Professional Documents
Culture Documents
เป้าหมายต่างๆ ของสูเราะฮฺ อัล-ฟาติหะฮฺ
เป้าหมายต่างๆ ของสูเราะฮฺ อัล-ฟาติหะฮฺ
เป้าหมายต่างๆ ของสูเราะฮฺ อัล-ฟาติหะฮฺ
ฟุอาด ซัยดาน
2011 - 1432
﴿ ﻫﺪاف ﺳﻮرة اﻟﻔﺎﺤﺗﺔ ﴾
» ﺎلﻠﻐﺔ اﺘﻟﺎﻳﻼﻧﺪﻳﺔ «
ﻓﺆاد ز�ﺪان
2011 - 1432
ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
เปาหมายของสูเราะฮฺ
ครอบคลุ ม ถึ ง นั ย แห ง เป า หมายต า งๆ ในคั ม ภี ร อั ล กุ
รอาน
สูเราะฮฺนี้มีชื่อเรียกวา
อัล -ฟาติ ห ะฮฺ ( ปฐมบทของอั ล กุ ร อาน), อุ ม มุ ล กิ ต าบ
(แมบทของคัม ภีร), อั ช-ชาฟยะฮฺ( การเยียวยา), อัล -วาฟยะฮฺ
(ความสมบูรณ), อัล-กาฟยะฮฺ(ความพอเพียง), อัล-อะสาส(เปน
หลั ก การพื้ น ฐาน), อั ล -หั ม ดุ ( การสรรเสริ ญ ), อั ส -สั บ อุ อั ล -
มะษานีย(เจ็ดอายะฮฺที่ถูกทวนอานซ้ําแลวซ้ําเลา), อัลกุรอาน
อัล-อะซีม(อัลกุรอานที่ยิ่งใหญ) ดังมีบันทึกในเศาะฮีหฺ อัล-บุคอ
รีย แทจริง ทานนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดกลาวแก
ทานอบีสะอีด บิน อัล-มุอัลลาวา (ซึ่งทานสะอีด ไดเลาวา)
3
ُ ُ ََ ّ ُ ﻋَﻠَﻴ َ ا َُ
، ﻓﻠ ْﻢ أ ِﺟﺒْﻪ،أﺻ�ِّ ﻲﻓِ لْﻤَﺴْﺠِﺪ ِ َﻓﺪَﺎﻋ�ِ ر َﺳُﻮلُ ا�َِّ ﺻَ�َّ ا�َّ ْﻪِ وَﺳَﻠَ َﻢ
ّ ّْ ﻛُﻨْﺖُ أُﺻَ�ِّ َ َ َ َ ُﻞ ُ ْ َُ
ِ َِ� »لﻢْ �َﻘ ا�َُّ ﴿اﺳْﺘَﺠِﻴﺒُﻮا: �ﻘﺎل، ِ�ِ إ،َِّ� رَﺳُﻮلَ ا: �ﻘﻠﺖ
َ ْ َ َ ًَ ُ َ ّ ُ ُْ ُ َ
� أ�ﻈ ُﻢ ِ »ُﻋَﻠِّﻤَﻨَﻚ ﺳﻮرة: �ُﻢَّ ﻗَﺎلَ ﻲﻟ
ِ «﴾َا دَﺎﻋ� ْﻢ ل ِ َﻤﺎ � ِﻴﻴ� ْﻢ ﻠ ﺮَّﺳُﻮلِ إِذ
ِل
ْ َ َ َ ََ َ َ َ ّ ْ َْ
