Professional Documents
Culture Documents
ขั้น1
ขั้น1
แนวข้อสอบพื้นฐานวิชาชีพแพทย์แผนไทย ขั้น 1
แนวข้อสอบ พ.ร.บ วิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556
8. “การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย โดยอาศัยองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์
การแพทย์ซึ่งศึกษาจากสถานศึกษาที่สภาการแพทย์แผนไทยรับรอง รวมทั้งการประยุกต์ใช้เครื่องมือหรือ
อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ทั้งนี้ ตามระเบียบและข้อบังคับของสภาการแพทย์แผนไทย” เป็น
ความหมายของคำใด
ตอบ การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์
9. “กรรมวิธ ีที่เ กี่ยวข้ องกับการแพทย์แ ผนไทย ที่สภาการแพทย์แ ผนไทยกำหนดหรื อรั บรอง” เป็น
ความหมายของอะไร
ตอบ กรรมวิธีการแพทย์แผนไทย
10 “การตรวจ การวินิจฉัย การบำบัด การรักษา การป้องกันโรค การส่งเสริมและการฟื้นฟูสุขภาพ รวมถึง
การผดุ ง ครรภ์ไ ทย เภสั ช กรรมไทย และการนวดไทย ทั ้ ง นี ้ ด้ ว ยกรรมวิ ธ ี การแพทย์ แ ผนไทย” เป็ น
ความหมายของคำใด
ตอบ เวชกรรมไทย
11. “การกระทำในการเตรียมยา การผลิตยา การประดิษฐ์ยา การเลือกสรรยา การควบคุมและการประกัน
คุณภาพยา การปรุงยาและการจ่า ยยาตามใบสั่งยาของ ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แ ผนไทยหรื อ ผู้
ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์และการจัดจำหน่ายยา ตามกฎหมายว่าด้วยยา ทั้งนี้ ด้วย
กรรมวิธีการแพทย์แผนไทย” เป็นความหมายของคำใด
ตอบ เภสัชกรรมไทย
12. “การตรวจ การวินิจฉัย การบำบัด การรักษา การส่งเสริมสุขภาพหญิงมีครรภ์ การป้องกันความ
ผิดปกติในระยะตั้งครรภ์และระยะคลอด การทำคลอด การดูแลการส่งเสริมและการฟื้นฟูสุขภาพมารดา
และทารกในระยะหลังคลอด ทั้งนี้ ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย” เป็นความหมายของคำใด
ตอบ ผดุงครรภ์ไทย
13. “ การตรวจ การวินิจฉัย การบำบัด การรักษา การป้องกันโรค การส่งเสริมและการฟื้นฟูสุขภาพ โดย
ใช้องค์ความรู้เกี่ยวกับศิลปะการนวดไทย ทั้งนี้ ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย” เป็นความหมายของคำ
ใด
ตอบ การนวดไทย
14. “การตรวจ การวินิจฉัย การบำบัด การรักษา การป้องกันโรค การส่งเสริมและการฟื้นฟูสุขภาพ โดย
ใช้องค์ความรู้ซึ่งสืบทอดกันมาในชุมชนท้องถิ่น ทั้งนี้ ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย” เป็นความหมาย
ของคำใด
ตอบ การแพทย์พื้นบ้านไทย
15. “บุคคลซึ่งได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยจากสภา
การแพทย์แผนไทย” หมายถึงใคร
ตอบ ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย
แ น ว ข้ อ ส อ บ อั พ เ ด ร ต ปี 2 5 6 3 ห น ้ า | 3
16. “บุคคลซึ่งได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์จากสภา
การแพทย์แผนไทย” หมายถึงใคร
ตอบ ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยประยุกต์
17. คำว่า “ใบอนุญาต” ตาม พระราชบัญญัติ วิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๕๖ หมายถึงอะไร
ตอบ ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือ ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย
ประยุกต์ของสภาการแพทย์แผนไทย
18. ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษา
การตามพระราชบัญญัตินี้ หมายถึงบุคคลใด
ตอบ พนักงานเจ้าหน้าที่
19. ใครเป็นผู้ประกาศกำหนด ประเภทการแพทย์แผนไทย อื่นๆ โดยแนะนำของคณะกรรมการสภาแพทย์
แผนไทย
ตอบ รัฐมนตรี รักษาการณ์ตาม พ.ร.บ.
