Professional Documents
Culture Documents
CEA Film Report
CEA Film Report
CEA Film Report
สาขาภาพยนตร์และวีดิทัศน์
ปี 2564
สานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)
1
สานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)
ขอสงวนข้อมูลส่วนบุคคลในรายงานการศึกษาฉบับนี้
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
(Personal Data Protection Act: PDPA)
2
รายงานงานฉบับสมบูรณ์
(ฉบับแก้ไขปรับปรุง)
โครงการจ้างที่ปรึกษาจัดทาฐานข้อมูลและแผนพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
สาขาภาพยนตร์แ ละวีดิทัศน์
ปี 2564
เสนอต่อ
สานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)
โดย
ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิ ทยาลัย
3
สารบัญ
4
4.4 ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ............................................................................................................................................................ 66
4.4.1 ประเภทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ............................................................................................................................ 66
4.4.2 การวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่ วนเสีย (Stakeholder Analysis) ในอุตสาหกรรม .............................................72
4.5 จุดเด่น สภาพปัญหา และโอกาสของอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ........................................................................73
4.5.1 จุดเด่นและสภาพปัญหาอุต สาหกรรมภาพยนตร์ไทย ...................................................................................... 77
4.5.2 โอกาสของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ..............................................................................................................82
5. กรณีตัวอย่างอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในต่างประเทศ .......................................................................................... 85
5.1 กรณีศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ......................................................................................................................... 87
5.2 กรณีศึกษาประเทศอินเดีย .............................................................................................................................................95
5.3 กรณีศึกษาจากประเทศอังกฤษ .................................................................................................................................. 100
5.4 กรณีศึกษาจากประเทศเกาหลีใต้ ............................................................................................................................... 105
5.5 กรณีศึกษาจากประเทศฝรั่ งเศส ................................................................................................................................. 111
