Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 30

ตารางแสดงการเปรียบเทียบพยัญชนะ {consonant} ในภาษาอังกฤษ กับภาษาไทย

พยัญชนะอังกฤษและ เทียบกับพยัญชนะไทย ตัวอย่าง


พยัญชนะกลํา◌้
B บ Bandage {แบ้นดิ่จ}ผ้าพันแผล

C ค Cure {คิ้วเอ่อร์} รักษาให้หาย


{Soft c } ซ Circle {เซ้อเคิ่ล} วงกลม
Ch ช Chance { แชนส} โอกาส
ค Chronic (คร้อนิ ค) เรื้ อรัง
Ck ค {เสียงท้ายคํา} Check {เช็ค} ตรวจสอบ

D ด Dentist {เด้นติสท์} หมอฟัน


พยัญชนะอังกฤษและพยัญชนะกลํา◌้ เทียบกับพยัญชนะไทย ตัวอย่าง
Dh ด Buddhist {บ้◌ุดดิซท์} พุ ทธศาสนิกชน

F ฟ Faint {เฟ้ นท์} สลบ


G ก Gain {เกน} ได้รับ
จ Ginger {จิ๊นเจ่อร} ขิง
Ge จ Charge {ชาจ} ภาระ,ความรับผิดชอบ

Gh ฟ Tough {ทัฟ} บึกบึน


ก Ghetto { เก๊ทโต่} สลัม
H ฮ House {เฮาส์} บ้าน
J จ Job {จอบ} งาน
K ค King { คิง } กษัตริ ย ์
L ล Like { ไลค์ } ชอบ
M ม Mood { มูด } อารมณ์
N น Neurologist {นู รอ้ เล่อจีสท์} นัก
ประสาทวิทยา
พยัญชนะภาษาอังกฤษ และพยัญชนะกลํา◌้ เทียบกับพยัญชนะภาษาไทย ตัวอย่าง

Ng ง Swelling {สเว้ลหลิ่ง} บวม,บวมแป่ ง

Nk งค์ Sink {ซิงค์} จม


P พ Pink {พิงค์} สีชมพู
Ph ฟ Physician {ฟิซ้ กิ เฉี่ยน} แพทย์อายุรเวช

Qu คว Quarter {คว้อเด่อร์} 1 ใน 4 ส่วน , 25


เซ็นต์
R ร Recover {รีคอ้ ฟเว่อร์} ทุเลา

S ส หรื อ ซ Surgeon {เซ้อเจิ่น} หมอศัลยกรรม

Sh ช Shine { ชายน์} ส่องแสง


T ท Treatment { ทรี้ทเหมิ่น } วิธกี ารรักษา

Th ด They {เดย์} พวกเขา


พยัญชนะภาษาอังกฤษ และพยัญชนะกลํ้า เทียบกับพยัญชนะภาษาไทย ตัวอย่าง

V ว Vertigo { เว้อติโก่}
อาการวิงเวียนศรีษะ
ve ฟ Have {แฮฟ} มี
W ว Wound {วูนด์} บาดแผล

X ซ, คซ์ ี
Xerox {ซ้หรอคซ์ } ถ่ายเอกสาร
X ray { เอ๊คซ์ เรย์ } ภาพถ่ายด้วยรังสีเอ๊กซ์}

Y ย Yield { ยีลด์} ยินยอม

Z ซ Zoster { ซ้อสเสต่อร์} โรคงูสวัด

St สต Steak { สเต็กค } เนื้ อวัวสันใน

Sk สก Sky { สกาย } ท้องฟ้ า

Sp สป Spread { แพร่ กระจาย,ปู, ทาหรื อป้าย ให้เสมอๆกัน


}
การเปรียบเทียบสระ {Vowel}ในภาษาอังกฤษกับภาษาไทย
สระ คําอ่าน เทียบกับสระภาษาไทย ตัวอย่าง
ภาษาอังกฤษ

A เอ เออิ {ei}, สระควบ Gate { เกท } ประตูรั้ว


อา Garlic { ก้าหลิค} กระเทียม
ออ { ออกเสียงสัน้ } Call { คอล } เรียก, โทรศัพท์ไปหา
อะ About { อะบาวท } เกี่ยวกับ
แ-ะ Gap { แกพ } ช่องว่าง