20. บุคคลใดที่มีอำนาจตาม พ.ร.บ. “ออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายระราชบัญญัติ
นี้ รวมทั้งออกระเบียบและประกาศใด ๆ เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้”
ตอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
21. องค์กรใดที่มีหน้าที่ “รับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์
แผนไทย และผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์”
ตอบ สภาแพทย์แผนไทย
22. องค์กรใดที่มีหน้าที่ “ พิจารณาสำนวนการสอบสวน จากคณะอนุกรรมการสภาแพทย์แผนไทย กรณีผู้
ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย ถูกกล่าวหา หรือกล่าวโทษ ว่าผิดจรรยาบรรณ”
ตอบ สภาแพทย์แผนไทย
23. องค์กรใดที่ทำหน้าที่ “รับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรในวิชาชีพการแพทย์แผนไทยของ
สถาบันต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการสมัครเป็นสมาชิก
ตอบ สภาแพทย์แผนไทย
24. องค์กรใดที่ทำหน้าที่ “รับรองหลักสูตรสำหรับการฝึกอบรมเป็นผู้ชำนาญการในด้านต่าง ๆ ของ
วิชาชีพการแพทย์แผนไทย ของสถาบันที่ทำการฝึกอบรมดังกล่าว”
ตอบ สภาแพทย์แผนไทย
25. องค์กรใดที่มีหน้าที่ “ออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพ
การแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ และออกหนังสือแสดงวุฒิอื่นใน
วิชาชีพการแพทย์แผนไทย”
ตอบ สภาแพทย์แผนไทย
แ น ว ข้ อ ส อ บ อั พ เ ด ร ต ปี 2 5 6 3 ห น ้ า | 4
11. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของคณะกรรมการยา
ก. ให้คำแนะนำในการอนุญาตผลิตยาแผนโบราณ
ข. ให้คำแนะนำในการขึ้นทะเบียนตำรับยาแผนโบราณ
ค. ให้คำแนะนำในการอนุญาตขายยาแผนโบราณ
ง. สั่งเพิกถอนใบอนุญาตการผลิตยาแผนโบราณ
12. ห้างขายยาศาลาทองโอสถ ผลิตยาหอมศาลาทองโดยใส่ยาที่มีสารออกฤทธิน้อยกว่าร้อยละยี่สิบที่
กำหนดไว้ในตำรับยาที่ขึ้นทะเบียนไว้ตามมาตรา 79 ยาที่ผลิตไว้ได้ถือว่าเป็น
ก. ยาปลอม
ข. ยาผิดมาตรฐาน
ค. ยาเสื่อมคุณภาพ
ง. ยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา
13. ผู้ใดผลิตยาปลอมอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72 (1) ต้องระวางโทษตาม พ.ร.บ. ยา พ.ศ. 2510 อย่าง
ใด
ก. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินสามหมื่นบาท
ข. ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาท ถึงหนึ่งแสนบาท
ค. ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาท ถึงหนึ่งแสนบาท
ง. ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงห้าหมื่นบาท
14. ในกรณีที่ใบอนุญาตขายยาแผนโบราณสูญหาย ท่านต้องดำเนินการอย่างไร
ก. ต้องแจ้งผู้อนุญาต และยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบถึงการ
สูญหาย
ข. ต้องแจ้งผู้อนุญาต และยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบถึง
การสูญหาย
ค. ต้องแจ้งผู้อนุญาต และยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบ
ถึงการสูญหาย
ง. ต้องแจ้งผู้อนุญาต และยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบถึง
การสูญหาย
15. ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในสถานที่ขายยาแผนโบราณ หากไม่ประสงค์จะปฏิบัติหน้าที่ต้องดำเนินการ
อย่างไร
ก. ต้องแจ้งเป็นวาจาให้ผู้รับอนุญาตทราบก่อนพ้นหน้าที่ 30 วัน
ข. ต้องแจ้งเป็นวาจาให้ผู้อนุญาตทราบไม่เกิน 30 วัน ก่อนพ้นหน้าที่
ค. ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้อนุญาตทราบไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันที่พ้นหน้าที่
ง. ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้อนุญาตทราบไม่เกิน 15 วัน นับแต่วันที่พ้นหน้าที่
แ น ว ข้ อ ส อ บ อั พ เ ด ร ต ปี 2 5 6 3 ห น ้ า | 15
22. ในฉลากยาแผนโบราณไม่จำเป็นต้องแสดงข้อใด
ก. ปริมาณของยาที่บรรจุ ข. เลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิต
ค. วันเดือนปีที่ยาหมดอายุ ง. เลขที่หรือรหัสใบสำคัญการขึ้นทะเบียน
ตำรับยา
23. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนโบราณ
ก. จัดให้มีป้ายแสดงว่าเป็นสถานที่ผลิตยาแผนโบราณ
ข. จัดให้มีฉลากตามที่ขึ้นทะเบียนตำรับยาผนึกไว้ที่ภาชนะ และหีบห่อบรรจุยาที่ผลิตขึ้น
ค. ทำบัญชียาที่ผลิตและขายตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ง. ควบคุมการขายยาให้เป็นไปตามมาตรา 69
24. ผู้อนุญาตจะไม่ออกใบอนุญาตให้ผลิตยาแผนโบราณถ้าปรากฏว่าผู้ขออนุญาต
ก. เป็นเจ้าของกิจการและเป็นผู้มีทรัพย์สินหรือฐานะพอที่จะตั้งแต่และดำเนินกิจการได้
ข. มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
ค. มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
ง. เป็นบุคคลวิกลจริตหรือคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
25. ผู้รับอนุญาตขายยาแผนโบราณหากไม่มีผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณประจำอยู่ตลอดเวลาที่เปิด
ทำการต้องระวางโทษเพียงใด
ก. ปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงสามพันบาท
ข. ปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงห้าพันบาท
ค. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับรายวันอีก
วันละหนึ่งร้อยบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
ง. จำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับรายวันอีกวัน
ละ ห้าร้อยบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
26. ข้อใด ไม่ใช่ยาปลอมตามความหมายในพระราชบัญญัติ พ.ศ. 2510
ก. ยาหรือวัตถุที่ทำเทียมทั้งหมดหรือแต่บางส่วนว่าเป็นยาแท้
ข. ยาที่สิ้นอายุตามที่แสดงไว้ในฉลาก
ค. ยาที่แสดงชื่อว่าเป็นยาอื่นหรือแสดงเดือนปีที่ยาสิ้นอายุซึ่งมิใช่ความจริง
ง. ยาที่แสดงชื่อหรือเครื่องหมายของผู้ผลิต หรือที่ตั้งสถานที่ผลิตยาซึ่งมิใช่ความจริง
27. ใครเป็นผู้มีอำนาจสั่งเป็นหนังสือให้ระงับการโฆษณาขายยาที่เห็นว่าเป็นการโฆษณาโดยฝ่าฝืนพระ
ราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ได้
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ข. ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ค. ประธานคณะกรรมการยา ง. เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
แ น ว ข้ อ ส อ บ อั พ เ ด ร ต ปี 2 5 6 3 ห น ้ า | 17
แนวข้อสอบใบประกอบวิชขาชีพการแพทย์แผนไทย ขั้นตอนที่ 1
แนวข้อสอบ พ.ร.บ. สถานพยาบาล พ.ศ. 2541
18. การจัดทำป้ายชื่อสถานพยาบาลการแพทย์แผนไทยต้องทำอย่างไร
ก. แผ่นป้ายมีลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้างไม่น้อยกว่า 40 ซม. ยาวไม่น้อยกว่า 120 ซม.
ข. ตั ว อั ก ษรแสดงชื ่ อ สถานพยาบาลสู ง ไม่ น ้ อ ยกว่ า 10 ซม. ตั ว อั ก ษรแสดงประเภท เลขที่
ใบอนุญาตมีความสูงไม่น้อยกว่า 5 ซม.
ค. สีของพื้นแผ่นป้ายสีขาว ตัวอักษรสีน้ำเงิน
ง. ถูกทุกข้อ
19. ผู้รับอนุญาตต้องแสดงป้ายชื่อสถานพยาบาล อย่างไร
ก. แสดงในบริเวณสถานพยาบาล โดยสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก
ข. แสดงที่ตัวอาคารสถานพยาบาล โดยสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก
ค. ถูกข้อ 1
ง. ถูกทุกข้อ
20. ผู ้ ร ั บ อนุ ญ าตสถานพยาบาลการแพทย์ แ ผนไทยต้ อ งแสดงรายละเอี ย ดผู้ ป ระกอบโรคศิ ล ปะใน
สถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตอย่างไร
ก. จัดทำป้ายแสดงชื่อ สกุล สาขาวิชาชีพ เลขที่ใบอนุญาต ตัวอักษรไทยสูง ไม่น้อยกว่า 1 ซม.
ข. ในกรณีเป็นคลินิก ให้แสดงรูปถ่ายไม่เกิน 1 ปี มีขนาดกว้างไม่น้อยกว่า 8 ซม. ยาวไม่น้อยกว่า 13
ซม.
ค. สีของพื้นป้ายให้ใช้สีน้ำเงิน ตัวอักษรสีขาว
ง. ถูกทุกข้อ
21. ผู้รับอนุญาตแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิของผู้ป่วยไว้อย่างไร
ก. ต้องแสดงไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานพยาบาล
ข. โดยจัดทำแผ่นป้ายให้อ่านได้ชัดเจนด้วยอักษรไทย
ค. ขนาดความสูงของตัวอักษรสูงไม่น้อยกว่า 1 ซม.
