แนวข้อสอบ ก.พ. ปี 63-ปริญญา-เฉลย

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 9

1

แนวข้อสอบ ก.พ. สานักงาน ก.พ. (ปริญญาตรี/ปริญญาโท)

คาสั ่ง จงเลือกคาตอบจากตัวเลือก 1. – 4. มาเติมลงในช่องว่าง เพื่อให้ได้อนุ กรมที่มีความสัมพันธ์


ต่อเนื่องกันอย่างสมเหตุสมผลมากที่สุด

ข้ อ 1.) 13 9 3 15 25 5 17 49 7 19 81 9 21 …
ก. 11
ข. 23
ค. 121 
ง. 441

ข้ อ 2.) 3 14 7 45 15 124 31 …
ก. 160
ข. 252
ค. 315 
ง. 378

คาสั ่ง จงเลือกคาตอบที่ถูกที่สุดจากตัวเลือก (1) – (4)

ข้อ 3.) ถ้า a = 2b และ c = 2a ดังนั้น a + b + c มีค่าเท่ากับข้อใด


ก. 3b
ข. 4b
ค. 6b
ง. 7b 

ข้อ 4.) เลขจานวนคู่ 3 จานวนเรียงลาดับกัน รวมกันได้ 36 ผลคูณของเลข 2 จานวนหลัง


จะมีค่าเท่าไร
ก. 120
ข. 132
ค. 140
ง. 168 
2

ข้อ 5.)

ก. ถ้าค่าในสดมภ์ ก. มากกว่าค่าในสดมภ์ ข. 
ข. ถ้าค่าในสดมภ์ ข. มากกว่าค่าในสดมภ์ ก.
ค. ถ้าค่าในสดมภ์ ก. เท่ากับค่าในสดมภ์ ข.
ง. ถ้าไม่สามารถสรุปได้วา่ ค่าในสดมภ์ ก. หรือสดมภ์ ข. มีค่ามากกว่ากัน

ข้อ 6.)

ก. ถ้าค่าในสดมภ์ ก. มากกว่าค่าในสดมภ์ ข.
ข. ถ้าค่าในสดมภ์ ข. มากกว่าค่าในสดมภ์ ก.
ค. ถ้าค่าในสดมภ์ ก. เท่ากับค่าในสดมภ์ ข. 
ง. ถ้าไม่สามารถสรุปได้วา่ ค่าในสดมภ์ ก. หรือสดมภ์ ข. มีค่ามากกว่ากัน
3

การผลิตรถยนต์ปี 2548 – 2549


หน่วย : คัน
อัตราการเปลี่ยนแปลง
ประเภท ปี 2549 ปี 2548
(ร้อยละ)
1. รถยนต์นัง่ 149,753 ? 13.43
2. รถโดยสาร > 10 ตัน 171 197 ?
3. รถกระบะ 436,160 376,330 15.99
3.1 รถกระบะ < 1 ตัน 431 680 ?
3.2 รถกระบะ > 1 ตัน 435,729 375,650 15.99
4. รถบรรทุก ? ? -3.34
4.1 รถบรรทุก < 5 ตัน 3,531 3,728 -5.28
4.2 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน 2,475 2,400 3.13
4.3 รถบรรทุก > 10 ตัน ? 5,655 -4.79
รวม 597,474 520,335 ?

ข้อ 7.) ในปี 2549 มีการผลิตรถยนต์นั ่งเพิ่มจากปี 2548 ประมาณกี่คนั


ก. 13,200
ข. 17,700 
ค. 20,100
ง. 24,400

ข้อ 8.) ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง


ก. ในปี 2549 มีการผลิตรถยนต์นัง่ ประมาณ 1 ใน 4 ของการผลิตรถยนต์โดยรวม
ข. ปี 2548 – 2549 มีการผลิตรถกระบะรวมประมาณร้อยละ 83 ของการผลิตรถยนต์ท้งั หมด 
ค. ในปี 2548 มีการผลิตรถกระบะมากกว่า 1 ตัน เป็ นจานวนประมาณ 552 เท่าของการผลิตรถ
กระบะน้อยกว่า 1 ตัน
ง. ในปี 2549 การผลิตรถโดยสารมากกว่า 10 ตันและการผลิตรถกระบะน้อยกว่า 1 ตัน มีอตั ราการ
เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกัน
4

คาสั ่ง จงเลือกคู่ของคาจากตัวเลือก 1. – 4. ที่มีความสัมพันธ์กนั โดยให้สอดคล้องกับคาคู่แรก


มากที่สุด

ข้อ 9.) ธุรกิจ : ค้าขาย : : ? : ?


