หากต้องการล็อคประตูด้านคนขับ ให้หมุน
กุญแจทวนเข็มนาฬิกา
ข้อควรระวัง !
• หลังจากถอดดอกกุญแจแล้ว ให้ดึงที่จับ
ประตูหลักเพื่อเปิดประตู
เปิดประตูรถด้วยมือจับประตูด้านใน
• เมื่อปลดล็อครถแล้ว ให้ดึงที่จับหนึ่งครั้งเพื่อ
เปิดประตูจากด้านในรถ
• เมื่อรถล็อคอยู่ ให้ดึงที่จับสองครั้งเพื่อเปิด
ประตูจากด้านในรถ
04
ระบบควบคุมการทำงาน
คำเตือน
• อย่าให้เด็กเล่นที่จับประตู เพื่อหลีกเลี่ยง
ไม่ให้ประตูเปิดขณะขับรถ
• หากมีเด็กอยู่ในรถ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า
ได้เปิดใช้งานฟังค์ชั่นล็อคการป้องกันเด็ก
ข้อควรระวัง !
• ล็อคป้องกันเด็ก ประตูด้านหลังสามารถ
เปิดได้ด้วยมือจับภายในเมื่อปิดระบบล็อค
ป้องกันเด็กเท่านั้น
การล็อค/ปลดล็อคด้วยสมาร์ทคีย์
• ฟังค์ชั่นรีโมทคอนโทรลไร้สายใช้เพื่อปลดล็อค
หรือล็อคประตูทุกบานได้ และทำหน้าที่ได้
สมบูรณ์ เมื่ออยู่ในระยะใกล้
• ในระยะใช้งาน ให้กดปุ่มบนสมาร์ทคีย์ที่เพื่อ
ล็อคหรือปลดล็อคประตูทุกบาน
55
ล็อค:
• เมื่อปิดสวิตช์กุญแจ ปิดประตูทั้งหมด
กระโปรงหน้า และประตูท้ายแล้ว ให้กดปุ่ม
ล็อค ประตูทุกบานจะล๊อคกระจกมองข้างพับ
เข้า (ตั้งสวิตช์ไว้ที่ AUTO) และไฟเลี้ยวจะ
กะพริบหนึ่งครั้ง ตรวจสอบอีกครั้งว่าประตูทุก
บานล็อคแล้ว
• หากประตู กระโปรงหน้า หรือประตูท้ายรถไม่
ปิด ไฟเลี้ยวจะไม่กะพริบ และแตรจะส่งเสียง
บี๊บหนึ่งครั้ง
ปลดล็อค:
• หากต้องการปลดล็อคประตูทุกบาน ให้กด
ไมโครสวิตช์ที่มือจับประตูขณะถือสมาร์ทคีย์
ประตูทุกบานจะปลดล็อค กระจกมองข้างจะ
กางออก* และไฟเลี้ยวจะกะพริบสองครั้ง
• เมื่อเปิดสวิตช์กุญแจแล้ว ประตูจะปลดล็อค
ด้วยปุ่มล็อคหรือปลดล็อคไม่ได้
• เมื่อประตูทุกบานปลดล็อคด้วยสมาร์ทคีย์แล้ว
ถึงแม้ว่าไม่ได้เปิดประตูก็ตาม ไฟภายในรถอาจ
ติดขึ้นเป็นเวลา 16 วินาทีแล้วจึงดับลง (ตั้ง
ค่าที่ "Door control”เลือก interior light
switch goes on)
56
• เมื่อเปิดใช้งานโหมดป้องกันการโจรกรรม หาก
ไม่มีประตูเปิดภายใน 30 วินาทีหลังจากปลด
ล็อคประตูทุกบานด้วยสมาร์ทคีย์ ประตูจะ
ล็อคโดยอัตโนมัติ
• หากลืมสมาร์ทคีย์ไว้ในห้องโดยสารหรือท้ายรถ
ของรถที่ล็อค และประตูหรือท้ายรถถูกปิด รถ
จะปลดล็อคโดยอัตโนมัติและไฟเลี้ยวจะ
กะพริบสองครั้ง
• หากรถมีฟังค์ชั่นป้องกันการหนีบทั้งสี่ประตู
และกดปุ่ม ล็อค/ปลดล็อค เป็นเวลานาน
ระบบจะไม่ ล็อค/ปลดล็อค ซ้ำ จำเป็นต้อง
ปล่อยปุ่มนี้แล้วกด ล็อค/ปลดล็อค อีกครั้ง
เมื่อกดปุ่ม ล็อค ค้างไว้ หน้าต่างทั้งสี่ของรถจะ
ยกขึ้นโดยอัตโนมัติ
หมายเหตุ
• หากไม่ได้ปิดสวิตช์กุญแจไว้ จะไม่สามารถ
ใช้ปุ่ม ล็อคหรือปลดล็อคเพื่อล็อคหรือ
ปลดล็อคประตูได้
เปิดประตูท้ายรถด้วยสมาร์ทคีย์
• กดปุ่มปลดล็อคประตูท้ายรถบนสมาร์ทคีย์สอง
ครั้งเพื่อเปิดท้ายรถ ไฟเลี้ยวจะกะพริบสองครั้ง
หมายเหตุ
• อย่าลืมพกสมาร์ทคีย์เมื่อลงจากรถ
ค้นหารถยนต์ด้วยสมาร์ทคีย์
• หากรถอยู่ในโหมดป้องกันการโจรกรรม ระบบ
จะส่งเสียงบี๊บยาวๆ และไฟเลี้ยวจะกะพริบ 15
ครั้งเมื่อกดปุ่มล็อค เพื่อยืนยันตำแหน่งของรถ
• เมื่อรถอยู่ในโหมดค้นหารถ ให้กดปุ่มล็อคอีก
ครั้งแล้วรถจะเข้าสู่โหมดค้นหารถครั้งถัดไป
การยก/ลดระดับกระจกหน้าต่าง
ด้วยสมาร์ทคีย์
• เมื่อสวิตช์กุญแจอยู่ที่ OFF:
• กดปุ่มล็อคสมาร์ทคีย์ค้างไว้ เพื่อยกหน้าต่าง
ทั้งสี่บานขึ้น
• กดปุ่มปลดล็อคสมาร์ทคีย์ค้างไว้ เพื่อลด
หน้าต่างทั้งสี่บาน
คำเตือน
• เมื่อใช้รีโมตคอนโทรลเพื่อยกกระจก
หน้าต่างขึ้น ให้ใส่ใจกับความปลอดภัย
ของผู้โดยสารในรถ และใช้การทำงานนี้
หลังจากตรวจดูให้แน่ใจว่ากระจกจะไม่
หนีบใคร
หมายเหตุ
• ผู้ใช้สามารถ เปิด/ปิด การทำงานนี้ได้โดย
กดปุ่มล็อค/ปลดล็อคสมาร์ทคีย์ค้างไว้
และเปิด/ปิดหน้าต่าง โดย →
Vehicle Settings → Doors แล้วตั้ง
ค่าที่ Windows and Locks Settings
(ขึ้นอยู่กับการกำหนดค่ายานพาหนะจริง)
การล็อค/ปลดล็อคด้วย
ไมโครสวิตช์
การล็อค 04
• เมื่อสวิตช์กุญแจปิดอยู่ และประตูทุกบานปิด
ระบบควบคุมการทำงาน
แต่ไม่ได้ล็อค ให้กดไมโครสวิตช์ที่มือจับประตู
ด้านหน้าขณะถือสมาร์ทคีย์ เพื่อล็อคประตูทุก
บาน ไฟเลี้ยวจะกะพริบหนึ่งครั้ง
• หากประตู กระโปรงหน้ารถ หรือประตูท้ายรถ
ไม่ปิด สามารถใช้ไมโครสวิตช์เพื่อล็อคประตูที่
ปิดได้ ไฟเลี้ยวจะไม่กะพริบ แต่แตรจะส่งเสียง
บี๊บ หนึ่งครั้ง
ปลดล็อค
• ในโหมดป้องกันการโจรกรรม ให้กดไมโคร
สวิตช์ที่จับประตูหน้าขณะถือสมาร์ทคีย์เพื่อ
ปลดล็อคประตูทุกบาน ไฟเลี้ยวจะกะพริบสอง
ครั้ง
• เมื่อเปิดใช้งานโหมดป้องกันการโจรกรรม หาก
ไม่มีประตูเปิดภายใน 30 วินาทีหลังจากที่เปิด
ประตูทุกบานด้วยไมโครสวิตช์ ประตูจะล็อค
โดยอัตโนมัติ
• การกดไมโครสวิตช์จะไม่ล็อคหรือปลดล็อค
ประตูเมื่อ:
57
 • ไมโครสวิตช์ถูกกดขณะเปิดหรือปิดประตู
• สวิตช์กุญแจไม่อยู่ที่ OFF
• สมาร์ทคีย์ถูกทิง้ ไว้ในรถ
หมายเหตุ
• หากสมาร์ทคีย์อยู่ใกล้กับมือจับประตูด้าน
นอกหรือหน้าต่างมากเกินไป ฟังค์ชั่นการ
เข้าออกอาจไม่ทำงาน
การยก/ลดระดับกระจกหน้าต่าง
ด้วยไมโครสวิตช์
• เมื่อปิดสวิตช์กุญแจแล้ว ให้กดไมโครสวิตช์ที่
มือจับประตูหน้าค้างไว้ขณะถือสมาร์ทคีย์เพื่อ
ยกกระจกขึ้นหรือลดลงทุกบาน (แตะที่การตั้ง
ค่ายานพาหนะ → Vehicle Settings →
Window and Lock Settings ในระบบสาระ
บันเทิงเพื่อเปิดหรือปิดการทำงานนี้)
การล็อค/ปลดล็อคด้วย
NFC Key Card*
• ถือการ์ด NFC ไว้ใกล้กับเครื่องหมาย NFC ที่
กระจกมองข้างขวา
ล็อคประตู:
• เมื่อปิดสวิตช์กุญแจ และประตูปิดแต่ไม่ได้ล็อค
ให้ถือการ์ด NFC ใกล้กับป้าย NFC ที่กระจก
มองข้่างข้างขวาเพื่อล็อคประตูทุกบาน ไฟ
เลี้ยวจะกะพริบหนึ่งครั้ง
ปลดล็อคประตู:
• ในโหมดป้องกันการโจรกรรม ถือการ์ด NFC
ไว้ใกล้กับป้าย NFC ที่กระจกมองข้างข้างขวา
เพื่อปลดล็อคประตูทุกบาน ไฟเลี้ยวจะกะพริบ
สองครั้ง
58
• เมื่อเปิดใช้งานโหมดป้องกันการโจรกรรม หาก
ไม่มีประตูเปิดภายใน 30 วินาทีหลังจากปลด
ล็อคประตูทุกบานด้วยการ์ด NFC ประตูจะ
ล็อคโดยอัตโนมัติ
• หลังจากปลดล็อคประตูด้วยการ์ด NFC แล้ว ผู้
ใช้จะได้รับสิทธิ์เปิดใช้งานรถภายในเวลา 10
นาที การอนุญาตสตาร์ทรถจะถูกยกเลิกหาก
สวิตช์กุญแจยังปิดการทำงานรถอยู่
• ในกรณีใด ๆ ต่อไปนี้ ประตูจะไม่ถูกล็อคหรือ
ปลดล็อคเมื่อถือการ์ด NFC ไว้ใกล้กับป้าย
NFC บนกระจกมองข้างขวา:
• ประตูเปิดหรือปิดในขณะที่ การ์ด NFC อยู่
ใกล้กับป้าย NFC ที่กระจกมองข้างขวา
• สวิตช์กุญแจไม่ได้อยู่ที่ OFF
ข้อควรระวัง !
• ระยะเวลาการอนุญาตการสตาร์ทรถแบบ
ไม่ใช้กุญแจไม่เกิน 10 นาที
การล็อค/ปลดล็อคประตูท้าย
การใช้สมาร์ทคีย์เพื่อเปิดหรือปิด
ประตูท้าย
เมื่อรถติดตั้งระบบประตูท้ายแบบไฟฟ้า ให้กดปุ่ม
ปลดล็อคฝาประตูท้ายบนสมาร์ทคีย์ สองครั้งเพื่อ
เปิดประตูท้ายไฟ เลี้ยวจะกะพริบสองครั้ง กดปุ่ม
สองครั้ง เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของประตูท้าย
และสองครั้งอีกครั้งเพื่อให้เคลื่อนไปในทิศทางตรง
กันข้าม

หมายเหตุ
• หากกดปุ่มปลดล็อคประตูท้ายรถอีกครั้ง
ในขณะที่ประตูท้ายกำลังเคลื่อนที่อยู่ ฝา
ประตูท้ายจะหยุดที่ตำแหน่งปัจจุบัน
การเปิดหรือปิดประตูท้ายจากภายในรถ*
• เมื่อปิดประตูท้าย ให้ดึงสวิตช์นี้หนึ่งครั้งเพื่อ
เปิดท้ายรถไปยังตำแหน่งที่ตั้งไว้ (ค่าเริ่มต้นคือ
สูงสุด)
• หากดึงสวิตช์อีกครั้งในขณะที่ประตูท้ายกำลัง
เคลื่อนที่อยู่ ฝาประตูท้ายจะหยุดที่ตำแหน่ง
ปัจจุบัน
• เมื่อประตูท้ายเปิด แล้วดึงสวิตช์นานกว่าหนึ่ง
วินาที ประตูท้ายเปิดจะปิดโดยอัตโนมัติ ฝา
ประตูจะหยุดปิดหลังจากปล่อยสวิตช์
เปิดฝากระโปรงท้ายด้วยสวิตซ์ภายนอก
• เมื่อรถล็อคอยู่ ให้กดสวิตช์ภายนอกที่ฝากระ
โปรงหลังขณะถือสมาร์ทคีย์เพื่อเปิดท้ายรถ
04
หมายเหตุ
ระบบควบคุมการทำงาน
• หากกดกดสวิตช์อีกครั้งในขณะที่ประตู
ท้ายกำลังเคลื่อนที่อยู่ ฝาประตูท้ายจะ
หยุดที่ตำแหน่งปัจจุบัน
ปิดประตูท้ายอัตโนมัต*ิ
(1) สวิตช์ล็อคประตูท้าย*
เมื่อประตูท้ายเปิดจนหยุดนิ่ง การกดสวิตช์สวิตช์
ล็อคประตูท้ายจะเป็นการปิดฝาประตูท้ายโดย
อัตโนมัติ
หากกดสวิตช์อีกครั้งขณะปิดประตูท้าย ประตู
ท้ายจะหยุดที่ตำแหน่งปัจจุบัน หากกดสวิตช์อีก
ครั้ง ฝาจะเคลื่อนไปในทิศทางตรงกันข้าม
(2) ปุ่มล็อครถ*
เมื่อปิดสวิตช์กุญแจ และประตูท้ายถูกเปิดอยู่ ให้
กดปุ่มล็อคขณะถือสมาร์ทคีย์เพื่อปิดท้ายรถ รถ
จะล็อคและเข้าสู่โหมดป้องกันการโจรกรรม
59

การปิดประตูท้ายด้วยตนเอง*
เมื่อปลดล็อครถแล้ว สามารถปิดฝากระโปรงท้าย
ได้ด้วยตนเอง
ข้อควรระวัง !
• ก่อนปิดประตูด้วยระบบไฟฟ้า ตรวจสอบ
ให้แน่ใจว่าประตู หน้าต่าง และซันรูฟปิด
สนิท
ปลดล็อคประตูท้ายฉุกเฉิน
จากภายในรถ
มีจุดปลดล็อคฉุกเฉิน ถูกปิดอยู่เหนือตัวล็อคท้าย
รถ ดึงแผ่นปิดออกแล้วดึงเชือก หรือคันปลดล็อค
ฉุกเฉินเพื่อเปิดท้ายรถในกรณีฉุกเฉิน
60
หมายเหตุ
• เมื่อรถดับเครื่อง ประตูท้ายสามารถปลด
ล็อคจากด้านในได้ในกรณีฉุกเฉิน
การตั้งค่าความสูงการเปิดฝากระโปรงหลัง*
• หยุดการเคลื่อนไหวของประตูท้ายในตำแหน่ง
ที่ต้องการ กดสวิตช์ปิดฝาท้ายค้างไว้อย่างน้อย
3 วินาทีเพื่อกำหนดความสูงของฝา จะมีเสียง
บี๊บ เพื่อระบุว่าตั้งค่าความสูงสำเร็จแล้ว
• แตะที่การ Vehicle Settings →
Window and Lock Settings ในหน้าจอ
ระบบสาระบันเทิงเพื่อกำหนดความสูงของ
การเปิดฝาประตูท้าย
ฟังค์ชั่นป้องกันการหนีบ
หากฝาท้ายได้รับถูกกีดขวางขณะปิดประตูท้าย
ฝาประตูท้ายจะสลับการเคลื่อนไหวไปในทิศทาง
ตรงกันข้ามโดยอัตโนมัติ หากมีสิ่งกีดขวางขณะ
เปิด ฝาท้ายจะหยุดการเคลื่อนที่
หากประตูท้ายไฟฟ้าไม่ทำงาน
หากฝาประตูท้ายไฟฟ้าไม่ทำงาน ให้ปิดด้วย
ตนเองจนสุด แล้วการทำงานจะกลับมาใช้งานได้
เป็นปกติ
เมื่อแบตเตอรี่ถูกถอดออก
เมื่อแบตเตอรี่ถูกถอดออก แล้วใส่กลับเข้าไปใหม่
ให้ปิดประตูท้ายด้วยตนเอง แล้วการทำงานด้วย
ไฟฟ้าจะกลับมาใช้งานได้เป็นปกติ
 คำเตือน
• เพื่อป้องกันการบาดเจ็บสาหัส โปรด
ปฏิบัติตามข้อควรระวังต่อไปนี:้
» อย่าพยายาม ใช้งานระบบการป้องกัน
การหนีบโดยเจตนา
» ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เตือนผู้คนที่อยู่
ใกล้ๆ กับการเคลื่อนไหวของประตูท้าย
» ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามือและนิ้ว อยู่ห่าง
จากบริเวณประตูท้ายขณะปิด
» เมื่อเปิดหรือปิดประตูท้ายรถ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริเวณโดยรอบ
ปลอดภัย
» ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ปิดท้ายรถอย่าง
ถูกต้องเมื่อรถเคลื่อนที่
» ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เอาน้ำแข็งหรือ
หิมะออกจากบริเวณนั้นก่อนเปิดประตู
หลัง มิฉะนั้นประตูท้ายอาจปิดลงมาได้
» ห้ามขัดขวางการเคลื่อนไหวของประตู
ท้ายด้วยตนเองเมื่อเปิดหรือปิด
» ระวังลมแรงเมื่อเปิดหรือปิดท้ายรถ
» ฟังค์ชั่นป้องกันการหนีบอาจใช้งานไม่
ได้หากวัตถุขวางก่อนที่ฝาจะปิดสนิท
» การเปิดหรือปิดประตูท้ายรถบนทาง
ลาดทำได้ยากกว่าบนพื้นราบ ฝาท้าย
อาจปิดลงก่อนเปิดจนสุด ให้คำนึงถึง
ความเป็นไปได้ที่ฝาจะเคลื่อนที่ได้เอง
ในสถาณะการณ์ดังกล่าว ก่อนขนถ่าย
สัมภาระ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเปิด
ประตูท้ายจนสุดและปลอดภัย
คำเตือน
» ฟังค์ชั่นป้องกันการหนีบอาจทำงาน
ผิดพลาด ขึ้นอยู่กับรูปร่างของวัตถุ 04
ให้ระวังการหนีบมือและนิ้วเป็นพิเศษ
ระบบควบคุมการทำงาน
การล็อค/ปลดล็อค ด้วยตัวล็อค
ประตูคอนโซลกลาง
ใช้ล็อคประตูบริเวณคอนโซลกลางเพื่อล็อคหรือ
ปลดล็อครถ
สำหรับรายละเอียด โปรดดูในหัวข้อ "ปุ่มล็อค
ประตูคอนโซลกลาง"
ล็อคและปลดล็อคประตูอัตโนมัติ
• เมื่อเปิดใช้งานการตั้งค่าใน PAD รถอยู่ใน
สถานะ OK และความเร็วรถเปลี่ยนจาก ≤8
กม./ชม. เป็น >8 กม./ชม. ถ้าประตูรถทุกบาน
ปิด แต่ประตูรถไม่ได้ล็อค ระบบจะสั่งการ
ล็อคประตูทั้ง 4 บาน
• กดปุ่ม START/STOP และเปลี่ยนสวิตช์กุญแจ
จาก OK เป็น OFF จากนั้นประตูทุกบานจะ
ถูกปลดล็อคโดยอัตโนมัติ
การล็อคและปลดล็อคประตูทุกบานพร้อมกัน
• หากรถไม่เข้าสู่โหมดป้องกันการโจรกรรมหลัง
จากล็อคแล้ว ไฟคอนโซลกลางจะสว่างขึ้น
และดับลงเมื่อปลดล็อครถ
• เมื่อกดล็อคประตูจากคอนโซลกลาง ประตูทุก
บานจะถูกล็อค และจะไม่สามารถเปิดประตู
จากภายนอกได้ ต้องดึงที่จับประตูภายใน สอง
ครั้งเพื่อเปิดประตู
61
ล็อคฉุกเฉินของประตูทุกบาน การเข้าออกรถอัจฉริยะ และ
ด้วยดอกกุญแจ การเปิดการทำงานรถ
เมื่อระบบล็อคคอนโซลกลาง หรือสมาร์ทคีย์ไม่ ใช้สมาร์ทคีย์เพื่อ ล็อค/ปลด ล็อคประตูและ การ
ทำงาน สามารถใช้ดอกกุญแจเพื่อล็อคหรือปลด เปิดการทำงานรถ
ล็อคฉุกเฉินได้ การเข้าออกรถ
การล็อค ใช้สมาร์ทคีย์เพื่อปลดล็อคหรือล็อคประตูรถ
1. ถอดดอกกุญแจออกจากสมาร์ทคีย์ (สำหรับรายละเอียด โปรดดูในบท "การล็อค/
ปลดล็อคด้วยสมาร์ทคีย์")
2. ประตูสามบานอื่นที่ไม่ใช่ประตูด้านคนขับ
สามารถล็อคได้โดยการเลื่อนตัวเลื่อนลงด้วย การเปิดการทำงานรถ
ดอกกุญแจ (ตามภาพ) แล้วปิดประตู ด้วยระบบภายในอัจฉริยะ ให้กดแป้นเบรกและ
ปุ่ม START/STOP เพื่อเปิดการทำงานรถ
(สำหรับรายละเอียด โปรดดู "การเปิดการทำงาน
รถ")
ตำแหน่งเสาอากาศ
(1) เสาอากาศภายใน
(2) เสาอากาศภายนอก

3. หลังจากล็อคประตูทั้งสามแล้ว ให้เปิดประตู
ด้านคนขับ
4. ใส่ดอกกุญแจกลเข้าไปในรูกุญแจ หมุนทวน
เข็มนาฬิกาจนสุด หมุนกลับไปที่ตำแหน่งเริ่ม
ต้นแล้วดึงออก (สำหรับรายละเอียด โปรดดู
“การล็อค/ปลดล็อคด้วยดอกกุญแจ")
การปลดล็อค
พื้นที่ใช้งาน
1. ถอดกุญแจกลออกจากสมาร์ทคีย์
การเข้าออกรถอัจฉริยะและการสตาร์ทรถจะมีผล
2. ใส่ดอกกุญแจเข้าไปในรูกุญแจ หมุนตามเข็ม เมื่อสมาร์ทคีย์ที่ลงทะเบียนไว้อยู่ภายในพื้นที่
นาฬิกาจนสุด หมุนกลับไปที่ตำแหน่งเริ่มต้น ทำงานเท่านั้น
แล้วดึงออกมา
(1) พื้นที่ใช้งานของฟังค์ชั่นการเข้าถึง: ประมาณ
3. ดึงที่จับด้านในเพื่อปลดล็อคและเปิดประตูอีก 1 ม. จากที่จับประตูหน้า และสวิตช์ด้านนอก
สามบาน

62
(2) พื้นที่ใช้งานของฟังก์เปิดการทำงานรถ ภายใน
ห้องโดยสาร
หมายเหตุ
ระบบการเข้าถึงและการเปิดการทำงานรถ
อัจฉริยะอาจทำงานไม่ถูกต้องเมื่อ:
• มีสนามแม่เหล็กไฟฟ้าแรงสูงอยู่ใกล้ๆ เช่น
หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ โรงไฟฟ้า และ
สถานีกระจายเสียง
• สมาร์ทคีย์ถูกพกพาไปพร้อมกับอุปกรณ์
สื่อสาร เช่น วิทยุสื่ิอสาร หรือโทรศัพท์มือ
ถือ
• สมาร์ทคีย์สัมผัสกับหรือหุ้มด้วยวัตถุที่เป็น
โลหะ
• ดึงมือจับประตูเร็วเกินไป
• สมาร์ทคีย์อยู่ใกล้กับที่มือจับมากเกินไป
• กำลังใช้ฟังค์ชั่นการควบคุมระยะไกลไร้
สายอื่นในบริเวณใกล้เคียง
• แบตเตอรี่สมาร์ทคีย์หมด
• สมาร์ทคีย์อยู่ใกล้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง
หรืออุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดคลื่นวิทยุรบกวน
หมายเหตุ
• สมาร์ทคีย์ถูกพกพาไปพร้อมกับสมาร์ทคีย์
อื่นหรืออุปกรณ์ปล่อยคลื่นวิทยุ 04
• แม้อยู่ในพื้นที่ใช้งาน สมาร์ทคีย์อาจ
ระบบควบคุมการทำงาน
ทำงานไม่ถูกต้องในบางตำแหน่ง เช่น บน
แดชบอร์ด ในลิ้นชักเก็บของ หรือบนพื้น
หากสมาร์ทคีย์อื่นอยู่ใกล้สมาร์ทคีย์ของรถคันนี้
การปลดล็อคอาจใช้เวลานานกว่าปกติ ซึ่งถือเป็น
เรื่องปกติ
หากระบบการเข้าออกรถอัจฉริยะทำงานไม่ถูก
ต้อง และไม่สามารถเข้าไปในรถได้ คุณสามารถใช้
ดอกกุญแจเพื่อ ล็อค/ปลดล็อค ประตูด้านคนขับ
หรือสามารถใช้ฟังค์ชั่นการควบคุมระยะไกลไร้
สายเพื่อ ล็อค/ปลดล็อคประตูทุกบาน
• เมื่อกด ปุ่ม START/STOP เพื่อเปิดปิดการ
ทำงานรถ รถอาจไม่ทำงานเนื่องจาก:
• สมาร์ทคีย์ไม่ทำงาน ถ้าไฟเตือนการทำงาน
สมาร์ทคีย์ ที่หน้าจอแสดงผลสำหรับคนขับ
ทำงานแสดงข้อความ ""Smart key power
is low. Please replace the battery as
soon as possible" แบตเตอรี่ของคีย์อาจ
จะหมด
• หากการเข้าออกรถอัจฉริยะและการเปิดการ
ทำงานรถไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
เนื่องจากระบบล้มเหลว ในกรณีนี้ ให้นำสมา
ร์ทคีย์ทั้งหมดไปที่ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อทำการ
ซ่อมแซม
63
วิธีประหยัดพลังงานแบตเตอรี่
• สมาร์ทคีย์สื่อสารกับรถแม้ในขณะที่รถไม่ได้วิ่ง
ดังนั้นอย่าทิ้งสมาร์ทคีย์ไว้ในรถหรือห่างจากรถ
ไม่เกิน 2 เมตร
• หากสมาร์ทคีย์ได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แรง
เป็นเวลานาน พลังงานแบตเตอรี่จะหมดอย่าง
รวดเร็ว สมาร์ทคีย์ต้องอยู่ห่างจากอุปกรณ์ต่อ
ไปนี้อย่างน้อย 1 เมตร:
• โทรทัศน์
ข้อควรระวัง !
• คอมพิวเตอร์
• ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย • ก่อนขับรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเด็ก
• เครื่องใช้ไฟฟ้า อยู่ในรถ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าประตูปิด
• โคมไฟหลอดฟลูออเรสเซนต์ และเปิดล็อคป้องกันเด็กไว้
• การใช้เข็มขัดนิรภัยและล็อคป้องกันเด็ก
ล็อคป้องกันเด็ก อย่างเหมาะสม ช่วยป้องกันไม่ให้คนขับ
ตัวล็อคป้องกันเด็กได้รับการออกแบบ เพื่อ และผู้โดยสารถูกโยนออกจากรถในกรณีที่
ป้องกันไม่ให้เด็กที่นั่งเบาะหลังเปิดประตูด้านหลัง เกิดอุบัติเหตุ และป้องกันไม่ให้ประตูเปิด
ล็อคป้องกันเด็กติดตั้งอยู่ที่ประตูด้านหลังซ้ายและ โดยไม่ได้ตั้งใจ
ขวา
(1) เลื่อนล็อคแบบแมนนวลไปในทิศทางนี้เพื่อ
เปิดใช้งานล็อคป้องกันเด็กด้านซ้ายหรือด้าน
ที่นั่ง
ขวา ข้อมูลที่นั่ง
(2) เลื่อนล็อคแบบแมนนวลไปในทิศทางนี้เพื่อ เมื่อรถเคลื่อนที่ ผู้โดยสารทุกคนในรถต้องคาด
ปิดใช้งานการล็อคป้องกันเด็กด้านซ้ายหรือ เข็มขัดนิรภัย และพนักพิงตั้งตรง
ด้านขวา
ตั้งคันโยกไปที่ตำแหน่งนี้ที่มีเครื่องหมาย (1) จาก
นั้นผู้โดยสารจะไม่สามารถเปิดประตูด้านหลังจาก คำเตือน
ภายในรถได้ หากต้องการเปิดประตูด้านหลัง ให้ • อย่าขับรถจนกว่าผู้โดยสารทุกคนจะนั่ง
ใช้มือจับประตูด้านนอก อย่างถูกต้อง
• ห้ามผู้โดยสารนั่งบนที่นั่งที่พับเก็บ ในท้าย
รถ หรือบนสัมภาระ มีความเสี่ยงต่อการ
บาดเจ็บสาหัสในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

64

คำเตือน
• ห้ามผู้โดยสารยืนหรือเดินไปมาในห้อง
โดยสารขณะที่รถเคลื่อนที่ มีความเสี่ยง
ต่อการบาดเจ็บสาหัสในกรณีที่เกิดการชน
(1) สวิตช์ปรับตำแหน่งที่นั่ง
• เลื่อนสวิตช์นี้ ข้างหน้า/ข้างหลัง เพื่อปรับระยะ
ห่างที่นั่งจากแผงหน้าปัด
04
• เลื่อนสวิตช์นี้ ขึ้น/ลง เพื่อปรับความสูงของ
เบาะคนขับ

ระบบควบคุมการทำงาน
หมายเหตุ
• ผู้ขับขี่ต้องไม่ทำการปรับเบาะนั่งหรือพวง
มาลัยใดๆ ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ ซึ่ง
อาจมีความเสี่ยงที่การควบคุมรถจะ
บกพร่อง
• เมื่อปรับเบาะนั่ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามี
พื้นที่เพียงพอสำหรับที่นั่งที่จะขยับได้โดย
ไม่มีสิ่งกีดขวาง (2) สวิตช์ปรับมุมพนักพิง
• หลังจากปรับเบาะนั่งไปข้างหน้าหรือข้าง • ดึง/ดัน ปลายด้านบนของสวิตช์นี้เพื่อปรับมุม
หลังด้วยตนเองแล้ว ตรวจสอบให้แน่ใจว่า พนักพิง
ล็อคเข้าที่
• หลังจากปรับพนักพิงแล้ว ตรวจสอบให้
ข้อควรระวัง !
แน่ใจว่าล็อคเข้าที่ • เมื่อปล่อยสวิตช์ ที่นั่งจะหยุดอยู่ที่
• ห้ามวางสิ่งของใดๆ ไว้ใต้เบาะนั่ง ตำแหน่งปัจจุบัน อย่าวางสิ่งของใดๆ ไว้ใต้
เนื่องจากอาจส่งผลต่อกลไกการล็อคและ เบาะนั่งที่อาจขัดขวางการปรับที่นั่ง
อาจจะเคลื่อนที่ขณะขับขี่ ไปขัดขวางการ
ควบคุมรถได้ ระบบทำความร้อน*
• ให้วางมือให้ห่างจากใต้เบาะนั่งหรือชิ้น • แตะที่ปุ่มที่เกี่ยวข้องบนหน้าจอมัลติมีเดียเพื่อ
ส่วนที่เคลื่อนไหวได้เมื่อปรับเบาะนั่ง เปิดและปิดการอุ่นที่นั่งด้านหน้า
• ค้นหาปุ่มตั้งค่าการอุ่นที่นั่งจาก สกอบาร์บน
การปรับเบาะนั่งด้านหน้า หน้าจอแรกระบบสาระบันเทิง
เบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับไฟฟ้า*
การปรับเบาะนั่งด้านหน้าแบบไฟฟ้ารวมถึงการ
ปรับเบาะเลื่อนไปหน้า/ถอยหลัง เบาะขึ้น/ลง
และมุมพนักพิง ขึ้นอยู่กับรถคันจริงของคุณ วิธี
การปรับเบาะดังต่อไปนี้:
65
การปรับระบบทำความร้อน
• การอุ่นที่นั่ง: ผู้ใช้สามารถเลือกระหว่างโหมด
การอุ่นเบาะนั่ง สูงและต่ำ ได้จากปุ่มควบคุม
ที่รองรับศีรษะ
การทำความร้อนเบาะนั่งบนหน้าจอ การปรับรองรับศีรษะ
• ระบบทำความร้อนที่นั่งจะเริ่มต้นที่ปิดเสมอ 1. การยกส่วนรองรับศีรษะ: กดปุ่มปรับส่วน
เมื่อสตาร์ทเครื่อง รองรับศีรษะ ยกส่วนรองรับศีรษะขึ้นไปยัง
ตำแหน่งที่เหมาะสม และปล่อยปุ่มนี้หลังจาก
• การอุ่นที่นั่งจะอยู่ในโหมดสูง เมื่อแตะปุ่มที่
เลข 2 ได้ยินเสียงล็อค
2. ลดส่วนรองรับศีรษะ: กดปุ่มปรับส่วนรองรับ
• การอุ่นที่นั่งจะอยู่ที่โหมดต่ำ เมื่อแตะปุ่มที่
เลข 1 ศีรษะ ลดส่วนรองรับศีรษะไปยังตำแหน่งที่
เหมาะสม และปล่อยปุ่มนี้หลังจากได้ยินเสียง
• ระบบทำความร้อนที่นั่งจะปิดการทำงาน ล็อค
เมื่อแตะปุ่ม OFF
3. การถอดส่วนรองรับศีรษะ: กดปุ่มปรับส่วน
การพับที่นั่งด้านหลัง รองรับศีรษะ ถอดส่วนรองรับศีรษะออก แล้ว
• การพลิกและพับพนักพิง ปล่อยปุ่มนี้
• ดึงสายรัดพนักพิงขึ้น
• ดันพนักพิงไปข้างหน้า พลิกไปข้างหน้าจน
กระทั่งพนักพิงสัมผัสกับเบาะรองนั่ง หาก
ต้องการพลิกกลับสู่ตำแหน่งปกติ ดึงพนัก
ขึ้นแล้วพลิกกลับไปที่ตำแหน่งล็อคพนักพิง
(จะได้ยินเสียงล็อค)

66
4. การติดตั้งส่วนรองรับศีรษะ: ใส่เสารองรับ
ส่วนหัวลงในบูชโดยให้ร่องหันไปข้างหน้า กด
ปุ่มปรับส่วนรองรับศีรษะ กดส่วนรองรับ
ศีรษะ ลงไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม แล้ว 04
ปล่อยปุ่มนี้

ระบบควบคุมการทำงาน
หมายเหตุ
• ส่วนรองรับศีรษะปกป้องผู้โดยสารจาก
การบาดเจ็บที่คอและศีรษะ พนักพิง
ศีรษะจะต้องปรับให้ศีรษะผู้โดยสารอยู่
ตรงกลางของพนักพิงศีรษะ วิธีนี้ที่รองรับ
ศีรษะจะสามารถให้การป้องกันได้สูงสุด
ปรับส่วนรองรับศีรษะให้อยู่ในตำแหน่งที่
เหมาะสมตามความสูงที่แท้จริงของผู้
โดยสาร
• ปรับความสูงของส่วนรองรับศีรษะ ให้
แนวปลายหูของผู้โดยสารอยู่ตรงกับแนว
กึ่งกลางของพนักพิงศีรษะ
• หลังจากปรับส่วนรองรับศีรษะแล้ว ตรวจ
สอบให้แน่ใจว่าล็อคเข้าที่แล้ว
• ห้ามขับรถโดยไม่มีพนักพิงศีรษะ
• อย่าผูกสิ่งใดๆ กับก้านค้ำยันที่รองรับ
ศีรษะ

67
พวงมาลัย
กลุ่มสวิตช์บนพวงมาลัย

1. มุมมองพาโนรามา* 8. โทรศัพท์
2. พลิกหน้าจอ 9. ระบบสั่งงานด้วยเสียง
3. ACC 10. ไปทางขวา
4. เพิ่มระยะห่าง +* 11. โหมด
5. คันโยก 12. ลูกกลิ้งควบคุม
6. ลดระยะห่าง - * 13. เครื่องมือ / ถอยหลัง
7. ICC 14. ไปทางซ้าย

68
เมื่อสวิตช์กุญแจอยู่ที่ OK สวิตช์ควบคุมเสียงจะ พลิกหน้าจอ
พร้อมใช้งาน • กดปุ่มนี้เพื่อพลิกหน้าจอระหว่าง แนวนอน
ปุ่มทางด้านซ้าย และแนวตั้ง ของหน้าจอสัมผัสระบบสาระ
สวิตช์ ACC * บันเทิง 04
มุมมองพาโนรามา*

• กดปุ่มนี้เพื่อเปิดหรือปิดระบบ ACC
หมายเหตุ
• สำหรับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใช้ระบบ
ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ โปรดดู "การตั้ง
ค่าระบบ ACC*"
RES+*
• กดปุ่มนี้เพื่อเปิดใช้งานระบบ ACC และใช้
การตั้งค่าระบบก่อนหน้า
SET-*
• กดปุ่มนี้เพื่อกำหนดค่าความเร็วรถปัจจุบัน
เป็นความเร็วเป้าหมายสำหรับระบบควบคุม
ความเร็วอัตโนมัติ
ลดระยะห่าง -*
• กดปุ่มนี้เพื่อลดระยะห่างหนึ่งระดับ เมื่อฟัง
ค์ชั่น ACC เปิดใช้งานมีทั้งหมดสี่ระดับ
เพิ่มระยะห่าง +*
• กดปุ่มนี้เพื่อเพิ่มระยะห่างหนึ่งระดับเมื่อฟัง
ค์ชั่น ACC เปิดใช้งาน.มีทั้งหมดสี่ระดับ
ยกเลิก
• กดปุ่มนี้เพื่อเปลี่ยนโหมด ACC จากทำงาน
เป็นเตรียมพร้อมทำงาน
ICC
• กดปุ่มนี้เพื่อเปิดหรือปิดฟังค์ชั่น ICC
ระบบควบคุมการทำงาน
• กดปุ่มนี้เพื่อ เปิด/ปิด มุมมองพาโนรามา
ปุ่มทางด้านขวา
ลูกกลิ้งควบคุม
1. ระบบสาระบันเทิง
• หมุนลูกกลิ้งขึ้นเพื่อเพิ่มระดับเสียง
• หมุนลูกกลิ้งลงเพื่อลดระดับเสียง
• กดลูกกลิ้งเพื่อปิดเสียง
2. หน้าจอแสดงผลสำหรับคนขับ
• หมุนลูกกลิ้งขึ้นด้านบนเพื่อเลือกรายการเมนู
ขึ้น 2 ระดับ หรือ 3 ระดับ ในโหมดเมนูบน
หน้าจอแสดงผลสำหรับคนขับ
• หมุนลูกกลิ้งลงเพื่อเลือกรายการเมนูลง 2
ระดับ หรือ3 ระดับที่ต่ำกว่าในโหมดเมนูบน
หน้าจอแสดงผลสำหรับคนขับ
• กดลูกกลิ้ง:
• เพื่อเข้าสู่เมนูระดับถัดไปหรือยืนยันการตั้ง
ค่าปัจจุบันในโหมดเมนูบนหน้าจอแสดงผล
สำหรับคนขับ
• หมุนปุ่มไปทาง ซ้าย/ขวา
1. ระบบสาระบันเทิง
• ในโหมดวิทยุ:
• กด ค้างไว้ ค้นหาสถานีวิทยุที่มีสัญญาณ
แรงต่ำลงโดยอัตโนมัติ (ความถี่ลดลง)
• กดปุ่ม เพื่อเลือกสถานีวิทยุที่บันทึกไว้
ล่วงหน้าขึ้นบน
69
 • กดปุ่ม ค้างไว้ เพื่อค้นหาสถานีวิทยุที่มี
สัญญาณแรงถัดไปโดยอัตโนมัติ (ความถี่เพิ่ม
ขึ้น)
• กดปุ่ม เพื่อเลือกสถานีวิทยุที่บันทึกไว้
ล่วงหน้าลงด้านล่าง
• ในเพลง USB / เล่นเพลง Bluetooth / แอพ
เพลง:
• กดปุ่ม เพื่อเล่นเพลงก่อนหน้า
• กดปุ่ม เพื่อเลื่อนบันทึกการโทรศัพท์ผ่าน
Bluetooth หรือหน้าจอสมุดโทรศัพท์ขึ้น
• กดปุ่ม เพื่อเล่นต่อไป
• กดปุ่ม เพื่อเลื่อนบันทึกการโทรศัพท์ผ่าน
Bluetooth หรือหน้าจอสมุดโทรศัพท์ลง
2. จอแสดงผลสำหรับคนขับ
• ในโหมดเมนูบนจอแสดงผลสำหรับคนขับ:
• กดปุ่ม เพื่อสลับไปที่เมนูระดับ 1 และ
เมนูย่อยไปทางซ้าย
• กดปุ่ม เพื่อสลับไปที่เมนูระดับ-1 และ
เมนูย่อยไปที่ขวา
โทรศัพท์
• กดปุ่มนี้เพื่อโทรออกหรือรับสาย (หลังจากกด
ปุ่มนี้ ระบบเล่นเพลงจะปิดเสียง)
• เมื่อแสดงหน้าจอที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Bluetooth
หากโทรศัพท์ไม่ได้เชื่อมต่อ Bluetooth กดปุ่ม
นี้เพื่อทำการเลือกเครื่องโทรศัพท์ หาก
โทรศัพท์เชื่อมต่อ Bluetooth อยู่จะไปที่การ
โทรออก
• หลังจากป้อนหมายเลขโทรศัพท์บนหน้าจอ
การโทรหลัก หรือเลือกบันทึกในประวัติการ
โทร หรือหน้าจอสมุดโทรศัพท์แล้ว ให้กดปุ่มนี้
เพื่อทำการโทรออก
70
• เมื่อเชื่อมต่อบลูทูธแล้ว แต่ไม่มีการป้อน
หมายเลขโทรศัพท์บนหน้าจอการโทรหลัก กด
ปุ่มนี้อีกครั้งเพื่อสลับเป็นหมายเลขที่โทรออก
บนหน้าจอประวัติการโทร กดปุ่มนี้อีกครั้ง
และระบบจะโทรไปยังหมายเลขที่โทรออกครั้ง
แรกโดยอัตโนมัติในประวัติการโทร
ระบบสั่งงานด้วยเสียง
• กดปุ่มนี้เพื่อเปลี่ยนจากหน้าจอระบบสาระ
บันเทิงเป็นหน้าจอการจดจำเสียง
• กดปุ่มนี้อีกครั้งเพื่อบันทึกคำสั่งด้วยเสียง
เครื่องมือ / ถอยหลัง
• ในโหมดเมนูแผงหน้าปัด ให้กดปุ่มนี้เพื่อแสดง
เมนูบนจอแสดงผลสำหรับคนขับ
• ในโหมดเมนูบนจอแสดงผลสำหรับคนขับ ให้
กดปุ่มนี้เพื่อกลับไปยังหน้าจอระดับบน หรือ
เพื่อออกจากเมนูหากไม่มีหน้าจอระดับบน
• บนหน้าจอการโทรผ่าน Bluetooth ให้กดปุ่ม
นี้เพื่อวางสาย
โหมด
• การเลือกโหมด: กดปุ่มนี้เพื่อสลับไปมาระ
หว่างแอปมัลติมีเดีย อุปกรณ์ต่อพ่วง และแอป
เสียง/วิดีโอ ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า
• หากปิดเสียงลำโพงอยู่ ให้กดปุ่มนี้ ปุ่มเพื่อ
เปิดและเข้าสู่โหมดการเล่นจากหน่วยความ
จำหรือเปลี่ยนเป็นโหมดวิทยุหากไม่มีแหล่ง
การเล่น (เช่น ไม่มีอุปกรณ์เสียงภายนอก)
ในโหมดการเล่นหน่วยความจำ
แตร
• กดปุ่มนี้เพื่อบีบแตร
 ข้อควรระวัง ! การตั้งค่าน้ำหนักß
• หลีกเลี่ยงการกดแตรนานเกินไป
พวงมาลัยพาวเวอร์
เนื่องจากแตรอาจเสียหายได้ • ความรู้สึกถึงน้ำหนักของการช่วยผ่อนแรง ใน 04
การบังคับเลี้ยวแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

หมายเหตุ
• ปฏิบัติตามกฎจราจรและใช้แตรอย่างสม
เหตุสมผล
การปรับพวงมาลัย
วิธีการปรับพวงมาลัย:
• ดันคันปรับพวงมาลัยลง เลื่อนพวงมาลัยไปยัง
ระยะใกล้/ไกล ที่ต้องการ หรือปรับให้อยู่ใน
ตำแหน่งสูง/ต่ำ ที่ต้องการ และดันคันปรับพวง
มาลัยขึ้นให้อยู่ในตำแหน่งล็อค
ระบบควบคุมการทำงาน
• แตะที่ → Vehicle Settings →
Driving Comfort Adjustment บนหน้า
จอสัมผัสของคอนโซลกลางเพื่อไปที่หน้าจอ
ระบบช่วยบังคับเลี้ยว และเลือก Comfort
หรือ Sport
หมายเหตุ
• หากรู้สึกว่าพวงมาลัยเบาเมื่อขับด้วย
ความเร็วสูง ให้ตั้งค่าเป็น Sport
สวิตช์
สวิตช์ไฟหน้า
หมุนปุ่มหมุนไปที่ ไฟทุกดวงจะปิดยกเว้นไฟ
สำหรับขับขี่กลางวัน (DRLs) ที่ยังคงเปิดอยู่

คำเตือน
• ห้ามปรับพวงมาลัยขณะขับขี่ เพราะเป็น
ความเสี่ยงที่จะควบคุมรถไม่ได้
• หลังจากปรับพวงมาลัยแล้ว ตรวจสอบให้
แน่ใจว่าล็อคแน่นดีแล้ว

71
 ข้อควรระวัง !
• หลีกเลี่ยงการกดแตรนานเกินไป
เนื่องจากแตรอาจเสียหายได้

ไฟอัตโนมัติ
เมื่อหมุนปุ่มหมุนไปที่ เซ็นเซอร์วัดความเข้ม
แสง (ฺBCM) จะสั่งการให้เปิดหรือปิด ไฟหรี่และ
ไฟต่ำโดยอัตโนมัติ ไฟต่ำ
หมุนลูกบิดไปที่ เพื่อเปิดไฟต่ำ

ข้อควรระวัง !
ไฟตัดหมอกหลัง
• เซ็นเซอร์วัดความเข้มแสงอยู่ที่ด้านบนของ หมุนลูกบิดไปที่ และบิดลูดบิดไฟตัดหมอก
แผงหน้าปัด อย่าปิดกั้นเซ็นเซอร์หรือ
หลัง เพื่อเปิดไฟตัดหมอกหลัง
ปล่อยให้ของเหลวกระเด็นใส่เซ็นเซอร์

ไฟหรี่
หมุนปุ่มไปที่ เพื่อเปิดไฟหรี่ (รวมถึงไฟ
สำหรับขับขี่กลางวัน, ไฟท้าย, ไฟส่องป้าย
ทะเบียนด้านหลัง, ไฟพื้นหลังแดชบอร์ด, ไฟแสดง
ขนาดเล็ก และไฟส่องสว่างบางส่วน)

72
ไฟสูง
หมุนปุ่ม และดันก้านสวิตช์ไฟจากตำแหน่ง
ปกติไปข้างหน้า (ห่างจากพวงมาลัย) ไฟสูงจะ
ทำงานและไฟสัญญาณไฟสูงจะสว่างขึ้นบนจอ
แสดงผลสำหรับคนขับ การดึงก้านสวิตช์ไฟกลับสู่
ตำแหน่งปกติ ปิดไฟต่ำ หรือออกจากสถานะ OK
เพื่อปิดไฟสูง
กะพริบไฟสูง
ดึงก้านสวิตช์ไฟเข้าหาพวงมาลัยเพื่อเปิดไฟสูง
ปล่อยเพื่อปิดใช้งาน
ไฟเลี้ยว
• ดันก้านสวิตช์ไฟขึ้นเพื่อส่งสัญญาณเลี้ยวซ้าย
• ดึงก้านสวิตช์ไฟลงเพื่อส่งสัญญาณเลี้ยวขวา
04
ระบบควบคุมการทำงาน
ปิดไฟอัตโนมัติ
• เงื่อนไขการเปิดใช้งานการปิดไฟอัตโนมัติ: เมื่อ
หมุนก้านสวิตช์ไฟเป็น หรือ และ
ปิดสวิตช์กุญแจ การทำงานนี้จะถูกเปิดใช้งาน
• เมื่อปิดประตูคนขับ ไฟหน้าจะดับลงหลังจาก
ผ่านไป 10 วินาที
• เมื่อเปิดประตูคนขับ ไฟหน้าจะสว่างเป็นเวลา
10 นาที
• หากสถานะไฟเปลี่ยนไป เมื่อเปิดใช้งานการปิด
ไฟอัตโนมัติ ไฟจะสว่างขึ้นในสถานะใหม่ หาก
ยังคงเป็นไปตามเงื่อนไขการปิดไฟอัตโนมัติ
การทำงานนี้จะเปิดใช้งานอีกครั้ง
• การยกเลิกการทำงานระบบการปิดไฟ
อัตโนมัติ: เมื่อรถเปิดทำงานอยู่ ฟังค์ชั่นปิดไฟ
อัตโนมัติจะถูกยกเลิกการทำงาน และสามารถ
ปุ่มควบคุมการเปิดไฟได้ตามปกติ
• หลังจากที่ฟังค์ชั่นปิดไฟอัตโนมัติ ปิดไฟหน้ารถ
ระบบป้องกันการโจรกรรมจะเปิดใช้งาน หาก
ปิดระบบป้องกันการโจรกรรม ไฟหน้าจะเปิด
ขึ้นอีกครั้ง หากปิดประตูด้านคนขับ ไฟหน้าจะ
ปิดอัตโนมัติในอีก 10 วินาทีต่อมา แต่ถ้าประตู
เปิด ไฟหน้าจะปิดในอีก 10 นาทีต่อมา
73
การตั้งเวลาหน่วงเวลาปิดไฟ
• เมื่อรถเปิดอยู่ ให้แตะ → Vehicle
settings → Light @ ambient →
Headlight after exit เพื่อตั้งเวลาหน่วงไฟ
ส่องทางหลังดับเครื่อง
• เจ้าของสามารถตั้งเวลาหน่วงไฟกลับบ้าน
บนหน้าจอสัมผัสได้ (ค่าเริ่มต้นคือ 10
วินาที) หลังจากลูกบิดที่ก้านสวิตช์ไฟ ไปที่
หรือ เมื่อรถดับและประตู
ถูกล็อค ไฟจะสว่างเป็นเวลา 10 วินาที
(หรือตามเวลาที่ตั้งไว้)
• ไฟส่องทางก่อนขึ้นรถ
• เจ้าของสามารถตั้งเวลาไฟส่องทางก่อนขึ้น
รถ หน่วงเวลาบนหน้าจอสัมผัส (ค่าเริ่มต้น
คือ 10 วินาที) หลังจากลูกบิดที่ก้านสวิตช์
ไฟ ไปที่ หรือ เมื่อประตู
ถูกปลดล็อค ไฟจะสว่างเป็นเวลา 10 วินาที
(หรือเวลาที่ตั้งไว้)
ระบบเปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HMA)
• ระบบ HMA ใช้กล้องบนกระจกบังลมหน้าเพื่อ
ระบุสภาพการขับขี่ในปัจจุบัน และหากจำเป็น
จะสลับไปมาระหว่างไฟสูง/ต่ำโดยอัตโนมัติ ให้
แตะที่ → DiPilot → Driving Assist
เพื่อเปิด HMA
74
การเปิดใช้งาน HMA
• หมุนลูกบิดของปุ่มสวิตช์ไฟไปที่ตำแหน่ง
เมื่อความเร็วรถสูงกว่า 35 กม./ชม. และแสง
เป็นไปตามเงื่อนไข HMA จะเปิดใช้งานโดย
อัตโนมัติและสลับไปมาระหว่างไฟต่ำและไฟสูง
ตามสภาพแวดล้อมในการขับขี่
หมายเหตุ
• เมื่อเปิดใช้งาน HMA ไฟแสดง ผู้ช่วยปรับ
ไฟสูง บนจอแสดงผลคนขับจะสว่างขึ้น
การปิดใช้งาน HMA
• วิธีปิดใช้งาน HMA:
• หมุนปุ่มสวิตช์ไฟไปที่ตำแหน่งใดก็ได้ยกเว้น
• แตะที่ → DiPilot → Driving
Assist หรือใช้เมนูทางลัดเพื่อปิด HMA
• เปิดไฟสูงด้วยตนเอง
HMA ไม่ทำงาน
• HMA ไม่ทำงานในกรณีต่อไปนี้:
• ความเร็วรถต่ำกว่า 35 กม./ชม.
• เปิดไฟตัดหมอก หรือ เปิดไฟเลี้ยว หรือรถ
เลี้ยวกะทันหัน
ข้อจำกัดของระบบ
• HMA อาจเปิดใช้งานโดยไม่คาดคิด หรือไม่
สามารถเปิดใช้งานได้ในกรณีต่อไปนี้ (ในกรณี
ดังกล่าว ผู้ขับขี่ควรควบคุมไฟด้วยตนเอง): 04
• มีผู้ในการจราจร(เช่น • คนเดินเท้าและ