E อี เ- ะ Pet {เพ็ท} สัตว์เลี้ยง


อี Feed {ฟีด} เลี้ยงดู
อิ pretty { พริ ทติ} น่ารัก, งดงาม
โอ Sew { โซว} เย็บ
เออะ Expert {เอ๊คซ์เปิ ดร์ท} เชี่ยวชาญ, วิทยากร

I อาย อิ Fit { ฟิท } พอดี


Sit { ซิท } นั่ง
อี, Ski { สกี } เล่นสกี
อาย { Ai } สระควบ Fight { ไฟท์} ความสู ง
high { ฮาย } สู ง
การเปรียบเทียบสระในภาษาอังกฤษกับภาษาไทย

สระ คําอ่าน เทียบกับสระภาษาไทย ตัวอย่าง


ภาษาอังกฤษ
O โอ โ- Cold { โคลด์} หนาว
-ออ Colleague{ค้อลหลีก}เพื่อนร่วมงาน
Food { ฟูด } อาหาร
อู Sailor { เซ้ลเหล่อ} ลูกเรื อ, ทหารเรื อ
เออะ

U ยู อุ Put {พุท } วาง


อู Fuel { ฟูเอ็ล} เชื้อเพลิง
อะ Puddle { พัดเดิ่ล } แอ่งนํา้ ขนาดเล็ก { เสียงเดียวกัน
กับ about}
Y วาย อิ City {ซิทติ่ } เมือง
Crystal { คริ สต่อล } ผลึก
{Ai} อาย { สระควบ} Fry { ฟราย} ทอด,
Try { ทราย } ลอง, พยายาม
การออกเสียงสระควบ 2 สระ
Diphthongs {ดิ ฟ ธ์องซ }

สระควบ คําอ่านภาษาไทย ตัวอย่าง

Ai อาย Tie { ทาย } เน๊ คไท


Time { ทาม} เวลา
Tight { ไท่ท ์ } แน่น
Cry {คราย } ร้องไห้

Au อาว Loud { ลาวด} เสียงดัง


Cow { คาว } วัวตัวเมีย
Out { เอาท} ออก

Oi ออย Noise { นอยซ} เสียง


Toy { ทอย } ของเล่น
Soil { ซอยเอ่ล} ดิน
ออกเสี ยงสระควบ 3 สระ
Triphthongs { ทริฟ ธ์องซ }

สระควบ 3 สระ คําอ่าน ตัวอย่าง


aią อายเอ่อร์ Fire { ฟ้ ายเอ่อร์} ไฟ

Liar { ล้ายเอ่อร์} คนขี้โกหก

auą อาวเอ่อร์ Hour { อ๊าวเอ่อร์ } ชัว่ โมง

Sour { ซ้าวเอ่อร์} เปรี้ยว


oią ออยเอ่อร์ Employer { เอ็มพล้อยเอ่อร์} นายจ้าง

Foyer { ฟ้ อยเอ่อร์ }

ห้องโถงในตึก โรงแรม หรื อ โรงหนัง


Y สามารถเป็ นได้ทงั้ พยัญชนะและสระและตัวสะกดเช่น
ตัวอย่างเช่น

Y ที่ทําหน้าที่เป็ นพยัญชนะ คําอ่าน ความหมาย


Year เยียร์ ปี
Yolk โยค ไข่แดง
Yes เยส ใช่

Y ที่ทําหน้าที่เป็ นสระ คําอ่าน ความหมาย


By {Ai} {เสียงควบ} บาย โดย
Friendly เฟร๊ นด์ลิ อย่างเป็ นมิตร
injury อิ๊นเจอหริ การบาดเจ็บ