ก. ครู : นักเรียน
ข. ศิลปิ น : นักแสดง 
ค. แพทย์ : พยาบาล
ง. ชานาญ : เชี่ยวชาญ

ข้อ 10.) ความร้อน : ไฟ : : ? : ?


ก. ความมุ่งมัน่ : ความอดทน
ข. ความเกียจคร้าน : ความฟุ่มเฟื อย
ค. ความสาเร็จ : ความพยายาม 
ง. ความปลอดภัย : ความประมาท
5

คาสั ่ง ตั้งแต่ขอ้ 11 ถึงข้อ 12 ในแต่ละข้อจะประกอบด้วยเงื่อนไขหรือข้อมูลที่กาหนดให้ และข้อสรุป


เป็ นคู่ ๆ จากเงื่อนไขนั้น ให้ศึกษาเงื่อนไขที่กาหนดให้ก่อน แล้วจึงอาศัยความรูท้ ี่ได้จากเงื่อนไข
ดังกล่าวมาใช้พิจารณา ข้อสรุปทั้งสองของแต่ละข้อ
เงื่อนไข
- พีระพล กุลวิทย์ และอิทธิ เลือกซื้ อขนมมารับประทานคนละ 2 ชนิด ไม่ซ้ ากัน
- ขนมที่ท้งั สามคนซื้ อได้แก่ ทองหยอด ถั ่วตัด ฝอยทอง และ ข้าวตู ทั้งนี้ ชื่อคนและขนมไม่ได้
เรียงกันตามลาดับ ข้างต้น
- กุลวิทย์ไม่ได้ซื้อฝอยทองและข้าวตู
- อิทธิซื้อขนมไม่เหมือนกับกุลวิทย์เลย
- มีคนซื้ อทองหยอดเพียงคนเดียว
- ขนมอย่างหนึ่งที่พีระพลซื้ อคือ ข้าวตู

ข้อ 11.) ข้อสรุปที่ 1 อิทธิซื้อทองหยอด


ข้อสรุปที่ 2 ฝอยทองเป็ นขนมที่กุลวิทย์ซื้อ
ก. ถ้าข้อสรุปทั้งสองเป็ นจริงตามเงื่อนไข
ข. ถ้าข้อสรุปทั้งสองไม่เป็ นจริงตามเงื่อนไข 
ค. ถ้าข้อสรุปทั้งสองไม่แน่ ชดั คือ ดูจากเงื่อนไขแล้วไม่สามารถสรุปได้ว่าจริงหรือไม่จริง
ง. ถ้าข้อสรุปทั้งสองมีขอ้ สรุปใดข้อสรุปหนึ่ ง ที่เป็ นจริง หรือไม่จริง หรือไม่แน่ ชดั ซึ่งไม่ซ้ากับอีกข้อสรุป
หนึ่ ง

ข้อ 12.) ข้อสรุปที่ 1 ขนมที่อิทธิพลซื้ อ คือ ข้าวตู และ ฝอยทอง


ข้อสรุปที่ 2 ขนมที่กุลวิทย์ซื้อ คือ ถั ่วตัด และ ทองหยอด
ก. ถ้าข้อสรุปทั้งสองเป็ นจริงตามเงื่อนไข 
ข. ถ้าข้อสรุปทั้งสองไม่เป็ นจริงตามเงื่อนไข
ค. ถ้าข้อสรุปทั้งสองไม่แน่ ชดั คือ ดูจากเงื่อนไขแล้วไม่สามารถสรุปได้ว่าจริงหรือไม่จริง
ง. ถ้าข้อสรุปทั้งสองมีขอ้ สรุปใดข้อสรุปหนึ่ ง ที่เป็ นจริง หรือไม่จริง หรือไม่แน่ ชดั ซึ่งไม่ซ้ากับอีกข้อสรุป
หนึ่ ง
6