5.6 ปัจจัยความสาเร็จของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จากประเทศต้นแบบทั้ ง 5 ประเทศ........................................ 118
5.6.1 ภาพรวมของอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ ............................................................................................................... 118
5.6.2 หน่วยงานที่รับผิดชอบ......................................................................................................................................... 118
5.6.3 ความคิดสร้างสรรค์ .............................................................................................................................................. 119
5.6.4 แนวทางการสนับสนุน ......................................................................................................................................... 119
6. ข้อเสนอแผนยุทธศาสตร์อุต สาหกรรมภาพยนตร์ไทย...................................................................................... 125
6.1 แผนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไ ทยที่ผ่านมา .......................................................................................... 125
6.2 แผนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กลุ่ม Creative Content.................................................................. 129
6.3 แผนพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กลุ่ม Creative Content........................................................................... 131
7. ฐานข้อมูล .................................................................................................................................................................. 171
7.1 ความรู้พื้น ฐานเกี่ยวกับ การจัดทาฐานข้อมูล .......................................................................................................... 171
5
7.1.1 นิยามของฐานข้อมู ล (Database)..................................................................................................................... 171
7.1.2 วัตถุประสงค์ของการจัดทาฐานข้อมูล อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ................................................................... 172
7.2 กรอบแนวคิดการจัดทาฐานข้อ มูล (Database) สร้างสรรค์ สาขาภาพยนตร์ ................................................. 172
7.2.1 แนวคิดการจัดทาฐานข้อมู ลอุตสาหกรรมภาพยนตร์ .................................................................................... 172
7.2.2 กรอบแนวคิดการออกแบบฐานข้อ มูลอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ ................................................................... 174
7.3 หน่วยงานที่มีการจัดเก็บข้ อมูล เกี่ยวข้อ งกับภาพยนตร์ไทย ................................................................................. 174
7.4 กรณีศึกษาด้านฐานข้อ มูลจากต่างประเทศ ............................................................................................................. 178