Y ตามหลังพยัญชนะท้ายคํา คําอ่าน ความหมาย


Boy บอย เด็กผูช้ าย
Annoy เอิ่นนอย ทําให้รําคาญ
Say เซย์ พูด
หลักการออกเสียงคําที่เติม ed อยูห่ ลังพยัญชนะที่เป็น Voiced {วอยสท} และ Unvoiced { เอิ่นวอยสท์ } consonant
{ ค้อนเซอะเนิ่ นท}
หมายถึงพยัญชนะที่มเี สียงสั่นและไม่ส่นั ในเส้นเสียง { vocal cord }
Voiced consonant (เส้นเสี ยงใน ตัวอย่างคําศัพท์ที่เติม ED คําอ่าน / ความหมาย
ลําคอสัน่ ) ออกเสียง d ท้ายพยางค์
b Scrubed สกรับดึ { ขัดถูอย่างแรง }
g Dragged แดรกดึ { ลากจูง}
l filled ฟิลดึ { เต็ม }
m Zoomed { in / out } ซูมดึ { ทําให้ภาพใกล้หรื อไกล}
n sprained แสปรนด { เคล็ด}
r offered อ๊อฟเฝ่ อร์ดึ {อาสา, เสนอราคา }
v saved เซฟด { อดออม, ช่วยชีวิต}
w followed ฟ้ อลโหล่ดึ { ตาม, ปฏิบตั ติ าม}
z sneezed สนีซดึ { จาม }

{ สระทุกตัวเป็ น voiced เมื่อเติม ed จะออกเสียงเป็ น d }


Unvoiced consonant ตัวอย่างคําศัพท์ที่เติม ED คําอ่าน / ความหมาย
ออกเสียง t ท้ายพยางค์
( เส้นเสียงในลําคอไม่สนั ่ )
c Danced แด้นซทึ { เต้นรํา }

ch watched วอชทึ { มองดู }

f staffed สตาฟทึ { จัดหาคณะทํางาน}

gh laughed ลาฟทึ { หัวเราะ }

k parked พาร์คทึ { จอดรถ }

p hoped โฮพทึ { หวัง }

s impressed อิ่มเพรสทึ { ทําให้ประทับใจ}

sh wished วิชทึ { ปรารถนา }

x fixed ฟิคซ์ทึ { ติด, ซ่อม, กําหนด }


คําที่มพี ยัญชนะ d ลงท้าย เมื่อเติม ed จะออกเสียง did { ดิด} เช่น

depended {on} อ่านว่า ดึเพ๊นดิด ขึ้นอยูก่ บั , ไว้วางใจ


Afforded อ่านว่า อ่าฟฟ้ อดดิด สามารถหาได้, ให้ได้

คําที่มพี ยัญชนะ t ลงท้าย เมื่อเติม ed จะออกเสียงเป็ น tid {ถิด} เชน

Operated { on } อ่านว่า อ้อเปอเรทถิด ผ่าตัด


{to get} Vaccinated อ่าน แว๊กสิเนทถิด ฉี ดวัคซีน

นี่ คื อหลักการจําที่ สามารถนําไปใช้ได้ ควรฝึ กออกเสี ยงบ่อยๆเพื่ อความเคยชิ น


ฝึกอ่านตัวอย่างคําศัพท์ท่ มี าจากการผสมสระต่างๆ
คําศัพท์ เสี ยงสระ คําอ่าน ความหมาย
tea อี ที นํา◌้ ชา
bridge อิ บริ ดจ สะพาน
wave เอ เวฟ คลื่น
Guest เอะ เกสท แขกผูม้ าเยือน
fast แอะ แฟสท รวดเร็ว
fur เออร์ เฟอร์ ขนสัตว์
love อะ ลัฟ รัก
stop อา สตาพ หยุด
boot อู บูท รองเท้าบูท๊
push อุ พุช ผลัก, ดัน
toe โอ โท นิ้วเท้า
yawn ออ ยอน หาว
might อาย ไมท์ อาจจะ
about อาว อะบ้าวท เกี่ยวกับ
join ออย จอยน เข้าร่วม
Pronunciation excercise with the Ed ending sounds !
ฝึกสุ ม่ การออกเสียงลงท้ายด้วย Ed

