Page 1 of 15

Wk02_02 – Combinatorial Logic Circuits

2. วงจรคอมบิเนชัน (Combinatorial Logic Circuit)
2.1 พีชคณิตบูลีน (Boolean Algebra)
2.1.1 ความจริงของบูลีน
2.1.2 ทฤษฎีคู(ขนาน
2.1.3 ทฤษฎีบทของพีชคณิตบูลีน
2.1.4 โจทย- ตัวอย(าง

2.2 Switch Function and Boolean Expression

2.2.1 Boolean Expression
 SOP,POS
 Canonical form SOP, Canonical form POS
 Minterm, Maxterm
2.2.2 โจทย- ตัวอย(าง

2.3 การบDาน-02.2
 Page 2 of 15

2.1 พีชคณิตบูลีน (Boolean Algebra)

 เปIนคณิตศาสตร-ที่เกี่ยวกับวิชาตรรก(Logic) มีค(าไดD 2 อย(างคือ 0 และ 1
 มีตัวกระทำคือ NOT(/) AND(.) และ OR(+)

2.1.1 ความจริงของบูลีน

2.1.2 ทฤษฎีคู(ขนาน
 Page 3 of 15

2.1.3 ทฤษฎีบทของพีชคณิตบูลีน
 Page 4 of 15

2.1.4 โจทย- ตัวอย(าง

ตัวอย(าง 1.1 จงพิสูจน-ทฤษฏีบูลีนต(อไปนี้
a. X•X=0
b. (X•Y)+(X•Y)=X
c. X•(X+Y)=X•Y
d. X+(X•Y)=X
 Page 5 of 15

ตัวอย#าง 1.2 จงพิสูจน)ว#า (A•B)+(A•B)=A

ตัวอย(าง 1.3 จงพิสูจน-ว(า (AB)+(AC)+(BC)=AB+AC

ตัวอย(าง 1.4 จงพิสูจน- DeMorgan 's Theorem (A+B)=A•B

ตัวอย(าง 1.5 จงพิสูจน- A+(A•B) = A+B

 Page 6 of 15

ตัวอย(าง 1.6 จงจัดรูปสมการใหDง(ายขึ้น

a. AB+ABC+ABC
b. A+B+C+ABC
c. AB+ABC
 Page 7 of 15

2.2 Switch Function and Boolean Expression

2.2.1 Boolean Expression
 SOP,POS
 Canonical form SOP, Canonical form POS
 Minterm, Maxterm

Y = f(C,B,A)=ABC+ABC+ABC

Y = f(C,B,A)=AB+AB+BC

Y = f(C,B,A)=(A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)

Y = f(C,B,A)=(A+B)(A+B)(B+C)

Y = f(C,B,A)=AB(A+B+C)(A+B+C)
 Page 8 of 15

2.2.2 โจทย- ตัวอย(าง

ตัวอย#าง 3.24 จากฟcงก-ชันที่กำหนดใหD
 Page 9 of 15

ตัวอย#าง 3.25 จงเขียนตารางความจริง ( truth table) และแสดง ฟcงก-ชัน ในรูปของ

maxterm และ minterm
 Page 10 of 15

ตั วอย# า ง 3.26 แปลง switching function ต( อ ไปนี ้ ใหD อ ยู( ในรู ปของ canonical SOP
form
 Page 11 of 15

ตัวอย#าง 3.27 จงแปลงฟcงก-ชัน ใหDอยู(ในรูปของ canonical SOP

 Page 12 of 15

ตัวอย#าง 3.28 จงขยายฟcงก-ชัน ใหDอยู(ในรูปของ canonical POS

 Page 13 of 15

การบ้านครั้งที่ 02.2 ส่งวันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2565 ก่อน 10:00น

https://forms.gle/7ym672oej8YcW6ZL7
1. จาก Switching function ต่อไปนี้ ให้เขียนในรูป ของสมการ Maxterms {  M () } และ
Minterms {  m() } และให้ลดรูปสมการให้สั้นที่สุดจากนัน้ นำไปเขียนวงจรลอจิก
(ก) Y(C,B)=BC+BC+BC
(ข) Y(B,C)=BC+BC+BC
(ค) Y(A,B,C)=ABC+ABC+BC
(ง) Y(C,B,A)=ABC+ABC+ABC+ABC
(จ) Y(D,C,B,A)=DCBA+CB+DA+DCA+A

2. ให้แปลง Switching function ต่อไปนี้ ให้อยู่ในรูปของ Canonical SOP form.

