Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 217

1

คัมภีร์แพทย์ ไทยแผนโบราณ
เล่ ม ๓

รวบรวมโดย

ขุนโสภิดบรรณลักษณ์
(อําพัน กิตติขจร)

แพทย์ ไทยแผนโบราณ
สมาชิกกิติมศักดิ์
ของสมาคมเภสัชกรรมไทยโบราณแห่ งประเทศไทย
วัดสามพระยา จังหวัดพระนคร
ผู้อาํ นวยการอบรมวิชาแพทย์ ไทยแผนโบราณ
ผู้อาํ นวยการบรรเทาทุกข์ คนเจ็บป่ วยของสมาคม
2

คํานํา

บุคคลซึ่ ง เกิ ดมาในโลกนี้ ย่อมมี ค วามชราและมรณะเป็ นธรรมดา แม้ผูม้ ี ค วามรู ้ วิเศษประเสริ ฐ


เพียงไรก็ไม่สามารถจะป้ องกันได้ ส่ วนพยาธิ คือความเจ็บไข้น้ นั มีทางและสิ่ งที่จะป้ องกันได้มีอยู่ ถ้ายังไม่ถึง
อุปัจเฉทะกะกรรมมาตัดรอนแล้ว ก็อาจแก้ไขให้หายเป็ นปกติได้ สิ่ งที่จะแก้ไขเยียวยาให้หายได้น้ นั คือยา
นักปราชญ์ทางวิชาแพทย์แต่โบราณได้จดั ทําคัมภีร์วชิ าแพทย์และตําหรับยาไว้เป็ นหลักฐานให้ศึกษาเล่าเรี ยน
และปฏิบตั ิสืบๆ ต่อกันมา คัมภีร์กบั ตําหรับยานั้นได้ใช้เป็ นประโยชน์มาแล้วแต่โบราณกาล และได้ใช้เป็ น
ประโยชน์มาจนถึ งทุกวันนี้ มนุ ษย์ที่เกิดมาในโลกนี้ มีประเทศที่เกิดที่อยู่ต่างกัน มีอากาศต่างกัน กินอาหาร
ต่างกัน ยาแก้โรคมีใช้อยูท่ ุกชาติทุกประเทศ จะใช้ยาแก้โรคของประเทศหนึ่ งไปแก้โรค ของอีกประเทศหนึ่ ง
นั้น หาได้ผลดี เสมอไปไม่ เพราะคนอยู่ในประเทศที่มีอากาศต่างกันและกิ นอาหารไม่เหมือนกัน ในคัมภีร์
แพทย์ไทยแผนโบราณ ได้ถือเอาประเทศที่เกิดที่อยูท่ ี่เป็ นสมุฎฐานของโรคด้วย คัมภีร์แพทย์ไทยแผนโบราณ
มีมาช้านานแล้ว การศึกษาเล่าเรี ยนได้คดั ลอกต่อ ๆ กันมาอาจมีการขาดตกบกพร่ องไปบ้าง ข้าพเจ้าเล่าเรี ยน
ศึ กษาในขณะที่ขา้ พเจ้ารับราชการอยู่ เมื่อเรี ยนจบแล้วข้าพเจ้ามิ ได้ประกอบอาชี พในทางแพทย์ เมื่ ออายุ
ข้าพเจ้าได้ ๕๓ ปี ข้าพเจ้าออกจากราชการรับพระราชทานบํานาญ แล้วเข้าสอบวิชาแพทย์ไทยโบราณตาม
ข้อสอบของกระทรวงสาธารณสุ ขข้าพเจ้าสอบไล่ได้ และได้รับใบอนุ ญาตประกอบโรคศิลป์ ข้าพเจ้าจึงได้
ประกอบอาชี พในทางแพทย์แผนโบราณตลอดมา นับตั้งแต่เริ่ มเรี ยนเป็ นต้นมา ข้าพเจ้าได้รวบรวมคัมภีร์
แพทย์ไทยแผนโบราณไว้มาก ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบคัมภีร์แพทย์ไทยแผนโบราณที่ขา้ พเจ้ามีอยูน่ ้ นั เห็นว่ามี
ขาดเป็ นท่อนเป็ นตอนเพราะคัดลอกต่อ ๆ กันมาดังกล่าวแล้ว ข้าพเจ้าได้พยายามค้นคว้าเอามารวบรวมเข้าให้
ครบถ้วน การค้นคว้าและรวบรวมนั้น ต้องใช้เวลาอยูห่ ลายปี จึงสําเร็ จ
คัมภีร์แพทย์ไทยแผนโบราณนี้ เป็ นวิชาที่ละเอียดมาก จะศึกษาเล่าเรี ยนอย่างคร่ าว ๆ หรื อเรี ยนเอา
ตามลําพังตน จะให้รู้เข้าใจอย่างถูกต้องจริ งจังนั้นยากมาก ถ้าจะให้รู้อย่างถูกต้องแล้ว จะต้องศึกษากับท่านที่
มีความรู ้ อย่างเชี่ ยวชาญในวิชานี้ คัมภีร์แพทย์ไทยแผนโบราณนี้ ถ้าท่านผูใ้ ดมีไว้ประจําบ้านและได้หมัน่
อ่านบ่อย ๆ แล้ว ก็เท่ากับท่านมีแพทย์อยู่ในบ้านของท่านด้วย เมื่อคนในบ้านของท่านป่ วยไข้ข้ ึน ถ้าหายา
และแพทย์อื่นไม่ได้ ก็จะได้ใช้ยาและความรู ้ที่ท่านมีอยูใ่ นคัมภีร์น้ นั ได้บา้ งเป็ นประโยชน์แก่ท่านมาก บัดนี้
ข้าพเจ้าได้พิมพ์คมั ภีร์น้ ี ขึ้นเสร็ จแล้วรวมเป็ นชุ ดมี ๓ เล่มด้วยกัน ดังที่กล่าวนี้สมาคมเภสัชกรรมไทยโบราณ
แห่ ง ประเทศไทย วัด สามพระยาจัง หวัด พระนครสู ต รสอนสมาชิ ก ของสมาคมอยู่ และข้า พเจ้า เป็ น
ผูอ้ าํ นวยการอบรมอยูด่ ว้ ย

ลงนาม ขุนโสภิตบรรณลักษณ์
( อําพัน กิตติขจร )
3

คัมภีร์แพทย์ไทยแผนโบราณ

สารบาญ
เรื่ อง หน้า
๑. ตํานานแพทย์ไทยแผนโบราณ .. ๑
๒. ฉันทศาสตร.... ๕
๓. ว่าด้วยธาตุต่างๆ ในร่ างกายของมนุษย์... ๑๙
๔. ว่าด้วยการเจ็บป่ วยของร่ างกายและยาแก้.... ๒๒
๕. ว่าด้วยอาการโรคที่เกิดขึ้นเพราะธาตุพิการและยาแก้... ๑๐๒
๖. ว่าด้วยโรคนํ้าปั สสาวะพิการและยาแก้... ๑๑๗
๗. ว่าด้วยเสมหะพิการและยาแก้... ๑๒๓
๘. ว่าด้วยลักกะปิ ดลักกะเปิ ดและโลหิตตกไรฟันและยาแก้.. ๑๒๗
๙. ว่าด้วยโลหิ ตออกทางทวารหนักทวารเบาและลงเป็ นโลหิ ตและยาแก้.... ๑๓๐
๑๐. ว่าด้วยอาเจียนเป็ นโลหิ ตและไอเป็ นโลหิตและยาแก้. ๑๓๕
๑๑. คัมภีร์กษัย(กะไษย).... ๑๓๘
๑๒. คัมภีร์มุขโรค.... ๑๕๗
๑๓. ตําราอุทรโรคและยาแก้. ๑๕๙
๑๔. คัมภีร์อภัยสันตา ว่าด้วยตาแดงและตาต้อต่าง ๆ ... ๑๖๘
๑๕. ว่าด้วยโรคฝี และยาแก้.... ๑๘๓
๑๖. ว่าด้วยโรคฝี ดาดและยาแก้... ๒๐๗
๑๗. ว่าด้วยโรคผิวหนังและยาแก้... ๒๑๒
๑๘. ว่าด้วยยาแก้พิษสุ นขั บ้าและงูพิษ ๒๑๙
๑๙. ว่าด้วยนํ้ามันใส่ แผล.. ๒๒๒
๒๐. ว่าด้วยโรคริ ดสี ดวงและยาแก้ ๒๒๔
๒๑. ว่าด้วยโรคบวมและยาแก้.. ๒๓๕
๒๒. ว่าด้วยโรคสําหรับบุรุษและอุปทมและยาแก้... ๒๓๗
๒๓. ว่าด้วยโรคนิ่วและยาแก้.... ๒๔๔
๒๔. ว่าด้วยโรคหื ดและโรคอื่น ๆ และยาแก้.. ๒๔๕

ตํานานแพทย์ ไทยแผนโบราณ

คําว่าหมอนั้น หมายถึงผูม้ ีความรู ้ความชํานาญในการแก้ไขและรักษาโรค เรี ยกชื่อตามประเภทของ


ความชํานาญ เช่นผูม้ ีความชํานาญในการรักษาโรค ก็เรี ยกว่าหมอยา ผูท้ ี่มีความรู ้ความชํานาญในการนวด ก็
เรี ยกว่าหมอนวด ดังนี้เป็ นต้น แต่ที่เรี ยกกันเป็ นธรรมดานั้น ผูท้ ี่มีความรู ้ในการใช้ยารักษาโรค ใช้เรี ยกเป็ นคํา
สั้นว่า หมอ เท่านั้น คําว่าหมอนั้นแปลมาจากคําว่า เวช แผลงมาเป็ นแพทย์
แพทย์น้ ีแต่โบราณมีประเภทเดียว แต่บดั นี้มี ๒ ประเภท แจกออกเป็ นแผนโบราณประเภทหนึ่งแผน
ปั จจุบนั ประเภทหนึ่ง แพทย์แผนโบราณเรี ยนตามคําสอนของอาจารย์ แพทย์แผนปั จจุบนั ก็เรี ยนตามคําสอน
ของอาจารย์ซ่ ึ งได้ความรู ้มาจากทางวิทยาศาสตร์
วิชาประเภทใดก็ตาม จะเรี ยนมาจากตําหรับตําราของโบราณ หรื อจะเรี ยนมาจากตําหรับตําราทาง
วิทยาศาสตร์ ก็ตาม พื้นฐานก็ตอ้ งมีผูร้ ู ้ จากของจริ งมาก่อน ตําหรับตําราเหล่านั้นมาเขียนขึ้นภายหลังทั้งสิ้ น
เช่นเรารู ้วา่ บอระเพ็ดมีรสขมนั้น ก็เพราะว่า )มีผเู ้ คยกินบอระเพ็ดมาแล้ว เรี ยกว่ารู ้ตามความเป็ นจริ ง หรื ออิฐที่
ปั้นด้วยดินแล้วมันเป็ นสี แดงนั้น เราก็รู้ได้วา่ แดงเพราะถูกเผาด้วยไฟ หาต้องใช้วชิ าวิทยาศาสตร์ เข้าพิสูจน์แต่
ประการใดไม่
วิ ช าแพทย์ แ ผนโบราณที่ มี ม าแต่ โ บราณติ ด ต่ อ มาจนถึ ง บั ด นี้ นั้ น มี ต ํา นานตามคัม ภี ร์ ท าง
พระพุทธศาสนากล่าวว่า เมื่อโลกได้ต้ งั ขึ้นแล้ว คําว่าโลกหมายถึง ดิน, นํ้า, ไฟ, ลม, และมนุ ษย์กบั สรรพสัตว์
ทั้งหลายตลอดทั้งพืชและแร่ ธาตุต่างๆด้วย ท่านโรคามฤตินทร์ กบั ท่านมหาเถร ชื่อตําแย ผูม้ ีความรู ้แตกฉาน
ในวิชาแพทย์ ได้ประสิ ทธิ์ ประสาธน์คมั ภีร์ว่าด้วย อาการโรคและยาสําหรับรักษาโรคให้มนุ ษย์ท้ งั หลายได้
เล่าเรี ยนและปฏิบตั ิต่อกันมา เมื่อครั้งพุทธกาลได้มีทิศาปาโมกข์ ตั้งสํานักสอนวิชาแพทย์ศาสตร์ อยู่ที่เมือง
ตักกะศิลาในประเทศอินเดียแห่งหนึ่ ง ในครั้งนั้นท่านโกมารภัจจ์ ซึ่ งเป็ นโอรสบุญธรรมของเจ้าชายอภัยราช
กุม าร นัดดาของพระเจ้า พิ มพิ สารมหาราชแห่ งแคว้นมคธ ได้เดิ นทางไปศึก ษาวิช าแพทย์ ณ สํา นักของ
อาจารย์เมืองตักกะศิลา ได้ใช้เวลาเรี ยนอยู่ ๗ ปี เต็ม โกมารภัจจ์ก็เรี ยนวิชาจบหลักสู ตรของอาจารย์ เมื่อเรี ยน
วิชาจบหลักสู ตรของอาจารย์แล้ว อาจารย์ก็สอบความรู ้ โดยให้ถือเสี ยมและกระเช้าออกจากประตูเมื่อไปด้าน
ละ ๑ โยชน์ ประตูละ ๑ วัน สั่งว่าถ้าเห็ นสิ่ งใดที่เป็ นยาไม่ได้ก็ให้เก็บเอามา เมื่อได้ปฏิบตั ิตามคําสั่งครบ ๔
วันแล้ว โกมารภัจจ์จึงนํากระเช้าเปล่าไปหาอาจารย์และรายงานว่า ไม่พบอะไรที่ใช้เป็ นยาไม่ได้เลย ทุกสิ่ งที่
เห็นใช้เป็ นยาได้ท้ งั นั้น อาจารย์รับรองว่า โกมารภัจจ์สําเร็ จวิชาหมอแล้วเป็ นอย่างดี ก็ให้เดินทางกลับได้ ใน
ระหว่างที่โกมารภัจจ์เดินทางกลับนั้น ได้เดินทางไปกิ่งเมืองสาเกต ซึ่ งอยูห่ ่างจากพระนครสาวัตถีประมาณ ๖
โยชน์ ก็ได้รักษาโรคในสมองเรื้ อรังมานานของภรรยาเศรษฐีชาวเมืองสาเกตคนหนึ่ ง ซึ่ งได้เคยใช้หมอคน
นั้นรักษาหมดเงินมามากแต่ไม่หาย โกมารภัจจ์รักษาอยูไ่ ม่นาน โรคของภรรยาของเศรษฐีน้ นั ก็หายเป็ นปกติ
ภรรยาของเศรษฐีได้มอบเงิ นค่ารักษาให้แก่โกมารภัจจ์ ๔,๐๐๐ กระษาปณ์ บุตรชายกับบุตรสะไภ้และสามี
ของนางนําเงินมาสมณาคุณแก่โกมารภัจจ์อีกคนละ ๔,๐๐๐ กระษาปณ์ พร้อมตัวรถม้า ๑ คัน ทาสี ๑ คน ทา

สา ๑ คน เมื่อโกมารภัจจ์เดินทางมาถึงกรุ งราชคฤห์แล้ว ก็เข้าเฝ้าเจ้าชายอภัยราชกุมาร กราบทูลให้ทรงทราบ


ถึงการที่ตนได้ไปศึกษาวิชาแพทย์มาสําเร็ จ พร้อมทั้งได้นาํ เงิน ๑๖,๐๐๐ กระษาปณ์ กับรถม้า ๑ คัน ทาสชาย
หญิงอีก ๒ คน ซึ่ งได้มาจากการรักษาโรคของภรรยาเศรษฐีเมืองสาเกตนั้นถวายเจ้าชายราชกุมาร เจ้าชายอภัย
ราชกุมารทรงมอบ ทรัพย์เหล่านั้นคืนให้แก่โกมารภัจจ์ และทรงอนุ ญาตให้โกมารภัจจ์สถิตย์อยู่ในนิ เวสน์
ภายในวังของพระองค์ดว้ ย ต่อมาโกมารภัจจ์ได้รักษาโรคของคนทัว่ ไปเป็ นอันมาก และต่อมาก็ได้รักษาโรค
ริ ดสี ดวงทวารหนักของพระเจ้าพิมพิสาร ในที่สุดโกมารภัจจ์ได้รักษาโรคริ ดสี ดวงของพระเจ้าพิมพิสารหาย
ได้เป็ นปกติ พระเจ้า พิ ม พิส าร ได้ท รงแต่ ง ตั้งให้โกมารภัจจ์เป็ นนายแพทย์หลวง และเป็ นแพทย์ป ระจํา
พระองค์ดว้ ย และทรงแต่งตั้งให้เป็ นแพทย์ประจําพระองค์พระพุทธเจ้าอีกตําแหน่งหนึ่ ง ทรงประทานเรื อน
หลวงพร้อมทั้งเครื่ องแต่งบ้านอันสมควรทุกประการ มีอุทธยานสวนมะม่วง และมีบา้ นส่ วย ซึ่ งมีรายได้ปีละ
ประมาณแสนกระษาปณ์ให้ดว้ ย
ต่อมานายแพทย์โกมารภัจจ์ ได้ทาํ การผ่ากระโหลกศีรษะเศรษฐี ในเมืองราชคฤห์น้ นั อีก ๑ เศรษฐี
คนนั้นเป็ นโรคในศีรษะมาหลายปี ได้ให้แพทย์คนอื่นรักษามาหลายคนแต่ไม่หาย เมื่อโกมารภัจจ์ไปตรวจดู
อาการโรคของเศรษฐีน้ นั แล้ว ก็เริ่ มลงมือรักษา คือผ่ากระโหลกศีรษะของเศรษฐีเมื่อผ่าแล้วได้นาํ เอาพยาธิ ที่
เป็ นเชื้อโรคออกให้คนดู ๒ ตัว เสร็ จแล้วก็ทาํ การประสานและเย็บกะโหลกศีรษะติดกันและทายาให้ เศรษฐี
นั้นก็หายจากโรคได้เป็ นปกติ ในการผ่ากระโหลกศีรษะ และรักษาเศรษฐี คราวนี้ โกมารภัจจ์ได้เงิ นจาก
เศรษฐี ๒๐๐,๐๐๐ กระษาปณ์
ต่อมาลู กชายเศรษฐีชาวเมืองพาราณสี นครหลวงของแคว้นกาสี ป่ วยเป็ นโรคสําไส้พิการ ซึ่ งอาการ
ให้ป รากฏ คื ออาหารไม่ ย่อย อุ จจาระปั ส สาวะไม่ส ะดวก ทํา ให้ร่า งการซู บ ผอม เศรษฐี ผูน้ ้ ันได้อุตส่ า ห์
เดินทางไปเมืองราชคฤห์ เข้าเฝ้าพระเจ้าพิมพิสารทูลขอให้โกมารภัจจ์ไปรับรักษาลูกของพระเจ้าพิมพิสารก็
อนุญาตให้โกมารภัจจ์ไปรักษาลูกเศรษฐีน้ นั การรักษาเป็ นการยาก เพราะต้องผ่าท้องตรงจุดลําไส้ ในที่สุดได้
ตัดไส้ที่พิการนั้นออก แล้วใส่ ยาเอาไส้เข้าที่เย็บบาดแผลให้เรี ยบร้อยโกมารภัจจ์รักษาลูกเศรษฐีน้ นั หายได้
เป็ นปกติ เศรษฐีได้ให้เงินเป็ นค่ารักษาแก่โกมารภัจจ์ ๑๖,๐๐๐ กระษาปณ์
ต่อมาพระเจ้าจัณฑปั จโชคิ์ กษัตริ ยแ์ ห่ งแคว้นเจดีย ์ มีเมืองอัชเชนี เป็ นนครหลวง ทรงประชวรด้วย
พระโรคปั นฑุโรคาพาธ ร่ างกายเหลือง ไปทั้งพระองค์ (โรคดีซ่าน) ได้ให้แพทย์ที่มีชื่อรักษาแล้วแต่ไม่หาย
ได้หมดสิ้ นค่ารักษาไปเป็ นอันมาก จึงให้ราชทูตเชิ ญพระราชสาส์ นไปถวายพระเจ้าพิมพิสาร ขอให้โกมาร
ภัจจ์ไปรักษา พระเจ้าพิมพิสารได้ทรงอนุ ญาตให้หมอชี วกโกมารภัจจ์ไปรักษา หมอชี วกโกมารภัจจ์ก็รักษา
โรคนั้นหายได้ หมอชีวกโกมารภัจจ์ได้รับพระราชทานรางวัลผ้าสี เวยยอย่างดีมีราคาแพง ๑ คู่
ต่อมาพระผูม้ ี พระภาคเกิ ดมีพระกําลังอ่อนเพลีย เนื่ องจากการผลัดเปลี่ยนอิริยาบถไม่สมํ่าเสมอมี
พระประสงค์จะถ่ายพระนาภี จึงได้รับส่ งให้พระอานนท์เข้าไปเฝ้า เมื่อพระอานนท์เข้าไปเฝ้าแล้วจึงแจ้งพระ
ประสงค์ให้ทราบ เมื่อพระอานนท์ทราบพระประสงค์แล้ว จึงไปหาหมอชี วกโกมารภัจจ์นายแพทย์ประจํา
พระองค์ แล้วเล่ า ความให้ฟังว่า พระผูม้ ีพระภาคมีพ ระอาการไม่ค่อยสบาย ประสงค์จะดื่ มยาถ่าย ขอให้
ประกอบยาถวาย เมื่อหมอชี วกโกมารภัจจ์ทราบดังนั้นก็รําพึงในใจว่า เราจะถวายพระโอสถสามัญย่อมเป็ น

การไม่สมควร เราควรจะทําพระโอสถพิเศษถวาย แล้วหมอชีวกโกมารภัจจ์ได้เก็บเอาดอกอุบลมา ๓ กํา อบ


ด้วยตัวยาอย่างแรงตามตําหรับที่ได้ศึกษามา เมื่ออบยาเสร็ จแล้วก็นาํ ไปถวายพระผูม้ ี พระภาคกราบทูลว่า
ขอให้พระผูม้ ีพระภาคจงโปรดสู ดกลิ่นบัวกําที่หนึ่ งนี้จะทําให้พระองค์ถ่ายพระบังคลหนัก ๑๐ ครั้ง รุ่ งขึ้นให้
สู ดเกลิ่นบัวกําที่สองและกําที่ ๓ จะทําให้ถ่ายพระบังคลหนักอีกวันละ ๑๐ ครั้ง รวมเป็ นสามสิ บครั้งด้วยกัน
เมื่อพระผูม้ ีพระภาคได้ทรงระบายพระนาภีแล้ว ก็มีความสุ ขสบายเป็ นปกติตลอดมา
ต่อมาเมื่อพระผูม้ ีพระภาค ได้ถูกสะเก็ดหิ นที่พระเทวทัตถ์กลิ้งมาเพื่อให้ทบั พระองค์น้ นั กระเด็นมา
ถูกพระบาททําให้หอ้ พระโลหิ ต หมอชีวกโกมารภัจจ์ได้ประกอบยารักษาแผลอีกครั้งหนึ่ ง การรักษาโรคของ
หมอชีวกโกมารภัจจ์หายเป็ นปกติทุกครั้ง นอกจากการรักษาบุคคลสําคัญ ๆ ตามที่กล่าวมานี้ได้รักษาโรคคน
ทัว่ ไปอีกมากมาย นอกจากการรักษาโรคของคนป่ วยแล้ว หมอชีวกโกมารภัจจ์ได้แต่งตําหรับตําราวิชาแพทย์
ไว้เป็ นหลักฐาน ให้ได้เล่าเรี ยนศึกษากันต่อมาอีกด้วย
นายแพทย์ที่มีชื่อเสี ยงดีในประเทศอินเดียในสมัยนั้น นอกจากหมอชี วกโกมารภัจจ์แล้ว ยังมีอีกหลาย
คน คือ
๑. ฤษีภาสทวาชะ
๒. ฤษีธนั วันตริ์
๓. อาจารย์อทรี ยะ แห่งเมืองตักกะศิลา แคว้นคันธาระ
๔. อาจารย์สุสรู ตะ แห่งกรุ งพาราณสี แคว้นการสี ประมาณก่อนพุทธศักราช ๒๔ ปี
๕. หมอจรกะ แห่งกรุ งปุรุษปุระ แคว้นแคชเมียร์ ประมาณ พ.ศ. ๖๖๓ – ๖๙๓
ผูท้ ี่เป็ นอาจารย์ของท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์น้ นั คือท่านอาจารย์อารี ยะ แห่งเมืองตักกะศิลา หมอชี วก
โกมารภัจจ์น้ นั เป็ นชาวกรุ งราชคฤห์แคว้นมคธ เป็ นแพทย์ประมาณก่อนพุทธศักราช ๔๐ ปี
หมอชีวกโกมารภัจจ์ได้ไปทําการรักษาพระเจ้าโทเลมีแห่งอียปิ ป์ อีกพระองค์หนึ่ง
ก่อนที่หมอชีวกโกมารภัจจ์จะเดินทางกลับกรุ งราชคฤห์ เมื่อเสร็ จจากการศึกษาแล้ว ๒-๓ วัน มีชาย
คนหนึ่งวิง่ สะดุดหิ นหกล้มคะมําไปโดยแรง ใกล้หนองนํ้าแห่งหนึ่ ง ศีรษะกระทบหิ น กระโหลกศีรษะบุบ
ถึงอาการสลบ มีคนไปพบเข้าช่วยกันหามมาที่บา้ นอาจารย์ของหมอชี วกโกมารภัจจ์เพื่อให้ช่วยรักษา เมื่อ
อาจารย์ของหมอชีวกโกมารภัจจ์ได้ตรวจบาดแผลแล้วบอกว่าไม่รู้จะรักษาวิธีใด เพราะปรากฏว่ามีเขียดน้อย
ตัวหนึ่งเข้าไปอยูใ่ นแผลนั้น ท่านว่าลําพังบาดแผลนั้นไม่สําคัญนัก ยังมีทางรักษาได้ แต่เจ้าเขียดตัวนั้นถ้าไป
ทําให้มนั ตกใจ มันจะถีบไยประสาทในสมองทําให้ถึงตายได้ พอดีหมอชี วกโกมารภัจจ์ เดินผ่านมาตรงนั้น
อาจารย์จึง เชิ ญ เข้า ไปปรึ ก ษาวิ ธี ที่ จะรั ก ษาและให้เ ขี ย ดตัวนั้นออก หมอชี วกโกมารภัจ จ์ ให้ห าภาชนะ
ปากกว้างใส่ น้ าํ ให้เต็มเปี่ ยมนําไปล่อเขียดตัวนั้น เมื่อเขียดเห็นภาชนะใส่ น้ าํ นั้นเข้า มันก็ค่อยๆ ออกมาแต่โดย
ดี มิได้ทาํ อันตรายแก่ประสาทในสมองนั้นแต่ประการใด เมื่อเขียดออกมาแล้ว ก็ชาํ ระล้างบาดแผลให้สะอาด
แล้วทําการตัดผ่ากระโหลกศีระษะของคนป่ วยนั้น แล้วใส่ ยารักษาต่อไป ทําให้ชายผูน้ ้ นั รอดตายไปได้ ท่าน
อาจารย์เห็นว่าหมอชี วกโกมารภัจจ์มีไหวพริ บดีและมีความสามารถเป็ นที่ไว้วางใจได้ จึงได้มอบเครื่ องมือ
ผ่าตัดให้เป็ นรางวัลไปชุ ดหนึ่ ง และสั่งให้สอนศิษย์ต่อไป ส่ วนตัวท่านอาจารย์ไปรับเชิ ญให้ไปสอนวิชา

แพทย์ที่เมืองจีนต่อไป นานของหมอชี วกโกมารภัจจ์น้ นั ต่อมาในภายหลังเลื่อนมาเป็ นกุมารแพทย์ จะเลื่อน


มาได้อย่างไรไม่ปรากฏตามตํานาน
วิชาแพทย์ได้มีความรู ้ และมีเครื่ องมือผ่าตัดมาแต่โบราณแล้ว หาได้มามีข้ ึนภายหลังนี้ไม่ปรากฏตาม
ตํานานที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น
ทั้งนี้ขอให้แพทย์ท้ งั หลายจงทราบไว้ เพื่อประดับสติปัญญาต่อไป

ฉันทศาสตร์

๏ ข้าขอประนมหัตถ์ พระไตรรัตนนาถา ตรี โลกอมรมา อภิวาทนาการ อนึ่ งข้าอัญชลีพระฤาษีผทู ้ รง


ญาณ แปดองค์ผมู ้ ีฌาน โดยรอบรู ้ในโรคา ไหว้คุณอิศวเรศ ทั้งพรหมเมศทุกชั้นฟ้าสาปสรรค์ซ่ ึ งหว่านยา
ประทานทัว่ โลกธาตรี ไหว้ครู กุมารภัจ ผูเ้ จนจัดในคัมภีร์ เวชศาสตร์ บรรดามีให้ทานทัว่ แก่นรชน ไหว้ครู ผู ้
สั่งสอน แต่ปางก่อนเจริ ญผล ล่วงลุนิพพานดล สําเร็ จกิจประสิ ทธิ พรฯ
๏ จะกล่าวคัมภีร์ฉนั ทศาสตร์ บรรพ์ที่ครู สอน เสมอดวงทินกร แลดวงจันทร์ กระจ่างตา ส่ องสัตว์ให้
สว่าง กระจ่างแจ้งในมรรคา หมอนวดแลหมอยา ผูเ้ รี ยนรู ้คมั ภีร์ไสย เรี ยนรู ้ให้ครบหมดจนจบบทคัมภีร์ใน
ฉันทศาสตร์ ท่านกล่าวไข สิ บสี่ ขอ้ คงควรจํา เป็ นแพทย์น้ ี ยากนัก จะรู ้จกั ซึ่ งกองกรรม ตัดเสี ยซึ่ งบาปกรรม
สิ บสี่ ตวั จึงเที่ยงตรง เป็ นแพทย์ไม่รู้ใน คัมภีร์ไสยท่านบรรจง รู ้แต่ยามาอ่าองค์ รักษาไข้ไม่เข็ดขาม บางหมอก็
กล่าวคํา มุสาซํ้ากระหนํ่าความ ยกตนว่าตนงาม ประเสริ ฐยิ่งในการยา บางหมอก็เกี ยจกัน ที่พวกอันแพทย์
รักษา บางกล่าวเป็ นมารยา เขาเจ็บน้อยว่ามากครัน บางกล่าวอุบายให้ แก่คนไข้น้ นั หลายพรรณ์ หวังลาภจะ
เกิดพลัน ด้วยเชื่ อถ้อยอาตมา บางทีไปเยือนไข้ บ่มีใครจะเชิ ญหา กล่าวยกถึงคุณยา อันตนรู ้ให้เชื่ อฟั ง บาง
แพทย์ก็หลงเล่ห์ดว้ ยกาเมเข้าปิ ดบัง รักษาโรคด้วยกําลัง กิเลศโลภะเจตนา บางพวกก็ถือตน ว่าใช้คนอนาถา
ให้ยาจะเสี ยยา บ่ห่อนลาภจะพึ่งมี บางถือว่าคนเฒ่า เป็ นหมอเก่าชํานาญดี รู ้ยาไม่รู้ที รักษาได้ก็ชื่อบาน กาย
ไม่แก่รู้ ประมาทผูอ้ ุดมญาณ แม้เด็กเป็ นเด็กชาญ ไม่ควรหมิ่นประมาทใจ เรี ยนรู ้ให้เจนจัดจบจังหวัดคัมภีร์
ไสย ตั้งต้นปฐมใน ฉันทศาสตร์ ดงั พรรณา ปฐมจินดาร์ โชตรัต ครรภรักษา อไภยสันตา สิ ทธิ สารนนทปั กษี
อติสารอวสาน มรณะญาณตามคัมภีร์ สรรพคุณรสอันมี ธาตุบรรจบโรคนิ ทาน ฤดูแลเดือนวัน ยังนอกนั้น
หลายสถาน ลักษณะธาตุพิการ เกิดกําเริ บแลหย่อนไป ทั้งนี้เป็ นต้นแรก ยกยักแยกขยายไข กล่าวย่อแต่ชื่อไว้
ให้พ่ งึ เรี ยนตําหรับจํา ไม่รู้คมั ภีร์เวช ห่อนเห็นเหตุซ่ ึ งโรคทํา แพทย์เอ่ยอย่างมคลํา จักขุมืดบ่เห็นหน แพทย์ใด
จะหนีทุกข์ ไปสู่ สุขนิ พพานดล พิริยสติตน ประพฤติได้จึงเป็ นการ ศีลแปดแลศีลห้า เร่ งรักษาสมาทาน ทรง
ไว้เป็ นนิ จกาล ทั้งไตรรั ตน์สรณา เห็ นลาภอย่างโลภนัก อย่างหาญหักด้วยมารยา ใช้น้อยว่าไข้หนา อุบาย
กล่าวให้พึงกลัว โทโสจงอดใจ สุ ขมุ ไว้อยูใ่ นตัว คนไข้ยิ่งคร้ามกลัว มิควรขู่ให้อดใจ โมโหอย่าหลงเล่ห์ ด้วย
กาเมมิจฉาใน พยาบาทแก่คนไข้ ทั้งผูอ้ ื่นอันกล่าวกล วิจิกิจฉาเล่า จงถือเอาซึ่ งครู ตน อย่าเคลือบแคลงอาการ
กล เห็นแม่นแล้วเร่ งวางยา อุทธัจจังอย่าอุทธัจ เห็นถนัดในโรคา ให้ต้ งั ตนดังพระยา ไกรสรราชเข้าราวี อนึ่ ง

โสดอย่างซบเซา อย่าง่วงเหงานั้นมิดี เห็นโรคนั้นถอยหนี กระหนํ่ายาอย่าละเมิน ทิฎฐิมาโนเล่า อย่าถือเอาซึ่ ง


โรคเกิ น รู ้น้อยอย่างด่วนเดิน ทางใครอย่าครรไล อย่าถือว่าตนดี ยังจะมียิ่งขึ้นไป อย่าถือว่าตนใหญ่ กว่าเด็ก
น้อยผูเ้ ชี่ยวชาญ ผูใ้ ดรู ้ในทางธรรม ให้ควรยําอย่าโวหาร เรี ยนเอาเป็ นนิจกาล เร่ งนบนอบให้ชอบที ครู พกั แล
ครู เรี ยน อักษรเขียนไว้ตามมี จงถือว่าครู ดีเพราะได้เรี ยนจึงรู ้มา วิตกั โกนั้นบทหนึ่ ง ให้ตดั ซึ่ งวิตกั กา พยาบาท
วิหิงษากาม ราคในสันดาน วิจาโรให้พินิจ จะทําผิดหรื อชอบกาล ดูโรคกับยาญาณ ให้ตอ้ งกันจะพลันหาย
หิ ริกงั ละอายบาป อันยุ่งหยาบสิ่ งทั้งหลาย ประหารให้เสื่ อมคลาย คือตัดเสี ยซึ่ งกองกรรม อโนตัปปั งบท
บังคับ บาปที่ลบั อย่าพึงทํา กลัวบาปแล้วจงจํา ทั้งที่แจ้งจงเว้นวาง อย่าเกียจแก่คนไข้ คนเข็ญใจขาดในทาง
ลาภผลอันเบาบาง อย่าเกียจคนพยาบาล ท่านกล่าวไว้ใน ฉันทศาสตร์ เป็ นประธาน กลอนกล่าวให้วิถาน ใครรู ้
แท้นบั ว่าชาย ฯ
๏ อนึ่ งจะกล่าวสอน กายนครมีมากหลาย ประเทียบเปรี ยบในกาย ทุกหญิงชายในโลกา ดวงจิตรคือ
กษัตริ ย ์ ผ่านสมบัติอนั โอฬาร์ ข้าศึกคือโรคา เกิดเข่นฆ่าในกายเรา เปรี ยบแพทย์คือทหาร อันชํานาญรู ้ลาํ เนา
ข้าศึกมาอย่าใจเบา ห้อมล้อมทุกทิศา ให้ดาํ รงกษัตริ ยไ์ ว้ คือดวงใจให้เร่ งยา อนึ่ งห้ามอย่าโกรธา ข้าศึกมาจะ
อันตราย ปิ ตตัง คือวังหน้า เร่ งรักษาเขม้นหมาย อาหารอยูใ่ นกาย คือสะเบียงเลี้ยงโยธา หนทางทั้งสามแห่ ง เร่ ง
จัดแจงอยู่รักษา ห้ามอย่าให้ขา้ ศึกมา ปิ ดทางได้จะเสี ยที อนึ่ งเล่ามีคาํ โจทย์ กล่าวยกโทษแพทย์อนั มี ปรี ชารู ้
คัมภีร์ เหตุฉนั ใดแก้มิฟัง คําเฉลยแก้ปุจฉา รู ้รักษาก็จริ งจัง ด้วยโรคเหลือกําลัง จึงมิฟังในการยา เมื่ออ่อนรักษา
ได้ แล้วไซร้ยากนักหนา ไข้น้ ันอุปมา เหมือนเพลิงป่ าไหม้ลุกลาม เป็ นแพทย์พ่ ึงสําคัญ โอกาสนั้นมีอยู่สาม
เคราะห์ร้ายขัดโชคนาม บางทีรู้เกินรู ้ไป บางทีรู้มิทนั ด้วยโรคนั้นใช่วิสัย คนบ่รู้ทิฎฐิใจ ถือว่ารู ้ขืนกระทํา จบ
เรื่ องที่ตนรู ้ โรคนั้นสู ้วา่ แรงกรรม ไม่สิ้นสงสัยทํา สุ ดมือม้วยน่าเสี ยดาย บางทีก็มีชยั แต่ยาให้โรคนั้นหาย ท่าน
กล่าวอภิปราย ว่าชอบโรคนั้นเป็ นดี เห็ นโรคชัดอย่าสงสัย เร่ งยากระหนํ่าไป อย่าถือใจว่าลองยา จะหนี ๆ แต่
ไกล ต่อจวนใกล้จะมรณา จึงหนีแพทย์น้ นั หนา ว่ามิรู้ในท่าทาง อําไว้จนแก่กล้า แพทย์อื่นมาก็ขดั ขวาง ต่อโรค
เข้าระวาง ตรี โทษแล้วจึงออกตัว หิ นชาติแพทย์เหล่านี้ เวรามีมิได้กลัว ทํากรรมนําใส่ ตวั จะตกไปในอบาย
เรี ยนรู ้ คมั ภีร์ไสย สุ ขุมไว้อย่าแพร่ งพราย ควรกล่าวจึงขยาย อย่ายื่นแก้วแก่วานร ไม่รักจะทํายับ พาตําหรั บ
เที่ยวขจร เสี ยแรงเป็ นครู สอน ทั้งบุญคุณก็เสื่ อมสู ญ รู ้แล้วเที่ยวโจทย์ทาย แกล้งอภิปรายถามเค้ามูล ความรู ้น้ นั
จะสู ญ เพราะสามหาวเป็ นใจพาล ผูใ้ ดจะเรี ยนรู ้ พิเคราะห์ดูผอู ้ าจารย์ เที่ยงว่าพิศดาร ทั้งพุทธไสยจึงควรเรี ยน
แต่สักเป็ นแพทย์ได้ คัมภีร์ไสยไม่จาํ เนี ยร ครู น้ นั ไม่ควรเรี ยน จะนําตนให้หลงทางเราแจ้งคัมภีร์ฉนั ทศาสตร์
อันบุราณปาง ก่อนกล่าวไว้เป็ นทาง นิ พพานสุ สิวาลัย อย่าหมิ่นว่ารู ้ ง่ายตําหรับรายอยู่ถมไป รี บด่วนประมาท
ใจ ดังนั้นแท้มิเป็ นการ ลอกได้แต่ตาํ รา เที่ยวรักษาโดยโวหาร อวดรู ้วา่ ชํานาญ จะแก้ไขให้พลันหาย โรคคือครุ
กรรม บรรจบจําอย่างพึงทาย กล่าวเล่ห์อุบายหมาย ด้วยโลภหลงในลาภา บ้างจําแต่เพศไข้ สิ่ งเดียวได้สังเกตมา
กองเลื อดว่าเสมหา กองวาตาว่ากําเดา คัมภี ร์กล่ าวไว้หมด ใยมิจดมิจาํ เอา ทายโรคแต่โดยเดา ให้เชื่ อถือใน
อาตมา รู ้นอ้ ยอย่าบังอาจ หมิ่นประมาทในโรคา แรงโรคว่าแรงยา มิควรถือคือแรงกรรม อนึ่ งท่านได้กล่าวถาม
อย่ากล่าวความบังอาจอํา เภอใจว่าตนจํา เพศไข้น้ ี อนั เคยยา ใช่โรคสิ่ งเดี ยวดาย จะพลันหายในโรคา ต่างเนื้อก็
ต่างยา จะชอบโรคอันแปรปรวน บางทีก็ยาชอบ แต่เคราะห์ครอบจึงหันหวน หายคลายแล้วทบทวน จะโทษยา

ก็ผิดที อวดยาครั้นให้ยา เห็นโรคาไม่ถอยหนี กลับกล่าวว่าแรงผี ที่แท้ทาํ ไม่รู้ทาํ เห็นลาภจะใคร่ ได้ นิ ยมใจไม่


เกรงกรรม รู ้นอ้ ยบังอาจทํา โรคระยําเพราะแรงยา โรคนั้นคือโทโส จะภิญโญเร่ งวัฒนา แพทย์เร่ งกระหนํ่ายา ก็
ยิ่งยับระยําเยิน รู ้แล้วอย่าอวดรู ้ พินิจดูอย่าหมิ่นเมิน ควรยาหรื อยาเกิน กว่าโรคนั้นจึงกลับกลาย ถนอมทําแต่
พอควร อย่าโดยด่วนเอาพลันหาย ผิโรคนั้นกลับกลาย จะเสี ยท่าด้วยผิดที่ (ที ) บ้างได้แต่ยาผาย บรรจุถ่ายจงถึง
ดี เห็นโทษเข้าเป็ นตรี จึงออกตัวด้วยตกใจ บ้างรู ้ แต่ยากวาด เที่ยวอวดอาจไม่เกรงภัย โรคน้อยให้หนักไป ดัง
ก่อกรรมให้ติดกายฯ
๏ จะกล่าวกําเนิ ด ทั้งที่เกิดที่อยู่ ทั้งฤดูเดื อนวัน อายุปันเวลา อาหารฝ่ าสําแลง โรคร้ายแรงต่าง ๆ ยา
หลายอย่างหลายพรรณ สิ้ นด้วยกันเก้ารส จงกําหนดอย่าคลาศ ยารสฝาดชอบสมาน รสยาหวานซาบเนื้ อ รสเมา
เบื่ อแก้พิษ ดี โลหิ ตชอบชม เผ็ดร้ อนลมถอยถด เอ็นชอบรสมันมัน หอมเย็นนั้นชื่ นใจ เจ็ บ( เค็ม )ซาบใน
ผิวหนัง เสมหะยังชอบส้ ม กําเริ มลมที่ อยู่เปื อก ตอมฟู เยือกเย็น เนื้ อหนังเอ็นปู ปลา ย่อมภักษาครามครั น
เสมหะนั้นโทษให้ ที่ อยู่ในชลธาร มันเสพหว่านเนื่ องนิ จ ดี โลหิ ตจําเริ ญ ที่อยู่เถิ นเนิ นผา อาหารฝ่ าเผ็ดร้ อน
อนึ่งสัญจรนอนป่ า เพื่อภักษางู เห่ า กําเริ มเร้ าร้อนรุ ม สันนิบาตกุมตรี โทษ นัยหนึ่ งโสดกล่าวมา ฤดูวา่ เป็ นหก
ท่านแยกยกกล่าวไว้ เดือนหกในคิมหันต์ ควรเร่ งปั นเอากิ่ง แรมคํ่าหนึ่งถึงเพ็ญ เดือนสิ บเป็ นคิมหันต์ กับวสันต์
ฤดู เป็ นสองอยูด่ ว้ ยกัน อย่าหมายมัน่ ว่าฝน บังบดบนยิ่งร้อน พระทินกร เสด็จใกล้ มาตรแม้นไข้สําคัญ เลือดดี
นั้นเป็ นต้น แรมลงพ้นล่วงไป ถึ งเพ็ญในเดื อนยี่อาทิตย์ลีลาศห่ าง ฤดูกลางเหมันต์ กับวสันต์เป็ นสอง นํ้าค้าง
ต้องเยือกเย็น เสมหะเป็ นต้นไข้ แรมลงไปเพียงกิ่ง เดือนหกถึงเพ็ญนั้น เข้าคิมหันต์ระคน เหมันต์ปนสี ปักษ์ ลม
พัดหนักแม้ไข้ กําเริ มในวาตา ซึ่ งกล่าวมาทั้งนี้ ต้นปลายปี บรรจบ ฤดูครบเป็ นหก สี่ เดือนยก ควบไว้ ฤดูใดไข้
เกิด เอากําเนิดวันนั้น เป็ นสําคัญเจ้าเรื อน กําเริ บเดือนนั้นว่า ในเดือนห้า เดือนเก้า เดือนอ้ายเข้าเป็ นสาม เดือน
นี้ นามปถวี เดื อนหกมีกาํ หนด เดื อนสิ บหมดเดื อนยี่ สามเดือนนี้ ธาตุไฟ อนึ่ งนั้นในเดือนเจ็ด เดือนสิ บเอ็ด
เดือนสาม สามเดื อนนามธาตุลม เดื อนแปดสมเคราะห์เดือนสิ บสองเลื่ อนเดือนสี่ สามเดือนนี้ อาโปกําเริ บ
โรคามี เหตุ ท้ งั สี่ กล่าวมา รายเดือนว่าเหมือนกัน อนึ่ งสําคัญลมดี กําลังมีไฟ ธาตุภายในแรงยิ่ง อาโปสิ่ ง
ทั้งหลาย กําเริ บร้ายด้วยเพศ เสมหะเหตุเป็ นตน สันนิ บาตท้นแรงไข้ กําเนิดในปถวี กําเริ บมีกาํ ลัง กําเริ บมี
กําลัง หนึ่งเด็กยังไม่รุ่น ยามเช้าครุ่ นครางไข้ ปฐมวัยพาละ โทษเสมหะพัวพัน หนุ่มสาวนั้นเป็ นไป กําลังใน
โลหิ ต ไข้แรงพิษเมื่อเที่ยง คนแก่ เพียงพินาศ ไข้บ่ายชาติวาตา ไข้เวลากลางคืน เสมหะฟื้ นลมอัคคี สันนิบาต
ตรี โทษา หนึ่ งคลอดมาจากครรภ์ ระวีวนั เสารี เตโชมีเป็ นอาทิ ศะศิครู ปถวี อังคารมีวาโย พุธอาโปศุกร์ ดว้ ย
ธาตุ น้ ี ม ้วยกับ ตน โรคระคนทัว่ ไป ปรึ กษาไข้จงมัน่ ฤดู น้ ันเข้า จับ อายุก ับ เพลา เดื อนวันมาประมวณคง
ใคร่ ครวญด้วยโทษ นัยหนึ่งโสดไข้น้ นั แทรกซํ้ากันบางที วาโยดีเจือกัน เสมหะนั้นกับดี เสมหะมีกบั ลม ใคร่
ให้สมอย่าเบา อย่าฟังเขาผูอ้ ื่น คัมภีร์ยนื่ เป็ นแน่ กําหนดแก้เจ้าเรื อน อายุเดือนวันเพลา กําเริ บมาเป็ นแทรก ไข้
มาแซกอย่ากลัว ถึงมุ่นมัวซบเซา ถ้าไข้เจ้าเรื อนไป ไข้แขกไม่อาจอยู่ อนึ่ งเล็งดูในไข้ พอยาได้จึงยา ไม่รู้อย่า
ควรทํา จะเกิดกรรมเกิดโทษ ฯ
๏ จะกล่าวเพศชี พจรจํา เดือนขึ้นคํ่าฝ่ าบาทา เร่ งรี บให้กินยา ตามตําราสะดวกดี สองคํ่าอยูห่ ลังบาท
อาจสามารถแก้โรคี กิ นยาสะดวกดี ตามคัมภีร์ที่มีมา สามคํ่าอยู่ศีรษะ ชัยชนะแก่โรคา เร่ งถ่ายเร่ งผายยา ดี

นักหนาอย่างสงสัย สี่ ค่าํ ประจําแขน ตามแบบแผนอันพึ่งใจ ผายยามิเป็ นไร โรคใดๆ อันตรธาน ห้าคํ่าประจํา
ลิ้น ยาที่กินแล่ นเฉี ยวฉาน วาโยย่อมกล้าหาญ ขึ้ นตามตนราก อาเจียน หาคํ่าย่อมเรี ยงราย ทัว่ ทั้งกายให้
คลื่นเหี ยน ป่ วนปั่ นให้วิงเวียน ย่อมติเตียนตํารายา เจ็ดคํ่าประจําแข้ง ตามตําแหน่งให้ผายยา ระงับดับวาตา
ในอุราไม่แดกดัน แปดคํ่าอยูท่ อ้ งน้อย ระยําย่อยห้ามกวดขัน กําเริ บทุกข์สาระพัน ตํารานั้นว่ามิติ( ดี ) เก้าคํ่า
ประจํามื้อ เร่ งนับถือเป็ นศุขี ระงับดับโรคี จําเริ ญศรี อายุนา สิ บคํ่าประจําก้น ดีลน้ พ้นต้องตํารา ชะนะแก่โรคา
ดับวาตาถอยลงไป สิ บเอ็ดคํ่าประจําฟัน ซึ่ งห้ามนั้นอย่าสงสัย มักรากลําบากใจ โรคภายในกําเริ บมา สิ บสอง
คํ่าประจําคาง อย่างละวางในตํารา กําเริ บร้ายโรคา อย่าวางยาจะถอยแรง สิ บสามคํ่าอยูข่ าดี อันโรคีไม่ระแวง
ทั้งโรคร้ ายก็หน่ายแหนง อย่าควรแคลงเร่ งวางยา สิ บสี่ ค่าํ ประจําหลัง อย่าพลาดพลั้งเร่ งศึกษา ห้ามไว้ใน
ตํารา ทุเลายาลําบากกาย สิ ห้าคํ่าประจําใจ ท่านกล่าวไว้สําหรับชาย อย่าประจุยารุ ถ่าย อย่ามักง่ายว่าตามมี
แรมคํ่าหนึ่งจําใจใส่ ประจําใต้ฝ่าตนดี สองคํ่าประจําที่ หลังตื่นมีอายุนา สามคํ่าอยูส่ ะดือ อย่านับถือมักรากรา
สี่ ค่าํ อยูท่ นั ตา จะมรณาม้วยบรรลัย ห้าคํ่าประจําสิ้ น ห้ามอย่ากินรากพ้นไป หกคํ่าอยูเ่ ศียรไซร้ ดับโรคภัยสิ้ น
ทั้งปวง เจ็ดคํ่าประจําตัว ย่อมเกรงกลังปะทะทรวง แปดคํ่าว่าหนักหน่วง อยูใ่ นทรวงย่อมจะตาย เก้าคํ่าประจํา
คางเป็ นปานกลางคลื่นลงสาย สิ บคํ่าแขนสบาย ลงง่ายดายเร็ วหนักหนา สิ บเอ็ดคํ่าประจํามือ เร่ งนับถือตาม
ตํารา สิ บสองคํ่าอยู่นาสา หายโรคาอย่าสงสัย สิ งสามคํ่าอยู่กรรณ์ พยาธิ น้ ันสิ้ นสู ญไป สิ บสี่ ค่าํ อยู่ปากไซร้
ห้ามมากไว้สิ้นชีวี สิ บห้าคํ่าอยูค่ อ จงรั้งรอตามวิธี กินยาว่ามิดี ห้ามทั้งนี้ตามตํารา ชีพจรนี้สาํ คัญข้างขึ้นนั้นแล
แรมหนา เหมือนกันดังกล่าวมา จะผายยาดูให้ดี บุราณท่านตั้งไว้ คัมภีร์ไซร้สําหรับมี ดับพยาธิ โรคี อายุยืน
เจริ ญเอย ฯ
๏ บัดนี้ จะกล่าวแถลง ให้รู้แจ้งแห่ งธาตุหนอ สังเขปไว้แต่ยอ่ ๆ พอเป็ นอย่างทางเล่าเรี ยนผูใ้ ดได้พบ
เห็น อย่าล้อเล่นแล ติเตียน ด้วยข้าอุตส่ าห์เพียร จึงได้เขียนเป็ นตํารา จักกล่าวตามลักษณะชื่อรัตนะธาตุท้ งั ห้า
อาจารท่านพรรณา คัดออกมาจากโรคนิทาน ลักษณะนั้นมีหา้ เป็ นธรรมดาแต่โบราณ คือธาตุน้ นั พิการ กําเริ บ
แลหย่อนไป อนึ่งเล่าคือธาตุแตก เป็ นแผนกนับออกไว้ ธาตุออกจากกายไซร้ สังเขปได้หา้ ประการ ฯ
๏ จะกล่าวธาตุปถวี โทษนั้นสี่ สิบสองสถาน อาพาธนั้นบันดาล ให้เจ็บปากแลเจ็บฟัน ผมร่ วงเจ็บใน
สมอง หนังหัวพองขนลุ กชัน เจ็บในก้อนเนื้ อนั้น เจ็บแถวเอ็นแลดวงใจ ผิวหนังแตกระแหง เจ็บทุกแห่ ง
กระดูกใน นาภีน้ นั ปวดเจ็บไป ปถวีไซร้หย่อนแลนา อนึ่ งเล่ากองปถวี กําเริ บมีกาํ ลังมา สิ บสามตามสังขยา
คือนิทราไม่หลับใหล ให้คลัง่ ให้เจ็บอก นํ้าลายตกกระหายไป ให้เศียรร้าวณะภายใน มักโกรธใจให้เจ็บหลัง
ขัดหนักและขัดเบา ท้องนั้นเล่าลัน่ เสี ยงดัง ต่าง ๆ ให้พ่ ึงฟัง เจ็บกระทัง่ ถึงทวารเบา ข้อมือและข้อแขน ตลอด
แล่นเมื่อยขบเอา โทษนี้ ปถวีเล่า อย่าดูเบาสุ ขุมา นัยหนึ่ งเมื่อพิการ ให้เจ็บซ่ านทั้งกายา ท้องนั้นเจ็บหนักหนา
ให้วาตาตีข้ ึนไป ท้องลัน่ เสี ยงต่าง ๆ เสี ยดแทงข้างขบตอดใน โทษนี้ปถวีให้ พิการไซร้จึงวิกล นัยหนึ่งปถวี
ธาตุ เมื่อนิราศออกจากตน เจ็บท้องเป็ นสลวน ท้องขึ้นท้นผอมเหลืองไป สมมุติวา่ ริ ดสี ดวง เพศนี้ ล่วงจักแหน
(แปร)ไป เป็ นองคสู ตไซร้ นํ้ามูตรในเป็ นเลือดหนอง ให้เสี ยดสันหลังไป อาหารไซร้มิอยูท่ อ้ ง ปถวีน้ ี คะนอง
ให้เร่ งยาในห้าวัน ฯ

๏ นัยหนึ่ งปถวีแตก ท่านยกแยกไว้สําคัญ คือโสตทั้งสองนั้น ห่ อนได้ยินเสี ยงเจรจา จักษุท้ งั สองไซร้


รู ปสิ่ งใดห่ อนเห็ นหนา ผิวเนื้ อนั้นหยาบช้า ซี ดสากซาเป็ นอนิ จจัง มีโทษทั้งสามนี้ บังเกิดมีเร่ งระวัง ห้าวันจะ
มรณัง ผูเ้ ป็ นแพทย์อย่านอนใจ ฯ
๏ จักแจ้งอาโปธาตุ เป็ นประหลาดเมื่อหย่อนไป อาการสิ บเอ็ดให้ ดีพลุ่งไซร้แลเสมหา บุพโพก็ลาม
ไหล โลหิ ตไซร้บงั เกิดมา ขนชันทัว่ กายา เกิดนํ้าตาให้ลามไหล เสโทแลนํ้าเบา เขฬะเล่าเกิ ดมากไป กําเดามัก
ตกไหล มักเป็ นไข้เกิดพิการ ฯ
๏ อนึ่ งเล่าอาโป ไซร้กาํ เริ บให้โทษสิ บเอ็ดสถาน ให้เบื่อรสอาหาร นํ้าตาตกปวดศิรา ข้อมือแลข้อเท้า
ให้เมื่อยเล่ามักนิ ทรา ระหายนํ้าเป็ นมหา วิงเวียนหน้าตัวสั่นไป ให้สะอึกนอนไม่สนิ ท หวาดหวัน่ จิตรสะดุง้
ไหว คํานึ งถึงดอกไม้ รําพึงไปถึงกิเลศกาม เท่านี้เป็ นสิ บเอ็ด กล่าวสําเร็ จแต่ใจความ เรี ยนรู ้ เร่ งไต่ถาม จึงควร
นับว่าแพทย์ดี หนึ่ งเล่าเมื่อพิการ สามสถานให้เกิ ดมี ขัดเบาแลนาภีข้ ึนพองแลนํ้าพิการ อาโปเมื่ออันตราย
ออกจากกายแปรสถาน ให้จุกแน่นเป็ นดานส่ วนที่ลงก็ลงไป ขัดหนักแลขัดเบา เจ็บหัวเหน่าให้หลงไหล ตก
เลือดตกหนองใน ปวดมวนไปเป็ นนานา บางคาบท้องนั้นผูก กลิ้งเป็ นแดกขึ้นมา ให้เสี ยดสองซ้ายขวา ยากที่
ยาจะแก้ไข โรคนี้บุราณกรรม เพศนั้นทําจักแปรไป จัดขัดหัวเข่าให้ เจ็บท่องคูท้ ้ งั สองเป็ น อนึ่ งธาตุอาโปแตก
ท่านยกแยกไว้ให้เห็ น อาการเฉพาะเป็ น เกิ ดวิบตั ิให้ขดั เบา ลิ้นแข็งลิ้นแห้งไป ตัวเย็นไซร้พร้อมกันเข้า ทั้งสี่
ประการเล่ายังห้าวันจะมรณา ฯ
๏ จักกล่าววาโยไซร้ เมื่อหย่อนไปให้โทษมา สิ บสามตามสังขยา คือวาตาวิบตั ิไป มักถอนใจใหญ่นกั
หาวเรอมักผายลมใน เป็ นลมท้นท้องให้ กระบัดไปร้อนหนาวนา ให้ร้อนในทรวงอก กายสั่นงกเท้าหัตถา ลม
แล่นทัว่ กายา เท้าหัตถานั้นตายไป ลมพัดต้องดวงจิตร ลมทําพิษให้คลัง่ ไคล้สิบสามโทษนี้ ให้ วาโยไซร้ผ่อน
หย่อนลงวาโยกําเริ บคะนอง โทษสิ บสองอาการตรง ลิ้นแข็งคอแห้งผลกระหายนํ้าเขม่นตา ขนพองสยองเกล้า
ฟั นคลอนเล่าขัดนาสา อาหารไม่นาํ พาเท้าหัตถานั้นเย็นไปฟั นแห้งปากแห้งเล่า จักนับเข้าสิ บสองไซร้ วาโย
กํา เริ บให้ เร่ ง แก้ไ ขกํา เริ บมา วาโยพิ ก ารเล่ า เมื่ อท้องเปล่ าอาเจี ยนหนา บางคาบอิ่ มข้าวปลา จึ ง อาเจี ย น
คลื่นเหียนไป ห้องนั้นคลอนลมอยู่ พิเคราะห์ดูโทษนี้ไซร้ วาโยพิการให้ ท่านกล่าวไว้เป็ นสําคัญ วาโยออกจาก
ตน เกิ ดวิกลสองหู น้ นั ให้หนักแลติ งครั น หิ งห้อยนั้นออกจาตา ให้เมื่อยสองหัวเข่า จะเป็ นเล่ าตะครัวหนา
จับโปงโป่ งขึ้นมา เจ็บขัดทรวงเสี ยวปวดไป มักแปรเป็ นฝี เอ็น ร้ อนแลเย็นกระบัดให้ สันหลังเมื่อยขบไป
วาโยไซร้ออกจากกาย วาโยเมื่อแตกเล่า หายใจเข้าน้อยไปหาย ใจออกมากระบาย ห่ อนรู ้จกั สมปฤดี กลางคืน
แลกลางวัน จักษุน้ นั มืดมึนสี โทษสองประการนี้ ยังสองวันจะมรณา ฯ
๏ พรรณาเตโชไซร้ เมื่อหย่อนไปให้โทษมา ให้ขดั ในอุรา ให้แสบไส้ให้ตวั เย็น จะนอนไม่สบาย พลิก
ขวาซ้ายวิบตั ิเห็น ต่างๆ เพื่อให้เป็ น มิใคร่ หลับสนิ ทนาน ครั้นหลับสะดุง้ ไหว กายนั้นให้มกั รําคาญ มักอยาก
กินอาหารของสดคาวเป็ นนานา อาหารกินน้อย ๆ หิ วบ่อย ๆ หลายเพลา อาการสิ บนี้นา เร่ งรู ้ไว้ให้ชดั เจน ใน
เมื่อเตโชธาตุ วิปลาศกําเริ บเป็ น โทษสิ บประการเห็น ให้ฟันแห้งปากแห้งไป ไม่นึกอยากอาหาร นอนแล้ว
คร้านลุกขึ้นให้ เจ็บสู งมืดมัวไป นํ้าตาไหลไอแห้งเปล่า พอใจอยูท่ ี่เปลี่ยว อยูผ่ ูเ้ ดียวอย่ารุ มเร้า เจรจาแล้วลืมเล่า
ให้เจ็บเร้าระบมกาย เตโชเมื่อพิการท้องขึ้นพล่านไม่สบาย ท้นท้องมิรู้หาย เป็ นมงคร่ อแลหื ดไอ ขัดอกบวมมือ

เท้า โทษนี้ เล่ าเหตุเพราะไฟ พิการเร่ งแก้ไข ตามท่านไว้สรรพยา เตโชออกจากกาย ให้ร้อนปลายเท้าหัตถา


เจ็บปวดเป็ นพิษมาดังเขี้ยวงาขบตอดตน แปรไปให้บวมเล่า หลังมือเท้าปวดสุ ดทน แปรไปผุดทั้งตน เป็ นเม็ด
แดงแลดํามีแล้วจมลงทําท้อง ตกเลือดหนองแก้จงดี มือเท้าทั้งสองนี้ ให้เป็ นเหน็บชาตายไป โรคนี้ ให้เร่ งแก้ดู
ให้แน่ อย่านอนใจ จะเสี ยมากกว่าได้ เร่ งแก้ไขแต่อ่อนมา อนึ่ งเล่าเตโชแตก ท่านยกแยกโทษไว้ห้า ปากแห้ง
แข็งชิวหา เลือดตกหน้าตาแห้งไป ห่ อนรู ้จกั หน้ากัน หายใจสั่นสะท้อนใน ผิวโทษโทษเช่ นนี้ ไซร้ ยังสามวัน
จะมรณา ฯ
๏ อากาศธาตุ แตกนั้น ให้หู ล ั่นกรอกกลอกตา แลดู นิ้ วแลหัตถา ห่ อนปรากฏจัก ษุ ตน โทษสอง
ประการนั้น ยังสองวันชีวาตน จักดับถึงอับจน กล่าวไว้แท้แน่ตาํ รา ฯ
๏ กลหนึ่งลักษณะธาตุ เมื่อนิราศจากอาตมา เตโชเจ็ดวารา เร่ งวางยาแก้ไขกัน ปถวีเมื่อออกจาก แก้ไข
ยากแต่ห้าวัน มิฟังพ้นกว่านั้น โรคแปรผันเข้าอวสาน วาโยออกเล่าไซร้ เร่ งแก้ไขแต่เจ็ดวาร มิทุเลาเบาอาการ
เข้าอวสานท่านกล่าวไว้ อาโปเมื่อออกซ่ าน สิ บเอ็ดวันเร่ งแก้ไขโดยที่คมั ภีร์ใน ท่านกล่าวไว้ให้แจ้งใจ อากาศ
เมื่อออกนั้น แก้แต่วนั เดียวนั้นไซร้ ยามหนึ่ งพึงจําไว้เป็ นฉบับโบราณมา จะกล่าวลักษณะธาตุ ท่านกล่าวขาด
ถึงอวสาน ล้มใช้ได้ตรี วาร ให้เชื่อมมึนไม่สมประดี อาหารกินมิได้ ปิ ดหนักไว้ถ่ายหลายที ไม่ลงสะดวกดี กลับ
คลื่นเหียนไม่ฟังยา ลักษณะโทษทั้งนี้ ธาตุปถวีเป็ นมหา อาการสิ บวารา สิ บเอ็ดวันเข้าอวสาน ฯ
๏ ล้มไข้ได้สามวัน แลสี่ วนั มีอาการ หาวเรอรากอาหาร นอนสะดุง้ ไม่สมประดี ให้เพ้อละเมอคว้า มัก
เจรจาพูดด้วยผี เท้าเย็นมือเย็นมี โทษทั้งนี้เพราะวาตา จะเสี ยส่ วนหนึ่งๆ หนึ่ งได้แก้เย็นไซร้มีร้อนมา อาการสิ บ
วารา เก้าวันถึงอวสาน ฯ
๏ ล้มข้าได้สามวัน แลสี่ วนั ทิ้งอาหาร ให้ลงมากเหลือการ อยูด่ ีๆ ฉู ดลงไป ลางทีตกเสมหัง โลหิ ตงั ตา(
ตก )ลามไหล ทั้งสองทวารใน แล้วให้รากโลหิ ตา ลักษณะอาโปธาตุ ย่อมร้ายกาจไม่ฟังยา เจ็ดวันอย่าฉันทา
อยากการคาดถึงอวสาน ฯ
๏ ล้มข้าได้สามวัน แลสี่ วนั มี อาการ ให้ร้อนสองสถาน ร้ อยภายนอกแลภายใน พรมนํ้าอยู่บ่วาย ให้
ระหายนํ้าเหลือใจ คอแห้งถึงทรวงใน ให้คลัง่ ไคล้ไม่สมประดี ให้เมื่อยทัว่ ทั้งตน ดุจคนมารยามี กิริยาเหมือน
หนึ่ งผี ภูตแลพรายประจําใจ ให้อยากของแสลง ผิดสําแลงแล้วหนักไป ห้าวันอย่าอาลัย โทษนี้ ไซร้ไม่ฟังยา
เข้าอวสานเร่ งพินิจ แพทย์พ่ งึ พิจารณา ตักเสี ยอย่ารักษา เตโซธาตุสาํ แดงการ อนึ่งอากาศธาตุน้ นั ในสองวันเป็ น
ประมาณ มิฟังเข้าอวสาน แพทย์พิจารณ์ชาํ นาญเอย ฯ
๏ จะกล่าวธาตุท้ งั สี่ ในคัมภีร์ยอ่ มมีมา กุลบุตรมีปัญญา อันน้อยค่อยกําหนดฟั ง เตโชพิการกาล กําเนิด
โทษวาโยบัง เกิดจุกแลเสี ยดหลัง จะหายใจบ่อิ่มใจ บวมมือแลบวมเท้า อาหารเล่ากิ นมิได้ ตั้งแต่จะลงไป จน
สุ ดสิ้ นกําลังโรย ครั้นสิ้ นอาหารใน อุทรให้กระหายโหย หิ วนํ้าระยําโดย อุจจาระพิการเป็ น ดังหนึ่ งนํ้าล้างเนื้อ
กลิ่นนั้นเจือก็แม้นเหม็น ตะพาบนํ้าอันคาวเป็ น กําเนิ ดไฟอันสิ้ นไป ปากแห้งแลคอแห้ง เหตุเพื่อแห่ งอาหารใน
อุทรนั้นสิ้ นไป นํ้าลายขาดบ่คา้ งคอ เอามือนั้นบ้ายยา จงล้วงดูในลําสอ ถ้าเย็นเป็ นเหน็บต่อ จะตายในเมื่อวัน
เย็น ฯ
๑๐

๏ วาโยพิการนั้น ให้หูตึงกําเนิ ดเป็ น นํ้าหนวกอันไหลเหม็น ไม่เห็นไฟนัยน์ตาฟาง เมื่อยมือแลเมื่อยเท้า


สันหลังฟกก็ดูพาง ฝี เอ็นกําเริ บลาง บ้างก็อวกอาเจียนลม บ้างลงจนสิ้ นแรง อาหารแดงในอาจม สิ้ นไส้ก็เพื่อลม
ในลําไส้จะหนี กาย ครั้นหน่วงด้วยคุณยา ที่ลงมาค่อยห่ างหาย กลับรากลําบากกาย เป็ นดังนี้ ดว้ ยแรงกรรม อาการ
ที่กล่าวมา เจ็ดวันว่าจงควรจํา ยายากจะยายํา โทษนี้แท้กาํ หนดตาย ฯ
๏ อาโปให้โทษนั้น ที่แท้ท่านกําหนดหมาย ดีเลือดเสลดทาย ทั้งสามนี้ท่านกล่าวมา ฯ
๏ จักกล่าวดี ก่อนให้ปรา กฎโดยโทษา ให้แจ้งประจักษ์โดยมี จักตายเหตุน้ นั คือดี แตกรั่วบางที ซึ ม
ซ่านแลล้นไหลไป ล้นนั้นด้วยโทษแห่งไฟ กําเริ บหนึ่งใน อสรพิษฤทธิ์ ยา ต้องกายกาย ร้อนดังกา ยาต้องอาญา
วิบากด้วยท่าโบยตี ตกต้นไม้สูงตับดี แตกรั่วบางที ผีร้ายแลโทษซางกาฬ ขึ้นดีข้ วั ตีอติสาร ดีรั่วอาการ ให้ลงแล
เหลื องทั้งกาย คนไข้ให้ปากเราะราย โทษมากมาย ให้บ่นพะเพ้อพึมไป โทษนี้ ยากยากแก้ไข เต็มช้าจักไป
กําหนดแต่เจ็ดวันวาร ดี แตกดี น้ ันคื อกาฬ จักสิ้ นสุ ดปราณ เมื่อแตกอย่าได้ควรแคลง โทษโลหิ ตนั้นสําแลง
อาหารแสลง เผอิญให้ร่วงลงไป ครั้นสิ้ นสุ ดอาหารใน ลงเป็ นนํ้าใส ระคนด้วยเลือดจาง ๆ บ้างเป็ นบิดปวดมวน
คราง แน่นหน้าอกพาง พินาศด้วยรากลมทํา จับนิ่งแน่เท้ามือกํา ตัดอาหารทํา ให้ชดั ให้ชอ้ นเหลือกตา ถ้าพร้อม
ด้วยโทษกล่าวมายากแพทย์จะรักษา จะยานั้นยากควรจํา เสมหะหนึ่ งอยูใ่ นลํา คอหนึ่ งประจํา ในทรวงแลย่อม
เต็มทรวง อยูท่ วารหนักหนึ่ งทั้งปวง เป็ นสามคือยวง หยากเยื่อแลย่อมพัวพัน ถ้าไฟลมกล้านักมันข้นแค่นแข็ง
ขัน ให้หย่อนให้ยอ้ ยลงไป จากทรวงตั้งอยูย่ งั ใน ท้องมารกะไษยดังบ้างแลม้ามตัวมีให้จบั เชื่ อมมึนบางที เป็ น
เวลามี ให้จุดให้เสี ยดขบแทง เสมหะในทวารสําแดง โทษมันนั้นแรง ให้ลงแลเหลืองทั้งกาย มูตรตาเหลืองยาบ่
มิคลาย เมื่อจักใกล้ตาย ก็เน่าเป็ นบิดปวดมวน เสมหะในลําคอกวน กินอาหารชวน ให้เหี ยนให้รากครุ่ นไป
โทษพร้อมดังกล่าวมาใน นี้จงแจ้งใจ จะยานั้นยากสุ ดยา ฯ
๏ ปถวีโทษกล่าวมา ออกจากกายา กระดูกแลเนื้อเส้นเอ็น อาหารเก่าหากให้เห็น อาการที่เป็ น วิบตั ิที่
ในอาหาร ถึงป่ วยไข้มาช้านาน ห่อนสิ้ นอาหาร อันเก่าแต่ก่อนเดิมมา เมื่อจักสิ้ นอายุปรากฏลงออกมา ให้เน่า
แลเหม็นสาธารณ์ เป็ นเลือดเป็ นหนองพิการ เสมหะสัณฐาน คือมูลมุสิกร่ วงราย บ้างดําบ้างเขียวเหลืองลาย สี
นั้นย่อมทาย ว่ามูลขี้เทาตกลง เนื้อนั้นคือปลีแขนชงค์ เมื่อจักปลดปลง ชี วิตก็ห่อนเห็นหาบ กระดูกย่อมอยูใ่ น
กาย ครั้นเมื่อจักตาย ก็ผอมเหี่ ยวแห้งรู ปทรง บังเกิดเห็นอิฐปลง สังเวชดูคง สัณฐานแลกลมเหลี่ยมแบน ชี พ
จรแต่ก่อนห่ อนแคลน เดิ นอยู่ตามแผนระริ กระรัวพัวพัน สิ้ นแรงจักสิ้ นอาสัญ สิ้ นเส้นสําคัญ สิ้ นชี พจรเคย
เดิน โทษใครดังนี้เผอิญ จักตายไม่เกิน กําหนดในสามเจ็ดวัน ฯ
๏ จะสําแดงสมุฎฐาน กําหนดกาลที่เกิดไข้ ท่านตั้งไว้ประการสี่ ตามคัมภีร์ศิริมานนท์ ให้นรชนพึงรู ้
สังเกตดูเพลากาล วันหนึ่ งท่านแบ่งสี่ ยาม คืนหนึ่ งตามยามมีสี่ กลางวันมีโมงสิ บสอง กลางคืนร้องเรี ยกว่าทุ่ม
แม้นประชุ มทุ่ มเข้าสาม เรี ยกว่ายามเหมื อนกัน ถ้ากลางวันสามโมงเล่ า ท่ านับเข้าว่ายามหนึ่ ง ขอท่านพึ่ง
กําหนดเถิด ยามเช้าเกิดแต่เสมหัง ยามสองต้องด้วยโลหิ ต ยามสามติดเพื่อดี ตกยามสี่ เพื่อวาตา ครั้นเพลาพลบ
คํ่า ยามหนึ่ งทําด้วยกองลม ยามสองระดมดีซึมซาบ ยามสามอาบด้วยโลหิ ต ยามสี่ ติดด้วยเสมหะ สมุฎฐาน
ดังกล่าวมา จงวางยาแทรกกระสาย เสมหะร้าย แทรกด้วยเกลือ นํ้านมเสื อใส่ ประกอบ โลหิ ตชอบกระสาย
เปรี้ ยว ดีสิ่งเดี ยวชอบรสขม ฝ่ ายข้างลมชอบเผ็ดร้อน แพทย์จงผ่อนตามเวลา กระสายยาแทรกพลันหาย จะภิ
๑๑

ปรายในเรื่ องรส เปรี้ ยวปรากฏเคยสําเหนี ยก ส้มมะขามเปี ยกฝั กส้มป่ อย เปรี้ ยวอร่ อยนํ้าส้มส้า ขมธรรมดา
บอระเพ็ดกระดอมขมเป็ นจอมดีงูเหลื อม เผ็ดพอเอื้อมขิงดีปลี พิมเสนมีให้ใส่ แทรก อนึ่ งเค็มแปลกนอกจาก
เกลือ รู ้ไว้เผื่อแก้ไม่หยุด มูตรมนุ ษย์เปลือกลําภู สองสิ่ งรู ้เถิดเค็มกร่ อย อ่านบ่อย ๆ ให้จาํ ได้ จะได้ใช้แทรกจูง
ยา ในตําราป่ วงแปดประการ ตามคัมภีร์โบราณ ซึ่ งท่านแต่ก่อนกล่าวเอย ฯ

ว่ าด้ วยไข้ ตักกะศิลา


๏ ข้าไหว้พระพุทธ พระธรรมบริ สุทธิ์ พระสงฆ์บริ พาร บิดามารดา ครู บาอาจารย์ ขอแต่งนิ ทาน
เมืองตักกะศิลา ขอให้มีไชย ชะนะแก่ภยั โรคะโรคา กล่าวกลอนสอนไว้ ตามในตํารา เมืองตักกะศิลา ครั้งห่ า
ลงเมือง พระฤาษีเมตตา เห็นเวทนา ฝูงคนตายเปลือง จึงไว้ตาํ รา มีมาตามเรื่ อง เป็ นบุญไปเบื้อง หน้าชัว่ กัลปา
ถ้าแรกล้มไข้ ท่านมากล่าวไว้ ให้พิจารณา ภายนอกภายในให้ร้อนหนักหนา เมื่อยขบกายา ตาแดงเป็ นสาย
บ้างเย็นบ้างร้อน เป็ นบั้นเป็ นท่อน ไปทัว่ ทั้งกายขึ้นมาให้เห็น เป็ นวงเป็ นลาย บางคาบเป็ นสาย เป็ นริ้ วยาวรี
ลางบางไม่ข้ ึน เป็ นวงฟกลื่นกายหมดดิบดี หมอมักว่าเป็ น สันนิบาตก็มี ให้ยาผิดที แก้กนั ไม่ทนั อย่าเพิ่งกินยา
ร้อนแรงแข็งกล้าส้มเหล้านํ้ามัน เอาโลหิ ตออก กอกเลือดนวดพัน ปล่อยปลิงมิทนั แก้กนั เลยนา ถ้ายังไม่รู้ ให้
แก้กนั ดู แต่พรรณฝูงยา เย็นเป็ นอย่างยิ่ง ขมจริ งโอชา ฝาด จืดพืชยา ตามอาจารย์สอน ถ้าจะใคร่ รู้ เอาเทียน
ส่ องดู ให้รู้แน่นอน ถ้ายังมิข้ ึน เร่ งกินยาถอน กระทุง้ ขึ้นก่อน อาบพ่นจนเห็น ถ้าทําสิ้ นจบ มิข้ ึนตระหลบ กิน
ตับซ่อนเร้น ต่อเมื่อมรณา ขึ้นมาให้เห็น ดังก้านเผือกเป็ น เขียวขาวแดงมี ลางบางเล่าไซร้ ไม่เจ็บไม่ไข้ อยูอ่ ยู่
ดีดี ขึ้นมาให้เห็น สองสามราตรี จึงไข้ก็มี อย่าให้รักษา ถ้าว่าล้มไข้ ลงก่อนเล่าไซร้ สองสามวันมา ผุดขึ้นให้
เห็น ดําเขียวขึ้นมา ท่านให้รักษา แต่งยาติดตามถ้าว่าออกดํา ขึ้นเขียวชํ้าชํ้า ดุจดังสี คราม รายทัว่ กายา ดังสี หว้า
ห่าม ลางคาบขึ้นคล้าม สี อย่างจิงจํา เติบเท่านิ้วชี้ สองนิ้วก็มี เรี ยกว่าออกดํา พิเคราะห์ให้แท้ แน่แล้วจึงทํา ยา
แก้ออกดํา ทําตามตํารา ฯ
๏ ๑. ถ้าว่าออกแดง สี น้ นั เป็ นแสง ดุจชาดหยอดทา ผุดขึ้นมาเล่า เม็ดเท่าถัว่ งา สองนิ้วหัตถานิ้วหนึ่ งก็
มี ถ้าใช้สะท้าน ร้ อนหนาวครั่นคร้ าน มิได้ยื่นที่ ถ้าผุดขึ้นมา เท่าสะบ้าก็มี ลักษณะดังนี้ เรี ยกว่าปานดําแดง
เป็ นวงกลมอยู่ บอกไว้ให้รู้ ปานดําพิษแรง ขึ้นแต่ครึ่ งขา ว่าไว้ให้แจ้งเป็ นตายคลางแคลง แบ่งเท่ากันมา ถ้า
ตลอดถึ งเท้า เป็ นกรรมของเขา แล้วอย่าสงกา ร้ อยหนึ่ งรอดคน เป็ นพ้นปั ญญา ปานแดงท่านว่า ลักษณะ
เหมือนกัน ขึ้นซ้ายชายหย่อน พิษมันนั้นอ่อน กว่าปานดํานั้น ให้เร่ งรักษาหาแพทย์ขยัน เร่ งเยียวยากัน อย่าได้
ไว้ใจ ฯ
๏ ๒. ถ้าไข้ครั่นตัว แลให้ปวดหัว อย่าได้สงสัย ว่าดาวเรื องนั้น ยังดั้นอยูใ่ น เหมือนโคมตามไว้ ให้
พิจารณา เห็นดังหยอดชาด พร้อย ๆ ประหลาด ไปทัว่ กายา พิเคราะห์เห็นแน่ แท้แล้วจึงยา ตามในตํารา ท่าน
มากล่าวไว้ ฯ
๏ ๓. ถ้า ไข้ส ะท้า น ร้ อนหนาวครั่ นคร้ า น เสี ย วซ่ า นทัว่ ไป ละเมอเพ้อพํา รํ่า รี ร่ ํา ไร ดุ จดัง ผีไ พร
ถูกต้องแลนา ตัวตี( ตีน )เย็นซํ้า มือกําตีนกํา บิดเบือนกายา เป็ นสายโลหิ ต ติดในลูกตา ให้ร้อนนักหนา ดุ จ
เปลวไฟลน ว่าไข้รากสาด ผุดขึ้นประหลาด ดําแดงขาวปน ดุจดังก้านเผือก กลิ้งเกลือกสับสน ยากินยาพ่น แก้
๑๒

ให้ถูกที่ ถ้าเห็นปรากฏ ดังก้านเผือกสด ดําแดงขาวมี ถ้าดําพิษแรง กว่าแดงขาวสี พิเคราะห์ให้ดี แต่งยาตาม


ทาง ฯ
๏ ๔. ยอดดําเชิงขาว อาจารย์ท่านกล่าว ไว้เหล่าหลายอย่าง ชื่อว่าตะมอย พิษค่อยเบาบาง ฯ
๏ ๕. ถ้าฟกบวมบ้าง ชื่อมะเร็ งทูมนา ฯ
๏ ๖. ถ้าเห็ นเป็ นแถว รี รีเป็ นแนว เกี่ยวก่ายไปมา ชื่ อสังวาลย์พระอินทร์ หญิงซ้ายชายขวาขึ้นต้อง
ตํารา ตายอย่าสงสัย ชายซ้ายหญิงขวา อาจารย์ท่านว่า มิพอเป็ นไร พอเยียวยาคลาย ค่อยหายค่อยไป หยูกยา
เตรี ยมไว้ ให้ถูกทํานอง ฯ
๏ ๗. ใช้หนึ่ งเล่านา ขึ้นสองต้นขา เขียวขึ้นเป็ นหนอง ลางบางอย่างสี ลูกหว้างอมงอม พิษนั้นพาน
ถ่อม ชื่อกระดาน( กระดานหิ น )ยังไม่ปอกก่อน แก้ได้โดยถวิล ถ้าลอกปอกแหล่ ตายแท้อย่าหมิ่นบอกไว้ให้
สิ้ น อย่าได้ฉงน ฯ
๏ ๘. ถ้าดูเห็นคลํ้า อย่างลูกจิงจํา เป็ นเงาในตน ชื่อมหาเมฆแล เร่ งแก้ขวายขวน เห็นจะอับจน ตามแต่
บุญนา ฯ
๏ ๙. อาจารย์กาํ หนด ชื่ อหงษ์รันทด มันผุดขึ้นมา ดังไข่ปลากราย รายทัว่ กายา ลิ้นกระด้าง ปากอ้า
คางแข็งสลบไป ถ้ายังอ่อนอยู่ หาท่านผูร้ ู ้ ช่วยแปรแก้ไข ถลอกปอกหมู สุ ดรู ้จนใจ เกรี ยมดังไฟไหม้ ประกาย
คาดเหมือนกัน ฯ
๏ ๑๐. จันทรสู ตรกําหนด ผุดขึ้นดังผด แขนทั้งสองนั้น ท่านให้เร่ งแก้ ยาแปรจงพลัน ถ้ารู ้เท่ามัน มิ
พอเป็ นไร ฯ
๏ ๑๑. ถ้าขึ้นยอดแหลม เล็กเล็กขึ้นแซม เป็ นเหล่าๆ ไป นิ้วหนึ่ งสองนิ้ว อย่าได้สงสัย จะบอกชื่อไว้
ระบุชาดแลนา ฯ
๏ ๑๒. ถ้าเห็ นเป็ นแถว รี รีเป็ นแนว ดําแดงลงมา ชื่อสายฟ้าฟาด ร้ายกาจนักหนา เร่ งรัดหยูกยา ตาม
บุญตามกรรม ฯ
๏ ๑๓. ชื่ อไฟเดื อนห้า พิษแรงแข็งกล้า แดงแล้วกลับดํา ชื่ อนั้นแปรไป ไฟฟ้าจงจําแก้สีที่ดาํ แดงได้
ไม่ตาย ให้เป็ นต่าง ๆ ชักปากเบี้ยวบ้าง ให้คางคลาดคลาย ชักตาแหกเหิ น ให้เร่ งขวนขวายแปรยาให้ผาย เห็น
ไม่มรณา ฯ
๏ ๑๔. ถ้าเป็ นแผ่นไป หัวเล็กเล็กไซร้ เป็ นเหล่าขึ้นมา มักเมื่อยกระดูก ทุกทัว่ กายา บิดกายซ้ายขวา
เขฬาเหนียวให้ ชื่อข้าวไหม้นอ้ ย พิษพานจะถอย พอเยียวยาคลาย ฯ
๏ ๑๕. ถ้าเห็นสี เหลือง มือเท้าขวาซ้าย หน้านั้นเหลืองคล้าย เหมือนดอกบัวขม มักให้เป็ นบิดปวด
เป็ นโลหิ ต เน่าให้สะสม จําจะบรรลัย เพราะกาฬมูตรจม กินตับทับถม มิรู้วา่ เป็ นบิดนา ฯ
๏ ๑๖. ลางไข้วปิ ริ ต ตกเป็ นโลหิ ต ทั้งเก้าทวาร มิได้เจ็บไข้ ตกเลือดออกมา จงเร่ งรักษาอย่าได้ไว้ใจ
๏ ๑๗. ลางบางเป็ นขด ให้เห็นปรากฏชักกลมเข้าไป แล้วชักหงายแหงน หลังแอ่นขึ้นให้ลม้ ลงทันใจ
เพศไข้นานา ฯ
๑๓

๏ ๑๘. ไข้สี่ประการ โดยดังอาจารย์ ท่านไว้ตาํ รา มันย่อมแกมไข้ ผุดผื่นขึ้นมา กระโดงศิลา กระโดง


จํ้า กระโดงไฟ กระโดงแกลบครบสี่ จะบอกตามที่ ยังมิเข้าใจ กระโดงหิ นให้เชื่ อม นอนนิ่ งแน่ไป มิลุกขึ้นได้
ทั้งคื นทั้งวัน กระโดงไฟร้ อนพ้น ดังเอาไฟลน ร้ อนมิเท่ากัน กระโดงแกลบนั้น คันพ้นอภิปราย เหลื ออด
เหลือกลั้น เกาจนเลือดนั้น ติดเล็บบ่หาย กระโดงนํ้านั้น กลางคืนกลางวัน มิรู้สึกกายอายุวนั หนึ่ ง จะถึงความ
ตาย ให้แพทย์ท้ งั หลาย พึ่งรู ้เล่ห์กล ชื่ อฟองสมุทรา ถ้าผุดขึ้นมา สี เขียวมัวมน ถ้าขึ้นจากอก ตกที่อบั จน ชาย
ขวาหญิงซ้าย เร่ งให้ขวายขวน เห็นจะอับจน อย่าได้ไว้ใจชายซ้ายหญิงขวา อาจารย์ท่านว่า ไม่พอเป็ นไร ถ้า
เห็นดําดํา ดุจดังถ่านไฟ เทียมเนื้ อไรไร เติบเท่าเมล็ดงา ชื่อมหานิล อย่าได้ดูหมิ่น เร่ งแปรหยูกยา แต่บรรดา
ไข้ ในตักกะศิลา ให้พิจารณาขึ้นร้ายขึ้นดี ขึ้นอกขึ้นหน้า ตาที่(ตกที่)ร้ายหนา แปรยาจงดี แก้ตามทํานอง ให้
ต้องคัมภีร์ แปรร้ ายเป็ นดี ก่อนอย่านอนใจ อาจารย์กาํ หนด ให้แต่งโอสถ กระทุง้ ภายใน แล้วพ่นยานอก ให้
ออกจนได้ ปรากฏแล้วไซร้ พิษจึงระเหย จึงไม่กินไส้ กินตับปอดได้ ท้องไม่ร่วงเลย ประทับสําคัญ ก่อนนั้น
อย่าเฉย กินยาตามเคย แปรร้ายเป็ นดี พิเคราะห์ตามไข้หนักเบาอย่างไร อย่าให้เสี ยที ทําตามทํานอง ให้ตอ้ ง
พิธี พิเคราะห์ให้ดี จึงมีเดชา รากเท้ายายม่อม มะเดื่อทุมพร อีกรากคนทา ชิ งชี่ น้ าํ นอง ให้ตอ้ งตํารา ปู่ เจ้าเขา
เขียว หญ้านางแลนา ยาศิริสรรพยาให้เอาเสมอกัน ต้มให้กินก่อน ตกถึงอุทร ออกสิ้ นทุกพรรณ ท่านตีค่าถึง
ตําลึงทองนั้น ทําเถิดขยัน กลัน่ แกล้งกล่าวมา ยาพ่นภายนอก กระทุง้ ให้ออก มานอกกายา หญ้านางใบมะขาม
วัลย์เปรี ยงเอามา ดินประสิ วแทรกยา พ่นผุดทันใจ เห็นแท้แล้วเล่า เอารากปั กเข้า ขี้กาแดงใส่ แทรกดินประ
สิ ว พ่นผิวลงไป กินยาภายในเสี ยก่อนแลนา เอาใบมะผู ้ มะเมียทั้งคู่ มะยมให้หา มะเฟื องมะกรู ด มะนาวแล
นา คนที่สอมา หญ้าแพรกปากควาย มะตูมเอาใบ ขมิ้นอ้อยไซร้ ศิริยาทั้งหลาย เสมอภาคหมด บดปั้ นละลาย
นํ้า ซาวข้า วกิ นหาย แปรร้ ายเป็ นดี พ่นแปรนอกนา เองรัง หมาร่ า ที่ร้า งแรมปี หญ้าแพรกปากควาย ใบ
มะเฟื องมีสี ศิริยาทั้งนี้ เท่ากันบรรจง บดปั้ นแท่งละลาย ซาวข้าวเป็ นกระสาย ขวนขวายใส่ ลงพ่นแปรแก้ยา้ ย
หายดังจํานงค์ เป็ นดีโดยจง ให้พ่อนสามครา แต่งยาครอบไข้ สาระพัดแก้ได้ ไข้ตกั กะศิลา จันทน์แดงจันทน์
ขาว ใบสวาดหัวคล้า ง้วนหมูคงคา สะแกจิงจํา ฟักเข้าเข้าไหม้ ฟักหวาน(ผักหวาน)บ้านไซร้ พิมเสนแทรกนํา
หญ้านางมะนาว สู เจ้าจงจํา เสมอภาคเอานํ้า ซาวข้าวละลาย เป็ นยาภายใน กินประจําข้า(ประจําไข้) กว่าจะ
ถอยคลาย ระวังแต่กาฬ จะเกิดมากมาย ทั้งหญิงทั้งชาย อย่าได้ไว้ใจ ฯ
๏ หมอเอ๋ ยจงฟังสาร บุราณท่านได้กล่าวมา เป็ นแพทย์ไม่ศึกษา ฉันทศาสตร์ ให้เรื อง รมย์ไม่รู้กาํ เนิด
ไข้ แต่ยาได้ก็ชื่นชม รักษาด้วยอารมณ์ ประโยชน์ลาภอันพึงใจ หมอนั้นท่าน เปรี ยบปานดังตาบอดกําเนิดใน
ดันถือทิฏฐิใจ ไม่เห็นโทษในกองกรรม วางยาแต่คราวเดียว ไม่ตอ้ งโรคยับระยํา ดังโตมราตํา ตลอดยอดอุระ
ใน ยาผิดเป็ นสองครั้ง ดังยกทุ่มเข้ากองไฟ ถ้าวางยานั้นผิดไปคํารบถ้วนเป็ นสามครา ดังต้องอสุ นิสาย มาฟาด
กายให้มรณา กายยับด้วยพิษยา กําเริ บโรคทวีไป หมอนั้นครั้นสิ้ นชนม์ จะไปทนกําเนิดใน นรกอันยิ่งไฟ ทั้ง
ไหม้น้ าํ ทองแดงมี หมู่นายนิ รยบาลประชุ มเชิญด้วยยินดี เครื่ องโทษบรรดามี จะยกให้เป็ นรางวัล เป็ นแพทย์
จงเพียรเรี ยน ให้รอบรู ้จงครบครันที่อยูฤ่ ดูวนั อายุปันแลเวลา สําแลงแลสงไข้ โรคอันใดจะเป็ นมา รู ้ใช้ให้รู้ยา
รักษาตามกําเนิดใน กาดําประจําโรค โรคดังกาอันตาไว เงือดเงื้อธนูไป ก็หลีกหลบด้วยเร็ วพลัน ยายิ่งธนูปาน
สิ งหราชก็เพียงกัน โรคดังมฤควัญญ์ จะลี้ลบั หลบไปเอง โรคมีตามพงษา เป็ นเวลาบุราณเพรง โทษกําหนด
๑๔

เกรง จะยายากด้วยแรงกรรม แพทย์ใดชํานาญรู ้ กําเนิดโรคแลยายํา ยาไข้ดว้ ยใจธรรม เที่ยงแน่แท้ในทางบุญ


ทั้งลาภก็ยิ่งลาภ แลทั้งคุณก็ยิ่งคุ ณ ทําบุญก็ได้บุญ ประเสริ ฐเลิศวิชาชาญ จักเป็ นที่เสน่หา ถ้วนทุกหน้าย่อม
กราบกราน ไกลใกล้ก็ไม่นาน จะไปสู่ ไปง้องอน เป็ นที่จะสรรเสริ ญ เจริ ญใจทั้งให้พร ครั้นถึงซึ่ งม้วยมรณ์ จะ
ได้ไปในเมืองสวรรค์ เสวยทิพย์สิ่งสุ ข แสนสนุกทุกวีว่ นั คัมภีร์ท่านรําพรรณ ประกาศไว้แต่หลังมา ฯ
๏ เสร็ จสิ้ นข้าขอพร ทุ กไทยเทพย์เทวา สุ รารักษ์อนั รักษา สถิตทัว่ ทุกขอบขัณฑ์ สาครสิ งขร ชาติ
เครื อลดาวัลย์ภูมิพ้ืนพนาสัณฑ์ ทุกถิ่นถํ้าลําเนาธาร เชิญช่วยข้าดับเข็ญ ให้เย็นสุ ขเกษมสาร ศัตรู ที่ภยั พาล ให้
เสื่ อมสู ญครรไลยไกล ใครเห็นให้จงพิศ สวาทชิ ดภิรมย์ใจ รักยิ่งเสมือนสนิทเนื้ อแลพงษ์พนั ธุ์ ผลข้าได้แต่ง
ไว้ ไปภายหน้า ข้าขอทัน องค์พ ระเมตไตรยอัน ได้โปรดข้า ในควร ข้ามฝั่ ง ยัง ห้องแก้ว พระนิ พพานอย่า
แปรปรวน เมื่อยังจะเที่ยวทวน อยูใ่ นชาติกนั ดาร ขอบิดามารดร ยิง่ ด้วยศฤงคาร เมียมิตรแลบุตรหลาน ให้รัก
ร่ วมหฤทัยกัน ขอข้าอย่ามีโรค หนวกบอดพิการอัน บ้าใบ้ทุกสิ่ งสรรพ์ กระเทยง่อยแลสตรี เป็ นชายให้เรื องรู ้
รสธรรมพระคัมภีร์พุทธฉันทศาสตร์ ศรี ให้เจนจบชํานาญใจ ขอข้ากําลังยิ่ง อายุยืนปั ญญาไว ให้มีเมตตาไป
แก่ทวั่ ทุกสรรพพรรค์ เกิดไหนให้เป็ นแพทย์ อย่ารู ้มีผเู ้ ทียมทัน โรคสิ้ นทุกสิ่ งสรรพ์ ให้รอบรู ้กาํ เนิ ดสรรพคุณ
ทั้งพื้นภพ ทุกสิ่ งจบบรรดายา ให้บอกด้วยภาษา จะแก้ตีอนั ใด ๆ จิตรเจตนาใน ให้สําเร็ จทุกครั้งครา อนึ่ งคน
พยศถ่ อย หฤทัยโทษอันพาลา ให้พน้ ในพงษา ญาติมิตรสนิ ทเรี ยง เกิ ดไหนให้ไกลห่ าง ประเทศต่างภาษา
เสี ยง รู ปรอยแลนามเรี ยง อย่าได้ยลได้มิตรยินมา อนึ่ งข้าขอมีแลศรัทธาทุกเพลา ขอเกิดในศาสนา ตราบเท่า
พระนิพพานเอย ฯ

ว่ าด้ วยธาตุต่าง ๆ ในร่ างการของมนุษย์


ร่ างกายของมนุษย์เรานี้ มีธาตุประชุมกันอยู่ ๔ ธาตุ คือ
๑. ธาตุปถวี (ธาตุดิน)
๒. ธาตุอาโป (ธาตุน้ าํ )
๓. ธาตุวาโย (ธาตุลม)
๔. ธาตุเตโซ (ธาตุไฟ)

ธาตุปถวี (ธาตุดิน) แยกออกเป็ น ๒๐ อย่าง


๑. เกศา ผม เป็ นเส้นงอกขึ้นบนศีรษะ
๒. โลมา ขน เป็ นเส้นงอกขึ้นทัว่ ร่ างกาย
๓. นขา เล็บ งอกขึ้นที่ปลายนิ้วมือปลายนิ้วเท้า
๔. ทันตา ฟัน กระดูกงอกขึ้นที่เหงือกในปาก
๕. ตโจ หนัง ๆ ที่หุม้ อยูท่ วั่ ร่ างกาย
๖. มังสัง เนื้อ มีอยูใ่ ต้หนังทัว่ ร่ างกาย
๗. นหารู เส้นเอ็น มีทวั่ ไปในร่ างกาย
๑๕

๘. อัฐิ กระดูก เป็ นแท่งอยูใ่ นร่ างกาย


๙. อัฐิมิญชัง เยือ่ ในกระดูก
๑๐. วักกัง ม้าน มีอยูใ่ นทรวงอก
๑๑. หทยัง หัวใจ เป็ นก้อนเนื้ออยูภ่ ายในทรวงอก
๑๒.ยกนัง ตับ เป็ นชิ้นเนื้อละเอียดอยูภ่ ายในทรวงอก
๑๓. กิโลมกัง พังผืด เป็ นเยือ่ เหนียวมีอยูภ่ ายในของร่ างกาย
๑๔. ปิ หะกัง ไต เป็ นชิ้นเนื้อมีอยูภ่ ายในช่องท้อง
๑๕. ปั บผาสัง ปอด เป็ นเนื้อชิ้นอ่อนยุน่ มีอยูภ่ ายในทรวงอก (เป็ นถุงสําหรับเก็บลมหายใจ)
๑๖. อันตัง ไส้ใหญ่ มีอยูภ่ ายในท้อง
๑๗. อันตคุณงั ไส้นอ้ ย หรื อสายรัดไส้
๑๘. อุทริ ยงั อาหารที่กินเข้าไปใหม่
๑๙. กรี สัง อาหารเก่าที่เป็ นคูธ
๒๐. มัตถเก มัตถลุงคัง เยือ่ ในสมองศีรษะ

ธาตุอาโป (ธาตุน้ าํ ) แยกออกเป็ น ๑๒ อย่าง


๑. ปิ ตตัง นํ้าดี นํ้าดีมี ๒ อย่าง คือ พัทธปิ ตตะ นํ้าดีในฝัก อพัทธปิ ตตะ นํ้าดีนอกฝัก
๒. เสมหัง เสลด มี ๓ อย่างคือ ศอเสมหะ มีอยูท่ ี่หลอดคอ อุระเสมหะ มีอยูใ่ นทรวงอก คูธเสมหะ มีอยู่
ที่ช่วงทวารหนัก
๓. บุพโพ นํ้าหนอง มีอยูท่ วั่ ไปในร่ างกาย
๔. โลหิ ตงั นํ้าเลือด มีอยูท่ วั่ ร่ างกาย
๕. เสโท นํ้าเหงื่อ
๖. เมโท นํ้ามันข้น มีอยูใ่ นร่ างกาย
๗. อัสสุ นํ้าตา
๘. วสา นํ้ามันเหลว มีอยูใ่ นร่ างกาย
๙. เขโฬ นํ้าลาย เป็ นนํ้าออกมาทางใต้ลิ้น
๑๐. สิ งฆานิกา นํ้ามูก เป็ นนํ้าข้น ๆ ออกทางจมูก
๑๑. ลสิ การ( ลสิ กา ) นํ้ามันไขข้อ
๑๒. มุตตัง นํ้ามูตร (นํ้าปั สสาวะ)

ธาตุวาโย (ธาตุลม) แยกออกเป็ น ๖ อย่าง


๑. อุทธังคมาวาตา ลมพันขึ้นเบื้องบน (ทําให้ผายลมได้)
๒. อัทโธคมาวาตา ลมพักลงบื้องตํ่า (ทําให้เรอได้)
๑๖

๓. กุจฉิ สยาวาตา ลมพัดอยูใ่ นท้องนอกลําไส้


๔. โกฎฐาสยาวาตา ลมพัดในลําไส้แลในกระเพาะ
๕. อังคมังคานุสารี วาตา ลมพัดไปทัว่ ร่ างกาย
๖. อัสสาสะปั สสาสะวาตา ลมหายใจเข้าออก

เตโชธาตุ (ธาตุไฟ) แยกออกเป็ น ๔ อย่าง


๑. สันตัปปั คคี ไฟทําให้ร่างกายอบอุ่น
๒. ปริ ทยั หัคคี ไฟทําให้ร้อนระสํ่าระสาย ซึ่ งต้ออาบนํ้าแลพัดวี
๓. ชีรณัคคี ไฟเผาให้ร่างกายเหี่ ยวแห้งทรุ ดโทรมแก่ครํ่าคร่ า
๔. ปริ นามัคคี ๆ ย่อยอาหารที่เรารับประทานเข้าไปให้แหลก

ธาตุท้ งั ๔๒ ประการนี้ ที่มีวกิ ารบ่อย ๆ นั้นมี ๓ กอง คือ


ปิ ตตะสมุฏฐาน ๆ อาพาธด้วยดี เสมหะสมุฏฐานๆ อาพาธม้วยเสลด วาตะสมุฏฐานๆ อาพาธด้วยลม
สันนิปาติกา อาพาธด้วยโทษประชุมกันทั้ง ๓ ประการ ชื่อว่าสันนิบาต
ธาตุท้งั ๓ กองนี้ มักจะวิการเสมอ ถ้าฤดูวปิ ริ ตไปเมื่อใด ธาตุ ๓ กองนี้ก็วกิ ารไปเมื่อนั้น
ปิ ตตะสมุฏฐานนั้น จัดไว้เป็ น ๒ คื อ พัทธปิ ตตะ และอพัทธปิ ตตะ พัทธปิ ตตะนํ้าดี ที่อยู่ในฝั ก ถ้า
วิการเมื่อใดย่อมทําให้ใจขุ่นมัว คลัง่ เพ้อวิกลจริ ตไป อพัทธปิ ตตะ นํ้าดีที่ซาบซ่านอยู่ทวั่ ร่ างกายนั้น ถ้าวิการ
ขึ้นเมื่อใดย่อมทําให้ปวดศีรษะแลตัวร้อน สะท้านร้อนสะท้านหนาว จับไข้ ดังนี้เป็ นต้น
เสมหะสมุฏฐาน ท่านจัดไว้เป็ น ๓ คือ สอเสมหะ อุระเสมหะ คูธเสมหะ
สอเสมหะ เสลดในลําคอ ถ้าวิการเมื่อใดย่อมทําให้เป็ นหืดเป็ นไอ เจ็บคอ ๆ แห้งเป็ นต้น
อุระเสมหะ เสลดในทรวงอก ถ้าวิการเมื่อใดย่อมทําให้ผอมเหลือง เป็ นดาน เป็ นเถา มีการแสบใน
อก เป็ นต้น
คูธเสมหะ เสลดในลําไส้ตอนช่วงทวารหนัก ถ้าวิการเมื่อใดย่อมทําให้ตกอุจจาระเป็ นเสมหะเป็ น
โลหิต สามัญชนสมมุติวา่ เป็ นมูกเลือด เป็ นบิด หรื อเป็ นริ ดสี ดวง เป็ นต้น
วาตะสมุฏฐาน ท่านจัดไว้เป็ น ๒ คือ สุ ขมุ วาตะ โอฬาริ กะวาตะ
สุ ขุมวาตะ เป็ นลมกองละเอียด เมื่อวิการย่อมทําให้ลมจับดวงใจ มีอาการอ่อนเพลียสวิงสวายเวียน
ศีรษะ หน้ามืดเป็ นต้น
โอฬาริ กะวาตะ เป็ นลมกองหยาบ ถ้าวิการย่อมทําให้จุกเสี ยด ให้แน่นเฟ้อ ให้ปวดท้องเป็ นต้น
๑๗

ว่ าด้ วยอาการเจ็บป่ วยของของร่ างกายและยาแก้


๏ หนึ่งเล่าจะกล่าวสาร โรคนิทานเป็ นเค้ามูลสาธกเพื่อเกื้อกูล ในเรื่ องธาตุดินต่อไป นิทานโกมารภัจ
เรี ยบเรี ยงจัดตกแต่งไว้ หวังสื บอนาคตไกล กุลบุตรได้เรี ยนวิชา
จะให้รู้ซ่ ึ งหมู่โรค แห่งฝูงโลกเกิดศิลาน์ กลัวจะน้อยร่ อยวิทยา ด้วยพฤฒาผูเ้ ฒ่าตาย
จะไต่ถามซึ่ งกาละเม็ด ไม่สิ้นเสร็ จโรคทั้งหลาย วิทยาก็เสื่ อมคลาย เพราะเหตุน้ ีจึงกล่าวไว้
วายชนเราทั้งผอง จัดเป็ นกองสี่ วสิ ัย มหาภูตะรู ปใน พระวิภงั ค์ชื่อปะระมัถ
ยกออกบอกสําแดง ให้เห็นแจ้งกระจ่างชัด ตามคัมภีร์พระจัด ว่าธาตุดินยีส่ ิ บกอง
เกศาโลมาขน ตลอดจนมัทถลุงสมอง ผูเ้ รี ยนให้ตรึ กตรอง ดังตําหรับบังคับมา
อาโปสิ บสองนั้น ตั้ง ปิ ตตัง เป็ นปะถะมา ตราบเท่าจนอะวะสา ถึ ง มู ตรดังเป็ นอวสาน ธาตุน้ าํ สิ บสองสิ่ ง
แห่งชาติหญิงทัว่ จักรวาล เตโซคือไฟกาล มีสี่กองในกายเรา
มีนามตามบัญญัติ ในปะระมัถพึงจําเอา สันตัปปั คคีเล่า คือไฟธาตุอุ่นกายคน
ปริ นามัคคีซ่าน รสอาหารไปทัว่ ตน ปริ ทยั หัคคีลน สกนธ์กายให้คลายชื่น
อัญชะระนัคคีโสด มักทําโทษให้โหดหื น ทําลายให้คลายคืน คือครํ่าคร่ าชะราแก่
เป็ นกองไฟธาตุสี่ ตามบาลีฉะนี้แท้ ลมหกหากให้แปร โรควิบตั ิต่าง ๆ เป็ น
ลมหนึ่งชื่ออังคะ พัดแต่เท้ายะเยือกเย็น ตลอดเศียรบ่วา่ งเว้น เป็ นนิรันดร์ อยูอ่ ตั รา
ลมหนึ่งชื่ออะโท แต่ศิโรพัดลงมา ตราบเท้าปลายบาทา เป็ นที่สุดวิถีลม
หนึ่งลมชื่อโกฎฐา ในครรภาพัดนิยม กุจฉิ ยาพัดระงม นอกไส้น้ นั อยูเ่ ป็ นนิจ
คืออังคะมังคา ทัว่ กายาเที่ยวสถิตย์ อัสสาสะไม่เพี้ยนผิด คือหายใจเข้าออกเรา
สิ้ นลมหกดังวิถาน จงชํานาญอย่าดูเบา เป็ นแพทย์อย่าโฉดเขลา หมัน่ ตรึ กตรองในตํารา
อันธาตุท้ งั สี่ น้ ี เลี้ยงอินทรี ยท์ ุกชะนา หนุ่มแก่ไม่เว้นหนา ธาตุท้งั สี่ มีเหมือนกัน
เมื่อธาตุดีไม่วบิ ตั ิ สาระพัดชื่ นชุ่มมัน ผุดผ่องทั้งสี สัน ทั้งกําลังว่องไวดี
เมื่อวิบตั ิทนเทวศ ดูทุเรศซบเศร้าศรี เกิดโรคเข้ายายี ในอาการสามสิ บสอง
ธาตุสี่เกิดวิบตั ิ ตัดอินทรี ยท์ าํ ลายกอง แต่สิ่งหนึ่งหม่นหมอง พอเยียวยามิเป็ นไร
ถ้าห้าถึงหกแล้ว ดุจแก้วเกิดฟองไฝ จะเยียวยาย่อมยากใจ ถึงแม้นคลายไม่เหมือนเก่า
ชนม์เข้าถึงเก้าสิ บ ถึงยาทิพย์กินเสี ยเปล่า คงจะตายแต่บนั เทา โทษเสี ยดแทงเพราะคุณยา ฯ
๏ เบื้องนี้จะย้อนกล่าว ซึ่ งมูลโทษแห่งดินนา ปถวีคือเกศา เมื่อวิการฉะนี้เจียว
ให้คนั ทุกขุมเกษ คันเป็ นเหตุไปทีเดียว ผิจะเสี ยก็แสบเสี ยว มักให้เจ็บสมองเศียร
มักเป็ นขี้รังแค บางทีแลหงอกอาเกียรณ์ ให้ขาวไปทัว่ เศียร ว่าเป็ นพยาธิ อนาถตา
บางทีกิมิชาติ ชื่อพะละวาต บ่อนเกศา บ้างเป็ นเห็นเวทนา เกศาร่ วงเป็ นฝอยขุย
ทั้งนี้โทษธาตุดิน จึงเกิดฉิ นร่ วงระหุ ย บ้างแข็งแห้งหลุดลุ่ยโกร๋ นหล่นล่อนเห็นเวทนา
เป็ นแพทย์พ่ ึงพิเคราะห์ แต่จาํ เพาะโทษเกศา วิธีแห่งโรคา ตามตําราฉะนี้มี
ให้เอาซึ่ งทางตาล ลนสังหารเปลวอัคคี บิดนํ้าถ้วยหนึ่งดี ทั้งใบครามขมิ้นอ้อย
๑๘

หญ้าแพรกนํ้ามันงา สิ่ งละถ้วยแต่นอ้ ย ๆ หุ งคงนํ้ามันย้อย ปรุ งดีกาดีกานํ้า


ดีตะพาบนํ้าประสม จึงทาผมหงอกดําขํา ที่ขาวก็กลับดํา ตามตําหรับบังคับนา ฯ
๏ หนึ่งเล่าจะกล่าวขน ขึ้นทัว่ ตนเรี ยกโลมา เมื่อวิกลเกิดคิลาน์ ให้เจ็บทัว่ สาระพางค์
ให้เจ็บทัว่ ขุมขน ในกมลให้หมองหมาง วิบตั ิเป็ นต่าง ๆ ให้ขนลุกแลขนแสยง
ผิแพทย์เห็นฉะนี้ ดุจคัมภีร์ท่านสําแดง ผูแ้ พทย์อย่าพึ่งแคลง แก้โทษขนวิกลนา
เอารากส้มป่ อยนะ ลูกมะกรู ดรากพุดรา ข่าแดงต้มกินนา แก้เกศาโลมาหาย ฯ
๏ หนึ่งเล่านักขาเล็บ เมื่อจะเจ็บโทษมากมาย ให้วกิ ารระสํ่าระสาย มักให้เจ็บเล็บชํ้าดํา
บางทีก็ช้ าํ เขียว เจ็บปวดเสี ยวฟกบวมลํ่า เป็ นตะมอยหัวเดือนซํ้า ชํ้าเลือดหนองร้องรําคาญ
บางทีให้ปวดขบ เจ็บกัดกบจําทรมาน หนองชอนบ่อนรําคาญ จนเล็บกุดหลุดห้อเหี้ ยน
บางทีฝีดาวเด็ด เกิดเป็ นเม็ดเจ็บพ้นเพียร แสนโศกโรคเบียดเบียน ยกนิ้วชูดูสงสาร
เล็บมือแลเล็บเท้า เมื่อราญร้าวดังอาการ แพทย์ดูรู้ชาํ นาญ แต่งสรรพยาตามคัมภีร์
ให้เอาใบชะมดอ้าง แลลางบางว่าฝ้ายผี ข้าวสุ กเอาโชนดี ขมิ้นอ้อยแลยาดํา
ดินประสิ วใส่ สักหน่อย พอกตะมอยวิเศษลํ้า มิหายแพทย์พ่ ึงทํา เอาไข่เป็ ดลูกหนึ่งมา
เอาแต่ไข่ขาวสิ้ น เคล้าปูนกินแห่งเรานา พอกตะมอยรัดโรคา อันตรายไม่คืนเป็ น
ภาคหนึ่งใบผักปลัง ข้าวสารทั้งหัวบานเย็น ขมิ้นอ้อยบดพอกเล่น เย็นห้ามพิษประสิ ทธิ์ สูญ ฯ
๏ ทันตากล่าวทํานอง สามสิ บสองเป็ นเค้ามูล พิการให้อาดูร ทนเทวศมิเสบย
บางทีกาํ เริ บคลอน หนอนบ่อนรากหักเฉย ๆ บางปวดกระไรเลย แสนสุ ดทนก่นแต่คราง
เหงือกฟกฟูลาํ ลาบ บางคาบเลือดไหลเป็ นทาง บางทีเหงือกบนล่าง เขียวฟกล้นไปทั้งปาก
เลือดออกทุกๆ ซี่ บ้างเป็ นฝี ข้ ึนในราก หนองฟกฟูมวิบาก อยากอาหารพาลขืนกลืน
บางทีคลอนย้ายโยก พะหงับโงกบ่ยงั่ ยืน กินอาหารก็แข็งขืน กลืนกลับเจ็บด้วยจําเป็ น
อันโรคในทันตา เวทนาสุ ดแสนเข็ญ เมื่อกําเริ บวิการเห็น ปวดเศียรเสี ยวตลอดสมอง
มือกุมซึ่ งลูกคาง ให้ครวญครางปวดเศียรร้อง กว่าจะเหื อดพิษเลือดหนอง ร้องครางรํ่าไปจนคลาย
บางทีเป็ นกรามงอก บ่อา้ ออกเจ็บใจหาย กุมคางครางบ่วาย แสนทะเวทด้วยเพศฟัน
บางทีฟันล้วนเลือด ไหลบ่อเหื อดเป็ นนิรันดร์ ฝูงโรคสมมุติกนั เรี ยกลักกะปิ ดกะเปิ ดนา
ลักกะปิ ดนั้นเลือด เหลว ไหลรวดเร็ วเชี่ยวออกมา ลักกะเปิ ดท่านกล่าวว่า ออกพอพอกพัวรากฟัน
บางทีฝีรํามะนาด กัดเหงือกขาดไปทุกวัน จนทะลุถึงนอกนั้น สมมุติกนั ว่าฝี รากกราม
โรคทันตาน่าสังเวช เป็ นหลายเพศที่เกิดความ แสนเจ็บแสนสิ้ นงาม จําใจครางไปจนคลาย
แพทย์เห็นอาการนั้น โรคทันตาดังนี้หมาย ประกอบยาดูยกั ย้าย ตามเล่ห์ซ่ ึ งคัมภีร์มี
ที่ทาํ ให้ฟันมัน่ ยาสําคัญมีฉะนี้ ดังโบราณกล่าวคดี วิธีโรคดังว่ามา
ใบทีสอเอาที่สด เกลือไพลบดทั้งสามนา ให้พอกที่ทนั ตา แก้ปวดฟกที่ช้ าํ หาย
ขนานหนึ่งเป็ นยาดี เปลือกสารภีพิกุลหมาย เปลือกกล้วยป่ าตะเคียนขาย กับทั้งเกลือให้เค็มจัด
ต้มอมแก้ระมะนาด อันอาพาธเกิดวิบตั ิ ขนานนี้ดีสันทัด ตามโบราณท่านทํามา
๑๙

หนึ่งผักเบี้ยน้อยบอก แต่ดอกตํากับเกลือนา ตองห่อปิ้ งสุ กหนา พอกฟกฟันพลันปวดสู ญ


หนึ่งดีหมูเถื่อนขม ยางลัน่ ทมเป็ นเค้ามูล เข้ากันกวนคุลีคูณ คนเข้ากันตากนํ้าค้าง
เช้า ๆ ให้พ่ งึ สี ตื่นนิททรี อย่าพึ่งล้าง ถึงคลอนโยกโงกง้าง ก็กลับมัน่ จนวันตาย
ผูใ้ ดแม้นได้ทาํ ทุกวันรํ่าจะหายสบาย ทันตากําเริ บร้าย หายแม่นมัน่ อย่ากังขา
คนที่สอหาใบ เก็บมาไว้ขา้ งไสยา พอนอนตื่นก็เอื้อมคว้า ใส่ ปากเคี้ยวอมอย่าพูด
หนึ่งทําจงทุกวัน คลอกแล้วมัน่ ไม่มีหลุด วีธีน้ ีหา้ มหยุด พูดเกลือกตัวจะไม่หาย
หนึ่งยาใส่ ฟันมัน่ วิเศษครันคุณมากมาย โดยตําหรับท่านบรรยาย เอายางข่อยกับนํ้าชี่
ทั้งนํ้าเปลือกรกฟ้า สิ่ งละถ้วยเท่ากันดี กวนตากแสงสุ รีย ์ ตามวิธีโบราณมา
จึงเอาหนังแรดแห้ง หนังโคแดงเผาอย่าช้า บดละเอียดโรยในยา กวนให้ดีสีทุกวัน
ทันตาที่ยา้ ยโยก คลอนเงื่อนโงกกลับมัน่ ครัน สุ ดคุณซึ่ งรําพรรณ จงเร่ งสี ดีนกั หนา
ภาคหนึ่งยาฟันมัน่ วิเศษครันอย่ากังขา เม็ดในมะเขือขื่นมา ขั้วให้ไหม้สักสลึง
จงกวนกับนํ้าชี่ ตามวิธีอย่าอํ้าอึ้ง ลําโพงสามลูกจึง ควักเม็ดในให้หมดดี
จึงเอานํ้าชี่ใส่ ทั้งสามใบสุ มอัคคี ด้วยแกลบให้ขน้ ดี สี ทุกวันมัน่ จนตาย
เบื้องนี้จะกล่าวยา แก้ทนั ตาเกิดโรคร้าย ตําราท่านบรรยาย เรี ยกกาละสู ตร์ โรคในฟัน
เลือดให้ไหลออกมา จงหาแก่นประดู่พลัน แลไม่สักกะลานั้น อีกชิงชีลูกฝ้ายมา
หุ งเป็ นชี่จงพลัน จึงหํ้าหัน่ เอาเลือดปลา ไหลใส่ กบั ชี่หนา สี ไรฟันหายทันใจ
กาละสู ตร์เลือดไหลนั้น ก็จะพลันเสื่ อมทันใด ชีพไม่มว้ ยบรรลัย เพราะคุณยาดีหนักหนา
ภาคหนึ่งแก้เลือดไหล ตามไรฟันรากกัญชา ยาเช้าเย็นฟางข้าวมา เร่ งต้มอมหายมาหลาย
ภาคหนึ่งโลหิ ตไหล ตามไรฟันระสํ่าระสาย เอากระดองปูป่าตาย พรมปูนงั่ สมุดดํา
ยาสามสิ่ งเผาหมด นํ้ามันงาละลายซํ้า ทาทัว่ ไรฟันรํ่า ทั้งห้ามพิษประสิ ทธิ์ ดี
ภาคหนึ่งเอื้องเพ็ชม้า แพงพวยแดงหญ้าไซ ศรี พริ กไทยสามเมล็ดมี พึงต้มอมเนื่องๆ หาย
ภาคหนึ่งให้ตม้ กิน จงนิจสิ นทุกวันหมาย โลหิ ตไรฟันร้าย เป็ นวันหนึ่งสองวันมา
ให้เอาซึ่ งขี้ผ้ งึ กับคลัง่ ต้มกินอย่าช้า โลหิ ตตามทันตา วิสานา ศาหากเสื่ อมสู ญ
หนึ่งนั้นแก้โลหิ ต ในทันตาที่พุพูน สามวันสี่ วนั มูล เฝ้าให้ร่ าํ มิใคร่ หาย
ให้เราราชพฤกษ์น้ นั เร่ งต้มพลันดังบรรยาย นํ้าผึ้งเป็ นกระสาย รําหัดกินหายบัดดล
โอสถทั้งหลายนี้ คุณมากมีแก่บุคคล ผูแ้ พทย์อย่าพึงฉงน ตามประเภทที่กล่าวมา ฯ
ยาแก้เหงือกเป็ นเลือดเป็ นหนอง เอาเบี้ยจัน่ ๓ ตัวเผา หางปลาช่อนแห้งเผา นํ้าประสารทองสะตุ
บดด้วยนํ้ามันดิบทาที่เหงือก
ยาแก้รํามะนาด เอานํ้ามันฮกอิ้ว ป้ อฮกเปี ยนเป็ นเกร็ ด พิมเสน เขม่าไฟ บดพอกที่เหงือก
ยาแก้รํามะนาด พลีเอาเปลือกน้อยหน่า ให้ถากขึ้น บดกับเกลือสะดุง้ ฟันเวลาเช้าทุกวัน
๒๐

ยารักษาฟัน เอาเถาวัลย์เถาโตพอควรยาว ๑ วา เจาะเป็ นรู ตอนกลาง เอายาดําหนัก ๑ หรื อ ๒ บาทใส่


แล้วเจาะเป็ นรู เล็ก ๆ ไว้ตรงที่ใส่ ยาดํานั้น เอาไฟสุ มเผาเถาวัลย์เปรี ยงนั้นทางหัวท้าย ๒ ข้าง ในขณะสุ มไฟ
นั้น นํ้าในเถาวัลย์เปรี ยงนั้นจะหยดออกตรงรู ที่เจาะไว้น้ นั ให้รองเอานํ้านั้นไว้สีฟัน ทําให้ฟันทน
ยารักษาฟั น เอาฝั กระกํา เปลื อกมะขามป้ อม เปลือกมะค่าแต้ ต้มอม แก้ฟันโยกคลอนเหงือกปวด
บวม และทําให้ฟันแน่น
ยารักษาฟั น เอาลูกมะเกลือ ๑ ส่ วน เกลือ ๒ ส่ วน สนิมเหล็ก ๒ ส่ วน นํ้ามะกรู ดมาก ๆ ต้ม เคี่ยวจน
งวด ให้สีฟันในเวลาเช้าทุกวัน ทําให้ฟันทน
ยาแก้ระมะนาด เอาเกลื อ ๒ ส่ วน การะบูน ๑ ส่ วน สารส้ม ๑ ส่ วน บดเป็ นผงให้สีฟันทุกวันทําให้
ฟันทน
๏ เบื้องนี้จะอธิ บาย บอกบรรยายต่อทันตา ตะโจหนังนี้เล่านา หุ ม้ กายาคนทั้งหลาย
วิการกําเริ บร้อน จะนัง่ นอนระสํ่าระสาย เป็ นผดผุดทั้งกาย ประกอบด้วยโทษต่าง ๆ
บางทีหนังสากชา แม้มดมาไต่ไม่ระคาง บ่รู้ตนสกลหมาง ว่ามดแมงมาตาตอม
แสบร้อนซึ่ งผิวหนัง บ้างพุพงั เม็ดลอมปอม โทษนี้หากมีพร้อม ในเพศผิวหนังกําพร้า
หากแพทย์ไม่สังเกต ซึ่ งประเภทโรคหนังนา บ่วจิ ารณ์จาํ ตํารา ว่าเป็ นอื่นขืนกันไป
บางทีมีกิมิชาติ สามพวกอาจเข้าอาศัย บ่อนเบียนอาเกียรณ์ไป ในผิวหนังเป็ นภักษา
ดูดน้ กลกินผิว เป็ นเปลวปลิวฟุ้งไปมา ฝูงโรคสมมุติวา่ เป็ นพรรไนยน่าพึงแสยง
ด้วยหนอนกินผิวหนัง ดูน่าชังดังแถลง ยิง่ เกายิง่ ได้แรง เป็ นวง ๆ น่าสังเวช
บางทีเป็ นขี้กลาก เกลื้อนดอกหมากหลายประเภท เฝ้าเกาไม่หายเหตุ เพศที่คนั ทั้งตาปี
บ้างเป็ นมะเร็ งไร หนอนชอนไชเบียนฉวี มะเร็ งชอนก็หนอนมี เป็ นเม็ดแสบปวดร้อนคัน
ยิง่ เกายิง่ กําเริ บอักเสิ บเล็บตรมทุกวัน เป็ นหิ ตก็ตวั คัน เพราะหนอนบ่อนเบียนฉวี
บางทีข้ ีเรื้ อนกว้าง หนังกระด้างดูบดั สี เนื้อหนังไม่มีดี มีแต่ขยุ ระคายคัน
ทั้งนี้โทษตะโจ วิการโรเพศหลายพรรณ์ แพทย์ยาก็ยากครัน มักเรื้ อรังทั้งตาปี
บ้างเป็ นพยาธิ การ หนังกําพร้าดํามิดหมี ทั้งตัวไม่มีดี ดูดงั หมีกลายชะโลม
บางทีเป็ นประหลาด เจียรว่าพยาธิ ดงั ลายโคม เหงื่อไคลไหลซึ มโซม ทําพิษคันเป็ นผืน่ ผุด
ผิวขาวเม็ดกลมๆ ว่าพยาธิ ลมโรคสมมุติ เพราะหมู่หนอนชอนคุด มุดเมี้ยนกันกินผิวฉวี
ผิแพทย์จะแก้หนัง พิการดังคัมภีร์มี เอาแป้ งเข้าหมากดี เปลือกสันพร้านางแอแล
โกฐหัวบัวโกฐสอ ทั้งสองหนอดูให้แท้ เกษรบัวหลวงแล ดอกพิกุลแลบุนนาค
ดอกสารภีเท่ากันหมด ให้ตาํ บดทําแท่งตาก นํ้าดอกไม้ให้มาก ละลายชะโลมแสบร้อนหาย
ยาต้มแก้ผวิ หนัง รากมะแว้งทั้งสองหมาย เบญกระดอมอันชมร้าย อีกทั้งรากขี้กาแดง
มะขามป้ อมสมอไทย พิเภกไซร้กบั ขิงแห้ง บอระเพ็ดอันขมแรง ทั้งแห้วหมูจนั ทน์ท้ งั สอง
โกฐก้านพร้าวโกฐสอ หญ้าตีนนกหนอตามทํานอง เสมอกันสิ้ นทั้งผอง เร่ งต้มเคี่ยวสามเอาหนึ่ง
เมื่อจะกินขัณทศกร ใส่ กวนก่อนกับนํ้าผึ้ง หยิบถ้วยยาอย่างบึ้ง อึ้งอวกอมจะไม่หาย
๒๑

ผูใ้ ดแม้นได้กิน หม้อเดียวสิ้ นดูสบาย ซึ่งตะโจกําเริ บร้าย หายแม่นมัน่ ดังกล่าวมา


อะปิ จะอันหนึ่งหวัง จะกล่าวหนังเกิดศิลาน์ หมู่หนอนบ่อนบีทา ผิวมังสาปลิวเป็ นควัน
เกิดโรคเรี ยกพรรไนย คันเหลือใจเป็ นพ้นกลั้น แสนทะเวทวิบากครัน มิพอที่จะบีทา
บังเกิดแก่หญิงชาย สุ ดแสนร้ายทนทรมา ถึงกลางวันก็ห่มผ้า ทําออมคลอดกําบังตน
อันโรคเรี ยกพรรไนย ลําบากใจด้วยอายคน วิบากกรรมจําทน ให้หนอนบ่อนในกายา
จะแก้ซ่ ึ งพรรไนย ให้เอาอุตพิดมา ล้วนหัวอย่ากังขา หัน่ แช่มูตรสิ บห้าวัน
ถ้วนครบนํ้ามูตรกิน พอมูตรสิ้ นก็หายคัน ยานี้ยอ่ มดีครัน ได้ใช้แล้วเห็นหายคลาย
ภาคหนึ่งยาขี้กลาก แก้มามากหายมาหลาย ดังตํารับบรรยาย ให้เอารากพันชัง่ มา
ทั้งเม็ดในมะนาวกิน ประสมสันให้บดทา ด้วยนํ้ามะขามมะนาวนา ชะโลมทาที่ตวั เป็ น
จะไม่ชา้ ไม่พลันดอก ที่ชวั่ ลอกดีเร็ วเห็น ดูแปลกทุกเช้าเย็น ดังตํารับบังคับมา
ภาคหนึ่งแก้ข้ ีกลาก พรรไนยสากทั้งกายา ท่านให้เอากระเทียมหนา ตําเอานํ้าให้ครามครัน
ทั้งนํ้ามะขามเปี ยก ตวงทนานให้เท่ากัน รากทองพันชัง่ นั้น ใส่ ให้มากกระทําผง
ใส่ ลงในนํ้ายา ตากสุ ริยาดังจํานงค์ กวนกันให้คืนคง พอทาได้ก็ทาหาย
อันเรื่ องยาขนานนี้ วิเศษดีได้แก้หลาย ผูแ้ พทย์พ่ ึงกฎหมาย อย่างเมินหมิ่นฉิ นตํารา
หนึ่งโสดให้ตม้ กิน ตามกบิลจะบอกยา เช้าเย็นทั้งสองมา กับหัวหอมอันที่แดง
รากทองพันชัง่ หนึ่ง ห้าตําลึงอย่าพึงแคลง เสมอกันอย่าให้แรง พอกินสิ้ นก็สูญหาย
ภาคหนึ่งแก้โรคกลาก ดูลาํ บากด้วยเกากาย ให้เอาจุนสี หมาย กับสารหนูแลกํามะถัน
กระบือเผือกเอาเขาเผา ปลาร้าเอาปลาดุกพลัน เผาไฟให้ไหม้ครัน กับทั้งลูกสะบ้าเผา
บดละลายนํ้ามันยาง ทัว่ สาระพางค์ให้ขดู เกา เอายาเร่ งทาเข้า สามวันห้ามอย่าถูกนํ้า
ผูเ้ ป็ นคิลาน์สา พึงทายาวิเศษขํา หมู่แพทย์พึงจดจํา แก้โรคกลากบ่ยากใจ
หนึ่งโสดให้อาบทา แก้พยาธิ แลพรรไนย ผูแ้ พทย์กาํ หนดไว้ ซึ่ งสรรพยาทั้งปวงนา
เอาลูกมะเขือขื่นไซร้ ใบระเม็งในพิมเสนหนา ใบมะยมก็เร่ งหา ทองพันชัง่ ทั้งรากใบ
หัวกลอยแลเหลือกสะเดา เปลือกมะยมเอาตัวผูใ้ ส่ หนอนตายหยากว่องไว ตําแช่อาบจงทุกวัน
แล้วจึงทํายากิน เป็ นนิจสิ นจะหายพลัน ชุมเห็นลูกใหญ่น้ นั ขั้วให้เกรี ยมกระทําผง
บดละลายนํ้าผึ้งก่อน กลืนลูกกลอนโดยจํานงค์ วันละสามเวลาคง หมู่พยาธิ ก็ขาดสู ญ
ภาคหนึ่งยาขี้กลาก มะเร็ งไรอันพุพูน ขี้เรื้ อนกวางก็ใส่ สูญ ทั้งพรรไนยก็ใส่ หาย
เอารากทองพันชัง่ กํามะถันกระเทียมหมาย เม็ดลําโพงเมาร้าย ทั้งลูกสะบ้าก็กระเบียนเบา
พริ กไทยคางคกตาย ซากขั้วให้ไหม้หมายให้เท่า เสมอกันชัง่ แล้วเอา ให้บดทําเป็ นแท่งพลัน
ดีจะใส่ ข้ ีเรื้ อนกวาง ขี้กลากอ้างกระสายนั้น นํ้ามันยางเป็ นสําคัญ ให้ฝนทาไม่ชา้ หาย
มะเร็ งไรนํ้ามันงา พรรไนยหนาก็หายคลาย นํ้ามะนาวก็ทาหาย ตํารานี้ดีหนักหนา
พยาธิดงั ตัวไร อันบ่อนในผิวมังษา ให้คายคันทั้งหน้าตา เป็ นตัวติดก็ตายสู ญ
มะเร็ งไรขี้เรื้ อนกวาง ตําหรับวางประมวลมูล กํามะถันละลายพลู ด้วยกระเบื้องตั้งไฟแห้ง
๒๒

ให้เอาใบเสนียดอ้าง ทั้งใบหางนกยูงแสง อีกกระเทียมอันกลิ่นแรง กระดองเต่าให้เผาไฟ


บดแล้วกระทําแท่ง ครั้นตากแห้งให้เก็บไว้ เมื่อจะใส่ มะเร็ งไร หมู่พยาธิ ข้ ีเรื้ อนกวาง
นํ้ามันงาใส่ ครึ่ ง เอากิ่งกันนํ้ามันยาง มะเร็ งไรขี้เรื้ อนกวาง เสน่ห์น้ าํ ล้างดีหนักหนา
ขี้เรื้ อนกวางรักษายาก กว่าขี้กลากกล่าวตํารา ให้เอากํามะถันมา ทั้งลูกสะบ้าให้เร่ งเผา
กวนกับนํ้ามันยาง ขี้เรื้ อนกวางทาบันเทา มะเร็ งไรก็คลายเบา ห้ามอาบนํ้าถึงสามวัน
ภาคหนึ่งแก้คุดทะราด อันลงบาทลําบากครัน ขี้เรื้ อนกวางก็สาํ คัญ เอายานี้เร่ งทําใส่
หนังแรดให้เผาหนา กระดองแมงดาก็ปิ้งไฟ คางคกจงขั้วไหม้ ทั้งสามชัง่ ให้เท่ากัน
บดละลายนํ้ามันยาง ทาอย่าว่างจงทุกวัน คุดทะราดลงเท้านั้น ขี้เรื้ อนกวางก็ห่างหาย
ภาคหนึ่งเป็ นนํ้ามัน วิเศษครันคุณมากมาย มะเร็ งไรก็ใส่ หาย ทั้งขี้กลากก็ใส่ สูญ
ใส่ ได้ท้งั ตานซาง เป็ นแผลร้างเปื่ อยพุพูล สรรพยาท่านประมูล นํ้ายาสู บชุมเห็ดใหญ่
นํ้ากระเทียมนํ้ามันพร้าว เท่ากันตั้งตากแดดไว้ สักสามวันจึงให้ใส่ ย่อมขาดสู ญดีหนักหนา
ภาคหนึ่งเป็ นยาเกลื้อน ทําไม่เหมือนที่ทาํ มา ขมิ้นอ้อยหัวใหญ่นา ให้ควักไส้ใส่ สารหนู
สุ มไฟแกลบสุ กเอา บดแต่งเท่าเม็ดถัว่ พู ฝนกับเหล้าใส่ ดู ไม่ชา้ เกลื้อนก็เคลื่อนหาย ฯ
๏ ตะโจจบปรารภเรื่ อง จะนําเนื่องธิ บายขยาย มังษังเนื้อในกาย ทุกหญิงชายห้าร้อยขึ้น
สรรเพ็ชร์ ตรัสเทศนา โปรดเทวาในเมืองอินทร์ ชีวะโกมาระยิน จึงตกแต่งคัมภีร์มา
อันว่าเนื้อในกาย เมื่อฉลายวิกาสา ให้เสี ยดทั้งกายา ชิ้นมังสากลับบวมฟก
บวมนี่แล้วบวมนัน่ จิตรมักหวัน่ สะดุง้ ตก หลับนอนมักเพ้อพก บ่ได้มีซ่ ึงสมประดี
พอจะหลับมักวาบจิตร ร้อนเป็ นพิษทั้งอินทรี ย ์ ดุจกายสุ มอัคคี บางทีผดุ เป็ นวง ๆ
สี เขียวสี แดงดํา โลกกล่าวคําว่าประดง บางคําว่าเจาะจง ประกายดาษประกายเพลิง
บางทีเป็ นเหื อดหัด ลมพิษวิบตั ิให้เปื่ อยเปิ ง แพทย์มิรู้จะกระเจิง จงวิจารณ์โทษมังษา
อันมังษะคือชิ้นเนื้อ เมื่อวิการฉะนี้นา ผูแ้ พทย์พึงวิจา ตามตําราบังคับไว้
ประกายดาษประกายเพลิง อย่าละเลิงโทษมะไหย เปื่ อยปอกย่อมลอกไป เล่ห์ดงั ไฟอันเผาลน
ประกายดาษเป็ นราย ทัว่ ทั้งกายให้ร้อนรน เป็ นเม็ดไปทัว่ ตน ดังไข่ปลาสิ้ นทั้งตัว
ดุจไข้หงษ์ระทด คางแข็งหมดทั้งลิ้นรัว( ลัว ) ให้สลบแลมืดมัว ถ้าตัวปอกลอกแล้วตาย
ประกายดาษเพศนี้ ดังคัมภีร์ท่านบรรยาย ผิแพทย์จะให้หาย โทษมังสังพิการเป็ น
ก้ามปูทะเลเผาไฟ อีกนั้นรากหมีเหม็น รากลําโพงฝางเสน รากบัวหลวงโกฐก้านพร้าว
เปลือกทองหลางนํ้าหนอ ดินสอพองดินประสิ วขาว เสมอกันดุจกล่าว นํ้าหางจรเข้ากระสายบด
ทาแก้โทษมังสัง วิการังระงับหมด คัมภีร์ท่านกําหนด ซึ่งสรรพยาฉะนี้นา
หนึ่งแห้ฟกบวมขลัง เพื่อมังสังวิการา ให้เอายาดํามา ใบขี้เหล็กขมิ้นอ้อย
ข้าวสุ กให้เผาไหม้ ประสมใส่ สิ่งละน้อย เร่ งบดอย่าตะบอย นํ้าปูนในกระสายทา
ฟกบวมก็ทาได้ ตามเพศในโทษมังสา วิเศษซึ่ งสรรพยา แพทย์อุส่าห์จดจําไว้
๒๓

ภาคหนึ่งเป็ นยากิน อย่าควรหมิ่นกําหนดใจ เอาเปราะแลสังข์ใส่ สมอเทศแลเทียนดํา


ตรี กฏุกรากพันงูแดง ทั้งไพลแห้งอันกลิ่นขํา เสมอภาคพึงตากตํา เป็ นผงละลายนํ้าส้มส้า
นํ้ามะนาวแลนํ้าร้อน กินผ่อนโทษเพื่อมังสา ด้วยนํ้าเกลือก็ภุญชา ชื่อสังขเพศวิเศษดี
หนึ่งโสดแพทย์ผฉู ้ ลาด แก้ประกายดาษด้วยยานี้ คุณนามบัญญัติมี ชื่อประสระพิมเสนสด
แก้ไข้ท้ งั หกถาน อันวิการเสื่ อมสู ญหมด ประกายดาษหงศ์ระทด ทั้งขมิ้นเพลิงแลผดกลาย
กระหม่อมเพลิงลําลาบเพลิง บรรลัยเปิ งระบมหาย สรรพยาท่านบรรยาย เอาพิษนาศน์แลระย่อม
มหาสะดําเนรภูสี จันทน์ท้งั สองมีกลิ่นหอม ว่านกีบแรดร่ อนทองพร้อม ทั้งเปราะหอมใบพิมเสน
เสมอหมดบดทําแท่ง ตากซึ่ งแสงพระสุ ริเยนทร์ แก้ไข้ตามเพศเป็ น ซึ่ งเย็นร้อนแลเชื่อมมัว
คลัง่ สลบก็แก้ได้ อย่ากริ่ งใจประพรั่นกลัว ฝนชะโลมสิ้ นทั้งตัว นํ้าดอกไม้ให้พน่ กิน
นํ้าซาวข้าวนํ้าจันทน์ ตามเล่ห์น้ นั ดูประคิน ควรกินก็ให้กิน แม้ควรพ่นก็ให้พน่
หมู่ไข้ท้งั หกถาน หรื อจะหาญต้านทานทน เล่ห์ลูกตาลงอมหล่น หลุดจากขั้วห่อนกลับติด
ภาคหนึ่งแก้เหมือนกัน วิธีน้ นั ไม่เพี้ยนผิด สรรพยาย่อมขจิดด้วยใบไม้แลดอกไม้
ใบมะตูมใบสมี ใบพรมมิใบผักไห่ เกสรบัวหลวงใส่ ทั้งสารภีแลบุนนาค
ลูกประคําดีควายเผา ขั้วจงเท่าอย่าน้อยมาก ประสมหมดบดปั้ นตาก นํ้าซาวข้าวละลายชะโลม
นํ้าดอกไม้ฝนกิน แก้ร้อนดิ้นดังเข้ากระโจม แก้ไข้อย่าควรโลม รุ กเร่ งพ่นทําลายพิษ
เบื้องนอกแลเบื้องใน อย่าให้ไข้ต้งั ตัวติด เชื่อมมัวก็เพราะพิษ ตนชอบร้อนในหัวใจ
แก้กินซึ่ งยานั้น ด้วยนํ้าจันทน์น้ าํ ดอกไม้ เชื่อมซึ มดื่มเข้าไป สักอึดใจไม่ชา้ เลย
ยานวิเศษหลาก หายมะมากนะท่านเอ๋ ย ผูแ้ พทย์อย่าพึงเฉย ท่านตีค่าถึงชัง่ คํา
หนึ่งกล่าวลําลาบเพลิง พิษถะเกิงสุ ดแสนรํ่า เล่ห์ถูกไฟไหม้คลํ้า แผ่นดุจฝี สีเรื่ อแดง
ลูกตําลึงห่าม มักผุดตามลําขาแข้ง ที่บ้นั เอวก็ตาํ แหน่ง ลามขึ้นไปในสี ขา้ ง
ยามิชอบเชิง ลามระเริ งทัว่ สาระพางค์ ตําลึงสุ กก็แลอย่าง แดงไม่จางลามมากไป
ร้อนรุ่ มสุ มดวงจิตร พิษมักอบตลบใน เชื่อมมัวกลุม้ หัวใจ สิ บห้าวันมักปรวนแปร
รกเพราะเพศซาง ขึ้นปากอ้างตายเป็ นแท้ ผูใ้ หญ่มกั แปรแล เป็ นลามทุ่งเปื่ อยทั้งกาย
ไฟลามทุ่งนั้น เนื้อมันสุ กสุ ดแสนร้าย นํ้าเหลือเฟื่ องทั้งกาย จะเยียวยาประทังคลาย
ยาย่อมหายบ้าง ถ้ามิฟังก็ตายหลาย อันโทษมังสังร้าย พึงแต่งยาทาทับทํา
คุณยาขนานนี้ วิเศษดีสุดแสนรํ่า แก้หายมาหลายลํ้า ทําทาเถิดประเสริ ฐดี
กวางก้ามปูทะเล ย่อมเป็ นเล่ห์เปลือกสารภี นํ้าท่าทาหายดี ได้แก้หายมาหลายนัก
เอาหางจรเข้ ก้ามปูทะเลเผาพอหัก ดินประสิ วย่อมเย็นนัก กับทั้งฝางบดปั้นแท่ง
ทานํ้าปูนใส ถึงเปื่ อยไปก็อย่าแคลง ทาทับกลับหายแห้ง ไฟลามทุ่งก็ทาหาย
ยาสองขนานนี้ คุณมากมีแก้มาหลาย วิเศษดีไม่มีตาย ไฟลามทุ่งก็เหมือนกัน
โรคดังพรรณา ในมังสาสิ้ นทั้งนั้น วิธีแก้ไม่ไกลกัน กับเพศไข้ตกั กะศิลา
แพทย์พิเคราะห์เถิด กําเนิดโรคทั้งหยูกยา แต่งต้มหรื อแต่งทา ใช้รสฝาดแลหอมเย็น
๒๔

ระงับดับพิษสง เหื อดแห้งลงแพทย์พึงเห็น จะหายร้อนก็เพราะเย็น เอาร้อนแก้มกั ตายหลาย


นี้จะชี้จดั กล่าวเพศหัดเพศเหื อดหมาย โบราณท่านบรรยาย ไข้สองเผ่าคล้ายคลึงกัน
เกิดโทษเพราะมังสา วิการาเป็ นหลายพรรณ์ คัมภีร์บญั ญัติน้ นั ท่านกล่าวโทษในมังสา
หัดเม็ดเล็กแจ้ง ดุจเม็ดแห่งซึ่ งไข่ปลา ขึ้นทัว่ ทั้งกายา กระทําพิษให้กายคัน
เมื่อยตัวร้อนรุ ม พิษหมกสุ มหัวใจนั้น เท้ามือวิการอัน ชาจะเย็นเป็ นประมาณ
กายบ่มีสุข เวียนผุดลุกไม่นง่ั นาน หนักเศียรมัวซมซาน รําคาญคันพิษแผ่นฉวี
เยียวยาพิษมิตก มักกลับสบกเข้านาภี ทําโทษใช่พอดี โดยเพศลงเป็ นละออง
บางกลายเป็ นบิด เจือโลหิ ตบุพโพหนอง แสนทะเวทด้วยปวดท้อง ทิ้งข้าวนํ้าไม่นาํ พา
หยุดสุ ดยาแล้ว บ่ห่อนแคล้วจากมรณา เร่ งแก้แต่ตน้ มา แต่งทํายาระงับพิษ
ให้หลบเข้าใน ลําบากใจสุ ดแสนคิด แก้เหื อดหัดขจัดพิษ ตามตําราท่านกล่าวมา
ใบผูเ้ มียหวัง มะยมเฟื องทั้งสองนา ผักโหมให้เร่ งหา ทั้งหัดหิ นขมิ้นอ้อย
หญ้าแพรกหญ้าปากควาย ใส่ หม้อหมายต้มอาบบ่อย ทั้งกินให้พิษถอย อีกกล่อมตับดับพิษดี
ภาคหนึ่งวิเศษครัน ให้เอาจันทน์ท้งั สองศรี สนสักแก่นกรักขี เปลือกชะลูดราวแฝกหอม
แก่นขนุนแกแลหา ทั้งกฤษณาลูกกระดอม เกษรบัวหลวงหอม ทั้งสารภีดอกบุนนาค
ดอกพิกุลหัวแห้วหมู แก่นฝางดูสักกําถาก ลูกประคําดีควายหลาก เอาสามลูกทั้งตรี ผลา
ใส่ หม้อให้ตม้ กิน เป็ นอาจิณทุกทิวา กว่าจะระงับดับโรคา ให้เหื อดหัดบําบัดสู ญ
ยานี้ดีมากมาย ได้กินหายมามากมูล กินเถิดอย่าอาดูร แก้นอกในได้พร้อมสิ้ น
ภาคหนึ่งเมื่อแรกเป็ น แรกวันเห็นให้ทาํ กิน ขมิ้นอ้อยเอาเจ็ดชิ้น ใบตูดหมูตูดหมาตํา
ละลายนํ้ามูตรคนกิน ดื่มให้สิ้นวิเศษขํา ดับพิษประสิ ทธิ์ ล้ าํ เป็ นยาแปรมากเป็ นน้อย
ยาต้มอาจารย์จดั เทือกเหื อดหัดให้พิษถอย จันทน์ท้งั สองสิ่ งละน้อย ทั้งรากมะเดื่ออีกชิงชี่
รากท้าวยายม่อมสักสน ปนแก่นขนุน พลู หญ้าแพรกปากควายมูล ทั้งขี้ววั ขมิ้นอ้อย
ต้มกินหายดังใจ จืดต้มใหม่กินบ่อย ๆ เหื อดหัดกําจัดถอย ทั้งล้อมตับดับพิษหาย
ภาคหนึ่งแก้หดั หลบ กลับทวนทบเข้าท้องหมาย ให้ลงบิดระสํ่าระสาย เป็ นมูกเลือดปวดมวนร้อง
ให้เอาเบ็ญกูลนั้น แลกระเทียมอันขาวผ่อง เขาความเผือกเผากอง เท่า ๆ กันบดทําแท่ง
ละลายนํ้ากะทือทั้ง นํ้าครั่งฝางอย่าได้แคลง นํ้าขมิ้นอ้อยจัดแจง เร่ งต้มขึ้นเป็ นกระสาย
แก้บิดออกรากสาด บิดฝี ดาดเหื อดหัดหาย อีดาํ อีแดงร้าย กินยานี้ก็ดบั สู ญ
ภาคหนึ่งลงมูกเลือด ออกหัดเหื อดฝี ท้ งั มูล เบ็ญกานีลูกตะบูน ทั้งลูกจันทน์เนระภูษี
ว่านกับแรดร่ อนทอง จันทน์ท้ งั สองสังกรณี ทําแท่งแห้งไว้ดี ละลายสุ ราแก้ปวดมวน
ลงหนักลูกพลับจีนนั้น ต้มละลายพลันกินพอควร มิฟังต้นเทียนล้วน ทั้งห้าต้มละลายกิน
แม้นมิเหือดให้เอาผักเค็ด ต้มละลายเม็ดยากิน โทษปวดบิดสู ญสิ้ น ดังตําหรับท่านกล่าวมา
ภาคหนึ่งแก้ลงหัด เข้าท้องอุบตั ิทาํ ทุรา ตําหรับท่านพรรณา ให้เอาเปลือกลูกกล้วยตีบ
เบญกานี สี เสี ยดเทศ เปลือกเม็ดมะขามสิ่ งละหยิบ ตําขั้วให้หายดิบ พอยากสุ กละลายกิน
๒๕