ﻓﻠ َّﺎ أ َراد أن، �ُﻢَ أﺧﺬ �ِﻴَ ِﺪي «ُّﻮرِ ﻲﻓِ اﻟْﻘُﺮْآنِ �َﺒْﻞَ أَنْ ﺨﺗ ُﺮ َج ِﻣ ْﻦ ال َﻤ ْﺴ ِﺠ ِﺪ َ
َ َ
: ﻗﺎل،آن ْ ُْ َ
َﻢْ �َﻘُﻞْ ﻷَُﻋﻠِّﻤَﻨَّﻚَ ﺳُﻮ رَةً �َِ أَ�ْﻈَﻢُ ﺳُﻮ َُ
ِ رَةٍ ِﻲﻓ اﻟﻘﺮ : ﻗُﻠْﺖُ ﻪﻟ،َْﺮُج َ
ُُ ُ ّ َ ُ�َِ الﺴَّﺒْﻊ َ
.«ﺎ�ِ وَاﻟْﻘُﺮْآنُ اﻟْﻌَﻈِﻴﻢُ اﺬﻟَي أوﺗِيﺘﻪ
ِ الْﻤَﺜ ﴾َ�ِﻤْﺪُ �َِِّ رَبِّ اﻟْﻌَﺎلﻤ
ความว า ครั้ งหนึ่ ง ขณะที่ ฉั นละหมาดอยู ใ นมัส ยิ ด แล ว
ทา นเราะสูล ศ็ อ ลลั ล ลอฮุ อ ะลั ยฮิว ะสัล ลั ม ก็ ไดเ รียกฉัน
แตฉันก็ไมไดขานรับทาน เมื่อฉันเสร็จจากละหมาดฉันก็
ไดกลาววา โอ ทานเราะสูลุลลอฮฺ แทจริง ตอนที่ทานเรียก
นั้นฉันกําลังละหมาดอยู ทานกลาววา “อัลลอฮฺไมไดตรัส
ดอกหรือวา
ُ ُْ ُ َ ِو َل
( ٢٤ : َا دَﺎﻋ�ﻢ ل ِ َﻤﺎ � ِﻴﻴ� ْﻢ﴾ )اﻷﻧﻔﺎل ﺳْﺘَﺠِﻴﺒُﻮاْ �ِّ ﻠ ﺮَّﺳُﻮلِ إِذ
ความวา “จงตอบรับอัลลอฮฺ และเราะสูลเถิด เมื่อเขาได
เชิญชวนพวกเจาสูสิ่งที่ทําใหพวกเจามีชีวิต” (อัล-อันฟาล
24)
แลวทานก็บอกวา “ฉันจะสอนเจาถึงสูเราะฮฺที่ยิ่งใหญที่สุด
ในอัลกุรอาน กอนที่เจาจะออกไปจากมัสยิด” แลวทานก็
จับมือฉันไว เมื่อ ถึงเวลาที่ทานจะออกไป ฉันก็ก ลา วแก
4
ทานวา ทานไมไดบอกแกฉันดอกหรือวาจะสอนสูเราะฮฺที่
ยิ่ ง ใหญ ที่ สุ ด ในอั ล กุ ร อานให ? ท า นก็ ต อบฉั น ว า “คื อ
อัลหัมดุลิลลาฮิร็อบบิลอาละมีน (หมายถึง สูเราะฮฺ อัล-ฟา
ติ ห ะฮฺ ) มั น คื อ เจ็ ด อายะฮฺ ที่ ถู ก ทวนอ า นซ้ํ า แล ว ซ้ํ า เล า
เป น อั ล กุ ร อานอั น ยิ่ ง ใหญ ที่ ถู ก มอบให แ ก ฉั น ” (บั น ทึ ก
โดยอัล-บุคอรีย : 4474)
สูเราะฮฺนี้มีความลับอะไร ?
