Professional Documents
Culture Documents
บทที่19 วิวัฒนาการ
บทที่19 วิวัฒนาการ
บทที่19 วิวัฒนาการ
(Evolution)
วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
(Evolution)
สิ่งมีชีวติ ชนิดแรก
กาเนิดขึ้นมาบนโลกเมื่อประมาณ
3,900 ล้านปีมาแล้ว
ปัจจุบัน
ปัจจุบันพบว่า สัตว์มีกระดูกสันหลัง
มีสิ่งมีชีวติ มากมาย
หลายล้านชนิด กาเนิดโลก
แต่ละชนิด
มีรูปร่างลักษณะ
แตกต่างกันไป โปรคาริโอท
คาถาม
สิ่งมีชีวิตต่างๆ เหล่านี้
มาจากใหน
เกิดขึ้นได้อย่างไร
สามารถดารงค์เผ่าพันธุ์ต่อไป
ได้อย่างไร
นักชีววิทยา
ศึกษาหาคาตอบต่างๆ เหล่านี้
จากความเชื่อในอดีต
ที่เชื่อว่าสิ่งต่างๆบนโลก
เกิดจากความประสงค์ของพระเจ้า
โดยที่เชื่อว่า
โลก มีอายุประมาณ 6,000 ปี เท่านั้น
ความเชื่อนี้
สืบทอดติดต่อกันมานาน
ต่อมา คริสต์ศตวรรษที่ 17
อริสโตเติล (Aristotle) นักปราชญ์ชาวกรีก
มีความคิดดัง้ เดิมว่า
ชีวิตอุบัตขิ นึ้ มาจากสิ่งไม่มีชวี ติ
เป็นผู้ตั้ง ทฤษฏี
“The Spontaneous Generation”
ลินเนียส (Carolus Linnaeus,1707-1778)
นักอนุกรมวิธานชาวสวีเดน
มีความเชือ่ ว่า
สิ่งมีชีวติ แต่ละชนิดมีลักษณะถาวรไม่เปลีย่ นแปลง
ไปจากแบบเดิม
ผลงานสาคัญของลินเนียส คือ
การศึกษาและจัดจาแนกสิ่งมีชวี ติ เป็นหมวดหมู่
และการจัดระบบการตั้งชื่อของสิ่งมีชีวิต โดยใช้
หลัก Binomial nomenclature
บูฟอง (Buffon, 1707-1788)
นักวิทยาศาสตร์ ชาว ฝรั่งเศส
มีความเห็นว่า
ลักษณะของสิ่งมีชีวติ
มีการเปลี่ยน
แปลงเนื่องมาจากอิทธิพลของ
สภาพแวดล้อม
“The inheritances of acquired
characteristics”
โดยเชือ่ ว่า
โลก มีอายุมากกว่า 6,000 ปี
ต่อมา
คริสต์ศตวรรษที่ 18
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์
เจริญก้าวหน้ามากขึ้น
มีนักวิทยาศาสตร์
แสดงความคิดเห็นแตกต่างกัน
มีแนวความคิดอีกมากมาย
ก่อให้เกิดเป็น ทฤษฎีวิวัฒนาการ
ทฤษฎีวิวัฒนาการ
ลามาร์ค (Lamarck, 1744-1829)
นักวิทยาศาสตร์ ชาวฝรัง่ เศส
ที่นาเสนอทฤษฎีวิวฒ ั นาการ
เป็นคนแรก
แต่ทฤษฎีถกู ปฏิเสธ
จากนักวิวฒ ั นาการ
เนื่องจาก
ไม่สามารถพิสูจน์ได้
ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์
ทฤษฎีของ ลามาร์ค ประกอบด้วยหลักเกณฑ์ใหญ่ คือ
1) The Inheritance of acquired characteristics
2) Law of use and disuse
ร่างกายและส่วนต่างๆมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขนาดตลอดเวลา มี
