Professional Documents
Culture Documents
Untitled
Untitled
ภ า พ ที่ 147 แ ส ด ง ฮ า ว ไ ต้ เ ที ย น ใ น
วัฒ นธรรมลาวชาวอี ส านและฮาวไต้
เทียนใน สปป.ลาว (บนซ้าย) ลายเส้น
ฮาวไต้เ ที ย นแบบทรงเครื่ อ งอย่ า งช่ า ง
หลวง วัดศิลาธิ คุณ อ.เมือง จ.หนองคาย
(บนขวา) ฮาวไต้เทียนแบบทรงเครื่ อง วัด
ในเมืองหลวงน้ าทา สปป.ลาว(ล่างขวา)
ฮาวไต้เ ที ย นแบบทรงเครื่ อ งอันงดงาม
ของ วั ด ศรี ธ าตุ อ .เมื อ ง จ.ย โ ส ธ ร
ลักษณะเดียวกันกับฮาวไต้เทียนวัดพระ
ธาตุส่วนตาลแห่งเมืองอุบลราชธานี
218
ภ า พ ที่ 148 ฮ า ว ไ ต้ เ ที ย น ใ น
วัฒนธรรมลาวชาวอีสานและสัตต
ภัณ ฑ์ ใ นวัฒ นธรรมล้า นนา (บน
ซ้าย) ฮาวไต้เทียนแบบทรงเครื่ อง
วัดมหาธาตุ อ.เมือง จ.ยโสธร (บน
ขวา) ฮาวไต้เทียนแบบทรงเครื่ อง
พื้ น บ้า นวัด พระธาตุ ศ รี มงคล อ.
วาริ ชภู มิ จ.สกลนคร (ล่ า งขวา)
สัตตภัณฑ์วดั พระธาตุลาปาง
219
ฮาวไต้ เทียนในมิติความหมายทางภาษาและคติความเชื่อ
คาว่า ฮาว หมายถึง ราว และไต้ หมายถึงการจุดหรื อทาให้ มีแสงสว่ าง รวมความก็คือราวสาหรับวาง
เทียนที่บูชานั้นเอง ส่ วนในบริ บทความหมายของคาว่า สั ตต หมายถึง เจ็ด ส่ วนคาว่า ภัณฑ์ มาจากรากศัพท์เดิมซึ่ ง
โบราณเรี ยก บริภัณฑ์ ซึ่ งก็หมายถึง สิ่ งของ รวมๆกันก็เลยเรี ยกว่า สิ่ งของทั้งเจ็ด ในวัฒนธรรมงานช่างภาคเหนื อ
นิยมทาเชิงเทียนให้ปักเทียนได้ 7 เล่มจึงเป็ นที่มาของคาว่าสัตตภัณฑ์ โดยนัยยะความหมายเชิ งสั ญลักษณ์ ที่มาของ
7 เล่มเป็ นเรื่ องคติความเชื่อตีความได้วา่ หมายถึง ภูเขาทั้งเจ็ด ที่ต้ งั รายล้อมภูเขาพระสุ เมรุ ซ่ ึ งเป็ นสวรรค์ที่ประทับ
ของพระเจ้าและบรรดาเหล่าเทวดา ประกอบด้วย 1) ยุคนธร 2) อิสินธร 3) กรวิก 4) เนมันทร 5) สุ ทศั นะ 6) วินนั ต
กะ 7) อัศกันต์ โดยทั้งเจ็ดนี้เป็ นเสมือนตัวแทนของภูเขาเจ็ดลูก ที่เป็ นบริ วารของเขาพระสุ เมรุ ซึ่ งทั้งหมดนี้ เป็ นการ
ตีความตามลักษณะรู ปทรงสัณฐานที่ เห็ นทางรู ปธรรม ท่าตี ความในมิติที่เป็ นนามธรรมก็สามารถเชื่ อมโยงกับ
หลักธรรมคาสอนก็อธิ บายได้วา่ เป็ นโพธิปักขิยธรรมหรื อธรรมที่จะเข้ าสู่ ความเป็ นพุทธะหรื อความรู้ แจ้ ง ซึ่ งมีอยู่
7 ประการคือ 1) สติความระลึกได้ 2) ธรรมวิจยั การวิเคราะห์หลักธรรมคาสอน 3) วิริยะความเพียร 4) ปิ ติ ความ
