Download as docx, pdf, or txt
Download as docx, pdf, or txt
You are on page 1of 12

บทที่2 ไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)

สรรพคุณทางยาของไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)

ลักษณะเหง้ าทรงกระบอกของไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)มีส่วนช่ วยต่ อการควบคุมต่อระบบการย่ อยแก้ความชื้นกระทบส่ วน

ล่าง

ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)เป็ นพืชสมุนไพรตระกูลล้มลุกที่มีอายุหลายปี ส่วนของรากมักนำมาปรุ งยาจีน รากของไป๋


จู๋(白朮 โกฐเขมา)นั้นเป็ นทรงกลมมน ส่วนเหง้าเป็ นทรงกระบอก
อย่างที่คนจีนเข้าใจกันว่า “ฟ้ ากลม ดินเหลี่ยม” เหง้าทรงกระบอกของไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)นั้นเป็ นทรงของผืน
โลก เป็ นหนังที่คลุมพื้นดิน เพราะคุณสมบัติที่สามารถทะลุผา่ นพื้นผิวได้สะดวก ขอเพียงแค่เหง้าของพืชนั้นมีเหง้าเป็ นทรง
กระบอกอแน่นอนว่าพืชนั้น ๆสามารถไหลเวียนเข้าสู่ ร่างกาย ม้ามและกระเพาะ มีส่วนช่วยในการขับลมและยังมีส่วนช่วย
ในระบบการย่อยแก้ความชื้นกระทบส่ วนล่าง
ในบรรดาพืชที่มีเหง้ากระบอกนั้น ยังมีฮวั่ เซียง (藿香 ต้นพิมเสนต้น) ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็ น 2 ประเภทด้วย
กัน คือฮัว่ เซียง (藿香 ต้นพิมเสนต้น)และกว่างฮัว่ เซียง (广藿香 ต้นพิมเสนต้นกวงฮัว่ )
ฮัว่ เซียง (藿香 ต้นพิมเสนต้น)ที่ดีที่สุดนั้นมี กว่างฮัว่ เซียง (广藿香 ต้นพิมเสนต้นกวงฮัว่ )จากมณฑลกวางตุง้ และฮัว่
เซียง (藿香 ต้นพิมเสนต้น)จากมณฑลกวางซี
เหง้าของพืชชนิดนี้ เป็ นทรงกระบอกเช่นเดียวกันสามารถเข้าสู่ เส้นลมปราณม้าม กระเพาะอาหารและปอด กลิ่นหอม
ระเหยจะช่วยขับความชื้น ปรับสมดุลส่ งผลดีต่อการควบคุมและระบบการย่อย บรรเทาความร้อนชื้ น

ความทุ่มเทและการคัดสรรในการเลือกเก็บสมุนไพร

หากว่าเราต้องการที่จะไปเก็บสมุนไพร บนภูเขามีไม้พืชมากมายหลายชนิด และคงจะมีหลายชนิดที่เราไม่คุน้ เคย


