Professional Documents
Culture Documents
คู่มือครู โลก ดาราศาสตร์ฯ เพิ่มเติม ม.4 ล.1
คู่มือครู โลก ดาราศาสตร์ฯ เพิ่มเติม ม.4 ล.1
Teacher Script
โลก
ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม. 4
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4
ตามผลการเรียนรู เล่ม 1
กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ผูเรียบเรียงคูมือครู บรรณาธิการคูมือครู
นายอัครินทร บุญประเสริฐ นางสาววราภรณ ทวมดี
นางสาวชุลีพร สุวัฒนาพิบูล
พิมพครั้งที่ 1
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ
ISBN
รหั สสิน:ค978-616-203-519-7
า 3448027
คํ า แนะนํ า การใช้
คูมือครู รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร และ
อวกาศ ม.4 เลม 1 เลมนี้ จัดทําขึ้นสําหรับใหครูผูสอนใชเปนแนวทาง
วางแผนการจัดการเรียนการสอน เพือ่ พัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรียน
และการประกั น คุ ณ ภาพผู เ รี ย นตามนโยบายของสํ า นั ก งานคณะ
กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
ิ่ม คําแนะนําการใช ชวยสรางความเขาใจ เพื่อใชคูมือครูได
เพ
อยางถูกตองและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด น�ำ น�ำ สอน สรุป ประเมิน
โซน 1
ิ่ม คําอธิบายรายวิชา แสดงขอบขายเนื้อหาสาระของรายวิชา ขัน้ นํา
เพ
โครงสรางโลก
กระตุน้ ความสนใจ
ซึง่ ครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรูแ ละตัวชีว้ ดั ตามทีห่ ลักสูตร 1. ครูกระตุน ความสนใจ โดยใหนกั เรียนดูวดี ทิ ศั น หนวยการเรียนรูที่
กําหนด
เหตุการณภูเขาไฟระเบิด แลวรวมกันอภิปราย
กั บ นั ก เรี ย นว า เมื่ อ เกิ ด เหตุ ก ารณ ภู เ ขาไฟ
ระเบิ ด จะมี ล าวาไหลออกจากปากปล อ ง
ภู เ ขาไฟ ลาวาที่ ไ หลออกมามี ลั ก ษณะเป น
1 1
ิ่ม หินหนืดรอน สีแดง ไหลไปตามความลาดชัน โลก เป็นดำวเครำะห์ดวงหนึ่งในระบบสุริยะ ซึ่งมีกระบวนกำร
เพ Pedagogy ชวยสรางความเขาใจในกระบวนการออกแบบ
ผลกำรเรียนรู
ของภูเขาไฟ จากเหตุการณดังกลาว นักเรียน เปลีย่ นแปลงอยูเ่ สมอ นับตัง้ แต่โลกก�ำเนิดขึน้ มำ โดยกระบวนกำร
1. อธิบำยกำรแบ่งชั้นและสมบัติของ ที่เกิดขึ้นนั้นท�ำให้ผิวโลกเปลี่ยนแปลงไปจนเกิดเป็นภูมิประเทศ
คิดวาภายในโลกมีองคประกอบเปนอยางไร โครงสร้ำงโลก พร้อมยกตัวอย่ำง
แบบต่ำง ๆ กำรศึกษำโครงสร้ำงของโลกจึงช่วยท�ำให้ทรำบถึง
ข้อมูลที่สนับสนุนได้
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ไดอยางมี แตกตางจากหินที่พบบนผิวโลกหรือไม
2. ครูถามคําถาม Big Question จากหนังสือ
โครงสร้ำงและกำรเกิดปฏิกิริยำต่ำง ๆ ภำยในโลก
สอนจริง
ิ่ม
เพ Chapter Overview ชวยสรางความเขาใจและเห็นภาพรวม ã¹Í¹Ò¤µ
â¤Ã§ÊÌҧ¢Í§
ในการออกแบบแผนการจัดการเรียนรูแตละหนวย แนวตอบ Big Question âÅ¡¨ÐÁÕ¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§
อาจเปลี่ยนแปลงได ถามีเทคโนโลยีที่สามารถ 仨ҡà´ÔÁËÃ×ÍäÁ‹
Í‹ҧäÃ
ิ่ม Chapter Concept Overview ชวยใหเห็นภาพรวม Con- เจาะลงไปสูใ จกลางโลกเพือ่ นําตัวอยางขึน้ มาศึกษา
เพ ได หรือมีเครื่องมือที่สามารถวิเคราะหขอมูลคลื่น
ไหวสะเทือนไดละเอียดมากขึ้น
cept และเนื้อหาสําคัญของหนวยการเรียนรู
ิ่ม ขอสอบเนนการคิด/ขอสอบแนว O-NET เพื่อเตรียม
เพ
เกร็ดแนะครู
ครู ค วรนํ า แบบจํ า ลองโครงสร า งโลกมาใช ป ระกอบการเรี ย นการสอน
ความพรอมของผูเรียนสูการสอนในระดับตาง ๆ เพื่อที่จะไดชวยใหนักเรียนเขาใจโครงสรางโลกไดอยางชัดเจน
ิ่ม โซน 2
เพ STEM Project แนวทางการจั ด การศึ ก ษาให ผู เ รี ย นเกิ ด
การเรี ย นรู แ ละสามารถบู ร าการความรู ท างวิ ท ยาศาสตร T4
เทคโนโลยี กระบวนการทางวิศวกรรม และคณิตศาสตรไปใช
เชื่อมโยงและแกปญหาในชีวิตจริง
โซน 1
โซน 3 ช่วยครูเตรียมนักเรียน
น�ำ สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
Prior Knowledge
1. ความเขาใจเกี่ยวกับโลก
สํารวจค้นหา
1. ครู ถ ามคํ า ถาม prior knowledge จาก
ประกอบด ว ยแนวทางการสํ า หรั บ จั ด กิ จ กรรมและ
เหตุ ใ ดจึ ง ควรทํ า ความ
เขาใจเกี่ยวกับโครงสราง
ของโลก
โลก (earth) เป็นดำวเครำะห์ล�ำดับที่สำมของระบบสุริยะ
จักรวำล ซึง่ มีระยะห่ำงจำกดวงอำทิตย์ประมำณ 150 ล้ำนกิโลเมตร
หนังสือเรียน หนา 3 วา เหตุใดจึงควรทําความ
เข า ใจเกี่ ย วกั บ โครงสร า งโลก เพื่ อ เป น การ
เสนอแนะแนวขอสอบ เพือ่ อํานวยความสะดวกใหแกครูผสู อน
เป็นดำวเครำะห์หนิ ทีม่ ขี นำดใหญ่ทสี่ ดุ มีลกั ษณะเป็นทรงรี ป่องตรงกลำง ขัว้ เหนือ-ใต้แบนเล็กน้อย ทบทวนความรูเดิมของนักเรียน
เส้นผ่ำนศูนย์กลำงทีว่ ดั จำกขัว้ โลกเหนือไปขัว้ โลกใต้ประมำณ 12,711 กิโลเมตร และเส้นผ่ำนศูนย์- 2. ครูใหนักเรียนรวมกันสืบคนขอมูลเกี่ยวกับวิธี
กลำงที่วัดผ่ำนเส้นศูนย์สูตรประมำณ 12,775 กิโลเมตร โดยแกนโลกท�ำมุมเอียง 23.4 องศำกับ
เส้นตั้งฉำกกับระนำบกำรโคจร
การศึกษาโครงสรางโลก แลวครูถามคําถามวา
• นักวิทยาศาสตรวิเคราะหหาองคประกอบ กิจกรรม 21st Century Skills
ทางเคมีของสสารภายในโลกไดอยางไร
นับตั้งแต่โลกก�ำเนิดขึ้นมำเมื่อประมำณ 4,600 ล้ำนปมำแล้ว โลกมีวิวัฒนำกำรมำอย่ำง
ต่อเนื่อง ซึ่งแบ่งได้ 5 ขั้น ดังนี้
(แนวตอบ นักวิทยาศาสตรศกึ ษาตัวอยางจาก
ชิ้นสวนหินแปลกปลอมที่ถูกนําขึ้นมาจาก
กิจกรรมที่ใหนักเรียนไดประยุกต ใชความรูที่เรียนรูมาสราง
การปะทุของภูเขาไฟ ซึง่ มีลกั ษณะและองค -
ประกอบทางเคมีตา งจากหินทีพ่ บบนผิวโลก) ชิ้นงาน หรือทํากิจกรรมรวบยอดเพื่อใหเกิดทักษะที่จําเปน
3. ใหนกั เรียนสืบคืนขอมูลเกีย่ วกับภูเขาไฟระเบิด
เริ่มมีกำรรวมตัวกันของเศษดำวเครำะห์ ซึ่งอิทธิพลจำกกำร
ชนกันและแรงอัดตัว ท�ำให้เกิดพลังงำนควำมร้อนและกัมมันตภำพรังสี
เกิดขึน้ เมือ่ ภำยในโลกมีควำมร้อนถึงจุดหนึง่ (ประมำณ 1,535 �C)
ขัน
้ แรกเริม
่
initial stage และหินแปลกปลอม (xenolith) เพื่อเชื่อมโยง
เขาสูกิจกรรม แบบจําลองภูเขาไฟ
ในศตวรรษที่ 21
ทีท่ ำ� ให้เหล็กเริม่ เกำะตัวกัน โลหะหนักต่ำง ๆ เช่น เหล็ก นิกเกิล โคบอลต์ ขัน
้ กอเหล็ก
จมตัวลงสู่ใจกลำงโลก ขณะที่สำรที่มีควำมหนำแน่นน้อยกว่ำจะลอยตัว iron catastrophic stage
ขึ้นสู่ด้ำนบน จนเกิดกำรแบ่งชั้นของโลกขึ้น
มีกำรอัดตัวของธำตุที่ท�ำให้เกิดโครงสร้ำงภำยในโลกที่แบ่งเป็น ขัน
้ แยกชัน
้
planetary differentiation
ขอสอบเนนการคิด
3 ชัน้ ได้แก่ เปลือกโลก เนือ้ โลก และแก่นโลก ซึง่ ชัน้ แก่นโลกประกอบด้วย
เหล็กเป็นส่วนใหญ่ ชัน้ เปลือกโลกประกอบด้วยสำรทีเ่ บำกว่ำ เช่น ซิลเิ กต
ของโซเดียม โพแทสเซียม และแคลเซียม ส่วนชั้นเนื้อโลกประกอบด้วย
ส่วนผสมระหว่ำงสำรในชั้นเปลือกโลกกับชั้นแก่นโลก
stage
T5
เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรม เพือ่ ตอยอดสําหรับนักเรียน
ทีเ่ รียนรูไ ดอยางรวดเร็ว และตองการทาทายความสามารถใน
ระดับที่สูงขึ้น
กิจกรรมสรางเสริม
เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมซอมเสริมสําหรับนักเรียนที่
ควรไดรับการพัฒนาการเรียนรู
ผลการเรียนรู้
1. อธิบายการแบ่งชั้นและสมบัติของโครงสร้างโลก พร้อมยกตัวอย่างข้อมูลที่สนับสนุน
2. อธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยาที่สนับสนุนการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
3. ระบุสาเหตุและอธิบายแนวรอยต่อของแผ่นธรณีที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี พร้อมยกตัวอย่างหลักฐานทางธรณีวิทยาที่พบ
4. วิเคราะห์หลักฐานทางธรณีวิทยาที่พบในปัจจุบัน และอธิบายล�ำดับเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาในอดีต
5. อธิบายสาเหตุกระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบิดและปัจจัยทีท่ ำ� ให้ความรุนแรงของการปะทุและรูปร่างของภูเขาไฟแตกต่างกัน รวมทัง้ สืบค้น
ข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย ออกแบบและน�ำเสนอแนวทางการเฝ้าระวังและการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย
6. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาดและความรุนแรง และผลจากแผ่นดินไหว รวมทั้งสืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย ออกแบบและน�ำเสนอ
แนวทางการเฝ้าระวังและการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย
7. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด และผลจากสึนามิ รวมทั้งสืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย ออกแบบและน�ำเสนอแนวทางการเฝ้าระวัง
และการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย
รวม 7 ผลการเรียนรู้
Pedagogy
คูมือครู รายวิชาเพิ่มเติม
โลก ดำรำศำสตร์ และอวกำศ ม.4 เล่ม 1 รวมถึงสื่อการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมโลก ดาราศาสตร์ และ
อวกาศ ชั้น ม.4 ผู้จัดท�าได้ออกแบบการสอน (Instructional Design) อันเปนวิธีการจัดการเรียนรู้และเทคนิคการสอนที่
เปย มด้วยประสิทธิภาพและมีความหลากหลายให้กบั ผูเ้ รียน เพือ่ ให้ผเู้ รียนสามารถบรรลุผลสัมฤทธิต์ ามมาตรฐานการเรียนรู้
และตัวชีว้ ดั รวมถึงสมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผูเ้ รียนทีห่ ลักสูตรก�าหนดไว้ โดยครูสามารถน�าไปใช้จดั การ
เรียนรู้ในชั้นเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในรายวิชานี้ ได้น�ารูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional
Model) มาใช้ในการออกแบบการสอน ดังนี้
ด้วยจุดประสงค์ของการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วย
ุ้นความสนใจ
ให้ผู้เรียนได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดเปนเหตุเปนผล คิดสร้างสรรค์ กระต
คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ มีทักษะส�าคัญในการค้นคว้าหาความรู้ และมี Eennggagement
1
สาํ xploration
eEvvaluatio ล
ความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างเปนระบบ ผู้จัดท�าจึงได้เลือกใช้
รวจ
ผ
eE
ตรวจสอบ
n
และค้นหา
รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู ้ (5Es Instructional Model) 2
5
ซึ่งเปนขั้นตอนการเรียนรู้ที่มุ่งให้ผู้เรียนได้มีโอกาสสร้างองค์
ความรู้ด้วยตนเองผ่านกระบวนการคิดและการลงมือท�า โดยใช้
5Es
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เปนเครื่องมือส�าคัญเพื่อการพัฒนา
bo 4 3
n
El a
tio
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และทักษะการเรียนรู้แห่ง ratio ana
ขย
รู้
คว pl
าม
n E x ว
าย
ผูจ้ ดั ท�าเลือกใช้วธิ สี อนทีห่ ลากหลาย เช่น การทดลอง การสาธิต การอภิปรายกลุม่ ย่อย เปนต้น เพือ่ ส่งเสริมการเรียนรู้
รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งจะเน้นใช้วิธีสอน
โดยใช้การทดลองมากเปนพิเศษ เนื่องจากเปนวิธีสอนที่มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดองค์ความรู้จากประสบการณ์ตรงโดย
การคิดและการลงมือท�าด้วยตนเอง อันจะช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้และเกิดทักษะทางกระบวนการวิทยาศาสตร์ที่คงทน
1 - อธิบายการแบ่งชั้นและสมบัติของ - ทักษะการสังเกต
โครงสร้างโลก พร้อมยกตัวอย่างข้อมูล - ทักษะการส�ำรวจ
- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
- หนังสือเรียน โลก
ดาราศาสตร์ และอวกาศ
โครงสร้างโลก ที่สนับสนุน ค้นหา - ตรวจแบบฝึกหัด ม.4 เล่ม 1
- ทักษะการลง
ความเห็นจากข้อมูล
6 - ตรวจใบงาน เรือ่ ง โครงสร้างโลก - แบบฝึกหัด โลก
- สังเกตพฤติกรรมการทำ�งาน ดาราศาสตร์ และอวกาศ
- ทักษะการ ชั่วโมง รายบุคคล ม.4 เล่ม 1
ตีความหมายข้อมูล - สงั เกตพฤติกรรมการทำ�งานกลุม่ - PowerPoint เรือ่ ง
และลงข้อสรุป - สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ โครงสร้างโลก
2 - อธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยา - ทักษะการสังเกต
ที่สนับสนุนการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี - ทักษะการส�ำรวจ
- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
- หนังสือเรียน โลก
ดาราศาสตร์ และอวกาศ
ธรณีแปร ค้นหา - ตรวจแบบฝึกหัด ม.4 เล่ม 1
- ระบุสาเหตุและอธิบายแนวรอยต่อ
สัณฐาน
ของแผ่นธรณีที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ - ทักษะการระบุ - ตรวจใบงาน เรื่อง - แบบฝึกหัด โลก
ของแผ่นธรณี พร้อมยกตัวอย่าง - ทักษะการตั้ง 14 ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน ดาราศาสตร์ และอวกาศ
หลักฐานทางธรณีวิทยาที่พบ สมมติฐาน ชั่วโมง - ตรวจใบงาน เรื่อง การเคลื่อนที่ ม.4 เล่ม 1
- ทักษะการทดลอง ของแผ่นธรณี - PowerPoint เรือ่ ง
- ทักษะการตี - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานกลุ่ม การเคลือ่ นทีข่ อง
ความหมายข้อมูล - สังเกตพฤติกรรมการน�ำเสนอ แผ่นธรณี
และลงข้อสรุป - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้
3 - อธิบายสาเหตุกระบวนการเกิดภูเขาไฟ - ทักษะการสังเกต
ระเบิ ด และปั จ จั ย ที่ ท� ำ ให้ ค วามรุ น แรง - ทักษะการระบุ
- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
- หนังสือเรียน โลก
ดาราศาสตร์ และอวกาศ
ธรณีพิบัติภัย ของการปะทุ แ ละรู ป ร่ า งของภู เ ขาไฟ - ทักษะการส�ำรวจ - ตรวจแบบฝึกหัด ม.4 เล่ม 1
แตกต่างกัน รวมทั้งสืบค้นข้อมูลพื้นที่ ค้นหา - ตรวจใบงาน เรื่อง - แบบฝึกหัด โลก
เสี่ยงภัย ออกแบบและน�ำเสนอแนวทาง - ทักษะการตั้ง ภูเขาไฟระเบิด ดาราศาสตร์ และอวกาศ
การเฝ้ า ระวั ง และการปฏิ บั ติ ต นให้ สมมติฐาน - ตรวจใบงาน เรื่อง แผ่นดินไหว ม.4 เล่ม 1
ปลอดภัย - ทักษะการทดลอง - ตรวจใบงาน เรื่อง สึนามิ - PowerPoint เรือ่ ง
- อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาด - ทักษะการ
ตีความหมายข้อมูล 10 - ประเมินการปฏิบัติการ
- สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานกลุ่ม
ภูเขาไฟระเบิด
- PowerPoint เรือ่ ง
และความรุนแรง และผลจากแผ่นดินไหว ชั่วโมง
รวมทั้ ง สื บ ค้ น ข้ อ มู ล พื้ น ที่ เ สี่ ย งภั ย และลงข้อสรุป - สังเกตพฤติกรรมการน�ำเสนอ แผ่นดินไหว
ออกแบบและน� ำ เสนอแนวทางการ - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ - PowerPoint เรือ่ ง
เฝ้าระวังและการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย สึนามิ
- อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด และผล
จากสึนามิ รวมทัง้ สืบค้นข้อมูลพืน้ ทีเ่ สีย่ ง
ภัย ออกแบบและน�ำเสนอแนวทางการ
เฝ้าระวังและการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย
4 - วิเคราะห์หลักฐานทางธรณีวิทยาที่พบ - ทักษะการสังเกต
ในปัจจุบัน และอธิบายล�ำดับเหตุการณ์ - ทักษะการส�ำรวจ
- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
- หนังสือเรียน โลก
ดาราศาสตร์ และอวกาศ
ลำ�ดับชั้นหิน ทางธรณีวิทยาในอดีต ค้นหา - ตรวจแบบฝึกหัด ม.4 เล่ม 1
- ทักษะการจัดกระท�ำ - ตรวจใบงาน เรือ่ ง การล�ำดับชัน้ หิน - แบบฝึกหัด โลก
และสื่อความหมาย 10 - ตรวจใบงาน เรื่อง อายุทางธรณี ดาราศาสตร์ และอวกาศ
ข้อมูล ชั่วโมง วิทยา ม.4 เล่ม 1
- ทักษะการตี - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานกลุ่ม - PowerPoint เรือ่ ง
ความหมายข้อมูล - สังเกตพฤติกรรมการน�ำเสนอ การล�ำดับชัน้ หิน
และลงข้อสรุป - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ - PowerPoint เรือ่ ง
อายุทางธรณีวทิ ยา
สำรบั ญ
Chapter
Chapter Teacher
Chapter Title Overview
Concept
Script
Overview
หนวยการเรียนรู้ที่ 1 โครงสร้ำงโลก T2 T3 T4
• ความเข้าใจเกี่ยวกับโลก T5
• การแบ่งโครงสร้างโลก T6 - T13
ท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 T15 - T17
แผนการจัด คุณลักษณะ
สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้
การเรียนรู้ อันพึงประสงค์
แผนฯ ที่ 1 - แบบทดสอบก่อนเรียน 1. อธิบายการแบ่งชั้น - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบ - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
การแบ่ง - หนังสือเรียน รายวิชา โครงสร้างโลกโดยใช้ข้อมูล หาความรู้ ก่อนเรียน - ทักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
โครงสร้ า งโลก เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ องค์ประกอบทางเคมี (K) (5Es In- - ประเมินกิจกรรม ค้นหา - มุ่งมั่นใน
ตามองค์ประกอบ โลก ดาราศาสตร์ และ 2. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการ structional แบบจ�ำลองภูเขาไฟ - ทักษะการวิเคราะห์ การท�ำงาน
ทางเคมี
อวกาศ ม.4 เล่ม 1 ศึกษาโครงสร้างโลก (P) Model) - ตรวจและประเมิน - ทักษะการสร้างแบบ
- แบบฝึกหัด รายวิชา 3. สร้างแบบจ�ำลองโครงสร้าง แบบจ�ำลองโครง จ�ำลอง
3 เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ โลกแบ่งตามองค์ประกอบ สร้างโลกตามองค์ -
ชั่วโมง โลก ดาราศาสตร์ และ ทางเคมี (P) ประกอบทางเคมี
อวกาศ ม.4 เล่ม 1 4. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษา (A) - ตรวจและประเมิน
- ใบงาน การน�ำเสนอ
- วีดิทัศน์เหตุการณ์ ใบงาน เรื่อง
ภูเขาไฟระเบิด โครงสร้างโลกตาม
- PowerPoint องค์ประกอบทางเคมี
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น - ตรวจแบบฝึกหัด
TWIG - ตรวจ Unit Question 1
- สังเกตพฤติกรรมการ
ท�ำงานกลุ่ม
- สังเกตคุณลักษณะอัน
พึงประสงค์
แผนฯ ที่ 2 - แบบทดสอบหลังเรียน 1. อธิบายการแบ่งชั้น - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบ - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
การแบ่ง - หนังสือเรียน รายวิชา โครงสร้างโลกโดยใช้ข้อมูล หาความรู้ หลังเรียน - ทักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
โครงสร้างโลก เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ คลื่นไหวสะเทือน (K) (5Es In- - สังเกตการท�ำ ค้นหา - มุ่งมัน่ ใน
ตามสมบัตเิ ชิงกล โลก ดาราศาสตร์ และ 2. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการ structional กิจกรรม การแบ่ง - ทักษะการวิเคราะห์ การท�ำงาน
อวกาศ ม.4 เล่ม 1 ศึกษาโครงสร้างโลก (P) Model) โครงสร้างโลกโดย - ทักษะการลงความ
3 - แบบฝึกหัดรายวิชา 3. สร้างแบบจ�ำลองโครงสร้าง ใช้ข้อมูลคลื่นไหว เห็นจากข้อมูล
ชั่วโมง เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ โลกแบ่งตามสมบัติเชิงกล สะเทือน
โลก ดาราศาสตร์ และ (P) - ตรวจและประเมิน
อวกาศ ม.4 เล่ม 1 4. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษา (A) แบบจ�ำลองโครงสร้าง
- ใบงาน โลกจากสมบัติเชิงกล
- PowerPoint - ตรวจและประเมิน
- RQ code การน�ำเสนอใบงาน
เรื่อง โครงสร้างโลก
ตามสมบัติเชิงกล
- ตรวจแบบฝึกหัด
- ตรวจ Unit Question 1
- สังเกตพฤติกรรมการ
ท�ำงานกลุ่ม
- สังเกตคุณลักษณะอัน
พึงประสงค์
T2
Chapter Concept Overview
หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 1
โครงสร้างโลก
โครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี
- เปลือกโลก (crust)
- เนื้อโลก (mantle)
- แก่นโลก (core)
โครงสร้างโลกตามสมบัติเชิงกล
- ธรณีภาค (lithosphere)
- ฐานธรณีภาค (asthonosphere)
- มัชฌิมภาค (mesosphere)
- แก่นโลกส่วนนอก (outher core)
- แก่นโลกส่วนใน (inner core)
โครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี
เปลือกโลก เนื้อโลก แก่นโลก
ความหนา 100 km 2,900 km 3,440 km
ความหนาแน่น 2.7 - 3.0 g/cm3 3.3 - 5.7 g/cm3 9.9 - 13.0 g/cm3
โครงสร้างโลกตามสมบัติเชิงกล
สถานะ ความหนา ข้อมูลคลื่นไหวสะเทือน
ธรณีภาค ของแข็ง 100 km เมื่อคลื่นไหวสะเทือนเคลื่อนที่ผ่านชั้นนี้จะมีความเร็วเพิ่ม
ขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฐานธรณีภาค ของแข็งสภาพพลาสติก 600 km เมื่อคลื่นไหวสะเทือนเคลื่อนที่ผ่านชั้นนี้จะเกิดการ
เปลี่ยนแปลง 2 ลักษณะที่แตกต่างกันใน 2 บริเวณ
มัชฌิมภาค ของแข็ง 2,300 km เมื่อคลื่นไหวสะเทือนเคลื่อนที่ผ่านชั้นนี้จะมีความเร็วเพิ่ม
ขึ้นอย่างสม�่าเสมอ
แก่นโลกชั้นนอก ของเหลว 2,200 km คลื่นทุติยภูมิเคลื่อนที่ผ่านชั้นนี้ไม่ได้ ส่วนคลื่นปฐมภูมิจะมี
ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ
แก่นโลกชั้นใน ของแข็ง 1,200 km คลื่นปฐมภูมิมีความเร็วค่อนข้างคงที่
T3
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ นํา
โครงสรางโลก
กระตุน ความสนใจ
1. ครูกระตุน ความสนใจ โดยใหนกั เรียนดูวดี ทิ ศั น หนวยการเรียนรูที่
เหตุการณภูเขาไฟระเบิด แลวรวมกันอภิปราย
กั บ นั ก เรี ย นว า เมื่ อ เกิ ด เหตุ ก ารณ ภู เ ขาไฟ
ระเบิ ด จะมี ล าวาไหลออกจากปากปล อ ง
ภู เ ขาไฟ ลาวาที่ ไ หลออกมามี ลั ก ษณะเป น
หินหนืดรอน สีแดง ไหลไปตามความลาดชัน
1 โลก
1
เป็นดำวเครำะห์ดวงหนึ่งในระบบสุริยะ ซึ่งมีกระบวนกำร
ผลกำรเรียนรู
ของภูเขาไฟ จากเหตุการณดังกลาว นักเรียน เปลีย่ นแปลงอยูเ่ สมอ นับตัง้ แต่โลกก�ำเนิดขึน้ มำ โดยกระบวนกำร
1. อธิบำยกำรแบ่งชั้นและสมบัติของ ที่เกิดขึ้นนั้นท�ำให้ผิวโลกเปลี่ยนแปลงไปจนเกิดเป็นภูมิประเทศ
คิดวาภายในโลกมีองคประกอบเปนอยางไร โครงสร้ำงโลก พร้อมยกตัวอย่ำง
แบบต่ำง ๆ กำรศึกษำโครงสร้ำงของโลกจึงช่วยท�ำให้ทรำบถึง
ข้อมูลที่สนับสนุนได้
แตกตางจากหินที่พบบนผิวโลกหรือไม โครงสร้ำงและกำรเกิดปฏิกิริยำต่ำง ๆ ภำยในโลก
2. ครูถามคําถาม Big Question จากหนังสือ
เรี ย นรายวิ ช าเพิ่ ม เติ ม วิ ท ยาศาสตร โลก
ดาราศาสตร และอวกาศ ม.4 เล ม 1
หน า 2 ว า ในอนาคตโครงสร า งของโลก
จะมี ก ารเปลี่ ย นแปลงไปจากเดิ ม หรื อ ไม
อยางไร
3. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อ
วัดความรูเดิมของนักเรียนกอนเขาสูบทเรียน
ã¹Í¹Ò¤µ
â¤Ã§ÊÌҧ¢Í§
âÅ¡¨ÐÁÕ¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§
仨ҡà´ÔÁËÃ×ÍäÁ‹
Í‹ҧäÃ
แนวตอบ Big Question
อาจเปลี่ยนแปลงได ถามีเทคโนโลยีที่สามารถ
เจาะลงไปสูใ จกลางโลกเพือ่ นําตัวอยางขึน้ มาศึกษา
ได หรือมีเครื่องมือที่สามารถวิเคราะหขอมูลคลื่น
ไหวสะเทือนไดละเอียดมากขึ้น
เกร็ดแนะครู
ครู ค วรนํ า แบบจํ า ลองโครงสร า งโลกมาใช ป ระกอบการเรี ย นการสอน
เพื่อที่จะไดชวยใหนักเรียนเขาใจโครงสรางโลกไดอยางชัดเจน
นักเรียนควรรู
1 ระบบสุริยะ เนื่องจากดาวเคราะหในระบบสุริยะอยูหางไกลจากกันมาก
นักดาราศาสตรมักจะใชหนวยวัดระยะทางระหวางดาวเคราะหในระบบสุริยะ
เปน หนวยดาราศาสตร (Astronomical Unit: AU) ซึ่งอางอิงจากระยะหางเฉลี่ย
ระหวางโลกกับดวงอาทิตย
T4
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
Prior Knowledge
เหตุ ใ ดจึ ง ควรทํ า ความ 1. ความเขาใจเกี่ยวกับโลก 1. ครู ถ ามคํ า ถาม prior knowledge จาก
เขาใจเกี่ยวกับโครงสราง หนังสือเรียน หนา 3 วา เหตุใดจึงควรทําความ
โลก (earth) เป็นดำวเครำะห์ล�ำดับที่สำมของระบบสุริยะ
ของโลก
จักรวำล ซึง่ มีระยะห่ำงจำกดวงอำทิตย์ประมำณ 150 ล้ำนกิโลเมตร เข า ใจเกี่ ย วกั บ โครงสร า งโลก เพื่ อ เป น การ
เป็นดำวเครำะห์หนิ ทีม่ ขี นำดใหญ่ทสี่ ดุ มีลกั ษณะเป็นทรงรี ป่องตรงกลำง ขัว้ เหนือ-ใต้แบนเล็กน้อย ทบทวนความรูเดิมของนักเรียน
เส้นผ่ำนศูนย์กลำงทีว่ ดั จำกขัว้ โลกเหนือไปขัว้ โลกใต้ประมำณ 12,711 กิโลเมตร และเส้นผ่ำนศูนย์- 2. ครูใหนักเรียนรวมกันสืบคนขอมูลเกี่ยวกับวิธี
กลำงที่วัดผ่ำนเส้นศูนย์สูตรประมำณ 12,775 กิโลเมตร โดยแกนโลกท�ำมุมเอียง 23.4 องศำกับ การศึกษาโครงสรางโลก แลวครูถามคําถามวา
เส้นตั้งฉำกกับระนำบกำรโคจร • นักวิทยาศาสตรวิเคราะหหาองคประกอบ
ทางเคมีของสสารภายในโลกไดอยางไร
นับตั้งแต่โลกก�ำเนิดขึ้นมำเมื่อประมำณ 4,600 ล้ำนปมำแล้ว โลกมีวิวัฒนำกำรมำอย่ำง
(แนวตอบ นักวิทยาศาสตรศกึ ษาตัวอยางจาก
ต่อเนื่อง ซึ่งแบ่งได้ 5 ขั้น ดังนี้
ชิ้นสวนหินแปลกปลอมที่ถูกนําขึ้นมาจาก
การปะทุของภูเขาไฟ ซึง่ มีลกั ษณะและองค -
ประกอบทางเคมีตา งจากหินทีพ่ บบนผิวโลก)
เริ่มมีกำรรวมตัวกันของเศษดำวเครำะห์ ซึ่งอิทธิพลจำกกำร ขัน
้ แรกเริม
่
3. ใหนกั เรียนสืบคืนขอมูลเกีย่ วกับภูเขาไฟระเบิด
ชนกันและแรงอัดตัว ท�ำให้เกิดพลังงำนควำมร้อนและกัมมันตภำพรังสี initial stage และหินแปลกปลอม (xenolith) เพื่อเชื่อมโยง
เกิดขึน้ เมือ่ ภำยในโลกมีควำมร้อนถึงจุดหนึง่ (ประมำณ 1,535 �C) เขาสูกิจกรรม แบบจําลองภูเขาไฟ
ทีท่ ำ� ให้เหล็กเริม่ เกำะตัวกัน โลหะหนักต่ำง ๆ เช่น เหล็ก นิกเกิล โคบอลต์ ขัน
้ กอเหล็ก
จมตัวลงสู่ใจกลำงโลก ขณะที่สำรที่มีควำมหนำแน่นน้อยกว่ำจะลอยตัว iron catastrophic stage
ขึ้นสู่ด้ำนบน จนเกิดกำรแบ่งชั้นของโลกขึ้น
มีกำรอัดตัวของธำตุที่ท�ำให้เกิดโครงสร้ำงภำยในโลกที่แบ่งเป็น ขัน
้ แยกชัน
้
planetary differentiation
3 ชัน้ ได้แก่ เปลือกโลก เนือ้ โลก และแก่นโลก ซึง่ ชัน้ แก่นโลกประกอบด้วย stage
เหล็กเป็นส่วนใหญ่ ชัน้ เปลือกโลกประกอบด้วยสำรทีเ่ บำกว่ำ เช่น ซิลเิ กต
ของโซเดียม โพแทสเซียม และแคลเซียม ส่วนชั้นเนื้อโลกประกอบด้วย
ส่วนผสมระหว่ำงสำรในชั้นเปลือกโลกกับชั้นแก่นโลก ขัน
้ เกิดใหม
earth-reborn stage
เกิดกำรพำควำมร้อนและกำรถ่ำยเทควำมร้อนของหินในชั้น แนวตอบ Prior Knowledge
เนื้อโลก ท�ำให้อุณหภูมิของโลกเย็นลงจนชั้นเนื้อโลกแข็งตัว
ขัน
้ เย็นตัวลง ในปจจุบันภายในโลกยังมีอุณหภูมิสูงมาก
มีกำรสะสมตัวของธำตุกัมมันตรังสีในชั้นเปลือกโลกในรูปของ
ออกไซด์และซิลิเกต กำรถ่ำยเทควำมร้อนของโลกโดยเฉพำะที่ผิวเป็น
engine-down stage
ซึ่ ง ความร อ นจากภายในโลกทํ า ให เ กิ ด การ
ไปอย่ำงรวดเร็ว จนท�ำให้ชนั้ เปลือกโลกเย็นตัวและแข็งตัวจนเกิดเป็นพืน้ เปลี่ยนแปลงทั้งภายในโลกและบนผิวโลก เชน
แผ่นดิน ภูเขาไฟระเบิด แผนดินไหว ทําใหนกั วิทยาศาสตร
เกิดความสนใจที่จะศึกษาโครงสรางภายในโลก
ภำพที่ 1.1 วิวัฒนำกำรของโลก แตภายในโลกมีอุณหภูมิและความดันสูงทําให
3
ไมสามารถเจาะสํารวจได นักวิทยาศาสตรจงึ คนหา
ความเขาใจเกี่ยวกับโลก หลักการและวิธีการทางวิทยาศาสตรเพื่อใชใน
การศึกษาโครงสรางภายในโลก
T5
น�ำ สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
Prior Knowledge
4. ครูถามคําถาม prior knowledge จากหนังสือ โครงสรางของโลกมีรปู ราง 2. การแบงโครงสรางโลก
เรียน หนา 4 วา โครงสรางของโลกมีรูปราง และลักษณะอยางไรบาง นักวิทยำศำสตร์ได้พยำยำมหำวิธีกำรต่ำง ๆ ที่จะศึกษำ
และลักษณะอยางไรบาง โครงสร้ำงโลกทั้งทำงตรงและทำงอ้อม โดยใช้หลักฐำนต่ำง ๆ
5. ครูใหนกั เรียนนับจํานวน 1 - 3 วนไปเรือ่ ยๆ จน ที่สำมำรถค้นพบได้ รวมทั้งใช้ทฤษฎี หลักกำรทำงวิทยำศำสตร์แขนงต่ำง ๆ และเทคโนโลยีที่
ครบทุกคน เพือ่ แบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุม มีควำมทันสมัย จึงท�ำให้แบ่งโครงสร้ำงของโลกได้ ดังนี้
ละ 3 คน โดยใหคนที่นับจํานวนเดียวกันใหอยู
กลุมเดียวกัน 2.1 โครงสรางโลกตามองคประกอบทางเคมี
6. ครูแจงจุดประสงคของการทํากิจกรรม จากนัน้ นักธรณีวทิ ยำแบ่งโครงสร้ำงภำยในของโลก โดยพิจำรณำจำกองค์ประกอบทำงเคมี ออกเป็น
ใหนกั เรียนทําการทดลองเลียนแบบและอธิบาย 3 ส่วน ได้แก่ เปลือกโลก เนื้อโลก และแก่นโลก
การเกิดภูเขาไฟระเบิด โดยทํากิจกรรม แบบ ชั้นเปลือกโลก (Crust)
จําลองภูเขาไฟ จากหนังสือเรียน หนา 8 เป็นเสมือนผิวด้ำนนอกที่ปกคลุมโลก มีควำมหนำตั้งแต่ 5 กิโลเมตร ในส่วน
7. ครู ใ ช รู ป แบบการเรี ย นรู แ บบร ว มมื อ มาจั ด ที่อยู่ใต้มหำสมุทร ไปจนถึง 70 กิโลเมตร ในบริเวณที่เป็นเทือกเขำสูง แบ่ง
ออกได้เป็น 2 บริเวณ คือ
กระบวนการเรี ย นรู โดยกํ า หนดให ส มาชิ ก
เปลือกโลกทวีป (continental crust) หมำยถึง ส่วนที่เป็นแผ่นดินทั้งหมด
แต ล ะคนภายในกลุ ม มี บ ทบาทหน า ที่ ข อง ประกอบด้วยธำตุซิลิคอน (Si) และอะลูมิเนียม (Al) เป็นส่วนใหญ่
ตนเอง ดังนี้ เปลือกโลกมหาสมุทร (oceanic crust) หมำยถึง เปลือกโลกส่วนทีถ่ กู ปกคลุม
สมาชิกคนที่ 1 ทําหนาที่เตรียมวัสดุอุปกรณ ด้วยน�ำ้ ประกอบด้วยธำตุซลิ คิ อน (Si) และแมกนีเซียม (Mg) เป็นส่วนใหญ่
สมาชิกคนที่ 2 ทําหนาทีอ่ า นวิธกี ารทํากิจกรรม มีผวิ สัมผัสกัน้ ควำมไม่ตอ่ เนือ่ งระหว่ำงชัน้ เปลือกโลกกับชัน้ เนือ้ โลกทีอ่ ยูข่ ำ้ ง
ล่ำงเป็นชั้นควำมไม่ต่อเนื่องที่เรียกว่ำ “ชั้นความไมตอเนื่องโมโฮโรวิซิก”
และนํามาอธิบายใหสมาชิกภายในกลุมฟง (Mohorovicic Discontinuity) หรือเรียกโดยย่อว่ำ ชั้นโมโฮ
สมาชิกคนที่ 3 ทําหนาที่บันทึกผลการทดลอง
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
ชั้นเนื้อโลก (Mantle)
แบบประเมินการปฏิบัติกิจกรรม)
เป็นชั้นที่อยู่ถัดลงไปจำกชั้นเปลือกโลก มีควำมหนำประมำณ 2,900
8. ครูใหนกั เรียนแตละกลุม สงตัวแทนมานําเสนอ กิโลเมตร นับจำกฐำนล่ำงสุดของเปลือกโลกจนถึงตอนบนของแก่นโลก
ผลการทํากิจกรรม ชั้นเนื้อโลกส่วนบนเป็นหินที่เย็นตัวแล้ว และบำงส่วนมีรอยแตกเนื่องจำก
ควำมเปรำะ ชั้นเนื้อโลกกับชั้นเปลือกโลก รวมตัวกันเรียกว่ำ “ธรณีภำค”
(Lithosphere)
เนือ้ โลกสวนบน อยูใ่ ต้ชนั้ เปลือกโลกลงไปถึงระดับควำมลึกประมำณ 400
กิโลเมตร
เนือ้ โลกสวนลาง อยูใ่ นระดับควำมลึกประมำณ 1,000-2,900 กิโลเมตร
แนวตอบ Prior Knowledge ชั้นนี้ถูกกั้นออกจำกแก่นโลกด้วยผิวสัมผัสกั้นควำมไม่ต่อเนื่องที่เรียกว่ำ
“ชั้นความไมตอเนื่องกูเทนเบิร์ก”
โลกเปนดาวเคราะหทมี่ รี ปู รางเกือบเปนทรงกลม
โครงสรางภายในแบงออกเปนชั้น มีองคประกอบ 4
ทางเคมีแตกตางกัน 3 ชั้น ไดแก เปลือกโลก เนื้อ การแบงโครงสรางโลก
โลก และแกนโลก
T6
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
ชั้นแกนโลก (Core) 9. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า
อยู่ในระดับควำมลึกจำกผิวโลกประมำณ 2,900 กิโลเมตร มีควำมหนำ กิ จ กรรม โดยครู ตั้ ง คํ า ถามเพื่ อ ให นั ก เรี ย น
ประมำณ 3,440 กิโลเมตร มีควำมหนำแน่นมำกที่สุด แตละกลุมรวมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้
• หลังจากใสนาํ้ สมสายชูลงในทอพีวซี ี เกิดการ
เปลี่ยนแปลงอยางไร
( แนวตอบ มี ข องเหลวที่ มี สี เ ดี ย วกั บ สี ผ สม
อาหารไหลลนออกมาจากแบบจําลองภูเขาไฟ
และมีฟองแกสปะปนอยูในของเหลว)
• ถาแบบจําลองภูเขาไฟเปรียบไดกบั การเกิด
ภูเขาไฟระเบิดบนโลก จะสงผลอยางไร
(แนวตอบ ของเหลวทีไ่ หลลนออกมาเปรียบได
กับลาวา ซึง่ เปนสสารจากภายในโลก ซึง่ การ
ระเบิดของภูเขาไฟนอกจากจะทําใหสภาพ
แวดลอมมีการเปลีย่ นแปลงอยางมาก ยังนํา
สสารที่อยูภายในโลก เชน หินแปลกปลอม
ขึ้นมาสูผิวโลก ทําใหสามารถศึกษาองค-
ประกอบทางเคมีของโลกได)
โครงสร้างโลก 5
T7
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
อธิบายความรู
1. ครูกลาวเชื่อมโยงเขาสูเนื้อหาตอไป โดยตั้ง ระบบสุรยิ ะเกิดขึน้ จำกกำรหมุนเวียนของกลุม่ แก๊สขนำดใหญ่ ซึง่ มีแรงดึงดูดเข้ำสูศ่ นู ย์กลำง
ประเด็นคําถามวา จากการวิเคราะหองค- จนเกิดเป็นดวงอำทิตย์ขนึ้ จำกนัน้ เศษฝุน่ แก๊สทีเ่ หลืออยูจ่ ะถูกเหวีย่ งหมุนและรวมตัวกันกลำยเป็น
ประกอบเคมีของหินบนเปลือกโลก และหิน ดำวเครำะห์ทั้ง 8 ดวง
แปลกปลอมที่ถูกพาขึ้นมาบนผิวโลก สามารถ ขณะที่โลกเริ่มก�ำเนิดขึ้นนั้น เศษฝุ่นแก๊สจะค่อย ๆ รวมตัวกันเป็นอนุภำคขนำดเล็ก ๆ ท�ำให้
เปนตัวแทนขององคประกอบทางเคมีของโลก เกิดควำมร้อนเนือ่ งมำจำกแรงกดและกำรสลำยตัวของสำรกัมมันตรังสี ซึง่ มีปริมำณมำกกว่ำ 2 เท่ำ
ไดหรือไม ของปริมำณในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีควำมร้อนที่เกิดจำกแรงอัดของมวลที่เข้ำไปรวมกับกลุ่มแก๊ส
(แนวตอบ ไมได เพราะเมือ่ นําองคประกอบทาง ท�ำให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้นกว่ำ 1,000 �C ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สูงพอที่จะท�ำให้สสำรต่ำง ๆ เกิด
เคมีของหินบนผิวโลก และหินแปลกปลอมจาก กำรหลอมเหลว แต่ไม่มำกพอที่จะท�ำให้โลกทั้งหมดอยู่ในสภำพของเหลว
ภายในโลกมาคํานวณหาความแนน พบวายัง เมื่อโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นจึงท�ำให้สสำรในโลกมีกำรไหลได้มำกขึ้น ซึ่งกำรไหลนี้ท�ำให้สสำรที่
ไมเทากับความหนาแนนของโลก แสดงวามี เบำกว่ำลอยตัวขึ้นสู่บริเวณรอบ ๆ ส่วนสสำรที่หนักกว่ำจะจมลงสู่บริเวณใจกลำง โดยเฉพำะเหล็ก
สวนที่ลึกลงไปภายในโลกที่ยังไมทราบวาเปน ซึ่งเป็นธำตุที่มีปริมำณมำกที่สุดจะจมลงอย่ำงรวดเร็ว เกิดเป็นแกนกลำงของโลก จึงท�ำให้ในชั้น
สสารชนิดใด จึงตองมีการศึกษาตอไป) แก่นโลกมีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นธำตุเหล็ก ดังนั้น เมื่อพิจำรณำสำรเคมีต่ำง ๆ เพื่อน�ำมำใช้
ในกำรแบ่งโครงสร้ำงโลกจะสำมำรถระบุส่วนประกอบทำงเคมีของแต่ละชั้นของโลกได้ ดังนี้
2. ครูใหนกั เรียนจับคูก บั เพือ่ นรวมชัน้ เรียน รวมกัน
สืบคนขอมูลเกี่ยวกับเรื่อง ดังนี้
- อุกกาบาตที่พบบนโลก สวนประกอบทำงเคมีของโครงสรำงโลก
- สนามแมเหล็กโลก สัดสวนของสารประกอบตาง ๆ ในชั้นตาง ๆ ของโลก
โดยนักเรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือ สารประกอบตาง ๆ ที่พบในโครงสร้างโลก
แหลงเรียนรูอื่นๆ แลวนําขอมูลมาแลกเปลี่ยน
ซิลิคอนไดออกไซด์
ความคิดเห็น และรวมกันตั้งประเด็นคําถาม
อะลูมิเนียมออกไซด์
เกี่ยวกับเรื่องที่สืบคนมา เปลือกโลก แคลเซียมออกไซด์
3. ใหนกั เรียนรวมกลุม กับเพือ่ นอีกคูห นึง่ รวมเปน
4 คน แลวแลกเปลี่ยนกันถามคําถามที่ตั้งไว แมกนีเซียมออกไซด์
จากนั้นรวมกันสรุปเพื่อเตรียมนําขอมูลที่สรุป เหล็กและเหล็กออกไซด์
ไดมาเสนอหนาชั้นเรียน นิกเกิลออกไซด์
เนื้อโลก
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช อื่น ๆ
แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล)
4. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมานํา
เสนอคําถามของกลุม ตนเอง โดยใหนกั เรียนทัง้ ภำพที่ 1.4 สัดส่วนของสำรประกอบต่ำง ๆ
ที่พบในโครงสร้ำงโลกแต่ละชั้น แก่นโลก
หองรวมกันตอบคําถาม และอภิปรายรวมกัน (ที่มาของขอมูล : ศูนยการเรียนรูท างวิทยาศาสตร โลกและดาราศาสตร)
6
T8
น�ำ สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
ขยายความเข้าใจ
เมื่อพิจำรณำองค์ประกอบทำงเคมีของโครงสร้ำงโลก Earth Science 1. ครูนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน ทําใบงาน
ท�ำให้ทรำบว่ำ ธำตุทมี่ เี ลขอะตอมมำกหรือมีควำมถ่วงจ�ำเพำะสูง in real life เรื่อง โครงสรางโลกตามองคประกอบทางเคมี
เช่น เหล็ก โคบอลต์ และนิกเกิล จะจมลงสู่แกนกลำงโลก โคบอลต์-60 ใช้รักษำโรคมะเร็ง โดยสรุปความรูเ รือ่ งการแบงโครงสรางโลกตาม
และถ้ ำ ระยะของโรคมะเร็ ง
กลำยเป็นแก่นโลก ในขณะที่ธำตุที่มีเลขอะตอมน้อยหรือมี องคประกอบทางเคมี ในรูปของแผนผังความ
ไม่รุนแรงมำกจะสำมำรถรักษำ
ควำมถ่วงจ�ำเพำะต�่ำ เช่น ออกซิเจน โซเดียม อะลูมิเนียม ให้หำยขำดได้จำกกำรใช้รังสี คิดใหมคี วามถูกตองและนาสนใจ แลวนําเสนอ
ซิลิคอน จะลอยตัวขึ้นและเป็นองค์ประกอบหลักของเปลือกโลก ผลงาน
ดังแสดงในตำรำง (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
ตำรำงที่ 1.1 : ขอมูลพื้นฐานเกี่ยวกับโครงสรางของโลก แบบประเมินการนําเสนอผลงาน )
โครงสร้างของโลก ประกอบด้วยธาตุ สารประกอบ 2. ครูใหนกั เรียนแบงกลุม กลุม ละ 3 คน สรางแบบ
ซิลิคอน (Si) จําลองโครงสรางโลกที่แบงตามองคประกอบ
อะลูมิเนียม (Al) ทางเคมี ตามความรูที่ไดเรียนมา
ภำคพื้นทวีป แคลเซียม (Ca) หินแกรนิต (granite) (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
เปลือกโลก แมกนีเซียม (Mg)
มีซิลิคอนไดออกไซต์ และ เหล็ก (Fe) แบบประเมินชิ้นงาน)
อะลู มิ เ นี ย มออกไซต์ เ ป็ น
ซิลิคอน (Si)
3. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมา
องค์ประกอบหลัก นําเสนอแบบจําลองของกลุมตนเอง โดยให
แคลเซียม(Ca)
ภำคพืน้ มหำสมุทร แมกนีเซียม (Mg) หินบะซอลต์ (basalt)
นักเรียนทัง้ หองรวมกันตัง้ คําถาม และอภิปราย
เหล็ก (Fe) รวมกัน
ซิลิคอน (Si) 4. ค รู ม อ บ ห ม า ย ก า ร บ า น ใ ห นั ก เ รี ย น ทํ า
เนื้อโลก แคลเซียม(Ca)
หินดูไนต์ (dunite)
มีซิลิคอนไดออกไซต์ แมกนีเซียมออกไซต์ และ แมกนีเซียม (Mg) หินเพอร์ริโดไทต์ แบบฝ ก หั ด ที่ 2.1 จากแบบฝ ก หั ด รายวิ ช า
เหล็กเป็นองค์ประกอบหลัก (peridotite)
เหล็ก (Fe) เพิ่มเติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร และ
ส่วนนอก
เหล็ก (Fe)
เหล็กร้อนที่เป็นของเหลว
อวกาศ ม.4 เลม 1 หนวยการเรียนรูที่ 1
แกนโลก นิ กเกิล (Ni) โครงสรางโลก
มีเหล็กเป็นองค์ประกอบหลัก เหล็ก (Fe)
ส่วนใน นิกเกิล (Ni)
เหล็กร้อนที่เป็นของแข็ง
Earth Science
Focus ควำมถวงจ�ำเพำะ
ควำมถ่วงจ�ำเพำะ (specific gravity) คือ อัตรำส่วนระหว่ำงควำมหนำแน่นของสำรกับควำม
หนำแน่นของสำรมำตรฐำนชนิดหนึง่ ซึง่ สำรมำตรฐำนทีน่ ยิ มใช้กนั คือ น�ำ้ (ที ่ 4 �C) ส�ำหรับของเหลวและ
ของแข็ง ส่วนส�ำหรับแก๊สมักใช้อำกำศเป็นสำรมำตรฐำน
โครงสร้างโลก 7
T9
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ ประเมิน
ตรวจสอบผล
กิจกรรม ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์
1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน • กำรสังเกต
?