สูเราะฮฺอัล-ฟาติหะฮฺ เปนสูเราะฮฺมักกียะฮฺ (ถูกประทาน
ในชวงกอนการอพยพฮิจญเราะฮฺของทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะ
ลัยฮิวะสัลลัม ไปมะดีนะฮฺ) ประกอบดวย 7 อายะฮฺ ดังมติที่เปน
เอกฉันทของบรรดานักวิชาการ
5
“อัล-ฟาติหะฮฺ” ถูกเรียกดวยชื่อนี้ก็เพราะวา คัมภีรอัลกุ
รอานอันทรงเกียรติไดเริ่มตนดวยกับสูเราะฮฺนี้ และเปนสูเราะฮฺที่
ถูกจัดใหอยูในอันดับแรกของอัลกุรอาน แตไมใชสูเราะฮฺแรกที่
ถูก ประทานลงมา ถื อ เป น สู เ ราะฮฺ ที่ ไ ด ใ ห ข อ สรุ ป ตอ นัย ตา งๆ
ของอั ล กุ ร อานได อ ย า งรวบรั ด รวมทั้ ง ได ป ระมวลเป า หมาย
โดยรวมอันเปนพื้นฐานของอัลกุรอานไวอีกดวย มันคือสูเราะฮฺที่
ครอบคลุ ม ทั้ ง ในเรื่ องหลั กการและรายละเอี ยดปลีกยอยของ
ศาสนา ทั้งที่เกี่ยวของกับหลักการศรัทธา หลักการเคารพภักดี
บทบั ญ ญั ติ ต า งๆ การศรั ท ธาในวั น โลกหน า การศรั ท ธาต อ
คุ ณ ลั ก ษณะของอั ล ลอฮฺ อั น วิ จิ ต รงดงาม การให เ อกภาพต อ
พระองคดวยการเคารพภักดี การขอความชวยเหลือ การขอพร
การมุ ง หน า สู พ ระองค ( ตะวั จ ุ ฮฺ ) ด ว ยการวอนขอทางนํ า สู
ศาสนาแหงสัจธรรมและทางที่เที่ยงตรง รวมทั้งการวิงวอนตอ
พระองคใหมีความหนักแนนมั่นคงในการศรัทธาและดําเนินตาม
วิถีทางของเหลากัลยาณชนทั้งหลาย และใหหางไกลจากทาง
ของพวกที่ถูกกริ้วและทางของพวกที่หลงผิดทั้งหลาย ในสูเราะฮฺ
นี้ยังไดสาธยายถึงเรื่องราวของประชาชาติชนรุนกอน และได
เปดเผยถึงการอยางกาวสูเสนทางอันสุขารมณ และที่พํานักอัน
6
ทุกขทนหมนไหม นั่นคือการเคารพภักดีตอขอสั่งใชและขอหาม
ของอัลลอฮฺ ตะอาลา และอื่นๆ จากนี้ ที่เ ปนวั ตถุประสงคและ
เปาหมาย สูเราะฮฺนี้เปรียบเสมือนแมบทของสูเราะฮฺอันมีเกียรติ
ทั้ง หลาย และเนื่ องดวยเหตุ นี้เ องที่ ถูกเรี ยกว า “อุม มุล กิตาบ”
หรือแมบทแหงคัมภีร ดังนั้น สูเราะฮฺอัล-ฟาติหะฮฺจึงไดประมวล