ง. ถูกทุกข้อ
22. ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการจัดให้มีหลักฐานเกี่ยวกับผู้ป่วยอย่างไร
ก. ชื่อ นามสกุล อายุผู้ป่วย ข. เลขที่ประจำตัวผู้ป่วย
ค. วัน เดือน ปี ที่มารับบริการ ง. ถูกทุกข้อ
23. บัตรผู้ป่วยนอก ที่บันทึกรายละเอียดกับผู้ป่วยที่มารับบริการอย่างไร
ก. ชื่อสถานพยาบาล เลขที่บัตรประจำตัวผู้ป่วย วันเดือนปี ที่มารับบริการ
ข. ชื่อ นามสกุล เพศ เชื้อชาติ สัญชาติ ที่อยู่ เลขบัตรประจำตัวประชาชน
ค. ประวัติการป่วย การวินิจฉัย การรักษา ลายมือผู้ประกอบวิชาชีพผู้ให้การรักษา
ง. ถูกทุกข้อ
แ น ว ข้ อ ส อ บ อั พ เ ด ร ต ปี 2 5 6 3 ห น ้ า | 34
24. ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการจัดทำรายงานประจำปีอย่างไร
ก. จัดทำรายงานให้เป็นไปตามปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนด ภายวันที่ 31 มี.ค. ของปีถัดไป
ข. สถานพยาบาลในกรุงเทพฯ ให้ยื่น ณ กองการประกอบโรคศิลปะ
ค. สถานพยาบาลต่างจังหวัด ให้ยื่น ณ สำนักงาน สาธารณสุขจังหวัด ที่สถานพยาบาลตั้งอยู่
ง. ถูกทุกข้อ
25. ถ้าผู้ดำเนินการพ้นจากหน้าที่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เกิน 7 วัน ผู้รับอนุญาตอาจมอบหมายให้
บุคคลซึ่งมีคุณสมบัติ ม. 25 ดำเนินการแทนได้ไม่เกินกี่วัน
ก. 30 วัน ข. 60 วัน ค. 90 วัน ง. 15 วัน
26. การกระทำในข้อใดที่ผู้รับอนุญาตจะต้องดำเนินการเสมือนการขออนุญาตประกอบกิจการ
สถานพยาบาลใหม่
ก. เปลี่ยนตัวผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ข. เปลี่ยนตัวผู้รับอนุญาต
ค. เปลี่ยนชื่อสถานพยาบาลใหม่ ง. ย้ายสถานพยาบาลไปประกอบกิจการที่อื่น
27. ผู้ใดดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 24 วรรคหนึ่ง มีโทษ
ประการใด
ก. จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ปรับไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาท
28. เมื่อท่านเป็นผู้ป่วย และเข้าไปรักษาในคลินิกแพทย์ สิ่งสำคัญที่ท่านควรจะต้องตรวจสอบในคลินิก
นั้นคืออะไร
ก. ป้ายชื่อคลินิกตรงกับชื่อแพทย์หรือไม่
ข. ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
ค. วุฒิบัตรแสดงความรู้หรือคุณวุฒิของแพทย์
ง. อุปกรณ์การแพทย์รวมทั้งเวชภัณฑ์
29. สมศรีมีความประสงค์จ ะขออนุญาตเป็นผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาล แต่ผู้อนุญาตไม่ยอมออก
ใบอนุญาตให้ สมศรีควรทำอย่างไร
ก. อุทธรณ์ต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุข ข. อุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาสุข
ค. อุทธรณ์ต่อนายกรัฐมนตรี ง. อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการสถานพยาบาล
แ น ว ข้ อ ส อ บ อั พ เ ด ร ต ปี 2 5 6 3 ห น ้ า | 35
30. อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนตรง
ตามข้อใด
ก. ฉบับละ 2,000 บาท ข. ฉบับละ 1,000 บาท
ค. ฉบับละ 500 บาท ง. ฉบับละ 200 บาท
31. กรณีใดที่โรงพยาบาลเอกชนสามารถรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนเกินจำนวนเตียงที่ขออนุญาตไว้ได้
ก. มีโรคระบาดรุนแรง ข. มีผู้ป่วยมารักษาจำนวนมาก
ค. กรณีมีอุบัติเหตุกับคนหมู่มาก ง. กรณีฉุกเฉินซึ่งหากไม่รับ ไว้ผู้ป่วยอาจมีอันตราย
32. นายแพทย์ศรราม เป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ต้องเดินทางไต่าง
ประเทศเพื่อศึกษาดูงานเป็นเวลา 60 วัน นายแพทย์ศรรามจะต้องดำเนินการอย่างไรกับโรงพยาบาลที่ตน
เป็นผู้ดำเนินการอยู่
ก. ไม่ต้องทำอย่างไร เพราะไปต่างประเทศไม่เกิน 90 วัน
ข. ต้องมอบหมายให้ผู้รับอนุญาตเข้ามาเป็นผู้ดำเนินการแทนชั่วคราว
ค. แจ้งให้ผู้อนุญาตทราบ เพื่อให้คณะกรรมการสถานพยาบาลเข้ามาดูแลโรงพยาบาลนั้น
ง. ต้องมอบหมายให้ผู้อื่นที่มีคุณสมบัติครบมาดำเนินการแทนตน แล้วแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบ
33. ใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลมีอายุ
ก. 1 ปี ข. 2 ปี ค. 3 ปี ง. 10 ปี
34. แพทย์หญิงพรทิพย์ เปิดคลินิกส่วนตัว ตนเองเป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาลตามกฎหมาย และได้รับ
อนุญาตเป็นผู้ดำเนินการโรงพยาบาลเอกชน (รับผู้ป่วยค้างคืน) อีกหนึ่งแห่ง แพทย์หญิงพรทิพย์มีความ
ประสงค์จะขอเปิดคลินิกส่วนตัวอีก 1 แห่ง จะได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ก. ไม่ได้ เพราะจะเป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาลเกิน 2 แห่ง
ข. ไม่ได้ เพราะแพทย์หญิงพรทิพย์จะกลายเป็นผู้เปิดคลินิก 2 แห่ง
ค. ได้ เพราะเป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาลประเภทรับผู้ป่วยค้างคืนเพียงแห่งเดียวเท่านั้น
ง. ได้ เพราะเป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาลประเภทไม่รับผู้ป่วยคางคืนไม่เกิน 2 แห่ง
35. วันที่ 27 สิงหาคม 2544 นายสุชาติ ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิ จการสถานพยาบาล ใบอนุญาตนี้จะ
หมดอายุเมื่อใด
ก. 26 สิงหาคม 2545 ข. 31 ธันวาคม 2545
ค. 26 สิงหาคม 2553 ง. 31 ธันวาคม 2553
36. คณะกรรมการสถานพยาบาลซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ใดตำแหน่งคราวละกี่ปี
ก. 1 ปี ข. 2 ปี ค. 3 ปี ง. ไม่กำหนดวาระ
แ น ว ข้ อ ส อ บ อั พ เ ด ร ต ปี 2 5 6 3 ห น ้ า | 36
2. Radius
3. Scapula
4. Ulna
14. กระดูกเชิงกรานคือข้อต่อไปนี้
1. Femur
2. Patella
3. Tibia
4. Ilium
15. การเคลื่อนไหวของข้อต่อกระดูกได้ระนาบเดียว (แบบบานพับ) Hinge joint คือ..