ค�าถามท้ายกิจกรรม
1. ภูเขำไฟเกิดจำกหลักกำรใด
2. ประเทศไทยมีภูเขำไฟหรือไม่ อย่ำงไร
3. จำกกิจกรรม ปฏิกิริยำเคมีระหว่ำงสำรใดบ้ำงที่ท�ำให้เกิดฟองแก๊สพุ่งขึ้นจำกปล่องภูเขำไฟ
อภิปรำยผลกิจกรรม
จำกกิจกรรมเป็นกำรจ�ำลองกำรเกิดภูเขำไฟระเบิด โดยในธรรมชำตินั้นภูเขำไฟเกิดจำกกำรที่หินหนืด
ดันตัวขึ้นมำพ้นผิวโลก เย็นตัวและแข็งตัวเมื่อทับถมกันสูงขึ้นจึงกลำยเป็นภูเขำ กำรระเบิดของภูเขำไฟเกิด
จำกกำรทีม่ รี อยแยกหรือโพรงในหินเปลือกโลก จึงท�ำให้หนิ หนืดสำมำรถดันตัวแทรกตำมรอยแยก และเคลือ่ นตัว
ขึน้ มำสูผ่ วิ โลกได้ ดังนัน้ กำรเกิดภูเขำไฟระเบิดจึงท�ำให้สภำพแวดล้อมบริเวณรอบ ๆ เปลีย่ นแปลงไปอย่ำงมำก
8
ไดงาย
1 การเข้าใจปัญหาและการตั้งสมมติฐาน
2. การดาเนิน การดาเนินการทดลองมี การดาเนินการทดลองมี การดาเนินการทดลองมี การดาเนินการทดลอง
2 การดาเนินการทดลอง
การทดลอง ขั้นตอนครบถ้วน ขั้นตอนครบถ้วน ขั้นตอนถูกต้องเป็นส่วน ไม่ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่
3 การนาเสนอ ถูกต้อง แต่ไม่มีการ ใหญ่ และการเก็บข้อมูล และการเก็บข้อมูล
ถูกต้อง มีการทาซ้า
รวม และการเก็บข้อมูลได้
ทาซ้า และการเก็บ ได้ครบถ้วนตามที่ ไม่ครบถ้วน
ข้อมูลได้ครบถ้วนตามที่ ต้องการ
ละเอียดรอบคอบ
ต้องการ
ครบถ้วนตามทีต่ ้องการ
ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน 3. การนาเสนอ เหมาะสมกับลักษณะ นาเสนอข้อมูลถูกต้อง นาเสนอข้อมูลถูกต้อง นาเสนอข้อมูลถูกต้อง
................./................../.................. ของข้อมูล แสดงถึง ครบถ้วน วิเคราะห์ วิเคราะห์ข้อมูลได้ วิเคราะห์ข้อมูลไม่
ความคิดสร้างสรรค์ใน ข้อมูลได้ครบถ้วน ครบถ้วน นาเสนอผล ครบถ้วน สรุปผลการ
การนาเสนอ วิเคราะห์ สรุปผลการทากิจกรรม การทากิจกรรมถูกต้อง ทากิจกรรมไม่ถูกต้อง
ข้อมูลได้ครบถ้วน ถูกต้อง มีการนาเหตุผล
เหมาะสม สรุปผลการ และความรู้มาอ้างอิง
ทากิจกรรมถูกต้อง มี ประกอบการสรุปผล
การนาเหตุผลและ การทากิจกรรม
ความรู้มาอ้างอิง
ประกอบการสรุปผล
การทากิจกรรม
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
10-12 ดีมาก
7-9 ดี
4-6 พอใช้
0-3 ปรับปรุง
T10
น�ำ น�ำ สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ นํา
กระตุน้ ความสนใจ
2.2 โครงสรางโลกตามสมบัติเชิงกล 1. ให นั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายว า โครงสร า ง
นอกจำกกำรศึกษำองค์ประกอบทำงเคมีของโลกแล้ว นักวิทยำศำสตร์ยงั ศึกษำโครงสร้ำงโลก ภายในโลกในความคิดของนักเรียนเปนอยางไร
จำกปรำกฏกำรณ์แผ่นดินไหว เพรำะเมื่อเกิดแผ่นดินไหวจะท�ำให้เกิดคลื่นไหวสะเทือน (seismic 2. ครูตั้งคําถามกระตุนความคิดโดยใหนักเรียน
wave) สองแบบ คือ คลื่นพื้นผิว (surface wave) และคลื่นในตัวกลำง (body wave) คลื่นพื้นผิว ชวยกันระดมความคิดในการตอบคําถาม
เดินทำงไปตำมพื้นผิวโลกท�ำให้อำคำร สิ่งปลูกสร้ำง ช�ำรุด พังทลำย ส่วนคลื่นในตัวกลำงจะเดิน • ถ า ต อ งการทราบว า ขนมป ง ซาลาเปา
ทำงผ่ำนเข้ำไปภำยในของโลก นักธรณีวิทยำจึงใช้คลื่นในตัวกลำงส�ำรวจโครงสร้ำงภำยในของโลก ภายในมีไสอะไร นักเรียนจะทําอยางไร
ซึ่งคลื่นในตัวกลำงมี 2 ประเภท ดังนี้ (แนวตอบ สามารถผา หรือบิดูไสขางในได)
1
1. คลื่นปฐมภูมิ หรือคลื่น p (primary wave ; p wave) เป็นคลื่นตำมยำวที่เกิดจำก • ถ า เป น สิ่ ง ของเช น กล อ งป ด ผนึ ก ที่ ไ ม
ควำมไหวสะเทือนในตัวกลำง โดยอนุภำคของตัวกลำงนั้นเกิดกำรเคลื่อนไหวแบบอัดขยำย สามารถเปดดูได นักเรียนจะทําอยางไร
ในแนวเดียวกับทีค่ ลืน่ ผ่ำน คลืน่ นีส้ ำมำรถเคลือ่ นทีผ่ ำ่ นตัวกลำงทีเ่ ป็นของแข็ง ของเหลว และแก๊ส (แนวตอบ อาจเขยา หรือเคาะเพื่อฟงเสียง
เป็นคลื่นที่สถำนีวัดแรงสั่นสะเทือนสำมำรถตรวจรับได้ก่อนคลื่นชนิดอื่น โดยมีควำมเร็วประมำณ เพื่อคาดคะเนลักษณะของวัตถุที่อยูภายใน)
6-7 กิโลเมตรต่อวินำที ซึ่งคลื่นปฐมภูมิท�ำให้เกิดกำรอัดหรือขยำยตัวของชั้นหิน • ถาเปนวัตถุขนาดใหญมาก อยางเชน โลก
ทิศทำงกำรสั่นของตัวกลำง
นักเรียนจะทําอยางไร
ทิศทำงกำรสั่น ทิศทำงของคลื่นปฐมภูมิ
ของตัวกลำง (แนวตอบ ใชคลื่นแผนดินไหว หรือคลื่นไหว
สะเทือนในการศึกษา)
สปริง
ทิศทำงของคลื่นปฐมภูมิ
ภำพที่ 1.6 อนุภำคของผิวโลกเคลื่อนที่ทิศทำงเดียวกับทิศทำงของคลื่นปฐมภูมิ
2
2. คลืน่ ทุตยิ ภูมิ หรือคลืน่ s (secondary wave ; s wave) เป็นคลืน่ ตำมขวำงทีเ่ กิดจำก
ควำมไหวสะเทือนในตัวกลำง โดยอนุภำคของตัวกลำงเคลือ่ นไหวตัง้ ฉำกกับทิศทำงทีค่ ลืน่ ผ่ำน มีทงั้
แนวตั้งและแนวนอน คลื่นชนิดนี้ผ่ำนได้เฉพำะตัวกลำงที่เป็นของแข็งเท่ำนั้น คลื่นทุติยภูมิ
มีควำมเร็วประมำณ 3-4 กิโลเมตรต่อวินำที ซึ่งคลื่นทุติยภูมิท�ำให้ชั้นหินเกิดกำรคดโค้ง
ทิศทำงกำรสั่นของตัวกลำง
ทิศทำงของคลื่นทุติยภูมิ
ทิศทำงกำร
สั่นของตัวกลำง เชือก ทิศทำงของคลื่นทุติยภูมิ
ภำพที่ 1.7 อนุภำคของผิวโลกเคลื่อนที่ตั้งฉำกกับทิศทำงของคลื่นทุติยภูมิ
โครงสร้างโลก 9
T11
น�ำ สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
1. ใหนักเรียนสืบคนขอมูลเกี่ยวกับสมบัติเชิงกล โครงสรำงโลกที่แบงตำมสมบัติเชิงกล
และคลื่นไหวสะเทือน แลวครูถามคําถามวา
• สมบัติเชิงกลของสสาร คืออะไร เมือ่ คลืน่ ไหวสะเทือนเคลือ่ นทีผ่ ำ่ นส่วนต่ำง ๆ ของโลกจะเกิดกำรหักเหหรือสะท้อนตรงบริเวณ
(แนวตอบ สมบัติเชิงกล คือ การตอบสนอง รอยต่อของชัน้ โครงสร้ำงโลกทีป่ ระกอบด้วยหินหรือสำรทีม่ คี ณุ สมบัตติ ำ่ งกันจึงท�ำให้นกั วิทยำศำสตร์
ของสสารตอแรงภายนอกที่มากระทํา ซึ่ง สำมำรถศึกษำโครงสร้ำงของโลกได้ โดยแบ่งโครงสร้ำงของโลกเป็น 5 ชั้น ดังนี้
สสารตางชนิดกันจะมีการตอบสนองที่แตก
1. ธรณีภาค (lithosphere)
ตางกันตามสมบัติเชิงกลของสสารนั้น) ชั้นนอกสุดของโลก มีควำมหนำ
• คลื่นไหวสะเทือน คืออะไร ธรณีภำค (lithosphere) ประมำณ 100 กิโลเมตร ประกอบ
( แนวตอบ คลื่ น ไหวสะเทื อ น คื อ คลื่ น ที่ 1 ฐำนธรณีภำค (asthenosphere) ด้วยหินที่เป็นของแข็ง เป็นบริเวณ
เคลื่อนที่ผานตัวกลาง และมีการถายทอด ที่คลื่น p และคลื่น s เคลื่อนที่
1,000
ผ่ ำ นชั้ น นี้ ด ้ ว ยควำมเร็ ว ที่ เ พิ่ ม ขึ้ น
พลังงานไปกับการเคลื่อนที่ของคลื่น ทําให อย่ำงรวดเร็วตำมควำมลึกทีเ่ พิม่ ขึน้
มัชฌิมภำค (mesosphere)
อนุภาคของตัวกลางมีการเคลื่อนที่ แตไม 2,000 เมือ่ เทียบกับควำมเร็วทีค่ ลืน่ ทัง้ สอง
ไดเคลือ่ นทีไ่ ปกับคลืน่ คลืน่ ไหวสะเทือนแบง ขณะเคลื่อนที่ออกจำกแหล่งก�ำเนิด
ออกเปน 2 ประเภท ไดแก คลื่นในตัวกลาง 3,000
และคลื่นพื้นผิว)
2. ใหนกั เรียนสืบคืนขอมูลเกีย่ วกับการใชคลืน่ ไหว 4,000 แก่นโลกชั้นนอก (outer core)
สะเทือนในการศึกษาโครงสรางโลก เพื่อเชื่อม
โยงเขาสูกิจกรรม การแบงโครงสรางโลกโดย 2. ฐานธรณีภาค (asthenosphere)
อยูใ่ นส่วนทีเ่ ป็นเนือ้ โลกตอนบน จนถึงระดับควำมลึกประมำณ 700
ใชขอมูลคลื่นไหวสะเทือน แก่นโลกชั้นใน กิโลเมตร มีสถำนะเป็นของแข็งที่มีสภำพพลำสติก เมื่อคลื่นไหว
(inner core) สะเทือนเคลือ่ นทีผ่ ำ่ นชัน้ นี ้ จะเกิดกำรเปลีย่ นแปลง 2 ลักษณะ ดังนี้
เขตทีค่ ลืน่ ไหวสะเทือนมีความเร็วต�า่ (low velocity zone หรือ
LVZ) อยู่ที่ระดับควำมลึก 100-400 กิโลเมตร คลื่น p
และคลื่น s มีควำมเร็วลดลง เนื่องจำกบริเวณนี้เป็นของแข็ง
เนื้ออ่อน ซึ่งจำกอุณหภูมิที่สูงมำกท�ำให้แร่บำงชนิดเกิดกำร
หลอมละลำยเป็นแมกมำ (magma)
เขตทีม่ กี ารเปลีย่ นแปลง (transitional zone) อยูท่ รี่ ะดับควำมลึก
400-700 กิโลเมตร คลืน่ p และคลืน่ s มีควำมเร็วเพิม่ ขึน้ มำก
ในอัตรำที่ไม่สม�่ำเสมอ เนื่องจำกบริเวณนี้มีกำรเปลี่ยนแปลง
โครงสร้ำงของแร่
T12
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
T13
น�ำ สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
กิจกรรม ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์
1. ครูใหนกั เรียนจับคูก นั สืบคนขอมูลเกีย่ วกับเรือ่ ง • กำรสังเกต
อภิปรำยผลกิจกรรม
12
T14
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
Summary ขยายความเขาใจ
1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน สราง
โครงสรางโลก แบบจําลองโครงสรางโลกที่แบงตามสมบัติ
เชิงกลตามความรูที่ไดเรียนมา
2. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมา
โครงสรำงโลก
ขัน้ แรกเริม่ เริม่ จำกกำรรวมตัวกันของกลุม่ แก๊ส นําเสนอแบบจําลองของกลุมตนเอง โดยให
เมื่ อ ประมำณ 4,600 ล้ ำ นป ม ำแล้ ว โลกมี และฝุ่นจนเกิดเป็นดำวเครำะห์ นักเรียนทั้งหองรวมกันตั้งคําถามเกี่ยวกับแบบ
วิวัฒนำกำรมำอย่ำงต่อเนื่อง แบ่งเป็น 5 ขั้น
จําลองโครงสรางโลกทั้ง 2 แบบ และอภิปราย
ขั้นกอเหล็ก เกิดขึ้นเมื่อภำยในโลกมีควำมร้อน
ถึงจุดหนึ่งที่ท�ำให้เหล็กเริ่มเกำะตัวกัน รวมกัน
3. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกหัด จากแบบฝกหัด
ขั้นแยกชั้น มีกำรบีบอัดตัวของธำตุที่ท�ำให้เกิด รายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร
โครงสร้ำงภำยในโลกที่แบ่งเป็น 3 ชั้น ได้แก่
เปลือกโลก เนื้อโลก และแก่นโลก และอวกาศ ม.4 เลม 1 หนวยการเรียนรูที่ 1
โครงสรางโลก
ขัน้ เกิดใหม เกิดกำรพำควำมร้อนและกำรถ่ำยเท 4. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป เนื้ อ หาเกี่ ย วกั บ
ควำมร้อนของหินในชั้นเนื้อโลก
โครงสร า งโลก จากนั้ น ให นั ก เรี ย นทํ า แบบ
ขั้นเย็นตัวลง บริเวณผิวโลกมีกำรถ่ำยเทควำม ทดสอบหลังเรียน Unit Question 1 ในหนังสือ
ภำพที่ 1.9 โลก ร้อนอย่ำงรวดเร็วท�ำให้เปลือกโลกเย็นตัวและ เรียนหนา 15 เปนการบานมาสงครูในชัว่ โมงถัด
แข็งตัวเกิดเป็นพื้นแผ่นดิน
กำรแบงโครงสรำงโลก ไป
โครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี 5. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําแบบฝกหัดจาก
Unit Question 1 ในหนังสือเรียนหนา 15
ชั้นเปลือกโลก (crust) เป็นชั้นที่อยู่นอกสุด เปนการบานมาสงครูในชั่วโมงถัดไป
ควำมไม่ ต ่ อ เนื่ อ งระหว่ ำ งชั้ น เปลื อ กโลกกั บ
ชั้ น เนื้ อ โลกเรี ย กว่ ำ “ชั้ น ควำมไม่ ต ่ อ เนื่ อ ง
โมโฮโรวิซิก” เรียกโดยย่อว่ำ ชั้นโมโฮ ขัน้ ประเมิน
ตรวจสอบผล
ชั้นเนื้อโลก (mantle) เป็นชั้นที่อยู่ถัดลงไปจำก
ชั้นเปลือกโลก มีควำมหนำประมำณ 2,900 1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม
กิโลเมตร ชัน้ บนสุดของชัน้ เนือ้ โลกกับชัน้ เปลือก การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน
โลกรวมตัวกันเรียกว่ำ “ธรณีภำค”
2. ครูประเมินการปฏิบัติการจากการทําใบงาน
ชั้นแกนโลก (core) อยู่ในระดับควำมลึกจำกผิว เรื่อง โครงสรางโลกตามสมบัติเชิงกล
โลกประมำณ 2,900 กิโลเมตร 3. ครู ต รวจสอบผลการทํ า แบบฝ ก หั ด เรื่ อ ง
โครงสรางโลกตามสมบัตเิ ชิงกล และแบบฝกหัด
ภำพที ่ 1.10 โครงสร้ำงโลกตำมองค์ประกอบทำงเคมี
โครงสร้างโลก 13 จาก Unit Question 1
4. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน
กิจกรรม ทาทาย
ประเด็น เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น กับจุดประสงค์
1 ตรงกับจุดประสงค์ที่กาหนด 2. แผนภาพมีความถูกต้องสมบูรณ์ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ
2 มีความถูกต้องสมบูรณ์ แผนภาพถูกต้อง แผนภาพถูกต้อง แผนภาพถูกต้อง แผนภาพไม่ถูกต้อง
3 มีความคิดสร้างสรรค์ ครบถ้วน เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางประเด็น เป็นส่วนใหญ่
4 มีความเป็นระเบียบ 3. แผนภาพมีความคิดสร้างสรรค์ แผนภาพแสดงออก แผนภาพมีแนวคิด แผนภาพมีความ แผนภาพไม่แสดง
รวม ถึงความคิด แปลกใหม่แต่ยัง น่าสนใจ แต่ยังไม่มี แนวคิดใหม่
สร้างสรรค์ ไม่เป็นระบบ แนวคิดแปลกใหม่
แปลกใหม่
ลงชือ่ ............................................................. ผู้ประเมิน และเป็นระบบ
ของโลก แลวจัดทําเปนรายงานสงครูผูสอน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-16 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง
T15
8
น�ำ สอน สรุป ประเมิน
มุ ด
3. แนวไมตอ เนือ่ งโมโฮโรวิซกิ เปนบริเวณรอยตอระหวางชัน้ เปลือกโลกกับ 2.1
นส
เทคโนโลยีการขุดเจาะ ซึ่งปจจุบันสามารถเจาะ
งใ
ชั้นเนื้อโลก ึกล
ท
สํารวจไดลึกสุดไมเกิน 10 กิโลเมตรจากผิวโลก
บั น
T16
น�ำ สอน สรุป ประเมิน
U nit
คําชี้แจง :
Question 1
ให้ นั ก เรี ย นตอบค� า ถามต อ ไปนี้
ของแข็ ง ส ว นชั้ น ฐานธรณี ภ าคมี ส ถานะเป น
ของแข็งพลาสติก และเมื่อคลื่นไหวสะเทือน
เคลือ่ นทีผ่ า นชัน้ ธรณีภาคความเร็วของคลืน่ เพิม่
1. จงอธิบำยวิวัฒนำกำรของโลกจนถึงปัจจุบัน ขึน้ อยางรวดเร็วตามระดับความลึกสวนชัน้ ฐาน
ธรณีภาคคลืน่ จะเกิดการเปลีย่ นแปลงความเร็ว
2. แก่นโลกส่วนนอก และแก่นโลกส่วนในมีลักษณะที่แตกต่ำงกันหรือไม่ อย่ำงไร 2 ลักษณะที่แตกตางกันใน 2 บริเวณ คือ เขต
3. วำดภำพหรือสร้ำงแบบจ�ำลอง แสดงโครงสร้ำงโลกทั้ง 3 ส่วน ซึ่งได้แก่ เปลือกโลก เนื้อโลก ความเร็วตํ่า และเขตเปลี่ยนแปลง
และแก่นโลก 7. พิจารณาจากคําตอบของนักเรียน โดยอยูใน
ดุลยพินิจของผูสอน
4. กำรศึกษำโครงสร้ำงภำยในของโลกต้องอำศัยหลักกำรหรือควำมรู้ด้ำนใดบ้ำง เพรำะเหตุใด
8. ธรณี วิ ท ยาเป น วิ ช าที่ ศึ ก ษาเกี่ ย วกั บ องค -
5. อธิบำยโครงสร้ำงโลกตำมสมบัติเชิงกลว่ำประกอบด้วยกี่ชั้น และแต่ละชั้นมีลักษณะอย่ำงไร ประกอบ โครงสร า งเเละกระบวนการตาม
6. ชั้นธรณีภำค (lithosphere) กับชั้นฐำนธรณีภำค (asthenosphere) แตกต่ำงกันอย่ำงไร และมี ธรรมชาติ ข องโลก ตลอดจนผลอั น สื บ เนื่ อ ง
ควำมสัมพันธ์กันอย่ำงไร มาจากกระบวนการที่เกิดขึ้น รวมไปถึงการ
เปลี่ยนแปลงของโลก
7. นักเรียนคิดว่ำ ในอนำคตมนุษย์จะสำมำรถเจำะลงไปถึงแก่นโลกได้หรือไม่ อย่ำงไร 9. การศึกษาวิทยาศาสตรโลก สามารถนําความ
8. ธรณีวิทยำ (geology) เป็นวิชำที่ศึกษำเกี่ยวกับเรื่องใด รูไปประยุกตใชในการเลือกพื้นที่เพื่อประกอบ
กิจกรรมตางๆ เชน การสรางบานเรือน ไมควร
9. กำรศึกษำโครงสร้ำงโลก สำมำรถน�ำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ�ำวันได้อย่ำงไรบ้ำง จงอธิบำย
เลือกพืน้ ทีบ่ ริเวณตลิง่ ทีม่ นี าํ้ ไหลเชีย่ ว เนือ่ งจาก
และยกตัวอย่ำงประกอบ
ดินบริเวณตลิง่ อาจถูกนํา้ กัดเซาะและพัดพา ซึง่
10. เพรำะเหตุใดสิ่งมีชีวิตชนิดต่ำง ๆ จึงสำมำรถอำศัยอยู่บนเปลือกโลกได้ อาจทําใหตลิ่งพังได เปนตน
10. โลกมีองคประกอบหลักเปนคารบอนและนํ้าที่
ใหสิ่งมีชีวิตใชในการดํารงชีวิต และพิจารณา
ปจจัยตางๆ ที่เกื้อกูลตอการดํารงชีวิต เชน มี
ชั้นบรรยากาศที่หอหุมโลกที่ทําใหเปลือกโลก
มีสภาพอากาศเหมาะสมตอการดํารงชีวิต
โครงสร้างโลก 15
T17
Chapter Overview
แผนการจัด คุณลักษณะ
สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้
การเรียนรู้ อันพึงประสงค์
แผนฯ ที่ 1 - แบบทดสอบก่อนเรียน 1. อธิบายหลักการ และ - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบ - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
ทฤษฎีธรณี - หนังสือเรียนรายวิชา แนวคิด ของทฤษฎีที่ หาความรู้ ก่อนเรียน - ท ักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
แปรสัณฐาน เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เกี่ยวข้องกับการเคลื่อน (5Es In- - ประเมินการท�ำ ค้นหา - มุ่งมั่นในการ
โลก ดาราศาสตร์ และ ของแผ่นธรณีได้ (K) structional กิจกรรมการเคลื่อนที่ - ทักษะการวิเคราะห์ ท�ำงาน
8 อวกาศ ม.4 เล่ม 1 2. อธิบายหลักฐานทาง Model) ของแผ่นธรณีภาค
ชั่วโมง
- แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่ม ธรณีวิทยาที่แสดงว่าแผ่น - ตรวจและประเมิน
เติมวิทยาศาสตร์ โลก ธรณีมีการเคลื่อนที่ได้ (K) การท�ำกิจกรรมจากใบ
ดาราศาสตร์ และอวกาศ 3. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการ กิจกรรม เรื่อง แบบ
ม.4 เล่ม 1 ศึกษาการเคลื่อนที่ของ จ�ำลองวงจรการพา
- ใบงาน แผ่นธรณีได้ (P) ความร้อน
- ใบกิจกรรม 4. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษา (A) - ตรวจและประเมิน
- ภาพแผนที่โลก การน�ำเสนอใบงาน
- PowerPoint เรื่อง ทฤษฎีแปร
- RQ code สัณฐาน
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น - ตรวจและประเมิน
Twig แผนผังความคิด
- ตรวจแบบฝึกหัด
- ตรวจแบบฝึกหัดจาก
Unit Question 2
- ประเมินการน�ำเสนอ
ผลงาน
- สังเกตพฤติกรรม
การท�ำงานกลุ่ม
แผนฯ ที่ 2 - แบบทดสอบหลังเรียน 1. อธิบายรูปแบบการ - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบ - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
รูปแบบการ - หนังสือเรียนรายวิชา เคลื่อนที่ของแผ่นธรณี หาความรู้ หลังเรียน - ทักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
เคลื่อนที่ของ เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ ที่ท�ำให้เกิดธรณีสัณฐาน (5Es In- - ตรวจและประเมินการ ค้นหา - มุ่งมั่นในการ
แผ่นธรณี โลก ดาราศาสตร์ และ แบบต่างๆ (K) structional ท�ำกิจกรรมจากใบ - ทักษะการวิเคราะห์ ท�ำงาน
อวกาศ ม.4 เล่ม 1 2. อธิบายหลักฐานทาง Model) กิจกรรม เรื่อง
6 - แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่ม ธรณีวิทยาที่เป็นผลมาจาก กิจกรรมธรณีสัณฐาน
ชั่วโมง เติมวิทยาศาสตร์ โลก การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี ที่เกิดจากการเคลื่อนที่
ดาราศาสตร์ และอวกาศ (K) ของแผ่นธรณี และ
ม.4 เล่ม 1 3. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับผลที่ เรื่อง ธรณีสัณฐานที่
- ใบงาน เกิดจากการเคลื่อนที่ของ เกิดจากการเคลื่อนที่
- ใบกิจกรรม แผ่นธรณี (P) ของแผ่นธรณี
- ภาพทิศทางการ 4. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษา (A) - ตรวจใบงาน เรื่อง
เคลื่อนที่ของแผ่นธรณี การเคลื่อนที่ของแผ่น
- โปรแกรม google ธรณี
earth - ตรวจแบบฝึกหัด
- PowerPoint - ตรวจแบบฝึกหัดจาก
- RQ code Unit Question 2
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น - ประเมินการน�ำเสนอ
Twig ผลงาน
- สังเกตพฤติกรรมการ
ท�ำงานกลุ่ม
- สังเกตพฤติกรรมการ
ท�ำงานรายบุคคล
- สังเกตคุณลักษณะอัน
พึงประสงค์
T18
Chapter Concept Overview
หนวยการเรียนรูที่ 2
ทฤษฎีทวีปเลื่อน
อัลเฟรด เวเกเนอร์ (Alfred Wegener) ได้น�าเสนอเกี่ยวกับทฤษฎีทวีปเลื่อนว่า เมื่อประมาณ 200 - 300 ล้านปที่ผ่านมา แผ่นดินทั้งหมด
ในโลกรวมเป็นผืนเดียวกัน เรียกว่า “พันเจีย” ต่อมา ในยุคไทรแอสซิกทวีปที่เดิมเคยเป็นผืนแผ่นเดียวกันค่อย ๆ เริ่มมีการแยกตัวออกจาก
กัน โดยทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้จะค่อย ๆ แยกจากทวีปแอฟริกา และทวีปยุโรป จึงท�าให้ขนาดของมหาสมุทรแอตแลนติกกว้างยิ่ง
ขึ้น เรียกการเคลื่อนที่ของทวีปดังกล่าวว่า “ทวีปเลื่อน” ข้อมูลและหลักฐานอื่น ๆ ที่มาสนับสนุนแนวคิด ได้แก่
ซากดึกด�าบรรพ์ กลุ่มหินและแนวเทือกเขา ภาวะแม่เหล็กโลกบรรพกาล
อายุหินบริเวณพื้นสมุทร หลักฐานที่เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนจากธารน�้าแข็ง
ทฤษฎีการแผขยายพื้นสมุทร
ทฤษฎีการขยายตัวของพื้นมหาสมุทรที่เสนอโดยแฮรี แฮมมอนด์ เฮสส์ (Harry Hammond Hess) เป็นทฤษฎีต่อยอดจากแนวคิดทวีป
เลื่อนของอัลเฟรด เวเกเนอร์ โดยทฤษฎีนี้ได้อธิบายถึงสาเหตุของการขยายตัวของพื้นมหาสมุทรว่า พื้นมหาสมุทรมีการแผ่ขยายออกไป
จากแนวสันเขากลางสมุทร เนื่องจากการแทรกดันของแมกมาขึ้นมาบนเปลือกโลก ท�าให้ดันเปลือกโลกให้แยกออกจากกัน
ทฤษฎีการแปรสัณฐาน
การเคลื่อนที่และปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันของแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า แผ่นเปลือกโลก นั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับการเปลี่ยนแปลงพื้น
ผิวโลกตลอดช่วงธรณีกาล แผ่นเปลือกโลกเหล่านี้หมายถึงแผ่นธรณีภาค (lithosphere) ที่ประกอบด้วยเปลือกโลก (crust) และชั้นเนื้อโลก
ส่วนบน (upper mantle) โดยแผ่นธรณีภาควางตัวอยู่บนชั้นหินหนืดร้อนที่สามารถไหลได้คล้ายของเหลว เรียกว่า หินฐานธรณีภาค (asthe-
nosphere)
T19
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ นํา
ธรณี
กระตุน ความสนใจ
1. ครูถามคําถาม big question จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่
รายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร
และ อวกาศ ม. 4 เลม 1 หนา 16 เพื่อเปนการ
กระตุน ความคิดนักเรียนวา การเคลือ่ นตัวของ
แผนเปลือกโลกจะสงผลอยางไรกับสิง่ มีชวี ติ ใน
อนาคตขางหนา ผลการเรียนรู
2 แปรสัณฐาน
แผ่นธรณี เป็นส่วนประกอบของธรณีภาค ซึ่งเป็นชั้นนอกสุด
ของโครงสร้างโลก โดยมีการเปลี่ยนแปลงขนาดและต�าแหน่ง
2. ครูกระตุนความสนใจโดยใหนักเรียนดูแผนที่ 2. อธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยาที่
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีดังกล่าว
สนั บ สนุ น การเคลื่ อ นที่ ข องแผ่ น
โลก โดยใหนักเรียนสังเกตรูปรางของทวีป ธรณีได้ อธิบายได้ตามทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน ซึง่ มีรากฐานมาจากทฤษฎี
และมหาสมุทร แลวใหนักเรียนออกมาเขียน 3. ร ะบุสาเหตุและอธิบายรูปแบบการ
เคลื่ อ นที่ ข องแผ่ น ธรณี ที่ สั ม พั น ธ์ ทวีปเลื่อนและทฤษฎีการแผ่ขยายสมุทร โดยมีหลักฐานต่าง ๆ
สิ่งที่สังเกตไดบนกระดาษ โดยที่ครูกระตุนให กับการเกิดลักษณะธรณีสณั ฐานและ สนับสนุน เช่น ซากดึกด�าบรรพ์ ร่องรอยการเคลือ่ นทีข่ องตะกอน
ธรณีโครงสร้างแบบต่าง ๆ ได้ จากธารน�้าแข็ง เป็นต้น
นักเรียนอภิปรายสิง่ เพือ่ นรวมชัน้ สังเกตไดรว มกัน
3. ครูใหนกั เรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน เพือ่ วัด
ความรูเดิมของนักเรียนกอนเขาสูกิจกรรม
ทวีปยุโรป
ทวีปเอเชีย
เกร็ดแนะครู
การจัดการเรียนการสอน เรื่อง ธรณีแปรสัณฐาน ครูควรใชวิธีการสอนแบบ
สืบเสาะหาความรู โดยเนนการใชคําถามกระตุนเพื่อใหนักเรียนเกิดความสงสัย
และจัดกิจกรรมเพื่อใหนักเรียนลงมือปฏิบัติเพื่อคนหาคําตอบ โดยมีครูเปนที่
ปรึกษาชี้แนะและใหคําแนะนํา เพื่อใหความรูที่ถูกตอง โดยครูสามารถศึกษา
เกี่ ย วกั บ การจั ด การเรี ย นรู แ บบสื บ เสาะหาความรู เ พิ่ ม เติ ม ได จ ากบทความ
INQUIRY กําลังจะหายไป!?! ในนิตยสาร สสวท. (http://emagazine.ipst.