อวัยวะเกิดขึน้ ใหม่เนื่องจากผลของการใช้งาน ส่วนใหนที่ถกู
ใช้จะเจริญหรือเพิม่ ขนาด ส่วนที่ไม่ถกู ใช้จะลดขนาดหรือสูญ
หายไป ลักษณะที่เปลีย่ นแปลงนี้สามารถถ่ายทอดไปได้
Lamarckism
“The theory of acquired characteristics”
August Weisman
นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน
ทาการทดลองตัดหางหนูประมาณ 20 ชั่วรุ่น
ปรากฏว่าหนูที่เกิดใหม่ยังคงมีหางตามปกติ
คัดค้านหลักเกณฑ์ของทฤษฏีนี้
นอกจากนีก้ ารศึกษาต่อมาพบว่า
การถ่ายทอดลักษณะจะผ่านทางเซลสืบพันธุ์
ทฤษฎีวิวัฒนาการ ของ ดาร์วิน
(Darwinism)
ชาร์ล ดาวิน : Charles R. Darwin
1809-1882
นักธรรมชาติวทิ ยา ชาวอังกฤษ
บิดา ของการศึกษาวิวฒ
ั นาการ
ผู้ตั้ง
ทฤษฎีวิวฒ
ั นาการ
เรียก Darwinism
หลักเกณฑ์สาคัญ
ทฤษฎีวิวัฒนาการของ
ดาร์วิน คือ
กลไกการคัดเลือกโดยธรรมชาติ
(Natural Selection)
แนวความคิดที่นาไปสูก่ ารนาเสนอทฤษฎีววิ ฒ
ั นาการ
ของ ดาร์วิน
ได้แก่ 1) การเดินทางรอบโลกไปกับเรือ HMS Beagle : 1831-1836
หมู่เกาะกาลาปากอส
กาเนิดจากภูเขาไฟ
ตั้งอยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตร ห่าง
จากประเทศ อิเควดอร์ ประมาณ
600 ไมล์ มีกระแสน้าอุน่ และน้า
เย็นไหลผ่าน
พืชบนเกาะเป็นชนิดทนแล้ง
สัตว์ที่พบ มีลักษณะแตกต่างไปจากที่อื่น
ตัวอย่างสัตว์ที่สาคัญบางชนิดที่ดาร์วนิ พบจากการศึกษา
(Darwin’s Evidence for Evolution)
นกม๊อกกิง้ ที่มีความหลากหลาย
(Variation of Mocking birds)
นกฟินซ์ชนิดต่างๆ บนหมู่เกาะกาลาปากอส
2) ความรูจ้ าก ไลเอลล์
(Charles Lyell, 1797-1875)
นักธรณีวิทยา
ชาวอังกฤษ
เขียนหนังสือ ธรณีวิทยา
“The Principle of Geology”
ไลเอลล์ เป็นผู้ที่ สนับสนุนทฤษฎี
The Principle of Uniformitarianism
“Present is the Key to the Past”
โดยเชื่อว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นอย่างไร
ในอดีตจะเป็นอย่างนัน้
3) ความรู้ที่ได้จาก มัลทัส (Thomas Multhus) : 1766-1834
นักประชากรศาสตร์ เขียนหนังสือ
เรื่อง “The Principle of Population”
มีใจความตอนหนึง่ ที่กล่าวว่า
“อัตราการเพิ่มของประชากรเป็นแบบทวีคณ ู
ในขณะที่อตั ราการเพิม่ ของอาหาร เป็นแบบ
ผลบวกเลขคณิต”
อัตราส่วนในการเพิม่ จึงไม่สมั พันธ์กนั
วอลเลส มีแนวคิดเช่นเดียวกับดาร์วนิ
โดยเขียนบทความเกีย่ วกับ
การคัดเลือกโดยธรรมชาติ ส่งให้ดาร์วนิ
ในชื่อเรือ่ ง