แก้ลงหัดหายหยุด เล่ห์ดงั อุดท่อวาริ น ผูไ้ ข้พึงควรกิน ทั้งผูแ้ พทย์ก็ควรหา


หนึ่งหมากก้นเซี่ ยนอีก สักสามซี กเร่ งหมามา ทั้งครั่งดินกินหนา ใบทับทิมสักกํามือ
เปลือกแคฝ่ ามือเรา อย่าทับเงาเมื่อถากถือ ต้มกินแก้หดั หรื อ ลงมูกเลือดเหือดทันใจ
ภาคหนึ่งเปลือกแคแดง แพงพวยแดงสามยอดใส่ ผักเป็ ดแดงสักกําใบ ทับทิมเสี ยดเร่ งต้มกิน
บดเลือดเหือดหัดทํา ท้องลงรํ่าเหื อดหายสิ้ น ผูใ้ ดแม้นได้กิน ประกันกาลจะนานตาย
ภาคหนึ่งแก้หดั หลบ ลงเลือดซบระสํ่าระสาย ใบเทียนทับทิมหมาย ใบหมากผูห้ มากเมียซํ้า
ทั้งไม้สักแก่นขนุน ต้มกินอุ่นเข้าแลคํ่า เหื อดหัดในท้องทํา ให้ลงปิ ดประสิ ทธิ์ หายฯ
๏ ในเรื่ องหัดจบลง กล่าวประดงสื บบรรยาย อันประดงสุ ดแสนร้าย หลายพันธุ์มีพิษทํา
คัมภีร์ตกั กะศิลา ท่านพรรณาไว้กลืนกลํ้า โรคนิทานก็อมอํา มิออกอัตถ์กระจัดความ
โรคนิทานกล่าวโทษ มังษังโหดให้ลุกลาม เป็ นประดงก็เพื่อความ เป็ นเหื อดหัดบ้างก็มี
ประกายเพลิงประกายดาษ เกิดในธาตุมงั ษังฉวี ได้กระแสแต่เท่านี้ จึงคัดจัดตกแต่งไว้
เพื่อแพทย์เบื้องปั จฉา ได้วจิ ารณ์สืบๆ ไป ตําหรับบังคับไข คัมภีร์ธาตุสถานกลาง
คัดออกบอกเป็ นเลา พอเป็ นเงาให้เห็นทาง มิแจ้งพอราง ๆ ดังคนแก่แลไม้ไกล
ประดงดังไข้เหนือ หยูกยาเจือแก้คลึงไคล อีกยาเบื้องนอกใน ทั้งกินพ่นชะโลมทา
วิธีทาํ มากมาย หลายประเภทตามกิริยา ประดงหนึ่งท่านกล่าวมา ผุดเป็ นเม็ดดังยุงขบ
มีนามตามกําหนด ประดงมดเรี ยกก็สบ ประดงหนึ่งแพทย์พบ ลื่นขึ้นดังผิดมะกรู ดจุด
เรี ยกชื่อว่าประช้าง สมคําอ้ายด้วยเพศผุด ประดงหนึ่งเป็ นเงาคุด แลเงาหนองอยูใ่ นกาย
ขนานนามตามกิริยา เรี ยกชื่อว่าประดงควาย ประดงวัวท่านบรรยาย ดังลูกมะยมขึ้นเต็มตัว
ประดงลิงท่านกล่าวอ้าง เม็ดดังอย่างข้าวสารขั้ว ดุจตามปลาเป็ นเม็ดหัว ชื่อประดงแมวตามลําเนา
ผูแ้ พทย์มีปัญญา พิจารณากําหนดเอา ประดงนี้มีหกเผ่า ในคัมภีร์ตกั กะศิลา
ตํารับหนึ่งกล่าวประดง ดูพิศวงเหลือปั ญญา เหลือสติจะวิจา นามกิริยาผิดเพี้ยนพรรณ์
กําหนดดังไข้เหนือ เจือไข้พิษยาอย่างกัน ประดงมดเม็ดมันนั้น ยอดแหลม ๆ ขึ้นทัว่ ตัว
ทําพิษแต่ให้คนั แต่พิษนั้นพอยังชัว่ ประดงไรขึ้นเต็มตัว หัวละเอียดดังไขขาน
ให้คนั สิ้ นทั้งตน พิษเหลือทนพ้นประมาณ ระคายแสบแสนรําคาญ บ่มีสุขแต่สักครู่
หนึ่งเล่าประดงปลวก เม็ดแดงพวกเป็ นหมู่ ๆ ขึ้นแห่งรายกันอยู่ บอกให้รู้เพศประดง
หนึ่งเล่าประดงนํ้า เม็ดขาวขําทําพิษสู ง ขึ้นหลังแลท้องคง กระทําพิษมักร้ายมาก
ประดงแกลบเป็ นเม็ดรี ดูวธิ ี เล่ห์อย่างกลาก เล่ห์ถูกไฟไหม้แดงวง ประดงชาติน้ ีร้ายนัก
ประดงหนึ่งชื่อตีนช้าง ทัว่ สาระพางค์ข้ ึนประจักษ์ ตําราว่าร้ายนัก เป็ นผดตุ่มทัว่ ทั้งกาย
อันประดงดังกล่าวมา เมื่อคิลาน์โทษมากมาย เมื่อยขบทัว่ ทั้งกาย ให้ปวดหัวตัวร้อนรุ่ ม
ให้ขดั ทุกข้อลํา กายร้อนรุ่ มดังไฟสุ ม ปวดเศียรสองมือกุม กลแต่ครางหมางอารมณ์
บางทีให้ขมปาก อาเจียนรากเฝ้าขากถ่ม บางทีดงั เล่ห์ลม กลุม้ กลัดอกให้คลัง่ เพ้อ
บางทีบงั เกิดหาว บางคาบเล่าเฝ้าแต่เรอ ในท้องในไส้เฟ้อ พะอืดให้ขดั แน่น
๒๖

บางทีชกั สะทก แข้งขาฟกเจ็บเหลือแสน กินอาหารก็เฝ้าแค้น อกใจกลุม้ ให้เชื่อมมัว


โทษประดงทําดังนี้ บางทีเป็ นเห็นน่ากลัว เป็ นผื่นแผ่นไปทัว่ ตัว ให้คลัง่ ไคล้ตีนเมื่อ(มือ)เย็น
บางทีเจ็บเป็ นบั้นท่อน จะนัง่ นอนดูแสนเข็ญ อาหารเคี้ยวคลื่นเหม็น กลับกลายขมอมอวกอาก
บางทีให้ตาแดง เหลืองกลัวแห้งเป็ นหลากๆ อาการเพศมีมาก พันธุ์ประดงเป็ นร้ายดี
จักกล่าวอาการเพศ เหลือสังเกตจะแจ้งชี้ ผูแ้ พทย์ปัญญามี ดูวธิ ีเมื่อคนเป็ น
พิเคราะห์ดูให้ถึงทัว่ ตามเล่ห์ตวั สังเกตเห็น อาการคนไข้เป็ น เพศอันใดและอันใด
เม็ดดวงสี อาการ แม่นชํานาญแน่แก่ใจ แต่งยาคิดแก้ไข ตามวิธีร่ าํ เรี ยนมา
จะกล่าวยาแก้ประดง ดับพิษสงดีหนักหนา เสร็ จสิ้ นดังกล่าวมา ทุกประดงไม่เลือกเลย
เขี้ยวเสื อเขี้ยวจรเข้น้ ี ทั้งเขี้ยวหมีนะท่านเอ๋ ย เขาควายเผือกควายดําเคย ทั้งเขากวางเผาประสม
เขากุยทั้งเขาแพะ เขาทรายแนะโดยนิยม กระดูกงูเหลือมเผาระดม ทั้งงูเห่างูทบั ทาง
อีกเล่ากระดูกแร้ง เผาระแนงกระดูกกา ดีเต่าดําเหี้ ยหา ดีตะพาบนํ้าดีหมูเถื่อน
ดีววั เทียนทั้งห้า โกฐห้าหนาอย่าได้เฟื อน ดีงูตน้ อันขมเขื่อน ทั้งตรี กะฎุกสมุลแว้ง
พิษนาศน์พาดไฉน ระย่อมใส่ จึงจะแรงเสมอกันอย่าได้แคลง ทําแท่งละลายสุ รากิน
นํ้ามูตรครําละลายได้ ยาชื่อไซร้มหานิล แก้ประดงทั้งปวงสิ้ น ทั้งไข้เหนือแลตานซาง
ฝี ดาดสันนิบาตหาย แผ้วพิษร้ายดังนํ้าล้าง หมู่พิษปานดําด่าง ต้องแสงสู รย์เป็ นจุณหาย
หนึ่งโสดแก้พิษใน เอาไก่ให้ยาดําหมาย ท้าวมหาพรมฝนละลาย ด้วยนํ้าเหล้านํ้าปูนกิน
แก้ประดงทําพิษใน ครอบไปได้ท้งั นั้นสิ้ น ผูใ้ ช้อย่าควรหมิ่น กินเป็ นบุญเหมือนพ้นตาย
ภาคหนึ่งรากพุงตอ สิ่ งเดียวหนอคุณมากมาย ฝนกินประดงหาย แม้นดองเหล้าก็กินดี
แก้ได้ทุกพันธุ์ประดง ดับพิษสงประสิ ทธี พิษประดงด้นดั้นหนี ไม่อยูส่ ู ้สักหมู่เลย
หนึ่งเล่าเป็ นยาดอง ตามทํานองนะท่านเอ๋ ย เบื้องปลายมังเลยเปรย มิใคร่ หายไข้ร่ าํ เรื่ อง
ยานี้อาจสามารถตัดรากขาดกระเด็นเปรื่ อง แก้ประดงละคายเคือง ย่อมขาดสู ญคุณมหันต์
ให้เอาเปล้าน้อยใหญ่ สี หวดใส่ ท้ งั สองนั้น แก่นแสมทะเลขยัน เจ็ตมูลสุ รามะริ ด
เจ็ตพังคี ประคําไก่ พาดไฉนกระดอมนิด รากพุงต่อศักดิ์สิทธิ์ ทั้งพิศนาศน์รากสวาด
ดีงูตน้ สมอไทย ยาเข้าเย็นอย่าได้ขาด ดองเหล้าหรื อต้มปราถ นากินสิ้ นหม้อหนึ่งสู ญ
ภาคหนึ่งยาดองเหล้าเป็ นของเก่าคุณมากพลู แก้ประดงสิ่ งทั้งมูล ท้าวยายม่อมตูมกาแดง
รากประดงคันซงเล่า ข้าเปลือกเอาอย่าได้แคลง รากชุมเห็ดดองเหล้าแรง กินดับพิษประสิ ทธิ์ หาย
หนึ่งเอาแห้วหมูท้งั รากมะดูกดังภิปราย เหลือกทองหลางใบมนหมาย กระทืบยอบยาเช้าเย็น
ดองเหล้าดับพิษสง แก้ประดงระงับเห็น โทษร้ายไม่คืนเป็ น ดังเพศเก่าเล่าแลนา
หนึ่งเหล้าดองตัดราก คุณมีมากอนันตา รากหมากทั้งสองรา รากมะดูกทั้งสองพรรณ์
หญ้ารากขาวรากดี หมีไคร้ตน้ แห้วหมูขยัน เชือกเขายอดแดงนั้น ดองกินเถิดเลิศนักหนา
หนึ่งโสดเป็ นยาต้ม โดยนิยมท่านกล่าวมา แก้ประดงอันพาธา ทุกประดงทั้งปวงสิ้ น
เอาราช้างน้าวมา รากพุดซามะซางกิน เปลือกประดงถากประคิน สี ฟันช้างรากระงับ
๒๗

ต้มกินเถิดประเสริ ฐหนา กินแล้วว่าหายไม่กลับ มีคุณมาเหลือนับ อันยานี้ดีหนักหนา


หนึ่งเล่ากล่าวประสงค์ เพศประดงพวกหนึ่งนา ให้ฟกกลางบาทา แลกลางมือสิ้ นสองข้าง
กระทําพิษให้ปวดหนัก มักให้ฟกทัว่ สาระพางค์ แพทย์มิรู้วา่ ประดงช้าง แลประดงหินมักกินแหนง
จึงเอารากมะดูกเจือ ทั้งต้นเครื ออย่าได้แครง จุกกะโรหิ นี แรง รากนํ้านองนมราชสี ห์
ขมิ้นอ้อยกระทุงลาย ต้มกินหายนับมากมี ดองเหล้าตามวิธี แก้ฟกบวมทั้งปวงหาย
ภาคหนึ่งว่าเป็ นยา ทาฟกบวมประดงหมาย เหลือกสมีกระทุงลาย จุกกะโรพิลงั กาษา
รากมะดูกต้นเครื อเอา อีกเชือกเขายอดแดงมา ฝนด้วยเหล้าอย่ากังขา ทาประดงคงแห้งหาย
มิฟังเอาพิศนาดนะ จุกกะโรหิ นีหมาย กระเทียมเปลือกพริ กขิงละลาย นํ้าซาวข้าวกินบัดดล
แก้ประดงฟกลื่น คลายกลับชื่นอย่างพึงฉงน ยานี้ดีชอบกล ย่อมใช้ได้ทุกพันธุ์หาย
หนึ่งเล่าจะกล่าวต่อ ประดงข้อพวกหนึ่งหมาย กระทําพิษระสํ่าระสาย ปวดข้อมือข้อเท้าดิ้น
ผิแพทย์จะรักษา จงดองยานี้ให้กิน รากอัญชันขุดประคิน ทั้งไม้สักระเทียมขิง
ลูกผักกาดลูกผักชี พริ กไทยดีเป็ ดร้อนยิง่ ดองเหล้ากินประสิ ทธิ์ จริ ง แก้เท้ามือที่ปวดหาย
ภาคหนึ่งตูมกาด่ าง( แดง ) หนามพระแจ้งเขาวัวหมาย รากไคร้เครื อกระดูกควาย เอาทีเผือกรากพุงดอ
นํ้าส่ าเหล้ามะขามเปี ยกหมาย เป็ นกระสายละลายหนอ ทาประดงปวดทุกข้อ หายทันทีดีนกั หนา
ภาคหนึ่งสลอดหวัง เจ็ดมูลทั้งยอดกัญชา เจ็ดตะพังคีฝนกินหนา เอาเหล้าดองก็กินหาย
หนึ่งโสดยาแท่งหนอ แก้ปวดข้อทาพลันคลาย หายดังท่านบรรยาย เอาโพกพวยแลพิศนาด
บอระเพ็ดขมิ้นอ้อยหมาย ประคําดีควายอย่าได้ขาด อีกกระเทียมขาวสะอาด ทั้งพริ กขิงบดบรรจง
ให้ละลายซึ่ งนํ้าปูน ทาปวดสู ญพิษประดง หมู่แพทย์พ่ ึงประสงค์ ทําไว้ใช้ประสิ ทธิ์ สูญ
ภาคหนึ่งเป็ นยาต้ม กินย่อมข่มโทษทั้งมูล พิษประดงอันก่อกูล ฟกทุกข้อที่ต่อกัน
ปากร้องไม่มีสุข ขบทุกๆ ในข้อนั้น ผูแ้ พทย์พ่ ึงสําคัญ แต่งยานี้ตม้ ให้กิน
จงเอารากเข็มป่ า ยาเช้าเย็นเหนือใส่ ประคิน โคนไผ่ป่ามาตัดสิ น หญ้าหนวดแมวกระดูกก้อน
ต้มสามเอาหนึ่งกิน เป็ นนิจสิ นอย่าหยุดหย่อน ระงับโทษอันปวดร้อน แลฟกบวมก็น่วมหาย
ขนานหนึ่งแก้ประดง ทําพิษสงระสํ่าระสาย เข้าข้อขบบ่สบาย ด้วยเมื่อยปวดแสนรําคาญ
เอายาเข้าเย็นมา หญ้าหนวดแมวอันพิศาล รากมะขามป้ อมพอประมาณ รากมะดูกทั้งต้นเครื อ
รากมะตูมเอาเท่ากัน ต้มกินพลันวิเศษเหลือ โทษประดงที่รังเรื้ อ ซึ่ งเมื่อยขบก็ขาดสู ญหาย
ภาคหนึ่งยาต้มหนา แลยาทาวิเศษหลาย ประดงหิ นอันขบร้าย ขบในกระดูกทําพิษเย็น
เอาเชือกเขาหนังมา กระทกรกอย่าได้เว้น โพกพายอันพิษเย็น มะเดื่อดินรากเสนียด
ทองหลางในมนเอา ทําแท่งเคล้าจงละเอียด แก้ประดงอันเบียดเสี ยด ทั้งกินทาระทมสู ญ
หนึ่งเล่าพันธุ์ประดง ทําพิษสงให้อาดูร ดูในเป็ นเค้ามูล ให้เหนื่อยหอบดังฉุ ดเสา
ผิแพทย์จะรักษา รากตูมกาที่แดงเอา ยาเช้าเย็นทูบทามเล่า นมแมวน้อยต้มกินหาย
ภาคหนึ่งให้ฝนทา ตูมกาแดงช้าแป้ นหมาย นมแมวน้อยช้าหมองราย นมราชสี ห์ยาเช้าเย็น
รากทูบทาบต้มกินไซร้ ดองก็ได้กินอย่าเว้น ทั้งทาทับระงับเย็น คุณยานี้ดีหนักหนา
๒๘

ประดงขบกระดูกเน้น ยาเช้าเย็นผิสาบมา รากมะงัว่ ฟักเข้ารา รากสมเส็ ดโคกกระสุ น


รากอ้อยช้างทําแท่งกิน หายปวดสิ้ นกลับเห็นคุณ อาหารบังเกิดหนุน คุณยานี้ดีเหลือใจ
ภาคหนึ่งตูมกาแดง มหากาฬแรงคุณมะไหย ว่านสาระพัดพิษดีแรดไซร้ รากกําจายทองพันชัง่
รากมะดูกมะหาดหา ขี้เหล็กมาสมเส็ ดหวัง รากระย่อมขนุนหนัง เร่ งฝนทาหายทันที
หนึ่งเล่ายาทาหนอ แก้ปวดข้อประดงดี พริ กขิงหญ้านางมี ขมิ้นอ้อยบดละลาย
นํ้าท่าแลนํ้าเหล้า ทาทับเข้าประสิ ทธิ์ กาย ถ้าให้ขดั ติดจะร้าย รากมะเดื่อปล้องขมิ้นอ้อย
พริ กขิงหิ งหายเจือ ใส่ ขา้ วเบื่อแต่นอ้ ย ๆ จงทําทาให้บ่อย ๆ คุณยานี้ดีหนักหนา
หนึ่งใบนํ้าเต้าน้อย ขมิ้นอ้อยผักหนอกมา ข้าวเบื่อข้าวเหนียวรา บอดพอกลงคงหายพลัน
หนึ่งโคนดินสออ้าง ทั้งทองหลางใบมนขยัน กระทืบยอดบกระทือนั้น ขมิน้ อ้อยทั้งข้าวเบือ
ตําพอกประดงหาย คุณมากมายวิเศษเหลือ พิษประดงดังไข้เหนือ อันทําพิษประสิ ทธิ์ หาย
หนึ่งโสต แก้เสี ยดแทง อกใจแห้งมิสบาย พิษประดงระสํ่าระสาย เอาตานเสี้ ยนตามดํามา
ตามหม่อนมะกอกผือกแผ้ว นมแมวน้อยหวายตะคร้า หวายตะมอยใบมะกา ใบมะเฟื องใบอ้อยงบช้าง
ว่านกับแรดว่านร่ อนทอง ไคร้ท้งั สองอย่าได้หมาง รากสมเส็ ดนํ้านองกลาง เนระภูษีใบโคนทีสอ
รากตูมกาทั้งขาวแดง บอระเพ็ดแห้งแต่พอๆ ขันทองพระยาบาทหนอ ทั้งเปล้าน้อยหางนกกะลิง
เท่ากันบดเป็ นแท่ง กินอย่าแคลงคุณใหญ่ยงิ่ ยานี้วเิ ศษจริ ง ทําใช้เถิดดีหนักหนา ฯ
๏ ประดงเสร็ จเพศมังสัง พอหยุดตั้งตามตํารา สื บเรื่ องในเบื้องหน้า ณะหาโรติดต่อไป
ณะหาโรคือเส้นเอ็น ท่านจัดเป็ นธาตุดินไซร้ คัมภีร์วภิ งั ค์ไข เก้าร้อยเส้นเป็ นประมาณ
เอ็นใหญ่น้ นั หกสิ บ จํายกหยิบให้วถิ าน ดุจดําบุพพาจารย์ ท่านกล่าวไว้ในบาลี
วรรณเส้นนั้นขาวไซร้ ร้อยกลิ่งไว้ซ่ ึ งอัฐฐี สามร้อยท่อนดังนี้ เล่ห์วธิ ี ร้อยรู ปหุ่น
ด้วยสายไหมบรรจง ยังรู ปทรงตั้งบริ บูรณ์ ที่อยูเ่ ส้นทั้งมูล ชิดอัฐเป็ นเบื้องตํ่า
เบื้องบนจนเนื้อขาว เคียงเรี ยงกล่าวเส้นเป็ นลํา ที่แห่งเส้นเอ็นประจํา โดยสี ขา้ งข้างละห้า
เบื้องหลังก็เหมือนกัน ละห้าอันเรี ยงเคียงมา โดยท้องแขนแลขา ข้างละห้าเหมือนแบบตั้ง
ประสมเส้นหกสิ บไซร้ ส่ วนเส้นใหญ่ตามวิภงั ค์ เส้นน้อยทั้งปวงหวัง ดังเครื อวัลย์พนั พฤกษา
ร้อยรอบอัฐินอ้ ย แล้วกลับร้อยเส้นใหญ่มา ปลายสุ ดแห่งนักขา รวบประชุมณะคอนั้น
เส้นน้อยแปดร้อยเศษ โดยสังเกตสี่ สิบพลัน สัณฐานดังเชือกอัน บุคคลควัน่ แลร้อยไว้
ซึ่ งอัฐิอนั น้อย ๆ มิให้ถอยจากกันไป ให้ติดต่อตามวิสัย แห่งเพศรู ปบุรุษย์หญิง
นามเส้นไม่ปรากฏ บทบาลีไม่มีจริ ง ฝ่ ายแพทย์กล่าวเพราพริ้ ง ขนานนามต่าง ๆ มี
เส้นหนึ่งชื่ออิทา ปิ งคะลาแลทารี สุ มะนากังขุงสี ทั้งภูสาํ ทวาระจันทน์
หนึ่งเส้นหัศรังศรี รัดขินีสุกขุมนั้น ประสมเส้นเป็ นสิ บอัน ล้วนเส้นใหญ่แผนคัมภีร์
นอกจากเส้นสิ บนั้น ชื่อผิดกันยังมากมี จะคัดไขในวิธี เส้นเหล่านี้เมื่อเกิดกาล
ประเภทอันราญร้าว ดุจกล่าวให้วถิ าน ณะหารู ร้าวราญ กําเริ บเป็ นโรคต่าง ๆ
คือให้จบั สะบัดร้อน กลับย้อนหนาวให้เมื่อยคราง ปวดเศียรกระมลหมาง บ่มีสุขในอินทรี ย ์
๒๙

อํามะพฤกษ์กาํ เริ บกล้า อาหาราบ่ภุญชี ถึงโอชะอันเลิศดี จะสู บเสพย์ก็เสื่ อมรส


เส้นใหญ่วกิ ลบ่อย เส้นน้อย ๆ ก็พลอยหมด ทีน้ นั จึงปรากฏ เป็ นก้อนผ่านในครรภา
บางทีเป็ นลําเถา แข็งขิงเรารอบอุรา รวบรัดมัดกายา เมื่อลุกนัง่ ทั้งยอกแทง
ให้ระหวยระทวยใจ บ่หลับได้ให้ถอยแรง ที่ขอดก็ขอดแข็ง เป็ นเกลียวกลึงขึงไปมา
เป็ นแพทย์อย่าเพิกเฉย อย่าละเลยหมัน่ ศึกษา ให้ชาํ นาญวิทยา หมัน่ ตรึ กตราให้ชดั เจน
รู ้จกั โรคนั้นแน่ เลือกลมแปรหรื อเส้นเอ็น รู ้โรคเป็ นเอ็นเส้น จึงผันผ่อนด้วยนวดนิ้ว
แก้เส้นที่หดห่อ ก่อดานเถาชักติ่งคิ้ว ประจงอย่าผลักพลิ้ว แก้หิ้วไส้ติ่งอุรา
ค่อยประทับระงับเส้น อํามะพฤกษ์เผ่นกําเริ บกล้า เผยลมถึงบาทา จึงจะเบาบันเทาคลาย
กล่าวโทษแห่งอํามะพฤกษ์ อันเหิมฮึกวิการร้าย มักกระทําระสํ่าระสาย ให้ร้อนเย็นแลเมื่อยเสี ยว
สะเทื้อนทัว่ ทั้งเส้นเอ็น ให้ก่อนเป็ นก้อนดานเกลียว แต่บาทาตลอดเลี้ยว จนสุ ดเศียรบ่วางเว้น
บางทีทาํ จับหนอ เป็ นเวลาก็เพราะเส้น อํามะพฤกษ์สิ่งเดียวเป็ น ประกอบโทษสิ บเอ็ดประการ
แม้นพร้อมเส้นใหญ่นอ้ ย อายุถอยบ่ยนื นาน แต่สี่หา้ พอประมาณ หยูกยาแก้พอประทัง
ผิแพทย์จะใคร่ แก้ อํามะพฤกษ์แน่วกิ ารัง วิธีคมั ภีร์หวัง ซึ่ งยาแก้ฉะนี้มี
เบ็ญขี้เหล็กตีผลา ใบมะกาแห้วหมูศรี มะขามป้ อมตองแตกดี ทั้งบอระเพ็ดขมิน้ อ้อย
โกฐนํ้าเต้าเถาวัลย์เปรี ยง ชัง่ ให้เอียงมากสักหน่อย เทียนทั้งห้าประสมพลอย สิ่ งสองสลึงจึงจะดี
ยาดําหนักสองบาท ราชพฤกษ์หา้ ฝักศรี ต้มสามเอาหนึ่งดี แทรกดีเหลือตามหนักเบา
ชําระโทษนํ้าเหลืองไหล ในเส้นเอ็นให้บนั เทา ทั้งนวดพลอยก็พลันเบา แก้ดานเถาอันขอดแข็ง
หนึ่งยาทําผงไซร้ เอาพริ กไทยทั้งขิงแห้ง มหาหิ งคุว์ ่าน( หว้าน )นํ้าแรง ทั้งเทียนดําโกฐพุงปลา
แก่นขี้เหล็กเหลือสิ นเธาว์ ใบกระวานเอาสะค้านหน้า พระยามือเหล็กตีนนกหญ้า ทั้งเกษรบัวแดงขาว
ทั้งนี้เท่ากันสิ้ น ตําผงกินเช้าเย็นกล่าว ด้วยมะกรู ดนํ้ามะนาว นํ้าส้มส้าสายชูหมาย
แก้เส้นชื่ออํามะพฤกษ์ ทั้งปวงอีกวิการหมาย ธาตุดินระสํ่าระสาย คุณยานี้ดีหนักหนา
หนึ่งยาเนาวหอยท่าน ขนานนามตามตํารา หอยโข่งหอยแครงหา หอยกาบสังข์หอยตาวัว
หอยมุกพิมพการัง ทั้งหอยขมอีรมมัว กระดูกเสื อกระดูกวัว ทั้งกระดูกเลียง ผาแพะ
เครื่ องนี้เผาพอสุ ก หนักตําลึงทุกสิ่ งแนะ รากตองแตกส้มเสี้ ยวและ ส้มสันดานละหกบาท
หัศคุณสองตําลึง มะตาดเครื อถึงสิ บบาทขาด ปูนผงสามบาทมาด พริ กไทยเอาเท่ายาพลัน
ตําผงไว้จงดี ในวิธีกระสายฉัน นํ้าด่างขี้เหล็กอัน ด่างสําโรงด่างงวงตาล
ด่างข้าแป้ นต่างต่อไส้ ด่านพันงูไซร้แดงพิศาล ด่างผักโหมอันหนามพาล ด่างบอระเพ็ดแช่ไว้ดี
เมื่อจะกินเอามาอุ่น พอตลุ่น ละลายศรี เนาวหอยพึงภุญชี แก้เส้นดานก้อนเถาหาย
อันคุณยาเนาวหอย ยิง่ ด้วยร้อยวิเศษหลาย แก้ดานขอดให้กระจาย โรคนิทานตํานานมา
หนึ่งในสาโรชนั้น ท่านรําพันซึ่ งสรรพยา อํามะพฤกษ์อนั พาทา เอารากคุยแลบอระเพ็ด
ชะเอมเครื อรากละหุ่งนะ โคกกระสุ นอันวิเศษ รากขัดมอญตามประเภท ให้เอาเท่ากันจงมาก
เอานํ้ามันละหุ่งเรา มาเคล้าคลึงแผ่ผ่ งึ ตาก สามแดดอย่าตากมาก จึงต้มกินอาจิณหาย
๓๐

หนึ่งรากมะแว้งเครื อมา กะดังมูตรคาวีหมาย เกลือสิ นเธาว์อนั เค็มร้าย นํ้ามันละหุ่งทําเป็ นผง


แล้วละลายซึ่ งนํ้าร้อน กินเน้นอ่อนบันเทาลง อํามะพฤกษ์ทาํ พิษสู ง คงสยบสงบสู ญ
ภาคหนึ่งสมอไทยหา สี่ ส่วนหนาเป็ นเค้ามูล มะขามป้อมหกส่ วนพูน ลูกพิเภกแปดส่ วนดี
ต้มด้วยนํ้ามูตรโค บีริโตอย่าเกลียดหนี แก้อมั พฤกษ์วเิ ศษดี เจ็บสี ขา้ งก็บางเบา
หนึ่งแก้เสมหะลม โลหิ ตประสมให้พึงเพรา ให้กายอุ่นวิมูลเข้า ดังก่อนเก่านั้นแลนา
หนึ่งแก้อาํ มะพฤกษ์รวม ทั้งกายบวมแก้วาตา ดังคัมภีร์ท่านกล่าวมา เอากฤษณาแลแก่นสน
เทพทาทั้งโกฐสอ ขิงแห้งหนอระแนงปน นํ้ามูตรแพะละลายคน ดื่มกินเถิดเลิศหนักหนา
แก้บวมแก้ลมนะ แก้เสมหะแก้เส้นกล้า แก้อาํ มะพฤกษ์วนิ าศา ยามคัมภีร์ดีมะหันต์
หนึ่งโสดนามตํารา ชื่อโลกาธิ จรนั้น แก้อาํ มะพฤกษ์วเิ ศษขยัน แก้ท้ งั ลมแลก้อนเถา
กระทําโทษที่ในท้อง กองพรรดึกเมื่อยไม่เบา กระดูกหลังชัง่ ขบเอา ทั้งบั้นเอวไม่สบาย
ตีนมือให้ขดั แข็ง ทุกข้อแข้งลําขาหมาย ตะโพกเป็ นเหน็บตาย ทัว่ สาระพางค์ไม่มีดี
แน่นอกจุกเสี ยดซํ้า บ่วายปลํ้าซึ่ งอินทรี ย ์ ขัดหนักเบาบ่สมประดี แล้วกําเริ บลมอํามะพฤกษ์
เจ็บเศียรทั้งเวียนวิง หู บ่นิ่งดังตึก ๆ หู หนักไม่เหมือนนึก หน้าตามืดชักปากเบี้ยว
เสี ยงแหบขัดอกหมาง ตึงราวข้างทั้งสองเกลียว อาหารบ่อได้เจียว มักเหม็นเขียวกลิ่นเนื้อตัว
บ้างทําท้องขึ้นมาก กลืนอยากมิใช่ชว่ั เสมหะให้พนั พัว ที่ในไส้แลนอกไส้
บางทีกระทําจับ ให้ร้อนกลับหนาวอกใจ อาหารทั้งปวงไซร้ นึกจะกินแต่เปรี้ ยวหวาน
อํามะพฤกษ์กาํ เริ บเป็ น กระทําเข็ญโทษหลายถาน โอสถแพทย์โบราณ เอาโกฐสอโกฐพุงปลา
โกฐนํ้าเต้าโกฐจุฬาแพง ผักแพวแดงดองดึงหนา ลําพันสะค้านหา ชะเอมเทศลูกจิงจ้อ
อุตพิดสิ่ งละสลึง ดีปลีหนึ่งยาดําหนอ แก่นแสมทะเลพอ สิ่ งสองสลึงจึงทําผง
ละลายนํ้าผึ้งร้อน กินหนักก้อนสลึงตรง แก้โทษอํามะพฤกษ์คง เหือดหายแท้แน่หนักหนา
อํามะพฤกษ์เบื้องซ้ายจบ กล่าวปรารภเส้นเบื้องขวา อํามะพาธพิณทะนา วิการาโทษทําพอ
แข็งขึงเป็ นลําเถา ชักคูเ้ ข่าทํางอนหง่อ เป็ นเหน็บไปตําหระหนอ ก็เกิดโทษตีนมือตาย
มือเท้าเย็นเป็ นเหน็บ มักเสี ยวเจ็บขัดข้อหมาย ทั้งอกใจไม่สบาย ระทดทวยระหวยแข็ง
จะย่างเท้าก้าวเดินหนอ เสี ยวขัดข้อย่อมพลิกแพลง โทษกล้ากําเริ บแข็ง เป็ นง่อยเปลี้ยมักเสี ยคน
บ้างกระทําชักอ้า ปากหน้าตากกระหยิบลน สู งสั่นดังหุ่นกล เล่ห์หลักปั กระริ กรัว
พลอยทับโทษอังคะมังคะ วาตะสร้างวิการมัว สั่นเริ้ มสิ้ นทั้งตัว ดังปู่ เจ้าปี ศาจสิ ง
อํามะพาธนี้โทษลึก แพทย์อย่าฮึกยากจริ ง ๆ อํามะพฤกษ์เป็ นเส้นยิง่ ถึงโทษหนักก็ยงั นาน
เส้นสองกระหนาบสู นย์ โลกทั้งมูลว่าเส้นประธาน ถ้อยคําบุพพาจารย์ แพทย์โบราณตั้งเป็ นมูล
เป็ นกุศลาอกุศลา อัพยาคือเส้นสู นย์ แม้นเส้นสามตระกูล รู ้ชวั่ ดีในกายตน
๓๑

รู ้เป็ นแลรู ้ตาย เพราะเส้นสายทําวิกล วิชาดีเล่ห์หนึ่งคน อันแม่นยําชํานาญปราน


ยอมทายทักประจักร์ แม่น เพื่อลมแล่นกระทบพาล สู รย์จนั ทร์ ใครกล้าหาญ หรื อพระเหี ยร (ขวา)
มะหิ หนัก (ซ้าย)
เห็นเหตุจึงภิปราย ธิ บายบอกแม่นประจักร์ แพทย์ก่อนท่านรู ้หนัก รู ้วธิ ีแห่งลมจร
วิธีเส้นก็ดูลม อันสมาคมเส้นกล้าหย่อน ผูแ้ พทย์ท่านแต่ก่อน กําหนดลมเล่ห์ดงั ปราณ
ลมเดินดําเนินเส้น รู ้ตายเป็ นรู ้เร็ วนาน จะกล่าวมาก็เหลือญาณ วิชาชาญพาลรู ้นอ้ ย
ดังบุคคลวิดสมุทร ให้สิ้นสุ ดด้วยฝาหอย อายุสักกี่ร้อย จะวิดแห้งเห็นเหลือกาล
วิธีเส้นก็แสนลึก ยากหยัง่ ตรึ กให้วถิ าน อํามะพาธเมื่อวิการ เยียวยายากใช่พอดี
ชํานาญทั้งนวดยา จักรักษาได้ถว้ นถี่ รู ้ทางเดียวไม่ใคร่ ดี หาอื่นช่วยป่ วยการเปล่า
ต่างคนก็ต่างแย้ง หมอยาแคลงหมอนวดเขลา หมอนวดกินใจเอา ว่าวางยาไม่ชอบลม
เรี ยบเรี ยบเส้นไว้ดี ยาถูกที่หายนานนม หมอยาก็กล่าวข่ม หยูกยาเราวางถึงจอม
นวดดีเส้นสายแม่น ปานนี้แล่นเดินได้พร้อม เหตุฉะนี้เราก็ยอ่ ม ยินมามากหมอมารยา
เบื้องนี้จะบอกเพศ พึงสังเกตบอกวิทยา อํามะพาธนวดบาทา กลางใจตีนเป็ นที่ต้งั
นวดตลอดจนต้นขา ถึงสายเสี ยดข้างขวาหวัง เหนี่ยวหน่วงจงเจาะจัง ทั้งบั้นเอวให้เอ็นอ่อน
ประทับเส้นอํามะพาธ ข้างขวามากให้ยดื หย่อน เผยลมให้แล่นร้อน นวดให้ถอยถึงเดิมดี
นวดหลังกระทัง่ ไหล่ ใครตามแขนข้างขวานี้ เบื้องซ้ายนวดตามมี ประสมพลอยพอเป็ นการ
ทําฉะนี้สี่สามหน แล้วจึงปรนกินยาผลาญ ขับลมอันวิการ ดังตําหรับบังคับมี
พริ กล่อนแลว่านนํ้า โกฐสอซํ้าทั้งดีปลี ตําผงระแนงดี ละลายนํ้าขิงนํ้าร้อนกิน
เกลือปนรําหัดซํ้า วิเศษลํ้าอย่างพึ่งหมิ่น อํามะพาธวินาศสิ้ น ลมตะคริ วก็กินหาย
อํามะพาธหนึ่งโสด เกิดก่อโทษเป็ นลมร้าย ให้จุกเสี ยดสวิงสวาย บ่ได้สบายด้วยลงท้อง
ทําโทษกลุม้ อกใจ บ่หลับได้อารมณ์หมอง ดวงใจให้เบาว่อง ให้หวิง ๆ ในอารมณ์
แพทย์จะแก้เอาเทียนแดง ขิงแห้งดีปลีประสม เทียนขาวดําอุดม ทั้งดอกจันทน์กาลพลูศรี
ลูกกระวานแลว่านนํ้า สมุลแว้งซํ้าชะเอมดี มหาหิ งคุอ์ นั กลิ่นมี เจ็ตมูลสิ่ งละสองสลึง
พริ กไทยสิ บบาทขาด ชัง่ อย่าคลาดสักหน่อยหนึ่ง หนักหกบาทสองสลึง ลูกจันทน์หนักเหมือนกันหนา
ทําผงละลายนํ้าผึ้ง กินหนักสลึงตามตํารา อํามะพาธที่พาธา ให้จุกเสี ยดก็เสื่ อมสู ญ
หนึ่งโสดยานํ้ามัน ดูแข็งขันกว่าทั้งมูล อํามะพาธเมื่อเพิ่มพูน โทษกระทําตีนมือตาย
ชักปากเบี้ยวตาฟาง ตายไปข้างตําหระหมาย ดังตํานานบรรยาย เปลือกมะรุ มเปลือกกุ่มสอง
เปลือกมะขามเปลือกพิกุลอ้าง เปลือกทองหลางใบมนกอง อีกสลอดที่ลงท้อง เอาทั้งรากแลลูกใบ
บอระเพ็ดแลขิงข่า ขมิ้นอ้อยหากะทือใส่ หอมกระเทียมกระชายไซร้ ทั้งจิงจ้อไฟเดือนห้า
ลูกมะงัว่ แลมะนาว ซํ้าอีกเล่าลูกส้มส้า ระคนตําให้แหลกหนา คั้นเอานํ้าสอบสองทนาน
ให้เอานํ้ามันงา ทนานหนึ่งหนาอันพิศาล หุ งคนนํ้ามันพล่าน ยกลงปรุ งซึ่ งลูกจันทน์
๓๒

ทั้งดอกจันทน์เจ็ตมูล อีกการะบูนแลขิงขยัน ลูกกระวานกานพลูน้ นั ทั้งโกฐเขมาอีกโกฐสอ


สิ่ งละบาททําผงปรุ ง หุ งแก้โทษดังกล่าวหนอ ตีค่าหนักทองพอ ครบสี่ บาททวีคูณ
ใส่ หูใส่ ตาจมูก พุพองถูกฝี ทูมสู ญ ทํากินยาอาดูร โทษอํามะพาธจะขาดหาย
หนึ่งโสดชื่ อหิ งคา ธิ จรนาแก้ลมร้าย แก้ลมตีนมือตาย เท้ากรกายสัน่ งกงัน
ลมขึ้นกระหม่อมตา ลมเสี ยวซ่าทั้งตัวนั้น ลมท้องมานกินขยัน แก้เสลดกลัดอกดี
กินข้าวไม่ใคร่ ได้ ผอมเหลืองไปไข้โทษตรี แก้ปิตะไข้เพื่อดี ทํากินเถิดเลิศหนักหนา
ให้เอามหาหิ งคุท์ ้ งั เกลือกะตังรากหนาดมา ว่านนํ้าดีปลีลา เทียนเยาวภาแลพริ กขิง
บอระเพ็ดท่านให้เอา มากกว่าเท่าทุกสิ่ งจริ ง รากจึงจ้อคุณยิง่ เท่าบอระเพ็ดเร่ งทําผง
นํ้ามะรุ มเป็ นกระสาย ละลายบดปั้ นบรรจง เท่าเมล็ดพริ กไทยคง ละลายนํ้าร้อนนํ้าเหล้าขิง
แก้สะอึกก็กินหาย คุณยาหลายวิเศษจริ ง อํามะพาธทําเท้านิ่ง กินเห็นคุณโรคสู ญหาย
ภาคหนึ่งนั้นเล่าโสด ในสาโรชท่านบรรยาย อํามะพาธพิการร้าย ประกอบโทษมากทารุ ณ
ให้เอาซึ่ งขิงแห้ง อันร้อนแรงโคกกระสุ น สองสิ่ งย่อมมีคุณ ต้มกินวันละสิ บหน
แก้ลมอํามะพาธ อาจสามารถบรรลัยหล่น เจ็บเอวหายชอบกล ทั้งเจริ ญไฟธาตุหย่อน
หนึ่งโสดถอยกําลัง แก้ประทังดีดงั ก่อน คุณยาอาจสังหรณ์ สังหารลมระทมหาย
หนึ่งรากตะกรุ มหา รากมะค่าแก่นจวงหมาย บอระเพ็ดอันขมร้าย รากมะงัว่ โคกกระสุ น
เสมอภาคใส่ หม้อต้ม ดีเกลือประสมกินพออุ่น สามารถให้เห็นคุณ แข้งขาเมื่อยบรรเทาคลาย
เจ็บข้างเจ็บหลังนั้น มือเท้าสั่นก็กินหาย ประกอบคุณดีมากมาย แก้ลมร้ายบรรเทาเบา
หนึ่งรากมะกอกพร้อม มะขามป้ อมกระจับเรา ชิงชาลีขิงแห้งเอา รากมางัว่ ทั้งแก่นจวง
หญ้าเกล็ดหอยทั้งเมียผู ้ มะแว้งดูคุณใหญ่หลวง กระถินแดงไข่เน่าหน่วง รากแคฝอยรากเพกา
รากมะตูมคนทีสอ เอาใส่ หม้อต้มกินนา จะทําผงตามปั ญญา ลายนํ้าร้อนดื่มกินพลัน
อํามะพาธเส้นเอ็นร้าย แข้งขาตายขาสั่นนั้น บําบัดคลายหายแม่นมัน่ คุณยานี้ดีหนักหนา
ภาคหนึ่งลูกดีปลี รากดีปลีเร่ งหามา รากกระจับเรากินนา รากมะกอกลูกมูกมัน
เสมอภาคทําผงละลาย สุ รากระสายวิเศษขยัน ขาตายขาสั่นนั้น พลันหายดีดงั กล่าวมา
หนึ่งเอาสะค้านเถา พริ กเทศเอาตรี ผลา คนที่สอเร่ งหา ด้วยนํ้าผึ้งกระสายบด
แล้วละลายนํ้าข้าวสุ ก อย่าเป็ นทุกดื่มให้หมด เมื่อยล้าอันปรากฏ ทั้งขาสั่นขาตายหาย
ภาคหนึ่งลูกดีปลี วิเศษดีคุณเหลือหลาย หงอนไก่ท้งั สองหมาย (เอาราก) ทั้งรากราชมานพเหนือ
ทําผงลายนํ้าผึ้งเจียว นํ้าอ้อยเคี่ยวกินอย่าเบื่อ แก้ริดสี ดวงวิเศษเหลือ ขาตายสั้นพลันหายเบา
ภาคหนึ่งอํามะพาธ อันร้ายกานในกายเรา คัมภีร์ท่านให้เอา คือเครื อเถายอดด้วนจริ ง
แห้วหมูดีปลีตม้ อาจแก้ลมอํามะพาธยิง่ แก้เจ็บเอวก็ดีจริ ง แพทย์อย่ากริ่ งให้กินหาย
ภาคหนึ่งทศมูลนี้ อีกดีปลีคุณมากมาย ดังตําหรับอธิ บาย อันทศมูลฉะนี้มี
อีกเอากระถินแดง รากมะตูมแรงเพกาศรี รากแคฝอยไข่เน่าดี รากที่( ที )สอมะแว้งสอง
หญ้าเกล็ดหอยทั้งเมียผู ้ ดีปลีชูคุณลํายอง ตําผงระแนงกรอง ละลายนํ้าร้อนเร่ งกินพลัน
๓๓

แก้ลมอํามะพาธ เจริ ญธาตุเตโชขยัน ลมร้อนในกายนั้น แก้เสมหะแลหืดหาย


หนึ่งเครื อยอดวัลย์นะ ลูกมะตูมสมอหมาย ขิงแห้งอันเผ็ดร้าย ทั้งดีปลีกระทําผง
ลายนํ้าร้อนดื่มกิน แก้มลทินดับพิษสง เสื่ อมคลายหายมัน่ คง คุณยานี้ดีอย่าแคลง
อํามะพาธอีกภาคหนึ่ง แก้ไปถึงลําขาแข้ง ให้ลีบให้โรยแรง แก้เอ็นหดเอ็นห่อหาย
ให้ปกติเหมือนดังเก่า มิให้เศร้าพิกลฉลาย สรรพยาใช้มากมาย คือผลสมอกระทําผง
แล้วระคนนํ้ามันละหุ่ง กินบํารุ งเส้นสายคง ดุจตําหรับกล่าวประสงค์ ประสิ ทธิ์ สูญคุณหนักหนา
ภาคหนึ่งมหาหิ งคุ ์ กับทั้งขิงสะค้านป่ า ลูกผักชีพิลงั กาษา (เอาลูก) ตุกกะโรท้าวยายม่อม
ช้าพลูลูกดีปลี ยาทั้งนี้เท่ากันพร้อม ทําผงกินอย่าถ่อม ลายนํ้าร้อนดีชอบกล
อํามะพาธเกิดเพื่อดี กินยานี้หายบัดดล ผูใ้ ช้อย่าพึ่งฉงน ประมาทหมิ่นลบหลู่คุณ
หนึ่งอํามะพาตทั้ง เพื่อเสมหังมากทารุ ณ เอาขิงช้าพลูหนุน รากดีปลีเท่ากันต้ม
ใส่ น้ าํ สักสามถ้วย เคี่ยวดูดว้ ยงวดพอสม นํ้าเปรี ยงใส่ ระดม เคียวพอเดือดริ นออกกิน
พออุ่นคุณใหญ่หลวง ลมริ ดสี ดวงระงับสิ้ น อํามะพาธลมเสี ยดดิ้น กินหายแน่ดงั กล่าวมา
ภาคหนึ่งอํามะพาธ อันร้ายกาจกําเริ บกล้า วุฒิวยั ในสรรพยา บอระเพ็ดผลสมอ
เทียนเยาวภาเทียนดํา เกลือสิ นเธาว์กาํ ดูพอ ขิงแห้งเท่ากันหนอ ตําผงละลายกับนํ้าเปรี ยง
แก้ลมอํามะพาธ เร็ วสามารถระงับเกลี้ยง คุณยาท่านเรี ยบเรี ยง คุณยานั้นแม้นเหมือนกัน
ภาคหนึ่งตุกกะโร หิ งคุยางโพสะค้านพลัน ช้าเลือดใหญ่เครื อไฟนั้น ได้แต่สิ่งหนึ่งก็เอา
เทียนเยาวภามีกลิ่น ตําผงกินนํ้าร้อนเรา ลมอํามะพาธวินาศเบา ถึงยากยิง่ ก็ยอ่ มสู ญ
อํามะพาธประกาศยา ยุติกาจบบริ บูรณ์ ฯ
๏ ปัตตะฆาฎชาติเส้นเอ็น กําเริ บเป็ นเบื้องนอกใน วิธีทาํ โทษมะไหย ให้เจ็บเอวเอ็นเป็ นลํา
ติ่งตลอดยอดทรวงอก ให้เจ็บฟกสุ ดแสนรํ่า พรรดึกพลอยผูกซํ้า ทําจุกเสี ยดเพราะเส้นกล้า
วิธีโทษทําร้อนรุ่ ม กายเล่ห์สุมเมื่อยแข้งขา สะเอวเป็ นเหน็บชา เสี ยดสันหลังบ่นงั่ ตรง
มึนเมื่อยซึ่ งต้นคอ แถวบ่าหนอหนักสู งทรง อาหารกินไม่ลง แต่นิดน้อยพลอยอิ่มอึ้ง
จะหลับนอนบ่ห่อนได้ กรํากรากใจตาแข็งขึง ปั ตตะฆาฎโทษลึกซึ้ ง สะดุง้ ยอกออกปากโอย
เส้นทะเวทเพศปั ตตะฆาฎ ดูสามารถย่อมดิ้นโดย จะไหวพลิกเสี ยวร้องโอย ดังร่ างกายจะแหลกยับ
กายนั้นแข็งกระด้าง เล่ห์ปลาย่างอยูใ่ นตับ จดนิ้วร้องทุกงับ กลับสะดุง้ ร้องรํ่าไป
ผิวชาให้สากคลํ้า หมองดําดังต้องควันไฟ แพทย์จะแก้กาํ หนดไว้ จับเส้นเอ็นที่บ้นั เอว
ประทับนวดสองตะคาก นวดซํ้ามากให้อ่อนเหลว ยกมืออย่าให้เร็ ว แก้สันสายเสี ยดสอดเส้นใน
ไคลหน้าอกยกมือซํ้า ปลํ้าสันหลังหมัน่ คลึงไคล สบักรวมต้นคอไหล่ ไคลลงแก้ขาตีน
สองเส้นหน้าแข้งหนา นวดอาฌามักปวดดิ้น กล่าวไปใช่สุดสิ้ น วิธีนวดรู ้ต่าง ๆ
แพทย์จะแก้พึงต้มยา ตามตําราประจุลา้ ง ชําระโทษให้เบาบาง เส้นสายกระด้างที่ขอดแข็ง
แม้แพทย์จะรักษา จงต้มยาอย่าได้แคลง ขี้เหล็กทั้งห้าแรง อีกมะกาทั้งห้าซํ้า
ราชพฤกษ์เอาทั้งห้า ตรี ผลาวิเศษลํ้า โคกกระสุ นวัลย์เปรี ยงขํา ซํ้าฝางหอมผักเสี้ ยนผี
๓๔

ต้นสามเอาหนึ่งกิน เป็ นอาจิณแก้เส้นดี แก้ดานเถาคลายคลี ให้นวดซํ้าหมัน่ กินยา


ภาคหนึ่งก็ยาต้ม ข่มลมปั ตตะฆาฎหนา ตําหรับบังคับมา รากคางโทนก้างปลาแดง
รากช้าแป้ นโคกกระสุ น กระดอมหนุนให้ขมแรง รากผักแพวมีแสง แต่งต้มสามเอาหนึ่งกิน
แก้เส้นเอ็นปั ตตะฆาฎ อาจสามารถทําลายสิ้ น ครั้นแล้วจึงให้กิน ซึ่ งยาผงอีกต่อไป
ภาคหนึ่งเป็ นยาผง ท่านประสงค์บงั คับไว้ พริ กอ่อนพริ กหางไซร้ ขิงดีปลีท้ งั เปลือกเงาะ
เทียนดําเกลือสิ นเธาว์ โกฐสอเอาสะค้านเจาะ จงทําผงแต่เฉพาะ นํ้าส้มส้าเป็ นกระสาย
ภาคหนึ่งแก้ปัตตะฆาฎ แลอํามะพาธอํามะพฤกษ์หมาย ลมหื ดไอกินก็หาย แพทย์ท้ งั หลายพึงสังเกต
แรมคํ่าหนึ่งประกอบยา วันเดียวหนาทําให้เสร็ จ วิธีทาํ เป็ นกาละเม็ด คุณวิเศษมิใช่นอ้ ย
ขมิ้นอ้อยแลดองดึง สิ่ งละสลึงอย่าถ่อมถอย ตรี ผลาขิงแห้งพลาย(พลอย) หนักสิ่ งละบาทชัง่ อย่าพลั้ง
กระเทียมดีปลีน้ นั อีกทั้งขันทศกรหวัง สิ่ งละสลึงพึงเร่ งชัง่ รากทนดีสิบสี่ สลึง
ตากตํากระทําผง นํ้าท่าคงสองส่ วนกิ่ง นํ้าอ้อยแดงสักส่ วนหนึ่ง พึงละลายกินหายพลัน
ภาคหนึ่งยาประจุ ปั ตตาฆาฎรุ พรรดึกนั้น แก้ปวดมวนท้องขยัน คลื่นอกใจก็กินดี
เอาลูกจันทน์ดอกจันทน์ มหาหิ งคุน์ ้ นั ทั้งสามนี้ สิ่ งละบาทตามคัมภีร์ แต่การะบูนหนักหกสลึง
ยาดําเอาสองบาท พริ กอย่าขาดนํ้าหนักถึง เท่ายาทั้งหลายจึง เปลือกมะรุ มเคียวเป็ นกระสาย
ปั้ นแท่งทําให้เสร็ จ เท่าผลเมล็ดลูกฝ้ายขาย นํ้าร้อนเป็ นกระสาย หายเร็ วพลันมัน่ นักหนา
ภาคหนึ่งปั ตตะฆาฏ หัวชันกาดพริ กขิงมา ดีปลีทาํ ผงรา ลายนํ้าปูนกินสู ญหาย
ภาคเหนึ่งปั ตตะฆาฏ อาจสามารถจะทําลาย แก้โทษกําเริ บร้าย ให้เจ็บหลังเสี ยดซี่ โครง
เสี ยดสี ขา้ งท้องน้อย เส้นเอ็นพลอยหลังขดโค้ง จะลุกนัง่ ก็ขาโกง บ่โยกโครงกายไหวได้
ผิแพทย์จะเยียวยา โทษพาธาฉะนี้ไซร้ ตําหรับบังคับไข เอาสะค้านรากช้าพลู
เจ็ตมูลตรี กะฎุกนั้น ดินประสิ วจันทน์ขาวฟู หญ้าลูกเคล้าหาดู ทั้งสารส้มหัวว่าน(หว้าน)นํ้า
ลูกพิลงั กาษาเสมอ เท่ากันเหนอตําผงรํ่า นํ้าผึ้งละลายซํ้า กินเช้าคํ่าโรคเสื่ อมสู ญ
ภาคหนึ่งปั ตตะฆาฎ อันวิปลาศโทษทั้งมูล ปั ตตะฆาตนอกในพูน กําเริ บแรงทําต่าง ๆ
แม้นหญิงระดูขดั ท้องวิบตั ิปวดมวนคราง จุกเสี ยดเป็ นหลายอย่าง ระดูร้างไม่มีมา
ยานี้ทาํ กินเถิด จะโฉมเฉิ ดผ่องพักตรา เปล้าทั้งสองเร่ งหา อีกหัศคุณเอาทั้งสอง
ลูกจันทน์แลดอกจันทน์ ลูกกระวานนั้นพึงชัง่ กอง กานพลูน้ าํ ประสารทอง เทียนทั้งห้าสิ่ งละสลึง
รากช้าพลูแลสะค้าน ประมาณมาอีกส่ วนหนึ่ง ชัง่ หนักสองสลึงจึง ทําผงแล้วลายสุ รา
นํ้าผึ้งมะนาวได้ ควรจะใช้สิ่งเดียวนา ตําหรับบังคับมา แก้วาตตะฆาฎหาย
ปั ตตะฆาฎขนานหนึ่ง กล่าวเคล้าคลึงดังก่อนหมาย ตรี กะฎุกทั้งสามราย เจ็ตมูลแลหัศคุณ
ห้าสิ่ งอย่าให้ขาด ละสี่ บาทอย่าว้าวุน่ ลูกจันทน์ดอกจันทน์หนุน ทั้งกระวานกานพลูซ้ าํ
สิ่ งละสลึงพึงปรุ งเอา มหาหิ งคุเ์ ข้าทั้งยาดํา การะบูนอันกลิ่นขํา สิ่ งละสองสลึงพึงทําผง
ลายนํ้าผึ้งอย่าขาด แก้ปัตตะฆาฎนอกในตรง จุกเสี ยดบรรเทาลง ระดูดีดงั กล่าวมา
หนึ่งนามไฟเก้ากอง ชื่ อรับรองดีนกั หนา ตรี กะฎุกเปล้าสองเรา อีกหัศคุณทั้งสองซํ้า
๓๕

แก่นแสมทั้งสองสม รากส้มกุง้ ปรุ งกระหนํ่า เสมอภาคตําผงรํ่า นํ้ามะนาวกินแก้เส้นสู ญ


จุกเสี ยดนํ้าส้มส้า นํ้าขิงข่าแก้ลมพูน ชําระโรคอันมากมูน เสื่ อมสิ้ นหายดีหนักหนา
ขนานหนึ่งตรี กะฎุกนะ หอมกระเทียมแห้วหมูมา กะทือไพลกระชายหา แลมลองแลมดยอบ
ทั้งนี้สิ่งละสองสลึง ชัง่ ให้ถึงจึงประกอบ กระวานกานพลูตอบ ทั้งลูกจันทน์ดอกจันทน์ซ้ าํ
สิ่ งละสลึงพึงอย่าแคลง กํามะถันแดงสารส้มขํา ขมิ้นอ้อยจงชัง่ ทํา สิ่ งละบาทเป็ นส่ วน ๆ
ดีจรเข้าสลึงหนึ่ง แช่เหล้าจึงกระสายควร ปั้ นแท่งละลายเหล้าล้วน กินแก้เส้นเสลดหาย
เลือดเน่าในท้องอก ระดูหมกขัดกระจาย นํ้าผึ้งแก้เส้นสาย ทั้งนํ้าข่านํ้าขิงดี
แก้ลมนํ้าส้มส้า นํ้ามะกรู ดนํ้ามะนาวศรี นํ้ามะงัว่ กินก็ดี ระดูขดั ก็กินหาย
ยังนํ้ามันขนานหนึ่ง ชื่อไตรตรึ งรัตนหมาย แก้โรคอํามะพาธร้าย ลมทั้งหลายกําเริ บพลอย
ให้เจ็บในต้นคอ ตึงขึ้นมาถึงท้องน้อย ตําราท่านกล่าวฝอย เพื่ออํามะพาธท่านกล่าวไว้
ลมหนึ่งให้ตอดขบ แต่เท้าทบเสี ยวขึ้นไป ถึงต้นขาตะโพกใน ชื่อลมไซร้สุริอาต(วาต)
ถ้าเจ็บแต่เอวถึง อกไหล่ตรึ งนามประกาศ ชื่อว่าลมปั ตตะฆาฎ ตําราเก่าท่านกล่าวมา
นํ้ามันนี้องอาจ สามารถแก้ซ่ ึ งวาตา เกิดในใจบาทา เสี ยวขึ้นมาหน้าแข้งพลัน
ถึงสะดือแลหัวเหน่า ให้เจ็บร้าวท้องน้อยขยัน ริ มสะดือขวาซ้ายนั้น แล่นเสี ยวลอดเข้าในทรวง
ยอดอุระเป็ นยวดยิง่ แล้วบ่น่ิงแล่นทะลวง รากขวัญทัว่ ทั้งปวง ตลอดล่วงสิ้ นทั้งกาย
กระทําเมื่อยแข้งขา ตีนมือชาเป็ นเหน็บตาย ฝ่ าตีนฝ่ ามือหมาย ให้ร้อนร่ มเล่ห์ผงึ
อันโรคดังกล่าวมา ชอบด้วยยาชื่อไตรตรึ ง ฝี ลาํ มะนาดก็แก้ถึง คัด( คัน )ทะมาลาก็ทาหาย
ฝี ประคําควายประคําร้อย แม้นทาบ่อยหายกระจาย เจ็บคอเจ็บอกหมาย เกิดฝี ร้ายให้หมัน่ อม
สําลีชุบนํ้ามัน อมไว้พลันกลิ่นประสม ริ ดสี ดวงหู ตาซม ใส่ น้ าํ มันพลันเสื่ อมสู ญ
อันนํ้ามันขนานนี้ ค่ามณี คาํ นับคุณ สรรพโรคสิ้ นทั้งมูล อาจแก้ได้ไวหนักหนา
ผิจะทําใบสะเดา พริ กไทยเอาใบเร่ งหา ใบสลอดลําโพงกา สลักทั้งใบตองแตก
ใบประคําไก่ขมิ้นอ้อย สิ่ งละตําลึงย่อยตําแหลก จึงคั้นนํ้าท่าแทรก เอาแต่น้ าํ ห้าทนาน
ให้เอานํ้ามันงา เท่าคุลาคุลีกาล การะบูนพริ กไทยผลาญ เป็ นจุลแหลกละแปดสลึง
ใส่ กะทะเคี่ยวอย่าแรง ยาจะแห้งพอรุ มริ่ ง ธู ปเทียนคํานับถึง ทั้งเมี่ยงหมากแลพลูกรวย
บุบผาสุ มาลี เชิญฤาษีให้มาช่วย ประสาทพรอํานวย พนุภาพปราบโรคหาย
หนึ่งเล่าก็น้ าํ มัน วิเศษขยันแก้เอ็นร้าย แข็งกระด้างให้กระจาย ทาเส้นสายให้เอ็นอ่อน
กระดูกงูเหลือมเผาหนา เปลือกแมงดาเผาเสี ยก่อน รากเจ็ตมูลอันรุ มร้อน รากหู ปลาช่อนกับทั้งไพล
นํ้ามะนาวนํ้ามันงา กับนํ้ายาเท่า ๆ ใส่ หุ งด้วยแสงอุทยั ส่ องแห้งใส่ เติมสามที
หาเถิดเลิศดีนกั เส้นสายชักเอ็นอ่อนดี กล่อนเอ็นอันกะลี ทายานี้หายกระจาย
ภาคหนึ่งยานํ้ามัน วิเศษครันคุณมากมาย แก้ลมวิกลร้าย ตีนมือตายตําหระข้าง
แก้ลมอันวิบตั ิ สาระพัดโทษต่าง ๆ สรรพยาท่านกล่าวอ้าง เอาพริ กเทศทั้งพริ กไทย
ขิงข่ากระเทียมกะทือ จงหาซื้ อกระชายไพล หนึ่งใบประคําไก่ ใบสะแกเปลือกเลี่ยนบีบ
๓๖

มะกรู ดทั้งผิวนํ้า จงโปรดตําแล้วกรองบีบ ตวงนํ้ายาเมื่อตีบ ให้ซ้ าํ มากสักสามส่ วน


จึงเอานํ้ามา( มัน)เสื อ เจือนํ้ามันงูเหลือมล้วน นํ้ามันนกกระทุงกวน หุงยังคงแต่น้ าํ มัน
ทาแล้วเอาไม้เขียว ปล้องหนึ่ งเจียวลนไฟพลัน คลึงลงที่ทานั้น วิเศษครันประสิ ทธิ์ สูญ
ภาคหนึ่งชื่อปั ตตะฆาฎ แก้อาํ มะพาธโรคทั้งมูล ราชยักษ์ก็กินสู ญ แก้พิษฝี ก็ดีครัน
ให้เอาการะบูนมา ทั้งยาดําแลฝิ่ นขยัน สิ่ งละบาทอย่าขาดพลัน โหรานั้นทั้งสามใส่
โหราเขากระบือแท้ เท้าสุ นขั แลเดือยไก่ สี เสี ยดเทศนั้นไซร้ สิ่ งละสลึงจึงแรงดี
พริ กไทยเอาสี่ บาท อย่าให้ขาดตามคัมภีร์ เทียนดําเทียนขาวสี ทั้งดอกจันทน์สิ่งละสองสลึง
บดนํ้าเปลือกมะรุ ม จงปั้ นคุมเป็ นแท่งคลึง เท่าเมล็ดพริ กไทยจึง กินนับเม็ดสิ บเจ็ดพลัน
นํ้ากระสายบ่เลือกห้าม พิเคราะห์ตามเล่ห์โรคอัน ควรกระสายก็ลายฉัน แก้ลมพลันประสิ ทธิ์ หาย
ภาคหนึ่งเป็ นยาดอง คุณไวว่องวิเศษหลาย ตําหรับบรรยาย ซึ่ งรากไม้ท้ งั สามสิ่ ง
ขี้เหล็กรากช้าแป้ นเคล้า กับคัดเค้าอันคุณยิง่ เสมอภาคยากจริ ง ๆ สับตากต้มให้สมกาล
นํ้าเคี่ยวบังคับต้ม โดยนิยมสามสิ บทนาน เคี่ยวงวดดูประมาณ เอาสามทนานจึงริ นไว้
ลูกจันทน์แลดีปลี กระวานนี้ เทียนดําใส่ สิ่ งละสองสลึงชัง่ ไว้ แต่พริ กไทยหนักสี่ บาท
ตําบดพอยุบย่อย เอานํ้าอ้อยที่แดงฉาด ทนานหนึ่งอย่าได้ขาด ระคนธาตุน้ าํ ยาเคี่ยว
ฝังข้าวเปลือกเจ็ดวัน ถึงแปดนั้นจึงกินเจียว แก้ลมที่จุกเสี ยว ตีนมือตายเป็ นง่อยเพลีย
ทั้งเดินเหิ นไม่ถนัด แข้งขาขัดกระปรกเปลี้ย เมื่อยขบเป็ นลมเสี ย หู หนักเงียบไม่ยนิ ความ
แก้อาํ มะพาธราชยักษ์ ท้องขึ้นหนักท้องพองลาม ผอมเหลืองที่เหลืองาม ดังกล่าวความทั้งปวงสรรพ
ให้กินแรมคํ่าหนึ่ง ให้สิ้นถึงเมื่อวันดับ อันโทษลมพลันระงับ ดับเรื่ องโรคนี้พลันหาย
ปั ตตะฆาฎประกาศกล่าว ตามเรื่ องราวตําราหมาย ยุติความตามบรรยาย ยากอธิ บายบ่วถิ าน
วิธีเส้นก็แสนลึก จงตรองตรึ กหาอาจารย์ ผูร้ ู ้ครู ชาํ นาญ ในกลการวิธีเส้น
ตูขา้ ผูร้ จนา อ่อนปั ญญาไม่เล็งเห็น รู ้นอ้ ยในเรื่ องเอ็น เห็นร่ างๆ หาแจ่มไม่
เป็ นอาทิพอสังเกต ตามประเภทสื บนิสัย กุลบุตรเบื้องหน้าไป พอจะได้เห็นราง ๆ
ปั ตตะฆาฎยุติจบ สงบไว้เพียงนี้พลาง บัดนี้จะกล่าวอ้าง ในเรื่ องกล่อนสอนสื บไป ฯ
๏ ผิวา่ แพทย์จะใคร่ เรี ยน จึงมีเพียรกําหนดใน อาจารย์ท่านกล่าวไว้ ในเรื่ องรู ปรอยเลขา
ไว้แทนเป็ นแผนครู พอได้ดูชาํ นาญตา เพื่อโลกไปเบื้องหน้า สิ้ นทิศาจะเสื่ อมทาง
แพทย์ใดเมื่อได้เห็น โรคกล่อนเส้นซึ่ งขัดขวาง ให้นวดแต่เบื้องล่าง เหนื อตาตุ่มข้างท้องน่อง
แก้องคชาดตาย เพื่อกล่อนร้ายมิลาํ พอง หนึ่งเส้นหน้าแข้งสอง รวมทํานองกล่อนปั ตตะฆาฎ
เส้นหลังแล่นกระหลบ ไคลก้นกบตีทายาท กระทบเสี ยวดังเยีย่ ราด แก้องคชาดอันชาตาย
แก้ขดั เบาก็ดีมาก หนึ่งสองตะคากอันกล่อนร้าย เจ็บหลังบ่มิสบาย เพศกล่อนร้ายแล่นลงฝัก
ฟกฟูดูน่าชัง เจ็บเอวหลังเป็ นพ้นนัก บางทีโทษลงฝัก หนักเป็ นอุง้ ดูบดั สี
บางทีเป็ นไส้เลื่อน แปรแชเชื อนโทษกาลี เส้นกล่อนในคัมภีร์ พึงขยายเส้นใต้สูนย์
ใต้สะดือสักนิ้วกึ่ง ประจงคลึงตลอดจูน เคียงเรี ยงเส้นสู นย์พูล ชื่อนาคบาดบอกให้รู้
๓๗

แม้นนาคนอนอ่อนระทด บ่พึงผดซบเศียรอยู่ ดังทารกซึ่ งมิรู้ ชูไม้คอ้ นเข้ายอนหาง


แสนพิโรธโลททะลึ่ง ลําพองผึ่งพังพานกาง ชูเศียรพองคะนองหาง บางเหี้ ยมพิษกําแหงแรง
วิธีเส้นดังกล่าวมา แพทย์ปัจฉาอย่าเขลาแคลง จะกล่าวนักมักหมื่นแหนง จะเสื่ อมแสวงไม่เรี ยนรู ้
แม้นจะใคร่ วถิ านความ พยายามเสาะแสวงครู รํ่าเรี ยนเพียรถามดู จึงจะรู ้สืบๆ ไป
โทษกล่อนนี้หลายเพศ จงสังเกตกําหนดใน ตําหรับบังคับไข ในคัมภีร์ถึงห้า
กล่อนลมแลกล่อนนํ้า กล่อนเลือดซํ้ากล่อนเอ็นหนา กล่อนแห้งพอครบห้า บางตํารากล่าวกล่อนหิน
กล่อนไฟคํารบเจ็ด เรื่ องกล่อนเสร็ จโทษทั้งสิ้ น ฝูงชนในแดนดิน ทั้งชายหญิงฉะนี้มี
จะกล่าวเทศน์ในกล่อนแห้ง กําเริ บแรงโทษปถวี มีอาการเมื่อกระลี วิธีกล่อนท่านกล่าวมา
เส้นตั้งข้างหัวเหน่า กําเริ บร้าวทั้งซ้ายขวา ย่อมซึ่ งผ่านซ่านลงมา วิการฟก
กระทบกระทัง่ มือ แต่ผา่ คือตลอดอก ยอกในดังใครจก เจ็บเสี ยวนักดังหนามแทง
ถูกยาก็ชกั หด เป็ นก้อนขดเป็ นลูกแข็ง เถากลิ้งกําเริ บแรง แทงหัวเหน่าเสี ยวราวข้าง
ปวดขบยอกในอก ให้บวมฟกโทษต่าง ๆ เสมหะแห้งกล่าวอ้าง ทําโทษสิ บเอ็ดประการ
ยอกเสี ยวตามชายโครง ปวดโก้งโค้งบ่หึงนาน กระทําคูธให้วถิ าน ก้อนพรรดึกอยูใ่ นท้อง
ให้เจ็บทัว่ สาระพางค์ สะเอวข้างดังเพลิงกอง มือตีนสิ้ นทั้งสอง จะหยิบต้องเป็ นเหน็บตาย
ทั้งตะโพกก็เมื่อยขบ ให้ร้าวกบหัวเหน่าหมาย ตึงท้องบ่มิสบาย ระสํ่าระสายโทษทั้งผอง
แล้วขัดที่หวั เหน่า กําเริ บร้าวข้างทั้งสอง ทวารเบาก็ขดั ข้อง ทั้งเจ็บสู งเวียนหน้าตา
ตาฟางแลหู ต่ิง ท้องขึ้นขึงขัดอุรา ถึงอาหารก็ภุญชา ไม่มีรสกําหนดอยาก
โรคนี้เพราะเสมหะ แทงปะทะลําไส้มาก ลางทีเป็ นหลาก ๆ กลับจับร้อนสะท้านหนาว
มักอยากแต่เปรี้ ยวหวาน ดุจอาการดังท่านกล่าว ทั้งนี้โทษสําหาว แต่มูตรคูธผูม้ กั กลั้น
ทําโทษเป็ นก้อนเถา กําเริ บเร้ามาแต่น้ นั ปถวีธาตุแปรผัน เพื่อมูตรคูธเป็ นเดิมมา
ผิแพทย์ผชู ้ าํ นาญ วิจารณ์แจ้งด้วยปั ญญา ประกอบโอสถา ตามตําราฉะนี้มี
เอาสะค้านแลหว้านนํ้า ดองดึงซํ้ายาดําดี มหาหิ งคุก์ ญั ชาลี ทั้งอุตพิดผักแพวแดง
โกฐสอโกฐพุงปลา โกฐจุฬาอันกลิ่นแรง เจ็ตมูลอันร้อนแสง แสมทะเลแลดีปลี
ชะเอมเทศเอาเท่ากัน พริ กไทยนั้นให้ทวี เท่ายาทั้งหลายนี้ ดังวิธีให้ทาํ ผง
แล้วละลายด้วยนํ้าผึ้ง กินหนักสลึงดังจํานงค์ ถ้วนเจ็ดวันประจุส่ง แล้วคงกินดังเก่ามา
ครั้นถ้วนเจ็ดวันประจุ แต่เวียนรุ ถว้ นเจ็ดครา ครั้นแล้วให้กินยา แก้ลาํ ไส้สมานใน
กล่าวตํารายาสมาน ย่อมวิกานคุณมะไหย แก้เสมหะทีปะใน เป็ นเลือกไหลลอยเหลว
เอาซึ่ งลูกจันทน์ กระวานนั้นทั้งกานพลู ดินประสิ วกระเทียมฟู ทั้งเจ็ตมูลผักแพวแดง
หัวบุกกลอยอุตพิต หัวกระดาดติดขิงแห้ง สิ่ งละบาทอย่าพึงแคลง แต่พริ กไทยห้าตําลึง
การะบูนหนักสองบาท ตําผงขาดละลายนํ้าผึ้ง นํ้าส้มสายชูถึง ละลายนํ้าร้อนกินก็หาย
ภาคหนึ่งยาสมาน คุณวิถานด้วยยาหลาย รากส้มกุง้ ทั้งสองหมาย สิ่ งละสามบาทฉะนี้มี
เจ็ตมูลกับช้าพลู สองสิ่ งดูสินบาททวี รากโคกกระออมกับสักขี สิ งละบาทอย่าขาดคง
๓๘

รากตองแตกห้าตําลึง เปลือกขี้เหล็กถึงสี่ บาทตรง รากผักเสี้ ยนทั้งสองจง ขมิ้นสิ่ งสามตําลึง


ยาเข้าเย็นทั้งคู่ขาด สามสองบาทพิกดั ถึง จุกกระเทียมหกบาทจึง ต้องวิธีตามตํารา
แก่นแสมทั้งสองเอา อย่าหนักเบาชัง่ อาชา สิ่ งละสองบาทหนา ดองสุ ราให้ท่วมเต็ม
ฝังข้าวเปลือกสามวัน เมื่อกินนั้นจุดเทียนเล่ม ควรค่าพิกดั เต็ม ถ้วยทองคําตําลึงคูณ
ผิจะต้มก็กินได้ ท่านกล่าวไว้เพื่อเอาบุญ หรื อจะตําทําเป็ นจุณ หนุนลูกจันทน์ขิงสิ่ งละบาท
การะบูนสิ่ งละเฟื้ อง เนื่ องพริ กไทยดีปลีคาด มหาหิ งคุท์ ้งั สามชาด สิ่ งละสามเฟื่ อง(เฟื้ อง)จึงเรื องศรี
รําหัดซึ่ งเกลือป่ น ระดมเคล้านํ้าผึ้งดี นํ้าร้อนเร่ งภุญชี กล่อนแห้งหนี นิราศหาย
ภาคหนึ่งคุณไวว่อง ตําผงดองวิเศษหลาย ตําราท่านบรรยาย ผักเสี้ ยนไทยหกตําลึง
ขี้เหล็กทั้งห้าเอา สิ่ งละเท่าตําลึงหนึ่ง รากส้มกุง้ ทั้งสองจึง สิ่ งละสามตําลึงพิกดั มี
รากโคกกระออกทรงบาดาล แสมสารสามสิ่ งนี้ สิ่ งละห้าบาทอย่าทวี แต่จุกกระเทียมเอาเจ็ดบาท
รากตองแตกห้าตําลึง ช้าพลูก่ ึงสิ บบาทขาด ยาเช้าเย็นทั้งสองชาติ สามสิ บบาทแต่ละสิ่ ง
จึงดองด้วยสุ รา พอท่วมยาสงบนิ่ง แล้วเอาสี่ สิ่ง มหาหิ งคุแ์ ลลูกจันทน์
ทั้งกระเทียมการะบูน ประมูลเอาเท่า ๆ กัน สิ่ งละสามเฟื้ องเรื่ องขยัน ตรี กะฎุกนั้นหนักห้าเฟื้ อง
เอาเกลือเรารําหัด ยัดห่อตามเรื่ อง ฝังข้าวเปลือกกาลเนื่อง ครบเจ็ดวันกินบูชา
ทั้งพลูกรวยกล้วยขนม เมี่ยงหมากส้มเทียนบุบผา สามเล่มตามตํารา พลียาแล้วให้กิน
ทองคําผูกคอหม้อ บาทหนึ่งหนออย่าดูหมิ่น ย่อมวิเศษแก่ผกู ้ ิน กล่อนหายสิ้ นอย่างพึ่งแคลง
แม้นให้เจียดทนานหนึ่ง ราคาถึงหา(หก)บาทแพง ที่มิได้อย่าแหนง อย่าให้เจียดขี้เกียจดอง
โดยคุณท่านพรรณา ควรถึงค่าห้าชัง่ ทอง กล่อนแห้งอันหม่นหมอง คุณไวว่องวิเศษหาย
ยาดองทั้งสองขนาน คุณวิถานเป็ นมากมาย เวชกรรมท่านทั้งหลาย พึงตรึ กหมายขยันครัน
ภาคหนึ่งดีหนักหนา วิธียาเป็ นนํ้ามัน ทาเส้นเอ็นอ่อนขยัน กล่อนหายพลันอย่าพึงแคลง
ให้เอาเชื อกเขาไฟ วัลย์เปรี ยงก็ได้อย่างถึงแหนง ใส่ น้ าํ เคี่ยวพอแรง สามทนานแห้งยังส่ วนเดียว
นํ้ามันงาครึ่ งทนาน คุลีการระคนเคี่ยว ให้คงนํ้ามันเจียว จึงปรุ งยาฉะนี้มี
ลูกจันทน์แล ดอกจันทน์ กระวานนั้นกานพลูศรี ตรี กะฏุกเทียนขาวดี ลําพันมีสิ่งละตําลึง
เทียนดําหนักแปดบาท ชัง่ อย่าขาดสักหน่อยหนึ่ง ทาเส้นเอ็นขอดขึง เพื่อกล่อนแห้งก็เหื อดหาย
ภาคหนึ่งเป็ นยากวน คุณประมวลมีมากหลาย ปั ตตะฆาฎห่อนแห้งร้าย จุกเสี ยดหายเพราะลมกล่อน
ให้เอาใบรักมา แลบอระเพ็ดหญ้าไซอ่อน ใบสลอดจงสังวรณ์ ตําเอานํ้าสิ่ งละจอก
พริ กไทยให้ตาํ ผง ระแนงคงจอกเดียวดอก นํ้าผึ้งจอกหนึ่งบอก ให้เอาเคี่ยวจนข้นคง
ปั้นกลืนขืนกินเถิด คุณลํ้าเลิศระบายลง โทษร้ายหายมัน่ คง แผ้วพิษสงลมกล่อนหาย
ภาคหนึ่งแก้กล่อนแห้ง อํามะพฤกษ์แรงบ่มิสบาย ให้เจ็บหลังระสํ่าระสาย ยืดยอกกายบ่ต้งั ตรง
แม้นกินซึ่งยานี้ หายทันทีเป็ นมัน่ คง โดยสรรพยาท่านประสงค์ หัวบุกกลอยหัวบอนแดง
กะทือเทียนทั้งห้า ลูกจันทน์หนาดอกจันทน์แพง เปล้าสองดีปลีแดง จุกกระเทียมทั้งหัศคุณ
สรรพยาทั้งหลายคาด สิ่ งแปดบาทอย่าว้าวุน่ บอระเพ็ดพริ กไทยหนุน สิ่ งละสามตําลึงควร
๓๙

เฉพาะตําด้วยครกเหล็ก สากเหล็กบดละเอียดนวล นํ้าผึ้งทนานกวน นํ้ามันงาสักจอกเดียว


กวนปั้ นลูกกลอนกลืน อย่าขืนอมมิให้เคี้ยว เท่าลูกพุดซาเจียว มรกฎเขียวควรคุณยา
แก้กล่อนสิ้ นทั้งปวง อีกริ ดสี ดวงเพื่อลมนา แก้ฝีปลวกในอุรา ฝี ฝักบัวก็กินหาย
แก้ลมอันจุกเสี ยด บิดหวังเคียดไม่สบาย สรรพยาท่านบรรยาย เอื้องเพ็ดม้าหาพอการ
ตําเอานํ้าทนานหนึ่ง ใส่ น้ าํ ผึ้งสามทนาน ระคนเคี่ยวให้เดือดพล่าน พอควรการจึงปรุ งยา
มะกรู ดเปลือกหอยแครง เจ็ตพังคีแห้งเร่ งหา สิ่ งบาทอย่ากังขา หอยตาวัวเอาห้าบาท
มะไฟเดือนห้าตําลึง ละเอียดจึงคุลีธาตุ กวนพอปั้ นอย่าประมาท ประจําธาตุกินโรคสู ญ
ภาคหนึ่งดีวิเศษ กล่อนสังกะเพศอันอาดูร จุกเสี ยดท้องพุพูน กรุ่ นกรรมพิษไม่เสบย
ท้องร้าวหัวเหน่าฝัก หลังปิ้ มหักมิกม้ เงย ถึงจะนวดจะเหยียบเฉย สะเอวดังไม้แข้งคํ้า
กระด้างไปทั้งตัว มัวแต่ร้องเมื่อเย็นคํ่า มักเพ้อพก กระสายระสํ่า รํ่าแต่จะเยีย่ วประเดี๋ยวชี้
ให้ถ่วงทวารเบา ทั้งหนักร้าวไม่สมประดี มักแคลงว่าต้องผี ถูกกระลีรําเพรําพัด
สงสัยต้องสิ นบน จุกเหลือทนเพราะลมจัด โทษกล่อนหากวิบตั ิ พิษสารพัดเพราะเส้นนา
ให้เอาเบ็ญขี้เหล็ก กับเปลือกรากแห้งมะกา รากผักเสี้ ยนทั้งสองหา สิ่ งละบาทอย่าขาดพลัน
โคกกระสุ นช้าพลู ดูสิ่งละหาสลึงขยัน ต้มห้าเอาสองนั้น ตรี กะฏุกตําเป็ นจุณ
เมื่อจะกินริ นออกมา จึงโรยยาเมื่อตลุน้ ดื่มกินเมื่ออุ่น ๆ จุกเสี ยดสู ญประสิ ทธิ์ หาย
ยานี้ปานยาทิพย์ ดังใครหยิบเอาโรคร้าย บรรเทาเบาสบาย ทันทีหายด้วยคุณยา
ให้ถ่ายใส่ ดีเกลือ ลมกล่อนเฝื้ อขยาดนา ประจุรุลงมา หายเพราะยามาแล้วหลาย
ภาคหนึ่งแก้กล่อนแห้ง กําเริ บแรงบวมทั้งกาย พรรดึกบ่มิสบาย เพราะกล่อนร้ายให้เคืองเข็ญ
ท่านให้เอาบอระเพ็ด เจ็ตมูลบ่ได้เว้น พริ กขิงใช่ของเย็น ทั้งลูกสลอดเร่ งหาทํา
ตําผงละลายนํ้าผึ้ง กินเม็ดหนึ่ งเท่ามะกลํ่า เช้า ๆ ประจุร่ าํ แก้โทษกล่อนหย่อนบวมหาย
กล่อนแห้งอีกภาคหนึ่ง โทษร้ายรึ งบ่มิสบาย จุกเสี ยดกระวนกระวาย ตีนมือตายกระด้างแพลง
เป็ นก้อนอยูใ่ นท้อง พรรดึกดองเป็ นก้อนแข็ง เจ็บหลังเป็ นพ้นแรง สะเอวแข็งให้เมื่อยขบ
สี ขา้ งขัดแข้งขา ทัว่ กายาไม่สงบ เสี ยงแห้งดังเป็ ดกบ มักเซาซบเวียนหน้าตา
ปากเบี้ยวให้ทอ้ งพอง อาหารพร่ องบ่ภุญชา หู หนักมือหน้าตา เพราะเสมหะพอกในไส้
อันเพศดังกล่าวนี้ ชายหญิงมีเหมือนกันไซร้ ผิจะแก้เอาพริ กไทย ทนานหนึ่งจึงดํา( ตํา)ผง
ละลายนํ้าผึ้งกิน เป็ นนิจสิ นหายมัน่ คง สลึงหนึ่งดังจํานงค์ คงเย็นเช้าเบาบางสู ญ
หนึ่งโสดแก้กล่อนแห้ง ฝักฟกแข็งทัว่ ทั้งมูล ตําราท่านกล่าวคูณ เอาโคกกระสุ นทั้งหญ้าไซ
หญ้าพองลมหญ้ากล่อน ค้อนกลองทิ้งถ่อนมาใส่ โคกกระสุ นตูดหมูไว้ ขมิ้นอ้อยใส่ เท่ากันต้ม
แก้กล่อนอันลงฝัก หายประจักษ์ดงั นิยม ด้วยคุณยาอันอุดม หายระบมดีหนักหนา
ภาคหนึ่งแก้ลงฝัก ฟกใหญ่นกั คํ้าแข้งขา เดินเหิ นเห็นเวทนา นิ่วหน้าตาลําบากใจ
เอารากกุ่มบกเล่า อีกคัดเค้าทั้งห้าใส่ ต้มสามเอาหนึ่งไว้ กินแล้วหายฝักฟกนา
๔๐

ยานี้เคยเชื่อถือ กากนั้นหรื อตําเร็ วรา ห่ อผ้าอุ่นประคบหนา ฝักฟกสู ญแห้งเหื อดหาย


หนึ่งนั้นเป็ นยกพอก ฝักฟกบอกบ่มิสบาย เพราะกล่อนลงฝักร้าย ลําบากกายเหลือกําลัง
ให้ทิ้งเถากระดอม ขมิ้นอ้อยพร้อมด้วยกันหวัง บดแหลกละลายอัง ไฟพออุ่นพอสู ญเหี่ ยว
ภาคหนึ่งก็พอกดี ฝักฟกฝี ฝ่อบัดเดี๋ยว หมากพลูสามคําเจียว เดินอย่าเหลียวตั้งหน้าต่อ
ครั้งถึงจึงกรายเกริ น ร้องเรี ยกเชิญท่านตาหมอ ท่านหรื อชื่อตาฝ่ อ เออเราหนอมาแต่ไหน
ข้าพเจ้ามีกงั วล เจ็บเหลือทนฝักฟกใหญ่ ลือว่ารักษาได้ เชิ ญท่านไปช่วยรักษา
เออสิ ทาํ ไมมัน กล่อนพันนั้นหายเร็ วรา บรรลัยเหลวไม่ชา้ ท่านมาหาเราจําเป็ น
ถูกมือเราบัดเดียว ฝักแห้งเหี่ ยวสู ญบรรลัย ถากเปลือกแลรู ดใบ ด้วยทันใจดูพอควร
เอาไพลใส่ เจ็ดชิ้น ตําแหลกสิ้ นตามกระบวน นํ้าส้มสายชูกวน เอาตองห่อใส่ ตบั ปิ้ ง
จึงพอกเอาตองพัน ผ้าผูกพันให้นอนนิ่ง คืนเดียวเหี่ ยวแห้งจริ ง กล่อนลงฝักประจักษ์หาย
หนึ่งเล่าเป็ นยากิน ฝักฟกสิ้ นระสํ่าระสาย โคกกระสุ นหญ้าปากควาย ทั้งหญ้ากร่ อนแลแตงกวา
ลูกประคําดีควายพลอย ขมิ้นอ้อยต้มกินนา หายพลันไม่ทนั ช้า พอสิ้ นยาก็เสื่ อมสู ญ
หนึ่งนั้นแก้ลงฝัก ให้ทุกหนักหัวเหน่ามูล เอาข่าขิงกระเทียมปูน ขาวพริ กไทยครบห้าสิ่ ง
บดแหลกละลายเหล้า กินบรรเทาท้องจริ ง ๆ เชื่อแล้วอย่าพึ่งกริ่ ง กล่อนลงฝักประจักษ์หาย
ภาคหนึ่งแก้กล่อนแห้ง ลมฝักแข็งบ่มิสบาย ริ ดสี ดวงก็กินหาย ตํารานี้ดีหนักหนา
ให้เอารากช้องแมว ขมิ้นอ้อยแผ่วเร่ งหามา หญ้ายองไฟสามสิ่ งนา จึงห่อผ้าต้มด้วยเหล้า
ปิ ดฝาสุ มไฟแกลบ ดูเป็ นแยบกินบรรเทา ฟกฝักก็คลายเบา ริ ดสี ดวงก็ร่วงหาย
หนึ่งเล่าก็แก้ฝัก อันฟกหนักก็กร่ อนร้าย เอาเปลือกขี้เหล็กหมาย แสมสารรากหมอน้อย
พระยามือเหล็กต้ม กินขมๆ ไม่อร่ อย ทําผงกินบ่อย ๆ ด้วยนํ้าร้อนก็กินหาย
ให้เจียดยาหนึ่งหม้อ บาทหนึ่ งหนอคํานับหมาย บูชาครู ปัททิยาย จึงจะหายประสิ ทธิ์ สูญ
ภาคหนึ่งประจุโทษ กล่อนเหี้ ยมโหดให้อาดูร รุ่ มเร้าเบาบ่อยกรุ่ น ย่อมข้นขุ่นขัดขบตอด
หนึ่งฝักฟกกําเริ บ อักเสบเส้นเอ็นแข็งขอด จะนอนนัง่ เป็ นเหน็บจอด ปวดหัวเหน่าสะเอวขึง
ให้เอาเข้าเย็นเหนือ หนักอย่าเหลือห้าตําลึง รากการะเกดรากเตยจึง รากลําเจียกรากกระดังงา
รากสมอพิเภกเอา เท่า ๆ กันอย่ากังขา สิ่ งละห้าตําลึงหนา จึงปรุ งยาใส่ หม้อต้ม
เงินบาทหมากสามคํา บูชาซํ้าต้มระดม เคี่ยวพอได้ดงั นิยม เมื่อจะกินใส่ ดีเกลือ
อย่ามากนักหกสลึง ประจุซ่ ึ งโทษรังเรื้ อ กินเปล่าหลายมื้อเมื่อ แล้วดีเกลือใส่ ถ่ายหาย
ภาคหนึ่งแก้ลงฝัก อุง้ ใหญ่หนักกินเบาคลาย ขี้เหล็กทั้งห้าหมาย ยาเช้าเย็นทั้งสองนี้
ขันทองพยาบาทหา สิ่ งละห้าตําลึงดี นํ้าประสารทองสิ บบาทมี เปลือกมะพลับเอาตัวผู ้
ฝางแกแรแก้พิษ ทั้งดินปิ ดซึ่ งรู ปู ฟางข้าวเหนียวฟุฟู ตาไม้ไผ่ใบสํามะงา
สิ่ งละกําตามน้อยมาก ตากต้มกินทุกวันนา ฝักฟกดังกล่าวมา ในไม่ชา้ ยุบยอบหย่อน
หนึ่งเล่ากล่าวตํารา แก้วาตาแลโรคกล่อน อาจารย์ท่านสังวร ซึ่ งกันเกราทั้งเกลือแก่น
ว่ าน( หว้าน )นํ้าว่ าน( หว้าน )หางช้าง เจ็ตมูลยางอันร้อนแสน พาดไฉนอีรุมแมน ทั้งเข้าข้าเอื้องเพ็ดม้า
๔๑

สรรพยาทั้งหลายนี้ โดยวิธีท่านกล่าวมา เสมอกันอย่ากังขา ตามมากน้อยสิ่ งละส่ วน


ใบสลอดนึ่งตากแห้ง อย่าควรแคลงสองส่ วนควร ตําผงละเอียดนวล ลายนํ้าผึ้งจึงระบาย
ประจุโทษที่โหดหื น คลายกลับชื่นสบายกาย เมื่อจะกินผินพักตร์ หมาย ตั้งต่อทิศเบื้องบูรพา
บริ กรรมซึ่ งพระมนต์ สักเจ็ดหนปลุกฤทธิ์ ยา ฉลากไว้ในทศวา กินพอสิ้ นในเจ็ดวัน
อย่าละลายให้เกินคราว จะราขาวไม่เป็ นอัน กินอาจิณเป็ นนิรันดร์ จึงจะรู ้ซ่ ึ งฤทธิ์ ยา
ระงับโทษรุ มทําธาตุ อาจสามารถวินาสา ดังมฤคินลิ้นลา เห็นพยัคฆ์ใกล้ครรไลยสู ญ
เรื่ องเส้นสังวรกล่าว พอเป็ นราวยังมากมูล เบื้องนี้จะกล่าวคูณ เรื่ องเส้นสิ บอีกต่อไป ฯ
๏ เส้นสิ บท่านพรรณา ในครรภาเป็ นนิสัย ล้อมสู นย์พระเมรุ ไว้ สถิตย์ลูกสักสองนิ้ว
ล้อมเป็ นจักราสู รย์ ดูไพบูลย์ไม่แพลงพลิ้ว ดุจสายบรรทัดทิว เป็ นแนวทอดเรี ยงกัน
เส้นซ้ายชื่ออิทา ข้างสู นย์หนาเป็ นฝ่ ายจันทร์ ปิ งคลาข้างขวานั้น อยูข่ า้ งสู นย์เรี ยกสุ ริยา
กลางสู นย์เส้นแถวทอด ชิวหาตลอดเรี ยกสุ มนา สามเรี ยงเคียงกันมา เป็ นธรรมดาสําหรับหมาย
เส้นสาใครรู ้ดี รู ้วธิ ี เป็ นแลตาย กํากับสําหรับกาย ทุกหญิงชายไม่เว้นเลย
ท่านแพทย์ผปู ้ ัจฉา หมัน่ ศึกษาอย่าเพิกเฉย วิสาสะให้คุน้ เคย สุ ดเล่ห์ลึกละเอียดนัก
จงตรึ กตรงในคลองเส้น ให้ชดั เจนแจ้งประจักษ์ ไต่ถามครู รู้กระหนัก วิธีลมกําเริ บจร
เส้นเอ็นย่อมเป็ นรู ลมเลือดชู ให้ฟูฟอน กําเริ บมักรุ มร้อน ให้สบทุกข์ ทุกราตรี
เมื่อสบายเลือกลมเสมอ จึงราเรอเกษมศรี ยังหทัยให้เปรมปรี ด์ ิ เพราะเส้นเอ็นไม่ก่อการ
เกิดเป็ นเส้นอิทา ให้คิลาน์กาํ เริ บราญ เส้นนี้วถิ ีผา่ น แต่นาภีพาดหัวเหน่า
แล่นตลอดลงต้นขา เลี้ยวตลอดหน้าสันหลังกล่าว แนบกระดูกสันหลังราว ผ่านขึ้นไปจนสุ ดเศียร
แล้วเกี่ยวเลี้ยวตลบลง นาสิ กตรงซ้ายจําเนียร ประจําลมสถิตเสถียร จะทะกาลาทุกราตรี
เกิดโทษให้ปวดเศียร เป็ นพ้นเพียรอสุ ริยศรี ตามืดมัวอัคคี ชักปากเบี้ยวเจ็บสันหลัง
คงเพื่อกําเดาปน ลมระคนโทษทุวงั กลายเป็ นลมปะกัง พิการรุ มตัวร้อนนอน
วงเวียนซึ่ งหน้าตา บางทีหน้าโทษสังหรณ์ สันนิบาตกําเริ บร้อน กลับไข้เศียรสุ ดกําลัง
วงเข้าถึงเจ็ดวัน มรณสัญไม่ทนั สั่ง คลัง่ พิษบ่ประทัง บางคาพย์ทอ้ งเป็ นลมพะหิ
ดังงูทบั ทางขบ เชื่อมสลบนอนมึนมิ เป็ นแพทย์จงตรงตริ เภทอิทาณะหาโร
กลายเป็ นลมจันทร์ โทษมหันต์ศุขมุ โม แพทย์ผปู ้ ระเสริ ฐโถ ประจงจับเส้นอิทา
นวดตามลําเนาแนว ให้หย่อนแล้วจึงวางยา ดังตําหรับบังคับมา แก้คิลาน์เส้นลมจันทร์
ขึ้นขบเบื้องสู ง แล่นปวดจูงถึงเศียรนั้น ให้นวดที่เจ็บพลัน แล้วประกอบยาฉะนี้มี
ยายอดกุ่มนํ้าเจ็ด ยอดตะขบเด็ดเจ็ดยอดศรี เจ็ต )มูลเจ็ดยอดดี อีกดองดึงขิงกระเทียม
พริ กไทยใส่ แต่พอ ข้าวก้นหม้อเผาให้เกรี ยม ประสะบดละเอียดเอี่ยม เล้าสุ ราเร่ งพอกพลัน
.จะโปงก็พอกหาย พวกลมร้ายปะกังขยัน วิเศษลํ้าคุณมหันต์ ได้พอกแล้วหายมาหลาย
( หนึ่ง )โสดปะกังลม ปวดเศียรซมมิใคร่ หาย โบราณท่านบรรยาย เป็ นกาละเม็ดวิเศษมนต์
ให้เอาเปลือกมะพร้าว มาถากทําเป็ นรู ปคน เขียนชื่ อผูเ้ จ็บดล ที่สูงรู ปเป็ นสําคัญ
๔๒

กรรมซึ่ งคาถา อธิ ษฐานผ้าด้วยฉับพลัน เข็มสักเศียรรู ปนั้น ทําสามวันปะกังหลาย


รู ปไปทิ้งที่ ตะวันตกนี้เป็ นแยบคาย ตําหรับเคยทําหาย ซึ่ งลมกลายสมเพพัด
หนึ่งเป็ นยาทา แก้วาตาปะกังจัด ปวดเศียรแสนสาหัส เอาพริ กขิงเมล็ดมะนาว
เหลือมเกลือรํา หัดบดทําแท่งยาว ๆ มีดสับให้เลือดพราว เป็ นยางปลีที่เพรี ยงหู
มะนาวฝนกับยา สี ทาเข้าแสบสักครู่ ปะกังร้ายมิอาจอยู่ อันตรธานไม่นานนา
หนึ่งยานํ้านัตถุ์ วิเศษจัดมหึ มา ลูกคนที่สองว่านนํ้าหา ตําเอานํ้ากรองนัตถุห์ าย
กังหวังย่อหยุด กล่าวเรื่ องรุ ตธิ บายขยาย ลมจันทร์ พิการร้าย ชักปากเบี้ยวเสี ยวหน้าตา
แก้ริมจมูก เบื้องซ้ายถูกจงหนักหนา นวดท้องเส้นอิทา ไคลตามหลังข้างสู งเศียร
พอกปากเบี้ยว ชักหน้าเลี้ยวดังบังเหียน อย่าเกียจกลพากเพียร ใช่ลมนี้จะหายง่าย
พยาอย่าพึงแคลง ใบมะแว้งทั้งสองหมาย ใบเขือขื่นมะอึกราย ใบเจ็ตมูลขมิ้นอ้อย
ประสิ วรําหัดบด หยดนํ้าส้มสายชูหน่อย พอกริ มปากชักลอย จงเนื องๆ ก็เปลื้องหาย
โสดเป็ นยากิน เป็ นนิ จสิ นสุ ดสบาย สรรพยาท่านบรรยาย ทัศคุณทศยีส่ ิ บบาท
มหาหิ งคุส์ ามตําลึง จงชัง่ ถึงอย่าได้ขาด บุกกลอยหัวกระดาด เอาทั้งสองกับดองดึง
พิด รากส้มกุง้ ปรุ งขิงแห้วหมูสะค้านขึง จิงจ้อช้าพลูจึง สิ่ งละตําลึงตรี กะฎุก
สมอไทยแต่เนื้ อ หนักเท่ายาทั้งหลายทุก ทําผงระดมคลุก ด้วยนํ้าผึ้งเท่าพุดซา
เพียรกินเอาทุกเช้าเย็น แก้เถาเอ็นในครรภา เอ็นห่อเป็ นโรคา ชักปากเบี้ยวเสี ยวตาแหก
แก้ลมอันขบขัน ทั้งตัวนั้นคันยับแหลก ดุจมดตะนอยแถก ปวดเป็ นนิจก็เสื่ อมหาย
แก้ลมอันขบขัน ทั้งตัวนั้นคันยับแหลก ดุจมดตะนอยแถก ปวดเป็ นนิจก็เสื่ อมหาย
แก้ลมอันพานไส้ ริ ดสี ดวงไซร้ก็กินคลาย แก้จุกเสี ยดได้สบาย คุณยานี้ดีหนักหนา
หนึ่งโสดกําลังน้อย พึ่งกินถอยถ่อมลงมา เท่าเมล็ดพริ กไทยรา มื้อสามเม็ดวิเศษครัน
ร้อนนักให้แช่น้ าํ คุณเหลือลํ้าสุ ดรําดัน ผูแ้ พทย์พ่ งึ สําคัญ แก้วาตาอิทาหาย
ภาคหนึ่งนามกร โลกาธิ จรแก้ลมร้าย โอสถนี้ดีหลาย แก้ลมร้ายปากเบี้ยวสู ญ
อันยาทั้งสองขนาน แก้วถิ านคุณมากมูล เร่ งกินอย่าอาดูร แก้ลมชักปากเบี้ยวหนี
อันโลกาธิ จรยา ในตําราเบื้องต้นมี ค้นดูตามคัมภีร์ ในอํามะพฤกษ์เห็นองอาจ
สรรพยากล่าวคุณไว้ ย่อมไพบูลย์ดูสามารถ เส้นลมอันร้ายกาจ เร็ ววินาศเสื่ อมสู ญดี
เรื่ องเส้นเอ็นอิทา อุ( ยุ )ติกาตามคัมภีร์ จะยกย่องคลองวิถี เส้นปิ งคลาเบื้องขวาไป
ปิ งคลาทีฆายาว กล่าวดังเส้นอิทาไซร้ จากครรภาขวาไป แล่นลงในหัวเหน่าขา
เลี้ยวลอดตลอดหลัง สุ ดสี สังลงนาสา ประจําลมสู รย์กาลา ซี กข้างขวาเป็ นสําคัญ
ปิ งคลาเมื่อวิกล หน้าตาตนแดงขึ้นพลัน ปวดเศียรรับสุ ริยณั ห์ แต่อุทยั ไปจนเที่ยง
ก่อพิษเป็ นลมปะกัง เหลือกําลังเจ็บสู งเพียง บางทีชกั ปากเอียง บางทีเลี่ยงเพศสันนิบาต
บางทีเป็ นริ ดสี ดวง นํ้ามูกล่วงไม่รู้ขาด ตึงนาสิ กจามฉาด โทษสามารถเส้นปิ งคลา
บ้างกลายเป็ นลมมะหิ สิ้ นสติไม่พูดจา ดังงูทบั สมิงคลา ขบเอาหนาสลบตาย
๔๓

ผิแพทย์จะเยียวยา โทษปิ งคลาจะให้หาย จึงนวดคลคงไคลขยาย ที่เส้นร้ายปิ งคลา


ซ้ายสู นย์ทกั ขิณาวัตร์ คัดให้หย่อนจึงผ่อนหา แก้ขม่อมกําดันมา ตามไรผมตามหู ศรี
ทัดดอกไม้สองข้าง แก้โสตว่างท่านว่าดี กระหม่อมวาโยอัคคี เกี่ยวเอาเส้นสู รย์ทะกะลา
สันนิบาตลมปะกัง ที่หว่างคิว้ ทั้งสองนา หน้าผากคลึงไคลหา ท้ายผมหลังข้างใต้หู
ให้แก้ท้ งั สองข้าง ลมปะกังอ้างมักแฝงอยู่ ปากเบี้ยวเหมือนทั้งคู่ เส้นแฝงอยูช่ ิดจมูก
เรื่ องเส้นดังพรรณา นวดไคลหาคลําให้ถูก เส้นอ่อนหย่อนอย่าผูก จึงโอสถสะกดซํ้า
ยากินแลยาพอก ยาทานอกรุ มกระหนํ่า หมู่แพทย์พึงจดจํา ยาอิทาแก้เหมือนกัน
ปิ งคะลาชาจบเรื่ อง นําต่อเนื่ องสุ มนาพลัน ที่อยูส่ ุ มนานั้น ตรงกลางสู นย์นะนาภี
เล่นเลยตรงขึ้นไป ขั้วหัวใจอุระนี้ แนบคอหอยวิถี ตลอดลิ้นสิ้ นทุกเส้น
มะนาเมื่อวิการ พาลก่อโทษให้เคืองเข็ญ จับลิ้นไม่พรอดเป็ น เรี ยกชื่อว่าชิวหาสดมภ์
ลิ้นกระด้างคางแข็งนัก หนักอกใจเพราะพิษลม ให้เชื่อมมัวเมาชม บ้างเป็ นสมดานตะคุณ
จุกอกเอ็นเป็ นลํา เส้นที่ร่ ําเพราะลมหมุน สุ มะนาเมื่อทารุ ณ วันอาทิตย์เป็ นเดิมที
สุ มะนา ถ้าผุดจึง โทษนั้นถึงล้างชีวี ผิวา่ แพทย์ผรู ้ ู ้ดี แก้สุมะนาให้พลันคลาย
สุ มะนาก็โทษลึก ผ่อนโหมฮึกเป็ นลมร้าย เพราะดวงจิตร์ ระสํ่าระสาย จึงกลายเป็ นลมทะกรน
บางทีเป็ นบาทจิตร เคลิ้มจริ ตสติตร(ตน) พูดพรอดมักอั้นอ้น มักหลงลืมจําไม่ได้
สุ มะนาเพื่อลมริ้ ว ก็โทษหิ วระหวยใจ แรงน้อยถอยถ่อมไป อาหารไซร้ก็คลายรส
ตีนมือเปรี้ ยระทวยอ่อน นอกถอนใจระทวยทด สรรพการเสื่ อมสู ญหมด ด้วยสุ มะนาวิการใน
สุ มะนา ก็โทษลม เข้ารุ มรมจับหัวใจ สุ มะนาใช่อื่นไกล เส้นดวงใจเราทั้งมวน
สุ มะนาอาฌาการ อย่าหักหาญแต่พอควร หน่วงยานลมกลับหวน กลัดอกใจไม่สบาย
หน่วงไคลคลึงผลัก อย่าหนักนักใช่ง่ายหาย เป็ นแพทย์รู้แยบคาย ดูอาฌาอย่าพึงหมิ่น
รั้นเส้นหย่อนผ่อนหา แต่งหยูกยาต้มให้กิน รสยาอันมีกลิ่น ทั้งยาแท่งแลนํ้ากระสาย
หอมจึงค่อยชื่น ฟื้ นอารมณ์ได้สุขสบาย เป็ นแพทย์อย่ามักง่าย โทษสุ มระนาอย่าดูเบา
.ถ้าเกิดลม รสยาขมประกอบเข้า กลิ่นหอมสุ กขุมเอา อุ่นดวงจิตร์ จะพลันหาย
.อย่าร้อนกล้า ยากจะพาระสํ่าระสาย ดูอาฌาอย่ายักย้าย ตามคัมภีร์บงั คับมา
ใดจะใคร่ แก้ สุ มะนาแปวิการา บังเกิดเข็ญเป็ นชิ วหา พึ่งเอายาฉะนี้กิน
เชียงสลึงหนึ่ง พิมเสนสลึงให้ชูกลิ่น กฤษณาหาประคิน สลึงเฟื้ องตามตํารา
.นั้นหกสลึง กํายานสองสลึงนา ขิงดีปลีทวีกว่า สิ่ งละบาทอย่าขาดทํา
.จันทร์ ขาวหนา การะบูนเทียนดําขํา เจ็ดมูลดองดึงซํ้า สิ่ งละสลึงจึงปรุ งลง
ตําระแนงย่อย นํ้ามะนาวพลอยมะงัว่ คง กระสายบดปั้ นบรรจง เม็ดมะกลํ่าตาหนูแท้
.ในร่ มแดด จะเผือดแผดรสยาแช ใส่ ขวดผนึกแล อย่าให้รสกลิ่นระเหย
.ทั้ง(สั่นทั้ง)ปวง วิบตั ิร่วงนะท่านเอ๋ ย ชิวหาที่ตนเคย พรอดไม่ได้ใจระทด
.นํ้าดอกไม้เทศ สิ บเก้าเม็ดดื่มให้หมด แก้โทษชิวหาหด กลับเหือดหวยพูดได้ดี
๔๔

แก้ซ่ ึ งลมจับ หัวใจวับแรงไม่มี หิ วโหยไม่สมประดี แก้สะอึกห่างหายคลาย


.เม็ดฝนกิน นํ้าดอกไม้สิ้นเป็ นกระสาย อยูด่ ี ๆ มิสบาย ด้วยนํ้าจันทน์จงฝนกิน
.โสดแก้เปรี ยวดํา นํ้ามะนาวกระเทียมกลิ่น ยาระคนฝนให้สิ้น สิ บเก้าเม็ดวิเศษหาย
ผิแพทย์พบยานี้ คุณวิธีประเสริ ฐหลาย เร่ งทําเคยใช้หาย ควรค่าคําชัง่ หนึ่งพลัน
หนึ่งโสดก็ยากิน คางแข็งสิ้ นชิวหาอัน ลิ้นหดไม่จาํ นัน เพราะสุ มะนาชิวหาสดมภ์
ให้เราซึ่ งใบหนาด ทั้งผักคราดแลสารส้ม พรมมิจงประสม ละลายนํ้ามะนาวนํ้าท่ากิน
หนึ่งโสดประคบคาง อันแข็งกระด้างก็หายสิ้ น ผูแ้ พทย์อย่าดูหมิ่น ว่ายานี้จะไม่หาย
หนึ่งโสดแก้วงิ เวียน ดวงจิตร์ เจียนจะวางวาย ซึ มซมเพราะลมร้าย จงทํายาฉะนี้กิน
เปลือกหอยทั้งห้าเผา เอาเทียนห้าอันหอมกลิ่น เจ็ตมูลขิงแห้งชิ้น ชัง่ เท่ากันทําผงพลัน
ละลายเหล้าเอายากรอก สักถ้วยจอกวิเศษขยัน ย่อมฟื้ นคลายสบายครัน สิ้ นโทษพลันในสุ มะนา
หนึ่งพระยารากขาวไซร้ ผิดไม้ไผ่พรมมิมา พิศนาดบดจุณนา นํ้ามะนาวฝนให้กิน
แก้ลิ้นหดคางแข็ง อย่าคลางแคลงหายหมดสิ้ น คลัง่ ไคล้แม้นได้กิน สิ้ นสู ญโทษดังกล่าวมา
หนึ่งโสดแก้บาทจิตร์ เกิดเพื่อพิษลมชิวหา ดีเดือดดีพลุ่งมา แก้ลมกล้าให้ตวั ลาย
แก้ลมวิงเวียนให้ จับหัวใจก็เสื่ อมหาย พิษกาฬอันร้อนร้าย ร้อนอกใจมิเสบย
เอาโกฏิหวั บัวเขมา ขิงแห้งเรานะแพทย์เอ๋ ย จันทน์ลูกดอกอย่าละเลย สิ่ งละสลึงหนึ่งชัง่ ใส่
ยาดําอีกนํ้าตาล กรวดรสหวานเนยด้วยไซร้ เปลือกฟักเขียวพิกดั ไว้ สิ่ งละสามบาทอย่าขาดทํา
ดีปลีบาทหนึ่งเอา เกลือสิ นเธาว์สีเฟื้ องขํา ดีจระเข้งูเหลือมซํ้า สิ่ งละเฟื้ องอย่าเคืองขัด
ตําผงละลายนํ้าผึ้ง นํ้าร้อนพึงแก้วบิ ตั ิ นํ้าส้มสายชูจดั กินแล้วลมตรี สูญหาย
มูลจิตร์น้ ี ดีอาจ คุณสามารถแก้ลมร้าย รสกลิ่นยาหอมคล้าย แก้ลมร้ายบาทจิตร์
แก้ลมอันวิงเวียน มักหาวเหี ยนอันเนืองนิจ ลิ้นกระด้างคางชิด บํารุ งพิษโลหิ ตหาย
ให้เอาลูกผักชี เจ็ดพังคดอกคําหมาย สมุลแว้งฝางเสนสาย อบเชยเทศสิ่ งละตําลึงยิง่
โกฐห้าเทียนทั้งห้า ว่านเปราะหนาสักขี ขิง กระวานกานพลูจริ ง กฤษณากระลําภัก
ลูกจันทน์แลดอกจันท์ จันทน์สองนั้นจึงประจักษ์ ตรี กะฏุกทั้งนี้หนัก สิ่ งละสองสลึงจึงควรดี
ทําแท่งสุ ราละลาย นํ้ากระสายเร่ งภุญชี นํ้าส้มส้าขิงข่ามี ตามวิธีควรกินหาย
หนึ่งโสดแพทย์พ่ งึ เพียร อินทรี เชียรตําราหมาย โบราณท่านบรรยาย แก้ลมร้ายบาทจิตร์
อบอับจับดวงใจ ให้หลงใหลคลุม้ คลัง่ พิษ แน่นอกอาเจียนติด รากลมเปล่าให้หนาวร้อน
อาหารกลืนขืนกิน แต่ได้กลิ่นกลับขย้อน แก้พิษโลหิตร้อน ให้ไคล้คลัง่ ทั้งดีข้ ึน
ลมสันนิบาตวินาศหาย ลมทั้งหลายบ่ฝ่าฝื น โอสถนี้ดียงั่ ยืน แพทย์พ่ ึงทําตามตํารา
ให้เอาโกฐนํ้าเต้า โกฐก้านพร้าวโกฐพุงปลา โกฐเชียงโกฐจุฬา โกฐกักกราโกฐกระดูก
เทียนดําขาวเปลือกแดง เยาวภาณี ท้ งั ห้าถูก ขอนดอกอําพันผูก ทั้งกฤษณากระลําภัก
จันทน์ท้งั สองสมุลแว้ง พิมเสนแรงชะมดฝัก กํายานเปราะหอมหนัก ทั้งกานพลูลูกกระวาน
ไคร้เครื อหญ้านางดี ลูกผักชีชะลูดกาน อบเชยอําพันพาน เบ็ญจกูลทั้งฝางเสน
๔๕

ลูกกระดอมดอกสารภี พิกุลดีมะลิเย็น บุนนาคจําปาเป็ น กระดังงาดอกคําไทย


เลือดแรดดีววั เถื่อนหา ดีหมูป่าดีงูเหลือมใส่ ชัง่ ควรประมวลไว้ ยาทั้งนี้เท่าๆ กัน
บดด้วยนํ้าสรรพดี กระสายนี้ วเิ ศษขยัน ทําแท่งละลายฉัน ตามโรคนั้นละลายกิน
กระสายแพทย์ผปู ้ ราชญ์ ตามฉลาดตรองประคิน หอมเย็นหรื อร้อนกลิ่น หวานเปรี้ ยวฝาดตามบัญชา
ควรแก่โรคสถานใด ดูคลึงคล้ายยักย้ายหา บังคับตามโรคา ประคินกินเอาแต่หาย
ภาคหนึ่งพึงกําหนด แก้ลิ้นหดเพื่อลมร้าย ดีปลีกระเทียมหมาย ลูกประคําควายลูกสวาด
มะขามเปี ยกอีกลูกจันทน์ พริ กไทยนั้นเผ็ดร้ายกาจ เกลือขั้วรําหัดขาด ใส่ ถาดทําดํา(ตํา)เป็ นผง
ละลายนํ้าผึ้งกลืนกิน แก้โทษลิ้นหายมัน่ คง ลมร้ายสิ้ นพิษสง คงสุ มะนาววิการหาย
สุ มะนากล่าวนิเทศ พอสังเกตหยุดธิ บาย กล่าวกลับลําดับขยาย ในเส้นเอ็นชื่ อทารี
อาจารย์ท่านพรรณา แล่นออกมาแต่นาภี กลับแตกแยกเป็ นสี่ สองเส้นนี้ผา่ นขึ้นไป
ตามโครงสุ ดข้างละเส้น ร้อยชิ้นเป็ นสะบักใน ทั้งซ้ายขวาตามนิสัย แล่นขึ้นไปกําด้นครัน
ตลอดเศียรเวียนกระหลบ แล่นหวนทบจรจัล โดยหลังแขนทั้งสองนั้น ออกไปงันที่ขอ้ มือ
แตกแยกเป็ นห้าแถว ตามแนวนี้ให้ยดึ ถือ สองข้างทุกนิ้วมือ ให้ยดึ ถือทําต่างๆ
สองเส้นเบื้องใต้น้ นั แล่นผกผันลงเบื้องล่าง ตามหน้าขาสองข้าง วางลงไปหน้าแข้งพลัน
หยุดพอเพียงข้อเท้า แตกออกเหล่าละห้าอัน เอ็นหนึ่งทั้งห้านั้น ทั้งสองข้างดังกล่าวมา
อันเส้นการะทารี ทั้งสี่ น้ ีเมื่อวิกา กําเริ บให้คิลาน์ ย่อมเย็นชาเหน็บทั้งตัว
มักให้จบั เย็นสะท้าน เพราะอาหารแสลงชัว่ ขนมจีนข้าวเหนียวถัว่ พอใจกินจึงเกิดเป็ น
อาทิตย์จนั ทร์ โทษนี้ การะทารี กาํ เริ บเข็ญ บางทีก็กลายเห็น โทษสันนิบาตทํากระลี
บางคาบกลับเป็ นลม เรี ยกนิยมหัศรังษี นอนแน่ไม่สมประดี รู ้สึกกายไม่เป็ นเลย
อาการเส้นทารี สิ้ นเท่านี้นะท่านเอ๋ ย หยูกยาไม่มีเลย สิ้ นเรื่ องราวกล่าวต่อไป
ผิจะแก้ก็แต่นวด ตรวจกดเส้นดังกล่าวไว้ ให้หย่อนผ่อนพักใจ จึงแก้ไขด้วยหยูกยา
โอสถในปถวี มาภุญชีทุกทิวา อาจบรรเทาเบาพาธา โทษมหาก็ห่างหาย
หนึ่งหัศรังสี เอ็น อันเส้นนี้ท่านภิปราย ในอุทรข้างซ้ายหมาย แล่นลงไปโดยต้นขา
ตลอดลงฝ่ าเท้าเล่า แล่นผ่านเอานิ้วบาทา ต้นนิ้วสิ้ นทั้งห้า ย้อนขึ้นมาข้างซ้ายพลัน
ตลอดทอดเต้านมซ้าย แล่นผันผายข้างคอนั้น ลอดขากรรไกรพลัน สุ ดเส้นนั้นเป็ นรากตา
บังคับให้กลับกรอก หลับลืมออกเป็ นธรรมดา ประจําตาข้างซ้ายหนา เมื่อวิกากําเริ บนั้น
มักเป็ นลมจักขุนิวาต แลอัคคะนิวาตคุณพลัน เจ็บกระบอกจักขุผนั ย่อมวิงเวียนบ่ลืมแล
อันโทษหัศรังษี เกิดระลีกระนี้แท้ ทั้งนี้ก็เพราะกระแส กินสิ่ งของอันมันหวาน
เกิดลมสองเหล่าหนอ มักก่อจับให้ร้าวฉาน วันศุกร์ มกั ก่อการ ท่านกล่าวไว้สืบๆ มา
ผิจะแก้ก็เร่ งนวด ตรวจกดเส้นดังพรรณา ซึ่ งหยูกยาตามตํารา พลันเยีย่ วยาก็พลันหาย
หนึ่งเส้นทะวาคะตา บางคํารากล่าวภิปราย ทะวารี กาํ หนดหมาย บางธิ บายทะงาระจันทร์
๔๖

เส้นนี้มีนามสาม ตามผูแ้ พทย์เคยสําคัญ วิถีดาํ เนิ นนั้น เส้นเดียวกันอย่ากังขา


แล่นออกแต่นาภี ข้างขวานี้แล่นลงมา ตามแนวแห่งขาขวา สู่ หน้าแข้งจนฝ่ าเท้า
ตลอดนิ้วทั้งห้านิ้ว พลิ้วกลับขึ้นตามแข้งเข่า หน้าขาขึ้นไปเอาชายโครงสุ ดจนเต้านม
ขึ้นคางแล่นตลอดเข้า เอาลูกตาโดยนิยม เป็ นรากจักษุสม ให้กรอกกลับหลับลืมแล
เป็ นเส้นจักษุขวา ครั้นวิกามักปรวนแปร เป็ นลมไม่ลืมแล ให้วงิ เวียนพ้นกําลัง
กระบอกตาให้ปวดหนัก เล่ห์จกั ษุประทุพงั ทะวารี วกิ ารัง เจ็บสิ้ นทั้งสองซ้ายขวา
บางทีเป็ นข้างเดียว ข้างขวาเจียวสุ ดปั ญญา ชื่อทิพจักษุขวา ตานั้นพร่ างมัวไม่เห็น
เส้นจักษุครั้นวิการ ละไว้นานต่าง ๆ เป็ น ปั ตตฆาฎบังเกิดเข็ญ ด้วยนํ้าพร้าวอันมันหวาน
ผูน้ ้ นั มักบริ โภค กามสังโยควันอังคาร จึงเกิดโทษให้วกิ าร ธาตุร้าวรานกําเริ บเข็ญ
คุมโทษแต่น้ นั มร ณะหาราจักให้เป็ น ผิแพทย์ผชู ้ ดั เจน เรื่ องราวเส้นจึงให้แก้
ตะวารี ทะวาคะตา ทะวาระจันทร์ เส้นเดียวแท้ แก้นาภีตามกระแส ดําเนินนวดให้คลายหย่อน
นวดไปตามลําเนา เถาแถวเส้นเอ็นสันจร ไคลกําด้นสองก่อน จึงจักษุหายวิงเวียน
อันเส้นจักษุสอง แก้ทองไม่ผดิ เพี้ยน ผูแ้ พทย์สถิตเสถียร พิเคราะห์เพียรด้วยปัญญา
หนึ่งเส้นชื่ออุรัง ภูสาํ พวังนั้นก็วา่ สัมปะลาโสมนามปรา กฎชื่อว่าเป็ นสามอย่าง
เส้นนี้แล่นออกมา แต่นาภีวถิ ีทาง ขึ้นไปไม่ขดั ขวาง ตามราวนมเบื้องซ้ายหมาย
ไปเนาเอาข้างซ้าย หมายหู ซา้ ยดังอธิ บาย เป็ นรากโสตประสาทหมาย ดังบรรยายฉะนี้มา
เส้นนี้มกั ร้าวฉาน เพราะอาการอาบธารา เหลือประมาณบ่วจิ ารณ์ เผอิญจับวันพุธแล
หนึ่งโสดเส้นชื่อสุ ขุมอุสะมานามกรแท้ ออกจากนาภีแผ่ ขึ้นไปจับราวนมขวา
ขึ้นไปราวคอคาง วางไปเอาหู ขวานา เป็ นรากโสตประสาทหนา เมื่อวิกาเพราะอาหาร
มักเสพย์ซ่ ึ งนํ้ามะพร้าว จึงราญร้าวลมวิการ มักจับวันอังคาร ตามตํานานเผอิญเป็ น
อุสะมากล้าแข็งขึง ให้หูตึงราญร้าวเข็ญ ลมออกหูวเู่ ป็ น เพราะโทษเส้นกําเริ บกล้า
เหมือนกันทั้งสองข้าง ท่านกล่าวอ้างนามวาตา คะทาหุ ท้งั ซ้ายขวา โสตวิการมักตันติ่ง (ตึง)
จะแก้เส้นลมนี้ ตามวิถีแถวเส้นขึง นวดบนหู สองจึง ลมเสี ยงอึงบรรเทาหาย
แม้นนวดไม่ยนิ เสี ยง นามลมเลี่ยงคําธิ บาย ทาระกรรณ์ดงั บรรยาย หนึ่งปลํ้าควายเส้นสะเอว
ให้นวดจงช้าครัน ตามเส้นสันจึงหายเร็ ว คลึงเคล้นเส้นให้เหลว เร็ วเร่ งยากินพลันหาย
หนึ่งเส้นอันชื่อว่า รัตคีนีหนานามภิปราย สังคินีก็บรรยาย เส้นเดียวหมายมีสองนาม
เส้นนี้แล่นออกมา แต่นาภีใต้สูนย์งาม ตลอดตรงไม่เข็ดขาม เป็ นสิ่ งคชาตมุตมัก
วิบตั ิโทษต่างๆ เสี ยดสี ขา้ งเป็ นพ้นนัก ขัดเบาบ่ประจักษ์ ไม่โชนเชี่ยวดังแต่ก่อน
ปัสสาวะให้ขน้ ขุ่น มักเอากรุ่ นแลรุ่ มร้อน เจ็บเหน่าบ่หยุดหย่อน เพราะโทษเส้นวิกาโร
บางทีกลับเป็ นลม วาทยักษ์ประสมวาโย เกิดเพราะณะหาโร องคชาตร้าวหม่นหมอง
เกิดด้วยนํ้ากามตน อันวิกลเพราะลําพอง กลั้นนํ้ากามขัดข้อง บ่ได้ตกด้วยกําหนัด
นํ้ากามก่อโทษเอง จึงก่อเพลงมูตรหยดหยัด เป็ นหนองในไหลวิบตั ิ เพราะมูลรากก่อเกิดเอง
๔๗

สตรี เพื่อโลหิ ต วิปริ ตทําหลายเพลง มดลูกวิการเอง จึงก่อโทษทําต่าง ๆ


เจ็บท้องสี ขา้ งสุ ด สะเอวดุจดังหักกลาง เร่ งนวดเส้นขัดขวาง แถวเส้นดังที่กล่าวมา
แก้สะเอวตะโพกสอง ทั้งท้องน้อยแก้วาตา คลายก่อนผ่อนกินยา ตามตําราวิธีดี
หนึ่งเส้นกังขุงนั้น แล่นจรจัลจากนาภี กระหวัดรอบทวารมี คูตมักคะหนักงาน
สําหรับรู ดคูตเผย บ่อละเลยทิวาวาน กังขุงก่อวิการ เพราะอาหารโอชะมัน
ผูน้ ้ นั มักบริ โภค กําเริ บโรคแต่เหตุน้ นั วันอาทิตย์ผฉู ้ นั กังขุงนั้นจึงก่อเพลง
ทําโทษให้ติ่งทวาร ท้องดุจราญกําเริ บเส็ ง อาหารเคยก็เลยเอง กินหย่อนน้อยมักคับท้อง
ผิจะแก้เส้นกังขุง นวดพยุงนิ้วประคอง เหนือขื่อเส้นเอ็นร้อง ค่อยจดจ้องให้เสี ยวทวาร
ฝี เย็บดังปริ แตก ทวารแยกคูธเคลื่อนคลาน เส้นนี้พระอาจารย์ จับมือจดจึงจะจริ ง
เส้นสิ บหยิบยกกล่าว พอเป็ นเลาแก้ชายหญิง หยุดจบครบสิ บสิ่ ง อันมีนามต่าง ๆ มา
พอสังเกตเอกเทศ ให้อุเอกเหลือปั ญญา ผูแ้ พทย์ใคร่ วถิ าร์ จึงศึกษาพากเพียรไป
เส้นสิ บแผนคัมภีร์ จบเท่านี้จะหยุดไว้ กล่าวเกร็ ดนิเทศไป ตามตํานานโบราณมา
ณะหาโรยุตโตตาม เงือดงดคลายยุตติกา ลําดับนํ้าจะพรรณา เรื่ องอัฐดําริ ห์ไป ฯ
๏ อัฐิน้ ีกระดูกหนอ เมื่อเกิดก่อโทษมะไหย กระดูกชายหญิงนั้นไซร้ พระตรัสไขสามร้อยท่อน
เมื่อกําเริ บแตกวิการ ย่อมสามานย์โทษสังวร คัมภีร์กล่าวพยากรณ์ ว่าด้วยมันเลี้ยงอยูใ่ น
อัฐิน้ นั ครั้นวิกล มันเหลวล้นละลายไหล ครั้นมันแห้งตั้งใน อัฐิไซร้ผาดเผือดสี
ก่อโทษให้เมื่อยขบ ปวดร้าวรบทั้งอินทรี ย ์ ดังเคลื่อนคลากทุกที่ ต่ออันโทษอัฐิหนอ
สุ ดวิธีจะเยียวยา เหนือสติปัญญาหมอ เยียวยายากนักพ่อ แม้นนิดหน่อยลองรักษา
พึงพยาบาลดูสัก พักหนึ่งเถิดตามบุญญา ตําหรับบังคับมา ยาแก้โทษอัฐิมี
อย่าดูถูกโทษหนัก ให้รักษาตามคัมภีร์ ตําราท่านกล่าวมี พึงปรุ งยาให้พอควร
ลูกจันทน์แลดอกจันทน์ การพลูน้ นั สิ่ งละส่ วน มหาหิงคุย์ าดํากวน ทั้งการระบูนสี่ ส่วนทวี
พริ กหอมให้ชง่ั หา หนักเท่ายาทั้งปวงดี ถ้าพริ กหอกมาไม่มี เอาพริ กล่อนพึงปรุ งใส่
ทําผงจงบดเจือ นํ้าเปลือกมะเดื่อกระสายใน ลูกมะแว้งปั้ นแท่งไว้ เมื่อกินใส่ เอาเก้าเม็ด
สิ บเอ็ดตามแต่จะกิน ดูประคินตามสังเกต ในหนึ่งกล่าววิเศษ แก้เพศชักเท้ามือกํา
ลิ้นกระด้างคางแข็งมัว บ่รู้ตวั จะปลุกปลํ้า นํ้าลายฟูปากรํ่า นํ้าตาตกบ่ติงตน
ในสมองปล่องอัฐิ มีกิมิสองตระกูล ชื่อยาวะพวกหนึ่งพูน แลโสภะพวกหนึ่งพลัน
ย่อมค้นกินสมองกระดูก แพร่ หลายลูกสื บเผ่าพันธุ์ กิมิชาติสองเหล่านั้น เบียนกระดูกพิษสําแดง
เบียนสมองเที่ยวซอกซอน เต็มอย่างก่อนหย่อนเหื อดแห้ง สมองกินกระดูกแฝง ขบกัดชอนไม่เว้นว่าง
ให้เมื่อยปวดกระดูก ดังถูกตีทวั่ สรรพางค์ มีแต่เสี ยงร้องคราง กําลังกายก็ร่วงโรย
กระดูกร้าวเป็ นเปาโป ปุ่ มแตกโตให้ดิ้นโดย รังหนอนชอนร้องโอย ทุกวิวาฉะนี้มี
เป็ นแพทย์จะวิจารณ์ ใคร่ อาการให้ถว้ นถี่ เพื่อเหตุเป็ นดังนี้ จึงอาการฉะนั้นนา
เห็นแจ้งแต่งโอสถ จัดหารสโอสะถา พิฆาตขับกิมิชาติ รสยาซาบในกระดูก
๔๘

ยาแก้กิมิชาติ แสนสามารถจะยาถูก หนอนบ่อนในกระดูก รสยาเจือแต่เบื่อเมา


หนึ่งโสกะตะคือกระดูก ถูกปวดทุกข้าใช่เบา ในกระดูกออกมาเร้า ต่อตีนมือนิ้วน่อยบวม
โทษนี้ลมอาเพศ จะสังเกตเก็บสํารวม ยาพอกแก้โทษบวม เปลือกมะรุ มกุ่มสองมา
ลูกผักกาดกระเทียมไพล กระชายไซร้ทือหา แหลกเค้านํ้ามันงา ห่อผ้าประคบแล้วคาดไว้
แก้ตะคริ วกระดูกนั้น ทุกพันธุ์ตะคริ วก็แก้ได้ เป็ นแพทย์พึงสนใจ คุณยานี้อย่าดูเบา
บดเบื้องเรื่ องมิญชัง พอหยุดยั้งตามสําเนา สงบจบพอเป็ นเค้า สมมุติเอาสิ้ นธิ บาย
อัฐิมญั ชังธาตุ สิ้ นโอกาสจบบรรยาย จะสาธกยักเรื่ องปลาย มัตถลุงคังเข้าประสบ
จัดคัดจัดสรุ ปรวบ หมู่หมวดควบมาสมทบ ธาตุดินสิ้ นจัดจบ ครบยีส่ ิ บอย่ากังขา ฯ
๏ มัตตเกมัตถลุงคัง มันสมองดังท่านกล่าวมา ในวิภงั ค์พระคาถา ว่าสมองในศิโร
มีสามส่ วนดุจขนม เป็ นกลม ๆ ก้อนโต ๆ ตั้งประชุมในศิโศ มีสีขาวดังมันอ่อน
มีพงั ผืดยึดล้อมกลม กลิ้งประสมอยูค่ ลุกคลอน สมองอัฐิอ่อนซ่อน มีอนั หนึ่งคําพุทโธ
นะวะกับปาละสิ สิ กะปาละอัฐินะวะโก ประกับกลมประสมโต ตั้งเป็ นเศียรอาเกียรณ์หนอน
นอกกระบานผ่านใต้หนัง หนอนทํารังเที่ยวสัญจร สองพวกย่อมเบียนบ่อน กินรากผมนิยมมา
พวกหนึ่งชื่อพะละวะ หนึ่งมหาพะละวา เที่ยวด้นกินตามธรรมดา รากเกศาเป็ นนิจสิ น
หนึ่งนั้นในก้อนสมอง หนอนกูก้ อ้ งเป็ นอาจิณ สองพวกเป็ นนิจสิ น ชื่ออุตะมะอะวะคะ
เบียดเบียนกินในสมอง ด้นเที่ยวท่องนิรันตะ อุบตั ิโรคในศีรษะ เพื่อหมู่หนอนนั้นก็มี
บางทีเกิดอาพาธ เพื่อแต่ธาตุโทษทั้งสี่ หนึ่งอุตุหากยายี เพื่อเพศไข้โทษต่าง ๆ
ศีรษะโรคเกิดวิบตั ิ แสนสาหัสปวดร้องคราง แสนทะเวทให้หมองหมาง โทษสมองเศียรเบียนยายี
ปกติเป็ นธรรมดา มันสมองหนาชายหญิงนี้ พร่ องบ่เต็มกระบานมี สักเส้นตอกพอกกลอกกลิ้ง
ลมเชยรําเพยพัด บ่เคืองขัดกลัดกลมนิ่ง มีสุขทุกชายหญิง เพราะมันสมองพร่ องบ่เต็ม
ครั้งมันสมองเดือดพิการ ฟูดปั ดกระบานมักทําเค็ม ล้นไหลเหลือที่เต็ม ตามนาสิ กก็ซึมลง
ไหลเปี ยกเรี ยกขี้มูก ว่าก็ถูกเป็ นคําตรง บางทีบ่ไหลหลง ให้คบั ข้นในกระบาน
กระทําให้ตาแดง ปวดสุ ดแรงเหลือประมาณ ไคล้คลัง่ ดังอาการ สันนิบาตนั้นก็มี
เมื่อใดต้องยาสุ ม พิษสุ ขมุ สมองนี้ พร่ องหย่อนลงจากที่ จึงค่อยคลายสบายนิ่ง
เพราะอุทงั อะโธเดิน บ่ฉุกเฉิ นจะกลัดกลิ้ง เป็ นวิสัยทุกชายหญิง หนึ่งอีกสิ่ งก้อนกําเดา
สถิตย์ต้งั กลางกระหม่อม เป็ นเลือดจอมกระหม่อมเรา ก่อเหตุเพศกําเดา บ่ใช่เบาคัมภีร์มี
แต่ที่น้ ีจะกล่าวสมอง เมื่อลําพองโทษกะลี ปวดเศียรใช่พอดี ตามเพศโรคสุ ดกําลัง
เมื่อสมองพองกําเริ บ เติบตามฤดูวกิ ารัง ในคิมหันต์วสันต์ท้งั เหมันต์สามฤดูน้ ี
ฤดูใดฤดูหนึ่ง ที่รุมรึ งกระลีสี ตํานานในคัมภีร์ ว่าโดยสมองอันวิการ
แก้โทษตามฤดู กําเริ บฟูวกิ ารพล่าน ทําโทษให้ครั่นคร้าน สะท้านหนาวตึงหน้าตา
ให้เมื่อยเจ็บทุกข้อลํา กายร้อนรํ่าแน่นนาสา หวัดไออัดอุรา มักเซาซบสยบนอน
เส้นสายก็พลอยซํ้า ให้ตึงตําอุราร้อน บางคาบก็ไข้ผอ่ น เป็ นเวลาพากลับจับ
๔๙

ผิแพทย์จะให้เหื อด สมองเดือดจงระงับ ยาสุ มตามบังคับ แลยานัตถุต์ ามตํารา


สิ่ งประกอบยากินหนา นวดเหยียบหายาฝนทา ตําหรับบังคับมา โดยวิทยาฉะนี้มี
ผิคิมหันต์ฤดูร้อน สมองก้อนเกิดกระลี ให้เดือดด้นอัฐิศรี สติบ่มิมีสบาย
ให้แพทย์แต่ยาสุ ม แก้โทษรุ มสมองร้าย ตําหรับบังคับหมาย เอาใบเสี ยดแลเทียนดํา
งาช้างแลงาเม็ด ดินประสิ วเด็ดข้าวสารซํ้า บดละเอียดจึงสุ มทํา แก้ปวดสู งสมองหาย
ปวดเศียรเลือดตกไหล ตามนาสิ กไรฟันหมาย เลือดหยุดเหื อดหายคลาย แพทย์ท้ งั หลายอย่ากังขา
ภาคหนึ่งเป็ นยากิน โดยกบิลบังคับมา แก้ปถวีอนั วิกา สมองเศียรกําเริ บราญ
เอาเบ็ญจกูลตรี ผลา จันทน์ทวากกลิ่นพิศาล ตรี กะฎุกลูกกระวาน ทั้งกานพลูจนั ทน์ลูกดอก
ตีนเป็ ดใบนะเดาหนอ ใบคนที่สอกระเทียมปอก สิ่ งละส่ วนตําหรับบอก เปลือกกันเกราเอาสองส่ วน
สุ มลแว้งสามส่ วนทวี ตําผงดีละลายกวน แก้สมองอันรําจวน ในคิมหันต์ฤดูหาย
หนึ่งโสดโทษวสันต์ สมองนั้นเฟื้ องกระจาย ให้ปวดเศียรระสํ่าระสาย เป็ นไข้หวัดตึงหน้าตา
ให้เอานํ้าดับไฟ แลไพลหอมเทียนดํามา ดอกพิกุลผักขวงหา ใบหางยุงฆ้องสามย่าน
ดินประสิ วเร่ งบดสุ ม กุมปวดเศียรอันตรธาน จมูกตึงบ่ตนั นาน อาจพาลแพ้วประสิ ทธิ์ หาย
หนึ่งโสดโทษเหมันต์ สมองนั้นระสํ่าระสาย จงสุ มดับระงับร้าย ในเหมันต์ฤดูหนาว
เอาใบผักหนอกกิน กับทั้งดินประสิ วขาว เทียนดําหัวหอมจาว เร่ งบดสุ มแก้เศียรหาย
ภาคหนึ่งให้ตม้ กิน ตามกบิลบอกบรรยาย เจ็ตมูลสะค้านหมาย ขิงข้าพลูมะตูมอ่อน
สมอไทยเทศลูกผักชี มะขามป้ อมดีรากขัดมอญ กฤษณาจันทน์หมอขจร ทั้งแห้วหมูกกลังกา
สิ่ งละส่ วนปรุ งให้ถูก กับทั้งลูกรังกาษา บอระเพ็ดสองส่ วนหนา ลูกดีปลีถึงสี่ ส่วน
ต้มกินแก้สมองนั้น เมื่อเหมันต์อนั รัญจวน ผูแ้ พทย์พึงประมวล ซึ่งยานี้ในเหมันต์
หนึ่งนั้นเป็ นยานัตถุ์ แก้ปวดหวัดวิเศษขยัน เอาชะเอมทั้งสองนั้น ทั้งอบเชยเปลือกคนทา
หนึ่งโกฐสอใบสมี ลูกผักชีจนั ทน์ขาวมา ขิงชะมดพิมเสนหา เร่ งกวนนัตถุห์ วัดห่างหาย
มัตถลุงดังกล่าวจบ จะปรารภเรื่ องบรรยาย นําเนื่องเรื่ องธิ บาย ในวักกังก้อนม้ามมี ฯ
๏ วักกังคือก้อนม้าม ได้เนื้ อความตามบาลี สัณฐานแห่งม้ามนี้ สี ม่วงแก่กอ้ นสดใส
เนื้อเป็ นเหมือนลิ้นหมู อยูต่ รงกระเพาะอาหารใหม่ ทําเลือดให้เกิดไซร้ ไปทัว่ กายทุกสถาน
ม้ามพิการธาตุดินร้าว ให้เกิดหนาวจับสะท้าน ดังไข้ก็ปูนปาน เพศอาการโทษสังหรณ์
มักเป็ นไข้ไม่รู้วาย โทษกลับกลายทุรนร้อน มักกระหายกลายเพศผ่อน เวลานั้นบ่ยงั่ ยืน
บางคาบจับเว้นวัน เพราะม้ามนั้นทําโหดหื น ม้ามหย่อนกลับย้อยยืน่ วิการแตกดังกล่าวมา
ผิแพทย์จะแก้กนั โทษม้ามอันวิการา โคกกระสุ นเร่ งหา อย่ามากนักสักกําพลัน
มะกรู ดลูกหนึ่งผ่า สามซี กนาขมีขมัน ขมิ้นอ้อยห้าชิ้นหัน่ ปูนขาวนั้นแช่น้ าํ ไว้
ครบใส่ จึงต้มยา กินไม่ชา้ สามวันไป ม้ามหย่อนหดหายได้ จงจําไว้ดีมากครัน
ภาคหนึ่งก็ยาต้ม โดยนิยมคุณมหันต์ แก้ปถวีธาตุน้ นั คือม้ามแตกวิการฉลาย
ให้เรารากมะตูมทั้ง รากแตงหนูดงั ภิปราย รากหมาอรอกแห้วหมูหมาย จันทน์ท้ งั สองเท่า ๆ กัน
๕๐

จึงเอาผ้าขาวห่อ แล้วใส่ หม้อต้มกินพลัน ต้มสามเอาหนึ่งนั้น จับร้อนหนาวพิษห่างหาย


ภาคหนึ่งแก้จุกผาม ม้ามย้อยยานธาตุฉลาย ฝี ในท้องก็กินสบาย ลมทั้งหลายก็กินดี
จุกอกกลิ้งในท้อง ท้องขึ้นพองแสนทวี ผูต้ อ้ งคุณก็กินดี ริ ดสี ดวงทั้งเก้าทวาร
ทั้งนิ่วอุปทม ไส้เลื่อมลมหายบ่นาน ละลายเหล้าภุญชาการ สามวันกินเช้าเย็นนา
ให้เอากระเทียมขิงไซร้ กับทั้งไพลพริ กเทศมา เปลือกมะรุ มกุ่มสองรา เปลือกทองหลางเปลือกมะกรู ด
ทั้งนี้สิ่งละบาท ตาเต็มถาดอย่าให้บูด ใบสะเดาตากแห้งรู ด หนักห้าตําลึงจึงจะควร
ปูขา้ งเต้าสองสลึง ตําผงจึงสุ รากวน ลดให้ละเอียดนวล เท่าลูกฝ้ายปั้ นไว้พลัน
สิ บเอ็ดสิ บสามเม็ด โดยสังเกตละลายฉัน นํ้าสุ ราเป็ นนิรันดร์ โทษม้ามนั้นก็เหื อดหาย
เรื่ องม้ามความพอสิ้ น จบกบิลข้ออธิ บาย ต่อเนื่องเรื่ องภิปราย ซึ่ งหัวในหัทยัง ฯ
๏ หัวใจมนุษย์เห็น เป็ นเนื้อกล้ามก้อนหนึ่งหวัง มีโพรงข้างในทั้ง มีเนื้อกั้นเป็ นสี่ หอ้ ง
ข้างบนสองห้องหนา ข้างล่างว่ามีหอ้ งสอง เนื้อหัวใจเราทั้งสอง ว่าละเอียดกว่าเนื้อทั้งหลาย
หัวใจโตประมาณเท่า กํามือเราเจ้าของกาย ตั้งในทรวงอธิ บาย ระหว่างปอดทั้งขวาซ้าย
ซึ่งเส้นโลหิต ติดต่อต้นหัวใจหมาย พวงเดียวกันบรรยาย ตั้งอยูต่ รงซี่ โครงอัน
สามตรงเข้าไป เฉวียงไขว้ซา้ ยทรวงนั้น จําไว้ให้แม่นมัน่ ปลายหฤทัยจดใต้นม
ข้างซ้ายสักหนึ่งนิ้ว นับรอยริ้ วซี่ โครงประสม ซี่ ที่หกโดยนิยม จดจําไว้ให้แม่นยํา
ไวใจพังผืดหุ ม้ คลุมเป็ นถึงอยูป่ ระจํา มีเส้นโลหิ ตดํา แดงแตกแยกจากหัวใจ
ทอดไปทัว่ ร่ าง สรรพางค์กายภายใน ทางเดินโลหิ ตใคร แล่นออกไปเลี้ยงร่ างกาย
หน้าที่หวั ใจสู บ เสี ยงตุบ ๆ ฉี ดเลือดหมาย นาทีหนึ่งอธิ บาย เจ็ดสิ บสองบ้างก็มี
แปดสิ บบางคน แรงมากล้นร่ างกายดี ที่กล่าวมาทั้งนี้ อายุศม์ระหว่างคนฉกรรจ์
ในเดินเร็ วมา หฤทัยเดินเท่ากันหมาย อาจารย์อธิ บาย จงจําจดกําหนดใน
เสี ยงตุบ้ คือหัททัย บีบเลือดไปจากหัวใจ เสี ยงตุบ้ ที่สองไหล กลับเข้าในหฤทัยพลัน
เลือดออกจากหัวใจ แดงสดในเป็ นสี สรร ห้องล่างซ้ายใจนั้น ออกตามเส้นขั้วหัวใจ
ไหลออกไปเลี้ยงร่ าง ทัว่ สรรพางค์ผวิ ผ่องใส เลือดดําอยูข่ า้ งใน ข้างล่างขวาหัวใจตน
ไหลไปรับอากาศ ปลดถ่ายธาตุกนั สับสน โสโครกออกคลายปน เป็ นเลือดแดงสอาดดี
เลือดที่เข้าหัวใจ ดําแล่นไหลตามอินทรี ย ์ ไหลเข้าห้องบนมี ข้างขวาของหัวใจนั้น
เนื้อหัวในสู บฉี ด โสโครกซี ดที่ปอดพลัน เลือกกลับแดงจรจรัล เข้าห้องบนข้างซ้ายใจ
หัททัยได้ฉีดสู บ ไปเลี้ยงรู ปให้ผอ่ งใส หมุนเวียนอยูภ่ ายใน ดํารงชีพให้ยนื นา
หัทยังเป็ นจอมสกล ยิง่ ในตนแต่หทั ยา ร่ างกายได้พ่ ึงพา ดวงหัทยาจิตต์อนั เดียว
จิตร์ ดบั ลงบัดดล สิ้ นทั้งตนใครไม่เหลียว ขึ้นพะอึงผึ่งพองเขียว เพราะชีวติ จิตรจากรัง
ชีวติ เป็ นของสงวน จงถี่ถว้ นระไวระวัง เป็ นแพทย์อย่าโอหัง ถ้าพลั้งผิดพาเขาตาย
พอจะเยียวจึงยาหนา อย่าโลภาลาภทั้งหลาย จะวางยาดูแยบคาย ใช่ชีวติ ปั้ นเอาเป็ น
เป็ นคนไม่ใช่ง่าย เลี้ยงร่ างกายสุ ดแสนเข็ญ ผูแ้ พทย์อย่าทําเล่น วางยาผิดไปอบาย
๕๑

เบื้องนี้จะสําแดง ในหัทยังแห่งธาตุฉลาย มีลกั ษณะระสํ่าระสาย มักเป็ นบ้าบ่นพรํ่าพรู


โทษหนักแลโทษหย่อน จงผันผ่อนพิเคราะห์ดู คุม้ ดีคุม้ ร้ายอยู่ โกรธพื้นพึมงึมงําบ่น
บางทีระสํ่าระสาย หิ วโหยหายเรี่ ยวแรงตน โทษเพราะธาตุพิกล ให้ดวงใจเป็ นต่าง ๆ
ผิวา่ แพทย์จะใคร่ แก้หวั ในอันหมองหมาง ตําหรับบังคับอ้าง เอาซึ่ งลูกคนที่สอ
คลิงปลิงใบหัศคุณ จันทน์สองหมุนดีปลีหนอ เทียนตักแตนข้าวเปลือกพอ ทั้งเทพธาเท่ากันทํา
ปั้นแท่ง นํ้าดอกไม้ แล้วแทรกใส่ พิมเสนรํา หัดกินสิ้ นเช้าคํ่า นามมูลจิตรประสิ ทธิ์ หาย
ภาคหนึ่งในตํารา แก้หทั ยาให้สุขสบาย ตําหรับบังคับหมาย เอาลูกเอ็นส่ วนหนึ่งทวี
ชะเอมเทศสองส่ วนให้ หาซึ่ งใบกระวานนี้ สามส่ วนขยันดี ดอกบุนนาคสี่ ส่วนพลัน
พริ กไทยนั้นเอาห้า หกส่ วนหนาคือขิงนั้น บัวหลวงสิ บส่ วนจันทน์ ราวสิ บเอ็ดเสร็ จทําผง
ให้เอานํ้าตาลทราย เท่ายาละลายนํ้าร้อนลง แก้ใจให้ดาํ รง ที่คลัง่ เพ้อบรรเทาหาย
เลือดลมได้สาระพัด สมสักจักนามภิปราย บํารุ งฤทธิ์ จิตรสบาย แพทย์ท้งั หลายพึงวิจารณ์
ภาคหนึ่งนามนิคม สว่างอารมณ์พระตํารา แก้หทั ยังวิการา ด้วยพิษโทษทั้งปวงเป็ น
สามารถระงับลง อันพิษสงที่เคืองเข็ญ สรรพโทษระงับเย็น ในหัททัยวิการา
บุพพาจารย์วา่ ดี โอสถนี้ให้เยียวยา รากบัวหลวงถัว่ พูมา ลูกถัว่ พูแลลูกบัว
แห้วสะกระจับสด โอชารสไม่ใช่ชว่ั บัวเผือ่ นขมก็เอาหัว ทั้งถัว่ ทองถัว่ กาบแปบ
กฤษณา ชะลูด จันทน์ ขอนดอกนั้นจําเข้าแอบ กระลําภักกลิ่นหอมแซบ ทั้งกรุ งเขมารากหญ้านาง
สัตบุษย์ดอกบงกช เผือ่ นขมหลวงอย่าได้หมาง ล้วนเกษรทั้งห้าอย่าง ดอกพิกุลแลสาระภี
บุนนาคกรรณิ กา เกล็ดหอยหาเทศที่ดี หญ้าฝรั่นอําพันมี กับพิมเสนชะมดใส่
เสมอภาคบดปั้ นแท่ง ครั้นตากแห้งใส่ ขวดไว้ เมื่อจะกินนํ้าดอกไม้ ชื่อชูใจทางกําลัง
แก้น้ าํ จิตรสวิงสวาย อาหารกลายกลับบรรทัง เจ็ดวันไม่ภุญชัง ทรงกําลังไม่ตายเลย
โทษหัททัยระสํ่าระสาย แผ้วผ่องกายกลับชื่อเสบย คุณนักยักนํ้าเสวย เลือดลมเลยบรรลัยสิ้ น
ไข้เหนือและไข้ได้ ผิผใู ้ ดแม้นได้กิน สันนิบาตวินาสสิ้ น ทั้งพ่นยาพาสู ญหาย
ภาคหนึ่งนามก็สม สว่างอารมณ์เรี ยกบรรยาย กอบด้วยคุณวิเศษหลาย แก้ไข้ได้สิ้นทั้งปวง
ทําให้เชื่อมมัวกลุม้ อกใจรุ มให้ร้อนดวง อิดโรยโอยอัดทรวง ลมทั้งปวงก็กินสบาย
พิษกลัดอัดนอนแน่ กินยาแก้ก็พลันหาย อับจนพ้นความตาย ไข้มรณะก็กินดี
เอาแห้วกระจับหัว บัวเผือ่ นทั้งบัวขมสี รากหัวถัว่ งามี หกสิ่ งนี้ตม้ สุ กพลัน
ลูกถัว่ ก็ให้ข้วั ทั้งลูกบัวถัว่ ทองขยัน ถัว่ กาบแพะขั้วเหมือนกัน อีกสองจันทน์แลกฤษณา
กระลําภักชะเอมเทศ อบเชยเทศขอนดอกมา โกฐหัวบัวกลิ่นกล้า ทั้งโกฐเชียงโกฐสอเทศ
โกฐกระดูกกรุ งเขมา รากหญ้านางเราคุณวิเศษ เกษรบัวเผื่อนเทศ ดอกสัตบุษย์แลสัตบัน
สัตบงกชบัวหลวงขม ชัง่ ประสมเคล้าปนกัน ดอกพิกุลบุนนาคนั้น ทั้งสารภีกรรณิ กา
หญ้าฝรั่นอําพันทอง กระแจะตะนาวปองให้เร่ งหา พิมเสนอันกลิ่นกล้า เกล็ดหอยเทศชะมดเชียง
๕๒