ตอนเลือกเก็บสมุนไพรเราควรทำเช่นไร? ถึงแม้วา่ เราจะไม่รู้จกั พืชชนิดนั้น ๆ แต่เราก็สามารถอาศัยการสังเกตจากลักษณะ
ของพืช หรื อแม้แต่การลองชิมได้ จากนั้นเราก็สามารถพิจารณาได้วา่ เราควรใช้พืชสมุนไพรชนิดนี้ มาทำการรักษาอย่างไร นี่
คือสิ่ งที่สำคัญที่สุดของการเลือกเก็บพืชสมุนไพร หมอในยุคสมัยก่อนนั้น ต้องไปเก็บสมุนไพรมาปรุ งยาให้กบั ผูป้ ่ วยเอง
อาศัยทักษะการปรับให้เข้ากับสถานการณ์ เข้ากับสภาพท้องถิ่น และใช้ประโยชน์จากวัสดุที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุ ด ไม่ใช่
แค่การที่จะเลือกใช้แค่พืชนั้น ๆเพียงอย่างเดียว เช่นการที่บอกว่าฉันต้องการใช้ไฉหู(柴胡 สมุนไพรไฉหู )ก็ตอ้ งใช้แค่ไฉ
หู(柴胡 สมุนไพรไฉหู)เท่านั้น ถ้าหากว่าบนเขาไม่มีไฉหู (柴胡 สมุนไพรไฉหู)ล่ะจะทำเช่นไร?
และที่สำคัญยาสมุนไพรเหล่านี้มกั ไม่มีแหล่งที่มนั จะเจริ ญเติบโตที่แน่นอน ไม่เหมือนกับการที่ปลูกเอง เราจึงไม่สามารถ
เลือกได้นกั ว่าพืชสมุนไพรที่ไม่รู้จกั จะไม่ลองเลือกใช้ ดังนั้นพืชสมุนไพรที่ไม่รู้จกั ก็จ ำเป็ น ที่จะต้องศึกษาค้นคว้าและ
ทดสอบตำรับยาอยูเ่ สมอ นอกจากนั้นเรายังสามารถที่จะเลือกเก็บสมุนไพรที่หลากหลาย เช่นเดียวกันกับสมุนไพรที่มีเหง้า
ทรงกระบอก ส่ วนในเรื่ องกลิ่นนั้น กลิ่นหอมของไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)จะอ่อน หากเทียบกับกลิ่นหอมที่เข้มกว่าของฮัว่ เซี
ยง (藿香 ต้นพิมเสนต้น) หากมีกลิ่นหอมมากก็จะกระจายเข้าทุกส่ วนได้ดี และกลิ่นหอมระเหยจะช่วยขับความชื้น ปรับ
สมดุลการควบคุมต่อระบบการย่อย บรรเทาความร้อนชื้ นได้ดี เนื่องจากกลิ่นหอมของไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)มีฤทธิ์ อ่อน
การระเหยจะเบา แต่รสจะเข้มข้น จำเป็ นต้องปรุ งสมุนไพรอื่น ๆ เข้าไปด้วย เพื่อที่จะให้กระจายเข้าไปทุกส่ วนของร่ างกาย
ได้ดี
การดูแลรักษาฉบับแพทย์แผนจีนก็เป็ นแบบนี้ ไม่ค่อยมีโรคที่เป็ นปกติ ไม่มีโรคที่มีความตายตัวและไม่เปลี่ยนแปลง
เช่นเดียวกันกับการเขียนบรรยายจากตำรา ซางหานลุ่น《伤寒论 ตำราที่กล่าวถึงเรื่ องสาเหตุของโรค การดำเนินของ
โรคภายนอก》 แม้วา่ คุณจะใช้ยา ต้าซิงหลงทัง(大青龙汤 น้ำแกงมังกรเขียวใหญ่)หรื อเสี่ ยวชิงหลงทัง(小
青龙汤 น้ำแกงมังกรเขียวเล็ก)จากในตำราซางหานลุ่น《伤寒论》 ก็ไม่สามารถครอบคลุมต่อการรักษาโรคบาง
ชนิดได้เจาะจง เราจึงจำเป็ นที่จะต้องสังเกตและวินิจฉัยโรค การเก็บสมุนไพรจีนก็เป็ นเช่นนี้ เพราะฉะนั้น การเก็บสมุนไพร
หรื อแม้กระทัง่ การรักษาล้วนแต่ตอ้ งใช้เวลาและความทุ่มเท
ตอนนี้การรักษายังคงต้องวิเคราะห์ถึงที่มาและอาการของโรค แล้วการเก็บสมุนไพรล่ะ? คนที่มีความรู้และเข้าใจใน
สมุนไพรมีนอ้ ยลงเข้าไปทุกที ยาสมุนไพรแผนจีนกลายเป็ นความรู้ที่จะใกล้สูญหายไปตามกาลเวลา ยาสมุนไพรที่รู้ก นั อย่าง
กว้างขวางและแพร่ หลายมีเพียงไม่กี่ชนิดหลัก แต่โรคและอาการเจ็บป่ วยนั้นได้กลายพันธุ์และเพิม่ จำนวนขึ้นเรื่ อย ๆ ซึ่งตัว
ยาที่ได้ระบุไว้ในตำราเสิ นหนงเปิ๋ นเฉ่าจิง 《神农本草经 คัมภีร์สมุนไพรของเสิ นหนง》ได้กล่าวไว้ก็ไม่อาจ
ครอบคลุมการรักษาทั้งหมด หากเราสามารถเก็บสมุนไพรมาได้กค็ วรเก็บ เก็บไม่ได้กค็ วรจะสังเกตและค้นคว้า จากนั้นค่อย
ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ เข้ากับสภาพท้องถิ่น หากเก็บสมุนไพรชนิดไหนได้ ก็จงเลือกใช้ตวั นั้น
ตอนที่เราไปเก็บสมุนไพร หากพบตัวยาที่มีรสหวาน เราสามารถพิจารณาได้เลยว่า สมุนไพรตัวนั้นมีส่วนช่วยเข้าสู่
เส้นลมปราณ หากพบสมุนไพรที่มีสีเหลือง บอกได้วา่ สมุนไพรชนิดนั้นมีส่วนช่วยม้าม หากพบสมุนไพรที่มีล ำต้นทรง
กระบอกคล้ายกับ ไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)สามารถพิจารณาได้เช่นกันว่า สมุนไพรตัวนั้นมีส่วนช่วยเข้าสู่ เส้นลมปราณ
นอกเหนือจากที่กล่าวมานั้น เราก็สามารถใช้วิธีการเปรี ยบเทียบกันได้ วิธีพิจารณาจากแนวคิดนี้ ทำให้เราสะดวกมากขึ้น
แม้วา่ เราจะไปอยูท่ ี่ป่าดิบชื้นในอเมริ กาใต้ เราก็ยงั สามารถหาสมุนไพรได้ แม้วา่ สมุนไพรบางชนิดเราจะไม่รู้จกั แต่เรา
สามารถพิจารณาจากสภาพอากาศ สภาพแวดล้อมของท้องที่ พิจารณาจากลักษณะของพืช ไม่วา่ จะเป็ นสี รู ปร่ าง รสชาติ
พิจารณาอย่างละเอียด เราก็สามารถวินิจฉัยได้วา่ ผูป้ ่ วยได้ป่วยเป็ นโรคอะไร และจะรักษาอย่างไร
หมอในสมัยก่อนได้ใช้วิธีน้ ี ในการใช้ยา และได้ระบุไว้วา่ ได้ใช้ยาสมุนไพรจากไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)เท่าไหร่ ตี้
หวง(地黄 โกฐขี้แมว)ใช้เท่าไหร่ เซิงเจียง(生姜 ขิง)ใช้เท่าไหร่ เป็ นต้น แสดงออกถึงการเขียนตำรับยา ที่จ ำเป็ น
ต้องระบุจ ำนวนและปริ มาณที่อยูใ่ นขอบเขต หากไม่มีตวั ยานั้น ๆ สามารถใช้ยาสมุนไพรตัวอื่น มาแทนที่ได้
ยาตัวนี้ คุณภาพดี ใช้ปริ มาณที่นอ้ ย ยาตัวนี้ คุณภาพไม่ดีออกฤทธิ์ เบา ก็ใช้ปริ มาณเยอะ ปัจจุบนั มีหลายคนที่สามารถ ทำการที่
ปรับเปลี่ยนและพิจารณาการใช้สมุนไพรต่าง ๆได้อย่างเชี่ยวชาญเช่นนี้ได้

บำรุงธาตุดนิ ของม้ ามและขจัดความชื้น

ไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)เก็บเกี่ยวในฤดูหนาว สามารถเข้าสู่เส้นลมปราณม้ามและกระเพาะอาหาร สามารถใช้ค ำ


จำกัดความได้วา่ “บำรุ งธาตุดินของม้าม ขจัดความชื้ น” บำรุ งธาตุดิน คือการบำรุ งลมปราณและม้าม ดินข่มน้ำ ดังนั้นธาตุ
ดินในม้ามสามารถส่ งผลต่อการไหลเวียนของน้ำในร่ างกายได้
ตอนฝนตก ดินทำหน้าที่ดูดซับน้ำ ทำให้ดินเปี ยกชื้น แต่ดินก็ไม่ควรจะเปี ยกเกินไป ถ้าหากฝนตกไม่หนัก ตกพอที่จะ
ให้ดินชื้ นไม่แห้ง ดินยังไม่ได้เปลี่ยนเป็ นโคลน เพียงแค่หน้าของดินอ่อนนุ่มลงและชุ่มชื้น เหมาะต่อการเพาะปลูกและเจริ ญ
เติบโตของพืช นี่คือความชื้ นที่พอเหมาะต่อม้ามเช่นกัน อะไรที่มากไปหรื อน้อยไปล้วนไม่ดี ไม่วา่ เรื่ อง ๆใด เราควรทำให้
อยูใ่ นระดับที่พอดี
ดินข่มน้ำ ม้ามดูดซึมอาหารและน้ำ ป้ องกันน้ำของ ไต ไม่ให้สะสมมากเกินไป แต่ถา้ หากจำนวนน้ำเยอะเกินไปนั้น
ส่ งผลให้มา้ มชื้นและแย่
ไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)มีรสขมและหวาน อุ่น กลิ่นหอมจาง ๆ รสขมมีส่วนช่วยในการขับความชื้ น หากม้ามชื้น
เกินไป สามารถใช้รสขมขับความชื้ นได้ รสหวานนั้นจะขับลมปราณ ไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)มีความอุ่น ม้ามเปรี ยบเสมือน
ดินชื้น ที่ตอ้ งใช้ความอุ่นขับลมปราณ ซึ่งรวม ๆแล้ว คุณสมบัติของไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)เหมาะกับม้ามมากที่สุด
ไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)เป็ นพืชสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม สามารถปลุกและกระตุน้ ม้ามได้ ไม่วา่ ม้ามต้องการสิ่ งไหน
ไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)สามารถให้ได้ทุกอย่าง ต่างจากยาสมุนไพรชนิดอื่น เช่นฮัว่ เซียง (藿香 ต้นพิมเสนต้น)ถึงแม้วา่
จะมีกลิ่นหอมเช่นเดียวกัน แต่ไม่มีรสหวาน ส่วนช่วยในการบำรุ งม้ามจึงไม่เท่าไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)
ฮัว่ เซียง (藿香 ต้นพิมเสนต้น)จึงต่างจากไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา) และฮัว่ เซียง (藿香 ต้นพิมเสนต้น)นั้นสามารถนำมา
ปรุ งยาได้ทุกส่ วน โดยเฉพาะส่ วนบน เช่น ลำต้น ใบ ส่ วนไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)จะใช้ส่วนราก สมุนไพรที่ใช้ได้ท้ งั ต้น
กับใช้ได้แค่ส่วนราก ย่อมต่างกันออกไปอีกเช่นกัน ถึงแม้วา่ จะมีล ำต้นทรงกระบอกที่เหมือนกัน แต่สามารถจำแนกได้จาก
ส่วนของสมุนไพรที่น ำมาใช้ปรุ งยา รู ปร่ างลักษณะ รสชาติหรื อกลิ่นมาจำแนกความแตกต่าง

