Professional Documents
Culture Documents
321 ZA กฎระเบียบเรื่องจุลินทรีย์ปนเปื้อนและสารอื่นๆ
321 ZA กฎระเบียบเรื่องจุลินทรีย์ปนเปื้อนและสารอื่นๆ
บทนา
อาหารทุกชนิดที่ผลิต แปรรู ปหรื อจาหน่ายในประเทศอัฟริ กาใต้ รวมทั้งอาหารที่นาเข้าจาก
ต่างประเทศ จะถู กควบคุ มภายใต้ “บทบัญญัติเรื่ องอาหาร เครื่ องสาอางค์ และสารฆ่าเชื้ อ ปี 1972”
(Foodstuffs, Cosmetics and Disinfectants Act ; 1972 ; FCD) ซึ่ งเกี่ยวข้องกับมนุ ษย์โดยเฉพาะ
จากบทบัญญัติน้ ี ทาให้มีขอ้ กาหนดเฉพาะ (provision) ทางด้านมาตรฐานของจุลิน ทรี ยห์ รื อคุ ณ
ลักษณะเฉพาะของอาหาร และมีขอ้ บังคับ 2 ชุด คือ
(1) ข้อบังคับควบคุมมาตรฐานทางด้านจุลินทรี ยข์ องอาหารและวัตถุที่เกี่ยวข้อง (ข้อบังคับ
692, วันที่ 16 พฤษภาคม 1997)
(2) ข้อบังคับเกี่ยวกับนมและผลิตภัณฑ์นม (ข้อบังคับ 1555, วันที่ 21 พฤศจิกายน 1997)
นอกจากนี้ ขอ้ บังคับเกี่ ยวกับอาหารทารก เด็กอ่ อน และเด็ก (ข้อบังคับ 1130 ปี 1984)
กาหนดให้อาหารนี้ตอ้ งปราศจากจุลินทรี ยท์ ี่ทาให้เกิดโรคและ/หรื อสารพิษของมัน
ข้อบังคับในหมวด 2(1)(b)(i) ของบทบัญญัติเรื่ องอาหาร เครื่ องสาอางค์และสารฆ่าเชื้ อ
กาหนดว่าอาหารทุกชนิดควรจะต้องไม่มีเชื้ อจุลินทรี ยใ์ นระดับที่เป็ นอันตรายต่อมนุษย์เมื่อบริ โภค
จะต้องระลึ กว่าเชื้ อจุลินทรี ยใ์ นอาหาร ไม่จาเป็ นต้องเป็ นตัวบ่งชี้ อนั ตรายต่อผูบ้ ริ โภค พืช
และสัตว์เป็ นแหล่งดั้งเดิมหลักของอาหารที่เรารับประทาน ตามธรรมชาติมีจุลินทรี ยอ์ ยู่ร่วมกับพืช
และสัตว์ ดังนั้นแสดงว่าในอาหารก็จะมีจุลินทรี ยอ์ ยูด่ ว้ ย
อาหารจะมีเชื้ อจุ ลินทรี ยท์ ี่เป็ นอันตรายต่อผูบ้ ริ โภค ถ้าอาหารนั้นไม่ได้รับการผลิ ตและ
เก็บรักษาอย่างถู กสุ ขลักษณะ ทาให้มีเชื้ อที่ทาให้คนเกิ ดโรคปนเปื้ อนจากคนหรื อจากสิ่ งแวดล้อม
เช่น จากสัตว์ที่ป่วยเป็ นโรคเต้านมอักเสบ (mastitis) หรื อโรคแอนแตรกซ์ (anthrax) เมื่ออาหารนั้น
อยูใ่ นสภาวะที่เชื้ อโรคเจริ ญได้ ก็จะเป็ นพาหะในการถ่ายทอดโรคเซลโมเนลโลซี ส (salmonellosis)
จุ ลิ นทรี ย ์ที่ เป็ นตัวบ่ ง ชี้ มี ป ระวัติ ก ารใช้แสดงการมี เชื้ อโรคที่ มาจากล าไส้ เนื่ องจากการ
ปนเปื้ อนของอุจจาระ จุดประสงค์หลักของการใช้จุลินทรี ยท์ ี่เป็ นตัวบ่งชี้ คือ เพื่อแสดงสภาวะที่ผลิต
อาหาร ทาให้เข้าใจว่าอาจจะมีแนวโน้มของเชื้ ออันตรายในอาหารประเภทเดี ยวกันนี้ ได้ ถึ งแม้วา่ ใน