คําศัพท์ { vocabulary } เสียง t , d หรือ id

Injected tid

Injured d

Attacked t

Attained d

Played d

Stopped t

Headed did

Banned d
Accessed t
*
การออกเสียงคําต่างๆในภาษาอังกฤษแตกต่างจากภาษาไทยคือ ในภาษาอังกฤษจะไม่ใช้วรรณยุกต์ { tone mark } เพื่อบ่ง
บอกการออกเสียงสู ง เสียงตํา◌่ แต่จะมีกฏของการออกเสียงก็คือ การ STRESS {เสียงเน้นหนัก} ซึ่งมีดงั นี้

1. Noun { คํานาม} และ Adjective { คําคุณศัพท์ } ที่มี 2 พยางค์ Stress จะอยู่พยางค์แรก เช่น

Apple { แอ๊ป เปิ่ ล } แอปเปิ้ ล


Doctor { ด๊อค เต่อ } หมอ

Happy { แฮ้พ ปี่ } มีความสุ ข


Busy { บิ๊ส สี่ } ย่◌ุง, ไม่วา่ ง

ข้อสังเกต เมื่อเทียบเสียงวรรณยุกต์ไทย ในการออกเสียงจะมีประมาณ 3 วรรณยุกต์ดว้ ยกัน คือ เอก, โท หรื อ ตรี


2. คําที่ลงท้ายด้วย ic , sion และ tion จะมี stress ตรงพยางค์
ที่ 2 นับจากท้ายคํา
เช่น
Genetic { เจิ่นเน้ติค } เกี่ยวกับพันธุ กรรม

Economic { เอ็กเคอะน้อหมิก } เกี่ยวกับเศรษฐกิจ

Occasion { เอิ่กเค้เจิ่น } โอกาส

Vacation { เวเค้เฉิ่ น } ช่วงวันหยุด

Information { อินเฝอะเม้เฉิ่ น } ข้อมูล

Pollution { โผ่ลลูเ้ ฉิ่ น} การทําให้เป็ นมลพิษ


3. คําที่ลงท้ายด้วย cy, phy, ty, gy และ al จะมี stress ตรงพยางค์ที่ 3 นับจากท้ายคํา
เช่น
Democracy { เด ม้อ ขระ สิ } ประชาธิปไตย

Photography { โฟ ท้า กระ ฝิ } การถ่ายภาพ

Society { โซ ไซ้ อะ ติ } สังคม

Geology { จิ อ้อ เหล่อ จิ } ธรณีวิทยา

Practical { แพร๊ค ติ ข่อล } ที่ข้ นี อยูก่ บั ความเป็ นจริ ง


4. คําทีี่มี 2 ส่วนหรือเรียกว่า compound words จะมี
2 กรณี คื อ
1. ถ้าเป็ น compound noun{ คําประสมที่เป็ นคํานาม} จะมี stress อยูท่ ่ สี ว่ นแรก เช่น
moonlight { มู น้ ไลท์ } แสงจันทร์
Blackboard { แบล๊คบอร์ด } กระดาษดํา
Facebook { เฟ้ สบุค} a popular website that people can share their information and chat with their
groups of friends.
2. ถ้าเป็ น phrasal verbs { กริ ยาวลี} จะมี stress อยูส่ ว่ นที่ 2 เช่น
understand { อัน เดอ สแต้นด } เข้าใจ
sit down { ซิท ด้าวน์ } นั่งลง
end up { เอ็น อัพ้ } อยูใ่ นสถานการณ์ท่ ไี ม่ได้คาดคิดมาก่อน
call on { คอล อ้อน } ไปเยี่ยม
call up { คอล อัพ้ } โทรไปหา I call my friend up.
*กลุ่มคํา 2 พยางค์ ที่ไม่ได้ออกเสียงตามกฏ คือ stress ตรงพยางค์ที่ 2 ฝึ กออกเสี ยงพยางค์ท่ี 2 ให้สูง
กว่าพยางค์แรก
Remake { รี เม้ค } ทําใหม่
Unwell { อัน่ เว้ล } ไม่สบาย
Reward { รีวอร์ด } รางวัล
Garage { กะร้าจ } โรงรถ
Massage { เมอะซ้าจ} นวด { message } แม้ส เสจ = ข่าวสาร
Retrieve { รีทรี้ฟ } เอาคืน
Hotel { โฮเท่ล } โรงแรม
Undo { อัน่ ดู ้ } ทําให้เหมือนเดิม
Bazaar { บะ ซ่า } ตลาด
Bizarre { บิ ซ่า } แปลก
Unsure { อัน่ ชัว่ } ไม่แน่ใจ
Dessert { ดี่ เซิ้ร์ท} ของหวาน
Engage { เอนเก้จ } มีสว่ นร่วม, หมัน้ หมาย
การออกเสียงสูงตํา่ { Intonation } ระดับเสียงของภาษาอังกฤษ นอกจากเสียงกลาง หรื อ เสียงสามัญแล้ว ยังมี
เสียงเปรียบเสมือนวรรณยุกต์ท่ มี องไม่เห็นคือ เสียงเอก และ เสียงโท คือ พยางค์ท่ ถี ูกเน้นหนัก หรื อ stress จะออก
เสียงในระดับเสียงโท หรื อ เสียงตรี ส่วนพยางค์ท่ ไี ม่ได้ถูก stress จะออกเสียงในระดับเสียงเอก
ตัวอย่าง
Intonation อ่านว่า อิน โท เน้ เฉิ่ น

