Professional Documents
Culture Documents
พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553
พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พระราชบัญญัติ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. ๒๕๕๓สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัพระบาทสมเด็ จพระปรมินกาทรมหาภูมิพลอดุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัลกยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าฯ
ให้ประกาศว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว
และวิธีพิจารณาคดี
สํานักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยาวชนและครอบครัว กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัตินสํี้มาีบนัทบั ญญัติบางประการเกีก่ยาวกับการจํากัดสํสิานัทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี และเสรีภาพของ กา
บุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๖ มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๑ มาตรา ๔๓ มาตรา ๔๕ และมาตรา ๕๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทํา
ได้โดยอาศัยอํานาจตามบทบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติแสํห่างนักฎหมาย
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัจึกงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้
กาาฯ ให้ตราพระราชบั ญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าและยินยอม
ของรัฐสภา ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัว
และวิธีพิจารณาคดี
สํานักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยาวชนและครอบครัว กพ.ศ.
า ๒๕๕๓” สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๑ พระราชบั
มาตรา ญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อกพ้านกําหนดหนึ่สํงร้านัอกยแปดสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บวันนับแต่ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓ ให้ยกเลิสํากนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและ
ครอบครัว พ.ศ.สํา๒๕๓๔
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและ
ครอบครัว (ฉบับที่ ๒)กาพ.ศ. ๒๕๔๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและ
ครอบครัว (ฉบัสํบานัทีก่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๘
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“เยาวชน” หมายความว่ า บุคคลอายุเกินสิบห้าปีบริบูรณ์สําแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยังไม่ถึงสิบแปดปี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บริบูรณ์
สํานั“คดี เยาวชนและครอบครั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาว” หมายความว่ า คดีที่ศาลเยาวชนและครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วมี
อํานาจพิจารณาพิพากษาตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี “คดีกาครอบครัว” สํหมายความว่ า คดีแพ่งที่ฟ้อกงหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อร้องขอต่อสํศาลหรื อกระทําการใด กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ๆ ในทางศาลเกี่ยวกับผู้เยาว์หรือครอบครัว ซึ่งจะต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
กฎหมายว่าด้วสํยการจดทะเบี ยนครอบครัว กหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อกฎหมายอืสํ่นานัทีก่เกีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ยวกับครอบครัว กา
“คดีคุ้มครองสวัสดิภาพ” หมายความว่า คดีที่ฟ้องหรือร้องขอต่อศาลหรือกระทํา
การใด ๆ ในทางศาลเกี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ยวกับการคุ้มสําครองสวั สดิภาพเด็กหรือบุคกคลในครอบครั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํวานัซึก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
จะต้องบังคับตาม กา
กฎหมายว่ า ด้ ว ยการคุ้ ม ครองเด็ ก กฎหมายว่ า ด้ ว ยการคุ้ ม ครองผู้ ถู ก กระทํ า ด้ ว ยความรุ น แรงใน
ครอบครัวหรือสํกฎหมายอื ่นที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสวัสดิภสําพเด็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กหรือบุคคลในครอบครัว
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“คดีธรรมดา” หมายความว่า คดีอื่น ๆ นอกจากคดีที่อยู่ในอํานาจพิจารณาพิพากษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ของศาลที่มีอํานาจพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
สํานั“ศาลเยาวชนและครอบครั
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ว” หมายความว่ สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ศาลเยาวชนและครอบครั กา วกลาง ศาล
เยาวชนและครอบครัวจังหวัด หรือแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลจังหวัด ซึ่งจัดตั้งขึ้นตาม
พระราชบัญญัตินี้ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“ศาลที่มีอํานาจพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว” หมายความว่า ศาลเยาวชน
และครอบครัวสําศาลอุ ทธรณ์แผนกคดีเยาวชนและครอบครั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัวกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ศาลอุทธรณ์ภาคแผนกคดี กา เยาวชนและ
ครอบครัวและศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี “สถานพิ
กา นิจ” หมายความว่ า สถานพินิจและคุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้มครองเด็กและเยาวชนซึ ่งจัดตั้งขึ้น กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามพระราชบัญญัตินี้
สํานั“ศู นย์ฝึกและอบรม” หมายความว่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า ศูนสํย์าฝนัึกกและอบรมเด็ กและเยาวชน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
“การแก้ไขบําบัดฟื้นฟู” หมายความว่า มาตรการที่กําหนดเพื่อปรับเปลี่ยน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พฤติกรรมหรือสนับสนุนเด็กหรือเยาวชนให้สามารถอยู่กับครอบครัวและชุมชนได้โดยปกติสุข เช่น
การรับคําปรึกสํษา
านักแนะนํ า การเข้าร่วมกิจกรรมบํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าบัด การเข้ สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ร่วมกิจกรรมทางเลือกกการศึ า กษา หรือ
การฝึกอาชีพหรือวิชาชีพ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี “การฝึ
กา กอบรม” หมายความว่ า การแก้ไขบําบักดาฟื้นฟูโดยมีการควบคุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
“ผู้อํานวยการสถานพินิจ” หมายความว่า ผู้อํานวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก
และเยาวชน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“ผู้อํานวยการศูนย์ฝึกและอบรม” หมายความว่า ผู้อํานวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็ก
และเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-๓- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“พนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กากงานคุมประพฤติ ” หมายความว่า ผูก้ซาึ่งได้รับแต่งตั้งสํให้านัมกีองานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ํานาจหน้าที่ตาม กา
พระราชบัญญัตินี้และให้หมายความรวมถึงพนักงานคุมประพฤติตามกฎหมายอื่น
สํานั“ผู ้ช่วยพนักงานคุมประพฤติ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ” หมายความว่ า ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้กเาป็นผู้ช่วยเหลือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พนักงานคุมประพฤติตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี “ผูก้ราับใบอนุญาต”สําหมายความว่ า ผู้รับใบอนุญกาตให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า จัดตั้งสถานศึ สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ษา สถานฝึกและ กา
อบรมหรือสถานแนะนําทางจิต เกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดหรือเป็นจําเลย
หรื อ เป็ น ผู้ ต้ อสํงคํานัากพิงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พ ากษาหรื อ คํ า สั่ ง ศาลให้ ล งโทษ หรื สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อ ใช้ วิ ธี ก ารสํ า หรั บ เด็ ก และเยาวชนตาม
พระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอืสํา่นนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม” หมายความว่า คณะกรรมการบริหารศาล
ยุติธรรมตามกฎหมายว่ าด้วยระเบียบบริหารราชการศาลยุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํตานัิธรรม
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“อธิบดี” หมายความว่า อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี “รัฐกมนตรี
า ” หมายความว่ า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ินี้ กา
สํานัมาตรา ๕ คดีอาญาที่มีขก้อาหาว่าเด็กหรือสําเยาวชนกระทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี าความผิด ให้กถา ืออายุเด็กหรือ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เยาวชนนั้นในวันที่การกระทําความผิดได้เกิดขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖ ให้นําบทบัญญัติแห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ประมวลกฎหมายวิธี
พิจารณาความอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง มาใช้บังคับแก่คดีเยาวชนและครอบครัวเท่าที่ไม่ขัดหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗ ให้ประธานศาลฎีกาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรักษาการตาม
พระราชบัญญัตินี้ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ประธานศาลฎีกาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมีอํานาจออกกฎกระทรวง
ข้อบังคับ ประกาศ หรื อระเบียบ เพื่อปฏิกาบัติการให้เป็นสําไปตามพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญญั ตินี้ กาทั้งนี้ ในส่วนที่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกี่ยวกับอํานาจหน้าที่ของตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กฎกระทรวง
กา ข้อบัสํงาคันับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประกาศ หรือระเบียบกาเมื่อได้ประกาศในราชกิ จจานุเบกษา กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แล้วให้ใช้บังคับได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ศาลเยาวชนและครอบครัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๘ ให้จัดตัสํ้งานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางขึ้นในกรุงเทพมหานคร และให้มีเขตอํานาจ
ตลอดกรุงเทพมหานคร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ศาลเยาวชนและครอบครั วขึ้ น ในทุ ก จั ง หวั ด และให้ มีเ ขตอํา นาจตลอดเขต
จังหวัดนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-๔- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง เทพมหานครหรื อจั งหวัดใดที่มีศาลจักงาหวัดมากกว่าสํหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านั่กง ศาล หากมีความ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
จําเป็นจะเปิดแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลจังหวัดที่ยังมิได้มีแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว
นั้นอีกก็ได้ ทั้งสํนีานั้ จะเปิ ดทําการเมื่อใดให้ปกระกาศโดยพระราชกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า กาและให้ระบุเขตอํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา านาจศาลเดิม
หรือแผนกเดิมและแผนกที่จัดตั้งขึ้นใหม่ไว้ในพระราชกฤษฎีกาด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙ การจั ด ตั้ ง ศาลเยาวชนและครอบครั ว จั ง หวั ด ให้ ก ระทํ า โดย
พระราชบัญญัติซึ่งจะต้องระบุเขตอํานาจของศาลนั้นไว้ดสํ้วายนักและจะเปิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดทําการเมื่อใดให้ประกาศโดย
พระราชกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อได้จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขึ้นในจังหวัดที่มีแผนกคดีเยาวชนและ
ครอบครัวเปิดสํทําานัการอยู ่แล้ว ให้ถือว่าเป็นกการยุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า บเลิกแผนกคดี เยาวชนและครอบครัวกนัา ้น และให้โอน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บรรดาคดีที่ค้างพิจารณาในแผนกดังกล่าวไปพิจารณาพิพากษาในศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดที่
จัดตั้งขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัมาตรา ๑๐ ศาลเยาวชนและครอบครั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วสํมีาอนัํากนาจพิ จารณาพิพากษาหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาอมีคําสั่งในคดี
ดังต่อไปนี้
(๑)กคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อาญาที่มีขสํ้อาหาว่ าเด็กหรือเยาวชนกระทํกาา ความผิด
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) คดีอาญาที่ศาลซึ่งมีอํานาจพิจารณาคดีธรรมดาได้โอนมาตามมาตรา ๙๗ วรรค
หนึ่ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) คดีครอบครัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) คดีคุ้มครองสวัสดิภาพ
สํานั(๕) คดีอื่นที่มีกฎหมายบัญ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาญัติให้เป็นอําสํนาจหน้ าที่ของศาลเยาวชนและครอบครั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ว
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๑ ในกรณี
สํานักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีปัญหาว่าคดีใดจะอยู่ใกนอํ
า านาจศาลเยาวชนและครอบครั ว กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือศาลยุติธรรมอื่น ไม่ว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในศาลเยาวชนและครอบครัวหรือศาลยุติธรรมอื่น ให้
ประธานศาลฎีสํกาาเป็ นผู้วินิจฉัยชี้ขาด คําวินกิจาฉัยของประธานศาลฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาให้เป็นที่สุด กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การขอให้ประธานศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาดตามวรรคหนึ่ง คู่ความจะต้องร้องขอก่อนวัน
สืบพยานแต่ในกรณีทกี่ศา าลเห็นสมควรให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระทําได้ก่อนมีคําพิพากษาของศาลชั
กา ้นสําต้นันกและในกรณี เช่นว่า กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
นี้ ให้ศาลนั้นรอการพิจารณาพิพากษาคดีไว้ชั่วคราว
สํานัคํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
วินิจฉัยของประธานศาลฎี กา กา ไม่มีผสํลกระทบต่ อกระบวนพิจารณาของศาลที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ได้
ดําเนินการไปแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัมาตรา ๑๒ ภายใต้บังคักาบบทบัญญัติแสํห่านังกพระราชบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัตินี้ว่าด้วกยการโอนคดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ใน
ท้องที่ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวเปิดทําการแล้ว ห้ามมิให้ศาลชั้นต้นอื่นใดในท้องที่นั้นรับคดีที่อยู่ใน
อํานาจศาลเยาวชนและครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วไว้สํพานัิจการณาพิ พากษา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัมาตรา ๑๓ ในระหว่างการพิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จารณาของศาลที ่มีอํานาจพิจารณาคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เยาวชนและ
ครอบครัวแม้จําเลยจะมีอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์สําหรับคดีอาญา หรือผู้เยาว์จะมีอายุครบยี่สิบปี
บริบูรณ์หรือบรรลุนกิตาิภาวะแล้วด้วสํยการสมรสสํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าหรับคดีครอบครั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ว ให้ศาลนัสํ้นาคงมี อํานาจพิจารณา กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
-๕- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัมาตรา ๑๕ ในศาลเยาวชนและครอบครั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัวกทุงานคณะกรรมการกฤษฎี
กศาล ให้มีผู้พิพากษาและผู
กา ้พิพากษา
สมทบตามจํานวนที่คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖ การแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวจะได้ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากข้าราชการตุลาการตามกฎหมายว่สําานัด้กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยระเบียบข้าราชการฝ่กาายตุลาการ ศาล
ยุติธรรม ซึ่งเป็นผู้มีอัธยาศัยและความประพฤติเหมาะสมที่จะปกครองและอบรมสั่งสอนเด็กและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เยาวชน และเป็นผู้มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาครอบครัว
สํานัผูก้พงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิพากษาศาลเยาวชนและครอบครั
กา วจะเป็
สํานันกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้พิพากษาในศาลชั้นต้นกอืา่นด้วยก็ได้
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๗ ในศาลเยาวชนและครอบครั วกลาง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้มีอธิบดีผสํู้พานัิพกากษาศาลเยาวชน
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และครอบครั วกลางหนึ่ งคน รองอธิบ ดีผู้พิ พ ากษาศาลเยาวชนและครอบครั วกลางสองคน และ
เลขานุการศาลเยาวชนและครอบครั วกลางหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งคนซึ่งแต่สํงาตันั้งกจากข้ าราชการตุลาการตามกฎหมายว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา า
ด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม และในกรณีที่มีความจําเป็นเพื่อประโยชน์ในทาง
ราชการคณะกรรมการบริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หารศาลยุสํตาิธนัรรมโดยความเห็ นชอบของประธานศาลฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํากนัาจะกํ าหนดให้มีรอง กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนก็ได้
สํานัในศาลเยาวชนและครอบครั
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ว จั ง หวั ดสําให้ นักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี ผู้ พิ พ ากษาหั ว หน้ า ศาลเยาวชนและ
กา
ครอบครัวจังหวัดศาลละหนึ่งคน ในกรณีที่มีการจัดตั้งแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวขึ้นในศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จังหวัดใด ให้มีผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลจังหวัดนั้นหนึ่งคน
และเพื่ อประโยชน์ แห่งพระราชบัญ ญัตินกี้ าให้ผู้พิพากษาหั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัวกหน้ าศาลจังหวัดแผนกคดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา เ ยาวชนและ
ครอบครัวมีฐานะเช่นเดียวกับผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘ เมื่อตําแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลางว่างลง
หรื อ ผู้ ดํ า รงตํ าสํแหน่ ง ดั ง กล่ า วไม่ อ าจปฏิ บกาั ติ ร าชการได้สํให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักรงานคณะกรรมการกฤษฎี
องอธิ บ ดี ผู้ พิ พ ากษาศาลเยาวชนและ
กา
ครอบครัวกลางเป็นผู้ทําการแทน ถ้ามีผู้ดํารงตําแหน่งนั้นมากกว่าหนึ่งคน ให้ผู้มีอาวุโสสูงสุดเป็นผู้ทํา
การแทน ถ้าผู้มีอาวุโกสสูา งสุดไม่อาจปฏิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําบนักัตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิราชการได้ ให้ผู้มีอาวุโสถั
กา ดลงมาตามลํสําาดันับกเป็ นผู้ทําการแทน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
-๖- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อกตํา าแหน่งผู้พิพสํากษาหั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี วหน้าศาลเยาวชนและครอบครั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วจัสํางนัหวักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดหรือผู้พิพากษา กา
หัวหน้าศาลจังหวัดแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวว่างลง หรือผู้ดํารงตําแหน่งดังกล่าวไม่อาจปฏิบัติ
ราชการได้ให้ผสํู้พาิพนักากษาผู ้มีอาวุโสสูงสุดในศาลหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อแผนกนัสํา้นนัเป็ นผู้ทําการแทน ถ้าผู้พิพกาากษาผู้มีอาวุโส
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สูงสุดในศาลหรือแผนกนั้นไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้ผู้พิพากษาผู้มีอาวุโสถัดลงมาตามลําดับเป็นผู้ทํา
การแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ไม่มีผู้ทําการแทนตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ประธานศาลฎีกาจะสั่งให้ผู้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิพากษาศาลใดศาลหนึ่งเป็นผู้ทําการแทนก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเป็นผู้รับผิดชอบงาน
ของศาลเยาวชนและครอบครั วทั่วราชอาณาจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กร โดยให้สํมาีอนัํากนาจหน้ าที่เช่นเดียวกับอธิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บดีผู้พิพากษา
ศาลชั้นต้นและอธิบดีผู้พิพากษาภาคตามที่บัญญัติไว้ในพระธรรมนูญศาลยุติธรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐ ให้รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมีอํานาจหน้าที่
เช่นเดียวกับรองอธิ บดีผู้พิพากษาศาลชั้นกต้านตามที่บัญญัสํตาินัไว้กใงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นพระธรรมนูญศาลยุตกิธา รรม และให้มี
หน้าที่เป็นผู้ช่วยอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลางตามที่อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชน
และครอบครัวกลางมอบหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑ ให้อธิบดีผู้พิพากษาภาคมีสํอานัํากนาจตามที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๔ แห่ง
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระธรรมนูญศาลยุติธรรม ในส่วนที่เกี่ยวกับศาลเยาวชนและครอบครัวที่อยู่ในเขตอํานาจของตน และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้เป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบงานธุรการของศาลเยาวชนและครอบครัวที่อยู่ในเขตอํานาจของ
ตนตามที่ อ ธิ บสํดีานัผกู้ พงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิ พ ากษาศาลเยาวชนและครอบครั
กา วสํกลางมอบหมาย เมื่ อ มอบหมายแล้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ว ให้ ผู้
มอบหมายรายงานไปยังสํานักงานศาลยุติธรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๒ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดมีอํานาจหน้าที่
เช่นเดียวกับผู้พสํิพานัากษาหั วหน้าศาลตามที่บกัญาญัติไว้ในพระธรรมนู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ญศาลยุติธรรม กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๓ ภายใต้
สําบนัังกคังานคณะกรรมการกฤษฎี
บมาตรา ๒๔ ศาลเยาวชนและครอบครั
กา สํานัวกต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องมีผู้พิพากษาไม่ กา
น้อยกว่าสองคน และผู้พิพากษาสมทบอีกสองคนซึ่งอย่างน้อยคนหนึ่งต้องเป็นสตรี จึงเป็นองค์คณะ
พิจารณาคดีได้สํสานั่วนการทํ าคําพิพากษาหรืกอาคําสั่งของศาลนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้นกถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าคําพิพากษาหรือคําสัก่างจะต้องทําโดย
องค์คณะพิ จารณาคดี คําพิพากษาหรือคํ าสั่ งนั้นจะต้องบั งคับตามคะแนนเสียงฝ่ายข้ างมากของผู้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิพากษาและผู้พิพากษาสมทบที่เป็นองค์คณะพิจารณาคดีนั้น ในกรณีที่มีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้นํา
บทบัญญัติแห่สํงาพระธรรมนู ญศาลยุติธรรมกาประมวลกฎหมายวิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา และประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในการพิ
กา จารณาพิสํพานัากษาคดี ครอบครัวใดจะต้กาองมีผู้พิพากษาสมทบเป็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นองค์คณะ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือไม่ให้เป็นไปตามมาตรา ๑๔๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๔ ในคดีซึ่งอยู่ในอํานาจอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง
รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วกลาง ผู้พิพากษาหั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วหน้าศาลเยาวชนและครอบครั ว กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
-๗- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จังหวัด ผู้พิพากษาหักวาหน้าศาลจังหวั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําดนักแผนกคดี เยาวชนและครอบครั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ว หรือผูสํ้พานัิพกากษาศาลเยาวชน
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และครอบครัวคนใดคนหนึ่งตามมาตรา ๒๔ และมาตรา ๒๕ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ถ้าอธิบดี
ผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี วกลางกาผู้พิพากษาหัวสํหน้านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ศาลเยาวชนและครอบครั กา วจังหวัด หรือ
ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว เห็นว่าในการพิจารณาคดีนั้นมีเหตุอัน
สมควรจะสั่งให้ ผู้พิพกากษาสมทบคนใดคนหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่งนั่งพิจารณาร่วกมกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บ ตนหรื อร่สํวามกั บผู้พิพากษาศาล กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เยาวชนและครอบครัวก็ได้ หรือจะสั่งให้ผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวคนใดคนหนึ่งร่วมเป็น
องค์คณะด้วยก็สํไาด้นักและให้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
องค์คณะเช่นว่านี้มีอํานาจพิพากษาคดี ตามมาตรา ๒๕ หรือมาตรา ๒๖ แห่ง
พระธรรมนูญศาลยุติธรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัมาตรา ๒๕ ผู้พิพากษาสมทบตามมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๕ จะได้ทรงพระกรุณกาาโปรดเกล้า ฯ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่งตั้งจากบุคคลซึ่งคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่าย
ตุลาการศาลยุติธรรมคั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดเลือกตามหลั
สํานักกเกณฑ์ และวิธีการที่คณะกรรมการตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ลาการศาลยุ ติธรรมตาม กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมกําหนดในระเบียบ และต้องมีคุณสมบัติ
และไม่มีลักษณะต้ สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งห้าม ดังต่อไปนี้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) มีอายุไม่ต่ํากว่าสามสิบห้าปีบริบูรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒)กามี ห รื อ เคยมีสํบาุ ตนัรกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรื อ เคยอบรมเลี้ ย งดูกาเ ด็ ก หรื อ เคยทํ
สํานัากงานเกี ่ ย วกั บ การ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
สงเคราะห์หรือการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เยาวชน หรือครอบครัว มาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสามปี
(๓) มีคุณสมบัติที่จะเป็นข้าราชการศาลยุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ติธรรมได้ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม เว้นแต่พื้นฐานความรู้ซึ่งต้องไม่ต่ํากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือเคยเป็นผู้พิพากษาสมทบ
สํานั(๔) มีความสุขุมรอบคอบกา ทัศนคติ อัธสํยาศั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
และความประพฤติเกหมาะสมแก่า การ
พิจารณาคดีที่อยู่ในอํานาจของศาลเยาวชนและครอบครัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๕)กาไม่เป็นข้าราชการหรื อผู้ปฏิบัติงานในหน่กาวยงานของรัฐสําข้นัากราชการการเมื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งานคณะกรรมการกฤษฎี อ ง กา
สมาชิกรัฐสภาหรือทนายความ
สํานัก่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
นเข้ารับตําแหน่ง ผู้พกิพา ากษาสมทบจะต้ สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งได้รับการอบรมความรู กา ้และผ่านการ
ทดสอบในเรื่องเจตนารมณ์ และการพิจารณาคดีของศาลเยาวชนและครอบครั ว ความรู้ เกี่ยวกับ
จิตวิทยา การสังคมสงเคราะห์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา การให้สําคนัํากปรึ กษาแนะนํา และการคุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้มครองสวัสดิสํภาาพเด็ ก เยาวชน และ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ครอบครัว ตลอดจนหน้าที่ของตุลาการ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่กําหนดใน
ระเบียบประธานศาลฎี กา และจะต้องปฏิญกาาณตนต่อหน้าสํอธิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครั
กา ว
กลาง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด หรือผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดแผนก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คดีเยาวชนและครอบครัว ซึ่งตนจะเข้าสังกัด แล้วแต่กรณี ว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
ด้วยความเที่ยงธรรม และรักษาความลับในราชการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้พิพากษาสมทบให้ดํารงตําแหน่งคราวละสามปี และจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
แต่งตั้งผู้ที่พ้นจากตํากแหน่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า งเนื่องจากครบวาระให้ ดํารงตําแหน่งกต่าอไปอีกก็ได้ แต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําจนัะดํ ารงตําแหน่งเกิน กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สองวาระติดต่อกันมิได้ ผู้พิพากษาสมทบที่พ้นจากตําแหน่งเนื่องจากครบวาระให้คงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
จนกว่าผู้พิพากษาสมทบคนใหม่ จะเข้ารับหน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาที่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๖ ผู้พิพสําากษาสมทบเป็ นเจ้าพนักงานในตํ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าแหน่งสํตุาลนัาการตามประมวล
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๗ ผู้พิพากษาสมทบพ้นจากตําแหน่งเมื่อ
(๑)กออกตามวาระ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ตาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ลาออก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ขาดคุณสมบัตสํิหารืนัอกเข้ าลักษณะต้องห้ามอย่างใดอย่างหนึ่งสํตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๕
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) ขาดการปฏิบัติหน้าที่ตามเวรปฏิบัติการที่กําหนดถึงสามครั้งโดยไม่มีเหตุอัน
สมควรหรือกระทํสํานัากการใด ๆ ซึ่งถ้าเป็นข้าราชการตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ลาการแล้
สํานัวกจะต้ องพ้นจากตําแหน่งกเพราะถู
งานคณะกรรมการกฤษฎี า กลงโทษ
ไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี การพ้
กา นจากตําแหน่ สํางนัตาม (๒) หรือ (๓) ให้นําความกราบบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งคมทู
สํานัลกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพื่อทรงทราบ ถ้า กา
เป็นการพ้นจากตําแหน่งตาม (๔) หรือ (๕) ต้องได้รับความเห็นชอบของคณะกรรมการตุลาการศาล
ยุติธรรมตามกฎหมายว่ าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ายตุลาการศาลยุ ติธรรมและให้นําความกราบบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งคม
ทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตําแหน่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๘ ในกรณีที่ตําแหน่งผู้พิพากษาสมทบว่างลงเพราะเหตุอื่นนอกจากถึง
คราวออกตามวาระตามมาตรา ๒๗ (๑) จะทรงพระกรุณสําโปรดเกล้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าฯ แต่งตั้งบุคคลที่คณะกรรมการ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตุลาการศาลยุติธรรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมคัดเลือกขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แทนตําแหน่งที่ว่างก็ได้ ให้ผู้พิพากษาสมทบซึ่งดํารงตําแหน่งแทนอยู่ในตําแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่
ของผู้ซึ่งตนดําสํรงตํ
านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
แหน่งแทน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๙ ให้อธิสํบาดีนักผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครั
กา วกลาง
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้พิพากษาหัวหน้า กา
ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด หรือผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว
แล้วแต่กรณี กํสําาหนดเวรปฏิ บัติการของผู้พิพกาากษาสมทบซึสํ่งาจะต้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี องปฏิบัติหน้าที่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้พิพากษาสมทบที่นั่งพิจารณาคดีใด จะต้องพิจารณาคดีนั้นจนเสร็จ เว้นแต่ไม่อาจ
ปฏิบัติหน้าที่ได้เพราะเจ็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บป่วยหรือมีสําเหตุ จําเป็นอย่างอื่น ในกรณีกาเช่นว่านี้ ให้ผู้มสําีอนัํากนาจตามวรรคหนึ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ ง กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
จัดให้ผู้พิพากษาสมทบอื่นเข้าปฏิบัติหน้าที่แทน
สํานัผูก้ พงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิ พ ากษาสมทบจะได้กราั บ ค่ า ป่ ว ยการ
สํานัค่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
า พาหนะเดิ น ทาง ค่ ากเช่ า า ที่ พั ก และ
ค่าตอบแทนอย่างอื่นตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมกําหนด โดยความเห็นชอบจาก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทรวงการคลัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๐ ให้นําบทบัญญัติว่าด้วยวินัยและการรักษาวินัยสําหรับข้าราชการตุลา
การตามกฎหมายว่าด้กาวยระเบียบข้าสํราชการฝ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ายตุลาการศาลยุตกิธารรมมาใช้บังคัสํบานัแก่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ผู้พิพากษาสมทบ กา
ด้วยโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๑ ในระหว่างพิจารณาคดี เพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กหรือเยาวชน ศาล
อาจขอให้ผู้เชี่ยวชาญด้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา านการแพทย์สําจินัตกวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทยา การให้คําปรึกษาแนะนํ
กา า การสังสํคมสงเคราะห์ หรือการ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
-๙- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัมาตรา ๓๔ สถานพินิจกเป็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า นหน่ วยงานในกรมพิ นิจและคุ้มครองเด็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กากและเยาวชน
กระทรวงยุติธรรม มีผู้อํานวยการสถานพินิจเป็นผู้บังคับบัญชา
ให้อกธิา บดีเป็นผู้แต่งสํตัา้งนัและถอดถอนผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้อํานวยการสถานพิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นิจ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัมาตรา ๓๕ ให้จัดตั้งสถานพิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นิจขึ้นในทุสํกาจันังกหวั ดและกรุงเทพมหานคร
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
วันเปิดทําการ เขตอํานาจ และการแบ่งแยกกิจการของสถานพินิจออกเป็นสาขาต่าง
ๆ ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ประกาศกํสําานัหนด
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัมาตรา ๓๖ ให้สถานพินกิจามีอํานาจหน้าสํทีา่ตนัามพระราชบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัตินี้และตามกฎหมายอื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่น
และโดยเฉพาะให้มีอํานาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) สืบเสาะและพินิจเรื่องอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม
สภาพร่างกายสํสภาพจิ ต นิสัย อาชีพ และฐานะของเด็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กหรื
สําอนัเยาวชนซึ ่งต้องหาว่ากระทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาความผิดและ
ของบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือบุคคลซึ่งเด็กหรือเยาวชนอาศัยอยู่ด้วย ตลอดจนสิ่งแวดล้อมทั้งปวง
เกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชนนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ น รวมทัสํา้งนัสาเหตุ แห่งการกระทําความผิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ด เพื่อรายงานต่ อศาลหรือเพื่อ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประกอบการพิจารณาของเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้อง ตามระเบียบที่กระทรวงยุติธรรมกําหนด
สํานั(๒) ควบคุมเด็กหรือเยาวชนซึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งต้องหาว่สําากระทํ าความผิดไว้ในระหว่กาางการสอบสวน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือการพิจารณาคดี หรือตามคําพิพากษาหรือคําสั่งของศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓)กาดําเนินการและประสานงานร่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี วมกับหน่วยงานและองค์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา การอื
สํานัก่นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในการสงเคราะห์ กา
แก้ไขและบําบัดฟื้นฟูเด็กหรือเยาวชนในระหว่างที่ถูกควบคุมหรือภายหลังปล่อย
สํานั(๔) ดําเนินการและประสานงานร่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วมกับสํหน่
านักวยงานและองค์ การอื่นในการตรวจรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กษา
และพยาบาลเด็กหรือเยาวชนในระหว่างการสอบสวน การพิจารณาคดี หรือการควบคุมตัวในสถาน
พินิจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) ดํ า เนิ น การและประสานงานร่ ว มกั บ หน่ ว ยงานและองค์ ก ารอื่ น ในการจั ด
การศึกษา การฝึกอบรม หรือการดูแลอบรมสั่งสอนเด็กหรืสํอานัเยาวชนซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งอยู่ในความควบคุม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) สืบเสาะภาวะความเป็ นอยู่ของครอบครัวในคดีครอบครัสํวานัรวมทั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้งจัดให้แพทย์
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือจิตแพทย์ตรวจสภาพร่างกาย หรือสภาพจิตของคู่ความในกรณีที่ศาลมีคําสั่งตามมาตรา ๑๕๒
สํานั(๗) ประมวลและรายงานข้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อเท็จจริง รวมทั
สํานัก้งงานคณะกรรมการกฤษฎี
เสนอความเห็นต่อศาลในคดี กา ครอบครัว
ตามมาตรา ๑๖๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๘)กาศึกษาค้นคว้าสํถึางนัสาเหตุ แห่งการกระทําของเด็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กและเยาวชนซึ
สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต้องหาว่ากระทํา กา
ความผิดโดยทั่ว ๆ ไป จัดทําสถิติการกระทําความผิดดังกล่าวของเด็กและเยาวชนและเผยแพร่วิธี
ป้องกันหรือทําสํให้
านักการกระทํ าความผิดนั้นลดน้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อยลง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๙) ปฏิบัติตามคําสั่งศาลซึ่งสั่งตามกฎหมายอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑๐)
กา ปฏิบัติหน้าทีสํ่อานัื่นกตามระเบี ยบที่กระทรวงยุกาติธรรมกําหนดสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา ๓๗ ผู้อํานวยการสถานพินิจมีสํหาน้นัากทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่รับผิดชอบในกิจการทักา้งปวงตลอดจน
การปกครองบังคับบัญชาพนักงานของสถานพินิจนั้น และให้มีอํานาจหน้าที่เช่นเดียวกับพนักงานคุม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประพฤติและนักสังคมสงเคราะห์ รวมทั้งอํานาจหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือตาม
กฎหมายอื่น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๓๘ รั ฐ มนตรี มีอํานาจแต่งตั้งคณะกรรมการสงเคราะห์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เด็กและเยาวชน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สําหรับสถานพินิจเพื่อทําหน้าที่
สํานั(๑) ให้คําปรึกษาแก่ผู้อํานวยการสถานพิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํนานัิจกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ช่วยเหลือกิจการสถานพินิจ เพื่อสวัสดิภาพและอนาคตของเด็กและเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๓)กปฏิ
า บัติหน้าที่อสํื่นานัตามระเบี ยบที่อธิบดีกําหนด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งคราวละสามปี
และอาจได้รับแต่งกตังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ้งใหม่ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม วิธีการสรรหาและการพ้นจากตําแหน่งของกรรมการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สงเคราะห์เด็กและเยาวชนให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๙ ให้ มีแ พทย์ จิตแพทย์ นักจิตวิทยา พนักงานคุมประพฤติ นั กสั งคม
สงเคราะห์ ครู และพนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กงานอื่นตามที
สํานัก่จงานคณะกรรมการกฤษฎี
ะได้มีกฎกระทรวงระบุกาตําแหน่งเพื่อช่สํวานัยเหลื อผู้อํานวยการ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพินิจตามสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๔๐ เมื่อศาลมี
สํานักคงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําพิพากษาหรือคําสั่งในคดี
กา อาญาให้สสํ่งตัานัวกเด็งานคณะกรรมการกฤษฎี
กหรือเยาวชนไป กา
อยู่ในความดูแลของสถานพินิจ ให้ศาลแจ้งไปยังผู้อํานวยการสถานพินิจซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเพื่อ
ดําเนินการให้เสํป็านนัไปตามคํ าพิพากษาหรือคํกาาสั่งดังกล่าว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๔๑ ในระหว่
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งที่เด็กหรือเยาวชนอยูกา่ในความควบคุ
สํามนัของสถานพิ นิจ ให้ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้อํานวยการสถานพินิจมีอํานาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) จัดให้เด็กหรือเยาวชน ได้ศึกษาเล่สําาเรีนักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
นวิชาสามัญ ฝึกอาชีพกหรื า
อวิชาชีพ รับ
บริการด้านสวัสดิการสังคม รับการอบรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือปฏิบัติการงานอื่นใดให้เหมาะสมกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บสภาพร่างกาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สภาพจิต และสภาพแวดล้อมทางสังคมของบุคคลดังกล่าว ทั้งนี้ โดยคํานึงถึงคุณธรรมและจริยธรรม
เป็นหลัก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ออกกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการรักษาระเบียบวินัยของเด็กและเยาวชนซึ่งอยู่ใน
ความควบคุม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ลงทัณฑ์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๔๒ แก่เด็กและเยาวชนที่ละเมิดกฎหมาย
ประพฤติชั่วหรืสํอากระทํ าผิดวินัย ทั้งนี้ ตามหลั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กเกณฑ์และวิ สําธนัีกการที ่กําหนดในกฎกระทรวง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๔) ส่ ง บุ ค คลที่ อ ยู่ ใ นความควบคุ ม ซึ่ ง มิ ใ ช่ เ ด็ ก ที่ มี ค วามประพฤติ เ สี ย หายอย่ า ง
ร้ายแรงอันจะเป็นภัยกต่า อเด็กหรือเยาวชนอื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่นไปควบคุมไว้ในสถานที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ที่จัดไว้โดยเฉพาะหรื อเรือนจําโดย กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้รับอนุญาตจากศาลก่อน เว้นแต่ใ นกรณีฉุกเฉินอย่างยิ่งอันจะเป็นภัยต่อบุคคลอื่น จะส่งบุคคล
ดังกล่าวไปยังเรืสําอนันจํ าก่อนก็ได้ แล้วรายงานให้ศาลทราบโดยเร็
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) อนุญาตให้เด็กหรือเยาวชนออกนอกสถานพินิจเป็นครั้งคราวตามระเบียบที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อธิบดีกําหนด
สํานั(๖) อนุญาตให้เด็กหรือกเยาวชนในคดี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํทาี่ ศนัาลมี คําพิพากษาหรือคํากสัา่งเด็ดขาดแล้ ว
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ออกไปศึกษาในสถานศึกษาประเภทไปมานอกสถานพินิจ ตามระเบียบที่อธิบดีกําหนดและรายงานให้
ศาลทราบโดยเร็ วถ้กาศาลเห็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นว่ าการอนุ ญาตเช่นนั้ นไม่สอดคล้กาองกับประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัสกูงานคณะกรรมการกฤษฎี
งสุดของเด็กหรือ กา
เยาวชน ศาลอาจพิจารณามีคําสั่งตามที่เห็นสมควร
สํานั(๗) ย้ายเด็กหรือเยาวชนไปควบคุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มในสถานพิ นิจอื่นหรือสถานที่ที่กํากหนดไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ในหมวด
๔ ในกรณีที่มีความจําเป็นโดยได้รับอนุญาตจากศาลก่อน เว้นแต่ในกรณีมีเหตุฉุกเฉินจะย้ายเด็กหรือ
เยาวชนดั ง กล่ า วไปก่กาอ นก็ ไ ด้ แล้ วสํรายงานให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ศ าลทราบโดยเร็กาว ถ้า ศาลเห็ นสํว่านัา การย้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ยเช่ น นั้ น ไม่ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สอดคล้องกับประโยชน์สูงสุดของเด็กหรือเยาวชน ศาลอาจพิจารณามีคําสั่งตามที่เห็นสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๒ ทัณฑ์ที่จะลงแก่เด็กหรือเยาวชนซึ่งอยู่ในความควบคุมของสถานพินิจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้มี ดังต่อไปนี้
สํานั(๑) เข้าแผนฟื้นฟูพิเศษเพืก่อา ปรับพฤติกรรม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ตัดสิทธิประโยชน์และความสะดวกที่สถานพินิจอํานวยให้บางประการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๓ ให้ มี ค ณะกรรมการสหวิ ช าชี พ ประจํ า สถานพิ นิ จ ประกอบด้ ว ย
ผู้ทรงคุณวุฒิในวิ
สํานัชกาชี พด้านจิตวิทยา สังคมสงเคราะห์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สาธารณสุ ข และการศึกษา ด้กาา นละหนึ่งคนมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หน้าที่ให้ข้อเสนอแนะต่อผู้อํานวยการสถานพินิจในกรณี ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑)กการจํ
า าแนกเด็สํกาและเยาวชน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒)กการแก้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ไขบําบัสํดาฟืนั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฟูเด็กหรือเยาวชนแต่ละราย
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) หน้าที่อื่นตามพระราชบัญญัตินี้
สํานัคณะกรรมการสหวิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ชาชีพกอย่
า างน้อยกึ่งหนึ
สํานั่งกต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องไม่เป็นเจ้าหน้าที่ของสถานพิ
กา นิจและ
ในแต่ละสถานพินิจอาจมีคณะกรรมการสหวิชาชีพหลายคณะก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี คุณกสมบั
า ติ ลักษณะต้ สํานัอกงห้ าม การแต่งตั้ง การปฏิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บัติหน้าที่ และการพ้ นจากตําแหน่ง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของคณะกรรมการสหวิชาชีพให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสหวิ ชาชีพที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่สถานพินิจ ให้
ได้รับค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ค่าเช่าที่พัก และค่าตอบแทนอย่างอื่นตามระเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยบที่รัฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กําหนด โดยความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๔ สถานพินิจต้องจัดให้มีการแยกเด็กหรือเยาวชนซึ่งอยู่ในความควบคุม
ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) แยกเด็กหรือเยาวชนหญิงและชายให้มีที่อยู่ต่างหากจากกัน
สํานั(๒) แยกเด็กหรือเยาวชนตามอายุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พฤติ
สํากนัารณ์ และความร้ายแรงของการกระทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า
ความผิด
(๓)กแยกเด็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า กหรือเยาวชนซึ ่งมีลักษณะที่อาจเป็กนาภัยต่อเด็กหรือสํเยาวชนอื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่นไว้ต่างหาก กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การแยกเด็กหรือเยาวชนในสถานที่อื่นนอกจากที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้ให้
เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๔๖ ให้ผสํู้อาํานันวยการสถานพิ นิจที่รับกเด็า กหรือเยาวชนซึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต้องหาว่ากระทํา กา
ความผิดไว้ในความควบคุม รายงานความประพฤติ สภาพร่างกาย สภาพจิต นิสัย ผลการแก้ไขบําบัด
ฟื้นฟูและเรื่องอื
สํา่นนักๆงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ศาลต้องการทราบหรื
กา อที่เห็นว่าศาลควรทราบต่ อศาลไม่น้อยกว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหกเดือนต่อ
ครั้ง หรือภายในระยะเวลาเร็วกว่านั้นตามที่ศาลสั่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๗ ให้พนักงานคุมประพฤติมีอํานาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้และตาม
กฎหมายอื่นและโดยเฉพาะให้ มีอํานาจหน้ากทีา ่ ดังต่อไปนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๑) สืบเสาะและพินิจข้อเท็จจริงและสิ่งแวดล้อมตามมาตรา ๓๖ (๑) เกี่ยวกับเด็ก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือเยาวชนซึ่งเป็นผู้ต้องหาและบุคคลอื่น