ทุก ๆ นั ย ของอั ล กุ ร อาน ส ว นเป า หมายของสู เ ราะฮฺ นี้ นั้ น ก็ ไ ด
ประมวลนัยและเปาหมายตางๆ ของอัลกุรอานไวเชนเดียวกัน
อัลกุรอานเปนหลักฐานในเรื่องที่เกี่ยวของกับหลักการ
ศรัทธา(อะกีดะฮฺ) หลักการเคารพภักดี(อิบาดะฮฺ) และหลักการ
ดําเนินชีวิต(มะนาฮิจญ อัล-หะยาฮฺ) โดยที่อัลกุรอานไดเรียกรอง
ไปสู ก ารศรั ท ธาต อ อั ล ลอฮฺ และการเคารพภั ก ดี ต อ พระองค
พรอมทั้ ง ได กําหนดหลั กการดํ าเนิ น ชี วิต ในทํ านองเดียวกัน สู
เราะฮฺอัล-ฟาติหะฮฺก็มีหลักการหลักๆ ดังนี้
1. หลักการศรัทธา (อะกีดะฮฺ)
ّ َۡ َٰ ّ �َّ ر٢ � ّ َم د
َ �ِِ َر ّب ۡٱل َ�ٰلَم
ِ � �ل ِِك يو ِم ٱ٣ ٱلرَحِي ِم
﴾٤ ِين ِ ِ َ ُۡۡ�﴿
7
ความวา “การสรรเสริญทั้งหลายนั้นเปนสิทธิของอัลลอฮฺ ผู
เป น พระเจ า แห ง สากลโลก ผู ท รงกรุ ณ าปรานี ผู ท รง
เมตตาเสมอ ผูทรงอภิสิทธิ์แหงวันตอบแทน”
2. หลักการเคารพภักดี (อิบาดะฮฺ)
ُ اك � َ ۡس َتع
﴾ ٥ �ِ َ َّ﴿يَّاكَ �َعۡب دُُ�ي
ซึ่งสูเราะฮฺและอายะฮฺตาง ๆ ในอัลกุรฺอาน(หลังจากสู
เราะฮฺอัล-ฟาติหะฮฺ)ก็จะมาขยายความ 3 หลักการนี้
8
สู เ ราะฮฺ อั ล -ฟาติ ห ะฮฺ ไ ด ก ล า วถึ ง ประการพื้ น ฐาน
หลักๆ ในศาสนาอิสลามนั่นคือ
1. การชุกูรตอความโปรดปรานตางๆ ของอัลลอฮฺ
ّ َم د
َ �ِِ َر ّب ۡٱل َ�ٰلَم
﴾٢ � ِ ِ َ ُۡۡ�﴿
ความวา “การสรรเสริญทั้งหลายนั้นเปนสิทธิของอัลลอฮฺ ผู
เปนพระเจาแหงสากลโลก”
2. ความบริสุทธิ์ใจตออัลลอฮฺ
ُ اك � َ ۡس َتع
﴾٥ �ِ َ َّ﴿يَّاكَ �َعۡب دُُ�ي
3. การคบคาสมาคมกับเพื่อนที่ดี
َ َ ّۡ َ َ�ۡ َم
﴾ ٧ ت َعل ۡي ِه ۡم ﴿ِ�َٰطَ ٱ�َِين � ع
ความวา “ทางของบรรดาผูที่พระองคไดทรงโปรดปรานแก
พวกเขา”
9
4. การรําลึกถึงพระนามและคุณลักษณะของอัลลอฮฺอัน
วิจิตรงดงาม
﴾ ٣ ِيم ّ
ِ ٱلرَح �َّ﴿ر
5. การยืนหยัดอยางมั่นคง (อิสติกอมะฮฺ)
ّ َ
َ ٱلص َ� ٰ َط ٱلۡمُ ۡس َتق
﴾٦ ِيم ِ ﴿اهۡدِنا
ความวา “ขอพระองคทรงแนะนําพวกขาพระองคซึ่งทางอัน
เที่ยงตรง”
6. วันปรโลก (อาคิเราะฮฺ)
