Professional Documents
Culture Documents
โครงงานภาษาไทยกลุ่ม
โครงงานภาษาไทยกลุ่ม
โครงงานภาษาไทยกลุ่ม
จัดทาโดย
นายพีรัชชัย ไพรสี สัน เลขที่ ๙
นางสาวจินดา ปัญญามีศรี เลขที่ ๑๖
นางสาวจิราพร ปรพันธ์ สิทธิ์ เลขที่ ๑๙
นางสาวอัจฉราพร ไพรวันเพ็ญ เลขที่ ๒๔
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๖/๒
เสนอ
ครูศิริจันทร์ อารีพนม
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
จากการเรี ยนรายวิชาภาษาไทยมีเนื้ อหาลากหลายที่ควรศึกษาโดยเฉพาะเรื่ องปริ ศนาคาทายปัจจุบนั
เยาวชนนิยมคานาปริ ศนาคาทายมาทายกันอยู่เสมอส่ วนใหญ่จะนามาจากหนังสื อเรี ยนหรื อจากการเล่าของ
รุ่ นสู่ รุ่นเป็ นคถามที่น่าสนใจน่าติดตาม สนุกสนานกับการทายปริ ศนาคาทาย เนื่องจากปริ ศนาคาทาย เป็ นคา
ที่ใช้สัมผัสคาคล้องจอง ทาให้จดจาได้ง่าย และในแต่ละท้องถิ่นจะมีปริ ศนาคาถายเป็ นภาษาถิ่นที่แตกต่างกับ
กลุ่มของข้าพระเจ้ามีความสนใจศึกษาเกี่ยวกับปริ ศนาคาทาย จึงจัดทาโครงงานเรื่ อง ปริ ศนาคาทาย
น่ารู ้ เพื่อการสึ กษาค้นคว้า รวบรวมปริ ศนาคาถายในท้องถิ่นภาคเหนื อเป็ นการอนุรักษ์และเผยแพร่ ปริ ศนาคา
ทายในท้องถิ่นภาคเหนือ
วัตถุประสงของการศึกษา
๑. เพื่อศึกษาค้นคว้ารวบรวมปริ ศนาคาทายในท้องถิ่นภาคเหนื อ
๒. เพือ่ ได้เรี ยนรู ้ปริ ศนาคาทายในท้องถิ่นภาคเหนื อ
๓. เพื่ออนุรักษ์และเผยแพร่ ปริ ศนาคาทายในท้องถิ่นภาคเหนื อ
ขอบเขต
ปริ ศนาคาทายในท้องถิ่นในภาคเหนือ
ระยะเวลาในการศึกษา
16 พฤษภาคม 2566-30 กันยายน 2566
บทที่ ๒ เอกสารที่เกีย่ วข้ อง
๑.๒เนือ้ ที่
-
๑.๓ภูมิประเทศ
ภูมิประเทศขององค์การบริหารส่วนตาบลกองก๋อย ประมาณ 95% เป็ นภูเขาสูงชัน มีพนื ้ ที่ราบระหว่างหุบ
เขาประมาณ 5%
ของพืน้ ที่ตาบลดังนัน้ หมู่บา้ นต่างๆ ในเขตองค์การบริหารส่วนตาบลกองก๋อย จึงตัง้ อยู่ในภูเขาสูงชันและ
บริเวณหุบเขาเป็ นส่วนใหญ่
มีแหล่งนา้ สาคัญที่ผ่านเช่น ลาห้วยนา้ แม่ลิด , ลาห้วยนา้ แม่โถ , ลาห้วยแม่แพน้อย , ห้วยแม่วอน , ห้วย
แม่ลอย , ห้วยบอน ,
ห้วยกองนา , ห้วยอึนกื๋น และลาธารขนาดเล็กตามหุบเขา
๑.๔จานวนหมู่บา้ น
จานวนหมู่บา้ นในเขต อบต. เต็มทัง้ หมู่บา้ น 9 หมู่ ได้แก่
หมู่ท่ี 1 บ้านกองก๋อย ประกอบด้วย หมู่บา้ นบริวาร 1 หย่อมบ้าน คือ บ้านสัน
หมู่ท่ี 2 บ้านผาเยอ ประกอบด้วย หมู่บา้ นบริวาร 1 หย่อมบ้าน คือ บ้านผาเยอน้อย
หมู่ท่ี 3 บ้านแม่แพหลวง
หมู่ท่ี 4 บ้านห้วยเกี๋ยง ประกอบด้วย หมู่บา้ นบริวาร 5 หย่อมบ้าน คือ บ้านห้วยเกี๋ยง บ้านห้วยเกี๋ยง
น้อยบ้านห้วยไก่ป่า ,
บ้านห้วยช้างหลวง, บ้านห้วยช้างน้อย
หมู่ท่ี 5 บ้านแม่แพน้อย
หมู่ท่ี 6 บ้านห้วยวอก ประกอบด้วย หมู่บา้ นบริวาร 2 หย่อมบ้านคือ บ้านสบแปะ,บ้านห้วย
บุก
