Professional Documents
Culture Documents
ข้อสอบเคมีอินทรีย์-กลางภาค 64
ข้อสอบเคมีอินทรีย์-กลางภาค 64
ข้อสอบเคมีอินทรีย์-กลางภาค 64
ดินแดง)
ปี การศึกษา
ข้อสอบกลางภาคเรียนที่ 1
2564
วิชา อินทรีย์เคมีและเคมีพอลิเมอร์ รหัสวิชา ว 33222
ชัน
้ มัธยมศึกษาปี ที่ 6/2 – 6/4
สอบวันพุธที่ 4 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2564
เวลา 08.30 – 10.00 น.
อาจารย์ผู้สอน : อาจารย์ชุติกา ศรีสวัสดิ ์
คะแนนเต็ม 50 คะแนน
คำชีแ
้ จง : 1. ข้อสอบมีทงั ้ หมด 9 หน้า มี 2 ตอน ข้อสอบรวม
50 คะแนน
ตอนที่ 1 ปรนัย จำนวน 40 ข้อ รวม
40 คะแนน
ตอนที่ 2 อัตนัย จำนวน 5 ข้อ รวม
10 คะแนน
2. ให้นักเรียนกรอก ชื่อ-สกุล ชัน
้ เลขที่ ให้เรียบร้อย
3. ไม่อนุญาตให้นักเรียนเปิ ดเอกสารใดๆ ขณะทำข้อสอบ
4. ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องคำนวณ หรือนำเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดเข้า
ห้องสอบ
5. หากมีการ ทุจริต จะปรับตกทันที
ตอนที่ 1 คำชีแ
้ จง : จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว แล้วทำเครื่องหมาย
กากบาท (X) ลงในกระดาษคำตอบ
1. ข้อใดต่อไปนีถ
้ ูกต้องเกี่ยวกับสารประกอบของคาร์บอน
1) สารประกอบของคาร์บอนทุกชนิดเป็ นสารอินทรีย์
2) สารอินทรีย์ทุกชนิดเป็ นสารประกอบโคเวเลนต์
3) สารอินทรีย์มีธาตุคาร์บอนและไฮโดรเจนเป็ นองค์ประกอบสำคัญ
ก. ข้อ 1 และ 2
ข. ข้อ 2 และ 3
ค. ข้อ 1 และ 3
ง. ข้อ 2 เท่านัน
้
จ. ข้อ 3 เท่านัน
้
2. สารประกอบในข้อใดจัดเป็ นสารประกอบอินทรีย์
ก. หินปูน (CaCO3)
ข. เพชร และแกรไฟต์ (C)
ค. กรดคาร์บอนิก (H2CO3)
ง. น้ำส้มสายชู (CH3COOH)
จ. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)
3. ข้อใดกล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้สารอินทรีย์มีจำนวนมากไม่ถก
ู ต้อง
ก. คาร์บอนเกิดพันธะไฮโดรเจนกับคาร์บอนในโมเลกุลของสารอื่นได้
ข. คาร์บอนจะเกิดพันธะโคเวเลนต์กับคาร์บอนด้วยกัน เป็ นโซ่ยาว โซ่กิ่ง หรือ
วง
ค. คาร์บอนเกิดพันธะโคเวเลนต์กับไฮโดรเจน ได้สารประกอบไฮโดรคาร์บอน
ชนิดต่างๆ
ง. คาร์บอนเกิดพันธะโคเวเลนต์กับธาตุอ่ น
ื ๆ เช่น Cl, Br, O, N เกิดเป็ นสาร
อินทรีย์ชนิดต่างๆ
จ. คาร์บอนจะเกิดพันธะโคเวเลนต์กับคาร์บอนด้วยกันได้ทงั ้ พันธะเดี่ยว
พันธะคู่ และพันธะสาม
จากภาพจงตอบคำถามข้อ 4 – 6
1. 2. 3.
4. 5. 6.
ก.
ข.
ค.
ง.
จ.
8. สารที่มีสูตรโครงสร้างลิวอิส ดังนี ้
เขียนสูตรแบบย่อได้ตามข้อใด
ก. (CH3)2C=C(CH3)2
ข. CH3(CH2)2CH=CHCH3
ค. (CH3)2C=CHCH2CH3
ง. CH3CH=CH(CH2)2CH3
จ. CH3CH2CH=CHCH2CH3
9. สารที่มีสูตรโครงสร้างแบบเส้น ดังนี ้
เขียนสูตรแบบเส้นและแบบมุมได้ตามข้อใด
ก.