ระบบควบคุมการทำงาน
จักรยาน) ในขณะที่แสงสว่างไม่เพียงพอ
ทางรถไฟ ทางน้ำในบริเวณใกล้เคียง หรือ ระดับการปรับความ
สัตว์ป่าบนท้องถนน
น้ำหนักรถ สูงของไฟหน้า
• กระจกบังลมหน้าสกปรก ปกคลุม • มี ที่แนะนำ
หมอก มีสติ๊กเกอร์บังหรือมีการตกแต่ง
• มีวัตถุสะท้อนแสงอย่างแรง เช่น ป้ายจราจร หนึ่งคนที่นั่งคนขับ
บนทางหลวง และเงาสะท้อนของน้ำบนพื้น 0-2
คนขับกับผู้โดยสาร
ผิวถนน
เบาะหน้าหนึ่งคน
ข้อควรระวัง ! นั่งเต็มทุกที่นั่ง 0-2
• เมื่อรถชน หรือติดตั้งเซ็นเซอร์ใหม่ โปรด
นั่งเต็มทุกที่นั่ง และ
ติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่
ได้รับอนุญาตของ BYD เพื่อตั้งค่า สัมภาระในท้ายรถ
1-3
เซ็นเซอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อ (คำนวณจากน้ำหนัก
ประสิทธิภาพของระบบ บรรทุกสูงสุดที่
อนุญาตทางเทคนิค)
ปรับความสูงของไฟหน้า คนขับ และสัมภาระ
เมื่อไฟต่ำเปิดอยู่ ให้แตะ → Vehicle ในท้ายรถ (คำนวณ
Settings → Light @ ambient → Adjust จากน้ำหนักบรรทุก 1-3
headlights หน้าบนหน้าจอสัมผัสที่คอนโซล สูงสุดที่อนุญาตทาง
กลางเพื่อปรับมุมความสูงของลำแสงของไฟหน้า เทคนิค)
• การปรับที่แนะนำอาจแตกต่างกันในน้ำหนัก
บรรทุก สามารถปรับค่าระดับกลางได้

75
สวิตช์ที่ปัดน้ำฝน ที่ฉีดน้ำล้างกระจกหน้า
1. สเปรย์ฉีดน้ำล้างกระจกหน้าและที่ปัดน้ำฝน
ที่ปัดน้ำฝนและที่ฉีดน้ำล้างกระจกหน้า
จะทำงานเมื่อดึงก้านกลับเข้าหาพวงมาลัย
• ก้านควบคุมที่ปัดน้ำฝนมีห้าระดับ:
2. สเปรย์ฉีดน้ำล้างกระจกหน้าและที่ปัดน้ำฝน
• :ความเร็วสูง จะหยุดเมื่อปล่อยก้านควบคุม หรือดึงไว้นาน
• :ความเร็วต่ำ เกิน 10 วินาที ที่ปัดน้ำฝนทำงานครั้งเดียว
• :ทำงานเป็นช่วงๆไม่ต่อเนื่อง หรืออีกสองครั้งหลังจากที่หยุดฉีดน้ำ แล้วจะ
• :หยุด ทำงานอีกครั้งหลังจาก 5 วินาทีเพื่อปัดน้ำ
ส่วนเกินออก
• :ทำงานครั้งเดียว

ที่ปัดน้ำฝนและที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง
• ดันขึ้นหรือดึงก้านลงเพื่อเลือกระดับการ
ทำงาน • หมุนปุ่มปัดน้ำฝนไปที่ ตำแหน่ง เพื่อให้ที่
ปัดน้ำฝนกระจกหลังทำงาน หมุนปุ่มกลับไปที่
• การดึงก้านลงมาที่ตำแหน่ง จะเป็นการ
ตำแหน่ง. หรือเปิดประตูท้ายรถเพื่อหยุด
เปิดใช้งานที่ปัดน้ำในความเร็วต่ำตราบเท่าที่ดึง
ที่ปัดน้ำฝน
ลง เมื่อปล่อยแล้วก้านจะกลับสู่ตำแหน่ง
• ปุ่ม ที่ปัดน้ำฝนจะทำงานเป็นช่วงๆไม่ต่อ
เนื่อง กำหนดความถี่ได้ด้วยการหมุนสวิตช์ที่
ก้าน

• เมื่อหมุนลูกบิดไปที่ตำแหน่ง ค้างไว้ ที่ปัด

น้ำฝนและฉีดน้ำล้างกระจกจะทำงาน

76

• เมื่อหมุนปุ่มไปที่ตำแหน่ง และปล่อย ที่
ปัดน้ำฝนจะทำงานต่อไปอีก 1 หรือ 2 ครั้ง
หลังจากที่น้ำฉีดกระจกหยุดลง
เง่ื่อนไขการทำงานที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง
และประตูท้าย
• ที่ปัดน้ำฝนด้านหลังและที่ฉีดน้ำล้างกระจกจะ
ไม่ทำงานเมื่อเปิดฝาประตูท้ายขณะรถเปิดการ
ทำงาน หากขณะที่ปัดน้ำฝนด้านหลังทำงาน
แล้วฝาประตูท้ายรถเปิดขึ้น ที่ปัดน้ำฝนด้าน
หลังจะหยุดแล้วกลับมาทำงานต่อหลังจากปิด
ฝาประตูท้าย 5 วินาที หากที่ปัดน้ำฝนด้าน
หน้าทำงานแล้วเปลี่ยนเกียร์ไปที่ "R" ที่ปัดน้ำ
ฝนด้านหลังจะทำงานโดยอัตโนมัติ
ข้อควรระวัง !
• ห้ามฉีดล้างกระจกเป็นเวลานานกว่า 10
วินาที หรือเมื่อถังน้ำล้างกระจกว่างเปล่า 04
เนื่องจากอาจทำให้มอเตอร์ร้อนเกินไป
ระบบควบคุมการทำงาน
หรือเกิดความเสียหายได้
หมายเหตุ
• ทำความสะอาดใบปัดน้ำฝนอย่าง
สม่ำเสมอ
• หลีกเลี่ยงการใช้ที่ปัดน้ำฝนในขณะที่ฝน
เริ่มตก ฝุ่นที่สะสมบนกระจกหน้ารถจะ
ทำให้ทัศนวิสัยลดลงและการทำงานที่ของ
ที่ปัดน้ำฝน ให้น้ำฝนล้างฝุ่นบางส่วนออก
ก่อนใช้ที่ปัดน้ำฝน
• เติมน้ำล้างกระจกในถังให้เหมาะสม น้ำ
เปล่าหรือผงซักฟอก อาจทำให้มอเตอร์ฉีด
น้ำล้างกระจกเสียหายได้
สวิตช์ประตูหน้า
กระจกไฟฟ้า
• เมื่อสวิตช์กุญแจสถานะ OK สามารถใช้สวิตช์
ควบคุมกระจกหน้าต่างเพื่อหมุนกระจกขึ้น
หรือลงได้ สวิตช์ไม่ทำงานเมื่อสถานะกุญแจปิด
อยู่
• มีสวิตช์ควบคุมสำหรับกระจกทั้ง 4 บานที่
ประตูด้านคนขับ
• กดสวิตช์เพื่อเลื่อนกระจกลง
• ดึงสวิตซ์เพื่อเลื่อนกระจกขึ้น
• ขณะใช้สวิตช์ หากปล่อยสวิตช์กระจกหน้าต่าง
จะหยุดการเลื่อน
77

• หากต้องการเลื่อนกระจกลงจนสุด ให้กดสวิตช์
จนถึงตำแหน่งต่ำสุดแล้วปล่อย
• ในการเลื่อนหน้าต่างขึ้นจนสุด ให้ดึงสวิตช์
จนถึงตำแหน่งสูงสุดแล้วปล่อย
• กดหรือดึงสวิตช์เพื่อหยุดการเลื่อนกระจก
ฟังค์ชั่นหน่วงเวลา*
• หน้าต่างสามารถเลื่อนขึ้นหรือลงได้ภายใน 10
นาทีหลังจากที่รถปิดกุญแจ และไม่ได้เปิด
ประตูหน้า หากเปิดประตูหน้า สวิตช์หน้าต่าง
จะไม่ทำงาน
ฟังค์ชั่นควบคุมหน้าต่างอัจฉริยะ
• สมาร์ทคีย์: สามารถเปิดใช้งานฟังค์ชั่นนี้ได้ใน
ระบบสาระบันเทิง (สำหรับรายละเอียด โปรด
ดูการตั้งค่าสาระบันเทิง) เมื่อกดปุ่มปลดล็อค
บนกุญแจสมาร์ทคีย์ค้างไว้ หน้าต่างจะเลื่อนลง
โดยอัตโนมัติ เมื่อกดปุ่มล็อคค้างไว้ หน้าต่างจะ
เลื่อนขึ้นโดยอัตโนมัติ หากปล่อยปุ่มในขณะที่
หน้าต่างเคลื่อนที่ หน้าต่างจะหยุดการเลื่อน
• ไมโครสวิตช์: สามารถเปิดใช้งานฟังค์ชั่นนี้ได้ใน
ระบบสาระบันเทิง (สำหรับรายละเอียด โปรด
ดูการตั้งค่าสาระบันเทิง) เมื่อไมโครสวิตช์ถูก
กดค้างไว้ขณะถือสมาร์ทคีย์ หน้าต่างจะเลื่อน
ลงโดยอัตโนมัติ เมื่อกดไมโครสวิตช์ค้างไว้อีก
ครั้ง หน้าต่างจะเลื่อนขึ้นโดยอัตโนมัติ หาก
78
ไมโครสวิตช์ถูกปล่อยในขณะที่หน้าต่าง
เคลื่อนที่ หน้าต่างจะหยุดการเลื่อน
• หากฟังค์ชั่นต่างๆ ถูกปิดใช้งานในระบบสาระ
บันเทิง (สำหรับรายละเอียด โปรดดูการตั้งค่า
สาระบันเทิง) และเมื่อสถานะสวิตช์เป็น OFF
หน้าต่างทั้งหมดจะเลื่อนขึ้นเมื่อล็อครถ
คำเตือน
• ระวังสิ่งกีดขวางเมื่อ หน้าต่างเลื่อนขึ้นโดย
เฉพาะมือและนิ้ว
ฟังค์ชั่นป้องกันการหนีบ
ฟังค์ชั่นป้องกันการหนีบ
หากมีสิ่งกีดขวางหน้าต่างเมื่อเลื่อนขึ้น หน้าต่าง
จะหยุดและเลื่อนลงโดยอัตโนมัติ
เปิดใช้งานฟังค์ชั่นป้องกันการหนีบ
• หากถอดแบตเตอรี่ 12 โวลต์ ออกในขณะที่
เลื่อนกระจกขึ้นหรือลง ฟังค์ชั่นเลื่อนขึ้นและ
ป้องกันการหนีบอัตโนมัติของกระจกจะไม่
ทำงาน
• ปิดหน้าต่าง ปล่อยสวิตช์ จากนั้นดึงสวิตช์ค้าง
ไว้อย่างน้อย 3 วินาที
คำเตือน
เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต
ให้ปฏิบัติตามข้อควรระวังต่อไปนี้เมื่อปิด
หน้าต่าง:
• เมื่อควบคุมหน้าต่าง ตรวจสอบให้แน่ใจว่า
ไม่มีส่วนใดของร่างกายกีดขวางการ
เคลื่อนไหว
• อย่าให้เด็กใช้สวิตช์กระจกไฟฟ้า
 ข้อควรระวัง !
• หากฟังค์ชั่นป้องกันการหนีบทำงานบ่อย
ครั้งต่อเนื่องจะเกิดความร้อนสะสมจน
ทำให้มอเตอร์เลื่อนกระจกหยุดทำงาน
ปุ่มล็อคประตูคอนโซลกลาง
ประตูด้านคนขับมีระบบล็อคประตูด้วยไฟฟ้า สอง
ปุ่มนี้สามารถใช้ ล็อค/ปลดล็อค ประตูทุกบานได้
04
(1) ล็อค

• ห้ามจงใจใช้งานฟังค์ชั่นป้องกันการหนีบ
กับส่วนใดของร่างกาย
• ฟังค์ชั่นป้องกันการหนีบอาจทำงานล้ม
เหลวก่อนที่หน้าต่างจะปิดสนิท
• เมื่อฟังค์ชั่นเลื่อนขึ้นและป้องกันการหนีบ
อัตโนมัติไม่ทำงาน โปรดติดต่อตัวแทน
จำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ BYD หรือผู้
ให้บริการ
ระบบควบคุมการทำงาน
เมื่อกดปุ่มล็อคประตูบนคอนโซล ประตูทุกบานจะ
ถูกล็อค และไฟแสดงสถานะการล็อคสีแดงจะ
สว่างขึ้น
(2) ปลดล็อค
เมื่อกดปุ่มปลดล็อคประตูบนคอนโซล ประตูทุก
บานจะปลดล็อคและไฟแสดงสถานะการล็อคสี
แดงจะดับลง

ปุ่มล็อคหน้าต่าง*
• เมื่อกดปุ่มนี้ สวิตซ์ประตูด้านคนขับสามารถ
เลื่อนกระจกทั้งหมดขึ้นหรือลงได้ สวิตซ์ประตู
ผู้โดยสารด้านหน้าทำงานตามปกติ แต่สวิตซ์ที่
ประตูหลังจะไม่ทำงาน
• ประตูทุกบานจะปลดล็อคโดยอัตโนมัติเมื่อ
• เมื่อกดปุ่มนี้อีกครั้ง ไฟแสดงสถานะจะดับลง
รถได้รับแรงกระแทก
และสามารถใช้สวิตช์ประตูด้านหลังได้ตาม
ปกติ สวิตช์ท้ายรถ
• ดึงสวิตช์นี้เพื่อ เปิดหรือปิด ประตูท้ายรถจาก
ภายในรถ

79
สวิตช์สลับมาตรวัดระยะทาง
• กดสวิตช์สลับมาตรวัดระยะทางเพื่อเลือก
มาตรวัดระยะทางทั้งหมด, มาตรวัดการเดิน
ทาง 1, มาตราวัดการเดินทาง 2 มาตรวัด
ระยะทางจะแสดงสถานะสลับตามลำดับ
• กดสวิตช์นี้ค้างเพื่อรีเซ็ตมาตรวัด เดินทาง 1
และ 2
กลุ่มสวิตช์ช่วยเหลือการขับขี่
คอนโซลกลาง มีสวิตช์ช่วยจอด*, สวิตช์ BSD*
และสวิตช์ AVH*
(1) สวิตช์ช่วยจอด
สวิตช์นี้จะเปิดใช้งานฟังค์ชั่นช่วยจอด (สำหรับ
รายละเอียด โปรดดูที่ "ระบบช่วยจอด”)
80
2) สวิตช์ BSD*
สวิตช์นี้เปิดใช้งานฟังค์ชั่น BSD (สำหรับราย
ละเอียด โปรดดู "ระบบตรวจจับจุดอับสายตา*”)
(3) สวิตช์ AVH*
สวิตช์นี้เปิดใช้งานฟังค์ชั่น AVH (สำหรับราย
ละเอียด โปรดดู “เบรกอัตโนมัติเมื่อรถจอดอยู่กับ
ที่")
สวิตช์ควบคุมหน้าต่างด้านผู้โดยสาร
เมื่อสถานะกุญแจอยู่ที่ OK สามารถใช้สวิตช์
ควบคุมกระจกด้านผู้โดยสารเพื่อเลื่อนกระจกขึ้น
หรือลงได้
ปุ่มไฟเตือนฉุกเฉิน
เมื่อกดปุ่มไฟเตือนฉุกเฉิน ไฟเลี้ยวและสัญญาณ
ไฟเลี้ยวทั้งหมดบนหน้าจอแสดงผลสำหรับคนขับ
จะเริ่มกะพริบ แล้วทั้งหมดหยุดกระพริบเมื่อกด
ปุ่มอีกครั้ง
 (3) สวิตช์โหมดขับขี่
ข้อควรระวัง !
• ไฟเตือนฉุกเฉินใช้เพื่อเตือนผู้ขับขี่และคน
เดินถนนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
กลุ่มสวิตช์โหมดขับขี่
สวิตช์เหล่านี้ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือก โหมด
การเบรกพร้อมการสร้างกระแสไฟฟ้า ขับขี่บน
หิมะ และโหมด ECO, SPORT หรือ NORMAL ที่
แตกต่างกัน
(1) โหมดการเบรกพร้อมการสร้างกระแสไฟฟ้า
• การตั้งค่าเริ่มต้นคือโหมดการเบรกพร้อมการ
สร้างกระแสไฟฟ้าแบบ Standard
• ดันสวิตช์นี้ขึ้นเพื่อเพิ่มแรงเบรกพร้อมการสร้าง
กระแสไฟฟ้ากลับมากขึ้น
(2) สวิตช์โหมดหิมะ
• รถจะอยู่เฉพาะในโหมดหิมะเมื่อกดปุ่มนี้
• แนะนำให้ใช้โหมดนี้เมื่อรถกำลังขับผ่านถนนที่
ปกคลุมด้วยวัสดุที่ลื่น เช่น หญ้า หิมะ น้ำแข็ง
หรือกรวด
• ในโหมดหิมะ คุณลักษณะการยึดเกาะถนน
และการควบคุมจะได้รับการปรับให้เหมาะสม
และการเร่งจะถูกควบคุมให้ออกตัวอย่าง
ระมัดระวัง
• การตั้งค่าเริ่มต้นคือโหมด ECO
• เลื่อนสวิตช์นี้ขึ้นหรือลงเพื่อเลือกโหมด
ECO, SPORT หรือ NORMAL 04
ระบบควบคุมการทำงาน
• ECO: กำลังปานกลาง, การขับขี่ที่สะดวก
สบาย, ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่
เหมาะสมที่สุด
• NORMAL: สมดุลที่เหมาะสมระหว่าง
พลังงานและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
• SPORT: ปรับพลังงานเพิ่มเพื่อให้ได้
สมรรถนะสูง หาก SOC ของแบตเตอรี่ต่ำ
เกินไปและอุณหภูมิรถสูงหรือต่ำเกินไป
ประสิทธิภาพการเร่งความเร็วอาจลดลง
หมายเหตุ
• เมื่อคนขับเปลี่ยนโหมดและปล่อยคันเร่ง
ลักษณะอัตราเร่งของรถจะเปลี่ยนไปตาม
ความต้องการของผู้ขับขี่ ให้แน่ใจว่าได้ขับ
รถอย่างปลอดภัย
• โหมดทั้งหมดมีฟังค์ชั่นความจำขณะปิด
การทำงาน รถจะอยู่ในโหมดสุดท้ายที่ใช้
งานก่อนปิดการทำงาน
ข้อควรระวัง !
• ในสภาพหิมะที่อ่อนนุ่ม หากประสิทธิภาพ
ของมอเตอร์ลดลงเนื่องจาก การระบบ
การควบคุมเสถียรภาพแบบไดนามิกถูก
เปิดใช้งาน การปิดระบบ ESC อาจช่วย
ให้การขับขี่ได้ดีขึ้น ต้องเปิดใช้งาน ESC
อีกครั้งหลังจากกลับสู่ปกติถนนปกติ
81
PAB สวิตช์*
• ถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารสามารถปิดใช้งาน
ได้หากรถมีสวิตช์ตัดการทำงานถุงลมนิรภัย
สำหรับผู้โดยสาร
• สวิตช์ถุงลมนิรภัยผู้โดยสารอยู่ที่ขอบของ
คอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสาร และสามารถเข้าถึง
ได้เมื่อเปิดประตูผู้โดยสาร
• ตรวจสอบว่าสวิตช์อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
คำเตือน
• ห้ามใช้เบาะนั่งสำหรับเด็กแบบหันไปทาง
ด้านหลัง บนที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าขณะ
ที่ถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารที่เปิดใช้
งาน
• ถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารจะต้องเปิด
ใช้งานเสมอเมื่อผู้โดยสารด้านหน้า (ผู้ใหญ่
และเด็กอายุมากกว่า 7 ปี) นั่งในที่นั่งผู้
โดยสารด้านหน้า
• หากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น อาจมี
ความเสี่ยงสูงที่ผู้โดยสารจะได้รับบาดเจ็บ
สาหัสหรือเสียชีวิตได้

ข้อควรระวัง !
• เพื่อป้องกันความเสียหายต่อระบบถุงลม
นิรภัย ให้ใช้งานสวิตช์ตัดการทำงานถุงลม
• ถุงลมนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้าสามารถเปิด
นิรภัยผู้โดยสารขณะปิดการทำงานรถ
หรือปิดได้ตามการใช้งานเบาะนั่งผู้โดยสาร
เท่านั้น
ตอนหน้า (ในกรณีที่ติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็ก
แบบหันไปทางด้านหลัง): • เป็นความรับผิดชอบของผู้ขับขี่ในการ
ยืนยันว่าสวิตช์ตัดการทำงานถุงลมนิรภัย
• เมื่อสวิตช์เปิดอยู่ ถุงลมนิรภัยสำหรับผู้
ผู้โดยสารอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
โดยสารจะพร้อมทำงาน สัญลัษณ์สถานะ
PAD จะแสดงขึ้น ในกรณีที่มี
การกระแทกปานกลางถึงรุนแรง และตรง
ตามเงื่อนไขการกระตุ้น ถุงลมนิรภัยผู้
โดยสารจะทำงาน
• เมื่อปิดสวิตช์ ถุงลมนิรภัยผู้โดยสารถูกปิดใช้
งาน สัญลัษณ์สถานะ PAD จะแสดงขึ้น
ในกรณีที่มีการกระแทกปาน
กลางถึงรุนแรง และตรงตามเงื่อนไขการกระ
ตุ้น ถุงลมนิรภัยผู้โดยสารจะไม่ทำงาน

82
สวิตช์ซันรูฟ เปิด/ปิด ม่านบังแดด
การเปิดม่านบังแดด
หลังคาซันรูฟพาโนรามา • กดปุ่มเปิดม่านบังแดด (1) ค้างไว้เพื่อเปิดม่าน 04
ซันรูฟสามารถทำงานได้ภายใต้สถานะกุญแจ OK บังแดด ม่านบังแดดจะหยุดลงหากปล่อยปุ่ม

ระบบควบคุมการทำงาน
เท่านั้น หรือเมื่อยังไม่หมดเวลาหน่วงในการปิด • หากกดปุ่มเปิดม่านบังแดด (1) อย่างรวดเร็ว
เครื่อง หนึ่งครั้ง ม่านบังแดดจะเปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
การเปิดซันรูฟ หากกดปุ่มใดปุ่มหนึ่ง (1) หรือ (2) ม่านบังแดด
• กดปุ่มเปิดซันรูฟค้างไว้ (1) เพื่อเปิดซันรูฟ ซัน จะหยุดลง
รูฟจะหยุดหากปล่อยปุ่ม
• หากซันรูฟได้รับการตั้งค่าเริ่มต้น ให้กดปุ่มเปิด
ซันรูฟ (1) แล้วปล่อย: ซันรูฟจะเอียงขึ้นด้าน
บนเพื่อการระบายอากาศ กดอีกครั้ง ซันรูฟจะ
เปิดโดยอัตโนมัติประมาณ 80% กดอีกครั้ง
ซันรูฟจะเปิดจนสุด หากกดปุ่ม (1) หรือ (2)
เมื่อซันรูฟเปิด ซันรูฟจะหยุดที่ตำแหน่ง
ปัจจุบัน
การปิดม่านบังแดด
• กดสวิตช์ปิดม่านบังแดดค้างไว้ (2) ขณะม่าน
บังแดดเปิดอยู่ หากคุณปล่อยสวิตช์ลงครึ่งหนึ่ง
ม่านบังแดดจะหยุดที่ตำแหน่งปัจจุบัน
• หากม่านบังแดดได้รับการตั้งค่าเริ่มต้น ให้แตะ
สวิตช์ปิดม่านบังแดด (2) แล้วปล่อย จากนั้น
ม่านบังแดดจะปิดโดยอัตโนมัติ หากกดปุ่ม (1)
หรือ (2) เมื่อม่านบังแดดปิด ม่านบังแดดจะ
การปิดซันรูฟ หยุดที่ตำแหน่งปัจจุบัน
• กดปุ่มปิดซันรูฟค้างไว้ (2) เพื่อปิดซันรูฟ ซัน
หมายเหตุ
รูฟจะหยุดหากปล่อยปุ่ม
• หากซันรูฟได้รับการตั้งค่าเริ่มต้น ให้แตะปุ่มปิด • เมื่อซันรูฟไม่ได้ปิดจนสุด ตำแหน่งม่านบัง
(2) แล้วปล่อย จากนั้นซันรูฟจะปิดโดย แดดจะไม่ปิดเกินตำแหน่งซันรูฟ
อัตโนมัติ
• หากกดปุ่ม (1) หรือ (2) เมื่อซันรูฟปิด ซันรูฟ
จะหยุดที่ตำแหน่งปัจจุบัน
83
ฟังค์ชั่นเชื่อมโยงม่านบังแดด สวิตช์ไฟภายในห้องโดยสาร
• เมื่อเปิดซันรูฟ ม่านบังแดดจะเปิดพร้อมกับซัน ไฟหน้าภายในห้องโดยสาร
รูฟ
ปุ่มไฟภายในรถด้านซ้าย
ฟังค์ชั่นป้องกันการหนีบของซันรูฟ
ปุ่มไฟภายในรถด้านขวา
• หากระหว่างการเลื่อนปิดซันรูฟมีสิ่งกีดขวาง
ซันรูฟจะหยุดและถอยกลับเล็กน้อย

คำเตือน
• หลีกเลี่ยงการกีดขวางซันรูฟ เมื่อกำลัง
เลื่อนเปิดหรือปิด
• ผู้โดยสารห้ามยื่นมือหรือศีรษะออกทาง
ซันรูฟ
• กดปุ่มไฟภายในรถเพื่อเปิดไฟภายในรถด้าน
ซ้าย/ขวา กดอีกครั้งเพื่อปิด
ข้อควรระวัง !
สวิตช์ไฟภายในห้องโดยสาร
• การพยายามเปิดซันรูฟในขณะที่อุณหภูมิ
ภายนอกที่ต่ำกว่า 0°C หรือเมื่อถูกหิมะ
ด้านหลัง ซ้าย/ขวา*
หรือน้ำค้างแข็งปกคลุมอาจทำให้ซันรูฟ • เมื่อสถานะกุญแจอยู่ที่ OK สามารถกดปุ่ม
หรือมอเตอร์เสียหายได้ เหล่านี้เพื่อเปิดไฟภายในห้องโดยสาร ด้าน
ซ้าย/ขวา ในห้องโดยสารด้านหลังได้ กดอีก
การตั้งค่าเริ่มต้น ครั้งเพื่อปิด
• เมื่อสถานะกุญแจอยู่ที่ OK:
• กดปุ่มปิดซันรูฟ/ม่านบังแดดจนปิดสนิท
• หากซันรูฟ/ม่านบังแดดไม่ปิดสนิท ให้ปรับตั้ง
ด้วยตนเอง กดปุ่มปิดซันรูฟ/ม่านบังแดดค้างไว้
แล้วปล่อยเมื่อซันรูฟ/ม่านบังแดดหยุด
เคลื่อนที่ กดปุ่มอีกครั้งเป็นเวลาอย่างน้อย 7
วินาที แล้วปล่อยจนกว่าซันรูฟ/ม่านบังแดดจะ
ปิดสนิทและได้ยินเสียงคลิก
• ตั้งค่าเริ่มต้นซันรูฟและม่านบังแดดแยกจากกัน

84
ไฟตกแต่งภายใน
เมื่อเปิดประตู ไฟอัจฉริยะภายในห้องโดยสารจะ
สว่างขึ้นโดยอัตโนมัติเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่น่า
04
รื่นรมย์ภายในห้อง

ระบบควบคุมการทำงาน
• แตะที่ → Vehicle settings →
Light & ambient เพื่อตั้งค่าแสงไฟตกแต่ง
ภายในต่อไปนี้:
• สีของแสง
• ความสว่างของแสง
• การกระจายแสง
• ตามจังหวะเสียงเพลง

85
86
05 การใช้งาน
และการขับขี่
การชาร์จไฟ/การคายประจุ...............................88
แบตเตอรี่........................................................103
สิ่งจำเป็นในการใช้งาน....................................106
การสตาร์ทและการขับขี่.................................113
ระบบช่วยเหลือการขับขี่.................................121
คําแนะนําสําหรับฟังค์ชั่นหลักอื่นๆ.................148

87
 • ใช้อุปกรณ์ชาร์จที่เป็นไปตามมาตรฐาน
การชาร์จไฟ / • ห้ามดัดแปลง ถอดประกอบ หรือซ่อมแซม
การคายประจุ อุปกรณ์ชาร์จและพอร์ตที่เกี่ยวข้อง เพื่อ
หลีกเลี่ยงความเสียหาย หรือไฟไหม้
คำแนะนำในการชาร์จไฟ • ห้ามใช้อุปกรณ์ชาร์จไฟที่ไม่ตรงตาม
มาตรฐานความปลอดภัย หรือมีอันตรายต่อ
• อุปกรณ์ชาร์จไฟเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง ห้าม
ความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น อย่าให้เด็กใช้
ผู้เยาว์ชาร์จหรือสัมผัสอุปกรณ์ชาร์จ นอกจาก
อุปกรณ์ชาร์จไฟและดูแลสัตว์เลี้ยงให้ห่าง
นี้ โปรดดูแลให้ผู้เยาว์อยู่ห่างจากรถขณะชาร์จ
จากรถขณะชาร์จไฟ
ไฟ
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามือของคุณแห้งสนิทก่อน
• การชาร์จไฟอาจส่งผลต่ออุปกรณ์ทางการ
ชาร์จ
แพทย์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ฝังใน
ร่างกาย ปรึกษาผู้ผลิตอุปกรณ์ก่อนชาร์จไฟ • หากพบสิ่งผิดปกติในรถหรืออุปกรณ์ชาร์จขณะ
ชาร์จไฟ ให้หยุดชาร์จไฟทันทีและติดต่อ
• ชาร์จไฟรถในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้าง
ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
ปลอดภัย และหลีกเลี่ยงการชาร์จไฟในบริเวณ
อนุญาตของ BYD
ที่เปียกชื้น บริเวณที่มีแหล่งกำเนิดไฟ หรือ
ความร้อน • ปฏิบัติตามข้อควรระวังต่อไปนี้เสมอเมื่อชาร์จ
เพื่อป้องกันความเสียหายต่อรถ:
• ป้องกันอุปกรณ์การชาร์จไฟจากการโดนน้ำ
ในวันที่ฝนตก • อย่าเขย่าขั้วต่อสายชาร์จ มิฉะนั้น พอร์ต
ชาร์จของรถอาจเสียหายได้
• ก่อนการชาร์จไฟ:
• หากเป็นไปได้ ห้ามชาร์จรถในระหว่างที่มี
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์จ่ายไฟ ขั้วต่อ
พายุฝนฟ้าคะนอง เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อ
สายชาร์จ พอร์ตชาร์จ และอุปกรณ์เชื่อมต่อ
การถูกฟ้าผ่า
การชาร์จไม่มีข้อบกพร่อง เช่น สายเคเบิล
สึกหรอ พอร์ตขึ้นสนิม ปลอกหุ้มร้าว หรือมี • ห้ามเปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อบำรุงรักษาขณะ
วัตถุแปลกปลอมในพอร์ตชาร์จไฟ ชาร์จ
• ห้ามชาร์จไฟรถยนต์เมื่อปลั๊ก ซ็อกเก็ต หรือ • หลังจากชาร์จไฟแล้ว ห้ามถอดอุปกรณ์ชาร์จ
ขั้วโลหะของขั้วต่อสายชาร์จหรือพอร์ต ด้วยมือที่เปียกหรือยืนบนพื้นเปียก
หลวมหรือชำรุดเนื่องจากสนิมหรือการ • ก่อนขับรถ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ถอด
กัดกร่อน อุปกรณ์ชาร์จไฟออกจากพอร์ตชาร์จแล้ว
• เมื่อขั้วต่อสายชาร์จ พอร์ต ปลั๊กไฟ หรือ
เต้ารับมีรอยเปื้อน หรือชื้นอย่างเห็นได้ชัด
ให้เช็ดด้วยผ้าแห้งและสะอาดเพื่อให้แน่ใจ
ว่าการเชื่อมต่อนั้นแห้งและสะอาด
88
ความเข้ากันได้ของโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์
และการชาร์จ
• ป้ายเหล่านี้จะอยู่ที่ช่องชาร์จของรถยนต์และ
โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟฟ้า (สถานีชาร์จ
ไฟ ช่องเสียบ)
• ป้ายหมายถึงระบบการชาร์จที่ได้มาตรฐาน
ตาม DIN EN 62196
ข้อควรระวังในการชาร์จ
• เมื่อตัวแสดง SOC บนแผงหน้าจอแสดงข้อมูล
สำหรับคนขับไปถึงแถบเตือนสีแดง แสดงว่า
SOC ไม่เพียงพอ ชาร์จไฟทันที. หากรถถูก
ชาร์จหลังจากพลังงานหมด อายุการใช้งาน
แบตเตอรี่อาจได้รับผลกระทบ
• การชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่บ้าน หมาย
ถึงการชาร์จโดยใช้อุปกรณ์การชาร์จ AC ที่มา
กับรถ ใช้สายไฟและเต้ารับไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน
สายไฟที่ติดตั้งเพื่อใช้เฉพาะชาร์จรถ สามารถ
หลีกเลี่ยงความเสียหายของสายไฟ หรือการ
ตัดกระแสไฟ เนื่องจากการชาร์จแบตเตอรี่ใช้
พลังงานสูง การไม่ใช้สายไฟที่ติดตั้งเพื่อใช้
เฉพาะการชาร์จรถอาจส่งผลต่อการทำงาน
ของอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้สายไฟร่วมกันได้
• หลีกเลี่ยงความเสียหายต่ออุปกรณ์ชาร์จ:
• หลีกเลี่ยงไม่ให้อุปกรณ์ชาร์จไฟได้รับความ
กระทบกระเทือน
• ห้ามวางอุปกรณ์ชาร์จไว้ใกล้เครื่องทำความ
ร้อนหรือแหล่งความร้อนอื่นๆ
• การเสียบสายชาร์จไฟ:
• ตรวจสอบว่าขั้วต่อสายชาร์จไฟและพอร์ต 05
ชาร์จไม่มีวัตถุแปลกปลอม และฝาครอบ
การใช้งานและการขับขี่
ป้องกันการสัมผัสของขั้วต่อสายชาร์จไม่
หลวมหรือผิดรูป
• ถือมือจับสายชาร์จด้วยมือเดียว จัดขั้วต่อให้
ตรงกับพอร์ต แล้วดันเข้าไป ตรวจสอบให้
แน่ใจว่าเชื่อมต่ออย่างถูกต้อง
• การถอดสายชาร์จไฟ:
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ปลดล็อคพอร์ตแล้ว
เมื่อการชาร์จเสร็จสิ้นหรือหยุดลง
• ดึงมือจับสายชาร์จออกด้วยมือเดียว
• อย่าพยายามฝืนดึงมือจับสายชาร์จออกเมื่อ
พอร์ตถูกล็อค
• รถสามารถเปิดกุญแจเพื่อใช้ A/C ในขณะ
ชาร์จ อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำ
• รถควรจอดในที่ที่มีอากาศถ่ายเท และไม่ควรมี
ผู้โดยสารอยู่ภายในขณะชาร์จ
• เมื่อชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม ระบบจะหยุดชาร์จ
โดยอัตโนมัติ พอร์ตชาร์จมีตัวล็อค ดังนั้น ให้
ปลดล็อคก่อนที่จะถอดสายชาร์จ
• เมื่อการชาร์จแบบ DC ให้มั่นใจว่าได้สิ้นสุดการ
ชาร์จลงแล้วจึงปลดล็อคพอร์ต แล้วถอดสาย
ชาร์จได้ ในการชาร์จไฟด้วย AC ที่บ้าน ให้
ปลดล็อคพอร์ต ถอดสายชาร์จที่ต่อกับรถยนต์
ออกก่อน แล้วจึงค่อยถอดปลั๊กไฟ
• เมื่อการชาร์จเสร็จสิ้นและถอดสายชาร์จออก
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใส่ฝาครอบพอร์ตกลับ
เข้าไปใหม่และปิดฝาพอร์ตแล้ว
89
• ก่อนสตาร์ทรถ โปรดตรวจสอบว่าได้ถอด
อุปกรณ์ชาร์จออกแล้ว กลไกการล็อคสาย
ชาร์จอาจทำงานขึ้นได้ถ้ามีการเสียบสายชาร์จ
อยู่อย่างไม่ถูกต้อง หากสตาร์ทรถในเวลานี้
อุปกรณ์ชาร์จและรถอาจเสียหายได้
• เมื่ออุณหภูมิแบตเตอรี่ต่ำหรือสูงเกินไป
ประสิทธิภาพการชาร์จอาจได้รับผลกระทบ
• เมื่อชาร์จแบตเตอรี่ที่อุณหภูมิต่ำ ระบบ
ควบคุมอุณหภูมิสามารถเพิ่มความสามารถ
ในการชาร์จที่อุณหภูมิต่ำของแบตเตอรี่ได้
เป็นเรื่องปกติที่การชาร์จด้วยเครื่องชาร์จ
แบบติดผนังจะใช้เวลาที่มากขึ้น เนื่องจาก
ต้องนำพลังงานบางส่วนไปใช้ในการ
ทำความร้อน
• ในระหว่างการชาร์จด้วย DC หากมีอุณหภูมิ
ต่ำ หรือ SOC สูง การชาร์จจะลดกระแสไฟ
ในการชาร์จลง ดังนั้น เพื่อความเร็วในการ
ชาร์จ แนะนำให้ชาร์จในขณะที่ SOC ต่ำ
• เพื่อประสิทธิภาพการชาร์จไฟในขณะที่
อุณหภูมิต่ำ ให้ชาร์จรถทันทีหลังใช้งาน เพื่อ
ใช้ประโยชน์จากอุณหภูมิที่ยังคงสูงของ
แบตเตอรี่
• การชาร์จไฟ และประสิทธิภาพของระบบ
ควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่จะได้รับผลกระทบ
หากรถถูกชาร์จไฟที่อุณหภูมิต่ำโดยเปิดเครื่อง
ปรับอากาศ
• เมื่อระบบควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ทำงาน
ระหว่างการชาร์จ SOC ที่แสดงบนแผงหน้าปัด
หรือระบบสาระบันเทิงอาจผันผวนชั่วคราว
• หากเปิดใช้งานการปรับสมดุลแบตเตอรี่ก่อนที่
การชาร์จจะเสร็จสิ้น เพื่อปรับปรุงอายุการใช้
งาน ในกรณีเช่นนี้อาจใช้เวลาในการชาร์จนาน
ขึ้น
90
• การใช้เครื่องปรับอากาศอาจทำให้
ประสิทธิภาพของระบบควบคุมอุณหภูมิของ
แบตเตอรี่อาจแย่ลงในการชาร์จ DC ที่
อุณหภูมิสูง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการชาร์จลด
ลงและใช้เวลาในการชาร์จนานขึ้น ปิด A/C
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จ
• เมื่อเปิดใช้งานฟังค์ชั่นทำความร้อนหรือ
ทำความเย็นสำหรับการชาร์จ ทั้งเวลาในการ
ชาร์จและการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้น
• เพื่อให้แบตเตอรี่อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม
ระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่อาจ
ทำงานต่อไปหลังจากการชาร์จเสร็จสิ้น
• ในระหว่างการชาร์จ เวลาที่เหลือโดยประมาณ
ในการชาร์จจนเต็ม จะแสดงบนหน้าจอแสดง
ผลสำหรับคนขับ หรือระบบสาระบันเทิง ขึ้น
อยู่กับอุณหภูมิ SOC และสถานีชาร์จ เวลาที่
เหลือในการชาร์จจนเต็มอาจแตกต่างกันเล็ก
น้อย ก่อนที่การชาร์จจะเสร็จสิ้น จะมีข้อความ
"Calculating... " ปรากฏบนแผงหน้าปัด
• หากคาดว่ารถจะไม่ถูกขับเป็นเวลานาน ให้
ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนใช้งาน ในกรณีที่ไม่
ได้ใช้งาน ขอแนะนำให้ชาร์จแบตเตอรี่ทุกสาม
เดือนเพื่อยืดอายุการใช้งาน
 หมายเหตุ
• ห้ามฝืนเปิดฝาพอร์ตชาร์จ
• อย่าฝืนเสียบขั้วต่อโดยที่ตัวล็อคไฟฟ้า 05
ทำงานอยู่

การใช้งานและการขับขี่
• ห้ามปิดฝาพอร์ตโดยไม่ได้ใส่ฝาครอบ
พอร์ตกลับเข้าไปให้เรียบร้อย
• เป็นเรื่องปกติที่พัดลมระบายความร้อน
และคอมเพรสเซอร์ A/C เริ่มทำงานหลัง
จากชาร์จเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด
ด้านความร้อนหรือความเย็นของ
แบตเตอรี่

91
ข้อผิดพลาดทั่วไปและวิธีแก้ปัญหาในการชาร์จ
ความผิดพลาด สาเหตุที่เป็นไปได้
สถานีชาร์จ หรือเครื่องชาร์จ
Wallbox มีข้อผิดพลาด
เสียบขั้วต่อสายชาร์จ AC ไม่พอดี
แบตเตอรี่ 12 โวลต์ต่ำ
เต้ารับมาตรฐานในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้า
เชื่อมต่อเครื่องชาร์จ
แล้ว การชาร์จเริ่มขึ้น
แต่แบตเตอรี่ไม่ชาร์จ
รถยนต์ หรือ ของขั้วต่อเครื่องชาร์จ
AC เสียหาย
อุณหภูมิแบตเตอรี่สูงหรือต่ำกว่าข้อ
กำหนด
ชาร์จไฟแบตเตอรี่จนเต็มแล้ว
92
วิธีแก้ปัญหา
ติดต่อเจ้าหน้าที่สถานีชาร์จ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสวิตช์เครื่อง
ชาร์จเปิดอยู่ ตรวจสอบความยาว
สายเคเบิลและตำแหน่งการเชื่อม
ต่อ
เชื่อมต่อรถกับแบตเตอรี่ 12 โวลต์
อีกก้อนเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ 12
โวลต์
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแหล่งจ่ายไฟมี
การป้องกันไฟดูด และการใช้ไฟเกิน
ใช้แหล่งจ่ายไฟสำหรับชาร์จที่ถูก
ต้อง เช่น มาตรฐาน 220 V 50 Hz
10 A เต้ารับที่มีสายดิน ไฟสองสาย
แบบเฟสเดียว
ตรวจสอบไฟเตือนความผิดพลาด/
ความล้มเหลวของระบบไฟฟ้า หรือ
ข้อความบนจอแสดงข้อมูลสำหรับ
คนขับ หากพบ ให้หยุดชาร์จไฟและ
ติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้
บริการที่ได้รับอนุญาตจาก BYD
ทำให้แบตเตอรี่ อุ่นขึ้น หรือ เย็นลง
การชาร์จจะหยุดโดยอัตโนมัติเมื่อ
ชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม
 ความผิดพลาด สาเหตุที่เป็นไปได้ วิธีแก้ปัญหา
สายชาร์จไม่ได้เชื่อมต่ออย่างถูกต้อง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์เชื่อม
ต่อการชาร์จเชื่อมต่ออย่างถูกต้อง 05

การใช้งานและการขับขี่
แหล่งจ่ายไฟ AC ไม่จ่ายไฟ การชาร์จจะรีสตาร์ทโดยอัตโนมัติ
หลังจากแหล่งจ่ายไฟ AC กลับมา
เป็นปกติ หากไม่เป็นเช่นนั้น ให้ถอด
แล้วเสียบสายชาร์จกลับเข้าไปใหม่
การชาร์จหยุดลง
อุณหภูมิแบตเตอรี่สูงเกินไป คำเตือนเรื่องแบตเตอรี่ร้อนเกินจะ
ระหว่างการชาร์จ
แสดงบนหน้าจอ การชาร์จจะหยุด
โดยอัตโนมัติและเริ่มหลังจาก
แบตเตอรี่เย็นลง
การชาร์จล้มเหลว หากรถหรือแท่นชาร์จแสดงข้อความ
แสดงข้อผิดพลาด โปรดติดต่อ
ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ
BYD หรือผู้ให้บริการ

93
วิธีการชาร์จไฟ
• ก่อนการชาร์จไฟ:
• ตรวจสอบอุปกรณ์ชาร์จและพอร์ตชาร์จ
สำหรับรอยแตก การสึกหรอ สนิมหรือสิ่ง
กีดขวาง
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่อแน่น
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพอร์ตชาร์จไม่มี
ของเหลวหรือสิ่งสกปรก และขั้วโลหะของ
พอร์ตไม่เป็นสนิมหรือสึกกร่อน
• ในกรณีเหล่านี้หากตรวจสอบพบ ห้ามชาร์จ
เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการลัดวงจรหรือไฟฟ้า
ช็อต
การชาร์จ AC แบบพกพาสำหรับใช้ในบ้าน
• เชื่อมต่ออุปกรณ์ชาร์จไฟเข้ากับเต้ารับที่ได้
มาตรฐาน
• ต้องใช้เต้ารับที่ได้มาตรฐานเพื่อหลีกเลี่ยงความ
เสียหายของสายไฟ หรือการตัดกระแสไฟ
เนื่องจากการชาร์จไฟสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อการ
ใช้งานอุปกรณ์อื่นๆตามปกติได้
• อุปกรณ์นี้ (โหมด 2) ประกอบด้วยปลั๊กไฟ
(ตามมาตรฐาน) ขั้วต่อสายชาร์จ กล่องควบคุม
และสายไฟ
• เสียบปลั๊กไฟเชื่อมต่อกับเต้ารับไฟฟ้า แล้วจึง
ต่อขั้วต่อสายชาร์จเข้ากับพอร์ตชาร์จของ
รถยนต์
• เวลาในการชาร์จ: โปรดดูข้อความบนหน้า
จอแสดงผลสำหรับคนขับ หรือหน้าจอระบบ
สาระบันเทิง
94
ข้อควรระวัง !
• ติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่
ได้รับอนุญาตของ BYD หรือช่างเทคนิคที่
ได้รับอนุญาตของ BYD เพื่อเลือกแหล่ง
จ่ายไฟที่เหมาะสมตามข้อกำหนดของ
อุปกรณ์ชาร์จ
• อุปกรณ์จะต้องต่อสายดินอย่างเหมาะสม
ในกรณีที่เกิดความล้มเหลวหรือเกิดความ
เสียหายต่ออุปกรณ์ชาร์จ สายเคเบิลที่ต่อ
ลงดินจะลดความเสี่ยงที่จะเกิดไฟฟ้าช็อต
• ปลั๊กไฟต้องตรงกับเต้ารับไฟฟ้าที่ติดตั้ง
และต่อสายดินอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน
ความปลอดภัย
หมายเหตุ
• เมื่อชาร์จ สายชาร์จต้องไม่ม้วน เนื่องจาก
จะส่งผลต่อการกระจายความร้อน
• สำหรับข้อควรระวังในการชาร์จโดย
เฉพาะ โปรดดูคำแนะนำในการชาร์จ
คำเตือน
• สำหรับคำเตือนด้านความปลอดภัยในการ
ชาร์จโดยเฉพาะ โปรดดูคำแนะนำในการ
ชาร์จ
• อุณหภูมิสูงสุด: 50 °C; เก็บผลิตภัณฑ์ในที่
เย็นและแห้งเมื่อไม่ใช้งาน
• เมื่อชาร์จ ห้ามวางอุปกรณ์ไว้ในท้ายรถ ใต้
ท้องรถ หรือใกล้ยางรถ
• เมื่อใช้งาน ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้รถทับ
ตกหล่น หรือเหยียบย่ำ
 คำเตือน
• อย่าทำอุปกรณ์ตก ห้ามเคลื่อนย้ายโดย
การดึงสายเคเบิล เคลื่อนย้ายอุปกรณ์ 05
อย่างระมัดระวัง•

การใช้งานและการขับขี่
• ห้ามดัดแปลง ถอดประกอบ หรือ
ซ่อมแซมอุปกรณ์ชาร์จไฟ และพอร์ตที่
เกี่ยวข้อง
• ไม่แนะนำให้ใช้สายไฟหรืออะแดปเตอร์/ • เปิดประตูช่องชาร์จไฟ และถอดฝาครอบ
ขั้วต่อเพิ่มเติม หากจำเป็นต้องใช้อะแดป พอร์ตออก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่ง
เตอร์เพิ่มเติมจริงๆ ให้เลือกเส้นผ่าน กีดขวางพอร์ตในทางใดทางหนึ่ง
ศูนย์กลางลวดที่เหมาะสม (≥2.5 เส้น
แบน) และพารามิเตอร์ของอะแดปเตอร์/
ตัวเชื่อมต่อต้องเป็นไปตามข้อกำหนด
• ห้ามใช้อุปกรณ์ชาร์จหากสายไฟในครัว
เรือนอ่อนตัว สายเคเบิลขั้วต่อสายชาร์จ
ชำรุด ชั้นฉนวนแตก หรือในกรณีที่เกิด
ความเสียหายอื่นๆ
• ห้ามใช้อุปกรณ์เมื่อถอดขั้วต่อสายชาร์จ
• เสียบปลั๊กโหมด 2 เข้ากับเต้ารับในครัวเรือน
ปลั๊กไฟ หรือแถบจ่ายไฟ ชำรุด หรือมี
สัญญาณของความเสียหายที่พื้นผิว • เสียบขั้วต่อสายชาร์จเข้ากับพอร์ตชาร์จ
• เพื่อป้องกันการสึกหรอของช่องชาร์จไฟ • ไฟแสดงการเชื่อมต่อบนหน้าจอแสดงผล
ห้ามเปิดและปิดซ้ำๆ สำหรับคนขับ หรือหน้าจอระบบสาระบันเทิง
จะสว่างขึ้น
1. การชาร์จ
• ปิดการทำงานของรถ. ข้อควรระวัง !
• เมื่อปลดล็อคประตูแล้ว ให้กดช่องชาร์จไฟเพื่อ • อย่าฝืนเสียบขั้วต่อสายชาร์จขณะล็อค
เปิด ไฟฟ้าทำงาน
• รายละเอียดการชาร์จ และการ
เปลี่ยนแปลงจะแสดงบนจอแสดงผล
สำหรับคนขับในขณะที่กำลังชาร์จ

95
 ข้อควรระวัง !
• สามารถตั้งค่าการชาร์จตามกำหนดเวลา
ได้ผ่านหน้าจอระบบสาระบันเทิง
→ 'New Energy' → 'Charge
Settings'
• หน้าจอแสดงผลสำหรับคนขับ ระบุเวลาที่
เหลือโดยประมาณในการชาร์จไฟจนเต็ม
ขณะกำลังชาร์จ เวลาที่เหลือในการชาร์จ
จนเต็มอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับ
อุณหภูมิ SOC และ เครื่องชาร์จ
• เมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย ฟังค์ชั่นการชาร์จ
ตามกำหนดเวลาจะไม่สามารถใช้งานได้
หมายเหตุ
• โหมดล็อคไฟฟ้าสามารถตั้งค่าได้ผ่าน
→ New Energy → Charge Settings
สำหรับรายละเอียดขั้นตอนการตั้งค่า โปรดดู
ที่ฟังค์ชั่นการควบคุมล็อคไฟฟ้าของพอร์ต
ชาร์จ
• หากไม่สามารถถอดปลั๊กต่อการชาร์จออกได้
หลังจากปลดล็อคแล้ว ให้ลองปลดล็อคอีก
สองสามครั้ง หากยังไม่สามารถถอดออกได้
สามารถลองปลดล็อคฉุกเฉินได้ โปรดดูขั้น
ตอนการปลดล็อคฉุกเฉินพอร์ตชาร์จไฟในตัว
ควบคุมการล็อค

• ถอดปลั๊กไฟ
2. หยุดชาร์จ
• ใส่ฝาครอบกลับเข้าไปใหม่และปิดช่องประตู
• การชาร์จจะหยุดลงเมื่อแบตเตอรี่เต็ม
• จัดเก็บอุปกรณ์การชาร์จอย่างถูกต้อง
• หากต้องการหยุดชาร์จก่อนแบตเตอรี่เต็ม ให้
หยุดการชาร์จด้วยการกดปลดล็อครถที่ปุ่ม
ไมโครสวิตช์ที่มือจับประตูขณะถือกุญแจ
สมาร์ทคีย์ แล้วจึงจะสามารถดึงสายชาร์จออก
ได้

หมายเหตุ
• หากต้องการปลดล็อครถ ให้กดปุ่มปลด
ล็อคกุญแจ (ปิดการทำงานรถขณะชาร์จ)
หรือไมโครสวิตช์ที่มือจับประตูขณะถือ หมายเหตุ
กุญแจสมาร์ทคีย์
• หากปลั๊กพอร์ตชาร์จเปิดอยู่ ห้ามปิดประตู
• เมื่อเปิดใช้งานระบบกันขโมย ให้ปลดล็อค ช่องชาร์จไฟ
รถก่อนที่จะดึงปลั๊กชาร์จออกเพื่อปลด
ล็อคไฟฟ้าของพอร์ตชาร์จ ต้องดึงตัวเชื่อม
ต่อออกภายใน 30 วินาที มิฉะนั้นพอร์ต
จะล็อคอีกครั้ง

96

คำเตือน
• อย่าทำอุปกรณ์ตก ห้ามเคลื่อนย้ายโดย
การดึงสายเคเบิล เคลื่อนย้ายอุปกรณ์
อย่างระมัดระวัง
การใช้เครื่องชาร์จแบบติดผนัง
1. รายละเอียดอุปกรณ์
• เครื่องชาร์จแบบติดผนัง AC แบบเฟสเดียว*
• ใช้เครื่องชาร์จแบบติดผนัง สำหรับใช้ในครัว
เรือนที่ผ่านการรับรอง สำหรับรายละเอียด
โปรดดูคู่มือการใช้งานและทำตามขั้นตอน
การทำงาน
• เครื่องชาร์จแบบติดผนังกระแสสลับแบบ
เฟสเดียว: อุปกรณ์นี้มีกล่องชาร์จ ขั้วต่อ
และสายเชื่อมต่อ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ
เซอร์กิตเบรกเกอร์และสวิตช์หยุดฉุกเฉิน
โปรดดูคู่มือการใช้งานกล่องชาร์จ
• เครื่องชาร์จแบบติดผนัง AC เฟสเดียว
• ใช้เครื่องชาร์จแบบติดผนังกระแสสลับในที่
สาธารณะเพื่อชาร์จรถ
• เวลาในการชาร์จ: ดูข้อความบนหน้าจอ
แสดงข้อมูลสำหรับคนขับ หรือระบบสาระ
บันเทิง
2. การดำเนินการชาร์จ
• ปลดล็อครถและเปิดฝาครอบช่องชาร์จ
• เปิดตามคำแนะนำสำหรับอุปกรณ์ชาร์จ AC
แบบพกพาในครัวเรือน
• เชื่อมต่อกับพอร์ตรถ:
• เสียบสายชาร์จของอุปกรณ์เข้ากับพอร์ต
แล้วล็อค
• การตั้งค่า:
• สำหรับเครื่องชาร์จแบบติดผนัง AC ที่มีการ
ตรวจสอบสิทธิ์ ให้รูดบัตรหรือสแกนรหัส
QR ดูรายละเอียดในคู่มือการใช้งานสำหรับ 05
เครื่องชาร์จแบบติดผนัง
การใช้งานและการขับขี่
• ไฟแสดงการเชื่อมต่อ บนหน้าจอแสดง
ผลสำหรับคนขับจะสว่างขึ้น
• ในระหว่างกระบวนการชาร์จ จอแสดงผล
สำหรับคนขับจะแสดงรายละเอียดการชาร์จที่
เกี่ยวข้องและสัญลักษณ์การชาร์จ
• สามารถตั้งค่าการชาร์จตามกำหนดเวลาได้
ผ่านหน้าจอระบบสาระบันเทิง
3. การหยุดชาร์จไฟ
• หยุดชาร์จ:
• การชาร์จจะหยุดโดยอัตโนมัติเมื่อชาร์จ
แบตเตอรี่จนเต็ม หรือเมื่อผู้ใช้ขัดจังหวะ
• ถอดปลั๊กชาร์จ:
• ถอดตัวเชื่อมต่อโดยปฏิบัติตามคำแนะนำ
ของอุปกรณ์ชาร์จ AC แบบพกพาในครัว
เรือน
• ปิดฝาครอบพอร์ตชาร์จ AC (ดูกระบวนการ
ชาร์จ AC แบบพกพา)
• เก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
• หลังจากใช้เครื่องชาร์จแบบติดผนัง AC แล้ว
ให้วางข้อต่อกลับเข้าไปในตำแหน่งที่กำหนด
สถานีชาร์จ การชาร์จ DC
1. รายละเอียดอุปกรณ์
• ใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ DC ในที่สาธารณะ
เพื่อชาร์จรถ โดยทั่วไปจะติดตั้งในสถานีชาร์จ
เฉพาะ
97
• สเปคอุปกรณ์ : ดูคำอธิบายของเครื่องชาร์จ
แบตเตอรี่
• เวลาในการชาร์จ: ดูข้อความบนจอแสดงผล
สำหรับคนขับหรือหน้าจอระบบสาระบันเทิง
2. การดำเนินการชาร์จ
• เปิดประตูช่องชาร์จไฟ และที่ถอดฝาครอบที่
ปิดพอร์ตออก
• แตะสองครั้งที่ปุ่มปลดล็อคภายใน 3 วินาที
หรือกดไมโครสวิตช์ที่มือจับประตูเพื่อหยุด
การชาร์จ
• ถอดขั้วต่อสายชาร์จ:
• กดไมโครสวิตช์ที่มือจับประตูขณะถือ
สมาร์ทคีย์ และดึงขั้วต่อสายชาร์จออก
• เก็บหัวตัวต่อการชาร์จไว้ในตำแหน่งที่กำหนด
• ใส่ฝาครอบกลับเข้าไปใหม่และปิดประตูช่อง
ชาร์จไฟ

หมายเหตุ
• หากปลั๊กพอร์ตชาร์จเปิดอยู่ ห้ามปิดประตู
ช่องชาร์จไฟ

• เสียบสายชาร์จเข้ากับพอร์ต ตรวจสอบให้ ข้อควรระวัง !

