Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 98

คู่มือครู

Teacher Script

โลก
ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม. 4
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4
ตามผลการเรียนรู เล่ม 1
กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

ผูเรียบเรียงหนังสือเรียน ผูตรวจหนังสือเรียน บรรณาธิการหนังสือเรียน


รศ.ดร. ปญญา จารุศิริ ผศ. พัชรสุ วรรณขาว ดร. ปริชาติ เวชยนต
นายพีรสิทธิ์ สุรเกียรติชัย ผศ.ดร. บูรพา แพจุย
รศ.ดร. ฐาสิณีย เจริญฐิติรัตน

ผูเรียบเรียงคูมือครู บรรณาธิการคูมือครู
นายอัครินทร บุญประเสริฐ นางสาววราภรณ ทวมดี
นางสาวชุลีพร สุวัฒนาพิบูล

พิมพครั้งที่ 1
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ
ISBN
รหั สสิน:ค978-616-203-519-7
า 3448027
คํ า แนะนํ า การใช้
คูมือครู รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร และ
อวกาศ ม.4 เลม 1 เลมนี้ จัดทําขึ้นสําหรับใหครูผูสอนใชเปนแนวทาง
วางแผนการจัดการเรียนการสอน เพือ่ พัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรียน
และการประกั น คุ ณ ภาพผู  เ รี ย นตามนโยบายของสํ า นั ก งานคณะ
กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
ิ่ม คําแนะนําการใช ชวยสรางความเขาใจ เพื่อใชคูมือครูได
เพ
อยางถูกตองและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด น�ำ น�ำ สอน สรุป ประเมิน
โซน 1
ิ่ม คําอธิบายรายวิชา แสดงขอบขายเนื้อหาสาระของรายวิชา ขัน้ นํา
เพ
โครงสรางโลก
กระตุน้ ความสนใจ

ซึง่ ครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรูแ ละตัวชีว้ ดั ตามทีห่ ลักสูตร 1. ครูกระตุน ความสนใจ โดยใหนกั เรียนดูวดี ทิ ศั น หนวยการเรียนรูที่

กําหนด
เหตุการณภูเขาไฟระเบิด แลวรวมกันอภิปราย
กั บ นั ก เรี ย นว า เมื่ อ เกิ ด เหตุ ก ารณ ภู เ ขาไฟ
ระเบิ ด จะมี ล าวาไหลออกจากปากปล อ ง
ภู เ ขาไฟ ลาวาที่ ไ หลออกมามี ลั ก ษณะเป น
1 1
ิ่ม หินหนืดรอน สีแดง ไหลไปตามความลาดชัน โลก เป็นดำวเครำะห์ดวงหนึ่งในระบบสุริยะ ซึ่งมีกระบวนกำร

เพ Pedagogy ชวยสรางความเขาใจในกระบวนการออกแบบ
ผลกำรเรียนรู
ของภูเขาไฟ จากเหตุการณดังกลาว นักเรียน เปลีย่ นแปลงอยูเ่ สมอ นับตัง้ แต่โลกก�ำเนิดขึน้ มำ โดยกระบวนกำร
1. อธิบำยกำรแบ่งชั้นและสมบัติของ ที่เกิดขึ้นนั้นท�ำให้ผิวโลกเปลี่ยนแปลงไปจนเกิดเป็นภูมิประเทศ
คิดวาภายในโลกมีองคประกอบเปนอยางไร โครงสร้ำงโลก พร้อมยกตัวอย่ำง
แบบต่ำง ๆ กำรศึกษำโครงสร้ำงของโลกจึงช่วยท�ำให้ทรำบถึง
ข้อมูลที่สนับสนุนได้
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ไดอยางมี แตกตางจากหินที่พบบนผิวโลกหรือไม
2. ครูถามคําถาม Big Question จากหนังสือ
โครงสร้ำงและกำรเกิดปฏิกิริยำต่ำง ๆ ภำยในโลก

ประสิทธิภาพ เรี ย นรายวิ ช าเพิ่ ม เติ ม วิ ท ยาศาสตร โลก


ดาราศาสตร และอวกาศ ม.4 เล ม 1
หน า 2 ว า ในอนาคตโครงสร า งของโลก
ิ่ม
เพ
จะมี ก ารเปลี่ ย นแปลงไปจากเดิ ม หรื อ ไม
Teacher Guide Overview ชวยใหเห็นภาพรวมของการ อยางไร
3. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อ
จั ด การเรี ย นการสอนทั้งหมดของรายวิชากอนที่จะลงมือ วัดความรูเดิมของนักเรียนกอนเขาสูบทเรียน

สอนจริง
ิ่ม
เพ Chapter Overview ชวยสรางความเขาใจและเห็นภาพรวม ã¹Í¹Ò¤µ
â¤Ã§ÊÌҧ¢Í§
ในการออกแบบแผนการจัดการเรียนรูแตละหนวย แนวตอบ Big Question âÅ¡¨ÐÁÕ¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§
อาจเปลี่ยนแปลงได ถามีเทคโนโลยีที่สามารถ 仨ҡà´ÔÁËÃ×ÍäÁ‹
Í‹ҧäÃ
ิ่ม Chapter Concept Overview ชวยใหเห็นภาพรวม Con- เจาะลงไปสูใ จกลางโลกเพือ่ นําตัวอยางขึน้ มาศึกษา

เพ ได หรือมีเครื่องมือที่สามารถวิเคราะหขอมูลคลื่น
ไหวสะเทือนไดละเอียดมากขึ้น
cept และเนื้อหาสําคัญของหนวยการเรียนรู
ิ่ม ขอสอบเนนการคิด/ขอสอบแนว O-NET เพื่อเตรียม
เพ
เกร็ดแนะครู
ครู ค วรนํ า แบบจํ า ลองโครงสร า งโลกมาใช ป ระกอบการเรี ย นการสอน
ความพรอมของผูเรียนสูการสอนในระดับตาง ๆ เพื่อที่จะไดชวยใหนักเรียนเขาใจโครงสรางโลกไดอยางชัดเจน

ิ่ม กิจกรรม 21st Century Skills กิจกรรมที่จะชวยพัฒนาผู นักเรียนควรรู


เพ 1 ระบบสุริยะ เนื่องจากดาวเคราะหในระบบสุริยะอยูหางไกลจากกันมาก
เรียนใหมีทักษะที่จําเปนสําหรับการเรียนรูและการดํารงชีวิตใน นักดาราศาสตรมักจะใชหนวยวัดระยะทางระหวางดาวเคราะหในระบบสุริยะ
เปน หนวยดาราศาสตร (Astronomical Unit: AU) ซึ่งอางอิงจากระยะหางเฉลี่ย
โซน 3
โลกแหงศตวรรษที่ 21 ระหวางโลกกับดวงอาทิตย

ิ่ม โซน 2
เพ STEM Project แนวทางการจั ด การศึ ก ษาให ผู  เ รี ย นเกิ ด
การเรี ย นรู  แ ละสามารถบู ร าการความรู  ท างวิ ท ยาศาสตร T4
เทคโนโลยี กระบวนการทางวิศวกรรม และคณิตศาสตรไปใช
เชื่อมโยงและแกปญหาในชีวิตจริง

โซน 1 ช่วยครูจัด โซน 2 ช่วยครูเตรียมสอน


การเรียนการสอน
แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนใหครูผูสอน โดยประกอบดวยองคประกอบตาง ๆ ที่เปนประโยชนสําหรับ
โดยแนะนําขั้นตอนการสอน และการจัดกิจกรรมอยางละเอียด ครู เพื่อนําไปประยุกตใชจัดกิจกรรมการเรียนรูในชั้นเรียน
เพื่อใหนักเรียนบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามผลการเรียนรู เกร็ดแนะครู
ความรูเสริมสําหรับครู ขอเสนอแนะ ขอสังเกต แนวทางการจัด
นํา สอน สรุป ประเมิน
กิจกรรมและอื่น ๆ เพื่อประโยชนในการจัดการเรียนการสอน
นักเรียนควรรู
ความรู  เ พิ่ ม เติ ม จากเนื้ อ หา สํ า หรั บ อธิ บ ายเสริ ม เพิ่ ม เติ ม ให
กับนักเรียน
โดยใช หนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร และอวกาศ ม.4 เลม 1 และแบบฝกหัด
รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร และอวกาศ ม.4 เลม 1 ของบริษัท อักษรเจริญทัศน อจท. จํากัด
เปนสื่อหลัก (Core Materials) ประกอบการสอนและการจัดกิจกรรมการเรียนรู เพื่อใหสอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรู
และตัวชี้วัดของกลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 ซึ่งคูมือครูเลมนี้มีองคประกอบที่งายตอการใชงาน ดังนี้

โซน 1
โซน 3 ช่วยครูเตรียมนักเรียน
น�ำ สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
Prior Knowledge
1. ความเขาใจเกี่ยวกับโลก
สํารวจค้นหา
1. ครู ถ ามคํ า ถาม prior knowledge จาก
ประกอบด ว ยแนวทางการสํ า หรั บ จั ด กิ จ กรรมและ
เหตุ ใ ดจึ ง ควรทํ า ความ
เขาใจเกี่ยวกับโครงสราง
ของโลก
โลก (earth) เป็นดำวเครำะห์ล�ำดับที่สำมของระบบสุริยะ
จักรวำล ซึง่ มีระยะห่ำงจำกดวงอำทิตย์ประมำณ 150 ล้ำนกิโลเมตร
หนังสือเรียน หนา 3 วา เหตุใดจึงควรทําความ
เข า ใจเกี่ ย วกั บ โครงสร า งโลก เพื่ อ เป น การ
เสนอแนะแนวขอสอบ เพือ่ อํานวยความสะดวกใหแกครูผสู อน
เป็นดำวเครำะห์หนิ ทีม่ ขี นำดใหญ่ทสี่ ดุ มีลกั ษณะเป็นทรงรี ป่องตรงกลำง ขัว้ เหนือ-ใต้แบนเล็กน้อย ทบทวนความรูเดิมของนักเรียน
เส้นผ่ำนศูนย์กลำงทีว่ ดั จำกขัว้ โลกเหนือไปขัว้ โลกใต้ประมำณ 12,711 กิโลเมตร และเส้นผ่ำนศูนย์- 2. ครูใหนักเรียนรวมกันสืบคนขอมูลเกี่ยวกับวิธี
กลำงที่วัดผ่ำนเส้นศูนย์สูตรประมำณ 12,775 กิโลเมตร โดยแกนโลกท�ำมุมเอียง 23.4 องศำกับ
เส้นตั้งฉำกกับระนำบกำรโคจร
การศึกษาโครงสรางโลก แลวครูถามคําถามวา
• นักวิทยาศาสตรวิเคราะหหาองคประกอบ กิจกรรม 21st Century Skills
ทางเคมีของสสารภายในโลกไดอยางไร
นับตั้งแต่โลกก�ำเนิดขึ้นมำเมื่อประมำณ 4,600 ล้ำนปมำแล้ว โลกมีวิวัฒนำกำรมำอย่ำง
ต่อเนื่อง ซึ่งแบ่งได้ 5 ขั้น ดังนี้
(แนวตอบ นักวิทยาศาสตรศกึ ษาตัวอยางจาก
ชิ้นสวนหินแปลกปลอมที่ถูกนําขึ้นมาจาก
กิจกรรมที่ใหนักเรียนไดประยุกต ใชความรูที่เรียนรูมาสราง
การปะทุของภูเขาไฟ ซึง่ มีลกั ษณะและองค -
ประกอบทางเคมีตา งจากหินทีพ่ บบนผิวโลก) ชิ้นงาน หรือทํากิจกรรมรวบยอดเพื่อใหเกิดทักษะที่จําเปน
3. ใหนกั เรียนสืบคืนขอมูลเกีย่ วกับภูเขาไฟระเบิด
เริ่มมีกำรรวมตัวกันของเศษดำวเครำะห์ ซึ่งอิทธิพลจำกกำร
ชนกันและแรงอัดตัว ท�ำให้เกิดพลังงำนควำมร้อนและกัมมันตภำพรังสี
เกิดขึน้ เมือ่ ภำยในโลกมีควำมร้อนถึงจุดหนึง่ (ประมำณ 1,535 �C)
ขัน
้ แรกเริม

initial stage และหินแปลกปลอม (xenolith) เพื่อเชื่อมโยง
เขาสูกิจกรรม แบบจําลองภูเขาไฟ
ในศตวรรษที่ 21
ทีท่ ำ� ให้เหล็กเริม่ เกำะตัวกัน โลหะหนักต่ำง ๆ เช่น เหล็ก นิกเกิล โคบอลต์ ขัน
้ กอเหล็ก
จมตัวลงสู่ใจกลำงโลก ขณะที่สำรที่มีควำมหนำแน่นน้อยกว่ำจะลอยตัว iron catastrophic stage
ขึ้นสู่ด้ำนบน จนเกิดกำรแบ่งชั้นของโลกขึ้น
มีกำรอัดตัวของธำตุที่ท�ำให้เกิดโครงสร้ำงภำยในโลกที่แบ่งเป็น ขัน
้ แยกชัน

planetary differentiation
ขอสอบเนนการคิด
3 ชัน้ ได้แก่ เปลือกโลก เนือ้ โลก และแก่นโลก ซึง่ ชัน้ แก่นโลกประกอบด้วย
เหล็กเป็นส่วนใหญ่ ชัน้ เปลือกโลกประกอบด้วยสำรทีเ่ บำกว่ำ เช่น ซิลเิ กต
ของโซเดียม โพแทสเซียม และแคลเซียม ส่วนชั้นเนื้อโลกประกอบด้วย
ส่วนผสมระหว่ำงสำรในชั้นเปลือกโลกกับชั้นแก่นโลก
stage

แนวคําตอบ Prior Knowledge ตัวอยางขอสอบที่มุงเนนการคิด มีทั้งปรนัย-อัตนัย พรอม


ในปจจุบันภายในโลกยังมีอุณหภูมิสูงมาก
เฉลยอยางละเอียด
ขัน
้ เกิดใหม
earth-reborn stage
เกิดกำรพำควำมร้อนและกำรถ่ำยเทควำมร้อนของหินในชั้น ซึ่ ง ความร อ นจากภายในโลกทํ า ให เ กิ ด การ
เนื้อโลก ท�ำให้อุณหภูมิของโลกเย็นลงจนชั้นเนื้อโลกแข็งตัว เปลี่ยนแปลงทั้งภายในโลกและบนผิวโลก เชน
ขัน
้ เย็นตัวลง
มีกำรสะสมตัวของธำตุกัมมันตรังสีในชั้นเปลือกโลกในรูปของ engine-down stage ภูเขาไฟระเบิด แผนดินไหว ทําใหนกั วิทยาศาสตร
ออกไซด์และซิลิเกต กำรถ่ำยเทควำมร้อนของโลกโดยเฉพำะที่ผิวเป็น เกิดความสนใจที่จะศึกษาโครงสรางภายในโลก
ไปอย่ำงรวดเร็ว จนท�ำให้ชนั้ เปลือกโลกเย็นตัวและแข็งตัวจนเกิดเป็นพืน้
แผ่นดิน แตภายในโลกมีอุณหภูมิและความดันสูงทําให
ไมสามารถเจาะสํารวจได นักวิทยาศาสตรจงึ คนหา
ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET
ภำพที่ 1.1 วิวัฒนำกำรของโลก หลักการและวิธีการทางวิทยาศาสตรเพื่อใชใน
การศึกษาโครงสรางภายในโลก
ตัวอยางขอสอบที่มุงเนนการคิดวิเคราะห และสอดคลองกับ
ความเขาใจเกี่ยวกับโลก 3
แนวขอสอบ O-NET มีทั้งปรนัย-อัตนัย พรอมเฉลยอยาง
ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET สื่อ Digital
ละเอียด
ขอความใดไมถูกตองเกี่ยวกับโลก ศึกษาเพิ่มเติมไดจากการสแกน QR code เรื่อง ความเขาใจเกี่ยวกับโลก
1. ภายในโลกมีความรอนและอุณหภูมิสูงมาก
2. เปลือกโลกเปนชั้นที่บางที่สุดและมีความหนาสมํ่าเสมอ กิจกรรมเสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค
3. สัณฐานของโลกมีรูปรางกลมรี เสนผานศูนยกลางใน
แนวนอนยาวกวาเสนผานศูนยกลางในแนวดิ่ง
4. โครงสรางโลกที่แบงโดยใชองคประกอบทางเคมี จะแบง
กิจกรรมที่มุงเนนการพัฒนาคุณภาพผูเรียนดานคุณธรรม
ออกเปน 3 ชั้น ไดแก เปลือกโลก เนื้อโลก และแกนโลก
โซน 3
5. โครงสรางโลกทีแ่ บงโดยใชขอ มูลคลืน่ ไหวสะเทือน จะแบงออก จริยธรรม คานิยม ตามที่หลักสูตรกําหนด
เปน 3 ชั้น ไดแก ธรณีภาค ฐานธรณีภาค และมัชฌิมภาค
(วิเคราะหคําตอบ โครงสรางของโลก แบงออกเปน เปลือกโลก
เนื้ อ โลก และแก น โลก ส ว นเปลื อ กโลกเป น ส ว นที่ บ างที่ สุ ด
โดยแต ล ะบริ เ วณจะมี ค วามหนาแตกต า งกั น ไป ส ว นเนื้ อ โลก โซน 2
กิจกรรมทาทาย
และแกนโลกจะมีความรอนและอุณหภูมสิ งู มาก ดังนัน้ ตอบขอ 2.)

T5
เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรม เพือ่ ตอยอดสําหรับนักเรียน
ทีเ่ รียนรูไ ดอยางรวดเร็ว และตองการทาทายความสามารถใน
ระดับที่สูงขึ้น
กิจกรรมสรางเสริม
เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมซอมเสริมสําหรับนักเรียนที่
ควรไดรับการพัฒนาการเรียนรู

บูรณาการอาเซียน สื่อ Digital


ความรูเสริมหรือการเชื่อมโยงในเรื่องที่เกี่ยวของกับประชาคม การแนะนําแหลงเรียนรูแ ละแหลงคนควาจากสือ่ Digital ตาง ๆ
อาเซียน
หองปฏิบัติการ (วิทยาศาสตร) แนวทางการวัดและประเมินผล
การอธิบายหรือขอเสนอแนะสิ่งที่ควรระมัดระวัง หรือขอควรปฏิบัติ เสนอแนะแนวทางการบรรลุ ผ ลสั มฤทธิ์ ทางการเรี ย นของ
ตามเนื้อหาในบทเรียน นักเรียนตามมาตรฐานการเรียนรูแ ละตัวชีว้ ดั ทีห่ ลักสูตรกําหนด
ค� ำ อธิ บ ายรายวิ ช า
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เวลาเรียน 40 ชั่วโมง / ปี

ศึกษาเกีย่ วกับการแบ่งชัน้ และสมบัตขิ องโครงสร้างโลก หลักฐานทางธรณีวทิ ยาทีส่ นับสนุนการเคลือ่ นทีข่ องแผ่นธรณี


ลักษณะการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีตามทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน การล�ำดับชั้นหินและธรณีประวัติ หลักฐานทางธรณีวิทยา
การหาอายุเปรียบเทียบ อายุสัมบูรณ์ มาตราธรณีกาล สาเหตุและกระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว สึนามิ
และการท�ำความเข้าใจธรรมชาติของธรณีพิบัติภัยเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์
การอภิปราย การอธิบาย และการสรุปผลเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด และความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ
สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และน�ำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง ตลอดจนมีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่
ถูกต้องเหมาะสม

ผลการเรียนรู้
1. อธิบายการแบ่งชั้นและสมบัติของโครงสร้างโลก พร้อมยกตัวอย่างข้อมูลที่สนับสนุน
2. อธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยาที่สนับสนุนการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
3. ระบุสาเหตุและอธิบายแนวรอยต่อของแผ่นธรณีที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี พร้อมยกตัวอย่างหลักฐานทางธรณีวิทยาที่พบ
4. วิเคราะห์หลักฐานทางธรณีวิทยาที่พบในปัจจุบัน และอธิบายล�ำดับเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาในอดีต
5. อธิบายสาเหตุกระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบิดและปัจจัยทีท่ ำ� ให้ความรุนแรงของการปะทุและรูปร่างของภูเขาไฟแตกต่างกัน รวมทัง้ สืบค้น
ข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย ออกแบบและน�ำเสนอแนวทางการเฝ้าระวังและการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย
6. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาดและความรุนแรง และผลจากแผ่นดินไหว รวมทั้งสืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย ออกแบบและน�ำเสนอ
แนวทางการเฝ้าระวังและการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย
7. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด และผลจากสึนามิ รวมทั้งสืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย ออกแบบและน�ำเสนอแนวทางการเฝ้าระวัง
และการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย

รวม 7 ผลการเรียนรู้
Pedagogy
คูมือครู รายวิชาเพิ่มเติม
โลก ดำรำศำสตร์ และอวกำศ ม.4 เล่ม 1 รวมถึงสื่อการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมโลก ดาราศาสตร์ และ
อวกาศ ชั้น ม.4 ผู้จัดท�าได้ออกแบบการสอน (Instructional Design) อันเปนวิธีการจัดการเรียนรู้และเทคนิคการสอนที่
เปย มด้วยประสิทธิภาพและมีความหลากหลายให้กบั ผูเ้ รียน เพือ่ ให้ผเู้ รียนสามารถบรรลุผลสัมฤทธิต์ ามมาตรฐานการเรียนรู้
และตัวชีว้ ดั รวมถึงสมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผูเ้ รียนทีห่ ลักสูตรก�าหนดไว้ โดยครูสามารถน�าไปใช้จดั การ
เรียนรู้ในชั้นเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในรายวิชานี้ ได้น�ารูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional
Model) มาใช้ในการออกแบบการสอน ดังนี้

รูปแบบกำรสอนแบบสืบเสำะหำควำมรู้ (5Es Instructional Model)

ด้วยจุดประสงค์ของการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วย
ุ้นความสนใจ
ให้ผู้เรียนได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดเปนเหตุเปนผล คิดสร้างสรรค์ กระต
คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ มีทักษะส�าคัญในการค้นคว้าหาความรู้ และมี Eennggagement
1

สาํ xploration
eEvvaluatio ล
ความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างเปนระบบ ผู้จัดท�าจึงได้เลือกใช้

รวจ

eE
ตรวจสอบ
n

และค้นหา
รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู ้ (5Es Instructional Model) 2
5
ซึ่งเปนขั้นตอนการเรียนรู้ที่มุ่งให้ผู้เรียนได้มีโอกาสสร้างองค์
ความรู้ด้วยตนเองผ่านกระบวนการคิดและการลงมือท�า โดยใช้
5Es
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เปนเครื่องมือส�าคัญเพื่อการพัฒนา
bo 4 3

n
El a

tio
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และทักษะการเรียนรู้แห่ง ratio ana
ขย

รู้
คว pl

าม
n E x ว
าย

ศตวรรษที่ 21 ามเ ายค


ข้าใจ อ ธิบ

วิธีสอน (Teaching Method)

ผูจ้ ดั ท�าเลือกใช้วธิ สี อนทีห่ ลากหลาย เช่น การทดลอง การสาธิต การอภิปรายกลุม่ ย่อย เปนต้น เพือ่ ส่งเสริมการเรียนรู้
รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งจะเน้นใช้วิธีสอน
โดยใช้การทดลองมากเปนพิเศษ เนื่องจากเปนวิธีสอนที่มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดองค์ความรู้จากประสบการณ์ตรงโดย
การคิดและการลงมือท�าด้วยตนเอง อันจะช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้และเกิดทักษะทางกระบวนการวิทยาศาสตร์ที่คงทน

เทคนิคกำรสอน (Teaching Technique)

ผูจ้ ดั ท�าเลือกใช้เทคนิคการสอนทีห่ ลากหลายและเหมาะสมกับเรือ่ งทีเ่ รียน เพือ่ ส่งเสริมวิธสี อนให้มปี ระสิทธิภาพมากขึน้


เช่น การใช้ค�าถาม การเล่นเกม การยกตัวอย่าง เปนต้น ซึ่งเทคนิคการสอนต่าง ๆ จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมี
ความสุขในขณะที่เรียนและสามารถปฏิบัติกิจกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้พัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 อีกด้วย
Teacher Guide Overview
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 เล่ ม 1
หน่วย
ผลการเรียนรู้ ทักษะที่ได้ เวลาที่ใช้ การประเมิน สื่อที่ใช้
การเรียนรู้

1 - อธิบายการแบ่งชั้นและสมบัติของ - ทักษะการสังเกต
โครงสร้างโลก พร้อมยกตัวอย่างข้อมูล - ทักษะการส�ำรวจ
- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
- หนังสือเรียน โลก
ดาราศาสตร์ และอวกาศ
โครงสร้างโลก ที่สนับสนุน ค้นหา - ตรวจแบบฝึกหัด ม.4 เล่ม 1
- ทักษะการลง
ความเห็นจากข้อมูล
6 - ตรวจใบงาน เรือ่ ง โครงสร้างโลก - แบบฝึกหัด โลก
- สังเกตพฤติกรรมการทำ�งาน ดาราศาสตร์ และอวกาศ
- ทักษะการ ชั่วโมง รายบุคคล ม.4 เล่ม 1
ตีความหมายข้อมูล - สงั เกตพฤติกรรมการทำ�งานกลุม่ - PowerPoint เรือ่ ง
และลงข้อสรุป - สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ โครงสร้างโลก

2 - อธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยา - ทักษะการสังเกต
ที่สนับสนุนการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี - ทักษะการส�ำรวจ
- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
- หนังสือเรียน โลก
ดาราศาสตร์ และอวกาศ
ธรณีแปร ค้นหา - ตรวจแบบฝึกหัด ม.4 เล่ม 1
- ระบุสาเหตุและอธิบายแนวรอยต่อ
สัณฐาน
ของแผ่นธรณีที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ - ทักษะการระบุ - ตรวจใบงาน เรื่อง - แบบฝึกหัด โลก
ของแผ่นธรณี พร้อมยกตัวอย่าง - ทักษะการตั้ง 14 ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน ดาราศาสตร์ และอวกาศ
หลักฐานทางธรณีวิทยาที่พบ สมมติฐาน ชั่วโมง - ตรวจใบงาน เรื่อง การเคลื่อนที่ ม.4 เล่ม 1
- ทักษะการทดลอง ของแผ่นธรณี - PowerPoint เรือ่ ง
- ทักษะการตี - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานกลุ่ม การเคลือ่ นทีข่ อง
ความหมายข้อมูล - สังเกตพฤติกรรมการน�ำเสนอ แผ่นธรณี
และลงข้อสรุป - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้

3 - อธิบายสาเหตุกระบวนการเกิดภูเขาไฟ - ทักษะการสังเกต
ระเบิ ด และปั จ จั ย ที่ ท� ำ ให้ ค วามรุ น แรง - ทักษะการระบุ
- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
- หนังสือเรียน โลก
ดาราศาสตร์ และอวกาศ
ธรณีพิบัติภัย ของการปะทุ แ ละรู ป ร่ า งของภู เ ขาไฟ - ทักษะการส�ำรวจ - ตรวจแบบฝึกหัด ม.4 เล่ม 1
แตกต่างกัน รวมทั้งสืบค้นข้อมูลพื้นที่ ค้นหา - ตรวจใบงาน เรื่อง - แบบฝึกหัด โลก
เสี่ยงภัย ออกแบบและน�ำเสนอแนวทาง - ทักษะการตั้ง ภูเขาไฟระเบิด ดาราศาสตร์ และอวกาศ
การเฝ้ า ระวั ง และการปฏิ บั ติ ต นให้ สมมติฐาน - ตรวจใบงาน เรื่อง แผ่นดินไหว ม.4 เล่ม 1
ปลอดภัย - ทักษะการทดลอง - ตรวจใบงาน เรื่อง สึนามิ - PowerPoint เรือ่ ง
- อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาด - ทักษะการ
ตีความหมายข้อมูล 10 - ประเมินการปฏิบัติการ
- สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานกลุ่ม
ภูเขาไฟระเบิด
- PowerPoint เรือ่ ง
และความรุนแรง และผลจากแผ่นดินไหว ชั่วโมง
รวมทั้ ง สื บ ค้ น ข้ อ มู ล พื้ น ที่ เ สี่ ย งภั ย และลงข้อสรุป - สังเกตพฤติกรรมการน�ำเสนอ แผ่นดินไหว
ออกแบบและน� ำ เสนอแนวทางการ - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ - PowerPoint เรือ่ ง
เฝ้าระวังและการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย สึนามิ
- อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด และผล
จากสึนามิ รวมทัง้ สืบค้นข้อมูลพืน้ ทีเ่ สีย่ ง
ภัย ออกแบบและน�ำเสนอแนวทางการ
เฝ้าระวังและการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย

4 - วิเคราะห์หลักฐานทางธรณีวิทยาที่พบ - ทักษะการสังเกต
ในปัจจุบัน และอธิบายล�ำดับเหตุการณ์ - ทักษะการส�ำรวจ
- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
- หนังสือเรียน โลก
ดาราศาสตร์ และอวกาศ
ลำ�ดับชั้นหิน ทางธรณีวิทยาในอดีต ค้นหา - ตรวจแบบฝึกหัด ม.4 เล่ม 1
- ทักษะการจัดกระท�ำ - ตรวจใบงาน เรือ่ ง การล�ำดับชัน้ หิน - แบบฝึกหัด โลก
และสื่อความหมาย 10 - ตรวจใบงาน เรื่อง อายุทางธรณี ดาราศาสตร์ และอวกาศ
ข้อมูล ชั่วโมง วิทยา ม.4 เล่ม 1
- ทักษะการตี - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานกลุ่ม - PowerPoint เรือ่ ง
ความหมายข้อมูล - สังเกตพฤติกรรมการน�ำเสนอ การล�ำดับชัน้ หิน
และลงข้อสรุป - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ - PowerPoint เรือ่ ง
อายุทางธรณีวทิ ยา
สำรบั ญ

Chapter
Chapter Teacher
Chapter Title Overview
Concept
Script
Overview
หนวยการเรียนรู้ที่ 1 โครงสร้ำงโลก T2 T3 T4

• ความเข้าใจเกี่ยวกับโลก T5
• การแบ่งโครงสร้างโลก T6 - T13
ท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 T15 - T17

หนวยการเรียนรู้ที่ 2 ธรณีแปรสัณฐำน T18 T19 T20

• ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน T21 - T31


• รูปแบบการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี T32 - T41
ท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 T38 - T41

หนวยการเรียนรู้ที่ 3 ธรณีพิบัติภัย T42 T43 T44

• ภูเขาไฟระเบิด T45 - T49


• แผ่นดินไหว T50 - T53
• สึนามิ T54 - T56
ท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 T57 - T59

หนวยการเรียนรู้ที่ 4 ล�ำดับชั้นหิน T60 T61 T62

• การลําดับชั้นหิน T63 - T69


• การหาอายุทางธรณีวิทยา T70 - T72
• ตารางธรณีกาล T73 - T80
ท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 T81 - T83

STEM Project T84 - T85


ภำคผนวก T86
บรรณำนุกรม T90
Chapter Overview

แผนการจัด คุณลักษณะ
สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้
การเรียนรู้ อันพึงประสงค์
แผนฯ ที่ 1 - แบบทดสอบก่อนเรียน 1. อธิบายการแบ่งชั้น - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบ - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
การแบ่ง - หนังสือเรียน รายวิชา โครงสร้างโลกโดยใช้ข้อมูล หาความรู้ ก่อนเรียน - ทักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
โครงสร้ า งโลก เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ องค์ประกอบทางเคมี (K) (5Es In- - ประเมินกิจกรรม ค้นหา - มุ่งมั่นใน
ตามองค์ประกอบ โลก ดาราศาสตร์ และ 2. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการ structional แบบจ�ำลองภูเขาไฟ - ทักษะการวิเคราะห์ การท�ำงาน
ทางเคมี
อวกาศ ม.4 เล่ม 1 ศึกษาโครงสร้างโลก (P) Model) - ตรวจและประเมิน - ทักษะการสร้างแบบ
- แบบฝึกหัด รายวิชา 3. สร้างแบบจ�ำลองโครงสร้าง แบบจ�ำลองโครง จ�ำลอง
3 เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ โลกแบ่งตามองค์ประกอบ สร้างโลกตามองค์ -
ชั่วโมง โลก ดาราศาสตร์ และ ทางเคมี (P) ประกอบทางเคมี
อวกาศ ม.4 เล่ม 1 4. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษา (A) - ตรวจและประเมิน
- ใบงาน การน�ำเสนอ
- วีดิทัศน์เหตุการณ์ ใบงาน เรื่อง
ภูเขาไฟระเบิด โครงสร้างโลกตาม
- PowerPoint องค์ประกอบทางเคมี
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น - ตรวจแบบฝึกหัด
TWIG - ตรวจ Unit Question 1
- สังเกตพฤติกรรมการ
ท�ำงานกลุ่ม
- สังเกตคุณลักษณะอัน
พึงประสงค์
แผนฯ ที่ 2 - แบบทดสอบหลังเรียน 1. อธิบายการแบ่งชั้น - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบ - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
การแบ่ง - หนังสือเรียน รายวิชา โครงสร้างโลกโดยใช้ข้อมูล หาความรู้ หลังเรียน - ทักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
โครงสร้างโลก เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ คลื่นไหวสะเทือน (K) (5Es In- - สังเกตการท�ำ ค้นหา - มุ่งมัน่ ใน
ตามสมบัตเิ ชิงกล โลก ดาราศาสตร์ และ 2. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการ structional กิจกรรม การแบ่ง - ทักษะการวิเคราะห์ การท�ำงาน
อวกาศ ม.4 เล่ม 1 ศึกษาโครงสร้างโลก (P) Model) โครงสร้างโลกโดย - ทักษะการลงความ
3 - แบบฝึกหัดรายวิชา 3. สร้างแบบจ�ำลองโครงสร้าง ใช้ข้อมูลคลื่นไหว เห็นจากข้อมูล
ชั่วโมง เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ โลกแบ่งตามสมบัติเชิงกล สะเทือน
โลก ดาราศาสตร์ และ (P) - ตรวจและประเมิน
อวกาศ ม.4 เล่ม 1 4. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษา (A) แบบจ�ำลองโครงสร้าง
- ใบงาน โลกจากสมบัติเชิงกล
- PowerPoint - ตรวจและประเมิน
- RQ code การน�ำเสนอใบงาน
เรื่อง โครงสร้างโลก
ตามสมบัติเชิงกล
- ตรวจแบบฝึกหัด
- ตรวจ Unit Question 1
- สังเกตพฤติกรรมการ
ท�ำงานกลุ่ม
- สังเกตคุณลักษณะอัน
พึงประสงค์

T2
Chapter Concept Overview
หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 1
โครงสร้างโลก

โครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี
- เปลือกโลก (crust)
- เนื้อโลก (mantle)
- แก่นโลก (core)
โครงสร้างโลกตามสมบัติเชิงกล
- ธรณีภาค (lithosphere)
- ฐานธรณีภาค (asthonosphere)
- มัชฌิมภาค (mesosphere)
- แก่นโลกส่วนนอก (outher core)
- แก่นโลกส่วนใน (inner core)

โครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี
เปลือกโลก เนื้อโลก แก่นโลก
ความหนา 100 km 2,900 km 3,440 km
ความหนาแน่น 2.7 - 3.0 g/cm3 3.3 - 5.7 g/cm3 9.9 - 13.0 g/cm3

องค์ประกอบทางเคมี สารประกอบของซิลิกาและ สารประกอบของแมกนีเซียม เหล็ก นิกเกิล และสารประกอบอืน่ ๆ


อะลูมิเนียมเปนส่วนมาก และเหล็กเปนส่วนมาก
ตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา หินที่พบบนเปลือกโลก หินแปลกปลอมที่ลาวาพาขึ้นมา อุกกาบาตเหล็กที่พบบนโลก
บนผิวโลก
ข้อมูลที่สนับสนุนการแบ่ง อุกกาบาตที่พบบนโลก อุกกาบาตที่พบบนโลก อุกกาบาตที่พบบนโลก
โครงสร้างโลกแต่ละชั้น ความหนาแน่นของโลก ความหนาแน่นของโลก ความหนาแน่นของโลก
และทฤษฎีก�าเนิดระบบสุริยะ และทฤษฎีก�าเนิดระบบสุริยะ ทฤษฎีก�าเนิดระบบสุริยะ
และสนามแม่เหล็กโลก

โครงสร้างโลกตามสมบัติเชิงกล
สถานะ ความหนา ข้อมูลคลื่นไหวสะเทือน
ธรณีภาค ของแข็ง 100 km เมื่อคลื่นไหวสะเทือนเคลื่อนที่ผ่านชั้นนี้จะมีความเร็วเพิ่ม
ขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฐานธรณีภาค ของแข็งสภาพพลาสติก 600 km เมื่อคลื่นไหวสะเทือนเคลื่อนที่ผ่านชั้นนี้จะเกิดการ
เปลี่ยนแปลง 2 ลักษณะที่แตกต่างกันใน 2 บริเวณ
มัชฌิมภาค ของแข็ง 2,300 km เมื่อคลื่นไหวสะเทือนเคลื่อนที่ผ่านชั้นนี้จะมีความเร็วเพิ่ม
ขึ้นอย่างสม�่าเสมอ
แก่นโลกชั้นนอก ของเหลว 2,200 km คลื่นทุติยภูมิเคลื่อนที่ผ่านชั้นนี้ไม่ได้ ส่วนคลื่นปฐมภูมิจะมี
ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ
แก่นโลกชั้นใน ของแข็ง 1,200 km คลื่นปฐมภูมิมีความเร็วค่อนข้างคงที่

T3
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ นํา

โครงสรางโลก
กระตุน ความสนใจ
1. ครูกระตุน ความสนใจ โดยใหนกั เรียนดูวดี ทิ ศั น หนวยการเรียนรูที่
เหตุการณภูเขาไฟระเบิด แลวรวมกันอภิปราย
กั บ นั ก เรี ย นว า เมื่ อ เกิ ด เหตุ ก ารณ ภู เ ขาไฟ
ระเบิ ด จะมี ล าวาไหลออกจากปากปล อ ง
ภู เ ขาไฟ ลาวาที่ ไ หลออกมามี ลั ก ษณะเป น
หินหนืดรอน สีแดง ไหลไปตามความลาดชัน
1 โลก
1
เป็นดำวเครำะห์ดวงหนึ่งในระบบสุริยะ ซึ่งมีกระบวนกำร
ผลกำรเรียนรู
ของภูเขาไฟ จากเหตุการณดังกลาว นักเรียน เปลีย่ นแปลงอยูเ่ สมอ นับตัง้ แต่โลกก�ำเนิดขึน้ มำ โดยกระบวนกำร
1. อธิบำยกำรแบ่งชั้นและสมบัติของ ที่เกิดขึ้นนั้นท�ำให้ผิวโลกเปลี่ยนแปลงไปจนเกิดเป็นภูมิประเทศ
คิดวาภายในโลกมีองคประกอบเปนอยางไร โครงสร้ำงโลก พร้อมยกตัวอย่ำง
แบบต่ำง ๆ กำรศึกษำโครงสร้ำงของโลกจึงช่วยท�ำให้ทรำบถึง
ข้อมูลที่สนับสนุนได้
แตกตางจากหินที่พบบนผิวโลกหรือไม โครงสร้ำงและกำรเกิดปฏิกิริยำต่ำง ๆ ภำยในโลก
2. ครูถามคําถาม Big Question จากหนังสือ
เรี ย นรายวิ ช าเพิ่ ม เติ ม วิ ท ยาศาสตร โลก
ดาราศาสตร และอวกาศ ม.4 เล ม 1
หน า 2 ว า ในอนาคตโครงสร า งของโลก
จะมี ก ารเปลี่ ย นแปลงไปจากเดิ ม หรื อ ไม
อยางไร
3. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อ
วัดความรูเดิมของนักเรียนกอนเขาสูบทเรียน

ã¹Í¹Ò¤µ
â¤Ã§ÊÌҧ¢Í§
âÅ¡¨ÐÁÕ¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§
仨ҡà´ÔÁËÃ×ÍäÁ‹
Í‹ҧäÃ
แนวตอบ Big Question
อาจเปลี่ยนแปลงได ถามีเทคโนโลยีที่สามารถ
เจาะลงไปสูใ จกลางโลกเพือ่ นําตัวอยางขึน้ มาศึกษา
ได หรือมีเครื่องมือที่สามารถวิเคราะหขอมูลคลื่น
ไหวสะเทือนไดละเอียดมากขึ้น

เกร็ดแนะครู
ครู ค วรนํ า แบบจํ า ลองโครงสร า งโลกมาใช ป ระกอบการเรี ย นการสอน
เพื่อที่จะไดชวยใหนักเรียนเขาใจโครงสรางโลกไดอยางชัดเจน

นักเรียนควรรู
1 ระบบสุริยะ เนื่องจากดาวเคราะหในระบบสุริยะอยูหางไกลจากกันมาก
นักดาราศาสตรมักจะใชหนวยวัดระยะทางระหวางดาวเคราะหในระบบสุริยะ
เปน หนวยดาราศาสตร (Astronomical Unit: AU) ซึ่งอางอิงจากระยะหางเฉลี่ย
ระหวางโลกกับดวงอาทิตย

T4
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
Prior Knowledge
เหตุ ใ ดจึ ง ควรทํ า ความ 1. ความเขาใจเกี่ยวกับโลก 1. ครู ถ ามคํ า ถาม prior knowledge จาก
เขาใจเกี่ยวกับโครงสราง หนังสือเรียน หนา 3 วา เหตุใดจึงควรทําความ
โลก (earth) เป็นดำวเครำะห์ล�ำดับที่สำมของระบบสุริยะ
ของโลก
จักรวำล ซึง่ มีระยะห่ำงจำกดวงอำทิตย์ประมำณ 150 ล้ำนกิโลเมตร เข า ใจเกี่ ย วกั บ โครงสร า งโลก เพื่ อ เป น การ
เป็นดำวเครำะห์หนิ ทีม่ ขี นำดใหญ่ทสี่ ดุ มีลกั ษณะเป็นทรงรี ป่องตรงกลำง ขัว้ เหนือ-ใต้แบนเล็กน้อย ทบทวนความรูเดิมของนักเรียน
เส้นผ่ำนศูนย์กลำงทีว่ ดั จำกขัว้ โลกเหนือไปขัว้ โลกใต้ประมำณ 12,711 กิโลเมตร และเส้นผ่ำนศูนย์- 2. ครูใหนักเรียนรวมกันสืบคนขอมูลเกี่ยวกับวิธี
กลำงที่วัดผ่ำนเส้นศูนย์สูตรประมำณ 12,775 กิโลเมตร โดยแกนโลกท�ำมุมเอียง 23.4 องศำกับ การศึกษาโครงสรางโลก แลวครูถามคําถามวา
เส้นตั้งฉำกกับระนำบกำรโคจร • นักวิทยาศาสตรวิเคราะหหาองคประกอบ
ทางเคมีของสสารภายในโลกไดอยางไร
นับตั้งแต่โลกก�ำเนิดขึ้นมำเมื่อประมำณ 4,600 ล้ำนปมำแล้ว โลกมีวิวัฒนำกำรมำอย่ำง
(แนวตอบ นักวิทยาศาสตรศกึ ษาตัวอยางจาก
ต่อเนื่อง ซึ่งแบ่งได้ 5 ขั้น ดังนี้
ชิ้นสวนหินแปลกปลอมที่ถูกนําขึ้นมาจาก
การปะทุของภูเขาไฟ ซึง่ มีลกั ษณะและองค -
ประกอบทางเคมีตา งจากหินทีพ่ บบนผิวโลก)
เริ่มมีกำรรวมตัวกันของเศษดำวเครำะห์ ซึ่งอิทธิพลจำกกำร ขัน
้ แรกเริม

3. ใหนกั เรียนสืบคืนขอมูลเกีย่ วกับภูเขาไฟระเบิด
ชนกันและแรงอัดตัว ท�ำให้เกิดพลังงำนควำมร้อนและกัมมันตภำพรังสี initial stage และหินแปลกปลอม (xenolith) เพื่อเชื่อมโยง
เกิดขึน้ เมือ่ ภำยในโลกมีควำมร้อนถึงจุดหนึง่ (ประมำณ 1,535 �C) เขาสูกิจกรรม แบบจําลองภูเขาไฟ
ทีท่ ำ� ให้เหล็กเริม่ เกำะตัวกัน โลหะหนักต่ำง ๆ เช่น เหล็ก นิกเกิล โคบอลต์ ขัน
้ กอเหล็ก
จมตัวลงสู่ใจกลำงโลก ขณะที่สำรที่มีควำมหนำแน่นน้อยกว่ำจะลอยตัว iron catastrophic stage
ขึ้นสู่ด้ำนบน จนเกิดกำรแบ่งชั้นของโลกขึ้น
มีกำรอัดตัวของธำตุที่ท�ำให้เกิดโครงสร้ำงภำยในโลกที่แบ่งเป็น ขัน
้ แยกชัน

planetary differentiation
3 ชัน้ ได้แก่ เปลือกโลก เนือ้ โลก และแก่นโลก ซึง่ ชัน้ แก่นโลกประกอบด้วย stage
เหล็กเป็นส่วนใหญ่ ชัน้ เปลือกโลกประกอบด้วยสำรทีเ่ บำกว่ำ เช่น ซิลเิ กต
ของโซเดียม โพแทสเซียม และแคลเซียม ส่วนชั้นเนื้อโลกประกอบด้วย
ส่วนผสมระหว่ำงสำรในชั้นเปลือกโลกกับชั้นแก่นโลก ขัน
้ เกิดใหม
earth-reborn stage
เกิดกำรพำควำมร้อนและกำรถ่ำยเทควำมร้อนของหินในชั้น แนวตอบ Prior Knowledge
เนื้อโลก ท�ำให้อุณหภูมิของโลกเย็นลงจนชั้นเนื้อโลกแข็งตัว
ขัน
้ เย็นตัวลง ในปจจุบันภายในโลกยังมีอุณหภูมิสูงมาก
มีกำรสะสมตัวของธำตุกัมมันตรังสีในชั้นเปลือกโลกในรูปของ
ออกไซด์และซิลิเกต กำรถ่ำยเทควำมร้อนของโลกโดยเฉพำะที่ผิวเป็น
engine-down stage
ซึ่ ง ความร อ นจากภายในโลกทํ า ให เ กิ ด การ
ไปอย่ำงรวดเร็ว จนท�ำให้ชนั้ เปลือกโลกเย็นตัวและแข็งตัวจนเกิดเป็นพืน้ เปลี่ยนแปลงทั้งภายในโลกและบนผิวโลก เชน
แผ่นดิน ภูเขาไฟระเบิด แผนดินไหว ทําใหนกั วิทยาศาสตร
เกิดความสนใจที่จะศึกษาโครงสรางภายในโลก
ภำพที่ 1.1 วิวัฒนำกำรของโลก แตภายในโลกมีอุณหภูมิและความดันสูงทําให
3
ไมสามารถเจาะสํารวจได นักวิทยาศาสตรจงึ คนหา
ความเขาใจเกี่ยวกับโลก หลักการและวิธีการทางวิทยาศาสตรเพื่อใชใน
การศึกษาโครงสรางภายในโลก

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET สื่อ Digital


ขอความใดไมถูกตองเกี่ยวกับโลก ศึกษาเพิ่มเติมไดจากการสแกน QR code เรื่อง ความเขาใจเกี่ยวกับโลก
1. ภายในโลกมีความรอนและอุณหภูมิสูงมาก
2. เปลือกโลกเปนชั้นที่บางที่สุดและมีความหนาสมํ่าเสมอ
3. สัณฐานของโลกมีรูปรางกลมรี เสนผานศูนยกลางใน
แนวนอนยาวกวาเสนผานศูนยกลางในแนวดิ่ง
4. โครงสรางโลกที่แบงโดยใชองคประกอบทางเคมี จะแบง
ออกเปน 3 ชั้น ไดแก เปลือกโลก เนื้อโลก และแกนโลก
5. โครงสรางโลกทีแ่ บงโดยใชขอ มูลคลืน่ ไหวสะเทือน จะแบงออก
เปน 3 ชั้น ไดแก ธรณีภาค ฐานธรณีภาค และมัชฌิมภาค
(วิเคราะหคําตอบ โครงสรางของโลก แบงออกเปน เปลือกโลก
เนื้ อ โลก และแก น โลก ส ว นเปลื อ กโลกเป น ส ว นที่ บ างที่ สุ ด
โดยแต ล ะบริ เ วณจะมี ค วามหนาแตกต า งกั น ไป ส ว นเนื้ อ โลก
และแกนโลกจะมีความรอนและอุณหภูมสิ งู มาก ดังนัน้ ตอบขอ 2.)

T5
น�ำ สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
Prior Knowledge
4. ครูถามคําถาม prior knowledge จากหนังสือ โครงสรางของโลกมีรปู ราง 2. การแบงโครงสรางโลก
เรียน หนา 4 วา โครงสรางของโลกมีรูปราง และลักษณะอยางไรบาง นักวิทยำศำสตร์ได้พยำยำมหำวิธีกำรต่ำง ๆ ที่จะศึกษำ
และลักษณะอยางไรบาง โครงสร้ำงโลกทั้งทำงตรงและทำงอ้อม โดยใช้หลักฐำนต่ำง ๆ
5. ครูใหนกั เรียนนับจํานวน 1 - 3 วนไปเรือ่ ยๆ จน ที่สำมำรถค้นพบได้ รวมทั้งใช้ทฤษฎี หลักกำรทำงวิทยำศำสตร์แขนงต่ำง ๆ และเทคโนโลยีที่
ครบทุกคน เพือ่ แบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุม มีควำมทันสมัย จึงท�ำให้แบ่งโครงสร้ำงของโลกได้ ดังนี้
ละ 3 คน โดยใหคนที่นับจํานวนเดียวกันใหอยู
กลุมเดียวกัน 2.1 โครงสรางโลกตามองคประกอบทางเคมี
6. ครูแจงจุดประสงคของการทํากิจกรรม จากนัน้ นักธรณีวทิ ยำแบ่งโครงสร้ำงภำยในของโลก โดยพิจำรณำจำกองค์ประกอบทำงเคมี ออกเป็น
ใหนกั เรียนทําการทดลองเลียนแบบและอธิบาย 3 ส่วน ได้แก่ เปลือกโลก เนื้อโลก และแก่นโลก
การเกิดภูเขาไฟระเบิด โดยทํากิจกรรม แบบ ชั้นเปลือกโลก (Crust)
จําลองภูเขาไฟ จากหนังสือเรียน หนา 8 เป็นเสมือนผิวด้ำนนอกที่ปกคลุมโลก มีควำมหนำตั้งแต่ 5 กิโลเมตร ในส่วน
7. ครู ใ ช รู ป แบบการเรี ย นรู  แ บบร ว มมื อ มาจั ด ที่อยู่ใต้มหำสมุทร ไปจนถึง 70 กิโลเมตร ในบริเวณที่เป็นเทือกเขำสูง แบ่ง
ออกได้เป็น 2 บริเวณ คือ
กระบวนการเรี ย นรู  โดยกํ า หนดให ส มาชิ ก
เปลือกโลกทวีป (continental crust) หมำยถึง ส่วนที่เป็นแผ่นดินทั้งหมด
แต ล ะคนภายในกลุ  ม มี บ ทบาทหน า ที่ ข อง ประกอบด้วยธำตุซิลิคอน (Si) และอะลูมิเนียม (Al) เป็นส่วนใหญ่
ตนเอง ดังนี้ เปลือกโลกมหาสมุทร (oceanic crust) หมำยถึง เปลือกโลกส่วนทีถ่ กู ปกคลุม
สมาชิกคนที่ 1 ทําหนาที่เตรียมวัสดุอุปกรณ ด้วยน�ำ้ ประกอบด้วยธำตุซลิ คิ อน (Si) และแมกนีเซียม (Mg) เป็นส่วนใหญ่
สมาชิกคนที่ 2 ทําหนาทีอ่ า นวิธกี ารทํากิจกรรม มีผวิ สัมผัสกัน้ ควำมไม่ตอ่ เนือ่ งระหว่ำงชัน้ เปลือกโลกกับชัน้ เนือ้ โลกทีอ่ ยูข่ ำ้ ง
ล่ำงเป็นชั้นควำมไม่ต่อเนื่องที่เรียกว่ำ “ชั้นความไมตอเนื่องโมโฮโรวิซิก”
และนํามาอธิบายใหสมาชิกภายในกลุมฟง (Mohorovicic Discontinuity) หรือเรียกโดยย่อว่ำ ชั้นโมโฮ
สมาชิกคนที่ 3 ทําหนาที่บันทึกผลการทดลอง
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
ชั้นเนื้อโลก (Mantle)
แบบประเมินการปฏิบัติกิจกรรม)
เป็นชั้นที่อยู่ถัดลงไปจำกชั้นเปลือกโลก มีควำมหนำประมำณ 2,900
8. ครูใหนกั เรียนแตละกลุม สงตัวแทนมานําเสนอ กิโลเมตร นับจำกฐำนล่ำงสุดของเปลือกโลกจนถึงตอนบนของแก่นโลก
ผลการทํากิจกรรม ชั้นเนื้อโลกส่วนบนเป็นหินที่เย็นตัวแล้ว และบำงส่วนมีรอยแตกเนื่องจำก
ควำมเปรำะ ชั้นเนื้อโลกกับชั้นเปลือกโลก รวมตัวกันเรียกว่ำ “ธรณีภำค”
(Lithosphere)
เนือ้ โลกสวนบน อยูใ่ ต้ชนั้ เปลือกโลกลงไปถึงระดับควำมลึกประมำณ 400
กิโลเมตร
เนือ้ โลกสวนลาง อยูใ่ นระดับควำมลึกประมำณ 1,000-2,900 กิโลเมตร
แนวตอบ Prior Knowledge ชั้นนี้ถูกกั้นออกจำกแก่นโลกด้วยผิวสัมผัสกั้นควำมไม่ต่อเนื่องที่เรียกว่ำ
“ชั้นความไมตอเนื่องกูเทนเบิร์ก”
โลกเปนดาวเคราะหทมี่ รี ปู รางเกือบเปนทรงกลม
โครงสรางภายในแบงออกเปนชั้น มีองคประกอบ 4
ทางเคมีแตกตางกัน 3 ชั้น ไดแก เปลือกโลก เนื้อ การแบงโครงสรางโลก
โลก และแกนโลก

สื่อ Digital ขอสอบเนน การคิด


ศึกษาเพิ่มเติมไดจากการสแกน QR code เรื่อง ความเขาใจเกี่ยวกับโลก โครงสรางภายในโลกแบงออกเปนกี่ชั้น และใชขอมูลใดเปนเกณฑ
(แนวตอบ เมื่อใชองคประกอบทางเคมีเปนเกณฑ โครงสราง
จะออกแบงเปน 3 ชัน้ คือ เปลือกโลก เนือ้ โลก และแกนโลก แตถา ใช
สมบัติเชิงกลเปนเกณฑ จะถูกแบงออกเปน 5 ชั้น คือ ธรณีภาค
ฐานธรณีภาค มัชฌิมภาค แกนโลกชั้นนอก และแกนโลกชั้นใน)

T6
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
ชั้นแกนโลก (Core) 9. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า
อยู่ในระดับควำมลึกจำกผิวโลกประมำณ 2,900 กิโลเมตร มีควำมหนำ กิ จ กรรม โดยครู ตั้ ง คํ า ถามเพื่ อ ให นั ก เรี ย น
ประมำณ 3,440 กิโลเมตร มีควำมหนำแน่นมำกที่สุด แตละกลุมรวมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้
• หลังจากใสนาํ้ สมสายชูลงในทอพีวซี ี เกิดการ
เปลี่ยนแปลงอยางไร
( แนวตอบ มี ข องเหลวที่ มี สี เ ดี ย วกั บ สี ผ สม
อาหารไหลลนออกมาจากแบบจําลองภูเขาไฟ
และมีฟองแกสปะปนอยูในของเหลว)
• ถาแบบจําลองภูเขาไฟเปรียบไดกบั การเกิด
ภูเขาไฟระเบิดบนโลก จะสงผลอยางไร
(แนวตอบ ของเหลวทีไ่ หลลนออกมาเปรียบได
กับลาวา ซึง่ เปนสสารจากภายในโลก ซึง่ การ
ระเบิดของภูเขาไฟนอกจากจะทําใหสภาพ
แวดลอมมีการเปลีย่ นแปลงอยางมาก ยังนํา
สสารที่อยูภายในโลก เชน หินแปลกปลอม
ขึ้นมาสูผิวโลก ทําใหสามารถศึกษาองค-
ประกอบทางเคมีของโลกได)

Earth Science ภำพที่ 1.2 โครงสร้ำงโลกตำมองค์ประกอบทำงเคมี


Focus กำรเปลี่ยนแปลงลักษณะของเปลือกโลก
แบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้
1. กำรเปลี่ยนแปลงหรือเคลื่อนที่อย่ำง
รวดเร็วฉับพลัน (abrupt movements) มักเกีย่ วข้อง
กับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นอย่ำงรุนแรง จนท�ำให้
เปลือกโลกจมตัวลงเป็นบริเวณกว้ำง หรือเอียงไป
ข้ำงใดข้ำงหนึ่ง หรือเคลื่อนที่ออกจำกกันในแนว1
รำบท�ำให้เกิดลุ่มน�้ำขัง (swamps) หรื
) หรือทะเลสำบ ภำพที่ 1.3 กำรเปลี่ยนแปลงลักษณะของเปลือกโลก
2. กำรเปลีย่ นแปลงหรือเคลือ่ นทีอ่ ย่ำงช้ำ ๆ (slow movements) เช่น แผ่นเปลือกโลกแปซิฟก
เคลื่อนที่ไปทำงทิศเหนือ 5 เซนติเมตรต่อป

โครงสร้างโลก 5

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET นักเรียนควรรู


ในการแบงชั้นของโลกตามลักษณะมวลสาร ชั้นเนื้อโลกสวน 1 ทะเลสาบ แองนํา้ ขนาดใหญทมี่ แี ผนดินลอมรอบหรือเกือบรอบ โดยสวนมาก
ใหญมีสถานะในขอใด ทะเลสาบสวนมากเปนนํ้าจืดและไมมีทางใหนํ้าไหลออกทะเลโดยตรง แตก็มี
1. แกส ทะเลสาบหนึง่ ในโลกทีเ่ ปนทะเลสาบนํา้ เค็ม คือ ทะเลเดดซี ทีอ่ ยูต รงเสนเขตแดน
2. ของแข็ง ระหวางประเทศอิสราเอลกับประเทศจอรแดน ซึ่งทะเลเดดซีเปนทะเลสาบที่มี
3. ของไหล ปริมาณเกลือเขมขนมากจึงทําใหนํ้าเค็มจัดมาก จนคนสามารถลอยอยูเหนือ
4. ของเหลว ผิวนํ้าไดโดยไมตองกลัววาจะจม ทําใหเปนจุดที่นักทองเที่ยวนิยมไปกันมาก
5. พลาสมา
(วิเคราะหคําตอบ เนื้อโลกมีลักษณะเปนของแข็ง หรือของแข็ง
เนื้อออนซึ่งเปนหินที่อยูในสภาพหลอมละลาย เรียกวา หินหนืด
ดังนั้น ตอบขอ 2.)

T7
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
อธิบายความรู
1. ครูกลาวเชื่อมโยงเขาสูเนื้อหาตอไป โดยตั้ง ระบบสุรยิ ะเกิดขึน้ จำกกำรหมุนเวียนของกลุม่ แก๊สขนำดใหญ่ ซึง่ มีแรงดึงดูดเข้ำสูศ่ นู ย์กลำง
ประเด็นคําถามวา จากการวิเคราะหองค- จนเกิดเป็นดวงอำทิตย์ขนึ้ จำกนัน้ เศษฝุน่ แก๊สทีเ่ หลืออยูจ่ ะถูกเหวีย่ งหมุนและรวมตัวกันกลำยเป็น
ประกอบเคมีของหินบนเปลือกโลก และหิน ดำวเครำะห์ทั้ง 8 ดวง
แปลกปลอมที่ถูกพาขึ้นมาบนผิวโลก สามารถ ขณะที่โลกเริ่มก�ำเนิดขึ้นนั้น เศษฝุ่นแก๊สจะค่อย ๆ รวมตัวกันเป็นอนุภำคขนำดเล็ก ๆ ท�ำให้
เปนตัวแทนขององคประกอบทางเคมีของโลก เกิดควำมร้อนเนือ่ งมำจำกแรงกดและกำรสลำยตัวของสำรกัมมันตรังสี ซึง่ มีปริมำณมำกกว่ำ 2 เท่ำ
ไดหรือไม ของปริมำณในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีควำมร้อนที่เกิดจำกแรงอัดของมวลที่เข้ำไปรวมกับกลุ่มแก๊ส
(แนวตอบ ไมได เพราะเมือ่ นําองคประกอบทาง ท�ำให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้นกว่ำ 1,000 �C ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สูงพอที่จะท�ำให้สสำรต่ำง ๆ เกิด
เคมีของหินบนผิวโลก และหินแปลกปลอมจาก กำรหลอมเหลว แต่ไม่มำกพอที่จะท�ำให้โลกทั้งหมดอยู่ในสภำพของเหลว
ภายในโลกมาคํานวณหาความแนน พบวายัง เมื่อโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นจึงท�ำให้สสำรในโลกมีกำรไหลได้มำกขึ้น ซึ่งกำรไหลนี้ท�ำให้สสำรที่
ไมเทากับความหนาแนนของโลก แสดงวามี เบำกว่ำลอยตัวขึ้นสู่บริเวณรอบ ๆ ส่วนสสำรที่หนักกว่ำจะจมลงสู่บริเวณใจกลำง โดยเฉพำะเหล็ก
สวนที่ลึกลงไปภายในโลกที่ยังไมทราบวาเปน ซึ่งเป็นธำตุที่มีปริมำณมำกที่สุดจะจมลงอย่ำงรวดเร็ว เกิดเป็นแกนกลำงของโลก จึงท�ำให้ในชั้น
สสารชนิดใด จึงตองมีการศึกษาตอไป) แก่นโลกมีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นธำตุเหล็ก ดังนั้น เมื่อพิจำรณำสำรเคมีต่ำง ๆ เพื่อน�ำมำใช้
ในกำรแบ่งโครงสร้ำงโลกจะสำมำรถระบุส่วนประกอบทำงเคมีของแต่ละชั้นของโลกได้ ดังนี้
2. ครูใหนกั เรียนจับคูก บั เพือ่ นรวมชัน้ เรียน รวมกัน
สืบคนขอมูลเกี่ยวกับเรื่อง ดังนี้
- อุกกาบาตที่พบบนโลก สวนประกอบทำงเคมีของโครงสรำงโลก
- สนามแมเหล็กโลก สัดสวนของสารประกอบตาง ๆ ในชั้นตาง ๆ ของโลก
โดยนักเรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือ สารประกอบตาง ๆ ที่พบในโครงสร้างโลก
แหลงเรียนรูอื่นๆ แลวนําขอมูลมาแลกเปลี่ยน
ซิลิคอนไดออกไซด์
ความคิดเห็น และรวมกันตั้งประเด็นคําถาม
อะลูมิเนียมออกไซด์
เกี่ยวกับเรื่องที่สืบคนมา เปลือกโลก แคลเซียมออกไซด์
3. ใหนกั เรียนรวมกลุม กับเพือ่ นอีกคูห นึง่ รวมเปน
4 คน แลวแลกเปลี่ยนกันถามคําถามที่ตั้งไว แมกนีเซียมออกไซด์
จากนั้นรวมกันสรุปเพื่อเตรียมนําขอมูลที่สรุป เหล็กและเหล็กออกไซด์
ไดมาเสนอหนาชั้นเรียน นิกเกิลออกไซด์
เนื้อโลก
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช อื่น ๆ
แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล)
4. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมานํา
เสนอคําถามของกลุม ตนเอง โดยใหนกั เรียนทัง้ ภำพที่ 1.4 สัดส่วนของสำรประกอบต่ำง ๆ
ที่พบในโครงสร้ำงโลกแต่ละชั้น แก่นโลก
หองรวมกันตอบคําถาม และอภิปรายรวมกัน (ที่มาของขอมูล : ศูนยการเรียนรูท างวิทยาศาสตร โลกและดาราศาสตร)
6

เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET


เพื่อใหไดขอมูล เรื่อง การแบงโครงโลกตามองคประกอบทางเคมี สมบูรณ ชั้นใดของโลกที่มีองคประกอบเปนเหล็กและนิกเกิล
และชั ด เจนเพี ย งต อ การจั ด การเรี ย นการสอน ครู อ าจจะเข า ไปศึ ก ษาและ 1. เปลือกโลก
คนควาขอมูลเพิ่มเติมไดจากเว็บไซตของศูนยการเรียนรูวิทยาศาสตรโลกและ 2. เนื้อโลก
ดาราศาสตร โดยเขาไปที่ http://www.lesa.biz/earth/lithosphere/earth- 3. แกนโลกสวนใน
structure 4. แกนโลกสวนนอก
5. ขอ 3. และ ขอ 4.
(วิเคราะหคําตอบ เนื่องจากเปลือกโลกมีองคประกอบเปนหิน
เนื้อโลกมีองคประกอบเปนหินและแมกมา แตแกนโลกสวนใน
และแกนโลกสวนนอกมีองคประกอบเปนเหล็กและนิกเกิล ดังนั้น
ตอบขอ 5.)