คาสั ่ง ตั้งแต่ขอ้ 13 ถึงข้อ 14 ข้อสอบจะประกอบด้วยเงื่อนไข และข้อสรุปเป็ นคู่ ๆ ซึ่งอยูใ่ นรูปของ


ตัวอักษร และเครื่องหมายต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

ให้ศึกษาทาความเข้าใจกับเงื่อนไขที่กาหนดให้ และอาศัยความรูท้ ี่ได้จากเงื่อนไขดังกล่าวมาพิจารณา


ข้อสรุปทั้งสองของแต่ละข้อ

ข้อ 13.) ข้อสรุปที่ 1 A < D


ข้อสรุปที่ 2 G > A

ก. ถ้าข้อสรุปทั้งสองถูกหรือเป็ นจริงตามเงื่อนไข 
ข. ถ้าข้อสรุปทั้งสองผิดหรือไม่เป็ นจริงตามเงื่อนไข
ค. ถ้าข้อสรุปทั้งสองไม่สามารถสรุปได้แน่ ชดั ว่าถูกหรือผิดตามเงื่อนไข
ง. ถ้าข้อสรุปทั้งสองมีขอ้ สรุปใดข้อสรุปหนึ่ ง ที่เป็ นจริง หรือไม่จริง หรือไม่แน่ ชดั ซึ่งไม่ซ้ากับอีกข้อสรุป
หนึ่ ง

ข้อ 14.) ข้อสรุปที่ 1 B < D


ข้อสรุปที่ 2 A + B > C

ก. ถ้าข้อสรุปทั้งสองถูกหรือเป็ นจริงตามเงื่อนไข 
ข. ถ้าข้อสรุปทั้งสองผิดหรือไม่เป็ นจริงตามเงื่อนไข
ค. ถ้าข้อสรุปทั้งสองไม่สามารถสรุปได้แน่ ชดั ว่าถูกหรือผิดตามเงื่อนไข
ง. ถ้าข้อสรุปทั้งสองมีขอ้ สรุปใดข้อสรุปหนึ่ ง ที่เป็ นจริง หรือไม่จริง หรือไม่แน่ ชดั ซึ่งไม่ซ้ากับอีกข้อสรุป
หนึ่ ง
7

ข้อ 15.) หลายคนเข้าใจกันว่า ปะการังเป็ นพืชชนิดหนึ่ง แต่แท้จริงแล้ว ปะการังเป็ นสัตว์ที่มีคุณค่า


ต่อท้องทะเล เนื่องจากแนวปะการังจะเป็ นแหล่งที่อยู่ และเพาะพันธุส์ ตั ว์น้ านานาชนิดที่เป็ นแหล่ง
อาหารของมนุษย์ ปะการังกาเนิดทรายให้กบั ทรายหาด โดยเกิดจากการสึกกร่อนของโครงสร้าง
หินปูน ทาให้หินปูนปะการัง แตกย่อยละเอียดเป็ นเม็ดทรายที่ขาวสะอาด
ข้อใดไม่สอดคล้องกับข้อความข้างต้น
ก. สัตว์ที่มีคุณค่าต่อท้องทะเลทุกชนิ ด คือ ปะการัง
ข. ไม่มีปะการังชนิ ดใด เป็ นสัตว์ที่ไม่มีคุณค่าต่อท้องทะเล
ค. สัตว์ที่ไม่มีคุณค่าต่อท้องทะเลไม่ใช่ปะการัง 
ง. สัตว์บางชนิ ดที่มีคุณค่าต่อท้องทะเล คือ ปะการัง

ข้อ 16.) มนุษย์สมั พันธ์ระหว่างสมาชิกในสังคม มีความสาคัญเป็ นอย่างยิง่ ต่อการอยูร่ ่วมกันอย่างมี