หมู่ท่ี 7 บ้านท่าฝาย
หมู่ท่ี 8 บ้านทะโลง (ได้รบั การจัดตัง้ เป็ นหมู่บา้ น เดือนสิงหาคม 2546) ประกอบด้วย หมู่บา้ น
บริวาร 1 หย่อมบ้าน คือ บ้านทะโลงใต้
หมู่ท่ี 9 บ้านกองต๊อก (ได้รบั การจัดตัง้ เป็ นหมู่บา้ น เดือนสิงหาคม 2546) ประกอบด้วย หมู่บา้ น
บริวาร 2 หย่อมบ้าน คือ บ้านผาอันเหนือ,
บ้านผาอันใต้
๑.๕ท้องถิ่นอื่นในตาบล
ไม่มี
๑.๖ประชากร
มีจานวน 5796 คน
๓.เอกสารที่เกี่ยวข้องกับปริศนาคาทายในท้องถิ่น
ปริศนาคาทาย คือปัญหาหรือคาถามซึ่งผูถ้ ามอาจจะถามตรง ๆ หรือ ถามทางอ้อม คาถามอาจจะใช้
ถ้อยคาธรรมดา หรือจะมีสมั ผัสแบบ ภาษา ร้อยกรองก็ได้ภาษาที่ใช้นนั้ เป็ นภาษาสัน้ ๆ ง่าย ๆ กระชับความ
แต่ยากแก่ การตีความในตัวปริศนาอยู่บา้ ง ส่วนคาตอบ มักจะเป็ นสิ่งที่พบเห็นใน ชีวิตประจาวันในสมัยนัน้
ๆ และในบางคาถามมักจะมีเค้าหรือแนวทาง สาหรับคาตอบ ซึ่งผูต้ อบจะต้องใช้ความสังเกต ความคิดและ
ไหวพริบในการคิดหาคาตอบ
ลักษณะของปริศนาคาทาย
ปริศนาคาทายมีองค์ประกอบหลัก ๒ ส่วนคือ ปริศนา และคาเฉลย ปริศนาเป็ นส่วนที่อธิบายหรือบอกใบ้คา
เฉลย แต่ในขณะเดียวกัน คาอธิบายในปริศนาก็ลวงให้ผฟู้ ั งหลงทางด้วย ลักษณะที่
ทัง้ "แนะ" และ "ลวง" ดังกล่าวทาให้ปริศนาคาทายมีความน่าสนใจ กล่าวคือ เมื่อแรกได้ยินข้อปริศนา คน
ฟั งมักถูกลวงให้คิดผิดทาง จนเกิดความฉงนงงงวย แต่เมื่อได้ทราบคาเฉลยแล้ว ก็จะคิดได้ถูกแนวทาง
ปริศนาที่ดเู หมือนลึกลับและน่าฉงนนัน้ ก็กลับกลายเป็ นเรื่องพืน้ ๆ ที่ไม่มีอะไรชวนสงสัย ลักษณะดังกล่าว
ทาให้ปริศนาคาทายสามารถดึงดูดความสนใจของผูค้ นเป็ นจานวนมาก นอกจากลักษณะเด่นดังกล่าว
แล้ว ปริศนาคาทายมีลกั ษณะเด่นทางเนือ้ หาและลักษณะเด่นทางภาษาที่น่าสนใจดังนี ้
ลักษณะเด่นทางเนือ้ หา
ปริศนาคาทายนัน้ มีเนือ้ หาหลากหลาย แต่เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้วสามารถสรุปลักษณะเด่นทางเนือ้ หาได้
เป็ น ๓ ประการ คือ เนือ้ หาเกิดจากการสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัว เนือ้ หาเกิดจากความใส่ใจภาษา และ
เนือ้ หาเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ท่แี หวกขนบ
๑) เนือ้ หาเกิดจากการสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัว
เนือ้ หาส่วนใหญ่ของปริศนาคาทายของไทยเกิดจากการสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัว ไม่ว่าจะเป็ นสิ่งของ
เครื่องใช้ พืชพรรณธรรมชาติ ความใส่ใจและช่างสังเกต ทาให้ผคู้ ิดปริศนาสามารถนาลักษณะเด่นที่
น่าสนใจของสิ่งต่างๆ รอบตัวมาผูกขึน้ เป็ นปริศนา ดังในตัวอย่างต่อไปนี ้
อะไรเอ่ย ต้นเท่าลาเรือ ใบห่อเกลือไม่มิด (เฉลย : ต้นมะขาม)
ปริศนานีเ้ กิดจากการสังเกตธรรมชาติ ทาให้เห็นลักษณะที่ดเู หมือนจะตรงกันข้ามกันของต้นมะขาม