สํานั(๒) คุมความประพฤติเด็กกหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า อเยาวชนตามคํ
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
สั่งศาล ตลอดจนดูแลอบรมสั
กา ่งสอนเด็ก
หรือเยาวชนซึ่งอยู่ระหว่างคุมประพฤติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๓)กาสอดส่องให้เด็สํกาหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
เยาวชนปฏิบัติตามเงื่อกนไขเพื
า ่อคุมความประพฤติ ตามที่ศาล กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนด
สํานั(๔) ให้คําแนะนําแก่บิดากมารดา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ผู้ปกครอง หรือบุคคลซึ่งเด็กหรือเยาวชนอาศั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยอยู่
ด้วยในเรื่องการเลี้ยงดู อบรม และสั่งสอนเด็กหรือเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕)กาประมวลและรายงานข้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อ เท็จ จริง เกี่ย วกักบา ผู้เยาว์ ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัทกี่ ศงานคณะกรรมการกฤษฎี
าลเยาวชนและ กา
ครอบครัวจะต้องบังคับใช้บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในคดีแพ่งที่ผู้เยาว์มี
ผลประโยชน์หสํรืาอนัส่กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
นได้เสีย เพื่อรายงานต่กอาศาลตามที่ผู้อสํําานวยการสถานพิ นิจมอบหมาย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๖) ทํารายงานและความเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม (๑) และ (๕) เพื่อเสนอต่อศาล
ตามที่ผู้อํานวยการสถานพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นิจมอบหมาย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) ปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ อื่ น ตามที่ ศ าลสั่ ง เกี่ ย วกั บ คดี เ ยาวชนและครอบครั ว หรื อ ที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้อํานวยการสถานพินิจมอบหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้รัฐมนตรีหรือผู้ซสํึ่งานัได้กรงานคณะกรรมการกฤษฎี
ับมอบหมายเป็นผู้แต่งกตัา้งและถอดถอนพนั กงานคุมประพฤติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๘ เพื่ อ ประโยชน์ใ นการปฏิ บั ติห น้ า ที่ต ามมาตรา ๔๗ ให้ พนั ก งานคุ ม
ประพฤติมีอํานาจ ดังกต่าอไปนี้ด้วย คือสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เข้าไปในสถานที่อยู่อาศัยของบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือบุคคลซึ่งเด็กหรือ
เยาวชนอาศัยอยูสํานั่ดก้วงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย หรือบุคคลซึ่งให้การศึกากษา ให้ทําการงาน หรือมีความเกี่ยวข้องกในเวลาระหว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าง
พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก และสอบถามบุคคลซึ่งอยู่ในที่นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒)กเข้
า าไปในสถานทีสํานั่อกยูงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อาศัยของบิดา มารดากาผู้ปกครอง หรืสํอาบุนัคกคลซึ ่งผู้เยาว์อาศัย กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
อยู่ด้วยหรือบุคคลซึ่งให้การศึกษา ให้ทําการงาน หรือมีความเกี่ยวข้อง ในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้น
และพระอาทิตสํย์าตนักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
และสอบถามบุคคลซึ่งกอยูา ่ในที่นั้นเกี่ยวกั บคดีครอบครัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) สอบถามครู อาจารย์ หรือผู้จัดการสถานศึกษาที่เด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทําความผิดศึกษาหรือเคยศึกษาอยู่ เกี่ยวกับความประพฤติ การศึกษา นิสัยและสติปัญญาของเด็ก
หรือเยาวชนนั้นสําและถ้ าเห็นสมควรจะสั่งให้กบาุคคลเช่นว่านี้ทสํําานัรายงานเกี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ยวกับเรื่องดังกล่กาาวด้วยก็ได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๔) เรียกบุคคลซึ่ งสามารถให้ข้อเท็ จจริงมาพบที่ ส ถานพินิจหรือสถานที่ อื่นตาม
ระเบียบที่อธิบดีกําหนดและสาบานหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัอกปฏิ ญาณตนและให้ถ้อยคํกาา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่มีความจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าไปในสถานที่ตาม (๑) หรือ (๒) ในเวลา
ระหว่างพระอาทิสํานัตกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
ตกและพระอาทิตย์ขึ้นกพนั า กงานคุมประพฤติ จะกระทําได้ต่อเมื่อมีกคาําสั่งศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๔๙ ให้ มสํี าผนัู้ ชก่ วงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยพนั ก งานคุ ม ประพฤติ
กา มี อํ า นาจหน้สําาทีนัก่ องานคณะกรรมการกฤษฎี
ย่ า งพนั ก งานคุ ม กา
ประพฤติเพียงเท่าที่อธิบดีได้มอบหมาย
สํานัให้ อธิบดีแต่งตั้งและถอดถอนผู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ช่วยพนักสํงานคุ มประพฤติตามหลักเกณฑ์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา และวิธีการที่
กําหนดในกฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัมาตรา ๕๐ ให้นักสังคมสงเคราะห์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มีอสํําานาจหน้ าที่ตามพระราชบักญาญัตินี้และตาม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กฎหมายอื่นและโดยเฉพาะให้มีอํานาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑)กแก้
า ไข บําบัดฟืสํ้นานัฟูกเด็งานคณะกรรมการกฤษฎี
กหรือเยาวชนในระหว่กาางที่ถูกควบคุมสํอยู
านัก่ในสถานพิ นิจ หรือ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ได้ปล่อยไปแล้ว ตลอดจนให้คําแนะนํา ควบคุมดูแล และอบรมสั่งสอนเด็กหรือเยาวชนนั้น
สํานั(๒) ให้คําแนะนําแก่บิดากมารดา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ผู้ปกครอง หรือบุคคลซึ่งเด็กหรือเยาวชนอาศั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยอยู่
ด้วยเกี่ยวกับการเลี้ยงดู อบรม และสั่งสอนเด็กหรือเยาวชน เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขบําบัดฟื้นฟูเด็ก
หรือเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓)กาปฏิบัติตามคําสํสัานั่งศาลในการสื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บเสาะภาวะความเป็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นอยู่ขสํองครอบครั วและไกล่ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกลี่ยประนีประนอมข้อพิพาทในคดีครอบครัว
สํานั(๔) ทํารายงานและความเห็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นเกี่ยวกับการปฏิ บัติตาม (๑) (๒) และ (๓)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เพื่อเสนอต่อ
ศาลหรือผู้อํานวยการสถานพินิจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๕)กปฏิ
า บัติหน้าที่อสํื่นานัตามคํ าสั่งศาลหรือคําสั่งผู้อกําา นวยการสถานพิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกิจงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๑ เพื่ อ ประโยชน์ ใ นการปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ต ามมาตรา ๕๐ ให้ นั ก สั ง คม
สงเคราะห์มีอํานาจ ดังต่อไปนี้ด้วย คืสําอนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เข้าไปในสถานที่อยู่อาศัยของบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือบุคคลซึ่งเด็กหรือ
เยาวชนอาศัยอยู สํานั่ดก้วงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย หรือบุคคลซึ่งให้การศึกากษา ให้ทําการงาน หรือมีความเกี่ยวข้องกในเวลาระหว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าง
พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก และสอบถามบุคคลซึ่งอยู่ในที่นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒)กเข้
า าไปในสถานทีสํานั่อกยูงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อาศัยของบิดา มารดากาผู้ปกครอง หรืสํอาบุนัคกคลซึ ่งผู้เยาว์อาศัย กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
อยู่ด้วย หรือบุคคลซึ่งให้การศึกษา ให้ทําการงาน หรือมีความเกี่ยวข้อง หรือเข้าไปในสถานที่อยู่อาศัย
ของคู่ความในคดี สํานัคกรอบครั วหรือของบุคคลซึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งคู่ความอาศัสํยานัอยู ่ด้วย หรือบุคคลซึ่งให้กกาารศึกษา ให้ทํา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
การงาน หรือมีความเกี่ยวข้องในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก และสอบถามบุคคล
ซึ่งอยู่ในที่นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) เรียกบุคคลซึ่งสามารถให้ข้อเท็ จจริงมาพบที่ ส ถานพินิจหรือสถานที่ อื่นตาม
ระเบียบที่อธิบดีกําหนดและสาบานหรือปฏิญาณตนและให้สําถนั้อกยคํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
า
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) เรียกคู่ความหรือบุคคลใดมาพบเพื่อไกล่เกลี่ยประนีประนอมข้อพิพาทในคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ครอบครัว
สํานัในกรณี ที่มีความจําเป็นอย่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาางยิ่งที่จะต้อสํงเข้
านัากไปในสถานที ่ตาม (๑) หรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ (๒) ในเวลา
ระหว่างพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้น นักสังคมสงเคราะห์จะกระทําได้ต่อเมื่อมีคําสั่งศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๒ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ผู้อํานวยการสถานพินิจ
พนักงานคุมประพฤติ ผู้ช่วยพนักงานคุมประพฤติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา และนัสํกานัสักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
คมสงเคราะห์ แสดงบักตารประจําตัวต่อ
บุคคลที่เกี่ยวข้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บัตกรประจํ
า าตัวให้สํเาป็นันกไปตามแบบที ่รัฐมนตรีกปาระกาศกําหนดโดยประกาศในราช
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กิจจานุเบกษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๓ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ผู้อํานวยการสถานพินิจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แพทย์ จิ ต แพทย์ นั ก จิ ต วิ ท ยา ครู พนั ก งานคุ ม ประพฤติ ผู้ ช่ ว ยพนั ก งานคุ ม ประพฤติ นั ก สั ง คม
สงเคราะห์และพนั
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานอื่นตามที่กฎกระทรวงระบุ
กา ตําแหน่
สํานังกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพื่อช่วยเหลือผู้อํานวยการสถานพิ
กา นิ จ
เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๔
ศูสํนาย์นัฝกึกงานคณะกรรมการกฤษฎี
และอบรม สถานศึกษากาสถานฝึกและอบรม และสถานแนะนําทางจิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ต
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๕๔ ศูนย์สํฝาึกนัและอบรมเป็ นส่วนราชการในกรมพิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นิจสํและคุ ้มครองเด็กและ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เยาวชน กระทรวงยุติธรรม มีผู้อํานวยการเป็นผู้บังคับบัญชา มีอํานาจหน้าที่ปกครองดูแลฝึกอบรม
เด็กและเยาวชนที
สํานั่ผกู้องานคณะกรรมการกฤษฎี
ํานวยการสถานพินิจส่กงาตัวมา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๕๕ ให้อสํธิาบนัดีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
มีอํานาจออกใบอนุญาตให้
กา ส่วนราชการดํ
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
เนินการ หรือให้ กา
เอกชนจัดตั้งสถานศึกษา สถานฝึกและอบรม หรือสถานแนะนําทางจิตเกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชนซึ่งเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ต้องหาว่ากระทํ าความผิด เป็นจําเลย หรือเป็นผู้ต้องคําสํพิาพนัากษาหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อคําสั่งของศาลให้ลงโทษหรือใช้
วิธีการสําหรับเด็กและเยาวชน และมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อํานาจควบคุมดูแลสถานที่ดังกล่าว รวมทั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้งมีอํานาจเพิกถอน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใบอนุญาตที่ได้ออกให้นั้นด้วย
สํานัการออกใบอนุ ญ าตและการเพิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ก ถอนใบอนุ ญ าตตามวรรคหนึ่ งกาให้ เ ป็ น ไปตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๖ ผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๕๕ ต้องปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกําหนด
สํานัให้ ผู้รับใบอนุญาตได้รับเงิกนาอุดหนุนจากรัสํฐาตามระเบี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ยบที่รัฐมนตรีกําหนด
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การฝึกอบรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อื่นที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายและศาลเห็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานันกสมควร ให้ศาลแจ้งไปยักงาผู้ดูแลหรือผู้ปสํกครองสถานที
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่ดังกล่าว กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามคําพิพากษาหรือคําสั่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๙ เด็กหรือเยาวชนที่เข้ารับการฝึ กอบรมต้องปฏิบัติตามระเบี ยบและ
ข้อบังคับของสถานทีก่ทา ี่เข้ารับการฝึสํกาอบรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หากผลการฝึกอบรมก้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าวหน้าเป็นสํทีานั่ปกระจั กษ์ หรือได้ทํา กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ความชอบเป็ น พิ เ ศษ ให้ ค ณะกรรมการสหวิ ช าชี พ เสนอแนะต่ อ ผู้ อํ า นวยการศู น ย์ ฝึ ก และอบรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สถานศึกษาสถานฝึ กและอบรม หรือสถานแนะนําทางจิตสํพิานัจการณาให้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เด็กหรือเยาวชนได้รับประโยชน์
อย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เลื่อนชั้น
สํานั(๒) ลาเยี่ยมบ้าน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ลดวันฝึกอบรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๔)กพัา กการฝึกอบรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การเลื่อนชั้ น การลาเยี่ยมบ้าน การลดวั นฝึกอบรม และการพักการฝึกอบรมให้
เป็นไปตามระเบี สํานัยกบที ่อธิบดีกําหนด แต่การลดวั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นฝึกอบรมและการพั กการฝึกอบรมจะพึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งกระทําได้
ต่อเมื่อเด็กหรือเยาวชนได้รับการฝึกอบรมมาแล้วไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของระยะเวลาการฝึกอบรมตาม
คําพิพากษาหรือคําสัก่งาของศาล แล้วสํรายงานให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ศาลทราบภายในสิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บห้าวัน ทั้งสํนีา้ นัศาลอาจมี คําสั่งเป็น กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อย่างอื่นได้หากมีเหตุอันสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๐ เด็กหรือเยาวชนที่ได้รับประโยชน์ตามมาตรา ๕๙ (๒) (๓) และ (๔)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต้ อ งปฏิ บั ติ ต ามระเบี ย บที่ อ ธิ บ ดี กํ า หนด หากฝ่ า ฝื น ระเบี ย บให้ ผู้ อํ า นวยการศู น ย์ ฝึ ก และอบรม
สถานศึ ก ษา สถานฝึ ก และอบรม หรื อ สถานแนะนํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า ทางจิ
สํานักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
มี อํ า นาจแก้ ไข เปลี่ ยกนแปลง
า หรื อ งด
ประโยชน์ที่ได้ให้นั้นแล้วรายงานให้ศาลทราบภายในสิบห้าวัน ทั้งนี้ ศาลอาจมีคําสั่งเป็นอย่างอื่นได้
หากมีเหตุอันสมควร กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัมาตรา ๖๑ เด็กหรือเยาวชนที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ไม่ปฏิบัตสํิตานัามระเบี ยบหรือข้อบังคับของสถานที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ที่เข้า
รั บ การฝึ ก อบรม ไม่ ตั้ ง ใจรั บ การฝึ ก อบรม หลบหนี ห รื อ พยายามหลบหนี หรื อ กระทํ า การใดอั น
ก่อให้เกิดความเดือดร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอน รําคาญ สํหรื านัอกขังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดต่อความสงบสุขของเด็ กา กหรือเยาวชนอื
สํานัก่นงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือก่อความไม่ กา
สงบเรียบร้อยในสถานที่ฝึกและอบรม ให้คณะกรรมการสหวิชาชีพเสนอแนะต่อผู้อํานวยการศูนย์ฝึก
และอบรม สถานศึ กษา สถานฝึกและอบรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือสถานแนะนํ าทางจิต ตามที่กําหนดไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ในหมวด ๔
พิจารณาตัดประโยชน์แก่เด็กหรือเยาวชนนั้นอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ลดชั้น
สํานั(๒) งดการลาเยี่ยมบ้านเป็กานเวลาไม่เกินสองเดื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๓) ลดการเข้าร่วมกิจกรรมบางประการที่ศูนย์ฝึกและอบรม สถานศึกษา สถานฝึก
และอบรม หรือสถานแนะนํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าทางจิตสํแห่ านังกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นจัดให้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) งดหรือเปลี่ยนแปลงประโยชน์ที่ได้รับตามมาตรา ๔๑ (๖) และมาตรา ๕๙ (๓)
และ (๔) แล้วรายงานให้ ศาลทราบ ศาลอาจพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จารณามีคําสํสัา่งนัตามที ่เห็นสมควร
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๖๒ เมื่ อสํเด็
านักกหรื อ เยาวชนที่ ศ าลมี คกําาพิ พ ากษาหรือสํมีานัคกํ างานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี สั่ งให้ เข้ า รั บ การ กา
ฝึกอบรมในศูนย์ฝึกและอบรม สถานศึกษา สถานฝึกและอบรม หรือสถานแนะนําทางจิต ตามที่
กําหนดไว้ในหมวด ๔ ได้ผ่านหลักสูตรการฝึกกา อบรมตามระเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัยกบที ่อธิบดีกําหนดโดยความเห็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นชอบของ
อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลางแล้ว หรือเมื่อผู้อํานวยการโดยความเห็นชอบของ
คณะกรรมการสหวิชกาชีา พประจําศูนสํย์าฝนัึกกและอบรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สถานศึกษา กสถานฝึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า กและอบรม หรือสถานแนะนํา กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทางจิต เห็นว่าเด็กหรือเยาวชนได้ประพฤติตนเป็นคนดีและไม่มีความจําเป็นต้องควบคุมตัวไว้ฝึกอบรม
อีกต่อไป ให้ผู้อสํําานวยการศู
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นย์ฝึกและอบรม สถานศึกษา สถานฝึ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กและอบรม หรือสถานแนะนําทางจิต
เสนอรายงานต่อศาลที่มีเขตอํานาจในท้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
องที่ที่เด็กหรือเยาวชนเข้ารับการฝึกอบรมเพื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อขอให้พิจารณา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ปล่อยตัวเด็กหรือเยาวชนซึ่งได้ผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมนั้น หรือปล่อยตัวเด็กหรือเยาวชนก่อนครบ
กําหนดระยะเวลาการฝึ กอบรมขั้นต่ําตามคํกาาพิพากษาหรือสํคําานัสัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ศาล แล้วแต่กรณีได้ กา
ระหว่ า งการฝึ ก อบรมถ้ า ปรากฏเหตุ ที่ เ ด็ ก หรื อ เยาวชนสมควรได้ รั บ การแก้ ไ ข
เปลี่ยนแปลงคําพิพากษาหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อคําสั่งเกีสํา่ยนัวกั บการลงโทษหรือวิธีการสํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหรับเด็กและเยาวชนในทางที ่เป็น กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
คุณแก่เด็กหรือเยาวชน ให้ผู้อํานวยการศูนย์ฝึกและอบรม สถานศึกษา สถานฝึกและอบรม หรือสถาน
แนะนําทางจิตสําเสนอรายงานต่ อศาลที่มีเกขตอํ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า านาจในท้สํอางที นัก่ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่เด็กหรือเยาวชนรับการฝึกา กอบรมเพื่อ
ขอให้ศาลพิจารณาเปลี่ยนแปลงคําพิพากษาหรือคําสั่งเกี่ยวกับการลงโทษหรือวิธีการสําหรับเด็กและ
เยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีเด็กหรือเยาวชนที่พ้นการฝึกอบรมแล้วประสงค์เข้ารับการศึกษา ฝึกอาชีพ
หรือวิชาชีพต่อให้จบหลักสูตร ให้ผู้อํานวยการศูนย์ฝึกและอบรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สถานศึกษา หรือสถานฝึกและอบรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มีอํานาจให้การสงเคราะห์เด็กหรือเยาวชนโดยจัดให้อยู่ในศูนย์ฝึกและอบรม หรือสถานที่รับการฝึก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และอบรมหรือให้เข้ารับการศึกษาหรือฝึกอาชีพหรือวิชาชีพแบบเช้ามาเย็นกลับก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๓ ในกรณีที่ศาลมีคําพิพากษาหรือคําสั่งในคดีอาญาให้ ส่งตั วเด็กหรือ
เยาวชนไปฝึกอบรมหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาออยู่ในความดูสําแนัลของสถานศึ กษา สถานฝึกกาและอบรม หรืสํอานัสถานแนะนํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี าทางจิต กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อื่นนอกจากสถานที่ที่กําหนดไว้ในหมวด ๔ ให้เด็กหรือเยาวชนยังคงมีสิทธิได้รับหรือถูกตัดประโยชน์
ในลักษณะเดียสํวกั านักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่กําหนดไว้ในมาตรา ก๕๙ า มาตรา ๖๐สํานัมาตรา ๖๑ และมาตรา ๖๒
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา โดยให้ผู้ดูแล
หรือผู้ปกครองสถานที่ดังกล่าวที่รับเด็กหรือเยาวชนไว้ในความควบคุมเป็นผู้ทํารายงานเสนอ และให้
ศาลมี คํ า สั่ ง ตามความเหมาะสม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตามหลั ก เกณฑ์ แ ละวิ ธี ก ารที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ อ ธิ บ ดี ผู้ พิ พ ากษาศาลเยาวชนและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ครอบครัวกลางกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๔ ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๓๖ มาตรา ๓๙ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๓ มาตรา ๔๔ มาตรา ๔๕ และมาตรา ๔๖ มาใช้บังคับกับสถานที่ที่กําหนดไว้ในหมวด ๔ หรือ
สถานที่อื่นที่จัดสํตัานั้งกขึงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นตามกฎหมายและศาลเห็
กา นสมควรตามมาตรา ๕๗ ที่รับเด็กหรือเยาวชนซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งต้องหา
ว่ากระทําความผิดไว้ในความควบคุมโดยอนุโลม ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๕ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ผู้อํานวยการศูนย์ฝึกและ
อบรมผู้ดูแลหรืสํอานัผู้ปกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กครองสถานที่ที่กําหนดไว้
กา ในหมวด ๔สํหรื
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานที่อื่นที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายและ
กา
ศาลเห็นสมควรตามมาตรา ๕๗ และพนักงานอื่นของสถานที่ดังกล่าวตามที่กฎกระทรวงระบุตําแหน่ง
เพื่อช่วยเหลือบุคคลดักงากล่าว เป็นเจ้สําาพนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานตามประมวลกฎหมายอาญา
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๘ เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทสํธิาเนัด็กกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือเยาวชน ห้ามมิให้กาควบคุม คุมขัง
กักขัง คุมความประพฤติ หรือใช้มาตรการอื่นใดอันมีลักษณะเป็นการจํากัดสิทธิเสรีภาพของเด็กหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เยาวชน ซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดหรือเป็นจําเลย เว้นแต่มีหมายหรือคําสั่งของศาล หรือเป็นกรณี
การคุมตัวเท่าทีสํ่จานัํากเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นเพื่อดําเนินการตามมาตรา
กา ๖๙ มาตรา สํานัก๗๐ หรือมาตรา ๗๒ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๖๙ ในการจั บกุ ม เด็ ก หรื อ เยาวชนซึกา่ งต้ อ งหาว่ า กระทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ความผิ ด ให้เ จ้ า กา
พนั ก งานผู้ จั บ แจ้ ง แก่ เ ด็ ก หรื อ เยาวชนนั้ น ว่ า เขาต้ อ งถู ก จั บ และแจ้ ง ข้ อ กล่ า วหารวมทั้ ง สิ ท ธิ ต าม
กฎหมายให้ทราบหากมี หมายจับให้แสดงต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอผู้ถูกจับ แล้สํวานันํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
ตัวผู้ถูกจับไปยังที่ทําการของพนั
กา กงาน
สอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับทันที เพื่อให้พนักงานสอบสวนของท้องที่ดังกล่าวส่งตัวผู้ถูกจับไปยังที่ทํา
การของพนักงานสอบสวนผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้รับผิดชอบโดยเร็ ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าขณะจับกุมมีบิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลหรือผู้แทนองค์การซึ่งเด็กหรือเยาวชน