กระบวนการปรุงยาและการแปรรูปของไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)

ไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)ที่เพิ่งถอนขึ้นมาใหม่น้ นั จำเป็ นต้องหัน่ เป็ นแว่น เพราะด้านในมีน ้ำยางสี ขาวอยู่ นำมาตา
กลมหรื อตากแดด ก็จะอ่อนนุ่ม เมื่อตอนที่ซ้ื อไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)มาแรก ๆก็จะแข็งและแห้ง แต่เมื่อเก็บไว้นาน ๆ เริ่ มมี
ความชื้นสะสมก็จะอ่อนนุ่มทันที
หากหยินในไตบกพร่ องและร้อนเกิน ก็มกั จะใช้ไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา) ในร้านขายยาจีนในปัจจุบนั แทบจะซื้ อ
แบบสด ๆไม่ได้แล้ว ที่จะมีกแ็ ค่เฉ่าไป๋ จู๋(炒白朮 คัว่ ไป๋ จู๋ หรื อไป๋ จู๋แบบคัว่ ) ถ้าหากว่าหาซื้ อ ไป๋ จู๋ (白朮 โกฐ
เขมา)แบบสดไม่ได้ ก็ไม่เป็ นไร แล้วอาการร้อนในล่ะ จะทำอย่างไรดี? เราสามารถใช้ยาตัวอื่นเสริ มไป
เซิงไป๋ จู๋ (生白朮 โกฐเขมาสด)นั้นมีความเหนียว และง่ายที่จะปิ ดกั้นลมปราณ เมื่อใช้เซิงไป๋ จู๋ (生白朮 โกฐ
เขมาสด) แต่กลัวการปิ ดปราณ สามารถใช้สมุนไพรอื่น ๆไปด้วยเช่น ฝูหลิง (茯苓 โป่ งรากสน)และเฉิ นผี(陈皮 ผิวส้ม
จีน)
เฉิ นผี(陈皮 ผิวส้มจีน)ช่วยบำรุ งกระเพาะไล่ความเย็น ขับเสมหะ ช่วยการหมุนเวียนของลมปราณ ส่ วน ฝูหลิง
(茯苓 โป่ งรากสน)มีฤทธิ์ ระบายน้ำ สลายความชื้น และมีส่วนช่วยต่อการแก้อาการม้ามพร่ อง เมื่อเป็ นร้อนใน แต่กลัว
ปราณปิ ด ควรทำอย่างไรดี? คุณสามารถนำเซิงไป๋ จู๋ (生白朮 โกฐเขมาสด)ไปวางแช่ไว้ในน้ำซาวข้าว ก่อนแช่ควรนำ
เซิงไป๋ จู๋ (生白朮 โกฐเขมาสด)ไปหัน่ ก่อน เมื่อแช่แล้วให้แยกเมือกสี ขาวทั้งหมดออกมา และนำไป๋ จู๋ (生白朮 โกฐ
เขมา)มาตากแห้ง เราเรี ยกสิ่ งนี้วา่ เพียวไป๋ จู๋(漂白朮 โกฐเขมาแห้ง ) พบได้ภาคใต้ ส่ วนในภาคเหนือไม่เคยพบเจอ ตัว
ของเซิงไป๋ จู๋ (生白朮 โกฐเขมาสด)นั้นมีความแห้งในตัวอยูแ่ ล้ว ยิง่ นำไปคัว่ ก็ยงิ่ แห้ง มีความร้อนในร่ างกายทำให้คน
ทนไม่ไหว เพราะฉะนั้นจึงเหมาะที่จะใช้เพียวไป๋ จู๋(漂白朮 โกฐเขมาแห้ง ) มากที่สุด
เพียวไป๋ จู๋(漂白朮 โกฐเขมาแห้ง ) ไม่ปิดกั้นลม และมีความอ่อนนุ่ม สามารถบำรุ งหยินของม้ามได้ ในภาคเหนือ
จะใช้เฉ่าไป๋ จู๋(炒白朮 โกฐเขมาผัดเกรี ยม) คัว่ ด้วยดินในเตาอังโล่ ดินให้ความสมดุล อีกทั้งมีส่วนช่วยต่อการควบคุมต่อ
ระบบการย่อยแก้ความชื้นกระทบส่ วนล่าง

ช่ วยบำรุงและประสานม้ ามทั้งสองทาง

ไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)ยังมีส่วนช่วยต่อการขับเหงื่อ แต่ที่จริ งแล้วก็ไม่ใช่แค่ขบั เหงื่อ ยังซับเหงื่อได้เช่นกัน เมื่อ


ตอนที่มีเหงื่อมาก สามารถเก็บระงับเหงื่อได้ และเมื่อตอนที่ไม่มีเหงื่อออก ไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา) ก็งบั เหงื่อได้ มี
คุณสมบัติที่ควบคู่
ยาสมุนไพรชนิดใดก็ตามที่มีฤทธิ์ ควบคู่ กึ่งนอกกึ่งใน ส่ วนมากสามารถช่วยต่อการควบคุมต่อระบบการย่อย มีส่วน
ช่วยต่อระบบหมุนเวียน อาทิเช่น เสี่ ยวฉายหูทงั (小柴胡汤 ตำรับยาที่รักษาโรคทั้งด้านนอกและด้านใน เหมาะ
ที่สุดสำหรับไข้ทบั ระดู)ภาวะโรคซ่าวหยาง ภาวะความร้อนเข้าสู่ มดลูกเหตุร่างกายกระทบเสยชี่ ทำให้มีไข้หลังคลอด
บุตรหรื อระหว่างมีประจำเดือน ส่ วนหวงฉิ น (黄芩) คุณคิดว่ามีส่วนช่วยในการบำรุ งปอดหรื อไม่ ไม่เสมอไป สี เหลือง
จากหวงฉิ น (黄芩) มีส่วนระบายความร้อนในระบบชี่และเลือด ขับพิษร้อน,ชื้น ดับร้อนที่ปอด ส่ วนโสมนั้นไม่ตอ้ งพูด
ถึง ปั้ นเซี่ย (半夏 ปั้วแห่) สามารถขจัดความชื้ น ละลายเสมหะ ลดการไหลย้อนกลับของชี่ได้เช่นกัน ดังนั้นคือสาเหตุที่
เสี่ ยวฉายหูทงั (小柴胡汤 ตำรับที่รักษาโรคกึ่งนอกกึ่งใน)สามารถรักษาได้ท้ งั กึ่งนอกกึ่งใน นัน่ เป็ นเพราะในนั้น
มียาสมุนไพรที่มีส่วนในการควบคุมต่อระบบการย่อย มีส่วนช่วยต่อระบบหมุนเวียนเยอะพอสมควร แน่นอนว่าการรักษานี้
ไม่ได้ทางการและใช้แพร่ หลายนัก แต่มนั สามารถชี้แนะแนวทางมากมายแก่เราได้ในอนาคต

ไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)ยังมีส่วนช่วยกับเหงื่อทั้งสองทาง แน่นอนว่าหากม้ามแข็งแรง การขับเหงื่อก็จะทำงานได้


ปกติ ไป๋ จู๋ (白朮 โกฐเขมา)สัมพันธ์กบั อวัยวะม้าม มีอวัยวะร่ วมคือกระเพาะอาหาร โดยม้ามจะเปิ ดทวารที่ปาก เพื่อทำ
หน้าที่ควบคุมกล้ามเนื้ อ นอกจากนี้ ม้ามยังมีหน้าที่ควบคุมกระเพาะอาหารให้ยอ่ ยอาหาร ทั้งยังทำหน้าที่ในการสร้างและ
ควบคุมเลือด นำพลังชี่(ปราณ)ไปหล่อเลี้ยงทัว่ ร่ างกาย “ฟ้ าดำเนินไปอย่างแข็งขัน บัณฑิตเสริ มสร้างความเข้มแข็งให้ตนเอง
อย่างไม่หยุดยั้ง” (天行健,君子以自強不息。) “ดินมีอิทธิพลต่อปฐพี,บุรุษย่อมรองรับสรรพสิ่ งด้วย
คุณธรรม” (地势坤,君子以厚德载物。) รองรับสรรพสิ่ งด้วยคุณธรรมก็คือไม่วา่ เราจะกินอะไรเข้าไปใน
กระเพาะก็ยงั จุไว้ได้ เมื่อพูดถึงอวัยวะในร่ างกายของคนเราแล้ว ม้ามและกระเพาะล้วนเป็ นธาตุดิน แต่ท้ งั คู่กม็ ีความต่างกัน
ม้ามเปรี ยบเสมือนฟ้ า และกระเพาะเปรี ยบเป็ นดิน ม้ามทำหน้าที่ไม่ขาดสาย ส่ วนกระเพาะก็จุของรองรับสรรพสิ่ งด้วย
คุณธรรม ดังนั้นทั้งคู่จึงเป็ นธาตุดินที่ไม่ได้มีแค่ความพิเศษจากธาตุดิน เพื่อให้มา้ มและกระเพาะอาหารสามารถเติมเต็มซึ่ง
กันและกันและทำงานได้ดี เพื่อทำให้มา้ มสามารถแบกรับภารกิจสำคัญและควบคุมการไหลเวียนได้ดี

ข้ อห้ ามและสิ่ งทีค่ วรระวังในการใช้ ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)

ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)นำไปใช้ในการรักษาได้อย่างกว้างขวาง นี่จึงก่อให้เกิดความเข้าใจที่ผดิ ได้ง่าย สมุนไพร