ดังนั้นการเรียนรูก้ ฏของการ stress จึงเป็ นวิธีทที่ ําให้เราสามารถออกเสียงได้ง่ายกว่า


การจดจําเป็ นคําๆ และใช้ความรูจ้ ากประสบการณ์ …
*นํา◌้ เสียงในประโยคต่างๆ
1.ประโยคคําถาม { interrogative sentence }
ประโยคคําถามแบ่งออกได้ประมาณ 3 ชนิ ดคือ
1. yes, no question ( คําถามที่ข้ ึนต้นด้วยคํากริ ยา)

2. question words ( What, Where, When, How ect.)

3. tag question ( ........,don’t they? )


Yes, No question
ตัวอย่าง

Are you from Thailand ? อาร์ ยู ้ ฟรอม ไทแล๊นด


คุ ณมาจากประเทศไทยใช่ไหม
Yes, I am. เยส ไอ แอ้ม
No, I’m not. โน้ อัม่ น้อท

Do you like Thai food?


Yes, I do. เยส ไอ ดู ้
No, I don’t. โน ไอ โด้นท
Question words

ได้แก่ WH question ตัวอย่าง What, Where,When etc.

A: Where do you work? แว้ ดู ยู เวิรค์


คุ ณทํางานที่ไหนครับ
B : I work at the cooperative.
ผมทํางานที่สหกรณ์ครับ

A: Which cooperative do you work? ( วิช โคอ๊อพเปอะเร้ถิฟ ดู ยู เวิรค์ )


สหกรณ์ท่ ไี หนครับ
B: I work at the Anamai Surin Saving Credit Cooperative, Limited.
สหกรณ์ออมทรัพทย์อนามัยสุ รินทร์ครับ
ทัง้ หมดนี้เป็ นรู ปแบบการถามแบบปกติ แต่เวลาใช้จริ งเราสามารถเปลี่ยนเสียงสู ง-ตํ่า เพื่อเพิ่มเติมความหมายในคําถาม
ได้อกี ด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็ นคําถามที่มี question words แต่เราออกเสียงพยางค์สุดท้ายสู งเหมือนคําถาม yes/no จะมี
ความหมายว่า เราประหลาดใจหรื อเราถามไปแล้ว แต่ไม่ได้ยินคําตอบจึงถามใหม่อกี ครั้งเช่น
A : I found a diamond ! ผมเจอเพชร
{ ไอ ฟาวด อะ ได๊ เหมิ่น }

B: What did you find? คุ ณไปเจออะไรนะ


{ วอท ดิด ยู ฟ้ ายด }
B: What kind of a diamond is it? เพชรชนิ ดไหนคับ
{ วอท ไคด เอิฟ ได๊ เหมิ่น อิซ อิท }
A: It’s a blue diamond. มันเป็ นเพชรสีนํา◌้ เงิน
B: What kind of diamond is it? เพชรชนิ ดไหนนะคับ
* Tag question
เป็ นคําถามสัน้ ๆ ที่ใช้ต่อถ้ายประโยคเพื่อจะถามว่า
“ ใช่ ” หรือ “ ไม่ ” เช่น