อาศัยอยู่ด้วย อยู่ดก้วงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ยในขณะนั้น ให้เจ้าพนักกางานผู้จับแจ้งสํเหตุ านักแงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห่งการจับให้บุคคลดังกล่ กา าวทราบ และ
ในกรณี ค วามผิ ด อาญาซึ่ ง มี อั ต ราโทษอย่ า งสู ง ตามที่ ก ฎหมายกํ า หนดไว้ ใ ห้ จํ า คุ ก ไม่ เ กิ น ห้ า ปี เจ้ า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พนักงานผู้จั บจะสั่งให้ บุค คลดั งกล่าวเป็ นผู้ นําตัวเด็ก หรื อเยาวชนนั้นไปยัง ที่ทํ าการของพนัก งาน
สอบสวนตามวรรคหนึ ่งก็ได้ แต่ถ้าในขณะนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นไม่มีบุคคลดั สํางนักล่ าวอยู่กับผู้ถูกจับ ให้เกจ้าาพนักงานผู้จับ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
แจ้งให้บุคคลดังกล่าวคนใดคนหนึ่งทราบถึงการจับกุมในโอกาสแรกเท่าที่สามารถกระทําได้ และหากผู้
ถูกจับประสงค์จะติดกต่าอสื่อสารหรือสํปรึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ษาหารือกับบุคคลเหล่กาานั้น ซึ่งไม่เป็นสํอุาปนัสรรคต่ อการจับกุม กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
และอยู่ในวิสัยที่จะดําเนินการได้ ให้เจ้าพนักงานผู้จับดําเนินการให้ตามควรแก่กรณีโดยไม่ชักช้า
สํานัในการจั บกุมและควบคุมกเด็า กหรือเยาวชนต้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งกระทําโดยละมุนละม่กอาม โดยคํานึงถึง
ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และไม่เป็นการประจานเด็กหรือเยาวชน และห้ามมิให้ใช้วิธีการควบคุมเกิน
กว่าที่จําเป็นเพื่อป้องกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานการหลบหนีสํหานัรืกองานคณะกรรมการกฤษฎี
เพื่อความปลอดภัยของเด็ กา กหรือเยาวชนผู สํานั้ถกูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
จับหรือบุคคลอื่น กา
- ๑๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รวมทั้งมิให้ใช้เครื่องพักนา ธนาการแก่เด็สํากนัไม่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ว่ากรณีใด ๆ เว้นแต่มีคกวามจํ
า าเป็นอย่าสํงยิ
านั่งกอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นมิอาจหลีกเลี่ยง กา
ได้เพื่อป้องกันการหลบหนีหรือเพื่อความปลอดภัยของเด็กผู้ถูกจับหรือบุคคลอื่น
สํานัก่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
นส่งตัวผู้ถูกจับให้พนักกางานสอบสวนแห่
สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ท้องที่ที่ถูกจับ ให้เจ้าพนั
กา กงานผู้จับทํา
บันทึกการจับกุม โดยแจ้งข้อกล่าวหาและรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุแห่งการจับให้ผู้ถูกจับทราบ ทั้งนี้
ห้ามมิให้ถามคําให้กการผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้ถูกจับ ถ้าขณะทํ าบันทึกดังกล่าวมีบิดกาา มารดา ผู้ปกครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรือบุคคลหรือ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้แทนองค์การซึ่งเด็กหรือเยาวชนอาศัยอยู่ด้วย อยู่ด้วยในขณะนั้น ต้องกระทําต่อหน้าบุคคลดังกล่าว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และจะให้ลงลายมื อชื่อเป็นพยานด้วยก็ได้ ถ้อยคําของเด็กสําหรืนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อเยาวชนในชั้นจับกุมมิให้ศาลรับฟังเป็น
พยานเพื่อพิสูจน์ความผิดของเด็กหรืสํอาเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ศาลอาจนํามาฟังเป็นคุณแก่เด็สํกานัหรืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อเยาวชนได้ กา
สํานัมาตรา ๗๐ เมื่อพนักงานสอบสวนได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา รสํับาตันัวกเด็ กหรือเยาวชนซึ่งถูกจักบา หรือเด็กหรือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
เยาวชน ซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดถูกเรียกมา ส่งตัวมา เข้าหาพนักงานสอบสวนเอง มาปรากฏตัว
อยู่ต่อหน้าพนักงานสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือมีสํผานัู้นกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
ตัวเด็กหรือเยาวชนนั้นกเข้า ามอบตัวต่อพนั สํานักกงานสอบสวน และ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
คดีนั้นเป็นคดีที่ต้องพิจารณาพิพากษาในศาลเยาวชนและครอบครัว ให้พนักงานสอบสวนรีบสอบถาม
เด็กหรือเยาวชนในเบื ้องต้นเพื่อทราบชื่อตักวาชื่อสกุล อายุสํสัานัญกชาติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถิ่นที่อยู่ สถานที่เกิกดาและอาชีพของ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
เด็กหรือเยาวชน ตลอดจนชื่อตัว ชื่อสกุล และรายละเอียดเกี่ยวกับบิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลหรือ
องค์การ ซึ่งเด็กหรือกเยาวชนอาศั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ยสํอยูานั่ดก้วงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย แล้วแจ้งข้อกล่าวหาให้ กา บุคคลดังกล่ สําานัวทราบ และแจ้งให้ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้อํานวยการสถานพินิจที่เด็กหรือเยาวชนนั้นอยู่ในเขตอํานาจ เพื่อดําเนินการตามมาตรา ๘๒
การสอบถามเบื้องต้นตามวรรคหนึ่ง ให้สํากนัระทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าในสถานที่ที่เหมาะสม โดยไม่เลือก
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ปฏิบัติและไม่ปะปนกับผู้ต้องหาอื่นหรือมีบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่ในสถานที่นั้นอันมีลักษณะเป็นการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประจานเด็กหรือเยาวชน ทั้งนี้ โดยคํานึงถึงอายุ เพศ สภาวะของเด็กหรือเยาวชนเป็นสําคัญ และต้อง
ใช้ภาษาหรือถ้สํอายคํ าที่ทําให้เด็กหรือเยาวชนสามารถเข้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าสํใจได้ โดยง่าย โดยคํานึงถึงศักกาดิ์ศรีความเป็น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มนุษย์ ถ้าเด็กหรือเยาวชนไม่สามารถสื่อสารหรือไม่เข้าใจภาษาไทยก็ให้จัดหาล่ามให้ตามประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํอาจันัดกหาเทคโนโลยี สิ่งอํานวยความสะดวกหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํอาความช่ วยเหลืออื่นใด กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หากเด็กหรือเยาวชนประสงค์จะ
ติดต่อสื่อสารหรื
สํานัอกปรึ กษาหารือกับบิดา กมารดา
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ผู้ ปกครอง บุค คลหรื อผู้ แทนองค์กกาารซึ่งเด็กหรื อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เยาวชนอาศัยอยู่ด้วยและอยู่ในวิสัยที่จะดําเนินการได้ ให้พนักงานสอบสวนดําเนินการให้ตามควรแก่
กรณีโดยไม่ชักช้า กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัมาตรา ๗๑ เมื่อได้สอบถามเบื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้องต้นและแจ้ งข้อกล่าวหาตามมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๗๐ แล้ว ใน
กรณีที่เด็กหรือเยาวชนถูกเรียกมา ส่งตัวมา เข้าหาพนักงานสอบสวนเอง มาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พนักงานสอบสวน หรือมีผู้นําตัวเด็กหรือเยาวชนนั้นเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ให้พนักงาน
สอบสวนดําเนิสํนาการตามมาตรา ๑๓๔ แห่งกประมวลกฎหมายวิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานักธงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีพิจารณาความอาญาโดยอนุ
กา โลม
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๗๒ ในกรณี
สํานักทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่ พ นั ก งานสอบสวนได้กราั บ ตั ว เด็ ก หรื อสํเยาวชนซึ ่ ง ถู ก จั บ ให้ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พนักงานสอบสวนนําตัวเด็กหรือเยาวชนไปศาลเพื่อตรวจสอบการจับกุมทันที ทั้งนี้ ภายในเวลายี่สิบสี่
ชั่วโมงนับแต่เวลาที ่เด็กหรือเยาวชนไปถึงทีก่ทา ําการของพนัสํกานังานสอบสวนผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้รับผิดชอบกแต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า มิให้นับเวลา
เดินทางตามปกติที่นําตัวเด็กหรือเยาวชนผู้ถูกจับจากที่ทําการของพนักงานสอบสวนมาศาลเข้าใน
กําหนดเวลายี่สิบสี่ชั่วกโมงนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้นด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ที่เด็กหรือสํเยาวชนซึ ่งต้องหาว่ากระทําความผิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดมีบิดา สํมารดา ผู้ปกครองหรือ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บุคคลหรือองค์การซึ่งเด็กหรือเยาวชนอาศัยอยู่ด้วย และบุคคลหรือองค์การดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ายัง
สามารถปกครองดู แลเด็กหรือเยาวชนนั้นกได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า พนักงานสอบสวนอาจมอบตั วเด็กหรืกอาเยาวชนให้แก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บุคคลดังกล่าวไปปกครองดูแลและสั่งให้นําตัวเด็กหรือเยาวชนไปยังศาลภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนับแต่
เวลาที่เด็กหรือเยาวชนไปถึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งที่ทําการของพนั กงานสอบสวนภายหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งถูกจับ ในกรณี เช่นว่านี้ หากมี กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พฤติการณ์น่าเชื่อว่าเด็กหรือเยาวชนจะไม่ไปศาล พนักงานสอบสวนจะเรียกประกันจากบุคคลดังกล่าว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามควรแก่กรณี ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบั ญ ญั ติ ม าตรานี ้ มิ ใ ห้ นํ า ไปใช้ บั ง คั บ ในคดี ที่ พ นั ก งานสอบสวนเห็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
น ว่ า คดี อ าจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เปรียบเทียบปรับได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๓ เมื่อเด็กหรือเยาวชนมาอยู่ต่อหน้าศาล ให้ศาลตรวจสอบว่าเป็นเด็กหรือ
เยาวชน ซึ่งต้องหาว่ากกระทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าความผิสํดาหรื นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ การจับและการปฏิกบาัติต่อเด็กหรือเยาวชนเป็ นไปโดยชอบ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้วยกฎหมายหรือไม่ หากการจับเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ก็ให้ปล่อยตัวเด็กหรือเยาวชนไป ถ้า
เด็กหรือเยาวชนยั
สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่มีที่ปรึกษากฎหมายกาให้ศาลแต่งตัสํ้งาให้นักและเพื ่อเป็นการคุ้มครองสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ทธิเด็กหรือ
เยาวชนศาลอาจมีคําสั่งให้มอบตัวเด็กหรือเยาวชนให้แก่บิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลหรือองค์การซึ่ง
เด็กหรือเยาวชนอาศักยาอยู่ด้วย หรือบุสําคนัคลหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อองค์การที่ศาลเห็นกาสมควรเป็นผู้ดสํูแานัลเด็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กหรือเยาวชนใน กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระหว่างการดําเนินคดี โดยกําหนดให้บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่นําตัวเด็กหรือเยาวชนนั้นไปพบพนักงาน
สอบสวนหรือพนั กงานคุมประพฤติหรือศาล แล้วแต่กรณี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณี ที่ ป รากฏข้ อ เท็ จ จริ ง ว่ า การกระทํ า ของเด็ ก หรื อ เยาวชนมี ลั ก ษณะหรื อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พฤติการณ์ที่อาจเป็นภัยต่อบุคคลอื่นอย่างร้ายแรง หรือมีเหตุสมควรประการอื่น ศาลอาจมีคําสั่งให้
ควบคุมเด็กหรืสํอาเยาวชนซึ ่งต้องหาว่ากระทํกาาความผิดไว้ในสถานพิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี นิจหรือในสถานที่อกื่นาที่จัดตั้งขึ้นตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กฎหมายและตามที่ศาลเห็นสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้ากเยาวชนนั
า ้นมีอสํายุานัตกั้งงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่สิบแปดปีบริบูรณ์ขกึ้นาไป และมีลักสํษณะหรื อพฤติการณ์ที่ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อาจเป็นภัยต่อบุคคลอื่น หรือมีอายุเกินยี่สิบปีบริบูรณ์แล้ว ศาลอาจมีคําสั่งให้ควบคุมไว้ในเรือนจําหรือ
สถานที่อื่นตามประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การมอบตัวเด็กหรือเยาวชนให้แก่ผู้ดูแลตามวรรคหนึ่งหรือการปล่อยชั่วคราวหาก
ปรากฏต่อศาลว่าเด็กกหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อเยาวชนมีสํคาวามจํ าเป็นต้องเข้ารับการบํกาาบัดรักษา หรืสํอารันับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี คําปรึกษาแนะนํา กา
หรือเข้าร่วมกิจกรรมบําบัดใด ๆ ให้ศาลมีอํานาจกําหนดมาตรการเช่นว่านั้นด้วยก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๔ ก่อนมีคําสั่งควบคุมหรือคุม ขังเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้ องหาว่ากระทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความผิดหรือ ซึ่งเป็นจําเลยทุกครั้ง ให้ศาลสอบถามเด็กหรือเยาวชนหรือที่ปรึกษากฎหมายของเด็ก
หรือเยาวชนนั้นสําว่นัากจะมี ข้อคัดค้านประการใดหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อไม่ และศาลอาจเรี ยกพนักงานสอบสวนหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อพนักงาน
อัยการมาชี้แจงความจําเป็นหรืออาจเรียกพยานหลักฐานมาไต่สวนเพื่อประกอบการพิจารณาก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในการพิ
กา จ ารณาออกคํ า สั่ ง ตามวรรคหนึ่ ง ให้กาศ าลคํ านึ งถึ ง การคุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ ม ครองสิ ท ธิแ ละ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประโยชน์สูงสุดของเด็กหรือเยาวชนเป็นสําคัญ และการควบคุมหรือคุมขังเด็กหรือเยาวชนให้กระทํา
เป็นทางเลือกสุสํดานัท้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๗๕ ในการสอบสวน ให้กระทําในสถานที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ที่เหมาะสมโดยไม่ เลือกปฏิบัติและ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ปะปนกับผู้ต้องหาอื่นหรือมีบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่ในสถานที่นั้นอันมีลักษณะเป็นการประจาน
เด็กหรือเยาวชนสํานัทักงานคณะกรรมการกฤษฎี
้งนี้ โดยคํานึงถึงอายุ เพศ กา สภาวะของเด็
สํากนัหรื อเยาวชนเป็นสําคัญ และต้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องใช้ภาษา
และถ้อยคําที่ทําให้เด็กหรือเยาวชนสามารถเข้าใจได้ง่าย โดยคํานึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ถ้าเด็ก
หรื อ เยาวชนไม่ ส ามารถสื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ อ สารหรืสํอานัไม่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เ ข้ า ใจภาษาไทยให้จั ดกหาล่
า า มให้ ต ามประมวลกฎหมายวิ ธี กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พิจารณาความอาญาหรือจัดหาเทคโนโลยีสิ่งอํานวยความสะดวกหรือความช่วยเหลืออื่นใดให้ตาม
กฎหมายว่าด้วสํยการส่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิกสําร านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการแจ้งข้อกล่าสํวหาและสอบปากคํ าเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้อสํงหาว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ากระทําความผิด
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะต้องมีที่ปรึกษากฎหมายของเด็กหรือเยาวชนร่วมอยู่ด้วยทุกครั้ง พร้อมทั้งแจ้งด้วยว่ าเด็กหรื อ
เยาวชนมีสิทธิทสําี่จนัะไม่ ให้การหรือให้การก็ได้กาและถ้อยคําของเด็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือเยาวชนอาจใช้เป็กนาพยานหลักฐาน
ในการพิจารณาคดีได้ ทั้งนี้ เมื่อคํานึงถึงอายุ เพศ และสภาพจิตของเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่า
กระทําความผิดแต่ละราย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการแจ้งข้อหาและการสอบปากคําเด็กหรือเยาวชนตามวรรคสอง บิดา มารดา
ผู้ปกครองบุคคลหรื อผู้แทนองค์การซึ่งเด็กกาหรือเยาวชนอาศั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
อยู่ด้วยจะเข้าร่วมรับกฟัางการสอบสวน
ดังกล่าวด้วยก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๖ เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิด
ห้ามมิให้เจ้าพนักงานผู้จับกุมเด็กหรือเยาวชน หรือพนักสํงานสอบสวนจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดให้มีหรืออนุญาตให้มีหรือ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยินยอมให้มีการถ่ายภาพหรือบันทึกภาพเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิด เว้นแต่เพื่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประโยชน์ในการสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๗ ในระหว่างการสอบสวน หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอายุของเด็กที่ถูกจับกุม
หรือควบคุมให้พนักงานสอบสวนมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อสํําานาจดํ าเนินการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ธีพิจารณาความ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อาญาและกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่หากปรากฏภายหลังว่าเด็กนั้นมีอายุไม่เกินสิบปีในขณะ
กระทําความผิสํดานัและเด็ กอยู่ ในความควบคุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาม ของสถานพิ สํานนัิ จกหรื อองค์การอื่นใด ให้กสาถานพินิจหรื อ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
องค์การดังกล่าวรายงานให้ศาลทราบ เพื่อให้ศาลมีคําสั่งปล่อยตัวเด็กและดําเนินการต่อไปตามที่
กําหนดไว้ในวรรคสองโดยอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา โลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หากปรากฏเป็นที่แน่ชัดว่าเด็กซึ่งถูกจับกุมหรือควบคุมนั้นในขณะกระทําความผิด
อายุไม่เกินสิบปีบริกบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ูรณ์ให้ดําเนินการต่อไปดั กางนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ให้พนักงานสอบสวนดําเนินการสอบสวนไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความอาญาและกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อสอบสวนเสร็จแล้วให้พนักงานสอบสวนทําความเห็นว่า
เด็ ก นั้ น ได้ ก ระทํ
สํานัากความผิ ด ตามที่ ถู ก กล่ ากวหา
งานคณะกรรมการกฤษฎี า หรื อ ไม่ ไสํด้ากนัระทํ า ความผิ ด ตามที่ ถู กกากล่ า วหา หรื อ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พยานหลักฐานรับฟังไม่ได้ว่าเด็กกระทําความผิดตามที่ถูกกล่าวหาส่งไปยังพนักงานอัยการพร้อมด้วย
สํานวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในระหว่างการสอบสวน ให้พนักงานสอบสวนมอบตัวเด็กให้อยู่ในความปกครองดูแล
ของบิดา มารดา สํานัผูก้ปงานคณะกรรมการกฤษฎี
กครอง หรือบุคคลหรือกองค์ า การซึ่งเด็กสํอาศั ยอยู่ด้วย ในกรณีที่เด็กกไม่า มีบิดา มารดา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้ปกครอง บุคคลหรือองค์การดังกล่าว ให้ส่งตัวเด็กไปยังพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คุ้มครองเด็กในโอกาสแรกที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กระทําได้
สํานัแต่ ต้องภายในเวลาไม่เกินกยีา่สิบสี่ชั่วโมงนับสํแต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านักเวลาที ่เด็กนั้นมาถึง กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานที่ทําการของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ
สํานั(๒) ถ้าพนักงานอัยการเห็กานชอบด้วยว่าสํเด็านักกไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ได้กระทําความผิดตามที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ถูกกล่าวหา
หรือพยานหลักฐานรับฟังไม่ได้ว่าเด็กกระทําความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ให้พนักงานสอบสวนแจ้งบิดา
มารดา ผู้ปกครองหรืกาอองค์การซึ่งเด็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํากนัอาศั ยอยู่ด้วย หรือพนักกงานเจ้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า าหน้าที่ สํแล้ านัวกแต่ กรณี ทราบใน กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
โอกาสแรกที่กระทําได้แต่ต้องภายในเวลาไม่เกินสิบห้าวันนับแต่วันที่รับทราบความเห็นของพนักงาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อัยการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) หากพนั ก งานอั ย การเห็ น ว่ า เด็ ก นั้ น ได้ ก ระทํ า ความผิ ดสํตามที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ ถู ก กล่ า วหาให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พนักงานสอบสวนส่งตัวเด็กไปยังพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กในโอกาสแรก
ที่กระทําได้แต่สํตา้อนังภายในเวลาไม่ เกินสิบห้กาาวันนับแต่วันทีสํ่รานัับกทราบความเห็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นของพนักกางานอัยการเพื่อ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ดําเนินการต่อไปตามกฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้ โดยคํานึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสําคัญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๘ เมื่อมีการจับกุมเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดตามมาตรา
๖๙ วรรคหนึ่งสํหรืานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
กรณีเด็กหรือเยาวชนปรากฏตั กา วอยู่ต่อหน้
สํานัากพนั กงานสอบสวนตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๗๐ วรรค
หนึ่งให้พนักงานสอบสวนรีบดําเนินการสอบสวน และส่งสํานวนการสอบสวนพร้อมทั้งความเห็นไปยัง
พนักงานอัยการ เพื่อกให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า พนักงานอัยสํการยื ่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วให้
สําทนัันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ภายในสามสิบวัน กา
นับแต่วันที่เด็กหรือเยาวชนนั้นถูกจับกุมหรือปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าพนักงานสอบสวน แล้วแต่กรณี
ในกรณีความผิดอาญาที่มีอัตราโทษอย่าสํงสูานังกตามที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่กฎหมายกําหนดไว้ให้จําคุกเกินหก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เดือนแต่ไม่เกินห้าปี ไม่ว่าจะมีโทษปรับด้วยหรือไม่ก็ตาม หากเกิดความจําเป็นไม่สามารถฟ้องเด็กหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เยาวชนนั้นต่อศาลได้ทันภายในระยะเวลาดังกล่าวในวรรคหนึ่ง ให้พนักงานสอบสวนหรือพนักงาน
อัยการ แล้วแต่สํกานัรณี ยื่นคําร้องต่อศาลเพื่อกขอผั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ดฟ้องต่อไปได้
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ีกครั้งละไม่เกินสิบห้าวันกาแต่ทั้งนี้ต้องไม่
เกินสองครั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณี
กา ความผิดอาญาที ่มีอัตราโทษอย่างสูงตามที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กฎหมายกําสํหนดไว้ ให้จําคุกเกินห้า กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปีไม่ว่าจะมีโทษปรับด้วยหรือไม่ก็ตาม เมื่อศาลสั่งอนุญาตให้ผัดฟ้องครบสองครั้งแล้ว หากพนักงาน
สอบสวนหรือสํพนั านักกงานอั ยการยื่นคําร้องต่กอาศาลเพื่อขอผัสํดาฟ้นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี งต่อไปอีก โดยอ้างเหตุกาจําเป็น ศาลจะ
อนุญาตตามคําขอนั้นได้ต่อเมื่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการได้แสดงถึงเหตุจําเป็นและนํา
พยานมาเบิกความประกอบจนเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นสํทีา่พนัอใจแก่ ศาล ในกรณีเช่นว่กาานี้ศาลมีอํานาจสั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่งกอนุ ญาตให้ผัดฟ้อง กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อไปได้อีกครั้งละไม่เกินสิบห้าวัน แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินสองครั้ง
สํานัการผั ดฟ้องตามวรรคสองและวรรคสาม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําให้
นักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานสอบสวนผู้รับกผิาดชอบมีอํานาจ
ผัดฟ้องต่อศาลที่พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบอยู่ในเขตอํานาจศาลนั้นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการพิจารณาคําร้องขอผัดฟ้อง ถ้าเด็กหรือเยาวชนซึ่งเป็นผู้ต้องหายังไม่มีที่ปรึกษา
กฎหมายให้ศาลแต่ สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตั้งให้เพื่อแถลงข้อคัดค้กาานหรือซักถามพยานสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๗๙ ในกรณี
สํานัทกี่เงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด็กหรือเยาวชนผู้ต้องหาหลบหนี
กา จากการควบคุ มในระหว่าง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สอบสวนมิให้นับระยะเวลาที่หลบหนีนั้นรวมเข้าในกําหนดระยะเวลาตามมาตรา ๗๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๐ ห้ามมิให้พนักงานอัยการฟ้องคดีเมื่อพ้นกําหนดระยะเวลาตามมาตรา
