Professional Documents
Culture Documents
หน่วยที่ 4 เพศวิถี พหุวัฒนธรรม ความเชื่อและค่านิยม
หน่วยที่ 4 เพศวิถี พหุวัฒนธรรม ความเชื่อและค่านิยม
ค่านิยมทางเพศของวัยรุ่นในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศเข้า
มา หรือการใช้เทคโนโลยีสื่อสารที่รวดเร็ว ทันสมัย ทาให้รับรู้ข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว โดยอาจไม่ได้คัดกรอง
ข้อมูลข่าวสารนั้นๆ จึงมีผลต่อพฤติกรรมที่แสดงออกมาอย่างเปิดเผยโดยเฉพาะเรื่องเพศของวัยรุ่น หากวัยรุ่นมี
ค่านิยมทางเพศที่ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา
• วัยรุ่นจะได้เห็นตัวอย่างหรือแบบแผนที่ดีในการควบคุมพฤติกรรมทางเพศของบุคคลในสังคมที่แสดงออกถึง
การปฏิบัติในเรื่องเพศอย่างเหมาะสมตามค่านิยมทางเพศของสังคมไทย ถือว่าเป็นการขัดเกลาทางสังคมด้วย
เช่น การวางตัวในการคบเพื่อนต่างเพศ การมีเพศสัมพันธ์ภายหลังการแต่งงาน
ความเชื่อทางเพศ เกิดขึ้นจากมุมมองหลายมิติจากสังคมไทยที่ได้เปิดกว้างสาหรับบุคคลที่มีความ
หลากหลายทางเพศ เช่น
1. เรื่องเพศเกี่ยวข้องกับชีวิตเราตั้งแต่เกิดจนตาย โดยเฉพาะอัตลักษณ์และวิถีทางเพศของบุคคล เป็นผลมา
จากระบบสังคมวัฒนธรรมตั้งแต่ ศาสนา การเมือง เศรษฐกิจ
2. ความหลากหลายทางเพศไม่ถือว่าเป็นความผิดปกติแต่อย่างใด
3. สิทธิความเท่าเทียมกันทางเพศมีการขับเคลื่อนทางสังคม ในการส่งเสริมสิทธิและความเท่าเทียมกันในความ
หลากหลายทางเพศ ที่ได้รับการคุ้มครองอย่างเท่าเทียมกัน
4. อัตลักษณ์ทางเพศและวิถีทางเพศมีความหลากหลายและมีการดารงอยู่ในสังคม ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันใน
ฐานะมนุษย์คนหนึ่ง
5. การแสดงออกทางเพศที่ต่างไปจากเพศสรีระไม่ถือว่าเป็นความผิดปกติแต่อย่างใด แต่เป็นส่งที่เกิดได้ตาม
ธรรมชาติ
บรรทัดฐานทางสังคม ในเรื่องขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม ระเบียบและกฎหมายต่างๆ เช่น ความ
ไม่เสมอภาคของเพศชายและเพศหญิง ในบางประเทศยังคงให้ความสาคัญต่อการให้กาดนิดบุตรที่เป็นเพศชาย
มากกว่าเพศหญิง เป็นต้น
ค่านิยมทางเพศตามสังคมและวัฒนธรรมไทย
1. บรรทัดฐานทางครอบครัวและสังคม
• ค่านิยมทางเพศตามสังคมและวัฒนธรรมไทยในอดีตมีความแตกต่างจากในปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจาก
ในอดีตบุตรหลานจะถูกปลูกฝังโดยการอบรมเลี้ยงดูให้เคารพเชื่อฟังคาสั่งสอนของบิดามารดาอย่างเคร่งครัด
วิถีชีวิตตลอดจนวิธีการดาเนินชีวิตจะต้องอยู่ในขอบเขตที่ทางครอบครัวได้วางเอาไว้ รวมทั้งปัจจัยทางสังคม
และสภาพแวดล้อมก็ยังไม่เอื้ออานวยอย่างเช่นในปัจจุบัน ค่านิยมทางเพศในอดีตมีลักษณะ ดังนี้
ค่านิยมทางเพศ
ค่านิยมทางเพศในอดีต
1. ผู้หญิงต้องอยู่กับเหย้ากับเรือนอย่างเดียว จึงทาให้ผู้หญิงต้องถูกกดขี่ข่มเหงด้วยความไม่เสมอภาคทาง
เพศ
2. ผู้ชายมักเป็นใหญ่ในบ้าน และมีอานาจในการตัดสินทุกอย่าง ส่วนผู้หญิงมีหน้าที่เพียงแค่ดูแลบ้านและ
บุตร
3. การนัดพบกัน ในอดีตสามารถพบกันโดยการแนะนาของผู้ใหญ่ หรือพบกันตามวัดในเทศกาลต่างๆ ไม่มี
โอกาสได้พบกันในสถานที่สาธารณะอย่างปัจจุบัน
4. ผู้หญิงต้องไม่แสดงกิริยายั่วยวน แสดงท่าทีเชื้อเชิญ หรือให้โอกาสผู้ชายได้เข้ามาใกล้ชิด
5. การถูกควบุมจากผู้ใหญ่ในเรื่องการเลือกคนรัก การแต่งงาน ที่เรียกว่า “คลุมถุงชน” โดยให้เหตุผลถึง
ความคู่ควร เหมาะสม เป็นสิ่งสาคัญกว่าจะนึกถึงความรักระหว่างคนสองคน
ค่านิยมทางเพศในปัจจุบัน
ปัจจุบันสภาพครอบครัวและสังคมได้เปลี่ยนไป ผู้หญิงต้องทางานเลี้ยงครอบครัวเช่นเดียวกับผู้ชาย ผู้หญิง
สามารถได้รับการศึกษาในระดับสูงๆ ได้เช่นเดียวกับผู้ชาย ผู้หญิงมีสิทธิที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นและ
โต้แย้งในกรณีต่างได้ การมีส่วนร่วมต่อภาระหน้าที่การดูแลบ้านและเลี้ยงดูบุตร แตกต่างจากเดิมที่ผู้หญิง