ac.th/186/IPST186/assets/common/downloads/IPST186.pdf)
T20
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ นํา
กระตุน้ ความสนใจ
Prior Knowledge
โลกในอดีตกับโลกปจจุบน
ั 1. ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน 4. ครูถามคําถาม prior knowledge จากหนังสือ
มีลกั ษณะเหมือนกัน เรี ย นหน า 17 เพื่ อ เป น การวั ด ความรู เ ดิ ม
ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐานเป็นทฤษฎีเชิงธรณีวิทยาที่ถูก
หรือไม
พัฒนาขึ้นเพื่ออธิบายถึงหลักฐานจากการสังเกตการเคลื่อนตัว ของนักเรียนวา โลกในอดีตกับโลกปจจุบันมี
ของแผ่นเปลือกโลกขนาดใหญ่ โดยทฤษฎีนไี้ ด้พฒ ั นาต่อยอดจากทฤษฎีการเลือ่ นไหลของทวีปเดิม ลักษณะเหมือนกันหรือไม
ที่ถูกเสนอขึ้น 5. ครูกลาวเชือ่ มโยงเขาสูก จิ กรรม โดยตัง้ ประเด็น
จากการศึกษาโครงสร้างของโลก พบว่าฐานธรณีภาคเป็นของแข็งที่มีสภาพพลาสติก และมี คําถามวา สิ่งใดที่ทําใหนักเรียนคิดวาโลกใน
ธรณีภาคที่เป็นของแข็งวางตัวอยู่ด้านบน เมื่อฐานธรณีภาคได้รับความร้อนจากภายในโลกจะเกิด อดีตกับปจจุบันไมเหมือนกัน
การเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ และท�าให้ธรณีภาคเคลื่อนที่ตามไปด้วย เมื่อธรณีภาคเคลื่อนที่ในทิศทาง (แนวตอบ รูปรางของทวีปบางทวีปอาจตอเขา
ต่างกันจะแตกออกเป็นแผ่น เรียกว่า แผ่นธรณี (plate) กระบวนการดังกล่าวท�าให้โลกเกิดการ กันได)
เปลี่ยนแปลง เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด การเกิดเทือกเขาสูง การเกิดทะเลและมหาสมุทร
นักวิทยาศาสตร์จึงศึกษาโดยการสังเกตหลักฐานที่ปรากฏ และอธิบายด้วยหลักการทาง
วิทยาศาสตร์ ในเวลาต่อมาเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้นท�าให้สามารถศึกษาและรวบรวม
ข้อมูลได้มากขึ้น จนสามารถสรุปเป็นแนวคิดและทฤษฎีที่สามารถอธิบายการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นบนโลกได้
ภาพที่ 2.1 โครงสร้างโลก
T21
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
1. ครูใหนักเรียนนับจํานวน 1 - 3 วนไปเรื่อยๆ 1.1 ทฤษฎีทวีปเลื่อน
จนครบทุกคน เพื่อแบงนักเรียนออกเปนกลุม ทฤษฎีนี้เกิดขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 จากการศึกษาแผนที่โลกของฟรานซิส เบคอน
กลุมละ 3 คน โดยคนที่นับจํานวนเดียวกันให (Francis Bacon) โดยคาดเดาว่าหากดันทวีปอเมริกาใต้และทวีปแอฟริกาเข้ามาประกอบกัน
อยูกลุมเดียวกัน จะสามารถเชื่อมต่อกันได้พอดี
2. ครูใหนักเรียนรวมกันศึกษาแนวคิดของทฤษฎี ต่อมาในป ค.ศ. 1915 อัลเฟรด เวเกเนอร์ ( Alfred
ทวีปเลื่อนจากในหนังสือเรียน หนา 18 - 22 W egener) ได้ น� า เสนอเกี่ ย วกั บ ทฤษฎี ท วี ป เลื่ อ นว่ า เมื่ อ
เพือ่ ใหมคี วามรูพ นื้ ฐานไปใชในการทํากิจกรรม ประมาณ 200-300 ล้านปที่ผ่านมา แผ่นดินทั้งหมดในโลก
3. ครูแจงใหนกั เรียนทราบวาจะมีการทํากิจกรรม รวมเป็นผืนเดียวกัน เรียกว่า “พันเจีย” ต่อมา ในยุคไทรแอสซิก
การเคลื่อนที่ของแผนธรณีภาค แลวแจงจุด ทวีปที่เดิมเคยเป็นผืนแผ่นเดียวกันค่อย ๆ เริ่มมีการแยกตัวออก
ประสงคของการทํากิจกรรม จากกัน โดยทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้จะค่อย ๆ แยกจาก
ทวีปแอฟริกา และทวีปยุโรป จึงท�าให้ขนาดของมหาสมุทร
แอตแลนติกกว้างยิ่งขึ้น เรียกการเคลื่อนที่ของทวีปดังกล่าวว่า
“ทวีปเลื่อน”
ภาพที่ 2.2 อัลเฟรด เวเกเนอร์ ทฤษฎีทวีปเลื่อนนี้เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในป ค.ศ.1960
โดยกล่าวถึงการทีท่ วีปอเมริกาเหนือและทวีปอเมริกาใต้รวมเป็นแผ่นเดียวกันเรียกว่า “แผ่นอเมริกา”
และมักพบว่าบริเวณทีเ่ ป็นขอบของแผ่นทวีป เช่น แผ่นทวีปแปซิฟก
จะพบแนวการเกิดภูเขาไฟและแผ่นดินไหวอยูเ่ สมอ เนือ่ งจาก
มีการเคลื่อนที่ของแผ่นทวีป (plate) อยู่ตลอดเวลา ซึ่ง
สันนิษฐานว่าเกิดจากการเคลื่อนที่ของหินหลอมละลาย
และจากกระบวนการพาความร้อนภายในโลก นอกจากนี้
ยังกล่าวว่าทวีปอเมริกาใต้ แอฟริกา อินเดีย ออสเตรเลีย
เคยอยู่ชิดติดกับทวีปแอนตาร์กติกในบริเวณขั้วโลกใต้ซึ่ง
เป็นเขตหนาวเย็นโดยมีหลักฐานเป็นร่องรอยของธารน�้า
แข็งในอดีต
ในขณะที่ตอนใต้ของทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และ ภาพที่ 2.3 การเชื่อมติดกันของทวีปในอดีต
เอเชีย มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเคยเป็นเขตร้อนแถบศูนย์สูตรมาก่อน เนื่องจากอุดมไปด้วยถ่านหินและ
น�้ามันซึ่งเกิดจากการทับถมของพืชในอดีต
จากข้อมูลรอยต่อของขอบทวีปยังไม่เพียงพอที่จะอธิบายการเชื่อมติดกันของทวีปในอดีต
เวเกเนอร์จงึ ค้นคว้าหาข้อมูลและหลักฐานอืน่ ๆ มาสนับสนุนแนวคิดของเขา ซึง่ ประกอบด้วยข้อมูล
ต่าง ๆ ดังนี้
18
T22
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
1. ซากดึกด�าบรรพ์ เวเกเนอร์ได้เสนอให้พจิ ารณารูปร่างของทวีปต่าง ๆ บนแผนทีโ่ ลก อีกทัง้ 4. ครู ใ ช รู ป แบบการเรี ย นรู แ บบร ว มมื อ มาจั ด
ยังได้ศึกษาซากดึกด�าบรรพ์ของพืชและสัตว์ที่อยู่ตามแนวชายฝัง (Coastline) ทั้งทวีปอเมริกาใต้ กระบวนการเรียนรู โดยกําหนดใหสมาชิกแตละ
และทวีปแอฟริกา พบว่าบริเวณทีเ่ ป็นแนวชายฝัง ของทวีปทัง้ สองต่อตรงกันได้นนั้ มีซากดึกด�าบรรพ์ คนภายในกลุ ม มี บ ทบาทหน า ที่ ข องตนเอง
ชนิดเดียวกัน นั่นหมายความว่าในอดีตนั้นทั้งสองทวีปนี้มีพืชและสัตว์ชนิดเดียวกันอาศัยอยู่ ดังนี้
ซึ่งหากทวีปทั้งสองอยู่แยกกันอย่างเช่นในปัจจุบันโดยมีมหาสมุทรคั่นกลางแล้ 1 วพืชและสัตว์ สมาชิกคนที่ 1 ทําหนาทีเ่ ตรียมวัสดุและอุปกรณ
ในอดีตจะสามารถเดินทางจากทวีปหนึ่งข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปสู่อีกทวีปหนึ่งได้อย่างไร สมาชิกคนที่ 2 ทําหนาทีอ่ า นวิธกี ารทํากิจกรรม
ข้อสังเกตนี้จึงสนับสนุนสมมติฐานของเวเกเนอร์ที่ว่า ทวีปอเมริกาใต้และทวีปแอฟริกาเดิมนั้น และนํามาอธิบายใหสมาชิกภายในกลุมฟง
เป็นผืนดินเดียวกัน สมาชิ ก คนที่ 3 ทํ า หน า ที่ บั น ทึ ก ผลการทํ า
กิจกรรม
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
บริเวณทีพ่ บซากดึกด�าบรรพ์ของ แบบประเมินการปฏิบัติกิจกรรม)
ลิ ส โทรซอรั ส (Lystrosaurus)
แ อ ฟ ริ ก า
อิ น เ ดี ย ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานโบราณที่ 5. ใหนักเรียนแตละกลุมทํากิจกรรมตามขั้นตอน
อาศัยอยู่บนบก จากในหนังสือเรียน หนา 23
6. เมื่อนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเสร็จเรียบรอยแลว
อ เ ม ริ ก า ใ ต้ อ อ ส เ ต ร เ ลี ย ครูใหนกั เรียนแตละกลุม สงตัวแทนมานําเสนอ
แ อ น ต า ร์ ก ติ ก ผลการทํากิจกรรมที่กลุมตนเองทําได
Earth Science
Focus การตรวจหาอายุของซากดึกดําบรรพ
การหาอายุของซากดึกด�าบรรพ์มักใช้ธาตุ C-14 ซึ่งมีครึ่งชีวิตเท่ากับ 5,730 ป โดยจะใช้กับหิน
หรือซากดึกด�าบรรพ์ที่มีอายุไม่เกิน 50,000 ป ส่วน U-238 หรือ K-40 จะใช้กับหินที่มีอายุมาก ซึ่งมี
วิธีการที่ซับซ้อนและใช้ทุนสูง
ธรณี 19
แปรสัญฐาน
T23
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
7. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า 2. กลุมหินและแนวเทือกเขา กลุ่มหินที่พบในทวีปอเมริกาใต้ ทวีปแอนตาร์กติการ์
กิ จ กรรม โดยครู ตั้ ง คํ า ถามเพื่ อ ให นั ก เรี ย น ทวีปแอฟริกาและอนุทวีปอินเดีย เป็นกลุ่มหินที่เกิดในช่วง 146 -359 ล้านป และมีการระเบิดของ
แตละกลุมรวมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้ ภูเขาไฟเหมือนกัน จากการส�ารวจชั้นหินบริเวณทวีปสองฝังของมหาสมุทรแอตแลนติก พบว่า
• ทวีปใดบางที่สามารถตอเขากันได ชั้นหินดังกล่าวเกิดในสภาพแวดล้อม และช่วงเวลาเดียวกัน รวมทั้งแนวเทือกเขาบริเวณฝัง
(แนวตอบ ทวีปอเมริกาใตกับทวีปแอฟริกา ตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือกับแนวเทือกเขาบริเวณฝังตะวันตกของทวีปยุโรปมีการวางตัว
ทวี ป อเมริ ก าเหนื อ กั บ ทวี ป ยุ โ รป ทวี ป ในแนวเดียวกัน มีหินชนิดเดียวกันและอายุของหินอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน
แอฟริ ก ากั บ ทวี ป ออสเตรเลี ย และทวี ป เทือกเขาคาลิโดเนียน
แอนตารกติก) อเมริกาเหนือ สแกนดิเนเวีย
• นักเรียนคิดวามีขอ มูลใดทีช่ ว ยยืนยันวาทวีป
ดังกลาวเคยอยูติดกันมากอน แอฟริกา
เทือกเขาแอปพาเลเชียน
อเมริกาใต้
(แนวตอบ หลักฐานทางธรณีวิทยาตางๆ เชน แอฟริกา
ซากดึกดําบรรพ กลุมหินและแนวเทือกเขา)
อเมริกาใต้
T24
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
4. ภาวะแมเหล็กโลกบรรพกาล หมายถึง ร่องรอยสนามแม่เหล็กโลกในอดีต ซึ่งศึกษา 8. ครูใหนักเรียนจับคูกันสืบคนขอมูลเกี่ยวกับ
ได้จากหินบะซอลต์ทมี่ แี ร่แมกนีไทต์เป็นองค์ประกอบ ในขณะทีล่ าวาบะซอลต์ไหลบนผิวโลกอะตอม เรือ่ งหลักฐานทางธรณีวทิ ยาทีส่ นับสนุนแนวคิด
ของธาตุเหล็กที่อยู่ในแร่แมกนีไทต์จะถูกเหนี่ยวน�าโดยสนามแม่เหล็กโลก ท�าให้มีการเรียงตัว ทฤษฎีทวีปเลื่อน ดังนี้
ในทิศทางเดียวกับเส้นแรงแม่เหล็กโลกในขณะนั้น ซึ่งการเรียงตัวของอะตอมของธาตุเหล็กจะไม่ - ซากดึกดําบรรพ
เปลี่ยนแปลงไปตามการกลับขั้วของสนามแม่เหล็กโลก เนื่องจากภาวะของสนามแม่เหล็กโลก - กลุมหินและแนวเทือกเขา
บรรพกาลในบางช่วงเวลาทางธรณีวทิ ยาเป็นสนามแม่เหล็กแบบกลับขัว้ ดังนัน้ ถ้าน�าหินจากพืน้ ที่ - การสะสมตัวของตะกอนจากธารนํ้าแข็ง
ต่างกันมาตรวจวัดสภาพความเป็นแม่เหล็กของหินแล้วพบว่า สารแม่เหล็กในหินเรียงตัวไปใน โดยนักเรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือ
ทิศทางเดียวกัน แสดงว่า เป็นหินที่เกิดในช่วงเวลาทางธรณีวิทยาเดียวกัน แหลงเรียนรูต า งๆ แลวนําขอมูลมาแลกเปลีย่ น
ความคิดเห็น และรวมกันตั้งประเด็นคําถาม
เกี่ยวกับเรื่องที่สืบคนมา
S S
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
N N
แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล)
N N S S
ออสเตรเลีย
มวลน�้าแข็ง อินเดีย
ภาพที่ 2.10 แผนที่แสดงมวลน�้าแข็งในอดีต ภาพที่ 2.11 แผนที่แสดงมวลน�้าแข็งในปัจจุบัน
ธรณี 21
แปรสัญฐาน
T25
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
9. ครูถามคําถาม H.O.T.S. จากหนังสือเรียน จากการรวบรวมข้อมูลและหลักฐานต่าง ๆ เวเกเนอร์น�าเสนอทฤษฎีทวีปเลื่อน (theory of
หนา 22 วา การเคลื่อนที่ของแผนเปลือกโลก continental drift) ทีอ่ ธิบายว่า “เมือ่ ประมาณ 245 ล้านปกอ่ น ทวีปต่าง ๆ ในปัจจุบนั เคยอยูต่ ดิ กันเป็น
ตัง้ แตอดีตจนถึงปจจุบนั มีการเปลีย่ นแปลงไป แผ่นดินเดียว เรียกว่า พันเจีย ในเวลาต่อมาพันเจียเริม่ แยกตัวออกจากกัน เป็นสองทวีปขนาดใหญ่
จากเดิมอยางไร และปจจัยใดบางทีท่ าํ ใหเกิด ได้แก่ ลอเรเซีย (Laurasia) และกอนด์วานา (Gondwana) และต่อมาทัง้ สองทวีปก็มกี ารแยกตัวออกจาก
การเคลื่อนที่ของแผนเปลือกโลก กันอย่างช้า ๆ จนมีลักษณะดังเช่นปัจจุบัน”
10. ครูใหนกั เรียนรวมกลุม กับเพือ่ นอีกคูห นึง่ รวม
เปน 4 คน แลวแลกเปลีย่ นกันถามคําถามทีต่ งั้ ไว ลอเรเซีย
จากนัน้ รวมกันสรุปเพือ่ เตรียมนําเสนอหนาชัน้
พันเจีย
เรียนวาสิง่ ใดบางทีท่ าํ ใหเกิดการเคลือ่ นทีข่ อง
กอนด์วานา
แผนเปลือกโลก
11. ครูสมุ เลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมานํา
225 ล้านปก่อน 150 ล้านปก่อน
เสนอคําถามของกลุม ตนเอง โดยใหนกั เรียนทัง้
หองรวมกันตอบคําถาม และอภิปรายรวมกัน
H. O. T. S.
คําถามทาทายการคิดขั้นสูง
การเคลือ่ นทีข่ องแผ่นเปลือกโลก เกิดจากการเคลือ่ นทีข่ อง การเคลื่ อ นที่
หินหนืดโดยเฉพาะแผ่นเปลือกโลกที่อยู่ใต้มหาสมุทร มีความ ของแผ่นเปลือก
หนาแน่นน้อย หินหนืดสามารถแทรกตัวตามรอยต่อระหว่าง โลกตั้ ง แต่ อ ดี ต
จนถึงปัจจุบัน มีการเปลี่ยน-
แผ่นเปลือกโลกได้งา่ ย นักธรณีวทิ ยาพบว่าบริเวณรอยต่อระหว่าง แปลงไปจากเดิมอย่างไร และ
แผ่นเปลือกโลกใต้มหาสมุทรแอตแลนติกมีแนวหินใหม่เกิดขึ้น ปั จ จั ย ใดบ้ า งที่ ท� า ให้ เ กิ ด การ
ตลอดเวลา ซึ่งแนวหินใหม่นี้เกิดจากการดันตัวของหินหนืดและ เคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก
มีอายุน้อยกว่าหินบนทวีป
แนวตอบ H.O.T.S.
แผนเปลือกโลกเปลีย่ นแปลงจาก ทวีปทีเ่ คยอยู 22
ติดกันเปนแผนเดียว เคลื่อนที่แยกออกจากกัน ซึ่ง หลักฐานทีส่ นับสนุนแนวคิดทวีปเลือ่ น
เปนผลมาจากวงจรการพาความรอนภายในโลก
T26
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
กิจกรรม ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์
• การสังเกต
1. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อใหไดขอ
การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาค • การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป สรุปเกี่ยวกับทฤษฎีทวีปเลื่อน โดยครูอาจเปด
จิตวิทยาศาสตร์ PowerPoint เรื่อง ธรณีแปรสัณฐาน เพื่อชวย
วัสดุอปุ กรณ์ • ความสนใจใฝ่รู้
• ความรับชอบ
ในการสรุป
1. ภาพแผนที่โลก 4. ดินสอ ปากกกา สี
2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําแบบฝกหัด เรื่อง
2. กระดาษ A4 5. กระดาษลอกลาย ทฤษฎีทวีปเลื่อน จากแบบฝกหัดรายวิชาเพิ่ม
3. กรรไกร เติ ม วิ ท ยาศาสตร โลก ดาราศาสตร และ
อวกาศ ม.4 เลม 1 หนวยการเรียนรูที่ 2 ธรณี
วิธปี ฏิบตั ิ แปรสัณฐาน
1. ให้นักเรียนศึกษาความรู้จากแผนที่โลก และน�าแผนที่โลกออกมาสังเกตแผ่นทวีปแต่ละทวีปที่มีขนาดใหญ่
เช่น ทวีปแอฟริกา ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา
2. วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้แล้วสรุปเป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ของหลักฐานต่าง ๆ
3. วางกระดาษลอกลายและวาดภาพทวีปที่มีขนาดใหญ่ลงในกระดาษ ใช้กระดาษลอกลายที่วาดภาพแล้วไป
ทาบกับกระดาษ A4 ให้นักเรียนลากขอบทวีปตามที่ลอกไว้ในกระดาษลอกลาย
4. ใช้กรรไกรหรือคัตเตอร์ตดั ตามรอยทีว่ าดไว้ในกระดาษ A4 ตัดออกมาให้เป็นชิ้นส่วนของจิกซอว์ทวีปต่าง ๆ
แล้วลองน�ามาต่อกัน สังเกตว่าชิ้นส่วนจิกซอว์ของทวีปใดบ้างที่ต่อกันได้ บันทึกผล
5. ตอบค�าถามท้ายกิจกรรมโดยใช้ข้อมูลที่ได้จากการท�ากิจกรรม
?
ค�าถามท้ายกิจกรรม
1. เหตุผลใดบ้างที่ท�าให้แผ่นทวีปมีการเคลื่อนตัวแยกออกจากกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
2. การเคลื่อนตัวของแผ่นทวีปท�าให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติใดบ้าง จงอธิบาย
3. ร่องรอยธารน�้าแข็งและภูมิอากาศโบราณสามารถอธิบายการอยู่ติดกันของแผ่นทวีปได้อย่างไร
4. สิ่งมีชีวิตในทวีปใกล้เคียงกันมีความเหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่ เพราะอะไร
5. ในอนาคตนักเรียนคิดว่าการเคลื่อนตัวของแผ่นทวีปจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอีกหรือไม่ อย่างไร
อภิปรายผลกิจกรรม
จากการท�ากิจกรรมการน�ารูปแผ่นทวีปที่นักเรียนตัดมาเชื่อมต่อกัน จะมีบางส่วนที่สามารถต่อกัน
ได้อย่างสนิท ตัวอย่างเช่น ขอบด้านตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้กับตะวันตกของทวีปแอฟริกาต่อเข้ากันได้
อย่างพอดี จากหลักฐานนี้สามารถระบุได้ว่าทวีปทั้งสองอาจเคยอยู่ติดกันมาก่อน แล้วจึงค่อยแยกกออกไป
ภายหลัง
ธรณี 23
แปรสัญฐาน
T27
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
1. ครูใหนักเรียนจับกลุม กลุมละ 3 คน อยาง 1.2 ทฤษฎีการแผขยายพื้นสมุทร
อิสระ โดยสมาชิกในกลุมจะตองไมซํ้ากับกลุม ทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมุทรเสนอโดย แฮร์รี แฮมมอนด์ เฮสส์ (Harry Hammond Hess)
ที่ทํากิจกรรมในชั่วโมงที่ผานมา เป็นทฤษฎีต่อยอดจากทฤษฎีทวีปเลื่อนของอัลเฟรด เวเกเนอร์ (Alfred Wegener) โดยทฤษฎีนี้
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช ได้อธิบายถึงสาเหตุของการขยายตัวของพืน้ มหาสมุทรว่า พืน้ มหาสมุทรมีการแผ่ขยายออกไปจาก
แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม) แนวสันเขากลางมหาสมุทร เนื่องจากการแทรกดันของแมกมาขึ้นมาบนเปลือกโลก
2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสืบคนขอมูล ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง มีก1ารจ้างนักธรณีวิทยาเพื่อส�ารวจพื้นมหาสมุทร ซึ่งใน
หลั ก ฐานทางธรณี วิ ท ยาที่ ส นั บ สนุ น การแผ การส�ารวจนั้นได้ท�าการวัดความลึกของทะเล ท�าให้ค้นพบลักษณะธรณีสัณฐาน เช่น สั นเขากลาง
ขยายของพื้นมหาสมุทร รวมถึงขอมูลตาง ๆ สมุทร (mid-ocean ridge) ซึง่ เป็นบริเวณทีม่ แี มกมาแทรกดันขึน้ มาบนเปลือกโลกมหาสมุทร ท�าให้
ที่เกี่ยวของ แลวนํามาสรุปเปนหลักการแบง เปลือกโลกโก่งตัวขึน้ และแตกออกจากกัน ซึง่ เปลือกโลกส่วนทีบ่ างจะทรุดตัวลงเกิดเป็นหุบเขาทรุด
โครงสรางโลกในรูปแบบแผนภาพ หรือ info (rift valley) และเมือ่ แมกมาแทรกดันขึน้ มาสูผ่ วิ โลกจะเรียกว่า ลาวา (lava) ซึง่ เมือ่ ลาวามีอณ
ุ หภูมิ
graphic ลดลงจะแข็งตัวกลายเป็นหินที่เป็นส่วนหนึ่งของเปลือกโลก โดยการแทรกดันตัวอย่างต่อเนื่อง
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช ของแมกมาจะท�าให้เกิดแรงดัน ส่งผลให้เปลือกโลกมหาสมุทรที่เกิดขึ้นก่อนเคลื่อนที่ออกห่างจาก
แบบประเมินชิ้นงาน) แนวสันเขากลางสมุทร ซึ่งจากกระบวนการดังกล่าวท�าให้อธิบายการแตกออกของแผ่นพันเจีย
3. ครูคัดเลือกแผนภาพที่นาสนใจมา 3 กลุม โดย และการที่แผ่นธรณีภาคเคลื่อนที่แยกออกจากกันได้
ใหแตละกลุมที่ถูกคัดเลือกสงตัวแทนมานํา
การแผ่ขยายพื้นสมุทร
เสนอแผนภาพของกลุมตนเอง
สันเขา หุบเขาทรุด
เปลือกโลกทวีป เปลือกโลกทวีป
แมกมา แมกมา
เปลือกโลกมหาสมุทร
แมกมา แมกมา
เปลือกโลกมหาสมุทร เปลือกโลกมหาสมุทร
3 น�้าทะเลไหลเข้าสู่ร่องที่เกิดจากการทรุดตัวของเปลือกโลก 4 ลาวาแข็งตัวอย่างต่อเนื่องท�าให้เปลือกโลกมหาสมุทร
ขยายพื้นที่มากขึ้น
ภาพที่ 2.13 การแผ่ขยายพื้นสมุทร
24
T28
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
อธิบายความรู
1 1. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อใหไดขอ
การส�ารวจพืน้ มหาสมุทรได้มกี ารน�าเครือ่ งวัดความเข้มของสนามแม่เหล็ก ( (magnetometer)
2
ไปตรวจวัดสภาพความเป็นแม่เหล็กของหิน พบว่ามีรูปแบบการเรียงตัวของสารแม่เหล็กในหินที่ สรุปเกี่ยวกับทฤษฎีการแผขยายพื้นมหาสมุทร
สมมาตรกันระหว่างสองข้างของสันเขากลางมหาสมุทร ซึ่งเกิดจากในขณะที่ลาวาแข็งตัวเป็นหิน 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําแบบฝกหัด เรื่อง
สารแม่เหล็กในหินจะถูกเหนี่ยวน�าให้เรียงตัวตามทิศทางของสนามแม่เหล็กโลกในขณะนั้น และ ทฤษฎีการแผขยายพื้นมหาสมุทร จากแบบ
การเรียงตัวของสารแม่เหล็กจะไม่เปลีย่ นแปลงตามการกลับขัว้ ของสนามแม่เหล็กโลก สภาพความ ฝ ก หั ด รายวิ ช าเพิ่ ม เติ ม วิ ท ยาศาสตร โลก
เป็นแม่เหล็กในหินนี้ เรียกว่า ภาวะแม่เหล็กบรรพกาล (paleomagnetism) ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนั้น ดาราศาสตร และอวกาศ ม.4 เลม 1 หนวย
สนับสนุนแนวคิดการแผ่ขยายพื้นมหาสมุทร การเรียนรูที่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน
ทิศทางที่แผ่นอเมริกาเหนือเคลื่อนที่ ทิศทางที่แผ่นยูเรเชียเคลื่อนที่ สํารวจคนหา
1. ครูใหนักเรียนนับจํานวน 1 - 3 วนไปเรื่อยๆ
N S S N S เรียงตัวตามสนามแม่เหล็กโลกแบบปกติ
เรียงตัวตามสนามแม่เหล็กโลกแบบกลับขั้ว
S N S N S N จนครบทุกคน เพื่อแบงนักเรียนออกเปนกลุม
N S N S N
กลุมละ 3 คน โดยคนที่นับจํานวนเดียวกันให
อยูกลุมเดียวกัน
เปลือกโลกมหาสมุทร 2. ครูแจกใบกิจกรรม กิจกรรมแบบจําลองวงจร
เนื้อโลกส่วนบน การพาความรอน ใหนักเรียน
ฐานธรณีภาค หินหนืดที่ลอยตัวขึ้น (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
แบบประเมินกิจกรรม)
ภาพที่ 2.14 รูปแบบการเรียงตัวของสารแม่เหล็กในหินที่สมมาตรกันระหว่างสองข้างของสันเขากลางมหาสมุทร
Earth Science
Focus เครื่องวัดค่าสนามแม่เหล็ก (magnetic field meter)
เครือ่ งวัดค่าสนามแม่เหล็กเป็นเครือ่ งทีใ่ ช้วดั ความเข้มของสนามแม่เหล็กทีแ่ ผ่ออกมาจากวัตถุ
ที่ต้องการวัด ซึ่งแม่เหล็กเป็นสิ่งที่สามารถดูดวัสดุบางชนิดได้ เช่น เหล็ก นิกเกิล โคบอลต์ เป็นต้น
การที่แม่เหล็กดูดสารบางอย่างได้ เนื่องจากมีสนามแม่เหล็กในบริเวณโดยรอบแม่เหล็ก และดึงดูดกับ
ธาตุที่มีสมบัติแม่เหล็ก ในปัจจุบันสามารถวัดสนามแม่เหล็กได้สะดวกและรวดเร็วโดยใช้ตัวรับรู้ฮอลล์
ซึง่ ท�างานโดยอาศัยหลักการของปรากฏการณ์ฮอลล์ ตัวรับรูฮ้ อลล์เป็นวงจรรวมทีท่ า� ให้เกิดความต่างศักย์
ซึ่งเป็นสัดส่วนโดยตรงกับความเข้มของสนามแม่เหล็กที่ผ่านในแนวดิ่ง เมื่อน�าตัวรับรู้ฮอลล์ไปต่อกับ
โวลต์มิเตอร์ แล้วน�าไปวางใกล้บริเวณที่มีสนามแม่เหล็กก็จะท�าให้วัดความเข้มสนามแม่เหล็กได้
ธรณี 25
แปรสัญฐาน
T29
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
3. ครู ใ ห นั ก เรี ย นแต ล ะกลุ ม ทํ า กิ จ กรรมแบบ 1.3 ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน
จําลองวงจรการพาความรอน ตามขั้นตอนที่ ทฤษฎีเชิงธรณีวทิ ยาทีถ่ กู พัฒนาขึน้ เพือ่ อธิบายถึงหลักฐานจากการสังเกตการเคลือ่ นตัวของ
ระบุไวใบกิจกรรม ดังนี้ แผ่นเปลือกโลกขนาดใหญ่ โดยทฤษฎีนี้ได้พัฒนาต่อยอดจากทฤษฎีทวีปเลื่อน
1) ตัดแผนโฟมบางขนาดประมาณ กวาง 2
ในช่วงป ค.ศ. 1950 ถึง 1960 มีการศึกษาทางสมุทรศาสตร์อย่างมากเพื่อหาข้อสนับสนุน
เซนติเมตร ยาว 4 เซนติเมตร จํานวน 2 แนวคิดต่าง ๆ ในอดีต และได้กอ่ ให้เกิดทฤษฎีเพลตเทคโทนิกส์ (plate tectonics) ขึน้ ในเวลาต่อมา
แผน ทฤษฎีดังกล่าวอธิบายว่าการเคลื่อนที่ และปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันของแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า
2) เทนํ้ า มั น พื ช ลงในถาดแก ว ทนไฟขนาด แผ่นเปลือกโลก นั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกั
ประมาณ กวาง 10 เซนติเมตร ยาว 20 1 บการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวโลกตลอดช่วงธรณีกาล
าค (lithosphere) ทีป่ ระกอบด้วยเปลือกโลก (crust) และ
แผ่นเปลือกโลกเหล่านีห้ มายถึงแผ่นธรณีภาค (
เซนติเมตร สูง 10 เซนติเมตร ใหมปี ริมาตร ชัน้ เนือ้ โลกส่วนบน (upper mantle) โดยแผ่นธรณีภาควางตัวอยูบ่ นชัน้ หินหนืดร้อนทีส่ ามารถไหลได้
ประมาณสามสวนสี่ของถาดแกว แลวนํา คล้ายของเหลว เรียกว่า หินฐานธรณีภาค (asthenosphere) และเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ อยู่บนฐาน
ถาดแกวไปตัง้ ไฟบนชุดตะเกียงแอลกอฮอล ธรณีภาค เนื่องจากการพาความร้อนของแมกมาในฐานธรณีภาค การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีใน
3) ใสผงพริกปน หรือพริกไทยบดหยาบลงใน รูปแบบต่าง ๆ ท�าให้เกิดธรณีสัณฐานและปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา เช่น แนวเทือกเขา ร่องลึก
นํ้ามัน ก้นมหาสมุทร แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด
4) วางแผนโฟมสองแผนใหชดิ ติดกันตรงกลาง
1. แผนธรณี คือ ธรณีภาคที่แตกออกเป็นแผ่น ซึ่งมีจ�านวนหลายแผ่น โดยแผ่นธรณีที่มี
ถาดแกว
ขนาดใหญ่มี 7 แผ่น ได้แก่ แผ่นธรณียูเรเชีย แผ่นธรณีอเมริกาเหนือ แผ่นธรณีอเมริกาใต้
5) สังเกตการณการเปลี่ยนแปลงของผงพริก แผ่นธรณีแปซิฟก แผ่นธรณีแอฟริกา แผ่นธรณีอินเดีย-ออสเตรเลีย แผ่นธรณีแอนตาร์กติก และ
ปน และแผนโฟม แลวบันทึกผล แผ่นธรณีขนาดเล็ก เช่น แผ่นธรณีนาสกา แผ่นธรณีแคริบเบียน แผ่นธรณีคอคอส
4. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า
กิ จ กรรม โดยให นั ก เรี ย นทั้ ง ห อ งร ว มกั น
180 � -90 � 0 � -90 � 180 �
อภิปรายและสรุปผลการทดลองรวมกัน แผ่นธรณีอเมริกาเหนือ
แผ่นธรณียูเรเชีย
60 � 60 �
แผ่นธรณีแอฟริกา
อธิบายความรู
30 � 30 �
1. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกหัดที่ 1.4 เรื่อง ทฤษฎี แผ่นธรณีคอคอส
0 � 0 � แผ่นธรณีอินเดีย
การแผขยายพื้นมหาสมุทร จากแบบฝกหัด แผ่นธรณีแปซิฟก
รายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร 30 � 30 �
แผ่นธรณีนาสกา แผ่นธรณีออสเตรเลีย
และอวกาศ ม.4 เลม 1 หนวยการเรียนรูท ี่ 2 ธรณี 60 � 60 �
แผ่นธรณีอเมริกาใต้
แปรสัณฐาน เปนการบานมาสงครูในชั่วโมง 180 � -90 � 0 � -90 � 180 � แผ่นธรณีแอนตาร์กติก
ถัดไป ภาพที่ 2.15 แผ่นธรณี
26
T30
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
ขยายความเขาใจ
ธรณี 27
แปรสัญฐาน
เกณฑ์การประเมินกิจกรรมจากใบกิจกรรมที่ 2.1-2.3
แบบประเมินการปฏิบัติกจิ กรรม แผนฯ ที่ 1-2
ประเด็นที่ ระดับคะแนน
4. นําเสนอขอมูลหนาชัน้ เรียน ดวยวิธกี ารสือ่ สารทีท่ าํ ใหผอู นื่ เขาใจ แบบประเมินกิจกรรมจากใบกิจกรรมที่ 2.1-2.3
คาชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินการทากิจกรรมของนักเรียนตามรายการที่กาหนด แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับ
ระดับคะแนน
ประเมิน
4. ความเข้าใจ
จุดประสงค์
ของการทา
4
เข้าใจจุดประสงค์ของ
การทากิจกรรมได้เป็น
อย่างถูกต้อง และ
3 2
เข้าใจจุดประสงค์ของ เข้าใจจุดประสงค์ของ
การทากิจกรรมได้อย่าง การทากิจกรรมได้
ถูกต้อง บางส่วน
1
ไม่เข้าใจจุดประสงค์
ของการทากิจกรรมเลย
ไดงาย
กิจกรรม
ระดับคะแนน อธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจได้
ลาดับที่ รายการประเมิน 5. การดาเนิน ดาเนินการทากิจกรรม ดาเนินการทากิจกรรม ดาเนินการทากิจกรรมมี ดาเนินการทากิจกรรม
4 3 2 1
การทากิจกรรม มีขั้นตอนครบถ้วน มีขั้นตอนครบถ้วน ขั้นตอนถูกต้องเป็นส่วน ไม่ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่
1 ความเข้าใจจุดประสงค์ของการทากิจกรรม ถูกต้อง แต่ไม่มีการ ใหญ่ และการเก็บข้อมูล และการเก็บข้อมูลไม่
ถูกต้อง มีการทาซ้า
2 การดาเนินการทากิจกรรม ทาซ้า และการเก็บ ได้ครบถ้วนตามที่ ครบถ้วน
และการเก็บข้อมูลได้
3 การนาเสนอ ข้อมูลได้ครบถ้วนตามที่ ต้องการ
ละเอียดรอบคอบ
ต้องการ
รวม ครบถ้วนตามทีต่ ้องการ
6. การนาเสนอ เหมาะสมกับลักษณะ นาเสนอข้อมูลถูกต้อง นาเสนอข้อมูลถูกต้อง นาเสนอข้อมูลถูกต้อง
ของข้อมูล แสดงถึง ครบถ้วน วิเคราะห์ วิเคราะห์ข้อมูลได้ วิเคราะห์ข้อมูลไม่
ความคิดสร้างสรรค์ใน ข้อมูลได้ครบถ้วน ครบถ้วน นาเสนอผล ครบถ้วน สรุปผลการ
ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน การนาเสนอ วิเคราะห์ สรุปผลการทากิจกรรม การทากิจกรรมถูกต้อง ทากิจกรรมไม่ถูกต้อง
................./................../.................. ข้อมูลได้ครบถ้วน ถูกต้อง มีการนาเหตุผล
เหมาะสม สรุปผลการ และความรู้มาอ้างอิง
ทากิจกรรมถูกต้อง มี ประกอบการสรุปผล
การนาเหตุผลและ การทากิจกรรม
ความรู้มาอ้างอิง
ประกอบการสรุปผล
การทากิจกรรม
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
10-12 ดีมาก
7-9 ดี
4-6 พอใช้
0-3 ปรับปรุง
45
44
T31
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ นํา
กระตุน้ ความสนใจ
1. ครูถามคําถามเพือ่ เปนการเปดประเด็นชักชวน Prior Knowledge
นักเรียนคุยวา นักเรียนคิดวาเปลือกโลกเกิด แผนธรณีเคลือ่ นที่ 2. รูปแบบการเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่ไดหรือไม โดยครูใหนักเรียนรวม ไดอยางไร ของแผนธรณี
กันหาคําตอบอยางอิสระ
การเคลือ่ นทีข่ องแผ่นธรณี อาจเกิดขึน้ เนือ่ งจากแรงดันใน
2. ครูกระตุนความสนใจ โดยครูถามคําถามเพื่อ
ชัน้ ฐานธรณีภาคดันให้แผ่นธรณีโก่งตัวขึน้ จนเกิดรอยแตก แมกมาจึงดันตัวท�าให้แผ่นธรณีเคลือ่ นที่
ใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้ แยกจากกัน ซึ่งการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีในลักษณะนี้ท�าให้เกิดแผ่นดินไหวไม่รุนแรง โดยมี
• การเคลื่อนที่ของแผนธรณีตามทฤษฎีธรณี ศูนย์กลางอยู่ในระดับตื้น
แปรสัณฐานมีลักษณะเปนอยางไร นักวิทยาศาสตร์ศึกษาธรณีสัณฐานบริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณี และอธิบายว่าธรณี
(แนวตอบ ธรณีภาคแตกออกเปนแผนหลาย สัณฐานต่าง ๆ เกิดจากลักษณะการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีที่แตกต่างกัน ดังนี้
แผน เรียกวา แผนธรณี แผนธรณีแตละแผน 1. แผนธรณีแยกตัวออกจากกัน (divergent plate boundary) เมื่อแผ่นธรณีเคลื่อนที่
มีรูปแบบการเคลื่อนที่ที่แตกตางกัน) แยกออกจากกัน หินหนืด จากชั้นเนื้อโลกจะแทรกตัวขึ้นมาตามช่องว่างตามแนวการแยกตัว เมื่อ
• จากทฤษฎีการแผขยายพื้นมหาสมุทร แผน หินหนืดเย็นตัวก็จะกลายเป็นแผ่นเปลือกโลกใหม่ อีกทั้งการแทรกตัวขึ้นมาของหินหนืดยังท�าให้
ธรณีบริเวณที่มหาสมุทรมีการแผขยายมีรูป แนวแยกตัวนั้นสูงขึ้นกลายเป็นแนวเทือกเขา ซึ่งส่วนมากพบอยู่ใต้มหาสมุทร โดยธรณีสัณฐาน
แบบการเคลื่อนที่อยางไร ที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีแบบนี้ ได้แก่ สันเขากลางมหาสมุทร และหุบเขาทรุด เช่น
(แนวตอบ แผนธรณีเคลือ่ นทีแ่ ยกออกจากกัน) สันเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก หุบเขาทรุดแอฟริกาตะวันออก
• นักเรียนคิดวาแผนธรณีมรี ปู แบบการเคลือ่ นที่ บางกรณีการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นกลางแผ่นทวีป ซึ่งอาจท�าให้
เปนแบบใดไดอีก เกิดเป็นทะเลใหม่ขึ้น เช่น ทะเลแดง
(แนวตอบ แผนธรณีเคลื่อนที่หากัน แผนธรณี
เคลื่ อ นที่ ผ า นกั น หรื อ นั ก เรี ย นตอบตาม
ความคิดของตนเอง)
3. ครูถามคําถาม prior knowledge จากหนังสือ
เรียน หนา 28 วา แผนธรณีเคลื่อนที่ไดอยางไร
T32
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
2. แผนธรณีเคลือ่ นทีเ่ ข้าหากัน (convergent plate boundary) แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ 1. ครูใหนักเรียนนับจํานวน 1 - 3 วนไปเรื่อย ๆ
ตามประเภทของแผ่นธรณีที่เคลื่อนที่เข้าหากัน จนครบทุกคน เพื่อแบงนักเรียนออกเปนกลุม
1) แผนธรณีมหาสมุทรเคลือ่ นทีเ่ ข้าหาแผนธรณีมหาสมุทร (ocean-ocean convergent กลุมละ 3 คน โดยคนที่นับจํานวนเดียวกันให
boundary) เมื่อแผ่นธรณีมหาสมุทรสองแผ่นเคลื่อนที่มาปะทะกัน แผ่นธรณีที่มีอายุมากกว่า อยูกลุมเดียวกัน
มีอุณหภูมิต�่ากว่า และมีความหนาแน่นมากกว่า จะจมตัวลงในเขตมุดตัว ท�าให้เกิดร่องลึก 2. ครูแจงจุดประสงคของการทํากิจกรรม จากนัน้
ก้นมหาสมุทร และเมื่อเปลือกโลกมหาสมุทรและเนื้อโลกบางส่วนหลอมละลายกลายเป็นหินหนืด ครูแจกใบกิจกรรม กิจกรรมธรณีสณ ั ฐานทีเ่ กิด
ซึง่ มีความหนาแน่นต�า่ กว่าเนือ้ โลกในชัน้ ฐานธรณีภาค หินหนืดนัน้ จึงลอยตัวขึน้ ดันพืน้ ผิวโลก ท�าให้ จากการเคลื่อนที่ของแผนธรณี ใหนักเรียน
เกิดหมู่เกาะภูเขาไฟรูปโค้ง เรียงตัวขนานกับแนวร่องลึกก้นมหาสมุทร ตัวอย่างหมู่เกาะภูเขาไฟ (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
ที่เกิดขึ้นด้วยกระบวนการนี้ เช่น หมู่เกาะฟลิปปน หมู่เกาะญี่ปุ่น แบบประเมินการปฏิบัติกิจกรรม)
3. ใหนักเรียนแตละกลุมทํากิจกรรมตามขั้นตอน
ดังนี้
1) ใหนักเรียนศึกษาภาพทิศทางการเคลื่อนที่
ของแผนธรณี
2) ใหนักเรียนใชโปรแกรม google earth
สํารวจธรณีสัณฐานบริเวณแนวรอยตอของ
ภาพที่ 2.18 แผ่นธรณีมหาสมุทรเคลื่อนที่เข้าหาแผ่นธรณีมหาสมุทร
แผนธรณี
2) แผนธรณีทวีปเคลื่อนที่เข้าหาแผนธรณีมหาสมุทร (continent-ocean convergent 3) วิเคราะหขอมูลที่สํารวจได และหาความ
boundary) แผ่นธรณีมหาสมุทรองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นหินบะซอลต์ จึงมีความหนาแน่นมากกว่า สัมพันธระหวางธรณีสณ ั ฐานกับรูปแบบการ
แผ่นธรณีทวีปซึ่งองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นหินแกรนิต เมื่อแผ่นธรณีทั้งสองเคลื่อนที่มาปะทะ เคลื่อนที่ของแผนธรณี
กัน แผ่นธรณีมหาสมุทรจะจมตัวลงและหลอมละลายกลายเป็นหินหนืด ซึ่งหินหนืดจะลอยตัวขึ้น 4) พิจารณาขอมูลที่สํารวจไดทั้งหมด แลวนํา
ดันเปลือกโลกทวีปท�าให้เกิดเป็นเทือกเขาสูง เกิดแนวภูเขาไฟตามชายฝังขนานกั มาสรุปเปนรูปแบบการเคลื่อนที่ของแผน
1 บร่องลึก
ก้นมหาสมุทร ตัวอย่างเทือกเขาที่เกิดขึ้นด้วยกระบวนการนี้ เช่น เทือกเขาแอนดีส บริเวณชายฝัง ธรณี และธรณีสัณฐานที่เกิดขึ้นจากการ
ตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ เคลื่อนที่ของแผนธรณีแตละรูปแบบ ในรูป
แบบแผนภาพ หรือ infographic
5) ครูและนักเรียนรวมกันพิจารณาแผนภาพ
หรือ infographic เพื่อชวยกันตรวจสอบ
ขอมูล
4. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า
ภาพที่ 2.19 แผ่นธรณีทวีปเคลื่อนที่เข้าหาแผ่นธรณีมหาสมุทร กิ จ กรรม โดยให นั ก เรี ย นทั้ ง ห อ งร ว มกั น
ธรณี 29
อภิปรายและสรุปผลการทดลองรวมกัน
แปรสัญฐาน
T33
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
5. ครูใหนักเรียนจับคูเพื่อนรวมชั้นเรียนแลวรวม 3) แผนธรณีทวีปเคลื่อนที่เข้าหาแผนธรณีทวีป (divergent plate boundary) เมื่อแผ่น
กันสืบคนขอมูลเกี่ยวกับเรื่องการเคลื่อนที่ของ ธรณีทวีปเคลือ่ นทีม่ าปะทะกัน แผ่นธรณีหนึง่ จะมุดตัวลงสูช่ นั้ ฐานธรณีภาค ส่วนอีกแผ่นหนึง่ จะถูก
แผนธรณีรูปแบบตางๆ ดังนี้ ยกเกยสูงขึน้ กลายเป็นเทือกเขาสูง ทอดตัวเป็นแนวยาวขนานกั
1 บแนวปะทะ ตัวอย่างเทื
2 อกเขาสูงที่
• แผนธรณีมหาสมุทรเคลื่อนที่แยกออกจาก เกิดขึ้นด้วยกระบวนการนี้ เช่น เทือกเขาหิมาลัย ในประเทศเนปาล เทือกเขาแอลป ในทวีปยุโรป
แผนธรณีมหาสมุทร
• แผนธรณีทวีปเคลื่อนที่แยกออกจากแผน
ธรณีทวีป
• แผนธรณีทวีปเคลื่อนที่หาแผนธรณีทวีป
• แผนธรณีมหาสมุทรเคลื่อนที่หาแผนธรณี
มหาสมุทร
• แผนธรณีทวีปเคลือ่ นทีห่ าแผนธรณีมหาสมุทร
• แผนธรณีทวีปเคลื่อนที่ผานแผนธรณีทวีป
• แผนธรณีมหาสมุทรเคลื่อนที่ผานแผนธรณี
ภาพที่ 2.20 แผ่นธรณีทวีปเคลื่อนที่เข้าหาแผ่นธรณี
มหาสมุทร
โดยนักเรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือ 3. แผนธรณีเคลื่อนที่ผานกันตามแนวระดับ (transform plate boundary) เมื่อแผ่น
แหลงเรียนรูอื่นๆ แลวนําขอมูลมาแลกเปลี่ยน ธรณี 2 แผ่นเคลื่อนที่สวนกัน จะท�าให้เกิดรอยเลื่อนขนาดใหญ่ ซึ่งมักเกิดขึ้นในบริเวณเทือกเขา
ความคิดเห็น และรวมกันตั้งประเด็นคําถาม กลางมหาสมุทร แต่บางกรณีอาจเกิดขึน้ บริเวณ
เกี่ยวกับเรื่องที่สืบคนมา ชายฝัง และหากแผ่นธรณีเคลื่อนที่ปะทะกัน
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช อย่างรุนแรงจะท�าให้เกิดการสัน่ สะเทือนจนท�าให้
แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล) เกิดแผ่นดินไหวได้
6. ใหนกั เรียนรวมกลุม กับเพือ่ นอีกคูห นึง่ รวมเปน รอยเลื่อนซานแอนเดรียส (San Andreas
4 คน แลวแลกเปลี่ยนกันถามคําถามที่ตั้งไว Fault) ประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดจากการ
จากนัน้ รวมกันสรุปเพือ่ เตรียมนําเสนอหนาชัน้ เคลื่ อ นที่ ผ ่ า นกั น ตามแนวระดั บ ระหว่ า ง
เรียน แผ่ น เปลื อ กโลกแปซิ ฟ ก กั บ แผ่ น เปลื อ กโลก
7. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมา อเมริกาเหนือ มีีความยาวประมาณ 1,200