๗๘ เว้นแต่จะได้รับอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาญาตจากอัยการสู
สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
สุด กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๒ เมื่อผู้อํานวยการสถานพินสํิจานัได้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
รับแจ้งการจับกุมเด็กหรื กา
อเยาวชนตาม
มาตรา ๗๐ วรรคหนึ่ง หรือได้รับตัวสํเด็านักกหรืงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อเยาวชนตามมาตรา ก๗๓ า
แล้ว ให้ดําสํเนิานันกการ ดังต่อไปนี้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) สั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะข้อเท็จจริงตามมาตรา ๓๖ (๑) เว้นแต่ใน
คดีอาญา ซึ่งมีสํอาัตนัราโทษอย่ างสูงตามที่กฎหมายกํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหนดไว้สํานัให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
จําคุกไม่เกินสามปี หรืกอาปรับไม่เกินหก
หมื่นบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ ถ้าผู้อํานวยการสถานพินิจเห็นว่าการสืบเสาะข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่จําเป็น
แก่คดีจะสั่งงดการสืบกเสาะข้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อเท็จจริสํงานันั้นกเสี ยก็ได้ แล้วให้แจ้งไปยักงาพนักงานสอบสวนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่เกี่ยวข้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๒) ทํารายงานในคดีที่มีการสืบเสาะเพื่อแสดงถึงข้อเท็จจริงตามมาตรา ๓๖ (๑) และ
แสดงความเห็สํนานัเกีก่ยงานคณะกรรมการกฤษฎี
วกับสาเหตุแห่งการกระทํ กา าความผิ ดสําของเด็ กหรือเยาวชน แล้วกส่างรายงานและ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ความเห็นนั้นไปยังพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ แล้วแต่กรณี และถ้ามีการฟ้องร้องเด็กหรือ
เยาวชนต่อศาลให้เสนอรายงานและความเห็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นนั้นต่อศาลพร้อมทั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา้งความเห็นเกีสํ่ยาวกั
นักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
การลงโทษ หรือ กา
การใช้วิธีการสําหรับเด็กและเยาวชนด้วย
(๓) ในกรณีที่เด็กหรือเยาวชนอยู่ในความควบคุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มของสถานพินิจ ให้เด็กหรือเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้รับการปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ก) ทําความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย
(ข) ให้แพทย์ตรวจสภาพร่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา างกายและสภาพจิ ตใจในเบื้องต้น และถ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าเห็นสมควร
ให้จิตแพทย์ตรวจสภาพจิตด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา(ค) ถ้าปรากฏว่ สํานัากเด็งานคณะกรรมการกฤษฎี
กหรือเยาวชนเจ็บป่วกยา ซึ่งควรจะได้สํราับนัการรั กษาพยาบาล กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก่อนดําเนินคดี ให้มีอํานาจสั่งให้ได้รับการรักษาพยาบาลในสถานพินิจหรือสถานพยาบาลอื่นตามที่
เห็นสมควร ในกรณี เช่นว่านี้ให้แจ้งไปยังพนักกา งานสอบสวนหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
พนักงานอัยการที่เกี่ยวข้กาองด้วย
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๘๓ เมื่อศาลพิ พากษาลงโทษหรือใช้วกิธาีการสําหรับเด็สํกานัและเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ให้ศาล กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
หักจํานวนวันที่เด็กหรือเยาวชนอยู่ในความควบคุมของสถานพินิจหรือเรือนจําหรือสถานที่อื่นใดที่
ได้รับการมอบหมาย ให้ควบคุมตัวเด็กหรือกเยาวชนระหว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าสํงสอบสวนหรื อพิจารณาคดี กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในกรณีที่ศาลมีคําสั่งให้เด็กหรือเยาวชนเข้าตรวจสภาพร่างกายหรือสภาพจิต หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รับการรักษาพยาบาลหรือแก้ไข บําบัด หรือฟื้นฟูในสถานพยาบาล หรือศาลกําหนดเงื่อนไขระหว่าง
ปล่อยชั่วคราวตามมาตรา ๗๓ วรรคสี่ ให้กศาาลหักจํานวนวั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานนักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่เด็กหรือเยาวชนอยู่ในเงื
กา่อนไขดังกล่าว
ให้แก่เด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องคําพิพากษาให้ลงโทษหรือใช้วิธีการสําหรับเด็กและเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๔ เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิเด็กหรือเยาวชน ห้ามมิให้เปิดเผยหรือนํา
ประวัติการกระทํสํานัากความผิ ดอาญาของเด็กกหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อเยาวชนไปพิ
สํานัจกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารณาให้เป็นผลร้ายหรืกอา เป็นการเลือก
ปฏิบัติอันไม่เป็นธรรมแก่เด็กหรือเยาวชนนั้นไม่ว่าในทางใด ๆ เว้นแต่เป็นการใช้ประกอบดุลพินิจของ
ศาลเพื่อกําหนดวิธีการสํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหรับเด็กและเยาวชน หากมีการฝ่าฝืนให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ศาลสั่งระงับการกระทํ าที่ฝ่าฝืนหรือ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
- ๒๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เพิกถอนการกระทํานัก้นา และอาจกําสํหนดค่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าเสียหายหรือบรรเทาผลร้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ายหรือมีคําสํสัานั่งกให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
จัดการแก้ไขเพื่อ กา
เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นตามที่เห็นสมควร
สํานัเด็ กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ากระทํ าความผิ ดหรือเป็นจําเลยที่อยูก่ใานระหว่างการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ควบคุมดูแลของบุคคลหรือองค์การใด ๆ จะต้องได้รับการฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ และส่งเสริมให้มี
โอกาสกลับคืนสู่สังคมกา รวมทั้งได้รับสํการปฏิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บัติด้วยมนุษยธรรมและเคารพในศั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํกาดินั์ศกงานคณะกรรมการกฤษฎี
รีความเป็นมนุษย์ กา
หากมีการแสวงหาประโยชน์ การกระทําอันมิชอบ การทรมาน การลงโทษ การปฏิบัติที่โหดร้ายไร้
มนุษยธรรมหรืสํอานัต่กํางานคณะกรรมการกฤษฎี
ช้ารูปแบบอื่น หรือกระทํ กา
าการใด ๆ ทีสํ่ามนัิไกด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นไปเพื่อฟื้นฟูร่างกายหรื กา
อจิตใจหรือ
เพื่อการกลับคืนสู่สังคม และมีลักษณะที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ขัดต่อประโยชน์สูงสุดของเด็กหรือเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ศาลสั่งระงับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือเพิกถอนการกระทําที่ฝ่าฝืน และกําหนดค่าเสียหายหรือบรรเทาผลร้ายหรือมีคําสั่งให้จัดการแก้ไข
เพื่อเยียวยาความเสี ยหายที่เกิดขึ้นตามที่เห็กนาสมควร สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๘๕ ในกรณี
สํานักทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่เด็กหรือเยาวชนอยู่ ในความควบคุ
กา มสํระหว่ างการสอบถาม กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปากคําตามมาตรา ๖๙ และมาตรา ๗๐ หรืออยู่ในความควบคุมของสถานพินิจ ระหว่างการสอบสวน
หรือพิจารณาคดี สํานักก็ดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี ระหว่างการตรวจสภาพร่ กา างกายหรือสํสภาพจิ ตหรือรับการรักษาพยาบาลก็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดี ไม่ให้
ถือว่าเป็นการควบคุมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แต่ถ้าศาลพิพากษาลงโทษหรือใช้
วิธีการสําหรับเด็กและเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้ศาลหั
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
จํานวนวันที่อยู่ในความควบคุ
กา มระหว่าสํงการสอบปากคํ า หรือ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อยู่ในความควบคุมของสถานพินิจ
ในกรณีที่เด็กหรือเยาวชนถูกส่งตัวไปควบคุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มไว้เพื่อฝึกอบรมตามคําพิพากษาหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งของศาลหลบหนีไปจากการควบคุมแล้วภายหลังจับตัวมาได้ ให้ศาลชั้นต้นที่พิพากษาหรือมีคําสั่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือศาลชั้นต้นที่มีเขตอํานาจในท้องที่ที่เด็กหรือเยาวชนถูกส่งตัวไปควบคุมไว้เพื่อฝึกอบรม มีอํานาจ
สั่งกําหนดเวลาที
สํานั่ตก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
งฝึกอบรมเพิ่มขึ้นตามที
กา่เห็นสมควรแทนการลงโทษอาญาก็ ได้ แต่กาต้องไม่เกินกว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เวลาที่เด็กหรือเยาวชนนั้นมีอายุครบยี่สิบสี่ปีบริบูรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๗
มาตรการพิกเศษแทนการดํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าสํเนิานันกคดี อาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บําบัดฟื้นฟูต่อพนักงานอั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยการเพื่อสํพิานัจการณา ทั้งนี้ การจัดทํากแผนแก้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ไขบําบัสํดาฟืนั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฟูต้องได้รับความ กา
ยินยอมจากผู้เสียหายและเด็กหรือเยาวชนด้วย
สํานัเมื ่อพนักงานอัยการได้รับกแผนแก้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ไขบําบัสํดานัฟืก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฟูและความเห็นของผู้อกําานวยการสถาน
พินิจตามวรรคหนึ่งแล้ว หากมีข้อสงสัยอาจสอบถามผู้อํานวยการสถานพินิจหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อ
ประกอบการพิจารณาได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ถ้าพนักงานอั สํานัยกการ ไม่เห็นชอบด้วยกับกแผนแก้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ไขบําบัสํดาฟืนั้นกฟูงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้สั่งแก้ไขแผน กา
แก้ไขบําบัดฟื้นฟูหรือสั่งดําเนินคดีต่อไปและให้ผู้อํานวยการสถานพินิจแจ้งคําสั่งของพนักงานอัยการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้พนักงานสอบสวนและผู ้ที่เกี่ยวข้องทราบ หากพนักสํงานอั านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยการเห็นว่าแผนแก้ไขบําบัดฟื้นฟูได้
เป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กสําหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อเยาวชนแล้วเพื่อประโยชน์แห่งความยุ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ติธรรมให้พนักงาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อัยการเห็นชอบกับแผนดังกล่าว และให้มีการดําเนินการตามแผนแก้ไขบําบัดฟื้นฟูดังกล่าวได้ทันที
พร้อมทั้งให้รายงานให้ ศาลทราบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงแก่ศาลว่ากระบวนการจัดทําแผนแก้ไขบําบัดฟื้นฟูนั้นไม่
ชอบด้วยกฎหมาย ให้กศา าลพิจารณาสัสํ่งาตามที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่เห็นสมควร
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ศาลต้องมีคําสั่งตามวรรคสามภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับรายงาน ทั้งนี้ ให้
ประธานศาลฎีสํกาาโดยความเห็ นชอบของที่ปการะชุมใหญ่ศาลฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกาออกข้ อกําหนดเกี่ยวกับกาแนวทางในการ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ดําเนินการของศาลด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี แผนแก้กา ไขบําบัดฟืสํ้นาฟูนัตกามมาตรานี ้ต้องได้รับความยิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นยอมจากผู สํา้เนัสีกยงานคณะกรรมการกฤษฎี
หายและเด็กหรือ กา
เยาวชนด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๗ ในการจัดทําแผนแก้ไขบําบัดฟื้นฟูตามมาตรา ๘๖ ให้ผู้อํานวยการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สถานพินิจเชิญฝ่ายเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิด ฝ่ายผู้เสียหาย และนักจิตวิทยาหรือ
นักสังคมสงเคราะห์ เข้าร่วมประชุม และหากเห็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นสมควรอาจเชิ ญผู้แทนชุมชนหรือหน่กวายงานที่มีหน้าที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบจากการกระทําความผิด หรือพนักงานอัยการด้วยก็ได้ ทั้งนี้ จะต้อง
จัดทําแผนแก้ไขบําบักดาฟื้นฟูให้แล้วเสร็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัจกและเสนอให้ พนักงานอัยกการพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า จารณาภายในสามสิ บวันนับแต่ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
วันที่เด็กหรือเยาวชนสํานึกในการกระทํา
สํานัแผนแก้ ไขบําบัดฟื้นฟูต้อกงไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า มีลักษณะเป็ สํานันกการจํ ากัดสิทธิหรือเสรีภกาพของเด็
งานคณะกรรมการกฤษฎี า กหรือ
เยาวชน เว้นแต่เป็นการกําหนดขึ้นเพื่อประโยชน์ของเด็กหรือเยาวชนนั้นหรือเพื่อคุ้มครองประโยชน์
สาธารณะและไม่มีลักกษณะเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นการละเมิ
สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษกย์าของเด็กหรือเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แผนแก้ไขบําบัดฟื้นฟูตามวรรคหนึ่ง อาจกําหนดให้ว่ากล่าวตักเตือน กําหนดเงื่อนไข
ให้ เ ด็ ก หรื อ เยาวชนปฏิ
สํ านั บั ติ และหากจํ า เป็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาน เพื่ อ ประโยชน์
สํานักใงานคณะกรรมการกฤษฎี
นการคุ้ ม ครองเด็ ก หรืกอา เยาวชน อาจ
กําหนดให้บิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลหรือองค์การซึ่งเด็กหรือเยาวชนอาศัยอยู่ด้วยปฏิบัติด้วยก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กําหนดให้ชดใช้เยียวยาความเสียหาย กําหนดให้ทํางานบริการสังคมหรือทํางานสาธารณประโยชน์ไม่
เกินสามสิบชั่วสํโมง หรือกําหนดให้นํามาตรการอย่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา างหนึสํ่งาหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
หลายอย่างมาใช้เพื่อประโยชน์
กา ในการ
แก้ไขบําบัดฟื้นฟูเด็กหรือเยาวชน ทั้งนี้ ระยะเวลาในการปฏิบัติตามแผนแก้ไขบําบัดฟื้นฟูต้องไม่เกิน
หนึ่งปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทําแผนแก้ไขบําบัดฟื้นฟู ให้เป็นไปตาม
ระเบียบที่อธิบสํดีากนัํากหนด
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๘๘ ผู้มีหสํน้านัากทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ปฏิบัติตามแผนแก้ไขบํกาาบัดฟื้นฟู ต้อสํงปฏิ บัติให้เป็นไปตาม กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แผนแก้ไขบําบัดฟื้นฟูนั้น หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ให้ผู้อํานวยการสถานพินิจรายงานให้พนักงาน
อัยการทราบและแจ้ งให้พนักงานสอบสวนดํกาาเนินคดีต่อไปสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เมื่อมีการปฏิบัติตามแผนแก้ไขบําบัดฟื้นฟูครบถ้วนแล้ว ให้ผู้อํานวยการสถานพินิจ
รายงานให้พนักงานอักยา การทราบ หากพนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กงานอัยการเห็นชอบให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มีอํานาจสั่งไม่
สําฟนั้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งเด็กหรือเยาวชน กา
นั้น คําสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการให้เป็นที่สุด และสิทธินําคดีอาญามาฟ้องเป็นอันระงับ ทั้งนี้ ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตัดสิทธิผู้มีส่วนได้ เสียที่จะดําเนินคดีส่วนแพ่ง และให้ผู้อสํําานวยการสถานพิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นิจรายงานคําสั่งไม่ฟ้องให้
ศาลทราบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ผู้อํานวยการสถานพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นิจหรือบุคคลที
สํานั่ศกาลสั ่งให้จัดทําแผนแก้ไกขบํา าบัดฟื้นฟูรายงานให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี ศาลทราบหาก กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ศาลเห็นชอบด้วย ให้ศาลสั่งจําหน่ายคดีออกจากสารบบความ และมีคําสั่งในเรื่องของกลาง โดยให้
สิทธินําคดีอาญามาฟ้ องเป็นอันระงับ ทั้งนีก้ าไม่ตัดสิทธิผู้มีสสํ่วานันได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เสียที่จะดําเนินคดีส่วนแพ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๙๓ ในกรณี
สํานัทกี่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารจัดทําแผนแก้ไขบําบักดา ฟื้นฟูไม่สําเร็จสํและต้ องดําเนินคดีกับ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เด็กหรือเยาวชนนั้นต่อไปห้ามมิให้นําข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่ได้มาจากการประชุมเพื่อจัดทํา
แผนแก้ไขบําบัสํดาฟืนั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ฟูตามมาตรา ๘๖ และมาตรา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๙๑ มาใช้ อ้างต่อศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๔ ให้ผู้เข้าร่วมประชุมในการจัดทําแผนแก้ไขบําบัดฟื้นฟูตามมาตรา ๘๖
หรือแผนแก้ไขบํสําานับักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดฟื้นฟูตามมาตรา ๙๐กและมาตรา
า ๑๓๒
สํานักได้ รับค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นทาง ค่า
เช่าที่พัก และค่าตอบแทนอย่างอื่นตามระเบียบที่กระทรวงยุติธรรมกําหนด โดยความเห็นชอบจาก
กระทรวงการคลัง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๕ คดีอาญาที่มีข้อหาว่าเด็กหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อเยาวชนกระทําความผิด ให้ศาลเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และครอบครัวซึ่งมีเขตอํานาจในท้องที่ที่เด็กหรือเยาวชนมีถิ่นที่อยู่ปกติ มีอํานาจพิจารณาคดีเกี่ยวกับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความผิ ดนั้น แต่ ถ้าเพื่อประโยชน์แ ก่ เด็กหรื อเยาวชนให้ศ าลแห่งท้องที่ที่ เด็กหรือเยาวชนกระทํา
ความผิดมีอํานาจรั
สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
พิจารณาคดีนั้นได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๙๖ ถ้าเด็สํกาหรื อเยาวชนกระทําความผิกาดอาญาร่วมกับสําบุนัคกคลซึ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งมิใช่เด็กหรือ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
เยาวชนให้แยกฟ้องเด็กหรือเยาวชนต่อศาลเยาวชนและครอบครัว ถ้าโจทก์ยื่นฟ้องเด็กหรือเยาวชน
ร่วมกับบุคคลซึสํ่งานัมิกใช่งานคณะกรรมการกฤษฎี
เด็กหรือเยาวชนต่อศาลทีกา ่มีอํานาจพิจสํารณาคดี ธรรมดา แต่ต่อมาความปรากฏแก่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ศาลนั้นว่าจําเลยเป็นเด็กหรือเยาวชนและถ้าศาลเห็นสมควร ให้ศาลที่มีอํานาจพิจารณาคดีธรรมดามี
อํานาจโอนคดีเด็กหรืกอาเยาวชนไปพิจสํารณายั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งศาลเยาวชนและครอบครั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วตามกรณี สําทนักี่บงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัญญัติไว้ในมาตรา กา
๙๕ แต่ถ้าศาลเห็นว่าไม่สมควรโอนคดี ให้ศาลที่มีอํานาจพิจารณาคดีธรรมดามีอํานาจใช้วิธีการสําหรับ
เด็กและเยาวชนตามที ่บัญญัติไว้ในพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัตินี้แก่จําสํเลยที ่เป็นเด็กหรือเยาวชนได้กา ในกรณีเช่นว่า
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
นี้ ไม่ทําให้การดําเนินการในชั้นสอบสวนและการพิจารณาพิพากษาของศาลที่มีอํานาจพิจารณาคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ธรรมดาดังกล่าวเสียไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๗ เพื่อประโยชน์แ ห่งพระราชบัญ ญัตินี้ บุ คคลใดอายุยังไม่เกินยี่ สิ บ ปี
บริบูรณ์กระทําความผิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดและเป็นคดีสําทนักี่องานคณะกรรมการกฤษฎี
ยู่ในอํานาจศาลที่มีอํากนาจพิ
า จารณาคดีสํานัธกรรมดา ถ้าศาลนั้น กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
พิจารณาโดยคํานึงถึงสภาพร่างกาย สภาพจิต สติปัญญา และนิสัยแล้ว เห็นว่าบุคคลนั้นยังมีสภาพ
เช่นเดียวกับเด็สํกาหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
เยาวชน ให้มีอํานาจสั่งกโอนคดี
า ไปพิจารณาในศาลเยาวชนและครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา วที่มีอํานาจ
และให้ถือว่าบุคคลนั้นเป็นเด็กหรือเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คดีกอาาญาที่อยู่ในอํสําานาจศาลเยาวชนและครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ว ถ้าศาลเยาวชนและครอบครั ว กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พิจารณาโดยคํานึงถึงสภาพร่างกาย สภาพจิต สติปัญญา และนิสัยแล้ว เห็นว่าในขณะกระทําความผิด
หรือในระหว่าสํงการพิ จารณา เด็กหรือเยาวชนที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ต้องหาว่าสํกระทํ าความผิดมีสภาพเช่นกเดีา ยวกับบุคคลที่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์ขึ้นไป ให้มีอํานาจสั่งโอนคดีไปพิจารณาในศาลที่มีอํานาจพิจารณาคดี
ธรรมดาได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๘ ในกรณีที่มีการโอนคดีจากศาลเยาวชนและครอบครั วไปยังศาลอื่นตาม
มาตรา ๒๖ แห่งประมวลกฎหมายวิสํธาีพนักิจงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ารณาความอาญา จะโอนคดี
กา
ไปยังศาลอื ่นที่ใช้วิธีพิจารณาคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต่างกับศาลเยาวชนและครอบครัวไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การฟ้องคดีอาญา กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๙ ห้ามมิให้ผู้เสียหายฟ้องคดีอาญาซึ่งมีข้อหาว่าเด็กหรือเยาวชนกระทํา
ความผิดต่อศาลเยาวชนและครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัวกเว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู
กา ้อํานวยการสถานพิ นิจที่เด็กหรือ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เยาวชนนั้นอยู่ในเขตอํานาจ
เมื่อผู้อํานวยการสถานพินิจได้รับการร้สํอานังขอของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้เสียหายที่จะฟ้องคดีอาญาตาม
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วรรคหนึ่งแล้วให้ผู้อํานวยการสถานพินิจดําเนินการสืบสวนและสอบสวนว่าข้อกล่าวหานั้นมีมูลสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนุญาตให้ผู้เสียหายฟ้องหรือไม่ แล้วแจ้งให้ผู้เสียหายทราบว่าอนุญาตให้ฟ้องหรือไม่อนุญาตให้ฟ้อง
สํานัในกรณี ที่ผู้อํานวยการสถานพิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นิจไม่อนุญสําาตให้ ฟ้อง ผู้เสียหายจะร้องต่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อศาลขอให้สั่ง
อนุญาตก็ได้ในกรณีเช่นว่านี้ ให้ศาลเรียกผู้อํานวยการสถานพินิจมาสอบถามแล้วสั่งตามที่เห็นสมควร
คําสั่งศาลให้เป็นที่สุดกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อศาลเยาวชนและครอบครัวได้ไต่สวนมูลฟ้องและมี คําสั่งประทั บรับฟ้องของ
ผู้เสียหายแล้วให้
สํานัผกู้องานคณะกรรมการกฤษฎี
ํานวยการสถานพินิจดํากเนิา นการตามมาตรา ๘๒ ตามควรแก่กรณี กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๐๐ ก่อสํนที
านัก่ศงานคณะกรรมการกฤษฎี
าลเยาวชนและครอบครักา วจะอนุญาตให้
สํานัโกจทก์ ถอนฟ้องคดีที่ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
เด็กหรือเยาวชนต้องหาว่ากระทําความผิด ให้ศาลแจ้งให้ผู้อํานวยการสถานพินิจที่เด็กหรือเยาวชนนั้น
อยู่ในเขตอํานาจทราบก่ อน ในกรณีเช่นนี้ กถ้าาผู้อํานวยการสถานพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นิจพิจารณาโดยคํากนึางถึงข้อเท็จจริง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชนตามมาตรา ๘๖ แล้ว เห็นว่าเพื่อสวัสดิภาพและอนาคตของเด็กหรือเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมควรให้ มี ก ารคุ ม ความประพฤติ ข องเด็ ก หรื อ เยาวชนนั้ น ก็ ใ ห้ เ สนอความเห็ น ต่ อ ศาล ถ้ า ศาล
เห็นสมควร ก็ใสํห้านัศกาลมี อํานาจกําหนดเงื่อนไขเพื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อคุมความประพฤติ ของเด็กหรือเยาวชนได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา และให้นํา
มาตรา ๑๓๘ และมาตรา ๑๓๙ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๑ ในท้องที่ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวเปิดดําเนินการแล้ว ให้อัยการ
สูงสุดแต่งตั้งพนั
สํากนังานอั ยการคนหนึ่งหรือหลายคนตามความจํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นเพื่อให้มีหน้าที่ดํากเนิา นคดีที่มีข้อหา