T8
น�ำ สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สรุป
ขยายความเข้าใจ
เมื่อพิจำรณำองค์ประกอบทำงเคมีของโครงสร้ำงโลก Earth Science 1. ครูนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน ทําใบงาน
ท�ำให้ทรำบว่ำ ธำตุทมี่ เี ลขอะตอมมำกหรือมีควำมถ่วงจ�ำเพำะสูง in real life เรื่อง โครงสรางโลกตามองคประกอบทางเคมี
เช่น เหล็ก โคบอลต์ และนิกเกิล จะจมลงสู่แกนกลำงโลก โคบอลต์-60 ใช้รักษำโรคมะเร็ง โดยสรุปความรูเ รือ่ งการแบงโครงสรางโลกตาม
และถ้ ำ ระยะของโรคมะเร็ ง
กลำยเป็นแก่นโลก ในขณะที่ธำตุที่มีเลขอะตอมน้อยหรือมี องคประกอบทางเคมี ในรูปของแผนผังความ
ไม่รุนแรงมำกจะสำมำรถรักษำ
ควำมถ่วงจ�ำเพำะต�่ำ เช่น ออกซิเจน โซเดียม อะลูมิเนียม ให้หำยขำดได้จำกกำรใช้รังสี คิดใหมคี วามถูกตองและนาสนใจ แลวนําเสนอ
ซิลิคอน จะลอยตัวขึ้นและเป็นองค์ประกอบหลักของเปลือกโลก ผลงาน
ดังแสดงในตำรำง (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
ตำรำงที่ 1.1 : ขอมูลพื้นฐานเกี่ยวกับโครงสรางของโลก แบบประเมินการนําเสนอผลงาน )
โครงสร้างของโลก ประกอบด้วยธาตุ สารประกอบ 2. ครูใหนกั เรียนแบงกลุม กลุม ละ 3 คน สรางแบบ
ซิลิคอน (Si) จําลองโครงสรางโลกที่แบงตามองคประกอบ
อะลูมิเนียม (Al) ทางเคมี ตามความรูที่ไดเรียนมา
ภำคพื้นทวีป แคลเซียม (Ca) หินแกรนิต (granite) (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
เปลือกโลก แมกนีเซียม (Mg)
มีซิลิคอนไดออกไซต์ และ เหล็ก (Fe) แบบประเมินชิ้นงาน)
อะลู มิ เ นี ย มออกไซต์ เ ป็ น
ซิลิคอน (Si)
3. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมา
องค์ประกอบหลัก นําเสนอแบบจําลองของกลุมตนเอง โดยให
แคลเซียม(Ca)
ภำคพืน้ มหำสมุทร แมกนีเซียม (Mg) หินบะซอลต์ (basalt)
นักเรียนทัง้ หองรวมกันตัง้ คําถาม และอภิปราย
เหล็ก (Fe) รวมกัน
ซิลิคอน (Si) 4. ค รู ม อ บ ห ม า ย ก า ร บ  า น ใ ห  นั ก เ รี ย น ทํ า
เนื้อโลก แคลเซียม(Ca)
หินดูไนต์ (dunite)
มีซิลิคอนไดออกไซต์ แมกนีเซียมออกไซต์ และ แมกนีเซียม (Mg) หินเพอร์ริโดไทต์ แบบฝ ก หั ด ที่ 2.1 จากแบบฝ ก หั ด รายวิ ช า
เหล็กเป็นองค์ประกอบหลัก (peridotite)
เหล็ก (Fe) เพิ่มเติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร และ
ส่วนนอก
เหล็ก (Fe)
เหล็กร้อนที่เป็นของเหลว
อวกาศ ม.4 เลม 1 หนวยการเรียนรูที่ 1
แกนโลก นิ กเกิล (Ni) โครงสรางโลก
มีเหล็กเป็นองค์ประกอบหลัก เหล็ก (Fe)
ส่วนใน นิกเกิล (Ni)
เหล็กร้อนที่เป็นของแข็ง

Earth Science
Focus ควำมถวงจ�ำเพำะ
ควำมถ่วงจ�ำเพำะ (specific gravity) คือ อัตรำส่วนระหว่ำงควำมหนำแน่นของสำรกับควำม
หนำแน่นของสำรมำตรฐำนชนิดหนึง่ ซึง่ สำรมำตรฐำนทีน่ ยิ มใช้กนั คือ น�ำ้ (ที ่ 4 �C) ส�ำหรับของเหลวและ
ของแข็ง ส่วนส�ำหรับแก๊สมักใช้อำกำศเป็นสำรมำตรฐำน

โครงสร้างโลก 7

ขอสอบเนน การคิด สื่อ Digital


เปลือกโลกมีธาตุใดเปนองคประกอบหลัก ศึกษาเพิ่มเติมไดจากภาพยนตรสารคดีสั้น Twig เรื่อง โครงสรางของโลก
1. ซิลิคอนไดออกไซดและเหล็กออกไซด https://www.twig-aksorn.com/fifilm/structure-of-the-earth-7969/
2. แมกนีเซียมออกไซดและเหล็กออกไซด
3. ซิลิคอนไดออกไซดและอะลูมิเนียมออกไซด
4. ซิลิคอนไดออกไซดและแมกนีเซียมออกไซด
5. แมกนีเซียมออกไซดและอะลูมิเนียมออกไซด
(วิเคราะหคําตอบ เนื่องจากเปลือกโลกมีซิลิคอนไดออกไซดและ
อะลูมิเนียมออกไซดเปนองคประกอบหลัก ดังนั้น ตอบขอ 3.)

T9
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ ประเมิน
ตรวจสอบผล
กิจกรรม ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์
1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน • กำรสังเกต

2. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม แบบจ�ำลองภูเขำไฟ • กำรตีควำมหมำยข้อมูลและ


ลงข้อสรุป
การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน จิตวิทยาศาสตร์
3. ครูประเมินและตรวจสอบการทําใบงาน เรื่อง วัสดุอปุ กรณ์ • ควำมสนใจใฝ่รู้
• ควำมรับผิดชอบ
โครงสรางโลกตามองคประกอบทางเคมี 1. ผงฟู 5. สีผสมอำหำร
4. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัดที่ 2.1 จาก 2. บีกเกอร์ 6. น�้ำส้มสำยชู
แบบฝกหัดรายวิชาเพิ่มเติม โลก ดาราศาสตร 3. ท่อพีวีซี 7. ถำดพลำสติก
4. ดินน�้ำมัน
และอวกาศ ม.4 เลม 1 หนวยการเรียนรูที่ 1
โครงสรางโลก วิธปี ฏิบตั ิ
1. ปั้นดินน�้ำมันให้มีรูป 2. น ำ� ภูเขำไฟจ�ำลองวำง 3. ใส่สีผสมอำหำร 4. ใส่น�้ำส้มสำยชู 20
ทรงคล้ำยภูเขำไฟ ในถำดพลำสติก ใส่ 1 ลูกบำศก์เซนติเมตร ลูกบำศก์เซนติเมตร
และใส่ท่อพีวีซีไว้ ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะลง ลงในท่อพีวีซี ลงในท่อพีวีซี สังเกต
ตรงกลำง ในท่อพีวีซี และบันทึกผล

ภำพที่ 1.5 วิธีปฏิบัติกิจกรรมแบบจ�ำลองภูเขำไฟ

?
ค�าถามท้ายกิจกรรม
1. ภูเขำไฟเกิดจำกหลักกำรใด
2. ประเทศไทยมีภูเขำไฟหรือไม่ อย่ำงไร
3. จำกกิจกรรม ปฏิกิริยำเคมีระหว่ำงสำรใดบ้ำงที่ท�ำให้เกิดฟองแก๊สพุ่งขึ้นจำกปล่องภูเขำไฟ

อภิปรำยผลกิจกรรม

จำกกิจกรรมเป็นกำรจ�ำลองกำรเกิดภูเขำไฟระเบิด โดยในธรรมชำตินั้นภูเขำไฟเกิดจำกกำรที่หินหนืด
ดันตัวขึ้นมำพ้นผิวโลก เย็นตัวและแข็งตัวเมื่อทับถมกันสูงขึ้นจึงกลำยเป็นภูเขำ กำรระเบิดของภูเขำไฟเกิด
จำกกำรทีม่ รี อยแยกหรือโพรงในหินเปลือกโลก จึงท�ำให้หนิ หนืดสำมำรถดันตัวแทรกตำมรอยแยก และเคลือ่ นตัว
ขึน้ มำสูผ่ วิ โลกได้ ดังนัน้ กำรเกิดภูเขำไฟระเบิดจึงท�ำให้สภำพแวดล้อมบริเวณรอบ ๆ เปลีย่ นแปลงไปอย่ำงมำก
8

แนวทางการวัดและประเมินผล กิจกรรม 21st Century Skills


ครูสามารถวัดและประเมินการทํากิจกรรมแบบจําลองภูเขาไฟ โดยศึกษา 1. ใหนักเรียนแบงกลุมตามความสมัครใจ กลุมละ 3 - 4 คน
เกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการปฏิบัติกิจกรรมที่แนบมาทาย 2. ใหนักเรียนรวมกันสืบคนขอมูลวิธีการที่นักวิทยาศาสตรใช
แผนการสอนหนวยการเรียนรูที่ 1 เรื่อง โครงสรางโลก ศึกษาโครงสรางโลก
หน่ วยการเรียนรู้ที่ 1 โครงสร้างโลก หน่ วยการเรียนรู้ที่ 1 โครงสร้างโลก
3. สมาชิกในกลุมรวมกันเลือกขอมูล และจัดเตรียมขอมูลเพื่อ
นําเสนอตามรูปแบบที่นักเรียนคิดวานาสนใจอยางอิสระ
แผนฯ ที ่ 2 การแบ่งโครงสร้างโลกตามสมบัติเชิ งกล แผนฯ ที ่ 2 การแบ่งโครงสร้างโลกตามสมบัติเชิ งกล

แบบประเมินการปฏิบัติกจิ กรรม (แผนที่ 1) เกณฑ์การประเมินการปฏิบัติกิจกรรม (แผนที่ 1)


เกณฑ์การประเมินการปฏิบัติกิจกรรม แบบจาลองภูเขาไฟ
แบบประเมินการปฏิบัติกิจกรรม แบบจาลองภูเขาไฟ

4. นําเสนอขอมูลหนาชัน้ เรียน ดวยวิธกี ารสือ่ สารทีท่ าํ ใหผอู นื่ เขาใจ


คาชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินการปฏิบัติการของนักเรียนตามรายการที่กาหนด แล้วขีด  ลงในช่องที่ตรงกับ ประเด็นที่ ระดับคะแนน
ประเมิน 4 3 2 1
ระดับคะแนน
1. การเข้าใจ เข้าใจปัญหาและ เข้าใจปัญหาและ เข้าใจปัญหาและ เข้าใจปัญหาและ
ระดับคะแนน ปัญหาและการ ตั้งสมมติฐานได้ ตั้งสมมติฐานได้ถูกต้อง ตั้งสมมติฐานได้ถูกต้อง ตั้งสมมติฐานได้ถูกต้อง
ลาดับที่ รายการประเมิน ตั้งสมมติฐาน สอดคล้องกับปัญหา
4 3 2 1

ไดงาย
1 การเข้าใจปัญหาและการตั้งสมมติฐาน
2. การดาเนิน การดาเนินการทดลองมี การดาเนินการทดลองมี การดาเนินการทดลองมี การดาเนินการทดลอง
2 การดาเนินการทดลอง
การทดลอง ขั้นตอนครบถ้วน ขั้นตอนครบถ้วน ขั้นตอนถูกต้องเป็นส่วน ไม่ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่
3 การนาเสนอ ถูกต้อง แต่ไม่มีการ ใหญ่ และการเก็บข้อมูล และการเก็บข้อมูล
ถูกต้อง มีการทาซ้า
รวม และการเก็บข้อมูลได้
ทาซ้า และการเก็บ ได้ครบถ้วนตามที่ ไม่ครบถ้วน
ข้อมูลได้ครบถ้วนตามที่ ต้องการ
ละเอียดรอบคอบ
ต้องการ
ครบถ้วนตามทีต่ ้องการ
ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน 3. การนาเสนอ เหมาะสมกับลักษณะ นาเสนอข้อมูลถูกต้อง นาเสนอข้อมูลถูกต้อง นาเสนอข้อมูลถูกต้อง
................./................../.................. ของข้อมูล แสดงถึง ครบถ้วน วิเคราะห์ วิเคราะห์ข้อมูลได้ วิเคราะห์ข้อมูลไม่
ความคิดสร้างสรรค์ใน ข้อมูลได้ครบถ้วน ครบถ้วน นาเสนอผล ครบถ้วน สรุปผลการ
การนาเสนอ วิเคราะห์ สรุปผลการทากิจกรรม การทากิจกรรมถูกต้อง ทากิจกรรมไม่ถูกต้อง
ข้อมูลได้ครบถ้วน ถูกต้อง มีการนาเหตุผล
เหมาะสม สรุปผลการ และความรู้มาอ้างอิง
ทากิจกรรมถูกต้อง มี ประกอบการสรุปผล
การนาเหตุผลและ การทากิจกรรม
ความรู้มาอ้างอิง
ประกอบการสรุปผล
การทากิจกรรม

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
10-12 ดีมาก
7-9 ดี
4-6 พอใช้
0-3 ปรับปรุง

T10
น�ำ น�ำ สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ นํา
กระตุน้ ความสนใจ
2.2 โครงสรางโลกตามสมบัติเชิงกล 1. ให นั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายว า โครงสร า ง
นอกจำกกำรศึกษำองค์ประกอบทำงเคมีของโลกแล้ว นักวิทยำศำสตร์ยงั ศึกษำโครงสร้ำงโลก ภายในโลกในความคิดของนักเรียนเปนอยางไร
จำกปรำกฏกำรณ์แผ่นดินไหว เพรำะเมื่อเกิดแผ่นดินไหวจะท�ำให้เกิดคลื่นไหวสะเทือน (seismic 2. ครูตั้งคําถามกระตุนความคิดโดยใหนักเรียน
wave) สองแบบ คือ คลื่นพื้นผิว (surface wave) และคลื่นในตัวกลำง (body wave) คลื่นพื้นผิว ชวยกันระดมความคิดในการตอบคําถาม
เดินทำงไปตำมพื้นผิวโลกท�ำให้อำคำร สิ่งปลูกสร้ำง ช�ำรุด พังทลำย ส่วนคลื่นในตัวกลำงจะเดิน • ถ า ต อ งการทราบว า ขนมป ง ซาลาเปา
ทำงผ่ำนเข้ำไปภำยในของโลก นักธรณีวิทยำจึงใช้คลื่นในตัวกลำงส�ำรวจโครงสร้ำงภำยในของโลก ภายในมีไสอะไร นักเรียนจะทําอยางไร
ซึ่งคลื่นในตัวกลำงมี 2 ประเภท ดังนี้ (แนวตอบ สามารถผา หรือบิดูไสขางในได)
1
1. คลื่นปฐมภูมิ หรือคลื่น p (primary wave ; p wave) เป็นคลื่นตำมยำวที่เกิดจำก • ถ า เป น สิ่ ง ของเช น กล อ งป ด ผนึ ก ที่ ไ ม
ควำมไหวสะเทือนในตัวกลำง โดยอนุภำคของตัวกลำงนั้นเกิดกำรเคลื่อนไหวแบบอัดขยำย สามารถเปดดูได นักเรียนจะทําอยางไร
ในแนวเดียวกับทีค่ ลืน่ ผ่ำน คลืน่ นีส้ ำมำรถเคลือ่ นทีผ่ ำ่ นตัวกลำงทีเ่ ป็นของแข็ง ของเหลว และแก๊ส (แนวตอบ อาจเขยา หรือเคาะเพื่อฟงเสียง
เป็นคลื่นที่สถำนีวัดแรงสั่นสะเทือนสำมำรถตรวจรับได้ก่อนคลื่นชนิดอื่น โดยมีควำมเร็วประมำณ เพื่อคาดคะเนลักษณะของวัตถุที่อยูภายใน)
6-7 กิโลเมตรต่อวินำที ซึ่งคลื่นปฐมภูมิท�ำให้เกิดกำรอัดหรือขยำยตัวของชั้นหิน • ถาเปนวัตถุขนาดใหญมาก อยางเชน โลก
ทิศทำงกำรสั่นของตัวกลำง
นักเรียนจะทําอยางไร
ทิศทำงกำรสั่น ทิศทำงของคลื่นปฐมภูมิ
ของตัวกลำง (แนวตอบ ใชคลื่นแผนดินไหว หรือคลื่นไหว
สะเทือนในการศึกษา)
สปริง
ทิศทำงของคลื่นปฐมภูมิ
ภำพที่ 1.6 อนุภำคของผิวโลกเคลื่อนที่ทิศทำงเดียวกับทิศทำงของคลื่นปฐมภูมิ
2
2. คลืน่ ทุตยิ ภูมิ หรือคลืน่ s (secondary wave ; s wave) เป็นคลืน่ ตำมขวำงทีเ่ กิดจำก
ควำมไหวสะเทือนในตัวกลำง โดยอนุภำคของตัวกลำงเคลือ่ นไหวตัง้ ฉำกกับทิศทำงทีค่ ลืน่ ผ่ำน มีทงั้
แนวตั้งและแนวนอน คลื่นชนิดนี้ผ่ำนได้เฉพำะตัวกลำงที่เป็นของแข็งเท่ำนั้น คลื่นทุติยภูมิ
มีควำมเร็วประมำณ 3-4 กิโลเมตรต่อวินำที ซึ่งคลื่นทุติยภูมิท�ำให้ชั้นหินเกิดกำรคดโค้ง
ทิศทำงกำรสั่นของตัวกลำง
ทิศทำงของคลื่นทุติยภูมิ

ทิศทำงกำร
สั่นของตัวกลำง เชือก ทิศทำงของคลื่นทุติยภูมิ
ภำพที่ 1.7 อนุภำคของผิวโลกเคลื่อนที่ตั้งฉำกกับทิศทำงของคลื่นทุติยภูมิ

โครงสร้างโลก 9

ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู


ขอใดตอไปนี้คือวิธีการหลักที่นักวิทยาศาสตรใชเพื่อศึกษา กอนทํากิจกรรมแบบจําลองภูเขาไฟ จากหนังสือเรียนหนา 8 ครูควรใหนกั เรียน
โครงสรางโลก อานวิธกี ารทํากิจกรรมอยางละเอียด แลวชวยกันระบุวา จะตองใชวสั ดุอปุ กรณและ
1. เจาะลงไปจนถึงชั้นเนื้อโลก เพื่อศึกษาหินหนืด สารอะไรบางในการทํากิจกรรม จากนัน้ ใหนกั เรียนแตละกลุม แยกกันไปจัดเตรียม
2. ศึกษาชั้นหินในภูเขา เพื่ออธิบายโครงสรางภายในโลก อุปกรณตา งๆ ใหครบถวน โดยครูคอยใหคาํ แนะนําและตรวจสอบความถูกตอง
3. ใชคลื่นไหวสะเทือน เพื่อศึกษาโครงสรางโลกในแตละชั้น
4. ใชดาวเทียมถายรูปชั้นหิน เพื่ออธิบายโครงสรางภายใน
ของโลก
นักเรียนควรรู
5. ศึกษาโครงสรางของโลก โดยดูจากดวงจันทร เพราะมี เมือ่ แบงประเภทของคลืน่ ตามทิศทางการเคลือ่ นทีข่ องคลืน่ และการสัน่ ของ
โครงสรางคลายกัน ตัวกลาง จะแบงได 2 ประเภท ดังนี้
( วิ เ คราะห คํ า ตอบ นั ก วิ ท ยาศาสตร ใ ช ค ลื่ น ไหวสะเทื อ นใน 1. คลื่นตามยาว (longitudinal wave) เปนคลื่นที่มีทิศการเคลื่อนที่ของ
การศึกษาโครงสรางโลก โดยคลื่นไหวสะเทือนที่ใชในการศึกษา อนุภาคหรือตัวกลางอยูในแนวเดียวกับทิศการเคลื่อนที่ของคลื่น
โครงสรางโลก คือ คลื่นในตัวกลาง ซึ่งอัตราเร็วของคลื่นที่ผาน 2. คลื่นตามขวาง (transverse wave) เปนคลื่นที่มีทิศทางการเคลื่อนที่ของ
โครงสรางโลกในแตละชัน้ จะมีลกั ษณะแตกตางกัน ดังนัน้ ตอบขอ 3.) อนุภาคหรือตัวกลางตั้งฉากกับทิศการเคลื่อนที่ของคลื่น

T11
น�ำ สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
1. ใหนักเรียนสืบคนขอมูลเกี่ยวกับสมบัติเชิงกล โครงสรำงโลกที่แบงตำมสมบัติเชิงกล
และคลื่นไหวสะเทือน แลวครูถามคําถามวา
• สมบัติเชิงกลของสสาร คืออะไร เมือ่ คลืน่ ไหวสะเทือนเคลือ่ นทีผ่ ำ่ นส่วนต่ำง ๆ ของโลกจะเกิดกำรหักเหหรือสะท้อนตรงบริเวณ
(แนวตอบ สมบัติเชิงกล คือ การตอบสนอง รอยต่อของชัน้ โครงสร้ำงโลกทีป่ ระกอบด้วยหินหรือสำรทีม่ คี ณุ สมบัตติ ำ่ งกันจึงท�ำให้นกั วิทยำศำสตร์
ของสสารตอแรงภายนอกที่มากระทํา ซึ่ง สำมำรถศึกษำโครงสร้ำงของโลกได้ โดยแบ่งโครงสร้ำงของโลกเป็น 5 ชั้น ดังนี้
สสารตางชนิดกันจะมีการตอบสนองที่แตก
1. ธรณีภาค (lithosphere)
ตางกันตามสมบัติเชิงกลของสสารนั้น) ชั้นนอกสุดของโลก มีควำมหนำ
• คลื่นไหวสะเทือน คืออะไร ธรณีภำค (lithosphere) ประมำณ 100 กิโลเมตร ประกอบ
( แนวตอบ คลื่ น ไหวสะเทื อ น คื อ คลื่ น ที่ 1 ฐำนธรณีภำค (asthenosphere) ด้วยหินที่เป็นของแข็ง เป็นบริเวณ
เคลื่อนที่ผานตัวกลาง และมีการถายทอด ที่คลื่น p และคลื่น s เคลื่อนที่
1,000
ผ่ ำ นชั้ น นี้ ด ้ ว ยควำมเร็ ว ที่ เ พิ่ ม ขึ้ น
พลังงานไปกับการเคลื่อนที่ของคลื่น ทําให อย่ำงรวดเร็วตำมควำมลึกทีเ่ พิม่ ขึน้
มัชฌิมภำค (mesosphere)
อนุภาคของตัวกลางมีการเคลื่อนที่ แตไม 2,000 เมือ่ เทียบกับควำมเร็วทีค่ ลืน่ ทัง้ สอง
ไดเคลือ่ นทีไ่ ปกับคลืน่ คลืน่ ไหวสะเทือนแบง ขณะเคลื่อนที่ออกจำกแหล่งก�ำเนิด
ออกเปน 2 ประเภท ไดแก คลื่นในตัวกลาง 3,000
และคลื่นพื้นผิว)
2. ใหนกั เรียนสืบคืนขอมูลเกีย่ วกับการใชคลืน่ ไหว 4,000 แก่นโลกชั้นนอก (outer core)
สะเทือนในการศึกษาโครงสรางโลก เพื่อเชื่อม
โยงเขาสูกิจกรรม การแบงโครงสรางโลกโดย 2. ฐานธรณีภาค (asthenosphere)
อยูใ่ นส่วนทีเ่ ป็นเนือ้ โลกตอนบน จนถึงระดับควำมลึกประมำณ 700
ใชขอมูลคลื่นไหวสะเทือน แก่นโลกชั้นใน กิโลเมตร มีสถำนะเป็นของแข็งที่มีสภำพพลำสติก เมื่อคลื่นไหว
(inner core) สะเทือนเคลือ่ นทีผ่ ำ่ นชัน้ นี ้ จะเกิดกำรเปลีย่ นแปลง 2 ลักษณะ ดังนี้
เขตทีค่ ลืน่ ไหวสะเทือนมีความเร็วต�า่ (low velocity zone หรือ
LVZ) อยู่ที่ระดับควำมลึก 100-400 กิโลเมตร คลื่น p
และคลื่น s มีควำมเร็วลดลง เนื่องจำกบริเวณนี้เป็นของแข็ง
เนื้ออ่อน ซึ่งจำกอุณหภูมิที่สูงมำกท�ำให้แร่บำงชนิดเกิดกำร
หลอมละลำยเป็นแมกมำ (magma)
เขตทีม่ กี ารเปลีย่ นแปลง (transitional zone) อยูท่ รี่ ะดับควำมลึก
400-700 กิโลเมตร คลืน่ p และคลืน่ s มีควำมเร็วเพิม่ ขึน้ มำก
ในอัตรำที่ไม่สม�่ำเสมอ เนื่องจำกบริเวณนี้มีกำรเปลี่ยนแปลง
โครงสร้ำงของแร่

ภำพที่ 1.8 โครงสร้ำงโลกตำมสมบัติเชิงกล


10

เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET


สถาบันวิจัยดาราศาสตรแหงชาติ (องคการมหาชน) เปนหนวยงานที่ เนื้อโลกแบงออกเปนชั้นยอยไดกี่ชั้น อะไรบาง
คนควา วิจยั และพัฒนาดานดาราศาสตรของประเทศไทย และยังบริการถายทอด 1. 2 ชั้นยอย ไดแก ธรณีภาคและฐานธรณีภาค
องคความรูแ ละเทคโนโลยีดา นดาราศาสตรใหกบั สังคม ครูสามารถเขาไปศึกษา 2. 2 ชั้นยอย ไดแก เนื้อโลกชั้นในและเนื้อโลกชั้นนอก
และหาขอมูลทีเ่ กีย่ วกับโครงสรางโลกมาใชประกอบการสอน โดยเขาไปทีเ่ ว็บไซต 3. 3 ชั้นยอย ไดแก ธรณีภาค ฐานธรณีภาค และเนื้อโลก
http://www.narit.or.th/ ชั้นกลาง
4. 3 ชั้นยอย ไดแก ธรณีภาค ฐานธรณีภาค และเนื้อโลก
ตอนลาง
5. 3 ชั้นยอย ไดแก เนื้อโลกชั้นใน เนื้อโลกชั้นกลาง และเนื้อ
โลกชั้นนอก
(วิเคราะหคําตอบ เนื้อโลกแบงออกเปนชั้นยอยได 3 ชั้น ไดแก
ธรณีภาค ฐานธรณีภาค และเนื้อโลกตอนลาง ดังนั้น ตอบขอ 4.)

T12
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจคนหา

3. มัชฌิมภาค (mesosphere) 3. ครูถามคําถาม H.O.T.S. จากหนังสือเรียน หนา


อยู่บริเวณเนื้อโลกส่วนล่ำง (lower mantle) ที่ควำมลึกประมำณ 700-2,900 กิโลเมตร มีสถำนะเป็น 11 วา คลืน่ ทุตยิ ภูมเิ กิดขึน้ ในแกนโลกชัน้ ในได
ของแข็ง เมื่อคลื่นไหวสะเทือนเคลื่อนที่ผ่ำนชั้นนี้จะมีควำมเร็วเพิ่มขึ้นสม�่ำเสมอตำมควำมลึกที่เพิ่มขึ้น หรือไม ทราบไดอยางไร
4. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 5 คน
โดยคละความสามารถของนักเรียน
4. แกนโลกสวนนอก (outer core) 5. ครูแจงจุดประสงคของการทํากิจกรรม จาก
อยูบ่ ริเวณใต้ชนั้ มัชฌิมภำค ทีค่ วำมลึกประมำณ 2,900 - 5,140 นั้นใหนักเรียนทํากิจกรรมการแบงโครงสราง
กิโลเมตร เป็นบริเวณที่คลื่น p มีควำมเร็วเพิ่มขึ้นอย่ำงช้ำ ๆ
ในขณะที่คลื่น s ไม่สำมำรถเคลื่อนที่ผ่ำนได้ เพรำะองค์ประกอบ โลกโดยใชขอ มูลคลืน่ ไหวสะเทือน จากหนังสือ
ส่วนใหญ่มีสถำนะเป็นของเหลว แต่บริเวณรอยต่อระหว่ำงแก่น เรียน หนา 12
โลกส่วนนอกกับแก่นโลกส่วนในทีร่ ะดับควำมลึกประมำณ 5,140 6. ครู ใ ช รู ป แบบการเรี ย นรู  แ บบร ว มมื อ มาจั ด
กิโลเมตร คลืน่ p มีควำมเร็วเพิม่ ขึน้ ตำมควำมลึกทีเ่ พิม่ ขึน้ กระบวนการเรี ย นรู  โดยกํ า หนดให ส มาชิ ก
แต่ยงั หน่อยกว่ำควำมเร็วในชัน้ มัชฌิมภำค และ
คลื่น s สำมำรถเคลื่อนที่ได้ตำมควำมลึกที่ แต ล ะคนภายในกลุ  ม มี บ ทบาทหน า ที่ ข อง
เพิ่มขึ้น แต่ยังน้อยกว่ำควำมเร็วในชั้น ตนเอง ดังนี้
มัชฌิมภำค ซึ่งคลื่นไหวสะเทือนทั้ง สมาชิกคนที่ 1 - 2 ทําหนาทีเ่ ตรียมวัสดุอปุ กรณ
สองจะเคลือ่ นทีไ่ ปยังจุดศูนย์กลำง สมาชิกคนที่ 3 - 4 ทําหนาที่อานวิธีการทํา
ของโลก ที่ ค วำมลึ ก ประมำณ
6,371 กิโลเมตร กิจกรรม และนํามาอธิบายใหสมาชิกภายใน
กลุมฟง
สมาชิกคนที่ 5 ทําหนาที่บันทึกผลการทดลอง
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม)
7. ใหนกั เรียนแตละกลุม สงตัวแทนมานําเสนอผล
H. O. T. S.
คําถามทาทายการคิดขั้นสูง การทํากิจกรรม
คลื่ น ทุ ติ ย ภู มิ (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
เกิดขึ้นในแก่น แบบประเมินชิ้นงาน )
โลกชั้ น ในได้
5. แกนโลกสวนใน (inner core) หรือไม่ ทรำบได้อย่ำงไร
เป็นส่วนในสุดของโลก อยูท่ รี่ ะดับควำมลึกประมำณ แนวตอบ H.O.T.S.
5,140 กิโลเมตร จนถึงจุดศูนย์กลำงของโลก เป็น
บริเวณทีค่ ลืน่ p และคลืน่ s มีควำมเร็วค่อนข้ำงคงที่ เกิดได เพราะแกนโลกชั้นในเปนของแข็งซึ่ง
เกิดจากการเปลีย่ นโหมดของคลืน่ ปฐมภูมิ พิสจู น
ไดจากการทดลองเลียนแบบใหคลื่นเดินทางผาน
โครงสร้างโลก 11
ของเหลวไปสูของแข็งและไปสูของเหลว แลวพบ
ว ามีคลืน่ ทุตยิ ภูมเิ กิดขึน้ ในของแข็งทีอ่ ยูต รงกลาง

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET สื่อ Digital


ขอใดคือความหมายของธรณีภาค เพือ่ ใหนกั เรียนเขาใจโครงสรางโลกตามสมบัตเิ ชิงกลไดมากขึน้ ครูสามารถ
1. ชั้นแกนโลกทั้งหมด นํา PowerPoint เรื่อง โครงสรางโลกที่แบงตามขอมูลไหวสะเทือนมาใชในการ
2. ชั้นเปลือกโลกเพียงอยางเดียว ประกอบการเรียนการสอนเรื่องนี้ได
3. ชั้นเนื้อโลกตอนลางกับชั้นแกนโลก
4. ชั้นเนื้อโลกตอนบนกับชั้นเปลือกโลก
5. ชั้นในเนื้อโลกทั้งหมดกับชั้นเปลือกโลก
(วิเคราะหคาํ ตอบ ธรณีภาค คือ ชัน้ เปลือกโลกทีม่ คี วามหนาแตละ
บริเวณไมเทากัน ในบางบริเวณอาจลึกจากผิวโลกประมาณ 100
กิโลเมตร จึงทําใหชั้นธรณีภาครวมไปถึงชั้นเนื้อโลกตอนบนดวย
ดังนั้น ตอบขอ 4.)

T13
น�ำ สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
กิจกรรม ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์
1. ครูใหนกั เรียนจับคูก นั สืบคนขอมูลเกีย่ วกับเรือ่ ง • กำรสังเกต

ดังนี้ กำรแบงโครงสรำงโลกโดยใชขอมูลคลื่นไหวสะเทือน • กำรตีควำมหมำยข้อมูลและ


ลงข้อสรุป
- การศึกษาคลื่นทุติยภูมิที่เคลื่อนที่ผานแกน จิตวิทยาศาสตร์
โลกชั้นใน วัสดุอปุ กรณ์ • ควำมมีเหตุผล
• ร่วมแสดงควำมคิดเห็นและ
- เขตอับคลื่น 1. แหล่งสืบค้นข้อมูลต่ำง ๆ เช่น ห้องสมุด อินเทอร์เน็ต
ยอมรับฟังควำมคิดเห็นของผู้อื่น
- แนวแบงเขตโมโฮโรวิซิก
- แนวแบงเขตกูเทนเบิรก
- แนวแบงเขตเลหแมน วิธปี ฏิบตั ิ
โดยนักเรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือ 1. ให้นักเรียนจับกลุ่มกับเพื่อนกลุ่มละ 4-5 คน แล้วร่วมกันสืบค้นภำพโครงสร้ำงโลกและภำพข้อมูลของคลื่น
แหลงเรียนรูอื่นๆ แลวนําขอมูลมาแลกเปลี่ยน ไหวสะเทือนเมื่อเคลื่อนที่ผ่ำนภำยในโลก รวมไปถึงข้อมูลต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ความคิดเห็น และรวมกันตั้งประเด็นคําถาม 2. แต่ละกลุ่มร่วมกันพิจำรณำภำพโครงสร้ำงโลกและภำพข้อมูลของคลื่นไหวสะเทือนเมื่อเคลื่อนที่ผ่ำน
เกี่ยวกับเรื่องที่สืบคนมา ภำยในโลกทีส่ บื ค้นได้ แล้วน�ำมำสรุปเป็นหลักกำรแบ่งโครงสร้ำงโลก ในรูปแบบแผนภำพหรืออินโฟกรำฟก
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช 3. ครูและนักเรียนร่วมกันพิจำรณำแผนภำพหรืออินโฟกรำฟก เพื่อช่วยกันตรวจสอบข้อมูล
4. แต่ละกลุ่มร่วมกันตอบค�ำถำมท้ำยกิจกรรม
แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล)
2. ใหนกั เรียนรวมกลุม กับเพือ่ นอีกคูห นึง่ รวมเปน
4 คน แล ว แลกเปลี่ ย นกั น ถามคํ า ถามที่
ตั้งไว จากนั้นรวมกันสรุปเพื่อเตรียมนําเสนอ ?
ค�าถามท้ายกิจกรรม
หนาชั้นเรียน 1. ควำมเร็วของคลื่นไหวสะเทือนมีกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงไรเมื่อควำมลึกเพิ่มขึ้น
3. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมา 2. คลื่นไหวสะเทือนมีกำรเปลี่ยนแปลงควำมเร็วอย่ำงฉับพลันที่ระดับควำมลึกได้
นํ า เสนอคํ า ถามของกลุ  ม ตนเอง โดยให 3. กำรแบ่งโครงสร้ำงโลกออกเป็น 5 ชั้น พิจำรณำข้อมูลใดเป็นหลัก
4. สมบัติใดของคลื่นไหวสะเทือนที่ใช้ในกำรศึกษำโครงสร้ำงโลก
นั ก เรี ย นทั้ ง ห อ งร ว มกั น ตอบคํ า ถาม และ
อภิปรายรวมกัน

อภิปรำยผลกิจกรรม

จำกกำรท�ำกิจกรรมจะได้ว่ำ คลื่นไหวสะเทือนมีควำมเร็วเพิ่มขึ้นตำมควำมลึก ควำมเร็วของคลื่นไหว


สะเทือนลดลงช่วงหนึ่ง และเพิ่มขึ้นได้อย่ำงไม่สม�่ำเสมออีกช่วงหนึ่งในธรณีภำค คลื่นทุติยภูมิไม่สำมำรถ
เคลื่อนที่ผ่ำนแก่นโลกชั้นนอกได้ เมื่อคลื่นเคลื่อนที่ผ่ำนตัวกลำงที่มีสมบัติแตกต่ำงกันจะมีกำรเปลี่ยนแปลง
ควำมเร็วอย่ำงฉับพลัน พบกำรเปลี่ยนแปลงควำมเร็ว 4 บริเวณ ท�ำให้แบ่งโครงสร้ำงโลกออกเป็น 5 ขั้น ได้แก่
ธรณีภำค ฐำนธรณีภำค มัชฌิมภำค แก่นโลกชั้นนอก และแก่นโลกชั้นใน

12

เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET


การทํากิจกรรมการแบงโครงสรางโลกโดยใชขอ มูลคลืน่ ไหวสะเทือน ครูอาจ ฐานธรณีภาคอยูตรงสวนใดของโครงสรางโลก
เตรียมแหลงขอมูลตางๆ ใหนักเรียน เชน หนังสือเรียน (Textbook) ที่ผูเรียนใน 1. ชั้นเนื้อโลก
สาขาวิทยาศาสตรโลกใชในการอางอิง เว็บไซตจากหนวยงานที่เปนแหลงขอมูล 2. ชั้นแกนโลก
ดานวิทยาศาสตรโลก หรือครูอาจจะแจงใหนักเรียนเตรียมแหลงขอมูลมาลวง 3. ชั้นเปลือกโลก
หนา ซึง่ กอนเริม่ ทํากิจกรรมครูควรใหนกั เรียนอานวิธปี ฏิบตั กิ จิ กรรมโดยละเอียด 4. รอยตอชั้นเนื้อโลกกับชั้นแกนโลก
และใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหขอมูลจากแหลงตางๆ เพื่อใหนักเรียนคัดเลือก 5. รอยตอชั้นเปลือกโลกกับชั้นเนื้อโลก
ขอมูลที่นาเชื่อถือที่สุดมาใชในการทํากิจกรรม (วิเคราะหคาํ ตอบ ธรณีภาค คือ ชัน้ เปลือกโลกทีม่ คี วามหนาแตละ
บริเวณไมเทากัน ในบางบริเวณอาจลึกจากผิวโลกประมาณ 100
กิโลเมตร จึงทําใหชั้นธรณีภาครวมไปถึงชั้นเนื้อโลกตอนบนดวย
ดังนั้น ตอบขอ 4.)

T14
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สรุป
Summary ขยายความเขาใจ
1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน สราง
โครงสรางโลก แบบจําลองโครงสรางโลกที่แบงตามสมบัติ
เชิงกลตามความรูที่ไดเรียนมา
2. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมา
โครงสรำงโลก
ขัน้ แรกเริม่ เริม่ จำกกำรรวมตัวกันของกลุม่ แก๊ส นําเสนอแบบจําลองของกลุมตนเอง โดยให
เมื่ อ ประมำณ 4,600 ล้ ำ นป ม ำแล้ ว โลกมี และฝุ่นจนเกิดเป็นดำวเครำะห์ นักเรียนทั้งหองรวมกันตั้งคําถามเกี่ยวกับแบบ
วิวัฒนำกำรมำอย่ำงต่อเนื่อง แบ่งเป็น 5 ขั้น
จําลองโครงสรางโลกทั้ง 2 แบบ และอภิปราย
ขั้นกอเหล็ก เกิดขึ้นเมื่อภำยในโลกมีควำมร้อน
ถึงจุดหนึ่งที่ท�ำให้เหล็กเริ่มเกำะตัวกัน รวมกัน
3. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกหัด จากแบบฝกหัด
ขั้นแยกชั้น มีกำรบีบอัดตัวของธำตุที่ท�ำให้เกิด รายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร
โครงสร้ำงภำยในโลกที่แบ่งเป็น 3 ชั้น ได้แก่
เปลือกโลก เนื้อโลก และแก่นโลก และอวกาศ ม.4 เลม 1 หนวยการเรียนรูที่ 1
โครงสรางโลก
ขัน้ เกิดใหม เกิดกำรพำควำมร้อนและกำรถ่ำยเท 4. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป เนื้ อ หาเกี่ ย วกั บ
ควำมร้อนของหินในชั้นเนื้อโลก
โครงสร า งโลก จากนั้ น ให นั ก เรี ย นทํ า แบบ
ขั้นเย็นตัวลง บริเวณผิวโลกมีกำรถ่ำยเทควำม ทดสอบหลังเรียน Unit Question 1 ในหนังสือ
ภำพที่ 1.9 โลก ร้อนอย่ำงรวดเร็วท�ำให้เปลือกโลกเย็นตัวและ เรียนหนา 15 เปนการบานมาสงครูในชัว่ โมงถัด
แข็งตัวเกิดเป็นพื้นแผ่นดิน
กำรแบงโครงสรำงโลก ไป
โครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี 5. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําแบบฝกหัดจาก
Unit Question 1 ในหนังสือเรียนหนา 15
ชั้นเปลือกโลก (crust) เป็นชั้นที่อยู่นอกสุด เปนการบานมาสงครูในชั่วโมงถัดไป
ควำมไม่ ต ่ อ เนื่ อ งระหว่ ำ งชั้ น เปลื อ กโลกกั บ
ชั้ น เนื้ อ โลกเรี ย กว่ ำ “ชั้ น ควำมไม่ ต ่ อ เนื่ อ ง
โมโฮโรวิซิก” เรียกโดยย่อว่ำ ชั้นโมโฮ ขัน้ ประเมิน
ตรวจสอบผล
ชั้นเนื้อโลก (mantle) เป็นชั้นที่อยู่ถัดลงไปจำก
ชั้นเปลือกโลก มีควำมหนำประมำณ 2,900 1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม
กิโลเมตร ชัน้ บนสุดของชัน้ เนือ้ โลกกับชัน้ เปลือก การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน
โลกรวมตัวกันเรียกว่ำ “ธรณีภำค”
2. ครูประเมินการปฏิบัติการจากการทําใบงาน
ชั้นแกนโลก (core) อยู่ในระดับควำมลึกจำกผิว เรื่อง โครงสรางโลกตามสมบัติเชิงกล
โลกประมำณ 2,900 กิโลเมตร 3. ครู ต รวจสอบผลการทํ า แบบฝ ก หั ด เรื่ อ ง
โครงสรางโลกตามสมบัตเิ ชิงกล และแบบฝกหัด
ภำพที ่ 1.10 โครงสร้ำงโลกตำมองค์ประกอบทำงเคมี
โครงสร้างโลก 13 จาก Unit Question 1
4. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน

กิจกรรม สรางเสริม แนวทางการวัดและประเมินผล


ให นั ก เรี ย นสรุ ป ข อ มู ล การแบ ง โครงสร า งโลกตามเกณฑ ครูสามารถวัดและประเมินแบบประเมินแผนภาพ หรือ infographic
ตางๆ ลงในสมุด โดยนักเรียนสรุปขอมูลในรูปแบบที่สามารถ หลักการแบงโครงสรางโลก โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบ
สื่อสารที่ทําใหผูอื่นเขาใจไดงาย เชน แผนภาพ หรือ infographic ประเมินชิน้ งานทีแ่ นบมาทายแผนการสอนหนวยการเรียนรูท ี่ 1 เรือ่ ง โครงสรางโลก
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 โครงสร้างโลก หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 โครงสร้างโลก

แบบประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผน ฯ ที่ 2 เกณฑ์การให้คะแนนแผนภาพ หรือ infographic หลักการแบ่งโครงสร้างโลก


ระดับคะแนน
แบบประเมินแผนภาพ หรือ infographic หลักการแบ่งโครงสร้างโลก ประเด็นที่ประเมิน
4 3 2 1
ระดับคุณภาพ 1. แผนภาพตรงกับจุดประสงค์ที่ แผนภาพสอดคล้อง แผนภาพสอดคล้อง แผนภาพสอดคล้อง แผนภาพไม่
ลาดับที่ รายการประเมิน กาหนด กับจุดประสงค์ทุก กับจุดประสงค์ กับจุดประสงค์ สอดคล้อง
4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)

กิจกรรม ทาทาย
ประเด็น เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น กับจุดประสงค์
1 ตรงกับจุดประสงค์ที่กาหนด 2. แผนภาพมีความถูกต้องสมบูรณ์ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ
2 มีความถูกต้องสมบูรณ์ แผนภาพถูกต้อง แผนภาพถูกต้อง แผนภาพถูกต้อง แผนภาพไม่ถูกต้อง
3 มีความคิดสร้างสรรค์ ครบถ้วน เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางประเด็น เป็นส่วนใหญ่
4 มีความเป็นระเบียบ 3. แผนภาพมีความคิดสร้างสรรค์ แผนภาพแสดงออก แผนภาพมีแนวคิด แผนภาพมีความ แผนภาพไม่แสดง
รวม ถึงความคิด แปลกใหม่แต่ยัง น่าสนใจ แต่ยังไม่มี แนวคิดใหม่
สร้างสรรค์ ไม่เป็นระบบ แนวคิดแปลกใหม่
แปลกใหม่
ลงชือ่ ............................................................. ผู้ประเมิน และเป็นระบบ

ให นั ก เรี ย นสื บ ค น ข อ มู ล เกี่ ย วกั บ วิ ธีก ารศึ ก ษาโครงสร า ง


4. แผนภาพมีความเป็นระเบียบ แผนภาพมีความเป็น แผนภาพส่วนใหญ่ แผนภาพมีความ แผนภาพส่วนใหญ่
............ /............/.............
ระเบียบแสดงออก มีความเป็น เป็นระเบียบแต่มี ไม่เป็นระเบียบ
ถึงความประณีต ระเบียบแต่ยังมี ข้อบกพร่องบางส่วน และมีข้อบกพร่อง
ข้อบกพร่องเล็กน้อย มาก

ของโลก แลวจัดทําเปนรายงานสงครูผูสอน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-16 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

T15
8
น�ำ สอน สรุป ประเมิน

แนวตอบ Self Check


1. ถูก 2. ถูก 3. ถูก
4. ผิด 5. ถูก โครงสรางโลกตามสมบัติเชิงกล
ธรณีภาค (lithosphere)
เปนชั้นนอกสุดของโลก อยูที่ความลึกประมาณ 100 กิโลเมตร
เฉลย Unit Question 1 จากผิวโลก ประกอบดวยหินที่เปนของแข็ง
1,000
ฐานธรณีภาค (asthenosphere)
1. วิ วั ฒ นาการของโลกแบ ง เป น 5 ขั้ น คื อ 1) อยูในสวนที่เปนเนื้อโลกตอนบนจนถึงความลึกประมาณ 700
ขั้ น แรกเริ่ ม ที่ มี ก ารรวมตั ว กั น ของกลุ  ม แก ส กิโลเมตรจากผิวโลก มีสถานะเปนของแข็งที่มีสภาพพลาสติก 2,000

และฝุนจนเกิดเปนดาวเคราะห 2) ขั้นกอเหล็ก มัชฌิมภาค (mesosphere)


อยูบริเวณเนื้อโลกสวนลาง อยูที่ความลึกประมาณ 700-2,900 3,000
เกิดขึ้นเมื่อภายในโลกมีความรอนถึงจุดหนึ่ง กิโลเมตรจากผิวโลก เปนบริเวณที่คลื่นไหวสะเทือนมีความเร็ว
ทําใหเหล็กเริ่มเกาะตัวกัน 3) ขั้นแยกชั้น มีการ สมํ่าเสมอ เนื่องจากเปนของแข็ง
4,000
บีบอัดตัวของธาตุที่ทําใหเกิดโครงสรางภายใน แกนโลกสวนนอก (outer core)
โลกที่แบงเปน 3 ชั้น ไดแก เปลือกโลก เนื้อ อยูใตชั้นมัชฌิมภาค อยูที่ความลึกประมาณ 2,900-5,140
กิโลเมตรจากผิวโลก
โลก และแกนโลก 4) ขั้นเกิดใหม เกิดการพา
แกนโลกสวนใน (inner core)
ความรอนและการถายเทความรอนของหินในชัน้ เปนชั้นในสุดของโลก อยูที่ระดับความลึกประมาณ 5,140
เนื้อโลก 5) ขั้นเย็นตัวลง บริเวณผิวโลกมีการ กิโลเมตรจากผิวโลก
ถายเทความรอนอยางรวดเร็วทําใหเปลือกโลก ภาพที่ 1.11 โครงสรางโลกตามสมบัติเชิงกล
เย็นตัวและแข็งตัวเกิดเปนพื้นแผนดิน
2. แตกตางกัน โดยแกนโลกสวนนอกจะมีสถานะ Self Check
เปนของเหลวทําใหคลื่นทุติยภูมิเคลื่อนที่ผาน ใหนักเรียนตรวจสอบความเขาใจ โดยพิจารณาขอความวาถูกหรือผิด แลวบันทึกลงในสมุด
ชั้นนี้ไมได สวนแกนโลกสวนในมีสถานะเปน หากพิจารณาขอความไมถูกตอง ใหกลับไปทบทวนเนื้อหาตามหัวขอที่กําหนดให
ถูก/ผิด ทบทวนที่หัวขอ
ของแข็ ง จึ ง ทํ า ให ค ลื่ น ทุ ติ ย ภู มิ เ คลื่ อ นที่ ผ  า น
1. ขัน้ แยกชัน้ เปนขัน้ ทีม่ กี ารบีบอัดของธาตุทาํ ใหเกิดโครงสรางภายในโลก 1.
ชั้นนี้ได ทั้ง 3 ชั้น คือ เปลือกโลก เนื้อโลก และชั้นธรณีภาค
3. พิจารณาจากภาพหรือแบบจําลองของนักเรียน 2. โครงสรางโลกตามองคประกอบทางเคมี แบงออกเปน เปลือกโลก 2.1
โดยอยูในดุลยพินิจของผูสอน เนื้อโลก และแกนโลก
4. การศึกษาโครงสรางภายในของโลกตองอาศัย

มุ ด
3. แนวไมตอ เนือ่ งโมโฮโรวิซกิ เปนบริเวณรอยตอระหวางชัน้ เปลือกโลกกับ 2.1

นส
เทคโนโลยีการขุดเจาะ ซึ่งปจจุบันสามารถเจาะ
งใ
ชั้นเนื้อโลก ึกล

สํารวจไดลึกสุดไมเกิน 10 กิโลเมตรจากผิวโลก
บั น

4. คลื่นปฐมภูมิ (p wave) เปนคลื่นตามขวางที่เกิดจากความไหวสะเทือน 2.2


นอกจากนี้ ยังตองอาศัยความรูทางธรณีฟสิกส ในตัวกลาง โดยอนุภาคของตัวกลางเคลื่อนไหวตั้งฉากกับทิศทางที่
ในการศึกษาคลื่นไหวสะเทือนดวย คลื่นผาน
5. โครงสรางโลกตามสมบัติเชิงกล แบงออกเปนธรณีภาค ฐานธรณีภาค 2.2
มัชฌิมภาค แกนโลกสวนนอก และแกนโลกสวนใน
14

5. โครงสรางโลกตามสมบัติเชิงกล ประกอบดวย 5 ชั้น ดังสรุปขอมูลได ดังตาราง


โครงสรางโลก ขอมูล
ตามสมบัติเชิงกล สถานะ ขอมูลคลื่นไหวสะเทือน
ธรณีภาค ของแข็ง เมื่อคลื่นไหวสะเทือนเคลื่อนที่ผานชั้นนี้จะมีความเร็วเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็ว
ฐานธรณีภาค ของแข็ง เมื่อคลื่นไหวสะเทือนเคลื่อนที่ผานชั้นนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลง 2 ลักษณะที่
สภาพพลาสติก แตกตางกันใน 2 บริเวณ
มัชฌิมภาค ของแข็ง เมื่อคลื่นไหวสะเทือนเคลื่อนที่ผานชั้นนี้จะมีความเร็วเพิ่มขึ้นอยางสมํ่าเสมอ
แกนโลกชั้นนอก ของเหลว คลื่นทุติยภูมิเคลื่อนที่ผานชั้นนี้ไมได สวนคลื่นปฐมภูมิจะมีความเร็วเพิ่มขึ้น
อยางชา ๆ
แกนโลกชั้นใน ของแข็ง คลื่นปฐมภูมิมีความเร็วคอนขางคงที่

T16
น�ำ สอน สรุป ประเมิน

6. แตกต า งกั น โดยชั้ น ธรณี ภ าคมี ส ถานะเป น

U nit
คําชี้แจง :
Question 1
ให้ นั ก เรี ย นตอบค� า ถามต อ ไปนี้
ของแข็ ง ส ว นชั้ น ฐานธรณี ภ าคมี ส ถานะเป น
ของแข็งพลาสติก และเมื่อคลื่นไหวสะเทือน
เคลือ่ นทีผ่ า นชัน้ ธรณีภาคความเร็วของคลืน่ เพิม่
1. จงอธิบำยวิวัฒนำกำรของโลกจนถึงปัจจุบัน ขึน้ อยางรวดเร็วตามระดับความลึกสวนชัน้ ฐาน
ธรณีภาคคลืน่ จะเกิดการเปลีย่ นแปลงความเร็ว
2. แก่นโลกส่วนนอก และแก่นโลกส่วนในมีลักษณะที่แตกต่ำงกันหรือไม่ อย่ำงไร 2 ลักษณะที่แตกตางกันใน 2 บริเวณ คือ เขต
3. วำดภำพหรือสร้ำงแบบจ�ำลอง แสดงโครงสร้ำงโลกทั้ง 3 ส่วน ซึ่งได้แก่ เปลือกโลก เนื้อโลก ความเร็วตํ่า และเขตเปลี่ยนแปลง
และแก่นโลก 7. พิจารณาจากคําตอบของนักเรียน โดยอยูใน
ดุลยพินิจของผูสอน
4. กำรศึกษำโครงสร้ำงภำยในของโลกต้องอำศัยหลักกำรหรือควำมรู้ด้ำนใดบ้ำง เพรำะเหตุใด
8. ธรณี วิ ท ยาเป น วิ ช าที่ ศึ ก ษาเกี่ ย วกั บ องค -
5. อธิบำยโครงสร้ำงโลกตำมสมบัติเชิงกลว่ำประกอบด้วยกี่ชั้น และแต่ละชั้นมีลักษณะอย่ำงไร ประกอบ โครงสร า งเเละกระบวนการตาม
6. ชั้นธรณีภำค (lithosphere) กับชั้นฐำนธรณีภำค (asthenosphere) แตกต่ำงกันอย่ำงไร และมี ธรรมชาติ ข องโลก ตลอดจนผลอั น สื บ เนื่ อ ง
ควำมสัมพันธ์กันอย่ำงไร มาจากกระบวนการที่เกิดขึ้น รวมไปถึงการ
เปลี่ยนแปลงของโลก
7. นักเรียนคิดว่ำ ในอนำคตมนุษย์จะสำมำรถเจำะลงไปถึงแก่นโลกได้หรือไม่ อย่ำงไร 9. การศึกษาวิทยาศาสตรโลก สามารถนําความ
8. ธรณีวิทยำ (geology) เป็นวิชำที่ศึกษำเกี่ยวกับเรื่องใด รูไปประยุกตใชในการเลือกพื้นที่เพื่อประกอบ
กิจกรรมตางๆ เชน การสรางบานเรือน ไมควร
9. กำรศึกษำโครงสร้ำงโลก สำมำรถน�ำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ�ำวันได้อย่ำงไรบ้ำง จงอธิบำย
เลือกพืน้ ทีบ่ ริเวณตลิง่ ทีม่ นี าํ้ ไหลเชีย่ ว เนือ่ งจาก
และยกตัวอย่ำงประกอบ
ดินบริเวณตลิง่ อาจถูกนํา้ กัดเซาะและพัดพา ซึง่
10. เพรำะเหตุใดสิ่งมีชีวิตชนิดต่ำง ๆ จึงสำมำรถอำศัยอยู่บนเปลือกโลกได้ อาจทําใหตลิ่งพังได เปนตน
10. โลกมีองคประกอบหลักเปนคารบอนและนํ้าที่
ใหสิ่งมีชีวิตใชในการดํารงชีวิต และพิจารณา
ปจจัยตางๆ ที่เกื้อกูลตอการดํารงชีวิต เชน มี
ชั้นบรรยากาศที่หอหุมโลกที่ทําใหเปลือกโลก
มีสภาพอากาศเหมาะสมตอการดํารงชีวิต

โครงสร้างโลก 15

T17
Chapter Overview

แผนการจัด คุณลักษณะ
สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้
การเรียนรู้ อันพึงประสงค์
แผนฯ ที่ 1 - แบบทดสอบก่อนเรียน 1. อธิบายหลักการ และ - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบ - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
ทฤษฎีธรณี - หนังสือเรียนรายวิชา แนวคิด ของทฤษฎีที่ หาความรู้ ก่อนเรียน - ท ักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
แปรสัณฐาน เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เกี่ยวข้องกับการเคลื่อน (5Es In- - ประเมินการท�ำ ค้นหา - มุ่งมั่นในการ
โลก ดาราศาสตร์ และ ของแผ่นธรณีได้ (K) structional กิจกรรมการเคลื่อนที่ - ทักษะการวิเคราะห์ ท�ำงาน
8 อวกาศ ม.4 เล่ม 1 2. อธิบายหลักฐานทาง Model) ของแผ่นธรณีภาค
ชั่วโมง
- แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่ม ธรณีวิทยาที่แสดงว่าแผ่น - ตรวจและประเมิน
เติมวิทยาศาสตร์ โลก ธรณีมีการเคลื่อนที่ได้ (K) การท�ำกิจกรรมจากใบ
ดาราศาสตร์ และอวกาศ 3. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการ กิจกรรม เรื่อง แบบ
ม.4 เล่ม 1 ศึกษาการเคลื่อนที่ของ จ�ำลองวงจรการพา
- ใบงาน แผ่นธรณีได้ (P) ความร้อน
- ใบกิจกรรม 4. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษา (A) - ตรวจและประเมิน
- ภาพแผนที่โลก การน�ำเสนอใบงาน
- PowerPoint เรื่อง ทฤษฎีแปร
- RQ code สัณฐาน
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น - ตรวจและประเมิน
Twig แผนผังความคิด
- ตรวจแบบฝึกหัด
- ตรวจแบบฝึกหัดจาก
Unit Question 2
- ประเมินการน�ำเสนอ
ผลงาน
- สังเกตพฤติกรรม
การท�ำงานกลุ่ม
แผนฯ ที่ 2 - แบบทดสอบหลังเรียน 1. อธิบายรูปแบบการ - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบ - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
รูปแบบการ - หนังสือเรียนรายวิชา เคลื่อนที่ของแผ่นธรณี หาความรู้ หลังเรียน - ทักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
เคลื่อนที่ของ เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ ที่ท�ำให้เกิดธรณีสัณฐาน (5Es In- - ตรวจและประเมินการ ค้นหา - มุ่งมั่นในการ
แผ่นธรณี โลก ดาราศาสตร์ และ แบบต่างๆ (K) structional ท�ำกิจกรรมจากใบ - ทักษะการวิเคราะห์ ท�ำงาน
อวกาศ ม.4 เล่ม 1 2. อธิบายหลักฐานทาง Model) กิจกรรม เรื่อง
6 - แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่ม ธรณีวิทยาที่เป็นผลมาจาก กิจกรรมธรณีสัณฐาน
ชั่วโมง เติมวิทยาศาสตร์ โลก การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี ที่เกิดจากการเคลื่อนที่
ดาราศาสตร์ และอวกาศ (K) ของแผ่นธรณี และ
ม.4 เล่ม 1 3. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับผลที่ เรื่อง ธรณีสัณฐานที่
- ใบงาน เกิดจากการเคลื่อนที่ของ เกิดจากการเคลื่อนที่
- ใบกิจกรรม แผ่นธรณี (P) ของแผ่นธรณี
- ภาพทิศทางการ 4. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษา (A) - ตรวจใบงาน เรื่อง
เคลื่อนที่ของแผ่นธรณี การเคลื่อนที่ของแผ่น
- โปรแกรม google ธรณี
earth - ตรวจแบบฝึกหัด
- PowerPoint - ตรวจแบบฝึกหัดจาก
- RQ code Unit Question 2
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น - ประเมินการน�ำเสนอ
Twig ผลงาน
- สังเกตพฤติกรรมการ
ท�ำงานกลุ่ม
- สังเกตพฤติกรรมการ
ท�ำงานรายบุคคล
- สังเกตคุณลักษณะอัน
พึงประสงค์
T18
Chapter Concept Overview
หนวยการเรียนรูที่ 2
ทฤษฎีทวีปเลื่อน
อัลเฟรด เวเกเนอร์ (Alfred Wegener) ได้น�าเสนอเกี่ยวกับทฤษฎีทวีปเลื่อนว่า เมื่อประมาณ 200 - 300 ล้านปที่ผ่านมา แผ่นดินทั้งหมด
ในโลกรวมเป็นผืนเดียวกัน เรียกว่า “พันเจีย” ต่อมา ในยุคไทรแอสซิกทวีปที่เดิมเคยเป็นผืนแผ่นเดียวกันค่อย ๆ เริ่มมีการแยกตัวออกจาก
กัน โดยทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้จะค่อย ๆ แยกจากทวีปแอฟริกา และทวีปยุโรป จึงท�าให้ขนาดของมหาสมุทรแอตแลนติกกว้างยิ่ง
ขึ้น เรียกการเคลื่อนที่ของทวีปดังกล่าวว่า “ทวีปเลื่อน” ข้อมูลและหลักฐานอื่น ๆ ที่มาสนับสนุนแนวคิด ได้แก่
ซากดึกด�าบรรพ์ กลุ่มหินและแนวเทือกเขา ภาวะแม่เหล็กโลกบรรพกาล
อายุหินบริเวณพื้นสมุทร หลักฐานที่เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนจากธารน�้าแข็ง

ทฤษฎีการแผขยายพื้นสมุทร
ทฤษฎีการขยายตัวของพื้นมหาสมุทรที่เสนอโดยแฮรี แฮมมอนด์ เฮสส์ (Harry Hammond Hess) เป็นทฤษฎีต่อยอดจากแนวคิดทวีป
เลื่อนของอัลเฟรด เวเกเนอร์ โดยทฤษฎีนี้ได้อธิบายถึงสาเหตุของการขยายตัวของพื้นมหาสมุทรว่า พื้นมหาสมุทรมีการแผ่ขยายออกไป
จากแนวสันเขากลางสมุทร เนื่องจากการแทรกดันของแมกมาขึ้นมาบนเปลือกโลก ท�าให้ดันเปลือกโลกให้แยกออกจากกัน

ทฤษฎีการแปรสัณฐาน
การเคลื่อนที่และปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันของแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า แผ่นเปลือกโลก นั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับการเปลี่ยนแปลงพื้น
ผิวโลกตลอดช่วงธรณีกาล แผ่นเปลือกโลกเหล่านี้หมายถึงแผ่นธรณีภาค (lithosphere) ที่ประกอบด้วยเปลือกโลก (crust) และชั้นเนื้อโลก
ส่วนบน (upper mantle) โดยแผ่นธรณีภาควางตัวอยู่บนชั้นหินหนืดร้อนที่สามารถไหลได้คล้ายของเหลว เรียกว่า หินฐานธรณีภาค (asthe-
nosphere)

แผนธรณีแยกตัวออกจากกัน (divergent plate boundary)


เมื่อแผ่นธรณีเคลื่อนที่แยกออกจากกัน หินหนืด จากชั้นเนื้อโลกจะแทรกตัวขึ้นมาตาม
ช่องว่างตามแนวการแยกตัว เมื่อหินหนืดเย็นตัวก็จะกลายเป็นแผ่นเปลือกโลกใหม่ อีกทั้ง
การแทรกตัวขึ้นมาของหินหนืดยังท�าให้แนวแยกตัวนั้นสูงขึ้นกลายเป็นแนวเทือกเขา

แผนธรณีเคลื่อนที่เข้าหากัน (convergent plate boundary)


แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ตามประเภทของแผ่นธรณีที่เคลื่อนที่เข้าหากัน

1. แผ่นธรณีมหาสมุทรเคลือ่ นทีเ่ ข้าหาแผ่นธรณีมหาสมุทร 2. แผ่นธรณีทวีปเคลือ่ นทีเ่ ข้าหาแผ่นธรณีมหาสมุทร 3. แผ่นธรณีทวีปเคลือ่ นทีเ่ ข้าหาแผ่นธรณีทวีป

แผนธรณีเคลื่อนที่ผานกันตามแนวระดับ (transform plate boundary)


เมื่อแผ่นธรณี 2 แผ่น เคลื่อนที่สวนกัน จะท�าให้เกิดรอยเลื่อนขนาดใหญ่ ซึ่งมักเกิดขึ้น
ในบริเวณเทือกเขากลางมหาสมุทร แต่บางกรณีอาจเกิดขึ้นบริเวณชายฝง และหากแผ่น
ธรณีเคลือ่ นทีป่ ะทะกันอย่างรุนแรงจะท�าให้เกิดการสัน่ สะเทือน จนท�าให้เกิดแผ่นดินไหวได้

T19
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ นํา

ธรณี
กระตุน ความสนใจ
1. ครูถามคําถาม big question จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่
รายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร
และ อวกาศ ม. 4 เลม 1 หนา 16 เพื่อเปนการ
กระตุน ความคิดนักเรียนวา การเคลือ่ นตัวของ
แผนเปลือกโลกจะสงผลอยางไรกับสิง่ มีชวี ติ ใน
อนาคตขางหนา ผลการเรียนรู
2 แปรสัณฐาน
แผ่นธรณี เป็นส่วนประกอบของธรณีภาค ซึ่งเป็นชั้นนอกสุด
ของโครงสร้างโลก โดยมีการเปลี่ยนแปลงขนาดและต�าแหน่ง
2. ครูกระตุนความสนใจโดยใหนักเรียนดูแผนที่ 2. อธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยาที่
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีดังกล่าว
สนั บ สนุ น การเคลื่ อ นที่ ข องแผ่ น
โลก โดยใหนักเรียนสังเกตรูปรางของทวีป ธรณีได้ อธิบายได้ตามทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน ซึง่ มีรากฐานมาจากทฤษฎี
และมหาสมุทร แลวใหนักเรียนออกมาเขียน 3. ร ะบุสาเหตุและอธิบายรูปแบบการ
เคลื่ อ นที่ ข องแผ่ น ธรณี ที่ สั ม พั น ธ์ ทวีปเลื่อนและทฤษฎีการแผ่ขยายสมุทร โดยมีหลักฐานต่าง ๆ
สิ่งที่สังเกตไดบนกระดาษ โดยที่ครูกระตุนให กับการเกิดลักษณะธรณีสณั ฐานและ สนับสนุน เช่น ซากดึกด�าบรรพ์ ร่องรอยการเคลือ่ นทีข่ องตะกอน
ธรณีโครงสร้างแบบต่าง ๆ ได้ จากธารน�้าแข็ง เป็นต้น
นักเรียนอภิปรายสิง่ เพือ่ นรวมชัน้ สังเกตไดรว มกัน
3. ครูใหนกั เรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน เพือ่ วัด
ความรูเดิมของนักเรียนกอนเขาสูกิจกรรม
ทวีปยุโรป

ทวีปเอเชีย

แนวตอบ Big question


¡ÒÃà¤Å×è͹µÑÇ
เมื่ อ แผ น ธรณี มี ก ารเคลื่ อ นที่ เ ปลี่ ย นแปลง ¢Í§á¼‹¹à»Å×Í¡âÅ¡
ตํ า แหน ง ไปจากเดิ ม ทํ า ให รู ป ร า งของทวี ป และ ¨ÐÊ‹§¼ÅÍ‹ҧäáѺÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ
มหาสมุ ท รเปลี่ ย นแปลงไปจากเดิ ม ส ง ต อ การ ã¹Í¹Ò¤µ¢ŒÒ§Ë¹ŒÒ
เปลี่ยนแปลงระดั บนํ้ากทะเล
ทวีปอเมริ าใต และสภาพภูมิอากาศ
ซึ่งอาจทําใหสิ่งมีชีวิตบางชนิดสูญพันธุ เนื่องจาก
การเพิ่ ม ขึ้ น หรื อ ลดลงของระดั บ นํ้ า ทะเล ภาวะ ทวีปแอฟริกา ทวีปออสเตรเลีย
ขาดแคลนออกซิเจน สภาพอากาศที่รอนจัด หรือ และโอเชียเนีย
เย็นจัด

เกร็ดแนะครู
การจัดการเรียนการสอน เรื่อง ธรณีแปรสัณฐาน ครูควรใชวิธีการสอนแบบ
สืบเสาะหาความรู โดยเนนการใชคําถามกระตุนเพื่อใหนักเรียนเกิดความสงสัย
และจัดกิจกรรมเพื่อใหนักเรียนลงมือปฏิบัติเพื่อคนหาคําตอบ โดยมีครูเปนที่
ปรึกษาชี้แนะและใหคําแนะนํา เพื่อใหความรูที่ถูกตอง โดยครูสามารถศึกษา
เกี่ ย วกั บ การจั ด การเรี ย นรู  แ บบสื บ เสาะหาความรู  เ พิ่ ม เติ ม ได จ ากบทความ
INQUIRY กําลังจะหายไป!?! ในนิตยสาร สสวท. (http://emagazine.ipst.
ac.th/186/IPST186/assets/common/downloads/IPST186.pdf)

T20
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ นํา
กระตุน้ ความสนใจ
Prior Knowledge
โลกในอดีตกับโลกปจจุบน
ั 1. ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน 4. ครูถามคําถาม prior knowledge จากหนังสือ
มีลกั ษณะเหมือนกัน เรี ย นหน า 17 เพื่ อ เป น การวั ด ความรู  เ ดิ ม
ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐานเป็นทฤษฎีเชิงธรณีวิทยาที่ถูก
หรือไม
พัฒนาขึ้นเพื่ออธิบายถึงหลักฐานจากการสังเกตการเคลื่อนตัว ของนักเรียนวา โลกในอดีตกับโลกปจจุบันมี
ของแผ่นเปลือกโลกขนาดใหญ่ โดยทฤษฎีนไี้ ด้พฒ ั นาต่อยอดจากทฤษฎีการเลือ่ นไหลของทวีปเดิม ลักษณะเหมือนกันหรือไม
ที่ถูกเสนอขึ้น 5. ครูกลาวเชือ่ มโยงเขาสูก จิ กรรม โดยตัง้ ประเด็น
จากการศึกษาโครงสร้างของโลก พบว่าฐานธรณีภาคเป็นของแข็งที่มีสภาพพลาสติก และมี คําถามวา สิ่งใดที่ทําใหนักเรียนคิดวาโลกใน
ธรณีภาคที่เป็นของแข็งวางตัวอยู่ด้านบน เมื่อฐานธรณีภาคได้รับความร้อนจากภายในโลกจะเกิด อดีตกับปจจุบันไมเหมือนกัน
การเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ และท�าให้ธรณีภาคเคลื่อนที่ตามไปด้วย เมื่อธรณีภาคเคลื่อนที่ในทิศทาง (แนวตอบ รูปรางของทวีปบางทวีปอาจตอเขา
ต่างกันจะแตกออกเป็นแผ่น เรียกว่า แผ่นธรณี (plate) กระบวนการดังกล่าวท�าให้โลกเกิดการ กันได)
เปลี่ยนแปลง เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด การเกิดเทือกเขาสูง การเกิดทะเลและมหาสมุทร
นักวิทยาศาสตร์จึงศึกษาโดยการสังเกตหลักฐานที่ปรากฏ และอธิบายด้วยหลักการทาง
วิทยาศาสตร์ ในเวลาต่อมาเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้นท�าให้สามารถศึกษาและรวบรวม
ข้อมูลได้มากขึ้น จนสามารถสรุปเป็นแนวคิดและทฤษฎีที่สามารถอธิบายการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นบนโลกได้
ภาพที่ 2.1 โครงสร้างโลก

แนวตอบ Prior knowledge


รูปรางของทวีป และมหาสมุทรในอดีตแตก-
ตางจากในปจจุบัน เนื่องจากภายในโลกและบน
ผิวโลกมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา
ทําใหรปู รางของทวีปและมหาสมุทรเปลีย่ นไป หรือ
ธรณี 17
นักเรียนอาจตอบตามความคิดของตนเอง โดยครู
แปรสัญฐาน
ใชดุลยพินิจในการพิจารณาความสมเหตุสมผล
ของคําตอบ

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET สื่อ Digital


สาเหตุใดที่ทําใหแผนธรณีภาคมีการเคลื่อนที่ ศึกษาเพิ่มเติมไดจาก PowerPoint เรื่อง การแปรสัณฐานแผนธรณีภาค
1. การเอียงของแกนโลก
2. การหมุนรอบตัวเองของโลก
3. หินบนเปลือกโลกเกิดจากการทรุดตัว
4. การเคลื่อนที่ของหินหนืดในชั้นเนื้อโลก
5. การปรับสมดุลเพื่อระบายความรอนภายในโลก
(วิเคราะหคาํ ตอบ แผนธรณีภาคลอยอยูบ นหินหนืดในชัน้ เนือ้ โลก
ซึง่ หินหนืดมีการเคลือ่ นทีไ่ หลวนตลอดเวลา จึงเปนผลใหแผนธรณี
ภาคเคลื่อนที่ไปดวย ดังนั้น ตอบขอ 4.)

