ฟิสิกส์60 merged

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 130

Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam

Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam


Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Sheet Exam Line: @sheetexam IG: sheet_exam FB: Sheet Exam
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 1

ข้อสอบฟิ สิกส์ 9วิชาสามัญ ปี 2563


กำหนดให้ใช้ค่ำต่อไปนี้ สำหรับกรณีที่ตอ้ งแทนค่ำตัวเลข
g = 9.8 m/s2
π = 3.14159
180O = π เรเดียน
ควำมหมำยของสัญลักษณ์ต่ำง ๆ ในโจทย์
สัญลักษณ์ log แทนลอกำริทึมฐำนสิบหรือตำมที่กำหนดในโจทย์
log 2 = 0.30, log 3 = 0.48
1 q1 q2
ใช้กฎของคูลอมบ์ในรูป F =
40 r2
G คือ ค่ำคงที่โน้มถ่วงสำกล
h คือ ค่ำคงที่ของพลังค์

1. ข้ำงล่ำงนีเ้ ป็ นปฏิกริ ิยำนิวเคลียร์แบบหนึ่งทีใ่ นบริเวณศูนย์กลำงของดวงอำทิตย์


3He + 3He → 4He + 2{...} + พลังงำน
2 2 2
อนุภำคในวงเล็บปี กกำ {…} คือข้อใด (9วิชำ 63)
1. โพซิตรอน
2. อิเล็กตรอน
3. นิวตรอน
4. 21H
5. 11H
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 2

2. แหล่งกำเนิดเสียงทีส่ ง่ เสียงออกรอบตัวอย่ำงสมมำตร จะให้ระดับควำมเข้มเสียงเพิ่มขึน้ กี่เดซิเบลจำกเดิมเมือ่


ผูฟ้ ั งอยู่ที่ระยะห่ำงครึง่ หนึ่งของระยะเดิม (9วิชำ 63)
1. 0.3
2. 0.5
3. 1
4. 4
5. 6

3. AB เป็ นกระจกเงำรำบ สำมำรถหมุนได้รอบจุด ถ้ำหมุน AB ตำมเข็มนำฬิกำเป็ นมุม  เล็ก ๆ แนวแสง


สะท้อนจะเบนจำกแนวเดิมเป็ นมุมเท่ำไร (9วิชำ 63)
1. 0
1
2. 
2
3.  A B
O
4. 2

5. 3
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 3

4. เลนส์นูนในรูปนีม้ ีค่ำควำมยำวโฟกัสเป็ นเท่ำไร (9วิชำ 63)


bL
1.
a
bL
2. a
a−b b
bL
3.
a + b
aL L
4.
a − b
aL
5.
a + b

5. ในกำรใช้เลนส์นนู ควำมยำวโฟกัส f ทำให้เกิดภำพเสมือนที่ระยะห่ำงจำกเลนส์ 16 cm กำลังขยำยมีขนำดเป็ น


กี่เท่ำ (9วิชำ 63)
16
1.
f
f
2.
16

16 16 cm
3. −1
f f
16
4. +1
f
f
5. +1
16
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 4

6. ตัวนำทรงกลมรัศมี R มีประจุ +Q ที่ผิว ศักย์ไฟฟ้ำที่จุด P ซึ่งอยู่ห่ำงจำกจุดศูนย์กลำงของทรงกลมเป็ น


ระยะทำง x เป็ นไปตำมรูปใด (9วิชำ 63)
+Q
R
P
O x

1. 2.

O R x O R x

3. 4.

O R x O R x

5.

O R x
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 5

7. เมื่อตัง้ ต้นลูกสูบอยู่นงิ่ ๆ ในกระบอกสูบทีว่ ำงตัวในแนวระดับ ต่อมำใส่ควำมร้อนให้ก๊ำซเท่ำกับ Q ปริมำตรของ


ก๊ำซอุดมคติจะเพิ่มขึน้ จำกเดิมเท่ำไร (9วิชำ 63)
2Q
1.
7 Pa
1Q
2.
3 Pa = Pa
Q
3.
Pa
2Q A
4.
5 Pa
2Q
5.
3 Pa

8. ของเหลวที่บรรจุลน้ กระเปำะมีสมั ประสิทธิ์กำรขยำยตัวเชิงปริมำตรเท่ำกับ  และ a1/2  << V1/3


0 ระดับผิวของ
เหลงในท่อจะเคลื่อนสูงเพิ่มขึน้ จำกเดิมเป็ นระยะทำงเท่ำไรต่อ 1 องศำ (9วิชำ 63)
aV0
1.

V0
2.
a a
3. aV0
V0
a
4.
V0
a
5.
V0
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 6

9. ควำมถี่เรโซแนนซ์พนื้ ฐำนของท่อก้นปิ ดปลำยบนเปิ ดจะเปลี่ยนไปจำกเดิมที่ Hertz ถ้ำอุณหภูมิของอำกำศ


เพิ่มขึน้ จำก t = 30 OC ไปเป็ น t = 40 OC (9วิชำ 63)
กำหนดว่ำอัตรำเร็วของเสียงในอำกำศนิ่งที่ควำมดันขณะนัน้ เป็ น v(t) = 332 + (0.6)(t OC) เมตรต่อวินำที

1. 3
2. 5
3. 15 0.30 m
4. 25
5. 35

10. สำหรับตัวเก็บประจุแบบแผ่นขนำนนี ้ ประจุบวกอยู่บนผิวในของแผ่นล่ำง และประจุลบอยู่บนผิวในของแผ่นบน


สนำมไฟฟ้ำในบริเวณระหว่ำงแผ่นมีตน้ ตอมำจำกทัง้ ประจุบวกและประจุลบ
จงหำขนำดของสนำมไฟฟ้ำทีผ่ ิวด้ำนในของแผ่นล่ำง (9วิชำ 63)

1.
2d
2d
2.
 d 
d
3.
2
2
4.
d
d
5.

Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 7

11. คลื่นคู่หนึ่งที่ตำแหน่งเดียวกันเป็ นฟังก์ชนั ของเวลำ t ดังนี้


1 (t) = E0 sint ,
2 (t) = E0 sin(t + )
ซึ่ง  เป็ นควำมถีเ่ ชิงมุม และ  เป็ นค่ำคงที่เฟส
ถ้ำหำกคลืน่ คู่นจี้ ะแทรกสอดและหักล้ำงกันหมดตลอดเวลำ  จะต้องมีค่ำเป็ นกี่องศำ (9วิชำ 63)
1. 0
2. 45
3. 60
4. 90
5. 180

12. I จะมีค่ำเป็ นศูนย์ตลอดเวลำภำยใต้เงือ่ นไขข้อใด (9วิชำ 63)


1. C=L
I
2. CL = 1
V0 C sin(t +  / 2) (V0 / L) sin(Tt −  / 2)
3. 2CL − 1 = 0 C L
4. CL = 1 V0 sin t
5. 2CL + 1 = 0
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 8

13. กำหนดว่ำ m มีมวลน้อยกว่ำ M และหลังจำกกำรชนกันอย่ำงไม่ยืดหยุ่น (ระดับหนึง่ ) m อยู่กับที่จงหำขนำด


ของควำมเร็วของ M หลังชน (9วิชำ 63)
m
1. u
M
m 1/2 M M
2. (M) u m m
u
m
3. (M + m) u
m 1/2
4. (M + m) u

m 2
5. (M) u

14. ดีดโพรเจกไทล์จำกจุด A บนพืน้ ระดับห่ำงจำกกำแพงดิง่ เป็ นระยะทำง L ด้วยควำมเร็วต้น v จะต้องใช้มมุ


 เท่ำกับเท่ำไรจึงจะชนกำแพงอย่ำงตัง้ ฉำกพอดี (9วิชำ 63)
1. 45O
1 2Lg
2. sin-1 ( 2 )
2 v
g
2Lg
3. sin-1 ( 2 ) v
v
Lg
4. sin-1 ( 2 ) 
v A
2Lg
5. 2 L
v
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 9

15. ปล่อยลูกตุม้ มวล m ควำมยำว ℓ จำกหยุดนิ่งที่มมุ 0 จงหำค่ำควำมตึงในสำยตุม้ ขณะที่ m ถึงจุดต่ำสุด


(9วิชำ 63)
1. mg(2 − 3cos0 )
2. mg(2 + cos0 ) g 0
3. mg(3 − 2cos0 ) ℓ
4. mg(3 + 2cos0 )
5. mg cos0

16. ในสภำวะที่กระแสและศักย์ไฟฟ้ำไม่เปลี่ยนแปลงแล้ว ศักย์ไฟฟ้ำที่จุด A มีค่ำเท่ำไร (9วิชำ 63)


R
1. 
r A
−r R
2. 
R + r  r
−R
3. 
R + r
r
4. 
R
+R
5. 
R + r
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 10

17. กระแส I ในวงจรนี้ เป็ นไปตำมข้อใด (9วิชำ 63)


1. V0 C sint
I
V0
2. sin t
C
3. V0 C cost
V0 sin t C
V0
4. cos t
C
V0 
5. sin t
C

18. ท่อโตสม่ำเสมอพืน้ ทีภ่ ำคตัดขวำง A ยึดติดกับกำแพงดิง่ ในแนวระดับนำ้ ควำมหนำแน่น  พุ่งเข้ำและออก


จำกท่อด้วยควำมเร็วที่มีขนำด v จงหำขนำดของแรงทีท่ ่อผลักกำแพงในแนวระดับ (9วิชำ 63)
2v2
1. v
A
2. Av
3. 2Av2
v
4. Av2
5. 2Av
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 11

19. A , B , C ต่ำงก็มีประจุ +Q เท่ำกัน และอยูใ่ นแนวเส้นตรงเดียวกัน และห่ำงจำกตัวทีอ่ ยู่ใกล้สดุ เท่ำกับ d


จงหำขนำดของแรงไฟฟ้ำที่กระทำต่อ C (9วิชำ 63)
1. 0

5 Q2 +Q +Q +Q
2.
4 4π0 d2
d d
3 Q2 A B C
3.
4 4π0 d2
1 Q2
4.
4 4π0 d2
Q2
5. 2
4π0 d2

20. ควำมดันของอำกำศในปลำยปิ ดนีม้ ีค่ำเท่ำไร


g h (Pa เป็ นควำมดันบรรยำกำศ,

 เป็ นควำมหนำแน่นของของเหลวในถ้วย) (9วิชำ 63)