สรรพยาสิ้ นทั้งนี้ ชัง่ จงดีอย่าเอ้เอียง นํ้าดอกไม้กระสายเสี ยง ละลายบดปั้ นแท่งไว้


ผิจะกินชูกาํ ลัง นํ้าข้าวตังขั้วก็ได้ หัวถัว่ พูตม้ แทรกใส่ นํ้าตาลกรวดเกิดกําลัง
แม้นทิ้งข้าวเจ็ดวัน แต่เท่านั้นพอประทัง สวิงสวายพอยับยั้ง เพราะคุณยาแก้หวั ใจ
มหากําลังนามให้ เคยแก้ได้ทุกโรคไซร้ บํารุ งจิตรผ่องใส ค่าคํา ได้พาราปลาย
ภาคหนึ่งชื่อสมมิท สวาหะฤทธิ์ คุณมากมาย ดังตําราบรรยาย เอานมผาศิลายอน
สังข์บลั ลังก์ศิลาแก้วแกลบ หาที่เป็ นก้อนดินดานท้องนํ้าอ่อน อีกโกฐเทียนสิ่ งทั้งห้า
หัวบัวบกแฝกหอม บัวนํ้าพร้อมทั้งห้าหา สัตบงกชกาหลงมา ดอกโยทะกาชงโคพลัน
พิกุลบุนนาคดี ดอกสารภีจาํ ปาขยัน ดอกสลิดมะลิน้ นั ทั้งลาซ้อนดอกซ่อนชู ้
ดอกคําไทยดอกพะยอม กรรณิ กาหอมดอกประดู่ ดอกสําเหร่ หอมฟู กับทั้งดอกมหาหงษ์
ดอกกะทือดอกเร่ วข่า ดอกจิกหาทั้งสองตรง ดอกเข็มแดงจํานงค์ ทั้งลูกจันทน์แลดอกจันทน์
อบเชยเทศกฤษณา กระลําภักหาขอนดอกขยัน จันทน์สองสนเทศนั้น ทั้งลูกกระวานดอกกานพลู
ใบพิมเสนสันพร้าหอม ผักกระโฉมพร้อมกลิ่นเฟื้ องฟู ใบชะมดพันชัง่ ชู ว่านกีบแรดทั้งร่ อนทอง
หว้านเพ็ชองการ หว้านชุมเพ็ด หว้านสี สมเสร็ จตามทํานอง สังกรณี ระย่อมต้อง เนระภูษีรากพิศนาด
สรรพยาสิ้ นทั้งนี้ ชัง่ จงดีสิ่งละบาท ชะมดพิมเสนสอาด อําพันทองทั้งหญ้าฝรั่น
เกล็ดหอยเทศสิ่ งสลึง กระแจะตะนาวถึงบาทหนึ่งพลัน ปั้ นแท่งแห้งหอมครัน ละลายนํ้าดอกไม้เทศ
ทศกรนํ้าตาลกรวด แทรกยิง่ ยวดกินวิเศษ หัวใจอันผิดเพศ พิกลจริ ตผิดต่าง ๆ
แก้คุณไสยอาคม เปลื้องอารมณ์ที่หมองหมาง พิษไข้เพื่อต่าง ๆ ธาตุท้ งั สี่ กาํ เริ บสู ญ
ดอสถสมมิทนี้ โดยวิธีสรรเสริ ญคุณ ประกันโทษทัว่ ทั้งมูล แม้นคาดตายก็คลายหมอง
หนึ่งชื่อมหาสดมภ์ แก้พิษลมตามทํานอง หัททะยังโทษทั้งผอง เพื่อลมพัดพานหัททัย
หวิว ๆ หิวหวยแน่ เรี ยกไม่แพร่ พร้องปากได้ ลิ้นกระด้างคางแข็งไป ลมจับใจเลือดทําพลัน
ให้เอาโอสถนี้ แก้ดูดีคุณมหันต์ กําหรับบังคับนั้น ชะมดเชี ยงสักแปดกลํ่า
พิมเสนแลการะบูน ดองดึงหนุนเทียนดําขํา เจ็ตมูลขิงแห้งซํ้า ยาทั้งนี้สิ่งละสลึง
แต่กฤษณากระลําภัก กับจันทน์เทศทั้งสามจึง สลึงเฟื้ องชัง่ ให้ถึง อีกสองสลึงเกณฑ์กาํ ยาน
สนเทศหนักหน้าบาท อย่าประมาทชัง่ ลนลาน ตําผงละลายกาน นํ้ามะนาวกระสายบด
ปั้ นทําแท่งมะแว้งเครื อ ตากลมเพื่อแผ่แห้งหมด ใส่ ขวดปิ ดผนึกรส แก้ลมจับหัวใจลาย
นํ้ามะนาวเจ็ดเม็ดกิน รอดชีวนิ บรรเทาหาย แก้ไข้ระสํ่าระสาย ให้หิวโหยแรงไม่มี
ละลายนํ้าดอกไม้เทศ กินวิเศษโอสถนี้ ใช้เพื่อลมก็กินดี ชิวหาสดมภ์ก็กินหาย
ภาคหนึ่งอุทยั รัตน์ แก้สาระพัดไข้เป็ นตาย สรรพพิษพ่นกินสบาย กล่อมจิตรใจให้ชุ่มชื่น
กลุม้ ในได้พนั ร้อย ร้อนในพลอยกลับคืน ทั้งหิวโหยระหวยฟื้ น ชื่นนํ้าใจให้หายตรอม
ให้ชราโรครังเรื้ อ พิกุลเจือกลิ่นหอม ๆ เกิดกําลังประทังผอม อาหารถ่อมเรี ยวแรงโรย
ยังกระสายละลายเสพย์ ดังทิพย์เทพโอสถโปรย กลับสบายหายหิ วโหย เจ็บอกโอยเมื่อยมึนหาย
โอสะถาวะราขํา สุ ดแสนรํ่าเรื่ องธิ บาย ตามแพทย์ปราชญ์ฉลาดย้าย กระสายโรคให้ควรกัน
๕๓

เอากฤษณากระลําภัก อีกสนหนักสักขีน้ นั จันทน์ท้งั สองชะรู ดพลัน ทั้งแฝกหอมโกฐเก้าดี


ลูกจันทน์ดอกจันทน์เนียม เทียนห้าเอี่ยมละออศรี แห้วกระจับหัวบัวมิ ลูกบัวหัวถัว่ พูครัน
ถัว่ กาบถัว่ ทองแปบ มันอ่อนแอบล้วนสุ กขยัน นํ้าตาลกรวดชะเอมนั้น ทั้งอบเชยระย่อมดี
รากไคร้เครื อพิศนาด สิ่ งละบาทอย่าขาดศรี เกษรบัวนํ้ามี ทั้งแปดสิ่ งยิง่ รสหอม
ดอกพิกุลบุนนาคหา มะลิลาดอกซ้อนพร้อม กรรณิ กาพะยอมหอม ดอกชงโคโยทะกา
กาหลงดอกทองกวาว ดอกงิ้วง้าวดอกแดงมา ดอกทองหลางสองหา กับดอกเงินแลดอกทอง
ดอกเซ่งจําปาชะบา ดอกสันตะวาตับเต่าหนอง ดอกชะลูดล้วนสิ่ งละสอง สลึงชัง่ อย่ายั้งมือ
ดอกคําครั้งฝางประดู่ ค่าหนักอยูต่ าํ ลึงซื้อ หญ้าฝรั่นอําพันหรื อ ทั้งพิมเสนชะมดฝัก
สิ่ งละสลึงจึงชัง่ ปรุ ง ตํากลิ่นฟุ้งหอมประจัก เมื่อจะบดไหว้ครู พกั ฝนเขี้ยวงาทุกพันธุ์สิ่ง
สรรพดีละลายใส่ นํ้าดอกไม้กระสายยิง่ แก้ไข้หายได้จริ ง ทั้งเหนือใต้ไม่เลือกเลย
หัททะยังยายังมาก จําจะจากทําเพิกเฉย จะละเลี่ยงเบี่ยงเลย จับเรื่ องยะกะนังนา ฯ
๏ ยะกะนังกล่าวคือตับ ย่อมอยูล่ บั ชายอุรา ปกคลุมปิ ดตะหนา ใต้ถนั นั้นเป็ นที่อยู่
ชายโครงเลี่ยงข้างขวา ตรัสเทศนาจึงได้รู้ กิมิชาตคิมากพรั่งพรู สามพวกนั้นเพื่อนอาศัย
ชื่อตันหาวรระณะ สะวะละสามพวกไซร้ เบียนบ่อนซ่อนอยูใ่ น ก้อนตับไตเป็ นรังเรื อน
ยะกะนังธาตุปถวี วรรณศรี ประมาณเหมือน แดงดังดอกกะมุทเถื่อน เหมือนชิ้นตับชายอุรา
ผิบุคคลอันฉลาด ปั ญญาปราชญ์เรื่ องปรี ชา ก้อนตับบ่ได้หนา บางน้อย ๆ ชายตับแยก
เป็ นสองบข้างเป็ นสาม ตามบาลีเป็ นระแวก โง่เง่าไม่มีแฉก ตับหนาโตโง่จนตาย
ร่ างน้อยแม้คนโง่ ตับหากโตไม่รู้หาย ผิร่างโตปั ญญาหลาย ตับนั้นคลายน้อยอยูเ่ อง
ยะกะนังตับพิการ ธาตุร้าวฉานมักก่อเพลง ยะกะนังทําโทษเส็ ง มักเกิดกาฬขึ้นในตับ
กาฬสี่ ย่าํ ยีใน ผูน้ ้ นั ไซร้เห็นอับปะสับ กาฬสี่ นามบังคับ ชื่อกาฬมูตรกาฬสิ งคลี
กาฬพิพิธพัธ ท่านหากจัดกาฬเป็ นสี่ กาฬกินตับโทษมี กลับเป็ นฝี ในตับพลัน
ให้ลงเลือดสดศรี เลือกซํ้ามีหนองปนกัน มีนามบังคับขัน เรี ยกอติสารเพราะโทษลง
บางทีบงั เกิดไข้ พิษเผาในดังปลดปลง ผุดขึ้นเป็ นแวววง ให้ลงเลือดเสมหะเน่า
ปวดมวนเป็ นกําลัง จักขุหนังแดงไม่ขาว เป็ นสายโลหิ ตยาว ผ่านลูกตาพาเพ้อพก
สิ้ นสติมกั เจรจา เล่ห์หนึ่งว่าปี ศาจปรก ผูม้ ิรู้มกั กระหนก ว่าปี ศาจสิ งประจํา
ดังนี้ยอ่ มยากนัก มักเยียวยาแสนสุ ดปลํ้า อันลักษณะแห่งกาฬทํา กาฬพิพิธดังนี้นา
กินขั้วตับ ๆ หย่อน ผิกินผ่อนถอยลงมา กินขายตับตํ่ามา ลงโลหิ ตเป็ นอติสาร
ไหลเปรอะให้เลอะเน่า เหม็นไข่คาวพ้นประมาณ พิษปะทะอุระราญ ให้ราจะอึกถึงสามชั้น
ครั้นกินยาสะอึกถอย กลับลงจ้อยมากกว่านั้น แก้ลงค่อยน้อยครัน พิษกลับหลบเข้าร้อนใน
ให้ทุรนกระวนอยาก กินนํ้ามากดังขาดใจ ดูดดื่มเท่าใด ๆ บ่หย่อนอยากอารมณ์เรอ
กาฬผุดแววหนองหวัง เขียวแดงตั้งทั้งตัวเหนอ กลับลงโลหิตเพ้อ จะใกล้กาลกําหนดตาย
กาฬพิพิธเพศดังนี้ จําวิธีให้แม่นหมาย กาฬพิพธั ท่านบรรยาย กินชายตับลงเหมือนกัน
๕๔

กินขั้วให้ลงไหล ขั้วดีในก็ลงครัน แต่ปิตตังสี่ ลงนั้น มักจะเขียวผิดกับตับ


โทษตับให้ลงเล่า ล้างเนื้อเน่าเหม็นอับประสับ ดุจซากอาศพยับ โซมแรมคืนข้างป่ าช้า
โทษหอบเป็ นกําลัง อยากอุทะกังยิง่ นักหนา อกใจกลุม้ ไปมา สติหนาบ่ยงั่ ยืน
ใครเป็ นผูน้ ้ นั ตาย อติสารร้ายโทษโหดหื่ น จะเยียวยาบ่ฝ่าฝื น ด้วยเพศกาฬพิพทั ทํา
กาฬมูตรมันมุดกิน ในชิ้นตับให้ลงรํา เป็ นโลหิตเน่าดํา เล่ห์ดงั ถ่านเป็ นลิ่มก้อน
มักกระหายซึ่งนํ้านัก ยิง่ กินหนักยิง่ ลงอ่อน ลงไหลไม่หยุดหย่อน แลให้เย็นสิ้ นทั้งตัว
เหงื่อออกเป็ นเม็ด ๆ ผลโพดเพศดูน่ากลัว แล้วรากดังคอรั่ว จะกินยาบ่ยาได้
ให้รากยาออกเสี ย ท้องพูนเรี่ ยลมคับไส้ จะกดท้องบ่ยากไหว ครั้นท้องหย่อนก็เยียดตาย
นี้โทษแห่งกาฬมูตร ทั้งกาฬสู ตรก็แม่นหมาย ผูแ้ พทย์อย่ามักง่าย ประมาทหมิ่นโทษกาฬนา
ผิวา่ โทษแต่เพื่อธาตุ วิกลอาจกําเริ บกล้า ตับซุ ดชายอุรา กระทําโทษคือให้ไอ
หิ วหอบระโหยนัก มักลําบากด้วยหายใจ บ่ทวั่ ถึงท้องใน ทั้งอาหารก็ลดหย่อน
ลักษณะอาการตับ มิพร้อมสรรพให้แก้ก่อน ตับโตหรื อตับหย่อน ย่อมโทษตัดเป็ นตามเพลง
ผูแ้ พทย์อย่าหมิ่นใจ โทษเครื่ องในย่อมยําเกรง ธาตุท้งั สี่ วบิ ตั ิเอง จงแก้ข้วั ต้นตับอ่อน
ให้เอายาชื่อเบญจะ อํามะฤคชําระผ่อน จึงต้มยาบรรเทาถอน โทษตับคับชายอุรัง
เอาจุกกะโรหิ นี รากขี้กาอันแดงปลัง่ เจ็ดมูลขิงแห้งหวัง ทั้งโคกกระสุ นสมุลแว้ง
เทพธาถากเอานะ สิ่ งละบาทอย่าได้แคลง ดีปลีชา้ พลูแรง สะค้านสิ่ งละหกสลึงจึงจะควร
เปลือกโมกมันหนักสองบาท แห้วหมูบาทตําลึงถ้วน โกฐห้าเทียนห้าล้วน ซํ้าสมอทั้งสามดี
รากมะตูมรากมะดูกทั้ง รากพันชัง่ อันขาวศรี ดินประสิ วสารส้มมี ลูกผักชีท้ งั ล้อมลา
เปราะนํ้าประสารทอง สิ่ งสองสลึงอย่ากังขา จงตําผลตามปั ญญา ผงละลายนํ้ามะพร้าวคล้า
นํ้ามะกรู ดนํ้าส้มส้า นํ้าผึ้งหากินเย็นเช้า แก้ตบั ชํารุ ดเศร้า ดังตําหรับบังคับมา
ภาคหนึ่งเอาหัวใจไวยราบแก่นพรมหนา แก่นแสมทั้งสองหา กับรากยามหาละลาย
สิ่ งละบาทดองสุ รา ห้าทนานกินสบาย ผิท้ งั ผงจึงละลาย นํ้าขี้เหล็กนํ้าส้มส้า
นํ้ามะกรู ดมะนาวทั้ง ขมิ้นอ้อยหวังกินอัตรา โทษตับคับอุรา อันใหญ่หย่อนก็ผอ่ นหาย
ภาคหนึ่งกล่อมนางนอน นามกรสุ ขสบาย กล่อมก้อนตับดับร้าย แก้โทษตายมิให้มี
ให้เอาเทียนทั้งห้า โกฐเก้านาไคร้เครื อศรี เกษรบัวนํ้าดี ได้หา้ สิ่ งยิง่ รสหอม
ดอกสารภีพิกุล ดอกบุนนาคมะลิพร้อม กฤษณาชะลูดหอม ทั้งขอนดอกกระลําภัก
สังกรณี ชะเอมเทศ นํ้าประสารทองชะมดฝัก กระดองปูป่าหายากนัก ผงใบลานแลพิมเสน
เสมอภาคเคล้านํ้าหมด บดด้วยนํ้าเอกไม้เย็น ติดก้นขันสําริ ดเล่น ลนควันเทียนให้ทวั่ บด
ปั้ นแท่งนํ้ากฤษณา แก้อุราระทวยทด แก้มูกเลือดได้หมด นํ้ากล้วยตีบกระสายลาย
แก้เสมหะนํ้ามะแว้ง แก้ร้อนแรงนํ้าดอกไม้กระสาย ชะโลมกินสุ ขสบาย ดับพิษร้ายโทษทั้งปวง
กล่อมตับดับพิษฝี พิษกาฬมีตานซางร่ วง เอารากผูเ้ มียหลวง รากมะเฟื องรากต่อไส้
๕๕

ฝางต้มละลายกิน จงนิจสิ นหายบรรลัย ตับคับอกใจไซร้ สู ญแน่นในอัดอุรา


ภาคหนึ่งรากมะขาม รากมะกรู ดมะนาวมา ต้มสามเอาหนึ่งนา ริ นออกมากินเสี ยก่อน
เก็บยามาพอกอก ให้พิษตกตับยอบหย่อน กระดูกคางหมูเผาโชนล่อน ทั้งกระดูกแลคางควาย
กระดูกช้างสามเผาชัง่ สิ่ งตําลึงหวังโดยหมาย ขมิน้ อ้อยไพลประสมปราย บดพอกหายดังกล่าวมา
มิฟังเอาใบเสนียด รากผักหนารากตูมกา รากผีเสื้ อน้อยใหญ่หา รากคัดเค้าทั้งรากคาง
รากขี้เหล็กรากตาเสื อ ตูมกาเครื อเล็บมือนาง รากมะดูกอย่าได้หมาง ขอบชะนางทั้งสองสง
รากตับเต่าทั้งสองหนอ หัวปื นตอโลดทนง รากสี หวดช้องแมวดง รากผักไห่ท้ งั ฟักเข้า
รากครามเอาทั้งสอง สนุ่นหนองไก่ให้เอา รากหมอน้อยก็พลอยเข้า ทั้งระย่อมหัวหว้านนํ้า
อีกสะไคร้เอาทั้งสอง ละหุ่งต้องทั้งสองรํา ชิงชาลีท้งั สองขํา ขิงแห้งซํ้ารากมะเกลือป่ า
รากบัวหลวงรากล้วยตีบ กะไดก้อนรี บเร่ งหามา สลัดไดรากคนทา ทั้งรากกลอยรากเลาแล้ง
รากตาลรากมะพร้าวเรา หัวเอ็นเอาอย่าได้แคลง ยานี้ใช่ของแพง พึงเก็บตัวรมโรคหาย
แม้จะหุ งเป็ นชี่กิน เป็ นอาจิณสุ ขสบาย โทษตับคับอกร้าย ดังภิปรายตําหรับ มา
มิฟังทํายาพอก หัวแม่ตีนบอกตํารา ใบประคําดีควายมา รากละหุ่งใบประคําไก่
เอาขิง ใบผักกาด ละแปดบาทลดพอกไว้ โทษตับคับในไซร้ เร็ วบัดใจทุเลาคลาย
ภาคหนึ่งยาประจุ ชําระรุ โทษทั้งหลาย ตับชํารุ ดพิการหาย รุ นไล่โรคเรื่ องตับร้าย
ให้เอาเอื้องเพ็ดม้า รากประดู่หามะเดื่อหมาย รากขี้เหล็กรากเทียนถวาย ตาลทั้งสองเถาชาลี
หัศคุณทั้งสองปอง โรคทั้งสองเปล้าสองดี รากสนุ่นกระเช้ามี เจ็ตมูลทั้งรากเล็บเหยีย่ ว
รากมะงัว่ มะนาวเอา พอเท่า ๆ ตากแดดเหี่ ยว ต้มสามเอาหนึ่งเจียว ริ นนํ้าไว้กากตําผง
เอายาทั้งนี้ปรุ ง ให้กลิ่นฟุ้งโดยจํานงค์ เทียนดําเทียนแดงดง กับโกฐสอโกฐเขมา
มหาหิ งคุพ์ ิมเสนจันทน์ ทั้งสองนั้นแต่เพลา ๆ เปลือกมะซางขิงแห้งเอา ทั้งกํายานดอกดีปลี
ประคินควรดูอชั ฌา เป็ นผงนาคลุกเคล้าสี่ ลูกสลอดปอกเปลือกดี หนักสิ บบาทอย่าขาดหย่อน
ประสระเริ่ มวันแรกดู นํ้าใบพลูตม้ เสี ยก่อน วันสองจึงต้มผ่อน นํ้าช้าพลูดูพองาม
ใบพริ กไทยต้มแห้งดี เป็ นวิธีตม้ วันสาม วันสี่ ตม้ ใบมะขาม วันห้านั้นต้มนํ้าเกลือ
วันหกต้มข้าวสุ ก วันเจ็ดคลุกมูลโคเบื่อ ต้มเสร็ จตากแดดเพื่อ เมื่อบดปรุ งยางสลัดใด
ยางแห้งหนักตําลึง จึงให้เอาพริ กไทยใส่ เท่ายาทั้งหลายไว้ คุลีการกับนํ้ายา
ริ นไว้ตากให้แห้ง บดปั้ นแท่งพริ กไทยนา กินทีละเม็ดลงเล่ห์วา่ เสลดหลุดละลายเหลว
ตับซุ ดตับพิการ บ่เนิ่นนานหายรวดเร็ ว โทษตับคับอกเอว เร็ วรวดหายคุณถึงพัน
เรื่ องตับที่พรรณา ยุติกาพอเพียงนั้น ต่อเรื่ องให้เนื่องกัน กิโลมะกังคือพังผืด ฯ
๏ คัมภีร์ท่านพรรณา ไว้หยูกยาดูเคืองฝื ด กิโลมะกังโทษคือพังผืด เป็ นปถวีธาตุแลนา
ในคัมภีร์วภิ งั ค์ พระสอนสั่งตรัสเทศนา พังผืดเรานี้วา่ มีสองประการในอินทรี ย ์
พังผืดหุ ม้ ปอดตับ ไตม้ามกับหัวใจฉะนี้ พังผืดหุ ม้ อัฐิ สามร้อยท่อนนั้นโดยปอง
สี สรรคุรุวรรณา ดังทุกุลผ้าอันเก่าหมอง พังผืดนั้นก่อกอง วิกลการมักอกแห้ง
๕๖

กระหายซึ่ งนํ้านัก มักก่อโรคกําเริ บแรง มักเกิดริ ดสี ดวงแห้ง บางทีแปลงเป็ นลมราก


จุกเสี ยดแลให้จบั กลับเป็ นลมดูลาํ บาก พังผืดหากแก้ยาก ทั้งหยูกยาน้อยนักหนา
ผิจะแก้เปล้าน้อยหา ทั้งรากหญ้าวงคชา พริ กเจ็ดขิงเจ็ดมา กระเทียมเกลือก็เจ็ดเอา
บดกินแก้พงั ผืด โทษยาวยืดคลายบรรเทา มิฟังเอามาดเรา กับดินประสิ วลูกสลอด
นํ้ากล้วยตีบกระสายบด ปั้ นกําหนดพริ กไทยหยอด กินเม็ดเดียวก็ลงปลอด ใส่ ในมะนาวก็กินหาย
พังผืดสิ้ นกล่าวฟุ้ง ดูออกนุงในอธิ บาย ปิ หะกังพระบรรยา ว่าไตนี้ธาตุดินนา ฯ
๏ ไตเป็ นหน้าที่ทาํ กรองกลัน่ นํ้าโลหิ ตหนา โสโครกไหลออกมา คือปั สสาวะแห่งบุคคล
ที่อยูข่ องไตนี้ ในนาภีอย่าฉงน ข้างกระดูกสันหลังตน ทั้งขวาซ้ายมีสองไต
จะคะเนภายนอกกาย หมายปั้ นเอวตรงเข้าไป สี ไตดําแดงไซร้ มีรูปคล้ายเม็ดทองหลาง
ยาวสักสี่ นิ้วหนอ หนาก็พอหนึ่งนิ้วกว้าง สองนิ้วตําหรับวาง ไว้อย่าแคลงแหนงวิญญา
มีพงั ผืดห่อหุม้ คลุมเป็ นถุงอยูแ่ น่นหนา ขั้วพังผืดเหนียวมา ต้นขั้วใหญ่กว่าสักหน่อย
แล้วเรี ยวเล็กเป็ นหลอด ทอดถึงกระเพาะที่ทอ้ งน้อย จากไตทั้งสองย้อย เป็ นหลอดคู่น้ าํ เบาเดิน
ไตเมื่อพิการฟก ให้แน่นอกเสี ยเหลือเกิน ไตนั้นก็เผอิญ ไม่เกรอะกรองซึ่งนํ้าเบา
ให้ปวดขัดปัสสาวะ ปะทะแน่นพอบรรเทา บอบทัว่ ทั้งกายเรา ปวดบั้นเอวแลขัดอก
ให้ทอ้ งขึ้นแลท้องพอง มักแน่นท้องดูโสทก กินเข้าปานทารก ให้เบื่อกลืนกินบ่ได้
ปวดท้องให้ขบท้อง แตกขึ้นร้องทนไม่ไหว เหตุน้ ีใช่อื่นไกล โทษธาตุไตยุง่ เป็ นเอง
จะแก้เอาเบ็ญจกูลหนอ กับบอระเพ็ดก็เหมาะเหม็ง ขมิ้นอ้อยอันกลิ่นเส็ง ลูกผักชีมะตูมอ่อน
หัวแห้วหมูให้ขดุ มาก กับทั้งรากต้นคัดมอญ เสมอภาคต้มกินก่อน บํารุ งธาตุให้ค่อยสบาย
มิฟังเอารากมะดูกแล ใบพลูแกที่กินหมาย รากพันงูแดงสาย อีกไก่ให้รากเบ็ญมาศ
เสมอภาคต้มอาบหาย ธาตุไตร้ายก็สูญขาด ตามตําหรับวิกลธาตุ ย่อมวินาสหายหนักหนา
มิหายเปลือกฝรั่ง ทั้งพรายชะมดต้มอย่าช้า หมักอาบสามเวลา โทษไตหนาหายบัดดล
หนึ่งพิลงั กาษา เอาทั้งห้าใยสนุ่นปน ต้มด้วยเหล้าระคน กินแล้วหายไม่บรรลัย
มิฟังเอาเปล้าน้อย พริ กเจ็ดพลอดขิงเจ็ดใส่ เกลือเจ็ดหอมเจ็ดไว บดบัดใจกลั้นกลืนกิน
เท่าลูกตะขบเป็ นนิรันดร์ โทษไตนั้นดับสู ญสิ้ น แพทย์เก่ากล่าวระบิล โทษไตนี้หายยากนา
ขนานหนึ่งท่านกล่าวไข ว่าแก้ไตวิการา นามเนาวหอยหอมนา ซึ่งหอยมุกแลหอยสังข์
อีกทั้งหอยนางลม หอยขมหอยพิมพการัง หอยแคลง หอยกาบทั้ง หอยตาโคหอยมือเสื อ
หอยนี้เผาให้สุก ทุกสิ่ งหอยเผาอย่าเหลือ ผลจันทน์ดอกจันทน์เจือ ผลกระวานทั้งกฤษณา
แก่นสนทั้งกานพลู พริ กหอมดูที่ใหม่หนา พริ กหางเร่ งหามา จันทน์เทศอีกดีปลีแถลง
กระลําภักเอาอย่างดี ผลผักชี ลาขิงแห้ง เทียนดําอย่าได้แคลง ยาทั้งนี้หนักเท่ากัน ตําแหลากเห็นจุณบด แทรก
ชะมดพิมเสนพลัน โอสถนี้ดีขยัน เคยใช้แล้วหายมาหลาย
ขับนํ้าปั สสาวะ แน่นปะทะก็แก้หาย กานพลูขิงเป็ นกระสาย ต้มละลายกินหายเร็ วนา
อันโทษปิ หะกัง จําจะยั้งหยุดตํารา จํานําเนื่องในเรื่ องหน้า โทษชื่อว่าปั บผาสัง ฯ
๕๗

๏ คัมภีร์บาลีจดั โปรดบัญญัติเทศนัง พรรณาปั บผาสัง ว่าก้อนปอดเป็ นธาตุดิน


สี สรรอันแดงเรื่ อ เล่ห์ผลมะเดื่อสุ กมีสิ้น ปดขาวสามซ้ายสองชิ้น ดังขนมตัดเสี้ ยวอัน
อยูซ่ า้ ยขวาในอก ห้อยปกทับหัวใจนั้น สู บบีบลมเข้าออกนัน่ คือลมหายใจธรรมดา
ถ้าบุคคลอดอาหาร กองเพลิงผลาญก้อนปั บผา เหี่ ยวแห้งเล่ห์หนึ่งว่า เนื้ออันต้องแสงสุ รีย ์
บริ โภคอาหารอิ่ม เนื้อปอดนิ่มสดใสดี อาหารเป็ นเชื้อมี เพลิงธาตุยอ่ ยฉะนี้นา
เนื้อปอดเป็ นรู รัง ประดุจดังรังบวบหนา ที่อยูข่ องเสมหา ในรู รังดังพรรณา
หนอนหกจําพวกบ่อน เบียนก้อนปอดเป็ นภักษา ประสู ตรสื บในอุรา เป็ นเคหาอาเกียรณ์ความ
ชื่อเสตะโลหิ ตะ แลอะวะกาละนาม สิ วาวัตตะตาม ทั้งหมาวัตตะมี
ธรรมดาทั้งหญิงชาย อย่ามาตรหมายว่าตัวดี ปั บผาเมื่อภินที ธาตุฉลายร้ายนักหนา
คือปอดกําเริ บร้าว ตํารากล่าวธาตุวกิ า อาการเล่ห์หนึ่งว่า ดังไข้พิษเกิดกาฬใน
กาฬกระทํายํ่ายีปอด แน่นอกทอดหอบหายใจ โครงรวนร้อนเบื้องใน ระหายนํ้าไม่ห่างถอย
เท่าไรไม่ซาบซึ ม จับขันดื่มจนปอดลอย จึงจะคลายหายสักหน่อย บางทีพลอยรากนํ้าออก
ค่อยคลายหายพิษร้อน ฉะนี้กอ้ นปอดชํ้าชอก จะตายเป็ นเท่ากันดอก ดังตําหรับบังคับมา
ผิจะแก้อย่าควรหมิ่น รากกระถินพิมานหา จึงต้มริ นกินอัตรา โทษปั บผาสังเสื่ อมหาย
มิฟังเชือกเขาพรวน กิ่งต้นล้วนเปลือกขี้อา้ ย รากทรงบาดาลหมาย อีกทั้งรากรังกาษา
ต้มสามเอาหนึ่งกิน เป็ นนิจสิ นทุกทิวา ย่อมวินาสอย่ากังขา หนึ่งแม้นว่ามิฟังถอย
เอาเบ็ญบรรจบ เก็บจนครบต้มกินบ่อย โทษปั บผาย่อมคลายน้อยดุจตํานานโบราณมา ฯ
๏ เรื่ องปอดหมดจะงดความ ขอสื อตามต้นตํารา อันตังไส้ใหญ่หนา ในคาถาว่าธาตุดิน
ไส้ใหญ่ต่อไส้นอ้ ย ต้นไส้หอ้ ยข้างขวาสิ้ น อยูท่ อ้ งน้อยอาจิณ รู ปคล้ายถุงหย่อนลงไซร้
มีไส้ยอ่ ยย้อยพุง่ จากต้นถุงอย่าสงสัย ไส้ต้ งั ตรงขึ้นไป ถึงใต้ตบั ขวางตัวพลัน
พาดไปทางเบื้องซ้าย ใต้กระเพาะชายโครงนั้น โค้งลงท้องน้อยหัน หักตรงลงเป็ นคุธทวาร
เป็ นที่สุดไส้ใหญ่ ข้างในหนอนบ่อนอาหาร เจ็ดพวกท่านประมาณ โดยตําหรับบังคับสอน
กิมิชาติเหล่านี้โซร้ อยูอ่ าศัยไล่เบียนบ่อน โดยพันธุ์นามกร ชื่อคันธะปะทะกะ
สัณฐานดังไส้เดือน อยูใ่ นเรื อนเลื้อยเกะกะ หนึ่งชื่อว่าตาละหิระ มีสัณฐานดังแปลงตาล
หนึ่งสุ จิมุขะหนอน ปากแหลมบ่อนดังเข็มปาน หนึ่งนามตามตํานาน ปะวะตันตุดงั เส้นด้าย
คุตะกะพวกหนึ่งนั้น ดังด้ายปั่นไม่รู้คลาย หนึ่งตะถะพวกหนึ่งหมาย แลโอตะเป็ นเจ็ดพันธุ์
หมู่หนอนเจ็ดพวกนี้ พลุกพล่านมีเป็ นนิรันดร์ อาศัยกระเพาะไส้น้ นั สู บเสพย์สันอาหารา
อาหารแรกบริ โภคะ ก้อนกะลิงกะวะหา ในสองสามแรกภุญชา ย่อมเป็ นเชื้อเหยือ่ หมู่หนอน
เต้นโลดโดดชิงกิน ชู เศียรดิ้นด่วนสลอน สามคําเหยื่อหนอนบ่อน อิ่มแล้วผ่อนสงบนาน
ขาดบริ โภคซํ้า ข้าวแลน้าขาดล่วงกาล หมู่หนอนทุรนราญ ชูเศียรร้องตามภาษา
แล้วไซ้ซ่ ึ งตับปอด ม้ามหัวใจตอดภุญชา ตามวิสัยโดยธรรมดา แห่งหมู่หนอนทั้งหลายมี
กิมิชาติท้งั หลาย เกิดแก่ตายในอินทรี ย ์ ในกระเพาะไส้ใหญ่น้ ี เป็ นเรื อนรังกว่าวายปราณ
๕๘

ไส้ใหญ่ธาตุปถวี เมื่อกระลีแตกร้าวฉาน ปวดท้องใช่สามานย์ ย่อมท้องขึ้นแลท้องพอง


พะอืดพะอมบ้างวิการ กลายเป็ นมานกะไษยร้อง บางทีทาํ ลงท้อง ตกมูกเลือกปิ้ มขาดใจ
ให้โทษเป็ นต่าง ๆ ทุรนร่ างวิงเวียนใน ตามืดลุกไม่ไหว ทั้งให้ไอออกอาเจียน
หาวเรอขัดในอก หลังไหล่ฟกเป็ นพ้นเพียร เสมหะมักเบียดเบียน แน่นปะทะลําคอขัง
ร้อนคอร้อนท้องน้อย วาตาพลอยถอยกําลัง ลมกลัดพัดขัดคัง่ เรอปะทะเป็ นลมโฮก
ทั้งนี้ใช่อื่นไกล โทษไส้ใหญ่ก่อเกิดโรค ผิจะแก้ตามโฉลก ตําหรับโรคไส้ใหญ่นา
ให้เอารากเลาแดง รากไคร้น้ าํ หี บลมมา รากมะเดื่อชุมพรหา ทั้งเดื่อปล้องต้มกินหาย
ภาคหนึ่งดีปลีหนา เปล้าน้อยหาสะค้านหมาย ขิงแคลงคาป่ าคาย ทั้งข่าป่ าจิงจ้อใหญ่
เกลือสิ นเธาว์ทาํ ผง นํ้าร้อนจงกระสายใส่ กินแก้ไส้ใหญ่ให้ หายโทษร้ายดังกล่าวมา
หนึ่งเอาใบพลวงด้วย รากกล้วยตีบตาเสื อนา รากอ้อยแดงเท่ากันหา มาต้มกินสิ้ นโทษหาย
มิฟังใบผักหนอก บอกรากก้างปลาแดงสาย รากป่ านใบรากกําจาย ทั้งเลือดแรดเท่า ๆ กัน
พริ กขิงกระเทียมหอม สิ่ งละเจ็ดพร้อมเป็ นสําคัญ ยอดมะม่วงเจ็ดยอดหัน่ เร่ งบดปั้ นเท่าพริ กไทย
ลายนํ้าร้อนกินเช้า ย่อมบันเทาโทษไส้ใหญ่ ผูแ้ พทย์พึงจําไว้ แก้โรคไส้ฉะนี้นา
โรคไส้กลายเป็ นบาน กะษัยดานจงแต่งยา ตําหรับบังคับมา ยารุ ประจุถ่าย
ให้เอาการะบูนหนา มหาหิ งคุย์ าดําหมาย สิ่ งละบาทอย่าคลาดคลาย จันทน์ลูกดอกสิ่ งสลึง
ยางสลัดไดแห้งดี สามบาททวีพิกดั ขึง พริ กไทยสิ บสลึง ตามตําหรับบังคับมา
นํ้ามะกรู ดกระสายบด ปั้ นกําหนดพริ กไทยนา มื้อเม็ดอย่ากังขา เร่ งภุญชาจงทุกวัน
แก้ทองมานหายดี ริ ดสี ดวงมองคร่ อพลัน ทั้งหื ดไอหายแม่นมัน่ โทษง่วงเหงาบรรเทาสู ญ
ภาคหนึ่งรุ น้ าํ เหลือง บวมฟ่ าเฟื้ องโทษทั้งมูล หางไหลแดงอย่าสู ญ อีกลูกสลอดเท่า ๆ กัน
หกสลึงจึงชัง่ เข้า ปั้ นเม็ดเท่าพริ กไทยขยัน กินตามแรงทุกวัน รุ น้ าํ เหลืองเปลื้องบวมคลาย
ภาคหนึ่งประจุโรค ลมเรอโอกกินสบาย ท้องรุ ้งพุงมานหาย ริ ดสี ดวงเจ็ดจําพวก
ริ ดสี ดวงขี้คืนวัน บางทีมนั ทําท้องพลวก แก้หืดไอหายสะดวก ไอสามปี ก็กินหาย
แก้ลมจุกเสี ยดร้อง แน่นในท้องก็กินคลาย ตํารับบังคับหมาย เอาแห้วหมูมะตูมอ่อน
ลูกพิลงั กาษาเหนือ มะแว้งเครื อสะค้านร้อน ตรี กะฎุกเร่ งสังวร ปลาไหลเผือกกรุ งเขมา
บระเพ็ดเท่า ๆ กัน ตําผงพลันระแนงเอา นํ้าผึ้งละลายเคล้า เท่าพุดซาสามก้อนกิน
ย่อมประจุเลือดร้าย โทษทั้งหลายเสื่ อมสู ญสิ้ น ท้องมานแม้นได้กิน สิ้ นโทษบวมดังได้กล่าวมา
ภาคหนึ่งเอาลูกจันทน์ ขิงดีปลีหนั่ สะค้านหา กรุ งเขมาพิลงั กา อีกแห้วหมูผกั แพวแดง
มะตูมอ่อนบอระเพ็ดปอง กระดาดทั้งสองอย่าได้แคลง ลูกสลอดอันลงแรง มะแว้งเครื อเท่ากันตําผง
ละลายนํ้าผึ้งกินอัตรา เท่าพุดซาประจําลง กะไษยดานบ่ทานคง พินาศลงมิได้เหลือ
ทาเสี ยดริ ดสี ดวง มานทั้งปวงอันรั้งเรื อ มานทะลุนจงควรเชื่อ ทั้งกินเถิดประเสริ ฐหาย
พวกหนึ่งโพกพายต้ม กินย่อมข่มโรคมานร้าย มานทะลุนก็กินคลาย ถ่ายโทษตกอย่างกังขา
พวกหนึ่งคุณมหันต์ สัตบันบางตํารา คัมภีร์ไภยสันตา ว่าแก้ลงหายมาหลาย
๕๙

จงเจ็ดจําพวกเคลื่อน โรคเรื้ อนทั้งหลายคลาย ริ ดสี ดวงเจ็ดพันธุ์หาย แก้เจ็บตาเจ็ดประการ


ตะคริ วเจ็ดพวกคลาย ท้องโรหายทั้งท้องมาน แก้สิ่งละเจ็ดประการ ตํานานนี้ดีนกั หนา
ให้เอาตรี กะฎุกตั้ง กับทั้งลูกพิลงั กาษา มะตูมอ่อนอันโอชา สิ่ งละสองสลึงจึงจะดี
กรุ งเขมาสามสลึง บอระเพ็ดถึงบาททวี ตําผงให้ป่นปี้ ลายนํ้าผึงกินโดยจง
หาผลแห่งพุดซา ในตําราประจุส่ง หนึ่งแม้นถ้ามิลง กินนํ้าร้อนเดินเร็ วหวัง ฯ
๏ กระเพาะอาหารใหม่ กล่าวรวมในอันตะคุณัง ที่พกั อาหารขัง สัณฐานคล้ายรู ปกระเป๋ า
อยูใ่ นชายโครง โค้งห้อยอยูข่ า้ งซ้ายเรา ต้นขั้วกระเพาะเล่า อยูส่ ุ ดทรวงที่ลิ้นปี่
ชายกระเพาะเฉลียงไป อยูข่ วาไซร้ไม่หลีกหนี กระเพาะอาหารมี เนื้อสามชั้นขวางไข่วกัน
ชั้นนอกเหนียวแข็งแรง ชั้นสองแจ้ง ใยเนื้อนั้น ขวางไข่วดูพวั พัน ชั้นที่สามคือชั้นใน
ส่ งเส้นโลหิ ต เม็ดต่อมติดผ่านในไซร้ สําหรับขับนํ้าให้ ละลายอาหารที่ภุญชา
กระเพาะอาหารนี้ กล่าวว่ามีช่องสองหนา ช่องหนึ่งอาหารา ที่เราเสพกลืนลงไป
อมหลอดอาหารเลื่อน เคลื่อนเข้าต้นกระเพาะไซร้ ช่องที่สองเลื่อนไหล ลงสู่ ไส้นอ้ ยนั้นนา
กระเพาะขอหยุดเรื่ อง จะนําเนื่องไส้นอ้ ยมา อันตะคุณงั คาณา ว่าไส้นอ้ ยธาตุปถวี
กระเพาะอาหารใหม่ สี ขาวใสสัณฐานมี ดังรากนิลบลสี โดยประเภทของลําไส้
ลําไส้นอ้ ยนั้น ติดต่อกันกับลําไส้ใหญ่ มีลิ้นกันมิให้ อาหารเก่าไหลขึ้นมา
กอบด้วยงาน หนักเหลือการหย่อนลงหนา ไส้ใหญ่หย่อนทุรา เป็ นธรรมดาประเพณี
ไส้ทาํ งานหนัก ไส้นอ้ ยชักไว้คงที่ ตามนิสสัยทัว่ โลกีย ์ มีหมู่หนอนหกพวกพาล
ว่าระดูมะหา วะรันตาเที่ยวพลุกพล่าน มะหาวะรันตากาล แลสิ บปามะสิ บปา
หนึ่งนั้นก็ครัน ชื่อว่าสันตะวันตา เป็ นหกพันธุ์เที่ยวไปมา ในไส้นอ้ ยเป็ นรังเรื อน
เพาะเมื่อร้าวราน ธาตุพิการแปรแชเชือน อาการยาแก้เหมือน ไส้ใหญ่นอ้ ยเมื่อเกิดการ
ว่าไส้นอ้ ยแตก เกิดเพราะแปลกอาหารพาล ไส้นอ้ ยจึงร้าวฉาน ให้ปวดท้องแลขัดอก
สะอึกมักหาวเรอ บางคาบเหนอคูธมักตก ลงรากดูโสธก มักกลัดอกโทษเสมหะ
เป็ นลมกํามัชวาต พัดคลาดทรวงแน่นปะทะ เสพย์อาหารคานอุระ เล่ห์หนึ่งว่าเป็ นไส้ตีบ
จะแก้เอาฝอยลมเผา เอาด่างนั้นมาสักหยิบ พริ กขิงกระเทียมละเจ็ดกลีบ บดละลายนํ้าร้อนเกิน
มิฟังหว้านไข่เน่า หัศคุณเทศเร่ าร้อนกลิ่น เปล้าน้อยหัวหอมริ น ทั้งพริ กขิงดําผงพลัน
ให้ละลายนํ้าร้อนกิน เป็ นนิจสิ นจงทุกวัน โทษไส้นอ้ ยวิกลนั้น อาจระงับด้วยคุณยา
มิฟังแก่นมะหาดหนา พริ กขิงหากระเทียมมา มหาหิ งคุห์ อมเร่ งหา ต้มกินพลันทันทีหาย ฯ
๏ เรื่ องไส้ไขข้อความ ยุติตามตําราหมาย จะรํ่าเรื่ องเบื้องบรรยาย อาหารใหม่ตามตํารา
อุททริ ยงั อาหารใหม่ พระตรัสไขในคาถา บทวิภงั ค์พระเทศนา ว่าอาหารเป็ นธาตุดิน
อาหารใหม่บริ โภค กลับโสโครกไปหมดสิ้ น พอตกต้องดันลิ้น ละเอียดเคี้ยวด้วยคมฟัน
ย่อมกลั้วคละเขฬะเหนี่ยว หวานเค็มเปรี้ ยวระคนกัน ปราศจากซึ่ งสี สรร น่าพึงเกลียดกลืนเข้าไป
ล่วงยากจากคอหอย เสมหาคอยแหวกช่องให้ พ้นเสมหะตกลงใน ไถ้กระเพาะเป็ นที่ขงั
๖๐

กระเพาะอาหารใหม่ อยูภ่ ายในชายอุรัง จึงจําแนกเป็ นภาคัง แบ่งห้าส่ วนควรตามมี


กินน้อยแลกินมาก ต้องแบ่งภาคห้าส่ วนดี ส่ วนหนึ่งหนอนกระลี่ ไล่ภุญชีเป็ นเหยือ่ หนอน
ส่ วนหนึ่งเพลิงธาตุเผา เป็ นจุณเล่าย่อยสังหรณ์ ส่ วนหนึ่งเกรอะนํ้านอน เป็ นนํ้ามูตรเหม็นหนักหนา
ส่ วนหนึ่งนั้นเป็ นคูธ ทั้งหยาบบูดเหม็นเน่ารา ส่ วนหนึ่งนั้นโอชา ซึ มซาบไปทัว่ สาระพางค์
อวัยวะสิ้ นใหญ่นอ้ ย พลอยจําเริ ญไปทุกอย่าง ชื่นชุ่มทัว่ สาระพางค์ เพราะอาหารเป็ นที่ต้ งั
อาหารนิราศแล้ว สิ้ นผ่องแผ้วดูน่าชัง เศร้าซู บรู ปรุ งรัง หย่อนกําลังเหี่ ยวแห้งไป
อาหารเป็ นเชื้อเพลิง เผาเปิ ดเปิ งดวงหัททัย อาหารเพลิงธาตุไหม้ ต้นหัททัยม้ามตับร้อน
บังเกิดระสํ่าระสาย กระวนกระวายแสนอาวรณ์ ทั้งหมู่โรครุ มสังหรณ์ เพราะอาหารอันวิกล
อาหารมูลโรคชัว่ มูลชีพทัว่ ทุกตัวคน อาหารตีเจริ ญตน อาหารวิกลทําลายกาย
หนึ่งโสดเพลิงธาตุกล้า ตามธรรมดาเผาทําลาย ดังคนหุ งข้าวคล้าย ข้าวนั้นเดือดให้ฟองฟู
เชื้อฟองติดปากหม้อ ฉะนั้นหนอพิเคราะห์ดู ฟองอาหารฟอดฟู ด้วยเพลิงธาตุเผาทําลาย
ฟองเดือดไม่เหื อดกิจ ขึ้นมาติดหู ตาหมาย ขี้ฟันขี้ลิ้นคาย ขี้รังแคสมมุติความ
นี้ไซร้ใช่อื่นไกล เพลิงธาตุไหม้อาหารลาม ฟองฟูบูดลามปาม เป็ นไปทัว่ ทุกตําบล
ไฟหย่อนไม่บ่อนเชื้อ เลือดหนังเนื้อทั้งกายตน อาหารเกิดวิกล ไม่ยอ่ ยยับดังธรรมดา
อาหารเดือดดองเน่า ธาตุไม่เผาจึงบูดรา เกิดโรคให้เวทนา ในบทว่าอุททริ ยงั
อาหารหมกอยูใ่ น เกลือกกลั้วไปด้วยเสมหัง กลั้วคละติดปิ ตัง ดังธุ ลีติดนํ้ามันยาง
บุคคลมากเสมหะ อาหารคละสี ต่าง ๆ สี เขียวเล่ห์หนึ่งยาง แห่งนํ้าใบนาควารี
รู ้น้ นั มากบุพโพ อาหาโรปรากฏสี กลั้วคละสิ่ งอันมี เครื่ องนา ๆ ก็เหมือนกัน
แม้นมากด้วยโลหิ ต อาหารผิดสี แปรผัน ดังหนึ่งย้อมนํ้าอันแดงระคนอาหารคูธ
เป็ นนิสสัยธาตุเพศ มูลเหตุเพราะอาหารบูด กิมิชาติอนั อําอูด เจ็ดพวกพันธุ์อยูอ่ าศัย
ชื่อตะกะโอตะกะ ตันทุปาตะกะใน ตาละหิระไซร้ และสุ จิมุขะนั้น
ประวัต(ปะวัต)ตันตุพวกหนึ่งนะ กับสุ ตะกะเจ็ดพวกพันธุ์ อาศัยเป็ นนิรันดร์ สื บพวกพันธุ์ถ่ายประสู ตร
อาหารใหม่ธาตุปถวี เกิดกระลีทาํ พิษบูด แสนทะเวทโทษแห่งคูธ ให้ร้อนท้องเป็ นกําลัง
ให้รากให้ลงท้อง ลงแดงนองนั้นโดยหวัง ดังกินโอสถถัง อันร้ายรุ ทุรนราญ
บ้างลงให้เลยล่วง กลายเป็ นป่ วงเจ็ดประการ บ้างเลยลงอติสาร เพราะอาหารวิการา
ให้ขดั ในอกแค้น จุกเสี ยดแน่นในครรภา ชายโครงข้างซ้ายขวา ให้ยอกแทงมิได้สบาย
บางทีให้ทอ้ งขึ้น พะอืดอื้นทุรนทุราย อันนี้ใช่อื่นหมาย โทษอาหารวิการเอง
อาหารมิเคยควร สุ กดิบล้วนจึงก่อเพลง โทษอาหารวิการเกรง ทําโทษนั้นแสนสามารถ
เกิดลมให้พดั กลัด ลําไส้อคั นิยาวาติ ไม่ตลอดตามโอกาศ อันเคยพัดให้กลัดคัง่
เกิดโทษต่าง ๆ มี คูธบางทีพรรดึกขัง อาหารอันโอชัง ให้เคี้ยวกลืนขืนแทบตาย
ลายรสคลายเพียรกิน คลายรักสิ้ นเพราะโทษร้าย หมู่แพทย์กาํ หนดหมาย โทษอาหารวิการนา
จะแก้เอาไก่ให้ เจ็ดยอดใส่ เร่ งหามา พริ กไทยเจ็ดเม็ดหา ทั้งกระเทียมเจ็ดกลับไซร้
๖๑

พริ กเทศเอาทั้งห้า เท่ากันนาเร่ งบดไป ปั้ นก้อนกินทันใจ อาหารใหม่โทษเสื่ อมสู ญ


ถ้ามิฟังเอาพริ กขิง กระเทียมสิ่ งสามตระกูล เอาละเจ็ดมาประมูล รากข้าวสารเจ็ดท่อนพลัน
ทั้งลูกเบ็ญกานี ต้มให้ดีจงเดือดครัน กินระงับดับโรคัน อุททริ ยงั ประทังหาย
ภาคหนึ่งแก้วปถวี ธาตุกระลีระสํ่าระสาย ตําหรับบังคับหมาย เอาพริ กไทยบาทหนึ่งมา
.. แห้งหนักสองบาท สะค้านคาดสามบาทนา ช้าพลูสี่บาทหา เจ็ตมูลหนักแปดบาท
ดีปลีสี่ตาํ ลึง ชัง่ ให้ถึงอย่าให้ธาตุ ดอกบุนนาคยีส่ ิ บบาท กับหัวแห้งหมูหนักเหมือนกัน
เปลือกไข่เน่าหัวตําลึง บอระเพ็ดสามตําลึงพลัน ขมิ้นอ้อยบัวหลวงนั้น เปลือกมูกหลวงกกลังกา
บาททั้งสี่ สิ่ง ต้มกินยิง่ คุณหนักหนา ตําหรับบังคับมา แก้อุททริ ยงั ประทังหาย
หนึ่งโสดธาตุชาํ รุ ด ลงไม่หยุดทุรนราย เพราะกินอาหารหลาย ผิดสําแดงธาตุแผลงร่ วง
ผูแ้ พทย์พึงเยียวยา โอสถถาอันเหนี่ยวหน่วง บรรเทาโทษทั้งปวง อันลงเน่าให้เบาบาง
เอาซึ่ งครั่งฝิ่ นนี้ แลสี เสี ยดทั้งสองอย่าง เปลือกเม็ดมะขามราง เราะทั้งเปลือกลูกทับทิม
มหาหิ งคุเ์ บ็ญกานี เพนระภีละส่ วนอิ่ม ดินกินชักลายลิ้ม สี่ ส่วนทวีเร่ งบดพลัน
ละลายนํ้ากําเม็งต้ม คุณอุดมหายแม่นมัน่ แก้โทษที่ลงนั้น ผิดสําแดงแห้งเหือดหาย
หนึ่งสี เสี ยดเทศหา เบ็ญกานีลูกจันทน์หมาย การะบูนทั้งฝิ่ นขาย สิ่ งละสลึงตามตํารา
จึงเอานํ้าตาลหม้อ ละลายหล่อมาบดยา นํ้าร้อนกินอัตรา แก้โทษบิดโทษลงหาย
ภาคเหนึ่งแก้ลงหยุด ชื่อปิ ดสมุทรคงคาสาย มหาหิ งคุเ์ นื้ อฝิ่ นขาย สิ่ งละสองสลึงจึงควรที่
ดินกินหนักเบาททั้ง ยังอีกบาทแนระภูษี เนื้อครั่งสามบาททวี เปลือกทับทิมสามสลึง
นํ้ากําเม็งกระสายบด ปั้ นกําหนดแตกแห้งผึ่ง ลายเหล้ากินเม็ดหนึ่ง ถึงมูกเลือดกินเหื อดหาย
ผิดสําแดงแจ้งตรง ยุติลงข้อธิ บาย เบื้องนี้จะบรรยาย ในเรื่ องป่ วงเจ็ดประการ ฯฯ
๏ ป่ วงเจ็ดมีกาํ เนิด เกิดแต่โทษรับประทาน อาหารใหม่ร้าวฉาน มักเป็ นป่ วงทั้งเจ็ดมี
ธรรมดาเป็ นป่ วงนั้น เมื่อมันเกิดโทษกระลี กลางวันใช่ป่วงมี วิธีป่วงทํากลางคืน
สาระพัดทั้งเจ็ดป่ วง ให้ลงร่ วงโทษโหดหื น ทําโทษในกลางคืน ทั้งลงรากลําบากกาย
สวิงสวายจไม่มีสุข ทุก ๆ ป่ วงดังนี้หมาย ในเรื่ องป่ วงกล่าวบรรยาย เป็ นเอนกมากนักหนา
ตูขา้ หักตัดความ ข้ามลัดเพศปั นตํารา จะสรรเสริ ญคุณยา แก้เวทยาทั้งเจ็ดป่ วง
แก้ให้หยุดในกลางคืน อย่าให้ฝืนตลอดล่วง ข้ามวันมักเสี ยป่ วง แม้นเยียวยายากนักหนา
สิ บคนจะรอดคน เพราะล่วงพ้นหลายเวลา สองวันสามวันมา เยียวยายากแสนทวี
เพราะกําลังถอยถด อดทั้งนอนทั้งกุญชี อาหารใหม่ไม่มี แต่ลงรากจนอ่อนใจ
เสี ยดแทงให้จุกแดก เพราะลมแตกทําภายใน หิวหอบระทวยให้ กลุ่มอกใจยิง่ แสนสา
ผิแพทย์ผรู ้ ู ้แท้ พิเคราะห์แก้โทษป่ วงนา ประกอบหยูกยาหา แก้โทษป่ วงให้พลันหาย
ให้เอาขี้ผ้ งึ แข็ง หู กร่ ะแขงเงินเฟื้ องหมาย เทพธาถากจงหลาย ทั้งกํามะถันกะปิ ดี
หวายตะคร้าวงเป็ นปลอก กลั้นเค็ดตอกหลังคามี หักเป็ นขอคชสี ห์ ใหส่ หม้อต้มระดมไฟ
พอยาสุ กริ นให้กิน สามหนสิ้ นสบายใจ โทษป่ วงล่วงบรรลัย รอดมาได้มากนักหนา
๖๒

หนึ่งโสดแต่กาํ มะถัน สิ่ งเดียวนั้นเร่ งหามา บดละเอียดโรยเป็ นยา ในถ่านไฟให้เป็ นควัน


แล้วโบกให้เข้าคอ ล่วงลําศอลําไส้พลัน แก้โทษรากหากขยัน พอหยุดรากก็หากหาย
หนึ่งโสดนํ้ามะพร้าว แก้ทุกคราวไม่เลือกหลาย ต้มให้สุกกินสบาย ได้แก้หลายขนานนี้
หนึ่งโสดไม่สู้ยาก ไม่ลาํ บากในวิธี เป็ นกาละเม็ดมี ดูวธิ ีง่ายนักหนา
ให้เอาผ้ามุง้ คลุม หุ ม้ มิดเศียรจนบาทา เหงื่อออกอุ่นกายา ลงรากนาเหื อดหายไกล
เรื่ องป่ วงล่วงเสร็ จสุ ด จําจะหยุดธิ บายไว้ จัดเรื่ องเบื้องปลายไป กล่าวเพศในอติสาร ฯฯ
๏ คัมภีร์สาโรชถะ สังคะหะกล่าวตํานาน คือลงแดงอติสาร ชื่อคะราธประกาศมี
ให้ลงเป็ นพ้นแรง นํ้าคูธแดงมันเป็ นสี (นํ้า) แตงโมชันหมากมี ชื่อคะราธาธอย่าควรหมิ่น
หนึ่งอามาอติสาร คูธนั้นพานจะมีกลิ่น ทั้งหยาบเป็ นเม็ดริ น แลสี ขาวระสํ่าระสาย
หนึ่งปั กกะวาอติสาร คูธนั้นพานละเอียดราย ในสาโรชกล่าวธิ บาย ซึ่ งอติสารมีนามสาม
อาการมีแต่ลง บ่ดาํ รงให้กายงาม ให้ซูบศรี ฉวีทราม เสี ยกริ ยาพาสิ้ นอาย
เพราะโทษที่ลงไหล พิษทําในระสํ่าระสาย เหลือกําลังจะตั้งกาย เหตุความตายมาเยีย่ มเยือน
ผูใ้ ดเป็ นแล้วยาก แสนลําบากใครจะเหมือน มัจจุราชหากมาเตือน สิ บลดหนึ่งยากจักมี
อันโทษอติสาร แพทย์พยาบาลไฉนดี พึงแก้ตามคัมภีร์ จงให้อาบซึ่ งธารา
แช่ตนไว้จนชุ่ม ละลุม้ รุ มรดอย่ารอนา รดศีรษะให้เย็นชา ให้กินยาที่ฝาดเย็น
อย่ากินยาร้อนหนา เพราะว่าร้อนนั้นก่อเข็ญ เสี ยดแทงดังแกล้งเป็ น ให้ร้อนรนระสํ่าระสาย
ยาร้อนให้เดินมาก พาให้ยากลําบากกาย ใช้ยาฝากห้ามระบาย คุมผูกธาตุไว้ให้มนั่
รสหวานแลรสเย็น รสข้าวสุ กเห็นดีขยัน คุมธาตุให้ดีพลัน ชูกาํ ลังแก้ร้อนใน
จักแก้ขะราพาธพาล อติสารเรื่ องนี้ไซร้ ถึงฝากมาก ๆ ไว้ เครื่ องร้อนใช้แต่เพลา ๆ
อันไข้นอกอติสาร อภิบาลตามลําเนา ถึงร้อนมากก็จาํ เอา เย็นแต่เพลากี่ตามที่
อติสารนี้หา้ มร้อน แพทย์แต่ก่อนกล่าวคดี เป็ นฉบับบังคับมี ในคัมภีร์สาโรชนา
แพทย์จะใคร่ แก้เหตุ เพศอติสารขะราหา ให้เอาเปลือกมะม่วงมา เปลือกชมภู่เท่า ๆ กัน
ตําผงละลายนํ้าผึ้ง อย่าอํ้าอึ้งกลืนกินพลัน ลงแดงหยุดแม่นมัน่ อติสารนั้นห่างหาย
นัยหนึ่งเท่านบังคับ ในตําหรับกล่าวธิ บาย แก้อติสารทําลาย ประจุถ่ายล้างโทษใน
แล้วจึงกินซึ่ งยาหน่วง แก้โทษร่ วงจึงควรใช้ มีลา้ งโทษข้างใน เป็ นอันมากยากเยียวยา
เหตุน้ ี จึงบังคับ เป็ นตําหรับสื บ ๆ มา หมู่แพทย์เบื้องปั จฉา เป็ นฉบับสื บ ๆ กัน
ภาคหนึ่งแก้อามา อติสารนาซึ่ งลงนั้น คูธหยาบเป็ นเม็ดมัน แลสี ขาวลงไหลมา
ให้เอาไม้ตะเคียนหนอ ทั้งจิงจ้อแห้วหมูนา กระทุงลายดีปลีหา เอาล้วนรากสิ้ นทั้งนั้น
อีกเล่าเอาเปลือกข่อย ให้เก็บสอยลูกมูกมัน สมอเอาเท่า ๆ กัน ตําผลพลันเคล้านํ้าอ้อย
จึงละลายนํ้าร้อนกิน เป็ นนิจสิ นน่าอร่ อย อติสารอํามาถอย ประทังโทษที่ลงนา
หนึ่งเอาใบเลี่ยนยา ทั้งหญ้าแพรกเปลือกข่อยป่ า ผักแพวแดงแก่นจันทน์มา เปลือกตะเคียนทั้งจิงจ้อ
ขิงแห้งเท่ากันสิ้ น ดูประคินแต่พอ ๆ ตําผงละลายหล่อ นํ้าข้าวเช็ดนํ้าข้าวปน
๖๓

แก้อามาอติสาร อันตรธานมิอาจทน ผูแ้ พทย์อย่าพึงฉงน ตําหรับนี้ดีหนักหนา


หนึ่งเอาแก่นจันทน์น้ นั ผลจันทน์พิลงั กาสา ลูกผักชีจิงจ้อนา ผักแพวแดงเปลือกตะเคียน
ของแคลงเกลือเปราะหอม เปลือกข่อยค่อมโดยจําเนียร เทพธากลิ่นเผ็ดเพี้ยน ลูกดีปลีเท่า ๆ กัน
ตําผงละลายนํ้าร้อน กินหย่อนผ่อนโทษนั้นพลัน อามาอติสารอัน ซึ่ งให้ลงก็คงหาย
หนึ่งโสดโทษปั กกะวา อติสารหนาละเอียดร้าย สรรพยากําหนดหมาย เอากฤษณาทั้งแฝกหอม
เปลือกโลทหัวบัวเผือ่ น ขิงอย่าเฟื อนเท่ากันพร้อม ทําผงละเอียดอ่อน ลายนํ้าข้าวที่เช็ดกิน
แก้โทษอติสารนา ชื่อ ปั งกะวาเสื่ อมสู ญสิ้ น ผูใ้ ดมีเพียรกิน มลทินลงคงเหื อดหาย
หนึ่งเอาแก่นจันทน์ไซร้ เปลือกไม้แดงเท่ากันหมาย ตําผงนํ้าผึ้งสาย ละลายกินปั กกะวาสู ญ
โทษปั กกะวาอติสาร กล่าวตํานานสิ้ นเค้ามูล ลําดับนี้จะเกื้อกูล มูลอติสารทั้งปวงไป
ลงแดงเป็ นลําดับ จับเป็ นเรื่ องสื บเนื่องไข สรรพยาท่านกล่าวไว้ แก้อติสารทั้งปวงนา
เอาขิงแคลงเปราะหอม แห้วหมูพร้อมคัดมอญมา เทียนเยาวภานีหา เสมอภาคให้ตม้ กิน
แก้ซ่ ึ งไข้อติสาร โทษร้าวรานเสื่ อมสู ญสิ้ น โทษลมเสี ยดแทงกิน แก้สะอื่นก็ฟ้ื นหาย
ภาคหนึ่งขิงสดแผ้ว เปลือกชองแมวหัวยางหมาย เท่ากันนํ้าผึ้งสาย ตัดลงกินแก้อติสาร
แก้ลมอันเสี ยดแทง สะอึกแรงอันตรธาน สรรพยาสิ้ นสองขนาน คุณย่อมยิง่ วิเศษขยัน
หนึ่งเอาขิงแห้งยล เง่าอุบลทั้งแก่นจันทน์ เปลือกตะคร้อแห้วหมูน้ นั เท่ากันต้มให้เร่ งกิน
เพลิงธาตุอนั พิการ ไข้อติสารเสื่ อมสู ยสิ้ น ผูใ้ ดแม้นได้กิน คุณอุดมระดมหาย
หนึ่งอติสารตรง ซึ่ งลงแดงทั้งปวงหมาย รากกล้วยตีบบรรยาย ผักปอดลูกสมอ
เกษรบัวหลวงหนุน ต้มกินกรุ่ นทุกวันหนอ ลงแดงไม่หลงหลอ แก้ลมกลัดในอกหาย
หนึ่งแก้ลงแดงหวัง อติสารทั้งปวงหมาย เกลือสิ นเธาว์เค็มขาย ลูกสมอไทยอีกดีปลี
สามสิ่ งเท่ากันต้ม คุณอุดมพึงภุญชี แก้ลงแดงวิเศษดี แก้ลมร้ายผูกปวดมวน
แก้เสี ยดแทงคูธทวาร ให้ร้อนร่ านลงเรรวน ในสาโรชกล่าวทบทวน แก้อติสารฉะนี้นา
หนึ่งโสดกระหายนํ้า อติสารทําเมื่อลงมา ให้ระหายเพราะอุจจา ระนั้นล่วงระสํ่าระสาย
โทษลงนํ้าเหลืองตก ให้หวิวอกจึงกระหาย ตําหรับบังคับหมาย แก้กระหายดีหนักหนา
เอาเปลือกลูกตะคร้อ ขิงแครงหนอเทียนดํามา เกษรบัวหลวงหา เสมอภาคตําผงพลัน
นํ้าผึ้งนํ้าตาลกรวด เคล้ากวนกวดระคนกัน กินแก้กระหายขยัน อยากนํ้านั้นพลันบรรเทา
ภาคหนึ่งเกล็ดไม้ไร่ นมโคใส่ น้ าํ ผึ้งเคล้า เง่าอุบลเข้าตอกเรา ดีปลีเท่าระคนกิน
ทั้งเจริ ญซึ่ งไฟธาตุ อยากนํ้าขาดเสื่ อมสู ญสิ้ น ผูแ้ พทย์อย่าควรหมิ่น กินรวดเร็ วดีหนักหนา
อันยาทั้งสองขนาน คุณวิถานมหิ มา แก้กระหายอุทะกา ในอุจจาระอติสาร
สิ้ นตําหรับสาโรช กล่าวมูลโทษยุติการ เบื้องนี้ต่อนิทาน อัฐฐาจารย์จดั คัดมา ฯฯ
๏ คัมภีร์สารสงเคราะห์ กล่าวจําเพาะโทษอุจจา เป็ นฉบับเพื่อปุจฉา แพทย์โมหาได้วจิ ารย์
เป็ นแพทย์ควรสังเกต ซึ่ งปริ เภทแลอาการ ลงท้องหรื อธาตุราญ ถึงอติสารไฉนนา
อติสารมัน่ คงแท้ โอ้กรรมแลยากเยียวยา แก้โทษกรรมผูค้ ิลาห์ มาทันถึงจึงดลเป็ น
๖๔

อติสารเกิดแต่ธาตุ วิปลาศกําเริ บเข็ญ ปถวีอาโปเป็ นเป็ น ทั้งเตโชวาโยม้าม


ธาตุสี่มีบริ บูรณ์ โทษทั้งมูลเป็ นเหลือหลาม อติสารมีหา้ นาม ท่านสมเคราะห์จาํ เพราะไว้
หนึ่งนามอนุธาตุน้ นั ปั จฉันนะธาตุท่านกล่าวไข รัตนธาตุนามหนึ่งไซร้ มะสุ กาละธาตุเป็ นสี่
กาลวิสะมะธาตุครบห้า ตามตําราเบื้องคัมภีร์ อติสารโคตนามมี เกิดกะลีธาตุร้าวฉาน
เบื้องนี้ จกั บอกเหตุ เพศอะนุธาตุอติสาร แต่เพลิงธาตุพิการ คือ ปริ ทยั หัคคี
เพลิงธาตุสาํ หรับเผา อาหารเราอันภุญชี ย่อยยับตามเพณี เพลิงริ บหรี่ อ่อนหย่อนไป
มิเผาอาหารยับ กลับบูดเน่าดองอยูไ่ ซร้ จึงเกิดลมลําไส้ เพราะอาหารเดือดเป็ นฟอง
ลมเกิดกองอาหาร จึงวิการให้เจ็บท้อง แดกขึ้นแดกลงร้อง ทําท้องขึ้นพะอืดพะอม
เพราะเพลิงธาตุน้ นั หย่อน ผิเผาก้อนอาหารสม ควรเคยดังนิยม ปกติดงั เก่านา
อาหารจึงเน่าบูด เป็ นฟองฟูดในครรภา ให้ลงเป็ นอติสาร์ ร่ วงออกมาโทษต่าง ๆ
วันละเก้าละสิ บหน ให้ไหลจนดังนํ้าล้าง อาหารเก่าบ่คา้ ง ท้องลําไส้ให้ไหลเพรื่ อ
ดุจหนึ่งนํ้าล้างสิ้ น ซึ่ งมลทินแห่งชิ้นเนื้ อ กอบกลิ่นอันเหม็นเชื้อ ดังพาบนํ้าก็ปานกัน
โทษให้จุกเสี ยดทํา กระหายนํ้าเป็ นสําคัญ ปากแห้งทนต์แห้งพลัน คอแห้งตันตลอดอก
เหตุเพลิงธาตุวกิ าร จึงบันดาลแห้งเป็ นปก เพลิงธาตุทาํ โสธก เล่ห์หนึ่งเตาต้มสุ รา
ไฟหย่อนเหงื่อนั้นแห้ง เป็ นฟองแพร่ งขึ้นมา เรี่ ยปากหม้อสุ รา ดังเล่ห์วา่ อาหารการณ์
เพลิงหย่อนอุธรกลับ เอิบขึ้นจับชิวหะถาน ไรฟันแลเพดาน กอบอาหารเขฬะเหนียว
แพทย์หากสมมุติร้อง เรี ยกละอองต่าง ๆ เจียว ผูแ้ พทย์ปัญญาเปรี ยว จงพิเคราะห์อาการนา
อันเตโชนั้นแตก แยกจากองค์คงสังขาร์ ดุจเตาต้มสุ รา อันเพลิงมอดหม้อเตาเย็น
อติสารดังวัจนา เหลือปั ญญาจะหยัง่ เห็น โทษตัดวิบตั ิเป็ น ย่อมถึงกาลเป็ นแม่นแท้
วาตะเตโชอะสิ ตา ชื่ อว่าทาวัคคีแล กระทําโทษให้ลงแผ่ แล้วให้ลงสิ้ นทั้งตัว
เยียวยายากแสนทวี อาการนี้แพทย์พึงกลัว สามวันไม่เป็ นตัว ตามตําหรับบังคับไว้
อะนุธาตุอติสาร เตโชการณ์ก่อโทษไซร้ สิ้ นเรื่ องจบสงบไป กล่าวต่อตามเนื้อความก่อน
จับเรื่ องปัจฉันนะธาตุ อติสารบาทโษสังหรณ์ ผูใ้ ดเป็ นนั้นมรณ์ เพราะธาตุลมชื่อโกฐา
ทําเหตุเพศให้ลง เล่ห์หนึ่งนํ้าชานหมากนา ดุจนํ้าอุลิสา แตงโมโพรกก็ปานกัน
เกิดโทษเวพราะวาโย โกฐา (คือโกฐา)วาตาผัน แปรแตกจากกายนั้น โทษวิบตั ิต่าง ๆ เป็ น
ลมโกฐาในไส้ พัดคือ(ผัน)ไปทุกเช้าเย็น ธรรมดาบ่อได้เว้น เป็ นนิรันดร์ อยูอ่ ตั รา
เบื้องบนจนศิระ แลมุขะทะวารา เบื้องตํ่าจนปั สสว์ คูธทวารเป็ นนิจสิ น
โกฐาไม่อยูอ่ ื่น ฟื้ นในท้องเป็ นอาจิน พนักงานเมื่อยามกิน พัดขึ้นมาให้อา้ โอษบ์
กระทบเส้นมุขะทวาร ให้เผยดาลภุญชะโภชน์ กระทั้งเอ็นถิ่นที่โอษฐ์ ต้นกรรไกรให้คางเคี้ยว
กระทบคอให้ศอคับ พองกระหยับอาหารเสี่ ยว พัดแหวกเสมหะเทียว ในอุระได้รนราญ
เป็ นปล่องช่องลงไป ถึงกระเพาะได้พดั อาหาร พัดขังดังประมาณ โดยตามควรอาหารมา
อาหารใหม่ดัด( พัด )แหลก แยกเป็ นส่ วนกระรี สา คูธเก่าพัดลงมา สู่ ไส้ใหญ่ลงทวารราญ
๖๕

คูธขังนานควรเน่า จึงพัดเร้าจะให้ถาน เร้ากังขุงเผยทวาร แล้วรุ กราญอาจมส่ ง


ตกคลองตามช่องทวาร โดยพนักงานดังจํานงค์ บางที่ดดั ลมลง ซึ่ งกลิ่นคูธว่าผายลม
บางทีพดั เร้าเราะ จําเพาะมูตรที่สะสม กระทบสายเส้นอุดม มุตะชาให้ซ่านเสี ยว
ให้เผยช่องปล่องระบาย ไหลเล่ห์สายชะโลเชี่ยว เป็ นธรรมดาฉะนี้เจียว เพศโกฐาสะยาจร
โกฐาเมื่อวิการ พัดกล้าหาญกระหลบฟอน ขึ้นเบื้องบนให้ขะย่อน ก้อนอาหารให้คายคืน
พัดป่ วนแดกในอุระ ปะทะโทษทําเหี ยนหื น อาหารใหม่ขะย่อนขึ้น อ้าโอษฐ์รากลํายากตา
หนึ่งโสดพัดมิสดวก ทําโทษพลวกกลับลงมา ลงไหลดังกินยา อันรุ ร้ายบอปานเสมอ
กินอาหารเลยทะลวง ตลอดล่วงไม่คา้ งเหนอ สมมุติโรคพูดเพ้อ ว่าไส้ตรงลงเป็ นลํา
ไส้ขดในท้องวง ให้ยาวตรงบ่สมคําโทษลมหากกระทํา คือโกฐพัดกล้าหาญ
อติสารให้ลงไหล จุกแน่นให้ลาํ คอค้าน ท้นปะทะอุระราญ เมื่อกลืนนํ้าแลอาหาร
มิตกแต่สักนิด กลืนยาติดลมกลัดต้าน หวนรากกระอากอาน เวียนอ้าโอษฐ์ออกแต่ลม
อาจมไหลฉะฉ่า แม้นหน้าเขียวอย่านิยม ตายแท้อย่าปรารมภ์ ปั จฉันนะธาตุน้ นั เกิดแต่
ลมโกฐาวาตา มีอาการตามกระแส เสร็ จสิ้ นไม่ผนั แปร ดังกล่าวไว้ในตํานาน
เรื่ องรัตนธาตุน้ ี คือปถวีอติสาร เหตุไฉนจึงกล่าวการณ์ ว่าปถวีอนั วิกล
ปถวีถึงยีส่ ิ บ จะหยิบใครว่าก่อผล แพทย์เขลาจะเฉาฉงน จิตร์ ละเลิงบ่อยั้งเห็น
จึงจัดคัดไขคํา จะแนะนําที่โทษเข็ญ อาหารเก่าใหม่เป็ น ธาตุยายีท้ งั สองถาน
จึงเรี ยกรัตนธาตุ ปถวีชาติอติสาร เหตุโทษเพราะอาหาร ทั้งเก่าใหม่ในครรภา
วิการก่อมูลโทษ ทารุ ณโพดพินธนา ให้ล่วงไหลออกมา จึงจัดว่าอติสาร
ธรรมดาว่าบุคคล มนหมองไข้มาช้านาน ห่อนสิ้ นซึ่งอาหาร แห่งเก่านั้นลําท่วงท้อง
ผิจะสิ้ นก็แต่ใหม่ เก่าเหลือไว้ตามทํานอง ปถวีเมื่อมนหมอง เกิดอติสารถึงการเป็ น
อาหารในครรภ์เรา ทั้งเก่าใหม่บ่ได้เว้น สิ้ นอาหารเกิดเข็ญ สิ้ นกําลังหิวหนักหนา
อาหารสิ้ นไส้โสด จึงก่อโทษเบื้องอุจาร์ ยังเสมหะโลหิ ตา ตกเป็ นเชื้อเพรื่ อเปรอะใส
ตกมูดไม่เหื อดแห้ง ปวดมวนแทงดังขาดใจ เสลดเลือดหากเน่าใน หนองเลือดไหลตกออกมา
ครํ่าดําดังขี้หนู เสมหะฟูพน้ พาธา เกียจกันคุณหว้านยา มิให้ซาบซึ มซ่านไป
บางทีสีเหลือง บางทีเฟื้ องสี ใบไม้ คูธเขียวเหตุในไซร้ ดีไหลซ่านซึ มออกมา
เหลืองนั้นเพราะโทษลม นํ้าเหลืองประสมคุลีกา ฝูงโลกหากวัจนา ว่าขี้เท่าธาตุฉลาย
แพทย์เห็นอาหารแท้ รัตนธาตุแลดังนี้หมาย อติสารกําหนดตาย อันเป็ นเที่ยงอย่าสงกา
หนึ่งมตะสะกาละ ธาตุอติสารพวกหนึ่งนา อาโปธาตุวกิ าร์ เกิดมุตะสะเพละ
อาโปธาตุสิบสอง มันหมองสิ้ นเจียวถานะ ใช่กระแสแต่ทะวะ ประสงค์เอาหกประการ
คือเสลดเลือดดีหนา แลนํ้าตาอันพิศาล นํ้าลายนํ้ามูกการ เกิดอติสารเพราะหกสิ่ ง
สมุฎฐานเพราะลมพัด กล้าวิบตั ิแก่ชายหญิง อาโปทั้งหกจริ ง ซึ มซ่านไหลให้ก่อการณ์
เกิดเหตุดว้ ยไข้พิษ เพื่อโลหิ ตสมุฏฐาน เพื่อเสมหะให้ก่อการณ์ สมุฏฐานเพื่อปิ ตา
๖๖

ทั้งสามตามวิบตั ิ ธาตุขจัดร่ วงลงมา เกิดเป็ นกรรมวิปา กระชาชาติอติสาร


เบื้องนี้สรรเสริ ญตาม กําเนิ ดความให้วถิ าน โลหิ ตให้ก่อการณ์ สมุฏฐานฉันใดนา
โลหิ ตเราชายหญิง มีสองสิ่ งในกายา สังสาระณะโลหิ ตา แลสันนิจิตะโลหิ ต
ทั้งสองนี้ให้โทษ มูลโคต เพื่อไข้พิษ อาโปธาตุวปิ ริ ต เพื่อโลหิตให้กลัวเกรง
หนึ่งโลหิ ตแห่งระดู หมู่แม่หญิงมักก่อเพลง โลหิ ตแห่งตนเอง วิบตั ิกลัดขัดคัง่ ความ
คือระดูมิสะดวก หนึ่งนั้นพลวกมากเหลือหลาย โลหิตก่อลวนวาม เพื่อคลอดบุตรประสู ตร์ร้าย
โลหิ ตสมุฏฐาน ดังอาจารย์ท่านธิ บาย โทษโลหิ ตวิบตั ิกลาย เพราะกินยาอันกล้าร้อน
กําหนดกว่าไฟธาตุ ซึ่ งวิปลาศตื่นขจร หนีพิษยากล้าร้อน มิทนั ผ่อนตามทางเคย
โลหิ ตนั้นระสํ่าระสาย แล่นกระจายลงเลยเปรย ออกทวารทางเก่าเอย ตามช่องเคยมิทนั ที
เป็ นโลหิ ตลักกะปิ แลโลหิตระดูสี ทําไฉนจะรู ้ดี ว่าลักกะปิ ดระดูนา
ถ้อยคําท่านวิถาน ให้วจิ ารณ์โลหิ ตา เลือดเหลวดังธารา แลขอบตาขอบปากเขียว
พึงรู ้เถิดโทษระดู อย่าเขลาอยูจ่ งประเปรี ยว ลักกะปิ ดเลือดคนเจียว เป็ นตัวปลิงหน้าเขียวซีก
ผูใ้ ดไข้วกิ าร อัติสารเพศโลหิ ต จะอับปางล้างชีวติ โทษตัดติดยากนักหนา
หนึ่งปิ ตะสมุฏฐาน ในตํานานท่านกล่าวมา ว่าดีในกายา ชายหญิงนามีสองพันธุ์
ชื่ออะพัททะปิ ตะ แลปิ ตะมีฝักนั้น เมื่อเหตุพิการพลัน เพื่อพิษไข้แลพิษกาฬ
กระทําโทษให้แตกล้น บางวิกลแต่ซึมซ่าน จึงบังเกิดอติสาร เพื่อโทษดีดงั กล่าวมา
เพราะไข้เกิดหัวตับ พิษไข้อบั อบปิ ตา นํ้าดีไหลซ่านมา โทษแตกนาให้ลงไหล
แม้นพิเคราะห์ก็เห็นเจียว นํ้าคูธเขียวดังใบไม้ แต่ลงไหลรํ่าไป ยาบ่ได้คงมรณา
ดีลน้ นั้นพอแก้ รอดบ้างแลตายนักหนา ทําโทษไหลลงมา นับเพลาบ่รู้จาํ
ครั้นวางยาห่างออก แล้วกลับกลอกลงทีร่ ํา จะกินยามิหยุดทํา โทษปวดซํ้ามวนเป็ นบิด
เป็ นมูกเลือดเน่าเสมหะ สมมระดีไม่มีนิด เจรจาเพ้อพกผิด ภูติปีศาลก็ปานกัน
แพทย์รู้ทาํ ลายล้าง รอดอยูบ่ า้ งไม่อาสัญ บ่อรู ้ตายเหมือนกัน อติสารพันธุ์พวกดีนา
เบื้องจะสําแดง อติสารแรงเพราะเสมหะ มูลเหตุแก่วาตา ย่อมพัดกล่ากลัดกลึงใจ
ยังเสมหะให้แคนข้น ท้นปะทะอุระใน เป็ นดานยึดเคลื่อนไคล หนานับได้สามสี่ นิ้ว
ให้จบั เป็ นเพลา เล่ห์ดงั ว่าป้ างม้ามหิ ว มูตรคูธหน้าตาผิว เหลืองเล่ห์วา่ กาละสิ งคลี
ผิแพทย์ผรู ้ ู ้แท้ หยูกยาแก้คลายหายดี แม้นมิคลายกายกาย เป็ นมานกระษัยกลับให้ลง
เป็ นเลือดเสลดเน่า เขจ้าอติสารเสมหะส่ ง กําหนดชีพปลดปลง เพราะบ่รู้ซ่ ึ งเยียวยา
บางทีเสมหะโสด ก่อกูลโทษทําครรภา เติบโตดังเล่ห์วา่ ที่ทอ้ งมานแสนสุ ดยาก
ทั้งนี้โรคหากให้ เป็ นปั จจัยกรรมวิบาก อติสารอาการมาก แท้โทษตัดตามตํารา
อันมุตะสะกาละ อติสารซึ่ งกล่าวมา สมุฏฐานแต่วาตา แลปิ ตะเสมหะการณ์
พอสิ้ นสุ ดจะหยุดเรื่ อง กลับกล่าวเนื่องตามตํานาน การณ์วิสะมะถาน อติสารโทษนั้นนา
เกิดด้วยเพราะภุญชะโภชน์ อันเอมโอษฐ์บ่วจิ าร์ อาหารนั้นหากวิการ์ บ่ชอบธาตุเกิดกะลี
๖๗

ให้ลงเป็ นเลือดเน่า เสลดเคล้าดังกลิ่นผี ท้องขึ้นแน่นนาภี อุระจุกลมกลัดต้าน


ปะทะแน่นให้คลื่นเหี ยน ออกอาเจียนลมอติสาร บ่ยากซึ่ งอาหาร แต่ได้กลิ่นผินพักตรราก
ให้มืดหน้ามัวตาดล ตีนมือตนกํากระชาก ตาช้อนน่าลําบาก เพศนี้ยากจะเยียวยา
อติสารเพศฉะนี้ โทษถึงตรี คงมรณา เกิดเหตุเพราะภุญชา จบตําราเรื่ องธิ บาย
อติสารทั้งห้าโสด โทษดังคําท่านภิราย บุพพาจารย์ท่านบรรยาย กล่าวโทษธิ บายสื บ ๆ มา
อติสารทั้งห้าโสด กล่าวมูลโคตรสิ้ นตํารา ลําดับนี้จะวัจนา อติสารกาฬห้าพันธุ์
อันเป็ นปั จจัยเชื้ อ เพื่อแต่เหตุท้ งั ห้านั้น ว่ากาฬทั้งห้าพันธุ์ ล้วนสําคัญเติมตามมา
เป็ นแพทย์พึงพิเคราะห์ ให้แม่นเหมาะเปรี ยวปรี ชา กําหนดเหตุโรคา ย่อมละม้ายคล้ายคลึงกัน
กลับกล่าวอะตาร( อติสาร ) แห่งเพศกาฬทุกสิ่ งสรรพ์ ตามโทษและเพศมัน ให้พวกแพทย์พึงแจ้งใจ
คือกาฬทั้งห้ากาฬ พิพิธบันดาลขึ้นภายใน ที่ชายตับให้ลงไหล เป็ นเลือดสดกําหนดมัน
ถูกยาก็ฟังยา ไปสี่ วนั แลห้าวัน อาการแลเพศพันธุ์ ก็กลับกลายให้ลงไหล
เป็ นเลือดเน่าเสลดเน่า ปวดมวนเร้าเพี้ยงขาดใจ อาเจียนอัดอยูใ่ น ลําศอแน่นอุระรน
สะอึกซ้อนเป็ นชั้น ๆ จะแก้กนั ก็ขดั สน สะอึกวายก็เวียนวน ให้ลงรํ่ากระหนํ่าไหล
ครั้งแก้ที่ลงห่าง สะอึกพรางจะขาดใจ อุระร้อนทุรนใน กายก็ผดุ เป็ นแวววง
เขียวแดงไปทั้งกาย เมื่อจะตายก็กลับลง เลือดสดกําหนดปลง ชีพนั้นนาในวันเดียว
กาฬพิพธั ขึ้นใน ขั้วหัวใจให้ข่นุ เขียว ขั้วตับก็ดุจเดียว แต่อาการนั้นผิดกัน
โทษลงเป็ นนํ้าล้าง เนื้ออันจางเน่าเหม็นครัน เหมือนซากอะศุภอัน ที่ทรุ ดโทรมอยูแ่ รมคืน
ให้หอบเป็ นกําลัง สติพลั้งไม่ยงั่ ยืน ผูใ้ ดเป็ นไม่ฟ้ื น คงปลงชีพอย่าสงกา
กาฬมูตรมันมุดกิน ในตับสิ้ นไหลลงมา เป็ นล้วยโลหิ ตสา ธารณธเน่าแลดําไป
เป็ นก้อนเป็ นลิ่มคละ ดูดุจจะก้อนถ่านไฟ กินปอดให้หอบไป กระหายนํ้าเป็ นกําลัง
กินม้ามให้หลับเนตร์ เพศนั้นดูดุจหนึ่งดัง ปี ศาลอันจริ งจัง เข้าสิ งสู่ อยูใ่ นตน
เท้าเย็นมือเย็นมัก นัง่ ก้มพักตร์ ไม่เงยยล ตาขุ่นพิการกล ให้บ่นเพ้อพูดเหลวไหล
ย่างว่าจะกระทํา กระสื อซํ้าเข้าคุมใจ โทษนี้คือใช่ใคร กําเนิ ดโรคเป็ นมารยา
ครั้นเมื่อจะดับสู ญ ให้เพิ่มพูนด้วยวาตา พัดแผ่นเสมหะมา เข้าจุกแน่นในลําคอ
ต้องตัดอัสสาทาง ให้ขาดค้างในลําคอ หายใจสะอื่นต่อ จะตายแล้วจึงควรจํา
กาฬสู ตร์ น้ นั โทษคง เพศที่ลงก็ดูดาํ ดังนํ้าครามอันเขียวขํา ให้เหม็นกลิ่นดังดินปื น
ให้รากให้อยากนํ้า กระหนํ่ายาบ่ฝ่าฝื น จะกลืนยาก็ยากลืน สะท้อนรากลําบากจริ ง
ทั้งเสโทก็ซึมซ่าน พิการกายไปทุกสิ่ ง หยุดลงที่ขาดนิ่ง อันโทษนี้อย่าสงกา
หนึ่งกาฬสิ งคลีน้ นั กาฬมันย่อมขึ้นให้ปรา กฎเกิดขั้วดีนา ให้ลน้ รั่วให้ลงไหล
อุจจาระปัสสาวะ เนื้อเนตร์ นะก็เหลืองใส เหลืองสิ้ นตลอดใน กระดูกดังขมิ้นทา
ให้ร้อนทุรนราก กระหายหอบมากนักหนา ซึ มมึนทั้งกริ ยา ให้พูดเพ้อจิตร์ หลงไหล
โทษนี้ในสามวัน จะอาสัญอย่าสงสัย เพศเมื่อจะขาดใจ ทะลึ่งขึ้นจนสิ้ นชนม์
๖๘

อันกาฬทั้งห้ากาฬ มันบันดาลเกิดแก่บุคคล ผูเ้ ป็ นจงรู ้ชนม์ มะชีพนั้นจะวางวาย


เป็ นแพทย์จงเพียรเรี ยน ให้เสถียรสถิตย์หมาย แม่นยํากําหนดตาย จึงจะนับว่าตนดี
อสุ จิมีโทษนั้น เรารําพรรณทุกสิ่ งสี เสร็ จสิ้ นในคัมภีร์ อติสารดังกล่าวมา
ลําดับนี้จะวิถาน อติสารเบื้องปั จฉา เป็ นอนุนอ้ ยลงมา จากโทษห้าอติสาร
อาจารย์ท่านจัดแจก เป็ นแผนกหกสถาน มีนามตามตํานาน เรี ยกอติสารให้เห็นสม
โทษทั้งหากอติสาร เป็ นสมมุฏฐานเกิดแต่ลม ในคัมภีร์ท่านนิคม อุทรวาตสุ นทรวาต
ลมหนึ่งพัดกระพือ มีนามชื่ อปั สสะวาต กุจฉิ ยาลมร้ายกาจ ทั้งโกฏฐาไสยาศรี
อุตะราล้วนเหล่าลม โทษระดมหากยายี ลมหกหากกระลี กระพือดัดเป็ นสําคัญ
อติสารทั้งหกเห็น โทษนั้นเป็ นปั จจุบนั เยียวยารักษากัน หายอยูบ่ า้ งมิเป็ นไร
กล่าวลมอุทรวาต อติสารมาตรโทษไซร้ ให้ลงปวดมวนไป ดังสิ้ นใจสุ ดกําลัง
กินยาพอสุ ขมุ โทษลงรุ มคลายประทัง กินยาอันเย็นหวัง กลับลงพลัว่ ไปดังเดิม
ขบแทงที่ในท้อง ตั้งใจร้องกําเริ บเติม นานมักกลายกระษัยเพิ่ม เร่ งรักษาอย่านอนใจ
ลมนี้เป็ นกําเนิ ด กุมารเกิดตั้งอยูใ่ น ครรภ์มารดาโทษให้ สายสะดือไซร้ร่วมสายรก
ครั้นคลอดจากครรภ์แม่ หมอตําแยเข้าจับจก ตัดสะดือให้เน่าฟก ลมจึงตกเข้าในไป
ลมหากเข้าเป็ นเชื้อ เพื่อแต่เหตุสะดือไส้ ตั้งนามปรากฏไว้ อุทรวาตว่าลมท้อง
ให้ลงท้องขึ้นรํ่า ตีนมือกําชกกุมร้อง หน้าเขียวพิกลหมอง ช้อนชักตาแลดูสูง
มิรู้แก้ก็ตาย นามมักคลายกลับชักจูง ไปกว่าอายุศม์สูง ถึงยีส่ ิ บจึงขาดหาย
อุทรวาตรพูดฉะนี้ ดังคัมภีร์ท่านธิ บาย พิเคราะห์บทจึงกฎหมาย สิ้ นธบายอุทรนา
หนึ่งโสดสุ นทรวาต กําเนิดชาติแห่งวาตา ให้ลงอติสาร ไหลออกมาเป็ นมูกเลือด
ปวดมวนทํารวนเร หมอถ่ายเทกินยาเหื อด กลับลงเป็ นมูกเลือด นานไม่เหือดมักปรวนแปร
กลับกลายเป็ นไปเป็ นมาน ห้าประการจึงเจียวแล มานนํ้าเหลืองมานเลือดแท้ ทั้งมานหิ นมานกะไษย
มานลมสมมานห้า ดังตําราบังคับไว้ สุ นทรวาตกําเนิดไซร้ เป็ นไปแต่กุมารนาน
แรกประสู ตร์ จากท้อง กระหม่อมพร่ องใหญ่พิศาล เหตุเดิมด้วยกุมาร อยูใ่ นครรภ์แห่งมารดา
กระเพาะข้าวตั้งติด ปิ ดกระหม่อมทาระกา อะโธเดินดําเนิ นมา หมิพดั ลงตรงนาภี
กระทําให้ไส้พอง ปวดท้องป่ องน่าบัดสี จากครรภ์มารดาดี กระหม่อมมีจนสามเดือน
กระหม่อมใหญ่มิใคร่ มิด โทษลมติดมาเป็ นเรื อน เป็ นมานทั้งห้าเหมือน โทษไส้พองท้องใหญ่นา
ก็น้ ีท่านกล่าวย่อ ได้แต่พอพึงวิจารย์ วิถานในตํารา ปฐมจินดาสิ้ นเค้ามูล
หนึ่งโสดโทษปั สสะวาต ย่อมร้ายกาจเมื่อก่อกูล กระทําโทษให้เพิ่มพูน ด้วยเพศลงระสํ่าระสาย
ดุจดังได้กินยา ทุเลารุ ประจุถ่าย อยูด่ ี ๆ ก็ระบาย เพราะลมร้ายกระพือพาล
กินได้สักเท่าใด บ่ขงั ไว้ให้เนิ นนาน มิถุ่วงไถ้อาหาร ทําลายราญให้ลงเฟื่ อง
ทําโทษให้รากเจียว จนรากเขียวแลรากเหลือง ลงรากหากให้เนื่ อง ว่าเป็ นป่ วงสมมุติความ
เพราะโทษลมปั สสะวาต จึงเกิดชาติป่วงห้านาม ป่ วงนํ้าป่ วงลมตาม ทั้งป่ วงลิงแลป่ วงหมา
๖๙

ป่ วงหิ วครบห้าพันธุ์ เกิดสําคัญแต่วาตา ปั สสะวาตเป็ นมูลา กําเริ บกล้าให้กระลี


เกิดป่ วงทั้งห้าพันธุ์ โทษลงนั้นต่าง ๆ มี ป่ วงนํ้าเมื่อยายี ย่อมอ้าโอษฐ์รากออกมา
อยากนํ้าเป็ นเค้ามูล กายนั้นปูนอุทะกา ให้ร้อยในอุระสา ดังเล่ห์วา่ ถูกพริ กขิง
อันป่ วงนํ้าเพศนี้ มักยายีแก่ชายหญิง ย่อมตายมากยากจริ ง พึงเกรงกริ่ งป่ วงนํ้านา
ป่ วงลมหาวนอนนัก มักท้องขึ้นแน่นครรภา แต่รากปากออกอ้า ถึงกินยารุ มิลง
จะเหน็บสู บเท่าใดไซร้ ปิ ดแน่นไว้โดยจํานงค์ แต่รากบ่มีลง แอบพิษสงยิง่ แสนสา
แต่รากเช้าจนเที่ยง คงสิ้ นเสี ยงดับสังขาร์ เพศป่ วงลมนี้นา หมู่เวชาจงจําไว้
ป่ วงลิงยิง่ ด้วยโทษ ลงท้องโหดดังนํ้าไซร้ วันละแปดละเก้าไป โทษรากไซร้มิได้มี
เป็ นเม็ดดังมดขบ ปวดร้าวรบแสนร้อนสี ในท้องดังตัวมี ขบตอดเอาดังขาดใจ
ผุดลุกผุดนัง่ โยน กระโจมโจนดังลิงไพร ยาดีแก้กนั ได้ มิดีไซร้ปลงสังขาร
หนึ่งเล่าป่ วงหมาโสด ประกอบโทษยิง่ แสนสา แต่รากออกอ้า จุกขึ้นมาถึงลําคอ
ให้หอบร้อนดังสุ นขั หองแดดฮักดังนี้ หนอ ผูใ้ ดเป็ นนั้นก็ กรรมก่อนทันคงบรรลัย
หนึ่งโสดป่ วงหิ นนั้น อาการมันให้ลงไป ให้รากลําบากไซร้ กายเย็นไปเป็ นเหน็บปาน
ให้สวิงสวายใจ เสโทไหลซะซึ มซ่าน หทัยเล่ห์ใครคว้าน ควักแขวะเอาบ่อเท่าเทียม
ให้หยูกยามิทนั ที หากชีวติ จะตรมเตรี ยม เพศป่ วงอันหิ นเหี้ ยม สิ้ นโอ้เอี่ยมม้วยสังขาร
อันว่าป่ วงห้าเพศ โดยนิเทศที่กล่าวมา ตามคัมภีร์อติสาร สามเคราะห์แก้ก็สิ้นความ
มาดับนี้วถิ านลม กุจฉิ ยานิคมตาม ภายในท้องไขความ มีมาแล้วเบื้องต้นกล่าว
จะย่องดทกุจิฉ จําดําริ สืบเรื องราว กุจฉิ ยาวาตาร้าว ย่อมพัดอยูใ่ นท้องไส้
มีประเภทย่อมพัดขึ้น ถึงคอหอยสงบไว้ เบื้องตํ่าพัดลงไป ถึงหนักเบาก็เซาทรุ ด
ลมนี้หากเลี้ยงกาย ทุกชายหญิงฝูงมนุษย์ เป็ นปกติบริ สุทธิ์ แม้นพิรุธจึงก่อโทษ
พัดประมวลเป็ นก้อนไว้ อยูน่ อกไส้ฉะนั้นโสด จึงมีนามลมโกฐ เกิดกะไษยในเพศลม
อันกะไษยมีนามห้า ตามตําราท่านิคม กะไษยปลาหมอปลาไหลสม ทั้งสองนี้ชาติเดียวกัน
กําเนิดแต่โลหิ ต ชอกชํ้าติดในท้องนั้น ตกหมกเป็ นสําคัญ อันเลือดนั้นข้นเข้าเอง
ไฟธาตุอุ่นโลหิ ต วิปริ ตให้ก่อเพลง มิได้อุ่นตลอดเซง ให้เหื อดเหลวย่อมขัดขัง
เลือดข้นกลับแข็งเย็น จึงเกิดเป็ นกะไษยหวัง กษัยปลาหมอปลาไหลทั้ง สองพันธุ์น้ ีเพื่อโลหิ ต
กษัยลมกษัยมาน กษัยดานสามนี้ติด เพื่อโกฐาสะยาพิษ เกิดสําหรับกับกายคน
กษัยไขความหมด จึงต่อบทสื บนิพนธ์ ให้แพทย์ผเู ้ ขลาฉงน รู ้เรื่ องลมอุตะรา
อุตะราถึงสิ บหกตกแทรกเจือทุกคิลาน์ ฉันใดแลอุตรา ประพฤติให้ไปฉันนั้น
ทุกเพศทุกพันธุ์โรค อุตราโยกแทรกทุกอัน ลมเจือทุกสิ่ งสรรพ์ ตามเพศพันธุ์แห่งโรคา
จะกล่าวไปให้วถิ าน เห็นป่ วยการจะสังขยา ใช่ประสงค์ในวาตา แกต่เจตนาอติสาร
ให้แพทย์พึงสังเกต ตามประเภทแลอาการ มูลเหตุอติสาร ก็สุดสิ้ นตามคัมภีร์ ฯฯ
๏ ลําดับนี้จะวัจนา ซึ่ งหยูกยาทั้งปวงมี อติสารกล่าวคดี ตามคัมภีร์สืบ ๆ มา
๗๐

เอากระลําภักท่อน กับทศกรแลกัญชา กํามะถันแดงจันทน์ทนา พิมเสนครั่งสี เสี ยดไทย


ยาทั้งนี้สิ่งละสลึง ฝิ่ นหนักจึงเอาสองไพ เบ็ญกานี้กาํ หนดไว้ หนักห้าสลึงจึงพอการ
จันทน์ท้งั สองสี เสี ยดเทศ โดยสังเกตทั้งสามถาน สิ่ งละสองสลึงปาน ตามตํานานท่านกล่าวมา
เปลือกมะเดื่อทั้งเปลือกแค เป็ นนํ้าแช่กระสายยา บดปั้ นเป็ นแท่งถ้า ลงพิการลายเหล้ากิน
ลงซางกระทือใส่ นํ้าปูนใสกินดีสิ้น ลงไข้ให้ลายกิน ทับทิมอ่อนแทรกนํ้าปูน
แก้สรรพอติสาร ซึ่ งกล่าวการโทษทั้งมูล สามารถให้ขาดสู ญ โทษอติสารแลลงนา
หนึ่งกระลําภักทั้ง พิมเสนครั่งแลฝ้ายป่ า การะบูนลูกจันทน์มา สี เสี ยด ไทยจันทน์ท้ งั สอง
ยานี้สิ่งละส่ วนสอง ชาดก้อนเอาสองส่ วนปอง เบ็ญกานีสี่ส่วนกรอง บดนํ้าเปลือกมะเดื่อแค
กระสายเหมือนขนานต้น กินชอบกลจริ งเจียวแล อติสารวิการแล แก้คูธเน่าคูธลงหาย
ภาคหนึ่งแก้มูตะ สะกาสะติสารหมาย เอาสนสักขีขาย รากหญ้านางดอกคําไทย
มหาหิ งคุด์ อกงิ้วนะ แก่นประดู่ท้งั ครั่งไม้ สี เสี ยดทั้งสองไซร้ บดเป็ นแท่งแห้งจึงกิน
ละลายนํ้าใบเสนียด โทษเบียนเบียดลงเลือดสิ้ น วิเศษดีอย่าดูหมิ่น สิ้ นโทษลงโลหิ ตหาย
หนึ่งโสดวิเศษสุ ด ชื่อปิ ดสมุทรคงคาสาย ดังตําหรับบังคับหมาย เอาทับทิมครบทั้งห้า
สี เสี ยดทั้งสองแรง ใบฝ้ายแดงเม็ดฝ้ายนา สมอเทศที่อ่อนหา กับทั้งครั่งเปลือกเมล็ดมะขาม
เสมอภาคบดด้วยเหล้า ปั้ นแท่งเอาแต่พองาม ปวดหนักให้แทรกตาม เบ็ญกานีฝนลงกิน
ลงนักนํ้าปูนใส ฝิ่ นแทรกใส่ ดื่มให้สิ้น เป็ นเลือดลงไหลริ น แทรกกีบแรดแลร่ อนทอง
ลูกจันทน์เลือดแรดแท้ กินแก้โทษอันหม่นหมอง เป็ นปิ ดปวดมวนร้อง กะทือหมกไฟกระสายกิน
แก้มุตสะกาละ อติสารเสื่ อมสู ญสิ้ น อติสารอื่นก็ควรกิน สิ้ นโทษลงดังกล่าวมา
ภาคเหนึ่งปิ ดสมุทร วิเศษสุ ดในตํารา มหาหิ งคุท์ ้ งั ฝิ่ นหา สิ่ งละสองสลึงจึงควรการ
เนระภูษีท้งั ดินกิน สิ่ งละบาทอย่าได้นาน เนื้องครั้งสามบาทปาน หกเฟื้ องกาลเปลือกทับทิม
นํ้ากําเม็งกระสายบด ปั้ นกําหนดเป็ นแท่งลิ่ม ลายเหล้ากินเต็มอิ่ม แก้มูกเลือดเหื อดแห้งหาย
ภาคหนึ่งก็ปิดสมุทร เปลือกแมงคุดฝาดขื่นคาย เปลือกเมล็ดมะขามขั้วขาย เปลือกทับทิมเบ็ญกานี
หนึ่งฝิ่ นเอาเท่ากัน นํ้าผึ้งนั้นกระสายดี ลูกกลอนกินทันที แก้โทษที่ปวดปิ ดสู ญ
หนึ่งสี เสี ยดเทศหา เบ็ญกานี้การะบูน ลูกจันทน์เทศทั้งฝิ่ นปูน เท่ากันบดด้วยนํ้าตาล
แก้บิดมูกเลือดหาย แก้ลงร้ายอติสาร บรรเทาโทษทรมาน อันตรธานวิเศษล้น
ภาคหนึ่งนามพิศาล ชื่อหนุมานจองถนน แก้อติสารวิเศษพ้น โทษทรพลยิง่ แสนสา
เอาลูกกล้วยตีบดี เบ็ญกานีรากกกมา เทียนต้นครบทั้งห้า กับทับทิมทั้งห้าพลัน
กระพังโหมแลดินกิน กระเทียมกรอบชันย้อยขยัน สาเกรากใบนั้น กับทั้งลูกเถาคันไซร้
บดด้วยเหล้าละลายกิน ตามกบิลบังคับไว้ ปวดมวนแทรกใส่ ได้ เบ็ญกานีฝนลงกิน
ถ้าลงนักนํ้าปูนใส ฝิ่ นแทรกให้ดื่มจงสิ้ น ลงเลือดเร่ งให้กิน แทรกกีบแรดแลร่ อนทอง
เลือดแรดแลลูกจันทน์ แก้อติสารซึ่งหม่หมอง ปวดมวนโทษทั้งผอง กะทือหมกไฟตกมูกหาย
อติสารเป็ นเลือดสด ไหลหยัดหยดออกมากมาย วันหนึ่งสองวันกลาง เหม็นเน่าร้ายดังกลิ่นผี
๗๑

จันทน์ท้ งั สองกฤษณา สี เสี ยดหาทั้งสองดี กํายานเบ็ญกานี ลูกจันทน์มีเอาทั้งสอง


ชันตะเคียนทั้งมดเหลือง พริ กขิงเนื่องเสมอกอง เท่ากันสิ้ นทั้งผอง ทําผงกรองบดละลาย
นํ้าครั่งนํ้าฝางต้ม กินอย่าอมกลืนสบาย อติสารลงเหื อดหาย คุณมากมายดีหนักหนา
หนึ่งโสดรัตนธาตุน้ นั อติสารพลันวิการา สรรพโรคอันคิลาน์ ซึ่งให้ลงแลบิดกลาย
เอาลูกจันทน์ทบั ทิมนี้ เบ็ญกานีท้ งั ฝิ่ นหมาย เสมอภาคบดแท่งลาย ด้วยนํ้าท่ากินเสื่ อมสู ญ
หนึ่งแก้ปวดมวนตรง แลแก้ลงโทษทั้งมูล เอาฝิ่ นดิบกินกูล ลูกกล้วยตีบมหาหิ งคุ ์
เสมอภาคบดลายยา ด้วยนํ้าท่ากินคุณยิง่ วิเศษศรี ดีจริ ง แพทย์อย่างกริ่ งหายเร็ วหนา
ภาคหนึ่งก็ประสิ ทธิ์ ประทานชีวติ นามตํารา แก้กองธาตุวกิ ารณ์ แปรปรวนมาลงโลหิ ต
เพื่อโรคริ ดสี ดวง ท้องร่ วงเอาลงไข้พิษ โอสถนี้ดีประสิ ทธิ์ แก้โลหิตให้เหือดหาย
ให้เอาเปลือกมูกมัน เปลือกกระทุ่มนั้นเปลือกหางกราย ลูกมะตูมโกฐสอขาย อีกดีปลีจนั ทน์ท้ งั สอ
กรุ งเขมาอุตพิดนะ กระทืบยอบกระเทียมยอง ผักกระเฉดอย่างแต้วท้อง ตานทั้งห้าเท่า ๆ กัน
จึงเอาสังกรณี ให้ชง่ั ทวีเท่าทั้งนั้น บดกินแทรกฝิ่ นพลัน ลงเลือดนั้นหายมากมูล
ภาคหนึ่งแก้ลงเลือด ดไม่หายเหื อดหนักเบาพูน มูกเลือดปวดมวนสู ญ อันก่อกูลแก่ชายหญิง
ให้เอาซึ่ งใบสัก ทั้งใบผักเสี้ ยนผีสิง ยาเข้าเย็นแลฝางยิง่ รากไม้เท้ายายม่อมกราน
ละลายเหล้ากินประสิ ทธิ์ แก้โลหิ ตอติสาร วิเศษสู ญคุณวิถาน ตามตํานานท่านกล่าวมา
หนึ่งแก้ลงเลือดจาง ทั้งธาตุทางวิการา พริ กขิงฝางกระเทียมนา ทั้งไพลหอมจันทน์ลูกดอก
เปลือกไม้สักรากทีสอ ลูกกราย หนออย่าย้อนยอก รากเท้ายายม่อมปอก ขมิ้นอ้อยเท่ากันหมาย
ให้เอาซึ่ งกัญชา หนักเท่ายาดูมากมาย บดด้วยนํ้ากระสาย นํ้าส้มส้ามะงัว่ นาว
สรรพบิดออดหักเหื อด ฝี ดาดเลือดตกสามหาว คุณพิศาลอาจารย์กล่าว โทษอติสารก็เสื่ อมหาย
แก้บิดโลหิ ตหมาง ออกทางทวารทั้งเก้าหมาย ผักแพวแดงสารส้มสาย ทั้งพริ กไทยเท่ากันทํา
บดละลายสุ ราดื่ม ให้เมาซึ มวิเศษลํ้า โอสถนี้จงจํา ทํางายดายหายนักนา
ภาคหนึ่งแก้ลงแดง ลงเลือดแรงไหลออกมา ให้เอาใบกัญชา ใบสะเดาใบคนทีสอ
ใบมะตูมทองหลางใบมน แห้งชอบกลเท่ากันหนอ ทําผงนํ้าผึ้งหล่อ ละลายกินสิ้ นเสื่ อมสู ญ
หนึ่งแก้ลงเลือดนี้ ริ ดสี ดวงอันอาดูร แก้โลหิ ตอันพุพูน ให้ปวดมวนกําเริ บราญ
รากฝางท่านให้ถาก รากกล้วยตีบอันพิศาล กับทั้งฝิ่ นแต่ประมาณ ต้มกินเถิดประเสริ ฐหาย
ภาคหนึ่งกระเทียมนี้ เทียนดํามีพริ กไทยหมาย ลูกช้าพลูดีปลีปลาย ตําเป็ นผงจะฉับพลัน
จึงเอาใบกําเม็งมา ตํากรองผ้าให้บีบคั้น นํ้ากําเม็งสายยานั้น เผาเหล็กพลันจุ่มสามที
บริ กรรมซึ่ งคาถา สักกัตวาวิเศษดี กินแก้โลหิ ต อันลงเลือดก็เหื อดหาย
หนึ่งโสดแก้โลหิต ติดทรวงอกตกกระจาย ตกมูกตกเลือดร้าย ท่านภิรายนามตํารา
สรรพคุณอดุลย์ยงิ่ วิเศษจริ งดีนกั หนา เอาหอมพริ กขิงมา ทั้งไพลใบคนทีสอ
เจ็ตมูลทั้งเทียนดํา ตําเอานํ้าละจอกหนอ เอาเหล้าอันเข้มหล่อ ละลายกวนประมวลกิน
แก้เลือดในทรวงอก อันไหลตกมูกเลือดริ น ผูไ้ ข้พึงควรกิน ตํารานี้ดีหนักหนา
๗๒

ภาคหนึ่งแก้เลือดตก ในคออกไหลลงมา หัวบุกกลอยพริ กขิงหา กับสารส้มประสมเกลือ


ตําหมักนํ้ามะนาวไว้ คืนหนึ่งไซร้กินอย่าเหลือ กลืนกลมอย่าอมเชื้อ แก้อกคอก็พอหาย
ภาคหนึ่งแก้ลงบิด ติดเลือดหนองระสํ่าระสาย แก้ตรี โทษก็หาย ท่านธิ บายตํารามา
เอาเบ็ญกานีน้ นั จันทน์ลูกดอกเทียนทั้งห้า หว้านกีบแรด ร่ อนทองป่ า ลูกสาระพัดพิษเนระภูษี
จันทน์ท้งั สองรากไคร้เครื อ ลูกโหระพาเจือกลิ่นมี ลูกตะบูนเทียนเยาวภานี นํ้าประสานทองสิ่ งละส่ วน
เอาตะลุมพุกพึงหา เปลือกสันพร้านางแอควร สิ่ งละสามส่ วนประมวล ห้าส่ วนตูมกาทั้งสอง
เอาผงละลายบดนะ ด้วยกระสายสุ ราปอง ผิจะแก้โลหิ ตนอง ลายนํ้าปูนแทรกฝิ่ นกิน
เอาดีงูเหลือมงูเห่า ฝนแทรกเหล้าหัวขมิ้น เป็ นโรคพึงควรกิน สิ้ นโทษเลือดบิดเบาหาย
อันโอสถขนานนี้ ค่าคํามีสิบชัง่ หมาย ผูใ้ ดกินมิหาย แท้โทษตายน่ากลัวเกรง
ภาคหนึ่งก็วเิ ศษ ลูกจันทน์เทศปิ้ งไฟเส็ ง ลูกมะกอกเผาไหม้เอง ลูกเบ็ญกานีสิ่งละใบ
เอามะเกลือชุบนํ้าปลา ปิ้ งไฟราให้เกรี ยมไหม้ กระเทียมกรอบยีส่ ิ บไซร้ ฝิ่ นนั้นให้แทรกหน่อยหนึ่ง
ขาวแต่พอควร ตําประมวลเป็ นผงจึง นํ้าตาลหวานละลายคลึง ปั้ นกลอนกลืนชิ้นสบาย
แก้โทษลงโลหิ ต คุณประสิ ทธิ์ วเิ ศษหาย ปวดมวนกินก็คลาย แก้โรคร้ายดีนกั หนา
ภาคเหนึ่งคุณยวดยิง่ ชื่อมะหิ งสะรานา แก้ซ่ ึ งโลหิ ตา ตกออกมาทั้งเก้าทวาร
ริ ดสี ดวงทวารแตก แยกแก้โทษอติสาร คุณนามตามตํานาน บุพพาจารย์ท่านกล่าวไว้
....เอาเขากระบือ เผาไฟฮือกว่าจะไหม้ ครั่งฝางดอกคําไซร้ กับโกฐสอตรี กะฏุก
กะทือกระเทียมเอาเท่ากัน บดแหลกพลันจึงปั้ นคลุก นํ้าฝางต้มปูนสุ ก ลายกินห้ามเลือดแห้งหาย
ภาคหนึ่งนามมหาหิ งคุ ์ สะรายิง่ คุณมากมาย ดอกบุนนาคบัวหลวงถวาย เปลือกขี้อา้ ยหางกรายพลัน
เอาเอ็นเบญกานี กานพลูดีท้งั ลูกจันทน์ สี เสี ยดทั้งสองนั้น กับดอกจันทน์หมากข้าวเหนียว
กระชายสิ่ งละสลึง กระเทียมจึงหนึ่งบาทเจียว เขาควายเผือกเผาไฟเทียว ให้มากเจียวเท่ายานั้น
กะเพราเท่าเขากระบือ งูเหลือมซื้ อแต่ดีพลัน สลึงหนึ่งใส่ ดว้ ยกัน จึงบดปั้นเป็ นแท่งไว้
มูกตกเลือดนํ้า เทียนดําต้มกินบรรลัย ปวดมวนก็กินได้ แก้เลือดตกทั้งทวารสอง
ทวารหนักทวารเบา แก้บรรเทาคุณไวว่อง ตําหรับนี้แพทย์ตรอง ทําไว้เถิดเลิศนักหนา
ภาคหนึ่งเป็ นคู่กนั นามะนั้นมะหิ งษา แก้โทษเหมือนกันมา แต่สรรพยาแยกแปลกกัน
ดอกบุนนาคเกษรบัวหลวงหมาย เปลือกหางกรายลูกดอกจันทน์ ลูก เบ็ญกานี นั้น อีกลูกกระวานทั้งกานพลู
ทั้งข้าวเหนียวหมากแห้ง สี เสี ยดแท่งเอาทั้งคู่ ดีงูเห่างูเหลือมดู กับทั้งฝิ่ นเท่า ๆ กัน
กระเทียมชามาก ๆ ควายเผือกถากเอาเขาพลัน ใบกะเพราเท่าเขานั้น จึงบดปั้ นละลายสุ รา
มูตรเลือดปวดมวน โลหิ ตทวนทางอุภา ทวารเบาหนักคุณปรา กฎลักกะปิ ดประสิ ทธิ์ หาย
มะหิ งค์ยงิ่ ทั้งสาม คุณนามวิเศษหลาย เป็ นแพทย์พึงกฎหมาย แก้เลือดร้ายเร็ วหนักหนา
ภาคหนึ่งเนาวทวาระ แต่โบราณนับถือมา เป็ นแพทย์พึงศึกษา ทําไว้ใช้อย่าขาดเรี ยน
เอาลูกจันทน์ดีปลี กระเทียมดีกะทือเหมือน ไพลหอมพร้อมอย่าเฟื อน ทั้งดินถนําเทียนสัตบุษย์
พิมเสนสิ่ งละบาท ชัง่ อย่าขาดวิเศษสุ ด สาระพิษประสมรุ ต นํ้ามะนาวกระสายบด
๗๓

ปิ ดก้นขันสําริ ดลน ควันเทียนจนร้อนทั้งหมด ปั้ นแท่งตามกําหนด ละลายเหล้านํ้าตาลทราย


โลหิ ตพิกลหมาง อาจลบล้างให้ทาํ ลาย แก้เชื่อมมึนด้วยกระสาย นํ้าดอกไม้น้ าํ จันทน์กิน
พิมเสนรําหัดลง ดับพิษสงเสื่ อมสู ญสิ้ น ทรางขึ้นคออย่าหมิ่น ละลายนํ้ามะนาวแทรกเกลือกวาด
ท้องขึ้นนํ้ามะกรู ดละลาย ดีงูกระสายเร็ วทายาท ท้องทุ่งถ่ายลมพราด ธาตุโทษลมระทมหาย
งูขบละลายเหล้าเกิน ทาแผลสิ้ นซึ่ งพิษร้าย ลงท้องโทษทําลาย ถึงอติสารวิการกล
ละลายนํ้าเปลือกแค ประกอบแก้ท้ งั เปลือกสน ต้มกินเล่นชอบกล ทาทวารบ้างห่างหาย
ริ ดสี ดวงเก้าทวาร เป็ นเม็ดดาลมิใคร่ คลาย นํ้าหมากดิบแทรกฝิ่ นลาย ทาเม็ดหายแห้งขาดสู ญ
ภาคหนึ่งนามตํานาน ชื่ อสิ ทธิ สารประเสริ ฐคุณ ตกมูกตกเลือดมูล แก้ปวดมวนวิเศษดี
ตกเลือดทั้งสองทวาร คุณพิศาลตามคัมภีร์ ผักแผ้วแดงแสงศรี ทั้งตรี กะฏุกใบกะเพรา
สี เสี ยดเอาทั้งสอง ว่านร่ อนทองกีบแรดเรา บอระเพ็ดเอาเท่า ๆ ควายเผือกเขาเผามากมาย
หนักเท่ายาทั้งนั้น นํ้าเหล้ากลัน่ บดกระสาย ริ ดสี ดวงกินหาย เหล้าละลายประสิ ทธิ์
ตานขะโมยแลตานซาง ทําลายล้างด้วยเหล้าดี ประจําท้องทุกราตรี โทษยายีตานซางหาย
โอสถตําหรับนี้ วิเศษดีคุณมากหลาย บุพโพโลหิ ตคลาย เสมอหะร้ายเน่าปวดมวน
ประกอบโอสถนี้ เนระภูษีเทศไทยควร จันทน์สองอย่าแปรปรวน หว้านกีบแรดร่ อนทองพลัน
ตูมกาแดงขาวหา พระยามูลเหล็กลูกจันทน์ ลูกเอ็นดอกจันทน์ขยัน เท่า ๆ กันละสองสลึง
เปลือกลําเจียกหนักหกเฟื้ อง ลูกตะบูนสามสลึงถึง ตําหรับบังคับขึง ลูกสะแกเก็บประมูล
เปลือกลําเจียกหนักหกเฟื้ อง ลูกตะบูนสามสลึงถึง ตําหรับบังคับขึง ลูกสะแกเก็บประมูล
เปลือกลูกทับทิมครบ เปลือกเมล็ดมะขามขบบริ บูรณ์ ชันตะเคียนอย่าได้สูญ เบ็ญกานีสีเสี ยดเทศ
ยาทั้งนี้ส่วนละบาท ครั้งอย่าขาดสามบาทเศษ เปลือกหางกรายหมายสังเกต หนักสองบาทอย่าขาด
ดีงูเหลือมงูเห่า ฝิ่ นเอาหนักหนึ่งเฟื้ องจริ ง ดินกินหนักสลึงยิง่ ขันทศกรหนักสลึงเฟื้ อง
ตําผงบดปั้ นแท่ง ตากสุ ริแสงให้เข็งเปรื่ อง เปลือกมะเดื่อนํ้าปูนเนื อง เคี่ยวระคนฝนละลายกิน
นํ้ามะพร้าวนํ้าเปลือกฝาด นํ้าปูนลาดอย่าควรหมิ่น เจือระคนปนกินสิ้ น แก้เลือดหนองเสมหะร้าย
ตําราตําหรับนี้ ท่านย่อมตีราคาขาย ควรค่าสองชัง่ ปลาย แม้มิหายก็กรรมตน
ภาคหนึ่งนํ้ายาแดง ท่านจัดแจงเห็นชอบกล แก้เลือดกําเริ บล้น เป็ นมูกเลือดลักกะปิ ด
เอาลูกมังคุดมาด ลูกตะบูนฝาด สนิท ฝางเสนสนสักติด เบ็ญกานีจนั ทน์ท้ งั สอง
ยาแปดสิ่ งเท่ากัน เร่ งบดปั้ นละลายลอง นํ้าปูนใสเปลือกกรดกรอง เป็ นกระสายละลายกิน
ลักกะปิ ดมูกเลือดหาย แพทย์ท้ งั หลายอย่าดูหมิ่น ควรคําชัง่ หนึ่งกิน สิ้ นโทษร้ายหายนักหนา
หนึ่งโสตอติสาร ระสํ่าระสายเชื่อมมึนมา ให้หิวหอบระทวยหนา อาหารหยุดด้วยลงท้อง
ให้เอาพิมเสนเกล็ด อีกจันทน์เทศแดงขาวสอง เกษรบัวหลวงหนอง ดอกบุนนาคทั้งสารภี
สรรพยาสิ้ นทั้งมวล สิ่ งละสามส่ วนเสมอดี ดอกฟักทองสี่ ส่วนทวี บดปั้ นแท่งกระสายลาย
นํ้ามะลิชะโลมกิน สิ้ นสุ ดโทษอติสารร้าย เชื่อมมึนระหวยหาย ชื่อพรหมพักตร์ ประจักษ์นาม
ภาคหนึ่งโสดแก้กระหาย อุทะกาหมายเกิดเพื่อความ อติสารซึ่ งลงลาม ได้ท้วั (ทั้ง)ปวงครอบไปสิ้ น
๗๔

เอารากบัวหลวงนั้น รากมะกอกอันเรากิน จันทน์สองอันมีกลิ่น กับทั้งดินประสิ วขาว


โกฐสอโกฐหัวบัว เทียนดํามัวเม็ดมะนาว ตรี ผลาตํารากล่าว ดอกบุนนาคทั้งสารภี
เปลือกโลทลูกกระจับ ชะลูดรับชูกลิ่นศรี ใบผักคราดกะเพรามี รากสลอดนํ้าทองหลางนม
กระดูกงูเหลือมเท่ากัน กระสายนั้นรากบัวขม ตําบีบเอานํ้าประสม บดประจําปั้ นแท่งพลัน
เอานํ้าเปลือกมะเดื่อ เปลือกมะกอกเจือทับทิมขยัน ต้มกระสายละลายพลัน แก้ลงนั้นก็ห่างหาย
หนึ่งรากกระสายแช่ ย่อมกินแก้กระหายคลาย มิฟังโทษถึงตาย แพทย์อย่างหมายติดตามเลย
หนึ่งโสตอติสาร ให้กระหายนะท่านเอ๋ ย ครอบไข้ไม่เลือกเลย ตามท่านเคยแต่ก่อนมา
เอารากบัวหลวงนั้น รากมะกอกจันทน์ท้งั สองรา ดินประสิ วประสมหนา เท่ากันบดปั้นแท่งพลัน
ละลายนํ้าดอกไม้กิน บรรเทาสิ้ นกระหายนั้น โทษประทังดังอุดอัน วิเศษครันดีหนักหนา
ภาคหนึ่งแก้ลงบิด จงพินิจเปลือกใบหว้า ต้มสามเอาหนึ่งมา ปนนํ้าผึ้งจึงกินหาย
ภาคหนึ่งชื่อแดงน้อย ท่านกล่าวฝอยย้ายกระสาย แก้มูกเลือดเสลดวาย ทั้งโทษร้ายเน่าแสลง
ลงหัดลงเหื อดฝี วิเศษดีดงั ประสงค์ จันทน์สองกีบแรดคง ว่านร่ อนทองสังกรณี
ลูกจันทน์แลดอกจันทน์ อีกหนึ่งนั้นเนระภูษี เสมอเท่ากันดี เบ็ญกานีเท่าทั้งหลาย
ตําแท่งลายสุ รา กินไม่ชา้ มูกเลือดหาย ลงนักยักกระสาย พลับจีนขายต้มสามใบ
ละลายยาเม็ดแดงกิน พอดื่มสิ้ นสําราญใจ มิหยุดยักไปใหม่ เบ็ญกานีเทียนไทยต้มให้กิน
หยุดใบผักเค็ด ต้มสุ กเสร็ จให้หล่อริ น ยาเม็ดแดงแทรกจําเพาะฝิ่ น ละลายกินโทษเสื่ อมสู ญ
หนึ่งโสดแก้ลงแดง แผลงลงดําลงเลือดพูน ประกอบโทษมากมูล ด้วยอติสารพิการกาย
จันทน์ท้ งั สองกฤษณา สี เสี ยดหาทั้งสองหมาย ชันตะเคียนเปลือกหางกราย เบ็ญกานีกบั กํายาน
พริ กขิงกระเทียมบด ละลายเหล้าซดกินพิศาล พิเศษตามตํานาน บุพพาจารย์กล่าวสื บมา
จะกลับกล่าวอติสาร สมุฏฐานโทษปิ ตา ลงเหลืองเล่ห์ดงั ว่า อุจจาราไหลริ นทั้ง
ใจน้อนหมุนโทโส พะหุ โกด้วยหอบหวัง สมุฏฐานแต่ปิตัง อันสั่นรัวพิการเป็ น
ให้เอาสมอไทย ลูกกระดอมไซร้อนั ขมเข็น รากมะอึกทั้งนี้เป็ น สิ่ งละบาทสิ้ นทั้งสาม
บอระเพ็ดสองบาทเรา ต้มงวดเอาหนึ่งสิ้ นสาม ดีรั่วดีลน้ ซ่าน ซึ่ งลงเลือดลงเหลืองหาย
ภาคหนึ่งแก้ดีรั่ว ให้มึนมัวระสํ่าระสาย หุ นโหดพิโรธร้าย จะเอนกายก็มิหลับ
ทําโทษให้ลงปิ ด สันนิบาติตด( ติด )ให้ลมจับ พุทธยักษ์เข้ารองรับ แลสันนิบาตเพื่อโลหิ ต
สันนิบาตเพศทั้งสี่ เอายานี้แก้ประสิ ทธิ์ จันทนาจันทน์หอมติด กับอีกทั้งตรี ผลา
รากมะอึกลูกช้าพลู ลูกกระดอมดูมะตูมอ่อนหา บอระเพ็ดลูกขี้กา เอาที่แดงสิ่ งละตําลึง
ต้มหรื อบดตามใจ กินว่องไววิเศษหนึ่ง แก้อติสารโทษถึง เพศดีร่ัวกระตุกหาย
ภาคหนึ่งแก้ดีลน้ ลงไหลจนไม่วา่ งวาย คลัง่ เพ้อพูดเราะราย ดังเล่ห์ผเี มื่อนอนหลับ
มักบ้าไปเจ็ดวัน ให้เอาจันทร์ ท้งั สองจับ กรุ งเขมาประคองรับ กระพังโหมตรี ผลา
ต้มสามเอาหนึ่งนั้น ขันทศกรแทรกอัชฌา มิฟังยังชีวา ถึงโทษตายคงวายสู ญ
ภาคหนึ่งแก้ปิตา โทษทั้งห้าอันอาดูร คือดีรั่วกระตุกมูล ทั้งลงซึ มแลกแตกไหล
๗๕

อันปิ ตังทั้งห้าถาน บุพพาจารย์ท่านกล่าวไข ตําหรับบังคับไว้ กําหนดใจหมัน่ ตรึ กตรอง


ให้หารากมะอึกมา รากขี้กาเอาทั้งสอง สมอไทยพิเภกกอง ทั้งสนเทศกรุ งเขมา
กระพังโหมแลจันทน์หอม จันทนากระดอมเอา สิ่ งละตําลึงอย่าเบา เถาบอระเพ็ดลูกช้าพลู
ลูกกระดอมแฝกหอยสังข์ ทั้งนี้ชงั่ ให้คงอยู่ สิ่ งละสองบาทตราชู แล้วขุดดูรากตองแตก
ทั้งชะลูดอบเชยนอก กับขอนดอกมาแต่แขก กระลําภักหอมกลิ่นแปลก กฤษณาแทรกดอกพิกุล
สารภีบุนนาคโสด โกฐทั้งห้าชัง่ เป็ นทุน เทียนห้าประกอบหนุน ทั้งเกษตรบัวนํ้าห้า
ฝางเสนดอกคําไทย หนักบาทใส่ ตามตํารา กระทําผงละลายยา ด้วยนํ้าร้อนกินทุกวัน
แก้ดีดงั กล่าวมา ครอบทั้งห้าวิเศษขยัน จุกเสี ยดปวดแดกนั้น แน่นอกตันก็กินหาย
ท้องขึ้นขมปากมาก แก้ละอองปากเหม็นอบอาย อ้าปากกลิ่นเหม็นร้าย ดังกลิ่นคูธไม่สุกสู ญ
โอสถตําหรับนี้ แสนสุ ดดีใครจะปูน มิฟังดังเค้ามูล ชีพคงสู ญแท่นแท้แล
อันคัมภีร์อติสาร สิ้ นตํานานนํากระแส อุทะริ ยงั พิการแปร หยากยาแก้ประกอบการ
ยุติบทงดสงบ สมมุติจบตามตํานาน ลําดับนี้ จะวิการณ์ โทษอทุริยงั ( อุทริ ยงั )หวังต่อไป ฯฯ
๏ กะรี สังอาหารเก่า กลิ่นเหม็นเร้าเป็ นเหลือใจ ย่อมสถิตย์อยูใ่ นไส้ ท่านจัดไว้วา่ ธาตุดิน
กะรี สังใช่อื่นไกล อาหารใหม่ที่เรากิน เพลิงธาตุเผาแหลกสิ้ น เล่ห์ลูกหินบดแหลกราญ
ครั้นแล้วก็เกรอะตก หมกลงสู่ ลาํ ไส้ทวาร คะรุ วรรณาอาการ ดังก้อนดินในปล่องไฟ
สู งประมาณแปดคุลี เติบดิบดีคบั ไส้ใหญ่ มีสีอนั เหลืองไซร้ มีหนองในสามพวกพันธุ์
ชื่อกิฬาและไภยะ ปาณะกะสามพวกนั้น อาศัยคูธเป็ นนิรันดร์ สื บพืชพันธุ์ตามเพศหนอน
อาหารเก่าปถวี กระลีรุมเหตุสังหรณ์ อาหารเป็ นเหตุก่อน แปลกสําแลงจึงลงท้อง
อาหารไม่รู้รส กําหนดโรคนั้นถ่ายกอง ต่าง ๆ ตามทํานอง คือซางขะโมยกินลําไส้
พ้นซางแล้วเลยล่วง ริ ดสี ดวงต่อเยื่อใย ริ ดสี ดวงก็เกิดใน หากเป็ นไปดังกล่าวมา
จะแก้ให้เหมาะแม่น พระยาลําแพนให้วงิ่ หา รากหนามแดงขึ้นในป่ า ฝ้ายแดงหาทั้งรากใบ
รากหนามขี้แรตต้ม สามเอาหนึ่งขมเหลือใจ พริ กขิงกระเทียมใส่ สิ่ งละเจ็ดปรุ งกินหาย
มิฟังต้มอีกที ผักเสี้ ยนผีเอารากหมาย รากขี้กาแดงชาย รากช้าเลือดรากหญ้านาง
ต้มสามเอาหนึ่งจริ ง ปรุ งพริ กขิงกระเทียมลาง สิ่ งละเจ็ดอย่าได้หมาง โรยลงกินสิ้ นโรคสู ญ
ถ้ามิฟังเอามะกรู ด ลูกหนึ้งต้มให้สุกพูน ชัง่ หนักเท่าเบ็ญจกูล กระเทียมขิงแทรกสิ่ งละบาท
การะบูนพริ กไทยเกลือ สองสลึงเจืออย่าได้ขาด บดประสมประจําธาตุ มือละสลึงทุกเช้าเย็น
ปถวียสี่ ิ บกอง ตามทํานองซึ่ งกล่าวมา เสร็ จสิ้ นเรื่ องตํารา โรคนิทานธาตุปถวี
ให้แพทย์พึงสังเกต ประเภทโรคอันยายี ตรองอาการให้ถว้ นถี่ จงแม่นยําจึงวางยา
แก้โทษเพื่อเพศนั้น ไม่ชา้ พลันเห็นคุณหนา เผลอไผลวายชีวา ด้วยหยูกยาอันผิดไซร้
สองโทษสามโทษสํา ยานี้ต่าํ ไม่แก้ได้ เฉพาะยาท่านกล่าวไว้ ในคัมภีร์ววิ รณ์แล
ในธาตุดว้ ยกันจริ ง แต่วา่ ยิง่ โทษปรวนแปร ในที่น้ ี จาํ แก้ โทษสิ่ งเดียวตะละสิ่ ง
คัมภีร์สองตรองมัน่ คลึงคล้ายกันดังแฝดจริ ง สามารถโทษประวิง จําให้เห็นคุณตํารา
๗๖

จะตายคลายลําบาก เพราะรสรากใบเปลือกยา ตายเร็ วให้ตายช้า โรคหายช้าให้หายเร็ ว


.. อาการให้เจนใจ อย่าไถลให้เลื่อนเปื้ อนเหลว โรคคลายให้ตายเร็ ว ใช่พงศ์เพศเชื้ออาจารย์
แพทย์อย่าทําตื่น ทําใจชื้นตรองอาการ อย่าตกใจลนลาน หยิบยาผิดส่ งให้กิน
ใครไม่วา่ อย่าทําบ้าแบกก้อนหิ น รู ้นอ้ ยแต่จริ งสิ้ น ดังมณี นิดดูงามมือ
มีผหู ้ า สู งราคาคนมักซื้ อ ภูผาถึงมากหรื อ แม้จะซื้ อราคาหย่อน
ถ้อยคําอันวัจนา จึงตรึ กตราจําคําสอน แม่นมัน่ จงผันผ่อน จักพาตนพ้นเวจี ฯฯ
๏ จะเรี ยงเรื่ องลําดับรํ่า อาโปนํ้าสิ บสองมี ตามบทบาทบาลี พระชินศรี ตรัสโปรดไว้
อาจารย์แจกธาตุน้ าํ มีในคัมภีร์วภิ งั ค์ไข บทว่าปิ ตังไซร้ กายบุคคลทุกชายหญิง
เป็ นสองอย่าง สําหรับร่ างแห่ งเราจริ ง หมู่แพทย์อย่าพึงกริ่ ง ว่าไฉนดีมีสองถาม
. นามชื่อพัทธะ ปิ ตะดีมีฝักยาม ดังบวบห้อยกลางร้าน ติดก้อนตับแพทย์พึงรู ้
นํ้าดีสีเขียวอย่าง นํ้ามันมะซางอันข้นฟู ชายปอดขวาที่อยู่ ในตับนั้นเป็ นสําคัญ
หนึ่งนั้นชื่ออะพัทธะไซร้ หาฝักไม่ดีพอกนั้น เหลวงไหลทัว่ กายพลัน ซึมซาบดั้นด้นทุกแห่ง
เว้นไว้แต่ผมฟัน ขนเล็บนั้นไม่พรายแพร่ ง นอกนั้นทุกตําแหน่ง ซึ มซาบไปไม่หลงหลอ
แม้นพัทธะปิ ตตะนี้ ดีมีฝักวิการก่อ ซึ มซ่านแต่ข้ วั หนอ กําเริ บล้นแลไหลเป็ น
ทําโทษให้คลัง่ ไคล้ เป็ นบ้าใบ้บ่นบ่อนเล่น เสี ยสติดงั หนึ่งเป็ น เพศปี ศาลเข้าสิ งตน
สรรพถ้อยอันสามหาว มิเคยกล่าวเอามาบ่น มักเพ้อผิดเพศคน สะดุง้ ตนมักหวาดหวัน่
บางทีทาํ เพศลง มูกเลือดคงเน่าเป็ นมัน ดังกินยารุ น้ นั ลงเหลืองเขียวแดงต่าง ๆ
ทั้งนี้คือโทษดี เบียนอินทรี ยใ์ ห้หมองหมาง ให้เกิดโรคหลายอย่าง สุ ดแสนยากจะภิบาล
อันว่าโทษเป็ นฉะนี้ คือโทษดีให้ก่อการ ชื่อปิ ตตะสมุฏฐาน ด้อยโรคสามสิ บสองกอง
จักขุแลโสตะ ฆานะชิวหาคลอง มูลโรคสามสิ บสอง ให้ก่อกองปิ ตตะพูน
อันอะพัทธะปิ ตตะทํา เมื่อกําเริ บให้อาดูร อาการนั้นมากมูล ด้วยเพศเหลืองสิ้ นทั้งกาย
จักขุเนื้อตัวเล็บ เจ็บทุกข้อกระดูกหมาย ในกระมลไม่สบาย เพศดีเหลวปราชญ์พึงรู ้
หยูกยาในตํานาน โรคนิทานย่นย่ออยู่ ท่านวิถานไว้ให้ดู ในคัมภีณ์ธาตุววิ รณ์
พอเป็ นเรื่ องราง ๆ เล่ห์เดินทางในสาคร สําคัญไม้ไม่แน่นอน เห็นเขียว ๆ ตามขอบฝั่ง
เพศดีก็เหมือนกัน ไว้สาํ คัญเป็ นอําปลัง แสนลึกแสนจะหยัง่ โทษปิ ตังยากอยูเ่ อง
ผิแพทย์จะใคร่ แก้ จงผันแปรดูตามเพลง เพศดีหากยากเอง ควรกลัวเกรงใช่โรคจร
ดูซ่ ึงหยูกยา ในคันถะธาตุววิ รณ์ ผันแปรแก้ไปก่อน แกล้วผันผ่อนดูอติสาร
เล่ห์เพศเป็ นไฉน พึงตรองใจไปตามการ จึงจะควรสมุฏฐาน เพราะโรคดีโทษหนักหนา
หนึ่งนั้นทั้งเสมหะ ในคันถะวิวรณ์ปรา กฎมีในอติสาร คัมภีร์สองไว้วถิ าน
ทีน้ ีมียอ่ ย่น ยากนิพนธ์ให้แจ้งการ มัวหมดไม่พิศดาร โรคนิทานย่ออยูเ่ อง
ปิ ตตะเสร็ จสําเร็ จสับ จะกล่าวกลับเสมหะเพลง เสมหะนี้แพทย์พึงเล็ง ธาตุอาโปนํ้าเหมือนกัน
๏ เสมหะอัตถะเรา อาจารย์เจ้าบอกสําคัญ เอกะปิ ตตะนั้น บาทหนึ่งพลันเต็มดิบดี
๗๗

สถิตอยูอ่ ยูอ่ ุระศอ ในปอดหนอมากมูลมี โภชนาอันภุญชี แหวกให้ลงครรภะถาน


เล่ห์แหนอันลอยปก ปิ ดอุธกอันพิศาล มิเห็นซึ่ งท้องธาร ชัว่ แลดีปรากฏตา
เสมอหะปิ ดซึ่ งกลิ่นเน่า อาหารเก่ามิได้ปรา กฎกลิ่นฟุ้งขึ้นมา เพราะเสมหะฉะนี้มี
เสมหะเป็ นสมุฏฐาน เมื่อก่อนการเกิดกระลี ประกอบโทษตามวิธี สามสิ บสองเท่าปิ ตัง
เพศเสมหะท่านบอกโยน โจนวิวรณ์ธาตุน้ นั หวัง ทีน้ ีไม่เจาะจัง จัดบอกเพศแต่ละน้อย
สมมุติหมดในเสมหะ หยุดระยะจําจดพลอย บุพโพกล่าวพรั่งพร่ อย เล่ห์หนึ่งเงาไม่มีตวั
ถึงจะกล่าวไม่จดั แจ้ง เล่ห์หนึ่ งแสงไฟในครัว ต้องอุทยั ชายจะมัว ใช่ไม่มีแสงเมื่อไร
กําลังพระสุ ริยา กระจ่างกว่าจึงอับไป บุพโพว่าหนองใน โลหิตไซ้ครอบงําเอง
แม้นกระทบกระทั้งฟก โลหิ ตตกห่อก่อเพลง คือฝี ฟกขึ้นเอง ทั้งผึ่งเปื่ อยเป็ นบาดแผล
... หนองปรากฏโต ตัวบุพโพประจักษ์แท้ หาเหตุไม่เห็นแน่ ดูรุบรู่ ดงั เงาหมาย
บุพโพเมื่อวิการ กําเริ บซ่านฟุ้งกระจาย ทําโทษให้ซูบกาย อาหารคลายไม่รู้รส
ให้ไอเป็ นกําลัง ในอุรังโทษปรากฏ ฝี ฟอดปอดม้ามหมด กําหนดฝี เก้าประการ
ในอกเจ็ดท้องสอง ตามทํานองหนองร้าวราญ บังเกิดฝี เก้าถาน ในกายเกิดเพราะบุพโพ
ใช่เท่านั้นฝี ร้าย เกิดในกายนามอะโข ทรวงดะสู ตร์ ในอุโร คันทะสู ตร์ มะเร็ งทรวง
กาฬพิพิธพิพธั มี ฝี รวงผึ้งพิษใหญ่หลวง ฝี ปลวกเป็ นเม็ดดวง ล้วนพันธุ์อนั มีฤทธิ์
ฝี เจ็ดมักเกิดพุ ในอุระสิ งสถิตย์ อาการกอบด้วยพิษ แสนสุ ดยากโทษต่าง ๆ
วิการเส้นทําเอ็นท้อง จะนวดต้องแข็งกระด้าง เป็ นดานตึงผิดอย่าง เล่ห์หมู่หนองเจาะลูกแตง
ผลเจาะเฉพาะนิด ล้วนปากพิษกําเริ บแรง ทัว่ ทั้งลูกพะเอินแข็ง ดุจอาการเม็ดหมู่ฝี
ปั้นเม็ดเท่าข้าวสาร เม็ดใหญ่ปานถัว่ เขียวมี พิษนั้นทัว่ อินทรี ย ์ ทําเส้นสายกระด้างแข็ง
ตับปอดเป็ นที่ต้ งั หัวใจทั้งสามตําแหน่ง อยากจะรู ้ดูมกั แคลง ว่าริ ดสี ดวงแชลามปาม
อาการทําโทษหิ ว อกใจหวิวเรี่ ยวแรงทราม ไม่วายไอใจความ อาหารทรามรุ ดร่ อยลง
พอใจแต่คาวเค็ม มันหวานเข้มต้องประสงค์ เพื่อภาวะจะดํารงค์ ซึ่งพิษหนองเจริ ญกล้า
ให้ไอเป็ นคราว ๆ แลหอบร้าวเติมเข้ามา เกิดลมแน่นอุรา ให้ปะทะออกอาเจียน
เบื่อข้าวนอนมิหลับ กลับกลอกกายเจ็บพ้นเพียรในอุระเล่ห์หนึ่งเสี้ ยน ซํ้ายอกแทงทัว่ ราวนม
ให้ยอกตามราวข้าง ให้หมองหมางในอารมณ์ จะไสยามักผ้าห่ม ด้วยเพศหนาวกายรุ มคลุม
นอนข้างเดียวถนัดนัก มักให้ไปอกใจกลุม้ นํ้าลายเหนียวฟองชุ่ม ด้วยพิษรุ มกําเริ บไป
บ้างรากเป็ นโลหิ ต บางทีติดออกกับไอ บางทีกินอิ่มไซร้ เผอิญอไอวกออกอาหาร
รอกสิ้ นไปสงบ ก็จวนจบเบียนสังขาร ผูใ้ ดเป็ นนั้นปาน ดังศรกาฬมัจจุราชสวน
แพทย์ผใู ้ ดแก้ฝี ทั้งเจ็ดนี้ตามกระบวน ตําหรับเราสํานวน ฉะนั้นไว้จงเยียวยา
ทั้งอ่อนพอจะแก้ ครั้นแก่แล้วเหลือตํารา โรคตัดดับสังขาร ท่านไว้ยาฉะนี้มี
เอารังมดดํามา ใบมะกาเทียนดําศรี สมอเทศตองแตกดี หนักสี่ บาทเท่ากันทํา
หัวหอมห้าบาทเรา ขมิ้นอ้อยเอาที่หวั ขํา ใหญ่ยาวคืบหนึ่งนํ้า ซํ้าใส่ หม้อต้มทันที
๗๘

สามเอาหนึ่งเคี่ยวงวด นวดดีเกลือตามธาตุดี กินชําระบุพโพมี ตําหรับนี้คุณหนักหนา


กินชําระประจําธาตุนะ แก้เสมหะวิการา มิฟังจึงแต่งยา ตําหรับนี้กินสื บไป
ตรี กะฏุกโมกหลวงทั้ง ขมิ้นอ้อยหวังเข้าข้าใส่ ลูกราชดัดหอมแดงไซร้ รากพังโหมเร่ งทําผง
นํ้าเหล้าแลนํ้าร้อน กินโรคผ่อนบรรเทาลง โทษหนองหายมัน่ คง สิ้ นพิษสงดีหนักหนา
ภาคหนึ่งแก้ฝีปลวก ทั้งเจ็ดพวกในอุรา ฝี ข้ ึนเยื้องตํ่านา อาจแก้ได้วอ่ งไว้ดี
เอาประคําไก่หนา ครบทั้งห้าตามคัมภีณ์ รากพุมเรี ยงทั้งสองดี กับรากสี หวดทั้งสอง
รากเข้าไหม้รากตองแตกหนอ รากพุงดอตะขบรอง รากมะขวิดโพกพายกอง รากพุงแกลูกเขยตาย
ปลาไหลเผือกเอาราก รังปลวกมากเท่ากันหมาย ละห้าบาทดังภิปราย ถึงสิ บบาทก็ควรทํา
เหล่าครึ่ งกึ่งนํ้าต้ม คุณอุดมวิเศษลํ้า เมื่อกินเอาเกลือนํา ปรุ งเจ็ดเม็ดเสร็ จดื่มกิน
ฝี ปลวงฝี รวงผึ้ง ซึ่งพันธุ์ฝีหายหมดสิ้ น ฝี ในท้องอย่าหมิ่น กินยานี้ดีหนักหนา
ภาคเหนึ่งยาเข้าเย็น ทั้งสองเช่นเร่ งหามา กับทั้งรากตะโกนา รากพริ กเทศรากมะดูก
กระตังบายทั้งต้นราก ชามาก ๆ ต้มให้สุก แก้ฝีอย่าเป็ นทุกข์ ครอบทั้งปวงร่ วงเร็ วหาย
ภาคหนึ่งยาเข้าเย็น ทั้งสองเช่นเหนื อใต้หมาย สิ่ งละห้าตําลึงจ่าย หนึ่งโพกพายทั้งข่าหลวง
ทั้งสิ งสิ่ งละสิ บบาท ไพลอย่าขาดห้าบาทตวง ตาไม่ไผ่นบั ปล้อง สาบสิ งสองต้องตํารา
มะพร้าวไฟลูกหนึ่งเจือ ทั้งนี้เยือ่ ทิ้งกระลา ต้มกินหายนักหนา แก้ฝีซางร่ วงบรรลัย
หนึ่งรากโพกพายหา ปลาไหลเผือกหากเร่ งใส่ ลูกเขยจตายมะหวดไซร้ ทั้งจันทน์แดงกับแท่นปลวก
ต้มด้วยนํ้าปูนใสกิน แผ้วมลทินฝี เจ็ดพวก แก้ฝีรวงผึ้งปลวก ทุกพันธุ์พวกหายหนักหนา
ภาคหนึ่งคุณวิถาน ฝี ห้าประการในอุรา เปลือกสันพร้านางแอหา ยาเข้าเย็นรากกลํ่าเครื อ
ตานดําสิ่ งละตําลึง ต้มกินจึงอย่ากลัวเบื่อ ดับพิษฝี ดีเหลือ ได้เคยเชื่อหายหนักหนา
หนึ่งรากถัว่ พูน้ นั เปลือกสันพร้านางแอป่ า รากคันซงพุงดอนา รากถัว่ แระต้มกินหาย
ภาคหนึ่งคุณวิเศษ แก้ฝีเจ็ดพวกพันธุ์ร้าย บระเพ็ดสี่ บาทหมาย ใบเลี่ยนลายหนักสองบาท
ขิงสดห้าตําลึง ต้มกินจึงตัดรากขาด ฝี พิษฝี เจ็ดชาติ ย่อมหายขาดอย่ากังขา
ภาคหนึ่งวิเศษแปลก จะให้แตกหรื อเกลื่อนนา กําลังแห่งคุณยา ตามตําราบุราณไว้
รากคัดเค้าโคกกระสุ น ฝักราชพฤกษ์วลั ย์เปรี ยงไซร้ ต้มกินแตกบรรลัย เกลื่อนสู ญไปไม่ต้ งั เลย
หนึ่งผักแพวแดงนั้น รากนมสวรรค์นะท่านเอ๋ ย เชือกเขาหนังตามเคย รากชบา เปลือกมะต้อง
หนึ่งโสดฝี ในอก จิตร์ วิตกให้สงสัย จะเท็จจริ งไม่ไว้ใจ พึงชัณสู ตรด้วยยานี้
รากมะตูมรากมะยม ยาดําต้มกินลองฝี ไม่ลงฝี ไม่มี ตํารานี้ขนั หนักหนา
สิ้ นเรื่ องราวฝี อก แล้วยอยกฝี ครรภา ตํานานบุราณมา ไว้หยูกยาเป็ นมากมาย
ให้แพทย์พิเคราะห์เถิด อาการเกิดฝี ท้งั หลาย หัวควํ่าแลหัวหงาย เหตุท้ งั นี้หากมีมา
ให้พิเคราะห์ดูมูตร คูธจําพิรุธโทษอุจาร์ ลงเลือดตกมูกมา แลเป็ นนิจติดหลายครั้ง
เห็นหายมาหลายหน โทษพิกลจึงก่อตั้ง เจ็บปวดในครรภัง ในอุรังตามที่เป็ น
ฉะนี้แน่แท้ฝีเกิด เพราะกําเนิ ดโทษทําเข็ญ ถ้าหาไม่ก็ไม่เป็ น ฝี เบื้องในดังกล่าวมา
๗๙

