Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 49

BÆB REĪYN P̣HĀS̄ ʹĀ THỊY PHEỤ̄̀X CHĀW T̀ ĀNG CHĀTI

วิชาการสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ
เสนออาจารย์วิไลวรรณ เข้มขัน
คำนำ
หนังสือ E-BOOK เล่มนี้เป็นส่วยหนึ่งของรายวิชาการ
สอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนชาว
ต่างชาติได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเช่น การสั่งอาหาร การขอความ
ช่วยเหลือการใช้คำศัพท์ในชีวิตประจำวัน การใช้บริการการเดินทาง
และการเรียนรู้เกี่ยวกับการสนทนาในสถานการณ์ต่าง ๆ พร้อมทั้ง
การแสดงเหตุการณ์จำลองหรือสถานการณ์จำลองเรียนรู้คำศัพท์
ประโยคเพื่อให้ผู้เรียนชาวต่างชาตินำความรู้ความเข้าใจไปประยุกต์
ในชีวิตประจำวันและเป็นความรู้ในการศึกษาต่อไป

ในการจัดทำหนังสือ E-BOOK ในครั้งนี้ผู้จัดทำได้


รวบรวมข้อมูลเนื้อหาไว้ เพื่อให้ผู้เรียนชาวต่างชาติได้เรียนรู้ และ
เป็นเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
สารบัญ
เนื้อหา หน้ า
บทที่ 1
การขอความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน 1
คำศัพท์ที่ใช้ในการขอความช่วยเหลือ 2
ใบความรู้ 4
สัญลักษณ์การขอความช่วยเหลือ 5
บทสนทนาการขอความช่วยเหลือ 6
สถานการณ์จำลอง 10
แบบทดสอบ 11
บทที่2
การใช้บริการการเดินทาง 12
คำศัพท์การเดินทาง 13
ใบความรู้ 14
บทสนทนาการเดินทาง 16
สถานการณ์จำลอง 18
แบบทดสอบ 19
บทที่3
การซื้อของ 20
คำศัพท์การซื้อของ 21
ใบความรู้ 22
บทสนทนา 24
สถานการณ์จำลอง 26
แบบฝึกหัด 27
สารบัญ
เนื้อหา หน้ า
บทที่ 4
คำที่ใช้ในชีวิตประจำวัน 28
คำศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน 29
ใบความรู้ 30
บทสนทนาภาษาอังกฤษที่ร้านขายผักผลไม้ 31
บทสนทนาทักทาย 34
สถานการณ์จำลอง 35
แบบทดสอบ 36
บทที่5
การสั่งอาหาร 37
คำศัพท์ในการสั่งอาหาร 38
ใบความรู้ 39
บทสนทนาการสั่งซื้ออาหารและถามราคา 41
สถานการณ์จำลอง 42
แบบทดสอบ 44
บทที่ 1

1
คำศัพท์ที่ใช้ในการขอความช่วยเหลือ
vocabulary

1. help = ช่วย = chûai


2. escape = หนี = ni
3. hide = ซ่อน = son
4. problem = ปัญหา = pan-ha
5. policeman = ตำรวจ = tam-ruat
6. firefighter = นักดับเพลิง = nak- dap- phləəng
7. accident = อุบัติเหตุ = u-bat-ti-het
8. hurry up =เร็วเข้า = reo - kâo
9. injured = ได้รับบาดเจ็บ = dai – rap - bat–chep
10. doctor = หมอ = mɔ̌ ɔ
11. breathe = หายใจ = hai-chai
12. drowning = จมน้ำ = chom- nám
13. faint = เป็นลม = pen- lom
14. Fire! = ไฟไหม้ = fai-mâi
15. get lost = หลงทาง = long- thang
16. fire escape = ทางหนีไฟ = thang-ni- fai
17. Ambulance = รถพยาบาล = rot-pha-ya-ban

การขอความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
2
คำศัพท์ที่ใช้ในการขอความช่วยเหลือ
vocabulary

18. Hospital = โรงพยาบาล = rong-pha-ya-ban


19. stolen = ถูกขโมย = thuk- kha-moi
20. Molest = ปลุกปล้ำ = pluk- plâm
21. Stab = แทง = tɛɛng
22. Attack = ทำร้าย = tham- ráai
23. rob= ปล้น = plôn
24. Burglary = การลักทรัพย์ = lak- sáp
25. fire brigade = หน่วยดับเพลิง = nùai- dap- phləə

การขอความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
3
ใบความรู้

การขอความช่วยเหลือในยามฉุกฉินคือสิ่งที่ต้องการขอความ
ช่วยเหลือในยามจำเป็น ยามวิกฤติ หรือในกรณีฉุกเฉิน
เช่น ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกไฟไหม้ หลงทาง ต้องการความ
ช่วยเหลือหรือพบเห็นผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือให้กดเบอร์โทร
แจ้ง1669หรือผู้ที่อยู่ระแวกนั้นให้ทราบข้อควรรู้ก่อนโทรแจ้งสาย
ด่วน 1669 นั้น มีหลักสำคัญอยู่ 9 ข้อ
1.เมื่อพบเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินให้ตั้งสติและโทรแจ้งสายด่วน 1669
2.ให้ข้อมูลว่าเกิดเหตุอะไรมีผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บในลักษณะใด
3. บอกสถานที่เกิดเหตุเส้นทางจุดเกิดเหตุให้ชัดเจน
4. บอกเพศ ช่วงอายุ อาการจำนวนผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บ
5.บอกระดับความรู้สึกตัวของผู้ป่วย
6.บอกความเสี่ยงที่อาจเกิดซ้ำ เช่นอยู่กลางถนนหรือรถติดแก๊ส
7. บอกชื่อผู้แจ้งเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้
8.ช่วยเหลือเบื้องต้นตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
9.รอทีมกู้ชีพมารับผู้ป่วยเพื่อนำส่งโรงพยาบาล
หากเกิดเหตุด่วนเหตุร้าย ควรโทร 191 แจ้งตำรวจ

การขอความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
4
สัญลักษณ์การขอความช่วยเหลือ
symbol

1. หงายฝ่ามือออกหาผู้อื่น และพับนิ้วโป้งเข้าหาฝ่ามือ

2. พับนิ้วทั้ง 4 ลงมากุมนิ้วโป้งไว้ หากยังไม่ได้รับ


การช่วยเหลือให้ทำซ้ำอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง

การขอความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
5
บทสนทนาการขอความช่วยเหลือ
dialogue

กรณีต้องการความช่วยเหลือ (จมน้ำ)
He
m a n g - i ) – ะ จ ม น้ำ n g

l
H e p ! ช่ว
lp ย
ni

อ ยู่ m e ด้ ว ย
กำ ลั d r o w

ตร ! I’m (chû
- c chǎ n

ง นี้ ai
m-

(ch h
û a e r e ช่ - d û a
งจ

i- d
ho

i
û a ว ย ด้ ว )
(
(ch วย . I’m

i ย ฉั

ฉั น

ca
a
e


ช่ว p m

ka ûai-
l
ย ด้
He

l
m-
)

There’s been an accident! มีอุบัติเหตุ


(mii - u-bat-ti-het)

I am calling call an ambulance ฉันกำลังโทร


เรียกรถพยาบาล (chǎ n- kam-lang- tho- riak-
rot-pha-ya-ban)

การขอความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
6
บทสนทนาการขอความช่วยเหลือ
dialogue

กรณีทรัพย์สินถูกขโมย
A
:He
l
( k r my p ! ช่
a - p b a ว ย ด้
ao g w วย
-k (c
ho as s hûa
ng to i-
– c len dûa
ha ก i)
n - ร ะ เ ป๋
thu าข
k - อ ง ฉั
kh น
a - m ถูก ข
oi) โมย

B :Stop, thief! หยุดนะโจร (yut- ná- chon)


I called the police, the police were
coming. ฉันโทรหาตำรวจ ตำรวจกำลังมา
(chan- tho- ha- tam-ruat) – (tam-ruat-
kam-lang- ma)

การขอความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
7
บทสนทนาการขอความช่วยเหลือ
dialogue

กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้

fire! ไฟไหม้ (fai- mai)


There's a fire มีไฟไหม้ (mii- fai- mai)
The building is on fire อาคารถูกไฟไหม้ (a-khan)

B :Stop, thief! หยุดนะโจร (yut- ná- chon)


I called the police, the police were
coming.ฉันโทรหาตำรวจตำรวจกำลังมา (chan-
tho- ha- tam-ruat) – (tam-ruat- kam-
lang- ma)

การขอความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
8
บทสนทนาการขอความช่วยเหลือ
dialogue

กรณีเหตุการณ์ยามคับขันอื่นๆ

I'm lost ฉันหลงทาง (chan- long- thang)


I don’t know where I am ฉันไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
ตอนนี้ (chan- mai – ru-wa- tua-eng- yu- thi-
nai)

want to go back to the hotel อยากกลับ


โรงแรม (yak- klap- rong-raem)
า ก ไป ที่ ไห น Mallika Hotel โรงแรมมัลลิกา (rong-raem-
w a n t t o g o คุณ อ ย
you man-li-ka)
where do i- n a i)
h u n - y a k - p a i- t h
(k

Go straight and turn left ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย


(trong- pai- laeo - liao-sai)

การขอความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
9
สถานการณ์จำลอง
Simulation

at the market ที่ตลาด

A : Help! ช่วยด้วย (chûai- dûai)


I’ve been molested ฉันถูกลวนลาม (chan- thuk-luan-laam)
B : stop หยุด (yut)
I will call the police harassment charge ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ
ข้อหาล่วงละเมิด (chan-ca- tho- chaeng- tam-ruat)

การขอความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
10
แบบทดสอบ

1. Who is the first person we should seek help from?


บุคคลที่เราควรขอความช่วยเหลือเป็นอันดับแรกคือใคร
1) call parents (โทรหาพ่อแม่)
2) call a friend (โทรหาเพื่อน)
3) Call 1669 (โทรแจ้ง 1669)
4) call girlfriend (โทรหาแฟน)
2. To report an emergency What number should I call?
หากต้องการแจ้งเหตุด่วนร้าย ควรโทรศัพท์ไปที่หมายเลขใด
1) 1112
2) 1110
3) 191
4) 121
3. Which of the following is not necessary information
for receiving assistance? ข้อใดไม่ใช่ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการรับ
ความช่วยเหลือ
1) number of people injured (จำนวนคนที่ได้รับบาดเจ็บ)
2) locale (สถานที่เกิดเหตุ)
3) symptoms of the injured (อาการของผู้บาดเจ็บ)
4) number of people watching (จำนวนคนที่ดู)

การขอความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
11
บทที่ 2

12
คำศัพท์ การเดินทาง

1. bus ticket = ตั๋วรถ = tua-rot


2. train = รถไฟ = rot-fai
3. express bus ticke = ตั๋วรถด่วน = tua-rot-duan
4. station = สถานี =sa-ta-nee
5. platform = ชานชาลา = chan-cha la
6. seat = ที่นั่ง =tee-nang
7. bus stop = ป้ายรถเมย์ = pai-rot-me
8. room = ห้องพัก = hong-phak

13
ใบความรู้
การบริการ (Serices) หมายถึง การกระทำกิจกรรมใดๆ ด้วยร่างการ
เพื่ อตอบสนองความ ต้องการของบุคคลอื่น ซึ่งเกี่ยวข้องกับการ
อำนวยความสะดวก ความสามารถสร้างความพึ งพอใจให้กับ ผู้รับ
บริการได้ซึ่งการกระทำด้วยร่างกายคือการแสดงออกด้วยการแต่งกาย
ปฏิบัติการ กิริยา ท่าทางและวิธีการ พู ดจา
ซึ่งการบริการสามารถแสดงออกได้ 2 ดังนี้
(1) ขั้นตอนการให้บริการ เป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนและเทคนิคของวิธี
ปฏิบัติที่ถูกต้อง เหมาะสม เพื่ อให้ผู้รับบริการได้ประโยชน์ ตรงตามความ
ต้องการมากที่สุด
(2) พฤติกรรมการบริการ เป็นการแสดงออกด้านการแต่งกาย สีหน้า
แววตา กริยา ท่าทาง และการพู ดจา ซึ่งพฤติกรรมที่ดีย่อมสร้างความ
สุขให้เกิดขึ้นกับบริการได้เป็นอย่างดี ได้แก่ การแต่งกายที่สุภาพ สะอาด
เรียบร้อย สีหน้าและแววตาที่ยิ้มแย้ม แจ่มใส กิริยา ท่าทางที่สุภาพ
อ่อนน้อม การพู ดจาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล สุภาพ ชัดเจนให้เกียรติ มี
หางเสียง 1.2 ความสำคัญของการบริการ ๒ ความสำคัญของการ
บริการพิ จารณาได้ 2 ด้านดังนี้
(1.) บริการที่ดี ส่งผลให้ผู้บริการมีความรู้สึกชอบหรือพึ งพอใจ ทั้ง
ต่อตัวผู้ให้บริการ และหน่วยงาน มีความชื่นชมในตัวผู้ให้บริการ มีความ
นิยมในหน่วยงานที่ ให้บริการ มีความระลึกถึงและยินดีมาขอรับบริการ
อีก มีความประทับใจที่ดีไป อีกนาน มีการบอกต่อไปยังผู้อื่นหรือแนะนำให้
มาใช้บริการเพิ่ มขึ้น มีความ จงรักภักดีต่อหน่วยบริการที่ให้บริการ และ
พู ดถึงผู้ให้บริการและหน่วยงาน ในทางที่ดี

14
ใบความรู้

(2.) บริการที่ไม่ดี ส่งผลให้ผู้รับบริการมีความรู้สึกไม่ชอบหรือไม่


พึ งพอใจ ทั้งต่อตัวผู้ ให้บริการและหน่วยงานที่ให้บริการ มีความ
รังเกียจตัวผู้ให้บริการ มีความเสื่อม ศรัทธาในหน่วยงานบริการ มีความ
ผิดหวังและไม่ใช้บริการอีก มีความรู้สึกที่ไม่ดี ต่อการบริการของหน่วย
งานไปอีกนาน มีการบอกต่อไปยังผู้อื่นหรือแนะนำไม่ให้ มาใช้บริการและ
พู ดถึงผู้ให้บริการและหน่วยงานในทางที่ไม่ดี
1.3 องค์ประกอบของระบบบริการ องค์ประกอบของระบบบริการมีดังนี้
(1) ผู้รับบริการ คือ ผู้ที่เข้ามาใช้บริการและแจ้งความจำนงในเรื่องบริการ
ต่างๆ
(2) ผู้ปฏิบัติงานบริการ คือ ผู้ที่ให้บริการ/ผู้ที่รับความจำนงนั้นๆ ไป
ปฏิบัติให้ตรง ความต้องการมากที่สุด
(3) องค์การบริการ คือ หน่วยงาน ส่วนงานที่ให้บริการ
(4) ผลิตภัณฑ์บริการ คือ สิ่งที่จับต้องได้และเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้
(5) สภาพแวดล้อมของการบริการ คือ องค์ประกอบด้านต่างๆ ที่มีส่วน
เกี่ยวข้องใน การให้บริการ

15
บทสนทนาการเดินทาง

ขอโทษนะคะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ (K̄ hxthos̄ ʹ na kha mī


xarị h̄ ı̂ ch̀ wy h̄ ịm kha.)
Excuse me, is there anything I can help you
with?

ฉันจะไปเชียงใหม่ต้องขึ้นรถที่ไหน(C̄ hạn ca pị
cheīyngh̄ ım̀ t̂xng k̄ hụ̂ n rt̄h thī̀h̄ ịn)
I'm going to Chiang Mai, where do I have to
take the bus?