1. gh
2. gh sin
3. Pa
4. Pa − gh
5. Pa − gh sin
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 12

21. เหรียญโลหะหนำสม่ำเสมอ ที่อุณหภูมิหอ้ งมีรศั มีในเป็ น R1 และรัศมีนอกเป็ น R2 ต่อมำทำให้เหรียญร้อนขึน้


สม่ำเสมอทัง้ ชิน้ ข้อใดกล่ำวถูกต้อง (9วิชำ 63)
1. R1 โตขึน้ , R2 โตขึน้
R2
2. R1 ลดลง, R2 โตขึน้
3. R1 ลดลง, R2 ลดลง
R1
4. R1 , R2 มีค่ำเท่ำเดิม
5. R1 โตขึน้ , R2 ลดลง

22. นิวเคลียสของธำตุ X สลำยตัวด้วยเวลำครึง่ ชีวิตเท่ำกับ T ไปเป็ นนิวเคลียสของธำตุ Y ซึ่งเสถียรเมื่อเริ่มต้นไม่


มีธำตุ Y อยู่เลย จะต้องรอนำนเท่ำไรจึงจะมีจำนวนนิวเคลียสของ Y เป็ น 7 เท่ำของจำนวนนิวเคลียสของ X
(9วิชำ 63)
3
1. T
2
5
2. T
2
3. 3T

4. 5T

5. 7T
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 13

μ0 i
23. ขนำดของสนำมแม่เหล็กที่ศนู ย์กลำงของรูป ข. คือ
2r
จงใช้ผลนีเ้ พือ่ หำขนำดของสนำมแม่เหล็กที่ศนู ย์กลำงรูป ก. (9วิชำ 63)
μ0 I 1 1
1. ( − )
2 R1 R2 R 2
μ0 I 1 1
2. (R − R ) i
4 1 2
I R1 I
μ0 I 1 1 r
3.
2
(R + R )
1 2
μ0 I 1 1
4.
4
(R + R )
1 2
μ0 I 1
5.
2 √ R1  R2

24. เนือ้ โลหะชนิดหนึง่ มีสมั ประสิทธิ์กำรขยำยตัวเชิงเส้นเท่ำกับ  นำมำทำลวดยำว L ปลำยข้ำงหนึ่งตรึงไว้ที่จุด


A ส่วนทีเ่ หลือโค้งเป็ นแนววงกลมรอบจุด O มีรศั มีโดยเฉลี่ยเท่ำกับ R ต่อมำถ้ำทำให้ลวดทัง้ เส้นมีอุณหภูมสิ งู ขึน้
t องศำ มุม AÔ B จะโตขึน้ กี่เรเดียน (9วิชำ 63)
1. RLt
RL
2. t B

R O
3. t
L
RL
A
4. t

L
5. t
R
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 14

25. M เป็ นก้อนมวลที่สำมำรถเคลือ่ นที่ไถลไปบนแขน AC ได้ ขณะนี้ M ถูกเชือกรัง้ ไว้ให้อยู่ที่ตำแหน่งกึง่ กลำง


ของ AC และกำลังหมุนรอบเพลำด้วยอัตรำเร็วเชิงมุม 
ถ้ำเชือกขำดและ M ไถลไปอยู่ที่ C อัตรำเร็วเชิงมุมใหม่จะมีค่ำเท่ำไร (9วิชำ 63)
หมำยเหตุ ให้ถือว่ำเพลำและแขนมีมวลเป็ นศูนย์, M เป็ นเสมือนอนุภำคมวล M, และไม่มีแรงเสียดทำนที่ปลำย
เพลำ
1
1. 
4
1
2. 
√2
1
3. 
2
1
4. 
3
5. 
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

กำหนดให้ใช้ค่าต่อไปนี้ สำหรับกรณีที่ต้องแทนค่าตัวเลข
ความเร่งโน้มถ่วง 𝑔 = 9.8 m/s2
อัตราเร็วของแสงในสุญญากาศ 𝑐 = 3.0 × 108 m/s
ค่าคงตัวแก๊ส 𝑅 = 8.3 J/(mol K)
ค่าคงตัวอโวกาโดร 𝑁A = 6.0 × 1023 mol−1
ค่าคงตัวโบลต์ซมันน์ 𝑘B = 1.4 × 10−23 J/K
ค่าของ sin 𝜃 cos 𝜃 และ tan 𝜃 ที่มีมุม 𝜃 ต่าง ๆ ดังตารางต่อไปนี้

𝜃 0° 30° 45° 60° 90°


1 √2 √3
sin 𝜃 0 1
2 2 2
√3 √2 1
cos 𝜃 1 0
2 2 2
1
tan 𝜃 0
√3
1 √3 ไม่นิยาม

ข้อสอบฉบับนี้อ้างอิงจากข้อสอบ ฟิสิกส์ วิชาสามัญ พ.ศ. 2565 ชุดที่ 1


หากพบปัญหาหรือต้องการสอบถาม ติดต่อ ittipatken@gmail.com

1
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

1. วัดขนาดของวัตถุปริซึมสี่เหลี่ยมที่มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ดังภาพ

ปริซึมนี้มีปริมาตรกี่ลูกบาศก์เซนติเมตร โดยคำนึงถึงเลขนัยสำคัญ
กำหนดให้ อ่านค่าความสูงและความยาวจากภาพที่ขยายเท่านั้น
1. 53.29
2. 53.3
3. 58
4. 58.4
5. 58.40

2
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

2. เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องการโยนอุปกรณ์ให้คนที่อยู่ในตึกซึ่งอยู่ห่าง 5 เมตร และอยู่สูง 5 2 3 เมตร ดังภาพ
กำหนดให้ ไม่คิดแรงต้านอากาศ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องโยนอุปกรณ์ด้วยมุมกี่องศาเทียบกับแนวระดับ เพื่อให้อุปกรณ์ขณะรับมีความความเร็ว
ในแนวดิ่งเป็นศูนย์
1. 30
2. 37
3. 45
4. 53
5. 60

3
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

3. ลูกกลมมวล 𝑚1 มีมวลเป็นครึ่งหนึ่งของ 𝑚2 ถูกผูกด้วยเชือกที่ยาวไม่เท่ากันไว้ที่จุดตรึงหนึ่ง เมื่อแกว่งลูก


กลมทั้งสองลูกให้เริ่มเคลื่อนที่พร้อมกันเป็นวงกลมในระนาบเดียวกันและมีจุดศูนย์กลางร่วมกัน พบว่ารัศมี
การเคลื่อนที่ของลูกกลม 𝑚2 มีค่าเป็นสองเท่าของรัศมีการเคลื่อนที่ของลูกกลม 𝑚1 ดังภาพ

ข้อใดถูกต้อง
1. คาบของ 𝑚1 มีค่าน้อยกว่าคาบของ 𝑚2
2. ความถี่เชิงมุมของ 𝑚1 มีค่าน้อยกว่าความถี่เชิงมุมของ 𝑚2
3. อัตราเร็วเชิงมุมของ 𝑚1 มีค่าเท่ากับอัตราเร็วเชิงมุมของ 𝑚2
4. อัตราเร็วเชิงเส้นของ 𝑚1 มีค่าเท่ากับอัตราเร็วเชิงเส้นของ 𝑚2
5. แรงสู่ศูนย์กลางของ 𝑚1 มีค่ามากกว่าแรงสู่ศูนย์กลางของ 𝑚2

4
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

4. แกว่งลูกตุ้มมวล 𝑚 ที่ผูกเชือกยาว 𝐿 ให้เคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่ายระหว่างจุด A และจุด B ดังภาพ


พบว่าลูกตุ้มแกว่งครบ 10 รอบ ใช้เวลา 2𝜋 วินาที

พิจารณาข้อความต่อไปนี้
ก. ที่จุด A และ B ขนาดของความเร็วมีค่าเท่ากันและไม่เท่ากับศูนย์
ข. เมื่อแกว่งลูกตุ้มมวล 𝑚 ที่ผูกเชือกยาว 𝐿 คาบการแกว่ง เท่ากับ 0.2𝜋
ค. เมื่อแกว่งลูกตุ้มมวล 2𝑚 ที่ผูกเชือกยาว 𝐿 ความถี่เชิงมุมมากกว่าเมื่อแกว่งลูก
ตุ้มมวล 𝑚 ที่ผูกเชือกยาว 2𝐿 วินาที

1. ก. เท่านั้น
2. ข. เท่านั้น
3. ค. เท่านั้น
4. ก. และ ข.
5. ข. และ ค.

5
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

5. รถบรรทุกมวล 𝑀 ขนตู้มวล 𝑚 บนกระบะ เคลื่อนที่ด้วยความเร็วต้น 𝑢⃗ ดังภาพ


กำหนดให้ 𝜇𝑘 เป็นสัมประสิทธิ์ความเสียดทานจลน์ระหว่างตู้และพื้นกระบะรถบรรทุก
𝜇𝑠 เป็นสัมประสิทธิ์ความเสียดทานสถิตระหว่างตู้และพื้นกระบะรถบรรทุก
𝑔 เป็นขนาดของความเร่งโน้มถ่วง

ถ้าต้องการให้รถหยุดนิ่งโดยที่ตู้ยังอยู่นิ่งเทียบกับรถ ระยะทางที่สั้นที่สุดตั้งแต่เริ่มเบรกจนกระทั่งรถหยุดนิ่ง
เป็นเท่าใด
𝑢2
1.
2𝜇𝑠 𝑔
𝑢2
2.
2𝜇𝑘 𝑔
𝑢2
3.
(𝜇𝑘 + 𝜇𝑠 )𝑔
𝑀 + 𝑚 𝑢2
4. ( )
𝑚 2𝜇𝑠 𝑔
𝑀 + 𝑚 𝑢2
5. ( )
𝑚 2𝜇𝑘 𝑔

6
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

6. กระถางต้นไม้มวล 𝑚 ถูกแขวนอยู่บนเส้นลวดสองเส้นคือ A และ B ซึ่งยึดติดกับเสาสองต้น โดยมุมที่เส้น


ลวด A กระทำกับเส้นแนวระดับเท่ากับ 𝜃 และเส้นลวด A และ B ทำมุมกัน 90 องศา ดังภาพ
กำหนดให้ 𝑔 เป็นขนาดของความเร่งโน้มถ่วง