แพทย์จะใคร่ รู้ พึงลองดูดว้ ยหยูกยา ฝี หรื อลมกังขา จึงเก็บยารองเข้าดู


เอาซึ่ งหน่อไม้นะ พริ กกระเทียมปูนขาวฟู บดพอกที่เจ็บรู ้ ถ้าเป็ นลมจมอ่อนหาย
เป็ นฝี ไม่อยากจม ท่านนิคมลองฝี ร้าย ตําราเคยทําหลาย ตามธิ บายบุราณมา
หนึ่งโสดผิสงสัย ฝี หรื อใช่ไฉนนา ให้ลองด้วยคุณยา ตามตําราบุราณให้
จงเอาขมิ้นอ้อยนะ ใบมะงัว่ มะนาวใส่ ทั้งครอบแต่ลว้ นใบ เท่ากันใส่ บดแหลกดี
นํ้ามะนาวกับนํ้าเหล้า เคล้ายาบดตามวิธี ให้เศกด้วยมนต์น้ ี โอมอะมะริ นชีวนั ติเยสวาหะ
แล้วพอกที่เจ็บพลัน เมื่อพอกนั้นเอานํ้าชะ ล้างแล้วเอาผ้าปะ เช็ดที่เจ็บให้สะอาดดี
เอานํ้านาฬิเก เทล้างเหล้าเช็ดอีกที แห้งเสร็ จพอกยาดี ผ้าพันมีผกู ไว้พลัน
ประมาณนานสักยามหนึ่ง จึงแก้ออกดมกลิ่นนั้น กลิ่นร้อนลมสําคัญ ดังข้าวบูดว่าริ ดสี ดวง
ป้างเต่านั้นก็วา่ เหม็นคาวนาฝี แท้ท่วง วิธีคมั ภีร์หลวง ลองดมกลิ่นสิ้ นสงสัย
ภาคเหนึ่งเป็ นยาเช็ด ฝี ท้ งั เจ็บเกิดเบื้องใน เมื่อแรกอ่อน ๆ ใน ทําเช็ดไปด้วยคุณยา
ใบพลับพลึงขาว ตัดท่อนยาวคืบหนึ่งมา เจ็ดท่อนตามตํารา ใส่ ไว้เป็ นขวัญข้าวเรา
เส้นวักครู ธิบาย ธู ปเทียนถวายก้มเกษเกล้า บาทหนึ่งใส่ ขวัญข้าว แล้วรากเอาเชิงกรานไฟ
ไว้ที่ปลายเท้า ผูเ้ จ็บเล่าแล้วลนไฟ พลับพลึงเศกเช็ดไป เคาะไปในเชิงกราน
ให้เศกไสยเวท ตามนิเทศครู สั่งสอน พรหมลิขิตประสิ ทธิ์ พร โอมนะโมอินโทวาหะ
มนต์น้ ีเศกพลับพลึง จึงเช็ดเคาะที่ไฟนะ ท่อนละสามมนต์อย่าละ ติดทิวปิ ระสิ ทธิ์ สูญ
โสดผิเป็ นผี เกิดขึ้นที่สาํ คัญพูน ตกใจตายว้าวุน่ จะก้นรุ นคัดจากที่
เม็ดลําโพงกํา มือหนึ่งตําให้บอบดี ห่อผ้าตั้งพานมี กับขวัญข้าวคํานับถวาย
นํ้ามันงาจอกหนึ่ง จึงเส้นวักครู ธิบาย เผาจอบให้ร้อนราย ห่อยาหมายชุบนํ้ามัน
นาบที่จอบร้อน ย้อนมาเช็ดที่เจ็บพลัน เช็ดไปที่ไหนนัน่ พ้นสําคัญกันขอบไว้
เมื่อจะเช็ดให้เศกมนต์ สามเจ็ดหนเป่ าส่ งไป บาทหนึ่งขวัญข้าวไซร้ มนต์น้ ีให้เศกยานะ (โอมจิงตํารา จิงตํารา
ๆ สวาหะ)
ตําหรับนี้ประสิ ทธิ ทุกพันธุ์พิษฝี ไม่ละ ผูแ้ พทย์เบื้องหน้าปะ ทําเถิดคะประสิ ทธิ์ หาย
หนึ่งโสดอีกตําหรับ ควรคํานับดีมากมาย สรรพยาชาติดุร้าย ลูกกระเบาลูกละหุ่ง
เมล็ดผักกาดตําห่ อผ้า นํ้ามันงาถ้วนหนึ่งปรุ ง เทกระเบื้องเล่ห์หนึ่งหุ ง ต้มไฟร้อนจุ่มยาเช็ด
เป่ ามนต์เศกดังก่อน ฝี ร้ายร้อนสู ญสําเร็ จ ตําหรับนี้ ดีวเิ ศษ เช็ดสู ญฤทธิ์ ประสิ ทธิ หาย
หนึ่งโสดเป็ นยาต้ม คุณอุดมคู่เช็ดหมาย เช็ดฝี เคลื่อนที่ตาย สําคัญหายด้วยคุณยา
เถาสะบ้าอันข้ามทาง พึงเสาะสางเร่ งหามา เชื อกเขายอดแดงป่ า สองสิ่ งยาใส่ หม้อต้ม
ให้พลีเมื่อจะกินริ น จบเศียรกินหายมีถม ยาเช็ดกับยาต้ม ย่อมคู่กนั ดีหนักหนา
ภาคหนึ่งพอกวิเศษ ฝี ท้งั เจ็ดในครรภา เกลือนหายด้วยคุณยา ตามตําราฉะนี้มี
เอาผักบุง้ กระเทียมขิง พริ กไทยยิง่ หอมร้อนดี สิ่ งละบาทบดพอกฝี เกลื่อนหายดีคุณหนักหนา
ภาคหนึ่งฝี หวั ควํ่า ให้พอกตําตามตํารา ใบผักขวงทุงเทงข่า ใบยอป่ าอีกขมิ้นอ้อย
๘๐

แล้วใส่ ครกกระเบือบด พอกฝี หดแห้งถดถอย กินยาประจุพลอย ให้ลา้ งพิษประสิ ทธิ์ หาย


ภาคหนึ่งเอาว่ าน( หว้าน )นํ้า พริ กขิงซํ้าให้ร้อนราย ประคําไก่เอาใบหมาย บดเหล้าลายพอกสามวัน
ครั้นแล้วกินยารุ ประจุถ่ายโรคในนั้น เคลื่อนคลายหายแม่นมัน่ คุณยานั้นประสิ ทธิ์ หาย
ภาคหนึ่งก็พอกเกลื่อน ยิง่ กว่าเพื่อนได้แก้หลาย พอกฝี ท้งั ปวงคลาย ลมกระจายเส้นอ่อนดี
ตําหรับท่านให้เอา ใบกุ่มเราทั้งสองศรี ใบผักเสี้ ยนไทยมี ใบคนทีสอ ประคําไก่
ใบหนาดเจ็ดสิ่ งจํา สิ่ งละกําก็ทาํ ได้ การะบูนทั้งหิ งคุใ์ ส่ ลูกผักกาดสิ่ งละบาด
บดแล้วเคล้านํ้าส้ม สายชูดมที่เปรี ยวปราด พอกเกลื่อนเลื่อนหายขาด ลมวินาศเอ็นอ่อนหาย
ภาคหนึ่งตรี กะฏุกนะ สิ่ งละสองสลึงดังภิราย ใบว่านนํ้าสิ บสลึงหมาย หัวแห้วหมูหนักห้าบาท
บดเคล้าเหล่านํ้าส้ม พอกฝี จมสู ญหายขาด เมื่อจะพอกจะทาพาด นํ้ามันงาเศกทาก่อน
เอายาทาพอกซํ้า ประจําเศกห้าอักษร (นโมพุทธายะ) ทําวงเข้าไปก่อน ถอนเด็ดยอดด้วยกัปปิ
(กับปิ ยังกะโรมิ)
จึงพินธุ ประทับสู ญ (อิมงั พินธุ กปั ปั งกะโรมิ) ทาพอกพูนเร็ วทันที สามวันหายพิษฝี แม้นหนอแตกเร็ วนัก
บททําแท่งใช้ก็ได้ เห็นคุณไวเร็ วประจักษ์ แก้หายมามากนัก เกลื่อนชักฝี ดีนกั หนา
ภาคหนึ่งเป็ นยาต้ม เคยขืนข่มฝี ครรภา กินหายหลายคนมา ถึงสรรพยาก็เก็บคล่อง
หญ้าพันงูแดงขาว ขอบชะนางสาวเอาทั้งสอง ขมิ้นอ้อยหญ้าไซกอง สิ่ งละกําต้มสุ รา
นับนพนอบครู เงินบาทดูผกู หม้อยา แม้นดองดีหนักหนา หมากพลูหาพลีรากไม้
กระสังซํ้าใส่ ดว้ ย ช่วยฤทธิ์ ยาดองเหล้าไว้ สามวันริ นกินไว แก้ไว้ได้มากนักหนา
ภาคหนึ่งก็ยาดอง คุณไวว่องมะหิ มา แก้ฝีในครรภา ฝี ท้งั ปวงร่ วงบัดใจ
ให้เอาซึ่งแก่นสน แก่นสะเดาประดู่ใส่ ฝางดุน้ ล้วนแก่นใน เอื้องเพ็ดม้าหวายตะมอย
รากครามระงับพิษหา รากมะกาเก็บอย่าน้อย ปู่ เจ้าคอยท่าพลอย สมุงกุยไคร้หางนาค
นี้เอาเท่ากัน ชาครัน ๆ ลําบากถาก ดินประสิ วเกลืออย่ามาก สิ่ งละสองสลึงจึงให้ดอง
เหล้าเข้มพอท่วมยา ฝังข้าวนาตามทํานอง ถ้วนสามวันกินลอง ฝี ในท้องประสิ ทธิ์ หาย
ภาคหนึ่งต้มกินดี แก้โทษฝี ในท้องหมาย รากส้มป่ อยช้าแป้ นราย เปลือกสําโรงเชื อกเขาหนัง
ยาเข้าเย็นรากคนทีสอ ปรุ งใส่ หม้อต้มโดยหวัง สามเอาหนึ่ งกินฟัง ไม่เรื้ อรังต้มกินหาย เอาเขาควายเผือกชัง่
หนักหกบาดดังภิปราย รกมะขามบาทหนึ่งหมาย ใบมะนาวร้อยแปดต้ม
เถิดสิ้ นโทษฝี ยานี้ดีหายมีถม อย่าแครงจิตร์ คิดปรารมภ์ ต้มกินหายมานักหนา
หนึ่งเล่าขมิ้นอ้อยหยิบ สามสิ บสามชิ้นเร่ งหา หัวหอมจุกหนึ่งมา ใบมะกาก็กาํ มือ
ข่าสิ บหากชิ้น ให้ตม้ กินเคยนับถือ ฝี ในท้องหายฮือ บรรลัยยับระงับสู ญ
มิฟังฝี หัวควํ่าที่โทษมากมูล จะกลับหัวให้หงายพูน เอกเบื้องนอกนั้นง่ายดาย
เอาใบมะนาวเรา ร้อยแปดเอาบดโดยหมาย นํ้ามันงาเคล้ากระสาย ประสมกวนแล้วจึงเศก
อาคมพุทธจักร์ สักกัสสะ วชิราวุธธัง เวสสุ วรณณัสสะ คธาวุธงั อาฬะวะกัสสะ ทุสสาวุธงั ทุสาธัง
พุชตั สะ นยนาวุธงั อย่าน้อยนักร้อยแปดเอก พอกกลับหงายละลายเล็ก ด้วยคุณเศกเคยทําหาย
๘๑

ฝี มกั มีมาก จําจะจากจบธิ บาย ด้วยเรื่ องยังมากหลาย จะภิปรายโลหิ ตตัง ฯฯ


๏โลหิ ตธาตุอาโป เป็ นอิศโรในกายัง บทบาฬิพระวิภงั ค์ โลหิ ตงั สองประการ
บดเหลวแลเลือดข้น มีท่วมตนทั้งจักรวาล บัญญัติตามตํานาน ชื่อสังสาระณะโลหิต
อีกนาคําพระ สันนิ จิตโลหิ ตพิษ สังสาระณะเที่ยวสถิตย์ ทัว่ ทั้งกายเป็ นเลือดเหลว
ดังนํ้าฝาง อันจาง ๆ ไหลรวดเร็ ว ตามกระแสเลือดไหลเปลว ดําเนิ นเร็ วทั้งอินทรี ย ์
ไว้แต่ผมขน กับฟันเล็บเลือดไม่มี นอกนั้นเป็ นวิถี ไหลซึ มซาบทัว(ทัว่ )ทั้งหาย
มาดังสายชบ อันดุดน้ ใต้หาดทราย ขุดไหนก็พบสาย ชะโลซึ มบ่เว้นว่าง
ภายในอาคม์ เมื่อต้องบาดทัว่ สาระพางค์ กระแสเลือดไหลทาง ตามมากน้อยบ่วา่ งเว้น
จิตตะโลหิต ข้นกว่าผิดดังฝางเสน พื้นท้องเป็ นเรื อนเร้น ท่วมทรวงอกเต็มเครื่ องใน
ตัวปอดหทัยม้าม มีตามเพศโลหิ ตไคล เต็มตามเครื่ องในไหล ยังหทัยให้ชุ่มชื่น
แม้นงวดมิเต็มพร่ อง อารมณ์หมองให้โหดหื น ระสํ่าระสายไม่คลายคืน มักร้อนรนสกลหมาง
แสบอกแลแสบใจ เป็ นข้างในโทษต่าง ๆ สันนิ จิตนิ ราศร้าง ไม่ปกติเต็มธรรมดา
สันนิจิตเป็ นฉะนั้น ตามบาลีท่านกล่าวมา โรคนิทานตามตํารา โลหิ ตตาเมื่อวิกล
ธาตุน้ าํ ชํารุ ดร้าว แตกสามหาวก่อเหตุผล ให้เกิดโทษอลวน ผลเอนกในตํารา
บังเกิดกระวายวน ให้ร้อนรนทั้งกายา ทั้งผิวพักตร์ จกั ขุนา ให้แกงกํ่าดังโลหิ ต
ให้ปากแห้งฟันแห้ง ให้ร้อนแรงกอบด้วยพิษ จะนัง่ นอนบ่สนิท มักทุรนทุรายกาย
หนึ่งเศียรก็เร้ารุ ม ให้ตอดขบบ่มิสบาย เมื่อยขบทุกข้อหมาย เล่ห์ทาํ ลายหลุดจากกัน
เขาโฬนํ้าลายเหนียว อาหารเคี้ยวเกลือกกลืนขยัน ขะย่อนปะทะอุระตัน หนึ่งอีกนั้นมักนอนเพ้อ
เสี ยสติเตือนพิโรธ ให้ฉุนโกรธอารมณ์เผลอ สติเคลิ้มให้ไหลเล่อ บางทีเพ้อขัดหนักเบา
ปั สสาวะสี ดาํ แดง สี เหลืองแจ้งต่าง ๆ เล่า ให้ชกั ตีนมือเข้า ให้กุมกําทําโทษจับ
บางทีเป็ นเม็ดวง ไข้ประดงเข้าทุ่มทับ บ้างกลายเป็ นไข้กลับ จับไข้เหนื อพิษต่าง ๆ
ผุดแผ่นปรากฏแจ้ง ปานดําแดงเพศหลายอย่าง หมู่แพทย์สมมุติอา้ ง ว่ารากสาดสายฟ้าฟาด
เข้าไหม้นอ้ ยแสงอุทยั ประกายไฟจอมปราสาท หงษ์ระทศประกายดาษ ทั้งขมิ้นเพลิงขม่อมเพลิง
กระโดงทั้งสี่ กระดานหิน สังวาลย์พระอินทร์ พิษถะเกิง อีงุม้ แหงนชักกระเจิง โทษไข้พิษเพศต่าง ๆ คัมภีร์
ตักกะศิลา ท่านพรรณาไว้ถว้ นอย่าง สันนิบาตโลหิ ตหมาง เป็ นต่าง ๆ ได้ทุกสิ่ ง
บางโทษเพื่อระดู ท่านพรรณาไว้ถว้ นอย่าง สันนิบาตโลหิ ตหมาง เป็ นต่าง ๆ ได้ทุกสิ่ ง
บางโทษเพื่อระดู อันชุ่มชูแก่หมู่หญิง ตามนิสสัยสตรี จริ ง เลือดประวิงโทษนา ๆ
คัมภีร์พรหมประโรหิ ต ท่านพินิจไว้ตาํ รา ระดูมีเพศห้า เป็ นธรรมดาหญิงทั้งหลาย
อันในโรคนิทาน ท่านกล่าวการณ์เลือดกระจาย ธาตุน้ าํ วิการฉลาย จึงธิ บายบอกตํารา
แม้นเสี ยถึงสามสี่ ห้าหกมีเห็นเหลือยา เหลือแพทย์ผูร้ ักษา เป็ นโรคตายเร่ งกลัว
ถ้าแม้นแต่สองสาม พอได้ความแก้ยงั ชัว่ เป็ นแพทย์บาํ หยัดตัว หมัน่ ระหวังอย่าบุกบัน่ เบื้องนี้สาํ แดงแจก
ธาตุน้ าํ แตกเป็ นสําคัญ โลหิ ตพิกลนั้น จงหํ่าหันซึ่ งบอระเพ็ด
๘๒

ข่าตาแดงลูกผักกาด ลูกกระดอมชาติขมเข็ด มะแว้งต้นทั้งไพลเผ็ด อีกสนเทศหัวกระชาย


จันทน์สองจันทนา เปื อกมูกหลวงดังภิปราย ขัดมอญแห้งหมูหมาย สะค้านสายรากช้าพลู
จุกกะโรหิ นีกรุ ง เขมามุ่งให้แท้ดู รากตองแตกแฝกหอมชู ทั้งกฤษณากะลําภัก
อีกชะลูดอบเชยหนอ ลูกสมอทั้งสามศักดิ์ ดอกพิกุลบุนนาคหนัก ทั้งสารภีดอกบัวหลวง
ยานี้เท่า ๆ กัน พึงต้มพลันตามกระทรวง แม้นทุเลาจะให้ร่วง ตวงดีเกลือแทรกซํ้าเข้า
เพียรกินเป็ นนิจสิ น แผ้วมลทินโลหิ ตเบา ตามฤดูคิมหันต์เอา ตําหรับนี้ จงเร่ งทํา
ปะโตลาธิ คุณนาม เฉพาะความโทษธาตุน้ าํ หมู่แพทย์พึงเพียรจํา ตําหรับนี้ ดีหนักหนา
ภาคหนึ่งในวะสันต์ ฤดูฝนนั้นจําแปรยา ด้วยโทษโลหิ ตสา วิการาในยามฝน
ให้เอาโกฏทั้งเจ็ด โกฏสอเทศ โกฏเชียงชน โกฏสอจีนจําระคน พุงปลาสนโกฏกระดูก
โกฏหัวบัว โกฏจุฬา ยากที่หาให้แก้ถูก เอาหญ้าตีนนก ลูกมะตูมอ่อนทั้งดีปลีดอก
เทียนทั้งห้าลูกจันทน์ ดอกจันทน์อนั กระวายบอก ใบกระวานไม่ซ้ าํ ชอก กับกานพลูแลลูกเอ็น
รากตองแตกแฝกหอมกระดอม บอระเพ็ดพร้อมอย่าได้เว้น รากคนทาหญ้านางเย็น ท้าวยายม่อม พุมเรี ยงป่ า
รากระย่อมรากมะเดื่อ พิศนาดเหนื อให้เร่ งหา รากนมราชสี ห์นา ตรี ผลาลูกมะขามป้ อม ประคําดีควายลูกพิลงั
ผักชีชงั่ ทั้งลาล้อม พระยามือเหล็กหญ้ากล่อนพร้อม ทั้งโคกกระสุ นแก่นกฤษณา
กระลําภักกรักขีสน ชะลูดปนลูกโหระพา อบเชยเทศขี้เหล็กห้า เทพธาโรสมุลแว้ง
จุกกะโรหิ นีแลคําต้น ขอบดอกปนให้กลิ่นแรง เจ็ตตะมูลอย่าให้แคลง สิ่ งสองส่ วนจึงควรทํา แล้วจึงเอาดอก
ชะลูด ดอกมะกรู ดมะนาวซํ้า ดอกคัดเค้าดอกมะกลํ่า ซํ้าดอกมะลิท้ งั ซ้อนลา
ดอกพิกุลบุนนาคดี ดอกสารภีแล้วจําปา อีกดอกสุ วรรณทลิกา กระดังงาดอกคําไทย
ดอกลําเจียกพุทธชาด ยีส่ ุ่ นสวาดดอกกล้วยไม้ หญ้างวงช้างเก็บดอกใส่ สําเหร่ ไวมะหาหงษ์
ทุมมะราชาราชพฤกษ์ กรรณิ กาตรึ กเก็บประจง หางนกยุงละหุ่งคง ล้วนแต่ดอกบ่เอาอื่น
บัวหลวงแลบัวขาว บัวขมสาวบัวเผือ่ นพื้น สัตบุษย์บงกชดื่น ดอกลินจงจงกลนี
ดอกสัตบันทั้งสันตวา ตับเต่านาผักตบสี ล้วนแต่ดอกดูดี สิ้ นทั้งนี้สิ่งละส่ วน
ตากตํากระทําผง ใส่ ขวดคงอุดประดวน เมื่อจะบดจึงประมวล ปรุ งชะมดพิมเสนซํ้า
ดีงูเหลือมดีงูเห่า ดีจรเข้เอาดีเหี้ ยขํา ดีหมูป่าตะพาบนํ้า ซํ้าวัวเถื่อนดีควายเผือก
นํ้าดอกไม้กระสายบด ปรากฏโรคมิได้เลือก ถึงจะตายได้กระเดือก หายกลิ้งเกลือกสุ ขสําราญ
กําลังประทังทุกข์ ชื่นเชยสุ ขเกษมสานต์ แก้โรคเก้าสิ บหกประการ แพทย์บุราณท่านทํามา
แม้นมิฟังโอสถนี้ แท้ชีวดี บั สังขาร์ ย้ายกระสายตามโรคา ชื่อมาลาเรณู วรรณ์
ควรค่าคําแสนดุล โดยมีคุณสิ้ นรําพัน ยาทิพย์เทพรังสรรค์ สื บสิ้ นโรคสู ญกัลปา ฯฯ
๘๓

ว่ าด้ วยอาการโรคทีเ่ กิดขึน้ เพราะธาตุพกิ ารและยาแก้


มนุษย์ที่เกิดเป็ นรู ปกายขึ้นมาได้น้ นั ต้องประกอบด้วยธาตุท้ งั ๔ คือ ปถวีธาตุ (ธาตุดิน) มี ๒๐
ประการ อาโปธาตุ (ธาตุน้ าํ ) มี ๑๒ ประการ วาโยธาตุ (ธาตุลม) มี ๖ ประการ เตโชธาตุ (ธาตุไฟ) มี ๔
ประการ ธาตุเหล่านี้ถา้ เป็ นปกติอยูร่ ่ างกายก็เป็ นสุ ข ถ้าธาตุเหล่านี้พิการไปแต่อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ยอ่ มทําให้
ร่ างกายทรุ ดโทรมหรื อป่ วยไข้ข้ ึนได้ แพทย์ผรู ้ ู ้ท้ งั หลายจึงได้วางตําหรับยาไว้สาํ หรับแก้ ดังจะกล่าวต่อไปนี้
สิ ทธิ การิ ยะ ถ้าจะใคร่ รู้วา่ ธาตุผใู ้ ดหย่อนหรื อพิการไปประการใด ท่านให้เอาเลข วัน เดือน ปี ที่ผูน้ ้ นั
เกิดบวกเข้ากับเลขจํานวนอายุของผูน้ ้ นั แล้วเอาเลข ๙ คือทวารทั้ง ๙ บวก เอาเลข ๓ คือฤดูท้งั ๓ คูณ คูณได้
เท่าใด ให้เอาเลขนั้นตั้งไว้เป็ น ๔ ฐาน ฐานที่ ๑ เอาธาตุดิน ๒๐ บวก ฐานที่ ๒ เอาธาตุน้ าํ ๑๒ บวก ฐานที่ ๓
เอาธาตุลม ๖ บวก ฐานที่ ๔ เอาธาตุเตโช (ไฟ) ๔ บวก บวกแล้วได้เท่าไรตั้งไว้เป็ นฐาน ๆ เอา ๔ หารทุกฐาน
ได้ลพั ธ์ผลเท่าใดก็จะทราบได้วา่ ธาตุอนั ใดขาดไปเท่าใด ดังจะทําตัวอย่างให้ทราบต่อไปนี้
คนเกิดวันอังคาร เดือนยี่ ปี ชวด อายุได้ ๔๔ ปี วันอังคาร เลข ๓ เดือนยีเ่ ลข ๒ ปี ชวดเลข ๑ เอาเลข
เหล่านี้บวกเข้าด้วยกันดังนี้ ๓ + ๒ + ๑ = ๖ + ๔๔ = ๕๐ + ๙ = ๕๙ แล้วเอาฤดู ๓ คูณ แล้วตั้งเป็ น ๔ ฐาน เอา
๔ หารทุกฐาน
อังคาร ๓ ฐานที่ ๑ ๑๗๗+ ฐานที่ ๒ ๑๗๗+
เดือนยี่ ๒+ ๒๐ ๑๒
ปี ชวด ๑ ๔ ÷๑๙๗ ธาตุดินขาด ๔÷๑๘๙ ธาตุดินขาด ๗
= ๖+ ๓ ๔๗ ๑๔
อายุ ๔๔ ๔๙ ๑๔
๕๐+ ฐานที่ ๔ ๑๗๗+
ทวารทั้งเก้า ๙ ฐานที่ ๓ ๑๗๗+ ๔
= ๕๙× ๖ ๔ ÷ ๑๘๓ ธาตุลมขาด
ฤดู ๓ ๔ ÷๑๘๓ ธาตุลมขาด ๑ ๔๕ ๑๔
๑๗๗ ๔๕ ๓๔

เมื่อตรวจดูธาตุตามตัวอย่างข้างบนนี้ ก็ทราบว่าธาตุบกพร่ องยังไม่ถึงขาด ถ้าผูน้ ้ นั ป่ วยไข้ลงก็ยงั


พอจะรักษาให้หายเป็ นปกติได้ เมื่อทราบว่าธาตุบกพร่ องดังนี้ ท่านให้ประกอบยารับประทานตามลักษณะ
ของธาตุที่บกพร่ องนั้น ธาตุท้ งั ๔ นั้นแพทย์ผูร้ ู ้ได้เพิ่มอากาศธาตุข้ ึนอีก ๑ จึงเป็ น ๕ เรี ยกว่าธาตุเบ็ญจกูลเป็ น
ตําราสื บมา มีตวั ยาประกอบคือ ผลดีปลี เถาสะค้าน รากช้าพลู รากเจ็ตมูลเพลิง .รวมเป็ น ๕ สิ่ ง จําแนก
สรรพคุณประกอบกับธาตุดงั นี้ คือ ดีปลีประกอบกับธาตุปถวี (ธาตุดิน) ….. สะค้านประกอบกับธาตุวาโย
(ธาตุลม) รากช้าพลู ประกอบกับธาตุอาโป (ธาตุน้ าํ ) รากเจ็ตมูลเพลิงประกอบธาตุเตโช (ธาตุไฟ) ขิง
ประกอบอากาศธาตุ การประกอบยาหนุนาตุที่ขาดนั้น ให้วเิ คราะห์ดูเศษธาตุที่ขาดว่าสิ่ งใดขาดไปเท่าใด ให้
๘๔

เติมเท่าที่ขาดนั้น ธาตุปถวี ธาตุอาโป ธาตุวาโย ธาตุเตโช ให้ถือเป็ นกําหนดธาตุละ ๔ (๔ บาท) เช่น ธาตุตาม
ตัวอย่างนี้ ธาตุปถวีขาด ๓ ให้เอาดีปลี ๑ บาท ธาตุอาโปขาด ๓ ให้เอาเถาสะค้าน ๓ บาท ธาตุวาโยขาด ๑ ให้
เอารากช้าพลู ๑ บาท ธาตุเตโชขาด ๓ ให้เอารากเจ็ตมูลเพลิง ๓ บาท รวมธาตุที่ขาด ๑๐ ให้เอาขิงหนัก ๑๐
บาท และให้เอาผลมะตูมอ่อน พริ กไทย เกษตรบัวหลวง ดอกมะลิ ดอกสารภี สิ่ งละ ๑ บาท เพิม่ เข้าด้วยก็จะ
ช่วยให้สรรพคุณยาดีข้ ึน ยานี้ให้ตม้ เอานํ้ารับประทานวันละ ๒ ครั้ง เช้าเย็นก่อนอาหาร หรื อจะใช้ยานี้ คือ
ดีปลี รากช้าพลู ผักแพวแดง เถาสะค้าน ขิงแห้ง เมล็ดผักชีลอ้ ม ว่านนํ้า หัวแห้วหมู พิลงั กาษา ผิวมะกรู ด
แก่นขี้เหล็ก เอาสิ่ งละ ๑ บาทเท่ากัน เอาพริ กไทยล่อนเท่ายาทั้งหลาย ต้มเอานํ้ากินครั้งละประมาณ ๑ ถ้วยชา
วันละ ๒ เวลาเช้าเย็นก่อนอาหารก็ได้ ยาเหล่านี้เป็ นยาเจริ ญธาตุนกั แล
เกศาพิการ ทําให้คนั หัวและเป็ นขี้รังแค และมีอาการเจ็บหนังศีรษะ ผมร่ วง ขนพิการ ทําให้เจ็บทัว่
สารพางค์กาย ทําให้ขนลุกขนพอง เล็บพิการ เล็บเขียวดําเป็ นเลือด เจ็บเสี ยวปลายมือปลายเท้า พิการ ทําให้
ฟันผุฟันคลอน มีอาการเจ็บปวด บางทีเป็ นรํามะนาด บางทีโลหิตออกตามไรฟัน หนังพิการ ทําให้หนังเปื่ อย
พัง ร้อนผิวหนัง บางทีเป็ นผื่นขึ้นดังผด มีอาการแสบร้อน มังสังพิการ ทําให้มีอาการสะดุง้ หลับไม่เป็ นปกติ
ฟกบวมตามร่ างกาย บางทีผุดเป็ นเม็ดเขียว แดง ดํา ไปทัว่ ตัว เป็ นลมพิษสมมุติวา่ เป็ นประดงและเหื อดหัด
เอ็นกําเริ บ ทําให้มีอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว ปวดศีรษะ เรี ยกว่าอํามะพฤกษ์กาํ เริ บอัฐิมิญชัง เยือ่ ในสมอง
พิการ มีอาการปวดศีรษะเป็ นกําลัง ม้ามพิการ มักเป็ นม้ามย้อย หัวใจพิการ ทําให้คลัง่ เพ้อและทําให้หิวโหย
หาแรงมิได้ มีอาการทุรนทุราย ตับพิการ มักเป็ นตับโตตับซุ ด เป็ นฝี ในตับ พังผืดพิการ มักทําให้อาเจียนและ
จุกเสี ยด มีอาการสวิงสวาย มักปวดท้องจุกแดก ปอดพิการ มีอาการเจ็บที่ปอด กระทําให้กระหายนํ้า ไส้พิการ
มักปวดท้องพะอืดพะอม บางทีเป็ นท้องมาน บางทีทาํ ให้ลงท้องตกมูกเลือด อาหารใหม่กาํ เริ บ มักทําให้ลง
ท้อง อาเจียนเป็ นป่ วง อาหารเก่ากําเริ บ ทําให้กินอาหารไม้รู้รส
ยาแก้ปถวีธาตุ ๒๐ ประการ ชื่อตรี วาสัง เอากระเทียม ใบสะเดา ใบคนทีสอ เปลือกต้นตีนเป็ ด ลูก
สมอทั้ง ๓ แก่นจันทน์ท้ งั ๒ ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู ตรี กะฏุก เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน เอาเปลือก
กันเกรา ๒ ส่ วน เปลือกสมุลแว้ง ๓ ส่ วน บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งกิน แก้ปถวีธาตุ ๒๐ ประการ
ยาแก้พงั ผืดพิการ เอาหัวแห้วหมู รากแฝกหอม เปราะหอม ใบสะเดา หญ้าตีนนก การะบูน กานพลู
ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ โกฏสอ โกฏเขมา แก่นจันทน์ท้งั ๒ รากกรุ งเขมา เมล็ดผักชี ดีงูเหลือม เนระภูษี ดอก
ผักปอด เอาสิ่ งละเท่ากัน บดปั้ นแท่งละลายนํ้าดอกไม้แทรกพิมเสนกิน
ยาแก้หวั ใจแลตับปอดพิการ เอาชะมด พิมเสน รากกรุ งเขมา ลูกเอ็น ฤาษีประสมแล้ว เปลือกตีนเป็ ด
ใบสะเดา ใบเสนียด หญ้าตีนนก ลูกสมอทั้ง ๓ ลูกมะขามป้ อม อบเชย รําพัน โกฏสอ ใบกระวาน ดอก
บุนนาค ดอกผักปอด เกษรบัวทั้ง ๕ ดอกคําไทย เอาสิ่ งละเสมอภาค บดปั้ นแท่งละลายนํ้าแก่นจันทน์ฝนกิน
ยาแก้ธาตุปถวี ๘ ประการ ตั้งแต่เกศาจนถึงอัฐิพิการ เอาใบรักขาว บอระเพ็ด หัวแห้วหมู ชีรากากี
ลูกมะตูมอ่อน เกลือสิ นเธาว์ กกลังกา ชะเอมเทศ เทียนดํา ตรี กะฏุก เปลือกตีนเป็ ด ลูกสมอไทย ใบสะเดา
โกฐ(โกฏ)ก้านพร้าว เอาสิ่ งละเท่ากัน บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าผึ้งเม็ดเท่าเมล็ดพุทธรักษาหรื อเท่าลูกพุดซา กินเช้า
เย็น
๘๕

ยาแก้ไส้ใหญ่ไส้นอ้ ยพิการ เอาใบสะเดา ใบเสนียด รากเจ็ตมูลเพลิง เปลือกมูกมัน โกฏก้านพร้าว หัว


แห้วหมู เมล็ดผักชี ลูกสมอไทย ลูกสมอเทศ ลูกมะขามป้ อม รากตองแตก รากแฝกหอม ผลกระดอม
บอระเพ็ด แก่นกระถินแดง ขิงแห้ง ไคร้เครื อ หญ้าตีนนก เอาสิ่ งละเท่ากัน ต้มแทรกขันทศกรกิน แก้ไข้ตรี
โทษด้วย
ยาแก้อาหารใหม่อาหารเก่าพิการ เอากาบหอยแคลง เปลือกหอยขม ผักแพวแดง ลูกจันทน์
ดอกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู การบูน เอาสิ่ งละเท่ากัน เอาพริ กไทยเท่ายาทั้งหลาย บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้ง
กิน
ยาแก้สมองศีรษะพิการในฤดูเหมันต์ เอาลูกมะตูมอ่อน ลูกสมอเทศ ลูกสมอไทย เมล็ดผักชี กฤษณา
แก่นจันทน์ท้งั ๒ ลูกมะขามป้ อม หัวแห้วหมู ลูกพิลงั กาษา รากขัดมอญ กกลังกา สะค้าน รากช้าพลู รากเจ็ต
มูลเพลิง เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน บอระเพ็ด ๒ ส่ วน ดีปลี ๔ ส่ วน ต้มกิน
เตโชธาตุอนั ชื่ อว่าปริ นามัคคีแตก มีอาการขัดอก เท้าแลมือบวม ไอเป็ นมองคร่ อ ท้องขึ้น
พะอืดพะอม ยาแก้เอาผักแพวแดง โกฏสอ โกฏเขมา ชะเอมเทศ ลูกมะขามป้ อม ไคร้ตน้ หว้านเปราะ ผัก
สวาด หญ้าลังกา เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผงละลายนํ้านมโค หรื อนํ้าร้อนกิน
เตโชธาตุอนั ชื่ อว่าปริ ทยั หัคคีแตก มีอาการมือเท้าเย็น ชีพจนเต้นขาดหลัก บางทีตวั เย็นแต่ภายใน
ร้อนต้องประพรมนํ้ามิหยุด บางทีตวั เย็นแต่มีเหงื่อออกมาก ยาแก้เอาเขากระบือเผือก นอแรด เปลือกหอยขม
กาบหอยแคลง เขี้ยวจรเข้ หวายตะคร้า ยาทั้งนี้เผาไฟให้ไหม้ ลูกจันทน์ แก่นแสมทะเล แห้วหมู รากขัดมอญ
เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน กระเทียม ๓ ส่ วน พริ กไทย ๕ ส่ วน บดละลายนํ้าร้อนแทรกพิมเสนกิน ทําให้ร้อนตลอด
ปลายเท้าปลายมือ
ยาแก้ร้อนแก้กระหายนํ้าและแก้เหงื่อตก เอาสังข์หนามเผาไฟ รากบัวหลวง รากสลอด รากต้นซง
ก้ามปูทะเลเผา ดินประสิ วขาว เอาสิ่ งละเท่ากัน บดปั้ นแท่งละลายนํ้าดอกไม้กินและชะโลม
ยาแก้ธาตุเตโชอันชื่ อว่าชี ระนัคคีแตก มีอาการหน้าผากตึง หู ตึง ตาฟาง จมูกไม้รู้กลิ่น ลิ้นไม่รู้รส กาย
ไม่รู้สาํ ผัด บางทีแปรไปแปรมาเอาเที่ยงไม่ได้ ยากแก้เอาบอระเพ็ด ผักแพวแดง ลูกพิลงั กาษา ลูกโมกมัน ใบ
ย่างซาย บดเป็ นผงละลายนํ้าเถามวก นํ้านมโคกิน
ยาแก้ธาตุเตโชอันชื่ อว่าสันตับปั คคีแตก มีอาการเย็นไปทั้งตัว และร้อนไปทุกเส้นเอ็นหมดกําลัง
อาการดังนี้ไม่มีรอดเลย

ว่ าด้ วยธาตุวาโยพิการและยาแก้
วาโยธาตุอนั ชื่อว่าอุทธังคมาวาตาแตก มีอาการดิ้นรน มือเท้าขวักไขว่ไปมา ทุรนทุราย หาว เรอ ลม
ปะทะอก ยาแก้เอาโกฏสอ โกฏเขมา ลูกราชดัด ลูกสาระพัดพิษ ลูกมะแว้งเครื อ รากจิงจ้อ ทั้ง ๒ เทียนดํา
เทียนขาว ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผงละลายนํ้านมโค หรื อนํ้ามะนาวนํ้ามะงัว่ กิน
๘๖

วาโยธาตุอนั ชื่อว่าอโทคะมาวาตาแตก มีอาการยกมือยกเท้าไม่ได้ เมื่อยขบทุกข้อทุกลํา เจ็บเป็ นกําลัง


ยาแก้เอาเปลือกโมกหลวง พริ กไทย ขิงแห้ง ใบสลอด ว่านนํ้า หัวแห้วหมู หญ้าลังกา แก่นแพวแดง ไคร้เครื อ
ลูกสมอไทย เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผงละลายนํ้ามะงัว่ นํ้าส้มส้า หรื อนํ้านมโคกิน
วาโยธาตุอ้ นั ชื่อว่ากุจฉิ สยาวาตาแตก มีอาการท้องขึ้นและลัน่ อยูใ่ นท้องจ๊อก ๆ เจ็บในอก สวิงสวาย
แดกขึ้น ยาแก้เอามหาหิ งคุ ์ รําพัน ดีปลี เมล็ดสวาด ลูกราชดัด ชะเอมเทศ โกฐสอ โกฐเขมา ย่างซาย เอาสิ่ งละ
เท่ากัน บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งกิน
วาโยธาตุอนั ชื่อว่าโกฎฐาสยาวาตาแตก มีอาการเหม็นคาวคอ อาเจียนแลจุกเสี ยดขัดอก ยาแก้เอา
เมล็ดสลอดต้มด้วยนํ้าเกลือตากให้แห้ง ชะเอมเทศ รากเจ็ตมูลเพลิง รากตองแตก รากจิงจ้อใหญ่ ขิงแห้ง
รําพัน พริ กไทยล่อน ดีปลี ใบหนาด การะบูน เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งหรื อนํ้าร้อนกิน
วาโยธาตุอนั ชื่อว่าอังคมังคานุ สาริ วาตาแตก มีอาการทําให้หูตึง เป็ นหิ งห้อยออกจากตา เมื่อยต้นขา
ทั้ง ๒ ข้าง ปวดกระดูกสันหลัง สะบัดร้อนสะบัดหนาว กินอาหารมิได้ ยาแก้ เอาผักเสี้ ยนผี ผักเป็ ด ผักคราด
หญ้าลังกา เมล็ดผักชีท้ งั ๒ เมล็ดผักกาด ดอกจงกลนี สะค้าน เมล็ดแตงโม เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผงละลาย
นํ้าผึ้ง หรื อสุ รา หรื อนํ้าร้อนกิน
อาโปธาตุอนั ชื่ อว่าปิ ตตัง (นํ้าดี) แตก มีอาการคลัง่ ไคล้ละเมอเพ้อไป นอนสะดุง้ หวาดหวัน่ บางทีลง
แดงลงเขียวออกมา ไม่มีสติ ยาแก้เอาเทียนตาตัก๊ แตน เทียนข้าวเปลือก เปลือกไข่เน่า เปลือกมะซาง เทพธาโร
เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผงละลายนํ้าดอกไม้แทรกดีจรเข้และพิมเสนกิน
อาโปธาตุอนั ชื่ อว่าเสลดแตก มีอาการให้จบั สะบัดร้อนสะบัดหนาวและจับเป็ นเวลา บางทีลงเป็ น
เสมอหะ โลหิ ตเน่าปวดมวน ยาแก้เอาเมล็ดผักชี รําพัน เปลือกโมกหลวง นํ้าเต้าขม กระดอมทั้ง ๕ แก่น
ขี้เหล็ก ต้ม ๓ เอา ๑ กินแก้จบั แล้วประกอบยาแก้เสมหะ เอาใบมะขามกํามือหนึ่ง ใบส้มป่ อย ๑ กํามือ ฝาง
ลูกสมอเท่าอายุคนไข้ เถาวัลย์เปรี ยง หอม ๖ หัว ต้ม ๓ เอา ๑ แทรกดีเกลือตามธาตุหนักเบากิน แล้วประกอบ
ยาแก้บิดกิน เอาเมล็ดมะม่วงกะล่อน ลูกเบ็ญกานี ลูกจันทน์ ครั่งดินกิน เปลือกมะขาม เปลือกแมงคุด เทียน
ดํา ลูกกระวาน กานพลู ยางตะเคียน นํ้าประสานทอง สี เสี ยดทั้ง ๒ ฝิ่ น เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผงเอาใส่ ใน
ลูกทับทิม เอาขี้ววั พอกลูกทับทิมแล้วเอาเผาไฟให้สุก แล้วบดรวมทั้งลูกทับทิมด้วยปั้ นเป็ นเม็ด ละลายนํ้า
ไพลแทรกนํ้าปูนใสกิน แก้ปวดเสมอหะโลหิตแล้วให้กินยาธาตุบรรจบต่อไป
อาโปธาตุอนั ชื่ อว่าบุพโพแตก มีอาการให้ไอ ซู บผอม กินอาหารไม่มีรส มักเป็ นฝี ภายใน ๗ ประการ
ยาแก้เอารังมดดํา ใบมะกา เทียนดํา ลูกสมอเทศ รากตองแตก เอาสิ่ งละ ๔ บาท หัวหอม ๕ บาท ขมิน้ อ้อย ๑
คืบ ต้ม ๓ เอา ๑ แทรกดีเกลือกินตามธาตุหนักเบา แล้วทํายาประจําวัน ให้กินต่อไป ถ้ามิฟังให้ทาํ ยานี้ให้กิน
ต่อไป เอาโมกหลวง ตรี กะฏุก ลูกราชดัด ขมิ้นอ้อย รากผักโขม หัวเข้าค่า หอมแดง เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ น
ผงละลายนํ้าร้อนหรื อสุ รากิน
อาโปธาตุอนั ชื่ อว่าโลหิ ตงั แตก มีอาการซึ่ งแพทย์สมมุติวา่ เป็ นไข้กาํ เดา โลหิ ตกําเริ บ ทํา…. ต่าง ๆ
ผุดขึ้นมาภายนอก แพทย์สมมุติวา่ เป็ นรากสด ปานดําปานแดง และเรี ยกว่ากาฬต่าง ๆ บางที อาเจียนและลง
เป็ นโลหิ ต บางทีโลหิ ตจับหัวใจ ทําให้คลัง่ ไคล้หลงใหล(หลงไหล) หาสติมิได้ อาการเหล่านี้เป็ นเพื่อโลหิ ต
๘๗

สมุฏฐาน ให้ใช้ยาในคัมภีร์แก้ไข้เหนือนั้นแก้ เอาบอระเพ็ด ข่าตาแดง เมล็ดผักกาด รากมะแว้ง ลูกกระดอม


ไพล กระชาย สนเทศ แก่นจันทน์ท้งั ๒ จันทนา เปลือกโมกหลวง รากขัดมอญ หัวแห้วหมู สะค้าน ราก
ช้าพลู จุกโรหิ นี กรุ งเขมา แฝกหอม ตองแตก กฤษณา กระลําภัก ขอนดอก ชะรู ด อบเชย ลูกสมอทั้ง ๓ ต้ม ๓
เอา ๑ กิน ถ้าจะให้ระบายแทรกดีเกลือตาม ธาตุหนักเบากิน ยาขนานนี้ชื่อโตลาทิคุณ แก้ในคิมหันตฤดู
ยาโปธาตุอนั ชื่ อว่าเสโทแตก มีอาการเหงื่อตกมาก ตัวเย็น ผิวตัวขาวซี ดชาไปทั้งตัว สวิงสวายอ่อน
หากําลังมิได้ ยาแก้เรารากเจ็ตมูลเพลิง โกฐสอ เมล็ดผักชี ขิงแห้ง ดีปลี ลูกมะตูมอ่อน เปลือกกุ่มนํ้า ราก
ทองหลาง รากถัว่ พู ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาชะโลมแก้เหงื่อ เอาหัวหอม แป้ งเหล้า ดินสอพอง เหมือดคน เมล็ดขนุนละมุด บดปั้ นแท่ง ละลาย
นํ้าดอกไม้ชะโลม แก้เหงื่อแลผิวหนังชาดีแล
อาโปธาตุอนั ชื่ อว่าเมโทแตก มีอาการเหมือนโลหิตเสี ยซ่านออกผิวหนังเหมือนผดเป็ นวง ๆ บางที
ตกออกเป็ นนํ้าเหลืองปวดแสบปวดร้อนเป็ นกําลัง ยาแก้เอาหญ้ากําเม็งแดง ใบถัวแระ เทียนดํา เทียนขาว เอา
สิ่ งละ ๒ บาท เปลือกกันเกรา ยาเข้าเย็นเหนือ เอาสิ่ งละ ๖ บาท ต้มกิน
ยาทาตัว เอาผักปลังแดง ข้าวสาร ขมิ้นอ้อย ดินสอพอง บดละลายนํ้าชะโลมตัว
อาโปธาตุ อันชื่ อว่าอัสสุ แตกหรื อพิการ มีอาการทําให้ตามัว นํ้าตาแห้ง ลูกตาเป็ นเยื่อลําไย ยาแก้เอา
รากคนทิสอ รากเสนียด ลูกมะตูมอ่อน ขิงแห้ง ต้ม ๓ เอา ๑ กิน แล้วทํายาหยอดตาต่อไป เอาหินในหัวปลา
ช่อน บัลลังก์ศิลา พิมเสน ฝนหยอดตา ถ้ามีน้ าํ ตาไข้น้ นั หาย ถ้าไม่มีน้ าํ ตาไข้น้ นั ตายแล
อาโปธาตุอนั ชื่ อว่าวสาแตก มีอาการทําให้ตวั เหลือง ตาเหลือง นํ้าปั สสาวะไม่เหลือง บางทียงั รากดัง
เป็ นป่ วงลม คือ นํ้าเหลืองให้โทษ ยาแก้เอาสะค้าน ตรี กะฏุก ตรี ผลา ลูกมะขามป้ อม รากช้าพลู ข่าแห้ง ลูก
จันทน์ เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผงละลายนํ้าโคนกล้วยตีบกิน
อาโปธาตุอนั ชื่ อว่าเขโฬแตก มีอาการทําให้คอเปื่ อย นํ้าลายเหนียว เป็ นเม็ดขึ้นในคอในลิ้น ….. พิษ
ต่าง ๆ ยาแก้เอาว่านกีบแรด ว่านร่ อนทอง ลูกประคําดีควาย ลูกทนดี ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกสมอเทศ โกฐ
สอ โกฐเขมา ดีงูเหลือม แก่นจันทน์ท้งั ๒ บดละลายนํ้ามะนาว กินครั้งละเท่าเมล็ดพุดซา แล้วทํายากวาด
ต่อไป เอากรามแรด กรามช้าง นอแรด เขี้ยวเสื อ เขี้ยวปลาพะยูน ลูกเบ็ญกานี ใบหว้าอ่อน เอาสิ่ งละส่ วนขั้ว
ให้เกรี ยม สี เสี ยดเทศ ๒ ส่ วน บดด้วยนํ้าหมากดิบปั้ นแท่ง ละลายนํ้าปูนใส นํ้าทะลายหมากดิบกวาด
อาโปธาตุอนั ชื่ อสิ งฆานิกาแตก มีอาการทําให้ปวดแสบในสมอง นํ้ามูกตก ปวดศีรษะ ยา..เอาใบยา
นํ้าดับไฟ หัวหอม ดินปะสิ วขาว บดกับนํ้ามันหอมสุ มศีรษะ ๓ วันหาย
ยาประคบแก้ปวดศีรษะ เอาหัวหอม ปูนแดง นํ้าประสารดีบุก พิมเสน บดเป็ นยานัดถุ์ ห่อผ้าประคบ
ก็ได้
ยาแก้น้ าํ มูกพิการ เอาสะค้าน รากเจ็ตมูลเพลิง รากช้าพลู จันทน์หอม ลูกมะขามป้ อมแห้ง ลูกมะตูม
อ่อน รากแฝกหอม ลูกสมอเทศ ลูกสมอไทย เมล็ดผักชี กฤษณา เปราะหอม หว้านนํ้า เกษรบัวหลวง ดอกบุญ
นาค เอาสิ่ งละเท่ากัน ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
๘๘

อาโปธาตุอนั ชื่ อว่าละสิ กาแตก มีอาการปวดข้อกระดูกดังจะคลาดออกจากกัน ขัดตึงทุกข้อ อาการ


ดังนี้แก้ยากนัก ยาแก้เอาโกฎกระดูก โกฎเขมา โกฎก้านพร้าว รากรําแพน แก่น... แก่นมะหาด สนเทศ สักขี
รากมะดัน รากประดงข้อ กระดูกงูเหลือม ๒ ส่ วน ขิงแห้ง ๓ ส่ วน คนทา ๕ ส่ วน ยาเข้าเย็น ๑๐ ส่ วน เหมือด
คน ส้มเสี้ ยว ส้มสันดาน พริ กไทย เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ต้ม
อาโปธาตุอนั ชื่ อว่ามุตตังแตก มีอาการทําให้น้ าํ ปั สสาวะแดง เหลืองเขียวขาว หรื อเป็ นนํ้าข้าวเช็ด
เป็ นมุตกิตมุตฆาต แลสันตฆาต ยาแก้เอาสะค้าน ลูกมะตูมอ่อน รากแฝกหอม ตรี ผลา โคกกระสุ น หัวแห้ว
หมู เอาสิ่ งละส่ วน รากช้าพลู ๒ ส่ วน รากเจ็ตมูลเพลิง ๓ ส่ วน ดีปลี ๔ ส่ วน ขิง ๕ ส่ วน ต้มกิน
ยาแก้อาโปธาตุ ๑๒ ประการ เอารากเจ็ตมูลเพลิง โกฎสอ เมล็ดผักชี ขิงแห้ง ดีปลี ลูกมะตูมอ่อน
สะค้าน หัวแห้วหมู กกลังกา รากจัดมอญ เปลือกโมกมัน สมุลแว้ง แก่นจันทน์ท้งั ๒ ดอกพิกุล ดอกบุนนาค
ดอกสารภี เกษรบัวหลวง เอาสิ่ งละเท่ากัน ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาแก้อาโปธาตุอนั เกิดจากดีพิการ ยาชื่อคงคาธิ บดี เอาโกฐจุลาลําภา โกฏเขมา เทียนขาว ลูกจันทน์
ดอกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู สี เสี ยดเทศ เบ็ญกานี ผลสมอภิเภก มะขามป้ อม พริ กไทย ขิง ดีปลี เมล็ดผักชี
ลูกมะแว้งเครื อ ไคร้เครื อ ขมิ้นอ้อย รากเจ็ตมูลเพลิง สะค้าน หว้านนํ้า เจ็ตพังคี พรมมิ ลูกพิลงั กาษา ลูกมะตูม
อ่อน ใบสวาด ใบเสนียด รากขัดมอญ หญ้าปากควาย หัวกก ดอกบุนนาค ใบพิมเสน เอาเสมอภาค เอาใบ
อังกาบเท่ายาทั้งหลาย บดเป็ นผงชัง่ เอาหนัก ๒ สลึง เอานํ้ามะนาว นํ้าตาลทรายคุลีการเข้าด้วยกันละลายนํ้า
พลีกิน ประกอบธาตุเสมอกัน แก้โลหิ ตตกทวารทั้ง ๙ แก้เสลด เจ็บอกเจ็บขา เจ็บท้อง แก้สะอึก แก้ดีเดือด ดี
พลุ่ง ยามีคุณดีมาก
ยาแก้ปิตตะพิการ เอาตรี ผลา ฝักราชพฤกษ์ บระเพ็ด ใบปี บ หญ้าแพรก เอาสิ่ งละ ๑ บาท ขมิ้นอ้อย ๑
บาท รากตองแตก ๒ บาท ต้มแทรกดีเกลือกินตามธาตุหนักแลเบา ให้กินเวลาเช้า ๓ วัน กินครั้งหนึ่ง แก้
ปิ ตตะซึ่ งทําให้อาการสะท้านร้อนสะท้านหนาว ตาแดง คลัง่ เพ้อ
ยาแก้ปิตตะพิการ เอาตรี ผลา แก่นจันทน์ท้ งั ๒ เนื้อไม้ ผลกระดอม บระเพ็ด ใบบระเพ็ดปี บ ใบ
ชิงช้าชาลี หญ้าแพรก หญ้าเกล็ดหอย รากช้าพลู เอาสิ่ งละ ๑ บาท ขมิ้นอ้อย ๕ แว่น กินเป็ นเวลาทุกวัน
ยาแก้ปิตตะพิการ เอาเทียนตาตัก๊ แตน เทียนข้าวเปลือก เปลือกมะซาง เปลือกไข่เน่า เทพธาโร เอาสิ่ ง
ละ ๔ บาท บดแทรกดีจรเข้ พิมเสน บั้นเม็ด เอาจันทน์เทศ ผลกระดอม พระยามูลเหล็ก สิ่ งละ ๑ บาท ต้มเอา
นํ้าละลายยานี้กินเวลาเย็น
ยาชื่อมูลจิตร์ แก้ปิตตะให้โทษ เอาลูกคนทีสอ ใบหัศกุน ผลตะลิงปิ ง แก่นจันทน์ท้ งั ๒ ดีปลี เทียน
ข้าวเปลือก เทียนตาตัก๊ แตน เทพธาโร เอาสิ่ งละ ๔ บาท บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าดอกไม้ ละลายนํ้า ดอกไม้เทศหรื อ
นํ้าดอกมะลิกิน
ยาแก้ปิตตะให้โทษ เอาโกฎหัวบัว ไพล หว้านนํ้า แก่นจันทน์เทศ ขิง เทียนดํา ผลกระดอม จระเข้
พิมเสน เอาสิ่ งละ ๑ สลึง บดเป็ นผงนัตถุ์ แก้เพ้อคลัง่
ยาชื่อตรี ผลาน้อย แก้ในกองอะพัทธะปิ ตตะให้โทษ เอาลูกสมอไทย ลูกสมอเทศ ลูกสมอพิเภก
มะขามป้ อม เอาสิ่ งละ ๓ บาท นํ้าประสารทอง ระย่อม ไคร้เครื อ เมล็ดโหระพา ลูกซัด เมล็ดผักชีลา เมล็ด
๘๙

ผักชีลอ้ ม โกฎสอ โกฎเชียง โกฎพุงปลา ชะเอมเทศ เอาสิ่ งละ ๑ บาท บดละลายนํ้าลูกสมอไทย บดแทรก
เกลือกินเวลาเช้า
ยาชื่อเขียวสรรพพิษ เอาใบบระเพ็ด ใบชิงช้าชาลี ใบเพกา ใบนํ้าเต้า ใบปี บ ใบสะเดา หางนกยูง ใบ
กระเพรา ใบสมี หว้านหางจรเข้ ใบฆ้องสามย่าน ดินประสิ ว เอาสิ่ งละ ๔ บาท ละลายนํ้าดอกมะลิสดแทรก
ดีงูเหลือมกินเวลาเย็น แก้อะพัทธะปิ ตตะให้โทษ
ยาชื่อเขียวหอม เอาระย่อม ไคร้เครื อ มหาสะดํา ลูกประคําดีควาย ใบมะระ ใบพรมมิ พริ กไทย ใบ
มะตูม ใบสมี เนระภูษี แก่นจันทน์ท้งั ๒ หว้านกลีบแรด หว้านร่ อนทอง เอาสิ่ งละ ๔ บาท ใบพิมเสน ๑๔
บาท บดละลายลายนํ้าดอกมะลิสดกินเวลากลางคืน แก้อะพัทธะปิ ตตะให้โทษ
ยาชื่อประสระขาว เอาใบฝรั่ง ใบกันทะลิกา กํายาน เปราะหอม ข้าวสาร ดินสอพอง เอาละ ๔ บาท
บดละลายนํ้าท่าชุบสําลีปิดขมับ แก้ปวดศีรษะซึ่ งพัทธะปิ ตตะและพัทธะให้โทษ
ยาแก้ไข้กระหายนํ้า เหม็นข้าว และเชื่อมซึ ม ซึ่ งพัทธะปิ ตตะและอะพัทธะปิ ตตะให้โทษ เอาผักเสี้ ยน
ผีสลึงเฟื้ อง ใบผักโหมหิ น๓ สลึงเฟื้ อง พริ กไทย ดีปลี ขิง สิ่ งละ ๑ เฟื้ อง หอมแดง ๑ เฟื้ อง หอมแดง ๑ เฟื้ อง
เมล็ดผักกาด ๓ สลึงเฟื้ อง ใบพลูแก ๗ ใบ บดละลายนํ้าท่าทาศีรษะ
ยาแก้ไข้ซ่ ึงมีอาการปวดศีรษะแลหนักศีรษะ ซึ่ งพัทธะปิ ตตะและอะพัทธะปิ ตตะให้โทษ เอาหัวหอม
เปราะหอม ดินปะสิ ว ใบตําลึง ใบผักเข้า ใบบอระเพ็ด ใบชิงช้าชาลี ดินสอพองเผาไฟ เอาสิ่ งละ ๔ บาท บด
ละลายนํ้าซาวข้าวโกรกศีรษะเวลาเช้า
ยาแก้ดีเดือดดีพลุ่ง เนื่องจากอยูไ่ ฟไม่ได้ เอาพริ กไทย ๑ บาท ขิงแห้ง ๑ บาท ลูกมะกรู ด ๑ลูก เอา
รวมกันต้ม เอานํ้ายาที่ตม้ นี้ ๑ ทนาน แล้วต้มเคี่ยวให้เดือด แล้วเอาพิมเสนแทรกกินครั้งละพอควรดีนกั
ยาแก้บา้ ดีเดือด บ้าเพื่อเลือดลม เอาพริ กไทยล่อน ๔ บาท กระเทียม ๑ ชัง่ มะกรู ด ๑๕ ผล ต้มด้วยนํ้า
มะพร้าวนาฬิเก ๓ ผล เคี่ยวให้งวด กรองเอาแต่น้ าํ เอานํ้าผึ้ง ๑ ทะนาน ใส่ ลงใส่ กะทะตั้งไฟกวนจนเข้ากันดี
เศกด้วยอิติปิโส ๑๐๘ คาบ เอาพิมเสนปรุ งลงพอควรกินวันละ ๓ เวลา
ยาแก้บา้ ดีเดือดดีพลุ่ง บ้าเพื่อเลือด เอาแก่นจันทน์ท้ งั ๓ อบเชย แก่นสน สักขี กฤษณา กระลําภัก
โกฎเชียง โกฎหัวบัว เทียนดํา เทียนขาว เทียนเยาวภานี ลูกมัขามป้ อม ลูกสมอไทย ลูกสมอเทศ รากช้าพลู
รากเจ็ตมูลเพลิง เอาสิ่ งละ ๑ สลึง เกษรบัวหลวง ๒ สลึง ดอกพิกุล ๑ สลึงต้มกิน
ยาแก้บา้ ดีเดือด บ้าเพื่อเลือดเพื่อลม เอาพริ กไทย ๑ ชัง่ จุกกระเทียม ๑ ชัง่ ต้มด้วยนํ้ามะพร้าว
นาฬิเก กินวันละ ๓ เวลา
ยาแก้บา้ เลือด เอาแก่นสน แก่นจันทน์ ลูกกระดอม บระเพ็ด เสนียด ลูกสมอ โคกกะสุ น หัวแห้วหมู
พริ กไทย ขิง เอาสิ่ งละ ๕ ตําลึง ต้มแทรกดีงูเหลือมกิน
ยาแก้บา้ เลือด เอาใบส้มป่ อย ไพร ขิง ดีปลี หัวแห้วหมู ดอกบุนนาค หญ้าแพรก ใบมะขาม พริ กไทย
สารส้ม ใบมะกา ราชพฤกษ์ท้งั ๕ เทียนดํา ดินปะสิ ว ต้มกิน
๙๐

ยาจันทหฤทัย เอาโกฎทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู ขิงแห้ง ไพล ลูก
สมอเทศ แก่นจันทน์เทศ เนื้ อไม้ กระลําภัก เอาสิ่ งละ ๑ สลึง แก่นสน ๖ บาท พิมเสน ชะมด ดีงูเหลือม ดีจรเข้
เอาสิ่ งละ ๑ เฟื้ อง บดปั้ นแท่งละลายนํ้าจันทน์หรื อนํ้าดอกไม้กิน แก้ลมทําให้เป็ นบ้าและหวาดกลัว
ยาแก้ดีพิการ เอาแก่นจันทน์ แก่นสน รากกรุ งเขมา รากกระพังโหม ลูกสมอไทย ต้มกิน
ยาแก้ดีพิการ โรคเพื่อดีมี ๕ ประการ คือ ดีรั่ว ดีฝ่อ ดีลน้ เบ้า ดีกระตุก ดีเดือด ถ้าดีรั่ว อุจจาระ
ปั สสาวะเหลือง ผอมซู บซี ดแลมักนอนสะดุง้ ถ้าดีลน้ เบ้ามีอาการเพ้อคลัง่ เป็ นบ้า ถ้ารักษาไม่หายจะตาย
ภายใน ๗ วัน แลมักเป็ นไข้สันนิบาต ยาแก้เอาจันทน์หอม สน รากขี้กาแดง รากมะอึก ลูกสมอไทย บระเพ็ด
เอาสิ่ งละ ๑ บาท ต้มกิน
ยาแก้ดีพิการ เอาแก่นจันทน์ กรุ งเขมา แก่นสน รากเจ็ตพังคี หัวแห้วหมูตม้ กิน
ยาแก้ดีพิการ แก้ดีซึมดีรั่ว มันให้รากเหลือง ลงเป็ นสี เหลืองแล้วลงแดง มีอาการใจน้อย หาความ
สบายมิได้ เอาจันทน์หอม ลูกสมอไทย ลูกกระดอม เอาสิ่ งละ ๑ บาท บระเพ็ด ๒ บาท ต้มกิน
ยาแก้ดีลน้ เบ้า มีอาการเพ้อคลัง่ นอนไม่หลับ กระวนกระวาย ถ้าแก้ไม่ฟัง ๗ วันตาย เอาแก่นจันทน์
ทั้ง ๒ กรุ งเขมา กระพังโหม ลูกสมอไทย ต้มกิน ยานี้แก้ดีพิการ แก้อติสารแลแก้กาฬสิ งคลีหายแล
ยาแก้บา้ เลือด เอาแก่นสน แก่นจันทน์ ลูกกระดอม บระเพ็ด รากเสนียด ลูกสมอ โคกกระสุ น หัว
แห้วหมู พริ กไทย ขิง เอาสิ่ งละ ๕ ตําลึง ต้มแทรกดีงูเหลือมกิน
ยาแก้ดีรั่วดีกระตุก มีอาการใจน้อย มักโกรธ นอนไม่หลับ มักเป็ นบิด เป็ นลมสันนิบาตพุทธยักษ์
โลหิตสันนิบาต เอาแก่นจันทน์หอม จันทน์กะระนี จันทนา ตรี ผลา ลูกช้าพลู รากมะอึก ลูกกระออม ลูก
ขี้กาแดง บระเพ็ด เอาสิ่ งละ ๑ บาท ต้มกิน
ยาแก้ดีพิการ ๕ ประการ เอารากขี้การแดงทั้ง ๒ รากมะอึก ลูกสมอไทย ลูกสมอพิเภก จันทน์หอม
กรุ งเขมา สนเทศ กระพังโหม จันทนา เอาสิ่ งละ ๑ บาท ลูกกระดอม บระเพ็ด สังข์ ลูกช้าพลู รากแฝกหอมเอา
สิ่ งละ ๒ บาท รากตองแตก ชะลูด อบเชย ขอนดอก กฤษณา กระลําภัก โกฎทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ ดอกบัวนํ้าทั้ง
๕ ดอกพิกุล ดอกบุนนาค ดอกสาระภี ดอกคําไทย ฝาง เอาสิ่ งละ ๑ บาท บดเป็ นแท่ง ละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้สันนิบาตดีพลุ่ง ดีรั่ว ดีลน้ เบ้า เอารากเสนียด รากพุมเรี ยงบ้าน รากบัวหลวง รากเท้ายายม่อม
ต้มกิน
ยาแก้สันนิบาตกุมภัณฑยักษ์อนั เกิดจากดีพิการ เอาจันทนา จันทน์หอม รากช้าพลู แก่นสน บระเพ็ด
ลูกสมอทั้ง ๓ ต้มกิน
ยาแก้สันนิบาตกุมภัณฑยักษ์อนั เกิดจากดีพิการ ถ้ายาขนานก่อนแก้มิถอย ให้เอายาขนานนี้แก้ เอา
จันทน์หอม แก่นสน รากขัดมอญ รากช้าพลู รากมะอึก ลูกกระดอม รากขี้กาแดง บระเพ็ด ต้มกิน
ยาแก้สันนิบาตกุมภัณฑยักษ์อนั เกิดจากดีพิการ มีอาการชักมือกําตีนกํา หน้าเหลือง นํ้าปั สสาวะ
เหลือง เอาจันทน์หอม แก่นสน เจ็ตพังคี หัวแห้วหมู รากช้าพลู รากขี้กาแดง กรุ งเขมา คนทีสอ นํ้าเต้าขม
บระเพ็ด เชือกเขาพรวน นํ้าใจใคร่ รากไคร้ ราชดัด ลูกสมอทั้ง๒ เอาเสมอภาคต้มกิน
๙๑

ยาแก้สันนิบาตดีเดือดดีพลุ่ง มีอาการคลัง่ เหมือนบ้า เอาจันทน์แดง เปลือกจันทน์ งาช้าง เขากวาง


หวายตะคร้า ลิ้นทะเล ดีงูเหลือม เอาเสมอภาค บดด้วยนํ้าผึ้ง นํ้ามะนาว ปั้นเป็ นลุกกลอนกิน
ยาแก้สันนิบาตดังกล่าวมานั้น เอาตาอ้อยแดง ตาไม้ไผ่ หว้านนํ้า ขมิ้นอ้อย ผักแว่น เอาเสมอภาค บด
เป็ นแท่ง ละลายนํ้าซาวข้าวกินชะโลม
ยาแก้สันนิบาตอันเกิดจากดีพิการ เอานํ้าตาล กระเทียม เอาสิ่ งละเท่ากัน บดปั้ นเป็ นก้อน เท่าผลพุด
ซากิน
ยาแก้สันนิบาตอันเกิดจากพิการ เอาจันทน์หอม หัวแห้วหมู รากขัดมอญ เอาเสมอภาค ต้มเอา ๑ กิน
ยาแก้สันนิบาตอันเกิดจากดีพิการ เอาชะมดสด พิมเสน บระเพ็ด บดละลายนํ้าสุ รากิน
ยาแก้สันนิบาตกุมภัณฑยักษ์ แก้ดีพลุ่งดีพิการ เอาจันทน์หอม กระพังโหม กรุ งเขมา ขิงแห้งบระเพ็ด
กระดอม หัวแห้วหมู ลูกสมอเทศทั้ง ๓ ต้ม ๓ เอา ๑ กิน ยาทั้ง ๘ ขนานนี้แก้ไข้สันนิบาตพวกเดียวกันทั้งสิ้ น
ยาแก้ดีเดือดดีพลุ่ง เนื่องจากอยูไ่ ฟไม่ได้ เอาเทียนดํา เทียนแดง ตรี กะฏุก หัวหอม หัวกระเทียม หญ้า
พันงูท้งั ๒ กระชาย เลือดแรด หอยสังข์ เอาสิ่ งละ ๑ บาท บดละลายนํ้ามะงัว่ นํ้ามะนาวกิน แก้บา้ ดีเดือดมี
อาการกระสับกระสายดีนกั
ยาแก้บา้ เอารากมะตูม รากตะโกนา อ้อยแดง ๓ ปล้อง หัวแห้วหมู พริ กไทย ต้มกิน
ยาแก้ธาตุพิการ เอาลูกมะกรู ดต้มให้สุกตากให้แห้ง ๑ ลูก หว้านนํ้า รากช้าพลู รากเจ็ตมูลเพลิง
สะค้าน ดีปลี ลูกมะตูมอ่อน หัวแห้วหมู ขิง เอาหนักเท่าลูกมะกรู ด การะบูน มหาหิ งคุ ์ ไพล กระชาย กระทือ
กระเทียม พริ กไทย เอาสิ่ งละ ๑ บาท บดเป็ นผงละลายนํ้าร้อนหรื อนํ้าขิง ข่า นํ้ากระทือกิน แก้จุกเสี ยด แก้ลม
ร้าย แก้ทอ้ งขึ้นเฟ้อเรอเหม็นเปรี้ ยวหายแล
ยาแก้เตโชธาตุพิการ ชื่อเทพนิมิตร์ เอาโกฎสอ โกฎเขมา รากพลับพลึง ลูกราชดัด จุกโรหิ นี ลูก
สาระพัดพิษ รากมะแว้งเครื อ รากจ้อใหญ่ สะค้าน กรุ งเขมา มหาหิ งคุ ์ เทียนดํา เทียนขาว บดปั้นแท่ง ละลาย
นํ้ามะนาว นํ้ามะงัว่ กิน
ยาแก้ธาตุพิการ เอากานพลู การะบูน ลูกจันทน์ ผิวมะกรู ด ลูกมะตูมอ่อน รากเจ็ตมูลเพลิง ลูก
ประคําดีควาย ข่าตาแดง เอาสิ่ งละ ๑ บาทต้มกิน
ยาอินทรี ยธ์ าตุปถวี เอาตรี ผลา กระเทียม เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน สะค้าน รากช้าพลู สิ่ งละ ๒ ส่ วน ดีปลี ๑๖
หรื อ ๒๐ ส่ วน บดปั้ นแท่งด้วยนํ้ากระเทียม ละลายนํ้าส้มส้ากิน แก้อินทรี ยธ์ าตุปถวี...กระทําให้กินอาหารไม่
มีรส มีอาการผอมเหลือง บวมมือบวมเท้า บวมท้อง แก้อุจจาระ ปั สสาวะไม่ปกติดว้ ยเตโชธาตุเป็ นมันทา
คะนีธาตุ หิ วโหยหาแรงมิได้ ยานี้ทาํ ให้เจริ ญอาหารแลทําให้จิตใจผ่องแผ้วดี
ยาแก้อาโปธาตุกาํ เริ บ เอารากช้าพลู ๑ บาท สะค้าน ๒ สลึงเฟื้ อง รากเจ็ตมูลเพลิง ๒ บาท ดีปลี ๓
บาท ขิง ๖ สลึง ลูกสมอไทย ๑๒ บาท กระเทียม ๒ บาท หว้านนํ้า ๙ สลึง ผิวมะกรู ด ๓ บาท เมล็ดผักชีลา ๒
บาท บระเพ็ด ๓ บาท สนเทศ ๒ บาท ลูกมะตูมอ่อน ๑๐ สลึง )รากส้มกุง้ ๑ บาท เปลือกกันเกรา ๓ บาท หัว
แห้วหมู ๓ บาท หัวแห้วหมู ๒ บาท ลูกมะแว้งทั้ง ๒ สิ่ งละ ๑ บาท โกฎหัวบัว ๒ สลึง เทียนทั้ง ๕ สิ่ ง สิ่ งละ
๑ สลึง จันทน์ท้ งั ๒ สิ่ งละ ๒ สลึง ลูกจันทน์ ๑ บาท มหาหิ งคุ ์ ๒ บาท ลูกคนทีสอ ๑ บาท กานพลู ๑ บาท บด
๙๒

เป็ นผง แก้ลงรากละลายนํ้าลูกยอต้มกิน แก้มูกเลือดละลายนํ้าเปลือกต้นสะเดาต้มกิน แก้อาํ มะพาธซึ่ งกระทํา


ให้แขนขามือเท้าชาตาย ละลายนํ้าส้มสายชูกิน
ยาแก้ธาตุพิการ เอาขิง ดีปลี สะค้าน รากช้าพลู รากเจ็ตมูลเพลิง พริ กไทย บระเพ็ด ขมิ้นอ้อย หัวแห้ว
หมู ลูกมะตูมอ่อน เอาสิ่ งละ ๑๐ บาทต้มกิน
ยาบํารุ งธาตุ เอาหัวแห้วหมู กกลังกา สิ่ งละ ๔ บาท สมุลแว้ง สน เบ็ญจกูล เอาสิ่ งละ ๑ บาท เมล็ด
ผักชี ๒ บาท หว้านนํ้า บระเพ็ด สิ่ งละ ๒ สลึง ต้มกินเจริ ญอาหารดีนกั
ยาบํารุ งธาตุ ท่านให้เอาอายุของผูท้ ี่รับประทานยานั้นตั้งไว้เป็ น ๕ ฐาน เอา ๙ บวกทั้ง ๕ แล้วเอา
ปฐวีธาตุ (ธาตุดิน) ๒๐ บวกฐานหนึ่ง เอาอาโปธาตุ (ธาตุน้ าํ ) ๑๒ บวกฐานหนึ่ง เอาวาโยธาตุ( ธาตุลม) ๖
บวกฐานหนึ่ง เอาเตโชธาตุ(ธาตุไฟ) ๔ บวกฐานหนึ่ง เอาอากาศธาตุ ๕ บวกฐาน หนึ่ง เอา๕ หารทุกฐาน หาร
ได้เศษ๑ เอาตัวยาหนัก ๖ สลึง เศษ ๒ เอาตัวยาหนัก ๒ สลึง เศษ ๓ เอาตัวยาหนัก ๑ สลึง เศษ ๔ เอาตัวยา
หนัก ๒ สลึง เศษ ๐ เอาตัวยาหนัก ๖ สลึง ตัวยาประจํา คือ ธาตุปฐวีดีปลี ธาตุอาโปสะค้าน ธาตุวาโยราก
ช้าพลู ธาตุเตโชรากเจ็ตมูลเพลิง แล้วเอาผลมะตูมอ่อน หัวแห้วหมู พริ กไทย โกฎสอประกอบเข้า ท่านให้เอา
นํ้าหนักเท่าเศษของอากาศธาตุทุกฐาน(ทุกฐาน) ยานี้ใช้ตม้ รับประทานเวลาเช้าเย็น
ยาชื่อปั ตฉันธาตุ สํารวมธาตุท้ งั ๔ ให้เป็ นปกติ เอาจันทน์หอม ๒ บาท กฤษณา ๑ บาท เทียนดํา ๑
บาท กรุ งเขมา ๑ บาท หัวแห้วหมู ๒ บาท บระเพ็ด ๒ บาท ขิงแห้ง ๒ บาท ดีปลี ๒ บาท หัวดองดึง ๑ บาท
เปลือกมูกมัน ๒ บาท รากขัดมอญ ๒ บาท กระพังโหมทั้งใบทั้งราก ๑ บาท พริ กไทย ๕๒ บาท บดปั้ นแท่ง
ละลายนํ้าผึ้งกินครั้งละ ๑ สลึงทุกวัน บํารุ งธาตุท้งั ๔ ให้บริ บูรณ์ แก้โรคต่างๆด้วย
ยาธาตุบรรจบโสฬส เอาสะค้าน ดีปลี หัวแห้วหมู รากช้าพลู พริ กไทย ขิง ลูกสมอทั้ง ๒ ใบมะตูม
ลูกมะตูม ใบคนทีสอ ใบสะเดา บระเพ็ด ขมิน้ อ้อย สักขี กรักขี ฝาง แสมทั้ง ๒ กระชาย ไพล ข่า กระเทียม
แก่นสน แก่นจันทน์ เอาเสมอภาค บดปั้นแท่ง แก้ไข้เรื้ อรัง แก้ธาตุพิการ แก้กล่อนแห้ง เพื่อเสมหะ และเส้น
ละลายนํ้าใบมะขามต้ม นํ้าใบส้มป่ อยต้ม นํ้าเถาวัลย์เปรี ยง ต้มกิน แก้หญิงขัดระดู ละลายนํ้าฝาง สารส้ม ผัก
เป็ ดแดงต้ม แก้ตานกล่อนทั้งชายหญิง แก้มุตกิต มุตฆาต เอาหอยแครง หอยขม หอยโข่ง หอยกาบ หอยมุก
รากเล็บมือนางเผา เอาขิง กระเทียม เทียนดํา บดเป็ นผง ประสมกับยาธาตุโสฬสละลายนํ้าสุ รากิน แก้ช้ าํ รั่วแล
ริ ดสี ดวงพลวกด้วย
ยาบํารุ งธาตุ เอาเบ็ญจกูลสิ่ งละ ๑ บาท เปลือกมะตูม รากขัดมอญ เมล็ดผักชี หัวแห้วหมู จันทน์หอม
เปลือกมูกมัน เปลือกมูกหลวง กกลังกา ลูกกระดอม บระเพ็ด ลูกมพแว้งทั้ง ๒ สิ่ งละ ๑ บาท ต้มกินเช้าเย็น
หรื อจะบดเป็ นผลละลายนํ้าร้อนกินก็ได้
ยาเหลืองปิ ดสมุทร เอาหัวแห้วหมู ขมิ้นอ้อย เปลือกเพกา รากกล้วยตีบ กระเทียน ครั่ง สี เสี ยดไทย
สี เสี ยดเทศ ใบเทียน ใบทับทิม ขมิ้นชันกึ่งยาทั้งหลาย ผดเป็ นผงกิน แก้อุจจาระเป็ นเสมหะโลหิต
ยาปฐมธาตุ เอารากช้าพลู ขิง ดีปลี สะค้าน รากเจ็ตมูลเพลิง หัวแห้วหมู บระเพ็ด ขมิ้นอ้อย
จันทน์เทศ จันทน์แดง ดอกบุนนาค เกษรบัวหลวง ดอกพิกุล ดอกสาระภี ดอกมะลิ ผัก ฝาง แก่นประดู่
ชะลูด อบเชย สมุลแว้ง เมล็ดผักชีท้งั ๒ ลูกกระดอมเนื้ อไม้ ขอนดอก ลูกมะตูม โกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ ลูก
๙๓

จันทน์ ดอกจันทน์ เปลือกโมกมัน เปลือกโมกหลวง รากขัดมอญ เอาสิ่ งละ ๑ บาท บดเป็ นผง ละลายนํ้าเบ็ญ
จกูลต้มกิน แก้อุจจาระเป็ นเมือกมันในลําไส้
ยามหากระเพรา เอาขิง เปลือกไข่เน่า ไพล รากเล็บมือนาง รากอ้ายเหนียว กระทือ ตรี ผลา ลูก
กระวาน อบเชย สมุลแว้ง เทพธาโร เอาสิ่ งละ ๑ บาท สะค้าน ๕ สลึง ขมิน้ กานพลู ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ เอา
สิ่ งละ ๖ สลึง เปลือกโมกหลวง เปลือกโมกมัน ลูกกระดอม พริ กไทย เอาสิ่ งละ ๗ สลึง ดีปลี ๓ บาท รากเจ็ต
มูลเพลิง ๑๐ สลึง กกลังกา ๔ บาท หัวแห้วหมู ๕ บาท ชุมเห็ดไทย ๓ บาท ลูกมะตูมอ่อน ๓ บาท บระเพ็ด ๒
บาท กระเพราะ ๓ ต้น กระพังโหม ๑๐ บาท รากสะแก รากมะเกลือ เทียนทั้ง ๕ โกฐกระดูก โกฐสอ โกฐ
เขมา โกฐเชียง โกฐจุลาลําภาโกฐก้านพร้าว เอาสิ่ งละ ๒ สลึง เกษรบัวหลวง ๓ สลึง ต้มกินเช้าเย็น แก้ธาตุ
วิปริ ต หรื อมันทธาตุ แก้อุจจาระพิการ แก้ริดสี ดวง และบํารุ งธาตุ
ยาวิสาํ พะยาใหญ่ เอาโกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ ลูกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู ลูกสมอไทย ขิงแห้ง
หว้านนํ้า สมุลแว้ง นํ้าประสานทอง ชะเอม การะบูน ลูกเอ็น ไคร้เครื อ เมล็ดผักชี เกลือสิ นเธาว์ พริ กไทย
รากช้าพลู รากเจ็ตมูลเพลิง เอาสิ่ งละ หนึ่งบาท ดีปลีเท่ายาทั้งหลาย บดเป็ นผง ละลายนํ้าร้อนหรื อนํ้าขิงกิน
แก้ลมจุกเสี ยด แก้ปวดท้อง แก้ธาตุพิการ
ยาวิสาํ พะยากลาง เอาโกฏก้านพร้าว โกฏจุฬาลําภา โกฏกระดูก โกฏเขมา โกฏหัวบัว หว้านนํ้า
การะบูน ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู อบเชย สมุลแว้ง ไคร้เครื อ ดอกบุนนาค เทียนดํา เทียน
ขาว เทียนข้าวเปลือก เทียนตาตัก๊ แตน เทียนเยาวภานี นํ้าประสานทอง พริ กไทย ขิงแห้ง ลูกสมอเทศ ลูกสมอ
ไทย ลูกมะขามป้ อม ชะเอมเทศ เกลือสิ นเธาว์ เอาเสมอภาค เอาดีปลีก่ ึงยาทั้งหลาย บดเป็ นผง ละลายนํ้าร้อน
นํ้าขิง หรื อนํ้าข่ากิน แก้ลมจุกเสี ยด แก้ปวดท้องเพราะธาตุพิการ
ยาแก้อุจจาระธาตุ เอากระเพราแดงทั้ง ๕ หนัก ๒ บาท ลูกสมอไทย ๑๐ บาท ลูกสมอเทศสลึงเฟื้ อง
ลูกสมอพิเภก ๑ บาท ( ลูกสมอเอาแต่เนื้อ ) ชุมเห็ดไทย ๕ บาท กระพังโหม ๑๐ สลึง ราชพฤกษ์ ๑๐ ฝัก เอา
แต่เนื้ อใน บระเพ็ด ๑ บาท เปลือกไข่เน่า เจ็ตมูลเพลิง กระทือ รากช้าพลู ขิง ข่า กระชาย ขมิ้นอ้อย ดีปลี หัว
แห้วหมู เทียนดํา หัวหอม เกษรบัวหลวง ดอกบุนนาค มะตูมอ่อน กระเทียม เอาสิ่ งละ ๑ บาท ต้ม ๓ งวด ถ้า
ผูป้ ่ วยธาตุอ่อน เอาฝักราชพฤกษ์เพียง ๓ ฝัก บระเพ็ดเป็ น ๕ บาทกิน
ยาประสะกานพลู เอาเทียนดํา เทียนขาว โกฐสอ โกฐกระดูก กํามะถันทั้ง ๒ การะบูนไคร้เครื อ
เปลือกเพกา เปลือกขี้อา้ ย ใบกระวาน ลูกกระวาน เมล็ดผักชี แฝกหอม หว้านนํ้า กระชาย หว้านเปราะ ราก
แจง กรุ งเขมา เอาสิ่ งละ ๑ บาท รากข้าวสาร ๒ บาท เนื้อไม้ ลูกจันทน์ ขมิน้ ชัน สิ่ งละ ๒ บาท นํ้าประสาร
ทอง ไพล เบ็ญจกูล สิ่ งละ ๒ สลึง ตรี กะฎุก สิ่ งละ ๑ สลึง กานพลูเท่ายาทั้งหลาย บดปั้ นแท่ง แก้ปวดมวน
ละลายนํ้าจันทน์เทศต้มกิน หรื อนํ้ากระทือหมกไฟกิน
ยาประสระกระเทียม เอาจันทน์เทศ จันทน์แดง ชะลูด เทียนขาว ลูกจันทน์ เอาสิ่ งละ ๑ บาท
ดอกจันทน์ ๓ บาท กานพลู ๓ บาท หัวแห้วหมู ๔ บาท มะตูมอ่อน ๔ บาท การะบูน ๕ บาท กํามะถันแดง ๕
บาท มหาหิ งคุ ์ ๑ สลึง เบ็ญจกูลสิ่ งละ ๓ สลึง กระเทียมกรอบเท่ายาทั้งหมาย บดปั้ นแท่ง แก้ปวดแน่นเสมหะ
โลหิ ต ประสะอุจจาระให้จางกลิ่น แก้คนั ธลามก ละลายนํ้าเปลือกมะตูม หรื อเปลือกมะรุ มต้มกิน
๙๔

ยาประสะใบกระท่อม เอาเทียนทั้ง ๕ ฝางเสน แก่นสน ครั่ง งาช้าง สักขี แก่นจันทน์ท้ งั ๒ ข่า ใบ


เทียน ใบทับทิม ใบชิงช้าชาลี เขากวาง ใบมะลิซอ้ น ใบมะลิลา เอาสิ่ งละ ๑ สลึง กําลังวัวเถลิง ขิงแห้ง
ขมิ้นชัน การะบูน เอาสิ่ งละ ๑ เฟื้ อง ขมิ้นอ้อย ๑ สลึงเฟื้ อง กระทือ ๒ สลึง ไพลหมกไฟ ๑ บาท ใบกระท่อม
เท่ายาทั้งหลาย บดปั้ นแท่งด้วยสุ รา แก้ปวดมวน ละลายนํ้ากานพลูตม้ กิน
ยาประสะกานพลูนอ้ ย เอาเทียนดํา ๑ บาท เทียนขาว ๑ บาท ไพล ๒ บาท นํ้าประสานทอง ๒ บาท
โกฏสอ กํามะถันแดง กํามะถันเหลือง กฤษณา กระลําภัก การะบูน เปลือกขี้อา้ ย เปลือกเพกา เอาสิ่ งละ ๔
บาท กานพลู ๒๘ พริ กไทย ดีปลี ขิง สิ่ งละ ๑ บาท บดละลายนํ้ากระทือหรื อไฟหมกไฟกิน แก้อุจจาระพิการ
ต่างๆ
ยาประสะกระเทียม เอาจันทน์แดง จันทน์ขาว ชะลูด เทียนขาว สิ่ งละ ๑ บาท ลูกจันทน์ ดอกจันทน์
กานพลู สิ่ งละ ๓ บาท หัวแห้วหมู ลูกมะตูมอ่อน สิ่ งละ ๔ บาท การะบูน กํามะถันแดงสิ่ งละ ๕ บาท
กระเทียม ๔๗ บาท เบ็ญจกูลตามพิกดั บดปั้ นแท่งด้วยนํ้ามหาหิ งค์ ละลายนํ้าลูกมะตูมอ่อนต้มกิน ยาแก้ปวด
มวนเป็ นเสมหะโลหิ ต แก้อุจจาระมีสีแลกลิ่นอันชัว่ ลามก
ยาเจริ ญธาตุ เอากัญชา โสม อบเชยญวณ เอาสิ่ งละ ๑ สลึง ใบกระวาน กานพลู สะค้าน เอาสิ่ งละ ๒
สลึง ขิงแห้ง ๓ สลึง เจ็ตมูลเพลิง ดีปลี สิ่ งละ ๑ บาท นํ้าตาลกรวด ๖ สลึง บดละลายนํ้าผึ้งกิน แก้กินข้าว
ไม่ได้ นอนไม่หลับ
ยาประสะผลจันทน์เทศ เอาจันทน์แดง จันทน์ขาว กฤษณา กระลําภัก อบเชยเทศ สมุลแว้ง เอาสิ่ งละ
๑ บาท จุกโรหิ นี กรุ งเขมา รากผักเสี้ ยนผี รากขัดมอญ การะบุน โกฐสอ เอาสิ่ งละ ๒ บาท หัวแห้วหมู ลูก
มะตูมอ่อน ไพล เอาสิ่ งละ ๔ บาท พริ กไทย ดีปลี ขิงแห้ง สะ เอาสิ่ งละ ๑ บาท รากช้าพลู ๑ บาท เจ็ตมูล
เพลิง ๑ บาท ผลจันทน์เทศ ๕ บาท บดปั้ นแท่งด้วยฝางต้ม ละลายนํ้ากานพลู นํ้าจันทน์เทศต้มกิน แก้อุจจาระ
เน่าเหม็น แก้เสมหะโลหิ ตในกองอุจจาระลามก

ว่ าด้ วยโรคนํา้ ปัสสาวะพิการและยาแก้


โรคนํ้าปั สสาวะพิการมีอาการหลายอย่าง มียาแก้ ดังนี้
ยาแก้ทุลาวสา นํ้าปั สสาวะขาวข้นดังนํ้าขาวเช็ด เอาการะบูน เทียนดํา ลูกเอ็น รําพัน หัวแห้วหมู ขิง
แห้ง เอาสิ่ งละเท่ากัน บดละลายนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้ปัสสาวะเหลืองดังนํ้าขมิ้น เอาลูกสมอไทย มหาหิ งคุ ์ รากเจ็ตมูลเพลิง สารส้ม กํามะถัน เอาสิ่ ง
ละ ๑ สลึง เทียนดํา ๑ บาท ดอกคํา ๒ บาท บดละลายนํ้ามะนาวกิน
ยาแก้น้ าํ ปั สสาวะแดง ดํา, เอาหัวแห้วหมู เทียนดํา รากมะตูม รากเสนียด ใบสะเดา รากอังกาบ ลูก
เอ็น โกฏสอ เกลือสิ นเธาว์ บดละลายนํ้าอ้อยแดงกิน
ยาแก้น้ าํ ปั สสาวะดํา เอารากหญ้านาง เถาวัลย์เปรี ยง รากกระทุงหมาบ้า ฝาง หัวแห้วหมู หัวหญ้า
ชันกาด แก่นขี้เหล็ก รากไคร้หางนาค ขมิ้นอ้อย ไพล รากพุงดอ รากหวายขม เอาสิ่ งละเท่ากัน ต้ม ๓ เอา ๑
กิน
๙๕

ยาแก้มุตฆาต มีอาการถ่ายอุจจาระให้ปวดขัดเป็ นกําลัง เจ็บแสบเป็ นโลหิ ตชํ้าเป็ นหนองข้นดุจนํ้า


คราม เกิดเพราะชอกชํ้า มีอาการเจ็บ ขัดสี ขา้ งและอก แสบแข้งขา จะไหวตัวมิสดวก กินอาหารมิได้มกั
อาเจียนลมเปล่า เอาเสนียดทั้ง ๕ โกฐทั้ง ๕ รากแตงหนู ใบสะเดา ไพล นํ้าประสานทอง หว้านนํ้า ตรี กะฎุก
รากละหุ่ง บระเพ็ด เกลือสิ นเธาว์ หัวแห้วหมู ขมิ้นอ้อย ชะลูด พิมเสน บดละลายนํ้ามะนาวกิน
ยาแก้มุตฆาต เอารากพันงูแดง รากมะตูม ขิงแห้ง ขี้กาแดง เกลือสิ นเธาว์ ลูกสมอไทย การะบูน
รากมะรุ ม เอาสิ่ งละเท่ากัน บดละลายนํ้ามะนาวกิน
ยาแก้มุตฆาต เอาโกฐทั้ง ๕ ชะมด พิมเสน ดอกจันทน์ หัวแห้วหมู ขี้กาแดง การะบูน ...แห้ง รากขัด
มอญ ตรี ผลา เทียนดํา นํ้าประสานทอง บดละลายนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้มุตฆาต เอาโกฐสอ อบเชย เมล็ดงาดํา รากเจ็ตมูลเพลิง ชะมด โมกมัน พิมเสน มหาหิ งคุ ์ โกฏ
ก้านพร้าว การะบูน บระเพ็ด ดีปลี ลูกจันทน์ เมล็ดผักชี บดละลายนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้ขดั เบา เอาดอกคําฝอย เมล็ดแตงกวา ยอดสับปะรด ดินประสิ ว สารส้ม บดละลายนํ้าซาวข้าว
กิน
ยาแก้มุตฆาต เอาขี้กาแดง หัวแห้วหมู ตรี ผลา ตรี กะฏุก รากเจ็ตมูลเพลิง ขมิ้นทั้ง ๒ ลูกรัก โกฏสอ
กานพลู โกฏก้านพร้าว ถ้ามิได้เอาหัวบุกรอ หัวอุตพิดโลท รากคราม ไพล ใบคนทีสอ เกลือ โคกกระสุ น ถ้า
มิได้เอาพริ กเทศ กระเทียม นํ้าประสานทอง เทียนทั้ง ๕ รากและเมล็ดจิงจ้อ เอาสิ่ งละเท่ากัน บดละลายนํ้าผึ้ง
กิน แก้ปัสสาวะเป็ นนํ้าสี จนั ทน์แดง แก้ช่ าํ รั่ว แก้อุปทม และริ ดสี ดวง
ยาแก้มุตกิด เอาพริ กไทย ขิง ดีปลี เบี้ยตัวผู ้ บดละลายนํ้าขี้เหล็กทั้ง ๕ ต้มกิน แก้ขดั ปัสสาวะ
ปัสสาวะเป็ นเลือดเป็ นหนอง
ยาแก้มุตกิด ซึ่ งมีอาการตกโลหิ ตดังนํ้าคาวปลาเน่า หรื อเป็ นหนองจาง ๆ เป็ นดังนํ้าข้าวเช็ด บางที
เป็ นดังนํ้ามูก มีอาการเสี ยดขัด เจ็บปวดขัดหัวเหน่า เจ็บหน้าตะโพก เจ็บอก กินอาหารไม่มีรส โรคนี้เกิด
เพราะโลหิ ตชํ้า เอาหัวแห้วหมู ไพล ลูกฝ้าย ยางงิ้ว เทียนใหญ่ รากมะตูม รําพัน การะบูน ลูกเอ็น สารส้ม
หว้านเปราะ รากอังกาบ โกฏพุงปลา หว้านนางคํา หว้านสากเหล็ก ดีปลี เอาสิ่ งละเท่ากัน บดละลายนํ้าผึ้ง
กิน
ยาแก้มุตกิด เอาขมิ้นทั้ง ๒ รากมะเกลือ รากเพกา ตรี ผลา ช้องนางสี ดา บดละลายนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้มุตกิด เอาเปลือกเพกา เปลือกกระถินแดง ดีปลี กุ่มบก ใบขนุนละมุด เปลือกโลท สะค้าน ใบ
ทองหลางใบมน รากมะละกอ ตาไม้ไผ่สีสุก รากพุดชา รากค้อนกลอง ลูกสมอไทย รากเสนียด ขมิน้ ขาว
กระทุ่มใหญ่ ต้มกิน แทรกนํ้าผึ้งเล็กน้อย แก้มุตกิด ปัสสาวะเป็ นเลือดเป็ นหนองเป็ นนํ้าข้าว
ยาแก้มุตกิด เอารากไทรย้อย ไพล ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาแก้มุตกิด เอารากพันงูแดง ผักโหมทั้ง ๒ รากละหุ่งทั้ง ๒ งวงตาล ฝักสําโรง หางหนูมะพร้าว ฝัก
ส้มป่ อย หญ้าไซ รากกล้วยตีบ เถาคัน ผักแพงพวย ตะโกนา สะแก แสม ขี้เหล็กทั้ง ๕ ขี้ววั ขี้หมา ตะกู ตาไม้
ไผ่ จอกใหญ่ ข้าวฟ่ างเผาเป็ นด่างแช่น้ าํ หรื อสุ ราก็ได้ แล้วเอาตรี กะฏุก เปลือกราชพฤกษ์ สารส้ม ดินประสิ ว
ขาว เอาสิ่ งละ ๑ บาท บดเป็ นผงใส่ ลงในนํ้าด่างนั้นกิน
๙๖

ยาแก้หญิงเบาเป็ นเลือด เอาหู กวาง กระดอม บดละลายนํ้าร้อนกิน


ยาแก้เบาหวาน เอาหมาก ๑ คํา ไปพลีเอารากทับทิมขาว เอาทางทิศตะวันออก เอาเนื้อสุ กราคา ๑
เฟื้ อง ต้มกินไปจนกว่าจะหาย
ยาประสระนํ้าปั สสาวะให้เย็นแลให้ถ่ายปัสสาวะสะดวกในเวลาเป็ นไข้ ให้เบาแดงแลเบาน้อย เอา
รากผักหวาน รากฟักข้าว รากไข่เน่า ฝนกับนํ้าซาวข้าวกิน ๆ ครั้งละถ้วยชาเล็กๆ
ยาแก้ขดั เบา เอายอดอ้อย ๓ ยอด ดินประสิ ว ๑ หยิบมือ ตําให้แหลก เอาฝางฝนกับนํ้าปูนใส เอานํ้า
ใส่ ลงในยาที่ตาํ นั้น แล้วคั้นเอานํ้ากิน
ยาแก้ขดั เบา เอาลูกตีนเป็ ดเผาไฟแช่น้ าํ ขยําแล้วกรองเอานํ้า แล้วเอาสารส้มแกวงลงพอควร เอานํ้ายา
นี้สวนเข้าช่องปั สสาวะ ๆ จะออกแล
ยาขัดปั สสาวะ เอารากตําลึง จาวปลวก จาเข้าเย็น สารส้ม ต้มกิน
ยาแก้ขดั เบา เอาสารส้ม ดินประสิ ว รากรําเจียก เง่าสบปะรด ผิวไม้รวก ต้มกิน
ยาแก้ขดั ปั สสาวะ เอายาเนาวหอยละลายนํ้าเมล็ดงาต้ม หรื อนํ้ามูตร นํ้าครํากิน ยาแก้กระหายนํ้าด้วย
ยาแก้ขดั ปั สสาวะ เอาหญ้างวงช้าง ดินประสิ ว ตําพอกหัวเหน่า ปั สสาวะออกแล
ยาแก้ปัสสาวะ เอาขี้เหล็กทั้ง ๕ ฟองนํ้า ต้มกิน
ยาแก้ขดั เบา เอาดีปลากดคลัง ละลายนํ้าสวนเข้าช่องปั สสาวะ ๆ ออกแล
ยาแก้ขดั เบา เอาดีงูเห่าละลายนํ้าแทรกพิมเสนทามือแล้วเอามืออังที่ปากทวารเบาปั สสาวะออกแล
ยาแก้ขดั ปั สสาวะ เอาเบี้ยจัน่ เผาไฟ ๓ ตัว ดินประสิ ว ๑ บาท สารส้ม ๑ บาท บดละลายนํ้ามะกรู ดกับ
นํ้ามะนาวปนกันกิน ปั สสาวะออกแล
ยาแก้ขดั เบา เอาดินประสิ ว สารส้ม อ้อยแดง ผักเบี้ยใหญ่ แตงกวา แกลบข้าวจ้าวต้มกิน
ยาแก้ขดั เบา เอายาเข้าเย็น ๓ แว่น ฝาง กําลัง ประคําไก่ รุ่ นไม้ไร่ หญ้าซุ ม้ กระต่าย ไม่ไผ่บงทั้ง ๕ ไม่
ไผ่ป่าทั้ง ๕ ไม้รวกทั้ง ๕ ต้มกิน
ยาแก้ขดั เบา เอาโคกกระสุ น โคกกระออม เง่าสับปะรด รากลําเจียก ขี้เหล็กทั้ง ๕ ชะมดต้น สารส้ม
ดินประสิ ว เกลือสิ นเธาว์ ต้นบานไม่รู้โรยขาว ต้มกิน
ยาแก้เบาแดงเบาขาว เอาแก่นมะหาด แก่นขี้เหล็ก แก่นประดู่ แก่นปรู ผักแพวแดง หญ้าปากควาย
โคกกระออม ต้มกิน
ยาแก้ขดั ปั สสาวะ เอาชี้กบไม้สัก ต้มด้วยนํ้าปูนใสกิน ๒ ถ้วย ปั สสาวะออกแล ก่อนกินยานี้ระลึกถึง
ครู อาจารย์ของตํารานี้เสี ยก่อน
ยาแก้มุตกิด เมื่อจะถ่ายปั สสาวะมีอาการปวดหัวเหน่า ปวดท้องน้อย ปวดในลํากล้อง ทวารหนัก
ทวารเบาเหมือนอุจจาระจะออก ปัสสาวะกะปริ บกะปรอย อุจจาระออกเหมือนเป็ นบิด บ้างเป็ นเหมือน
พรรดึก เอาแก่นขี้เหล็ก รากพุงดอ รากคัดเค้า แก่นไม่สัก รากตานหม่อน รากตานเสี้ ยน รากไทรย้อย ราก
ขี้กาแดง รากตาลโตนด โคกกระสุ น ฝาง ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
๙๗

ยาแก้มุตกิด เลือดแห้ง ผมแห้งหน้าแข้งเป็ นเกล็ด ไอ เอาจันทน์ท้ งั ๒ รากมะเดื่อทั้ง ๒ รากหวายขม


รากชิงชี่ รากหญ้าคา รากหญ้านาง รากเข้าไหม้ รากกะตังบาย รากคนทีสอ รากคัดเค้าหมู รากตานหม่อน
รากกําจัด รากตองแตก รากสากกระเบือว้า รากสันพร้านางแอ แก่นสน แก่นไม้สัก กรักขี ใบมะขาม ใบส้ม
ป้อย ต้มกิน
ยาแก้มุตกิด เอาหว้านสากเหล็ก หว้านนางคํา หว้านเปราะ โกฏพุงปลา รําพันหางหมู รากมะตูม
อ่อน รากอังกาบ หัวแห้วหมู การะบูน รังหมาร่ า ลูกเร่ ว ดินประสิ ว บดละลายนํ้าผึ้งกิน
ยามุตกิดหนองใน เอาเขากวาง เบี้ยตัวผู ้ หวายตะคร้า ขิง บดละลายนํ้ามะนาวแทรกขี้ยาฝิ่ นกิน
ยาแก้เบาขาวเป็ นนํ้าข้าว เมื่อแรกเป็ นมีอาการขัดหัวเหน่า ร้อนรู องคชาด แลจับสะบัดร้อนสะบัด
หนาว เอาการะบูน เทียนดํา ลูกเอ็น รําพันหางหมู ขิงแห้ง เอาสิ่ งละเท่ากัน บดละลายนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้เบาแดงเบาเหลือง เอาลูกสมอไทย รากเจ็ตมูลเพลิง สารส้ม กํามะถันแดง เอาสิ่ งละ ๑ สลึง
เทียนดํา ๑ บาท ดอกคําไทย ๑ บาท บดละลายนํ้ามะนาวกิน
ยาแก้เบาแดง เอาหัวแห้วหมู เทียนดํา รากมะตูม รากเสนี ยด รากอังกาบ ใบสะเดา ลูกเอ็น โกฏสอ
เกลือสิ นเธาว์ บดละลายนํ้าอ้อยแดงกิน
ยาแก้เบาดําเป็ นนํ้าคราม เอารากหญ้านาง เถาวัลย์เปรี ยง รากระทุงหมาบ้า ฝาง หัวแห้วหมู หัวหญ้า
ชันกาด แก่นขี้เหล็ก รากไคร้หางนาค ขมิ้นอ้อย ไพล รากพุงดอ รากหวายขม เอาสิ่ งละเท่ากัน ต้ม ๓ เอา ๑
กิน
ยาแก้เบาเป็ นเลือด เอาหัวหญ้าชันกาด แก่นแสมทั้ง ๒ แก่นขี้เหล็ก แก่นขนุน ฝาง แก่นขมิ้นเครื อ
พระยามูลเหล็ก หัวหอม สารส้ม ๒ สลึง ดินประสิ ว ๒ สลึง เถาวัลย์เปรี ยง ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาแก้ขดั เบา เอาโคกกระออมทั้ง ๕ สารส้ม ต้มกิน
ยาแก้ขดั เบา เอาเปลือกแทงทวยต้มแทรกดินประสิ วกิน
ยาแก้ขดั เบา เอาหญ้าพันงูแดง ใบฝ้ายป่ า พริ กไทย ขิง กระเทียม ลูกยอ รากยอ เกลือสิ นเธาว์ สารส้ม
เอาเสมอภาค บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้ขดั เบา เอาหญ้าตีนกา ๑ กํามือ ต้มด้วยสุ รากิน
ยาแก้น้ าํ ปั สสาวะเหลือง นํ้าลายเหนียว เอาจุกโรหิ นี รากเสนียด งวงกล้วยตีบ แกลบข้าวเหนียว
กัญญา ต้มกิน
ยาแก้ขดั เบา เอาใบฆ้องสามย่าน หว้านหางจรเข้ หัวกล้วยตะนี ดินประสิ วขาว บดพอกหัวเหน่า
เบาออกแล
ยาแก้มุตฆาต เอาโกฐทั้ง ๕ เสนียดทั้ง ๕ ตรี กะฏุก กานพลู ลูกเอ็น รากละหุ่ง รากแตงหนู หัวแห้ว
หมู การะบูน นํ้าประสานทอง ชะมด พิมเสน อําพัน เกลือสิ นเธาว์ ขมิ้นอ้อย บอระเพ็ด ใบสะเดา เอาเสมอ
ภาค บดละลายนํ้าผึ้ง นํ้ามะนาวกิน
ยาแก้ปัสสาวะพิการ เอาต้นสับปะรด รากลําเจียก หัวเตยหนู ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ สารส้ม ๑ บาท หญ้า
คมบางเท่ายาทั้งหลาย ต้มกิน แก้ปัสสาวะไม่สะดวก คือ นํ้าปั สสาวะหยดย้อย
๙๘

ยาแก้ขดั ปั สสาวะ เอาเบี้ยจัน่ เผาไฟ หน่ออ้อ ๖ หน่อ สารส้ม ๑ สลึง ต้มกิน


ยาแก้เบาเป็ นโลหิ ต เอาใบกะทือตําคั้นเอานํ้า ๑ ถ้วย นํ้าผึ้ง ๑ ถ้วย ผสมกันกิน ๒ ถ้วยหาย
ยาแก้เบาหวาน เอาอ้อยแดงยาว ๑ คืบ ผ่า ๔ สับให้เป็ นชิ้น ๆ ต้นกกที่ใช้สานเสื้ อ ๑๕ ต้น วัดตั้ง. ต้น
ขึ้นไป ๑ คืบ หญ้าปล้อง ๑ กํามือมัด ๓ เปลาะ เมล็ดถัว่ ดํา ๑ กํามือ ห่อผ้าขาวต้มไปด้วยกัน คนนํ้าบ่อย ๆ ถ้า
เป็ นนาน ๆ กิน ๑๗ หม้อหายขาดแล
อีกขนานหนึ่ง เอาใบเลี่ยน ๑ กํามือ ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ เอาพอควร ต้มกิน
อีกขนานหนึ่ง เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ รากสะเดาดิน ข้าวเปลือก ห่อผ้าขาวต้มกิน ยาขนานนี้ได้ผลดี
มาแล้ว
ยาแก้ปัสสาวะเป็ นโลหิ ต เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ หนักสิ่ งละ ๔๐ บาท เทียนทั้ง ๕ สิ่ งละ ๑ จอก ลูก
จันทน์ ดอกจันทน์ ดีปลี มหาสะดํา เอาสิ่ งละ ๑ บาท พริ กไทย ๑ ทนาน ต้มกิน
อีกขนานหนึ่ง เอาครุ ตกั นํ้าเก่า ๆ ๑ ลูก ผ่า ๔ ซึกเอา ๑ ซี ก บานไม่รู้โรยขาวหนัก ๑๐ ตําลึง ต้มกิน
ยา ๒ ขนานนี้เป็ นคู่กนั ให้ตม้ กินไปจนกว่าจะหาย
ยาแก้ปัสสาวะพิการ เบาเป็ นหนอง เป็ นแป้ง ปัสสาวะแดง เบาขัด ปวดแสบปวดร้อน ชุ มเห็ดใหญ่ท้งั
๕ เถาวัลย์เปรี ยง รากหญ้าคา หัวหญ้าชันกาด หัวหวายลิง เอาเสมอภาค ข้าวกล้อง ๑ กํามือ สารส้ม ๑ บาท ต้ม
กิน ยานี้เคยใช้ได้ผลดีมาแล้ว
ยาแก้ขดั เบา เอาตะไคร่ น้ าํ ในท้องเรื อ ปูนขาว มือนํ้าเต้า รากทนดี บดเป็ นผงละลายนํ้า เช็ดทาที่หวั เห
น่าเบาออกแล
ยาแก้ปัสสาวะและอุจจาระไม่ออก เอานํ้าแตงโมผสมกับนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้เด็กขัดเบา เอาดินประสิ ว ๑ สลึง นํ้าตาล ๑ สลึง บดละลายนํ้ามะนาวกิน
ยาแก้ช่ าํ รั่ว นํ้าปั สสาวะไหลออกมาไม่รู้สึกตัว ไม่วา่ หญิงแลชาย เอาลึงค์ววั ป่ าย่างไฟให้ไหม้ ฝนด้วย
นํ้าท่ากิน
ยาแก้ขดั เบา เอารากมะละกอ ๑ กํามือ ผูก ๓ เปลาะ ต้มแทรกสารส้มกิน
ยาแก้ขดั เบา เอาเปลือกกุ่มบกฝนด้วยนํ้ามะนาวทาท้องน้อย นํ้าปั สสาวะออกแล
ยาแก้ขดั เบา ๆ มิสะดวก เอาด่างต้นลําเจียก ด่างขี้มา้ ด่างข้าวฟ่ าง ด่างข้าวเหนียว ด่างผักโหมหนาม
ด่างงวงตาล เอาเสมอภาค เอาแช่น้ าํ แล้วเอาฝาง กันเกรา พระยามูลเหล็ก สน สักขี กําลังวัวเถลิง โกฏทั้ง ๕
เทียนทั้ง ๕ ลูกจันทน์ ฯลฯ
ยาแก้ขดั หนักขัดเบา เอาใบมะขาม ใบส้มป่ อย สิ่ งละกํามือ ยาเข้าเย็น ๓ แว่น นํ้าอ้อย.หนึ่ง สารส้ม
หน่อยหนึ่ง เกลือพอควร ต้มกิน
ยาแก้ขดั เบา เอาเปลือกกุ่มบกฝนกับนํ้ามะนาวทาท้องน้อย ปั สสาวะออกแล
๙๙

ว่ าด้ วยเสมหะพิการและยาแก้

เสมหะเป็ นจําพวกอาโปธาตุ เมื่อพิการย่อมให้โทษได้หลายประการ มียาแก้ดงั จะกล่าวต่อไปนี้


ยาแก้เสมหะพิการ เอารากส้มกุง้ ทั้ง ๒ รากมะกลํ่าเครื อ รากมะแว้งเครื อ รากมะเขือขื่น ฝักส้มป่ อย
ตรี กะฏุก กระเทียม กานพลู ชะเอมเทศ ลูกมะกรู ด ดินประสิ ว สารส้ม เกลือสิ นเธาว์ เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน
สลัดไดแห้ง ๓ ส่ วน บดปั้นแท่ง ละลายนํ้ามะนาวแทรกดีงูเหลือมจบ(จิบ)กิน หรื อกวาดคอ แก้ไอ แก้คอแห้ง
แก้เสมหะเหนียวติดลําคอแลแน่นในทรวงอก
ยาชื่อเสมหะพินาศ เอาใบหนาด ผิวมะกรู ดปิ้ งไฟ ลูกสมอ เมล็ดผักกาด เมล็ดผักชีลา พริ กไทย เอา
เสมอภาค บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าร้อน ละลายนํ้าร้อนหรื อนํ้าส้มส้ากิน แก้เสมหะทําให้เท้าเย็นมือเย็น ตัวร้อนหัว
ร้อนหายแล
ยาชื่อจําปาลอยแพ เอากํามะถันแดง เมล็ดมะนาว กระเทียม นํ้าประสานทอง รากประยงค์ ดีจรเข้ เอา
เสมอภาค บดปั้ นแท่งด้วยนํ้ามะนาว กวาดด้วยนํ้ามะนาวแทรกเกลือก(เกลือ) แก้เสมหะในคอแล ในทรวงอก
หายแล
ยาหอมประสระเนื้อไม้ เอาลูกสมอเทศ ลูกสมอไทย ลูกสมอพิเภก ลูกมะขามป้ อมว่าน(หว้าน) นํ้า
กระชาย หัวหอม หัวกระเทียมขั้ว ชะเอมเทศ ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ยาทั้งนี้ข้วั ให้เหลือง การะบูน เกษรบัว
หลวง ดอกพิกุล ดอกบุนนาค ดอกสารภี(สาระภี ) เอาสิ่ งละ ๑ บาท ลูกผักชีข้ วั ๖ สลึง เปราะหอมขั้ว ๓ บาท
พิมเสน ๒ สลึง ชะมดเชียง ๑ สลึง จันทน์เทศ ๔ บาท จันทนา ๑๐ บาท จันทน์ชะมด ๑๐ บาท จันทน์แดง ๑๐
บาท เนื้อไม้ ๑๐ บาท บดเป็ นผง แก้ร้อนในเชื่ อมมัวเพื่อพิษเสมหะ ละลายนํ้าเทียนดํากับเนื้อไม้ตม้ แทรก
พิมเสนกิน แก้ปวดมวนเพื่อคูธเสมหะ ละลายนํ้าร้อนแทรกกะทือหมกไฟ แทรกพิมเสนกิน
ยาแก้เสมหะเฟื่ อง เอายาเข้าเย็น รากคูน รากตับเต่าทั้ง ๒ รากกระทุงลาย รากกระจาย เกลือ ๓ หยิบ
ลูกมะกรู ด ๑ ลูก ผ่า ๔ เอา ๓ ซี ก ต้มกิน
ยาแก้คอแห้ง แก้เสลดเหนียว แก้อาเจียน เอาโกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูก
กระวาน กานพลู ว่านนํ้า พรมมิ ดอกบุนนาค เกษรบัวหลวง ลูกราชดัด ขิง พริ กไทย บดละลายนํ้าท่าแทรก
เกลือกิน แก้อาเจียนละลายนํ้าลูกยอต้มกิน
ยาแก้ไอ เสลดทําให้คนั คอ เอาเนระภูษี จันทน์แดง ลิ้นทะเล นํ้าประสานทอง ดีงูเหลือม เมล็ดถัว่ พู
ขั้ว บดละลายนํ้าชุบสําลีอม
ยาแก้เสลดในทรวงอก เอาหี บลม จันทน์แดง หัวยั้งทั้ง ๒ ยาเข้าเย็นเหนือ ต้มกิน
ยาแก้เสลด เอารากมะนาว รากทิ้งถ่อน รากมะดูกฝนด้วยนํ้าซาวข้าวกิน
ยาแก้เสลดทําให้ไป(ไอ) แลแก้เลือดในคอออก เอาพริ กไทย พระยารากขาว รากพุด รากลําเจียก เขา
ทราย ลูกพิกุล ผักแพวแดง บดละลายนํ้าผึ้งกิน หรื อชุบสําลีอมก็ได้
๑๐๐

ยาแก้เสลดในทรวงอก หรื อเป็ นหนองเน่าในท้อง แลเป็ นฝี ในท้อง ในทวารหนัก ทวารเบา เอานํ้าเถา
ตําลึง นํ้ามะพร้าว นํ้าปลาปากไห เอาสิ่ งละ ๑ จอก จุนสี ๑ สลึง เอาประสมกันเอากะทะตั้งไฟให้เดือด แล้
กวิน( แล้วกิน)ครั้งละ ๑ ช้อนชา
ยาแก้เสลดตีข้ ึน เอามหาสะดํา มหาสะแดง รากนมแมวน้อย ฝนด้วยนํ้าร้อนกิน
ยาแก้เสลดในท้องพิการ ทําพิษให้ปวดแลเป็ นต่าง ๆ เอาส้มกุง้ ใบประคําไก่ ใบสะเดา ไพล เมล็ด
ผักกาด ดินประสิ วขาว ตรี กะฏุก บดละลายนํ้ากินแลทากระหม่อม
ยาแก้เสลด เอาหญ้าปากควาย มะกลํ่าต้น ต้ม ๓ เอา ๑ กินหายแล
ยากวาดแก้เจ็บคอและไป เอาพริ กไทย ดีปลี ขิง กระเทียม ฝักส้มป่ อย สารส้ม ดินประสิ วขาว หัศกุน
ไทย รากส้มกุง้ ทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ ๔ บาท บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้ามะนาว แทรกเกลือ กวาดคอเวลาเย็น ถ้าตัวร้อน
ละลายนํ้าท่า แก้เจ็บคอ เม็ดขึ้นในคอ อันเป็ นเพื่อสอเสมหะ
ยาประสระมะแว้ง เอาใบตานหม่อน ใบสวาด ใบกะเพรา ขมิ้นอ้อย สารส้ม เอาสิ่ งละ ๔ บาท ผล
มะแว้งเครื อ ๒๐ บาท บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้ามะขามเปี ยกแทรกเกลือกวาดคอ แก้เสี ยงแห้ง เป็ นเพื่อสอเสมอ
หะ และแก้ไป(ไอ) ละลายนํ้ามะขามเปี ยกแทรกเกลือกับนํ้าตาลกรวดใช้จิบเวลา
ยาจิบแก้เสี ยงแห้ง เอาขิง ดีปลี กระเทียม กานพลู ผลมะแว้งเครื อ ฝักส้มป่ อย รากส้มกุง้ ทั้ง ๒ นํ้า
ประสานทองสะตุ ชะเอมไทย เอาสิ่ งละ ๑ บาท บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้ามะขาด(มะขาม)เปี ยกกับนํ้ามะนาว
แทรกนํ้าตาลกรวด เกลือก( เกลือ ) พิมเสน จิบกินแก้เสี ยงแห้ง เพื่อสอเสมหะ
ยาต้มแก้อุระเสมหะ เอาใบมะขาม ใบส้มป่ อย ฝักราชพฤกษ์ เถาวัลย์เปรี ยง เถาคันแดง ฝาง เทียนดํา
ข่า รังมดดํา หัวหอม เอาสิ่ งละ ๔ บาท เอาลูกสมอไทยเท่าอายุคนไข้ตม้ กิน ให้แทรกด้วยดีเกลือตามธาตุหนัก
เบา ๓ วันแทรกดีเกลือกครั้งหนึ่ง แก้ในกองอุระเสมหะให้โทษ
ยาชื่อวิรุณนาภี เอามหาหิ งคุย์ างโพ ๕ บาท ว่าน(หว้าน)นํ้า ๔ บาท เกลือสิ นเธาว์ ๒ สลึง ขิงแห้ง ๕
บาท รากเจ็ตมูลเพลิง ๕ บาท หัศกุนเทศ ๕ บาท กานพลู ๕ สลึง สารส้ม ๒ สลึง ลูกสมอทั้ง . สิ่ งละ ๑ บาท
พริ กไทยล่อน ๕ บาท สุ ค้าน(สะค้าน) ๔ บาท ดีปลี ๒ สลึง ลูกจันทน์ ๑ บาท ดอกจันทน์ บาท ลูกกระวาน ๑
บาท รากส้มกุง้ ทั้ง ๒ สิ่ งละ ๑ บาท ดินประสิ วขาว ๖ สลึง บดปั้ นแท่งเม็ดด้วยนํ้าส้มส้าเท่าเมล็ดพุดซา กิน
เวลาเย็นแก้อุราเสมหะทําโทษ
ยาชื่อมหาวิเศษ เอาหัวกระดาดทั้ง ๒ หัวบุกรอ หัวกลอย หัวอุตพิด หัวดองดึง รากส้มกุง้ ทั้ง ๒ เปล้า
ทั้ง ๒ ฝักส้มป่ อย หัวเต่าเกียด พริ กไทย ดีปลี ขิงแห้ง เปลือกกุ่มทั้ง ๒ เปลือกมะรุ ม เปลือกทองหลางใบมน
กะทือ ไพล ข่า กระเทียม กระชาย เอาสิ่ งละ ๑ บาท บดละลายนํ้ามะนาวแทรกเกลือกวาดคอ แก้ไขอั้น เพื่อ
อุราเสมหะให้โทษ
ยาแก้อุระเสมหะให้โทษ ทําให้แรงน้อยถอยกําลัง เอาเปลือกโมกหลวง ตรี กะฏุก ผลราชดัด ขมิน้
อ้อย รากกระพังโหม หัวเข้าข้า หอมแดง เอาสิ่ งละ ๑ บาท บดละลายสุ รากิน ยานี้ทาํ ให้โลหิ ตเดินตามผิวหนัง
ดี (กินเวลา ๒ ทุ่ม)
๑๐๑

ยาตัดรากโรคอันเกิดจากอุระเสมหะ ซึ่ งจะทําให้เกิดกลายเป็ นฝี ในท้องหรื อวัณโรค เอารากมะอึก


แฝกหอม รากมะแว้งเครื อ รากกล้วยตีบ เอาสิ่ งละ ๔ บาท ต้มกินเวลาเช้า
ยากแก้คูธเสมหะ เอาเมล็ดผักชีลา ลําพัน ใบนํ้าเต้าขม เปลือกโมกหลวง แก่นชี้ เหล็ก ผลกระดอม
เอาเสมอภาคต้มกินเวลาเช้า แก้จบั สะท้านร้อนสะท้านหนาว
ยาชําระคูธเสมหะ เอาใบมะขาม ใบส้มป่ อย ฝางเสน เถาวัลย์เปรี ยง หัวแห้วหมู ทุบให้แตก หอม ๕
หัว ลูกสมอไทยเท่าอายุคนไข้ ต้มกินเวลาเช้าทุกวัน ๓ วันแทรกเกลือวันหนึ่ง แก้เสมหะเน่า อันเกิดแต่คูธ
เสมหะ
ยาประสระกานพลูใหญ่ เอารากแฝกหอม ลูกกระวาน ใบกระวาน เทียนดํา เมล็ดผักชี ว่าน(หว้าน)
นํ้า เปราะหอม กระชาย รากแจง ผลเร่ ว เอาสิ่ งละ ๑ บาท กรุ งเขมา รากข้าวสาร โกฐกระดูก ไคร้เครื อ
ขมิ้นชัน รากช้าพลู เจ็ตมูลเพลิง สะค้าน ขิงแห้ง ดีปลี ลูกมะตูมอ่อน หัวแห้วหมู เอาสิ่ งละ ๒ บาท เปลือกซิก
ผลจันทน์เทศ หญ้าฝรั่น เอาสิ่ งละ ๓ บาท กานพลู ๔๐ บาท บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้ากระสายกินเวลาเย็น แก้คูธ
เสมหะ
ยาประสระทับทิม เอาเมล็ดในมะม่วงพรวน ลูกเบ็ญกานี ลูกจันทน์เทศ ครั่ง ดินกิน เปลือกเมล็ด
มะขามขั้ว เปลือกลูกแมงคุด กระวาน กานพลู ยางตะเคียน นํ้าประสานทอง สี เสี ยด ทั้ง ๒ ยาฝิ่ น เอาสิ่ งละ ๑
สลึง บดยัดใส่ ในผลทับทิม เอาขี้ววั พอกชั้นหนึ่ง เอาดินพอกชั้นนอก เอาสุ มไฟแกลม(แกลบ)ให้สุก เอา
ดินกับขี้ววั ออกทิ้ง ลูกทับทิมกับยาอื่นเอาบดละลายนํ้ากระสายกินเวลากลางคืน
ยาจิบกัดเสมหะเพื่อตัดอาเจียน เอารากส้มกุง้ ชะเอม ฝนกับนํ้ามะนาวแทรกเกลือให้เค็มเปรี้ ยว
พอควร เจือดินประสิ วเล็กน้อย จิบกิน
ยาสุ ขวิเรนทร์ เอารากตองแตก รากสลอดตัน(ต้น) ยาดํา สิ่ งละ ๑ บาท ฝักส้มป่ อย รากส้มกุง้ สิ่ งละ
๒ สลึง ตรี กะฏุก ชะเอม รากเจ็ตมูลเพลิง เทียนดํา กระเทียม การะบูน มหาหิ งคุ ์ เกลือสิ นเธาว์ เอาผงบดปั้ น
แท่งด้วยนํ้ามะนาวละลายนํ้ามะนาวกินตามกําลัง แก้ลม แก้เสลดปะทะขึ้นจุกลําคอ หายแล
ยากวาดถอนเสลดกาฬในลําคอ เอากํามะถันแดง เมล็ดมะนาว กระเทียม นํ้าประสานทอง ดีจรเข้
รากเปรี ยงป่ า เอาเสมอภาค ตําผงบดปั้ นแท่งละลายนํ้ามะนาวกวาดคอให้รากสํารอก เสลดร้ายออกสิ้ นแล
ยาแก้เสลดแตกเน่าในท้อง มีอาการปวดบิด เอาส้มกุง้ ใบประคําไก่ ใบสะเดา ไพล ขมิ้นอ้อย เมล็ด
ผักกาด ดินประสิ ว สารส้ม ตรี กะฏุก บดละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้เสมหะพิการ เอาดินประสิ ว ๑ ส่ วน สารส้ม รากมะแว้งทั้ง ๒ รากมะเขือขื่น รากส้มกุง้ น้อย
รากส้มป่ อย ลูกกระวาน เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ลูกมะขามป้ อม ๖ ส่ วน บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าผึ้งหรื อนํ้า
มะขามเปี ยกแทรกเกลือกวาดคอหรื อจิบกิน แก้ไอ แก้เจ็บคอ แก้เสมหะเหนียวติดคอ
ยาแก้เสมหะเหนียว เอาลูกประคําดีควาย รากส้มกุง้ กะแตไต่ไม้ ต้มกิน
ยาแก้เสลดหางโค เอาฝักส้มป่ อยทาเกลือปิ้ ง ชะเอมเทศ ดอกพิกุล ต้มกิน
ยาแก้เสลดหางโค เอารากคนทาต้มแทรกพิมเสน จิบกิน
๑๐๒

ยาแก้เสมอหะ เอารากก้างปลาทั้ง ๒ ใบตําลึงทั้ง ๒ ใบผักปลังทั้ง ๒ ใบทองหลางใบมน ใบหญ้า


นํ้าดับไฟ บดแทรกดินประสิ วพอกหน้าอก แก้เสมอหะเหนียวเสมหะแห้ง
ยาแก้เสมหะปวดถ่วงเหมือนเป็ นบิด เอาลูกกระวาน กานพลู พริ กไทย ดีปลี เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ยาดํา
๒ ส่ วน ผิวมะกรู ดขั้วเท่ายาทั้งหลาย บดกิน
ยาแก้เสลดตีข้ ึน ทําให้ตีนมือกําแข็งอยู่ เอาเมล็ดผักกาด เปล้าน้อย โลดทะนง ต้นนํ้านม ราชสี ห์ ดีงู
ฝนด้วยสุ รากิน
ยาแก้เสมหะเฟื่ อง เอาหญ้าแพรก หญ้าปากควาย หญ้าพองลม รากช้าพลู หัวแห้วหมู ขิงสด รากเจ็ต
มูลเพลิง พริ กไทย ดีปลี ว่ าน(หว้าน)นํ้า แก่นจันทน์ท้งั ๒ เกษรบัวหลวง ดอกพิกุล ดอกบุนนาค ดอกสารภี ยา
เช้าเย็น ต้มกิน
ยาแก้เสมหะเฟื่ อง เอาหัวตะไคร้ หัวแห้วหมู บอระเพ็ด (บระเพ็ด) กัญชา(กัญชา) รากเจ็ตมูลเพลิง
ขมิ้นอ้อย รากตับเต่าทั้ง ๒ มหาสะดํา มหาสะแดง รากกระทุงลาย พริ กไทย ดีปลี ขิงสด หัวหอม แก่นจันทน์
ทั้ง ๒ รากตูมกาทั้ง ๒ รากมะตูม รากหญ้านาง ชันย้อย ขี้ผ้ งึ แข็ง หญ้าพองลม เกลือ ๓ หยิบ ลูกมะกรู ด ๑ ลก
ผ่า ๔ เอา ๓ ซีก เศกด้วยพระเจ้า ๑๖ พระองค์ พระเจ้าเปิ ดโลก ต้มกิน
ยากระจายพิษ เอาตรี กะฏุก เกลือสิ นเธาว์ รากส้มกุง้ ฝักส้มป่ อย รากขี้กาแดง บดปั้ นแท่ง แทรกขัน
ทศกร นํ้าตาลกรวด นํ้าตาลทราย เอานํ้ามะนาว นํ้ามะขามเปี ยก เอาสิ่ งละเท่ากัน ละลายยา แล้วเอาตั้งไฟถ่าน
กวดให้แห้ง กินก็ได้ทาก็ได้ แก้เสมหะตีข้ ึนปะทะอก แก้น้ าํ ลายเหนียว หายแล
ยาแก้เสมหะพิการ เอาดินประสิ ว ๑ ส่ วน สารส้ม รากมะแว้งทั้ง ๒ รากมะเขือขื่น รากส้มกุง้ น้อย
รากส้มป่ อย ลูกกระวาน เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ลูกมะขามป้ อม ๖ ส่ วน บดละลายนํ้าผึ้ง นํ้ามะขามเปี ยก แทรก
เกลือ อม กวาดคอ หรื อจิบกิน แก้ไอ แก้คอแห้ง แก้เสมหะเหนียว

ว่ าด้ วยลักกะปิ ดลักกะเปิ ดและโลหิตตกไรฟันและยาแก้


ลักกะเปิ ดเป็ นโรคทําให้โลหิ ตออกมาทางเหงือก เมื่อโลหิ ตออกมาแล้ว ทําให้โลหิ ตนั้นหดตัว ..
พอกอยูท่ ี่ฟัน โลหิ ตตกไรฟั นนั้นโลหิ ตไม่ขน้ โรคนี้อาจเป็ นอันตรายแก่ชีวิตได้ มียาแก้ดงั ต่อไปนี้
ยาแก้ลกั กะปิ ด เอาหัวมันเทศเผาไฟ ลูกประคําดีควายเผาไฟ เมล็ดมะกอกเผาไฟ ใบลานขั้ว ... รอบ
เอาสิ่ งละ ๑ สลึง นํ้าประสานทองสะตุ บดปั้นแท่งละลายนํ้ากระสายกิน
ยาแก้ลกั กะปิ ด เอานํ้าตาลทราย เมล็ดถัว่ เขียว เอาสิ่ งละพอควรต้มกิน
ยาแก้ลกั กะปิ ด เอารากพุมเรี ยงทั้ง ๒ รากตาลโตนด รากมะแว้งเครื อ รากมะพร้าว เอาสิ่ งละ บาท
ลูกประคําดีควาย ๓ ลูก ต้มกิน
ยาแก้ลกั กะปิ ด เอาใบมะนาวต้มกิน
ยาแก้เลือดตกไรฟั น เอาดอกทองกวาว สารส้ม ต้มเอานํ้าอม
ยาแก้ลกั กะปิ ด เอาเสนียดทั้ง ๕ จันทน์ท้งั ๒ เทียนดํา ไพล กระเทียม ขมิ้นอ้อย เอาเสมอภาค เป็ นผง
ละลายสุ รากิน
๑๐๓

ยาแก้ลกั กะปิ ด เอารากฝ้ายเทศ รากชุมเห็ดเทศ รากหญ้างวงช้าง รากหญ้าพันงู เอาเสมอภาค ปดเป็ น


ผงละลายสุ ราแทรกดีงูเหลือม ปิ ดไรฟัน
ยาแก้ลกั กะปิ ด เอากํายาน จุนสี ขี้แมลงสาบขั้ว ชันผง ฝาง เอาเสมอภาค บดเป็ นผง ละลายนํ้าผึ้งอม
ยาแก้ลกั กะปิ ด เอาฝิ่ น ๑ ส่ วน ลูกจันทน์เทศ พริ กไทย เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน บดเป็ นผงละลาย กิน
ยาแก้ลกั กะปิ ด เอาเขากวาง เขาควายเผือก งาช้าง รากคนทา เมล็ดงา เมล็ดฝ้าย เอาเสมอภาค ต้มกิน
ยาแก้ลกั กะปิ ด เอาใบเข็มป่ าต้มอม
ยาแก้ลกั กะปิ ด เอาผ้ากรองรักเผา ละลายนํ้าด่างไม้รวกกิน
ยาแก้ลกั กะปิ ด เอาใบเสนียด ผักเบี้ย บดพอกสุ มศีรษะ
ยาแก้ลกั กะปิ ด เอาลูกลําโพง ข้าวเหนียวกัญญา เกลือ เอาเสมอภาคใส่ หม้อสุ มไฟแกลบ บดปั้ นแท่ง
ละลายนํ้าปูนใสกิน แก้ลกั กะปิ ด แก้กาฬมูตร กาฬคูธ ละลายนํ้าครํากิน แก้กาฬเลือดเมื่อคลอดลูก ละลาย
สุ รากิน
ยาแก้เลือดตกไรฟั น เอาดินประสิ ว ผิวไม้ไผ่ป่า ผักบุง้ ตําพอกเหงือก เลือดหยุดแล
ยาแก้ลกั กะปิ ด เอาผ้าเลือดสตรี เผาไฟทาไรฟัน
ยาแก้ลกั ปิ ด แก้กาฬมูตรกาฬคูธ แก้กาฬเลือด เอาลูกลําโพง ข้าวเหนียวกัญญา เกลือ เอาใส่ หม้อสุ ม
ไฟแกลบ บดเป็ นผง แก้ลกั กะปิ ดละลายนํ้าปูนใสกิน แก้กาฬมูตรกาฬคูธ ละลายนํ้าครํากิน แก้กาฬเลือดเมื่อ
คลอดลูก ละลายสุ รากิน
ยาแก้เลือดตกไรฟั น เอาบอระเพ็ด สะค้าน พริ กไทย เทียนแดง ลูกสมอไทย ว่านนํ้า ดีปลี ขิง ราก
ช้าพลู มหาหิ งคุ ์ เอาสิ่ งละ ๑ สลึง บดละลายนํ้าท่ากิน
เบื้องนี้ จะกล่าวยา แก้ทนั ตาเกิดโรคร้าย โดยตําราท่านบรรยาย เรี ยกกาลสู ตร โรคในฟัน บังเกิดให้
เลือดไหล ออกตามรากฟันนั้น เป็ นเม็ดเป็ นหัวคัน แตกเป็ นเลือดไหลออกมา ให้เอาแก่นประดู่แลไม้สักทั้ง
กะลา อีกชิงชี่ลูกฝ้ายมา หุ งเป็ นขี้ข้ ึนจงพลัน จึงเอาเลือดปลาไหล ใส่ กบั ชี่สีไรฟัน กาลสู ตรเลือดไหลนั้น
พลันเสื่ อมสู ญคุณนักหนา
ภาคหนึ่งแก้เลือดออกตามไรฟัน เอารากกัญชา ยาเข้าเย็น เร่ งต้มอมหายมาหลาย
ภาคหนึ่งโลหิ ตตก ตามไรฟั นระสํ่าระสาย เอากระดองปูป่าตาย พรมปูนงั่ สมุดดํา ยาสาม จงเผา
หมด นํ้ามันงาระรายสํ่า ทาทัว่ ไรฟันรํ่า ทั้งห้ามพิษประสิ ทธิ์ ดี
ภาคหนึ่งเอื้องเพ็ดม้า แทงทวยแดง หญ้าไซสี พริ กไทยสามเมล็ดดี พึงต้มอมเนื อง ๆ หาย
ภาคหนึ่งจงต้มกิน เป็ นนิจสิ นทุกวันหมาย ถ้าโลหิ ตไรฟั นร้าย เป็ นวันหนึ่งสองวันมา จงใช้เอาซึ่ง
ขี้ผ้ งึ กับครั่ง ต้มกินอย่าช้า โลหิ ตตามทันตา วินาสาหากเสื่ อมสู ญ
อนึ่งแก้โลหิ ต ในทันตาที่พะพูน สามวันสี่ วนั หมุน เฝ้าไหลรํ่ามิใคร่ หาย ท่านให้เอาราชพฤกษ์ เร่ งต้ม
พลันดังบรรยาย รสริ นนํ้าผึ้งสาย รําหัดกินหายบัดดล อันโอสถทั้งหลายนี้ คุณหากมีแก่บุคคล ผูแ้ พทย์อย่าพึง
ฉงน ตามประเภทที่กล่าวมา
ยาแก้เลือดตกไรฟั น เอาเปลือกหอยขมเผา บดละลายนํ้าปูนใสพอกที่เหงือกบ้างและอมบ้าง หาย
๑๐๔

ยาแก้ลกั กะปิ ดลักกะเปิ ด โลหิตออกตามไรฟัน บางทีเหงือกบวมทําให้ผนั โยก เอาหญ้าเกล็ดหอยกับ


แซแช่เช้าซึ่ งหาซื้ อได้ตามร้านขายยาจีน เอาสด ๆ อย่างละกํามือตําปนกันคั้นเอานํ้าผสมกับสุ ราโรงครึ่ งขวด
ใส่ หม้อตุ๋น เวลาตุ๋นจุดธู ป ๑ ดอก หมดธู ปจึงยกลง พออุ่น ๆ ก็รับประทานมือละถ้วยตะไล เช้าเย็น เมื่อจะ
รับประทานอีกต้องอุ่นตุ๋นอีกแลจุดธู ป ๑ ดอกเหมือนกัน เมื่อหายแล้วเอาไม้แดงมาต้มรับประทานตัดราก
หายขาดแล
อีกขนานหนึ่ง เป็ นยาสี ฟันแก้ลกั กะปิ ดลักกะเปิ ด เอาลูกเบ็ญกานี รากพุงดอ ฝนกับนํ้าประสานทอง
สะตุสีฟัน
อีกขนานหนึ่ง เอาถัว่ ดําต้มกับนํ้าตาลกินให้อิ่ม ๓ มื้อหายแล ยาขนานนี้ดีจริ ง ๆ
ยาแก้เลือดตกไรฟั น เอาบอระเพ็ด สะค้าน พริ กไทย เทียนแดง ลูกสมอไทย ว่านนํ้า ดีปลี ขิง
รากช้าพลู มหาหิ งคุ ์ เอาสิ่ งละ ๑ สลึง บดละลายนํ้าท่ากิน
ยาแก้เลือดตกไรฟั น เอาดินประสิ ว ผิวไม้ไผ่ป่า ผักบุง้ ตําพอกที่เหงือก

ว่ าด้ วยโลหิตออกทางทวารหนักทวารเบาและยาแก้
ยาแก้โลหิ ตออกทางทวารหนักทวารเบา เอาเทียนดํา กระเทียม ฝิ่ น บดละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้โลหิ ตออกทางทวารหนักทวารเบา เอาขมิ้นอ้อย ไพล เมล็ดผักชี บดละลายนํ้ามะงัว่ กิน
ยาแก้โลหิ ตตกไม่หยุด หญิงคลอดลูกแล้วโลหิตตกไม่หยุด เอาสุ รามะริ ด พิมเสน เมล็ดมะนาว
นํ้านมเสื อ เอาสิ่ งละ ๑ สลึง ต้นนํ้านมราชสี ห์ เอามาตําคั้นเอานํ้าเป็ นกระสายบดปั้นเป็ นเม็ด ละลายนํ้าร้อน
กิน
ยาแก้โลหิ ตตกไม่หยุด เอาใบคนทิสอ(คนทีสอ) ผ้าย้อมมะเกลือเผาไฟ ลูกมะเกลือ ๓ ลูก ต้มกิน
ยาแก้โลหิตตกไม่หยุด หญิงคลอดลูกแล้วโลหิตตกไม่หยุด มีอาการอ่อนเพลีย เอาใบทองหลางใบ
มน หญ้าปากควาย ตําละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้โลหิ ตตกไม่หยุด เอาชันย้อย ขมิ้นชัน ข้าวสาร ๓ หยิบ เหลือ ๗ เม็ด ต้มกิน
ยาแก้โลหิ ตตกไม่หยุด เอาลูกมะแว้งทั้ง ๒ ต้มกิน
ยาแก้โลหิ ตออกทางปากทางจมูก เอาเทียนทั้ง ๕ บดละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้โลหิ ตตกทวารหนักทวารเบา เอาใบพลูแก ใบทองหลางหนาม กะทือ ไพล บดพอกขม่อม หาย
แล
ยาแก้โลหิ ตตกไม่หยุด เอาใบมะขาม ใบหญ้านาง รากคัดเค้า ต้มกิน
ยาแก้โลหิ ตตกทวารหนักทวารเบา เอาหัวแห้วหมู ข่า กระชาย ไพล บดละลายนํ้ามูตรโคกิน หายแล
ยาแก้หญิงมีครรภ์ โลหิ ตตกทวารหนักทวารเบา มีอาการเจ็บปวดนัก เอากระลําภัก หัวแห้ว รากบัว
หลวง ตําคั้นเอานํ้าคลุกข้าวสุ กกิน หายแล
ยาแก้หญิงคลอดลูกแล้วโลหิ ตตกมาก ทําให้สลบไป เอารากละหุ่งแดง รากลําโพงกาล รากบัวหลวง
ตําคั้นเอานํ้าคลุกข้าวสุ กกิน หายแล
๑๐๕

ยาแก้โลหิ ตตกทวารทั้ง ๙ ถ้าเป็ นสมุดเดือน โลหิ ตตกทวารทั้ง ๙ เอากะเพราแดง สารส้ม ดีจรเข้ บด


ละลายนํ้ามะนาวกิน
ยาแก้โลหิ ตตกทวารเบา เอาขี้โค ลูกฝ้าย ขมิ้นอ้อน ต้มด้วยสุ รากิน
ยาแก้โลหิ ตตกทวารเบา เอาใบกําเม็ง ๑ กํามือ พริ กไทย ๗ เมล็ด ขิง ๗ แว่น กระเทียม ๗ กลีบ บด
ละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้โลหิ ตตกทวารเบา เอาเทียนดํา ฝาง ใบเทียน ต้มกิน
ยาแก้หญิงมีครรภ์เลือดตก เอาเมล็ดบัว เมล็ดแตง เมล็ดไม้แดง ถัว่ ลิสง บดด้วยนํ้าตาลกรวดกิน หาย
แล
ยาแก้เลือกตกไม่หยุดแลตกมากเกินควร เอาหัวไพลเจาะเป็ นรู เอาฝิ่ นหนัก ๕ หุนใส่ แล้วเอาหมกไฟ
ให้สุก ปอกผิวที่ไฟไหม้น้ นั ทิ้งเสี ย เอาเนื้ อไพลบด เอาเทียนดําหนัก ๒ สลึงบดรวมกัน ละลายนํ้าเปลือกแค
แดงต้มกิน ถ้าเป็ นโรคอหิ วาต์ เอายานี้ละลายนํ้าเทียนดําต้ม หรื อนํ้าเปลือกแคแดงต้มกิน แก้ลงโรคอหิ วาต์
หยุดแล
ยาแก้หญิงตกโลหิ ต หญิงอยูด่ ี ๆ โลหิ ตตกออกมาแลออกมากเกินควร เอาขมิ้นชัน บดละลายสุ รา
แทรกพิมเสนกิน เลือดหยุดแล
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เอาใบไม้บง ๓ ใบ หัวกล้วยหอม ๓ แว่น ราก้อยดําพอควร ตําให้แหลกแล้วนึ่ง
เอานํ้าที่หยดออกนั้นกิน ถ้ายังไม่หยุดเอากากยาห่อผ้าประคบขม่อมหยุดแล
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เนื่องจากคลอดลูกก็ดี เป็ นระดูก็ดี เอาพริ กอ่อน ๓ เม็ด ยอดผักโหมหนาม ๓
ยอด เกลือ ๑ เม็ด เขม่าไฟ ๑ หยิบมือ ต้มกิน ยานี้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด ระดูตกก็ดี ลักกะปิ ดลักกะเปิ ดก็ดี ไม่วา่ เลือดตกอย่างใดใช้ได้สิ้น เอา.... สมี
ตําเอานํ้า ๑ ถ้วย ละลายกับนํ้าตาลโตนกกิน ๒, ๓ ครั้ง เลือดหยุดแล
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เอาใบคนทิสอ(คนทีสอ) ผ้าย้อมมะเกลือเผาไฟ ต้มกินเลือดหยุดแล จะเอาผล
มะเกลือแทนผ้าย้อมมะเกลือก็ได้ ถ้าเลือดตกไรฟันให้ใช้อม
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด หญิงคลอดลูกเลือดตกไม่หยุด อ่อนเพลียหาแรงมิได้ เอาใบทองหลางใบมน
หญ้าปากควาย เกษรบัวหลวง บดละลายนํ้าร้อนกิน เลือดหยุดแล
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เอาชันย้อย ขมิ้นชัน ข้าวสาร ๓ หยิบ เกลือ ๗ เม็ด ต้มกิน เลือดหยุดแล
ยาแก้เลือกตกไม่หยุด หญิงคลอดลูกเลือดตกไม่หยุด เอาสุ รามะริ ด พิมเสน เมล็ดมะนาว นํ้านมเสื อ
เอาสิ่ งละ ๑ เฟื้ อง บดเป็ นผงแล้วเอาต้นนํ้านมราชสี ห์ตม้ เอานํ้าเป็ นกระสายบด ละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เอารากมะแว้งทั้ง ๒ ต้มกิน เลือดหยุดแล
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เลือดตกทวารหนักทวารเบา เอาขมิ้นอ้อย ไพล เมล็ดผักชี บดละลายนํ้ามะงัว่
กิน
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เอาขี้ไต้กรอบบดละลายนํ้าปูนใสหรื อนํ้าสุ รากิน เลือดหยุดแล ยานี้เคยใช้
ได้ผลมาแล้ว
๑๐๖

ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เอาครุ ตกั นํ้าที่สานด้วยไม่ไผ่แลยาด้วยชันกับนํ้ามันยางนั้น ฟันเป็ น ๔ ชิ้น เอา


๓ ชิ้นต้มกิน
ยาแก้โลหิ ตตกทวารเบา เอาตะไคร้หอ้ ม ๗ ต้น เกลือพอควร ต้มกิน
ยาแก้โลหิ ตตกทวารหนัก เอาหญ้าไซ ๑ กํามือตําคั้นเอานํ้า ยาดํา บดละลายนํ้ามูตรกิน
ยาแก้โลหิตตกทวารหนักทวารเบา เอาผักคราด ผักเสี้ ยนผี ตาลโตนด เอาสิ่ งละ ๗ ยอด ตําคั้นเอานํ้า
แล้วเผาเหล็กให้แดงชุบลงในนํ้ายากิน
ยาแก้โลหิ ตตกทวารหนักทวารเบา เอาใบขี้เหล็ก หอมแดง ขมิ้นอ้อย ฝางเสน รากกระทุงหมาบ้า ต้ม
แทรกดินประสิ ว เกลือกิน
ยาแก้โลหิ ตตกทวารหรื อลงเป็ นเลือด อาเจียนเป็ นเลือด มีอาการแสบอก เอาผักแว่น เบ็ญกานี ลิ้น
ทะเล ครั่ง บดละลายนํ้าเปลือกมะเดื่อต้มกิน
ยาแก้โลหิ ตตกทวารหรื อลงเป็ นโลหิ ตสด ๆ เอาเปลือกช้างน้าว รากมะเดื่อ รากจิก ยาเข้าเย็น ต้มกิน
ยาแก้หญิงมีครรภ์เลือดตกทวารหนักทวารเบา เอาขิงแห้ง แก่นสน บดละลายนํ้าผึ้งหรื อนํ้าขิง นํ้า
ไพล กิน
ยาแก้ลงเป็ นเลือด เอาข้าวสารขั้วแช่น้ าํ มะพร้าวอ่อนกิน
ยาแก้เลือดตกมากเกินควร หญิงคลอดลูกเลือดตกมากเกินควร เอาขมิ้นอ้อย ว่านนํ้า รากส้มป่ อย
พริ กไทย บดละลายนํ้ามะนาวกิน
ยาแก้หญิงเลือดตก เอาขี้ผ้ งึ แข็ง ใบแมงลัก ต้มกิน
ยาแก้เลือดตกทวารหนักทวารเบา เอาใบพลูแก ใบทองหลางนํ้า กะทือ ไพล บดพอกกระหม่อม
ยาแก้เลือดตกทวารเบาสตรี เอาหัวแห้วหมู ข่า กระชาย ไพล บดละลายนํ้ามูตรโคดํากิน
ยาแก้หญิงคลอดลูกแล้วเลือดตกไม่หยุด เอาขมิ้นทั้ง ๒ ลูกจันทน์ ชะเอมเทศ พริ กไทย .... กระเทียม
เทียนขาว รากอังกาบ บดละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้หญิงคลอดลูกแล้วเลือดตกนัก เอาพริ กไทย ๗ เมล็ด ขิง ๗ แว่น กระเทียม ๗ กลีบ การะบูน
สารส้ม เขาควายเผือกเผาไฟ บดละลายสุ รากิน
ยาแก้หญิงคลอดลูกแล้วเลือดตกนัก เอาลูกสมอไทย รากจิงจ้อ ขิงแห้ง บดละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้หญิงท้องแก่เลือดตกก่อนคลอดลูก หญิงปวดท้องจะคลอดลูก ก่อนลูกออกนั้นมีเลือดตก
ออกมาก่อนมาก มีอาการจุกแน่น เอาผิวไม้เขียว ผิวส้มส้า พิมเสน บดละลายนํ้าท่ากิน เลือดหยุดแล ยานี้ทาํ
ให้คลอดลูกง่ายด้วย
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เอาผ้ากรองรักต้มกิน เลือดหยุดแล
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เอาชันผงละลายนํ้าผึ้งกิน เลือดหยุดแล
ยาแก้เลือดตกทวารหนักทวารเบา เอายอดทองกวาว ใบหนาด กระเทียม พริ กไทย ขิง บดละลายนํ้า
มะนาวกิน
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เอารากเทียน รากทับทิม ชันย้อย ฝางเสน ครั่งดิบ ต้มกิน
๑๐๗