T21
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
1. ครูใหนักเรียนนับจํานวน 1 - 3 วนไปเรื่อยๆ 1.1 ทฤษฎีทวีปเลื่อน
จนครบทุกคน เพื่อแบงนักเรียนออกเปนกลุม ทฤษฎีนี้เกิดขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 จากการศึกษาแผนที่โลกของฟรานซิส เบคอน
กลุมละ 3 คน โดยคนที่นับจํานวนเดียวกันให (Francis Bacon) โดยคาดเดาว่าหากดันทวีปอเมริกาใต้และทวีปแอฟริกาเข้ามาประกอบกัน
อยูกลุมเดียวกัน จะสามารถเชื่อมต่อกันได้พอดี
2. ครูใหนักเรียนรวมกันศึกษาแนวคิดของทฤษฎี ต่อมาในป ค.ศ. 1915 อัลเฟรด เวเกเนอร์ ( Alfred
ทวีปเลื่อนจากในหนังสือเรียน หนา 18 - 22 W egener) ได้ น� า เสนอเกี่ ย วกั บ ทฤษฎี ท วี ป เลื่ อ นว่ า เมื่ อ
เพือ่ ใหมคี วามรูพ นื้ ฐานไปใชในการทํากิจกรรม ประมาณ 200-300 ล้านปที่ผ่านมา แผ่นดินทั้งหมดในโลก
3. ครูแจงใหนกั เรียนทราบวาจะมีการทํากิจกรรม รวมเป็นผืนเดียวกัน เรียกว่า “พันเจีย” ต่อมา ในยุคไทรแอสซิก
การเคลื่อนที่ของแผนธรณีภาค แลวแจงจุด ทวีปที่เดิมเคยเป็นผืนแผ่นเดียวกันค่อย ๆ เริ่มมีการแยกตัวออก
ประสงคของการทํากิจกรรม จากกัน โดยทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้จะค่อย ๆ แยกจาก
ทวีปแอฟริกา และทวีปยุโรป จึงท�าให้ขนาดของมหาสมุทร
แอตแลนติกกว้างยิ่งขึ้น เรียกการเคลื่อนที่ของทวีปดังกล่าวว่า
“ทวีปเลื่อน”
ภาพที่ 2.2 อัลเฟรด เวเกเนอร์ ทฤษฎีทวีปเลื่อนนี้เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในป ค.ศ.1960
โดยกล่าวถึงการทีท่ วีปอเมริกาเหนือและทวีปอเมริกาใต้รวมเป็นแผ่นเดียวกันเรียกว่า “แผ่นอเมริกา”
และมักพบว่าบริเวณทีเ่ ป็นขอบของแผ่นทวีป เช่น แผ่นทวีปแปซิฟก
จะพบแนวการเกิดภูเขาไฟและแผ่นดินไหวอยูเ่ สมอ เนือ่ งจาก
มีการเคลื่อนที่ของแผ่นทวีป (plate) อยู่ตลอดเวลา ซึ่ง
สันนิษฐานว่าเกิดจากการเคลื่อนที่ของหินหลอมละลาย
และจากกระบวนการพาความร้อนภายในโลก นอกจากนี้
ยังกล่าวว่าทวีปอเมริกาใต้ แอฟริกา อินเดีย ออสเตรเลีย
เคยอยู่ชิดติดกับทวีปแอนตาร์กติกในบริเวณขั้วโลกใต้ซึ่ง
เป็นเขตหนาวเย็นโดยมีหลักฐานเป็นร่องรอยของธารน�้า
แข็งในอดีต
ในขณะที่ตอนใต้ของทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และ ภาพที่ 2.3 การเชื่อมติดกันของทวีปในอดีต
เอเชีย มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเคยเป็นเขตร้อนแถบศูนย์สูตรมาก่อน เนื่องจากอุดมไปด้วยถ่านหินและ
น�้ามันซึ่งเกิดจากการทับถมของพืชในอดีต
จากข้อมูลรอยต่อของขอบทวีปยังไม่เพียงพอที่จะอธิบายการเชื่อมติดกันของทวีปในอดีต
เวเกเนอร์จงึ ค้นคว้าหาข้อมูลและหลักฐานอืน่ ๆ มาสนับสนุนแนวคิดของเขา ซึง่ ประกอบด้วยข้อมูล
ต่าง ๆ ดังนี้
18

สื่อ Digital ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET


ศึกษาเพิม่ เติมไดจากภาพยนตรสารคดีสนั้ Twig เรือ่ ง ทวีปเกิดขึน้ ไดอยางไร การที่ธรณีภาคแยกออกเปนแผน แตละแผนเรียกกวาอะไร
https://www.twig-aksorn.com/fiffl ilm/how-did-the-continents-form-8369/ 1. ปฐพี
2. แผนดิน
3. แผนธรณี
4. เปลือกโลก
5. ฐานธรณีภาค
( วิเคราะหคําตอบ ธรณี ภ าคที่ แ ยกออกเป น แผ น แต ล ะแผ น
เรียกวา แผนธรณี ดังนั้น ตอบขอ 3.)

T22
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
1. ซากดึกด�าบรรพ์ เวเกเนอร์ได้เสนอให้พจิ ารณารูปร่างของทวีปต่าง ๆ บนแผนทีโ่ ลก อีกทัง้ 4. ครู ใ ช รู ป แบบการเรี ย นรู  แ บบร ว มมื อ มาจั ด
ยังได้ศึกษาซากดึกด�าบรรพ์ของพืชและสัตว์ที่อยู่ตามแนวชายฝัง (Coastline) ทั้งทวีปอเมริกาใต้ กระบวนการเรียนรู โดยกําหนดใหสมาชิกแตละ
และทวีปแอฟริกา พบว่าบริเวณทีเ่ ป็นแนวชายฝัง ของทวีปทัง้ สองต่อตรงกันได้นนั้ มีซากดึกด�าบรรพ์ คนภายในกลุ  ม มี บ ทบาทหน า ที่ ข องตนเอง
ชนิดเดียวกัน นั่นหมายความว่าในอดีตนั้นทั้งสองทวีปนี้มีพืชและสัตว์ชนิดเดียวกันอาศัยอยู่ ดังนี้
ซึ่งหากทวีปทั้งสองอยู่แยกกันอย่างเช่นในปัจจุบันโดยมีมหาสมุทรคั่นกลางแล้ 1 วพืชและสัตว์ สมาชิกคนที่ 1 ทําหนาทีเ่ ตรียมวัสดุและอุปกรณ
ในอดีตจะสามารถเดินทางจากทวีปหนึ่งข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปสู่อีกทวีปหนึ่งได้อย่างไร สมาชิกคนที่ 2 ทําหนาทีอ่ า นวิธกี ารทํากิจกรรม
ข้อสังเกตนี้จึงสนับสนุนสมมติฐานของเวเกเนอร์ที่ว่า ทวีปอเมริกาใต้และทวีปแอฟริกาเดิมนั้น และนํามาอธิบายใหสมาชิกภายในกลุมฟง
เป็นผืนดินเดียวกัน สมาชิ ก คนที่ 3 ทํ า หน า ที่ บั น ทึ ก ผลการทํ า
กิจกรรม
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
บริเวณทีพ่ บซากดึกด�าบรรพ์ของ แบบประเมินการปฏิบัติกิจกรรม)
ลิ ส โทรซอรั ส (Lystrosaurus)
แ อ ฟ ริ ก า
อิ น เ ดี ย ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานโบราณที่ 5. ใหนักเรียนแตละกลุมทํากิจกรรมตามขั้นตอน
อาศัยอยู่บนบก จากในหนังสือเรียน หนา 23
6. เมื่อนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเสร็จเรียบรอยแลว
อ เ ม ริ ก า ใ ต้ อ อ ส เ ต ร เ ลี ย ครูใหนกั เรียนแตละกลุม สงตัวแทนมานําเสนอ
แ อ น ต า ร์ ก ติ ก ผลการทํากิจกรรมที่กลุมตนเองทําได

บริเวณที่พบซากดึกด�าบรรพ์ บริเวณทีพ่ บซากดึกด�าบรรพ์ของ


ของไซโนกาทัส (Cynogathus) กลอสโซพเทรีส (Glossopteris)
ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานโบราณ บริเวณที่พบซากดึกด�าบรรพ์ ซึง่ เป็นพืชตระกูลเฟรน์ ทีใ่ ช้เมล็ด
ที่อาศัยอยู่บนบก ของมีโซซอรัส (Mesosaurus) ในการขยายพันธุ์
ซึง่ เป็นสัตว์เลือ้ ยคลานทีอ่ าศัย
อยู่ในน�้าจืด
ภาพที่ 2.4 ต�าแหน่งซากดึกด�าบรรพ์ที่พบในทวีปต่าง ๆ

Earth Science
Focus การตรวจหาอายุของซากดึกดําบรรพ
การหาอายุของซากดึกด�าบรรพ์มักใช้ธาตุ C-14 ซึ่งมีครึ่งชีวิตเท่ากับ 5,730 ป โดยจะใช้กับหิน
หรือซากดึกด�าบรรพ์ที่มีอายุไม่เกิน 50,000 ป ส่วน U-238 หรือ K-40 จะใช้กับหินที่มีอายุมาก ซึ่งมี
วิธีการที่ซับซ้อนและใช้ทุนสูง

ธรณี 19
แปรสัญฐาน

ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู


ซากดึกดําบรรพของพืชชนิดใดที่ใชเปนหลักฐานสนับสนุน 1 ทวีป เกร็ดความรูเกี่ยวกับทวีปตางๆ ในโลก มีดังนี้
วาผืนแผนดินของทวีปอเมริกาใต แอฟริกา ออสเตรเลีย และ - ทวีปที่มีขนาดใหญที่สุด คือ ทวีปเอเชีย
แอนตารกติกาแตเดิมเคยเชื่อมตอเปนผืนแผนดินเดียวกัน - ทวีปที่มีขนาดเล็กที่สุด คือ ทวีปออสเตรเลีย
1. มีโซซอรัส - ทวีปที่มีพลเมืองมากที่สุด คือ ทวีปเอเชีย
2. ไซโนกาทัส - ทวีปที่มีพลเมืองนอยที่สุด คือ ทวีปแอนตารกติก และทวีปแอนตารกติกา
3. กอนดวานา
4. ลิสโทรซอรัส
5. กลอสโซพเทรีส
(วิเคราะหคําตอบ กลอสโซพเทรีส (Glossopteris) เปนพืชตระกูล
เฟรนที่ใชเมล็ดในการขยายพันธุ จึงกลาวไดวา กลอสโซพเทรีส
คือ ซากดึกดําบรรพของพืชที่ใชเปนหลักฐานสนับสนุนวาผืนแผน
ดินของทวีปอเมริกาใต แอฟริกา ออสเตรเลีย และแอนตารกติกา
แตเดิมเคยเชื่อมตอเปนผืนแผนดินเดียวกัน ดังนั้น ตอบขอ 5.)

T23
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
7. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า 2. กลุมหินและแนวเทือกเขา กลุ่มหินที่พบในทวีปอเมริกาใต้ ทวีปแอนตาร์กติการ์
กิ จ กรรม โดยครู ตั้ ง คํ า ถามเพื่ อ ให นั ก เรี ย น ทวีปแอฟริกาและอนุทวีปอินเดีย เป็นกลุ่มหินที่เกิดในช่วง 146 -359 ล้านป และมีการระเบิดของ
แตละกลุมรวมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้ ภูเขาไฟเหมือนกัน จากการส�ารวจชั้นหินบริเวณทวีปสองฝังของมหาสมุทรแอตแลนติก พบว่า
• ทวีปใดบางที่สามารถตอเขากันได ชั้นหินดังกล่าวเกิดในสภาพแวดล้อม และช่วงเวลาเดียวกัน รวมทั้งแนวเทือกเขาบริเวณฝัง
(แนวตอบ ทวีปอเมริกาใตกับทวีปแอฟริกา ตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือกับแนวเทือกเขาบริเวณฝังตะวันตกของทวีปยุโรปมีการวางตัว
ทวี ป อเมริ ก าเหนื อ กั บ ทวี ป ยุ โ รป ทวี ป ในแนวเดียวกัน มีหินชนิดเดียวกันและอายุของหินอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน
แอฟริ ก ากั บ ทวี ป ออสเตรเลี ย และทวี ป เทือกเขาคาลิโดเนียน
แอนตารกติก) อเมริกาเหนือ สแกนดิเนเวีย
• นักเรียนคิดวามีขอ มูลใดทีช่ ว ยยืนยันวาทวีป
ดังกลาวเคยอยูติดกันมากอน แอฟริกา
เทือกเขาแอปพาเลเชียน
อเมริกาใต้
(แนวตอบ หลักฐานทางธรณีวิทยาตางๆ เชน แอฟริกา
ซากดึกดําบรรพ กลุมหินและแนวเทือกเขา)
อเมริกาใต้

ภาพที่ 2.5 ชั้นหินทั้งสองฝังทวีปเกิดในสภาพ ภาพที่ 2.6 เทือกเขาทั้งสองทวีปวางตัวในแนวเดียวกัน


แวดล้อมเดียวกันและมีอายุหินในช่วงเวลาเดียวกัน และมีอายุหินในช่วงเวลาเดียวกัน
1
3. อายุหินบริเวณพื้นสมุทร จากการส�ารวจมหาสมุทรแปซิฟก มหาสมุทรแอตแลนติก
รวมทั้งทะเลใกล้เคียงพบหินบะซอลต์ที่บริเวณหุบเขาทรุดหรือรอยแยกบริเวณสันเขาใต้สมุทร ซึ่ง
หินบะซอลต์ทอี่ ยูไ่ กลจากรอยแยกมีอายุมากกว่าหินบะซอลต์ทอี่ ยูใ่ กล้หบุ เขาทรุด นักวิทยาศาสตร์
อธิบายได้วา่ เมือ่ แผ่นธรณีเกิดรอยแยกแผ่นธรณีจะเกิดการเคลือ่ นตัวออกจากกันช้า ๆ ตลอดเวลา
ขณะเดียวกันเนื้อของหินบะซอลต์จากส่วนล่างจะแทรกขึ้นมาตรงรอยแยกเป็นชั้นธรณีภาคใหม่
ท�าให้บริเวณรอยแยกเกิดหินบะซอลต์ใหม่เรื่อย ๆ ดังนั้น แผ่นธรณีบริเวณเทือกเขาใต้สมุทรจึงมี
อายุอ่อนที่สุดและแผ่นธรณีใกล้ขอบทวีปจะมีอายุมากกว่า

ภาพที่ 2.7 อายุของหินบริเวณพื้นสมุทรแต่ละทวีป ซึ่งสีน�้าเงินเป็นหินที่มีอายุมากที่สุดในบริเวณพื้นสมุทร


20

เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด


ครูอาจนําแผนที่โลกมาใหนักเรียนรวมกันพิจารณาและระบุวาทวีปตางๆ หลักฐานในขอใดที่ไมไดสนับสนุนทฤษฎีทวีปเลื่อน
อยูบริเวณใดบาง และทวีปใดที่อยูใกลเคียงกัน เพื่อชวยกระตุนความสนใจของ 1. หลักฐานทางธรณีวิทยา
นักเรียนและยังชวยใหนกั เรียนสามารถทําความเขาใจเกีย่ วกับเนือ้ หาไดงา ยยิง่ ขึน้ 2. หลักฐานจากซากดึกดําบรรพ
3. หลักฐานจากภูมิอากาศโบราณ
4. หลักฐานจากอายุหินของเปลือกโลกมหาสมุทร
นักเรียนควรรู 5. หลักฐานจากการแสดงสมบัติทางกายภาพของผิวโลก
1 มหาสมุทรแปซิฟก เปนมหาสมุทรขนาดใหญ มีพนื้ ทีท่ งั้ สิน้ ประมาณ 180 ลาน (วิเคราะหคําตอบ หลักฐานทีส่ นับสนุนทฤษฎีทวีปเลือ่ นมีดงั ตอไป
ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่ผิวโลก ซึ่งมหาสมุทรแปซิฟก นี้ หลักฐานทางธรณีวทิ ยา หลักฐานจากซากดึกดําบรรพ หลักฐาน
มีพื้นที่ติดตอกับทวีปตางๆ 4 ทวีป คือ ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีป จากภู มิ อ ากาศโบราณ หลั ก ฐานจากอายุ หิ น ของเปลื อ กโลก
อเมริกาเหนือ และทวีปอเมริกาใต มีชายฝงติดตอกับประเทศตางๆ นับรอย มหาสมุทร และหลักฐานจากภาวะแมเหล็กโลกบรรพการ ดังนั้น
ประเทศ และมีเกาะทั้งสิ้นมากกวา 25,000 เกาะ โดยจุดที่ลึกที่สุดในโลกก็ยัง ตอบขอ 5.)
อยูที่มหาสมุทรแปซิฟก เรียกวา รองลึกมาเรียนา (Mariana Trench) ซึ่งอยูใน
ทะเลฟลิปปนส

T24
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
4. ภาวะแมเหล็กโลกบรรพกาล หมายถึง ร่องรอยสนามแม่เหล็กโลกในอดีต ซึ่งศึกษา 8. ครูใหนักเรียนจับคูกันสืบคนขอมูลเกี่ยวกับ
ได้จากหินบะซอลต์ทมี่ แี ร่แมกนีไทต์เป็นองค์ประกอบ ในขณะทีล่ าวาบะซอลต์ไหลบนผิวโลกอะตอม เรือ่ งหลักฐานทางธรณีวทิ ยาทีส่ นับสนุนแนวคิด
ของธาตุเหล็กที่อยู่ในแร่แมกนีไทต์จะถูกเหนี่ยวน�าโดยสนามแม่เหล็กโลก ท�าให้มีการเรียงตัว ทฤษฎีทวีปเลื่อน ดังนี้
ในทิศทางเดียวกับเส้นแรงแม่เหล็กโลกในขณะนั้น ซึ่งการเรียงตัวของอะตอมของธาตุเหล็กจะไม่ - ซากดึกดําบรรพ
เปลี่ยนแปลงไปตามการกลับขั้วของสนามแม่เหล็กโลก เนื่องจากภาวะของสนามแม่เหล็กโลก - กลุมหินและแนวเทือกเขา
บรรพกาลในบางช่วงเวลาทางธรณีวทิ ยาเป็นสนามแม่เหล็กแบบกลับขัว้ ดังนัน้ ถ้าน�าหินจากพืน้ ที่ - การสะสมตัวของตะกอนจากธารนํ้าแข็ง
ต่างกันมาตรวจวัดสภาพความเป็นแม่เหล็กของหินแล้วพบว่า สารแม่เหล็กในหินเรียงตัวไปใน โดยนักเรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือ
ทิศทางเดียวกัน แสดงว่า เป็นหินที่เกิดในช่วงเวลาทางธรณีวิทยาเดียวกัน แหลงเรียนรูต า งๆ แลวนําขอมูลมาแลกเปลีย่ น
ความคิดเห็น และรวมกันตั้งประเด็นคําถาม
เกี่ยวกับเรื่องที่สืบคนมา
S S
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
N N

แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล)
N N S S

ภาพที่ 2.8 สนามแม่เหล็กโลกแบบปกติ ภาพที่ 2.9 สนามแม่เหล็กโลกแบบกลับขั้ว

5. หลักฐานที่เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนจากธารน�้าแข็ง ในช่วง 280 ล้านป


ก่อน พบหลักฐานว่าแผ่นดินที่เคยเป็นส่วนกอนด์วานาถูกปกคลุมด้วยน�้าแข็ง และเมื่อพิจารณา
ร่องรอยการเคลื่อนที่ของธารน�้าแข็ง พบว่าสอดคล้องกัน จึงเป็นหลักฐานที่แสดงได้ว่าทวีปต่าง ๆ
เคยต่อเป็นทวีปเดียวกัน จากการส�ารวจตะกอนที่สะสมตัวจากธารน�้าแข็ง และรอยครูดที่เกิดจาก
การเคลื่อนที่ของธารน�้าแข็งในอดีตบนทวีปแอฟริกา ออสเตรเลีย และอเมริกาใต้ แสดงว่าในอดีต
ทวีปดังกล่าวมีสภาพภูมิอากาศคล้ายคลึงกัน และถูกปกคลุมด้วยธารน�้าแข็งมาก่อน

เส้นศูนย์สูตร อเมริกาเหนือ ยูเรเชีย เส้นศูนย์สูตร

ออสเตรเลีย
มวลน�้าแข็ง อินเดีย
ภาพที่ 2.10 แผนที่แสดงมวลน�้าแข็งในอดีต ภาพที่ 2.11 แผนที่แสดงมวลน�้าแข็งในปัจจุบัน
ธรณี 21
แปรสัญฐาน

ขอสอบเนน การคิด สื่อ Digital


รองรอยธารนํา้ แข็งและภูมอิ ากาศโบราณสามารถอธิบายการอยู ศึกษาเพิม่ เติมไดจากภาพยนตรสารคดีสนั้ Twig เรือ่ ง การเลือ่ นตําแหนง
ติดกันของแผนทวีปไดอยางไร ของขัว้ แมเหล็กโลก https://www.twig-aksorn.com/fiffl ilm/earths-wandering-
(แนวตอบ ธารนํ้าแข็งและรอยครูดที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของ poles-8345/
ธารนํ้าแข็งในอดีตบนทวีปแอฟริกา ออสเตรเลีย และอเมริกาใต
แสดงวาในอดีตทวีปดังกลาวมีสภาพภูมิอากาศคลายคลึงกัน และ
ถูกปกคลุมดวยธารนํ้าแข็งมากอน)

T25
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
9. ครูถามคําถาม H.O.T.S. จากหนังสือเรียน จากการรวบรวมข้อมูลและหลักฐานต่าง ๆ เวเกเนอร์น�าเสนอทฤษฎีทวีปเลื่อน (theory of
หนา 22 วา การเคลื่อนที่ของแผนเปลือกโลก continental drift) ทีอ่ ธิบายว่า “เมือ่ ประมาณ 245 ล้านปกอ่ น ทวีปต่าง ๆ ในปัจจุบนั เคยอยูต่ ดิ กันเป็น
ตัง้ แตอดีตจนถึงปจจุบนั มีการเปลีย่ นแปลงไป แผ่นดินเดียว เรียกว่า พันเจีย ในเวลาต่อมาพันเจียเริม่ แยกตัวออกจากกัน เป็นสองทวีปขนาดใหญ่
จากเดิมอยางไร และปจจัยใดบางทีท่ าํ ใหเกิด ได้แก่ ลอเรเซีย (Laurasia) และกอนด์วานา (Gondwana) และต่อมาทัง้ สองทวีปก็มกี ารแยกตัวออกจาก
การเคลื่อนที่ของแผนเปลือกโลก กันอย่างช้า ๆ จนมีลักษณะดังเช่นปัจจุบัน”
10. ครูใหนกั เรียนรวมกลุม กับเพือ่ นอีกคูห นึง่ รวม
เปน 4 คน แลวแลกเปลีย่ นกันถามคําถามทีต่ งั้ ไว ลอเรเซีย
จากนัน้ รวมกันสรุปเพือ่ เตรียมนําเสนอหนาชัน้
พันเจีย
เรียนวาสิง่ ใดบางทีท่ าํ ใหเกิดการเคลือ่ นทีข่ อง
กอนด์วานา
แผนเปลือกโลก
11. ครูสมุ เลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมานํา
225 ล้านปก่อน 150 ล้านปก่อน
เสนอคําถามของกลุม ตนเอง โดยใหนกั เรียนทัง้
หองรวมกันตอบคําถาม และอภิปรายรวมกัน

100 ล้านปก่อน ปัจจุบัน


ภาพที่ 2.12 การเลื่อนของแผ่นธรณีภาคจากอดีตถึงปัจจุบัน

H. O. T. S.
คําถามทาทายการคิดขั้นสูง
การเคลือ่ นทีข่ องแผ่นเปลือกโลก เกิดจากการเคลือ่ นทีข่ อง การเคลื่ อ นที่
หินหนืดโดยเฉพาะแผ่นเปลือกโลกที่อยู่ใต้มหาสมุทร มีความ ของแผ่นเปลือก
หนาแน่นน้อย หินหนืดสามารถแทรกตัวตามรอยต่อระหว่าง โลกตั้ ง แต่ อ ดี ต
จนถึงปัจจุบัน มีการเปลี่ยน-
แผ่นเปลือกโลกได้งา่ ย นักธรณีวทิ ยาพบว่าบริเวณรอยต่อระหว่าง แปลงไปจากเดิมอย่างไร และ
แผ่นเปลือกโลกใต้มหาสมุทรแอตแลนติกมีแนวหินใหม่เกิดขึ้น ปั จ จั ย ใดบ้ า งที่ ท� า ให้ เ กิ ด การ
ตลอดเวลา ซึ่งแนวหินใหม่นี้เกิดจากการดันตัวของหินหนืดและ เคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก
มีอายุน้อยกว่าหินบนทวีป
แนวตอบ H.O.T.S.
แผนเปลือกโลกเปลีย่ นแปลงจาก ทวีปทีเ่ คยอยู 22
ติดกันเปนแผนเดียว เคลื่อนที่แยกออกจากกัน ซึ่ง หลักฐานทีส่ นับสนุนแนวคิดทวีปเลือ่ น
เปนผลมาจากวงจรการพาความรอนภายในโลก

สื่อ Digital ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET


ศึกษาเพิม่ เติมไดจากการสแกน QR code เรือ่ ง หลักฐานทีส่ นับสนุนแนวคิด เมื่อประมาณ 200 ลานปที่แลว มหาทวีปพันเจียเริ่มแยกออก
ทวีปเลื่อน เปน 2 มหาทวีปใด
1. อเมริกา และแอฟริกา
2. เอเชีย และออสเตรเลีย
3. ยูเรเชีย และกอนดวานา
4. ลอเรเซีย และกอนดวานา
5. ลอเรเซีย และออสเตรเลีย
(วิเคราะหคําตอบ เมื่อประมาณ 200 ลานปที่ผานมา มหาทวีป
พันเจียแยกออกเปน 2 มหาทวีป ไดแต ลอเรเซีย ซึ่งอยูทางซีก
เหนือ และกอนดวานา ซึ่งอยูทางซีกใต ดังนั้น ตอบขอ 4.)

T26
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
กิจกรรม ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์
• การสังเกต
1. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อใหไดขอ
การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาค • การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป สรุปเกี่ยวกับทฤษฎีทวีปเลื่อน โดยครูอาจเปด
จิตวิทยาศาสตร์ PowerPoint เรื่อง ธรณีแปรสัณฐาน เพื่อชวย
วัสดุอปุ กรณ์ • ความสนใจใฝ่รู้
• ความรับชอบ
ในการสรุป
1. ภาพแผนที่โลก 4. ดินสอ ปากกกา สี
2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําแบบฝกหัด เรื่อง
2. กระดาษ A4 5. กระดาษลอกลาย ทฤษฎีทวีปเลื่อน จากแบบฝกหัดรายวิชาเพิ่ม
3. กรรไกร เติ ม วิ ท ยาศาสตร โลก ดาราศาสตร และ
อวกาศ ม.4 เลม 1 หนวยการเรียนรูที่ 2 ธรณี
วิธปี ฏิบตั ิ แปรสัณฐาน
1. ให้นักเรียนศึกษาความรู้จากแผนที่โลก และน�าแผนที่โลกออกมาสังเกตแผ่นทวีปแต่ละทวีปที่มีขนาดใหญ่
เช่น ทวีปแอฟริกา ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา
2. วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้แล้วสรุปเป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ของหลักฐานต่าง ๆ
3. วางกระดาษลอกลายและวาดภาพทวีปที่มีขนาดใหญ่ลงในกระดาษ ใช้กระดาษลอกลายที่วาดภาพแล้วไป
ทาบกับกระดาษ A4 ให้นักเรียนลากขอบทวีปตามที่ลอกไว้ในกระดาษลอกลาย
4. ใช้กรรไกรหรือคัตเตอร์ตดั ตามรอยทีว่ าดไว้ในกระดาษ A4 ตัดออกมาให้เป็นชิ้นส่วนของจิกซอว์ทวีปต่าง ๆ
แล้วลองน�ามาต่อกัน สังเกตว่าชิ้นส่วนจิกซอว์ของทวีปใดบ้างที่ต่อกันได้ บันทึกผล
5. ตอบค�าถามท้ายกิจกรรมโดยใช้ข้อมูลที่ได้จากการท�ากิจกรรม

?
ค�าถามท้ายกิจกรรม
1. เหตุผลใดบ้างที่ท�าให้แผ่นทวีปมีการเคลื่อนตัวแยกออกจากกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
2. การเคลื่อนตัวของแผ่นทวีปท�าให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติใดบ้าง จงอธิบาย
3. ร่องรอยธารน�้าแข็งและภูมิอากาศโบราณสามารถอธิบายการอยู่ติดกันของแผ่นทวีปได้อย่างไร
4. สิ่งมีชีวิตในทวีปใกล้เคียงกันมีความเหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่ เพราะอะไร
5. ในอนาคตนักเรียนคิดว่าการเคลื่อนตัวของแผ่นทวีปจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอีกหรือไม่ อย่างไร

อภิปรายผลกิจกรรม

จากการท�ากิจกรรมการน�ารูปแผ่นทวีปที่นักเรียนตัดมาเชื่อมต่อกัน จะมีบางส่วนที่สามารถต่อกัน
ได้อย่างสนิท ตัวอย่างเช่น ขอบด้านตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้กับตะวันตกของทวีปแอฟริกาต่อเข้ากันได้
อย่างพอดี จากหลักฐานนี้สามารถระบุได้ว่าทวีปทั้งสองอาจเคยอยู่ติดกันมาก่อน แล้วจึงค่อยแยกกออกไป
ภายหลัง
ธรณี 23
แปรสัญฐาน

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET เกร็ดแนะครู


หากนําขอบทวีปสองทวีปมาตอกัน ขอบทวีปใดมีรปู รางตอกันไดพอดี การทํากิจกรรมการเคลื่อนที่ของแผนธรณีภาค ครูอาจเตรียมแผนที่มาให
1. อินเดียกับตะวันออกของทวีปอเมริกาใต นักเรียนหรือมอบหมายใหนกั เรียนแตละกลุม เตรียมมาเอง ซึง่ กอนเริม่ ทํากิจกรรม
2. เหนือของออสเตรเลียกับใตของทวีปอเมริกาใต ครูควรใหนักเรียนอานวิธีทําโดยละเอียด และนําอภิปรายเกี่ยวกับลักษณะของ
3. ตะวันตกของทวีปยุโรปกับตะวันออกของทวีปเอเชีย ทวีปตางๆ ทีป่ รากฏบนแผนที่ แลวใหนกั เรียนรวมกันวิเคราะหกนั วาจะสามารถ
4. ตะวันตกของทวีปเอเชียกับตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ เชื่อมตอกันไดพอดีหรือไม
5. ตะวันตกของทวีปแอฟริกากับตะวันออกของทวีป
อเมริกาใต
(วิเคราะหคาํ ตอบ หลักฐานและขอมูลทางธรณีวทิ ยาทีเ่ ชือ่ วาแผน
ธรณีภาค (แผนเปลือกโลก) เดิมมีแผนเดียวที่เรียกวา พันเจีย แลว
เคลื่อนที่แยกออกเปนหลายแผนโดยมีหลักฐานที่ยืนยันชัดเจน คือ
ขอบของแผนธรณีภาคที่อยูใกลกันเชื่อมตอกันพอดี ตัวอยาง เชน
ขอบตะวันออกของทวีปอเมริกาใต สามารถตอเขากับขอบตะวันตก
ของทวีปแอฟริกาไดอยางพอดี ดังนั้น ตอบขอ 5.)

T27
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
1. ครูใหนักเรียนจับกลุม กลุมละ 3 คน อยาง 1.2 ทฤษฎีการแผขยายพื้นสมุทร
อิสระ โดยสมาชิกในกลุมจะตองไมซํ้ากับกลุม ทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมุทรเสนอโดย แฮร์รี แฮมมอนด์ เฮสส์ (Harry Hammond Hess)
ที่ทํากิจกรรมในชั่วโมงที่ผานมา เป็นทฤษฎีต่อยอดจากทฤษฎีทวีปเลื่อนของอัลเฟรด เวเกเนอร์ (Alfred Wegener) โดยทฤษฎีนี้
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช ได้อธิบายถึงสาเหตุของการขยายตัวของพืน้ มหาสมุทรว่า พืน้ มหาสมุทรมีการแผ่ขยายออกไปจาก
แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม) แนวสันเขากลางมหาสมุทร เนื่องจากการแทรกดันของแมกมาขึ้นมาบนเปลือกโลก
2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสืบคนขอมูล ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง มีก1ารจ้างนักธรณีวิทยาเพื่อส�ารวจพื้นมหาสมุทร ซึ่งใน
หลั ก ฐานทางธรณี วิ ท ยาที่ ส นั บ สนุ น การแผ การส�ารวจนั้นได้ท�าการวัดความลึกของทะเล ท�าให้ค้นพบลักษณะธรณีสัณฐาน เช่น สั นเขากลาง
ขยายของพื้นมหาสมุทร รวมถึงขอมูลตาง ๆ สมุทร (mid-ocean ridge) ซึง่ เป็นบริเวณทีม่ แี มกมาแทรกดันขึน้ มาบนเปลือกโลกมหาสมุทร ท�าให้
ที่เกี่ยวของ แลวนํามาสรุปเปนหลักการแบง เปลือกโลกโก่งตัวขึน้ และแตกออกจากกัน ซึง่ เปลือกโลกส่วนทีบ่ างจะทรุดตัวลงเกิดเป็นหุบเขาทรุด
โครงสรางโลกในรูปแบบแผนภาพ หรือ info (rift valley) และเมือ่ แมกมาแทรกดันขึน้ มาสูผ่ วิ โลกจะเรียกว่า ลาวา (lava) ซึง่ เมือ่ ลาวามีอณ
ุ หภูมิ
graphic ลดลงจะแข็งตัวกลายเป็นหินที่เป็นส่วนหนึ่งของเปลือกโลก โดยการแทรกดันตัวอย่างต่อเนื่อง
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช ของแมกมาจะท�าให้เกิดแรงดัน ส่งผลให้เปลือกโลกมหาสมุทรที่เกิดขึ้นก่อนเคลื่อนที่ออกห่างจาก
แบบประเมินชิ้นงาน) แนวสันเขากลางสมุทร ซึ่งจากกระบวนการดังกล่าวท�าให้อธิบายการแตกออกของแผ่นพันเจีย
3. ครูคัดเลือกแผนภาพที่นาสนใจมา 3 กลุม โดย และการที่แผ่นธรณีภาคเคลื่อนที่แยกออกจากกันได้
ใหแตละกลุมที่ถูกคัดเลือกสงตัวแทนมานํา
การแผ่ขยายพื้นสมุทร
เสนอแผนภาพของกลุมตนเอง
สันเขา หุบเขาทรุด

เปลือกโลกทวีป เปลือกโลกทวีป

แมกมา แมกมา

1 เปลือกโลกโก่งตัวขึน้ เนือ่ งจากการแทรกดันตัวของแมกมา 2 เปลือกโลกส่วนที่บางจะทรุดตัวเกิดเป็นหุบเขาทรุด

เปลือกโลกมหาสมุทร
แมกมา แมกมา
เปลือกโลกมหาสมุทร เปลือกโลกมหาสมุทร
3 น�้าทะเลไหลเข้าสู่ร่องที่เกิดจากการทรุดตัวของเปลือกโลก 4 ลาวาแข็งตัวอย่างต่อเนื่องท�าให้เปลือกโลกมหาสมุทร
ขยายพื้นที่มากขึ้น
ภาพที่ 2.13 การแผ่ขยายพื้นสมุทร
24

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด


1 การวัดความลึกของทะเล ทําไดโดยใชโซนาร (sonar) ซึง่ เครือ่ งมือในการสง หลักฐานในขอใดที่สนับสนุนทฤษฏีการแผขยายพื้นมหาสมุทร
คลืน่ เสียงทีม่ คี วามถีส่ งู ใหเคลือ่ นทีไ่ ปในนํา้ เมือ่ คลืน่ กระทบสิง่ กีดขวางทีม่ ขี นาด 1. หลักฐานทางธรณีวิทยา
ใหญกวา หรือเทากับความยาวของคลืน่ เสียง ก็จะสะทอนกลับมายังเครือ่ งรับ ซึง่ 2. หลักฐานจากซากดึกดําบรรพ
สามารถใชชว งเวลาทีเ่ สียงเดินทางไปและกลับ มาคํานวณหาความลึกของทะเลได 3. หลักฐานจากภูมิอากาศโบราณ
โดยหลักการนีย้ งั สามารถนําไปประดิษฐเครือ่ งนําทางใหแกคนตาบอดไดอกี ดวย 4. หลักฐานจากอายุหินของเปลือกโลกมหาสมุทร
5. หลักฐานจากการแสดงสมบัติทางกายภาพของผิวโลก
(วิเคราะหคาํ ตอบ จากการสํารวจพบวาอายุหนิ ของพืน้ มหาสมุทร
ที่อยูใกลแนวรอยแตกของเปลือกโลกจะมีอายุนอยกวาพื้นสมุทรที่
อยูไกลออกไปตามลําดับ ซึ่งเกิดจากการแข็งตัวเปนหินของลาวา
อยางตอเนื่อง ทําใหเกิดเปลือกโลกมหาสมุทรใหมอยูตลอดเวลา
จึงทําใหเปลือกโลกเคลือ่ นทีแ่ ละแผขยายออกไปตามแนวรอยแตก
จึงกลาวไดวา หลักฐานทีส่ นับสนุนทฤษฎีการแผขยายพืน้ มหาสมุทร คือ
หลักฐานจากอายุหนิ ของเปลือกโลกมหาสมุทร ดังนัน้ ตอบขอ 4.)

T28
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
อธิบายความรู
1 1. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อใหไดขอ
การส�ารวจพืน้ มหาสมุทรได้มกี ารน�าเครือ่ งวัดความเข้มของสนามแม่เหล็ก ( (magnetometer)
2
ไปตรวจวัดสภาพความเป็นแม่เหล็กของหิน พบว่ามีรูปแบบการเรียงตัวของสารแม่เหล็กในหินที่ สรุปเกี่ยวกับทฤษฎีการแผขยายพื้นมหาสมุทร
สมมาตรกันระหว่างสองข้างของสันเขากลางมหาสมุทร ซึ่งเกิดจากในขณะที่ลาวาแข็งตัวเป็นหิน 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําแบบฝกหัด เรื่อง
สารแม่เหล็กในหินจะถูกเหนี่ยวน�าให้เรียงตัวตามทิศทางของสนามแม่เหล็กโลกในขณะนั้น และ ทฤษฎีการแผขยายพื้นมหาสมุทร จากแบบ
การเรียงตัวของสารแม่เหล็กจะไม่เปลีย่ นแปลงตามการกลับขัว้ ของสนามแม่เหล็กโลก สภาพความ ฝ ก หั ด รายวิ ช าเพิ่ ม เติ ม วิ ท ยาศาสตร โลก
เป็นแม่เหล็กในหินนี้ เรียกว่า ภาวะแม่เหล็กบรรพกาล (paleomagnetism) ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนั้น ดาราศาสตร และอวกาศ ม.4 เลม 1 หนวย
สนับสนุนแนวคิดการแผ่ขยายพื้นมหาสมุทร การเรียนรูที่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน
ทิศทางที่แผ่นอเมริกาเหนือเคลื่อนที่ ทิศทางที่แผ่นยูเรเชียเคลื่อนที่ สํารวจคนหา
1. ครูใหนักเรียนนับจํานวน 1 - 3 วนไปเรื่อยๆ
N S S N S เรียงตัวตามสนามแม่เหล็กโลกแบบปกติ
เรียงตัวตามสนามแม่เหล็กโลกแบบกลับขั้ว
S N S N S N จนครบทุกคน เพื่อแบงนักเรียนออกเปนกลุม
N S N S N
กลุมละ 3 คน โดยคนที่นับจํานวนเดียวกันให
อยูกลุมเดียวกัน
เปลือกโลกมหาสมุทร 2. ครูแจกใบกิจกรรม กิจกรรมแบบจําลองวงจร
เนื้อโลกส่วนบน การพาความรอน ใหนักเรียน
ฐานธรณีภาค หินหนืดที่ลอยตัวขึ้น (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
แบบประเมินกิจกรรม)
ภาพที่ 2.14 รูปแบบการเรียงตัวของสารแม่เหล็กในหินที่สมมาตรกันระหว่างสองข้างของสันเขากลางมหาสมุทร

Earth Science
Focus เครื่องวัดค่าสนามแม่เหล็ก (magnetic field meter)
เครือ่ งวัดค่าสนามแม่เหล็กเป็นเครือ่ งทีใ่ ช้วดั ความเข้มของสนามแม่เหล็กทีแ่ ผ่ออกมาจากวัตถุ
ที่ต้องการวัด ซึ่งแม่เหล็กเป็นสิ่งที่สามารถดูดวัสดุบางชนิดได้ เช่น เหล็ก นิกเกิล โคบอลต์ เป็นต้น
การที่แม่เหล็กดูดสารบางอย่างได้ เนื่องจากมีสนามแม่เหล็กในบริเวณโดยรอบแม่เหล็ก และดึงดูดกับ
ธาตุที่มีสมบัติแม่เหล็ก ในปัจจุบันสามารถวัดสนามแม่เหล็กได้สะดวกและรวดเร็วโดยใช้ตัวรับรู้ฮอลล์
ซึง่ ท�างานโดยอาศัยหลักการของปรากฏการณ์ฮอลล์ ตัวรับรูฮ้ อลล์เป็นวงจรรวมทีท่ า� ให้เกิดความต่างศักย์
ซึ่งเป็นสัดส่วนโดยตรงกับความเข้มของสนามแม่เหล็กที่ผ่านในแนวดิ่ง เมื่อน�าตัวรับรู้ฮอลล์ไปต่อกับ
โวลต์มิเตอร์ แล้วน�าไปวางใกล้บริเวณที่มีสนามแม่เหล็กก็จะท�าให้วัดความเข้มสนามแม่เหล็กได้

ธรณี 25
แปรสัญฐาน

ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู


เพราะเหตุใดภาวะแมเหล็กบรรพกาลจึงใชเปนหลักฐานทีย่ นื ยัน 1 สนามแมเหล็ก เปนสนามของแรงที่มีอยูรอบ ๆ แทงแมเหล็ก หรือรอบ ๆ
วามหาสมุทรมีการแผขยายออกไปได ตัวนํา ซึ่งขนาดของสนามแมเหล็กจะเทากับปริมาณของเสนแรงแมเหล็กหรือ
(แนวตอบ ในขณะทีล่ าวาแข็งตัวเปนหินสารแมเหล็กในหินจะถูก ฟลักซแมเหล็กตอหนวยพื้นที่ที่เสนแรงแมเหล็กผานตั้งฉาก มีหนวยเปน เวเบอร
เหนีย่ วนําใหเรียงตัวตามทิศทางของสนามแมเหล็กโลกในขณะนัน้ ตอตารางเมตร หรือเทสลา
และการเรียงตัวของสารแมเหล็กจะไมเปลีย่ นแปลงตามการกลับขัว้ 2 สารแมเหล็ก เปนสารที่ตัวมันเองไมไดเปนแมเหล็กแตมีสมบัติดึงดูดหรือ
ของสนามแมเหล็กโลกรูปแบบการเรียงตัวของสารแมเหล็กในหิน ผลักกับแมเหล็กได เชน เหล็ก นิกเกิล
สมมาตรกันระหวางสองขางของสันเขากลางสมุทร ซึ่งสอดคลอง
กับหลักฐานทางธรณีวทิ ยาอืน่ ๆ ทีแ่ สดงวามหาสมุทรมีการแผขยาย
ออกไป)

T29
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
3. ครู ใ ห นั ก เรี ย นแต ล ะกลุ  ม ทํ า กิ จ กรรมแบบ 1.3 ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน
จําลองวงจรการพาความรอน ตามขั้นตอนที่ ทฤษฎีเชิงธรณีวทิ ยาทีถ่ กู พัฒนาขึน้ เพือ่ อธิบายถึงหลักฐานจากการสังเกตการเคลือ่ นตัวของ
ระบุไวใบกิจกรรม ดังนี้ แผ่นเปลือกโลกขนาดใหญ่ โดยทฤษฎีนี้ได้พัฒนาต่อยอดจากทฤษฎีทวีปเลื่อน
1) ตัดแผนโฟมบางขนาดประมาณ กวาง 2
ในช่วงป ค.ศ. 1950 ถึง 1960 มีการศึกษาทางสมุทรศาสตร์อย่างมากเพื่อหาข้อสนับสนุน
เซนติเมตร ยาว 4 เซนติเมตร จํานวน 2 แนวคิดต่าง ๆ ในอดีต และได้กอ่ ให้เกิดทฤษฎีเพลตเทคโทนิกส์ (plate tectonics) ขึน้ ในเวลาต่อมา
แผน ทฤษฎีดังกล่าวอธิบายว่าการเคลื่อนที่ และปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันของแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า
2) เทนํ้ า มั น พื ช ลงในถาดแก ว ทนไฟขนาด แผ่นเปลือกโลก นั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกั
ประมาณ กวาง 10 เซนติเมตร ยาว 20 1 บการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวโลกตลอดช่วงธรณีกาล
าค (lithosphere) ทีป่ ระกอบด้วยเปลือกโลก (crust) และ
แผ่นเปลือกโลกเหล่านีห้ มายถึงแผ่นธรณีภาค (
เซนติเมตร สูง 10 เซนติเมตร ใหมปี ริมาตร ชัน้ เนือ้ โลกส่วนบน (upper mantle) โดยแผ่นธรณีภาควางตัวอยูบ่ นชัน้ หินหนืดร้อนทีส่ ามารถไหลได้
ประมาณสามสวนสี่ของถาดแกว แลวนํา คล้ายของเหลว เรียกว่า หินฐานธรณีภาค (asthenosphere) และเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ อยู่บนฐาน
ถาดแกวไปตัง้ ไฟบนชุดตะเกียงแอลกอฮอล ธรณีภาค เนื่องจากการพาความร้อนของแมกมาในฐานธรณีภาค การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีใน
3) ใสผงพริกปน หรือพริกไทยบดหยาบลงใน รูปแบบต่าง ๆ ท�าให้เกิดธรณีสัณฐานและปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา เช่น แนวเทือกเขา ร่องลึก
นํ้ามัน ก้นมหาสมุทร แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด
4) วางแผนโฟมสองแผนใหชดิ ติดกันตรงกลาง
1. แผนธรณี คือ ธรณีภาคที่แตกออกเป็นแผ่น ซึ่งมีจ�านวนหลายแผ่น โดยแผ่นธรณีที่มี
ถาดแกว
ขนาดใหญ่มี 7 แผ่น ได้แก่ แผ่นธรณียูเรเชีย แผ่นธรณีอเมริกาเหนือ แผ่นธรณีอเมริกาใต้
5) สังเกตการณการเปลี่ยนแปลงของผงพริก แผ่นธรณีแปซิฟก แผ่นธรณีแอฟริกา แผ่นธรณีอินเดีย-ออสเตรเลีย แผ่นธรณีแอนตาร์กติก และ
ปน และแผนโฟม แลวบันทึกผล แผ่นธรณีขนาดเล็ก เช่น แผ่นธรณีนาสกา แผ่นธรณีแคริบเบียน แผ่นธรณีคอคอส
4. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า
กิ จ กรรม โดยให นั ก เรี ย นทั้ ง ห อ งร ว มกั น
180 � -90 � 0 � -90 � 180 �
อภิปรายและสรุปผลการทดลองรวมกัน แผ่นธรณีอเมริกาเหนือ
แผ่นธรณียูเรเชีย
60 � 60 �
แผ่นธรณีแอฟริกา
อธิบายความรู
30 � 30 �
1. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกหัดที่ 1.4 เรื่อง ทฤษฎี แผ่นธรณีคอคอส
0 � 0 � แผ่นธรณีอินเดีย
การแผขยายพื้นมหาสมุทร จากแบบฝกหัด แผ่นธรณีแปซิฟก
รายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร 30 � 30 �
แผ่นธรณีนาสกา แผ่นธรณีออสเตรเลีย
และอวกาศ ม.4 เลม 1 หนวยการเรียนรูท ี่ 2 ธรณี 60 � 60 �
แผ่นธรณีอเมริกาใต้
แปรสัณฐาน เปนการบานมาสงครูในชั่วโมง 180 � -90 � 0 � -90 � 180 � แผ่นธรณีแอนตาร์กติก
ถัดไป ภาพที่ 2.15 แผ่นธรณี

26

นักเรียนควรรู กิจกรรม สรางเสริม


1 แผนธรณีภาค นักธรณีวทิ ยาแบงแผนธรณีภาคของโลกออกเปน 14 แผน ดังนี้ ใหนักเรียนสรุปเรื่อง วงจรการพาความรอน ลงในสมุด โดย
1) แผนยูเรเชีย 2) แผนแอฟริกา ใหนกั เรียนสรุปขอมูลในรูปแบบทีส่ ามารถสือ่ สารทีท่ าํ ใหผอู นื่ เขาใจ
3) แผนอินเดีย - ออสเตรเลีย 4) แผนแอนตารกติก ไดงาย เชน แผนภาพ หรือ infographic
5) แผนแปซิฟก 6) แผนอเมริกาเหนือ
7) แผนแคริบเบียน 8) แผนโคคอส
9) แผนนาสกา 10) แผนอเมริกาใต
11) แผนฟลิปปนส 12) แผนแคโรไลน กิจกรรม ทาทาย
12) แผนฟจี 14) แผนจวน เดอ ฟูกา ใหนักเรียนสืบคนขอมูลเกี่ยวกับทฤษฎีแปรสัณฐานจากแหลง
ขอมูลตางๆ แลวนํามาจัดทําเปนรายงานสงครูผสู อน

T30
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สรุป
ขยายความเขาใจ

2. วงจรการพาความร้อน การหมุนเวียนของกระแสความร้อนภายในโลก มีลกั ษณะเช่น 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน ตาม


เดียวกับการเดือดของน�้า กล่าวคือโลกจะส่งผ่านความร้อนจากแก่นโลกขึ้นมาสู่ชั้นเนื้อโลก ซึ่งมี ความสมัครใจ แลวใหรวมกันทําใบงาน เรื่อง
ลักษณะเป็นของไหลทีม่ สี ถานะกึง่ แข็งกึง่ เหลว และผลัก ธรณีแปรสัณฐาน โดยสรุปความรูเรื่องทฤษฎี
ดันให้สารในชั้นนี้หมุนเวียนจากส่วนล่างขึ้นไปสู่ ธรณีแปรสัณฐาน ในรูปของแผนผังความคิด
ส่วนบน ส่งผลให้เปลือกโลกซึ่งเป็นของแข็งที่ ใหมีความถูกตองและนาสนใจ
ปดทับอยู่ด้านบนสุดเกิดการแตกเป็นแผ่น (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
และเคลือ่ นทีใ่ นลักษณะเข้าหากัน แยกออก แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม)
จากกัน หรือไถลตัวขนานออกจากกัน 2. ครูใหนักเรียนทุกกลุมนําแผนผังความคิดของ
กลุมตนเองออกมานําเสนอหนาชั้นเรียน กลุม
ภาพที่ 2.16 การหมุนเวียนของกระแสความร้อนภายในโลก
ละ 3 นาที
3. การเคลื่อนที่ของแผนธรณี นักวิทยาศาสตร์ศึกษาธรณีสัณฐานบริเวณแนวรอยต่อ (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
ของแผ่นธรณี และอธิบายว่าธรณีสัณฐานต่าง ๆ เกิดขึ้นจากลักษณะการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี แบบประเมินการนําเสนอผลงาน)
ที่แตกต่างกัน ได้แก่ แนวแผ่นธรณีแยกตัวออกจากกัน แนวแผ่นธรณีเคลื่อนที่เข้าหากัน และแนว
3. ครูมอบหมายการบานใหนกั เรียนทําแบบฝกหัด
แผ่นธรณีเคลื่อนที่ผ่านกันตามแนวระดับ
เรื่ อ ง ทฤษฎี ธ รณี แ ปรสั ณ ฐาน จาก Unit
Earth Science Question 2
Focus พลังงานความรอนใตพิภพ
เป็นแหล่งพลังงานธรรมชาติอย่างหนึ่งที่ได้จากแหล่งความร้อนซึ่งถูกกักเก็บอยู่ภายใต้ผิวโลก
แหล่งพลัังงานความร้อนใต้พิภพมีอยู่ด้วยกัน 4 ลักษณะ ดังนี้ ขัน้ ประเมิน
1. แหล่งที่เป็นไอน�้า เป็นแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพที่อยู่ใกล้กับแหล่งหินหลอมเหลวใน ตรวจสอบผล
ระดับตื้น ๆ
2. แหล่งที่เป็นน�้าร้อน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นน�้าเค็ม เป็นแหล่งพลังงานความร้อนที่พบเห็นได้ 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน
ทั่วไป มีลักษณะเป็นน�้าเค็มร้อน โดยมีจะอุณหภูมิต�่ากว่า 180 องศาเซลเซียส 2. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม
3. แหล่งทีเ่ ป็นหินร้อนแห้ง เป็นแหล่งทีส่ ะสมพลังงานความร้อนในรูปของหินเนือ้ แน่นโดยไม่มี การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน
น�้าร้อนหรือไอน�้าเกิดขึ้น 3. ครูตรวจใบงาน เรื่อง ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน
4. แหล่งทีเ่ ป็นแมกมา เป็นแหล่งพลังงานความร้อนทีม่ อี ณ ุ หภูมสิ งู สุดในบรรดาแหล่งพลังงาน
ความร้อนที่กล่าวมา โดยมีอุณหภูมิสูงกว่า 650 องศาเซลเซียส ส่วนใหญ่จะพบในแอ่งใต้ 4. ครูประเมินผลการทํากิจกรรมจากใบกิจกรรม
ภูเขาไฟ กิจกรรมแบบจําลองวงจรการพาความรอน
5. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัดจาก Unit
Question 2
6. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัด

ธรณี 27
แปรสัญฐาน

กิจกรรม 21st Century Skills แนวทางการวัดและประเมินผล


1. ใหนักเรียนแบงกลุมตามความสมัครใจ กลุมละ 3 - 4 คน ครูสามารถวัดและประเมินการทํากิจกรรมแบบจําลองวงจรการพาความ
2. ให นั ก เรี ย นร ว มกั น สื บ ค น ข อ มู ล หลั ก ฐานทางธรณี วิ ท ยาที่ รอน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการปฏิบตั กิ จิ กรรม
สนับสนุนการเคลื่อนที่ของแผนธรณีได ที่แนบมาทายแผนการสอนหนวยการเรียนรูที่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน
3. สมาชิกในกลุมรวมกันเลือกขอมูล และจัดเตรียมขอมูลเพื่อนํา
เสนอตามรูปแบบที่นักเรียนคิดวานาสนใจอยางอิสระ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน

เกณฑ์การประเมินกิจกรรมจากใบกิจกรรมที่ 2.1-2.3
แบบประเมินการปฏิบัติกจิ กรรม แผนฯ ที่ 1-2
ประเด็นที่ ระดับคะแนน

4. นําเสนอขอมูลหนาชัน้ เรียน ดวยวิธกี ารสือ่ สารทีท่ าํ ใหผอู นื่ เขาใจ แบบประเมินกิจกรรมจากใบกิจกรรมที่ 2.1-2.3
คาชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินการทากิจกรรมของนักเรียนตามรายการที่กาหนด แล้วขีด  ลงในช่องที่ตรงกับ
ระดับคะแนน
ประเมิน
4. ความเข้าใจ
จุดประสงค์
ของการทา
4
เข้าใจจุดประสงค์ของ
การทากิจกรรมได้เป็น
อย่างถูกต้อง และ
3 2
เข้าใจจุดประสงค์ของ เข้าใจจุดประสงค์ของ
การทากิจกรรมได้อย่าง การทากิจกรรมได้
ถูกต้อง บางส่วน
1
ไม่เข้าใจจุดประสงค์
ของการทากิจกรรมเลย

ไดงาย
กิจกรรม
ระดับคะแนน อธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจได้
ลาดับที่ รายการประเมิน 5. การดาเนิน ดาเนินการทากิจกรรม ดาเนินการทากิจกรรม ดาเนินการทากิจกรรมมี ดาเนินการทากิจกรรม
4 3 2 1
การทากิจกรรม มีขั้นตอนครบถ้วน มีขั้นตอนครบถ้วน ขั้นตอนถูกต้องเป็นส่วน ไม่ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่
1 ความเข้าใจจุดประสงค์ของการทากิจกรรม ถูกต้อง แต่ไม่มีการ ใหญ่ และการเก็บข้อมูล และการเก็บข้อมูลไม่
ถูกต้อง มีการทาซ้า
2 การดาเนินการทากิจกรรม ทาซ้า และการเก็บ ได้ครบถ้วนตามที่ ครบถ้วน
และการเก็บข้อมูลได้
3 การนาเสนอ ข้อมูลได้ครบถ้วนตามที่ ต้องการ
ละเอียดรอบคอบ
ต้องการ
รวม ครบถ้วนตามทีต่ ้องการ
6. การนาเสนอ เหมาะสมกับลักษณะ นาเสนอข้อมูลถูกต้อง นาเสนอข้อมูลถูกต้อง นาเสนอข้อมูลถูกต้อง
ของข้อมูล แสดงถึง ครบถ้วน วิเคราะห์ วิเคราะห์ข้อมูลได้ วิเคราะห์ข้อมูลไม่
ความคิดสร้างสรรค์ใน ข้อมูลได้ครบถ้วน ครบถ้วน นาเสนอผล ครบถ้วน สรุปผลการ
ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน การนาเสนอ วิเคราะห์ สรุปผลการทากิจกรรม การทากิจกรรมถูกต้อง ทากิจกรรมไม่ถูกต้อง
................./................../.................. ข้อมูลได้ครบถ้วน ถูกต้อง มีการนาเหตุผล
เหมาะสม สรุปผลการ และความรู้มาอ้างอิง
ทากิจกรรมถูกต้อง มี ประกอบการสรุปผล
การนาเหตุผลและ การทากิจกรรม
ความรู้มาอ้างอิง
ประกอบการสรุปผล
การทากิจกรรม

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
10-12 ดีมาก
7-9 ดี
4-6 พอใช้
0-3 ปรับปรุง

45

44

T31
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ นํา
กระตุน้ ความสนใจ
1. ครูถามคําถามเพือ่ เปนการเปดประเด็นชักชวน Prior Knowledge
นักเรียนคุยวา นักเรียนคิดวาเปลือกโลกเกิด แผนธรณีเคลือ่ นที่ 2. รูปแบบการเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่ไดหรือไม โดยครูใหนักเรียนรวม ไดอยางไร ของแผนธรณี
กันหาคําตอบอยางอิสระ
การเคลือ่ นทีข่ องแผ่นธรณี อาจเกิดขึน้ เนือ่ งจากแรงดันใน
2. ครูกระตุนความสนใจ โดยครูถามคําถามเพื่อ
ชัน้ ฐานธรณีภาคดันให้แผ่นธรณีโก่งตัวขึน้ จนเกิดรอยแตก แมกมาจึงดันตัวท�าให้แผ่นธรณีเคลือ่ นที่
ใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้ แยกจากกัน ซึ่งการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีในลักษณะนี้ท�าให้เกิดแผ่นดินไหวไม่รุนแรง โดยมี
• การเคลื่อนที่ของแผนธรณีตามทฤษฎีธรณี ศูนย์กลางอยู่ในระดับตื้น
แปรสัณฐานมีลักษณะเปนอยางไร นักวิทยาศาสตร์ศึกษาธรณีสัณฐานบริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณี และอธิบายว่าธรณี
(แนวตอบ ธรณีภาคแตกออกเปนแผนหลาย สัณฐานต่าง ๆ เกิดจากลักษณะการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีที่แตกต่างกัน ดังนี้
แผน เรียกวา แผนธรณี แผนธรณีแตละแผน 1. แผนธรณีแยกตัวออกจากกัน (divergent plate boundary) เมื่อแผ่นธรณีเคลื่อนที่
มีรูปแบบการเคลื่อนที่ที่แตกตางกัน) แยกออกจากกัน หินหนืด จากชั้นเนื้อโลกจะแทรกตัวขึ้นมาตามช่องว่างตามแนวการแยกตัว เมื่อ
• จากทฤษฎีการแผขยายพื้นมหาสมุทร แผน หินหนืดเย็นตัวก็จะกลายเป็นแผ่นเปลือกโลกใหม่ อีกทั้งการแทรกตัวขึ้นมาของหินหนืดยังท�าให้
ธรณีบริเวณที่มหาสมุทรมีการแผขยายมีรูป แนวแยกตัวนั้นสูงขึ้นกลายเป็นแนวเทือกเขา ซึ่งส่วนมากพบอยู่ใต้มหาสมุทร โดยธรณีสัณฐาน
แบบการเคลื่อนที่อยางไร ที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีแบบนี้ ได้แก่ สันเขากลางมหาสมุทร และหุบเขาทรุด เช่น
(แนวตอบ แผนธรณีเคลือ่ นทีแ่ ยกออกจากกัน) สันเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก หุบเขาทรุดแอฟริกาตะวันออก
• นักเรียนคิดวาแผนธรณีมรี ปู แบบการเคลือ่ นที่ บางกรณีการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นกลางแผ่นทวีป ซึ่งอาจท�าให้
เปนแบบใดไดอีก เกิดเป็นทะเลใหม่ขึ้น เช่น ทะเลแดง
(แนวตอบ แผนธรณีเคลื่อนที่หากัน แผนธรณี
เคลื่ อ นที่ ผ  า นกั น หรื อ นั ก เรี ย นตอบตาม
ความคิดของตนเอง)
3. ครูถามคําถาม prior knowledge จากหนังสือ
เรียน หนา 28 วา แผนธรณีเคลื่อนที่ไดอยางไร

ภาพที่ 2.17 แนวแผ่นธรณีแยกตัวออกจากกัน


แนวตอบ Prior Knowledge
28
แผนธรณีเคลื่อนที่ไดเนื่องจาก วงจรการพา การเคลื่อนที่ของแผนธรณี
ความรอนภายในโลก

สื่อ Digital ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET


ศึกษาเพิม่ เติมไดจากการสแกน QR code เรือ่ ง การเคลือ่ นทีข่ องแผนธรณี สาเหตุที่ทําใหแผนธรณีภาคเคลื่อนที่คือขอใด
1. การปะทุของหินแข็งในชั้นเปลือกโลก
2. การไหลวนของหินหนืดในชั้นเนื้อโลก
3. การเปลี่ยนแปลงของสนามแมเหล็กโลก
4. การเคลื่อนที่ของแรธาตุในแกนโลกชั้นใน
5. การแทรกตัวขึ้นมาของแรธาตุจากแกนโลกชั้นนอก
(วิเคราะหคําตอบ สาเหตุที่ทําใหแผนธรณีภาคเคลื่อนที่ เกิดจาก
การที่หินหนืดชั้นเนื้อโลกไดรับความรอนจากแกนโลก แลวมีการ
หมุนวนจากดานลางสูดานบน และจมลงสูดานลางเรื่อยไป จึง
ทําใหเกิดแรงผลักดันใหแผนธรณีภาคเกิดการเคลื่อนที่ ดังนั้น
ตอบขอ 2.)