ขนาดของแรงดึงในเส้นลวด B มีค่าเท่าใด
1. 𝑚𝑔 sin 𝜃
2. 𝑚𝑔 cos 𝜃
3. 𝑚𝑔 tan 𝜃
𝑚𝑔
4.
sin 𝜃
𝑚𝑔
5.
tan 𝜃

7
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

7. ออกแรงกระทำต่อวัตถุ 2 ครั้ง ได้กราฟความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรง 𝐹 ที่กระทำต่อวัตถุกับเวลา 𝑡


ดังภาพ
กำหนดให้ ขณะที่วัตถุถูกแรงกระทำ มวลของวัตถุและทิศทางของแรงไม่เปลี่ยนแปลง

ข้อใดเปรียบเทียบขนาดของการดลครั้งที่ 1 (𝐼1) และครั้งที่ 2 (𝐼2) ได้ถูกต้อง


1. 𝐼1 มากกว่า 𝐼2 เพราะพื้นที่ใต้กราฟของครั้งที่ 1 มากกว่าครั้งที่ 2
2. 𝐼1 มากกว่า 𝐼2 เพราะขนาดของแรงสูงสุดของครั้งที่ 1 มากกว่าของครั้งที่ 2
3. 𝐼2 มากกว่า 𝐼1 เพราะแรงเฉลี่ยของครั้งที่ 2 มากกว่าครั้งที่ 1
4. 𝐼2 มากกว่า 𝐼1 เพราะช่วงเวลาที่วัตถุถูกแรงกระทำของครั้งที่ 2 มากกว่าของครั้งที่ 1
5. 𝐼2 มากกว่า 𝐼1 เพราะขนาดของแรงของครั้งที่ 2 ลดลงจากจุดสูงสุดเร็วกว่าของครั้งที่ 1

8
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

8. คลื่น กลเคลื่อนที่ ด้วยอัตราเร็ว 2.0 เมตรต่อ วินาที เมื่อ พิจารณาอนุภาคหนึ่ง ที่ ตำแหน่ง ใดตำแหน่ง หนึ่ง ใน
ตัวกลาง พบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างการกระจัดกับเวลาเป็นดังกราฟ

ณ เวลาหนึ่ง ๆ อนุภาคสองอนุภาคใด ๆ ในตัวกลาง ที่มีเฟสต่างกัน 𝜋4 เรเดียน จะอยู่ห่างกันกี่เมตร


1. 0.1
2. 0.125
3. 0.25
4. 0.5
5. 1.0

9
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

9. ปลายเชือกด้านซ้ายของเชือกเส้น หนึ่ง ถูก ตรึง อยู่ กับ ที่ เมื่อ สะบัด ปลายเชือกด้านขวาทำให้ เกิด คลื่น ในเส้น
เชือก 2 คลื่น ที่มีรูปร่างต่างกัน เคลื่อนที่ในทิศทางเดียวกันด้วยอัตราเร็วเท่ากัน 1 เมตรต่อวินาที รูปร่าง
คลื่น ณ เวลาหนึ่งเป็นดังภาพ

ข้อใดแสดงรูปร่างของคลื่นเมื่อเวลาผ่านไป 2 วินาที ได้ถูกต้อง


1.

2.

10
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat
3.

4.

5.

11
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

10. ในการเตรียมงานจุดพลุใกล้ชุมชนหนึ่ง ผู้จัดงานทำการตรวจสอบระดับเสียง โดยทดสอบจุดพลุที่ทำให้เกิด


เสียงที่ มี ความถี่ ประมาณ 1000 เฮิรตซ์ ในสถานที่ เตรียมจัด งาน พบว่า ที่ ระยะห่างจากจุด ที่ ทดสอบ 15
เมตร วัดระดับเสียงได้ 140 เดซิเบล

กำหนดให้ ความสัมพันธ์ ระหว่างระดับ เสียงและความเข้ม เสียง กับ ความถี่ ที่ คนในชุมชนนี้ ได้ยิน เป็น ดัง
กราฟ
จากผลการทดสอบและกราฟข้างต้น บริเวณที่ จุด พลุ ควรอยู่ ห่างจากชุมชนอย่างน้อยที่สุด กี่ เมตร คนใน
ชุมชนจึงได้ยินเสียงที่ระดับเสียงไม่เกินขีดเริ่มเปลี่ยนของการเจ็บปวด
1. 1.3 × 10
2. 1.3 × 102
3. 1.5 × 102
4. 1.5 × 103
5. 1.5 × 108

12
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

11. นักเรียนศึกษาการบีตของเสียงระหว่างแหล่งกำเนิดเสียงหนึ่งที่มีความถี่ 435 เฮิรตซ์ กับส้อมเสียง 4 อันที่มี


ความถี่ของเสียง ดังตาราง

ส้อมเสียง ความถี่ (เฮิรตซ์)


A 425

B 430

C 440

D 445

ถ้าต้องการให้เกิดบีตระหว่างเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียงกับเสียงจากการเคาะส้อมเสียง 1 อัน โดยมีความถี่


บีตเท่ากับ 5 เฮิรตซ์ ควรเลือกใช้ส้อมเสียงใด และเสียงดังกล่าวจะมีเสียงดังเป็นจังหวะกี่ครั้งใน 2 วินาที
1. ส้อมเสียง A และ 5 ครั้ง
2. ส้อมเสียง B และ 5 ครั้ง
3. ส้อมเสียง C และ 10 ครั้ง
4. ส้อมเสียง D และ 5 ครั้ง
5. ส้อมเสียง D และ 10 ครั้ง

13
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

12. เมื่อ ฉายแสงเลเซอร์ เข้า สู่ แท่ง พลาสติก รูป ครึ่ง วงกลมตามแนวรัศมี แสงเลเซอร์ ที่ ออกจากด้านระนาบจะมี
มุมวิกฤตมีค่าเท่ากับ 30 องศา ดังภาพ

กำหนดให้ อัตราเร็วของแสงในอากาศมีค่าเท่ากับ 3.0 × 108 เมตรต่อวินาที


ค่าดรรชนีหักเหของอากาศมีค่าเท่ากับ 1
อัตราเร็วของแสงในแท่งพลาสติกจะมีค่ากี่เมตรต่อวินาที และถ้าให้แสงเลเซอร์เดิมเคลื่อนที่จากแท่งพลาส-
ติกไปยังอากาศ ด้วยมุมตกกระทบน้อยลงเป็น 20 องศา แสงจะเคลื่อนที่อย่างไร
1. 1.5 × 108 เมตรต่อวินาที และ แสงจะหักเหออกสู่อากาศด้วยมุมหักเหที่น้อยกว่า 20 องศา
2. 1.5 × 108 เมตรต่อวินาที และ แสงจะหักเหออกสู่อากาศด้วยมุมหักเหที่มากกว่า 20 องศา
3. 1.5 × 108 เมตรต่อวินาที และ แสงจะสะท้อนกลับหมดโดยไม่ออกจากตัวกลาง
4. 3.0 × 108 เมตรต่อวินาที และ แสงจะหักเหออกสู่อากาศด้วยมุมหักเหที่มากกว่า 20 องศา
5. 3.0 × 108 เมตรต่อวินาที และ แสงจะสะท้อนกลับหมดโดยไม่ออกจากตัวกลาง

14
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

13. ฉายแสงเลเซอร์ความยาวคลื่น 650 นาโนเมตร ตกกระทบตั้งฉากกับเกรตติง พบว่า เกิดจุดสว่างกลางและ


จุดสว่างอันดับที่ 1 ที่ตำแหน่งบนฉากซึ่งอยู่ห่างจากเกรตติง 1.0 เมตร ดังภาพ

พิจารณาข้อความต่อไปนี้
ก. ระยะห่างระหว่างช่องของเกรตติงมีค่าเท่ากับ 5.0 ไมโครเมตร
ข. ถ้าฉายแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นน้อยกว่า 650 นาโนเมตร ระยะห่างระหว่างจุดสว่างจะมีค่าเพิ่ม
ขึ้น
ค. ถ้าใช้เกรตติงอันใหม่ แล้วพบว่าระยะห่างระหว่างจุดสว่างมีค่าน้อยลง แสดงว่าระยะห่างระหว่างช่อง
ของเกรตติงจะมีค่ามากกว่าเดิม
1. ก. เท่านั้น
2. ข. เท่านั้น
3. ค. เท่านั้น
4. ก. และ ค.
5. ข. และ ค.

15
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

14. ลวดโลหะ A และ B มีพื้นที่หน้าตัด 10.0 และ 2.0 ตารางมิลลิเมตร ตามลำดับ


กำหนดให้ ความสัมพันธ์ระหว่างความเค้น (𝜎) และความเครียด (𝜀) ของลวดโลหะทั้งสองเป็นดังกราฟ

หากต้องการลวดโลหะที่ทนต่อแรงภายนอกที่มากระทำได้มากกว่า โดยยังสามารถกลับมามีความยาวเท่า
เดิมควรเลือกลวดโลหะใด และมอดุลัสของยังของลวดโลหะดังกล่าวมีค่ากี่พาสคัล
1. ลวดโลหะ A และ 2.0 × 10−11 พาสคัล
2. ลวดโลหะ A และ 5.0 × 1010 พาสคัล
3. ลวดโลหะ B และ 5.0 × 10−12 พาสคัล
4. ลวดโลหะ B และ 8.0 × 108 พาสคัล
5. ลวดโลหะ B และ 2.0 × 1011 พาสคัล

16
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

15. ทรงกระบอกที่มีลูกสูบเคลื่อนที่ได้คล่อง ภายในบรรจุแก๊สอุดมคติ 2 โมล อุณหภูมิ 67 องศาเซลเซียสและมี


ความดันคงตัวเท่ากับ 10 กิโลพาสคัล
กำหนดให้ 𝑅 เป็นค่าคงตัวแก๊ส
ถ้าลดอุณหภูมิของแก๊สลงช้า ๆ จนเหลือ 48 องศาเซลเซียส โดยความดันเท่าเดิม งานที่เกิดขึ้นเมื่อลูกสูบ
เคลื่อนที่มีค่าเท่าใด และระบบมีการเปลี่ยนแปลงปริมาตรอย่างไร
1. 3.8𝑅 × 10−3 และ ปริมาตรลดลง
2. 38𝑅 และ ปริมาตรลดลง
3. 38𝑅 และ ปริมาตรเพิ่มขึ้น
4. 3.8𝑅 × 105 และ ปริมาตรลดลง
5. 3.8𝑅 × 105 และ ปริมาตรเพิ่มขึ้น