ยาแก้เลือดตกทวารหนักทวารเบา พลีเอารากช้าแป้นมาต้มกิน เลือดหยุดแล


ยาแก้เลือดตกทวารหนักทวารเบา เอารากช้าเลือด รากเข้าไหม้ ยาเข้าเย็น ต้มกิน
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด แก้ตานซาง เอาใบแมงลัก ใบผักคราด ใบกะเพรา พริ กไทย ดีปลี กระเทียม ยา
ดํา เขม่าไฟเท่ายาทั้งหลาย บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าดี ๑๐๘ กวาดแก้ซางมูกเลือด แก้เลือดตกไม่หยุดละลายสุ รากิน
ยาแก้โลหิ ตตกทวารทั้ง ๙ เอาขมิ้นชัน ขมิ้นอ้อย ขมิ้นเครื อ ต้มด้วยนํ้าครึ่ งสุ ราครึ่ งกิน
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เอามะแว้งทั้ง ๕ ต้ม ๓ เอา ๑ แทรกนํ้าตาลทรายพอควรกิน ถ้าเป็ นบาทยักษ์
เจืออยูด่ ว้ ย เอายานี้กิน แล้วเอาสําลีชุบนํ้ายานี้ปิดที่แผลนั้น ยานี้แก้กาฬโลหิตด้วยแล
ยาแก้เลือดตกทวารหนัก ไม่วา่ ชายแลหญิง เอารากนมแมว ข้าวเหลือก ๓ หยิบ เกลือพอควร ต้มกิน
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด หญิงคลอดลูกเลือดตกมิหยุด เอาขมิน้ ทั้ง ๒ ลักจัน่ ชะเอมเทศ พริ กไทย ขิง
กระเทียม เทียนขาว รากอังกาบ เอาเท่ากัน บดละลายนํ้าร้อนกิน ถ้ามิฟังเอารากมะนาว รากอังกาบ ผิวไม้ไผ่
ป่ า บดละลายนํ้ามะนาวกิน
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด หญิงคลอดลูกแล้วเลือกตกไม่หยุด เอาพริ กไทย ๗ เมล็ด ขิง ๗ แว่น กระเทียม
๗ กลีบ การะบูน สารส้ม เขาควายเผือกเผาไฟ บดละลายสุ รากิน
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เอาใบมะขาม เปลือกตะขบ รากหญ้านาง รากคัดเค้า ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด หญิงเป็ นระดูเลือดตกไม่หยุด เอารากโพธิ์ ข้ ีนก พระยารากดํา ยาเข้าเย็น ต้มกิน
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เอาแมงลัก ๓ ต้น ขี้ผ้ งึ แข็ง ๑ บาท ต้มกิน
ยาแก้เลือดตกทวารหนัก ตกออกมาเป็ นเลือดเน่าก็ดี เป็ นเสลดก็ดี เอาลูกสมอทั้ง ๓ ลูกกรายนํ้าเต้า
ดิน เปลือกมะเดื่อปล้อง เอาเท่ากัน บดปั้ นแท่งละลายเปลือกมะเดื่อ ต้มกิน
ยาแก้เลือดตกทวารหนักทวารเบา ทั้งชายแลหญิง เอารากแมงลัก รากผักคราด รากช้าแป้ น ราก
มะเดื่อปล้อง รากอ้อยแดง ต้ม ๓ เอา ๑ เมื่อจะกินให้แทรกพริ กไทย ๗ เมล็ด ขิง ๗ แว่น กระเทียม ๗ กลีบกิน
ยาแก้หญิงเลือดตกทวารเบา ตกออกมาเป็ นหนองก็ดี เป็ นมูกก็ดี เป็ นนํ้าคาวปลา แลนํ้าล้างเนื้อก็ดี
เอาแก่นไม้สัก ผักเสี้ ยนผี ยาเข้าเย็น โคกกระสุ น เมล็ดฝ้าย ไม้เท้ายายม่อม สนเทศ เอาสิ่ งละ ๑ บาท ต้มด้วย
นํ้าครึ่ งสุ ราครึ่ งกิน
ยาแก้หญิงเลือดสด ๆ ตกทวารเบา เอาเบี้ยจัน่ ๗ ตัว เปลือกหอยแครง ๗ ฝา เปลือกหอยขม ๗ ตัว
หนังจรเข้ ยาทั้งนี้เผาให้เป็ นถ่าน แล้วเอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู ดีปลี เทียนดํา เทียนขาว เอา
สิ่ งเท่ากัน บดปั้ นแท่ง ละลายสุ รากิน ถ้ายังไม่หยุดแทรกขมิน้ ผง ๑ หยิบมือลงกิน หายแล
ยาหิ งสรา เอาครั่ง ฝาง ดอกคําฝอย โกฐสอ ตรี กะฏุก กระเทียมสุ ก กะทือหมกไฟ ดอกบุนนาค เกษร
บัวหลวง เปลือกขี้อา้ ย ลูกเอ็น ลูกเบ็ญกานี กานพลู ลูกจันทน์ สี เสี ยดทั้ง ๒ กระชาย หมากขี้ไก่ เอาสิ่ งละ ๑
บาท เขาควายเผือกเผาไฟเท่ายาทั้งหลาย ใบกะเพราเท่าเขาควายเผือก บดเป็ นผง แก้ทอ้ งร่ วงเป็ นเสมหะ
โลหิตและปวดมวน แก้เลือดตกทวารทั้ง ๙ แก้ลมอติสาร กระสายใช้ตามอาการของโรค
ยาแก้หญิงมีครรภ์เลือดตกทวารหนักทวารเบา เอาขิงแห้ง สน บดละลายนํ้าผึ้งหรื อนํ้าขิง นํ้าไพลกิน
ยาแก้หญิงตกเลือดนัก เอาขี้ผ้ งึ แข็งกับใบแมงลักต้มกิน
๑๐๘

ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เอาลูกมะแว้งทั้ง ๒ ต้มกิน


ยาแก้เลือดตกทวารหนักทวารเบาไม่หยุด เอาขมิ้นอ้อย ไพล เมล็ดผักชี บดละลายนํ้ามะงัว่ กิน
ยาแก้หญิงคลอดลูกเลือดตกไม่หยุด เอาใบทองหลางใบมน หญ้าปากควาย บดละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้เลือดตกไม่หยุด เอาชัน ขมิน้ ชัน ข้าวสาร ๓ หยิบ เกลือ ๗ เม็ด ต้มกิน

ว่ าด้ วยอาเจียนเป็ นโลหิตและไอเป็ นโลหิตและยาแก้


ยาแก้อาเจียนเป็ นโลหิ ต เอาเมล็ดฝ้ายขั้วให้เกรี ยม บดละลายนํ้ามันยางกิน
ยาแก้อาเจียนเป็ นโลหิ ต เอาเปลือกกระทุ่มขี้หมู แก่นสัก สักขี แก่นสน แก่นประดู่ ต้มกิน
ยาแก้อาเจียนเป็ นโลหิ ต เอาใบเทียน ใบชา ขมิ้นอ้อย ดอกคํา ครั่ง เอาเสมอภาค เอาจันทน์เทศเท่ายา
ทั้งหลาย บดแทรกพิมเสน ดีงูเหลือม ละลายนํ้า นํ้ามูตร นํ้าใบชา นํ้าใบฝางกิน
ยาแก้อาเจียนเป็ นโลหิ ต เอารากเท้ายายม่อม รากมะแว้งเครื อ รากมะเขือขื่น ขิง ขมิน้ อ้อย บดละลาย
นํ้ากิน
ยาแก้อาเจียนเป็ นโลหิ ต เอาตรี กะฏุก กระเทียมสุ ก ขมิ้นอ้อย ไพล รากส้มกุง้ ชันย้อย ฝักส้มป่ อยขั้ว
บดละลายนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้อาเจียนเป็ นโลหิ ต เอาพริ กไทย ๑ สลึง ฝาง ๒ สลึง เทียนดํา ลูกมะตูมอ่อน เอาสิ่ งละ ๑ บาท
เลือดแรด ๖ สลึง ผักโหมแดง ๔ บาท ขมิน้ อ้อย ๗ ชิ้น ต้มกิน
ยากาฬกระบือ เอาลูกประคําดีควาย เนื้ อลูกสะบ้าลิง เนื้อลูกสะบ้าลาย เมล็ดมะกอก เขาควายเผือก
ของ ๕ สิ่ งนี้ เผาให้เป็ นถ่าน ระย่อม ไคร้เครื อ มหาสะดํา สังกรณี เนระภูษี ว่าน(หว้าน)กีบแรด ว่าน(หว้าน)
ร่ อนทอง ผลราชดัด ผลสาระพัดพิษ กงพัดแม่หม้าย เสลดพังพอน เมล็ดมะนาวขั้ว พิศนาด เอาสิ่ งละ ๑ บาท
บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าดอกไม้แทรกดีหมูป่า ดีงูเหลือม ดีตะพาบนํ้า แช่น้ าํ ดอกไม้เป็ นกระสาย ละลายนํ้าซาวข้าว
กิน แก้กาฬละลายนํ้าครํากิน แก้ฝีพิษละลายนํ้าปูนใสกิน แก้อาเจียนเป็ นโลหิ ต ละลายนํ้าส้มส้ากิน แก้ลม
ป่ วง เอากะปิ ดี รากหญ้าพันงู เถากะไดลิง ข้ออ้อยดง ๓ ข้อ หอม ๓ หัว เมล็ดถัว่ เขียวต้มเอานํ้าละลายยานี้กิน
ยาแก้อาเจียนเป็ นโลหิ ต เอาลูกสมอไทย ลูกมะขามป้ อม ไพล ขมิน้ อ้อย เทียนดํา รากพันงูแดง ว่าน
(หว้าน)นํ้า บดละลายนํ้าส้มส้ากิน
ยาแก้ไอเป็ นเลือด เอาใบพุงดอตําให้แหลกแล้วต้มเอานํ้าแทรกสุ รากิน
ยาอํามะฤคคะวาที เอาผลสมอพิเภก ไคร้เครื อ โกฐพุงปลา เมล็ดผักชี เทียนขาว ผลมะขามป้ อม นํ้า
ประสานทอง เอาสิ่ งละ ๒ บาท ชะเอมเทศ ๑๔ บาท บดปั้นแท่ง แก้ไอธรรมดา ละลายนํ้าร้อนกวาดคอหรื อ
จิบกิน แก้ไขหวัดลงคอ ตัวร้อน ละลายนํ้าผลมะแว้งเครื อ นํ้ามะขามเปี ยกแทรกเกลือกวาด แก้ไอหื ดหอบ
เจ็บอก แสบคอ เสี ยงแห้ง ละลายนํ้าดีงูเหลือม นํ้านมเสื อ โคโรค กวาดคอ แก้ไอเป็ นเลือด เอาหนังแรดเผาไฟ
ประสมเท่ากับยานี้ ละลายนํ้าปูนใสแทรกพิมเสนกิน ผูใ้ หญ่ครั้งละ ๓-๕ เม็ด เด็กครั้งละ ๑-๒ เม็ด แก้สะอึก
ละลายนํ้าร้อนแทรกอําพันทอง หญ้าฝรั่น พิมเสน กิน
ยาแก้ไอเลือดในคอออก เอารากอังกาบต้มกิน หายแล
๑๐๙

ยาแก้อาเจียนเป็ นโลหิ ต เอาพริ กไทย ขิง ดีปลี ใบสะเดา ขมิ้นอ้อย บดละลายนํ้าตาลทรายหรื อนํ้าตาล
กรวดกิน
ยาแก้อาเจียนเป็ นโลหิ ต เอาเทียนขาว เทียนตาตัก๊ แตน เทียนเยาวภาณี เทียนสัตบุษย์ เทียนข้าวเปลือก
เอาสิ่ งละ ๓ สลึง การะบูน ๔ บาท พริ กไทย ๑๐ บาท สารส้ม ๒๐ บาท สารส้มสะตุพอเดือด เอาใบบัวลองใน
ชาม เอาสารส้มที่สะตุเทลงในใบบัวทิ้งไว้ให้เย็น เอาเครื่ องยาทั้งหมดทั้งใบบัวด้วยตําพอแหลกห่อผ้าดอง
ด้วยสุ รา ๑ ทนาน ฝังข้าวเปลือกไว้ ๓ วัน เอาทองคําผูกไว้ที่โหลดองยา ๑ บาท เมื่อจะกินยานี้ให้ระลึกถึง
เจ้าของยาแล้วจึงกิน
ยาแก้อาเจียนเป็ นโลหิ ต เอาใบสนเทศ หมึกหอม บดละลายสุ รากิน
ยาแก้อาเจียนเป็ นโลหิ ต เอาหญ้าดอกกลมที่ข้ ึนตามกลางทุ่งนา บดละลายสุ รากิน
ยาแก้อาเจียนเป็ นโลหิ ต เอาใบเทียน ใบชา ขมิ้นอ้อย ดอกคํา ครั่ง เอาสิ่ งละเท่ากัน เอาจันทน์เท่ายา
ทั้งหลาย บดปั้ นแท่ง แทรกพิมเสน ดีงูเหลือม ละลายนํ้าครํา นํ้ามูตร นํ้าใบชา หรื อนํ้าใบฝางต้มกิน
ยาแก้อาเจียนเป็ นโลหิ ต เอากําเม็งทั้งต้นทั้งใบตําคั้นเอานํ้าผสมกับนํ้าผึ้งเท่า ๆ กันรับประทาน
ยาแก้อาเจียนเป็ นโลหิ ต โลหิ ตออกทางจมูกแลออกทางทวารหนักทวารเบา เอาเปลือกมะรุ ม ราก
ส้มส้า ต้มกิน
ยาแก้อาเจียน เอาส่ าขนุนที่ช้ ีไปทางตะวันตก ใบกรรณิ การ์ หญ้าปากควาย ต้มกิน
ยาแก้อาเจียนเป็ นสี เหลืองสี เขียว เอารากมะเดื่อดิน รากมะเดื่อปล้อง รากจิงจ้อหลวง พริ กไทย ขิง
หอมแดง บดละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้อาเจียนเป็ นสี เหลืองสี เขียว เอาเปลือกกะเชา ฝาง โลดทนง จันทน์แดง แก่นสน ต้มกิน
ยาแก้อาเจียน เอาตาไม้ไผ่เผาให้ไหม้ ข้าวตังก้นหม้อ เมล็ดมะกอกเผาไฟ ปอแสลงพันบดละลายนํ้า
กิน
ยาแก้อาเจียน เอางาช้าง เขากวาง เผาบดละลายนํ้าอ้อยกิน
ยาแก้อาเจียน เอาดีปลี ลูกราชดัด ตูมกาแดง พิศนาด กระเทียม ใบข่อย บดละลายนํ้า ... ต้มแทรก
พิมเสนกิน
ยาอํามะฤกธาราธิ คุณ เอารากมะกรู ด รากมะนาว รากมะเขือขื่น รากมะอึก รากมะแว้งต้น รากมะแว้ง
เครื อ รากส้มเสี้ ยว รากส้มส้า รากส้มป่ อย รากส้มโอ รากส้มเขียวหวาน เมล็ดมะกรู ด เมล็ดมะนาวขั้ว เมล็ด
ส้มป่ อยขั้ว เมล็ดส้มส้าขั้ว เมล็ดส้มเขียวหวานขั้ว หัวบุกรอ หัวกระดาดทั้ง ๒ หัวกลอย หัวหญ้าชันกาด
รากมะละกอ รากหญ้าคา เอาสิ่ งละ ๑ บาท ส้มกุง้ ทั้ง ๒ เปล้าทั้ง ๒ หัศกุนทั้ง ๒ เถาวัลย์เปรี ยง เถาคันแดง
เถาวัลย์เหล็ก เถาวัลย์ปูน โคคลาน แก่นแสมทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ ๓ บาท เอาชะเอมเท่ายาทั้งหลาย บดปั้ นแท่ง
ด้วยนํ้ามะงัว่ นํ้ามะนาว นํ้ามะกรู ด นํ้าส้มเขียวหวาน นํ้าส้มเกลี้ยง แทรกเกลือสะตุ จิบกินแก้ไอหวัดคัดจมูก
ไอเพื่อเสมหะ ละลายนํ้าชะเอม แทรกเกลือกิน แก้ไอหืดหอบ ละลายนํ้ามะนาวแทรกเกลือกิน แก้ไป(ไอ )
เพื่อริ ดสี ดวงมองคร่ อ ไอ ... โรคลําไส้พิการ ละลายนํ้าส้มเขียวหวานแทรกเกลือสะตุกิน แก้มุตกิด ละลาย
นํ้าส้มสายชูกิน แก้ เพื่อกระษัย(กะไษย) ละลายนํ้าเถาคันแดงต้มกิน ยานี้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
๑๑๐

คัมภีร์กระษัย(กะไษย)
สิ ทธิ การิ ยะ จะกล่าวลักษณะกระษัย(กะไษย)โรค ซึ่งพระอาจารย์ระมวล(ประมวล)ไว้มีประเภท ๒๖
จําพวก กระษัย(กะไษย)๘ จําพวก คือ กระษัย(กะไษย)กล่อน ๕ กระษัย(กะไษย)นํ้า ๑ กระษัย(กะไษย)ลม
๑ กระษัย(กะไษย)ไฟ ๑ รวม ๘ จําพวกนี้ เกิดแต่กองสมุฏฐานธาตุ มีแจ้งอยูใ่ นคัมภีร์วฒ ุ ิกะโรค กล่าวคือ
กล่ อม(กล่อน) ๕ ประการโน้นแล้ว ในที่น้ ีจะกล่าวแต่กระษัย(กะไษย)อันบังเกิดเป็ นอุปาติกะโรค ๑๘ จําพวก
คือกระษัย(กะไษย) ล้น กระษัย(กะไษย)ราก กระษัย(กะไษย)เหล็ก กระษัย(กะไษย)ปู กระไสยจุก กระษัย
(กะไษย)ปลาไหล กระษัย(กะไษย) ปลาหมอ กระษัย(กะไษย)ปลาดุก กระษัย(กะไษย)ปลวก กระษัย
(กะไษย)ลิ้น กระบือ กระษัย(กะไษย)เต่า กระษัย(กะไษย)ดาน กระษัย(กะไษย)ทัน กระษัย(กะไษย)เสี ยด
กระษัย(กะไษย)ไฟ กระษัย(กะไษย)นํ้า กระษัย(กะไษย)เชือก กระษัย(กะไษย)ลม รวมเป็ น ๑๘ จําพวก
ดังกล่าวมานี้
๑. ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)ล้นและยาแก้ กระษัย(กะไษย)ล้นนั้นเกิดเพื่อนํ้าเหลือง โดยกําลังลมพัด
ให้เป็ นฟอง กระทําให้ทอ้ งลัน่ ขึ้นแลลัน่ ลง ถ้าข้างขึ้นทําให้แดกอก ถ้าข้างแรมทําให้ถ่วงหัวเหน่า ดังจะขาด
ใจตาย
ยาแก้เอาหอยโข่งเผา หอยขมเผา หอยกาบเผา รากผักโขมหิ น เมล็ดสวาด ตรี กะฏุก เอาเสมอภาค บด
ปั้นแท่ง ละลายเหล้าแทรกหัวนํ้ามันยางกิน แก้กระษัย(กะไษย)ล้น หายแล
ยาแก้กระษัย(กะไษย)ล้น เอากระดูกโคเผา หอยกาบเผา หอยแครงเผา หอยขมเผา หอยอีรมเผา หอย
มือเสื อเผา หอยพิมพการังเผา หอยนมนางเผา เบ็ญจกูล เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน พริ กไทย ๒๕ ส่ วน บดปั้ นแท่ง
ละลายนํ้าปูนใสกิน แก้กระษัย(กะไษย)ล้น หายแล
ยาแก้กระษัย(กะไษย)ล้น เอาเปลือกงิ้วเผา เปลือกสําโรงเผา ผักโหมหนามเผา มะกรู ดเผา ลูกทุลงั
กาษาขั้ว เมล็ดฝ้ายขั้ว ขี้ไต้เสม็ด เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน สมอร่ องแร่ ง ๒ ส่ วน พริ กไทย ๑๗ ส่ วน บดปั้ นแท่ง
ละลายนํ้ามะกรู ดกิน แก้กระษัย(กะไษย)ล้นทั้งปวง หายแล
ยาตรี ภกั ตร์ เอามหาหิ งคุ ์ เทียนดํา เทียนขาว เทียนเยาวภานี รากเจ็ตมูลเพลิง เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน
กานพลู การะบูน เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ตรี กะฏุก ๓ ส่ วน ยาดํา รงทองประสระแล้ว เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน บดเป็ นผง
เอายางสลัดไดเป็ นกระสายบดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าผึ้งกินหนักครั้งละ ๑ สลึง . กระษัย(กะไษย)ล้น หายดีนกั แล
๒. ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)รากแลยาแก้ กระษัย(กะไษย)รากเกิดเพื่อลมร้อง ทําให้อาเจียนลมเปล่า
ท้องลัน่ ดังจ๊อก ๆ ตึงไปทั้งกายดังเอาเชื อกรัดไว้ ทําให้ร้องครางอยูท่ ้ งั กลางวันแลกลางคืน ดังใจจะขาดตาย
ยาแก้ เอาเปลือกมะตูม ลูกกระเบา เมล็ดฟักข้าว ขี้โคทาพ้อม ขี้ไต้เสม็ด เอาส่ วนเท่ากัน บดปั้ นแท่ง
ละลายนํ้าปูนใสกิน แก้กระษัย(กะไษย)ราก หายแล
ยาแก้กระษัย(กะไษย)ราก เอากระเทียม ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู ดีปลี เมล็ดสวาด
ลูกกระเบา รากเจ็ตมูลเพลิง สะค้าน รากช้าพลู เอาเสมอภาค บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าร้อนกิน แก้กระษัย
(กะไษย)ราก หายแล
๑๑๑

ยาแก้กระษัย(กะไษย)ราก เอาตรี กะฏุก เบ็ญจมูล โกศ(โกฏ)สอ โกฐ(โกฏ)เขมา โกฐ(โกฏ)เชียง โกฐ


(โกฏ)หัวบัว โกฐ(โกฏ)นํ้าเต้า เทียนดํา เทียนแดง เทียนขาว เทียนข้าวเปลือก เทียนตาตัก๊ แตน เอาสิ่ งละ ๑
ส่ วน ลูกกระวาน กานพลู อบเชีย สมุลแว้ง ลูกราชดัด ลูกสาระพัดพิษ เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ลูกยออ่อน รากยอ
ใบยอ ตรี ผลา เปลือกกะกอกนํ้า เมล็ดมะกอก เอาสิ่ งละ ๓ ส่ วน เทียนสัตบุษย์ ๔ ส่ วน บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้า
รากมะกอกต้ม หรื อนํ้ารากยอต้ม แทรกพิมเสนกิน แก้กระษัยรากทั้งปวง หายแล
ยาแก้กระษัย(กะไษย)ราก เอารากมะตูม รากราชดัด ลูกกระเบา เมล็ดโคกกระออม ลูกฟักข้าว ลูกทุ
รังกาษา เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน รากเขยตาย ๒ ส่ วน สะค้าน ๓ ส่ วน ขี้ไต้เสม็ด ๔ ส่ วน บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าราก
ยอต้ม หรื อนํ้ารากมะกอกต้ม หรื อนํ้ารากประคําดีควายต้ม แทรกการะบูนกิน แก้กกระษัย(กะไษย)รากอัน
บังเกิดเพื่อลมร้อง กระทําให้อาเจียนลมเปล่าแลลัน่ อยูใ่ นท้องนั้น หายแล
๓. ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)เหล็ก มีอาการให้ปวดหัวเหน่า แลทําให้ทอ้ งน้อยแข็งดังแผ่นหิน จะไหว
ตัวไปมามิได้ ปวดขบดังจะขาดใจตาย
ยาแก้ เอาขมิน้ อ้อย เปลือกไข่เป็ ด เบี้ยตัวผูเ้ ผา เขม่าเหล็กเอาเสมอภาค บดเป็ นผง ละลายนํ้ามะนาว
กิน แก้กระษัย(กะไษย)เหล็ก หายแล
ยาแก้กระษัย(กะไษย)เหล็ก เอาใบกะเพรา ใบแมงลัก ใบผักเสี้ ยนผี กระชาย กัญชา พริ กไทย ขิง
หอมแดง หญ้าไซ เกลือ ลูกคัดเค้า ของทั้งนี้ตาํ เอานํ้าสิ่ งละทนาน เอานํ้ามันงา ๑ ทนาน หุ งให้คงแต่น้ าํ มัน
แล้วเอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกระวาน กานพลู เทียนดํา เทียนขาว การะบูน เอาสิ่ งละ ๑ บาท บดเป็ นผงใส่
ลงในนํ้ามันที่หุงไว้น้ นั เอาทาท้องรี ดให้ได้ ๓ วัน แล้วกินยานี้อีก ๓ วันหายแล
ยาสนัน่ ไตรภพ ครอบกระษัย(กะไษย)ทั้งปวง เอาผักเสี้ ยนผี ใบกะเม็ง ใบย่างซาย ใบคนทิ(คนที)
เขมา ใบคนทิสอ(คนทีสอ) ข่า กระชาย หอม กระเทียม ดองดึง พริ กไทย เกลือ ตําเอานํ้าสิ่ งละทนาน เอา
นํ้ามันงา ๑ ทนาน หุ งให้คงแต่น้ าํ มัน แล้วเอาลูกจันทน์ เทียนทั้ง ๕ กานพลู เอาสิ่ งละ ๑ สลึง การะบูน ๑ บาท
บดเป็ นผงเอาใส่ ลงในนํ้ามันที่หุงไว้น้ นั เอารี ดท้องทั้งกินบ้าง แก้กระษัย(กะไษย)เหล็ก หายแล
ยาแก้กระษัย(กะไษย)เหล็ก เอาตรี กะฏุก กระเทียม กระชาย ข่า กะทือ ไพล ขมิ้นอ้อย หัวหอม ตํา
เอานํ้าสิ่ งละทนาน เอานํ้ามัน ๑ ทนาน นํ้าใบประคําไก่ ๑ ทนาน หุงให้คงแต่น้ าํ มัน เอาเทียนดํา ทนาน เทียน
เยาวภานี ๒ ทนาน การะบูน ๓ ทนาน เทียนขาว ๔ ทนาน บดเป็ นผงใส่ ลงในนํ้ามันที่หุงไว้น้ นั ทาท้องรี ดแล
กินด้วย แก้กระษัยดังกล่าวมานั้น หายสิ้ นแล ยา ๓ ขนานนี้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
๔. ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)ปูและยาแก้ กระษัย(กะไษย)ปูน้ ีเกิดเพื่อโลหิ ตคุมกัน มีสัณฐานดังปูทะเล
เข้ากินอยูใ่ นกระเพาะข้าว กระทําให้ปวดขบท้องน้อยเป็ นกําลัง เมื่อกินอาหารลงไปค่อยสงบลง เมื่อสิ้ น
อาหารแล้ว กระทําให้พดั อยูด่ งั กงเกวียนลัน่ อยูต่ ามลําไส้เจ็บดังจะขาดใจตาย
ยาแก้ เอาผักเสี้ ยนผี ขอบชะนางแดง เอื้องเพ็ดม้า กุ่มทั้ง ๒ หัวหอม หัวกระเทียม ใบคนทิสอ(คนที
สอ) เปลือกมะรุ ม เปลือกทองหลาง หญ้าไซ กระพังโหมทั้ง ๒ เบี้ยตัวผูเ้ ผา หอยโข่งเผา หอยกาบเผา หอยขม
๑๑๒

เผา หอยสังข์เปา เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน พริ กไทย ๑๙ ส่ วน บดปั้ นแท่ง ละลายเหล้ากิน หรื อละลายนํ้าผึ้งกิน แก้
กระษัย(กะไษย)ปูหายแล
ยาแก้กระษัย(กะไษย)ปู เอาเปลือกกุ่มนํ้า เปลือกกุ่มบก เปลือกมะรุ ม เปลือกทองหลาง เปลือกตาเสื อ
เปลือกกระท้อน เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน เอื้องเพ็ดม้า โลดทนง แส้มา้ ทะลาย เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน หอยแครงเผา หอย
กาบเผา หอยมือเสื อเผา หอยอีรมเผา หอยสังข์เผา เอาสิ่ งละ ๓ ส่ วน ดีปลี ๕ ส่ วน พริ กไทย ๑๗ ส่ วน บดปั้ น
แท่ง ละลายนํ้ามะนาว หรื อนํ้าส้มสายชู หรื อละลายเหล้า หรื อละลายนํ้ามะงัว่ กิน แก้กระษัย(กะไษย)ปู หาย
แล
ยาตัดรากกระษัย(กะไษย)ปู เอาโกฐ(โกฏ)สอ โกฐ(โกฏ)เขมา โกฐ(โกฏ)เชียง เทียนขาว เทียนดํา
กานพลู ลูกเอ็น จันทน์ท้ งั ๒ เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ว่าน(หว้าน)ร่ อนทอง เจ็ตมูลเพลิง ดองดึงหัวขวาน เอาสิ่ งละ
๒ ส่ วน เมล็ดสลอดประสระแล้ว ๒๕ ส่ วน บดเป็ นผง เอานํ้าตาลหม้อหนัก ๑๘ บาท ละลายนํ้ามะพร้าว
นาฬิเก ๑ ผล ใส่ กะทะเคี่ยวให้เป็ นยางตูม เอายาผงใส่ ลงกวนไปอย่าให้ไหม้ กวนพอปั้ นได้ กินครั้งละหนัก
๒ ไฟ ประจุกระษัย(กะไษย)ปูจนสิ้ นโทษร้าย หายแล
๕. ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)จุกและยาแก้ กระษัย(กะไษย)จุกเกิดขึ้นเนื่ องจากลมเดินแทงเข้าไปในเส้น
เอ็นภายใน เป็ นอาคันตุวาต ทําให้เส้นพองขึ้นในท้อง ทําให้จุกแดกขึ้นดังจะขาดใจตาย ต้องนอนควํ่าร้อง
คราวอยู่ จะนอนหงายมิได้ มีทุกขเวทนาเป็ นอันมาก ยาแก้ ให้เอายาเนาวหอยมาแก้
ยาเนาวหอย เอากระดูกเสื อ กระดูกโค กระดูกแพะ กระดูกงูเหลือม เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน หอยขม
หอยแครง หอยตาวัว หอยพิมพการัง หอยอีรม หอยกาบ หอยจุบแจง หอยมุก หอยสังข์ เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน
กระดูกกับหอยให้เผาทุกอย่าง เอารากทนดี ๓ ส่ วน เจ็ตมูลเพลิง หัศกุนเทศ เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน พริ กไทย ๓๒
ส่ วน บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าผึ้งกินหนักครั้งละ ๑ สลึง แก้กระษัย(กะไษย)จุก หายแล ถ้ายังมิฟังให้ละลายนํ้า
ปูนกิน ถ้ามิฟังให้หุงนํ้ามันแก้ต่อไป
ยานํ้ามันแก้กระษัย(กะไษย)จุก เอานํ้าขอบชะนางทั้ง ๒ นํ้าเอื้องเพ็ดม้า นํ้าผักเสี้ ยนผี นํ้าเปลือกกุ่ม
ทั้ง ๒ นํ้ากระเทียม นํ้าหอมแดง นํ้าเปลือกทองหลางใบมน นํ้ากะทือ นํ้าพริ กไทย นํ้าใบคนทิสอ(คนทีสอ) นํ้า
เปลือกมะรุ ม นํ้าหญ้าไซ นํ้ากระพังโหมทั้ง ๒ นํ้ามันงา เอาสิ่ งละ ๑ ทนาน หุ งให้คงแต่น้ าํ มัน แล้วเอาลูก
จันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู เทียนดํา เทียนขาว ดีปลี การะบูน หิงคุย์ างโพ เอาสิ่ งละ ๑ สลึง บด
เป็ นผงใส่ ลงในนํ้ามันที่เคี่ยวไว้น้ นั กินแลทารี ดตามเส้นท้องแก้กระษัย(กะไษย)จุก หายแล
ยาตัดรากกระษัย(กะไษย)จุก เอาเบี้ยจัน่ เผา ๗ เบี้ย เบี้ยแก้เผา ๙ เบี้ย เบี้ยโป่ งเผา ๑๑ เบี้ย เบี้ยลายเผา
๑๓ เบี้ย เบี้ยพองลม ๑๕ เบี้ย ขิงแห้ง ๒ สลึง ดีปลี ๑ บาท พริ กไทย ๖ สลึง บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้ามะนาวกิน
ตัดรากกระษัย(กะไษย)จุกทั้งปวงหายแล ยานี้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
๖. ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)ปลาไหลและยาแก้ กระษัย(กะไษย)ปลาไหลนี้ เมื่อแก่เข้าเอาหางแทงลง
ไปที่หวั เหน่าแลทวารหนักทวารเบา ทําให้ขดั อุจจาระปั สสาวะ อุจจาระเหลืองดังขมิ้น หรื อแดงดังนํ้าฝางต้ม
หรื อนํ้าดอกคํา ตัวกระษัย(กะไษย)นั้นพันขึ้นไปตามลําไส้ หัวนั้นหยัง่ ไปที่ชายตับแลกระเพาะข้าว บริ โภค
๑๑๓

อาหารเข้าไปเมื่อใด ตัวกระษัย(กะไษย)นั้นก็กินอาหารด้วยทุกเวลา ถ้าไม่ได้กินอาหารเข้าไป ตัวกระษัย


(กะไษย)นั้นก็กดั ชายตับชายม้านเจ็บปวดยิง่ นัก ทําให้เมื่อยขบไปทุกข้อกระดูก บางทีทาํ ให้ขนลุกชูชนั ดังไข้
จับ
ยาแก้ เอาผักเป็ ดแดง ๑ กํามือ (กลั้นใจตัดหัวตัดท้าย) พริ กไทย ๗ เมล็ด ขิง ๗ ชิ้น ข่า ๗ ชิ้น กระชาย
๗ ชิ้น ไพล ๗ ชิ้น กะทือ ๗ ชิ้น ขมิ้นอ้อย ๗ ชิ้น หอม ๗ หัว กระเทียม ๗ กลีบ ผิวมะกรู ด ๗ ผล บดละลาย
นํ้ามูตร เจ้าตัวกินค่อนถ้วย กิน ๓ เวลา ให้กินในวันดับ (วันสิ้ นเดือน) แล้วทํายาประจุให้กินต่อไป
ยาประจุกกระษัย(กะไษย)ปลาไหล เอาตรี กะฏุก หิ งคุย์ างโพ ยาดํา การะบูน กานพลู เอาสิ่ งละ ๑
บาท กระเทียมสด ๑ บาท รงทอง บดเป็ นผงเอานํ้ามะกรู ดเคล้าปั้ นเป็ นก้อนห่ อใบบัวหลวง ๗ ชั้น ปิ้ งไฟให้
เกรี ยม เอาหนัก ๖ บาท รวมยาทั้งหมด บดปั้ นแท่งด้วยนํ้ามะขามเปี ยก ธาตุหนักกินครั้งละ ๒ สลึง ธาตุเบา
กินครั้งละ ๑ สลึง ประจุกระษัย(กะไษย)ปลาไหล ดีแล
ยารุ กระษัย(กะไษย)ปลาไหล เอาหัวเข้าข้าสด ๔ บาท ใบว่าน(หว้าน)ห่างช้าง ๙ ใบ พริ กไทย ๗ เม็ด
ขิง ๗ ชิ้น ข่า ๗ ชิ้น กะทือ ๗ ชิ้น ไพล ๗ ชิ้น ขมิ้นอ้อย ๗ ชิ้น หอม ๗ หัว กระเทียม ๗ กลีบ ปลาไหล ๑ ตัว
แกงใส่ กระปิ ปลาร้าให้อร่ อยดี แล้วเอาปี (ปี ก)นาคราช ผิวมะกรู ดหัน่ ใส่ ในแดงยานั้น ให้กิน ๑ ถ้วยแกง ลง
จนถึงเสมหะ ขับตัวกระษัย(กะไษย)ขาดออกมาเป็ นท่อนใหญ่นอ้ ย ดังโลหิ ต เป็ นลิ่มเป็ นแท่ง หายแล
ยาแก้กระษัย(กะไษย)ปลาไหล เอาส้มเช้า สลัดได ใบว่าน(หว้าน)หางช้าง เอาสิ่ งละ ๑ กํามือ
พริ กไทย ๗ เมล็ด พริ กเทศ ๗ เมล็ด ขิง ๗ ชิ้น กระเทียม ๗ กลีบ ทําเป็ นยาสดกิน แก้กระษัย(กะไษย)
ปลาไหล หายแล
๗. ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)ปลาหมอและยาแก้ กระษัย(กะไษย)ปลาหมอนี้คล้ายกับมีจิตร์ วญ ิ ญาณ
เกิดขึ้นในลําไส้ ข้างขึ้นกระษัย(กะไษย)บ่ายศีรษะมากัดชายตับชายม้ามแลปอด ทําให้จุกแดก ข้างแรม
กระษัยบ่ายศีรษะลงในท้องน้อยแลหัวเหน่า ทําให้ขดั อุจจาระแลปั สสาวะ เจ็บปวดเป็ นกําลัง ร้องครางดังใจ
จะขาดตาย ให้เอายาแกงที่แก้กระษัย(กะไษย)ปลาไหลมาแก้ ถ้ามิฟังให้ทาํ ยาต่อไปนี้แก้ต่อไป
ยาแก้กระษัย(กะไษย)ปลาหมอ เอาปลาหมอ ๓ ตัว เอาทั้งเกล็ด เอายางสลัดไดทาให้ทวั่ ตัวปิ้ งไฟให้
เกรี ยม แล้วทาอีกทําให้ได้ ๓ หน ทาแล้วปิ้ งไฟทุกครั้ง แล้วปรุ งเครื่ องพริ กขิงเหมือนกับพริ กแกง กระษัย
(กะไษย)ปลาไหลนั้น เอาปลาหมอ ๓ ตัวนั้นตําให้แหลกทําเป็ นแกง เอาใบเหงือกปลาหมอใส่ ลงเป็ นผักกิน
แก้กระษัย(กะไษย)ปลาหมอ หายแล
ยาแกงขั้วนกออก แก้กระษัย(กะไษย)ปลาหมอ เอานกออก ๑ ตัว ถอนขนให้หมด เอาทั้งตับไตไส้พุง
เอาขี้ออกล้างให้สะอาด สับให้แหลก ใส่ พริ กขิงเหมือนขั้วกิน เอามะพร้าวไฟทํากะทิใส่ ลงขั้ว เอาลูกหัวลิง
เป็ นผัก แล้วเอาเทียนทั้ง ๕ โกฐ(โกฏ)พุงปลา โกฐ(โกฏ)ก้านพร้าว ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกระวาน กานพลู
ใบกระวาน เมล็ดผักชี เมล็ดสะแก เมล็ดมะนาว ผลผลาญสัตรู บดเป็ นผงใส่ ลงในยาแกงนั้นกิน เมื่อกินยานี้
แล้วให้เว้นไป ๓ วัน แล้วทํายาประจุให้กินต่อไป
๑๑๔

ยาประจุกกระษัย(กะไษย)ปลาหมอ เอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู ใบกระวาน โกฐ


ทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ จันทน์ท้ งั ๒ ลูกเอ็น เมล็ดผักเข้า ว่าน(หว้าน)ร่ อนทอง เจ็ตมูลเพลิง ดองดึง เอาสิ่ งละ ๑
ส่ วน ลูกสลอดทั้งเปลือก ๒๒ ส่ วน บดเป็ นผง เอานํ้าตาลหม้อหนัก ๑๘ บาท ละลายด้วยนํ้ามะพร้าวนาฬิเก ๑
ผล ใส่ ลงกวนไป อย่าให้ไหม้พอปั้ นเป็ นก้อนได้ ให้กินครั้งละหนัก ๒ ไพล ลงจนสิ้ นโทษ หายแล
ยาแก้กระษัย(กะไษย)ทั้งปวง เอาตรี กะฏุก ตรี ผลา เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน เทียนขาว ๒ ส่ วน สลัดได ๑๕
ส่ วน บดเป็ นผงละลายสุ รากิน ครั้งละหนัก ๑ สลึง แก้กระษัย(กะไษย)ทั้งปวง หายแล
๘. ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)ปลาดุกและยาแก้ กระษัย(กะไษย)นี้เกิดเพื่อโลหิตแลนํ้าเหลืองระคนกัน
คล้ายกับมีจิตร์ วญ ิ ญาณเหมือนปลาดุกจริ ง ๆ เกิดขึ้นในกระเพาะข้าว ถ้าสตรี เกิดขึ้นที่มดลูก มีลกั ษณะดัง
หญิงครรภ์ได้ ๗ เดือน ๘ เดือน มีอาการแทงไปทางชาย ขวา ถ้าข้างขึ้นยันไปยอดอก มีอาการเจ็บอก ... มิได้
บางทีทาํ ให้หอบให้สะอึก ถ้าข้างแรมเลื่อนลงไปอยูท่ อ้ งน้อยแลหัวเหน้ า(หัวเหน่า) บางทีต่าํ ลงไปกระดูกสัน
หลัง ตึงลงไปต้นข้าทั้ง ๒ ถ้าไม่รู้ก็วา่ มีครรภ์ ให้เอายาแก้กระษัย(กะไษย)ปลาไหลมาแก้ ถ้ามิฟังให้แก้ดว้ ยยา
ต่อไปนี้
ยาแก้กระษัย(กะไษย)ปลาดุก เอาเปลือกราชพฤกษ์ เปลือกตาเสื อ รากตองแตก พาดไฉนนุ่น
พริ กไทย ขิงแห้ง กระเทียม ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู ข่า กระชาย กะทือ ไพล หอม ขมิ้น
อ้อย กะปิ ปลาดุกย่าง ๑ ตัว ปลาร้าปลาสร้อย ๕ ตัว ยานี้ ให้ทาํ เป็ นแหง เอาใบมะกาที่ไม่แก่ และไม่ออ้ นนัก
นั้นหัน่ ใส่ ลงเป็ นผัก กิน ๑ ถ้วยแดง ลงจนสิ้ นโทษร้าย หายแล
ยารุ ตดั รากกระษัย(กะไษย)ปลาดุก เอาโหราเดือยไก่ มหาหิ งคุ ์ ยาดํา กระเทียม การะบูน เอาสิ่ งละ ....
ส่ วน พริ กไทย ๑๖ ส่ วน ดีงูเหลือม ดีตะพาบนํ้า ดีปลาไหล ดีนาค เอาแทรกลงพอควร บดเป็ นผง เอาราก
ลําโพงกาสลักต้มเอานํ้าเป็ นกระสายบดปั้ นแท่ง แล้วเอายางสลัดไดเคล้าแล้วผึ่งแดด พอยางสลัดไดแห้ง แล้ว
เคล้าอีกให้ได้ ๓ หน แล้วตากแดดให้แห้งเอาใส่ ห่อต้มให้กิน กิน ๓ เม็ดลง ๓ หน กิน ๔-๕ เม็ดลง ๔-๕ หน
ให้กินไปตามกําลังที่สู้ยากได้ ลงจนสิ้ นโทษ ตัดกระษัย(กะไษย)ขาดออกมา เมื่อหายแล้ว ให้ตม้ ยาสมานให้
กินต่อไป
ยาสมานลําไส้กระษัย(กะไษย)ปลาดุก เอาเทียนดํา เทียนขาว ใบถัว่ แระ ใบผักเป็ ด ใบกําเม็ง เอาสิ่ ง
ละ . ส่ วน ยาเข้าเย็น ๑๐ ส่ วน เปลือกกันเกรา ๒๐ ส่ วน มะพร้าวไฟทั้งเนื้อทั้งนํ้า ๑ ลูก ต้ม ๓ เอา ๑ กิน เป็ น
ยาตัดรากสมานลําไส้ กระษัย(กะไษย)ปลาไหล กระษัย(กะไษย)ปลาหมอ ปลาดุก กระษัย(กะไษย)เต่า
กระษัย(กะไษย)ดาน กระษัย(กะไษย)ปลวก หายสิ้ นแล
๙. ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)ปลวกและยาแก้ กระษัย(กะไษย)นี้เกิดเพื่อสันฑะฆาต กระทําให้ปวดขบ
ในทรวงอก ดังจะขาดใจตาย เป็ นแล้วหายได้ ๑-๒-๓ เดือนกลับเป็ นมาอีก เป็ นเช่นนี้หลายครั้งหลายหน เมื่อ
แก่เข้าทําให้ผวิ เนื้อซี ดเผือกผอมแห้งลง ถ้าไม่รู้ก็วา่ เป็ นฝี ปลวก ผิดกันแต่ที่มีหนองและหาหนองมิได้ ถ้าเป็ น
ฝี ปลวกมีหนอง ถ้าเป็ นกระษัย(กะไษย)ปลวกหาหนองมิได้ ให้แพทย์พิจารณาจงละเอียด
๑๑๕

ยาแก้ เอาใบส้มส้า ใบมะขาม ใบส้มป่ อย ใบส้มเสี้ ยว ใบส้มสันดาน ใบส้มสลุง ใบมะตาดเครื อ เอา


สิ่ งละกํามือ ใบมะกา ๓ กํามือ รังมดลี่ ๑ รัง แท่นปลวก ๑ แท่น ลูกสมอทั้ง ๓ หัวหอม เอาสิ่ งละเท่าอายุคนไข้
เทียนดํา ๑ บาท ขมิ้นอ้อย ไพล รากตองแตก หนักสิ่ งละ ๑๒ บาท ต้มตามวิธีให้กิน แก้กระษัย(กะไษย)ปลวก
ซึ่ งกระทําให้จบั สะบัดร้อนสะบัดหนาว ถ้าจะให้ทุเลาให้แทรกดีเกลือตามธาตุหนักเบาให้กิน ลงจนสิ้ นโทษ
ร้าย แล้วทํายาประจําธาตุให้กินต่อไป
ยาประจําธาตุแก้กระษัย(กะไษย)ปลวก เอาเขาควายเผา ลูกสะบ้าเผา ปูนแห้งข้างเต้าเผา เอาสิ่ งละ ๑
ส่ วน เอาพริ กไทย ๓ ส่ วน บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าปูนใสกิน แก้กระษัย(กะไษย)ปลวก เจริ ญธาตุให้เป็ นปกติ
ยาแก้กระษัย(กะไษย)ปลวก เอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ เทียนดํา เทียนขาว เทียนแดง เทียนตาตัก๊ แตน
โกฐสอ โกฐเขมา โกฐกักกรา กานพลู ดีปลี เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ยาดํา ๔ ส่ วน การะบูน ๙ ส่ วน หัศกุนเทศ
พริ กไทย เอาสิ่ งละ ๕ ส่ วน รากจิงจ้อ รากทนดี รากเจตมูลเพลิง เอาสิ่ งละ ๖ ส่ วน ลูกสมอไทย ๑๔ ส่ วน บด
เป็ นผง ละลายนํ้าผึ้งหรื อนํ้ามะกรู ด นํ้ามะนาว นํ้าส้มส้ากิน แก้กระษัย(กะไษย)ปลวก ซึ่ งทําพิษต่าง ๆ และแก้
กระษัยทั้งปวง หายแล ท่านตีค่าไว้แสนตําลึงทอง
ยาแก้กระษัย(กะไษย)ทั้งปวง เอาโกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ ตรี ผลา ตรี กะฏุก กานพลู เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน
รากส้มกุง้ ทั้ง ๒ แก่นขี้เหล็ก แก่นแสมทะเล เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน รากทนดี ๕ ส่ วน บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้ง หรื อ
นํ้าขิง หรื อนํ้าส้มส้าหรื อนํ้าร้อนกิน แก้กระษัย(กะไษย)ทั้งปวง หายแล
๑๐. ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)กระบือและยาแก้ กระษัย(กะไษย)กระบือนี้ เกิดขึ้นเพราะโลหิตลิ่มติดอยู่
ชายตับเป็ นตัวแข็ง ยาวออกมาจากชายโครงข้างขวา มีสัณฐานดังลิ้นกระบือ มีอาการครั่นตัว ให้ร้อน ให้จบั
เป็ นเวลา จุกแน่นอก บริ โภคอาหารมิได้ นอนไม่หลับอยูเ่ ป็ นนิจ ร่ างกายซู บผอม เมื่อเป็ นนานแก้เข้า ตัว
กระษัย(กะไษย)แตกออกเป็ นโลหิ ตแลนํ้าเหลืองซึมไปในไส้ใหญ่ไส้นอ้ ย ทําให้ไส้พองท้องใหญ่ ชื่อว่ามาน
ท้องใหญ่ เป็ นอสาทิยโรค เยียวยายากนัก ถ้าแก่จนตัวกระษัยแตกออกแล้ว แก้มิได้เลย ให้แก้เมื่อยังอ่อนอยู่
นั้น
ยาแก้ให้เอายาเนาวหอยที่มีอยูใ่ นลักษณะกระษัย(กะไษย)จุกนั้นมาแก้ เอานํ้ากระสายต่าง ๆ ๖
ประการนี้ให้กิน เอาด่างสําโรง ด่างงวงตาล ด่างไม่ข้ ีหนอง ด่างไม้ข้ ีเหล็กทั้ง ๕ ด่างหญ้าพันงูแดง ด่างไม้
ตาตุ่ม เอาด่าง ๖ ประการนี้เป็ นนํ้ากระสาย ละลายยาเนาวหอยกิน ๗ วัน แล้วทํายารุ ให้กินต่อไป
ยารุ กระษัย(กะไษย)ลิ้นกระบือ เอาตรี กะฏุก เทียนดํา มหาหิ งคุ ์ ว่าน(หว้าน)นํ้า กานพลู การะบูน เอา
สิ่ งละ ๑ ส่ วน เมล็ดสลอดประสระแล้ว ๙ ส่ วน บดเป็ นผง เอานํ้าตาลหม้อ นํ้ามะขามเปี ยก เป็ นกระสาย บด
ปั้นแท่ง ธาตุหนักกินครั้งละ ๒ ไพ ธาตุเบากินครั้งละ ๑ ไพ ลงจนสิ้ นเชิง เอายาเนาวหอยให้กินไป ๕ วัน
แล้วกินยารุ อีกครั้งหนึ่ง ให้กินดังนี้ ๓ ครั้ง ถ้าโรคหนักต่อไป จะทําให้ทอ้ งบวม ให้ทาํ ยาแก้ต่อไปดังต่อไปนี้
ยาแก้กระษัย(กะไษย)ลิ้นกระบือที่ทาํ ให้บวม เอาพระยามูลเหล็ก แก่นขี้เหล็ก เอาสิ่ งละ ๔๐ บาท
สารส้ม ดินประสิ วขาว รงทอง เอาสิ่ งละ ๔ บาท ต้มตามวิธีให้กิน ๖-๗ วัน แล้วให้กินยารุ ครั้ง ๑ แล้วดองยา
ให้กินต่อไป
๑๑๖

ยาดองแก้กระษัย(กะไษย)ลิ้นกระบือตอนปลาย เอาเปลือกมะรุ ม แก่นแสมทั้ง ๒ แก่นขี้เหล็ก ราก


มะกรู ด รากเสนียด เอาสิ่ งละเท่ากัน ดองด้วยเหล้า ๓ ทนาน ฝังข้าวเปลือกไว้ ๓ วัน กินครั้งละ ๑ ถ้วยชา กิน
ทุกวันแล้วกินยารุ ครั้งหนึ่ง ให้กินยาดองนี้เป็ นประจําต่อไป ยานี้มีสรรพคุณดีนกั
๑๑. ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)เต่าและยาแก้ กระษัย(กะไษย)เต่านี้เกิดเพื่อดานเสมหะ ตั้งขึ้นที่ชายโครง
ซ้ายขวาโตเท่าฟองเป็ ด แล้วลามขึ้นไปจุกอยูท่ ี่ยอดอก กระทําให้จบั ทุกเวลานํ้าขึ้น ทําให้ร่างกายซู บผอม ผิว..
เหลืองดังทาขมิ้น เมื่อแก่เข้าทําให้โลหิ ตตกทวารหนักทวารเบา โทษทั้งนี้คือตัวกระษัย(กะไษย)แตกออกเป็ น
... สาทิยาโรค
ยาแก้ เอาโคกกะสุ น ๓ กํามือ ลูกมะกรู ดฝานขวาง เอา ๓ ท่อน ขมิน้ อ้อย ๕ ชิ้น ลงด้วยนะโมพุทธา
ยะ องค์ละชิ้น เอาปูนขาวเป็ นกระสายต้ม กิน ๓ วันหายจับ แล้วทํายาละลายตัวเต่าให้กินต่อไป
ยาละลายตัวกระษัย(กะไษย)เต่า เอาพริ กไทย ขิงแห้ง ดีปลี กระเทียม แก่นปรู เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน
กระดูกแพะเผา ๕ ส่ วน บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าผักเม็ดแดงต้มกิน ละลายตัวกระษัย(กะไษย)เต่าดีแล
ถ้าแก้ไม่ฟังจะแปรเป็ นม้ามย้อย กระทําเพศบางทีเป็ นเต่า บางทีเป็ นป้ าง บางทีเป็ นตับใหญ่ .... ให้
เอายาแก้เต่าแก้ป้าง แก้ตบั มากิน ถ้ายังไม่ฟังท่านให้เอายาเข้าเขาแพะกระดูกแพะนั้นมากิน ถ้ายังไม่ฟัง ท่าน
ให้เอายาเนาวหอยอันมีอยูใ่ นลักษณกระษัย(กะไษย)จุกนั้นละลายนํ้าด่าง ๖ ประการอันมีอยูใ่ นลักษณะ
กระษัย(กะไษย)ลิ้นกระบือนั้นให้กิน แล้วทํายาประจุให้กินต่อไป
ยาพรหมภักตร์ เอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน การะบูน มหาหิ งคุ ์ ยาดํา เอาสิ่ งละ ๔
ส่ วน ยางสลัดได ๑๒ ส่ วน พริ กไทย ๑๔ ส่ วน บดเป็ นผง บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าเปลือกมะรุ มต้ม ปั้ นเป็ นเม็ดเท่า
เมล็ดพริ กไทย กิน ๑ เม็ด ลง ๑ ครั้ง ถ้าจะให้ลงมากให้กินทวีข้ ึนไปตามธาตุหนักเบา .... กระษัย(กะไษย)เต่า
ตกสิ้ นแล แก้กระษัย(กะไษย)ทั้ง ๑๖ จําพวก แก้ทอ้ งรุ ้งพุงมานแลริ ดสี ดวงมองคร่ อ แก้ระดู ทั้งผอมเหลือง
กินอาหารค้างอยูใ่ นทรวงอก แก้ลมแก้หอบ ประจุเสมหะให้ตกทวารหนัก ประจุลม มีพิษทั้งปวง ยานี้เคยใช้
ได้ผลมาแล้ว
ยาแก้กระษัย(กะไษย)เต่า เอามหาหิ งคุ ์ ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กานพลู เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ยาดํา รงทอง
เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ตรี กะฏุก ๓ ส่ วน ยางสลัดได ๑๔ ส่ วน บดปั้ นแท่งละลายนํ้าผึ้งกิน ครั้งละ ๑ สลึง กระษัย
(กะไษย)เต่าตกสิ้ นแล
๑๒. ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)ดานและยาแก้ กระษัย(กะไษย)ดานมีลกั ษณะตั้งขึ้นที่ยอดแข็งดังแผ่น
หิ น ถ้าลามไปถึงท้องน้อยแล้ว กระทําให้ร้องครางอยูท่ ้ งั กลางวันแลกลางคืน ถูกความเย็นมิได้ ถ้าถูกความ
ร้อนค่อยสงบลงเล็กน้อย แล้วกลับปวดต่อไปอีก กระทําให้จุกเสี ยดแน่นอก บริ โภคอาหารมิได้ลามลงไปถึง
หัวเหน่าเมื่อใดเป็ นอทิยธรครักษามิได้เลย ให้รีบรักษาแต่เมื่อยังอ่อนอยูน่ อ้ ย ท่านให้เอายาเนาวหอยอันมีอยู่
ในลักษณะกระษัย(กะไษย)จุกนั้นมาแก้ ถ้ามิฟังให้ดองยานี้ให้กินต่อไป
ยาดองกระษัย(กะไษย)ดาน เอาเทียนดํา เทียนขาว มดยอบ แก่นปรู แก่นมหาด กระพังอาด
ขมิ้นเครื อ หัวเบ็ญจปั ต เอาสิ่ งดละ ๒ ส่ วน ส้มเสี้ ยว ส้มสันดาน ส้มเช้า สลัดได มะตาดเครื อ มหาละลาย เจ็ต
๑๑๗

มูลเพลิง ขิงแห้ง เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน พริ กไทยล่อน ๑๐ ส่ วน หัศกุนเทศ ๑๒ ส่ วน บดเป็ นผงห่อผ้าขาวดองด้วย


เหล้า ๕ ทนาน ฝังข้าวเปลือกไว้ ๓ วัน ให้พลีกินเช้าเย็นให้ได้ ๗ วัน แล้วทํายาประจุกินต่อไป
ยาประจุกระษัย(กะไษย)ดาน เอาเปลือกกระท้อน เปลือกราชพฤกษ์ มะพร้าวไฟ ๓ ผล ผ่าเอาผลละ
๑ ซี ก เอาซี กข้างกลาง ขูดคั้นเอากะทิให้ขน้ คุลีการเข้าด้วยกัน หุ งให้คงแต่น้ าํ มัน แล้วเอาเมล็ดสลอด ๑๐๘
เมล็ด ผ่าเอาเมล็ดละ ๑ ซีก บดให้ละเอียด แล้วให้เอาทอดให้น้ าํ มันให้เกรี ยม ให้กินครั้งละ ๑ ช้อนหอยลงจน
สิ้ นเชิง แก้กระษัย(กะไษย)ดานตกสิ้ น เว้นไป ๗ วันให้กินครั้งละ ๑ แล้วทํายานารมยณ์พงั ค่ายให้กินต่อไป
ยานารายณ์พงั ค่าย เอามหาหิ งคุ ์ ๑ อันพัน ๒ เจ็ตมูลเพลิง ๓ เมล็ดผักชีลอ้ ม ๔ โกฐสอ ๕ พริ กไทย ๖
ลูกมะตูมอ่อน ๗ ลูกช้าพลู ๘ ขิงแห้ง ๙ ลูกเสมอ ๑๐ เทียนดํา ๑๑ แก่นบุนนาค ๑๒ เปล้าน้อย ๑๓ รากทนดี
๑๔ บดเป็ นผงละลายนํ้าร้อนกินหนัก ๑ สลึง แก้กระษัย(กะไษย)ดานแลกระษัย(กะไษย)ทั้งปวง หายแล
ยาแก้กระษัย(กะไษย)ดาน เอาตรี กะฏุก มหาหิ งคุ ์ เจตพังคี เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ลูกสมอเทศ ลูกสมอไทย
เอาสิ่ งละ ๓ ส่ วน เทียนดํา ๔ ส่ วน โกฐนํ้าเต้า ๖ ส่ วน บดเป็ นผงละลายนํ้ามะขามเปี ยกกิน หนัก ๑ สลึง แก้
กระษัย(กะไษย)ดานหายแล
ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)กล่อน ๕ ประการ คือ กระษัย(กะไษย)ดิน นํ้า ลม ไฟ กระษัย(กะไษย)ดินนั้น
มันเกิดทัว่ ปถวีธาตุ คือ เส้นกล่อนนั้นมันตั้งเป็ นก้อนอยูต่ ามหัวเหน่าซ้ายขวา แล้วมันเลื่อนลงไปจับเอาลูก
อัณฑะกําเริ บฟกขึ้น จะถูกต้องเข้ามิได้ เจ็บเสี ยวตลอดถึงหัวใจ ถ้ากินยาชอบมันก็ชกั หดขึ้นไปตั้งเป็ นก้อน
เป็ นเถา ขึ้นหัวเหน่า เสี ยดสี ขา้ งถึงยอดอก ทําให้ปวดยอดอก ถ้าเส้นอันนั้นมันแทงเข้าเมื่อใด มันให้โทษ ๑๑
ประการ เจ็บเสี ยดแทง เป็ นพรรดึก เป็ นก้อนอยูใ่ นท้อง เจ็บทัว่ สาระพางค์กาย เจ็บเอวมือเท้าตาย เมื่อยขบ ขัด
หัวเหน้ า(หัวเหน่า)แลตะโพก ท้องตึงลงไปสองราวข้างแลทวารเบา เจ็บศีรษะ วิงเวียนหน้ามือ ตาฟางหู ตึง
ขัดสี ขา้ ง ท้องขึ้นเฟ้ อ บริ โภคอาหารไม่มีรส โรคนี้เกิดเพราะเสมหะแห้งอยูน่ อกไส้ เมื่อไข้เป็ นนั้นมันให้ข้ ึน
เนื้อขึ้นตัว ทําให้ถอยอาหาร บางทีทาํ ให้จบั สะบัดร้อนสะบัดหนาว อยากกินของเปรี ยวของหวาน บุรุษแล
สตรี เป็ นเหมือนกัน กระษัย(กะไษย)กล่อนเหล่านี้มนั เกิดเพื่อเส้นแลอุ่จจาระ(อุจจาระ)ผูกเป็ นพรรดึกอยูใ่ น
กองปถวีธาตุ
ยาแก้ เอาสะค้าน ว่านนํ้า ผักแพวแดง ยาดํา มหาหิ งคุ ์ โกศ(โกฏ)สอ โกศ(โกฏ)พุงปลา โกศ(โกฏ)จุลา
ลําภา กัญชา ชะเอมเทศ ดีปลี แก่นแสมทะเล รากเจ็ตมูลเพลิง หัวอุตพิด หัวดองดึง เอาเสมอภาค เอาพริ กไทย
เท่ายาทั้งหลาย บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งกินหนัก ๑ สลึง กินยานี้ ๗ วันแล้วกินยาทุเลาครั้ง ๑ แล้วให้ทาํ ยา
ขนานต่อไปนี้กินต่อไป
เอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู สมุลแว้ง เทียนดํา ผักแพวแดง รากเจ็ตมูลเพลิง ดีปลี
ขิงแห้ง กระเทียม หัวบุก หัวกลอย หัวอุตพิด หัวกระดาด ทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ ๑ บาท เอาพริ กไทย ๒๐ บาท
การะบูน ๒ บาท บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้ง หรื อนํ้าร้อน หรื อนํ้าส้มสายชูกิน
กระษัย(กะไษย)นํ้า เกิดเพื่ออาโป คือ โลหิ ต นํ้าเหลือง เสลดทั้ง ๓ ประการนี้ แต่ประการใดประการ
หนึ่งก็ดี หรื อทั้ง ๓ ประการด็ดี ชื่อว่ากระษัย(กะไษย)เลือด ถ้าผูห้ ญิงมันตั้งขึ้นที่ใต้สะดือ ๓ นิ้ว ทําให้ปวด่
๑๑๘

(ปวด)ขัดถึงยอดอก เจ็บปวดว(ปวด)ดังจะขาดใจ บางทีมนั ลามขึ้นไปถึงยอดอก ดุจเป็ นฝี มะเร็ งทรวงแลฝี


ปลวก
ยาแก้ เอาแก่นขี้เหล็ก แก่นแสมทั้ง ๒ กานพลู มดยอบ รากเจ็ตมูลเพลิง เอาสิ่ งละ ๔ บาท รากส้มกุง้
๓ บาท หัศกุนเทศ ๒ บาท ปูนขาว พริ กญี่ปุ่น พริ กไทยล่อน ขิงแห้ง ผิวมะกรู ด ดีปลี เอาสิ่ งละ ๑ บาท ดอง
ด้วยสุ รา ๓ ทนาน ให้กินครั้งละ ๑ จอก กินไปได้ ๗ วัน แล้วให้กินยาประจุเสี ย แก้กระษัย(กะไษย)โลหิ ตแล
ถ้าเป็ นหญิงท่านว่าโลหิ ตเข้าฝักแลเลือดแห้งติดกระดูกสันหลังแลหัวเหน่า บางทีเลือด.หัวใจทําให้คลัง่ เพ้อดัง
ผีเข้า ถ้าผูช้ ายเป็ นก้อนเลือดขึ้นจับหน้าอก มันทําให้กลายเป็ นฝี ในอกเป็ นฝี หวั ควํ่า บางทีกลายเป็ นมานเลือด
บางทีกลายเป็ นมุตกิดมุตฆาต สันฑะฆาต เพราะกระษัย(กะไษย)เลือกมันเกิดขึ้นด้วยกล่อนนํ้าคือโลหิ ต
ยาแก้กล่อนนํ้า เอานํ้าหญ้าไซ นํ้าเถาวัลย์เปรี ยง นํ้าลูกบวบขม เอาสิ่ งละ ๑ ทนาน เปลือกสําโรง ๒
สลึง เปลือกหอยขม ๒ สลึง เปลือกหอยแครง ๒ สลึง เปลือกหอยจุบแจง ๒ สลึง ลูกมะกลํ่าขาว ๒ สลึง ลูก
มะกลํ่าดํา ๒ สลึง รากตองแตก ๒ สลึง หางไหลแดง ๒ สลึง ลูกจิงจ้อน้อย ๑ สลึง เปล้าน้อย ๒ สลึง แก่น
แสมทะเล ๒ สลึง ดินประสิ วขาว ๒ สลึง รากไคร้เครื อ ๒ สลึง ยางสลัดได ๒ สลึง ยางมะตูม ๒ สลึง ยาดํา
๖ สลึง บดเป็ นผงกวนกับนํ้าผึ้งพอปั้ นก้อนกินได้ ธาตุเบากิน . ไพ ธาตุหนักกิน ๒ ไพ ลงจนเสลด กินยานี้
แล้วให้หยุดไว้ ๑๐ วัน จึงกินทีหนึ่ง แล้วกินยาเดิมต่อไป
กระษัย(กะไษย)เพลิง มันเกิดเพราะกล่อนไฟ ด้วยธาตุไฟอันมีชื่อว่าอัคคีมุคะ คือ ธาตุไฟพัดไม่
ตลอด มันทําให้วปิ ริ ตแปรปรวนไปต่าง ๆ บางทีมนั ตั้งขึ้นในทรวงอกจุกขึ้นไปดังใจจะขาดทําให้ร้อน
เหมือนลนไฟ เหงื่อไหลแตกทุกเส้นขน
ยาแก้ เอายาเข้าเย็น สารส้ม เอาสิ่ งละ ๑ บาท ตรี กะฏุก สิ่ งละ ๒ สลึง โคกกระสุ น ๑ กํามือ ตัดหัวตัด
ท้าย ต้ม ๓ เอา ๑ เศกด้วยสัพพาสี ให้กิน แก้จุกแก้ร้อน หายแล
ยาแก้กระษัย(กะไษย)กล่อนมีอาการร้อนท้องร้อนหลัง เอาแก่นแสมทะเล ขิง ดีปลี ลูกจันทน์
กานพลู เอาสิ่ งละ ๑ บาท พริ กไทย ๕ บาท บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งกิน แก้กระษัย(กะไษย)ไฟ กินไป ๗ วัน
แล้วกินยาประจุเสี ย แล้วทํายาต่อไปนี้กินต่อไป
เอาแก่นขี้เหล็ก ๔ บาท แก่นมหาด ๖ บาท แก่นแสมทะเล ๒๒ บาท แก่นแสมสาร ๒๒ บาท แก่น
มะเกลือ ๒๒ บาท กรักชี (กรักขี) ๕ บาท กระเทียม ๖ บาท รากโคกกระออม ๕ บาท รากช้าพลู ๑๐ บาท ราก
เจ็ตมูลเพลิง ๑๐ บาท รากตองแตก ๒๐ บาท ผักเสี้ ยนบ้าน ๑๒ บาท ผักเสี้ ยนผี ๓ บาท รากส้มกุง้ ทั้ง ๒ สิ่ งละ
๓ บาท ยาเข้าเย็นจึน ๓๐ บาท ยาเข้าเย็นเหนือ ๓๐ บาท ดองด้วยเหล้ากิน ถ้าจะทําเป็ นผงให้เอามหาหิ งคุ ์ ๕
บาท ลูกจันทน์ ๑ บาท ดีปลี ๑ บาท กระเทียม ๑ บาท พริ กไทย ๑ บาท เกลือพอควรใส่ เข้าด้วย เมื่อกินให้ต้งั
ขวัญข้าวเทียน ๓ ดอก มะพร้าวอ่อน ๑ ลูก เมี่ยงคําหนึ่ง เงิน ๑ บาท ขนมเล็กน้อย บูชาจงดี ถ้าดองเอาทองผูก
คอหม้อ ๑ บาท ฝังเข้าเปลือกไว้ ๓ วันจึงกิน ดีนกั แล
ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)กล่อนบังเกิดเพื่อลม ลมกระษัย(กะไษย)นั้นกําเริ บขึ้นข้างขึ้นหรื อข้างแรม
คล้ายกัน ถ้าเย็นเข้าเป็ นเหมือนคนดี อาการของมันนั้น จุด(จุก)ขึ้นมา ขัดแลขบตอด ในท้องร้องอยู่ อกเย็นดัง
๑๑๙

นํ้า มันให้ขบยิง่ นัก เมื่อกินอาหารแล้วก็ร้อนลงไป มันคลายทีละน้อย ท่านให้เอายาแก้กระษัย(กะไษย)ลมนั้น


มาแก้
ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)เถา กระษัย(กะไษย)นี้มนั เกิดเพื่อลมสันฑะฆาต แลปัตฆาต แล่ นเข้ (แล่นเข้า)
ในลําไส้ทาํ ให้เส้นพองแข็งขวางอยูท่ ี่หวั เหน่ามาประจบเกลียวข้าง ผูช้ ายขึ้นข้างขวา ผูห้ ญิงขึ้นข้างซ้าย เสี ยด
ไปตามชายโครงถึงยอดอก ปวดขบในอก เสี ยวถึงลําคอ บางทีทาํ ให้อาเจียนนํ้าลาย ถ้ารากออกมาอาการที่
ปวดนั้นค่อยสงบลง มีอาการดุจฝี ปลวดฝี มะเร็ งทวาร ผิดกันที่น้ าํ มูตร ถ้าเป็ นกระษัย(กะไษย)นํ้ามูตรแดง
เหลืองสักหน่อย เอาถ้วยรองไว้ดูเมื่อมันนอนลงอยูก่ น้ นั้นเป็ นดังปูนกินหมาก ถ้าเป็ นฝี สี มนั ดํา โรคอันนี้มนั
เกิดขึ้นเพราะกินของคาวของหวานมาก เป็ น ๆ หาย ๆ ไปประมาณ ๑๒-๑๓ ปี แล้วกลายเป็ นมานกระษัย
(กะไษย)รักษาไม่ได้ แก้ได้กแ็ ต่เมื่อยังอ่อนอยู่ ท่านให้ชาํ ระด้วยยาเบ็ญจอํามะพฤกษ์ที่อยูข่ า้ งต้นนั้น ให้กิน
วันหนึ่งเว้น ๕ วันจึงกินอีกดังนี้ แล้วให้กินยานารายณ์พงั ค่ายต่อไป ๕ วัน ให้กินชําระทีหนึ่งแล้วให้ทาํ ยานี้
ให้กินเวลาเย็น
เอารากจิงจ้อ ๘ บาท รากตองแตก ๖ บาท ลูกสมอไทย ๖ บาท รากเจ็ตมูลเพลิง ๖ บาท หัศกุน
เทศ ๑ บาท เทียนดํา ๑ บาท เทียนขาว ๑ บาท เทียนแดง ๑ บาท เทียนตาตัก๊ แตน ๑ บาท โกฐสอ ๑ บาท โกฐ
เขมา ๑ บาท โกฐกักกรา ๑ บาท ยาดํา ๑ บาท มหาหิ งคุ ์ ๑ บาท กานพลู ๑ บาท ดีปลี ๑ บาท การะบูน ๓ สลึง
พริ กไทย ๕ บาท ๒ สลึง บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งหรื อนํ้าร้อน หรื อนํ้ามะกรู ดนํ้ามะนาว ส้มส้ากิน แก้สาระพัด
กระษัย(กะไษย) หายแล ยานี้ชื่อดาวดึงษา มีค่าแสนตําลึงทอง
แล้วต้มยานี้ให้กิน เอาลูกมะกรู ด ๗ ลูก ลูกมะนาว ๗ ลูก ขิง ๗ ดีปลี ๗ กระเทียม ๗ หัว พริ กไทย ๑
บาท ไพล ๑ บาท สารส้ม ๑ บาท ดินประสิ ว ๖ สลึง เกลือ ๑ กํามือ ต้ม ๓ เอา ๑ กิน เวลาเย็นทุกวัน เป็ นยาตัด
รากกระษัย(กะไษย)
ยาแกงเป็ นยารุ เอาเปลือกทองหลางทั้ง ๒ เปลือกมะรุ ม ใบสวาด ลูกคัดเค้า เอาสิ่ งละ ๗ เอาปลาร้า
ปลาสร้อย ๗ ตัว ปลาดุกย่าง ๑ ตัว เอาใบสลอดต้นอ่อน ๆ ๗ ใบหัน่ เป็ นผักใส่ ลง ทําเป็ นแกงกิน ลงจนเสลด
เขียวเหลืองออกสิ้ น หายแล
อนึ่ง ท่านให้ถ่ายด้วยยานี้ เอากฤษณา กระลําภัก ขอนดอก ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน
กานพลู เทียนดํา เทียนขาว เทียนเยาวภานี เทียนข้าวเปลือก โกฐพุงปลา โกฐก้านพร้าว โกฐหัวบัว โกฐ
กระดูก เอาสิ่ งละ ๑ สลึง เอาลูกสมอทั้ง ๓ สิ่ งละ ๒ สลึง เมล้ ด(เมล็ด)สลอดปอกเปลือกแกะเอาไส้ออก เอา
ข้าวสุ กห่อให้มิด เอาผ้าขาวห่ อต้มให้น้ าํ แห้ง ๓ หน แล้วเอาตากแดดให้แห้ง แล้วเอาต้มด้วยใบมะขามให้น้ าํ
แห้ง ๑ ครั้ง ต้มด้วยใบส้มป่ อยให้น้ าํ แห้ง ๑ ครั้ง ต้มด้วยเกลือให้น้ าํ แห้ง ๑ ครั้ง แล้วเอาตากแดดให้แห้ง เอา
เท่ายาทั้งหลาย บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้ง กิน ๕ กลุ่มลง ๕ หน กิน ๗ กลํ่าลง ๗ หน ยานี้มีคุณมาก แก้โรคทั้ง
ปวงดีแล
ยาแก้กระษัย(กะไษย)จุกเสี ยด เอาตรี กะฏุก แก่นแสมทั้ง ๒ ทัศกุนทั้ง ๒ เจ็ตมูลเพลิง ผักส้มป่ อยขั้ว
เอาสิ่ งละ ๓ บาท สมุลแว้ง ๖ บาท ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กานพลู เอาสิ่ งละ ๒ สลึง บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้ง
๑๒๐

หรื อนํ้ากระเทียมกิน แก้กระษัย(กะไษย)จุกเสี ยด แก้ลมอํามะพฤกษ์ ลมมหาสดมภ์ ละลายนํ้าขิง นํ้าข่า หรื อ


นํ้ากระเทียมกิน ห้ามมิให้กินกับนํ้ามะนาว
เอาลูกเอ็นเทศ ๕ บาท อบเชยเทศ ๓ บาท ๓ สลึง ชะเอมเทศ ๕ บาท ๒ สลึง ลูกกระวาน ๑๐ สลึง
ลูกมะขามป้ อม ๑๐ บาท พริ กไทยล่อน ๘ บาท ๓ สลึง ขิง ๕ บาท ดีปลี ๖ บาท ดอกบุนนาค ๔ บาท บดเป็ น
ผงแล้วเอานํ้าตาลทรายเท่ายาทั้งหลาย ประสมกับยานี้ ละลายนํ้าผึ้งกิน แก้ลมกระษัย(กะไษย)ซึ่ งทําให้เจ็บอก
ขัดในอก และแก้พรรดึก ดีนกั แล
ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)ท้น กระษัย(กะไษย)นี้เมื่อท้องว่างนั้นสบาย เมื่อกินอาหารเข้าไป มันท้นขึ้น
มาถึงยอดอก แน่นในอกในโครง หายใจไม่ใคร่ ออก มันแน่นขึ้นมาแต่ทอ้ งน้อย ทําให้กระเพาะข้าวแขวน กิน
อาหารมิได้ ยาแก้ เอาดีปลี ๑๐ บาท ขิงแห้ง ๔ บาท ยาดํา ๓ บาท การะบูน ๖ สลึง พริ กไทย ๒ บาท กานพลู
๓ สลึง ลูกกระวาน ๒ สลึง บดเป็ นผง ละลายนํ้าผึ้งกิน แก้กระษัย(กะไษย)ท้น หายแล
ยาแก้กระษัย(กะไษย)ลม ให้ทาํ ยาแกงที่เข้าหัวเข้าข้าแลว่าน(หว้าน)หางช้างนั้นให้กิน แล้วทํายา
ขนานนี้ให้กินต่อไป เอาเทียนทั้ง ๕ โกฐทั้ง ๕ เปล้าทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ ๑ สลึง พริ กหอม พริ กหาง ลูกจันทน์ ลูก
กระวาน คราม เอาสิ่ งละ ๑ เพือ้ ง(เฟื้ อง) บอระเพ็ด(บระเพ็ด) หัวแห้วหมู ขมิ้นอ้อย ลูกทุลงั กาษา ราก
ไคร้เครื อ เอาสิ่ งละ ๑ บาท หัศกุน ๔ บาท ใบกระเพราแห้ง ๘ บาท ดีปลี ๑ บาท กัญชา ๒ สลึง บดเป็ นผง
ละลายนํ้าผึ้งกิน แก้ลมกระษัย(กะไษย)เสี ยด หายแล
ถ้ามิฟังท่านให้ทาํ ยานี้ เอากระเทียม ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู ดีปลี เมล็ดสวาด
เมล็ดสะบ้า หัวบุกรอ หัวอุตพิด หัวกระดาด เอาสิ่ งละ ๖ สลึง แก้กระษัย(กะไษย)ท้น จุกเสี ยก(เสี ยด)ในอก
เสี ยดทั้งตัว สะท้านหนาวเย็นดังลูกเห็บ กินยานี้หายแล ยานี้ชื่อไฟประไลยกัลย์
ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)เสี ยด กระษัย(กะไษย)เสี ยดนั้นเกิดแต่แม่เท้า ตามเส้นตะคริ ว มีอาการปวดขบ
สะดุง้ ทั้งตัว แล้วขึ้นไปเสี ยดที่ชายโครง ดังจะขาดใจ เมื่อสะดุง้ ขึ้นมาทั้งตัว มันก็เสี ยดชายโครงข้างซ้ายข้าง
ขวา ทําให้ร้องดังจะขาดใจ ท่านให้นวดแล้วทํายานี้ให้กิน
เอาคากรอง งาช้าง นอแรด เขี้ยวเสื อ เขียวจรเข้ เขี้ยวหมู เขาแพะ เขากุย เขากวาง เขาควาย เผือก เอา
เผาให้ไหม้ เอาโกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ เปล้าทั้ง ๒ ตับเต่าทั้ง ๒ จันทน์ท้งั ๒ กุ่มทั้ง ๒ ลูกจันทน์ ดอกจันทน์
เบ็ญกานี สะค้าน พิศนาด รากไคร้เครื อ รากช้าพลู รากหมอน้อย โลดทนง ข่าต้น พริ กไทย ขิง ขมิ้นอ้อย ใบ
คนทิสอ(คนทีสอ) ใบสะเดา ใบย่างซาย เอาเสมอภาค บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าร้อนแทรกดีงูกิน แก้กะษัยเสี ยด
ขบทัว่ ตัว สะดุง้ ตามเส้นแทงเอาหัวอกแลชายโครงหายแล กระษัยนี้ชอบแก้ดว้ ยยาเย็นแลยาสุ ขมุ
ยาประจุกระษัย(กะไษย)ทั้งปวง เอาลูกมะตูมอ่อน ลูกทุลงั กาษา บอระเพ็ด หัวแห้วหมู เปลือก
มะหาด รากเจ็ตมูลเพลิง สะค้าน กรุ งเขมา ดอกจันทน์ ลูกกระวาน พริ กไทย ดีปลี ลูกสลอด เอาสิ่ งละ ๒ สลึง
รากไคร้เครื อ ๖ สลึง บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งกิน เท่าลูกพุดซา แก้เสี ยดในอกหายทุกประการ ไข้พิษ ๗ จําพวก
แก้ลมเป็ นก้อนในทรวง แก้พรรดึก แก้ทอ้ งมาน ๆ กระษัย แก้สะอึก แก้ข้ ีเรื้ อน แก้สันนิบาติ ๗ จําพวก หาย
ทุกประการ
๑๒๑

ยาครอบกระษัย(กะไษย) เอาแก่นสน รากคัดเค้า รากขี้เหล็ก รากแสมสาร มะคังทั้ง ๒ แฃเอา( เอา )


ทั้งรากทั้งใบ จําปา กระดังงา เอาทั้งรากทั้งใบ ลูกทุลงั กาษา หมูเครื อ เจ็ตมูลเพลิง หญ้าไซ เอื้องเพ็ดม้า
สะค้าน รากข้าวสาร รากมะดูกทั้ง ๒ รากหัศกุนเทศ รากถัว่ แปบผี รากตาเสื อ รากคันซง รากมะเกลือ ราก
มะรุ ม กุ่มบก ทองหลาง บอระเพ็ด พริ กไทย ขิง หอม กะทือ กระชาย กระเทียม ไพล ผิวมะนาว ผิวมะกรู ด
เอาเสมอภาค บดเป็ นผง หมักนํ้าผึ้งไว้ ๗ วัน กินแก้กระษัย(กะไษย) จําพวก หายทุกประการแล
ยาแก้กระษัย(กะไษย) ๑๖ จําพวก เอาผักเป็ น ๑ กระบุง ขิง ๑ ชัง่ กระเทียม ๑ จุก นํ้าผึ้ง ๓ ทนาน
เคี่ยวให้เป็ นยางมะตูม เอาพริ กไทย ๑ ทนาน เมล็ดสะบ้าเผา ๓ เมล็ด การะบูน ๔ บาท บดเป็ นผง ปรุ งลงกวน
แต่อปั้ นได้ กินแก้กระษัย(กะไษย) ๑๖ จําพวก หายทุกประการ
ยาพรหมภักตร์ ประจุกระษัย(กะไษย) ครอบกระษัย(กะไษย)ท้องมาน หื ด ไอทั้งปวง แก้ลมดิ้นตาย
เสลดตก ผมเหลือง เป็ นลมง่วงเหงา เจ็บในอก เอามหาหิ งคุ ์ ยาดํา สี เสี ยดเทศ เทียนดํา เทียนขาว ดอกจันทน์
ลูกกระวาน กานพลู กัญชา รากเจ็ตมูลเพลิง เอาสิ่ งละ ๑ บาท ลูกจันทน์ ๒ บาท การะบูน .... บาท โหราเท้า
สุ นขั ๕ บาก รงทอง ๖ บาท ฝิ่ น ๔ บาท บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งกินหนัก ๑ สลึง เป็ นยาตัดรากกระษัย
(กะไษย)ทั้งปวง
กระษัย(กะไษย)ลมพวกหนึ่งมันเกิดนอกไส้ มันแล่นเข้าในกระดูกทําให้เมื่อยทุกกระดูกดังจะแตก
จากกัน แก้เอากระดูกงูเหลือมเผา กระดูกแพะเผา เปลือกหอยขมเผา เปลือกหอยกาบเผา บดละลายนํ้ากิน
หายแล
กระษัย(กะไษย)ลมพวกหนึ่ง เกิดเพื่อลมทั้งกาย ลมนั้นมันประมวลกันเข้า ตั้งอยูเ่ หนื อสะดือโตเท่า
ลูกมะเดื่อ มันทําให้จุกเสี ย(จุกเสี ยด)แน่นอกเป็ นกําลัง ยาแก้ เอาผักเสี้ ยนผี ขอบชะนางทั้ง ๒ มะรุ ม
ทองหลาง เอื้องเพ็ดม้า หญ้าไซ ผักคราด ผักโหมหิ น กระพังโหม ใบคนทิสอ(คนทีสอ) กะทือ ไพล หอม
กระเทียม ตําเอานํ้าสิ่ งละทนาน เอานํ้ามันงา ๑ ทนาน หุ งให้คงแต่น้ าํ มัน เอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูก
กระวาน กานพลู มหาหิ งคุ ์ การะบูน เทียนทั้ง ๕ เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผง ใส่ ลงในนํ้ามันที่หฟุง(หุ ง)ให้
กินบ้าง ทาภายนอกบ้าง หายแล
พวกหนึ่งเกิดเพราะลมอุทรวาต เกิดขึ้นมาแต่ปลายเท้าขึ้นไปถึงศีรษะ ลมนี้เมื่อแรกเป็ นนั้น มันพัด
อยูแ่ ต่เพียงยอดอก แล้วมันแล่นเข้าในลําไส้ แล้วเป็ นเม็ดขึ้นในลําไส้ เรี ยกว่าฝี รวงผึ้ง เจ็บปวดเหลือประมาณ
ยาแก้เอากระดูกวัว หอยตาวัว หอยกาบ บดละลายนํ้าปูนใสกิน กระษัย(กะไษย)เกิดเพื่อลม พัดแต่ปลายเท้า
ขึ้นไปถึงกระหม่อม พัดไม่ตลอดพัดไปตันอยูเ่ พียงไหนก็เจ็บอยูเ่ พียงนั้น
กระษัย(กะไษย)ลมมีที่ต้ งั ๔ แห่ง ตั้งที่ใต้สะดือแห่ง ๑ เหนือสะดือแห้ง ๑ ริ มสะดือซ้ายหรื อขวา
หรื อมีลกั ษณะเหมือนฝี หัวด้ าน(ด้วน) ยาแก้ เอาเปลือกงิ้ว ลูกทุลงั กาษา สารส้ม มะกรู ด ทั้ง ๔ สิ่ งนี้เอาเผาไฟ
บดละลายนํ้ามะกรู ดกิน
กระษัย(กะไษย)ไฟเกิดเพื่อเตโช ชื่ออะพิตา ชื่อปาคะนี จับเป็ นเวลา ทําให้ลูกตาแดง เจ็บปางตาย เจ็บ
รวบที่ยอดอกเหมือนฝี มะเร็ งทรวง มันเจ็บเวลาบ่าย ทําให้บวมหน้า บวมท้อง และบวมตีน ถ้าบวม ๓
๑๒๒

ประการดังนี้ตายแล ยาแก้ เอาเมล็ดมะม่วงพรวน เมล็ดมะระ หอยขม หอยทราย หอยกาบ หอยแครง หอย


สังข์ ยาทั้งนี้เอาเผาไฟให้ไหม้ บดละลายเหล้ากิน
กระษัย(กะไษย)ไฟชื่อปริ ทยั หัคคี และไฟที่เผาอาหารพิการ ทําให้กินอาหารผะอืดผะอม ทําให้ทอ้ ง
ขึ้นไม่ผายลม เจ็บอกแน่นอก กินอาหารไม่ได้ ยาแก้ เอามะกรู ดต้มให้สุก เอายาเบ็ญจขันธ์เท่าลูกมะกรู ด เล้ว
เอามหาหิ งคุ ์ การะบูน พริ กไทย กระเทียม ไพล เอาสิ่ งละ ๑ บาท ยาทั้งนี้เอารวมกันบดปั้นเป็ นลูกกลอนกิน
กระษัย(กะไษย)ไฟเกิดเพื่อเตโช ชื่ อสันตับปัคคี มีอาการเย็นทัว่ ตัว ภายในร้อนเป็ นกําลัง มันตั้งขึ้น
ใต้สะดือ ๓ นิ้ว จุกแดก ลัน่ ขึ้นชั่ น(ลัน่ )ลง เสี ยดสี ขา้ ง พลิกตัวไปมาไม่ได้ มีอาการเหมือนเป็ นัตฆาต(เป็ นปัต
ฆาต) ปวดศีรษะ วิงเวียนหน้าตา ยาแก้ เอาตรี ผลา ดองดึง เทียนทั้ง ๕ เอาสิ่ งละ ๑ บาท มหาหิ งค์ ๒ สลึง เอา
กระเทียมทั้งหัวรากแล ใบเท่ายาทั้งหลาย บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งกิน
อีกขนานหนึ่ง เอาเปลือกกุ่มทั้ง ๒ หอยกาบ หอยโข่ง หอยขม หอยแครง หอยสังข์ เปลือกหอยทุก
อย่างเอาเผาไฟให้โชน แล้วเอาขิงแห้ง ดีปลี เอาสิ่ งละเท่ากัน เอาพริ กไทยเท่ายาทั้งหลาย บดเป็ นผง แทรก
การะบูน ปูนผง ละลายนํ้าผึ้งปั้นเป็ นลูกกลอนกิน แก้หืดละลายสุ รากิน หายแล
อีกขนานหนึ่ง แก้จุกเสี ยดปวดขบ เอาพริ กเทศ ๑๐๘ ลูก พริ กไทย ๑๐๘ เมล็ด เอาผักกะชับทั้งตั้นทั้ง
รากทั้งใบทั้งลูก เอาสิ่ งละ ๑ บาท ไทรย้อย หญ้าไซแห้ง เอาสิ่ งละ ๑ บาท หญ้ายองไฟ ๑ บลาท(บาท) ไพล
แห้ง ๑ บาท บดเป็ นผง ละลายสุ ราหรื อนํ้าส้มส้า หรื อนํ้าขิง นํ้ามะนาว หรื อนํ้ากระเทียมกิน
ยาพรหมภักตร์นอ้ ย ประจุกระษัย(กะไษย) ๑๘ จําพวก เอามหาหิ งคุ ์ ยาดํา การะบูน เอาสิ่ งละ ๑ บาท
ลูกจันทน์ ๑ สลึง ดอกจันทน์ ๑ สลึง ยางสลัดได ๓ บาท พริ กไทย ๓ บาท ๒ สลึง บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าเปลือก
มะรุ มต้ม ปั้นเป็ นเม็ดเท่าเมล็ดพริ กไทย กินวันละ ๑ เม็ดทุกวัน ฆ่าไส้เดือนตกสิ้ นแล แก้ทอ้ ง.. พุงมาน แก้หืด
ไป เพื่อเสลดมองคร่ อ แก้หญิงโลหิ ตพิการ ผอมเหลือง กินอาหารจุกอยูท่ ี่อก แก้ ก้นท้อง หอบพัก หายสิ้ นแล
ยาแก้ลมกระษัย(กะไษย) เอาแก่นคูน แก่นขี้เหล็ก แก่นมะหาด แก่นสน เชือกเขาหนัง เอาสิ่ งละ
เท่ากัน ดองด้วยเหล้าไว้ ๗ วัน กินแก้ลมกระษัยแลลมมวนไส้หายแล
กระษัย(กะไษย)อันหนึ่งมันให้จุก เกิดเป็ นลมปิ ดเป็ นเสลดแลเลือดเข้าในเส้นทําให้ร้อนยิง่ นัก ยาแก้
เอามะกรู ด มะนาว ฝักส้มป่ อย กําแพงทะลาย หญ้าเกล็กหอย ข่อยหยอง ใบหนาด ตะไคร้น้ าํ มะเกลือ ขมิ้น
อ้อย หัวบุกรอ หัวกลอย เอาเสมอภาค ตั้นเอานํ้าสิ่ งละ ๑ ทนาน แล้วเอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน
กานพลู เทียนดํา เทียนขาว ดีปลี การะบูน บดเป็ นผงใส่ ในยานั้น แล้วหุงให้คงแต่น้ าํ มัน ใช้กินแลทาแก้ลม
กระษัย(กะไษย)จุกเสี ยด หายแล
ลมกระษัย(กะไษย)อันหนึ่ง ทําให้ร้อนในอกในท้อง เกิดเพราะลมเสลด ยาแก้ เอาเปลือกถัว่ เขียว ทุ
ลังกาษา สารส้ม ส้มกุง้ มะรุ ม เอาสิ่ งละเท่ากัน เผาไฟ ละลายเหล้ากิน
กระษัย(กะไษย)ข้น มันเกิดเพราะเลือดค้างสันหลัง ทําให้เจ็บหลังอยูเ่ สมอ ยาแก้ เอาพุงวัว พุงเม่น
หญ้าไซ กระทุ่มเลือด กระทุ่มหลวง ช้าเลือด กุ่มบก ทองหลาง ผักเสี้ ยนปี ขิง ข่า กระเทียม สะเดา เอาสิ่ งละ
เท่ากัน ตําคั้นเอานํ้าสิ่ งละทนาน นํ้ามันงา ๑ ทนาน เอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู เทียนดํา เทียน
ขาว เกลือสิ นเธาว์ บดปรุ งลงในนํ้ายานั้น แล้วหุ งให้คงแต่น้ าํ มัน กินแก้กระษัย(กะไษย)ข้น หายแล
๑๒๓

อนึ่งกระษัย(กะไษย)ลมแลนํ้า เกิดเพราะลมแลนํ้าในกระเพาะ มีอาการเจ็บดังใจจะขาด ยาแก้เอา


หอยขม หอยกาบ ผักโหมหัด ผักโหมหิ น เมล็ดสวาด เอาเผาให้ไหม้ ละลายนํ้ามันยางกิน หายแล
ลมกระษัย(กะไษย)อันหนึ่ง มันให้รากแลลัน่ อยูใ่ นท้อง ยาแก้ เอาเปลือกมะตูม ลูกกระเบา ขี้ววั ขํ้าก่
เผาให้ไหม้ ละลายนํ้าปูนใสกิน หายแล
ลมกระษัย(กะไษย)ดาน มีลกั ษณะแข็งอยูใ่ นท้องดังแผ่นกระดาน เจ็บปวดมาก ยาแก้ เอาขมิ้นอ้อย .
เปลือกไข่เป็ ด ข้าวเหนียว เผาไฟให้ไหม้ ละลายนํ้าปูนใสกิน หายแล
ถ้ายังไม่หาย ให้เอาผักเสี้ ยนผี หญ้าไซ ขี้อา้ ย ลูกคัดเค้า ใบกระเพราแดง ใบ. ตะไคร้ กระชาย
พริ กไทย ขิง หอม เกลือ ตําเอานํ้าสิ่ งละ ๑ ทนาน เอานํ้ามันงา ๑ ทนาน เคี่ยวให้คงแต่น้ าํ มัน แล้วเอาลูก
จันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู เทียนขาว การะบูนบดเป็ นผงใส่ ลงในนํ้ามันที่หุงนั้น กินแก้กระษัย
(กะไษย)ลงท้อง กระษัย(กะไษย)ฟกบวม นํ้ามันนี้ชื่อสนัน่ โสฬส ดีนกั แล
ลมกระษัย(กะไษย)อันหนึ่งมันพัดเลือดแล่นขึ้นทําให้ระสํ่าระสายจุกเสี ยด กระษัย(กะไษย)นี้เป็ น
เพราะลมและเลือด ยาแก้ เอาผักเสี้ ยนผี ขอบชะนางแดง เอื้องเพ็ดม้า กุ่มทั้ง ๒ มะรุ ม ทองหลาง หญ้าไซ ใบ
คนทิสอ(คนทีสอ) กระพังโหม ผักคราด ผักโหมหิ น หอม กระเทียม ขิง ไพล เบี้ยจัน่ หอยโข่ง หอยกาบ เอา
สิ่ งละเท่ากัน เผาไฟให้ไหม้ ละลายนํ้าผึ้งหรื อสุ รากิน หายแล
กระษัย(กะไษย)อันหนึ่ง มันเกิดขึ้นเพราะลมแล่นเข้าในกระดูก เจ็บทัว่ ตัวไม่รู้วาย ยาแก้ เอาหินปูน
กระดูกงูเหลือม หอยกาบ เอาเผาไฟ บดละลายสุ รากิน หายแล
ยาแก้ลมเป็ นก้อนแข็งอยูใ่ นหัวตับเท่าลูกตาล เจ็บทัว่ ตัว เอาผักเสี้ ยนผี เมล็ดสะบ้าเผา บดละลายเหล้า
กิน หายแล
ยาแก้ลมกระษัย(กะไษย) เลือดเข้าไปอยูใ่ นเอ็น มีอาการขัดข้อเป็ นลูกอยู่ เอาเบี้ยจัน่ เผา หอยโข่งเผา
หอยกาบเผา บดละลายเหล้ากิน ถ้ายังไม่ฟัง เอาผักเสี้ ยนผี ผักโหมหิ น ขอบชะนางแดง เอื้องเพ็ดม้า หญ้าไซ
ใบคนทิสอ(คนทีสอ) กุ่มทั้ง ๒ มะรุ ม ทองหลาง กระพังโหม พริ กไทย หอม กระเทียม กะทือ ไพล ตําเอานํ้า
สิ่ งละทนาน นํ้ามันดิบ ๑ ทนาน หุ งให้คงแต่น้ าํ มัน แล้วเอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู เทียน
ดํา เทียนขาว การะบูน มหาหิ งคุ ์ ดีปลี บดเป็ นผงใส่ ลงในนํ้ามันที่หุงไว้น้ นั กิน หายแล
ยาแก้ลมกระษัย(กะไษย) เอาหิ นปูน กระดูกงูเหลือม หอยกาบเผา บดละลายเหล้ากิน ถ้าไม่หายตาย
แล
ว่าด้วยกระษัย(กะไษย) ๗ จําพวก กระษัย(กะไษย)หนึ่งชื่อว่าวกระษัย(กะไษย)เชือกควาย มันเป็ น
เกลียวอยูใ่ นที่ริมสะดือ ปวดหนักหนาหาความสุ ขมิได้ หัวมันจุกอยูท่ ี่สะดือ อุจจาระปั สสาวะเหลืองเหมือน
ขมิ้น ยาแก้เอาบอระเพ็ด(บระเพ็ด) เปลือกมะกรู ด เปลือกมะนาว พริ กไทย ขิง ข่าตาแดง ผิวมะงัว่ กะทือ ไพล
หอม กระเทียม ผักเสี้ ยนผี ผักแพวทั้ง ๒ กุ่มทั้ง ๒ มะรุ ม ทองหลาง บดเป็ นผง ละลายนํ้าผึ้งหรื อสุ รากิน หาย
แล
๑๒๔

ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)ปลา หัวมันเสี ยดขึ้นมาจุกอยูท่ ี่หวั ตับ หางมันรี่ ไปตามสายสะดือ ทําให้ปวด


อยูร่ ิ ก ๆ สุ ดกําลังทน จะนอนหงายนอนควํ่ามิได้ เสลดแลนํ้าลายไหลออกไม่ขาด บางทีทาํ ให้สะดุง้ ขึ้นมาเจ็บ
ถูกต้องมิได้ ยาแก้ เอาเปลือกตาเสื อ เปลือกมะกลํ่าต้น เปลือกมะกอก ดอกผักแพวทั้ง .... กุ่มทั้ง ๒ มะรุ ม
ทองหลาง กระเช้าผีมด ว่านหางจรเข้ พริ กไทย ขิง กะทือ ไพล กระเทียม กระชาย เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ น
ผงละลายนํ้าผึ้งกิน หรื อจะแช่เหล้าไว้ ๗ วันกินก็ได้
ว่าด้วยกระษัย(กะไษย)ลิ้นกระบือ เกิดขึ้นในท้องเพราะเลือด ถ้ากินของแสลงเข้าไป เลือกนั้นดําคลํ้า
ละลายออกไป ทําให้ปวดนัก ถ้ากินนํ้าร้อนเข้าไปค่อยคลายลงแล้วกลับปวดต่อไปอีก ยาแก้ เอาสะค้าน
เปลือกมะม่วง เปลือกประคํา กําแพงทลาย ดอกผักแพวแดง ดอกผักแพวขาว กุ่มทั้ง ๒ มะรุ ม ทองหลาง
บอระเพ็ด หัวกระดาด ผิวมะกรู ด ผิวมะนาว ผิวมะงัว่ พริ กไทย ขิง ข่า หอม กระเทียม ไพล กะทือ เอาสิ่ งละ
เท่ากัน บดเป็ นผงละลายเหล้ากิน หรื อละลายนํ้าผึ้งกินก็ได้ จะแช่เหล้าไว้ ๗ วันกินก็ได้
ยาแก้กระษัย(กะไษย)เลือด มันพัดเลือดแข็งเข้า เจ็บในท้อง ถ้านวดก็หายไป เมื่อแก่เข้าทําให้หน้า
เผือกตาเหลือง ซู บผอมไป เอารากเจ็ตพังคี รากคัดเค้า รากคูน รากแสมสาร รากมะตูม ขี้เหล็กทั้ง ๒ มะรุ่ ม
ทองหลาง บอระเพ็ด หัวหองดึง(ดองดึง) หัวบุกรอ หัวกลอย หัวกระดาด พริ กไทย ขิง กะทือ ไพล ตะไคร้
กระชาย หอม กระเทียม ขมิ้นอ้อย เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งกิน หรื อแช่เหล้าไว้ ๗ วันกินก็ได้
ยาแก้กระษัย(กะไษย)ปลาไหล มันเอาหัวลงถึงขา เจ็บสันหลัง เมื่อมันจะขึ้นมีอาการรุ ม ๆ ตามเส้น
จุกเสี ยด ถ้าบีบนวดก็ปวดเสี ยวไปทั้งตัว กินอาหารไม่ได้ เอาเปลือกกระถินพิมาน เปลือกมะม่วง เปลือก
ประคํา กําแพงทะลาย ดอกผักแพวทั้ง ๒ กุ่มทั้ง ๒ ทองหลาง มะรุ ม บอระเพ็ด หัวกระดาด ผิวมะกรู ด ผิว
มะนาว ผิวมะงัว่ พริ กไทย ขิง ข่า หอม กระเทียม ไพล กะทือ เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผง ละลายนํ้าผึ้งหรื อ
ละลายเหล้ากิน จะแช่เหล้าไว้ ๗ วันกินก็ได้
ยาแก้กระษัย(กะไษย)เลือด มันพัดเลือดแข็งเข้าเจ็บในท้อง ถ้านวดก็หายเจ็บไป แก่เข้าทําให(ให้)น้า
เผือดตาเหลือง ซู บผอมไป ยาแก้ เอารากเจ็ตพังคี รากดีงูตน้ รากพิษงูงอด รากคัเค้า รากพรมมิ รากพุงดอ แร
แร(แกแร) รากปู่ เจ้า รากขี้อา้ ย รากส้มกุง้ รากส้มป่ อย รากเท้ายายม่อม รากชะถึงช้างเผือก รากสี หวดทั้ง ๒
รากแสมทั้ง ๒ สี เสี ยดทั้ง ๒ กุ่มทั้ง ๒ ทองหลาง มะรุ ม เปลือกทิ้งถ่อน เปลือกจันทน์ตน้ เปลือกละมุดสี ดา
พาดไฉน ปลาไหลเผือก มะรุ มป่ า ตับเต่าน้อย แคแดง แคขาว ผักเสี้ ยนผี ช่อผักหนาม พริ กไทย ขิง หอม
กระเทียม กะทือ ไพล ตะไคร้ เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผง ละลายนํ้าผึ้งกิน หรื อแช่สุราฝังข้าวเปลือกไว้ ๗
วันกินก็ได้
กระษัย(กะไษย)อันหนึ่ง ชื อกระษัย(ชื่อกะไษย)แช่ พัดเข้าเท่าฟองเป็ ด ถ้ายืนขึ้นมันจุกเอาหัวตับ เมื่อ
แก่เข้าก็ถอยลง ทําให้ทวารทั้ง ๙ แห้งแล้วจะถึงความตาย ยาแก้ เอาแก่นสน แก่นแสมสาร รากสะเดา ราก
ขี้เหล็ก รากเครื อ เขาหมูลี ทุลงั กาษา เอาทั้งรากทั้งใบ จําปาทั้งรากทั้งใบ พิษหมาบ้า หญ้าไซ ผักแพวทั้ง ๒
มะรุ ม ทองหลาง พริ กไทย ขิง หอม กระเทียม กะทือ ไพล บดเป็ นผง ละลายสุ รากิน หรื อละลายนํ้าขิงกิน
หรื อแช่สุราไว้ ๗ วันกินก็ได้
๑๒๕

ยาชื่อไฟสุ มขอน แก้กระษัย(กะไษย)เลือดกระษัย(กะไษย)ลม จุกเสี ยด เอาหอยแครงเผา เจ็ตมูลเพลิง


สมุลแว้ง หญ้ายองไฟ ขิงแห้ง ปูนผง เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน แก่นแสม พริ กไทย ขิง เอาสิ่ งละ ๘ ส่ วน ดีปลี ๖ ส่ วน
บดเป็ นผงละลายนํ้าสุ รากิน
ยาชื่ออัมฤตย์โอสถ แก้ลมกระษัย(กะไษย)ทั้งปวง เอาหัศกุน แก่นแสมทะเล รากส้มกุง้ ลูกมะตูม ลูก
แหน ลูกทุลงั กาษา ลูกสมอเทศ ลูกสมอไทย โกฐเขมา เทียนดํา เทียนขาว ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน
กานพลู ดีปลี เอาเสมอภาค เอาเปลือกหอยโข่ง เปลือกหอยขม เปลือกหอยแครง เบี้ยตัวผู ้ หอยทั้งหลายเผา
เอาสิ่ งละ ๙ ส่ วน กัญชา ๑๐ ส่ วน พริ กไทย ๒ เท่ายาทั้งหลาย บดเป็ นผง ละลายนํ้ากระสายที่เหมาะกับโรค
กิน
ยาประจุโรคทั้งปวง เอามหาหิ งคุ ์ เปลือกมะเกลือ ลูกสลอด เท่ายาทั้งหลาย เอาการะบูนเท่าสลอดบด
ด้วยนํ้าผึ้งปั้ นเท่าเมล็ดมะกลํ่ากิน แก้ลมมือตายตีนตาย แก้บวมทั้งตัว แก้ทอ้ งมานเลือด ตกอยูก่ ็หาย ยานี้ชื่อ
พรหมภักตร์ ใหญ่ เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
ยาประจุ เอาบุกรอ ๔ บาท บอระเพ็ด(บระเพ็ด) ๑ บาท สลอด ๑ บาท ขิง ๒ สลึง ลูกทุลงั กาษา ๒
สลึง หัวแห้งหมู ๒ สลึง ลูกมะตูม ๒ สลึง ผักแพวแดง ๓ สลึง พริ กไทย ๑ สลึง บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งปั้น
เป็ นเม็ดเท่าเมล็ดฝ้าย กิน ๑ เม็ด ลง ๑ ครั้ง กิน ๗ เม็ดลง ๗ ครั้ง แก้หืดไอ ริ ดสี ดวงหายแล ยานี้ชื่อพรหม
ภักตร์แล
ยาประจุครอบโรคทั้งปวง เอาพริ กไทย ขิง ดีปลี กระเทียมา ไพล การะบูน มหาหิ งคุ ์ เทียนดํา เอาสิ่ ง
ละ ๑ บาท ยาดํา ๒ บาท รงทอง พิมเสน ดีงูเหลือม เอาสิ่ งละ ๑ สลึง เมล็ดสลอดประสระแล้วเอาเท่ายา
ทั้งหลาย บดด้วยนํ้ามะนาวปั้ นเป็ นเม็ดเท่าเมล็ดมะกลํ่า ละลายนํ้าร้อยกินครั้งละ ๕ เม็ด ผูท้ ี่มีกาํ ลังน้อยให้กิน
ครั้งละ ๑ เม็ด แก้ฝีเหื อดเลือดลมหาย เคยใช้ได้ผลมาแล้ว

คัมภีร์มุขโรค
สิ ทธิการิ ยะ จะ0กล่าวมุขโรค มักเกิดในลําคอแลปาก ๑๙ ประการ ทานะสะนั้น ใต้ลิ้นงอด(งอก)
ขึ้นมาเหมือนเดือยไก่ มังสะนั้น กลางลิ้น ต้นลิ้น ขึ้นมาอย่างหนามขนุน กาละมังสะนั้น ลิ้นโตมันเขียวอยู่ จะ
สะมังสะนั้น ในคางมันขึ้นเหมือนเดือยไก่ ยาโตมังสะนั้น ขึ้นในลิ้นสองข้าง เหมือนงาช้างงอกออกมา กัส
มังสะนั้น ในลิ้นงอกขึ้นมาเหมือนหน้าวัวงอกมาแหลมอยู่ กะนะระมังสะนั้น ลิ้นโตเขื่องเป็ นขนอยูท่ ้ งั ลิ้น มุก
จามังสะนั้น ลิ้นบวมอยู่ มุกขะโจมังสะนั้น มันผุดขึ้นลิ้นเขียวเหมือนเมล็ดข้าว ทันตะโจมังสะนั้น ในลําคอ
ตีบอยู่ เหมือนใยแมลงมุม ทันตะมูมงั สะนั้น ในลิ้นมันขาวอยู่ เหม็นเป็ นหนองแล้วเลือดคอออกบ่อย ๆ ทัน
ตะโรสะนั้น ในต้นฟันขาวอยู่ สาภรี น้ นั ในต้นฟันมันขึ้นมาเป็ นเหมือนฝาหอยแครง สาวาระนั้น มันฝากใน
ปาก ในลิ้น ในคาง กับปี นั้น มันบวมขึ้นในคอ กับโปนั้น มันบวมทั้งคอ ทันตะบุบผานั้น มันบวมออกมาทั้ง
สองข้างในลําคอ เหมือนเมล็ดข้าวโพด มันเป็ นอย่างงวงช้าง เป็ นตออยูท่ ี่คอ
โรค ๑๙ ประการนี้เป็ นเพื่อโลหิ ต ท่านให้แต่งยาแก้ ให้เอาพิศนาด โกฐ(โกฏ)จุลาลําภา ข่าตาแดง เจ็ต
พังคี รากแตงนก โกฐ(โกฏ)สอ โกฐ(โกฏ)กระดูก ลูกสมี เมล็ดมะกลํ่าตาช้าง ดอกจันทน์ การะบูน เอา
๑๒๖

เสมอภาค ตําเป็ นผง แล้วเอาเถาหญ้านาง หญ้างวงช้าง โคนกล้วยตีบ กาฝากมะม่วง เผาขี้เถ้าเป็ นด่าง กรองเอา
นํ้าด่างที่ใสต้มให้เดือด แล้วเอายาผงใส่ น้ าํ ด่างต้ม เคี่ยวให้แห้งเหนียวพอปั้ นได้ ปั้นเป็ นเม็ดเท่าเมล็ดพริ กไทย
ผึ่งแดดให้แห้ง แทรกชะมดพิมเสนให้กินกับหมาก แก้โรคในลําคอ ๑๙ ประการที่กล่าวมานั้น หายแล
ภาคหนึ่ง เอาตรี กะฏุก ตรี ผลา ว่ าน(หว้าน)นํ้า ลูกมะขามป้ อม เทียนดํา เทียนทั้ง ๕ ลูกเร่ ว เปลือก
กระดังงา ชะเอม เกลือสิ นเธาว์ เอาเท่า ๆ กัน ตําเป็ นผง ปั้ นเป็ นเม็ด พันสําลัให้อมทั้งกลางวันกลางคืน
ยาขนานนี้ ถ้าแก้คอเจ็บ เอาตรี กะฏุกให้นอ้ ย ถ้าเจ็บคอ คอตีบ กินนํ้ากินข้าวไม่ได้ เสลดพันคอ คอ
เน่าก็ดี อมยาขนานนี้แล้วหายสิ้ น อย่าสนเท่ห์เลย
ภาคหนึ่ง เอาโกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ ลูกจันทน์ กานพลู การะบูน พิศนาด เจ็ตพังคี รากปลาไหลเผือก
ไคร้เครื อ โหระพา แมงลักป่ า ชาดหระคุณ ใบกระวาน รากกระวาน เกลือสิ นเธาว์ พริ กไทย ขิง ดีปลี ลูกสมอ
เทศ สมอไทย ลูกมะขามป้ อม เอาเสมอภาคกัน ตําเป็ นผงบดปั้นแท่ง อมแก้โรคในคอ ๑๙ ประการ หายสิ้ น
เอาเมล็ดมะนาว หัวขมิ้นชัน เทียนเยาวภานี โกฐ(โกฏ)กระดูก ยาทั้งนี้เอาต้มด้วยนํ้า พอแก้เข้าก็ถอย
เอานํ้าออกตั้งไว้พออุ่น ๆ อมบ่อย ๆ ยานี้ลา้ งสิ่ งเน่าเปื่ อยออกสิ้ น อมยาต้มนี้แล้ว ให้อมยาสวดต่อไป
ทันตะบุบผา เอานํ้าประสานทอง สี เสี ยเทศ บดให้ละเอียดแล้วเอาสี หรื อทาที่ลิ้น
สวารี น้ นั เอารากกรด ใบผักบุง้ ก้านตาล ต้มอมก่อนแล้วเอาเปลือกปลง เปลือกนํ้านม เปลือกสมอ
พิเภก เปลือกมะขามป้ อม บดให้ละเอียดแล้วโรยแผล
สาภรี น้ นั เอารากอีเหนียวทั้งสอง สี เสี ยพเทศ(สี เสี ยดเทศ) ต้มเอานํ้าอม แล้วเอาเมล็ดพุดซา เปลือก
ทอง ขึ้ผ้ งึ ผสมกันทาลิ้น
การะมังสะนั้น เอาเปลือกตีนเป็ ดบก ต้มเอานํ้าอม ในเวลาอมแทรกนํ้าผึ้งด้วย
สุ ระมังสะนั้น เอาจันทน์ท้งั ๒ เทียนดํา เมล็ดแตกวา(แตงกวา) มาด นํ้ามันงา ประสมกันทาลิ้น
มุกขะวามังสะ เป็ นเม็ดใส เอาใบแฝกเผาไฟ ประสมกับนํ้ามันงา ทาลิ้น
มุขมังสะ เอาจันทน์ท้ งั ๒ ดีงูเหลือม บดทาลิ้น
ภาคหนึ่ง เอาลูกสมอไทย ดีปลี ขิง รากจิงจ้อ รากเจ็ตมูลเพลิง เอาสิ่ งละ ๑ บาท เอามะพร้าวห้าวหนึ่ง
ผลเจาะเสี ย เอายาใส่ ลงในลูกมะพร้าว สุ มไฟแกลบให้แห้ง บดเป็ นผงละลายนํ้าร้อนกินแก้ลม
เอามหาหิ งคุ ์ ลูกจันทน์ รากจิงจ้อ รากเจ็ตมูลเพลิง สิ่ งละ ๒ สลึง สลัดได ๑ บาท ตําเป็ นผงละลายนํ้า
ร้อนกิน แก้เลือดลมเสี ย
กัสมังสะ เอารากฝ้ายผีตม้ ด้วยนํ้าปูนใสกิน หายแล
มุขจามังสะ เอางาช้าง ลูกปี บ พิมเสน นํ้าประสานทอง บดปั้นเป็ นเม็ดอม
ภาคเหนึ่ง เอาใบพลูแก ลูกจันทน์ โกฐ(โกฏ)กระดูก จันทน์ เอาเสมอภาค ตําเป็ นผงกินกับหมากใส่
แต่นอ้ ย
มาระมุขะ เอารากอัญชันขาว โกฐ(โกฏ)กระดูก โกฐ(โกฏ)จุลาลําภา การะบูน ลูกสมอไทย บดเป็ น
เม็ดอม แล้วเอายาละลายชุบขนไก่ยอนเข้าไปในคอ หายแล
ทันตะโจมังสะ เอารากเพกา การะบูน บดเป็ นเม็ดอม
๑๒๗

กับปิ (กับปี ) เอาเปลือกมะขวิด เทียนดํา ข่าตาแดง กานพลู บดเป็ นเม็ดอมกับหมาก


ภาคหนึ่ง เอาเทียนทั้ง ๕ พิมเสน การะบูน บดเป็ นเม็ดอมกับหมาก หายแล

ตําราอุทรโรคและยาแก้
ลักษณะอุทรโรคอันจะบังเกิดขึ้นแก่บุคคลทั้งหลายมีประเภท ๑๘ ประการ อันเป็ นชาติอวะสานะ
โรคตามอาจารย์กล่าวไว้ในคัมภีร์ท้งั หลาย มีอติสารวาตว่าด้วยอุทรวาตะอติสารอันเป็ นปัจจุบนั กรรมนั้น
เป็ นต้น และไกษโรค วุฒิโรคเป็ นที่สุด โดยอนุ โลมตามธาตุวปิ ริ ตในกองสมุฏฐานให้เป็ นเหตุ กระทําให้นาภี
นั้นใหญ่ข้ ึน สมมุติวา่ มาน มีนามปรากฏคือ มานนํ้า ๔ มานลม ๔ มานหิน ๔ มานโลหิ ต ๔ มานเกิดแก่ธาตุ ๒
รวมเป็ น ๑๘ ประการ
ลักษณะมานนํ้านั้น เกิดแก่กระษัย(กะไษย)ลิ้นกระบือ ดุจอาจารย์กล่าวไว้ในคัมภีร์กระษัย(กะไษย)
โรคนั้นแล้ว ในที่น้ ีจะกล่าวแต่อุทรโรค คือ โรคที่กระทําให้นาภีน้ นั ใหญ่ข้ ึนมีประเภท ๔ ประการ บางที
นํ้าเหลืองนั้นซึ มซาบไปขังอยูใ่ นอุทร บางทีซาบซ่านไปตามกลีบเนื้อแลขุมขน บางทีเกิดขึ้นเพราะไตพิการ
บางทีเกิดขึ้นเพราะขั้วแห่งมดลูกนั้นพิการ รวมทั้ง ๔ ประการนี้ มีอาการต่าง ๆ กัน ดุจมีแจ้งต่อไปข้างหน้า
นั้น
ลําดับนี้จะกล่าวด้วยมานนํ้าอันซึ มซาบขังอยูใ่ นอุทรเป็ นปฐม คือ กระทําให้ทอ้ งนั้นเต็มไปด้วย
นํ้าเหลือง ท้องใหญ่ข้ ึนดุจหญิงมีครรภ์ ไส้นอ้ ยและไส้ใหญ่น้ นั ลอยอยูใ่ นนํ้า กระทําให้แน่นอกคับใจ บริ โภค
อาหารมิได้ จะลุกนัง่ ให้เหนื่อยหอบเป็ นกําลัง
ถ้าจะแก้ ให้เอาจันทน์แดง จันทน์ขาว จันทน์ชมด จันทนา ผลจันทน์ ดอกจันทน์ ผลกระวาน
กานพลู ประคําไก่ท้ งั ๕ ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ พระยามูลเหล็ก ขี้เหล็กเลือด เปลือกกรวยป่ า เปลือกไม้แดง เปลือก
สําโรง เปลือกงิ้ว เปลือกสมอทะเล แกแล เนระภูษี กรักขี แก่นสน แก่นแสม ทั้ง ๒ แก่นสมอไทย แก่นสมอ
พิเภก แก่นสะเดา แก่นมะเกลือ แก่นสะแก แก่นทิ้งถ่อน แก่นโพทะเล แก่นประดู่ เอาเสมอภาค ต้มตามวิธีให้
กิน
อีกขนานหนึ่ง เอาลัน่ ทมทั้ง ๕ ยาดํา ข้าวเหนียวดํา เปลือกผลมะตูม เปลือกเลี่ยน แก่นเหล็กเลือด
ข่าต้น รากสมอทะเล เอาสิ่ งละ ๑ บาท ผลสมอไทย ข่า เอาสิ่ งละเท่าอายุ ต้มตามวิธีให้กิน
ลําดับนี้จะกล่าวด้วยมานนํ้า ซึ่ งเกิดขึ้นเพราะไตพิการ มีน้ าํ ซึ มออกมาขังอยูใ่ นท้อง กระทําให้..
อุจจาระให้เสี ยดแทง ต่อนวดจึงลัน่ แลผายลมมิสะดวก(สดวก) ต่อกินยาถ่ายจึงคลายลง แล้วกลับเป็ นไป...ถึง
๒ ครั้ง ๓ ครั้ง ครั้นแก่เข้าทําให้ร่างกายซู บผม(ผอม) กินอาหารไม่มีรส นอนไม่หลับ
ถ้าจะแก้ให้เอาผลสมอไทย ผลสมอเทศ ผลสมอพิเภก จันทน์ชะมด จันทน์ทะนา เนระพูสี แกแรไส้
ขนุนละมุด ดินประสิ วขาว สารส้ม เอาสิ่ งละ ๑ บาท ผลกระวาน ผลกระเบา ผลกระเบียน ผลตะคร้อ ผล
ประคําดีควาย เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน เปลือกปี บ เปลือกเลี่ยน ยาเข้าเย็น ทั้ง ๒ แก่นกันเกรา เปลือกเพกา ไม้เทพธา
โร ข่าต้น ขี้เหล็ก รากเจ็ดมูลเพลิง เกลือสิ นเธาว์ เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน ต้มตามวิธีให้กิน
๑๒๘

อีกขนานหนึ่ง เอานมราชสี ห์เครื อ ต้นหู ปลาช่อน รากแจง ผลจันทน์ ดอกจันทน์ ผลกระวาน กานพลู
ต้นครอบจักรวาล เอาเสมอภาคต้มตามวิธีให้กิน
อีกขนานหนึ่ง เอาแก่นลัน่ ทม แก่นสลัดได แก่นปรู แก่นสะเดา แก่นขี้เหล็ก รากโคก กระออม หัศ
กุนเทศ รากกระทุ่มนา รากมะเกลือ รากสะแก รากคัดเค้า รากคัดลิ้น เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน รากจิงจ้อ รากทนดี เอา
สิ่ งละ ๒ ส่ วน เปล้าน้อย ส้มกุง้ เอาสิ่ งละ ๓ ส่ วน ขันทองพระยาบาท พระขันไชสี เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน ราก
ตองแตก ๖ ส่ วน ต้มตามวิธีแทรกยาดําพอควรให้กิน
ลําดับนี้จะกล่าวด้วยมานนํ้า อันบังเกิดโดยนํ้าเหลืองซาบซ่านไปในชิ้นเนื้ อแลขุมขนเป็ นคํารบสาม
คือ จะทําให้บวมขึ้นตามตัวเป็ นตอน ๆ ครั้นถ่ายยาแลทายาก็ยบุ ลงไปชัว่ คราวหนึ่ ง แล้วก็กลับบวมขึ้น
มากกว่าเก่า แต่เป็ นดังนี้หลายครั้งหลายหน ครั้นแก่เข้าจะนัง่ ก็มิได้ ได้แต่เอนชันอยูจ่ ึงค่อยสบาย แล้วให้บวม
ขึ้นทั้งตัวดังจะปริ สี กายสดใสดังบุคคล เอานํ้ามันชะโลม หรื อดุจทรากศพอันกําลังขึ้นอยู่ ลักษณะอาการซึ่ง
กล่าวมาทั้งนี้สมมุติเรี ยกว่า โรคมานทะลุน ตามอาจารย์กล่าวไว้วา่ เป็ นอติสารโรค จะวางยามิได้เลย
ถ้าจะรักษาไปตามกาล ให้เอาพิมเสน โกฏก้านพร้าว โกฏหัวบัว โกฏสอ โกฏกระดูก โกฏจุลาลําภา
เทียนดํา เทียนขาว เทียนข้าวเปลือก เทียนตาตัก๊ แตน เทียนเยาวพานี ผลจันทน์ ดอกจันทน์ จันทน์แดง จันทน์
ชะมด จันทน์เทศ พริ กหอม พริ กหาง กานพลู แก่นปรู แก่นเมื่อย หว้านนํ้า ขิงแห้ง รากเจตมูลเพลิง รากช้าพลู
สะค้าน ดีปลี เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน เปลือกสมุลแว้ง อบเชียเทศ เอาสิ่ งละ ๓ ส่ วน พริ กไทยล่อน ๔ ส่ วน ตําผงบด
ปั้ นแท่ง ละลายนํ้าส้มสายชูกิน
ขนานหนึ่ง เอามะตูมทั้ง ๕ ฝักราชพฤกษ์ พระขันไชสี พระยาไม้ผุ พาดไฉนอีรุม เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน
ข่าต้น สุ รามะริ ด เทพธาโร ไคร้เครื อ เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน โกฏกักรา ๓ ส่ วน โกฏกะกลิ้ง ๔ ส่ วน รากระย่อม
แดง เถาวัลย์เปรี ยงแดง ใบกระวาน เอาสิ่ งละ ๖ ส่ วน พระยามูลเหล็ก รากคางเลื้อย เอาสิ่ งละ ๘ ส่ วน ต้มตาม
วีแทรกการะบูนกิน
ลําดับนี้จะกล่าวด้วยมานนํ้าอันเป็ นคํารบสี่ คือ นํ้าที่ขงั อยูใ่ นอุทรนั้นขุ่นมัว กระทําให้ขดั ปัสสาวะ
มิได้เป็ นเหมือนโรคปะระเมหะ เป็ นแต่ปัสสาวะมิได้โชนแลหาฟองมิได้ นํ้าปั สสาวะน้อยกว่าปกติ สี ต่าง ๆ
บางทีเหลือ แดง ดํา หากกําหนดมิได้ ครั้นนานไปก็กระทําให้นาภีน้ นั ใหญ่ข้ ึน แลถ่วงที่ทอ้ งเป็ นกําลัง ครั้น
แก่เข้าจึงเป็ นเหงื่อไหลซึ มออกมาตามขุมขน แล้วกระทําให้เสี ยวไปทั้งกาย ให้สะบัดร้อน สะบัดหนาว
ร่ างกายซู บผอม ให้ไอ เวลาไปมีน้ าํ ลายออก กินอาหารมิได้ อุจจาระไม่เป็ นปกติ มานนํ้าทั้ง ๔ ประการนี้ เกิด
แต่กองเตโชเป็ นมันทะธาตุ ตามอาจารย์กล่าวไว้วา่ เป็ นอติสารโรค
ถ้าจะแก้ ให้เอาสารส้ม ๑ ส่ วน ดินประสิ วขาว ๒ ส่ วน หอยแครงเผา เบี้ยผูเ้ ผา เอาสิ่ งละ ๑ส่ วน นํ้า
ประสานทองสตุ ๕ ส่ วน โกฏหัวบัว โกฏจุลาลําภา เมล็ดผักชี เอาสิ่ งละ ๖ ส่ วน ตรี กะฏุก . ตําผงบดปั้ นแท่ง
ละลายนํ้าผักกระเจี๊ยบต้มกิน
ขนานหนึ่ง เอาครอบจักรวาลทั้ง ๒ นํ้านมราชสี ห์เครื อทั้ง ๕ ผลจันทน์ ดอกจันทน์ ผลกระวาน
กานพลู ผลราชดัด เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ต้นหู ปลาช่อน ๘ ส่ วน ดินประสิ วขาว สารส้ม เอาแต่พอควร . ตามวิธีให้
๑๒๙

ขนานหนึ่ง เอาสารส้ม การะบูน หว้านนํ้า ข่าต้น ผลมะตูมอ่อน หัวแห้วหมู บัวบก เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน
พริ กไทย ดีปลี รากเจตมูลเพลิง สะค้าน รากช้าพลู ขิงแห้ง เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วนตําผง บดปั้นแท่ง ละลายนํ้าร้อน
หรื อสุ รา หรื อนํ้ามูตรโคกิน
ลําดับนี้จะกล่าวด้วยลักษณะอุทรโรค คือ มานลม ๔ ประการ อันบังเกิดแต่กองอะโธคะมาวา( วาตา
)อุทธังคมาวาตา กุจฉิ สยาวาตุ โกฏฐาสยาวาติ เมื่อแรกจะบังเกิดขึ้นให้เป็ นเหตุแห่งอุทรโรค อาจารย์กล่าวพิ
สารดาร(พิสดาร)ไว้ในคัมภีร์วฒ ุ ิโรค ว่าด้วยลักษณะแห่งกล่อนนั้นเสร็ จแล้ว ในที่น้ ี จะสําแดงแต่ประเภทมาน
ลม ๔ ประการนั้น จะแยกออกว่าแต่อุทรโรคอันบังเดแต่กองอะโธคะมาวาติ(วาตา)นั้นก่อน คือ ทําให้ลมนั้น
ขังอยูใ่ นนาภี มิให้พดั เป็ นปกติ จึงให้พะอืดพะอมแลให้ทอ้ งขึ้นมิรู้วาย บางทีให้จุก บางทีให้แน่นไปทั้งทอง
จะบริ โภคอาหารมิได้ ให้อิ่มไปด้วยลมเป็ นกําลัง จะผายลมก็มิได้สะดวก อุจจาระผูกเป็ นพรรดึก โดยกําลัง
ลมกองนี้กระทํา นาภีจึงใหญ่ข้ ึนพอสังเกต ตั้งอยูใ่ ต้สะดือ ๒ นิ้ว นวดจึงกระจายออก แล้วกลับแข็งดังจะปริ
ถ้าจะแก้ ให้เอาจันทน์แดง จันทน์ขาว จันทน์ ชะดม(จันทน์ชะมด) เทพธาโร ข่าต้น กรุ งเขมา แก่น
แสมสาร แสมทะเล รากคนทิสอ(คนทีสอ) เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน มหาหิ งคุ ์ ผลสมอพิเภก ผลมะขามป้ อม ผลสมอ
ไทย ว่ าน(หว้าน)นํ้า เอาสิ่ งละ ๓ ส่ วน เบญจกูลสิ่ งละ ๔ ส่ วน หัสกุนเทศ ๕ ส่ วน ตําผงละลายนํ้าส้มส้ากิน
๑ สลึง
ขนานหนึ่ง เอาผลสมอไทยเท่าอายุ ข้าวเปลือก ๓ กํามือ ผลมะกรู ด ๕ ผล ข่าแก่ เปล่านํ้า เปล้าใหญ่
รากทนดี เกลือกธาร พิรกไทย ของแห้ง ดีปลี รากเจต(เจ็ต)มูลเพลิง เถาสะค้าน รากช้าพลู สิ่ งละ ๔ บาท ต้ม
ตามวิธี แทรกดีเกลือกินตามธาตุหนักเบา
ขนานหนึ่ง เอาเบญจกูล ผลมะตูมอ่อน รากเท้ายายม่อม รากมะเขือขื่น หว้านนํ้า ใบประคําไก่ เกลือ
สิ นเธาว์ เอาเสมอภาค ตําผงละลายนํ้าอ้อยแดงกินหนัก ๑ สลึง
ลําดับนี้จะกล่าวด้วยอุทรโรคเป็ นคํารบสอง ให้มีอาการแน่นหน้าอกเป็ นกําลัง จะบริ โภคอาหารมิได้
จะเรอและผายลมก็มิออก อุจจาระผูกอยูเ่ สมอ ให้แน่นไปทั้งนาภี แข็งดุจกระดาน ซึ่ งกล่าวมาทั้งนี้ตาม
อาจารย์ท่านสังเขปไว้
ถ้าจะแก้ ให้เอาโกฏสอ โกฏเขมา หว้านนํ้า รากเจ็ตพังคี ลูกผักชีท้ งั สอง รากประคําไก่ รากส้มกุง้ เอา
สิ่ งละ ๑ ส่ วน เปล้าใหญ่ เปล้าน้อย เปล้านํ้าเงิน เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน มหาหิ งคุ ์ ยาดํา การะบูน เอาสิ่ งละ ๓ ส่ วน
หัศกุนเทศ ๔ ส่ วน ตรี กะฏุก สิ่ งละ ๕ ส่ วน ผลสมออัพยา ๖ ส่ วน ตําเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งแทรกเกลือสิ นเธาว์
กินหนัก ๑ สลึง
ขนานหนึ่ง เอาโกฏทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ ผลจันทน์ ดอกจันทน์ กานพลู เปลือกสมุลแว้ง เอาสิ่ งละ ๑
ส่ วน รากเจ็ตพังคี เปล้าน้อย รากส้มกุง้ รากคัดลิ้น หัศกุนเทศ เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน รากมะรุ ม ๔ ส่ วน พริ กไทย
๕ ส่ วน การะบูน ๖ ส่ วน สะค้าน ๗ ส่ วน ใบกระวาน ๘ ส่ วน ตําเป็ นผงละลายนํ้าส้มส้าแทรกเกลือสิ นเธาว์
กินหนัก ๑ สลึง
ขนานหนึ่ง เอาโกฏกระดูก เทียนดํา เทียนเยาวพานี กานพลู ใบกระวาน เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ตรีกรกฏุก
(ตรี กระฎุก) เปลือกสมุลแว้ง เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ผลสมอไทย ๔ ส่ วน ตําเป็ นผงละลายนํ้าร้อนแทรกพิมเสนกิน
๑๓๐

ลําดับนี้จะกล่าวด้วยอุทรโรคเป็ นคํารบสาม มีอาการให้อุจจาระมิได้เดินเป็ นปกติ ต่อกินยาจึงไปด้วย


กําลังยา ครั้นคุมเข้าก็กระทําให้แน่นเฟ้อ ครั้นกินยาระบายก็ค่อยสบาย แล้วกลับเป็ นไปอีก ๓-๔ ครั้ง นาภีน้ นั
ก็ใหญ่ข้ ึน จะหายใจมิได้สะดวก ให้เหนื่ อยเป็ นกําลัง แลท้องขึ้นมิรู้วาย เมื่อกินอาหารมักให้คลื่นเหียน แต่
เวลาเข้านั้นท้องค่อยหย่อนลง มีความสุ ขบ้างไปจนเวลาเที่ยง ครั้นเวลาบ่ายท้องนั้นก็เบ่งขึ้นดังเก่า ได้ความ
เวทยาไปจนรุ่ ง จะหาความสุ ขมิได้เลย
ถ้าจะแก้ ท่านให้เอาหว้านนํ้า ผลสมอทั้งสาม ผลมะขามป้ อม หัวดองดึง รากจิงจ้อหลวง ชะเอมเทศ
ใบหนาด ใบสลอด รากทนดี พริ กไทย ขิงแห้ง ดีปลี เถาสะค้าน รากช้าพลู รากเจ็ตมูลเพลิง เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน
การะบูน เปล้ารากเดี่ยว เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน ตําเป็ นผงละลายนํ้าส้มสายชูกินหนัก ๑ สลึง
ขนานหนึ่ง เอาตรี กะฏุก ผลจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู อบเชย เปลือกสมุลแว้ง มหาหิงคุ ์
การะบูน เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ผลสลอดประสระแล้ว ๒ ส่ วน ตําผงบดปั้นแท่ง ละลายนํ้าผึ้งตามธาตุหนักเบา
ขนานหนึ่ง เอาผลจันทน์ ดอกจันทน์ กานพลู ใบกระวาน ตรี กะฏุก ผลสลอดประสระแล้ว เอาสิ่ งละ
๑ ส่ วน โหราเท้าสุ นขั ผลราชดัด ใบคนทิสอ(คนทีสอ) ใบย่างซาย ใบประคําไก่ เปลือกกันเกรา เอาสิ่ งละ ๒
ส่ วน เปล้าทั้ง ๒ ผลสมอไทย เอาสิ่ งละ ๓ ส่ วน รากตองแตก รากเจ็ตพังคี เถาสะค้าน รากช้าพลู รากเจ็ตมูล
เพลิง เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน ตําเป็ นผงบดปั้นแท่ง ละลายนํ้าส้มสายชูกินหนัก ๑ สลึง
ลําดับนี้จะกล่าวด้วยอุทรโรคเป็ นคํารบสี่ มีอาการกระทําให้ลาํ ไส้น้ นั พองขึ้น ดังบุคคลเป้ ากระเพาะ
หมู แน่นอยูใ่ นนาภี ให้พะอืดพะอมจะผายลมก็มิได้ จะถ่ายอุจจาระก็มิได้ กระทําให้จุกแน่นแลเสี ยด .... ไป
ต่าง ๆ ให้จบั สะบัดร้อนสะท้านหนาว ตามที่อาจารย์ท่านกล่าวไว้ดงั นี้
จะแก้ ให้เอาสมอไทย ผลสมอเทศ ผลสมอพิเภก ผลมะขามป้ อม หว้านนํ้า เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน
กระเทียม มหาหิ งคุ ์ การะบูน เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ยาดํา รงทอง เอาสิ่ งละ ๓ ส่ วน ใบประคําไก่ เบญจกูล เอาสิ่ ง
ละ ๔ ส่ วน พริ กไทย รากเลี่ยน เอาสิ่ งละ ๒๑ ส่ วน ตําผงบดเป็ นแท่ง ละลายนํ้าส้มสายชูกิน
ขนานหนึ่ง เอาเบญจกูล(เบ็ญจกูล) ตรี ผลา ตรี กระฏุก กะทือ ไพล ข่าใหญ่ กระจาย หอมแดง
กระเทียม ขิง ดีปลี เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน มหาหิ งคุ์ หว้านนํ้า ผิวมะกรู ด เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ยาดํา การะบูน เอาสิ่ ง
ละ ๓ ส่ วน พาดไฉนอีรุม ๔ ส่ วน พริ กไทย ๖ ส่ วน ตําผงละลายนํ้าผึ้งหนึก ๑ สลึงกิน
ขนานหนึ่ง เอามะกาทั้ง ๕ ตรี ผลา รากเจ็ตพังคี เปล้าน้อย พระขันไชยสี เชือกเขาหนัง ขิงแห้ง เอาสิ่ ง
ละ ๑ ส่ วน พริ กไทย รากนางแย้ม เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ต้มตามวิธีให้กิน
ลําดับนี้จะกล่าวด้วยลักษณะอุทรโรค คือ มานหิ น ๔ ประการ อันบังเกิดแก่กองอะโธคะมาวาต อัน
ทะพาต มุตลาตระคนกัน ประการหนึ่งคือ บังเกิดแต่กองอุทธังคะมาวาตอันทะพรึ ก สันทะคาตระคนกัน
ประการหนึ่ง คือ บังเกิดแต่กองกุจฉิ สยาวาติ อันทะพาต มุตคาตระคนกัน ประการหนึ่ง คือบังเกิดแต่
โกฏฐาสยาวาติ อันทะพรึ ก รัตคาดระคนกันประการหนึ่ง เป็ น ๔ ประการด้วยกัน คือ อันว่าลักษณะ.. ดังนั้น
อาจารย์กล่าวไว้ในคัมภีร์วุฒิโรคนั้นเสร็ จแล้ว ในที่น้ ีจะว่าแต่ประเภทแห่งอุทรโรค คือมานนั้นเพียงสิ่ งเดียว
อันบังเกิดแก่บุคคลทั้งหลายโดยสังเขป
๑๓๑

ลําดับนี้จะว่าแต่มานหิ น อันบังเกิดเพื่ออะโธคะมาวาติ(วาต) อันทะพาต มุตคาต วิง่ ระคนกันนั้นก่อน


คือ อะโธคะมาวาติ(วาต)นั้นขึ้นตามเกลียวอันทะพาต มุตคาตนั้นกล้าเปลือกกําหนด กระทําให้แข็งเข้าแล้วยัง
ขึ้นมายอดอก ให้แน่นหน้าอกเป็ นกําลัง แลให้หนักนาภีน้ นั ใหญ่ข้ ึน
ถ้าจะแก้ ให้เอากะฏุกทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู ว่าน(หว้าน)นํ้า ขมิ้น
อ้อย ตรี ผลา ใบมะตูม ใบคนทิสอ(คนทีสอ) เบ็ญจกูล กระเทียม การะบูน เมล็ดมะนาว เมล็ดมะกรู ด เมล็ด
มะงัว่ เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ดินประสิ วขาว ๒ ส่ วน เบี้ยจัน่ เอา เบี้ยแก้เผา เบี้ยโปร่ งเผา หอยโข่งเยา หอยขมเผา
ละลายนํ้าส้มสายชูกินหนัก ๑ สลึง
ขนานหนึ่ง เอารากส้มกุง้ ทั้ง ๒ เปล้าทั้งสอง รากมะรุ ม เบ็ญจกุล แก่นพระยามูลเหล็ก หัศกุลเทศ ราก
พระยาลําแพน เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน เถาวัลย์เปรี ยง รากปริ ก เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ตรี กะกูก ตรี ผลา เอาสิ่ งละ ๖ ส่ วน
ต้มตามวิธีให้กิน
ขนานหนึ่ง เอาผลจันทน์ ๑ ส่ วน ดอกจันทน์ ๒ ส่ วน กระวาน ๓ ส่ วน กานพลู ๔ ส่ วน ดีปลี ๔ ส่ วน
ผลพิลงั กาสา(พิลงั กาษา) ๖ ส่วน หว้านนํ้า ๗ ส่ วน เกลือสิ นเธาว์ ๘ ส่ วน เทียนเยาวพานี ๙ ส่ วน เทียนดํา ๑๐
ส่ วน การะบูน ๑๑ ส่ วน ผลสมอไทย ๑๒ ส่ วน รากเจ็ตมูลเพลิง ๑๗ ส่ วน ตําผงละลายนํ้าผึ้งหรื อนํ้านมโค
หรื อนํ้าอ้อยแดงกินหนัก ๑ สลึง
ลําดับนี้จะกล่าวด้วยลักษณะอุทรโรค คือ มานหิ นอันบังเกิดแต่กองอุทธังคะมาวาต อัน-ทะพรึ ก
สันทะคาต ซึ่ งระคนกันเป็ นคํารับสอง คือ อุทธังคะมาวาตนั้นกําเริ บยิง่ นัก แลขังอยูใ่ นเกลียวอันทะพรึ กแล
สันทะคาต ก็พลอยกําเริ บกล้าขึ้น แข็งแน่นอยูใ่ นโครงเป็ นกําลัง ให้นาภีน้ นั ใหญ่ข้ ึน นวดจึงคลาย ลักษณะซึ่ ง
กล่าวมาทั้งนี้ อาการจะได้เป็ นดุจมานซึ่ งกล่าวมาแล้วนั้นหามิได้ อาจารย์กล่าวไว้ดงั นี้
ถ้าจะแก้ ให้เอาโกฐสอ โกฐหัวบัว ผลจันทร์ แก่นจันทน์แดง จันทน์ขาว เทพธาโร เบญจกูล (เบ็ญ
จกูล)ตรี ผลา พริ กไทย ขิงแห้ง กะทือ ไพล ขมิ้นอ้อย เปลือกกุ่มทั้งสอง เปลือกมะรุ ม ผลมะตูมอ่อน ว่าน
(หว้าน)นํ้า ว่ าน(หว้าน)เปราะ เปลือกสมุลแว้ง ส้มสันดาน เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน แก่นกันเกรา ๒ ส่ วน ข่าต้น
ส่ วน กรวยป่ า ๕ ส่ วน เมล็ดมะอึก ๒๘ ส่ วน ใบประคําไก่ ๓๐ ส่ วน ตําเป็ นผงละลายนํ้าขิงแทรกการะบูน
กิน
ขนานหนึ่ง เอารากคนทิสอ(คนทีสอ) รากคนทีเขมา เปล้านํ้าเงิน เปล้าน้อย รากสลอดต้น ราก
ประคําดีควาย เปลือกกันเกรา แก่นมะหาด แก่มะค่า แก่สะเดา แก่นขี้เหล็ก พระยามูลเหล็ก ตรี กะฏุก เอาสิ่ ง
ละ ๑ ส่ วน ตรี ผลา ๒ ส่ วน เถาวัลย์เปรี ยง เถาวัลย์เหล็ก พระยาลําแพง กําลังวัวเถลิง เอาสิ่ งละ ๓ ส่ วน ต้มตาม
วิธีให้กิน
ขนานหนึ่ง เอาเปลือกมะรุ ม แก่นกันเกรา รากปริ ก เปล้ารากเดียว ขันทองพระยาบาท เชือกเขาหนัง
รากนนทรี ตรี กะฏุก เปลือกโมกหลวง เปลือกโมกมัน แก่ขนุน กําลังวัวเถลิง ยาดํา เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ผลสมอ
ไทย ผลสมอเทศ เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน ต้มตามวิธีให้กิน
ลําดับนี้จะกล่าวด้วยลักษณะอุทรโรค คือมานหิ นอันเกิดแต่กองกุจฉิ สยาวาต อันทะพาต มุตคาด ซึ่ง
ระคนกันนั้นเป็ นคํารบ ๓ คือ กุจฉสยาวาตนั้นกําเริ บขึ้นในอุทรกล้ายิง่ นัก มิได้ลงเบื้องตํ่าจึงกระทําให้อนั ทะ
๑๓๒

พาตแลมุตคาตนั้น แข็งเป็ นแผ่นอยูท่ ี่ชายโครงเบื้องขวา มีอาการแน่นอยูใ่ นชายโครง แล้วกระทําให้จบั ไป ๒


วัน ๓ วัน แล้วก็หาย
ถ้าจะแก้ ให้เอาโกฏสอ โกฏเขมา โกฏกระดูก เทียนขาว เทียนเยาวภานี เทียนดํา ใบกระวาน กานพลู
อบเชย เปลือกสมุลแว้ง รากแฝกหอม ไคร้เครื อ กฤษณา กระลําภัก ชะรู ด ขิงแข้ง ดีปลี รากเจตมูลเพลิง ราก
ช้าพลู พาดไฉนอีรุม หางปลาไหลแดง เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน เถาวัลย์เปรี ยง เถาวัลย์เหล็ก เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ยาดํา
รงทอง การะบูน เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน พริ กไทย ๘ ส่ วน โกฏนํ้าเต้า ๔๕ ส่ วน ตําผงบดปั้ นแท่ง ละลายนํ้า
มะขามเปี ยกกิน
ขนานหนึ่งเอาตรี กะฏุก หว้านนํ้า ผิวมะกรู ด มหาหิงคุ์ เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน เทียนเยาวภานี เปราะหอม
การะบูน รากเจ็ตมูลเพลิง เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน เทียนขาว ๓ ส่ วน ผักแพวแดง ๖ ส่ วน ตําบดปั้นแท่ง ละลาย
นํ้าส้มส้ากินหนัก ๑ สลึง
ขนานหนึ่ง เอาตรี ผลา ตรี กะฏุก รากเจ็ตมูลเพลิง เถาสะค้าน รากช้าพลู มหาหิ งคุ ์ ยาดํา เอาสิ่ งละ ๑
วน(ส่ วน) เทียนดํา เทียนขาว เทียนตากบ เทียนเยาวพานี เทียนลวด เปราะหอม พาดไฉนอีรุม หัศกุนเทศ
เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน โกฐหัวบัว โกฐกระดูก เอาสิ่ งละ ๓ ส่ วน ผักแพวแดง ๔ ส่ วน รากเจตพังคี รากระย่อม เอา
สิ่ งละ ๔๑ ส่ วน ตําผงละลายนํ้าส้มสายชู แทรกพิมเสนกิน
ลําดับนี้จะกล่าวด้วยลักษณะอุทรโรค คือ มานหิ นอันบังเกิดแต่กองโกฏฐาสยาวาติ(วาต) อันทะพ
รึ ก รัตคาต ซึ่ งระคนกันเป็ นคํารบ ๔ คือ โกฏฐาสยาวาตนั้นกําเริ บ กระทําให้อนั ทะพรึ กและรัตคาตนั้นพิการ
ให้ตรึ งหัวเหน้ า(หัวเหน่า)เป็ นกําลัง แล้วเป็ นก้อนแข็งขึ้นมีอาการให้ถ่วงท้องน้อย และให้ยอกสันหลัง ยอก
หน้าตะโพก อันมานหิ น ๔ การที่กล่าวมานี้ โทษจะได้เหมือนมานซึ่ งกล่าวมาแล้วนั้นหามิได้ เป็ นแต่นาภีน้ นั
ใหญ่ข้ ึนดุจหญิงมีครรภ์ ด้วยชาติโรคให้บงั เกิดดุจอาจารย์กล่าวไว้
ถ้าจะแก้ ให้เอาใบย่างซาย ใบมะตูม เปลือกโมกมัน เปลือกโมกหลวง รากขัดมอญ ตรี ผลา ตรี กะฏุก
ข่าแห้ง แห้วหมู เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน การะบูน ผลมะตูมอ่อน กานพลู หว้านนํ้า เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ขมิ้นอ้อย ไพล
เอาสิ่ งละ ๓ ส่ วน ใบสลอดต้มนึ่งให้สุก ๒๗ ส่ วน ตําผงละลายนํ้าผึ้งกินหนัก ๑ สลึง
ขนานหนึ่ง เอาโกฐทั้ง ๕ เทียนดํา เทียนขาว เทียนตาตัก๊ แตน กานพลู ใบกระวาน อบเชย เปลือก
สมุลแว้ง เปลือกกันเกรา ขิงแห้ง รากเจตมูลเพลิง เมล็ดสลอดประสระแล้ว เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ขมิ้นอ้อย ไพล
กระชาย ข่าแห้ง เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน พริ กไทย ดีปลี เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน ตําเป็ นผงละลายนํ้าร้อนกิน
ขนานหนึ่ง เอาตรี กะฏุก ไพล ข่าใหญ่ กระชาย มหาหิ งคุ ์ การะบูน เปลือกมะรุ ม หว้านนํ้า หว้าน
เปราะ ผลพิลงั กาสา เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ผิวมะกรู ด พริ กไทย ขิงแห้ง เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ใบสมอทะเล ๒๐ ส่ วน
ตําผงละลายนํ้าผึ้งกินหนัก ๑ สลึง
ลําดับนี้จะกล่าวด้วยลักษณะอุทรโรค คือ มานโลหิ ต เมื่อจะให้โทษนั้น เหตุดว้ ยระดูขดั ตามกําหนด
จึงเป็ นพิษขึ้นระคนด้วยอังคะมังคานุสาริ วาตา ก็พากันกําเริ บขึ้น กระทําให้เตโชเป็ นอธิ กะธาตุยงิ่ จึงตั้งเป็ น
ก้อนขึ้นเหนื อสะดือ ทับกองลมอุทรวาตมิให้เดินเป็ นปกติ บางทีกระทําให้จุก ให้แดก บางทีให้ร้อน บางทีให้
หนาว นาภีน้ นั ก็ใหญ่แลท้องขึ้นอยูเ่ สมอมิได้ขาด
๑๓๓

ถ้าจะแก้ ให้เอาผลสมอไทย ผลสมอเทศ ผลสมอพิเภก ผลมะขามป้ อม รากส้มกุง้ ทั้งสอง รากเจต