ว่าเด็กหรือเยาวชนกระทําความผิดและจะต้องฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๑๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การพิจารณาคดีอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๐๒ ถ้าสํศาลที ่มีอํานาจพิจารณาคดีกาเยาวชนและครอบครั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี วเห็นเป็นการ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สมควรที่จะควบคุมเด็กหรือเยาวชนไว้ในระหว่างพิจารณา ให้ศาลสั่งให้ควบคุมเด็กหรือเยาวชนไว้ยัง
สถานพินิจหรือสํสถานที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อื่นที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายและตามที สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ศาลเห็นสมควร
ผู้อํานวยการสถานพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นิจหรือผู้ปกครองสถานที่ที่ได้รับมอบหมายให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ควบคุมตัวเด็ก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือเยาวชนมีหน้าที่จัดส่งตัวเด็กหรือเยาวชนมายังศาลตามคําสั่งศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๓ ห้ามมิให้ใช้เครื่องพันธนาการแก่เด็กในระหว่างเวลาที่จําเป็นต้อง
ควบคุมเด็กนั้นไว้เพื่อกการพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า จารณาคดีสํานัเว้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
นแต่ในคดีที่มีข้อหาว่าเด็
กากกระทําความผิ
สํานัดกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่มีอัตราโทษอย่าง กา
สูงตามที่กฎหมายกําหนดไว้ให้จําคุกเกินสิบปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๔ เมื่ อศาลเยาวชนและครอบครัวได้รับฟ้องคดีที่มีข้อหาว่าเด็กหรือ
เยาวชนกระทําความผิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาด ให้ศาลแจ้งสํให้
านัผกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้อํานวยการสถานพินิจทีกา่เด็กหรือเยาวชนนั
สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
อยู่ในเขตอํานาจ กา
และบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือบุ คคลซึ่งเด็กหรือเยาวชนอาศัยอยู่ด้วยทราบถึงวันและเวลานั่ง
พิจารณาของศาลโดยไม่ ชักช้า ในกรณีที่ ศ าลเห็นสมควรศาลจะเรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยกให้บุคคลดั งกล่าวมาฟังการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิจารณาด้วยก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวได้รับฟ้องคดีที่พนักงานอัยการฟ้องต่อศาลตาม
มาตรา ๘๐ ให้สํผาู้อนัํากนวยการสถานพิ นิจดําเนิกนา การตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก๘๒ ตามควรแก่กรณี กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๐๕ เมืสํ่ อานัศาลเยาวชนและครอบครั
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว ได้ รั บ ฟ้ อ งคดี
สําทนัี่ มกีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ข้อหาว่าเด็กหรื อ กา
เยาวชนกระทําความผิดแล้ว อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล
เยาวชนและครอบครั วจังหวัด หรือผู้พิพกากษาหั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า วหน้าศาลจั งหวัดแผนกคดีเยาวชนและครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ว
แล้วแต่กรณี จะเป็นเจ้าของสํานวนหรือจะให้ผู้พิพากษาคนใดคนหนึ่งในศาลนั้นเป็นเจ้าของสํานวนก็
ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๐๘ การพิ
สํานัจการณาคดี ในศาลที่มีอํานาจพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จารณาคดีสํเยาวชนและครอบครั ว กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้กระทําเป็นการลับ และเฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีเท่านั้นมีสิทธิเข้าฟังการพิจารณาคดีได้ ซึ่ง
ได้แก่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) จําเลย ที่ปรึกษากฎหมายของจําเลย และผู้ควบคุมตัวจําเลย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒)กบิา ดา มารดา ผูสํ้ปานักครอง หรือบุคคลซึ่งจําเลยอาศั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยอยู่ด้วยสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) พนักงานศาล และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) โจทก์ และทนายโจทก์
(๕) พยาน ผู้ชํานาญการพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เศษ และล่าม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) พนักงานคุมประพฤติหรือพนักงานอื่นของสถานพินิจ
สํานั(๗) บุคคลอื่นที่ศาลเห็นสมควรอนุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาต สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๐๙ ถ้าสํศาลที ่มีอํานาจพิจารณาคดีเกยาวชนและครอบครั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า วเห็นว่าจําเลยไม่ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ควรฟังคําให้การของพยานในตอนหนึ่งตอนใด ศาลมีอํานาจสั่งให้จําเลยออกไปนอกห้องพิจารณาได้
แต่เมื่อศาลสั่งสํให้านัจกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
เลยกลับเข้ามาฟังการพิ
กาจารณา ให้ศสําลแจ้ งข้อความที่พยานเบิกกความไปแล้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า วให้
จําเลยทราบเท่าที่ศาลเห็นสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๐ ในการพิจารณาคดีอาญาที่เด็กหรือเยาวชนเป็นจําเลย ถ้าศาลที่มี
อํานาจพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวเห็นสมควรที่จสํะพู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดกับจําเลยโดยเฉพาะ หรือเห็นว่าบุคคล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บางคนไม่ควรอยู่ในห้องพิจารณา ศาลมีอํานาจสั่งให้บุคคลทั้งหมดหรือบุคคลที่ศาลเห็นว่าไม่ควรอยู่ใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ห้องพิจารณาออกไปนอกห้องพิจารณาได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๑ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาพิพากษาคดีอาญาที่เด็กหรือเยาวชน
เป็นจําเลยศาลที่มีอกําานาจพิจารณาคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักเยาวชนและครอบครั
งานคณะกรรมการกฤษฎี วมีกอา ํานาจเรียกบิสํดาานักมารดา ผู้ปกครอง กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือบุคคลซึ่งจําเลยอาศัยอยู่ด้วย หรือบุคคลซึ่งให้การศึกษา ให้ทําการงาน หรือมีความเกี่ยวข้องมา
เป็นพยานเพื่อสํสอบถามข้ อเท็จจริงที่เกี่ยวกักบาจําเลยได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๑๒ ในการพิ จารณาคดีอาญาที่เด็กกหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อเยาวชนเป็สํนานัจํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
เลย เมื่อศาลเห็น กา
เองหรือปรากฏจากรายงานของผู้อํานวยการสถานพินิจว่า บิดา มารดา หรือผู้ปกครองใช้อํานาจ
ปกครองโดยมิสํชานัอบเกี ่ยวแก่ตัวเด็กหรือเยาวชน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กระทําสํทารุ ณกรรม หรือกระทําการอั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นมี ลั กษณะ
เกื้อหนุนให้เด็กหรือเยาวชนประพฤติตนเสียหาย หรือปล่อยปละละเลยให้เด็กหรือเยาวชนกระทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความผิด ให้ศาลไต่สวนเพื่อหาข้อเท็จจริงได้ หากเห็นสมควรศาลอาจสั่งถอนอํานาจปกครองหรือ
ความเป็นผู้ปกครองทั ้งหมดหรือบางส่วนเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นการชั่วคราวสํานัเป็ นเวลาไม่เกินสองปี แต่กาต้องไม่เกินกว่า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เยาวชนนั้นบรรลุนิติภาวะและตั้งบุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะหรือครอบครัวอุปถัมภ์หรือผู้แทนองค์การ
ด้ านเด็กที่ย อมรับเด็กกา หรือเยาวชนนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้ นกไว้ ใ นความปกครองดูแกลเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี า น ผู้ ป กครองชั
สํานัก่ วงานคณะกรรมการกฤษฎี
คราว หรือจะตั้ ง กา
ผู้อํานวยการสถานพินิจที่เด็กหรือเยาวชนอยู่ในเขตอํานาจเป็นผู้ปกครองเด็กหรือเยาวชนนั้นชั่วคราว
หรือสั่งให้เด็กหรื
สํานัอกเยาวชนไปรั บการคุ้มครองตามกฎหมายว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําานัด้กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยการคุ้มครองเด็ก กา
ผู้ปกครองชั่วคราวที่ศาลตั้งตามวรรคหนึ่งให้มีอํานาจหน้าที่อย่างหนึ่งหรือหลาย
อย่างเกี่ยวกับการกําหนดที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อยู่ การอบรมสั ่งสอน การคุ้มครองสวักสา ดิภาพ หรือการให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี การอุปการะเลี้ยง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
- ๓๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดูแก่เด็กหรือเยาวชนตามสมควรแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํคานัวามสามารถและฐานานุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีรกูปา และให้นําบทบั
สํานักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญัติแห่งประมวล กา
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยการใช้อํานาจปกครองและการตั้งผู้ปกครองมาใช้บังคับแก่การตั้ง
ผู้ปกครองชั่วคราวโดยอนุ โลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๑๓ เมื่อสํครบระยะเวลาการตั ้งผู้ปกครองชั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่วคราวตามมาตรา ๑๑๒ ให้ผู้ถูก กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถอนอํานาจปกครองหรือความเป็นผู้ปกครองกลับมีอํานาจหน้าที่ดังเดิม เว้นแต่ศาลจะสั่งเป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าผู้ถูกถอนอํานาจปกครองหรือความเป็ นผู้ปกครองตามมาตรา ๑๑๒ เห็นว่าเหตุ
ดังกล่าวสิ้นไปแล้ว เมื่อตนเองหรือสํญาติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ของเด็กหรือเยาวชนหรือบุคคลหรือครอบครั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วอุปถัมภ์ หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้อํานวยการสถานพินิจร้องขอ ศาลจะสั่งให้ผู้ถูกถอนอํานาจปกครองหรือความเป็นผู้ปกครองมีอํานาจ
ดังเดิมก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การที่บิดา มารดา หรือผู้ปกครองถูกถอนอํานาจปกครองหรือความเป็นผู้ปกครอง
บางส่วนตามมาตรากา๑๑๒ ไม่เป็ นสํเหตุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้ ผู้ นั้นพ้นจากหน้าที่อกาุปการะเลี้ ยงดูสํเาด็นักกหรื อเยาวชนตาม กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
กฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๔ การพิจารณาคดีอาญาที่เด็กหรือเยาวชนเป็นจําเลย ไม่ต้องดําเนินการ
ตามกฎหมายว่าด้วยวิกาธีพิจารณาความอาญาโดยเคร่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งครัด และให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ใช้ถ้อยคําที่จสํําาเลยสามารถเข้ าใจได้ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ง่ายกับต้องให้โอกาสจําเลยรวมทั้งบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือบุคคลซึ่งจําเลยอาศัยอยู่ด้วย หรือ
บุคคลซึ่งให้การศึ กษา ให้ทําการงาน หรือมีความเกี่ยวข้สํอานังกแถลงข้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อเท็จจริง ความรู้สึก และความ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คิดเห็นตลอดจนระบุและซักถามพยานได้ไม่ว่าในเวลาใด ๆ ในระหว่างที่มีการพิจารณาคดีนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๑๖ ในกรณี ที่ไม่มีการสืบเสาะข้อกเท็า จจริงตามมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๘๒ (๑) ถ้าศาล กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เห็นสมควรจะสั่งให้ผู้อํานวยการสถานพินิจสืบเสาะข้อเท็จจริงข้อใดข้อหนึ่งหรือทั้งหมดตามมาตรา
๓๖ (๑) และทํสําารายงานพร้ อมทั้งความเห็นกตามมาตรา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ๘๒สํา(๒) เสนอต่อศาลก็ได้ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้าศาลจะรับฟังรายงานเช่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นว่านั้นให้สําเป็นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผลร้ายแก่จําเลยแล้ว ให้
กาศาลแจ้งข้อความตามรายงานนั ้นให้ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จําเลยทราบในกรณีเช่นว่านี้จําเลยมีสิทธิที่จะแถลงคัดค้านและสืบพยานหักล้างได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๙ ในการพิจารณาและพิพากษาคดีที่มีข้อหาว่าเด็กหรือเยาวชนกระทํา
ความผิดให้ศาลที่มีอกําานาจพิจารณาคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัเกยาวชนและครอบครั วคํกาานึงถึงสวัสดิภาพและอนาคตของเด็
งานคณะกรรมการกฤษฎี ก กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือเยาวชน ซึ่งควรจะได้รับการฝึกอบรม สั่งสอน และสงเคราะห์ให้กลับตัวเป็นพลเมืองดียิ่งกว่าการที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะลงโทษและในการพิ พากษาคดีนั้นให้ศาลคํานึงถึงบุคลิสํกานัลักกงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ษณะ สภาพร่างกายและสภาพจิ ตของ
เด็กหรือเยาวชนซึ่งแตกต่างกันเป็นคน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ๆ ไป และลงโทษหรือเปลี่ยนโทษหรือใช้สํวาิธนัีกการสํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าหรับเด็กและ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เยาวชนให้เหมาะสมกับตัวเด็กหรือเยาวชน และพฤติการณ์เฉพาะเรื่อง แม้เด็กหรือเยาวชนนั้นจะได้
กระทําความผิสํดาร่นัวกมกั น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๒๐ ในศาลที ่มีอํานาจพิจารณาคดีกาเยาวชนและครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ว จําเลยจะมี กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทนายความแก้ ค ดี แ ทนไม่ ไ ด้ แต่ ใ ห้ จํ า เลยมี ที่ ป รึ ก ษากฎหมายเพื่ อ ปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ทํ า นองเดี ย วกั บ
ทนายความได้สํในกรณี ที่จําเลยไม่มีที่ปรึกษากฎหมาย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้ศสําลแต่ งตั้งที่ปรึกษากฎหมายให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๒๑ ที่ปสํรึากนัษากฎหมายตามมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎีก๑๒๐
า ต้องมีคุณสํสมบั ติเป็นทนายความ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามกฎหมายว่าด้วยทนายความและผ่านการอบรมเรื่องวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว ความรู้
เกี่ ยวกั บจิตวิทสํยา การสั งคมสงเคราะห์ และความรู้อื่ นสํทีานั่เกกีงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ ย วข้ องตามที่กํ าหนดในข้
กา
อบั ง คับ ของ
ประธานศาลฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือบุคคลหรือองค์กกาารที่ศาลเห็นสํสมควรก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ได้ แต่ก่อนที่ศาลจะมี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา คําสั่งมอบตัสําวนัเด็กงานคณะกรรมการกฤษฎี
กหรือเยาวชนแก่ กา
บุ ค คลหรื อ องค์ ก ารดั ง กล่ า ว ให้ ศ าลเรี ย กผู้ อํ า นวยการสถานพิ นิ จ หรื อ ผู้ ป กครองสถานที่ ที่ ไ ด้ รั บ
มอบหมายให้คสํวบคุ มตัวเด็กหรือเยาวชน แล้กาวแต่กรณี มาสอบถามความเห็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นก่อน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในกรณีที่ความผิดมีอัตราโทษจําคุกอย่างสูงเกินสิบปี ให้ศาลสอบถามความเห็นของ
พนักงานสอบสวนหรืกอา พนักงานอัยสํการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักแล้ วแต่กรณี ประกอบการพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จารณาปล่สํอานัยชั ่วคราว เว้นแต่ไม่ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อาจสอบถามได้โดยมีเหตุอันสมควรศาลจะงดการสอบถามเสียก็ได้ แต่ต้องบันทึกเหตุนั้นไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าบุคคลหรือองค์การที่รับมอบตัวเด็กหรื อเยาวชนไว้จากศาล แสดงให้เป็นที่พอใจ
แก่ศาลได้ว่าไม่สามารถจะอบรมดูแสํลเด็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กหรือเยาวชนต่อไปได้ และขอมอบตัวเด็สํากนัหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อเยาวชนต่อศาล
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก็ให้ศาลส่งตัวเด็กหรือเยาวชนไปควบคุมไว้ในสถานพินิจหรือสถานที่อื่นที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายและ
ตามที่ศาลเห็นสํสมควร
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๒๗ ในกรณี
สํานักทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่จําเลยไม่สามารถมาฟักงาการพิจารณา สํถ้าานัศาลเห็ นสมควรศาล กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
จะสั่งให้สืบพยานในข้อที่ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่ว่าจําเลยได้กระทําความผิดตามฟ้องหรือไม่ลับหลัง
จําเลยได้แต่ทั้งสํนีา้นัต้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งกระทําต่อหน้าที่ปรึกกษากฎหมายของจํ
า สํานัากเลยนั ้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๒๘ การให้
สํานักผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้ต้องหาหรือจําเลยซึ่งเป็กานเด็กหรือเยาวชนมาศาล ถ้าศาลได้ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มอบตัวเด็กหรือเยาวชนนั้นไว้กับบิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลหรือองค์การซึ่งเด็กหรือเยาวชนอาศัย
อยู่ด้วยหรือบุคสําคลหรื อองค์การอื่นตามมาตรา ๗๓ หรือสํมาตรา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๖ ให้ศาลออกหมายเรียกให้เด็ก
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือเยาวชนนั้นมาศาล ถ้าได้ส่งหมายเรียกให้บุคคลดังกล่าวรับไว้แล้ว ให้ถือว่าเด็กหรือเยาวชนนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้รับหมายเรียกแล้ว ให้บุคคลซึ่งได้รับหมายเรียกส่งตัวเด็กหรือเยาวชนมาศาลตามหมายเรียก ถ้าไม่
ส่งตัวเด็กหรือเยาวชนนั ้นมาโดยจงใจหรือโดยไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มีเหตุอันสมควร ให้ศาลมีอํานาจสั่งให้กบาุคคลเช่นว่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชํ า ระเงิ น จํ า นวนไม่ เ กิ น ห้ า พั น บาทแก่ ศ าลภายในเวลาที่ ศ าลเห็ น สมควร ในกรณี เ ช่ น ว่ า นี้ ให้ นํ า
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ธสํีพาิจนัารณาความแพ่ งว่าด้วยการบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งคับคดีมาใช้สํบานัังกคังานคณะกรรมการกฤษฎี
บโดยอนุโลม กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๗ เมื่อได้มีคําพิพากษาหรือสํคําานัสัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ลงโทษหรือใช้วิธีการสํ กา
าหรับเด็กและ
เยาวชนแล้วและต่อมาความปรากฏต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อศาลเอง หรือปรากฏจากรายงานของผูสํ้อาํานันวยการสถานพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นิ จ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือผู้ดูแลหรือผู้ปกครองสถานที่ที่กําหนดไว้ในหมวด ๔ หรือปรากฏจากคําร้องของบิดา มารดา
ผู้ ป กครองหรืสํอาบุนัคกงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลซึ่ ง เด็ ก หรื อ เยาวชนอาศั
กา ย อยู่ ด้ ว ยสํานัหรื อ สถานที่ ที่ กํ า หนดไว้กใานหมวด ๔ ว่ า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ตามมาตรา ๑๑๕ หรือมาตรา ๑๑๙ ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ถ้าศาลที่มี
อํานาจพิจารณาคดีเกยาวชนและครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า วซึ่งพิพากษาหรือมีคํากสัา่งหรือซึ่งมีเขตอํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากนาจในท้ องที่ที่เด็ก กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
หรื อ เยาวชนนั้ น กํ า ลั ง รั บ โทษหรื อ ถู ก ควบคุ ม ตั ว อยู่ เ ห็ น ว่ า มี เ หตุ อั น สมควรก็ ใ ห้ มี อํ า นาจแก้ ไ ข
เปลี่ยนแปลงคํสําาพินัพกากษาหรื อคําสั่งเกี่ยวกับกการลงโทษหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํอาวินัธกีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารสําหรับเด็กและเยาวชนได้ กา ในกรณีที่
ศาลที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ใช่ศาลที่พิพากษาหรือมีคําสั่ง ให้แจ้งศาลที่พิพากษาหรือมีคําสั่งทราบ และ
ถ้าโทษหรือวิธีการสํากหรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บเด็กและเยาวชนที ่กําหนดภายหลังหนักกา กว่าโทษหรือสํวิาธนัีกการสํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าหรับเด็กและ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
เยาวชนที่เด็กและเยาวชนนั้นได้รับอยู่เด็กหรือเยาวชนนั้นมีสิทธิอุทธรณ์และฎีกาคําพิพากษาหรือคําสั่ง
ที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงนั ้นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในคดีที่ศาลที่มีอํานาจพิจารณาคดีธรรมดาได้พิพากษาหรือมีคําสั่งให้ส่งตัวเด็กหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เยาวชน ซึ่งเป็นจําเลยไปควบคุมเพื่อฝึกอบรมยังสถานที่ที่กําหนดไว้ในหมวด ๔ ให้ศาลเยาวชนและ
ครอบครัวที่มีสํเขตอํ านาจในท้องที่ที่เด็กหรืกาอเยาวชนซึ่งสํเป็านันกจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าเลยถูกควบคุมตัวอยูก่ ามีอํานาจแก้ไข
เปลี่ยนแปลงคําพิพากษาหรือคําสั่งเกี่ยวกับวิธีการสําหรับเด็กและเยาวชนได้ตามหลักเกณฑ์และ
วิธีการในวรรคหนึ่ง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕)กาให้เด็กหรือเยาวชนไปรายงานตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี วต่อศาลกาพนักงานคุมประพฤติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรือนักสังคม กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สงเคราะห์เป็นครั้งคราว
สํานั(๖) ให้เด็กหรือเยาวชนไปศึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กษา เข้ารับสํการฝึ กอบรม รับคําปรึกษาแนะนํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า รับการ
รักษาแก้ไขบําบัดฟื้นฟู ประกอบสัมมาชีพ หรือให้เด็กหรือเยาวชนเข้ารับการอบรมศีลธรรม จริยธรรม
และหน้าที่พลเมือง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) ให้บิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลหรือองค์การซึ่งเด็กหรือเยาวชนอาศัยอยู่ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือบุคคลหรือองค์การที่รับเลี้ยงดูเด็กหรือเยาวชนนั้น กระทํ าหรือห้ามมิให้กระทําการใด ๆ เกี่ยวกับ
การอบรมเลี้ยงดูเด็กหรือเยาวชนตามที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ศาลกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๘) กําหนดเงื่อนไขอื่นใดเพื่อพัฒนาและส่งเสริมความประพฤติของเด็กหรือเยาวชน
สํานัในการกํ า หนดเงื่ อ นไขตามวรรคหนึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ ง สํให้
านัศกงานคณะกรรมการกฤษฎี
าลกํ า หนดระยะเวลาทีกา่ จ ะให้ เ ด็ ก หรื อ
เยาวชนปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้นด้วยเป็นเวลาไม่เกินหนึ่งปี แต่ต้องไม่เกินกว่าเด็กหรือเยาวชนนั้นมีอายุ
ครบยี่สิบปีบริบูรณ์ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เงื่อนไขตามที่ศาลได้กําหนดตามวรรคหนึ่งนั้น ถ้าภายหลังความปรากฏแก่ศาลเอง
หรือปรากฏจากรายงานของบุ คคลตามมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๓๙ วรรคหนึ ่ง ว่าข้อเท็จจริงหรือพฤติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาการณ์เกี่ยวแก่
การกําหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติเด็กหรือเยาวชนนั้นได้เปลี่ยนแปลงไป เมื่อศาลเห็นสมควร
อาจแก้ไขเพิ่มเติมหรืกอาเพิกถอนข้อหนึสํา่งนัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ใดหรือทุกข้อก็ได้ หรือกจะกํ า าหนดเงื่อนไขอื
สํานัก่นงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพิ่มเติมก็ได้ กา
หรือผู้พิพากษาและผูกา้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว แล้วแต่กรณีสํามีนักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ํานาจตรวจสถาน กา
พินิจ สถานที่ที่กําหนดไว้ในหมวด ๔ สถานที่อื่นที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หรือเรือนจํา เกี่ยวกับการ
ดําเนินการที่เกีสํ่ยาวข้
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งตามพระราชบัญญัตินกี้ารวมทั้งให้คําแนะนํ าเกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือคู่ความ
ในคดีครอบครัวหรือคดีคุ้มครองสวัสดิภาพซึ่งถูกส่งตัวไปควบคุม ฝึกอบรม แก้ไขบําบัดฟื้นฟู หรือรับ
คําปรึกษาแนะนําในสถานที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ดังกล่าวสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การเปลี่ยนโทษและการใช้ วธิ ีการสําหรับเด็กและเยาวชนสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๒ ศาลที่มีอํานาจพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวมีอํานาจใช้วิธีการ
สําหรับเด็กและเยาวชนแทนการลงโทษอาญาหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อวิธีการเพื่อความปลอดภั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยได้ สํดัางนัต่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
ไปนี้ กา