นําเสนอคําถามของกลุม ตนเอง โดยใหนกั เรียน กิโลเมตร
ทัง้ หองรวมกันตอบคําถาม และอภิปรายรวมกัน ภาพที่ 2.21 รอยเลื่อนซานแอนเดรียส รัฐแคลิฟอร์เนีย
ประเทศสหรัฐอเมริกา
(ที่มาของภาพ : http://www.thulescientific.com/media.htm)
30
T34
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
จากลักษณะการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีทั้ง 3 รูปแบบ ท�าให้เกิดลักษณะธรณีสัณฐาน ได้แก่ 1. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อใหไดขอ
ร่องลึกก้นสมุทร แนวภูเขาไฟ แนวเทือกเขา หุบเขาทรุด และเทือกเขาใต้มหาสมุทร ตัวอย่างเช่น สรุปเกีย่ วกับรูปแบบการเคลือ่ นทีข่ องแผนธรณี
2. ครูใหนักเรียนเขียนสรุปเกี่ยวกับรูปแบบการ
ร อ งลึ ก ก้ น สมุ ท ร เกิ ด จากการที่ แ ผ่ น เปลื อ กโลก เคลื่อนที่ของแผนธรณีในรูปแบบที่นักเรียนคิด
มหาสมุทรสองแผ่นเคลือ่ นทีช่ นกันแล้วเกิดการมุดตัว วานาสนใจและงายตอการเขาใจ โดยเขียนลง
มีลักษณะเป็นร่องลึกแคบยาวและขอบสูงชัน อยู่ที่ ในกระดาษ A4 แลวนํามาสงครูเปนรายบุคคล
พื้นท้องทะเลและมหาสมุทร เช่น ร่องลึกก้นสมุทร
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
มาเรียนา ร่องลึกก้นสมุทรตองกา ร่องลึกก้นสมุทร รองลึกก้นสมุทร
เปอร์โตริโก
เปอร์โตริโก แบบประเมินชิ้นงาน/ผลงาน)
3. ครูมอบหมายการบานใหนกั เรียนทําแบบฝกหัด
เรื่อง รูปแบบการเคลื่อนที่ของแผนธรณี จาก
ภาพที่ 2.22 ร่องลึกก้นสมุทรเปอร์โตริโก เป็นร่องลึก
ก้นสมุทรที่มีความลึกมากที่สุดในมหาสมุทรแอตแลนติก แบบฝกหัดรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร โลก
(ที่มาของภาพ : https://commons.wikimedia.org/ ดาราศาสตร และอวกาศ ม.4 เลม 1 หนวย
wiki/File:Atlantic-trench.JPG)
การเรียนรูที่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน
เทือกเขา เกิดจากการมุดตัวของแผ่นธรณีมหาสมุทร
ซึ่งท�าให้แผ่นธรณีทวีปโก่งตัวขึ้นเกิดเป็นแนวเทือก
เขาขนาดใหญ่ เช่น เทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาร็อกกี
เทือกเขาแอนดีส
หมูเกาะภูเขาไฟรูปโค้ง เป็นหมู่เกาะประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการ
เคลือ่ นทีข่ องแผ่นธรณีมหาสมุทรมุดตัวลงใต้แผ่นธรณีอกี แผ่นหนึง่ ท�าให้
เกิดหินหนืด (magma) หมู่เกาะรูปโค้งที่เกิดขึ้นตามขอบของ
แผ่นธรณีทวีป เช่น หมู่เกาะญี่ปุ่น หมู่เกาะฟลิปปน
ธรณี 31
แปรสัญฐาน
T35
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คนอยาง นอกจากนี้ การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีทั้ง 3 รูปแบบ ยังเป็นสาเหตุท�าให้เกิดปรากฏการณ์
อิสระ โดยสมาชิกในกลุมจะตองไมซํ้ากับการ ทางธรณีวิทยา ตัวอย่างเช่น
จับกลุมในชั่วโมงที่ผานมา
2. ครูแจงจุดประสงคของการทํากิจกรรม จากนัน้ แผ่นดินไหว (earthquake)
ครูแจกใบกิจกรรม กิจกรรมการเปลีย่ นลักษณะ แผ่นธรณีทวีปเคลื่อนที่แยกจากกัน
ของเปลือกโลกใหนักเรียน จากการเคลื่ อ นที่ ข อง
แผ่นธรณี ท�าให้หินที่เป็นส่วน แผ่นธรณีทวีปเคลื่อนที่ชนกัน
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
ประกอบหลักของเปลือกโลก แผ่นธรณีทวีปเคลื่อนที่ชนกับ
แบบประเมินการปฏิบัติกิจกรรม) แผ่นธรณีมหาสมุทร
เกิดการเคลื่อนที่หรือแตกหัก
3. ครูใหนกั เรียนแตละกลุม ทํากิจกรรมการเปลีย่ น
ส่ ง ผลให้ พ ลั ง งานที่ ส ะสมอยู ่ แผ่นธรณีมหาสมุทร
ลักษณะของเปลือกโลก ตามขั้นตอนที่ระบุใน ในหิ น ซึ่ ง เป็ น พลั ง งานศั ก ย์ เคลื่อนที่แยกจากกัน
ใบกิจกรรม ดังนี้ เปลี่ยนสภาพเป็นพลังงานจลน์
1) ปน ดินมันใหเปนรูปสีเ่ หลีย่ ม ขนาดประมาณ ท�าให้เกิดการถ่ายโอนพลังงาน
กวาง 5 เซนติเมตร ยาว 10 เซนติเมตร สูง ออกมาในรูปคลื่นไหวสะเทือน
คลื่นไหวสะเทือน
32
T36
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
การระเบิดของภูเขาไฟ (volcanic eruption) 4. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า
กิ จ กรรม โดยครู ตั้ ง คํ า ถามเพื่ อ ให นั ก เรี ย น
ใต้ ชั้ น เปลื อ กโลกบางบริ เ วณ
แตละกลุมรวมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้
มีหินหนืดที่มีความร้อนสูงไหลเวียน
อยู่ตลอดเวลา เมื่อมีรอยแยกในหิน • ดินนํ้ามันมีการเปลี่ยนแปลงอยางไร เมื่อถูก
เปลือกโลก หินหนืดจึงดันตัวออกมา แรงมากระทํา
ตามรอยแยกได้ และด้วยแรงอัดทีเ่ กิด แกสต่าง ๆ ได้แก่ (แนวตอบ เมือ่ ออกแรงดันดินนํา้ มันจะโกงตัวขึน้
คาร์บอนไดออกไซด์
จากการดันตัวผ่านหินในเปลือกโลกจึง ไนโตรเจนออกไซด์ เมือ่ ออกแรงดึงดินนํา้ มันจะขาดออกจากกัน)
ท�าให้เกิดภูเขาไฟปะทุขึ้น ปากปล่องภูเขาไฟ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ • การเปลี่ ย นแปลงของดิ น นํ้ า มั น เปรี ย บ
และไอน�้า
หินหนืดแทรกตัวขึ้นมา
เทียบกับการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกได
หินละลายหรือลาวา (lava)
คือ หินหนืดที่ดันตัวออก ตามรอยแยกของหิน อยางไร
มาสู่ผิวโลกมีอุณหภูมิ กรวยปะทุย่อย (แนวตอบ เปลือกโลกที่มีสมบัติเปนของแข็ง
ประมาณ 900 -1,300 �C
ซึ่งการไหลของลาวาขึ้นอยู่กับ แบบพลาสติกคลายกับดินนํ้ามันจะมีการ
องค์ประกอบของลาวา โดยหากมี เปลีย่ นแปลงคลายกับดินนํา้ มัน เกิดเปนรอย
แกสเป็นองค์ประกอบอยู่มาก จะไหล
ได้เร็ว และไกล แต่หากมีแกสเป็น คดโคง หรือแนวเทือกเขา)
องค์ประกอบอยู่น้อย จะไหลได้ช้าและใกล้ • ขนมปงกรอบมีการเปลีย่ นแปลงอยางไร เมือ่
การไหลเวียนของหินหนืด
ในชั้นเนื้อโลก ถูกแรงมากระทํา
ภาพที่ 2.27 การระเบิดของภูเขาไฟ (แนวตอบ เมือ่ ออกแรงดันขนมปงกรอบจะโกง
ตัวขึน้ เล็กนอยและแตกหักออกจากกัน เมือ่
คลืน
่ สึนามิ (Tsunami)
ออกแรงดึงขนมปงกรอบจะแตก และแยก
เมือ่ พลังงานจากการเกิดแผ่นดินไหวใต้มหาสมุทรถูกถ่ายทอดขึน้ สูผ่ วิ น�า้ แล้วขยายตัวไปใน ออกจากกัน)
ทุกทิศทางท�าให้เกิดคลื่นยักษ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าคลื่นผิวน�้าปกติหลายสิบเท่าพัดเข้าสู่ชายฝัง • การเปลี่ยนแปลงของขนมปงกรอบ เปรียบ
เทียบกับการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกได
อยางไร
(แนวตอบ เปลือกโลกที่มีสมบัติเปนของแข็ง
แบบแข็งแกรงคลายกับขนมปงกรอบจะมีการ
เปลีย่ นแปลงคลายกับขนมปงกรอบ เกิดเปน
รอยแตก หรือรอยเลือ่ น)
5. ครู ใ ห นั ก เรี ย นแต ล ะกลุ ม ร ว มกั น เขี ย นสรุ ป
ภาพที่ 2.28 การเกิดคลื่นสึนามิ ผลและอภิปรายผลการทํากิจกรรมของกลุม
ธรณี 33
ตนเองแลวนํามาสงครู
แปรสัญฐาน
T37
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
ทวีปยุโรป
สํารวจค้นหา
6. ครูใหนกั เรียนจับคูก บั เพือ่ นรวมชัน้ เรียนสืบคน
Summary ทวีปเอเชีย
ขอมูลเกี่ยวกับเรื่องผลที่เกิดจากการเคลื่อนที่ ธรณีแปรสัณฐาน
ของแผนธรณี ดังนี้ ทวีปอเมริกาใต
ทวีปแอฟริกา ทวีปออสเตรเลีย
และโอเชียเนีย
- รูปรางของทวีปในอนาคต ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน
- ผลกระทบตอสภาพภูมิอากาศ
ทฤษฎีทวีปเลื่อน
- ผลกระทบตอสิ่งมีชีวิต
อัลเฟรด เวเกเนอร์ (Alfred Wegener) ได้นา� เสนอเกีย่ วกับทฤษฎีทวีปเลือ่ น
โดยนักเรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือ ว่า เมื่อประมาณ 200 - 300 ล้านปที่ผ่านมา แผ่นดินทั้งหมดในโลกรวมเป็น
แหลงเรียนรูอื่นๆ แลวนําขอมูลมาแลกเปลี่ยน ผืนเดียวกัน เรียกว่า “พันเจีย” ต่อมา ในยุคไทรแอสซิกทวีปที่เดิมเคยเป็น
ความคิดเห็น และรวมกันตั้งประเด็นคําถาม ผืนแผ่นเดียวกันค่อย ๆ เริม่ มีการแยกตัวออกจากกัน โดยทวีปอเมริกาเหนือ
เกี่ยวกับเรื่องที่สืบคนมา และอเมริกาใต้จะค่อย ๆ แยกจากทวีปแอฟริกา และทวีปยุโรป จึงท�าให้ขนาด
ของมหาสมุทรแอตแลนติกกว้างยิง่ ขึน้ เรียกการเคลือ่ นทีข่ องทวีปดังกล่าวว่า
“ทวีปเลื่อน” ข้อมูลและหลักฐานอื่น ๆ ที่มาสนับสนุนแนวคิด ได้แก่
อธิบายความรู้
ซากดึกดําบรรพ กลุมหินและแนวเทือกเขา ภาวะแมเหล็กโลกบรรพกาล ภาพที ่ 2.29 การเชือ่ มกันของทวีป
1. ใหนกั เรียนรวมกลุม กับเพือ่ นอีกคูห นึง่ รวมเปน ในอดีต
อายุหินบริเวณพื้นสมุทร หลักฐานที่เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนจากธารนํ้าแข็ง
4 คน แลวแลกเปลี่ยนกันถามคําถามที่ตั้งไว
จากนัน้ รวมกันสรุปเพือ่ เตรียมนําเสนอหนาชัน้ ทฤษฎีการแผขยายพื้นสมุทร
เรียน ทฤษฎีการขยายตัวของพื้นมหาสมุทรที่เสนอโดยแฮร์รี แฮมมอนด์ เฮสส์ (Harry Hammond Hess) เป็น
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช ทฤษฎีต่อยอดจากแนวคิดทวีปเลื่อนของอัลเฟรด เวเกเนอร์ (Alfred Wegener) โดยทฤษฎีนี้ได้อธิบายถึง
แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม) สาเหตุของการขยายตัวของพืน้ มหาสมุทรว่า พืน้ มหาสมุทรมีการแผ่ขยายออกไปจากแนวสันเขากลางสมุทร
2. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมานํา เนื่องจากการแทรกดันของแมกมาขึ้นมาบนเปลือกโลก ดันเปลือกโลกให้แยกออกจากกัน
สันเขา หุบเขาทรุด
เสนอคําถามของกลุมตนเอง โดยใหนักเรียน
ทั้งหองรวมกันตอบคําถาม และอภิปรายรวม
กัน เปลือกโลกทวีป เปลือกโลกทวีป
แมกมา แมกมา
1. เปลือกโลกโก่งตัวขึ้น เนื่องจากการแทรกตัวของแมกมา 2. เปลือกโลกส่วนที่บางจะทรุดตัวเกิดเป็นหุบเขาทรุด
เปลือกโลกมหาสมุทร
T38
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
ขยายความเข้าใจ
ทวีปเอเชีย
ภาพที่ 2.32 แผ่นธรณีมหาสมุทร ภาพที ่ 2.33 แผ่นธรณีทวีปเคลือ่ นที่ ภาพที ่ 2.34 แผ่นธรณีทวีปเคลือ่ นที่
เคลือ่ นทีเ่ ข้าหาแผ่นธรณีมหาสมุทร เข้าหาแผ่นธรณีมหาสมุทร เข้าหาแผ่นธรณีทวีป
ธรณี 35
แปรสัญฐาน
T39
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ ประเมิน
ตรวจสอบผล
1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน ปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา
2. ครูประเมินผลโดยการสังเกตการตอบคําถาม
การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน
3. ครูตรวจใบงาน เรื่อง รูปแบบการเคลื่อนที่ของ
แผนธรณี
4. ครูตรวจและประเมินผลการทํากิจกรรม
5. ครูตรวจผลการทําแบบฝกหัดจาก Unit Ques-
tion 2 เรื่อง ธรณีแปรสัณฐาน
6. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัด ภาพที่ 2.36 ภูเขาไฟระเบิด ภาพที่ 2.37 แผนดินไหว ภาพที่ 2.38 สึนามิ
เกิดจากการทีห่ นิ หนืดแทรกตัวดันขึน้ มา เปนปรากฏการณที่เกิดจากธรรมชาติ คลื่นทะเลที่มีความยาวคลื่นมาก และ
ตามรอยของหิ น ในชั้ น เปลื อ กโลก และการกระทํ า ของมนุ ษ ย ทํ า ให เคลื่อนที่ดวยความเร็วตั้งแต 500 ถึง
ทําใหเปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลง พลังงานศักยที่สะสมในหินปลดปลอย 1,000 กิโลเมตรตอชัว่ โมง เมือ่ อยูก ลาง
และมีลาวาปะทุออกมา ออกมา เปนพลังงานจลนในรูปของ ทะเล แตเมื่อเขาชายฝงความเร็วจะ
คลื่นไหวสะเทือน ลดลงและกอตัวสูงขึ้น
Self Check
ใหนักเรียนตรวจสอบความเขาใจ โดยพิจารณาขอความวาถูกหรือผิด แลวบันทึกลงในสมุด
หากพิจารณาขอความไมถูกตอง ใหกลับไปทบทวนเนื้อหาตามหัวขอที่กําหนดให
ถูก/ผิด ทบทวนที่หัวขอ
1. พันเจียเริม่ แยกออกเปนทวีปใหญ 2 ทวีป คือ ทวีปแอฟริกาและลอเรเซีย 1.1
2. เมื่อเปลือกโลกโกงตัวขึ้นเนื่องจากการแทรกดันตัวของแมกมาทําให 1.2
เปลือกโลกดันตัวขึ้นเปนสันเขา
3. ทฤษฎีการแปรสัณฐานแผนธรณี เปนทฤษฎีที่อธิบายเกี่ยวกับ 1.3
ุด
การเคลื่อนที่และการเปลี่ยนแปลงของลักษณะแผนธรณี
สม
ใน
ลง
4. สันเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก เกิดจากแผนธรณีเคลื่อนที่เขาหา 2.
ทึ ก
บั น
แผนธรณีทวีป
5. แผนธรณีเคลื่อนที่ผานกันตามแนวระดับ เกิดจากแผนธรณี 2 แผน 2.
เคลื่อนที่สวนทางกัน
แนวตอบ Self Check
36
1. ผิด 2. ถูก 3. ถูก
4. ผิด 5. ถูก
เกณฑ์การประเมินกิจกรรมจากใบกิจกรรมที่ 2.1-2.3
แบบประเมินการปฏิบัติกจิ กรรม แผนฯ ที่ 1-2
ประเด็นที่ ระดับคะแนน
การเคลื่อนที่ของแผนธรณีที่สัมพันธกับการเกิดลักษณะธรณี
แบบประเมินกิจกรรมจากใบกิจกรรมที่ 2.1-2.3 ประเมิน 4 3 2 1
คาชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินการทากิจกรรมของนักเรียนตามรายการที่กาหนด แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับ 1. ความเข้าใจ เข้าใจจุดประสงค์ของ เข้าใจจุดประสงค์ของ เข้าใจจุดประสงค์ของ ไม่เข้าใจจุดประสงค์
จุดประสงค์ การทากิจกรรมได้เป็น การทากิจกรรมได้อย่าง การทากิจกรรมได้ ของการทากิจกรรมเลย
ระดับคะแนน ของการทา ถูกต้อง บางส่วน
อย่างถูกต้อง และ
กิจกรรม
สัณฐานและธรณีโครงสรางแบบตางๆ
ระดับคะแนน อธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจได้
ลาดับที่ รายการประเมิน 2. การดาเนิน ดาเนินการทากิจกรรม ดาเนินการทากิจกรรม ดาเนินการทากิจกรรมมี ดาเนินการทากิจกรรม
4 3 2 1
การทากิจกรรม มีขั้นตอนครบถ้วน มีขั้นตอนครบถ้วน ขั้นตอนถูกต้องเป็นส่วน ไม่ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่
1 ความเข้าใจจุดประสงค์ของการทากิจกรรม ถูกต้อง แต่ไม่มีการ ใหญ่ และการเก็บข้อมูล และการเก็บข้อมูลไม่
ถูกต้อง มีการทาซ้า
2 การดาเนินการทากิจกรรม ทาซ้า และการเก็บ ได้ครบถ้วนตามที่ ครบถ้วน
และการเก็บข้อมูลได้
4. สมาชิกในกลุมรวมกันสรุปขอมูล และจัดเตรียมขอมูลเพื่อนํา
3 การนาเสนอ ละเอียดรอบคอบ
ข้อมูลได้ครบถ้วนตามที่ ต้องการ
ต้องการ
รวม ครบถ้วนตามทีต่ ้องการ
3. การนาเสนอ เหมาะสมกับลักษณะ นาเสนอข้อมูลถูกต้อง นาเสนอข้อมูลถูกต้อง นาเสนอข้อมูลถูกต้อง
ของข้อมูล แสดงถึง ครบถ้วน วิเคราะห์ วิเคราะห์ข้อมูลได้ วิเคราะห์ข้อมูลไม่
เสนอตามรูปแบบที่นักเรียนคิดวานาสนใจอยางอิสระ
ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน ความคิดสร้างสรรค์ใน ข้อมูลได้ครบถ้วน ครบถ้วน นาเสนอผล ครบถ้วน สรุปผลการ
การนาเสนอ วิเคราะห์ สรุปผลการทากิจกรรม การทากิจกรรมถูกต้อง ทากิจกรรมไม่ถูกต้อง
................./................../.................. ข้อมูลได้ครบถ้วน ถูกต้อง มีการนาเหตุผล
เหมาะสม สรุปผลการ และความรู้มาอ้างอิง
ทากิจกรรมถูกต้อง มี ประกอบการสรุปผล
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน
10-12
ระดับคุณภาพ
ดีมาก
ไดงาย
7-9 ดี
4-6 พอใช้
0-3 ปรับปรุง
T40
45
44
นํา สอน สรุป ประเมิน
U nit
คําชี้แจง :
Question 2
ให้ นั ก เรี ย นตอบค� า ถามต อ ไปนี้
1. การศึกษาธรณีแปรสัณฐานเปนการศึกษาการ
เคลื่อนที่ของแผนธรณีเนื่องจากมีแรงมากระทํา
และลักษณะของแผนธรณี ซึ่งสามารถสรุปเปน
1. การศึกษาธรณีแปรสัณฐานคืออะไร แบ่งเป็นทฤษฎีอะไรบ้าง ทฤษฎีการแปรสัณฐานของแผนธรณี โดยทฤษฎี
2. การศึกษาธรณีแปรสัณฐานมีความส�าคัญอย่างไร ดังกลาวมีรากฐานมาจากทวีปเลื่อนและทฤษฎี
3. หลักฐานใดบ้างที่แสดงว่าทวีปต่าง ๆ เคยเชื่อมต่อกัน การแผขยายพื้นสมุทร
2. สามารถอธิบายกระบวนการทีท่ าํ ใหแผนธรณีมกี าร
4. ยกตัวอย่างสาขาวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับธรณี และอธิบายว่าสาขาวิชานั้น ๆ ศึกษาเกี่ยวกับสิ่งใด
เคลือ่ นที่ รูปแบบการเคลือ่ นทีข่ องแผนธรณี และผล
5. การเคลื่ อ นที่ ข องทวี ป เกิ ด ขึ้ น อย่ า งไร จงให้ อ ธิ บ ายและยกตั ว อย่ า งหลั ก ฐานหรื อ ข้ อ มู ล ที่ ทีเ่ กิดขึน้ จากการเคลือ่ นทีข่ องแผนธรณี รวมทัง้ เปน
นักวิทยาศาสตร์ใช้เป็นเหตุผลสนับสนุน ขอมูลในการศึกษาธรณีวทิ ยาดานตางๆ
6. ทฤษฎีทวีปเลื่อนมีใจความส�าคัญอย่างไร 3. หลักฐานทีแ่ สดงวาทวีปตางๆ เคยเชือ่ มตอกัน ดังนี้
7. ในด้านธรณีพบิ ตั ภิ ยั เหตุใดนักธรณีวทิ ยาและนักวิทยาศาสตร์จงึ ให้ความส�าคัญและเฝาระวังลักษณะ 1) รูปรางของทวีป
ของรอยเลื่อนมีพลังเป็นอย่างมาก 2) ซากดึกดําบรรพ
8. จงอธิบายลักษณะการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีทั้ง 3 แบบ และยกตัวอย่างปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้น 3) กลุมหินและแนวเทือกเขา
4) หลักฐานที่เกิดจากการสะสมตัวของตะกอน
จากธารนํ้าแข็ง
4. ธรณีวิทยา (geology) เปนวิชาวิทยาศาสตรที่
ศึกษาประวัตขิ องโลก องคประกอบของโลก หลัก
ก. ข. ค. ฐานทางธรณีวทิ ยาตางๆ ทีป่ รากฏอยูใ นหิน วิชา
ภาพที่ 2.39 ภาพส�าหรับข้อ 8. ธรณีวทิ ยาแบงออกไดหลายสาขา เชน ธรณีวทิ ยา
9. ในชีวิตประจ�าวัน นักเรียนได้รับประโยชน์จากการศึกษาเรื่องการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีหรือไม่ โครงสราง เปนวิชาทีศ่ กึ ษารูปราง การวางตัวของ
อย่างไร โครงสรางทางธรณีวทิ ยาทีป่ รากฏอยูใ นหิน ธรณี
10. นักเรียนคิดว่าจากแนวการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีต่าง ๆ จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ ประวัตเิ ปนวิชาทีศ่ กึ ษาประวัตเิ หตุการณของโลก
ของโลกอย่างไรในอนาคตบ้าง 5. เนือ่ งจากภายในแกนโลกมีอณ ุ หภูมสิ งู มากทําให
เกิดการพาความรอน แมกมาในฐานธรณีภาค
เมือ่ ไดรบั ความรอนจะเคลือ่ นทีข่ นึ้ สูผ วิ โลก เมือ่
เคลื่อนที่ขึ้นมาใกลผิวโลกซึ่งหางจากแกนโลกที่
เปนตนกําเนิดความรอนอุณหภูมิจะลดลงและ
เคลือ่ นทีก่ ลับลงไปในเนือ้ โลก ถาหากไดรบั ความ
เพิม่ จะเคลือ่ นทีข่ นึ้ มาสูผ วิ โลกใหม หมุนวนเปน
ธรณี
แปรสัญฐาน
37 วงจรไปตลอด ซึง่ วงจรการพาความรอนดังกลาว
ทําใหแผนธรณีมีการเคลื่อนที่
แผนการจัด คุณลักษณะ
สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้
การเรียนรู้ อันพึงประสงค์
แผนฯ ที่ 1 - แบบทดสอบก่อนเรียน 1. อธิบายสาเหตุ - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบ - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
ภูเขาไฟระเบิด - หนังสือเรียน รายวิชา กระบวนการเกิดภูเขาไฟ หาความรู้ ก่อนเรียน - ทักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ ระเบิดได้ (K) (5 Es - ตรวจแบบฝึกหัด ค้นหา - มุ่งมั่นใน
3 โลก ดาราศาสตร์ และ 2. อธิบายปัจจัยที่ท�ำให้ Instructional - ตรวจใบงาน เรื่อง - ทักษะการวิเคราะห์ การท�ำงาน
ชั่วโมง อวกาศ ม.4 เล่ม 1 ความรุนแรงของการปะทุ Model)วิธี ภูเขาไฟระเบิด
- แบบฝึกหัด รายวิชาเพิ่ม และรูปร่างของภูเขาไฟ สอนแบบ - สังเกตพฤติกรรม
เติมวิทยาศาสตร์ โลก แตกต่างกันได้ (K) ทดลอง การทำ�งานรายบุคคล
ดาราศาสตร์ และอวกาศ 3. สืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย - สังเกตพฤติกรรม
ม.4 เล่ม 1 ออกแบบและน�ำเสนอ การทำ�งานกลุ่ม
- ใบงาน แนวทางการเฝ้าระวัง - สังเกตพฤติกรรม
- PowerPoint และปฏิบัติตนให้ปลอดภัย การนำ�เสนอ
- QR code จากภูเขาไฟระเบิดได้ - สังเกตความมีวินัย
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น (K, P) ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น
TWIG 4. ตระหนักถึงผลกระทบ ในการทำ�งาน
จากภูเขาไฟระเบิด
และเสนอแนวทาง
การเฝ้าระวัง (A)
แผนฯ ที่ 2 - หนังสือเรียน รายวิชา 1. อธิบายกระบวนการเกิด - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบฝึกหัด - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
แผ่นดินไหว เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ ขนาดและความรุนแรง หาความรู้ - ตรวจใบงาน เรื่อง - ทักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
โลก ดาราศาสตร์ และ และผลจากแผ่นดินไหว (5 Es แผ่นดินไหว ค้นหา - มุ่งมั่นใน
6 อวกาศ ม.4 เล่ม 1 ได้ (K) Instructional - สังเกตพฤติกรรม - ทักษะการ การท�ำงาน
ชั่วโมง - แบบฝึกหัด รายวิชาเพิ่ม 2. สืบค้นข้อมูลพื้นที่ Model)วิธี การทำ�งานรายบุคคล ตีความหมาย
เติมวิทยาศาสตร์ โลก เสี่ยงภัย ออกแบบและ สอนแบบ - สังเกตพฤติกรรม ข้อมูลและ
ดาราศาสตร์ และอวกาศ น�ำเสนอแนวทางการ ทดลอง การทำ�งานกลุ่ม ลงข้อสรุป
ม.4 เล่ม 1 เฝ้าระวังและปฏิบัติตน - สังเกตพฤติกรรม
- ใบงาน ให้ปลอดภัยจาก การนำ�เสนอ
- PowerPoint แผ่นดินไหวได้ (K, P) - สังเกตความมีวินัย
- QR code 3. ตระหนักถึงผลกระทบ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น จากแผ่นดินไหวและ ในการทำ�งาน
TWIG เสนอแนวทางการ
เฝ้าระวัง (A)
แผนฯ ที่ 3 - หนังสือเรียน รายวิชา 1. อธิบายสาเหตุ - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบ - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
สึนามิ เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ กระบวนการเกิด และ หาความรู้ หลังเรียน - ทักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
โลก ดาราศาสตร์ และ ผลจากสึนามิได้ (K) (5 Es - ตรวจใบงาน เรื่อง ค้นหา - มุ่งมั่นใน
5 อวกาศ ม.4 เล่ม 1 2. สืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย Instructional สึนามิ - ทักษะการ การท�ำงาน
ชั่วโมง - แบบฝึกหัด รายวิชาเพิ่ม ออกแบบและน�ำเสนอ Model)วิธี - ตรวจแบบฝึกหัด ตีความหมาย
เติมวิทยาศาสตร์ โลก แนวทางการเฝ้าระวังและ สอนแบบ - สังเกตพฤติกรรม ข้อมูลและ
ดาราศาสตร์ และอวกาศ ปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจาก ทดลอง การทำ�งานรายบุคคล ลงข้อสรุป
ม.4 เล่ม 1 สึนามิได้ (K, P) - สังเกตพฤติกรรม
- ใบงาน 3. ตระหนักถึงผลกระทบ การทำ�งานกลุ่ม
- PowerPoint จากสึนามิและเสนอ - สังเกตความมีวินัย
- QR code แนวทางการเฝ้าระวัง (A) ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น ในการทำ�งาน
TWIG
T42
Chapter Concept Overview
หนวยการเรียนรูที่ 3
ภูเขาไฟระเบิด
เกิดจากหินหนืดในชั้นเนื้อโลกแทรกตัวดันขึ้นมาตามรอยแยก หรือรอยแตกของหินในชั้นเปลือกโลก
แกสต่าง ๆ ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และไอน�้า
หินหนืดแทรกตัวขึ้นมาตามรอยแยกของหิน
ลาวา (lava)
ปากปล่องภูเขาไฟ คือ หินหนืดที่ดันตัวออกมาสู่ผิวโลก มีอุณหภูมิประมาณ 900 - 1,300 �C ซึ่งการไหลของลาวา
ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของลาวา โดยหากมีแกสเปนองค์ประกอบอยู่มาก จะไหลได้เร็วและไกล
แต่หากมีแกสเปนองค์ประกอบอยู่น้อย จะไหลได้ช้าและใกล้
กรวยปะทุย่อย แนวทางการเฝาระวังและปฏิบัติตน
- เตรียมสิ่งอุปโภคบริโภคที่จ�าเปน เช่น อาหาร ยารักษาโรค
- รับฟังข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ
- สวมใส่เสื้อผ้าที่รัดกุม มิดชิด ใส่หน้ากากอนามัยและแว่นตา
การไหลเวียนของหินหนืดในชั้นเนื้อโลก เพื่อป้องกันฝุ่นละออง
- อพยพไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย
แผนดินไหว
เกิดจากพลังงานศักย์ที่สะสมอยู่ในหินถูกปลดปล่อยออกมาเปนพลังงานจลน์ในรูปของคลื่นไหวสะเทือน ซึ่งถ่ายทอดพลังงานต่อไปยัง
มวลหินที่อยู่ติดกันจึงท�าให้แผ่นดินเกิดการสั่นสะเทือน
เปลือกโลกภาคพื้นทวีปเคลื่อนที่แยกจากกัน
การวัดขนาดและความรุนแรง เปลือกโลกภาคพื้นทวีปเคลื่อนที่ชนกัน
เปลือกโลกภาคพื้นทวีปเคลื่อนที่
ขนาดของแผ่นดินไหว วัดได้โดยเครื่องไซสโมมิเตอร์ ชนกับเปลือกโลกภาคพื้นมหาสมุทร
(seismometer) มีหน่วยวัดเปนขนาดโมเมนต์ เมอร์คัลลี หรือ เปลือกโลกภาคพืน้ มหาสมุทร
ริกเตอร์ ส่วนความรุนแรงของแผ่นดินไหววัดจากปรากฏการณ์ เคลื่อนที่แยกจากกัน
ขณะเกิดและหลังเกิดแผ่นดินไหว เปลือกโลกเคลื่อนที่
สวนทางกัน
แนวทางการเฝาระวังและปฏิบัติตน
- สร้างหรือต่อเติมอาคารบ้านเรือนให้สามารถรับแรงสัน่ สะเทือน
ของแผ่นดินไหวได้ คลื่นไหวสะเทือน
- ฝึกซ้อมเตรียมรับมือกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว (seismic waves)
- หาความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว และแนวทางการ จุดศูนย์เกิด
ปฏิบัติตนเมื่อเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินไหว (focus)
จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว (epicenter)
สึนามิ
เกิดจากการเคลื่อนตัวของพื้นทะเลในแนวดิ่งบริเวณแนวรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก ท�าให้เกิดคลื่นน�้าที่มีความยาวคลื่นมากกว่า
100 กิโลเมตร และเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 500 - 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คลื่นในบริเวณทะเลลึกจะมีความสูง คลื่นซัดเข้าสู่ชายฝัง สร้างความ
ไม่มาก แต่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง เสียหายเปนบริเวณกว้าง แนวทางการเฝาระวังและปฏิบัติตน
- หลีกเลี่ยงการสร้างอาคารบ้านเรือนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย
- สงั เกตสภาพแวดล้อมรอบตัว โดยหากเห็นความผิดปกติ เช่น
ระดับน�้าทะเลลดลงอย่างรวดเร็ว สัตว์มีพฤติกรรมผิดปกติ
คลื่นบริเวณใกล้ชายฝัง
เกิดคลื่นแผ่กระจายจากจุดก�าเนิด มีความสูงมาก แต่เคลื่อนที่ ให้รีบอพยพจากบริเวณชายฝังไปอยู่ในที่สูง
ออกไปยังทุกทิศทาง ด้วยความเร็วต�่า - รับฟังสัญญาณเตือนภัยและข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงาน
แผ่นเปลือกโลกใต้ทะเลเลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว ที่น่าเชื่อถือ
และรุนแรง ท�าให้พื้นทะเลเปลี่ยนแปลงระดับ
T43
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ นํา
ธรณีพบิ ตั ภิ ยั
กระตุน ความสนใจ
1. กระตุนความสนใจโดยใหนักเรียนดูสื่อดิจิทัล
3
หน่วยการเรียนรู้ที่
หรื อ PowerPoint เกี่ ย วกั บ ภั ย พิ บั ติ ท าง
ธรรมชาติ จากนั้นใหนักเรียนรวมกันอภิปราย
แสดงความคิดเห็นในประเด็นคําถาม เชน
• ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายในโลก
มีอะไรบาง ผลการเรียนรู ธรณี พิ บั ติ ภั ย เป็ น ภั ย ธรรมชาติ ที่ เ กิ ด จากกระบวนการ
(แนวตอบ ภูเขาไฟระเบิด แผนดินไหว สึนามิ 4. อ ธิ บ ายสาเหตุ กระบวนการเกิ ด เปลีย่ นแปลงทางธรณีวทิ ยา โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึน้ อย่างฉับพลัน
ฯลฯ)
ภูเขาไฟระเบิดและปจจัยที่ท�าให้ และรุนแรง ซึ่งกิจกรรมบางอย่างของมนุษย์มีส่วนที่ท�าให้เกิด
ความรุนแรงของการปะทุและรูปร่าง
ธรณีพิบัติภัยขึ้น และมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าในอดีต
2. ครูใหนกั เรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน เพือ่ วัด ของภูเขาไฟแตกต่างกัน รวมทั้ง
สืบค้นข้อมูลพืน้ ทีเ่ สีย่ งภัย ออกแบบ
ความรูเดิมของนักเรียนกอนเขาสูกิจกรรม และน�าเสนอแนวทางการเฝาระวัง
และการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยได้
3. ครูนาํ ภาพหรือสือ่ ดิจทิ ลั การเกิดภูเขาไฟระเบิด 5. อ ธิ บ ายสาเหตุ กระบวนการเกิ ด
มาใหนักเรียนศึกษา และถามคําถามกระตุน ขนาดและความรุนแรง และผลจาก
แผ่นดินไหว รวมทั้งสืบค้นข้อมูล
ความคิดวา ภูเขาไฟระเบิดมีกระบวนการเกิด พืน้ ทีเ่ สีย่ งภัย ออกแบบและน�าเสนอ
แนวทางการเฝาระวังและการปฏิบตั ิ
อยางไร โดยใหนักเรียนชวยกันอภิปรายและ ตนให้ปลอดภัยได้
ตอบคําถามจากประสบการณของนักเรียน 6. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด และ
ผลจากสึนามิ รวมทั้งสืบค้นข้อมูล
4. ครูถามคําถาม Big question จากหนังสือเรียน พืน้ ทีเ่ สีย่ งภัยออกแบบและน�าเสนอ
รายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร แนวทางการเฝาระวังและการปฏิบตั ิ
ตนให้ปลอดภัยได้
และอวกกาศ ม.4 เลม 1 หนา 38 วาธรณีพิบัติ
ภัยสงผลกระทบตอมนุษยในดานใดบาง
¸Ã³Õ¾ÔºÑµÔÀÑÂ
Ê‹§¼Å¡Ãзº
µ‹ÍÁ¹ØÉÂã¹´ŒÒ¹ã´ºŒÒ§
แนวตอบ Big Question
ธรณีพิบัติภัยทําใหมนุษย และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
เสียชีวิตเปนจํานวนมาก ที่อยูอาศัย และสิ่งปลูก
สรางตางๆ พังทลายเสียหาย และยังทําใหเกิดการ
เปลีย่ นแปลงของสภาพภูมปิ ระเทศ นอกจากนีย้ งั สง
ผลระยะยาว เชน การเปลีย่ นแปลงภูมอิ ากาศของโลก
เกร็ดแนะครู
การเรียนการสอน เรือ่ ง ธรณีพบิ ตั ภิ ยั ครูควรเนนถึงสาเหตุกระบวนการเกิด
และผลกระทบทีเ่ กิดขึน้ จากธรณีพบิ ตั ภิ ยั ประเภทตางๆ ผานกิจกรรมทีจ่ าํ ลองการ
เกิดเหตุการณดงั กลาวนัน้ เพือ่ ใหนกั เรียนเขาใจเนือ้ หาไดงา ยขึน้ รวมถึงแนวทาง
ปฏิบัติตนหรือแนวทางการปองกันตนเมื่อเกิดธรณีพิบัติภัย ทั้งนี้เพื่อใหนักเรียน
สามารถปองกันตนจากอันตรายที่เกิดขึ้นจากธรณีพิบัติภัยได
T44
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
T45
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า ภูเขาไฟมักเกิดขึน้ ตามแนวขอบของแผ่น
กิจกรรม โดยครูตั้งคําถามใหนักเรียนแตละกลุม เปลือกโลก ตามแนวเทือกเขาริมฝงมหาสมุทร
รวมกันแสดงความคิดเห็นวา ต่าง ๆ รวมทั้งบริเวณหมู่เกาะในมหาสมุทร
• เกิดการเปลี่ยนแปลงอยางไรเมื่อปลอยนิ้ว บริ เ วณรอบ ๆ มหาสมุ ท รแปซิ ฟ ก มี
ออกจากปากขวดนํา้ อัดลม และเปรียบเทียบ ภูเขาไฟจ�านวนมาก จนถูกขนานนามว่าเป็น
1
ไดกับการระเบิดของภูเขาไฟไดอยางไร “วงแหวนแห่งไฟ” (Ring of Fire) โดยประเทศ
(แนวตอบ เมื่อปลอยนิ้วออกจากปากขวดนํ้า ที่อยู่ตามแนวของวงแหวนไฟ ได้แก่ ประเทศ
อัดลม นํ้าอัดลมจะพุงขึ้นมาลนปากขวด ซึ่ง เบลีซ โบลิเวีย บราซิล แคนาดา โคลอมเบีย
เปรียบเทียบไดกบั การเคลือ่ นทีข่ องแกสออก ชิลี คอสตาริกา เอกวาดอร์ ติมอร์ตะวันออก ภาพที่ 3.2 วงแหวนแห่งไฟ
จากแมกมา ซึ่งสงผลใหเกิดภูเขาไฟระเบิด) เอลซัลวาดอร์ ไมโครนีเซีย ฟีจ ี กัวเตมาลา ฮอนดูรสั อินโดนีเซีย ญีป่ นุ คิรบิ าตี เม็กซิโก นิวซีแลนด์
• ระหวางนมขนหวานกับนํา้ เปลา สารชนิดใด นิการากัว ปาเลา ปาปวนิวกินี ปานามา เปรู ฟลิปปนส์ รัสเซีย ซามัว หมู่เกาะโซโลมอน ตองกา
สามารถเปาลมลงไปไดงายกวากัน และ ตูวาลู และฝงตะวันตกของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังพบมากในบริเวณมหาสมุทรอินเดียทาง
ตอนเหนือ และพบเพียงเล็กน้อยในทะเลแคริเบียน ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเกาะไอซ์แลนด์
เปรียบเทียบไดกับการระเบิดของภูเขาไฟ
ไดอยางไร
(แนวตอบ สามารถเปาลมลงไปในนํ้าไดงาย
ภูเขาไฟระเบิดครั้งรายแรง
กวาในนมขนหวาน โดยเมื่อเปาลมลงไปใน
นํ้าจะเกิดฟองอากาศที่ทําใหนํ้ากระเพื่อม ภูเขาไฟซานตามาเรีย ภูเขาไฟฉางไปซาน
ประเทศกัวเตมาลา ภูเขาไฟธีรา เกาะซานโตรินี พรหมแดนจีน-เกาหลีเหนือ
เล็กนอย เปรียบไดกับแมกมาที่มีความหนืด ค.ศ.1902 ประเทศกรีซ ค.ศ. 1610 ประเทศจีน ค.ศ. 1702
นอย แกสจะเคลื่อนออกจากแมกมาไดงาย
ทําใหเกิดภูเขาไฟที่มีความรุนแรงไมมาก
ซึ่งมีผลในทางกลับกันเมื่อเปาลมลงไปใน
นมขนหวาน)
ขัน้ สรุป
ขยายความเข้าใจ ภูเขาไฟคาปาร์ราสติเก
ประเทศเอลซัลวาดอร์
ครู อ ธิ บ ายเพิ่ ม เติ ม เกี่ ย วกั บ ความหนื ด ของ ค.ศ. 2013
ของไหลกับอุณหภูมิ วา “ความหนืดของของไหล
ภูเขาไฟฮวนนา ปูดิน่า ภูเขาไฟแทมโบรา เกาะซัมบาวา ภูเขาไฟปนาตู โบ เกาะลูซอน
จะมากขึ้ น เมื่ อ อุ ณ หภู มิ ล ดตํ่ า ลง” ซึ่ ง ครู อ าจ ประเทศเปรู ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศฟลิปปนส์
สาธิตหรือใหนักเรียนพิสูจน โดยใชนมขนหวาน ค.ศ. 1600 ค.ศ. 1815 ค.ศ. 1991
ที่อุณหภูมิหองกับนมขนหวานที่แชเย็นเทลงบน ภาพที่ 3.3 ภูเขาไฟที่เกิดการระเบิดร้ายแรง
40
ขนมปงแลวเอียงขนมปงเพื่อสังเกตลักษณะการ
ไหลของนมขนหวาน
T46
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
1.2 ผลกระทบจากภูเขาไฟระเบิด 1. ครูตงั้ คําถามกระตุน ความสนใจเกีย่ วกับบริเวณ
ที่สามารถพบภูเขาไฟระเบิด
• สามารถพบภูเขาไฟระเบิดไดทั่วไปทุกพื้นที่
ของโลกหรือไม อยางไร
(แนวตอบ แตละบริเวณของโลกสามารถพบ
ภูเขาไฟระเบิดในปริมาณตางกัน โดยบาง
บริเวณอาจพบไดมาก บางบริเวณพบได
1. แกสต่าง ๆ และเถ้าภูเขาไฟ ท�าให้เกิดมลภาวะทาง 2. การไหลของลาวาท�าให้สภาพแวดล้อมเปลีย่ นแปลง นอยหรือไมพบเลย)
อากาศ (ที่มาของภาพ : http://volcanoes.wikispaces.com) 2. ครูตั้งคําถามเพือ่ นําเขาสูการทํากิจกรรม เรือ่ ง
(ที่มาของภาพ : http://phillipkay.wordpress.com)
แนวภูเขาไฟ ดังนี้
• บริ เ วณใดของโลกที่ ส ามารถพบภู เ ขาไฟ
ระเบิดไดปริมาณมาก
(แนวตอบ บริเวณวงแหวงแหงไฟ)
3. ครูเตรียมแผนที่โลกเพื่อทํากิจกรรม เรื่อง แนว
ภูเขาไฟ
4. ใหนักเรียนรวมกันสืบคนขอมูลบริเวณที่เกิด
3. เกิดแรงสัน่ สะเทือน ซึง่ อาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหว 4. หากเกิดภูเขาไฟระเบิดใต้มหาสมุทร อาจท�าให้เกิด ภูเขาไฟระเบิด จากแหลงขอมูลตางๆ ทั้งใน
(ทีม่ าของภาพ : http://www.enigmasdouniverseo.com) สึนามิ
(ที่มาของภาพ : http://www.thairath.co.th/content/ และต า งประเทศ แล ว นํ า ข อ มู ล มากํ า หนด
471260) ตําแหนงลงบนแผนที่โลกที่เตรียมไว
5. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายและสรุ ป
Earth Science เกี่ยวกับบริเวณที่พบภูเขาไฟระเบิด โดยอาจ
in real life
ผลกระทบจากภูเขาไฟระเบิด
ใชคําถาม ดังนี้
ท� า ให้ เ กิ ด ปรากฏการณ์ ท าง • ภูเขาไฟระเบิดพบไดในบริเวณใดของโลก
ธรรมชาติหลายอย่าง จึงควร (แนวตอบ บริเวณแนวรอยตอของแผนธรณี
ระวังและปองกันภัยอย่างมีสติ โดยเฉพาะอยางยิ่งบริเวณรอบๆ มหาสมุทร
เพื่ อ รั บ มื อ กั บ สถานการณ์ แปซิฟก ที่เรียกวา วงแหวนแหงไฟ
ฉุกเฉินที่จะเกิดขึ้น
5. หากเถ้าภูเขาไฟทับถมกันปริมาณมากอาจกีดขวางทางน�้า ซึ่งเมื่อ • ประเทศใดทีเ่ กิดภูเขาไฟระเบิดบอยครัง้ และ
ฝนตกหนักอาจจะเกิดน�้าท่วมได้ ประเทศใดที่ไมเกิดภูเขาไฟระเบิดเลย
(ที่มาของภาพ : http://www.manager.co.th)
( แนวตอบ ประเทศที่ เ กิ ด ภู เ ขาไฟระเบิ ด
ภาพที่ 3.4 ผลกระทบภูเขาไฟระเบิด บอย เชน ญี่ปุน ฟลิปปนส อินโดนีเซีย
ธรณีพิบัติภัย 41
ปาปวนิวกินี นิวซีแลนด ไอซแลนด สวน
ประเทศทีไ่ มเกิดภูเขาไฟระเบิดเลย เชน ไทย)
T47
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
1. ใหนกั เรียนสืบคนขอมูลเกีย่ วกับประเด็นตางๆ 1.3 ประโยชนและโทษของภูเขาไฟระเบิด
ดังนี้
- ความรุ น แรงของการระเบิ ด ของภู เ ขาไฟ ประโยชน์
ขึ้นอยูกับปจจัยใดบาง เกิดเกาะใหม่ขึ้นหลังจากการ 1 แผ่นดินขยายกว้างขึ้น
- ผลกระทบ ประโยชน และโทษจากภูเขาไฟ ระเบิดของภูเขาไฟใต้มหาสมุทร หรือสูงขึ้น
ระเบิด 2
เป็นแหล่งเกิดน�้าพุร้อน ดินที่เกิดหลังจากภูเขาไฟระเบิด
โดยอาจสืบคนขอมูลจากหนังสือเรียน หรือจาก จะอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุ
แหลงเรียนรูอ นื่ ๆ แลวรวมกันอภิปรายและสรุป
ความรู โทษ
2. ครูตั้งคําถามเพื่อเชื่อมโยงเขาสู เรื่อง แนวทาง
การเฝาระวัง และการปฏิบัติตนใหปลอดภัย เกิดคลื่นสึนามิ จากการระเบิด มีเขม่าควันและแกสบางชนิด
จากภูเขาไฟระเบิด ของภูเขาไฟใต้มหาสมุทร ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตได้
ï• หากนักเรียนอยูในเหตุการณภูเขาไฟระเบิด อาจท�าให้เกิดแผ่นดินไหว
เกิดการสูญเสียชีวิต
ควรปฏิบัติตนอยางไร และทรัพย์สิน
( แนวตอบ รั บ ฟ ง ข า วสารจากหน ว ยงานที่ สภาพภูมิอากาศเกิดการ
นาเชื่อถือ ใสหนากากอนามัยและแวนตา เปลี่ยนแปลง
ปองกันเถาภูเขาไฟ เตรียมเสบียง ยา และ
เครือ่ งใชทจี่ าํ เปน ไมควรอยูใ นอาคารแตควร
อพยพไปอยูในสถานที่หลบภัย)
3. ครูถามคําถาม H.O.T.S จากหนังสือเรียน หนา
42 วา คิดอยางไรกับคํากลาวที่วาภูเขาไฟเปน ภาพที่ 3.5 ประโยชน์และโทษของภูเขาไฟระเบิด