(เจ็ต)พังคี รากปี บ รากเลี่ยน ตรี กะฏุก รากมะงัว่ เปลือกสมุลแว้ง หัวกกลังกา หัวหญ้าชันกาด ราก
ประคําดีควาย เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน เปลือกพิกุล เปลือกกระดังงา เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน เปลือกนนทรี ๒๒ ส่ วน ต้ม
ตามวิธีให้กิน แก้มานโลหิ ต แก้โลหิ ตตก แก้ระดูเดินไม่เป็ นปกติ
ขนานหนึ่ง เอาแก่นจันทน์ท้ งั ๒ ผลพิลงั กาสา(พิลงั กาษา) แส้มา้ ทะลาย ตรี กะฏุก มหาหิ งค์ กะทือ
กระชาย กํามะถันแดง กํามะถันเหลือง สารส้ม เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ดินประสิ วขาว เปลือกพิกุล เปลือกมะซาง
ฝางเสน รากทิ้งถ่อน เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ผลคัดเค้า ดอกคําฝอย การะบูน เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน ตําเป็ นผงละลาย
สุ รากิน แก้มานโลหิ ต
ลําดับนี้จะกล่าวด้วยมานโลหิ ตเป็ นคํารบสอง ซึ่ งกระทําโทษต่าง ๆ คือ โลหิ ตระดูมิได้เดินเป็ นปกติ
ครั้นแก่เข้าก็กระทําให้เป็ นพิษ ระคนด้วยสมออันชื่ อว่าวาโยพิการ ก็พากันกําเริ บขึ้นฟุ้งซ่านไปทั้งอุทร จึง
กระทําให้นาภีน้ นั ใหญ่ ให้กายซู บผอมซี ดแลเบื่ออาหาร มักให้ไปให้อวกเป็ นกําลัง บางทีให้ร้อนให้หนาว
บางทีร้อนเป็ นตอนเย็น บางทีร้อนไปทั้งกาย บางทีมือบวม เท้าบวมและหน้าตะโพก ท้องขึ้นให้แน่นเพ้อ
ถ้าจะแก้ ให้เอาโกฏเชียง โกฏจะลาลําภา เทียนตาตัก๊ แตน กานพลู ผลผักชี เปลือกสมุลแว้ง แก่น
สลัดได เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน รากพันงูแดง รากอังกาบ เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน หางปลาไหลแดง เถาวัลย์เปรี ยงแดง
ขี้เหล็กเลือด เอาสิ่ งละ ๓ ส่ วน ขิง เจตมูลเพลิง ผลสมอพิเภก เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน ยาดํา การะบูน เทียนดํา เอาสิ่ ง
ละ ๕ ส่ วน เลือดแรด ๖ ส่ วน พริ กไทย ๗ ส่ วน ตําเป็ นผงละลายนํ้าดอกคําฝอย ต้มแทรกพิมเสนกิน
ขนานหนึ่ง เอารากพันงูแดง ผักเป็ ดแดง หัวหญ้าชันกาด หัวปรงป่ า แก่นแสมสาร แก่แสมทะเล แก่น
มะซาง เปลือกกระดังงา รากคัดเค้า เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน เบญจกูล พริ กไทย เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน โกฏนํ้าเต้า เทียน
ดํา เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน หางไหลแดง ๖ ส่ วน ต้มตามวิธี เมื่อจะกินแทรกสารส้ม ดินประสิ วขาว ดีจรเข้
พอสมควร
ลําดับนี้จะกล่าวด้วยมานโลหิ ตเป็ นคํารบสาม มีอาการกระทําให้อาเจียนแลมีเสโทตกที่หน้า ให้
คลื่นเหี ยนอาเจียน นํ้าลายออกมามีรสขม ให้มืดหน้ามัวตา สวิงสวาย แล้วกระทําให้ฟกขึ้นที่หน้าตะโพก บาง
ทีฟกขึ้นที่หัวเหน้ า(หัวเหน่า) บางทีฟกขึ้นที่สะดือ ที่ปรี น่อง แล้วจึงบวมไปทั้งตัวให้แน่นอกเป็ นกําลัง ให้
นาภีน้ นั ตรึ งใหญ่ข้ ึน จะหายใจก็เหนื่ อย จะนอนก็ไม่หลับ บริ โภคอาหารไม่ได้
ถ้าจะแก้ ให้เอานํ้ามะนาว นํ้ามะงัว่ นํ้าส้มส้า นํ้ามะกรู ด นํ้าผักเป็ ดแดง นํ้าส้มสายชู นํ้าด่าง ขี้เหล็ก
นํ้าด่างฝักสําโรง นํ้าด่างผักโหมหนาม เอาสิ่ งละ ๑ ทะนาน สารส้ม ๕ บาท ดินประสิ วขาว ๑๐ บาท เกลือ
สิ นเธาว์ ๑๖ บาท เอาใส่ หม้อใหม่สุมไฟแกลบ กลัน่ ให้กินตามลําดัง(ลําดับ)
ยาแก้มานทะลุน เอาเทพธาโร ๕ ตําลึง ข่า ๕ ตําลึง ว่านนํ้า ๕ ตําลึง เทียนทั้ง ๕ สิ่ งละ ๓ บาท ลูก
สมอทั้ง ๓ สิ่ งละ ๔ บาท พริ กไทย ๑๐ บาท พริ กเทศ ๒ บาท การะบูน ๕ บาท บอระเพ็ด(บระเพ็ด) ๓ บาท
หัวดองดึง ๒ บาท สะค้าน ๓ บาท ลูกมะขามป้ อม ๔ บาท รากเจตมูลเพลิง ๒ บาท รากช้าพลู ๒ บาท ต้มกิน
๑๓๔

ยาแก้ทอ้ งมาน ซึ่ งเกิดจากท้องไตพิการ เอาใบมะกา ใบส้มเสี้ ยว ใบมะขาม ใบมะดัน ใบ ป่ า หญ้าไซ


เอาทั้งรากทั้งใบ เอาสิ่ งละเท่า ๆ กัน ตาไม้ไผ่สีสุก ๗ ตา จุกหอม ๓ จุก จุกกระเทียม .... จุก ฝักราชพฤกษ์ ๕
ฝัก ฝางเสน ๑ บาท สารส้ม ๑ บาท ดินประสิ ว ๑ บาท ยาดํา ๑ บาท คําฝอย ๒ บาท ต้มกินเช้าเย็น

คัมภีร์อภัยสั นตา
ว่ าด้ วยตาแดงและตาต้ อต่ าง ๆ
ต้อก้นหอย รากขึ้นมาแต่นิ้วเท้าใหญ่ ต้อนิลปัด รากขึ้นมาแต่ดี ต้อตาปู รากขึ้นมาแต่เข่า ให้ขดั เข่า
ต้อกงเวียน รากขึ้นมาแต่นาภี ต้อเดือยไก่ รากขึ้นมาแต่ตาตุ่ม ข้อเท้า ต้อสลัก รากขึ้นมาแต่ทอ้ งน้อย ต้อ
กระจก รากขึ้นมาแต่หวั ใจ ต้อหลังเบี้ย รากขึ้นมาแต่ทอ้ งน้อย ให้ปวดท้องน้อย ต้อผักตบ รากขึ้นมาแต่
หน้าอก ต้อแตน รากขึ้นมาแต่ขอ้ เข้า ต้อเพกา รากขึ้นมาปลีน่อง ต้อกระจกปรอท รากขึ้นมาแต่นิ้วเท้าใหญ่
ข้างล่าง ต้อมะเกลือ เกิดเพื่อลม รากขึ้นมาแต่ตบั ให้ปวดหัวเป็ นกําลัง ให้ปวดเคืองนัยน์ตา ต้อภายใน เกิดเพื่อ
ลม รากขึ้นมาแต่ตบั ให้ปวดหัวเป็ นกําลัง ให้ปวดเคืองนัยน์ตา ต้อภายใน เกิดเพื่อลม รากขึ้นมาแต่ดี มักขึ้น
โกรธ บริ โภคอาหารไม่ได้ นอนไม่หลับ ต้อพุงดอ ต้อนํ้าข้าวก็วา่ รากขึ้นมาแต่ทอ้ งน้อย ต้อกระจกนํ้าข้าว
รากขึ้นมาแต่เท้า เมื่อจะขึ้นให้ร้อนฝ่ าเท้าเหมือนถูกไฟ ต้อกระจกเขียว รากขึ้นมาแต่ทรวงอก มักให้เกิดโทษะ
มักอยากหวานอยากเปรี้ ยว ต้อกระจกเหลือง เกิดเพื่อดีเดือด มันอยากข้าวเหนียว ภายหลังจึงเบื่อ ต้อลม ราก
ขึ้นมาแต่หวั ใจ มักให้ข้ ึงโกรธ ต้อสายโลหิ ต เกิดเพื่อกําเดา ต้อสายฟ้าฟาด เกิดเพื่อกําเดา ต้อหิงห้อย เกิดเพื่อ
ตาขาวลามไปตาดํา รากอยูท่ ี่รากขวัญ ต้อแววนกยูง รากขึ้นมาแต่หน้าอก ให้เมื่อยทุกข้อทุกลํา ต้อข้าวสาร
เกิดเพื่อกําเดา ต้อลําไย รากขึ้นมาแต่ทอ้ งน้อย ขึ้นข้างขวาให้เมื่อยขวา ขึ้นข้างซ้ายให้เมื่อยซ้าย ต้อกระจกนิล
ปัด รากเกิดแต่ดี มักให้หาวนอนให้ตามือมัวเหมือนแดดบด มักให้อยากเปรี้ ยวหวาน ท่านให้ปล่อยปลิงที่ตรง
ทัดดอกไม้ขา้ งขวา ๗ ตัว ข้างซ้าย ๒ ตัว ปล่อยหลังตาขวา ๕ ตัว ข้างบน ๓ ตัว ข้างล่าง ๒ ตัว ปล่อยที่คาง
ข้างขวา ๙ ตัว ซ้าย ๗ ตัว ท้ายขวัญ ๓ ตัว ที่ไหล่ทา้ ยสะบักขวา ๕ ตัว ซ้าย ๓ ตัว ต้อนํ้า รากเกิดแต่ตบั ให้มือ
แลเท้าเย็น ท่านให้ปล่อยปลิงข้างซ้าย ๓ ตัว หลังตาข้างบน ๓๒ ตัว ต้อนํ้า รากเกิดแต่ตบั ให้มือแลเท้าเย็น
ท่านให้ปล่อยปลิงข้างซ้าย ๓ ตัว หลังตาข้างบน ๒ ตัว ข้างล่าง ๑ ตัว ชายกระเบนเหน็บขวา ๕ ตัว ซ้าย ๓ ตัว
ที่นิ้วเท้าใหญ่ขวา ๓ ตัว ซ้าย ๒ ตัว ที่ปลีน่องข้างขวารายไปจนถึงข้อเข้า ๕ ตัว ปลีน่องข้างซ้าย ๓ ต้อ ปลาย
จมูก ๑ ตัว แสกหน้า ๑ ตัว
สิ ทธิ การิ ยะ กล่าวถึงกําเนิดแห่งต้อหมอก อันมีประเภทต่าง ๆ ตามที่อาจารย์กล่าวไว้วา่ เดือน ๕, ๖,
๗, ๘ นั้น เกิดเพื่อโลหิ ต เดือน ๙, ๑๐, ๑๑, ๑๒ นั้น เกิดเพื่อกําเดา เดือน ๑, ๒, ๓, ๔ นั้น เกิดเพื่อเสมหะระคน
กัน ท่านให้วางยาขับโลหิ ตออกเสี ยก่อน แล้วจึงให้ยาประจุ จึงใส่ ยาอันเกิดเพื่อโลหิ ต ประการต้องกันแล ถ้า
บวมตาข้างเดียว ให้ปล่อยปลิง ๗ หนจึงยาก(ราก) ถ้าเอกโทษก็ให้ยา ถ้าทุวรรณโทษก็ให้เอายอดถัว่ แปบ
พานเสี ยก่อนจึงใส่ ยา ถ้าตรี โทษให้เอามีดเชือดเสี ยก่อนจึงใส่ ยา
ต้อหนึ่งเกิดหลังตา เกิดที่ตาแล้วงอดขึ้นประดุจไข่ปลา ให้น้ าํ ตาตก เกิดเพื่อริ ดสี ดวง ให้พานด้วยยอด
ถัว่ แปบเสี ยก่อนจึงใส่ ยา
๑๓๕

ต้อหนึ่งให้น้ าํ ตาตกแลขนตาร่ วง นัย(นัยน์)ตาแดง ชื่อต้อแนะเกิดเพื่อโลหิ ต ให้กอกโลหิตออก


เสี ยก่อน แล้วจึงใส่ ยา ต้ออันหนึ่งคู่กนั และเห็นเพลิงมิได้ ชื่อต้อฝี เกิดเพื่อสันนิบาต ต้ออันหนึ่งแลกลางคืน
จึงมืด. เพื่อกําเดา ชื่อต้อจักษุฟาง ต้อหนึ่งเมื่อนอนให้เจ็บกะบอกตา ตาเป็ นประดุจเยื่อไม้ เกิดเพื่อวาโย ....
หนึ่งเมื่อเดินไปให้เวียนศีรษะ แลออกไปเป็ นพราย ๆ ดุจหิ่งห้อย เกิดเพื่อนอนมาก ต้อหนึ่งอยูด่ ี ๆ เห็นสี
แดง ๆ เกิดเพื่อโลหิ ตแลริ ดสี ดวง ให้เอาโลหิ ตออกเสี ยก่อนจึงใส่ ยา ต้อหนึ่งอยูด่ ี ๆ ฉุ กเห็น .... ขาวหลัว ๆ
เกิดเพื่อกําเดา เอากําเดาออกเสี ยก่อนจึงใส่ ยา ต้อหนึ่งให้ตาเหลืองเหมือนรุ ้งกินนํ้า เกิดเมื่อธาตุท้งั ๔ มิได้
เสมอกัน ให้กินยาธาตุให้ธาตุปกติเสี ยก่อน แล้วทํายาปิ ดวาโยและกําเดา แล้วจึงใส่ ต้อหนึ่งให้มึนตึงหู ตึง
เกิดเพื่อวาโย ให้กินยาภายในเสี ยก่อนแล้วจึงใส่ ยา ต้อหนึ่งให้ตาแดงแลแสบ .... เพื่อกําเดาแลโลหิต ให้รมยา
เสี ยก่อนแล้วจึงใส่ ยา ให้สาํ รอกปลิงด้วยสุ รา ล้างเมือกเสี ยแล้วเอา .... มะพร้าวใส่ ลงในปลิง ๆ นั้นฟื้ นขึ้นมา
จึงเอาดินกับปลิงห่อกันเข้า ปล่อยปลิงเข็มอย่าสํารอกแล้ว
๏ พระฤาษีประสิ ทธิ์ ไว้เป็ นแก่นสาร ถึงโรคต้อก่อเกิด ๙ ประการ แพทย์จึงพานพึงรู ้อย่าดูเบา งม
เงอะเซอะซมเที่ยวรักษา พระตําราเรี ยนรู ้ต่อครู เฒ่า จงเห็นแห่งประจักษ์ที่หนักเบา อันต้อ ๙ ประการนี้ที่มีมา
หนึ่งสี นิลกระจกปรอทขาว กระจกสี แดง ขาวเร่ งรักษา กระจกหิ งห้อย กระจกแวว. กระจกหลังเบี้ยหนาตํารา
ทาย เจ็ดประการนี้ตอ้ พอรักษา สามวันยาทาก็แห้งหาย กระจกขาวดําตําราทาย บังเกิดร้ายโรคลมระดมมา แต่
ปลายเท้าพักเข้าถึงลําศอ เห็นยากที่แพทย์จะรักษา.... สองปี สามปี ดังนี้นา ท่านทายว่าปวดศีรษะแทบทะลาย
แล้วเกิดขึ้นถึงจักษุประสาท สามารถมือหมอ . เกิดหมาย ว่าต้อโทษลมระบมกาย โลหิ ตร้ายเจือลงให้วงเวียน
หนึ่งโสดต้องสลักต้อก้นหอย ท่านกล่าวไว้ไม่ผดิ สถิตย์เสถียร ต้อวิง ต้อวง ต้อกงเกวียน ตรี โทษพิษเพี้ยนว่า
เพ่อลม หนึ่งต้อวาโยต้อ.. สุ นขั ขา ต้อลิ้นสุ นขั ขายังมีถม ต้อเนื้อต้อหมอก ออกซานซม ต้อโลหิตต้อลมเจ็ด
ประการ ต้ออันเกิดเพื่อโลหิ ตแลกําเดา เอกโทษนั้นเล่าเป็ นแก่นสาร ทุวรรณโทษประการหนึ่งกําหนดกาล ถึง
ตรี โทษอาหารเห็นตํารา ซึ่ งออกฝี ออกหัดให้ตดั ราก โรคนั้นยากที่แพทย์หมอจะรักษา อยูป่ ระมาณเดือนหนึ่ง
.... ลงมา จับหน้าผากขอบตานั้นแดงไป ฝี อภัยสันตานั้น เดือนห้าเดือนหกเดือนเจ็ดเดือนแปดอย่าสงสัย เกิด
เพื่อเลือดลมระบบ(ระบม)ไป เดือนเก้าเดือนสิ บ เดือนสิ บเอ็ดเดือนสิ บสองในเขตร์กาํ เดา เดือนอ้ายเดือน
เดือนสามเดือนสี่ เพื่อเลือด ไม่หายเหื อดเลือดลมระบมเข้า แม้จะทํายานั้นให้บรรเทา ให้ประจุตาม.. ฉบับมา
เอกโทษ ทุวรรณโทษ ตรี โทษ อย่าเฉาโฉดใส่ ยาเร่ งรักษา ลูกตาวิปริ ตผิดตํารา ชื่อต้อมะเกลือเหลือพิไร หนึ่ง
ลูกตาแดงดังตานก จะหยิบยกพาทีคมั ภีร์ไสย อาจาริ ยก์ ล่าวตําราว่าต้อให้เพื่อไข้สันนิ บาตประหลาดคน ต้อ
หนึ่งให้มือแลหู ตึง รู ้มิถึงว่าลมนั้นเป็ นต้น จักษุแดงให้มือมน กําเดารนร้อนใจเร่ งใส่ ยา ถ้าโลหิ ตตํานานอาจา
ริ ยบ์ อก ให้หมอกอกเสี ยก่อนผ่อนรักษา จะปล่อยปลิงก็ได้ในตํารา จึงใส่ ยาหายแดงอย่าแคลงใจ ถ้าเพื่อลม
ระบบระบุอยู่ ให้เร่ งรักษาอย่าสงสัย อันโรคต้อที่นยั น์ตาท่านว่าไว้ เหมือนรักษาแก้วได้สองดวงดี พระตํา
หรับกําเนิ ดจะเกิดตัว ยากทิหมอสานุศิษย์พระฤาษี จึงตั้งแบบฉบับตําหรับนี้ ดูให้ดีพินิจพิจารณา โรคจะหาย
หรื อมิหายก็ให้รู้ พิเคราะห์ดูตาํ หรับบุราณว่า เห็นเที่ยงแท้ตามอย่างจึงวางยา อันโรคาก็จะหายสบายเอย ฯฯ
สิ ทธิ การิ ยะ ถ้าแลจักษุของผูใ้ ดให้กระเหม่นนัก เป็ นเพื่อลม ถ้าแลเป็ นตาแดงดังหิ งห้อยนั้น เป็ นเพื่อ
กําเดา ถ้าแลจักษุของผูใ้ ดเห็นวับ ๆ แวม ๆ เป็ นโลหิ ตสันนิบาต ถ้าเป็ นต้อขาว ๆ ชื่อว่าต้อลิ้นสุ นขั ถ้าแลเป็ น
๑๓๖

ละลอกหลุมทาบกลางนั้น ชื่อต้อก้นหอยอันครอบกัน คือ ต้อกระจก ต้อสลัก ต้อกงเกวียน ต้อแก้ว เป็ นที่หวั


ตา ต้อมะเกลือ เป็ นที่หวั ตาดํา แลดูกระจกให้ขาวทึบ ถ้าแท้แล้วจึงใส่ ยา ถ้าชอบร้อนจึงใส่ ยาร้อน ถ้าชอบเย็น
ต้องใส่ ยาเย็น
พระฤาษีท่านแต่งไว้ ให้โปรดคนทั้งหลาย ถ้าแพทย์ผใู ้ ดจะรักษาจักษุ ก็ให้พิจารณาจงดีอย่าหักหาญ
จึงจะเจริ ญไปชัว่ นี้แลชัว่ หน้า ถ้าผูใ้ ดทําโดยขึ้งโกรธแลแกล้งให้เขาเสี ยจักษุ หรื อรู ้มิถึงกระทําผิดจะเกิดโทษ
ยาแก้ตาแดงตาต้อ เอาเบ็ญกานี ขมิ้นอ้อย รากทองหลางใบมน รากทองพันชัง่ รากสลิด รากอัญชัน
ขาว บดเป็ นผง บดปั้ นแท่ง ฝนหยอดตา
ยาชื่ออินทเนตร์ แดง แก้ปวดเคือง เอาเปลือกมะไฟ เปลือกช้างน้าว เปลือกสมเส็ ด รากถัว่ เปลือกส้ม
ก้อง ฝาง ครั่ง ลิ้นทะเล ดินถนํา สี เสี ยดเทศ เอาสิ่ งละ ๑ บาท ดีงูเหลือม ๑ สลึง ฝิ่ นดี ๑ เฟื้ อง ทองคําเปลว ๓
แผ่น บดปั้ นแท่ง เอาเปลือกประดู่เสนต้มเอานํ้าเป็ นกระสายบด ฝนหยอดตา
ยาพอกนิ้วเท้าใหญ่ให้จกั ษุสว่าง เอาหัวแห้วหมู มหาหิ งคุ ์ เอาเท่ากันตําพอกนิ้วเท้าใหญ่
อีกขนานหนึ่ง เอารากตาล หัวกระเทียม ๓ หัว พริ กไทย ๗ เมล็ด เปราะหอม ๑ หัว ตําสุ มเท้าชักลม
ให้ลงเบื้องตํ่า
ยาแก้ลมขึ้นเบื้องสู ง เอาโกฏหัวบัว โกฏสอ โกฏเขมา โกฏสอไทย โกฏกระดูก ชะเอมเทศ ชะเอม
ไทย เปราะหอม แก้วแกลบ เบี้ยตัวผูเ้ ผา ขิง ดีปลี พริ กไทย ชะมด พิมเสน เอาสิ่ งละ สลึง หอยสังข์ ๒ สลึง
ลิ้นทะเล ๓ สลึง เปลือกไข่ฟัก ๒ สลึง บดเป็ นผง นัตถุแ์ ก้ลมขึ้นเบื้องสู ง
ยากแก้ลมขึ้นเบื้องสู ง เอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ สิ่ งละ ๑ สลึง กานพลู ดีปลี สิ่ งละ ๒ สลึง เกลือ
สิ นเธาว์ ผลพิลงั กาษา สิ่ งละ ๓ สลึง หว้านนํ้า โกฏสอ สิ่ งละ ๑ บาท โกฏเขมา เทียนดํา สิ่ งละ ๕ สลึง เทียน
แดง ๙ สลึง เทียนขาว ๑ บาท ๑ เฟื้ อง เทียนตาตัก๊ แตน เทียนข้าวเปลือก สิ่ งละ ๗ สลึง ขิงแห้ง รากเจ็ตมูล
เพลิง สิ่ งละ ๒ บาท หัวบุกรอ ๙ สลึงเฟื้ อง หัศกุนเทศ ๑๑ สลึง พริ กไทย ๑๑ สลึง ๑ เฟื้ อง บดเป็ นผงละลาย
นํ้าอ้อยแดงกินครั้งละ ๑ สลึง วันละ ๓ ครั้ง แก้ตามืดตาฟาง
สิ ทธิการิ ยะ จะกล่าวลักษณะต้อ ๗ ประการ คือ ต้อนิลกระจก ต้อกระจกนกยูง ต้อกระจกหลังเบี้ย
ต้อกระจกปรอท ต้อกระจกหิ งห้อย ต้อกระจกแดง ต้อกระจกขาว ๗ ประการดังนี้รักษาหาย ....ต้อวิงกระจก
ต้อเศษกระจกนั้นรักษาไม่หาย ต้อทั้ง ๙ ประการนี้ เกิดเพื่อลมขึ้นมาแต่ฝ่าเท้า เมื่อขึ้นมานั้น ให้เมื่อยตั้งแต่เท้า
ขึ้นมาถึงต้นคอ เมื่อยอยูด่ งั นั้นประมาณ ๒, ๓, ปี แล้วจึงปวดศีรษะดังจะแตก แล้วผุดขึ้นมาจากจักษุ ต้อ
กระจกทั้ง ๙ ประการ ซึ่งกล่าวมานี้ ต้องด้วยลักษณะตรี โทษ
ต้อเพกา ต้อเนื้อ ต้อสุ นขั ทั้ง ๓ ประการนี้เกิดเพื่อเส้น ต้อลําไยแลต้อทั้งหลายนี้เกิดเพื่อโลหิต
อนึ่งเดือน ๕, ๖, ๗, ๘ ทั้ง ๔ เดือนนี้ เกิดเพื่อโลหิ ต เดือน ๙, ๑๐, ๑๑, ๑๒ ทั้ง ๔ เดือนนี้เกิดเพื่อ ....
กําเดา เดือน ๑, ๒, ๓, ๔ ทั้ง ๔ เดือนนี้ เกิดเพื่อเสมหะ
สิ ทธิ การิ ยะ ตําราแพทย์รักษาต้อกระจบทั้ง ๗ พึงรู ้โรคอย่างสิ้ นเสร็ จ กลเม็ดที่จะแก้จกั ษุโรค . ให้
แต่งยาสุ มทุกวัน จึงกินยานั้นชะโลงไว้ อย่าให้ผกู พรรดึกแข็งเข้าได้ แล้วทํายาพอกนิ้วเท้า . ทุกวัน แล้วให้
ปล่อยปลิงเดือนละหน ให้ปล่อยข้างแรม ถ้าจักษุน้ นั ค่อยเห็นขึ้นแล้ว จึงทํายาทาเท้า ให้รมด้วยถ่านสะแก ให้
๑๓๗

ร้อนแต่พอทนได้ เมื่อยาแห้งแล้วรมให้ได้อีก ๕ หอ รมให้ได้ ๓ คราว ราวละ ๕ วัน ครั้นตัดรากลมแล้วทํายา


สุ ม ต้อที่มือไม่เห็นไต้ไฟนั้น เอารากมะรุ มสดบดให้ละเอียด ๒ วันแล้วเอาทิ้งเสี ย แล้วทําใหม่สุมไปกว่าจะ
เห็นจึงงด แล้วเอายานี้สุมไป เอามหาหิ งคุท์ าง ขมิ้นอ้อย ไพล ใบมะขาม ใบส้มป่ อย ตรี กะกูก เอาสิ่ งละ ๑
บาท บดด้วยนํ้ามะนาวสุ มไป .... ๑๐ วันเอายานี้ทิง้ เสี ยแล้วทําใหม่
ยาพอกนิ้วเท้าใหญ่ เอาสลัดได ขมิ้นอ้อย กระเทียมครึ่ งหัวบดพอกทั้งกลางวันแลกลางคืน
ยารมเอาตรี กะฏุก กระเทียม เอาสิ่ งละ ๑ บาท มหาหิ งคุ ์ ๔ บาท บดด้วยยางสลัดไดปั้ นแท่ง ยาง
สลัดไดทาฝ่ าเท้า แล้วลมด้วยถ่านไม้สะแก แล้วกินยาต่อไป
ยากินล้างภายใน เอาใบระคําไก่ เปลือกหอยขม ตรี กะฏุก กระเทียม เอาสิ่ งละ ๑ บาท มะไฟเดือนห้า
๒ บาท ใบพริ กไทย ๔ บาท ใบสมอทะเลนึ่งแล้วผึ่งแดดให้แห้งเท่ายาทั้งหลาย บดเป็ นผง ถ้าเป็ นไข้ใน
ข้างขึ้นกินหนัก ๑ สลึง ถ้าข้างแรมกินหนัก ๑ เฟื้ อง ๒ ไพ ละลายนํ้าส้มสายชูกินเวลาเช้า
ยากินเวลาเย็น แก้ชม(ลม) เอาใบสะเดา ใบประคําไก่ ใบคนทิสอ(คนทีสอ) ขมิ้นอ้อย รากเจต(เจ็ต)
มูลเพลิง หว้านนํ้า ดีปลี เอาสิ่ งละ ๑ บาท พริ กไทยเท่ายาทั้งหลาย บดละลายนํ้าผึ้งกิน
ยาสุ มต้อกระจก เอาจุนสี ๑ สลึง เมล็ดผักกาด ๒ สลึง รากเจต(เจ็ต)มูลเพลิง ๑ บาท ตรี กะฏุกสิ่ งละ ๑
บาท ใบเจต(เจ็ต)มูลเพลิง ๑ บาท บดด้วยนํ้ามะนาวสุ มไปกว่า จะ ๑๐ วัน แล้วเอายาเก่าทิ้งเสี ย ทําสุ มใหม่
ยาแก้ตอ้ กระจก เอาผิวมะกรู ด ยาดํา เกลือสิ นเธาว์ พริ กไทย ขิงแห้ง มหาหิ งคุ ์ ดีปลี เอาสิ่ งละ ๑ บาท
กระเทียม ๖ สลึง บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้ง นํ้ามะกรู ด นํ้ามะนาว เอาส่ วนเท่ากัน เป็ นกระสายกินหนัก ๑ สลึง
ถ้าจะปล่อยปลิงให้เลือกเอา วันจันทร์ วันอังคาร แลวันพฤหัสบดี ใช้ขา้ งแรม ห้ามแต่แรม ๒ คํ่า ๔ คํ่า ๗ คํ่า
๑๑ คํ่า และ ๑๕ คํ่า ข้างขึ้นห้ามอย่าปล่อยปลิงเลย จะปล่อยปลิง ต้อโลหิ ต ต้อกระจก ให้ปล่อยมาข้างท้าย
ขวัญ ๕ ตัว ต้นคิ้วข้างละ ๒ ตัว แต่ปลายคิ้วมาถึงหู ขา้ งละ ๙ ตัว ใต้หูอ่อนข้างละ ๑ ตัว ขากรรไกรข้างล่าง ๓
ตัว ต้นเล็กเท้าใหญ่ขา้ งละ ๒ ตัว จะปล่อยปลิงนี้ข้ ึนเดือน ๕ เดือน ๖ แลเดือน ๗ ปลิงมีลูก เมื่อปล่อยแล้วเอา
ยาสู ข(สู บ)ปะปากแผลเสี ย ปลิงจะได้คายลูกไว้ไม่ได้
การรักษาจักษุเจ็บ ปวด เคือง ให้นตั ถุย์ าเสี ยก่อน แล้วจึงใส่ ยาอินทเนตร์ แดง ถ้ามิฟังเอาฝิ่ นแทรกสัก
๑ หรื อ ๒ เวลา ถ้ายังไม่ทุเลาให้ใส่ ฝิ่นต่อไป ถ้าไม่ฟังให้ยกั กระสายใหม่ เอาผลแตงกวาหมกไฟให้สุก แล้ว
บีบเอานํ้าเป็ นกระสาย ถ้าไม่ทุเลยให้ทาํ ยาสุ มต่อไป เอาดินประสิ วขาว ขมิ้นอ้อย หว้านหางจระเข้
ฆ้องสามย่าน ใบทองหลางทั้ง ๒ ขี้กาทั้ง ๒ ตําลึงทั้ง ๒ แคทั้ง ๒ ใบขี้เหล็ก ใบ.... ใบพรมมิ ดินสอพอง หญ้า
นํ้าดับไฟ บดพอกกระหม่อมให้ได้ ๒ เวลา ถ้ายังไม่หายปวดให้ปล่อยปลิง เอาโลหิ ตร้ายออกเสี ย ถ้าต้อคลาย
ออกแล้ว แต่ยงั ไม่บริ สุทธิ์ ให้เอายอดถัว่ แปบพานจักษุเอาโลหิ ตออก แล้วใส่ ยาสมานต่อไป เอายา
อินทสังหาญแทรกอินทเนตร์ แดงใส่ ให้กระจายโลหิ ต ถ้ายังไม่ปกติ ให้เอายอดถัว่ แปบพานไปอีก ๓, ๔ ครั้ง
แล้วใส่ ยาไปกว่าจะหาย
ผูใ้ ดจะรักษาจักษุ ถ้านัตถุย์ าใส่ ยา อลสู บยาแล้วยังไม่หาย ปวดแลเป็ นฝ้าปิ ดขึ้นไปแต่ขอบตาดํา
ข้างล่างคลํ้าเป็ นเงาขาวออกไปจากตาดําดังไขเนื้อ เป็ นดังนี้เรี ยกว่าต้อนํ้า ถ้าขึ้นในจักษุผใู ้ ด จักษุผนู ้ ้ นั จะบอด
๑๓๘

ถ้าจะรักษาให้ปล่อยปลิงที่ขอบตาข้างล่างข้างละ ๕ ตัว ถ้ายังปวดอยู่ ให้ปล่อยต่อไปอีก ๒, ๓ ครั้งกว่าจะหาย


ปวด
ต่อไปนี้ จะกล่าวกําเนิดต้อทั้งปวงต่อไป คือต้อกงเกวียน ต้อก้นหอย ต้อสลัก ทั้ง ๓ ประการนี้เกิดแต่
เท้าขึ้นมา อยูใ่ นระหว่างตรี โทษ ต้อลําไย ต้อลิ้นสุ นขั ต้อสายโลหิต ต้อเนื้ อ ต้อหมอก ต้อแดง ต้อเกลื่อน ทั้ง
๗ ประการนี้เกิดเพื่อลมเพื่อกําเดาแลโลหิ ต ถ้าเป็ นเดือนหนึ่ง ว่าเอกโทษพอรักษาได้ ถ้าพ้นเดือนหนึ่งเป็ น
ทุวรรณโทษ ถ้าถึง ๘, ๙ เดือนไปจนปี หนึ่งเป็ นตรี โทษ รักษายาก ถ้าเป็ นฝี หรื อเป็ นหัดก็ดี แลเกิดต้อขึ้นที่ลูก
ตาได้ ๑๐ วัน เป็ นทุวรรณโทษ ถ้าพ้น ๑๐ วันขึ้นไปเป็ นตรี โทษ รักษาไม่หาย
อาจาริ ยท์ ่านกล่าวว่า ผูใ้ ดป่ วยจักษุได้ ๑, ๒, ๓, ๔ เดือนก็ดี เกิดด้วยเสมหะและลมกระทําโทษ ถ้า
ป่ วยจักษุถึง ๕,๖, ๗, ๘ เดือน เกิดด้วยโลหิ ตแลลมกระทําโทษ ถ้าป่ วยจักษุถึง ๙, ๑๐, ๑๑, ๑๒ เดือน เกิดด้วย
กําเดาแลลมกระทําโทษระคนกัน ถ้าแพทย์จะรักษาให้พิจารณาว่าป่ วยได้กี่เดือน แลอันใดกระทําโทษ ให้
ฟอก กอก แลปล่อยปลิงชํ ารุ (ชําระ)โทษนั้น ๆ เสี ยก่อนจึงใส่ ยา ถ้าลูกตาดําเป็ นดุจผิวมะกรู ด ชื่อต้อมะเกลือ
เกิดเพื่อดีเป็ นตรี โทษ อนึ่งให้ลูกตาแดงดังผลมะกลํ่า ชื่อต้อไฟ เป็ นเอกโทษ เกิดเพื่อนอนมากเกินธรรมดา ต้อ
สี ดงั หงสิ บบาท ชื่อต้อรัตนโชติ เกิดเพื่อเสมอหะแลกําเดา เป็ นลักษณะทุวรรณโทษ ต้อหนึ่งชื่อต้อตาแมว ลูก
ตาชํ้า ริ มตาใส ต้อเกลื่อนก็เรี ยก เกิดเพื่อดีเป็ นตรี โทษ ต้อหนึ่งลูกตาขาว ชื่อต้อฝ้าย เกิดเพื่อมาตุคาม ต้อหนึ่ง
สี เขียวดังดอกอัญชัน เกิดเพื่อดี โลหิ ต เป็ นมัชชะโทษรักษาหาย แต่ลูกตานั้นจะน้อยกว่าปกติ ต้อหนึ่งเกิดที
หลังตาก็มี ที่ลูกตาก็มี เกิดขึ้นดังกระเพาะปลา มักให้น้ าํ ตาตก ให้คนั ขอบตา ๆ แดง ต้อนี้ เกิดเพื่อโลหิ ต ให้
ชําระโลหิตออกเสี ยก่อนจึงใส่ ยา ต้อหนึ่งแดงดังไฟ ชื่อต้อฝี เกิดเพื่อสันนิบาต ต้อหนึ่งเกิดเพื่อกําเดา กลางคืน
มองเห็น ชื่อต้อตาฟาง เป็ นเอกโทษ ต้อหนึ่งเมื่อนอนมักให้เจ็บกะบอกตา เกิดเพื่อโลหิ ตและนอกมากเป็ นเอก
โทษ ต้อหนึ่งเกิดที่ลูกตา เมื่อหายแล้วให้ลูกตาหวากลางหน่อยหนึ่ง ชื่อต้อธรณี เป็ นทุวรรณโทษ เกิดเพื่อทํา
การหนัก ต้อหนึ่งเกิดที่ลูกตาดําหรื อตาขาว ให้แข็งดุจกระดูกแลพองออกมา . ต้อหู ด เกิดเพื่อโลหิ ตแลทั้ง ๒
ประการนี้ ต่างกัน เป็ นตรี โทษ ต้อหนึ่งให้ลูกตาเขียวไป มืดกว่า เพ็ชร์ เกิดเพื่อลม ให้นวดเสี ยก่อนจึงกินยา
เป็ นเอกโทษ ต้อหนึ่งอยูด่ ี ๆ ให้ตาแดง เกิดเพื่อโลหิตแลริ สีดวง ให้เอาโลหิ ตออกเสี ยก่อนจึงใส่ ยา ต้อหนึ่งให้
จักษุลด เกิดเพื่อกําเดา ให้เอาโลหิ ตเอาออกเสี ยก่อน จึงใส่ ยากินยาประจุ ต้อหนึ่งให้จกั ษุเหลืองดังขมิ้น สี ดงั
รุ ้งกินนํ้า เกิดเพื่อธาตุท้ งั เอาเสมอกัน ให้กินยาธาตุเสี ยก่อนจึงใส่ ยานํ้ามันปิ ดกําเดา แล้วจึงใส่ ยา ต้อหนึ่งให้
ตามือตาหูตึง เกิดเพื่อลม ให้กินยาภายในก่อนจึงใส่ ยา ต้อหนึ่งให้คายจักษุ จักษุหลับ ๆ ลืม ๆ เกิดเพื่อกําเดา
แลโลหิ ต ให้รมยาก่อนจึงใส่ ยา ต้อหนึ่งให้เจ็บจักษุ เกิดเพื่อสรรพเคราะห์ ให้สะเดาเคราะห์เสี ยก่อนจึงใส่ ยา
ต้องทั้งปวงนี้เป็ นเอกโทษ ทุวรรณโทษและตรี โทษบ้าง รักษาได้บา้ งตัดบ้าง ต่อหนึ่งให้เจ็บจักษุ มืด ๆ พราย
ๆ เกิดเพื่อมาตุคาม ถ้าจะใส่ ยาให้งดมาตุคามเสี ยก่อน ถ้าล่วงตรี โทษมิหายแล ต้อหนึ่งมักให้เวียนจักษุ ให้มือ
จักษุ ๆ เขียวดังปี กแมลงทับ ให้กินยาเสี ยก่อนจึงใส่ ยา แลเมื่อลักษณะจักษุมือนั้น ๔ ประการ ประการหนึ่ง
เป็ นเพื่อโลหิ ต ลม เสมหะ กําเดา และเมื่อจะเจ็บนั้นให้เขม่นจักษุอยูร่ ิ ก ๆ จักษุไม่สู้แดงนักขาวนัก เป็ นเพ่อ
ลม ถ้าขาวออกเป็ นเพื่อโลหิ ต เพื่อลม ให้ประจุเสี ยก่อนจึงใส่ ยา ถ้าเจ็บจักษุตุบ ๆ เหมือนมดกัด ให้เสี ยดแทง
แลนอนมิหลับ แลออกไปดังหิ งห้อยดังไฟ แดงเป็ นหย่อม ๆ เป็ นเพื่อกําเดา ให้ชาํ ระกําเดาเสี ยก่อนจึงใส่ ยา
๑๓๙

แรกเจ็บจักษุน้ นั ให้น้ าํ ตาหล่อรอบขุมจักษุ เป็ นเพื่อเสมหะให้กินยาประจุเสี ยก่อนแล้วจึงใส่ ยา ถ้าแรกเจ็บ


จักษุ ๆ แดงดังโลหิ ต เป็ นเพื่อสันนิบาติเกิดพร้อมกัน เร่ งให้กินยาจงวดี แพทย์ผใู ้ ดจะรักษา ให้พิจารณาจง
ละเอียดแล้วจึงใส่ ยาแลคนผูเ้ จ็บนั้น ให้ควัน่ เทียนรอบศีรษะ เข้าตอกดอกไม้ขอขมาโทษเทพารักษ์ท้งั หลาย
แล้วจึงใส่ ยา
อาจารย์กล่าวถึงต้อทั้งปวงซึ่ งทําให้จกั ษุมืด ฟาง แฉะ เปี ยก หมอก มัว และกล่าวถึงต้อเนื้อ ต้อ
สายโลหิต ต้อแดงดวงใหญ่ ต้อดํา ต้อกระจก ต้อก้นหอย ต้อลําไย ต้อลิ้นหมู ต้อตาแมว ต้อแววนกยูง ต้อปี ก
แมลงทับ ต้อแมลงวัน ต้อนํ้าผึ้ง ต้อเกล็ดหอย ต้อมะเกลือ ต้อลิ้นสุ นขั ต้อทั้งหลายดังกล่าวมานี้ เกิดแก่คน
ทั้งหลาย ถ้าเขม่นจักษุ จักษุพรายดังหิ่ งห้อย เกิดเพื่อกําเดาเพื่อโลหิ ต ถ้าจักษุแดงเป็ นเพื่อสันนิบาต ถ้าจักษุ
ขาว ชื่อต้อลิ้นสุ นขั ถ้าจักษุขาวกลับแปรไปดังผลผักปลัง ชื่อต้อสลัก ต้อชุมนุมอยู่ ให้แพทย์พิจารณาดู
ลักษณะต้อให้แจ้งก่อนจึงวางยาแลใส่ ยา ถ้าชอบยาร้อนให้ใช้ยาร้อน ถ้าชอบยาเย็นให้ใช้ยาเย็น อันต้อก้น
หอยนั้น เกิดแต่นิ้วเท้าใหญ่ ต้อสลักเกิดแต่ปลีน่อง ต้อตาแมว ต้อแววนกยูง เกิดแต่หัวเหน้ า(หัวเหน่า) ต้อ
หนึ่งเกิดมาแต่ศีรษะ ยอดดําดังหมอกกระหวัดรอบจักษุ ชื่อต้อมะเกลือ รักษาไม่หาย ต้อเพกา เกิดมาแต่ราก
ขวัญ ต้อผักตบ เกิดมาแต่ยอดอกภายใน ต้อเนื้ อ ต้อสายโลหิต ต้อลิ้นสุ นขั ต้อหมอก พยาธิหมู่น้ ีเกิดเพราะกิน
ข้าวเหนียว
ยาแดงใหญ่ชื่ออนันตคุณ เอาแก่นมะขาม แก่นขี้เหล็ก แก่นมะหาด แก่นช้องแมว มะฝ่ อ เปราะหอม
เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ดีงูเหลือม ดีจรเข้ ดีตะพาบนํ้า เอาแต่พอควร ตุกตํ่า บัลลังก์ศิลาสังข์ เบี้ยตัวผู ้ ลิ้นทะเล ชาด
หรคุณ ชาดก้อน นํ้าประสานทอง ยา ๘ สิ่ งนี้สะตุเสี ยก่อนแล้วจึงประสมกับยาอื่นบดปั้ นแท่ง ละลายนํ้านม
โคใส่ ตา แก้ปวดเคืองและกระจายโลหิ ต
ยาอินทโชติ เอาจันทน์ท้งั ๒ แก่นช้องแมว แก่นสน แก่นขี้เหล็ก รากหญ้านาง รากขัดมอญ รากตาล
หม่อน หัวอุตพิด เมล็ดมะฝ่ อ เบี้ยตัวผูเ้ ผา สังข์เผา หัวแห้วหมู ผลจันทน์ ดีปลี ชะมด บัลลังก์ศิลา ตุกตํ่า ดิน
ถนํา สี เสี ยดเทศ ครั่ง เปลือกเมล็ดในมะขาม กํายาน เอาสิ่ งละ ๑ สลึง พิมเสน ๒ ไพล ฝิ่ น ๑ เฟื้ อง ดีงูเหลือม
๑ เฟื้ อง บดด้วยนํ้ามะงัว่ ปั้ นแท่ง ละลายนํ้ามะนาวใส่ ตาแดงตามือ ตาเป็ นขุม และแก้ปวดละลายนํ้าเย็น แก้ตา
ริ ดสี ดวง ละลายนํ้ามะนาว
ยาชื่อรัตนโชติ เอาบัลลังก์ศิลา ศิลายอน ดินถนํา เบี้ยตัวผูเ้ ผา ดีปลี แก่สมอไทย แก่นกําจาย แก่น
ขี้เหล็ก แก่นช้องแมว เอาสิ่ งละ ๑ สลึง พิมเสน ๒ ไพ บดด้วยนํ้าเย็นปั้ นแท่ง ใส่ ตอ้ ช้างต้อหมอก
ยาชื่อสุ วรรณไกรลาศ เอาชาดหรคุณ บัลลังก์ศิลา เมล็ดมะฝ่ อ จันทน์แดง เปลือกเมล็ดมะขาม แก่น
ช้องแมว เอาสิ่ งละ ๒ สลึง พิมเสน ๒ ไพ ทองคําเปลว ๕ แผ่น บดด้วยนํ้าดอกไม้เทศปั้ นแท่ง ใส่ ตาแก้ปวด
แก้เคือง
ยาชื่อสว่างอารมณ์ เอาแก่นจันทน์แดง บัลลังก์ศิลา ตุกตํ่า ชาดก้อน ครั่ง หว้านกีบแรด หว้าน
ร่ อนทอง สังกรณี เนระภูษี ดินถนํา เอาสิ่ งละ ๒ สลึง พิมเสน ๒ ไพ บดด้วยนํ้าผลประคําควายต้ม ใส่ ตาแก้
ปวดแก้เคือง ให้แทรกฝิ่ นเล็กน้อย
๑๔๐

ยาแดงเทพศิลา เอาจันทน์แดง จันทน์ขาว แก่นช้องแมว แก่นขี้เหล็ก เปลือกเมล็ดมะขาม กิน ชาด


หรคุณ กํามะถันแดง ดินแดงเทศ ศิลายอน ชะมด เอาสิ่ งละ ๑ สลึง พิมเสน ๒ ไพ สี ๑ เฟื้ อง บดด้วยนํ้านม
โค เอาแต่ใส ๆ ใส่ ตา แก้ปวดแก้เคืองและกระจายโลหิ ต แทรกอินทสังหาญ เล็กน้อย
ยาอินทสังหาญน้อย เอานํ้านมเสื อ ๒ สลึง ดินถนํา ๑ บาท ใบปี บ ๕ สลึง ใบผักเค็ด ๕ สลึง
กระเทียม ๗ กลับ พริ กไทย ๗ เมล็ด ดีปลีหนักเท่าพริ กไทย เกลือตัวผู ้ ๓ เม็ด พิมเสน ๑ เฟื้ อง ชะมด ดีงูเห่า ดี
จรเข้ เอาสิ่ งละ ๒ ไพ เอานํ้ามะนาวเป็ นกระสายบด ยาขนานนี้คู่กนั กับยาเทพศิลา
ยาอินทเนตร์ แดง เอาเปลือกมะไฟ เปลือกช้องน้าว เปลือกสมเส็ ด รากส้มกุง้ รากถัว่ พู แสมทะเล ดิน
ถนํา ฝาง ครั่ง สี เสี ยดเทศ เอาสิ่ งละ ๑ บาท ฝิ่ น ๑ เฟื้ อง ดีงูเหลือม ๑ เฟื้ อง บดด้วยนํ้าแก่นประดูเสนต้ม ใส่ ตา
แก้ปวดเคือง ถ้ามิฟังแทรกฝิ่ นกับยาอินทสังหาญเล็กน้อย
ยาอินทเนตร์ ขาว เอาดินถนํา ๑ บาท ดินสอพอง ๑ บาท เปราะหอม ๒ บาท ครั่ง สี เสี ยดเทศ หว้าน
นํ้า เอาสิ่ งละ ๑ สลึง กํายาน ๑ สลึง บดด้วยนํ้าแก่นประดู่ตม้
บุคคลผูใ้ ดเป็ นตามืด ตาฟาง ตาหมอก ตาต้อ ตาเปี ยก ให้แพทย์ท้ งั หลายพิจารณาดูจงถี่ถว้ น ถ้าตา
เป็ นฝ้าปิ ดอยูแ่ ลมิเห็นตาดํา ท่านว่าเป็ นเพื่อลม และถ้าเห็นเหลืองดังหิงห้อยและดังไฟแดงอยู่ เป็ นเพื่อกําเดา
แลลม ถ้าตาขาวแลเครื่ องและให้มืด เป็ นเพื่อลมและเสลด ต้ออันหนึ่งเมื่อแรกเห็นพึงเป็ นผืน่ ๆ ขึ้นมาในหัว
ตา ชื่อต้อเนื้อ ต้อหนึ่งสวัดวงตา ๆ มิเห็น ชื่อต้อแมว ต้ออันหนึ่งตาเป็ นดังเยือ่ ลําไยขาว ชื่อต้อนกยูง ต้อหนึ่ง
และเห็นนัยน์ตาดังไขวัว ชื่อต้อนํ้า ต้อหนึ่งเมื่อแรกแลดูเห็นกลมตาดําอยู่ ชื่อต้อหมอก ต้อหนึ่งแลดูดงั ลิ้น
สุ นขั ชื่อต้อลิ้นสุ นขั ต้อหนึ่งและดูเห็นเป็ นแววอยูใ่ นตาดํา ชื่อต้อลาย
เดิมเมื่อจะเป็ นต้อกระจกนั้น ให้ร้อยในฝ่ าเท้า ๗ วัน กําหนดนั้น ๗ วันเล่าเป็ นแมลงหวีบ่ ินออกจาก
ตาไป ครั้นถึงอีก ๗ วันเป็ นหิ งห้อย ครั้นได้อีก ๗ วันเป็ นใยขาวอยูแ่ ละเห็นยิบ ๆ ครั้นได้อีก ๗ วัน ขาวผ่าน
ตาดําอยูแ่ ลมิเห็น ไฟดวงหนึ่งและเห็นเป็ น ๒ ดวง ครั้นถึง ๗ วันเล่าก็คลุมกลมตาดํา ใน ๔ วัน นั้นแลแดง
สะพรั่งอยู่ กว่านั้นมิเห็น ต้อกระจกนั้นเหลืองกลางแล
ดูกาํ เนิดต้อดังนี้ คือ ต้อเห็นปิ่ มดังหิงห้อย ชื่อต้อกระจก ต้อหนึ่งออกดังปรายปรอย ชื่อต้อแตน เป็ น
เพราะริ ดสี ดวง ต้อหนึ่งสวัดขึ้น ชื่อต้อก้นหอย ต้ออันออกแลมันเป็ นแหวนและเห็นบ้าง ชื่อต้อเกล็ดหอย ต้อ
อันออกแลขาว ชื่ อต้อคอด้วง ต้ออันออกพาดเหนือตาดํา เห็นต่าง ๆ นา ชื่อต้อริ ดสี ดวง ต้ออันออกปิ ดตาเห็น
ดังใยขาวดาดไป ชื่อต้อสลัก ต้ออันหนึ่งเจ็บริ มตาเบื้องบนเบื้องตํ่าลับกัน เพราะเป็ นริ ดสี ดวง ฝี ตายังดีแลไม่
เห็นหน เป็ นเพราะกําเดา อันเจ็บทัว่ ทั้งตัว เป็ นเพราะลมปะกังแล ตาดีชะลัน แลมือฝนเพราะเลือดตน ตาอัน
แดงแลนํ้าตาตกชุ่มไป ชื่อตาเปี ยกแล ต้ออันอยูห่ วั ตาแลหางตา ชื่อต้อเนื้อ ต้อลามเข้าไปในตาดํา ชื่อต้อลิ้น
สุ นขั ตาอันริ มแดง ขอนตาหล่นดังผุยผง เมื่อแรกใส่ ยาตา ให้โกนผมเสี ยก่อน ให้ขอดกําด้น ครั้นคํ่าจึงให้เอา
ส้มมะขามเปี ยกคั้นกับเกลือใส่ สุมไว้จนรุ่ งเช้า ต้ออันขึ้นมาซ้าย เป็ นเพราะลม ต้ออันขึ้นขวา เป็ นเพราะเลือด
ให้กอกเอาเลือดออกเสี ยจงหนักเถิด ในเมื่อแรกเกิด ตาเห็นไยดังแมลงหวี่ ตาเป็ นดอกพึงขุ่นในตา ครั้นเห็นสี
เขียวแล้วมันแดงแลมันดํา จึงว่าต้อมะเกลือ แลมันเขียวแลมันขาวด้วยกัน จึงว่าต้อสลัก แลต้อจักขวา แต่หวั
ตามาหางตา ชื่ อต้อเนื้อชาย ต้ออันมันเข้ามาในหางตาดําเท่าแมลงหวีก่ ็ดีเท่าปี กแมลงวันก็ดี ชื่อลิ้นสุ นขั ท่าน
๑๔๑

ให้เอาพริ ก ขิง กระเทียม หอม เอาสิ่ งละ ๑ สลึง ดีปลี ๑ เฟื้ อง ดินถนํา ๑ บาท ผิมกั ให้เย็น เอาดินถนํา ๖ สลึง
บดด้วยนํ้ามะนาวปั้นเป็ นแท่ง ใส่ ตาริ ดสี ดวง ไม้ลดั ตา ๆ เปี ยก ตาแดง ชื่อละลอกสมุทร ดินถนํา ๒ บาท
หอมแดง ๖ สลึง การะบูน ๒ สลึง พิมเสน ๑ สลึง ตุกตํ่า ๑ บาท ดินถนํา ๑ บาท บดด้วยนํ้าทําแท่ง ชื่อรากคัน
ทะ
อีกขนานหนึ่ง เอานํ้ามะรุ ม นํ้าทองหลาง นํ้าบอนเต่า นํ้าขิง นํ้าชะเอม นํ้าเหาหุ มเกลียว เอาสิ่ งละท
นาน เคี่ยวให้ขน้ แล้วเอาฝิ่ น ๑ บาท พริ กไทย ๔ บาท บดเป็ นแท่งใส่ ตาริ ดสี ดวง แลสรรพต้อทั้งปวงดีนกั แล
ยาแก้ตอ้ สลัก เอาไพล กระชาย ขมิ้น ดองดึง ขิงเท่ายาทั้งหลาย บดด้วยนํ้ามะนาวใส่ ตอ้ ลักดีแล
ยาแก้ตอ้ เอาสัตบุษย์ ลูกสมอเทศ เทียนดํา เทียนขาว ดีปลี ดินถนํา ตุกตํ่า รากพุดซ้อน ดอกอัญชัน
ทั้ง ๒ รากทองหลางใบมน รากมะไฟ เอาเสมอภาค บดด้วยนํ้ามะนาว ใส่ ตอ้ เนื้ อ ต้อสาย ต้อหมอก คลุมตา
หายแล
ยาชื่อนัยน์ตาอุด เอาดินถนํา ตรี ผลา กฤษณา การะบูน พิมเสน เกลือเทศ แทรกเล็กน้อย เอาดีจรเข้
เท่ากัน บดด้วยนํ้ามะนาว ใส่ ตอ้ หมอกและต้อทั้งหลาย ตาริ ดสี ดวงทั้งหลาย
ยาชื่อโชตรส เอาดอกบัว ดอกสลิด ดอกกะดังงา ดอกสารภี แทรกพิมเสน บดด้วยนํ้าค้าง ตาฟาง เอา
นํ้าตะไคร้ฝนด้วยนํ้านมคน และใส่ ตาต้อทั้งหลายดีนกั แล
ยาชื่อทิพรัตน์ เอาพิมเสน จันทน์หอม พริ กไทย ขิง ดีปลี หว้านนํ้า รากพุด รากอัญชัน . ลูกสมอเทศ
บดด้วยนํ้าค้างใส่ ตาต้อทั้งหลาย
ยาแก้ตอ้ เอาดินถนํา ตุกตํ่า ๓ เท่าปั้นลงกับศิลา ๒ เท่า เปลือกมะกลํ่าเอา รากมะกลํ่าเครื อ ....
มะกลํ่าเอา ลูกผักปลังเอา รากพุดซ้อน พิมเสน ขมิ้นเครื อ ไพลเผา บดเป็ นผงบดปั้ นแท่ง ใส่ ตาต้อหมอก ต้อ
สลัก ต้อมุก ต้อกระจก ต้อลิ้นสุ นขั ต้อนํ้า และต้อทัว่ ปวง
ยาแก้ตาเปี ยก เอารากคัดเค้า รากพันงูแดง แช่น้ าํ เอาใส่ ตาเปี ยกหายแล
ยาใส่ ตาให้สว่าง เอาลูกมะขามป้ อม รากอัญชันขาว บดด้วยนํ้ามูตรโค ใส่ ตาทําให้ตางาม แล
ยาแก้ตาฟาง เอาลูกละมุด ลูกยาง ลูกมะกลํ่าขาว เอาเท่ากัน บดด้วยนํ้าท่า ใส่ ตาฟางหายแล
ยาแก้ตาฟางตาต้อ เอาลูกสมอเทศ หว้านนํ้า โกฏสอ ดีปลี พริ กไทย ลูกแหน สังข์ .... บัลลังก์ศิลา เอา
เสมอภาค บดด้วยนํ้ามันจันทน์ผ่ งึ ไว้ในร่ ม ฝนใส่ ตามือตามัวขับขี้ตาออกดี แก้ตาฟาง ตาต้อด้วยแล
ยาแก้ตาฟาง เอารากช้าแป้ ง รากทับทิม รากมะเดื่อ ใบปี บ เปลือกเพกา แคฝอย เอา. บดหยอดตาฟาง
หายแล
ยาชื่อนัยนาวุฒิ เอาดินถนํา เบ็ญกานี เดือยไก่ป่า ตําหมักไว้คืนหนึ่ง แล้วบดด้วยนํ้าท่าใส่ ตากัดต้อ
หมอกทุกอันดีนกั
ยาแก้ตอ้ เอารากสลิด รากอัญชันขาว รากพุดซ้อน หัวดองดึง เอาสิ่ งละ ๑ บาท หญ้าใต้ใบ หญ้า
งวงช้าง เอาสิ่ งละ ๒ สลึง สัตบุษย์ ๔ ลูก ขมิ้น ๗ ชิ้น บดพอกหน้าผากเท่า ๒ นิ้ว ๓ วันเอาออก คั้นยาสระหัว
ดุสดีจงได้เดือนหนึ่ง แก้ตอ้ ทั้งหลาย หายแล
๑๔๒

ยาแก้ตอ้ เอายอดไซ ๑๑ ยอด เถาตําลึงหนัก ๒ สลึง ตําด้วยกันใส่ กะทง ๓ มุมไว้ยงั รุ่ ง เอาแต่น้ าํ ใส่
วันละ ๓ หน ต้อเกิดได้ ๓, ๔, ๕ ปี ก็ใส่ หายสิ้ นแล
อีกขนานหนึ่ง เอารากอัญชันขาว ขมิ้น ๗ ชิ้น เอานํ้าค้างเป็ นกระสาย ใส่ กะทง ๓ มุม แล้วเอาสําลีชุบ
เอาแต่น้ าํ ใส่ แผ้วสันดานแล
ยาแก้ตอ้ เอาโกฏกะกลิ้ง ใบย่างซาย ไพล ดีปลี หอยสังข์ ขิง ๕ แว่น พริ กไทยเท่ายาทั้งหลาย บดใส่
ตาต้อเนื้ อ ต้อสายลมเลือด เป็ นบ้าหมูก็หายแล
ยาชื่อพระอินทร์ แก้ตาหมอก เอาดินถนํา ขิง หอยขม ขมิ้นอ้อย เอานํ้ามะนาวแช่ไว้คืนหนึ่ง บดปั้ น
แท่งฝนใส่ ตา (๗ หน)
ยาชื่อทิพจักษุ เอาข้าวตาก พริ กไทย ขิง ดินถนํา เอาเท่ากัน ขมิน้ อ้อย ๒ บาท ลูกจันทน์ ดอกจันทน์
กะทือ เอาสิ่ งละ ๑ บาท แทรกพิมเสน บดด้วยนํ้ามะนาวใส่ ตาต้อทั้งปวงแล
ยาแก้ตอ้ เอามหาหิ งคุ ์ ๑ บาท ตะกัว่ ชิน ๒ บาท นํ้าข่า ๑ บาท เอาประสมกัน แล้วเอาดีจรเข้ นํ้า
มะพร้าวแช่ ใส่ ตอ้ หมอก ตาริ ดสี ดวงทุกประการ ยานี้ชื่อจักรพรรดิธิราช
ย่าตัดต้อ เอามนต์น้ ีตดั (โอมกําลังเตชาวัตกัด เกเรเวพัดถึง) ๓ หน มนต์ปลายมีด (โอมจักนิ่ง จักนิ่ง
สตหะ โอมคุดนิ่ง สวาหะ) มนต์ตน้ มีดตัดต้อ แล้วใส่ ยาทิพจักษุก่อนจึงใส่ ยาชื่อมีดวงพระอินทร์ แล้วเอา
จักรพรรดิธิราชใส่ ภายหลัง
ยาแก้ลมขึ้นตา เอาหน่อไม้ไผ่ป่า ใบฝ้ายแดง เทียนดํา พริ กไทย บดละลายนํ้าร้อนกิน
ยาตา เอางาช้าง เบี้ยจัน่ จุนสี แสลกฝักมะขาม เขากวางอ่อน บดแช่น้ าํ ดอกมะลิหยดยานี้ชื่อยา
ประสมเนตรพระรถ
ยาตา เอาต้นหู ปลาช่อนสด ๆ ตําคั้นเอานํ้า แทรกพิมเสน (ราคา ๑๐ สตางค์) นํ้าฝนกลางหาว ระสม
กันหยอด กัดฝ้ากัดต้อดีนกั
ยาตา เอาบอระเพ็ดเผาไฟให้โชน ๑ นํ้าเถาตําลึง ๑ นํ้านม ๑ นํ้าฝนกลางหาว ๑ เอาทองคํากับสารส้ม
แทรก ก่อนที่จะใส่ ยานี้ เอายาดํา ๑ บาท ละลายนํ้าฝนกลางหาวทิ้งไว้ให้ใสเอาล้างตาเสี ยก่อน แล้วจึงใส่ ยา
ยาแก้ลมขึ้นตา ทําให้ตาฝ้าฟาง เอาใบพลูท้งั ก้าน ใบหนาด ใบกระทุ่ม ผักบุง้ เอาทั้งราก ทั้งใบ ไพล
เอาใส่ หม้อต้มให้เดือด แล้วเอารมด้วยไอ หายแล
ยาตัดรากต้อทั้งปวง เอามวกแดง เมล็ดฟักข้าว เมล็ดถัว่ พู เมล็ดพิกุล เนื้อเมล็ดสะบ้าเลือด เมล็ดส้ม
ป้ อย เมล็ดมะกรู ด เมล็ดมะนาว ลูกมะเกลือ บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าท่าใส่ ตาต้อ
ยาแก้ตอ้ เอาหอยกาบมาขูดเอาข้างใน เอานํ้ามะนาวเป็ นกระสายหยอดตาต้อ
ยาแก้ตอ้ เอาลูกสมอฝนด้วยนํ้ามะนาวบนเหล็กที่เป็ นสนิมลนควันเทียนทาหลังตา
ยาแก้ปวดตาแดง เอารากหญ้างวงช้างฝนกับนํ้ามะนาวฝนด้วยหิ นมีดโกน รากงวงข้างนั้นให้พลี.
ด้วยหมาก ๑ คํา ฝนแล้วลนควันเทียนป้ ายตา หายปวดแล
ยาทิพจักษุ แก้ตอ้ เนื้ อต่าง ๆ แก้ตามือตาฟาง เป็ นเรื้ อรังก็หาย เอาเนื้อวัวแห้ง รากมะกอก .... ลิ้นทะเล
เมล็ดสาระพัดพิษ เมล็ดถัว่ พูตายซาก พังผืดไข่ไก่ ตุกตํ่า บัลลังก์ศิลา พิมเสน นํ้าประสานทอง ต้น
๑๔๓

นํ้านมราชสี ห์ รากคัดเค้า หว้านเปราะ ขมิ้นอ้อย รากอัญชันขาว เมล็ดมะกลํ่าขาว เมล็ดผักเค็ด หอยสังข์


เถาคันแดง เอาสิ่ งละ ๑ สลึง บดปั้ นแท่งด้วยนํ้ามะนาวแทรกดีงูเหลือม ละลายนํ้าค้างหรื อนํ้าเถาตําลึงหยอด
ตา
ยาแก้ตามืดตามัว เอายอดสลอดต้น ๒ ยอด บอระเพ็ด ๓ ยอด กรุ งเขมา ลูกพิลงั กาษา เปลือกมะตูม
พริ กไย ขิง บดละลายนํ้าร้อนหรื อนํ้าผึ้งกิน กิน ๗ วัน พยาธิในกายหายสิ้ น ผิวพรรณเหนือหนังบริ บูรณ์ ถ้า
เป็ นริ ดสี ดวงละลายนํ้ามันดิบกิน แก้ข้ ีเรื้ อนกุฏฐัง ละลายหัวนํ้ามันยางกิน
ยาแก้ตอ้ หมอก เอาดอกแคทั้ง ๒ ดอกผักบุง้ บดด้วยนํ้ามะงัว่ ใส่ ตา หายแล
ยาแก้ตอ้ กะเจาะ เอาใบมะลิ ใบแค ใบทองหลางนํ้า ใบสมี ไพล ขมิ้นอ้อย บดละลายนํ้าเอาหยอดตา
ยาแก้น้ าํ ตาไหล เอาสมอฝ้ายอ่อน ดินสอพอง บดละลายนํ้าท่าหยอด
ยาแก้ตามือมัว เอาใบกุ่ม ใบคนทิสอ ใบหนาด ขมิ้นอ้อย ไพล ขิง เปลือกมะรุ ม บดปั้ นแท่งด้วยนํ้า
มะงัว่ ละลายนํ้าดอกมะลิหยอด
ยาแก้ตามือมัว เอาลูกสมอพิเภก พริ กไทย ขิง ดีจรเข้ ดีงูเหลือม บดละลายนํ้าขิงหยอด
ยาแก้ปวดตา เอาใบปี บ เทียนขาว ไพล หอมแดง พริ กไทย สมุดดําเผา ดีจรเข้ บดปั้ นแท่งด้วยนํ้า
มะนาว ละลายนํ้าซาวข้าวหยอด
ยาแก้ตาริ ดสี ดวง เอาเบี้ยตัวผู ้ เมล็ดมะกลํ่าตาช้าง พริ กไทย ขิง กระเทียม หอม กะทือ ไพล กระชาย
ขมิน้ อ้อย บดละลายนํ้ามะกรู ดหยอด แก้ตาริ ดสี ดวงและตามืดมัว
ยาแก้ตอ้ กระจก เอาทิ้งถ่อน รากขัดมอญ รากอัญชันขาว ยอดส่ าเหล้า เอาเสมอภาค บดละลายนํ้า
มะนาวหยอด
ยาแก้ตาแดง เอานํ้าตาลทราย เยือ่ ในหมากดิบ นํ้าค้าง นํ้าเถาตําลึงตัวผู ้ ใบกรอบแกรบ ใบสะอึก เอา
เสมอภาค บดทาขอบตา
ยาตา เอาดินถนํา พริ กไทย ขิง กระเทียม หัวหอม ขมิ้นอ้อย ไพล ใบสะอึก ผักเค็ด ดีปลี เอาสิ่ งละ ๑
เฟื้ อง บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้ามะนาวใส่ ตา แก้ตาริ ดสี ดวงตา ถูกไม้ลดั ฟกบวม
ยาแก้ตาแดง เอาผักคราด ขมิ้นอ้อย สารส้ม ใบพลูสด ๗ ใบห่อยาทั้งหมดปิ้ งไฟ บดละลายนํ้าหยอด
ตา
ยาแก้ตาต้อ เอาโกฏทั้ง ๕ จันทน์ท้งั ๒ ลูกสมอทั้ง ๓ แก่นกันเกรา ดอกบุนนาค เกษรบัวหลวง เกษร
ลําเจียก ดอกพิกุล เทียนทั้ง ๕ ต้มกิน
ยาชื่อทิพจักษุ เอาดินถนํา ดีจรเข้ ดีงูเหลือม การะบูน พิมเสน ดอกพุด รากละหุ่ง รากอัญชัน ราก
พันงู รากผักโหม รากอังกาบ รากขัดมอญ บดปั้ นแท่งหยอดตา แก้ตอ้ หมอก นํ้าตาตก
ยาตา เอาขมิ้นอ้อย กานพลู พริ กไทย บดด้วยนํ้ามะนาวหยอดตา แก้ตาริ ดสี ดวง ตาเปี ยกดีนกั ได้ใช้
มาแล้ว
ยาตา เอากระดองเต่าดํา เบี้ยจัน่ ๑ เบี้ย พริ กไทย ขิง กระเทียม บดปั้ นแท่งด้วยนํ้ามะนาว ใส่ ตาแก้ตอ้
หมอกทั้งปวง เมื่อจะใส่ แทรกพิมเสนพอควร
๑๔๔

ยาตา เอาดินถนํา ๔ บาท พริ กไทยล่อน ขิง ขมิ้นอ้อย กระเทียม หัวหอม บดด้วยนํ้ามะนาวหยอดตา
แก้ตาพยาธิ ท้ งั ปวง
ยาแก้ตาลม เอาใบมะกรู ด ๓ ใบ ปิ้ งให้เหลืองแล้วเอาแช่น้ าํ แทรกสารส้มพอควรหยอด
ยาชื่อพรหมเชียงนิพงสวิง เอาพิมเสน ดีบุกดํา นํ้าข่า เอาดีบุกอุ่นไฟให้ร้อน เอาขี้ผ้ งึ ใส่ ฆ่าเสี ยหน
หนึ่ง แล้วใส่ น้ าํ ข่าแลดีบุกให้กินกัน แล้วเอานํ้าหอยโข่งแช่น้ าํ บดปั้ นแท่ง ใส่ ตาต้อและตาริ ดสี ดวงก็ดี ตา
เปี ยกดีแล
ยาแก้ริดสี ดวงงอกในตา เอารากผักคราด รากอัญชันทั้ง ๒ รากสลิด บดพอกหน้าผาก แก้ริดสี ดวง
งอกในตาหมอก หายแล
ยาแก้ตาลมตาแดง เอาไพล ยอดส้มป่ อย จุนสี พอควร ยอดมะขาวอ่อน ๗ ยอด ตําบีบเอานํ้าหยอดตา
แดงตาลมหายแล
ยาแก้ตาแดง เอายอดตูดหมูตูดหมา ๗ ยอด เอานํ้านมพอควร นํ้าผึ้งพอควร พิมเสนแทรกยาดําบีบเอา
นํ้าหยอดตาแดง หายแล
ยาแก้ตาแดง เอาเมล็ดมะขามเผาไฟพอเหลือง ๑ เมล็ด ไพลพอควร เอาไม้ฝางขูดเป็ นฝอย ... สารส้ม
พอควร เอาแช่น้ าํ เอานํ้าหยอดตาแก้ตาแดง หายแล
ยาแก้ตอ้ เอาลูกละมุดสี ดา ๑ ลูก เมล็ดสวาท ๑ เมล็ด กําจาย ๑ ลูกยาง ๑ ลูก ลูกนมพิจิต ๑ ลูก เมล็ด
มะกลํ่าขาว ๑ รากมะไฟ ๑ เอาเท่ากัน บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าโคนกล้วย ใส่ ตากัดสาระพัดต้อทุกประการดีนกั แล
ยาแก้ตาฝ้าฟาง เอาชาดหรคุณจีน ๑ เฟื้ อง ฟองนํ้าเผาไฟ ๑ สลึง ลิ้นทะเลปิ้ งไฟ ชาดผง ดินระสิ ว เอา
สิ่ งละ ๒ ไพ บดเป็ นผง เอาโรยลงที่ตบั ไก่ดิบ ๓ ตับ เอาสุ ราหยอดลงแล้วเอานึ่งให้สุก กินมื้อเดียวให้หมด
หายแล
ยาตา เอาลูกสมอเทศ หว้านนํ้า โกฏสอ ดีปลี พริ กไทย ลูกแหน สังข์ บัลลังก์ศิลา เอาเสมอภาค บด
ปั้ นแท่งด้วยนํ้ามันจันทน์ผ่ งึ ไว้ในร่ ม ใส่ ตาแก้ตามือตามัว ตาฟาง ตาต้อ ขับขี้ตาออกดี
ยาตา เอารากช้าแป้ ง รากทับทิม รากมะเดื่อ ใบปี บ เปลือกเพกา เปลือกแคฝอย เอาเสมอภาค บดปั้ น
แท่ง ใส่ ตาแก้ตาฟาง
ยาตา เอาพิมเสน ดอกจันทน์ ลูกกระวาน โกฏสอ โกฏเขมา เทียนสัตบุษย์ กํายาน ขิงสด ขมิ้นอ้อย ดี
จรเข้ ดีตะพาบนํ้า เอาเสมอภาค บดปั้ นแท่ง ใส่ ตาแก้ตาริ ดสี ดวง แก้ตาต้อทั้งปวง
ยาแก้ตาแดง ตาต้อ ตาแฉะ เอาใบพลูแก ๓ ใบ ใบมะขามกั้นใจหยิบ ๓ หยิบ สารส้ม ๑ เฟื้ อง ย่างไฟ
ให้เหรี ยม บดเป็ นผงละลายนํ้าฝนหยอดตา แล้วเอาผ้าคลุมศีรษะ เข้าอยูใ่ นมุง้ อย่าดูแสงสว่าง ....หยอดยา
ผูป้ ่ วยต้องหยอดเอง ห้ามมิให้คนอื่นหยอดให้ ยานี้ ดีนกั ได้ใช้มาแล้ว
ยาตา เอาใบมะขาม ขมิ้นชัน ตําคั้นเอานํ้าใส่ จอกสําริ ดแทรกสารส้ม ตากแดดตากนํ้าค้างไว้ หยอดแก้
ตาริ ดสี ดวงหายดี
ยาแก้ตามือตามัว เอามะขามป้ อมทั้ง ๕ ต้มรมเฉพาะตา ต้มรม ๓ หม้อก็หาย
๑๔๕

ยาแก้ตาลม เอาไพล ยอดมะขามอ่อน ๗ ยอด ยอดส้มป่ อย ๗ ยอด จุนสี พอควร บดห่ อผ้าขาวแช่น้ าํ
เอานํ้าหยอดตา
ยาแก้ตาแดง เอายอดตูดหมูตูดหมา ๗ ยอด นํ้านมพอควร พิมเสนเล็กน้อย บดห่อผ้าขาวแช่น้ าํ เอา
นํ้าหยอดตา
ยาแก้ตาแดง เอาเมล็ดมะขามเผาไฟพอเหลือง ๑ เมล็ด ไพล ฝางขูดเป็ นฝอยพอควร สารส้มพอควร
บดห่อผ้าขาวแช่น้ าํ เอานํ้าหยอดตา
ยาแก้ตาเป็ นริ ดสี ดวง นํ้าตาตก เอาดินถนํา พิมเสน ดีงูเหลือม นํ้าประสานทอง เอาเสมอภาค บดด้วย
นํ้าผึ้งทาและหยอดตา
ยาแก้ตาริ ดสี ดวง ตาถูกไม้ลดั ฟกบวม เอาดินถนํา พริ กไทย ขิง กระเทียม หอม ขมิน้ อ้อย ไพล ใบ
สะอึก ผักเค็ด ดีล(ี ดีปลี) ๑ เฟื้ อง บดละลายนํ้ามะนาวหยอดตา
ยาแก้ตาริ ดสี ดวงหมอก นํ้าตาตก เอาดินถนํา ๒ ส่ วน พิมเสน ดีงูเหลือม นํ้าประสานทอง สิ่ งละ ๑
ส่ วน บดด้วยนํ้ามะนาวหยอดตา
ยาแก้ตาต้อหมอก นํ้าตาตก เอาดินถนํา ดีจรเข้ ดีงูเหลือม การะบูน พิมเสน ดอกพุด รากละหุ่ง ราก
อัญชัน รากพันงู รากผักโหม รากอังกาบ รากขัดมอญ บดปั้ นแท่ง หยอดตา
ยาแก้ตาริ ดสี ดวง ตาแฉะ เอาขมิ้นอ้อย กานพลู พริ กไทย บดด้วยนํ้ามะนาวหยอดตา ได้ใช้มาแล้ว
ยาแก้ตอ้ หมอก เอากระดองเต่าดํา เบี้ยจัน่ ๑ ตัว พริ กไทย ขิง กระเทียม บดด้วยนํ้ามะนาวแทรก
พิมเสนหยอดตา
ยาแก้ตาริ ดสี ดวงและตาแฉะ เอาสารส้ม เกลือ ครั่งดิบ ใบมะขาม ใบส้มป่ อย ไพล บดห่อผ้าประคบ
และแต้มตา ยานี้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
ยากันไม่ให้เป็ นตาแดง เอาเมล็ดส้มป่ อย ๗ เมล็ด เศกด้วยนโมพุทธายะ มะอะอุ อุอะมะ ๓ หน ก่อน
เศกให้วา่ นโม ๓ หน แล้วว่า พุทธังสรณังคัจฉามิ ธัมมังสรณังคัจฉามิ สังฆังสรณังคัจฉามิ ทุติ-ตะติ- เศกแล้ว
กินให้หมด ให้ทาํ ในวันที่เป็ นจันทรุ ปราคา สุ ริยปุ ราคา ยานี้กินแล้วจะไม่เป็ นตาแดงเลย
ยาแก้ตาแฉะ ตาเปี ยก เอารากคัดเค้า รากพันงูแดง แช่เอานํ้าหยอดตา
ยาแก้ลมขึ้นตา เอาหน่อไม่ไผ่ป่า ใบฝ้ายแดง เทียนดํา พริ กไทย บดละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้ตามือตาฟาง เอาใบกระวาน โกฏทั้ง ๕ แก่นจันทน์ท้ งั ๒ ลิ้นทะเล แก้วแกลบ แก่นมะซาง ดีงู
เหลือม ลูกพิกุล ผิวมะกรู ด บดเป็ นผงนัตถุ์
ยาแก้ตาเจ็บ เอาผลมะกรู ด ๕ ผล ปอกผิวล้างนํ้าให้หมด แล้วบีบเอาแต่น้ าํ กรองให้สะอาดตวงให้เต็ม
ถ้วย ต้องเอาถ้วยที่เหมาะ ดีเกลือกไทยครึ่ งถ้วย พิมเสนอย่างดี ๑ เฟื้ อง เอาพิมเสนกับดีเกลือกวนในโกร่ ง เอา
นํ้ามะกรู ดหยอดลงทีละน้อยจนหมดนํ้ามะกรู ด เอาไม้ไผ่ป่าสดกรอกยานั้นเข้า เอาใบบัวบก (ผักหนอก) ทํา
เป็ นจุกอุด แล้วหลามให้สุกจนนํ้าเป็ นสี เหลือง ถ้านํ้ายังเป็ นสี ขาวยังใช้ไม่ได้ เมื่อหลามเสร็ จแล้วเอาใส่ ขวด
เก็บไว้ใช้หยอดตาวันละ ๑ ครั้งในเวลาเย็นพระอาทิตย์ตกแล้ว ใช้แก้โรคตาดีนกั ตาขาวเป็ นลูกลําไยก็ใช้ได้
คนตาไม่เห็นใช้ยานี้หยอดตาจะดีข้ ึน
๑๔๖

ว่าด้ วยโรคฝี และยาแก้


ฝี มีหลายประการ มีท้ งั ฝี ภายในและฝี ภายนอก ฝี ภายในนั้นถ้ามันตั้งหัวเป็ นหัวขึ้นแล้วรักษายาก ถ้า
ยังอ่อนอยูร่ ักษาไม่สู้ยากนัก ท่านให้เร่ งยารุ แลพอกยาจงหนัก อย่าให้ทนั ทันตั้งหัวเป็ นหนองขึ้นได้ ฝี ภายใน
นั้นเมื่อมันจะตั้งขึ้นมักจะเป็ นบิด หรื อลงท้องเป็ นมูกเลือดมาก่อน เมื่อเป็ นดังนั้นหลายครั้งหลายหน เป็ นแล้ว
หายไปแล้วเป็ นมาอีกเล่า มีอาการหายใจเจ็บปวดในท้องแลในอก อาการดังนี้ ฝีเริ่ มเกิดขึ้นแล ถ้าจะใคร่ รู้วา่
เป็ นฝี จริ งหรื อไม่ ท่านให้ทาํ ยาทาดู เอาหญ้าปี นตอ พริ กไทย กระเทียม ปูนขาว เอาเท่า ๆ กันบดให้ละเอียด
ละลายสุ ราทาภายในบริ เวณที่เจ็บนั้น ถ้ามิใช่เป็ นฝี อาการที่เจ็บนั้นจะหายไป ถ้าอาการเจ็บนั้นมิถอยท่านว่า
เป็ นฝี แล ถ้ายังสงสัยอยูท่ ่านให้เอาเหล็กเผาไฟให้ร้อนแล้วเอาจุ่มนํ้าโกรกลงที่เจ็บนั้น ถ้ามีอาการร้อนแสบเข้า
ไปภายในท่านว่าเป็ นฝี แน่ แลท่านให้เอายานี้พอกต่อไป เอาพรมคดตีนเต่า ฆ้องสามย่าน ใบลําโพง ใบ
ผักหวานบ้าน ใบหญ้านาง เขาควาย ตําเป็ นผงบดแทรกเกลือพอก
เมื่อเรารู ้วา่ ฝี ต้งั ขึ้นที่ใด ท่านให้เศกนํ้ามันด้วยตรี สิงเหทา ถ้าฝี น้ นั ยังมิได้ต้ งั หัว ท่านให้เศกนํ้ามันดิบ
ราดลงตรงที่เจ็บนั้น ให้เศกนํ้ามันด้วยตรี สิงเห ๗ คาบ แล้วให้กินยารุ ต่อไป เมื่อทําดังนี้แล้วยังมิหาย ท่านว่า
จะเป็ นฝี หวั ควํ่าร้อยนักรักษายากแล
ถ้าจะชักฝี ออกจากที่สาํ คัญ ให้เอาลูกลําโพงกาสลักตําเอาผ้าห่อชุบนํ้ามันดิบ แล้วเอาเหล็กเผาไฟแดง
แล้วเอาห่อยายีลงที่เหล็กแดงนั้น แล้วเอามาเช็ดหัวฝี จะย้ายให้ไปอยูต่ รงไหนก็เช็ดไปถึงตรงนั้น
ยาเกลื่อนฝี ในท้อง เอาใบส้มป่ อย ใบมะขาม ใบมะยม ใบมะเฟื้ อง ใบมะงัว่ ใบมะนาว ใบมะกรู ด
ขมิ้นอ้อย มหาหิ งคุ ์ บดด้วยสุ ราพอกตรงที่เจ็บนั้น
ยาต้มแก้ฝีในท้อง เอาตับเต่าทั้ง ๒ เปล้าทั้ง ๒ รากทนดี รากสลอดต้น ใบผักเสี้ ยนผี ขอบชะนางทั้ง
๒ รากเข้าไหม้ รากนมสวรรค์ เข้าข้า ต้มด้วยนํ้าก็ได้สุราก็ได้ กินแก้ฝีหวั ควํ่า หายแล
ยาดับพิษฝี เอาโพกพาย เชื อกเขาหนัง ใบสัก รากหนามพรมใบมะกา รากตองแตก ราก...ทะรุ น
ค้อนกลอง ยาดํา ต้มกิน
นํ้ามันตัดรากฝี ในท้อง เอาเปลือกขนุนหนัง ใบระงับ หญ้าปากควาย หญ้าแพรกเผือก ใบมะยม ใบ
มะเฟื้ อง ใบหมากผู ้ ใบมะแว้งทั้ง ๒ ใบมะเขือขื่น ใบสลอด ๑๐๘ ใบ มะพร้าว ๓ ลูก เอาเนื้อค้นเอากะทิหุง
เป็ นนํ้ามัน เมื่อจะหุ งให้ต้งั ขวัญข้าว ๑ บาท ผ้าขาว ๑ ผื่น(ผืน) เมื่อจะกินให้เศกด้วยสัพพาสี กิน
นํ้ามันรุ ฝี เอาเปลือกแลใบสะเดา ใบแลเปลือกขนุ น ใบแลเปลือกสลอด หญ้าปากควาย เถาคัน ขมิ้น
อ้อย มะพร้าวไฟ ๓ ลูก ขูดเอาเนื้อคั้นเอากะทิหุงนํ้ามันกินรุ ฝี หายแล
ยารุ ฝี ๕ ดวง เอาสลอดกับนํ้าอ้อยแดงเคี่ยวให้แห้ง เอาลูกจันทน์ ๓ บาท สมุลแว้ง ๓ บาท เมล็ด
สลอด ๕ บาท บดละลายนํ้าผึ้งกิน ผูห้ ญิงกินมื้อละ ๑ เฟื้ อง ผูช้ ายกินเมื่อละ ๑ สลึง
ยาดองแก้ฝีในท้อง เอาเปล้าทั้ง ๒ โพกพาย แก่นมหาด มะกา คุคะ เถามวก รากเท้ายายม่อม ตูมก(ตูม
กา)ทั้ง ๒ รากตองแตก แส้มา้ ทะลาย บุกเครื อ รากสี หวด รากระงับ หว้านกีบแรด เอาสาระพัดเขี้ยว กระดูกงู
เหลืม(งูเหลือม) หว้านร่ อนทอง ข่า หว้านนางคํา หว้านสี สมแล้ว รังมด นอแรดดองด้วยสุ รากินตัดราก
ฝี ในท้อง ๗ ประการ หายแล
๑๔๗

ยาพอกทดลองฝี ในท้อง เอาหน่อไม้ ปูนขาว พริ กไทย กระเทียม ตําพอก ถ้าเป็ นลมเมื่อพอกยานี้แล้ว
หายเจ็บท้อง ๆ อ่อน ถ้าเป็ นฝี ท้องนั้นแข็งแลเจ็บถูกมิได้
ยาทดลองว่าจะเป็ นฝี หรื อมิใช่ เอาเหล็กเผาไฟให้ร้อน แล้วเอานํ้ารดลงตรงที่เจ็บนั้น ถ้าร้อนแลแสบ
เข้าไปข้างใน ท่านว่าเป็ นฝี ถ้าร้อนแต่มิแสบเข้าไปข้างใน ท่านว่าใช่ฝี
ยาพอกเกลื่อนฝี เอาหว้านนํ้า ใบมะเฟื อง ใบประคําไก่ พริ กไทย ขิง กระเทียม ตําให้แหลกพอก
พิมพ์เพิม่ (ยาแก้เกลื่อนฝี ๗ ประการ เอาใบผักบุง้ หอมแดง พริ กไทย ขิง กระเทียม ตําให้แหลกพอก)
ยาแก้ฝีหวั ควํ่า เอาใบรัก มะแว้งเครื อทั้งลูกทั้งใบ มะเขือขื่นทั้งลูกทั้งราก ลําโพงทั้งลูกทั้งราก ขี้ววั
ขี้ควาย ดีงูเหลือม ลูกประคําดีควาย เนระภูษี สันพร้านางแอ รากก้างปลาแดง บดให้ละเอียดหุ งให้คงแต่น้ นั
กินก็ได้ทาก็ได้ แก้ฝีภายใน
ถ้าเป็ นฝี มยวงหัวเขียวขึ้นมา ๔ หัว ถ้าเป็ นแต่ ๒ หัวให้เร่ งรักษาจงหนักร้ายนัก ถ้าจะลองดูให้รู้วา่
เป็ นฝี หรื อมิใช่ ให้เอาใบส้มโอที่ไม่แก่นกั ไม่อ่อนนัก ๓ ใบ ให้เคี้ยวกินเข้าไป ถ้าอาเจียนออกมาท่านว่าเป็ นฝี
แท้
ถ้าเป็ นฝี หวั ควํ่า มันเป็ นแต่ทอ้ งน้อยใต้สะดือลงไป ถ้าเป็ นทางขวาเป็ นตัวผู ้ เป็ นทางซ้ายเป็ นตัวเมีย
ฝี น้ นั ถ้าเป็ นหนองแล้วลําบากแต่มิเป็ นไร ถ้าฝี เป็ นที่หวั เหน่าแลท้องน้อยลําบากมาก ให้เร่ งรักษาจงดี
ยาถ่ายฝี เอารากเจ็ตพังคี รากสี หวดใหญ่ รากหญ้านาง รากก้างปลาแดง รากคูน เชือกเขาหนัง ราก
ทนดี รากคนทา สันพร้านางแอ รากพิลงั กาษา เอาเสมอภาค ต้ม ๓ เอา ๑ กิน ประจุลมทั้งปวงแลประจุฝีร้าย
ภายใน หายแล
ยาเกลื่อนหรื อดับพิษฝี ในท้อง ๗ ประการ เอาเขาแพะ งาช้าง นอแรด หวายตะคร้า เนระภูษี เขี้ยว
แรด ฝนกิน
ยาแก้ฝีฝน(ใน)ท้อง เอารากตองแตก รากชะอม รากพุมเรี ยงป่ า รากคูน รากมะกลํ่าตาช้าง รากหอม
รากมะฝ่ า รากมะขามป้ อม ต้มกิน
ยาผายหัวฝี ในท้อง เอาการะบูน สารส้ม ดินประสิ วขาว หอมแดง ห่อผ้าแช่สุรากินตามกําลัง
ยาชื่อฝนแสนห่า แก้ฝีหวั ควํ่า พอกให้ดูดหนองออกมาข้างนอก เอาใบลําโพง ใบมะระ ใบตําลึง ใบ
นํ้าเต้า ใบชิงช้าชาลี ใบบอระเพ็ด(บระเพ็ด) ใบสะเดา ผักขวง ดินประสิ วขาว ขี้โค ปลาช่อนสดเอาแต่เนื้ อ ตํา
พอกฝี หวั ควํ่าให้เป็ นหนองออมาข้างนอก
ยาทดลองฝี ในท้อง เอาใบหนาด พริ กไทย ขิง กระเทียม ปูนขาว บดเคล้านํ้าผึ้งพอก ถ้า.... ฝี ร้อนทน
มิได้ ให้พอกยานี้ต่อไป หายแล
ยาชักฝี ให้พน้ ที่สาํ คัญ เอาขมิ้นอ้อย ไพล ข่า หอม หว้านนํ้า ใบมะกรู ด กะทือ บดละลายนํ้าทา
ยาชื่อฝี แสนห่า สําหรับเกลื่อนฝี เอานมแพงพวย ขมิ้นอ้อย ใบว่านนํ้า เทียนดํา ขี้โคสด ข้าวสุ ก บด
พอกฝี
ยาชื่ออินทจอน สําหรับประจุฝีร้ายทั้งปวง เอานํ้าประสานทอง เกลือสิ นเธาว์ ใบสมอทะเล .... บาท
ลูกผักชีลอ้ ม ขิงแห้ง ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ดีปลี พริ กไทยล่อน โกฏสอ เอาสิ่ งละ ๑ สลึง เมล็ดสลอดประสระ
๑๔๘

แล้ว ๖ สลึง นํ้าร้อนเป็ นกระสายบดปั้นแท่งเท่าเมล็ดนุ่น ผูใ้ หญ่กิน ๑๑ เม็ด เด็กกิน ๕ เม็ด แก้ฝีปลวกฝี
มะเร็ งทรวง การะสู ตร ฝี หวั ควํ่า ฝี ในมดลูก และเป็ นชํ้ารั่ว แก้ริดสี ดวงและสันนิบาต แก้หญิงคลอดลูกอยูไ่ ฟ
มิได้ แก้หืดไอต่าง ๆ ถ้าต้องปื นผาหน้าไม้กินยานี้แล้วหายแล
ยาเกลื่อนฝี เอาผักเป็ ดแดง หน่อไม้ไผ่ป่า ปูนขาว เมล็ดผักกาด ขมิน้ อ้อย ไพล ขิงสด ประคําไก่
พริ กไทย ตําพอก
ยาแก้ฝีในท้อง เอารากตับเต่าทั้ง ๒ รากชิงชี(ชิงชี่) รากพุงดอ รากง้วนหมู ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาดองแก้ฝีในท้อง เอาแก่นสน รากพุงดอ รากคาง รากชุมเห็ดไทย เอาสิ่ งละ ๔ บาท ดองกับสุ รา ๗
วัน กิน
ยาผานหนองฝี ในท้อง เอารากนมแมว รากมะตูม รากคัดเค้า รากหางนกยูง ต้มให้งวดแล้วเอาสุ ราใส่
ลงกิน
ยาผายหนองฝี ในท้อง เอารากตองแตก รากผักเข้า รากคัดเค้า รากขี้กาแดง ต้มกิน
ยาถ่ายเลือดแลหนองฝี เอาพรมคดตีนเต่า ฆ้องสามย่าน ลําโพง ผักหวาน ขี้แรด หญ้านาง ขมิ้นอ้อย
ข้าวเบื่อ เกลือ ตําพอก
ยารุ เลือดแลหนอง เอาใบส้มป่ อย ต้ม ๓ เอา ๑ เอาถ้วยเดียว เอาต้มกับรากส้มให้เดือด ๓ พลุ่ง แทรก
ดินประสิ ว ๑ หยิบกิน
ยาผ่าหัวฝี ในท้องให้แตก เอารากคัดเค้า รากกระทุ่ม เถาวัลย์เปรี ยง ฝักราชพฤกษ์ ต้มกิน
ยาประสระหัวฝี เมื่อฝี แตกแล้ว เอาเถาสะบ้า ผักแพวแดง เถาบอระเพ็ด นมสวรรค์ เปลือกสะเดา เชื่อ
เขาหนัง เปลือกหมากสง ต้มกิน
ยาแก้ฝีในท้อง เอาโกกทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ กฤษณา กระลําภัก จันทน์ท้ งั ๒ พริ กไทย ขิง กระเทียม หัว
หอม ไพล ดีปลี ขมิ้นชัน สารส้ม ดีงูเหลือม มหาหิงคุ์ ชะเอม หว้านกีบแรด หว้านร่ อนทอง บดปั้นแท่ง
ละลายสุ รากิน
ฝี หวั ควํ่ามี ๗ ประการ แต่ฝีหวั ควํ่า ๖ ประการนั้น ถ้าตั้งหัวเสี ยแล้วรักษายากไม่ใคร่ รอด ให้รีบรักษา
เสี ยแต่เมื่อยังอ่อนอยู่ ต้องให้กินยาผายเสี ยก่อน ถ้าจะใคร่ รู้วา่ เป็ นฝี หรื อลม ให้พิจารณาดูการถ่ายอุจจาระของ
ผูป้ ่ วย ถ้าท้องเดินเป็ นมูกเลือด เป็ นเลือดก้อนออกมาแล้วหายไป แล้วกลับเป็ นอีกเล่า หากเจ็บปวดในอกใน
ใจ ท่านว่าเปิ ดฝี ในท้อง เพื่อให้ทราบแน่นอน ให้ทาํ ยาพอกดู เอาหน่อไม้ ปูนขาว พริ กไทย กระเทียม เอา
เสมอภาค ดําพอกตรงที่เจ็บนั้น ถ้ามันเลื่อนเกลื่อนไป จากที่เจ็บนั้น ท่านว่าเป็ นลม ถ้ามันยังเจ็บอยูท่ ่านว่า
เป็ นฝี ถ้ามันมิร้อนมิแสบเข้าไปท่านว่าเป็ นลม ถ้าเป็ นข้างซ้ายชื่อสุ กรวาส ถ้าเป็ นที่สะดือชื่อธะนูทาน
ยาพอกฝี ๖ ประการ เอาใบประคําไก่ ขมิ้นอ้อย ฝ้ายเทศ กุ่มทั้ง ๒ ข้าวตัวก้นหม้อ ตําละลายสุ รา เอา
ใบตองกล้วยลนไฟปิ ดท้องน้อย เอายาพอกบนใบตองนั้น
ยาพอกฝี ๗ ประการ เอาพรมคดตีนเต่า หนามพรม ฆ้องสามย่าน ผักวานบ้าน ลําโพง ใบหญ้านาง
ขมิน้ อ้อย ข้าวเบือ เกลือพอควร ตําพอกฝี ๗ ประการ
๑๔๙

ยาชักฝี ออกจากที่สาํ คัญ เอาลูกลําโพงกาศลัก(กาสลัก)มาตําพอกที่ฝีน้ นั แล้วเอาลูกลําโพงมาตําห่อ


ผ้าชุบนํ้ามันดิบ เอาเสี ยมเอาไฟให้แดง เอายานั้นเช็ดที่เสี ยมนั้น แล้วเอาเช็ดที่ฝี ในขณะที่เอายาเช็ดเสี ยมนั้น
ให้เศกคาถานี้แล้วเป่ าลงที่ฝีพร้อมกับเช็ดยานั้น คาถาว่าดังนี้ อมจิง อมจิง คําคําจง .... สวาหะ ให้ทาํ ๓ วัน
ยาแก้ฝีในท้อง เอารากสี หวด รากพุมแรง รากตับเต่าใหญ่ รากตาลหม่อน รากมะเขือขื่น รากเพกา
รากขัดมอญ ต้ม ๓ เอา ๑ กิน แก้ฝีทรวงธะนู
ยาดับพิษฝี เมื่อแตกแล้ว เอารากคัดเค้า รากคันขง เถาวัลย์เปรี ยง ฝักราชพฤกษ์ ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาแก้ฝี ๗ ประการ เอางาช้าง นอแรด กระดูกงูเหลือม เขาวัว ข่าแด่ ขมิ้นอ้อย ไคร้เครื อ ระย่อม ฝน
กับสุ รากิน
ยาแก้ฝีภายใน ๗ ประการ เอาเนระภูษี พระยารากขาว ประคําดีควาย รากไคร้เครื อ ลูกเบ็ญกานี
จันทน์แดง หวายตะคร้า ดีงูเหลือม บดละลายสุ รากิน
ยาแก้ฝีภายใน ๗ ประการ เอาเชือกเขาหนัง ไม้สัก บอระเพ็ด รากทรงบาดาล หัวแห้วหมู แก่นสน
ผักเสี้ ยนผี ข่าแด่ ต้มด้วยสุ รากิน
นํ้ามันรุ ฝีหัวควํ่า เอาใบหมอน้อย เอื้องเพ็ดม้า หญ้าปากควาย หญ้าแพรก หญ้าไซ ผักเป็ ดแดง
ใบขนุน ขมิ้นอ้อย ขี้ววั ใบตําลึง ใบสลอด ลูกสลอด ๓๓ ลูก นํ้ามันพอควร เคี่ยวกับยาที่ตาํ นั้น กินถ่ายฝี หวั
ควํ่าในท้อง
ยาทดลองฝี ในท้องว่าจะรักษาได้หรื อไม่ได้ เอามะนาว ๓ ผลบีบเอานํ้ากิน เมื่อกินนํ้ามะนาวแล้ว
รู ้สึกแสบในอก รักษาได้แล
ยาแก้ฝีในท้อง ฝี มดลูก ฝี ดาด เอาลูกมะกรู ด ๓ ลูก ฝักส้มป่ อย ๗ ฝัก ข่า ขมิ้นอ้อย มะขามเปี ยก ก้าน
สะเดา ๓๓ ก้าน ยาดํา ๑ บาท ต้มด้วยสุ ราครึ่ งนํ้าครึ่ ง เมื่อจะต้มเอาข้าวตอดดอกไม้ เทียนหนัก ๑ บาท เงินผูก
คอหม้อ ๑ บาท ให้บูชาจงดี เมื่อจะกินเศกด้วยประจุขาด ๗ หน
ยาสู ญฝี ภายใน เอาหน่อไม้ ปูนขาว พริ กไทย กระเทียม ตําพอกฝี มดลูก
ยาแก้ฝีมดลูก ฝี หวั ควํ่า ฝี ในท้อง เอาใบพรมมิ ยาดํา ๑ บาท มะพร้าวไฟ ๓ ลูก เอาซี ก .... หัวทั้ง ๓
ซึ ก ขูดคั้นเอากะทิ ใบพรมมิตาํ คั้นเอานํ้า หุ งให้คงแต่น้ าํ มัน กินในวันเสาร์ วันอังคาร อาการโรคหนักกินวัน
ละ ๓ เวลา ถ้าอาการโรคเบากินวันละ ๒ เวลา กินเวลาละช้อนหอย ถ้ากลัวจะลงมากเอาขี้ววั สดใส่ ดว้ ย
ยาถ่ายหนองฝี หวั ควํ่า เอารากสลิด รากสลัดได ใบกําเม็ง ใบประคําไก่ หัวหองดึง เอาสิ่ งละเท่ากัน
บดด้วยนํ้ามะนาวกิน ๗ วัน หนองในท้องในทวารตกออกหมดแล
ยาพอกฝี หวั ควํ่า เอาพรมคดตีนเต่า ใบฆ้องสามย่าน ใบลําโพงกาสลัก ใบผักหวานบ้าน รากหญ้านาง
ขมิ้นอ้อย ข้าวเบือ ตําพอก
ยาพอกฝี หวั ควํ่า เอาหว้านนํ้า ใบประคําไก่ กะทกรก กระเทียมตําพอก
ยาตัดรากฝี เอาก้างปลาแดง แก่นขี้เหล็ก แก่นมหาด แก่นมะขาม ขันทองพะยาบาท ฝาก รากหญ้าคา
หัวแห้วหมู กระจับบก เอาเสมอภาค ต้มเอายาดําแทรกกิน
๑๕๐

ยานํ้ามันถ่ายฝี ถ่ายก่อนกินยาอื่น เอาเปลือกมะรุ ม เปลือกทองหลาง เปลือกกุ่มทั้ง ๒ หางไหลแดง


ไพล กระชาย ผักเป็ ดแดง ผักคราด โคกกระออม รากตองแตก ลูกคัดเค้า ใบคูน เนื้ อฝักคูน ขมิ้นอ้อย มะพร้าว
๑ ลูก เมล็ดสลอด ๓๓ เมล็ด มะพร้าวคั้นเอากะทิ เครื่ องยาทั้งหลายบดให้ละเอียด แล้วหุ งให้คงแต่น้ าํ มัน ธาตุ
เบากิน ๑ ช้อนหอย ธาตุหนักกินมากขึ้น ยานี้แก้ลมและริ ดสี ดวงแลฝี หายสิ้ น ใช้เห็นคุณมาแล้ว
ยาแก้ฝีในหู เอาคราบงูเหลือมเผาไฟให้ไหม้ ขนเม่นเอา(เผา) บดละลายนํ้ามันงาหยอดและทา
ยาแก้ฝีในหู เอารากเท้ายายม่อม รากอัญชันขาว บดเป็ นผงหุ งด้วยนํ้ามันงาใส่ หู
ยาแก้ฝีในหู เอาแก่นไม้สักฝนด้วยสุ ราใส่ เมื่อจะทํายานี้ให้ต้งั ขวัญข้าว หมาก ๓ คํา เบี้ย ๓ เบี้ย
ยาแก้ฝีในหู เอาเทียนสัตบุษย์ ใบผักไห่ บดหุ งด้วยกะทิมะพร้าวไฟ ใส่ หู
ยาแก้ฝีลาํ เสา เอาข้าวเหนียว ๓ ปั้ น เปลือกทิ้งก่อน ไม้รวก ขมิ้นอ้อย ๗ แว่น ยาทั้งนี้ ให้ไหม้ ตําพอก
ฝี ลาํ เสา
ยาแก้ฝีมดลูก เป็ นเพราะเลือดเสี ย เอาใบผักเสี้ ยนผี เอาใบผักเสี้ ยนผี ใบกุ่มทั้ง ๒ ใบประคําไก่ ใบ
ค้อนกลม หว้านนํ้า หัวอุตพิด พริ กไทย ดีปลี รากเจ็ตมูลเพลิง ใบสลอด ใบเขยตาย เขม่าไฟ สารส้ม มหาหิ งคุ์
เอาเสมอภาค บดละลายสุ รากิน
ยาแก้ฝีมดลูก ฝี มุตกิต เอาบอระเพ็ด(บระเพ็ด) ๑ ทนาน ข้าวสาร ๑ ทนาน เกลือ ๑ ทนาน สุ รา
ครึ่ งทนาน ดองกิน
ยาแก้ปวดฝี มุตกิดเมื่อเป็ นหนอง เอารากกะตังบาย รากเขยตาย ยาเข้าเย็น เอาสุ ราครึ่ งนํ้าครึ่ ง ต้มกิน
ยาแก้ฝีมุตกิดและฝี ต่าง ๆ เอาเถาคันแดง เถาวัลย์เปรี ยง ประคําไก่ ยา ๓ สิ่ งนี้ตม้ เอานํ้า . เกลือ ๑ ถ้วย
นํ้าส้มมะขามเปี ยก ๑ ถ้วย พริ กไทยตําห่อผ้าดองตาแดดตากนํ้าค้างไว้กิน
ยาแก้ฝีกาฬโมลาในคอ กินข้าวกินนํ้ามิได้ เอาปลาหมอ ๑ ตัวปิ้ งพอสุ ก เอาเนื้ อออกทิ้ง กระดูกเผาไฟ
ให้ไหม้ หู กระแชงจากเผา บดเป็ นผง เอาครั่งดิบแช่น้ าํ เอานํ้าละลายยานี้กิน
ยาแก้ฝีกาฬโมลาในคอ ถ้าแก้ไม่ทนั ๓ วันตาย เอาเบี้ยจัน่ ๕ ตัว รากสลอดนํ้าฝนกับนํ้า เอาดีงูเหลือม
พิมเสนแทรก ชุบสําลีอม
ยาสมานฝี กาฬในคอ เอาอกตะพาบนํ้า นํ้าตาลกรวด พิมเสน บดเป็ นผงเป่ าเข้าในคอ
ยาแก้ฝีกาฬในคอ กินข้าวกินนํ้ามิได้ เอาฝาง กําลังวัวเถลิง แรแร ผมคนเผาไฟ บดเป็ นผง ละลายสุ รา
ชุบสําลีอม
ยาแก้ฝีกาฬโมลาในคอ เอาเข็มป่ า เดือยไก่ป่า รากมหาละลาย เกลือ ๓ เม็ด บดละลายสุ รากินบ้างอม
บ้าง หรื อละลายนํ้ามะนาวก็ได้
ยาแก้ฝีกาฬโมลาในคอ เอาหอมโทน ๓ หัว นํ้าอ้อยแดง ๓ งบ ต้มกิน
ยาแก้ฝีในท้องทุกชนิด ฝี มดลูก เอาดอกไม้ธูปเทียนกับเงิน ๑ สลึง ไปพลีเอารากสะบู่มาต้มกิน ยานี้
ใช้ได้ผลมาแล้ว ตําราของหลวงพ่อสาต
๑๕๑

ยาแก้ฝีในท้องเมื่อหนองแตกแล้ว เอารากข้าวสารดํา รากมะกลํ่าเครื อ เอาใส่ ในหวด เอา . ๑ ทะนาน


ใส่ ในหม้อ นึ่งสามหน นึ่งครั้งแรกเอาธู ปจุดให้หมด ๑ ดอก ครั้งที่ ๒ เอาธูปจุดหมด ๒ ดอก ครั้งที่ ๓ เอา
ธูปจุดหมด ๓ ดอก เอานํ้าสุ ราในหม้อนั้นมากินครั้ง ๑ ชั้นโต๊ะ
ยาทาดับพิษฝี เอานอแรด งาช้าง กระดูกงูเหลือม เขากวาง ขมิน้ อ้อย รากโลดทนง แส้มา้ ละลาย ฝน
ด้วยสุ ราทาเฉพาะฝี ๑๖ หัว หายแล
ยาพอกฝี ร้ายในท้อง เอาฆ้องสามย่าน ว่านหางจรเข้ ใบมะกลุ่ม ใบนํ้าเต้า ผักเป็ ดแดง ใบกรอบแกรบ
ใบลําโพง ใบระงับพิษ หญ้างวงช้าง ขมิ้นอ้อย ตําพอก
ยาแก้ฝีในท้อง เอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู เทียนทั้ง ๕ พริ กไทย ขิง ดีปลี กระชาย
ปูนขาว ตําพอก ๑ วันเอาทิง้ ทําพอกใหม่ต่อไป
ยาพอกฝี ในท้อง เอาใบประคําไก่ ขมิ้นอ้อย ใบทรงบาดาล ใบฝ้ายเทศ ใบกุ่มทั้ง ๒ ตําละลายสุ รา เอา
ใบกล้วยตีบลนไฟปิ ดท้อง แล้วเอายาพอกข้างบนใบตองนั้น
ยาพอกทดลองฝี เอากระเทียม ขิง หน่อไม้ ปูนขาว บดพอกท้อง ถ้าเป็ นฝี ร้อนทนไม่ได้เลย ถ้าไม่ร้อย
ก็ไม่ใช่ฝีแล
ยาทดลองฝี ในท้อง ซึ่ งมีอาการปวดอยูใ่ นท้องนั้น เอารากชุมเห็ดเทศ รากพุงดอ ฝนด้วยสุ รากินบ้าง
ทางบ้าง ถ้าหายปวดไม่ใช่ฝี ถ้ายังปวดอยูเ่ ป็ นฝี แล
ยาสู ญฝี ในท้อง เอารากโรคแดง รากพลูแก รากตองแตก ฝนกับสุ รากิน
ยาสู ญฝี ในท้อง เอารากชุ มเห็น(ชุมเห็ด) รากผักเสี้ ยน รากพุงดอ ข่าแก่ เอาสิ่ งละ ๖ บาท หอมแดง ๔
บาท ต้มกิน
ยาแก้ฝี ๑๖ จําพวก เอารากสี หวด รากกระทุงลาย รากหญ้านาง รากมะกา ขอบชะนางแดง ยาเข้าเย็น
๕ ตําลึง ต้มกิน
ยาแก้ฝี ๑๖ จําพวก เอารากตะลุมพุก รากคูน รากโพกพาย รากโพบาย รากค้อนกลอง ต้มกิน
ยาแก้ฝีในท้อง เอารากเปล้าทั้ง ๒ รากก้างปลาแดง รากโพบาย รากหญ้านาง ต้มกิน
ยาแก้ฝีในท้อง เอาพริ กไทย ใบประคําไก่ เปลือกตาเสื้ อ หางไหล สันพร้ามอญ ตูมกาทั้ง ๒ ต้มอม ๓
เอา ๑ กิน ยานี้ใช้ได้ผลมาแล้ว
ยาแก้ฝีในท้อง ๑๖ หัว เอาขิง ๕ ตําลึง ใบเลี่ยน ๖ บาท บอระเพ็ด ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาผายหัวฝี ในท้อง เอานํ้ามะนาว ๙ ลูก พริ กไทย ๗ เม็ด ขิง ๗ แว่น กระเทียม ๗ กลีบ ขมิน้ อ้อย บด
ให้ละเอียดละลายกับนํ้ามะนาว เอาปิ้ งไฟให้เกรี ยมแล้วบดแบ่ง ๗ ส่ วนเอา ๒ ส่ วน ละลายนํ้าท่าเท่านํ้า
มะนาวกิน ถ้าท้องไม่เดินเอานํ้าหยดเหล้ากิน ท้องเดินแล
ยาแก้ฝีในท้อง ๑๖ หัว เอาแก่นประดู่ แก่นไม้สัก แก่สน แก่นคูน แก่นมหาด แก่นมะเกลือ แก่นมะกา
แก่นมะขาม แก่นขนุน สักขี แก่นขี้เหล็ก ส้มกุง้ จุกหอม ฝักคูน ต้มกิน
ยาดับพิษฝี ในท้อง เอารากตาลดํา ตาลขะโมย แก่ประดู่ ว่านร่ องทอง รากตับเต้าใหญ่ ขี่ววั พ้อม ดีงู
เหลือม ดองด้วยสุ รากิน
๑๕๒

ยานํ้ามันแก้ฝีในท้อง แก้ฝี ๑๖ ประการ เอาพริ กไทย ๖ จอก กระเทียม ๑ จอก ลูกจันทน์ ขมิ้นอ้อย
ลูกสลอด ๕ ลูก ดอกจันทน์ เมล็ดสลอดนั้นให้ประสระด้วยนํ้าปลาปากไห เอายาทั้งหมดบดใส่ ในนํ้ามัน เมื่อ
ทํายานี้ให้เอาเงิน ๑ บาทบูชาเจ้าของตํารา คือ พระยาจักรศรี และตาด้วง เอาขี้น้ าํ มันปั้นเท่าเมล็ดพริ กไทย กิน
ตามอายุหนักเบา แก้ริดสี ดวงมองคร่ อ เด็กเป็ นตานซางผอมแห้งก็ได้
ยาทดลองฝี ในท้อง เอาขอบชะนางแดงมามัด ๓ เปลาะต้มกิน ถ้าเป็ นฝี อาการเจ็บปวดนั้นหายไปแล
ยาแก้ฝีในท้อง พลเอารากกะตังบายมาต้มกับยาเข้าเย็นกิน หายมามากแล้ว เวลาไปพลีน้ นั เอาหมาก
ไป ๑ คํา
ยาแก้ฝีในท้อง เอารากบานไม่รู้โรย ๓ ราก ต้มกิน
ยาทดลองฝี ในท้อง เอาลูกตําลึง ๓ ลูกต้มกิน ถ้าเป็ นฝี จะกลืนไม่ลง จะรากออกมาแล
ยาถอนหัวฝี เอาใบกรอบแกรบ ใบส้มเสี้ ยว ใบมะขาม ขมิน้ อ้อย ข้าวเบือบดพอกหัวฝี
ยาแก้ฝีในจมูก เอามะกรู ด หอมแดง ขมิ้นอ้อย ไพล เอาสิ่ งละ ๑ อัฐ นํ้ามันงา ๑ งอก ให้คงแต่น้ าํ มัน
เอาชุบสําลียอนเข้าในจมูก
ยาแก้ฝีกระหม่อม เอาเทียนดํา เทียนขาว ข่า ขมิ้นอ้อย บดพอกหัวฝี น้ นั
ยาแก้ฝี ถ้าฝี ข้ ึนข้างหลัง ๑ ท้ายทอยหัว ๑ ชื่อมะเร็ งดอกบัว เอาใบส้มป่ อย ใบตําลึง ใบผักกระเฉด
ข้าวเหนียว ขี้ววั บดพอก
ยาแก้ฝี ถ้าฝี ข้ ึนที่กาํ ด้น คอต่อ ชื่อมะเร็ วทามควาย เอาผักแว่น ไคร้หางนาค ชุมเห็ดเทศ ใบส้มป่ อย
ใบมะขาม บดพอก
ยาแก้ฝี ถ้าฝี ข้ ึนที่หวั เหน่า ชื่ อรัตนบัลลังก์ เอามะแว้งต้นทั้ง ๕ มะแว้งเครื อทั้ง ๕ ใบรักขาว ใบรัก
ซ้อน ฆ้องสามย่าน บดพอก
ยาแก้ฝี ถ้าฝี ข้ ึนที่แก้ม ที่ขา ชื่อมะเร็ งตะมอย เอาใบมะขาม ใบส้มป้ อย ฆ้องสามย่าน ขมิ้นอ้อย ดีปลี
เทียนดํา เทียนขาว บดพอกหรื อทาฝี นั้น
ยาแก้ฝี ถ้าฝี ข้ ึนริ มฝี ปาก ชื่อเลี่ยมสมุทร ๓ วันตาย เอายาดํา ข่า กระเทียม ปูนผง ขมิ้นอ้อย บดด้วยนํ้า
มะนาวพอก
ยาแก้ฝี ถ้าฝี ข้ ึนที่คอ ชื่อเพ็ชรนู เอาใบกรด ลิ้นนาคราช ใบผักแพว ใบสะอึก บดด้วยนํ้ามะนาวทา ถ้า
มิฟังเอาใบชุมเห็นเทศ หญ้าเกล็ดหอย ใบหิ งหาย ใบข้าวเหนียว ขมิ้นอ้อย บดด้วยนํ้ามะนาวพอก
ยาแก้ฝี ถ้าฝี ข้ ึนที่คอหอย ชื่อ คันทะมาลา เอาข่า กระเทียม ปูนผง ขมิน้ อ้อย บดด้วยนํามะนาวพอก
ยาแก้ฝีเน่าเปื่ อยทั้งปวง เอาใบพุดซา ใบผักเข้า จุนสี เบี้ยจัน่ ๓ ตัว บดทาบ่อย ๆ
ยาแก้ฝีมยวง เอาแก่นมะหาด แก่นขี้เหล็ก หญ้าหนวดแมว เชือกเขาไฟ ยาเข้าเย็น ดองด้วยสุ รา ๓ วัน
กิน
ยาแก้ฝีประคําร้อย เอารากมะกรู ด รากมะนาว หัศกุนเทศ ข่า ฝนด้วยนํ้ามะนาวทา
ขี้ผ้ งึ ปิ ดฝี ประคําร้อย เอายาดํา มหาหิ งคุ ์ ทําเป็ นขี้ผ้ งึ ปิ ดฝี ประคําร้อย
๑๕๓

ยาแก้ฝีประคําร้อยแลฝี คนั ทะมาลา เอาสะแก ทั้ง ๕ หุงเอา ๔ เอาการะบูนประสมใส่ แผล ๑ วัน เอา
พลูแกทัง ๕ ยาเข้าเย็น ๕ ตําลึง เศกด้วยสักกัตวา สัพเพโรคา ทั้ง ๓ บท เอาเงินผูกคอหม้อ ๑ สลึง ต้มกิน กน
๔๐ วันหาย
ยาแก้ฝีประคําร้อย ฝี คนั ทะมาลา เอาสะแกทั้ง ๕ มาหุ งเอาชี่ เอาการะบูนประสมพอควร ใส่ แผลได้
วันหนึ่ง แล้วต้มยากิน เอาพลูแกทั้ง ๕ ยาเข้าเย็น ๕ ตําลึง เศกด้วยสักกัตวาทั้ง ๓ บท เอาเงินผูกคอหม้อ ๑
สลึง ต้มกินให้ได้ ๕๐ วัน หายแล
ยาแก้ฝีในท้อง แก้ไอ แก่ริดสี ดวง เอาผลมะตูม ๑ ผล ควักเอาเนื้อในออกให้หมด เอาขิงหัน่ เป็ นชิ้น
ใส่ ให้เต็ม เอานํ้าซาวข้าวใส่ แล้วสุ มไฟแกลบจนแห้ง แล้วเอาขิงออกบดให้ละเอียด เอาเนื้ อมะตูมบดปนกับขิง
เอาเกลือใส่ พอควร แล้วเอาใส่ ไว้ในลูกมะตูมนั้น เก็บไว้กินมื้อละพอควรดีนกั
ยาดับพิษฝี เอาใบพลูแก ๗ ใบ ใบหูเสื อ ๗ ใบ ใบเปราะหอม ๓ ใบ ใบผักหนอก ๙ ใบ พิมเสน ๒
สลึง ตํากรองเอานํ้ากินครั้งเดียวให้หมด ดับพิษฝี ดีนกั
ยาแก้ฝีในลําไส้เม็ดเล็กของท่านอาจารย์พรหม เอาดีเกลือ ๑๐ บาท เกลือ ๑ บาท โกฐนํ้าเต้า ๑ บาท
ดินประสิ ว ๑ บาท การะบูน ๑ บาท ยาดํา ๑๒ บาท รงทอง ๑ เฟื้ อง รงทองนั้นเอาห่ อใบข่าปิ้ งไฟให้เกรี ยม นํ้า
มะนาว ๓๓ ผล เอาเครื่ องยาบดใส่ ในนํ้ามะนาว แล้วเอาใส่ กะทะทองเคี่ยวให้เหนียวเอาใส่ โหลบูชาไว้ ณ ที่
พระสวดมนต์ ให้ได้ไตรมาศ เอากวาดคอดีนกั เมื่อทําให้ระลึกถึงท่านอาจาริ ย ์ เมื่อเคี่ยวให้เอาธู ปเทียนจุด
บูชาทุกครั้ง ประสิ ทธิ ดีนกั
ยาสู ญฝี ขา้ งนอก เอาใบกระเชา ขมิ้นอ้อย แป้งข้าวเหนียว ตําเข้าด้วยกันพอก ถ้าฝี แก่แล้วเอาใบตอง
กล้วยอ่อนรองเสี ยก่อน เอายาพอกบนใบตอง
ยาเกลื่อนฝี เอาใบสวาด ใบผักแพว ใบละหุ่ง พริ กไทย ๗ เมล็ด ขิง ๗ แว่น กระเทียม ๑ กลีบ บดด้วย
สุ ราพอกหรื อทา
ยาแก้ฝีในมดลูก เอาใบลําโพง ใบเสนียด ใบเข็มแดง ใบหนาด ลูกแป้ งเหล้า ปูนขาว เอาเสมอภาค ตํา
พอกท้องน้อยขับหนองออกสิ้ นแล
ยาแก้ฝีในท้องและฝี มดลูก เอาสี หวด เปล้าน้อย กระทุงลาย รากหญ้านาง ยาเข้าเย็น ต้มกินแก้ไขด้วย
ใช้ได้ผลมามากแล้ว
ยาแก้ฝีในท้องคู่กนั เอาเถาวัลย์เปรี ยง โพกพาย ผิวไม้บง ผิวไม้ไผ่ป่า คร้องแม่ควาย มะคังแดง ยาเข้า
เย็น เศกด้วยพระเจ้า ๕ พระองค์ ต้มกิน ฝี แตกแล้วก็แก้ได้
ยาแก้ฝีในคอ เอาเดือยไก่ป่า โหราเดือยไก่ ฝนกับสุ รากิน หายแล
ยาแก้ฝีคนั ธะโรค ฝี คนั ทะมาลาก็วา่ เอารากไก่ให้ฝนด้วยมาดทา หายแล
ยาแก้ฝีฟกทูม เอารากมะดูก รากหญ้านาง ฝนทา
ยาแก้ฝีหวั เหลือง หัวแดง หัวดํา เอาผักแพวแดงตําพอก
ฝี มนั หัวเขียว แก้ไม่ดี ๓ วันตาย
ฝี หวั เขียว พ่น ๓ วันมิฟัง เอาก้างปลาแดง รากชิงชี่ฝนทา
๑๕๔

ยาฝี เป็ นที่ขอ้ เท้า เอาดองดึง ลูกสะบ้า สารหนู จุนสี เกลือ บดปั้ นแท่งใส่ ฝีกดั หัวฝี ดีแล
ยาแก้ฝีคนั ทะมาลา เอาแคแดง ก้านตาล หญ้าใต้ใบ ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาแก้ฝีตะมอย เอาใบผักไห่ ใบพลูแก แป้ งเหล้า พริ กไทย หัวหอม บดปั้ นแท่งละลายสุ ราเป็ น
กระสาย ถ้ามิฟังเอาใบพลูแก ข่าแก่ ลูกแป้ งเหล้า พริ กไทย กระเทียม ตําลงด้วยกัน เอาสุ ราเป็ นกระสายทา ถ้า
มิฟังเอาข่าแก่ รากสะเดา ฝนด้วยกันแทรกสุ ราใส่ หายแล
ยาแก้ฝีมะเร็ ง เอาใบฝักพร้า ใบตําลึงตัวผู ้ ใบผักปลัง ใบเทียน ฆ้องสามย่าน ตําทา
ยาแก้ฝีมะเร็ ง เอาฝิ่ นต้น หัวกระเช้าผีมด ใบทองหลางใบมน ขมิ้นอ้อย ใบตําลึงตัวผู ้ ตําทา
อีกขนานหนึ่ง เอาใบเถาวัลย์เปรี ยง เปลือกทองหลาง ข่าแก่ ตําละลายเหล้าทา
ยาแก้พิษฝี เอาหัวอุตพิด กระเทียม หัวหอม ตําทากันมิให้พิษฝี ข้ ึนได้
ยาแก้ฝีข้ ึนที่ฝ่าเท้า เอาข้าวสารขั้วให้ไหม้ เอาผักบุง้ ขัน ตําพอก
ยาแก้ฝีมะเร็ งตะมอย เป็ นที่นิ้วมือ ร้อนดังถูกไฟ เอาพริ กไทยล่อนบดละลายทาแล้วเอาพล้าอาดฝน
ทา หายแล
ยาแก้พิษฝี ท้ งั ปวง เอาหญ้าปากควาย รากขัดมอญ รากมะอึก หญ้ากําเม็ง หน่อไม้ หัวพลับพลึง ขมิ้น
อ้อย ข้าวเบือข้าวเหนียว ตําเอานํ้าทา แก้พิษฝี ท้งั ปวง
ยาแก้ฝีกะอาดมะเร็ งปากหมู เอามะไฟเดือนห้า หญ้าเกล็ดหอย ใบกรด ใบเลี่ยน ลูกลําโพง ใบ
ผักบุง้ ขัน สี เสี ยดเทศ เปลือกกรวย บดเป็ นผงใส่ ฝีกะอาดหรื อฝี มะเร็ งปากหมู
ยาทาแก้ฝีเส้นฝี เอ็น เอารากหางนกกะลิง รากพุงแก รากนมแมวน้อย ฝนกับสุ ราทา
ยาแก้ฝีคนั ทะมาลา เอารากเจ็ตมูลเพลิงแดง ใบแค ผักเสี้ ยนผี ลําโพงกาสลัก เปลือกสะเดา ใบมะตูม
ใบแคบ้าน ใบมะเขือขื่น ตําเอานํ้าสิ่ งละ ๑ จอก หุ งให้คงแต่น้ าํ มัน ใส่ ฝีคนั ทะมาลา กินแลทา
ยาแก้ฝีอนั มีพิษและปวดขบ เอาเปลือกสารภี เปลือกสะเดา เปลือกโพบาย เปลือกกรวย เปลือก
เปลือกมะขาม เปลือกพุดซา เปลือกมะดูก หัวบอน ว่าน(หว้าน)เปราะ เอานํ้ากล้วยตีบ เอาสิ่ งละจอก .... ด้วย
นํ้ามันมะพร้าว แล้วเอาสี เสี ยดเทศ ๑ บาท ยางคะเคียน เบ็ญกานี ปรุ งใส่ ลง เมื่อจะปรุ งยานี้ให้บูชาด้วยบายศรี
๑ สํารับ เงิน ๑ บาท เทียน ๑ ดอก หุ งเป็ นนํ้ามันใส่ หาหัวมิได้ก็ได้ ฝี มีหวั ก็ได้
ยาแก้ฝีละลอกแก้ว เอาเจ็ตมูลเพลิง ไฟเดือนห้า กระชาย ใบกระทึบยอบ เห็ดขี้ววั นํ้ามัน.... งูเหลือม
ปรุ งเข้ากันทาแก้ฝีละลอกแก้ว มะเร็ งฝี ขา้ ง
ยาแก้พิษฝี เอาใบกะทือ ใบระงับ ทุงเทง ฆ้องสามย่าน ตําเอานํ้าทา
ยาแก้ฝี เอาใบปี บ นํ้ามันหอย ขี้ไต้ ชุมเห็ด ใบระงับ ถัว่ เขียว ใบกระทึบยอบ สาบแร้ง หว้านเปราะ
บดทาฝี หวั เขียว
ยาแก้ฝีมะเร็ งปากดํา เอานมตําเรี ย สลัดได ใบส้มกุง้ สะโมงโคร่ ง ใบสาระพัดพิษ นํ้ามัน.... งูเหลือม
ถัว่ แปบ ตําพอกหรื อทา
ยาแก้ฝีหวั ควํ่า ซึ่ งทําพิษให้ทน้ ท้องและอาเจียน เอาสันพร้านางแด ใบระงับ ไพล กระชาย นํ้ามะนาว
นํ้ามันงา ขี้ววั
๑๕๕

ยาแก้ฝีมะเร็ งช้างตัวผู ้ มันอยูท่ ี่ขม่อม เอารากกะทกรกมาฝน จึงหุ งนํ้ามัน เอารากปลาไหลเผือก


เท้ายายม่อม ถัว่ พลู กินแลทา ถ้าฝี น้ นั ร้อนดังถูกไฟ เอารากนมแมว รากมะขามป้ อม ฝนทาหายแล
ยาแก้ฝีในหู เอาชิงชี่ รากไก่ไห้ ฝนด้วยนํ้ามะนาวทา
ยาแก้ฝีมะเร็ งช้างและธนูสวัดอยูข่ อ้ มือ เอานมแมว กระดอม รากช้าแป้ ง ฝนทา
ยาแก้ฝีมะเร็ งตะมอยมันขึ้นที่ขอ้ ศอก ใบรักแร้ ขึ้น ๒ ข้าง ๆ ละ ดวงตาย ถ้าหัวมันแดงดังลูกทับทิมมี
พิษ ๗ วัน ๙ วันตาย ถ้ามันขึ้นสี ขา้ งดังลูกตําลึงสุ ก เอามะรุ ม ทองหลาง กุ่มทั้ง ๒ ประคบหายแล
ยาแก้ฝีมะเร็ งอุปคับหัวมันขาว เอารากหางนกกะลิงฝนทา ยานสี้ แก้ฝีมานระพังมันฟกขึ้นที่เอวนั้น
ด้วย
ยาแก้ฝีมานระพัง มันขึ้นที่ตน้ ขา เอาสี เสี ยดเทศ ผัวแพวแดง สมอร่ องแร่ ง ทองพันชัง่ ตําผะหงบ หาย
แล
ยาแก้ฝีข้ ึนที่หวั เข่า เอารากกะทกรก ตําพอก แล้วเอารากมะไฟ รากมะกรู ด รากนางแย้ม ตําลึง
ยาแก้ฝีข้ ึนที่ขอ้ เท้า ชื่ อมะเร็ งเหลืองแดง เอาใบผักแพวแดง ตําพอก หายแล
ฝี ข้ ึนที่ขม่อมชื่ อมะเร็ งปากดํา ขึ้นแง่หวั ชื่อมะเร็ งดํา ๒ วันตาย ขึ้นที่คอชื่ อมะเร็ งทามควาย เอาราก
ตับเต่า นมแมว นมควาย ฝนทาหาย
ฝี มะเร็ งมันขึ้นที่ศอกคู ้ ขึ้นที่ขอ้ มือ ขึ้นที่หวั มีลกั ษณะเขียว ๒ วันตาย ถ้าขึ้นที่อกชื่อมะเร็ งนมยวง ๗
วันตาย ถ้าขึ้นที่สีขา้ งชื่อตะมอยหัวดํา เอาชิงชี่ รากชะบา รากเท้ายายม่อม ฝนทาแล กินหาย ถ้าขึ้นที่หลังผ่า
ชื่อมะเร็ งหัวดํา เอาจอกหู ลิง ผักปลังแดง ขมิ้นอ้อย ตําทา ถ้าขึ้นต้นขาแล .... ขา ชื่อมะเร็ งอุดตันหัวแดง เอา
รากหางนกกะลิงฝนทาหาย ถ้าขึ้นที่หวั เข่าชื่ อมะเร็ งมาระพัง เอาใบ .... เสนียด ผักแพวแดง สมอร่ องแร่ ง ทอง
พันช่าง ตําผะหงหายแล ถ้าขึ้นที่หลังท้าและฝ่ าเท้าชื่อมะเร็ งเพลิง แดงดังลูกตําลึงสุ ก เอาแพวพวยฝนทาหาย
ยาแก้ฝีปากเน่า เอากาฝากสะแก กาฝากมะม่วง ผักเบี้ยหมู ผักไห่ ลําโพง มะพร้าว ๑ ลูก .... เป็ น
นํ้ามันใส่
ยากัดหัวฝี เอาเบี้ยตัวผู ้ ๑๑ ตัว สารหนู หรดาลทอง หัวบอนเผา ลูกสลอด จุนสี หัวดองดึง เอานํ้า
มะนาวเป็ นกระสาย เอาสิ่ งละ ๑ สลึง ถ้าไม่กดั เอาปูนผงใส่ ดว้ ย
ยากัดหัวฝี เอาคางคกตายซาก กระดูกวัว เอาบดด้วยกัน ผสมด้วยนํ้ามันดิบ
ยานํ้ามันใส่ ฝี เอาหัวกลอย หัวอุตพิด นํ้ามันงา หุงให้คงแต่น้ าํ มัน ใส่ ฝีกดั และเรี ยกเนื้ อแล
ยากัดหัวฝี เอาใบขอบชะนาง ใบลําโพงแดง เอาขั้วให้ไหม้ บดละลายนํ้ามันดิบใส่ ฝี
ยาแก้ฝีกะอาก เอาใบลําโพงแดง ขอบชะนางแดง ผักเป็ ด หญ้ากําเม็ง หัวบุก หัวกลอย .... ด้วย
นํ้ามันดิบ
ยาแก้ฝีกะอากปากหมู นํ้าเหลืองไหลไปถึงไหนย่อมลามไปที่นนั่ เอาเขาวัว เขาควาย ใบมะ.... คัน ขี้
แพะ คางคกตายซาก เกล็ดปลาช่อน ลูกกล้วยตีบ ฝักส้มป้ อย ยาทั้งนี้เผาบดเป็ นผงโรย .... ฝี หายแล
ยาแก้ฝีเป็ นที่นม เอาใบตะกู ใบเถาวัลย์เปรี ยง ใบผักไห่ ใบผักบุง้ ใบสะอึก ใบกะเพรา ขมิน้ อ้อย
หอยโข่ง ตําทาฝี ที่นม
๑๕๖

ยาแก้ฝีต่าง ๆ เอาผักบุง้ ขัน ใบขัดมอญ ใบอังกาบ ขี้ววั รําพัน ใบผักข้าว ใบทรงบาดาล มะเขือทั้ง ๒
ใบมะกรู ด ใบมะนาว สัตบุษย์ ใบเทียน ใบลําโพงแดง ขมิน้ อ้อย นํ้ามันงา หุ งให้คงแต่น้ าํ มัน ทาฝี ท้ งั หลาย ฝี
กะอากและฝี มะเร็ ง หายแล
ยาแก้ฝีคนั ทะมาลา เอามะแว้งทั้ง ๒ มะเขือขื่น รากอังกาบ รากก้างปลาแดง รากช้าแป้ ง เอาทั้งนี้เอา
นํ้าเคี่ยว เอานํ้ามันใส่ ลง แล้วเอาสี เสี ยดเทศ ยาดํา ลูกประคําดีควาย ดีงูเหลือมปรุ งลง กินก็ได้ทาก็ได้
ยาแก(แก้)ฝี มะเร็ งลูกหนู มันขึ้นลูกคางข้างขวาเท่าเมล็ดฝ้าย แล้วย้ายมาทางซ้ายเจ็บนัก เอานํ้าผึ้ง นํ้า
ปูนใส ประสมกัน เอาเหล็กเผาไฟให้แดง ชุบลงในนํ้ายานั้น แล้วเอานํ้ายารดลงที่ฝีน้ นั
ยาแก้มะเร็ งปากดํา เอารากปลาไหลเผือก รากเท้ายายม่อม หุ งเป็ นนํ้ามันใส่
ยาแก้มะเร็ งสะแก เอาจอกหู ลิง จอกใหญ่ ตําพอก
ยาแก้ฝีตะมอย หรื อฝี เปลวนาคพต ฝี น้ ีพิษร้าย ๓ วันตาย เอารากดํา ขมิ้นอ้อย ตําพอกหายแล
ยาแก้ฝีทามควาย มันขึ้นที่ขอ้ มือ เอาผักแว่น ไคร้หางนาค ใบส้มป่ อย ใบชุมเห็ด บดด้วยนํ้ามะนาว
พอก
ยาแก่ฝีกาฬ ฝี ข้ ึนที่แก้มก็ดี ขึ้นที่หางตาก็ดี ชื่อมะเร็ งตะมอย เอาใบส้มป่ อย ใบรักขาว ขมิ้นอ้อย ดีปลี
ฆ้องสามย่าน เทียนดํา เทียนขาว เทียนแดง ยาดําบดด้วยนํ้ามะนาวพอกหัวฝี นั้น หายแล ถ้าขึ้นข้างจมูกชื่อชะ
ลม ยาแก้เอาสาระพัดพิษ พิมเสน พริ กไทยล่อน เห็ดขี้ววั ดินประสิ วขาว จันทน์ชะมด ใส่ น้ าํ มันบดด้วยกัน
กับนํ้าเถาตําลึง ทาหัวฝี นั้น ถ้าขึ้นตาข้างขวา ชื่อคันทะมาลาตัวผู ้ ถ้าขึ้นตาข้างซ้ายเป็ นตัวเมีย ยาแก้ เอายาดํา
หญ้ายองไฟ ขมิ้นอ้อย ข่า บดด้วยนํ้าปูนขาว ทาหัวฝี น้ นั ถ้าเป็ นหนอง เอาใบมะหม ใบส้มป่ อย ใบไคร้น้ าํ
รากผักเข้า ผักเบี้ยหมู บดด้วยนํ้าพอกให้รอบหัวนั้น ถ้ามันขึ้นที่หว่างนม ชื่อมะเร็ งนมยวง ๗ วันตาย ยาแก้เอา
ดินถนํา ลูกจันทน์ ดีปลี ใบช้าพลู ตําพอกหัวฝี น้ นั ถ้าขึ้นเต้านม ชื่อฝี นมยวง ยาแก้ เอาใบสะอึก รากอ้าย
เหนียว รากอัญชันดอกขาว รากอัญชันดอกแดง ขมิ้นอ้อย บดทาหัวฝี น้ นั
ยาฝี ฝี ที่ข้ ึนรักแร้ ชื่อมะเร็ งกบกะมาน ถ้าขึ้น ๒ ข้างตาย ขึ้นข้างขวาตัวผู ้ ขึ้นข้างซ้ายตัวเมีย เอาตะกู
ตัวผู ้ ใบราชพฤกษ์ ผักเบี้ยหมู ใบผักกะชับ ใบชุมเห็น ขมิ้นอ้อย ข้าวเบือ บดด้วยนํ้ามะนาว ทาหัวฝี น้ นั ถ้าขึ้น
สันหลัง ชื่ออัคเนสัน กําแพงทะลาย ยาแก้ เอายาดํา ดีงูเหลือม ขมิ้นอ้อย ข้าวเบือ กระเทียม ปูนผง ยาฝิ่ น หญ้า
ยองไฟ บดด้วยนํ้ามะนาวทาหัวฝี น้ นั
ยาพอกฝี ฟกทูม เอาขมิ้นอ้อย ข้าวเบือ พริ กไย ๗ เมล็ด ขิง ๗ แว่น กระเทียม ๗ กลีบ บดละลายนํ้า
ปูนขาวพอก ถ้ามีอาการเจ็บปวดนัก เอาขมิน้ อ้อย ใบกรวย บดพอก
ยาแก้ฝีหาหัวมิได้ เอายอดมะพร้าว ยอดมะรุ ม ยอดก้างปลาแดง ยอดส้มป่ อย บดพอก
ยาแก้ฝีหวั เขียวอันร้ายทังปวง เอาหอมแดง ขมิ้นอ้อย กะทือ ไพล กระขาย ข่า เกลือ เถ้าในเชิงกราน
เอานํ้ามันงา นํ้ามะนาว นํ้าส้มส้า เป็ นกระสายบดทา
กําเนิดและลักษณะของฝี อันว่าฝี ในท้องนั้น ชื่อว่าอุบาทว์ ถ้าเกิดใต้สะดือลงไป ชื่อว่ามะเร็ ง .... ถ้า
เกิดในทรวงอกข้างขวา ชื่อมะเร็ งโรหิ นีก็วา่ ชื่อคันทะสู ตรก็วา่ ถ้าเกิดในทรวงอกข้างซ้าย .... ทรงทะสู น มัน
เกิดที่สาํ คัญ
๑๕๗

ฝี หวั ควํ่ามันย่อมเกิดบนสะดือ ชื่อฝี อุทุวาก็ดี ชื่อฝี โรหินีกด็ ี ฝี หวั ควํ่าก็ดี มันบ่อห่อนจะขึ้นขวาแล


ซ้าย มันเกิดขึ้นดุจกล่าวนั้น ถ้าฝี สะสิ งมันย่อมเสี ยดไข่ดนั ถ้าเป็ นฝี ที่นมผูห้ ญิง มันขึ้นเป็ นไตอยู่ การแก้เอาใบ
มะแว้งเครื อ นํ้าปลา ๆ สร้อย จุนสี หุ งด้วยนํ้ามันมะพร้าว ใส่ หายแล ยานี้ใส่ แผนมะเร็ งก็ได้
ฝี ชื่อมหานิล มันขึ้นก้นกบข้างบน ฝี น้ ีเมื่อแรกขึ้นทําให้ใจพลุกพล่าน บางทีกดั ฟันพูดมิได้ กําหนด
๓ วัน ๗ วันตาย ยาแก้ เอาลูกประคําดีควายเผาไฟบดละลายนํ้ากิน ถ้ามิหายเอาเหล้าส่ วนหนึ่ง นํ้ามูตรส่ วน
หนึ่งละลายยานี้กินและทาข้างนอกบ้าง เอาใบมะเดื่อมาตําคั้นเอานํ้า ๑ ส่ วน นํ้าครํา ๑ ส่ วน หมูป่า ๑ ส่ วน
กวนด้วยกัน ทากับนมให้มนั เปื่ อยออกไป ถ้าหอบกระหายนํ้าคอแห้ง ยาแก้ เอารากมะกลํ่าเครื อ ส้มป่ อยวาน
เนระภูษี โคนหวายตะคร้า ชะเอม ระย่อม พิศนาด พระยารากดํา ก้านกีบแรด ฝนด้วยเหล้าแทรกดีงูกิน แก้
พิษฝี ในท้องทําให้คอแห้ง หายแล
ยาแก้ฝีกาฬ เอาใบสะเดา ใบพลูแก พริ กไทย ขิง กระเทียม บดละลายนํ้าปูนขาวจุด แก้ ไฟฟ้าแล
ยาแก้พิษฝี กาฬทั้งปวง เอาใบระงับพิษ ใบผักไห่ ใบรกขาว(รักขาว) ใบพลูแก ใบสะเดา ใบ
ประคําดีควาย ใบพิมเสน พรมมิ ระย่อม พิศนาด ขี้ววั ลูกคัดเค้า หว้านร่ อนทอง หว้านเปราะ ดินประสิ ง ดีงู
เหลือม บดปั้ นแท่งละลายสุ รากิน ยานี้แก้สะอึกด้วย
ยาแก้พิษฝี ซ่ ึงทําให้ร้อนกระวนกระวาย สะท้านร้อนสะท้านหนาว เอาดีงูเหลือม เขี้ยวเสื อ กระดูก
นกยูง เนระภูษี นอแรด ลูกประคําดีควาย ฝนด้วยนํ้ากิน ถ้าหนาวอุ่นไฟให้กิน
ยาแก้ฝีในคอ เอาลูกประคําดีควาย รากมะเขือขื่น พิศนาด เนระภูษี ฝนด้วยเหล้ากิน ถ้าเป็ น....สาม
เส้า เอาผักแพวแดง รากผักแพวขาว รากพุด ฝนด้วยเหล้ากิน ถ้ามิฟังเอาดีงูแทรกกิน
ยาแก้ฝีไข่ดนั เอาใบคนทา ปูนขาว หน่อไม้ไผ่ รากผักแพวแดง ขมิ้นอ้อย ข้าวเบือข้าวเหนียวพอก
ฝี ที่ข้ ึนที่นมผูห้ ญิง ถ้ามีสีเขียวชื่อกาฬคั้น ถ้าฝี ที่เปื่ อยไปทั้งหน้าตา เนื้ อตัว เท้ามือ ชื่อกะอาก ... หมู
ยาแก้ เอาดอกพิกุล ดอกสารภี มะกลํ่าทั้ง ๒ ช้างน้าว โพบาย เปลือกหว้า เปลือกมะขาม ... เอานํ้าหุ งด้วย
นํ้ามัน แล้วเอายางตะเคียน ดีเหี้ย สี เสี ยดเทศ สัตบุษย์ ดีงู ดีตะพาบนํ้า ขี้ผ้ งึ ๑ บาท .... เป็ นนํ้ามันทา
ยาแก้ฝีที่นม มันขึ้นเป็ นไตอยู่ เอาใบมะแว้งเครื อ นํ้าปลาปลาร้าปลายสร้อย จุนสี หุ งด้วยนํ้ามัน
มะพร้าว ใส่ หายแล ยานี้แก้มะเร็ งด้วย
ยาแก้ร้อนพิษฝี กาฬทั้งปวง เอาทองพันช่ าง(ชัง่ ) หัวคล้า เปลือกมะกอก ฝนด้วยนํ้าซาวข้าวกิน พอก
ดินสอพอง ดินประสิ วด้วย กินและชะโลม แก้ร้อน แก้คลัง่ แก้เชื่อมมัว
ยาแก้ฝีในคอ เมื่อมันจะขึ้นให้ขนลุกและคันคอ มันทําพิษให้ตามืด หนาวสะท้านล้มลงก็ตายไป เมื่อ
จะขาดใจให้เขียวทัว่ ตัว เมื่อขาดใจแล้วตัวขาวดังผ้าขาว ยาแก้ เอาพระยารากดํา ปลาไหลเผือก ดีงู ฝนด้วยนํ้า
กินและทา
ยาแก้ฝีกาฬ มันขึ้นที่หวั ใจเป็ นเม็ดเท่าเมล็ดข้าวโพด เมื่อแรกเกิดมันให้จบั ไข้ ปัสสาวะขาวดังนํ้าข้าว
อุจจาระเหลืองดังขมิ้น มีนให้อยากกินของคาว เมื่อกินเข้าไปก็ตาย เมื่อตายแล้วตัวแดงดังชาด ยาแก้เอาเขา
กวาง ดีงู ฝนด้วยเหล้ากิน
๑๕๘

ยาแก้ฝีบองทะลํา มันขึ้นที่สะดือเท่าเมล็ดพริ กไทย เมื่อแรกเกิดให้จบั ไข้และอยากผิงไป อยากกิน


จาวมะพร้าวและอยากกินปลาไหล เมื่อกินเข้าไปก็ตาย เมื่อจะตายตีนงอลงแอ่นไป ตัวเป็ นสี ดาํ นํ้าคราม เมื่อ
ตายแล้วตัวขาว ยาแก้ เอาพุงแก ชิงชี่ หางนกกะลิง ปลาไหลเผือก ฝนด้วยเหล้ากิน
ยาแก้ฝีที่นม มันขึ้นที่นมทั้ง ๒ ข้าง มีพิษทําให้เจ็บ โลหิ ตตกทวารหนักทวารเบา เมื่อแก่ ทําพิษคัน
แล้วตาย ยาแก้ เอากรุ งเขมา ดีงูตน้ ระย่อม ดีงู ฝนด้วยเหล้ากิน
ยาแก้ฝีชื่อคะติง มันจับหัวใจ ให้เสี ยดและร้อนอกร้อนใจ ขัดอกขัดหัวเหน่าจนถึงขาและปลายตีน
ปลายมือ เมื่อมันแก่ทาํ ให้ตวั แดง จะรักษาได้ภายใน ๑๐ วัน พ้นนั้นตาย ยาแก้ เอาใบฝ้ายเทศแดง ดีงู ฝนกิน
ยาแก้ฝีในตับในหัวใจ ฝี นี้ทาํ ให้ตวั เหลืองดังขมิ้น ยาแก้ เอาผักเข้า เครื อมัน เครื อตําลึง ตําเอานํ้าใส่
อ่างแช่ตวั เพียงรักแร้ แล้วเอาบอระเพ็ด(บระเพ็ด) พริ กไทย ขิง ตําละลายนํ้าร้อนสุ มขม่อม แล้วกินยาภายใน
เอาขมิ้นเครื อ รากถัว่ พู รากถัว่ แปบ ต้มกิน
ยาแก้ฝีกาฬมิกสิ งคลี มันเกิดในไส้นอ้ ยไส้ใหญ่ เมื่อจะเกิดให้จบั ไข้ มีอาการร้อนดังใจจะขาด มิใคร่
เจรจา ให้จบั เชื่อมไป ยาแก้ เอาแตง รากกระล่อน ปู่ เจ้านัง่ คอย (ปู่ เจ้าคอยท่า) ปู่ เจ้าลอย.... รากมะเฟื้ อง หัว
เอื้องควาย ตําเอานํ้าใส่ อ่างแช่เพียงรักแร้และกินด้วย
ยาจุดฝี กาฬ เอาฝาง ระย่อม รากมะนาว หอมแดง ฝนด้วยนํ้าปูนขาวทา
ยาแก้ฝีกาฬ มักผุดออกมาเป็ นสี แดง สี เหลือง สี ขาว เอาสน จิงจ้ อ(จิงจํา) ระงับนํ้าใจใคร่ ไคร้หาง
นาค ฝนด้วยเหล้ากินและทา
ยาแก้ฝีในท้อง เอากะทือ ไพล ขิง ข่า กระชาย ผิวมะกรู ด พริ กไทย ดีปลี กระเทียม เอาเสมอภาค
ผักหนอกเท่ายาทั้งหลาย ตําให้ละเอียด เอามะขามเปี ยกกับนํ้ามะกรู ดใส่ ดว้ ย กินเป็ นยาลูกกลอน
ยาแก้พิษฝี ต่าง ๆ เอาหัวบอนเผาไฟให้เป็ นด่าง รากจอก รากแหน รากลําโพงกาสลัก ตําพอก
ยาแก้ฝีมะเร็ ง เอายางตะเคียน สี เสี ยด เมล็ดในมะขามขั้วเอาแต่เปลือก สี เสี ยดทั้ง ๓ บดนํ้าละเอียด
ขี้ผ้ งึ นํ้ามันดิบ หุ งให้เป็ นนํ้ามันใช้ปิดแผลฝี มะเร็ ง
ยาพอกฝี เอาใบกุ่มนํ้า ใบละหุ่งแดง ใบการ้อง ขมิ้นอ้อย ข้าวเบือข้าวเหนียว ตําพอ
ยาพอกฝี เอายาดํา มะกรู ด ดินประสิ ว ตําพอกดูดหนองออกดี ถ้าจะให้กดั เอาปูนขาวใส่ หน่อยหนึ่ง
ยาแก้ฝีในท้องและฝี พิษต่าง ๆ เอารากคัดเค้า ๕ ตําลึง ขมิ้นอ้อย ๕ แว่น ลงพระเจ้า ๕ พระองค์ ต้ม
กิน
ยาถ่ายฝี ในท้อง เอาเถาวัลย์เปรี ยง เถาคันแดง แก่นขี้เหล็ก แก่นประคําไก่ ใบมะกา ต้มกิน
ยาพอกดับพิษฝี เอาใบสะเดา ใบชิงช้าชาลี ขมิ้นอ้อย ข้าวเบือ บดพอกฝี ฟกทูม
ยาแก้ฝีซ่ ึ งเกิดขึ้นตามบริ เวณหน้า หรื อในบริ เวณศีรษะ เอาขี้แมลงสาบละลายสุ ราทา ฝี ชนิดนี้หา้
ไม่ให้ผา่ หรื อแกะ บ่ง เป็ นอันขาด เพราะเป็ นฝี ที่มีพิษร้ายมาก
ยาประสระใบคนทิสอ(คนทีสอ) เอาใบมะนาว ๑ บาท ใบมะกรู ด ๒ บาท ใบส้มส้า ๓ บาท ใบส้ม
เขียว ๔ บาท ใบมะดัน เปล้าทั้ง ๒ ส้มกุง้ ทั้ง ๒ ดองดึง ฝาง แรแร เอาสิ่ งละ ๕ บาท ใบมะรุ ม บาท ใบกุ่มนํ้า
๗ บาท ใบกุ่มบก ๘ บาท ใบสมอทะเล ๙ บาท แก่นแสมทั้ง ๒ รากเจ็ตมูลเพลิง รากช้าพลู เอาสิ่ งละ ๑๐
๑๕๙