กล่าวคือ ลาต้นใหญ่มาก แต่ใบเล็กมากจนไม่สามารถห่อเกลือได้
๒) เนือ้ หาเกิดจากความใส่ใจภาษา
นอกเหนือจากการสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัวแล้ว คนไทยยังใส่ใจต่อภาษาที่ใช้เรียกสิ่งต่างๆ ด้วยความใส่ใจ
ดังกล่าว ทาให้สงั เกตเห็นลักษณะที่น่าสนใจบางอย่าง ที่สามารถนามาผูกเป็ นปริศนาได้ ดังตัวอย่าง
ต่อไปนี ้
อะไรเอ่ย เจ๊กขาย ไทยเขียน (เฉลย : เทียนไข)
ปริศนานีแ้ สดงให้เห็นว่า คนไทยใส่ใจต่อภาษา ทาให้สงั เกตเห็นความสัมพันธ์ระหว่างกลุม่ เสียงในภาษา ๒
กลุม่ คือ "ไทยเขียน" และ "เทียนไข" ซึ่งเป็ นเสียงที่เกิดจากการผวนคาอันเป็ นลักษณะการเล่นกับภาษาที่
โดดเด่นอย่างหนึ่งในวัฒนธรรมไทย
ปริศนาคาทายหมวดสัตว์
อะไรเอ่ย สี่ตีนผาดโผน สองโคนหกยอด
คาคล้องจอง โผน – โคน
ความหมาย เป็ นสัตว์สี่เท่า มีเขาสองเขาแต่ปลายเขา
มีหกยอด
คาตอบ กวาง
ปริศนาคาทายหมวดพืช
อะไรเอ่ย ไอ้แดงไปเที่ยว ไอ้เขียวอยู่บา้ น
คาคล้องจอง เที่ยว – เขียว
ความหมาย ไอ้แดงไปเที่ยว หมายถึง ที่เป็ นสีแดงเขาเก็บไปกิน
ไอ้เขียวอยู่บา้ น หมายถึง สีเขียวอยู่กบั ต้น
คาตอบ พริก
ปริ ศนาคาทายหมวดของใช้ในชีวิตประจาวัน
อะไรเอ่ย สี ซุม้ สี่ เสา สี ซุม้ นกเขา สี เสานางนอน
คาคล้องจอง เสา – เขา – เสา
ความหมาย ใช้เสาสี่ ตน้ สาหรับผูกเพื่อใช้ในการนอน คาตอบ มุ้ง
ปริ ศนาคาทายหมวดอวัยวะ
อะไรเอ่ย หนองน้อยหนองแหน ก้มลงแลปากเบี้ยวถึงหู
คาคล้องจอง แหน – แล
ความหมาย
หนองน้อยหนองแหน ( หนองแหนเป็ นคาเสริมบท ไม่มีความหมาย ใช้ให้เกิดคาสัมผัสคล้อง
จอง ) หมายถึง แอ่งน้อยๆ
ก้มลงแลปากเบี้ยวถึงหู หมายถึง เมื่อก้มดูปากจะเบี้ยว
คาตอบ รักแร้
ปริ ศนาคาทายหมวดการทามาหากิน
ปริ ศนาคาทายหมวดการใช้คาผวน
อะไรเอ่ย ฝรั่งทา จีนขาย ไทยเขียน
ความหมาย
ข้อความข้างหน้าเป็ นการหลอก ส่วนคาตอบอยูท่ ี่ขอ้ ความหลัง คือ ไทยเขียน
คาตอบ เทียนไข
ปริ ศนาคาทายหมวดการใช้ภาษาสองแง่สองง่าม
อะไรเอ่ย รู ปร่ างเหมือนใบพลู มีขนรุ มรู่ มีรูตรงกลาง
คาคล้องจอง พลู – รู่ – รู
ความหมาย
รุ มรู่ (ภาษาถิ่น ) หมายถึง รุ งรัง คาตอบ ใบหูควาย
ปริ ศนาคาทายหมวดทัว่ ไป
๓. ข้อเสนอแนะ
จากการศึกษาปริศนาคาทายในท้องถิ่น ทาให้เห็นคุณค่าของปริศนาคาทาย ต้องการให้ทกุ คนได้ศกึ ษา
ปริศนาคาทายที่ได้รวบรวมไว้ และถ้ามีโอกาสน่าจะศึกษาเพิ่มเติมให้มากกว่านี ้
การที่ได้พบปะกับคนแก่ ๆ ในหมู่บา้ น ทาให้รูจ้ กั สิ่งดี ๆ อีกหลายอย่าง เช่น เพลงกล่อมเด็ก ภาษาถิ่น เพลง
บอก เพลงนา ซึ่งสิ่งเหล่านีเ้ ป็ นวัฒนธรรมของท้องถิ่น ควรอนุรกั ษ์ไว้ให้ชนรุ่นหลังได้รูจ้ กั เพื่อที่จะได้รกั และ
หวงแหนไว้ และน่าจะทาโครงงานเรื่องเหล่านีใ้ นโอกาสต่อไป
บรรณานุกรม