17
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

16. ดัดลวดขนาดเล็กมาก มวล 2.0 กรัม ให้เป็นวงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 2.4 เซนติเมตร ยาว 2.5 เซนติเมตร
แล้วผูกด้วยเชือกเบาและนำไปวางบนผิวของของเหลวชนิดหนึ่งที่มีความตึงผิว 0.4 นิวตันต่อเมตร จากนั้น
ออกแรงดึงเชือก ดังภาพ

ถ้าต้องการให้ลวดหลุดออกจากผิวของของเหลวได้ จะต้องออกแรงดึงขนาดอย่างน้อยกี่นิวตัน
1. 3.9 × 10−2
2. 4.9 × 10−2
3. 5.9 × 10−2
4. 7.8 × 10−2
5. 9.8 × 10−2

18
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat
17. ตัวนำทรงกลม A และ B มีมวล 𝑀 เท่ากัน แต่ขนาดประจุไฟฟ้าบนตัวนำทรงกลม A เท่ากับ 𝑄 ส่วนตัวนำ
ทรงกลม B มีขนาดประจุไฟฟ้าเป็น 𝑛 เท่าของตัวนำทรงกลม A

วางตัวนำทรงกลม A ไว้บนพื้นที่เป็นฉนวน แล้วนำ


ตัวนำทรงกลม B ที่ ผูก ด้วยเชือกเบาเข้า ใกล้ ตัวนำ
ทรงกลม A ในแนวดิ่ง โดยให้ ระยะห่างระหว่าง
จุดศูนย์กลางของตัวนำทรงกลมทั้ง สอง เท่ากับ 𝑑
ดังภาพ

กำหนดให้ 𝑘 เป็นค่าคงตัวคูลอมบ์
𝑔 เป็นขนาดของความเร่งโน้มถ่วง

ถ้าต้องการให้ตัวนำทรงกลม A เริ่มจะลอยขึ้นจากพื้นได้ ชนิดประจุไฟฟ้าบนตัวนำทรงกลมทั้งสองจะต้อง


เป็นอย่างไร และระยะห่าง 𝑑 จะต้องมีค่ามากที่สุดเท่าใด

ชนิดประจุไฟฟ้า ระยะห่าง 𝑑
𝑛𝑘𝑄
1. ชนิดเดียวกัน √ 𝑀𝑔
𝑘
2. ชนิดเดียวกัน 𝑄
√ 𝑀𝑔
𝑛𝑘𝑄
3. ชนิดต่างกัน √ 𝑀𝑔
𝑘
4. ชนิดต่างกัน 𝑄
√ 𝑀𝑔
𝑛𝑘
5. ชนิดต่างกัน 𝑄
√ 𝑀𝑔

19
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

18. เครื่องดักจับฝุ่นด้วยไฟฟ้าสถิตชนิดหนึ่งมีหลักการทำงาน โดยให้อากาศที่มีอนุภาคฝุ่นเคลื่อนที่ผ่านส่วนที่


สร้างประจุไฟฟ้า เพื่อให้อนุภาคฝุ่นมีประจุไฟฟ้าลบ แล้วเคลื่อนที่ไปยังแผ่นรับฝุ่นที่มีขั้วไฟฟ้า
พิจารณาอนุภาคฝุ่น A และ B ซึ่งอนุภาคฝุ่น A มีมวลมากกว่า B และอัตราส่วนระหว่างประจุต่อมวลของ
A มากกว่าของ B ขณะอนุภาคทั้งสองเคลื่อนที่เข้าหาแผ่นรับฝุ่น ดังภาพ

กำหนดให้ แรงโน้มถ่วงมีขนาดน้อยมากเมื่อเทียบกับแรงเนื่องจากสนามไฟฟ้าระหว่างแผ่นรับฝุ่น
สนามไฟฟ้าระหว่างแผ่นรับฝุ่นมีทิศทางใด และขณะอนุภาคฝุ่นทั้งสองเคลื่อนที่ในสนามไฟฟ้า ขนาดของ
ความเร่งและขนาดประจุเป็นไปตามข้อใด

ทิศทางของสนามไฟฟ้า ขนาดความเร่ง ขนาดประจุ


1. ขึ้น A น้อยกว่า B A น้อยกว่า B

2. ขึ้น A มากกว่า B A มากกว่า B

3. ลง A น้อยกว่า B A น้อยกว่า B

4. ลง A เท่ากับ B A มากกว่า B

5. ลง A มากกว่า B A มากกว่า B

20
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

19. แบตเตอรี่ ขนาด 12 โวลต์ ที่ มี ความต้านทานภายใน 1 โอห์ม ต่อ อยู่ กับ อุปกรณ์ ไฟฟ้า ที่ มี ความต้านทาน
𝑅1 = 10 Ω และตัวต้านทานที่มีความต้านทาน 𝑅2 = 10 Ω ดังภาพ

พลังงานไฟฟ้าที่อุปกรณ์ไฟฟ้าใช้ไปใน 30 วินาที มีค่ากี่จูล


1. 12
2. 300
3. 432
4. 600
5. 1200

21
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

20. ณ อุณหภูมิหนึ่ง ลวดตัวนำ A B และ C มีความยาวและความต้านทาน ดังตาราง

ลวดตัวนำ ความยาว (เมตร) ความต้านทาน (โอห์ม)


A 1.0 2.2

B 2.0 4.4

C 2.0 5.2

พิจารณาข้อความต่อไปนี้
ก. ถ้าลวดตัวนำ A มีสภาพต้านทานไฟฟ้า 2.2 × 10−7 โอห์ม เมตร จะมีพื้นที่หน้าตัด 0.1 ตารางมิลลิ-
เมตร
ข. ถ้าลวดตัวนำ A และ B มีสภาพต้านทานไฟฟ้าเท่ากัน พื้นที่หน้าตัดของลวดตัวนำ A จะมากกว่า B
ค. ถ้าลวดตัวนำ C มีความยาว 1.0 เมตร โดยพื้นที่หน้าตัดเท่าเดิม จะมีความต้านทาน 10.4 โอห์ม
ข้อความใดถูกต้อง
1. ก. เท่านั้น
2. ข. เท่านั้น
3. ก. และ ค. เท่านั้น
4. ข. และ ค. เท่านั้น
5. ก. ข. และ ค.

22
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

21. ขดลวดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีพื้นที่ 0.50 ตารางเมตร อยู่ในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็กสม่ำเสมอ 𝐵⃗ ในทิศ +𝑧


ในขณะเริ่มต้น ระนาบของขดลวดวางตัวอยู่ในระนาบ 𝑥𝑦 จากนั้นหมุนขดลวดรอบแกน 𝑦 โดยระนาบของ
ขดลวดทำมุม 𝜃 กับระนาบ 𝑥𝑦 ดังภาพ

ถ้าขณะมุม 𝜃 = 0° ฟลักซ์แม่เหล็กที่ผ่านขดลวดเท่ากับ 0.40 เวเบอร์ สนามแม่เหล็กมีขนาดกี่เทสลาและ


เมื่อ 𝜃 เพิ่มขึ้นจาก 0 องศา ถึง 90 องศา ฟลักซ์แม่เหล็กมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร

ขนาดสนามแม่เหล็ก (เทสลา) การเปลี่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็ก


1. 0.20 น้อยลง
2. 0.80 มากขึ้น
3. 0.80 น้อยลง
4. 1.25 มากขึ้น
5. 1.25 น้อยลง

23
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

22. นักเรียนคนหนึ่ง มี แผ่น โพลารอยด์ ที่ ทราบแนวโพลาไรส์ 1 แผ่น และแหล่ง กำเนิด แสงโพลาไรส์ ที่ ไม่ ทราบ
แนวโพลาไรส์ เขาจึงคิดวิธีการทดลองเพื่อหาแนวโพลาไรส์ของแสงดังกล่าว ดังนี้
“ฉายแสงให้เคลื่อนที่ในทิศ +𝑧 ผ่านแผ่นโพลารอยด์ซึ่งอยู่ในแนวขนานกับระนาบ 𝑥𝑦 ดังภาพ แล้วสังเกต
ความสว่างของแสงในขณะที่หมุนแผ่นโพลารอยด์รอบแกน 𝑧 อย่างช้า ๆ เพื่อหาตำแหน่งมุมที่ทำให้มอง
เห็นแสงมีความสว่างมากที่สุด”

วิธีข้างต้นจะสามารถใช้หาแนวโพลาไรส์ของแสงได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
1. ไม่ได้ เพราะความสว่างของแสงที่ผ่านแผ่นโพลารอยด์จะคงที่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
2. ไม่ได้ เพราะการใช้แผ่นโพลารอยด์เพียงแผ่นเดียวจะไม่สามารถหาแนวโพลาไรส์ของแสงได้
3. ไม่ได้ เพราะแสงโพลาไรส์จะมีสนามไฟฟ้าอยู่ในหลายแนวจึงไม่สามารถหาแนวโพลาไรส์ได้
4. ได้ เพราะขณะที่แสงมีความสว่างมากที่สุด จะระบุได้ว่า แนวโพลาไรส์ของแสงอยู่ในแนวขนานกับ
แนวโพลาไรส์ของแผ่นโพลารอยด์
5. ได้ เพราะขณะที่แสงมีความสว่างมากที่สุด จะระบุได้ว่า แนวโพลาไรส์ของแสงอยู่ในแนวตั้งฉากกับ
แนวโพลาไรส์ของแผ่นโพลารอยด์

24
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

23. เมื่อฉายแสงความถี่ 𝑓 ค่าต่าง ๆ ตกกระทบผิวโลหะชนิดหนึ่ง ได้ความสัมพันธ์ระหว่างความต่างศักย์หยุด


ยั้งกับความถี่ของแสง ดังกราฟ

กำหนดให้ 𝑒 เป็นค่าประจุของอิเล็กตรอน
ℎ เป็นค่าคงตัวของพลังค์ ในหน่วยจูล วินาที
ที่ความถี่ 𝑓 พลังงานจลน์สูงสุดของโฟโตอิเล็กตรอนมีค่ากี่อิเล็กตรอนโวลต์
ℎ𝑓
1. − 2.0
𝑒
ℎ𝑓
2. + 2.0
𝑒
ℎ𝑓
3. + 5.0
𝑒
4. ℎ𝑓 − 2.0𝑒
5. ℎ𝑓 + 2.0𝑒