บาท ใบคนทิสอเท่ายาทั้งหลาย สารส้มดิบ ๒๐ บาท บดเป็ นผงบดปั้ นแท่ง ..ระดูขดั ละลายสุ ราแทรกดีจรเข้
กิน แก้ริดสี ดวงมองคร่ อ แก้หืดไอ ละลายนํ้ารากลําเจียกต้มกิน .... อุปทมชํ่ารั่ว ละลายนํ้ารากหญ้าคา หัว
หญ้าชันกาด ดินประสิ วต้มกิน แก้มุตกิต มุตฆาต และฝี ในมดลูก ละลายนํ้ามะงัว่ แทรกการะบูนกิน แก้
กะไษย ละลายนํ้าเปลือกแคแดงต้มกิน แก้โรคสําหรับ เข้าข้อ ออกดอก หนองใน ละลายนํ้าโคคลาน ต้มกิน
ยาเกลื่อนฝี และคุม้ พิษฝี ท้งั ปวง เอาใบตําลึงตัวผู ้ ขี้ววั สด ดินรังหมาร่ า ดินสอพอง บดพอกฝี
ยาแก้พิษอักเสบผีและแผน เอาใบไม้เน่าในนํ้า ขมิ้นอ้อย ๕ แว่น บดพอก
๑. ขึ้นเหนื อนมข้างขวา ตรงไหปลาร้าลงมาข้างล่าง ชื่อปั สวาต
๒. ขึ้นตรงนมข้างขวา ชื่อคันทะทรวง
๓. ขนใต้นมลงไปใต้โครงชั้นบนข้างขวา ชื่ อ กาฬคุณ
๔. ขึ้นกึ่งกลางโครงชั้นล่างข้างขวา ชื่อธะนูทวน
๕. ขึ้นริ มชายโครงชั้นล่างข้างขวาริ มสี ขา้ ง ตรงกับสะดือ ชื่อกาฬสู ตร
๖. ขึ้นเหนือหัวเหน้าข้างขวาที่สุดท้องน้อย ชื่อคันธุสูต(คันธะสู ต) ถ้าขึ้นข้างหลังทั้ง ๒ ข้าง ชื่อ
ตะเบ็งยักข้าง
๗. ขึ้นที่หวั ใจ ชื่ อทวนปั สวาต
๘. ขึ้นตรงลิ้นปี่ ระหว่างโครงทั้ง ๒ ข้าง ชื่อมานทรวง
๙. ขึ้นกึ่งกลางท้องเหนือสะดือ ชื่ออุทรวาต
๑๐. ขึ้นเหนือสะดือเล็กน้อย ชื่อ –
๑๑. ขึ้นเหนื อหนอกที่สุดท้องน้อยตรงกึ่งกลาง ชื่อองคสู ตร
๑๒. ขึ้นเหนื อนมข้างซ้ายตรงไหปลาร้าลงมาข้างล่าง ชื่อกาล้วงโรงผี
๑๓. ขึ้นตรงนมข้างซ้าย ชื่อกาฬคุณ
๑๔. ขึ้นใต้นมใต้โครงชั้นบนข้างซ้าย ชื่อ –
๑๕. กึ่งกลางลายโครงชั้นล่างข้างซ้าย ชื่อ –
๑๖. ขึ้นริ มชายโครงชันล่างตรงสะดือทางสี ขา้ ง ๆ ซ้าย ชื่อ –
๑๗. ขึ้นที่หัวเหนา(หัวเหน่า)ข้างซ้ายที่สุดท้องน้อยตรงหัวตะคาก ชื่อหัวควํ่า
ฝี ที่ข้ ึนที่สะดือ หรื อเสมอสะดือข้างบน หญิงซ้าย ชายขวา ท่านว่ารักษาไม่ได้ ถ้าตํ่ากว่าสะดือพอ
รักษาได้แล
ยาแก้ฝีในท้อง เอามะขาม ใบส้มป่ อย ใบประคําไก่ ใบชุมเห็ด ใบมะกา ใบสมอทะเล เถาคันเอาทั้ง
เถาทั้งราก รากตองแตก ลูกสมอทั้ง ๓ เอาเท่าอายุ แกลบข้าวเหนียวดํา ๓ กํามือ เถาวัลย์เปรี ยง กระทงลาย
โพกพาย รากเขยตาย รากพระยายา แก่นขี้เหล็ก สะค้าน ฝักราชพฤกษ์ ๕ ผัก ต้มกินเช้าเย็น
ยาแก้ฝีในท้อง เอารากสะแก รังมดลี่ จาวปลวก ใบมะกา ใบประคําไก่ รากตองแตก รากกะตังบาย
ลูกสมอทั้ง ๓ บอระเพ็ด ขมิ้นอ้อย สะค้าน รากช้าพลู รากเจ็ตมูลเพลิง ขิง ดีปลี หัวแห้วหมู หัวหอม หัว
กระเทียม ข่า กระชาย กะทือ ไพล เอาสิ่ งละ ๕ ตําลึง ฝักราชพฤกษ์ ๑๐ ฝัก นํ้าประสานทอง ๑ บาท ยาดํา ๔
๑๖๐

บาท ต้มกิน เมื่อต้มเอาทองผูกคอหม้อ ๑ บาท หมาก ๑ คํา เทียน ๑ เล่ม เงิน ๑ สลึง ติดเทียนบูชา กินแล้วเอา
เงินนั้นทําบุญไปให้เจ้าของตํารา ยานี้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
ยาแก้ฝีในท้อง แก้ลม แก้เส้น เอาใบมะขาม ใบส้มป่ อย เกลือ มะขามเปี ยก เอาสิ่ งละ ๑๐ บาท ใบ
มะกา ข่า เอาสิ่ งละ ๕ ตําลึง ต้มกิน ถ้าจะแก้ฝีให้ใส่ ดีเกลือไทยแต่แรกที่ ๑ ก่อน แล้วจึงกินแต่เวลาเช้าอย่าใส่
ดีเกลือเลย หม้อหนึ่งให้เติมนํ้า ๔ หน เมื่อปรุ งยาเสกด้วยสัคเค แล้วให้ระลึกถึงดาบสเจ้าของยานี้ จึงประสิ ทธิ
แล
ยาแก้ฝีในคอ เอาจันทน์ท้งั ๒ ลิ้นทะเลปิ้ งไฟ เบี้ยจัน่ เผา เปราะหอม นํ้าประสานทอง เมล็ดมะนาว
ผิวไม้ไผ่สีสุก ผิวไม้รวก ผิวหวายตะคร้า พิมเสน บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าปูนใสแทรกสุ รา .... กวาดซางก็ได้
ยาสมานฝี ในคอที่แตก เอาใบพิมเสน เปลือกไข่ไก่ฟัก ลิ้นทะเลปิ้ งไฟ จันทน์ท้ งั ๒ สี เสี ยดเทศ นํ้า
ประสานทองสะตุ บดปั้นแท่ง ละลายนํ้ากระสายอม
ยาแก้ฝีในท้อง ฝี มดลูก เอารากเจ็ตมูลเพลิง ดีปลี สะค้าน รากช้าพลู ขิง ข่า กระชาย กะทือ ไพล หัว
แห้วหมู ขมิ้นอ้อย รากตองแตก รากกะตังบาย ใบมะกา ใบประคําไก่ รังมดลี่ .... ปลวก เอาสิ่ งละ ๕ ตําลึง
เนื้อฝักราชพฤกษ์ ๑๐ บาท ยาดํา ๑ บาท นํ้าประสานทอง ๒ สลึง .... กิน
ยาแก้ฝีมะเร็ งยวง เอาส้มกุง้ ทั้ง ๒ ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ ๑๐ บาท ขันทองพยาบาท ... บาท ต้มกิน
เวลากินเอาสุ ราแทรกลงครึ่ งหนึ่ง ยานี้ดีนกั
ยาเกลื่อนฝี เอาพริ กทั้ง ๕ ข่า ตะไคร้ กระเทียม กระชาย หัวหอม ขมิ้นอ้อย ใบสมี ใบมะกา ใบ
ส้มป่ อย ใบมะขาม ใบคนทิสอ(คนทีสอ) ใบชุมเห็ด ใบผักเสี้ ยนผี ตําพอกแก้ฝีหวั เดียว หายแล
ยาตัดรากฝี เอาดีปลี ขิง รากช้าพลู สะค้าน ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กานพลู รากเจ็ตมูลเพลิง พริ กไทย
เอาเสมอภาค ตําพอแหลกดองสุ รากินเช้าเย็น
ยาเกลื่อนฝี เอาพริ กไทย ข่า ตะไคร้ กระชาย หัวหอม หญ้ายองไฟ ผักแว่น เมล็ดมะละกอ กระเทียม
เอาเสมอภาค บดเป็ นผงละลายนํ้ามะนาวทาเกลื่อนฝี ทุกชนิด
ยาถ่ายฝี เอาขี้ววั ใบนํ้าเต้า หญ้าแพรก ขมิ้นอ้อย เอาเสมอภาค ต้มแทรกดีเกลือกิน
ยาพอกฝี เอาผักบุง้ มหาหิ งคุ ์ เอาพอควร ตําพอกฝี ยบุ ทันทีแล
ยาพอกฝี ที่แตกแล้ว เอาขมิ้นอ้อย กับใบไม้ที่เน่าอยูต่ ามข้างตลิ่ง ตําพอกฝี ที่แตกแล้วหายเร็ วดีแล
ยาแก้ฝีในท้อง เอาแก่นประดู่ แก่นสน กรักขี แก่นปรู แก่นคูน แก่นมะหาด แก่นมะเกลือ แก่นมะกา
แก่นมะขาม แก่นสมี แก่นขี้เหล็ก แก่นแสมทั้ง ๒ หัวหอม ฝักราชพฤกษ์ ต้มกินเช้าเย็น ฝี ในท้องทุกประการ
ยาแก้ฝีในท้อง เอาใบประคําไก่ เปลือกตาเสื อ สันพร้ามอญ หางปลาไหล ตูมกาทั้งใบไทร ต้ม ๓ เอา
๑ กิน
ยาแก้ฝีในท้อง เอาใบมะกา ฝักราชพฤกษ์ ฝักส้มป่ อย ขี้เหล็กทั้ง ๕ ใบมะขาม สะค้าน ไม้สัก ราก
ตองแตก ลูกสมอทั้ง ๓ แรแร แก่นขนุน แก่นลัน่ ทม แก่นกันเกรา แก่นสน เอาเสมอภาค ต้มกิน
ยาแก้พิษฝี ในท้อง เอารากนางแย้ม รากทับทิม รากมะนาว ดีงูเหลือม ฝนกิน
๑๖๑

ยาแก้ฝีในท้อง เอาหัวแห้วหมู ชุมเห็ดทั้ง ๕ ผักเสี้ ยนผีท้งั ๕ ผักเสี้ ยนไทยทั้ง ๕ ผักเป็ ดแดงทั้ง


เถาคันแดง เถาวัลย์เปรี ยงแดง ฝักคูน ใบมะกา ต้มกินเช้าเย็น ถ้าต้องการให้ทอ้ งเดิน เอาดีเกลือแทรกลง
ยาแก้ฝีพิษที่ข้ ึนในบริ เวณหน้าหรื อศีรษะ เอาขี้แมลงสาบละลายสุ ราทา
ยาแก้ฝีข้ ึนในคอ กินข้าวกินนํ้าไม่ได้ เอากระดองปูป่าขั้ว ดอกจันทน์ข้ วั ราดินเผาไฟ นํ้าประสาน
ทองสะตุ ใบลานขั้ว เอาสิ่ งละ ๑ บาท บดปั้ นแท่งปิ ดทองแท่งละ ๑ แผ่น ละลายนํ้าดอกไม้แทรกพิมเสน ใช้
อมหรื อทา ดีนกั แล
ยาแก้ฝีในคอ เรี ยกว่าผีงู เอากระดูกงูเหลือม ยาดํา บดปั้ นแท่งปิ ดทอง ละลายนํ้าชุบสําลีหรื อทา ยานี้
ใช้แล้วดีนกั
ยาแก้ฝีในจมูก เอาหอมแดง ขมิน้ อ้อย ไพล ตําคั้นเอานํ้าสิ่ งละ ๑ จอก นํ้ามะกรู ด ๑ จอก นํ้ามันงา ๑
จอก หุ งให้คงแต่น้ าํ มัน เอาสําลีทาํ เป็ นชุดจุ่มนํ้ามันยอนเข้าในรู จมูก หายแล
ยาพอกฝี เอาใบกระเชา ขมิ้นอ้อย แป้ งข้าวเหนียว ตําพอก ถ้าฝี แก่จวนแตก เอาใบตองกล้วยอ่อนรอง
เอายาพอกนอกใบตอง
ยารุ เลือดแลฝี ในท้อง ถ่ายฝี หวั ควํ่าหัวหงาย ฝี ปลวก ตกต้นไม้ ตกช้าง ม้า วัว ควาย แก้โรคริ ดสี ดวง
แก้ทอ้ งรุ ้งพุงมาน คชราช เข้าข้อ เลือดไม่ตก รกไม่ออก เอาการะบูน ๑ ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ โกฏสอ โกฏ
เขมา ดีปลี ลูกสมอเทศ ลูกสมอไทย ยาดํา เกลือสิ นเธาว์ นํ้าประสานทอง เอาสิ่ งละ – บาท เทียนสัตบุษย์ ๖
สลึง หว้านนํ้า ๑๐ สลึง กานพลู ๖ บาท รากตองแตก ๖ บาท เมล็ด สลอดประสระแล้ว ๖ บาท (ประสระด้วย
นํ้าอ้อยแดง นํ้ามะพร้าว นํ้าข้าวสาร ต้มอย่างละ ๑ ...) บดเป็ นผง ละลายนํ้าส้มต่าง ๆ นํ้าผึ้งก็ได้ กินครั้งละ ๕
หุ น ถ้าธาตุเบากิน ๔ หุ น แก้โรคบวมเนื้อเหลืองเสี ยด้วยแล
ยาแก้ฝีในมดลูก เอารากสะแก มะไฟเดือนห้า สารส้ม ๑ บาท กํามะถัน ๑ บาท ชามเบ็ญจรงค์ ยาเข้า
เย็น ตะกัว่ นํ้านม ต้มกิน
ยาใส่ แผน(แผล)ฝี กะอากปากหมู เอาจุนสี สี เสี ยดเทศ ยางตะเคียน หัวหอมโทน ๓ หัว เกลือ ๓ เม็ด
ผึ้งแข็ง นํ้ามันปลา หุ งให้เป็ นนํ้ามันเหนียว ใส่ แผนฝี
ยาเกลื่อนฝี ในท้อง เอาหัวหอมแดง ๓๓ หัว ข่า ๑๐ แว่น หัวกะตังบาย ๒๐ บาท ๑ เฟื้ อง ต้มกิน
ยาแก้ฝีในท้องที่ต้ งั หัวแล้ว เอาข่า ๑๐ องคุลีคนไข้ รากคนทิสอ(คนทีสอ) ใบมะกา ๑ กํามือ
ข้าวเปลือก .... หยิบ ขมิ้นอ้อย ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาแก้ฝีในท้องเมื่อหนองแตกแล้ว เอาใบทับทิม ขมิ้นอ้อย ต้มกิน
ยารุ หนองฝี ที่แตกแล้ว เอาพระยารากดํา รากเท้ายายม่อม รากสี ฟันคนทา ต้มกิน เอาใบตองรองก้น
หม้อ ลงด้วยอติปิโสถอยหลัง
ยาทดลองฝี ในท้อง เอารากพลู สะค้าน รากช้าพลู กรุ งเขมา พริ กไทย ขิง ต้มกิน ถ้าเป็ นฝี ในท้อง เมื่อ
กินยานี้แล้วจะอาเจียนออกมาแล
ยาแก้ฝีเลี่ยมสมุทร (ฝี เป็ นริ มฝี ปาก) เอารากมะนาว โกฏเขมา อบเชย บดละลายนํ้ามะนาวทา
๑๖๒

ยาแก้ฝีกาฬแลฝี ในหู เอาเห็นกระถินพิมาน เห็นไม้แดง เห็ดระย้า เห็ดขี้ววั รากลําโพงแดง ราก


ขี้กาแดง รากขัดมอญ รากฟักข้าว รากมะนาว ใบคราม ใบเพกา ถ่ายไม้ซาก ถ่านไม้รวก ฝาง ข้าวแกลบ หัวกา
คางคกตายซากเผา เอาเสมอภาค บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าครํา น้าปูนใส นํ้าสุ ราทา ถ้าฝี พิษฝี กาฬ ฝี ในหู
ยาแกฝี กาฬ เอาเห็ดขี้ววั ลูกสะบ้าเผา ไม้ตบั ปิ้ งปลาเผา เอาเสมอภาค บดละลายนํ้าชะเอมทาแก้ฝีกาฬ
ฝี แขก
ยาแก้ฝีภายใน เอาเมล็ดผักกาด ๑๐ บาท ยาเข้าเย็น ๒๐ บาท มะพร้าวห้าว ๑ ลูก ผ่าเอาซี กทางก้น ต้ม
ด้วยฟื น ๗ ดุน้ เงินติดเทียน ๑ เฟื้ อง บูชาจงดี กินเกลื่อนฝี ภายใน
ยาแก้ฝีภายใน เอาประคําไก่ท้ งั ๕ ตาเสื อทั้ง ๕ เขตตายทั้ง ๕ ต้มแทรกดีเกลือกิน
ยาแก้ฝีภายใน เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ หน่อไม้ตายพราย รากกําจาย ขนงปลวก ปูนขาว กลั้นใจ หยิบเอา
๓ หยิบ ต้มกิน
ยาแก้ฝีภายใน เอารากมะนาว งวงตาล พันงูแดง ต้มกิน
ยาแก้ฝีภายใน เอารากนมแมวน้อย รากสลอดนํ้า รากมะตูม หัวแห้วหมู หัศกุนไทย ต้มกิน
ยาตัดรากฝี ภายใน เอาราชพฤกษ์ท้งั ๕ ยาเข้าเย็น รากคนทิสอ รากส้มเสี้ ยว รากตะลุมพก ต้มกิน
ยาแก้ฝีภายในแลฝี เป็ น เอาลูกมะผ่อ กําแพง ๗ ชั้น ใบบัวหลวง ๓ ใบ ต้มกิน
ยาเกลื่อนฝี หวั ควํ่า เอามะรุ ม ทองหลาง กระพังโหม ผักเป็ ดแดง ผักเสี้ ยน พริ กไทย ขิง กระเทียม
เกลือ ต้มกิน
ยาเกลื่อนฝี หวั ควํ่า เอาฝาหอยโข่งเผา บดเป็ นผง ละลายนํ้าเปลือกมะยมตัวผูก้ ิน
ยาแก้ฝีภายใน เอาทองคํา ๑ บาท ไปพลีเอากุ่มบกทั้ง ๕ มาต้มกิน
ยาแก้ฝีในท้อง ฝี มดลูก ฝี มุตกิต(ฝี มุตกิด) เอาพริ กทั้ง ๕ มะกาทั้ง ๕ กะเพราทั้ง ๕ รากเพกา ราก
คัดเค้า รากฟักข้าว รากข่อยหยอง รากขี้กาแดง รากลําเจียก ขมิ้นอ้อย ต้มกิน
ยาแก้ฝีมุตกิต(ฝี มุตกิด)แลขับนํ้าปั สสาวะ เอาสารส้ม ๑ ส่ วน ยาเข้า(ยาเช้า)เย็นทั้ง ๒ ใบไผ่ป่า สิ่ งละ
๕ ส่ วน ใบมะขาม ใบส้มป่ อย ฝักราชพฤกษ์ สิ่ งละ ๑๐ ส่ วน ต้นสับปะรด ๒๐ ส่ วน ต้มแทรกดีเกลือกิน
ยาแก้ฝีภายใน เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ เถาวัลย์เปรี ยงทั้ง ๒ เปล้าทั้ง ๒ ส้มกุง้ ทั้ง ๒ ตูมกาทั้ง ๒ ตับเต่าทั้ง
๒ ข่าทั้ง ๒ ขอบชะนางทั้ง ๒ ดีงูท้งั ๒ แก่นมะหาด แก่นพรม แก่นกันเกรา แก่สน(แก่นสน)รากคนทา ราก
พุงแก กระจบบก(กระจับบก)กะทกรก กระทุงลาย โพกพาย รากมะดูก รากประคําไก่ นํ้านมราชสี ห์เครื อ
ขมิน้ เครื อ ไคร้เครื อ ขันทองพยาบาล(ขันทองพยาบาท) พระขันไชสี สักขี แส้มา้ ทะลาย โคคลาน
กําลังวัวเถลิง พระยามูลเหล็ก ต้มกิน
ยาแก้ฝีภายใน ฝี หวั ควํ่า ฝี ปลวก เอากระดูกงูเหลือมเผา จันทน์แดง เมล็ดส้มป่ อย ฝิ่ น เอาเสมอภาค
บดเป็ นผงปั้ นเป็ นเม็ดด้วยนํ้ามะนาว ละลายนํ้ามะนาวกิน
ยาดับพิษฝี ภายใน เอาจันทน์ท้ งั ๒ เนระภูษี รากหญ้านาง เปลือกมะกรู ด ยาเข้าเย็น ต้มกิน
ยาชําระฝี ภายใน เอาเถาคัน รากสมอทะเล เอาสิ่ งละ ๑ บาท ใบสมอทะเล ๑ กํามือ ลวกนํ้าร้อน ๒
หน ดีเกลือ ๘ บาท ต้มกิน ให้กินเมื่อพิษฝี สงบแล้ว
๑๖๓

ยาดับพิษภายในแลฝี เส้น เอาขี้นกพิราบ ใบพุดซา บดแทรกขมิ้นพอก


ยาแก้ฝีภายใน เอารากชิงชี่ รากอัญชันขาว รากโพกพาย เอาเสมอภาค ตรี กะฏุกสิ่ งละ ๗ ต้มกิน
ยาดับพิษฝี ภายใน เอากระดูกงูเหลือม กระดูกเสื อ เขากระทิง เขากวาง แก่นสน เอาเสมอภาค บดแช่
สุ รากิน
ยาเกลื่อนฝี ภายใน เอารากมะตูม รากสี หวด ดองสุ รากิน
ยานํ้ามันตัดรากฝี ภายใน เอาข่า ๑ บาท ไพล ๖ บาท รากชพฤกษ์ เอาทั้งใบทั้งรากทั้งเปลือก ๙ บาท
ผักเป็ น ขมิ้นอ้อย สิ่ งละ ๑๒ บาท ยาทั้งนี้ตาํ เอานํ้าสิ่ งละ ๑ ทนาน นํ้ามะนาว ๓๓ ลูก มะพร้าวไฟ ๒ ลูก ลูก
สลอด ๑๓ ลูก นํ้ามันดิบ ๑ ทนาน หุ งให้คงแต่น้ าํ มันกิน
ยาตัดรากฝี ภายใน เอาว่ าน(หว้าน)กีบแรด ว่านร่ อนทอง ยาดํา จิงจ้อหลวง ต้มกิน
ยาตัดรากฝี ภายใน เอาโกฐเขมา เปล้าทั้ง ๒ รากข่อยหยอง รากจิงจ้อ รากพุงแก รากตูมกาแดง ราก
ตองแตก พาดไฉน หัศกุน ดองด้วยสุ รา ๓ วันกิน
ยาวิรุณจักร์ ถ่ายฝี ในท้อง โรคบวม โรคนํ้าเหลืองเสี ย ไข้ป้าง ไข้เรื้ อรัง แก้โรคเพื่อลม แก้โรคจุก
เสี ยด ทาแก้บวม เอาเปลือกกุ่มทั้ง ๒ เปลือกมะรุ ม เปลือกทองหลางใบมน เปลือกคนทิสอ ใบผักเสี้ ยนผี ใบ
ประคําไก่ ใบหัศกุน ใบผักเป็ นแดง ใบผักหนอก ใบหนาด ว่าน(หว้าน)นํ้า ว่าน(หว้าน)หางช้าง เจต(เจ็ต)มูล
เพลิง พริ กไทย ขิง ดีปลี เมล็ดผักกาด กระเทียม ไพล ข่า กะทือ กระชาย ขมิ้นอ้อย เมล็ดผักชี เทียนดํา เทียน
ตาตัก๊ แตน มหาหิ งคุ ์ ยาดํา ใบสลอดต้นกึ่งยา ถ้าจะให้ทอ้ งเดินทาก เอาใบสลอดต้นเท่ายาทั้งหลาย บดปั้ น
แท่งละลายนํ้ามะกรู ด นํ้ามะนาว นํ้ามะขามเปี ยก หรื อนํ้าร้อนกิน ยานี้แก้พิษตะขาบแมลงป่ องก็ได้
ยาพรหมภักตร์ เอามหาหิ งคุ ์ ๑ บาท ยาดํา ๓ บาท การะบูน ๕ สลึง พริ กไทย ๑ บาท ลูกจันทน์ ....
สลึง ดอกจันทน์ ๑ สลึง กระวาน ๑ สลึง กานพลู ๑ สลึง ดีปลี ๑ สลึง บดเป็ นผง ในเวลาบดนั้นเอานํ้าพรมไป
กว่าจะละเอียด แล้วบดปั้ นแท่งเท่าผลมะแว้งละลายสุ รากับนํ้ามะขามเปี ยกปนกันกิน แก้ฝีใหญ่ ฝี นอ้ ย ฝี ดาด
ฝี ในมดลูก แก้ขดั ปั สสาวะ แก้เป็ นมา ๒-๓ วันก็หาย
ยาแก้ฝี เอาเมล็ดมะนาว เขม่าเหล็ก ฝิ่ น พริ กไทย ขิง กระเทียม โหราอัมฤก โหรามิคสิ งคลี โหราเท้า
สุ นขั บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าปูนใสทาเกลื่อนฝี ละลายนํ้าครําทางแก้พิษฝี อกั เสบ
ยาแก้ฝี เอาใบนํ้าเต้า ใบตะกู หน่อไม้สีสุก ไคร้น้ าํ ขี้ววั บดพอกฝี ถ้ายุบลง เอาลูกมะกรู ดต้ม
มะขามเปี ยก ดินประสิ ว เอาเท่ากัน บดแล้วเอาใบสลอดลนไฟ ชุบนํ้าปิ ดที่ฝี แล้วเอายาเข้ามะกรู ด ... ทับใบ
สลอดจนพรึ งขึ้นมาให้น้ าํ เหลืองตก ถ้าตกเปื่ อยมากออกไป เอานํ้าใบตําลึง ดินสอพองละลายทากว่าจะตก
สะเก็ด ถ้าตกสะเก็ดอาใบสลอดปิ ด เอายาพอก ทําให้ได้ ๓ หน เกลื่อนฝี คนั ทะสู ตร ฝี ท้ งั ปวงหายแล
ขี้ผ้ งึ ปิ ดแผลฝี เอาขมิ้นชัน บอระเพ็ด สี เสี ยดทั้ง ๒ เกลือ ขี้ผ้ งึ เอาเท่ากัน หุ งด้วยนํ้ามันมะพร้าว ปิ ด
แผลฝี หายดี
ยาพอกฝี ในท้อง เอาผักบุง้ ๗ ยอด ขมิ้นอ้อย ๗ แว่น ยอดขี้เหล็ก ๗ ยอด ข้าวบูด ๑ กํามือ พอกตรงที่
เป็ นฝี น้ นั
๑๖๔

ยาเกลื่อนฝี เอาลูกลําโพงเผาไฟ ๗ ลูก ลูกสะบ้าเผาไฟ ๗ ลูก กะปิ ดีเผาไฟ เมล็ดมะนาวขั้ว ๗ เมล็ด


เห็นขี้ววั เผาไฟ บดด้วยสุ ราทาดับพิษฝี
ยาแก้วณั โรค เอาลูกพิลงั กาษา เถากระทุงหมาบ้า เถาคันแดง เอาสิ่ งละ ๒ บาท แก่นขี้เหล็ก
เถาวัลย์เปรี ยง รากมะตูม ฝางเสน สิ่ งละ ๔ บาท ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๕ บาท ต้นเหงือกปลาหมอ ๑ ต้น ต้ม
กิน
ยาแก้วณั โรค เอาแก่นลัน่ ทม ขิง ข่า พริ กไทย ดีปลี แก่นแสมสาร แก่นแสมทะเล เกลือ เอาสิ่ งละเท่า
ๆ กัน ต้มกินเช้าเย็น แก้มิให้ฝีตั้งฐานกําเริ บต่อไป
ยาแก้วณั โรค เอาแก่นพรม แก่นลัน่ ทม มะขามทั้ง ๕ ขี้เหล็กทั้ง ๕ ฝักคูน ใบมะกา แก่นประดู่
โพกพาย แรแร สมอทะเล สารส้ม ๑ บาท ยาดํา ๑ บาท ดีเกลือ ๑ บาท ต้มกินเช้าเย็น แก้ฝีในท้อง
ยาแก้วณั โรค เอาประคําไก่ท้ งั ๕ แก่นขี้เหล็ก เถาวัลย์เปรี ยง เถาคันแดง รากมะหวด รากมะตูม
เปลือกต้นสมอทะเล ชะเอมไทย ใบมะขาม ใบส้มป่ อย มะแว้งเครื อทั้ง ๕ ผลมะขามป้ อม เอาเสมอภาค ต้ม
กิน ถ้ายังไม่หายต้มหม้อที่ ๒ กินต่อไป
หม้อที่ ๒ เอาเครื่ องยาเหมือนหม้อที่ ๑ แต่เพิ่มรากมะเขือขื่น รากมะอึก รากส้มป่ อย ต้มกิน ถ้ายังไม่
หาย ต้มหม้อที่ ๓ กินต่อไป
หม้อที่ ๓ เอาเครื่ องยาเหมือนหม้อที่ ๒ แต่เพิ่มแก่นขี้เหล็ก ๓ ส่ วน เปลือกสมอทะเลอีก ๒ ส่ วน
เถาวัลย์เปรี ยง ๓ ส่ วน ต้มกิน ต้องใช้ของแห้งแล้วทั้งสิ้ น
ยาแก้ฝีในหู เอาลูกน้อยหน่าที่แห้งอยูก่ บั ต้น ฝนกับนํ้าปูนใสหยอดลงในหู หายแล
ยารมฝี ที่เป็ นรักแร้ เอาสวิงสําหรับตักปลาที่เก่า ๆ ใส่ ลงในหม้อตาล แล้วเอากะลาก้ อน(ก้น)กลวง
ครอบข้างบน แล้วจุดไฟเอาควันรมตรงหัวฝี ที่เป็ นนั้น
ยาแก้ฝีในคอ เอาเปลือกผลกล้วยตานีเผาไฟบดให้ละเอียดแทรกพิมเสน ใส่ กล้องเป่ าลงในคออีก
ขนานหนึ่ง เอาอกตะพาบนํ้าบดให้ละเอียดแทรกพิมเสนใส่ กล้องเป่ าลงในคอ
ยาแก้ฝีในคอ เอาหญ้ากระต่ายจาม ต้นโทงเทง เอาเท่ากัน ตําให้แหลกเอาเหล้าเป็ นกระสายต้มเอานํ้า
อม
อีกขนานหนึ่ง เอาหญ้าใต้ใบ ผักเป็ นแดง เอาสิ่ งละกํามือ สารส้ม ๑ บาท ตําให้เข้ากัน เอาราใส่ แล้ว
นึ่งพออุ่น เอานํ้าอม เอากากพอก
อีกขนานหนึ่ง เอาเปลือกพุดซาฝนกับนํ้าปูนใสกวาดคอ ทาที่คอบ้าง หายแล
ยาแก้ฝีในคอ จีนเรี ยกไซง้อ เอาเทียนหอย ๒ บาท พิมเสนอย่างดี ๒ สลึง กะตังมูตร ๑ สลึง เซไก่
หรื อเซโก (ของจีน) ๑ สลึง บดใส่ หลอดเป่ าเข้าในคอ ๒ ชัว่ โมงต่อ ๑ ครั้ง
อีกขนานหนึ่ง ใบส้มกบ จีนเรี ยกเกี้ยมเกี้ยะ บดผสมกับนํ้าส้มสายชู ใช้อมไว้นาน ๆ แล้วบ้วนทิ้งวัน
ละ ๔, ๕ ครั้ง ถ้าหาใบส้มกบไม่ได้ ใช้ใบหญ้าชันกาดแทน ถ้าเป็ นเพียงแต่เจ็บคอ หรื อต่อมนํ้าลายอักเสบ ใช้
โอบ๊วยอมไว้นาน ๆ ก็ได้ผลเหมือนกัน
ยาแก้ฝีในท้องทุกชนิด เอาต้นฝี หมอบทั้ง ๕ ต้มกิน ใช้ได้ผลมาแล้ว
๑๖๕

ยาแก้วณั โรค เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ เปลือกสันพร้านางแอ รากมะกลํ่าตาหนู เปลือกตาลดํา ยาเหล่านี้


ตากให้แห้งแล้วต้มกิน กินต่างนํ้าไปตลอดวัน แก้ฝีในท้อง ฝี ในไส้ และฝี ในปอด และแก้ชอบชํ้าภายใน
ยาแก้ฝีฝักบัว เอางาช้าง นอแรก(แรด) เขากวาง กระดูกงูเหลือม ขมิ้นอ้อย ข่า ฝนกับสุ ราใส่ ดีนกั แล
ยาแก้ฝีมะเร็ งในหู และฝี มะเร็ งกรามช้าง เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ ขันทองพยาบาล เปลือกกระดังงา
ตะไคร้หางนาค มะยมตัวผู ้ เหล็ก ตะกัว่ เอาสิ่ งละ ๕ ตําลึง ต้มกินเช้าเย็นครั้งละ ๑ ถ้วยชา ยานี้แก้โรคนี้
เหลืองเสี ยได้ดว้ ย
ยาแก้ฝีในท้อง เอาต้นฝี หมอบทัง(ทั้ง) ๕ ต้มกิน กินไปนาน ๆ หายแล
ยาเกลื่อนฝี เอารากเขยตายชนิดเปลือกต้นดําเนื้อขาวกลิ่นฉุ นฝนกับเหล้าทาเกลื่อนฝี ทําให้ฝียบุ หาย
เร็ ว
ยาแก้ฝีในมดลูก เอากระพังโหม งวงตาล ฝักสําโรง เอาเผาเป็ นด่างแช่น้ าํ แล้วเอาเปลือกมะรุ มแช่น้ าํ
ไว้ต่างหาก เอานํ้าเปลือกมะรุ ม ๒ ส่ วน นํ้าด่าง ๑ ส่ วน กินกระชับมดลูกดีนกั ยานี้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว

ว่ าด้ วยโรคฝี ดาดและยาแก้


ฝี ดาดเป็ นโรคมีเชื้ อติดกันได้ง่าย ฝี ดาดเป็ นโรคเป็ นครั้งเดียว ผูท้ ี่เป็ นแล้วจะไม่เป็ นอีก และเป็ นโรค
ที่มีวธิ ีป้องกันได้ คือ เอาเชื้ อของฝี ดาดมาปลูกลงในคน เมื่อเอาเชื้ อปลูกลงในคนแล้ว จะมีฝีเกิดขึ้น แต่ฝีที่
ปลูกนี้ไม่มีพิษร้ายแรงอย่างใด เมื่อปลูกแล้วเป็ นการป้ องกันฝี เถื่อนได้ มียาแก้ดงั ต่อไปนี้
ยาแก้ไข้ฝีดาด เอาใบมะกรู ด ใบมะนาว ใบมะงัว่ เอาเสมอภาค ใบตําลึงตัวผูเ้ ท่ายาทั้งหลาย บดปั้ น
แท่ง กินชะโลม แก้ร้อนพิษฝี ดาด
ยาหนุนหนองฝี ดาด เอายอดหวายขม เปลือกหมากสง ลูกฝ้าย ตําให้แหลก แล้วเอานํ้าฟักเป็ น
กระสายแทรกสุ ราด้วย กรองเอานํ้าพ่น
ยาแก้คนั ฝี ดาด เอาใบกระท้อน ขมิ้นอ้อย ตําให้แหลกแทรกสุ รา คั้นเอานํ้าพ่น
ยาแก้พิษฝี ดาดเป็ นอาการต่าง ๆ เอาหัวเขาควายที่ใช้แล้วกับฟันคนต้มเอานํ้ากิน แก้พิษฝี ดาดดีนกั แล
ยามหานิลกลาง เอาเทียนทั้ง ๕ ลูกจันทน์ แก่นจันทน์ท้ งั ๒ หว้านกีบแรด หว้านร่ อนทอง เบ็ญกานี
ตรี กะฏุก เอาสิ่ งละ ๔ บาท ยาทั้งนี้ข้ วั ให้เหลือง บดปั้ นแท่ง ละลายสุ รากิน แก้อาเจียน และแก้ลงเป็ นโลหิ ต
แก้พิษฝี ดาด แก้เหื อดหัด ใช้ได้ท้งั เด็กและผูใ้ หญ่
ยาหอมสําริ ด เอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู เทียนขาว เทียนแดง เทียนสัตบุษย์ เทียน
ข้าวเปลือก เทียนเยาวภาณี โกฏสอ โกฏหัวบัว โกฏนํ้าเต้า โกฏเชียง โกฏจุลาลําภา อบเชยเทศ จันทน์ท้ งั ๒
สะค้าน กฤษณา กระลําภัก ขอนดอก เกษรบัวหลวงแดง ขาว ดอกสัตบุษย์ ดอกสัตบัน ดอกสัตบงกช ดอกบัว
เผือ่ น ดอกนิลอุบล ดอกจงกลนี ดอกบัวขม ดอกพิกุล ดอกบุนนาค ดอกสารภี ดอกมะลิ ดอกกระดังงา ถ้าจะ
แก้พิษฝี ดาด และพิษลมทําให้ชกั ให้แทรกสมุลแว้ง ถ้าจะแก้ไข้พิษให้ยกสมุลแว้งออก ยาทั้งนี้เอาสิ่ งละ ๑
บาท บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าดอกไม้เทศ แทรกชะมดเชียง หญ้าฝรั่น อําพันทอง พิมเสน แก้ไข้ละลายดอกนํ้ามะลิ
สดกิน แก้พิษฝี ดาดและลมชัก ละลายนํ้าดอกไม้เทศกิน
๑๖๖

ยาแดงประทุมชาติ เอาจันทน์แดง จันทน์ขาว ดอกพิกุล บุนนาค เกษรบัวหลวง ดอกคําไทย ครั่ง


มวกแดง เถาหญ้านาง ดอกงิ้ว เอาสิ่ งละ ๒ บาท ฝางเสน ๒ เท่ายา เอานํ้าปูนแช่ไว้ ๑ คืน แล้วเอานํ้ามาเป็ น
กระสายบดปั้ นแท่ง แก้ไข้พิษ ไข้สันนิบาต ไข้ฝีดาด ไข้หดั มีอาการร้อนกระสับกระสาย ละลายนํ้าซาวข้าว
กินชะโลม ถ้ามีน้ าํ ลูกเห็บเอาแทรกลงด้วย แก้สลบละลายนํ้าดอกมะลิสดกิน ใช้ได้ท้ งั เด็กแลผูใ้ หญ่
ยาแก้ฝีดาดขึ้นในลําคอ หรื อฝี ข้ ึนในลําคอ ทําให้กินข้าวกินนํ้ามิได้ เอาใบสวาด ใบผักคราด นํ้า
ประสานทองสะตุ บดปั้ นแท่งปิ ดทองคําเปลว ละลายนํ้าซาวข้าวแทรกสุ ราอม
ยาเหลือง เอาลูกจันทน์ กํามะถันทั้ง ๒ หอมแดง ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู หว้านร่ อนทอง พิศ
นาต ลูกจุกโรหิ นี สารส้ม เมล็ดมะนาว เนระภูษี หัวหอมแดง หัวหอมขาว หัวกระเทียม กระชาย กะทือ ไพล
ขมิน้ อ้อย ครั่ง นํ้าประสานทอง จันทน์ท้งั ๒ ไคร้เครื อ ลูกราชดัด เมล็ดผักกาด ลูกสาระพัดพิษ ชะเอม
พริ กไทย ดีปลี ดินประสิ ว เอาเสมอภาค บดปั้ นแท่ง แก้ตกมูกเลือด แก้ลงโดยพิษฝี ดาด ลงตานซาง ละลายนํ้า
มะเดื่อต้มกิน ถ้าไม่ฟังละลายสุ รากิน แก้ซางขึ้นคอ ละลายนํ้ามะนาวแทรกเกลือกวาด
ยาเขียวสาระพัดพิษ เอาใบมะเดื่อดิน ใบมะเขือขื่น ใบมะแว้งทั้ง ๒ ลูกมะเขือขื่น ใบมะระ ใบผักเค็ด
ใบพริ กไทย ใบกระวาน ใบสะค้าน ใบช้าพลู ใบดีปลี ใบพิมเสน ผักกระโฉม เถาหัวด้วน ใบฝ้ายแดง ราก
มะกลํ่าเครื อ ใบสันพร้าหอม ใบสันพร้ามอญ ใบนํ้าเต้า ใบพรมมิ เอาเสมอภาค บดปั้ นแท่ง แก้ลมชัก แก้พิษ
ไข้ แก้ไข้ตานซาง แก้ลมกาฬ แก้พิษฝี ดาด ละลายนํ้าดอกไม้ นํ้าจันทน์กิน แก้ซางชัก นํ้าจันทน์หรื อ
นํ้าดอกไม้ นํ้าสุ รากิน แก้พิษฝี ดาด นํ้าสุ รากิน แทรกดีงูแหลือมด้วย
ยาจันทหฤทัย เอาพิมเสน ๒ สลึง ชะมด ๓ สลึง ลูกสมอทั้ง ๓ ลูกมะขามปอม หว้านนํ้า กระชาย หัว
หอม หัวกระเทียม ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ชะเอมเทศ เอาสิ่ งละ ๑ บาท เมล็ดผักชี .... สลึง การะบูน ๕ สลึง ยา
ทั้งนี้ข้ วั ให้เกรี ยม แล้วเอาเกษรบัวหลวง ดอกพิกุล ดอกบุนนาค ดอกสารภี สิ่ งละ ๑ บาท จันทน์เทศ ๔ บาท
จันทนา ๑๐ บาท จันทน์หอม ๑๐ บาท บดปั้ นแท่งแก้เชื่ อมซึ ม นํ้ารากบัว นํ้ารามะกอก แก้ปวดมวนเพื่อพิษ
เสมหะ นํ้ากระเทียมต้ม นํ้าการะบูน นํ้าพิมเสน แก้ชกั เพื่อลม ชักเพื่อพิษฝี ดาด นํ้าสุ ราแทรกดี แก้ตวั ร้อน นํ้า
ลูกสมอไทย นํ้าพระยามูลเหล็กต้ม แก้ร้อนสวิงสวาย แก้กระหายนํ้า นํ้าไส้ฟัก นํ้าชะเอม แก้มวั ซึ ม นํ้าจันทน์
นํ้าดอกไม้ แกอาเจียน นํ้าใบพรมมิ นํ้าใบมะระ แทรกพิมเสนกิน
ยาถ่ายฝี ดาด เอาหญ้าแพรก ขี้ววั ใบนํ้าเต้า ขมิ้นอ้อย เอาเสมอภาคต้มแทรกดีเกลือกิน
ยาพ่นฝี ชกั ไส้ไม่มีหนอง เอากล้วยหอมทอง ๓ ผล ผักชี กะทิ ไข่ ตําให้แหลกคั้นเอานํ้าพ่นฝี ให้ข้ ึน
หนอง
ยาเหลืองนพรัตน์ เอาลูกราชดัด ลูกสาระพัดพิษ กํามะถันแดง กํามะถันเหลือง ดินประสิ ว สารส้ม
ชาดหรคุณ ชาดก้อน ชันผง เมล็ดมะนาว หรดาลทอง โกฏทั้ง ๙ หว้านกีบแรด หว้านร่ อนทอง พริ กไทย ดีปลี
กระชาย กระเทียม หอม ไพล ขมิ้นทั้ง ๒ เอาเสมอภาค บดปั้ นแท่ง แก้หละแก้ซาง ละลายนํ้าสุ รา หรื อนํ้า
มะนาวแทรกดีงูเหลือมกวาด แก้พิษฝี ดาด ฝี หวั เดียว แก้ชกั เพื่อลม
ยาแก้กระหายนํ้าฝี ดาด เอาชะเอมเทศฝนกับนํ้ามะนาวกิน ดีนกั
ยาแก้คนั ฝี ดาด เอาใบสะเดา ผักขวง บอระเพ็ด(บระเพ็ด) ขมิ้นอ้อย ตําละลายสุ ราพ่นแก้คนั
๑๖๗

ยาพรหมภักตร์ สี่ตาํ หรับ เอาลูกจันทน์ มหาหิ งคุ ์ ยาดํา กานพลู เอาสิ่ งละ ๑ บาท พริ กหอมเท่ายา
ทั้งหลาย บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าเปลือกมะรุ ม แก้ลมปั ตฆาต ราชยักษ์ ลมตีนกํามือกํา ตาเหลือก คางแข็ง นํ้าลาย
ฟูมปาก ไม่รู้สึกตัว ละลายนํ้าเปลือกมะรุ มกับสุ รากิน แก้พิษฝี ดาดและฝี อย่างใด ๆ ละลายนํ้าสุ รากิน
ยาแท่งขาว เอารากมะปราง รากมะไฟ รากมะนาว รากมะเฟื้ อง กระดูกแร้ง กระดูกกา กระดูกงู
ทับทาง กระดูกงูเหลือม ขมิ้นอ้อย พวกกระดูกให้เผาไฟ เอาเสมอภาค บดปั้ นแท่ง แก้พิษฝี ดาด ละลายสุ รา
กิน แก้ร้อนในกระหายนํ้า ละลายนํ้าครําหรื อสุ รากิน แก้ไข้พิษไข้กาฬ แก้ไขฝี ดาด แก้กระหายนํ้า ละลาย
นํ้าดอกไม้หรื อนํ้าจันทน์ หรื อนํ้าไส้ฟักกิน แก้พิษแสลงก็ได้
ยาแก้ไข้อีดาํ อีแดงและไข้ฝีดาด มีอาการลงท้อง เอาเปลือกตะคร้อ ใบเทียน ใบทับทิม ผักขวง ขมิ้น
อ้อย บดละลายนํ้าเปลือกแคแดงต้มกิน
ยาปราบอากาศ เอารากดิน กระดองปูป่า กระดองเต่าเหลือง กระดูกหมาดํา ก้ามปูทะเล คางคกตาย
ซาก ก้านลาน นํ้าประสานทองสะตุ อุจาจาระแห้ง หวายตะคร้า กระดูกแร้ง กระดูกกา กระดูกงูทบั ทาง
กระดูกงูเหลือม รากละหุ่งแดง รากลําโพงกาสลัก หัวมหากาฬ ลูกสะบ้าลิง ลูกประคําดีควาย ขมิ้นอ้อย สะบ้า
ลาย เนระภูษี สะบ้ามอญ เอาเสมอภาค ผาไฟให้ไหม้ บดปั้ นแท่งปิ ดทอง แก้ไข้เพื่อกาฬ แก้กาฬสิ งคลี แก้พิษ
ไข้ แก้สลบ เอาตะปูเผาไฟแช่น้ าํ มูตรเอาปนกับนํ้าครํา เป็ นกระสายแทรกดีงูเหลือมกิน แก้ไข้จบั ละลายนํ้า
มูตรกิน แก้พิษฝี ดาดและกาฬทําให้สลบ ละลายนํ้าไส้ฟัก นํ้าครํา สุ รา แทรกดีกิน แก้ไข้ฝีดาด ละลายนํ้ามูตร
กิน
ยาแปรฝี ร้ายให้เป็ นดี เอารากมะเดื่อชุมพร รากหญ้านาง รากคนทา ใบเท้ายายม่อม รากมะนาว ราก
พุงดอ รากกะตังบาย รากชิ งชี (ชิงชี่) ทราย แกลบ หนังแรด หนังกระเบน เอาเสมอภาค ต้มกิน
ยาชื่อสะท้านไตรภพ เอาขี้ววั หญ้าแพรก หญ้าปากควาย ใบนํ้าเต้า ใบเงินใบทอง ใบแสมเสน ใบ
สันพร้ามอญ สบสันพร้าหอม ใบถัว่ แระ กกลังกา ชุมเห็นทั้ง ๒ ใบมะยม ใบมะเฟื อง ใบบอระเพ็ด(บระเพ็ด)
ใบสะเดา ใบหนาด ใบสับปะรด ฆ้องสามย่าน ใบทรงบาดาล หว้านหางจรเข้ ใบบัวหลวง ใบสมี ใบผักเข้า
ใบระงับ หญ้างวงช้าง ใบลําโพง กาสลัก ขมิ้นอ้อย แก่นจันทน์ท้งั ๒ เกษรทั้ง ๕ ไคร้เครื อ มหาสะดํา พิศนาด
ระยอม โกฏทั้ง ๕ เครื องเทศเอาสิ่ งละ ๑ บาท ใบไม้เอาสิ่ งละ ๑ บาท บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าหัวแห้วหมูตม้ แก้ไข้
เหนื อ ไข้สันนิบาต ไข้สาํ ประชวร ไข้รากสาด อีดาํ อีกแดง แก้กาฬทั้ง ๕ ละลายนํ้าสุ กกิน แก้กาฬทั้งปวงนํ้า
ครํา แก้ไข้น้ าํ มูตรครึ่ งนําท่าครึ่ ง แก้บิดนํ้าขมิ้นอ้อย นํ้าเปลือกแค เปลือกทับทิม กวาดแก้ไข้น้ าํ มะนาวแทรก
เกลือ แก้สะบัดร้อนสะบัดหนาว นํ้าซาวข้าวกิน .... แก้ผดิ สําแดงนํ้าซาวข้าวเอารากมะปรางหวานฝนแทรก
แก้ลงท้องนํ้าขมิ้นอ้อย แก้ไข้ฝีกาดแรก.... เหล้าครึ่ งนํ้าท่าครึ่ ง ต่อไปละลายเหล้ากิน
ยาแก้พิษไข้ฝีดาด เอาใบมะกรู ด ใบมะนาว ใบมะงัว่ เอาเสมอภาค เอาใบตําลึงตัวผูเ้ ท่ายาทั้งหลาย
บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้ากระสายกินและชะโลม
๑๖๘

ว่ าด้ วยโรคผิวหนังและยาแก้
โรคผิวหนังมีหลายอย่าง เช่น โรคพรรไนย เกลื่อน(เกลื้อน) กลาก มะเร็ งโร มะเร็ งชอน หิ ต เรื้ อน
กวาง โรคเหล่านี้มีเชื้ อเป็ นตัวพยาธิ และโรคผืน่ คัน โรคขีท้ ุกกุฐัง(ขี้ทูดกุฎฐัง) มียาแก้ดงั ต่อไปนี้
ยาแก้โรคผิวหนัง เอาแป้ งข้าวหมาก เปลือกสันพร้านางแอ โกฏหัวบัว ดอกพิกุล ดอกสารภี (สาระภี)
เอาสิ่ งละเท่ากัน บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าดอกไม้ทา ชะโลม
ยาแก้โรคผิวหนัง เอารากมะแว้งทั้ง ๒ กระดมทั้ง ๕ รากขี้กาแดง ลูกมะขามป้ อม ลูกสมอไทย ลูก
สมอพิเภก ขิงแห้ง บอระเพ็ด หัวแห้วหมู แก่นจันทน์แดง แก่นจันทน์ขาว โกฏก้านพร้าว โกฏสอ หญ้าตีนนก
เอาสิ่ งละเท่ากัน ต้ม ๓ เอา ๑ แทรกขันทศกรกับนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้พรรไนย เอาหัวอุตพิดหัน่ เป็ นชิ้นแช่น้ าํ มูตร ๕ วันกิน ยานี้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
ยาแก้ข้ ีกลาก เอารากทองพันชัง่ เมล็ดมะนาว บดละลายนํ้าส้มมะขามเปี ยก หรื อนํ้ามะนาวทา
ยาแก้ข้ ีกลากและพรรไนย เอากระเทียมตําเอานํ้าให้มาก มะขามเปี ยกคั้นเป็ นนํ้าข้น ๆ เท่ากัน กับนํ้า
หัวกระเทียม เอารากทองพันชัง่ ให้มากบดเป็ นผงละลายกับนํ้ากระเทียมและนํ้ามะขามเปี ยกกวนให้เข้ากัน
ตากแดด ใช้ทา เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
ยาแก้พรรไนย เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ หัวหอมแดง รากทองพันชัง่ เอาสิ่ งละ ๕ ตําลึง ต้มกิน
ยาแก้ข้ ีกลากเอาจุนสี สารหนู กํามะถัน เขาควายเผือกเผา ปลาร้าปลาดุกเผา เนื้อลูกสะบ้าเผา บด
ละลายนํ้ามันยางทา ก่อนทายาให้เอาขูดเสี ยให้ทวั่ ทายานี้แล้วห้ามไม่ให้ถูกนํ้า ๓ วัน
ยาแก้พยาธิ และพรรไนย เอาลูกมะเขือขื่น ใบกําเม็ง ใบพิมเสน ใบมะยม รากทองพันชัง่ ใบ
ทองพันชัง่ หัวกลอย เปลือกสะเดา เปลือกมะยมตัวผู ้ หนอนตายหยาก ตําให้แหลกแช่น้ าํ อาบทุกวัน
ยาแก้พยาธิ และพรรไนยคู่กบั ยาอาบ เอาเมล็ดชุมเห็ดใหญ่ข้วั ให้เกรี ยม บดละลายนํ้าผึ้งเป็ นลูกกลอน
กินวันละ ๓ เวลา
ยาแก้ข้ ีกลาก มะเร็ งไร เรื้ อนกวาง พรรไนย เอารากทองพันชัง่ กํามะถัน กระเทียม เมล็ดลําโพง เนื้อ
ลูกสะบ้า เมล็ดกระเบียน กระเบา พริ กไทย คางคกตายซาก ขั้ว(คัว่ )ให้เกรี ยม เอาเท่ากัน บดปั้นเป็ นแท่ง แก้
เรื้ อนกวาง ขี้กลาก ละลายนํ้ามันยางทา แก้มะเร็ งไร ละลายนํ้ามันงาทา พรรไนย ละลายนํ้ามะนาวทา พยาธิ
ดังตัวไรอันบ่อนกินในผิวหนัง ให้คายคันทั้งหน้าตา ใส่ ก็หายสิ้ น
ยาแก้มะเร็ งไรและขี้เรื้ อนกวาง เอากํามะถันบดให้ละเอียด เอาใส่ กระเบื้องตั้งไฟให้ร้อน เอาใบ
เสนียด ใบหางนกยูง กระเทียม กระดองเต่าเผา บดปั้ นเป็ นแท่ง เอานํ้ามันยางกับนํ้ามันงาสิ่ งละ ครึ่ งละลายยา
นี้ทา
ยาแก้เรื้ อนกว้างและมะเร็ งไร เอากํามะถัน เนื้อในเมล็ดสะบ้าเผา บดกวนกับนํ้ามันยางทา ห้าม
อาบนํ้า ๓ วัน
ยาแก้คุดทะราดลงพื้นและแก้ข้ ีเรื่ อน(เรื้ อน)กวาง เอาหนังแรดเผา กระดองแมงดาปิ้ งไฟ คางคกตาย
ซากเผา เอาเท่ากัน บดละลายนํ้ามันยางทาทุกวัน
๑๖๙

ยานํ้ามัน แก้มะเร็ งไร ขี้กลาก แผลซางเปื่ อยเน่า แผลเรื้ อรัง เอานํ้ายาสู บ นํ้าชุมเห็ดใหญ่ นํ้าหัว
กระเทียม นํ้ามันมะพร้าว เอาเท่ากันตั้งตากแดดไว้ ๓ วันจึงใช้ใส่
ยาแก้เกลื้อน เอาหัวขมิ้นอ้อยหัวใหญ่คว้านข้างในให้เป็ นโพลง เอาสารหนูใส่ สุ มไฟแกลบให้สุก
บดปั้ นแท่งเท่าเมล็ดถัว่ พู ละลายสุ ราทา
ยาแก้พรรไนย เอารากทองพันชัง่ พริ กเทศ ๓๓ ผล พริ กไทย ๓๓ เมล็ด กระเทียม ๓๓ กลับ ๑ ตัว
กระชาย ๗ หัว แกงกิน เมื่อจะกินเอาหัวไก่ข้ ึนบูชาครู เสี ยก่อน กินหายแล
ยาแก้พรรไนย เอาใบทองพันชัง่ กระเทียม ๓๓ หัว มะขามเปี ยก ๑ ปั้ น เกลือหน่อยหนึ่ง ทาหายแล
ยาแก้กุฏฐัง ให้แต่งมัทมังษาหารเป็ นคํานับ ไปพลีเอารากทับทิม รากเทียน รากกระดังงา รากมะยม
เอาสิ่ งละ ๔ บาท เมื่อพลีน้ นั ให้วา่ เมื่อพลนั้นให้วา่ ขอเชิญพระองค์เจ้าเสด็จไปรักษาพยาธิ กุฏฐังแลคนเป็ น
กุฏฐังนั้น ขอจงหายให้ประสิ ทธิ เถิด เมื่อเอายานั้นอย่าวางที่ดิน อย่าข้ามกราย เอาใส่ พานไว้ เอาสารหนู ๑
บาท ห่อผ้าขาว ๓ ชั น(ชั้น)ให้มน่ั คง เอาสุ รา ๒ ทนานดองไว้ ๗ วัน ให้กินตามกําลัง พยาธิ กุฏฐัง หายแล
ยาแก้เรื้ อนเล็กเรื้ อนกวาง เอาหรดาล ๑ บาท พริ กหอม ๑ บาท บดละลายมูตรโคดําทา
ยาแก้เรื้อรน(เรื้ อน)กวาง เอาลูกกระเบา ผิวไม่ ไผ่ (ไม้ไผ่) รากทรงบาดาล หรดาล บดละลายมูตรโคดํา
ทา
ยาแก้ข้ ีเรื้ อนและพยาธิ เอาเมล็ดกระเบา เมล็ดกระเบียน โลดทนง สะบ้าลิง สะบ้าใหญ่ เอาเท่ากัน บด
ละลายสุ ราหรื อนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้ข้ ีเรื้ อนและพยาธิกุฎฐัง เอาเอื้องเพ็ดม้า มะไฟเดือนห้า เชือกเขาไฟ รากโมกใหญ่ เปลือกกระทุ่มขี้
หมู คราบงูเห่า กระเชาแดง ยาเข้าเย็น หัน่ ตากแดด ดองสุ ราฝังข้าวเปลือกไว้ ๗ วันกิน
ยาแก้พยาธิ เอาตุกตํ่า ๑ บาท โหราตีนหมา ๒ สลึง สารหนู ๑ บาท โลดทนงยาว ๑ คืบ สารนิโรดยาว
๑ คืน หัน่ เป็ นชิ้นห่อผ้าแช่สุรา ๖ ทนาน ฝังข้าวเปลือกไว้ ๑๕ วัน เมื่อจะกินให้พลีจงดี ก่อนกินยานี้ให้กินยา
ถ่ายเสี ยก่อน ยานี้ให้กินครั้งละ ๑ ช้อนหอย ให้กินเดือนละทนาน
ยาแก้พยาธิ เอากระดูกแรด กระดูกช้าง รากนมแมว เอื้องเพ็ดม้า พริ กไทยล่อน ๑ ทนาน นํ้าผึ้ง ๑
ทนาน นํ้ามันงา ๑ ทนาน เหล้า ๑ ทนาน หุ งให้คงแต่น้ าํ มันกินแลทาแก้พยาธิ ท้งั ปวง
ยาแก้โรคกุฏฐัง เอาเปลือกกับรากตาเสื้ อ(เสื อ) เปล้าทั้ง ๒ เปลือกกระเชาทั้ง ๒ แส่ มา้ ทะลาย หาง
ไหลแดง ๒ บาท โลดทนง ๒ บาท สะเลียม (สะเดา) กะทกรก เปลือกพิกุล โพกพาย กระถินทั้ง ๒ โรคแดง
เปลือกกุ่มแตกให้แห้ง มะเขือขื่น เอาต้น ราก แลลูกด้วย เอาสิ่ งละ ๔ บาท สารหนู ๑ สลึง ห่อผ้าแช่สุรา ๗
ทนาน แช่ไว้ ๗ วัน ถ้าจะลดตัวยาลงเพียงสิ่ งละ ๒ บาท ให้ใช้สุราเพียง ๕ ทนาน เมื่อดองแล้วให้ปรุ งลูก
จันทร์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู ดีปลี สิ่ งละ ๔ บาท บดให้ละเอียดใส่ ลงกิน เมื่อกินยานี้เข้าไปรู ้สึกว่า
เมา ให้เอานํ้าตาลโตนด ขิงแครง เถาผักบุง้ ต้มกิน
ยานํ้ามันแก้พยาธิ เอาโหราตีนหมา โหราเดือยไก่ โหราเขาควาย โหราอํามะรึ ก โหราบอน มหาหิ งคุ์
ผักบุง้ ขัน เปลือกเลียน เปลือกกระเชา กระเบียน หางไหล ตําเอานํ้าเท่ากัน นํ้ามัน ๑ ทนาน หุ งให้คงแต่น้ าํ มัน
ปรุ งโหราลงเมื่อหุ งนํ้ามันแล้ว ตากแดดไว้ ๗ วัน กวนอย่าให้ขาด ใช้ทา
๑๗๐

ยาอาบแก้พยาธิ เอาเปลือกสําโรง ประคําไก่ ลางแดง บอระเพ็ด(บระเพ็ด) แพงพวยบก เอายานี้ตม้


ด้วยกะทะเคี่ยวให้งวด เอาเก็บไว้ให้เย็นพออาบได้ เมื่ออาบอย่าเติมนํ้าเย็น ยานี้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
ยาแก้พยาธิ เอาโลดทนง ลูกกระเบา ดินทอง (เข้าใจว่ากํามะถัน) การะบูน บดเป็ นลูกกลอนกิน กิน
ครั้งละเท่าหัวแม่มือ แล้วทวีข้ ึนไปตามกําลัง
ยาแก้โรคเรื้ อน (ขี้ทูด) เอาโกฏทั้ง ๙ เทียนทั้ง ๙ เมล็ดกระเบาขั้ว ๕ ตําลึง ลูกสมอพิเภก ลูกสมอไทย
ลูกสมอเทศ บดเป็ นผงละลายนํ้าท่ากิน ถ้าจะให้ทอ้ งเดินละลายนํามันยางกิน
ยาแก้โรคเรื้ อน เอาเปลือกกรวย เปลือกเลี่ยน เปลือกสะเดา เอาสิ่ งละ ๒ ชัง่ การะบูน ๔ บาท เกลือ ๓
กํามือ ต้มรม เวลาจะรมให้ทาํ กระโจมผ้า เข้ายืนรวมในกระโจม เมื่อรมแล้วเอานํ้ายานั้นอาบ ให้รม ๑ วันเว้น
๑ วัน จนกว่าโรคจะทุเลา เมื่อทุเลาแล้วให้กินยาถ่ายเสี ย
ยาถ่ายโรคเรื้ อน เอาข่าตาแดง ยาเข้าเย็นเหนือ ยาเข้าเย็นใต้ ใบมะกา เอาสิ่ งละ ๕ ตําลึง ต้ม ๓ เอา ๑
กิน
ยาเรี ยกตัวโรคเรื้ อนออก เอาไก่ตาย ๑ ตัว ทิ้งไว้จนเน่า แล้วเอาไก่น้ นั วางที่อกคนป่ วย กําหนดเวลา
พอควร คะเนว่าตัวโรคออกมาที่ไก่น้ นั หมดแล้ว ให้คนป่ วยนั้นไปนอนกลิ้งไปกลิ้งมาในไร่ ยาสู บ แล้วโรคจะ
หลุดออกตายหมดแล
ยาแก้โรคหู หนาตาโต (ขี้ทูด) เอาใบเหงือกปลาหมอตําคั้นเอานํ้ากิน แล้วเอาใบส้มป่ อยต้มอาบ หาย
แล
ยาพระฤาษี เอาลูกจันทน์เทศ การะบูน เอาสิ่ งละ ๘ บาท ยาดํา มหาหิ งคุ ์ เอาสิ่ งละ ๔ บาท พริ กไทย
เท่ายาทั้งหลาย บดเป็ นผงปั้ นแท่งด้วยนํ้ามะกรู ด ปั้ นเป็ นเม็ดเท่าผลคัดเค้า แก้ผหู ้ ญิงขัดระดู หรื อไม่มีระดู ให้
กินครั้งละ ๓ ถึง ๕ เม็ด แก้ลมจุกเสี ยดละลายนํ้าร้อนกิน แก้ฝีในท้อง ในอก ในคอ ละลายนํ้าสุ รากิน แก้
ริ ดสี ดวงทวารบานเหมือนดอกบุก ละลายนํ้ามะเดื่อดินต้มกินแลทา แก้หืดละลายนํ้ามะกรู ดกิน แก้ข้ ีกลาก
ละลายนํ้าสุ ราทา แก้เกลื้อนละลายนํ้าทากินแลทา แก้กุฏฐังละลายนํ้ามันยาง .... แก้หิดละลายนํ้ามันงาทา แก้
ลมตีน มือ ตาย ละลายนํ้ามะนาวกินแลทา แก้ถูกคุณละลายนํ้าสุ รา ๑๑ เม็ด ยานี้ถา้ กินประจําทุกวัน กิน ๑
เดือนทําให้เสี ยงเพราะ กิน ๕ เดือนทําให้มีสติและปัญญามัน่ คงดี กิน ๖ เดือนทําให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี
กิน ๑ ปี ทําให้จกั ษุแจ่มใสดี เมื่อจะกินให้หนั หน้าไปทางทิศบูรพา ให้ระลึกถึงคุณพระฤาษีผเู ้ ป็ นเจ้าของยานี้
ประสิ ทธิ ดีนกั แล
ยาแก้พยาธิ มีตวั เกิดขึ้นตามผิวหนัง เอารากทองพันชัง่ กํามะถันเหลือง กระเทียม ลูกสะบ้าเลือด
เมล็ดลําโพง เมล็ดกระเบียน เมล็ดกระเบา คางคกตายซากเผา พริ กไทยล่อน เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผง
ละลายนํ้ามันยางหรื อนํ้ามันมะพร้าว นํ้ามันงาทา
ยาแก้มะเร็ งคชราช และมะเร็ งไรมะเร็ งชอน เอาโพธิ์ ประสาท ราชมานพ มะเดื่อปล้อง แส้มา้ ทะลาย
มะตาดเครื อ มะดูกเครื อ เอาสิ่ งละ ๑- บาท เอาโคคลาน ๒๐ บาท พริ กไทย ๑๒ บาท มะพร้าวไฟ ๑ ลูก เอา
ฟื นไม้พุดซาต้ม เมื่อจะกินห้ามมิให้พูดกับใคร แล้วเอาเยือ่ มะพร้าวใส่ ปากหม้อต้ม แต่พองวดแล้วจึงกิน
๑๗๑

มะพร้าวให้หมดแต่วนั เดียว แล้วกินยานี้ไปกว่าจะจืด เมื่อต้มมทให้เอาเงินทําขวัญ.... ๑ บาท ต้มไป ๓ วัน


แล้วจึงกิน เมื่อกินยานี้แล้วยังไม่หาย ให้เอาราชมานพเพิ่มเข้าอีกเท่ายาทั้งหลาย ต้มกินไปอีกแล
ยานํ้ามันทาแก้มะเร็ งไร มะเร็ งชอน เอาลูกมะเขือขื่น นํ้าลูกลําโพง นํ้าลูกมะแว้งทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ ๓
จอก นํ้ามันกระเบา ๑ จอก นํ้ามันงา ๑ จอก หุ งให้คงแต่น้ าํ มันทา
ยาแก้มะเร็ งไร มะเร็ งชอน เอาเถาวัลย์เปรี ยง ๑ ชัง่ ยาเข้าเย็น ๑ ชัง่ ตาไม้สีสุก ๑ ชัง่ เนื้ อมะพร้าว ๑
ลูก ต้มกิน เนื้อมะพร้าวนั้นเอาใส่ ปากหม้อต้มไปให้งวด แล้วกินเนื้อมะพร้าวนั้นให้หมดแต่วนั เดียว แล้วกิน
ยาต้มนั้นต่อไป ยานี(นี้ )มีขวัญข้าว ๑ บาท
ยานํ้ามันทาแก้มะเร็ ง เอาใบเลี่ยน หญ้าใต้ใบ ลูกกระเบา ลูกกระเบียน หางไหลแดง หางไหลขาว
ลําโพงทั้ง ๕ ตําเอานํ้าแล้วเอายาสิ่ งอื่นปรุ งลง แล้วเอาสี เสี ยดทั้ง ๒ ครั่ง ชันตะเคียน เอาตะกัว่ ดําแช่ลงใน
นํ้ายาแล้วหุ งเป็ นนํ้ามันใช้ทา
ยาแก้มะเร็ ง เอายาเข้าเย็น ๕ ตําลึง รากมะกลํ่าเครื อ ๑ ตําลึง ขอบชะนางแดง ๒ บาท ขอบชะนางขาว
๒ บาท หญ้าหนวดแมว ๑ กํามือ ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาแก้มะเร็ ง เอายาเข้าเย็น ๔ ตําลึง เบ็ญจมาศ ๑๐ บาท ฝางเสน ๖ บาท รากช้องแมว ๓ ตําลึง ต้มกิน
ยาแก้มะเร็ งคชราช เอายาเข้าเย็น ๕ ตําลึง หัวทั้ง ๕ ตําลึง คุยแดง คุยขาว ช้าหม่อง ๓ ตําลึง ขันทอง
พยาบาล ๕ ตําลึง ต้มกิน
ยาแก้มะเร็ ง เอาปรอท ๒ บาท เอาโทษเสี ยแต่ ๑ บาท นํ้าอ้อยงบ ๓ ตําลึง เมล็ดกระบาขั้ว ๒๑ บาท
รักเทศ ๔ บาท ใบสะเดา ๑ บาท ลูกกระวาน ๑ บาท ดีปลี ๑ บาท ดีงูเหลือม ๑ บาท ดีจรเข้ ๑ บาท บดให้
ละเอียด กิน ๖ วัน ๆ ละ ๓ เวลา กิน ๗ วันแล้วงดเสี ย แล้วต้มยานี้กินต่อไป เอาเปลือกกุ่มบก ๕ ตําลึง ยาเข้า
เย็นเหนือ ๕ ตําลึง มะพร้าวไฟ ๑ ซี กเอาซี กข้างหัว แล้วทุบให้เป็ นซีกเล็ก ๆ ใส่ ท้งั กะลา เอานํ้าอ้อย ๓ งบ
ตะกัว่ นม เอาฟื้ นไม้ทองหลางต้ม แล้วเอาขี้เท่าไม้ทองหลางนั้นใส่ ลงในหม้อ ๓ หยิบ ให้กินยานี้ไปเถิดหาย
แล เมื่อต้มเอาเงินผูกคอหม้อ ๑ บาท
ยาแก้มะเร็ ง เอาเทียนแดง ๑๐ สลึง ข้าวตากขั้ว ๑๐ สลึง ปรอท ๑ บาท (เอาที่กินตะกัว่ แล้ว) บดเป็ น
ผงละลายสุ รากิน ๓ วัน แล้วเอายานี้สูบไปกว่าจะหาย
ยาแก้มะเร็ว(มะเร็ ง)คชราชเข้าข้อ เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๕ ตําลึง ขันทองพยาบาล ๕ ตําลึง
เปลือกกระดังงา ๕ ตําลึง เปลือกขี้อา้ ย ๕ ตําลึง พุดนา ๕ ตําลึง ไคร้หางนาค ๕ ตําลึง หัวหญ้าชันกาด ๕
ตําลึง มะพร้าวไฟ ๑ ลูก ทุบใส่ ท้ งั กะลา ปลาร้าปลาช้อน ๑ ชิ้น ต้มกิน
ยาแก้คนั เอาใบสะเดา ผักขวง พระยามูลเหล็ก ขมิ้นอ้อย บดเป็ นผงละลายนํ้าแทรกพิมเสนทา ยานี้
แก้ผนื่ คันและแก้คนั ทุกชนิ ดดีนกั ได้ใช้เห็นคุณมาแล้ว
ยาแก้คนั เอาระย่อม พริ กไทย พิศนาด บดเป็ นผงละลายนํ้าทา
ยาแก้คนั เอาไพลสด ขมิ้นชันสด เปราะหอม การะบูน เอาเท่ากัน บดให้ละเอียด เอานํ้ามะนาวใส่ ให้
มากคั้นแล้วกรองเอานํ้า เจือนํ้าอบฝรั่งเล็กน้อย ใช้ทาแก้คนั
๑๗๒

ยาแก้มะเร็ ง เอาหัวร้อยรู หัวอุตพิด เอานํ้าปั สสาวะเป็ นนํ้าต้มรม ยานี้แก้มะเร็ งต่าง ๆ ดีนกั เอายาแก้
ประดงต้มกินด้วย
ยาแก้โรคเรื้ อนชนิ ดเนื้ อชาหยิกไม่เจ็บ เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ กํามะถันทั้ง ๒ ขันทองพยาบาล หัว
ตะเพียน(ตะเพียด)แดง หัวหนอนตายหยาก ถ่ าย(ถ่าน)ไม่ซาก รากทองพันชัง่ เขาควายเผือก เอาสิ่ งละ ๑๐
บาท ต้มกินเช้าเย็น
อีกขนานหนึ่ง เอาเทียนดํา ๖ สลึง ปรอท ๑ บาท กานพลู ๖ สลึง ใบพลูที่กินกับหมาก ๒ สลึง พลูแก
๑ บาท ข้าวสารขั้ว (ข้าวเหนียวดําขั้ว) ๒ สลึง บดเป็ นผงกวนให้เข้ากัน สุ ราเป็ นประสานทั้งกินทั้งทา กิน
ขนาดเท่าเมล็ดพุดซา กินเช้าเย็น
ยาแก้พรรไนย ผิวหนังแตกสะเก็ด มีอาการคัน เมื่อเกาเป็ นตะเกร็ ดร่ วง เอาเปลือกไม้สักต้มกินหาย
อีกขนานหนึ่ง เอากํามะถันบดให้ละเอียดละลายสุ ราทา ทาแก้ผมร่ วงก็ได้
ยาแก้หิดเปื่ อย เอาเนื้อเมล็ดสะบ้า กํามะถันเหลือง หัวกระเทียมเอาแต่เนื้อ เกลือ ใบรักขาว เอาสิ่ งละ
พอควร ใบรักนั้นตําคั้นเอานํ้า ของนอกนั้นบดรวมกันแล้วเอาใส่ กะทะเคี่ยวเติมนํ้ามันมะพร้าว. พอควร เคี่ยว
สักครู (ครู่ )หนึ่งก็ใช้ได้ ทิง้ ไว้ให้เย็นแล้วเอาสําลีชุบทาที่แผลหิ ต ๓ วันหายแล
ยาแก้เม็ดผืน่ คันตามตัว เอาใบสํามะงา ๘ ส่ วน ใบเหงือกปลาก(ปลา)หมอ ๑ ส่ วน เอาต้มเข้าด้วยกัน
แล้วเอาใส่ ถงั แช่ไว้นาน ๆ ใช้อาบสัก ๓ วันก็หายแล
ยาแก้กุฏฐัง หู หนาตาเล่อ เอาดีปลี พริ กไทย กระเทียม กะทือ ใบหนาด ใบหัศกุน ขิง .... เอาสิ่ งละ
เท่ากัน บดเป็ นผงแช่สุรารับประทาน หายแล
ยาแก้โรคผิวหนัง เป็ นแผลนํ้าเหลืองไหลเรื้ อรัง และเป็ นมะเร็ ง เอาเถาคันแดง ขี้เหล็กทั้ง ๕ ใบมะกา
ทัง(ทั้ง) ๓ อย่างนี้เอาเท่า ๆ กัน เกลือหนักเท่ายาทั้งหลาย ต้มรับประทาน ถ้าแผลกลายใช้กาํ มะถันกับสุ ราโรง
ทา หายแล
ยาแก้มะเร็ ง เอาสารส้ม กํามะถัน ใบทองพันชัง่ เอาสิ่ งละ ๑ บาท ปูนแดงกินกับหมากเท่าเมล็ดบัว
บดละลายนํ้าทา
ยาแก้มะเร็ งโป่ ง เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ ขันทองพยาบาล ข่าแก่ ขมิ้นอ้อย เอาสิ่ งละ ๕ ตําลึงต้มกิน
ยาแก้มะเร็ งโป่ ง เอาชาดก้อน ใบกรวยป่ า ใบคนทิสอ ใบพลูแก แสมทะราย แสมสาร ใบลําโพง เอา
สิ่ งละ ๑ บาท ตําหยาบ ๆ มวนสู บ หรื อใส่ กล้องสู บ
ยาแก้มะเร็ ง เอาใบมะระ ใบลําโพงกาสลัก ใบพุดซา ใบคนทา ใบสะเดา ใบมะเขือขื่น ใบแสมสาร
ใบฝาง ขมิ้นอ้อย ตําคั้นเอานํ้าหุ งด้วยนํ้ามันงา ทาแก้มะเร็ งและแผลฝี ดาด
ยาแก้มะเร็ ง เอาเกลือ ๗ เม็ด ข้าวสาร เถาชิงช้าชาลี นํ้ามันมะพร้าว หุ งเป็ นนํ้ามันเป่ าแผล มะเร็ งปาก
ดํา
ยาแก้มะเร็ งเนื้ องอก เอาทองพันชัง่ ทั้งต้น ราก ใบ เอาใส่ ปีบเอานํ้าใส่ ให้ท่วมยาสัก ๒ นิ้ว ต้มเคี่ยวให้
เหลือนํ้า ๑ ใน ๓ เอานํ้ายานั้นประสมกับนํ้าผึ้งเท่า ๆ กัน คะเนพอดื่มครั้งเดียวหมด ให้กินต่างนํ้าตลอดวัน ยา
นี้ตอ้ งอุ่นทุกวัน เมื่อกินยานี้ประมาณ ๑๕ วันจะมีอาการดีข้ ึน
๑๗๓

ว่ าด้ วยยาแก้ พษิ สุ นัขบ้ าและพิษงู


 จะกล่าวสรรพยา แก้พิษสุ นขั บ้าให้ไว้เป็ นทาน ยานี้ประเสริ ฐเลิศกว่าทุกขนาน มีคุณโอฬารหาย
มามากมาย ให้เอาเมล็ดในผลสลอด ให้ได้สามเมล็ดหมาย ทั้งใบสลอดกํามืออย่าคลา สารหนูฤทธิ์ ร้ายหนัก
เฟื้ องหนึ่งนา สามสิ่ งด้วยกันตําพอกแผนนั้นประสิ ทธิ์ นกั หนา หมัน่ หยอดนํ้าไว้ให้แห้งยา พอกไปไม่ชา้ จัก
กัดโดยจง ยากจักสํารอกกัดเนื้ อร้ายออกได้ดงั ประสงค์ ถอนสิ้ นพิษร้ายจักหายมัน่ คง .. จริ งยิง่ ยงอย่าได้
เคลือบแคลง ยากินภายในสามสิ่ งนี้ไซร้จงจําคําแถลง รากจิงจ้อหัวลิงยวดยิง่ อย่าระแวง เขี้ยวเสื อฝนแฝงใน
สุ ราด้วยกัน นํ้าท่าก็ได้อย่าได้นอนใจเร่ งรักษาพลัน รักษาเร็ วไวอย่าให้นานวัน เนินช้าไปนั้นจักคลัง่ แลนา ฯฯ
ยาแก้พิษหมาบ้ากัด เอาไส้ฟักเขียวคั้นเอานํ้า เอาเขี้ยวเสื อฝนใส่ ลง เอาทองคําฝนแทรกลง ให้นานวัน
ละถ้วย กิน ๓ วันหาย
ยารักษาแผลหมาบ้ากัด เอาใบง้วนหมูลนไฟปิ ดปากแผล หรื อเอาเปลือกเพกาตําพอกแผลนั้นก็ได้
การรักษาแผลหมาบ้ากัด โดยไม่ตอ้ งให้หวั ออก ให้บีบแผลนั้นจนเลือดออก แล้วเอาขี้ยาฝิ่ นใส่ ให้
เต็มปากแผลนั้น แผลจะหายแล
ยาแก้พิษหมาบ้ากัด เอารากกระทุงหมาบ้า ลูกสะบ้า รางกบ ถ้วยแก้วขาว ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ
๔ บาท ต้มกิน
ยาแก(แก้)พิษหมาบ้ากัด (แก้ในปั จจุบนั ) เอานํ้ามะนาวใส่ แผลในขณะที่ถูกกัดใหม่ ๆ แล้วเอาก้าน
กล้วยลนไฟประคบปากแผล เอาเปลือกตาเสื อบดให้ละเอียดยัดใส่ ในแผล กัดพิษออก หายแล
ยาแก้พิษสุ นขั บ้า เอาเถาหัวลิงสดขูดเอาผิวหนัก ๔ บาท กํามะถันแดง ๑ สลึง ปรอท ๑ เฟื้ อง .... ด้วย
สุ รากิน กากยาบดพอกแผล ก่อนพอกเอาเข็มสักที่แผลให้เลือดออกก่อน แก้พิษคลัง่ หายแล ยานี้เคยใช้ได้ผล
มาแล้ว
ยาแก้พิษหมาบ้ากัด ให้ทาํ แผลให้สะอาดแล้วเอาข้าวหมากพอก ๆ ไปจนแผลหาย ยากินภายใน ....
ขวดแก้วที่แตก ไม้รางกบ รากกระทุงหมาบ้า รากจิงจ้อหัวลิง แกลบข้าวเหนียว ห่อผ้าขาวต้มกินจนกว่าจะจืด
ถ้าคนนั้นคลัง่ กินยาไม่ได้ ให้ช่วยกันจับมัดเอายาสวนเข้าทางทวารวันละ ๒, ๓ ครั้งเมื่อสติพอจะกินยาได้ก็
ให้กินยาต้มนั้นต่อไป
ยาแก้พิษหมาบ้ากัด เอาขิง ข่า รากกระทุงหมาบ้า รากเข็มขาว เอาเท่า ๆ กัน เอาเมล็ดลําโพงกาสลัก
เท่ายาทั้งหลาย บดด้วยนํ้าเขี้ยวเสื อ เขี้ยวหมี ปั้ นเป็ นเม็ดขนาดเมล็ดมะขาม ผูใ้ หญ่ให้กิน ๓ เม็ด คนอายุต่าํ
กว่า ๑๕ ปี ให้กินน้อยลงตามสมควร ก่อนให้กินยาให้เอาเชือกผูกมัดคนป่ วยไว้ให้มนั่ คง แล้วจึงให้กินยา
ละลายนํ้าเขี้ยวเสื อ เขี้ยวหมีฝนกิน และให้กินเวลาเย็น เมื่อกินยานี้แล้วการคลุม้ คลัง่ จะค่อยสงบลงและค่อย ๆ
หายไป เมื่อหายคลัง่ แล้ว ให้เอานํ้าตาลทรายละลายนํ้าให้กินสักถ้วยแก้เพื่อถอนพิษ ห้ามมิให้กินหัวหมู เนื้อหมู
ป่ า อีเก้ง เต่า ตะกวด เนื้อวัว ห้ามไม่ให้เห็นและได้กลิ่นศพ
ยาแก้พิษหมาบ้า เอาทองคําเปลวปิ ดที่แผล ๒ แผ่น ให้กิน ๓ แผ่น เพื่อดับพิษ
ยาใส่ แผนหมาบ้ากัด เอาผงในเชี่ยนหมากกับยาฝิ่ นสิ่ งละ ๑ บาทบดด้วยนํ้ามะนาวใส่ แผลหมาบ้ากัด
๑๗๔

ยาแก้พิษงู เอาหัวหญ้าชันกาดบดกับเกลือตัวผู ้ ๓ เม็ด ให้กินและทาที่แผน(แผล) ถ้าพิษทําให้สลบ


ให้เอายานี้ชะโลมให้ทวั่ ตัว ถอนพิษออกหายแล (หญ้าชันกาดรสขม)
ยาแก้พิษงู เอารากเขยตายฝนกับนํ้าสุ ราทาบ้างกินบ้าง ถอนพิษหายแล
ยาแก้พิษงู อนึ่งยาอสรพิษประสิ ทธิ์ ขลัง ได้แก้หายหลายผูช้ ูชีวงั เห็นสัจจังจริ งประจักษ์กระหนักใจ
ให้หมู่ชนบรรดามีในสี่ ทิศ อสรพิษขบกันจะตัษไษย จงเอาปากกัดหญ้าหรื อใบไม้ กับสารส้มประสมใส่ เข้า
เคี้ยวกิน แม้น้ าํ ลายในปากแห้งผากไป เอานํ้าท่าเจือใส่ โดยถิวล(ถวิล) เอากากพอกแผลไว้ให้มลทิน นั้นสู ญ
สิ้ นพิษร้ายคลายบรรเทา แต่ตอ้ งห้ามสามสิ่ งไม่ควรใช้ หญ้าดอกขาวอีกใบตําแยเล่า กับลัน่ ทมและหนาอย่าถึง
เอา นอกจากนั้นแล้วเข้าในเรื อง(เรื่ อง)ยา อันยานี้ถา้ กลํ้ากลืนไม่คลื่นเหียน ไม่อาเจียนแล้วก็ยงั ไม่หายหนา
ต้องกินซํ้าให้อาเจียนมา พิษก็วาเสื่ อมพลันไม่อนั ตราย
ยาแก้พิษงู เอาผักขวงตําคั้นเอานํ้าประสมกับสุ ราให้กิน เอากากยาพอกที่แผล ถอนพิษออกหายแล
ยาแก้พิษงู เอาใบเหงือกปลาหมอบดให้ละเอียดกินบ้างทาที่แผลบ้าง ถอนพิษออกแล
ยาแก้พิษสัตว์กดั หรื อต่อย ถ้าตะขาบหรื อแมลงป่ อง หรื อสัตว์ที่มีพิษกัดหรื อต่อย เอาเมล็ดมะขามมา
ตัดแล้วฝนกับนํ้ามะนาว แล้วเอาเมล็ดมะขามนั้นแปะลงที่แผลที่ถูกกัดทุกแห่ง เมล็ดมะขามนั้นจะดูดพิษติด
อยูป่ ล่อยไว้จนหลุดออกเอง
อีกขนานหนึ่ง เอารากผักเสี้ ยนผีฝนกับสุ ราหรื อนํ้ามะนาวทาที่แผล ถ้างูพิษร้ายกัดให้กินด้วยทาด้วย
จะหายโดยเร็ ว
อีกขนานหนึ่ง เอารากนมสวรรค์ดอกขาวฝนกับสุ ราหรื อนํ้ามะนาวทาบ้างกินบ้าง
ยาแก้พิษงูกะปะกัด เอารากหมาตายชนิดยอดแดง เมื่อเอาอย่าให้เงาทับต้น ตัดเป็ นท่อนขนาดองคุลี
๕ ท่อน ต้มกับเหล้าให้กิน กิน ๒-๓ ถ้วยก็จะหาย
ยาแก้จิง้ เหลนกัดหรื อข่วน เอาเล็บคนฝนกับนํ้ามะนาวทาที่แผล ถอนพิษออกแล
ยาแก้แมลงป่ องต่อยหรื อตะขาบกัด เอาเนยทาที่แผล หรื อเอาหัวหอมผ่าขวางแล้วกดลงที่แผลถอน
พิษออกแล
อีกขนานหนึ่ง อยูน่ ้ าํ เป็ นเพื่อนปลา อยูน่ าเป็ นเพื่อนข้าว เชิญพระสงฆ์องค์เจ้ามาเป็ นยาด้วยกัน
ข้าพเจ้าขอเชิญท่านไปเป็ นหมดรักษาสาระพัดพิษ แล้วก้มลงกลั้นใจเอาปากกัดผักบุง้ มาเคี้ยว เอาสุ ราเป็ น
กระสาย คั้นเอานํ้ารับประทาน กากพอกปากแผล แก้พิษงูเห่าดีแล
ยาแก้พิษงู เอาใบน้อยหน่า ใบนมพิจิต รากโคกกระออม ดอกคาง ยาเข้าเย็นแดง บดละลายสุ รากิน
ยาแก้พิษงู เอาผักขวงตําคั้นเอานํ้าละลายสุ รากิน เอากากพอกปากแผล
ยาแก้พิษหมาบ้า เอาไส้ฟักเขียวคั้นเอานํ้า เอาเขี้ยวเสื อฝนใส่ ลง กินวันละ ๑ ถ้วย กิน ๓ วัน ถอนพิษ
ออกหมดแล
๑๗๕

ว่ าด้ วยนํา้ มันใส(ใส่ )แผล


ยานํ้ามันใส่ แผล เอาใบเถาคันมาตําคั้นเอานํ้า แล้วเอาสี เสี ยด จุนสี สิ่ งละพอควรใส่ ลง ถ้าต้องการ
มากก็ทาํ ให้มากตามส่ วน แล้วหุ งให้คงแต่น้ าํ มัน เก็บไว้ใส่ แผล
ยาใส่ แผล เอาเชือกเขายอดแดง หญ้านางทั้ง ๕ ใบหมด(หมอ)น้อย ใบและเปลือกเพกา หญ้าปาก
ควาย รากฟักข้าว เอารวมกันตําคั้นเอานํ้า ๑ ทนาน หุ งให้คงแต่น้ าํ มัน (เข้าใจว่าจะต้องเอานํ้ามันใส่ ดว้ ย) ใส่
แผลเน่าต่าง ๆ แผลเสื อหรื อจรเข(จระเข้)กัด หรื อแผลฝี เปื่ อยเน่าก็ใส่ ได้
ยานํ้ามันใส่ แผลทั้งปวง แผลซางเปื่ อยเน่าก็ได้ เอาขมิ้นผง กํามะถัน เกลือ ลูกเบญกานี บดให้ละเอียด
แล้วเอาขมิน้ ชันสดตําคั้นเอานํ้า ๑ จอก (ไม่เจือนํ้า) กะทิสดไม่เจือนํ้า ๑ จอก ประสมกันหุ งให้คงแต่น้ าํ มัน ใช้
ใส่ แผนดีนกั แล
ยาแก้แผลอักเสบ เอาใบกําเม็งกับข้าวสุ กตําพอก
ยาแก้แผลกลาย เอาใบมะเขือเปราะ ๕ ใบ เอาปูนทาบาง ๆ แล้วขยี้บีบเอานํ้าหยอดลงที่แผลเอากาก
พอกที่แผล
อีกขนานหนึ่ง เอาใบลิ้นนาคราช (รู ปคล้ายดาบปลายแหลมแข็ง มีลายขอบเหลือง) ตําเคล้ากับนํ้าปูน
ใสพอกแผลกลาย หายดีแล
ยาแก้แผลที่เป็ นนํ้าเหลืองแลคัน เอาเกลือตัวผู ้ ๑ เม็ด สารส้มเท่าเมล็ดพุดซา ขมิ้นอ้อยตําคั้นเอานํ้า ๑
ช้อนโต๊ะ นํ้ามันมะพร้าว ๒ ช้อนโต๊ะ แล้วเอาใส่ กะทะเคี่ยวให้เดือดพล่าน แล้วปลงลงเอาทิ้งไว้ให้เย็นใส่ แผล
ดีนกั แล
ยานํ้ามันใส่ แผล เอาใบผักไห่ ขมิ้นอ้อย ผมคน นํ้าข้าว นํ้ามันมะพร้าว ขี้ผ้ งึ แข็ง หุ งให้เป็ นนํ้ามัน ใส่
บาดแผลทั้งปวงแลฝี เปื่ อยพัง ดีนกั แล
ลบทิง้ พิมพ์เกิน (ยานํ้ามันใส่ แผล เอาใบผักไห่ ขมิน้ อ้อย ผมคน นํ้าข้าว นํ้ามันมะพร้าว ขี้ผ้ งึ แข็ง หุ งให้เป็ น
นํ้ามัน ใส่ บาดแผลทั้งปวงแลฝี เปื่ อยพัง ดีนกั แล)
ยานํ้ามันใส่ แผล เอาสี เสี ยด กํายาน รงทอง กระเทียม ขมิ้นอ้อย ชันตะเพียน เมล็ดสลอด ผมคน บด
ให้ละเยด เอานํ้ามันมะพร้าว ขี้ผ้ งึ แข็ง ใส่ รวมกันหุ งให้เป็ นนํ้ามัน ใช้ใส่ บาดแผลทั้งปวง แลแผลฝี หายแล
ยานํ้ามันใส่ แผล เอาบอระเด็ด(บระเพ็ด) ๕ บาท เถาชิงช้าชาลี ๑๐ บาท ขมิ้นอ้อย ๒ บาท ข้าวสาร ๓
บาท เกลือก ๒ สลึง ยาทั้งนี้รวมตําคั้นเอานํ้า ๑ ส่ วน เอานํ้ามันมะพร้าว ๒ ส่ วน เอารวมกันเคี่ยวให้คงแต่
นํ้ามัน เอาขี้ผ้ งึ แข็งใส่ ลงเคี่ยวให้เหนี่ยว(เหนียว) ใช้ใส่ แผลเรื้ อรังดีนกั
ขี้ผ้ งึ ตําราหลวง เอานํ้ามันงา ๕ ทนาน เสนอ้ายมุ่ย ๕ ห่อ ยาดํา ๖ บาท มดยอบ ๒ บาท การะบูน ๔
บาท ยางสน ๘ บาท กํายาน ๖ บาท ขี้ผ้ งึ แข็ง ๒๐ บาท หุ งให้เหนียว ใช้ใส่ แผลแลทาแก้เมื่อยขบได้ดว้ ย
ยาแก้แผลบาดทะยัก เอาหญ้าพันงูขาว สี เสี ยด บดเคล้ากับสุ ราเอานํ้ากิน เอากากยาพอกแผล
ยาแก้แผลบาดทะยัก เอาใบหัศกุน ใบผักบุง้ ข้าวไหม้ ขมิ้นอ้อย ตําพอกแผล แก้ชกั แก้ตวั ร้อนด้วย
ยาแผลบาดทะยัก เอายางข่อย กาบหอยแครงเผา บดแล้วกวนให้เข้ากัน ทาแก้มดกันเป็ นแผล
บาดทะยัก
๑๗๖

ยาแก้แผลบาดทะยัก เอาเขียวขี้ทอง ฝิ่ นดิบ ขี้ผ้ งึ นํ้ามันมะพร้าว หุ งให้เป็ นนํ้ามันใส่ แผล บาดทะบัก
กัดฝ้าดีนกั
ยาแก้บาดทะยัก เอาปลายข้าวเหนียว ใบยอ ผักแพงพวย ขมิ้นอ้อย บดพอกแกพิษบาดทะยัก
ยาแก้บาดทะยัก เอาบอระเพ็ด(บระเพ็ด) ขมิ้นอ้อย เกลือ ขี้ผ้ งึ นํ้ามันมะพร้าว หุ งเป็ นนํ้ามันใส่ แผล
บาดทะยัก เรี ยกเนื้อดีแล
ยาแก้บาดทะยัก เอาใบลําโพง ข้าวบูด บดพอกแก้พิษบาดทะยัก ดีแล
ยาตัดรากบาทะยัก เอารากพุมเรี ยงทั้ง ๒ แก่นแสมทั้ง ๒ ขันทองพยาบาท กํามะถัน เอาสิ่ งละ ๒
ส่ วน ยาเข้าเย็น ๓ ส่ วน หัวหญ้าชันกาด ๔ ส่ วน ต้มกิน
ยาแก้บาดทะยัก เอายาเส้นอย่างฉุ นขยํากับนํ้าปั สสาวะพอกที่แผล ถอนพิษดีแล
ยาแก้แผลบาดทะยัก เอาหางปลาแห้ง ลูกประคําดีควาย เอาสิ่ งละเท่า ๆ กัน สุ มไฟให้โชน บดกับใบ
ทองหลางใบมนต้มเอานํ้ากิน เอากากพอกแผล
ยาแก้ปวดแก้บวมแผลบาดทะยัก เอาตะพาบนํ้า รากมะปรางหวาน ฝนกับสุ ราหรื อนํ้ามะนาวทา
ยาใส่ แผลสด เอานํ้าปูนใส ๑ ขวด กรดคาบอลิก ๒ ซี.ซี ประสมกันแล้วเขย่าให้เข้ากันดี ใช้ชาํ ระแผล
แลชุบสําลีปิดแผลดีแล
ยาใส่ แผลทั้งปวง แก้แผลซาง เอาขมิ้นผง กํามะถัน เกลือ ลูกเบ็ญกานี บดเป็ นผง เอาขมิ้นชันตําคั้น
เอานํ้า ๑ จอก ไม่เจือนํ้า กะทิสดไม่เจือนํ้า ๑ จอก หุ งให้คงแต่น้ าํ มันใส่ แผลทั้งปวงแลแผลซาง

ว่ าด้ วยโรคริดสี ดวงและยาแก้


--------------
โรคริ ดสี ดวงหลายอย่าง มีริดสี ดวงลําไส้ ริ ดสี ดวงทวารและริ ดสี ดวงจมูก เป็ นต้น
ยาแก้ริดสี ดวงลําไส้ ริ ดสี ดวงทวารหนักเบา ลงเป็ นมูกเลือดและลงถึงอติสาร นํ้าปั สสาวะเป็ นสี ดาํ
แดง ขาว เหลือง เอาไพล ๑๐ บาท ข่าตาแดง ๑๐ บาท เกลือ ๕ บาท ต้มกิน ยานี้เคยใช้ได้ผลมามากแล้ว
ยาแก้ริดสี ดวงเพื่อเลือดลม ริ ดสี ดวงลําไส้ ลงท้อง ท้องขึ้น แก้มุตกิด ฝี มดลูก เอาถาคันแดง
บอระเพ็ด ลูกคัดเค้า ไพล ขิง กะทือ ข่า เอาสิ่ งละ ๒๐ บาท ลูกมะกรู ด ๓๓ ลูก ขาวเหนียวดํา ๑ ทนานขั้วให้
เกรี ยม เกลือ ๑ ทนาน ปูนขาว ๔ บาท ดองกิน
ยาแก้ริดสี ดวงขี้เป็ นเลือด เอาหนังอีเก้งเผาไฟ บดละลายสุ รากิน
ยาแก้ริดสี ดวง มีอาการคอแห้ง เสี ยงแหบแห้ง เอาชะเอมเทศ ดีปลี ขิง กระเทียม เอาเสมอภาค บด
เป็ นผง เอานํ้ามะนาว นํ้ามะขามเปี ยก นํ้าตาลทราย เอาเคล้ากับผยาผงปั้นเป็ นลูกกลอนกินเช้าเย็นทุกวัน
ยาแก้ริดสี ดวง เอารากเจ็ตมูลเพลิง ๔ บาท พริ กไทย ๒๔ บาท ขิงแห้ง ๒๐ บาท กระเทียม ๑๖ บาท
ดีปลี ๓ บาท ลูกกระวาน ๓ บาท ลูกจันทน์ ๒ บาท โกฏสอ ๑ บาท โกฏเขมา ๓ บาท เทียนแดง ๓ บาท เกลือ
สิ นเธาว์ ๘๐ บาท มูตรโคดํา ๑๐ ทนาน ดองไว้ ๓ คืนแล้วเอาเคี่ยวให้แห้ง แล้วบดปั้ นแท่งเท่าเมล็ดฝ้ายกินวัน
๑๗๗

ละ ๓ เม็ด แก้ลมท้องใหญ่ไส้พอง แก้ริดสี ดวงผอมเหลือง แก้กะไษยไส้เลื่อนแลลมโฮก แก้เสี ยงแหบพูดเป็ น


เสี ยงกระซาบ ๆ แก้เจ็บคอ แก้เลือดทวาร แก้หือไอ แก้ไข้ผอมเหลือง แก้ลมขึ้นทั้งตัวก็แก้ได้
ยาแก้ริดสี ดวงให้ไอ เอารากโรค(โรก)ทั้ง ๒ หัวกระดาดทั้ง ๒ หัวบุกรอ หัวหลาย หัวอุตพิต แก่น
ขี้เหล็ก รากชิงชี่ ตาไม่ไผ่ เปลือกทองหลางใบมน ต้นสลัดได รากรักขาว ตาสะแก กะลามะพร้าว เอาสิ่ งละ
เท่ากัน สับเป็ นชิ้นใส่ หม้อทะนนหุ งเป็ นชี่เอานํ้าใส ๆ กินครั้งละ ๑ ช้อนหอย แก้ริดสี ดวงหืดไอ แก้มองคร่ อ
ผมเหลือง แก้กะไษยกล่อน กะไษยเลื่อน แก้ลมโฮก ซึ่ งทําให้พูดไม่ออก ได้แต่กระซาบอยูใ่ นคอ ๆ แห้ง เจ็บ
ในคอเจ็บในอก แก้เลือดตกทวารหนักทวารเบา แก้ผมแห้ง ยานี้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
ยาแก้ริดสี ดวงแห้ง เอาข่าตาแดง หัวหอม พริ กไทย หรดาลกลีบทอง เมล็ดมะเขือขื่น ลูกกระวาน เอา
เสมอภาคบดให้ละเอียด เอากระดาษไทยห่อเป็ นชุดแล้วตากให้แห้ง เอาใบรักขาวห่อชั้นนอก ทําเป็ นบุหรี่ สูบ
กลืนควันเข้าไป โรคนี้ แม้จะเป็ นมานานตั้ง ๔-๕ ปี ก็แก้หายแล
ยาแก้ริดสี ดวงที่มีอาการบวมหน้า บวมสะดือ ให้ทอ้ งขึ้น เอารากส้มกุง้ สารส้ม เมล็ดมะนาว ๑ เฟื้ อง
พริ กไทย ๑ เฟื้ อง ขิง กระเทียม สิ่ งละ ๑ เฟื้ อง บดละลายนํ้ามะนาวกิน
ยาแก้ริดสี ดวงและเลือดตกในทวารและมองคร่ อ เอาหัวบุกรอ หัวอุตพิด หัวกระดาดทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ
๔ บาท หัวกลอย ๒๐ บาท ตําให้แหลกแช่น้ าํ อ้อยสดไว้ ๑๕ วัน กรองเอาแต่น้ าํ แล้วเอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์
ดีปลี กานพลู รากเจ็ตมูลเพลิง เอาสิ่ งละ ๒ บาท บดปรุ งลงในนํ้ายานั้น แล้วเอาฝังข้าวเปลือกไว้ ๑๕ วัน กิน
ยาแก้ริดสี ดวงตกเลือด เอาใบกระพังโหม ใบกะเพรา จุกกระเทียม เอาสิ่ งละเท่ากัน ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาแก้ริดสี ดวง เอารากกะเพรา รากอังกาบ รากเสนียด รากหญ้างวงช้าง ต้ม ๓ เอา ๑ เอาพริ กไทย ขิง
ดีปลี บดปรุ งลงกิน
ยาแก้ริดสี ดวงลําไส้และบานทะโรค เอาขอบชะนางทั้ง ๒ แมงลักทั้ง ๕ ผักเสี้ ยนผีท้ งั ๕ ขี้เหล็กทั้ง
๕ ต้มกิน
ยาแก้ริดสี ดวงจมูก เอารากเจ็ตมูลเพลิง หัวดองดึง กระเทียม พริ กไทย ดีปลี ตําพอแหลก ตากให้แห้ง
มวนด้วยตองกล้วยตานีสูบ)
ยาแก้ริดสี ดวงจมูก เอาการะบูน เปลือกหมากสง ตําให้เข้ากันมวนเป็ นบุหรี่ สูบ
ยาแกริ ดสี ดวงคอหวะเปื่ อยเน่า เอาไคลเปลือกข่อย ยาดํา การะบูน ตําตากแดด มวนด้วยใบกรวยสู บ
ยาแก้ริดสี ดวงคู่กนั เอากรวยทัง ๕ ต้มกิน เป็ นยาตัดราก
ยาริ ดสี ดวงในคอในจมูก เอาไคลเหลือก(เปลือก)กระดังงาบดให้ละเอียดเหลว ๆ ทาสมุดดํา ตากแดด
ให้แห้ง มวนด้วยใบตองสู บ
ยาแก้ริดสี ดวงในคอในจมูก มีอาการเหม็นเน่าเหม็นคาวหรื อหวะเปื่ อยก็ดี เอาใบกรวย ใบหนาด ใบ
หญ้าลูกเค้า ใบพิกุลที่ร่วง ผิวไม้ไผ่สีสุก ไคร้เปลือกข่อย ยาแดงจีน เถาวัลย์เปรี ยงทุบแช่น้ าํ มูตรตากแดดให้
แห้ง ตําให้เข้ากันดีแล้วตาดให้แห้ง มวนด้วยสมุดดําสู บ
ยาแก้ริดสี ดวงงอกในท้องในทวารหนัก ตกเป็ นโลหิ ตสดออกมา เอาไพล ผิวมะกรู ด เอายัดใส่ ในลูก
มะกรู ดสุ มไฟในหม้อรม
๑๗๘

ยาแก้ริดสี ดวงวงอกคู่กนั เอารากขี้กาแดง ยาเข้าเย็น ต้มกิน


ยาแก้ริดสี ดวงงอกในทวาร ในลําไส้ ทําให้ตกเลือดสดออกมา มีอาการผมแห้งหน้าแข็งตกเกล็ด เอา
ข่าตาแดง รากแจง โพกพาย รากเขยตาย รากประคําไก่ แก่นขี้เหล็ก ใบมะกา ฝักคูน รากทิ้งถิ่น เถาวัลย์เปรี ยง
เอาสิ่ งละ ๑๐ บาท เกลือ ๑ ถ้วย ต้มก็ได้ดองก็ได้ กิน
ยาแก้ริดสี ดวงพลวก ให้ลงท้องเหม็นคาว เอาเปลือกไม่ (ไม้)แดง ฝิ่ นต้น ลูกกระวาน เกษรบัวหลวง
ดิก(ดอก)พิกุล ดอกบุนนาค ดอกสารภี ดอกมะลิ ต้มกิน
ยาแก้ริดสี ดวงและเลือดลม มีอาการคันและฟกบวม เอาขี้เหล็ก ใบสะค้าน ใบข่า หัวดองดึง รากเจ็ต
มูลเพลิงทั้ง ๒ เปล้าทั้ง ๒ ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ ใบละหุ่งแดง บวบขม บวบบ้าน พริ กไทย ดีปลี ไพล เทียนทั้ง ๕
เอาสิ่ งละ ๑ บาท ตําให้แหลกดองสุ รากิน
ยาแก้ริดสี ดวงลม มีอาการฟกบวม เอาขมิ้นอ้อย บอระเพ็ด หว้านนํ้า พริ กไทย ใบมะตูม ใบคนทิสอ
ใบสะเดา บดเป็ นผงละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้ริดสี ดวง ๑๙ จําพวก มีอาการผม(ผอม)แห้งผม(ผอม)เหลือง ไอ ปากเปื่ อย ลงท้อง ถ่ายปั สสาวะ
บ่อย เอาผักเป็ ดแดงตําคั้นเอานํ้า ๑ ทนาน นํ้าผักเสี้ ยนผี ๑ ทนาน นํ้าเปลือกมะรุ ม ๑ ทนาน นํ้าเปลือก
ทองหลางใบมน ๑ ทนาน นําข่าตาแดง ๑ ทนาน เอานํ้ายาเหล่านี้รวมกันเคี่ยวให้คงเหลือ ๑ ทนาน แล้วเอา
นํ้าอ้อย ๑ ทนาน นํ้าผึ้งหนึ่งทนาน ใส่ รวมกับนํ้ายาเคี่ยวจนแหง(แห้ง)เป็ นยางมะตูม แล้วเอาพริ กไทย ๒๘
บาท ยาดํา ๔ บาท ลูกจันทน์ ๒ บาท การะบูน ๒ บาท หัวกระดาดทั้ง ๒ สิ่ งละ ๑ บาท รากเจ็ตมูล ๑๒ บาท
บดเป็ นผงใส่ ลงในยานั้นปั้นเป็ นลูกกลอนกิน เอาพิมเสนแทรกพอควร
ยาแก้ริดสี ดวง เอารากกระถินหอม เอาหมาก ๑ คํา ไปพลีเอามาปิ้ งไฟให้เกรี ยม ดองสุ ราไว้ ๓ วันกิน
ยาแก้ริดสี ดวงลําไส้ มันงอกที่ทวารทําให้เลือดตก ทําให้ทอ้ งขึ้นกินของสดของคาวมิได้ เอา
พริ กไทย ๑ ถ้วย นํ้าผึ้ง ๑ ถ้วย นํ้าหญ้ากําเม็ง ๑ ถ้วย นํ้าฟัก ๘ ถ้วย เอาพริ กไทยบดใส่ ในนํ้ายาเคี่ยวให้งวด ปั้ น
ก้อนเท่าผลพุดซากิน เมื่อจะกินเอาเงิน ๑ สลึงติดเทียนบูชาครู กินหายแล
ยาแก้ริดสี ดวงลําไส้ เอาเถาคันแดง เถาวัลย์เปรี ยง แก่นกันเกรา แก่นขี้เหล็ก แก่นมะหาด แก่นขนุ น
รากเจ็ตมูลเพลิง สะค้าน รากช้าพลู ลูกคัดเค้า กะทือ ไพล กระชาย ขิง หัวดองดึง พระยามูลเหล็ก หัวกระดาด
ทั้ง ๒ หัวอุตพิต หัวบุกรอ ลูกมะกรู ด ๓๓ ลูก ข้าวเหนียวดํา ๓ ทนาน ตําพอเปลือกแตก เกลือ ๓ ถ้วย ดอง
ด้วยนํ้าสุ กตากแดดตากนํ้าค้างไว้กิน
ยาแก้ริดสี ดวง มันให้ลงท้องเป็ นเลือดสดออกมา เอาเมล็ดฝ้ายขั้วให้เกรี ยม ๒๐ บาท หัวแห้วหมู ๒๐
บาท ใบผักเสี้ ยนผี ๔ บาท บดเป็ นผงกวนกับนํ้ามันยางนํ้าผึ้งปนกันกิน หรื อจะละลายสุ รากินก็ได้
ยาแก้ริดสี ดวง มันมีอาการเป็ นลมวิงเวียน อาเจียนเหียนไส้ เอาข่าตาแดง ต้มแมงลัก ผักเสี้ ยนผี ขอบ
ชะนาง แก่นขี้เหล็ก ต้มกิน
ยาแก้ริดสี ดวงงอกทวารทั้ง ๙ หัวบุกรอ หัวกระดาดทั้ง ๒ หัวกลอย หัวเต่าเกียด หัวผักหนาม หัว
ดองดึง ขิง ดีปลี พริ กไทย เปลือกกุ่มบก เปลือกกุ่มนํ้า เปลือกมะรุ ม เปลือกทองหลางใบมน ใบผักคราด ใบ
ผักเสี้ ยนผี กะทือ กระชาย หัวหอม หัวกระเทียม ข่าใหญ่ ขมิ้นอ้อย ลูกจันทน์ ดอกจันทร์ ลูกกระวาน กานพลู
๑๗๙

โกฏทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ รากส้มกุง้ ทั้ง ๒ เปล้าทั้ง ๒ ลูกมะตูมอ่อน ราเจ็ตมูลเพลิง เอาสิ่ งละ ๒ สลึง บดละลาย
นํ้าผึ้ง หรื อนํ้าอ้อยแดง หรื อนํ้าร้อน ปั้ นเป็ นลูกกล่อนกินหนัก ๑ เฟื้ อง ยานี้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
ยาแก้ริดสี ดวง เอาเปลือกมะซาง เปลือกกระท้อน ผักหนอก พริ กไทยล่อน ขิง กระเทียม ดีปลี เอาสิ่ ง
ละ ๑๒ บาท ต้มกิน แก้ริดสี ดวงไอเป็ นเลือก ริ ดสี ดวงนี้หา้ มกินสุ รากินกะทิ และของคาว ๓ เดือน
ยาแก้ริดสี ดวงพลวก เอามะเขือคางแพะมาฝานตากให้แห้ง ลูกมะเกลือ เขม่าเหล็ก ลูกแห้งเหล้า
นํ้าตาลทราย ดองด้วยนํ้าตาลใสกิน
ยาแก้ริดสี ดวง ๗ จําพวก เอาลูกสมอทั้ง ๓ ขิง หัวบุกรอ หัวกลอย หัวอุตพิด หัวกระดาดทัง ๒ เอาสิ่ ง
ละ ๑ บาท รากมะแว้งทั้ง ๒ รากมะเขือขื่น เข้าข้า เอาสิ่ งละ ๒ บาท ส้มกุง้ ทั้ง ๒ รากเจ็ตมูลเพลิง เอาสิ่ งละ ๑
บาท ข้าวเหนียวกัญญา ๑ ทนานหุ งให้สุก ดองด้วยเหล้าครึ่ งนํ้าครึ่ ง ตากแดดตากนํ้าค้างไว้ ๓ วัน กิน
รากหรื อกําเนิ ดของริ ดสี ดวงมีดงั นี้ ริ ดสี ดวงงอกในจมูก รากมันอยูท่ ี่กระหม่อม ริ ดสี ดวงในทรวง
อก รากมันอยูใ่ นลําคอ ริ ดสี ดวงงอกในทวาร รากมักอยูท่ ี่หวั เหน่า ริ ดสี ดวงงอด(งอก)ที่องคชาด รากมันอยูท่ ี่
สะดือ ริ ดสี ดวงงอกในอก รากมันอยูใ่ นสมอง ให้สุมยาเสี ย ๓ วัน แล้วจึงประกอบยาให้กินภายหลัง
ยาสุ มแก้ริดสี ดวง เอาเปลือกค้อนกลอง ไพล หัวดองดึง รากเจ็ตมูลเพลิง เทียนดํา เทียนขาว เมล็ด
ผักกาด เปลือกสลอด บดด้วยนํามะนาวสุ มแก้รากริ ดสี ดวงทั้งปวง
ยาแก้ริดสี ดวงในอกในคอ เอาหัวบุกรอ หัวกลอย หัวดองดึง หัวแพวแดง พริ กไทย ขิง ดีปลี
กระเทียม บดให้ละเอียด ห่ อใบตอง ๗ ชั้น หมกไฟแกลบให้สุกแล้วกิน
ยาแก้ริดสี ดวงงอกในทวารหนักทวารเบา เอาตรีกะกูก(ตรี กะฎุก) ตรี ผลา เปลือกกุ่มทั้ง ๒ เปลือก
มะรุ ม หัวแห้วหมู สะค้านแดง ใบคนทิสอ(คนทีสอ) ไพล ลูกจันทน์ เอาสิ่ งละ ๑ บาท ลูกกระวาน กานพลู สิ่ ง
ละ ๒ สลึง บดเป็ นผงละลายนํ้ามะนาวกิน
ยาแก้ริดสี ดวงในลําคอ เอาหัวบุกรอ หัวกลอย หัวกระดาดทั้ง ๒ หัวแห้วหมู รากช้าพลู หว้านนํ้า ราก
เจ็ตมูลเพลิง ผักเป็ ดแดง หรดาลกลับทอง เอาสิ่ งละ ๑ บาท พริ กไทยเท่ายาทั้งหลาย บดละลายนํ้าผึ้งกิน แก้
ริ ดสี ดวงในอก ในทวาร ในจมูก ใบตา ตกเลือด เจ็บแสบท้อง ผอมเหลือง กินอาหารมิได้ หายแล
ยาแก้ริดสี ดวงลมทําให้ไอ เอาหัวกระดาดทั้ง ๒ หัวกลอย หัวอุตพิด หัวบุกรอ พริ กไทย ขิง ดีปลี
กระเทียม เทียนทั้ง ๕ บดด้วยนํ้ามะนาว หรื อนํ้ามะขามเปี ยก ปั้ นเป็ นก้อนเท่าลูกพุดซากิน
ยาตัดรากริ ดสี ดวง เอาชุมเห็นทั้ง ๒ ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาตัดรากริ ดสี ดวงจมูก บวมเปื่ อยพังออกไปจนเห็นขื่อจมูก เอาขันทองพยาบาล ไคร้หางนาค ต้น
ค้อนกลอง รากตับเต่า ไพล รากมะดูก เทียนดํา ๑ บาท ยาเข้าเย็น ๒๑ บาท มะพร้าวไฟ ๑ ลูก นํ้าตาลทราย ๑
ถ้วย ต้มด้วยฟื นไม้ตะคอง ๗ ดุน้ เอาเงินผูกคอหม้อ ๑ บาท ต้มกิน
ยาแก้ริดสี ดวงงอกในจมูกในทวาร เอาสน กํายาน ใบหนาด นํ้าอ้อยแดง บดให้ละเอียด เอากระเบื้อง
เผาไฟให้ร้อน แล้วเอายาผงโรยลงในกระเบื้องให้ไหม้เป็ นควันรมแก้ริดสี ดวง หายแล
๑๘๐

ยาแก้ลมริ ดสี ดวง ๗ จําพวก ลมในอก ๗ จําพวก หือไอ ๗ จําพวก นิ่ว ๗ จําพวก แก้ลมเป็ นก้อนจุก
เสี ยดในท้อง เอาลูกมะตูมแห้ง รากเจ็ตมูลเพลิง กรุ งเขมา สะค้าน หัวแห้งหมู เอาสิ่ งละ ๒ บาท ดีปลี ๔ บาท
พริ กไทยเท่ายาทั้งหลาย บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้ริดสี ดวงในท้องในทวาร แก้ลมกลัดอก แก้ริดสี ดวงไรฟัน เอาหัวบุกรอฝานตากให้แห้ง ๒ บาท
ดีปลี ๔ บาท ๒ สลึง สะค้าน ๒ สลึง ขิงแห้ง ๒ สลึง รากเจ็ตมูลเพลิง ๒ สลึง บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งกินครั้ง
ละเท่าผลพุดซา
ยาแก้ไอริ ดสี ดวง เอารากเจ็ตมูลเพลิง ๑ บาท สลัดได ๑ บาท ดองด้วยสุ ราฝังข้าวเปลือกไว้ ๓ วันกิน
แก้ระดูขดั ด้วย
ยาเสลดริ ดสี ดวง เอาลูกคัดเค้า ลูกสมอไทย มะขามเปี ยก พริ กไทย ขิง กระเทียม พริ ก...เทศสด เกลือ
หน่อยหนึ่ง บดกิน
ยาทุเลาริ ดสี ดวง เอาลูกสมอทั้ง ๓ พริ กไทย รากเจ็ตมูลเพลิง กระเทียม เกลือสิ นเธาว์ ยาดํา เอาสิ่ งละ
๑ บาท ดีเกลือพอควร บดด้วยนํ้ามะนาวปั้ นเป็ นลูกกลอนกิน
ยาแก้ริดสี ดวงในลําคอ ในจมูก ในเพดาน มันคุดอยู่ เอาหน่อไม้ เมล็ดสะบ้า ปูนขาว หน่อยหนึ่ง ตําคุ
ลีกานแล้วเอายาแดงคลุกตากแดดให้แห้ง แล้วมวนสู บ
ยาแก้ริดสี ดวงผอมแห้ง เอาผักเสี้ ยนผี พริ กไทย ขิง ดีปลี กระเทียม สมอร่ องแร่ ง เอาเสมอภาค บด
ปั้นแท่ง แก้ไข้จบั สั่นละลายสุ รากิน แก้ปวดท้องละลายนํ้าขิงกิน แก้ลงตกมูกเลือด ละลายนํ้าจันทน์กิน แก้ไข้
เหนือละลายนํ้าซาวข้าวกิน แก้สันนิบาติละลายนํ้าร้อนกิน แก้ลมละลายนํ้าส้มส้ากิน
ยาแก้ริดสี ดวงไปเป็ นเลือด เอารากเจ็ตมูลเพลิง รากพุดนา รากส้มป่ อย พริ กไทย ขิง ดีปลี กระเทียม
เท่ายาทั้งหลาย บดใส่ ในลูกมะเขือขื่นอม กัดเลือดในคอออกหายแล
ยาแก้ริดสี ดวงให้ไอแลเสลดตีข้ ึน เอาพริ กไทย ขิงแหง พระยารากขาว ราดพุด รากลําเจียก รากข้าว
พราย รากพิกุล ผักแพงแดง เอาเสมอภาค บดกิน แม้เลือดในคอแตกออกมาก็หาย
ยาแก้ริดสี ดวงผอมแห้ง เอาลูกคัดเค้า ๑๐๘ ลูก มะเกลือ ๑๐๘ ลูก มะแว้งเครื อ ๑๐๘ ลูก มะเขือขื่น
๑๐๘ ลูก ตากแดดให้แห้ง เอาดอกคํา ๒๐ บาท เกลือหน่อยหนึ่ง ตําคุลีกานดองด้วยนํ้าส้ม .... ทนาน ตาก
แดดตากนํ้าค้างไว้ ๓ วัน กินแก้ริดสี ดวงเพื่อเลือดเพื่อลมหายแล
ยาแก้ริดสี ดวงผอมแห้ง เอาใบไผ่ป่าต้มเอานํ้า ๑ ทนาน นํ้าบอระเพ็ด ๑ ทนาน นํ้าผึ้ง ๑ ทนาน ดองฝัง
ข้าเปลือกไว้ ๓ วัน กินมีกาํ ลังอวนพีเจริ ญอาหารดี
ยาแก้ริดสี ดวงผอมเหลือง เอาลูกสมอทั้ง ๓ ขิง พริ กไทย ดีปลี กระเทียม เทียนทั้ง ๕ ลูกจันทน์
ดอกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู ผิวมะกรู ด สะค้าน รากช้าพลู เอาเสมอภาค เอาใบสมอทะเลเท่ายาทั้งหลาย
ขั้วให้เกรี ยม แล้วเอามะขามเปี ยก เกลือแทรกพอควร บดปั้ นแท่งละลายนํ้าผึ้งกินเข้าเย็น แกริ ดสี ดวง แก้เลือก
ลมเสี ย อยูไ่ ฟไม่ได้ดีแล
๑๘๑

ยาแก้ริดสี ดวงในทรวงอกในคอทําให้ไอ เอารากส้มกุง้ พริ กไทย ขิงแห้ง ดีปลี กระเทียม เอาสิ่ งละ ๒
สลึง รากเจ็ตมูลเพชิง ชะเอมทั้ง ๒ ฝักส้มป่ อย เอาสิ่ งละสลึงเฟื้ อง บดเป็ นผง แล้วเอานํ้าผึ้ง นํ้าตาล นํ้าอ้อย
แดง คุลีกานกันเข้าเคี่ยวให้เหนียว ปั้ นเป็ นลูกกลอนกิน
ยาแก้ริดสี ดวงคอแห้ง เสี ยงแหบแห้ง เอาชะเอม ดีปลี ขิง กระเทียม เอาสิ่ งละ ๑ บาท บดเป็ นผงแล้ว
เอานํ้ามะนาว นํ้ามะขามเปี ยก นํ้าตาลทรายเคล้าปั้ นเป็ นลูกกลอนกินเวลาเช้าเย็น
ยาแก้ริดสี ดวงแห้งทําให้หอบ เอานํ้าส้มป่ อย นํ้ามะนาว นํ้าบอระเพ็ด นํ้าอ้อยแดง นํ้าไพล นํ้าผึ้ง
นํ้าเกลือ เอารวมกันเคี่ยวให้งวด แล้วเอาพริ กไทยบิดใส่ ลงเคี่ยวให้เหนียว ปั้ นเป็ นลูกกลอนกิน
ยาแก้ริดสี ดวงขึ้นหู ข้ ึนตาและทวารหนักทวารเบา เอารากเสนียด รากฝ้ายแดง เปลือกลูกทับทิม ครั่ง
ต้มกิน
ยาแก้ริดสี ดวงพลวก เอานํ้าอ้อยแดง ๓ งบ หอม ๓ หัว ดอกคํา ๕ บาท ฝางเสน สารส้ม หญ้าไซ
หญ้าแพรก ต้มด้วยกะทะเหล็กกิน
ยาแก้ริดสี ดวงขี้ เอาเปลือกโพทะเล รากปริ ก หัวอุตพิด หัวบุกรอ หัวกลอย หัวกระดาด ทั้ง ๒ ราก
ส้มกุง้ ทั้ง ๒ รากมะแว้งทั้ง ๒ แห้งเป็ นชี่กิน
ยาแก้ริดสี ดวงริ มฝี ปากเน่าเปื่ อยแตกร้าว เอารากผักคราด ลูกมะกอก ลูกประคําดีควาย เอาสิ่ งละ ๑
บาท นํ้าประสานทองสะตุ ๒ สลึง บดละลายนํ้าผึ้งกิน
ยาตัดรากริ ดสี ดวงทั้งปวง เอาแก่นขี้เหล็ก ข่าต้น หัศกุน รากชุมเห็ดเทศ ดองสุ รากิน
ยาแก้ริดสี ดวงในทวาร เอาพริ กไทย ขิง ดีปลี เอาเสมอภาค รากเจตมูลเพลิงเท่ายาทั้งหลาย เอาหัวบุก
รอเท่ากัน บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งปั้ นเป็ นก้อนเท่าลูกพุดซา กินครั้งละ ๓ เม็ด
ยาแก้ริดสี ดวงในทวาร เอาผักแพวแดง การะบูน พริ กไทย เอาเสมอภาค บดละลายนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้ริดสี ดวง เอาหัวบุกรอ หัวกลอย รากมะแว้งทั้ง ๒ ราก มะเขือขื่น หัวกระดาดทั้ง ๒ หัวอุตพิต
รากจิงจ้อ ลูกสมอทั้ง ๓ พริ กไทย ขิง ดีปลี โกฏหัวบัว ลูกจันทน์ ยาดํา บอระเพ็ด รากเจ็ตมูลเพลิง รากมะอึก
นํ้าประสานทอง เอาเสมอภาค บดละลายนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้ริดสี ดวงในทวาร เอารากยาสู บ รากมะดูก จา(ยา)เข้าเย็น ลูกมะเกลือเท่าอายุ ตําพอแตก แล้วต้ม
กินแต่ถว้ ยชาหนึ่ง หายแล
ยาแก้ริดสี ดวงในทวาร เอารากพุงแก หนอนตายยาก แก่นแสมทั้ง ๒ รากมะยมตัวผู ้ ลูกมะขามป้ อม
รากอังกาบ ยาเข้าเย็น ต้มกิน
ยาแก้ริดสี ดวงในทวาร เอากํายาน ปูนขาว ใส่ ลงในหม้อตาล ใช้รม
ยาแก้ริดสี ดวงจมูกชนิ ดทําให้จมูกตึง เอาเปลือกตาเสื อ รากค้อนกลาง ใบสลอดต้น ดินประสิ วขาว
ขมิ้นอ้อย เอาเสมอภาค บดสุ ม ๗ วันหาย
ยาแก้ริดสี ดวง เอาใบสะเดา ใบคนทิสอ(คนทีสอ) ใบมะตูม รากหว้านนํ้า บอระเพ็ด ขมิ้นอ้อย ต้มกิน
ยาแก้ริดสี ดวงทําให้เลือดสด ๆ ตกทวารหนัก เอาเมล็ดฝ้ายขั้วให้เกรี ยม บดละลายนํ้ามันยางกินและ
ทา
๑๘๒

ยาแก้ริดสี ดวงต่าง ๆ เอาเลี่ยน กระชาย กระดอม โพประสาท ราชมานพ ค้อนม้า เปลือก.... สะแล
ลูกบิด ปลาไหลเผือก กระถินพิมาน เจ็ตพังคี เปลือกเลือด โลดทนง เปล้าทั้ง ๒ นมแมวทั้ง ๒ คัดเค้าหมู ราก
ดีหมี รากเพกา แก่นมะหาด แก่นขี้เหล็ก แก่นแสมสาร มะค่าลิง ผักแพวทั้ง ๒ ใบคูน รากไม้แดง ตูมกาทั้ง ๒
ถัว่ แปบป่ า ราชดัด โคคลาน แก่นสะเดา รากเท้ายายม่อม โพกพาย สัตบุษย์ ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน
กานพลู เทียนดํา เทียนขาว พริ กไทย ดองด้วยนํ้าอ้อยกับเหล้า ฝังข้าวเปลือกไว้ ๗ วัน กินทีละน้อย
ยาแก้ริดสี ดวงในทวาร เอาพริ กไทย ดีปลี ขิงแห้ง เอาเสมอภาค เอารากเจ็ตมูลเพลิงเท่ายาทั้งหลาย
เอาหัวบุกรอเท่ายาทัว่ ปวง บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งกินครั้งละเท่าผลพุดซา วันละ ๒ ครั้งเช้าเย็น ยานี้แก้เลือด
ตกทวารด้วย
ยาแก้ริดสี ดวงงอกในคอ ทําให้ไอมีเสลดออกเหม็นคาวคอ เอารากตูดหมูตูดหมา ใบกับ ยอป่ า ต้ม ๓
เอา ๑ แทรกนํ้าผึ้งกิน
ยาประสระไพล เอาเถาวัลย์เหล็ก เถาวัลย์กรด สิ่ งละ ๑ บาท เถาวัลย์ปูน ๒ บาท พริ กหอม พริ กหาง
สิ่ งละ ๕ สลึง เปลือกกุ่มทั้ง ๒ เปลือกมะรุ ม สิ่ งละ ๓ บาท เถาคันแดง เถาวัลย์เปรี ยง เปลือกกันเกรา ข่าต้น
สิ่ งละ ๕ บาท เปล้าทั้ง ๒ ส้มกุง้ ทั้ง ๒ สิ่ งละ ๖ บาท แก่นแสมทั้ง ๒ โคคลาน พริ กชี้ ฟ้า พริ กขี้หนู สิ่ งละ ๘
บาท ใบสมอทะเลกึ่งยา ไพลเท่ายาทั้งหลาย การะบูน ๘ บาท บดเป็ นผง แก้ริดสี ดวงมองคร่ อ หื ดไอ แก้
ริ ดสี ดวงมหากาฬที่เกิดในลําไส้ แก้ริดสี ดวงในทวารที่เรี ยกว่า. สี ดวงเม็ดมะไฟ ที่เกิดนอกทวารเรี ยกว่า
บานทะโรค แก้ริดสี ดวงทั้ง ๙ เกิดที่ตาทําให้ตาแฉะ เกิด จมูกทําให้คนั ในจมูก ทําให้น้ าํ มูกออกและมีกลิ่น
เหม็นคาว แก้ริดสี ดวงในหู ทาํ ให้หูหนวก แก้ริดสี ดวงลําไส้ทาํ ให้ลิ้นเปื่ อยมากเปื่ อยเป็ นเม็ดเป็ นตุ่มที่ปาก
ริ ดสี ดวงทั้ง ๙ นี้มีอาการให้อยากกินของสดของคาว ทําให้ธาตุวปิ ริ ตมีอาการคันตามร่ างกาย ทําให้หนาว ๆ
ร้อน ๆ ละลายนํ้าผักเสี้ ยนดองกิน .... โรคกะไษยต่าง ๆ แก้กล่อนลงฝัก แก้กะไษยปลาไหลที่เสี ยวเสี ยดขึ้น
ข้างซ้าย แก้กะไษยทําให้เท้าเป็ นเหน็บชา ตามัว ละลายนํ้าเถาคันแดงต้มกิน แก้หืดไอ ละลายนํ้ามะงัว่ กิน แก้
ลมดานลมจุกเสี ยด ละลายนํ้าสุ ราแทรกการะบูนกิน แก้ลมร้ายต่าง ๆ ละลายนํ้าเปลือกมะรุ มต้มกิน แก้ลมขึ้น
เบื้องบน ละลายนํ้าอบเชยญวนต้มกิน ขับนํ้าคาวปลา ละลายนํ้าส้มสายชูกิน ขับโลหิ ต ละลายสุ ราแทรกดี
จรเข้กิน แก้มุตกิตมุตฆาต ทุลาสา ขัดเบา ละลายนํ้าหัวหญ้าชันกาด รากหญ้าคา ต้มแทรกดินประสิ วกิน แก้
เสมหะในลําไส้พิการ ละลายนํ้ามะขามเปี ยกแทรกเกลือกิน กวาดแก้ซาง นํ้าสุ ราแทรกดีงูเหลือม แก้ลมชัดตัว
งุม้ งอ นํ้าเปลือกกุ่มแทรกพิมเสนกิน
ยาแก้ริดสี ดวงมองคร่ อ หื ดไอ เกลื้อน กลาก เรื้ อน กุฏฐัง เอาหัวบุกรอ บอระเพ็ด สิ่ งละ ๑ บาท ขิง
ลูกพิลงั กาษา หัวแห้วหมู ลูกมะตูมอ่อน สิ่ งละ ๒ สลึง ผักแพวแดง ๓ สลึง สะค้าน ๓ สลึง พริ กไทย ๑ สลึง
บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้งกิน ถ้าปั้ นเป็ นเม็ด ให้ป้ ั นเท่าเมล็ดฝ้าย ให้กินครั้งละ ๑ ถึง ๗ เม็ด ยานี้ดีนกั
ยาแก้ริดสี ดวงชนิ ดทําให้ทอ้ งเดิน เอาขมิน้ อ้อย ๑๖ บาท ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๒๐ บาท เปลือกยาง
๒๐ บาท เกลือ ๑ บาท บดเป็ นผงละลายนํ้าร้อนกิน
๑๘๓

ยาแก้ริดสี ดวง เอาแก่นขี้เหล็ก ใบขี้เหล็ก สิ่ งละ ๑๐ บาท ต้นแมงลัก กํามะถันเหลืองสิ่ งละ ๖ บาท ยา
เข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๒๐ บาท ผักเสี้ ยนผี ๑ ต้น ต้มกินแก้ริดสี ดวงถ่วงทวารหนัก แก้อุจจาระเป็ นเลือด แก้เม็ด
ที่งอกขึ้นที่วารหนัก
ยาแก้ริดสี ดวงจมูก เอารากกรวยป่ า รากข่อยโทน รากมะแว้งเครื อ แก่นแสมสาร ใบหนาด ใบคราม
สิ่ งละ ๒ ส่ วน หรดาล ๑ ส่ วน บดมวนสู บ
ยาแก้ริดสี ดวงจมูกเอาบวบขม ไพล ใบกําเม็ง ใบผักหนอก ยาทั้งนี้เอาสด ๆ ตําคั้นเอานํ้า สิ่ งละ ๒
ส่ วน นํ้ามันดิบ ๒ ส่ วน หุ งให้คงแต่น้ าํ มันเก็บไว้ให้เย็น แล้วเอาหัวนํ้ามันยาง ๑ ส่ วนใส่ ลง กวนให้เข้ากัน เอา
ยอนในจมูก
ยาแก้ริดสี ดวงพลวก เอาพริ กไทย เทียนดํา สิ่ งละส่ วน ลูกจิก ทองเครื อ สิ่ งละ ๒ ส่ วน เปลือกสนุ่น
ขมิ้นอ้อย ฝาง สิ่ งละ ๓ ส่ วน ต้มกิน
ยาแก้ริดสี ดวงจมูก เอาผักเสี้ ยนผี หอมแดง ข่า ตําคั้นเอานํ้า สิ่ งละส่ วน นํ้ามันดิบ ๑ ส่ วน หุ งให้คงแต่
นํ้ามัน แทรกทองคําเปลวพอควร ยอนในจมูก
ยาแก้ริดสี ดวงบานทะโรค เอากะเพราทั้ง ๒ แมงลัก เอาสิ่ งละ ๓ ต้น แก่แสมทั้ง ๒ เทียนดํา สิ่ งละ ๓
บาท ต้มกิน
ยาแก้ริดสี ดวงบานทะโรค เอาพริ กไทย ๒ ส่ วน ดีปลี ๓ ส่ วน ขิง ๔ ส่ วน รากช้าพลู สะค้ า (สะค้าน)
สิ่ งละ ๘ ส่ วน ครั่ง ฝาง รากต้อไส้ สิ่ งละ ๑๖ ส่ วน พระยากระทัง่ ติด ๒๔ ส่ วน ต้มด้วยนํ้าปูนใสกิน
ยาแก้ริดสี ดวงทวาร เอาสลัดได ๕ ตําลึง นํ้าอ้อย ๓ งบ ต้มกิน
ยาแก้ริดสี ดวงตกโลหิ ต เอาใบประคําไก่ ใบมะกรู ด บดละลายนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้ริดสี ดวงทวาร เอาผักเบี้ยใหญ่ สารส้ม ต้มรม
ยาแก้ริดสี ดวงพลวก เอาสารส้มสะตุ ๑ ส่ วน ขิง ข่า พริ กไทย ทั้ง ๓ อย่างนี้ข้ วั ให้เกรี ยม เอาสิ่ งละ ๒
ส่ วน บดละลายสุ รากิน
ยาแก้ริดสี ดวงทวารหนัก เอาสารท้องรุ ้ง หรื อสารหยวกหนัก ๑ บาท จุนสี ๓ สลึง ยางสลัดได ๒
สลึง เอาใส่ กระบอกไม่ไผ่ไหว้ให้แห้ง แล้วขั้วให้กรอบ ชาดก้อน ๕ บาท สารนั้นให้ฆ่าเสี ยก่อน วิธีฆ่าให้เอา
ใส่ หม้อสุ มไฟไว้ ๑ คืน แล้วเอาออกมาบดให้ละเอียด อําพันทอง ๑ สลึง เอายาทั้งนี้รวมกันบดให้ละเอียด
แล้วเอาดินสอพองกับพิมเสนบดละลายนํ้าทาที่ขอบทวารเสี ยก่อน แล้วจึงเอายาผงนั้นทาที่หวั ริ ดสี ดวง ใช้
เนื้อยาครั้ง ๒,๓ หยิบ แล้วเอานํ้ามันมะพร้าวทาที่หวั ริ ดสี ดวงนั้นวันละ ๒ ครั้งเช้าเย็น ใส่ ยานี้ให้ได้ ๗ วัน
แล้วรมยาต่อไป
ยารมหัวริ ดสี ดวงทวารหนัก เอาดินประสิ วโรยในกระดาดฟาง แล้วมวนเข้าเหมือนชะนวน เอาไฟ
จุดแล้วรวมที่หวั ริ ดสี ดวง
ยาทาหัวริ ดสี ดวงเมื่อรมยาแล้ว เอาการะบูน ๓ หยิบ เอาตะกัว่ นมฝน ให้เขียวละลายนํ้ามัน มะพร้าว
ทาที่หวั ริ ดสี ดวง ทาเมื่อรวมแล้วทุกครั้ง ให้รักษาตามวิธีน้ ี สัก ๑๕ วันก็จะหาย ถ้าคนป่ วยนั้นมีอาการเท้าบวม
ท้องเดิน อย่ารักษาตามแบบนี้เลยเพราะกําลังไม่พอ
๑๘๔

ยาตัดรากริ ดสี ดวง เมื่อรักษาหายแล้วให้กินยานี้ตดั ราก เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๑๐ บาท ซัง
ข้าวโพด ๗ อัน ฝางเสน แกแร เอาสิ่ งละ ๑ บาท ดอกคําฝอย ๒ สลึง บานไม่รู้โดยขาว ๓ ต้น เอาต้นย่อม ๆ
ถ้าต้นใหญ่เอา ๑ ต้น ต้มกิน
ยาแก้ริดสี ดวงจมูกและคอ ขูดเอาผิวไม้ไผ่สีสุก เปลือกมะเดื่อปล้อง การะบูน ยาสู บ เอาประสมกัน
ตากให้แห้ง เอาสมุดข่อยอย่างดํามวนสู บ
ยาแก้ริดสี ดวงจมูก เอาใบคนทิสอ(คนทีสอ) กระดูกหมูป่า เนื้อควายเผือก ยาเข้าเย็นเหนือ ยาเข้าเย็น
ไต้ เอาหนักสิ่ งละ ๕ ตําลึง ต้มกิน เอาเงินผูกคอหม้อ ๑ สลึง เมื่อหายแล้ว เอาเหงือกปลาหมอทั้งต้นทั้งใบ ต้ม
กินเพื่อตัดราก
ยาแก้ริดสี ดวงจมูก เอาใบพลูลนไฟให้สุก บีบเอานํ้ายอนเข้าในรู จมูก ให้ทาํ ทีละข้าง
ยาแก้ริดสี ดวงจมูก เอาหัวบุกรอ ๑ หัว หัวอุตพิต ๑ หัว หัวกล้วย ๑ ต้น หัวกระดาดทั้ง ๒ ดอกจันทน์
กานพลู เมล็ดมะนาว เอาสิ่ งละเท่า ๆ กัน บดให้ละเอียดแล้วทํากระดาดตากแดดให้แห้ง แล้วมวนด้วยใบตอง
กล้วยสู บ
ยาแก้ริดสี ดวงงอก เอาผลมะกรู ด ๑๐ ผล ต้มให้สุกระอุให้น้ าํ แห้ง เอาดีเกลือ ๑ บาท ยาดํา ๑ บาท
เกลือสิ นเธาว์ ๒ บาท บดให้ละเอียดเอาใส่ กะทะเคี่ยวพอปั้ นก้อนได้กินวันนะล ๒ เวลาเช้าเย็น แล้วเอา
บอระเพ็ด(บระเพ็ด) เกลือทะเล บดให้ละเอียด ใส่ ลงบนก้อนเส้าที่กาํ ลังร้อน เอาควัน ๒, ๓ วันก็หาย
ยาแก้ริดสี ดวงลําไส้ เอานํ้ามันยางหัวใส นํ้าผึ้ง นํ้าบอระเพ็ด นํ้ารากเจ็ตมูลเพลิง เอาสิ่ งละทนาน
เอาประสมกันกวนให้เข้ากัน กินวันละ ๑ ช้อนทุกวัน
ยาริ ดสี ดวงจมูก เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๑๐ บาท ใบถัว่ แระ ใบผักเป็ ดแดง เอานํ้ามะพร้าวไฟเป็ น
นํ้าต้มกิน
ยาแก้ริดสี ดวง เอาบวบขมหมกไฟ แล้วเอาขยํากับนํ้าคั้นเอานํ้า ๑ ทนาน เอาเกลือ ๑ ทนาน เคี่ยวให้
แห้งเหลือแต่เกลือ เอาเกลือนั้นกินครั้งละเท่าผลพุดซา ทําให้ทอ้ งเดินจนถึงเสลดแล
ยาแก้ริดสี ดวง มีอาการผมแห้ง ร้อนในคอ ลงเป็ นเลือดเป็ นเสลดเน่า เจ็บทางปั สสาวะ เป็ นเม็ดขึ้นมา
แต่ละไส้ตลอดถึงลําคอ ทําให้คอแห้ง อกแห้ง เจ็บคอกินอาหารมิได้ เอาโกฏสอ โกฏพุงปลา โกฏเขามา เอา
สิ่ งละ ๒ บาท พริ กไทย ๑ บาท กระเทียม ดีปลี สารส้ม ดินประสิ วขาว กานพลู เอาสิ่ งละ ๒ บาท ขิงแห้ง
เทียนดํา เทียนขาว เอาสิ่ งละ ๑ บาท ลักกระจัน่ ดอกจันทน์ เอาสิ่ งละ ๒ สลึง ฝักส้มป้อยเท่ายาทั้งหลาย บด
ปั้ นแท่งละลายสุ รากิน
ยาแก้ริดสี ดวงและมองคร่ อ หื ดไอ โรคอยูไ่ ฟมิได้ เอาเกลือ ๑ ทนาน แก่นแสมสาร เปลือกมะกรู ด
แก่นแสมทะเล เอาสิ่ งละ ๕ ตําลึง รากส้มกุง้ ทั้ง ๒ สิ่ งละ ๑๐ ตําลึง รากหญ้าพันงูแดง ๓ ตําลึง รากเจ็ตมูล
เพลิง รากมะแว้งทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ ๑๐ บาท เอานํ้า ๑๐ ทนาน ต้มจนไม่มีฟอง ริ นเอานํ้าเก็บไว้กิน ดีนกั แล
ยาประสระกะเพรา เอากะเพราทั้งต้นทั้งใบ ๔ บาท ใบกระพังโหม ๔ บาท ลูกสมอไทย ลูกสมอ
พิเภก ลูกมะขามป้ อม เอาสิ่ งละ ๒ บาท รากอ้ายเหนียว รากเล็บมือนาง สะค้าน รากเจ็ตมูลเพลิง ดีปลี ราก
ช้าพลู ขิง ลูกมะตูมอ่อน รากกระดอม บอระเพ็ด(บระเพ็ด) เทพธาโร ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกระกวาน(ลูก
๑๘๕

กระวาน) กานพลู หัวแห้วหมู ขมิ้นอ้อย พริ กไทย ข่า กระชาย กระเทียม ไพล รากมะเกลือ รากสะแก รากขัด
มอญ เมล็ดผักชีลอ้ ม เมล็ดยีห่ ร่ า โกฏทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ เอาสิ่ งละ ๑ บาท บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าร้อนกินเช้าเย็น
แก้ริดสี ดวงอุจจาระหยดย้อย เจริ ญอาหารดีนกั

ว่ าด้ วยโรคบวมและยาแก้
โรคบวมมีลกั ษณะหลายอย่าง มียาแก้ดงั ต่อไปนี้
ยาแก้บวม ๕ ประการและลงท้อง เอาเทียนดํา สมอฝ้ายเทศ ขิงแห้ง ดีปลี เปลือกกระทุ่มขี้หมู มหาหิ งคุ์
หว้านนํ้า เอาสิ่ งละเท่ากัน เอาเกลือสิ นเธาว์ก่ ึงยาทั้งหลาย บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้บวมคู่กนั เอาตรีกะกูก(ตรี กะฎุก) ตรี ผลา หัวแห้วหมู เทียนทั้ง ๕ กานพลู รากทนดี รากช้าพลู
รากจิงจ้อใหญ่ หว้านนํ้า ดอกกระดังงา เมล็ดพิกุล ขมิน้ เครื อ ขมิน้ อ้อย รากเจ็ตมูลเพลิง นํ้าประสานทอง เอา
สิ่ งละ ๑ บาท โกฏกระดูก ๒ บาท ลูกพิลงั กาษาเท่ายาทั้งหลาย แล้วเอาลูกสลอดเท่ายาทั้งนั้น บดเป็ นผงแล้ว
เอานํ้ามะพร้าวนาฬิเกอ่อน นํ้าอ้อย เคี่ยวให้ขน้ แล้วเอายาผงใส่ ลงกวนให้เหนียวปั้ นเป็ นก้อน กินครั้งละหนัก
๑ สลึง แก้บวม ๕ ประการ หายแล
ยาแก้บวม ถ้าบวมทั้งตัว เอาเปล้าใหญ่ฝนด้วยสุ ราทา ถ้าบวมที่ตีนที่มือ เอาเปล้าใหญ่ฝนด้วยนํ้า
มะนาวทา
ยาแก้บวม เอาการะบูน ๘ บาท พริ กไทย ๑ ทนาน ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๔ บาท ลงพระเจ้า ๕
พระองค์ ต้มกินแก้บวมทุกประการแล
ยาแก้บวม เอากํายานหอม กํายานผี ใบประคําไก่ ใบมะตูม มดยอบ ไพล เมล็ดผักกาด หว้านนํ้า
กระเทียม เปราะหอม มหาหิ งคุ ์ ขิงสด ผิวมะกรู ด เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผงละลายสุ ราทา
ยาแก้บวม เอาใบสมอทะเล ๓ กํามือ ไพลเท่าฝ่ ามือ เถาวัลย์เปรี ยงพอควร เอารวมกันตําให้แหลก
แล้วสุ มไฟให้ลุกโชน แล้วเอาไฟออกกวาดที่ตรงกองไฟนั้น แล้วเอาเท่าเหยียบลงที่ยานั้นให้เหยียบอยูน่ าน

ยาแก้บวม เอาไพล ๓ ส่ วน หว้านนางคําหัวเล็ก ๆ ๑ หัว บดให้ละเอียด เอาการะบูน ๑ บาท เอา
นํ้าส้มสายชูเป็ นนํ้าคั้น แล้วกรองเอาใส่ ขวดไว้ใช้ทาแก้ปวดบวม
ยาแก้บวมลําเสา เอารากตาล รากหวายสามใบต่อ ฝักราชพฤกษ์ แก่นสน รากบัวหลวง กระจับทั้ง ๒
รากหญ้าคา สี หวดทั้ง ๒ ฝนด้วยนํ้าทา
ยาแก้บวม เอาขี้มา้ ผักแพงพวยแดง บดด้วยนํ้าส้มป่ อยอุ่นไฟให้ร้อน ใช้ทา
ยาแก้บวม เอารากลําโพงแดง ขิง รากมะอึก บดด้วยนํ้าส้มป่ อยทา
ยาแก้บวม เอาเปลือกมะรุ ม หว้านนํ้า เปลือกสําโรง เปลือกมะซาง ใบพลับพลึง คาแก (เข้าใจว่าข้ า
(ข่า)แก่) ข้าวเหนียวกัญญา บดละลายนํ้าปูนขาวทา
ยาแก้บวม มีอาการร้อน เอาใบทองหลางนํ้า ตําเอานํ้าทา
๑๘๖

ยาแก้บวม เอาใบขัดมอญ ใบครอบ ผักแว่น ขมิ้นอ้อย ข้าวเบือ บดพอกฝี เย็น คุมกระดูกฟกบวม หาย
แล
ยาแก้บวมทั้งตัว เอาใบมะเฟื อง ใบลําโพง บดละลายนํ้าปูนขาวทา
ยาแก้บวม เอาใบมะยม ใบมะเฟื อง ใบหมากผูห้ มากเมีย ใบผักเข้า ตําเอานํ้าทาแก้บวมและถอนพิษ
บวม
ยาแก้บวม บวมมีอาการร้อน เอาใบมะยม ใบราชพฤกษ์ ใบขมิ้นอ้อย บดละลายนํ้าทา
ยาแก้บวม เอาใบสะเดา ขมิ้นอ้อย เมล็ดมะนาว ข้าวเหนียวกัญญา ยาฝิ่ น บดด้วยนํ้ามะนาวทา แก้ตวั
ร้อนแลมานทะลุน
ยาแก้บวม เนื่ องจากธาตุพิการ เอาใบมะขาม ใบส้มป่ อย ใบส้มเสี้ ยว ใบมะดัน ตําคั้นเอานํ้าสิ่ งละ ๑
ทนาน ต้มให้เดือด เอาไพลตําคั้นเอานํ้า ๑ ทนานใส่ ลง เอาพริ กไทย ดีปลี ขิง รากเจ็ตมูลเพลิง สะค้าน เอาสิ่ ง
ละเท่ากัน ตําให้แหลกห่อผ้าแช่ในนํ้ายานั้น ฝังข้าวเปลือกไว้ ๓ วันกิน ยานี้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
ยาแก้บวมตามข้อ เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ เปลือกกระดังงา ขันทองพยาบาท พริ กไทย ดีปลี ขิง ต้มแทรก
เหล้ากินเวลาเช้าเย็น