ข.
ค.
ง.
จ.
ก.
ข.
ค.
ง.
จ.
11. โครงสร้างแบบจุดของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนต่อไปนีเ้ ขียนสูตรโมเลกุลได้
ตามข้อใด
ก. CH3COH
ข. CH3COOH
ค. CH3COCH3
ง. CH3COOCH3
จ. CH3COCH2CH3
12. สาร A มีสูตรโมเลกุล คือ C8H14 สาร A อาจเป็ นสารประกอบใดได้บ้างตามตัว
เลือกที่กำหนด
1) ไซโคลแอลคีน
2) ไซโคลแอลเคน
3) สารประกอบไดอีน
4) สารประกอบแอลไคน์
5) สารประกอบอะโรมาติก
ก. 1 2 และ 3
ข. 1 3 และ 4
ค. 1 2 และ 5
ง. 1 3 และ 6
จ. 1 และ 3 เท่านัน
้
13. ไฮโดรคาร์บอนแบบอิ่มตัวในข้อใดที่มีจำนวนโครงสร้างที่เป็ นไปได้ทงั ้ หมด
เท่ากับจำนวนโครงสร้างที่เป็ นไปได้ของ C2H6
ก. C3H8
ข. C4H10
ค. C5H12
ง. C6H14
จ. มีคำตอบที่เป็ นได้มากกว่า 1 ข้อ
14. จำนวนสูตรโครงสร้างที่เป็ นไปได้ของ “ไดคลอโรไซโคลเฮกเซน” คือข้อใด
ก. 2
ข. 4
ค. 8
ง. 12
จ. 16
15. สารประกอบใดเป็ นไอโซเมอร์กับ CH3CH2CH2OH
ก. CH3CH=CH2
ข. CH3CH=CH2
ค. CH3CHCH2CH3
ง. CH3CHCH2OH
จ. CH2CH2OCH3
16. จงบอกจำนวนสูตรโครงสร้างและชื่อของหมู่ฟังก์ชันที่เป็ นไปได้ทงั ้ หมดของสาร
อินทรีย์ที่มีสูตรโมเลกุล C4H8O
ก. 3 : แอลดีไฮด์ , คีโตน
ข. 2 : แอลดีไฮด์ , อีเทอร์
ค. 3 : แอลกอฮอล์ , คีโตน
ง. 2 : แอลกอฮอล์ , อีเทอร์
จ. 3 : แอลกอฮอล์ , แอลดีไฮด์
17. สารคู่ใดต่อไปนีไ้ ม่เป็ นไอโซเมอร์กัน
ก. CH3CHO กับ CH3COCH3
ข. CH3COOCH3 และ CH3CH2COOH
ค. CH3CH=CHCH3 กับ
ง. CH3CH2CH2CH3 กับ
จ. CH3CH2CH(CH3)2 และ CH3CHCH2CH3
1)
2)
3)
4)
ก. 1 และ 2
ข. 1 และ 3
ค. 2 และ 3
ง. 1 และ 4
จ. 2 และ 4
21. สารประกอบ A และ B เมื่อนำมาทดสอบสมบัติต่างๆ ได้ผลดังนี ้
การจางฟอกสี
สาร
การละลายน้ำ การเผาไหม้ สารละลาย
สมบัติ
ด่างทับทิม
A ติดไฟ และมีเขม่า
ไม่ละลาย ฟอกจางสี
เล็กน้อย
B ติดไฟ แต่ไม่มีควัน
ไม่ละลาย ไม่ฟอกจางสี
และเขม่า
สารประกอบ A และ B ควรเป็ นสารประกอบคู่ใด ตามลำดับ
ก. C6H12, C6H14
ข. C6H10, C6H14
ค. C6H10, C6H12
ง. C6H6, C6H12
จ. C6H6, C6H14
22. เมื่อสารตัง้ ต้นที่กำหนดให้ทำปฏิกิริยากับโบรมีนผลิตภัณฑ์ที่ได้ในข้อใดถูกต้อง
ก.
ข.
ค.
ง.
จ.
23. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสารประกอบอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนที่เล็กที่สุด
ก. ติดไฟง่าย ได้เขม่ามาก
ข. ไม่ฟอกจางสีสารละลาย KMnO4
ค. โมเลกุลที่เล็กที่สุดประกอบด้วยคาร์บอน 6 อะตอม
ง. เกิดปฏิกิริยาการเติมเช่นเดียวกับแอลคีน เนื่องจากมีพันธะคู่เหมือนกัน
จ. ความยาวพันธะระหว่างอะตอมคาร์บอนในโครงสร้างที่เป็ นวงยาวเท่ากัน
24. ไฮโดรคาร์บอน A ทำปฏิกิริยากับคลอรีนในที่มีแสงสว่าง ให้ผลิตภัณฑ์เป็ น
C5H11Cl ข้อใดถูกต้อง
ก. สาร A ฟอกสีสารละลาย KMnO4
ข. ปฏิกิริยาที่เกิดขึน
้ เรียกว่า “ปฏิกิริยารวมตัว”
ค. สูตรโครงสร้างของสาร A คือ (CH3)2CHCH2CH3
ง. จำนวนไอโซเมอร์ของสาร A ที่เป็ นไปได้ทงั ้ หมด คือ 4
จ. ปฏิกิริยาระหว่าง A กับคลอรีน ให้ผลิตภัณฑ์อีกชนิดหนึ่ง คือ HCl
25. ข้อใดเป็ นชื่อตามระบบ IUPAC ของสารที่มีสูตรโครงสร้างดังภาพ
ก. Cycloheptane
ข. Cyclohextane
ค. Methylhexane
ง. Methylcycloheptane
จ. Methylcyclohexane
26. สารเคมีที่มีสูตรโครงสร้างดังภาพ
ก. 2-methyl butane
ข. 3-methyl butane
ค. 2-methylbut-3-ene
ง. 3-methylbut-1-ene
จ. 3-methylbut-2-ene
ก.
ข.
ค.
ง.
จ.
29. การอ่านชื่อของสารอินทรีย์ต่อไปนี ้ ข้อใดถูกต้อง
2,3-dimethylpent-
2)
3-ene
3) CH3-CH2-C-CH2- 2-ethylhex-1-ene
CH2-CH2-CH3
3–methylPent-4-
4)
yne
ก. 1 และ 2
ข. 2 และ 3
ค. 3 และ 4
ง. 1 และ 4
จ. 1 และ 3
30. สาร A และ B เป็ นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนเหมือนกัน สาร A เมื่อเผาไหม้
จะให้เปลวสว่างไม่มีควันและเขม่า
ส่วนสาร B ให้เปลวสว่าง มีควันและเขม่ามาก ข้อสรุปที่อาจเป็ นไปได้เกี่ยวกับสาร
A และ B คือข้อใด
ก. อัตราส่วนระหว่างจำนวนอะตอมของคาร์บอนกับไฮโดรเจนในสาร A น้อย
กว่าในสาร B
ก.
จุดเดื
อด
nc
ข.
จุดเดื
อด
nc
ค.
จุดเดื
อด
nc
ง.
จุดเดื
อด
nc
จ. จุดเดื
อด nc
34. ข้อใดอธิบายสมบัติของสารประกอบแอลคีนไม่ถก
ู ต้อง
ก. สารประกอบแอลคีนแต่ละชนิดมีกลิ่นเฉพาะตัว
ข. เกิดปฏิกิริยาการรวมตัวได้ดีกว่าปฏิกิริยาการแทนที่
ค. จุดหลอมเหลวและจุดเดือดสูงขึน
้ เมื่อมวลโมเลกุลเพิ่มขึน
้
ง. ในโมเลกุลของแอลคีนประกอบด้วยพันธะเดี่ยวและพันธะคู่เสมอ
จ. ฟองจากสีสารละลายโบรมีนได้เฉพาะในที่สว่างเพราะเกิดปฏิกิริยาการ
แทนที่
35. สารประกอบต่อไปนี ้
1) เฮกเซน
2) เฮกซีน
3) ไซโคลเฮกซีน
4) เบนซีน
สารประกอบข้อใดที่มีสมบัติฟอกจางสีสารละลายโบรมีนในทัง้ ในที่มืด ที่สว่าง และ
ฟอกจางสีสารละลาย KMnO4
ก. ข้อ 1 และ 2
ข. ข้อ 2 และ 3
ค. ข้อ 3 และ 4
ง. ข้อ 1 2 และ 3
จ. ข้อ 1 2 และ 4
36. พิจารณาสมบัติของสารประกอบที่มีสูตรโครงสร้างต่อไปนี ้
H H H
H
C C C O
H C C C
H
H H
H H O
1) ฟอกสีสารละลายโบรมีน
2) ฟอกสีสารละลาย KMnO4
3) เปลี่ยนสีกระดาษลิตมัสจากสีน้ำเงิน เป็ นสีแดง
4) ทำปฏิกิริยากับโลหะโซเดียมได้แก๊สไม่มีสี
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. 1 และ 2
ข. 3 และ 4
ค. 1 , 2 และ 3
ง. 1 , 2 และ 4
จ. 1 , 2 , 3 และ 4
สารประ
ก.