แน่ใจว่าแน่น
• หากไม่สามารถถอดขั้วต่อสายชาร์จออก
• ปฏิบัติตามคำแนะนำบนเครื่องชาร์จเพื่อเริ่ม ได้หลังจากปลดล็อคแล้ว ให้ลองปลดล็อค
การชาร์จ อีกสองสามครั้ง หากยังไม่สามารถถอด
• ไฟแสดงการเชื่อมต่อ บนหน้าจอแสดงผล ออกได้ สามารถลองปลดล็อคฉุกเฉินได้
สำหรับคนขับจะสว่างขึ้น โปรดดูขั้นตอน การปลดล็อคฉุกเฉินพอร์ต
• ในระหว่างกระบวนการชาร์จ หน้าจอแสดงผล ชาร์จไฟ ในตัวควบคุมการล็อค
สำหรับคนขับ หรือ หน้าจอระบบสาระบันเทิง • หากต้องการปลดล็อคระหว่างการชาร์จ
จะแสดงรายละเอียดการชาร์จที่เกี่ยวข้องและ DC ให้กดปุ่มปลดล็อคสองครั้งภายใน 3
เครื่องหมายการชาร์จ วินาที
3. การหยุดชาร์จไฟ • สำหรับข้อควรระวังในการชาร์จโดย
• หยุดชาร์จ: เฉพาะ โปรดดูคำแนะนำในการชาร์จ
• เมื่อตั้งค่าการหยุดก่อนกำหนดหรือการ
ชาร์จเสร็จสิ้น เครื่องชาร์จจะหยุดโดย
อัตโนมัติ

98
 คำเตือน
• สำหรับคำเตือนด้านความปลอดภัยในการ
ชาร์จโดยเฉพาะ โปรดดูคำแนะนำในการ
ชาร์จ
ฟังค์ชั่นการชาร์จอัจฉริยะ
• เมื่อระบบจัดการตรวจพบว่าความจุของ
แบตเตอรี่แรงดันไฟต่ำ (12 โวลต์) นั้นต่ำ ก็
สามารถชาร์จด้วยแบตเตอรี่แรงดันสูง
(แบตเตอรี่ขับเคลื่อน) ได้ จึงเป็นเรื่องปกติที่
SOC และระยะการขับขี่จะแสดงลดลงเมื่อรถ
เปิดเครื่องหลังจากไม่ได้ใช้งาน
หมายเหตุ
• เมื่อรถไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลานาน เป็น
เรื่องปกติที่การชาร์จแบบอัจฉริยะจะเกิดขึ้น
• พลังงานสำหรับการชาร์จอย่างชาญฉลาดมา
จากพลังงานของชุดแบตเตอรี่ ดังนั้นจึงเป็น
เรื่องปกติที่จะสังเกตเห็น SOC ลดลงเมื่อเปิด
เครื่อง
อุปกรณ์คายประจุ*
• รถคันนี้มีฟังค์ชั่นการจ่ายพลังงานออก
Vehicle to Load (VTOL)
หมายเหตุ
• แนะนำให้ใช้ฟังค์ชั่นนี้เมื่อ SOC สูงเท่านั้น
• ฟังค์ชั่นนี้จะถูกจำกัดเมื่อรถใช้การคายประจุ
จากภายนอกหรือเมื่อพลังงานเหลือน้อย
หมายเหตุ
• เมื่อรถอยู่ในสถานะปิดการทำงาน และ
VTOL เชื่อมต่อโดยไม่มีการใช้งานเป็นเวลา 05
นาน การสิ้นเปลืองพลังงานของรถจะเพิ่มขึ้น
การใช้งานและการขับขี่
ขอแนะนำให้ถอดขั้วต่อการคายประจุ/การ
ชาร์จออกเมื่อไม่ได้ใช้งานอุปกรณ์
ข้อควรระวัง !
• สำหรับข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้
อุปกรณ์เชื่อมต่อการคายประจุ โปรดดูที่
ข้อควรระวังการชาร์จและข้อควรระวังใน
การใช้อุปกรณ์ชาร์จ
• ก่อนคายประจุ ให้ตรวจสอบกำลังของรถ
และประเมินระยะการขับขี่ที่เหลืออยู่
• ก่อนเปิดใช้งาน VTOL ตรวจสอบให้แน่ใจ
ว่าไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าต่ออยู่
คำเตือน
• เมื่อกำลังจ่ายพลังงานไฟฟ้าออก ห้าม
สัมผัส รางปลั๊กไฟ ปลั๊กไฟในรถยนต์ หรือ
ปลายโลหะของพอร์ตชาร์จของรถ
• หากสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติในระหว่างการ
ใช้งาน เช่น ควันหรือกลิ่น ให้หยุดทันที
• คำเตือนด้านความปลอดภัยในการคาย
ประจุจะเหมือนกับคำเตือนด้านความ
ปลอดภัยในการชาร์จ (ดูคำแนะนำในการ
ชาร์จ)
99

คำเตือน
• เก็บอุปกรณ์ต่างๆ ในที่แห้งและเย็นเมื่อไม่
ใช้งาน
• เมื่อคายประจุ ห้ามวางอุปกรณ์ไว้ในท้าย
รถ ใต้ท้องรถ หรือใกล้ยางรถ
• เมื่อใช้งาน ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้รถขับทับ
ตกหล่น หรือเหยียบย่ำ
• อย่าทำอุปกรณ์ตก ห้ามเคลื่อนย้ายโดย
การดึงสายเคเบิล เคลื่อนย้ายอุปกรณ์
อย่างระมัดระวัง
• ห้ามใช้อุปกรณ์คายประจุ หากสายราง
ปลั๊กไฟอ่อนตัว ปลั๊กชำรุด ชั้นฉนวนแตก
หรือในกรณีที่เกิดความเสียหายอื่นๆ
• ห้ามใช้อุปกรณ์เมื่อถอดขั้วต่อการคาย
ประจุหรือรางปลั๊กไฟ ชำรุด หรือมีความ
เสียหายที่พื้นผิว
การจ่ายพลังงานภายนอก*
การคายประจุ
• ก่อนคายประจุ ปิดการทำงานระบบกันขโมย
• ปลดล็อคประตูปิดพอร์ตชาร์จ แล้วเปิดฝาและ
ฝาครอบ
• ก่อนเริ่มจ่ายพลังงานออก:
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าความจุของแบตเตอรี่
ไม่ต่ำกว่า 15%
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปลอกอุปกรณ์เชื่อมต่อ
VTOL ไม่แตก และปลั๊กไม่มีสนิมหรือสิ่ง
กีดขวาง
100
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพอร์ตปราศจาก
ความชื้นหรือสิ่งสกปรก และขั้วโลหะไม่เสีย
หายและปราศจากสนิมหรือการกัดกร่อน
• ห้ามใช้การจ่ายพลังงานออกหากพบเงื่อนไข
ข้างต้น
• อุปกรณ์เชื่อมต่อ:
• เชื่อมต่ออุปกรณ์ VTOL เข้ากับพอร์ต ไฟ
แสดงสถานะรางปลั๊กไฟจะสว่างขึ้นเมื่อมี
ไฟฟ้าและพร้อมใช้งาน
• หลังจากทำการเชื่อมต่อแล้ว การจ่าย
พลังงานไฟฟ้าจะเริ่มขึ้นและข้อมูลที่
เกี่ยวข้องจะแสดงบนหน้าจอแสดงผล
สำหรับคนขับ
หยุดการคายประจุ
• หยุดการคายประจุ
• ถอดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต่ออยู่ออกทั้งหมด
ถอดปลั๊ก เสียบฝาครอบพอร์ตกลับเข้าไป
ใหม่ และปิดประตูพอร์ตชาร์จ (ดูราย
ละเอียดจากวิธีกระการชาร์จ AC แบบพก
พาที่บ้าน*)
• จัดเก็บอุปกรณ์อย่างเหมาะสม
ฟังค์ชั่นควบคุมล็อคไฟฟ้า
ของพอร์ตชาร์จ
• พอร์ตชาร์จของรถยนต์มีคุณสมบัติป้องกันการ
โจรกรรมระหว่างการชาร์จ และการคายประจุ
ฟังค์ชั่นนี้ถูกปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น หาก
ต้องการเปิดใช้งาน ให้ไปที่อินเทอร์เฟซการตั้ง
ค่าล็อคพอร์ตการชาร์จโดยแตะที่
New energy → Charge Settings การตั้ง
ค่าการชาร์จ แล้วแตะ Enable เพื่อเปิดฟัง
ค์ชั่นป้องกันการโจรกรรม
• หลังจากเปิดใช้งานแล้ว ผู้ใช้สามารถปลดล็อค
และดึงขั้วต่อการชาร์จออกได้ดังนี้:
• เมื่อรถปิดการทำงานอยู่ ให้กดปุ่มปลดล็อค
บนสมาร์ทคีย์เพื่อปลดล็อค
• กดไมโครสวิตช์ที่มือจับประตูเพื่อปลดล็อค;
• กดสวิตช์ปลดล็อค บนคอนโซลด้านประตู
ด้านคนขับเพื่อปลดล็อค
ข้อควรระวัง !
• หลังจากปลดล็อคขั้วต่อการชาร์จแล้ว จะ
สามารถดึงสายชาร์จออกได้ภายใน 30
วินาที หลังจาก 30 วินาที มันจะล็อคอีก
ครั้ง
การปลดล็อคฉุกเฉินพอร์ตชาร์จไฟ
• เมื่อปลดล็อคไฟฟ้าไม่ทำงาน และไม่สามารถ
ดึงขั้วต่อการชาร์จออกได้ ตัวล็อคสามารถปลด
ล็อคด้วยตนเองได้ 05
การใช้งานและการขับขี่
• เปิดฝากระโปรงหน้าและค้นหาสายเคเบิล
สำหรับปลดล็อค และดึงขึ้นเพื่อปลดล็อคขั้ว
→ ต่อการชาร์จ
แสดงระยะการขับขี่
• เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การขับขี่ รถยนต์มี
ฟังค์ชั่นให้เลือก Driving Range Display
Mode ซึ่งจะเป็น Standard เป็นค่าเริ่มต้น
• ตั้งค่าโหมดใน Multimedia → New
Energy → Energy Management →
Driving Range Display Mode
• โหมด Standard: ระยะการขับขี่จะปรากฏขึ้น
เป็นไปตามผลที่ได้จากการทดสอบ
• โหมด Dynamic: ระยะการขับขี่โดยประมาณ
จะแสดงขึ้นโดยพิจารณาจากพลังงาน
แบตเตอรี่ที่เหลืออยู่และการสิ้นเปลืองพลังงาน
เฉลี่ยในปัจจุบัน
• โหมดการแสดงระยะการขับขี่ที่ตั้งไว้จะถูก
จดจำโดยระบบ
101
 • เมื่อรถถูกปิดการใช้งานแล้วเปิดขึ้นใหม่
โหมดการแสดงผลที่ตั้งไว้ครั้งสุดท้ายจะยัง
คงอยู่
หมายเหตุ
• เมื่อตั้งค่าโหมดการแสดงระยะการขับขี่
Dynamic :
• ช่วงที่แสดงเมื่อชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มจะ
แตกต่างกันไปตามการใช้พลังงานของการ
เดินทางครั้งก่อน
• ระยะการขับขี่ที่แสดงจริงจะถูกปรับตาม
สถานะของเครื่องปรับอากาศของรถ
โหมดการขับขี่ (ECO, NORMAL, SPORT
ฯลฯ) ที่เลือก และพฤติกรรมการขับขี่ของ
ผู้ขับขี่ เพื่อให้ตรงกับระยะการขับขี่จริง
ของรถ
ตั้งค่าการเบรกพร้อม
สร้างกระแสไฟฟ้า
• พลังงานไฟฟ้าจะสร้างกลับผ่านการเบรกเมื่อ
รถลดความเร็ว เพื่อประสิทธิภาพที่สูงขึ้น อย่า
เร่งหรือลดความเร็วรถโดยไม่จำเป็น
• สามารถตั้งค่าความเพิ่มแรงเบรกของการสร้าง
กระแสไฟฟ้ากลับได้ด้วยปุ่มโหมดการเบรก
พร้อมการสร้างกระแสไฟฟ้า หรือบนหน้าจอ
ระบบมัลติมีเดีย
• Standard: เมื่อปล่อยคันเร่ง ตัวควบคุม
มอเตอร์จะกู้คืนพลังงานในระดับมาตรฐาน
และการชะลอตัวของรถอยู่ในระดับ
มาตรฐาน
102
• High: ตัวควบคุมมอเตอร์จะดึงพลังงานกลับ
คืนมามากขึ้นเมื่อปล่อยคันเร่งรถจะลด
ความเร็วลงอย่างรวดเร็ว
• การตั้งค่าที่เกี่ยวข้องสามารถทำใน
Multimedia → New Energy →
Energy Management → Energy
Regeneration Mode
• เลือกความเข้มของการสร้างกระแสไฟฟ้ากลับ
ขึ้นอยู่กับความรู้สึกในการชะลอรถ เมื่อปล่อย
คันเร่ง เพื่อที่จะได้สัมผัสกับความรู้สึกลด
ความเร็วที่แตกต่างกันและมีประสบการณ์ใน
การขับขี่ที่แตกต่างกัน
• หลังจากตั้งค่าความเข้มของการสร้างกระแส
ไฟฟ้ากลับแล้ว ค่าจะถูกบันทึก เมื่อรถถูกปิด
การใช้งานแล้วเปิดใหม่ โหมดที่ตั้งไว้เป็นครั้ง
สุดท้ายจะยังคงอยู่
• พลังของรถทั้งคันจะอ่อนลงเมื่อระดับแบตเตอรี่ต่ำ
กว่าที่ระดับแบตเตอรี่สูง
หมายเหตุ
• อย่าตั้งค่าการสร้างการเบรกพร้อมสร้างกระแส
ไฟฟ้ากลับ เป็นค่า High เมื่อขับรถทางไกล
ด้วยความเร็วสูง เนื่องจากอาจทำให้คนขับไม่
สามารถคุมการชะลอความเร็วรถลงได้อย่าง
นุ่มนวลได้

แบตเตอรี่
แบตเตอรี่สำหรับระบบขับเคลื่อน
• รถใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ สามารถชาร์จและ
คายประจุซ้ำๆ ได้ พลังงานแบตเตอรี่ถูกชาร์จโดย
แหล่งพลังงานภายนอก หรือผ่านการเบรกพร้อม
การสร้างกระแสไฟฟ้า หรือขณะรถกำลังไหล
• แบตเตอรี่อยู่ที่ด้านล่างของรถ ดังนั้นควร
ระมัดระวังในการขับรถบนถนนที่ไม่เรียบ หรือมี
น้ำท่วมขัง
คุณสมบัติของแบตเตอรี่
• เป็นเรื่องปกติที่ประสิทธิภาพของรถจะได้รับ
ผลกระทบจากคุณสมบัติทางเคมีไฟฟ้าของ
แบตเตอรี่และการป้องกันตัวเอง ประสิทธิภาพ
แตกต่างกันไปตามเงื่อนไขต่อไปนี้:
• เมื่อ SOC สูง การเบรกพร้อมการสร้าง
กระแสไฟฟ้ากลับอาจลดลง
• การชาร์จไฟจะช้าลงเมื่อ SOC สูง เวลาใน
การชาร์จอาจนานขึ้น เวลาในการชาร์จที่
เหลืออยู่โดยประมาณที่แสดงบนหน้าจอ
แสดงผลสำหรับคนขับจะแตกต่างออกไป
• เมื่อ SOC ต่ำ ประสิทธิภาพการเร่งความเร็ว
อาจลดลง
• เมื่อ SOC ต่ำ จะไม่สามารถใช้ VTOL* ได้
ชาร์จแบตเตอรี่ทันที
• ในอุณหภูมิสูงหรือต่ำ เป็นเรื่องปกติที่ความ
สามารถในการชาร์จและการคายประจุของ
แบตเตอรี่ลดลง และเวลาในการชาร์จจะ
นานขึ้น แนะนำให้ชาร์จด้วยอุปกรณ์กำลัง
สูงเพื่อเพิ่มความเร็วในกระบวนการ
ประสิทธิภาพของพลังงานอาจลดลงภายใต้
อุณหภูมิที่สูงเกินไปเมื่อชาร์จในอุณหภูมิต่ำ
ระบบควบคุมอุณหภูมิสามารถช่วยเพิ่มความ
สามารถในการชาร์จได้อย่างมาก สำหรับราย
ละเอียด โปรดดูที่ ข้อควรระวังในการชาร์จ
• เมื่อใช้รถในอุณหภูมิต่ำ ระบบควบคุมอุณหภูมิ 05
ของแบตเตอรี่จะเริ่มให้ความร้อนแก่แบตเตอรี่
การใช้งานและการขับขี่
เพื่อให้แน่ใจว่ามีพลังงานมากพอ มี
ประสิทธิภาพ ในการจ่ายพลังงาน และเพื่อ
ประสบการณ์การขับขี่ที่ดี เมื่อรถขับเป็นระยะ
ทางสั้นๆ อาจมีความร้อนที่ไม่เพียงพอ การใช้
พลังงานจะเพิ่มขึ้น และระยะการขับขี่ลดลง
• เมื่อแบตเตอรีเป็นปกติ ระยะการขับขี่ของรถจะ
แตกต่างกันไปตามรายการต่อไปนี้:
• นิสัยการขับรถ: เช่น การเร่ง/ลดความเร็วบ่อย
ครั้งแทนที่จะใช้ความเร็วสม่ำเสมอ ระยะ
ทางการขับขี่จะสั้นลง เมื่อขับด้วยความเร็วสูง
มากกว่าเมื่อขับด้วยความเร็วต่ำ
• สภาพถนน: เช่น. ระยะทางการขับขี่จะสั้นลง
เมื่อขับในสภาพที่ขรุขระ หรือบนทางลาดชันที่
ยาว มากกว่าเมื่อขับในสภาวะถนนปกติ
• อุณหภูมิ: ระยะการขับขี่ที่อุณหภูมิต่ำจะสั้นกว่า
ในอุณหภูมิสูง
• เงื่อนไขอุปกรณ์ไฟฟ้า: เช่น. ช่วงที่ขับเคลื่อน
โดยเปิด A/C จะสั้นกว่าเมื่อปิด A/C
• กำลังไฟฟ้าของแบตเตอรี่จะลดลงในสภาพ
อากาศหนาวเย็น และพลังงานที่ใช้ได้จะลดลง
ตามอุณหภูมิที่ลดลง หากรถที่มีระดับแบตเตอรี่
สูงถูกชาร์จในอุณหภูมิต่ำ SOC อาจกระโดดไป
ที่ 100% อย่างรวดเร็ว
เคล็ดลับการใช้แบตเตอรี่
• รถยนต์สามารถขับเคลื่อนได้ในอุณหภูมิระหว่าง
-10°C ถึง 40°C เมื่อ SOC ต่ำ ต้องมั้นใจว่าชาร์จ
รถทันที เพื่อให้มีระยะการขับขี่เพียงพอและ
ประสิทธิภาพการเร่งความเร็วที่ดีขึ้น
103
• เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพในระยะยาว หลีก
เลี่ยงการขับรถในอุณหภูมิที่สูงเกินไปนานกว่า 24
ชั่วโมง
• เมื่ออุณหภูมิลดลงมาก สามารถจอดรถในสถานที่
ที่มีอุณหภูมิอุ่นขึ้นได้ เช่น บริเวณที่จอดรถใต้ดิน
หรือที่มีระบบทำความร้อน เพื่อลดการสูญเสีย
ความร้อนและประสิทธิภาพของรถ
• ควรหลีกเลี่ยงการเร่ง/ลดความเร็วกะทันหันบ่อย
ครั้ง การใช้เครื่องปรับอากาศเพิ่มการใช้พลังงาน
และลดระยะการขับขี่
• การชาร์จด้วยกำลังไฟฟ้าต่ำ ช่วยยืดอายุการใช้งาน
ของแบตเตอรี่
• เมื่อใช้รถเป็นครั้งแรกหรือหลังจากไม่ได้ใช้งานเป็น
เวลานาน SOC ที่แสดงบนหน้าจอแสดงผลสำหรับ
คนขับอาจไม่ถูกต้อง แนะนำให้ชาร์จจนเต็ม
• แนะนำให้ชาร์จรถจนเต็มเป็นประจำ (อย่างน้อย
สัปดาห์ละครั้ง) และชาร์จให้เต็มจากแบตเตอรี่ต่ำ
(<10% SOC) ทุกๆสามถึงหกเดือน
• ภายใต้สภาวะการทำงานที่รุนแรง (เช่น การเร่ง/
ลดความเร็วอย่างกะทันหันบ่อยครั้ง) ที่ทำให้
แบตเตอรี่ร้อนเกินไป หากแบตเตอรี่มีอุณหภูมิสูง
เกิน ความสามารถในการจ่ายกระแสไฟฟ้าของ
แบตเตอรี่จะค่อยๆลดลงเป็นธรรมดา หากอุณหภูมิ
ของแบตเตอรี่สูงขึ้นเรื่อยๆ ไฟแสดงการทำงานผิด
พลาดบนแผงหน้าปัดจะสว่างขึ้น ณ ขณะนั้น ขอ
แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่
ได้รับอนุญาตของ BYD
• เมื่อ SOC ของแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างผิด
ปกติ โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการ
ที่ได้รับอนุญาตจาก BYD
104
คำเตือน
ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุอันตราย
ให้ความสนใจกับสิ่งต่อไปนี้:
• ห้ามสัมผัสแบตเตอรี่สำหรับขับเคลื่อนไม่
ว่าในกรณีใดๆ
• ติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่
ได้รับอนุญาตของ BYD โดยเร็วที่สุด
• หากแบตเตอรี่ไฟฟ้าเสียหายและมี
ของเหลวรั่ว ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับ
ของเหลว หากสัมผัสกับผิวหนังหรือ
ดวงตา ให้ล้างทันทีด้วยน้ำปริมาณมาก
และไปพบแพทย์ทันที
• หากรถติดไฟ ให้ใช้ถังดับเพลิงเฉพาะเพื่อ
ดับไฟ ห้ามใช้เครื่องดับเพลิงชนิดน้ำ
ข้อควรระวัง !
• เพื่อความปลอดภัยของแบตเตอรี่ ควร
จอดรถให้ห่างจากวัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด
ห่างจากแหล่งกำเนิดไฟ และสารเคมี
อันตรายทุกชนิด
• ความจุของแบตเตอรี่จะค่อยๆ ลดลงตาม
เวลาและการใช้งาน
• การสัมผัสกับแหล่งความร้อนและ
แสงแดดโดยตรงเป็นเวลานานจะลดอายุ
การใช้งานของแบตเตอรี่
 ข้อควรระวัง !
• หากคาดว่าจะไม่ได้ใช้รถขับเคลื่อนเกิน 7
วัน แนะนำให้มี SOC ไว้ที่ 40 - 60% จะ
ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ หากไม่
ได้ใช้งานแบตเตอรี่เกิน 3 เดือน จะต้อง
ชาร์จให้เต็มทุก 3 เดือน จากนั้นปล่อย
ประจุให้เหลือ 40 - 60% การไม่ทำตาม
คำแนะนำเช่นนี้อาจทำให้แบตเตอรี่
พลังงาน คายประจุมากเกินไป ลด
ประสิทธิภาพการทำงาน หรือแม้กระทั่ง
สร้างความเสียหายได้ ความเสียหายที่เกิด
จากสิ่งนี้จะไม่ได้อยู่ในการรับประกัน
• แบตเตอรี่อยู่ที่ด้านล่างของรถ ขับรถอย่าง
ระมัดระวังในภูมิประเทศที่ขรุขระ
• หากแบตเตอรี่ได้รับผลกระทบ ขอแนะนำ
ให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต
ของ BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อตรวจสอบ
และซ่อมแซมทันที
การรีไซเคิลแบตเตอรี่
วิธีกำจัด NEV (รถยนต์พลังงานใหม่):
1. นำรถไปที่ผู้ให้บริการรีไซเคิลของ BYD ซึ่งจะ
ประเมินมูลค่าคงเหลือของแบตเตอรี่ ซึ่งอาจ
ไม่มีมูลค่า หรืิอ มีค่าใช้จ่ายในการรีไซเคิล
2. นำรถที่ได้รับการประเมินไปที่องค์กรรีไซเคิล
เพื่อถอดแยกชิ้นส่วนแบตเตอรี่
3. นำแบตเตอรี่ไปให้กับผู้ให้บริการรีไซเคิลซึ่งจะ
ซื้อแบตเตอรี่คืน
คำเตือน
• เจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่มีหน้าที่และ
ภาระผูกพันในการมอบแบตเตอรี่เหลือทิ้ง 05
ให้กับผู้ให้บริการรีไซเคิล ผู้ที่มอบ
การใช้งานและการขับขี่
แบตเตอรี่เหลือใช้ให้กับองค์กรหรือบุคคล
ทั่วไป สำหรับการรื้อหรือถอดประกอบ
โดยไม่ได้รับอนุญาต จนทำให้เกิดมลพิษ
ต่อสิ่งแวดล้อม หรืออุบัติเหตุ จะต้องมี
ส่วนรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น
แบตเตอรี่แรงดันต่ำ (12 โวลต์)
เปิดฝากระโปรงเพื่อค้นหา ขั้วของแบตเตอรี่กรด
ตะกั่ว ทั้ง 2 นั่นคือ ขั้วบวก ("+") และขั้วลบ ("–")
• เพื่อป้องกันแรงดันไฟของแบตเตอรี่ตะกั่วกรด
ต่ำ ฟังค์ชั่น "การชาร์จอัจฉริยะ" จะทำงานโดย
อัตโนมัติเมื่อ: รถยนต์ปิดการทำงาน แบตเตอรี่
ระบบขับเคลื่อนจะจ่ายพลังงานให้ แบตเตอรี่
ตะกั่วกรดต่ำเมื่อปริมาณไฟต่ำว่าค่ากำหนด
• หากแรงดันไฟแบตเตอรี่ต่ำมาก อาจไม่
สามารถเปิดการทำงานรถได้ ในกรณีนี้ ให้
ติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD
• ตรวจสอบแบตเตอรี่ตะกั่วกรด เดือนละครั้ง
รวมทั้งการกัดกร่อนของขั้วต่อ หากขั้วสึก
กร่อน ให้ถอดและเทน้ำโซดาลงไป เมื่อฟอง
อากาศหายไป ให้ล้างน้ำสีน้ำตาลออก แล้วเช็ด
ด้วยผ้าแห้ง ทาจาระบีเพื่อป้องกันการ
กัดกร่อนเพิ่มเติม
• หากขั้วต่อหลวม ให้ขันน็อตแคลมป์ให้แน่น แต่
อย่าขันแน่นเกินไป ขันให้แน่นเพื่อให้แบตเตอรี่
เข้าที่ การขันแน่นเกินไปจะทำให้แบตเตอรี่เสีย
หายได้
105
 หมายเหตุ
• เป็นเรื่องปกติที่เมื่อรถปิดการทำงาน ถ้า
ระบบการชาร์จอัจฉริยะทำงาน จะมีเสียง
คล้ายกับสถานะ OK
• อย่าดำเนินการบำรุงรักษาระหว่างการชาร์จ
แบบอัจฉริยะทำงาน
• เมื่อออกจากรถ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าประตู
ปิดและปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดแล้ว
• หากต้องจอดรถเป็นเวลานาน โปรดถอดสาย
ขั้วลบ (“–") ออก
ข้อควรระวัง !
• เมื่อตรวจสอบแบตเตอรี่ตะกั่วกรด ให้
ถอดสายกราวด์ออกจากขั้วลบ (-) ก่อน
แล้วประกอบกลับเข้าไปเป็นสิ่งสุดท้าย
• เมื่อทำความสะอาดแบตเตอรี่ตะกั่วกรด
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีของเหลวไหล
เข้าไปภายในแบตเตอรี่
คำเตือน
• แบตเตอรี่ตะกั่วกรดมีสารละลายที่มีฤทธิ์
กัดกร่อน เพื่อป้องกันความเสียหายต่อ
แบตเตอรี่หรือการบาดเจ็บ ห้ามถอด
ประกอบหรือซ่อมแซมแบตเตอรี่โดยไม่ได้
รับอนุญาต
106
คำเตือน
• ห้ามถอดประกอบ หรือถอดแบตเตอรี่
ตะกั่วกรด องค์กรหรือบุคคลใดก็ตามที่ทำ
เช่นนั้นจะต้องรับผิดชอบต่อมลภาวะที่
เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมหรืออุบัติเหตุ
• แบตเตอรี่ตะกั่วกรดผลิตก๊าซไฮโดรเจนที่
ระเบิดได้ เมื่อใช้เครื่องมือ อย่าให้ประกาย
ไฟสัมผัสกับแบตเตอรี่ ห้ามสูบบุหรี่หรือใช้
เปลวไฟใกล้กับแบตเตอรี่ตะกั่วกรด
• ป้องกันไม่ให้ของเหลวในแบตเตอรี่สัมผัส
กับดวงตา ผิวหนัง และเสื้อผ้า ในกรณีที่
เกิดขึ้น ให้ใช้น้ำเบกกิ้งโซดาทำความ
สะอาดผิว และใช้น้ำปริมาณมากล้างตา
แล้วไปพบแพทย์ทันที
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับของเหลวใน
แบตเตอรี่
• ดูแลให้เด็กอยู่ห่างจากแบตเตอรี่ตะกั่ว
กรด
สิ่งจำเป็นในการใช้งาน
ช่วงเวลาเริ่มใช้งานรถใหม่
• หากชุดจ่ายไฟสตาร์ทติดยากหรือหยุดวิ่งบ่อย
ให้ตรวจสอบรถทันที
• หากชุดจ่ายไฟมีเสียงผิดปกติ ให้หยุดรถเพื่อ
ทำการตรวจสอบ
• หากชุดจ่ายไฟมีสารทำความเย็นหรือน้ำมันรั่ว
อย่างร้ายแรง ให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบ
• การเริ่มใช้งานรถใหม่ เป็นข้อกำหนดสำหรับรถ
ประกอบใหม่ ในช่วง 2,000 กม. แรกใช้โหมด
ECO ขอแนะนำให้ขับรถด้วยความเร็วคงที่
แทนที่จะขับด้วยความเร็วสูง แนวทางปฏิบัติ
 ต่อไปนี้สามารถยืดอายุการใช้งานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ:
• หลีกเลี่ยงการออกตัวอย่างรุนแรงเมื่อขับขี่
• อย่ารักษาความเร็วสูงหรือต่ำนานเกินไป
• ควรหลีกเลี่ยงการเบรกอย่างรุนแรงภายใน
300 กม. แรก
แนวทางปฏิบัตในการลากจูง
• รถคันนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้โดยสาร ห้าม
ใช้บรรทุกเกินพิกัดหรือใช้ลากจูงรถคันอื่น
• การลากจูงรถคันอื่นจะส่งผลเสียต่อตัวรถ รวม
ทั้งการควบคุม สมรรถนะ การเบรก ความ
ทนทาน การขับขี่อย่างประหยัด หรือการใช้
พลังงาน
• ความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการ
ขับขี่ขึ้นอยู่กับการใช้อุปกรณ์และพฤติกรรม
การขับขี่ที่ดี
• BYD ไม่ได้ให้การรับประกันสำหรับความเสีย
หายหรือความผิดพลาดที่เกิดจากการลากจูง
เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า
ข้อควรระวังเพื่อ
ความปลอดภัยในการขับขี่
ไม่เมาแล้วขับ
แม้แต่แอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อยก็สามารถลด
ความปฏิกิริยาตอบสนองของคนขับในการต่อการ
เปลี่ยนแปลงของสภาพการจราจรได้ ยิ่งระดับ
แอลกอฮอล์สูงเท่าไร คนขับก็จะยิ่งตอบสนองช้า
ลงเท่านั้น ดังนั้นจึงห้ามเมาแล้วขับโดยเด็ดขาด
ไม่ขับเร็ว
การขับรถเร็วเป็นสาเหตุหลักของการชนและการ
บาดเจ็บล้มตาย ยิ่งความเร็วสูงยิ่งอันตรายมากขึ้น
ดังนั้น ให้รักษาความเร็วที่ปลอดภัยตามสภาพการ 05
จราจรบนท้องถนน
การใช้งานและการขับขี่
ดูแลรถให้อยู่ในสภาพการขับขี่ที่ปลอดภัย
ยางระเบิด หรือระบบกลไกขัดข้องเป็นสิ่งที่
อันตรายอย่างยิ่ง ผู้ขับขี่ต้องตรวจสอบสภาพรถ
อย่างสม่ำเสมอ และส่งรถเข้ารับการตรวจสอบ
ตามกำหนดเวลาเพื่อลดความเป็นไปได้ที่จะเกิด
ความเสียหายดังกล่าว
ข้อควรระวัง !
• เฉพาะผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่เท่านั้นที่
สามารถขับรถได้
• อย่าขับรถเมื่อรู้สึกเหนื่อยล้า
• ต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจรตลอดเวลา
• ขณะขับรถผู้ขับขี่ต้องให้ความสนใจในการ
ขับขี่ ไม่จดจ่อกับกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้อง
เช่น การใช้โทรศัพท์หรือการปรับปุ่มต่างๆ
ข้อแนะนำในการใช้รถยนต์
การใช้งานแบตเตอรี่จะมีอายุยืนมากขึ้นเมื่อปฏิบัติ
ตามต่อไปนี้:
• หากรถจะไม่ได้ใช้งานเป็นเวลามากกว่า 7 วัน
ให้รักษาความจุของแบตเตอรี่ไว้ระหว่าง 40%
ถึง 60%
• หากรถจะไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานกว่า 3
เดือน ให้ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มและคายประจุ
ให้เหลือ 40% ถึง 60% ไม่เช่นนั้นแบตเตอรี่
จะคายประจุมากเกินไป ประสิทธิภาพของ
107
 แบตเตอรี่จะตกอยู่ในอันตรายและอาจเกิด
ความเสียหายได้ ความเสียหายดังกล่าวไม่
ครอบคลุมโดยบริการรับประกัน
• เมื่อระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้า แสดงเป็น 0 ที่
หน้าจอแสดงข้อมูลสำหรับผู้ขับขี่แสดงว่า
SOC ต่ำ ในกรณีนี้ จะต้องชาร์จแบตเตอรี่ทันที
เพื่อป้องกันการขับขี่เป็นเวลานานด้วย
แบตเตอรี่ SOC ต่ำ
• เพื่อรักษาสภาพแบตเตอรี่ที่เหมาะสม ควร
ชาร์จด้วยอุปกรณ์ AC ให้เต็มอย่างสม่ำเสมอ
(อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง)
• เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในระยะยาว อย่าให้รถ
สัมผัสกับอุณหภูมิที่สูงเกินไป (สูงกว่า 60°C
หรือต่ำกว่า –30°C) นานกว่า 24 ชั่วโมง
• เมื่อมีรอบยุบหรือรอยขีดข่วนบนพื้นผิวด้าน
ล่างของก้อนแบตเตอรี่ ให้ไปที่ตัวแทน
จำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ BYD หรือผู้ให้
บริการเพื่อทำการแก้ไขปัญหา
• เมื่อรถกำลังเดินทาง อย่าเร่งและชะลอ
ความเร็วด้วยความรวดเร็วอย่างซ้ำๆ
• เมื่อรถกำลังเดินทาง อย่าให้รถวิ่งเป็นเวลานาน
เพราะอาจทำให้อุณหภูมิแบตเตอรี่สูงเกินไป
และสมรรถนะของรถลดลง
• เมื่อรถกำลังเดินทาง หากสัญญาณไฟแสดง
ความผิดปกติติด ให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายที่ได้
รับอนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อ
ทำการแก้ไขปัญหา
• เมื่ออุณหภูมิแบตเตอรี่สูงมาก ประสิทธิภาพ
ของรถจะลดลง ในกรณีนี้ให้จอดรถ จนกว่า
อุณหภูมิแบตเตอรี่จะลดลง
108
หมายเหตุ
• หากระยะทางวิ่งได้แสดงเหลือ 0 จะต้อง
ชาร์จแบตเตอรี่ทันที หากไม่ชาร์จไฟภายใน
7 วัน แบตเตอรี่อาจได้รับความเสียหายถาวร
ความเสียหายดังกล่าวไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไข
การรับประกันของบีวายดี
• ระยะการขับขี่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ
เช่น กำลังรถที่ใช้ได้ อายุรถ (อายุแบตเตอรี่
ในปัจจุบัน) สภาพอากาศ อุณหภูมิ สภาพ
ถนน และพฤติกรรมการขับขี่ เมื่อเทียบกับ
ภายใต้อุณหภูมิปกติ ระยะการขับขี่ด้วย
ไฟฟ้าจะลดลงบ้างและสมรรถนะด้านกำลังก็
จะได้รับผลกระทบในสภาพแวดล้อมที่มี
อุณหภูมิต่ำหรือสูงเช่นกัน
วิธีประหยัดพลังงาน
และยืดอายุการใช้งานรถยนต์
• การประหยัดพลังงานทำได้ง่าย และจะช่วยยืด
อายุการใช้งานของรถไปด้วย
• เคล็ดลับการประหยัดพลังงานและค่าซ่อม:
1. การตั้งค่าเบรกพร้อมการสร้างกระแส
ไฟฟ้า:
• รถรุ่นนี้สามารถรีไซเคิลพลังงานได้ พลังงาน
จากการเบรกแบบหมุนเวียนซึ่งสามารถตั้งค่า
ได้โดยใช้ปุ่มหน้าจอระบบสาระบันเทิง เมื่อตั้ง
ค่าการเบรกพร้อมการสร้างกระแสไฟฟ้าเป็น
ระดับ High การดึงพลังงานกลับคืนจะเพิ่มขึ้น
เมื่อเบรกและเมื่อรถไหล ตั้งค่าคุณสมบัตินี้ตาม
พฤติกรรมการขับขี่ที่เหมาะสม
2. รักษาความเร็วคงที่:
• ความเร็วคงที่ช่วยประหยัดพลังงาน การเร่ง
ความเร็วกะทันหัน การเลี้ยวที่หักศอก และ
การเบรกฉุกเฉินจะเพิ่มอัตราการสิ้นเปลือง
• ควรรักษาความเร็วให้คงที่ตามสภาพการ
จราจร ทุกครั้งที่เร่งความเร็วจะใช้พลังงานเพิ่ม
มากขึ้น
• การเร่งความเร็วควรค่อยเป็นค่อยไป หลีกเลี่ยง
การเร่งความเร็วหรือลดความเร็วอย่าง
กะทันหัน
• ป้องกันการเบรกฉุกเฉินและการสึกหรอของ
เบรกที่ตามมา โดยการรักษาระยะห่างที่เหมาะ
สมจากรถคันข้างหน้า และให้ความสนใจกับ
สัญญาณไฟจราจร
• ถนนที่การจราจรคับคั่งเพิ่มการใช้พลังงาน
• รักษาความเร็วปานกลางบนทางหลวง ยิ่งใช้
ความเร็วสูงขึ้นการใช้พลังงานยิ่งสูงขึ้น
3. ลดภาระ:
• การใช้พลังงานจะสูงขึ้นเมื่อใช้เครื่องปรับ
อากาศ เมื่ออุณหภูมิภายนอกเย็น การใช้
อากาศหมุนเวียนแทนเครื่องปรับอากาศจะ
ช่วยลดการใช้พลังงานลง
• อย่าใช้รถบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดโดยไม่จำเป็น
4. เคล็ดลับอื่นๆ:
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแรงดันลมยางถูกต้อง แรง
ดันลมยางต่ำจะเพิ่มการใช้พลังงานและการ
สึกหรอ
• ตั้งศูนย์ล้อหน้าให้อยู่ในค่ามาตรฐาน หลีกเลี่ยง
การขับเข้าไปในขอบถนน และขับช้าๆ ใน
ภูมิประเทศที่ขรุขระ
• รักษาส่วนล่างของรถให้สะอาดปราศจากโคลน
หมายเหตุ
• ห้ามปล่อยรถไหลโดยใช้เกียร์ว่าง
05
การบรรทุกสัมภาระ
การใช้งานและการขับขี่
• รถคันนี้มีพื้นที่เก็บของหลายช่อง การบรรทุก
น้ำหนักเกินหรือการจัดวางที่ไม่เหมาะสมอาจ
ส่งผลต่อการควบคุม ความมั่นคง และความ
ปลอดภัย
• ใช้ลิ้นชักเก็บของด้านหน้า ช่องใส่ของในแผง
ประตู และกระเป๋าหลังพนักพิงเพื่อวางสิ่งของ
ชิ้นเล็กๆ สิ่งของชิ้นใหญ่ต้องวางไว้ในท้ายรถ
• สามารถบรรทุกสิ่งของขนาดยาวได้โดยการพับ
พนักพิงเบาะหลัง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้วาง
สัมภาระอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบต่อ
การควบคุมรถ ความเสถียร และความ
ปลอดภัย
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำหนักบรรทุกรวมของ
รถ (รถยนต์+ ผู้โดยสาร + กระเป๋าเดินทาง)
ไม่เกินน้ำหนักสูงสุดที่กำหนดไว้
คำเตือน
• การบรรทุกเกินพิกัด และจัดวางที่ีไม่
เหมาะสมอาจส่งผลต่อเสถียรภาพและ
การควบคุมรถ ซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้
• ปฏิบัติตามขีดจำกัดน้ำหนักสูงสุดและ
แนวทางการโหลดอื่นๆ ในคู่มือนี้
• อย่านำสิ่งของที่มีแม่เหล็กแรงสูงไปกับรถ
เพราะอาจรบกวนการทำงานของรถ
109
การบรรทุกสัมภาระในบริเวณ • สำหรับสายรัดสัมภาระ โปรดติดต่อตัวแทน
ที่นั่งผู้โดยสาร จำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ BYD หรือผู้ให้
บริการ
• สิ่งของที่อาจกระแทกผู้โดยสารได้ ในกรณีที่
เกิดการชนต้องวางและยึดให้ปลอดภัย ข้อควรระวังในการขับลุยน้ำ
• ห้ามวางสิ่งของใดๆ ไว้เหนือแนวพนักพิงของ • ตรวจสอบความลึกของน้ำ - ต้องไม่เกินขอบ
เบาะนั่งด้านหลัง เพื่อรักษาทัศนวิสัยด้านคน ล่างของรถ - ก่อนขับเข้าไปในพื้นที่น้ำท่วม
ขับให้ชัดเจน และป้องกันไม่ให้สิ่งของกระเด็น • หากจำเป็นต้องขับรถข้ามพื้นที่น้ำท่วม ให้ปิด
ไปมาในกรณีที่เกิดการชน เครื่องปรับอากาศ และควบคุมความเร็วให้
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสิ่งของต่างๆ ไม่กลิ้งอยู่ใต้ คงที่ ขับรถผ่านน้ำท่วมไปอย่างช้าๆ
เบาะคนขับและขัดขวางคันเร่ง หรือส่งผลต่อ
การปรับเบาะนั่ง ห้ามบรรทุกสิ่งของที่สูงกว่า
พนักพิงที่นั่งด้านหน้า
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปิดช่องเก็บของหน้ารถ
เสมอขณะขับรถ มีความเสี่ยงที่จะได้รับบาด
เจ็บสาหัสที่หัวเข่าของผู้โดยสารในกรณีที่เกิด
การชนกันหากเปิดอยู่

หมายเหตุ • ห้ามหยุดรถ ถอยหลัง หรือปิดการใช้งานรถใน

• ระวังของเล่นของเด็กในห้องโดยสาร เพราะ
อาจทำให้เกิดอันตรายได้ในกรณีที่เบรก
ฉุกเฉินหรือเกิดอุบัติเหตุ
สัมภาระท้ายรถ
• วางสัมภาระไว้ที่ท้ายรถให้กระจาย อย่าง
สม่ำเสมอ วางของที่หนักกว่าไว้ที่ด้านล่างและ
ลึกที่สุด
• ยึดสิ่งของด้วยเชือกหรือสายรัดเพื่อไม่ให้
เคลื่อนที่ขณะขับรถ ห้ามวางสิ่งของพิงพนักพิง
เบาะหลัง
พื้นที่น้ำท่วม
• หลังจากขับพ้นน้ำท่วมแล้ว ให้เหยียบแป้น
เบรกหลายๆ ครั้งเพื่อทำให้จานเบรกแห้งและ
ฟื้นฟูประสิทธิภาพการเบรก
คำเตือน
• การมี น้ำ โคลน หรือตะกอนในชุดจาน
เบรกอาจทำให้การตอบสนองของเบรก
ล่าช้าและระยะเบรกที่ไกลขึ้น ขับรถอย่าง
ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเบรกฉุกเฉิน
หลังจากข้ามพื้นที่น้ำท่วม

110
 คำเตือน
• มอเตอร์จะได้รับความเสียหายอย่างร้าย
แรงหากจมอยู่ใต้น้ำเมื่อข้ามพื้นที่น้ำท่วม
ความเสียหายดังกล่าวไม่อยู่ในการรับ
ประกันของรถ
• ระบบอื่นๆ เช่น ระบบส่งกำลัง การขับขี่
และระบบไฟฟ้า อาจได้รับความเสียหาย
อย่างร้ายแรงเมื่อจมน้ำ ความเสียหายดัง
กล่าวไม่ครอบคลุมอยู่ในการรับประกัน
ของรถด้วยเช่นกัน
ผลกระทบของน้ำท่วมขัง
ต่อชิ้นส่วนไฟฟ้าแรงสูง:
• หากน้ำเข้าสู่ระบบไฟฟ้าแรงสูง จะไม่สามารถ
ทำให้น้ำแห้งสนิทไม่ว่าด้วยวิธีใด
• ความปลอดภัยและประสิทธิภาพการทำงาน
ของรถยนต์จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
หากชิ้นส่วนไฟฟ้าแรงสูงมีน้ำขัง เนื่องจาก
ฉนวนถูกทำลายอย่างร้ายแรง และความเสี่ยง
ที่จะเกิดการลัดวงจรเพิ่มขึ้นอย่างมาก
• ชิ้นส่วนไฟฟ้าแรงสูงที่มีน้ำขังมีความเสี่ยงด้าน
ความปลอดภัยสูงมาก เนื่องจากการป้องกันที่
ลดลงและความสามารถในการทนต่อแรงดัน
ไฟฟ้า
• อย่าลืมหาที่กำบังเมื่อชาร์จรถในสภาพอากาศ
ที่ฝนตก หลังจากขับรถผ่านพื้นที่น้ำท่วม โปรด
ติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ
BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อแก้ไขปัญหาและ
ดำเนินการ ห้ามขับรถในพื้นที่น้ำท่วมที่มีน้ำลึก
เกินครึ่งความสูงของยาง
การป้องกันอัคคีภัย
เพื่อป้องกันไฟไหม้รถได้อย่างเหมาะสมและมี
ประสิทธิภาพ ให้ความสนใจกับสิ่งต่อไปนี้:
05
• ห้ามทิ้งวัตถุไวไฟหรือสิ่งของที่พร้อมจะระเบิด
การใช้งานและการขับขี่
ไว้ในรถ
• อุณหภูมิอาจสูงถึง 60 ถึง 70 องศา ในรถที่
จอดโดนแสงแดดโดยตรงในฤดูร้อน. ห้าม
ทิ้งสิ่งของที่ติดไฟหรือระเบิดได้ เช่น ไฟแช็ค
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือน้ำหอมไว้ใน
รถ
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ดับบุหรี่อย่างดี
• ไปที่ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ BYD
หรือผู้ให้บริการเพื่อตรวจสอบรถเป็นประจำ
• ต้องตรวจสอบสายไฟ การเชื่อมต่อ สายรัด
และฉนวนของรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ หาก
พบปัญหาใด ๆ จะต้องได้รับการจัดการ
อย่างทันท่วงที
• ห้ามดัดแปลงสายไฟรถยนต์หรือเพิ่มอุปกรณ์
ไฟฟ้าที่ไม่ได้รับอนุญาต
• การเพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติม (เช่น ลำโพง
หลอดไฟ พัดลม ฯลฯ) อาจโอเวอร์โหลด
สายไฟและทำให้สายไฟร้อนเกินไป เพิ่ม
ความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้ได้
• การดัดแปลงอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือสายไฟอย่าง
ไม่เหมาะสมอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด
ไฟไหม้เนื่องจากความต้านทานและความ
ร้อนผิดปกติ ห้ามใช้ฟิวส์ที่เกินข้อกำหนด
ของอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือสิ่งอื่นๆแทนฟิวส์
• หลีกเลี่ยงการให้รถโดนแสงแดดโดยตรงเป็น
เวลานานขณะจอดรถ
111
• เรียนรู้วิธีใช้ถังดับเพลิงของรถยนต์หากคุณซื้อ
หมายเหตุ
ไว้
• เพื่อบรรเทาความสูญเสียในกรณีที่เกิด
• ตรวจสอบถังดับเพลิงอย่างสม่ำเสมอและ
เปลี่ยนใหม่ตามวันหมดอายุ อุบัติเหตุ ขอแนะนำให้ซื้อประกันวินาศภัย
(การสูญเสียจากอัคคีภัย การโจรกรรม ฯลฯ)
• เมื่อรถกำลังได้รับการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษา
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ถอดขั้วลบ ของ
แบตเตอรี่ 12 โวต์ออกแล้ว
• ในกรณีเกิดเพลิงไหม้ ให้ตั้งสติและปฏิบัติตาม
ขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อดับไฟ
• ให้ความสนใจกับสัญญาณไฟเริ่มต้น เช่น
กลิ่นหรือเสียงผิดปกติ หากพบสิ่งผิดปกติให้
หยุดรถทันที ตรวจหาไฟ และใช้ถังดับเพลิง
หากจำเป็น
• โทรศัพท์ (หมายเลขฉุกเฉิน) เพื่อแจ้งเจ้า
หน้าที่และบริษัทประกัน
• มองหาจุดติดไฟ หากห้องโดยสารมีควัน
ห้ามเปิดฝากระโปรงหน้าทันที (จะทำให้มี
อากาศเข้าไปจำนวนมากและทำให้เกิดเพลิง
ไหม้ได้ การมีอากาศที่จำกัดในห้องเครื่อง
ด้วยการปิดฝากระโปรงหน้ารถจะสามารถ
ควบคุมไฟได้ง่ายขึ้น). ฉีดน้ำยาดับดับเพลิง
ไปที่ต้นกำเนิดไฟ จากช่องว่างของกระโปรง
หน้ารถเพื่อดับไฟ หรือขอความช่วยเหลือ
จากรถที่วิ่งผ่าน ถ้ายืมถังดับเพลิงเพิ่มได้ ให้
เปิดฝากระโปรงหน้าออกเมื่อมองไม่เห็น
เปลวไฟจากภายนอก
• หากหน่วยดับเพลิงเข้าควบคุมเพลิง ขอ
ใบรับรองการปฏิบัติงานและคำอธิบาย
สาเหตุไฟไหม้