ّ َۡ َٰ
ِ �﴿�ل ِِك يو ِم ٱ
﴾٤ ِين
ความวา “ผูทรงอภิสิทธิ์แหงวันตอบแทน”
7. ความสําคัญของการขอพร (ดุอาอ)
8. ความเปนเอกภาพของประชาชาติ
ُ � َ ْس َتع... ُ﴿�َعْبُد
﴾�ِ
10
ความว า “พวกข า พระองค เ คารพอิ บ าดะฮฺ . ...พวกข า
พระองคขอความชวยเหลือ”
ซึ่งมาในรูปสรรพนามพหูพจน (พวกขาพระองค) ไมใช
เอกพจน ทั้งนี้ก็เพื่อเนนย้ําความเปนเอกภาพของประชาชาติ
หลังจากนั้นจึงใหขอพรตอพระองคใหทรงประทานทาง
นํา
ّ َ
َ ٱلص َ� ٰ َط ٱلۡمُ ۡس َت ِق
﴾٦ يم ِ ﴿اهۡدِنا
ความวา “ขอพระองคทรงแนะนําพวกขาพระองคซึ่งทางอัน
เที่ยงตรง”
11
และหากเราไดแบงพยัญชนะทั้งหมดของสูเราะฮฺอัล-ฟา
ติหะฮฺ เราจะพบวา จํานวนครึ่งหนึ่งของพยัญชนะของสูเราะฮฺจะ
อยูในหมวดอายะฮฺการสรรเสริญอัลลอฮฺ (นั่นคือ 63 พยัญชนะ
ْ
اك � َ ْس َتع ُِ� ถึงا�َمْدُ ِ َّ�ِ นับตั้งแต
) และอีกครึ่งหนึ่งอยูในหมวดإ ّيَ َ
ِ
ال� َاط การขอพร(ดุอาอ) (นั่นคือ 63 พยัญชนะ นับตั้งแต اهدِنَا ّ ِ َ
ْ
ّ ّ
ٱلضَآل َِ� ถึง
ََ� ) ประหนึ่งเปนการยืนยันหะดีษอัล-กุดสียที่วา
ّ ﻠّ َ َ ُ ْ
اﷲ َﻋﻠﻴ ِﻪ َو َﺳ َﻢ ﻗﺎل َ» :ﻦْ ﺻَ�َ اﷲُ �َﻨْﻪُ ﻋَﻦِ اﻨﻟَﺒ َﺻ َ
� ِﻲ ِ
َ
ُﺮَ�ْﺮَة رﻰﺿَِ أﻲﺑِ ﻫ
َ َ َ َ َْ َ ّ ُْ َ َ َ ٌ َ ً م ﻬ
آن ﻓ ِ� ِﺧﺪاج ـ ﺛﻼﺛﺎ ـ �� �ﻤﺎمٍ « ﻓ ِﻘﻴﻞ ﻷﺑ َﻼةً لَﻢْ �َﻘْﺮَأ �ِﻴ َْﺎ ﺑِﺄُِ اﻟﻘﺮ ِ
َ ْ َ َﺎِ�ِّ َ ْ ُ َ ُ ْ َ ُﺮَ�ْﺮَة ّ َ ُ ْ ُ َ َ َ َ َ َ
ﺳ ِﻤﻌﺖ رﺳﻮل َﺎ ﻲﻓ �ﻔ ِﺴﻚ، اِﻧَﺎ ﻧ�ﻮن وراء اﻹﻣﺎمِ ،ﻓﻘﺎل ِ :ﻗْﺮَأ ﺑِﻬ ِ
ّ َ َ ْ ُ َ َ َْ ّ َُ ُ
ﷲِ ﺻَ�َ اﷲُ ﻋَﻠﻴْﻪِ وَﺳَﻠَ َﻢ �ﻘ ْﻮل َ» :ﺎلَ اﷲُ ﻋَﺰ َّ َﺟَﻞَ :ﻗﺴﻤﺖ الﺼﻼة ﺑي ِ�
اﻟﻌﺒْ ُﺪ ﴿ﺤﻟﻤﺪ ﷲ رب ﺄل ،ﻓَﺈ َذا ﻗَ َﺎل َ َ َ َ
� َو ِﻟ َﻌﺒْ ِﺪي ﻣﺎ ﺳ
ْ َْ َََْ َ ْ
ِ و�� �ﺒ ِﺪي ﻧِﺼﻔ ِ
َ َ ّ ّ ﻤﺣ َﺪ� َ�ﺒْ ِﺪيَ ،و� َذا ﻗَ َﺎل ﴿رَّ� ﺎلَ اﷲُ ﻋَﺰ ّ َ َ َ
ِيم﴾ ﻗﺎل ٱلرَح ِ ِ َ ﺟﻞ ِ ِ ﻟﻌﺎﻤﻟ�﴾ َ
َّ َ َ َ َ ّ َْ ْ َ ّ أَ�ْ�َ
ﻳﻦ﴾ َﺎلَ اﷲُ �َ َﺪ ِ� ّ َ