7.4.1 กรณีศึกษาฐานข้อ มูลประเทศเกาหลีใ ต้ ........................................................................................................... 179
7.4.2 กรณีศึกษาฐานข้อ มูลประเทศฝรั่งเศส.............................................................................................................. 186
7.5 แนวทางการจัดฐานข้อมูลที่ ควรมีเ พิ่มเติ มสาหรับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ไทย ............................................... 190
7.5.1 ข้อเสนอแนะการพัฒนาฐานข้อ มูลอุต สาหกรรมภาพยนตร์ของไทย .......................................................... 190
7.5.2 การประยุกต์ใช้ฐานข้อ มูลอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย................................................................................. 196
7.5.3 แนวทางการดาเนินงานการจัดทาฐานข้อมูลของอุต สาหกรรมภาพยนตร์ ................................................ 197
บรรณานุกรม ................................................................................................................................................................. 199
6
1. บทนา
พ.ร.บ.ภาพยนตร์แ ละวี ดิทั ศน์ พ.ศ. 2551 นับเป็นจุดเปลี่ยนสาคัญต่ อการพัฒ นาอุต สาหกรรมภาพยนตร์
และวี ดิ ทั ศ น์ ที่ เ ริ่ มขยั บ สู่ มิติ ศิ ล ปะมากขึ้ น โดยให้ ค วามสนใจต่ อ การควบคุ มและการสนั บ สนุ น ภาพยนตร์
ในหลากหลายด้าน ทั้งด้านเงินทุน บุคลากรเครือข่าย และมีความพยายามวางยุ ทธศาสตร์ การพัฒ นาภาพยน ตร์
เริ่ มตั้ ง แต่ พ.ศ. 2551 โดยส านั ก งานพั ฒ นาเศรษฐกิจ และสั ง คมแห่ ง ชาติ ตามด้ ว ยแผนยุ ท ธศาสตร์ก ารพัฒนา
7
ภาพยนตร์ แ ละวี ดิ ทั ศ น์ อี ก 3 ฉบั บ ซึ่ ง ไม่ นั บ รวมแผนพั ฒ นาของหน่ ว ยงานอื่ นๆ อย่ า งไรก็ ตาม แม้ จ ะมี ค วาม
พยายามดาเนินงานแก้ไขอุปสรรคและปัญหา และนาเสนอแนวทางพั ฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไ ทย แต่ปัญหา
ที่พบในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ไทยยัง คงอยู่ อาทิ ปัญหาเชิงโครงสร้างที่จากัด การพั ฒนาอุต สาหกรรม การขาด
ความต่อเนื่องของการให้ความสนับสนุน ของภาครัฐและภาคเอกชน ข้อจากัดด้านทักษะความสามารถของบุค ลากร
และแรงงาน ประเภทและเนื้อหาทีไ่ ม่หลากหลาย รสนิยมของผู้บริโภคและตลาดที่แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว รวมทั้ง
คู่แข่งทั้งในและต่างประเทศ
8
2. แนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
2.1 ภาพยนตร์ในฐานะศิลปะ
การถื อ ก าเนิด ของภาพยนตร์ใ นช่ ว งแรก แม้ จ ะยั ง ไม่ ไ ด้ รับ การยอมรับ ว่า เป็น ศิ ลปะ แต่ ก ารวิ วัฒ น์ของ
ภาพยนตร์ในแง่ มุมศิ ลปะ ทั้งการเล่าเรื่ องด้ว ยภาพ เสียง และการตัดต่ อ กลายเป็นศิลปะแขนงที่ เจ็ ด (บุญรั ก ษ์
บุญญะเขตมาลา, 2533) มุมมองต่อภาพยนตร์ ตามแนวคิด ดั งกล่า วนี้ มีความน่าสนใจใน 2 มิติ คือ 1) ภาพยนตร์
เป็นสื่อที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ และ 2) การสื่อสารความคิดความสร้างสรรค์ของมนุษย์ สัมพันธ์กับมิติของสั ง คม
โดยเฉพาะการที่ผู้บริโภคชมภาพยนตร์ เพื่อเป็นกลไกการยกระดับจิตใจ สติปัญญา และช่วยจรรโลงสังคม ด้วยเหตุ