T32
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
2. แผนธรณีเคลือ่ นทีเ่ ข้าหากัน (convergent plate boundary) แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ 1. ครูใหนักเรียนนับจํานวน 1 - 3 วนไปเรื่อย ๆ
ตามประเภทของแผ่นธรณีที่เคลื่อนที่เข้าหากัน จนครบทุกคน เพื่อแบงนักเรียนออกเปนกลุม
1) แผนธรณีมหาสมุทรเคลือ่ นทีเ่ ข้าหาแผนธรณีมหาสมุทร (ocean-ocean convergent กลุมละ 3 คน โดยคนที่นับจํานวนเดียวกันให
boundary) เมื่อแผ่นธรณีมหาสมุทรสองแผ่นเคลื่อนที่มาปะทะกัน แผ่นธรณีที่มีอายุมากกว่า อยูกลุมเดียวกัน
มีอุณหภูมิต�่ากว่า และมีความหนาแน่นมากกว่า จะจมตัวลงในเขตมุดตัว ท�าให้เกิดร่องลึก 2. ครูแจงจุดประสงคของการทํากิจกรรม จากนัน้
ก้นมหาสมุทร และเมื่อเปลือกโลกมหาสมุทรและเนื้อโลกบางส่วนหลอมละลายกลายเป็นหินหนืด ครูแจกใบกิจกรรม กิจกรรมธรณีสณ ั ฐานทีเ่ กิด
ซึง่ มีความหนาแน่นต�า่ กว่าเนือ้ โลกในชัน้ ฐานธรณีภาค หินหนืดนัน้ จึงลอยตัวขึน้ ดันพืน้ ผิวโลก ท�าให้ จากการเคลื่อนที่ของแผนธรณี ใหนักเรียน
เกิดหมู่เกาะภูเขาไฟรูปโค้ง เรียงตัวขนานกับแนวร่องลึกก้นมหาสมุทร ตัวอย่างหมู่เกาะภูเขาไฟ (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
ที่เกิดขึ้นด้วยกระบวนการนี้ เช่น หมู่เกาะฟลิปปน หมู่เกาะญี่ปุ่น แบบประเมินการปฏิบัติกิจกรรม)
3. ใหนักเรียนแตละกลุมทํากิจกรรมตามขั้นตอน
ดังนี้
1) ใหนักเรียนศึกษาภาพทิศทางการเคลื่อนที่
ของแผนธรณี
2) ใหนักเรียนใชโปรแกรม google earth
สํารวจธรณีสัณฐานบริเวณแนวรอยตอของ
ภาพที่ 2.18 แผ่นธรณีมหาสมุทรเคลื่อนที่เข้าหาแผ่นธรณีมหาสมุทร
แผนธรณี
2) แผนธรณีทวีปเคลื่อนที่เข้าหาแผนธรณีมหาสมุทร (continent-ocean convergent 3) วิเคราะหขอมูลที่สํารวจได และหาความ
boundary) แผ่นธรณีมหาสมุทรองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นหินบะซอลต์ จึงมีความหนาแน่นมากกว่า สัมพันธระหวางธรณีสณ ั ฐานกับรูปแบบการ
แผ่นธรณีทวีปซึ่งองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นหินแกรนิต เมื่อแผ่นธรณีทั้งสองเคลื่อนที่มาปะทะ เคลื่อนที่ของแผนธรณี
กัน แผ่นธรณีมหาสมุทรจะจมตัวลงและหลอมละลายกลายเป็นหินหนืด ซึ่งหินหนืดจะลอยตัวขึ้น 4) พิจารณาขอมูลที่สํารวจไดทั้งหมด แลวนํา
ดันเปลือกโลกทวีปท�าให้เกิดเป็นเทือกเขาสูง เกิดแนวภูเขาไฟตามชายฝังขนานกั มาสรุปเปนรูปแบบการเคลื่อนที่ของแผน
1 บร่องลึก
ก้นมหาสมุทร ตัวอย่างเทือกเขาที่เกิดขึ้นด้วยกระบวนการนี้ เช่น เทือกเขาแอนดีส บริเวณชายฝัง ธรณี และธรณีสัณฐานที่เกิดขึ้นจากการ
ตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ เคลื่อนที่ของแผนธรณีแตละรูปแบบ ในรูป
แบบแผนภาพ หรือ infographic
5) ครูและนักเรียนรวมกันพิจารณาแผนภาพ
หรือ infographic เพื่อชวยกันตรวจสอบ
ขอมูล
4. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า
ภาพที่ 2.19 แผ่นธรณีทวีปเคลื่อนที่เข้าหาแผ่นธรณีมหาสมุทร กิ จ กรรม โดยให นั ก เรี ย นทั้ ง ห อ งร ว มกั น
ธรณี 29
อภิปรายและสรุปผลการทดลองรวมกัน
แปรสัญฐาน

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET นักเรียนควรรู


สันเขาใตมหาสมุทรเกิดขึน้ ไดอยางไร 1 เทือกเขาแอนดีส เปนเทือกเขาทีย่ าวทีส่ ดุ ในโลก ซึง่ มีความยาวกวา 4,500
1. แผนธรณีภาคเคลื่อนที่ชนกัน ไมล ผาน 6 ประเทศตัง้ แตโคลอมเบีย เอกวาดอร เปรู โบลิเวีย อารเจนตินา และ
2. แผนธรณีภาคเคลื่อนที่สวนกัน ชิลี แนวเทือกเขาแอนดีสวางตัวขนานกับดานตะวันตกของทวีปอเมริกาใต และมี
3. แผนธรณีภาคเคลื่อนที่แยกจากกัน ความสูงขึน้ เรือ่ ยๆ ทุกป โดยยอดเขาทีส่ งู ทีส่ ดุ คือ ยอดเขาอะคองกากัว
4. แผนธรณีภาคเคลือ่ นทีไ่ ปทางเดียวกัน
5. แผนธรณีภาคเคลื่อนที่กลับไปกลับมา
(วิเคราะหคําตอบ สาเหตุที่ทําใหแผนธรณีภาคเคลื่อนที่ เกิดจาก
การที่หินหนืดชั้นเนื้อโลกไดรับความรอนจากแกนโลก แลวมีการ
หมุนวนจากดานลางสูดานบน และจมลงสูดานลางเรื่อยไป จึง
ทําใหเกิดแรงผลักดันใหแผนธรณีภาคเกิดการเคลื่อนที่ ดังนั้น
ตอบขอ 3)

T33
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
5. ครูใหนักเรียนจับคูเพื่อนรวมชั้นเรียนแลวรวม 3) แผนธรณีทวีปเคลื่อนที่เข้าหาแผนธรณีทวีป (divergent plate boundary) เมื่อแผ่น
กันสืบคนขอมูลเกี่ยวกับเรื่องการเคลื่อนที่ของ ธรณีทวีปเคลือ่ นทีม่ าปะทะกัน แผ่นธรณีหนึง่ จะมุดตัวลงสูช่ นั้ ฐานธรณีภาค ส่วนอีกแผ่นหนึง่ จะถูก
แผนธรณีรูปแบบตางๆ ดังนี้ ยกเกยสูงขึน้ กลายเป็นเทือกเขาสูง ทอดตัวเป็นแนวยาวขนานกั
1 บแนวปะทะ ตัวอย่างเทื
2 อกเขาสูงที่
• แผนธรณีมหาสมุทรเคลื่อนที่แยกออกจาก เกิดขึ้นด้วยกระบวนการนี้ เช่น เทือกเขาหิมาลัย ในประเทศเนปาล เทือกเขาแอลป ในทวีปยุโรป
แผนธรณีมหาสมุทร
• แผนธรณีทวีปเคลื่อนที่แยกออกจากแผน
ธรณีทวีป
• แผนธรณีทวีปเคลื่อนที่หาแผนธรณีทวีป
• แผนธรณีมหาสมุทรเคลื่อนที่หาแผนธรณี
มหาสมุทร
• แผนธรณีทวีปเคลือ่ นทีห่ าแผนธรณีมหาสมุทร
• แผนธรณีทวีปเคลื่อนที่ผานแผนธรณีทวีป
• แผนธรณีมหาสมุทรเคลื่อนที่ผานแผนธรณี
ภาพที่ 2.20 แผ่นธรณีทวีปเคลื่อนที่เข้าหาแผ่นธรณี
มหาสมุทร
โดยนักเรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือ 3. แผนธรณีเคลื่อนที่ผานกันตามแนวระดับ (transform plate boundary) เมื่อแผ่น
แหลงเรียนรูอื่นๆ แลวนําขอมูลมาแลกเปลี่ยน ธรณี 2 แผ่นเคลื่อนที่สวนกัน จะท�าให้เกิดรอยเลื่อนขนาดใหญ่ ซึ่งมักเกิดขึ้นในบริเวณเทือกเขา
ความคิดเห็น และรวมกันตั้งประเด็นคําถาม กลางมหาสมุทร แต่บางกรณีอาจเกิดขึน้ บริเวณ
เกี่ยวกับเรื่องที่สืบคนมา ชายฝัง และหากแผ่นธรณีเคลื่อนที่ปะทะกัน
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช อย่างรุนแรงจะท�าให้เกิดการสัน่ สะเทือนจนท�าให้
แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล) เกิดแผ่นดินไหวได้
6. ใหนกั เรียนรวมกลุม กับเพือ่ นอีกคูห นึง่ รวมเปน รอยเลื่อนซานแอนเดรียส (San Andreas
4 คน แลวแลกเปลี่ยนกันถามคําถามที่ตั้งไว Fault) ประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดจากการ
จากนัน้ รวมกันสรุปเพือ่ เตรียมนําเสนอหนาชัน้ เคลื่ อ นที่ ผ ่ า นกั น ตามแนวระดั บ ระหว่ า ง
เรียน แผ่ น เปลื อ กโลกแปซิ ฟ  ก กั บ แผ่ น เปลื อ กโลก
7. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมา อเมริกาเหนือ มีีความยาวประมาณ 1,200
นําเสนอคําถามของกลุม ตนเอง โดยใหนกั เรียน กิโลเมตร
ทัง้ หองรวมกันตอบคําถาม และอภิปรายรวมกัน ภาพที่ 2.21 รอยเลื่อนซานแอนเดรียส รัฐแคลิฟอร์เนีย
ประเทศสหรัฐอเมริกา
(ที่มาของภาพ : http://www.thulescientific.com/media.htm)

30

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET


1 เทือกเขาหิมาลัย เปนเทือกเขาในทวีปเอเชียที่ทอดยาวพาดผานพื้นที่ 5 รอยเลือ่ นซานแอนเดรียสทีเ่ กิดขึน้ ในประเทศสหรัฐอเมริกาเปน
ประเทศ ไดแก ปากีสถาน อินเดีย จีน ภูฏาน และเนปาล มียอดเขาที่สูงที่สุด รอยเลื่อนแบบใด
ในโลก คือ ยอดเขาเอเวอเรสต 1. รอยเลื่อนปกติ
2 เทือกเขาแอลป อยูในทวีปอยูยุโรป ทอดยาวตั้งแตประเทศฝรั่งเศส อิตาลี 2. รอยเลื่อนยอน
สวิสเซอรแลนด และออสเตรีย โดยมียอดเขามองบลังต (Montblanc) ที่มีความ 3. รอยเลื่อนยอนมุมตํ่า
สูงประมาณ 4,810 เมตร เปนยอดที่สูงที่สุด และยังเปนยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีป 4. รอยเลื่อนตามแนวมุมเท
ยุโรปอีกดวย 5. รอยเลื่อนตามแนวระดับ
(วิเคราะหคําตอบ รอยเลื่อนซานแอนเดรียสเกิดจากการเคลื่อนที่
ผานกันตามแนวระดับระหวางแผนเปลือกโลกแปซิฟกกับแผน
เปลือกโลกอเมริกาเหนือ ดังนั้น ตอบขอ 5.)

T34
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
จากลักษณะการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีทั้ง 3 รูปแบบ ท�าให้เกิดลักษณะธรณีสัณฐาน ได้แก่ 1. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อใหไดขอ
ร่องลึกก้นสมุทร แนวภูเขาไฟ แนวเทือกเขา หุบเขาทรุด และเทือกเขาใต้มหาสมุทร ตัวอย่างเช่น สรุปเกีย่ วกับรูปแบบการเคลือ่ นทีข่ องแผนธรณี
2. ครูใหนักเรียนเขียนสรุปเกี่ยวกับรูปแบบการ
ร อ งลึ ก ก้ น สมุ ท ร เกิ ด จากการที่ แ ผ่ น เปลื อ กโลก เคลื่อนที่ของแผนธรณีในรูปแบบที่นักเรียนคิด
มหาสมุทรสองแผ่นเคลือ่ นทีช่ นกันแล้วเกิดการมุดตัว วานาสนใจและงายตอการเขาใจ โดยเขียนลง
มีลักษณะเป็นร่องลึกแคบยาวและขอบสูงชัน อยู่ที่ ในกระดาษ A4 แลวนํามาสงครูเปนรายบุคคล
พื้นท้องทะเลและมหาสมุทร เช่น ร่องลึกก้นสมุทร
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
มาเรียนา ร่องลึกก้นสมุทรตองกา ร่องลึกก้นสมุทร รองลึกก้นสมุทร
เปอร์โตริโก
เปอร์โตริโก แบบประเมินชิ้นงาน/ผลงาน)
3. ครูมอบหมายการบานใหนกั เรียนทําแบบฝกหัด
เรื่อง รูปแบบการเคลื่อนที่ของแผนธรณี จาก
ภาพที่ 2.22 ร่องลึกก้นสมุทรเปอร์โตริโก เป็นร่องลึก
ก้นสมุทรที่มีความลึกมากที่สุดในมหาสมุทรแอตแลนติก แบบฝกหัดรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร โลก
(ที่มาของภาพ : https://commons.wikimedia.org/ ดาราศาสตร และอวกาศ ม.4 เลม 1 หนวย
wiki/File:Atlantic-trench.JPG)
การเรียนรูที่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน
เทือกเขา เกิดจากการมุดตัวของแผ่นธรณีมหาสมุทร
ซึ่งท�าให้แผ่นธรณีทวีปโก่งตัวขึ้นเกิดเป็นแนวเทือก
เขาขนาดใหญ่ เช่น เทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาร็อกกี
เทือกเขาแอนดีส

ภาพที่ 2.23 เทือกเขาแอนดีส ในทวีปอเมริกาใต้


(ทีม่ าของภาพ : https://commons.wikimedia.org/wiki/
File:Andes_-_punta_arenas.jpg)

หมูเกาะภูเขาไฟรูปโค้ง เป็นหมู่เกาะประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการ
เคลือ่ นทีข่ องแผ่นธรณีมหาสมุทรมุดตัวลงใต้แผ่นธรณีอกี แผ่นหนึง่ ท�าให้
เกิดหินหนืด (magma) หมู่เกาะรูปโค้งที่เกิดขึ้นตามขอบของ
แผ่นธรณีทวีป เช่น หมู่เกาะญี่ปุ่น หมู่เกาะฟลิปปน

ภาพที่ 2.24 ประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่บนหมู่เกาะภูเขาไฟรูปโค้ง

ธรณี 31
แปรสัญฐาน

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET สื่อ Digital


การเกิดรองลึกกนมหาสมุทรมาเรียนา เปนการเคลือ่ นทีส่ มั พันธ ศึกษาเพิม่ เติมไดจากภาพยนตรสารคดีสนั้ Twig เรือ่ ง ธรณีสณ
ั ฐานแผนธรณี
กันของแผนธรณีภาคในลักษณะใด ภาค https://www.twig-aksorn.com/fiffl ilm/plate-tectonics-7979/
1. การเคลื่อนที่แบบผานกัน
2. การเคลื่อนที่แบบเขาหากัน
3. การเคลื่อนที่แบบกลับไปกลับมา
4. การเคลือ่ นทีแ่ บบแยกออกจากกัน
5. การเคลื่อนที่แบบไปในทิศทางเดียวกัน
(วิเคราะหคําตอบ รองลึกกนมหาสมุทรมาเรียนา เกิดจากการ
ชนกันของแผนธรณีภาค ระหวางแผนธรณีแปซิฟกกับแผนธรณี
ฟลิปปนส เปนรองลึกกนมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลก โดยมีความ
ลึกมากสุดถึง 10.911 เมตรจากระดับนํ้าทะเล ดังนั้น ตอบขอ 2.)

T35
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คนอยาง นอกจากนี้ การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีทั้ง 3 รูปแบบ ยังเป็นสาเหตุท�าให้เกิดปรากฏการณ์
อิสระ โดยสมาชิกในกลุมจะตองไมซํ้ากับการ ทางธรณีวิทยา ตัวอย่างเช่น
จับกลุมในชั่วโมงที่ผานมา
2. ครูแจงจุดประสงคของการทํากิจกรรม จากนัน้ แผ่นดินไหว (earthquake)
ครูแจกใบกิจกรรม กิจกรรมการเปลีย่ นลักษณะ แผ่นธรณีทวีปเคลื่อนที่แยกจากกัน
ของเปลือกโลกใหนักเรียน จากการเคลื่ อ นที่ ข อง
แผ่นธรณี ท�าให้หินที่เป็นส่วน แผ่นธรณีทวีปเคลื่อนที่ชนกัน
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
ประกอบหลักของเปลือกโลก แผ่นธรณีทวีปเคลื่อนที่ชนกับ
แบบประเมินการปฏิบัติกิจกรรม) แผ่นธรณีมหาสมุทร
เกิดการเคลื่อนที่หรือแตกหัก
3. ครูใหนกั เรียนแตละกลุม ทํากิจกรรมการเปลีย่ น
ส่ ง ผลให้ พ ลั ง งานที่ ส ะสมอยู ่ แผ่นธรณีมหาสมุทร
ลักษณะของเปลือกโลก ตามขั้นตอนที่ระบุใน ในหิ น ซึ่ ง เป็ น พลั ง งานศั ก ย์ เคลื่อนที่แยกจากกัน
ใบกิจกรรม ดังนี้ เปลี่ยนสภาพเป็นพลังงานจลน์
1) ปน ดินมันใหเปนรูปสีเ่ หลีย่ ม ขนาดประมาณ ท�าให้เกิดการถ่ายโอนพลังงาน
กวาง 5 เซนติเมตร ยาว 10 เซนติเมตร สูง ออกมาในรูปคลื่นไหวสะเทือน
คลื่นไหวสะเทือน

1 เซนติเมตร จํานวน 4 แผนใหมีสีตางกัน (seismic waves) จากจุดก�าเนิด จุดก�าเนิดแผ่นดินไหว


2) นําดินนํา้ มัน 3 แผนวางซอนกัน แลวออกแรง แผ่นดินไหว (earthquake focus)
การไหลเวียนของหินหนืดในชั้นเนื้อโลก
ดันเขาหากัน สังเกตการเปลี่ยนแปลงและ ที่ แ พร่ ก ระจายออกไปในทุ ก ส่งผลให้แผ่นธรณีเคลื่อนที่
บันทึกผล ทิศทาง แผ่นธรณีเคลื่อนที่สวนทางกัน
3) นํามาดินนํ้ามัน 1 แผน มาออกแรงดึงทั้ง ภาพที่ 2.25 การเกิดแผ่นดินไหว
สองขาง สังเกตการเปลีย่ นแปลงและบันทึกผล ชาลส เอฟ ริกเตอร
4) เปลี่ ย นจากดิ น นํ้ า มั น เป น ขนมป ง กรอบ Charles F. Richter Earth Science
in real life
ออกแรงดันเขาหากัน สังเกตการเปลีย่ นแปลง ก�าหนดตารางมาตรฐานเพื่อ
อธิบายขนาดของแผ่นดินไหว ซึง่ การปฏิบัติตัวเพื่อปองกันความ
และบันทึกผล เรียกว่า มาตราริกเตอร์ (Richter เสียหายกอนเกิดแผนดินไหว
5) นําขนมปงกรอบมาออกแรงดึงทั้งสองขาง magnitude scale) โดยการวัดค่า 1. ควรล็อกตู้เก็บของหรือชั้น
พลังงานที่ถูกปลดปล่อยออกมา วางหนังสือให้เรียบร้อยเพื่อ
สังเกตการเปลี่ยนแปลงและบันทึกผล ช่ ว ยป อ งกั น ไม่ ใ ห้ สิ่ ง ของ
ภาพที่ 2.26 ชาลส์ เอฟ ริกเตอร์ จากจุดก�าเนิดแผ่นดินไหว ซึ่งใช้
ตัวเลขตั้งแต่ 0 ถึง 10 แทนความรุนแรงของแผ่นดินไหว ตกหล่นลงมา ระหว่างทีเ่ กิด
ความรุ น แรงของแผ่ น ดิ น ไหวขึ้ น อยู ่ กั บ องค์ ป ระกอบหลั ก เหตุแผ่นดินไหว
4 ประการ ได้แก่ ระดับพลังงานที่ได้รับ สมบัติของหินในการปลด 2. เตรียมพร้อมเคลือ่ นย้ายไปสู่
ปล่อยพลังงานจากจุดก�าเนิดแผ่นดินไหว ความลึกของจุดก�าเนิดแผ่น สถานทีป่ ลอดภัย เช่น ใต้โตะ
ดินไหว และวัสดุที่รองรับพื้นผิวโลกบริเวณนั้น ๆ หรือที่โล่งแจ้ง เป็นต้น

32

เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET


ในการเรียนการสอนเรื่อง การเคลื่อนที่ของแผนธรณี ครูควรใหนักเรียนทํา บริเวณใดเกิดแผนดินไหวบอย
กิจกรรมแบบการเปลีย่ นแปลงลักษณะของเปลือกโลก ตามขัน้ ตอนทีไ่ ดระบุไวใน 1. บริเวณที่แผนเปลือกโลกบาง
ใบกิจกรรมที่ 2.3 โดยครูอาจใชรปู แบบการเรียนรูแ บบรวมมือมาจัดกระบวนการ 2. บริเวณที่มีปริมาณแมกมามาก
เรียนรู มาใชในการทํากิจกรรม โดยกําหนดใหสมาชิกแตละคนภายในกลุม 3. บริเวณรอยตอของแผนธรณีภาค
มีบทบาทหนาที่ของตนเอง ดังนี้ 4. บริเวณที่แผนเปลือกโลกหนามาก
สมาชิกคนที่ 1 ทําหนาที่เตรียมวัสดุอุปกรณ 5. บริเวณที่มีความรอนใตเปลือกโลกมาก
สมาชิกคนที่ 2 ทําหนาที่อานวิธีการทําการทํากิจกรรม และนํามาอธิบายให (วิเคราะหคําตอบ บริเวณรอยตอของแผนธรณีเปนบริเวณที่เกิด
สมาชิกภายในกลุมฟง แผนดินไหวไดบอย ดังนั้น ตอบขอ 3.)
สมาชิกคนที่ 3 ทําหนาที่บันทึกผลการทํากิจกรรม

T36
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจคนหา
การระเบิดของภูเขาไฟ (volcanic eruption) 4. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า
กิ จ กรรม โดยครู ตั้ ง คํ า ถามเพื่ อ ให นั ก เรี ย น
ใต้ ชั้ น เปลื อ กโลกบางบริ เ วณ
แตละกลุมรวมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้
มีหินหนืดที่มีความร้อนสูงไหลเวียน
อยู่ตลอดเวลา เมื่อมีรอยแยกในหิน • ดินนํ้ามันมีการเปลี่ยนแปลงอยางไร เมื่อถูก
เปลือกโลก หินหนืดจึงดันตัวออกมา แรงมากระทํา
ตามรอยแยกได้ และด้วยแรงอัดทีเ่ กิด แกสต่าง ๆ ได้แก่ (แนวตอบ เมือ่ ออกแรงดันดินนํา้ มันจะโกงตัวขึน้
คาร์บอนไดออกไซด์
จากการดันตัวผ่านหินในเปลือกโลกจึง ไนโตรเจนออกไซด์ เมือ่ ออกแรงดึงดินนํา้ มันจะขาดออกจากกัน)
ท�าให้เกิดภูเขาไฟปะทุขึ้น ปากปล่องภูเขาไฟ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ • การเปลี่ ย นแปลงของดิ น นํ้ า มั น เปรี ย บ
และไอน�้า
หินหนืดแทรกตัวขึ้นมา
เทียบกับการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกได
หินละลายหรือลาวา (lava)
คือ หินหนืดที่ดันตัวออก ตามรอยแยกของหิน อยางไร
มาสู่ผิวโลกมีอุณหภูมิ กรวยปะทุย่อย (แนวตอบ เปลือกโลกที่มีสมบัติเปนของแข็ง
ประมาณ 900 -1,300 �C
ซึ่งการไหลของลาวาขึ้นอยู่กับ แบบพลาสติกคลายกับดินนํ้ามันจะมีการ
องค์ประกอบของลาวา โดยหากมี เปลีย่ นแปลงคลายกับดินนํา้ มัน เกิดเปนรอย
แกสเป็นองค์ประกอบอยู่มาก จะไหล
ได้เร็ว และไกล แต่หากมีแกสเป็น คดโคง หรือแนวเทือกเขา)
องค์ประกอบอยู่น้อย จะไหลได้ช้าและใกล้ • ขนมปงกรอบมีการเปลีย่ นแปลงอยางไร เมือ่
การไหลเวียนของหินหนืด
ในชั้นเนื้อโลก ถูกแรงมากระทํา
ภาพที่ 2.27 การระเบิดของภูเขาไฟ (แนวตอบ เมือ่ ออกแรงดันขนมปงกรอบจะโกง
ตัวขึน้ เล็กนอยและแตกหักออกจากกัน เมือ่
คลืน
่ สึนามิ (Tsunami)
ออกแรงดึงขนมปงกรอบจะแตก และแยก
เมือ่ พลังงานจากการเกิดแผ่นดินไหวใต้มหาสมุทรถูกถ่ายทอดขึน้ สูผ่ วิ น�า้ แล้วขยายตัวไปใน ออกจากกัน)
ทุกทิศทางท�าให้เกิดคลื่นยักษ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าคลื่นผิวน�้าปกติหลายสิบเท่าพัดเข้าสู่ชายฝัง • การเปลี่ยนแปลงของขนมปงกรอบ เปรียบ
เทียบกับการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกได
อยางไร
(แนวตอบ เปลือกโลกที่มีสมบัติเปนของแข็ง
แบบแข็งแกรงคลายกับขนมปงกรอบจะมีการ
เปลีย่ นแปลงคลายกับขนมปงกรอบ เกิดเปน
รอยแตก หรือรอยเลือ่ น)
5. ครู ใ ห นั ก เรี ย นแต ล ะกลุ  ม ร ว มกั น เขี ย นสรุ ป
ภาพที่ 2.28 การเกิดคลื่นสึนามิ ผลและอภิปรายผลการทํากิจกรรมของกลุม
ธรณี 33
ตนเองแลวนํามาสงครู
แปรสัญฐาน

ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู


การเคลื่อนที่ของแผนธรณีภาคทําใหเกิดสิ่งใดบาง ศูนยเตือนภัยพิบตั แิ หงชาติเปนหนวยงานหลักในการใหขอ มูลและเตือนภัย
( แนวตอบ การเคลื่ อ นที่ ข องแผ น ธรณี ภ าค จะทํ า ให เ กิ ด ธรรมชาติทคี่ รบถวน ถูกตอง ชัดเจน และทันเวลา เพือ่ ใหความมัน่ ใจแกสาธารณชน ครู
ภูมิประเทศลักษณะตางๆ เชน เทือกเขา หุบเขา ที่ราบสูง รอง จึงสามารถเขาไปศึกษาและหาขอมูลทีเ่ กีย่ วกับแผนดินไหว สึนามิ และขอมูลตางๆ
ลึกในมหาสมุทร เปนตน ทั้งยังอาจกอนใหเกิดปรากฏการณทาง ที่เปนประโยชนตอการเรียนการสอนไดจากหนวยงานนี้ โดยเขาไปที่เว็บไซต
ธรรมชาติบางอยาง เชน แผนดินไหว ภูเขาไฟปะทุ นอกจากนี้ http://www.ndwc.go.th/
ยังทําใหเกิดรอยคดโคงหรือรอยเลื่อนในชั้นหินอีกดวย)

T37
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
ทวีปยุโรป

สํารวจค้นหา
6. ครูใหนกั เรียนจับคูก บั เพือ่ นรวมชัน้ เรียนสืบคน
Summary ทวีปเอเชีย

ขอมูลเกี่ยวกับเรื่องผลที่เกิดจากการเคลื่อนที่ ธรณีแปรสัณฐาน
ของแผนธรณี ดังนี้ ทวีปอเมริกาใต

ทวีปแอฟริกา ทวีปออสเตรเลีย
และโอเชียเนีย

- รูปรางของทวีปในอนาคต ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน
- ผลกระทบตอสภาพภูมิอากาศ
ทฤษฎีทวีปเลื่อน
- ผลกระทบตอสิ่งมีชีวิต
อัลเฟรด เวเกเนอร์ (Alfred Wegener) ได้นา� เสนอเกีย่ วกับทฤษฎีทวีปเลือ่ น
โดยนักเรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือ ว่า เมื่อประมาณ 200 - 300 ล้านปที่ผ่านมา แผ่นดินทั้งหมดในโลกรวมเป็น
แหลงเรียนรูอื่นๆ แลวนําขอมูลมาแลกเปลี่ยน ผืนเดียวกัน เรียกว่า “พันเจีย” ต่อมา ในยุคไทรแอสซิกทวีปที่เดิมเคยเป็น
ความคิดเห็น และรวมกันตั้งประเด็นคําถาม ผืนแผ่นเดียวกันค่อย ๆ เริม่ มีการแยกตัวออกจากกัน โดยทวีปอเมริกาเหนือ
เกี่ยวกับเรื่องที่สืบคนมา และอเมริกาใต้จะค่อย ๆ แยกจากทวีปแอฟริกา และทวีปยุโรป จึงท�าให้ขนาด
ของมหาสมุทรแอตแลนติกกว้างยิง่ ขึน้ เรียกการเคลือ่ นทีข่ องทวีปดังกล่าวว่า
“ทวีปเลื่อน” ข้อมูลและหลักฐานอื่น ๆ ที่มาสนับสนุนแนวคิด ได้แก่
อธิบายความรู้
ซากดึกดําบรรพ กลุมหินและแนวเทือกเขา ภาวะแมเหล็กโลกบรรพกาล ภาพที ่ 2.29 การเชือ่ มกันของทวีป
1. ใหนกั เรียนรวมกลุม กับเพือ่ นอีกคูห นึง่ รวมเปน ในอดีต
อายุหินบริเวณพื้นสมุทร หลักฐานที่เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนจากธารนํ้าแข็ง
4 คน แลวแลกเปลี่ยนกันถามคําถามที่ตั้งไว
จากนัน้ รวมกันสรุปเพือ่ เตรียมนําเสนอหนาชัน้ ทฤษฎีการแผขยายพื้นสมุทร
เรียน ทฤษฎีการขยายตัวของพื้นมหาสมุทรที่เสนอโดยแฮร์รี แฮมมอนด์ เฮสส์ (Harry Hammond Hess) เป็น
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช ทฤษฎีต่อยอดจากแนวคิดทวีปเลื่อนของอัลเฟรด เวเกเนอร์ (Alfred Wegener) โดยทฤษฎีนี้ได้อธิบายถึง
แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม) สาเหตุของการขยายตัวของพืน้ มหาสมุทรว่า พืน้ มหาสมุทรมีการแผ่ขยายออกไปจากแนวสันเขากลางสมุทร
2. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมานํา เนื่องจากการแทรกดันของแมกมาขึ้นมาบนเปลือกโลก ดันเปลือกโลกให้แยกออกจากกัน
สันเขา หุบเขาทรุด
เสนอคําถามของกลุมตนเอง โดยใหนักเรียน
ทั้งหองรวมกันตอบคําถาม และอภิปรายรวม
กัน เปลือกโลกทวีป เปลือกโลกทวีป

แมกมา แมกมา
1. เปลือกโลกโก่งตัวขึ้น เนื่องจากการแทรกตัวของแมกมา 2. เปลือกโลกส่วนที่บางจะทรุดตัวเกิดเป็นหุบเขาทรุด

เปลือกโลกมหาสมุทร

แมกมา เปลือกโลกมหาสมุทร แมกมา เปลือกโลกมหาสมุทร


3. น�้าทะเลไหลเข้าสู่ร่องที่เกิดจากการทรุดตัวของเปลือกโลก 4. ลาวาแข็งตัวอย่างต่อเนื่องท�าให้เปลือกโลกมหาสมุทรขยาย
พื้นที่มากขึ้น
ภาพที่ 2.30 การแผ่ขยายพื้นสมุทร
34

เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด


การเรียนการสอน เรือ่ ง ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน ครูควรนําแผนที่ แบบจําลอง ใหนักเรียนนําหลักแนวคิดของนักวิทยาศาสตรมาอธิบายการ
การเปลีย่ นแปลงแผนธรณี คลิปวิดโี อทีแ่ สดงกระบวนการเปลีย่ นแปลงแผนธรณี เกิดเทือกเขาหิมาลัย
มาใชประกอบการสอน และควรใหนักเรียนไดทํากิจกรรมระหวางศึกษาทฤษฎี (แนวตอบ เนือ่ งจากแผนออสเตรเลียและแผนยูเรเชียมีความหนา
ทวีปเลื่อนและทฤษฎีการแผขยายพื้นสมุทร ทั้งนี้เพื่อใหนักเรียนเกิดความเขาใจ มาก เมื่อเกิดการชนกันของแผนธรณี จึงทําใหแผนออสเตรเลีย
ในเนื้อหาไดงายขึ้น เลือ่ นชนมุดดันลงใตแผนยูเรเชียแลวดันใหลอยขึน้ จนเกิดเทือกเขา
สูงแนวยาวอยูในแผนธรณีทวีป ซึ่งเรียกวา เทือกเขาหิมาลัย)

T38
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สรุป
ขยายความเข้าใจ
ทวีปเอเชีย

ทฤษฎีการแปรสัณฐาน 1. ครูใหนักเรียนทําใบงาน เรื่อง การเคลื่อนที่


การเคลื่อนที่และปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันของแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า แผ่นเปลือกโลก นั้นมีความเกี่ยวข้อง ของแผนธรณี โดยสรุปความรู เรื่อง รูปแบบ
อย่างมากกับการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวโลกตลอดช่วงธรณีกาล แผ่นเปลือกโลกเหล่านี้หมายถึงแผ่นธรณีภาค การเคลื่อนที่ของแผนธรณี ในรูปของแผนผัง
(lithosphere) ที่ประกอบด้วยเปลือกโลก (crust) และชั้นเนื้อโลกส่วนบน (upper mantle) โดยแผ่นธรณีภาค ความคิดใหมีความถูกตองและนาสนใจ แลว
วางตัวอยู่บนชั้นหินหนืดร้อนที่สามารถไหลได้คล้ายของเหลว เรียกว่า หินฐานธรณีภาค (asthenosphere)
นํามาสงครู
2. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเนื้อหาเกี่ยวกับรูป
รูปแบบการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี แบบการเคลื่อนที่ของแผนธรณี และผลที่เกิด
แผนธรณีแยกตัวออกจากกัน (divergent plate boundary) จากการเคลื่อนที่ของแผนธรณี
เมื่อแผ่นธรณีเคลื่อนที่แยกออกจากกัน หินหนืด จากชั้นเนื้อโลกจะแทรกตัวขึ้นมาตามช่องว่างตามแนว 3. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียนเพื่อ
การแยกตัว เมื่อหินหนืดเย็นตัวก็จะกลายเป็นแผ่นเปลือกโลกใหม่ อีกทั้งการแทรกตัวขึ้นมาของหินหนืดยัง เปนการประเมินความรูที่นักเรียนไดจากการ
ท�าให้แนวแยกตัวนั้นสูงขึ้นกลายเป็นแนวเทือกเขา
ทํากิจกรรม
4. ครูมอบหมายการบานใหนกั เรียนทําแบบฝกหัด
จาก Unit Question 2 ในหนังสือเรียนหนา 37
ภาพที่ 2.31 แนวแผ่นธรณีแยกตัวออกจากกัน

แผนธรณีเคลื่อนที่เข้าหากัน (convergent plate boundary)


แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ตามประเภทของแผ่นธรณีที่เคลื่อนที่เข้าหากัน

ภาพที่ 2.32 แผ่นธรณีมหาสมุทร ภาพที ่ 2.33 แผ่นธรณีทวีปเคลือ่ นที่ ภาพที ่ 2.34 แผ่นธรณีทวีปเคลือ่ นที่
เคลือ่ นทีเ่ ข้าหาแผ่นธรณีมหาสมุทร เข้าหาแผ่นธรณีมหาสมุทร เข้าหาแผ่นธรณีทวีป

แผนธรณีเคลื่อนที่ผานกันตามแนวระดับ (transform plate boundary)


เมื่อแผ่นธรณี 2 แผ่นเคลื่อนที่สวนกัน จะท�าให้
เกิดรอยเลือ่ นขนาดใหญ่ ซึง่ มักเกิดขึน้ ในบริเวณเทือก
เขากลางมหาสมุทร แต่บางกรณีอาจเกิดขึ้นบริเวณ
ชายฝัง และหากแผ่นธรณีเคลื่อนที่ปะทะกันอย่าง
รุนแรงจะท�าให้เกิดการสัน่ สะเทือน จนท�าให้เกิดแผ่น
ดินไหวได้ ภาพที่ 2.35 แผ่นธรณีเคลื่อนที่ผ่านกันตามแนวระดับ

ธรณี 35
แปรสัญฐาน

ขอสอบเนน การคิด สื่อ Digital


การเคลือ่ นทีข่ องแผนธรณีภาคแบบใดสัมพันธกบั หุบเขาทรุดใน ศึกษาเพิม่ เติมไดจากภาพยนตรสารคดีสนั้ Twig เรือ่ ง ภูเขาคดโคง: การเกิด
บริเวณรอยแยกแอฟริกาตะวันออกมากที่สุด https://www.twig-aksorn.com/fiffl ilm/fold-mountains-formation-8542/
1. การเคลื่อนที่เขาหากันของแผนธรณีภาคพื้นทวีป
2. การเคลื่อนที่เขาหากันของแผนธรณีภาคใตสมุทร
3. การเคลื่อนที่แยกออกจากกันของแผนธรณีภาคพื้นทวีป
4. การเคลื่อนที่แยกออกจากกันของแผนธรณีภาคใตสมุทร
5. การเคลื่อนที่เขาหากันของแผนธรณีภาคใตสมุทรกับแผน
ธรณีทวีป
(วิเคราะหคาํ ตอบ การเคลือ่ นทีแ่ ยกออกจากกันของแผนธรณี เกิด
จากการดันตัวของสารรอนในชั้นฐานธรณีภาคทําใหแผนธรณีโกง
ตัวขึ้น สวนยอดจะยืดออกและบางลงพรอมกับเกิดรอยแตกและ
ทรุดตัวลงกลายเปนหุบเขาทรุด ดังนั้น ตอบขอ 3.)

T39
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ ประเมิน
ตรวจสอบผล
1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน ปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา
2. ครูประเมินผลโดยการสังเกตการตอบคําถาม
การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน
3. ครูตรวจใบงาน เรื่อง รูปแบบการเคลื่อนที่ของ
แผนธรณี
4. ครูตรวจและประเมินผลการทํากิจกรรม
5. ครูตรวจผลการทําแบบฝกหัดจาก Unit Ques-
tion 2 เรื่อง ธรณีแปรสัณฐาน
6. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัด ภาพที่ 2.36 ภูเขาไฟระเบิด ภาพที่ 2.37 แผนดินไหว ภาพที่ 2.38 สึนามิ
เกิดจากการทีห่ นิ หนืดแทรกตัวดันขึน้ มา เปนปรากฏการณที่เกิดจากธรรมชาติ คลื่นทะเลที่มีความยาวคลื่นมาก และ
ตามรอยของหิ น ในชั้ น เปลื อ กโลก และการกระทํ า ของมนุ ษ ย ทํ า ให เคลื่อนที่ดวยความเร็วตั้งแต 500 ถึง
ทําใหเปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลง พลังงานศักยที่สะสมในหินปลดปลอย 1,000 กิโลเมตรตอชัว่ โมง เมือ่ อยูก ลาง
และมีลาวาปะทุออกมา ออกมา เปนพลังงานจลนในรูปของ ทะเล แตเมื่อเขาชายฝงความเร็วจะ
คลื่นไหวสะเทือน ลดลงและกอตัวสูงขึ้น

Self Check
ใหนักเรียนตรวจสอบความเขาใจ โดยพิจารณาขอความวาถูกหรือผิด แลวบันทึกลงในสมุด
หากพิจารณาขอความไมถูกตอง ใหกลับไปทบทวนเนื้อหาตามหัวขอที่กําหนดให
ถูก/ผิด ทบทวนที่หัวขอ
1. พันเจียเริม่ แยกออกเปนทวีปใหญ 2 ทวีป คือ ทวีปแอฟริกาและลอเรเซีย 1.1
2. เมื่อเปลือกโลกโกงตัวขึ้นเนื่องจากการแทรกดันตัวของแมกมาทําให 1.2
เปลือกโลกดันตัวขึ้นเปนสันเขา
3. ทฤษฎีการแปรสัณฐานแผนธรณี เปนทฤษฎีที่อธิบายเกี่ยวกับ 1.3

ุด
การเคลื่อนที่และการเปลี่ยนแปลงของลักษณะแผนธรณี
สม
ใน
ลง
4. สันเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก เกิดจากแผนธรณีเคลื่อนที่เขาหา 2.
ทึ ก
บั น

แผนธรณีทวีป
5. แผนธรณีเคลื่อนที่ผานกันตามแนวระดับ เกิดจากแผนธรณี 2 แผน 2.
เคลื่อนที่สวนทางกัน
แนวตอบ Self Check
36
1. ผิด 2. ถูก 3. ถูก
4. ผิด 5. ถูก

แนวทางการวัดและประเมินผล กิจกรรม 21st Century Skills


ครู ส ามารถวั ด และประเมิ น การทํ า กิ จ กรรมธรณี สั ณ ฐานที่ เ กิ ด จากการ 1. ใหนักเรียนแบงกลุมตามความสมัครใจ กลุมละ 3 - 4 คน
เคลือ่ นทีข่ องแผนธรณี และกิจกรรมการเปลีย่ นลักษณะของเปลือกโลก โดยศึกษา 2. ใหนกั เรียนรวมกันสืบคนขอมูลเกีย่ วกับรูปแบบการเคลือ่ นทีข่ อง
เกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการปฏิบัติกิจกรรมที่แนบมาทาย แผนธรณีที่สัมพันธกับการเกิดลักษณะธรณีสัณฐาน และธรณี
แผนการสอนหนวยการเรียนรูที่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน โครงสรางแบบตางๆ
3. เพื่อใหบรรลุผลการเรียนรูในหนวยการเรียนรูนี้ ครูแจงนักเรียน
ใหทราบวาขอมูลทีน่ าํ เสนอจะตองระบุสาเหตุและอธิบายรูปแบบ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน

เกณฑ์การประเมินกิจกรรมจากใบกิจกรรมที่ 2.1-2.3
แบบประเมินการปฏิบัติกจิ กรรม แผนฯ ที่ 1-2
ประเด็นที่ ระดับคะแนน

การเคลื่อนที่ของแผนธรณีที่สัมพันธกับการเกิดลักษณะธรณี
แบบประเมินกิจกรรมจากใบกิจกรรมที่ 2.1-2.3 ประเมิน 4 3 2 1
คาชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินการทากิจกรรมของนักเรียนตามรายการที่กาหนด แล้วขีด  ลงในช่องที่ตรงกับ 1. ความเข้าใจ เข้าใจจุดประสงค์ของ เข้าใจจุดประสงค์ของ เข้าใจจุดประสงค์ของ ไม่เข้าใจจุดประสงค์
จุดประสงค์ การทากิจกรรมได้เป็น การทากิจกรรมได้อย่าง การทากิจกรรมได้ ของการทากิจกรรมเลย
ระดับคะแนน ของการทา ถูกต้อง บางส่วน
อย่างถูกต้อง และ
กิจกรรม

สัณฐานและธรณีโครงสรางแบบตางๆ
ระดับคะแนน อธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจได้
ลาดับที่ รายการประเมิน 2. การดาเนิน ดาเนินการทากิจกรรม ดาเนินการทากิจกรรม ดาเนินการทากิจกรรมมี ดาเนินการทากิจกรรม
4 3 2 1
การทากิจกรรม มีขั้นตอนครบถ้วน มีขั้นตอนครบถ้วน ขั้นตอนถูกต้องเป็นส่วน ไม่ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่
1 ความเข้าใจจุดประสงค์ของการทากิจกรรม ถูกต้อง แต่ไม่มีการ ใหญ่ และการเก็บข้อมูล และการเก็บข้อมูลไม่
ถูกต้อง มีการทาซ้า
2 การดาเนินการทากิจกรรม ทาซ้า และการเก็บ ได้ครบถ้วนตามที่ ครบถ้วน
และการเก็บข้อมูลได้

4. สมาชิกในกลุมรวมกันสรุปขอมูล และจัดเตรียมขอมูลเพื่อนํา
3 การนาเสนอ ละเอียดรอบคอบ
ข้อมูลได้ครบถ้วนตามที่ ต้องการ
ต้องการ
รวม ครบถ้วนตามทีต่ ้องการ
3. การนาเสนอ เหมาะสมกับลักษณะ นาเสนอข้อมูลถูกต้อง นาเสนอข้อมูลถูกต้อง นาเสนอข้อมูลถูกต้อง
ของข้อมูล แสดงถึง ครบถ้วน วิเคราะห์ วิเคราะห์ข้อมูลได้ วิเคราะห์ข้อมูลไม่

เสนอตามรูปแบบที่นักเรียนคิดวานาสนใจอยางอิสระ
ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน ความคิดสร้างสรรค์ใน ข้อมูลได้ครบถ้วน ครบถ้วน นาเสนอผล ครบถ้วน สรุปผลการ
การนาเสนอ วิเคราะห์ สรุปผลการทากิจกรรม การทากิจกรรมถูกต้อง ทากิจกรรมไม่ถูกต้อง
................./................../.................. ข้อมูลได้ครบถ้วน ถูกต้อง มีการนาเหตุผล
เหมาะสม สรุปผลการ และความรู้มาอ้างอิง
ทากิจกรรมถูกต้อง มี ประกอบการสรุปผล

5. นําเสนอขอมูลหนาชัน้ เรียน ดวยวิธกี ารสือ่ สารทีท่ าํ ใหผอู นื่ เขาใจ


การนาเหตุผลและ การทากิจกรรม
ความรู้มาอ้างอิง
ประกอบการสรุปผล
การทากิจกรรม

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน
10-12
ระดับคุณภาพ
ดีมาก
ไดงาย
7-9 ดี
4-6 พอใช้
0-3 ปรับปรุง

T40
45

44
นํา สอน สรุป ประเมิน

เฉลย Unit Question 2

U nit
คําชี้แจง :
Question 2
ให้ นั ก เรี ย นตอบค� า ถามต อ ไปนี้
1. การศึกษาธรณีแปรสัณฐานเปนการศึกษาการ
เคลื่อนที่ของแผนธรณีเนื่องจากมีแรงมากระทํา
และลักษณะของแผนธรณี ซึ่งสามารถสรุปเปน
1. การศึกษาธรณีแปรสัณฐานคืออะไร แบ่งเป็นทฤษฎีอะไรบ้าง ทฤษฎีการแปรสัณฐานของแผนธรณี โดยทฤษฎี
2. การศึกษาธรณีแปรสัณฐานมีความส�าคัญอย่างไร ดังกลาวมีรากฐานมาจากทวีปเลื่อนและทฤษฎี
3. หลักฐานใดบ้างที่แสดงว่าทวีปต่าง ๆ เคยเชื่อมต่อกัน การแผขยายพื้นสมุทร
2. สามารถอธิบายกระบวนการทีท่ าํ ใหแผนธรณีมกี าร
4. ยกตัวอย่างสาขาวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับธรณี และอธิบายว่าสาขาวิชานั้น ๆ ศึกษาเกี่ยวกับสิ่งใด
เคลือ่ นที่ รูปแบบการเคลือ่ นทีข่ องแผนธรณี และผล
5. การเคลื่ อ นที่ ข องทวี ป เกิ ด ขึ้ น อย่ า งไร จงให้ อ ธิ บ ายและยกตั ว อย่ า งหลั ก ฐานหรื อ ข้ อ มู ล ที่ ทีเ่ กิดขึน้ จากการเคลือ่ นทีข่ องแผนธรณี รวมทัง้ เปน
นักวิทยาศาสตร์ใช้เป็นเหตุผลสนับสนุน ขอมูลในการศึกษาธรณีวทิ ยาดานตางๆ
6. ทฤษฎีทวีปเลื่อนมีใจความส�าคัญอย่างไร 3. หลักฐานทีแ่ สดงวาทวีปตางๆ เคยเชือ่ มตอกัน ดังนี้
7. ในด้านธรณีพบิ ตั ภิ ยั เหตุใดนักธรณีวทิ ยาและนักวิทยาศาสตร์จงึ ให้ความส�าคัญและเฝาระวังลักษณะ 1) รูปรางของทวีป
ของรอยเลื่อนมีพลังเป็นอย่างมาก 2) ซากดึกดําบรรพ
8. จงอธิบายลักษณะการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีทั้ง 3 แบบ และยกตัวอย่างปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้น 3) กลุมหินและแนวเทือกเขา
4) หลักฐานที่เกิดจากการสะสมตัวของตะกอน
จากธารนํ้าแข็ง
4. ธรณีวิทยา (geology) เปนวิชาวิทยาศาสตรที่
ศึกษาประวัตขิ องโลก องคประกอบของโลก หลัก
ก. ข. ค. ฐานทางธรณีวทิ ยาตางๆ ทีป่ รากฏอยูใ นหิน วิชา
ภาพที่ 2.39 ภาพส�าหรับข้อ 8. ธรณีวทิ ยาแบงออกไดหลายสาขา เชน ธรณีวทิ ยา
9. ในชีวิตประจ�าวัน นักเรียนได้รับประโยชน์จากการศึกษาเรื่องการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีหรือไม่ โครงสราง เปนวิชาทีศ่ กึ ษารูปราง การวางตัวของ
อย่างไร โครงสรางทางธรณีวทิ ยาทีป่ รากฏอยูใ นหิน ธรณี
10. นักเรียนคิดว่าจากแนวการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีต่าง ๆ จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ ประวัตเิ ปนวิชาทีศ่ กึ ษาประวัตเิ หตุการณของโลก
ของโลกอย่างไรในอนาคตบ้าง 5. เนือ่ งจากภายในแกนโลกมีอณ ุ หภูมสิ งู มากทําให
เกิดการพาความรอน แมกมาในฐานธรณีภาค
เมือ่ ไดรบั ความรอนจะเคลือ่ นทีข่ นึ้ สูผ วิ โลก เมือ่
เคลื่อนที่ขึ้นมาใกลผิวโลกซึ่งหางจากแกนโลกที่
เปนตนกําเนิดความรอนอุณหภูมิจะลดลงและ
เคลือ่ นทีก่ ลับลงไปในเนือ้ โลก ถาหากไดรบั ความ
เพิม่ จะเคลือ่ นทีข่ นึ้ มาสูผ วิ โลกใหม หมุนวนเปน
ธรณี
แปรสัญฐาน
37 วงจรไปตลอด ซึง่ วงจรการพาความรอนดังกลาว
ทําใหแผนธรณีมีการเคลื่อนที่

6. เมื่อประมาณ 200 - 300 ลานปกอน ทวีปในปจจุบันอยูติดกันเปนแผนดินเดียว เรียกวา พันเจีย ในเวลาตอมาพันเจียเริ่มแยกตัวออกจากกัน ออกเปนสอง


ทวีปขนาดใหญชื่อ ลอเรเซีย (Laurasia) และกอนดวานา (Gondwana) และทั้งสองทวีปก็มีการแยกตัวออกจากกันชาๆ จนมีลักษณะดังเชนปจจุบัน
7. รอยเลือ่ นมีพลังเปนรอยเลือ่ นทีม่ หี ลักฐานทางธรณีวทิ ยาแสดงวายังมีการเลือ่ นตัวอยู ซึง่ การเลือ่ นตัวของรอยเลือ่ นดังกลาวทําใหเกิดการสะสมพลังงานภายใน
เปลือกโลก เมือ่ สะสมพลังงานจนถึงจุดหนึง่ เปลือกโลกจะปลดปลอยพลังงานออกมาในรูปของคลืน่ ไหวสะเทือน ซึง่ เปนสาเหตุของการเกิดแผนดินไหว
8. 1) แนวแผนธรณีแยกตัวออกจากกัน เปนบริเวณที่แผนธรณีเคลื่อนที่แยกออกจากกัน สวนมากจะอยูบนพื้นมหาสมุทร
2) แนวแผนธรณีเคลื่อนที่เขาหากัน เปนบริเวณที่แผนธรณีเคลื่อนที่เขาหากัน การเคลื่อนที่ลักษณะนี้แบงออกเปน 3 รูปแบบตามประเภทของแผนธรณีที่
เคลือ่ นทีเ่ ขาหากัน ไดแก แผนธรณีทวีปเคลือ่ นทีเ่ ขาหาแผนธรณีทวีป แผนธรณีทวีปเคลือ่ นทีเ่ ขาหาแผนธรณีมหาสมุทร และแผนธรณีมหาสมุทรเคลือ่ นที่
เขาหาแผนธรณีมหาสมุทร
3) แนวแผนธรณีเคลือ่ นทีผ่ า นกันตามแนวระดับ เปนบริเวณทีแ่ ผนธรณีเคลือ่ นทีผ่ า นกันในแนวระดับ สวนมากจะพบบริเวณสันเขากลางสมุทร และพบบาง
สวนบนทวีป
9. จากการศึกษาเรือ่ งการแปรสัณฐานของแผนธรณี ทําใหทราบวาเมือ่ แผนธรณีมกี ารเคลือ่ นทีจ่ ะทําใหเกิดธรณีสณ ั ฐานลักษณะตางๆ นอกจากนีย้ งั ทําใหเกิด
ธรณีพิบัติภัย เชน แผนดินไหว สึนามิ ภูเขาไฟระเบิด ซึ่งพื้นที่เสี่ยงภัยของพิบัติภัยดังกลาวอยูบริเวณแนวรอยตอของแผนธรณี ทําใหเราสามารถเฝาระวัง
หรือหลีกเลี่ยงที่จะอยูบริเวณที่มีความเสี่ยงตอการเกิดธรณีพิบัติภัย รวมไปถึงการออกแบบสิ่งปลูกสรางในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยอีกดวย
10. ในบริเวณแนวรอยตอของแผนธรณีจะพบลักษณะธรณีสัณฐานแบบตางๆ จากการศึกษาพบวาแผนธรณีมีการเคลื่อนที่อยูตลอดเวลา ทําใหธรณีสัณฐาน
บริเวณแนวรอยตอของแผนธรณีเปลี่ยนแปลงไป เชน เทือกเขาหิมาลัยจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกป ทะเลแดงจะแผขยายกวางขึ้น หมูเกาะฮาวายจะเคลื่อนที่ไป
จากตําแหนงเดิม
T41
Chapter Overview

แผนการจัด คุณลักษณะ
สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้
การเรียนรู้ อันพึงประสงค์
แผนฯ ที่ 1 - แบบทดสอบก่อนเรียน 1. อธิบายสาเหตุ - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบ - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
ภูเขาไฟระเบิด - หนังสือเรียน รายวิชา กระบวนการเกิดภูเขาไฟ หาความรู้ ก่อนเรียน - ทักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ ระเบิดได้ (K) (5 Es - ตรวจแบบฝึกหัด ค้นหา - มุ่งมั่นใน
3 โลก ดาราศาสตร์ และ 2. อธิบายปัจจัยที่ท�ำให้ Instructional - ตรวจใบงาน เรื่อง - ทักษะการวิเคราะห์ การท�ำงาน
ชั่วโมง อวกาศ ม.4 เล่ม 1 ความรุนแรงของการปะทุ Model)วิธี ภูเขาไฟระเบิด
- แบบฝึกหัด รายวิชาเพิ่ม และรูปร่างของภูเขาไฟ สอนแบบ - สังเกตพฤติกรรม
เติมวิทยาศาสตร์ โลก แตกต่างกันได้ (K) ทดลอง การทำ�งานรายบุคคล
ดาราศาสตร์ และอวกาศ 3. สืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย - สังเกตพฤติกรรม
ม.4 เล่ม 1 ออกแบบและน�ำเสนอ การทำ�งานกลุ่ม
- ใบงาน แนวทางการเฝ้าระวัง - สังเกตพฤติกรรม
- PowerPoint และปฏิบัติตนให้ปลอดภัย การนำ�เสนอ
- QR code จากภูเขาไฟระเบิดได้ - สังเกตความมีวินัย
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น (K, P) ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น
TWIG 4. ตระหนักถึงผลกระทบ ในการทำ�งาน
จากภูเขาไฟระเบิด
และเสนอแนวทาง
การเฝ้าระวัง (A)
แผนฯ ที่ 2 - หนังสือเรียน รายวิชา 1. อธิบายกระบวนการเกิด - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบฝึกหัด - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
แผ่นดินไหว เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ ขนาดและความรุนแรง หาความรู้ - ตรวจใบงาน เรื่อง - ทักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
โลก ดาราศาสตร์ และ และผลจากแผ่นดินไหว (5 Es แผ่นดินไหว ค้นหา - มุ่งมั่นใน
6 อวกาศ ม.4 เล่ม 1 ได้ (K) Instructional - สังเกตพฤติกรรม - ทักษะการ การท�ำงาน
ชั่วโมง - แบบฝึกหัด รายวิชาเพิ่ม 2. สืบค้นข้อมูลพื้นที่ Model)วิธี การทำ�งานรายบุคคล ตีความหมาย
เติมวิทยาศาสตร์ โลก เสี่ยงภัย ออกแบบและ สอนแบบ - สังเกตพฤติกรรม ข้อมูลและ
ดาราศาสตร์ และอวกาศ น�ำเสนอแนวทางการ ทดลอง การทำ�งานกลุ่ม ลงข้อสรุป
ม.4 เล่ม 1 เฝ้าระวังและปฏิบัติตน - สังเกตพฤติกรรม
- ใบงาน ให้ปลอดภัยจาก การนำ�เสนอ
- PowerPoint แผ่นดินไหวได้ (K, P) - สังเกตความมีวินัย
- QR code 3. ตระหนักถึงผลกระทบ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น จากแผ่นดินไหวและ ในการทำ�งาน
TWIG เสนอแนวทางการ
เฝ้าระวัง (A)
แผนฯ ที่ 3 - หนังสือเรียน รายวิชา 1. อธิบายสาเหตุ - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบ - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
สึนามิ เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ กระบวนการเกิด และ หาความรู้ หลังเรียน - ทักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
โลก ดาราศาสตร์ และ ผลจากสึนามิได้ (K) (5 Es - ตรวจใบงาน เรื่อง ค้นหา - มุ่งมั่นใน
5 อวกาศ ม.4 เล่ม 1 2. สืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย Instructional สึนามิ - ทักษะการ การท�ำงาน
ชั่วโมง - แบบฝึกหัด รายวิชาเพิ่ม ออกแบบและน�ำเสนอ Model)วิธี - ตรวจแบบฝึกหัด ตีความหมาย
เติมวิทยาศาสตร์ โลก แนวทางการเฝ้าระวังและ สอนแบบ - สังเกตพฤติกรรม ข้อมูลและ
ดาราศาสตร์ และอวกาศ ปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจาก ทดลอง การทำ�งานรายบุคคล ลงข้อสรุป
ม.4 เล่ม 1 สึนามิได้ (K, P) - สังเกตพฤติกรรม
- ใบงาน 3. ตระหนักถึงผลกระทบ การทำ�งานกลุ่ม
- PowerPoint จากสึนามิและเสนอ - สังเกตความมีวินัย
- QR code แนวทางการเฝ้าระวัง (A) ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น ในการทำ�งาน
TWIG

T42
Chapter Concept Overview
หนวยการเรียนรูที่ 3
ภูเขาไฟระเบิด
เกิดจากหินหนืดในชั้นเนื้อโลกแทรกตัวดันขึ้นมาตามรอยแยก หรือรอยแตกของหินในชั้นเปลือกโลก
แกสต่าง ๆ ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และไอน�้า
หินหนืดแทรกตัวขึ้นมาตามรอยแยกของหิน
ลาวา (lava)
ปากปล่องภูเขาไฟ คือ หินหนืดที่ดันตัวออกมาสู่ผิวโลก มีอุณหภูมิประมาณ 900 - 1,300 �C ซึ่งการไหลของลาวา
ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของลาวา โดยหากมีแกสเปนองค์ประกอบอยู่มาก จะไหลได้เร็วและไกล
แต่หากมีแกสเปนองค์ประกอบอยู่น้อย จะไหลได้ช้าและใกล้

กรวยปะทุย่อย แนวทางการเฝาระวังและปฏิบัติตน
- เตรียมสิ่งอุปโภคบริโภคที่จ�าเปน เช่น อาหาร ยารักษาโรค
- รับฟังข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ
- สวมใส่เสื้อผ้าที่รัดกุม มิดชิด ใส่หน้ากากอนามัยและแว่นตา
การไหลเวียนของหินหนืดในชั้นเนื้อโลก เพื่อป้องกันฝุ่นละออง
- อพยพไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย
แผนดินไหว
เกิดจากพลังงานศักย์ที่สะสมอยู่ในหินถูกปลดปล่อยออกมาเปนพลังงานจลน์ในรูปของคลื่นไหวสะเทือน ซึ่งถ่ายทอดพลังงานต่อไปยัง
มวลหินที่อยู่ติดกันจึงท�าให้แผ่นดินเกิดการสั่นสะเทือน
เปลือกโลกภาคพื้นทวีปเคลื่อนที่แยกจากกัน
การวัดขนาดและความรุนแรง เปลือกโลกภาคพื้นทวีปเคลื่อนที่ชนกัน
เปลือกโลกภาคพื้นทวีปเคลื่อนที่
ขนาดของแผ่นดินไหว วัดได้โดยเครื่องไซสโมมิเตอร์ ชนกับเปลือกโลกภาคพื้นมหาสมุทร
(seismometer) มีหน่วยวัดเปนขนาดโมเมนต์ เมอร์คัลลี หรือ เปลือกโลกภาคพืน้ มหาสมุทร
ริกเตอร์ ส่วนความรุนแรงของแผ่นดินไหววัดจากปรากฏการณ์ เคลื่อนที่แยกจากกัน
ขณะเกิดและหลังเกิดแผ่นดินไหว เปลือกโลกเคลื่อนที่
สวนทางกัน
แนวทางการเฝาระวังและปฏิบัติตน
- สร้างหรือต่อเติมอาคารบ้านเรือนให้สามารถรับแรงสัน่ สะเทือน
ของแผ่นดินไหวได้ คลื่นไหวสะเทือน
- ฝึกซ้อมเตรียมรับมือกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว (seismic waves)
- หาความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว และแนวทางการ จุดศูนย์เกิด
ปฏิบัติตนเมื่อเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินไหว (focus)
จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว (epicenter)

สึนามิ
เกิดจากการเคลื่อนตัวของพื้นทะเลในแนวดิ่งบริเวณแนวรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก ท�าให้เกิดคลื่นน�้าที่มีความยาวคลื่นมากกว่า
100 กิโลเมตร และเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 500 - 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คลื่นในบริเวณทะเลลึกจะมีความสูง คลื่นซัดเข้าสู่ชายฝัง สร้างความ
ไม่มาก แต่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง เสียหายเปนบริเวณกว้าง แนวทางการเฝาระวังและปฏิบัติตน
- หลีกเลี่ยงการสร้างอาคารบ้านเรือนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย
- สงั เกตสภาพแวดล้อมรอบตัว โดยหากเห็นความผิดปกติ เช่น
ระดับน�้าทะเลลดลงอย่างรวดเร็ว สัตว์มีพฤติกรรมผิดปกติ
คลื่นบริเวณใกล้ชายฝัง
เกิดคลื่นแผ่กระจายจากจุดก�าเนิด มีความสูงมาก แต่เคลื่อนที่ ให้รีบอพยพจากบริเวณชายฝังไปอยู่ในที่สูง
ออกไปยังทุกทิศทาง ด้วยความเร็วต�่า - รับฟังสัญญาณเตือนภัยและข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงาน
แผ่นเปลือกโลกใต้ทะเลเลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว ที่น่าเชื่อถือ
และรุนแรง ท�าให้พื้นทะเลเปลี่ยนแปลงระดับ

T43
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ นํา

ธรณีพบิ ตั ภิ ยั
กระตุน ความสนใจ
1. กระตุนความสนใจโดยใหนักเรียนดูสื่อดิจิทัล

3
หน่วยการเรียนรู้ที่
หรื อ PowerPoint เกี่ ย วกั บ ภั ย พิ บั ติ ท าง
ธรรมชาติ จากนั้นใหนักเรียนรวมกันอภิปราย
แสดงความคิดเห็นในประเด็นคําถาม เชน
• ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายในโลก
มีอะไรบาง ผลการเรียนรู ธรณี พิ บั ติ ภั ย เป็ น ภั ย ธรรมชาติ ที่ เ กิ ด จากกระบวนการ
(แนวตอบ ภูเขาไฟระเบิด แผนดินไหว สึนามิ 4. อ ธิ บ ายสาเหตุ กระบวนการเกิ ด เปลีย่ นแปลงทางธรณีวทิ ยา โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึน้ อย่างฉับพลัน
ฯลฯ)
ภูเขาไฟระเบิดและปจจัยที่ท�าให้ และรุนแรง ซึ่งกิจกรรมบางอย่างของมนุษย์มีส่วนที่ท�าให้เกิด
ความรุนแรงของการปะทุและรูปร่าง
ธรณีพิบัติภัยขึ้น และมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าในอดีต
2. ครูใหนกั เรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน เพือ่ วัด ของภูเขาไฟแตกต่างกัน รวมทั้ง
สืบค้นข้อมูลพืน้ ทีเ่ สีย่ งภัย ออกแบบ
ความรูเดิมของนักเรียนกอนเขาสูกิจกรรม และน�าเสนอแนวทางการเฝาระวัง
และการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยได้
3. ครูนาํ ภาพหรือสือ่ ดิจทิ ลั การเกิดภูเขาไฟระเบิด 5. อ ธิ บ ายสาเหตุ กระบวนการเกิ ด
มาใหนักเรียนศึกษา และถามคําถามกระตุน ขนาดและความรุนแรง และผลจาก
แผ่นดินไหว รวมทั้งสืบค้นข้อมูล
ความคิดวา ภูเขาไฟระเบิดมีกระบวนการเกิด พืน้ ทีเ่ สีย่ งภัย ออกแบบและน�าเสนอ
แนวทางการเฝาระวังและการปฏิบตั ิ
อยางไร โดยใหนักเรียนชวยกันอภิปรายและ ตนให้ปลอดภัยได้
ตอบคําถามจากประสบการณของนักเรียน 6. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด และ
ผลจากสึนามิ รวมทั้งสืบค้นข้อมูล
4. ครูถามคําถาม Big question จากหนังสือเรียน พืน้ ทีเ่ สีย่ งภัยออกแบบและน�าเสนอ
รายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร แนวทางการเฝาระวังและการปฏิบตั ิ
ตนให้ปลอดภัยได้
และอวกกาศ ม.4 เลม 1 หนา 38 วาธรณีพิบัติ
ภัยสงผลกระทบตอมนุษยในดานใดบาง

¸Ã³Õ¾ÔºÑµÔÀÑÂ
Ê‹§¼Å¡Ãзº
µ‹ÍÁ¹Øɏ㹴ŒÒ¹ã´ºŒÒ§
แนวตอบ Big Question
ธรณีพิบัติภัยทําใหมนุษย และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
เสียชีวิตเปนจํานวนมาก ที่อยูอาศัย และสิ่งปลูก
สรางตางๆ พังทลายเสียหาย และยังทําใหเกิดการ
เปลีย่ นแปลงของสภาพภูมปิ ระเทศ นอกจากนีย้ งั สง
ผลระยะยาว เชน การเปลีย่ นแปลงภูมอิ ากาศของโลก

เกร็ดแนะครู
การเรียนการสอน เรือ่ ง ธรณีพบิ ตั ภิ ยั ครูควรเนนถึงสาเหตุกระบวนการเกิด
และผลกระทบทีเ่ กิดขึน้ จากธรณีพบิ ตั ภิ ยั ประเภทตางๆ ผานกิจกรรมทีจ่ าํ ลองการ
เกิดเหตุการณดงั กลาวนัน้ เพือ่ ใหนกั เรียนเขาใจเนือ้ หาไดงา ยขึน้ รวมถึงแนวทาง
ปฏิบัติตนหรือแนวทางการปองกันตนเมื่อเกิดธรณีพิบัติภัย ทั้งนี้เพื่อใหนักเรียน
สามารถปองกันตนจากอันตรายที่เกิดขึ้นจากธรณีพิบัติภัยได

T44
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา

Prior Knowledge 1. เพื่อทบทวนความรูเดิมของนักเรียน ครูถาม


ในประเทศไทยมีภูเขาไฟ 1. ภูเขาไฟระเบิด คําถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียน
ระเบิดหรือไม หนา 39 วาในประเทศไทยมีภเู ขาไฟระเบิดหรือไม
ภู เ ขาไฟระเบิ ด เป็ น ภั ย พิ บั ติ ท างธรรมชาติ ที่ ร ้ า ยแรง
อย่างหนึ่ง การระเบิดของภูเขาไฟนั้นแสดงให้เห็น1ว่าใต้ผิวโลกยังมีความร้อนสะสมอยู่มาก โดยอยู่ 2. ครู ค วรมอบหมายงานล ว งหน า ให นั ก เรี ย น
ในรูปของหินหลอมละลายหรือที่เรียกว่า แมกมา ((magma) ซึ่งเมื่อพ่นขึ้นมาตามรอยแตกหรือ เตรียมอุปกรณเพื่อทํากิจกรรม ดังนี้
ปล่องภูเขาไฟ เรียกว่า ลาวา (lava) 1) นํ้าอัดลมขวดเล็ก
2) นมขนหวาน
1.1 การเกิดภูเขาไฟระเบิด 3) นํ้าเปลา
ภูเขาไฟระเบิดเกิดจากการทีแ่ กสทีล่ ะลายอยูใ่ นแมกมาก่อตัวเป็นฟองดันแมกมาให้แทรกตัว 4) หลอดพลาสติก
ขึ้นมาตามรอยแตกของหินในชั้นเปลือกโลก ท�าให้เปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและ 3. ให นั ก เรี ย นทํ า กิ จ กรรมเพื่ อ ช ว ยให ส ามารถ
ทางเคมี ซึ่งนอกจากลาวาที่พ่นออกมาแล้วนั้นยังมีการพ่นแกสและเถ้าภูเขาไฟออกมาอีกด้วย อธิ บ ายกระบวนการเกิ ด ภู เ ขาไฟระเบิ ด ได
โดยใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5-6 คน ทํา
การระเบิดของภูเขาไฟ (volcanic eruption)
กิจกรรม เรื่อง การแยกตัวของแกสออกจาก
ของเหลว ตามขั้นตอน ดังนี้
ใต้ชนั้ เปลือกโลกบางบริเวณมีหนิ หนืดทีร่ อ้ นจัดไหลเวียนอยูต่ ลอดเวลา เมือ่ มีรอยแยกในหิน
เปลือกโลก หินหนืดจึงดันตัวออกมาตามรอยแยกได้ และด้วยแรงอัดของแกสที่สะสมความดันไว้ 1) เปดขวดนํา้ อัดลม ใชนวิ้ ปดปากขวดใหสนิท
ในแมกมา ท�าให้แมกมาเกิดการดันตัวผ่านหินในเปลือกโลก จึงท�าให้เกิดภูเขาไฟระเบิดขึ้น แลวเขยาขวด จากนั้นปลอยนิ้วออกจาก
ปากขวด สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
แกสต่าง ๆ ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์
ไนโตรเจนออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ 2) เตรียมนมขนหวานและนํ้าเปลาปริมาตร
และไอน�้า เทากัน ใสลงในบีกเกอรชนิดละ 1 บีกเกอร
จากนั้นนําหลอดพลาสติกจุมลงไปในสาร
หินหนืดแทรกตัวขึ้นมาตามรอยแยกของหิน
ปากปล่องภูเขาไฟ ทัง้ สองแลวเปาลมเขาไปใหเกิดฟองอากาศ
กรวยปะทุย่อย ลาวา (lava) สังเกตและเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลง
คื อ หิ น หนื ด ที่ ดั น ตั ว ออกมาสู ่ ผิ ว โลกมี ที่เกิดขึ้น
อุณหภูมิประมาณ 900 -1,300 �C ซึ่งการ
ไหลของลาวาขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของ
การไหลเวียนของ ลาวา โดยหากมีแกสเป็นองค์ประกอบ
หินหนืดในชั้นเนื้อโลก อยู่มาก จะไหลได้เร็ว และไกล แต่หากมี
แกสเป็นองค์ประกอบอยูน่ อ้ ย จะไหลได้ชา้
และใกล้
แนวตอบ Prior Knowledge
ภาพที่ 3.1 ภูเขาไฟระเบิด ภูเขาไฟที่พบในประเทศไทยเปนภูเขาไฟที่
39
ดับสนิทแลว แตมีหลักฐานที่แสดงวาในอดีตเคย
ภูเขาไฟระเบิด มีภูเขาไฟระเบิด เชน รองรอยการไหลของลาวา
แนวแตกเสาเหลี่ยมในหินบะซอลต

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET นักเรียนควรรู


ขอใดกลาวถูกตอง 1 แมกมา ความหนืดของแมกมาขึ้นอยูกับปริมาณซิลิกาที่เปนองคประกอบ
1. แมกมาเปนหินหลอมละลายทีอ่ ยูน อกชัน้ เปลือกโลก หากมีซิลิกาสูง แมกมาจะมีอุณหภูมิตํ่าและมีความหนืดมาก แตหากมีซิลิกาตํ่า
2. ลาวาเปนหินหลอมละลายทีส่ ะสมอยูภ ายในเปลือกโลก แมกมาจะมีอุณหภูมิสูงและมีความหนืดนอย
3. แรงอัดทีเ่ กิดจากการดันตัวผานชัน้ หินในเปลือกโลก ไมมี
ผลตอการปะทุของภูเขาไฟ
4. ลาวาเปนหินหลอมละลายทีป่ ระทุออกมาจากภายในโลก
สื่อ Digital
ซึง่ ไมมอี งคประกอบของแกสอยูเ ลย ศึ ก ษาเพิ่ ม เติ ม ได จ าก
5. ภูเขาไฟระเบิดเปนการปะทุของแมกมา แกสตางๆ เศษหิน ภาพยนต ส ารคดี สั้ น Twig
เศษแร และเถาธุลจี ากภายในโลกออกมาสูผ วิ โลก เรื่อง ภูเขาไฟคืออะไร https://
(วิเคราะหคําตอบ ภูเขาไฟระเบิดเกิดจากแรงอัดที่ทําใหแมกมา www.twig-aksorn.com/film/
ดันตัวขึน้ มาสูผ วิ โลก แมกมาทีพ่ งุ ออกมา เรียกวา ลาวา และนอกจาก what-is-a-volcano-7984/
ลาวาแลว ยังมีแกสตางๆ เศษหิน เศษแร และเถาธุลีออกมาดวย
ดังนั้น ตอบขอ 5.)