(๑) เปลี่ ย นโทษจํ า คุ ก หรื อ วิ ธี ก ารเพื่ อ ความปลอดภั ย ตามมาตรา ๓๙ (๑) แห่ ง
ประมวลกฎหมายอาญา เป็นการส่งตัวเด็กกหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อเยาวชนไปควบคุ มเพื่อฝึกอบรมในสถานที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ที่กําหนดไว้
ในหมวด ๔ หรือสถานที่อื่นที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายและศาลเห็นสมควร ตามเวลาที่ศาลกําหนดแต่
ต้องไม่เกินกว่าเด็กหรืกอา เยาวชนนั้นมีสํอาายุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักคงานคณะกรรมการกฤษฎี
รบยี่สิบสี่ปีบริบูรณ์ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เปลี่ยนโทษปรับเป็นการคุมความประพฤติ โดยจะกําหนดเงื่อนไขข้อเดียวหรือ
หลายข้อตามมาตรา ๑๓๘ ด้วยหรือไม่ก็ได้ ถ้าได้กําหนดเงืสํ่อานันไขไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๑๓๘ วรรค
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สองและวรรคสาม และมาตรา ๑๓๙ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ศาลได้พิจารณาความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า
ควรจะควบคุมสํตัาวนัเด็ กหรือเยาวชนตาม (๑)กาต่อไปอีกหลังสํจากที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ่เด็กหรือเยาวชนนั้นมีกอาายุครบยี่สิบสี่ปี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บริบูรณ์แล้วให้ศาลระบุในคําพิพากษาให้ส่งตัวไปจําคุกไว้ในเรือนจําตามเวลาที่ศาลกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๓ การส่งตัวเด็กหรือเยาวชนไปควบคุมเพื่อฝึกอบรมในสถานที่ที่กําหนด
ไว้ ใ นหมวด ๔สําหรื อ สถานที่ อื่ น ที่ จั ด ตั้ ง ขึก้ นา ตามกฎหมายและศาลเห็
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี น สมควร ถ้ ากศาลได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า กํ า หนด
ระยะเวลาขั้นต่ําและขั้นสูงไว้ ศาลจะปล่อยตัวเด็กหรือเยาวชนไปในระหว่างระยะเวลาขั้นต่ําและขั้นสูง
นั้นก็ได้ในกรณีดังกล่กาาวศาลจะกําหนดเงื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
นไขคุมความประพฤติกตาามมาตรา ๑๓๘ สํานักด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
วยหรือไม่ก็ได้ ถ้า กา
ได้กําหนดเงื่อนไขคุมความประพฤติไว้ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๑๓๘ วรรคสองและวรรคสาม และ
มาตรา ๑๓๙ วรรคหนึ ่ง มาใช้บังคับโดยอนุกโาลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่เด็กหรือเยาวชนไม่ปฏิ บัติตามเงื่อนไขที่ศาลกํ าหนด ศาลมีอํานาจออก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเรียกเด็กหรือเยาวชนนั้นและบิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลซึ่งเด็กหรือเยาวชนอาศัยอยู่ด้วยหรือ
องค์การที่รับเลีสํา้ยนังเด็ กหรือเยาวชนมาตักเตืกอา น แต่ถ้าเด็กสํหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านัอกเยาวชนไม่ เปลี่ยนแปลงพฤติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กรรมเสี่ยง
ดังกล่าว เมื่อบิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลหรือองค์การดังกล่าวยินยอมหรือศาลเห็นสมควรให้ศาลมี
อํานาจส่งตัวเด็กหรือกเยาวชนนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้นไปควบคุ มเพื่อฝึกอบรมในสถานพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นิจ สถานฝึกสํและอบรม หรือสถาน กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แนะนําทางจิตแห่งหนึ่งแห่งใด และระยะเวลาที่จะฝึกอบรมนั้นต้องไม่เกินกําหนดระยะเวลาที่เหลืออยู่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๔๔ คดีสํอานัาญาที ่อยู่ในอํานาจของศาลเยาวชนและครอบครั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วนั้น ศาลที่มี กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อํานาจพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวจะพิพากษาว่ามีความผิดแต่รอการกําหนดโทษหรือกําหนด
โทษไว้แต่รอการลงโทษเด็ กหรือเยาวชนตามประมวลกฎหมายอาญาก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได้ แม้ว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๑) เด็กหรือเยาวชนนั้นได้เคยรับโทษจําคุกหรือโทษอย่างอื่นตามคําพิพากษามาก่อน
แล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) โทษที่จะลงแก่เด็กหรือเยาวชนเป็นโทษอย่างอื่นนอกจากโทษจําคุก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ศาลจะกําหนดโทษจําคุกเกินกว่าสามปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๕ ในกรณีที่เด็กหรือเยาวชนต้องโทษปรับไม่ว่าจะมีโทษจําคุกด้วยหรือไม่
ก็ตามถ้าเด็กหรืสํอานัเยาวชนไม่ ชําระค่าปรับ ห้กาามมิให้ศาลสั่งกัสํกานัขักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี เด็กหรือเยาวชนแทนค่กาปรั า บ แต่ให้ศาล
ส่ ง ตั ว ไปควบคุ ม เพื่ อ ฝึ ก อบรมในสถานที่ ที่ กํ า หนดไว้ ใ นหมวด ๔ หรื อ สถานที่ อื่ น ที่ จั ด ตั้ ง ขึ้ น ตาม
กฎหมายและศาลเห็นกาสมควร ตามเวลาที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ศาลกําหนด แต่ต้องไม่เกกิานหนึ่งปี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในกรณีที่เด็กหรือเยาวชนต้องโทษปรับแต่ไม่มีเงินชําระค่าปรับ ให้นําบทบัญญัติ
มาตรา ๓๐/๑สํมาตรา ๓๐/๒ และมาตรา ๓๐/๓
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แห่งประมวลกฎหมายอาญามาใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บังกคัาบโดยอนุโลม
ในกรณีมีการชําระค่าปรับ หากเด็กหรือเยาวชนได้ถูกควบคุมตัวมาบ้างแล้ว ให้คิด
หักระยะเวลาที่ถูกควบคุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มตัวออกจากค่ สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ปรับที่จะต้องชําระตามอั กา ตราที่กําหนดในประมวลกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การพิจารณาพิพากษาคดีครอบครัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๔๖ การพิ
สํานัจกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารณาพิพากษาคดีครอบครั
กา วนั้นไม่ว่าสํการพิ จารณาคดีจะได้ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดําเนินไปแล้วเพียงใด ให้ศาลพยายามเปรียบเทียบให้คู่ความได้ตกลงกันหรือประนีประนอมกันในข้อ
พิพาทโดยคํานึสํงานัถึกงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ความสงบสุขและการอยู กา ่ร่วมกันในครอบครั ว เพื่อการนี้ให้ศาลคํกาานึงถึงหลักการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดังต่อไปนี้เพื่อประกอบดุลพินิจด้วย คือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑)กาการสงวนและคุสํานั้มกครองสถานภาพของการสมรสในฐานะที
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํา่เนัป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ศูนย์รวมของชาย กา
และหญิงที่สมัครใจเข้ามาอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา หากไม่อาจรักษาสถานภาพของการสมรสได้ก็ให้
การหย่าเป็นไปด้ สํานัวกยความเป็ นธรรมและเสียกหายน้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อยที่สุดสํโดยคํ านึงถึงสวัสดิภาพและอนาคตของบุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตร
เป็นสําคัญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) การคุ้มครองและช่วยเหลือครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ครอบครัวนั้น
ต้องรับผิดชอบในการดู แลให้การศึกษาแก่บกุตา รที่เป็นผู้เยาว์สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๓) การคุ้มครองสิทธิของบุตรและส่งเสริมสวัสดิภาพของบุตร และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๔)กาหามาตรการต่ สํานัา งกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ๆ เพื่ อ ช่ ว ยเหลื อ สามีกภา ริ ย าให้ ป รองดองกั น และปรั บ ปรุ ง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ความสัมพันธ์ระหว่างกันเองและกับบุตร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๗ ในการกําหนดองค์คณะตามมาตรา ๒๓ ถ้าศาลเห็นว่าคดีครอบครัวใด
ที่ศาลจะพิจารณาพิพกากษาเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นคดีทสํี่ผาู้เนัยาว์ ไม่มีผลประโยชน์หรือกส่าวนได้เสียก่อนเริ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่มกพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
จารณาคดีให้ศาล กา
- ๓๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สอบถามคู่ความว่าประสงค์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จะให้มสํีผาู้พนัิพกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ากษาสมทบเป็นองค์คกณะด้
า วยหรือไม่สํถ้านัากคูงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ความทั้งสองฝ่าย กา
หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ประสงค์จะให้มีผู้พิพากษาสมทบเป็นองค์คณะด้วย ให้ผู้พิพากษาไม่น้อยกว่า
สองคนเป็นองค์สําคนัณะพิ จารณาพิพากษาคดีกได้า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในระหว่างการพิจารณาของศาลที่ไม่มีผู้พิพากษาสมทบเป็นองค์คณะ ถ้าข้อเท็จจริง
ปรากฏแก่ศาลว่าคดีกนาั้นเป็นคดีที่ผู้เสํยาว์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีผลประโยชน์หรือส่วนได้
กา เสีย ให้ศาลกํสําานัหนดให้ มีผู้พิพากษา กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สมทบตามมาตรา ๒๓ เป็นองค์คณะ แต่ทั้งนี้ไม่มีผลกระทบกระเทือนกระบวนพิจารณาที่ได้ดําเนินไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีจําเป็นต้อสํงฟั งความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จิตวิทยา การให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําปรึกษา แนะนําการสังคมสงเคราะห์ และการคุ้มครองสวัสดิภาพ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านอื่นศาลอาจ
เรียกบุคคลดังกล่
สํานัากวมาร่ วมปรึกษาหารือหรืกอาให้ความเห็นตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี ๓๑ ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๔๘ สํคดี
านักคงานคณะกรรมการกฤษฎี
รอบครั ว ที่ มี ข้ อ พิ พ าท
กา ก่ อ นเริ่ ม พิสํจานัารณาให้ ศ าลตั้ ง ผู้ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประนีประนอมคดีครอบครัว เพื่อไกล่เกลี่ยให้คู่ความในคดีครอบครัวได้ ประนีประนอมกัน ทั้งนี้
หลักเกณฑ์ วิธสํีกาารไกล่ เกลี่ยและการรายงานผล
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้เป็นไปตามข้ อบังคับของประธานศาลฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กา
เพื่อประโยชน์ในการไกล่เกลี่ยให้คู่ความได้ประนีประนอมกันในคดีครอบครัวศาล
อาจมอบหมายให้ บกิ ดา า มารดา ผูสํ้ ปากครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญาติ ข องคู่ ค วามกาทนายความของคู
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ ค วาม นั ก สั ง คม กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สงเคราะห์ นักจิตวิทยา หรือบุคคลหรือหน่วยงานที่ศาลเห็นสมควร ให้คําปรึกษาหรือช่วยเหลือผู้
ประนีประนอมคดี ครอบครัวที่ศาลตั้งตามวรรคหนึ่งก็ได้ และในคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ครอบครัวที่มีผู้เยาว์เข้ามาเกี่ยวข้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และจําเป็นต้องได้รับการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพ ศาลจะเรียกพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กมาร่วมในการไกล่เกลี่ยด้วยก็ได้
สํานัเมื ่อผู้ประนีประนอมคดีคกรอบครั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า วตามวรรคหนึ ่งได้ดําเนินการตามคํกาาสั่งศาลแล้วให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
รายงานผลการไกล่เกลี่ยประนีประนอมต่อศาล ในกรณีการไกล่เกลี่ยประนีประนอมเป็นผลสําเร็จ ให้ผู้
ประนีประนอมคดีครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วจัดให้มสํีกานัารทํ าสัญญาประนีประนอมยอมความขึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นสํแล้
านัวกรายงานศาล หรือ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
จะนัดหรือขอให้ศาลเรียกคู่ความมาทําสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อหน้าศาลก็ได้
สํานัเมื ่อศาลเห็นว่าสัญญาประนี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ประนอมยอมความไม่ ฝ่าฝืนต่อกฎหมายหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อไม่ขัดต่อ
ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ให้ศาลพิพากษาไปตามสัญญาประนีประนอมยอม
ความนั้นหรือศาลจะยั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งไม่พิพากษาแต่
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําหนดเงื่อนไขหรือเงืก่อานเวลาให้คู่ความทดลองปฏิ บัติตาม กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สัญญาประนีประนอมยอมความก่อนก็ได้ โดยเฉพาะการใช้อํานาจปกครองหรือการอุปการะเลี้ยงดู
ผู้เยาว์หรือคนไร้
สํานัคกวามสามารถ ไม่ว่ากรณีจกะเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี า นประการใด สํานักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าคดีครอบครัวนั้นผู้เยาว์ กามีผลประโยชน์
หรือส่วนได้เสียให้ศาลคํานึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้เยาว์เป็นสําคัญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ศาลเห็นว่าสัญญาประนีประนอมยอมความฝ่าฝืนต่อกฎหมายหรือขัดต่อ
ความสงบเรียบร้สําอนัยหรื อศีลธรรมอันดีของประชาชน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือเป็
สํานนัคดี ที่ผู้เยาว์มีผลประโยชน์กาหรือส่วนได้เสีย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
และมิได้คํานึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้เยาว์ ให้ศาลปฏิเสธการพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอม
ความนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การไกล่เกลี่ยคดีครอบครัว ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๑๔๖ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๙ ให้ศาลเยาวชนและครอบครัวมีหน้าที่รับจดทะเบียนผู้ประนีประนอม
คดีครอบครัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ปกระนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ประนอมคดี
สําคนัรอบครั วต้องมีคุณสมบัติ กดัางต่อไปนี้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) มีอายุไม่ต่ํากว่าสี่สิบปีบริบูรณ์
สํานั(๒) มีคุณสมบัติที่จะเป็นกาข้าราชการศาลยุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิธรรมได้ตามกฎหมายว่ กาาด้วยระเบี ยบ
ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม เว้นแต่ในเรื่องพื้นความรู้ให้เป็นไปตามที่กําหนดในข้อบังคับของ
ประธานศาลฎีกา กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) มี อั ธ ยาศั ย บุ ค ลิ ก ภาพ และความประพฤติ เ หมาะสมแก่ ก ารไกล่ เ กลี่ ย คดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ครอบครัว
(๔) ได้รับการอบรมและฝึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กปฏิบัติจนสามารถผ่านการทดสอบในเรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่องเจตนารมณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ของศาลเยาวชนและครอบครัว การพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว และวิธีการไกล่เกลี่ ยคดี
ครอบครัว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การจดทะเบียนหรือลบชื่อออกจากทะเบียนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่
กําหนดในข้อบังคับของประธานศาลฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักกางานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความเสียหายแก่ชื่อกเสีา ยง เกียรติคสํุณานัของบุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี คคลที่เกี่ยวข้อง หรืกาอถูกกล่าวถึงสํในคดี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี เว้นแต่จะได้รับ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อนุญาตจากศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๔ ในการบั งคั บคดี ต ามคํา พิ พ ากษาหรื อ คํ า สั่ ง ของศาลเพื่ อชํ า ระค่ า
อุปการะเลี้ยงดูหรือค่กาาเลี้ยงชีพนั้น สิสําทนัธิกเงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี รียกร้องเป็นเงินของลูกกหนี
า ้ตามคําพิพากษาตามมาตรา ๒๘๖ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๑) (๒) และ (๓) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ให้อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นจํานวนตามที ่ศาลเห็นสมควร ทั้งนี้ โดยคํานึงถึงฐานะในทางครอบครั วของลูกหนี้ตามคําพิพากษา
จํานวนบุพการี และผู้สืบสันดานซึ่งอยู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ในความอุปการะของลูกหนี้ตามคําพิพากษาด้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการบังคับคดีตามวรรคหนึ่ง ศาลอาจตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เจ้าพนักงานศาล
เจ้าพนักงานอื่นสําหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
บุคคลที่ศาลเห็นสมควรเป็
กา นผู้ดําเนินการ
สํานักโดยค่ าฤชาธรรมเนียมในการบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งคับคดีให้
ได้รับการยกเว้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๕ ในการยื่นคําฟ้องหรือคําร้องตลอดจนการดําเนินกระบวนพิจารณาใด
ๆ ในคดีครอบครั
สํานัวกเพื ่อเรียกค่าอุปการะเลีก้ยางดูหรือค่าเลี้ยสํงชี
งานคณะกรรมการกฤษฎี านักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ได้รับการยกเว้นไม่กตา้องชําระค่าขึ้น
ศาลและค่าฤชาธรรมเนียม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๖ การส่งคําคู่ความหรือเอกสารอื่นใดไปยังคู่ความในคดีครอบครัวให้
ส่งไปทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับหรือโดยเจ้าพนักงานศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือศาลจะกําหนดให้ส่งโดยวิธีอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๕๘ ในกรณี
สํานักคงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู่ความไม่มีทนายความ กจะขอให้
า ศาลแต่สํงาตันั้งกให้ ก็ได้ทนายความ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ซึ่งศาลแต่งตั้งให้ได้รับค่าป่วยการตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมกําหนด โดยความ
เห็นชอบจากกระทรวงการคลั ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เกลี่ยหรือการพิจารณาคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ก็ได้ โดยให้
สํานัถกืองานคณะกรรมการกฤษฎี
ว่าเป็นเด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์
กา ตสํามกฎหมายว่ าด้วยการ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
คุ้มครองเด็ก
สํานัให้ นํ าบทบัญ ญัติเกี่ ยวกักบาวิธีการชั่วคราวก่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
นพิ พากษาตามประมวลกฎหมายวิ
กา ธี
พิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับแก่กรณีตามวรรคหนึ่งโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๐ เพื่อประโยชน์แ ห่งความยุติธรรมในระหว่ างการพิจารณาคดี เมื่ อ
คู่ความฝ่ายใดร้องขอหรือศาลเห็นสมควร ศาลมีอํานาจสั่งสํให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คู่ความหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องไปให้แพทย์
หรือผู้เชี่ยวชาญที่ศาลเห็นสมควร ตรวจร่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างกาย เก็บตัวอย่างเลือด สารคัดหลัสํ่งานัสารพั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นธุกรรม หรือ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดําเนินการอื่นใดเพื่อตรวจพิ สูจน์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อประโยชน์ใ นการพิ สู จน์ ข้ อเท็จจริงอันเป็ น
ประเด็นข้อพิพสําาทที ่สําคัญแห่งคดี ทั้งนี้ กต้าองกระทําเพีสํยานังเท่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี าที่จําเป็นและสมควรโดยใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วิธีการที่
ก่อให้เกิดความเจ็บปวดน้อยที่สุดเท่าที่จะกระทําได้ และจะต้องไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ
ของบุคคลนั้น ทั้งนี้ ถืกอาเป็นสิทธิของคูสํา่คนัวามหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อบุคคลที่เกี่ยวข้อกงนัา ้นที่จะยินยอมหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ก็ได้ กา
ในกรณีผู้เยาว์อายุยังไม่ครบสิบห้าปีบริบูรณ์ ก่อนที่แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจะเก็บ
ตัวอย่างเลือดสารคั ดหลั่ง หรือสารพันธุกกรรมของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้เยาว์สํเาพืนั่อกใช้ ในการตรวจพิสูจน์ทกางวิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ทยาศาสตร์
จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์นั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หากคู
กา ่ความฝ่ายใดไม่
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ินยอมหรือกระทําการป้กาองปัดขัดขวางมิ สํานัให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
บุคคลที่เกี่ยวข้อง กา
หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์ให้ความยินยอมให้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญตรวจเพื่อพิสูจน์ทาง
วิทยาศาสตร์ตสํามวรรคหนึ ่งหรือวรรคสอง แล้วแต่กรณี โดยไม่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มีเหตุอันสมควร ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อเท็จจริงที่ต้องการให้ตรวจพิสูจน์เป็นผลร้ายแก่คู่ความฝ่ายนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้แพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญที่ศาลสั่งตามมาตรานี้ ได้รับค่าตอบแทนตามระเบียบที่
คณะกรรมการบริ สํานัหการศาลยุ ติธรรมกําหนดกโดยความเห็
งานคณะกรรมการกฤษฎี า นชอบจากกระทรวงการคลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ง กา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๖๑ เมืสํ่ อาศาลมี คําสั่งหรือคําบังคับกทีา่ไม่เกี่ยวกับการยึ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรืออายัดทรัพย์ กา
ลูกหนี้ตามคําพิพากษาหรือมีคําสั่งคุ้มครองชั่วคราวตามมาตรา ๑๕๙ หากความปรากฏต่อศาลเองหรือ
คู่ความฝ่ายใดฝ่สําานัยหนึ ่งหรือผู้แทนหรือผู้มีสก่วานได้เสียร้องต่สํอาศาลว่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี าคู่ความหรือผู้ที่ถูกคํกาาสั่งบังคับฝ่าฝืน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ปฏิบัติตามคําสั่งหรือคําบังคับ ให้ศาลออกหมายเรียกหรือหมายจับตัวมาไต่สวนและตักเตือนให้
ปฏิบัติตามคําสั่งหรือกาคําบังคับของศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หากยังไม่ปฏิบัติตามคํกาาสั่งหรือคําบังสํคัาบนักอีงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กโดยไม่มีเหตุอัน กา
สมควรหรือมีพฤติการณ์จงใจหลบเลี่ยงไม่ปฏิบัติ ให้ศาลมีอํานาจกักขังจนกว่าจะปฏิบัติตามคําสั่งหรือ
คําบังคับแต่ห้าสํมมิ
านักให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
กักขังแต่ละครั้งเกินกว่กาาสิบห้าวันนับสํแต่านักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ันจับหรือกักขัง แล้วแต่กกา รณี เว้นแต่จะ
ได้รับการปล่อยชั่วคราว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อกความปรากฏต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํอานัศาลเองหรื อผู้มีสิทธิได้รับกค่าาอุปการะเลี้ยสํงดู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านัหกรืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อค่าเลี้ยงชีพร้อง กา
ต่อศาลว่าลูกหนี้ตามคําพิพากษาไม่ปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลเรียกตัวมาสอบถาม หากปรากฏเป็น
ความจริงให้ศาลว่
สํานัากกล่ าวตักเตือนให้ปฏิบัตกิตาามคําสั่งศาล สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ในกรณีลูกหนี้ตามคําพิพากษาไม่ปฏิบัติตามคําตักเตือนของศาลตามวรรคสองโดยไม่
มีเหตุอันสมควร ศาลมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อํานาจออกหมายจั บและสั่งให้กักขังลูกหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ตามคําพิพากษาไว้ จนกว่าลูกหนี้จะ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
นําเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือค่าเลี้ยงชีพมาชําระหรือวางศาล แต่ห้ามมิให้กักขังลูกหนี้ตามคําพิพากษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ละครั้งเกินกว่ าสิบห้าวันนับแต่วันจับหรือกักขัง แล้วแต่สํการณี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เว้นแต่จะได้รับการปล่อยชั่วคราว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๓ ในคดีที่มีการร้องขอให้ศาลสั่งให้บุคคลเป็นคนไร้ความสามารถ ถ้า
ศาลเห็นสมควรอาจสั ่งให้แพทย์หรือจิตแพทย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตรวจพิเคราะห์ สํานัทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
างกายหรือทางจิตบุคคลที กา ่ขอให้เป็นคน
ไร้ความสามารถ หรือสั่งให้นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา หรือเจ้าพนักงานอื่นจัดทํารายงานสภาพ