1. ข้อศอก ข้อเข่า
2. ข้อมือ กระดกขึ้น - ลง เอียงซ้าย – ขวา
3. ข้อไหล่ ข้อสะโพก กางออก – หุบเข้า หมุนเข้าใน – หมุนออกนอก
4. ไม่ข้อถูก
16. กล้ามเนื้อที่อยู่ในอำนาจสั่งการของจิตใจคือ....
1. กล้ามเนื้อหัวใจ (Cadiac muscle)
2. กล้ามเนื้อเรียบ (Smooth muscle)
3. กล้ามเนื้อลาย (Striated muscle)
4. ถูกทุกข้อ
17. คุณสมบัติของกล้ามเนื้อมีดังนี้ (ยกเว้น)
1. มีความรู้สึกต่อสิ่งเร้า คือ สามารถรับและตอบสนองต่อสิ่งเร้า
2. มีความสามารถเปลี่ยนรูปร่างให้สั้น หนา และแข็งได้
3. มีความยืดหยุ่นคล้ายยาง (Elasticity)
4. เป็นโครงสร้างของร่างกาย
18. ส่วนประกอบของกล้ามเนื้อคือ
1. น้ำประมาณ 75 %
2. โปรตีนประมาณ 10 %
3. เกลือแร่ / ไกลโคเจน / และไขมัน ประมาณ 5 %
4. ถูกทุกข้อ
3. Gastrocnemius
4. Gluteus maximus
27. กล้ามเนื้อที่ทำหน้ที่กระดกปลายเท้าขึ้น – ลง คือ
1. Gastrocnemius
2. Gluteus maximus
3. Tibialis anterior
4. Hamstrings
28. ข้อต่อไปนี้ผิด (ยกเว้น)
1. กล้ามเนื้อลาย (Striated muscle)หรือกล้ามเนื้อในอำนาจจิตใจ
2. กล้ามเนื้อหัวใจ (Cadiac muscle) ควบคุมได้โดยจิตใจ
3. กล้ามเนื้อเรียบ (Smooth muscle)หรือกล้ามเนื้อที่สั่งการทำงานได้อำนาจจิตใจ
4. กล้ามเนื้อลาย (Striated muscle)หรือกล้ามเนื้อที่ไม่อยู่ในอำนาจจิตใจ
29. หน้าที่ของระบบไหลเวียนข้อใดถูก (ยกเว้น)
1. ขนส่งอาหารและออกซิเจน (O2) ให้ออกจากทุกเซลล์
2. ช่วยลำเรียงฮอร์โมนและเอ็นไซม์ ไปให้เซลล์ เพื่อช่วยในการเผาผลาญของเซลล์
3. ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ (Temperature regulation)
4. ป้องกัน และทำลายเชื้อโรค ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน (Antibodies) ให้กับร่างกาย
30. เลือดประกอบด้วย
1. (Red blood cells)
2. White blood cells
3. Blood platelets
4. ถูกทุกข้อ
31. เม็ดเลือดแดง (Red blood cells) มีอายุกี่วัน......
1. มีอายุ 112 วัน
2. มีอายุ 102 วัน
3. มีอายุ 120 วัน
4. มีอายุ 212 วัน
2. ส่วนข้าง(Temporal lobe)
3. ส่วนหลัง(Occipital lobe)
4. ส่วนหน้า(Frontal lobe)
52. สมองส่วนที่ควบคุมความร้อน - เย็น เจ็บปวดและตำแหน่งของข้อต่อต่างๆ ได้แก่
1. ส่วนกลาง(Parietal lobe)
2. ส่วนหลัง(Occipital lobe)
3. ส่วนข้าง(Temporal lobe)
4. ส่วนหน้า(Frontal lobe)
53. ข้อต่อไปนี้คือ หน้าที่ของก้านสมอง(Brain stem)
1. ควบคุมความร้อน - เย็น เจ็บปวดและตำแหน่งของข้อต่อต่างๆ
2. ควบคุมความทรงจำ ความรู้สึกนึกคิดคือ....
3. ควบคุมการทำงานของร่างกายทั้งหมด
4. เป็นศูนย์กลางควบคุมการหายใจ และการเต้นของหัวใจ
54. หน้าที่ของไขสันหลัง(Spinal cord)คือ
1. ควบคุมความร้อน - เย็น เจ็บปวดและตำแหน่งของข้อต่อต่างๆ ได้แก่
2. ควบคุมการทำงานของร่างกายทั้งหมด
3. เป็นทางเดินของเส้นประสาททั้งขาขึ้น(Motor neuron) และขาลง (Sensory neuron)
4. ควบคุมความร้อน - เย็น เจ็บปวดและตำแหน่งของข้อต่อต่างๆ
55. ระบบย่อยอาหาร(The Digestive system) ประกอบไปด้วย.....
1. ปาก (Mouth) หลอดคอ (Pharyng)
2. หลอดคอ (Pharyng) ท่อทางเดินอาหาร(Esophagus)
3. กระเพาะอาหาร (Stomach)
4. ถูกทุกข้อ
3. พาราซิมพาเทติกทำให้หัวใจเต้นเร็วและแรง
4. ซิมพาเทติกทำให้หัวใจเต้นช้าและเบา
58. ระบบประสาทซิมพาเทติก(Sympathetic) มีผลดังนี้
1. ซิมพาเทติก(Sympathetic) ทำให้หลอดลมขยายตัว
2. ซิมพาเทติก(Sympathetic) ทำให้หลอดเลือดหดตัวเล็กน้อย
3. ซิมพาเทติก(Sympathetic) ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
4. ถูกทุกข้อ
59. ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก(Parasympathetic) มีผลดังนี้
1. พาราซิมพาเทติก (Parasympathetic) ทำให้หัวใจเต้นช้าและเบา
2. พาราซิมพาเทติก (Parasympathetic) ทำให้ม่านตาหดเล็ก
3. พาราซิมพาเทติก (Parasympathetic) ทำให้หลอดเลือดขยายเล็กน้อย
4. ถูกทุกข้อ
60. ท่อทางเดินอาหาร(Esophagus) ส่วนปลายล่างสุดเชื่อมต่อกับอวัยวะใด
1. ลำไส้เล็ก
2. ลำไส้ใหญ่
3. กระเพาะอาหาร
4. ตับ
60. เส้นประสาทไขสันหลัง(Spinal neve)ระดับคอ (Cervical) มีกี่คู่
1. มี 5 คู่
2. มี 6 คู่
3. มี 7 คู่
4. มี 8 คู่
4. มี 6 คู่
63. หน้าที่ของเส้นประสาทไขสันหลัง(Spinal neve) ข้อต่อไปนี้ถูกต้อง
1. เป็นทางเดินของสารอาหารทุกชนิด
2. เป็นศูนย์ควบคุมการหายใจ
3. เป็นทางเดินของกระแสเลือด
4. ทำหน้าที่เป็นทางผ่านConduction path way รับกระแสความรู้สึกไปสู่สมอง และส่ง
ความรู้สึกออกจากสมอง ไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย
64. หน้าที่ของเส้นประสาทไขสันหลัง(Spinal neve) มีดังต่อไปนี้
1. เส้นประสาทช่วง L1-L4 เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนบน
2. เส้นประสาทช่วง C1-C5 เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณศรีษะ บางส่วนของไหล่และกระบังลม
3. เส้นประสาทช่วง C5-T1 เป็นร่างแหประสาทแขน เลี้ยงหัวไหล่ แขน และเท้า
4. เส้นประสาทช่วง T1-T12 เลี้ยงบริเวณหน้าอก หลัง ท้อง และศรีษะบางส่วน
65. หน้าที่สำคัญของกระเพาะอาหาร
1. เป็นที่เก็บอาหารไว้ ก่อนที่จะผ่านเข้าสู่ลำไส้ อาหารจะถูกเปลี่ยนแปลงโดยกลวิธีต่างๆ จน
จนกลายสะภาพเป็นของเหลวเล็กน้อยเรียกว่า(Chyme)
2. เคลื่อนไหว (Gastric motility) เพื่อคลุกเคล้าอาหารให้สัมผัสกับน้ำย่อย และส่งอาหารที่อยู่ใน
สภาพของ (Chyme) ไปสู่ลำไส้เป็นระยะๆ ในอัตราความเร็วที่พอเหมาะ ทั้งนี้เพื่อให้ลำไส้มีโอกาส
ย่อยและดูดซึมอาหารได้ดี
3. ขับน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร (Gastric juice) ซึ่งเป็นน้ำใสๆ มีคุณสมบัติเป็นกรด ความความ
ถ่วงจำเพาะ 1.002 – 1.003
4. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
4. มีความยาวทั้งสิ้น 8 นิ้ว
68. ลำไส้เล็ก (Small intestine)ลำไส้เล็กส่วนปลาย(ileum) เป็นลำไส้เล็กที่ต่อจากส่วนกลาง
(Jejunum) มีความมีความยาวทั้งสิ้นเท่าไร
1. มีความยาวทั้งสิ้น 9 ฟุต
2. มีความยาวทั้งสิ้น 9 นิ้ว
3. มีความยาวทั้งสิ้น 9 นิ้ว
4. มีความยาวทั้งสิ้น 12 ฟุต
69. หน้าที่สำคัญของลำไส้เล็ก ข้อต่อไปนี้ ถูกต้อง (ยกเว้น)
1. หลั่งน้ำย่อยออกมาย่อยอาหาร (Digestive function)
2. การเคลื่อนไหว (Intestinal motility) เพื่อคลุกเคล้าอาหารให้เข้ากับน้ำย่อยต่างๆ
3. ถูกเฉพาะข้อ 1. กับข้อ 2.
4. ไม่มีข้อถูก
70. ลำไส้ใหญ่ (Large intestine) มีความยาว ดังนี้
1. ความยาวทั้งหมด 5 ฟุต
2. ความยาวทั้งหมด 6 ฟุต
3. ความยาวทั้งหมด 8 ฟุต
4. ถูกเฉพาะข้อ 1.
3. ความยาวทั้งหมด 4 ฟุต
4. ความยาวทั้งหมด 6 ฟุต
73. ระบบต่อมไร้ท่อ (Endocrine System) ทำหน้าที่ควบคุมอวัยวะภายในร่างกายให้ทำงานประสานงาน
กันข้อต่อไปนี้ถูกต้อง
1. ระบบนี้จะทำหน้าที่นอกเหนือไปจากการทำงานของระบบประสาท
2. การกระทำของต่อมไร้ท่อให้ผลช้าแต่ทำงานนานกว่าระบบประสาท
3. โดยอาศัยสารเคมีที่ต่อมไร้ท่อผลิตขึ้นมาที่เรียกว่า ฮอร์โมน (Hormone)
4. ถูกทั้ง หมดทุกข้อ
73. การกระตุ้นต่อมธัยรอยด์ให้สร้าง Thyroxin เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจาก ข้อใด
1. ต่อมใต้สมอง (Pituitary Gland)
2. ต่อมธัยรอยด์ (Thyroid Gland)
3. ถูกเฉพาะข้อ 1.
4. ถูกเฉพาะข้อ 2.
75. ต่อมธัยรอยด์ (Thyroid Gland) มีหน้าที่ๆสำคัญคือ
1. ผลิตฮอร์โมนที่สำคัญคือธัยร็อกซิน (Thyroxin)
2. กระตุ้นให้เซลเม็ดสีสร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้น
3. กระตุ้นการตกไข่และสร้างฮอร์โมนเพศหญิงและชาย
4. กระตุ้นการขยายเต้านมสำหรับหญิงที่มีครรภ์
3. เทสทอสเตอโรน (Testosterone)
4. ถูกเฉพาะ ข้อ 1. ข้อ 2.
79. ถ้าตัดอัณฑะออกจะทำให้เกิดผลดังต่อไปนี้
1. ในเด็ก - ทำให้อวัยวะสืบพันธ์ไม่เจริญ
2. ทำให้อัตราการเจริญเติบโตของกระดูกเพิ่มขึ้น
3. ควบคุมการหลั่งของฮอร์โมนเพศชาย
4. ถูกทั้ง หมดทุกข้อ
80. ถ้าตัดอัณฑะออกจะทำให้เกิดผลดังต่อไปนี้
1. ในเด็ก - ทำให้อวัยวะสืบพันธ์ไม่เจริญ
2. มีไขมันสะสมมากขึ้น แขนขาสั้นผิดปกติ
3. ไม่มี Secondary sexual characteristic
4. ถูกเฉพาะ ข้อ 1. ข้อ 3.
82. ฮอร์โมนเพศหญิง คือข้อต่อไปนี้
1. เอสโตรเจน (Estrogen)
2. และโปรเจสเตอโรน (Progesterone)
3. เทสทอสเตอโรน (Testosterone)
4. ถูกเฉพาะ ข้อ 1. ข้อ 2.