ชนิดนี้ ถึงแม้จะดูเรี ยบ ๆเฉย ๆดูไม่มีพิษภัย แต่ทราบหรื อไม่วา่ ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)มีขอ้ ห้ามให้การนำไปใช้พอสมควร
ในสถานการณ์หลายอย่างเราไม่สามารถนำไปใช้สุ่มสี่ สุ่มห้าได้
ประการแรก ผูท้ ี่ป่วยมีอาการป่ วยด้วยโรค ไตอ่อนแอ ควรใช้ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)อย่างระมัดระวัง เพราะดินข่ม
น้ำ (ม้ามดูดซึมอาหารและน้ำ ป้ องกันน้ำของไตไม่ให้สะสมมากเกินไป) หากเราบำรุ งธาตุดินมากเกินไป ก็ยงิ่ ข่มธาตุน้ำ
ไตก็จะยิง่ อ่อนแอลง
ปกติแล้วในชุดยาจีนสมุนไพร ลิวเว้ยตี้หวงหยวน( 六味地黄丸 ชุดยาจีนสมุนไพร บำรุ งหยินของไต หลักบี่ตี่
อึ๊ง) จะไม่ได้ปรุ งไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)ลงไป แน่นอนว่า นี่กไ็ ม่ได้แปลว่าจะไม่ได้ปรุ งลงไปด้วยไม่ได้เด็ดขาดสักที
เดียว ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)เมื่อใช้กบั เซิงตี้(生地 แชตี้)หรื อสูต้ ี (熟地 เส็กตี้) นี่ นบั ว่าเป็ นการจับคู่ยาในรู ปแบบ
หนึ่ง สามารถนำไปใช้ได้ สามารถพิจารณาได้จากสภาพโดยรวม
ประการที่สอง ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา) มีคุณสมบัติที่พเิ ศษอีกอย่างคือปิ ดกั้นปราณ อย่างที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น นำ
ไปแช่ในน้ำซาวข้าว ก็จะไม่ปิดปราณ หรื อว่าปรุ งฝูหลิง (茯苓 โป่ งรากสน)และเฉนผี(陈皮 ผิวส้มจีน)ลงไปด้วยก็จะ
ไม่ปิดปราณเช่นกัน นำไปคัว่ ก็ไม่ปิดปราณ ที่จริ งแล้วแม้วา่ จะปิ ดหรื อไม่ปิดปราณ ก็ไม่ใช่เรื่ องใหญ่ เพราะวิธีเหล่านี้ ทำให้
คุณสมบัติปิดปราณของ ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)เบาลงเพียงเท่านั้น ในเมื่อปิ ดปราณ ดังนั้นอาการหวัดมีปัจจัยต่อโรคชี่
ภายนอก ไม่ควรใช้ยาสมุนไพรประเภทเดียวกันกับไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา) เมื่อปราณโดนปิ ดกั้นก็ยากที่จะกระจายตัว
ประการที่สาม ยังมีโรคแผลร้อนพุพอง โรคผิวหนังต่าง ๆ ก็มาจากการที่ลมปราณปิ ด ชี่ภายนอกอยูท่ ี่ร่างกาย ไม่
สามารถกระจายตัว หรื อไหลเวียนได้ดีเท่าที่ควร ก็เลยมีอาการปวด สถานการณ์แบบนี้ เหมาะที่จะเลือกใช้หวงฉี (黄芪
อึ่งคี้)มากกว่า สรรพคุณของหวงฉี (黄芪 อึ่งคี้)ไม่ใช่มีเพียงแค่สรรพคุณบำรุ งม้าม แต่ยงั บำรุ งปราณ ระงับเหงื่อ ทำให้
ปราณหรื อชี่ไหลเวียน ระงับปวด ช่วยรักษาบาดแผลและสร้างเนื้ อเยือ่ และหวงฉี (黄芪 อึ่งคี้)ไม่ปิดปราณ เมื่อต้องเผชิญ
กับโรคผิวหนังชนิดนี้ จำเป็ นต้องเติมพลังให้มา้ มและเติมพลังปราณ ให้ใช้หวงฉี (黄芪 อึ่งคี้)แทนไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)
คุณสมบัติแต่เริ่ มเดิมทีของไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)นั้น เป็ นสมุนไพรที่แห้งมาก แม้แต่เพียวไป๋ จู๋(漂白朮 โกฐ
เขมาแช่น้ำซาวข้าว ) ก็ยงั มีความแห้งปนอยู่ เมื่อตอนความชื้นสูงมีผลดีต่อการนำมาใช้ ถ้าหากความชื้ นต่ำ เมื่อนำไปใช้ก็
ไม่ดี เพราะผูป้ ่ วยเดิมทีกม็ ีภาวะหยินพร่ อง หากใช้ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)มารักษาจะทำให้หยินพร่ องลงไปอีก
และยังมีในกรณี ของคนที่นอนไม่หลับ ควรระวังในการใช้ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)เช่นกัน เช่นพลังตับอุดตันทำให้
นอนไม่หลับ นอนไม่หลับก็ยงิ่ หงุดหงิด มีความหงุดหงิดเยอะขึ้นก็ยงิ่ ทำให้ตบั อุดตันยิง่ ขึ้น พลังตับติดขัด (肝郁气滞)
โรคนี้ ได้วิเคราะห์อย่างถูกต้องและแม่นยำแล้ว หมอปกติทวั่ ไปจะใช้ ตำรับยาเซียวเหยาซ่าน(逍遥散)ปรุ งกับตัวยา
ซินหยิน(心阴 ยาที่บ ำรุ งหยินชี่หวั ใจ) นี่เป็ นการรักษาตามธรรมเนียมที่ปฏิบตั ิต่อ ๆกันมา บางครั้งการยิง่ ดื่มสิ่ งนี้ ยิง่ ทำให้
นอนไม่หลับยิ่งขึ้น นัน่ เป็ นเพราะว่าอะไรกันนะ? ฉายหู (柴胡 สมุนไพรไฉหู )ขับกระจายและลดไข้ ทำให้หยางชี่
ขึ้นเบื้องบน เสิ นชี่ (神气 พลังเสิ น)ได้สลายตามไปด้วย คุณสมบัติความแห้งของไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา) “ น้ำไหลชื้น
ร้อนก็แห้ง” พอแห้งแล้ว ก็ยงิ่ ทำให้ร้อนขึ้นไปอีก ยิง่ ทำให้คนนอนไม่หลับ เมื่อเราพบเจอกับเหตุการณ์ที่นอนไม่หลับ หาก
การรักษาแล้วไม่ได้ผล สามารถพิจารณาจากประเด็นเหล่านี้เพื่อมาไปปรับใช้กบั การรักษาได้

ตำรับยาทีม่ ีส่วนผสมจากไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)

จื่อจู๋หวาน(枳朮丸 ยาจือจู๋หวาน)

ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)มีส่วนช่วยต่อการบำรุ งม้าม ดูจากโดยรวมแล้วสามารถทำให้หยางชี่ลอยขึ้นเบื้องบน เมื่อ


ปราณในม้ามลดลง เหมาะมากที่จะใช้ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)มารักษา การรักษาตอนที่ปราณในม้ามลดลง มีชื่อการรักษา
อย่างหนึ่ง เราเรี ยกว่าปู่ จงยีช่ ี่ทงั (补中益气汤 โปวตงเอี๊ยะขี่) เมื่อร่ างกาย และอวัยวะภายในอ่อนแอ เป็ นเพราะว่า
ปราณในม้ามไม่สามารถลอยขึ้นบนได้ ตัวยาในปู่ จงยีช่ ี่ทงั (补中益气汤 โปวตงเอี๊ยะขี่)สามารถเพิม่ ปราณในม้าม
ได้ แต่ปราณในม้ามเพิ่มอย่างเดียวก็ไม่ดี มีเพิ่มก็ควรมีลด รักษาสมดุล ปราณที่ลอยขึ้นบนนั้นคือการลำเลียงเสบียงสาร
บำรุ งร่ างกายที่ได้จากอาหารและน้ำขึ้นไปสู่ปอด และปอดก็ล ำเลียงเพื่อไปเลี้ยงร่ างกายต่อ อย่างที่กล่าวไว้ขา้ งต้นว่า ไม่ควร
จะเพิม่ ขึ้นอยูเ่ พียงอย่างเดียว ควรจะลดและรักษาสมดุลให้ดี แล้วในกรณี ไหนที่สามารถลดระดับลมปราณลงได้? กระเพาะ
อาหารนัน่ เอง ในตอนที่ลมปราณภายในเพิม่ บ้างลดบ้างนั้น ม้ามและกระเพาะได้ท ำหน้าที่สำคัญอย่างยิง่ คือการควบคุมและ
ลำเลียง
สามารถเห็นได้จาก ตัวยาตำรับนึง มีชื่อว่าตำรับยาจื่อจู๋ทงั (枳朮汤) มีท้ งั จื่อเขอ(枳壳 จีคกั )และไป๋ จู๋(白
朮 โกฐเขมา) ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)ทำให้ชี่(ปราณ)ลอยขึ้น ส่ วนจื่อเขอ(枳壳 จีคกั )ทำให้ชี่(ปราณ)ลดลง เหมาะกับ
รู ปแบบการทำงานของชี่(ปราณ)ของม้ามมีทิศทางขึ้นบน และชี่(ปราณ)ของกระเพาะอาหารมีทิศทางลงล่าง ม้ามและ
กระเพาะอาหารจึงเปรี ยบเหมือนเป็ นแกนกลางขึ้นลงของลมปราณ ดังนั้นสรรพคุณของยาจื่อจู๋ทงั (枳朮汤) จึงคือการ
ปรับปราณของม้ามและกระเพาะ ยาจื่อจู๋ทงั (枳朮汤)มีหลายตำรับ เพราะว่า 2 รสชาติน้ ี ส่วนหลังจากนี้ ควรจะเพิ่มยา
ตำรับไหนลงไป ไม่จ ำเป็ นต้องยึดหลักการปรุ งแบบเดิมเสมอไป สามารถพิจารณาได้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม
การที่เรายึดหลักการปรุ งแบบเดิมเพียงแค่อย่างเดียว ก็เหมือนกับการที่เรายึดหลักความคิดตัวเองไว้ในกรอบที่
กำหนดไว้ เพราะฉะนั้นตอนที่เราอธิบายถึงตำรับยานั้น มักจะอธิบายในส่ วนรสชาติของสมุนไพรน้อย