ﻲﻠﻋَ �ﺒ ِﺪي ،و�ِذا ﻗﺎل ﴿ﻣﺎل ِ ِﻚ ﻳﻮمِ ﻟِ ِ ﷲُ ﻋَﺰ َّ َﻞ
ِ�﴾ اك � َ ۡس َتع ُاِﻲﻟَ َ�ﺒْﺪي ،ﻓَﺈ َذا ﻗَ َﺎل ﴿يَّاكَ �َعۡب دُُ �يَّ َ َّ َ�ﺒْﺪي ،ﺎل َ مَﺮَّةً ﻓَﻮَّضَ
ِ ِ ِ
ٱلص َ�ٰطَ � َ�ﺒْﺪي َوﻟ َﻌﺒْﺪ ْي َﻣﺎ َﺳ َﺄل ،ﻓَﺈ َذا ﻗَ َﺎل ﴿اهۡدِنَا ّ � َو�َ ْ َ ْ َ َ
ﻗَ َﺎل ﻫﺬا ﺑي ْ َ
ِ ِ ِ ِ ِ ِ
َ َ ۡ ۡ وَ�َ ّ َ َ�ۡ َمۡ َ َ َ ۡ ۡ َ ۡ ٱلۡمَ ۡضُ ٱلۡمُ ۡ َ َ
وب علي ِهم ِ � غ ستقِيمَٰ�ِ ،طَ ٱ�َِين � ع ت علي ِهمِ � ،
َ َ َ َ َ آل َّ ّ
ِ�﴾ ،ﻗﺎل ﻫﺬا ِﻟ َﻌﺒْ ِﺪ ْي َو ِﻟ َﻌﺒْ ِﺪ ْي َﻣﺎ َﺳﺄل« ]رواه مﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ [٥٩٨ لضَ
12
ความวา “ทานอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ รายงาน
จากท า นนบี ศ็ อ ลลั ล ลอฮุ อะลั ย ฮิ ว ะสั ล ลั ม ว า “ผู ใ ดที่
ละหมาดโดยไม อ า นอุ ม มุ ล กุ ร อาน(อั ล -ฟาติ ห ะฮฺ ) การ
ละหมาดนั้นใชไมได ทานกลาวถึง 3 ครั้ง คือไมสมบูรณ มี
ผูก ลา วแก อ บู ฮุ ร็อ ยเราะฮฺ วา พวกเราละหมาดโดยเปน
มะอมูมอยูหลังอิหมาม อบู ฮุร็อยเราะฮฺตอบวา จงอานมัน
ในใจ เพราะแทจริงฉันเคยไดยินทานนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะ
ลัยฮิ วะสัลลัม กลาววา พระองคอัลลอฮฺไดทรงกลาววา ขา
แบงการละหมาดระหวางข ากับบา วของขาเปนสองสว น
และสําหรับบาวของขาจะไดรับในสิ่งที่เขาขอ ฉะนั้นเมื่อ
บ า วได ก ล า วว า “อั ล หั ม ดุ ลิ ล ลาฮิ ร็ อ บบิ ล อาละมี น ”
พระองคอัลลอฮฺก็กลาววา บาวของขาไดสรรเสริญขา และ
เมื่อบาวกลาววา “อัรเราะหฺมานิรรอฮีม” พระองคอัลลอฮฺก็
กลาววา บาวของขาไดขอบคุณขา และเมื่อบาวกลาววา
“มาลิกิเยามิดดีน” พระองคอัลลอฮฺก็กลาววา บาวของขา
ไดใหความยิ่งใหญแกขา และบางครั้งก็กลาววา บาวของ
ขาไดใหความสําคัญแกขา และเมื่อบาวกลาววา “อิยฺยากะ
นะอฺบุดุ วะอิยฺยากะนัสตะอีน” พระองคอัลลอฮฺก็กลาววา
สิ่งนี้ระหวางขากับบาวของขา และสําหรับบาวของขาจะ