ครอบครัว สภาวะความเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นอยู่หรือสํสัานัมกพังานคณะกรรมการกฤษฎี
นธภาพระหว่างผู้ไร้ความสามารถกักา บสํผูา้ขนัอเป็ นผู้อนุบาลแล้ว กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
รายงานศาลเพื่อประกอบการพิจารณาคดี
สํานัในกรณี ศ าลมี คํ า สั่ ง ตั้ ง ผูก้ อา นุ บ าลถ้ า ศาลเห็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สมควรเพื่ อ คุ้ ม ครองสวักา ส ดิ ภ าพและ
ทรัพย์สินของผู้ไร้ความสามารถ ศาลจะมีคําสั่งตั้งนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา หรือเจ้าพนักงาน
อื่นทําหน้าที่กํากับดูแกลการใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อํานาจของผู ้อนุบาลเกี่ยวแก่ตัวผู้ไกร้าความสามารถหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์สินของผู้ไร้ กา
ความสามารถหรือค่าอุปการะเลี้ยงดูและการรักษาพยาบาลผู้ไร้ความสามารถก็ได้แล้วให้เจ้าพนักงาน
ที่ได้รับแต่งตั้งรายงานให้ ศาลทราบตามระยะเวลาที่เห็นสมควรหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อตามที่ศาลสั่ง แล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้แพทย์ จิตแพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา หรือเจ้าพนักงานอื่นที่ศาลสั่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามวรรคหนึ่งและวรรคสองได้รับค่าตอบแทนตามระเบียบที่คณะกรรมการบริ หารศาลยุติธรรม
กําหนด โดยความเห็ นชอบจากกระทรวงการคลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๖๔ ในคดี
สํานักทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่ร้องขอให้ศาลมีคําพิพกากษาหรื
า อคําสัสํ่างนัเกีก่ยงานคณะกรรมการกฤษฎี
วกับผู้ใช้อํานาจ กา
ปกครองหรือร้องขอตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์ ถ้าศาลเห็นสมควรหรือคู่ความร้องขอ ศาลจะมีคําสั่งหรือ
กําหนดเงื่อนไขเป็สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
การชั่วคราวให้ผู้จะใช้กอาํานาจปกครองหรื อผู้ที่จะเป็นผู้ปกครองทดลองปกครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เลี้ยงดูผู้เยาว์นั้นเป็นการชั่วคราวก่อนเป็นระยะเวลาไม่เกินหกเดือนก็ได้ และให้ศาลสั่งให้ผู้อํานวยการ
สถานพินิจที่ผู้เยาว์นกั้นาอยู่ในเขตอําสํนาจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักสังคมสงเคราะห์ นักกาจิตวิทยา หรือสํเจ้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัากพนั กงานอื่นเป็นผู้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
กํากับการทดลองปกครองเลี้ยงดูผู้เยาว์แล้วรายงานให้ศาลทราบตามระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควร
สํานัในการพิ จ ารณารายงานของผู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ อํ า นวยการสถานพิ นิ จ นั ก สั งกคมสงเคราะห์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า
นักจิตวิทยาหรือเจ้าพนักงานอื่นตามวรรคหนึ่ง ถ้าศาลเห็นสมควรจะเรียกบุคคลดังกล่าวมาแถลง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมก็ได้เมื่อปรากฏว่าผู้ที่จะใช้อํานาจปกครองหรือจะเป็นผู้ปกครองมีความเหมาะสม
ให้ศาลมีคําพิพสํากษาหรื อคําสั่งให้เป็นผู้ใช้อกําานาจปกครองหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ปกครอง แล้วแต่กรณี กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๑๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การพิจารณาพิพากษาคดีครอบครัวที่ผู้เยาว์มีผลประโยชน์หรือส่วนได้เสีย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๖๕ ในคดี
สํานัคกรอบครั วที่ผู้เยาว์มีผลประโยชน์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือส่สํวานได้ เสียนอกจากการ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พิจารณาพิพากษาคดีจะอยู่ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติในหมวด ๑๓ แล้ว ยังอยู่ภายใต้บังคับแห่ง
บทบัญญัติในหมวดนี ้ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๖๖ การดํ
สํานักาเนิ นคดีครอบครัวที่ผู้เยาว์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา มีผลประโยชน์
สํานักหงานคณะกรรมการกฤษฎี
รือส่วนได้เสียให้ กา
ผู้อํานวยการสถานพินิจที่ผู้เยาว์นั้นอยู่ในเขตอํานาจมีอํานาจและหน้าที่เช่นเดียวกับอํานาจและหน้าที่
ของพนักงานอัสํยาการที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่มีอยู่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชย์และตามกฎหมายอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๗ เมื่อศาลเยาวชนและครอบครัวได้รับคําฟ้องหรือคําร้องขอใด ๆ ในคดี
ครอบครัวที่ผู้เสํยาว์
านักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีผลประโยชน์หรือส่วนได้กา เสีย ให้ศาลแจ้
สํานังให้ ผู้อํานวยการสถานพินกิจาที่ผู้เยาว์นั้นอยู่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในเขตอํานาจทราบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เมื่อกได้
า รับแจ้งจากศาลตามวรรคหนึ ่งแล้ว ให้กผาู้อํานวยการสถานพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นิจประมวลและ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
รายงานเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของครอบครัว สวัสดิภาพ ความประสงค์หรือประโยชน์สูงสุดของผู้เยาว์
และข้อเท็จจริสํงาอืนั่นกและเสนอความเห็
งานคณะกรรมการกฤษฎี นต่อกศาลโดยไม่
า ชักช้สําานัเมืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อศาลได้รับความเห็นของผู
กา ้อํานวยการ
สถานพินิจแล้ว ให้ศาลแจ้งความเห็นนั้นให้คู่ความทราบ คู่ความมีสิทธิที่จะแถลงคัดค้านและนําสืบ
หักล้างได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๖๙ ศาลมี
สํานัอกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
นาจตั้งผู้อํานวยการสถานพิ
กา นิจที่ผู้เยาว์
สํานันกั้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
อยู่ในเขตอํานาจ กา
เป็นผู้กํากับการปกครอง และให้ผู้กํากับการปกครองมีอํานาจหน้าที่สอดส่องว่าบิดา มารดา หรือ
ผู้ปกครองของผูสํา้เนัยาว์ ได้ใช้อํานาจปกครองเพืกา่อสวัสดิภาพและอนาคตของผู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ้เยาว์หรือไม่กและให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า มีอํานาจ
หน้าที่อื่นตามที่ศาลมอบหมาย รวมทั้งรวบรวมและรายงานข้อเท็จจริงและการปฏิบัติหน้าที่ของผู้
กํากับการปกครองต่อกศาลเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นครั้งคราวหรื อภายในกําหนดเวลาทีกา่ศาลสั่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นําความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับแก่ผู้อนุบาลของผู้เยาว์ซึ่งเป็นคนไร้ความสามารถ
หรือผู้พิทักษ์ของผูก้เยาว์
สํ านั ซึ่งเป็นคนเสมือนไร้กคาวามสามารถโดยอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี โลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ในระหว่างการกํากับการปกครองตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง หากผู้อยู่ใต้การกํากับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การปกครองเห็นว่าการกระทําหรือคําวินิจฉัยของผู้กํากับการปกครองไม่เป็นไปเพื่อสวัสดิภาพและ
อนาคตของผู้เสํยาว์ หรือตามที่ศาลมอบหมาย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ผู้อยู่ใต้การกํ
สํานัากักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บการปกครองอาจร้องต่ กาอศาลที่สั่งตั้งผู้
กํากับการปกครองภายในกําหนดสิบห้าวันนับตั้งแต่วันที่ได้ทราบการกระทําหรือคําวินิจฉัยนั้น ในกรณี
เช่นว่านี้ให้ศาลมีอํากนาจสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่ งแก้ไขการกระทํ าหรือสั่งยืน กลับ กหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อแก้ ไขคําวิสํนาิ จนัฉักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของผู้กํากับการ กา
ปกครองหรือสั่งการอย่างอื่นตามที่เห็นสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๐ ในกรณีที่ศาลจะตั้งผู้ปกครองของผู้เยาว์ ถ้าผู้เยาว์ไม่มีบิดา มารดา
หรือบิดามารดาถูกถอนอํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา านาจปกครองหรื อความเป็นผู้ปกครองของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้เยาว์สิ้นสุสํดาลง หรือมีเหตุจะถอน กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
- ๔๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ปกครองของผู้เยาว์กาและศาลเห็นสํว่าานัไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มีผู้เหมาะสมที่จะปกครองผู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้เยาว์หรืสํอาจันัดกการทรั พย์สินของ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้เยาว์ ศาลจะตั้งผู้อํานวยการสถานพินิจที่ผู้เยาว์นั้นอยู่ในเขตอํานาจหรือครอบครัวอุปถัมภ์ตาม
กฎหมายว่าด้วสํยการคุ ้มครองเด็ก หรือบุคกคลอื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่นใด เป็นสํผูา้ปนักครองผู ้เยาว์หรือผู้จัดการทรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์สินของ
ผู้เยาว์ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การพิจารณาคดีคุ้มครองสวั สดิภาพ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ศาลทราบตามระยะเวลาที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่เห็นสมควรและจะสั ่งให้คู่ความฝ่ายใดฝ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ายหนึ่งหรือทัสํ้งาสองฝ่ ายหรือบุคคลที่ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกี่ยวข้องมาศาลเพื่อสอบถามความเป็นไปหรือการปฏิบัติตามคําสั่งศาลก็ได้
สํานัคํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
สั่งคุ้มครองสวัสดิภาพตามวรรคหนึ
กา ่งให้
สํานัเป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่สุด แต่ถ้าพฤติการณ์กเาปลี่ยนแปลงไป
ศาลมีอํานาจสั่งแก้ไขคําสั่งเดิมได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๕ เมื่อศาลเห็นว่าผู้ร้องมีส่วนก่อให้เกิดความรุนแรงในครอบครัวและ
จําเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ บําบัดรักษา ศาลอาจสั่งสํให้านัผกู้รงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้องเข้ารับคําปรึกษาแนะนํ กา
าหรือเข้ารับ
การอบรมหรือบําบัดรักษาหรือฟื้นฟูสําจนัากศู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นย์ให้คําปรึกษาแนะนําหรือสถานพยาบาลหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อหน่วยงาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือองค์การ ซึ่งมีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการหรือทุพพลภาพ หรือ
ครอบครัวตามระยะเวลาที ่ศาลกําหนด กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณี ศ าลมี คํ า สั่ ง ตามวรรคหนึ่ ง หรื อ ตามมาตรา ๑๗๔ วรรคหนึ่ ง ให้ ศู น ย์ ใ ห้
คําปรึกษาแนะนําสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หน่
สําวนัยงาน หรือองค์การซึ่งมีหกน้า าที่คุ้มครองสวั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัสกดิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ภาพเด็ก เยาวชน กา
สตรี ผู้ สู ง อายุ ผู้ พิ ก ารหรื อ ทุ พ พลภาพ หรื อ ครอบครั ว ได้ รั บ ค่ า ตอบแทนตามระเบี ย บที่ ค ณะ
กรรมการบริหสํารศาลยุ ติธรรมกําหนด โดยความเห็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นชอบจากกระทรวงการคลั ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๗๖ ให้สํศาาลแจ้ งคําสั่งคุ้มครองสวัสกดิาภาพไปยังเจ้าสํพนั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานฝ่ายปกครอง กา
หรือตํารวจที่ผู้ถูกกล่าวหามีถิ่นที่อยู่หรือภูมิลําเนาในเขตอํานาจเพื่อทราบ
ในกรณีผู้ถูกกล่าวหาจงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบสํัตานัิตกามคํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพโดยไม่มีเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อันสมควรศาลมีอํานาจออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหามาขังจนกว่าจะปฏิบัติตามคําสั่งแต่ไม่เกินกว่าหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เดื อนถ้ าผู้ถูกกล่ าวหาได้รั บการปล่ อยชั่วคราว ศาลอาจกําหนดเงื่อนไขให้ ผู้ ถูกกล่ าวหาปฏิ บัติใ น
ระหว่างการปล่สํอานัยชักงานคณะกรรมการกฤษฎี
่วคราวก็ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๗๗ เมืสํ่อาผูนั้ถกูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กล่าวหาหรือผู้ร้องได้กปาฏิบัติตามเงื่อนไขหรื อคําสั่งคุ้มครอง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สวัสดิภาพครบถ้วนแล้ว คําสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเป็นอันสิ้นสุด
สํานัก่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
นครบระยะเวลาตามเงืกา่อนไขหรือคําสํสัานั่งตามวรรคหนึ ่ง ผู้ถูกกล่ากวหาหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า อผู้ร้องมี
สิทธิยื่นคําร้องขอให้ศาลมีคําสั่งยุติการคุ้มครองสวัสดิภาพได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๘ ในระหว่างมีคําสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพศาลจะกําหนดให้ฝ่ายที่ต้องรับ
ผิดจ่ายค่าอุปการะเลี ้ยงดูให้แก่อีกฝ่ายตามที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่เห็นสมควรได้สํานัในกรณี ไม่มีการจดทะเบียกนสมรสให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ศาลมี
อํานาจกําหนดเงินช่วยเหลือบรรเทาทุกข์เบื้องต้นตามสมควรแก่ฐานะให้แก่ผู้เสียหายหรือสมาชิกใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ครอบครัวได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๙ ในกรณี ที่ มีก ารปฏิ บัติ ต่ อ เด็ ก โดยมิ ช อบด้ ว ยกฎหมายว่ าด้ ว ยการ
คุ้มครองเด็กให้เด็กหรืกาอผู้ปกครองของเด็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กนั้นร้องขอให้ศาลออกคํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าสั่งคุ้มครองสวั
สํานัสกดิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ภาพตามหมวดนี้ กา
ได้ โดยให้นําบทบัญญัติมาตรา ๑๕๕ มาตรา ๑๕๖ มาตรา ๑๗๒ มาตรา ๑๗๓ มาตรา ๑๗๔ มาตรา
๑๗๖ มาตรา ๑๗๗ และมาตรา ๑๗๘ มาใช้กบา ังคับโดยอนุโสํลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๑๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อุทธรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๐ คดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวได้พิพากษาหรือมีคําสั่งแล้วให้อุทธรณ์
คําพิพากษาหรือคําสัก่งนัา ้นไปยังศาลอุสํทานัธรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรือศาลอุทธรณ์ภาคได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตามบทบัญญัสํตานัิแกห่งานคณะกรรมการกฤษฎี
งกฎหมายว่าด้วย กา
วิธีพิจารณาความเหมือนคดีธรรมดา เว้นแต่ในกรณีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวได้พิพากษาหรือมี
คําสั่งกําหนดวิสํธาีกนัารสํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าหรับเด็กและเยาวชนอย่างหนึ่งอย่าสํงใด านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) กําหนดให้ใช้วสํิธาีกนัารตามมาตรา ๗๔ (๑) และ (๕) แห่งประมวลกฎหมายอาญา
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) กําหนดให้ใช้วิธีการสําหรับเด็กและเยาวชนตามมาตรา ๑๔๒ เว้นแต่ในกรณีที่
การใช้วิธีการสํสําานัหรักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บเด็กและเยาวชนนั้นกเป็า นการพิพากษาหรื อมีคําสั่งให้ส่งตัวเด็กกหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อเยาวชนไป
ควบคุมเพื่อฝึกอบรมมีกําหนดระยะเวลาเกินสามปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๓)กากํ า หนดให้ ใ ช้สํวาินัธีกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารสํ า หรั บ เด็ ก และเยาวชนตามมาตรา
กา สํานัก๑๔๓ เว้ น แต่ ก าร กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ฝึกอบรมนั้นมีกําหนดระยะเวลาขั้นสูงเกินสามปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๑ ในคดี ซึ่ ง ห้ ามอุ ท ธรณ์ ต ามมาตรา ๑๘๐ ถ้ า อธิบ ดี ผู้ พิพ ากษาศาล
เยาวชนและครอบครักวากลาง หรือผู้พสํิพานัากษาหั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี วหน้าศาลเยาวชนและครอบครั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วจัสํงานัหวักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด หรือผู้พิพากษา กา
หัวหน้าศาลจังหวัดแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว เห็นว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสําคัญอัน
ควรสู่ศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาคและอนุญาตให้อุทสํธรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก็ให้รับอุทธรณ์นั้นไว้พิจารณาต่อไป
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๖ ผู้ ใสํดช่ ว ยเหลือ หรือ กระทํ าด้ วยประการใด สํๆานัให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เด็ ก หรือ เยาวชน กา
หลบหนีไปจากการควบคุมของเจ้าพนักงาน ซึ่งควบคุมไว้ระหว่างสอบสวน ระหว่างพิจารณาคดี หรือ
เพื่อฝึกอบรมตามคํ าพิพากษาหรือคําสั่งของศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ต้องระวางโทษจํ าคุกไม่เกินหนึ่งปี กหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อปรับไม่เกิน
สองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าผูกา้กระทําความผิสํดานัตามวรรคหนึ ่งเป็นเจ้าพนักกางาน ต้องระวางโทษจํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี าคุกไม่เกินสอง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๗ ผู้ใดเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่ตามมาตรา ๔๘ (๑) หรือ
(๒) หรือมาตรา ๕๑กา(๑) หรือ (๒)สําขันัดกขืงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นไม่ยอมให้ผู้อํานวยการสถานพิ
กา นิจ สํพนั
านักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคุมประพฤติ กา
ผู้ช่วยพนักงานคุมประพฤติ หรือนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปในสถานที่ดังกล่าวในระหว่างเวลาที่บัญญัติ
ไว้ในมาตรา ๔๘ หรือมาตรา ๕๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิสํนานัห้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พันบาท กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา บทเฉพาะกาล กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓ ให้ศาลเยาวชนและครอบครัวที่จัดตั้งขึ้นก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้
บังคับเป็นศาลเยาวชนและครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําวนัตามพระราชบั ญญัตินี้ และให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มีอํานาจพิสํจานัารณาพิ พากษาคดีที่ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ค้างการพิจารณาอยู่ในศาลเยาวชนและครอบครัวดังกล่าวได้ต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๔ ให้สํสาถานพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นิจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นสถานพินิจตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๕ ให้โอนบรรดาอํานาจหน้าที่ของศาลเยาวชนและครอบครัวที่จัดตั้งขึ้น
ก่อนวันที่พระราชบักญาญัตินี้ใช้บังคัสํบานัและบรรดาอํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านาจหน้าทีก่าของเจ้าหน้าทีสํ่ขานัองศาลเยาวชนและ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ครอบครัวดังกล่าวไปเป็นของศาลเยาวชนและครอบครัวและของเจ้าหน้าที่ของศาลเยาวชนและ
ครอบครัวตามพระราชบั ญญัตินี้ แล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๙๖ ให้สํโอนบรรดาอํ านาจหน้าที่ที่เกีก่ยา วกับราชการของสถานพิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นิจที่จัดตั้ง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขึ้นก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และบรรดาอํานาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของสถานพินิจดังกล่าว
ไปเป็นของสถานพิ นิจ หรือของเจ้าหน้าที่ของสถานพินิจตามพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญญัตินี้ แล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลเยาวชนและครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วจังหวัด ผูก้พาิพากษาศาลเยาวชนและครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ว กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จังหวัด และผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัวตามพระราชบัญญัตินี้ แล้วแต่กรณี
สํานัให้ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลกาผู้พิพากษาอาวุสําโนัสกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ้พิพากษาหัวหน้าคณะกาผู้พิพากษาและ
ผู้พิพากษาสมทบในแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลจังหวัดซึ่งดํารงตําแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่
พระราชบัญญัตินี้ใช้กบาังคับ เป็นผู้พสํิพาากษาหั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี วหน้าศาล ผู้พิพากษาอาวุ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา โส ผู้พิพสําากษาหั วหน้าคณะ ผู้ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พิพากษาและผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดตามพระราชบัญญัตินี้ แล้วแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ผู้พิพากษาสมทบตามวรรคหนึ ่งและวรรคสองดํารงตําแหน่สํางนัต่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไปจนกว่าจะครบ กา
วาระ ทั้งนี้ ไม่ให้นับวาระการดํารงตําแหน่งของผู้พิพากษาสมทบดังกล่าวเป็นวาระการดํารงตําแหน่ง
ตามมาตรา ๒๕สําวรรคสาม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๐๐ บทบั
สํานัญกญังานคณะกรรมการกฤษฎี
ติแห่งกฎหมาย กฎ ข้กอาบังคับ ระเบียสํบานัหรื อคําสั่งอื่นใดอ้าง กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถึงศาลเยาวชนและครอบครัว และสถานพินิจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว
และวิ ธี พิ จ ารณาคดี เ ยาวชนและครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาว พ.ศ. ๒๕๓๔
สํานักให้ ถื อ ว่ า บทบั ญ ญั ติ แ ห่กงากฎหมาย กฎ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคําสั่งนั้นอ้างถึงศาลเยาวชนและครอบครัวและสถานพินิจตามพระราชบัญญัติ
นี้ แล้วแต่กรณี กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๕ ในวาระเริ่มแรกมิให้นําสํบทบั านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญญัติมาตรา ๑๒๑ มาใช้บังคับภายใน
สองปี นั บ แต่ วั น ใช้ บั ง คั บ พระราชบัสําญนักญังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ติ นี้ โดยในระหว่ า งนัก้ นา ให้ นํ า บทบั ญสํญั ติ ม าตรา ๘๔ แห่ ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.
๒๕๓๔ มาใช้บสํังาคันับกจนกว่ าคดีจะถึงที่สุด กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๐๖ พระราชบั ญญัตินี้ไม่มีผลกระทบถึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งการดําเนินสํคดี
านัใกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ๆ ที่ได้กระทําไป กา
แล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ส่วนการดําเนินคดีใดที่ยังมิได้กระทําจนล่วงพ้นกําหนดเวลาที่
จะต้องกระทําสํตามกฎหมายที ่ใช้บังคับอยู่กก่อานพระราชบัญสําญันัตกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ี้ แต่ยังอยู่ในกําหนดเวลาที
กา ่อาจกระทํา
ได้ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ดําเนินคดีนั้นตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นายกรัฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พระราชบัญญัติฉบับนีก้ าคือ โดยที่ปัจสํจุาบนัันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ได้มีการแยกศาล กา
ยุติธรรมออกจากกระทรวงยุติธรรม โดยมีสํานักงานศาลยุติธรรมเป็นหน่วยธุรการของศาลยุติธรรมที่
เป็นอิส ระและกรมพิ นิ จ และคุ้ ม ครองเด็กกาและเยาวชน สํเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หน่ วยงานในสั ง กั ดกระทรวงยุ
กา ติธรรม
สมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและ
ครอบครัวให้สอดคล้กอา งกับอํานาจหน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่และโครงสร้างใหม่ ประกอบกั
กา บสมควรปรั บปรุงในส่วนที่ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกี่ยวกับการให้ความคุ้ มครองสิท ธิ สวั สดิภาพ และวิธีปฏิบัติต่อเด็ ก เยาวชน สตรี และบุคคลใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ครอบครั ว รวมทั ้ ง ในส่ ว นของกระบวนการพิ จ ารณาคดี ข องศาลเยาวชนและครอบครั ว เพื่ อ ให้
สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ อนุสัญญาว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าด้วยสิทธิเด็กและอนุสัญญาว่าด้วยการขจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดการเลือกปฏิบัติต่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สตรีในทุกรูปแบบ จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา