Professional Documents
Culture Documents
การแปรของภาษา ส่งให้เพื่อน
การแปรของภาษา ส่งให้เพื่อน
และการแปรของภาษากับความแตกต่างของผู้คนในสังคม
outline ของเนื้อหา
1. การแปรของภาษา
§ การแปรของเสียง
§ การแปรของศัพท์
§ การแปรของวลีและประโยค
2. การแปรของภาษากับความแตกต่างของผู้คนในสังคม
§ การแปรด้านเพศ
§ การแปรด้านอายุ
§ การแปรด้านการศึกษา
§ การแปรด้านอาชีพ
§ การแปรด้านชาติพันธุ์
§ การแปรด้านชนชั้นทางสังคม
§ การแปรด้านถิน่ อาศัย
3. สิ่งที่ได้จากการศึกษาการแปรของภาษา
1. การแปรของภาษา
การแปร (variation) คือ การที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดความแตกต่างขึ้น หรือเกิดเปลี่ยนแปลงไปจากปกติเดิม จาก
ปัจจัยต่าง ๆ ดังนั้น การแปรของภาษา (language variation) คือ การแปรของรูปภาษาตั้งแต่สองรูปขึ้นไป ซึ่งการแปร
ดังกล่าวจะต้องไม่ทําให้ความหมายเปลี่ยนแปลงไป หากความหมายเปลี่ยนแปลงไปจะถือว่าเปลี่ยนไปเป็นอีกรูปหนึ่ง
อีกทั้งการแปรของภาษานั้นอาจเกิดขึ้นโดยที่รู้ตัว หรือไม่ก็ได้ โดยการแปรของภาษาเกิดขึ้นได้ในด้าน เสียง
(phonological variation) ศัพท์ (lexical variation) วลีและประโยค (syntactic variation) และการแปรของภาษา
เขียน (orthographical variation)
การแปรด้านเพศ (gender)
ตัวอย่างการแปรของภาษาด้านเพศในภาษาไทย
- ด้านคําเรียกตัวเอง
§ ผู้ชาย: ผม กระผม อั๊ว กู เรา
§ ผู้หญิง: ดิฉัน ฉัน หนู เดี๊ยน เค้า ฯลฯ
- ด้านคําลงท้าย
§ คะ ค่ะ ครับ ฮะ จ้ะ
- ด้านลีลาการใช้ภาษา
§ ผู้หญิงมักใช้การซํ้าคําแสดงอารมณ์ เช่น ดี๊ดี เกลีย้ ดเกลียด ฯลฯ ซึ่งถูกมองว่าเป็น “ภาษาผู้หญิง”
§ ผู้หญิงมีแนวโน้มออกเสียง /s/ ท้ายคํายืมในภาษาอังกฤษมากกว่าผู้ชาย
§ ผู้หญิงมีแนวโน้มใช้ “รูปภาษาที่มีศักดิ์ศรีมากกว่าผู้ชาย”
ตัวอย่างการแปรของภาษาด้านเพศในภาษาอังกฤษ
- ผูห้ ญิงใช้คําศัพท์บางคํา เช่น cute, adorable, charming, lovely, sweet, divine มากกว่าผู้ชาย
- ผูห้ ญิงผิวดําในเมืองดีทรอยด์ออกเสียง /ɹ/ หลังสระมากกว่าผู้ชาย
- สําหรับเสียง -ing ผู้หญิงจะออกเป็นเสียง /ɪŋ/ เช่น walking /’wɔːkɪŋ/ ในขณะที่ผู้ชายออกเสียงเป็น /ɪn/
เช่น walkin’ /’wɔːkɪn/
การแปรด้านอายุ (age)
การแปรด้านการศึกษา (education)
การแปรด้านอาชีพ (occupation)
ตัวแปรทางอาชีพนั้นมีความเกี่ยวข้องกับตัวแปรด้านการศึกษาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการศึกษาเป็น
ตัวกําหนดอาชีพ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ปรากฏว่าไม่เป็นจริงทั้งหมด เนื่องจากผูค้ นบางกลุ่มไม่ได้ทํางานในสายอาชีพที่ตน
จบ หรือบางคนที่มีการศึกษาก็อาจจะประกอบอาชีพที่ผู้คนมองว่าไม่จําเป็นต้องมีการศึกษาก็สามารถทําได้
ตัวอย่างการแปรของภาษาด้านอาชีพ
- การออกเสียง [ɾ] และ [l] ในภาษาไทย สําหรับผู้ที่มีอาชีพเลขานุการ ครู ผูส้ ื่อข่าว มองว่าสองเสียงนี้
แตกต่างกันและควรให้ความสําคัญ
- การใช้คําศัพท์สําหรับคนทั่วไป และแพทย์
คนทั่วไป แพทย์
ตึกผู้ป่วยใน วอร์ด
ห้องผ่าตัด โออาร์
ห้องฉุกเฉิน อีอาร์
หูฟัง สะเต๊ต
การแปรด้านชาติพันธุ์ (ethnicity)
ตัวอย่างการแปรของภาษาด้านชาติพันธุ์
- กลุ่มคนจีนในประเทศไทยออกเสียง [d n d] ในคํา “ดี มัน เกิด” เป็นเสียง [l ŋ k] คือ “ลี มัง เกิก”
ตามลําดับ
- การแปรด้านไวยากรณ์ของกลุ่มคนผิวดําในสหรัฐอเมริกา เช่น การใช้ be/have โดยไม่ผันรูป จะกลายเป็น
she be hollering at us for no reason. และ she never have a smile.
ตัวอย่างการแปรของภาษาด้านชนชั้นทางสังคม
การแปรด้านถิ่นอาศัย (dialect)
ตัวอย่างการแปรของภาษาด้านถิ่นอาศัย
3. สิ่งที่ได้จากการศึกษาการแปรของภาษา
ไม่มีภาษาใดบนโลกทีว่ ิบัติ เพราะภาษาทุกภาษาบนโลกย่อมมีการเปลี่ยนแปลง
คําถามถามอาจารย์