คุณต้องไปที่สถานีขนส่งแล้วคุณมีตั๋วรถหรือยังคะ( Khuṇ t̂xng pị


thī̀ s̄ t̄hānī k̄ hns̄̀ ng læ̂ w khuṇ mī tạ̌ w rt̄h h̄ rụ̄ x yạng kha)
You have to go to the bus station and do you have a
bus ticket yet?

ยังค่ะ Yạng kh̀ a not yet

คุณไปที่ห้องซื้อตั๋วแล้วบอกสถานที่ปลายทาง(Khuṇ pị thī̀
h̄̂ xng sụ̄̂ x tạ̌ w læ̂ w bxk s̄ t̄hān thī̀ plāythāng)
You go to the ticket office and tell the
destination.

รถจะมาจอดที่สถานีนี้ใช่ไหม(Rt̄h ca mā cxd thī̀ s̄ t̄hānī nī̂ chı̀ h̄ ịm)


Will the car stop at this station?

16
บทสนทนาการเดินทาง

ใช่ค่ะ(Chı̀ kh̀ a) yes

รถจอดที่ชานชาลาไหนคะ(Rt̄h cxd thī̀ chānchālā h̄ ịn


kha) Where is the car parked at the platform?

ชานชาลาที่ 3 ค่ะ(Chānchālā thī̀ 3 kh̀ a ) Platform 3

ขอบคุณค่ะ(K̄ hxbkhuṇ kh̀ a) thank you

คุณต้องการอะไรอีกไหม(Khuṇ t̂xngkār xarị xīk h̄ ịm )


Do you want anything else?

ไม่แล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ (Mị̀ læ̂ w kh̀ a k̄ hxbkhuṇ)


no more thank you

17
สถานการณ์จำลอง

A: ขอโทษนะคะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ (K̄ hxthos̄ ʹ na kha mī xarị h̄ ı̂


ch̀ wy h̄ ịm kha.)
Excuse me, is there anything I can help you with?
B: คุณช่วยบอกฉันได้ไหมว่าจะขึ้นรถไฟฟ้าได้ที่ไหน( Khuṇ ch̀ wy
bxk c̄ hạn dị̂ h̄ ịm ẁā ca k̄ hụ̂ n rt̄hfịf̂ā dị̂ thī̀ h̄ ịn) Can you
tell me where to take the train?
A: ที่สถานีรถไฟ(Thī̀ s̄ t̄hānī rt̄hfị) at the train station.
B: ขอบคุณค่ะ ( kh̀ a k̄ hxbkhuṇ) thank you

18
แบบทดสอบ

คำชี้แจง ให้นักเรียนโยงเส้นจับคู่คำศัพท์ให้ถูกต้อง

1. ตั๋วรถ .express bus ticke


2. รถไฟ .station
3. ตั๋วรถด่วน .train
4. สถานี .platform
5. ชานชาลา .bus ticket
6. ที่นั่ง .room
7. ป้ายรถเมย์ .destination
8. ห้องพัก .seat
9. ปลายทาง .need
10. ต้องการ .bus stop

19
บทที่ 3

20
คำศัพท์

Customer =ลูกค้า look-ka


I want = ฉันต้องการ chan tong-kan
Price =ราคา ra-ka
you need = คุณต้องการ khun tong-kan
Shop =ร้านค้า ran-ka
wait a moment = รอสักครู่ ror-sak-kroo
to sell =ขาย khay
purse =กระเป๋าเงินผู้หญิง kra-pao-ngurn phoo-ying
how much =เท่าไหร่ thao-rai
style =รูปทรง roob-song

21
ใบความรู้

การซื้อของ หมายถึง การการตัดสินใจของบุคคลที่จะซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อนำมา


อุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน โดยมีการใช้เงินแลกเปลี่ยนการสนทนาในการ
การซื้อของเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป ทั้งโรงเรียน
และร้านค้า จะมีการซื้อของอยู่เป็นประจำเช่นการซื้อส้ม

A : May I help you?


(มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?) mii a rai hai choury mai crab
B : Yes, please. I would like to have some oranges.
(ค่ะ ฉันอยากได้ส้มสักหน่อยค่ะ) ca chan yak dais om sak-noi ca
A : How many oranges would you like?
(คุณต้องการส้มเท่าไหร่ครับ?) khun tong-kan som thao-rai crab
B : I would like to have two kilos. How much does it cost?
(ฉันต้องการ 2 กิโลค่ะ ราคาเท่าไหร่คะ?) chan tong-kan song ki-lo
ca ra-ka thao-rai ca
A : Here you are eighty baht.
(ได้แล้วครับ 80 บาทครับ) dai law crab pad sib bart crab
B : Here is your change. Thank you.
(นี่เงินทอนครับ ขอบคุณนะครับ) nii crab ngurn-ton khob-khun na
crab
A :Thank you.
ขอบคุณค่ะ khob-khun ca

22
ใบความรู้

การซื้อของ หมายถึง การการตัดสินใจของบุคคลที่จะซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อนำมา


อุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน โดยมีการใช้เงินแลกเปลี่ยนการสนทนาในการ
การซื้อของเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป ทั้งโรงเรียน
และร้านค้า จะมีการซื้อของอยู่เป็นประจำเช่นการซื้อส้ม

A : May I help you?


(มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?) mii a rai hai choury mai crab
B : Yes, please. I would like to have some oranges.
(ค่ะ ฉันอยากได้ส้มสักหน่อยค่ะ) ca chan yak dais om sak-noi ca
A : How many oranges would you like?
(คุณต้องการส้มเท่าไหร่ครับ?) khun tong-kan som thao-rai crab
B : I would like to have two kilos. How much does it cost?
(ฉันต้องการ 2 กิโลค่ะ ราคาเท่าไหร่คะ?) chan tong-kan song ki-lo
ca ra-ka thao-rai ca
A : Here you are eighty baht.
(ได้แล้วครับ 80 บาทครับ) dai law crab pad sib bart crab
B : Here is your change. Thank you.
(นี่เงินทอนครับ ขอบคุณนะครับ) nii crab ngurn-ton khob-khun na
crab
A :Thank you.
ขอบคุณค่ะ khob-khun ca

23
บทสนทนา

: สวัสดีค่ะ ลูกค้ามีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ (sa wat dii look-ca mii a


rai hai chuay mai ca )
Hello. Can I help you ?

ฉันต้องการกระเป๋าเงินค่ะ คุณมีขายไหมคะ ( chan tong-kan kra-pao-


ngurn khun mii khay mai ca )
Yes, please. I want to buy some purse Do you have some
purse?

มีค่ะ คุณต้องการกระเป๋าเงินรูปทรงไหนคะ ( mii ca khun tong-kan kra-


pao-ngurn roob-bab nai ca )
Yes, what shape of wallet would you like?

ฉันต้องการกระเป๋าเงินสีเทาค่ะ ( chan tong-kan kra-pao-ngurn sii-tao ca )


I want a gray purse.

: ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ ( dai-ca ror-sak-kroo na-ca )


Okay, wait a minute

กระเป๋าใบนี้ราคาเท่าไหร่คะ ( kra-pao bai nii ra ka thao-rai ca )


What is the price of this bag?

24
บทสนทนา

ราคา 290 บาทค่ะ ( ra-ka song-roy-kao-sib bart ca )


Price 290 baht

ฉันเอาใบนี้ค่ะ ( chan aou bai nii ca )


I’ll take this one

คุณต้องการอะไรอีกไหม ( khun tong-kan a-rai aiik mai )


Do you want anything else?

ไม่แล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ ( Mai law ca khob-khun ca )


No, thank you.

25
สถานการณ์จำลอง

A : May I help you?


(มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?) mii a rai hai choury mai crab
B : Yes, please. I would like to have some oranges.
(ค่ะ ฉันอยากได้ส้มสักหน่อยค่ะ) ca chan yak dais om sak-noi ca
A : How many oranges would you like?
(คุณต้องการส้มเท่าไหร่ครับ?) khun tong-kan som thao-rai crab
B : I would like to have two kilos. How much does it cost?
(ฉันต้องการ 2 กิโลค่ะ ราคาเท่าไหร่คะ?) chan tong-kan song ki-lo ca
ra-ka thao-rai ca
A : Here you are eighty baht.
(ได้แล้วครับ 80 บาทครับ) dai law crab pad sib bart crab
B : Here is your change. Thank you.
(นี่เงินทอนครับ ขอบคุณนะครับ) nii crab ngurn-ton khob-khun na
crab
A :Thank you.
ขอบคุณค่ะ khob-khun ca

26
แบบฝึกหัด

คำชี้แจง ให้นักเรียนจับคู่คำต่อไปนี้ให้ถูกต้อง (Instructions


Have students match
the following words
correctly.)

1. I want
a. รูปทรง
2. you need b. กระเป๋าเงินผู้หญิง
3. wait a moment c. คุณต้องการ
4. Price d. ฉันต้องการ
5.Style e. รอสักครู่

27
บทที่ 4

28
คำศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

get up (เกท อัพ) = ตื่ นนอน


brush [my] teeth (บรัช มาย ทีธ) = แปรงฟัน[ของฉัน]
wash [my] face (วอช มาย เฟส) = ล้างหน้า
wash [my] hair (วอช มาย แฮร์) = สระผม
take a bath (เทค อะ บาธ) = อาบน้ำอ่าง
take a shower (เทค อะ เชา’เออะ) = อาบน้ำฝักบัว
dry [my] hair (ไดร มาย แฮร์) = เป่าผมให้แห้ง
shave (เชฟว) = โกนหนวด
put on make-up (พูท ออน เมค’คัพ) = แต่งหน้า
dress (เดรส) = แต่งตัว
wear the socks (แวร์ เฑอะ ซอคส์) = ใส่ถุงเท้า
have breakfast (แฮฟว เบรค’ฟาสทฺ) = ทานอาหารเช้า
drink some milk (ดริ้งคฺ ซัม มิลคฺ) = ดื่มนม
drink some coffee (ดริ้งคฺ ซัม คอฟ’ฟี่ ) = ดื่มกาแฟ
drink some tea (ดริ้งคฺ ซัม ที) = ดื่มชา
drink some water (ดริ้งคฺ ซัม วอ’เทอะ) = ดื่มน้ำ
eat fried eggs (อีท ไฟรดฺ เอกฺส) = กินไข่ดาว
leave home (ลีฟว โฮม) = ออกจากบ้าน

29
ใบความรู้

คําศัพท์ในชีวิตประจําวันเป็นที่สำคัญอย่างหนึ่งคงหนี
ไม่พ้นคำกริยา ซึ่งเป็นหมวดคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ต้อง
ใช้ทุกวัน ตลอดทั้งวัน สำหรับการดำเนินชีวิต บอกการก
ระทำต่างๆ โดยบทเรียนภาษาอังกฤษนี้ได้รวบรวมคำ
ศัพท์ภาษาอังกฤษ คำกริยาภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในชีวิต
ประจำวัน และกิจกรรมต่างๆ ภาษาไทยกเช่นกันดัง
ภาษาอังกฤษ ที่ทำในแต่ละวันไว้อย่างมากมาย
ครอบคลุมการใช้งาน พร้อมคำอ่าน และคำแปล
เพราะฉะนั้นคำศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันจึงมีความ
สำคัญเป็นอย่างมากในการใช้ชีวิตต่างถิ่น ดังเช่น
ประโยคที่ใช้ในการสนทนาทักทายกับเพื่อนๆ การใช้คำ
ศัพท์ในการพูดการซื้อของต่างๆและคำศัพท์สนทนา
อื่ นๆอีกมากมายที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันยกตัวอย่าง
เช่น การสนทนาซื้อของในตลาด

30
บทสนทนาภาษาอังกฤษที่ร้านขายผักผลไม้

พนักงานขายผลไม้ May I help you?


(มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?)

ลูกค้า Yes, please. I would like to have some


oranges.
(ค่ะ ดิฉันอยากซื้อส้มสักหน่อยค่ะ)

พนักงานขายผลไม้ How many oranges would you


like?
(คุณต้องการส้มเท่าไหร่ครับ?)

ลูกค้า I would like to have two kilos. How much does


it cost?
(ฉันต้องการ 2 กิโลค่ะ ราคาเท่าไหร่คะ?)

พนักงานขายผลไม้ Here you are eighty baht. Is there


anything else?
(ได้แล้วครับ แปดสิบบาทครับ คุณต้องการอย่างอื่ นอีกไหมครับ?)

ลูกค้า I also want to buy some mangosteens.


(ฉันอยากได้มังคุดสักหน่อยด้วยค่ะ)

31
บทสนทนาภาษาอังกฤษที่ร้านขายผักผลไม้

พนักงานขายผลไม้ How many mangosteens


would you like?
(คุณต้องการมังคุดเท่าไหร่ครับ?)

ลูกค้า Two kilos please. How much is it?


(สองกิโลค่ะ เท่าไหร่คะ?)

พนักงานขายผลไม้ Sixty baht,madam. Is there


anything else?
(60 บาทครับ ต้องการอย่างอื่ นอีกไหมครับ?)

ลูกค้า I would like to have two kilos. How much does


it cost?
(ฉันต้องการ 2 กิโลค่ะ ราคาเท่าไหร่คะ?)

พนักงานขายผลไม้ Here you are eighty baht. Is there


anything else?
(ได้แล้วครับ แปดสิบบาทครับ คุณต้องการอย่างอื่ นอีกไหมครับ?)

ลูกค้า No, those are all. Here is the money.


(ไม่ล่ะค่ะ เท่านั้นแหละค่ะ นี่เงินค่ะ)

พนักงานขายผลไม้ Here is your change. Thank you.


(นี่เงินทอนครับ ขอบคุณนะครับ)

ลูกค้า Thank you.


(ขอบคุณค่ะ)

32
บทสนทนาภาษาอังกฤษที่ร้านขายผักผลไม้

พนักงานขายผลไม้ How many mangosteens


would you like?
(คุณต้องการมังคุดเท่าไหร่ครับ?)

ลูกค้า Two kilos please. How much is it?


(สองกิโลค่ะ เท่าไหร่คะ?)

พนักงานขายผลไม้ Sixty baht,madam. Is there


anything else?
(60 บาทครับ ต้องการอย่างอื่ นอีกไหมครับ?)

ลูกค้า I would like to have two kilos. How much does


it cost?
(ฉันต้องการ 2 กิโลค่ะ ราคาเท่าไหร่คะ?)

พนักงานขายผลไม้ Here you are eighty baht. Is there


anything else?
(ได้แล้วครับ แปดสิบบาทครับ คุณต้องการอย่างอื่ นอีกไหมครับ?)

ลูกค้า No, those are all. Here is the money.


(ไม่ล่ะค่ะ เท่านั้นแหละค่ะ นี่เงินค่ะ)

พนักงานขายผลไม้ Here is your change. Thank you.


(นี่เงินทอนครับ ขอบคุณนะครับ)

ลูกค้า Thank you.


(ขอบคุณค่ะ)

33
บทสนทนาทักทาย

·Hi B, Haven’t seen you for ages. How are


you?

สวัสดีค่ะคุณ B, นานแล้วไม่เจอกัน คุณเป็นอย่างไรบ้าง

·Pretty good. It’s really nice to see you. You


haven’t changed at all. ดีมากค่ะ ดีจังที่ได้เจอคุณ คุณ
ยังเหมือนเดิมเลย

Neither have you. How’s your family? คุณก็


เช่นกัน แล้วครอบครัวสบายดีไหมคะ

Thanks, everyone is fine. ของคุณค่ะ ทุกคนสบายดีค่ะ

·Where are you going B? คุณ B จะไปไหน ?