พอใจอิ่มใจ 5) ปั สสิ ทธิ ทาใจได้ 6) สมาธิ ความมัน่ คงในจิต 7) อุเบกขา การวางเฉยหรื อปล่อยวาง (มาณพ มานะ
แซม, 2542 เล่ม 13 : 6758-6761) โดยทั้งหมด เป็ นการตีความทั้งจากลักษณะทางกายภาพและนัยยะแห่ งพุทธ
ปรัชญาความหมายที่แสดงออกผ่านงานช่างในบริ บทวัฒนธรรมลาวล้านนาของไทย
เอกลักษณ์ฮาวไต้ เทียนเมืองอุบล
จากข้อมูลที่ได้ทาการสารวจตามกรอบแนวคิดและขอบเขตการศึกษาสามารถจาแนก ฮาวไต้ เทียนใน
เมืองอุบล ออกตามกรอบแนวคิดแห่งฐานานุศกั ดิ์ทางสังคมสามารถแบ่งสายสกุลช่างซึ่ งแบ่งเป็ น 2 กลุ่มคือ 1) ช่าง
พื้นบ้านและ 2) ช่างพื้นเมือง โดยปรากฏฮาวไต้เทียนอยู่ 2 รู ปแบบคือ
(1) ฮาวไต้ เทียนทรงเครื่อง คือ กลุ่มที่มีการตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามแสดงออกถึงความละเอียดประณี ต
และมีขนาดรู ปทรงที่ใหญ่ อีกทั้งลักษณะที่มีแบบแผนแห่งฉันทลักษณ์ในเชิงช่างอย่างช่างราชสานัก
220
(2) ฮาวไต้ เทียนแบบธรรมดา คื อกลุ่ มที่ มุ่งเน้นในด้านประโยชน์ใช้สอยมี การตกแต่งที่ เรี ยบง่ ายไม่
ซับซ้อนด้านรู ปแบบการตกแต่งอีกทั้งมีความสัมพันธ์ต่อคติความเชื่อท้องถิ่นผ่านรู ปสัญญะที่มีความหมาย
โดยในด้านวัสดุที่นามาทาส่ วนใหญ่ทาด้วยไม้เนื้ อแข็งเป็ นวัสดุหลักทั้งงานโครงสร้างและส่ วนตกแต่ง
โดยมีตวั ราวเหล็กเป็ นที่สาหรับวางเทียนกิ่ง ตกแต่งด้วยรู ปสัตว์สัญลักษณ์และลวดลายตามรสนิ ยมแห่ งสายสกุล
ช่าง โดยจาแนกเป็ นกลุ่มช่างพื้นบ้านและกลุ่มช่างพื้นเมือง ได้ดงั ต่อไปนี้
เทียนขนาดเล็ก
223
ส่ วนฐาน ส่ วนตัวเรือน
วัดทุ่งขุนน้อย วัดสุขาวาส
วัดทุ่งขุนใหญ่ วัดพระธาตุสวนตาล
วัดพระธาตุสวนตาล วัดกุญชรราม
231
วัดบ้านตาแย วัดหลวง
วัดหลวง วัดบ้านตาแย
วัดพระธาตุสวนตาล
วัดบ้านตาแย
233
วัดพระธาตุสวน วัดทุ่งขุนใหญ่
ตาล
ภาพที่ 163 ฮาวไต้เทียนสกุลช่ างพื้นเมือง วัดมหาธาตุ เมื องยโสธร ศิลปะงานช่ างที่ใช้ เทคนิ คการ
เขียนสี ควบคู่ไปกับการลงรักปิ ดทองในส่ วนประกอบตกแต่งอื่นๆ(ปั จจุบนั ถูกเก็บรักษาและจัดแสดงอยู่
ภายในหอไตรกลางน้ า)ความโดดเด่นอยู่ที่ราวเหล็กที่ออกแบบสร้ างสรรค์ดดั โค้งขึ้ นรู ปอย่างลักษณะ
ของพญานาค สาหรับการใช้งานเพื่อเป็ นที่วางเทียนกิ่งด้ามเล็กๆในพุทธพิธีความเชื่อ
237