ตัวอย่างที่นามาตรวจไม่พบเชื้อโรคนั้นก็ตาม
จุลินทรี ยท์ ี่ เป็ นตัวบ่งชี้ ต่อไปนี้ ได้รับการใช้อย่างเป็ นสากล เพื่อตรวจสภาวะที่ อาหารได้
สัมผัสระหว่างการจัดการ
1. ปริ มาณจุ ลินทรี ย์ในจานเลีย้ งเชื้ อ (Plate Counts, total viable counts/ aerobic
mesophilic plate counts)
จานวนแบคทีเรี ยที่ มีชีวิต ตรวจโดยเลี้ ยงเชื้ อจากตัวอย่างอาหารที่ ตอ้ งการนามาตรวจซึ่ ง
ได้รับ การเจื อจางแล้ว ส่ วนมากอาหารที่ ใ ช้เลี้ ย งเชื้ อแบคที เรี ยที่ มี ชี วิตวิธี น้ ี เป็ นนิ วเตรี ย นเอการ์
(Nutrient agar) นาจานเลี้ยงเชื้อไปบ่มในสภาวะแวดล้อมที่กาหนด จานวนแบคทีเรี ยที่นบั ได้จะเป็ น
แบคทีเรี ยพวกที่ชอบเจริ ญภายใต้สภาวะแวดล้อมที่เลือกไว้น้ นั สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่ งแวดล้อมที่มี
ผลต่อการเจริ ญเติบโตของแบคทีเรี ยได้ เช่น เปลี่ยนชนิดของอาหารเลี้ยงเชื้ อ เปลี่ยนสิ่ งแวดล้อมของ
แกสที่ใช้บ่มเชื้ อ เช่น อาจบ่มในสภาวะมีออกซิ เจนหรื อไม่มี หรื อเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและเวลาใน
การบ่ม ส่ วนมากการนับจุลินทรี ยแ์ บบเพลทเคาท์ (plate count) จะนับจานวนจุลินทรี ยท์ ี่ตอ้ งการ
อากาศและชอบเจริ ญที่อุณหภูมิปานกลาง (aerobic mesophilic counts)
ถ้ า มี จ านวนเชื้ อจุ ลิ น ทรี ย์ ม ากในอาหารแปรรู ป แสดงว่ า อาหารนั้ นไม่ ส ะอาด
(unwholesome) ถึงแม้วา่ ยังไม่ทราบจุลินทรี ยน์ ้ นั ทาให้เกิดโรค เนื่ องจากการมีจุลินทรี ยจ์ านวนมาก
ในอาหารที่ เก็บไว้ได้นาน (shelf-stable) แสดงว่าอาหารนั้นผลิ ตจากวัตถุ ดิบที่ มีเชื้ อปนเปื้ อนสู ง
รวมทั้งไม่ได้เก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิและเวลาที่เหมาะสม
สาเหตุของปั จจัยที่ทาให้มีเชื้อจุลินทรี ยจ์ านวนมากเกินไปในนม เพราะ
- ไม่ได้ลา้ งอุปกรณ์รีดนมให้สะอาดก่อนและหลังใช้รีดนม
- ไม่ได้ปรับอุณหภูมินมให้เย็นเพียงพอ หรื อไม่รักษาอุณหภูมิของนมไว้ให้เย็นเพียงพอ
- นมถู กปนเปื้ อนจากมือ น้ าที่ใช้ระหว่างการจัดการผลิ ต ภาชนะบรรจุ และมลพิษจาก
สิ่ งแวดล้อม เช่น ฝุ่ นละออง
- เต้านมติดเชื้อโรค เช่น โรคเต้านมอักเสบ (mastitis) และ
- นมมีอายุนานเกินไป หรื อ ถูกเก็บไว้นานเกินไป
2. แบคทีเรียตัวบ่ งชี้ทเี่ ป็ นจุลนิ ทรีย์จากลาไส้ (Enteric Indicator bacteria)
การมีแบคทีเรี ยจากลาไส้ (Enteric bacteria) เช่น โคลิฟอร์ ม (coliform) และ อี โคไล (E.