·To the library. ฉันจะไปห้องสมุดค่ะ

It’s great seeing you again. ยินดีมากนะที่ได้เจอกัน

So am I. I‘ll see you later. เช่นกันค่ะ เดี๋ยวไว้คุยกันที่หลังนะ

34
สถานการณ์จำลอง

A: What have you been doing?


ช่วงนี้คุณทำอะไรบ้าง?
B: I’m interested in photography. And you?
ฉันสนใจการถ่ายภาพ
A: I like watching movies because it's fun.
ฉันชอบดูหนังเพราะมันสนุก
B: Really? จริงหรอ?
A: Yes. .ใช่แล้ว

35
แบบทดสอบ

1. ประโยคต่อไปนี้เขียนเป็นภาษาไทยอย่างไร
Where are you from?
ตอบ

2. ประโยคต่อไปนี้เขียนเป็นภาษาไทยอย่างไร
What’s your job?
ตอบ

3. ประโยคต่อไปนี้เขียนเป็นภาษาไทยอย่างไร
I’m from Thailand.
ตอบ

4. ประโยคต่อไปนี้เขียนเป็นภาษาไทยอย่างไร
Where are you from?
ตอบ

5. ประโยคต่อไปนี้เขียนเป็นภาษาไทยอย่างไร
So we’ve met again,eh?
ตอบ

36
บทที่ 5

37
คำศัพท์ในการสั่งอาหาร

Menu รายการอาหาร Rai gan aa-han


Order การสั่งอาหาร Gan sang aa-han
Drink ดื่ม deum
Dessert ของหวาน Kong wan
Main course อาหารจานหลัก aa-han jan lak
Vegetarian มังสวิรัติ Mang sa wi rat
Book a table จองโต๊ะล่วงหน้า Jong to luang naa
Service included รวมค่าบริการ Ruam ka bor ri kan
Well done เนื้อสุก Neua suk
Cash เงินสด Ngern sot
I’ll take this ฉันเอาอันนี้/สิ่งนี้ Chan ao an nee/sing nee
Wine ไวน์ wai
Cancel ยกเลิก Yok lerk
Recommend แนะนำ Nae nam
tasty รสชาติอร่อย Rot chaat a roi
omelette ไข่เจียว Kai jieow
roast duck เป็ดย่าง Bpet yang
seafood อาหารทะเล Aa han ta lay
orange juice น้ำส้ม Nam som
soft drink น้ำอัดลม Nam at lom
Northem style chilli dip น้ำพริกอ่อง Nam pik ong

38
ใบความรู้

Ordering frood (การสั่งอาหาร)


การสนทนาภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่จำเป็นและเกี่ยวข้องในชีวิต
ประจำวันของเรา การสั่งอาหารนั้นก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน
ชีวิตประจำวันของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นขณะที่อยู่ที่โรงเรียนการ
โทรไปสั่งอาหาร การไปรับประทานอาหารกับเพื่อน/ครอบครัวการ
รับประทานอาหารที่ร้านอาหาร พนักงานจะเข้ามาทักทายและถาม
ด้วยประโยคว่า
What would you like to order?
คุณต้องการรับอะไรดีค่ะ/ครับ (kun dtong gaan rap a-rai
dee ka)
นอกจากประโยค What would you like to ......?. แล้ว ยังมี
ประโชคคำถามอื่ น ๆ อีก ดังตัวอย่างเช่น
rMay I take your order?
คุณจะสั่งอาหารอะไรดีครับ (kun ja sang aa-haan a-rai dee
ka)
rAre you ready to order now?
คุณพร้อมที่จะสั่งอาหารแล้วหรือยังครับ (kun prom tee ja
sang aa-haan laew reu yang krap)
rWhat would you like to drink?
คุณต้องการดื่มอะไรดีครับ (kun dtong gaan deum a-rai
dee krap)

39
ใบความรู้

·การช่วยอธิบายรายการอาหาร
เมื่อได้รายการอาหารมาแล้ว หากลูกค้าไม่ทราบเกี่ยวกับรายการ
อาหาร โดยเฉพาะในกรณีที่ลูกค้ำเป็นชาวต่างชาติและบรรดา
อาหารในรายการนั้นเป็นอาหารที่ลูกค้าไม่มีความคุ้นเคยมาก่อน
พนักงานของร้านสามารถให้การช่วยเหลือโดยการอธิบายรายการ
อาหาร โดยถามความต้องการของลูกค้าด้วยประโยคเหล่านี้ เช่น
Would you like me to help you with the menu?
Would you like me to explain some of the dishes
for you?
Do you want me to explain some of the dishes for
you?
Do you need any help with the menu?
·การเรียกเก็บเงิน (Check, please)
เมื่อรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วจะเป็นการเรียก
พนักงานมาเก็บเงิน ธรรมเนียมของชาติตะวันตก ทุก ๆ ครั้งก่อน
จะออกจากร้านจะมีทิปเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับพนักงาน แต่บางร้าน
อาหารเราก็ไม่จำเป็นต้องเรียกพนักงานมาเก็บเงิน เพราะสามารถ
ไปจ่ายที่ โต๊ะแคชเชียร์ด้านหน้าได้เลย
การเรียกเก็บเงิน/การถามราคา
Check, please สั่งให้เช็คบิล (sang hai chek bin)
How much is it altogether? ทั้งหมดเท่าไหร่? (tang mot
tao rai)
How much does it cost? มีค่าใช้จ่ายเท่าไร? (mee kaa
chai jaai tao rai)

40
บทสนทนาในการสั่งซื้ออาหาร
และถามราคาอาหาร

What’s special menu for today?