และแนวทางการปฏิบัติ
เสมือนหนาตางที่สามารถมองเห็นถึงภายใน
โลก
H. O. T. S.
คําถามทาทายการคิดขั้นสูง
คิดอย่างไรกับ
แนวตอบ H.O.T.S. ค�ากล่าวที่ว่า
การปะทุของภูเขาไฟแสดงใหเห็นวาภายใน ภูเขาไฟเป็น
เสมือนหน้าต่างที่สามารถ
โลกมีอณ
ุ หภูมสิ งู เนือ่ งจากลาวาทีไ่ หลออกจากปาก มองเห็นถึงภายในของโลก
ปลองภูเขาไฟมีความรอนสูง ภูเขาไฟยังนําหินแปลก 42
ปลอมที่อยูในเนื้อโลกขึ้นมาสูผิวโลกทําใหสามารถ
ศึกษาโครงสรางภายในโลกได
T48
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
ขยายความเขาใจ
1.4 แนวทางการเฝาระวังและการปฏิบัติตนใหปลอดภัยจากภูเขาไฟ 1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายเพื่ อ สรุ ป
ระเบิด เกี่ยวกับภูเขาไฟระเบิด โดยอาจสรุป ดังนี้
“ภูเขาไฟสวนใหญเกิดขึ้นบริเวณแนวรอย
ตอหรือรอยแยกของแผนธรณี หรือบริเวณรอย
แตกของแผนเปลือกโลก โดยเฉพาะบริเวณรอบ
มหาสมุทรแปซิฟก ที่เรียกวา วงแหวนไฟ
เมื่อเกิดภูเขาไฟระเบิดจะมีลาวาพนออกมา
จากปลองภูเขาไฟ นอกจากนี้ ยังมีชิ้นสวน
ภูเขาไฟพนออกมาดวย โดยสวนมากเปนเศษ
หิน ผลึกแร เถาภูเขาไฟ ฝุนภูเขาไฟ ไอนํ้า
และแกสตางๆ เมื่อลาวาแข็งตัวจะกลายเปน
หินภูเขาไฟ
จากขอมูลทางธรณีวิทยาพบหินภูเขาไฟใน
ประเทศไทยบริเวณจังหวัดลพบุรี กาญจนบุรี
ตราด สระบุ รี ลํ า ปาง สุ ริ น ทร ศรี ส ะเกษ
เปนตน จึงสรุปไดวาในอดีตประเทศไทยเคย
มีภูเขาไฟมากอน”
รับฟงข่าวเตือนภัยเกี่ยวกับภูเขาไฟ เมื่อมีประกาศให้อพยพหลบภัย ควรขับรถด้วยความระมัดระวังเมื่อ
ที่ออกโดยหน่วยสังเกตการณ์สภาพ ควรรีบอพยพโดยด่วน มีเถ้าภูเขาไฟอยูบ่ นถนนจ�านวนมาก 2. ใหนกั เรียนแบงกลุม กลุม ละ 3 คน สรุปความรู
อากาศ เรื่องภูเขาไฟระเบิดในรูปของแผนผังความคิด
ใหถูกตองและนาสนใจ แลวนําเสนอผลงาน
3. ครูมอบหมายการบานใหนกั เรียนทําแบบฝกหัด
จากแบบฝกหัด รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร
ใส่หน้ากากอนามัย และแว่นตา เตรียมเสบียง ยารักษาโรค เครื่องใช้ ไม่ควรหลบอยู่ในอาคารสิ่งก่อสร้าง โลก ดาราศาสตร และอวกาศ ม.4 เลม 1 หนวย
เพื่อปองกันเถ้าภูเขาไฟ ที่ จ� า เป็ น รวมทั้ ง เครื่ อ งมื อ สื่ อ สาร เพราะอาจเกิดการถล่มได้ การเรียนรู
ติดตามข่าวสาร
ขัน้ ประเมิน
ตรวจสอบผล
1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน
สวมเสื้อคลุม กางเกงขายาว และถุงมือ รวมตัวกันที่สถานที่หลบภัย 2. ครู ป ระเมิ น ผล โดยสั ง เกตการตอบคํ า ถาม
เพื่อปองกันเถ้าภูเขาไฟและความร้อน
จากการระเบิด ธรณีพิบัติภัย 43
การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน
3. ครูตรวจใบงาน เรื่อง ภูเขาไฟระเบิด
4. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัด
ความรอนไดสะดวก
3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย
4 ประโยชน์ที่ได้จากการนาเสนอ
5 วิธีการนาเสนอผลงาน
รวม
T49
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ นํา
กระตุน้ ความสนใจ
Prior Knowledge
1. ครู ก ระตุ น ความสนใจของนั ก เรี ย น โดยให แผนดินไหวมีผลตอ 2. แผ่นดินไหว
นักเรียนดูสื่อดิจิทัลเกี่ยวกับแผนดินไหวจาก สิง่ มีชวี ติ อยางไร แผ่นดินไหว (earthquake) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจาก
อินเทอรเน็ต PowerPoint หรือ TWIG เรื่อง
ธรรมชาติและการกระท�าของมนุษย์ 1ท�าให้พลังงานศักย์ที่สะสมในหินปลดปล่อยออกมาเป็น
แผนดินไหวคืออะไร https://twig-aksorn. พลังงานจลน์ในรูปของคลื่นไหวสะเทือน ซึ่งถ่ายทอดพลังงานต่อไปยังมวลหินที่อยู่ติดกัน โดยเป็น
com/film/what-is-an-earthquake-7978/ ธรณีพิบัติภัยที่มีความรุนแรงมากที่สุด
2. เพือ่ ทบทวนวัดความรูเ ดิมของนักเรียน ครูถาม
คําถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียน 2.1 การเกิดแผ่นดินไหว
หนา 44 วา แผนดินไหวมีผลตอสิง่ มีชวี ติ อยางไร แผนดินไหว (earthquake)
3. เพื่ อ วั ด ความรู เ ดิ ม ของนั ก เรี ย นก อ นเข า สู
กิจกรรม ครูถามคําถาม Prior knowledge สาเหตุที่ทําใหเกิดแผนดินไหว
T50
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
1. ใหนักเรียนสืบคนขอมูลการเกิดแผนดินไหว
แผนดินไหวครั้งรายแรง
ในหนังสือเรียนหรือแหลงขอมูลตางๆ แลวครู
ตุรกี (ทางตะวันตก) ค.ศ. 1999 อิหร่าน (ทางเหนือ) ค.ศ. 1990 ถามคําถามวา
เฮติ ค.ศ. 2010 ขนาดความรุนแรง 7.4 ริกเตอร์
ขนาดความรุนแรง 7.0 ริกเตอร์ ขนาดความรุนแรง 7.6 ริกเตอร์
ผู้เสียชีวิต 316,000 คน ผู้เสียชีวิต 17,118 คน ผู้เสียชีวิต 40,000 คน • ศูนยเกิดแผนดินไหวกับจุดเหนือศูนยเกิด
แผนดินไหวคืออะไร
จีน ค.ศ. 2008
ขนาดความรุนแรง (แนวตอบ ศูนยเกิดแผนดินไหว คือ ตําแหนง
6.1 ริกเตอร์
ผู้เสียชีวิต 87,857 คน
ที่เปนจุดกําเนิดการไหวสะเทือน สวนจุด
เหนือศูนยเกิดแผนดินไหว คือ ตําแหนงที่
อยูบนบริเวณผิวโลก ซึ่งอยูเหนือศูนยเกิด
แผนดินไหว)
2. ใหนักเรียนแบงกลุมออกเปน 5 กลุม เพื่อทํา
กิจกรรม เรื่อง แบบจําลองกระบวนการเกิด
แผนดินไหวและผลกระทบ ตามขั้นตอน ดังนี้
ขนาดความรุนแรง (ริกเตอร์)
ค.ศ.
1990 อิหร่าน (ทางเหนือ) 7.4
1) กดดินนํ้ามันแผใหเต็มบนอุปกรณชุดรอย
1993 อินเดีย 6.3
ปากีสถาน-อินเดีย ค.ศ. 2005 ญี่ปุน ค.ศ. 2011 เลื่อนจํานวน 4-5 ชั้น โดยใชดินนํ้ามัน
1999 ตุรกี (ทางตะวันตก) 7.6
2001 อินเดีย 7.7
ขนาดความรุนแรง 7.6 ริกเตอร์ ขนาดความรุนแรง ชั้นละสี
ผู้เสียชีวิต 86,000 คน 9.1 ริกเตอร์
2003
2004
อิหร่าน (ทางตะวันตกเฉียงใต้)
อินโดนีเซีย
6.6
7.1 ผู้เสียชีวิต 20,000 คน 2) วางอุปกรณตางๆ เชน ยางลบ คลิปหนีบ
2005 ปากีสถาน-อินเดีย 7.6 1 กระดาษ เหรียญ เปนตน ลงบนดินนํ้ามัน
2008 จีน 6.1 อินโดนีเซีย ค.ศ. 2004
2010 เฮติ 7.0 ขนาดความรุนแรง 7.1 ริ ริกเตอร์ เพื่ อ ใช เ ป น ตั ว แทนสิ่ ง ปลู ก สร า งและสิ่ ง
ผู้เสียชีวิตมากกว่า 230,000 คน
2011 ญี่ปุน 9.1
แวดลอม
(ที่มาของขอมูล : United States Geological Surway ; USGS) 3) ออกแรงดันกรอบไมอุปกรณชุดรอยเลื่อน
ผลกระทบ การระวังภัย ตามแนวเฉี ย ง สั ง เกตและบั น ทึ ก การ
สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ได้รับความเสียหาย ก�าหนดนโยบายการสร้างหรือต่อเติมอาคาร เปลี่ยนแปลง
บ้านเรือนให้สามารถรับแรงสั่นสะเทือน
ผู้คนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ของแผ่นดินไหว 4) ใชคัตเตอรตัดดินนํ้ามันตามแนวรอยแยก
สังเกตและบันทึกลักษณะและรูปรางของ
แผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดใต้ทะเล ฝกซ้อมเตรียมรับมือกับแผ่นดินไหว เพื่อความ
อาจท�าให้เกิดคลื่นสึนามิ เข้าใจและลดการบาดเจ็บและเสียชีวิต ชั้นดินนํ้ามัน
3. ใหนกั เรียนแตละกลุม สงตัวแทนมานําเสนอผล
การสื่อสาร การคมนาคมได้รับผลกระทบ
ให้ความรู้เกี่ยวกับภัยแผ่นดินไหว และแนวทาง การทํากิจกรรม
การรับมือกับแผ่นดินไหว เช่น เกิดแผ่นดินไหว
และเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ ห้ามใช้ลิฟต์ 4. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า
ภาพที่ 3.7 แผ่นดินไหวครั้งร้ายแรง ธรณีพิบัติภัย 45
กิจกรรม
T51
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
5. ครูถามคําถามเพื่อเชื่อมโยงเขาสูเนื้อหา โดย 2.2 ขนาดและความรุนแรงของแผ่นดินไหว
ถามวา ขนาดและความรุนแรงของแผนดินไหว ขนาดของแผ่นดินไหว (earthquake magnitude) หมายถึง ปริมาณพลังงานที่ถูกปล่อย
คืออะไร ออกมาจากจุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวในรูปคลืน่ ไหวสะเทือน สามารถตรวจวัดได้ดว้ ยเครือ่ งวัด
6. ครูใชเทคนิคเพือ่ นคูค ดิ โดยใหนกั เรียนจับคูก นั ความไหวสะเทือน (seismograph) ทีต่ ดิ ตัง้ ไว้ทสี่ ถานีตรวจวัดแผ่นดินไหว เครือ่ งมือนีจ้ ะบันทึกการ
สืบคนขอมูลเกี่ยวกับหัวขอ ดังนี้ สั่นสะเทือนของคลื่นไหวสะเทือนที่เคลื่อนที่มาถึงสถานีตรวจวัด แล้วแสดงผลเป็นกราฟเพื่อใช้ใน
- ขนาดและความรุนแรงของแผนดินไหว การวิเคราะห์ข้อมูล โดยมาตรวัดขนาดของแผ่นดินไหว มีดังนี้
- คลื่นไหวสะเทือน 1. มาตราริกเตอร์ (Richter scale) ถูกคิดค้นโดย ชาร์ล ฟรานซิส ริกเตอร์ ในปี ค.ศ. 1935
โดยนักเรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือ มีวธิ คี า� นวณหาขนาดของแผ่นดินไหวจากแอมพลิจดู สูงสุดทีเ่ ครือ่ งวัดความไหวสะเทือนตรวจวัดได้
และรายงานขนาดแผ่นดินไหวเป็นตัวเลข มาตรานี้ไม่มีค่าสูงสุด แต่โดยทั่วไปวัดขนาดได้ที่ 0-9
แหลงเรียนรูอื่นๆ แลวนําขอมูลมาแลกเปลี่ยน
เช่น แผ่นดินไหวขนาด 5.0 ตามมาตราริกเตอร์
ความคิดเห็น และรวมกันตั้งประเด็นคําถาม 2. มาตราโมเมนต์แผ่นดินไหว (moment magnitude scale) ถูกคิดค้นโดย โทมัส แฮงค์ และ
เกี่ยวกับเรื่องที่สืบคนมา อยางนอยกลุมละ 2 ฮิรูโอะ คานาโมริ ในปี ค.ศ. 1979 มีวิธีค�านวณหาขนาดของแผ่นดินไหวจากพื้นที่การเลื่อนตัวของ
คําถาม รอยเลื่อนและสมบัติของหินที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว และรายงานขนาดแผ่นดินไหว
7. ใหนักเรียนรวมกลุมกับเพื่อนอีกคูหนึ่ง รวม เป็นตัวเลข เช่น แผ่นดินไหวขนาด 5.0 ตามมาตราโมเมนต์แผ่นดินไหว
เปน 4 คน แลวแลกเปลี่ยนกันถามคําถามที่ ความรุนแรงของแผ่นดินไหว (earthquake intensity) หมายถึง ความรุนแรงจากการ
ตั้งไว จากนั้นรวมกันสรุปเพื่อเตรียมนําเสนอ สั่นสะเทือนโดยบอกระดับความรุนแรงจากลักษณะการสั่นสะเทือน ความเสียหายต่อมนุษย์ และ
หนาชั้นเรียน สิ่งปลูกสร้างเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งมาตราที่นิยมใช้บอกความรุนแรงของแผ่นดินไหว คือ มาตรา
8. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมานํา เมอร์คัลลีที่ปรับปรุงแล้ว (modified mercalli scale) มีระดับความรุนแรง 12 ระดับ ดังตาราง
1
เสนอคําถามของกลุมตนเอง โดยใหนักเรียน ตารางที่ 3.1 : มาตราเมอร์คัลลีที่ปรับปรุงแล้ว
ทั้ ง ห อ งร ว มกั น ตอบคํ า ถาม และอภิ ป ราย ระดับความรุนแรง ลักษณะความรุนแรง
รวมกัน I เป็นระดับที่อ่อนแอมากต้องตรวจวัดโดยเครื่องมือเท่านั้น
II ผู้ที่อยู่นิ่ง ๆ ในอาคารสูงพอรู้สึกได้
III ผู้ที่อยู่ในบ้านพอรู้สึกได้แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้สึก
IV ผู้ที่อยู่ในบ้านรู้สึกว่าของในบ้านสั่นไหว
V รู้สึกได้เกือบทุกคน และของในบ้านเริ่มแกว่งไกว
VI รู้สึกได้ทุกคน และของในบ้านเริ่มเคลื่อนไหว
VII สิ่งก่อสร้างทั่วไปเริ่มได้รับความเสียหาย
VIII สิ่งก่อสร้างทั่วไปได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก
IX สิ่งก่อสร้างที่ออกแบบไว้อย่างดีได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก
X สิ่งก่อสร้างที่ออกแบบไว้อย่างดีพังทลาย รางรถไฟบิดงอ
XI สิ่งก่อสร้างทั้งหมดพังทลาย รางรถไฟบิดงอมาก
XII ทุกสิ่งทุกอย่างเสียหาย แนวระดับต่าง ๆ บิดเบี้ยว วัตถุปลิวขึ้นไปในอากาศ
46
T52
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
ขยายความเขาใจ
2.3 คลื่นไหวสะเทือน 1. ครู นํ า ภาพแผนที่ แ สดงรอยเลื่ อ นมี พ ลั ง ที่
คลื่นไหวสะเทือน (seismic waves) หรือคลื่นแผ่นดินไหว (earthquake waves) เป็นคลื่น พาดผานจังหวัดตางๆ ในประเทศไทยมาให
ที่มีความถี่ต�่า ซึ่งถ่ายทอดพลังงานผ่านชั้นหินภายในโลก แบ่งตามลักษณะการเคลื่อนที่ของคลื่น นักเรียนดู แลวถามคําถามใหนักเรียนรวมกัน
ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ คลื่นในตัวกลาง และคลื่นพื้นผิว แสดงความคิดเห็น
คลื่นปฐมภูมิ คลื่นทุติยภูมิ • จากแผนที่แสดงรอยเลื่อนมีพลังที่พาดผาน
(primary wave ; p wave) (secondary wave ; s wave) จังหวัดตางๆ ในประเทศไทย นักเรียนคิดวา
คลื่นตามยาวที่เคลื่อนที่ผ่าน คลื่นตามขวางที่เคลื่อนที่ผ่าน
ตัวกลางได้ทุกสถานะ ตัวกลางที่เป็นของแข็ง จังหวัดใดบางที่ตั้งอยูบนแนวเขตรอยเลื่อน
(แนวตอบ รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย
ครอบคลุม 22 จังหวัด ไดแก เชียงใหม
คลื่นในตัวกลาง (body wave)
คลื่นที่เดินทางทะลุจากจุดก�าเนิดแผ่นดินไหว และหักเหหรือ เชียงราย แพร แมฮองสอน กําแพงเพชร
สะท้อนเมื่อผ่านโครงสร้างของโลกที่มีความหนาแน่นหรือสมบัติ ตาก นาน พะเยา พิษณุโลก ลําปาง ลําพูน
ต่างกัน
อุ ต รดิ ถ ต กระบี่ ชุ ม พร พั ง งา ระนอง
คลื่นพื้นผิว (surface wave)
คลื่นที่เดินทางไปตามผิวโลก โดยแผ่ออกมาจากจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว สุราษฎรธานี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ
ภาพที่ 3.8 คลื่นไหวสะเทือน สุพรรณบุรี นครพนม และหนองคาย)
แผ่นดินไหวก่อให้เกิดคลื่นไหวสะเทือนหลายชนิด ซึ่งนักวิทยาศาสตร์สามารถใช้ผลต่าง ขัน้ ประเมิน
ของระยะเวลาที่คลื่นใช้เดินทางมายังเครื่องรับ เพื่อระบุ เหนอ� ศนู ยเ กดิ แผน ดนิ ไ ตรวจสอบผล
จดุ หว
พิกัดของศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวได้ ในขณะที่
นักธรณีฟสิกส์ใช้สมบัติการหักเหของคลื่น เพื่อ 1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม
วิเคราะห์โครงสร้างภายในโลก โดยพิจารณา การรวมกันทําผลงาน และจากการนําเสนอ
แกน โลกชนั้ นอก
จากการที่คลื่นไหวสะเทือนที่เคลื่อนที่ผ่าน ั
ก ษ ณะเปน ของเหลวหน ผลงาน
มลี �
โครงสร้างภายในโลกที่มีความหนาแน่น 2. ครูตรวจผลการทํากิจกรรมเรื่อง แบบจําลอง
ด
แกนโลกชั้นใน
แตกต่างกันท�าให้คลื่นไหวสะเทือนเกิด ลักษณะเปนของแข็ง
กระบวนการเกิดแผนดินไหวและผลกระทบ
การหั ก เหและอั ต ราเร็ ว ของคลื่ น ก็ 105 ํ 105 ํ 3. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัด
ื่น p
เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเหตุนี้ท�าให้
เขตป
ดคล
ลอด
ี่พบ
ปลอ
บางบริเวณไม่มีคลื่นไหวสะเทือนเคลื่อนที่
คลื่น
วณท
เข ต
p
บ ร ิเ
5. คลืน่ ไหวสะเทือนมี 2 ประเภท คือ คลืน่ ปฐมภูมิ และคลืน่ แบบประเมินการปฏิบัติกจิ กรรม แผนฯ ที่ 1-3
คาชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินการปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียนตามรายการที่กาหนด แล้วขีด ลงในช่องที่ตรง
รายการประเมิน
4
ระดับคะแนน
3 2 1
1 การปฏิบัติกิจกรรม
ซึ่งแบงยอยออกเปนคลื่นปฐมภูมิ ซึ่งเดินทางผานตัวกลางได
ทุกสถานะ และคลืน่ ทุตยิ ภูมิ ซึง่ เดินทางผานตัวกลางทีเ่ ปนของแข็ง
เทานั้น 2. คลื่นพื้นผิว เปนคลื่นที่เดินทางไปตามผิวโลก ดังนั้น
ตอบขอ 3.)
94
T53
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ นํา
กระตุน้ ความสนใจ
1. ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา คลื่นสึนามิมี Prior Knowledge
ลักษณะอยางไร สึนามิเมือ่ ป พ.ศ. 2547 3. สึนามิ
2. ครูตั้งคําถามกระตุน โดยใหนักเรียนชวยกัน สรางความเสียหายตอ สึนามิ (tsunami) คือ คลืน่ ทะเลทีม่ คี วามยาวคลืน่ มากกว่า
ระดมความคิดในการตอบคําถาม ประเทศไทยอยางไรบาง
หรือเท่ากับ 10 กิโลเมตร เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 500 ถึง 1,000
ï• คลื่นสึนามิกับคลื่นนํ้าทั่วไปในมหาสมุทร กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่ออยู่บริเวณกลางทะเล แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณชายฝงคลื่นจะมีความเร็วลดลง
แตกตางกันอยางไร และก่อตัวสูงขึ้น โดยอาจมีความสูงมากกว่า 30 เมตร
(แนวตอบ คลืน่ นํา้ ทัว่ ไปเกิดจากกระแสลมพัด
มวลนํ้าบริเวณผิวนํ้า ซึ่งมีคาบการเดินทาง 3.1 การเกิดสึนามิ
และความยาวคลื่นนอยกวาคลื่นสึนามิ)
สึนามิ (tsunami)
T54
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
ใหนักเรียนทํากิจกรรม เรื่อง การเปลี่ยนแปลง
สึนามิครั้งรายแรง ระดับนํ้าเมื่อเกิดสึนามิ ตามขั้นตอน ดังนี้
ชายฝงอะแลสกา ค.ศ. 1964 1. แบงกลุม กลุมละ 4 - 5 คน แลววาดภาพ
ฟลิปปนส์ ค.ศ. 1976 ญี่ปุน ค.ศ. 2011 แผ่นดินไหวขนาด 9.2 ริกเตอร์
แผ่นดินไหวขนาด 7.9 ริกเตอร์ แผ่นดินไหวขนาด 9.0 ริกเตอร์ มีผูเสียชีวิตกวา 100 คน บริเวณชายฝง ทะเลลงบนกระดาษ A4 โดยใหแนว
มีผูเสียชีวิตกวา 5,000 คน มีผูเสียชีวิตกวา 25,000 คน
ชายฝงอยูดานขวาของภาพ และวาดนํ้าทะเลเปน
เสนตรงในแนวเดียวกับชายฝง
2. ใหแตละกลุมวาดเสนแสดงระดับนํ้าทะเล
ตามเหตุการณ ดังนี้
1) เวลา 10.30 น. นํ้าทะเลลดลงอยาง
รวดเร็ว โดยลดลงไปจากแนวชายหาด
กวา 100 เมตร
2) เวลา 10.35 น. คลื่นสูงประมาณ 2 - 3
เมตร ซัดกระทบชายฝง
มหาสมุทรอินเดีย ค.ศ. 2004 3) เวลา 10.55 น. คลื่นสูงกวา 10 เมตร
แผ่นดินไหวขนาด 9.3 ริกเตอร์ ปาปวนิวกินี ค.ศ. 1998
มีผูเสียชีวิตกวา 230,000 คน แผ่นดินไหวขนาด 7.1 ริกเตอร์
มีผูเสียชีวิตกวา 2,000 คน
ชิลี ค.ศ. 1960 ซั ด กระทบชายฝ ง อย า งต อ เนื่ อ งเป น
ภาพที่ 3.11 ประเทศที่เกิดสึนามิครั้งร้ายแรง แผ่นดินไหวขนาด 9.5 ริกเตอร์
(ที่มาของขอมูล : https://www.brainz.org/10- มีผูเสียชีวิตกวา 6,000 คน เวลากวา 20 นาที
most-devastating-tsunamis-recent-history/) ดาวเทียมอิริเดียม 4) เวลา 11.10 น. คลืน่ สูงประมาณ 5 เมตร
(Iridium Satellite)
ส่งข้อมูลไปยังศูนย์เตือนภัยสึนามิบนฝง ซั ด กระทบชายฝ ง ทํ า ให เ กิ ด นํ้ า ท ว ม
ระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิแบบทุนลอย
(Deep Ocean Assessment and Reporting เปนเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้น
Assessment of Tsunami System : DART)
ระดับนํ้าทะเลจึงกลับสูสภาวะปกติ
อธิบายความรู้
ทุนลอย (buoy)
ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายผลจากการ
เก็บข้อมูลความเร็วลม อุณหภูมิ ทํ า กิ จ กรรม เรื่ อ ง การเปลี่ ย นแปลงระดั บ นํ้ า
และความกดอากาศ แล้วส่งข้อมูล
ไปยังดาวเทียม เมื่อเกิดสึนามิ โดยมีแนวการอภิปราย ดังนี้
“เราสามารถสั ง เกตเหตุ ก ารณ สึ น ามิ ไ ด จ าก
เครื่องตรวจวัดความดันนํ้า ระดั บ นํ้ า ทะเลที่ เ ปลี่ ย นแปลงไปอย า งผิ ด ปกติ
(Bottom Pressure Recorder : BPR)
ส่งข้อมูลความดันน�้าทะเล การสั่นสะเทือน
โดยระดับนํ้าทะเลจะลดลงอยางมาก เปนเสมือน
ของเปลือกโลก และการเปลี่ยนแปลงของ สัญญาณเตือนภัยวาใหรีบอพยพขึ้นที่สูงใหเร็ว
คลื่นทะเลไปยังทุ่นลอยบนผิวน�้า
ที่สุด หลังจากนั้นไมนานนํ้าทะเลที่ถอยรนไปนั้น
49
ภาพที่ 3.12 ระบบเตือนภัยสึนามิ
ธรณีพิบัติภัย
จะเคลื่อนเขากระทบชายฝงอยางรวดเร็ว ซึ่งอาจ
มีคลื่นสึนามิหลายลูกติดตอกัน”
T55
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
ขยายความเข้าใจ
1. ครูใหนักเรียนแตละคนศึกษาแนวปฏิบัติเมื่อ 3.2 แนวปฏิบัติเมื่อเกิดสึนามิและแนวทางปองกันภัยจากสึนามิ
เกิดสึนามิ และแนวทางปองกันภัยจากสึนามิ
จากหนังสือเรียนหรือแหลงเรียนรูตางๆ แนวปฏิบัติเมื่อเกิดสึนามิ
2. ครู ตั้ ง ประเด็ น คํ า ถามให นั ก เรี ย นร ว มกั น Wooo.. Wooo..