นี้ ภาพยนตร์จึงเป็นสื่อทีส่ ามารถแสดงทัศนะความรู้สึกของผู้สร้างหรือ ศิลปินต่ อผู้บริโภคได้อย่างอิสระไม่มีขี ดจากัด
ทั้งนี้ การมองภาพยนตร์ในฐานะศิลปะ มีต้นกาเนิดจากประเทศแถบยุโ รป ประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์
ยุโรปยืนยันได้ถึงความพยายามในการทดลองและสร้างสรรค์ภาพยนตร์ อีกทั้ง การถือกาเนิดของศิล ปะใน สั ง คม
ยุโรปของสกุลต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้า งสรรค์ ใหม่ๆ ต่อศิลปะรวมถึงภาพยนตร์ แนวคิดนี้ทรงอิทธิ พลต่ อ
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ใ นยุโรป โดยเฉพาะประเทศฝรั่ งเศส (ธนา วงศ์ยานนาเวศ, 2560ก) รวมถึงโรงเรีย นหรื อ
สถาบันการสอนภาพยนตร์ทั่วโลก ซึ่งเน้นการสอนและการให้ผู้ เรียนแสดงออกทางความคิ ดสร้า งสรรค์ในรู ป แบบ
ผลงานอันเป็นศิล ปะ ดังกรณีของภาพยนตร์ ท ดลอง (Experimental Film) หรือภาพยนตร์อิน ดี้ ภาพยนตร์น อก
กระแส ภาพยนตร์ทางเลือก ซึ่งแตกต่างจากภาพยนตร์กระแสหลัก
แนวทางดังกล่าวมักจะถูกวิพากษ์ว่า ศิลปะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก เมื่อกระทบกับรสนิยมของมวลชน และ
กระทบกับผู้มีอานาจของสั งคมซึ่ งมี นิยามของศิล ปะที่แตกต่า งไป เช่น ศิลปะควรสนับสนุนผู้มีอานาจในสัง คมหรื อ
รับใช้ผู้มีอานาจ หรือศิลปะควรจะเน้ นการเผยแพร่ อุด มการณ์ บางอย่าง เช่น ความเป็นชาติ สถาบันหลักในสั ง คม
คุณธรรม มิเช่นนั้นอาจนาไปสู่การระงับการเผยแพร่ภาพยนตร์ได้
9
ที่ เ พิ่ มมู ล ค่ า ให้ สู ง ขึ้ น ทั้ ง ในอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ โ ดยตรงและขยายไปสู่ อุ ต สาหกรรมอื่ น ๆ ดั ง นั้ น แนวทาง
ดังกล่าวแสดงให้เห็นกรอบแนวคิดหลักๆ 2 แนวคิดย่อย ได้แก่ เศรษฐศาสตร์ภาพยนตร์ และเศรษฐกิจสร้างสรรค์
10
จากการพิ จารณาโซ่ คุ ณค่ าอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ ทั้ ง 5 ขั้ น ตอนข้ างต้ น สามารถประเมิ น มู ล ค่าทาง
เศรษฐกิจได้ โดยพิจารณาจากกิจ กรรมที่ เ กี่ย วข้ อ งซึ่ง กาหนดตามรหั ส มาตรฐานอุ ตสาหกรรมของประเทศไทย
(Thailand Standard Industrial Classification : TSIC) โดยกระทรวงอุ ต สาหกรร ม ซึ่ ง ปั จ จุ บั น กิ จ กร ร มที่
เกี่ ย วข้ อ งกั บ อุ ต สาหกรรมภาพยนตร์แ ละวี ดิ ทั ศ น์ ต ามรหั ส TSIC ของประเทศไทย ไม่ ค รอบคลุ ม ขั้ น ตอนและ
กิจกรรมทั้งหมดตลอดโซ่คุณค่าทั้ง 5 ขั้นตอนดังกล่าวข้างต้น นอกจากนี้ ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เน้นการ
ผลิตภาพยนตร์และวี ดิทั ศน์ แต่ปัจจุบันพบว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ไ ด้ข ยายขอบเขตกิจ กรรมจากภาพยน ตร์ สู่
อุตสาหกรรมการผลิตภาพยนตร์และคอนเทนต์หรือ “สารัตถะ” ซึ่งรวมถึงซีรีส์ หรือละครที่ฉายในโทรทัศน์และสื่ อ
ออนไลน์ต่างๆ เช่น ระบบ Netflix รายละเอียดกิจกรรมตามรหัส TSIC แสดงดังตารางที่ 1
11
เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ประสบความสาเร็จ ต้องมีการบริหารจัดการ โดยให้ความสาคัญ ต่ อ
การบริหารจัดการโครงสร้า งภายในองค์ กร ดังแนวคิดของ (เฮนรี ฟาโย, 2560) ซึ่งให้ความสนใจต่อ การบริ ห าร
จัดการองค์กรทั้ งหมด โดยมีการวางแผน การดาเนินงาน และการควบคุ ม นอกจากนี้ ยังให้ความสาคั ญ ต่ อ ผู้ มี
ส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder Analysis) ได้แก่ ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่สาคัญ และกระบวนการ