สมุนไพรสองชนิดรวมกันเป็ นยาหนึ่งตำรับ ควรค่าแก่การอธิบายอย่างยิง่ เพราะว่ายาตำรับนี้ มีความพิเศษ


สมุนไพรสามรสชาติปรุ งรวมกันในยาตำรับเดียวคือฟ้ าคนดิน (เป็ นลักษณะความสมดุลของทุกสรรพสิ่ งที่ตอ้ งอยูร่ ่ วม
กัน)
สมุนไพรสี่ รสชาติมารวมกันคือหนึ่งปี สี่ ฤดู การเติบโตและเก็บเกี่ยว จวินเฉิ นจัว่ สื อ (君臣佐使 บ่าวนายประสาน
เกื้อหนุน) ***มีหลักการเช่นเดียวกับการปรุ งยา กล่าวคือ ยาหลักและยาเสริ มต้องปรุ ง ผสม หรื อกินด้วยกัน เพื่อนำมา
ซึ่งผลที่ดีที่สุด ยาหลักก็คือนาย ยาเสริ มก็คือบ่าว มาประสานเพื่อลดหรื อเพิม่ ความประสิ ทธิภาพของยาหลักตามความ
เหมาะสม***
สมุนไพรห้ารสชาติมาปรุ งรวมกันคือ จากการเติบโตสู่ การเก็บเกี่ยว มีปัญจธาตุอยูค่ รบ
สมุนไพรหกรสชาติมารวมกันคือลิ่วเหยา (六爻 ลายลักษณ์ท้ งั หก)
สมุนไพรเจ็ดรสชาติมารวมกันคือการย้อนกลับวนลูปของวันทั้ง 7
เมื่อสมุนไพรแปดรสชาติมารวมกันเสมือนกับครบแปดทิศ
ในส่ วนตำรับยาชนิดอื่น ๆนอกเหนือจากที่กล่าวมาขอไม่ลงรายละเอียดมากนัก เราควรให้ความสำคัญกับตำรับเล็กน้อยที่ได้
กล่าวมานี้ เพื่อที่จะได้พฒั นาเป็ นตำรับใหญ่ข้ ึนในอนาคต เรื อลำเล็กย่อมง่ายต่อการกลับลำและพาย แน่นอนว่าในการเรี ยน
รู้และการที่จะทำสิ่ งใหญ่ ๆได้น้ นั เราควรเรี ยนรู้และพัฒนาขึ้นมาจากสิ่ งเล็ก ๆก่อน
ดังนั้นในตอนที่เราได้กล่าวถึงไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา) อันดับแรกจึงกล่าวตำรับยาจื่อจู๋ทงั (枳朮汤)และแน่นอน
ว่ายาจื่อจู๋ทงั (枳朮汤)สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ถ้าหากว่ามีอาการหนาวเย็น สามารถเพิ่มตัวยาที่มีฤทธิ์ ร้อนอาทิเช่น ฟู่ จื่อ(附子 โหราเดือยไก่) โร่ วกุ่ย(肉桂
อบเชย)กานเจียง(干姜 ขมิ้นแห้ง)เป็ นต้น
หากมีอาการร้อน สามารถเพิม่ ตัวยาสมุนไพรที่มีฤทธิ์ เย็นหวงเหลียน(黄连 อึ่งโน้ย) เพราะว่ามีส่วนช่วยต่อการ
ควบคุมต่อระบบการย่อย และยังสามารถเพิ่มจำพวก ม่ายตง(麦冬 แบะตง) หรื อ หรู เกิน(芦根 อ้อเล็ก)เป็ นต้น ถ้า
หากว่าลมปราณในกระเพาะลดอย่างรุ นแรง สามารถใช้จื่อสื อ (枳实 จีซิกหรื อส้มซ่า) แต่หากว่าลมปราณในกระเพาะไม่
ได้ลดรุ นแรงมากให้ใช้จื่อเขอ(枳壳 จีขกั )
ถ้าหากว่ามีอาการชื้นรุ นแรง ใช้ชางจู๋(苍朮 ซังตุ๊ก) หากอาการชื้นไม่รุนแรงมากนักใช้ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)
ในยาจื่อจู๋ทงั (枳朮汤)สามารถใช้ได้ชางจู๋(苍朮 ซังตุ๊ก ) และไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)ควบคู่กนั ไป แสดงถึง
ชี่(ปราณ)ของม้ามมีทิศทางขึ้นบนและชี่(ปราณ)ของกระเพาะอาหารมีทิศทางลงล่าง การเลือกใช้ข้ ึนอยูก่ บั สถานการณ์โดย
รวม
มองจากภาพรวมสรุ ปได้วา่ ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)เป็ นยาที่มีสรรพคุณเอนเองไปทางบำรุ ง สามารถบำรุ งรักษาอาการ
ม้ามและกระเพาะพร่ อง การพร่ องคือลมปราณลดลง ซึ่งไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)สามารถบำรุ งพลังเจิ้งชี่(正气 พลังคุม้
กันคน)ปราณพร่ อง แต่ถา้ หากในร่ างกายมีเสี ยชี่(邪气 ปัจจัยก่อโรค)รุ นแรงไป ก็ควรจะระมัดระวังในการไป๋ จู๋(白朮
โกฐเขมา) เพราะว่าการคัง่ ค้างของเสี ยชี่ท ำให้เกิดการ อาเจียน ท้องร่ วง และท้องอืด ไม่ควรใช้ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)อย่าง
เด็ดขาด เพราะอาการเหล่านี้ท ำให้เกิดการคัง่ ค้างของเสยชี่ ยิง่ ใช้ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)อาการไม่ดีข้ ึนแล้วจะยิง่ รุ นแรงไป
อีก

ซื่อจวินจื่อทัง(四君子汤 ตำรับยาซื่อจวินจื่อทัง)

ซื่อจวินจื่อทัง(四君子汤 ตำรับยาซื่อจวินจื่อทัง) ยาตำรับนี้ ทำให้สรรพคุณของไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)ยิง่ ทวี