T45
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า ภูเขาไฟมักเกิดขึน้ ตามแนวขอบของแผ่น
กิจกรรม โดยครูตั้งคําถามใหนักเรียนแตละกลุม เปลือกโลก ตามแนวเทือกเขาริมฝงมหาสมุทร
รวมกันแสดงความคิดเห็นวา ต่าง ๆ รวมทั้งบริเวณหมู่เกาะในมหาสมุทร
• เกิดการเปลี่ยนแปลงอยางไรเมื่อปลอยนิ้ว บริ เ วณรอบ ๆ มหาสมุ ท รแปซิ ฟ  ก มี
ออกจากปากขวดนํา้ อัดลม และเปรียบเทียบ ภูเขาไฟจ�านวนมาก จนถูกขนานนามว่าเป็น
1
ไดกับการระเบิดของภูเขาไฟไดอยางไร “วงแหวนแห่งไฟ” (Ring of Fire) โดยประเทศ
(แนวตอบ เมื่อปลอยนิ้วออกจากปากขวดนํ้า ที่อยู่ตามแนวของวงแหวนไฟ ได้แก่ ประเทศ
อัดลม นํ้าอัดลมจะพุงขึ้นมาลนปากขวด ซึ่ง เบลีซ โบลิเวีย บราซิล แคนาดา โคลอมเบีย
เปรียบเทียบไดกบั การเคลือ่ นทีข่ องแกสออก ชิลี คอสตาริกา เอกวาดอร์ ติมอร์ตะวันออก ภาพที่ 3.2 วงแหวนแห่งไฟ
จากแมกมา ซึ่งสงผลใหเกิดภูเขาไฟระเบิด) เอลซัลวาดอร์ ไมโครนีเซีย ฟีจ ี กัวเตมาลา ฮอนดูรสั อินโดนีเซีย ญีป่ นุ คิรบิ าตี เม็กซิโก นิวซีแลนด์
• ระหวางนมขนหวานกับนํา้ เปลา สารชนิดใด นิการากัว ปาเลา ปาปวนิวกินี ปานามา เปรู ฟลิปปนส์ รัสเซีย ซามัว หมู่เกาะโซโลมอน ตองกา
สามารถเปาลมลงไปไดงายกวากัน และ ตูวาลู และฝงตะวันตกของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังพบมากในบริเวณมหาสมุทรอินเดียทาง
ตอนเหนือ และพบเพียงเล็กน้อยในทะเลแคริเบียน ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเกาะไอซ์แลนด์
เปรียบเทียบไดกับการระเบิดของภูเขาไฟ
ไดอยางไร
(แนวตอบ สามารถเปาลมลงไปในนํ้าไดงาย
ภูเขาไฟระเบิดครั้งรายแรง
กวาในนมขนหวาน โดยเมื่อเปาลมลงไปใน
นํ้าจะเกิดฟองอากาศที่ทําใหนํ้ากระเพื่อม ภูเขาไฟซานตามาเรีย ภูเขาไฟฉางไปซาน
ประเทศกัวเตมาลา ภูเขาไฟธีรา เกาะซานโตรินี พรหมแดนจีน-เกาหลีเหนือ
เล็กนอย เปรียบไดกับแมกมาที่มีความหนืด ค.ศ.1902 ประเทศกรีซ ค.ศ. 1610 ประเทศจีน ค.ศ. 1702
นอย แกสจะเคลื่อนออกจากแมกมาไดงาย
ทําใหเกิดภูเขาไฟที่มีความรุนแรงไมมาก
ซึ่งมีผลในทางกลับกันเมื่อเปาลมลงไปใน
นมขนหวาน)

ขัน้ สรุป
ขยายความเข้าใจ ภูเขาไฟคาปาร์ราสติเก
ประเทศเอลซัลวาดอร์
ครู อ ธิ บ ายเพิ่ ม เติ ม เกี่ ย วกั บ ความหนื ด ของ ค.ศ. 2013
ของไหลกับอุณหภูมิ วา “ความหนืดของของไหล
ภูเขาไฟฮวนนา ปูดิน่า ภูเขาไฟแทมโบรา เกาะซัมบาวา ภูเขาไฟปนาตู โบ เกาะลูซอน
จะมากขึ้ น เมื่ อ อุ ณ หภู มิ ล ดตํ่ า ลง” ซึ่ ง ครู อ าจ ประเทศเปรู ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศฟลิปปนส์
สาธิตหรือใหนักเรียนพิสูจน โดยใชนมขนหวาน ค.ศ. 1600 ค.ศ. 1815 ค.ศ. 1991
ที่อุณหภูมิหองกับนมขนหวานที่แชเย็นเทลงบน ภาพที่ 3.3 ภูเขาไฟที่เกิดการระเบิดร้ายแรง
40
ขนมปงแลวเอียงขนมปงเพื่อสังเกตลักษณะการ
ไหลของนมขนหวาน

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET


1 วงแหวนแหงไฟ เปนบริเวณรอบมหาสมุทรแปซิฟกซึ่งเกิดแผนดินไหว ภูเขาไฟระเบิดมักเกิดขึ้นบริเวณใดของโลก
และภูเขาไฟระเบิดบอยครั้ง มีลักษณะเปนเสนเกือกมา ความยาวรวมประมาณ 1. ขั้วโลก
40,000 กิโลเมตร โดยมีภเู ขาไฟทีต่ งั้ อยูภ ายในวงแหวนแหงไฟนีท้ งั้ หมดกวา 452 2. กลางมหาสมุทร
ลูก และเปนพื้นที่ที่มีภูเขาไฟคุกรุนกวารอยละ 75 ของภูเขาไฟคุกรุนทั่วโลก 3. แนวเสนศูนยสูตร
4. กลางแผนพื้นทวีป
5. แนวขอบของแผนเปลือกโลก
สื่อ Digital ( วิเคราะหคําตอบ ภู เ ขาไฟระเบิ ด มั ก เกิ ด ขึ้ น บริ เ วณแนวขอบ
ศึ ก ษาเพิ่ ม เติ ม ได จ าก ของแผนเปลือกโลก เชน บริเวณรอบๆ มหาสมุทรแปซิฟก ซึ่งมี
ภาพยนตร ส ารคดี สั้ น Twig ภูเขาไฟจํานวนมากจนถูกขนานนามวาเปน วงแหวนแหงไฟ ดังนัน้
เรื่ อ ง ข อ มู ล น า รู  : การปะทุ ตอบขอ 5.)
เฉียบพลัน https://www.twig-
aksorn.com/film/factpack-
extreme-eruptions-7990/

T46
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
1.2 ผลกระทบจากภูเขาไฟระเบิด 1. ครูตงั้ คําถามกระตุน ความสนใจเกีย่ วกับบริเวณ
ที่สามารถพบภูเขาไฟระเบิด
• สามารถพบภูเขาไฟระเบิดไดทั่วไปทุกพื้นที่
ของโลกหรือไม อยางไร
(แนวตอบ แตละบริเวณของโลกสามารถพบ
ภูเขาไฟระเบิดในปริมาณตางกัน โดยบาง
บริเวณอาจพบไดมาก บางบริเวณพบได
1. แกสต่าง ๆ และเถ้าภูเขาไฟ ท�าให้เกิดมลภาวะทาง 2. การไหลของลาวาท�าให้สภาพแวดล้อมเปลีย่ นแปลง นอยหรือไมพบเลย)
อากาศ (ที่มาของภาพ : http://volcanoes.wikispaces.com) 2. ครูตั้งคําถามเพือ่ นําเขาสูการทํากิจกรรม เรือ่ ง
(ที่มาของภาพ : http://phillipkay.wordpress.com)
แนวภูเขาไฟ ดังนี้
• บริ เ วณใดของโลกที่ ส ามารถพบภู เ ขาไฟ
ระเบิดไดปริมาณมาก
(แนวตอบ บริเวณวงแหวงแหงไฟ)
3. ครูเตรียมแผนที่โลกเพื่อทํากิจกรรม เรื่อง แนว
ภูเขาไฟ
4. ใหนักเรียนรวมกันสืบคนขอมูลบริเวณที่เกิด
3. เกิดแรงสัน่ สะเทือน ซึง่ อาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหว 4. หากเกิดภูเขาไฟระเบิดใต้มหาสมุทร อาจท�าให้เกิด ภูเขาไฟระเบิด จากแหลงขอมูลตางๆ ทั้งใน
(ทีม่ าของภาพ : http://www.enigmasdouniverseo.com) สึนามิ
(ที่มาของภาพ : http://www.thairath.co.th/content/ และต า งประเทศ แล ว นํ า ข อ มู ล มากํ า หนด
471260) ตําแหนงลงบนแผนที่โลกที่เตรียมไว
5. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายและสรุ ป
Earth Science เกี่ยวกับบริเวณที่พบภูเขาไฟระเบิด โดยอาจ
in real life
ผลกระทบจากภูเขาไฟระเบิด
ใชคําถาม ดังนี้
ท� า ให้ เ กิ ด ปรากฏการณ์ ท าง • ภูเขาไฟระเบิดพบไดในบริเวณใดของโลก
ธรรมชาติหลายอย่าง จึงควร (แนวตอบ บริเวณแนวรอยตอของแผนธรณี
ระวังและปองกันภัยอย่างมีสติ โดยเฉพาะอยางยิ่งบริเวณรอบๆ มหาสมุทร
เพื่ อ รั บ มื อ กั บ สถานการณ์ แปซิฟก ที่เรียกวา วงแหวนแหงไฟ
ฉุกเฉินที่จะเกิดขึ้น
5. หากเถ้าภูเขาไฟทับถมกันปริมาณมากอาจกีดขวางทางน�้า ซึ่งเมื่อ • ประเทศใดทีเ่ กิดภูเขาไฟระเบิดบอยครัง้ และ
ฝนตกหนักอาจจะเกิดน�้าท่วมได้ ประเทศใดที่ไมเกิดภูเขาไฟระเบิดเลย
(ที่มาของภาพ : http://www.manager.co.th)
( แนวตอบ ประเทศที่ เ กิ ด ภู เ ขาไฟระเบิ ด
ภาพที่ 3.4 ผลกระทบภูเขาไฟระเบิด บอย เชน ญี่ปุน ฟลิปปนส อินโดนีเซีย
ธรณีพิบัติภัย 41
ปาปวนิวกินี นิวซีแลนด ไอซแลนด สวน
ประเทศทีไ่ มเกิดภูเขาไฟระเบิดเลย เชน ไทย)

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET ความรูบูรณาการอาเซียน


ขอใดไมใชปรากฏการณที่เกิดจากภูเขาไฟระเบิด บริเวณภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต มีภูเขาไฟที่ยังดับไมสนิทมากถึง
1. สึนามิ 129 ลูก สวนใหญพบในประเทศอินโดนีเซีย เชน ภูเขาไฟโบรโม ภูเขาไฟซินาบุง
2. แผนดินไหว ภูเขาไฟเมราป เปนตน และภูเขาไฟมายอนในประเทศฟลิปปนส ซึ่งภูเขาไฟ
3. นํ้าขึ้น - นํ้าลง บางลูกยังคงมีการระเบิดอยู เชน ภูเขาไฟมายอน ระเบิดเมื่อเดือนพฤษภาคม
4. มลภาวะทางอากาศ พ.ศ. 2556 ภูเขาไฟซินาบุง ระเบิดเมื่อเดือนกุมภาพันธ พ.ศ. 2557
5. สภาพแวดลอมเปลี่ยนแปลง
(วิเคราะหคาํ ตอบ ภูเขาไฟระเบิดสงผลใหเกิดมลภาวะทางอากาศ
สึนามิ แผนดินไหว สภาพแวดลอมเปลี่ยนปลง สวนนํ้าขึ้น - นํ้าลง
สื่อ Digital
เปนปรากฏการณที่เกิดจากแรงดึงดูดระหวางโลก ดวงจันทร และ ศึกษาเพิม่ เติมไดจากภาพยนต
ดวงอาทิตย ดังนั้น ตอบขอ 3.) สารคดีสั้น Twig เรื่อง อันตราย: เถา
ภูเขาไฟ https://www.twig-ak-
sorn.com/film/danger-volcanic-
ash-7987/

T47
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
1. ใหนกั เรียนสืบคนขอมูลเกีย่ วกับประเด็นตางๆ 1.3 ประโยชนและโทษของภูเขาไฟระเบิด
ดังนี้
- ความรุ น แรงของการระเบิ ด ของภู เ ขาไฟ ประโยชน์
ขึ้นอยูกับปจจัยใดบาง เกิดเกาะใหม่ขึ้นหลังจากการ 1 แผ่นดินขยายกว้างขึ้น
- ผลกระทบ ประโยชน และโทษจากภูเขาไฟ ระเบิดของภูเขาไฟใต้มหาสมุทร หรือสูงขึ้น
ระเบิด 2
เป็นแหล่งเกิดน�้าพุร้อน ดินที่เกิดหลังจากภูเขาไฟระเบิด
โดยอาจสืบคนขอมูลจากหนังสือเรียน หรือจาก จะอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุ
แหลงเรียนรูอ นื่ ๆ แลวรวมกันอภิปรายและสรุป
ความรู โทษ
2. ครูตั้งคําถามเพื่อเชื่อมโยงเขาสู เรื่อง แนวทาง
การเฝาระวัง และการปฏิบัติตนใหปลอดภัย เกิดคลื่นสึนามิ จากการระเบิด มีเขม่าควันและแกสบางชนิด
จากภูเขาไฟระเบิด ของภูเขาไฟใต้มหาสมุทร ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตได้
ï• หากนักเรียนอยูในเหตุการณภูเขาไฟระเบิด อาจท�าให้เกิดแผ่นดินไหว
เกิดการสูญเสียชีวิต
ควรปฏิบัติตนอยางไร และทรัพย์สิน
( แนวตอบ รั บ ฟ ง ข า วสารจากหน ว ยงานที่ สภาพภูมิอากาศเกิดการ
นาเชื่อถือ ใสหนากากอนามัยและแวนตา เปลี่ยนแปลง
ปองกันเถาภูเขาไฟ เตรียมเสบียง ยา และ
เครือ่ งใชทจี่ าํ เปน ไมควรอยูใ นอาคารแตควร
อพยพไปอยูในสถานที่หลบภัย)
3. ครูถามคําถาม H.O.T.S จากหนังสือเรียน หนา
42 วา คิดอยางไรกับคํากลาวที่วาภูเขาไฟเปน ภาพที่ 3.5 ประโยชน์และโทษของภูเขาไฟระเบิด
และแนวทางการปฏิบัติ
เสมือนหนาตางที่สามารถมองเห็นถึงภายใน
โลก
H. O. T. S.
คําถามทาทายการคิดขั้นสูง
คิดอย่างไรกับ
แนวตอบ H.O.T.S. ค�ากล่าวที่ว่า
การปะทุของภูเขาไฟแสดงใหเห็นวาภายใน ภูเขาไฟเป็น
เสมือนหน้าต่างที่สามารถ
โลกมีอณ
ุ หภูมสิ งู เนือ่ งจากลาวาทีไ่ หลออกจากปาก มองเห็นถึงภายในของโลก
ปลองภูเขาไฟมีความรอนสูง ภูเขาไฟยังนําหินแปลก 42
ปลอมที่อยูในเนื้อโลกขึ้นมาสูผิวโลกทําใหสามารถ
ศึกษาโครงสรางภายในโลกได

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET


1 ภูเขาไฟใตสมุทร เปนรอยแยกของเปลือกโลกสวนที่อยูใตพื้นนํ้าในทะเล ขอใดไมใชประโยชนที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ
หรือมหาสมุทร ซึ่งจะมีหินที่รอนและหลอมละลายที่เรียกวาแมกมาอยู และ 1. เปนแหลงเกิดนํ้าพุรอน
สามารถปะทุออกมาได สวนใหญจะพบบริเวณใกลกับสวนที่มีการเคลื่อนตัว 2. ทําใหเกิดที่ราบสูงตางๆ
ของแผนเปลือกโลกที่เรียกวา สันเขาใตมหาสมุทร ถึงแมวาสันเขาใตมหาสมุทร 3. ทําใหเกิดภาวะเรือนกระจก
สวนใหญจะอยูใ ตทะเลหรือมหาสมุทรในระดับทีล่ กึ มาก แตมบี างแหงทีพ่ บวาอยู 4. ทําใหเกิดดินที่เหมาะแกการเพาะปลูก
ในระดับใตผิวนํ้าไมลึกมากนัก ซึ่งถามีการระเบิดของภูเขาไฟใตสมุทรนี้เกิดขึ้น 5. ทําใหเกิดเกาะใหมในบริเวณมหาสมุทร
ก็สามารถพนเถาถานและลาวาออกมาถึงอากาศเหนือผิวนํ้าไดเชนกัน (วิเคราะหคําตอบ ประโยชนของภูเขาไฟระเบิด ไดแก แผนดิน
ขยายกวางขึ้นหรือสูงขึ้น ทําใหเกิดที่ราบสูงตางๆ ทําใหเกิดดิน
2 ภูเขาไฟระเบิด ปจจุบนั ประเทศไทยไมมภี เู ขาไฟระเบิด แตจากการสํารวจ
ที่อุดมสมบูรณดวยแรธาตุซึ่งเหมาะแกการเพาะปลูก ทําใหเกิด
ทางธรณีวิทยา พบวาในอตีดเคยมีภูเขาไฟ โดยมีหลักฐานจากหินภูเขาไฟใน
เกาะใหมในบริเวณมหาสมุทร และเปนแหลงที่ทําใหเกิดนํ้าพุรอน
บริเวณจังหวัดลพบุรี กาญจนบุรี ตราด สระบุรี ลําปาง สุรนิ ทร ศรีสะเกษ เปนตน
สวนภาวะเรือนกระจกทําใหสภาพอากาศแปรปรวน ซึ่งเปนโทษ
ของภูเขาไฟระเบิด ดังนั้น ตอบขอ 3.)

T48
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สรุป
ขยายความเขาใจ
1.4 แนวทางการเฝาระวังและการปฏิบัติตนใหปลอดภัยจากภูเขาไฟ 1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายเพื่ อ สรุ ป
ระเบิด เกี่ยวกับภูเขาไฟระเบิด โดยอาจสรุป ดังนี้
“ภูเขาไฟสวนใหญเกิดขึ้นบริเวณแนวรอย
ตอหรือรอยแยกของแผนธรณี หรือบริเวณรอย
แตกของแผนเปลือกโลก โดยเฉพาะบริเวณรอบ
มหาสมุทรแปซิฟก ที่เรียกวา วงแหวนไฟ
เมื่อเกิดภูเขาไฟระเบิดจะมีลาวาพนออกมา
จากปลองภูเขาไฟ นอกจากนี้ ยังมีชิ้นสวน
ภูเขาไฟพนออกมาดวย โดยสวนมากเปนเศษ
หิน ผลึกแร เถาภูเขาไฟ ฝุนภูเขาไฟ ไอนํ้า
และแกสตางๆ เมื่อลาวาแข็งตัวจะกลายเปน
หินภูเขาไฟ
จากขอมูลทางธรณีวิทยาพบหินภูเขาไฟใน
ประเทศไทยบริเวณจังหวัดลพบุรี กาญจนบุรี
ตราด สระบุ รี ลํ า ปาง สุ ริ น ทร ศรี ส ะเกษ
เปนตน จึงสรุปไดวาในอดีตประเทศไทยเคย
มีภูเขาไฟมากอน”
รับฟงข่าวเตือนภัยเกี่ยวกับภูเขาไฟ เมื่อมีประกาศให้อพยพหลบภัย ควรขับรถด้วยความระมัดระวังเมื่อ
ที่ออกโดยหน่วยสังเกตการณ์สภาพ ควรรีบอพยพโดยด่วน มีเถ้าภูเขาไฟอยูบ่ นถนนจ�านวนมาก 2. ใหนกั เรียนแบงกลุม กลุม ละ 3 คน สรุปความรู
อากาศ เรื่องภูเขาไฟระเบิดในรูปของแผนผังความคิด
ใหถูกตองและนาสนใจ แลวนําเสนอผลงาน
3. ครูมอบหมายการบานใหนกั เรียนทําแบบฝกหัด
จากแบบฝกหัด รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร
ใส่หน้ากากอนามัย และแว่นตา เตรียมเสบียง ยารักษาโรค เครื่องใช้ ไม่ควรหลบอยู่ในอาคารสิ่งก่อสร้าง โลก ดาราศาสตร และอวกาศ ม.4 เลม 1 หนวย
เพื่อปองกันเถ้าภูเขาไฟ ที่ จ� า เป็ น รวมทั้ ง เครื่ อ งมื อ สื่ อ สาร เพราะอาจเกิดการถล่มได้ การเรียนรู
ติดตามข่าวสาร

ขัน้ ประเมิน
ตรวจสอบผล
1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน
สวมเสื้อคลุม กางเกงขายาว และถุงมือ รวมตัวกันที่สถานที่หลบภัย 2. ครู ป ระเมิ น ผล โดยสั ง เกตการตอบคํ า ถาม
เพื่อปองกันเถ้าภูเขาไฟและความร้อน
จากการระเบิด ธรณีพิบัติภัย 43
การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน
3. ครูตรวจใบงาน เรื่อง ภูเขาไฟระเบิด
4. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัด

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET แนวทางการวัดและประเมินผล


ขอใดเปนแนวทางที่ถูกตองในการปฏบัติตนใหปลอดภัยจาก ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจในเนื้อหาเรื่อง ภูเขาไฟระเบิดได
ภูเขาไฟระเบิด จากการนําเสนอแผนผังความคิดทีน่ กั เรียนสรางขึน้ ในขัน้ ขยายความเขาใจ โดย
1. ควรหลบอยูภายในสิ่งกอสราง ศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานที่แนบ
2. ควรเก็บเครื่องมือสื่อสารไวภายในอาคาร ทายแผนการจัดการเรียนรูหนวยที่ 3
3. ใสหนากากอนามัยเพื่อปองกันเถาภูเขาไฟ
แบบประเมินการนาเสนอผลงาน

4. ปดวิทยุและโทรทัศนเพื่อปองกันใมใหเกิดไฟฟารั่ว คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่


ตรงกับระดับคะแนน

5. ใสเสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้น เพื่อใหรางกายถายเท


ระดับคะแนน
ลาดับที่ รายการประเมิน
3 2 1
1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน   
2 ความถูกต้องของเนื้อหา

ความรอนไดสะดวก
  
3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย   
4 ประโยชน์ที่ได้จากการนาเสนอ   
5 วิธีการนาเสนอผลงาน   
รวม

(วิเคราะหคาํ ตอบ แนวทางการปฏิบตั ติ นใหปลอดภัยจากภูเขาไฟ ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน


............../.................../...............

ระเบิด ไดแก เปดเครื่องมือสื่อสาร วิทยุ และโทรทัศนเพื่อติดตาม เกณฑ์การให้คะแนน


ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน

ขาวสาร เมือ่ เกิดภูเขาไฟระเบิด ไมควรหลบอยูใ นอาคารสิง่ กอสราง


ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน

ใสเสือ้ แขนยาว กางเกงขายาว และใสหนากากอนามัย เพือ่ ปองกัน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ


ช่วงคะแนน
14-15
ระดับคุณภาพ
ดีมาก

เถาภูเขาไฟ ดังนั้น ตอบขอ 3.)


11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

T49
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ นํา
กระตุน้ ความสนใจ
Prior Knowledge
1. ครู ก ระตุ  น ความสนใจของนั ก เรี ย น โดยให แผนดินไหวมีผลตอ 2. แผ่นดินไหว
นักเรียนดูสื่อดิจิทัลเกี่ยวกับแผนดินไหวจาก สิง่ มีชวี ติ อยางไร แผ่นดินไหว (earthquake) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจาก
อินเทอรเน็ต PowerPoint หรือ TWIG เรื่อง
ธรรมชาติและการกระท�าของมนุษย์ 1ท�าให้พลังงานศักย์ที่สะสมในหินปลดปล่อยออกมาเป็น
แผนดินไหวคืออะไร https://twig-aksorn. พลังงานจลน์ในรูปของคลื่นไหวสะเทือน ซึ่งถ่ายทอดพลังงานต่อไปยังมวลหินที่อยู่ติดกัน โดยเป็น
com/film/what-is-an-earthquake-7978/ ธรณีพิบัติภัยที่มีความรุนแรงมากที่สุด
2. เพือ่ ทบทวนวัดความรูเ ดิมของนักเรียน ครูถาม
คําถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียน 2.1 การเกิดแผ่นดินไหว
หนา 44 วา แผนดินไหวมีผลตอสิง่ มีชวี ติ อยางไร แผนดินไหว (earthquake)
3. เพื่ อ วั ด ความรู  เ ดิ ม ของนั ก เรี ย นก อ นเข า สู 
กิจกรรม ครูถามคําถาม Prior knowledge สาเหตุที่ทําใหเกิดแผนดินไหว

จากหนังสือเรียน หนา 44 วา แผนดินไหวมี จากการกระทําโดยธรรมชาติ เช่น การเคลื่อนที่ของเปลือกโลก การปะทุของภูเขาไฟ การพุ่งชน


ผลตอสิ่งมีชีวิตอยางไร ผิวโลกของอุกกาบาต การเกิดหลุมยุบ แผ่นดินถล่ม เป็นต้น
4. ครูตั้งคําถามกระตุนความคิดโดยใหนักเรียน เปลือกโลกภาคพื้นทวีป
เคลื่อนที่แยกจากกัน เปลือกโลกภาคพื้นทวีปเคลื่อนที่ชนกัน
ช ว ยกั น ระดมความคิ ด ในการตอบคํ า ถาม เปลือกโลกภาคพื้นทวีปเคลื่อนที่
ตัวอยางเชน ชนกับเปลือกโลกภาคพื้นมหาสมุทร
• ประเทศไทยเคยเกิดแผนดินไหวหรือไม เปลือกโลกภาคพื้นมหาสมุทร
( แนวตอบ นั ก เรี ย นส ว นมากอาจตอบว า เคลื่อนที่แยกจากกัน
ประเทศไทยเคยเกิ ด แผ น ดิ น ไหว เช น เปลือกโลก
เคลื่อนที่
เหตุการณแผนดินไหวเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. สวนทางกัน
พ.ศ. 2547 ที่ทําใหเกิดสึนามิ ซึ่งเปนความ คลื่นไหวสะเทือน
เขาใจที่ผิด เนื่องจากเหตุการณดังกลาวนั้น (seismic waves) : คลื่นความถี่
ต�่าที่ถ่ายทอดพลังงานผ่านชั้นหิน
เปนแผนดินไหวทีม่ ศี นู ยเกิดอยูใ นทะเลนอก
ชายฝง ตะวันตกตอนเหนือของเกาะสุมาตรา จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว ศูนย์เกิดแผ่นดินไหว (focus) :
ประเทศอินโดนีเซีย สวนแผนดินไหวทีม่ ศี นู ย (epicenter) : จุดที่อยู่บริเวณผิวโลก มักเกิดตามรอยเลื่อนในระดับ
ความลึกต่าง ๆ จากผิวโลก
เกิดอยูในประเทศไทย เชน แผนดินไหว
ขนาด 4.2 ริกเตอร ที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม จากการกระทําของมนุษย์
เมื่อวันที่ 15 ม.ค. พ.ศ. 2560) การสร้างเขื่อน/อ่างเก็บน�้า การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ใต้ดิน

การท�าเหมืองระดับลึก การสูบน�า้ ใต้ดนิ


แนวตอบ Prior Knowledge ภาพที่ 3.6 สาเหตุการเกิดแผ่นดินไหว
44
แผนดินไหวสงผลใหสิ่งกอสรางเสียหาย เกิด แผนดินไหว
อันตรายตอชีวิตและทรัพยสิน

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET


1 คลื่ น ไหวสะเทื อ น สามารถแบ ง ตามลั ก ษณะการเคลื่ อ นที่ ข องคลื่ น ได ขอใดไมใชสาเหตุของการเกิดแผนดินไหว
2 ประเภท ไดแก คลื่นตัวในกลาง (คลื่นปฐมภูมิ, คลื่นทุติยภูมิ) และคลื่นพื้นผิว 1. การสูบนํ้าใตดินมาใช
(คลื่นเลิฟ, คลื่นเรยลี) 2. การสรางบานในที่ราบลุม
3. การเคลื่อนที่ของเปลือกโลก
4. การสรางเขื่อนหรืออางเก็บนํ้า
สื่อ Digital 5. การทดลองระเบิดนิวเคลียรใตดิน
ศึกษาเพิ่มเติมไดจาก (วิเคราะหคําตอบ แผนดินไหวอาจเกิดจากธรรมชาติ เชน การ
ภาพยนตสารคดีสั้น Twig เคลื่อนที่ของเปลือกโลก การปะทุของภูเขาไฟ เปนตน และเกิด
เรือ่ ง แผนดินไหวคืออะไร? จากการกระทําของมนุษย เชน การสูบนํ้าใตดินมาใช การสราง
https://www.twig-ak- เขื่อนหรืออางเก็บนํ้า การทดลองระเบิดนิวเคลียรใตดิน เปนตน
sorn.com/film/what-is- ดังนั้น ตอบขอ 2.)
an-earthquake-7978/

T50
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
1. ใหนักเรียนสืบคนขอมูลการเกิดแผนดินไหว
แผนดินไหวครั้งรายแรง
ในหนังสือเรียนหรือแหลงขอมูลตางๆ แลวครู
ตุรกี (ทางตะวันตก) ค.ศ. 1999 อิหร่าน (ทางเหนือ) ค.ศ. 1990 ถามคําถามวา
เฮติ ค.ศ. 2010 ขนาดความรุนแรง 7.4 ริกเตอร์
ขนาดความรุนแรง 7.0 ริกเตอร์ ขนาดความรุนแรง 7.6 ริกเตอร์
ผู้เสียชีวิต 316,000 คน ผู้เสียชีวิต 17,118 คน ผู้เสียชีวิต 40,000 คน • ศูนยเกิดแผนดินไหวกับจุดเหนือศูนยเกิด
แผนดินไหวคืออะไร
จีน ค.ศ. 2008
ขนาดความรุนแรง (แนวตอบ ศูนยเกิดแผนดินไหว คือ ตําแหนง
6.1 ริกเตอร์
ผู้เสียชีวิต 87,857 คน
ที่เปนจุดกําเนิดการไหวสะเทือน สวนจุด
เหนือศูนยเกิดแผนดินไหว คือ ตําแหนงที่
อยูบนบริเวณผิวโลก ซึ่งอยูเหนือศูนยเกิด
แผนดินไหว)
2. ใหนักเรียนแบงกลุมออกเปน 5 กลุม เพื่อทํา
กิจกรรม เรื่อง แบบจําลองกระบวนการเกิด
แผนดินไหวและผลกระทบ ตามขั้นตอน ดังนี้
ขนาดความรุนแรง (ริกเตอร์)
ค.ศ.
1990 อิหร่าน (ทางเหนือ) 7.4
1) กดดินนํ้ามันแผใหเต็มบนอุปกรณชุดรอย
1993 อินเดีย 6.3
ปากีสถาน-อินเดีย ค.ศ. 2005 ญี่ปุน ค.ศ. 2011 เลื่อนจํานวน 4-5 ชั้น โดยใชดินนํ้ามัน
1999 ตุรกี (ทางตะวันตก) 7.6
2001 อินเดีย 7.7
ขนาดความรุนแรง 7.6 ริกเตอร์ ขนาดความรุนแรง ชั้นละสี
ผู้เสียชีวิต 86,000 คน 9.1 ริกเตอร์
2003
2004
อิหร่าน (ทางตะวันตกเฉียงใต้)
อินโดนีเซีย
6.6
7.1 ผู้เสียชีวิต 20,000 คน 2) วางอุปกรณตางๆ เชน ยางลบ คลิปหนีบ
2005 ปากีสถาน-อินเดีย 7.6 1 กระดาษ เหรียญ เปนตน ลงบนดินนํ้ามัน
2008 จีน 6.1 อินโดนีเซีย ค.ศ. 2004
2010 เฮติ 7.0 ขนาดความรุนแรง 7.1 ริ ริกเตอร์ เพื่ อ ใช เ ป น ตั ว แทนสิ่ ง ปลู ก สร า งและสิ่ ง
ผู้เสียชีวิตมากกว่า 230,000 คน
2011 ญี่ปุน 9.1
แวดลอม
(ที่มาของขอมูล : United States Geological Surway ; USGS) 3) ออกแรงดันกรอบไมอุปกรณชุดรอยเลื่อน
ผลกระทบ การระวังภัย ตามแนวเฉี ย ง สั ง เกตและบั น ทึ ก การ
สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ได้รับความเสียหาย ก�าหนดนโยบายการสร้างหรือต่อเติมอาคาร เปลี่ยนแปลง
บ้านเรือนให้สามารถรับแรงสั่นสะเทือน
ผู้คนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ของแผ่นดินไหว 4) ใชคัตเตอรตัดดินนํ้ามันตามแนวรอยแยก
สังเกตและบันทึกลักษณะและรูปรางของ
แผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดใต้ทะเล ฝกซ้อมเตรียมรับมือกับแผ่นดินไหว เพื่อความ
อาจท�าให้เกิดคลื่นสึนามิ เข้าใจและลดการบาดเจ็บและเสียชีวิต ชั้นดินนํ้ามัน
3. ใหนกั เรียนแตละกลุม สงตัวแทนมานําเสนอผล
การสื่อสาร การคมนาคมได้รับผลกระทบ
ให้ความรู้เกี่ยวกับภัยแผ่นดินไหว และแนวทาง การทํากิจกรรม
การรับมือกับแผ่นดินไหว เช่น เกิดแผ่นดินไหว
และเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ ห้ามใช้ลิฟต์ 4. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า
ภาพที่ 3.7 แผ่นดินไหวครั้งร้ายแรง ธรณีพิบัติภัย 45
กิจกรรม

กิจกรรม 21st Century Skills เกร็ดแนะครู


ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5 คน สืบคนเกี่ยวกับเหตุการณ กอนทํากิจกรรมครูควรเตรียมดินนํา้ มันหลากหลายสี สวนในระหวางการทํา
แผนดินไหวในประเทศแถบอาเซียน กลุมละ 1 เหตุการณ แลวนํา กิจกรรมควรเนนใหนักเรียนกดดินนํ้ามันลงบนอุปกรณชุดรอยเลื่อนชั้นละสี
เสนอหนาชั้นเรียนโดยศึกษาในประเด็นตางๆ ดังนี้ เพื่อทําใหสามารถสังเกตลักษณะของดินนํ้ามันหลังทํากิจกรรมไดอยางชัดเจน
- สาเหตุของการเกิดแผนดินไหว และเนนยํา้ ใหนกั เรียนกดดินนํา้ มันใหเปนแนวราบโดยไมโคงงอ เพราะอาจทําให
- ผลกระทบจากแผนดินไหว ผลการทํากิจกรรมคลาดเคลื่อนได
- แนวทางการแกปญหาจากเหตุการณแผนดินไหว
นักเรียนควรรู
1 อินโดนีเซีย ค.ศ. 2004 แผนดินไหวใตทะเลที่มีศูนยกลางอยูลึกลงไปใน
มหาสมุทรอินเดียบริเวณดานตะวันตกของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่ง
สงผลใหเกิดสึนามิซดั เขาชายฝง รอบมหาสมุทรอินเดีย รวมถึงบริเวณประเทศไทย
ซึ่งการเกิดสึนามิในครั้งนี้ทําใหมีผูเสียชีวิตกวา 230,000 คน และสูญหายกวา
หลายพันคน

T51
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
5. ครูถามคําถามเพื่อเชื่อมโยงเขาสูเนื้อหา โดย 2.2 ขนาดและความรุนแรงของแผ่นดินไหว
ถามวา ขนาดและความรุนแรงของแผนดินไหว ขนาดของแผ่นดินไหว (earthquake magnitude) หมายถึง ปริมาณพลังงานที่ถูกปล่อย
คืออะไร ออกมาจากจุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวในรูปคลืน่ ไหวสะเทือน สามารถตรวจวัดได้ดว้ ยเครือ่ งวัด
6. ครูใชเทคนิคเพือ่ นคูค ดิ โดยใหนกั เรียนจับคูก นั ความไหวสะเทือน (seismograph) ทีต่ ดิ ตัง้ ไว้ทสี่ ถานีตรวจวัดแผ่นดินไหว เครือ่ งมือนีจ้ ะบันทึกการ
สืบคนขอมูลเกี่ยวกับหัวขอ ดังนี้ สั่นสะเทือนของคลื่นไหวสะเทือนที่เคลื่อนที่มาถึงสถานีตรวจวัด แล้วแสดงผลเป็นกราฟเพื่อใช้ใน
- ขนาดและความรุนแรงของแผนดินไหว การวิเคราะห์ข้อมูล โดยมาตรวัดขนาดของแผ่นดินไหว มีดังนี้
- คลื่นไหวสะเทือน 1. มาตราริกเตอร์ (Richter scale) ถูกคิดค้นโดย ชาร์ล ฟรานซิส ริกเตอร์ ในปี ค.ศ. 1935
โดยนักเรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือ มีวธิ คี า� นวณหาขนาดของแผ่นดินไหวจากแอมพลิจดู สูงสุดทีเ่ ครือ่ งวัดความไหวสะเทือนตรวจวัดได้
และรายงานขนาดแผ่นดินไหวเป็นตัวเลข มาตรานี้ไม่มีค่าสูงสุด แต่โดยทั่วไปวัดขนาดได้ที่ 0-9
แหลงเรียนรูอื่นๆ แลวนําขอมูลมาแลกเปลี่ยน
เช่น แผ่นดินไหวขนาด 5.0 ตามมาตราริกเตอร์
ความคิดเห็น และรวมกันตั้งประเด็นคําถาม 2. มาตราโมเมนต์แผ่นดินไหว (moment magnitude scale) ถูกคิดค้นโดย โทมัส แฮงค์ และ
เกี่ยวกับเรื่องที่สืบคนมา อยางนอยกลุมละ 2 ฮิรูโอะ คานาโมริ ในปี ค.ศ. 1979 มีวิธีค�านวณหาขนาดของแผ่นดินไหวจากพื้นที่การเลื่อนตัวของ
คําถาม รอยเลื่อนและสมบัติของหินที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว และรายงานขนาดแผ่นดินไหว
7. ใหนักเรียนรวมกลุมกับเพื่อนอีกคูหนึ่ง รวม เป็นตัวเลข เช่น แผ่นดินไหวขนาด 5.0 ตามมาตราโมเมนต์แผ่นดินไหว
เปน 4 คน แลวแลกเปลี่ยนกันถามคําถามที่ ความรุนแรงของแผ่นดินไหว (earthquake intensity) หมายถึง ความรุนแรงจากการ
ตั้งไว จากนั้นรวมกันสรุปเพื่อเตรียมนําเสนอ สั่นสะเทือนโดยบอกระดับความรุนแรงจากลักษณะการสั่นสะเทือน ความเสียหายต่อมนุษย์ และ
หนาชั้นเรียน สิ่งปลูกสร้างเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งมาตราที่นิยมใช้บอกความรุนแรงของแผ่นดินไหว คือ มาตรา
8. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมานํา เมอร์คัลลีที่ปรับปรุงแล้ว (modified mercalli scale) มีระดับความรุนแรง 12 ระดับ ดังตาราง
1
เสนอคําถามของกลุมตนเอง โดยใหนักเรียน ตารางที่ 3.1 : มาตราเมอร์คัลลีที่ปรับปรุงแล้ว
ทั้ ง ห อ งร ว มกั น ตอบคํ า ถาม และอภิ ป ราย ระดับความรุนแรง ลักษณะความรุนแรง
รวมกัน I เป็นระดับที่อ่อนแอมากต้องตรวจวัดโดยเครื่องมือเท่านั้น
II ผู้ที่อยู่นิ่ง ๆ ในอาคารสูงพอรู้สึกได้
III ผู้ที่อยู่ในบ้านพอรู้สึกได้แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้สึก
IV ผู้ที่อยู่ในบ้านรู้สึกว่าของในบ้านสั่นไหว
V รู้สึกได้เกือบทุกคน และของในบ้านเริ่มแกว่งไกว
VI รู้สึกได้ทุกคน และของในบ้านเริ่มเคลื่อนไหว
VII สิ่งก่อสร้างทั่วไปเริ่มได้รับความเสียหาย
VIII สิ่งก่อสร้างทั่วไปได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก
IX สิ่งก่อสร้างที่ออกแบบไว้อย่างดีได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก
X สิ่งก่อสร้างที่ออกแบบไว้อย่างดีพังทลาย รางรถไฟบิดงอ
XI สิ่งก่อสร้างทั้งหมดพังทลาย รางรถไฟบิดงอมาก
XII ทุกสิ่งทุกอย่างเสียหาย แนวระดับต่าง ๆ บิดเบี้ยว วัตถุปลิวขึ้นไปในอากาศ
46

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET


1 เมอรคัลลี เปนมาตราที่นิยมใชบอกความรุนแรงของแผนดินไหว โดยแบง การวัดขนาดและความรุนแรงของแผนดินไหวตามหนวยเมอร
ความรุนแรงออกทั้งหมด 12 ระดับ (ระดับ I-XII) คัลลี ใชหลักเกณฑใดในการวัด
1. ความเสียหาย และความรูสึกของคน
2. เปรียบเทียบพลังงานกับการระเบิดปรมาณู
สื่อ Digital 3. ปริมาณความรอนที่แผออกมาจากใตผิวโลก
4. ความถี่ในการสั่นสะเทือนของแผนเปลือกโลก
ศึ ก ษาเพิ่ ม เติ ม ได
5. ปริมาณพลังงานกลที่ปลอยออกมาจากแผนเปลือกโลก
จากภาพยนตรสารคดีสั้น
Twig เรือ่ ง การทํานายการ (วิเคราะหคําตอบ การวัดขนาดและความรุนแรงของแผนดินไหว
เกิดแผนดินไหว https:// ตามหนวยเมอรคัลลี วัดจากปรากฏการณที่เกิดขึ้นขณะเกิดและ
www.twig-aksorn.com/ หลังเกิดเหตุการณแผนดินไหว เชน ความรูสึกของคนเมื่อเกิด
film/predicting-earth- แผนดินไหว ความเสียหายที่เกิดขึ้น เปนตน ดังนั้น ตอบขอ 1.)
quakes-7982/

T52
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สรุป
ขยายความเขาใจ
2.3 คลื่นไหวสะเทือน 1. ครู นํ า ภาพแผนที่ แ สดงรอยเลื่ อ นมี พ ลั ง ที่
คลื่นไหวสะเทือน (seismic waves) หรือคลื่นแผ่นดินไหว (earthquake waves) เป็นคลื่น พาดผานจังหวัดตางๆ ในประเทศไทยมาให
ที่มีความถี่ต�่า ซึ่งถ่ายทอดพลังงานผ่านชั้นหินภายในโลก แบ่งตามลักษณะการเคลื่อนที่ของคลื่น นักเรียนดู แลวถามคําถามใหนักเรียนรวมกัน
ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ คลื่นในตัวกลาง และคลื่นพื้นผิว แสดงความคิดเห็น
คลื่นปฐมภูมิ คลื่นทุติยภูมิ • จากแผนที่แสดงรอยเลื่อนมีพลังที่พาดผาน
(primary wave ; p wave) (secondary wave ; s wave) จังหวัดตางๆ ในประเทศไทย นักเรียนคิดวา
คลื่นตามยาวที่เคลื่อนที่ผ่าน คลื่นตามขวางที่เคลื่อนที่ผ่าน
ตัวกลางได้ทุกสถานะ ตัวกลางที่เป็นของแข็ง จังหวัดใดบางที่ตั้งอยูบนแนวเขตรอยเลื่อน
(แนวตอบ รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย
ครอบคลุม 22 จังหวัด ไดแก เชียงใหม
คลื่นในตัวกลาง (body wave)
คลื่นที่เดินทางทะลุจากจุดก�าเนิดแผ่นดินไหว และหักเหหรือ เชียงราย แพร แมฮองสอน กําแพงเพชร
สะท้อนเมื่อผ่านโครงสร้างของโลกที่มีความหนาแน่นหรือสมบัติ ตาก นาน พะเยา พิษณุโลก ลําปาง ลําพูน
ต่างกัน
อุ ต รดิ ถ ต กระบี่ ชุ ม พร พั ง งา ระนอง
คลื่นพื้นผิว (surface wave)
คลื่นที่เดินทางไปตามผิวโลก โดยแผ่ออกมาจากจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว สุราษฎรธานี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ
ภาพที่ 3.8 คลื่นไหวสะเทือน สุพรรณบุรี นครพนม และหนองคาย)
แผ่นดินไหวก่อให้เกิดคลื่นไหวสะเทือนหลายชนิด ซึ่งนักวิทยาศาสตร์สามารถใช้ผลต่าง ขัน้ ประเมิน
ของระยะเวลาที่คลื่นใช้เดินทางมายังเครื่องรับ เพื่อระบุ เหนอ� ศนู ยเ กดิ แผน ดนิ ไ ตรวจสอบผล
จดุ หว
พิกัดของศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวได้ ในขณะที่
นักธรณีฟสิกส์ใช้สมบัติการหักเหของคลื่น เพื่อ 1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม
วิเคราะห์โครงสร้างภายในโลก โดยพิจารณา การรวมกันทําผลงาน และจากการนําเสนอ
แกน โลกชนั้ นอก
จากการที่คลื่นไหวสะเทือนที่เคลื่อนที่ผ่าน ั
ก ษ ณะเปน ของเหลวหน ผลงาน
มลี �
โครงสร้างภายในโลกที่มีความหนาแน่น 2. ครูตรวจผลการทํากิจกรรมเรื่อง แบบจําลอง

แกนโลกชั้นใน
แตกต่างกันท�าให้คลื่นไหวสะเทือนเกิด ลักษณะเปนของแข็ง
กระบวนการเกิดแผนดินไหวและผลกระทบ
การหั ก เหและอั ต ราเร็ ว ของคลื่ น ก็ 105 ํ 105 ํ 3. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัด
ื่น p

เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเหตุนี้ท�าให้
เขตป

ดคล
ลอด

ี่พบ
ปลอ

บางบริเวณไม่มีคลื่นไหวสะเทือนเคลื่อนที่
คลื่น

วณท
เข ต
p

บ ร ิเ

ผ่าน ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่ระหว่างมุม 100-140 140 ํ 140 ํ


องศา วัดจากจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวตาม 180 ํ
เขตปลอด คลื่น p
เส้นรอบวงของโลก โดยบริเวณนี้เรียกว่า เขตอับ คลื่น s คลื่น s

(shadow zone) หรือเขตปลอดคลื่น s และ p ภาพที่ 3.9 การเคลื่อนที่ของคลื่นไหวสะเทือน


ผ่านโครงสร้างต่าง ๆ ภายในโลก
ธรณีพิบัติภัย 47

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET แนวทางการวัดและประเมินผล


ขอใดกลาวถูกตอง ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจในเนื้อหาเรื่อง แผนดินไหว ไดจาก
1. คลืน่ ทุตยิ ภูมเิ ปนคลืน่ ตามยาว การทํากิจกรรมเพือ่ ทดลองเลียนแบบกระบวนการเกิดแผนดินไหวและผลกระทบ
2. คลืน่ พืน้ ผิวเปนคลืน่ ทีเ่ ดินทางผานศูนยเกิดแผนดินไหว โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการปฏิบัติกิจกรรมที่
3. คลืน่ ปฐมภูมสิ ามารถเดินทางผานตัวกลางไดทกุ สถานะ แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูหนวยที่ 3
4. คลืน่ ในตัวกลางจะแผออกจากจุดเหนือศูนยเกิดแผนดินไหว หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ธรณีพิบัติภัย

5. คลืน่ ไหวสะเทือนมี 2 ประเภท คือ คลืน่ ปฐมภูมิ และคลืน่ แบบประเมินการปฏิบัติกจิ กรรม แผนฯ ที่ 1-3
คาชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินการปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียนตามรายการที่กาหนด แล้วขีด  ลงในช่องที่ตรง

ทุตยิ ภูมิ ลาดับที่


กับระดับคะแนน

รายการประเมิน
4
ระดับคะแนน
3 2 1
1 การปฏิบัติกิจกรรม

(วิเคราะหคําตอบ คลื่นไหวสะเทือน แบงเปน 2 ประเภท คือ 2


3
ความคล่องแคล่วในขณะปฏิบัติกิจกรรม
การนาเสนอ
รวม

1. คลื่นในตัวกลาง เปนคลื่นที่เคลื่อนที่จากศูนยเกิดแผนดินไหว ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน


................./................../..................

ซึ่งแบงยอยออกเปนคลื่นปฐมภูมิ ซึ่งเดินทางผานตัวกลางได
ทุกสถานะ และคลืน่ ทุตยิ ภูมิ ซึง่ เดินทางผานตัวกลางทีเ่ ปนของแข็ง
เทานั้น 2. คลื่นพื้นผิว เปนคลื่นที่เดินทางไปตามผิวโลก ดังนั้น
ตอบขอ 3.)
94
T53
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ นํา
กระตุน้ ความสนใจ
1. ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา คลื่นสึนามิมี Prior Knowledge
ลักษณะอยางไร สึนามิเมือ่ ป พ.ศ. 2547 3. สึนามิ
2. ครูตั้งคําถามกระตุน โดยใหนักเรียนชวยกัน สรางความเสียหายตอ สึนามิ (tsunami) คือ คลืน่ ทะเลทีม่ คี วามยาวคลืน่ มากกว่า
ระดมความคิดในการตอบคําถาม ประเทศไทยอยางไรบาง
หรือเท่ากับ 10 กิโลเมตร เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 500 ถึง 1,000
ï• คลื่นสึนามิกับคลื่นนํ้าทั่วไปในมหาสมุทร กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่ออยู่บริเวณกลางทะเล แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณชายฝงคลื่นจะมีความเร็วลดลง
แตกตางกันอยางไร และก่อตัวสูงขึ้น โดยอาจมีความสูงมากกว่า 30 เมตร
(แนวตอบ คลืน่ นํา้ ทัว่ ไปเกิดจากกระแสลมพัด
มวลนํ้าบริเวณผิวนํ้า ซึ่งมีคาบการเดินทาง 3.1 การเกิดสึนามิ
และความยาวคลื่นนอยกวาคลื่นสึนามิ)
สึนามิ (tsunami)

ขัน้ สอน ค ลื่นในบริเวณทะเลลึกจะมีความสูง


ไม่มาก แต่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง
คลื่นบริเวณใกล้ชายฝงมีความสูงมาก ค ลืน่ ซัดเข้าสูช่ ายฝง สร้างความเสียหาย
แต่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วต�่า เป็นบริเวณกว้าง
สํารวจค้นหา
1. ครูใหนักเรียนดูสื่อดิจิทัลเกี่ยวกับสึนามิจาก
อินเทอรเน็ต PowerPoint หรือ ภาพยนตร
สารคดีสั้น TWIG แ ผ่นเปลือกโลกใต้ทะเลเลื่อนตัว อย่าง
2. ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา สึนามิเมื่อวันที่ รวดเร็ ว และรุ น แรง ท� า ให้ พื้ น ทะเล
26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 มีสาเหตุมาจากอะไร เปลี่ยนแปลงระดับ

โดยมีแนวทางการอภิปรายและสรุป ดังนี้ “สึนามิ เ กิดคลื่นแผ่กระจายจากจุดก�าเนิด


เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 เปนผลมา สาเหตุที่ทําใหเกิดสึนามิ ออกไปยังทุกทิศทาง
จากการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนบริเวณแนว 1. สึนามิจากแผ่นดินไหว (seismic tsunami)
เป็นผลมาจากการเกิดแผ่นดินไหวในระดับที่รุนแรง โดยมีจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่
การมุดตัวของแผนเปลือกโลกอินเดียที่มุดตัว ใต้พื้นท้องมหาสมุทร หรือที่บริเวณใกล้ชายฝงทะเล และมีพลังงานตั้งแต่ 6 ริกเตอร์ขึ้นไป
ลงดานลางของแผนเปลือกโลกยอยเมียนมา แผ่นดินไหวใต้ทะเล และมีการไหวตัวในแนวดิ่ง
และแผนเปลือกโลกยูเรเชีย” 2. สึนามิไรแผ่นดินไหว (non-seismic tsunami) แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
3. ครูถามคําถาม Prior Knowledge จากหนังสือ 1) ชนิดที่เกิดจากปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ มีดังนี้ การเกิดแผ่นดินถล่ม (landslides)
ขนาดใหญ่ใกล้ชายฝงทะเล การปะทุอย่างรุนแรงของภูเขาไฟใต้ทะเลหรือบนเกาะใน
เรียน หนา 48 วา สึนามิเมือ่ ป พ.ศ. 2547 สราง ทะเล การพุ่งชนของอุกกาบาตลงบนพื้นน�้าในมหาสมุทร
ภูเขาไฟระเบิดใต้ทะเล
ความเสียหายตอประเทศไทยอยางไรบาง
2) ชนิดที่เกิดจากการกระทําของมนุษย์ ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2489 ได้มีการทดลอง
แนวตอบ Prior Knowledge ระเบิดปรมาณูที่เกาะบิกินี กลางมหาสมุทรแปซิฟก ซึ่งผลกระทบจากการทดลองนั้น
ท�าให้เกิดความสั่นสะเทือนของพื้นน�้าแล้วท�าให้เกิดสึนามิ
ทําใหมีผูเสียชีวิตมากกวาสองแสนคน กอให ทดลองระเบิดนิวเคลียร์
ภาพที่ 3.10 การเกิดสินามิ
เกิดความเสียหายตอทรัพยสิน อาคาร บานเรือน
48
สิ่งปลูกสรางตางๆ และสภาพภูมิประเทศบริเวณ
ที่ไดรับผลกระทบ

เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET


ครูอาจนําภาพขาวการเกิดสึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 มาให ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับคลื่นสึนามิ
นักเรียนศึกษา หรือมอบหมายใหนักเรียนเตรียมภาพมากอนจะเขาบทเรียน 1. คลื่นสึนามิมีความยาวคลื่นไมเกิน 50 เมตร
จากนั้นครูและนักเรียนรวมกันอธิบายสาเหตุของการเกิดและความเสียหายจาก 2. คลื่นสึนามิเกิดจากแผนดินไหวใตทะเลเทานั้น
สึนามิในครั้งนั้น 3. คลื่นสึนามิในบริเวณระดับนํ้าลึกจะมีความเร็วสูง
4. คลื่นสึนามิจะมีความสูงไมมากเมื่อเคลื่อนที่เขาสูชายฝง
5. คลื่นสึนามิจะมีความเร็วเพิ่มขึ้นเมื่อเคลื่อนที่เขาสูชายฝง
สื่อ Digital
(วิเคราะหคาํ ตอบ คลืน่ สึนามิเปนคลืน่ ทีม่ คี วามยาวคลืน่ ตัง้ แต 100
ศึ ก ษาเพิ่ ม เติ ม ได จ าก เมตรขึ้นไป ซึ่งอาจเกิดจากแผนดินไหวใตทะเล ภูเขาไฟระเบิดใต
ภาพยนตรสารคดีสั้น Twig ทะเล อุกกาบาตพุงชน การทดลองระเบิดนิวเคลียร หรือแผนดิน
เรื่ อ ง คลื่ น สึ น ามิ https:// ถลมใกลชายฝง คลื่นสึนามิในบริเวณทะเลลึกจะมีความเร็วสูง
www.twig-aksorn.com/ และมีความสูงของคลื่นไมมาก เมื่อเคลื่อนที่เขาใกลชายฝงจะมี
film/tsunami-7980/ ความเร็วลดลงและมีความสูงของคลื่นสูงมาก ดังนั้น ตอบขอ 3.)

T54
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
ใหนักเรียนทํากิจกรรม เรื่อง การเปลี่ยนแปลง
สึนามิครั้งรายแรง ระดับนํ้าเมื่อเกิดสึนามิ ตามขั้นตอน ดังนี้
ชายฝงอะแลสกา ค.ศ. 1964 1. แบงกลุม กลุมละ 4 - 5 คน แลววาดภาพ
ฟลิปปนส์ ค.ศ. 1976 ญี่ปุน ค.ศ. 2011 แผ่นดินไหวขนาด 9.2 ริกเตอร์
แผ่นดินไหวขนาด 7.9 ริกเตอร์ แผ่นดินไหวขนาด 9.0 ริกเตอร์ มีผูเสียชีวิตกวา 100 คน บริเวณชายฝง ทะเลลงบนกระดาษ A4 โดยใหแนว
มีผูเสียชีวิตกวา 5,000 คน มีผูเสียชีวิตกวา 25,000 คน
ชายฝงอยูดานขวาของภาพ และวาดนํ้าทะเลเปน
เสนตรงในแนวเดียวกับชายฝง
2. ใหแตละกลุมวาดเสนแสดงระดับนํ้าทะเล
ตามเหตุการณ ดังนี้
1) เวลา 10.30 น. นํ้าทะเลลดลงอยาง
รวดเร็ว โดยลดลงไปจากแนวชายหาด
กวา 100 เมตร
2) เวลา 10.35 น. คลื่นสูงประมาณ 2 - 3
เมตร ซัดกระทบชายฝง
มหาสมุทรอินเดีย ค.ศ. 2004 3) เวลา 10.55 น. คลื่นสูงกวา 10 เมตร
แผ่นดินไหวขนาด 9.3 ริกเตอร์ ปาปวนิวกินี ค.ศ. 1998
มีผูเสียชีวิตกวา 230,000 คน แผ่นดินไหวขนาด 7.1 ริกเตอร์
มีผูเสียชีวิตกวา 2,000 คน
ชิลี ค.ศ. 1960 ซั ด กระทบชายฝ  ง อย า งต อ เนื่ อ งเป น
ภาพที่ 3.11 ประเทศที่เกิดสึนามิครั้งร้ายแรง แผ่นดินไหวขนาด 9.5 ริกเตอร์
(ที่มาของขอมูล : https://www.brainz.org/10- มีผูเสียชีวิตกวา 6,000 คน เวลากวา 20 นาที
most-devastating-tsunamis-recent-history/) ดาวเทียมอิริเดียม 4) เวลา 11.10 น. คลืน่ สูงประมาณ 5 เมตร
(Iridium Satellite)
ส่งข้อมูลไปยังศูนย์เตือนภัยสึนามิบนฝง ซั ด กระทบชายฝ  ง ทํ า ให เ กิ ด นํ้ า ท ว ม
ระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิแบบทุนลอย
(Deep Ocean Assessment and Reporting เปนเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้น
Assessment of Tsunami System : DART)
ระดับนํ้าทะเลจึงกลับสูสภาวะปกติ
อธิบายความรู้

ทุนลอย (buoy)
ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายผลจากการ
เก็บข้อมูลความเร็วลม อุณหภูมิ ทํ า กิ จ กรรม เรื่ อ ง การเปลี่ ย นแปลงระดั บ นํ้ า
และความกดอากาศ แล้วส่งข้อมูล
ไปยังดาวเทียม เมื่อเกิดสึนามิ โดยมีแนวการอภิปราย ดังนี้
“เราสามารถสั ง เกตเหตุ ก ารณ สึ น ามิ ไ ด จ าก
เครื่องตรวจวัดความดันนํ้า ระดั บ นํ้ า ทะเลที่ เ ปลี่ ย นแปลงไปอย า งผิ ด ปกติ
(Bottom Pressure Recorder : BPR)
ส่งข้อมูลความดันน�้าทะเล การสั่นสะเทือน
โดยระดับนํ้าทะเลจะลดลงอยางมาก เปนเสมือน
ของเปลือกโลก และการเปลี่ยนแปลงของ สัญญาณเตือนภัยวาใหรีบอพยพขึ้นที่สูงใหเร็ว
คลื่นทะเลไปยังทุ่นลอยบนผิวน�้า
ที่สุด หลังจากนั้นไมนานนํ้าทะเลที่ถอยรนไปนั้น
49
ภาพที่ 3.12 ระบบเตือนภัยสึนามิ
ธรณีพิบัติภัย
จะเคลื่อนเขากระทบชายฝงอยางรวดเร็ว ซึ่งอาจ
มีคลื่นสึนามิหลายลูกติดตอกัน”

กิจกรรม สรางเสริม เกร็ดแนะครู


ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5 คน สืบคนเกี่ยวกับขาว ครูอาจนําภาพขาวการเกิดสึนามิครั้งรายแรงมาประกอบการสอน พรอม
เหตุการณสึนามิรอบโลก กลุมละ 1 เหตุการณ โดยศึกษาเกี่ยวกับ เลาถึงสาเหตุและผลกระทบที่เกิดขึ้น เชน สึนามิที่ประเทศญี่ปุน พ.ศ. 2554
สาเหตุของการเกิด ผลกระทบ แนวทางการแกปญหา และการ ซึ่งเกิดจากแผนดินไหวครั้งใหญที่วัดแรงสั่นสะเทือนไดถึงแมกนิจูดที่ 9.0 มี
ปองกันความสูญเสียจากเหตุการณสึนามิดังกลาว แลวนําเสนอ ศูนยกลางแผนดินไหวอยูนอกชายฝงตะวันออกเฉียงเหนือของคาบสมุทรโอชิกะ
หนาชั้นเรียน ลึกลงไปใตพนื้ ดิน 32 กิโลเมตร ซึง่ แผนดินไหวใตมหาสมุทรครัง้ นีท้ าํ ใหเกิดสึนามิ
รายแรงตามมา และจากเหตุการณนที้ าํ ใหเกิดการระเบิดของโรงไฟฟานิวเคลียร
ฟุกุชิมะที่ 1 และ 2 มีการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีในบริเวณโดยรอบที่ระดับ
กิจกรรม ทาทาย สูงมาก จนมีประชาชนเสียชีวิตจากเหตุการณนี้กวา 200,000 คน
ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5 คน สืบคนขอมูลเกี่ยวกับ
ลําดับเหตุการณการเกิดสึนามิ แลวรวมกันสรางแบบจําลองแสดง
ลําดับเหตุการณการเกิดคลื่นสึนามิ จากนั้นแตละกลุมนําเสนอ
แบบจําลองหนาชั้นเรียน

T55
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สรุป
ขยายความเข้าใจ
1. ครูใหนักเรียนแตละคนศึกษาแนวปฏิบัติเมื่อ 3.2 แนวปฏิบัติเมื่อเกิดสึนามิและแนวทางปองกันภัยจากสึนามิ
เกิดสึนามิ และแนวทางปองกันภัยจากสึนามิ
จากหนังสือเรียนหรือแหลงเรียนรูตางๆ แนวปฏิบัติเมื่อเกิดสึนามิ
2. ครู ตั้ ง ประเด็ น คํ า ถามให นั ก เรี ย นร ว มกั น Wooo.. Wooo..