coli) ได้เป็ นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็ นตัวบ่งชี้ (indicator) ของการปนเปื้ อนจากอุ จจาระ
ดัง นั้น จึ ง เป็ นตัวบ่ ง ชี้ ข องความเป็ นไปได้ที่ จะมี เชื้ อโรคที่ มี แหล่ ง ที่ อยู่ด้ ัง เดิ ม จากล าไส้ (enteric
origin) เช่ น เซลโมเนลลา ปนเปื้ อนอยู่ อี โคไล เป็ นจุลินทรี ยท์ ี่ใช้บ่งชี้ โอกาสที่จะมีเชื้ อโรคจาก
ลาไส้ (enteric pathogen) ปนเปื้ อนในน้ า กุง้ -ปู-หอย (shellfish) นม ผลิตภัณฑ์นม และอาหารอื่นๆ
การนับจานวนอี โคไล ในน้ าจะทาให้สามารถวัดระดับมลพิษ (pollution) ได้ ปั จจัยเช่ นการเพิ่ม
ปริ มาณเซล (multiplication) การตาย การเกาะของเชื้อแบคทีเรี ยบนอนุภาคอาหารจะมีผลต่อปริ มาณ
ที่พบในอาหาร อย่างไรก็ตามการมี อี โคไล จานวนมากในอาหารโดยทัว่ ไปแสดงว่าอาหารนั้นยัง
ไม่ได้รับการทาความสะอาดเพียงพอและเก็บรักษาไว้อย่างไม่เหมาะสม การมี อี โคไล ในอาหาร
ไม่ได้แนะนาโดยตรงว่ามีเชื้อโรค เพียงแต่บอกเป็ นนัย (implies) ว่ามีความเสี่ ยงระดับหนึ่ งว่าอาจจะ
มี
ในทางปฎิบตั ิโดยทัว่ ไป การตรวจหาโคลิฟอร์ มรวมทั้ง อี โคไล ใช้สาหรับกลัน่ กรองว่า มี
เหตุผลที่จะพิจารณาได้วา่ มีแนวโน้มของการปนเปื้ อนจากอุจจาระหลังจากตรวจพบโคลิฟอร์ มหรื อ
เอนเตอโรแบคทีเรี ยเซี ยอี (Enterobacteriaceae) อื่นๆ แล้ว ก็ตอ้ งทาการทดสอบต่อไปว่า มีเชื้ อ อี
โคไล อยูใ่ นกลุ่มโคลิฟอร์ มหรื อเอนเตอโรแบคทีเรี ยเซี ยอีน้ นั หรื อไม่
ถึงแม้วา่ การมีโคลิฟอร์มและ อี โคไล จานวนมากในอาหารจะไม่เป็ นสิ่ งที่พึงปรารถนาก็ตาม
แต่ความจริ งแล้วเป็ นไปไม่ได้ที่จะกาจัดเชื้ อเหล่ านี้ ไปจากอาหารสดและอาหารแช่ แข็งได้ท้ งั หมด
คาถามพื้นฐานเกี่ยวกับจานวนเชื้ อเหล่านี้ คือ จะต้องมีจานวนโคลิฟอร์ มหรื อ อี โคไล จานวนเท่าไร
จึงจะทาให้อาหารไม่ปลอดภัย (unsafe)
ในอาหารที่ตอ้ งมีความเข้มงวดมาก อนุญาตให้มีโคลิฟอร์ มได้ในช่วงตั้งแต่ 1 ถึงไม่เกิน 100
/กรัม หรื อ มิลลิ ลิตร ข้อควรจา คื อ มีขอ้ จากัดในการใช้โคลิ ฟอร์ มเป็ นตัวบ่งชี้ ความปลอดภัยของ
อาหาร แต่ได้แนะนาให้ใช้โคลิ ฟอร์ มในการประเมิ นสุ ขอนามัย (sanitation) ว่าเพียงพอหรื อไม่
อย่างไรก็ตามการทดสอบโคลิ ฟอร์ มไม่ถูกแนะนาให้ใช้เป็ นตัวบ่งชี้ การปนเปื้ อนของอุจจาระ แต่
ควรใช้ประเมินสุ ขอนามัยของฟาร์ มโคนมหรื อโรงงาน จานวนโคลิ ฟอร์ มในอาหารแช่แข็งหรื อผัก
ลวกไม่ได้บ่งบอกค่าทางสุ ขอนามัย (no sanitation value) เชื้ อจุ ลินทรี ยน์ ้ ี มกั อยู่ร่วมกับพืชโดย