สนับสนุน ตลอดจนการบริหารจัด การที่ข ยายไปสู่แนวคิ ด Cybernetics ซึ่งให้ความสาคัญ ต่ อการบริ หารจั ด การ
ทั้งโครงสร้างภายในและภายนอกองค์ กร ได้แก่ การเมือง เศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม และการปรับเปลี่ยนบริ บ ท
ของธุรกิจสู่ยุคของเทคโนโลยีดิจิทัล ส่งผลให้การผลิตภาพยนตร์ และการเผยแพร่เป็นไปได้ง่าย และสะดวกมากขึ้ น
รวมทั้ ง สามารถเผยแพร่แ บบข้ ามประเภทสื่ อ ได้ เช่ น การน าภาพยนตร์ มาเผยแพร่ผ่ านช่ องทางสื่ อ หลัก อาทิ
โทรทัศน์ หรือเผยแพร่ผ่านช่อ งทางออนไลน์ หรือ Platform Streaming ต่างๆ ซึ่งผลจากการเปลี่ยนแปลงทาง
เทคโนโลยี นี้ กระทบโดยตรงต่ อแนวทางการก ากั บ ดู แลกิ จการภาพยนตร์ ทั้ ง ในแง่ ของวิ ธีก ารปฏิ บั ติ ระเบียบ
ขั้ น ตอนการด าเนิ นงาน กฏหมาย และข้ อก าหนดต่ างๆ จ าเป็น ต้ อง ปรับ เปลี่ ย นให้เ หมาะสมและสอดคล้ องกับ
เทคโนโลยีและภู มิทั ศน์สื่ อที่ เปลี่ ยนแปลงอย่างรวดเร็ ว นอกจากนี้ สถานการณ์โรคระบาด เช่น COVID-19 ส่งผล
กระทบต่ อ แนวทางการประกอบอาชี พของบุ คลากรสร้า งสรรค์ ที่เ กี่ ย วข้ อ งในอุ ต สาหกรรม ซึ่ ง ต้ อ งปรับ เปลี่ยน
การทางาน ตั้งแต่กระบวนการผลิต การถ่ายทา และช่องทางการฉายภาพยนตร์
การพิจารณาอุตสาหกรรมภาพยนตร์แ บบมหภาค หรือองค์รวม จะช่วยให้ผู้เกี่ยวข้ องมี ความเข้าใจ และ
เห็นภาพการเชื่อมโยงบทบาทของผู้ เกี่ ยวข้ องทั้ง หมดในอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ ความสัมพันธ์ของผู้ มีส่ว นได้ ส่ ว น
เสีย และความเกี่ยวเนื่องในมิติ ด้านเศรษฐกิจและสั งคมอื่น ๆ หรือ นิเวศของสื่อภาพยนตร์ ซึ่งจะทาให้ผู้เกี่ยวข้ อ งมี
ความเข้าใจปัญหาของอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์แ ต่ล ะส่วนในระบบโซ่ คุ ณค่า ได้ ชั ดเจนมากขึ้ น โดยการศึกษานี้ ใช้
เครื่องมือการวิ เคราะห์แ ละประเมิ นศั กยภาพของอุ ตสาหกรรม (SWOT) ในการหาจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และ
อุปสรรค เพื่อวิเคราะห์แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เหมาะสม
จากแนวคิ ด การบริ ห ารจั ด การ โดยเฉพาะแนวคิ ด ของ McQuail, 2010a ท าให้ ก ารบริ ห ารจั ด การ
ภาพยนตร์ ไม่สามารถพิจารณาห่วงโซ่คุณค่า เป็นเส้ นตรง (Linear) หรือเริ่มต้นจากการพัฒนาสู่การบริโภค แต่ควร
มุ่งเน้นการบริหารจัดการตลอดโซ่ คุ ณค่าของอุตสาหกรรม ทั้งการวิเคราะห์จากต้นน้า หรือการวิเคราะห์ย้อ นกลั บ
จากการปลายน้า (ตลาดและผู้บ ริโ ภคสู่ การผลิ ต ) รวมทั้งให้ความสาคั ญกั บปั จจัย ภายนอกอื่น ๆ ที่ส่งผลต่ อ การ
บริหารจัดการภาพยนตร์เพื่อเป้าหมายของผลกาไร โดยสรุปแนวคิดเศรษฐศาสตร์ พิจารณาภาพยนตร์เป็นสิน ค้ า ที่
สร้างกาไร ด้วยการบริหารจัดการธุรกิจและกลไกทางการตลาดซึ่งเป็นอิทธิพลจากอุตสาหกรรม Hollywood
12
(2013) ซึ่งมองว่าอุ ต สาหกรรมสร้ างสรรค์ ใ ช้ต้ นทุ น ทางความคิ ด ผลิตผลงาน และขยายผลไปสู่ ธุร กิจ อื่น ๆ เช่น
การที่ภาพยนตร์เ ป็น เสมื อนแรงบัน ดาลใจ ดึงดูดให้ ผู้ช มที่ ชื่น ชอบฉากและบรรยากาศของภาพยนตร์ ไ ด้เ ดิ น ทาง
ท่องเที่ยวเยี่ ย มชมสถานที่ถ่า ยทาภาพยนตร์ ต่อยอดมูล ค่า เพิ่ มสู่ธุ รกิ จท่ อ งเที่ ยว โรงแรม ร้านอาหาร และการ
จ าหน่ า ยสิ น ค้ า ที่ ร ะลึ ก หรื อ กรณี ข องภาพยนตร์ ก าร์ตู น ดิ ส นี ย์ ที่ ส ร้ า งมู ล ค่ า เพิ่ มจากการจ าหน่ ายตั ว การ์ตูน