112

การสตาร์ทและ
การขับขี่
การสตาร์ทรถ
ในกรณีปกติให้สตาร์ทรถดังนี:้
• เหยียบเบรกจอดรถให้แน่น
• เปลี่ยนคันเกียร์ไปที่ P หรือ N
• พกสมาร์ทคีย์ที่ถูกต้อง
• กดปุ่ม START / STOP (2) ขณะเหยียบแป้น
เบรก (1)
• เมื่อไฟแสดง "OK" สว่างขึ้นบนหน้าจอแสดง
ผลสำหรับคนขับ แสดงว่ารถเปิดใช้งาน
รถไม่สามารถเปิดได้เมื่อ:
• ไฟเตือนสมาร์ทคีย์สว่างขึ้นและมีข้อความ "No
key detected" บนจอแสดงผลสำหรับคนขับ
หมายความว่ากุญแจไม่อยู่ในระยะหรือตรวจ
ไม่พบ
• กุญแจอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมสำหรับการ
ตรวจจับ เช่น บนพื้น ในที่วางแก้ว ท้ายรถ
ฯลฯ
การสตาร์ทรถในกรณีฉุกเฉิน:
• ต้องใส่เบรกจอดรถ
• ปิดไฟและอุปกรณ์เสริมทั้งหมด
• สมาร์ทคีย์อิเล็กทรอนิกส์อยู่ในรถ
• กดปุ่ม START/STOP บนสมาร์ทคีย์ค้างไว้
นานกว่า 15 วินาที 05
การใช้งานและการขับขี่
ข้อควรระวัง !
• ห้ามกดปุ่ม START/STOP ขณะขับรถ
ฟังค์ชั่นการสตาร์ทรถจากระยะไกล
ก่อนสตาร์ทรถ:
1. รถอยู่ในโหมดปิดการใช้งาน
2. คันเกียร์อยู่ที่ "P"
3. ความเร็วรถต่ำกว่า 5 กม./ชม.
กุญแจอัจฉริยะอิเล็กทรอนิกส์
"ฟังค์ชั่นสตาร์ทจากระยะไกล"
1. กดปุ่ม "Remote Start/Stop" บนสมาร์ทคีย์
อิเล็กทรอนิกส์ค้างไว้ 2 วินาทีเพื่อสตาร์ทรถ
หลังจากสตาร์ทแล้ว ไฟเลี้ยวจะกะพริบสาม
ครั้ง
2. หากไม่มีการใดๆภายใน 10 วินาทีหลังจาก
การสตาร์ทจากระยะไกล รถจะปิดการทำงาน
โดยอัตโนมัติและไฟเลี้ยวจะกะพริบสองครั้ง
3. กดปุ่ม "Remote Start/Stop" บนสมาร์ทคีย์
อิเล็กทรอนิกส์ค้างไว้ 2 วินาทีเพื่อปิดเครื่อง
ไฟเลี้ยวจะกะพริบสองครั้ง
113

การขับขี่
ตรวจเช็คความปลอดภัยก่อนขับขี่
ดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยก่อนขับรถ
ทางไกล สามารถนำรถไปที่ตัวแทนจำหน่ายที่ได้
รับอนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อตรวจ
สอบได้
ภายนอก
• ตรวจสอบแรงดันลมยาง และความเสียหาย
หรือความผิดปกติของยางรถยนต์
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าน็อตล้อแน่น
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟหน้าและไฟอื่นๆ
ทั้งหมดทำงานได้ตามปกติ
ภายใน
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเข็มขัดนิรภัยทั้งหมด
สามารถคาดได้ และปราศจากความเสียหาย
ใดๆ
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟแสดงการบำรุงรักษา
ไฟส่องอุปกรณ์ และตัวไล่ฝ้าทำงานตามปกติ
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับ
แป้นเบรกทำงานได้
114
ในห้องเครื่อง
• ตรวจสอบขั้วต่อแบตเตอรี่ว่ามีการสึกกร่อน
หรือคลายตัว และรอยร้าวที่แบตเตอรี่หรือไม่
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีฟิวส์หลายขนาดสำรอง
เพียงพอ
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระดับน้ำหล่อเย็นเป็น
ปกติ
ตรวจสอบหลังจากสตาร์ทรถ
• ตรวจบนหน้าจอแสดงผลสำหรับคนขับ ว่ามี
สัญลักษณ์แจ้งเตือนการบำรุงรักษาหรือไม่
และมาตรวัดความเร็วทำงานเป็นปกติ
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถรักษาทิศทางตรงเมื่อ
เหยียบเบรก
• ตรวจสอบเสียงที่ผิดปกติ
การเตรียมตัวก่อนขับรถ
• ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนขึ้นรถ
• ปรับตำแหน่งเบาะนั่ง มุมพนักพิง ความสูงของ
พนักพิงศีรษะ และมุมและความสูงของพวง
มาลัย
• ปรับกระจกมองหลังและกระจกมองข้าง
• ปิดประตูทุกบาน
• รัดเข็มขัดนิรภัย
การควบคุมการเปลี่ยนเกียร์
• ตำแหน่งเกียร์จะเป็นไปตามเครื่องหมายบนคัน
เกียร์ตามที่แสดงในภาพ
• กดปุ่ม P เมื่อต้องการเข้าเกียร์จอด เลื่อนไปที่
ตำแหน่งนี้เมื่อเปิดหรือปิดการทำงานของรถ
• กดแป้นเบรกและปุ่มปลดล็อคเพื่อเปลี่ยนเกียร์
ข้อควรระวัง !
• ต้องกดปุ่มเกียร์ P หลังจากที่รถจอดสนิท
แล้วเท่านั้น
• เกียร์ถอยหลัง R สามารถใช้ได้หลังจากรถหยุด
เท่านั้น
• ต้องเปลี่ยนเป็น P เมื่อใดก็ตามที่ออกจากยาน
พาหนะ
• เปลี่ยนเป็น D สำหรับการขับขี่ปกติ
• ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น D ตรวจสอบให้แน่ใจว่า
สถานะของรถอยู่ที่ OK
• กดแป้นเบรกพร้อมปุ่มปลดล็อคเมื่อเข้าเกียร์ P
หรือ D สำหรับรายละเอียดโปรดดูข้อความบน
หน้าจอแสดงผลสำหรับคนขับ
• คันโยกเกียร์จะกลับสู่ตำแหน่งตรงกลางหลัง
จากปล่อย
คำเตือน
• ระบบส่งกำลังอาจเสียหายอย่างร้ายแรง
เนื่องจากขาดการหล่อลื่น หากรถ 05
เคลื่อนที่ได้นานเกินไปหลังจากรถปิด
การใช้งานและการขับขี่
ระบบการทำงานและเข้าเกียร์ N
• เมื่อรถเปิดการทำงานและเข้าเกียร์ R
หรือ D อย่าลืมเหยียบแป้นเบรกไว้ มิ
ฉะนั้น รถจะเคลื่อนที่
• หากเกียร์เปลี่ยนตำแหน่งขณะขับรถเดิน
ไปข้างหน้า ห้ามเหยียบคันเร่ง
• ขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ ห้ามเปลี่ยนเกียร์
ไปที่ตำแหน่ง R หรือกดปุ่ม P
• ไม่แนะนำให้ขับลงทางลาดชันด้วยเกียร์ N
หรือ P แม้ว่ามอเตอร์จะไม่ทำงาน
• เพื่อป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนที่โดยไม่ได้
ตั้งใจ ให้กดเบรกจอดรถแล้วกดปุ่ม P
หลังจากที่รถหยุด
เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
เบรกมือไฟฟ้า EPB
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่า EPB ทำงานเมื่อจอดรถ
และออกจากรถ
115
เปิดการทำงาน EPB ด้วยตนเอง
• ดึงสวิตช์ EPB ขึ้น และ EPB จะใช้แรงจอดรถ
ที่เหมาะสม ไฟ แสดงบนหน้าจอแสดงผล
สำหรับคนขับ จะกะพริบและติดค้าง แสดงว่า
EPB ทำงานอยู่ นอกจากนี้ ข้อความแจ้ง EPB
activated จะปรากฏขึ้น
ข้อควรระวัง !
• เมื่อไฟแสดงสถานะกะพริบ แสดงว่า
EPB กำลังทำงาน หากรถอยู่บนทางลาด
ชัน ห้ามปล่อยแป้นเบรกเหยียบเบรกไว้
จนกว่าไฟ เตืิอนจะติดสว่าง มิฉะนั้น
รถอาจเคลื่อนที่ลงได้
การเปิดการทำงาน EPB อัตโนมัติ
EPB ทำงานโดยอัตโนมัติ
• เมื่อปิดการทำงานของรถ EPB จะทำงานโดย
อัตโนมัติและไฟ แสดง จะสว่างขึ้นบนหน้า
จอแสดงผลสำหรับคนขับ
ทำงานอัตโนมัติเมื่อเปลี่ยนเป็นเกียร์ P
• EPB จะทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อรถหยุดและ
เข้าเกียร์ P อย่าปล่อยแป้นเบรกจนกว่าไฟ
แสดงบนหน้าจอแสดงผลสำหรับคนขับจะหยุด
กะพริบและข้อความ EPB engaged ปรากฏ
ขึ้น
ข้อควรระวัง !
• หากกดสวิตช์ EPB พร้อมปิดการทำงาน
ของรถ EPB จะไม่ปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติ
การดำเนินการนี้ใช้สำหรับการจำเป็น
ต้องการลากจูงหรือผลักรถในกรณีที่รถ
เสียเท่านั้น
116
ข้อควรระวัง !
• ในระหว่างขั้นตอนนี้ ไม่ควรปล่อยแป้น
เบรกล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรถ
จอดอยู่บนทางลาดชัน เนื่องจากมีความ
เสี่ยงที่รถจะเคลื่อนตัวลงได้
• คุณลักษณะนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยกเลิก
ระบบความปลอดภัยอัตโนมัติของรถ
แนะนำให้ใช้งานเมื่อรถเสียและมีความ
จำเป็นต้องลากจูงเท่านั้น เพื่อความ
ปลอดภัย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตั้งค่า
รถไว้ที่ตำแหน่งเกียร์ P และสวิตช์ EPB
ถูกดึงขึ้นก่อนลงจากรถ
• ในไม่กี่วินาทีแรกหลังจากสตาร์ทรถ
ระบบ EPB จะอยู่ในขั้นตอนการทดสอบ
ตัวเองเมื่อเปิดการทำงาน ซึ่งในระหว่าง
นั้นจะไม่ตอบสนองต่อการทำงานทั้งหมด
การปลด EPB ด้วยตนเอง
• เมื่อสถานะรถอยู่ที่ OK หรือรถสตาร์ทและคัน
เกียร์ไม่อยู่ที่ P ให้กดแป้นเบรกค้างไว้แล้วกด
สวิตช์ EPB จนกว่าไฟแสดงบนหน้าจอแสดง
ผลสำหรับคนขับจะดับ ซึ่งแสดงว่า EPB ถูก
ปลดแล้ว และจะมีข้อความ EPB Released
ข้อควรระวัง !
• เกียร์ P คือเกียร์จอดรถ หมายความว่ารถ
อยู่ใน สถานะการจอดรถที่มั่นคง ในขณะ
ที่ EPB เป็นอุปกรณ์จอดรถ เพื่อความ
ปลอดภัยในการจอดรถ ให้ปลด EPB
ด้วยสวิตช์ EPB เฉพาะเมื่อรถไม่อยู่ใน
เกียร์ P (เกียร์จอด)
EPB ปลดอัตโนมัติเมื่อสตาร์ทรถ
• เมื่อรถเปิดการทำงาน เหยียบแป้นเบรกค้างไว้
และเปลี่ยนเกียร์เป็น D หรือ R EPB จะปลด
การทำงานโดยอัตโนมัติ ไฟแสดงสถานะดับลง
และข้อความ EPB release จะปรากฏขึ้น
ข้อควรระวัง !
• ต้องเหยียบแป้นเบรกเสมอเมื่อเปลี่ยน
เกียร์ ปล่อยแป้นเบรกหลังจากเกียร์ที่
ต้องการแสดงบนหน้าจอแสดงผลสำหรับ
คนขับเท่านั้น
เมื่อรถอยู่ในสถานะจอดรถ แล้วสตาร์ทรถ กด
แป้นเบรกค้างไว้ เปลี่ยนจากเกียร์ P หรือ N เป็น
D, R หรือเกียร์ขับอื่นๆ EPB จะปลดโดยอัตโนมัติ
ด้วยไฟ แสดงสถานะดับลง และข้อความ EPB
Released
คำเตือน
• เมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ ให้งดเว้นจากการ
ใช้งานบังคับเบรก EPB หรือฟังค์ชั่นเบรก
ฉุกเฉิน ให้ใช้ในเฉพาะกรณีฉุกเฉินที่
จำเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น เช่น เมื่อแป้นเบรก
ไม่ทำงานหรือแป้นเบรกถูกกีดขวาง
• เนื่องจาก EPB ไม่สามารถปรับน้ำหนัก
เบรกได้ตามขีดจำกัดทางกายภาพของ
การยึดเกาะถนน หากฟังค์ชั่นเบรกฉุกเฉิน
ใช้ในทางโค้งอันตราย หรือถนนคับคั่ง
หรือในสภาพอากาศเลวร้าย รถอาจลื่น
ไถล ควบคุมทิศทางไม่ได้
ฟังค์ชั่นการทำงานล้มเหลว
• หากการปลด EPB ด้วยตนเองล้มเหลว ให้กด
สวิตช์ค้างนานกว่า 2 วินาที หาก EPB ปลด
การทำงาน ให้ขับรถไปที่ร้านซ่อมที่ใกล้ที่สุด 05
เพื่อตรวจสอบสัญญาณสวิตช์แป้นเบรก ชิ้น
การใช้งานและการขับขี่
ส่วนและสายที่เกี่ยวข้อง ถ้าปลด EPS ไม่ได้
ติดต่อ ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการ BYD
ที่ได้รับอนุญาตทันที
• เมื่อรถกำลังวิ่ง ระบบ ESC ทำงานได้ตามปกติ
ถ้าเบรกติดขัดหรือล้มเหลว ให้ใช้ CDP
(Controller Deceleration Parking) ในการ
เบรก หากดึงสวิตช์ EPB ขึ้น การเบรกจะมีแรง
แบรก 0.4 g และหากดึงสวิตช์ EPB ขึ้นพร้อม
เหยียบแป้นเบรก จะมีแรงแบรก 0.8 g. หลีก
เลี่ยงการใช้ EPB ในการบังคับเบรก ให้เปิดใช้
งานฟังค์ชั่นเบรกฉุกเฉินเฉพาะในกรณีฉุกเฉิน
เท่านั้น เช่น แป้นเบรกขัดข้องหรือแป้นเบรก
ค้าง
ตัวไฟแสดงสถานะระบบ EPB
• เมื่อรถเปิดการทำงาน หากดึง EPB ขึ้น ไฟ
แสดงสถานะบนหน้าจอแสดงผลสำหรับ
คนขับจะติดอยู่เสมอ
• เมื่อรถปิดการทำงาน หากดึง EPB ขึ้น ไฟ
แสดงสถานะบนหน้าจอแสดงผลสำหรับคนขับ
จะดับลงหลังจากผ่านไปประมาณ 3 วินาที
• เมื่อรถเปิดการทำงาน ระบบ EPB จะเริ่มตรวจ
สอบตัวเอง ไฟ แสดงสถานะจะปิดหลังจาก
นั้นประมาณ 3 วินาที หากไม่ดับแสดงว่า EPB
หรือระบบเบรกอาจผิดปกติ ในกรณีนี้ ให้
ติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD ทันที
117
เสียงการทำงานของ EPB
• เมื่อดึงหรือปล่อยสวิตช์ EPB จะได้ยินเสียงของ
มอเตอร์ EPB
• หลังจากเปิดใช้งานฟังค์ชั่นเบรกฉุกเฉิน หากมี
กลิ่นไหม้หรือได้ยินเสียงผิดปกติ โปรดติดต่อ
ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ BYD หรือ
ผู้ให้บริการทันที

คำเตือน
• เพื่อป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนที่ ไม่ควรใช้
เพียงเกียร์ P แทนการใช้ EPB เมื่อจอดรถ
จำเป็นต้องใช้ EPB และรถต้องอยู่ในเกียร์
P เงื่อนไขสำหรับการสแตนด์บาย AVH และ
• ต้องไม่ใช้งานสวิตช์ EPB เมื่อรถเคลื่อนที่
• เมื่อดึงหรือปลดสวิตช์ EPB จะต้องเหยียบ
แป้นเบรกเพื่อป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนที่
แล้วจึงเปลี่ยนเกียร์เพื่อล็อคการเครื่องที่
ตามมาในภายหลัง หาก EPB ไม่สามารถ
ให้แรงในการจอดได้เพียงพอ
เบรกอัตโนมัติเมื่อรถจอดอยู่กับที่
(AVH)
Automatic Vehicle Hold (AVH) เกิดขึ้นเมื่อรถ
จอดนิ่งเป็นเวลานาน เช่น ในการจราจรติดขัด
ทางลาดหรือรอสัญญาณไฟจราจร ฟังค์ชั่น AVH
จะเปิดใช้งานเมื่อเหยียบแป้นเบรกเพื่อหยุดรถ
• กดสวิตช์ AVH เพื่อเปิดใช้งาน AVH ไฟแสดง
สถานะสีขาวสำหรับการสแตนด์บาย AVH จะ
แสดงบนหน้าจอแสดงผลสำหรับคนขับและจะ
เปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อ AVH ทำงานอยู่
• กดสวิตช์ AVH อีกครั้งเพื่อปิดใช้งาน AVH
118
ข้อควรระวัง !
• เมื่อเหยียบคันเร่ง, เปลี่ยนเป็นเกียร์ P
หรือดึงสวิตช์ EPB ขึ้น โหมด AVH จะถูก
ปิดการใช้งาน และรถจะกลับสู่สถานะ
AVH สแตนด์บาย หากไม่เป็นไปตาม
ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการสแตนด์บาย
สำหรับจอดรถอัตโนมัติ สถานะ AVH จะ
ถูกปิดใช้งานไปด้วย
เงื่อนไขสำหรับสแตนด์บาย
AVH ทั้งหมดต้องเป็นไปตาม
• AVH เปิดอยู่และไฟแสดงสถานะสแตนด์บาย
AVH สีขาวจะแสดงบนหน้าจอแสดงผลสำหรับ
ผู้ขับขี่
• คาดเข็มขัดนิรภัยและปิดประตู
• มอเตอร์ขับเคลื่อนเริ่มทำงานหรือสถานะการ
ทำงานของรถอยู่ที่ "OK"
• ระบบเบรกอัจฉริยะ และระบบเบรกมือไฟฟ้า
(EPB) ทำงานเป็นปกติ
 ข้อควรระวัง !
• เมื่อเปิดเครื่อง ฟังค์ชั่นเบรกเมื่อจอดอยู่
กับที่ (AVH) จะถูกปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น
เมื่อเข้าสู่โหมดสแตนด์บาย หน้าจอแสดง
ผลสำหรับคนขับจะแสดงไฟแสดงสถานะ
สแตนด์บาย AVH สีขาว
เงื่อนไขการทำงาน AVH
ทั้งหมดต้องเป็นไปตาม
• ฟังค์ชั่น AVH พร้อม (ไฟขึ้นสีขาว)
• ในเกียร์ D หรือ R เหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ
• ฟังค์ชั่น AVH เปิดอยู่ ไฟเบรกจะติด และไฟ
แสดงสถานะ AVH จะเป็นสีเขียว
• ฟังค์ชั่น AVH จะเข้าสู่โหมดสแตนด์บายหลัง
จากทำงานเป็นเวลา 10 นาที โดยสวิตช์
EPB จะเปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
ข้อควรระวัง !
• หากต้องการเปิดใช้งาน AVH ต้องเป็นไป
ตามเงื่อนไขของฟังค์ชั่นจอดรถอัตโนมัติ
พร้อมกัน
• เมื่อเปลี่ยนเกียร์จาก D เป็น R รถจะเข้าสู่
โหมดเคลื่อนที่ และฟังค์ชั่น AVH จะไม่
ทำงาน เมื่อกดปุ่ม AVH หรือหลังจาก
ความเร็วเกิน 10 กม./ชม. ระบบจะออก
จากโหมดเคลื่อนที่
เงื่อนไขการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำ
• เมื่อเปลี่ยนเกียร์เป็น "R" ระบบจะเข้าสู่โหมด
เคลื่อนที่ และ AVH จะเข้าสู่โหมดเคลื่อนที่
05
ด้วยความเร็วต่ำ เมื่อรถถอยหลังด้วยความเร็ว
การใช้งานและการขับขี่
ต่ำ หรือเปลี่ยนเกียร์เป็น "R" หรือ "D" ระบบ
AVH จะถูกยกเลิกทำให้การขับเคลื่อนที่ของรถ
ดีขึ้น
• หลังจากเคลื่อนรถแล้ว ให้กดสวิตช์ AVH เพื่อ
ออกจากโหมดเคลื่อนที่ ซึ่งสามารถปิดการใช้
งานได้หากความเร็วรถเกิน 10 กม./ชม. จาก
นั้นสามารถเปิดใช้งานฟังค์ชั่น AVH ได้ตาม
ปกติ
หมายเหตุสำคัญในการขับขี่
• ขับช้าๆและระมัดระวังไปตามถนนลูกรัง เพื่อ
ป้องกันความเสียหายของยาง ห้ามขับรถข้าม
สิ่งกีดขวางที่มีขอบคม
• ลดความเร็วบนถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อหรือไม่
สม่ำเสมอ
• หลีกเลี่ยงการขับรถผ่านพื้นที่น้ำท่วมให้มาก
ที่สุด
• ลดความเร็วลงเมื่อขับต้านลมแรง
• ขับรถอย่างระมัดระวังบนถนนที่ลื่น เช่น ถนน
ที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง หิมะ หรือทราย หรือพื้น
ผิว เช่น กระเบื้องเซรามิกเปียก หรือ อีพอกซี่
เรซิน
หมายเหตุ
• แบตเตอรี่อยู่ในแชสซีของรถ หลีกเลี่ยงการ
กระแทกเมื่อขับขี่บนภูมิประเทศที่ขรุขระ
119
 หมายเหตุ
• ก่อนขับรถ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ปลด
เบรกมือไฟฟ้าจนสุดและไฟแสดงสถานะดับ
ลง
• อย่าทิ้งรถไว้ในสถานะ OK เมื่อคนขับไม่อยู่
บนรถ
• อย่าลืมนำสมาร์ทคีย์ติดตัวไปเมื่อลงจากรถ
• ลดความเร็วเมื่อขับลงทางลาดชัน และหลีก
เลี่ยงการเบรกบ่อยเกินไปเพื่อป้องกันไม่ให้
จานเบรกร้อนเกินไป ซึ่งจะส่งผลต่อ
ประสิทธิภาพการเบรก
• โปรดใช้ความระมัดระวังในการเร่งหรือเบรก
บนถนนที่ลื่น การเร่งความเร็วอย่างรวดเร็ว
หรือการเบรกกะทันหันจะทำให้เกิดการลื่น
ไถลได้
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีผู้โดยสารยื่นศีรษะ
หรือมือออกไปนอกรถ โดยเฉพาะเด็ก
• หากน้ำปริมาณมากเข้าช่องระบายอากาศ
ด้านหน้าจะทำให้ระบบไฟฟ้าและส่วน
ประกอบไฟฟ้าเสียหายได้
คำเตือน
• ผู้ขับขี่ต้องดูแลความปลอดภัยของผู้
โดยสารทุกคน และแสดงวิธีการใช้งาน
อุปกรณ์ของรถอย่างเหมาะสม
120
ข้อควรระวังในการขับขี่ในฤดูหนาว
1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารหล่อเย็นสามารถกัน
การเป็นน้ำแข็งได้
• ใช้สารหล่อเย็นชนิดเดียวกับที่เติมมากับรถ
เติมสารหล่อเย็นเข้าสู่ระบบระบายความร้อน
ตามอุณหภูมิแวดล้อม
• สารหล่อเย็นที่ไม่เหมาะสมจะทำให้ระบบ
ระบายความร้อนเสียหาย
2. ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่และสายเคเบิล
• ความจุของแบตเตอรี่แรงดันไฟต่ำจะต่ำลงใน
สภาพอากาศหนาวเย็น ดังนั้นจึงต้องชาร์จให้
เต็มเมื่อฤดูหนาวมาถึง
3. หลีกเลี่ยงประตูเป็นน้ำแข็ง
• ฉีดสารละลายน้ำแข็งหรือกลีเซอรีนลงในรูล็อค
เพื่อป้องกันการแข็งตัว
4. ใช้น้ำยาล้างกระจกชนิดป้องกันการแข็งตัว
• สามารถหาได้จากตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้
บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD และร้าน
อะไหล่รถยนต์
• อัตราส่วนน้ำและสารป้องกันการแข็งตัวต้อง
เป็นไปตามคำแนะนำของผู้ผลิต ผู้ขับขี่ต้อง
มั่นใจในความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคน
และแสดงวิธีการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆบนรถ
อย่างเหมาะสม
ข้อควรระวัง !
• ห้ามใช้สารป้องกันการแข็งตัวหรือสารทด
แทนอื่นๆ ในน้ำยาล้างกระจก เนื่องจาก
อาจทำให้สีรถเสียหายได้
5. ป้องกันไม่ให้น้ำแข็งและหิมะติดอยู่ใต้บังโคลน
• หากน้ำแข็งหรือหิมะสะสมอยู่ใต้บังโคลน จะ
ทำให้บังคับเลี้ยวได้ยาก เมื่อขับรถในสภาพ
อากาศหนาวเย็น ให้หยุดรถเป็นระยะๆ และ
ตรวจดูหิมะและน้ำแข็งใต้บังโคลน
6. มีเครื่องมือหรือสิ่งของฉุกเฉินไว้ใช้สำหรับ
สภาพถนนที่เดินทางได้ยากลำบาก
• ขอแนะนำให้เตรียมโซ่กันหิมะ ที่ขูดกระจก ถุง
ทรายและเกลือ สัญญาณไฟกระพริบ พลั่ว
และสายต่อในรถ
ระบบช่วยเหลือ
การขับขี่
ระบบ ACC*
• ระบบ Adaptive Cruise Control (ACC) ใช้
เรดาร์เพื่อตรวจจับระยะทางและความเร็ว
สัมพัทธ์ของรถข้างหน้า เพื่อควบคุมความเร็ว
ของรถให้เหมาะสม ระบบจะสลับระหว่าง
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปกติและ
ACC ขึ้นอยู่กับว่ามีรถคันข้างหน้าหรือไม่
• ความเร็วในการขับขี่ และระยะทางจากรถคัน
ข้างหน้าสามารถตั้งค่าได้โดยใช้ปุ่มระบบ
ควบคุมความเร็วอัตโนมัติสามารถตั้งได้ภายใน
30 ถึง 150 กม./ชม. (20 ถึง 95 ไมล์ต่อ
ชั่วโมง) หรือความเร็วจะถูกกำหนดจากระยะ
ห่างรถคันหน้าเพื่อให้รถแล่นด้วยความเร็ว
ระหว่าง 0 ถึง 150 กม./ชม. (0~95 ไมล์ต่อ
ชั่วโมง)
คำอธิบายสถานะ
• ACC off: ปิดใช้งานฟังค์ชั่น ACC
• ACC stand-by: ระบบจะอยู่ในโหมดเตรียม
พร้อมทำงาน โดยจะค่าเริ่มต้นเมื่อรถสตาร์ท 05
การใช้งานและการขับขี่
และสามารถเปิดการใช้งานด้วยตนเองได้ หาก
รถไม่ตรงตามเงื่อนไขการเปิดใช้งาน จะต้อง
ตรวจสอบรถจนกว่าจะตรงตามเงื่อนไขดัง
กล่าวสัญลักษณ์ จะสว่างขึ้นในหน้าจอ
แสดงผลสำหรับคนขับหลังจากเปิดใช้งาน
• ACC activated: ระบบกำลังทำงาน โดยจะ
รักษาความเร็วที่ตั้งไว้หรือปรับระยะห่างจาก
รถคันข้างหน้าโดยอัตโนมัติ ในขณะนี้
สัญลักษณ์ จะสว่างขึ้นบนหน้าจอแสดงผล
สำหรับคนขับ
• Over speed : ถ้าความเร็วที่เหยียบคันเร่ง
เกิน ACC ในขณะเปิดใช้งาน ACC ACC จะ
เข้าสู่โหมดความเร็วเกินจนกว่าจะปล่อยคันเร่ง
• ACC failure: มีความล้มเหลวในระบบ ระบบ
จะไม่ทำงาน และไฟแสดงข้อผิดพลาด จะ
สว่างขึ้น
เงื่อนไขการเปิดใช้งานระบบ ACC
• EPB ปลดออกแล้ว
• รถอยู่ในเกียร์ "D"
• รถไม่ไหลถอยหลัง
• ปิดประตู ท้ายรถ และฝากระโปรงหน้าทุกบาน
• คาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับ
• ระบบ ESC เริ่มทำงานแต่ยังไม่เปิดใช้งาน
• ความเร็วรถต่ำกว่า 150 กม./ชม. (95 ไมล์ต่อ
ชั่วโมง)
121
• เหยียบเบรกที่ความเร็ว 0 กม./ชม.; หรือไม่ได้
เหยียบแป้นเบรกที่ความเร็วที่สูงกว่า 0 กม/
ชม.
• ไม่มีการแจ้งเตือนความล้มเหลวในการสื่อสาร
เครือข่ายบนหน้าจอแสดงผลสำหรับคนขับ
• ฟังค์ชั่นเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติไม่ทำงาน
การทำงานของปุ่มระบบควบคุม
ความเร็วคงที่
ปุ่ม เปิด/ปิด ACC
• กดปุ่ม (1) (เมื่อตรงตามเงื่อนไขการเปิดใช้งาน
ระบบจะเปิดเตรียมพร้อมการทำงาน) เพื่อ
เปิด/ปิด ACC
เพิ่มความเร็วรถ/รีเซ็ต ACC
• ดันคันโยก (2) ขึ้น เพื่อคืนความเร็วที่ใช้ไว้ก่อน
ออกจากระบบระบบควบคุมความเร็วคงที่ครั้ง
สุดท้าย. หากไม่มีการบันทึกความเร็วไว้ รถจะ
เคลื่อนที่ด้วยความเร็วปัจจุบัน
ลดความเร็วรถ/ตั้งค่าความเร็วรถ
• หากคันโยก (2) ถูกโยกลง ACC จะตั้งค่า
ความเร็วปัจจุบันเป็นความเร็วเป้าหมายเมื่อ
เปิดใช้งานจากโหมดเตรียมพร้อมทำงาน หาก
ความเร็วปัจจุบันต่ำกว่า 30 กม./ชม. (20 ไมล์
ต่อชั่วโมง) ความเร็วเป้าหมายจะถูกตั้งไว้ที่ 30
122
กม./ชม. หรือ 20 ไมล์ต่อชั่วโมง และหาก
ความเร็วปัจจุบันสูงกว่า 150 กม./ชม. หรือ
95 ไมล์ต่อชั่วโมง ความเร็วเป้าหมายจะถูกตั้ง
ไว้ที่ 150 กม./ชม. หรือ 95 ไมล์ต่อชั่วโมง
• เมื่อฟังค์ชั่น ACC ทำงาน คุณสามารถตั้งค่า
ความเร็วรถได้ภายในช่วง 30~150 กม./ชม.
(20~95 ไมล์ต่อชั่วโมง) โดยการเลื่อนคันโยก
(2) ขึ้น/ลง ความเร็วจะเพิ่มขึ้น/ลดลง 5 กม./
ชม.(ไมล์ต่อชั่วโมง) เมื่อระบบควบคุมความเร็ง
คงที่อยู่ในโหมดเตรียมพร้อมทำงานภายใน
รอบการเปิดการทำงานของรถในรอบเดียวกัน
ระบบจะจดจำการตั้งค่าความเร็วล่าสุด
หยุดการทำงาน ACC
• การกดแป้นเบรกจะทำให้ระบบ ACC ยกเลิก
การควบคุมความเร็ว มาอยู่ในโหมดเตรียม
พร้อม กดปุ่ม (1) อีกครั้งเพื่อปิดการใช้งานฟัง
ค์ชั่น ACC เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเพื่อ
ความปลอดภัย
ตั้งระยะห่างจากรถคันหน้า
• ผู้ขับขี่ต้องเลือกระยะปลอดภัยของรถ
• ระบบนี้จะปรับความเร็วของรถเพื่อรักษาระยะ
ห่างที่เหมาะสมจากรถคันหน้าในเลนเดียวกัน
สามารถกดแป้น (3) และ (4) เพื่อปรับค่า
ระยะห่างจากรถคันหน้ามีสี่ค่า สำหรับแต่ละ
ค่า ระยะทางของรถเป็นสัดส่วนโดยตรงกับ
ความเร็วของรถ ความเร็วยิ่งเร็ว ระยะทางยิ่ง
ไกล
เพิ่ม/ลดความเร็วเมื่อเปิดใช้งาน ACC
• เมื่อเปิดใช้งาน ACC อาจกดคันเร่งเพื่อให้ถึง
ความเร็วที่ตั้งไว้ได้
• หากรถแล่นด้วยความเร็วมากกว่าที่ตั้งไว้แล้ว
และยังคงเหยียบคันเร่งอยู่ ระบบจะเข้าสู่โหมด
Over speed หลังจากปล่อยคันเร่งรถจะกลับ
สู่ความเร็วที่ตั้งไว้
• หากคันโยก (2) ถูกดึงลงขณะเร่งความเร็ว
ความเร็วปัจจุบันจะถูกตั้งค่าเป็นความเร็วคง
ขณะนั้น
• หากความเร็วเกิน 150 กม./ชม. หรือเหยียบ
คันเร่งนานกว่า 15 นาที ระบบจะเปลี่ยนเป็น
โหมดเตรียมพร้อมการใช้งาน และ ACC จะ
ต้องเปิดใช้งานอีกครั้ง
• เมื่อ ACC ทำงานอยู่และเหยียบแป้นเบรก
ACC จะเข้าสู่โหมดเตรียมพร้อมการใช้งานโดย
อัตโนมัติ หลังจากปล่อยเบรก ACC จะต้อง
เปิดใช้งานอีกครั้ง
ติดตาม หยุด / เริ่ม
• ควบคุมโดย ACC รถสามารถหยุดเมื่อรถคัน
หน้าหยุดในสภาพการขับขี่ปกติ หากรถหยุด
น้อยกว่า 3 วินาที ก็สามารถเริ่มเคลี่อนที่รถ
ติดตามรถคันข้างหน้าโดยอัตโนมัติได้
• หากรถหยุดมากกว่า 3 วินาที แต่น้อยกว่า 3
นาที ผู้ขับขี่จำเป็นต้องเปิดใช้งาน ACC อีกครั้ง
โดยกดแป้นคันเร่งหรือใช้ปุ่ม ACC Cruise
• หากรถหยุดนานกว่า 3 นาที ระบบ ACC จะ
เข้าสู่โหมดเตรียมพร้อมการใช้งาน โดยดึง EPB
ขึ้น
ข้อควรระวัง
• ACC เป็นระบบความสะดวกสบายมากกว่า
ระบบความปลอดภัย เครื่องตรวจจับสิ่ง
กีดขวาง หรือระบบเตือนการชน ผู้ขับขี่ต้องมี 05
ความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในการควบคุมรถ
การใช้งานและการขับขี่
ตลอดเวลา
• ACC เป็นระบบเสริมและไม่ได้แทนที่คนขับ ผู้
ขับขี่มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎจราจรและควบคุม
รถ
• ต้องระมัดระวังการเคลื่อนตัวของการจราจร
และสภาพอากาศ เช่น ฝนและหมอก เมื่อ
กำหนดระยะห่างของรถ หลังจากตั้งค่าระบบ
ACC อย่างถูกต้องแล้ว ผู้ขับขี่จะต้องพร้อม
สามารถชะลอความเร็วได้จนรถหยุดเมื่อใดก็ได้
• ระบบ ACC สามารถเปิดใช้งานได้เมื่อขับบน
ทางด่วนและถนนในสภาพที่ดี มากกว่าบน
ถนนในเมืองที่สลับซับซ้อนหรือคดเคี้ยว
• เมื่อเหยียบคันเร่งและเบรค ขณะระบบ ACC
ทำงานอยู่ การควบคุมรถจะถูกส่งไปยังผู้ขับขี่
และฟังค์ชั่นการควบคุมระยะห่างของรถระบบ
ACC จะยกเลิการทำงาน
• ACC สามารถตอบสนองต่อวัตถุที่อยู่นิ่งหรือ
เคลื่อนที่ช้าเท่านั้น เช่น ยานพาหนะ จุดสิ้นสุด
ของการจราจร ด่านเก็บค่าผ่านทาง จักรยาน
หรือคนเดินเท้า ในสภาวะที่เฉพาะเจาะจงมาก
• ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ACC จะไม่
สามารถเปิดใช้งานได้หากไม่ได้เปิดใช้งาน ESC
• ระบบ ACC ไม่สามารถระบุคนเดินถนนหรือ
ยานพาหนะที่วิ่งกำลังมา
• ระบบ ACC ทำได้เฉพาะการเบรกแบบจำกัด
แทนการเบรกฉุกเฉิน
123
• หากรถข้างหน้าเบรกกะทันหัน (หยุดฉุกเฉิน)
ACC อาจไม่ตอบสนอง หรือการตอบสนอง
อาจช้า ในกรณีนี้จะไม่มีการร้องขอให้เข้า
ควบคุมรถ
• ในบางกรณี เช่น เมื่อรถข้างหน้าขับช้าหรือเร็ว
เกินไป หรือเมื่อระยะห่างระหว่างรถสั้นเกินไป
ไม่มีเวลาเพียงพอที่ระบบจะลดความเร็ว
สัมพัทธ์ ในกรณีนี้ การตอบสนองต้องมาจาก
คนขับ ระบบไม่มีเสียงหรือภาพเตือนใดๆ
• เมื่อถึงหรือออกจากทางโค้ง การเลือกเป้า
หมายอาจล่าช้าหรือถูกรบกวน ในกรณีนี้ รถ
อาจไม่เบรกตามที่คาดไว้หรืออาจเบรกช้า
• บนถนนที่มีทางโค้งหักศอก เช่น ถนนคดเคี้ยว
รถข้างหน้าอาจไม่สามารถตรวจจับด้วย
เซ็นเซอร์ ACC ได้ ซึ่งอาจทำให้ ACC เร่ง
ความเร็วได้
• ระยะทางสั้นๆ จากรถในเลนที่อยู่ติดกันอาจ
ทำให้ ACC เบรกได้
• หากรถคันอื่นมาอยู่ด้านหลังรถเป้าหมาย
ภายในระยะการตรวจจับ ACC รถจะถูกระบุ
ทันทีว่าเป็นเป้าหมายใหม่ และตอบสนองตาม
นั้น และนำไปสู่การเบรกกะทันหันหรือชะลอ
ความเร็ว
• ในบางสภาพแวดล้อม การตรวจจับอาจได้รับ
ผลกระทบหรือล่าช้า หากพื้นที่สะท้อนเรดาร์
ของเป้าหมายมีขนาดเล็กเกินไป (รถ
จักรยานยนต์ ฯลฯ) ระบบอาจตรวจจับระยะ
ห่างไม่ถูกต้อง ส่งผลให้ตอบสนองช้าหรือไม่มี
การตอบสนอง ในกรณีเช่นนี้ ผู้ขับขี่ต้อง
ควบคุมความเร็วของรถ การตรวจจับอาจได้รับ
ผลกระทบหรือล่าช้าจากสัญญาณรบกวนหรือ
การรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า
124
• หากอัตราส่วนการสัมผัสรถคันหน้ามีขนาดเล็ก
เกินไป ACC จะไม่สามารถกำหนดเป้าหมายได้
ดังนั้นผู้ขับขี่ต้องเข้าควบคุมรถ
• เมื่อรถหยุดตามรถข้างหน้า ระบบจะไม่ทราบ
ถึงส่วนท้ายของรถข้างหน้าที่อยู่ต่ำ (เช่น เพลา
ของรถบรรทุกที่มีแชสซีสูง หรือ กันชนรถ) ใน
บางกรณีซึ่งเกิดขึ้นได้ยาก จึงไม่สามารถรับ
ประกันระยะการหยุดที่เหมาะสมได้ ดังนั้นผู้
ขับขี่ต้องตื่นตัวและพร้อมที่จะเบรก
• หากเปิดใช้งาน ACC โดยที่รถจอดอยู่กับที่
ระบบจะระบุสิ่งกีดขวางที่อยู่ข้างหน้าและ
ทำให้รถอยู่นิ่งเพื่อให้แน่ใจว่าสตาร์ทรถได้อย่าง
ปลอดภัยและป้องกันการชน ฟังค์ชั่นนี้ไม่
ครอบคลุมสิ่งกีดขวางทั้งหมด ดังนั้น ผู้ขับขี่จึง
ต้องตื่นตัว
• เซ็นเซอร์เรดาร์อาจได้รับผลกระทบจากการสั่น
สะเทือนหรือเสียหายจากการชน ในกรณีนี้ ให้
ติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตจาก BYD
• เรดาร์ติดตั้งบริเวณด้านหน้าของรถ หากพื้นที่
ตรวจจับถูกปิดกั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากหิมะ
การทำงานของมันอาจได้รับผลกระทบ และ
ระบบจะปิด ระบบจะแจ้งผ่าน HMI การ
ทำงานของระบบจะเริ่มทำงานอีกครั้งหลังจาก
นำสิ่งกีดขวางออกและรถถูกสตาร์ทใหม่หรือ
วิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง
• เรดาร์อาจมีการทำงานผิดพลาดชั่วคราวจาก
การตรวจจับที่จำกัด หากรถวิ่งภายใต้เงื่อนไข
พิเศษ เช่น ทางลาดเป็นวงกลมหรืออุโมงค์
ฟังค์ชั่นจะกลับมาเริ่มต้นการทำงานใหม่ได้โดย
การรีสตาร์ทรถหรือขับรถภายใต้สภาวะปกติ
ชั่วขณะหนึ่ง
• การเปลี่ยนโครงสร้างรถ เช่น ลดระดับแชสซี
หรือเปลี่ยนแผ่นกรอบป้ายทะเบียนด้านหน้า
อาจส่งผลต่อระบบ ACC
• วัตถุที่เป็นโลหะ เช่น รางรถไฟ หรือแผ่นโลหะ
ที่ใช้ในการก่อสร้างถนน อาจรบกวนเรดาร์
ระยะกลาง ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ภายใต้
สภาวะปกติ
• ห้ามใช้ระบบ ACC เมื่อทัศนวิสัยไม่ดี หรือเมื่อ
ขับบนทางลาดชัน ถนนคดเคี้ยว หรือถนน
เปียก (ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง/หิมะ หรือน้ำท่วม)
• ในกรณีต่อไปนี้ ให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้
ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD เพื่อขอรับ
การสอบเทียบเรดาร์ระยะกลางจากช่าง
• เมื่อมีการถอดเรด้าระยะกลางด้านหน้า
หรือถอดกันชน
• หลังจากทำการตั้งศูนย์ล้อสี่ล้อแล้ว
• อุบัติเหตุชนกัน
• ประสิทธิภาพของระบบ ACC ลดลงหรือมี
การแสดงการแจ้งเตือนข้อผิดพลาดของ
ระบบหน้าจอแสดงผลสำหรับคนขับ
ระบบเบรกฉุกเฉิน
แบบคาดการณ์ล่วงหน้า
การเบรกฉุกเฉินแบบคาดการณ์ล่วงหน้า ระบบนี้
มีคุณสมบัติสองประการ: ระบบเตือนการชนแบบ 05
คาดการณ์ล่วงหน้า (PCW) และ ระบบเบรก
การใช้งานและการขับขี่
ฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) ระบบนี้ ใช้เรดาร์และตัว
ควบคุมกล้องมัลติฟังค์ชั่นเพื่อตรวจจับยาน
พาหนะข้างหน้าหรือคนเดินเท้า เมื่อตรวจพบมี
การเสี่ยงต่อการชน ระบบจะส่งเสียงเตือนและไฟ
เตือนเพื่อเตือนคนขับ แลและเตรียมแรงดันเบรก
ให้พร้อมถ้ามีการเบรคเกิดขึ้นเพื่อให้ตอบสนองได้
ดียิ่งขึ้น หากระบบตรวจพบความเสี่ยงที่จะเกิด
การชนกันมากขึ้น ระบบจะทำการเบรกโดย
อัตโนมัติเพื่อช่วยในการหลีกเลี่ยงการชนหรือลด
แรงกระแทก
หากต้องการเปิดหรือปิดฟังค์ชั่น PCW ให้แตะ
→ DiPilot → Active Safety เมื่อ
สตาร์ทรถ ระบบจะเปิดโดยค่าเริ่มต้น
PCW
• การเตือนระยะห่างเพื่อความปลอดภัย
• หากรถอยู่ใกล้กับรถคันข้างหน้ามากเกินไป
และ นานเกินไป ที่ความเร็วเกิน 65 กม./
ชม. ระบบจะแจ้งเตือนระยะห่างที่ปลอดภัย
และสัญลักษณ์ แสดงบนหน้าจอแสดง
ผลสำหรับคนขับจะสว่างขึ้น
• คำเตือนล่วงหน้า
• หากระบบพบความเสี่ยงในการชนที่
ความเร็วระหว่าง 30 ถึง 150 กม./ชม. จะมี
เสียงเตือนและไฟแสดงสถานะ จะ
สว่างขึ้นบนจอแสดงผลสำหรับคนขับ
125
• คำเตือนฉุกเฉิน
• หากคนขับไม่ตอบสนองต่อการเตือนล่วง
หน้า ระบบจะแจ้งเตือนฉุกเฉิน ไฟแสดง
จะกะพริบและจะมีการเตือนด้วยการ
เบรกสั้นๆ
AEB
• หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองต่อคำเตือนฉุกเฉินและ
ระดับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ระบบจะเปิดใช้งาน
ฟังค์ชั่น AEB ระบบจะใช้แรงเบรกให้มากที่สุด
เพื่อหลีกเลี่ยงการชน หรือลดผลกระทบจาก
การชน
• หากผู้ขับขี่ใช้แรงเบรกไม่เพียงพอในกรณี
ฉุกเฉิน ระบบเบรกจะให้แรงเบรกเพิ่มเติมเพื่อ
ให้ถึงระดับที่เหมาะสมที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการ
ชนหรือลดผลกระทบจากการชน
ข้อจำกัดของระบบ
• ในบางสภาพแวดล้อม การตรวจจับอาจได้รับ
ผลกระทบหรือล่าช้า หากพื้นที่สะท้อนเรดาร์
ของเป้าหมายมีขนาดเล็กเกินไป (เช่น
จักรยาน) ระบบอาจไม่สามารถกำหนดระยะ
ห่างได้ ซึ่งส่งผลให้การตอบสนองล่าช้าหรือไม่
ตอบสนอง
• ในกรณีต่อไปนี้ ระบบเบรกฉุกเฉินแบบคาด
การณ์ล่วงหน้าอาจได้รับผลกระทบหรือไม่ตอบ
สนอง:
• ในวันที่ฝนตก หิมะตก หรือมีหมอก น้ำ
กระเซ็นใหญ่ หรือโดนแสงแดดโดยตรงหรือ
แสงจ้า
• เซ็นเซอร์สกปรก มีหมอก เสียหายหรือถูก
ปิดกั้น
126
• เรดาร์ล้มเหลวภายใต้การรบกวนจากแหล่ง
เรดาร์อื่นๆ เช่น การสะท้อนเรดาร์ที่มากใน
พื้นที่จอดรถหลายชั้น
• ในการการจราจรที่ซับซ้อน ระบบอาจไม่
สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ต่อไปนี้ได้
อย่างถูกต้อง:
• คนเดินเท้าหรือยานพาหนะเคลื่อนที่เร็วเกิน
ไป ภายในระยะการตรวจจับของเซ็นเซอร์
• คนเดินเท้าถูกวัตถุอื่นบัง
• โครงร่างคนเดินเท้าแยกไม่ออกจากพื้นหลัง
• การตรวจจับคนเดินถนนล้มเหลวเนื่องจาก
เสื้อผ้าพิเศษหรือวัตถุอื่นๆ
• ทางโค้งที่มีรัศมีวงเลี้ยวแคบ
ข้อควรระวัง
• ระบบเบรกฉุกเฉินแบบคาดการณ์ล่วงหน้า
ไม่สามารถรับประกันว่าจะไม่เกิดการชนกัน
ได้ ในการจราจรที่ซับซ้อน ระบบไม่สามารถ
ระบุยานพาหนะหรือคนเดินเท้าทั้งหมดได้
อย่างชัดเจนเสมอไป อาจทำให้เกิดการ
เตือนหรือการเบรกโดยไม่จำเป็นสำหรับ ฝา
ครอบหลุมบ่อ แผ่นเหล็กหรือป้ายถนน
• ผู้ขับขี่ต้องตรวจสอบและสังเกตุสภาพจราจร
โดยรอบ AEB ไม่สามารถใช้แทนการเบรกตาม
ปกติได้
• อย่าพึ่งพาระบบเบรกฉุกเฉินแบบคาดการณ์
ล่วงหน้ามากเกินไป เพราะอาจส่งผลให้เกิด
อุบัติเหตุร้ายแรงได้ ระบบเป็นเพียงเครื่องมือ
เสริมด้านความปลอดภัยเท่านั้น ผู้ขับขี่ต้อง
รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้า
ควบคุมความเร็ว และพร้อมที่จะเบรกหรือ
หลบหลีกเมื่อจำเป็น
• ระบบ AEB จะทำงานเมื่อความเร็วถึง 4 กม./
ชม. แต่สามารถลดความเร็วของรถได้เมื่อ
ความเร็วไม่เกิน 45 กม./ชม. เท่านั้น ต้องใช้
ความระมัดระวังในการขับขี่เสมอ เนื่องจาก
ระบบอาจทำงานไม่ถูกต้อง
• เมื่อปิดใช้งานฟังค์ชั่น ESC หรือไฟแสดงระบบ
มีปัญหาติดขึ้น ระบบ AEB จะไม่สามารถ
ทำงานได้ตามปกติ
• หากฟังค์ชั่น PCW ส่งสัญญาณเตือน ผู้ขับขี่
ต้องเบรกตามสภาพการจราจรเพื่อลดความเร็ว
ของรถหรือหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง
• หากรถเคลื่อนเข้าใกล้รถคันข้างหน้านานเกิน
ไป จะมีการเตือนระยะปลอดภัย หากรถข้าง
หน้าเบรกกะทันหัน มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิด
การชน
• ระบบ AEB จะไม่ทำงาน เมื่อผู้ขับขี่ทราบคำ
เตือนฉุกเฉิน แต่หมุนพวงมาลัย เร่งความเร็ว
หรือเบรก
• เซ็นเซอร์เรดาร์อาจขัดข้องชั่วคราวจากการ
ตรวจจับที่จำกัด หากรถวิ่งภายใต้เงื่อนไข
พิเศษ เช่น ทางลาดวงกลมหรืออุโมงค์ ระบบ
อาจเริ่มต้นทำงานใหม่ได้โดยการรีสตาร์ทรถ
หรือขับรถภายใต้สภาวะปกติชั่วขณะหนึ่ง
• บางครั้งเซ็นเซอร์หรือกล้องวิดีโอแบบ
มัลติฟังค์ชั่นจะตรวจจับสิ่งสกปรก หรือสิ่ง
แปลกปลอมบนพื้นผิว ในกรณีนี้ ข้อความจะ
ปรากฏบนแผงหน้าปัด และทั้ง PCW และ
AEB จะถูกปิดใช้งาน ฟังค์ชั่นจะกลับมาหลัง
จากทำความสะอาดเซ็นเซอร์หรือกล้องแล้ว
• ฟังค์ชั่นป้องกันคนเดินถนนถูกจำกัดโดยสภาพ
ร่างกายบางอย่าง และอาจไม่สามารถใช้งานได้
ภายในช่วงความเร็ว 4-60 กม./ชม. ตามที่
ต้องการ ผู้ขับขี่ต้องระวังสภาพแวดล้อมของ 05
ตนอยู่เสมอและใช้เบรกให้เหมาะสม คำเตือน
การใช้งานและการขับขี่
เกี่ยวกับการป้องกันคนเดินถนนและการเบรก
เชิงป้องกัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์จริง
• อุปกรณ์ป้องกันคนเดินถนนเป็นเพียงเครื่องมือ
ช่วยเท่านั้น และไม่รับประกันการป้องกันคน
เดินถนนอย่างสมบูรณ์ ผู้ขับขี่ต้องขับรถอย่าง
ระมัดระวัง
• ภายใต้เงื่อนไขบางประการ เช่น บนถนนที่คด
เคี้ยว ฟังชั่นป้องกันคนเดินถนนอาจจะทำการ
เตือนหรือเบรคโดยที่ไม่เกิดเหตุการณ์จริง
• ในกรณีที่เรด้าหรือตัวควบคุมวีดีโอไม่ตรงศูนย์
หรือไม่ถูกปรับตั้งโดยสมบูรณ์ ฟังค์ชั่นป้องกัน
คนเดินถนนอาจทำการเตือนหรือการเบรกโดย
ไม่จำเป็น
• แป้นเบรกจะแข็งขึ้นเมื่อ AEB ทำงาน ต้องใช้
แรงดันไฮดรอลิกจำนวนมากเพื่อดันคาลิป
เปอร์ในเวลาอันสั้นและจะมีเสียงดัง
• ระบบเบรกฉุกเฉินแบบคาดการณ์ล่วงหน้าจะ
ทำงานเมื่อปิดประตูและคาดเข็มขัดนิรภัย
เท่านั้น จะไม่สามารถทำงานในกรณีต่อไปนี้:
• ประตูใดๆ ไม่ปิดหรือเปิดเมื่อรถเคลื่อนที่
• ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยหรือปลดเข็มขัด
นิรภัยเมื่อรถเคลื่อนที่
• เบรกอย่างรุนแรง.
• เหยียบคันเร่งอย่างรวดเร็ว
• การสลับไปมาระหว่างคันเร่งและแป้นเบรก
บ่อยครั้ง
127
• ประสิทธิภาพของระบบอาจลดลงในกรณีต่อ
ไปนี:้
• มีแรงกระแทกกันชนหน้าอย่างแรง
• เติมลมยางอย่างไม่เหมาะสม หรือยางเสื่อม
สภาพ
• ใช้ยางที่ไม่ได้การรับรอง
• มีการติดตั้งโซ่หิมะ
• ใช้ยางอะไหล่ขนาดเล็กหรือชุดซ่อมยาง
• ในกรณีต่อไปนี้ ให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้
ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD เพื่อขอรับ
การสอบเทียบเรดาร์ระยะกลางจากช่างมือ
อาชีพ:
• มีการถอดเรดาร์ระยะกลางหรือตัวควบคุม
วิดีโอมัลติฟังค์ชั่น
• การปรับ Toe-in และ camber ระหว่าง
การตั้งศูนย์ถ่วงล้อ
• เกินการชนกัน
• ระบบ ACC เสื่อมสภาพหรือผิดปกติ
• อย่าพยายามทดสอบระบบเบรกฉุกเฉินแบบ
คาดการณ์ล่วงหน้า
ระบบจดจำป้ายจราจร*
• ระบบจดจำป้ายจราจรระบุป้ายจำกัดความเร็ว
บนท้องถนนผ่านกล้องวิดีโอแบบมัลติฟังค์ชั่น
เมื่อไอคอนจำกัดความเร็วบนหน้าจอแสดง
ข้อมูลสำหรับคนขับสว่างขึ้น แสดงว่าความเร็ว
ของรถควรอยู่ภายในระยะ
• ระบบนี้สนับสนุนฟังค์ชั่นการเตือนขีดจำกัด
ความเร็วอัจฉริยะ/ฟังค์ชั่นควบคุมขีดจำกัด
ความเร็วอัจฉริยะ
128
• การเตือนขีดจำกัดความเร็วอัจฉริยะ: คำเตือน
จะได้รับเมื่อความเร็วเกินขีดจำกัดความเร็วที่
ตรวจพบ
• การควบคุมขีดจำกัดความเร็วอัจฉริยะ: รวมฟัง
ค์ชั่นควบคุมความเร็วคงอัตโนมัติแบบแปรผัน
ได้ กับฟังค์ชั่นการจดจำป้ายจำกัดความเร็ว
เมื่อมีการเปิดใช้งาน
• สำหรับฟังค์ชั่นนี้ อุปกรณ์จะแสดงข้อความ
"SET-Activate Intelligent Speed Limit
Control" จากนั้น คนขับจะเปิดใช้งานฟังค์ชั่น
นี้โดยสลับคันโยก (2) ลง และระบบจะร้องขอ
ให้ควบคุมความเร็วคงอัตโนมัติที่แบบแปรผัน
ได้ให้จำกัดความเร็วในช่วงเวลาหนึ่ง
• แตะที่ → Dipilot → Driving Assist
เพื่อเปิดหรือปิดระบบจดจำป้ายจราจร เมื่อรถ
สตาร์ท ระบบจะตั้งค่าเริ่มต้นเป็นการตั้งค่า
ก่อนหน้า
• เมื่อระบบสามารถระบุเครื่องหมายจำกัด
ความเร็ว สัญลักษณ์จำกัดความเร็วที่ระบุจะ
ปรากฏขึ้น (เช่น ) บนหน้าจอแสดงผล
สำหรับคนขับ
• เมื่อบนหน้าจอแสดงผลสำหรับคนขับแสดงรูป
ความเร็วเกิน 5 กม./ชม. และรถวิ่งเร็วเกิน
ความเร็วระบุ สัญลักษณ์บนหน้าจอจะกระ
พริบเพื่อเตือนคนขับ เมื่อระบบพบว่าสิ้นสุด
ระยะป้ายจำกัดความเร็ว หรือหลังจากรถเดิน
 ทางชั่วขณะหนึ่ง สัญลักษณ์จำกัดความเร็วจะ ระบบรักษาช่องทางเดินรถ*
หายไปข้อควรระวัง
• ระบบรักษาช่องทางเดินรถ (lane keeping
• สัญลักษณ์จำกัดความเร็วจะหายไปภายใน
system LKS) รองรับฟังค์ชั่นเตือนการออก
ระยะทางที่กำหนดหลังจากการจดจำระบบ ผู้ 05
จากเลนและฟังค์ชั่นป้องกันการออกนอกเลน
ขับขี่ต้องควบคุมความเร็วให้อยู่ในระยะ