83. ถ้าตัดรังไข่ออกจะทำให้เกิดผลดังต่อไปนี้
1. มีลักษณะคล้ายชาย
2. มีความรู้สึกทางเพศเพิ่มขึ้น
3. มีไขมันสะสมมากขึ้น แขนขายาวผิดปกติ
4. กระตุ้นการสร้างโปรตีนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเอ็นไซม์
84. หน้าที่สำคัญของ อัณฑะ (Testis) และถุงอัณฑะ (Scrotum)
1. ปรับอุณหภูมิภายในถุงอัณฑะให้เหมาะแก่การเจริญเติบโตของอสุจิ คือ เซลเซียส ประมาณ 34
องศา
2. สร้างฮอร์โมนเพศชาย ที่สำคัญคือ เทสทอสเตอโรน (Testosterone)
3. ควบคุมการเจริญเติบโตของอวัยวะสืบพันธ์
4. ควบคุมการหลั่งของฮอร์โมน Hormone กระตุ้นต่อมธัยรอยด์ให้สร้าง Thyroxin เพิ่มขึ้น
85. ขั้นตอนในการสร้างตัวอสุจิและการหลั่งน้ำอสุจิ มีดังนี้
1. เริ่มจากหลอดสร้างตัวอสุจิ ซึ่งอยู่ภายในอัณฑะสร้างตัวอสุจิออกมา
2. จากนั้นตัวอสุจิจะถูกนำไปพักไว้ที่หลอดเก็บอสุจิ
แ น ว ข้ อ ส อ บ อั พ เ ด ร ต ปี 2 5 6 3 ห น ้ า | 60
3. ลำเลียงผ่านไปตามหลอดนำตัวอสุจิ เพื่อนำตัวอสุจิไปเก็บไว้ที่ต่อมสร้างน้ำเลี้ยงตัวอสุจิรอการ
หลั่งออกสู่ภายนอก
4. ถูกทั้ง หมดทุกข้อ
86. โดยปกติเพศชายจะเริ่มสร้างตัวอสุจิได้เมื่ออายุประมาณ กี่ ปี
1. อายุ 12 - 13 ปี
2. อายุ 13 - 14 ปี
3. อายุ 14 - 15 ปี
4. อายุ 15 - 16 ปี
87. การหลั่งน้ำอสุจิในแต่ละครั้งจะมีตัวอสุจิเฉลี่ย ประมาณ กี่ ตัว
1. ประมาณ 330 - 500 ล้านตัว
2. ประมาณ 360 - 500 ล้านตัว
3. ประมาณ 350 - 500 ล้านตัว
4. ประมาณ 340 - 500 ล้านตัว
3. ต่อมคาวเปอร์(cowper gland)
4. อวัยวะเพศชาย(pennis)
91. ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ประกอบด้วยอวัยวะต่างๆ ดังนี้
1. รังไข่( ovary )
2. ท่อนำไข่( oviduct )
3. ช่องคลอด( vagina )
4. ถูกทั้ง หมดทุกข้อ
92. การตกไข่ หมายถึง
1. การที่ไข่สุกและออกจากรังไข่เข้าสู่ท่อนำไข่
2. การตกไข่เกิดขึ้นเดือนละ 2 ใบ
3. ในช่วงกึ่งกลางของรอบเดือน เมื่อมีการตกไข่ มดลูกจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยมีผนังหนาขึ้น
4. ถูกเฉพาะ ข้อ 1. ข้อ 3.
2. เพศ เป็นทางผ่านของสเปิร์มและน้ำปัสสาวะออกสู่ภายนอก
3. เป็นแหล่งผลิตน้ำกาม ( semen )
4. ถูกเฉพาะข้อ 1. และข้อ 2.
97. ต่อมคาวเปอร์ ( Cowper’s gland ) ทำหน้าที่ดังนี้
1. ทำหน้าที่ในการหลั่งสารเหลวใสและเหนียว เพื่อหล่อลื่นในขณะที่เกิดการกระตุ้นทางเพศ
2. ขับสเปิร์มและน้ำปัสสาวะออกสู่ภายนอก
3. ทำหน้าที่ในการสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ ซึ่งได้แก่น้ำตาลฟรักโทส วิตามินซี
4. ถูกเฉพาะข้อ 1.
98. ถุงอัณฑะ ( scrotum or scrotal sac ) ที่ยื่นออกมาจากช่องท้อง เนื่องจากอัณฑะที่อยู่ในช่องท้อง
เลื่อนลงมาถุงอัณฑะทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิให้แก่อัณฑะ โดยอุณหภูมิของถุงอัณฑะจะต่ำกว่าอุณหภูมิ
ของร่างกายประมาณ
1. ประมาณ 33 องศาเซลเซียส
2. ประมาณ 34 องศาเซลเซียส
3. ประมาณ 35 องศาเซลเซียส
4. ประมาณ 36 องศาเซลเซียส
99. ข้อต่อไปนี้คือแฝดร่วมไข่ (identical twins) (ฝาเดียวกัน)
1. เกิดจากไข่ 1 ใบผสมกับอสุจิ 1 ตัว เป็นไซโกตแล้วไซโกตแบ่งตัวออกเป็น 2 ส่วน
2. มีเพศเดียวกัน รูปร่างลักษณะเหมือนกัน
3. อุปนิสัยสติปัญญาใกล้เคียงกัน และความสามารถต่างๆ จะใกล้เคียงกันมาก
4. ถูกทุกข้อ
100. แฝดต่างไข่ (fraternal twins)(คนละฝา)คือข้อต่อไปนี้
1. เกิดจากไข่มากกว่า 1 ใบ ผสมกับอสุจิมากกว่า 1 ตัว
2. เกิดไซโกตและเอมบริโอมากกว่า 1
3. อาจเป็นเพศเดียวกันหรือต่างเพศก็ได้
4. ถูกทุกข้อ