25
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

24. ปฏิกิริยานิวเคลียร์หนึ่ง เขียนแทนได้ด้วยสมการ

16
8O + 168O 28
14Si + 42He

กำหนดให้ มวล 1 u เทียบเท่ากับพลังงาน 932 เมกะอิเล็กตรอนโวลต์


𝑚O เป็นมวลของออกซิเจนในหน่วย u
𝑚He เป็นมวลของฮีเลียมในหน่วย u
𝐸 เป็นพลังงานที่ได้จากปฏิกิริยานิวเคลียร์นี้ในหน่วยเมกะอิเล็กตรอนโวลต์
ปฏิกิริยานิวเคลียร์นี้ เป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์ชนิดใด และ มวลในหน่วย u ของซิลิคอนมีค่าเท่าใด
1. ฟิชชัน และ 2𝑚O + 𝑚He − 932𝐸
𝐸
2. ฟิชชัน และ 2𝑚O − 𝑚He − 932
3. ฟิชชัน และ 2𝑚O − 𝑚He − 932𝐸
𝐸
4. ฟิวชัน และ 2𝑚O − 𝑚He − 932
5. ฟิวชัน และ 2𝑚O − 𝑚He − 932𝐸
25. ในปรากฏการณ์หนึ่ง อนุภาค A เคลื่อนที่มาพบอนุภาค B แล้วทำให้ได้รังสีแกมมา ดังสมการ
อนุภาค A + อนุภาค B รังสีแกมมา
โดยที่อนุภาค A และ B เป็นอนุภาคที่ประกอบด้วย ควาร์กและแอนติควาร์ก
พิจารณาข้อความต่อไปนี้
ก. อนุภาค A และ อนุภาค B มีขนาดของประจุไฟฟ้าเท่ากัน
ข. อนุภาคมูลฐานในอนุภาค B ยึดเหนี่ยวกันด้วยการแลกเปลี่ยนกลูออนระหว่างกัน
ค. ผลรวมมวลของอนุภาค A กับอนุภาค B เท่ากับ มวลของโฟตอนของรังสีแกมมาโฟตอนเดียว
ข้อความใดถูกต้อง
1. ก. เท่านั้น
2. ข. เท่านั้น
3. ก. และ ข.
4. ก. และ ค.
5. ข. และ ค.

26
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

26. วางวัตถุไว้หน้ากระจกโค้ง ซึ่งมีรัศมีความโค้ง 28 เซนติเมตร พบว่า เกิดภาพจริงขนาดเป็น 2 เท่าของวัตถุ


วัตถุอยู่ห่างจากกระจกโค้งกี่เซนติเมตร

27. ออกแรงทิศทางขนานกับ พื้น กระทำต่อ วัตถุให้ เคลื่อนที่ไปบนพื้นระดับเป็นระยะทาง 30 เมตร ความสัม-


พันธ์ระหว่างแรงกับตำแหน่งของวัตถุชิ้นนี้เป็นดังกราฟ

ถ้าแรงนี้กระทำต่อวัตถุเป็นเวลา 10 วินาที กำลังเฉลี่ยของแรงนี้มีค่ากี่วัตต์

28. แก๊ส อุดมคติ บรรจุ อยู่ ในภาชนะปิด ปริมาตรคงตัว 0.5 ลูกบาศก์ เมตร วัด ความดัน ของแก๊ส ขณะที่ แก๊ส มี
อุณหภูมิ ค่า ต่าง ๆ แล้ว นำข้อมูล ที่ วัด ได้ ไปเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ ระหว่างความดัน ของแก๊ส และ
อุณหภูมิของแก๊ส ได้ผลดังกราฟ

กำหนดให้
ค่าคงตัวแก๊ส 𝑅 = 8.3 J/(mol K)
ค่าคงตัวอาโวกาโดร 𝑁A = 6.0 × 1023 mol−1
ค่าคงตัวโบลต์ซมันน์ 𝑘B = 1.4 × 10−23 J/K
แก๊สภายในภาชนะมีจำนวนกี่โมล

27
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

29. วัตถุเคลื่อนที่ในแนวตรงโดยเริ่มจากหยุดนิ่ง ซึ่งความเร็ว ณ เวลาต่าง ๆ แสดงได้ดังกราฟ

ความเร่งเฉลี่ยของวัตถุนี้ ในช่วงเวลา 𝑡 = 5 s ถึง 𝑡 = 25 s มีขนาดกี่เมตรต่อวินาที2

30. ต่อตัวต้านทาน 𝑅 ที่มีความต้านทาน 10 โอห์ม กับลวดตัวนำ X และ Y ที่วางขนานกันและอยู่ห่างกันเป็น


ระยะ 25 เซนติเมตร แล้ววางแท่งตัวนำ Z ตั้งฉากกับลวดตัวนำทั้งสอง ดังภาพ ซึ่งเป็นมุมมองจากด้านบน
จากนั้น ดึง แท่ง ตัวนำ Z ให้เคลื่อนที่ ไปทางขวาด้วยความเร็วคงตัว 40 เซนติเมตรต่อวินาที ในบริเวณที่มี
สนามแม่เหล็กสม่ำเสมอ 1 เทสลา ซึ่งมีทิศพุ่งออกและตั้งฉากกับระนาบกระดาษ
กำหนดให้ ความต้านทานของลวดตัวนำ X และ Y และแท่งตัวนำ Z มีค่าน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับของ
ตัวต้านทาน 𝑅

กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำที่ผ่านตัวต้านทานมีค่ากี่แอมแปร์

28
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

เฉลย
1. 3. 58 และ 4. 58.4 *

2. 5. 60

3. 3. อัตราเร็วเชิงมุมของ 𝑚1 มีค่าเท่ากับอัตราเร็วเชิงมุมของ 𝑚2
4. 5. ข. และ ค.
𝑢2
5. 1.
2𝜇𝑠 𝑔
6. 2. 𝑚𝑔 cos 𝜃

7. 1. 𝐼1 มากกว่า 𝐼2 เพราะพื้นที่ใต้กราฟของครั้งที่ 1 มากกว่าครั้งที่ 2


8. 4. 0.5

9. 1.

10. 3. 1.5 × 102

11. 3. ส้อมเสียง C และ 10 ครั้ง


12. 2. 1.5 × 108 เมตรต่อวินาที และ แสงจะหักเหออกสู่อากาศด้วยมุมหักเหที่มากกว่า 20 องศา
13. 4. ก. และ ค.
14. 2. ลวดโลหะ A และ 5.0 × 1010 พาสคัล
15. 2. 38𝑅 และ ปริมาตรลดลง
16. 5. 9.8 × 10−2
𝑛𝑘
17. 5. ชนิดต่างกัน, 𝑄√ 𝑀𝑔
18. 5. ลง, A มากกว่า B, A มากกว่า B
19. 2. 300
* ข้อสอบมีความผิดพลาด แต่ในทางปฏิบัติข้อ 3 เป็นข้อที่ถูกต้องมากกว่า

29
รหัสวิชา 49 ฟิสิกส์
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 Ittipat

20. 1. ก. เท่านั้น
21. 3. 0.80, น้อยลง

22. 4. ได้ เพราะขณะที่แสงมีความสว่างมากที่สุด จะระบุได้ว่า แนวโพลาไรส์ของแสงอยู่ในแนวขนานกับแนว


โพลาไรส์ของแผ่นโพลารอยด์
ℎ𝑓
23. 1. − 2.0
𝑒
𝐸
24. 4. ฟิวชัน และ 2𝑚O − 𝑚He − 932
25. 3. ก. และ ข.
26. 21 cm

27. 25 W

28. 2.5 mol

29. 1 m/s2

30. 0.01 A

30
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 1

ข้อสอบฟิ สิกส์ วิชาสามัญ ปี 2564


กำหนดให้ใช้ค่ำต่อไปนี้ สำหรับกรณีที่ตอ้ งแทนค่ำตัวเลข
g = 9.8 m/s2
π = 3.14159
180O = π เรเดียน
ln 2 = 0.69

ตอนที่ 1 แบบปรนัย 5 ตัวเลือก เลือก 1 คำตอบที่ถูกที่สดุ


จำนวน 25 ข้อ (ข้อ 1 – 25) ข้อล่ะ 3 คะแนน รวม 75 คะแนน

1. ในกำรทดลองหนึง่ นักเรียน A วัดควำมยำวแท่งวัตถุหนึง่ ที่มีควำมยำวประมำณ 8 เซนติเมตร ด้วยไม้บรรทัด


ที่มีกำรแบ่งช่องสเกลที่มีควำมละเอียด 0.1 เซนติเมตร โดยทำกำรวัด 5 ครัง้ ได้ผลดังนี้
ควำมยำวทีว่ ดั ได้ (เซนติเมตร) : 7.85 8.00 8.25 7.90 14.15 ถ้ำนักเรียน A รำยงำนผลกำรวัดเป็ น
ค่ำเฉลี่ยและค่ำควำมคลำดเคลือ่ นของค่ำเฉลี่ย ( x ) โดยค่ำควำมคลำดเคลื่อนของค่ำเฉลี่ย หำได้จำก
x −x
 x = max min เมื่อ xmax และ xmin คือ ค่ำมำกทีส่ ดุ และค่ำน้อยทีส่ ดุ ของข้อมูล ตำมลำดับ
2
นักเรียน A ควรรำยงำนผลกำรวัดควำมยำวของแท่งวัตถุนอี้ ย่ำงไรจึงเหมำะสมทีส่ ดุ (9วิชำ 64)

1. 8  0.2 เซนติเมตร
2. 8.0  0.2 เซนติเมตร
3. 8.00  0.20 เซนติเมตร
4. 9.2  3.2 เซนติเมตร
5. 9.23  3.15 เซนติเมตร
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 2

2. รถเคลื่อนที่บนถนนตรงเส้นหนึ่งด้วยควำมเร็วคงตัว 50.0 เมตรต่อวินำที ที่เวลำ t = 0.0 s คนขับรถเห็นป้ำย


แจ้งว่ำข้ำงหน้ำมีดำ้ นตรวจวัดควำมเร็ว จึงเริ่มชะลอควำมเร็วที่เวลำ t = 4.0 s เพื่อให้รถเคลื่อนที่ดว้ ยควำมเร่งคง
ตัว – 0.5 เมตรต่อวินำที2 จนกระทั่งผ่ำนกล้องตรวจวัดควำมเร็วที่เวลำ t = 34.0 s