ว่ าด้ วยโรคสํ าหรับบุรุษและอุปทมและยาแก้


ยาแก้โรคสําหรับบุรุษเข้าข้อ เอากระดูกช้าง กระดูกม้า กระดูกควายเผือก ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ แก่น
แสมสาร แก่นแสมทะเล ขี้เหล็กทั้ง ๕ ขมิ้นชัน เอาสิ่ งละ ๒๐ บาท ชามเบ็ญจรงค์ ๑ ใบ ต้มกินวันละ ๓ เวลา
แก้เข้าข้อ แผนเน่าเปื่ อย และแก้หนองในดีนกั
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษทั้งหลาย เอาแก่นมะขามมากรางด้วยบุง้ เอาห่ อผ้าประมาณเท่าผลมะกรู ด
ขนาดใหญ่แช่สุรา ๖ สลึง กินให้หมดนํ้าสุ รา ๓ ครั้ง แล้วเอากากยาตําผงเคล้านํ้าผึ้งปั้ นก้อนกินไปจนหมด
หายแล
ยาแก้เข้าข้อ เอาพระยาสัตบันทั้ง ๕ ต้มกิน หายแล
ยาแก้ขดั เบาโรคสําหรับบุรุษ เอารากหญ้าคา หญ้างวงช้าง หัวหญ้าชันกาด บานไม่รู้โรยขาว หัว
ตะไคร้ รากมะละกอ ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ ๔ บาท ใบไผ่ป่า ๑ กํามือ สารส้ม ๒ สลึง เปลือกหอยแครง
เผาไฟ ๖ สลึง เบี้ยจัน่ เผาไฟ ๖ สลึง เสกด้วยสักกัตวา ทําเฉลวปิ ดปากหม้อ ต้มกิน
ยาแก้เข้าข้อ เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๒๐ บาท กํามะถันเหลือง รากมะยมตัวผู ้ รากมะขาม เอกาสิ่ ง
ละ ๑๐ บาท ต้มเคี่ยวให้น้ าํ งวดลงไปครึ่ งหนึ่ง แล้วริ นเอาแต่น้ าํ ใส่ ขวดหรื อโหลไว้ กินครั้งละ ๑ ถ้วยตะไล
กินไป ๑ ถ้วยเติมนํ้า ๓ ถ้วยทุกครั้งไป นํ้ายานี้ตอ้ งอุ่นให้ร้อนทุกวัน
ยาแก้เข้าข้อ เอากระดูกควายเผือก ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ หญ้าหนวดแมว กระดูกแร้ง เอาสิ่ งละ ๒๐ บาท
ต้มด้วยนํ้ามะพร้าวไฟ แทรกดีเกลือกิน
๑๘๗

ยาถ่ายโรคสําหรับบุรุษแลโรคนํ้าเหลืองพิการ เอาเนื้ อลูกสมอทั้ง ๓ ลูกมะขามป้ อม กระเทียม


มหาหิ งคุ ์ นํ้าประสานทองสะตุ ลูกจันทน์เทศ ลูกกระวาน เอาสิ่ งละ ๒ สลึง เมล็ดสลอด ๔ บาท ๒ ตําลึง
กานพลู ๙๐ บาท ตําผงเคล้านํ้าผึ้งกินเวลาเช้าก่อนอาหารครั้งละเท่าผลพุดซา
ยาบํารุ งธาตุแลแก้โรคสําหรับบุรุษ เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ เจ็ตมูลเพลิง รากทองพันชัง่ ข่าตาแดง ราก
ไทรย้อย ดีปลี เอาสิ่ งละ ๑๐ บาท เขาวัวบ้าน ๕ บาท พริ กไทย ๕ บาท ต้มกินเช้าเย็น เจริ ญอาหารดีนกั
ยาแก้เข้าข้อออกดอกแลโรคลม เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ ข่าตาแดง หอมแดง โคคลาน รากไทยย้อย แก่น
ขี้เหล็ก เอาสิ่ งละ ๒๐ บาท เกลือ ๑ ทนาน พริ กไทย ๑ ทนาน กระดูกควายเผือก ๒๐ บาท ต้มกิน
ยาแก้ฝีมะม่วง เอาหน่อไม้ ๓ หน่อ ใบตําลึง ใบประคําไก่ ใบกุย้ ฉ้าย ดีปลี ๗ ดอก พริ กไทย
กระเทียม ปูนขาว ตําพอก
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาเถาคัน เถาวัลย์เปรี ยง รากกล้วยตีบ ผักเบี้ยใหญ่ ใบพลวง สิ่ งละ ๔ บาท
สารส้ม ๑ บาท ดินประสิ ว ๒ สลึง ต้มกินแก้ปัสสาวะเป็ นเลือดแลเป็ นหนอง
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอากระทุ่มขี้หมูท้งั ๕ หัวปลาไหลย่าง หัวคล้า ลูกคัดเค้า รากไม้ไผ่รวก ราก
สะแก เอาเสมอภาค ต้มกิน แก้ปัสสาวะเป็ นเลือดแลเป็ นหนอง
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาลูกสมอไทย ลูกสมอเทศ มหาหิ งคุ ์ เทียนดํา สารส้ม ผักแพวแดง บด
ละลายนํ้ามะนาวกินแก้ปัสสาวะเป็ นเลือดแลเป็ นหนอง
ยาก(ยา)แก้โรคสําหรับบุรุษ เอาขี้เหล็กทั้ง ๕ ขาเข้าเย็นเหนือ เปลือกทองหลาง เถาจิงจ้อ รากมะอึก
เอาสิ่ งละส่ วน รากมะดูก รากชิงชี่ สิ่ งละ ๒ ส่ วน ถ้าจะให้ขบั เอาเปลือกกันเกราใส่ ดว้ ย ถ้าจะให้ระบายเอายา
ดําใส่ ๑ บาท ต้มกินแก้เข้าข้อ
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอายาเข้าเย็นเหนือ ทะลายตาล พุงแก กําแพง ๗ ชั้น ขันทองพยาบาล พระขัน
ไชยสี่ (สี ) สิ่ งละ ๕ บาท กํามะถัน ๑ บาท ต้มกินแก้เข้าข้อ
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาไพล ๔๐ บาท ยาเข้าเย็นเหนื อ ๔ ตําลึง อ้อยแดง ๓ ตําลึง ต้มกิน แก้เข้าข้อ
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๕ ตําลึง ผักกระชับ ๑๐ ตําลึง เอาสารหนู ๒ สลึง
ห่อผ้า ๗ ชั้น เอายาทั้ง ๓ สิ่ งใส่ หม้อต้ม เอาสารหนูแขวนในหม้อเสมอปากหม้อ กินครั้งละถ้วยนํ้านม ถ้ายา
ไม่แล่นถึงหัวไหล่ ให้เอาผ้าออกเสี ย ๑ ชั้น กินไปกว่าจะจืด แก้เข้าข้อ
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ รากก้างปลาทั้ง ๒ ขันทองพยาบาล(พยาบาท) กําแพง ๗
ชั้น เถาวัลย์เปรี ยง หนอนตายหยาก มะขามป้ อม เปลือกฝิ่ นต้ม กระดูกเสื อ กระดูกควายเผือก สิ่ งละ ๕ ตําลึง
โกฏทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ กํายาน มดยอบ ยาดํา รากไม้รวก สิ่ งละ ๕ บาท ฝิ่ น ๓ บาท หัวคล้า ๕ หัว ต้มกิน แก้
เข้าข้อ
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ แก่นแสมสารทั้ง ๒ กระดูกเสื อ กระดูกควายเผือก กระดูก
หมาดํา กระดูกงูเหลือม ชามเบญจรงค์ สิ่ งละ ๑๐ บาท รากกะตังบาย รากเข้าไหม้ รากกระทุงหมาบ้า เปลือก
มะหวด เปลือกมะดูก แก่นประดู่ ถ่านไม้ซาก ขันทองพยาบาล ประคําไก่ท้ งั ๕ ขมิ้นเครื อ ฝาง สิ่ งละ ๕ บาท
กํามะถัน ๑ บาท มะพร้าวไผ ๓ ลูก เอาแต่ซิกข้าง หัวลูกละ ๑ ซี ก ต้มกิน แก้เข้าข้อ
๑๘๘

ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอากํามะถันแดง ๑ บาท แก่นแสมทั้ง ๒ หัวแห้วหมู สิ่ งละ ๒ บาท ยาเข้าเย็น


ทั้ง ๒ รากมะเดื่อ หญ้าพันงูแดง สิ่ งละ ๓ บาท เมื่อปรุ งยาเศกด้วยสัพพาสี เมื่อต้มเศกด้วยประจุขาด ต้มกิน
แก้เข้าข้อแลหนองใน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอากระแตไต่ไม้ ขันทองพยาบาล(พยาบาท) กาฝากขี้เหล็ก ยาเข้าเย็นทั้ง ๒
เถาวัลย์เปรี ยง เอาเสมอภาคต้มกิน แก้เข้าข้อ
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาหัวคล้า หญ้าพันงูแดง รากก้างปลาแดง ฝาง หญ้าคา ๑ กํามือ มัดตัดหัวตัด
ท้าย สารส้ม ๒ สลึง ยาดํา ๑ สลึง ต้มเศกด้วยพระเจ้า ๕ พระองค์กิน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาประคําไก่ท้งั ๕ หัวเถาคัน รากมะหาด เปลือกสมอทะเล เกลือ เอาเสมอ
ภาค ต้มกิน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาหน่อไม้ไผ่ป่า ๑ หน่อ แก่นแสมทั้ง ๒ โคกกระออม โคกกระสุ นแกแร สิ่ ง
ละ ๑๐ บาท สารส้ม ๑๐ บาท เจ็ตพังคี ๖ สลึง ต้มกิน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาบานไม่รู้โรยขาว ๑ ต้น เทียนทั้ง ๕ สารส้มเล็กน้อย ต้มกิน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาสารส้ม เกลือ สิ่ งละ ๑ บาท พริ กไทย ๖ สลึง ตําผงเอานํ้ามะนาว ๗ ลูก
กวนปั้ นเป็ นก้อนกิน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาเมล็ดฝ้ายขั้วให้ไหม้ บดละลายหัวนํ้ามันยางกิน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาหัวแห้งหมู หัวหญ้าชันกาด กระชาย หัวหอม เอาเสมอภาค ตําผงหมัก
นํ้ามันยางไว้ ๓ วัน กิน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาสารส้ม ๕ สลึง ดินประสิ ว ๖ สลึง ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ ใบบัวบกสิ่ งละ ๑๐
บาท บดทําเป็ นลูกกลอนกิน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ รากละหุ่งแดง รากตะขบ รากถัว่ แปบ สิ่ งละ ๔ บาท ตําผง
หมักสุ ราไว้ ๓ วันกิน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาดินประสิ ว ๑ เฟื้ อง สารส้ม ๒ สลึง ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ รากมะรุ ม รากตะขบ
รากระกํา รากหญ้าคา รากทองหลาง รากกล้วยไม้ สิ่ งละ ๒ บาท ต้มกิน ถ้ามีอาการแสบมาก ให้เพิ่มยาเข้าเย็น
ทั้ง ๒ รากกล้วยไม้ สิ่ งละ ๒ บาท
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอารากไทรย้อย หญ้าไซ สิ่ งละกํามือ ยาเข้าเย็นพอควร ข้าวเปลือก ข้าวเหนียว
๑ กํามือ นํ้าอ้อย ๑ งบ เงิน ๑ เฟื้ อง ต้มกิน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาชุมเห็ดทั้ง ๕ แก่นขี้เหล็ก ใบมะกา ใบประคําไก่ รากชิงชี่ รากพุงดอ สมอ
ทั้ง ๕ รากไทรย้อย เปลือกกระดังงา เปลือกเลี่ยน ฝักราชพฤกษ์ ฝักเพกา ฝางแก่นขนุ น รากมะละกอ ยาเข้า
เย็นทั้ง ๒ ใบกรวย ยาดํา มหาหิ งคุ ์ เอาสิ่ งละ ๔ บาท เปลือกพระยาสัตบัน เขาควายเผือก บานไม่รู้โรยขาว
กระดูกเสื อ เอาสิ่ งละ ๘ บาท สารส้ม ดินประสิ ว สิ่ งละ ๑ บาท เง่าสับปะรด ๕ ท่อน ดาวเรื องทั้ง ๕ ๑ ต้น ผัก
ส้มเสี้ ยว ดีเกลือก สิ่ งละ ๔ บาท เกลือ ๑ หยิบมือ ต้มกิน แก้หนองใน เข้าข้อ ออกดอก ถ้าจืดเอาเกลือเติมครั้ง
ละ ๑ หยิบ
๑๘๙

ยาแก้โรคสําหรับบุรุษและแก้นิ่ว เอามะเดื่อทั้ง ๕ รากแฝก ๑ กํามือ รากมะนาว ๑ คืน หญ้าแพรก ๑


กํามือ ข้ออ้อยแดง ๗ ข้อ สับเป็ นชิ้น ตากให้แห้งขั้วให้เหลือง ต้มกินแก้หนองในและนิ่ว
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาใบมะขามแขก เครื อเขาหนัง เถาคันแดง ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ ๑๐
บาท ฝาง กระดูกควายเผือก สิ่ งละ ๒๐ บาท แสมทะเล ๕ บาท ยาดํา เกลือสิ นเธาว์ ดีเกลือไทย หว้านนํ้า สิ่ ง
ละ ๒ บาท เกลือ ๑ กํามือ ต้มกิน ใช้น้ าํ มนต์ธรณี สารเป็ นนํ้าต้ม แก้หนองในและฝี มะม่วง
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาฝักส้มป้ อย เกลือ ต้มเคี่ยวให้งวด กินสําหรับถ่ายหนองใน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาหญ้างวงช้าง ปูนขาว เปลือกหมัน สารส้ม ซังข้าวโพด เง่าสัปปะรด ต้ม
กินแก้หนองใน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาฝาง กําลังวัวเถลิง เง่าสับปะรด ๗ ชิ้น สารส้มพอควร บานไม่รู้โรยทั้ง ๕
ต้มกิน ตัดรากหนองใน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาหญ้าไซ สารส้ม แก่นแสมสาร หน่ออ้อย ปูนขาว แก่นขี้เหล็ก หิ นปูนดิน
บานไม่รู้โรยขาวทั้ง ๕ ต้มกิน แก้หนองในสําหรับหญิง ซึ่ งมี อาการปวดท้องน้อย และมีโลหิ ตตก
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ หนัก ๔ บาท ตาไผ่ป่า ๗ ตา ซังข้าวโพด ๗ ซัง ต้มกิน แก้
เข้าข้อออกดอก
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาปูนขาว ดินประสิ ว สิ่ งละ ๔ บาท การะบูน ด่างหอยโข่ง ด่างหอยกาบ ด่าง
หอยแครง ด่างหอยขม ด่างพวยตาล ด่างผักโหมหนาม ด่างกระท้อน ด่างไม่รวก ด่างฝักสําโรง เอาสิ่ งละ ๘
บาท สารส้ม ๘ บาท สารส้ม ๒ บาท พวกด่างขี้เทาเอาห่อผ้า เอาเครื่ องยาทั้งหมดรวมกันแช่น้ าํ ร้อนไว้พอควร
กินแก้หนองใน
ยาแก้อุปทม เอาถัว่ เขียว ๑ ทนาน เปล้าน้อย ขมิน้ อ้อย โคกกระสุ น ฝักส้มป่ อย ลูกมะกรู ด ๓ ลูก ผ่า
๓ ซีก ต้มกิน
ยาแก้อุปทม เอาขิง ๓ ส่ วน ใบอังกาบ ใบเสนียด สิ่ งละ ๔ ส่ วน ต้มกิน
ยาแก้อุปทม เอารากพันงูแดง รากฝ้ายเทศ เปลือกโยทะกา เอาเสมอภาค ต้มกิน
ยาแก้อุปทม เอาโกฏสอ โกฏเขมา เทียนขาว เทียนดํา เทียนเยาวภาณี ลูกจันทน์ ลูกกระวาน ดีปลี เจ็ต
มูลเพลิง เทพธาโร กระถินแดง รากจิงจ้อ รากสามสิ บ รากส้มกุง้ เอาเสมอภาค ตําพอแหลกดอกสุ ราไว้วนั กิน
ยาแก้อุปทม เอาไพล กระชาย หัวหญ้าชันกาด เอาเสมอภาคตําผงบดละลายนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้อุปทม เอาลูกกระดม ขอบชะนางทั้ง ๒ ดองสุ รากิน
ยาแก้อุปทม เอาเปลือกหว้า เปลือกสะแก เปลือกซิก เปลือกชุมแสง เปลือกกรด เอาเสมอภาค ตําเอา
นํ้าท่าขยําใส่ กระบอกแช่ไว้ก่อน
ยาแก้อุปทม เอารากเท้ายายม่อม ใบมะเกลือ ใบประคําไก่ ไพล ขมิ้นอ้อน ปลายข้าวสาร เอาเสมอ
ภาค ตําพอกหัวเหน่า
พิมพ์เพิม่ ( ยาแก้อุปอม เอาเมล็ดลําโพงขั้ว เปลือกเมล็ดมะขาม บางข่อยแห้ง โหราเดือยไก่ สี เสี ยดเทศ จุนสี
เอาเสมอภาค บดโรยแผลอุปทม)
๑๙๐

ยาแก้อุปทม เอาเปลือกโพบาย เปลือกจิก ใบมะระ ใบผักปลังแดง พลอย ขมิ้นอ้อย ตําเอานํ้าสิ่ งละ ๑


จอก เอานํ้ามันงา ๑ จอก หุ งให้คงแต่น้ าํ มัน เป่ าเข้าแผนอุปทม
ยาแก้อุปทม เอาใบเลี่ยน ลําโพงทั้งต้น ชิงช้าชาลี ขมิ้นอ้อย ตําเอานํ้าสิ่ งละ ๑ จอก นํ้ามันมะพร้าว ๑
จอก หุงให้คงแต่น้ าํ มัน แล้วเอาผมคน โคกกระสุ น ผงขี้เหล็ก สี เสี ยดเทศ ฝิ่ น เอาสิ่ งละเท่ากัน ทําผงประสม
กับนํ้ามันทาแก้แผลอุปทม
ยาแก้อุปทม เอาก้างปลาร้าปลาดุก ๓ ตัว ใบเถาคัน ใบคนทิสอ หมวกชีโบ ผมคน เอาเท่ากัน ขั้วให้
ไหม จุนสี พอควร ขี้ผ้ งึ แข็งพอควร เอานํ้ามันงา นํ้ามันมะพร้าว สิ่ งละครึ่ ง หุ งเป็ นขี้ผ้ งึ ปิ ดแผลอุปทม
ยาแก้หนองในและฝี มะม่วง เอาใบมะขามแขก เครื อเขาหนัง เถาคันแดง ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ
๑๐ บาท ฝาง ๕ ตึง แก่ (แก่น)แสมทะเล ๕ บาท กระดูกควายเผือก ๕ ตําลึง ยาดํา เกลือสิ นเธาว์ เกลือไทย
หว้านนํ้า เอาสิ่ งละ ๒ บาท ทําเป็ นยาหม้อต้มกิน นํ้าต้มยานี้ใช้น้ าํ มนต์โรณี สาร
ยาถ่ายหนองใน เอาผักส้มป้ อยกับเกลือสิ่ งละพอควร ต้มให้งวดกิน
ยาแก้หนองใน เอาหญ้างวงช้าง ปูนขาว เปลือกหมัน สารส้ม แกนฝักข้าวโพด เง่าสับปะรด ต้มกิน
ยาตัดรากหนองใน เอาฝาง กําลังวัวเถลิง เง่าสับปะรด ๗ ชิ้น สารส้มพอควร บานไม่รู้โรย ต้มกิน
ยาแก้หญิงเป็ นโรคหนองใน มีอาการปวดท้องน้อยและมีโลหิ ตตก เอาหญ้าไซ สารส้ม แก่นแสมสาร
หน่ออ้อ ปูนขาว แก่นขี้เหล็ก หิ นปูน ดินประสิ ว บานไม่รู้โรยขาวทั้ง ๕ เอาสิ่ งละเท่า ๆ กัน ดินประสิ วเอา
พอควร ต้มกิน
ยาแก้หนองในและนิ่ว เอามะเดื่อทั้ง ๕ รากหญ้าคา ๑ กํามือ รากมะนาวยาว ๑ คืน หญ้าแพรก ๑ กํา
มือ ข้ออ้อยแดง ๗ ข้อ ของทั้งนี้ตากแดดให้แห้งขั้วให้เหลือ ต้มกิน
ยาแก้เข้าข้อออกดอก เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๔ บาท ตาไม้ไผ่ป่า ๗ ตา แกนฝักข้าวโพด ๗ อัน ต้ม
กินวันละหลาย ๆ หน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอารากหางนกกะลิง รากหว้า รากตาล รากกระทุ่ม รากตะลุมอด(อิด) ราก
พาดไฉน รากก้างปลา รากแจง รากไทรย้อย เทียนทั้ง ๕ เอาสิ่ งละ ๑ บาท เอาหนามเกี่ยวไก่ เท่ายาทั้งหลาย
บดปั้ นแท่งละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๑๐ บาท รากถัว่ แระ เถากุย รากมะดูก
ขันทองพยาบาท เอาสิ่ งละ ๕ บาท ผักเป็ ด ๑ กํามือ มะพร้าวไฟ ๑ ลูก สารหนู ๑ เฟื้ อง ต้มกินเช้าเย็น
ยาแก้หนองใน ขัดเบาเพื่อกะไษยและมุตกิต เอาเขากวางเผาไฟให้เป็ นถ่าน ๖ บาท พริ กไทย ๘ บาท
สารส้ม ๘ บาท บดปั้ นแท่ง ละลายสุ รากิน
ยาแก้หนองในและขัดเบา เอารากมะขาม ๑ กํามือ ผักเบี้ยใหญ่ ๑ กํามือ หางปลาช่อนแห้ง ๗ หาง
กาบหอยแครงเผา ๗ กาบ เบี้ยตัวผูเ้ ผา ๗ ตัว นํ้าประสานทองสะตุ ๒ สลึง สารส้มสะตุ ๒ สลึง ดินประสิ ว ๑
บาท ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาแก้หนองในมีอาการปวดขัด เอาหน่ออ้อ ๓ หน่อ รากหญ้าคา ๑ กํามือ ยาเข้าเย็น ขันทองพยาบาล
(พยาบาท) รากไทยย้อย ต้มกิน เมื่อจะกินให้แทรกสารส้มเล็กน้อย นํ้าผึ้งเล็กน้อย ยานี้ เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
๑๙๑

ยาแก้ฝีมะม่วง เอาผักปราบกับนํ้าตาลแดงตําพอก เมื่อพอกไว้สักหนึ่งชัว่ โมงจะรู ้สึกสบายและทุเลา


ขึ้น
ยาแก้หนองใน เอารากส้มจะ ยาเข้าเย็น ต้มกิน
ยาแก้เข้าข้อออกดอกโรคสําหรับบุรุษ เอาแก่นลัน่ ทม ๒ บาท รากมะตูม รากตะขบ แก่นทิง้ ถ่อน ราก
มะขามป้ อม รากมะยมตัวผู ้ กํามะถันเหลือง กํามะถันแดง เอาสิ่ งละ ๕ บาท พริ กไทย รากข่อย เอาสิ่ งละ ๑๐
ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ ขันทองพยาบาล กระดูกควายเผือก เอาสิ่ งละ ๒๐ บาท ต้มกินเช้าเย็น
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอาชิงช้าชาลีท้งั ๕ ทิ้งถ่อนทั้ง ๕ เท้ายายม่อมทั้ง ๕ ขี้เหล็กทั้ง ๕ ขลู่ท้งั ๕ เอา
สิ่ งละพอควร ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๕ ตําลึง ต้มกินตัดรากโรคสําหรับบุรุษดีนกั
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษและคดชะราด เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๖ บาท หญ้าดอกขาว ผักกะชับ เอา
สิ่ งละ ๖ สลึง โหราตีนหมา ๑ บาท สารหนู ๑ สลึง ต้มกินมื้อละถ้วยตะไล ในวันที่ ๓ ที่ ๔ และวันต่อไปกิน
วันละ ๒ ครั้งเช้าเย็นก่อนอาหาร
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ พระยามูลเหล็ก เอาสิ่ งละ ๕ บาท ชามเทพนม ๑ ลูก ลูก
มะเขือขื่น ๓ ลูก ควักเอาเนื้อในออกแล้วสุ มไฟแกลบ กะลาตัวผู ้ ๓ ลูกผ่า ๓ ซีก เอาเผาไฟให้ไหม้ เอาสุ รา ๑
ทนานครึ่ ง ดองไว้กิน แก้เป็ นหนอง แก้เข้าข้อ แก้เปื่ อยพัง เรี ยกเนื้อด้วย
ยาใส่ แผลลําลึงค์เปื่ อยเน่า เอากะเทาะเปลือกโพ เปลือกเมล็ดมะขาม ขี้ตะกัว่ เกรี ยบ สี เสี ยดเทศ เอา
สิ่ งละ ๑ บาท ไส้เดือน ๗ ตัวเผาให้ไหม้ บดโรยแผล
ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๑๐ บาท ใบมะกา ใบมะขาม ใบส้มป่ อย สิ่ งละ ๑๒
บาท รากหนามขี้แรด ใบสมอทะเล ข่า ไพล แก่แสมสาร แก่นแสมทะเล จันทน์แดง จันทน์ขาว จันทน์เทศ
ลูกสมอเทศ ลูกสมอไทย ลูกสมอพิเภก ลูกมะขามป้ อม พริ กไทย ดีปลี ขิง รากเจ็ตมูลเพลิง สะค้าน รากช้าพลู
แก่นสน สักขี ฝาง ลูกกระดอม กํามะถันแดง กํามะถันเหลือง สารส้ม ดินประสิ ว กระดูกควายเผือก แก่น
ขี้เหล็ก เถาวัลย์เปรี ยง รากประคําไก่ ขันทองพยาบาล(พยาบาท) ยาดํา กระดูกเสื้ อ(เสื อ) เอาสิ่ งละ ๔ บาท ต้ม
กินเวลาเ(เวลาเช้า) แก้โรคสําหรับบุรุษและมะเร็ งคชราช เป็ นเพื่อนํ้าเหลืองเสี ย ทําให้เกิดโรคตามผิวหนัง เมื่อ
กินไป ๑๕ วันให้แทรกดีเกลือพอควร
ยาขับหนองในโรคสําหรับบุรุษ เอารากหญ้าคา ๕ ตําลึงกําลังวัวเถลิง ๑๐ บาท สารส้ม ๔ บาท ใบ
พลวง ๗ ใบ รากอังกาบ ๑๐ บาท ไพล ๖ บาท ขมิ้นอ้อย ๑๐ บาท ๒ สลึง ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๑๐ บาท ขัน
ทองพยาบาล ๑๔ บาท รากพุงดอ ๑๐ บาท พุงแก ๑๐ บาท หนอนตายหยาก ๑๐ บาท แก่นขี้เหล็ก ๑๐ บาท
แก่นมะหาด ๑๐ บาท กํามะถันเหลือง ๖ บาท โรคทั้ง ๒ สิ่ งละ ๔ บาท กุยทั้ง ๒ สิ่ งละ ๔ บาท ก้างปลาทั้ง ๒
สิ่ งละ ๔ บาท รากขนุนสําปะลอ ๔ บาท ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาแก้ฝีมะม่วงโรคสําหรับบุรุษ เอายอดขี้เหล็ก ๗ ยอด ผักบุง้ ๗ ยอด ขมิ้นอ้อย ๗ แว่น ข้าวบูด . กํา
มือ ตําพอกฝี มะม่วง
ยาแก้หนองในโรคสําหรับบุรุษ เอาบานไม่รู้โรยทั้ง ๕ รากหญ้าคา เง่าสับปะรด ใบชา ยาเข้าเย็น
สารส้ม หญ้าพันงูแดง ต้มกิน
๑๙๒

ยาแก้โรคสําหรับบุรุษ เอางวงตาล ดินประสิ ว รากอ้อ เง่าสับปะรด ทรายท้องนํ้า ต้มกิน แก้หนองใน


หรื อกําลังฟกบวม
ยาแก้หนองใน เอาข่า ๑ ส่ วน หวายตะคร้า เปลือกมะขาม เปลือกกุ่ม เปลือกมะรุ ม เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน
ต้มกิน
ยาแก้หนองใน เอาใบมะฝ่ อต้มกิน
ยาแก้หนองใน เอาโคนไม้ไผ่ป่า ๓ โคน สารส้ม ๑ สลึง ต้มกิน

ว่ าด้ วยโรคนิ่วและยาแก้
ยาแก้น่ิวเลือด เอามะพูดทั้ง ๕ รากหญ้าคา รากลําเจียก รากมะละกอ ยอดสับปะรด ใบไผ่ป่า ดินประ
สิ ว สารส้ม ต้มด้วยนํ้าแกลบข้าวเหนียว แล้วเอาดองไว้กิน
ยาแก้น่ิว เอาหอมแดง บานไม่รู้โรย รากคนทา สารส้ม หัวหอมโทน เอาเท่า ๆ กันต้มกิน เช้าเย็น
ยาแก้นิ่ว เอาเปลือกหอยโข่ง กาบหอยแครง หอยขม หอยจุบแจง หอยกาบ เปลือกหอย เหล่านี้เอาเผา
ไฟ ดินประสิ ว เอาสิ่ งละ ๒ สลึง สารส้ม ๒ บาท นํ้าประสานทอง ๒ บาท บดปั้นแท่ง เอาแตงโม ๑ ลูก ผ่า ๒
ซึก เอายาใส่ ๑ ซึก(ซีก) แล้วเอาตั้งไฟให้เดือด เอานํ้ากิน แก้ขดั เบาด้วย
ยาแก้น่ิวกรวด นํ้ามะนาว นํ้าผึ้ง สิ่ งละ ๑ ถ้วย สารส้ม ดินประสิ ว สิ่ งละ ๒ สลึง เอาเบี้ยจัน่ ๗ ตัวแช่
นํ้ามะนาวไว้จนเบี้ยเปื่ อยละลาย เอารากคัดเค้าต้มใส่ น้ าํ ๔ ถ้วย เคี่ยวให้เหลือ ๑ ถ้วย แล้วเอาแตงโมผลใหญ่
ๆ ๑ ผลควักเอาเนื้ อออกให้หมด แล้วเอาเครื่ องยากใส่ ในลูกแตงโมสุ มไฟแกลบ ให้เดือดเอานํ้ากิน กัดนิ่ว
กรวดออก หายแล
ยาแก้นิ่วกรวด เอานํ้ามะนาว นํ้ามะกรู ด นํ้ามะงัว่ นํ้าส้มส้า นํ้าส้มสายชู เอาสิ่ งละ ๑ ถ้วย เอาเบี้ยจัน่
๗ ตัว สารส้ม ดินประสิ ว สิ่ งละ ๒ สลึง เอารวมกันแช่ตากแดดไว้ ๓ วัน กินแก้นิ่วกรวดและนิ่วทั้งปวง
ยาแก้นิ่วกรวด เอารากหมากทั้ง ๒ หัวเต่าเกียด ใบเทียนย้อมมือ ไพล ขมิ้นอ้อย แก่นจันทน์ ทั้ง ๒
เอาสิ่ งละเท่ากัน ต้มกิน
ยาแก้นิ่วศิลาปูน เอาด่างสะแก ด่างกล้วยตีบ ด่างโตนด ด่างผักโหมหิ น เอาแช่น้ าํ กรองเอาแต่น้ าํ ใส
ๆ เอาพริ กไทย ๗ เมล็ด ขิง ๗ แว่น กระเทียม ๗ กลีบ เกลือ ๗ เมล็ด บดละลายนํ้าด่างกิน
ยาแก้นิ่ว เอาหัวบัวขม ใบไม้แดง หญ้าพันงูแดง เอาเท่า ๆ กันต้มกิน
ยาแก้นิ่ว แก้มุตกิตมุตฆาต ท้องโร ท้องมาน แก้ป้าง เอานํ้าผึ้ง นํ้าเถาบอระเพ็ด(บระเพ็ด) นํ้าด่าง ไม้
สะแก เอาสิ่ งละ ๑ ทนาน เอารวมกันเคี่ยวให้งวด เวลาจะเคี่ยวยานี้ ให้ทาํ ตะเหลว ๗ ตา ฝังลงที่กอ้ นเส้าทั้ง ๓
ก้อน ทําสายสิ ญจน์วง ๑ รอบ เมื่อตั้งกะทะบนเตาแล้ว ให้สวดพุทธคุณ ธัมมะคุณ สังฆะคุณ จนจบ เมื่อเคี่ยว
ยาจนได้ที่แล้ว ให้สวดสรรพพุทธา ๑ จบ แล้วเก็บยานี้ไว้กิน ยานี้กนั เขี้ยวงาและอยูค่ งด้วย
๑๙๓

ว่ าด้ วยโรคหืดและโรคอื่น ๆ และยาแก้


ยาแก้หืด เอาขิง ๒๐ บาท สะค้าน ๒๐ บาท หัวแห้วหมู ๒๐ บาท เจ็ตมูลเพลิง ๒๐ บาท พริ กไทย
ล่อน ๑ ทนาน บดเป็ นผงละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้โรคผอมแห้ง เอาดอกคําฝอย ฝาง เกลือ เอาสิ่ งละ ๑ บาท สารส้ม ดินประสิ ว เอาสิ่ งละ ๒ สลึง
ลูกมะนาว ๑๖ ลูกผ่าลูกละ ๒ ซี ก ต้มนํ้าให้เดือดทิ้งไว้ให้เย็น เอาเครื่ องยากทั้งหมดใส่ อ่างหรื อกระถาง ดอง
ตากแดดตากนํ้าค้างไว้ ๓ คืนกิน
ยาแก้โรคผอมแห้ง แม้เป็ นจนบวมก็หาย เอามะพร้าวแห้ง ๑ ลูกปอกผ่า ๒ ซี ก เอาพริ กไทยใส่ ให้เต็ม
๑ ซีก เกลือใส่ ให้เต็ม ๑ ซี ก แล้วขูดเอาเนื้อมะพร้าวขั้วให้เหลือง พริ กไทยขั้ว บดเป็ นผง ละลายนํ้าผึ้งกิน ครั้ง
แรกกินแต่นอ้ ยเพราะยานี้ทาํ ให้ทอ้ งเดิน
ยาประสระเมล็ดผักชีลอ้ ม เอาโกฏทั้ง ๙ เทียนทั้ง ๙ ส้มกุง้ ทั้ง ๒ หัศกุนไทย หัวอุตพิต หัวกลอย หัว
บุกรอ หัวกระดาดทั้ง ๒ หัวหญ้าชันกาด รากมะละกอ รากหญ้าคา เอาสิ่ งละ ๑ บาท เปลือก . ทั้ง ๒ เปลือก
มะรุ ม เปลือกมะตาด เปลือกกระท้อน เปลือกมะค่า เปลือกกันเกรา แก่นลัน่ ทม . เอ็น ลูกกระวาน ลูกช้าพลู
เอาสิ่ งละ ๓ บาท ลูกลิ่ว ๔ บาท (เข้าใจว่าลูกเร่ ว) เปล้าทั้ง ๒ หัศกุนเทศ เอาสิ่ งละ ๑ บาท เมล็ดผักชีลอ้ มเท่า
ยาทั้งหลาย บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าเปลือกมะรุ มต้มแทรกการะบูนแก้ลม ๑๐๘ จําพวก ละลายนํ้าเปลือกมะรุ มต้ม
กิน แก้กะไษยกล่อน แก้เมื่อย แก้ปวดขัด ละลายนํ้าเถาวัลย์เปรี ยงต้มกิน แก้เหน็บชา แก้ปวดขัดในข้อใน
กระดูก ละลายนํ้าเถาโคคลานต้มกิน แก้กะไษย ละลายนํ้าผึ้งกิน แก้โลหิ ตระดูพิการ ละลายสุ ราแทรกดีจรเข้
กิน แก้มุตฆาต ละลายนํ้าหัวหญ้าชันกาด รากมะละกอต้มแทรกดินประสิ วกิน แก้อุปทม ชํ่ารั่ว องคสู ต
ละลายนํ้าส้มสายชูกิน แก้โรคทุลาวะสา ขัดเบา ละลายนํ้าเถาคันแดงต้มแทรกดินประสิ วกิน แก้ริดสี ดวงแห้ง
หื ด ไอ ละลายนํ้าส้มส้าแทรกเกลือกิน แก้ริดสี ดวงมองคร่ อ ละลายนํ้าส้มส้ากิน
ยาอายุวฒั นะ เอามหาหิ งคุ ์ เทียนเยาวภานี เทียนข้าวเปลือก เทียนตาตัก๊ แตน เทียนเกล็ดหอย เทียน
ขาว เอาสิ่ งละ ๑ บาท การะบูน ๒ บาท ดีปลี ขิงแห้ง เอาสิ่ งละ ๓ บาท ลูกสมอไทย ลูกสมอดีงู เอาสิ่ งละ ๓
บาท ๒ สลึง โกฏสอ โกฏเขามา เอาสิ่ งละ ๔ บาท ลูกจันทน์เทศ ๕ บาท เจ็ตมูลเพลิง ๖ บาท พริ กไทย ๑๐
บาท บดละลายนํ้าผึ้งหรื อนํ้าร้อนกิน
ยาแก้ป้าง เอากระชายตําคั้นเอานํ้า ๑ นํ้าหน่อไม้ดอง ๑ นํ้าปูนขาว ๑ ประสมกันกิน
ยาแก้ลมเพลา(ลม)พัด เอารากหนาด แก่นลัน่ ทม หญ้าปากควาย ราชพฤกษ์ รากลําเจียก รากส้มป่ อย
แก่นขี้เหล็ก หว้านนํ้า หว้านหางช้าง เทียนดํา ใบมะกา เอาเสมอภาค ต้มกิน แทรกดีเกลือพอสมควร เมื่อจะ
กินให้เศกด้วยสักกัตวา หรื อประจุขาดเสี ยก่อน
ยาแก้ลมเพลมพัด เอารากคูนต้มกินเพื่อถอนพิษเสี ยก่อน แล้วเอาใบหว้านหางช้าง ๓ ใบลง อิติปิโต
จนจบ ขิง ๕ แว่น ลงพระเจ้า ๕ พระองค์ ตํากิน
ยาหอมเบ็ญจกูล เอาสะค้าน รากช้าพลู ขิง ลูกสมอไทย โกฏทั้ง ๕ ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน
กานพลู สมุลแว้ง ลูกผักชี นํ้าประสานทอง ใบพิมเสน ไคร้เครื อ เปราะหอม เทียนทั้ง ๕ เอาสิ่ งละ ๑ บาท เจ็ต
๑๙๔

มูลเพลิง ดีปลี การะบูน เอาสิ่ งละ ๒ สลึง บดปั้ นแท่ง แก้ลง แก้ราก แก้สะอึก ละลายนํ้าลูกยอต้มกิน แก้
คอแห้ง ละลายนํ้าดอกไม้ ชะเอม แทรกดีงูกิน แก้ลงรากเป็ นโลหิ ต ละลายนํ้ารากเสนียดต้มกิน
ยาแก้เสี ยงแห้ง แหบเครื อ เอาเจ็ตมูลเพลิง ๑ ส่ วน ลูกกระวาน ดีปลี ลูกประคําดีควาย เอาสิ่ งละ ๒
ส่ วน เทียนดํา เทียนขาว หัวดองดึง เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน หัวบุกรอ พริ กไทย เอาสิ่ งละ ๑๖ ส่ วน บดปั้ นแท่งด้วย
นํ้าร้อน ละลายนํ้าร้อนแทรกนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้พยาธิ ในแก้ม ในปาก ในลิ้น ในคอ เน่าเปื่ อยกินอาหารไม่ได้ เอาลูกจันทน์ เนื้อลูก
ประคําดีควาย สมุลแว้ง การะบูน บัลลังก์ศิลา เอาเสมอภาค เอาก่อนระกําป่ าเคี่ยวเอานํ้าเป็ นการะสานบดปั้ น
แท่ง ละลายนํ้าร้อยกิน
ยาชื่อมหาประสาร เอาชะเอมเทศ ลิ้นทะเล นํ้าประสารทองสะตุ ลูกสมอไทย ลูกมะแว้งต้น บดปั้น
แท่งด้วยนํ้าชะเอมเทศ ละลายนํ้าชะเอมทาลิ้น แก้ลิ้นเปื่ อย คอเปื่ อย เน่าเป็ นขุมเป็ นเม็ด หายแล
ยามหาอุดม เอาลูกสมอไทย ลูกสมอพิเภก ลูกมะขามป้ อม เปลือกมะรุ ม เปลือกทองหลางใบมน หัว
แห้ งหมู(แห้วหมู) เจ็ตมูลเพลิง ลูกพิลงั กาษา ลูกกระพังโหม สะค้าน หว้านนํ้า พริ กไทย ขิง ดีปลี กระเทียม
หอม ข่า กระชาย กะทือ ไพล ขมิ้นอ้อย เมล็ดผักชี เมล็ดผักกาด พลูแก ใบพุดซา ใบสะเดา ใบโคกกระออม
ใบผักเข้า ใบชิงช้าชาลี ผักขวง ผักอีไร ใบหญ้างวงช้าง ใบตําลึง ใบบัวหลวง ใบตาลหม่อน ใบมะระ ใบ
นํ้าเต้า ใบกําเม็ง ใบผักเป็ ด ใบระงับ ใบกะเพรา ใบชุมเห็นเทศ ใบขี้กาแดง ใบคนทิสอ ใบสวาด ใบทับทิม ใบ
จิงจ้อ ใบตะขบ ใบมะนาว ใบส้มส้า ใบมะรุ ม ผักแว่น เอาสิ่ งละ ๑ บาท หรื อเอาเสมอภาคก็ได้ บดปั้ นแท่ง
ด้วยนํ้าสุ รา แก้ตะมอย ละลายนํ้ามะนาวพ่น แก้ฝีคางทูมละลายสุ ราทา แก้ข้ ีกลากละลายยางสลัดไดทา แก้ตา
แดง เอารากผักเค็ดฝนด้วยนํ้าละลายยานี้หยอด จุดฝี ร้ายละลายนํ้าขี้ววั ทา แก้ลมจุกเสี ยดในโครง ละลายนํ้าขิง
กิน ถ้ามิฟังละลายนํ้ากระเทียมกิน แก้อสรพิษกัด ละลายสุ ราทา แก้เด็กเป็ นตานซาง ละลายนํ้าหัวขมิ้นอ้อย
แทรกดีงูเหลือมกิน แก้เด็กลงท้องละลายนํ้าร้อนแทรกฝิ่ นกิน แก้กล่อนละลายนํ้าเถามวกกิน แก้ป่วงละลาย
นํ้าส้มส้ากิน แก้ไข้บวมเท้าบวมมือ ละลายนํ้าข้าวเหนียวกัญญาทา แก้ปวดหัวละลายนํ้ามะนาวทา แก้ตามือ
เอาลูกมะนาวตัดหัวตัดท้ายควักเอาเมล็ดออกเสี แล้วบดยานี้ใส่ ในลูกมะนาวนั้น แล้วเอาวางลงที่ขม่อม แล้ว
เผาเหล็กให้แดงกดลงที่ยานั้น ๓ ครั้ง ทํา ๓ วันหายแล แก้ลมมันทําให้ราก ละลายนํ้ากะทือกิน แก้ไอละลาย
นํ้ามะงัว่ กิน แก้หืดละลายนํ้าใบสันพร้ากิน แก้ผเี ข้าเอายานี้นตั ถุ์ แก้ริดสี ดวงในทวารทั้ง ๒ ละลายนํ้าลําโพง
แดงจุดที่หวั ริ ดสี ดวงนั้น หายแล
ยาแก้เลือดกําเดาตก เอาเมล็ดถัว่ เขียวต้มกับนํ้าตาลทรายแดงกิน
ยาแก้พิษต่าง ๆ เอาลูกประคําดีควาย เปลือกทองหลางใบมน กระดูกงูเหลือม นํ้าประสานทอง เมล็ด
มะนาว หนังแรด หนังกระเบน เอาสิ่ งละ ๔ บาท ขั้วให้เกรี ยม บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าใบทองหลางใบมนกินแลทา
ยาแก้เมื่อย แก้ปวดหลังปวดเอว เอาหญ้ากําเม็งสดมาให้มาก ล้างนํ้าให้สอดาดเอาใส่ ครกโขลกให้
แหลกคั้นเอานํ้า (เอานํ้าท่าเจือบ้าง) ให้ได้น้ าํ ๕ ลิ้น เอาพริ กไทยล่อนหนัก ๑๐ บาท บดให้เป็ นผงเอานํ้าผึ้ง ๑
ขวด เอาของทั้ง ๓ อย่างนี้ประสมกัน เอาใส่ กะทะทองเคี่ยวให้แห้งเหมือนขนมเปี ยกปูน แล้วเอาเก็บใส่ โหล
๑๙๕

ไว้ ให้กินเวลาเช้าก่อนอาหารหรื อกินเวลาจะเข้านอนเวลากลางคืนก็ได้ ให้กินครั้งละประมาณก้อนเท่าหัวแม่


มือให้กินทุกวัน ยานี้รักษาท้องให้เป็ นปกติดว้ ย
คาถาพ้นนมหลง เอาใบพลู ๗ ใบ หมาก ๗ ซี ก เศกด้วยคาถานี้ อมนกเขา นกแสก แหกไม่สะวาน
ประการใด ๆ สะจุอยูไ่ หน กูสะกุสะโม อมสวาหะ พ่นลงที่นม หายแล
คาถารักษาหนอนโคกระบือ เอาดิน ๓ ก้อนเศกด้วยคาถานี้ โอมแมงวันหัวเขียว ปากมิ่งเซี่ ยว. เข็ม
ปากมึงเค็มคือเท่า พระพุทธเจ้าสั่งไว้วา่ ให้มึงกินแต่สัตว์ตาย สัตว์เป็ นท่านมิให้กิน อมเพี้ยง สวาหะสวาหาย
ให้เศกดินทีละก้อน เมื่อเศกแล้วให้ขว้างทิ้งไป ๑ ก้อน แล้วเศกอีก ๑ ก้อน เศกแล้วขว้างไปอีก จนครบ ๓
ก้อน ให้ขว้างข้ามหลังโคหรื อกระบือที่เป็ นหนองนั้น เมื่อจะขว้างเรายืน่ ทางตะวันออก ขว้างข้ามไปทาง
ตะวันตก เมื่อขว้างดินหมดแล้วกลับได้ ห้ามมิให้หนั หน้าไปดูสัตว์ที่เป็ นหนอนนั้น
ยากวาดแก้หวัดแก้ไอ เอาพริ กไทยล่อน ดีปลี ขิง ลูกจันทน์ กานพูล การะบูน เอาสิ่ งละ บาท พริ ก
ขี้หนูแห้ง ๒ บาท บดเป็ นผง ละลายนํ้ามะนาวแทรกเกลือกวาดคอดีนกั แล
ยาชักดาก เอาเบ็ญกานี พิมเสน บดละลายนํ้าทะลายหมากดิน(ดิบ)ทาดากที่ยอ้ ยออกมานั้น หายแล
ยาแก้โรคต่าง ๆ เอามะ เหมี่ยว ชะมดเชียง โคโรค กระลําภัก เห็ดขี้ววั อบเชยเทศ พิมเสนในปล้องไม้
ไผ่ ชาดหรคุณจีน เอาสิ่ งละ ๑ สลึง ไข่มุก อําพันทอง เอาสิ่ งละ ๑ เฟื้ อง บดปั้นแท่งด้วยนํ้ายาหมู่ กินจําเริ ญชัน
สา บํารุ งธาตุมิให้พิการ บํารุ งหัวใจ แก้นอนไม่หลับ แก้พิษไข้ทาํ ให้สลบ แก้ริดสี ดวงแลหืดไอ แก้เลือดตก
ทวารทั้ง ๙ แก้พิษฝี ดาด แก้ฝีในท้อง ดีวิเศษนัก
ยาแก้น้ าํ ลายเหนียว เอาแมงลักทั้ง ๕ ขอบชะนางแดง ผักเสี้ ยนผี แก่นขี้เหล็ก ต้มกิน
ยาแก้มูกเลือด แก้นิ่ว แก้อุปทม แก้มองคร่ อ แก้ริดสี ดวง เอารากเท้ายายม่อม รากพันงู โคกกระสุ น
รากขัดมอญแดง ขอบชะนางแดง ต้มกิน ถ้าจะแก้ฝีภายในให้เติมขอบชะนางแดงเท่ายาทั้งหลาย ต้มกิน
ยาอายุวฒั นะ เอาข้าวเหนียวดํา ๓ ทนานนึ่งให้สุก เอาแป้งข้าวหมัก ๑ ลูก บดให้ละเอียดเคล้าลงใน
ข้าวเหนียวนั้น ให้ทาํ เหมือนทําข้าวหมักธรรมดา เมื่อข้าวหมักนั้นหวานดีแล้ว เอาบอระเพ็ดตํา เอานํ้า ๑
ทนาน ไพลตําเอานํ้า ๑ ทนาน แก่นขี้เหล็กต้มเอานํ้า ๑ ทนาน เอานํ้ายาเหล่านี้รวมกันต้มให้เดือดทิ้งไว้ให้เย็น
แล้วเอาใส่ ลงในข้าวหมักที่ทาํ ไว้น้ นั เอาเปลือกชะลูดพอสมควรบดโรยลงในข้าวหมักนั้น เอาฝังข้าวเปลือก
ไว้ ๓ คืน เอานํ้ารับประทาน ทําให้ร่างกายสมบูรณ์ ให้กินครั้งละน้อยไปก่อน ยานี้มีสรรพคุณดีนกั
ยาแก้หืด เอาเมล็ดบวบเหลี่ยมเท่าอายุคนป่ วย บดละลายนํ้าผึ้งกิน
ยาแก้ทอนซิ นในคอ เอาใบหญ้าเกล็ดหอย ๑ กํามือ รงทองเท่าเมล็ดถัว่ เขียว การะบูนเท่าเมล็ดถัว่
เขียว ดีงูเหลือมเท่าเมล็ดงา เอารวมกันบดให้ละเอียด เอาสุ ราครึ่ งถ้วยชา เกลือตัวผู ้ ๓ เม็ด เอารากไคร้เครื อ
ฝนใส่ ลง เอาประสมให้เข้ากันดี ชุบสําลีอม
ยาแก้เท้าและขาบวม เอาใบสมอทะเล ๓ กํามือ ไพลเท่าฝี มือ เถาวัลย์เปรี ยง เอาตํารวมกันแล้วสุ มไฟ
ที่พ้นื ดินให้ลุกโชนจนดินร้อนจัด แล้วเอาไฟออกให้หมด เอายาที่ตาํ ไว้น้ นั วางแผ่ลงที่ตรงกองไฟนั้น แล้วเอา
เท้าเหยียบลงที่ยานั้น ทําดังนี้ หลาย ๆ ครั้ง บวมนั้นจะหายแล
ยาแก้เจ็บคอ เอารากสี หวด รากกระทุงลาย รากหมากเม่าใหญ่ ฝนทา
๑๙๖

ยาแก้คอตีบ กินข้าวกินนํ้ามิได้ เอาดินประสิ วแช่น้ าํ ๑ จอก นํ้าเกลือ ๑ จอก นํ้ามันอุ่นไฟให้ร้อน เอา


ทิ้งไว้ให้เย็น กินครั้งละ ๑ ช้อนหอย
ยาแก้เจ็บคอ เอาชะเอมเทศ รากมะกลํ่าเครื อ บดละลายนํ้ากินและอม
ยาแก้คอแห้งแลเจ็บคอ เอารากถัว่ พู รากผักเข้า ฝนกับนํ้าท่าแทรกดีงูเหลือม ชุบสําลีอม
ยาแก้ทอนซิ น (ฝี ในคอ) เอาใบหญ้าเกล็ดหอย ๑ กํามือ รงทองเท่าเมล็ดถัว่ เขียว การะบูนเท่าเมล็ดถัว่
เขียว ดีงูเหลือมเท่าครึ่ งเมล็ดถัว่ เขียว รากไคร้เครื อพอควร บดให้ละเอียด ละลายนํ้าชา ประมาณ ๑ ถ้วยชา เอา
เกลือตัวผู ้ ๓ เม็ดแทรกลง เอาสําลีชุบอม
ยาแก้เด็กเป็ นโรคคอตัน เอาลูกประคําดีควาย ๓ ลูก ฝักส้มป่ อย ๓ ฝัก ขิง ผิวมะกรู ด เอาสิ่ งละ ๑
สลึง ต้มกินวันละหลาย ๆ หน
ยาแก้โรคคอตีบ เอาใบก้นปิ ดขยํากับสุ ราโรง กรองเอานํ้ารับประทาน
ยาแก้เจ็บคอ เอาขมิ้นอ้อย รากไคร้เครื อ การะบูน หญ้าเกล็ดหอย เกลือ ๓ เม็ด รงทอง ขิง บดเป็ นผง
ละลายเหล้าชุบสําลีอม
ยาแก้ร้อนคอ ปากเปื่ อย นํ้าลายเปรี้ ยว เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ รากแฝกหอม เปราะหอม ขันทองพยาบาล
เอาสิ่ งละ ๑ บาท ต้มกินวันละ ๓ เวลา
ยาแก้เสี ยงแห้ง เอารากมะกลํ่าตาหนู ขิง มะขามเปี ยก เกลือ ผิวไม้ไผ่สีสุกสด นํ้าตาลทราย บดปั้ น
เป็ นก้อนกิน
ยาแก้เจ็บคอ เอาใบหญ้าเกล็ดหอย ใบเล็บครุ ฑ ใบบัวบก ตําให้แหลก แทรกเกลือเล็กน้อย ห่อผ้าขาว
อม
ยาแก้ไอ เอารากมะกลํ่าตาหนู ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ เทียนทั้ง ๕ เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผง ละลาย
นํ้ามะขามเปี ยกแทรกเกลือจิบกิน
ยาแก้ไอ ไอจนผอมแห้ง (เสมหะให้โทษ) เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ รากหมาก รากตาล รากมะพร้าว ราก
ประคําไก่ รากกะทือยอบ(กะทืบยอด) เอาสิ่ งละ ๔ บาท ต้นเหงือกปลาหมอ ๒ ต้น ต้มกิน
ยาแก้ไอ เอาดินประสิ ว ๑ ส่ วน สารส้ม รากมะแว้ง ทั้ง ๒ รากมะเขือขื่น รากส้มกุง้ น้อย รากส้มป่ อย
ลูกกระวาน เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ลูกมะขามป้ อม ๖ ส่ วน บดละลายนํ้าผึ้งหรื อนํ้ามะขามเปี ยกแทรกเกลือจิบกิน
(แก้เสมหะเหนียว)
ยาแก้ไอ แก้คอแห้ง เอารากส้มกุง้ ทั้ง ๒ รากมะกลํ่าเครื อ รากมะแว้งเครื อ รากมะเขือขื่น รากส้มป่ อย
ตรี กะฏุก กระเทียม กานพลู ชะเอมเทศ ลูกมะกรู ด ดินประสิ ว สารส้ม เกลือสิ นเธาว์ เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน
สลัดไดแห้ง ๓ ส่ วน บดละลายนํ้ามะนาวแทรกดีงูกินหรื อกวาดก็ได้ แก้เสมหะเหนียวแลแน่นปะทะอก
ยาแก้ไอ เอารากช้าพลู เทียนดํา ขิง เกลือพอควร บดเป็ นผง ละลายนํ้ามะขามเปี ยกกวาดคอ
ยาแก้ไอ เอาลูกมะหาด ลูกสมอไทย เทียนดํา ดีปลี บดละลายนํ้ามะนาว หรื อนํ้าผึ้งกวาด
๑๙๗

ยาแก้ไอเพื่อเสมหะ เอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน กานพลู พริ กไทย ดีปลี หัวหอม หัว
กระเทียม ชะเอมเทศ รากส้มกุง้ น้อย รากมะแว้งเครื อ รากมะเขือขื่น รากมะกลํ่าเครื อ เปลือกมะกลํ่าต้น เอา
เสมอภาค ผักส้มป่ อยเท่ายาทั้งหลาย บดละลายนํ้ามะขามเปี ยกแทรกเกลือกวาด
ยาแก้ไข เอาจุนสี สะตุ สารส้มสะตุ ดินประสิ ว นํ้าประสานทอง หรดาลกลีบทอง กํามะถันแดง ขี้
แมลงสาบขั้ว รากไคร้เครื อ รากมะกลํ่าเครื อ กระเทียม พริ กไทย ขิง เปลือกไข่ไก่ฟัก เอาเสมอภาค นํ้ามะนาว
เป็ นกระสายบด กวาด
ยาแก้ไอ เอาผักส้มป่ อยทานํ้าผึ้งปิ้ งไฟให้เกรี ยม ตรี กะฏุก กระเทียมสุ ก เมล็ดมะนาว ชะเอมเทศ ราก
ส้มกุง้ ข่า สารส้ม เอาเสมอภาค บดด้วยนํ้ามะนาวปั้ นแท่ง ละลายนํ้ามะนาวแทรกพิมเสน เกลือ ดีงู จิบกิน
หรื อกวาด
ยาแก้เถาดานและกะไษย เอาสารส้ม ดินประสิ ว เกลือ เอาสิ่ งละ ๒๔ บาท ลูกมะกรู ด ๓๓ ลูก เอาผัก
เป็ นพอสมควร ต้มกิน
ยาแก้เถาดาน เอาใบมะขาม ใบมะกา ใบกะตังบาย ใบประคําไก่ เกลือ เอาเท่า ๆ กัน เอารากขี้กาขาว
เท่ายาทั้งหลาย ต้มกิน
ยาแก้เถาดาน เอาลูกกระวาน กานพลู การะบูน เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน ขิง ดีปลี หว้านนํ้า ผิวมะกรู ด
มหาหิ งคุ ์ กระเทียม กระดูกแพะเผา กระดูกเสื อเผา เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน พริ กไทย ๖ ส่ วน ผักเป็ ดแดงเท่ายา
ทั้งหลาย บดเป็ นผงละลายนํ้าส้มสายชูกิน
ยาแก้เถาดาน แก้ตบั แก้ป้าง เอาชุมเห็ดทั้ง ๒ กะเพรา ทั้ง ๒ เถาลิ้นเสื อ รากเจ็ตมูลเพลิง เอาสิ่ งละ
พอควร ข่า ขมิ้นอ้อย เอาสิ่ งละ ๗ ชิ้น หัวหอม หัวกระเทียม เอาสิ่ งละ ๒ หัว เอาปูนขาวเล็กน้อย ต้มกิน
ยาแก้เถาดาน เอาตรี กะฏุก ขมิน้ เครื อ ผักแพวแดง อุม้ ลูกดูหนัง เอาเสมอภาค ตําให้แหลกดองสุ ราไว้
๓ วันกิน
ยาแก้เถาดานและป้ าง เอาผักเป็ ดแดง ตัวเลือดที่เกิดกับหน่อไม้ไผ่ ตําแช่สุรากิน
ยาแก้เถาดานและป้ าง เอาโกฏทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ เปราะหอม นํ้าประสานทอง สารส้ม ดีปลี สะค้าน
เมล็ดผักชีท้ งั ๒ เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน รากช้าพลู โคกกระสุ น เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน ขิง ราก เจตมูลเพลิง สมุลแว้ง เอา
สิ่ งละ ๔ ส่ วน หัวแห้วหมู ๘ ส่ วน ต้มกิน
ยาแก้ป้าง แก้ตบั และม้าม เอารากเจตมูลเพลิง กระพังโหม ผักเสี้ ยนผี เปลือกสําโรง กาบหอยแครง
เผา ใบสลอด หัวหอม เอาเสมอภาค บดเป็ นผงละลายนํ้าอ้อยแดงกิน
ยาแก้ป้าง เอาสารส้ม ใบส้มเสี้ ยว ส้มสันดาน รากเจ็ตมูลเพลิง ดีปลี ขมิ้นอ้อย เปลือกสําโรง หญ้า
พันงูแดง กระดองเต่าเผาไฟ เอาเสมอภาค ตําให้แหลกดอกสุ รากิน
ยาแก้ป้าง เอาลูกมะกรู ด ๓๓ ลูก หน่อไม้สีสุก ๓ หน่อ พริ กไทย ปูนขาว เอาสิ่ งละพอควร นอกจาก
ลูกมะกรู ดตําพอแหลก ห่ อผ้าดองด้วยนํ้าส้มสายชูไว้ ๑ คืน กินเวลาเช้า
ยาแก้ป้าง เอากระชายตําคั้นเอานํ้า นํ้าหน่อไม้ดอง นํ้าปูนขาว ประสมกิน
๑๙๘

ยาแก้เส้นพิการ มีอาการขัดเมื่อย เอาพริ กไทย ข่า กระชาย หัวหอม หัวกระเทียม มหาหิ งคุ ์ ยาดํา เอา
สิ่ งละ ๑ ส่ วน ใบขี้เหล็ก ใบตองแตก ใบมะขาม ใบเลี่ยน ไคร้หอม เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน ใบประคําไก่ ๑๖ ส่ วน
บดละลายนํ้าส้มสายชู หรื อนํ้าสุ ราทา
ยาแก้ลมทําให้เส้นพิการ มีอาการเมื่อยขัด แก้เหน็บชา มือตีนตาย เอาเทียนขาว ๑ ส่ วน เทียนดํา ๒
ส่ วน เทียนข้าวเปลือก ๓ ส่ วน ขิง ๔ ส่ วน รากเจ็ตมูลเพลิง ๕ ส่ วน ใบกัญชา ๒๐ ส่ วน พริ กไทย ๔๐ ส่ วน
บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้ง หรื อนํ้าส้มส้ากิน
ยาแก้ลมทําให้แขนขาเป็ นเหน็บชา แก้เส้นพิการ เอาใบหนาด ใบพลับพลึง ใบหัศกุน ปูนขาว เอาสิ่ ง
ละ ๑ ส่ วน ใบเถาวัลย์เปรี ยง การะบูน เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน พริ กไทย ๓ ส่ วน บดละลายนํ้าส้มส้า หรื อสุ ราทา
ยาแก้เส้นพิการ มีอาการเมื่อยขัด เอาใบประคําไก่ ใบละหุ่งแดง ใบผักกะชับ ใบผักเสี้ ยนผี กะทือ
ไพล กระชาย หัวหอม หัวกระเทียม ยาดํา เขม่าไฟ เอาเสมอภาคบดทา
ยาแก้เส้นขอดขัดเมื่อย เอามะนาว ๑ ลูก ใบพลับพลึง ข้าวเหนียวกัญญา ตําให้แหลก ห่อผ้า ๓ ห่ อ นึ่ง
ให้ร้อนใช้ประคม(ประคบ)
ยาแก้เส้นพิการ มีอาการขอด ขัด เมื่อยล้า แก้ลมตะคริ ว เอาการะบูน สน สิ่ งละ ๑ บาท ใบสลอดต้น
๓ บาท กระเทียม ๑๑ หัว พริ กไทย ๑ ทนาน บดเป็ นผง เอานํ้ามันงา ๑ ทนาน หุงให้คงแต่น้ าํ มัน กินและทา
ยาแก้ลมตะคริ ว ลมตีนตายมือตาย เอาพริ กไทยล่อน ๑ ทนาน รากเจ็ตมูลเพลิง ๒ ทนาน ตําให้แหลก
ดองสุ รา ๕ ทนานกิน
ยาแก้ลมตะคริ ว แก้เมื่อยขบ ตีนมือตาย เปลือกไข่เน่า ตําเอานํ้าสิ่ งละทนาน นํ้ามันงา ๑ ทนาน หุ งให้
คงแต่น้ าํ มัน แล้วเอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ขิง พริ กไทย กระเทียม การะบูน ดินประสิ ว นํ้ามันควายเผือก
นํ้ามันกบ นํ้ามันงูเหลือม เอาสิ่ งละเท่ากันปรุ งลงในนํ้ามันแล้วหุ งให้เข้ากัน ใช้ทา
ยาแก้ลมตะคริ ว ลมปั ตฆาต เหน็บชา เมื่อยขบ เอาข่าตาแดง ขอบชะนางแดง เอาสิ่ งละ ๑ ชัง่ ตําคั้น
เอานํ้า แล้วเอาพริ กไทย การะบูน สิ่ งละ ๓ บาท ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ สิ่ งละ ๒ สลึง นํ้ามันงา ๑ ทนาน หุ งให้
คงแต่น้ าํ มันใช้ทา
ยาแก้ลมจุกเสี ยด แก้เหน็บชา ผอมเหลือง แก้เสมหะพิการ เอาพริ กไทย ดีปลี รําพัน ฝักส้มป่ อย ราก
ตองแตก เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน รากจิงจ้อ เกลือ สิ่ งละ ๑๐ ส่ วน บดเป็ นผงละลายนํ้ามะงัว่ กิน
ยาถ่ายเส้น เอาใบมะกา เมล็ดฝ้ายไทย เถาวัลย์เปรี ยง เถาคันแดง ประคําไก่ ซางข้าวโพด ๓ อัน ตาไม้
ไผ่ป่า ๓ ตา หัวกะลา ๓ ซึ ก ๆ หนึ่งผ่า ๓ เอา ๑ ทิง้ ๒ ใบมะกานาบให้แห้งให้มากสักหน่อย ต้มกิน ถ้าจะให้
ระบายให้ใส่ เกลือพอควร
ยาแก้มือเท้าเป็ นเหน็บชา หรื อเป็ นเหน็บชาทั้งตัว เอาใบเหงือกปลาหมอ ตําคั้นเอานํ้าทา
ยาแก้ลมทําให้ตีนมือตายและให้ร้อยทั้งตัว และมีอาการเวียนศีรษะ ตามือ เจ็บทัว่ ร่ างกาย ผิวตัวแห้ง
ทั้งนี้เพราะลมให้โทษ เอาใบเหงือกปลาหมอ เปลือกมะรุ ม เกลือ ๑ หยิบ เอาเครื่ องยากใส่ ลงในหม้อ แล้วเอา
หมาก ๓ คํา เบี้ย ๓ ตัว เอาวางที่ปากหม้อ เอาฟื น ๓ ดุน้ ต้ม เมื่อเดือดแล้วให้กลั้นใจยกลง เมื่อกินให้กลั้นใจ
ก่อนแล้วจึงกิน
๑๙๙

ยาแก้อาํ มะพาธและเหน็บชา เอาผิวมะกรู ดสด หว้านนางคําสด สิ่ งละ ๔ บาท ตําให้แหลก เอา
การะบูน ๔ บาท ห่อผ้า เอายาทั้งนี้แช่น้ าํ มันก๊าดใช้ทาและนวด
ยาแก้ปวดหลัง เอาใบรางแดง ใบมะฝ่ อ ใบทองพันช่าง เถาวัลย์เปรี ยง โคกกระออม ใบกรวย ใบข่อย
ขั้วให้เกรี ยม ชงนํ้าร้อนกินเหมือนนํ้าชา
ยาแก้เมื่อย ปวดหลังปวดเอว เอานํ้าหญ้ากําเม็ง ๕ ทนาน พริ กไทยล่อน ครึ่ งทนาน นํ้าผึ้ง ๑ ทนาน
พริ กไทยบดให้เป็ นผง เอาใส่ กะทะกวนจนแห้ง เก็บไว้กินทุกวันดีนกั กินครั้งละเท่าผลพุดซา
ยาปั ตฆาตน้อย เอาโกฏสอ โกฏเขมา หัวหองดึง หัวอุตพิด หัวบุกรอ หัวกระดาดทั้ง ๒ หัวกลอย
แก่นแสมสาร แก่นแสมทะเล มหาหิ งคุ ์ เอาสิ่ งละ ๑ บาท โกฏนํ้าเต้า แก่นขี้เหล็ก ลูกสมอเทศ เอาสิ่ งละ ๓
บาท พริ กไทย ๕ บาท บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้ง หรื อนํ้าร้อน หรื อนํ้าส้มส้ากินแก้เส้นปั ตฆาตพิการ
ยานัตถุ์ เอายาเกาะกร่ าง ๑๐ บาท ปูนแดง ๕ สลึง ปูนนั้นต้องประสมใบเนียมพอสมควร วิธีประสม
เอาสุ ราต่างประเทศพรมยาให้เปี ยกชุ่ม แล้วเอาผ้าขาวบางคลุมตากแดดให้แห้ง แล้วเอาลูกพุดต้มด้วยนํ้าทา
(ท่า) เอานํ้าต้มนั้นทิ้งไว้ให้เย็น แล้วเอาสุ ราโรงประสมกับนํ้าต้มลูกพุดนั้นครึ่ งหนึ่ง แล้ว เอาพรมยาให้ชุ่มอีก
เอาผ้าขาวบางคลุมตากแดดให้แห้งอีกครั้งหนึ่ง แล้วบดเป็ นผงอย่างละเอียด ประสมพิมเสนอย่างดีพอควร
ใช้ได้ นัตถุแ์ ก้ลมและแก้ปวดศีรษะ
ยานัตถุ์ ชื่อสาริ กาลอยลม เอาโกฏสอ โกฏหัวบัว เทียนดํา ชะรู ด อบเชย จันทน์เทศ จันทน์แดง
กํายาน กฤษณา กระลําภัก ขอนดอก เปราะหอม เอาสิ่ งละ ๑ บาท สมุลแว้ง ส้มกุง้ น้อย หอยสังข์ ขิง ไพล ลิ้น
ทะเล พิมเสน เปลือกไข่ไก่ฟัก เอาสิ่ งละ ๒ สลึง ชะเอม ๒ บาท บดเป็ นผงนัตถุ์ แก้ลมแก้ปวดศีรษะ
ยานัตถุ์ แก้ปวดศีรษะ เอาชะเอมทั้ง ๒ อบเชยเทศ เปลือกคนทา จันทน์หอม โกฏสอ ใบสมี เมล็ด
ผักชี ขิง ชะมด พิมเสน เอาเสมอภาค บดเป็ นผงนัตถุ์
ยานัตถุ์ แก้ปวดศีรษะ แก้ลมวิเวียน แก้สลบ แก้ริดสี ดวงในจมูกในคอและแก้ริดสี ดวงในตา แก้พิษ
โลหิ ตและกําเดา เอาชะมด พิมเสน พริ กไทย ดีปลี ขิง เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน โกฏสอ โกฏเชียง โกฏพุงปลา
กานพลู เบี้ยผูเ้ ผา ชาดหรคุณ สมุลแว้ง อบเชยเทศ ดอกบุนนาค นํ้าประสานทอง เอาสิ่ งละ ๒ ส่ วน บดเป็ นผง
ใช้นตั ถุ์
ยาแก้ปวดศีรษะโดยพิษโลหิ ตและกําเดา เอากฤษณา อบเชยเทศ รากมะลิ รากสลิด รากสมี ชะมด
บดด้วยนํ้าดอกไม้เทศแทรกพิมเสน ใช้ทาหน้าผาก
ยาแก้ปวดหัวจอมปราสาท คือ ปวดหัวไม่รู้หาย เอาใบพิมเสน ดินประสิ ว สารส้ม ต้มเข้ากระโจมรม
ยานัตถุ์ เอาพริ กขี้หนู แห้ง ๑ เฟื้ อง พิมเสน ๑ สลึง การะบูน ๒ สลึง แกนปูน ๑ บาท ดินสอพอง ๔
บาท บดเป็ นผงนัตถุ์
ยานัตถุ์ เอายางพุดซ้อน พิมเสน ดินสอพองเผาไฟ บดเป็ นผงนัตถุ์
ยานัตถุ์ เอายาสู บ ๑ บาท ปูนแดงผง ๑ เฟื้ อง ชะเอม ๑ สลึง ผิวมะกรู ด ๗ หุ น หอม ๕ หุ น เมล็ด
ส้มป่ อย ๗ หุน บดเป็ นผงนัตถุ์
๒๐๐

ยาแก้ปวดหัวลมปะกัง เอาพริ กไทย ขิง ดีปลี กระเทียม หว้านนํ้า หัวกกลังกา ตําทั้งสด ๆ หุ งด้วย
นํ้ามันดิบ ชุบสําลีพนั ไม้ยอนหู ปวดข้างไหนยอนข้างนั้น ถ้ายังไม่หายให้นอนหงายหยอดลงในรู จมูกข้างละ
หยด หายแล
ยาแก้ปวดหัวเพื่อกําเดา หรื อปวดหัวหวัด เอาหัวหอมกินกับข้าวสุ ก หายแล
ยาสุ มแก้ปวดศีรษะ เอาหนังหมีเผาไฟ ดินสอพอง ใบตําลึง ดินประสิ ว หว้านหางจรเข้ ตําสุ มศีรษะ
ยาแก้ปวดหัว เอาใบมะนาว หอมโทน ๓ หัว ตะไร้ ๑ ต้นเอาทั้งรากทั้งใบทุบให้แตกชํ้า ต้มเอาผ้า
คลุมศีรษะรม หายแล
ยานัตถุใ์ นฤดูเหมันต์แก้ปวดศิโรคแก้โสตโรค เอาตรี กะฏุก พิมเสน จันทน์ท้งั ๒ โกฏหัวบัว กานพลู
หว้านนํ้า งานช้าง เอาสิ่ งละ ๑ สลึง ชะมดเชียง ๑ เฟื้ อง บดเป็ นผงใช้นตั ถุใ์ นฤดูเหมันต์ แก้กิมิชาติในสมอง
ยานัตถุ์ แก้ลมทําให้ชกั และทําให้ลูกตาหมุนเวียนไป แล้วล้มลงนิ่งแน่ไป เอาดินรังหมาร่ า ใบนํ้าเต้า
ขม ใบระงับ ใบผักเค็ด ใบชุ มเห็ดไทย ใบปี บ ใบชิงช้าชาลี หอม ๗ หัว ไพล ๗ แว่น เปราะหอม ๗ แว่น
พริ กไทย ๗ เมล็ด ขิง ๗ แว่น แมลงมุมตายซากเท่ายาทั้งหลาย บดเป็ นผงนัตถุ์
ยานัตถุ์ เอายาแดงอย่างดี ๑ ห่อ ปูนแดงเท่าลูกไข่เป็ ด ชะเอมไทย ๔ บาท บดเป็ นผงแทรก พิมเสน
นัตถุ์ แก้ปวดศีรษะ แก้คดั จมูก อันเกิดจากสอเสมหะให้โทษ
ยานัตถุแ์ ก้หวัด เอายาสู ข(สู บ)อย่างฉุ น ๑ บาท ปูนแดง ๔ บาท ชะเอม ๑ สลึง ผิวมะกรู ด ๗ หุ น หอม
ขั้ว ๕ หุ น เมล็ดส้มป่ อย ๗ หุ น บดเป็ นผงนัตถุ์
ยานัตถุแ์ ก้หวัดปวดศีรษะ เอาหญ้าตีนนก ลิ้นทะเล ยาแดง ยาเกาะกร่ าง ปูนแดงเผาไฟ เอาสิ่ งละ
เท่ากัน บดเป็ นผงยานัตถุ์
ยานัตถุแ์ ก้ลมปั ตฆาต เอาชะเอม ๒ สลึง พิมเสน ๒ สลึง พริ กไทย ๑ สลึง ดีปลี ๑ สลึง มหาหิ งคุ์ ๑
สลึง บดเป็ นผงนัตถุ์
ยานัตถุ์ แก้ลมปะกัง เอาผิวมะกรู ด ผักส้มป่ อย แมลงมุมตายซาก เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผลนัตถุ์
ยาสู บแก้ปวดศีรษะเพื่อกําเดา เอาขิงสด ก้านพลูแก เสี้ ยนกํายาน อบเชย บดสู บ
ยาแก้ปวดศีรษะ เอากระแจะ กานพลู การะบูน ข้าวสุ ก ฝิ่ น เอาสิ่ งละเท่ากัน บดละลายนํ้าดอกไม้เทศ
ทาขมับ
ยาแก้ปวดศีรษะ เอาใบบัวบก ๑๒ บาท ขิงสดหน่อยหนึ่ง หัวหอม ๕ หัว เทียนดํา ๑ บาท ดินประสิ ว
ขาว ๑ บาท บดสุ มศีรษะ แก้ปวดศีรษะในฤดูเหมันต์ เพื่อสอเสมหะให้โทษ
ยาแก้ปวดศีรษะ เอาใบเสนียด เทียนดํา เมล็ดงา ข้าวสาร ดินประสิ วขาว เอาสิ่ งละ ๔ บาท บดสุ ม
ศีรษะ แก้ปวดศีรษะในฤดูคิมหันต์ เพื่อสอเสมหะให้โทษ
ยาแก้ปวดหัว เอายาดํา ขิง ดีปลี หอมแดง กระเทียม ข่า เอาสิ่ งละเท่ากัน บดปั้นแท่งด้วยนํ้ามะนาว
ละลายนํ้ามะนาวกิน และทาที่ขมับที่หน้าผาก
๒๐๑

ยาแก้ปวดเมื่อยและแก้เส้นพิการ เอาขมิ้นอ้อย ๗ แว่น พริ กไทย ๗ เมล็ด กระเทียม ๗ กลีบ นํ้า


มะนาว ๗ ซี ก กระดูกงูเหลือม ๓ ข้อ เกลือตัวผู ้ ๗ เม็ด เครื่ องยากทั้งนี้ทุบพอแตกแช่น้ าํ มันมะพร้าวตากแดด
ไว้ ใช้ทาแก้ปวดเมื่อยดีแล
ยาแก้ปวดเมื่อย เอาผักหนอกสดตําคั้นเอานํ้าทานวดตามที่ปวดเมื่อยนั้น
ยาแก้ปวดเมื่อย เอาเทพธาโร สมุลแว้ง ไพล สะค้าน ดีปลี เทียนแดง เทียนขาว เอาสิ่ งละเท่ากัน บด
ปั้นแท่ง ละลายนํ้าไพลทาแก้ปวดเมื่อยดีแล
ยาแก้ปวดเมื่อยตามข้อ แก้เส้นพิการ แก้บวม เอาขมิ้นอ้อย ๗ แว่น พริ กแห้งตัดเอาทางปลาย ๗ เม็ด
กระเทียม ๗ กลีบ นํ้ามะนาว ๗ ซีก กระดูกงูเหลือม ๓ ข้อ เกลือตัวผู ้ ๗ เม็ด เอาแช่น้ าํ มันมะพร้าวตากแดดไว้
ใช้ทาแก้ปวดเมื่อยแลฟกบวม
ยาแก้ปวดหลังปวดเอว เอาใบรางแดง ใบมะฝ่ อ ใบทองพันชัง่ เถาวัลย์เปรี ยง โคกกระออม ใบกรวย
ใบข่อย เอาสิ่ งละเท่า ๆ กัน ขั้วให้เกรี ยมชงนํ้าร้อนกิน ให้กินไปตลอดวัน ดีนกั แล
ยาแก้หืด เอาหว้านหางจรเข้กบั นํ้าตาลคั้นเอานํ้ากิน
ยาแก้หืด เอาหนังกระเบนทาปูนให้ทวั่ แล้วปิ้ งไฟให้กรอบ บดละลายสุ รากิน
ยาแก้หืด เอาขิง ๒ บาท สะค้าน หัวแห้วหมู รากเจ็ตมูลเพลิง เอาสิ่ งละ ๒๐ บาท พริ กไทยล่อน ๑
ทนาน บดเป็ นผงละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้หืด เอารากเจ็ตมูลเพลิง บอระเพ็ด สะค้าน ขิงแห้ง หัวแห้วหมู พริ กไทยล่อน รากกะทกรก ราก
ตําลึงตัวผู ้ เอาสิ่ งละ ๑ บาท บดเป็ นผงละลายนํ้าร้อนแทรกพิมเสน นํ้าผึ้ง นํ้าส้มส้ากิน
ยาแก้หิด เอาพริ กล่อน พริ กเทศ กํามะถัน นํ้าประสานทอง เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้ง
กินครั้งละเท่าเมล็ดฝ้าย
ยาแก้หืด เอาดอกลําโพง ใบมะฝ่ อ หัน่ ให้เป็ นฝอยเอาเท่า ๆ กัน เอาเลือดแรดละลายกับนํ้าตาลโตนด
เคล้าดอกลําโพงกับมะฝ่ อนั้นตากแดดไว้ให้แห้ง เอายาเส้นประสมเล็กน้อย เอาการะบูนประสมลงเล็กน้อย
มวนด้วยใบตองแห้งสู บเหมือนบุหรี่ ทุกวัน
ยาแก้หืด เอาใบตําลึง ๑ กํามือตําคั้นเอานํ้า เอาจุนสี สะตุ ๑ สลึง บดเป็ นผงใส่ ลงในนํ้าใบตําลึงนั้นกิน
ยาแก้หืด เอายาดํา ๒ บาท ลูกมะเขือขื่นตําคั้นเอานํ้า ๑ ถ้วยชา ไพลตําคั้นเอานํ้า ๑ ถ้วยชา เอา
มะพร้าว ๑ ซีกขูดคั้นเอานํ้า ๑ ถ้วยชา เอารวมกันเคี่ยวให้แห้ง ปั้ นเป็ นลูกกลอนกิน
ยาแก้หืด เอาจันทน์แดงบดเป็ นผง เอาจุนสี ๑ สลึง บดเป็ นผงรวมกัน ละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้หืด เอาผมคนขั้วให้กรอบ บดละลายสุ รากิน ทําลายรังหื ดออกหมดหายแล ยานี้เคยใช้ได้ผล
มาแล้ว
ยาแก้หืด เอากาบหอยอีรมฝนนํ้าปูนใสกิน เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
ยาแก้ตะมอย เอาลูกมะกรู ด ๑ ลูกต้มให้สุก เอาเถาคัน จุนสี ข้าวสุ ก บดพอก
ยาแก้ตะมอย เอาหว้านหางจรเข้ ปูนขาว ข้าวบูด บดพอก
ยาแก้ตะมอย เอาใบชะมดต้น ขมิ้นอ้อย ปูนขาว ข้าวบด บดพอก
๒๐๒

ยาแก้ตะมอย เอาเปลือกชงโคฝนด้วยสุ ราทา


ยาแก้ตะมอย เอาผักปลัง ข้าวสาร หัวบานเย็น ขมิ้นอ้อย บดพอกแก้ปวด
ยาแก้ตะมอย เอาใบเข็ม ๔ ส่ วน ขมิ้นอ้อย ๒ ส่ วน ข้าวสุ ก ๒ ส่ วน นํ้าประสานทอง ๑ ส่ วน บดพอก
ยาแก้ตะมอย เอาหมากดิบนํ้าค้าง ตําผสมกับสุ รา เอานํ้ากิน เอากากพอก
ยาแก้ตะมอย เอาใบขี้ครอก แป้ งข้าวหมาก ข้าวไหม้ เอาอย่างละพอควร บดด้วยสุ ราพอก
ยาแก้ตะมอย เอาข้าวเหนียว ๗ เมล็ด พริ กไทย ๗ เมล็ด กระเทียม ๗ กลีบ บดพอก
ยาแก้ตะมอย เอาใบเทียนที่มีดอกคล้ายกุหลาบ กับขี้แมลงสาบ บดพอก
ยาแก้ตะมอย เอาใบมันเทศบดกับสุ ราพอก แก้หวั ลํามะลอกก็ได้
ยาแก้งูสวัด งูสวัดนี้ถา้ มันเกิดขึ้นข้างซ้ายเป็ นตัวเมีย ถ้าเกิดข้างขวาเป็ นตัวผู ้ มันมักจะลามไปใต้นม
และอก และลามไปข้างหลัง ยาแก้เอารากแมงลัก ข่า ฝนด้วยสุ ราทาที่หลังมือแลหลังเท้าไว้ก่อน แล้วเอาใบ
สะเดา ใบขัดมอญ ใบชุมเห็นไทย หญ้าปากควาย ใบมะเฟื อง ขมิ้นอ้อย บดละลายสุ ราทา ถ้ามิฟัง เอาใบเข็ม
ต้น ใบผักปลังแดง ใบฟักข้าว ใบขี้กาทั้ง ๒ ใบฝิ่ นเครื อ จุกกระเทียม ใบไคร้หางนาค บดละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้งูสวัด เอายอดตองแตก ยางกล้วยตีบ ยอดมะเดื่อ ขี้ววั ดํา พริ กไทย ขิง กระเทียม บดพอกมิให้
ลามออกไป ถ้ามิฟัง เอาหัวสุ ราโรง นํ้าผึ้ง ปูนขาว ประสมกันทารอบ ๆ ฐาน กันมิให้ลามออกไป
ยาแก้งูสวัด เอารากตาลหม่อน รากหมาก รากมะพร้าว รากตาล ฝนด้วยนํ้าท่า ทาบ้าง กินบ้าง
ยาแก้งูสวัดตัวเมีย เอาพริ กไทย เปลือกเพกา เปลือกมะขามป้ อม ฝาง ฝนทา ถ้ามิฟัง เอาเอื้องควาย
หัวบัวหลวง นํ้าผึ้ง ฝนทา
ยาแก้งูสวัด เอายางมะเดื่อทุมพอน ทาที่แผลแก้แสบร้อน
ยาแก้งูสวัด เอาหญ้าแพรก หญ้าปากควาย ใบบอระเพ็ด ใบนํ้าเต้า ตําคั้นเอานํ้าประสมกับนํ้าซาวข้าว
ชุบสําลีแปะที่แผล แล้วเอานํ้ายานี้คอยหยอดไว้อย่าให้แห้ง แก้แสบร้อน
ยาแก้เริ่ม(เริ ม) เอาเมล็ดในรางสาดฝนกับสุ ราทา
ยาแก้เริ่ม(เริ ม) เอากํามะถันแดงบดเป็ นผงละลายสุ ราโรงทา
ยาแก้งูสวัด เอาตะไคร่ น้ าํ ที่จบั ตามกําแพงแช่น้ าํ ฝน ใช้พอกแก้งูสวัด แก้ปวดแสบปวดร้อนหายแล
ยาแก้ไฟไห้ (ไหม้) นํ้าร้อนรวก นํ้ามันรวก เอายาเส้นอย่างฉุ นขยํากับสุ ราแปะที่แผลให้ทวั่ แก้แสบ
ร้อน ใส่ ต่อไปจนกว่าจะหาย
ยาแก้ไฟไหม้ นํ้าร้อนรวก นํ้ามันรวก เอาหัวหอมฝานเป็ นแผ่นบาง ๆ แปะที่แผล ถ้ามีแผลมาก ให้
เอาหัวหอมตําพอก แก้แสบร้อน
ยาแก้หวั ละลอก เอาหญ้าขี้ครอก บอระเพ็ด หวายตะคร้า รากลําโพง บดละลายนํ้าปูนใสทา ถ้าหัว
แตกให้เอาฝางฝนแทรกลงด้วย
ยาแก้ผมหงอกผมร่ วง เอาพระยามูลเหล็กกับรากทองพันชัว่ ต้ม เอานํ้ากินบ้างทาบ้าง กินและทาไป
สัก ๓ เดือนจะได้รับผล
๒๐๓

ยาแก้สติลอยลืมหลง เอาเกษรบัวเผื่อน บัวผัน บัวหลวง บัวจงกลณี รากแฝกหอม รากมณฑา เกษร


บัวสัตบงกช เอาสิ่ งละเท่ากัน ต้มกินเช้าเย็น
ยาแก้ประดงหิ น เอาแก่นไม้สัก แก่นประดู่ ดินจอมปลวก ดินขุยมดง่าม ต้มเอานํ้าอาบ
ยาแก้ประดงหิ น เอารังมดรี่ เปลือกตาเสื อ เปลือกตะขบ ใบตองแห้ง ต้มทิง้ ไว้ให้เย็น เอานํ้าอาบ
ยาแก้ประดงหิ น ทําให้ตีนตายมือตาย รากทองหลางใบมน เชือกเขาหนัง รากมะเขือขื่น ราก
กะทกรก โพกพาย ต้มกินและทา
ยาแก้ประดงหิ น เอาตูมกาแดง ต้นนํ้านมราชสี ห์ ขันทองพยาบาล รากช้าแป้ ง ยาเข้าเย็น รากนมแมว
น้อย ต้มกิน
ยาแก้ประดงหิ น เอายาเข้าเย็น รากงิ้ว พระยารากดํา รากฟักข้าว รากส้มเส็ ด รากอ้อยช้าง โคกกระสุ น
ฝนด้วยนํ้าทา
ยาแก้ประดงไฟ มันร้อนตามตัว ฟกบวมตามข้อ เอาใบนํ้าเต้า ใบฟักข้าว ขมิ้นอ้อย ข้าวเบือบดทา
ยาแก้ประดง มีอาการตีนบวม บวมทั้งตัว เมื่อถ่ายปั สสาวะมีอาการปวด ชื่ อกระดงข้อ เอารากมะดูก
ทั้ง ๒ รากมะตูม รากกระจาย จุกโรหิ นี รากนํ้านอง ต้นนํ้าราชสี ห์ ขมิ้นอ้อย ต้มกิน
ยาแก้ประดง เอาเชื อกเขายอดแดง รากมะดูกทั้ง ๒ รากดีหมี คุคะ จุกโรหิ นี มหาละลาย พิลงั กาษา
ฝนด้วยนํ้าหรื อสุ ราทา
ยาแก่ (แก้)ประดง เอาเจ็ตมูลเพลิง ๕ ตําลึง ดีปลี ๔ บาท พริ กไทยล่อน ๔ บาท บอระเพ็ด(บระเพ็ด)
๒ บาท สารส้มสะตุ ๒ บาท เอาเครื่ องยาห่ อผ้าขาวดองด้วยสุ รา เอาสุ รา ๔ บาท ดองไว้กิน
ยาแก้ประดง มีอาการปวดข้อ เอาหญ้านาง ใบตําลึง พริ กไทย ขิง ขมิ้นอ้อย ข้าวเบือ ข้าวเหนียว บด
ละลายนํ้าทา
ยาแก้ประดงข้อ เอาใบมะเดื่อปล้อง ขมิ้นอ้อย พริ กไทย ขิง ข้าวเบือข้าวเหนียว ใบหิ งหาย บดละลาย
นํ้าทา
ยาแก้ประดง เอารากชุมเห็นใบใหญ่ รากทองพันชัง่ ขันทองพยาบาล(พยาบาท) หัวหนอนตายยาก
แก่นปรู เยาเข้าเย็นจีน ยาเข้าเย็นไทย เอาสิ่ งละ ๑๐ บาท กํามะถันเหลือ ๖ บาท ต้มกิน
ยาแก้ประดง เอาใบหมากผู ้ ใบหมากเมีย หู ใบกล้วยตานี ทรายลบหนังสื อ ต้มอาบ
ยาแก้ประดงปลวก เอารากมะดูก รากมะขามป้ อม รากประคําไก่ แส้มา้ ทะลาย สะค้าน รากช้าพลู เอา
สิ่ งละ ๓ บาท ต้มกิน
ยาแก้มือด่าง เอานํ้าพริ กอย่างนํ้าพริ กแกงจริ ง ๆ เอามาทาทิ้งไว้สัก ๑ ชัว่ โมง เอากาบหมากเผาไฟรวม
ควันให้เหลือง แล้วทิง้ ไว้กว่าจะลอกแล้วทาแล้วรมอีกสัก ๓ หน
ยาถ่ายพยาธิ เอาผลมะเกลือเท่าอายุ ตําคั้นเอานํ้า แล้วเอานํ้าปลาปากไห ๑ ถ้วย ผสมกัน เวลาเช้าให้
กินกะทิก่อนสัก ๑ ชาม รออยูส่ ักครู่ หนึ่งจึงกินยาที่ทาํ ไว้น้ นั
๒๐๔

ยาแก้เหน็บชา เอากระดูกงูเหลือมบดเป็ นผง เอาแช่น้ าํ มะนาวไว้ ๓ วัน เอารากเจ็ตมูลเพลิง ใบ


ผักบุง้ ขัน ใบสลอดต้น ใบหัศกุนเทศ หัวหอม บดเป็ นผง เอารวมกับกระดูกงูเหลือมแช่น้ าํ มันดิบ ทาแก้เหน็บ
ขามือตายตีนตาย
ยาแก้ดานในท้อง แก้ลมเข้าในเส้น ทําให้มือแลเท้าเป็ นเหน็บชาตาย เอาดองดึง สะค้าน โกฏสอ
มหาหิ งคุ ์ ยาดํา โกฏพุงปลา หัวอุตพิต โกฏจุลาลําภา หว้านนํ้า เจ็ตมูลเพลิง ชะเอมเทศ เอาสิ่ งละ ๒ บาท
พริ กไทยเท่ายากทั้งหลาย บดเป็ นผงละลายนํ้ามะกรู ดหรื อนํ้าขิง หรื อนํ้าส้มส้ากิน
ยาแก้เหน็บชา เอาข่า สักขี แกแร กระชาย พริ กไทย เอาเท่ากันต้มกินเช้าเย็น แก้เหน็บชามือเท้าตาย
บํารุ งกําลัง บํารุ งโลหิ ต
ยาแก้เหน็บชา แก้ดานในท้อง แก้เส้นท้องตึง แก้ลมกะไษยต่าง ๆ เอาโกฏนํ้าเต้า ฝาง แกแร ลูก
มะขามป้ อม ขมิ้นอ้อย บอระเพ็ด(บระเพ็ด) ลูกสมอทั้ง ๓ เอาสิ่ งละ ๖ สลึง ยาดํา รากช้าพลู แก่นขนุน แก่น
แสมทั้ง ๒ รากตองแตก หัวแห้วหมู เอาสิ่ งละ ๑ บาท ฝักราชพฤกษ์ ๒ ฝัก เถาวัลย์เปรี ยง ๕ บาท ใบมะกา ๓
กํามือ เทียนทั้ง ๕ สิ่ งละ ๑ สลึง ต้มกินเช้าเย็น
ยาถ่ายเส้น เอาใบมะกา เมล็ดฝ้ายไทย เถาวัลย์เปรี ยง เถาคันแดง ประคําไก่ ซังข้าวโพด ๓ อัน ตาไม้
ไผ่ ๓ ตา หัวกะลา ๓ ซี ก ๆ หนึ่งผ่า ๓ เอา ๑ ทิ้ง ๒ ใบมะกานาบให้แห้ง เอาให้มากสักหน่อย ใส่ เกลือ
เล็กน้อย ต้มกิน
ยาแก้ละอองที่ข้ ึนในลิ้น สี ขาวชื่อละอองพระบาท สี แดงชื่อละอองพระกฤษณ์ สี ขาวแลเหลืองชื่อ
ละอองสมุทร เอางาช้าง นอแรด เขาแพะ เขากวาง เขาทราย เขาวัว และเขี้ยวอื่น ๆ อีกตามควร เอาดีงูเหลือม
นํ้ามันงูเหลือมแทรก บดเป็ นผงละลายนํ้ากิน แม้เป็ นจนอ้าปากมิออกพูดมิได้ ก็หายแล
ยาแก้ละออง เอาไส้เดือนบดละลายนํ้ามันงูเหลือมชุบสําลีอม
ยาแก้ละออง เอามะขามเครื อ หนามพรม รากพุงแก รากพะยายา ฝนกับนํ้ากิน
ยาแก้ลิ้นดํา ลิ้นแตก เอาใบกะเพรา ใบผักคราด ใบพลูแก เอาขั้วให้เกรี ยม แล้วเอานํ้าประสานทอง
ละลายนํ้า เอาใบไม้ที่ข้ วั ไว้น้ นั บดให้เป็ นผง ละลายนํ้า ๆ ประสานทองนั้นทาที่ลิ้น
กําหนดพิษของละอองต่าง ๆ ละอองพระบาท ถ้าแก้ไม่หาย ๑๕ วันตาย ละอองสมุทร ๑๖ วันตาย
ละอองพระกฤษณ์ ๗ วันตาย พิมพ์ เพิม่ ( ละอองแก้ว ๓ วันตาย) ถ้าพ้นกําหนดนี้มิตายแล
ละอองสอาด มันเกิดขึ้นเพราะเลือดห่อหัวใจ ทําให้อาเจียน เวียนศีรษะ นอนไม่ใคร่ หลับ มีอาการ
เชื่อม ครั้นถึง ๓ วัน ๗ วันมันขึ้นที่คอหอยแลลิ้น ต้นลิ้นกลั้วอยู่ มีอาการคลัง่ เหมือนผีเข้าสิ ง เมื่อถึง ๙ วันมัน
ดําลง เลื่อนไปใต้ลิ้น ร้ายนัก ยาแก้เอาหว้านร่ อนทอง หว้านกีบแรด เนระภูษี รากตับเต่าใหญ่ ราก
ปลาไหลเผือก รากสี หวด รากโลดทนง รากนมแมวน้อย ลูกประคําดีควาย พริ กไทย ขิง ข่าตาแดง กะทือ
ไพล เปลือกกุ่มบก ฝนด้วยนํ้ากิน
ละอองที่ข้ ึนมา แดง ๒ แถว เหลือง ๓ แถว นั้นร้ายนัก ละอองพระบาททั้งปวง เมื่อขึ้นมันทําให้ลง
ท้อง ตีนมือเย็น คลัง่ เพ้อ ยาแก้เอามหาสะดํา แสนประสระ ตาลขะโมย รากตับเต้าใหญ่ รากสวาด กําลังหนุ
มาน เนระภูษี ระย่อม หว้านกีบแรด พิศนาด รากสี หวด ลูกประคําดีควาย ไคร้เครื อ ดีงูเหลือม ฝนด้วยสุ รากิน
๒๐๕

ถ้ามันแข็งขึ้นมา ให้เอายานี้แก้ เอารากปลาไหลเผือก รากเปล้าน้อย รากนมแมวน้อย รากโลดทนง รากตับเต่า


น้อย รากสี หวด หว้านกีบแรด ลูกราชดัด ตูมกาแดง พิศนาด ลูกประคําดีควาย ค้อนหมาแดง แส้มา้ ทะลาย เน
ระภูษี ผักแพวต้น ดีงูเหลือม ฝนด้วยสุ รากิน ถ้ามิฟัง เอาเปลือกกุ่มทั้ง ๒ รากสี หวด รากมะตูม รากคนทิสอ
รากประคําไก่ กลิ้งกลางดง ช้าแป้ น รากพุดซา ขิง ข่า กะทือ ไพล รากตับเต่าใหญ่ รากนมแมวน้อย ราก
เปล้าน้อย รากโลดทนง ลูกประคําดีควาย เนระภูษี ดีงูงอด ฝนด้วยสุ รากิน
ละอองพิกาศ มันคันในคอในลิ้น มีสีขาว สี เหลือง ลายขึ้นบนลิ้น เม็ดใหญ่เท่าเมล็ดข้าวโพด
ละอองกระจบ(กระจก) มันขึ้นดังกระจกถึง ๒-๓ วัน มันทําให้ลิ้นแตก ถ้ามันทําให้ลงชื่อละออง
พระกฤษณ์ มันขึ้นเหมือนละอองสาย ทําให้ตายดั้นไป มือตีนกํา ตาเหลือกตาข้อน ตัวสั่น ชื่อละออง
พระกฤษณ์แล
ละอองแก้ว มันขึ้นเหมือนนํ้าค้างอยูใ่ นใบบัว ยาแก้ละอองทั้งปวง เอารากปลาไหลเผือก กรุ งเขมา
รากนมแมว ราดโลกทนง รากตับเต่าใหญ่ ใบผักไห่ ใบฉัตร์ พระอินทร์ ใบราชดัด รากไคร้เครื อ เนระภูษี ใบ
หว้านร่ อนทอง ใบดีงูตน้ ฝนด้วยสุ รากิน
ยาทิพรส เอาดอกพิกุล ดอกบุนนาค ดอกสาระภี ดอกมะลิ เกษรบัวหลวง ดอกกระดังงา ดอกจําปา
ดอกจงกล แห้วสด กระจับสด ฝาง จันทน์แดง จันทนา จันทน์เทศ เนื้ อไม่ ชะลูด อบเชย สมุลแว้ง แก่นสน
หว้านนํ้า กระชาย หว้านเปราะ ดอกคํา การะบูน สุ รามิริต ข่าต้น ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ เอาสิ่ งละ ๑ บาท
ชะเอม ๒ บาท โกฏทั้ง ๙ ชะมด เอาสิ่ งละ ๒ สลึง เทียนทั้ง ๙ เอาสิ่ งละ ๑ สลึง บดปั้ นแท่ง แก้เชื่อมมัว
ละลายนํ้าจันทน์ นํ้าดอกไม้ กิน แก้ชกั ละลายนํ้าจันทน์หรื อนํ้าดอกไม้แทรกพิมเสนกิน ใช้ได้ท้ งั เด็กแล
ผูใ้ หญ่ แก้ระดูขดั เอาฝาง สารส้ม หัวหอม ผักเป็ ดแดง ต้มเอานํ้าเป็ นกระสายละลายยานี้กิน แก้ชกั เพื่อพิษ
โลหิ ต ใช้กระสายตามที่ชอบ
ยาแก้ชกั ตีนกํามือกํา ถ้าเป็ นเช้าเย็นตาย ถ้าเป็ นเวลาเที่ยงไม่ตาย เอาตาอ้อยแดง รากหญ้าคา รากหญ้า
ปากควาย ใบผักเป็ ด ใบกําเม็ง หว้านนํ้า ขิง พริ กไทย กระเทียม ผักเสี้ ยนผี หญ้าลูกเค้า เอาสิ่ งละเท่ากัน บด
ปั้ นแท่ง ละลายนํ้าร้อนกิน ละลายนํ้าซาวข้าวชะโลม
ยาแก้ชกั เพื่อสันนิบาต มีอาการชักมือกําตีนหงิกงอ แลมีโทษเป็ นกําลัง เรี ยกว่าสันนิบาตกุมภัณฑ
ยักษ์แลดีพลุ่ง เอาแก่นจันทน์ รากกรุ งเขมา สิ่ งละ ๑ บาท กระพังโหม ลูกสมอเทศ ลูกสมอไทย ลูกสมอดีงู
เอาสิ่ งละ ๔ บาท ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาแก้ชกั เอาหอมแดง เปลือกแหน เปลือกหมากเม่า เปลือกสัก เปลือกทุลงั กาษา เปลือกมะขามป้ อม
พริ กไทยล่อน ดีปลี หมากดิบสด บดเป็ นผง ละลายนํ้าผึ้งหรื อสุ รา หรื อนํ้าร้อน หรื อนํ้าส้มส้ากิน แก้ลมชัก
และลมสันดาน
ยาแก้โรคผอมแห้ง เอาผักบุง้ ๗ ยอด ผักกระเฉด ๗ ยอด ผักแพงพวย ๗ ยอด เอายอดยาว ๑ ศอก ลูก
สมอไทยเท่าอายุ ยาดํา ๓ บาท ใบมะกาพอควร ต้มกิน ยานี้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
๒๐๖

ยาแก้โรคผอมแห้ง หน้าแข้งตกเกล็ด เนื่องจากอยูไ่ ฟไม่ได้ เอาพริ กไทย ดีปลี ขิง ข่า กระเทียม หว้าน
นํ้า กระชาย ไพล กะทือ เกลือสะตุ เกลือสิ นเธาว์ เอาสิ่ งละ ๕ ตําลึง บดละลายนํ้าส้มส้า หรื อนํ้าส้มสายชูกิน
ยานี้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
ยาแก้ช่ าํ รั่วหนองในทวาร เอาเทียนทั้ง ๕ โกฏกักกรา โกฏสอ โกฏพุงปลา โกฏจุลาลําภา โกฏ
ก้านพร้าว ระยอม แก่นสน สมุลแว้ง อบเชย ขอบชะนางทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ ๑ บาท ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ตรี
กะฏุก กันชา สะค้าน เอาสิ่ งละ ๒ สลึง ชาดก้อน ๑ เฟื้ อง สารหนู ๑ สลึง สารหนู กบั ชาดก้อนนั้นบดให้
ละเอียด เอากระเบื้องหม้อตั้งไฟ เอาชาดก้อนกับสารหนูใส่ ลง เอานํ้ามะกรู ดใส่ ลงขั้วจนนํ้ามะกรู ดแห้ง ทําให้
ได้ ๓ ครั้ง ขั้วจนเกรี ยมแล้วเอาประสมกับยาอื่น เอาพิมเสน ๑ เฟื้ อง ฝิ่ น ๑ สลึงใส่ ลง บดปั้ นแท่งเท่าเมล็ด
พริ กไทย ละลายสุ รากินครั้งละ ๓ เม็ด ถ้ากินข้าวมิได้ให้กินครั้งละ ๑ เม็ด ยานี้แก้พยาธิ ท้ งั ปวงด้วย ยานี้เคย
ใช้ได้ผลมาแล้ว
ยาขับเหงื่อ เอาเปลือกกระเชา หัวแห้วหมู เปลือกหอยขม บดละลายนํ้ากิน
ยาแก้สะอึก เอารากไคร้เครื อ พริ กไทย ขิง บดละลายนํ้ากิน
ยาแก้สะอึก เอารากทรงบาดาล รากมะอึก ต้มกิน
ยาแก้สะอึก เอาเมล็ดสวาด หญ้าปากควาย บดละลายสุ รากิน
ยาแก้ปากเปื่ อย เมล็ดมะกอกเผาไฟ ลูกมะขามป้ อมขั้วให้เกรี ยม เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผง ละลาย
นํ้าผึ้งหรื อนํ้ามะนาวแทรกเกลือกวาด ป้ ายปาก หรื อชุบสําลีอมก็ได้
ยาแก้ปากเปื่ อย เอาเปลือกคางทางตะวันออก กรามช้าง ลูกเบ็ญกานี นํ้าประสานทอง เทียน สัตบุษย์
บดละลายนํ้าเปลือกหมากสุ กทาหรื ออม แก้ปากเปื่ อยหรื อปากแตกร้าว
วิธีแก้สะอึก ให้จิบนํ้าเย็นทีละน้อย เวลาจิบให้ต้ งั ตัวให้ตรง ให้อกแก่น จะหายทันที
ยาแก้ปลิงเข้าทวารหนักหรื อทวารเบา ให้กินนํ้าผึ้งสัก ๑ ถ้วยชา ไม่ชา้ ปลิงจะออกมา
ยาแก้เจ็บอกหรื อแก้ปอดบวม เอาลําไยแห้ง นํ้าตาลทรายแดง ธู ปจีน เอาอย่างละพอควร ต้มกิน
ยาขับนํ้านม เอาบอระเพ็ด(บระเพ็ด) ใบนิลพัด หญ้าใต้ใบ ใบผักเป็ ดแดง ใบผักเป็ ดขาว ใบตําลึง ลูก
แป้น เข้าหมัก ๑ ลูก ตําให้แหลกพอกหัวนม ทําให้น้ าํ นมออกมาก ถ้ายาที่พอกนั้นแห้งเอาสุ ราหยอดให้ชุ่มไว้
ยาขับนํ้านม เอารากไทรย้อย งาช้าง ๓ ชิ้น เบี้ยจัน่ ๓ ตัว ผักแว่น ๑ กํามือ แกลบข้าวเหนียว ต้มกิน
เช้าเย็น ทําให้น้ าํ นมออกดี
ยาแก้โทษนํ้านม เอาจันทน์เทศ ชะเอมเทศ นํ้าตาลทราย โกฏสอ โกฏเขมา โกฏก้านพร้าว โกฏ
พุงปลา โกฏจุลาลําภา กานพลู บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าดอกไม้ ละลายนํ้าดอกไม้หรื อนํ้ามะนาว หรื อนํ้าผึ้ง แทรก
ชะมดกิน แก้ซางในอก ในตับ ในคอ แก้สะอึก แก้อาเจียน แก้โทษนํ้านมพิการ
ยาแก้ลิ้นกระด้างคางแข็ง เอากระดูกหมาดํา กระดูกงูเหลือม กระดูกแร้ง กระดูกกา คางคก ตายซาก
รากดิน ทองคําเปลว ขี้แห้ง บดเป็ นผงปั้ นแท่ง นํ้าครําเป็ นกระสายบดละลายนํ้ามูตรกิน
ยาแก้คางแข็ง เอากระดูกงูเหลือม เบี้ยแก้ รากกะทกรก ใบค้อนกลอง บดละลายนํ้าทา
๒๐๗

ยาบํารุ งร่ างกายแลบํารุ งกําลัง เอาเปลือกทิ้งถ่อน เปลือกตะโกนา บอระเพ็ด หัวแห้วหมู เมล็ดข่อย


พริ กไทย เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผง ละลายนํ้าผึ้งกินครั้งละเท่าเมล็ดพุดซา
ยาบํารุ งร่ างกายและบํารุ งกําลัง เอาหัวบัวขม ผลกล้วยนํ้าว้าที่สุกงอม ฝานตากแดดให้แห้ง เมล็ดข่อย
พริ กไทย เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผงกวนกับนํ้าผึ้งจนแห้งเหนียวปั้ นเป็ นก้อนได้ ให้กินครั้งละพิ(พอ)ควร
ยาบํารุ งกําลังทางประเวณี เอาเปลือกตะโกนาต้มกิน ให้กินวันละ ๒ เวลาเช้าเย็น
ยาแก้ปวดท้อง เอาเปลือกทิง้ ถ่อน พริ กไทย เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผงละลายนํ้าร้อนกิน
ยาแก้ปวดท้องอย่างหนัก เอาใบมะขาม ใบมะเกลือ ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาแก้นอนไม่หลับ เอาลูกสมอไทย ลูกสมอเทศ ลูกช้าพลู กัญ(น)ชา ต้มรับประทาน
ยาแก้นอนไม่หลับ เอาไคร้หอม จันทน์ท้งั ๒ ขิงแห้ง ขันฑ(ท)ศกร ดอกบุนนาค เกษรบัวหลวง ลูก
บัวเกราะ เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้ง หรื อนํ้าร้อน หรื อนํ้านมวัวกิน
ยาแก้นอนไม่หลับ เอาใบระงับ ใบกระทืบยอบ ใบชุมเห็ด ใบส้มป่ อย ใบมะขาม บดเป็ นผง ละลาย
นํ้าร้อนกิน
ยาแก้หลังแข็ง เอาใบมะตูม ขิง ไพล กะทือ เมล็ดผักกาด ดีปลี บดให้ละเอียดทา
ยาแก้น้ าํ ลายตก ในเวลาเป็ นไข้หรื อไข้หายใหม่ ๆ นํ้าลายตกมากต้องบ้วนไม่หยุด เอายอดพริ กไทย
๗ ยอด ยอดกะเพรา ๗ ยอด ยอดฝรั่ง ๗ ยอด การะบูนเท่าผลพุดซา ต้มเอานํ้ากิน ๑ กลืนแล้วเอานํ้าอม
ยาชื่อคงคาทิพ แก้โลหิ ตตกทวารทั้ง ๙ แก้ไอทั้งกลางวันและกลางคืน แก้เจ็บทวารหนักทวารเบา
เจ็บอก เจ็บในท้อง แก้ฝีในลําไส้ แก้ลม แก้สะอึก แก้อาเจียน แก้หืด แก้พยาธิ แก้ระดูเสี ย บํารุ งธาตุท้ งั ๔ ให้
เป็ นปกติ เอาเปลือกโมกหลวง พริ กไทย ขิง หัวแห้วหมู หัวหญ้ารังกา เจ็ตมูลเพลิง ลูกสมอเทศ รากไคร้เครื อ
เมล็ดสลอด เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผง แก้ธาตุท้งั ๔ ซึ่ งเป็ นเพราะลมดี เสลด แก้เจ็บท้อง ละลายนํ้าสุ รากิน
แก้ริดสี ดวง ละลายนํ้ามูตรโคดํากิน แก้ระดูเสี ย ละลายนํ้าด่างสะแกหรื อนํ้าร้อนกิน
ยาถ่ายมหาไว แก้ชอกชํ้า ตกช้าง ม้า วัว ควาย ตกต้นไม้ หรื อถูกยิงถูกฟันและ(แล)ถูกทุบตี แก้
ริ ดสี ดวง แก้คชราชเข้าข้อ แก้โรคสําหรับบุรุษเข้าข้อแลหนองใน ถ่ายฝี ในท้อง เอาการะบูน ๑ บาท ลูกจันทน์
ดอกจันทน์ โกฏสอ โกฏเขมา ดีปลี ลูกสมอเทศ ลูกสมอไทย ยาดํา เกลือสิ นเธาว์ นํ้าประสานทอง เอาสิ่ งละ
๒ บาท กานพลู รากตองแตก เมล็ดสลอดประสระแล้ว เอาสิ่ งละ ๖ บาท เทียนสัตบุษย์ ๖ สลึง หว้านนํ้า ๑๐
สลึง หัวชวนชิด ๔ บาท บดเป็ นผง ละลายนํ้าร้อน หรื อนํ้าส้มส้ากิน
ยาบํารุ งร่ างกาย เอามะนาว ๓๓ ลูก สะค้าน ๑๒ บาท เกลือ ๑ ถ้วย มะขามเปี ยก ๓ ปั้น ข้าวเหนียว ๓
ทนาน เอารวมกันต้มเคี่ยวให้แห้งแล้วโขลกให้เหนียวพอปั้ นเป็ นก้อนได้ กินครั้งละพอควร บํารุ งให้ร่างกาย
สมบูรณ์อว้ นถ้วนดี
ยาแก้คุดทะราด เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละ ๑ บาท เทียนทั้ง ๕ เอาสิ่ งละ ๑ เฟื้ อง พริ กไทย ๑ ทนาน
ต้มกิน เวลาเอายาใส่ หม้อเศกด้วยประจุขาด เวลาจะกินก็เศกด้วยประจุขาด เอาเงินผูกคอหม้อ ๑ สลึง ต้มแล้ว
บูชาไว้จงดี เงินที่ผกู คอหม้อนั้นเมื่อหายแล้วซื้ อของทําบุญ
๒๐๘

ยาแก้คุดทะราดหู ด คุดทะราดเดือยไก่ คุดทะราดเปื่ อย เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ รากไทรย้อย เอาสิ่ งละ ๑๐


บาท เถากะไดลิงเท่าอายุ (นับข้อ) ขันทองพยาบาท ๒๐ บาท เอาแกลบข้าวเหนียวห่ อผ้าปิ ดปากหม้อ ต้มกิน
เช้าเย็น ให้บูชาครู ดว้ ยดอกไม้ธูปเทียน
ยาชะแผลคุดทะราด เอาเปลือกหว้า เปลือกตะโก เปลือกมะพลับ เปลือกมะกอก เปลือกพุดซา
เปลือกข่อย สี หวดทั้ง ๕ ปูนขาว ต้มเอานํ้าชะ
ยาโรยแผลคุดทะราด เอาแก่นแสมทะเล แก่นตะบูน เอาสิ่ งละ ๔ บาทเผาแล้วบดเป็ นผง ละลาย
นํ้าข้าวเช็ดแทรกพิมเสนใส่ แผลคุดทะราด เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
ยาแก้คุดทะราดเข้าข้อทําให้ขดั ข้อเท้าข้อมือ เอายาเข้าเย็นใต้ ๕ ตําลึง ยาเข้าเย็นเหนือ ๕ ตําลึง
พริ กไทย ๖ บาท เทียนทั้ง ๕ สิ่ งละ ๑ บาท ขอบชะนางทั้ง ๒ สิ่ งละ ๒ บาท ไคร้หางนาค ๕ บาท ดองด้วย
สุ ราอย่างดีฝังข้าวเปลือกไว้ ๓ คืน เมื่อจะกินให้เอาข้าว ๑ กระทง มีผกั พล่าปลายํา เทียนเล่ม ๑ หมาก ๓ คํา
บูชาแล้วจึงกิน ยานี้ดีนกั
ยามหาสาร เอาดอกสารภี(สาระภี) ดอกพิกุล ดอกบุนนาค เกษรบัว จันทน์หอม รากหญ้านาง เปลือก
สันพร้านางแอ รากมะนาว รากมะปรางหวาน เอาสิ่ งละเท่ากัน บดเป็ นผง ละลายนํ้ากระสาย ชะโลมแก้พิษ
ไข้ แก้พิษผิดสําแดง ละลายนํ้าดอกไม้กิน แก้ลงท้องละลายนํ้าเปลือกลําไยต้มกิน
ยาแก้หูเป็ นนํ้าหนวกหรื อคัน เอาเทียนทั้ง ๕ ทอดกับนํ้ามันมะพร้าว แล้วกรองเอานํ้ามันหยอดในรู หู
ยาแก้โรคลําไส้ เอาเปลือกลูกมะพร้าวสับเป็ นชิ้น ๆ ต้มกินต่างนํ้า หายแล
ยาแก้โรคเส้นประสาท เอาจันทน์ท้ งั ๒ สิ่ งละ ๔ บาท แก่นแสมทั้ง ๒ สิ่ งละ ๔ บาท แก่นขี้เหล็ก ๔
บาท ฝาง ๔ บาท เถาวัลย์เปรี ยง ๔ บาท ลูกสมอไทย ๑๑ บาท ลูกกระดอม ๒๑ ลูก ขมิ้นอ้อย ๔ บาท ข่า ๑ คืบ
เถาบอระเพ็ด ๑ คืบ ไพล ๔ บาท ดอกคําฝอย ๔ บาท หอมแดง ๔ บาท ผักเป็ ดแดง ๔ บาท ใบมะกา ๔ บาท
ดินประสิ ว ๑ บาท ดีเกลือ ๓ บาท เวลาต้มครั้งแรกใส่ น้ าํ ให้มาก ๆ เวลาอ่ อน(อุ่น)ไม่ตอ้ งเติมนํ้า ให้กินเวลา
เช้าเย็นก่อนอาการ ถ้าท้องเดินมาก ให้ลดเคื่อง(เครื่ อง)ยาลงตามส่ วน ยาขนานนี้ เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
ยาทําให้อดฝิ่ น เอาขี้ยา ๒ สลึง เถาวัลย์เปรี ยงพอประมาณ กัญ(น)ชาครึ่ งกํา ใบกระท่อม เอาให้
มากกว่ายาอย่างอื่น ต้มกิน ให้กินตามเวลาที่เคยสู บฝิ่ น เมื่อกินไป ๑ ถ้วย ให้เติมนํ้า ๑ ถ้วย ให้ทาํ ดังนี้จนกว่า
ยาจะจืด เมื่อกินจนนํ้าจืดแล้วยังไม่หาย ให้ตม้ กินหม้อใหม่ต่อไป
ยาแก้ตีนมือลงพื้น เอารากทองพันชัง่ กระเทียม กํามะถัน บดห่อผ้าชุบนํ้ามะนาวเช็ดถู หายแล
ยาหัศธารา เอามหาหิ งคุ ์ ๑ บาท โกฏก้านพร้าว ๒ สลึง โกฏพุงปลา ๒ สลึงเฟื้ อง โกฏเขมา ๒ สลึง
เฟื้ อง โกฏกักกรา ๓ สลึง เทียนดํา ๓ สลึงเฟื้ อง เทียนขาว ๑ บาท เทียนสัตบุษย์ ๑ บาทเฟื้ อง เทียนตาตัก๊ แตน
๕ สลึง เทียนแดง ๕ สลึงเฟื้ อง ลูกจันทน์ ๖ สลึง ดอกจันทน์ ๖ สลึงเฟื้ อง การะบูน ๗ สลึง หัศกุนเทศ ๔ บาท
๒ สลึง รากตองแตก ๑๑ บาท รากจิงจ้อใหญ่ ๑๐ บาท หว้านนํ้า ๑๐ บาท ดีปลี ๑๒ บาท ลูกสมอไทย ๑๓
บาท เจ็ตมูลเพลิง ๑๔ บาท พริ กไทย ๑๕ บาท บดเป็ นผง แก้ลม ว่าง ๆ ละลายนํ้าผึ้งกิน แก้จุกแน่น ละลายนํ้า
ลูกสมอไทยต้มกิน แก้ตวั เย็น ละลายนํ้าข่ากิน แก้น้ าํ ลายเหนียว ละลายนํ้าส้มอัดแจกิน แก้นอนไม่หลับ
ละลายนํ้าอ้อยแดงกิน แก้สะบัดร้อนสะบัดหนาว ละลายนํ้าเปลือกมะรุ มต้มกิน แก้อาเจียนเป็ นเลือด แก้บิด
๒๐๙

ละลายนํ้าตาลหม้อกิน แก้ทอ้ งมาน ละลายนํ้ารากจิงจ้อต้มกิน แก้จุกเสี ยดขึ้นถึงต้นลิ้น ละลายนํ้าผึ้ง (หรื อ


นํ้าส้มส้ากิน) แก้ลมทําให้ตายชาไปข้างหนึ่งหรื อ ๒ ข้าง ละลายนํ้านมโคกิน แก้ลมทําให้ลิ้นจาง ละลาย
นํ้ามันเนยกิน แก้ไข้จบั ละลายนํ้าหัวแห้วหมูตม้ กิน ขับเลือดร้ายหญิงคลอดลูก ละลายนํ้ามะงัว่ กิน สะเดาะลูก
ตายในท้อง ละลายนํ้ามันงากิน แก้ฝีท้ งั ปวง ละลายนํ้าผักเป็ ดต้มกิน แก้กินอาหารมิได้ ละลายนํ้ารากช้าพลูตม้
กิน แก้ลมตะคริ ว ละลายนํ้าบอระเพ็ดต้มกิน
ยาทําลา(ลาย)พระสุ เมรุ เอาลูกจันทน์ ๑ เฟื้ อง ดอกจันทร์ ๑ สลึง ลูกกระวาน ๑ สลึงเฟื้ อง กานพลู ๒
สลึง ดีปลี ๒ สลึงเฟื้ อง เกลือสิ นเธาว์ ๓ สลึง ลูกพิลงั กาษา ๓ สลึงเฟื้ อง หว้านนํ้า ๑ บาท โกฏสอ ๑ บาท
เฟื้ อง โกฏเขามา(เขมา) ๕ สลึง เทียนดํา ๕ สลึงเฟื้ อง เทียนแดง ๗ สลึง เทียนขาว ๖ สลึงเฟื้ อง เทียน
ข้าวเปลือก ๒ บาท เทียนตาตัก๊ แตน ๗ สลึงเฟื้ อง ขิง ๙ สลึง เจ็ตมูลเพลิง ๙ สลึงเฟื้ อง ลูกสมอไทย ๑๐ สลึง
ลูกสมอเทศ ๑๑ สลึงเฟื้ อง หัวบุกรอ ๑๐ สลึง หัศกุนเทศ ๓ บาทเฟื้ อง กัญชา ๓ บาท ๑ สลึง พริ กไทยล่อน
๖๓ บาท ๓ สลึงเฟื้ อง การะบูน ๗ สลึงเฟื้ อง บดเป็ นผง ละลายนํ้าผึ้งหรื อนํ้าอ้อยแดงกินวันละ ๒ เวลา ใช้
เนื้อยาครั้งละ ๑ สลึง แก้ทอ้ งมานทั้ง ๕ แก้กุฏฐัง แก้กล่อน แก้ไอ แก้ไส้ (ใส้)เลื่อน แก้หูตึงและตาฟาง แก้สติ
เคลิบเคลิ้ม แก้ลมเสี ยดตะโพก แก้จุกเสี ยด แก้เมื่อยขบ แก้ลม ทําให้ไอให้จาม แก้ลมตะคริ ว แก้ฝีเอ็นฝี ลาํ คอ
แก้คุดทะราด แก้ลมชักตีนกํามือกําและทําให้เส้นสะดุง้ แก้ลมปั ตฆาตราชยักษ์ ลมหาวเรอ ลมทําให้รากให้
สะอึก ลมสราธิ คุณ แก้บาทยักษ์ กุมภัณฑยักษ์ ลมวิงเวียน ลมสวิงสวาย แก้ดีพลุ่ง เท้าเย็นมือเย็น ท้องลัน่
โครกคราก หายแล
ยาแก้สันนิบาตสมุฏฐาน แต่ย่าํ คํ่าถึงยํ่ารุ่ ง มีอาการร้อนและหนาวสะท้าน ร้อนใน จักขุวิงเวียน หอบ
ไอ เมื่อยขบ แน่นอกคับใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เสี ยดแทง สวิงสวาย หิ วโหยหาแรงมิได้ กองสันนิบาตนี้
กลางคืนกลางวันแบ่งเวลาเหมือนกัน ยาแก้เอารากพันงูแดง ดีปลี ขิงแห้ง พริ กไทย อบเชย รําพันแดง เจ็ตมูล
เพลิง ลูกสมอไทย เอาเสมอภาค บดเป็ นผงละลายนํ้าร้อนกิน ถ้ามิถอยเอาดีปลีตม้ เอานํ้าละลายยานี้กิน หาย
แล
ยาแก้โรคปั จจุบนั แก้จุกเสี ยด เอาพริ กไทย ดีปลี กระเทียม ขิง ลูกกระดอม เอาเสมอภาค เอา
กํามะถันเท่ายาทั้งหลาย บดเป็ นผงละลายนํ้ากระสายกิน
ยามหาสันนิบาตประชุมธาตุ เอาโกฏทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ ลูกกระดอม ก้านสะเดา หัวคล้า อบเชยจีน
ลูกกระวาน เนื้ อไม้ เมล็ดผักชี ดอกจันทน์ เอาสิ่ งละ ๑ บาท ลูกจันทน์ เกษรบัวหลวง ดอกบุนนาค ดอกสารภี
(สาระภี) ดอกพิกุล หัวแห้วหมู เอาสิ่ งละ ๒ บาท บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าดอกไม้ แก้ลมชัก ละลายนํ้าหัวถัว่ พูตม้
กิน แก้บิด ละลายนํ้ากะทือ หอม กระเทียมต้มกิน แก้อาเจียน ละลายนํ้าเทียนดําต้มกิน
ลบทิง้ (ยาทําลายพระสุ เมรุ แก้ไส้เลื่อน หู ตึง ตาฟาง สติเคลิบเคลิ้ม)
ยาประสระหัวแห้วหมู เอากะทือ ไพล กระชาย ข่าคงแดง(ตาแดง) ข่าหยวก เอาสิ่ งละ ๒ สลึง ลูก
กระวาน จันทน์ท้งั ๒ เทียนทั้ง ๕ เปราะหอม ขิงแห้ง หญ้าตีนนก เอาสิ่ งละ ๒ บาท หัวแห้งหมู ๑๐ สลึง
กระดูกงูเหลือมเผา ๕ บาท ใบปัก(ผัก)ปราบ ๑๖ บาท บดปั้นแท่ง แก้เพ้อคลัง่ แก้ชกั แก้ลิ้นกระด้างคางแข็ง
ละลายนํ้าดอกไม้กิน หรื อละลายนํ้าครํากินก็ได้ แก้สะอึก ละลายนํ้าอัมพันทอง ชะมด หญ้าฝรั่น แทรก
๒๑๐

พิมเสนกิน แก้อาเจียน ละลายนํ้าลูกยอ เทียนดํา เมล็ดผักชีตม้ กิน แก้ลมป่ วง ละลายนํ้าผักแว่นต้มกิน แก้ไข้


ใช้กระสายตามที่ควร
ยาชื่อสมิท(สมมิท)อุทุมพร เอาข้าวสุ ก ๘ บาท เนื้ อลูกมะเดื่อสุ ก ๘ บาท นํ้าตาลกรวด ๑ บาท หัว
ถัว่ พูตม้ ๑ บาท แก่นจันทน์ท้ งั ๒ ชะรู ด อบเชย เกษรบัวหลวง ดอกมะลิ กฤษณา เอาสิ่ งละ ๒ สลึง เอาชะมด
กับพิมเสนแทรกพอควร บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าดอกไม้กิน แก้จิตร์ใจสวิงสวาย หิวโหยอ่อนเพลีย กินข้าว
มิได้ ดีแล
ยาบํารุ งธาตุ บํารุ งโลหิ ต แก้ลมขึ้นเบื้องสู ง แก้เส้นรัดรึ ง แก้หวั ใจอ่อน เอายาเข้าเย็นทั้ง ๒ แก่น
ขี้เหล็ก เถาวัลย์เปรี ยง เปลือกประคําไก่ ฝาง แก่นขนุน โกฏนํ้าเต้า ข่าสด ขิงสด เอาสิ่ งละ ๖ บาท พริ กไทย
ล่อน ดีปลี เจ็ตมูลเพลิง รากช้าพลู เอาสิ่ งละ ๑ บาท การะบูน ๒ สลึง ดอกคําฝอย ๘ บาท เจตพังคี ๔ บาท ต้ม
กินเช้าเย็น
ยาถอนพิษแสลง เอาหัวตะไคร้ รากหญ้านาง หว้านนํ้า ฝนด้วยนํ้าซาวข้าวกิน
ยาแก้เมาสารหนู เอาลูกมะละกอต้มเอานํ้ากิน หายแล
ยาถอนพิษทั้งปวง เอาแป้ งข้าวหมัก ใคร(ไคร)เสมา ปูนขาว บดพอกหรื อทา
ยาแก้ลิ้นกระด้างคางแข็ง เอาผักเสี้ ยนผี ขิง ดีปลี กระเทียม พริ กไทย บดด้วยนํ้าส้มอม
ยาแก้พิษแสลง เอาใบแทงทวย ใบขี้หนอน ใบแคแดง ใบถัว่ แระ ใบผักเค็ด ใบสมี ใบมะกรู ด ใบ
มะนาว เถาหัวด้วน ขมิ้นอ้อย บดปั้ นแท่ง ละลายนํ้าซาวข้าวกิน
ยาบํารุ งกําลังร่ างกาย เอาลูกมะตูมนิ่ม ๓ ลูก กล้วยนํ้าสุ ก ๑ หวี เอานึ่งให้สุก เอาพริ กไทยเท่ายา ๒
สิ่ งนั้น ตําให้แหลกปั้ นเป็ นแผ่นตากแดดให้แห้ง บดเคล้านํ้าผึ้งปั้นเป็ นก้อนเท่าผลพุดซา กินยานี้ทาํ ให้ร่างกาย
สมบูรณ์ ผิวพรรณสดชื่นดี
ยาชื่อวิเศษสรรพคุณ เอาลูกจันทน์ มหาหิ งคุ ์ การะบูน ยาดํา เอาสิ่ งละ ๘ บาท พริ กไทยล่อน ๒๓
บาท บดปั้ นแท่งเท่าผลคัดเค้า แก้หญิงขัดระดู ละลายนํ้ามะกรู ดกินครั้งละ ๓ เม็ด แก้จุกเสี ยด ละลายนํ้าร้อน
กิน แก้ริดสี ดวงทวาร ละลายนํ้ามะกรู ดทาเวลาก่อนเข้านอน แก้พิษเบื่อเมา ละลายนํ้าร้อนกิน ๔ เม็ด แก้พิษ
สัตว์กดั ละลายสุ รากิน ๒ เม็ด แก้ข้ ีกลาก ละลายนํ้ามันงาทา ละลายนํ้าผึ้งกินเป็ นประจํา ทําให้เสี ยงเพราะ
และปัญญาดี
ยาแก้แมลงค้ า(คา)เข้าหู เอาใบบัวหลวงอ่อนที่ยงั ไม่คลี่มาหัน่ ให้เป็ นฝอย เอานํ้ามันงาใส่ กะทะเจียว
ใบบัวหลวงที่หนั่ ไว้น้ นั เหลืองกรอบ แล้วกรองเอานํ้ามันออกไว้ต่างหาก ถ้าแมลงคาเรื องเข้าหู ให้เอานํ้ามันนี้
หยอดในหู แมลงคาเรื องก็จะออกมา ถ้ามันเข้าไปตั้งเป็ นรังอยูใ่ นหู ให้เอาใบบัวที่เจียวไว้น้ นั บดพอกบน
กระหม่อม แล้วเอาผ้าผูกไว้อย่าให้ยาที่พอกนั้นหลุด ไม่ชา้ แมลงคาจะออกมาหมด
ยาแก้พิษหว้านยาและพิษเบื่อเมา เอากระดูกห่าน กีบม้า เขาเลียงผา กระดูกแพะ ไส้ลูกขนุนละมุด ยา
เข้าเย็นทั้ง ๒ สิ่ งละเท่ากัน ต้มกิน
ยาแก้พิษเบื่อเมา เอาใบส้มโอ ๑ กํามือ เกลือหนัก ๔ บาท นํ้าสอาด ๗ ถ้วย เอาใส่ หม้อต้มให้เหลือนํ้า
๑ ถ้วยกิน จะหายทันที
๒๑๑

ยาแก้กระหายนํ้า เอาแมลงมุมตายซาก ขมิ้นอ้อย นํ้าประสานทอง ขี้แมลงสาบ บดเป็ นผงละลาย


นํ้านมกิน
ยาวิเศษสรรพคุณขนานที่ ๒ เอารากเจ็ตมูลเพลิง ๕ ตําลึง รากมะแว้งทั้ง ๒ สิ่ งละ ๕ ตําลึง ราก
มะเขือขื่น ๕ ตําลึง ยาทั้งนี้หนั่ ให้เป็ นแว่นบาง ๆ ห่อผ้าขาวดองนํ้าผึ้งหรื อนํ้าอ้อยแดงก็ได้ ให้กินประจําทุก
วัน เป็ นยาบํารุ งกําลัง แก้ผมหงอก แก้หูหนวก แก้ตามือ(มืด)มัว แก้เกลื้อนกลาก คุดทะราด และมะเร็ ง หาย
สิ้ นแล
ยากัดปรวด เอาใบมะขาม ใบส้มป่ อย ใบมะนาว ใบมะงัว่ สี เสี ยดเทศ ยางตะเคียน หุ งด้วยนํ้ามันดิบ
ใส่ ปรวด
ยากัดหัวหู ด เอาใบกะเพราแดงบดพอก มันจะกัดหัวหูดนั้นหลุดออกมาหมด หายแล
ยาอายุวฒั นะ เอาเปลือกสนุ่น ๔ บาท หัวบุกรอ ๘ บาท เปลือกมะเดื่อชุมพร ๒๔ บาท เจ็ตมูล
เพลิง ๘๐ บาท บดเป็ นผงเคล้ากับนํ้าผึ้งใส่ หม้อผนึก เอาทองคําผูกคอหม้อ ๑ บาท เอาฝังข้าวเปลือกไว้ ๑๕
วัน กินวันละ ๑ ถ้วย ทําให้ร่างกายสมบูรณ์ไม่มีโรค เมื่อกินยานี้แล้วให้ทาํ บุญแผ่ส่วนกุศลไปให้เจ้าของตํารา
ด้วย
ยาฆ่าปรอทสําหรับใส่ ยาตา เอาจุนสี บดใส่ ในปรอท ทําให้ปรอทหมดพิษ
ยาแก้พิษปลากระเบน เอาขี้แห้งเผาไฟละลายนํ้ามันงาปิ ดที่แผล จะทําให้หายปวด
ยาแก้ขดั อุจจาระ เอานํ้ามะนาว ๑ ถ้วย นํ้ามะขามเปี ยก ๑ ถ้วย นํ้าฝักคูน ๑ ถ้วย นํ้าเกลือ ๑ ถ้วย รง
ทอง ๑ ถ้วย ยาดํา ๑ ถ้วย นํ้าผึ้ง ๑ ถ้วย ให้เอารวมกันเคี่ยวจนแห้ง ปั้ นเป็ นก้อนได้ ปั้นเป็ นแท่งทานํ้ามันให้ลื่น
เหน็บเข้าทวาร จะถ่ายออกมาแล
ยากนํ้ามันแก้โรคต่าง ๆ เอานํ้าข่า ๑ ทนาน พริ กไทย เปลือกพิกุล ผักเป็ ด นํ้ามะพร้าวไฟ นํ้าขมิ้น
อ้อย นํ้าฟัก นํ้าขิง นํ้าไพล เอาสิ่ งละ ๑ ทนาน นํ้ามันงา ๑ ทนาน หุงให้คงแต่น้ าํ มัน แล้วเอาลูกจันทน์ ลูก
กระวาน ดีปลี เทียนทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ ๑ เฟื้ อง บดใส่ ลงให้กินครั้งละ ๑ ช้อนหอย (กินมากเมา) ขี้น้ าํ มันก็กินได้
แต่ให้กินครั้งละน้อย แก้ทอ้ งมานท้องใหญ่ แก้ตามือมัว แก้ขดั ตะโพก ขัดสันหลัง เมื่อลุกขึ้นมีอาการหนัก
หนังตา แก้ข้ ีเรื่ อนแลเกลื้อน ขี้กลาก คุดทะราด ฝี ปากหมู มะเร็ ง ปวดหัว แก้ปวดเมื่อยทัว่ ร่ างกาย แก้ปากเปี้ ยว
เจ็บอก คอแห้ง แก้ลมปั ตฆาตราธยักษ์ แก้หืด หายแล
ยาแก้ปรวด เอาใบคนทิสอ(คนทีสอ) ใบแค ใบสมอ ใบผักไห่ ตําคั้นเอานํ้าสิ่ งละ ๑ ถ้วย เอานํ้ามันงา
๑ ถ้วย หุ งให้คงแต่น้ าํ มันใส่ ปรวดหาย ถั้งมิหาย ให้เอาลูกสลอด จุนสี เนื้อเมล็ดสะบ้า พริ กไทยล่อน ขิง
กระเทียม เกลือ บดเป็ นผง ใส่ หายแล
ยาแก้หูหนวด(หนวก) เอาลูกลําโพงควักไส้ในออก เอาเมล็ดฝ้ายแดง เห็นหู ลิง นํ้ามะเขือขื่น นํ้าขอบ
ชะนาง(ขอบชะนางแดง) เอานํ้ามันงาใส่ ในลูกลําโพง สุ มไฟแกลบ ใส่ หูหายแล
ยาแก้คดั ท้อง เอาเมล็ดนํ้าเต้า รากมะเดื่อชุมพร ใบมะเดื่อปล้อง ใบผักเข้า ใบทองหลาง ลูกฟัก เมล็ด
ผักชี บดละลายนํ้ากิน
ยาแก้จุกแดก เอาใบมะตูม ใบหนาด ใบกะเพรา บดละลายนํ้าผึ้งกิน
๒๑๒

ยาแก้โรคต่าง ๆ เอาพริ กไทย ดีปลี ขิง กระเทียม ขมิ้นอ้อย เอาสิ่ งละ ๑ บาท กระชาย ไพล ข่า เปลือก
มะรุ ม เอาสิ่ งละ ๕ สลึง เจ็ตมูลเพชิ ง(เพลิง) ผิวมะกรู ด สารส้ม สะค้าน แสมทะแล การะบูน เอาสิ่ งละ ๖ สลึง
บดปั้ นแท่ง แก้เลือดเน่าในท้องในมดลูด ละลายสุ รากิน ถ้าโลหิ ตไม่ตก เอากํามะถันต้มเอานํ้าแทรกยานี้กิน
แก้ริดสี ดวงมองคร่ อ ผมแห้งผอมเหลือง ละลายนํ้ากะทือแทรกมหาหิ งคุก์ ิน แก้ป่วง ละลายนํ้าร้อนกิน ถ้ามิ
ฟังเอาไม้สักต้มเอานํ้าละลายยานี้กิน แทรกกํามะถันด้วย
ยาเทพโสฬสใหญ่ เอาสารส้ม ดินประสิ ว เกลือ ขมิน้ ชัน เอาสิ่ งละ ๒ สลึงเฟื้ อง บดปั้นแท่งด้วยนํ้า
มะนาว แก้ทอ้ งขึ้น แก้ชกั ตีนกํามือกํา ตีนสั่นมือสั่น แก้เสลดจุกคอ ชักปากเบี้ยวตาแหก ปวดกระหม่อม แก้
บิดตกมูกเลือด เด็กโตละลายนํ้ามะนาวกิน เด็กอ่อนละลายสุ ราให้กินหรื อกวาดคอ
ยาแก้โรคต่าง ๆ วันอาทิตย์ บดขิง วันจันทร์ บดหัวแห้วหมู วันอังคาร บดลูกพิลงั กาษา วันพุธ บด
ขมิ้นอ้อย วันพฤหัส บดพริ กไทย วันศุกร์ บดดีปลี วันเสาร์ บดใบสะเดา เอาสิ่ งละเท่า ๆ กัน บดปั้ นแท่งด้วย
นํ้ามูตรโค ปั้ นเม็ดเท่าเมล็ดนุ่น แก้ตาถูกไม้ลดั เจ็บชํ้า ละลายนํ้ามูตรโคใส่ เจ็บและปวดฟัน ละลายนํ้าค้างแรม
คืนใส่ แกตาฟาง ละลายนํ้ามูตรแพะใส่ ถ้าต้องผีพราย ละลายสุ รานัตถุ์ แก้เจ็บลิ้นและแก้รํามะนาด ละลายยา
นี้อม เป็ นโรคเสี ยดแข้งขาและซู บผอม ละลายนํ้าร้อนกิน ถ้าเป็ นฝี ฟกทัว่ ร่ างกาย ละลายนํ้าลูกสมอต้มกิน ถ้า
ผูห้ ญิงเป็ นนิ่วปวดทวารเบามิออก ละลายนํ้าท่ากิน ๗ เม็ดหรื อ ๑๒ เม็ด ให้กินทุกวันจนกว่าจะหาย แก้
ปั สสาวะเป็ นเลือด ละลายนํ้าโคนกล้วยตีบกิน แก้งูกดั ละลายยางรักขาวกิน ถ้าเดินทางไกล เอายานี้ห่อชายผ้า
ไป กันสาระพัดผีสาง ถ้าไปค้าขายก็มีกาํ ไรแล ถ้าถูกของมีคม ละลายนํ้าอ้อยแดงใส่ ถ้าหญิงคลอดลูกยาก
ละลายยานี้ทาท้อง ลูกออกง่ายแล ถ้าปวดหัว ปวดหู เอายานี้ ๓ เม็ด ละลายนํ้าทาหรื อยอนเข้าในหู ให้กินเวลา
เช้าครั้งละ ๗ เม็ดด้วย แก้ป่วง ละลายนํ้ายางปลีกิน แก้ไข้ตวั เหลือง ละลายนํ้าท่ากิน แก้ทอ้ งขึ้น ละลายนํ้าปูน
ขาวทาท้องน้อย แก้เจ็บและขัดตะโพก เอายานี้ ๗ เม็ด หรื อ ๑๙ เม็ด ละลายนั้นละหุ่งหรื อนํ้ามันผักกาดทา แก้
ตาแฉะ ละลายนํ้ามูตรโคใส่ ถ้าถูกเงี่ยงปลาหรื อถูกหอกดาบ ละลายนํ้าหอยแครงใส่ ถ้าเป็ นความหรื อไปหา
เจ้านาย หรื อไปค้าขาย เอายานี้ทาหน้าผากไปดีแล ถ้าลูกตายในท้อง ละลายนํ้าท่ากิน
ยาตรี ผลาใหญ่ เอาเมล็ดโหระพาเทศ เมล็ดโหระพาไทย เมล็ดผักชีท้ งั ๒ ลูกสมอไทย ลูกสมอเทศ
ลูกสมอพิเภก ลูกมะขามป้ อม รากไคร้เครื อ โกฏพุงปลา โกฏสอ โกฏกระดูก โกฏหัวบัว โกฏเชียง นํ้า
ประสานทอง สารส้ม ยาทั้งนี้เอาสิ่ งละ ๒ สลึง เอาชะเอมเทศ ๑ บาท ตําเป็ นผงเล้วเอานํ้าดอกไม้เทศเป็ น
กระสาย บดปั้ นเป็ นแท่งไว้ แก้ลงท้องละลายนํ้าเปลือกมะเดื่อ หรื อนํ้าเปลือกแคแดงต้ม แก้ปวดมวนละลาย
นํ้าไพรหรื อนํ้ากะทือ แก้รากละลายนํ้าลูกยอ นํ้าผึ้งแทรกพิเสน แก้ไอละลายนํ้ามะนาว เกลือลําหัด แก้ตกมูก
เลือดละลายนํ้าใบกะเพรา แก้เด็กเป็ นตานขะโมยท้องใหญ่ไส้พอง ให้เอาใบชุมเห็ดตําเอานํ้าละลายยานี้ให้
กิน แก้ซางขึ้นลิ้นละลายนํ้าขมิ้นอ้อยให้กินบ้างกวาดบ้าง แก้เด็กคอแห้งละลายนํ้ามะกลํ่าเครื อแทรกดีงู
เหลือมกวาด แก้ผใู ้ หญ่เป็ นลมละลายนํ้าส้มส้า เกลือลําหัดกิน แก้ผหู ้ ญิงออกลูกแล้วเลือดมิตก ละลายนํ้า
มะนาวและเกลือลําหัดกิน แก้เสมหะปะทะขึ้นถึงคอ ละลายนํ้ากระเทียมกิน แก้กินยารุ ลงมากเกินไป ละลาย
นํ้าอ้อยแดงเผากิน แก้เด็กตัวร้อน ละลายนํ้าจันทน์ท้ งั กินทั้งชะโลม แก้ตวั เย็น ละลายนํ้าข่ากิน แก้เด็กท้องขึ้น
๒๑๓

ปิ ดหนักปิ ดเบา ละลายนํ้ากฤษณากิน แก้เบาขัดเอาสารส้มยัดเข้าในลูกแตงกวา แล้วหมกไฟบีบเอานํ้า และ


เอานํ้าตาล.. ให้กิน
ยาประสระเมล็ดผักชีลอ้ ม เอาโกฏทั้ง ๙ เทียนทั้ง ๙ ส้มกุง้ ทั้งสอง ๒ หัศกุนไทย หัวอุตพิต หัวกลอย
บุกรอ หัวกระดาษทั้ง ๒ หัวหญ้าชันกาด รากมะละกอ รากหญ้าคา เอาสิ่ งละ ๑ บาท เปลือกกุ่มทั้งสอง
เปลือกมะรุ ม เปลือกมะตาด เปลือกกระท้อน เปลือกมะค่า เปลือกกันเกรา แก่นลัน่ ทม ลูกเย็น(เอ็น) ลูก
กระวาน ลูกช้าพลู เอาสิ่ งละ ๓ บาท ลูกลิ่ว ๔ บาท (เข้าใจว่าลูกเร่ ว) เปล้าทั้ง ๒ หัศกุนเทศ สิ่ งละ ๑ บาท
เมล็ดผักชีลอ้ มเท่ายาทั้งหลาย ตําเป็ นผงบดปั้นแท่งด้วยนํ้าเปลือกมะรุ มต้มแทรกการะบูน แก้ลม ๑๐๘
จําพวก นํ้าเปลือกมะรุ มต้ม แก้กะไษยกล่อน แก้เมื่อยปวดข้อ นํ้าเถาวัลย์เปรี ยงต้ม แก้เหน็บชา แก้ปวดในข้อ
ในกระดูก นํ้าเถาโคคลานต้ม แก้โรคกะไษยนํ้าผึ้ง แก้โลหิ ตระดูพิการ นํ้าสุ ราแทรกดีจรเข้ แก้มุตกิดมุตฆาต
นํ้าหัวหญ้าชันกาด รากมะละกอต้มแทรกดินประสิ ว แก้อุปทม ชํ่ารั่ว องคสู ต นํ้าส้มสายชู แก้โรคทุลาวสา
เบาขัด นํ้าเถาคันแดง ต้มแทรกดินประสิ ว แก้ริดสี ดวงแห้ง หื ด ไอ นํ้าส้มส้าแทรกเกลือ แก้ริดสี ดวงมองคร่ อ
นํ้าส้มส้ากิน
ยาแก้โรคเถาดาน ชอกชํ้าตกต้นไม้ ถูกทุบตี แก้ริดสี ดวงผอมแห้ง จุกเสี ยด แก้มานทั้ง ๕ เอาลูก
จันทน์ ๑ บาท ดอกจันทน์ ๓ สลึง เทียนดํา ๑ บาท เทียนขาว ๑ บาท นํ้าประสานทอง ๓ สลึง กานพลู ๖ สลึง
เกลือสิ นเธอาว์ ๑ บาท โกฏสอ ๑ บาท โกฏนํ้าเต้า ๗ สลึง โกฏพุงปลา ๕ สลึง ลูกสมอไทย ๒ บาท ลูกสมอ
เทศ ๒ สลึง ลูกสมอพิเภก ๑ บาท ลูกมะขามป้ อม ๑ บาท ยาดํา ๓ บาท รงทอง ๑๐ สลึง ยางสลัดได ๑ บาท
เมล็ดสลอดประสระแล้ว ๕ บาท บดเป็ นผงหมักนํ้าผึ้ง กินครั้งละเท่าเมล็ดบัวหรื อเท่าเมล็ดพุทธรักษา ชําระ
เสมหะและแก้โรคตามที่กล่าวมาแล้วนั้น
ยาอินทจร แก้เสมหะและโลหิ ตพิการ แก้ปลายไข้ แก้พรรดึก แก้ลมแน่นอก กินอาหารไม่มีรส ยานี้
ระบายธาตุเล็กน้อย ทําให้กินอาหารมีรสดี เอามหาหิ งคุ ์ ลูกสมอไทย หัวดองดึง หว้านนํ้า ข่า ไพล พริ กไทย
ดีปลี ผิวมะกรู ด หัวแห้วหมู หัวอุตพิต เปล้าทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ ๑ บาท นํ้าประสานทอง การะบูน โกฏนํ้าเต้า
เทียนดํา เทียนขาว เอาสิ่ งละ ๑ บาท กระเทียม รากจิงจ้อ รากตองแตก เจ็ตมูลเพลิง หัศกุนเทศ เกลือ เอาสิ่ ง
ละ ๒ บาท ใบสลอด ๓ บาท ลูกสมอเทศ ๓ บาท รงทอง ๕ บาท ยาดํา ๖ บาท ใบสมอทะเล ๒๓ บาท บด
เป็ นผง ละลายนํ้ามะกรู ดแทรกเกลือ ๓ เม็ดกิน
ยาชื่อโบ(โป)ราณาธิ คุณ เอากานพลู ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ โกฏทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ พิมพ์ เพิม่ ( ตรี
กะฏุก ตรี ผลา )เปลือกกระดังงา แก่นจันทน์ขาว โกฏหอม (เข้าใจว่าโกฏกระดูก) ดอกจําปา มหาหิ งคุ ์ .. ลูก
สมอเทศ รําพัน สะค้าน ดองดึง เปลือกกุ่มบก รากสามสิ บ เทียนตาตัก๊ แตน โหราเท้าสุ นขั ปรอท กํามะถัน
เกลือสิ นเธาว์ เอาสิ่ งละ ๑ ส่ วน โกฏเขมา บวบขม แมงลัก พริ กไทย เปล้าน้อย โหรามิกสิ งคลี เนระภูษี ระย่อม
ขันทองพยาบาท ยาเข้าเย็นทั้ง ๒ เอาสิ่ งละ ๔ ส่ วน พาดไฉนอีรุม เมล็ดสลอด รากจิงจ้อ การะบูน เอาสิ่ งละ
๒ ส่ วน บดเป็ นผงละลายนํ้าผึ้ง กินครั้งละเท่าเมล็ด มะกลํ่าตาช้าง แก้บิด แก้โรคเพื่อเสมหะ เพื่อวาโย แก้
ปัสสาวะพิการ แก้ลงแดง แก้โรคอันเกิดในศีรษะ ในนาสิ ก ในหู แก้โรคมีอาการร้อนในใจในอกในคอ แก้
เจ็บปากเจ็บฟัน แก้ขดั ในอก ขัดแขนขา ตีนชาตีนบวม ตีนมือตายง่อยเปลี้ย แก้เมื่อยขบ แก้ริดสี ดวงมองคร่ อ
๒๑๔

แก้กล่อน แก้ทอ้ งมาน แก้บวมทั้งตัว แก้หวัด แก้ไอ แก้ข้ ีเรื อน แก้คุดทะราด แก้เกลื้อนกลาก หิต(หิ ด) แก้เถา
ดาน แก้โรคเปื่ อยเน่า
ยาวิเศษ เอาเจ็ตมูลเพลิงแดง ๓๖ บาท รากสนุ่น ๒๔ บาท รากมะเขือขื่น ๒๔ บาท หัวบุกรอ
รากมะแว้งต้น รากมะแว้งเครื อ เอาสิ่ งละ ๘ บาท บอระเพ็ด เปรียงพุโค(เปรี ยงพะโค) บดเป็ นผง เอานํ้าอ้อย
แดง นํ้าผึ้ง เคล้ายานี้ใส่ โหลผนึกให้แน่น เอาฝังข้าวเปลือกไว้ ๑๕ วัน กินวันละ ๑ บาท กินถึง ๖ เดือนทําให้
อายุยนื มีกาํ ลัง ถ้าสัตว์มีพิษขบกันเอายานี้ใส่ หายแล นํ้าปั สสาวะของผูท้ ี่กินยานี้ให้รองไว้ เอาทองแดงแผ่ให้
บางแช่ไว้ ๓ เดือนหลอมเป็ นทองคําแล
ยาประทุมไสยาสน์ เอาเกษรบัวหลวง โกฏหัวบัว จันทน์แดง เอาสิ่ งละ ๑ บาท กัญชา ยาฝิ่ น ชะมด
พิมเสน เอาสิ่ งละ ๑ สลึง บดปั้ นแท่งด้วยนํ้าดอกไม้เทศ ละลายนํ้าดอกไม้กิน ทําให้นอนหลับดี

You might also like