อภิปรายวา เราจะลดความสูญเสียที่เกิดจาก
สึนามิไดอยางไร โดยมีแนวทางการอภิปราย
ดังนี้
หากได้รบั สัญญาณเตือนภัย หากเห็นระดับน�้าทะเล หากเรืออยู่ในทะเล ให้
“สึนามิเปนภัยพิบัติทางธรรมชาติที่สามารถ สึนามิให้รีบออกจากพื้นที่ ลดลงผิดปกติให้อพยพ น�าเรือไปอยู่บริเวณกลาง
ระวังภัยไดดวยการสังเกต นั่นคือ หากอยู เสี่ยงภัยทันที ไปอยู่ที่สูง ทะเลที่มีระดับน�้าลึก
บริเวณชายฝงแลวรูสึกถึงแรงสั่นสะเทือน หรือ
เห็นสัตวมพี ฤติกรรมผิดปกติ ใหรบี ฟงสัญญาณ
แนวทางปองกันภัยสึนามิ
เตือนภัยหรือขาวสารจากศูนยเตือนภัยพิบัติ
แหงชาติ หรือหากเห็นระดับนํ้าทะเลลดลง
ผิดปกติอยางมาก ควรรีบอพยพไปอยูบริเวณ
ที่สูงทันที และหากมีการซอมเหตุการณสึนามิ ติดตามข่าวสารภัยพิบตั จิ าก ศึ ก ษาวิ ธี ก ารป อ งกั น หลี ก เลี่ ย งการก่ อ สร้ า ง
ก็ควรเขารวมเสมอ เพือ่ ทราบตําแหนงและเสน แหล่งต่าง ๆ อย่างสม�า่ เสมอ และบรรเทาภั ย จาก อาคารบ้านเรือนบริเวณ
ทางไปยังสถานทีป่ ลอดภัย ซึง่ จะชวยลดความ สึนามิ พื้นที่เสี่ยงภัย
สูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพยสินได” Science ภาพที่ 3.13 แนวทางปฏิบัติและแนวปองกันภัยจากสึนามิ
3. ครูกลาวเพื่อใหนักเรียนไดลองสังเกตวาการ Focus สึนามิเมื่อ 26 ธันวาคม 2547
เกิดแผนดินไหวกับสึนามิเกี่ยวของกันอยางไร เมื่อเวลาประมาณ 7.58 น. ของวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 9.0
โดยมีแนวทางการอภิปราย ดังนี้ ริกเตอร์ ซึ่งมีศูนย์กลางการเกิดอยู่ในทะเลนอกชายฝงตะวันตกตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศ
“แผ น ดิ น ไหวกั บ สึ น ามิ มั ก เกิ ด ขึ้ น บริ เ วณ อินโดนีเซีย ส่งผลให้เกิดสึนามิในมหาสมุทรอินเดียซัดเข้าชายฝง ของประเทศอินโดนีเซีย ศรีลงั กา อินเดีย
เดี ย วกั น โดยส ว นมากเกิ ด ขึ้ น บริ เ วณรอบ โซมาเลีย ไทย มัลดีฟส์ เมียนมา แทนซาเนีย บังกลาเทศ และเคนยา มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 230,000
คน และสูญหายหลายพันคน
มหาสมุทรแปซิฟกที่เรียกวา วงแหวนแหงไฟ” แผ่นดินไหวนี้เกิดจากการเคลื่อนที่ของมวลหินเป็นแนวยาวประมาณ 1,200 กิโลเมตร ขนาน
กับแนวล่องลึกซุนดา ซึ่งเป็นแนวมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกอินเดียเข้าไปใต้แผ่นเปลือกโลกย่อย
เมียนมา (ส่วนหนึ่งของแผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย)
(ที่มา : สรุปขอมูลจากสารานุกรมไทยสําหรับเยาวชน
http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php? book=30&chap=8&page=t30-8-infodetail05.html)

50

เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET


แผนเปลือกโลก ประกอบดวยแผนขนาดใหญทั้งหมด 7 แผน ดังนี้ เหตุการณสึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 บริเวณภาค
- แผนแอฟริกา ครอบคลุมทวีปแอฟริกา ใตของประเทศไทย เกิดจากการชนกันระหวางแผนทวีปใด
- แผนแอนตารกติก ครอบคลุมทวีปแอนตารกติกา 1. แผนยูเรเชียกับแผนอินเดีย
- แผนออสเตรเลีย ครอบคลุมทวีปออสเตรเลีย (เคยเชื่อมกับแผนอินเดีย 2. แผนยูเรเชียกับแผนแปซิฟก
เมื่อประมาณ 50 - 55 ลานปกอน) 3. แผนอินเดียกับแผนแอฟริกา
- แผนยูเรเชีย ครอบคลุมทวีปเอเชียและยุโรป 4. แผนยูเรเชียกับแผนอินโดนีเซีย
- แผนอเมริกาเหนือ ครอบคลุมทวีปอเมริกาเหนือและทางตะวันออก- 5. แผนอินโดนีเซียกับแผนฟลิปปนส
เฉียงเหนือของไซบีเรีย (วิเคราะหคําตอบ เหตุการณสึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.
- แผนอเมริกาใต ครอบคลุมทวีปอเมริกาใต 2547 มีศูนยเกิดที่ทะเลนอกชายฝงตะวันตกตอนเหนือของเกาะ
- แผนแปซิฟก ครอบคลุมมหาสมุทรแปซิฟก สุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเกิดจากการชนกันระหวางแผน
นอกจากนี้ ยังมีแผนเปลือกโลกที่มีขนาดเล็กกวา ไดแก แผนอินเดีย เปลือกโลกอินเดียกับแผนเปลือกโลกยูเรเชีย ดังนั้น ตอบขอ 1.)
แผนอาระเบีย แผนแคริบเบียน แผนจวนเดฟูกา แผนนาสกา แผนทะเลฟลปิ ปนส
และแผนสโกเชีย

T56
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สรุป
Summary ขยายความเขาใจ
1. ครูตงั้ คําถามเพือ่ ใหนกั เรียนรวมกันอภิปรายวา
ธรณีพบิ ตั ภิ ยั ï• หากเกิดเหตุการณคลื่นสึนามิ นักเรียนควร
ปฏิบัติตนอยางไร
ภูเขาไฟระเบิด (แนวตอบ การปฏิบัติตนเพื่อเตรียมรับมือกับ
ใต้ชั้นเปลือกโลกบางบริเวณมีหินหนืดที่ร้อนจัดไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีรอยแยกในหินเปลือกโลก สึนามิ มีดังนี้
หินหนืดจึงดันตัวออกมาตามรอยแยกได้ และด้วยแรงอัดของแกสที่สะสมความดันไว้ในแมกมา จึงท�าให้ 1. ศึกษาขอมูลเกี่ยวกับอันตรายจากสึนามิ
แมกมาเกิดการดันตัวผ่านหินในเปลือกโลกจึงท�าให้เกิดภูเขาไฟระเบิด
2. เตรียมอุปกรณเอาตัวรอดไว เชน อาหาร
นํ้า ชุดปฐมพยาบาลเบื้องตน มีแผนการ
แกสต่าง ๆ ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์
ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และไอน�้า
อพยพ
ปากปล่องภูเขาไฟ หินหนืดแทรกตัวขึ้นมาตามรอยแยกของหิน 3. ฝกสังเกตสิ่งรอบตัวอยูเสมอ เพราะกอน
หินละลายหรือลาวา (lava)
เกิดสึนามิจะมีเหตุการณทางธรรมชาติที่
กรวยปะทุย่อย คื อ หิ น หนื ด ที่ ดั น ตั ว ออกมาสู ่ ผิ ว โลกมี อุ ณ หภู มิ จะเปนตัวเตือนภัยลวงหนาได เชน การ
ประมาณ 900 -1,300 �C ซึ่งการไหลของลาวาขึ้น
อยู่กับองค์ประกอบของลาวา โดยหากมีแกสเป็น ลดลงของระดับนํ้าทะเลอยางรวดเร็ว
องค์ประกอบอยู่มาก จะไหลได้เร็วและไกล แต่หาก 4. รับ ฟงการแจง เตือนภัยจากหน วยงาน
มีแกสเป็นองค์ประกอบอยูน่ อ้ ยจะไหลได้ชา้ และใกล้
การไหลเวียนของหินหนืดในชั้นเนื้อโลก
ราชการ
ภาพที่ 3.14 ภูเขาไฟระเบิด 5. หากคลื่นสึนามิกําลังเคลื่อนที่เขาใกล
แผนดินไหว ชายฝง ใหรีบออกหางจากบริเวณชายฝง
แผ่นดินไหว ปรากฏการณ์ที่เกิดจากธรรมชาติ ขนาดของแผ่นดินไหว คือ ปริมาณพลังงานที่ถูก ใหเร็วที่สุด และหนีขึ้นที่สูง
และการกระท�าของมนุษย์ทา� ให้พลังงานศักย์ทสี่ ะสม ปล่อยออกมาจากจุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว 6. หากกําลังจะจมนํา้ ใหมองหาสิง่ ทีส่ ามารถ
ในหินปลดปล่อยออกมาเป็นพลังงานจลน์ในรูปของ ในรูปของคลื่นไหวสะเทือน มีหน่วยวัดเป็นขนาด ลอยนํ้าไดและเกาะไวใหแนน
คลื่นไหวสะเทือน โมเมนต์ เมอร์คัลลี หรือริกเตอร์
เปลือกโลกภาคพื้นทวีป
2. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป เนื้ อ หาเกี่ ย วกั บ
เคลื่อนที่แยกจากกัน เปลือกโลกภาคพื้นทวีปเคลื่อนที่ชนกัน ภูเขาไฟ แผนดินไหว และสึนามิ จากนั้นให
เปลือกโลกภาคพื้นทวีปเคลื่อนที่
ชนกับเปลือกโลกภาคพื้นมหาสมุทร
นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน
เปลือกโลกภาคพื้นมหาสมุทร
เคลื่อนที่แยกจากกัน
เปลือกโลกเคลื่อนที่
ขัน้ ประเมิน
คลื่นไหวสะเทือน สวนทางกัน ตรวจสอบผล
(seismic waves) : คลื่นความถี่
ต�่าที่ถ่ายทอดพลังงานผ่านชั้นหิน 1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม
จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน
(epicenter) : จุดที่อยู่บริเวณผิวโลก จุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว
(focus) : มักเกิดตามรอยเลือ่ นใน 2. ครูตรวจและประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม
ระดับความลึกต่าง ๆ จากผิวโลก
ธรณีพิบัติภัย 51 การเปลี่ยนแปลงระดับนํ้าเมื่อเกิดสึนามิ
ภาพที่ 3.15 แผ่นดินไหว
3. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัด
4. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET แนวทางการวัดและประเมินผล


หากองคประกอบภายในโลกมีลักษณะเปนเนื้อเดียวกัน การ ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจในเนื้อหาเรื่อง สึนามิ ไดจากการ
เคลื่อนที่ของคลื่นไหวสะเทือนจากจุดกําเนิดจะเปนอยางไร ทํากิจกรรมเรื่อง การเปลี่ยนแปลงระดับนํ้าเมื่อเกิดสึนามิ โดยศึกษาเกณฑการ
1. คลื่นจะเคลื่อนที่เปนเสนตรง วัดและประเมินผลจากแบบประเมินการปฏิบัติกิจกรรมที่แนบมาทายแผนการ
2. คลื่นไหวสะเทือนจะไมเคลื่อนที่ จัดการเรียนรูหนวยที่ 3
3. เกิดการหักเหของคลื่นภายในโลก หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ธรณีพิบัติภัย

4. เกิดการสะทอนของคลื่นภายในโลก แบบประเมินการปฏิบัติกจิ กรรม แผนฯ ที่ 1-3


คาชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินการปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียนตามรายการที่กาหนด แล้วขีด  ลงในช่องที่ตรง

5. คลื่นจะเกิดการสะทอนกลับหมดภายในโลก ลาดับที่
กับระดับคะแนน

รายการประเมิน
4
ระดับคะแนน
3 2 1

(วิเคราะหคําตอบ เมื่อคลื่นเคลื่อนที่ผานตัวกลางตางชนิดกัน
1 การปฏิบัติกิจกรรม
2 ความคล่องแคล่วในขณะปฏิบัติกิจกรรม
3 การนาเสนอ
รวม

จะทําใหเกิดการหักเหและสะทอนของคลืน่ หากคลืน่ เคลือ่ นทีผ่ า น ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน


................./................../..................

ตัวกลางชนิดเดียวกัน ซึ่งมีความหนาแนนเทากัน จะทําใหคลื่น


เคลื่อนที่เปนเสนตรง ดังนั้น ตอบขอ 1.)

94 T57
นํา สอน สรุป ประเมิน

แนวตอบ Self Check


1. ผิด 2. ถูก 3. ผิด
4. ผิด 5. ถูก สึนามิ
สึนามิ คลื่นทะเลที่มีความยาวคลื่นมากกวาหรือหรือเทากับ 10 กิโลเมตร เคลื่อนที่ดวยความเร็วตั้งแต
500 ถึง 1,000 กิโลเมตรตอชั่วโมงเมื่ออยูบริเวณกลางทะเล แตเมื่อเขาใกลชายฝงจะมีความเร็วลดลงและ
เฉลย Unit Question 3
กอตัวสูงขึ้น
1. ภูเขาไฟระเบิดเกิดจากหินหนืดในชั้นเนื้อโลกได สาเหตุที่ทําใหเกิดสึนามิ สึนามิอาจเกิดจากการมีแผนดินไหวใตทะเล แผนดินถลมใกลชายฝง ภูเขาไฟ
รับแรงดันแลวแทรกตัวดันขึ้นมาตามรอยแยก ใตทะเลปะทุ อุกกาบาตพุงชนทะเล การทดลองระเบิดนิวเคลียร
หรือรอยแตกของหินในชั้นเปลือกโลก คลื่นบริเวณใกลชายฝง คลื่นซัดเขาสูชายฝง สรางความ
คลื่นในบริเวณทะเลลึกจะมีความสูง มีความสูงมาก แตเคลื่อนที่ เสียหายเปนบริเวณกวาง
2. ตัวอยางเชน ไมมาก แตเคลื่อนที่ดวยความเร็วสูง ดวยความเร็วตํ่า
- ภูเขาฮวนนา ปูตินา ประเทศเปรู
- ภูเขาไฟกรากะตัว ประเทศอินโดนีเซีย
- ภูเขาไฟซานตามาเรีย ประเทศกัวเตมาลา
- ภูเขาไฟปนาตูโบ เกาะลูซอน ประเทศ
ฟลิปปนส เกิดคลื่นแผกระจายจาก
จุดกําเนิดออกไปยัง
- ภูเขาไฟบนเกาะแอมบริด ประเทศวานัวตู ทุกทิศทาง
- ภูเขาไฟคาปารราวติเก ประเทศเอลซัลวาดอร แผนเปลือกโลกใตทะเลเลื่อนตัวอยางรวดเร็ว
และรุนแรง ทําใหพื้นทะเลเปลี่ยนแปลงระดับ
- ภูเขาไฟธีรา เกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ ภาพที่ 3.16 สึนามิ
- ภู เ ขาฉางไป ซ าน พรมแดนประเทศจี น -
เกาหลีเหนือ Self Check
- ภูเขาไฟแทมโบรา เกาะซัมบาวา ประเทศ ใหนักเรียนตรวจสอบความเขาใจ โดยพิจารณาขอความวาถูกหรือผิด แลวบันทึกลงในสมุด
อินโดนีเซีย หากพิจารณาขอความไมถูกตอง ใหกลับไปทบทวนเนื้อหาตามหัวขอที่กําหนดให
3. ภูเขาไฟในประเทศไทยเปนภูเขาไฟที่ดับสนิท ถูก/ผิด ทบทวนที่หัวขอ

แลวทั้งหมด ดังนี้ 1. ภูเขาไฟมักเกิดขึ้นตามแนวขอบของแผนเปลือกโลก ตามแนวเทือกเขา 1.


ริมฝงมหาสมุทรตาง ๆ
1. ภูเขาไฟหินพนมรุง จังหวัดบุรีรัมย
2. ภูเขาไฟระเบิดมักสงผลใหเกิดแผนดินไหวตามมาเปนระลอก 1.
2. ภูเขาไฟหินหลุบ จังหวัดบุรีรัมย

ุด
3. เครื่องไซโมกราฟเปนเครือ่ งทีใ่ ชวดั แรงสัน่ สะเทือนของแผนดินไหว 2.
สม
3. ภูเขาไฟอังคาร จังหวัดบุรีรัมย ลง
ใน
4. ภูเขาไฟดอยผาคอกจําปาแดด 4. คลื่ น ไหวสะเทื อ นเป น คลื่ น ที่ มี ค วามถี่ สู ง ซึ่ ง ถ า ยทอดพลั ง งานผ า น 2.
ทึ ก
บั น

ชั้นหินภายในโลก
จังหวัดลําปาง
5. แผนดินไหวใตทะเล ภูเขาไฟระเบิดใตทะเล อุกกาบาตพุง ชนโลก แผนดิน 3.
5. ภูเขาไฟดอยหินคอกผาฟู จังหวัดลําปาง ถลมใกลชายฝง เปนสาเหตุที่ทําใหเกิดคลื่นสึนามิ
6. ภูเขาไฟกระโดง จังหวัดบุรีรัมย
7. ภูเขาไฟไบรบัด จังหวัดบุรีรัมย 52
8. ภูเขาไฟคอก จังหวัดบุรีรัมย
4. ประโยชนของการเกิดภูเขาไฟระเบิด เชน
- แผนดินขยายกวางขึ้นหรือสูงขึ้น
- เกิดเกาะใหมภายหลังการเกิดภูเขาไฟปะทุใตทะเล
- ดินมีความอุดมสมบูรณดวยแรธาตุตางๆ
- เปนแหลงเกิดนํ้าพุรอน
โทษของการเกิดภูเขาไฟระเบิด เชน
- เขมาควันและแกสบางชนิดเปนอันตรายตอสิ่งมีชีวิต
- อาจทําใหเกิดแผนดินไหว
- เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพยสินของมนุษยและสัตว
5. พิจารณาจากคําตอบของนักเรียน ตัวอยางเชน
- แผนดินไหวที่ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลาประมาณ 11.56 น.
ï- เกิดจากการเคลื่อนที่ชนกันระหวางแผนเปลือกโลกอินเดียกับแผนเปลือกโลกยูเรเชีย
- ขนาด 7.8 แมกนิจูด
- มีผูเสียชีวิตมากกวา 7,000 ราย บาดเจ็บมากกวา 14,000 ราย อาคารสิ่งกอสรางเสียหายจํานวนมาก

T58
นํา สอน สรุป ประเมิน

6. ประเทศไทยตั้งอยูนอกเขตแนวรอยตอของแผน

U nit
คําชี้แจง :
Question 3
ให นั ก เรี ย นตอบคํ า ถามต่ อ ไปนี้
เปลือกโลก โอกาสที่จะเกิดแผนดินไหวขนาด
ใหญจึงมีคอนขางนอย ซึ่งอาจเกิดแผนดินไหว
ไดบางโดยมีสาเหตุมาจากรอยเลื่อนมีพลังที่อยู
1. อธิบายการเกิดภูเขาไฟระเบิดว่ามีสาเหตุมาจากอะไร ในภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต แต
สวนมากมักจะไดรับผลกระทบจากแผนดินไหว
2. ภูเขาไฟระเบิดที่ร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นที่ประเทศใดบ้าง ยกตัวอย่างและอธิบาย
บริเวณใกลเคียง เชน ประเทศจีน เมียนมา ลาว
3. ในประเทศไทยมีการเกิดภูเขาไฟระเบิดหรือไม่ และถ้าหากเคยเกิดขึ้น เกิดขึ้นที่จังหวัดใด บริเวณทะเลอันดามัน บริเวณตอนเหนือของเกาะ
4. ประโยชน์และโทษของการเกิดภูเขาไฟระเบิดมีอะไรบ้าง สุมาตรา
5. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่นักเรียนสนใจ แล้วสรุปความรู้ในประเด็นที่ 7. แนวทางปฏิบัติตนเมื่อเกิดแผนดินไหว มีดังนี้
ก�าหนดให้ ดังนี้ 1. อยาตื่นตกใจ พยายามควบคุมสติอยูอยาง
สงบ หากอยูในบานก็ใหอยูในบาน หากอยู
• เหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นบริเวณใด และช่วงเวลาใด
นอกบานก็ใหอยูนอกบาน เพราะสวนใหญ
• สาเหตุที่ท�าให้เกิดแผ่นดินไหว
มักไดรับบาดเจ็บเพราะวิ่งเขาออกจากบาน
• ขนาดของแผ่นดินไหวที่วัดได้
2. หากอยูใ นบานใหยนื หรือหมอบอยูใ นสวนของ
• ผลกระทบทีเ่ กิดจากแผ่นดินไหว
บานที่มีโครงสรางแข็งแรงที่สามารถรับนํ้า
6. ในประเทศไทยเคยเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวหรือไม่ และหากเคยเกิดขึน้ แล้วมีสาเหตุมาจากสิง่ ใด หนักไดมาก และใหอยูห า งจากประตู ระเบียง
7. จงเสนอแนวทางปฏิบัติตนเมื่อเกิดแผ่นดินไหว และหนาตาง
3. หากอยูในอาคารสูง ควรตั้งสติและรีบออก
8. อธิบายการเกิดสึนามิ และในประเทศไทยเคยเกิดเหตุการณ์สึนามิหรือไม่ จงอธิบาย
จากอาคารโดยเร็ว หนีใหหางจากสิ่งที่อาจ
9. ประโยชน์และโทษของการเกิดสึนามิมีอะไรบ้าง ลมทับได
10. จงเสนอแนวทางปฏิบัติตนเมื่อเกิดสึนามิ 4. ถาอยูในที่โลงแจง ใหอยูหางจากเสาไฟฟา
และสิ่งหอยแขวนตางๆ
5. อยาใช เทียน ไมขีดไฟ หรือสิ่งที่ทําใหเกิด
ประกายไฟ เพราะอาจมีแกสรัว่ อยูบ ริเวณนัน้
6. หากทานกําลังขับรถใหหยุดรถและอยูภ ายใน
รถ จนกระทั่งการสั่นสะเทือนจะหยุด
7. หามใชลิฟตโดยเด็ดขาด
8. หากอยูบ ริเวณชายหาด ใหอยูห า งจากชายฝง
เพราะอาจเกิดคลื่นขนาดใหญซัดเขาหาฝง

ธรณีพิบัติภัย 53

8. คลื่นสึนามิ (Tsunami) เปนคลื่นที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของพื้นทะเลในแนวดิ่งบริเวณแนวรอยตอของแผนเปลือกโลก ซึ่งเปนคลื่นนํ้าที่มีความยาวคลื่น


มากกวา 100 กิโลเมตร และเคลื่อนที่ดวยความเร็ว 500-1,000 กิโลเมตรตอชั่วโมง ประเทศไทยเคยเกิดเหตุการณสึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547
ซึ่งสรางความเสียหายตอชีวิตและทรัพยสินจํานวนมาก
9. สึนามิกอใหเกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพยสินเปนจํานวนมาก และทําใหสภาพแวดลอมเปลี่ยนแปลงไปอยางมาก
10. แนวทางปฏิบัติตนเมื่อเกิดสึนามิ เชน
- ขณะที่อยูบริเวณชายฝงเมื่อรูสึกวามีแผนดินไหวหรือพบวาระดับนํ้าทะเลลดลงมากผิดปกติ ใหรีบอพยพไปยังบริเวณที่สูงทันที
- เมื่อไดรับฟงประกาศเกี่ยวกับการเกิดแผนดินไหวในทะเล ใหเตรียมรับสถานการณที่อาจจะเกิดสึนามิตามมาได

T59
Chapter Overview

แผนการจัด คุณลักษณะ
สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้
การเรียนรู้ อันพึงประสงค์
แผนฯ ที่ 1 - แบบทดสอบก่อนเรียน 1. อธิบายความหมาย - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
การล�ำดับชั้นหิน - หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่ม และหลักการล�ำดับ หาความรู้ - ประเมินการท�ำกิจกรรมการ - ทกั ษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
เติมวิทยาศาสตร์ โลก ชั้นหิน (K) (5Es In- เคลื อ
่ นที ข
่ องแผ่ น ธรณี ภ าค ค้ น หา - มุ่งมั่นในการ
2 ดาราศาสตร์ และอวกาศ 2. สืบค้นข้อมูล structional - ตรวจและประเมินการท�ำ - ทักษะการวิเคราะห์ ท�ำงาน
ม.4 เล่ม 1 เกีย่ วกับการ Model) กิจกรรมจากใบกิจกรรม เรื่อง
ชั่วโมง
- แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่ม จ�ำแนกหน่วยหิน หน่วยหินในประเทศไทย
เติมวิทยาศาสตร์ โลก ในประเทศไทย(P) - ตรวจและประเมินการน�ำ
ดาราศาสตร์ และอวกาศ 3. สนใจใฝ่รู้ในการ เสนอใบงาน เรื่อง การล�ำดับ
ม.4 เล่ม 1 ศึกษา (A) ชั้นหิน
- ใบงาน - ตรวจและประเมินแผนผัง
- ใบกิจกรรม ความคิด
- PowerPoint - ตรวจแบบฝึกหัด
- RQ code - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น กลุ่ม
Twig
แผนฯ ที่ 2 - แบบทดสอบหลังเรียน 1. อธิบายหลักการ - แบบสืบเสาะ - ตรวจและประเมินการท�ำ - ทักษะการสังเกต - มีวินัย
การหาอายุทาง - หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่ม และวิธีการหาอายุ หาความรู้ กิจกรรมจากใบกิจกรรม เรื่อง - ทักษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
ธรณีวิทยา เติมวิทยาศาสตร์ โลก ทางธรณีวิทยา (K) (5Es In- การวางตัวของหินตะกอน ค้นหา - มุ่งมั่นในการ
ดาราศาสตร์ และอวกาศ 2. อธิบายการน�ำหลัก structional เรื่องการตัดผ่านของรอย - ทักษะการวิเคราะห์ ท�ำงาน
6 ม.4 เล่ม 1 การล�ำดับชั้นหินมา Model) เลื่อนและหินอัคนี และเรื่อง
ชั่วโมง
- แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่ม ใช้ในการหาอายุ รอยชั้นไม่ต่อเนื่อง
เติมวิทยาศาสตร์ โลก เปรียบเทียบ (K) - ตรวจใบงานที่ เรื่อง การหา
ดาราศาสตร์ และอวกาศ 3. สืบค้นข้อมูลเกี่ยว อายุทางธรณีวิทยา
ม.4 เล่ม 1 กับซากดึกด�ำบรรพ์ - ตรวจแบบฝึกหัด
- ใบงาน และการหาอายุ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน
- ใบกิจกรรม สัมบูรณ์ (P) - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน
- PowerPoint 4. สนใจใฝ่รู้ในการ กลุ่ม
- RQ code ศึกษา (A) - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น รายบุคคล
Twig

แผนฯ ที่ 3 - แบบทดสอบหลังเรียน 1. อธิบายหลักการ - แบบสืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ทักษะการสังเกต - มีวินัย


มาตราธรณีกาล - หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่ม และวิธีการจัดท�ำ หาความรู้ - ตรวจใบงาน เรื่อง มาตรา - ทกั ษะการส�ำรวจ - ใฝ่เรียนรู้
เติมวิทยาศาสตร์ โลก มาตราธรณีกาล (5Es In- ธรณีกาล ค้นหา - มุ่งมั่นในการ
2 ดาราศาสตร์ และอวกาศ (K) structional - ตรวจแบบฝึกหัดจาก - ทักษะการวิเคราะห์ ท�ำงาน
ม.4 เล่ม 1 2. สืบค้นข้อมูลเกี่ยว Model) Unit Question 4
ชั่วโมง
- แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่ม กับเหตุการณ์ทาง - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน
เติมวิทยาศาสตร์ โลก ธรณีวิทยาที่สำ� คัญ - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน
ดาราศาสตร์ และอวกาศ ในช่วงเวลาทาง กลุ่ม
ม.4 เล่ม 1 ธรณีวิทยา (P) - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน
- ใบงาน 3. สนใจใฝ่รู้ในการ รายบุคคล
- PowerPoint ศึกษา (A)
- RQ code
- ภาพยนตร์สารคดีสั้น
Twig

T60
Chapter Concept Overview
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
การลําดับชั้นหิน
การจําแนกหนวยหิน
จัดลําดับหินจากหนวยใหญไปยังหนวยยอย ไดแก กลุมหิน (group) หมวดหิน (formation) หมูหิน (member) และชั้นหิน (bed)
การลําดับชั้นและการกระจายตัวของหิน
กลุมหิน กลุมหิน กลุมหิน
บรมยุคพรีแคมเบรียน มหายุคพาลีโอโซอิกตอนตน มหายุคพาลีโอโซอิกตอนกลาง
กลุมตะรุเตา และกลุมทุงสง กลุมทองผาภูมิ และกลุมปากชม

กลุมหิน กลุมหิน กลุมหิน


มหายุคซีโนโซอิก มหายุคมีโซโซอิก มหายุคพาลีโอโซอิกตอนปลาย
กลุมแมเมาะ และกลุมกรุงเทพ กลุมลําปาง และกลุมโคราช กลุมแกงกระจาน กลุมราชบุรี
และกลุมสระบุรี

การหาอายุทางธรณีวิทยา
อายุเปรียบเทียบ อายุสัมบูรณ
ศึกษาจากการจัดลําดับชั้นหิน ซึ่งวิธีการนี้ วิเคราะหและคํานวณจากไอโซโทป
จะไมสามารถระบุอายุเปนปที่แนชัดได ของธาตุกัมมันตรังสีที่อยูในวัตถุทาง
ธรณีวิทยา

กฎการวางตัว กฎความสัมพันธ กฎการเทียบ กฎการสืบทอด กฎการเปน


ซอนทับ ที่ตัดกัน สัมพันธของ สัตวชาติ เอกภาพ
ชั้นหินที่ไมถูกรบกวน หากมีหินอัคนีแทรก หิินตะกอน ซากดึ ก ดํ า บรรพ นั้ น ปจจุบันเปนกุญแจไข
จากกระบวนการตาง ๆ ตัวขึ้นมาตัดขวางชั้น วิเคราะหความคลาย เปลี่ยนแปลงได ทําให ไปสูอดีต (The pre-
ชั้ น หิ น ที่ ว างตั ว อยู  หินเดิม หินนั้นยอม กั น ข อ ง ลั ก ษ ณ ะ ลําดับชัน้ หินทีต่ อ เนือ่ ง sent is the key to
ด า นบนย อ มมี อ ายุ มีอายุนอยกวาชั้นหิน ตําแหนง และลําดับ กันมีซากดึกดําบรรพ the past)
น อ ยกว า ชั้ น หิ น ที่ เดิม ชั้ น หิ น ตะกอน ใน ตางกัน
วางตัวอยูดานลาง พื้นที่ตาง ๆ

ตารางธรณี
ตารางธรณีกาล (geologic time scale : GTS) 1 บรมยุคพรีแคมเบรียน 8 ยุคไทรแอสซิก
เปนการลําดับอายุทางธรณีวิทยานับตั้งแตโลก 9
กําเนิดขึ้นเมื่อ 4,600 ลานปกอน ซึ่งตาราง 10 8 2 ยุคแคมเบรียน 9 ยุคจูแรสซิก
จะประกอบดวย บรมยุค (Eon) มหายุค 3 ยุคออรโดวิเชียน 10 ยุคครีเทเชียส
(Era) ยุค (Period) อนุยุคหรือสมัย 2 11 7 4 ยุคไซลูเรียน 11 ยุคพาลีโอจีน
(Epoch) อายุ (Age) และรุน 3 5 ยุคดีโวเนียน 12 ยุคนีโอจีน
(Chron) ตามลําดับ 4 5 6 12
13 6 ยุคคารบอนิเฟอรัส 13 ยุคควอเทอรนารี
1
7 ยุคเพอรเมียน

T61
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ นํา

ลําดับชัน้ หิน
กระตุน ความสนใจ
1. ครูนําเขาสูชั่วโมงเรียนโดยถามคําถาม Big หน่วยการเรียนรู้ที่
Question จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม
วิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร และอวกาศ
ม.4 เลม 1 หนา 54 วา ลําดับชั้นหินสามารถ
บอกอะไรกับเราไดบาง
2. ครูใหนกั เรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน เพือ่ วัด ผลการเรียนรู
4 การเปลี่ยนแปลง ทางธรณีวิทยานั้นเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยซึ่ง
ความรูของนักเรียยนกอนเขากิจกรรม 7. วิเคราะห์หลักฐานทางธรณีวิทยา เป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ
ที่พบในปัจจุบัน และอธิบายล�าดับ และใช้เวลายาวนานนับล้านปี ไม่สามารถสังเกตได้ภายใน
3. ครูตั้งคําถามกระตุนความคิดโดยใหนักเรียน เหตุการณ์ทางธรณีวิทยาในอดีต
ช่วงชีวิตของมนุษย์ การตรวจสอบกระบวนการทางธรณีวิทยา
ชวยกันระดมความคิดในการตอบคําถาม จึงต้องอาศัยหลักการทางธรณีวิทยาประกอบกับปรากฏการณ์
• ถาตองการทราบเหตุการณที่เกิดขึ้นในอดีต ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
นักเรียนจะทําอยางไร
(แนวตอบ คนหาขอมูลจากหองสมุด หรือ
สืบคนจากอินเทอรเน็ต)
• ถาเหตุการณที่เกิดขึ้นในอดีต ยาวนานนับ
ลานป นักเรียนจะทําอยางไร
(แนวตอบ ศึกษาไดจากซากดึกดําบรรพ หรือ
รองรอยที่ปรากฏใหเห็นในปจจุบัน)
• นักวิทยาศาสตรมีวิธีการอยางไร ในการ
ศึ ก ษาเหตุ ก ารณ ใ นอดี ต ที่ ย าวนาน เช น
ประวัติของโลก
(แนวตอบ ศึกษาจากหลักฐานทางธรณีวิทยา
ประกอบกั บ ปรากฏการณ ใ นป จ จุ บั น เพื่ อ
อธิบายเหตุการณที่เคยเกิดขึ้นในอดีต)
ÅӴѺªÑé¹ËÔ¹
ÊÒÁÒöºÍ¡ÍÐäáѺàÃÒ
ä´ŒºŒÒ§

แนวตอบ Big Question


ลําดับชั้นหินสามารถบงบอกชุดของชั้นหินใน
บริเวณที่ทําการศึกษา อีกทั้งยังสามารถใชบอกถึง
ธรณีประวัติหรือปรากฏการณทางธรณีวิทยาที่เคย
เกิดขึ้นในบริเวณนั้นๆ ดวย

เกร็ดแนะครู
การเรียนการสอน เรื่อง ลําดับชั้นหิน ครูควรเนนกระบวนการกลุมและเนน
ใหนักเรียนใชทักษะในการสืบคน วิเคราะห อธิบาย และอาจใหนักเรียนไดออก
ไปสํารวจลักษณะของชัน้ หิน หรือซากดึกดําบรรพในทองถิน่ ของนักเรียน เพือ่ นํา
มาใชอธิบายประวัติความเปนมาของพื้นที่ในทองถิ่นได

T62
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ นํา
กระตุน ความสนใจ
Prior Knowledge
การลําดับชัน
้ หิน คืออะไร 1. การล�าดับชั้นหิน 4. ครูวัดความรูเดิมของนักเรียนโดยใชคําถาม
Prior Knowledge จากหนังสือเรียน หนา 55
การจัดระเบียบหินที่มีอยู่ภายในประเทศให้เป็นระบบเพื่อ
วา ลําดับชั้นหิน คืออะไร
น�าไปใช้อา้ งอิงในงานธรณีวทิ ยาและสาขาวิชาทีเ่ กีย่ วข้อง เรียกว่า การล�าดับชัน้ หิน (stratigraphy)
5. ครูกระตุนความสนใจและนําเขาสูบทเรียน
ซึง่ มีหลายวิธขี นึ้ อยูก่ บั ว่าจะใช้ลกั ษณะเด่นทางธรณีวทิ ยารูปแบบใดเป็นตัวก�าหนด โดยส่วนมากจะ
โดยใหนักเรียนแสกน QR code เพื่อดูคลิป
ใช้ชนิดของหินและอายุที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดของหินเป็นหลัก
วิดีโอ เรื่อง การจําแนกหนวยหิน แลวครู
1.1 การจ�าแนกหนวยหิน ชักชวนนักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับคลิปที่ไดดูไป
ในทางธรณีวิทยาแปรสัณฐาน (geotectonics) ประเทศไทยประกอบด้วยแผ่นธรณีภาค วานักเรียนไดขอมูลเกี่ยวกับการจําแนกหินวา
(lithospheric plate) 2 แผ่นหลัก คือ แผ่นฉาน-ไทย (Shan-Thai Plate) ทางทิศตะวันตก และ อยางไรบาง
แผ่นอินโดจีน (Indochina Plate) ทางทิศตะวันออก โดยมีแผ่นย่อยอีก 2 แผ่นคัน่ กลางอยู ่ ซึง่ ได้แก่
แผ่นสุโขทัย (Sukhothai Plate) หรือเขตสุโขทัย (Sukhothai Belt) และแผ่นนครไทย (Nakhonthai
Plate) หรือเขตเลย (Loei Belt) โดยแผ่นทัง้ หมดเชือ่ มต่อกันด้วยตะเข็บธรณี (geo suture) หลายตะเข็บ
เช่น ตะเข็บเชียงใหม่ (Chiangmai Suture) ทางตะวันตก ตะเข็บเลย (Loei Suture) ทางตะวันออก
แผ่นธรณีภาคแต่ละแผ่นมีโครงสร้างและสภาพการแปรสัณฐาน (tectonic setting) ต่างกัน
ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มหินหลายกลุ่ม โดยมีการจัดล�าดับหินจากหน่วยใหญ่ไปยังหน่วยย่อย ดังนี้
กลุ่มหิน (group) คือ หน่วยของหินที่มีอายุอยู่ในยุคหรือมหายุคเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วย
หมวดหินตั้งแต่ 2 หมวดขึ้นไป
หมวดหิน (formation) คือ หน่วยที่รองมาจากกลุ่มหิน เป็นหน่วยหลักในการจ�าแนกชั้นหิน
โดยหมวดหินหนึ่ง ๆ นั้นอาจประกอบไปด้วยหินชนิดใดก็ได้ที่มีความหนาน้อยกว่าหนึ่งเมตรจนถึง
หลายพันเมตร Earth Science
หมู่หิน (member) คือ หน่วยที่รองมาจากหมวดหิน ซึ่ง in real life
จะเน้นหินที่มีลักษณะโดดเด่นกว่าส่วนอื่นของหมวดหินนั้น การศึ ก ษาการล� า ดั บ ชั้ น หิ น
จะช่วยให้สามารถบ่งบอกชุด
ชั้นหิน (bed) คือ หน่วยย่อยที่สุดของการจัดล�าดับชั้นหิน ของชั้นหิน (succession) ของ
ซึ่งอาจมีความหนาตั้งแต่ 1 เซนติเมตร จนถึง 3 เมตร โดยมี บริเวณนั้นได้ อีกทั้งยังสามารถ
ลักษณะเด่นชัดที่แตกต่างไปจากส่วนอื่นของหมู่หินนั้น ใช้บอกถึงธรณีประวัต ิ (geologic
หน่วยหินต่าง ๆ มักมีชื่อเรียกเฉพาะ ซึ่งโดยส่วนมากเป็น history) หรือปรากฏการณ์ทาง
ธรณีวทิ ยา (geologic events) ที่ แนวตอบ Prior Knowledge
ชื่อทางภูมิศาสตร์ของสถานที่ที่พบ เคยเกิดขึ้นในบริเวณนั้น ๆ ด้วย นักเรียนตอบตามความคิดของตนเอง หรือตอบ
วา การลําดับชัน้ หิน คือ การจัดเรียงลําดับหนวยของ
55
ชัน้ หินตามตําแหนง และลําดับอายุของชัน้ หิน อีกทัง้
การจําแนกหนวยของหิน ยังสามารถบอกลําดับเหตุการณ หรือปรากฏการณ
ทางธรณีวิทยาที่เคยเกิดขึ้นในบริเวณนั้น

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET สื่อ Digital


ขอใดกลาวไมถกู ตองเกีย่ วกับการลําดับชัน้ หิน ศึกษาเพิ่มเติมไดจากสแกน QR code เรื่อง การจําแนกหนวยของหิน
1. ชั้นหินเกิดจากการทับถมกันของตะกอน
2. หินตะกอนที่อยูดานลางจะเกิดกอน หินที่มีอายุนอยกวาจะ
ซอนอยูดานบนเรียงเปนชั้นๆ
3. หินตะกอนที่อยูดานลางจะเกิดทีหลัง หินที่มีอายุมากกวา
จะซอนอยูดานบนเรียงเปนชั้นๆ
4. หนวยหินตางๆ มักมีชื่อเรียกเฉพาะ โดยสวนมากจะเปน
ชื่อทางภูมิศาสตรของสถานที่ที่พบ
5. กลุมหินเปนหนวยของหินที่มีอายุอยูในยุคหรือมหายุค
เดียวกัน ประกอบดวยหมวดหินตั้งแต 2 หมวดขึ้นไป
( วิ เ คราะห คํ า ตอบ ชั้ น หิ น เกิ ด จากการทั บ ถมกั น ของตะกอน
หินตะกอนที่อยูดานลางจะเกิดกอน หินที่มีอายุนอยกวาจะซอน
อยูดานบนเรียงเปนชั้นๆ ตามลําดับ ดังนั้น ตอบขอ 3.)

T63
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
1. ใหนกั เรียนสืบคนขอมูลเกีย่ วกับการลําดับชัน้ หิน 96 ํE 98 ํE 100 ํE 102 ํE 104 ํE 106 ํE
แผนเปลือกโลก
แลวครูถามคําถามวา แผนเปลือกโลก
จีนใต

แผนเปลือกโลกเมียนมาตะวันตก
ฉาน-ไทย ยเลอื่ นแมจั
• นักวิทยาศาสตรใชวิธีการใดในการลําดับ 20 ํN

อิง
20 ํN รอ


นแ
เลื่อ
ชั้นหิน อาวตังเกี๋ย

ร อ ยเ ลื่อ น พ

รอยเลื่อ
รอย
แผนเปลือกโลก

ร อ ย เ ลอื่


(แนวตอบ นําขอมูลอายุทางธรณีวทิ ยาของหิน

รอยเลื่อน

ปว
ะเย
อินโดจีน


นแมท า
ซากดึกดําบรรพ และเหตุการณทางธรณีวทิ ยา

แมฮ องสอน
18 ํN

ถ
18 ํN

ร ด ิต

อื่นๆ มาจัดเรียงตามลําดับ ประกอบกับ

เถิ
เลื่ อ น
รอย

อ ุต
เลื่

อน
รอย
รอย
หลักการในการลําดับชั้นหิน เชน กฎการ

เลอื่
เม

รบรู ณ

อื่ นเพช
ลําดับชั้น กฎความสัมพันธที่ตัดกัน หลัก

รอยเล
16 ํN
เอกรูปนิยม)
16 ํN

รอย
อาวเมาะตะมะ

เลื่อ
• การลําดับชัน้ หินมีประโยชนในดานใดบาง

นศ
วัส

รี ส
ดิ์
รอ
(แนวตอบ นักวิทยาศาสตรจัดลําดับชั้นหิน ยเล
อื่ น
เจด
ยี ส
าม
เพื่อใชอางอิงในงานดานธรณีวิทยา และ 14 ํN
อง ค

14 ํN

สาขาวิชาทีเ่ กีย่ วของ นอกจากนี้ ยังสามารถ แผนเปลือกโลก


อินโดจีน
บอกถึงประวัติทางธรณีวิทยาของพื้นที่ หรือ
ปรากฏการณทางธรณีวิทยาที่เคยเกิดขึ้นใน 12 ํN 12 ํN

อดีต) อาวไทย

2. ใหนักเรียนสืบคืนขอมูลเกี่ยวกับการจําแนก
หินตะกอน หินแปร
หนวยหิน เพือ่ เชือ่ มโยงเขาสูก จิ กรรมหนวยหิน
อง
ระน

หินยุคควอเทอรนารี-พาลีโอจีน 10 ํN
เลอื่ น

10 ํN
ในประเทศไทย ทะเลอันดามัน หินยุคมีโซโซอิก
รอย

หินยุคพาลีโอโซอิกตอนบน
3. ครูใหนักเรียนนับจํานวน 1 - 5 วนไปเรื่อยๆ หินยุคพาลีโอโซอิกตอนกลาง
ุย
งมะร

หินยุคพาลีโอโซอิกตอนลาง
จนครบทุกคน เพื่อแบงนักเรียนออกเปนกลุม
คลอ

หินยุคพรีแคมเบรียน
เลอื่ น

แผนเปลือกโลก
กลุมละ 5 คน โดยคนที่นับจํานวนเดียวกันให 8 ํN
รอย

8 ํN
ฉาน-ไทย หินอัคน�
อยูกลุมเดียวกัน หินบะซอลตยุคซีโนโซอิก
หินภูเขาไฟยุคเพอรเมียน-จูแรสซิก
N
4. ครูแจงจุดประสงคของการทํากิจกรรม จากนัน้ หินแกรนิตยุคไทรแอสซิก-น�โอจีน
เมฟก (แรเฟอรโรแมกน�เซียน) มหายุคซีโนโซอิกตอนปลาย
ใหนักเรียนอธิบายหลักการจําแนกหนวยหิน 6 ํN
0 75 150 300 กม. 6 ํN
แหลงขอมูล : กรมทรัพยากรธรณ�
โดยทํากิจกรรมหนวยหินในประเทศไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ�งแวดลอม

96 ํE 98 ํE 100 ํE 102 ํE 104 ํE 106 ํE

ภาพที่ 4.1 ประเทศไทยตั้งอยูระหวางแผนธรณีภาคฉาน-ไทยกับแผนธรณีภาคอินโดจีน

56

เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด


เพื่อใหไดขอมูล เรื่อง หินและการลําดับชั้นหิน ที่สมบูรณและชัดเจนเพียง ประเทศไทยประกอบดวยแผนธรณีภาคกี่แผนหลัก อะไรบาง
พอตอการจัดการเรียนการสอน ครูอาจจะเขาไปศึกษาและคนควาขอมูลเพิม่ เติม (แนวตอบ ประเทศไทยประกอบดวยแผนธรณีภาค 2 แผน คือ
ไดจากเว็บไซตของกรมทรัพยากรธรณี โดยเขาไปที่ http://www.dmr.go.th/ แผนฉาน - ไทยซึง่ อยูท างทิศตะวันตก และแผนอินโดจีนซึง่ อยูท าง
ทิศตะวันออก)

T64
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
แผ่นฉาน-ไทยประกอบด้วยพืน้ ทีท่ างตะวันออกของประเทศเมียนมา ตะวันตกของภาคเหนือ 5. ครู แ จกใบกิ จ กรรม กิ จ กรรมหน ว ยหิ น ใน
ภาคตะวันตก และภาคใต้ของประเทศไทย รวมถึงคาบสมุทรมลายูดา้ นตะวันตก และบริเวณตอนเหนือ ประเทศไทย ใหนักเรียน
ของเกาะสุมาตรา ส่วนแผ่นอินโดจีนครอบคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และด้านตะวันออกของ 6. ครู ใ ช รู ป แบบการเรี ย นรู  แ บบร ว มมื อ มาจั ด
ภาคตะวันออกของประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศกัมพูชาเกือบทั้งหมด รวมถึงส่วนใหญ่ กระบวนการเรี ย นรู  โดยกํ า หนดให ส มาชิ ก
ของประเทศเวียดนาม และคาบสมุทรมลายูด้านตะวันออก แต ล ะคนภายในกลุ  ม มี บ ทบาทหน า ที่ ข อง
แผ่นฉาน-ไทยที่ปรากฏในประเทศไทย รองรับด้วยกลุ่มหินบรมยุคพรีแคมเบรียน มหายุค ตนเอง ดังนี้
พาลีโอโซอิก มหายุคมีโซโซอิก และมหายุคซีโนโซอิก ส่วนแผ่นอินโดจีนที่ปรากฏในประเทศไทย สมาชิกคนที่ 1 - 2 ทําหนาทีเ่ ตรียมวัสดุอปุ กรณ
รองรับด้วยกลุ่มหินมหายุคพาลีโอโซอิก มหายุคมีโซโซอิก และมหายุคซีโนโซอิก สมาชิกคนที่ 3 - 4 ทําหนาที่อานวิธีการทํา
ข้อมูลจากการศึกษาสภาวะแม่เหล็กบรรพกาล ท�าให้เชือ่ ได้วา่ แผ่นฉาน-ไทยและแผ่นอินโดจีน กิจกรรม และนํามาอธิบายใหสมาชิกภายใน
แยกตัวออกจากมหาทวีปกอนด์วานา (Gondwana) ในบริเวณแถบภาคตะวันตกเฉียงเหนือของ กลุมฟง
ประเทศออสเตรเลียในปัจจุบัน ในช่วงกลางของมหายุคพาลีโอโซอิกหรือยุคดีโวเนียนตอนปลาย สมาชิกคนที่ 5 ทําหนาที่บันทึกผลการทดลอง
แผ่นฉาน-ไทย แผ่นอินโดจีน แผ่นสุโขทัย และแผ่นเลย เคลือ่ นตัวมาประชิดกันเมือ่ ประมาณ (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
ยุคไทรแอสซิก ท�าให้เกิดหินอัคนีเป็นแนวยาว ส่วนใหญ่วางตัวในทิศเหนือ-ใต้ รอยโค้งและรอยเลือ่ น
แบบสังเกตการทํางานกลุม)
ขนาดใหญ่จา� นวนมาก โดยการเปลีย่ นแปลงทีส่ า� คัญ คือ รอยเลือ่ นตามแนวระดับ (strike-slip fault)
7. ใหนักเรียนแตละกลุมทํากิจกรรมตามขั้นตอน
ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ เช่น รอยเลื่อนแม่ปิง (Mae Ping Fault) รอยเลื่อน
เจดีย์สามองค์ (Three-Pagoda Fault) และในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ เช่น ดังนี้
รอยเลื่อนน่าน-อุตรดิตถ์ (Nan-Uttaradit Fault) รอยเลื่อนระนอง (Ranong Fault) รอยเลื่อน 1) สืบคนขอมูลเกี่ยวกับการลําดับชั้นหิน และ
คลองมะรุ่ย (Klong Marui Fault) เป็นต้น การกระจายตัวของหินในประเทศไทย รวม
ถึงขอมูลตางๆ ที่เกี่ยวของ
2) จัดเรียงขอมูลการลําดับชัน้ หิน และการกระ
Earth S cience 1 จายตัวของหินในพื้นที่ที่นักเรียนเลือก แลว
Focus รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย
นํามาจัดทําเปนลําดับชัน้ หินในรูปแบบแผน
ประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่มีพลัง 14 รอย ดังนี้
ภาพ หรือ infographic
ร อยเลื่อนแม่จัน รอยเลื่อนแม่อิง
รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน รอยเลื่อนปัว 3) ครูและนักเรียนรวมกันพิจารณาแผนภาพ
รอยเลื่อนแม่ทา รอยเลื่อนพะเยา หรือ infographic เพื่อชวยกันตรวจสอบ
รอยเลื่อนเมย รอยเลื่อนอุตรดิตถ์ ขอมูล
รอยเลื่อนเถิน รอยเลื่อนเพชรบูรณ์ 8. ใหนกั เรียนแตละกลุม สงตัวแทนมานําเสนอผล
รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ รอยเลื่อนระนอง การทํากิจกรรม
รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย

ภาพที่ 4.2 รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย

ลําดับชั้นหิน 57

ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู


แผนฉาน - ไทย และแผนอินโดจีนที่ปรากฏในประเทศไทย 1 รอยเลื่อน รอยเลื่อนที่พบหลักฐานวาเคยเกิดการเลื่อนหรือขยับตัวมาแลว
รองรับดวยกลุมหินกี่กลุม อะไรบาง ในชวง 10,000 ป จะจัดวาเปน รอยเลื่อนมีพลัง (active fault) ซึ่งมักจะพบ
(แนวตอบ แผนฉาน - ไทยที่ปรากฏในประเทศไทยรองรับดวย อยูในพื้นที่ที่เกิดแผนดินไหวบอย หรือตามแนวรอยตอระหวางแผนเปลือกโลก
กลุม หิน 4 กลุม ดังนี้ กลุม หินบรมยุคพรีแคมเบรียน กลุม หินมหายุค ซึ่งรอยเลื่อนมีพลังมีโอกาสที่จะขยับตัวไดอีกในอนาคต สวนรอยเลื่อนที่ไมพบ
พาลีโอโซอิก กลุม หินมหายุคมีโซโซอิก และกลุม หินมหายุคซีโนโซอิก หลักฐานการเลื่อนเปนเวลานานมากวา 10,000 ป จะถูกจัดใหเปน รอยเลื่อน
สวนแผนอินโดจีนที่ปรากฏในประเทศไทยรองรับดวยกลุมหิน ไมมีพลัง (inactive fault) แตถามีการเปลี่ยนแปลงระบบแรงภายในเปลือกโลก
3 กลุม ดังนี้ กลุม หินมหายุคพาลีโอโซอิก กลุม หินมหายุคมีโซโซอิก บริเวณนั้น รอยเลื่อนไมมีพลังอาจจะมีโอกาสขยับตัวไดในอนาคต
และกลุมหินมหายุคซีโนโซอิก)

T65
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า 1.2 การล�าดับชั้นและการกระจายตัวของหิน
กิ จ กรรม โดยครู ตั้ ง คํ า ถามเพื่ อ ให นั ก เรี ย น การล�าดับชั้นและการกระจายตัวของหินในยุคต่าง ๆ จากอายุแก่ที่สุดไปหาอายุอ่อนที่สุดใน
แตละกลุมรวมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้ ประเทศไทย แสดงได้ดังตาราง
• กลุมหินที่มีอายุมากที่สุด และนอยที่สุดใน
ตารางที่ 4.1 : กลุ่มหินสำ�คัญของประเทศไทยซึ่งแบ่งต�มแผ่นธรณีภ�คและลำ�ดับอ�ยุ
ประเทศไทย คือกลุม หินใด
กลุ่มหินที่รองรับแผ่นธรณีภาค
(แนวตอบ กลุมหินที่มีอายุมากที่สุด คือ กลุม บรมยุค / ยุ ค สุโขทัย
มหายุค ฉานไทย อินโดจีน
หินทับศิลา กลุมหินที่มีอายุนอยที่สุด คือ และเลย
กลุมหินแมเมาะ) พรีแคมเบรียน - ฮอด ลานสาง - คอนทูม
• กลุมหินที่มีอายุมากที่สุด และนอยที่สุดใน หรือฐานชีวิน ทับศิลา และขนอม (เวียดนาม)
ประเทศไทย ประกอบดวยหินใดบาง และ แคมเบรียน ตะรุเตา - -
ออร์โดวิเชียน ทุ่งสง - -
กระจายตัวอยูบ ริเวณใดของประเทศ
ไซลูเรียน-ดีโวเนียน- ขาณุ นาโม
(แนวตอบ กลุมหินที่มีอายุมากที่สุดสวนใหญ พาลีโอโซอิก
คาร์บอนิเฟอรัส
ทองผาภูมิ
หนองดอกบัว
ปากชม
ประกอบดวยหินแปร เชน หินไนส หินชีสต หรือปฐมชีวิน
คาร์บอนิเฟอรัส- แม่ฮ่องสอน
กระจายตั ว อยู  บ ริ เ วณภาคตะวั น ตกของ วังสะพุง ศรีธาตุ
เพอร์เมียน แก่งกระจาน
ประเทศ ส ว นกลุ  ม หิ น ที่ อ ายุ น  อ ยที่ สุ ด เพอร์เมียน ราชบุรี เลย สระบุรี
สวนใหญประกอบดวยชั้นตะกอนสลับกับ มีโซโซอิก ไทรแอสซิก ไชยบุรี ล�าปาง จันทบุรี ชุมแพ
หินตะกอน อยูบริเวณภาคเหนือและภาค หรือมัชฌิมชีวิน จูแรสซิก-ครีเทเชียส ตรัง นครไทย โคราช
กลางของประเทศ) ซีโนโซอิก
พาลีโอจีน-ปัจจุบัน กระบี่ แม่เมาะ มูล-ชี ท่าช้าง
2. ครูกลาวเชื่อมโยงเขาสูเนื้อหาตอไป โดยตั้ง หรือนวชีวิน
ประเด็นคําถามวา การลําดับชัน้ หิน จําเปนตอง 1. กลุ่มหินบรมยุคพรีแคมเบรียน พบอยู่ในแผ่นฉาน-ไทย ส่วนใหญ่ประกอบด้วย
ทราบขอมูลใดบาง ใหนกั เรียนรวมกันอภิปราย หินแปรที่มีขั้นแปรสภาพสูง โดยมักเกิดอยู่ร่วมกับหินไนส์ หินชีสต์ หินควอร์ตไซต์ และหินอ่อน
(แนวตอบ อายุทางธรณีวิทยาของชั้นหิน) ซึ่งพบกระจายตัวอยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศ เช่น อ�าเภอ Earth Science
เวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย อ�าเภอฮอด-ดอยอินทนนท์ จังหวัด in real life
เชียงใหม่ น�้าตกลานสาง-เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก อ�าเภอ ปั จ จุ บั น มี ก ารตรวจอายุ ข อง
พนัสนิคม-อ�าเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี อ�าเภอขนอม- หินไนส์ที่อ�าเภอฮอด จังหวัด
อ�าเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นต้น เชี ย งใหม่ ได้ อ ายุ ป ระมาณ
กลุม่ หินบรมยุคพรีแคมเบรียนทีม่ อี ายุเก่าแก่ทสี่ ดุ คือ 1,100 ล้านปี ท�าให้สรุปได้ว่า
ประเทศไทยมีหินบรมยุคพรี-
กลุ่มทับศิลา (Thabsila group) และยังมีกลุ่มขนอม (Khanom แคมเบรียนด้วย
group) และกลุ่มลานสาง (Lansang group) ด้วย
58

สื่อ Digital ขอสอบเนน การคิด


ศึกษาเพิม่ เติมไดจากภาพยนตรสารคดีสนั้ Twig เรือ่ ง ชนิดของหิน https:// องคประกอบหลักของหินปูนคือขอใด
www.twig-aksorn.com/fifilm/rock-types-7967/ 1. ควอตซ
2. แคลไซต
3. แกรไฟต
4. ไรโอไลต
5. เฟลดสปาร
(วิเคราะหคําตอบ องคประกอบหลักของหินปูน คือ แรแคลไซต
ซึ่งมีความแข็งตามาตราโมลเทากับ 3 ดังนั้น ตอบขอ 2.)

T66
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
2. กลุ่มหินมหายุคพาลีโอโซอิกตอนต้น แบ่งย่อยออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ 3. ครูใหนกั เรียนจับคูก นั สืบคนขอมูลเกีย่ วกับเรือ่ ง
1) กลุ่มตะรุเตา มักพบอยู่ในแผ่น การลําดับชั้นหิน ดังนี้
ฉาน-ไทย ซึ่งลักษณะทั่วไปของหินจะแตกต่าง - ครูใหนักเรียนจับคูกันสืบคนขอมูลเกี่ยวกับ
กันไป เนื่องมาจากสภาพแวดล้อมแต่ละพื้นที่ เรื่องการลําดับชั้นหิน ดังนี้
และหินมีการสะสมตัวต่างกัน โดยทางภาคใต้ - ประโยชนของการลําดับชั้นหิน
เช่น ที่เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล เป็นหินทราย โดยนักเรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือ
มีไมกา (micaceous sandstone) หินดินดาน แหลงเรียนรูอื่นๆ แลวนําขอมูลมาแลกเปลี่ยน
และหินดินดานเนือ้ ผสมปูน (calcareous shale)
ความคิดเห็น และรวมกันตั้งประเด็นคําถาม
ภาพที่ 4.3 กลุ่มหินตะรุเตาที่เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล สีน�้าตาลแดง มีความหนาประมาณ 200-300
(ที่มาของภาพ : คลังภาพ บริษัท อจท. จ�ากัด) เมตร มีซากดึกด�าบรรพ์ไทรโลไบต์ (trilobites) เกี่ยวกับเรื่องที่สืบคนมา
และแบรคิโอพอด (brachiopods) ซึง่ หินทรายค่อย ๆ เปลีย่ นไปเป็นหินปูนและมีชนั้ หินทรายแทรก 4. ใหนกั เรียนรวมกลุม กับเพือ่ นอีกคูห นึง่ รวมเปน 4
สลับอยู่ จนในที่สุดจึงเปลี่ยนไปเป็นหินปูนทุ่งสง (Thungsong limestone) คน แลวแลกเปลีย่ นกันถามคําถามทีต่ งั้ ไว จาก
2) กลุ่มทุ่งสง พบอยู่ในแผ่นฉาน-ไทย ส่วนใหญ่เป็นหินปูนเนื้อโคลน นัน้ รวมกันสรุปเพือ่ เตรียมนําเสนอหนาชัน้ เรียน
สีเทาเข้มถึงสีดา� มีเนือ้ ขรุขระคล้ายกับหนังช้าง มีความหนาเฉลีย่ ประมาณ 800 5. ครูสมุ เลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมานํา
เมตร โดยปกติมักเป็นหินปูนแสดงชั้นและอาจพบมลทินซิลิกา (siliceous) เสนอคําถามของกลุม ตนเอง โดยใหนกั เรียนทัง้
และดินโคลน (argillaceous) ปนอยู 1 ด่ ว้ ย โดยแทรกสลับเป็นชัน้ บาง ๆ หองรวมกันตอบคําถาม และอภิปรายรวมกัน
(
พบซากดึกด�าบรรพ์โคโนดอนต์ (conodont) และเซฟาโลพอด
่ 4.4 กลุ่มหินทุ่งสงที่เขาอกทะลุ
จ�าพวกแอคติโนเซอรัส และอาร์มีโนเซอรัส (actinoceras & จั ภงาพที หวัดพัทลุง (ที่มาของภาพ : คลังภาพ   
armenoceras cephalopods) กลุมุ่ หินนีพ้ บทีอ่ า� เภอร่อนพิบลู ย์     บริษัท อจท. จ�ากัด)
จังหวัดนครศรีธรรมราช อ�าเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ อ�าเภอคลองลาน จังหวัดก�าแพงเพชร
3. กลุ่มหินมหายุคพาลีโอโซอิกตอนกลาง แบ่งย่อยออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1) กลุ ่ ม ทองผาภู มิ ประกอบด้ ว ย
หินตะกอนและหินแปรชั้นต�่า โดยพบอยู่ใน
แถบอ�าเภอทองผาภูมิ อ�าเภอสังขละบุรี และ
อ�าเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี เรียกว่า
กลุ่มทองผาภูมิ (Thong Phaphum group) ที่
พบทางใต้ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน แถบเขื่อน
ผาบ่อง เรียกว่า กลุ่มแม่ฮ่องสอน (Mae Hong
Son group) และที่พบทางใต้ของอ�าเภอขนอม
จังหวัดนครศรีธรรมราช เทือกเขาหลวง ไปจนถึง
อ�าเภอละงู อ�าเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
ภาพที ่ 4.5 กลุม
่ หินทองผาภูมทิ นี่ า�้ ตกจอกกระดิน่ จังหวัดกาญจนบุรี
(ที่มาของภาพ : คลังภาพ บริษัท อจท. จ�ากัด) ลําดับชั้นหิน 59

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET นักเรียนควรรู


หินของภูเขาในขอใดไมใชหินภูเขาไฟ 1 ซากดึกดําบรรพโคโนดอนต เปนซากดึกดําบรรพทมี่ ขี นาดเล็กมากประมาณ
1. ภูชี้ฟา จังหวัดเชียงราย 0.1 - 1.0 มิลลิเมตร มีรูปรางคลายฟน เปนสารประกอบแคลเซียมฟอสเฟต พบ
2. เขาพนมรุง จังหวัดบุรีรัมย ครั้งแรกใน ค.ศ. 1856 พบมากในหินมหายุคพาลีโอโซอิก แตตัวของโคโนดอนต
3. ภูพระอังคาร จังหวัดบุรีรัมย พบในตอนตน ค.ศ. 1980 ซึ่งพบในชั้นซากกุงดึกดําบรรพแกรนตัน (Granton
4. ดอยผาคอกหินฟู จังหวัดลําปาง Shrimp Bed) ใกลกับเมืองเอดินเบิรก ในสกอตแลนด ซึ่งเปนซากของสัตวมี
5. เขาหินเหล็กไฟ จังหวัดเพชรบูรณ กระดูกสันหลังพวกปลาไมมีขากรรไกร (jawless fifish) ซึ่งมีรูปรางคลายปลาไหล
(วิเคราะหคําตอบ ประเทศไทยมีภูเขาไฟที่จังหวัดลําปาง ไดแก ตัวยาวถึง 55 มิลลิเมตร หัวสั้น มีลักษณะเปนพู มีตาใหญ บริเวณดานทองตรง
ภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู จังหวัดบุรีรัมย ไดแก ภูพระอังคารและ กับตําแหนงหางตามีอวัยวะรูปรางคลายฟนเกิดอยูเปนกลุม ทําหนาที่ จับ บด
เขาพนมรุง เปนบริเวณที่พบปากปลองภูเขาไฟและมีหินภูเขาไฟ หรือ ฉีกอาหาร ปจจุบันสูญพันธุไปหมดแลว
แตที่ภูชี้ฟา จังหวัดเชียงราย ไมมีภูเขาไฟจึงไมพบหินภูเขาไฟ ดัง
นั้น ตอบขอ 1.)