ข.
ค.
ง.
จ.
38. สารประกอบแอลไคน์เ2+กิดปฏิกิริยารวมตัวกับน้ำ ดังสมการ
Hg ,
+ H2O + สาร A
H
ข้อความต่อไปนี ้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. สาร A มีมวลโมเลกุลเท่ากับ 58
ข. หมูฟ
่ ั งก์ชันของสาร A คือ –COOH
ค. สาร A มีสูตรแบบย่อ คือ CH3CH2COH
ง. ชื่อสาร A ตามระบบ IUPAC คือ Propanal
จ. สาร A เป็ นสารประเภทเดียวกับสารผลิตภัณฑ์หนึ่งที่เกิดจากปฏิกิริยา
Ozonolysis ของแอลไคน์
39. สารประกอบที่มีโครงสร้างตามข้อใดที่สามารถเกิดปฏิกิริยาไฮเดรชันและได้
ผลิตภัณฑ์มากกว่า 1 แบบ
ก.
ข.
ค.
ง.
จ. มีคำตอบมากกว่า 1 ข้อ
ก.
ข.
ค.
ง.
จ.
----------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------
ตอนที่ 2 คำชีแ
้ จง : ให้นักเรียนพิจารณาคำถามต่อไปนีแ
้ ละเขียนอธิบายคำตอบให้
ถูกต้อง (10 คะแนน)
ตอบ
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………….
(แนวคำตอบ : แอลเคน, สูตรแบบย่อ คือ (CH3)2CHCH2CH3)
2. พิจารณาโครงสร้างของสารประกอบต่อไปนี ้ และตอบคำถาม
H2 O O H2
C OH C
H2C
H3C C C C CH3 CH2
H2
HC
H3C H H3C O C
H
สารประกอบดังภาพจัดเป็ นสารประเภทใดตามลำดับ
ตอบ
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………….
(แนวคำตอบ : แอลกอฮอล์, แอลดีไฮด์, เอสเทอร์, แอลคีน)
ตอบ
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………….
(แนวคำตอบ : ชื่อสามัญ คือ Isononane/Neononane และชื่อตามระบบ IUPAC
คือ 3-ethyl-2-methylhexane)
4. สารประกอบแอลไคน์ทำปฏิกิริยากับสารละลายด่างทับทิม (KMnO4) ดังสมการ
จำนวน C แอลเคน
จุดหลอมเหลว จุดเดือด
อะตอม ใน ชื่อ สูตร
(°C) (°C)
โมเลกุล โมเลกุล
1 มีเทน CH4 -182.0 -164.0
2 อีเทน C2H6 -183.3 -88.6
จำนวน C แอลเคน
จุดหลอมเหลว จุดเดือด
อะตอม ใน ชื่อ สูตร
(°C) (°C)
โมเลกุล โมเลกุล
3 โพรเพน C3H8 -189.7 -42.1
4 บิวเทน C4H10 -138.4 -0.5
5 เพนเทน C5H12 -130.0 36.1
6 เฮกเซน C6H14 -95.0 69.0
7 เฮปเซน C7H16 -90.6 98.4
8 ออกเทน C8H18 -56.8 125.7
นักเรียนสามารถทำนายแนวโน้มจุดเดือดและจุดหลอมเหลวของสารประกอบ
ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 9 อะตอมได้อย่างไร เพราะเหตุใด
ตอบ
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………….
(แนวคำตอบ : จุดเดือดและจุดหลอมเหลวของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มี
คาร์บอน 9 อะตอมจะมากกว่า 125.7 °C เพราะจุดเดือดและจุดหลอมเหลวของ
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนจะเพิ่มขึน
้ ตามจำนวนอะตอมของคาร์บอนในโมเลกุล)
----------------------------------------------------------Good Luck
---------------------------------------------------------------