กำหนดให้
• เส้นทำงดังกล่ำวจำกัดควำมเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 33.3 เมตรต่อวินำที หำกเกินกว่ำนีจ้ ะ
ถูกปรับ
• กล้องตรวจวัดควำมเร็วใช้เวลำตรวจวัดน้อยมำกให้ถือว่ำควำมเร็วที่วดั ได้เท่ำกับควำมเร็วขณะขับผ่ำน

พิจำรณำกรำฟระหว่ำงควำมเร็วกับเวลำต่อไปนี้
ควำมเร็ว (m/s)
60.0
50.0
40.0
30.0
20.0
10.0
0.0 เวลำ (s)
0.0 4.0 8.0 12.0 16.0 20.0 24.0 28.0 32.0
กรำฟข้ำงต้นสอดคล้องกับกำรเคลือ่ นที่ของรถหรือไม่ และคนขับรถจะถูกปรับหรือไม่ (9วิชำ 64)

1. สอดคล้อง และ ถูกปรับ


2. สอดคล้อง และ ไม่ถูกปรับ
3. ไม่สอดคล้อง และ ถูกปรับ
4. ไม่สอดคล้อง และไม่ถูกปรับ
5. ไม่สอดคล้อง และ สรุปไม่ได้ เพรำะไม่ทรำบข้อมูลกำรกระจัด
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 3

3. ทรงกระบอกมวล 0.5 กิโลกรัม วำงอยู่บนพืน้ ระดับลื่นในระนำบ xy เมื่อออกแรง 3 แรงกระทำต่อ


ทรงกระบอกในทิศทำงขนำนกับพืน้ และผ่ำนศูนย์กลำงมวล โดยไม่ทำให้วตั ถุลม้ ดังภำพมุมมองจำกด้ำนบน
3 4
กำหนดให้ sin  = และ cos  =
5 5
y
6N
4N  x

3N

ควำมเร่งของทรงกระบอกมีขนำดเท่ำใดและมีทิศทำงใด (9วิชำ 64)

y y
1. 2 m/s2 2. 26 m/s2

x x

y y
3. 4.

x
1 m/s2 2 m/s2

y
5.
1 m/s2
x
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 4

4. วัตถุมวล 1.0 กิโลกรัม วำงนิ่งอยู่บนพืน้ ออกแรงขนำดคงตัวดึงวัตถุให้เคลือ่ นที่ขนึ ้ ไปในแนวดิง่ เมื่อเวลำผ่ำน


10 วินำที วัตถุมีพลังงำนศักย์โน้มถ่วงเมื่อเทียบกับพืน้ เท่ำกับ 98 จูล แรงที่ใช้ในกำรดึงวัตถุมี ขนำดกี่นิวตัน
(9วิชำ 64)

1. 2.0
2. 7.8
3. 9.8
4. 11.8
5. 29.8

5. นำย A และ B ช่วยกันหำมกล่องหนัก 150 นิวตัน ด้วยท่อนไม้มวลสม่ำเสมอหนัก 50 นิวตัน ยำว 3.0 เมตร
โดยให้ท่อนไม้อยูใ่ นแนวระดับ ซึ่งตำแหน่งที่แต่ละคนออกแรงกระทำต่อท่อนไม้และตำแหน่งที่ผูกกล่องเป็ นดังภำพ

0.5 m 0.2 m 0.5 m

จุดกึ่งกลำง
ของท่อนไม้
กล่อง

นำย B นำย A

ถ้ำต้องกำรให้นำย A และนำย B ออกแรงกระทำเท่ำกัน โดยที่นำย A ออกแรงกระทำที่ตำแหน่งเดิม นำย B


จะต้องทำอย่ำงไร (9วิชำ 64)

1. นำย B อยู่ตำแหน่งเดิม
2. นำย B ขยับเข้ำหำกล่องอีก 0.2 เมตร
3. นำย B ขยับเข้ำหำกล่องอีก 0.3 เมตร
4. นำย B ขยับออกจำกกล่องอีก 0.3 เมตร
5. นำย B ขยับออกจำกกล่องอีก 0.4 เมตร
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 5

6. ระบบรอกเบำหมุนคล่อง เมื่อออกแรง T ดึงเชือกทำให้วตั ถุหนัก W อยู่นิ่งได้ ดังภำพ

จุด a
T

ควำมสัมพันธ์ระหว่ำง T และ W เป็ นอย่ำงไร และถ้ำออกแรงดึงเชือกลงทำให้จุด a ต่ำลงเป็ น ระยะ D วัตถุ


จะเคลื่อนทีข่ นึ ้ เป็ นระยะเท่ำใด (9วิชำ 64)
W D
1. T = และ
4 4
W
2. T = และ D
4
W
3. T = และ 4D
4
4. T = 4W และ D
5. T = 4W และ 4D
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 6

7. ดำวเทียม A มวล m โคจรรอบโลกเป็ นแนววงกลมรัศมี RA ด้วยอัตรำเร็วเชิงเส้น VA ดังภำพ ซึ่งมีคำบกำร


โคจรรอบโลก TA VA
ดำวเทียม A
มวล m
โลก
RA

ถ้ำต้องกำรส่งดำวเทียม B มวล 2m ให้โคจรรอบโลกเป็ นแนววงกลมด้วยคำบเท่ำกับคำบของดำวเทียม A


จะต้องใช้ดำวเทียม B โคจรด้วยรัศมี RB และอัตรำเร็วเชิงเส้น VB เป็ นอย่ำงไรเมื่อเปรียบเทียบกับของดำวเทียม A
(9วิชำ 64)

1. RB มำกกว่ำ RA และ VB เท่ำกับ VA


2. RB เท่ำกับ RA และ VB เท่ำกับ VA
3. RB เท่ำกับ RA และ VB มำกกว่ำ VA
4. RB น้อยกว่ำ RA และ VB เท่ำกับ VA
5. RB น้อยกว่ำ RA และ VB มำกกว่ำ VA
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 7

8. ติดวัตถุมวล M เข้ำกับปลำยสปริงและวำงบนพืน้ เรียบลื่น ดังภำพ ก เมื่อดึงวัตถุมวล M แล้วปล่อยให้


เคลื่อนที่แบบฮำร์มอนิกอย่ำงง่ำย พบว่ำวัตถุมวล M เคลื่อนที่ครบ 1 รอบ ใช้เวลำ 2 วินำที จำกนัน้ ติดวัตถุ
มวล 1.0 กิโลกรัม บนวัตถุมวล M ดังภำพ ข และทำให้วตั ถุทงั้ สองเคลือ่ นที่แบบฮำร์มอนิกอย่ำงง่ำย พบว่ำวัตถุ
ทัง้ สองเคลือ่ นที่ครบ 1 รอบ ใช้เวลำ 3 วินำที (9วิชำ 64)

1.0 kg
M M
ภำพ ก ภำพ ข
วัตถุมวล M ในภำพ ก เคลื่อนที่ดว้ ยควำมถีเ่ ชิงมุมกี่เรเดียนต่อวินำที และมวล M มีค่ำกี่กิโลกรัม ตำมลำดับ

2
1. และ 3.0
2
2. 2 และ 1.2
3. 2 และ 2.0
4. 2 2 และ 2.0
5. 2 2 และ 3.0
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 8

9. พิจำรณำภำพคลื่นดล 2 คลื่น ที่เวลำ t = 0 s ซึ่งเคลือ่ นที่เข้ำหำกันด้วยอัตรำเร็ว 1 เมตรต่อวินำที ดังนี ้

1 m/s 1 m/s
ภำพ ก x (m)
0.0 1.0 2.0 3.0 4.0 5.0 6.0 7.0 8.0 9.0 10.0

1 m/s 1 m/s
x (m)
0.0 1.0 2.0 3.0 4.0 5.0 6.0 7.0 8.0 9.0 10.0

1 m/s 1 m/s
ภำพ ค x (m)
0.0 1.0 2.0 3.0 4.0 5.0 6.0 7.0 8.0 9.0 10.0

เมื่อเวลำผ่ำนไป 4 วินำที คลื่นในภำพใดเกิดกำรแทรกสอดแบบหักล้ำง (9วิชำ 64)

1. ก เท่ำนัน้
2. ข เท่ำนัน้
3. ค เท่ำนัน้
4. ก และ ข
5. ข และ ค
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 9

10. นักเรียน A และนักเรียน B ยืนอยู่ห่ำงกันในพืน้ ที่โล่งเป็ นระยะ 100 เมตร เมื่อนักเรียน A เป่ ำนกหวีด
นักเรียน B ได้ยินเสียงนกหวีดที่มีระดับเสียง 30 เดซิเบล
กำหนดให้ คลื่นเสียงนกหวีดที่นกั เรียน A เป่ ำมีหน้ำคลืน่ เป็ นทรงกลม
ควำมเข้มเสียงอ้ำงอิง I0 = 1.0 x 10-12 W/m2
เสียงนกหวีดทีน่ กั เรียน A เป่ ำมีกำลังกี่วตั ต์ (9วิชำ 64)

1.  x 10-5
2. 4 x 10-5
3.  x 10-7
4. 2 x 10-5
5. 4 x 10-7

11. ฉำยแสงควำมยำวคลื่น 600 นำโนเมตร ให้ตกกระทบตัง้ ฉำกกับสลิตคู่ซึ่งมีระยะห่ำงระหว่ำงช่อง 0.050


มิลลิเมตร แล้วสังเกตลวดลำยของกำรแทรกสอดบนฉำก จำกนัน้ ฉำยแสงเดิมแต่เปลี่ยนจำกสลิตคู่เป็ นสลิตเดี่ยว
พบว่ำ แถบมืดแถบแรกที่เกิดจำกทัง้ สลิตคู่และสลิตเดี่ยวปรำกฏที่ตำแหน่งห่ำงจำกแถบสว่ำงกลำงเป็ นระยะเท่ำกัน
ควำมกว้ำงของช่องสลิตเดี่ยวมีค่ำกี่เมตร (9วิชำ 64)

1. 1.0 x 10-4
2. 5.0 x 10-5
3. 2.5 x 10-5
4. 1.4 x 10-8
5. 7.2 x 10-9
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 10

12. กล้องตัวหนึง่ มีเลนส์นูนสองอันอยู่ดำ้ นหัวและท้ำยของกล้อง เมื่อใช้สอ่ งวัตถุที่ตำแหน่งหนึง่ พบว่ำภำพ ที่เกิด