การใช้งานและการขับขี่
• การเตือนการออกนอกเลนจะตรวจจับเส้นเลน
• ระบบจดจำป้ายจราจรสามารถระบุป้ายจำกัด
ข้างหน้าผ่านตัวกล้องวิดีโอแบบมัลติฟังค์ชั่น
ความเร็วเท่านั้น และจะไม่ควบคุมความเร็ว
เมื่อความเร็วเกิน 60 กม./ชม. ระบบจะแจ้ง
• ในกรณีของช่องจราจรที่มีการจำกัดความเร็ว เตือนการออกจากเลนพร้อมคำเตือนภาพ
ต่างกัน ระบบจะระบุเครื่องหมายของช่อง เสียง และการสั่นสะเทือน
จราจรที่เกี่ยวข้อง และผู้ขับขี่จะต้องอยู่ในช่อง
• การป้องกันการออกนอกเลนจะช่วยป้องกัน
จราจรดังกล่าว
การออกนอกเลน
• ป้ายจำกัดน้ำหนักที่ไม่อยู่ในขนาดมาตรฐาน
• เมื่อเปิดใช้งาน Emergency Lane Keeping
ตามข้อบังคับของประเทศ อาจถูกระบุอย่าง
Assist ระบบจะมีแรงสะท้านที่พวงมาลัยกลับ
ผิดพลาดว่าเป็นป้ายจำกัดความเร็ว
ทางหรือมุมบังคับเลี้ยวเพื่อควบคุมการบังคับ
• หากป้ายจำกัดความเร็วไม่ชัดเจนหรือบิดเบี้ยว เลี้ยวของรถ ช่วยให้ผู้ขับขี่รักษารถไว้ในเลน
เอียง สะท้อนแสง มีบางส่วนหรือซ้อนทับ ปัจจุบันเมื่อกำลังจะออกจากเลน (เส้นทึบ/เส้น
กล้องอาจไม่สามารถระบุป้ายได้ชัดเจน ประ) ใน เพื่อป้องกันการข้ามขอบถนนหรือชน
• ประสิทธิภาพของระบบจดจำป้ายจราจรขึ้นอยู่ กับรถที่วิ่งมาหรือแซงในเลนที่อยู่ติดกัน
กับสภาพอากาศ แสง และทัศนวิสัย ระบบไม่ • หากต้องการเปิดหรือปิดใช้งาน LKS ให้แตะที่
สามารถระบุป้ายสัญญาณในเวลากลางคืนหรือ
→ Dipilot → Driving Assist →
พระอาทิตย์ตกได้ ท่ามกลางสายฝน หมอก
Lane assist เมื่อรถสตาร์ท ระบบจะตั้งค่า
หมอกควัน หิมะ หรือฝุ่น เมื่อแสงมาจากด้าน
เริ่มต้นเป็นการตั้งค่าก่อนหน้า
หลังรถ หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของแสง
กะทันหัน • คำเตือนรวมถึง: เสียงเตือนเท่านั้น หรือพวง
มาลัยสั่น* หรือทั้งสองอย่าง*
• ในกรณีที่เกิดการชนหรือประกอบเซ็นเซอร์ของ
กล้องขึ้นใหม่ ให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อทำการ
ปรับเทียบเซ็นเซอร์เพื่อป้องกันไม่ให้
ประสิทธิภาพการทำงานของระบบได้รับผลก
ระทบ

129
สัญลักษณ์บนหน้าจอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่
หลังจากเปิดใช้งาน LKS ขอบเขตเลนจะปรากฏ
บนหน้าจอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่
เส้นแบ่งเลน
สีเทา เปิดใช้งานฟังค์ชั่น ไม่สามารถระบุ
ขอบเขตเลนได้
สีเขียว เปิดใช้งานฟังค์ชั่น ระบุขอบเขตเลนได้
สีแดง เปิดใช้งานฟังค์ชั่น รถกำลังออกเลน
เมื่อคนขับไม่เปลี่ยนเลน ณ ขณะนี้,
รถจะแจ้งเตือนตามการตั้งค่า ผู้ขับขี่
สามารถเปลี่ยนทิศทางได้
ข้อจำกัดของระบบ
• ภายใต้สภาพการจราจรที่ซับซ้อน LKS อาจ
ตรวจพบช่องจราจรที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่มีเลย
ในกรณีต่อไปนี้ อาจไม่สามารถทำงานได้หรือ
แสดงประสิทธิภาพต่ำ
• ทัศนวิสัยไม่ดีในวันที่หิมะตก ฝนตก และมี
หมอกหนา
• กระจกบังลมสกปรก หรือมีฝ้า หรือตัวกล้อง
แบบมัลติฟังค์ชั่นถูกบัง
• แสงจ้าจากแสงแดด แสงสะท้อน หรือรถที่
วิ่งสวนมาโดยตรง
• แสงเปลี่ยนกะทันหัน เช่น เข้า/ออกอุโมงค์
• เส้นเลนไม่ชัดเจน
• ไม่สามารถระบุขอบถนนที่มีหญ้า ดิน หรือ
ขอบถนนได้
130
ข้อควรระวัง
• LKS จะหยุดการทำงานหากใช้ไฟเลี้ยวขณะ
เปลี่ยนเลนLKS อาจถูกหยุดการทำงานหาก
เส้นเลนไม่ชัดเจน บางเกินไป สึกหรอ เบลอ
หรือปกคลุมด้วยสิ่งสกปรก/หิมะ
• LKS อาจหยุดการทำงานหากเลนกว้างหรือ
แคบเกินไป จำนวนเลนเพิ่มขึ้น หรือลดลง เส้น
ที่ทำเครื่องหมายไว้เปลี่ยนทันที บนทางลาด
หรือ ทางออก หรือเส้นเลนที่ซับซ้อน
• LKS อาจหยุดการทำงานเมื่อรถเคลื่อนที่บน
ทางลาดหรือถนนที่คดเคี้ยว หรือใกล้กับรถข้าง
หน้ามากเกินไป หรือรถข้างหน้าบังเส้นเลน
• LKS อาจหยุดการทำงานเมื่อรถกระตุก เร่ง
ความเร็วหรือลดความเร็วเร็วเกินไป หรือเลี้ยว
ในที่โค้งแคบ
• การทำงานของระบบอาจได้รับผลกระทบหาก
กระจกบังลมหน้ามีรอยแตก บริเวณหน้ากล้อง
วิดีโอมัลติฟังก์ กระจกย้อม หรือเคลือบไม่
เพียงพอ หรือ มีวัตถุสะท้อนแสงวางบนแผง
หน้าปัดหรือวัตถุอื่นใดรบกวนการมองเห็นของ
กล้อง
• เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าทดสอบฟังค์ชั่น
เตือนการออกจากเลน ฟังค์ชั่นจะถูกขัดจังหวะ
หากมีวัตถุใด ๆ ปิดกั้นกล้องวิดีโอมัลติฟังค์ชั่น
หรือหากสัมผัสกับแสงจ้า ฟังค์ชั่นจะส่งกลับ
เมื่อเงื่อนไขกลับสู่ปกติ หากไม่เป็นเช่นนั้น
โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต
ของ BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อดำเนินการ
• แนะนำให้ปิดการใช้งาน LKS ในกรณีต่อไปนี้:
• การขับขี่ในโหมดสปอร์ต
• การขับรถในสภาพอากาศเลวร้าย
• การขับขี่บนถนนที่ไม่เรียบ
ระบบควบคุมความเร็วคงที่
อัตโนมัติอัจฉริยะ*
• ระบบควบคุมความเร็วคงที่อัตโนมัติอัจฉริยะ*
(ICC) ประกอบไปด้วย ACC กับ LKS ทำงานที่
ความเร็วระหว่าง 0-120 กม./ชม. (0-75 ไมล์
ต่อชั่วโมง) ช่วยควบคุม เพื่อลดภาระในการ
ขับขี่และให้สภาพแวดล้อมในการขับขี่ที่
ปลอดภัยและสะดวกสบาย
• เมื่อเปิดใช้งานฟังค์ชั่นนี้ ผู้ขับขี่ต้องจับพวง
มาลัยไว้เสมอและควบคุมรถเมื่อจำเป็น
• ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดฟังค์ชั่น ICC ได้โดยใช้
สวิตช์ เมื่อรถสตาร์ท ระบบจะตั้งค่าเริ่มต้น
เป็นการตั้งค่าก่อนหน้า
• หลังจากเปิดใช้งานฟังค์ชั่น ICC ไฟแสดง
สถานะพร้อมใช้งานบนหน้าจอแสดงข้อมูล
สำหรับผู้ขับจะสว่างขึ้น:
• หลังจากเปิดใช้งานฟังค์ชั่น ICC แล้ว สถานะที่
เปิดใช้งานจะแสดงบนหน้าจอแสดงข้อมูล
สำหรับผู้ขับจะสว่างขึ้น:
• เมื่อเปิดใช้งานฟังค์ชั่น ICC และเปิดใช้งานฟัง
ค์ชั่น ACC และความเร็วอยู่ระหว่าง 0 ถึง 60
กม./ชม.:
1. หากมีการระบุเส้นช่องจราจรทั้งสองด้านของ 05
รถ ระบบจะควบคุมให้รถจะวิ่งอยู่ตรงกลาง
การใช้งานและการขับขี่
เลนโดยไม่คำนึงถึงรถคันข้างหน้า
2. หากรถเข้าสู่ส่วนถนนที่เส้นไม่ชัดเจนหรือขาด
หายไป และมีรถเป้าหมายอยู่ข้างหน้า รถจะ
ตามไปและเคลื่อนตัวเล็กน้อยไปมาทางด้าน
ข้าง หากไม่มีรถเป้าหมายอยู่ข้างหน้า ฟังค์ชั่น
ICC จะถูกระงับและเฉพาะ ACC เท่านั้นที่จะ
ทำงานได้
• เมื่อเปิดใช้งานฟังค์ชั่น ICC และเปิดใช้งานฟัง
ค์ชั่น ACC และความเร็วอยู่ระหว่าง 60 ถึง
120 กม./ชม.:
1. หากมีการระบุเส้นช่องจราจรทั้งสองด้านของ
รถ ระบบจะควบคุมให้รถจะวิ่งอยู่ตรงกลาง
เลนโดยไม่คำนึงถึงรถคันข้างหน้า
2. หากรถเข้าสู่ส่วนถนนที่เส้นไม่ชัดเจนหรือขาด
หายไป ไม่ว่าจะมีรถเป้าหมายอยู่ข้างหน้า
หรือไม่ ฟังค์ชั่น ICC จะถูกระงับและมีเพียง
ACC เท่านั้นที่จะทำงานได้
ข้อควรระวัง !
• เมื่อระบบเปิดอยู่ หากมือคนขับปล่อย
พวงมาลัยทิ้งไว้ประมาณ 15 วินาที ระบบ
จะเตือนให้คนขับ "please take over
the steering wheel " หากคนขับไม่เข้า
ควบคุมพวงมาลัย จะออกจากโหมด
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ
131
 วิธีใช้งาน
ข้อควรระวัง !
แตะที่ → DiPilot → Driving Assist
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ
เป็นระบบช่วยขับขี่ ไม่ใช่ระบบขับเคลื่อน เพื่อเปิดหรือปิดใช้งาน BSD เมื่อเปิดระบบการ
อัตโนมัติ ผู้ขับขี่ควรรักษาการควบคุมรถ ทำงานรถ ระบบจะตั้งค่าเริ่มต้นเป็นการตั้งค่า
ไว้เสมอ และมือของคนขับไม่ควรปล่อย ก่อนหน้า
พวงมาลัยไว้นานเกินไป มิฉะนั้นระบบจะ
ออก หลังจากที่ให้คนขับเข้าควบคุม
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ
ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ แสง
สว่าง และความชัดเจนของช่องทาง
เดินรถ ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
อย่างมากในสถานการณ์ต่างๆ เช่น ย้อน
แสง พระอาทิตย์ตก ถนนที่มีหิมะปกคลุม BSD
และถนนที่ได้รับความเสียหายรุนแรง
เมื่อความเร็วสูงกว่า 30 กม./ชม. และเซ็นเซอร์
• ICC เป็นระบบที่รวมการทำงานของระบบ
ตรวจจับรถยนต์ภายในจุดอับสายตาของกระจก
ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้
มองข้าง ไฟเตือนจะสว่างขึ้น หากใช้ไฟเลี้ยว
(ACC) และระบบรักษาช่องทางเดินรถ
สำหรับด้านเดียวกันในขณะนี้ สัญญาณไฟเตือน
(LKS) ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อ
จะกะพริบเพื่อเตือนผู้ขับขี่ถึงการเปลี่ยนเลนที่มี
ควรระวังที่เกี่ยวข้องสำหรับ ACC และ
ความเสี่ยง
LKS เมื่อใช้งาน

ระบบตรวจจับจุดอับสายตา*
• ระบบตรวจจับจุดอับสายตา (BSD) มีฟังค์ชั่น
ดังต่อไปนี้: การตรวจจับจุดอับสายตา, ระบบ
รักษาช่องทางเดินรถ, ระบบเตือนการจราจร
ด้านหลัง, ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง, การ
เตือนการชนด้านหลัง และการเตือนการเปิด
ประตู* โดยจะระบุสภาพการจราจรในปัจจุบัน
ผ่านเซ็นเซอร์เรดาร์เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่ขับขี่
อย่างปลอดภัย

132
ระบบช่วยเตือนด้านข้าง
เมื่อความเร็วสูงกว่า 30 กม./ชม. และเซ็นเซอร์
ตรวจจับยานพาหนะที่วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วใน
เลนที่อยู่ติดกัน ไฟแสดงที่กระจกมองข้างจะสว่าง
ขึ้น หากใช้ไฟเลี้ยวสำหรับด้านเดียวกันในขณะนี้
สัญญาณไฟเตือนจะกะพริบเพื่อเตือนผู้ขับขี่ถึง
การเปลี่ยนเลนที่มีความเสี่ยง
การแจ้งเตือนการจราจรทางด้านหลัง
(RCTA)
• RCTA ช่วยคนขับตรวจสอบพื้นที่ตัดขวางทั้ง
สองด้านที่ด้านหลังของรถ เมื่อรถถอยหลัง จะ
เตือนคนขับว่ามีรถเข้ามาข้างหลังหรือไม่
• เมื่อรถถอยหลังระบบ RCTA จะตรวจจับยาน
พาหนะที่กำลังเดินทางเข้ามา ในจุดอับสายตา
ด้านหลังผ่านเรดาร์ หากระบบ RCTA เชื่อว่า
รถคันอื่นๆ ที่วิ่งเข้ามาด้านหลังอาจชนเข้ากับ
รถ ระบบจะเปิดไฟแสดงจุดที่กระจกมองข้าง
เพื่อที่ผู้ขับขี่จะลดความเสี่ยงจากการชนได้
ระบบเบรกอัตโนมัติ การจราจรขวางทาง
ด้านหลัง (RCTB)
• RCTB ใช้ในกรณีที่รถตรวจพบ รถคันอื่นที่อยู่
ตรงข้ามเมื่อกำลังงออกจากที่จอดรถแนวตั้ง/
เอียง โดยจะแจ้งเตือนและช่วยคนขับเบรกเพื่อ
ป้องกันการชนกันโดยเฉพาะเมื่อที่จอดรถด้าน
ข้างบังทัศนวิสัยของผู้ขับขี่
• เมื่อรถถอยหลัง ระบบ RCTB จะรับข้อมูลจาก
เซ็นเซอร์เรดาร์ด้านหลังซ้าย/ขวา และประเมิน
ความเสี่ยงและเวลาในการชนกับเป้าหมายที่
เกี่ยวข้อง
• ระยะในการตรวจจับของเรดาร์ ขึ้นอยู่กับระยะ
ทางที่วัดได้ไปยังเป้าหมาย ความเร็วสัมพัทธ์
และมุมเข้าหา ระบบ RCTB จะระบุระดับ
ความเสี่ยงในการชน และเบรกรถโดยอัตโนมัติ 05
หรือช่วยเตือนคนขับให้เบรกด้วยตนเอง
การใช้งานและการขับขี่
เตือนการชนท้าย
• หากความเร็วรถสูงกว่า 5 กม./ชม. และ
เซ็นเซอร์ตรวจพบความเสี่ยงต่อการชนจากรถ
ที่เข้าใกล้เร็วเกินไปจากด้านหลัง ไฟแสดงที่
กระจกมองข้างจะกะพริบ และเสียงสัญญาณ
เตือนจะดังขึ้นเพื่อเตือนผู้ขับทั้งสองคนที่
เกี่ยวข้อง
คำเตือนเปิดประตู (DOW)*
• ระบบ DOW จะตรวจจับสภาวะที่อาจเป็น
อันตรายต่อความปลอดภัยของรถจากด้านหลัง
เมื่อรถหยุดและเปิดประตู จะส่งสัญญาณไฟ
เตือน
• เรดาร์ด้านหลังตรวจจับพบเป้าหมายที่เข้ามา
ใกล้จากด้านหลังทั้งสองด้าน พบสภาวะเสี่ยง
จะเตือนผู้ขับขี่
• เป้าหมายการตรวจจับรวมถึงยานพาหนะ
ไม่มีเครื่องยนต์ เช่น จักรยานและยาน
พาหนะขนาดเล็กอื่นๆ หรือ ยานพาหนะมี
เครื่องยนต์ และคนเดินถนน
ข้อควรระวัง !
• ระบบ BSD ช่วยคนขับในการตรวจสอบ
จุดอับสายตาของกระจกมองข้าง แต่ไม่
สามารถแทนที่การสังเกตและ
วิจารณญาณของผู้ขับขี่ได้ ผู้ขับขี่ต้อง
รักษาการควบคุมรถตลอดเวลา และมี
ความรับผิดชอบต่อรถอย่างเต็มที่
133
 ข้อควรระวัง !
• เมื่อรถเป้าหมายกำลังเข้าใกล้จากด้าน
หลังด้วยความเร็วสูง ระบบ BSD อาจไม่
สามารถให้คำเตือนที่เพียงพอได้
• ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบ
BSD ทำงานเป็นปกติ โดยทำให้เซ็นเซอร์
เรดาร์ BSD อยู่ในสภาพดี เช่น หากมีสิ่ง
กีดขวาง หิมะ หรือสิ่งกีดขวางอื่นๆ อยู่
เต็ม ต้องรีบกำจัดทันที
• การตรวจจับอาจได้รับผลกระทบหรือ
ล่าช้าในบางสภาพแวดล้อมและเมื่อ พื้นที่
หน้าตัดของยานพาหนะเป้าหมายมีขนาด
เล็กเกินไป (อาจเป็นรถจักรยาน
จักรยานยนต์ไฟฟ้า หรือคนเดินเท้า)
ระบบจะไม่สามารถระบุความเสี่ยง ทำให้
เกิดสัญญาณเตือนที่ผิดพลาดได้ นอกจาก
นี้ การตรวจจับอาจได้รับผลกระทบจาก
สัญญาณรบกวนหรือการรบกวนทางแม่
เหล็กไฟฟ้า ส่งผลให้เกิดความล่าช้า
• หากเป้าหมายที่ไม่เกี่ยวข้องที่ด้านหลัง
ด้านข้าง หรือด้านหลัง (เช่น แผงกั้นริม
ถนนขนาดใหญ่ที่ใช้ระหว่างการซ่อมแซม
ถนน ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ข้างถนน
แผ่นสะท้อนแสงในอุโมงค์ หรือวัตถุอื่นๆ
ที่มีพื้นที่หน้าตัดสะท้อนแสงขนาดใหญ่)
ถูกเลือกเป็นเป้าหมายอย่างไม่ถูกต้อง
ระบบ BSD จะมีการแจ้งเตือนได้
• ในบางสถานการณ์ ระบบอาจช่วยเหลือผู้
ขับขี่ได้ยาก และระบบตรวจจับอาจได้รับ
ผลกระทบหรือล่าช้า สถานการณ์ที่เป็นไป
ได้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง:
134
ข้อควรระวัง !
» รถที่มาจากด้านหลังเปลี่ยนเลน
กะทันหัน
» ทางโค้ง ทางลาดชัน และสถานการณ์
อื่นๆ อาจทำให้การตรวจจับเป้าหมาย
ล่าช้า
» ความเร็วเป้าหมายสัมพัทธ์สูงกว่า 80
กม./ชม.;
» ยานภาหนะเป้าหมายถูกบดบัง
» เมื่อพื้นที่หน้าตัดสะท้อนแสงเรดาร์ของ
รถเป้าหมายเล็กเกินไป (อาจเป็น
จักรยานหรือจักรยานยนต์ไฟฟ้า)
» รัศมีโค้งแคบเกินไป หรือเมื่อเข้าหรือ
ออกจากโค้ง
» สภาพอากาศที่รุนแรง เช่น ฝนหรือ
หิมะ
• การสอบเทียบเซ็นเซอร์ BSD อาจได้รับผล
กระทบจากการสั่นสะเทือนหรือการชนกัน
ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของระบบลดลง ใน
กรณีนี้ ให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้
บริการที่ได้รับอนุญาตจาก BYD
ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง
คำอธิบายระบบ
• ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS)
ประกอบด้วยโมดูลตรวจสอบแรงดันลมยาง
ชุดควบคุมตรวจสอบแรงดันลมยาง และ
จอแสดงผล ระบบตรวจสอบแรงดันลมยางใน
เวลาจริงและมีสัญญาณเตือนเป็นภาพและ
เสียง
• ระบบนี้มีส่วนช่วยในการปรับปรุงความ
ปลอดภัยและความสบาย ลดการเสียดทาน
และการใช้พลังงาน
• ขณะขับรถ ข้อความแจ้งจะแสดงบนหน้า
จอแสดงผลสำหรับคนขับ เมื่อไม่มีข้อความ
แจ้งปรากฏขึ้น ผู้ใช้สามารถเลือกหน้าจอแสดง
ผลแรงดันลมยางได้โดยการกด
ที่พวงมาลัย
• สำหรับค่าความดันมาตรฐาน ให้อ้างอิงมูล
จำเพาะของรถ
ฟังค์ชั่นพื้นฐาน
• สัญญาณเตือนเมื่อเปิดการทำงานรถ
• หากแรงดันลมยางต่ำเมื่อรถดับ สัญญาณ
เตือนแรงดันต่ำจะเตือนให้คนขับเติมลมเมื่อ
รถกลับมาเปิดใหม่
• สัญญาณเตือนแรงดันลมยางต่ำ
• เมื่อระบบกำลังทำงาน เมื่อยางหนึ่งในสี่เส้น
มีแรงดันต่ำกว่า 75% ของแรงดันลมยาง
มาตรฐาน TPMS จะส่งสัญญาณเตือนแรง
ดันลมยางต่ำภายใน 1 นาทีและระบุ
ตำแหน่งยาง
• ในกรณีนี้ ให้เติมลมยางให้มีแรงดัน
มาตรฐาน เมื่อแรงดันลมยางสูงกว่า 95%
ของแรงดันลมยางมาตรฐาน สัญญาณเตือน
จะหยุดลง 05
• สัญญาณเตือนการรั่วไหลของอากาศอย่าง
การใช้งานและการขับขี่
รวดเร็ว
• เมื่อระบบกำลังทำงาน เมื่อลมยางอย่าง
น้อยหนึ่งเส้นรั่วไหลในอัตราที่สูงกว่าค่าที่
กำหนด TPMS จะส่งสัญญาณเตือนการรั่ว
ไหลของอากาศอย่างรวดเร็วภายใน 15
วินาทีและระบุตำแหน่งยาง
• ในกรณีนี้ ให้ตรวจสอบยางในเวลาที่เหมาะ
สมและให้แน่ใจว่ายางอยู่ในสภาพดีก่อน
ขับขี่
• สัญญาณเตือนความผิดพลาด
• เมื่อระบบกำลังทำงาน จะมีการเตือนหาก
ระบบทำงานล้มเหลว
• แสดงค่าความดันแบบปัจจุบัน
• เมื่อ TPMS กำลังทำงาน ค่าความดันของ
ยางแต่ละเส้นจะแสดงขึ้น
135
คำอธิบายของสัญญาณเตือน
ไฟเตือนแรงดันลมยาง:
สัญญาณเตือน การแสดงผล วิธีการแก้
1. ไฟเตือนแรงดันลมยางจะสว่างขึ้น ตรวจสอบการรั่วไหลของอากาศช้า
แรงดันลมยางต่ำ
2. ค่าแรงดันลมยางเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และเติมลมยางให้ได้ค่าแรงดันที่ถูกต้อง
1. ไฟเตือนแรงดันลมยางจะกะพริบ
ตรวจสอบโมดูลตรวจสอบแรงดันลม
และติดค้าง
สัญญาณผิดปกติ ยาง และหาแหล่งกำเนิดแม่เหล็กไฟฟ้า
2. ค่าแรงดันลมยางจะแสดงเป็น:
ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
สัญญาณผิดปกติ
1. ไฟเตือนแรงดันลมยางจะกะพริบ
และติดค้าง
ตรวจสอบโมดูลตรวจสอบแรงดันลม
2. ข้อความแจ้งเตือน: check tire
ระบบล้มเหลว ยางและโมดูลควบคุมแรงดันลมยาง
pressure monitoring system
หรือเปลี่ยนหากจำเป็น
3. ค่าแรงดันลมยางจะแสดงเป็น:
สัญญาณผิดปกติ

ข้อควรระวัง
• เวลาทำงานของโมดูลตรวจสอบแรงดันลมยาง
สัมพันธ์กับระยะการเดินทางในแต่ละวัน
• โมดูลส่งข้อมูลเช่นแรงดันลมยางไปยังจอแสดง
ผลอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น หากแรงดันลมยาง
ลดลงกะทันหันหรือมียางแบน โมดูลตรวจสอบ
จะไม่ส่งข้อมูลไปยังจอแสดงผลจนกว่าจะมีการ
ตรวจสอบครั้งต่อไป ในกรณีนี้ รถอาจไม่
สามารถควบคุมได้ หากมียางแบนและการเฝ้า
ติดตามไม่แจ้ง เมื่อผู้ขับขี่รู้สึกว่ายางมีปัญหา
ให้หยุดขับรถทันที
• การติดตั้งโมดูลตรวจสอบแรงดันลมยางที่ไม่
เหมาะสมจะส่งผลต่อความหนาแน่นของก๊าซ
ในยาง ควรติดตั้งและเปลี่ยนโมดูลตรวจสอบ
แรงดันลมยางโดยช่างผู้ชำนาญการจาก
ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD ตามคู่มือการติดตั้ง
• หากต้องการเปลี่ยนตำแหน่งยางหรือเปลี่ยน
โมดูลตรวจสอบแรงดันลมยาง ก่อนอื่นให้ทำ
การรีแมตช์ระบบตรวจสอบยางทั้งหมด ควร
ทำโดยช่างมืออาชีพจากตัวแทนจำหน่ายหรือผู้
ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของบีวายดี มิฉะนั้น
อาจเกิดความล้มเหลวของระบบ

136
• เนื่องจากแรงดันลมยางแตกต่างกันไปตาม
อุณหภูมิภายนอก เติมลมหรือปล่อยลมยาง
ตามค่าที่แสดงบนแผงหน้าปัดและค่าความดัน
มาตรฐาน
• TPMS ใช้การส่งสัญญาณแบบไร้สาย ซึ่งอาจ
ระบบมุมมองพาโนรามา*
แตะที่มุมมองรถในหน้าแรกของระบบสาระ
บันเทิง กดปุ่มพวงมาลัยหรือเข้าเกียร์ R แล้ว "มุม 05
มองแบบพาโนรามา" จะเปิดใช้งาน

การใช้งานและการขับขี่
รับสัญญาณที่ไม่ดีภายใต้การรบกวนที่รุนแรง

คำเตือน
• หากแรงดันลมยางผิดปกติ ระบบจะไม่
ขัดขวางการขับขี่ ดังนั้น ทุกครั้งก่อนขับ
รถ ควรสตาร์ทรถโดยหยุดนิ่งเพื่อตรวจ
สอบว่าแรงดันลมยางตรงตามข้อกำหนดที่
ผู้ผลิตกำหนดหรือไม่ ถ้าไม่เช่นนั้น ห้าม • โหมดแนวนอน:
ขับรถเสี่ยงอันตรายหรือเสี่ยงต่อความ • แตะที่ไอคอนสำหรับมุมมอง ด้านหน้า ด้าน
ปลอดภัย หลัง ด้านขวา และด้านซ้าย ที่ด้านล่างซ้าย
• หากพบว่าแรงดันลมยางผิดปกติในขณะ ของหน้าจอสาระบันเทิง และมุมมองเดี่ยว
ขับขี่ ให้ตรวจสอบแรงดันลมยางทันที จะแสดงขึ้นบนพื้นที่มุมมองด้านซ้าย
หากไฟเตือนแรงดันต่ำติดสว่าง ให้หลีก
เลี่ยงการเลี้ยวกระทันทันหรือการเบรก
อย่างรุนแรง ให้ลดความเร็วและหยุดโดย
เร็วที่สุด การขับรถด้วยแรงดันลมยางต่ำ
อาจทำให้ยางเสียหายถาวรและเพิ่ม
โอกาสที่ยางจะฉีกขาด ความเสียหายร้าย
แรงของยางอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้าย
แรงได้ • ในมุมมองด้านหน้าและด้านหลังด้านเดียว
ให้แตะสองครั้งที่พื้นที่ดูเพื่อเปลี่ยนเป็นมุม
มองแบบ 180° และแสดงผลแบบเต็มหน้า
จอ

137
 • แตะไอคอนเรดาร์ ในมุมมองแบบ
พาโนรามาเพื่อเปิดใช้งานการแสดงเรดาร์
แล้วแตะอีกครั้งเพื่อปิดใช้งาน เมื่อเปิดใช้
งาน มุมมองเรดาร์ คำเตือนสิ่งกีดขวางจะ
ปรากฏขึ้นเมื่อเข้าใกล้
• โหมดแนวตั้ง:
• แตะที่หนึ่งในสองไอคอนใดก็ได้สำหรับมุม
มองด้านหน้า ด้านหลัง ด้านขวา และด้าน
ซ้ายที่ด้านล่างของหน้าจอสาระบันเทิง และ
มุมมองเดียวของตำแหน่งที่เลือกจะแสดง
ขึ้นในพื้นที่มุมมองด้านบนและด้านล่างขวา
• แตะเบาๆ ที่ Body Image ทางด้านซ้ายเพื่อ
สลับไปมาระหว่างที่มองเห็นรถได้และมองไม่
เห็นรถ
• หลังจากที่รถสตาร์ท ภาพสุดท้ายก่อนปิด
เครื่องครั้งสุดท้ายจะแสดง มุมมองพาโนรามา
แบบโปร่งใสที่แสดงบนหน้าจอ สิ่งแปลกปลอม
ในส่วนล่างและบริเวณอับสายตาโดยรอบอาจ
ไม่สอดคล้องกับของจริง ภาพใต้ท้องรถจะได้
รับการอัปเดตตามเวลาจริงหลังจากที่รถ
เคลื่อนตัวเท่านั้น ซึ่งจะต้องขับให้เกินความ
ยาวเพื่อให้การอัปเดตสมบูรณ์
138
คำเตือน
• ระบบนี้ใช้กล้องฟิชอายมุมกว้าง วัตถุบน
หน้าจอแสดงผลอาจดูผิดรูปบ้างเมื่อเทียบ
กับวัตถุจริง
• ระบบมุมมองแบบพาโนรามา ใช้สำหรับ
จอดรถ/ช่วยเหลือในการขับขี่เท่านั้น ไม่
ปลอดภัยที่จะจอดรถหรือขับรถโดยอาศัย
ระบบนี้เท่านั้น เพราะมีจุดบอดด้านหน้า
และด้านหลังรถอยู่บ้าง ควรสังเกตสภาพ
แวดล้อมของรถในลักษณะอื่นในระหว่าง
ขั้นตอนการจอดรถ/ขับรถ เพื่อหลีกเลี่ยง
อุบัติเหตุ
• เมื่อกระจกมองข้างไม่กางออกเข้าที่ ห้าม
ใช้ระบบมุมมองแบบพาโนรามา และเมื่อ
ใช้ระบบมุมมองพาโนรามาสำหรับจอด
รถ/ขับรถ ให้ปิดประตูรถทุกบาน
• ระยะห่างจากวัตถุที่แสดงบนหน้าจอมุม
มองแบบพาโนรามาอาจแตกต่างไปจาก
ระยะทางที่รับรู้ได้โดยเฉพาะเมื่อวัตถุอยู่
ใกล้กับรถมากขึ้น ผู้ขับขี่ต้องตัดสินระยะ
ห่างระหว่างรถกับวัตถุด้วยวิธีต่างๆ
• กล้องติดตั้งอยู่ที่กันชนหน้า ด้านล่างของ
กระจกมองข้างซ้ายและขวา และเหนือ
ป้ายทะเบียนด้านหลัง ตรวจสอบให้แน่ใจ
ว่าไม่มีสิ่งกีดขวางกล้อง
• เมื่อล้างรถด้วยปืนฉีดน้ำแรงดันสูง
พยายามหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นลงบนตัว
กล้องโดยตรง เพื่อไม่ให้กระทบต่อ
ประสิทธิภาพการทำงาน หากมีน้ำหรือฝุ่น
บนกล้องควรเช็ดทำความสะอาดทันที
 • เมื่อรถออกจากการถอยหลัง หน้าจอจะกลับ
คำเตือน คืนมา
• ปกป้องกล้องจากการกระแทกเพื่อ หน้าจอถอยหลัง
ป้องกันความเสียหายหรือการทำงานผิด 05
ปกติ • เส้นสองเส้นในภาพคือเส้นนิรภัยสำหรับการ
ถอยหลัง

การใช้งานและการขับขี่
• หากระบบสาระบันเทิงไม่ได้เปิดใช้งาน
อย่างเต็มที่หลังจากเพิ่งเปิดใช้งานรถ เมื่อ • สีแดง: ห่างออกไปประมาณ 0 ม. ถึง 0.5 ม.
ปุ่มกดมุมมองพาโนรามา หรือเข้าเกียร์ • สีเหลือง: ห่างออกไป 0.5 ม. ถึง 1 ม.
ถอยหลัง ภาพบนหน้าจอมุมมอง • สีเขียว: ห่างไปประมาณ 1 ม. ถึง 3 ม.
พาโนรามาจะแสดงล่าช้าหรือหน้าจอจะ
กะพริบ นี่เป็นส่วนปกติของกระบวนการ
เปิดกล้อง
• เมื่อเคลื่อนรถที่ความเร็วต่ำ ฟังค์ชั่น
พาโนรามาแบบโปร่งใสได้รับผลกระทบ
จากความผันผวนของความเร็วหรือการ
หยุดหลายครั้งและการเบรกจะเกิด
ความคลาดเคลื่อนระหว่างภาพด้านล่าง • พื้นที่ที่แสดงจะแตกต่างกันไปตามทิศทางของ
ของตัวรถและภาพลักษณ์ภายนอกตัวรถ รถและสภาพถนน

คำเตือน
ระบบช่วยจอดรถ
• เมื่อความเร็วรถเกิน10 กม./ชม. ระบบ
• เมื่อจอดรถ ระบบช่วยจอดรถจะใช้เซ็นเซอร์ ช่วยจอดจะหยุดทำงาน
ตรวจจับสิ่งกีดขวางและแจ้งให้คนขับทราบ
ระยะห่างระหว่างรถกับสิ่งกีดขวางผ่านหน้าจอ • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าช่วงการทำงานของ
สาระบันเทิง* และสัญญาณเตือนของลำโพง เซ็นเซอร์ไม่มีวัตถุใดขวาง
• ระบบช่วยจอดรถเป็นวิธีการช่วยถอยรถ ตรวจ • ห้ามล้างหรือใช้ไอน้ำบริเวณเซ็นเซอร์ขณะ
สอบให้แน่ใจว่าได้ตรวจสอบด้านหลังรถและ ล้างรถ เพื่อป้องกันเซ็นเซอร์ทำงานผิด
บริเวณโดยรอบเมื่อถอยหลัง ปกติ
• เมื่อรถถอยหลัง ระบบจะเปิดใช้งานมุมมอง
ถอยหลังโดยอัตโนมัติ
• ห้ามใช้ปุ่มอื่นภายใต้หน้าจอ หน้าจอถอยหลัง
ยกเว้นปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มที่เกี่ยวข้อง
กับโทรศัพท์

139
สวิตช์ช่วยจอดรถ
• กดสวิตช์ Reversing Radar* หรือแตะ หน้า
จอ Infotainment → Dipilot →
Parking Assist → Reversing Radar
เพื่อเปิดหรือปิดระบบช่วยจอดรถ
• เมื่อสถานะเปิดรถอยู่ที่ OK EPB จะถูกปล่อย
และระบบช่วยจอดจะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
(1) เซ็นเซอร์หน้าซ้าย*
(2) เซ็นเซอร์ด้านหน้ามุมขวา*
(3) เซ็นเซอร์ด้านหลังมุมขวา*
(4) (5) เซ็นเซอร์ด้านหลังตรงกลาง*
(6) เซ็นเซอร์ด้านหลังมุมซ้าย*
การแสดงระยะทางและลำโพง
เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจพบสิ่งกีดขวาง ตำแหน่งของสิ่ง
• มีสัญญาณเตือนหากพบสิ่งกีดขวางรอบๆ เมื่อ กีดขวางและระยะห่างจากรถจะแสดงบนหน้าจอ
รถเมื่อเปิดการทำงาน จะไม่มีสัญญาณเตือน สาระบันเทิง และลำโพงจะส่งเสียงบี๊บ
เมื่อรถปิดการทำงาน ตัวอย่างการทำงานของเซ็นเซอร์ตรงกลาง
ประเภทเซนเซอร์ ระยะทาง จอแสดงผล
เสียงเตือน
• เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง ภาพที่ (มม.) สาระบันเทิง
เกี่ยวข้องจะปรากฏบนหน้าจอสาระบันเทิง*
ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของสิ่งกีดขวางและระยะ ประมาณ 700
ช้า
ห่างจากรถ ถึง 1,200
• เซ็นเซอร์วัดระยะห่างระหว่างรถกับสิ่งกีดขวาง ประมาณ 300
เร็ว
เมื่อกำลังจอดรถหรือเคลื่อนที่ระหว่างแถวที่ ถึง 700
จอดรถ ข้อมูลระยะห่างจะแสดงผ่านทางหน้า
จอสาระบันเทิงและลำโพง ระวังสภาพ ประมาณ 0 ถึง
ต่อเนื่อง
แวดล้อมในการใช้ระบบนี้ 300

140
ตัวอย่างการทำงานของเซ็นเซอร์ด้านมุม หมายเหตุ
ระยะทาง จอแสดงผล • ระบบช่วยจอดได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วย
เสียงเตือน
(มม.) สาระบันเทิง คนขับในที่จอดรถ ไม่ได้ใช้แทนวิจารณญาณ 05
ส่วนบุคคลและการสังเกตการเคลื่อนที่ของ
ประมาณ

การใช้งานและการขับขี่
เร็ว รถ
300 ถึง 600
• เซ็นเซอร์จะทำงานไม่ถูกต้องหากวางอุปกรณ์
ประมาณ 0 เสริมหรือวัตถุอื่นๆ ไว้ภายในระยะการตรวจ
ต่อเนื่อง จับ
ถึง 300
• ในบางกรณี เซ็นเซอร์ทำงานไม่ถูกต้องและ
เซนเซอร์ทำงาน ไม่สามารถตรวจจับวัตถุที่รถเข้าใกล้ได้ ดัง
และช่วงการตรวจจับ นั้น ผู้ขับขี่จึงต้องสังเกตบริเวณโดยรอบของ
เซ็นเซอร์ทั้งหมดจะเปิดใช้งานเมื่อถอยหลัง รถเสมอ แทนที่จะพึ่งเซ็นเซอร์เพียงอย่าง
รูปภาพแสดงช่วงการตรวจจับของเซ็นเซอร์ เดียว
เซ็นเซอร์มีการจำกัดช่วง ดังนั้นผู้ขับขี่จะต้องตรวจ
ข้อมูลการตรวจจับเซนเซอร์
สอบสภาพแวดล้อมก่อนที่จะถอยหลังรถอย่าง
ช้าๆ • สภาพรถและสภาพแวดล้อมบางอย่างอาจส่ง
ผลต่อความสามารถของเซ็นเซอร์ในการตรวจ
จับสิ่งกีดขวางได้อย่างแม่นยำ ความแม่นยำใน
การตรวจจับอาจได้รับผลกระทบหาก:
• มีสิ่งสกปรก น้ำ หรือไอน้ำบนเซนเซอร์
• มีหิมะหรือน้ำค้างแข็งบนเซ็นเซอร์
• เซ็นเซอร์ถูกปิดบังไว้
• รถมีเอียงเนื่องจากบรรทุกสัมภาระมากเกิน
ไป
(1) ประมาณ 1,200 มม.
(2) ประมาณ 600 มม. • รถกำลังเคลื่อนที่บนถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ
ทางลาด ลูกรัง หรือหญ้า
• เซ็นเซอร์ได้รับการทาสีใหม่