ธรรมชาติอยูแ่ ล้ว และไม่ได้บ่งชี้ วา่ มีการปนเปื้ อนจากอุจจาระ ดังนั้น อี โคไล จึงเป็ นตัวบ่งชี้ เพียง
เชื้ อเดี ย วที่ ใ ช้แสดงว่า ผัก สดและนมมี ก ารปนเปื้ อนของอุ จจาระ ส าหรั บ เชื้ อแบคที เรี ย เอเตอโร
แบคทีเรี ยเซี ยอีส่วนมากในอาหารพวกเนื้ อสด จะมาจากการปนเปื้ อนของอุจจาระ และถ้ามีเชื้ อนี้
จานวนมากก็แสดงว่าไม่ได้รับการจัดการที่ ถูกสุ ขอนามัยเพียงพอและ/หรื อเก็บรั กษาไว้อย่างไม่
เหมาะสม การทดสอบมาตรฐานโคลิฟอร์ มไม่เหมาะสมสาหรับเนื้ อ แต่ในเนื้ อทดสอบ (test) หาโค
ลิฟอร์มที่มาจากอุจจาระ (faecal coliforms) จะมีค่ามากกว่า
การตรวจหาโคลิ ฟ อร์ ม ได้ใ ช้ อ ย่า งกว้า งขวางในการตรวจสุ ข อนามัย ของกุ้ง -หอย-ปู
(shellfish sanitation) อย่างไรก็ตามเชื้ อนี้ ไม่ได้เป็ นเชื้ อที่ใช้ทานายคุณภาพด้านสุ ขอนามัยได้ดีเสมอ
อย่างไรก็ตามโคลิฟอร์ มก็ได้รับการพิสูจน์วา่ เป็ นตัวบ่งชี้ ของความปลอดภัย (Safety indicator) ใน
อาหารบางชนิด โคลิฟอร์มใช้ได้ดีในการควบคุมความปลอดภัยของระบบเอชเอซีซีพี (HACCP)
อุณหภูมิสูงในระหว่างการเก็บนมหรื อขนส่ ง
ถ้าผลการทดสอบเป็ นบวกติดกัน 2 ครั้ง ภายในช่วงเวลา 1 เดือน ควรตรวจเลือดของสัตว์
ในฝูง
ข้ อควรจา
1. แปลผลการทดสอบจากเกณฑ์มาตรฐานทั้งหมดรวมกัน ไม่ควรแปลผลเฉพาะการทดสอบแต่
ละชนิดแยกกัน เช่น การแปลผลเฉพาะปริ มาณแบคทีเรี ยทั้งหมด
2. ไม่ควรเน้นการแปลผลจากจานวนแบคทีเรี ยทั้งหมด แต่ควรจะคานึ งถึงว่าในแบคทีเรี ยทั้งหมด
นั้น ประกอบด้วยแบคทีเรี ยชนิดใดบ้าง เท่าที่จะเป็ นไปได้
3. ให้ ยึด มาตรฐานตามที่ ก ฎหมายก าหนดเป็ นหลัก ในการตัดสิ นใจในกรณี เ มื่ อ ตรวจพบการ
ปนเปื้ อนจากอุจจาระ และจุลินทรี ยท์ ี่ทาให้เกิดโรค
4. ใช้จานวนแบคทีเรี ยทั้งหมดและจานวนโคลิฟอร์ มประเมินคุณภาพ สุ ขอนามัย แล้วตัดสิ นใจว่า
ควรจะให้การฝึ กอบรมหรื อให้ความรู ้แก่ผปู ้ ฏิบตั ิการแปรรู ประดับไหน
5. ถ้าผลการตรวจทางด้านจุลินทรย์ไม่เป็ นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกาหนด ให้ไปดาเนิ นการ
ตรวจสุ ขอนามัยบริ เวณโรงงาน ขั้นตอนกระบวนการแปรรู ปและให้คาแนะนา แก้ไข ปรับปรุ ง
6. ให้เก็บตัวอย่างใหม่ไปตรวจ
7. ขอคาแนะนาจากเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบตั ิการผูท้ าการวิเคราะห์ หรื อปรึ กษานักจุลชีววิทยาในกรม
สาธารณสุ ข (Department of Health, กองควบคุมอาหาร (Directorate : Food Control)