ต้องรับภาระเพียงผู้เดียว เนื่องจากการได้รับสิทธิที่เท่าเทียมกัน มีโอกาสเกี่ยวกับเรื่องเพศมากขึ้น เช่น การ
เลือกฝ่ายชายที่จะมาเป็นคู่ครอง การขอหย่าร้างถ้าแต่งงานแล้วไม่มีความสุข การเป็นผู้นาครอบครัว เป็นต้น
ค่านิยมทางเพศที่ไม่เหมาะสมของวัยรุ่น
ค่านิยมทางเพศที่ไม่เหมาะสมของวัยรุ่นนั้นเกิดจากการได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตก ซึ่งก่อให้เกิด
ผลกระทบต่อการดาเนินชีวิต โดยค่านิยมทางเพศที่ไม่เหมาะสมของวัยรุ่น มีดังนี้
1. การคบเพื่อนต่างเพศ อดีตผู้ชายมักจะเป็นฝ่ายแสดงออกด้วยท่าทาง กิริยา ต่อฝ่ายหญิงที่ตนเองหมายปอง
รักใคร่ แต่ปัจจุบันทั้งฝ่ายหญิงและชายมีบทบาทและความเสมอภาคที่ทัดเทียมกัน ทาให้วัยรุ่นหญิงบางคนจะ
เป็นผู้กล้าเริ่มความสัมพันธ์กับฝ่ายชายก่อน โดยคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่จริงๆ นับเป็นค่านิยมทางเพศที่ไม่
เหมาะสม เพราะผู้หญิงควรรักนวลสงวนตัว ส่วนฝ่ายชายควรให้เกียรติฝ่ายหญิงเช่นกัน การเลือกคบเพื่อน ควร
พิจารณาหลายประการ รวมทั้งการขอคาแนะนาจาก บิดามารดา ครู ตลอดจนผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดนับถือ
2. การมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันวัยรุ่นถือว่าการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมดาของบุคคล เป็นค่านิยมที่ผิดและ
ไม่เหมาะสมกับสังคมและวัฒนธรรมไทยอย่างมาก เพราะค่านิยมดังกล่าวอาจทาให้เกิดปัญหาความเสี่ยงต่อ
การเกิดโรคทางเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ การทาแท้ง การสร้างครอบครัว ตลอดจนปัญหา
อาชญากรรม
3. การทาแท้ง ซึ่งมีความผิดทางกฎหมายและศีลธรรม ซึ่งขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมไทย
ยกเว้นเหตุผลทางการแพทย์ ได้แก่ การตั้งครรภ์ที่เกิดจากการถูกข่มขืน การตั้งครรภ์ของสตรีที่เป็นโรคจิต หรือ
การตั้งครรภ์ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพของมารดา
4. การแต่งงาน ในทัศนคติของวัยรุ่นมักเกิดจากความเพ้อฝันเรื่องความรัก ความภักดีต่อคนรัก สร้างความฝัน
เรื่องการแต่งงานด้วยจินตนาการ โดยไม่คานึงถึงความพร้อม บทบาทและหน้าที่ จะต้องรับผิดชอบร่วมกันใน
อนาคต หากสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ อาจก่อให้เกิดปัญหาครอบครัว ตลอดจนปัญหาสังคม การ
หย่าร้าง การทาแท้ง สิ่งสาคัญที่วัยรุ่นควรตระหนักอย่างยิ่งในชีวิตและใส่ใจ ต้องมีการปรึกษาครอบครัว ไม่ควร
ตัดสินใจโดยพลการ
แนวปฏิบัติตามค่านิยมทางเพศที่เหมาะสม
ค่านิยมทางเพศของวัยรุ่นเป็นสิ่งสาคัญที่วัยรุ่นควรยึดถือปฏิบัติให้เหมาะสมต่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี และ
วัฒนธรรมของไทย แนวทางการปฏิบัติตนตามค่านิยมทางเพศที่วัยรุ่นควรยึดถือปฏิบัติ มีดังนี้
1. การรักนวลสงวนตัว เป็นสิง่ ที่ทั้งชายและหญิงควรยึดถือปฏิบัติเป็นอย่างมาก คือไม่ปล่อยตัวและปล่อยใจไป
อย่างง่ายดาย
2. ฝ่ายหญิงและฝ่ายชายไม่ควรสาส่อนทางเพศ ควรมีความรับผิดชอบ และมีจิตสานึกที่ดีต่อสังคมในเรื่องเพศ
ตลอดจนการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
3. การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของตนเอง เช่น การรักษาพรหมจารี การหลีกเลี่ยงต่อการเกิดโรคทางเพศสัมพันธ์
การเข้าร่วมกิจกรรมของทางโรงเรียนทางสังคม เพื่อการผ่อนคลายตนเอง
4. การสร้างบุคลิกภาพที่ดีต่อตนเอง เช่น การแต่งกายที่เหมาะสมกับช่วงวัยและกาลเทศะ การเห็นคุณค่าใน
ตนเองและผู้อื่น เป็นต้น
5. การสร้างค่านิยมทางเพศที่ถูกต้องต่อตนเองและผู้อื่น เช่น การปฏิบัติตามคาสอนของบิดามารดา ครูอาจารย์
การตระหนักถึงค่านิยมทางเพศที่เหมาะสมไม่ขัดต่อขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย
เป็นต้น