T67
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สรุป
ขยายความเข้าใจ
1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายเพื่ อ ให ไ ด 2) กลุ่มปากชม มักพบอยู่ในแผ่น
ขอสรุปเกี่ยวกับการลําดับชั้นหิน โดยอาจมี อินโดจีน ซึง่ เป็นหินเชิรต์ และหินดินดาน บริเวณ
แนวทางสรุป ดังนี้ ทางหลวงปากชม-เลย และหมวดหินหนอง
“การลําดับชัน้ หิน คือ การจัดเรียงลําดับหนวย ดอกบัว (Nong Bua formation) พบที่อ�าเภอ
ของชั้นหินตามตําแหนง และลําดับอายุของ เชียงคาน ในแถบภูจ�าปา บ้านหนองดอกบัว
ชั้นหิน อีกทั้งยังสามารถบอกลําดับเหตุการณ บ้านโคกนา-ดอกค�า และภูบ่อบิด-ภูทองแดง
หรือปรากฏการณทางธรณีวิทยาที่เคยเกิดขึ้น อ�าเภอเมือง จังหวัดเลย
ในบริเวณนั้นดวย ซึ่งการจําแนกหนวยหินจะ ในแผ่นสุโขทัยและแผ่นนครไทย
เรียงจากหนวยใหญไปยังหนวยยอย ดังนี้ กลุม มีชั้นหินที่ส�าคัญ คือ หมวดหินขาณุ (Khanu
หิน หมวดหิน หมูหิน และชั้นหิน” formation) ที่พบในอ�าเภอสวรรคโลก และ
2. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน ทําใบงาน อ�าเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย อ�าเภอขาณุ
เรื่อง การลําดับชั้นหิน ในรูปของแผนผังความ วรลักษบุรี จังหวัดก�าแพงเพชร ซึ่งส่วนใหญ่ ภ าพที่ 4.6 ชั้นหินเชิร์ต กลุ่มหินปากชม จังหวัดเลย
คิดใหมคี วามถูกตองและนาสนใจ แลวนําเสนอ
เป็นหินดินดานสลับกับหินเชิร์ต (ที่มาของภาพ : คลังภาพ บริษัท อจท. จ�ากัด)

ผลงาน 4. กลุ่มหินมหายุคพาลีโอโซอิกตอนปลาย แบ่งย่อยออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้


3. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน สราง 1) กลุ่มแก่งกระจาน ประกอบด้วย
ตะกอนเนื้อประสมที่ลัก1ษณะเป็นชั้นระหว่าง
แบบจําลองการลําดับชั้นหินในประเทศไทย
หิ น ทรายกั บ หิ น ดิ น ดาน
ดาน ซึ่ ง ชั้ น บนของหิ น มี
ตามความรูท ไี่ ดเรียนมา โดยใหแตละกลุม เลือก
เนื้อปูนผสมด้วย ส่วนใหญ่พบอยู่ทางใต้ของ
พื้นที่ที่ไมซํ้ากัน ประเทศโดยเฉพาะตั้งแต่จังหวัดภูเก็ต พังงา
4. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมา ระนอง ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี ภ าพที ่ 4.7 ภูเขาหินปูน กลุม่ หินราชบุร ี จังหวัดประจวบคีรขี นั ธ์
นําเสนอแบบจําลองของกลุมตนเอง โดยให พบซากดึกด�าบรรพ์หลายชนิด ซึง่ ท�าให้ก�าหนด (ที่มาของภาพ : คลังภาพ บริษัท อจท. จ�ากัด)
นักเรียนทัง้ หองรวมกันตัง้ คําถาม และอภิปราย อายุได้ประมาณยุคคาร์บอนิเฟอร์รัสถึงต้นยุคเพอร์เมียน โดยเชื่อกันว่าหินกลุ่มนี้มีก�าเนิดมาจากที่
รวมกัน หนาวเย็นมากในสภาวะแวดล้อมที่เป็นธารน�้าแข็ง หินตะกอนที่เกิดขึ้นในสภาวะแวดล้อมนี้จึงต่าง
5. ครูมอบหมายการบานใหนกั เรียนทําแบบฝกหัด จากหินในยุคเดียวกันที่พบทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกของประเทศ
เรื่อง การลําดับชั้นหิน จากแบบฝกหัดรายวิชา 2) กลุ่มราชบุรีและกลุ่มสระบุรี เป็นหินที่เกิดอยู่ในช่วงยุคเพอร์เมียน ส่วนใหญ่เป็น
เพิ่มเติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร และ หินปูน โดยกลุ่มหินปูนราชบุรีกระจายตัวอยู่ทางภาคใต้และภาคตะวันตก ส่วนกลุ่มหินปูนสระบุรี
อวกาศ ม.4 เลม 1 หนวยการเรียนรูที่ 4 การ กระจายตัวอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกของประเทศ หินทัง้ สองกลุม่ นีม้ ักมี
ลําดับชั้นหิน หินตะกอนเนื้อประสมในส่วนบนของกลุ่ม ซึ่งจากลักษณะ ชนิด และความหลากหลายทางชีวภาพ
ท�าให้สนั นิษฐานว่าหินทัง้ สองกลุม่ นีอ้ าจมีตน้ ก�าเนิดมาจากแผ่นเปลือกโลกต่างกัน โดยกลุม่ ราชบุรี
พบในแผ่นฉาน-ไทย ส่วนกลุ่มสระบุรีพบในแผ่นอินโดจีน
60

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด


1 หินดินดาน เปนหินทีเ่ หมาะสําหรับใชในการผลิตปูนซีเมนตซงึ่ ควรเปนหินที่ ภาคใดของประเทศไทยที่มีการคนพบซากไดโนเสารมากที่สุด
มีอะลูมนิ า ตัง้ แตประมาณ 25% ขึน้ ไป มีซลิ กิ านอยกวา 60% และมีเหล็กออกไซด 1. ภาคใต
อยูใ นปริมาณเล็กนอย โรงงานปูนซีเมนตบางแหงใชดนิ เหนียวทองนาเปนวัตถุดบิ 2. ภาคกลาง
ดวย เพือ่ เพิม่ ปริมาณอะลูมนิ าทีม่ าจากแรดนิ ใหกบั สวนผสม 3. ภาคเหนือ
4. ภาคตะวันออก
5. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
(วิเคราะหคาํ ตอบ ซากไดโนเสารทพี่ บในประเทศไทยสวนใหญอยู
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เชน อําเภอภูเวียง จังหวัดขอนแกน
อําเภอสหัสขันธ จังหวัดกาฬสินธุ และอีกหลายจังหวัด คือ จังหวัด
นครราชสีมา ชัยภูมิ สกลนคร อุดรธานี และอุบลราชธานี ดังนั้น
ตอบขอ 5.)

T68
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ ประเมิน
ตรวจสอบผล
5. กลุ่มหินมหายุคมีโซโซอิก แบ่งย่อยออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน
1) กลุ่มล�าปาง ประกอบไปด้วยหินตะกอนที่สะสมตัวในแอ่งซึ่งวางตัวในแนวเหนือ-ใต้ 2. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม
และพบสลับระหว่างหินเนื้อประสมกับหินปูน พบซากดึกด�าบรรพ์โดยเฉพาะหอย และโคโนดอนต์ การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน
ท�าให้สามารถก�าหนดอายุได้วา่ หินกลุม่ นีม้ อี ายุ 3. ครูตรวจประเมินการปฏิบัติการจากการทําใบ
ประมาณยุคไทรแอสซิก พบกระจายตัวอยู่ใน งาน เรื่อง การลําดับชั้นหิน
แทบทุกแผ่นเปลือกโลก เช่น แผ่นสุโขทัย พบ 4. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัดเรื่อง การ
ในบริเวณจังหวัดล�าปาง แพร่ น่าน เป็นต้น ส่วน ลําดับชั้นหิน จากแบบฝกหัดรายวิชาเพิ่มเติม
ในแผ่นฉาน-ไทย พบในจังหวัด สุราษฎร์ธานี วิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร และอวกาศ
พัทลุง สงขลา แม่ฮอ่ งสอน กาญจนบุร ี หินกลุม่
ม. 4 เลม 1
ภาพที่ 4.8 กลุ่มหินล�าปาง จังหวัดล�าปาง ล�าปางทีพ่ บทางภาคใต้ประกอบด้วยหินปูนเนือ้
(ที่มาของภาพ : คลังภาพ บริษัท อจท. จ�ากัด) โดโลไมต์เป็นส่วนใหญ่ เรียกว่า กลุ่มหินไชยบุรี
2) กลุม่ โคราช เป็นชัน้ ตะกอนทีม่ คี วามหนามากกว่า 1 กิโลเมตร
ประกอบด้วยหินตะกอนเนือ้ ประสม (หินทรายสลับกับหินทรายแป้งและ
หินดินดาน) ส่วนใหญ่กระจายตัวปกคลุมเกือบทัง้ ภาคตะวันออกเฉียง
เหนือ และบางส่วนในภาคใต้โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่และตรัง
อีกทั้งในจังหวัดน่านและแพร่ด้วย พบซากดึกด�าบรรพ์โดย
เฉพาะไดโนเสาร์ ท�าให้สรุปได้ว่ากลุ่มหินนี้สะสมตัวบน
บกในแอ่งตะกอนขนาดใหญ่ เช่น แอ่งโคราช ตามลุม่
น�า้ และทะเลสาบ และมีอายุประมาณยุคจูแรสซิกถึงยุค
ครีเทเชียส
6. กลุม่ หินมหายุคซีโนโซอิก แบ่งย่อย ภาพที่ 4.9 ภูเขาหิน กลุ่มหินโคราชที่ภูทอก
ออกเป็น 2 กลุ่มหิน ดังนี้ จังหวัดบึงกาฬ
1) กลุม่ แม่เมาะ ประกอบด้วยชัน้ ตะกอน (ที่มาของภาพ : คลังภาพ บริษัท อจท. จ�ากัด)
เนือ้ ประสมจับตัวกันไม่แข็ง โดยแสดงชัน้ ชัดเจนสลับกันระหว่างหินทรายถึงทรายแป้งกับหินโคลน
หรือหินดินดาน ส่วนใหญ่ชนั้ ตะกอนจะวางตัวในแนวราบในแอ่งตะกอนโดด (isolated basin) ทีถ่ กู
ขนาบด้วยรอยเลื่อนปกติ ซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งระหว่างหุบเขา (intermontane basin)
2) กลุ่มกรุงเทพ เป็นชุดของชั้นตะกอนร่วน เกิดจากการสะสมตัวจากการกระท�าของ
กระแสน�้าและลม จนเป็นแหล่งสะสมขนาดเล็กที่ประกอบไปด้วยตะกอนขนาดตั้งแต่ก้อนกรวด
ทราย ทรายแป้ง และดิน ซึ่งจ�าแนกอย่างง่ายออกได้เป็นตะกอนน�้าพา ตะกอนเชิงเขา ตะกอน
ลาดตะพัก ศิลาแลง และตะกอนชายหาด ส่วนมากพบในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น�้าสายใหญ่

ลําดับชั้นหิน 61

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET แนวทางการวัดและประเมินผล


ซากดึกดําบรรพไดโนเสารของประเทศไทยในภาคตะวันออก ครูสามารถวัดและประเมินการนําเสนอใบงาน เรื่อง การลําดับชั้นหิน โดย
เฉียงเหนือ พบในหินชนิดใด ศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานที่แนบ
1. หินปูน มาทายแผนการสอนหนวยการเรียนรูที่ 4 ลําดับชั้นหิน
2. หินทราย
3. หินดินดาน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ลาดับชั้นหิน

แบบประเมินการนาเสนอผลงาน

4. หินแกรนิต คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่

ลาดับที่
ตรงกับระดับคะแนน

รายการประเมิน
ระดับคะแนน

5. หินบะซอลต
3 2 1
1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน   
2 ความถูกต้องของเนื้อหา   
3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย   
4 ประโยชน์ที่ได้จากการนาเสนอ

(วิเคราะหคําตอบ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มี
  
5 วิธีการนาเสนอผลงาน   
รวม

การขุดพบซากดึกดําบรรพไดโนเสารในชั้นหินทราย และหินทราย ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน


................./................../..................

เกณฑ์การให้คะแนน

แปง ซึ่งเปนหินที่อยูในยุคของไทรแอสซิกตอนปลาย โดยมีอายุ ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน


ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน
ให้
ให้
ให้
3 คะแนน
2 คะแนน
1 คะแนน

ประมาณ 200 - 100 ลานปที่ผานมาแลว ดังนั้น ตอบขอ 2.) เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ


ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

137

T69
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ นํา
กระตุน ความสนใจ
1. ครูกระตุนความสนใจ โดยถามคําถาม prior Prior Knowledge
knowledge จากหนังสือเรียน หนา 62 วา การหาอายุทางธรณีวทิ ยา 2. การหาอายุทางธรณีวิทยา
การหาอายุทางธรณีวิทยามีประโยชนอยางไร มีประโยชนอยางไร อายุทางธรณีวทิ ยา (geologic age) เป็นอายุของแร่ ตะกอน
( แนวตอบ อายุ ท างธรณี วิ ท ยาสามารถบอก หิน ซากดึกด�าบรรพ์ และเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ทางธรณีวทิ ยา ซึง่ การตรวจสอบอายุทางธรณีวทิ ยาช่วย
ประวั ติ ข องพื้ น ที่ หรื อ ช ว งเวลาที่ เ คยเกิ ด ให้สามารถระบุได้วา่ เหตุการณ์ทางธรณีวทิ ยาเหตุการณ์ใดเกิดขึน้ ก่อนหรือหลังตามล�าดับ โดยอายุ
เหตุการณทางธรณีวิทยาที่เคยขึ้นในพื้นที่นั้น ทางธรณีวิทยาแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ อายุเปรียบเทียบ และอายุสัมบูรณ์
เพื่อนําขอมูลไปใชในการศึกษา การวางแผน
การจัดการพื้นที่) 2.1 อายุเปรียบเทียบ
2. ครูถามคําถามกระตุน ความคิดโดยใหนกั เรียน การหาอายุเปรียบเทียบ (relative age dating) เป็นการศึกษาจากการจัดล�าดับชัน้ หิน ซึง่ วิธนี ี้
ชวยกันระดมความคิดในการตอบคําถาม ดังนี้ ไม่สามารถระบุอายุเป็นปีที่แน่ชัดได้ แต่ระบุได้เพียงว่าชั้นหิน แร่ ตะกอน ซากดึกด�าบรรพ์ ชั้นใด
• อายุทางธรณีวิทยาคืออะไร เกิดขึ้นก่อนหลังตามล�าดับ หรือสิ่งใดมีอายุมากกว่าหรือน้อยกว่ากัน ซึ่งการหาอายุเปรียบเทียบ
(แนวตอบ อายุทางธรณีวิทยา คือ ชวงเวลา ต้องอาศัยกฎเกี่ยวกับธรณีวิทยา ดังนี้
ที่เวลาที่ซากดึกดําบรรพหรือเหตุการณทาง 1. กฎการวางตัวซ้อนทับ (law of superposition) เจมส์ ฮัตตัน (James Hutton)
ธรณีวิทยาไดปรากฏหรือเกิดขึ้น สามารถ ศึกษากระบวนการตกตะกอนตามชายหาด พบว่า ตะกอนทีต่ กทับถมก่อนจะถูกทับโดยตะกอนทีต่ ก
แสดงไดทั้ง อายุสมบูรณ และอายุเปรียบ ทับถมในเวลาต่อมา หลักการนี้น�าไปอธิบายเกี่ยวกับการวางตัวของชั้นหินได้ว่า ในล�าดับชั้นหินที่
เทียบ) ไม่ถกู รบกวนจากกระบวนการต่าง ๆ ชัน้ หินทีว่ างตัวอยูด่ า้ นบนจะมีอายุนอ้ ยกว่าชัน้ หินทีว่ างตัวอยู่
ด้านล่าง
• อายุเปรียบเทียบและอายุสัมบูรณแตกตาง
กันอยางไร 2. กฎความสัมพันธ์ที่ตัดกัน (law of cross-cutting relationship) กล่าวว่า หากมี
(แนวตอบ อายุเปรียบเทียบจะไมแสดงอายุ หินแทรกตัวตัดขวางชั้นหินที่เป็นหินดั้งเดิม หินที่แทรกเข้ามานั้นต้องมีอายุน้อยกว่าชั้นหินเดิม
เปนจํานวนป อายุสัมบูรณจะแสดงอายุเปน ชั้นหิน A มีอายุน้อยที่สุด
จํานวนป) ชั้นหิน B
• นักวิทยาศาสตรมวี ธิ กี ารหาอายุเปรียบเทียบ ชั้นหิน C
ไดอยางไร ชั้นหิน F แทรกตัวผ่านชั้นหิน D และ E
มีอายุน้อยกว่าหินชั้น D และ E
(แนวตอบ หาไดจากกฎและหลักในการลําดับ ชั้นหิน D
ชั้นหิน) ชั้นหิน E มีอายุมากที่สุด
ภาพที่ 4.10 กฎการวางตัวซ้อนทับและหลักความสัมพันธ์ที่ตัดกัน

3. กฎการเทียบสัมพันธ์ของหินตะกอน (law of correlation of sedimentary rocks)


อาศัยการวิเคราะห์ความคล้ายคลึงกันของลักษณะ ต�าแหน่ง และการล�าดับชั้นหินตะกอนในพื้นที่
ซึ่งท�าได้ ดังนี้
62
อายุเปรียบเทียบ

สื่อ Digital ขอสอบเนน การคิด


ศึกษาเพิ่มเติมไดจากสแกน QR code เรื่อง อายุเปรียบเทียบ ในการหาอายุทางธรณีวทิ ยา อายุสมั บูรณและอายุเทียบสัมพันธ
ตางกันอยางไร
( แนวตอบ อายุ เ ที ย บสั ม พั น ธ เ ป น การบอกอายุ เ ปรี ย บเที ย บ
ลักษณะของหิน และโครงสรางทางธรณีวิทยา แตอายุสัมบูรณเปน
อายุที่คํานวณไดจริง)

T70
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
การใช้ลักษณะทางกายภาพจากชั้นหินหลัก (key bed) เป็นการพิจารณา 1. ครูแบงกลุม นักเรียน ออกเปนกลุม กลุม ละ 3 คน
จากลักษณะเฉพาะของชัน้ หินบางชนิด ดังนัน้ หากพบชัน้ หินนีใ้ นบริเวณ
ใดก็มักมีอายุเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน เช่น ชั้นหินทรายในกลุ่มหินโคราช ตามระดับความสามารถ เกง ปานกลาง ออน
ซึ่งมักมีการวางตัวเกือบในแนวระดับที่เห็นได้จากระยะไกล 2. ครูแจกแบบใบกิจกรรม เรื่อง การวางตัวของ
หินตะกอน
การเทียบเคียงอย่างง่ายจากซากดึกด�าบรรพ์ (correlation by fossils) (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
เป็นการตรวจสอบว่าหากพบซากดึกด�าบรรพ์ชนิดเดียวกันในชั้นหินใด ๆ แบบประเมินกิจกรรม)
แม้ชนั้ หินเหล่านัน้ จะอยูใ่ นบริเวณต่างกัน ชัน้ หินนัน้ ย่อมมีอายุเท่ากัน หรือ
ใกล้เคียงกันกับซากดึกด�าบรรพ์นั้น ซากดึกด�าบรรพ์ที่ใช้เป็นตัวก�าหนด 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมทํากิจกรรมตามขั้น
อายุทางธรณีวิทยา เรียกว่า ซากดึกด�าบรรพ์ดัชนี (index fossil) เช่น ตอน ดังนี้
ฟิวซูลินิดมักพบในช่วงปลายมหายุคพาลีโอโซอิก
1) นําขวดนํา้ พลาสติกใสขนาด 1 ลิตร ตัดสวน
ภาพที่ 4.11 การวิเคราะห์ความคล้ายคลึงกันของหินตะกอน
บนทางดานปากขวดออก
4. กฎการเปลี่ยนแปลงทดแทนสัตวชาติ (law of faunal succession) กล่าวว่า 2) ใสนาํ้ ลงไปในขวดประมาณครึง่ หนึง่ ของขวด
ซากดึกด�าบรรพ์หรือสิง่ มีชวี ติ สามารถเปลีย่ นแปลงจากกลุม่ หนึง่ ไปยังอีกกลุม่ ได้ ท�าให้ลา� ดับชัน้ หินที่ 3) ตั ก กรวดขนาดเล็ ก ใส ล งไปในขวดจนมี
ต่อเนือ่ งกันมีกลุม่ ซากดึกด�าบรรพ์ทแี่ ตกต่างกัน และท�าให้สามารถก�าหนดอายุของชัน้ หินเหล่านัน้ ได้ ความหนาประมาณ 3 เซนติเมตร
หากพิจารณาวิวัฒนาการของซากดึกด�าบรรพ์ในหิน หินที่มีซากดึกด�าบรรพ์ที่มีวิวัฒนาการต�่าจะ 4) ตักทรายหยาบใสลงไปในขวดจนชั้นทราย
มีอายุมากกว่าหินทีม่ ซี ากดึกด�าบรรพ์ทมี่ วี วิ ฒ
ั นาการสูง เช่น หินทีม่ ซี ากดึกด�าบรรพ์ของไดโนเสาร์
มีความหนาประมาณ 3 เซนติเมตร
จะมีอายุน้อยกว่าหินที่มีซากดึกด�าบรรพ์ของฟิวซูลินิด
5) ตักทรายละเอียดใสลงไปในขวดจนชัน้ ทราย
5. กฎการเปนเอกภาพ (law of uniformitarianism) เจมส์ ฮัตตัน สังเกตการกัดกร่อน มีความหนาประมาณ 3 เซนติเมตร
ของธารน�า้ ในหุบเขา (stream erosion) และตามชายฝัง ทะเล (coastal erosion) พบว่า ชัน้ หินตะกอน
6) วาดภาพการวางตัวของกรวด ทรายหยาบ
เกิดจากการสะสมของวัตถุทไี่ ด้จากการผุพงั (weathering) และการกัดกร่อน (erosion) ของหินเก่า
และทรายละเอียด
ที่มีอยู่เดิม ซึ่งสรุปได้ว่า การเกิดหินนั้นสามารถอธิบายได้โดยอาศัยหลักของกระบวนการต่าง ๆ ที่
ก�าลังเกิดอยูใ่ นปัจจุบนั ซึง่ ท�าให้เกิดประโยคส�าคัญทางธรณีวทิ ยาทีว่ า่ ปจจุบนั เปนกุญแจไขไปสูอ่ ดีต
(The present is the key to the past) ตัวอย่างเช่น การพบรอยเท้าไดโนเสาร์บนพื้นหินก็สามารถ ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
บอกได้ว่า ในอดีตบริเวณนี้อาจเป็นพื้นดินและเคยมีไดโนเสาร์เดินผ่าน หากพิจารณาหลักฐานอื่น
ด้วยกระบวนการต่าง ๆ ก็อาจจะบอกได้ว่าเป็นไดโนเสาร์พันธุ์อะไร อยู่ในยุคไหน ซึ่งเห็นได้ว่า 1. ครูใหนกั เรียนแตละกลุม สงตัวแทนมานําเสนอ
เป็นการใช้สิ่งที่เห็นในปัจจุบันอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ผลการทํากิจกรรม
2. ครู ถ ามนั ก เรี ย นว า จากผลการทํ า กิ จ กรรม
2.2 อายุสัมบูรณ สามารถนํ า มาสรุ ป เป น กฎการลํ า ดั บ ชั้ น ได
การหาอายุสมั บูรณ์ (absolute age) ท�าได้โดยการวิเคราะห์และค�านวณจากไอโซโทป (isotope) อยางไร
ของธาตุกัมมันตรังสี (radioactive element) ที่อยู่ในวัตถุทางธรณีวิทยา ซึ่งต้องอาศัยหลักการ (แนวตอบ ชัน้ หินทีม่ อี ายุออ นจะวางตัวอยูบ นชัน้
เกี่ยวกับครึ่งชีวิต (half life) ของธาตุ โดยครึ่งชีวิตมีความหมายว่า ช่วงเวลาที่ธาตุกัมมันตรังสี หินทีม่ อี ายุแกกวา ถาชัน้ หินไมมกี ารพลิกกลับ)
สลายตัวเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของปริมาณเดิม
ลําดับชั้นหิน 63

ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET เกร็ดแนะครู


การหาอายุสัมบูรณของหินหรือซากดึกดําบรรพทางธรณีวิทยา เพือ่ ใหนกั เรียนมีความรูเ พิม่ เติมทีม่ ปี ระโยชนตอ การเรียนในหัวขอนี้ ครูอาจ
ใชวิธีการใด อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของซากดึกดําบรรพ ดังตอไปนี้
1. วิธีการทางรังสีเอกซ - ซากดึกดําบรรพดัชนี (index fossil) ถูกใชเปนตัวกําหนดและระบุระยะ
2. วิธีหาอายุโดยใชกัมมันตภาพรังสี เวลาทางธรณีวิทยา สามารถบอกอายุไดแนนอน เนื่องจากเปนซากของ
3. วิธีการตรวจสอบโดยใชคลื่นแมเหล็กไฟฟา สิ่งมีชีวิตที่ปรากฏใหเห็นเพียงชวงยุคหนึ่งแลวก็สูญพันธุไป
4. วิธีการตรวจสอบเปรียบเทียบกับฟอสซิลอื่นๆ - ซากดึกดําบรรพเฉพาะแหลง (facies fossil) พบอยูในชั้นหินเฉพาะที่ใด
5. วิธีการตรวจสอบจากลําดับชั้นหินและความสัมพันธของ ที่หนึ่ง
โครงสรางธรณีวิทยา - ซากดึกดําบรรพแทรกปน (introduced fossil) หมายถึง ซากดึกดําบรรพ
(วิเคราะหคําตอบ การหาอายุสัมบูรณเปนการคํานวณจากครึ่ง ทีม่ อี ายุนอ ยกวา ทีถ่ กู นําพาเขาไปแทรกปนอยูก บั ซากดึกดําบรรพทมี่ อี ายุ
ชีวติ ของธาตกัมมันตรังสีทมี่ อี ยูใ นหินหรือซากดึกดําบรรพคอ นขาง แกกวา
แนนอน ดังนั้น ตอบขอ 2.) - ซากดึกดําบรรพพัดพา (reworked fossil) เปนซากดึกดําบรรพที่อยูใน
ชั้นหินเดิม แลวตอมาหินนั้นถูกกัดกรอน ซากดึกดําบรรพจึงถูกพัดพาไป
สะสมตัวอยูในชั้นหินที่มีอายุนอยกวา

T71
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สรุป
ขยายความเขาใจ
1. ครูใหนกั เรียนแบงกลุม กลุม ละ 3 คน ทําใบงาน ธาตุตา่ ง ๆ บนโลกส่วนใหญ่มไี อโซโทปทีเ่ สถียร (stable isotope) และไม่เปลีย่ นแปลงไปเป็น
เรือ่ ง การหาอายุทางธรณีวทิ ยา โดยสรุปความรู ธาตุอนื่ แต่ธาตุบางชนิดมีไอโซโทปทีไ่ ม่เสถียร (unstable isotope) โดยมีการสลายตัวอย่างต่อเนือ่ ง
เรือ่ ง การหาอายุทางธรณีวทิ ยา ในรูปของแผนผัง จนกระทั่งเกิดเป็นไอโซโทปที่เสถียร เรียกการสลายตัวลักษณะนี้ว่า การสลายตัวทางกัมมันตรังสี
ความคิดใหมีความถูกตองและนาสนใจ (radioactive decay) ซึ่งเรียกอะตอมของธาตุที่มีการสลายตัวว่า อะตอมแม่ (parent atom) และ
2. ครูใหทุกกลุมนําเสนอผลงานของกลุมตนเอง เรียกอะตอมที่ได้จากการสลายตัวว่า อะตอมลูก (daughter atom)
หนาชัน้ เรียน เมือ่ นักเรียนทุกกลุม นําเสนอเสร็จ อัตราการสลายตัว (rates of decay) ของธาตุกัมมันตรังสีมีค่าคงที่ โดยไม่ขึ้นกับการ
แลว ครูกับนักเรียนรวมกันรวมกันอภิปราย เปลีย่ นแปลงสภาวะแวดล้อมทัง้ ทางเคมีและทางกายภาพ ดังนัน้ อัตราการสลายตัวจึงไม่ถกู ควบคุม
ความรูที่ไดอีกครั้ง ด้วยกระบวนการทางธรณีวิทยา
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช ตารางที่ 4.2 : วิธีที่ใชห�อ�ยุสัมบูรณโดยไอโซโทปของธ�ตุกัมมันตรังสี
แบบประเมินการนําเสนอผลงาน) วิธี การสลายตัวของธาตุ ครึ่งชีวิต ตัวอย่างที่ศึกษา
3. ครูมอบหมายการบานใหนกั เรียนทําแบบฝกหัด K - Ar K
40
Ar
40
1,250 ล้านปี หินบะซอลต์ แร่ไมกา แร่ฮอร์นเบลนด์
เรือ่ ง การหาอายุทางธรณีวทิ ยา จากแบบฝกหัด
Rb - Sr Rb
87 87
Sr 48,800 ล้านปี หินแกรนิต แร่ไมกา
รายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร
และอวกาศ ม.4 เลม 1 หนวยการเรียนรูที่ 4 U - Pb 235
U 207
Pb 700 ล้านปี แร่เซอร์คอน แร่สฟีน แร่โมนาไซต์
ลําดับชั้นหิน
ตัวอยางที่ ฟ อสซิลก้อนหนึ่งมีปริมาณ C-14 เท่ากับ 5% เมื่อเทียบกับสิ่งมีชีวิตในปจจุบัน อยากทราบ
4.1
ว่าฟอสซิลก้อนนี้จะมีอายุกี่ปี ก�าหนดให้ค่าครึ่งชีวิตของธาตุคาร์บอน 14 เท่ากับ 5,730 ปี
ขัน้ ประเมิน N
ตรวจสอบผล ln N2
วิธีท�า จากสมการ t = -0.6931 × t1/2
1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม 5
ln 100
การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน t = -0.693 × 5,730
2. ครูตรวจและประเมินการปฏิบตั กิ ารจากการทํา t = -2.996
-0.693 × 5,730
ใบงานที่ 4.2 เรื่อง การหาอายุทางธรณีวิทยา t = 24,772 ปี
3. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัด ดังนั้น ฟอสซิลก้อนนี้จะมีอายุ 24,772 ปี

จากตารางที ่ 4.2 เป็นวิธกี ารหาอายุของวัตถุทางธรณีวทิ ยาทีม่ อี ายุมาก แต่หากต้องการหาอายุ


ของวัตถุทางธรณีวทิ ยาทีม่ อี ายุนอ้ ย ๆ มักใช้วธิ ี 14C ดังตัวอย่างที ่ 4.1 ซึง่ เหมาะกับการหาอายุของ
วัตถุทางธรณีวทิ ยาทีม่ อี ายุไม่เกิน 50,000 ปี และวิธเี ทอร์โมลูมเิ นสเซนส์ (thermoluminescence : TL)
ซึง่ เหมาะกับการหาอายุของพวกเครือ่ งปัน ดินเผา หรือแร่ทเี่ ปล่งแสงได้ เช่น ควอร์ต เฟลสปาร์ แคลไซต์
ซึ่งมักหาอายุได้ไม่เกิน 200,000 ปี
64

แนวทางการวัดและประเมินผล ขอสอบเนน การคิดแนว O-NET


ครู ส ามารถวั ด และประเมิ น การทํ า โปสเตอร ห ลั ก การหาอายุ สั ม บู ร ณ นักธรณีวิทยาใชวิธีใดในการหาอายุหินตะกอน
โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน 1. ใชวิธีกัมมันตรังสีหาอายุของหิน
(รวบยอด) ที่แนบมาทายแผนการสอนหนวยการเรียนรูที่ 4 ลําดับชั้นหิน 2. การใชรังสีเอกซในการหาอายุหิน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ลาดับชั้นหิน
3. การคนหาซากดึกดําบรรพ เชน ไทโลไบต
4. ใชลักษณะโครงสรางทางธรณีวิทยาของหิน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ลาดับชั้นหิน

เกณฑ์ประเมินโปสเตอร์หลักการหาอายุสัมบูรณ์

แบบประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผน ฯ ที่ 2 ระดับคะแนน


ประเด็นที่ประเมิน

5. ใชวิธีกัมมันตรังสี C - 14 หาอายุซากดึกดําบรรพ
4 3 2 1
แบบประเมินโปสเตอร์หลักการหาอายุสัมบูรณ์ 1. โปสเตอร์ตรงกับจุดประสงค์ที่ โปสเตอร์สอดคล้อง โปสเตอร์ โปสเตอร์ โปสเตอร์ไม่
กาหนด กับจุดประสงค์ทุก สอดคล้อง สอดคล้อง สอดคล้อง
ระดับคุณภาพ ประเด็น กับจุดประสงค์ กับจุดประสงค์ กับจุดประสงค์
ลาดับที่ รายการประเมิน เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น
4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
2. โปสเตอร์มีความถูกต้อง เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ

(วิเคราะหคําตอบ การหาอายุหินตะกอนและซากดึกดําบรรพ
1 ตรงกับจุดประสงค์ที่กาหนด
สมบูรณ์ โปสเตอร์ถูกต้อง โปสเตอร์ถูกต้อง โปสเตอร์ถูกต้อง โปสเตอร์ไม่ถูกต้อง
2 มีความถูกต้องสมบูรณ์ ครบถ้วน เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางประเด็น เป็นส่วนใหญ่
3 มีความคิดสร้างสรรค์ 3. โปสเตอร์มีความคิด โปสเตอร์แสดงออก โปสเตอร์มีแนวคิด โปสเตอร์มีความ โปสเตอร์ไม่แสดง
4 มีความเป็นระเบียบ สร้างสรรค์ ถึงความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่แต่ยัง น่าสนใจ แต่ยังไม่มี แนวคิดใหม่

สวนใหญมีอายุนอยกวา 50,000 ลานป นิยมใชกัมมันตรังสี C - 14


รวม แปลกใหม่และเป็น ไม่เป็นระบบ แนวคิดแปลกใหม่
ระบบ

4. โปสเตอร์มีความเป็นระเบียบ โปสเตอร์มีความเป็น โปสเตอร์ส่วนใหญ่ โปสเตอร์มีความ โปสเตอร์ส่วนใหญ่


ลงชือ่ ............................................................. ผู้ประเมิน ระเบียบแสดงออกถึง มีความเป็น เป็นระเบียบแต่มี ไม่เป็นระเบียบ

ดังนั้น ตอบขอ 5.)


............ /............/............. ความประณีต ระเบียบแต่ยังมี ข้อบกพร่อง และมีข้อบกพร่อง
ข้อบกพร่อง บางส่วน มาก
เล็กน้อย

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

134

T72 133
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ นํา
กระตุน้ ความสนใจ
Prior Knowledge
นักเรียนรูจ กั ยุคตาง ๆ 3. ตารางธรณีกาล 1. ใหนกั เรียนรวมกันอภิปรายวา มาตราธรณีกาล
ทางธรณีบา งหรือไม ในความคิดของนักเรียนเปนอยางไร
วั ต ถุ ท างธรณี วิ ท ยาแต่ ล ะชนิ ด ที่ พ บบนโลกล้ ว นมี อ ายุ
อยางไร 2. ครูตั้งคําถามกระตุนความคิดโดยใหนักเรียน
ต่างกัน ซึ่งการหาอายุสัมบูรณ์ของวัตถุดังกล่าวนั้น แล้วน�ามา
ชวยกันระดมความคิดในการตอบคําถาม
จัดเรียงต่อเนื่องกัน ท�าให้เกิดเป็นตารางธรณีกาล (geologic time scale : GTS) ซึ่งถือว่าเป็นการ
• ถาตองการทราบวา เหตุการณทางธรณีวทิ ยาใด
ล�าดับอายุทางธรณีวทิ ยานับตัง้ แต่ทโี่ ลกก�าเนิดขึน้ มาเมือ่ ประมาณ 4,600 ล้านปีกอ่ น จนถึงปัจจุบนั
เกิดขึน้ กอน หรือหลัง นักเรียนจะทําอยางไร
ตารางธรณีกาลฉบับสากล จัดท�าขึ้นโดยคณะท�างานการล�าดับชั้นหินสากล (International (แนวตอบ นําขอมูลอายุทางธรณีวิทยาของ
Commission on Stratigraphy) ซึ่งมีลักษณะเป็นตารางที่ประกอบด้วยชื่อบรมยุค (Eon) มหายุค เหตุการณแตละเหตุการณมาเรียงลําดับ)
(Era) ยุค (Period) อนุยุคหรือสมัย (Epoch) อายุ (Age) และรุ่น (Chron) ตามล�าดับ พร้อมทั้ง • นักวิทยาศาสตรศกึ ษาเหตุการณทเี่ กิดขึน้ ใน
มีตัวเลขที่แสดงอายุของเส้นแบ่งแต่ละยุคสมัยในหน่วยล้านปี ซึ่งได้มาจากข้อมูลชั้นหินแบบฉบับ อดีตไดอยางไร
ของโลก (Global Stratotype Sections and Points : GSSPs) (แนวตอบ ศึกษาไดจากซากดึกดําบรรพ รอง
ตารางธรณีกาลในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 4 บรมยุค ดังนี้ รอยที่ปรากฏอยูในหิน หรือหลักฐานทาง
1. บรมยุคฮาเดียน (Hadean) หรือบรมยุคอัคคีสมุทร ธรณีวิทยาอื่นๆ)
2. บรมยุคอาร์เคียน (Archean) หรือบรมยุคบรมกาล หรือคริปโทโซอิก (Cryptozoic) หรือ • มาตราธรณีกาลมีความสําคัญอยางไร
อาร์คีโอโซอิก (Archaeozooic) หรืออะโซอิก (Azoic) (แนวตอบ ชวยใหเขาใจลําดับเหตุการณทาง
3. บรมยุคโพรเทอโรโซอิก (Proterozoic) หรือบรมยุคบรมชีวิน ธรณีวิทยานับตั้งแตโลกถือกําเนิดขึ้นเมื่อ
4. บรมยุคฟาเนอโรโซอิก (Phanerozoic) หรือบรมยุคชีวินกาล ประมาณ 4,500 ลานปกอนจนถึงปจจุบัน)
นักธรณีวิทยาได้จัดบรมยุคอาร์เคียนและบรมยุคโพรเทอโรโซอิกไว้ด้วยกัน แล้วเรียกว่า 3. ครูถามคําถาม prior knowledge จากหนังสือ
พรีแคมเบรียน (Precambrian) หรือบรมยุคฐานชีวินส่วนบรมยุคฟาเนอโรโซอิก แบ่งย่อยออกเป็น เรียน หนา 65 วา นักเรียนรูจักยุคตางๆ ทาง
3 มหายุค ดังนี้ ธรณีบางหรือไม อยางไร
1. มหายุคพาลีโอโซอิก (Paleozoic) หรือมหายุคปฐมชีวิน
2. มหายุคมีโซโซอิก (Mesozoic) หรือมหายุคมัชฌิมชีวิน
3. มหายุคซีโนโซอิก (Cenozoic) หรือมหายุคนวชีวิน
แต่ละมหายุคจัดแบ่งย่อยออกเป็นยุค และแต่ละยุคแบ่งย่อยออกเป็นอนุยคุ หรือสมัย นอกจากนี้
ยังแบ่งย่อยออกเป็นอายุและรุน่ ตามล�าดับอีกด้วย ซึง่ การแบ่งช่วงเวลาต่าง ๆ นัน้ ขึน้ อยูก่ บั เหตุการณ์
ต่าง ๆ ในอดีต เช่น การเปลีย่ นแปลงชนิดหรือเผ่าพันธุพ์ ชื หรือสัตว์ การเกิดปรากฏการณ์ทางธรณีวทิ ยา
เช่น การสูญพันธ์ุของไดโนเสาร์ใช้เป็นตัวแยกมหายุคมีโซโซอิกออกจากมหายุคซีโนโซอิก เป็นต้น
แนวตอบ Prior Knowledge

ลําดับชั้นหิน 65
นักเรียนตอบตามความคิดของตนเอง เชน ยุคจู
แรสซิก ซึง่ เปนชือ่ ของภาพยนตรทมี่ เี นือ้ หาเกีย่ วของ
กับไดโนเสาร หรือยุคอื่นๆ ที่นักเรียนรูจัก

ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู


นักธรณีวิทยามีวิธีการศึกษาและดําเนินการจัดทํามาตราธรณี เพื่อใหไดขอมูลที่สมบูรณและชัดเจนเพียงตอการจัดการเรียนการสอน ครู
กาลอยางไร อาจไปศึกษาและคนควาขอมูลเพิ่มเติมเรื่อง ตารางธรณีกาล ไดจากเว็บไซต
( วิ เ คราะห คํ า ตอบ นั ก ธรณี วิ ท ยาได ทํ า การศึ ก ษาเกี่ ย วกั บ ของวิชาการธรณีไทย โดยเขาไปที่ http://www.geothai.net/geologic-time-
ซากดึกดําบรรพจนสามารถสรุปออกมาเปนมาตราธรณีกาลได โดย scale/
ใชหลักการจัดซากดึกดําบรรพ ดังนี้ 1) จัดหมวดหมูตามอายุ 2)
จัดตามวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต 3) จัดตามสภาพแวดลอมตาม
กาลเวลาที่คนพบ)

T73
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
ตารางที่ 4.3 : ต�ร�งธรณีก�ล
1. ให นั ก เรี ย นสื บ ค น ข อ มู ล เกี่ ย วกั บ การจั ด ทํ า บรมยุค มหายุค ยุค สมัย
เหตุการณ์ส�าคัญและสิ่งมีชีวิต
เวลา
(Eon) (Era) (Period) (Epoch) (ล้านปี)
มาตราธรณีกาล แลวครูถามคําถามวา โฮโลซีน มนุษย์ปัจจุบัน
• มาตราธรณีกาล จัดทําขึน้ ดวยวิธกี ารใด ควอเทอร์นารี (Holocene) 0.0117
(Quaternary) ไพลสโตซีน
(แนวตอบ นําขอมูลอายุทางธรณีวทิ ยาของหิน (Pleistocene) มนุษย์สมัยหิน
2.58
ไพลโอซีน
ซากดึกดําบรรพ และเหตุการณทางธรณีวทิ ยา นีโอจีน (Pliocene) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่และช้างแพร่หลาย
ซีโนโซอิก 5.333
อื่นๆ มาจัดเรียงโดยเริ่มตั้งโลกถือกําเนิด (Cenozoic)
(Neogene) ไมโอซีน ไม้ดอกเจริญเต็มที่ เริ่มมีหมีและสุนัข
(Miocene)
ขึ้นจนถึงปจจุบัน โดยแบงชวงเวลา เปน หรือนวชีวิน
โอลิโกซีน เริ่มมีหมูและลิง
23.03

ฟาเนอโรโซอิก (Phanerozoic) หรือชีวินกาล


(Oligocene)
บรมยุค มหายุค ยุค สมัย ชวงอายุ และรุน พาลีโอจีน อีโอซีน
33.9
ตามลําดับ) (Paleogene) (Eocene)
มีต้นตระกูลม้า สัตว์มีกีบและช้าง 56.0
พาลีโอซีน
• นักวิทยาศาสตรใชหลักการใดในการแบงชวง (Paleocene) 1 66.0
เวลาทางธรณีกาล มีโซโซอิก ครีเทเชียส (Cretaceous) เริม่ มีพนั ธุไ์ ม้ดอก หอยน�า้ จืดแพร่หลาย ตอนปลายยุ
และแอมโมนอยด์เริ่มสูญพันธุ์
ตอนปลายยุคไดโนเสาร์
~145.0
(แนวตอบ นักวิทยาศาสตรใชการเปลีย่ นแปลง (Mesozoic) จูแรสซิก (Jurassic) ยุคไดโนเสาร์และมีแอมโมนอยด์แพร่หลาย เริ่มมีนก
หรือมัชฌิมชีวิน 201.3 ± 0.2
โครงสรางของโลก และการเปลี่ยนแปลง ไทรแอสซิก (Triassic) ยุคของสัตว์เลื้อยคลานทั้งบนบกและในน�้า เริ่มมีไดโนเสาร์
257.17 ± 0.06
สัตว์เลื้อยคลานมีหลากหลายพันธุ์ ไทรโลไบต์เริ่มสูญพันธุ์
ของสิ่งมีชีวิตทั้งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ เพอร์เมียน (Permian) เริ่มมีแมลงปีกแข็ง 298.9 ± 0.15
และยอยในการแบงชวงอายุทางธรณีวิทยา คาร์บอนิเฟอรัส
(Carboniferous) มีเฟิรน์ ขนาดยักษ์ และป่าไม้เจริญเต็มทีม่ แี มลงปอขนาดยักษ์
358.9 ± 0.4
เชน การสูญพันธุครั้งของสัตวทะเลในยุค พาลีโอโซอิก ดีโวเนียน (Devonian) ยุคของปลา ก�าเนิดปลาฉลาม เริ่มมีสัตว์สะเทินน�้าสะเทินบก
และแมลงอยู่บนพื้นดิน
เพอรเมียน และการสูญพันธุของไดโนเสาร (Paleozoic)
มีปลาทะเลและสัตว์ทะเลหลากหลายพันธ์ุ เช่น แกรปโทไลต์
419.2 ± 3.2
หรือปฐมชีวิน ไซลูเรียน (Silurian)
ในยุคครีเทเชียส) ไทรโลไบต์ขนาดใหญ่ บนพื้นดินเริ่มมีพันธุ์ไม้ปรากฏ
443.4 ± 1.5
ออร์โดวิเชียน (Ordovician) เริแกรปโทไลต์
ม่ ต้นตระกูลปลาไม่มคี รีบและขากรรไกร ไทรโลไบต์ขนาดใหญ่
และปะการังแพร่หลาย มีนอติลอยด์ขนาดยักษ์
485.45 ± 1.9
เริ่มมีสัตว์ที่มีเปลือกแข็งหุ้มตัว เช่น ไทรโลไบต์ ไครนอยด์
แคมเบรียน (Cambrian) แกรปโทไลต์ หอยชนิดต่าง ๆ
541.45 ± 1.0
นีโอโพรเทอโรโซอิก
(Proterozoic) หรือบรมชีวิน

(Neoproterozoic) ยุคน�้าแข็ง อภิมหาทวีปโรดิเนีย (Rhodinia) แตกออก


1,000
พรีแคมเบรียน (Precambrian) หรือฐานชีวิน
โพรเทอโรโซอิก

มีโซโพรเทอโรโซอิก อภิมหาทวีปโคลัมเบีย (Columbia) แตกออก เกิดบรรพต


(Mesoproterozoic) รังสรรค์เกรนวิลล์
1,600
พาลีโอโพรเทอโรโซอิก
เริ่มมีการชนกันของทวีป เริ่มมีกัลปังหา
(Paleoproterozoic) 2,500
นีโออาร์เคียน
(Neoarchean) เกิดอภิมหาทวีปคีนอร์แลนด์ (Kenorland)
(Archean) หรือบรมกาล

2,800
มีโซอาร์เคียน
อภิมหาทวีปวาลบาราแตกออก
อาร์เคียน

(Mesoarchean)
3,200
พาลีโออาร์เคียน เกิดอภิมหาทวีปวาลบารา (vaalbara)
(Paleoarchean)
3,600
อีโออาร์เคียน
(Eoarchean)
4,000
ฮาเดียน (Hadean) หรืออัคคีสมุทร ก�าเนิดของโลก 4,600
66

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด


1 ไดโนเสาร มีแนวคิดหรือสมมติฐานเกีย่ วกับการการสูญพันธุข องไดโนเสาร ปลาฉลามกําเนิดในยุคใด
อยู 2 สมมติฐานทีไ่ ดรบั ความสนใจ ไดแก 1. ยุคดีโวเนียน
- ดาวเคราะหนอ ยพุง ชนโลก ทําใหเกิดการระเบิดและมีฝนุ ละอองฟุง กระจาย 2. ยุคไซลูเรียน
สูบ รรยากาศของโลก เหมือนมานบดบังแสงอาทิตย ซึง่ เปนผลใหเกิดความ 3. ยุคเพอรเมียน
มืดและความหนาวเย็นอยางฉับพลันเปนเวลานับเดือน จนไดโนเสารไม 4. ยุคออรโดวิเชียน
สามารถมีชวี ติ อยูไ ดในสภาพแวดลอมดังกลาว 5. ยุคคารบอนิเฟอรัส
- การระเบิดของภูเขาไฟอยางรุนแรง ทําใหลาวาจํานวนมหาศาลไหลสูพ นื้ โลก (วิเคราะหคําตอบ ในยุคของมหายุคพาลีโอโซอิกมีการกําเนิด
ปกคลุมพืน้ ทีก่ วา 1 ลานตารางไมล หนากวา 1 ไมล คารบอนไดออกไซดและ ของสัตวหลายชนิด ซึ่งปลาฉลามไดกําเนิดในยุคดีโวเนียน ดังนั้น
ไอนํา้ ลอยขึน้ สูบ รรยากาศ กอใหเกิดชัน้ เรือนกระจก สงผลใหในบรรยากาศ ตอบขอ 1.)
กักเก็บความรอนจากดวงอาทิตยไวที่ผิวของโลก อุณหภูมิจึงสูงขึ้น
จนนํามาสูก ารสูญพันธุข องไดโนเสาร

T74
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
3.1 พรีแคมเบรียนหรือฐานชีวิน 2. ใหนกั เรียนสืบคืนขอมูลเกีย่ วกับเหตุการณทาง
เริ่มตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 4,000 ล้านปีก่อน จนถึงประมาณ 541 ล้านปีก่อน พื้นผิวโลก ธรณีวิทยาที่เกิดขึ้นในมาตราธรณีกาล เพื่อ
ร้อนระอุพื้นที่ส่วนใหญ่มีสภาพโล่ง มีภูเขา ทะเลทราย และภูเขาไฟปะทุจ�านวนมากจนเกิดเป็น เชื่อมโยงเขาสูกิจกรรมสํารวจมาตราธรณีกาล
ธารลาวา โดยนักธรณีวิทยาเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตชั้นต�่าเริ่มก�าเนิดขึ้นในช่วงปลายพรีแคมเบรียน แต่ 3. ครูใหนักเรียนนับจํานวน 1 - 5 วนไปเรื่อยๆ
ส่วนมากไม่ทิ้งร่องรอยหรือหลักฐานที่ชัดเจนมาจนถึงปัจจุบัน จนครบทุกคน เพื่อแบงนักเรียนออกเปนกลุม
กลุมละ 5 คน โดยคนที่นับจํานวนเดียวกันให
พรีแคมเบรียนหรือฐานชีวน
ิ (Precambrian) อยูกลุมเดียวกัน
4. ครูแจงจุดประสงคของการทํากิจกรรม จาก
บรมยุคอารเคียน (Archean Eon) หรือบรมยุคบรมกาล นัน้ ใหนกั เรียนอธิบายเหตุการณทางธรณีวทิ ยา
4,000–2,500 ล้านปีก่อน
พื้นผิวโลกมีอุณหภูมิสูงมาก ซึ่งเต็มไปด้วยภูเขาไฟและธารลาวา บรรยากาศประกอบ ที่เกิดขึ้นในมาตราธรณีกาล โดยทํากิจกรรม
ด้วยแกสพิษ เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ มีเทน แอมโมเนีย สํารวจมาตราธรณีกาล
1 เจน
ไม่มีแกสออกซิเจน จึงพบสิ่งมีชีวิตจ�าพวกที่ไม่อาศัยออกซิ
ในการด�ารงชีวิต ได้แก่ โพรแคริโอต พวกสโตรมาโตไลต์
(stromatolite) ซึ่งสร้างคลอโรฟิลล์แล้วตรึงแกส
คาร์บอนไดออกไซด์มาสร้างอาหารด้วยกระบวนการสังเคราะห์ด้วย ภาพที่ 4.12 สโตรมาโตไลต์
แสง ท�าให้ได้แกสออกซิเจนออกมาสู่บรรยากาศ
ลานปกอน
4500 3500 2500 1500 500

บรมยุคโพรเทอโรโซอิก (Proterozoic Eon) หรือบรมยุคบรมชีวิน


2,500–541 ล้านปีก่อน
โลกเย็นตัวลงจนมียคุ น�า้ แข็งเกิดขึน้ เปลือกโลกมีการผุพงั และสึกกร่อนจนเกิดตะกอนท�าให้ชายฝัง ทะเล
ตื้นเขิน สโตรมาโตไลต์แพร่พันธุ์จนมีความหลากหลายมาก แล้วลดจ�านวนลง
เมื่อประมาณ 700 ล้านปีก่อน เริ่มมีสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวพวกสาหร่ายซึ่งเป็นพวก
ยูแคริโอต (eukaryote) และมีสงิ่ มีชวี ติ ชัน้ ต�า่ เกิดขึน้ ในช่วงปลายบรมยุค แต่สว่ นมาก
มักไม่ทิ้งร่องรอยหรือหลักฐานที่ชัดเจน H. O. T. S.
คําถามทาทายการคิดขั้นสูง
เพราะเหตุ ใ ด
ซากดึกด�าบรรพ์
ทีเ่ กิดขึน้ ในทะเล
มักจะเป็นซากดึกด�าบรรพ์ที่ยัง
คงรูปได้สมบูรณ์อยู่ จงอธิบาย
ภาพที่ 4.13 Spriggina floundersi ภาพที ่ 4.14 Tribrachidium heraldicum

ลําดับชั้นหิน 67

ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู


ตั้งแตยุคแคมเบรียนจนถึงปจจุบัน วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต 1 สโตรมาโตไลต หรือเชื้อแบคทีเรีย ในสาหรายสีนํ้าเงินแกมเขียว เปนสิ่งมี
โบราณในชวงเวลาใดที่มีการสูญพันธุของสิ่งมีชีวิตมากที่สุด ชีวิตเซลลเดียวชนิดแรกๆ กําเนิดขึ้นมาในโลก สรางขึ้นโดยจุลินทรียเซลลเดียว
1. ในชวงยุคดิโวเนียน ที่ชื่อ ไซยาโนแบคทีเรีย เปนหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่เกาแกที่สุดในโลก จุลินทรียพวกนี้
2. ในชวงยุคเพอรเมียน จะทําปฏิกิริยากับแคลเซียมคารบอเนต กลายเปนเมือกเหนียว คอยๆ เจริญ
3. ในชวงยุคครีเทเชียส เติบโตในนํา้ ตืน้ โตขึน้ ทีละนอย ราว 1 มิลลิเมตรตอป ในปจจุบนั มีสถานทีซ่ งึ่ เต็ม
4. รอยตอระหวางยุคเพอรเมียนกับไทรแอสซิก ไปดวยสโตรมาโตไลต คือ ชารคเบย (Shark Bay) ซึ่งเปนอาวในตะวันตกของ
5. รอยตอระหวางยุคออรโดวิเชียนกับไซลูเรียน ออสเตรเลีย จึงทําใหองคการยูเนสโกไดขึ้นทะเบียนใหชารคเบยเปนมรดกโลก
(วิเคราะหคาํ ตอบ ตัง้ แตยคุ แคมเบรียนจนถึงปจจุบนั วิวฒ
ั นาการ
ของสิง่ มีชวี ติ โบราณมีการลดจํานวนของแฟมิลหี ลายชวง จากกราฟ
ของซากดึกดําบรรพทคี่ น พบโดยเทียบกับมาตราธรณีกาลพบวา ใน
ชวงรอยตอระหวางยุคเพอรเมียนกับไทรแอสซิกมีจํานวนแฟมิลี
ลดลงมากที่สุด ดังนั้น ตอบขอ 4.)

T75
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา
5. ครู ใ ช รู ป แบบการเรี ย นรู  แ บบร ว มมื อ มาจั ด 3.2 บรมยุคฟาเนอโรโซอิกหรือบรมยุคชีวินกาล
กระบวนการเรี ย นรู  โดยกํ า หนดให ส มาชิ ก เริ่มตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 541 ล้านปีก่อนจนถึงปัจจุบัน ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็น 3 มหายุค
แต ล ะคนภายในกลุ  ม มี บ ทบาทหน า ที่ ข อง ดังนี้
ตนเอง ดังนี้
สมาชิกคนที่ 1 - 2 ทําหนาทีเ่ ตรียมวัสดุอปุ กรณ มหายุคพาลีโอโซอิกหรือมหายุคปฐมชีวน
ิ (Paleozole Era)
สมาชิกคนที่ 3 - 4 ทําหนาที่อานวิธีการทํา
ยุคแคมเบรียน (Cambrian Period) ยุคออรโดวิเชียน (Ordovician Period)
กิจกรรม และนํามาอธิบายใหสมาชิกภายใน 541–485 ล้านปีก่อน 485–443 ล้านปีก่อน
กลุมฟง เหตุการณ์ส�าคัญในยุคนั้น หินที่พบส่วนใหญ่จะเป็น
สมาชิกคนที่ 5 ทําหนาที่บันทึกผลการทดลอง คือ น�้าทะเลเริ่มรุกล�้าเข้าไป พวกหินปูน หินโดโลไมต์
ในบริเวณผืนแผ่นดินมากขึ้น หินทราย และหินดินดาน
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช หินที่พบส่วนใหญ่เป็นหินทราย ซากดึกด�าบรรพ์ที่พบเป็น
แบบประเมินการทํางานกลุม) หินชนวน หินดินดาน และหินปูน สาหร่ายทะเล สัตว์ไม่มี-
ซากดึกด�าบรรพ์ที่พบเป็นพวกสาหร่าย กระดูกสันหลัง เช่น ภาพที่ 4.16
6. ใหนักเรียนแตละกลุมทํากิจกรรมตามขั้นตอน ภาพที่ 4.15 ไทรโลไบต์
ทะเล แต่แทบไม่เหลือร่องรอยไว้ในชั้นหิน ไทรโลไบต์ แกรปโทไลต์ ออร์โธเซอราส
ดังนี้ พบสัตว์จ�าพวกไทรโลไบต์ (trilobite) หอยตะเกียง พวกที่เป็นรูปกิ่ง ไบรโอซัว (bryozoa)
(brachiopod) แกรปโทไลต์ (graptolite) พวกที่ หอยตะเกียง หอยเซฟาโลพอด ส่วนสัตว์
1) พิจารณาภาพสิง่ มีชวี ติ และขอมูลเหตุการณ เป็นร่างแห (dictyonema) มีกระดูกสันหลัง เช่น สัตว์ที่มีลักษณะคล้ายปลา
ทางธรณี วิ ท ยา รวมถึ ง ข อ มู ล ต า งๆ ที่
เกีย่ วของ
2) จัดเรียงขอมูลสิ่งมีชีวิตและเหตุการณทาง ล้านปีก่อน
600 500 400
400
ธรณีวทิ ยา แลวนํามาจัดทําเปนมาตราธรณี
กาลในรูปแบบแผนภาพ หรือ infographic ยุคไซลูเรียน (Silurian Period)
443–419 ล้านปีก่อน ยุคดีโวเนียน (Devonian Period)
3) ครูและนักเรียนรวมกันพิจารณาแผนภาพ หินที่พบส่วนใหญ่เป็นพวกหินปูน หินทราย 419–358 ล้านปีก่อน
หรือ infographic เพื่อชวยกันตรวจสอบ และหินดินดาน ซากดึกด�าบรรพ์ที่พบ เช่น หินที่พบส่วนใหญ่เป็นพวก
ขอมูล สาหร่ายทะเล และในตอนปลายยุคเริ่มพบพืชบก หินดินดาน หินปูน และ
ครั้งแรก จึงกล่าวได้ว่าเป็นยุคแรกเริ่มของพืชบก หินทรายแดง เหตุการณ์ส�าคัญใน
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น ไบรโอซัว ไทรไลไบต์ ภาพที่ 4.18 ยุคนั้น คือ ตอนปลายของยุคไซลูเรียน
แบบประเมินชิ้นงาน) และแกรปโทไลต์พวกที่เป็นรูปกิ่ง (monograptus) ปลาออสทราโคเดิร์ม เปลือกโลกมีการเคลื่อนตัวและมีการระเบิด
หอยตะเกียงเจริญสูงสุด นอกจากนี้ ยังพบ ของภูเขาไฟ ท�าให้ทะเลบางส่วนยกตัวขึ้นกลายเป็นแผ่นดิน สัตว์
7. ใหนกั เรียนแตละกลุม สงตัวแทนมานําเสนอผล ปะการังไครนอยด์ (crinoid) จ�าพวกปลามีวิวัฒนาการสูงและมีความหลากหลายมาก จึงเรียกยุคนี้
การทํากิจกรรม สัตว์จ�าพวกหอยพบได้น้อย ว่า “ยุคแห่งปลา” โดยพบปลาน�้าจืดหลายชนิด เช่น ปลาไร้ขากรรไกร
ส่วนสัตว์มีกระดูกสันหลัง ปลาออสทราโคเดิร์ม (ostracoderm) ปลาครอสส์ออฟเทอริเกียน
เช่น สัตว์ต้นตระกูลของ (crossopterygian) และปลาดิฟนอย (dipnoi) นอกจากนี้ บนแผ่นดิน
ปลาไร้ขากรรไกร เริ่มพบกิ้งกือ แมงมุม แมลงไร้ปีก และยังพบสัตว์สะเทินน�้าสะเทินบก
ภาพที่ 4.17 ไครนอยด์ ในช่วงปลายยุค

68

เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด


เพื่อเสริมความเขาใจใหนักเรียน ครูอาจเปดภาพซากดึกดําบรรพที่พบใน ยุคแหงปลาคือยุคในขอใด
ประเทศไทย เชน หอยตะเกียง หอยสองฝา จากเว็บไซตของพิพิธภัณฑสถาน 1. ยุคดีโวเนียน
แหงชาติธรณีวทิ ยาเฉลิมพระเกียรติ โดยเขาไปที่ http://www.ngm.in.th/index. 2. ยุคไซลูเรียน
php/hilight.html 3. ยุคเพอรเมียน
4. ยุคแคมเบรียน
5. ยุคออรโดวิเชียน
(วิเคราะหคําตอบ ยุคดีโวเนียนเปนยุคที่เปลือกโลมีการเคลื่อนตัว
และมีการระเบิดของภูเขาไฟ ทําใหทะเลบางสวนยกตัวขึ้นกลาย
เปนแผนดิน จึงทําใหสัตวจําพวกปลามีวิวัฒนาการสูงและมีความ
หลากหลายมาก จึงเรียกยุคนี้วา ยุคแหงปลา ดังนั้น ตอบขอ 1.)