ขึ้น ประกอบด้วยสมุนไพร 4 ชนิด คือ เหริ นเซิน(人参 โสม) ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา) ฝูหลิง(茯苓 โป่ งรากสน) และ
กันเฉ่า(甘草 ชะเอม) ยาชนิดนี้ เป็ นยาบำรุ งหลัก ๆ เพราะมีต ำรับยาอื่น ๆอีกหลายตัวที่พฒั นามาจากยาชนิดนี้
เหริ นเซิน(人参 โสม)และไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)บำรุ งม้าม ฝูหลิง(茯苓 โป่ งรากสน) และกันเฉ่า(甘草 ชะเอม)มี
ส่วนช่วยต่อการควบคุมต่อระบบการย่อย การขับปราณ ดังนั้นยาบำรุ งชี่(บำรุ งปราณ)ชนิดนี้ หลัก ๆคือบำรุ งม้าม
ในยาซื่อจวินจื่อทัง(四君子汤 ตำรับยาซื่อจวินจื่อทัง) มีคนบอกว่า เหริ นเซิน(人参 โสม)เป็ นตัวยาหลัก ที่
จริ งแล้ว ยาหลักหรื อยาเสริ มไม่ได้แน่นอนและระบุชดั ผูเ้ ขียนกลับเอนเองไปทางไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา) มากกว่าว่าเป็ นยา
หลัก
ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)บำรุ งปราณ เพียงแค่สรรพคุณในการบำรุ งไม่แรงเท่าเหริ นเซิน(人参 โสม) การเพิม่ โสม
เข้าไปทำให้สรรพคุณของ ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)ยิง่ เพิ่มมากขึ้น
ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)ยังสามารถเปลี่ยนสภาพให้ช้ื นได้ แต่กไ็ ม่ได้มีฤทธิ์ สูงจึงเพิม่ ฝูหลิง(茯苓 โป่ งรากสน)
ลงไป ทำให้ความชื้นในไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)ยิง่ เพิ่มมากขึ้น
ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)ยังบำรุ งม้าม แต่สรรพคุณไม่สูงเท่ากันเฉ่า(甘草 ชะเอม) การเพิม่ ชะเอมเข้าไปทำให้
สรรพคุณในการบำรุ งม้ามของไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)สูงขึ้น
สามารถกล่าวได้วา่ ตำรับยาซื่อจวินจื่อทัง(四君子汤 ตำรับยาซื่อจวินจื่อทัง)เป็ นตัวยาที่บ ำรุ งม้าม ทำให้ระบบ
ไหลเวียนปราณของม้ามสมดุลและดี เมื่อลมปราณในม้ามดีกจ็ ะไม่มีอาการม้ามพร่ อง
หากในซื่อจวินจื่อทัง(四君子汤 ตำรับยาซื่อจวินจื่อทัง)ได้เพิ่มเฉิ นผี (陈皮 เปลือกผิวส้มแห้ง)และปั้นเซี่ย
(半夏 ปั้วแห่) ลงไปจะมีส่วนช่วยต่อระบบการย่อย เมื่อสองอย่างนี้รวมกันจะได้ตวั ยาที่มีชื่อว่า เอ้อร์เฉิ นทัง(二陈汤
ยาขจัดความชื้น และสลายเสมหะ) ม้ามพร่ องก็จะมีเสมหะ มีเสมหะก็จ ำเป็ นที่จะต้องละลายเสมหะ เมื่อขับเสมหะแล้ว
ระบบหมุนเวียนเลือกและลมปราณก็จะไหลเวียนดี
เฉิ นผี (陈皮 เปลือกผิวส้มแห้ง) ปรับการไหลเวียนของชี่ ช่วยให้การทำงานของม้ามดีข้ ึน
ปั้นเซี่ย (半夏 ปั้วแห่ ) ลดการไหลย้อนของชี่และกระเพาะ
ปราณพร่ องยังอาจก่อให้เกิดการลมปราณติดขัด เมื่อลมปราณติดขัดแล้วการไหลเวียนก็จะทำได้นอ้ ย เนื่องจากอุดตัน
เราจึงใช้ยาซื่อจวินจื่อทัง(四君子汤 ตำรับยาซื่อจวินจื่อทัง)เพื่อบำรุ งชี่(ปราณ) เมื่อลมปราณพร่ องและมีเสมหะ ให้ใช้
เฉิ นผี (陈皮 เปลือกผิวส้มแห้ง)และปั้นเซี่ย (半夏 ปั้วแห่)ละลายและขับเสมหะ เพราะมีเสมหะมากั้นลมปราณ ทำให้
ปราณพร่ อง ควรเพิ่มมู่เซียง(木香 โกฐกระดูก) ทำไมถึงเลือกใช้กลิ่นหอมจากมู่เซียง(木香 โกฐกระดูก)กันนะ? เป็ น
เพราะว่าสามารถขับปราณได้ดีมาก นอกจากนี้ ยงั มี ซราเหริ น(砂仁 ซัวยิง้ )ที่มีส่วนช่วยในการขับชื้น ช่วยลมปราณไหล
เวียน เลยกลายเป็ นยาตำรับเซียงซาลิ่วจวินจึทงั (香砂六君子汤) บำรุ งม้ามขจัดเสมหะ ช่วยลมปราณไหลเวียนดี

หลีจ่ งทัง(理中汤 ตำรับหลีจ่ งทัง จากตำราซางหานลุ่น)

หลี่จงทัง(理中汤) มีตวั ยาต่างจากซื่อจวินจื่อทัง(四君子汤)แค่เพียงชนิดเดียว

ซื่อจวินจื่อทัง(四君子汤)ประกอบด้วยตัวยาเหริ นเซิน (参 โสม)ไป๋ จู๋(朮 โกฐเขมา) ฝูหลิง(苓 โป่ งรากสน) และจื้

อกานฉ่าว(草 ชะเอม)

หลี่จงทัง(理中汤)ประกอบด้วยตัวยาเซิน (参 โสม)ป๋ ายจู๋(朮 โกฐเขมา) ขิง(姜) และจื้อกานฉ่าว(草)

ม้ามคือธาตุดิน ต้องการความอุ่น กานเจียง(姜 ขิงแห้ง)สามารถเพิม่ ความอบอุ่นให้กบั การขับลมและมีส่วนช่วยในระบบ

การย่อย ถ้าหากคิดว่าขิงยังไม่ช่วยให้อบอุ่นมากพอ ก็ใส่ ฟจืู่ ่อ(附子 โหราเดือยไก่)เพิ่มไป ฟู่ จื่อ(附子 โหราเดือย

ไก่)เพิ่มความร้อน ทำให้ลมปราณไหลแล่นได้ดี นอกจากนี้ สามารถบำรุ งไตได้อีกด้วย โดยเฉพาะเมิ่อตอนที่ใส่ในปริ มาณ

มากหรื อตอนที่น ำไปตุ๋นยาเป็ นเวลานาน ก็จะเข้าไปบำรุ งไตได้เช่นกัน จำนวนปริ มาณของฟู่ จื่อ(附子 โหราเดือยไก่)ใน

ตัวยาฟู่ จื่อหลี่จงทัง(附子理中汤 ยาจีนโหราเดือยไก่)ส่ วนมากจะใส่ในปริ มาณที่มากหน่อย หรื อจะตุ๋นเป็ นเวลาที่นาน


หน่อย ตัวยาก็จะสามารถไปบำรุ งไตได้ดี ทำให้เกิดไตร้อนเสริ มธาตุดินในม้าม(ไฟสร้างดิน) ในพื้นฐานของเหริ นเซิน (人

参 โสม) ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา) และกันเฉ่า(甘草 ชะเอม) หากชื้นให้เพิ่ม ฝูหลิง(茯苓 โป่ งรากสน) หากเย็นให้