ความสุข เพราะ เป็ นสายใยที่ทาให้สงั คมมีความเข้มแข็ง อันนาไปสู่ความมั ่นคงของสังคม
ข้อใดสอดคล้องกับข้อความข้างต้น
ก. สมาชิกในสังคมจะมีมนุ ษย์สมั พันธ์ต่อกัน ก็ต่อเมื่อสังคมมีความมัน่ คง
ข. ถ้าสมาชิกในสังคมใดไม่มีมนุ ษย์สมั พันธ์ต่อกันแล้ว สังคมนั้นย่อมอ่อนแอ 
ค. สังคมใดขาดความมัน่ คง แสดงว่าสมาชิกในสังคมนั้นไม่มีมนุ ษยสัมพันธ์ต่อกัน
ง. การอยูร่ ่วมกันอย่างมีความสุขของคนในสังคม เป็ นปั จจัยที่ทาให้สงั คมเข้มแข็งและมัน่ คง

ข้อ 17.) ข้อความใดเป็ นลาดับที่ 2


ก. สามารถนาไปใช้เป็ นเครื่องมือช่วยตัดสินใจ
ข. วิธีการคัดเลือกเพื่อหาคาตอบโดยการจัดลาดับความสาคัญ 
ค. คัดเลือกหาคาตอบที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด
ง. และต้องมีการวางกรอบความต้องการสาหรับเป็ นแนวทางการตัดสินใจไว้ล่วงหน้า

ข้อ 18.) รัฐบาลจะออกมาตรการบังคับจากัดการทิ้ งขยะและส่งเสริมการนาของที่ใช้แล้วกลับมาใช้


ใหม่ รวมทั้งออกกฎหมายอานวยความสะดวกแก่องค์กรที่ช่วยอนุรกั ษ์สิ่งแวดล้อม
สาระสาคัญของข้อความนี้ ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องใด
ก. การลดจานวนขยะ 
ข. การนาขยะมาใช้ประโยชน์
ค. การใช้ประโยชน์จากของที่มีอยู่
ง. การจูงใจให้รกั ษาสภาพแวดล้อม
8

ข้อ 19.) หากเจ้าหน้าที่ของรัฐนาผลความสาเร็จของการปฏิบตั งิ านของผูอ้ ื่นมาเป็ นของตนเอง ถือว่า


ไม่ประพฤติปฏิบตั ิตาม มาตรฐานทางจริยธรรมข้อใด
ก. ซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสานึ กที่ดี
ข. มุง่ ผลสัมฤทธิ์ของงาน 
ค. ดารงตนเป็ นแบบอย่างที่ดี
ง. คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน

ข้อ 20.) การกระจายอานาจในการตัดสินใจคืออะไร


ก. มอบอานาจในการตัดสินใจเพื่อสัง่ การให้แก่ผูด้ ารงตาแหน่ งตามสายการบังคับบัญชา 
ข. มอบอานาจในการตัดสินใจเพื่อสัง่ การให้แก่ผูด้ ารงตาแหน่ งที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการ
ดาเนิ นการ เรื่องนี้ โดยตรง
ค. มอบอานาจในการตัดสินใจเพื่อสัง่ การให้แก่ผูป้ ฏิบตั ิงานที่มีความสามารถ
ง. มอบอานาจในการตัดสินใจเพื่อสัง่ การให้แก่ผูใ้ ต้บงั คับบัญชาที่มีผลงานน่ าเชื่อถือ

Instructions: Fill in the blank.


ข้ อ 21. ) There is a high ______ of an accident when driving in heavy rain.
a. risk
b. threat 
c. danger
d. warning

ข้ อ 22.) Artists normally use only acoustic guitars to play acoustic ______ of songs.
a. sounds
b. versions
c. patterns 
d. instruments

Instructions: Choose the correct answer.


ข้ อ 23.) You can see all ___________ you need on the screen.
a. information
b. an information
c. the information 
d. of information
9

ข้ อ 24.) The seminar programme largely deals with the _________.


a. obstacles of Australian government 
b. reform of Australian public service
c. structure of Australian public facilities
d. management of Australian public service

ข้ อ 25.) The word “insight” (line 3, paragraph 2) refers to ________.


a. valuable innovations
b. a long vision
c. modern practices
d. deep understanding 

You might also like