คาแรคเตอร์ เชื่อมต่อสู่ธุรกิจสวนสนุก รวมทั้งดารานักแสดง ซึ่งนับเป็นผลผลิตจากอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ทโี่ ด่ ง ดั ง
จากงานภาพยนตร์ มีแฟนคลับติดตามให้การสนับสนุน และอุดหนุนสินค้าทีเ่ หล่านักแสดงเป็นพรีเซ็นเตอร์ เป็นต้น
ภาพยนตร์ในบริบทของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นปัจจัยสนับสนุนการริเริ่มใช้ความคิดสร้างสรรค์ และการ
นาต้นทุนทางวัฒนธรรมต่างๆ มาผลิตภาพยนตร์เพื่อสร้างรายได้ และต่อยอด เชื่อมโยงสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
การใช้แนวคิดด้านเศรษฐกิจ สร้างสรรค์ มาสนั บสนุนการวิ เคราะห์ภาพรวมและทิศ ทางของอุ ตสาหกรรม
สร้างสรรค์ จึงเป็นปัจจัยที่สาคัญในการวางแผนพัฒนาอุตสาหกรรม ตัวอย่างเช่น ประเทศเกาหลีใต้ และประเทศ
สหรัฐอเมริกา ที่ส่งออกภาพยนตร์เป็นสินค้าหลัก และส่งเสริมให้ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้รับความนิยมตามไปด้วย
2.3 สานักวิพากษ์กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์
สานักวิพากษ์ (Critical Theory) จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ตั้งข้ อสังเกตเกี่ยวกับกระบวนการผลิ ต สื่ อ
หรืออุตสาหกรรมสื่ อ เนื่องจากสื่อเป็น ส่ วนหนึ่ งของมิ ติ อานาจ ซึ่งผู้มีอานาจมั ก ครอบครองสื่ อ เพื่ อการแสวงหา
ผลประโยชน์ต่างๆ
สานักวิพากษ์ให้ความสาคั ญกับ ประเด็น “ความเป็นเจ้าของสื่อ” เมื่อนามาใช้เป็นกรอบในการศึ กษาและ
วิ เ คราะห์ ง านด้ า นภาพยนตร์ จึ ง มั ก จะตั้ ง ค าถามว่ า “ใครคื อ เจ้ า ของ” ซึ่ ง จากการพิ จ ารณาสถานการณ์ ของ
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไ ทยพบว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ถูกผู กขาดจากผู้ มีอานาจไม่กี่ราย เช่น โรงภาพยนตร์
ขนาดใหญ่ หรือระบบการเผยแพร่ภาพยนตร์ผ่านช่ องทางออนไลน์ (Streaming Platform) มักผูกขาดโดยบริ ษั ท
ใหญ่เพียงไม่กี่บริษัท ส่งผลให้ธุรกิจภาพยนตร์มิได้เปิ ดกว้างให้กับ คนทั่ว ไปหรือ ศิลปิน ในการผลิ ตภาพยนตร์ ในทาง
ตรงกันข้าม เจ้าของโรงภาพยนตร์ หรือเจ้าของระบบเผยแพร่ภ าพยนตร์ทางออน ไลน์ มีอานาจในการก า หนด
ทิ ศ ทางของการเผยแพร่ ภาพยนตร์ ดั ง นั้ น บริ ษั ทผลิต ภาพยนตร์ที่ ต้ อ งการนาภาพยนตร์ เ ข้าฉาย (อาจ) ต้ อ งมี
ความสัมพันธ์อันดีกับเจ้าของโรงภาพยนตร์ หรือเป็นภาพยนตร์ที่มีแนวโน้มจะสามารถสร้า งผลกาไรได้จานวนมาก
สถานการณ์เช่นนี้ ส่งผลให้ภาพยนตร์อิสระ หรือภาพยนตร์นอกกระแสที่ มุ่ง เน้น มิติ ด้านศิ ลปะ ซึ่งอาจไม่ได้มุ่ง เน้ น
(หรือไม่สามารถคาดหวัง) การสร้างผลกาไร จึงมีอานาจต่อรองน้อย ทั้งในระบบโรงภาพยนตร์และระบบออนไลน์
โดยเฉพาะในกรณีหลังเริ่มเกิดข้อถกเถียงเรื่อ งความเป็นธรรมในการจาหน่ายลิขสิทธิ์ให้กับช่ องทางระบบออนไ ลน์
นอกจากนี้ ข้อสังเกตอีกหนึ่ง ประการ คือ หากอุตสาหกรรมสื่ อหรื อภาพยนตร์ มุ่ง เน้ นเพี ยงผลกาไรและ
ปริมาณ อาจทาให้การผลิตภาพยนตร์ขาดความหลากหลายของเนื้ อหา ขาดการนาเสนอภาพยนตร์แนวใหม่ หรือ
ภาพยนตร์ ท างเลื อกประเภทอื่ น ๆ และลดโอกาสในการเจาะกลุ่มตลาดอื่ น หรื อ การสร้างผู้ บริ โภคกลุ่มใหม่ๆ
13
รวมทั้ ง ส านั ก วิ พากษ์ ยั ง มี มุม มองถึ ง การเสริ มสร้ า งความเข้ มแข็ ง ของบุ ค ลากรและแรงงานสร้ า งสรร ค์ ใน