(ก) f(A,B,C)=AB+AC+AC
(ข) f(C,B,A)=AB+AC+AC

3. จงขยายฟังก์ชันต่อไปนี้ ให้อยู่ในรูปของ Canonical POS form f(C,B,A)=A(A+C)

4. ให้ทำการลดรูปทั้ง 4 Step (เหมือนตัวอย่างสุดท้ายในห้องเรียน)

 ให้เขียนตารางค่าความจริงของความสัมพันธ์ในรูปที่กำหนดนี้
 ให้เขียนในรูปของสมการ Maxterms {  M () } และ Minterms {  m() }
 ลดรูปสมการที่ได้ด้วยพีชคณิตบูลีนให้อยู่ในรูปอย่างง่าย
o นศ.รหัสเลขคู่เริ่มจาก minterm
o นศ.รหัสเลขคี่เริ่มจาก maxterm
 Page 14 of 15

5. ให้ทำการลดรูป F ( D, C, B, A)  DCBA  DCB  ( AD  CB) ทั้ง 4 Step (เหมือนตัวอย่าง

สุดท้ายในห้องเรียน)
 ให้เขียนตารางค่าความจริงของความสัมพันธ์ในรูปที่กำหนดนี้
 ให้เขียนในรูปของสมการ Maxterms {  M () } และ Minterms {  m() }
 ลดรูปสมการที่ได้ด้วยพีชคณิตบูลีนให้อยู่ในรูปอย่างง่าย
o นศ.รหัสเลขคู่เริ่มจาก maxterm
o นศ.รหัสเลขคี่เริ่มจาก minterm

6. จงเขียนตารางความจริงแสดงค่าเอาต์พุตของเกตต่อไปนี้แบบที่มี 3 อินพุต
(ก) นอร์เกต
(ข) แนนด์เกต
(ค) เอกซ์คลูซีฟออร์เกต
(ง) เอกซ์คลูซีฟนอร์เกต

7. จงวาดวงจรลอจิกของฟังก์ชันบูลีนและเขียนตารางความจริงของฟังก์ชันบูลีน ต่อไปนี้
(ก) F  xyz  x yz  x
(ข) F  x( y z  y z )

8. จงลดรูปฟังก์ชันบูลีนต่อไปนี้ให้เหลือจํานวนสัญพจน์น้อยที่สุดและอยู่ในรูปผลบวกของผลคูณ
โดยใช้ทฤษฎีบทบูลีน
(ก) F  ABC  A BC  A
(ข) F  ( y  z)( y  z)  x  y  z
(ค) F  A B C  ABC  ABC  A B C  A BC
(ง) F  y  z  wy z  wxyz  wy z

9. จงลดรูปฟังก์ชันบูลีนต่อไปนี่ให้เหลือจํานวนสัญพจน์น้อยที่สุดและอยู่ในรูปผลคูณของผลบวก
โดยใช้ทฤษฎีบทบูลีน
(ก) F  ABC  A BC  A
(ข) F  ( x  y  z )( x  y  z )( x  y  z )( x  y  z )
(ค) F  ( A  C  D )( A  B  D )( A  B  D )( B  C )
(ง) F  xz  y z  y z  xy
 Page 15 of 15

10. จงหาคอมพลีเมนต์ของฟังก์ชัน F  x ( y z  yz ) และ เขียนผลลัพธ์ให้อยู่ในรูปผลบวกของผลคูณ

11. กําหนดให้ใช้คา่ ปกติของอินพุตได้เท่านั้น จงวาดวงจรลอจิกของฟังก์ชัน F  y  xz โดยใช้
(Google Find = Universal gate)
(ก) แนนต์เกตเท่านั้น

(ข) นอร์เกตเท่านั้น