8. ถ้าผลิตภัณฑ์ไม่ได้คุณภาพตามกฎหมายและมีความเสี่ ยงต่อสุ ขภาพของผูบ้ ริ โภคให้ตดั สิ นใจ
ระงับการจาหน่าย
สรุ ป (Conclusion)
แนะนาให้ตอ้ งมีการตรวจวิเคราะห์อาหารที่มีเกณฑ์มาตรฐานกาหนดไว้ในกฎหมาย เพื่อจะ
ได้มีการดาเนิ นการขั้นต่อไป เช่น ให้การศึกษาแก่ผทู ้ างานเกี่ ยวข้องกับอาหาร ผูท้ าการผลิ ตอาหาร
หรื อดาเนิ นการทางกฎหมาย จะต้องระลึ กไว้เสมอว่าต้องเก็บตัวอย่างอาหารด้วยวิธีปลอดเชื้ อ เพื่อ
นาไปวิเคราะห์ เชื้ อจุลินทรี ยส์ าหรับการแปลผลด้วยความรอบคอบก่ อนที่จะดาเนิ นการขั้นต่อไป
ยกตัวอย่าง อาหารดิบ เช่น เนื้ อสัตว์หรื อสัตว์ปีก ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ มีแนวโน้มที่จะมีเชื้ อจุลินทรี ย ์
จานวนมาก รวมทั้งเชื้ อโรคที่มาจากลาไส้ แต่อาหารเหล่ านี้ จะไดรับการฆ่าเชื้ อด้วยความร้ อนใน
ขั้นตอนต่อไปก็ตอ้ งนามาพิจารณาด้วย สิ่ งสาคัญที่ตอ้ งจาไว้วา่ มีสุขอนามัยที่ดีของสถานที่ประกอบ
อาหาร เป็ นสิ่ งส าคัญที่ สุ ดอย่า งหนึ่ ง ที่ จะท าให้แน่ ใจได้ว่า อาหารจะมี ค วามปลอดภัยเมื่ อสิ้ นสุ ด
กระบวนการแปรรู ป
ในที่ สุ ด ถึ ง แม้ว่ า การสุ่ ม ตัว อย่ า งผลิ ต ภัณ ฑ์ สุ ด ท้า ยเพื่ อ น าไปวิ เ คราะห์ ม าตรฐานตาม
กฎหมาย เป็ นสิ่ ง ส าคัญต่ อความปลอดภัย ของอาหารอย่า งมาก ควรยืนยันส่ ง เสริ ม ให้นาระบบ
ป้ องกัน เช่น เอชเอซีซีพี (HACCP) มาใช้ในการควบคุมความปลอดภัยของอาหาร
นิยามคาศัพท์ (Glosary)
Aerobic (แอโรบิค) การเจริ ญเติบโตในบรรยากาศที่มีออกซิเจน
Coliform (โคลิฟอร์ม) แบคที เรี ย กรั ม ลบ รู ปร่ า งเป็ นแท่ง เจริ ญได้ในสภาพมี
อากาศและไม่มีอากาศ (facultative) หมักน้ าตาลแลค
โตส สร้างแกส
Enterobacteriaceae (เอนเตอโรแบคทีเรี ยเซี ยอี ) แบคทีเรี ยกรับลบ รู ปร่ างเป็ นแท่งตรง บางชนิ ด
เคลื่อนที่ได้ดว้ ย ตัวเองบางชนิ ดเคลื่ อนที่ ดว้ ยตัวเองไม่ได้ เจริ ญ
ได้ในสภาวะที่มี อากาศและไม่มีอากาศ (ใช้กบั จุลินทรี ยท์ ี่อาศัย
อยูใ่ นระบบ ลาไส้)
Enterotoxin (เอนเตอโรทอกซิน) สารพิ ษ โดยเฉพาะสารพิ ษที่ ก ระทบกระเทื อนต่ อเซล
ของเยื่อบุ ล าไส้ (intestinal mucosa) ท าให้อ าเจี ย น
(vomiting) และ ท้องร่ วง (diarrhea)
Food hygiene (ฟูด ไฮยีน) การควบคุ มทุ ก ชนิ ดเพื่ อท าให้อาหารมี ความปลอดภัย
สะอาดและมี ป ระโยชน์ อ ย่า งสมบู ร ณ์ ในทุ ก ขั้น ตอน
ตั้ ง แ ต่ เ พ า ะ เ ลี้ ย ง เ ก็ บ เ กี่ ย ว แ ล ะ ผ ลิ ต ใ น ร ะ ดั บ
อุตสาหกรรม จนกระทัง่ บริ โภคในขั้นสุ ดท้าย