141
 • บริเวณใกล้เคียงมีเสียงดังเนื่องจากการบีบ
แตรของยานพาหนะ เครื่องยนต์ของรถ
จักรยานยนต์ เบรกลมของยานพาหนะ
ขนาดใหญ่ หรือเสียงอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดคลื่น
อัลตราโซนิก
• มีระบบช่วยจอดรถอีกเครื่องในบริเวณใกล้
เคียง
• รถมีการลากจูง
• กันชนหรือเซ็นเซอร์ถูกกระแทกอย่างแรง
• รถกำลังเข้าใกล้ขอบทางสูงหรือซิกแซก
• รถกำลังขับกลางแดดหรืออากาศเย็น
• รถติดตั้งช่วงล่างด้านล่างที่ไม่ใช่ของเดิม
• ยกเว้นตามที่อธิบายไว้ข้างต้น เซนเซอร์อาจไม่
สามารถระบุระยะทางจริงได้อย่างถูกต้อง
เนื่องจากรูปร่างของวัตถุ
• รูปร่างและวัสดุของสิ่งกีดขวางอาจทำให้
เซ็นเซอร์ตรวจจับไม่ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่ง
ต่อไปนี้:
• สายไฟฟ้า รั้วและเชือก
• ผ้าฝ้าย หิมะ และวัสดุอื่นๆ ที่ดูดซับ
คลื่นวิทยุ
• วัตถุใดๆ ที่มีขอบและมุมแหลมคม
• วัตถุอยู่ต่ำ.
• สิ่งกีดขวางสูง หันออกหรือหันเข้าสู่ตัวรถ
• วัตถุใดๆ ที่อยู่ใต้กันชน
• วัตถุใดๆ ที่อยู่ใกล้กับรถมากเกินไป
• คนใกล้รถ (แล้วแต่ประเภทของเสื้อผ้า)
142
• หากภาพปรากฏบนจอแสดงผลมัลติมีเดีย*
หรือมีเสียงบี๊บ เซ็นเซอร์อาจตรวจพบสิ่ง
กีดขวางหรืออาจมีการรบกวนจากภายนอกกับ
เซ็นเซอร์ หากปัญหาดังกล่าวยังคงอยู่ ไปยัง
ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD เพื่อตรวจสอบ
ข้อควรระวัง !
• ห้ามล้างหรือใช้ไอน้ำบริเวณเซ็นเซอร์ขณะ
ล้างรถ เพื่อป้องกันเซ็นเซอร์ทำงานผิด
ปกติ
ระบบความปลอดภัยในการขับขี่
เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ระบบความปลอดภัยใน
การขับขี่ต่อไปนี้จะทำงานโดยอัตโนมัติตามสภาพ
การขับขี่ อย่างไรก็ตาม ระบบเหล่านี้ให้ความช่วย
เหลือเท่านั้น และไม่แนะนำให้ผู้ขับขี่พึ่งพาระบบ
เหล่านี้มากเกินไป
ระบบเบรกอัจฉริยะ
• ระบบเบรกอัจฉริยะเป็นระบบ EHB แบบแยก
ส่วนขั้นสูง ซึ่งรวมฟังค์ชั่นของบูสเตอร์
สุญญากาศ ปั๊มสุญญากาศแบบไฟฟ้า ระบบ
เบรกป้องกันล้อล็อค (ABS) ระบบรักษา
เสถียรภาพ และคุณสมบัติอื่นๆ
• ระบบเบรกอัจฉริยะช่วยเบรกรถตามความ
ต้องการของผู้ขับขี่ ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและ
ความสบายในขับขี่ ตลอดจนประสิทธิภาพการ
ทำงานของระบบเบรก
ระบบควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ของยาน
พาหนะ (VDC)
หากรถเบี่ยงออกจากเลนปกติของคนขับ VDC จะ
แก้ไขสถานการณ์โดยกดเบรกกับล้อที่เกี่ยวข้อง
เพื่อช่วยควบคุมการลื่นไถลและรักษาเสถียรภาพ
ของทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ
ระบบควบคุมการลื่นไถล (TCS)
TCS ป้องกันไม่ให้ล้อขับเคลื่อนลื่นไถลเมื่อเร่ง
ความเร็ว และควบคุมเบรกเพื่อป้องกันไม่ให้ล้อ
ขับเคลื่อนหมุนฟรีเมื่อจำเป็น TCS ทำให้รถ
สตาร์ท เร่งความเร็ว และไต่ระดับได้ง่ายภายใต้
สภาพการขับขี่ที่ไม่เอื้ออำนวย
คำเตือน
• ประสิทธิภาพของ TCS ได้รับผลกระทบ
ภายใต้เงื่อนไขต่อไปนี้:
» เมื่อขับรถบนถนนที่ลื่น แม้ว่า TCS
จะทำงานอย่างถูกต้อง แต่ก็อาจไม่
สามารถควบคุมทิศทาง และปฏิบัติตาม
กำลังขับเคลื่อนที่ต้องการได้
» สภาวะที่อาจสูญเสียเสถียรภาพ
และกำลัง
ระบบควบคุมการทรงตัว
บนทางลาดชัน (HHC)
หลังจากปล่อยแป้นเบรก HHC จะรักษาแรงดัน
เบรกไว้เป็นเวลา 1 วินาทีเพื่อป้องกันการเลื่อน
ถอยหลัง
ระบบช่วยเบรกไฮดรอลิก (HBA)
เมื่อเหยียบแป้นเบรกอย่างรวดเร็ว HBA จะรับรู้ว่า
รถอยู่ในโหมดฉุกเฉินและปรับแรงดันเบรกเพิ่มขึ้น
เพื่อให้ ABS สามารถทำงานได้เร็วยิ่งขึ้นและมี 05
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในการลดระยะเบรก
การใช้งานและการขับขี่
ควบคุมการชะลอความเร็วเบรกจอด
(CDP)*
เมื่อดึงสวิตช์ EPB ฟังค์ชั่น CDP จะเริ่มทำงาน
และรถเบรกที่ความเร็วคงที่ 0.4 g. เมื่อดึง EPB
โดยไม่เหยียบแป้นเบรก และ 0.8 g. เมื่อ EPB ถูก
ดึงโดยเหยียบแป้นเบรก จนกระทั่งรถหยุด และ
จะหยุดทำงานหากปล่อย EPB
ระบบควบคุมการลงทางลาดชัน (HDC)
หลักการทำงาน: HDC เป็นฟังค์่ชั่นเสริมกับระบบ
ESC เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่
หน้าที่หลักคือการช่วยให้รถเคลื่อนที่ช้าๆขึ้นเนิน
หรือลงเนินผ่านการเบรกแบบแอ็คทีฟ
• ในการเปิดหรือปิด HDC:
• แตะที่ → Dipilot → Active
Safety → Hill Descent Control เพื่อ
เปิดหรือปิด HDC
• สามารถกดสวิตช์ HDC ได้เมื่อความเร็วต่ำ
กว่า 38 กม./ชม. เมื่อเปิดใช้งาน HDC ไฟ
แสดงสถานะบนหน้าจอแสดงผลสำหรับคน
ขับจะแสดง
143
 • กดสวิตช์ HDC อีกครั้งเพื่อปิดใช้งานฟังค์ชั่น
และไฟแสดงสถานะจะดับลง เมื่อความเร็ว
เกินประมาณ 65 กม./ชม. HDC จะหยุด
โดยอัตโนมัติ
• เมื่อ HDC ทำงาน ระบบ ABS จะเปิดใช้งาน
เมื่อเกิดการลื่นไถล ABS จะทำให้ผู้ขับขี่
สามารถลงเนินได้อย่างปลอดภัย หรือแม้แต่
ถอยหลัง
• การควบคุมความเร็ว HDC:
• HDC ทำงานด้วยความเร็วระหว่าง 11 ถึง
38 กม./ชม. ซึ่งสามารถปรับความเร็วได้โดย
การกด/ปล่อยคันเร่งหรือแป้นเบรก แล้วแต่
ว่าจะถึงอย่างใดก่อน ไฟแสดงสถานะ HDC
จะกะพริบเพื่อระบุว่า HDC กำลังทำงาน
• ความผิดปกติของ HDC:
• ในสภาวะพิเศษบางอย่าง เช่น ในการลงเนิน
ที่ทอดยาว ฟังค์ชั่น HDC อาจไม่สามารถใช้
งานได้ชั่วคราวเนื่องจากอุณหภูมิเบรกสูง
• ข้อความ "Please check the HDC
system" จะปรากฏขึ้นเพื่อความปลอดภัย
หากต้องให้ฟังค์ชั่นกลับมาทำงาน ให้หยุด
รถรอจนกว่าอุณหภูมิเบรกจะเย็นลง
คำแนะนำในการใช้งาน ESC
ระบบเบรกไฟฟ้าอัจฉริยะมีฟังค์ชั่นใหม่ดังต่อไปนี้
เมื่อเทียบกับระบบ ESC ดั้งเดิม:
• ความรู้สึกเหยียบเบรก
• ใช้สำหรับปรับความรู้สึกของแป้นเบรก ภาย
ใต้โหมดต่างๆ ความสัมพันธ์ระหว่างแป้น
เบรกความลึกและการชะลอตัวของรถแตก
ต่างกัน ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดที่ต้องการ
ได้
144
• ในการปรับความรู้สึกของแป้นเบรก ให้แตะ
Infotainment → Vehicle Settings
→ Drive Comfort Adjust ไปที่การตั้ง
ค่า "Brake Pedal Feel Adjust" แล้ว
เลือก "Standard/Comfort"
• ช่วยควบคุมการหยุดรถ
ฟังค์ชั่นช่วยควบคุมการหยุดรถ: เมื่อรถชะลอ
ความเร็วลง เพื่อหยุดในสถานการณ์ที่ไม่ฉุกเฉิน
ระบบเบรกอัจฉริยะ (Intelligent Power
Braking System) ช่วยลดการยุบตัวของช่วงล่าง
และแรงกระแทกขณะหยุดรถ ด้วยการควบคุม
แรงดันของเบรกทั้งสี่ล้อ เพื่อให้ความรู้สึกในการ
หยุดรถอย่างนุ่มนวล
• ในการเปิดหรือปิดฟังค์ชั่นนี้ ให้แตะที่
Infotainment → Vehicle Settings
→ Drive Comfort Adjust และไปที่
การตั้งค่า "Comfort Parking"
• ดังนั้น ควรเพิ่มระยะห่างจากรถหรือสิ่ง
กีดขวางข้างหน้าให้เหมาะสมก่อนหยุดรถ
• การทำความสะอาดดิสก์เบรก
• ฟังค์ชั่นทำความสะอาดดิสก์เบรก: เมื่อเปิด
สวิตช์ปัดน้ำฝน หรือเซ็นเซอร์วัดปริมาณน้ำ
ฝนตรวจพบฝน ระบบเบรกอัจฉริยะจะใช้
แรงดันเบรกเล็กน้อยกับเบรกทั้งสี่เพื่อให้ผ้า
เบรกสัมผัสกับจานเบรกเพื่อกำจัดคราบน้ำ
บนจานเเบรก และลดเวลาตอบสนองของ
เบรก และลดระยะเบรก
• ตราบใดที่ระบบตรวจพบสัญญาณฝนหรือที่
ปัดน้ำฝนทำงาน จานเบรกจะถูกทำความ
สะอาดซ้ำๆ เป็นระยะๆ
• ESC ทำงาน
• หากมีความเสี่ยงที่จะลื่นไถลหรือไถลถอย
หลังเมื่อสตาร์ทบนทางลาดชัน หรือหากล้อ
ขับเคลื่อนไม่ทำงาน ไฟแสดง ESC จะ
กะพริบเพื่อระบุว่ากำลังทำงานอยู่
• ปิดใช้งาน ESC
• หากรถติดอยู่ในหิมะหรือโคลน ESC อาจลด
กำลังขับจากมอเตอร์ไปที่ล้อ ซึ่งควรปิด
ระบบเพื่อสามารถขับออกจากสถานการณ์
นั้นๆ
• วิธีปิดการใช้งาน ESC
• หากต้องการปิดใช้งาน ESC ให้แตะสวิตช์
ESC OFF หรือแตะการตั้งค่าระบบ
Infotainment เพื่อปิด นอกจากนี้ ESC จะ
ตรวจสอบสถานะการทำงานแบบปัจจุบัน
หากกดสวิตช์ ESC OFF ในขณะที่ ESC
กำลังทำงาน ระบบจะยังคงทำงานต่อไป
จนกว่าจะเสร็จสิ้นการควบคุมแทนที่จะ
รับคำสั่งปิดทันที ESC ถูกปิดใช้งานหลังจาก
การควบคุมทำงานเสร็จสมบูรณ์เท่านั้น
• สามารถเปิดใช้งาน ESC ที่ปิดใช้งานได้อีก
ครั้งหากกดสวิตช์ ESC OFF อีกครั้งหรือ
ความเร็วรถเกินขีดจำกัด 80 กม./ชม. ESC
อาจเปิดใช้งานใหม่ได้ก็ต่อเมื่อ ESC ไม่อยู่ใน
สถานะการแทรกแซงการทำงานของรถ
• สวิตช์ ESC OFF ทำงานผิดพลาด*
• ESC จะทำงานผิดพลาดหากกดสวิตช์ ESC
OFF นานกว่า 10 วินาที ฟังค์ชั่น ESC
ทั้งหมดจะทำงานตามปกติ
• ESC รีสตาร์ทหลังจากปิดการทำงานรถ
• หลังจากปิดใช้งาน ESC การรีสตาร์ทการ
ทำงานรถ หรือปิดและเปิดการทำงานรถ
ใหม่ ระบบ ESC จะเปิดการทำงานโดย
อัตโนมัติ
• ESC เริ่มต้นและเชื่อมโยงความเร็ว
• เมื่อปิด ESC รถจะไม่เสถียรอย่างมากเมื่อ 05
ความเร็วเพิ่มขึ้น เมื่อความเร็วสูงเกิน 80
การใช้งานและการขับขี่
กม./ชม. และ ระบบ ESC จะเปิดใช้งานเอง
• เปิดใช้งาน ESC
• หาก ESC มีข้อผิดพลาด จะแสดงสัญลักษณ์
กะพริบ ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง
• ESC ปิดการใช้งาน
• ระวังเมื่อ ESC ถูกปิดใช้งาน และขับด้วย
ความเร็วที่เหมาะสมกับสภาพถนน ESC
ช่วยให้มั่นใจได้ถึงเสถียรภาพและกำลังขับ
เคลื่อน ห้ามปิด ESC เว้นแต่จำเป็น
• เปลี่ยนยาง
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่ายางทั้งหมด มีขนาด
แบรนด์ ดอกยาง และน้ำหนักรวมเท่ากัน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เติมลมยางตามแรง
ดันที่แนะนำ
• ทั้ง ABS และ ESC จะไม่ทำงานอย่างถูก
ต้องหากรถมียางต่างกันในแต่ละล้อ
• สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนยาง
หรือล้อ โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการ
• การจัดการยางและช่วงล่าง
• การใช้ยางที่ชำรุดหรือระบบกันสะเทือนที่
ดัดแปลงจะส่งผลต่อระบบความปลอดภัย
ในการขับขี่และอาจทำให้ระบบทำงานล้ม
เหลว
145
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS)
• ระบบไฮดรอลิก ABS มีสองวงจรแยกจาก
กัน แต่ละวงจรจะวิ่งในแนวทแยงผ่านตัวรถ
(เบรกล้อหน้าขวาเชื่อมต่อกับเบรกล้อหลัง
ซ้าย) หากวงจรหนึ่งเสีย สองล้อยังสามารถ
เบรกได้
• ABS ช่วยรักษาการควบคุมพวงมาลัยโดย
ป้องกันไม่ให้ล้อล็อคหรือลื่นไถลเมื่อเบรก
กะทันหันหรือบนถนนลื่น
• เมื่อยางล้อหน้าลื่นไถล จะไม่สามารถควบคุม
พวงมาลัยได้ ซึ่งหมายความว่ารถยังคง
เคลื่อนที่ไปข้างหน้าแม้ว่าจะหมุนพวงมาลัย
แล้วก็ตาม ระบบ ABS ช่วยป้องกันการล็อค
และคงการควบคุมพวงมาลัยไว้ได้ เนื่องจาก
เบรกแบบเป็นจังหวะจะเร็วกว่าปฏิกิริยาของ
มนุษย์มาก
• ห้ามเหยียบแป้นเบรกเป็นจังหวะ มิฉะนั้น ABS
อาจทำงานผิดปกติ ขณะเลี้ยวออกจากจุด
คับขัน ควรรักษาแรงดันที่เหยียบเบรกให้มั่นคง
และสม่ำเสมอเพื่อให้ ABS ทำงาน นี่คือสิ่งที่
บางครั้งเรียกว่า “เหยียบลงอย่างมั่นคงและ
เลี้ยวอย่างแม่นยำ"
146
• เมื่อระบบ ABS ทำงาน แป้นเบรกจะกระพือ
ซึ่งอาจทำให้เกิดเสียง นั่นก็เพราะว่าระบบ
ABS นั้นทำการเบรกเป็นจังหวะๆ ซึ่งเป็นเรื่อง
ปกติ ABS ทำงานเร็วแค่ไหนขึ้นอยู่กับแรงยึด
เกาะของยาง
คำแนะนำด้านความปลอดภัยที่สำคัญ
• ABS ไม่ลดเวลาและระยะทางในการเบรก มัน
ช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อเบรกเท่านั้น
ให้รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันอื่น
เสมอ
• ABS ไม่สามารถป้องกันการลื่นไถลที่เกิดจาก
การเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน เช่น การพยายาม
เลี้ยวโค้งหรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน ขับรถอย่าง
ระมัดระวังและด้วยความเร็วที่ปลอดภัยตลอด
เวลา โดยคำนึงถึงสภาพถนนและสภาพอากาศ
• ABS ไม่ได้ป้องกันการสูญเสียเสถียรภาพ การ
การเลี้ยวหักศอกหรือรุนแรง ขณะเคลื่อนที่
อาจทำให้รถเสียหลักเข้าสู่ช่องทางจราจรที่
สวนทางมาหรือวิ่งออกนอกถนนได้
• รถที่ติดตั้งระบบ ABS อาจต้องใช้ระยะเบรก
ยาวขึ้นเมื่อขับบนพื้นผิวที่อ่อนนุ่มหรือไม่เรียบ
เช่น กรวดหรือหิมะ มากกว่ารถที่ไม่มีระบบ
ABS ในกรณีเช่นนี้ ให้ลดความเร็วและรักษา
ระยะห่างจากรถคันอื่น
คำเตือน
• ABS ไม่สามารถทำงานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพภายใต้เงื่อนไขต่อไปนี้:
» แรงยึดเกาะยางไม่เพียงพอ
» รถลื่นไถลเมื่อขับด้วยความเร็วสูงบน
ถนนลื่น

ข้อควรระวัง !
• หากไฟเตือน ABS ยังคงติดสว่างอยู่ใน
ขณะที่ไฟเตือนระบบเบรกติดขึ้น ให้หยุด
รถในที่ปลอดภัยทันที และติดต่อตัวแทน
จำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ BYD หรือผู้
ให้บริการ
• ABS ไม่สามารถป้องกันการลื่นไถลที่เกิด
จากการเปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหัน
เช่น เลี้ยวโค้งหรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน
ขับรถอย่างระมัดระวังและด้วยความเร็วที่
ปลอดภัยตลอดเวลา โดยคำนึงถึงสภาพ
ถนนและสภาพอากาศ
• ABS ไม่ได้ป้องกันการสูญเสียเสถียรภาพ
ในการเบรกฉุกเฉิน ให้บังคับเลี้ยวใน
ระดับปานกลาง การเลี้ยวหักศอกหรือ
รุนแรงในขณะเคลื่อนที่อาจทำให้รถเสีย
หลักเข้าสู่ช่องทางการจราจรที่สวนทางมา
หรือวิ่งออกนอกถนนได้
ระบบเสียงเตือน
เมื่อวิ่งด้วยความเร็วต่ำ (AVAS)
AVAS หมายถึงการกระจายเสียงไปยังผู้คนนอกรถ
หรือใกล้ยานพาหนะ เมื่อรถเดินทางด้วยความเร็ว
ต่ำ
• เมื่อขับรถไปข้างหน้า:
• ความดังของเสียงจะเพิ่มขึ้นตามความเร็วที่
เพิ่มขึ้นที่ 0 กม./ชม. < V ≤ 20 กม./ชม.
• ความดังของเสียงจะลดลงตามความเร็วที่
เพิ่มขึ้นที่ 20 กม./ชม. < V ≤ 30 กม./ชม.
• เสียงจะหยุดโดยอัตโนมัติเมื่อ V มากกว่า
30 กม./ชม.
• เมื่อขับถอยหลัง รถจะส่งเสียงเตือนที่ต่อเนื่อง
อย่างสมดุล
• AVAS มีโหมดเสียงสองโหมด: มาตรฐานและ
ไดนามิก ซึ่งให้เสียง AVAS ที่แตกต่างกันและ 05
สามารถเปลี่ยนได้ตามต้องการ
การใช้งานและการขับขี่
คำเตือน
• หากไม่ได้ยินเสียงเตือน AVAS เมื่อขับด้วย
ความเร็วต่ำ ให้หยุดรถในที่ที่ค่อนข้าง
ปลอดภัยและเงียบ เปิดกระจกแล้วขับ
ด้วยความเร็วคงที่ที่ 20 กม./ชม. ในเกียร์
D และฟัง (ระดับเสียงดังสูงสุด ณ เวลานี้)
เพื่อตรวจสอบเอฟเฟกต์เสียง หากยืนยัน
ได้ว่าไม่มีเสียง โปรดติดต่อตัวแทน
จำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ BYD หรือผู้
ให้บริการเพื่อดำเนินการแก้ไข
ประสบการณ์อัตราเร่ง
0-100 กม./ชม.
อัตราเร่งสูงสุดสามารถทำได้เมื่อ:
• SOC ของแบตเตอรี่แรงสูงคือ 95% หรือสูง
กว่า;
• รถอยู่ในโหมด SPORT
147
• นาฬิกาจับเวลาความเร็วปรากฏขึ้นบนจอ
แสดงเมนูข้อมูล

คำเตือน
• คำนึงถึงมาตรการความปลอดภัยที่
เกี่ยวข้องทั้งหมดเมื่อใช้ฟังค์ชั่นนี้
• ก่อนใช้งานฟังค์ชั่นนี้ ให้ตรวจสอบว่ายาง
เบรก และฟังค์ชั่นอื่นๆ ของรถอยู่ใน
สภาพที่สมบูรณ์ที่สุด
คำเตือน
• อย่าใช้ฟังค์ชั่นนี้เมื่อทัศนวิสัยต่ำ
• ห้ามแขวนของหนักที่กระจกมองหลัง
• ห้ามใช้ฟังค์ชั่นนี้บนถนนที่ลื่น หิมะ โคลน
หรือเขย่า หรือดึงแรงๆ
หรือน้ำขัง หรือบนพื้นหญ้า ทราย ฯลฯ
• เมื่อปรับกระจกมองหลังด้วยตนเอง อย่า
• ห้ามใช้ฟังค์ชั่นนี้บนถนนที่มีสภาพการ
พยายามปรับกระจกหากการปรับติดขัด
จราจรที่ซับซ้อน (เช่น ที่ทางแยก กับคน
เดินเท้า หรือผู้เข้าร่วมการจราจรอื่นๆ) • อย่าปรับกระจกมองหลังในขณะที่รถ
กำลังเคลื่อนที่ เนื่องจากอาจทำให้ผู้ขับขี่
• อย่าใช้ฟังค์ชั่นนี้ก่อนที่จะทำความคุ้นเคย
เสียสมาธิ
กับรถเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ

กระจกมองหลังป้องกันแสงสะท้อน
คำแนะนำสำหรับ แบบปรับด้วยตนเอง•

ฟังค์ชั่นหลักอื่นๆ • โหมดปกติ - ดันแท่งควบคุมไปข้างหน้าเพื่อให้

ได้ภาพสะท้อนที่ชัดเจนที่สุด
• โหมดป้องกันแสงสะท้อน - ดึงก้านควบคุม
กระจกมองหลัง เข้าหาตัวเพื่อลดการรบกวนจากไฟหน้ารถด้าน
กระจกมองหลังป้องกันแสงสะท้อน หลังอย่างมีประสิทธิภาพ โปรดทราบว่าระบบ
อัตโนมัติ* ป้องกันแสงสะท้อนอาจทำให้ความชัดเจนของ
ระยะการมองเห็นด้านหลังลดลง
ฟังค์ชั่น ECM จะปรับสีเลนส์ของกระจกมองหลัง
โดยอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมของรถ เพื่อลด
การรบกวนของแสงสะท้อนด้านหลังในด้านการ
มองเห็นของผู้ขับขี่

148
 กระจกมองข้างพับอัตโนมัติ
• สามารถควบคุมการพับกระจกมองข้าง
อัตโนมัติได้โดยการแตะที่ → Vehicle
05
settings → External rearview mirrors

การใช้งานและการขับขี่
→ Auto- Fold.

• กดปุ่มพับ. เพื่อพับกระจกมองข้าง
กระจกมองข้าง ซ้ายและขวา กดปุ่มนี้อีกครั้งจะกลับสู่ตำแหน่ง
ปรับมุมด้วยไฟฟ้า กางออก
• สามารถเลือกกระจกมองข้างด้านซ้ายได้โดย
การกดสวิตช์ควบคุมกระจกด้านซ้าย
ปุ่มปรับกระจกมองข้าง
พับกระจกมองข้างด้วยมือ • สามารถเลือกกระจกมองข้างด้านขวาได้โดย
ดันขอบด้านนอกของกระจกมองข้างเพื่อหมุนตัว การกดสวิตช์ควบคุมกระจกด้านขวา
กระจกรอบแกนพับให้อยู่ในตำแหน่งล็อค
• สวิตช์ควบคุม มีสี่ทิศทาง (ขึ้น ลง
ซ้าย และขวา) สำหรับควบคุมมุมมองกระจก
มองข้าง

หมายเหตุ
• หากกระจกมองข้างกลายเป็นน้ำแข็ง ห้าม
ปรับกระจกหรือขูดพื้นผิวของกระจกมอง
ข้าง ควรใช้สเปรย์ละลายน้ำแข็ง
• ห้ามปรับกระจกมองข้างขณะรถเคลื่อนที่

149
ที่ปัดน้ำฝน
เปลี่ยนใบปัดน้ำฝน
เมื่อรถเปิดอยู่ ให้แตะ →Vehicle health →
Repair→ Front wiper check เพื่อเปิดหรือ
ปิด ใช้งานฟังค์ชั่นตรวจสอบใบปัดน้ำฝน เมื่อเปิด
ใช้งานฟังค์ชั่นตรวจสอบใบปัดน้ำฝน เลื่อนออก
โดยอัตโนมัติเพื่อการบำรุงรักษาและเปลี่ยนได้
สะดวก
เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนด้านหน้า
1. ดึงก้านที่ปัดน้ำฝนที่ด้านคนขับและ แล้วดึง
อีกข้างหนึ่งด้านผู้โดยสารขึ้น
2. กดปุ่มปลดล็อคใบปัดน้ำฝน (1);
3. จับใบปัดน้ำฝนแล้วดึงออกตามทิศทางที่ระบุ
(2);
4. เมื่อติดตั้งใบปัดน้ำฝนใหม่ ให้ทำตามขั้นตอน
ย้อนกลับ
150
เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนด้านหลัง
1. ดึงก้านที่ปัดน้ำฝนขึ้น
2. ถือที่ปัดน้ำฝนในตำแหน่ง (1) และดึงใบปัด
น้ำฝนออกในแนวตั้งตามทิศทางที่ระบุ (2);
3. เมื่อติดตั้งที่ปัดน้ำฝนใหม่ ให้ทำตามขั้นตอน
ย้อนกลับ
ข้อควรระวัง !
• อย่าเปิดฝากระโปรงหน้าเมื่อดึงก้านปัด
น้ำฝนขึ้น
• ลดที่ปัดน้ำฝนอย่างช้าๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่
ให้กระทบกับกระจกหน้ารถโดยตรง
• อย่างอใบปัดน้ำฝน และอย่ากีดขวางใบ
ปัดน้ำฝนขณะใช้งานที่ปัดน้ำฝน
• เมื่อเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน หลังจากที่ยกก้าน
ปัดน้ำฝนขึ้น ให้จับให้นิ่งและค่อยๆ ลด
ระดับลงหลังจากเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน มิ
ฉะนั้น ก่อนการติดตั้งใบปัดน้ำฝนเสร็จ
แล้วแรงภายนอกใดๆมากระทำต่อก้าน
ปันน้ำฝน อาจทำให้ก้านปัดน้ำฝนตีกลับ
เข้ากับกระจกและเสี่ยงต่อการแตกหักได้
เครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทาง* ดูภาพจาก DVR*
• หากต้องการเปิดหรือปิดฟังค์ชั่นบันทึกข้อมูล วิธีการใช้งาน:
การเดินทางของยานพาหนะ (DVR) ให้แตะที่ • เข้าสู่การใช้งาน: 05
Infotainment → DVR settings เมื่อรถ • แตะที่เครื่องบันทึกการขับขี่บนหน้าจอ

การใช้งานและการขับขี่
สตาร์ท ระบบจะตั้งค่าเริ่มต้นเป็นการตั้งค่า สัมผัสคอนโซลกลางเพื่อเข้าสู่เครื่องบันทึก
ก่อนหน้า การเดินทาง
• DVR ประกอบด้วยการทำงานสามแบบ: แสดง
ภาพปัจจุบัน เล่นภาพย้อนหลัง และการตั้งค่า
สำหรับข้อสงสัยในตั้งค่าข้อมูลการขับขี่ โปรดดู
คู่มือการใช้งานอิเล็กทรอนิกส์สำหรับคำ
แนะนำโดยละเอียด
• กล้อง DVR อยู่ตรงกลางด้านบนของกระจก
หน้ารถ
(1) แถบเมนูฟังค์ชั่น
• สำหรับการบันทึกวิดีโอ ถ่ายภาพ และวีดีโอที่
ล็อคไว้
(2) แถบเมนู
• สำหรับการเลือก ภาพปัจจุบัน รายการเล่น
ย้อนหลัง และการตั้งค่า

• ชั้นล่างของคอนโซลมีช่องเสียบการ์ด SD
พิเศษสำหรับ DVR

ภาพเรียลไทม์:
บันทึกวีดีโอ
• ใส่การ์ด SD;
• แตะที่ DVR เพื่อเข้าสู่การทำงาน DVR;

151
• แตะที่ปุ่มสีแดงในแถบเมนูฟังค์ชั่นเพื่อเปิดใช้
งานการบันทึกวิดีโอ และระบบจะเริ่มบันทึก
ข้อควรระวัง !
วิดีโอภาพด้านหน้ารถปัจจุบัน • การลบข้อมูลไม่สามารถกู้กลับได้ ดังนั้น
ให้พิจารณาอย่างรอบคอบว่าควรลบ
• แตะที่ปุ่มนี้อีกครั้งเพื่อปิดการใช้งาน ข้อมูลหรือไม่
• ดูวิดีโอที่บันทึกไว้ในรายการเล่นย้อนหลัง

หมายเหตุ
• หากรถไม่มีการ์ด SD ให้ปรึกษาตัวแทน
จำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ
BYD ในพื้นที่ เพื่อซื้อประเภทที่เหมาะสมใน
การใช้งาน และนำมาติดตั้ง

ถ่ายรูป
• แตะที่ Camera บนแถบเมนูฟังค์ชั่น DVR
จากนั้นระบบจะถ่ายภาพรถด้านหน้าและเก็บ
ไว้ในการ์ด SD
ล็อควิดีโอ
• แตะที่ปุ่มล็อคบนแถบเมนูฟังค์ชั่น และ DVR
จะล็อควิดีโอ 20 วินาทีแรก และทุกๆ 10
วินาทีของของวิดีโอที่กำลังบันทึกอยู่

หมายเหตุ
• วิดีโอที่ล็อคไว้จะไม่ถูกบันทึกทับ

รายการเล่นย้อนหลัง
• ผู้ขับขี่สามารถดูวิดีโอการขับขี่ที่บันทึกไว้ วิดีโอ
ที่ถูกล็อค และภาพที่ถ่ายได้ที่นี่
การตั้งค่า
• คนขับสามารถกำหนดระยะเวลาการบันทึก
ความละเอียดในการบันทึก และลบข้อมูลได้ที่
เมนูนี่
152
06 อุปกรณ์ในรถยนต์
ระบบปรับอากาศ...........................................150
ที่เก็บของ........................................................159
อุปกรณ์อื่นๆ...................................................160
ระบบสาระบันเทิง .........................................164

153
ระบบปรับอากาศ
แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศ
ปุ่มปรับอากาศด้านหน้า:
(1) ปุ่มอัตโนมัติ
(2) ปุ่มเปิด/ปิดเครื่องปรับอากาศ
(3) ปุ่มละลายน้ำแข็งกระจกหน้า
อินเทอร์เฟซการทำงานของเครื่องปรับอากาศ (A/C)
• แตะที่ → Vehicle settings → A/C เพื่อเข้าสู่หน้าจอการตั้งค่า A/C

1. ลดความเร็วพัดลมระหว่างการโทรศัพท์ 4. โหมด A/C อัตโนมัติ*

2. ระบบหมุนเวียนอากาศอัตโนมัติเมื่อจอดรถ 5. ระบบฟอกอากาศอัตโนมัติ
3. โหมดกำหนดการ A/C ระยะไกล
154
การตั้งค่าลดความเร็วพัดลมระหว่างการโทร
• แตะที่ปุ่มนี้เพื่อเปิดใช้งานการตั้งค่านี้
• แตะทีป่ ุ่มนี้อีกครั้งเพื่อปิดการใช้งาน
06
การตั้งค่าการหมุนเวียนอากาศอัตโนมัติเมื่อจอดรถ

อุปกรณ์ในรถยนต์
• แตะที่ปุ่มนี้เพื่อเปิดใช้งานการตั้งค่านี้
• แตะทีป่ ุ่มนี้อีกครั้งเพื่อปิดการใช้งาน
การตั้งค่าโหมดกำหนดการ A/C ระยะไกล
• ผู้ขับขี่สามารถเลือกเวลาสำหรับตารางการปรับอากาศระยะไกลได้
การตั้งค่าโหมด A/C อัตโนมัติ
• สามารถตั้งค่าโหมด A/C เป็นโหมดประหยัด หรือ โหมดสบายได้
ระบบฟอกอากาศอัตโนมัติ
• แตะที่ปุ่มนี้เพื่อเปิดใช้งานฟังค์ชั่นการทำให้บริสุทธิ์อัตโนมัติ
• แตะทีป่ ุ่มนี้อีกครั้งเพื่อปิดการใช้งาน

155
การทำงานของระบบปรับอากาศ

1. ปุ่มตั้งค่าระบบปรับอากาศ 9. ปุ่มไล้ฝ้ากระจกหน้า
2. ปุ่มระบบฟอกอากาศ* 10. ปุ่มละลายน้ำแข็งกระจกหลัง และกระจก
3. ปุ่มอุ่นที่นั่ง* มองข้าง*
4. ปุ่มเมนูใช้งานระบบปรับอากาศ 11. ปุ่มหมุนเวียนภายใน/ภายนอก
5. ปุ่มเปิด/ปิดเครื่องปรับอากาศ 12. ปุ่มระบายอากาศ
6. ปุ่มโหมด AUTO 13. ปุ่มควบคุมอุณหภูมิด้านผู้โดยสาร
7. ปุ่มทำความเย็น A/C 14. ปุ่มควบคุมการกระจายอากาศ
8. ปุ่มทำความเย็นสูงสุด 15. ปุ่มควบคุมความแรงลม
16. ปุ่มควบคุมอุณหภูมิด้านคนขับ

156
คำจำกัดความของฟังค์ชั่นต่างๆ
ปุ่มโหมดอัตโนมัติ
• หลังจากแตะที่ปุ่มนี้ ไฟแสดงสถานะจะสว่าง
ขึ้นที่แผงเครื่องปรับอากาศด้านหน้า การ
ทำงานของคอมเพรสเซอร์ ความแรงลม และ
การกระจายอากาศ จะทำงานโดยอัตโนมัติ
• รถจะออกจากการควบคุม AUTO หากความ
แรงลมและการกระจายอากาศมีการตั้งค่า การ
ทำงานอื่นๆจะยังคงอยู่ในโหมด AUTO ยกเว้น
ฟังค์ชั่นการทำงาน
ปุ่มเปิด/ปิดเครื่องปรับอากาศ
• แตะที่ปุ่มนี้เพื่อปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศ
หากเปิดอยู่
• แตะที่ปุ่มนี้เพื่อเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศ
หากปิดอยู่
ปุ่มทำความเย็นสูงสุด
• แตะที่ปุ่มนี้เพื่อเปิดใช้งานการควบคุมความ
เย็นสูงสุด คอมเพรสเซอร์เริ่มทำงาน ที่
อุณหภูมิต่ำสุด คือ Lo พัดลมจะถูกปรับเป็น
แรงสูงสุด การหมุนเวียนอากาศภายใน และ
โหมดการกระจายอากาศเป็นระดับใบหน้า
• แตะที่ปุ่มนี้อีกครั้งเพื่อออก
ปุ่มทำความเย็น A/C
• ในการเปิดใช้งานคอมเพรสเซอร์ให้แตะที่ปุ่มนี้
แล้วคอมเพรสเซอร์จะเริ่มทำงานเพื่อระบาย
ความร้อน
• แตะที่ปุ่มนี้อีกครั้งเพื่อปิดใช้งาน แล้ว
คอมเพรสเซอร์จะหยุดทำงาน
ปุ่มหมุนเวียนภายใน/ภายนอก
• แตะที่ปุ่มนี้ ไอคอนจะแสดงเป็น และ
โหมดช่องอากาศเข้าจะเป็นการหมุนเวียน
06
ภายใน
• แตะที่ปุ่มนี้อีกครั้ง ไอคอนจะแสดงเป็น
อุปกรณ์ในรถยนต์
และโหมดช่องอากาศเข้าจะเป็นการหมุนเวียน
ภายนอก
หมายเหตุ
• เมื่อจอดรถระบบหมุนเวียนภายในรถจะ
ทำงานโดยอัตโนมัติ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพ
อากาศในรถและป้องกันไอเสียจากรถเข้าสู่
รถ โหมดหมุนเวียนจะเปลี่ยนเป็นระบบ
หมุนเวียนภายในเมื่อจอดรถ
ปุ่มระบายอากาศ
• แตะที่ปุ่มนี้เพื่อเปิดใช้งานการระบายอากาศ
ลมที่ทางออกมาจะเป็นอากาศเย็นเท่านั้น
• แตะที่ปุ่มนี้อีกครั้งเพื่อออก
การควบคุมอุณหภูมิ
• การควบคุมอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ
• แตะที่ลูกศรชีข้ ึ้นหรือเลื่อนลงเพื่อเพิ่มอุณหภูมิ
แตะที่ลูกศรชี้ลงหรือเลื่อนขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิ
• เมื่อตั้งอุณหภูมิไว้ที่ต่ำสุดจะแสดง L0 เมื่อตั้งไว้
ที่ระดับสูงสุดจะแสดง HI
ปุ่มไล่ฝ้ากระจกหน้า
• แตะที่ปุ่มนี้บนแผงควบคุม A/C ด้านหน้า เพื่อ
เปิดใช้งานการไล่ฝ้ากระจกหน้า เมื่อเปิดใช้งาน
โหมดควบคุมที่ไล่ฝ้ากระจกหน้ารถ และโหมด
การกระจายอากาศจะเปลี่ยนเป็นโหมดไล่ฝ้า
กระจกหน้า
157
• แตะที่ปุ่มนี้อีกครั้งเพื่อปิดใช้งานและออกจาก
โหมดควบคุมการไล่ฝ้ากระจกหน้ารถ
ปุ่มละลายน้ำแข็งกระจกหลัง
และกระจกมองข้าง*
• แตะที่ปุ่มนี้ แผงทำความร้อนในกระจกมอง
ข้าง และกระจกมองหลัง จะละลายน้ำแข็ง
และไล่ฝ้าอย่างรวดเร็ว จะถูกปิดใช้งานโดย
อัตโนมัติหลังจาก 15 นาทีหากไม่มีคำสั่งอื่น
• แตะที่ปุ่มนี้อีกครั้งเพื่อปิดใช้งานฟังค์ชั่น
• ห้ามใช้ฟังค์ชั่นนี้เพื่อทำให้เม็ดฝนแห้ง หรือ
ละลายหิมะ
หมายเหตุ
• การใช้ฟังค์ชั่นละลายน้ำแข็งที่กระจกมอง
ข้างด้วยไฟฟ้าเป็นเวลานานอาจทำให้กระจก
เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ปิดปุ่มละลายน้ำแข็งเมื่อ
ไม่ต้องการ
ข้อควรระวัง !
• เมื่อทำความสะอาดกระจกหลังด้านใน
ระวังอย่าให้เป็นรอยหรือทำให้ลวดความ
ร้อนและขั้วต่อเสียหาย
ปุ่มควบคุมความแรงลม
• การควบคุมความแรงลมของเครื่องปรับอากาศ
• แตะตำแหน่งที่เลือก ยิ่งตำแหน่งสูง ปริมาณ
ลมก็จะยิ่งมากขึ้น
158
• แตะที่ ทางซ้ายเพื่อตั้งความแรงลมที่
ตำแหน่ง 1 และ ทางขวาเพื่อตั้งความ
แรงลมไว้ที่ตำแหน่ง 7
ปุ่มคุมการกระจายอากาศ
• แตะที่ไอคอนที่เกี่ยวข้องบนระบบสาระบันเทิง
เพื่อเลือกโหมดการกระจายอากาศที่ต้องการ
• สามารถตั้งการกระจายอากาศได้อย่างอิสระ
และสามารถคุมการกระจายอากาศได้สูงสุด
สามทิศทางพร้อมกันได้ตามต้องการ
• การปรับสามารถทำได้ตามแหล่งจ่ายอากาศ
สิ่งจำเป็นในการใช้งาน
• เพื่อให้ภายในรถเย็นลงอย่างรวดเร็วหลังจาก
โดนแสงแดดเป็นเวลานาน ให้ขับรถเป็นเวลา
สองสามนาทีโดยเปิดหน้าต่างเพื่อระบาย
อากาศร้อนและเร่งการทำความเย็นของเครื่อง
ปรับอากาศ
• เพื่อเพิ่มความเร็วในการทำความเย็น ให้ปรับ
อุณหภูมิเป็น "Lo" และเลือกโหมดการ
หมุนเวียนภายในสักครู่
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตะแกรงช่องอากาศเข้า
ด้านหน้ากระจกบังลมไม่ถูกปิดกั้น
• ในสภาพอากาศชื้น หลีกเลี่ยงการเป่าลมเย็น
ลงบนกระจกหน้ารถเพื่อป้องกันการเกิดฝ้า
และทัศนวิสัยที่ลดลง
• รักษาพื้นที่ใต้เบาะนั่งด้านหน้าให้โล่งเพื่อเพิ่ม
หมายเหตุ
การหมุนเวียนของอากาศ
• ในสภาพอากาศหนาวเย็น ให้ตั้งระดับลมไว้ที่ » ตรวจสอบ ทำความสะอาด หรือเปลี่ยนไส้
ช่วงสูงเป็นเวลา 1 นาทีเพื่อขจัดหิมะหรือ กรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ 06
ความชื้นออกจากผู้โดยสารและลดการเกิดฝ้า » ดูแลห้องโดยสารให้สะอาด

• ในสภาพอากาศหนาวเย็น ให้เลือกระบบ
หมุนเวียนภายในช่วงแรกเพื่อให้เกิดความร้อน
อย่างรวดเร็ว การป้องกันการเกิดฝ้าหลังจากที่
ห้องโดยสารร้อนแล้ว ให้เลือกระบบหมุนเวียน
อากาศภายนอก
• ผู้ขับขี่ควรปิดกระจกทุกบาน ตั้งค่าโหมดการ
หมุนเวียนภายใน และเปิดพัดลม A/C เมื่อขับ
รถในสภาพที่มีฝุ่นหรือลมแรง
• ในโหมดทำความร้อน ให้กดปุ่มควบคุม
คอมเพรสเซอร์เพื่อให้ปุ่มสว่างขึ้น (เปิด
คอมเพรสเซอร์) ซึ่งสามารถลดความชื้นใน
กระแสลมได้
• ในโหมดการระบายอากาศ ระบบจะนำลม
ธรรมชาติจากภายนอกซึ่งเหมาะสำหรับฤดู
ใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง
อุปกรณ์ในรถยนต์
• หากกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ยังคงอยู่ โปรด
ติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ
BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อทำการซ่อมแซม
• เป็นเรื่องปกติที่พัดลมจะทำงานต่อไปหลัง
จากที่รถล็อค นั่นเป็นเพราะว่าน้ำที่ควบแน่น
บนพื้นผิวของคอยล์เย็นจำเป็นต้องถูกทำให้
แห้งเพื่อป้องกันการหมักหมมของเชื้อรา
ช่องระบายอากาศ
ช่องระบายอากาศส่วนกลาง
• เลื่อน ขึ้น/ลง เพื่อปรับการไหลเวียนของ
อากาศหรือเพื่อ เปิด/ปิด ช่องระบายอากาศ
• เลื่อน ซ้าย/ขวา เพื่อปรับทิศทางลม

หมายเหตุ
• กลิ่นไม่พึงประสงค์จากเครื่องปรับอากาศ:
» เป็นเรื่องปกติที่อาจมีกลิ่นอับชื้นและเป็น
เชื้อราหลังจากเปิดเครื่องปรับอากาศ
นั่นเกิดจากการควบแน่นที่ยังคงอยู่ใน
คอยล์เย็นและไม่ถูกเป่าให้แห้ง
• วิธีป้องกัน:
» ปิด A/C และเปิดใช้งานการระบาย
อากาศภายนอกก่อนจอดรถเพื่อให้
อากาศภายในรถค่อนข้างแห้ง

159
ช่องระบายอากาศด้านหน้า
• เลื่อน ขึ้ืน/ลง เพื่อปรับการไหลเวียนของ
อากาศหรือเพื่อเ ปิด/ปิด ช่องระบายอากาศ
• เลื่อน ซ้าย/ขวา เพื่อปรับทิศทางลม

ช่องระบายอากาศด้านหลัง
• เลื่อน ขึ้น/ลง เพื่อปรับการไหลเวียนของ
อากาศหรือเพื่อ เปิด/ปิด ช่องระบายอากาศ
• เลื่อน ซ้าย/ขวาเ พื่อปรับทิศทางลม

160
ระบบฟอกอากาศ*
เมื่อเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศ ระบบฟอกอากาศจะขจัดอนุภาค PM2.5 ออกจากอากาศที่พัดเข้าสู่ห้อง
โดยสารอย่างทั่วถึง
06

อุปกรณ์ในรถยนต์
การทำงานของการฟอกอากาศ
แตะที่ปุ่ม "Air purification" บนหน้าจอการทำงานของระบบสาระบันเทิงเพื่อเข้าสู่เมนู
1. ปุ่มเข้าสู่เมนูระบบฟอกอากาศ 4. ปุ่มฟอกอากาศแบบรวดเร็ว
2. การแสดงค่า PM2.5 ภายนอกรถ 5. ค่า PM2.5 ในรถยนต์
3. ปุ่มตรวจจับ PM2.5

161
ปุ่มตรวจจับ PM2.5 ต่อไปนี้คือข้อมูลอ้างอิงของเกรดคุณภาพอากาศ:
• แตะที่ปุ่ม "PM2.5 Detection" เพื่อเปิดใช้ ค่า PM 2.5 คุณภาพอากาศ
งานและตรวจจับความเข้มข้น PM2.5 ภายใน/
ภายนอกแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะแสดงแบบเรียล 0-35 ดี
ไทม์บน PAD
36-75 ปานกลาง
• การตรวจจับ PM2.5 จะหยุดลงหากแตะปุ่ม
อีกครั้ง เป็นอันตรายต่อกลุ่มที่
76-115
ปุ่มฟอกอากาศแบบรวดเร็ว อ่อนไหว

• ฟังค์ชั่นนี้สามารถลดความเข้มข้นของอนุภาค 116-150 ไม่ดีต่อสุขภาพ

PM2.5 ในอากาศภายในรถได้อย่างรวดเร็วใน
เวลาอันสั้น
• แตะที่ปุ่มนี้เพื่อเปิดการทำงาน และแตะที่ปุ่ม
อีกครั้งเพื่อออก
ค่า PM2.5 ในรถยนต์
• แสดงค่า PM2.5 ภายในรถ
• ค่า PM2.5 ที่ตรวจพบโดยเครื่องฟอกอากาศ
ในรถ เป็นการตรวจจับค่า PM2.5 ในอากาศ
บริเวณที่อยู่รอบรถในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งค่า
PM2.5 จะแตกต่างจากค่ารายวันหรือตาม
เวลาจริง ของค่า PM2.5 ที่เผยแพร่โดยรัฐและ
หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
162
151-250 ไม่ดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง
251-999 เป็นพิษ
หมายเหตุ
• ควรลดลงความถี่ในการตรวจจับ PM2.5
ในสภาพแวดล้อมต่อไปนี้:
» พายุทรายและสภาพแวดล้อมที่
รุนแรงอื่นๆ
» บริเวณที่มีอากาศหนาวเย็น (อุณหภูมิ
แวดล้อม <-20 องศาเซลเซียส)
» สภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง
(ความชื้นสัมพัทธ์ > 90%);
» สภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลง
ในอุณหภูมิ (มีแนวโน้มที่จะควบแน่น)
เช่น การขับรถจากสภาพแวดล้อมที่เย็น
ไปจนถึงสภาพแวดล้อมภายในอาคารที่
มีอุณหภูมิสูงหรือที่จอดรถ
• การใช้ความเร็วลมสูงสุดหมุนในโหมด
หมุนเวียนอากาศภายใน สามารถลด
ความเข้มข้นของฝุ่นในอากาศภายในรถลง
ได้อย่างรวดเร็ว
การเปิด A/C จากระยะไกล ด้วย
Cloud Service APP ช่องเก็บของ
• เปิด A/C: แตะที่ปุ่ม "A/C ON" บนหน้าจอ ช่องเก็บของในแผงประตู 06
BYD APP แตะที่ปุ่ม "Set temperature",
• มีช่องเก็บของที่ประตูแต่ละบานสำหรับเก็บ

อุปกรณ์ในรถยนต์
"Duration " และ "Circulation mode "
สำหรับการตั้งค่าต่างๆ แล้วป้อนรหัสผ่านเพื่อ ขวดเครื่องดื่มหรือของชิ้นเล็ก
เปิดใช้งาน เครื่องปรับอากาศระยะไกล
• A/C OFF: แตะที่ปุ่ม "A/C OFF" บนหน้าจอ
BYD APP และป้อนรหัสผ่านเพื่อปิดใช้งาน
A/C จากระยะไกล
• ตารางการทำงาน A/C: แตะที่ปุ่ม "A/C
schedule" บนหน้าจอ BYD APP แล้วแตะที่
ปุ่ม "Create Schedule " และตั้งเวลา
อุณหภูมิ ระยะเวลา และโหมดหมุนเวียน
อากาศ แล้วบันทึกการตั้งค่า ลิ้นชักเก็บของ
• ดึงที่จับเพื่อเปิดลิ้นชักเก็บของ • ดันฝาขึ้นเพื่อ
ปิด

หมายเหตุ
• เพื่อลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บในกรณีที่
เกิดอุบัติเหตุหรือการเบรกฉุกเฉิน ให้ปิดลิ้น
ชักเก็บของขณะขับรถ

163
ช่องใส่สัมภาระในคอนโซลกลาง ที่วางแก้ว
• ตั้งอยู่ระหว่างเบาะนั่งด้านหน้าให้เปิดฝาออก • ที่วางแก้วน้ำที่เบาะนั่งด้านหน้าติดตั้งอยู่
เพื่อใช้งาน บริเวณตู้คอนโซลกลาง

กระเป๋าเก็บเอกสาร
ข้อควรระวัง !
• มีกระเป๋าเก็บเอกสารอยู่ที่หลังพนักพิงที่นั่ง
• หลีกเลี่ยงการเร่งความเร็วหรือเบรก
ด้านหน้า
กะทันหันเมื่อใช้ที่วางแก้วน้ำเพื่อป้องกัน
การหกเลอะเทอะ
• อย่าวางถ้วยที่ไม่มีฝาปิดในที่วางแก้ว
• เพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ไม่ควรใช้ที่วาง
แก้วในขณะขับขี่

อุปกรณ์อื่นๆ
ที่บังแดด
(1) ที่บังแดด
ที่บังแดดสามารถใช้กับแสงแดดที่มาจากด้านหน้า
หรือด้านข้างของรถได้ สำหรับการใช้งานด้านข้าง
เพียงดึงปลายด้านขวาออกแล้วหมุนไปทาง
หน้าต่างด้านข้าง

164
 พอร์ต USB
• มีสองพอร์ตติดตั้งอยู่ที่ด้านล่างของคอนโซล
(1) พอร์ต Type-A สำหรับการถ่ายโอนข้อมูล 06
(2) พอร์ต Type-C ซึ่งสามารถใช้ได้เฉพาะเมื่อรถ

อุปกรณ์ในรถยนต์
อยู่ในสถานะเปิดการทำงาน OK

(2) กระจกเงา
• มีกระจกเงาด้านในของที่บังแดด เลื่อนฝา
ครอบเพื่อใช้งาน

หมายเหตุ
• การใช้ที่บังแดดอย่างถูกต้องช่วยเพิ่มความ
ปลอดภัยในการขับขี่ พอร์ต USB ที่นั่งแถวหลัง
• พอร์ต USB เหล่านี้ใช้สำหรับชาร์จเท่านั้น และ
มือจับนิรภัย ไม่สามารถใช้กับมัลติมีเดียได้
• ดึงที่จับนิรภัยลงเพื่อใช้งาน ที่จับจะกลับสู่ • ควรเปิดการทำงานรถก่อนจึงจะสามารถใช้
ตำแหน่งเดิมเมื่อปล่อย พอร์ตเหล่านี้ได้

ข้อควรระวัง !
• ห้ามแขวนของที่มีน้ำหนักมาก กับที่จับ
เพื่อความปลอดภัย

165
ช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์
• สามารถใช้กับอุปกรณ์เสริมที่มีแรงดันไฟ
ทำงาน 12 V DC และกระแสไฟทำงานไม่เกิน
10 A
• ยกฝาครอบขึ้นเพื่อใช้เต้ารับ
• ที่ชาร์จแบบไร้สายใช้งานได้กับโทรศัพท์ที่ผ่าน
• อย่าวางการ์ดที่มีชิป เช่น บัตร ATM ระหว่าง
ตำแหน่งชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
• ด้วยคุณสมบัตินี้ คุณสามารถชาร์จโทรศัพท์ได้
โดยไม่ต้องต่อสาย
• ดึงเมนูด่วนบนหน้าจอระบบสาระบันเทิงเพื่อ
ตั้งค่าฟังค์ชั่นนี้
• หลังจากที่เปิดการทำงานรถแล้ว ให้วาง
โทรศัพท์ในพื้นที่ชาร์จแบบไร้สายโดยให้หน้า
จอหงายขึ้น
166
• หากต้องการปิดเครื่องชาร์จไร้สาย ให้เลี่อน
เมนูด่วนบน PAD ลง เพื่อค้นหาการตั้งค่าการ
ปิดใช้งาน ไฟการทำงานจะดับลง
การรับรองมาตราฐาน QI เท่านั้น
โทรศัพท์และที่ชาร์จ ในระหว่างการชาร์จ เพื่อ
หลีกเลี่ยงไม่ให้การ์ดไหม้เสียหาย
ข้อควรระวัง !
• เมื่อระบบชาร์จไร้สายของโทรศัพท์มือถือ
ทำงาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสมาร์ทคีย์
อยู่ห่างจากพื้นที่ชาร์จแบบไร้สายมากกว่า
25 ซม.
• อย่าวางเหรียญ กุญแจโลหะ วงแหวน
โลหะ หรือสิ่งของอื่น ๆ ที่มีโลหะในพื้นที่
ชาร์จแบบไร้สาย เพื่อหลีกเลี่ยงความผิด
ปกติในการชาร์จแบบไร้สายหรือแม้
กระทั่งอุบัติเหตุ
• อย่าวางของหนักในพื้นที่ชาร์จ หากระบบ
ชาร์จโทรศัพท์มือถือเสียและใช้งานไม่ได้
ตามปกติ โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่าย
หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก BYD
 ข้อควรระวัง !
• BYD จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับปัญหา
ที่เกิดจากการใช้งานที่ไม่เหมาะสม หาก
สินค้าถูกถอดประกอบหรือแก้ไข การรับ
ประกันจะสิ้นสุดลง
• อย่าทิ้งโทรศัพท์ที่กำลังชาร์จไว้โดยไม่มี
ใครดูแลอยู่ในรถเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย
ด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น
• เพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรละเว้นการ
ตรวจสอบสถานะการชาร์จโทรศัพท์ขณะ
ขับรถ
• หากพบโลหะระหว่างอุปกรณ์กับแผ่นยาง
แท่นชาร์จขณะชาร์จ ห้ามถอดออกด้วย
มือเปล่าเพื่อป้องกันผิวหนังไหม้
• เพื่อประสิทธิภาพในการชาร์จที่ดียิ่งขึ้น
ศูนย์กลางของโทรศัพท์ควรอยู่ในแนว
เดียวกับศูนย์กลางของที่ชาร์จ
• ป้องกันไม่ให้ของเหลวสัมผัสกับพื้นที่
ชาร์จ
• การชาร์จอาจหยุดลงในอุณหภูมิที่สูง และ
จะกลับมาอีกครั้งเมื่ออุณหภูมิลดลง
• BYD ไม่มีความรับผิดชอบ สำหรับปัญหา
ที่เกิดขึ้นกับคอยล์ชาร์จไร้ของอุปกรณ์อื่น
ที่นำมาใช้กับเครื่องชาร์จไร้สาร โปรดใช้
ด้วยความระมัดระวัง
หมายเหตุ
• สามารถชาร์จโทรศัพท์ได้ครั้งละหนึ่งเครื่อง
เท่านั้น 06
• เคสโทรศัพท์ที่หนาเกินไปอาจทำให้ชาร์จไม่
อุปกรณ์ในรถยนต์
ได้
• ขณะขับรถบนถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ระบบ
ชาร์จไร้สายของโทรศัพท์อาจหยุดและชาร์จ
ต่อเป็นช่วงๆ
• พยายามให้แน่ใจว่าโทรศัพท์วางขนานกับ
โมดูลการชาร์จ ถ้าโทรศัพท์เคลื่อนที่จาก
พื้นที่ชาร์จแบบไร้สายและหยุดชาร์จ จะต้อง
ย้ายกลับเข้าสู่ตำแหน่ง
• หากไม่สามารถชาร์จโทรศัพท์ได้อย่างเหมาะ
สม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีวัตถุแปลก
ปลอมในพื้นที่ชาร์จแบบไร้สาย หรือรอให้
พื้นที่ชาร์จแบบไร้สายเย็นลงก่อนลองอีกครั้ง
หากการชาร์จยังคงใช้งานไม่ได้ โปรดติดต่อ
ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตจาก BYD
• หลังจากปิดการทำงานรถ หากโทรศัพท์ยัง
คงชาร์จอยู่และเปิดประตู จะมีเสียงเตือน
และข้อความเตือนจะปรากฏขึ้นเป็นเวลา 5
วินาที
• โทรศัพท์ต้องวางในแนวนอนในพื้นที่ชาร์จ
เสมอ ไม่ว่าจะสำหรับการชาร์จหรือไม่ก็ตาม
มิฉะนั้น อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนเกียร์
167
ฝาปิดช่องเก็บสัมภาระ*
• ฝาครอบช่องเก็บสัมภาระใช้เพื่อความเป็นส่วน
ตัวและป้องกันแสงแดดโดยตรง
• หนีบทั้งสองด้านของฝาครอบ (1) เข้ากับตัวดึง
ของเสา C ด้านล่างทั้งสองด้าน แล้วแขวนสาย
บนฝากระโปรงหลัง (2)
• ทำการย้อนกลับเพื่อถอดฝาครอบออก
คำเตือน
• เมื่อติดตั้งฝาครอบช่องเก็บสัมภาระ ตรวจ
สอบให้แน่ใจว่าได้ติดตั้งอย่างแน่นหนา
• ห้ามวางสิ่งของใดๆ ไว้บนฝาครอบช่อง
เก็บสัมภาระ
• ไม่อนุญาตให้เด็กขึ้นบนที่ฝาปิด
168
ระบบสาระบันเทิง
แผงควบคุมระบบสาระบันเทิง PAD
• เมื่อรถเปิดการทำงาน หน้าจอเริ่มต้นจะ
ปรากฏขึ้นเป็นเวลาหลายวินาทีและระบบจะ
เริ่มทำงาน ต้องใช้หลังจากการเชื่อมต่อเครือ
ข่ายเพื่อประสบการณ์การใช้งาน ระบบสาระ
บันเทิงที่ดีขึ้น (เช่น APP และการโทรศัพท์ทาง
อินเทอร์เน็ต)
(1) หน้าจอสัมผัสระบบสาระบันเทิง
(2) ปุ่มเลื่อน
• สามารถปิดเสียงได้เมื่อกด และเปิดเมื่อกดอีก
ครั้ง ระบบสาระบันเทิงสามารถเริ่มต้นใหม่ได้
เมื่อกดปุ่มค้างไว้นานกว่า 3 วินาที
• เลื่อนขึ้นเพื่อปรับระดับเสียงขึ้นลงเพื่อลด
ระดับเสียง ระดับเสียงอยู่ระหว่าง 0 ถึง 39
ไอคอน "Mute" จะปรากฏขึ้นเมื่อระดับเสียง
เป็น 0
 คำเตือน
• ห้ามใช้อินเวอร์เตอร์กำลังสูงในรถยนต์
เนื่องจากอาจทำให้ระบบสาระบันเทิง
ทำงานผิดปกติได้
• อย่าฟอร์แมต หรือ รูทอุปกรณ์โดยไม่ได้
รับอนุญาต มิฉะนั้นจะทำให้ระบบสาระ
บันเทิงหรือรถทำงานผิดปกติ
• เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ แนะนำให้
ปรับจอเป็นแนวนอนขณะขับรถ
ข้อควรระวัง !
•เพื่อป้องกันความเสียหายต่อหน้าจอ
สัมผัส:
» แตะเบาๆ หากไม่มีการตอบสนอง ให้
เอานิ้วออกจากหน้าจอแล้วแตะอีกครั้ง
» ทำความสะอาดหน้าจอด้วยผ้าชุบน้ำ
หมาดๆ ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ทำความ
สะอาดใดๆ
• การใช้หน้าจอสัมผัส:
» เมื่อหน้าจอแสดงผลมีอุณหภูมิต่ำภาพที่
แสดงอาจมืดลง หรือระบบอาจทำงาน
ช้ากว่าปกติเล็กน้อย
» เมื่อสวมแว่นกันแดด หน้าจออาจมืด
หรือมองยาก เปลี่ยนมุมมองหรือถอด
แว่นกันแดด
» ปุ่มหน้าจอสัมผัสที่เป็นสีเทา ไม่สามารถ
ใช้งานได้
• อินเทอร์เฟซหน้าจอสัมผัสที่แสดงที่นี่ใช้
สำหรับอ้างอิงเท่านั้น
วิดเจ็ต
• เมื่อเปิดระบบสาระบันเทิง หน้าจอวิดเจ็ตจะ
ปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งมีการแสดงบนจอ
06
ดังต่อไปนี้: แถบสถานะด้านบน การตั้งค่ายาน
อุปกรณ์ในรถยนต์
พาหนะ เครื่องปรับอากาศ แถบนำทาง และ
หน้าต่างวิดเจ็ต:
สามารถตั้งค่าหน้าต่างเล็กๆ สามหน้าต่างในอินเท
อร์เฟซวิดเจ็ต ซึ่งสามารถปรับแต่งได้:
1. การเพิ่มวิดเจ็ต: กดไอคอนวิดเจ็ตค้างไว้เพื่อ
ให้สามารถแก้ไขได้ ไอคอนวิดเจ็ตอื่นจะ
แสดงที่ด้านล่างของอินเทอร์เฟซ ลาก
ไอคอนวิดเจ็ตไปยังตำแหน่งที่ต้องการแล้ว
ปล่อย
2. การลบวิดเจ็ต: กดไอคอนวิดเจ็ตที่คุณ
ต้องการลบค้างไว้ ลากไปที่ไอคอนลบที่ด้าน
บนของอินเทอร์เฟซ แล้วปล่อย
3. การเปลี่ยนตำแหน่ง: กดไอคอนวิดเจ็ตค้าง
ไว้ ลากไปยังตำแหน่งของวิดเจ็ตอื่น แล้ว
ปล่อย
การเข้าถึงด่วน: เลื่อนแถบสถานะด้านบนลงมา
เพื่อเปิดอินเทอร์เฟซด่วน รวมถึง WLAN, ข้อมูล
มือถือ, บลูทูธ, ปิดเสียง, ฮอตสปอต, ภาพหน้าจอ,
หมุนอัตโนมัติ, แสดงตำแหน่งจากระยะไกล,
ความสว่าง, สวิตช์ควบคุมรถอื่นๆ และปุ่มลัดอื่นๆ
169
การตั้งค่าภาษา
• เมื่อรถเปิดการทำงานอยู่ ให้แตะ →
Dilink → More → Language บนหน้า
จอสัมผัสที่คอนโซลกลางและตั้งค่าภาษา เช่น
เป็นภาษาจีนตัวย่อ หรือภาษาอังกฤษ

170
07 การบำรุงรักษา
ข้อมูลการบํารุงรักษา.....................................172
การบํารุงรักษาประจำ....................................179
การบำรุงรักษาด้วยตนเอง..............................184

171

ข้อมูล
การบำรุงรักษา
รอบการบำรุงรักษา
แผนการบำรุงรักษายานพาหนะ
• แผนการบำรุงรักษาได้รับการออกแบบมาเพื่อ
ให้แน่ใจว่าการขับขี่มีความเสถียร ลดความผิด
พลาด การขับขี่อย่างปลอดภัยและประหยัด
• ผู้ขับขี่สามารถดูแผนการบำรุงรักษาเพื่อ
กำหนดการบำรุงรักษา ขึ้นอยู่กับระยะทาง
หรือระยะเวลา แล้วแต่ว่าอย่างหนึ่งอย่างใดจะ
ถึงก่อน
• สำหรับรายการบำรุงรักษาที่เกินกำหนด ควร
ใช้ช่วงเวลาเดียวกันสำหรับการบำรุงรักษาครั้ง
ที่จะถึง
• ท่อยาง (สำหรับเครื่องปรับอากาศและระบบ
ทำความร้อน ระบบเบรก ฯลฯ) ควรได้รับการ
ตรวจสอบโดยช่างผู้ชำนาญการตาม
กำหนดการบำรุงรักษา ท่อที่มีการเสื่อมสภาพ
หรือความเสียหายควรเปลี่ยนทันที
• สิ่งเหล่านี้เป็นรายการบำรุงรักษาที่สำคัญอย่าง
ยิ่ง ซึ่งมีการบันทึกช่วงเวลาการบำรุงรักษาไว้
ในกำหนดการบำรุงรักษา
• ตารางการบำรุงรักษาแสดงรายการบำรุงรักษา
ทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อให้รถอยู่ในสภาพที่เหมาะ
สมตลอดเวลา
• ขอแนะนำให้ดำเนินการบำรุงรักษาตาม
มาตรฐานและข้อกำหนดของ BYD Auto Co.,
Ltd. และโดยตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการ
ที่ได้รับอนุญาตของ BYD ในพื้นที่
172
• ตารางการบำรุงรักษาแสดงรายการบำรุงรักษา
ระยะทางหรือระยะเวลา ตามสมมติฐานว่า
ยานพาหนะถูกใช้งานปกติเพื่อบรรทุกผู้
โดยสารและสิ่งของที่ไม่เกินขีดจำกัดน้ำหนัก
บรรทุกของรถ
ข้อควรระวัง !
• กรุณาดำเนินการบำรุงรักษารถยนต์เป็น
ประจำตามข้อกำหนดใน "คู่มือการรับ
ประกันและการบริการบำรุงรักษา" ของ
BYD Auto
ข้อกำหนดแผนการบำรุงรักษา
ยานพาหนะจะต้องได้รับการบำรุงรักษาตาม
ตารางการบำรุงรักษาปกติ
หากยานพาหนะใช้งานเป็นหลักภายใต้เงื่อนไข
พิเศษอย่างน้อยหนึ่งข้อต่อไปนี้ รายการแผนการ
บำรุงรักษาบางรายการอาจจำเป็นต้องดำเนินการ
บ่อยขึ้น
• สภาพถนน
• การขับขี่บนถนนที่ขรุขระ เป็นโคลน หรือ
เฉอะแฉะ
• การขับขี่บนถนนที่มีฝุ่นมาก.
• สภาพการขับขี่
• ใช้รถพ่วงลาก รถพ่วงแคมป์ปิ้ง
หรือแร็คหลังคา
ตารางการบำรุงรักษา
การบำรุงรักษารถยนต์จะตามระยะทางหรือระยะเวลา แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน
รายการบำรุงรักษา ช่วงการบำรุงรักษา 07

การบำรุงรักษา
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
การตรวจสอบขันแน่นน๊อตช่วง สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ล่าง ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
สอบครั้งที่สองที่ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
การตรวจสอบขาแป้นเบรก ต่อไปทุกๆ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. ในสภาวะที่ใช้งานหนัก ควร
และสวิตช์ EPB ทำการตรวจสอบเบื้องต้นที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจสอบ
ครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้งต่อไป
ทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม.
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจสอบผ้าเบรกและจาน
สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
เบรก
ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม.
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
สอบครั้งที่สองที่ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ต่อไปทุกๆ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. ในสภาวะที่ใช้งานหนัก ควร
ตรวจเช็คท่อทางน้ำมันเบรก
ทำการตรวจสอบเบื้องต้นที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจสอบ
ครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้งต่อไป
ทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม.
ตรวจสอบชุดคาลิปเปอร์และ การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการ
ความลื่นของสลัก ตรวจสอบครั้งต่อไปทุกๆ 24 เดือนหรือ 40,000 กม.