อภิปรายวา เราจะลดความสูญเสียที่เกิดจาก
สึนามิไดอยางไร โดยมีแนวทางการอภิปราย
ดังนี้
หากได้รบั สัญญาณเตือนภัย หากเห็นระดับน�้าทะเล หากเรืออยู่ในทะเล ให้
“สึนามิเปนภัยพิบัติทางธรรมชาติที่สามารถ สึนามิให้รีบออกจากพื้นที่ ลดลงผิดปกติให้อพยพ น�าเรือไปอยู่บริเวณกลาง
ระวังภัยไดดวยการสังเกต นั่นคือ หากอยู เสี่ยงภัยทันที ไปอยู่ที่สูง ทะเลที่มีระดับน�้าลึก
บริเวณชายฝงแลวรูสึกถึงแรงสั่นสะเทือน หรือ
เห็นสัตวมพี ฤติกรรมผิดปกติ ใหรบี ฟงสัญญาณ
แนวทางปองกันภัยสึนามิ
เตือนภัยหรือขาวสารจากศูนยเตือนภัยพิบัติ
แหงชาติ หรือหากเห็นระดับนํ้าทะเลลดลง
ผิดปกติอยางมาก ควรรีบอพยพไปอยูบริเวณ
ที่สูงทันที และหากมีการซอมเหตุการณสึนามิ ติดตามข่าวสารภัยพิบตั จิ าก ศึ ก ษาวิ ธี ก ารป อ งกั น หลี ก เลี่ ย งการก่ อ สร้ า ง
ก็ควรเขารวมเสมอ เพือ่ ทราบตําแหนงและเสน แหล่งต่าง ๆ อย่างสม�า่ เสมอ และบรรเทาภั ย จาก อาคารบ้านเรือนบริเวณ
ทางไปยังสถานทีป่ ลอดภัย ซึง่ จะชวยลดความ สึนามิ พื้นที่เสี่ยงภัย
สูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพยสินได” Science ภาพที่ 3.13 แนวทางปฏิบัติและแนวปองกันภัยจากสึนามิ
3. ครูกลาวเพื่อใหนักเรียนไดลองสังเกตวาการ Focus สึนามิเมื่อ 26 ธันวาคม 2547
เกิดแผนดินไหวกับสึนามิเกี่ยวของกันอยางไร เมื่อเวลาประมาณ 7.58 น. ของวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 9.0
โดยมีแนวทางการอภิปราย ดังนี้ ริกเตอร์ ซึ่งมีศูนย์กลางการเกิดอยู่ในทะเลนอกชายฝงตะวันตกตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศ
“แผ น ดิ น ไหวกั บ สึ น ามิ มั ก เกิ ด ขึ้ น บริ เ วณ อินโดนีเซีย ส่งผลให้เกิดสึนามิในมหาสมุทรอินเดียซัดเข้าชายฝง ของประเทศอินโดนีเซีย ศรีลงั กา อินเดีย
เดี ย วกั น โดยส ว นมากเกิ ด ขึ้ น บริ เ วณรอบ โซมาเลีย ไทย มัลดีฟส์ เมียนมา แทนซาเนีย บังกลาเทศ และเคนยา มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 230,000
คน และสูญหายหลายพันคน
มหาสมุทรแปซิฟกที่เรียกวา วงแหวนแหงไฟ” แผ่นดินไหวนี้เกิดจากการเคลื่อนที่ของมวลหินเป็นแนวยาวประมาณ 1,200 กิโลเมตร ขนาน
กับแนวล่องลึกซุนดา ซึ่งเป็นแนวมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกอินเดียเข้าไปใต้แผ่นเปลือกโลกย่อย
เมียนมา (ส่วนหนึ่งของแผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย)
(ที่มา : สรุปขอมูลจากสารานุกรมไทยสําหรับเยาวชน
http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php? book=30&chap=8&page=t30-8-infodetail05.html)
50
T56
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
Summary ขยายความเขาใจ
1. ครูตงั้ คําถามเพือ่ ใหนกั เรียนรวมกันอภิปรายวา
ธรณีพบิ ตั ภิ ยั ï• หากเกิดเหตุการณคลื่นสึนามิ นักเรียนควร
ปฏิบัติตนอยางไร
ภูเขาไฟระเบิด (แนวตอบ การปฏิบัติตนเพื่อเตรียมรับมือกับ
ใต้ชั้นเปลือกโลกบางบริเวณมีหินหนืดที่ร้อนจัดไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีรอยแยกในหินเปลือกโลก สึนามิ มีดังนี้
หินหนืดจึงดันตัวออกมาตามรอยแยกได้ และด้วยแรงอัดของแกสที่สะสมความดันไว้ในแมกมา จึงท�าให้ 1. ศึกษาขอมูลเกี่ยวกับอันตรายจากสึนามิ
แมกมาเกิดการดันตัวผ่านหินในเปลือกโลกจึงท�าให้เกิดภูเขาไฟระเบิด
2. เตรียมอุปกรณเอาตัวรอดไว เชน อาหาร
นํ้า ชุดปฐมพยาบาลเบื้องตน มีแผนการ
แกสต่าง ๆ ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์
ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และไอน�้า
อพยพ
ปากปล่องภูเขาไฟ หินหนืดแทรกตัวขึ้นมาตามรอยแยกของหิน 3. ฝกสังเกตสิ่งรอบตัวอยูเสมอ เพราะกอน
หินละลายหรือลาวา (lava)
เกิดสึนามิจะมีเหตุการณทางธรรมชาติที่
กรวยปะทุย่อย คื อ หิ น หนื ด ที่ ดั น ตั ว ออกมาสู ่ ผิ ว โลกมี อุ ณ หภู มิ จะเปนตัวเตือนภัยลวงหนาได เชน การ
ประมาณ 900 -1,300 �C ซึ่งการไหลของลาวาขึ้น
อยู่กับองค์ประกอบของลาวา โดยหากมีแกสเป็น ลดลงของระดับนํ้าทะเลอยางรวดเร็ว
องค์ประกอบอยู่มาก จะไหลได้เร็วและไกล แต่หาก 4. รับ ฟงการแจง เตือนภัยจากหน วยงาน
มีแกสเป็นองค์ประกอบอยูน่ อ้ ยจะไหลได้ชา้ และใกล้
การไหลเวียนของหินหนืดในชั้นเนื้อโลก
ราชการ
ภาพที่ 3.14 ภูเขาไฟระเบิด 5. หากคลื่นสึนามิกําลังเคลื่อนที่เขาใกล
แผนดินไหว ชายฝง ใหรีบออกหางจากบริเวณชายฝง
แผ่นดินไหว ปรากฏการณ์ที่เกิดจากธรรมชาติ ขนาดของแผ่นดินไหว คือ ปริมาณพลังงานที่ถูก ใหเร็วที่สุด และหนีขึ้นที่สูง
และการกระท�าของมนุษย์ทา� ให้พลังงานศักย์ทสี่ ะสม ปล่อยออกมาจากจุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว 6. หากกําลังจะจมนํา้ ใหมองหาสิง่ ทีส่ ามารถ
ในหินปลดปล่อยออกมาเป็นพลังงานจลน์ในรูปของ ในรูปของคลื่นไหวสะเทือน มีหน่วยวัดเป็นขนาด ลอยนํ้าไดและเกาะไวใหแนน
คลื่นไหวสะเทือน โมเมนต์ เมอร์คัลลี หรือริกเตอร์
เปลือกโลกภาคพื้นทวีป
2. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป เนื้ อ หาเกี่ ย วกั บ
เคลื่อนที่แยกจากกัน เปลือกโลกภาคพื้นทวีปเคลื่อนที่ชนกัน ภูเขาไฟ แผนดินไหว และสึนามิ จากนั้นให
เปลือกโลกภาคพื้นทวีปเคลื่อนที่
ชนกับเปลือกโลกภาคพื้นมหาสมุทร
นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน
เปลือกโลกภาคพื้นมหาสมุทร
เคลื่อนที่แยกจากกัน
เปลือกโลกเคลื่อนที่
ขัน้ ประเมิน
คลื่นไหวสะเทือน สวนทางกัน ตรวจสอบผล
(seismic waves) : คลื่นความถี่
ต�่าที่ถ่ายทอดพลังงานผ่านชั้นหิน 1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม
จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน
(epicenter) : จุดที่อยู่บริเวณผิวโลก จุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว
(focus) : มักเกิดตามรอยเลือ่ นใน 2. ครูตรวจและประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม
ระดับความลึกต่าง ๆ จากผิวโลก
ธรณีพิบัติภัย 51 การเปลี่ยนแปลงระดับนํ้าเมื่อเกิดสึนามิ
ภาพที่ 3.15 แผ่นดินไหว
3. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัด
4. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน
5. คลื่นจะเกิดการสะทอนกลับหมดภายในโลก ลาดับที่
กับระดับคะแนน
รายการประเมิน
4
ระดับคะแนน
3 2 1
(วิเคราะหคําตอบ เมื่อคลื่นเคลื่อนที่ผานตัวกลางตางชนิดกัน
1 การปฏิบัติกิจกรรม
2 ความคล่องแคล่วในขณะปฏิบัติกิจกรรม
3 การนาเสนอ
รวม
94 T57
นํา สอน สรุป ประเมิน
ุด
3. เครื่องไซโมกราฟเปนเครือ่ งทีใ่ ชวดั แรงสัน่ สะเทือนของแผนดินไหว 2.
สม
3. ภูเขาไฟอังคาร จังหวัดบุรีรัมย ลง
ใน
4. ภูเขาไฟดอยผาคอกจําปาแดด 4. คลื่ น ไหวสะเทื อ นเป น คลื่ น ที่ มี ค วามถี่ สู ง ซึ่ ง ถ า ยทอดพลั ง งานผ า น 2.
ทึ ก
บั น
ชั้นหินภายในโลก
จังหวัดลําปาง
5. แผนดินไหวใตทะเล ภูเขาไฟระเบิดใตทะเล อุกกาบาตพุง ชนโลก แผนดิน 3.
5. ภูเขาไฟดอยหินคอกผาฟู จังหวัดลําปาง ถลมใกลชายฝง เปนสาเหตุที่ทําใหเกิดคลื่นสึนามิ
6. ภูเขาไฟกระโดง จังหวัดบุรีรัมย
7. ภูเขาไฟไบรบัด จังหวัดบุรีรัมย 52
8. ภูเขาไฟคอก จังหวัดบุรีรัมย
4. ประโยชนของการเกิดภูเขาไฟระเบิด เชน
- แผนดินขยายกวางขึ้นหรือสูงขึ้น
- เกิดเกาะใหมภายหลังการเกิดภูเขาไฟปะทุใตทะเล
- ดินมีความอุดมสมบูรณดวยแรธาตุตางๆ
- เปนแหลงเกิดนํ้าพุรอน
โทษของการเกิดภูเขาไฟระเบิด เชน
- เขมาควันและแกสบางชนิดเปนอันตรายตอสิ่งมีชีวิต
- อาจทําใหเกิดแผนดินไหว
- เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพยสินของมนุษยและสัตว
5. พิจารณาจากคําตอบของนักเรียน ตัวอยางเชน
- แผนดินไหวที่ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลาประมาณ 11.56 น.
ï- เกิดจากการเคลื่อนที่ชนกันระหวางแผนเปลือกโลกอินเดียกับแผนเปลือกโลกยูเรเชีย
- ขนาด 7.8 แมกนิจูด
- มีผูเสียชีวิตมากกวา 7,000 ราย บาดเจ็บมากกวา 14,000 ราย อาคารสิ่งกอสรางเสียหายจํานวนมาก
T58
นํา สอน สรุป ประเมิน
6. ประเทศไทยตั้งอยูนอกเขตแนวรอยตอของแผน
U nit
คําชี้แจง :
Question 3
ให นั ก เรี ย นตอบคํ า ถามต่ อ ไปนี้
เปลือกโลก โอกาสที่จะเกิดแผนดินไหวขนาด
ใหญจึงมีคอนขางนอย ซึ่งอาจเกิดแผนดินไหว
ไดบางโดยมีสาเหตุมาจากรอยเลื่อนมีพลังที่อยู
1. อธิบายการเกิดภูเขาไฟระเบิดว่ามีสาเหตุมาจากอะไร ในภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต แต
สวนมากมักจะไดรับผลกระทบจากแผนดินไหว
2. ภูเขาไฟระเบิดที่ร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นที่ประเทศใดบ้าง ยกตัวอย่างและอธิบาย
บริเวณใกลเคียง เชน ประเทศจีน เมียนมา ลาว
3. ในประเทศไทยมีการเกิดภูเขาไฟระเบิดหรือไม่ และถ้าหากเคยเกิดขึ้น เกิดขึ้นที่จังหวัดใด บริเวณทะเลอันดามัน บริเวณตอนเหนือของเกาะ
4. ประโยชน์และโทษของการเกิดภูเขาไฟระเบิดมีอะไรบ้าง สุมาตรา
5. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่นักเรียนสนใจ แล้วสรุปความรู้ในประเด็นที่ 7. แนวทางปฏิบัติตนเมื่อเกิดแผนดินไหว มีดังนี้
ก�าหนดให้ ดังนี้ 1. อยาตื่นตกใจ พยายามควบคุมสติอยูอยาง
สงบ หากอยูในบานก็ใหอยูในบาน หากอยู
• เหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นบริเวณใด และช่วงเวลาใด
นอกบานก็ใหอยูนอกบาน เพราะสวนใหญ
• สาเหตุที่ท�าให้เกิดแผ่นดินไหว
มักไดรับบาดเจ็บเพราะวิ่งเขาออกจากบาน
• ขนาดของแผ่นดินไหวที่วัดได้
2. หากอยูใ นบานใหยนื หรือหมอบอยูใ นสวนของ
• ผลกระทบทีเ่ กิดจากแผ่นดินไหว
บานที่มีโครงสรางแข็งแรงที่สามารถรับนํ้า
6. ในประเทศไทยเคยเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวหรือไม่ และหากเคยเกิดขึน้ แล้วมีสาเหตุมาจากสิง่ ใด หนักไดมาก และใหอยูห า งจากประตู ระเบียง
7. จงเสนอแนวทางปฏิบัติตนเมื่อเกิดแผ่นดินไหว และหนาตาง
3. หากอยูในอาคารสูง ควรตั้งสติและรีบออก
8. อธิบายการเกิดสึนามิ และในประเทศไทยเคยเกิดเหตุการณ์สึนามิหรือไม่ จงอธิบาย
จากอาคารโดยเร็ว หนีใหหางจากสิ่งที่อาจ
9. ประโยชน์และโทษของการเกิดสึนามิมีอะไรบ้าง ลมทับได
10. จงเสนอแนวทางปฏิบัติตนเมื่อเกิดสึนามิ 4. ถาอยูในที่โลงแจง ใหอยูหางจากเสาไฟฟา
และสิ่งหอยแขวนตางๆ
5. อยาใช เทียน ไมขีดไฟ หรือสิ่งที่ทําใหเกิด
ประกายไฟ เพราะอาจมีแกสรัว่ อยูบ ริเวณนัน้
6. หากทานกําลังขับรถใหหยุดรถและอยูภ ายใน
รถ จนกระทั่งการสั่นสะเทือนจะหยุด
7. หามใชลิฟตโดยเด็ดขาด
8. หากอยูบ ริเวณชายหาด ใหอยูห า งจากชายฝง
เพราะอาจเกิดคลื่นขนาดใหญซัดเขาหาฝง
ธรณีพิบัติภัย 53
T59
Chapter Overview
แผนการจัด คุณลักษณะ
สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้
การเรียนรู้ อันพึงประสงค์
แผนฯ ที่ 1 - แบบทดสอบก่อนเรียน 1. อธิบายความหมาย - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
การล�ำดับชั้นหิน - หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่ม และหลักการล�ำดับ หาความรู้ - ประเมินการท�ำกิจกรรมการ - ทกั ษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
เติมวิทยาศาสตร์ โลก ชั้นหิน (K) (5Es In- เคลื อ
่ นที ข
่ องแผ่ น ธรณี ภ าค ค้ น หา - มุ่งมั่นในการ
2 ดาราศาสตร์ และอวกาศ 2. สืบค้นข้อมูล structional - ตรวจและประเมินการท�ำ - ทักษะการวิเคราะห์ ท�ำงาน
ม.4 เล่ม 1 เกีย่ วกับการ Model) กิจกรรมจากใบกิจกรรม เรื่อง
ชั่วโมง
- แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่ม จ�ำแนกหน่วยหิน หน่วยหินในประเทศไทย
เติมวิทยาศาสตร์ โลก ในประเทศไทย(P) - ตรวจและประเมินการน�ำ
ดาราศาสตร์ และอวกาศ 3. สนใจใฝ่รู้ในการ เสนอใบงาน เรื่อง การล�ำดับ
ม.4 เล่ม 1 ศึกษา (A) ชั้นหิน
- ใบงาน - ตรวจและประเมินแผนผัง
- ใบกิจกรรม ความคิด
- PowerPoint - ตรวจแบบฝึกหัด
- RQ code - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น กลุ่ม
Twig
แผนฯ ที่ 2 - แบบทดสอบหลังเรียน 1. อธิบายหลักการ - แบบสืบเสาะ - ตรวจและประเมินการท�ำ - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
การหาอายุทาง - หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่ม และวิธีการหาอายุ หาความรู้ กิจกรรมจากใบกิจกรรม เรื่อง - ทักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
ธรณีวิทยา เติมวิทยาศาสตร์ โลก ทางธรณีวิทยา (K) (5Es In- การวางตัวของหินตะกอน ค้นหา - มุ่งมั่นในการ
ดาราศาสตร์ และอวกาศ 2. อธิบายการน�ำหลัก structional เรื่องการตัดผ่านของรอย - ทักษะการวิเคราะห์ ท�ำงาน
6 ม.4 เล่ม 1 การล�ำดับชั้นหินมา Model) เลื่อนและหินอัคนี และเรื่อง
ชั่วโมง
- แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่ม ใช้ในการหาอายุ รอยชั้นไม่ต่อเนื่อง
เติมวิทยาศาสตร์ โลก เปรียบเทียบ (K) - ตรวจใบงานที่ เรื่อง การหา
ดาราศาสตร์ และอวกาศ 3. สืบค้นข้อมูลเกี่ยว อายุทางธรณีวิทยา
ม.4 เล่ม 1 กับซากดึกด�ำบรรพ์ - ตรวจแบบฝึกหัด
- ใบงาน และการหาอายุ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน
- ใบกิจกรรม สัมบูรณ์ (P) - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน
- PowerPoint 4. สนใจใฝ่รู้ในการ กลุ่ม
- RQ code ศึกษา (A) - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น รายบุคคล
Twig
T60
Chapter Concept Overview
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
การลําดับชั้นหิน
การจําแนกหนวยหิน
จัดลําดับหินจากหนวยใหญไปยังหนวยยอย ไดแก กลุมหิน (group) หมวดหิน (formation) หมูหิน (member) และชั้นหิน (bed)
การลําดับชั้นและการกระจายตัวของหิน
กลุมหิน กลุมหิน กลุมหิน
บรมยุคพรีแคมเบรียน มหายุคพาลีโอโซอิกตอนตน มหายุคพาลีโอโซอิกตอนกลาง
กลุมตะรุเตา และกลุมทุงสง กลุมทองผาภูมิ และกลุมปากชม
การหาอายุทางธรณีวิทยา
อายุเปรียบเทียบ อายุสัมบูรณ
ศึกษาจากการจัดลําดับชั้นหิน ซึ่งวิธีการนี้ วิเคราะหและคํานวณจากไอโซโทป
จะไมสามารถระบุอายุเปนปที่แนชัดได ของธาตุกัมมันตรังสีที่อยูในวัตถุทาง
ธรณีวิทยา
ตารางธรณี
ตารางธรณีกาล (geologic time scale : GTS) 1 บรมยุคพรีแคมเบรียน 8 ยุคไทรแอสซิก
เปนการลําดับอายุทางธรณีวิทยานับตั้งแตโลก 9
กําเนิดขึ้นเมื่อ 4,600 ลานปกอน ซึ่งตาราง 10 8 2 ยุคแคมเบรียน 9 ยุคจูแรสซิก
จะประกอบดวย บรมยุค (Eon) มหายุค 3 ยุคออรโดวิเชียน 10 ยุคครีเทเชียส
(Era) ยุค (Period) อนุยุคหรือสมัย 2 11 7 4 ยุคไซลูเรียน 11 ยุคพาลีโอจีน
(Epoch) อายุ (Age) และรุน 3 5 ยุคดีโวเนียน 12 ยุคนีโอจีน
(Chron) ตามลําดับ 4 5 6 12
13 6 ยุคคารบอนิเฟอรัส 13 ยุคควอเทอรนารี
1
7 ยุคเพอรเมียน
T61
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ นํา
ลําดับชัน้ หิน
กระตุน ความสนใจ
1. ครูนําเขาสูชั่วโมงเรียนโดยถามคําถาม Big หน่วยการเรียนรู้ที่
Question จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม
วิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร และอวกาศ
ม.4 เลม 1 หนา 54 วา ลําดับชั้นหินสามารถ
บอกอะไรกับเราไดบาง
2. ครูใหนกั เรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน เพือ่ วัด ผลการเรียนรู
4 การเปลี่ยนแปลง ทางธรณีวิทยานั้นเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยซึ่ง
ความรูของนักเรียยนกอนเขากิจกรรม 7. วิเคราะห์หลักฐานทางธรณีวิทยา เป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ
ที่พบในปัจจุบัน และอธิบายล�าดับ และใช้เวลายาวนานนับล้านปี ไม่สามารถสังเกตได้ภายใน
3. ครูตั้งคําถามกระตุนความคิดโดยใหนักเรียน เหตุการณ์ทางธรณีวิทยาในอดีต
ช่วงชีวิตของมนุษย์ การตรวจสอบกระบวนการทางธรณีวิทยา
ชวยกันระดมความคิดในการตอบคําถาม จึงต้องอาศัยหลักการทางธรณีวิทยาประกอบกับปรากฏการณ์
• ถาตองการทราบเหตุการณที่เกิดขึ้นในอดีต ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
นักเรียนจะทําอยางไร
(แนวตอบ คนหาขอมูลจากหองสมุด หรือ
สืบคนจากอินเทอรเน็ต)
• ถาเหตุการณที่เกิดขึ้นในอดีต ยาวนานนับ
ลานป นักเรียนจะทําอยางไร
(แนวตอบ ศึกษาไดจากซากดึกดําบรรพ หรือ
รองรอยที่ปรากฏใหเห็นในปจจุบัน)
• นักวิทยาศาสตรมีวิธีการอยางไร ในการ
ศึ ก ษาเหตุ ก ารณ ใ นอดี ต ที่ ย าวนาน เช น
ประวัติของโลก
(แนวตอบ ศึกษาจากหลักฐานทางธรณีวิทยา
ประกอบกั บ ปรากฏการณ ใ นป จ จุ บั น เพื่ อ
อธิบายเหตุการณที่เคยเกิดขึ้นในอดีต)
ÅӴѺªÑé¹ËÔ¹
ÊÒÁÒöºÍ¡ÍÐäáѺàÃÒ
ä´ŒºŒÒ§
เกร็ดแนะครู
การเรียนการสอน เรื่อง ลําดับชั้นหิน ครูควรเนนกระบวนการกลุมและเนน
ใหนักเรียนใชทักษะในการสืบคน วิเคราะห อธิบาย และอาจใหนักเรียนไดออก
ไปสํารวจลักษณะของชัน้ หิน หรือซากดึกดําบรรพในทองถิน่ ของนักเรียน เพือ่ นํา
มาใชอธิบายประวัติความเปนมาของพื้นที่ในทองถิ่นได
T62
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ นํา
กระตุน ความสนใจ
Prior Knowledge
การลําดับชัน
้ หิน คืออะไร 1. การล�าดับชั้นหิน 4. ครูวัดความรูเดิมของนักเรียนโดยใชคําถาม
Prior Knowledge จากหนังสือเรียน หนา 55
การจัดระเบียบหินที่มีอยู่ภายในประเทศให้เป็นระบบเพื่อ
วา ลําดับชั้นหิน คืออะไร
น�าไปใช้อา้ งอิงในงานธรณีวทิ ยาและสาขาวิชาทีเ่ กีย่ วข้อง เรียกว่า การล�าดับชัน้ หิน (stratigraphy)
5. ครูกระตุนความสนใจและนําเขาสูบทเรียน
ซึง่ มีหลายวิธขี นึ้ อยูก่ บั ว่าจะใช้ลกั ษณะเด่นทางธรณีวทิ ยารูปแบบใดเป็นตัวก�าหนด โดยส่วนมากจะ
โดยใหนักเรียนแสกน QR code เพื่อดูคลิป
ใช้ชนิดของหินและอายุที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดของหินเป็นหลัก
วิดีโอ เรื่อง การจําแนกหนวยหิน แลวครู
1.1 การจ�าแนกหนวยหิน ชักชวนนักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับคลิปที่ไดดูไป
ในทางธรณีวิทยาแปรสัณฐาน (geotectonics) ประเทศไทยประกอบด้วยแผ่นธรณีภาค วานักเรียนไดขอมูลเกี่ยวกับการจําแนกหินวา
(lithospheric plate) 2 แผ่นหลัก คือ แผ่นฉาน-ไทย (Shan-Thai Plate) ทางทิศตะวันตก และ อยางไรบาง
แผ่นอินโดจีน (Indochina Plate) ทางทิศตะวันออก โดยมีแผ่นย่อยอีก 2 แผ่นคัน่ กลางอยู ่ ซึง่ ได้แก่
แผ่นสุโขทัย (Sukhothai Plate) หรือเขตสุโขทัย (Sukhothai Belt) และแผ่นนครไทย (Nakhonthai
Plate) หรือเขตเลย (Loei Belt) โดยแผ่นทัง้ หมดเชือ่ มต่อกันด้วยตะเข็บธรณี (geo suture) หลายตะเข็บ
เช่น ตะเข็บเชียงใหม่ (Chiangmai Suture) ทางตะวันตก ตะเข็บเลย (Loei Suture) ทางตะวันออก
แผ่นธรณีภาคแต่ละแผ่นมีโครงสร้างและสภาพการแปรสัณฐาน (tectonic setting) ต่างกัน
ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มหินหลายกลุ่ม โดยมีการจัดล�าดับหินจากหน่วยใหญ่ไปยังหน่วยย่อย ดังนี้
กลุ่มหิน (group) คือ หน่วยของหินที่มีอายุอยู่ในยุคหรือมหายุคเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วย
หมวดหินตั้งแต่ 2 หมวดขึ้นไป
หมวดหิน (formation) คือ หน่วยที่รองมาจากกลุ่มหิน เป็นหน่วยหลักในการจ�าแนกชั้นหิน
โดยหมวดหินหนึ่ง ๆ นั้นอาจประกอบไปด้วยหินชนิดใดก็ได้ที่มีความหนาน้อยกว่าหนึ่งเมตรจนถึง
หลายพันเมตร Earth Science
หมู่หิน (member) คือ หน่วยที่รองมาจากหมวดหิน ซึ่ง in real life
จะเน้นหินที่มีลักษณะโดดเด่นกว่าส่วนอื่นของหมวดหินนั้น การศึ ก ษาการล� า ดั บ ชั้ น หิ น
จะช่วยให้สามารถบ่งบอกชุด
ชั้นหิน (bed) คือ หน่วยย่อยที่สุดของการจัดล�าดับชั้นหิน ของชั้นหิน (succession) ของ
ซึ่งอาจมีความหนาตั้งแต่ 1 เซนติเมตร จนถึง 3 เมตร โดยมี บริเวณนั้นได้ อีกทั้งยังสามารถ
ลักษณะเด่นชัดที่แตกต่างไปจากส่วนอื่นของหมู่หินนั้น ใช้บอกถึงธรณีประวัต ิ (geologic
หน่วยหินต่าง ๆ มักมีชื่อเรียกเฉพาะ ซึ่งโดยส่วนมากเป็น history) หรือปรากฏการณ์ทาง
ธรณีวทิ ยา (geologic events) ที่ แนวตอบ Prior Knowledge
ชื่อทางภูมิศาสตร์ของสถานที่ที่พบ เคยเกิดขึ้นในบริเวณนั้น ๆ ด้วย นักเรียนตอบตามความคิดของตนเอง หรือตอบ
วา การลําดับชัน้ หิน คือ การจัดเรียงลําดับหนวยของ
55
ชัน้ หินตามตําแหนง และลําดับอายุของชัน้ หิน อีกทัง้
การจําแนกหนวยของหิน ยังสามารถบอกลําดับเหตุการณ หรือปรากฏการณ
ทางธรณีวิทยาที่เคยเกิดขึ้นในบริเวณนั้น
T63
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
1. ใหนกั เรียนสืบคนขอมูลเกีย่ วกับการลําดับชัน้ หิน 96 ํE 98 ํE 100 ํE 102 ํE 104 ํE 106 ํE
แผนเปลือกโลก
แลวครูถามคําถามวา แผนเปลือกโลก
จีนใต
แผนเปลือกโลกเมียนมาตะวันตก
ฉาน-ไทย ยเลอื่ นแมจั
• นักวิทยาศาสตรใชวิธีการใดในการลําดับ 20 ํN
อิง
20 ํN รอ
ม
นแ
เลื่อ
ชั้นหิน อาวตังเกี๋ย
ร อ ยเ ลื่อ น พ
รอยเลื่อ
รอย
แผนเปลือกโลก
ร อ ย เ ลอื่
น
(แนวตอบ นําขอมูลอายุทางธรณีวทิ ยาของหิน
รอยเลื่อน
ปว
ะเย
อินโดจีน
า
นแมท า
ซากดึกดําบรรพ และเหตุการณทางธรณีวทิ ยา
แมฮ องสอน
18 ํN
ถ
18 ํN
ร ด ิต
น
อื่นๆ มาจัดเรียงตามลําดับ ประกอบกับ
เถิ
เลื่ อ น
รอย
อ ุต
เลื่
อน
รอย
รอย
หลักการในการลําดับชั้นหิน เชน กฎการ
เลอื่
เม
รบรู ณ
ย
อื่ นเพช
ลําดับชั้น กฎความสัมพันธที่ตัดกัน หลัก
รอยเล
16 ํN
เอกรูปนิยม)
16 ํN
รอย
อาวเมาะตะมะ
เลื่อ
• การลําดับชัน้ หินมีประโยชนในดานใดบาง
นศ
วัส
รี ส
ดิ์
รอ
(แนวตอบ นักวิทยาศาสตรจัดลําดับชั้นหิน ยเล
อื่ น
เจด
ยี ส
าม
เพื่อใชอางอิงในงานดานธรณีวิทยา และ 14 ํN
อง ค
14 ํN
อดีต) อาวไทย
2. ใหนักเรียนสืบคืนขอมูลเกี่ยวกับการจําแนก
หินตะกอน หินแปร
หนวยหิน เพือ่ เชือ่ มโยงเขาสูก จิ กรรมหนวยหิน
อง
ระน
หินยุคควอเทอรนารี-พาลีโอจีน 10 ํN
เลอื่ น
10 ํN
ในประเทศไทย ทะเลอันดามัน หินยุคมีโซโซอิก
รอย
หินยุคพาลีโอโซอิกตอนบน
3. ครูใหนักเรียนนับจํานวน 1 - 5 วนไปเรื่อยๆ หินยุคพาลีโอโซอิกตอนกลาง
ุย
งมะร
หินยุคพาลีโอโซอิกตอนลาง
จนครบทุกคน เพื่อแบงนักเรียนออกเปนกลุม
คลอ
หินยุคพรีแคมเบรียน
เลอื่ น
แผนเปลือกโลก
กลุมละ 5 คน โดยคนที่นับจํานวนเดียวกันให 8 ํN
รอย
8 ํN
ฉาน-ไทย หินอัคน�
อยูกลุมเดียวกัน หินบะซอลตยุคซีโนโซอิก
หินภูเขาไฟยุคเพอรเมียน-จูแรสซิก
N
4. ครูแจงจุดประสงคของการทํากิจกรรม จากนัน้ หินแกรนิตยุคไทรแอสซิก-น�โอจีน
เมฟก (แรเฟอรโรแมกน�เซียน) มหายุคซีโนโซอิกตอนปลาย
ใหนักเรียนอธิบายหลักการจําแนกหนวยหิน 6 ํN
0 75 150 300 กม. 6 ํN
แหลงขอมูล : กรมทรัพยากรธรณ�
โดยทํากิจกรรมหนวยหินในประเทศไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ�งแวดลอม
56
T64
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
แผ่นฉาน-ไทยประกอบด้วยพืน้ ทีท่ างตะวันออกของประเทศเมียนมา ตะวันตกของภาคเหนือ 5. ครู แ จกใบกิ จ กรรม กิ จ กรรมหน ว ยหิ น ใน
ภาคตะวันตก และภาคใต้ของประเทศไทย รวมถึงคาบสมุทรมลายูดา้ นตะวันตก และบริเวณตอนเหนือ ประเทศไทย ใหนักเรียน
ของเกาะสุมาตรา ส่วนแผ่นอินโดจีนครอบคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และด้านตะวันออกของ 6. ครู ใ ช รู ป แบบการเรี ย นรู แ บบร ว มมื อ มาจั ด
ภาคตะวันออกของประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศกัมพูชาเกือบทั้งหมด รวมถึงส่วนใหญ่ กระบวนการเรี ย นรู โดยกํ า หนดให ส มาชิ ก
ของประเทศเวียดนาม และคาบสมุทรมลายูด้านตะวันออก แต ล ะคนภายในกลุ ม มี บ ทบาทหน า ที่ ข อง
แผ่นฉาน-ไทยที่ปรากฏในประเทศไทย รองรับด้วยกลุ่มหินบรมยุคพรีแคมเบรียน มหายุค ตนเอง ดังนี้
พาลีโอโซอิก มหายุคมีโซโซอิก และมหายุคซีโนโซอิก ส่วนแผ่นอินโดจีนที่ปรากฏในประเทศไทย สมาชิกคนที่ 1 - 2 ทําหนาทีเ่ ตรียมวัสดุอปุ กรณ
รองรับด้วยกลุ่มหินมหายุคพาลีโอโซอิก มหายุคมีโซโซอิก และมหายุคซีโนโซอิก สมาชิกคนที่ 3 - 4 ทําหนาที่อานวิธีการทํา
ข้อมูลจากการศึกษาสภาวะแม่เหล็กบรรพกาล ท�าให้เชือ่ ได้วา่ แผ่นฉาน-ไทยและแผ่นอินโดจีน กิจกรรม และนํามาอธิบายใหสมาชิกภายใน
แยกตัวออกจากมหาทวีปกอนด์วานา (Gondwana) ในบริเวณแถบภาคตะวันตกเฉียงเหนือของ กลุมฟง
ประเทศออสเตรเลียในปัจจุบัน ในช่วงกลางของมหายุคพาลีโอโซอิกหรือยุคดีโวเนียนตอนปลาย สมาชิกคนที่ 5 ทําหนาที่บันทึกผลการทดลอง
แผ่นฉาน-ไทย แผ่นอินโดจีน แผ่นสุโขทัย และแผ่นเลย เคลือ่ นตัวมาประชิดกันเมือ่ ประมาณ (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
ยุคไทรแอสซิก ท�าให้เกิดหินอัคนีเป็นแนวยาว ส่วนใหญ่วางตัวในทิศเหนือ-ใต้ รอยโค้งและรอยเลือ่ น
แบบสังเกตการทํางานกลุม)
ขนาดใหญ่จา� นวนมาก โดยการเปลีย่ นแปลงทีส่ า� คัญ คือ รอยเลือ่ นตามแนวระดับ (strike-slip fault)
7. ใหนักเรียนแตละกลุมทํากิจกรรมตามขั้นตอน
ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ เช่น รอยเลื่อนแม่ปิง (Mae Ping Fault) รอยเลื่อน
เจดีย์สามองค์ (Three-Pagoda Fault) และในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ เช่น ดังนี้
รอยเลื่อนน่าน-อุตรดิตถ์ (Nan-Uttaradit Fault) รอยเลื่อนระนอง (Ranong Fault) รอยเลื่อน 1) สืบคนขอมูลเกี่ยวกับการลําดับชั้นหิน และ
คลองมะรุ่ย (Klong Marui Fault) เป็นต้น การกระจายตัวของหินในประเทศไทย รวม
ถึงขอมูลตางๆ ที่เกี่ยวของ
2) จัดเรียงขอมูลการลําดับชัน้ หิน และการกระ
Earth S cience 1 จายตัวของหินในพื้นที่ที่นักเรียนเลือก แลว
Focus รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย
นํามาจัดทําเปนลําดับชัน้ หินในรูปแบบแผน
ประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่มีพลัง 14 รอย ดังนี้
ภาพ หรือ infographic
ร อยเลื่อนแม่จัน รอยเลื่อนแม่อิง
รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน รอยเลื่อนปัว 3) ครูและนักเรียนรวมกันพิจารณาแผนภาพ
รอยเลื่อนแม่ทา รอยเลื่อนพะเยา หรือ infographic เพื่อชวยกันตรวจสอบ
รอยเลื่อนเมย รอยเลื่อนอุตรดิตถ์ ขอมูล
รอยเลื่อนเถิน รอยเลื่อนเพชรบูรณ์ 8. ใหนกั เรียนแตละกลุม สงตัวแทนมานําเสนอผล
รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ รอยเลื่อนระนอง การทํากิจกรรม
รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย
ลําดับชั้นหิน 57
T65
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า 1.2 การล�าดับชั้นและการกระจายตัวของหิน
กิ จ กรรม โดยครู ตั้ ง คํ า ถามเพื่ อ ให นั ก เรี ย น การล�าดับชั้นและการกระจายตัวของหินในยุคต่าง ๆ จากอายุแก่ที่สุดไปหาอายุอ่อนที่สุดใน
แตละกลุมรวมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้ ประเทศไทย แสดงได้ดังตาราง
• กลุมหินที่มีอายุมากที่สุด และนอยที่สุดใน
ตารางที่ 4.1 : กลุ่มหินสำ�คัญของประเทศไทยซึ่งแบ่งต�มแผ่นธรณีภ�คและลำ�ดับอ�ยุ
ประเทศไทย คือกลุม หินใด
กลุ่มหินที่รองรับแผ่นธรณีภาค
(แนวตอบ กลุมหินที่มีอายุมากที่สุด คือ กลุม บรมยุค / ยุ ค สุโขทัย
มหายุค ฉานไทย อินโดจีน
หินทับศิลา กลุมหินที่มีอายุนอยที่สุด คือ และเลย
กลุมหินแมเมาะ) พรีแคมเบรียน - ฮอด ลานสาง - คอนทูม
• กลุมหินที่มีอายุมากที่สุด และนอยที่สุดใน หรือฐานชีวิน ทับศิลา และขนอม (เวียดนาม)
ประเทศไทย ประกอบดวยหินใดบาง และ แคมเบรียน ตะรุเตา - -
ออร์โดวิเชียน ทุ่งสง - -
กระจายตัวอยูบ ริเวณใดของประเทศ
ไซลูเรียน-ดีโวเนียน- ขาณุ นาโม
(แนวตอบ กลุมหินที่มีอายุมากที่สุดสวนใหญ พาลีโอโซอิก
คาร์บอนิเฟอรัส
ทองผาภูมิ
หนองดอกบัว
ปากชม
ประกอบดวยหินแปร เชน หินไนส หินชีสต หรือปฐมชีวิน
คาร์บอนิเฟอรัส- แม่ฮ่องสอน
กระจายตั ว อยู บ ริ เ วณภาคตะวั น ตกของ วังสะพุง ศรีธาตุ
เพอร์เมียน แก่งกระจาน
ประเทศ ส ว นกลุ ม หิ น ที่ อ ายุ น อ ยที่ สุ ด เพอร์เมียน ราชบุรี เลย สระบุรี
สวนใหญประกอบดวยชั้นตะกอนสลับกับ มีโซโซอิก ไทรแอสซิก ไชยบุรี ล�าปาง จันทบุรี ชุมแพ
หินตะกอน อยูบริเวณภาคเหนือและภาค หรือมัชฌิมชีวิน จูแรสซิก-ครีเทเชียส ตรัง นครไทย โคราช
กลางของประเทศ) ซีโนโซอิก
พาลีโอจีน-ปัจจุบัน กระบี่ แม่เมาะ มูล-ชี ท่าช้าง
2. ครูกลาวเชื่อมโยงเขาสูเนื้อหาตอไป โดยตั้ง หรือนวชีวิน
ประเด็นคําถามวา การลําดับชัน้ หิน จําเปนตอง 1. กลุ่มหินบรมยุคพรีแคมเบรียน พบอยู่ในแผ่นฉาน-ไทย ส่วนใหญ่ประกอบด้วย
ทราบขอมูลใดบาง ใหนกั เรียนรวมกันอภิปราย หินแปรที่มีขั้นแปรสภาพสูง โดยมักเกิดอยู่ร่วมกับหินไนส์ หินชีสต์ หินควอร์ตไซต์ และหินอ่อน
(แนวตอบ อายุทางธรณีวิทยาของชั้นหิน) ซึ่งพบกระจายตัวอยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศ เช่น อ�าเภอ Earth Science
เวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย อ�าเภอฮอด-ดอยอินทนนท์ จังหวัด in real life
เชียงใหม่ น�้าตกลานสาง-เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก อ�าเภอ ปั จ จุ บั น มี ก ารตรวจอายุ ข อง
พนัสนิคม-อ�าเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี อ�าเภอขนอม- หินไนส์ที่อ�าเภอฮอด จังหวัด
อ�าเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นต้น เชี ย งใหม่ ได้ อ ายุ ป ระมาณ
กลุม่ หินบรมยุคพรีแคมเบรียนทีม่ อี ายุเก่าแก่ทสี่ ดุ คือ 1,100 ล้านปี ท�าให้สรุปได้ว่า
ประเทศไทยมีหินบรมยุคพรี-
กลุ่มทับศิลา (Thabsila group) และยังมีกลุ่มขนอม (Khanom แคมเบรียนด้วย
group) และกลุ่มลานสาง (Lansang group) ด้วย
58
T66
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
2. กลุ่มหินมหายุคพาลีโอโซอิกตอนต้น แบ่งย่อยออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ 3. ครูใหนกั เรียนจับคูก นั สืบคนขอมูลเกีย่ วกับเรือ่ ง
1) กลุ่มตะรุเตา มักพบอยู่ในแผ่น การลําดับชั้นหิน ดังนี้
ฉาน-ไทย ซึ่งลักษณะทั่วไปของหินจะแตกต่าง - ครูใหนักเรียนจับคูกันสืบคนขอมูลเกี่ยวกับ
กันไป เนื่องมาจากสภาพแวดล้อมแต่ละพื้นที่ เรื่องการลําดับชั้นหิน ดังนี้
และหินมีการสะสมตัวต่างกัน โดยทางภาคใต้ - ประโยชนของการลําดับชั้นหิน
เช่น ที่เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล เป็นหินทราย โดยนักเรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือ
มีไมกา (micaceous sandstone) หินดินดาน แหลงเรียนรูอื่นๆ แลวนําขอมูลมาแลกเปลี่ยน
และหินดินดานเนือ้ ผสมปูน (calcareous shale)
ความคิดเห็น และรวมกันตั้งประเด็นคําถาม
ภาพที่ 4.3 กลุ่มหินตะรุเตาที่เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล สีน�้าตาลแดง มีความหนาประมาณ 200-300
(ที่มาของภาพ : คลังภาพ บริษัท อจท. จ�ากัด) เมตร มีซากดึกด�าบรรพ์ไทรโลไบต์ (trilobites) เกี่ยวกับเรื่องที่สืบคนมา
และแบรคิโอพอด (brachiopods) ซึง่ หินทรายค่อย ๆ เปลีย่ นไปเป็นหินปูนและมีชนั้ หินทรายแทรก 4. ใหนกั เรียนรวมกลุม กับเพือ่ นอีกคูห นึง่ รวมเปน 4
สลับอยู่ จนในที่สุดจึงเปลี่ยนไปเป็นหินปูนทุ่งสง (Thungsong limestone) คน แลวแลกเปลีย่ นกันถามคําถามทีต่ งั้ ไว จาก
2) กลุ่มทุ่งสง พบอยู่ในแผ่นฉาน-ไทย ส่วนใหญ่เป็นหินปูนเนื้อโคลน นัน้ รวมกันสรุปเพือ่ เตรียมนําเสนอหนาชัน้ เรียน