“On the Tendency of Varieties to Depart
Indifinitely From the Origin Type”
การศึกษาของวอลเลส
Alfred Russel Wallace ทาในพื้นที่ หมู่เกาะมาเลย์อาชิเพลาโก
(Malay archipelago)
Malay Archipelago
บริเวณที่ วอลเลส ทาการศึกษา
จากความรูต้ า่ งๆ รวมทั้งบทความของวอลเลส
ดาร์วิน เขียนหนังสือ เกี่ยวกับกาเนิดของสิ่งมีชีวติ
และ ตีพิมพ์ในปีค.ศ. 1859
โดยใช้ชอื่ เรือ่ งว่า
The Origin of Species by Means of Natural
Selection
หลักเกณฑ์ตา่ งๆเหล่านี้
ต่อมากลายเป็นทฤษฎีววิ ฒ
ั นาการ
เรียก ทฤษฎีการคัดเลือกโดยธรรมชาติ
(The Theory of Natural Selection)
หลักเกณฑ์
ทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน
เกิด
การคัดเลือกโดยธรรมชาติ
(Natural Selection)
2. มีลักษณะแตกต่างแปรผัน
3. การคัดเลือกโดยธรรมชาติ
(Natural Selection)
4. ตัวที่ถกู คัดเลือกไว้
จะสืบพันธุแ์ ละถ่ายทอดลักษณะ
ต่อไปยังลูกหลาน
หลักเกณฑ์ทฤษฏีววิ ฒ
ั นาการของดาร์วนิ
ได้รับการยอมรับ และ กระตุ้นให้นักวิทยาศาสตร์
สนใจศึกษาวิวฒ
ั นาการเพิม่ มากขึน้
ปัญหาของทฤษฎีดาร์วนิ
* รับแนวความคิดของลามาร์คในเรือ่ งอิทธิพลของ
สภาพแวดล้อม
* ไม่สามารถอธิบายขัน้ ตอนการแปรผันลักษณะทีเ่ กิดขึน้
* ไม่สามารถอธิบายได้วา่ การแปรผันลักษณะทีเ่ กิดขึ้น
สามารถคงอยูใ่ นสภาพแวดล้อมได้อย่างไร
ในระหว่างปี 1822-1884
เมนเดล (Gregor J. Mendel)
บาทหลวงและนักพฤกษศาสตร์ชาวออสเตรีย
ทาการทดลองผสมต้นถัว่
ค้นพบการถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรม
ผลการทดลองสนับสนุนให้เห็นว่า
การแปรผันของลักษณะในสิ่งมีชวี ติ
เกิดขึ้นได้อย่างไร
ดาร์วิน
ได้ชื่อว่า
บิดาแห่งวิวัฒนาการ
เมนเดล
ได้ชื่อว่า
บิดาแห่งพันธุศาสตร์
ทฤษฎีวิวฒ
ั นาการปัจจุบัน
Modern synthesis
หรือ
Synthetic Theory
นับตั้งแต่ในปี1935
ได้มีการนาความรูใ้ หม่ๆ
ในสาขาวิชาต่างๆ ได้แก่
พันธุศาสตร์ พันธุศาสตร์ประชากร
การศึกษาทางชีวโมเลกุล
และ
วิทยาศาสตร์สาขาอื่นๆ
ถูกนามาผสมผสาน
อธิบายใช้ร่วมกับ
กลไกการคัดเลือกโดยธรรมชาติ
ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ของทฤษฎีดาร์วนิ
หลักใหญ่อธิบายเกี่ยวกับ
การเปลี่ยนแปลงของลักษณะ (traits)
ทฤษฎีววิ ฒ
ั นาการปัจจุบนั เรียกว่า
Neo-Darwinism หรือ Synthetic Theory
จะเห็นได้วา่
หลักเกณฑ์ทฤษฎีววิ ฒ ั นาการ
มีการเปลี่ยนแปลง
ไปตามเหตุผลและกาลเวลา