การอ่านออกเสียงจะออกเสียงสู งพยางค์ทา้ ยหรื อ yes/no


Question เช่น
She doesn’t like drinking milk , does she? หล่อนไม่ชอบ
ดื่มนมใช่ไหม

They are here, aren’t they ? พวกเขาอยูท่ ่ นี ่ ีใช่ไหม

She can stay here, can’t she? หล่อนพักอยูท่ ่ นี ่ ีได้ใช่ไหม


เราสามารถออกเสียงตํ่าตรงพยางค์สุดท้ายเหมือนคําถาม question
words ได้ ซึ่งในลักษณะนี้จะมีความหมายในเชิงว่า เราพูดไปอย่างนั้น
เองไม่ได้ตอ้ งการคําตอบจริ งๆ

เช่น

She’s your friend,isn’t she? หล่อนเป็นเพื่อนคุณไม่ใช่หรื อ


{ ชีซ ยัวร์ เฟรนด อิซ ซึ่น ฉี่ }

He’s your boss, isn’t he? เขาเป็ นเจ้านายของคุ ณไม่ใช่หรื อ


{ ฮีซ ยัวร์ บอส อิซ ซึ่น ฮี่ }
คําถามในรูปอื่นๆ
1. ถ้ามีคนพูดแล้วเราตกใจจนต้องอุทานเป็ นคําถามกลับไป เช่น

A: I broke your labtop. เราทําเครื่ องโน๊ ตบุ คของนายพัง


{ ไอ โบร๊ ค ยัวร์ แล๊บ ถอพ }

B: You did what? นายทําอะไรนะ


{ ยู ดิด ว้อท }
A: I also ate in your bedroom. เรากินอาหารในห้องนายด้วย
{ ไอ อ๊อล โซ เอ้ท อิน ยัว เบ๊ด รู ม }

B: You ate where? นายกินที่ไหนนะ


{ ยู เอ๊ท แว้ }
2. สําหรับคําถาม yes/no ถ้าเราออกเสียงพยางค์สุดท้ายตํ่า ๆ
ความหมายจะฟังดูเหมือนว่ากําลังจริ งจังอยูน่ ะ เช่น
A: I spent all your money. ผมใช้เงินคุ ณหมดเลย
{ ไอ สเป๊ นท ออล ยัว มัน้ หนี่ }

B: Do you still love me? คุ ณยังรักฉันอยูไ่ หม


{ ดู ยู สติล เลิฟว หมี่ }
3. คําถามที่มตี วั เลือกในคําถาม เช่น

Would you like a banana, an orange, or a durian?


{ หวูด ยู ้ ไลค เอะ เบอะแน้น๊ะ แอ่น ออเร้จ ออร์ เอะ ดิ้วเหรี่ยน }
คุ ณอยากได้กล้วย ส้ม หรื อว่า ทุเรียนครับ
4. คําถามเพิ่มความแน่ใจ
Really? { รี้ล ลี้ } จริ งหรื อ
*ฝึ กพูดประโยคคําถามหลายๆแบบ
1.Are you from England? คุ ณมาจากอังกฤษใช่ไหม
2.Really? จริ งหรื อ
3.Do you like to eat apples? คุ ณชอบกินแอปเปิ้ ลไหม
4.Can you speak Thai? คุ ณพูดภาษาไทยได้ไหม
5.Ok? ตกลงไหม
6.Is she from The Philipines? เขามาจากฟิลิปปิ นส์ใช่ไหม
7.Are you hungry? คุ ณหิวไหม
8.Is this correct? นี่ถูกไหม
9.Where are you from? คุ ณมาจาก
10. How are you doing? คุ ณสบายดีไหม
11. Which one do you prefer? คุ ณชอบอันไหนมากกว่า
12.What do you do for living? คุ ณทํางานอะไร

You might also like