สีเทาเข้มถึงสีดา� มีเนือ้ ขรุขระคล้ายกับหนังช้าง มีความหนาเฉลีย่ ประมาณ 800 5. ครูสมุ เลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมานํา
เมตร โดยปกติมักเป็นหินปูนแสดงชั้นและอาจพบมลทินซิลิกา (siliceous) เสนอคําถามของกลุม ตนเอง โดยใหนกั เรียนทัง้
และดินโคลน (argillaceous) ปนอยู 1 ด่ ว้ ย โดยแทรกสลับเป็นชัน้ บาง ๆ หองรวมกันตอบคําถาม และอภิปรายรวมกัน
(
พบซากดึกด�าบรรพ์โคโนดอนต์ (conodont) และเซฟาโลพอด
่ 4.4 กลุ่มหินทุ่งสงที่เขาอกทะลุ
จ�าพวกแอคติโนเซอรัส และอาร์มีโนเซอรัส (actinoceras & จั ภงาพที หวัดพัทลุง (ที่มาของภาพ : คลังภาพ
armenoceras cephalopods) กลุมุ่ หินนีพ้ บทีอ่ า� เภอร่อนพิบลู ย์ บริษัท อจท. จ�ากัด)
จังหวัดนครศรีธรรมราช อ�าเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ อ�าเภอคลองลาน จังหวัดก�าแพงเพชร
3. กลุ่มหินมหายุคพาลีโอโซอิกตอนกลาง แบ่งย่อยออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1) กลุ ่ ม ทองผาภู มิ ประกอบด้ ว ย
หินตะกอนและหินแปรชั้นต�่า โดยพบอยู่ใน
แถบอ�าเภอทองผาภูมิ อ�าเภอสังขละบุรี และ
อ�าเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี เรียกว่า
กลุ่มทองผาภูมิ (Thong Phaphum group) ที่
พบทางใต้ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน แถบเขื่อน
ผาบ่อง เรียกว่า กลุ่มแม่ฮ่องสอน (Mae Hong
Son group) และที่พบทางใต้ของอ�าเภอขนอม
จังหวัดนครศรีธรรมราช เทือกเขาหลวง ไปจนถึง
อ�าเภอละงู อ�าเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
ภาพที ่ 4.5 กลุม
่ หินทองผาภูมทิ นี่ า�้ ตกจอกกระดิน่ จังหวัดกาญจนบุรี
(ที่มาของภาพ : คลังภาพ บริษัท อจท. จ�ากัด) ลําดับชั้นหิน 59
T67
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
ขยายความเข้าใจ
1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายเพื่ อ ให ไ ด 2) กลุ่มปากชม มักพบอยู่ในแผ่น
ขอสรุปเกี่ยวกับการลําดับชั้นหิน โดยอาจมี อินโดจีน ซึง่ เป็นหินเชิรต์ และหินดินดาน บริเวณ
แนวทางสรุป ดังนี้ ทางหลวงปากชม-เลย และหมวดหินหนอง
“การลําดับชัน้ หิน คือ การจัดเรียงลําดับหนวย ดอกบัว (Nong Bua formation) พบที่อ�าเภอ
ของชั้นหินตามตําแหนง และลําดับอายุของ เชียงคาน ในแถบภูจ�าปา บ้านหนองดอกบัว
ชั้นหิน อีกทั้งยังสามารถบอกลําดับเหตุการณ บ้านโคกนา-ดอกค�า และภูบ่อบิด-ภูทองแดง
หรือปรากฏการณทางธรณีวิทยาที่เคยเกิดขึ้น อ�าเภอเมือง จังหวัดเลย
ในบริเวณนั้นดวย ซึ่งการจําแนกหนวยหินจะ ในแผ่นสุโขทัยและแผ่นนครไทย
เรียงจากหนวยใหญไปยังหนวยยอย ดังนี้ กลุม มีชั้นหินที่ส�าคัญ คือ หมวดหินขาณุ (Khanu
หิน หมวดหิน หมูหิน และชั้นหิน” formation) ที่พบในอ�าเภอสวรรคโลก และ
2. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน ทําใบงาน อ�าเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย อ�าเภอขาณุ
เรื่อง การลําดับชั้นหิน ในรูปของแผนผังความ วรลักษบุรี จังหวัดก�าแพงเพชร ซึ่งส่วนใหญ่ ภ าพที่ 4.6 ชั้นหินเชิร์ต กลุ่มหินปากชม จังหวัดเลย
คิดใหมคี วามถูกตองและนาสนใจ แลวนําเสนอ
เป็นหินดินดานสลับกับหินเชิร์ต (ที่มาของภาพ : คลังภาพ บริษัท อจท. จ�ากัด)
T68
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ ประเมิน
ตรวจสอบผล
5. กลุ่มหินมหายุคมีโซโซอิก แบ่งย่อยออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน
1) กลุ่มล�าปาง ประกอบไปด้วยหินตะกอนที่สะสมตัวในแอ่งซึ่งวางตัวในแนวเหนือ-ใต้ 2. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม
และพบสลับระหว่างหินเนื้อประสมกับหินปูน พบซากดึกด�าบรรพ์โดยเฉพาะหอย และโคโนดอนต์ การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน
ท�าให้สามารถก�าหนดอายุได้วา่ หินกลุม่ นีม้ อี ายุ 3. ครูตรวจประเมินการปฏิบัติการจากการทําใบ
ประมาณยุคไทรแอสซิก พบกระจายตัวอยู่ใน งาน เรื่อง การลําดับชั้นหิน
แทบทุกแผ่นเปลือกโลก เช่น แผ่นสุโขทัย พบ 4. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัดเรื่อง การ
ในบริเวณจังหวัดล�าปาง แพร่ น่าน เป็นต้น ส่วน ลําดับชั้นหิน จากแบบฝกหัดรายวิชาเพิ่มเติม
ในแผ่นฉาน-ไทย พบในจังหวัด สุราษฎร์ธานี วิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร และอวกาศ
พัทลุง สงขลา แม่ฮอ่ งสอน กาญจนบุร ี หินกลุม่
ม. 4 เลม 1
ภาพที่ 4.8 กลุ่มหินล�าปาง จังหวัดล�าปาง ล�าปางทีพ่ บทางภาคใต้ประกอบด้วยหินปูนเนือ้
(ที่มาของภาพ : คลังภาพ บริษัท อจท. จ�ากัด) โดโลไมต์เป็นส่วนใหญ่ เรียกว่า กลุ่มหินไชยบุรี
2) กลุม่ โคราช เป็นชัน้ ตะกอนทีม่ คี วามหนามากกว่า 1 กิโลเมตร
ประกอบด้วยหินตะกอนเนือ้ ประสม (หินทรายสลับกับหินทรายแป้งและ
หินดินดาน) ส่วนใหญ่กระจายตัวปกคลุมเกือบทัง้ ภาคตะวันออกเฉียง
เหนือ และบางส่วนในภาคใต้โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่และตรัง
อีกทั้งในจังหวัดน่านและแพร่ด้วย พบซากดึกด�าบรรพ์โดย
เฉพาะไดโนเสาร์ ท�าให้สรุปได้ว่ากลุ่มหินนี้สะสมตัวบน
บกในแอ่งตะกอนขนาดใหญ่ เช่น แอ่งโคราช ตามลุม่
น�า้ และทะเลสาบ และมีอายุประมาณยุคจูแรสซิกถึงยุค
ครีเทเชียส
6. กลุม่ หินมหายุคซีโนโซอิก แบ่งย่อย ภาพที่ 4.9 ภูเขาหิน กลุ่มหินโคราชที่ภูทอก
ออกเป็น 2 กลุ่มหิน ดังนี้ จังหวัดบึงกาฬ
1) กลุม่ แม่เมาะ ประกอบด้วยชัน้ ตะกอน (ที่มาของภาพ : คลังภาพ บริษัท อจท. จ�ากัด)
เนือ้ ประสมจับตัวกันไม่แข็ง โดยแสดงชัน้ ชัดเจนสลับกันระหว่างหินทรายถึงทรายแป้งกับหินโคลน
หรือหินดินดาน ส่วนใหญ่ชนั้ ตะกอนจะวางตัวในแนวราบในแอ่งตะกอนโดด (isolated basin) ทีถ่ กู
ขนาบด้วยรอยเลื่อนปกติ ซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งระหว่างหุบเขา (intermontane basin)
2) กลุ่มกรุงเทพ เป็นชุดของชั้นตะกอนร่วน เกิดจากการสะสมตัวจากการกระท�าของ
กระแสน�้าและลม จนเป็นแหล่งสะสมขนาดเล็กที่ประกอบไปด้วยตะกอนขนาดตั้งแต่ก้อนกรวด
ทราย ทรายแป้ง และดิน ซึ่งจ�าแนกอย่างง่ายออกได้เป็นตะกอนน�้าพา ตะกอนเชิงเขา ตะกอน
ลาดตะพัก ศิลาแลง และตะกอนชายหาด ส่วนมากพบในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น�้าสายใหญ่
ลําดับชั้นหิน 61
แบบประเมินการนาเสนอผลงาน
ลาดับที่
ตรงกับระดับคะแนน
รายการประเมิน
ระดับคะแนน
5. หินบะซอลต
3 2 1
1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน
2 ความถูกต้องของเนื้อหา
3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย
4 ประโยชน์ที่ได้จากการนาเสนอ
(วิเคราะหคําตอบ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มี
5 วิธีการนาเสนอผลงาน
รวม
เกณฑ์การให้คะแนน
137
T69
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ นํา
กระตุน ความสนใจ
1. ครูกระตุนความสนใจ โดยถามคําถาม prior Prior Knowledge
knowledge จากหนังสือเรียน หนา 62 วา การหาอายุทางธรณีวทิ ยา 2. การหาอายุทางธรณีวิทยา
การหาอายุทางธรณีวิทยามีประโยชนอยางไร มีประโยชนอยางไร อายุทางธรณีวทิ ยา (geologic age) เป็นอายุของแร่ ตะกอน
( แนวตอบ อายุ ท างธรณี วิ ท ยาสามารถบอก หิน ซากดึกด�าบรรพ์ และเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ทางธรณีวทิ ยา ซึง่ การตรวจสอบอายุทางธรณีวทิ ยาช่วย
ประวั ติ ข องพื้ น ที่ หรื อ ช ว งเวลาที่ เ คยเกิ ด ให้สามารถระบุได้วา่ เหตุการณ์ทางธรณีวทิ ยาเหตุการณ์ใดเกิดขึน้ ก่อนหรือหลังตามล�าดับ โดยอายุ
เหตุการณทางธรณีวิทยาที่เคยขึ้นในพื้นที่นั้น ทางธรณีวิทยาแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ อายุเปรียบเทียบ และอายุสัมบูรณ์
เพื่อนําขอมูลไปใชในการศึกษา การวางแผน
การจัดการพื้นที่) 2.1 อายุเปรียบเทียบ
2. ครูถามคําถามกระตุน ความคิดโดยใหนกั เรียน การหาอายุเปรียบเทียบ (relative age dating) เป็นการศึกษาจากการจัดล�าดับชัน้ หิน ซึง่ วิธนี ี้
ชวยกันระดมความคิดในการตอบคําถาม ดังนี้ ไม่สามารถระบุอายุเป็นปีที่แน่ชัดได้ แต่ระบุได้เพียงว่าชั้นหิน แร่ ตะกอน ซากดึกด�าบรรพ์ ชั้นใด
• อายุทางธรณีวิทยาคืออะไร เกิดขึ้นก่อนหลังตามล�าดับ หรือสิ่งใดมีอายุมากกว่าหรือน้อยกว่ากัน ซึ่งการหาอายุเปรียบเทียบ
(แนวตอบ อายุทางธรณีวิทยา คือ ชวงเวลา ต้องอาศัยกฎเกี่ยวกับธรณีวิทยา ดังนี้
ที่เวลาที่ซากดึกดําบรรพหรือเหตุการณทาง 1. กฎการวางตัวซ้อนทับ (law of superposition) เจมส์ ฮัตตัน (James Hutton)
ธรณีวิทยาไดปรากฏหรือเกิดขึ้น สามารถ ศึกษากระบวนการตกตะกอนตามชายหาด พบว่า ตะกอนทีต่ กทับถมก่อนจะถูกทับโดยตะกอนทีต่ ก
แสดงไดทั้ง อายุสมบูรณ และอายุเปรียบ ทับถมในเวลาต่อมา หลักการนี้น�าไปอธิบายเกี่ยวกับการวางตัวของชั้นหินได้ว่า ในล�าดับชั้นหินที่
เทียบ) ไม่ถกู รบกวนจากกระบวนการต่าง ๆ ชัน้ หินทีว่ างตัวอยูด่ า้ นบนจะมีอายุนอ้ ยกว่าชัน้ หินทีว่ างตัวอยู่
ด้านล่าง
• อายุเปรียบเทียบและอายุสัมบูรณแตกตาง
กันอยางไร 2. กฎความสัมพันธ์ที่ตัดกัน (law of cross-cutting relationship) กล่าวว่า หากมี
(แนวตอบ อายุเปรียบเทียบจะไมแสดงอายุ หินแทรกตัวตัดขวางชั้นหินที่เป็นหินดั้งเดิม หินที่แทรกเข้ามานั้นต้องมีอายุน้อยกว่าชั้นหินเดิม
เปนจํานวนป อายุสัมบูรณจะแสดงอายุเปน ชั้นหิน A มีอายุน้อยที่สุด
จํานวนป) ชั้นหิน B
• นักวิทยาศาสตรมวี ธิ กี ารหาอายุเปรียบเทียบ ชั้นหิน C
ไดอยางไร ชั้นหิน F แทรกตัวผ่านชั้นหิน D และ E
มีอายุน้อยกว่าหินชั้น D และ E
(แนวตอบ หาไดจากกฎและหลักในการลําดับ ชั้นหิน D
ชั้นหิน) ชั้นหิน E มีอายุมากที่สุด
ภาพที่ 4.10 กฎการวางตัวซ้อนทับและหลักความสัมพันธ์ที่ตัดกัน
T70
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
การใช้ลักษณะทางกายภาพจากชั้นหินหลัก (key bed) เป็นการพิจารณา 1. ครูแบงกลุม นักเรียน ออกเปนกลุม กลุม ละ 3 คน
จากลักษณะเฉพาะของชัน้ หินบางชนิด ดังนัน้ หากพบชัน้ หินนีใ้ นบริเวณ
ใดก็มักมีอายุเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน เช่น ชั้นหินทรายในกลุ่มหินโคราช ตามระดับความสามารถ เกง ปานกลาง ออน
ซึ่งมักมีการวางตัวเกือบในแนวระดับที่เห็นได้จากระยะไกล 2. ครูแจกแบบใบกิจกรรม เรื่อง การวางตัวของ
หินตะกอน
การเทียบเคียงอย่างง่ายจากซากดึกด�าบรรพ์ (correlation by fossils) (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
เป็นการตรวจสอบว่าหากพบซากดึกด�าบรรพ์ชนิดเดียวกันในชั้นหินใด ๆ แบบประเมินกิจกรรม)
แม้ชนั้ หินเหล่านัน้ จะอยูใ่ นบริเวณต่างกัน ชัน้ หินนัน้ ย่อมมีอายุเท่ากัน หรือ
ใกล้เคียงกันกับซากดึกด�าบรรพ์นั้น ซากดึกด�าบรรพ์ที่ใช้เป็นตัวก�าหนด 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมทํากิจกรรมตามขั้น
อายุทางธรณีวิทยา เรียกว่า ซากดึกด�าบรรพ์ดัชนี (index fossil) เช่น ตอน ดังนี้
ฟิวซูลินิดมักพบในช่วงปลายมหายุคพาลีโอโซอิก
1) นําขวดนํา้ พลาสติกใสขนาด 1 ลิตร ตัดสวน
ภาพที่ 4.11 การวิเคราะห์ความคล้ายคลึงกันของหินตะกอน
บนทางดานปากขวดออก
4. กฎการเปลี่ยนแปลงทดแทนสัตวชาติ (law of faunal succession) กล่าวว่า 2) ใสนาํ้ ลงไปในขวดประมาณครึง่ หนึง่ ของขวด
ซากดึกด�าบรรพ์หรือสิง่ มีชวี ติ สามารถเปลีย่ นแปลงจากกลุม่ หนึง่ ไปยังอีกกลุม่ ได้ ท�าให้ลา� ดับชัน้ หินที่ 3) ตั ก กรวดขนาดเล็ ก ใส ล งไปในขวดจนมี
ต่อเนือ่ งกันมีกลุม่ ซากดึกด�าบรรพ์ทแี่ ตกต่างกัน และท�าให้สามารถก�าหนดอายุของชัน้ หินเหล่านัน้ ได้ ความหนาประมาณ 3 เซนติเมตร
หากพิจารณาวิวัฒนาการของซากดึกด�าบรรพ์ในหิน หินที่มีซากดึกด�าบรรพ์ที่มีวิวัฒนาการต�่าจะ 4) ตักทรายหยาบใสลงไปในขวดจนชั้นทราย
มีอายุมากกว่าหินทีม่ ซี ากดึกด�าบรรพ์ทมี่ วี วิ ฒ
ั นาการสูง เช่น หินทีม่ ซี ากดึกด�าบรรพ์ของไดโนเสาร์
มีความหนาประมาณ 3 เซนติเมตร
จะมีอายุน้อยกว่าหินที่มีซากดึกด�าบรรพ์ของฟิวซูลินิด
5) ตักทรายละเอียดใสลงไปในขวดจนชัน้ ทราย
5. กฎการเปนเอกภาพ (law of uniformitarianism) เจมส์ ฮัตตัน สังเกตการกัดกร่อน มีความหนาประมาณ 3 เซนติเมตร
ของธารน�า้ ในหุบเขา (stream erosion) และตามชายฝัง ทะเล (coastal erosion) พบว่า ชัน้ หินตะกอน
6) วาดภาพการวางตัวของกรวด ทรายหยาบ
เกิดจากการสะสมของวัตถุทไี่ ด้จากการผุพงั (weathering) และการกัดกร่อน (erosion) ของหินเก่า
และทรายละเอียด
ที่มีอยู่เดิม ซึ่งสรุปได้ว่า การเกิดหินนั้นสามารถอธิบายได้โดยอาศัยหลักของกระบวนการต่าง ๆ ที่
ก�าลังเกิดอยูใ่ นปัจจุบนั ซึง่ ท�าให้เกิดประโยคส�าคัญทางธรณีวทิ ยาทีว่ า่ ปจจุบนั เปนกุญแจไขไปสูอ่ ดีต
(The present is the key to the past) ตัวอย่างเช่น การพบรอยเท้าไดโนเสาร์บนพื้นหินก็สามารถ ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
บอกได้ว่า ในอดีตบริเวณนี้อาจเป็นพื้นดินและเคยมีไดโนเสาร์เดินผ่าน หากพิจารณาหลักฐานอื่น
ด้วยกระบวนการต่าง ๆ ก็อาจจะบอกได้ว่าเป็นไดโนเสาร์พันธุ์อะไร อยู่ในยุคไหน ซึ่งเห็นได้ว่า 1. ครูใหนกั เรียนแตละกลุม สงตัวแทนมานําเสนอ
เป็นการใช้สิ่งที่เห็นในปัจจุบันอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ผลการทํากิจกรรม
2. ครู ถ ามนั ก เรี ย นว า จากผลการทํ า กิ จ กรรม
2.2 อายุสัมบูรณ สามารถนํ า มาสรุ ป เป น กฎการลํ า ดั บ ชั้ น ได
การหาอายุสมั บูรณ์ (absolute age) ท�าได้โดยการวิเคราะห์และค�านวณจากไอโซโทป (isotope) อยางไร
ของธาตุกัมมันตรังสี (radioactive element) ที่อยู่ในวัตถุทางธรณีวิทยา ซึ่งต้องอาศัยหลักการ (แนวตอบ ชัน้ หินทีม่ อี ายุออ นจะวางตัวอยูบ นชัน้
เกี่ยวกับครึ่งชีวิต (half life) ของธาตุ โดยครึ่งชีวิตมีความหมายว่า ช่วงเวลาที่ธาตุกัมมันตรังสี หินทีม่ อี ายุแกกวา ถาชัน้ หินไมมกี ารพลิกกลับ)
สลายตัวเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของปริมาณเดิม
ลําดับชั้นหิน 63
T71
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
ขยายความเขาใจ
1. ครูใหนกั เรียนแบงกลุม กลุม ละ 3 คน ทําใบงาน ธาตุตา่ ง ๆ บนโลกส่วนใหญ่มไี อโซโทปทีเ่ สถียร (stable isotope) และไม่เปลีย่ นแปลงไปเป็น
เรือ่ ง การหาอายุทางธรณีวทิ ยา โดยสรุปความรู ธาตุอนื่ แต่ธาตุบางชนิดมีไอโซโทปทีไ่ ม่เสถียร (unstable isotope) โดยมีการสลายตัวอย่างต่อเนือ่ ง
เรือ่ ง การหาอายุทางธรณีวทิ ยา ในรูปของแผนผัง จนกระทั่งเกิดเป็นไอโซโทปที่เสถียร เรียกการสลายตัวลักษณะนี้ว่า การสลายตัวทางกัมมันตรังสี
ความคิดใหมีความถูกตองและนาสนใจ (radioactive decay) ซึ่งเรียกอะตอมของธาตุที่มีการสลายตัวว่า อะตอมแม่ (parent atom) และ
2. ครูใหทุกกลุมนําเสนอผลงานของกลุมตนเอง เรียกอะตอมที่ได้จากการสลายตัวว่า อะตอมลูก (daughter atom)
หนาชัน้ เรียน เมือ่ นักเรียนทุกกลุม นําเสนอเสร็จ อัตราการสลายตัว (rates of decay) ของธาตุกัมมันตรังสีมีค่าคงที่ โดยไม่ขึ้นกับการ
แลว ครูกับนักเรียนรวมกันรวมกันอภิปราย เปลีย่ นแปลงสภาวะแวดล้อมทัง้ ทางเคมีและทางกายภาพ ดังนัน้ อัตราการสลายตัวจึงไม่ถกู ควบคุม
ความรูที่ไดอีกครั้ง ด้วยกระบวนการทางธรณีวิทยา
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช ตารางที่ 4.2 : วิธีที่ใชห�อ�ยุสัมบูรณโดยไอโซโทปของธ�ตุกัมมันตรังสี
แบบประเมินการนําเสนอผลงาน) วิธี การสลายตัวของธาตุ ครึ่งชีวิต ตัวอย่างที่ศึกษา
3. ครูมอบหมายการบานใหนกั เรียนทําแบบฝกหัด K - Ar K
40
Ar
40
1,250 ล้านปี หินบะซอลต์ แร่ไมกา แร่ฮอร์นเบลนด์
เรือ่ ง การหาอายุทางธรณีวทิ ยา จากแบบฝกหัด
Rb - Sr Rb
87 87
Sr 48,800 ล้านปี หินแกรนิต แร่ไมกา
รายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร
และอวกาศ ม.4 เลม 1 หนวยการเรียนรูที่ 4 U - Pb 235
U 207
Pb 700 ล้านปี แร่เซอร์คอน แร่สฟีน แร่โมนาไซต์
ลําดับชั้นหิน
ตัวอยางที่ ฟ อสซิลก้อนหนึ่งมีปริมาณ C-14 เท่ากับ 5% เมื่อเทียบกับสิ่งมีชีวิตในปจจุบัน อยากทราบ
4.1
ว่าฟอสซิลก้อนนี้จะมีอายุกี่ปี ก�าหนดให้ค่าครึ่งชีวิตของธาตุคาร์บอน 14 เท่ากับ 5,730 ปี
ขัน้ ประเมิน N
ตรวจสอบผล ln N2
วิธีท�า จากสมการ t = -0.6931 × t1/2
1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม 5
ln 100
การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน t = -0.693 × 5,730
2. ครูตรวจและประเมินการปฏิบตั กิ ารจากการทํา t = -2.996
-0.693 × 5,730
ใบงานที่ 4.2 เรื่อง การหาอายุทางธรณีวิทยา t = 24,772 ปี
3. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัด ดังนั้น ฟอสซิลก้อนนี้จะมีอายุ 24,772 ปี
เกณฑ์ประเมินโปสเตอร์หลักการหาอายุสัมบูรณ์
5. ใชวิธีกัมมันตรังสี C - 14 หาอายุซากดึกดําบรรพ
4 3 2 1
แบบประเมินโปสเตอร์หลักการหาอายุสัมบูรณ์ 1. โปสเตอร์ตรงกับจุดประสงค์ที่ โปสเตอร์สอดคล้อง โปสเตอร์ โปสเตอร์ โปสเตอร์ไม่
กาหนด กับจุดประสงค์ทุก สอดคล้อง สอดคล้อง สอดคล้อง
ระดับคุณภาพ ประเด็น กับจุดประสงค์ กับจุดประสงค์ กับจุดประสงค์
ลาดับที่ รายการประเมิน เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น
4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
2. โปสเตอร์มีความถูกต้อง เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ
(วิเคราะหคําตอบ การหาอายุหินตะกอนและซากดึกดําบรรพ
1 ตรงกับจุดประสงค์ที่กาหนด
สมบูรณ์ โปสเตอร์ถูกต้อง โปสเตอร์ถูกต้อง โปสเตอร์ถูกต้อง โปสเตอร์ไม่ถูกต้อง
2 มีความถูกต้องสมบูรณ์ ครบถ้วน เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางประเด็น เป็นส่วนใหญ่
3 มีความคิดสร้างสรรค์ 3. โปสเตอร์มีความคิด โปสเตอร์แสดงออก โปสเตอร์มีแนวคิด โปสเตอร์มีความ โปสเตอร์ไม่แสดง
4 มีความเป็นระเบียบ สร้างสรรค์ ถึงความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่แต่ยัง น่าสนใจ แต่ยังไม่มี แนวคิดใหม่
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง
134
T72 133
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ นํา
กระตุน้ ความสนใจ
Prior Knowledge
นักเรียนรูจ กั ยุคตาง ๆ 3. ตารางธรณีกาล 1. ใหนกั เรียนรวมกันอภิปรายวา มาตราธรณีกาล
ทางธรณีบา งหรือไม ในความคิดของนักเรียนเปนอยางไร
วั ต ถุ ท างธรณี วิ ท ยาแต่ ล ะชนิ ด ที่ พ บบนโลกล้ ว นมี อ ายุ
อยางไร 2. ครูตั้งคําถามกระตุนความคิดโดยใหนักเรียน
ต่างกัน ซึ่งการหาอายุสัมบูรณ์ของวัตถุดังกล่าวนั้น แล้วน�ามา
ชวยกันระดมความคิดในการตอบคําถาม
จัดเรียงต่อเนื่องกัน ท�าให้เกิดเป็นตารางธรณีกาล (geologic time scale : GTS) ซึ่งถือว่าเป็นการ
• ถาตองการทราบวา เหตุการณทางธรณีวทิ ยาใด
ล�าดับอายุทางธรณีวทิ ยานับตัง้ แต่ทโี่ ลกก�าเนิดขึน้ มาเมือ่ ประมาณ 4,600 ล้านปีกอ่ น จนถึงปัจจุบนั
เกิดขึน้ กอน หรือหลัง นักเรียนจะทําอยางไร
ตารางธรณีกาลฉบับสากล จัดท�าขึ้นโดยคณะท�างานการล�าดับชั้นหินสากล (International (แนวตอบ นําขอมูลอายุทางธรณีวิทยาของ
Commission on Stratigraphy) ซึ่งมีลักษณะเป็นตารางที่ประกอบด้วยชื่อบรมยุค (Eon) มหายุค เหตุการณแตละเหตุการณมาเรียงลําดับ)
(Era) ยุค (Period) อนุยุคหรือสมัย (Epoch) อายุ (Age) และรุ่น (Chron) ตามล�าดับ พร้อมทั้ง • นักวิทยาศาสตรศกึ ษาเหตุการณทเี่ กิดขึน้ ใน
มีตัวเลขที่แสดงอายุของเส้นแบ่งแต่ละยุคสมัยในหน่วยล้านปี ซึ่งได้มาจากข้อมูลชั้นหินแบบฉบับ อดีตไดอยางไร
ของโลก (Global Stratotype Sections and Points : GSSPs) (แนวตอบ ศึกษาไดจากซากดึกดําบรรพ รอง
ตารางธรณีกาลในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 4 บรมยุค ดังนี้ รอยที่ปรากฏอยูในหิน หรือหลักฐานทาง
1. บรมยุคฮาเดียน (Hadean) หรือบรมยุคอัคคีสมุทร ธรณีวิทยาอื่นๆ)
2. บรมยุคอาร์เคียน (Archean) หรือบรมยุคบรมกาล หรือคริปโทโซอิก (Cryptozoic) หรือ • มาตราธรณีกาลมีความสําคัญอยางไร
อาร์คีโอโซอิก (Archaeozooic) หรืออะโซอิก (Azoic) (แนวตอบ ชวยใหเขาใจลําดับเหตุการณทาง
3. บรมยุคโพรเทอโรโซอิก (Proterozoic) หรือบรมยุคบรมชีวิน ธรณีวิทยานับตั้งแตโลกถือกําเนิดขึ้นเมื่อ
4. บรมยุคฟาเนอโรโซอิก (Phanerozoic) หรือบรมยุคชีวินกาล ประมาณ 4,500 ลานปกอนจนถึงปจจุบัน)
นักธรณีวิทยาได้จัดบรมยุคอาร์เคียนและบรมยุคโพรเทอโรโซอิกไว้ด้วยกัน แล้วเรียกว่า 3. ครูถามคําถาม prior knowledge จากหนังสือ
พรีแคมเบรียน (Precambrian) หรือบรมยุคฐานชีวินส่วนบรมยุคฟาเนอโรโซอิก แบ่งย่อยออกเป็น เรียน หนา 65 วา นักเรียนรูจักยุคตางๆ ทาง
3 มหายุค ดังนี้ ธรณีบางหรือไม อยางไร
1. มหายุคพาลีโอโซอิก (Paleozoic) หรือมหายุคปฐมชีวิน
2. มหายุคมีโซโซอิก (Mesozoic) หรือมหายุคมัชฌิมชีวิน
3. มหายุคซีโนโซอิก (Cenozoic) หรือมหายุคนวชีวิน
แต่ละมหายุคจัดแบ่งย่อยออกเป็นยุค และแต่ละยุคแบ่งย่อยออกเป็นอนุยคุ หรือสมัย นอกจากนี้
ยังแบ่งย่อยออกเป็นอายุและรุน่ ตามล�าดับอีกด้วย ซึง่ การแบ่งช่วงเวลาต่าง ๆ นัน้ ขึน้ อยูก่ บั เหตุการณ์
ต่าง ๆ ในอดีต เช่น การเปลีย่ นแปลงชนิดหรือเผ่าพันธุพ์ ชื หรือสัตว์ การเกิดปรากฏการณ์ทางธรณีวทิ ยา
เช่น การสูญพันธ์ุของไดโนเสาร์ใช้เป็นตัวแยกมหายุคมีโซโซอิกออกจากมหายุคซีโนโซอิก เป็นต้น
แนวตอบ Prior Knowledge
ลําดับชั้นหิน 65
นักเรียนตอบตามความคิดของตนเอง เชน ยุคจู
แรสซิก ซึง่ เปนชือ่ ของภาพยนตรทมี่ เี นือ้ หาเกีย่ วของ
กับไดโนเสาร หรือยุคอื่นๆ ที่นักเรียนรูจัก
T73
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
ตารางที่ 4.3 : ต�ร�งธรณีก�ล
1. ให นั ก เรี ย นสื บ ค น ข อ มู ล เกี่ ย วกั บ การจั ด ทํ า บรมยุค มหายุค ยุค สมัย
เหตุการณ์ส�าคัญและสิ่งมีชีวิต
เวลา
(Eon) (Era) (Period) (Epoch) (ล้านปี)
มาตราธรณีกาล แลวครูถามคําถามวา โฮโลซีน มนุษย์ปัจจุบัน
• มาตราธรณีกาล จัดทําขึน้ ดวยวิธกี ารใด ควอเทอร์นารี (Holocene) 0.0117
(Quaternary) ไพลสโตซีน
(แนวตอบ นําขอมูลอายุทางธรณีวทิ ยาของหิน (Pleistocene) มนุษย์สมัยหิน
2.58
ไพลโอซีน
ซากดึกดําบรรพ และเหตุการณทางธรณีวทิ ยา นีโอจีน (Pliocene) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่และช้างแพร่หลาย
ซีโนโซอิก 5.333
อื่นๆ มาจัดเรียงโดยเริ่มตั้งโลกถือกําเนิด (Cenozoic)
(Neogene) ไมโอซีน ไม้ดอกเจริญเต็มที่ เริ่มมีหมีและสุนัข
(Miocene)
ขึ้นจนถึงปจจุบัน โดยแบงชวงเวลา เปน หรือนวชีวิน
โอลิโกซีน เริ่มมีหมูและลิง
23.03
2,800
มีโซอาร์เคียน
อภิมหาทวีปวาลบาราแตกออก
อาร์เคียน
(Mesoarchean)
3,200
พาลีโออาร์เคียน เกิดอภิมหาทวีปวาลบารา (vaalbara)
(Paleoarchean)
3,600
อีโออาร์เคียน
(Eoarchean)
4,000
ฮาเดียน (Hadean) หรืออัคคีสมุทร ก�าเนิดของโลก 4,600
66
T74
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
3.1 พรีแคมเบรียนหรือฐานชีวิน 2. ใหนกั เรียนสืบคืนขอมูลเกีย่ วกับเหตุการณทาง
เริ่มตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 4,000 ล้านปีก่อน จนถึงประมาณ 541 ล้านปีก่อน พื้นผิวโลก ธรณีวิทยาที่เกิดขึ้นในมาตราธรณีกาล เพื่อ
ร้อนระอุพื้นที่ส่วนใหญ่มีสภาพโล่ง มีภูเขา ทะเลทราย และภูเขาไฟปะทุจ�านวนมากจนเกิดเป็น เชื่อมโยงเขาสูกิจกรรมสํารวจมาตราธรณีกาล
ธารลาวา โดยนักธรณีวิทยาเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตชั้นต�่าเริ่มก�าเนิดขึ้นในช่วงปลายพรีแคมเบรียน แต่ 3. ครูใหนักเรียนนับจํานวน 1 - 5 วนไปเรื่อยๆ
ส่วนมากไม่ทิ้งร่องรอยหรือหลักฐานที่ชัดเจนมาจนถึงปัจจุบัน จนครบทุกคน เพื่อแบงนักเรียนออกเปนกลุม
กลุมละ 5 คน โดยคนที่นับจํานวนเดียวกันให
พรีแคมเบรียนหรือฐานชีวน
ิ (Precambrian) อยูกลุมเดียวกัน
4. ครูแจงจุดประสงคของการทํากิจกรรม จาก
บรมยุคอารเคียน (Archean Eon) หรือบรมยุคบรมกาล นัน้ ใหนกั เรียนอธิบายเหตุการณทางธรณีวทิ ยา
4,000–2,500 ล้านปีก่อน
พื้นผิวโลกมีอุณหภูมิสูงมาก ซึ่งเต็มไปด้วยภูเขาไฟและธารลาวา บรรยากาศประกอบ ที่เกิดขึ้นในมาตราธรณีกาล โดยทํากิจกรรม
ด้วยแกสพิษ เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ มีเทน แอมโมเนีย สํารวจมาตราธรณีกาล
1 เจน
ไม่มีแกสออกซิเจน จึงพบสิ่งมีชีวิตจ�าพวกที่ไม่อาศัยออกซิ
ในการด�ารงชีวิต ได้แก่ โพรแคริโอต พวกสโตรมาโตไลต์
(stromatolite) ซึ่งสร้างคลอโรฟิลล์แล้วตรึงแกส
คาร์บอนไดออกไซด์มาสร้างอาหารด้วยกระบวนการสังเคราะห์ด้วย ภาพที่ 4.12 สโตรมาโตไลต์
แสง ท�าให้ได้แกสออกซิเจนออกมาสู่บรรยากาศ
ลานปกอน
4500 3500 2500 1500 500
ลําดับชั้นหิน 67
T75
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
5. ครู ใ ช รู ป แบบการเรี ย นรู แ บบร ว มมื อ มาจั ด 3.2 บรมยุคฟาเนอโรโซอิกหรือบรมยุคชีวินกาล
กระบวนการเรี ย นรู โดยกํ า หนดให ส มาชิ ก เริ่มตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 541 ล้านปีก่อนจนถึงปัจจุบัน ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็น 3 มหายุค
แต ล ะคนภายในกลุ ม มี บ ทบาทหน า ที่ ข อง ดังนี้
ตนเอง ดังนี้
สมาชิกคนที่ 1 - 2 ทําหนาทีเ่ ตรียมวัสดุอปุ กรณ มหายุคพาลีโอโซอิกหรือมหายุคปฐมชีวน
ิ (Paleozole Era)
สมาชิกคนที่ 3 - 4 ทําหนาที่อานวิธีการทํา
ยุคแคมเบรียน (Cambrian Period) ยุคออรโดวิเชียน (Ordovician Period)
กิจกรรม และนํามาอธิบายใหสมาชิกภายใน 541–485 ล้านปีก่อน 485–443 ล้านปีก่อน
กลุมฟง เหตุการณ์ส�าคัญในยุคนั้น หินที่พบส่วนใหญ่จะเป็น
สมาชิกคนที่ 5 ทําหนาที่บันทึกผลการทดลอง คือ น�้าทะเลเริ่มรุกล�้าเข้าไป พวกหินปูน หินโดโลไมต์
ในบริเวณผืนแผ่นดินมากขึ้น หินทราย และหินดินดาน
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช หินที่พบส่วนใหญ่เป็นหินทราย ซากดึกด�าบรรพ์ที่พบเป็น
แบบประเมินการทํางานกลุม) หินชนวน หินดินดาน และหินปูน สาหร่ายทะเล สัตว์ไม่มี-
ซากดึกด�าบรรพ์ที่พบเป็นพวกสาหร่าย กระดูกสันหลัง เช่น ภาพที่ 4.16
6. ใหนักเรียนแตละกลุมทํากิจกรรมตามขั้นตอน ภาพที่ 4.15 ไทรโลไบต์
ทะเล แต่แทบไม่เหลือร่องรอยไว้ในชั้นหิน ไทรโลไบต์ แกรปโทไลต์ ออร์โธเซอราส
ดังนี้ พบสัตว์จ�าพวกไทรโลไบต์ (trilobite) หอยตะเกียง พวกที่เป็นรูปกิ่ง ไบรโอซัว (bryozoa)
(brachiopod) แกรปโทไลต์ (graptolite) พวกที่ หอยตะเกียง หอยเซฟาโลพอด ส่วนสัตว์
1) พิจารณาภาพสิง่ มีชวี ติ และขอมูลเหตุการณ เป็นร่างแห (dictyonema) มีกระดูกสันหลัง เช่น สัตว์ที่มีลักษณะคล้ายปลา
ทางธรณี วิ ท ยา รวมถึ ง ข อ มู ล ต า งๆ ที่
เกีย่ วของ
2) จัดเรียงขอมูลสิ่งมีชีวิตและเหตุการณทาง ล้านปีก่อน
600 500 400
400
ธรณีวทิ ยา แลวนํามาจัดทําเปนมาตราธรณี
กาลในรูปแบบแผนภาพ หรือ infographic ยุคไซลูเรียน (Silurian Period)
443–419 ล้านปีก่อน ยุคดีโวเนียน (Devonian Period)
3) ครูและนักเรียนรวมกันพิจารณาแผนภาพ หินที่พบส่วนใหญ่เป็นพวกหินปูน หินทราย 419–358 ล้านปีก่อน
หรือ infographic เพื่อชวยกันตรวจสอบ และหินดินดาน ซากดึกด�าบรรพ์ที่พบ เช่น หินที่พบส่วนใหญ่เป็นพวก
ขอมูล สาหร่ายทะเล และในตอนปลายยุคเริ่มพบพืชบก หินดินดาน หินปูน และ
ครั้งแรก จึงกล่าวได้ว่าเป็นยุคแรกเริ่มของพืชบก หินทรายแดง เหตุการณ์ส�าคัญใน
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น ไบรโอซัว ไทรไลไบต์ ภาพที่ 4.18 ยุคนั้น คือ ตอนปลายของยุคไซลูเรียน
แบบประเมินชิ้นงาน) และแกรปโทไลต์พวกที่เป็นรูปกิ่ง (monograptus) ปลาออสทราโคเดิร์ม เปลือกโลกมีการเคลื่อนตัวและมีการระเบิด
หอยตะเกียงเจริญสูงสุด นอกจากนี้ ยังพบ ของภูเขาไฟ ท�าให้ทะเลบางส่วนยกตัวขึ้นกลายเป็นแผ่นดิน สัตว์
7. ใหนกั เรียนแตละกลุม สงตัวแทนมานําเสนอผล ปะการังไครนอยด์ (crinoid) จ�าพวกปลามีวิวัฒนาการสูงและมีความหลากหลายมาก จึงเรียกยุคนี้
การทํากิจกรรม สัตว์จ�าพวกหอยพบได้น้อย ว่า “ยุคแห่งปลา” โดยพบปลาน�้าจืดหลายชนิด เช่น ปลาไร้ขากรรไกร
ส่วนสัตว์มีกระดูกสันหลัง ปลาออสทราโคเดิร์ม (ostracoderm) ปลาครอสส์ออฟเทอริเกียน
เช่น สัตว์ต้นตระกูลของ (crossopterygian) และปลาดิฟนอย (dipnoi) นอกจากนี้ บนแผ่นดิน
ปลาไร้ขากรรไกร เริ่มพบกิ้งกือ แมงมุม แมลงไร้ปีก และยังพบสัตว์สะเทินน�้าสะเทินบก
ภาพที่ 4.17 ไครนอยด์ ในช่วงปลายยุค
68
T76
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
Earth Science
Focus การสูญพันธุของสิ่งมีชีวิต
ลําดับชั้นหิน 69
T77
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
1. ครูกลาวเชื่อมโยงเขาสูเนื้อหาตอไป โดยตั้ง มหายุคมีโซโซอิกหรือมหายุคมัชฌิมชีวิน (Mesozoic Era)
ประเด็นคําถามวา มาตราธรณีกาลสามารถ
อยู่ในช่วงเวลาประมาณ 257-66 ล้านปีก่อน ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็น 3 ยุค ดังนี้
เปลี่ยนแปลง ไดหรือไม ใหนักเรียนรวมกัน
ยุคไทรแอสซิก (Triasic Period)
อภิปราย 257–201 ล้านปีก่อน
( แนวตอบ ได เพราะถ า หากมี ก ารค น พบ หินที่พบส่วนใหญ่เป็นพวกหินสีแดงและหินเกลือที่เกิดขึ้นในสภาวะที่มีความร้อนและแห้งแล้ง
หินปูนและหินดินดานที่เกิดขึ้นในทะเลตื้นและน�้าอุ่น
หลักฐานทางธรณีวิทยาใหม หรือมีเทคโนโลยี ยุคนี้เป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของสิ่งมีชีวิตทั้งบนบกและในทะเล ปลายยุคพบปรงและเฟิร์น
ที่สามารถหาอายุสัมบูรณไดแมนยําขึ้น เชน เจริญเติบโตดี พบสัตว์มีขาเป็นปล้องพวกครัสเทเชียนหลายชนิดอาศัยอยู่ในแหล่งน�้า เช่น
การขยายเวลาของยุ ค ควอเทอร น ารี การ หมัดที่เรียกว่า แอสเธอเรีย (estheria) แมลงป่องและแมลงต่าง ๆ ส่วนสัตว์มีกระดูกสันหลัง
ภาพที่ 4.21
พบพวกปลามีปอด (ceratodus) สัตว์เลื้อยคลานมีทั้งชนิดและจ�านวนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้
เปลี่ยนแปลงยุคเทอรเชียรีเปนยุคพาลีโอจีน ยังพบเต่าและจระเข้ ในช่วงปลายยุคพบไดโนเสาร์จ�านวนมาก แอสเธอเรีย
และนีโอจีน) ในทะเลยังพบหอยตะเกียงและไครนอยด์ ปะการังพวกใหม่ที่เรียกว่า
ปะการังหกเหลี่ยม (hexacorals) พบหอยสองฝาและหอยโข่งมากขึ้น
2. ครูใหนกั เรียนจับคูก นั สืบคนขอมูลเกีย่ วกับเรือ่ ง ส่วนเซฟาโลพอดเป็นพวกเซอราไททีส (ceratites) จ�านวนมาก
มาตราธรณีกาล ดังนี้ สัตว์มีขาเป็นปล้องที่มีลักษณะคล้ายกุ้ง สัตว์มีกระดูกสันหลังพบพวก ภาพที่ 4.22 ปะการังหกเหลี่ยม
- การสูญพันธุครั้งใหญของสิ่งมีชีวิตบนโลก ต้นตระกูลปลากระดูกแข็ง (bony fishes) รวมทัง้ ปลาทีบ่ นิ ได้จา� นวนมาก
แต่ฉลามมีนอ้ ยลง และเริม่ พบสัตว์เลือ้ ยคลานกินเนือ้ ทีม่ รี ปู ร่างคล้าย
- การเปลี่ยนแปลงขอมูลในมาตราธรณีกาล ปลา (icthyosaurs)
โดยนักเรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือ
ภาพที่ 4.23 เซอราไททีส
แหลงเรียนรูอื่นๆ แลวนําขอมูลมาแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็น และรวมกันตั้งประเด็นคําถาม ล้านปีก่อน
300 250 200
เกี่ยวกับเรื่องที่สืบคนมา
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช ยุคจูแรสซิก (Jurassic Period)
แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล) 201–145 ล้านปีก่อน
หินทีพ่ บเป็นพวกหินปูนเม็ดไข่ปลา (oolitic limestone) หินดินดาน
และหินทราย บนบกพบพืชหลายชนิด เช่น สน เฟิรน์ ปรง แปะกวย
(ginkgo) ซึ่งยุคนี้อาจเรียกได้ว่าเป็น “ยุคของปรง” ส่วนพืชดอก
ที่แท้จริงยังไม่ปรากฏ พบแมลงปอ ตั๊กแตน แมลงปีกแข็ง สัตว์มี
กระดูกสันหลังเริ่มมีกบและอึ่งอ่าง สัตว์เลื้อยคลานเจริญสูงสุด
และมีจ�านวนมาก เช่น ไดโนเสาร์ เทอโรซอร์ที่บ1ินได้
จระเข้ และเต่า พบนกตัวแรก คือ อาร์คอี อปเทอริกซ์
(archaeopteryx) ซึ
) ซึ่งมีวิวัฒนาการ
มาจากสัตว์เลื้อยคลาน
ภาพที่ 4.25 อาร์คีออปเทอริกซ์
T78
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
3. ใหนกั เรียนรวมกลุม กับเพือ่ นอีกคูห นึง่ รวมเปน
4 คน แลวแลกเปลี่ยนกันถามคําถามที่ตั้งไว
ยุคครีเทเชียส (Cretaceous period)
145–66 ล้านปีก่อน
จากนัน้ รวมกันสรุปเพือ่ เตรียมนําเสนอหนาชัน้
หินที่พบส่วนใหญ่เป็นพวกหินชอล์กที่ประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนต (จากเศษชิ้นส่วน เรียน
ของสาหร่าย คอคโคลิธ (coccolith) ปนอยู่กับเศษเปลือกหอยและฟิวซูลินิด บนบกยัง 4. ครูสมุ เลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมานํา
พบพืชพวกสน เฟิร์น และปรง ส่วนในช่วงกลางยุคเริ่มมีพืชดอก (angiosperm)
และปลายยุคพบพืชทั่วไปที่พบในปัจจุบัน สัตว์ที่พบส่วนใหญ่ เสนอคําถามของกลุม ตนเอง โดยใหนกั เรียนทัง้
เป็นพวกไดโนเสาร์ และมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน�้านมอยู่บ้าง หองรวมกันตอบคําถาม และอภิปรายรวมกัน
แต่ในช่วงปลายยุคไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปในทะเลพบ
ฟองน�้าเนื้อปูน และไบรโอซัวกระจายอยู่จ�านวนมากใน
เขตน�้าตื้น พบหอยตะเกียงและหอยสองฝาจ�านวนมาก
ภาพที่ 4.26 ไดโนเสาร์ ส่วนแอมโมนอยด์พบน้อยลงและสูญพันธุ์ใปใน
ช่วงปลายยุค อาร์โทรพอดมีพวกกุ้ง เอไคนอยด์ ไครนอยด์ และ
ดาวทะเลอยู่มาก พวกสัตว์เซลล์เดียว พบฟิวซูลินิด
และราดิโอลาเรียอยู่แพร่หลาย ส่วนพวกสัตว์
มีกระดูกสันหลัง พบปลามีขากรรไกร ฉลาม
และกระเบนที่มีลักษณะคล้ายกับในปัจจุบัน
150 100
ลําดับชั้นหิน 71
T79
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
ขยายความเขาใจ
1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายเพื่ อ ให ไ ด มหายุคซีโนโซอิกหรือมหายุคนวชีวิน Cenozoic Era
ขอสรุปเกี่ยวกับมาตราธรณีกาล โดยอาจมี
อยู่ในช่วงเวลาประมาณ 66 ล้านปีก่อน จนถึงปัจจุบัน เป็นมหายุคที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน�้านม
แนวทางสรุป ดังนี้
และไม้ดอกเจริญมาก ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็น 3 ยุค ดังนี้
“มาตราธรณี ก าล คื อ การลํ า ดั บ อายุ ท าง
ยุคพาลีโอจีน (Paleogene Period) ยุคนีโอจีน (Neogene Period)
ธรณี วิ ท ยาตั้ ง แต โ ลกถื อ กํ า เนิ ด ขึ้ น ซึ่ ง มี 66–23 ล้านปีก่อน 23–2.5 ล้านปีก่อน
การเปลี่ ย นแปลงทางธรณี วิ ท ยา และสิ่ ง มี สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน�้านมเริ่มพัฒนาจากที่มีขนาด พบสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่และมีลักษณะที่ซับซ้อน
เล็ก ไปเป็นสัตว์ทมี่ ขี นาดใหญ่หลากหลายสายพันธุ์ มากขึ้น เริ่มพบลิงเอป (ape) ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์
ชี วิ ต มากมาย เพื่ อ ความเข า ใจชั ด เจน นั ก ส่วนนกมีวิวัฒนาการมาสู่รูปแบบในปัจจุบัน ซึ่ง โดยพบในแอฟริกากลางและยุโรป ในแอฟริกาใต้
พบออสทราโลพิเทคัส (Australopithecus) ซึ่งเป็น
วิทยาศาสตรจงึ จัดแบงชวงเวลาทางธรณีวทิ ยา ยุคนี้แบ่งออกเป็น 3 สมัย ดังนี้ ต้นตระกูลของมนุษย์ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังพบสัตว์
สมัยพาลีโอซีน (Paleocene Epoch) เลี้ยงลูกด้วยน�้านมที่อาศัยอยู่ในน�้า เช่น วาฬ วัวทะเล
ออกเปน บรมยุค มหายุค ยุค สมัย ชวงอายุ 66-56 ล้านปีก่อน สิง่ มีชวี ติ ทีบ่ นิ ได้ เช่น ค้างคาว สัตว์ไม่มกี ระดูกสันหลัง
ที่อาศัยอยู่ในทะเล มีพวกหอย เช่น หอยสองฝา
และรุน ตามลําดับ ซึง่ มาตราธรณีกาลสามารถ มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์มาก
หอยโข่ง และยังมีพวกเอไคนอยด์ อาร์โทพอด เช่น
สมัยอีโอซีน (Eocene Epoch)
เปลี่ยนแปลงได ถามีหลักฐานทางธรณีวิทยา 56-33 ล้านปีก่อน
ครัสเทเชียน แมลงชนิดต่าง ๆ
สมัยไมโอซีน (Miocene Epoch)
มาสนับสนุน” พบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน�้านมที่มีรก 23-5 ล้านปีก่อน ภาพที่ 4.30 ลิงเอป
2. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน ทําใบงาน สมัยโอลิโกซีน (Oligocene Epoch) พบพืชจ�าพวกหญ้าทนไฟ สัตว์ที่พบ เช่น หมี กวาง บีเวอร์
33-23 ล้านปีก่อน สมัยไพลโอซีน (Pliocene Epoch)
ที่ 4.3 เรื่อง มาตราธรณีกาล ในรูปของแผนผัง มีปา่ ไม้ผลัดใบ พบสัตว์มกี ระดูกสันหลัง เช่น ฉลาม 5-2.5 ล้านปีก่อน
ปลากระดูกแข็ง สัตว์เลื้อยคลาน เช่น จระเข้ เต่า
ความคิดใหมีความถูกตองและนาสนใจ แลว พบสัตว์เลื้อยคลานที่ส�าคัญ คือ จระเข้น�้าเค็ม เนื่องจากอากาศเริ่ม
เย็นลง จึงมีพชื ส�าคัญ คือ สนและหญ้า นอกจากนัน้ ยังมีหอยฝาเดียว
นําเสนอผลงาน ปะการัง และหอยนางรม
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
ล้านปีก่อน
แบบประเมินการนําเสนอผลงาน)
80 60 40 20 0
ยุคควอเทอรนารี (Quaternary Period)
2.5 ล้านปีก่อน จนถึงปัจจุบัน เหตุการณ์ส�าคัญของยุคนี้ คือ
วิวัฒนาการของโฮโมนิด (homonid)
สมัยไพลสโตซีน (Pleistocene Epoch)
2.5-0.01 ล้านปีก่อน มีธารน�้าแข็งจ�านวนมาก จึงเรียกว่า สมัย
น�้าแข็ง (Ice Age) พบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน�้านมที่ส�าคัญ คือ
แมมมอธ (mammoth) มาสโตดอน (mastodon) และมนุษย์
นีแอนเดอร์ทัล (neanderthal)
สมัยโฮโลซีน (Holocene Epoch)
0.01 ล้านปีก่อน จนถึงปัจจุบัน
เป็นช่วงที่มนุษย์มีการบันทึกข้อมูลในประวัติศาสตร์
จนมาถึงช่วงที่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม (ศตวรรษที่ 18)
T80
นํา สอน สรุป ประเมิน
ขัน้ สรุป
Summary ขยายความเขาใจ
3. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน สราง
ล�าดับชัน้ หิน แบบจําลองมาตราธรณีกาล ตามความรูที่ได
เรียนมาโดยแตละกลุมเลือกมหายุคที่สนใจ
กลุมละ 1 มหายุค
การลําดับชั้นหิน
การจ�าแนกหน่วยหิน 4. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมา
จดั ล�าดับหินจากหน่วยใหญ่ไปยังหน่วยย่อย ได้แก่ กลุม่ หิน (group) หมวดหิน (formation) หมูห่ นิ (member) นําเสนอแบบจําลองของกลุมตนเอง โดยให
และชั้นหิน (bed) นั ก เรี ย นทั้ ง ห อ งร ว มกั น ตั้ ง คํ า ถามเกี่ ย วกั บ
การล�าดับชั้นและการกระจายตัวของหิน มาตราธรณีกาล และอภิปรายรวมกัน
กลุ่มหิน กลุ่มหิน กลุ่มหิน 5. ครูมอบหมายการบานใหนกั เรียนทําแบบฝกหัด
บรมยุคพรีแคมเบรียน มหายุคพาลีโอโซอิกตอนต้น มหายุคพาลีโอโซอิกตอนกลาง
จาก Unit Question 4 ในหนังสือเรียน หนา
กลุ่มตะรุเตา และกลุ่มทุ่งสง กลุ่มทองผาภูมิ และกลุ่มปากชม
75
6. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป เนื้ อ หาเกี่ ย วกั บ
กลุ่มหิน กลุ่มหิน กลุ่มหิน
มหายุคซีโนโซอิก มหายุคมีโซโซอิก มหายุคพาลีโอโซอิกตอนปลาย ลําดับชัน้ หิน จากนัน้ ใหนกั เรียนทําแบบทดสอบ
กลุ่มแม่เมาะ และกลุ่มกรุงเทพ กลุ่มล�าปาง และกลุ่มโคราช กลุ่มแก่งกระจาน กลุ่มราชบุรี หลังเรียน
และกลุ่มสระบุรี
ขัน้ ประเมิน
การหาอายุทางธรณีวิทยา ตรวจสอบผล
อายุเปรียบเทียบ อายุสัมบูรณ์ 1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม
ศึกษาจากการจัดล�าดับชั้นหิน ซึ่งวิธีการนี้ วิ เ คราะห์ แ ละค� า นวณจากไอโซโทป การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน
จะไม่สามารถระบุอายุเป็นปีที่แน่ชัดได้ ของธาตุกัมมันตรังสีที่อยู่ในวัตถุทาง
ธรณีวิทยา 2. ครูประเมินการปฏิบัติการจากการทําใบงาน
เรื่อง มาตราธรณีกาล
กฎการวางตัว กฎความสัมพันธ์ กฎการเทียบ กฎการสืบทอด กฎการเป็น 3. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัดจาก Unit
ซ้อนทับ ที่ตัดกัน สัมพันธ์ของ สัตวชาติ เอกภาพ Question 4
หิินตะกอน ปัจจุบันเป็นกุญแจ
ชั้นหินที่ไม่ถูก หากมีหินอัคนีแทรก ซากดึกด�าบรรพ์
ไขไปสู่อดีต (The
4. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน
รบกวนจาก ตัวขึ้นมาตัดขวางชั้น วิเคราะห์ความคล้าย นั้นเปลี่ยนแปลง
กระบวนการต่าง ๆ หินเดิม หินนั้นย่อม กันของลักษณะ ได้ ท�าให้ล�าดับชั้น present is the key
ชั้นหินที่วางตัวอยู่ มีอายุน้อยกว่าชั้น ต�าแหน่ง และล�าดับ หินที่ต่อเนื่องกัน to the past)
ด้านบนย่อมมีอายุ หินเดิม ชั้นหินตะกอน มีซากดึกด�าบรรพ์
น้อยกว่าชั้นหินที่ ในพื้นที่ต่าง ๆ ต่างกัน
วางตัวอยู่ด้านล่าง
ลําดับชั้นหิน 73
แผนภาพ
สอดคล้อง
2 1
แผนภาพไม่
สอดคล้อง
การพบซากดึกดําบรรพสามารถใชบอกสภาพแวดลอมและสภาพ 4 มีความเป็นระเบียบ
รวม
3. แผนภาพมีความคิด
สร้างสรรค์
แผนภาพแสดงออก แผนภาพมีแนวคิด แผนภาพมีความ
ถึงความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่แต่ยัง
แปลกใหม่และเป็น
ระบบ
ไม่เป็นระบบ
น่าสนใจ แต่ยังไม่มี
แนวคิดแปลกใหม่
แผนภาพไม่แสดง
แนวคิดใหม่
ภูมิอากาศในอดีตของพื้นที่นั้นๆ ได)
ลงชือ่ ............................................................. ผู้ประเมิน 4. แผนภาพมีความเป็นระเบียบ แผนภาพมีความเป็น แผนภาพส่วนใหญ่ แผนภาพมีความ แผนภาพส่วนใหญ่
............ /............/............. ระเบียบแสดงออกถึง มีความเป็น เป็นระเบียบแต่มี ไม่เป็นระเบียบ
ความประณีต ระเบียบแต่ยังมี ข้อบกพร่อง และมีข้อบกพร่อง
ข้อบกพร่อง บางส่วน มาก
เล็กน้อย
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง
136
T81
135
นํา สอน สรุป ประเมิน
ทางธรณีวิทยาที่วา ปจจุบันเปนกุญแจไขไปสู
อดีต (The present is the key to the past)
2. หากหินแกรนิตตัดผานเขาไปในหินทราย หินทรายจะมีอายุมากกวาหินแกรนิตตามกฎความสัมพันธที่ตัดกัน
3. เรียงลําดับอายุของชั้นหินจากมากที่สุดไปนอยที่สุดได ดังนี้ E > D > F > C > B > A
4. ประเทศไทยประกอบดวยแผนธรณีภาค (lithospheric plate) 2 แผนหลัก คือ แผนฉาน - ไทย (Shan - Thai Plate) ทางทิศตะวันตก และแผนอินโดจีน
(Indochina Plate) ทางทิศตะวันออก โดยมีแผนยอยอีก 2 แผนคั่นกลางอยู ซึ่งไดแก แผนสุโขทัย (Sukhothai Plate) หรือเขตสุโขทัย (Sukhothai Belt)
และแผนนครไทย (Nakhonthai Plate) หรือเขตเลย (Loei Belt) โดยแผนทั้งหมดเชื่อมตอกันดวยตะเข็บธรณีหลายตะเข็บ
T82
นํา สอน สรุป ประเมิน
5. แหลงทองเที่ยวทางธรณีวิทยา ตัวอยางเชน
U nit
คําชี้แจง :
Question 4
ให้ นั ก เรี ย นตอบค� า ถามต่ อ ไปนี้
- แพะเมืองผี ตําบลนํ้าซํา อําเภอเมือง จังหวัด
แพร
- เขาชองกระจก ตําบลอาวนอย อําเภอเมือง
จังหวัดประจวบคีรีขันธ
1. การหาอายุเปรียบเทียบทางธรณีวิทยาต้องอาศัยกฎและหลักการเกี่ยวกับธรณีวิทยาต่าง ๆ
- อุทยานแหงชาติภูเวียง อําเภอภูเวียง จังหวัด
จงอธิบายกฎและหลักการดังต่อไปนี้
- กฎการวางตัวซ้อนทับ ขอนแกน
- กฎความสัมพันธ์ที่ตัดกัน - เขาชี จ รรย ตํ า บลบางเสร อํ า เภอสั ต หี บ
- กฎการเทียบสัมพันธ์หินตะกอน จังหวัดชลบุรี
- กฎการสืบทอดสัตวชาติ - สุสานหอยแหลมโพธิ์ ตําบลไสไทย อําเภอ
- กฎการเป็นเอกภาพ เมือง จังหวัดกระบี่
2. หากพบหินแกรนิตตัดผ่านเข้าไปในหินทราย นักเรียนคิดว่าหินใดมีอายุมากกว่า เพราะเหตุใด 6. จากขอมูลในตารางธรณีกาล ยุคที่มีความเกา
แกที่สุด คือ แคมเบรียน (Cambrian) สวนยุค
3. จากภาพ จงเรียงล�าดับอายุของชั้นหินจากมากที่สุดไปน้อยที่สุด
ที่ออนสุด คือ ควอเทอรนารี (Quaternary)
A 7. การหาอายุ สั ม บู ร ณ ข องหิ น และแร โ ดยใช
B
C ไอโซโทปของธาตุกัมมันตรังสี ตัวอยางเชน
D
E - หินบะซอลต แรไมกา แรฮอรนเบลนด ทีม่ อี ายุ
F
ตั้งแต 1 แสนป ถึง 4,600 ลานป ใชวิธี K - Ar
ภาพที่ 4.32 ภาพส�าหรับข้อ 3. - หิ น แกรนิ ต แร ไ มกา ที่ มี อ ายุ ร ะหว า ง
4. ประเทศไทยประกอบด้วยแผ่นเปลือกโลกใดบ้าง และแต่ละแผ่นวางตัวอย่างไร 10 - 4,600 ลานป ใชวิธี Rb - Sr
5. จงยกตัวอย่างแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยา อย่างน้อย 3 แห่ง โดยระบุด้วยว่าแต่ละแห่งอยู่ใน - แรเซอรคอน แรสฟน แรโมนาไซต ที่มีอายุ
จังหวัดใด ระหวาง 10 - 4,600 ลานป ใชวิธี U - Pb
8. หินตะกอนของประเทศไทยที่เกิดจากสภาวะ
6. จากตารางธรณีกาล ยุคใดมีอายุเก่าแก่ที่สุด และยุคใดมีอายุอ่อนที่สุด
แวดลอมทีเ่ ปนทะเลผสมกับธารนํา้ แข็ง คือ กลุม
7. จงยกตัวอย่างการหาอายุสัมบูรณ์ของหินและแร่โดยใช้ไอโซโทปของธาตุกัมมันตรังสี แกงกระจาน
8. หินตะกอนกลุ่มใดของประเทศไทยที่เกิดจากสภาวะแวดล้อมที่เป็นทะเลผสมกับธารน�้าแข็ง 9. จากขอมูลในตารางธรณีกาล พบไดโนเสารมาก
9. จากข้อมูลในตารางธรณีกาล ท�าให้ทราบว่าพบไดโนเสาร์มากทีส่ ดุ ในยุคใด และอยูใ่ นช่วงระยะเวลา ที่สุดในยุคจูแรสซิก (Jurassic Period) มีอายุ
ประมาณกี่ล้านปี ประมาณ 201 - 145 ลานป ซึ่งอยูในมหายุคมี
10. นักเรียนคิดว่า ในอดีตประเทศไทยมีภูเขาไฟหรือไม่ จงอธิบายและยกตัวอย่างประกอบ โซโซอิก (Mesozoic Era)
10. ประเทศไทยมี ภู เ ขาไฟอยู แ ทบทุ ก ภาคของ
ประเทศยกเวนในภาคใต เชน ภูเขาไฟหิน
พนมรุง ภูเขาไฟหินหลุบ ภูเขาไฟคอก ภูเขาไฟ
ลําดับชั้นหิน 75
อังคาร ภูเขาไฟกระโดง จังหวัดบุรรี มั ย ภูเขาไฟ
ดอยฝาดอกจําปาแดด ภูเขาไฟดอยหินดอกผา
ฟู จังหวัดลําปาง
T83
S T E M Project
แผนดินไหว
เปนปรากฏการณที่เกิดจากธรรมชาติและการกระทํา
ของมนุษย ทําใหพลังงานศักยที่สะสมในหินปลดปลอยออก
มาเปนพลังงานจลนในรูปของคลื่นไหวสะเทือน ซึ่งถายทอด
พลังงานตอไปยังมวลหินที่อยูติดกัน โดยเปนธรณีพิบัติภัยที่
มีความรุนแรงมากที่สุด
สถานการณ
ทีมสถาปนิกทีมหนึง่ ไดรบั มอบหมายใหสง งานออกแบบเพือ่ เขารวมประมูลงานสรางอาคารสํานักงานทีต่ งั้ อยูใ นประเทศ
เนปาลซึง่ เปนประเทศทีเ่ กิดแผนดินไหวบอย โดยเงือ่ นไขการประมูลจากผูว า จางมีดงั นี้ ทีมสถาปนิกจะตองออกแบบอาคารที่
ทนตอการเกิดแผนไหวไดดี ไมถลมงาย และมีความสูงมากทีส่ ดุ ในงบประมาณทีเ่ ทากันหรือนอยกวา ถานักเรียนเปนสถาปนิก
ที่อยูในทีมนี้ นักเรียนจะออกแบบอาคารสํานักงานเพื่อใหทีมไดรับการประมูลงานสรางอาคารนี้ไดอยางไร
ขอจํากัด
อาคารที่สรางขึ้นจะตองมีคุณสมบัติ ดังนี้
• อาคารตองตั้งอยูบนพื้นผิวที่ไมมั่นคง (เยลลี่) และทนตอ
แผนดินไหว (การเขยาถาด)
• อาคารจะตองใชอุปกรณในการสรางใหนอยที่สุดและมี
ความสูงมากที่สุด เชื่อมโยงสูไอเดีย
T84
1 ระบุปญหา
วิเคราะห์สถานการณ์ และระบุ
แนวทางการแก้ปัญหา เพื่อเป็น
แนวทางในการสร้างสรรค์ชนิ้ งาน
6 นําเสนอวิธีการแกปญหา 2 รวบรวมขอมูลและแนวคิด
รวบรวมแนวคิดที่ได้ และปัญหา สืบค้นความรู้ และรวบรวม
ที่พบในกิจกรรม เพื่อน�าเสนอวิธี ข้อมูลที่น�าไปแก้ปัญหา แล้ว
การแก้ปัญหา สรุปข้อมูลความรู้ที่ได้มาโดย
สังเขป
ขั้นตอน
การท�ากิจกรรม
ร่วมกันวางแผนการสร้างสรรค์
ชิ้นงานอย่างเป็นล�าดับขั้นตอน
แล้ ว ตรวจสอบการด� า เนิ น การ
หากไม่ตรงตามแผนจะมีวิธีการ
แก้ไขอย่างไร
การประเมินผลงาน
ระดับคุณภาพ
เกณฑ์การประเมิน
1 2 3 4 5
• ทนทานต่อแผ่นดินไหว (การเขย่าถาด)
• จ�านวนอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างอาคารเหมาะสม
• ความสูงของอาคารที่สร้าง
T85
ภาคผนวก
การปฏิบัติตนในห้องปฏิบัติการ
1. ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้ห้องปฏิบัติการ
ข้อปฏิบัติในการใช้ห้องปฏิบัติการถูกก�ำหนดขึ้นเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุขึ้น
ในห้องปฏิบัติการ ซึ่งข้อปฏิบัติสำ� หรับผู้ใช้ห้องปฏิบัติการ มีดังนี้
1) ระมัดระวังในการท�ำปฏิบัติการ และท�ำปฏิบัติการอย่างตั้งใจ ไม่เล่นหยอกล้อกัน
2) เรียนรู้ต�ำแหน่งที่เก็บ และศึกษาการใช้งานของอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับความปลอดภัย เช่น เครื่องดับเพลิง น�้ำพุส�ำหรับ
ล้างตา ตู้เก็บยาปฐมพยาบาล โทรศัพท์ สัญญาณเตือนภัย เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องเรียนรู้วิธีการใช้อุปกรณ์อย่าง
ถูกต้องด้วย
ตัวอย่างสัญลักษณ์แสดงต�ำแหน่งที่เก็บและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับความปลอดภัย
T86
9) หากท�ำการทดลองทีต่ อ้ งใช้ความร้อนจากตะเกียงและแก๊ส จะต้องท�ำด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่รนิ ของเหลว
ที่ติดไฟง่ายใกล้เปลวไฟ ขณะเผาสารในหลอดทดลองต้องหันปากหลอดไปในบริเวณที่ไม่มีผู้อื่น และดับตะเกียงหรือ
ปิดแก๊สทันทีที่เลิกใช้งาน
10) สารเคมีทุกชนิดในห้องปฏิบัติการเป็นอันตราย จึงไม่ควรสัมผัส ชิม หรือสูดดมสารเคมีใด ๆ นอกจากจะได้รับค�ำ
แนะน�ำที่ถูกต้องแล้ว และไม่น�ำสารเคมีใด ๆ ออกจากห้องปฏิบัติการ
11) ตรวจสอบสลากที่ปิดสารเคมีทุกครั้งก่อนน�ำมาใช้ รินหรือตักสารออกมาในปริมาณที่พอใช้เท่านั้น ไม่เทสารเคมีที่
เหลือกลับขวดเดิม และไม่เทน�้ำลงในกรด
12) เมือ่ ท�ำการทดลองเสร็จแล้ว ต้องท�ำความสะอาดเครือ่ งมือและเก็บเข้าทีเ่ ดิมทุกครัง้ ท�ำความสะอาดโต๊ะท�ำปฏิบตั กิ าร
และสอดเก้าอี้เข้าใต้โต๊ะ ล้างมือด้วยสบู่และน�้ำก่อนออกจากห้องปฏิบัติการ
2. ความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ
ในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์จ�ำเป็นต้องมีสิ่งอ�ำนวยความสะดวกในการท�ำปฏิบัติการ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์
ต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจท�ำให้เกิดอันตรายและอุบัติเหตุต่อบุคคล และห้องปฏิบัติการอาจได้รับความเสียหายได้ เพื่อให้การ
ปฏิบัติกิจกรรมในห้องปฏิบัติการมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง จึงมีแนวทางเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านต่าง ๆ ดังนี้
1) ความปลอดภัยในการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า มีข้อควรระวัง ดังนี้
• ควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยความระมัดระวัง เช็ดมือและเท้าให้แห้งทุกครั้งที่ต้องสัมผัสกับอุปกรณ์ไฟฟ้า
• ถ้าต้องใช้สายไฟต่อจากเต้ารับเดียวกันหลายสาย หรือจ�ำเป็นต้องใช้ต่อพ่วงกันควรเลือกเต้ารับชนิดที่มีสวิตช์
เปิด-ปิด และไม่ต่อพ่วงเกิน 2 สาย
• หลังเลิกใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้า ให้ถอดเต้าเสียบออกจากเต้ารับทุกครั้ง
• อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดควรมีสัญญาณไฟที่แสดงว่าเครื่องก�ำลังท�ำงานอยู่ และถ้าเกิดความผิดปกติในระหว่างการ
ใช้งาน ต้องหยุดการท�ำงานของอุปกรณ์นั้นทันที
• เตาไฟฟ้า ต้องมีขดลวดของเตาไฟฟ้าอยู่ในเบ้าและไม่ช�ำรุดเสียหาย
• ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้า สายไฟ สวิตช์ และเครื่องควบคุมอุณหภูมิที่ชำ� รุดทันที
2) ความปลอดภัยในการใช้แก๊สและสารไวไฟ มีข้อควรระวัง ดังนี้
• ไม่น�ำถังแก๊สที่บุบ เป็นสนิม หรือรั่วซึมมาใช้ในห้องปฏิบัติการ
• สถานทีว่ างถังแก๊สต้องเป็นบริเวณทีอ่ ากาศถ่ายเทได้สะดวก และต้องมีการตรวจสอบการรัว่ ของแก๊สอย่างสม�ำ่ เสมอ
• จัดท�ำสัญลักษณ์เตือนอันตรายของสารไวไฟ และข้อปฏิบัติติดไว้ในสถานที่วางถังแก๊ส
• กอ่ นเปิดวาล์วควรตรวจสอบสภาพของสายแก๊สและหัวแก๊ส เมือ่ เลิกใช้งานต้องปิดวาล์วก่อนปิดเครือ่ งควบคุมความ
ดันของแก๊สที่ใช้ทุกครั้ง
• ตรวจสอบว่าแก๊สที่น�ำมาใช้เป็นประเภทเดียวกับที่ระบุไว้ที่ถังแก๊ส และต้องใช้อุปกรณ์ควบคุมความดันแก๊สตาม
มาตรฐานของแก๊สชนิดนั้น
• ตอ้ งท�ำการปฏิบตั กิ ารทีต่ อ้ งใช้เปลวไฟด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลีย่ งทีจ่ ะอยูใ่ กล้สงิ่ ทีก่ อ่ ให้เกิดความร้อน หรือ
เชื้อเพลิงซึ่งอาจท�ำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น
• กรณีเกิดไฟไหม้ต้องรีบปิดตะเกียงแอลกอฮอล์ หรือท่อแก๊สทุกท่อทันที ปิดถังแก๊สและน�ำสารไวไฟทุกชนิดออก
จากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุด
T87
• ต้องมีเครื่องดับเพลิงอยู่ในบริเวณที่ใช้งาน และมีทางออกฉุกเฉินที่เปิดได้ตลอดเวลา
• เมือ่ มีสารติดไฟ ต้องแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม ถ้าลุกไหม้เล็กน้อยให้ใช้ผา้ เปียกคลุมสิง่ นัน้ ไว้ ถ้าเสือ้ ผ้าลุก
ติดไฟให้นอนลงกลิ้งตัวกับพื้น หรือใช้ผ้าหนาห่มคลุมทับ และรีบน�ำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลทันที
3) ความปลอดภัยจากรังสีและไอสารพิษ มีข้อควรระวัง ดังนี้
• การทดลองที่มีควันพิษเกิดขึ้น จะต้องใช้ผ้ากรองควันพิษปิดจมูกและปาก และควรท�ำการทดลองในตู้ดูดควันที่อยู่
ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
• การทดลองทีใ่ ช้หลอดเลเซอร์เป็นแหล่งก�ำเนิดแสง ต้องไม่มองทีล่ ำ� แสงโดยตรง และควรมีขอ้ ความเตือนอันตราย
ติดไว้ที่หลอดเลเซอร์ พร้อมชี้แจงถึงวิธีใช้ที่ถูกต้องก่อนการใช้งาน
• การใช้สารกัมมันตรังสีในการท�ำปฏิบัติการ ควรเก็บไว้ในปริมาณที่จ�ำเป็นต้องใช้เท่านั้น และจะต้องขออนุญาต
จากหน่วยราชการที่ควบคุมการใช้สารกัมมันตรังสีด้วย พร้อมทั้งปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำอย่างเคร่งครัด ต้องเก็บ
สารกัมมันตรังสีไว้ในกล่องตะกั่วที่มีความหนาโดยรอบไม่น้อยกว่า 6 นิ้ว และการหยิบสารกัมมันตรังสีจะต้องใช้
อุปกรณ์ที่ออกแบบโดยเฉพาะ
• ขณะทดลองเกี่ยวกับสารกัมมันตรังสี ผู้ทดลองจะต้องอยู่ไกลจากแหล่งก�ำเนิดกัมมันตภาพรังสีให้มากที่สุด และ
ต้องใช้เวลาในการทดลองให้น้อยที่สุด ผู้ทำ� การทดลองและผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องมีเครื่องวัดกัมมันตภาพรังสีติดตัว
ไว้ตรวจสอบปริมาณรังสีที่ได้รับตลอดเวลา เพื่อป้องกันการรับรังสีเกินมาตรฐานความปลอดภัย
4) ความปลอดภัยจากไฟไหม้
เมื่อเกิดไฟไหม้ขึ้นในห้องปฏิบัติการ ผู้ท�ำปฏิบัติการและผู้ที่เกี่ยวข้องต้องออกจากห้องปฏิบัติการทันที แล้วดึง
สญั ญาณแจ้งเตือนเหตุไฟไหม้ พร้อมเรียกให้คนช่วยเหลือ และจะต้องมีสารเคมีทใี่ ช้ในการดับไฟอยูป่ ระจ�ำห้องปฏิบตั ิ
การและมีสภาพพร้อมใช้งาน โดยผู้ใช้ห้องปฏิบัติการทุกคนต้องมีความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้ กลไกการท�ำงานของการ
ดับไฟ เพื่อให้สามารถใช้ได้อย่างถูกต้องและเกิดประสิทธิภาพ ซึ่งสารที่นำ� มาใช้ดับไฟได้ มีดังนี้
• น้�ำ ช่วยท�ำให้เชื้อเพลิงที่ก�ำลังลุกไหม้ลดอุณหภูมิลงได้ และไม่มีการลุกไหม้เพิ่มขึ้นใหม่ โดยน�้ำใช้ดับไฟที่เกิด
จากเชื้อเพลิงประเภทของแข็งได้ดี แต่ไม่ควรใช้ดับไฟที่เกิดจากสารประเภทของเหลวที่ไวไฟ เนื่องจากจะท�ำให้
ของเหลวกระจายออกเป็นบริเวณกว้าง และของเหลวส่วนทีอ่ ยูบ่ นผิวน�ำ้ ยังคงลุกไหม้และท�ำให้ไฟลุกลามต่อไปได้
• โฟมของคาร์บอนไดออกไซด์ มีลกั ษณะเป็นฟองทีม่ สี มบัตกิ นั อากาศไม่ให้เข้าไปถึงบริเวณทีเ่ กิดไฟไหม้ และป้องกัน
ไม่ให้เชื้อเพลิงระเหยเพิ่มเติมออกมาอีก จึงท�ำให้เปลวไฟลดลงและดับในที่สุด
• แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นสารที่ใช้ในอุปกรณ์ดับเพลิงทั่วไป แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จะหนักกว่าอากาศ เมื่อ
เข้าไปผสมอยูก่ บั อากาศในบริเวณไฟไหม้เป็นปริมาณมาก ๆ จะท�ำให้ปริมาณของแก๊สออกซิเจนในอากาศบริเวณ
นั้นเจือจางลง จึงท�ำให้เปลวไฟลดและดับในที่สุด
• ไอของสารอินทรีย์บางชนิด สารอินทรีย์บางชนิดที่เป็นของเหลวที่ระเหยเป็นไอได้ง่าย และหนักกว่าอากาศ เมื่อ
ไอของสารนี้ลอยอยู่เหนือบริเวณไฟไหม้ ก็จะเข้าไปแทนที่อากาศบริเวณนั้น จึงท�ำให้ไฟไม่ลุกลามต่อไป ซึ่งสาร
อินทรีย์ที่ใช้โดยทั่วไป คือ คาร์บอนเตตระคลอไรด์ จะใช้ดับไฟกรณีที่ไฟไหม้บริเวณนอกอาคาร แต่สารอินทรีย์
ชนิดนี้จะมีอันตรายต่อร่างกายมาก จึงต้องใช้อย่างระมัดระวังและต้องไม่ใช้ดับไฟที่เกิดจากการลุกไหม้ของโลหะ
โซเดียมหรือโพแทสเซียม เพราะอาจเกิดการระเบิดขึ้นได้
T88
3. การปฐมพยาบาล
การท�ำปฏิบัติการทุกครั้งจะต้องท�ำด้วยความระมัดระวังหรือมีการป้องกันที่ดี เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น แต่
อย่างไรก็ตาม หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้ว จะต้องแก้ไขสถานการณ์และปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ทันที จึงต้องมีความรู้
ความเข้าใจในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งสรุปได้ดังตาราง
ตาราง สรุปข้อมูลการปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากเกิดอุบัติเหตุในห้องปฏิบัติการ
อุบัติเหตุ การปฐมพยาบาล
แก้วบาด ถ้าแก้วบาดเล็กน้อย ให้ห้ามเลือดโดยใช้ผ้าที่สะอาดพับหนา ๆ กดลงบนบาดแผล กรณีทมี่ ี
เลือดไหลออกมามาก ควรใช้ผา้ รัดเหนือบริเวณบาดแผล และน�ำส่งแพทย์ทนั ที
ไฟลวกหรือโดนของร้อน ใช้นำ�้ ล้างมาก ๆ และห้ามล้างด้วยสารละลายโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต แล้วปิดด้วยผ้าพัน
แผลทีแ่ ห้งหรือสะอาด ถ้าไฟลวกมากให้รบี น�ำส่งแพทย์
สารเคมีถกู ผิวหนัง ล้างบริเวณนัน้ ด้วยน�ำ้ สะอาดปริมาณมาก ๆ ในทันที เพือ่ ป้องกันสารซึมเข้าผิวหนังหรือท�ำลาย
เซลล์ผวิ และหากมีสารถูกผิวหนังในปริมาณมากต้องรีบน�ำส่งแพทย์ พร้อมกับแจ้งชนิดของสาร
ให้แพทย์ทราบ เพือ่ จะได้แก้ไขอย่างถูกต้องทันที
สารเข้าตา ล้างด้วยน�ำ้ สะอาดปริมาณมากในทันที เป็นเวลานานไม่น้อยกว่า 15 นาที เพือ่ ให้สารเจือจาง
หรือหมดไป และรีบน�ำส่งแพทย์ทนั ที
สูดไอหรือแก๊ส ต้องรีบออกจากบริเวณนั้นไปอยู่ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก พยายามสู ด อากาศ
บริสุทธิ์ให้เต็มที่ กรณีทไี่ ด้รบั สารเข้าร่างกายในปริมาณมากและหมดสติ ต้องใช้วธิ กี ารผายปอด
หรือใช้เครือ่ งช่วยหายใจ และน�ำส่งแพทย์ทนั ที
การกลืนกินสารเคมี ต้องรีบน�ำส่งแพทย์ทนั ที พร้อมทั้งน�ำตัวอย่างสารหรือสลากไปด้วย เพือ่ แจ้งให้แพทย์ได้ชว่ ย
เหลือ และให้การรักษาได้ถกู ต้องทันที
ถูกกระแสไฟฟ้าดูด รีบตัดกระแสไฟฟ้าทันที โดยการถอดเต้าเสียบหรือยกสะพานไฟ หรือใช้ฉนวนผลักหรือฉุด
ให้ผทู้ ไี่ ด้รบั อันตรายออกจากแหล่งกระแสไฟฟ้า หรือเขีย่ สายไฟให้หลุดออกไปจากตัวผูบ้ าดเจ็บ
ห้ามใช้มอื เปล่าแตะต้องตัวผูท้ กี่ ำ� ลังได้รบั อันตรายจากกระแสไฟฟ้า เมือ่ น�ำผูถ้ กู กระแสไฟฟ้าดูด
ออกจากแหล่งกระแสไฟฟ้าได้แล้ว ต้องท�ำการปฐมพยาบาลเบือ้ งต้นโดยการผายปอดหรือเป่า
ปากให้ปอดท�ำงาน นวดหัวใจแล้วรีบน�ำส่งแพทย์ทนั ที
4. สิ่งที่ต้องค�ำนึงถึงในการปฏิบัติและเขียนรายงานการปฏิบัติกิจกรรม
• วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย 5 ขั้น ได้แก่ ขั้นก�ำหนดปัญหา ขั้นตั้งสมมติฐาน ขั้นตรวจสอบสมมติฐาน ขั้น
วิเคราะห์ข้อมูล และขั้นสรุปผล
• ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น การสังเกต การค�ำนวณ การทดลอง การตั้งสมมติฐาน
• จิตวิทยาศาสตร์ เช่น ความรับผิดชอบ ความมีเหตุมีผล การร่วมแสดงความคิดเห็น และยอมรับฟังความคิดเห็นของ
ผู้อื่น การท�ำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์
• จริยธรรมทางวิทยาศาสตร์ เช่น ความซื่อสัตย์ ความรอบคอบ ความน่าเชื่อถือ
สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะท�ำให้ผู้เรียนหรือผู้ปฏิบัติกิจกรรมมีคุณลักษณะหรือลักษณะนิสัยที่เกิดจากการศึกษาหาความรู้
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างถูกต้อง
T89
บรรณานุ ก รม
กุณฑรี เพ็ชรทวีพรเดช และคณะ. 2550. สุดยอดวิธีสอนวิทยาศาสตร์ น�ำไปสู่การจัดการเรียนรู้ของครูยุคใหม่. กรุงเทพฯ :
อักษรเจริญทัศน์.
งานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, ส�ำนัก. 2549. หนังสือชุดกิจกรรมส่งเสริม
การเรียนรู้ “การสืบค้นทางวิทยาศาสตร์” ระดับมัธยมศึกษา. ปทุมธานี : ส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
แห่งชาติ.
จาตุรนต์ กอนกุล. 2557. หนังสือเสริมสร้างศักยภาพและทักษะรายวิชาเพิ่มเติม โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 - 6 เล่ม 1.
พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี : บริษัท ไทยร่มเกล้า จ�ำกัด
ชุติมา วัฒนะคีรี. 2549. กิจกรรมวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
ทิศนา แขมมณี. 2556. ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 17. กรุงเทพฯ :
บริษัท ด่านสุทธาการพิมพ์ จ�ำกัด.
ปัญญา จารุศิริ และพีรสิทธิ์ สุรเกียรติชัย. 2561. หนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4
เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 1. นนทบุรี : บริษัท ไทยร่มเกล้า จ�ำกัด
พิมพ์พันธ์ เดชะคุปต์. 2544. การจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีการสอนแบบสืบสวน. กรุงเทพฯ : เดอมาสเตอร์กรุ๊ฟเมเนจเม้นท์.
ภพ เลาหไพบูลย์. 2542. แนวการสอนวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง). พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช.
วันเฉลิม กลิน่ ศรีสขุ . 2558. การใช้กจิ กรรมค่ายวิทยาศาสตร์เพือ่ พัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขนั้ พืน้ ฐาน. วิทยานิพนธ์
ครุศาสตรมหาบัณฑิต (หลักสูตรและการสอน), มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
วิจารณ์ พานิช. 2555. วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ : บริษัท ตถาตาพับลิเคชั่น จ�ำกัด.
วิชาการและมาตรฐานการศึกษา ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, ส�ำนัก. 2553. แนวทาง
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ�ำกัด.
. 2560. ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ�ำกัด.
สรศักดิ์ แพรค�ำ. 2544. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์. อุบลราชธานี : สถาบันราชภัฏอุบลราชธานี.
ส�ำนักบริหารวิชาการ วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์, แผนกบริหารหลักสูตร. 2557. เอกสารเผยแพร่ความรู้วิชาการศึกษา :
วิธีการสอน (Teaching Methodology). กรุงเทพฯ : วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์.
สุวิทย์ มูลค�ำ และอรทัย มูลค�ำ. 2547. 21 วิธีจัดการเรียนรู้ : เพื่อพัฒนากระบวนการคิด. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : ภาพพิมพ์.
อบพรวรรณ์ กายพันธ์ และปัญญา ไวยบุญญา. ม.ป.ป. คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก
ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 - 6. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี : บริษัท ไทยร่มเกล้า จ�ำกัด
T90