ทั้งนี้ เป็ นที่ น่าเสี ยดายที่ ยงั มี ฮาวไต้เที ยนแบบทรงเครื่ องหลายแห่ งที่พบจากการสารวจแต่ไม่อยู่ในสภาพ
สมบูรณ์ อย่างเช่ นวัดบ้านตาแย อาเภอเมือง และวัดกุญชราราม อาเภอตระการพืชผล รวมถึ งวัดสุ ขาวาส
อาเภอตระการพืช ผล ทั้ง หมดพบว่า มี รูป แบบฉันทลักษณ์ อย่างช่ างหลวง ด้วยทัก ษะฝี มื อ ความละเอี ย ด
ประณี ต ซึ่ งถื อได้ว่าเป็ นอัตลักษณ์ อนั บ่งชี้ ถึงสายสกุลช่ างที่มีฝีมืออย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยงั มีกลุ่มฮาวไต้
เทียนที่ทาเลี ยนแบบฮางฮด ดังที่ปรากฏอยู่ที่วดั ทุ่งขุนใหญ่ และวัดทุ่งขุนน้อย ซึ่ งเป็ นกลุ่มสกุลช่างเดียวกัน
ด้านคติความเชื่อยังคงรู ปสัตว์สัญลักษณ์อย่างจระเข้ ตัวเหรา สิ งห์ เต่า กระต่าย และพุทธศิลป์ อื่น ๆ
นอกเหนื อจากกลุ่มฮาวไต้เทียนแบบที่เป็ นลักษณะราวเทียนอันสามารถวางเทียนได้หลาย ๆ เล่ม ยังมี
กลุ่มที่เรี ยกว่า เชิ งเทียน อันหมายถึง ที่วาวเทียนเช่นเดียวกันกับฮาวไต้เทียน แต่แตกต่างอยูท่ ี่ความสามารถในการ
ใช้งานที่ เชิ งเทียนจะรองรับการใช้งานกลุ่มที่เป็ นลาเทียนที่มีขนาดใหญ่กว่า ลักษณะของการใช้งานเทียนกิ่ งที่มี
ขนาดเล็ก ซึ่ งมีจานวนไม่มากนัก โดยส่ วนหนึ่งได้ถูกเก็บรักษาและจัดแสดงอยูท่ ี่พิพิธภัณฑ์สถานแห่ งชาติ จังหวัด
อุบลราชธานี ซึ่งวัดหลวงได้มอบให้ไว้
ประเด็นที่น่าสังเกตอย่างหนึ่ งของการศึกษาครั้งนี้ คือ ฮาวไต้เทียน เป็ นสิ่ งที่เรี ยกได้วา่ ค้นหาได้ยากยิ่ง
จากการลงพื้นที่กว่า 80 วัดในเขตเมืองอุบลฯ พบฮาวไต้เทียนอยูเ่ พียง 9 วัดซึ่ ง ได้แก่ วัดหลวง (ปั จจุบนั จัดแสดงอยู่
ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอุบลฯ) วัดบ้านตากแดด วัดบ้านตาแย วัดพระธาตุสวนตาล วัดสุ ขาวาส วัดกุญชรราม
240
ภาพที่168 ศิ ล ปะงานช่ า งในวัฒนธรรมไทยลาวล้า นนาและล้า นช้า ง ที่ แสดงความเป็ นเครื อ ญาติ ทาง
วัฒนธรรมผ่านงานช่างของใช้ในพุทธพิธีที่มีรูปแบบเอกลักษณ์ที่คลี่คลายถ่ายเทกันไปมา อย่างภาพบนซ้าย
เป็ นฮาวไต้เทียนสกุลช่างยโสธร ส่ วนขวาบนและขวาล่างเป็ นฮาวไต้เทียนแบบช่างหลวงเวียงจันทน์ที่เก็บ
รักษาไว้ที่หอพิพิธภัณฑ์วดั สี สะเกด แขวงเวีย งจันทน์ และซ้ายล่างเป็ นราวเทียนและเชิ งเทียนในวัฒนธรรม
ไทยล้านนา ที่มีเอกลักษณ์เป็ นของตนเองแม้จะอยูใ่ นวัฒนธรรมลาวด้วยกัน