วันนี้มีเมนูพิเศษอะไรบ้างครับ ( wan née mee may-noo pi-set a-rai
baang krap )

What kind of food do you like?


คุณชอบทานอาหารประเภทไหนคะ (kun chop taan aa-haan
bpra-pet nai ka)

I am vegetarian. Do you have any dishes without meat?


ฉันกินอาหารมังสวิรัติครับ มีอาหารที่ไม่ใส่เนื้อสัตว์ไหมครับ (chan gin aa-
haan mang-sa-wi-rat krap mee aa-haan tee mai sai neuua sat
mai krap)

Tomato Chilli Paste/ Dipping wit This is delicious.


พริกอ่องเห็ดใส่ไข่ มังสวิรัติ นี่อร่อยดี (prik ong het sai kai
mang-sa-wi-rat nee a-roi dee )

How much does it cost?


เท่าไหร่ครับ (tao rai krap)

it is 50 baht
50 บาท (haa-sìp baat)

Thank you, please come again.


ขอบคุณค่ะ โอกาสหน้าเชิญมาใหม่นะครับ
(kop kun ka oh-gaat naa chern mai na ka)

41
สถานการณ์จำลอง

miw: Good evening, welcome you to Heaven restaurant.


สวัสดีตอนเย็นขอต้อนรับคุณสู่ร้านอาหาร
(Heaven sa-wat-dee dton-yen kor dton rap kun soo raan aa-
haan Heaven)
jan: Good evening, do you have any free tables?
สวัสดีตอนเย็น คุณมีโต๊ะว่างหรือไม่?
(sa-wat-dee dton-yen kun mee dtó waang reu mai)
maw: Of course. For how many people?
แน่นอนค่ะ. สำหรับกี่คนดีคะ
(nae non ka sam-rap gae kon dee ka song kon ka)
jan: Two people.
สองคนค่ะ
(song kon ka)
miw: So, please follow me to no.5 table by this way.
งั้นไปตามฉันในโต๊ะที่ 5 ได้เลยนะคะ
(ngan bpai dtaam chan nai dto tee haa daailoiie na ka )
Here’s the menu. นี่คือเมนูค่ะ
(nee keu may-noo ka)
jan: Do you have any specials today?
วันนี้มีอะไรพิเศษไหมคะ
(wan nee mee a-rai pi-set mai ka)
miw: That’s Hot pot of Lobster
นั่นคือหม้อไฟกุ้งก้ามกรามค่ะ
(nan keu mor fai gung gaam graam ka)
jan: Good. So i order one Hot pot of Lobster, two servings of
Sweet and sour fish broth.
ดีจัง ขอกุ้งมังกรหม้อไฟ 1 ถ้วย และน้ำซุปปลาเปรี้ยวหวาน 2 นะคะ dee
(jang kor gung mang-gon mor fai neung tuuay lae naam sup
bplaa bpriieow waan song na ka)

42
สถานการณ์จำลอง

miw: Would you like to drink something? We have fruit juice,


soda, wine and tea?
คุณอยากจะดื่มอะไรไหม? เรามีน้ำผลไม้ โซดา ไวน์ และชา?
(kun yaak ja deum a-rai mai · rao mee naam pon-la-mai soh-daa
wai lae chaa)
jan: Give me one orange squash and one tea cup.
ขอน้ำส้มปั่ นหนึ่ง กับชาหนึ่งแก้วค่ะ
(kor naam som bpan neung gap chaa neung gaew ka)
Miw: Would you like anything else?
คุณต้องการอะไรเพิ่มเติมอีกไหมคะ
(kun dtong gaan à-rai perm dterm eek mai ka)
Jan: No. Thanks.
ไม่ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
(mai ka · kop kun maak ka)
miw: Please wait for a minute, your meal will be ready.
กรุณารอสักครู่อาหารของคุณกำลังทำอยู่แล้วนะคะ
(ga-ru-naa ror sak kroo aa-haan kong kun gam-lang tam yoo
laew na ka)

43
แบบทดสอบ

แบบฝึกหัดหมวดการสั่งอาหาร
คำชี้แจง ให้นักเรียนโยงเส้นจับคู่คำที่กำหนดให้ถูกต้อง

1. Papaya salad  น้ำส้ม


2. Tom Yum Kung มังสวิรัติ
3. Roast chicken ต้มยำกุ้ง
4. Noodle ไวน์
5. Dessert อาหารทะเล
6. Main course ของหวาน
7. Vegetarian ก๋วยเตี๋ยว
8. Wine ไก่ย่าง
9. seafood ส้มตำ
10. orange juice  อาหารจานหลัก

44
สมาชิก

นายเมฆินท์ มีภูเวียง รหัส113


น.ส.แคทรียา ปัญญาป้อง รหัส116
น.ส.มัลลิกา จิตต์ไสย์ รหัส117
น.ส.ชลิตา โคลมาก รหัส128
น.ส.จิรสุตา จิตร์มุง รหัส131
นายชยุต ซื่อตรง รหัส134

สาขาวิชาภาษาไทย
คณะครุศาตร์

You might also like