T76
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
สํารวจค้นหา

ยุคคารบอนิเฟอรัส (Carboniferous Period) ยุคเพอรเมียน (Permian Period)


8. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายผลการทํ า
358–298 ล้านปีก่อน 298–257 ล้านปีก่อน กิ จ กรรม โดยครู ตั้ ง คํ า ถามเพื่ อ ให นั ก เรี ย น
หินที่พบส่วนใหญ่เป็นหินปูน หินทราย หินดินดาน และ หินที่พบส่วนใหญ่เป็นหินปูน หินเกลือ แตละกลุมรวมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้
ถ่านหิน เป็นยุคที่พืชบกแพร่หลายซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวก หินดินดาน และหินทรายสีแดง
ไลโคพอด (lycopod : scale-trees) เฟิร์นมีเมล็ด สัตว์ที่ พืชส่วนใหญ่เป็นพวกเฟิร์น • สิง่ มีชวี ติ บนโลก มีการสูญพันธุค รัง้ ใหญกคี่ รัง้
พบมาก เช่น หอยขม หอยสองฝา สัตว์ขาปล้อง 1ส่วน และในแถบซีกโลกใต้ มีพืช อะไรบาง
สัตว์มีกระดูกสันหลัง ได้แก่ สัตว์สะเทินน�้าสะเทินบก ซึ่ง พวกกลอสซอฟเทอริส
มีววิ ฒ
ั นาการมากจนเรียกได้วา่ เป็น “ยุคของสัตว์สะเทินน�า้ (Glossopteris) เริ่มพบแมลง
(แนวตอบ 5 ครั้ง ไดแก ชวงยุคออโดวีเชียน
สะเทินบก” พบปลาน�า้ จืดแพร่หลาย เริม่ มีสตั ว์เลือ้ ยคลาน เช่น แมลงปีกแข็งและจักจั่น ภาพที่ 4.20 กลอสซอฟเทอริส ถึงยุคไซลูเรียน ชวงปลายยุคดีโวเนียน ชวง
ในทะเลพบพวกหอยตะเกียง ไครนอยด์ และปะการัง สัตว์มกี ระดูกสันหลังมีทงั้ สัตว์สะเทินน�า้ สะเทินบก สัตว์เลือ้ ยคลาน ยุคเพอรเมียนถึงยุคไทรแอสซิก ชวงยุคไทร
จ�านวนมาก ไบรโอซัวพวกรูปพัด (fenestella) หอยเป็นพวก รวมทั้งพวกที่มีลักษณะคล้ายสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน�้านม ปลาน�้าจืด
หอยสองฝา หอยโข่ง และพวกเซฟาโลพอด แกรปโทไลต์ เป็นพวกปลาพาลีโอนิสติดและฉลาม แอสซิกถึงยุคจูแรสซิก ชวงยุคครีเทเชียสถึง
พวกทีเ่ ป็นร่างแหสูญพันธุไ์ ปหมด สัตว์มกี ระดูกสันหลังที่ ในทะเลพบฟิวซูลินิด ไบรโอซัว และหอยตะเกียงอยู่อย่าง ยุคพาลีโอจีน)
อาศัยอยูใ่ นทะเลส่วนใหญ่เป็นพวกฉลาม และปลายยุคเริม่ มี แพร่หลาย ส่วนปะการังพบไม่มากนัก เริ่มพบแอมโมนอยด์
พวกฟิวซูลนิ ดิ (ammonoid) และเบเล็มนอยด์ (belemnoid) ซึ่งเมื่อสิ้นสุดยุคนี้ • เหตุการณการสูญพันธุในชวงยุคเพอรเมียน
แล้วพวกฟิวซูลินิด ปะการังพวกริวโกส ไบรโอซัว หอยตะเกียง ถึงยุคไทรแอสซิกเปนอยางไร นาจะเกิดจาก
และไทรโลไบต์สูญพันธุ์ไปหมด สาเหตุใด
(แนวตอบ สัตวทะเลในยุคเพอรเมียนสูญพันธุ
ภาพที่ 4.19 ฟิวซูลินิด ประมาณ 90% ของจํานวนชนิดของสัตว
ทะเลทั้ ง หมด ซึ่ ง อาจเกิ ด จากการระเบิ ด
ของภู เ ขาไฟ ภาวะขาดแคลนออกซิ เ จน
300 200
หรืออุกกาบาตพุงชนโลก)

Earth Science
Focus การสูญพันธุของสิ่งมีชีวิต

การสูญพันธุข์ องสิง่ มีชวี ติ ครัง้ ใหญ่ทสี่ ดุ เกิดขึน้ ในช่วงปลายยุคเพอร์เมียนจนถึงต้นยุคไทรแอสซิก


โดยมีการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในน�้ากว่า 96% สิ่งมีชีวิตบนบกกว่า 70% ส่งผลให้รูปแบบของสิ่งมีชีวิต
บนโลกเปลีย่ นไป เกิดสัตว์พวกไดโนเสาร์ขนึ้ จ�านวนมาก โดยสาเหตุของการสูญพันธุย์ งั คงเป็นทีถ่ กเถียง
และเสนอสมมติฐานหลายแนวทาง เช่น เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของแผ่นเปลือกโลก วัตถุนอกโลก
พุ่งชนโลก หรือเกิดจากการปะทุครั้งใหญ่ของภูเขาไฟ

ลําดับชั้นหิน 69

ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู


สิ่งมีชีวิตใดตอไปนี้เกิดขึ้นบนทวีปพันเจีย และอยูรวมยุคเมื่อ 1 สัตวสะเทินนํา้ สะเทินบก คําวา สะเทินนํา้ สะเทินบก และคําวา เลีอ้ ยคลาน
ทวีปพันเจียแยกออกจากกันเปนทวีปตางๆ ดังทีป่ รากฏในปจจุบนั มีความหมายตามราชบัณฑิต ดังนี้
1. นก - สะเทินนํ้าสะเทินบก คือ ชื่อเรียกสัตวจําพวกที่อยูไดทั้งในนํ้าและบนบก
2. เอป เชน กบ คางคก อึ่งอาง
3. ไดโนเสาร - เลื้อยคลาน คือ ชื่อเรียกสัตวเลือดเย็นจําพวกที่ผิวหนังมีเกล็ดปกคลุม
4. ไทรโลไบต หายใจดวยปอดอยางจิ้งจก จิ้งเหลน จระเข เตา งู สวนมากวางไข หลาย
5. โฮโมอีเรกตัส ชนิดออกลูกเปนตัว ลูกออนมีลักษณะอยางพอแม
(วิเคราะหคําตอบ ไดโนเสารเริ่มกําเนิดขึ้นในปลายยุคเพอรเมียน จากความหมายขางตน สามารถสรุปเปนความแตกตางระหวางสัตวทงั้ สอง
ซึ่งทวีปตางๆ บนโลกเคยอยูรวมกันเปนทวีปใหญเรียกวา พันเจีย ประเภทได ดังนี้ สัตวสะเทือนนํ้าสะเทินบกเปนสัตวพวกที่ครึ่งชีวิตตองอยูในนํ้า
และอยูรวมยุคเมื่อทวีปพันเจียแยกออกจากกันเปนทวีปตางๆ ดัง อีกครึ่งชีวิตอยูบนบก แตสัตวเลื้อยคลานเปนสัตวพวกที่เคลื่อนไหวในลักษณะ
ที่ปรากฏ ดังนั้น ตอบขอ 3) ทาทางที่ตองเลื้อยหรือตองคลาน

T77
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
1. ครูกลาวเชื่อมโยงเขาสูเนื้อหาตอไป โดยตั้ง มหายุคมีโซโซอิกหรือมหายุคมัชฌิมชีวิน (Mesozoic Era)
ประเด็นคําถามวา มาตราธรณีกาลสามารถ
อยู่ในช่วงเวลาประมาณ 257-66 ล้านปีก่อน ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็น 3 ยุค ดังนี้
เปลี่ยนแปลง ไดหรือไม ใหนักเรียนรวมกัน
ยุคไทรแอสซิก (Triasic Period)
อภิปราย 257–201 ล้านปีก่อน
( แนวตอบ ได เพราะถ า หากมี ก ารค น พบ หินที่พบส่วนใหญ่เป็นพวกหินสีแดงและหินเกลือที่เกิดขึ้นในสภาวะที่มีความร้อนและแห้งแล้ง
หินปูนและหินดินดานที่เกิดขึ้นในทะเลตื้นและน�้าอุ่น
หลักฐานทางธรณีวิทยาใหม หรือมีเทคโนโลยี ยุคนี้เป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของสิ่งมีชีวิตทั้งบนบกและในทะเล ปลายยุคพบปรงและเฟิร์น
ที่สามารถหาอายุสัมบูรณไดแมนยําขึ้น เชน เจริญเติบโตดี พบสัตว์มีขาเป็นปล้องพวกครัสเทเชียนหลายชนิดอาศัยอยู่ในแหล่งน�้า เช่น
การขยายเวลาของยุ ค ควอเทอร น ารี การ หมัดที่เรียกว่า แอสเธอเรีย (estheria) แมลงป่องและแมลงต่าง ๆ ส่วนสัตว์มีกระดูกสันหลัง
ภาพที่ 4.21
พบพวกปลามีปอด (ceratodus) สัตว์เลื้อยคลานมีทั้งชนิดและจ�านวนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้
เปลี่ยนแปลงยุคเทอรเชียรีเปนยุคพาลีโอจีน ยังพบเต่าและจระเข้ ในช่วงปลายยุคพบไดโนเสาร์จ�านวนมาก แอสเธอเรีย
และนีโอจีน) ในทะเลยังพบหอยตะเกียงและไครนอยด์ ปะการังพวกใหม่ที่เรียกว่า
ปะการังหกเหลี่ยม (hexacorals) พบหอยสองฝาและหอยโข่งมากขึ้น
2. ครูใหนกั เรียนจับคูก นั สืบคนขอมูลเกีย่ วกับเรือ่ ง ส่วนเซฟาโลพอดเป็นพวกเซอราไททีส (ceratites) จ�านวนมาก
มาตราธรณีกาล ดังนี้ สัตว์มีขาเป็นปล้องที่มีลักษณะคล้ายกุ้ง สัตว์มีกระดูกสันหลังพบพวก ภาพที่ 4.22 ปะการังหกเหลี่ยม
- การสูญพันธุครั้งใหญของสิ่งมีชีวิตบนโลก ต้นตระกูลปลากระดูกแข็ง (bony fishes) รวมทัง้ ปลาทีบ่ นิ ได้จา� นวนมาก
แต่ฉลามมีนอ้ ยลง และเริม่ พบสัตว์เลือ้ ยคลานกินเนือ้ ทีม่ รี ปู ร่างคล้าย
- การเปลี่ยนแปลงขอมูลในมาตราธรณีกาล ปลา (icthyosaurs)
โดยนักเรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือ
ภาพที่ 4.23 เซอราไททีส
แหลงเรียนรูอื่นๆ แลวนําขอมูลมาแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็น และรวมกันตั้งประเด็นคําถาม ล้านปีก่อน
300 250 200
เกี่ยวกับเรื่องที่สืบคนมา
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช ยุคจูแรสซิก (Jurassic Period)
แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล) 201–145 ล้านปีก่อน
หินทีพ่ บเป็นพวกหินปูนเม็ดไข่ปลา (oolitic limestone) หินดินดาน
และหินทราย บนบกพบพืชหลายชนิด เช่น สน เฟิรน์ ปรง แปะกวย
(ginkgo) ซึ่งยุคนี้อาจเรียกได้ว่าเป็น “ยุคของปรง” ส่วนพืชดอก
ที่แท้จริงยังไม่ปรากฏ พบแมลงปอ ตั๊กแตน แมลงปีกแข็ง สัตว์มี
กระดูกสันหลังเริ่มมีกบและอึ่งอ่าง สัตว์เลื้อยคลานเจริญสูงสุด
และมีจ�านวนมาก เช่น ไดโนเสาร์ เทอโรซอร์ที่บ1ินได้
จระเข้ และเต่า พบนกตัวแรก คือ อาร์คอี อปเทอริกซ์
(archaeopteryx) ซึ
) ซึ่งมีวิวัฒนาการ
มาจากสัตว์เลื้อยคลาน
ภาพที่ 4.25 อาร์คีออปเทอริกซ์

ภาพที่ 4.24 ปรง


70

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด


1 อาร คี อ อปเทอริ ก ซ เปนนกตัวแรกของโลก มีวิวัฒนาการมาจากสัตว ขอใดเปนยุคที่อยูในยุคมหายุคมีโซโซอิก (Mesozoic)
เลือ้ ยคลาน และมีลกั ษณะอยางหลายทีค่ ลายไดโนเสาร ไมวา จะเปนปากทีเ่ ต็มไป 1. Triassic และ Permian
ดวยฟนซีเ่ ล็กๆ แทนทีจ่ ะเปนจะงอยปาก หรือการมีกรงเล็บทีอ่ ยูบ นปก ซึง่ แสดง 2. Cambrian และ Triassic
ใหเห็นวาอาคีออฟเทอริกซอาจจะบินไมเกงมากนัก แตใชการรอนไประหวางตนไม 3. Jurassic และ Proterozoic
และลงจอดโดนใชเล็บเกาะซะมากกวา เพราะเมือ่ เทียบกันขนาดตัวและกระดูกแลว 4. Cretaceous และ Jurassic
ปกของมันดูเล็กเกินไปทีใ่ ชบนิ 5. Proterozoic และ Permian
(วิเคราะหคาํ ตอบ มหายุคมีโซโซอิก (Mesozoic) แบงออกเปน 3 ยุค
ไดแก Triassic, Jurassic และ Cretaceous ดังนั้น ตอบขอ 4.)

T78
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สอน
อธิบายความรู้
3. ใหนกั เรียนรวมกลุม กับเพือ่ นอีกคูห นึง่ รวมเปน
4 คน แลวแลกเปลี่ยนกันถามคําถามที่ตั้งไว
ยุคครีเทเชียส (Cretaceous period)
145–66 ล้านปีก่อน
จากนัน้ รวมกันสรุปเพือ่ เตรียมนําเสนอหนาชัน้
หินที่พบส่วนใหญ่เป็นพวกหินชอล์กที่ประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนต (จากเศษชิ้นส่วน เรียน
ของสาหร่าย คอคโคลิธ (coccolith) ปนอยู่กับเศษเปลือกหอยและฟิวซูลินิด บนบกยัง 4. ครูสมุ เลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมานํา
พบพืชพวกสน เฟิร์น และปรง ส่วนในช่วงกลางยุคเริ่มมีพืชดอก (angiosperm)
และปลายยุคพบพืชทั่วไปที่พบในปัจจุบัน สัตว์ที่พบส่วนใหญ่ เสนอคําถามของกลุม ตนเอง โดยใหนกั เรียนทัง้
เป็นพวกไดโนเสาร์ และมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน�้านมอยู่บ้าง หองรวมกันตอบคําถาม และอภิปรายรวมกัน
แต่ในช่วงปลายยุคไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปในทะเลพบ
ฟองน�้าเนื้อปูน และไบรโอซัวกระจายอยู่จ�านวนมากใน
เขตน�้าตื้น พบหอยตะเกียงและหอยสองฝาจ�านวนมาก
ภาพที่ 4.26 ไดโนเสาร์ ส่วนแอมโมนอยด์พบน้อยลงและสูญพันธุ์ใปใน
ช่วงปลายยุค อาร์โทรพอดมีพวกกุ้ง เอไคนอยด์ ไครนอยด์ และ
ดาวทะเลอยู่มาก พวกสัตว์เซลล์เดียว พบฟิวซูลินิด
และราดิโอลาเรียอยู่แพร่หลาย ส่วนพวกสัตว์
มีกระดูกสันหลัง พบปลามีขากรรไกร ฉลาม
และกระเบนที่มีลักษณะคล้ายกับในปัจจุบัน

ภาพที่ 4.27 กระเบน

150 100

ในทะเลพบสาหร่ายทะเลเนื้อปูน (สาหร่ายสีแดง) และปะการังหกเหลี่ยมอยู่มาก


หอยตะเกียงที่พบมากมี 2 พวก ได้แก่ ทีเรบราทูลิด (terebratulids) หรือพวกที่มี
ฝาเรียบ และริงโคเนลลิด (rhynchonellids) หรือพวกที่ฝามีซี่ หอยสองฝาชนิดใหม่
ได้แก่ พวกไทรโกเนีย (trigonias) และหอยนางรม พบแอมโมนอยด์แพร่หลายมาก
และมีวิวัฒนาการรวดเร็วจึงใช้เป็นตัวบ่งบอกอายุของหินได้ พวกไครนอยด์
เอไคนอยด์ โอฟิอูรอยด์พบมากพอสมควร นอกจากนี้ ยังพบปู ภาพที่ 4.28 แอมโมนอยด์
เป็นครั้งแรก และพบครัสเทเชียนที่มีลักษณะคล้ายกุ้ง
สัตว์มีกระดูกสันหลังส่วนใหญ่เป็น
พวกสัตว์เลื้อยคลาน เช่น
อิกไธโอซอร์ (ichthyosaurs) และ
เพลซิโอซอร์ (plesiosaurs) ส่วนปลาที่พบมาก
ได้แก่ ปลากระดูกแข็งโบราณ ฉลาม และกระเบน ภาพที่ 4.29 อิกไธโอซอร์

ลําดับชั้นหิน 71

ขอสอบเนน การคิด สื่อ Digital


ในชวงเวลาใดไดโนเสารมีวิวัฒนาการจนมีจํานวนสายพันธุ ศึกษาเพิม่ เติมไดจากภาพยนตรสารคดีสนั้ Twig เรือ่ ง การสูญพันธุค รัง้ ใหญ:
มากที่สุด ไดโนเสาร https://www.twig-aksorn.com/film/mass-extinction-dino-
1. มหายุคมีโซโซอิก saurs-8008/
2. มหายุคซีโนโซอิก
3. มหายุคอีซีโนโซอิก
4. มหายุคพาลีโอโซอิก
5. มหายุคพรีแคมเบรียน
(วิเคราะหคําตอบ มหายุคมีโซโซอิกเปนยุคที่สัตวเลี้อยคลาน
กลุม ไดโนเสารมวี วิ ฒ
ั นาการจนมีจาํ นวนสายพันธุม ากทีส่ ดุ ดังนัน้
ตอบขอ 1.)

T79
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สรุป
ขยายความเขาใจ
1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายเพื่ อ ให ไ ด มหายุคซีโนโซอิกหรือมหายุคนวชีวิน Cenozoic Era
ขอสรุปเกี่ยวกับมาตราธรณีกาล โดยอาจมี
อยู่ในช่วงเวลาประมาณ 66 ล้านปีก่อน จนถึงปัจจุบัน เป็นมหายุคที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน�้านม
แนวทางสรุป ดังนี้
และไม้ดอกเจริญมาก ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็น 3 ยุค ดังนี้
“มาตราธรณี ก าล คื อ การลํ า ดั บ อายุ ท าง
ยุคพาลีโอจีน (Paleogene Period) ยุคนีโอจีน (Neogene Period)
ธรณี วิ ท ยาตั้ ง แต โ ลกถื อ กํ า เนิ ด ขึ้ น ซึ่ ง มี 66–23 ล้านปีก่อน 23–2.5 ล้านปีก่อน
การเปลี่ ย นแปลงทางธรณี วิ ท ยา และสิ่ ง มี สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน�้านมเริ่มพัฒนาจากที่มีขนาด พบสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่และมีลักษณะที่ซับซ้อน
เล็ก ไปเป็นสัตว์ทมี่ ขี นาดใหญ่หลากหลายสายพันธุ์ มากขึ้น เริ่มพบลิงเอป (ape) ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์
ชี วิ ต มากมาย เพื่ อ ความเข า ใจชั ด เจน นั ก ส่วนนกมีวิวัฒนาการมาสู่รูปแบบในปัจจุบัน ซึ่ง โดยพบในแอฟริกากลางและยุโรป ในแอฟริกาใต้
พบออสทราโลพิเทคัส (Australopithecus) ซึ่งเป็น
วิทยาศาสตรจงึ จัดแบงชวงเวลาทางธรณีวทิ ยา ยุคนี้แบ่งออกเป็น 3 สมัย ดังนี้ ต้นตระกูลของมนุษย์ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังพบสัตว์
สมัยพาลีโอซีน (Paleocene Epoch) เลี้ยงลูกด้วยน�้านมที่อาศัยอยู่ในน�้า เช่น วาฬ วัวทะเล
ออกเปน บรมยุค มหายุค ยุค สมัย ชวงอายุ 66-56 ล้านปีก่อน สิง่ มีชวี ติ ทีบ่ นิ ได้ เช่น ค้างคาว สัตว์ไม่มกี ระดูกสันหลัง
ที่อาศัยอยู่ในทะเล มีพวกหอย เช่น หอยสองฝา
และรุน ตามลําดับ ซึง่ มาตราธรณีกาลสามารถ มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์มาก
หอยโข่ง และยังมีพวกเอไคนอยด์ อาร์โทพอด เช่น
สมัยอีโอซีน (Eocene Epoch)
เปลี่ยนแปลงได ถามีหลักฐานทางธรณีวิทยา 56-33 ล้านปีก่อน
ครัสเทเชียน แมลงชนิดต่าง ๆ
สมัยไมโอซีน (Miocene Epoch)
มาสนับสนุน” พบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน�้านมที่มีรก 23-5 ล้านปีก่อน ภาพที่ 4.30 ลิงเอป
2. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน ทําใบงาน สมัยโอลิโกซีน (Oligocene Epoch) พบพืชจ�าพวกหญ้าทนไฟ สัตว์ที่พบ เช่น หมี กวาง บีเวอร์
33-23 ล้านปีก่อน สมัยไพลโอซีน (Pliocene Epoch)
ที่ 4.3 เรื่อง มาตราธรณีกาล ในรูปของแผนผัง มีปา่ ไม้ผลัดใบ พบสัตว์มกี ระดูกสันหลัง เช่น ฉลาม 5-2.5 ล้านปีก่อน
ปลากระดูกแข็ง สัตว์เลื้อยคลาน เช่น จระเข้ เต่า
ความคิดใหมีความถูกตองและนาสนใจ แลว พบสัตว์เลื้อยคลานที่ส�าคัญ คือ จระเข้น�้าเค็ม เนื่องจากอากาศเริ่ม
เย็นลง จึงมีพชื ส�าคัญ คือ สนและหญ้า นอกจากนัน้ ยังมีหอยฝาเดียว
นําเสนอผลงาน ปะการัง และหอยนางรม
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช
ล้านปีก่อน
แบบประเมินการนําเสนอผลงาน)
80 60 40 20 0
ยุคควอเทอรนารี (Quaternary Period)
2.5 ล้านปีก่อน จนถึงปัจจุบัน เหตุการณ์ส�าคัญของยุคนี้ คือ
วิวัฒนาการของโฮโมนิด (homonid)
สมัยไพลสโตซีน (Pleistocene Epoch)
2.5-0.01 ล้านปีก่อน มีธารน�้าแข็งจ�านวนมาก จึงเรียกว่า สมัย
น�้าแข็ง (Ice Age) พบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน�้านมที่ส�าคัญ คือ
แมมมอธ (mammoth) มาสโตดอน (mastodon) และมนุษย์
นีแอนเดอร์ทัล (neanderthal)
สมัยโฮโลซีน (Holocene Epoch)
0.01 ล้านปีก่อน จนถึงปัจจุบัน
เป็นช่วงที่มนุษย์มีการบันทึกข้อมูลในประวัติศาสตร์
จนมาถึงช่วงที่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม (ศตวรรษที่ 18)

ภาพที่ 4.31 แมมมอธ


72

เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด


ครูควรหาภาพสิง่ มีชวี ติ ในยุคตาง ๆ ทีอ่ ยูใ นเนือ้ หา มาใหนกั เรียนพิจารณา ลิงเอปทีม่ ลี กั ษณะคลายมนุษยเริม่ พบในยุคใดของมหายุคซีโนโซอิก
โดยทีค่ รูควรคัดเลือกภาพทีม่ คี วามนาสนใจ สมจริง เพือ่ ทีจ่ ะกระตุน ความสนใจ 1. ยุคจูแรสซิก
ของนักเรียน แลวใหนักเรียนชวยกันวิเคราะหถึงลักษณะของสิ่งมีชีวิตตางๆ วา 2. ยุคนีโอจีน
มีความเหมือนหรือความแตกตางกันอยางไร แตละลักษณะเอือ้ ตอการดํารงชีวติ 3. ยุคพาลีโอจีน
ของสิ่งมีชีวิตชนิดนั้นอยางไร 4. ยุคครีเทเชียส
5. ยุคควอเทอรนารี
(วิเคราะหคําตอบ มหายุคซีโนโซอิก ถูกแบงยอยออกเปน 3 ยุค
คือ ยุคพาลีโอจีน ยุคนีโอจีน และยุคควอเทอรนารี ซึ่งยุคนีโอจีน
จะพบสิ่งมีชีวิตขนาดใหญและมีลักษณะซับซอนมากขึ้น และเริ่ม
พบลิงเอปที่มีลักษณะคลายมนุษยในยุคนี้ ดังนั้น ตอบขอ 1.)

T80
นํา สอน สรุป ประเมิน

ขัน้ สรุป
Summary ขยายความเขาใจ
3. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน สราง
ล�าดับชัน้ หิน แบบจําลองมาตราธรณีกาล ตามความรูที่ได
เรียนมาโดยแตละกลุมเลือกมหายุคที่สนใจ
กลุมละ 1 มหายุค
การลําดับชั้นหิน
การจ�าแนกหน่วยหิน 4. ครูสุมเลือกนักเรียน 2 - 3 กลุม ใหออกมา
จดั ล�าดับหินจากหน่วยใหญ่ไปยังหน่วยย่อย ได้แก่ กลุม่ หิน (group) หมวดหิน (formation) หมูห่ นิ (member) นําเสนอแบบจําลองของกลุมตนเอง โดยให
และชั้นหิน (bed) นั ก เรี ย นทั้ ง ห อ งร ว มกั น ตั้ ง คํ า ถามเกี่ ย วกั บ
การล�าดับชั้นและการกระจายตัวของหิน มาตราธรณีกาล และอภิปรายรวมกัน
กลุ่มหิน กลุ่มหิน กลุ่มหิน 5. ครูมอบหมายการบานใหนกั เรียนทําแบบฝกหัด
บรมยุคพรีแคมเบรียน มหายุคพาลีโอโซอิกตอนต้น มหายุคพาลีโอโซอิกตอนกลาง
จาก Unit Question 4 ในหนังสือเรียน หนา
กลุ่มตะรุเตา และกลุ่มทุ่งสง กลุ่มทองผาภูมิ และกลุ่มปากชม
75
6. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น สรุ ป เนื้ อ หาเกี่ ย วกั บ
กลุ่มหิน กลุ่มหิน กลุ่มหิน
มหายุคซีโนโซอิก มหายุคมีโซโซอิก มหายุคพาลีโอโซอิกตอนปลาย ลําดับชัน้ หิน จากนัน้ ใหนกั เรียนทําแบบทดสอบ
กลุ่มแม่เมาะ และกลุ่มกรุงเทพ กลุ่มล�าปาง และกลุ่มโคราช กลุ่มแก่งกระจาน กลุ่มราชบุรี หลังเรียน
และกลุ่มสระบุรี
ขัน้ ประเมิน
การหาอายุทางธรณีวิทยา ตรวจสอบผล
อายุเปรียบเทียบ อายุสัมบูรณ์ 1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม
ศึกษาจากการจัดล�าดับชั้นหิน ซึ่งวิธีการนี้ วิ เ คราะห์ แ ละค� า นวณจากไอโซโทป การรวมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน
จะไม่สามารถระบุอายุเป็นปีที่แน่ชัดได้ ของธาตุกัมมันตรังสีที่อยู่ในวัตถุทาง
ธรณีวิทยา 2. ครูประเมินการปฏิบัติการจากการทําใบงาน
เรื่อง มาตราธรณีกาล
กฎการวางตัว กฎความสัมพันธ์ กฎการเทียบ กฎการสืบทอด กฎการเป็น 3. ครูตรวจสอบผลการทําแบบฝกหัดจาก Unit
ซ้อนทับ ที่ตัดกัน สัมพันธ์ของ สัตวชาติ เอกภาพ Question 4
หิินตะกอน ปัจจุบันเป็นกุญแจ
ชั้นหินที่ไม่ถูก หากมีหินอัคนีแทรก ซากดึกด�าบรรพ์
ไขไปสู่อดีต (The
4. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน
รบกวนจาก ตัวขึ้นมาตัดขวางชั้น วิเคราะห์ความคล้าย นั้นเปลี่ยนแปลง
กระบวนการต่าง ๆ หินเดิม หินนั้นย่อม กันของลักษณะ ได้ ท�าให้ล�าดับชั้น present is the key
ชั้นหินที่วางตัวอยู่ มีอายุน้อยกว่าชั้น ต�าแหน่ง และล�าดับ หินที่ต่อเนื่องกัน to the past)
ด้านบนย่อมมีอายุ หินเดิม ชั้นหินตะกอน มีซากดึกด�าบรรพ์
น้อยกว่าชั้นหินที่ ในพื้นที่ต่าง ๆ ต่างกัน
วางตัวอยู่ด้านล่าง

ลําดับชั้นหิน 73

ขอสอบเนน การคิด แนวทางการวัดและประเมินผล


นักเรียนเห็นดวยหรือไมวา ซากดึกดําบรรพสามารถใชบอก ครูสามารถวัดและประเมินการทํามาตราธรณีกาลในรูปแบบแผนภาพ หรือ
สภาพแวดลอมและสภาพภูมิอากาศในอดีตของพื้นที่ที่พบซาก infographic โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินชิ้นงาน/
นั้นๆ ได ใหนักเรียนอธิบายเหตุผลประกอบมาพอสังเขป ภาระงาน (รวบยอด) ทีแ่ นบมาทายแผนการสอนหนวยการเรียนรูท ี่ 4 ลําดับชัน้ หิน
(แนวตอบ เนื่องจากการดํารงของสิ่งมีชีวิตจะมีความสัมพันธ
กับปจจัยแวดลอมตางๆ เชน อุณหภูมิ ปริมาณออกซิเจน แสง หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ลาดับชั้นหิน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ลาดับชั้นหิน

เกณฑ์ประเมินมาตราธรณีกาลในรูปแบบแผนภาพ หรือ info graphic

สวาง ชนิดและสมบัติของตะกอน เปนตน ตัวอยางเชน ถาพบซาก แบบประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผน ฯ ที่ 3

แบบประเมินมาตราธรณีกาลในรูปแบบแผนภาพ หรือ info graphic


ประเด็นที่ประเมิน
4
1. แผนภาพตรงกับจุดประสงค์ที่ แผนภาพสอดคล้อง
กาหนด กับจุดประสงค์ทุก
แผนภาพ
สอดคล้อง
3
ระดับคะแนน

แผนภาพ
สอดคล้อง
2 1
แผนภาพไม่
สอดคล้อง

ปะการัง ก็สามารถบอกไดวา บริเวณนัน้ เคยเปนทะเลมากอน ดังนัน้


ระดับคุณภาพ
ลาดับที่ รายการประเมิน ประเด็น กับจุดประสงค์ กับจุดประสงค์ กับจุดประสงค์
4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น
1 ตรงกับจุดประสงค์ที่กาหนด 2. แผนภาพมีความถูกต้อง เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ
2 มีความถูกต้องสมบูรณ์ สมบูรณ์ แผนภาพถูกต้อง แผนภาพถูกต้อง แผนภาพถูกต้อง แผนภาพไม่ถูกต้อง
3 มีความคิดสร้างสรรค์ ครบถ้วน เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางประเด็น เป็นส่วนใหญ่

การพบซากดึกดําบรรพสามารถใชบอกสภาพแวดลอมและสภาพ 4 มีความเป็นระเบียบ
รวม
3. แผนภาพมีความคิด
สร้างสรรค์
แผนภาพแสดงออก แผนภาพมีแนวคิด แผนภาพมีความ
ถึงความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่แต่ยัง
แปลกใหม่และเป็น
ระบบ
ไม่เป็นระบบ
น่าสนใจ แต่ยังไม่มี
แนวคิดแปลกใหม่
แผนภาพไม่แสดง
แนวคิดใหม่

ภูมิอากาศในอดีตของพื้นที่นั้นๆ ได)
ลงชือ่ ............................................................. ผู้ประเมิน 4. แผนภาพมีความเป็นระเบียบ แผนภาพมีความเป็น แผนภาพส่วนใหญ่ แผนภาพมีความ แผนภาพส่วนใหญ่
............ /............/............. ระเบียบแสดงออกถึง มีความเป็น เป็นระเบียบแต่มี ไม่เป็นระเบียบ
ความประณีต ระเบียบแต่ยังมี ข้อบกพร่อง และมีข้อบกพร่อง
ข้อบกพร่อง บางส่วน มาก
เล็กน้อย

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

136

T81
135
นํา สอน สรุป ประเมิน

แนวตอบ Self Check


1. ถูก 2. ถูก 3. ผิด
4. ผิด 5. ถูก ตารางธรณีกาล
ตารางธรณีกาล (geologic time scale : GTS) เป็นการล�าดับอายุทางธรณีวิทยานับตั้งแต่โลกก�าเนิดขึ้นเมื่อ
4,600 ล้านปีก่อน ซึ่งตารางจะประกอบด้วย บรมยุค (Eon) มหายุค (Era) ยุค (Period) อนุยุคหรือสมัย
เฉลย Unit Question 4 (Epoch) อายุ (Age) และรุ่น (Chron) ตามล�าดับ
1. กฎการวางตัวซอนทับ (law of superposition)
บรมยุค
กลาววา ตะกอนที่วางตัวอยูดานบนยอมมีอายุ
ออนกวาตะกอนทีว่ างตัวอยูด า นลาง โดยชัน้ หินนัน้ บรมยุคฟาเนอโรโซอิก บรมยุคไพรเทอโรโซอิก บรมยุคฮาเดียน บรมยุคอาร์เคียน
ตองไมมกี ารพลิกกลับ (overturned) แตหากมีแรง
พรีแคมเบรียนหรือฐานชีวิน
ปริมาณมากกระทําตอชัน้ หิน อาจทําใหชนั้ หินเกิด
บรมยุคฟาเนอโรโซอิก
การคดโคงโกงงอ (folding) หรือพลิกกลับได
กฎความสัมพันธทตี่ ดั กัน (law of cross - cutting มหายุคพาลีโอโซอิก มหายุคมีโซโซอิก มหายุคซีโนโซอิก
relationship) กลาววา หากมีหินแทรกตัวตัด
ขวางชั้นหินที่เปนหินดั้งเดิม หินที่แทรกเขามา
จะมีอายุนอยกวาชั้นหินเดิม
กฎการเทียบสัมพันธของหินตะกอน (law of
correlation of sedimentary rocks) อาศัย
การวิเคราะหความคลายคลึงกันของลักษณะ Self Check
ตํ า แหน ง และการลํ า ดั บ ชั้ น หิ น ตะกอนใน
ให้นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจ โดยพิจารณาข้อความว่าถูกหรือผิด แล้วบันทึกลงในสมุด
พื้นที่ตางๆ โดยใชลักษณะทางกายภาพจาก
หากพิจารณาข้อความไม่ถูกต้อง ให้กลับไปทบทวนเนื้อหาตามหัวข้อที่ก�าหนดให้
ชั้นหินหลัก หรือการเทียบเคียงอยางงายจาก ถูก/ผิด ทบทวนที่หัวขอ
ซากดึกดําบรรพ 1. ก ารจัดจ�าแนกหินส่วนใหญ่จะใช้แหล่งก�าเนิด และลักษณะทางธรณีวทิ ยา 1.
กฎการสืบทอดสัตวชาติ (law of faunal suc- เป็นเกณฑ์
cession) กลาววา ซากดึกดําบรรพหรือสิ่งมี 2. กลุ่มหิน คือ หน่วยการล�าดับชั้นหินตามลักษณะหินที่ส�าคัญเป็น 1.
ชีวิตสามารถเปลี่ยนแปลงจากกลุมหนึ่งไปยัง แบบเดียวกัน และมีอายุอยู่ในยุคหรือมหายุคเดียวกัน
อีกกลุมหนึ่งได ทําใหลําดับชั้นหินที่ตอเนื่องกัน
ุด
3. ซ ากดึ ก ด� า บรรพ์ ดั ช นี เป็ น ซากดึ ก ด� า บรรพ์ ที่ บ อกอายุ ไ ด้ แ น่ น อน 2.
สม
มีวิวัฒนาการทางโครงสร้างและรูปร่างอย่างรวดเร็ว ใน
มีกลุมซากดึกดําบรรพที่แตกตางกัน และทําให
ลง
ทึ ก
บั น

สามารถกําหนดอายุของชั้นหินเหลานั้นได 4. การหาอายุสมั บูรณ์ไม่นยิ มใช้กบั หินอัคนี เนือ่ งจากมีชนิ้ ส่วนของหินหรือ 2.


หลักการเปนเอกภาพ (law of uniformitarian- ซากสิ่งมีชีวิตอื่นที่อายุแตกต่างกันปะปนอยู่
ism) กลาววา การเกิดหินนั้นสามารถอธิบายได 5. ปลายยุคครีเทเซียสเป็นยุคที่ไดโนเสาร์สูญพันธุ์หมดไปจากโลก 3.
โดยอาศัยหลักของกระบวนการตางๆ ที่กําลัง
เกิดอยูในยุคปจจุบัน ทําใหเกิดประโยคสําคัญ 74

ทางธรณีวิทยาที่วา ปจจุบันเปนกุญแจไขไปสู
อดีต (The present is the key to the past)
2. หากหินแกรนิตตัดผานเขาไปในหินทราย หินทรายจะมีอายุมากกวาหินแกรนิตตามกฎความสัมพันธที่ตัดกัน
3. เรียงลําดับอายุของชั้นหินจากมากที่สุดไปนอยที่สุดได ดังนี้ E > D > F > C > B > A
4. ประเทศไทยประกอบดวยแผนธรณีภาค (lithospheric plate) 2 แผนหลัก คือ แผนฉาน - ไทย (Shan - Thai Plate) ทางทิศตะวันตก และแผนอินโดจีน
(Indochina Plate) ทางทิศตะวันออก โดยมีแผนยอยอีก 2 แผนคั่นกลางอยู ซึ่งไดแก แผนสุโขทัย (Sukhothai Plate) หรือเขตสุโขทัย (Sukhothai Belt)
และแผนนครไทย (Nakhonthai Plate) หรือเขตเลย (Loei Belt) โดยแผนทั้งหมดเชื่อมตอกันดวยตะเข็บธรณีหลายตะเข็บ

T82
นํา สอน สรุป ประเมิน

5. แหลงทองเที่ยวทางธรณีวิทยา ตัวอยางเชน

U nit
คําชี้แจง :
Question 4
ให้ นั ก เรี ย นตอบค� า ถามต่ อ ไปนี้
- แพะเมืองผี ตําบลนํ้าซํา อําเภอเมือง จังหวัด
แพร
- เขาชองกระจก ตําบลอาวนอย อําเภอเมือง
จังหวัดประจวบคีรีขันธ
1. การหาอายุเปรียบเทียบทางธรณีวิทยาต้องอาศัยกฎและหลักการเกี่ยวกับธรณีวิทยาต่าง ๆ
- อุทยานแหงชาติภูเวียง อําเภอภูเวียง จังหวัด
จงอธิบายกฎและหลักการดังต่อไปนี้
- กฎการวางตัวซ้อนทับ ขอนแกน
- กฎความสัมพันธ์ที่ตัดกัน - เขาชี จ รรย ตํ า บลบางเสร อํ า เภอสั ต หี บ
- กฎการเทียบสัมพันธ์หินตะกอน จังหวัดชลบุรี
- กฎการสืบทอดสัตวชาติ - สุสานหอยแหลมโพธิ์ ตําบลไสไทย อําเภอ
- กฎการเป็นเอกภาพ เมือง จังหวัดกระบี่
2. หากพบหินแกรนิตตัดผ่านเข้าไปในหินทราย นักเรียนคิดว่าหินใดมีอายุมากกว่า เพราะเหตุใด 6. จากขอมูลในตารางธรณีกาล ยุคที่มีความเกา
แกที่สุด คือ แคมเบรียน (Cambrian) สวนยุค
3. จากภาพ จงเรียงล�าดับอายุของชั้นหินจากมากที่สุดไปน้อยที่สุด
ที่ออนสุด คือ ควอเทอรนารี (Quaternary)
A 7. การหาอายุ สั ม บู ร ณ ข องหิ น และแร โ ดยใช
B
C ไอโซโทปของธาตุกัมมันตรังสี ตัวอยางเชน
D
E - หินบะซอลต แรไมกา แรฮอรนเบลนด ทีม่ อี ายุ
F
ตั้งแต 1 แสนป ถึง 4,600 ลานป ใชวิธี K - Ar
ภาพที่ 4.32 ภาพส�าหรับข้อ 3. - หิ น แกรนิ ต แร ไ มกา ที่ มี อ ายุ ร ะหว า ง
4. ประเทศไทยประกอบด้วยแผ่นเปลือกโลกใดบ้าง และแต่ละแผ่นวางตัวอย่างไร 10 - 4,600 ลานป ใชวิธี Rb - Sr
5. จงยกตัวอย่างแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยา อย่างน้อย 3 แห่ง โดยระบุด้วยว่าแต่ละแห่งอยู่ใน - แรเซอรคอน แรสฟน แรโมนาไซต ที่มีอายุ
จังหวัดใด ระหวาง 10 - 4,600 ลานป ใชวิธี U - Pb
8. หินตะกอนของประเทศไทยที่เกิดจากสภาวะ
6. จากตารางธรณีกาล ยุคใดมีอายุเก่าแก่ที่สุด และยุคใดมีอายุอ่อนที่สุด
แวดลอมทีเ่ ปนทะเลผสมกับธารนํา้ แข็ง คือ กลุม
7. จงยกตัวอย่างการหาอายุสัมบูรณ์ของหินและแร่โดยใช้ไอโซโทปของธาตุกัมมันตรังสี แกงกระจาน
8. หินตะกอนกลุ่มใดของประเทศไทยที่เกิดจากสภาวะแวดล้อมที่เป็นทะเลผสมกับธารน�้าแข็ง 9. จากขอมูลในตารางธรณีกาล พบไดโนเสารมาก
9. จากข้อมูลในตารางธรณีกาล ท�าให้ทราบว่าพบไดโนเสาร์มากทีส่ ดุ ในยุคใด และอยูใ่ นช่วงระยะเวลา ที่สุดในยุคจูแรสซิก (Jurassic Period) มีอายุ
ประมาณกี่ล้านปี ประมาณ 201 - 145 ลานป ซึ่งอยูในมหายุคมี
10. นักเรียนคิดว่า ในอดีตประเทศไทยมีภูเขาไฟหรือไม่ จงอธิบายและยกตัวอย่างประกอบ โซโซอิก (Mesozoic Era)
10. ประเทศไทยมี ภู เ ขาไฟอยู  แ ทบทุ ก ภาคของ
ประเทศยกเวนในภาคใต เชน ภูเขาไฟหิน
พนมรุง ภูเขาไฟหินหลุบ ภูเขาไฟคอก ภูเขาไฟ
ลําดับชั้นหิน 75
อังคาร ภูเขาไฟกระโดง จังหวัดบุรรี มั ย ภูเขาไฟ
ดอยฝาดอกจําปาแดด ภูเขาไฟดอยหินดอกผา
ฟู จังหวัดลําปาง

T83
S T E M Project
แผนดินไหว
เปนปรากฏการณที่เกิดจากธรรมชาติและการกระทํา
ของมนุษย ทําใหพลังงานศักยที่สะสมในหินปลดปลอยออก
มาเปนพลังงานจลนในรูปของคลื่นไหวสะเทือน ซึ่งถายทอด
พลังงานตอไปยังมวลหินที่อยูติดกัน โดยเปนธรณีพิบัติภัยที่
มีความรุนแรงมากที่สุด

สถานการณ
ทีมสถาปนิกทีมหนึง่ ไดรบั มอบหมายใหสง งานออกแบบเพือ่ เขารวมประมูลงานสรางอาคารสํานักงานทีต่ งั้ อยูใ นประเทศ
เนปาลซึง่ เปนประเทศทีเ่ กิดแผนดินไหวบอย โดยเงือ่ นไขการประมูลจากผูว า จางมีดงั นี้ ทีมสถาปนิกจะตองออกแบบอาคารที่
ทนตอการเกิดแผนไหวไดดี ไมถลมงาย และมีความสูงมากทีส่ ดุ ในงบประมาณทีเ่ ทากันหรือนอยกวา ถานักเรียนเปนสถาปนิก
ที่อยูในทีมนี้ นักเรียนจะออกแบบอาคารสํานักงานเพื่อใหทีมไดรับการประมูลงานสรางอาคารนี้ไดอยางไร

ขอจํากัด
อาคารที่สรางขึ้นจะตองมีคุณสมบัติ ดังนี้
• อาคารตองตั้งอยูบนพื้นผิวที่ไมมั่นคง (เยลลี่) และทนตอ
แผนดินไหว (การเขยาถาด)
• อาคารจะตองใชอุปกรณในการสรางใหนอยที่สุดและมี
ความสูงมากที่สุด เชื่อมโยงสูไอเดีย

วัสดุและอุปกรณ Science แผนดินไหว และสมดุลของวัตถุ

1. ดินนํ้ามัน Technology โครงสรางอาคารทีท่ นตอแผนดินไหว


2. กระดาษแข็ง
3. ไมเสียบลูกชิ้นหรือไมจิ้มฟน Engineering การใช ก ระบวนการทางวิ ศ วกรรมในการ
ออกแบบโครงสรางอาคารที่ทนตอแผนดิน
4. ถาดมีเยลลีหรือวุนบรรจุอยู ไหว
Mathematics รู ป ทรงทางคณิ ต ศาสตร เช น รู ป ทรง
สามเหลี่ยม รูปทรงสี่เหลี่ยม

T84
1 ระบุปญหา
วิเคราะห์สถานการณ์ และระบุ
แนวทางการแก้ปัญหา เพื่อเป็น
แนวทางในการสร้างสรรค์ชนิ้ งาน
6 นําเสนอวิธีการแกปญหา 2 รวบรวมขอมูลและแนวคิด
รวบรวมแนวคิดที่ได้ และปัญหา สืบค้นความรู้ และรวบรวม
ที่พบในกิจกรรม เพื่อน�าเสนอวิธี ข้อมูลที่น�าไปแก้ปัญหา แล้ว
การแก้ปัญหา สรุปข้อมูลความรู้ที่ได้มาโดย
สังเขป

ขั้นตอน
การท�ากิจกรรม

5 ทดสอบ ประเมินผล 3 ออกแบบวิธก


ี ารแกปญ
 หา
และปรับปรุงแกไข
คิ ด วิ ธี ก ารแก้ ป ั ญ หาและ
บั น ทึ กรายละเอี ย ดของชิ้ น งาน ออกแบบชิน้ งาน ตามแนวทาง
แล้วทดสอบเพื่อหาแนวทางการ ทีเ่ ตรียมไว้
ปรับปรุงชิ้นงาน 4 วางแผนและดําเนินการ
แกปญหา

ร่วมกันวางแผนการสร้างสรรค์
ชิ้นงานอย่างเป็นล�าดับขั้นตอน
แล้ ว ตรวจสอบการด� า เนิ น การ
หากไม่ตรงตามแผนจะมีวิธีการ
แก้ไขอย่างไร

การประเมินผลงาน
ระดับคุณภาพ
เกณฑ์การประเมิน
1 2 3 4 5
• ทนทานต่อแผ่นดินไหว (การเขย่าถาด)
• จ�านวนอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างอาคารเหมาะสม
• ความสูงของอาคารที่สร้าง

T85
ภาคผนวก

การปฏิบัติตนในห้องปฏิบัติการ

การศึกษาวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ จะประกอบด้วยส่วนของเนื้อหาภาคทฤษฎีและการปฏิบัติควบคู่กัน เพื่อให้


เกิดความรู้ความเข้าใจในเนื้อหามากยิ่งขึ้น โดยการท�ำกิจกรรมทั้งนอกสถานที่และในห้องปฏิบัติการจะช่วยสนับสนุนการ
เรียนรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์หลาย ๆ ด้าน ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์มากมายแก่ผู้เรียน
การท�ำปฏิบตั กิ จิ กรรมในห้องปฏิบตั กิ ารวิทยาศาสตร์อาจมีสภาวะทีเ่ สีย่ งต่ออันตราย ผูป้ ฏิบตั กิ จิ กรรมจึงควรตระหนักถึง
ความปลอดภัยทั้งต่อตนเองและทรัพย์สินในห้องปฏิบัติการ โดยในห้องปฏิบัติการควรมีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยอย่าง
เพียงพอแก่การใช้งาน มีข้อแนะน�ำแก่ผู้ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความระมัดระวัง และมีความพร้อมที่จะแก้ไขอุบัติเหตุที่อาจ
เกิดขึ้น ซึ่งข้อเสนอแนะและข้อควรปฏิบัติในการใช้ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ มีดังนี้

1. ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้ห้องปฏิบัติการ
ข้อปฏิบัติในการใช้ห้องปฏิบัติการถูกก�ำหนดขึ้นเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุขึ้น
ในห้องปฏิบัติการ ซึ่งข้อปฏิบัติสำ� หรับผู้ใช้ห้องปฏิบัติการ มีดังนี้
1) ระมัดระวังในการท�ำปฏิบัติการ และท�ำปฏิบัติการอย่างตั้งใจ ไม่เล่นหยอกล้อกัน
2) เรียนรู้ต�ำแหน่งที่เก็บ และศึกษาการใช้งานของอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับความปลอดภัย เช่น เครื่องดับเพลิง น�้ำพุส�ำหรับ
ล้างตา ตู้เก็บยาปฐมพยาบาล โทรศัพท์ สัญญาณเตือนภัย เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องเรียนรู้วิธีการใช้อุปกรณ์อย่าง
ถูกต้องด้วย
ตัวอย่างสัญลักษณ์แสดงต�ำแหน่งที่เก็บและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับความปลอดภัย

ถังดับเพลิง ล้างตาฉุกเฉิน ช�ำระล้างฉุกเฉิน ปฐมพยาบาล กระดิ่งเตือนภัย

3) อ่านคู่มือปฏิบัติการให้เข้าใจก่อนลงมือปฏิบัติ และหากยังไม่เข้าใจขั้นตอนใด หรือการใช้งานอุปกรณ์การทดลองใด


ควรปรึกษาครูให้เข้าใจก่อนลงมือปฏิบัติการ
4) ปฏิบัติตามคู่มืออย่างเคร่งครัด ในกรณีที่ต้องท�ำปฏิบัติการนอกเหนือจากที่ก�ำหนดจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้สอน
ก่อนทุกครั้ง
5) ไม่ควรท�ำปฏิบัติการในห้องปฏิบัติการเพียงคนเดียว เพราะหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจะไม่มีผู้ให้ความช่วยเหลือ
6) ไม่รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มในห้องปฏิบัติการ รวมทั้งไม่ใช้เครื่องแก้วหรืออุปกรณ์ทำ� ปฏิบัติการเป็นภาชนะ
ใส่อาหารและเครื่องดื่ม
7) ดูแลรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบบนโต๊ะท�ำปฏิบัติการตลอดเวลา สิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการ
ท�ำปฏิบัติการให้เก็บไว้บริเวณอื่นที่ไม่ใช่โต๊ะท�ำปฏิบัติการ
8) อ่านคู่มือการใช้อุปกรณ์ทดลองทุกชนิดให้ละเอียดก่อนใช้งาน และถ้าเป็นอุปกรณ์ทางไฟฟ้าจะต้องระวังอย่าให้มือ
เปียกขณะใช้งาน และการถอดหรือเสียบเต้าเสียบต้องจับที่เต้าเสียบเท่านั้น

T86
9) หากท�ำการทดลองทีต่ อ้ งใช้ความร้อนจากตะเกียงและแก๊ส จะต้องท�ำด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่รนิ ของเหลว
ที่ติดไฟง่ายใกล้เปลวไฟ ขณะเผาสารในหลอดทดลองต้องหันปากหลอดไปในบริเวณที่ไม่มีผู้อื่น และดับตะเกียงหรือ
ปิดแก๊สทันทีที่เลิกใช้งาน
10) สารเคมีทุกชนิดในห้องปฏิบัติการเป็นอันตราย จึงไม่ควรสัมผัส ชิม หรือสูดดมสารเคมีใด ๆ นอกจากจะได้รับค�ำ
แนะน�ำที่ถูกต้องแล้ว และไม่น�ำสารเคมีใด ๆ ออกจากห้องปฏิบัติการ
11) ตรวจสอบสลากที่ปิดสารเคมีทุกครั้งก่อนน�ำมาใช้ รินหรือตักสารออกมาในปริมาณที่พอใช้เท่านั้น ไม่เทสารเคมีที่
เหลือกลับขวดเดิม และไม่เทน�้ำลงในกรด
12) เมือ่ ท�ำการทดลองเสร็จแล้ว ต้องท�ำความสะอาดเครือ่ งมือและเก็บเข้าทีเ่ ดิมทุกครัง้ ท�ำความสะอาดโต๊ะท�ำปฏิบตั กิ าร
และสอดเก้าอี้เข้าใต้โต๊ะ ล้างมือด้วยสบู่และน�้ำก่อนออกจากห้องปฏิบัติการ
2. ความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ
ในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์จ�ำเป็นต้องมีสิ่งอ�ำนวยความสะดวกในการท�ำปฏิบัติการ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์
ต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจท�ำให้เกิดอันตรายและอุบัติเหตุต่อบุคคล และห้องปฏิบัติการอาจได้รับความเสียหายได้ เพื่อให้การ
ปฏิบัติกิจกรรมในห้องปฏิบัติการมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง จึงมีแนวทางเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านต่าง ๆ ดังนี้
1) ความปลอดภัยในการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า มีข้อควรระวัง ดังนี้
• ควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยความระมัดระวัง เช็ดมือและเท้าให้แห้งทุกครั้งที่ต้องสัมผัสกับอุปกรณ์ไฟฟ้า
• ถ้าต้องใช้สายไฟต่อจากเต้ารับเดียวกันหลายสาย หรือจ�ำเป็นต้องใช้ต่อพ่วงกันควรเลือกเต้ารับชนิดที่มีสวิตช์
เปิด-ปิด และไม่ต่อพ่วงเกิน 2 สาย
• หลังเลิกใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้า ให้ถอดเต้าเสียบออกจากเต้ารับทุกครั้ง
• อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดควรมีสัญญาณไฟที่แสดงว่าเครื่องก�ำลังท�ำงานอยู่ และถ้าเกิดความผิดปกติในระหว่างการ
ใช้งาน ต้องหยุดการท�ำงานของอุปกรณ์นั้นทันที
• เตาไฟฟ้า ต้องมีขดลวดของเตาไฟฟ้าอยู่ในเบ้าและไม่ช�ำรุดเสียหาย
• ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้า สายไฟ สวิตช์ และเครื่องควบคุมอุณหภูมิที่ชำ� รุดทันที
2) ความปลอดภัยในการใช้แก๊สและสารไวไฟ มีข้อควรระวัง ดังนี้
• ไม่น�ำถังแก๊สที่บุบ เป็นสนิม หรือรั่วซึมมาใช้ในห้องปฏิบัติการ
• สถานทีว่ างถังแก๊สต้องเป็นบริเวณทีอ่ ากาศถ่ายเทได้สะดวก และต้องมีการตรวจสอบการรัว่ ของแก๊สอย่างสม�ำ่ เสมอ
• จัดท�ำสัญลักษณ์เตือนอันตรายของสารไวไฟ และข้อปฏิบัติติดไว้ในสถานที่วางถังแก๊ส
• กอ่ นเปิดวาล์วควรตรวจสอบสภาพของสายแก๊สและหัวแก๊ส เมือ่ เลิกใช้งานต้องปิดวาล์วก่อนปิดเครือ่ งควบคุมความ
ดันของแก๊สที่ใช้ทุกครั้ง
• ตรวจสอบว่าแก๊สที่น�ำมาใช้เป็นประเภทเดียวกับที่ระบุไว้ที่ถังแก๊ส และต้องใช้อุปกรณ์ควบคุมความดันแก๊สตาม
มาตรฐานของแก๊สชนิดนั้น
• ตอ้ งท�ำการปฏิบตั กิ ารทีต่ อ้ งใช้เปลวไฟด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลีย่ งทีจ่ ะอยูใ่ กล้สงิ่ ทีก่ อ่ ให้เกิดความร้อน หรือ
เชื้อเพลิงซึ่งอาจท�ำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น
• กรณีเกิดไฟไหม้ต้องรีบปิดตะเกียงแอลกอฮอล์ หรือท่อแก๊สทุกท่อทันที ปิดถังแก๊สและน�ำสารไวไฟทุกชนิดออก
จากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุด

T87
• ต้องมีเครื่องดับเพลิงอยู่ในบริเวณที่ใช้งาน และมีทางออกฉุกเฉินที่เปิดได้ตลอดเวลา
• เมือ่ มีสารติดไฟ ต้องแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม ถ้าลุกไหม้เล็กน้อยให้ใช้ผา้ เปียกคลุมสิง่ นัน้ ไว้ ถ้าเสือ้ ผ้าลุก
ติดไฟให้นอนลงกลิ้งตัวกับพื้น หรือใช้ผ้าหนาห่มคลุมทับ และรีบน�ำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลทันที
3) ความปลอดภัยจากรังสีและไอสารพิษ มีข้อควรระวัง ดังนี้
• การทดลองที่มีควันพิษเกิดขึ้น จะต้องใช้ผ้ากรองควันพิษปิดจมูกและปาก และควรท�ำการทดลองในตู้ดูดควันที่อยู่
ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
• การทดลองทีใ่ ช้หลอดเลเซอร์เป็นแหล่งก�ำเนิดแสง ต้องไม่มองทีล่ ำ� แสงโดยตรง และควรมีขอ้ ความเตือนอันตราย
ติดไว้ที่หลอดเลเซอร์ พร้อมชี้แจงถึงวิธีใช้ที่ถูกต้องก่อนการใช้งาน
• การใช้สารกัมมันตรังสีในการท�ำปฏิบัติการ ควรเก็บไว้ในปริมาณที่จ�ำเป็นต้องใช้เท่านั้น และจะต้องขออนุญาต
จากหน่วยราชการที่ควบคุมการใช้สารกัมมันตรังสีด้วย พร้อมทั้งปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำอย่างเคร่งครัด ต้องเก็บ
สารกัมมันตรังสีไว้ในกล่องตะกั่วที่มีความหนาโดยรอบไม่น้อยกว่า 6 นิ้ว และการหยิบสารกัมมันตรังสีจะต้องใช้
อุปกรณ์ที่ออกแบบโดยเฉพาะ
• ขณะทดลองเกี่ยวกับสารกัมมันตรังสี ผู้ทดลองจะต้องอยู่ไกลจากแหล่งก�ำเนิดกัมมันตภาพรังสีให้มากที่สุด และ
ต้องใช้เวลาในการทดลองให้น้อยที่สุด ผู้ทำ� การทดลองและผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องมีเครื่องวัดกัมมันตภาพรังสีติดตัว
ไว้ตรวจสอบปริมาณรังสีที่ได้รับตลอดเวลา เพื่อป้องกันการรับรังสีเกินมาตรฐานความปลอดภัย
4) ความปลอดภัยจากไฟไหม้
เมื่อเกิดไฟไหม้ขึ้นในห้องปฏิบัติการ ผู้ท�ำปฏิบัติการและผู้ที่เกี่ยวข้องต้องออกจากห้องปฏิบัติการทันที แล้วดึง
สญั ญาณแจ้งเตือนเหตุไฟไหม้ พร้อมเรียกให้คนช่วยเหลือ และจะต้องมีสารเคมีทใี่ ช้ในการดับไฟอยูป่ ระจ�ำห้องปฏิบตั ิ
การและมีสภาพพร้อมใช้งาน โดยผู้ใช้ห้องปฏิบัติการทุกคนต้องมีความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้ กลไกการท�ำงานของการ
ดับไฟ เพื่อให้สามารถใช้ได้อย่างถูกต้องและเกิดประสิทธิภาพ ซึ่งสารที่นำ� มาใช้ดับไฟได้ มีดังนี้
• น้�ำ ช่วยท�ำให้เชื้อเพลิงที่ก�ำลังลุกไหม้ลดอุณหภูมิลงได้ และไม่มีการลุกไหม้เพิ่มขึ้นใหม่ โดยน�้ำใช้ดับไฟที่เกิด
จากเชื้อเพลิงประเภทของแข็งได้ดี แต่ไม่ควรใช้ดับไฟที่เกิดจากสารประเภทของเหลวที่ไวไฟ เนื่องจากจะท�ำให้
ของเหลวกระจายออกเป็นบริเวณกว้าง และของเหลวส่วนทีอ่ ยูบ่ นผิวน�ำ้ ยังคงลุกไหม้และท�ำให้ไฟลุกลามต่อไปได้
• โฟมของคาร์บอนไดออกไซด์ มีลกั ษณะเป็นฟองทีม่ สี มบัตกิ นั อากาศไม่ให้เข้าไปถึงบริเวณทีเ่ กิดไฟไหม้ และป้องกัน
ไม่ให้เชื้อเพลิงระเหยเพิ่มเติมออกมาอีก จึงท�ำให้เปลวไฟลดลงและดับในที่สุด
• แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นสารที่ใช้ในอุปกรณ์ดับเพลิงทั่วไป แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จะหนักกว่าอากาศ เมื่อ
เข้าไปผสมอยูก่ บั อากาศในบริเวณไฟไหม้เป็นปริมาณมาก ๆ จะท�ำให้ปริมาณของแก๊สออกซิเจนในอากาศบริเวณ
นั้นเจือจางลง จึงท�ำให้เปลวไฟลดและดับในที่สุด
• ไอของสารอินทรีย์บางชนิด สารอินทรีย์บางชนิดที่เป็นของเหลวที่ระเหยเป็นไอได้ง่าย และหนักกว่าอากาศ เมื่อ
ไอของสารนี้ลอยอยู่เหนือบริเวณไฟไหม้ ก็จะเข้าไปแทนที่อากาศบริเวณนั้น จึงท�ำให้ไฟไม่ลุกลามต่อไป ซึ่งสาร
อินทรีย์ที่ใช้โดยทั่วไป คือ คาร์บอนเตตระคลอไรด์ จะใช้ดับไฟกรณีที่ไฟไหม้บริเวณนอกอาคาร แต่สารอินทรีย์
ชนิดนี้จะมีอันตรายต่อร่างกายมาก จึงต้องใช้อย่างระมัดระวังและต้องไม่ใช้ดับไฟที่เกิดจากการลุกไหม้ของโลหะ
โซเดียมหรือโพแทสเซียม เพราะอาจเกิดการระเบิดขึ้นได้

T88
3. การปฐมพยาบาล
การท�ำปฏิบัติการทุกครั้งจะต้องท�ำด้วยความระมัดระวังหรือมีการป้องกันที่ดี เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น แต่
อย่างไรก็ตาม หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้ว จะต้องแก้ไขสถานการณ์และปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ทันที จึงต้องมีความรู้
ความเข้าใจในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งสรุปได้ดังตาราง
ตาราง สรุปข้อมูลการปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากเกิดอุบัติเหตุในห้องปฏิบัติการ
อุบัติเหตุ การปฐมพยาบาล
แก้วบาด ถ้าแก้วบาดเล็กน้อย ให้ห้ามเลือดโดยใช้ผ้าที่สะอาดพับหนา ๆ กดลงบนบาดแผล กรณีทมี่ ี
เลือดไหลออกมามาก ควรใช้ผา้ รัดเหนือบริเวณบาดแผล และน�ำส่งแพทย์ทนั ที
ไฟลวกหรือโดนของร้อน ใช้นำ�้ ล้างมาก ๆ และห้ามล้างด้วยสารละลายโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต แล้วปิดด้วยผ้าพัน
แผลทีแ่ ห้งหรือสะอาด ถ้าไฟลวกมากให้รบี น�ำส่งแพทย์
สารเคมีถกู ผิวหนัง ล้างบริเวณนัน้ ด้วยน�ำ้ สะอาดปริมาณมาก ๆ ในทันที เพือ่ ป้องกันสารซึมเข้าผิวหนังหรือท�ำลาย
เซลล์ผวิ และหากมีสารถูกผิวหนังในปริมาณมากต้องรีบน�ำส่งแพทย์ พร้อมกับแจ้งชนิดของสาร
ให้แพทย์ทราบ เพือ่ จะได้แก้ไขอย่างถูกต้องทันที
สารเข้าตา ล้างด้วยน�ำ้ สะอาดปริมาณมากในทันที เป็นเวลานานไม่น้อยกว่า 15 นาที เพือ่ ให้สารเจือจาง
หรือหมดไป และรีบน�ำส่งแพทย์ทนั ที
สูดไอหรือแก๊ส ต้องรีบออกจากบริเวณนั้นไปอยู่ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก พยายามสู ด อากาศ
บริสุทธิ์ให้เต็มที่ กรณีทไี่ ด้รบั สารเข้าร่างกายในปริมาณมากและหมดสติ ต้องใช้วธิ กี ารผายปอด
หรือใช้เครือ่ งช่วยหายใจ และน�ำส่งแพทย์ทนั ที
การกลืนกินสารเคมี ต้องรีบน�ำส่งแพทย์ทนั ที พร้อมทั้งน�ำตัวอย่างสารหรือสลากไปด้วย เพือ่ แจ้งให้แพทย์ได้ชว่ ย
เหลือ และให้การรักษาได้ถกู ต้องทันที
ถูกกระแสไฟฟ้าดูด รีบตัดกระแสไฟฟ้าทันที โดยการถอดเต้าเสียบหรือยกสะพานไฟ หรือใช้ฉนวนผลักหรือฉุด
ให้ผทู้ ไี่ ด้รบั อันตรายออกจากแหล่งกระแสไฟฟ้า หรือเขีย่ สายไฟให้หลุดออกไปจากตัวผูบ้ าดเจ็บ
ห้ามใช้มอื เปล่าแตะต้องตัวผูท้ กี่ ำ� ลังได้รบั อันตรายจากกระแสไฟฟ้า เมือ่ น�ำผูถ้ กู กระแสไฟฟ้าดูด
ออกจากแหล่งกระแสไฟฟ้าได้แล้ว ต้องท�ำการปฐมพยาบาลเบือ้ งต้นโดยการผายปอดหรือเป่า
ปากให้ปอดท�ำงาน นวดหัวใจแล้วรีบน�ำส่งแพทย์ทนั ที

4. สิ่งที่ต้องค�ำนึงถึงในการปฏิบัติและเขียนรายงานการปฏิบัติกิจกรรม
• วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย 5 ขั้น ได้แก่ ขั้นก�ำหนดปัญหา ขั้นตั้งสมมติฐาน ขั้นตรวจสอบสมมติฐาน ขั้น
วิเคราะห์ข้อมูล และขั้นสรุปผล
• ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น การสังเกต การค�ำนวณ การทดลอง การตั้งสมมติฐาน
• จิตวิทยาศาสตร์ เช่น ความรับผิดชอบ ความมีเหตุมีผล การร่วมแสดงความคิดเห็น และยอมรับฟังความคิดเห็นของ
ผู้อื่น การท�ำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์
• จริยธรรมทางวิทยาศาสตร์ เช่น ความซื่อสัตย์ ความรอบคอบ ความน่าเชื่อถือ
สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะท�ำให้ผู้เรียนหรือผู้ปฏิบัติกิจกรรมมีคุณลักษณะหรือลักษณะนิสัยที่เกิดจากการศึกษาหาความรู้
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างถูกต้อง

T89
บรรณานุ ก รม
กุณฑรี  เพ็ชรทวีพรเดช และคณะ. 2550. สุดยอดวิธีสอนวิทยาศาสตร์ น�ำไปสู่การจัดการเรียนรู้ของครูยุคใหม่. กรุงเทพฯ :
อักษรเจริญทัศน์.
งานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, ส�ำนัก. 2549. หนังสือชุดกิจกรรมส่งเสริม
การเรียนรู้ “การสืบค้นทางวิทยาศาสตร์” ระดับมัธยมศึกษา. ปทุมธานี : ส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
แห่งชาติ.
จาตุรนต์  กอนกุล. 2557. หนังสือเสริมสร้างศักยภาพและทักษะรายวิชาเพิ่มเติม โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 - 6 เล่ม 1.
พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี : บริษัท ไทยร่มเกล้า จ�ำกัด
ชุติมา  วัฒนะคีรี. 2549. กิจกรรมวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
ทิศนา  แขมมณี. 2556. ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 17. กรุงเทพฯ :
บริษัท ด่านสุทธาการพิมพ์ จ�ำกัด.
ปัญญา จารุศิริ และพีรสิทธิ์ สุรเกียรติชัย. 2561. หนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4
เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 1. นนทบุรี : บริษัท ไทยร่มเกล้า จ�ำกัด
พิมพ์พันธ์  เดชะคุปต์. 2544. การจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีการสอนแบบสืบสวน. กรุงเทพฯ : เดอมาสเตอร์กรุ๊ฟเมเนจเม้นท์.
ภพ  เลาหไพบูลย์. 2542. แนวการสอนวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง). พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช.
วันเฉลิม  กลิน่ ศรีสขุ . 2558. การใช้กจิ กรรมค่ายวิทยาศาสตร์เพือ่ พัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขนั้ พืน้ ฐาน. วิทยานิพนธ์
ครุศาสตรมหาบัณฑิต (หลักสูตรและการสอน), มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
วิจารณ์  พานิช. 2555. วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ : บริษัท ตถาตาพับลิเคชั่น จ�ำกัด.
วิชาการและมาตรฐานการศึกษา ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, ส�ำนัก. 2553. แนวทาง
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ�ำกัด.
. 2560. ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ�ำกัด.
สรศักดิ์  แพรค�ำ. 2544. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์. อุบลราชธานี : สถาบันราชภัฏอุบลราชธานี.
ส�ำนักบริหารวิชาการ วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์, แผนกบริหารหลักสูตร. 2557. เอกสารเผยแพร่ความรู้วิชาการศึกษา :
วิธีการสอน (Teaching Methodology). กรุงเทพฯ : วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์.
สุวิทย์  มูลค�ำ และอรทัย  มูลค�ำ. 2547. 21 วิธีจัดการเรียนรู้ : เพื่อพัฒนากระบวนการคิด. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : ภาพพิมพ์.
อบพรวรรณ์ กายพันธ์ และปัญญา ไวยบุญญา. ม.ป.ป. คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก
ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 - 6. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี : บริษัท ไทยร่มเกล้า จ�ำกัด

T90

You might also like