จำกเลนส์ A อยูใ่ นตำแหน่งดังภำพ
เลนส์ A เลนส์ B
วัตถุ ภำพจำก
เลนส์ A

15 cm
18 cm
ถ้ำภำพทีเ่ กิดจำกเลนส์ B เป็ นภำพเสมือนที่มีขนำดเป็ น 2 เท่ำของภำพที่เกิดจำกเลนส์ A ควำมยำวโฟกัสของ
เลนส์ B มีค่ำกี่เซนติเมตร (9วิชำ 64)

1. 2
2. 3
3. 6
4. 8
5. 30
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 11

13. จุดประจุขนำด +2q และ -q ถูกตรึงอยู่ที่มมุ สองมุมของรูปสีเ่ หลี่ยมจัตรุ สั ซึ่งยำวด้ำนละ d ดังภำพ

-q
จุด B
d

จุด A d +2q
ควำมต่ำงศักย์ระหว่ำงจุด A เทียบกับจุด B หรือค่ำ VA – VB เป็ นเท่ำใด กำหนดให้ k คือ ค่ำคงตัวคูลอมบ์
(9วิชำ 64)
kq
1.
d
kq
2. −
d
2kq
3. 2
d
kq
4. (1− 2)
d
kq
5. −(1+ 2)
d
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 12

14. นำตัวเก็บประจุ C1 , C2 ที่มีควำมจุ C และ 2C ตำมลำดับ ต่อเข้ำกับแบตเตอรีข่ นำด 6 โวลต์ ดังภำพ


C1

6V C2

กำหนดให้ ควำมจุสมมูลของกำรต่อตัวเก็บประจุดงั กล่ำวเท่ำกับ 4 ไมโครฟำรัด


ควำมต่ำงศักย์ระหว่ำงปลำยของตัวเก็บประจุ C1 เท่ำกับ 4 โวลต์
ควำมต่ำงศักย์ระหว่ำงปลำยของตัวเก็บประจุ C2 เท่ำกับ 2 โวลต์

พลังงำนไฟฟ้ำที่สะสมในตัวเก็บประจุ C2 มีค่ำกี่ไมโครจูล (9วิชำ 64)

1. 12
2. 24
3. 48
4. 96
5. 216
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 13

15. อุปกรณ์ไฟฟ้ำกระแสตรงชิน้ หนึง่ มีควำมต้ำนทำนภำยใน 40 โอห์ม และใช้ได้กับกระแสไฟฟ้ำในช่วง 0.10


แอมแปร์ ถึง 0.15 แอมแปร์ หำกกระแสไฟฟ้ำไม่อยู่ในช่วงดังกล่ำวจะไม่สำมำรถทำงำนได้
พิจำรณำกำรต่อวงจรไฟฟ้ำซึง่ ประกอบด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้ำ แบตเตอรี่ขนำด 24 โวลต์ ซึ่งไม่มีควำมต้ำนทำน
ภำยใน และตัวต้ำนทำนขนำด 100 โอห์ม ดังนี้
R 1 = 100 

24 V 24 V R 2 = 100 
อุปกรณ์ไฟฟ้ำ อุปกรณ์ไฟฟ้ำ
R = 40  R = 40 
วงจร ก วงจร ข

R 1 = 100  R 2 = 100 

24 V
อุปกรณ์ไฟฟ้ำ
R = 40 
วงจร ค
กำรต่อวงจรไฟฟ้ำใดสำมำรถทำให้ใช้งำนอุปกรณ์ไฟฟ้ำนีไ้ ด้ (9วิชำ 64)

1. วงจร ก เท่ำนัน้
2. วงจร ข เท่ำนัน้
3. วงจร ค เท่ำนัน้
4. วงจร ก และ ข
5. วงจร ข และ ค
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 14

16. อนุภำค A B และ C ซึ่งมีอตั รำส่วนระหว่ำงมวลต่อประจุไฟฟ้ำเท่ำกัน เคลือ่ นทีใ่ นระนำบกระดำษภำยใต้


สนำมแม่เหล็กสมำ่ เสมอที่มีทิศทำงพุง่ เข้ำและตัง้ ฉำกกับระนำบกระดำษ (แทนด้วย x) พบว่ำ อนุภำคทัง้ สำมมี
แนวกำรเคลื่อนทีเ่ ป็ นส่วนโค้งของวงกลม ดังภำพ
A

B C
ข้อใดถูกต้อง (9วิชำ 64)

1. อนุภำค A และอนุภำค B มีประจุไฟฟ้ำชนิดเดียวกัน


2. อนุภำค B และอนุภำค C มีประจุไฟฟ้ำต่ำงชนิดกัน
3. อนุภำค C มีประจุไฟฟ้ำบวก
4. อัตรำเร็วของอนุภำค B มำกกว่ำของอนุภำค C
5. อัตรำเร็วของอนุภำค C มำกกว่ำของอนุภำค A

17. พิจำรณำข้อควำมต่อไปนี้
ก. เครื่องรับวิทยุทำงำนโดยรับคลื่นเสียงจำกสถำนีวิทยุแล้วแปลงเป็ นสัญญำณไฟฟ้ำ
ข. คลื่นไมโครเวฟถูกนำมำใช้ในระบบระบุตำแหน่งบนพืน้ โลก หรือ จีพีเอส
ค. สัญญำณที่มีกำรเปลี่ยนแปลงระหว่ำง 2 สถำนะ คือ –1 กับ +1 ต่อเนื่องตลอดเวลำ จัดเป็ นสัญญำณแอ
นะล็อก
ข้อควำมใดถูกต้อง (9วิชำ 64)

1. ข. เท่ำนัน้
2. ค. เท่ำนัน้
3. ก. และ ข.
4. ก. และ ค.
5. ข. และ ค.
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 15

18. ต่อตัวต้ำนทำนขนำด 2.0 โอห์ม เข้ำกับแหล่งกำเนิดไฟฟ้ำกระแสสลับ ค่ำอำร์เอ็มเอสของกระแสไฟฟ้ำทีผ่ ่ำน


1
ตัวต้ำนทำน มีค่ำเท่ำกับ 7.0 แอมแปร์ (กำหนดให้ 2 = 1.41 และ = 0.72)
2
กรำฟใดแสดงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงกระแสไฟฟ้ำทีผ่ ่ำนตัวต้ำนทำน (i) และควำมต่ำงศักย์ระหว่ำงปลำยของตัว
ต้ำนทำน (v) กับเวลำ (t) ได้ถูกต้อง (9วิชำ 64)

i(A), v(V) i(A), v(V)


1. 20 2. 20
15 15
10 10
5 5 v
0 t (s ) 0 t (s )
-5 i -5
-10 i
-10 v
-15 -15
-20 -20

i(A), v(V) i(A), v(V)


3. 20 4. 20
15 15
10 10
5 5
0 t (s ) 0 t (s )
-5 -5
-10 i -10 i
-15 -15 v
-20 v -20

i(A), v(V)
5.
20
15
10
5 v
0 t (s )
-5
-10 i
-15
-20
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 16

19. นำสำร A มวล 1 กิโลกรัม และสำร B มวล 2 กิโลกรัม มำผสมกันภำยในภำชนะปิ ดที่เป็ นฉนวนควำมร้อน
ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงอุณหภูมิของสำร A และสำร B กับเวลำตัง้ แต่เริ่มผสมจนถึงเวลำ tf เป็ นดัง กรำฟ
อุณหภูมิ (OC)
100
80
60 สำร B
40 สำร A
20
0 (min)
tf
กำหนดให้
ควำมร้อนจำเพำะของสำร A ในสถำนะของแข็ง เท่ำกับ 1.00 x 103 จูลต่อกิโลกรัมเคลวิน
ควำมร้อนจำเพำะของสำร A ในสถำนะของเหลว เท่ำกับ 2.00 x 103 จูลต่อกิโลกรัมเคลวิน
ควำมร้อนแฝงของกำรหลอมเหลวของสำร A เท่ำกับ 1.00 x 104 จูลต่อกิโลกรัม
ควำมร้อนจำเพำะของสำร B เป็ นเท่ำใด และหลังจำกเวลำ tf ในกรำฟ เหตุกำรณ์ใดมีโอกำสเกิดขึน้ ได้
(9วิชำ 64)

1. 1.25 x 103 จูลต่อกิโลกรัม เคลวิน และ สำร A มีอุณหภูมิสงู ขึน้


2. 1.25 x 103 จูลต่อกิโลกรัม เคลวิน และ สำร B มีอุณหภูมิคงตัว
3. 1.50 x 103 จูลต่อกิโลกรัม เคลวิน และ สำร A มีอุณหภูมิสงู ขึน้
4. 1.50 x 103 จูลต่อกิโลกรัม เคลวิน และ สำร B มีอุณหภูมิคงตัว
5. 1.50 x 103 จูลต่อกิโลกรัม เคลวิน และ สำร A มีอุณหภูมิต่ำลง
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 17

20. บรรจุแก๊สอำร์กอนและแก๊สฮีเลียมจำนวนเท่ำกันในภำชนะปิ ดใบหนึ่ง โดยแก๊สทัง้ สองมีสมบัตใิ กล้เคียงแก๊ส


อุดมคติ และอยูใ่ นสมดุลควำมร้อนที่อุณหภูมิ 300 เคลวิน พิจำรณำข้อควำมต่อไปนี้
ก. พลังงำนจลน์เฉลี่ยของแก๊สอำร์กอนและแก๊สฮีเลียมในภำชนะมีค่ำไม่เท่ำกัน
ข. อัตรำเร็วเฉลี่ยของแก๊สฮีเลียมมำกกว่ำอัตรำเร็วเฉลี่ยของแก๊สอำร์กอน
ค. ที่สมดุลควำมร้อน แก๊สอำร์กอนทุกโมเลกุลในภำชนะมีอตั รำเร็วเท่ำกัน
ข้อควำมใดถูกต้อง (9วิชำ 64)
1. ข. เท่ำนัน้
2. ค. เท่ำนัน้
3. ก. และ ข.
4. ก. และ ค.
5. ข. และ ค.