เพิ่ม กานเจียง(姜 ขิงแห้ง) หากเย็นมากให้เพิ่มฟู่ จื่อ(附子 โหราเดือยไก่) หรื อใช้ฟจืู่ ่อ(附子 โหราเดือยไก่)ร่ วมกับ

กานเจียง(姜 ขิงแห้ง) ดังนั้นวิธีการรักษาที่มีในตำรานั้นมีเหตุผล แต่พวกเราก็ไม่ควรหยุดพัฒนาและปรับปรุ งตัวยาให้ดีข้ึน

เมื่อเราค้นหาหลักเกณฑ์ได้แล้ว เราจะสามารถนำมาปรับใช้และรักษากับโรคที่หลากหลาย นี่คือสิ่ งที่ควรนำมาประยุกต์

อู่หลิงซ่ าน(五苓散 ตํารับอู่หลิงซ่ าน)

ตํารับอู่หลิงซ่าน(五苓散) มีตวั ยา 5 ตัวคือ ฝูหลิง (茯苓 โป่ งรากสน), จูหลิง (猪苓 ตือเหล็ง) , เจ๋ อเซี่ย
(泽泻 เจ็กเซี่ย) , กุย้ (桂 กุย้ จือ)และไป๋ จู๋ (朮 โกฐเขมา)

ตํารับอู่หลิงซ่าน(五苓散 ตํารับอู่หลิงซ่าน)เป็ นตัวยาที่มีส่วนช่วยต่อความชื้น เราจะมาเน้นย้ำยาตัวนี้ ในส่วนของ

การเพิ่มความชื้นอีกที วันนี้ พวกเราจะมาเน้นในเรื่ องทำไมในตำรับยาอู่หลิงซ่าน(五苓散)ถึงมีส่วนผสมจากไป๋ จู๋(白朮

โกฐเขมา)

ฝูหลิง (茯苓 โป่ งรากสน), จูหลิง (猪苓 ตือเหล็ง) และเจ๋ อเซี่ย(泽泻 เจ็กเสี่ ย) ยาสามรสชาติน้ ี มีส่วนดีต่อน้ำ

ร่ างกาย ฝูหลิง (茯苓 โป่ งรากสน)ดีต่อน้ำในม้าม ส่วนจูหลิง (猪苓 ตือเหล็ง) และเจ๋ อเซี่ย (泽泻 เจ็กเสี่ ย)ดีต่อน้ำ

ในไต ในส่วนของกุย้ (桂 กุย้ จือ)มีส่วนช่วยต่อปัจจัยก่อโรคที่เกิดจากความเย็นที่ขดั ขวางเส้นลมปราณเท้าไท่หยาง(足

太阳膀胱经 เส้นลมปราณกระเพาะปัสสาวะ) ตอนที่ลมปราณเย็น ไตทำงานไม่ดี สามารถใช้ โร่ วกุ่ย(肉桂


อบเชย) ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)ดีต่อระบบลมปราณของม้าม หากต้องการขับน้ำ จำเป็ นต้องกระตุน้ ลมปราณ แบบนี้ จะ

ทำให้ลงแรงน้อยแต่ได้ผลเกินคุม้ และน้ำที่ขบั ออกมาจะออกไปทางกระเพาะปัสสาวะ ลมปราณเปลี่ยนแปลงจึงสามารถขับ

ออกมาได้ เมื่อปราณไหลเวียน น้ำจึงจะขับออกมาได้ บ่งบอกถึงหากระบบไหลเวียนของลมปราณในร่ างกายทำหน้าที่ไม่

สมบูรณ์กจ็ ะส่ งผลกระทบต่อระบบในร่ างกายทั้งหมด อีกทั้งกระทบต่อระบบไหลเวียนของของเหลวในร่ างกาย

เมื่อปราณในม้าม และปราณในไตดี ของเหลวก็จะไหลเวียนและขับถ่ายได้ดี


มีคนได้กล่าวไว้วา่ ไตเปรี ยบเสมือนน้ำทั้งร่ างกาย หากไตอ่อนแอ ไตก็จะทำหน้าที่ล ำเลียงน้ำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำไม
เราจึงใช้ ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา)กันนะ? ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เคยบอกหรื อว่าหากไตพร่ องไม่ควรใช้
ทุกคนทราบดี ว่าไตพร่ องเกิดจากลมปราณต้านทานโรคของไตอ่อนแอ เราจึงใช้ ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา) เมื่อมีน ้ำให้เอาดิน
กลบ(หรื อเรี ยกว่าดินข่มน้ำ นัน่ เอง) ไป๋ จู๋(白朮 โกฐเขมา) ไม่เพียงแต่ช่วยการไหลเวียนของลมปราณ แต่ยงั ช่วยการขับน้ำ
ได้อีก นี่คือประโยชน์ของกุ่ย(桂 อบเชย) และจู๋(朮 โกฐเขมา)ในตำรับอู่หลิงซ่าน(五苓散 ตํารับอู่หลิงซ่าน)
นี่ยงั แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนและเคล็ดลับในการเลือกใช้สมุนไพร อันดับแรก แม้วา่ เราจะพิจารณาในการเลือกใช้สมุนไพร
ได้ถูกต้อง แต่เราก็ยงั ควรระมัดระวัง และทำอย่างประณี ตละเอียดอ่อน ไม่ควรเลือกใช้ตวั ยาสมุนไพรที่มีโทษต่อโรคและ
ทำให้อาการแย่ และอีกอย่างหนึ่งคือ ควรพิจารณาว่าดีต่อลมปราณ ดีต่อน้ำในร่ างกายหรื อไม่
หากต้องการใช้ตวั ยาที่ดีต่อน้ำเท่านั้น ควรเลือกใช้ฝหู ลิง (茯苓 โป่ งรากสน), จูหลิง (猪苓 ตือเหลียง) และเจ๋ อเซี่ย(泽
泻 เจ็กเสี่ ย)ก็พอแล้ว แต่ท ำไมในหลายกรณี ใช้ฝหู ลิง (茯苓 โป่ งรากสน), จูหลิง (猪苓 ตือเหลียง) และเจ๋ อเซี่ย (泽
泻 เจ็กเสี่ ย)มารักษาแล้วไม่ค่อยเห็นผลมากนักล่ะ? นัน่ เป็ นเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับลมปราณ อู่หลิงซ่าน(五苓散 ตํา
รับอู่หลิงซ่าน)เมื่อเพิ่มกุ่ย(桂 อบเชย) และจู๋(朮 โกฐเขมา)ลงไป จะช่วยกระตุน้ การไหลเวียนลมปราณของทั้งม้ามทั้งไต
และการขับน้ำ ดังนั้นตัวยาสามารถรักษาอาการป่ วยได้ บางตัวยาก็ท ำหน้าที่บ ำรุ งลมปราณในร่ างกายของคนเรา ดังนั้นเรา
ควรจะให้ความสำคัญทั้งด้านบำรุ งและรักษา การใช้ยาจีนก็จะได้ประสิ ทธิภาพที่เต็มที่และสูงยิง่ ขึ้นไป

You might also like