13
ไ ด รั บ ใ น สิ่ ง ที่ เ ข า ข อ แ ล ะ เ มื่ อ บ า ว ก ล า ว ว า
“อิฮฺดินัศ ศิ รอฏ็ อ ลมุ ส ตะกี ม ...(จนจบสูเ ราะฮฺ ) ” พระองค
อัลลอฮฺก็กลาววา สิ่งนี้สําหรับบาวของขา และสําหรับบาว
ของขาจะไดรับในสิ่งที่เขาขอ” (บันทึกโดยมุสลิม : 598)
14
อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลา ไดประทานคัมภีร 104
เลม และไดผนวกไวในคัมภีรสามเลมนั่นคือ อัซ-ซะบูรฺ อัต-เตา
รอฮฺ และอัล -อินญีล และไดรวบทั้ง สามไวในคัม ภีรอัลกุร อาน
และไดรวบอัลกุรอานไวในสูเราะฮฺเดียวนั่นคืออัล-ฟาติหะฮฺ และ
ไดรวบสูเราะฮฺอัล-ฟาติหะฮฺไวในอายะฮฺเดียวนั่นคือ
ُ اك � َ ۡس َتع
﴾٥ �ِ َ َّ﴿يَّاكَ �َعۡب دُُ�ي
15
ความสละสลวยของสูเราะฮฺอัล-ฟาติหะฮฺ
สูเราะฮฺอัล-ฟาติหะฮฺจบทายดวยอายะฮฺ
ّ ّ
َ آل �
﴾٧ �ِ ََ�ِۡ ٱلۡمَغۡضُوبِ عَلَيۡهِمۡ وََ ٱلض ﴿
ความวา “ไมใชทางของพวกที่ถูกกริ้วและมิใชทางของพวก
ที่หลงผิด”
แลวสูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺก็ตามมาหลังจากนั้นซึ่ง
ไดสาธยายถึง "พวกที่ถูกกริ้วโกรธ" (บนี อิสรออีล หรือชาวยิว)
โดยสาธยายถึงการปฏิเสธศรัทธาตอพระเจาของพวกเขาและศา
สนทูตของพระองค และสูเราะฮฺอาล อิมรอนก็ไดมาเพื่อสาธยาย
ถึง "พวกที่หลงผิด" (นะศอรอหรือชาวคริสเตียน)
ประโยคสุ ดท ายของสูเ ราะฮฺ อัล-ฟาติ ห ะฮฺ ซึ่ง เปน สวน
ของการขอพรนั้นไดมีขอเกี่ยวพันกับการเริ่มตนของสูเราะฮฺ อัล-
บะเกาะเราะฮฺ
ّ هُدى
َ ِّلۡمُتَق ٗ
[٢ : ﴾ ]ﺒﻟﻘﺮة٢ �ِ ﴿
ความวา “เปนคํา แนะนํา สํา หรับ บรรดาผูยําเกรงเทานั้น”
(อัล-บะเกาะเราะฮฺ 2)
16
ประหนึ่งวา
ّ َ
َ ٱلص َ� ٰ َط ٱلۡمُ ۡس َتق
﴾٦ ِيم ِ ﴿اهۡدِنا
ความวา “ขอพระองคทรงแนะนําพวกขาพระองคซึ่งทางอัน
เที่ยงตรง”
สูเราะฮฺอัล-ฟาติหะฮฺเริ่มตนดวย
ّ َم د
َ �ِِ َر ّب ۡٱل َ�ٰلَم
﴾٢ � ِ ِ َ ُۡۡ�﴿
ความวา “การสรรเสริญทั้งหลายนั้นเปนสิทธิของอัลลอฮฺ ผู
เปนพระเจาแหงสากลโลก”