173
 การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
สอบครั้งที่สองที่ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ตรวจสอบกลไกระบบบังคับ ต่อไปทุกๆ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. ในสภาวะที่ใช้งานหนัก ควร
เลี้ยวและพวงมาลัย ทำการตรวจสอบเบื้องต้นที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจสอบ
ครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้งต่อไป
ทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม.
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
สอบครั้งที่สองที่ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ตรวจสอบเพลาขับและชุดยึด ต่อไปทุกๆ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. ในสภาวะที่ใช้งานหนัก ควร
เพลาขับ ทำการตรวจสอบเบื้องต้นที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจสอบ
ครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้งต่อไป
ทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม.
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
สอบครั้งที่สองที่ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ต่อไปทุกๆ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. ในสภาวะที่ใช้งานหนัก ควร
ตรวจสอบลูกหมากและยางหุ้ม
ทำการตรวจสอบเบื้องต้นที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจสอบ
ครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้งต่อไป
ทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม.
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
สอบครั้งที่สองที่ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ต่อไปทุกๆ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. ในสภาวะที่ใช้งานหนัก ควร
ตรวจสอบช่วงล่างหน้าหลัง
ทำการตรวจสอบเบื้องต้นที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจสอบ
ครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้งต่อไป
ทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม.
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจสอบยางและลมยาง รวม สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ถึง TPMS ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที

174
 การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
สอบครั้งที่สองที่ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ต่อไปทุกๆ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. ในสภาวะที่ใช้งานหนัก ควร
ตั้งศูนย์ล้อ หน้าและหลัง 07
ทำการตรวจสอบเบื้องต้นที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจสอบ
ครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้งต่อไป

การบำรุงรักษา
ทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม.
ตรวจสอบแรงดันลมและสภาพยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง และ สลับ
สลับยาง
ยางทุกๆ 10,000 กม.
ขจัดฝุ่นออกจากบานพับด้วยผ้านุ่มชุบน้ำหมาด ๆ และทาจาระบี 0.3
ถึง 0.8 กรัมกับบานพับ ข้อต่อ และ ข้อหมุน การตรวจสอบเบื้องต้น
ตรวจสอบบานพับและกลไก
ควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจสอบครั้งที่สองที่ 12
ล็อคประตู
เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้งต่อไปทุกๆ 12 เดือน
หรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหายในทันที
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
สอบครั้งที่สองที่ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ตรวจสอบความหลวมลูกปืน ต่อไปทุกๆ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. ในสภาวะที่ใช้งานหนัก ควร
ล้อ ทำการตรวจสอบเบื้องต้นที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจสอบ
ครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้งต่อไป
ทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม.
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
การตรวจสอบระดับสารหล่อ สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
เย็นในหม้อพัก ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที
เปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็น เปลี่ยนสารหล่อเย็นมอเตอร์ขับเคลื่อน แบบ long life organic
มอเตอร์ acid ทุกๆ 4 ปีหรือ 100,000 กม. แล้วแต่ว่าจะถึงอย่างใดก่อน
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจสอบความชื้นและระดับ สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
น้ำมันเบรค ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที

175
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรค เปลี่ยนทุกๆ 2 ปี หรือ 40,000 กม.
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจสอบรหัสข้อผิดพลาด
สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ของกล่องควบคุมต่างๆ (ลบ
ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หลังจากแก้ไข)
หายให้ทันที
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจสอบชิ้นส่วนด้านใต้ สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
แบตเตอรี่ และขันแน่น ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที
ทดสอบความจุแบตเตอรี่และ
ทุกๆ 72,000 กม. หรือ 6 เดือน
ปรับเทียบค่ามาตรฐาน
การเปลี่ยนครั้งแรกควรทำที่ 24 เดือนหรือ 40,000 กม. และการ
ถ่ายน้ำมันชุดเฟืองในมอเตอร์
เปลี่ยนครั้งต่อไปทุกๆ 24 เดือนหรือ 48,000 กม
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจสอบการรั่วของระบบขับ สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
เคลื่อน หรือรอยกระแทก ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจสอบการหลวมของชุด สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
สายไฟแรงสูง ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจสอบความเสียหายของชุด สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
แบตเตอรี่ ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที

176
 การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจสอบและทำความสะอาด สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ช่องชาร์จ ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที 07

การบำรุงรักษา
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ตรวจสอบ/เปลี่ยน กรองใน
ต่อไปทุกๆ 1 ปีหรือ 20,000 กม. แล้วแต่ว่าจะถึงอย่างใดก่อน ใน
ระบบฟอกและปรับอากาศ
กรณีที่มีสภาพไม่เอื้ออำนวย ให้ตรวจสอบทุก 6 เดือนและเปลี่ยนเมื่อ
จำเป็น
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ตรวจสอบไฟรอบคัน
ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจสอบไฟหน้าและไฟสูง สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
อัตโนมัติ ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที
ปรับตั้งไฟหน้า ปรับเทียบทุกๆ 10,000
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจสอบความยึดแน่นระบบ
สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
บังคับเลี้ยว สิ่งแปลกปลอม
ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
และร่องรอยการรั่ว
หายทันที
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจสอบการยึดแน่นชุดสาย
สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ไฟ และขั้วต่อ ระบบบังคับ
ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
เลี้ยว
หายทันที

177
 การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจสอบร่องรอยการผุกร่อน สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ชุดควบคุมระบบ EPS ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจสอบร่องรอยการผุกร่อน สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ชุดมอเตอร์ระบบ EPS* ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
การตรวจและอัปเดต สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ซอฟต์แวร์ ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจระบบไฟฟ้าแรงสูง สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ทั้งหมด ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที
การตรวจสอบเบื้องต้นควรทำที่ 3 เดือนหรือ 5,000 กม. การตรวจ
ตรวจการหลวมของก้านปัดน้ำ สอบครั้งที่สองที่ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. และการตรวจสอบครั้ง
ฝนและใบปัดน้ำฝน ต่อไปทุกๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. ซึ่งควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย
หายทันที
ตรวจสอบการล็อคฝากระโปรง ตรวจสอบทุกๆ 12 เดือน
หน้าและจุดหมุน
เมื่อตรวจสอบข้อ 1 โปรดเปลี่ยนชิ้นส่วนแชสซีทันทีหากพบความเสียหายผิดปกติ

178
 หมายเหตุ
เพื่อให้แบตเตอรี่อยู่ในสภาพที่เหมาะสม ควร
ชาร์จและคายประจุจนเต็มอย่างสม่ำเสมอ
(ทุกๆ 6 เดือนหรือ 72,000 กม. แล้วแต่ว่าจะ
ถึงอย่างใดก่อน) สำหรับปรับเทียบค่า
มาตรฐานด้วยตนเอง หรือ อาจติดต่อตัวแทน
จำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ
BYD เพื่อดำเนินการทดสอบและปรับเทียบค่า
มาตรฐานความจุ
เงื่อนไขการใช้งานหนักคือ:
• ขับรถบ่อย ๆ ในบริเวณที่มีฝุ่นหรือสัมผัสกับ
อากาศเค็มเป็นประจำ
• เบรกบ่อยและกะทันหัน
• การขับรถในสภาพอากาศหนาวเย็น
• ใช้รถพ่วงลากเป็นประจำ
• ใช้เป็นรถแท็กซี่
• การขับรถในเขตเมืองที่แออัดที่อุณหภูมิสูงกว่า
32°C นานกว่า 50% ของเวลาขับขี่ทั้งหมด
• ขับขี่ด้วยความเร็วมากกว่า 120 กม./ชม. ที่
อุณหภูมิสูงกว่า 30°C เป็นเวลามากกว่า 50%
ของเวลาขับขี่ทั้งหมด
• โอเวอร์โหลดบ่อยครั้ง
การบำรุงรักษา
ประจำ 07
การบำรุงรักษาประจำ
การบำรุงรักษา
• การบำรุงรักษาจะต้องดำเนินการตาม
กำหนดการบำรุงรักษาเพื่อให้แน่ใจว่ารถมี
ประสิทธิภาพสูงสุดและลดความผิดพลาด
• ผู้ขับขี่สามารถดูตารางการบำรุงรักษาสำหรับ
ช่วงเวลาการบำรุงรักษาตามกำหนดการ ไม่ว่า
จะเป็นมาตรวัดระยะทางหรือช่วงเวลา แล้วแต่
ว่าอย่างใดอย่างหนึ่งจะถึงก่อน
• สำหรับรายการบำรุงรักษาที่เกินกำหนด ควร
ใช้ช่วงเวลาเดียวกันสำหรับการบำรุงรักษาครั้ง
ที่จะถึง
• ขอแนะนำให้บำรุงรักษา ดำเนินการตาม
มาตรฐานและข้อกำหนดของ BYD Auto Co.,
Ltd. และโดยตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการ
ที่ได้รับอนุญาตของ BYD ในพื้นที่
• ตารางการบำรุงรักษา ใช้แสดงรายการบำรุง
รักษาตามระยะเวลาเดินทาง หรือระยะทาง
ตามสมมติฐานว่ายานพาหนะถูกใช้งานปกติ
เพื่อบรรทุกผู้โดยสารและสินค้าที่ไม่เกินขีด
จำกัดน้ำหนักบรรทุกของรถ
ข้อควรระวัง !
• โปรดดำเนินการบำรุงรักษารถยนต์เป็น
ประจำตามข้อกำหนดใน "คู่มือการรับ
ประกันและการบริการบำรุงรักษา" ของ
BYD Auto
179
การป้องกันการกัดกร่อน
ยานพาหนะ
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการกัดกร่อน
ของรถยนต์คือ:
• ใต้ท้องรถเต็มไปด้วยเกลือ ฝุ่น และความชื้น
• รถหรือชิ้นส่วนบางส่วนต้องสัมผัสกับความชื้น
สูงและอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน
• ชั้นสีหรือชั้นรองพื้นมีรอยขีดข่วนจากการชน
กันเล็กน้อยหรือด้วยหินและกรวด
เพื่อป้องกันการกัดกร่อนของรถยนต์ ควรปฏิบัติ
ตามเกณฑ์ต่อไปนี้:
• ล้างรถเป็นประจำ
• หากขับบนถนนน้ำเค็ม ในฤดูหนาว หรือ
อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งทะเล ล้างพื้นที่จอด
รถอย่างน้อยเดือนละครั้ง และทำความ
สะอาดโครงเครื่องและฝากระโปรงหน้าด้วย
ปืนฉีดน้ำหรือไอน้ำเพื่อลดการกัดกร่อน ล้าง
แชสซีส์ให้สะอาดหลังฤดูหนาว
• ตรวจสอบสีตัวถังและขอบภายนอก
• หากพบบิ่นหรือรอยแตกบนสีจะต้อง
ซ่อมแซมทันทีเพื่อป้องกันการกัดกร่อน หาก
เศษหรือรอยแตกลอกออกจากพื้นผิวโลหะ
โปรดไปที่ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต
ของบีวายดีหรือผู้ให้บริการเพื่อทำการ
ซ่อมแซม
• ตรวจสอบภายในรถ
• ความชื้นและฝุ่นจะสะสมอยู่ใต้พรมและ
ทำให้เกิดการผุกร่อน ตรวจสอบด้านล่าง
ของพรมบ่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่าบริเวณเหล่า
นี้แห้งแล้ว
180
• ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการ
ขนส่งสารเคมี สารซักฟอก ปุ๋ย เกลือ และ
สารอื่นๆ และสารดังกล่าวควรเก็บไว้ใน
ภาชนะที่เหมาะสมสำหรับการขนส่ง หาก
พบการหกหรือรั่วไหล ให้ทำความสะอาด
ทันทีและเช็ดให้แห้ง
• การใช้บังโคลน
• บังโคลนสามารถปกป้องรถในพื้นที่น้ำเค็ม
หรือบนถนนลูกรัง ยิ่งบังโคลนใหญ่และใกล้
พื้นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น
• จอดรถในที่อากาศถ่ายเทสะดวกและแห้ง
ข้อแนะนำการบำรุงรักษาสี
• ห้ามทำสีโดยไม่จำเป็นถ้ามีรอยขีดข่วนเล็กน้อย
เพื่อป้องกันสีไม่ตรงกันหรือสีไม่เข้ากัน
• เมื่อไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน ควรจอดรถใน
โรงรถหรือในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก และ
ควรใช้ที่คลุมรถแบบพิเศษในฤดูหนาว เลือกที่
ร่มสำหรับจอดรถชั่วคราว
• ป้องกันแรงกระแทก การกระแทก หรือรอยขีด
ข่วนบนสี หากสีมีรอยขีดข่วน รอยบุบ หรือ
ลอกออก ควรซ่อมแซมทันที ซึ่งควรดำเนินการ
โดยผู้ให้บริการมืออาชีพ
• ห้ามสัมผัสสีด้วยผ้าเลอะน้ำมัน อย่าวางเครื่อง
มือที่เลอะน้ำมันหรือถูด้วยตัวทำละลายสาร
อินทรีย์บนตัวรถเพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาทาง
เคมี
• ควรตรวจเช็คสีรถเป็นประจำ (เดือนละครั้ง
หรือเมื่อพบปัญหาใดๆ) และแว็กซ์ทุกสาม
เดือน
• ต้องขัดสีและใช้แว็กซ์คุณภาพสูง หากใช้รถ
ภายใต้มีสภาพอากาศที่เลวร้าย ให้ใช้น้ำยาขัด
สีรถยนต์แยกจากแว็กซ์ ปฏิบัติตามคำแนะนำ
และข้อควรระวังของผู้ผลิตอย่างระมัดระวัง
ผิวโครเมี่ยมควรขัด และแว็กซ์เช่นเดียวกับสี
ข้อควรระวัง !
• ต้องถอดกันชนพลาสติกออกหากต้องการ
ทาสีใหม่ อบสีด้วยความร้อนสูง และ
แว็กซ์ เนื่องจากอุณหภูมิสูงจะทำให้
กันชนเสียหายได้
การทำความสะอาดรถ
• รถต้องได้รับการทำความสะอาดในเวลาภายใต้
สถานการณ์ต่อไปนี้ ซึ่งจะทำให้ชั้นสีลอกหรือ
สึกกร่อนโครงสร้างและส่วนต่างๆ:
• ขับรถเลียบชายฝั่ง
• ขับขี่บนถนนที่มีสารป้องกันการแข็งตัว
• การขับขี่บนถนนที่ปกคลุมไปด้วยถ่านหิน
• เรซิน มูลนก และซากแมลงติดค้าง
• การขับขี่ในพื้นที่ที่มีควัน เขม่า ฝุ่น ตะไบ
เหล็ก หรือสารเคมีจำนวนมาก
• ยานพาหนะสกปรกอย่างเห็นได้ชัดโดยฝุ่น
หรือโคลน
• หลังฝนตก.
ล้างรถด้วยตนเอง
ก่อนล้างรถ จอดรถในที่ร่ม และรอให้รถเย็นลง
1. ฉีดน้ำล้างสิ่งสกปรกด้วยสายยางเพื่อขจัด
07
โคลนหรือเกลือด้านล่างของรถ และในวงล้อ
การบำรุงรักษา
2. ล้างรถด้วยสารที่เป็นกลางซึ่งควรผสมตามคำ
แนะนำของผู้ผลิต แช่ผ้านุ่มๆ ด้วยน้ำยา
ทำความสะอาดแล้วเช็ดเบาๆ ตามทิศทางการ
ไหลของน้ำ อย่าเช็ดเป็นวงกลมหรือในแนว
นอน
3. ล้างออกให้สะอาด - เมื่อน้ำยาล้างรถแห้ง จะ
เกิดรอยน้ำยาหลังจากล้างรถในสภาพอากาศ
ร้อน ให้ล้างชิ้นส่วนต่างๆให้ดี
4. เช็ดรถให้แห้งด้วยผ้านุ่มสะอาดเพื่อป้องกันไม่
ให้น้ำเกาะติด เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนห้ามถู
หรือใช้แรงมากเกินไปกับสี
หมายเหตุ
• ห้ามใช้ผงด่าง น้ำสบู่ น้ำยาล้างจาน น้ำยา
ขจัดคราบไข หรือตัวทำละลายรุนแรง
• เมื่อทำความสะอาดโคมไฟ ห้ามเช็ดพื้นผิว
ของโคมไฟด้วยตัวทำละลายเคมี เช่น น้ำมัน
เบนซิน แอลกอฮอล์ ทินเนอร์แล็กเกอร์ ทิน
เนอร์สี หรือคาร์บอนเตตระคลอไรด์ มิฉะนั้น
จะเกิดรอยร้าวบนพื้นผิวได้
• รถยนต์ที่ขับในพื้นที่ชายฝั่งทะเลหรือบริเวณ
ที่มีมลพิษรุนแรงควรล้างทุกวัน
181
 หมายเหตุ
• อย่าขูดหรือใช้น้ำมันเบนซินเพื่อขจัดสิ่ง
สกปรก ขอบล้อพลาสติกเสียหายได้ง่ายจาก
สารอินทรีย์ หากมีสารอินทรีย์กระเด็นใส่
ขอบล้อ จะต้องล้างด้วยน้ำและตรวจสอบว่า
ส่วนภายนอกเสียหายหรือไม่ หากจำเป็น ให้
เปลี่ยนขอบล้อพลาสติกที่ได้รับความเสียหาย
อย่างร้ายแรงทันที มิฉะนั้น อาจหลุดออกใน
ขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่
• ห้ามล้างกันชนด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่มี
สารกัดกร่อน
• ชิ้นส่วนโลหะชุบต้องทำความสะอาดด้วยสาร
ทำความสะอาดคาร์บอน และเคลือบแว็กซ์
อย่างสม่ำเสมอเพื่อการปกป้อง
เครื่องล้างรถอัตโนมัติ
เมื่อเลือกบริการล้างรถอัตโนมัติ พึงระวังแปรง
บางประเภท น้ำล้างที่ไม่ผ่านการกรอง หรือขั้น
ตอนการล้างเฉพาะเครื่องที่อาจขีดข่วนสีและส่ง
ผลต่อความเงาและความทนทาน โดยเฉพาะอย่าง
ยิ่งสีที่เข้มกว่า ก่อนล้างรถ ควรปรึกษาเจ้าหน้าที่
ของผู้ให้บริการล้างรถเพื่อทำความเข้าใจว่าขั้น
ตอนการล้างปลอดภัยสำหรับสีรถ
การทำความสะอาดภายใน
หมายเหตุ
• ป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นใส่แผงหน้าปัดหรือ
พื้นโดยตรงขณะล้างรถ เนื่องจากอาจทำให้
ไฟฟ้าขัดข้องได้
• ห้ามล้างพื้นรถ
182
ทำความสะอาดพรม
• ทำความสะอาดพรมด้วยน้ำยาทำความสะอาด
แบบโฟมอย่างดี
• ใช้เครื่องดูดฝุ่นเพื่อขจัดฝุ่นให้มากที่สุด น้ำยา
ทำความสะอาดแบบโฟมมีหลายประเภท บาง
ชนิดอยู่ในกระป๋องสเปรย์ และบางชนิดเป็นผง
หรือของเหลวที่ผสมกับน้ำ ทำความสะอาด
พรมด้วยฟองน้ำหรือแปรงขัดเป็นวงกลม
• ห้ามใช้น้ำเปล่า และเช็ดพรมให้แห้งที่สุด
การทำความสะอาดเข็มขัดนิรภัย
• เข็มขัดนิรภัยสามารถทำความสะอาดได้ด้วยน้ำ
สบู่ที่เป็นกลางหรือน้ำอุ่น
• ขัดเข็มขัดนิรภัยด้วยฟองน้ำหรือผ้านุ่มๆ ตรวจ
สอบเข็มขัดนิรภัยว่ามีการสึกหรอ ฉีกขาด หรือ
รอยบาดมากเกินไปหรือไม่
ข้อควรระวัง !
• อย่าทำความสะอาดเข็มขัดนิรภัยด้วย
น้ำยาขจัดคราบหรือสารฟอกขาว เพื่อไม่
ให้เข็มขัดนิรภัยเสียหาย
• ห้ามใช้เข็มขัดนิรภัยจนกว่าจะแห้ง
ทำความสะอาดประตูและหน้าต่าง
• สามารถทำความสะอาดประตูและหน้าต่าง
ด้วยน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป
• ตรวจสอบการปิดประตูอย่างสม่ำเสมอ หาก
พบว่าคันโยกมีฝุ่นสะสมที่มองเห็นได้ ให้เช็ด
ด้วยผ้าเปียกที่อ่อนนุ่ม

ข้อควรระวัง !
• เมื่อทำความสะอาดกระจกหลังด้านใน
ระวังอย่าให้เป็นรอย หรือทำให้ลวดความ
ร้อนและขั้วต่อเสียหาย
การทำความสะอาดแผงควบคุม A/C,
ลำโพงรถยนต์, แผงหน้าปัด,
แผงควบคุมและสวิตช์
• ทำความสะอาดแผงควบคุม A/C, ลำโพง
รถยนต์, แผงหน้าปัด, แผงควบคุม และสวิตช์
ด้วยผ้านุ่มชุบน้ำหมาดๆ
ข้อควรระวัง !
• ห้ามใช้สารอินทรีย์ (ตัวทำละลาย น้ำมัน
ก๊าด แอลกอฮอล์ น้ำมันเบนซิน ฯลฯ)
หรือสารละลายกรดและด่าง สารเคมี
เหล่านี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนสี เป็น
คราบ หรือหลุดลอกได้ หากใช้ผงซักฟอก
หรือผลิตภัณฑ์ขัดเงา ตรวจสอบให้แน่ใจ
ว่าไม่มีส่วนผสมเหล่านี้
• หากใช้น้ำยาซักผ้าชนิดใหม่ จะต้องไม่
สัมผัสกับพื้นผิวภายในรถ เนื่องจากอาจมี
ส่วนผสมที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ ถ้าหก
เลอะเทอะ ให้ทำความสะอาดทันที
การทำความสะอาดเครื่องหนัง
• สามารถทำความสะอาดส่วนตกแต่งที่เป็นหนัง
ด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่เป็นกลางสำหรับ
ซักผ้าขนสัตว์
• ใช้ผ้านุ่มกับสารละลายน้ำยาทำความสะอาดที่
เป็นกลางเพื่อเช็ดฝุ่นออก จากนั้นใช้ผ้าเปียกที่
สะอาดเช็ดน้ำยาที่เหลือออก
• หากหนังเปียก ให้เช็ดด้วยผ้าสะอาดที่อ่อนนุ่ม 07
และปล่อยให้แห้งในที่เย็นและมีอากาศถ่ายเท
การบำรุงรักษา
• สำหรับคำถามใดๆ เกี่ยวกับการทำความ
สะอาดรถ โปรดปรึกษาตัวแทนจำหน่ายหรือผู้
ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD ในพื้นที่
ข้อควรระวัง !
• หากไม่สามารถขจัดสิ่งสกปรกออกโดยใช้
น้ำยาทำความสะอาดที่เป็นกลาง ให้
ทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาด
ที่ไม่มีตัวทำละลายอินทรีย์
• ห้ามทำความสะอาดเครื่องหนังด้วยสาร
อินทรีย์ใดๆ เช่น น้ำมันระเหย
แอลกอฮอล์ น้ำมันเบนซิน กรดหรือด่าง
เพราะจะทำให้เกิดการเปลี่ยนสีได้
• อย่าทำความสะอาดหนังด้วยแปรงไนลอน
หรือผ้าใยสังเคราะห์ เพราะอาจทำให้
ลวดลายละเอียดบนพื้นผิวหนังเป็นรอยได้
• เชื้อราอาจขึ้นได้เมื่อส่วนตกแต่งที่เป็น
หนังสกปรก ต้องใช้ความระมัดระวังเป็น
พิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงคราบน้ำมัน และต้อง
สะอาดอยู่เสมอ
• การโดนแสงแดดเป็นเวลานานจะทำให้
หนังแข็งตัวหรือหดตัว ดังนั้นควรจอดรถ
ในที่ร่มและเย็น โดยเฉพาะในฤดูร้อน
• ในสภาพอากาศร้อน ให้หลีกเลี่ยงการวาง
แผ่นไวนิลหรือแว็กซ์ทิ้งไว้ในรถ เนื่องจาก
สิ่งเหล่านี้จะติดหนังได้ในอุณหภูมิสูง
183
 ข้อควรระวัง !
• การทำความสะอาดหนังอย่างไม่เหมาะสม
อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนสีหรือจุดด่าง
การบำรุงรักษา
ด้วยตนเอง
การบำรุงรักษาด้วยตนเอง
ข้อควรระวังในการบำรุงรักษาด้วยตนเอง
• หากเจ้าของเป็นผู้ดำเนินการบำรุงรักษา โปรด
ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องในหัวข้อนี้
• โปรดทราบว่าการบำรุงรักษาที่ไม่เหมาะสม
และไม่สมบูรณ์จะส่งผลต่อการใช้งานรถที่ดี
• ส่วนนี้แสดงเฉพาะคำแนะนำเกี่ยวกับรายการ
บำรุงรักษาอย่างง่ายที่สามารถจะทำโดย
เจ้าของ อย่างไรก็ตาม มีหลายรายการที่ต้อง
ทำโดยช่างผู้ชำนาญด้วยเครื่องมือพิเศษ
• ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการบำรุงรักษา
ยานพาหนะเพื่อป้องกันการบาดเจ็บจาก
อุบัติเหตุ
ข้อควรระวัง !
• ระวังวงจรและชิ้นส่วนรถยนต์บางรุ่นมี
กระแสไฟสูงหรือไฟฟ้าแรงสูง
• หากน้ำหล่อเย็นรั่วไหล ให้เช็ดทำความ
สะอาดด้วยผ้าแห้งหรือกระดาษ เพื่อ
ป้องกันความเสียหายต่อชิ้นส่วนหรือพื้น
ผิวที่ทาสี
184
ข้อควรระวัง !
• หากน้ำมันเบรกหก ให้ล้างด้วยน้ำเพื่อ
ป้องกันความเสียหายต่อชิ้นส่วนหรือพื้น
ผิวที่ทาสี
• เมื่อเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน ให้ป้องกันไม่ให้
กระจกเป็นรอย
• ก่อนปิดฝากระโปรง ตรวจสอบให้แน่ใจว่า
ไม่มีเครื่องมือ ผ้า ฯลฯ หลงเหลืออยู่
ภายใน
• ควรสวมแว่นตาทุกครั้งที่ทำงานใต้ท้องรถ
เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งของหรือของเหลวตก
เข้าตา
• เนื่องจากน้ำมันเบรกสามารถทำลาย
ผิวหนังหรือดวงตาได้ ควรใช้ความ
ระมัดระวังขณะเติมน้ำมันเบรก หาก
น้ำมันเบรกกระเด็นโดนผิวหนังหรือตา ให้
ล้างทันทีด้วยน้ำปริมาณมาก หากยังรู้สึก
ไม่สบาย ให้ไปพบแพทย์
ตรวจสอบ
• รายการต่อไปนี้ควรได้รับการตรวจสอบตาม
การใช้งานหรือระยะที่กำหนด:
• ระดับน้ำหล่อเย็น - ควรตรวจสอบระดับน้ำ
หล่อเย็นทุกครั้งที่มีการชาร์จไฟ
• น้ำยาล้างกระจกหน้ารถ - ควรตรวจสอบ
ปริมาณน้ำยาล้างกระจกรถที่หลงเหลือใน
ถังทุกเดือน เมื่อใช้น้ำยาล้างกระจกบ่อยครั้ง
ควรตรวจสอบปริมาณของเหลวที่เหลือทุก
ครั้งที่มีการชาร์จไฟ
• ที่ปัดน้ำฝน - ตรวจสอบสภาพที่ปัดน้ำฝน
ทุกเดือน หากที่ปัดน้ำฝนไม่ทำงาน ให้ตรวจ
 สอบการสึกหรอ การแตกร้าว หรือความ
เสียหายอื่นๆ
• ระดับน้ำมันเบรก - ตรวจสอบระดับราย
เดือน
• แป้นเบรก - ตรวจสอบว่าแป้นเบรกทำงาน
อย่างถูกต้อง
• สวิตช์ EPB - ตรวจสอบว่าสวิตช์ทำงานได้
• แบตเตอรี่ 12V - ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่
และขั้วแบตเตอรี่ว่ามีการผุกร่อนหรือไม่ ทุก
เดือน
• ระบบ A/C - ตรวจสอบการทำงานของ
เครื่องปรับอากาศทุกสัปดาห์
• ยางรถยนต์ - เช็คลมยางทุกเดือน ตรวจ
สอบการสึกหรอของดอกยางและดูว่ามีสิ่ง
แปลกปลอมฝังอยู่หรือไม่
• ที่ไล่ฝ้ากระจกหน้ารถ - ตรวจสอบช่อง
ระบายอากาศของช่องลมไล่ฝ้าทุกเดือน
• ไฟหน้า-ตรวจเช็คสภาพไฟหน้า,ไฟ,ไฟ
ท้าย,ไฟเบรคสูง,ไฟเลี้ยว,ไฟตัดหมอก
หลัง,ไฟเบรคและไฟส่องป้ายทะเบียนทุก
เดือน
• ประตู - ตรวจสอบว่าประตูหลังและประตู
อื่นๆ ทั้งหมด (รวมถึงประตูด้านหลัง)
สามารถเปิดได้อย่างอิสระและล็อคอย่าง
แน่นหนา
• แตร - ตรวจสอบว่าแตรทำงานอย่างถูกต้อง
หมายเหตุ
• มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายหรือ
อุบัติเหตุได้หากใช้รถยนต์เป็นเวลานานโดย
ไม่ได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษา
ชุดโคมไฟหน้า
การปรับค่ามาตรฐานชุดโคมไฟหน้า
• สำหรับรถใหม่แต่ละคัน ชุดไฟหน้าคู่หน้าได้รับ 07
การตั้งค่ามาตรฐานแล้วจากโรงงาน หากยาน
การบำรุงรักษา
พาหนะบรรทุกของหนักบ่อยครั้ง อาจจำเป็น
ต้องตั้งค่ามาตรฐานชุดโคมไฟหน้า ใหม่ ไปที่
ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD สำหรับปรับค่าให้ได้ตาม
มาตรฐาน
ไฟตัดหมอก
• หลังจากฝนตกหนักหรือทำความสะอาด อาจมี
ไอน้ำที่โคมไฟรวม ไฟท้าย และไฟเลี้ยวที่
กระจกมองข้าง ซึ่งคล้ายกับการควบแน่นที่
กระจกด้านข้างในช่วงฝนตก ไม่ใช่ปัญหา
• หลอดไฟติดตั้งอยู่ในพื้นที่ค่อนข้างปิดและแคบ
อุณหภูมิจะสูงมากเมื่อสว่าง (หน้ากากและ
แผ่นสะท้อนแสงง่ายต่อการถูกเผาและเปลี่ยน
รูป) จึงต้องมีการระบายความร้อน มีรูกระจาย
ความร้อนบนตัวโคมเพื่อการพาความร้อน ยิ่ง
ความแตกต่างของอุณหภูมิมากเท่าใด การพา
ความร้อนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น การพาความ
ร้อนและปัจจัยอื่นๆ เช่น แสงแดดและความ
ร้อนจากหลอดไฟ อาจทำให้ความชื้นเข้าสู่โคม
ไฟได้ ดังนั้นอาจเกิดการควบแน่นบนพื้นผิวได้
185

หมายเหตุ
• หากความชื้นปรากฏขึ้นภายใน ของโคมไฟ
รวมหรือที่ด้านในของไฟเลี้ยวที่กระจกมอง
ข้าง อาจเป็นเพราะความชื้นสูงและ/หรือ
ความแตกต่างของอุณหภูมิที่สูง เมื่อขับรถ
ให้เปิดไฟรวมหรือไฟเลี้ยว แล้วไอน้ำจะแห้ง
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง
• หากมีน้ำอยู่ภายในไฟที่เห็นได้ชัดเจน ให้ขับ
รถไปที่ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ
BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อทำการบำรุงรักษา
การบำรุงรักษาซันรูฟ
การบำรุงรักษาซันรูฟแบบพาโนรามา*
1. เช็ดฝุ่นหรือทรายบนขอบยางนอกของซันรูฟ
ด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ เพื่อไม่ให้เกิดรอยขีด
ข่วน ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการปิด
ผนึก
2. เช็ดฝุ่นหรือทรายบนขอบกระจกด้านหน้าด้วย
ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เพื่อไม่ให้เกิดรอยขีดข่วน ซึ่ง
อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการปิดผนึก
3. เปิดกระจกด้านหน้าจนสุดและทำความ
สะอาดส่วนหน้าของกระจกหลังบ่อยๆ เพื่อ
หลีกเลี่ยงการสะสมของฝุ่น ทราย และใบไม้
และป้องกันไม่ให้รูระบายน้ำถูกสิ่งสกปรกอุด
ตัน ส่งผลให้ซันรูฟระบายน้ำไม่ดี
4. ทำความสะอาดรางทั้งสองข้างบ่อยๆ และ
สายพานด้านหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการสะสม
ของฝุ่น ทราย และใบไม้ และป้องกันไม่ให้รู
ระบายน้ำถูกสิ่งสกปรกดังกล่าวอุดตัน ส่งผล
ให้การระบายน้ำของซันรูฟไม่ดี
186
5. เมื่อล้างรถ ห้ามเล็งหัวฉีดไปที่ขอบยาง
โดยตรงด้วยปืนฉีดน้ำ เพื่อป้องกันความเสีย
หายที่เกิดกับขอบยาง น้ำจะรั่วซึมเข้าไปในรถ
6. ซันรูฟแข็งตัวง่ายในฤดูหนาว ขอบยางหรือ
ส่วนอื่นๆ อาจเสียหายหากซันรูฟถูกบังคับ
เปิดออก เมื่อซันรูฟค้าง ให้อุ่นรถและเปิด
ระบบปรับอากาศเพื่อเร่งการละลายของหิมะ
และน้ำแข็งบนซันรูฟ พยายามเปิดซันรูฟหลัง
จากอุณหภูมิภายในสูงถึงระดับหนึ่ง เช็ด
ความชื้นที่หลงเหลือบนซันรูฟเพื่อป้องกันไม่
ให้กลายเป็นน้ำแข็ง
7. อย่าเปิดซันรูฟจนสุด เมือขับบนถนนที่เป็น
หลุมเป็นบ่อ มิฉะนั้น การสั่นสะเทือนระหว่าง
ซันรูฟกับรางอาจทำให้ชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องเสีย
รูปและอาจทำให้มอเตอร์เสียหายได้ และอย่า
เปิดซันรูฟเมื่อฝนตกหรือรถกำลังทำความ
สะอาด
การบำรุงรักษาซันรูฟ*
1. เช็ดฝุ่นหรือทรายบนขอบยางของซันรูฟด้วย
ผ้าเปียกเพื่อหลีกเลี่ยงการขีดข่วน ซึ่งอาจส่ง
ผลต่อประสิทธิภาพการปิดผนึก
2. เช็ดฝุ่นหรือทรายรอบๆ แผ่นโลหะบนหลังคา
ด้วยผ้าเปียกเพื่อป้องกันการเสียดสีของแถบ
ปิดผนึกเมื่อปิดซันรูฟ ซึ่งอาจส่งผลต่อ
ประสิทธิภาพการซีลซันรูฟ
3. ทำความสะอาดราง บานเลื่อนด้านหน้า และ
ส่วนอื่นๆ บ่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของ
ฝุ่น ทราย และใบไม้ และป้องกันไม่ให้รู
ระบายน้ำอุดตันจากเศษขยะดังกล่าว ส่งผล
ให้น้ำรั่วเข้าไปในตัวรถ
4. เมื่อล้างรถ อย่าเล็งหัวฉีดไปที่ขอบยางด้วยปืน
ฉีดน้ำโดยตรง เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิด
กับแถบและน้ำจากการรั่วซึมเข้าไปในรถ
5. ซันรูฟค้างได้ง่ายในฤดูหนาว ขอบยางหรือ
ส่วนอื่นๆ อาจเสียหายหากซันรูฟถูกบังคับ
เปิดออก เมื่อซันรูฟค้าง ให้อุ่นรถและเปิด
ระบบปรับอากาศเพื่อเร่งการละลายของหิมะ
และน้ำแข็งบนซันรูฟ พยายามเปิดซันรูฟหลัง
จากอุณหภูมิภายในสูงถึงระดับหนึ่ง เช็ด
ความชื้นที่หลงเหลือบนซันรูฟเพื่อป้องกันไม่
ให้กลายเป็นน้ำแข็ง
6. อย่าเปิดซันรูฟจนสุด เมื่อขับบนถนนที่เป็น
หลุมเป็นบ่อ มิฉะนั้น การสั่นสะเทือนระหว่าง
ซันรูฟกับรางอาจทำให้ชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องเสีย
รูปและอาจทำให้มอเตอร์เสียหายได้ และอย่า
เปิดซันรูฟเมื่อฝนตกหรือรถกำลังทำความ
สะอาด
ที่เก็บรถ
• หากจำเป็นต้องจอดรถเป็นเวลานาน (มากกว่า
หนึ่งเดือน) ควรมีการเตรียมการดังต่อไปนี้
การเตรียมที่เหมาะสมช่วยป้องกันการเสื่อม
สภาพและช่วยให้นำรถกลับมาใช้ใหม่ได้ง่าย
ถ้าเป็นไปได้ ให้จอดรถในที่ร่ม
• ชาร์จรถตรงเวลา สำหรับรายละเอียด โปรดดู
คำแนะนำการใช้แบตเตอรี่
• ทำความสะอาดผิวภายนอกให้สะอาดและเช็ด
ให้แห้ง
• ทำความสะอาดภายในรถเพื่อให้แน่ใจว่าพรม
แห้งสนิท
• ปลดเบรกจอดรถและตั้งคันเกียร์เข้าเกียร์จอด
• เปิดหน้าต่างบานหนึ่งเล็กน้อย (หากเก็บไว้ใน
อาคาร)
• ถอดขั้วลบของแบตเตอรี่ 12 โวลต์ ในห้อง
เครื่องออก 07
• พันก้านปัดน้ำฝนด้านหน้าด้วยผ้าเช็ดตัวหรือ
การบำรุงรักษา
ผ้าไว้ เพื่อไม่ให้ใบปัดน้ำฝนสัมผัสกับกระจกบัง
ลม
• เพื่อลดการยึดเกาะ ให้ใช้สารหล่อลื่นซิลิโคน
ทาที่ยางขอบประตู และพื้นผิวรถบริเวณที่ยาง
ขอบประตูมาบรรจบกัน
• คลุมรถด้วยผ้าหุ้มที่ระบายอากาศได้ซึ่งทำจาก
"วัสดุที่มีรูพรุน" เช่น ผ้าฝ้าย วัสดุที่ไม่มีรูพรุน
เช่น แผ่นพลาสติก สามารถสร้างความชื้นและ
ทำให้สีเสียหายได้
• ถ้าเป็นไปได้ ให้เปิดระบบการทำงานรถเป็น
ประจำ (ควรเป็นรายเดือน) หากจอดรถไว้เป็น
เวลาหนึ่งปีขึ้นไป ให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายหรือ
ผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD เพื่อ
ดำเนินการบำรุงรักษาอย่างครอบคลุม
ฝากระโปรงหน้า
เปิดฝากระโปรงหน้า
1. ดึงที่จับสองครั้งแล้วฝากระโปรงจะปลดล็อค
และเปิดออกเล็กน้อย
187
2. เปิดฝากระโปรงหน้า: ยกฝากระโปรงขึ้นและ
รองรับด้วยที่ค้ำฝากระโปรง
3. ปิดฝากระโปรงหน้า: เมื่อปิดฝากระโปรง ให้
ลดระดับลงเหนือกระจังหน้าประมาณ 30
ซม. แล้วปล่อยให้ตกเพื่อล็อค
4. หลังจากปิดฝากระโปรงแล้ว ให้ตรวจสอบว่า
สลักล็อคแน่นดีแล้ว
• หากระดับน้ำหล่อเย็นต่ำกว่าเส้น MIN ควร
เติมน้ำยาทำความเย็นถึงเส้น MAX ตรวจสอบ
ระบบระบายความร้อนสำหรับการรั่วไหล

หมายเหตุ
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปิดฝากระโปรงหน้า
และล็อคอย่างแน่นหนา มิฉะนั้น ขณะขับรถ
ฝากระโปรงหน้าอาจเปิดออกอย่างกะทันหัน
และทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ระบบระบายความร้อน
• กำหนดให้ระดับของเหลวควรอยู่ระหว่างเส้น
เครื่องหมาย MAX และ MIN ของหม้อพักน้ำ
หล่อเย็น
• สารทำความเย็นควรเป็นคุณสมบัติเดียวกับ
สารทำความเย็นเดิมเสมอ โดยไม่ผสมน้ำยา
ทำความเย็นหลายยี่ห้อและประเภทต่างๆเข้า
ด้วยกัน
หมายเหตุ
• การเปิดฝาถังน้ำหล่อเย็นในขณะที่
เครื่องยนต์ยังไม่เย็นสนิท อาจทำให้น้ำหล่อ
เย็นเย็นพุ่งออกมา ส่งผลให้เกิดการไหม้อย่าง
รุนแรง
• น้ำหล่อเย็นในแบตเตอรี่อาจมีสีซีดจางเมื่อ
สัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลตสูง เช่น
แสงแดด หากจำเป็นต้องเปิดฝากระโปรง
หน้าระหว่างการใช้งานและบำรุงรักษา
รถยนต์ ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
ประสิทธิภาพของสารทำความเย็นจะไม่
เปลี่ยนแปลงหลังจากที่มันจางหายไป และ
การใช้งานตามปกติจะไม่ได้รับผลกระทบ