21. นำลวดโลหะเส้นหนึ่งที่มีพนื้ ที่หน้ำตัด A ยำว L0 มำแขวนด้วยมวล m ขนำดต่ำงๆ กัน ที่ปลำยของลวด


โลหะ แล้ววัดควำมยำวที่เปลี่ยนไปของลวดโลหะเทียบกับควำมยำวเริ่มต้นพบว่ำ ควำมสัมพันธ์ระหว่ำง ควำมยำว
ที่เปลี่ยนไปของลวดโลหะ (L) กับมวลทีใ่ ช้แขวน (m) มีแนวโน้มเป็ นดังกรำฟ
L

m
ถ้ำใช้กรำฟข้ำงต้นหำค่ำมอดูลสั ของยัง Y ของลวดโลหะเส้นนีจ้ ะหำได้จำกสมกำรใด กำหนดให้ k คือ ควำม
ชันของกรำฟ และ g คือ ควำมเร่งโน้มถ่วงของโลก (9วิชำ 64)

1. Y = kgL0 A
kA
2. Y =
gL0
A
3. Y =
kgL 0
kgL
4. Y = 0
A
gL
5. Y = 0
kA
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 18

22. นำ้ ที่มีควำมหนำแน่น  ไหลต่อเนื่องในท่อผ่ำนตำแหน่ง a ซึ่งมีพนื้ ที่หน้ำตัด A และมีควำมดันในนำ้ เป็ น


10 เท่ำของควำมดันบรรยำกำศ P0 ออกไปปลำยทำงท่อที่ตำแหน่ง b ซึ่งเปิ ดสู่บรรยำกำศมีพนื้ ที่หน้ำตัดเท่ำกับ
A
โดยจุดศูนย์กลำงของท่อที่ตำแหน่ง b อยู่สงู จำกจุดศูนย์กลำงของท่อที่ตำแหน่ง a เป็ นระยะ H ดังภำพ
2

ตำแหน่ง b
A
ตำแหน่ง a 2
H
A

อัตรำเร็วของนำ้ ที่พุ่งออกจำกปลำยท่อที่ตำแหน่ง b มีค่ำเท่ำใด (9วิชำ 64)

 9P 
1. 2  0 − gH 
  

 9P 
2. 2  gH − 0 
  

 9P 
3. 2  0 − gH 
  

4. 2 gH

P0
5. 6

Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 19

23. ข้อมูลของอนุภำคมูลฐำนในกลุ่มอนุภำคสสำรเป็ นดังนี้

ชนิดของควำร์ก มวล ประจุ ชนิดของเลปตอน มวล ประจุ


2 อิเล็กตรอน  0.51 MeV/c2 -e
อัพ  2.2 MeV/c2 + e
3
1 อิเล็กตรอนนิวทริโน < 2.2 eV/c2 0
ดำวน์  4.7 MeV/c2 − e
3 มิวออน  105.66 MeV/c2 -e
2
ชำร์ม  1.28 GeV/c 2
+ e
3 มิวออนนิวทริโน < 0.17 MeV/c2 0
1
สเตรนจ์  96 GeV/c2 − e ทำว  1.78 GeV/c2 -e
3
2
ทอป  173.1 GeV/c2 + e ทำวนิวทริโน < 1.82 MeV/c2 0
3
1
บอททอม  4.18 GeV/c2 − e
3

ข้อมูลของอนุภำคมูลฐำนในกลุ่มอนุภำคสื่อแรงเป็ นดังนี้

ชนิด มวล ประจุ


กลูออน 0 0
โฟตอน 0 0
Z-โบซอน  91.19 GeV/c2 0
W-โบซอน  80.39 GeV/c2 e

ถ้ำอนุภำคชนิดหนึง่ มีองค์ประกอบเป็ นควำร์กอัพ 1 อนุภำค และแอนติควำร์กสเตรนจ์ 1 อนุภำค พิจำรณำ


ข้อควำมต่อไปนี้
ก. อนุภำคดังกล่ำวมีประจุไฟฟ้ำเท่ำกับประจุไฟฟ้ำของ Z-โบซอน
ข. ปฎิยำนุภำคของอนุภำคดังกล่ำว มีมวลมำกกว่ำมวลของทำวนิวทริโน
ค. อนุภำคดังกล่ำวมีโฟตอนเป็ นอนุภำคสื่อแรงของแรงที่ยึดเหนี่ยวควำร์กและแอนติควำร์ก ให้อยู่รวมกัน

ข้อควำมใดถูกต้อง (9วิชำ 64)


1. ก. เท่ำนัน้
2. ข. เท่ำนัน้
3. ค. เท่ำนัน้
4. ก. และ ข.
5. ข. และ ค.
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 20

24. ตำมทฤษฎีอะตอมของโบร์ ถ้ำอิเล็กตรอนในอะตอมไฮโดรเจนเปลี่ยนระดับพลังงำนจำกระดับพลังงำนสูง ไป


ยังระดับพลังงำนตำ่ กว่ำที่มีพลังงำนเท่ำกับ – 3.40 อิเล็กตรอนโวลต์ โดยอิเล็กตรอนปลดปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ
ที่มีควอนตัมของพลังงำนเท่ำกับ 1.89 อิเล็กตรอนโวลต์ อิเล็กตรอนดังกล่ำวมีกำรเปลี่ยนแปลงระดับพลังงำนจำก
ระดับใดไปยังระดับใด (9วิชำ 64)
1. จำก n = 4 ไปยัง n = 3
2. จำก n = 4 ไปยัง n = 2
3. จำก n = 3 ไปยัง n = 2
4. จำก n = 3 ไปยัง n = 1
5. จำก n = 2 ไปยัง n = 1

25. ถ้ำเริ่มต้นมีเรเดียน-221 จำนวน 1.85 x 109 นิวเคลียส ซึ่งมีกัมมันตภำพ 1 มิลลิครู ี ต้องใช้เวลำประมำณกี่


วินำที จำนวนนิวเคลียสของเรเดียม-221 จึงจะลดลงเหลือครึง่ หนึ่งของจำนวนเริ่มต้น (9วิชำ 64)
กำหนดให้ กัมมันตภำพ 1 คูรี เท่ำกับอัตรำกำรสลำยของนิวเคลียสจำนวน 3.7 x 1010 นิวเคลียสต่อวินำที
1. 3.73 x 10-10
2. 1.38 x 10-2
3. 2.00 x 10-2
4. 3.45 x 101
5. 1.28 x 109
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 21

ตอนที่ 2 แบบระบำยตัวเลขทีเ่ ป็ นคำตอบ


จำนวน 5 ข้อ (ข้อ 26 – 30) ข้อล่ะ 5 คะแนน รวม 25 คะแนน

26. ปื นใหญ่มวล 400 กิโลกรัม วำงอยู่บนพืน้ รำบที่มสี มั ประสิทธิ์ควำมเสียดทำนจลน์ระหว่ำงปื นใหญ่ และพืน้


เท่ำกับ 0.5 ถ้ำปื นใหญ่ยงิ ลูกปื นมวล 9.8 กิโลกรัม ออกไปในแนวระดับด้วยควำมเร็ว 40 เมตรต่อวินำที ดังภำพ

40 m/s

ฐำนปื นใหญ่ที่ไม่ได้ถูกยึดไว้

ปื นใหญ่จะถอยหลังเป็ นระยะทำงกี่เซนติเมตร (9วิชำ 64)

27. วัตถุ A ทรงลูกบำศก์ ยำวด้ำนละ 1.0 เมตร ลอยนำ้ อยู่ ดังภำพ ก เมื่อวำงวัตถุ B ลงบนวัตถุ A พบว่ำ
วัตถุ A จมลงอีก 5.0 เซนติเมตร ดังภำพ ข
กำหนดให้ ควำมหนำแน่นของนำ้ เท่ำกับ 1.0 x 103 กิโลกรัมต่อลูกบำศก์เมตร

5.0 cm B
A
A

ภำพ ก ก่อ นวำง ภำพ ข หลังวำง

วัตถุ B มีมวลกี่กิโลกรัม (9วิชำ 64)


Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 22

28. ในพิธีเปิ ดกีฬำครัง้ หนึ่ง นักกีฬำยิงลูกธนูติดไฟให้ตกบนยอดหอคบเพลิงซึ่งอยูส่ งู จำกพืน้ สนำม 23.6 เมตร ถ้ำ
ลูกธนูถูกยิงจำกควำมสูงเหนือพืน้ 2.0 เมตร โดยทำมุม 45 องศำกับพืน้ และลูกธนูใช้เวลำในกำรเคลื่อนไปถึง
ยอดหอคบเพลิง 4.0 วินำที ดังภำพ
กำหนดให้ ไม่คิดแรงต้ำนของอำกำศ
ควำมเร่งโน้มถ่วงบริเวณผิวโลก g = 9.8 m/s2

ควำมเร็วเริ่มต้น
23.6 m
45O

2.0 m

ระยะทำงในแนวระดับ

ลูกธนูถูกยิงห่ำงจำกหอคบเพลิงในแนวระดับเป็ นระยะทำงกี่เมตร (9วิชำ 64)


Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 23

29. คลื่นผิวนำ้ หน้ำตรงเคลื่อนที่จำกบริเวณนำ้ ลึก (แรเงำสีเทำ) เข้ำสู่บริเวณนำ้ ตืน้ เกิดกำรหักเหโดยหน้ำคลืน่ ตก


กระทบและรังสีหกั เหทำมุม 45 องศำ และ 60 องศำ กับระนำบรอยต่อระหว่ำงตัวกลำงตำมลำดับดังภำพ

รังสีหักเห รอยต่อระหว่ำงตัวกลำง

60o รังสีตกกระทบ
หน้ำคลื่นหักเห 45o

หน้ำคลื่นตกกระทบ

ถ้ำอัตรำเร็วของคลื่นผิวนำ้ ในบริเวณนำ้ ลึกเท่ำกับ 2 เมตรต่อวินำที อัตรำเร็วในบริเวณนำ้ ตืน้ เท่ำกับกี่


เมตรต่อวินำที (กำหนดให้ 2 = 1.41 3 = 1.73 และ 6 = 2.45) (9วิชำ 64)
Facebook Page : ฟิ สิกส์โกเอก เรียนฟิ สิกส์ออนไลน์ : https://www.physicskoake.com/ 24

30. ต่อวงจรไฟฟ้ำที่มีแบตเตอรี่ 3 ก้อน กับตัวต้ำนทำน 2 ตัว ดังภำพ

RA = 1.4  RB = 2.4 

e1 = 8.0 V
r1 = 0.4 

e2 = 4.0 V e3 = 4.0 V
r2 = 0.2  r3 = 0.2 

กระแสไฟฟ้ำทีผ่ ่ำนตัวต้ำนทำน RA มีค่ำกีแ่ อมแปร์ (9วิชำ 64)

You might also like