Immunocompromised (อิ ม มู โ นคอมพรอไมส์ ด )คื อ คนที่ มี ร ะบบภู มิ คุ้ม กัน ไม่ ส ามารถสร้ า ง
แอนติบอดีตอบสนอง ต่อแอนติเจนเฉพาะได้
ภาคผนวก A
ข้อสรุ ปของคุณลักษณะเฉพาะด้านจุลินทรี ยใ์ นกฎหมายปั จจุบนั
A. ข้ อบังคับเพื่อควบคุมมาตรฐานด้ านจุลนิ ทรีย์ในอาหารและผลิตภัณฑ์ ทเี่ กีย่ วข้ อง (R.692, 16 พฤษภาคม 997)
ประเภทอาหาร การวิเคราะห์ ปริมาณที่กฎหมายกาหนด
มะพร้าวแห้ง (Desiccated coconut) Salmonella 0 / กรัม
Shigella 0 / กรัม
Coagulase-positive
Staphylococcus aureus 0 / กรัม
น้ าตาลสาหรับทาผักกระป๋ องและ ผลิตภัณฑ์อื่นๆ จุลินทรี ยท์ ้ งั หมด (Total viable counts) < 100 / 10 กรัม
Escherichia coli
Clostridium perfringens 0 / 20 กรัม
จุลินทรี ยท์ ี่ทาให้อาหารทีมีสารประกอบซัลเฟอร์ 0 / 20 กรัม
เป็ นองค์ป ระกอบเน่ า เสี ย (Sulphate spoilage < 10 / 100 กรัม
organisms)
เจลาตินสาหรับบริ โภค (edible gelatin) จุลินทรี ยท์ ้ งั หมด < 1000 / กรัม
E. coli 0 / 0.1 กรัม
Clostridium species 0 / 0.1 กรัม
Salmonella 0 / กรัม
ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลและอาหารจากน้ าจืดที่ยงั ดิ บ Histamine < 10 mg / 100 กรัม
(uncooked) / สุ กเป็ นบางส่ วน (partly cooked) เช่น สารปฎิชีวนะ (antibiotics) 0
กุง้ นางน้ ากร่ อย (prawns), กุง้ เล็กหางยาว(shrimps), Salmonella 0 / 20 กรัม
กุง้ นาง(คล้ายกุง้ ก้ามกรามแต่ตวั เล็กกว่า, crayfish) Shigella 0 / 20 กรัม
กุง้ ก้ามกราม(lobsters), เนื้ อปู (crab meat), หอย Vibrio cholerae 0 / 20 กรัม
นางรม (osters), หอยกาบ (clams), หอยแมลงภู่ Vibrio parahaemolyticus 0 / 20 กรัม
(mussels), ปลาไหล (ells) และปลา Coagulase-positive S. aureus 0 / 20 กรัม
จุลินทรี ยท์ ้ งั หมด 1,000,000 / กรัม
หอยนางรม หอยแมลงภู่ หอยกาบ E. coli Type I < 500 / 100 กรัม
กุง้ นางน้ ากร่ อย กุง้ เล็กหางยาว กุง้ นางน้ าจืด เนื้อปู E. coli Type I < 10 / 100 กรัม
ปลาไหล ปลา
ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลและอาหารจากน้ าจืดที่สุก Histamine < 10 mg / 100 กรัม
แล้ว : กุง้ นางน้ ากร่ อย กุง้ เล็กหางยาว กุง้ นางน้ าจืด สารปฏิชีวนะ 0
กุง้ ก้ามกราม เนื้อปู หอยนางรม หอยกาบ Salmonella 0 / 20 กรัม
หอยแมลงภู่ ปลาไหล และปลา Shigella 0 / 20 กรัม
E. coli Type I 0 / 20 กรัม
V. cholerae 0 / 20 กรัม
V. parahaemolyticus 0 / 20 กรัม