188

ข้อควรระวัง !
• ห้ามเติมสารยับยั้งการเกิดสนิมหรือสาร
เติมแต่งอื่นๆ ลงในระบบระบายความ
ร้อน เพราะอาจเข้ากันไม่ได้กับน้ำหล่อ
เย็นหรือส่วนประกอบของมอเตอร์
• ก่อนเปิดฝาถังพักน้ำ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า
มอเตอร์ ชุดควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ไฟฟ้า
แรงสูง ถังพักน้ำเก็บน้ำหล่อเย็น และหม้อ
น้ำเย็นลงแล้ว
• ขอแนะนำให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้
ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD เพื่อ
เติมน้ำหล่อเย็นที่เข้ากันได้กับแบตเตอรี่
ระบบเบรก
• ควรตรวจสอบระดับของเหลวในถังทุกเดือน
และควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกตามระยะเวลาและ
ระยะทางที่ระบุในตารางการบำรุงรักษาปกติ
• อย่าลืมใช้น้ำมันเบรกที่มีข้อกำหนดเดียวกันกับ
น้ำมันเบรกเดิม และไม่ควรผสมน้ำมันเบรก
ประเภทต่างๆเข้าด้วยกัน
• กำหนดให้ระดับของเหลวควรอยู่ระหว่างเส้น
เครื่องหมาย MAX และ MIN ของถัง
• หากมาตรวัดแสดงระดับน้ำมันเบรกต่ำ ให้
ตรวจสอบการรั่วของระบบเบรกและผ้าเบรก
ว่ามีรอยลึกหรือไม่
07
น้ำล้างกระจกรถ
การบำรุงรักษา
• ในระหว่างการใช้งานปกติ ให้ตรวจสอบระดับ
ของเหลวของถังเก็บน้ำที่ฉีดน้ำล้างกระจกรถ
อย่างน้อยทุกเดือน
• หากใช้ น้ำล้างกระจกรถบ่อยครั้ง ควรตรวจ
สอบระดับของถังน้ำล้างกระจกให้บ่อยขึ้น
• ควรเติมน้ำยาล้างกระจกหน้ารถคุณภาพสูง
เพื่อปรับปรุงการขจัดคราบและป้องกันการแช่
แข็งในสภาพอากาศหนาวเย็น
• เมื่อเติมน้ำยาล้างกระจก ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบ
น้ำยาล้างกระจกหน้ารถเพื่อทำความสะอาดใบ
ปัดน้ำฝน ช่วยให้ใบปัดน้ำฝนอยู่ในสภาพดี
ข้อควรระวัง !
• อย่าเติมน้ำส้มสายชูลงในถังเก็บน้ำล้าง
กระจกหน้ารถ
• ขอแนะนำให้ใช้น้ำยาล้างกระจกหน้ารถที่
ผ่านการรับรอง
189
ระบบปรับอากาศ
• ระบบปรับอากาศเป็นระบบปิด การบำรุง
รักษาที่สำคัญใดๆ ควรดำเนินการโดยผู้
เชี่ยวชาญจากตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการ
ที่ได้รับอนุญาตของบีวายดี
• เจ้าของสามารถดำเนินการดังต่อไปนี้เพื่อให้
แน่ใจว่าระบบ A/C ทำงานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
• ตรวจสอบหม้อน้ำและแผงรังผึ้งเครื่องปรับ
อากาศอย่างสม่ำเสมอ
• กำจัด ใบไม้ แมลง และฝุ่นออกจากด้าน
หน้าพื้นผิวซึ่งสามารถปิดกั้นการไหลของ
อากาศและลดความเย็น
• ในเดือนที่อากาศหนาวเย็น ควรเปิดเครื่อง
ปรับอากาศอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเป็น
เวลาอย่างน้อย 10 นาทีในแต่ละครั้ง เพื่อให้
มีการหมุนเวียนของน้ำมันหล่อลื่นที่มีอยู่ใน
สารทำความเย็น
• หากประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศลดลง
ให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ
BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อทำการบำรุงรักษา
ข้อควรระวัง !
• เมื่อใดก็ตามที่ระบบ A/C ได้รับการตรวจ
สอบและซ่อมแซม สถานีบำรุงรักษาควรมี
การใช้อุปกรณ์หมุนเวียนสารทำความเย็น
อุปกรณ์นี้สามารถเก็บสารทำความเย็น
เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ การกำจัดสาร
ทำความเย็นอย่างไม่เหมาะสมก่อให้เกิด
มลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
190
ใบปัดน้ำฝน
ใบปัดน้ำฝนทำจากยางสังเคราะห์ซึ่งเป็นส่วนที่
เปราะบาง สภาพแวดล้อมในการทำงานของยาน
พาหนะและพฤติกรรมการใช้งานของผู้ขับขี่อาจ
ทำให้ใบปัดน้ำฝนเสียหายได้ ดังนั้น โปรดทราบ
รายการต่อไปนี้เพื่อให้แน่ใจว่าอายุการใช้งานของ
ใบปัดน้ำฝนและความปลอดภัยในการขับขี่:
• อย่าใช้ใบปัดน้ำฝนเพื่อเอาน้ำแข็งออกจากพื้น
ผิวกระจกหน้ารถ ใช้ที่ขูดน้ำแข็งโดยเฉพาะ
• อย่าขูดพื้นผิวกระจกหน้ารถถ้าสกปรก เลอะ
น้ำมัน หรือ มีลักษณะเป็นขี้ผึ้ง
• รักษาพื้นผิวกระจกหน้ารถให้สะอาด ไม่มีรอย
ฝุ่น ทราย แมลง และสิ่งแปลกปลอม บนพื้น
ผิวกระจกหน้ารถ
• ในระหว่างการล้างรถและบำรุงรักษาสีตัวรถ
ไม่จำเป็นต้องแว็กซ์กระจกหน้ารถ เนื่องจาก
ชั้นแว็กซ์จะสะท้อนแสงในที่แสงไม่ดี ซึ่งส่งผล
ต่อการมองเห็นและความปลอดภัยในการขับขี่
หลังจากล้างรถแล้ว ให้ล้างใบปัดน้ำฝนด้วยน้ำ
เปล่า และใช้น้ำยาทำความสะอาดกระจกหน้า
รถแบบพิเศษเพื่อขจัดชั้นขี้ผึ้งบนกระจกหน้า
รถ
• ห้ามล้างใบปัดน้ำฝนด้วยปืนฉีดน้ำโดยตรง เพื่อ
ป้องกันแรงดันน้ำที่มากเกินไปจากการทำลาย
ใบปัดน้ำฝน
กฎการบำรุงรักษา
• ทำความสะอาดกระจกบังลมและใบปัดน้ำฝน
อย่างสม่ำเสมอ (ควรสัปดาห์ละครั้งหรือทุก
สองสัปดาห์)
• เช็ดที่ปัดน้ำฝนเป็นประจำ (ควรวันละครั้งหรือ
ทุกสองวัน) เมื่อใช้ใบปัดน้ำฝนเช็ดกระจกหน้า
ให้ทำให้กระจกหน้ารถเปียกจนสุด (เมื่อไม่มี
ฝน ต้องฉีดน้ำยาล้างกระจกล่วงหน้า)
• ทำความสะอาดกระจกหน้ารถด้วยน้ำยาล้าง
กระจกหน้ารถแบบพิเศษ
• ทำความสะอาดคราบโคลนและซากแมลงที่ติด
กระจกหน้ารถด้วยผ้า
• เมื่อมีรอยบนกระจกหน้ารถที่เกิดจากกรวด
ควรดำเนินการบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา ขอ
แนะนำว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์เรซินซ่อมแซม
กระจกหน้ารถ และควรเปลี่ยนกระจกหน้ารถ
หากรอยมีขนาดใหญ่เกินไปหรือมากเกินไป
• เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนอย่างสม่ำเสมอ เวลาที่
เหมาะสมคือทุกๆหกเดือน
• เมื่อทำความสะอาดกระจกบังลม ต้องยกก้าน
ปัดน้ำฝนไว้ล่วงหน้า วิธีการใช้งานเฉพาะมี
ดังนี้:
1. ไปที่ Infotainment → Vehicle
health → Maintenance เพื่อเปิดใช้
งานการบำรุงรักษาที่ปัดน้ำฝนด้านหน้า
และที่ปัดน้ำฝนจะหมุนออกมา
2. จับปลายด้านบนของก้านปัดน้ำฝนและ
ค่อยๆ ยกแขนปัดน้ำฝนและใบปัดน้ำฝน
ยางรถยนต์
• เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ยางจะต้องผลิต
และกำหนดขนาดให้พอดีกับตัวรถ โดยมีดอก
ยางที่ดีและแรงดันลมยางได้มาตรฐาน
คำเตือน
• การใช้ยางที่สึกมากเกินไป หรือมีความดัน
สูงหรือต่ำเกินไป มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิด 07
อุบัติเหตุ
การบำรุงรักษา
• ปฏิบัติตามคำแนะนำทั้งหมดในคู่มือนี้
เกี่ยวกับการเติมลมยางและการบำรุง
รักษา
การเติมลมยาง
• เติมลมยางอย่างเหมาะสมเพื่อ การผสมผสาน
ที่ดีที่สุดระหว่างการควบคุม อายุการใช้งาน
ดอกยาง และความสะดวกสบายในการขับขี่
• ยางที่เติมลมน้อยเกินไปอาจทำให้ยางสึกไม่เท่า
กัน ส่งผลต่อการควบคุมรถและการใช้พลังงาน
และมีความเป็นไปได้ที่จะรั่วเนื่องจากความ
ร้อนสูงเกินไป
• ยางที่เติมลมเกินจะสึกไม่สม่ำเสมอ ลดความ
สะดวกสบาย และมีแนวโน้มที่จะเกิดความเสีย
หายจากถนนที่ไม่เรียบ หากมากเกินจริงอย่าง
มาก มีความเสี่ยงที่จะระเบิด มีผลต่อความ
ปลอดภัยอย่างร้ายแรง
• รถมีเกจวัดแรงดันลมยาง เมื่อยางอยู่ที่อุณหภูมิ
แวดล้อม เจ้าของสามารถตัดสินใจได้ว่าจะเติม
แรงดันลมยางตามค่าแรงดันลมยางที่แสดงบน
มาตรวัดหรือไม่
• ควรวัดแรงดันลมยางในขณะที่ยางเย็น ซึ่ง
หมายความว่าควรวัดอย่างน้อยสามชั่วโมงหลัง
จากจอดรถ หากเจ้าของรถต้องขับรถก่อนวัด
แรงดันลมยาง ถือว่ายางยังเย็นอยู่ ตราบใดที่
ระยะทางเดินทางไม่เกิน 1.6 กม.
191
• หากตรวจสอบแรงดันลมยางในขณะที่ยางร้อน
ค่าที่อ่านได้จะสูงกว่าค่าที่อ่านเมื่อเย็น 30 - 40
kPa (3.5-6 Psi) ปรากฏการณ์นี้เป็นเรื่องปกติ
ห้ามปล่อยลมออกเพื่อให้ได้ค่าความดันลมยาง
ที่เย็นตามที่กำหนด มิฉะนั้นค่าความดันจะต่ำ
ลงมากเกินไป
การตรวจสอบสภาพยาง
• เมื่อตรวจสอบลมยางในแต่ละครั้ง ให้ตรวจ การซ่อมบำรุง
สอบความเสียหายของยาง รอบเจาะ และการ
• นอกจากการสูบลมที่เหมาะสมแล้ว การตั้ง
สึกหรอ
ศูนย์ล้อที่เหมาะสมยังช่วยลดการสึกหรอของ
หมายเหตุ ดอกยางอีกด้วย
• หากพบการสึกหรอของยางที่ไม่สม่ำเสมอ ให้
• ฉลากแรงดันลมยางที่แนะนำ (ติดอยู่ที่กรอบ ไปที่ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
ประตูด้านคนขับ) ระบุถึงแรงดันลมยางที่ อนุญาตของ BYD และตรวจสอบการตั้งศูนย์
แนะนำในขณะยางเย็น ล้อ
• ยางไม่มียางใน มีฟังค์ชั่นการซีลตัวเองเมื่อ • รถได้รับการตั้งศูนย์จากโรงงาน แต่ยางต้องได้
ยางถูกเจาะ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการรั่ว รับการถ่วงล้อใหม่หลังจากขับขี่มาระยะหนึ่ง
ไหลมักจะช้ามาก ทันทีที่ยางเริ่มลดแรงดัน แล้ว
ให้มองหาตำแหน่งที่รั่วอย่างระมัดระวัง
• หากมีการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องในขณะ
• เปลี่ยนยางหากพบรอยบวม มีความเสียหายที่ ขับขี่ด้วยความเร็วสูง (มากกว่า 80 กม./ชม.)
ดอกยางหรือด้านข้าง แต่ไม่ใช่ที่ความเร็วต่ำ ให้ไปตรวจสอบยางที่
• เปลี่ยนยางหากมีรอยแตกที่ด้านข้าง หรือมอง ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
เห็นผ้าใบเสริมหรือเข็มขัดรัดหน้ายาง อนุญาตของ BYD
• เปลี่ยนยางที่ดอกยางสึกมากเกินไป • หากยางได้รับการซ่อมแซม ต้องแน่ใจว่าได้ถ่วง
ล้อใหม่
• ดอกยางมีรอยสึก เมื่อดอกยางสึก ณ จุดนี้
ความหนาของดอกยางน้อยกว่า 1.6 มม. การ • เมื่อติดตั้งยางใหม่หรือเปลี่ยนล้อใหม่ ให้
ยึดเกาะของยางที่สึกจนถึงระดับนี้น้อยมากบน ทำการถ่วงล้อเสมอ
ถนนเปียก
• เมื่อดอกยางสึกจนถึงจุดที่มีรอยสึก จะเกิดการ
สูญเสียสมรรถนะอย่างร้ายแรง และควร
เปลี่ยนยาง

192

ข้อควรระวัง !
• การใช้ตะกั่วถ่วงล้อที่ไม่เหมาะสมจะ
หลวมและหลุดออก ขณะขับรถ จะทำให้
รถหรือวัตถุรอบข้างเสียหายได้
• การถ่วงล้อที่ไม่เหมาะสมจะทำให้ขอบล้อ
อะลูมิเนียมของรถเสียหาย ดังนั้นจึงขอ
แนะนำให้ใช้ตะกั่วถ่วงล้อที่ถูกต้อง
การสับยาง
• ควรทำการสับยางอย่างสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับ
การตั้งศูนย์ล้อสี่ล้อ การตรวจสอบและการตั้ง
ศูนย์ เพื่อให้ยางสึกหล่ออย่างสม่ำเสมอและยืด
อายุการใช้งานของยาง
• เมื่อซื้อยางทดแทน ยางบางเส้นเป็นแบบ 'บอก
ทิศทาง' ซึ่งสามารถหมุนได้เพียงทิศทางเดียว
เท่านั้น หากใช้ยางแบบมีทิศทาง จะสามารถ
เปลี่ยนเฉพาะล้อหน้าและล้อหลังในการหมุน
ยางได้ดังภาพ:
ยางมีทิศทางการหมุน ยางไม่มีทิศทางการหมุน
เปลี่ยนยางและล้อ
• ยางดั้งเดิมให้สมรรถนะสูงสุด ในขณะที่ให้การ
บังคับควบคุม ความสะดวกสบายในการขับขี่
และอายุการใช้งานที่ดีที่สุด
• ไปที่ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD เพื่อเปลี่ยนยางเดิม
• การเปลี่ยนยางที่มีขนาด ลักษณะถนน
ความเร็วที่กำหนด และแรงดันสูงสุด 07
(สัญลักษณ์เครื่องหมายที่บนยาง) หรือการใช้
การบำรุงรักษา
ยางเรเดียล และยางไบแอสผสมกัน สามารถ
ลดความสามารถในการเบรก แรงขับเคลื่อน
(การยึดเกาะบนพื้นถนน) และความแม่นยำใน
การบังคับเลี้ยว
• การติดตั้งยางที่ไม่เหมาะสม ส่งผลต่อการ
ควบคุมรถและเสถียรภาพของรถ อาจส่งผลให้
เกิดอุบัติเหตุได้
• ทางที่ดีควรเปลี่ยนยางทั้งสี่เส้นพร้อมกัน อย่า
เปลี่ยนยางเพียงเส้นเดียว มิฉะนั้นจะส่งผลร้าย
แรงต่อการควบคุมของรถ
• ABS ทำงานโดยเปรียบเทียบความเร็วล้อ ใน
การเปลี่ยนยาง ให้ใช้ยางขนาดเดียวกับยางเดิม
ขนาดและโครงสร้างของยางอาจส่งผลต่อ
ความเร็วล้อและอาจส่งผลให้ระบบทำงานไม่
พร้อมเพรียงกัน
• หากจำเป็นต้องเปลี่ยนล้อ ตรวจสอบให้แน่ใจ
ว่าข้อกำหนดของล้อใหม่ตรงกับล้อเดิม ล้อใหม่
มีจำหน่ายที่ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่
ได้รับอนุญาตของ BYD โปรดปรึกษาตัวแทน
จำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ
BYD ก่อนเปลี่ยนล้อ
193
 หมายเหตุ
• ปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ มิฉะนั้นจะนำ
ไปสู่อันตรายในการจัดการทั่วไป ซึ่งจะทำให้
รถสูญเสียการควบคุม
• อย่าผสมยางเรเดียล ยางไบแอสเบลท์
หรือยางชั้นในแนวทแยง
• ใช้เฉพาะขนาดยางที่ผู้ผลิตแนะนำเท่านั้น • การเปลี่ยนฟิวส์ที่ขาดด้วยแอมแปร์ที่สูงกว่า
สามารถเพิ่มโอกาสเกิดความเสียหายต่อระบบ
ฟิวส์ ไฟฟ้าได้
• หากไม่มีฟิวส์สำรองในแอมแปร์เดียวกัน ให้ใช้
วงจรรถยนต์ทั้งหมดมีฟิวส์เพื่อป้องกันไฟฟ้า ฟิวส์ที่มีแอมแปร์ต่ำกว่าแทน
ลัดวงจรหรือโอเวอร์โหลด ฟิวส์เหล่านี้ติดตั้งอยู่ใน
ห้องเครื่องของแผงสวิตช์ห้องโดยสารด้านหน้า หมายเหตุ
และแผงสวิตช์แผงหน้าปัดตามลำดับ แผนภาพ
ฟิวส์แสดงความสอดคล้องกันระหว่างฟิวส์และชิ้น • ห้ามใช้ฟิวส์ที่มีค่าแอมแปร์ที่สูงกว่า หรือวิธี
ส่วนที่เกี่ยวข้องจะติดอยู่กับกล่องฟิวส์ การอื่นใดในการทดแทนฟิวส์ เนื่องจากอาจ
ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง หรือแม้แต่
• ฟิวส์ใต้ฝากระโปรงหน้าจะอยู่ที่ด้านหลังซ้าย
ไฟไหม้ได้
ของห้องเครื่อง หากต้องการเปิด ให้ถอดขอบ
ออกก่อน แล้วกดสลัก: • หากฟิวส์ขาด ให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับ
อนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อตรวจ
สอบหรือเปลี่ยน

• ฟิวส์แผงหน้าปัดด้านคนขับอยู่ที่ด้านขวาของ
แผงหน้าปัด ถอดฟิวส์ตัวใต้แผงแดชบอร์ดเพื่อ
ซ่อมแซม

194
แผนภูมิบนกล่องฟิวส์ในฝากระโปรงหน้า

07

การบำรุงรักษา
หมายเลข ขนาดแอมป์ (A) วงจรที่ป้องกัน

F1 60 PTC3

F2 - -

F3 - -

F4 - -

F5 - -

F6 - -

F7 - -

F8 - -

195
 F9 15 ระบบไฟฟ้าแรงสูง

F10 - -

F11 - -

F12 7.5 คอมเพรสเซอร์ไฟฟ้า

F13 - -

F14 - -

F15 5 สวิตช์ไฟเบรก

F16 60 PTC2

F17 - -

F18 30 PTC1

F19 - -

F20 30 ละลายฝ้ากระจกหลัง

F21 30 ก้านปัดน้ำฝนกระจกหน้า

F22 - -

F23 15 ช่องจ่ายไฟ

F24 15 USB

F25 10 USB

F26 - -

F27 15 ช่องจ่ายไฟ

F28 15 USB

F29 - -

F30 60 ESC

F31 - -

F32 - -
196
F33 15 ระบบไฟฟ้าแรงสูง

F34 - -

F35 5 ควบคุมด้านหลังรถ 07

การบำรุงรักษา
F36 - -

F37 7.5 ETC

F38 10 SRS

F39 5 ADAS

F40 - -

F41 5 EPS

F42 5 ESC

F43 - -

F44 60 ESC

F45 40 พัดลมเครื่องปรับอากาศ

F46 - -

F47 - -

F48 10 ก้านปัดน้ำฝนกระจกหลัง

F49 200 แบตเตอรี่

F50 70 C-EPS

F51 - -

F52 - -

F53 60 พัดลมระบบระบายความร้อย

197
แผนภูมิกล่องฟิวส์ในห้องโดยสาร

หมายเลข ขนาดแอมป์ (A) วงจรที่ป้องกัน

01 30 ควบคุมด้านหลังรถ

02 - -

03 7.5 โมดูลรวมการจัดการความร้อน

04 10 พอร์ตวิเคราะห์การทำงาน

05 5 หน้าจอแสดงผลสำหรับคนขับ

198
06 5 โมดูลรับสัญญาณความถี่สูง

07 5 สวิตช์เกียร์

08 20 ระบบสาระบันเทิง 07

การบำรุงรักษา
09 15 เครื่องขยายเสียงภายนอก

10 5 ADAS

11 7.5 ก้านสวิตช์ไฟหน้า/ไฟเลี้ยว

12 - -

13 - -

14 - -

15 - -

16 - -

17 15 เครื่องชาร์จไฟในรถ OBC

18 - -

19 30 ควบคุมด้านหลังรถ

20 30 ควบคุมด้านหลังรถ

21 30 หน้าซ้าย

22 30 หน้าขวา

23 - -

24 - -

25 - -

26 - -

27 - -

28 - -

29 - -
199
 30 - -

31 - -

หมายเหตุ
• การกำหนดค่ารถยนต์ที่แตกต่างกันมีค่า
แอมแปร์ฟิวส์ที่แตกต่างกัน (เช่นมัลติมีเดีย)
การบำรุงรักษาและการเปลี่ยนควรยึดตาม
ของจริง

200
08 เมื่อเกิดข้อผิด
พลาดขึ้น
เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น..................................202

201
เมื่อเกิดข้อผิดพลาด
เกิดขึ้น
หากแบตเตอรี่สมาร์ทคีย์หมด
หากไฟแสดงสถานะสมาร์ทคีย์ไม่กะพริบและไม่
สามารถเปิดการทำงานรถโดยใช้ฟังค์ชั่นสตาร์ทได้
แสดงว่าแบตเตอรี่สมาร์ทคีย์อาจหมด ในกรณีนี้
ระบบปิดฉุกเฉิน
ให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับ • เมื่อระบบปิดฉุกเฉินทำงาน ระบบไฟฟ้าแรงสูง
อนุญาตของ BYD โดยเร็วที่สุดเพื่อเปลี่ยน จะปิดโดยอัตโนมัติเมื่อตรงตามเงื่อนไขต่อไปนี้:
แบตเตอรี่ ในเวลานี้ รถสามารถเปิดการทำงานได้ • ถุงลมนิรภัยไม่ทำงาน หลังจากการชนด้าน
ในโหมดไม่มีพลังงาน หน้า
• ถูกชนจากด้านหลัง.
ข้อควรระวัง ! • ระบบรถทำงานผิดปกติ
• อย่าให้กุญแจสัมผัสกับอุณหภูมิสูง • หากเกิดการชนกันข้างต้นและระบบรถขัดข้อง
• ปกป้องกุญแจจากการกระแทก ไฟแสดง OK จะดับลง
• เก็บกุญแจให้ห่างจากสนามแม่เหล็ก • ในการชนประเภทนี้ การเปิดใช้งานระบบปิด
เมื่อประตูล็อคและรถอยู่ในโหมดป้องกัน ฉุกเฉินสามารถลดการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุได้
•
การโจรกรรม ให้เก็บกุญแจไว้ห่างจากตัว • เมื่อระบบปิดฉุกเฉินทำงาน ระบบของรถจะไม่
รถ เนื่องจากฟังค์ชั่นค้นหากุญแจอัตโนมัติ สามารถเปลี่ยนเป็นสถานะ OK ได้ ในกรณีนี้
ของรถจะทำให้พลังงานแบตเตอรี่แรงดัน โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต
ต่ำหมด ของ BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อขอความช่วย
เหลือ แม้ว่าสวิตช์กุญแจจะอยู่ที่ตำแหน่ง OK
1. ใช้ดอกกุญแจเพื่อปลดล็อครถ ระบบจะปิดทันที และติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่
2. เหยียบแป้นเบรกและในขณะเดียวกันก็กดปุ่ม ได้รับอนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการโดยเร็ว
START/STOP จากนั้นไฟเตือนสมาร์ทคีย์จะสว่าง ที่สุด
ขึ้นและลำโพงในรถจะส่งเสียงบี๊บหนึ่งครั้ง
3. วางสมาร์ทคีย์ไว้ใกล้กับ จุดวางสมาร์ทคีย์ใน
โหมดไม่มีพลังงานภายใน 30 วินาทีหลังจากที่
ลำโพงส่งเสียงบี๊บ จากนั้นไฟเตือนสมาร์ทคีย์จะ
ดับลงและสามารถสตาร์ทรถได้ภายใน 5 วินาที
202
กู้ภัยขณะรถไฟไหม้
• กรณีเกิดอัคคีภัย ให้ปฏิบัติตามต่อไปดังนี้ โดย
นี้โดยคำนึงถึงสถานการณ์จริง
1. ปิดการทำงานของรถให้ไปอยู่ที่ตำแหน่ง OFF
แล้วออกจากรถ
2. ในเงื่อนไขเบื้องต้นที่มั่นใจในความปลอดภัย
ต่อบุคคล หากไฟมีขนาดเล็กและลุกลามช้า
ให้ใช้เครื่องดับเพลิงชนิดผงแห้งดับไฟและ
เรียกขอความช่วยเหลือทันที
3. หากเพลิงไหม้ขนาดใหญ่และลุกลามอย่าง
รวดเร็ว ให้อยู่ห่างจากรถและโทรแจ้งหน่วย
ดับเพลิง โดยแจ้งว่ารถได้รับการติดตั้งชุด
แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง แล้วรอการช่วยเหลือ
ข้อควรระวัง !
• สวมถุงมือหุ้มฉนวน ใช้เครื่องดับเพลิง
ชนิดที่กำหนด การใช้น้ำหรือเครื่องดับ
เพลิงที่ไม่ถูกต้องในการดับไฟอาจส่งผล
ให้เกิดไฟฟ้าช็อตได้
• ในกรณีที่ส่งผลให้อุปกรณ์พุ่งออกมาจาก
รถ (เช่น ชิ้นส่วนตกแต่งภายใน กระจก
ฯลฯ) อยู่ห่างจากรถ ติดต่อตัวแทน
จำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต
ของ BYD เพื่อไปจัดการที่จุตเกิดเหตุ
กู้ภัยในกรณีแบตเตอรี่รั่ว
• หากมีการรั่วของแบตเตอรี่ หากมีกลิ่นฉุน หรือ
มีกระแสกรดหรือควันที่มองเห็นได้หลังจาก
การชน:
1. ปิดการทำงานรถไปที่ตำแหน่ง OFF และถอด
ขั้วแบตเตอรี่ภายใต้กระโปรงหน้าหากทำได้
2. โทรติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่
ได้รับอนุญาตของ BYD และหน่วยดับเพลิง
โดยแจ้งว่ารถได้รับการติดตั้งชุดแบตเตอรี่
ไฟฟ้าแรงสูง และรอการช่วยเหลือ 08
กรณีเกิดการชน
เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น
ในกรณีที่เกิดการชน ให้ปฏิบัติตามต่อไปดังนี้ โดย
นี้โดยคำนึงถึงสถานการณ์จริง
1. ปิดการทำงานของรถไปที่ตำแหน่ง OFF และ
ถอดแบตเตอรี่ 12 โวลต์ ภายใต้ฝากระโปรง
หน้าออก หากสามารถทำได้อย่างปลอดภัย
2. โทรติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่
ได้รับอนุญาตของ BYD และรอการช่วยเหลือ
3. ดำเนินการตรวจสอบอย่างง่าย หากสามารถ
ทำได้อย่างปลอดภัย: ตรวจสอบว่าขอบของ
ถาดแบตเตอรี่ไฟฟ้ามีรอยแตกหรือไม่ และมี
ของเหลวที่ไหลออกมาเห็นได้ชัดเจนหรือไม่
• ความเสียหายต่อส่วนประกอบไฟฟ้าแรง
สูงไม่สามารถระบุได้ ห้ามจับชิ้นส่วนที่
เสียหายหรือสัมผัสกับเครื่องประดับหรือ
วัตถุที่เป็นโลหะอื่นๆ
• หากถูกผิวหนังสัมผัสกับของเหลว ให้ล้าง
ทันทีด้วยน้ำปริมาณมากเป็นเวลา 10 -
15 นาที หากยังรู้สึกไม่สบาย ให้ทาครีม
แคลเซียมกลูโคเนต 2.5% หรือแช่ใน
สารละลายแคลเซียมกลูโคเนต 2% ถึง
2.5% หากยังรู้สึกไม่สบาย ให้ไปพบ
แพทย์ทันที
• ห้ามสัมผัสสายไฟแรงสูงสีส้มหรือส่วน
ประกอบไฟฟ้าแรงสูงอื่นๆ เฉพาะช่าง
ซ่อมที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่ได้รับ
อนุญาตให้ทำงานกับระบบไฟฟ้าแรงสูง
203
 • ห้ามทำให้เสียหาย ดัดแปลง ถอด บริการลากจูงแบบมืออาชีพ หรือบริการช่วยเหลือ
ประกอบ หรือถอดสายไฟฟ้าแรงสูงสีส้ม ริมถนนที่เป็นสมาชิกก่อน
ออกจากโครงข่ายไฟฟ้าแรงสูง
• แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัย คำเตือน
ว่ารถติดตั้งชุดแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง • รถต้องไม่ถูกลากด้วยรถอีกคัน โดยใช้
เพียงเชือกหรือโซ่
คำเตือน
วิธีการลากจูงทั่วไป ได้แก่
• ห้ามสัมผัสของเหลวที่รั่วไหล อยู่ห่างจาก
รถ • รถยกพื้นเรียบ
• ห้ามทิ้งของเหลวที่รั่วไหลลงในน้ำหรือดิน • เมื่อรถมีปัญหาและต้องการลากจูง รถยก
พื้นเรียบเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อาจเกิด
• รถรุ่นนี้ใช้แหล่งจ่ายไฟฟ้ากระแสตรงแรง ความเสียหายได้หากล้อหน้าสัมผัสพื้น
สูง ระบบสามารถสร้างความร้อนสูงได้ทั้ง
ก่อนและหลังเปิดการทำงานรถหรือปิด
การทำงาน ระวังอุณหภูมิสูง
• ห้ามถอดแยกชิ้นส่วน เคลื่อนย้าย หรือ
เปลี่ยนชิ้นส่วนแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงหรือ
สายเชื่อมต่อ เนื่องจากขั้วต่ออาจทำให้
เกิดการไหม้หรือไฟฟ้าช็อตร้ายแรงได้
สายไฟสีส้มเป็นส่วนหนึ่งของชุดสายไฟ
แรงสูง ผู้ใช้บริการต้องไม่ซ่อมแซมระบบ
ไฟฟ้าแรงสูงด้วยตัวเอง หากจำเป็นต้อง ตะขอลาก
ซ่อมแซม ให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับ
ตําแหน่งการติดตั้งขอเกี่ยวลากรถเป็นดังรูป
อนุญาตของ BYD หรือผู้ให้บริการเพื่อ
ทำการซ่อมแซม 1. งัดฝาปิดออกด้วยไขควงปากแบน
• กุญแจรีโมตคอนโทรลและส่วนประกอบ 2. ติดตั้งขอเกี่ยวในรูลากจูง
ไฟฟ้าแรงสูง อาจเป็นอันตรายต่อบุคคลที่
ฝังเครื่องมือแพทย์ในร่างกาย

กรณีรถต้องการลากจูง
หากจำเป็นต้องลากรถ โปรดติดต่อตัวแทน
จำหน่าย หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD

204
 หมายเหตุ
• ไม่แนะนำให้ลากรถด้วยตะขอลาก
• ใช้เฉพาะตะขอลากจูงเดิมของรถเท่านั้น
กรณียางแบน
• กรณียางแบน ลดความเร็วลง บังคับพวงมาลัย
ให้ตรง และเคลื่อนรถออกจากถนนไปยังที่
ปลอดภัย
• จอดรถบนพื้นราบเรียบและหลีกเลี่ยงทางแยก
ทางหลวง
• ดึงสวิตช์ EPB แล้วกดปุ่ม "P"
• ปิดการทำงานของรถและเปิดไฟเตือนฉุกเฉิน
• ผู้โดยสารทุกคนลงจากรถที่อยู่ในที่ปลอดภัย
ห่างจากการจราจรหนาแน่น
• ยึดรถเพื่อป้องกันการลื่นไถล และหาที่รองล้อ
ในแนวทแยงกับยางที่แบน
หมายเหตุ
• อย่าขับรถต่อไปโดยที่ยางแบน แม้การขับ
รถเป็นระยะทางสั้น ๆ อาจทำให้เกิด
ความเสียหายรุนแรงเกินกว่าจะซ่อมยาง
ได้
เครื่องมือในรถ
เครื่องมือในรถถูกเก็บไว้ในชุดเครื่องมือใต้ฝา
ครอบท้ายรถ
08
เครื่องมือในรถยนต์ประกอบด้วย: ป้าย
เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น
สามเหลี่ยมเตือน, เสื้อสะท้อนแสง, แคลมป์ถอด
ฝาครอบน๊อตล้อ, อุปกรณ์ซ่อมยาง, ตะขอลากจูง
และเครื่องมืออื่นๆ
หมายเหตุ
• หากรถเสียและจำเป็นต้องหยุดฉุกเฉิน ให้
สวมเสื้อสะท้อนแสงทันที ได้
วางป้ายสามเหลี่ยมเตือน
หมายเหตุ
• เมื่อจอดรถเพื่อซ่อมแซม อย่าลืมวางป้าย
สามเหลี่ยมสีแดงโดยหันไปทางรถที่วิ่งมา
โดยอยู่ห่างจากรถ 100-200 เมตร
ป้ายสามเหลี่ยมเตือนมีความสำคัญในการเตือนรถ
ที่สวนมาและป้องกันอุบัติเหตุ
คำเตือนการใช้ป้ายสามเหลี่ยม
1. นำออกจากกล่อง
2. ต่อปลายให้เป็นรูปสามเหลี่ยม
205
3. ติดตั้งส่วนขาตั้งตามที่แสดง
น้ำยาซ่อมยางรั่วชั่วคราวอัตโนมัติ*
น้ำยาซ่อมยางรั่วชั่วคราวใช้ในการซ่อมแซมรอยรั่ว
เล็กๆ โดยเฉพาะรอยตัดดอกยางหรือรอยเจาะ
เป็นเพียงวิธีแก้ปัญหาฉุกเฉินสำหรับการขับรถไป
ยังผู้ให้บริการที่ใกล้ที่สุด และสำหรับการยืดการ
ใช้งานยางในสภาวะฉุกเฉินเป็นระยะสั้นๆเท่านั้น
แม้ว่ายางจะไม่รั่ว
คำเตือน
• ส่วนใหญ่ น้ำยาซ่อมยางรั่วชั่วคราว
สามารถซ่อมแซมรูที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง
ไม่เกิน 6 มม. หากเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่
กว่า 6 มม. หรือรูอยู่ที่ตำแหน่งอื่นบนยาง
อย่าใช้ผลิตภัณฑ์นี้ โทรขอความช่วยเหลือ
บนท้องถนน
• น้ำยาซ่อมยางรั่วชั่วคราวมีความไวไฟสูง
และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ใช้มาตรการ
ป้องกันที่จำเป็นเพื่อป้องกันไฟไหม้และ
หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผิวหนัง ตา และ
เสื้อผ้า ให้ห่างจากเด็ก; และอย่าสูดดมไอ
ของมัน
206
คำเตือน
เมื่อสัมผัสกับน้ำยาซ่อมยางรั่วชั่วคราว:
• หากน้ำยาซ่อมยางรั่วชั่วคราวสัมผัสกับ
ผิวหนังหรือเข้าตา ให้ล้างส่วนของร่างกาย
ที่ได้รับผลกระทบทันทีด้วยน้ำสะอาด
ปริมาณมาก
• เปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนทันที
• ในกรณีที่เกิดอาการแพ้ ควรไปพบแพทย์
ทันที
• หากกลืนน้ำยาซ่อมยางรั่วชั่วคราว ให้
บ้วนปากให้สะอาดและดื่มน้ำปริมาณมาก
ทันที อย่าทำให้อาเจียน ไปพบแพทย์
ทันที
• สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูคู่มือที่จัดมาให้
พร้อมกับน้ำยาซ่อมยางรั่วชั่วคราวแบบเติมลม
ยางอัตโนมัติ หรือสแกนรหัส QR บนคู่มือเพื่อ
ดูวิดีโอการใช้งาน
หมายเหตุ
• ใช้น้ำยาซ่อมยางรั่วชั่วคราวเมื่อยางเสีย
หายเป็นเพียงวิธีการซ่อมฉุกเฉินเท่านั้น
โปรดไปที่ศูนย์ซ่อมบำรุงมืออาชีพเพื่อ
เปลี่ยนยางโดยเร็วที่สุด ติดต่อตัวแทน
จำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต
ของ BYD และแจ้งช่างซ่อมบำรุงว่ามีการ
ใช้สารเคลือบหลุมร่องฟันยางแล้ว
• ต้องหลีกเลี่ยงการเร่งความเร็วและเลี้ยว
ด้วยความเร็วสูง
 หมายเหตุ
• เมื่อน้ำยาซ่อมยางรั่วชั่วคราวกำลังจะหมด
อายุ (โปรดดูวันที่ที่แน่นอนบนกระป๋อง) 08
ให้เปลี่ยนอันใหม่

เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น
• หลังจากใช้น้ำยาซ่อมยางรั่วชั่วคราวแล้ว
ให้ซื้อกระป๋องใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายหรือ
ผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD
4. ต่อปลายสายด้านลบ (-) สีดำด้านหนึ่งเข้ากับ
ขั้วลบ (-) ของแบตเตอรี่รถกู้ภัย
กรณีแบตเตอรี่หมด
เมื่อรถไม่สามารถสตาร์ทได้เนื่องจากระดับ
แบตเตอรี่ต่ำ ให้ลองสตาร์ทตามขั้นตอนต่อไปนี้:
1. เปิดฝากระโปรงหน้า (โปรดดู "การบำรุง
รักษา - การบำรุงรักษาด้วยตนเอง -
กระโปรงหน้ารถ”)
2. ต่อปลายสายสีแดงด้าน (+) เข้ากับขั้วบวก
(+) ของแบตเตอรี่รถไฟน้อย ที่กำลังรอรับ
การช่วยเหลือ 5. เชื่อมต่อปลายอีกด้านของสายเคเบิลลบ (-) สี
ดำกับจุดลงกราวด์ที่เหมาะสม (ส่วนโลหะที่
ลงกราวด์แน่นสะอาดและไม่ทาสี) ที่กำลังรอ
รับการช่วยเหลือ
6. สตาร์ทรถกู้ภัยและให้เครื่องเดินต่อไปชั่วขณะ
หนึ่ง จากนั้นลองเปิดการทำงานรถที่รอรับ
การช่วยเหลือ
7. หลังจากที่รถที่ได้รับการช่วยเหลือสตาร์ทตาม
ปกติแล้ว ให้ปิดไฟของรถกู้ภัย ถอดสายจัม
3. เชื่อมต่อปลายอีกด้านของสายบวก (+) สีแดง เปอร์ออกตามลำดับย้อนกลับไปยังส่วนที่
กับขั้วบวก (+) ของแบตเตอรี่รถกู้ภัย เชื่อมต่อและนำออก
8. ปิดฝากระโปรงหน้า

207
 คำเตือน
• หากต่อหรือถอดสายจัมเปอร์ผิดลำดับ
อาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ส่งผลให้รถเสีย
หายหรือได้รับบาดเจ็บ
• เมื่อสตาร์ทรถด้วยสายจัมเปอร์ แคลมป์
ของสายจัมเปอร์ต้องไม่สัมผัสกันหรือส่วน
นำไฟฟ้าใดๆ นอกเหนือจากจุดจัมเปอร์
เพื่อหลีกเลี่ยงไฟฟ้าลัดวงจร คำเตือน
• อย่าวางบูมยกหรือแม่แรงบนแบตเตอรี่
ข้อควรระวัง ! ไฟฟ้า
• แน่ใจว่าแม่แรงไม่ขยับตัวเมื่อยกตัวรถ
• หากไม่สามารถเปิดการทำงานรถที่รอรับ
การช่วยเหลือได้หลังจากพยายามหลาย • เมื่อยกรถขึ้น ห้ามมีส่วนใดส่วนหนึ่งของ
ครั้ง โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้ ร่างกายอยู่ใต้ตัวรถ
บริการที่ได้รับอนุญาตของ BYD
• แรงดันไฟแบตเตอรี่ที่กำหนดของรถกู้ภัย
ควรเป็น 12V สำหรับสตาร์ทด้วยสายจัม
เปอร์

เมื่อต้องการยกรถ
หากจำเป็นต้องยกรถขึ้น ใช้แม่แรงยกรถ สามารถ
วางไว้ที่จุดยกตามที่แสดงในภาพเท่านั้น
เพื่อความปลอดภัย โปรดใส่ใจกับคำแนะนำต่อไป
นี้ก่อนยกหรือยกรถ
• จอดรถบนพื้นราบและมั่นคง
• ปิดการทำงานของรถ และผู้โดยสารทุกคนควร
ออกจากรถ
• เมื่อยกรถขึ้นให้ใช้ที่รองกันรถเลื่อนไว้ที่ด้าน
หน้าล้อหน้าหรือล้อหลังด้านหลังเพื่อป้องกัน
การลื่นไถล

208
09 ข้อมูลจำเพาะของ
ยานพาหนะ
ข้อมูลจำเพาะของยานพาหนะ........................206
ข้อมูลเพิ่มเติม.................................................211

209
ข้อมูลจำเพาะของยานพาหนะ
ข้อมูลจำเพาะของยานพาหนะ
มิติ:
ความยาว (มม.) 4455
ความกว้าง (ไม่รวมกระจกมองข้าง) 1875
ความสูง (มม.) 1615
ระยะฐานล้อ (มม.) 2720
ฐานล้อหน้า (มม.) 1575
ฐานล้อหลัง (มม.) 1580
ระยะยื่นหน้า (มม.) 888
ระยะยื่นหลัง (มม.) 847
มุมเข้า (°) 19
มุมออก (°) 24
น้ำหนักรถ:
น้ำหนัรถเปล่า (กก.) 1750 1680
น้ำหนักรวมสูงสุด (กก.) 2160 2090
น้ำหนักกดที่เพลาหน้าสูงสุด (กก.) 1070 1054
น้ำหนักกดที่เพลาล้อหลังสูงสุด (กก.) 1110 1056
จำนวนผู้โดยสาร 5 5

210
มอเตอร์ขับเคลื่อน:
รุ่นมอเตอร์ขับเคลื่อน TZ200XSQ
ประเภทมอเตอร์ขับ มอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร 09

ข้อมูลจำเพาะของยานพาหนะ
การขับเคลื่อน 4x2 ขับเคลื่อนล้อหน้า
พิกัดกำลัง/ความเร็วรอบ/แรงบิดของมอเตอร์ขับเคลื่อน
65/4433/140
(kW/RPM/N•m)
กำลังสูงสุด/ความเร็วรอบ/แรงบิดของมอเตอร์ขับเคลื่อน
150/4620/310
(kW/RPM/N•m)
สมรรถนะมอเตอร์ขับเคลื่อน:
ความเร็วสูงสุด (กม./ชม.) 160
ความสามารถในการไต่ทางชัน (%) 30
ความประหยัด:
อัตราสิ้นเปลืองพลังงานต่อ 100 กม.
ภายใต้สภาพการทำงานที่ครอบคลุม ≤14.9 ≤14.8
(kWh/100 กม.)
ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ (กม.) ตามมาตรฐาน NEDC 480 410

ข้อควรระวัง !
• การใช้พลังงานจริงขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพรถ
สภาพถนน และพฤติกรรมการขับขี่

211
ขนาดล้อและยาง

ข้อมูลจำเพาะของยาง 215/55R18 215/60R17;

215/55R18
แรงดันลมยาง (kPa) 250
ความสมดุลของล้อ (g) ≤10
มุมล้อ
แคมเบอร์ล้อหน้า (°) -0.9±0.75
รวม โท-อิน หน้า (°) 0.116±0.16
คิงพิน (°) 11.47±0.75
แคสเตอร์ (°) 3.23±0.75
แคมเบอร์ล้อหลัง (°) -1.07±0.5
รวม โท-อิน ล้อหลัง (°) 0.17±0.2
เบรก
ระยะฟรีของแป้นเบรก (มม.) ≤5
ช่วงความหนาที่เหมาะสมของดิสก์เบรกหน้า (มม.) 24~26
ช่วงความหนาที่เหมาะสมของดิสก์เบรกหลัง (มม.) 10~12
ช่วงความหนาที่เหมาะสมของผ้าเบรกหน้า (มม.) 2~8
ช่วงความหนาที่เหมาะสมของผ้าเบรกหลัง (มม.) 2~6.5
แบตเตอรี่แรงดันสูง
ประเภทแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ ลิเธียม ไอออน ฟอสเฟต
ความจุสูงสุดของแบตเตอรี่ (AH) 150 135

212
ของเหลว

รายการบำรุงรักษา ชนิด 09

ข้อมูลจำเพาะของยานพาหนะ
Castrol BOT384 (แนะนำ),
ประเภทน้ำมันเกียร์
Castrol ON D2
ปริมาณน้ำมันเกียร์ (มล.) 600±50
Glycol organic acid refrigerant
ประเภทน้ำหล่อเย็นมอเตอร์
-25/-40
ปริมาณน้ำหล่อเย็นมอเตอร์ (ลิตร) 3.9±0.1
ประเภทน้ำมันเบรก DOT4 หรือ HZY6
ปริมาณน้ำมันเบรก (มล.) 1050±50
ที่นั่ง (เมื่อวัดความลึกของที่นั่ง):
23°
ชุดปรับมุมพนักพิงสำหรับที่นั่งด้านหน้า

ไปข้างหน้า 200 มม. และถอยหลัง 60 มม.

ที่นั่งด้านหน้า
ความลาดเอียงของรางสไลด์: 4.5 °
พนักพิงพนักพิงไปข้างหน้า 22.5° และถอย
พนักพิงที่นั่งด้านหน้า
หลัง 52.5°
ชุดปรับมุมพนักพิงสำหรับเบาะหลัง 27°
ที่นั่งด้านหลัง ปรับไม่ได้ (นอนราบเมื่อปลดล็อค)
พนักพิงเบาะหลัง 27°

213
หมายเลขประจำตัวรถ
หมายเลขประจำตัวรถ (VIN)

1. ติดอยู่ที่ช่องหลายเลข VIN ที่ฝาครอบด้าน 5. ติดอยู่กับแผ่นโลหะที่ซุ้มล้อหลังขวา

บนของขอบกระจกหน้าขวา 6. ติดอยู่กับพื้นผิวแผ่นโลหะบริเวณธรณีประตู
2. ติดอยู่กับตัวกระปุกเกียร์ ด้านหลังขวา
3. ติดอยู่ที่พื้นผิวแผ่นโลหะภายในฝากระโปรง 7. ติดอยู่กับพื้นผิวแผ่นโลหะที่มุมล่างขวาของ
4. ติดอยู่ที่ด้านล่างขวาที่แผ่นในที่เก็บของท้าย ประตูหน้าซ้าย
รถ 8. ติดอยู่กับพื้นผิวแผ่นโลหะของคานป้องกัน
การกระแทกด้านหน้า

214
VIN สลักอยู่บนคานล่างของเบาะนั่งด้านหน้าขวา รุ่นและหมายเลขของมอเตอร์ขับเคลื่อน
(1) รุ่นและหมายเลขของมอเตอร์ขับเคลื่อนอยู่
ใกล้วงแหวนล็อคใต้ฝากระโปรงหน้า
09

ข้อมูลจำเพาะของยานพาหนะ
หมายเหตุ: สามารถอ่านหมายเลขประจำตัวรถ
(VIN) ได้ที่มุมขวาบนหลังจากเลือกรุ่นโดยเชื่อมต่อ
VDS สำหรับรายละเอียด โปรดดูคู่มือการใช้งาน
VDS ข้อมูลเพิ่มเติม
ป้ายชื่อรถ ป้ายเตือน
ติดกับพื้นผิวแผ่นโลหะด้านล่างเสา B ด้านซ้าย (1) สติ๊กเกอร์ระบบแอร์และพัดลมระบายความ
และมีข้อมูลดังต่อไปนี้: ร้อน
ชื่อบริษัท, ยี่ห้อ, ประเทศที่ผลิต, รุ่นรถ, ความจุที่
(2) สติ๊กเกอร์ตำแหน่งแบตเตอรี่
นั่ง, ปีและเดือนที่ผลิต, รุ่นมอเตอร์ขับเคลื่อน,
กำลังสูงสุดของมอเตอร์ขับเคลื่อน, พิกัดแรงดัน
ไฟฟ้าของระบบแบตเตอรี่แรงสูง, พิกัดความจุของ
ระบบแบตเตอรี่กำลัง, หมายเลขประจำตัวรถ,
และน้ำหนักรวมสูงสุด

215
ป้ายเตือนถุงลมนิรภัยด้านข้างติดอยู่ใต้วงแหวน
ล็อคเสา B ด้านซ้ายและขวา

โลโก้ล็อคป้องกันเด็กถูกสลักบนพื้นผิวแผ่นโลหะที่
ประตูด้านหลังซ้าย/ขวา
ป้ายเตือนถุงลมนิรภัยจะพิมพ์ที่ด้านหน้าและด้าน
หลังของที่บังแดดด้านซ้าย

สติ๊กเกอร์คำแนะนำการใช้งานของขั้วต่อการชาร์จ
ติดอยู่ที่พื้นผิวด้านในของฝาครอบพอร์ตชาร์จ

ข้อควรระวัง !
• ห้ามใช้เบาะนั่งสำหรับเด็กแบบหันไปทาง
ด้านหลังกับเบาะนั่งที่เปิดการทำงานถุง
ลมนิรภัย เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะได้รับ
บาดเจ็บสาหัส

ป้ายแรงดันลมยางติดอยู่ใต้แหวนล็อคเสา B ด้าน
ขวา • ป้ายไฟฟ้าแรงสูง
(1) ติดอยู่กับฝาครอบด้านบนของตัวควบคุม
กำลังส่งกำลัง และฝาครอบขนาดเล็กด้าน
หลังมอเตอร์

216
(2) ติดอยู่กับสายชาร์จ AC ในห้องโดยสารด้าน
หน้า
(3) แนบกับสายไฟ
(4) ติดอยู่ที่ด้านบนของฝาซีลด้านหน้าของชุด 09
แบตเตอรี่

ข้อมูลจำเพาะของยานพาหนะ
ตำแหน่งการติดตั้งเสารับสัญญาณ
ดาวเทียม
ตำแหน่งการติดตั้งเสารับสัญญาณดาวเทียมอยู่ที่
ด้านซ้ายบนของกระจกหน้ารถ

ข้อควรระวัง !
• ขณะติดฉลากอิเล็กทรอนิกส์ ห้ามทับกับ
กรอบกระจกหรือวัตถุอื่นๆ

217
PAB สวิตช์*……………………………………………….82
ก ข
กรณียางแบน..................................................205
กรณีรถต้องลากจูง..........................................204
กระจกมองข้างปรับมุมด้วยไฟฟ้า...................149
กระจกมองหลัง...............................................148
กลุ่มสวิตช์ช่วยเหลือการขับขี่............................80
กลุ่มสวิตช์โหมดขับขี่.........................................81
การกู้ภัยแบตเตอรี่รั่ว......................................203
การขับขี่.........................................................115
การควบคุมการเปลี่ยนเกียร์...........................116
การจ่ายพลังงานภายนอก*.............................100
การชาร์จ/การคายประจุ...................................88
การใช้เข็มขัดนิรภัย...........................................16
การใช้งานรถยนต์...........................................108
การตรวจสอบแรงดันลมยาง...........................135
การตั้งค่าภาษา...............................................170
การทำความสะอาดภายใน.............................182
การทำความสะอาดรถ....................................181
การทำงานของระบบปรับอากาศแถวหน้า......156
การบรรทุกสัมภาระ........................................109
การบำรุงรักษาซันรูฟ......................................186
การบำรุงรักษาด้วยตนเอง..............................184
การบํารุงรักษาประจำ....................................179
การปรับเบาะนั่งด้านหน้า.................................65
การป้องกันการกัดกร่อนของยานพาหนะ.......180
การป้องกันอัคคีภัย.........................................111
การเปิด A/C จากทางไกล .............................163
การพับที่นั่งด้านหลัง.........................................66
การรวบรวมและประมวลผลข้อมูล...................35
การล็อค/ปลดล็อคประตู...................................55
การสตาร์ทรถ.................................................113
218
การสตาร์ทรถและการขับขี่.............................113
กู้ภัยขณะรถไฟไหม้.........................................203
ข้อควรระวังในการขับลุยน้ำ...........................110
ข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัยในการขับขี.่ ...107
ของพอร์ตชาร์จ...............................................101
ข้อแนะนำในการใช้รถยนต์.............................103
ข้อแนะนำในการบำรุงรักษาสี.........................180
ข้อมูลการบำรุงรักษา......................................171
ข้อมูลจำเพาะของยานพาหนะ........................210
ข้อมูลที่นั่ง ........................................................64
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกุญแจ............................52
ข้อมูลเพิ่มเติม.................................................215
เข็มขัดนิรภัย ....................................................14
ค
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเข็มขัดนิรภัย................16
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับถุงลนิรภัย....................19
คอนโซลกลาง....................................................12
คำจำกัดความของฟังค์ชั่น...............................157
คำแนะนำในการชาร์จ .....................................88
คำแนะนำสำหรับฟังค์ชั่นหลักอื่นๆ.................148
เครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทาง*.....................151
ง
เงื่อนไขการทำงานของถุงลมนิรภัย และ
หมายเหตุ..........................................................22
ช
ช่วงเวลาเริ่มใช้งานรถใหม่...............................106
ช่องกระเป๋าเก็บเอกสาร..................................164 แบตเตอรี่แรงดันต่ำ (12 โวลต์).......................105
ช่องเก็บของ ...................................................163 แบตเตอรี่สมาร์ทคีย์หมด................................202
ช่องเก็บของในแผงประตู ...............................163 แบตเตอรี่สําหรับระบบขับเคลื่อน...................103
ช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์ .....................................166 ใบปัดน้ำฝน.....................................................190
ช่องระบายอากาศ...........................................159
ช่องใส่สัมภาระในคอนโซลกลาง.....................164 ป
ต ประตู................................................................13
ประตูและกุญแจรถ ..........................................52
ตั้งค่าการเบรกพร้อมการสร้างกระแสไฟฟ้า....102 ประสบการณ์อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม...........147
ตารางการบำรุงรักษา.....................................103 ป้ายเตือน ......................................................215
ตำแหน่งการติดตั้งเสารับสัญญาณดาวเทียม...217 ปุ่มไฟเตือนฉุกเฉิน.............................................80
ตําแหน่งชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย.................166
ผ
ถ แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศ.........................154
ถุงลมนิรภัยด้านข้างเบาะนั่งด้านหน้า...............21 แผงควบคุมระบบสาระบันเทิง........................168
ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ แผงหน้าปัด......................................................11
และผู้โดยสารตอหน้า........................................20
ฝ
ท ฝากระโปรงหน้า.............................................187
ที่เก็บรถ..........................................................187 ฝาช่องเก็บสัมภาระ*.......................................168
ที่นั่ง .................................................................64
ที่บังแดด.........................................................164 พ
ที่ปัดน้ำฝน......................................................150
ที่รองรับศีรษะ...................................................66 พวงมาลัย..........................................................68
ที่วางแก้ว........................................................164 พอร์ต USB.....................................................165
ฟังค์ชั่นควบคุมล็อคไฟฟ้า
น ฟิวส์ ...............................................................194
ไฟแสดงและสัญลักษณ์เตือน............................41
แนวทางปฏิบัติในการลากจูง..........................107
เบรกอัตโนมัติเมื่อรถจอดอยู่กับที่ (AVH)........120 ภ
เบรคมือไฟฟ้า (EPB) .....................................117
แบตเตอรี่........................................................103 ภายนอก...........................................................10

219

ม ระบบมุมมองพาโนรามา*...............................137
ม่านนิรภัยด้านข้าง............................................22
มิติ ขนาด ......................................................210
มือจับนิรภัย....................................................165
เมื่อเกิดข้อผิดพลาด........................................202
เมื่อต้องการยกรถ...........................................208
เมื่อแบตเตอรี่หมด..........................................207
ย ล็อคป้องกันเด็ก................................................64
ยางรถยนต์......................................................191
ร วิธีการชาร์จ.......................................................94
รอบการบำรุงรักษา........................................172
ระบบ ACC*...................................................124
ระบบควบคุมการเข้าออกอัจฉริยะ และ การเปิด
การทำงานรถ....................................................62
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ*.......131
ระบบความปลอดภัยในการขับขี.่ ...................142
ระบบจดจำป้ายจราจร*.................................128
ระบบช่วยจอด................................................139
ระบบช่วยเหลือการขับขี่.................................124
ระบบตรวจจับจุดอับสายตา*..........................132
ระบบถุงลมนิรภัย.............................................19
ระบบที่นั่งสำหรับเด็ก.......................................28
ระบบที่นั่งสำหรับเด็ก.......................................26
ระบบเบรก......................................................189
ระบบเบรกฉุกเฉินแบบคาดการณ์ล่วงหน้า.....128
ระบบปรับอากาศ ..........................................154
ระบบปรับอากาศ...........................................190
ระบบป้องกันการโจรกรรม...............................34
ระบบปิดฉุกเฉิน..............................................202
220
ระบบฟอกอากาศ*.........................................161
ระบบระบายความร้อน...................................188
ระบบรักษาช่องทางเดินรถ*...........................129
ระบบสาระบันเทิง..........................................168
ระบบเสียงเตือนเมื่อขับเคลื่อน
ด้วยความเร็วต่ำ (AVAS).................................147
ล
ลิ้นชักเก็บของ.................................................163
วิดเจ็ต ...........................................................169
วิธีประหยัดพลังงาน และยืดอายุ
ส
สวิตช์................................................................72
สวิตช์ควบคุมหน้าต่างด้านผู้โดยสาร.................80
สวิตช์ซันรูฟ .....................................................83
สวิตช์ที่ปัดน้ำฝน...............................................76
สวิตช์ประตูหน้า................................................77
สวิตช์ไฟภายในห้องโดยสาร..............................84
สวิตช์ไฟหน้า.....................................................71
สวิตช์สลับมาตรวัดระยะทาง.............................80
สัญลักษณ์บนจอแสดงผลสำหรับคนขับ............40
สิ่งจําเป็นในการใช้งาน....................................106
แสดงระยะการขับข่ี........................................101
ห
หมายเลขประจําตัวรถ....................................214
หมายเหตุสำคัญเกี่ยวกับการขับขี่...................122
อุปกรณ์อื่นๆ...................................................164
รายการตัวย่อ
ตัวย่อ
ตัวย่อ ชื่อเต็ม ตัวย่อ ชื่อเต็ม
ECU Electronic Control Unit ABS Anti-lock Braking System
AUTO Automatic ACC Adaptive Cruise Control
USB Universal Serial Bus ECO Economic
NORMAL Normal SPORT Sport
SOC State of Charge AVH AVH Automatic Vehicle Hold
EPB Electric Parking Brake PCW PCW Predictive Collision
Warning
AEB Autonomous BSD BSD Blind Spot Detection
Emergency Braking System
RCTA Rear Cross Traffic Alert DOW Door Open Warning
TPMS Tire Pressure VDC VDC Vehicle Dynamic Control
Monitoring System
TCS Traction Control HHC HHC Hill-start Hold Control
System
HBA Hydraulic Break Assist CDP Controller Deceleration
CDP Parking
HDC Hill Descent Control PM2.5 Air Purification System
MAX Maximum MIN Minimum
VIN Vehicle Identification
Number

221