และถือเปนประโยคแรกของคัมภีรอัลกุรอาน ซึ่งมีความ
สอดคลองกับประโยคสุดทายของสูเราะฮฺอัน-นาส
ِ َّ�َِنَ ٱ�ۡ َّةِ ٱ
﴾٦ اس ِن ﴿
ความวา “จากหมูญินและมนุษย”
17
ْ
อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงเริ่มตนดวย “�َ ( ”ال َعا ِلَمสากลโลก)
ّ
และจบดวย “( ”ا ِ� َّةِ وَ �اَ ِسหมูญิ นและมนุ ษย ) หมายรวมวา
คัมภีรอัลกุรอานเลมนี้เปนขอชี้นําแกสากลโลก รวมทั้งสรรพสิ่ง
ตางๆ ที่อัลลอฮฺทรงสรางจากหมูญินและมนุษย ไมใชเฉพาะคน
หนึ่งคนใดเปนการเฉพาะหรือเจาะจงสําหรับผูศรัทธาเทานั้น
อีกทั้งหลักการอาน (ตัจญวีด) ในสูเราะฮฺอัล-ฟาติหะฮฺก็
มีความงายดาย แทบจะไมปรากฏหลักการที่ยุงยากในการอาน
เลย ทั้ง นี้ เนื่ องดวยความรอบรูข องพระองค ที่ประสงคใหเ กิด
ความงายดายในการอานและทองจํามัน แกมนุษยทุกคนทั้งที่
เปนชาวอาหรับหรือกลุมชนอื่นๆ
และอัลลอฮฺ ตะอาลา นั้นคือ ผูทรงกรุณาปรานี ผูทรง
เมตตาเสมอ และพระองคคือผูทรงอภิสิทธิ์แหงวันตอบแทน จึงมี
ความจํ า เป น สํ า หรั บ เราที่ ต อ งคอยระวั ง จากการลงโทษของ
พระองคในวันแหงการฟนคืนชีพและวันแหงการตอบแทน
ด ว ยความเป น มนุ ษ ย พวกเขาย อ มต อ งการความ
ชวยเหลือจากอัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลาในการเคารพภักดี
ตอพระองค เพราะฉะนั้น หากปราศจากการชวยเหลือใดๆ จาก
18
พระองคแลวไซร เรายอมไมสามารถเคารพภักดีตอพระองคได
อยางแนนอน
ُ اك � َ ۡس َتع
﴾٥ �ِ َ َّاك �َعۡبُُ�ي
َ َّ﴿ِي
ทางอันเที่ยงตรงนั้นคือ ไมมีทางอื่นใดนอกจากทางของ
ท า นนบี ศ็ อ ลลั ล ลอฮุ อะลั ย ฮิ วะสั ล ลั ม และทางของเหล า
กัลยาณชน(สะละฟุศศอลิหฺ)ของเรา จากหมูเศาะหาบะฮฺ และผู
ที่ปฏิบัติตัวเหมือนพวกทานทั้งหลาย
َ َ ّۡ َ َ�ۡ َم
﴾٧ ت َعل ۡي ِه ۡم ﴿ِ�َٰطَ ٱ�َِين � ع
19
ความวา “ทางของบรรดาผูที่พระองคไดทรงโปรดปรานแก
พวกเขา”
ّ�وﺻ
،ﷲ ﻰﻠﻋ ﻧبﻴّ�ﻤﺪ وﻰﻠﻋ آﻪﻟ وﺻﺤﺒﻪ وﺳﻠﻢ ،واﷲ أﻋﻠﻢ ﺑﺎلﺼﻮاب
�ﺤﻟﻤﺪ ﷲ رب اﻟﻌﺎﻤﻟ
21