Coagulase-positive S. aureus 0 / 20 กรัม
จุลินทรี ยท์ ้ งั หมด 1,000,000
Coliform อื่นที่ไม่ใช่ E. coli 1000 / 100 กรัม
* พิมพ์สาหรับประชาพิจารณ์
# นี่เป็ นการแก้ไขเสนอต่องานบริ การให้คาแนะนาด้านกฎหมายของกรม [Department’s Legal Advisory
Service (LAS)]
ภาคผนวก B
คุณลักษณะเฉพาะทางด้ านจุลชี ววิทยาทีเ่ สนอให้ ใช้ เป็ นคาแนะนา (guidelines) สาหรับอาหาร
ชนิดอาหาร (Food type) การวิเคราะห์ ปริมาณทีก่ ฎหมายกาหนด
อาหารสุกก่อนปล่อยไว้ให้เย็น (cooked จุลินทรี ยท์ ้ งั หมด < 10,000 / กรัม
items before cooking) :อาหารประเภทเพ โคลิฟอร์ม < 10 / กรัม
สตรี (pastry) ผักเป็ นชุดจานวนมาก (bulk E. coli 0 / กรัม
vegetables) ชิบมันฝรั่งทอด (deep fried สายพันธุ์ Salmonella
potato chips) พิซซา (pizza) อาหารแช่แข็ง (Salmonella species) 0 / 25 กรัม
พร้อมบริ โภค (ready-to-eat frozen meals) S. aureus < 10 / กรัม
แยมกระป๋ อง (tinned jam) ผักกระป๋ อง C. perfringens < 10 / กรัม
(canned vegetables) และไขมันก้อน (fat Bacillus species ตามชนิดของอาหาร (as
cakes) applicable) < 10 / กรัม
L. monocytogenes 0 / 25 กรัม
Campylobater ตามชนิดของอาหาร (as 0/ 25 กรัม
applicable)
อาหารบริ โภคขณะเย็น (Cold meal จุลินทรี ยท์ ้ งั หมด < 200,000 / กรัม
items) : เนื้อเย็น (cold meats), เนื้อแปรรู ป โคลิฟอร์ม < 200 / กรัม
(processed meats) เช่น ไส้กรอกเวียนนา ยีสต์และรา < 1,000 / กรัม
(viennas) โพโลนี (polony) สายพันธุ์วบิ ริ โอ ตามชนิดของอาหาร
ผักแห้ง (dried vegetable) แฮมและสลัดมัน (Vibrio species, as applicable) 0 / 25 กรัม
ฝรั่งพร้อมมายองเนส (ham and potato E. coli 0 / กรัม
salad with mayonnaise) Salmonella species 0 / 25 กรัม
S. aureus < 100 / กรัม
C. perfringens < 100 / กรัม
Bacillus species < 100 / กรัม
Campylobacter (as applicalbe) 0 / 25 กรัม
L. monocytogenes < 10 / กรัม
อาหารรมควันหรื ออาหารหมักที่บริ โภค จุลินทรี ยท์ ้ งั หมด < 200,000 / กรัม
ขณะเย็น (Cold smoked or fermented meal โคลิฟอร์ม < 200 / กรัม
items) : ซาลามี (salami) เบคอน ขนมปัง ยีสต์และรา < 10,000 / กรัม
ก้อน (buns) ขนมปั ง อาหารเนื้อประเภท E. coli 0 / กรัม
รมควัน (smoked cold meat) และไข่ปลา สายพันธุ์ Salmonella 0 / 25 กรัม
คาเวียร์ (caviar) S. aureus < 100 / กรัม
C. perfringens < 100 / กรัม