อุตสาหกรรม อาทิ การจัดตั้งสหภาพ (Union) ของกลุ่มวิชาชีพภาพยนตร์ การเรียกร้องสวัสดิการเพื่ อบุค ลากรใน
อุตสาหกรรม และการใช้งานศิลปะขับเคลื่อนเพื่อสะท้ อนภาพสัง คมและวัฒนธรรมด้วยเช่นกัน
2.4 การบริหารอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ผสมแนวทางศิลปะกับเศรษฐกิ จ
เป็นแนวคิดที่ประยุกต์มุมมองต่ออุ ตสาหกรรมภาพยนตร์แ บบผสมผสานระหว่างศิ ลปะและเศรษฐกิจ โดย
หมายรวมถึงเศรษฐกิจทั่ว ไป เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และสานักวิพากษ์เข้าด้วยกัน ส่งผลให้เกิดมุมมองในการบริ ห าร
อุตสาหกรรมภาพยนตร์แบบองค์รวม ในลักษณะ “พาณิชย์ศิลป์”
มุมมองการบริหารอุต สาหกรรมภาพยนตร์ใ นลัก ษณะของ “พาณิชย์ศิลป์” เริ่มต้นจากประเทศฝรั่ ง เศส
โดยศูนย์ภาพยนตร์ แห่ ง ชาติ (The National Cinematographic Centre, CNC) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิ สระภายใต้
กระทรวงวัฒนธรรม และประเทศเกาหลีใต้ โดย KOFIC (Korean Film Council, KOFIC) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิ ส ระ
ภายใต้กระทรวงวั ฒนธรรมและการท่ องเที่ย ว ทั้งสองประเทศมีจุ ดเชื่อ มโยงร่ วมกัน คือ มีองค์กรอิสระภายใต้ ก าร
ควบคุมของกระทรวงวัฒนธรรมในการบริหารกิจการภาพยนตร์ (สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิ จ และ
สังคมแห่งชาติ, 2551) ส่งผลให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารงาน และมุมมองต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์แ ละวี ดิ
ทัศน์แบบองค์รวม
ประเทศฝรั่ ง เศสให้ ค วามส าคั ญต่ อ อุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ ในแง่ ข องศิ ล ปะค่ อ นข้างสู ง โดยภาพยนตร์
เปรียบเสมือนวัฒนธรรมของชาติ อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ Hollywood ส่งผลให้มุมมองต่อภาพยนตร์ใ น เชิ ง
ศิ ล ปะของยุ โ รป รวมถึ ง ประเทศฝรั่ง เศสต้ อ งหยุด นิ่ ง ด้ ว ยเหตุ นี้ จึ ง มี ก ารก าหนดนโยบายกี ด กั นอุ ต สาหกรรม
ภาพยนตร์จาก Hollywood และมุ่งเน้น สนั บ สนุ นภาพยนตร์ ฝรั่ ง เศสให้สามารถด ารงอยู่ ได้ โดยมีแนวทา งการ
ดาเนินงาน (อ้างถึงในสานักงานคณะกรรมการพั ฒนาการเศรษฐกิ จและสัง คมแห่ง ชาติ , 2551) เช่น การกาหนด
โควตา (Screen Quota) การจากัดการฉายภาพยนตร์ต่างประเทศ การกาหนดภาษีการนาเข้าภาพยนตร์ เป็นต้น
กรณีของภาพยนตร์ภายในประเทศ นอกจากการพัฒนาสถาบันการฝึ กอบรมภาพยนตร์ ยังมีการกาหนด
มาตรการต่างๆ ได้แก่ การยกเว้นภาษี การคืนภาษี และการสนับสนุนการผลิ ตภาพยนตร์ภายในประเทศฝรั่ ง เศส
จากการให้เงินทุน สนับ สนุน ภาพยนตร์จ าก Eurimage Fund ซึ่งเป็นโครงการในกองทุ นใหญ่ ที่ชื่ อว่า European
Fund เงินทุนสนับสนุนดังกล่าวมาจากการจัดเก็บจากค่าตั๋ว ค่าธรรมเนียมจากผู้จัดจาหน่าย เจ้าของโรงภาพยนตร์
ผู้ส่งออก และเงินทุนดังกล่าวสนับสนุนทั้งภาพยนตร์กระแสหลัก และภาพยนตร์ของนักผลิตรุ่นใหม่
14
ภาพยนตร์ในลักษณะครบวงจร (อ้างถึงในสานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ งชาติ , 2551)
ได้แก่
การสนับสนุน KOFIC Studios เพื่อการผลิตภาพยนตร์
การคุ้มครองลิขสิทธิ์
การสนับสนุนโควตาภาพยนตร์ ฉายภาพยนตร์เกาหลี ใต้ไม่น้อยกว่า 56 วัน
การสนับสนุนมาตรการทางการเงิน การจัดตั้งกองทุน การสนับ สนุน ทุนผู้ ผลิ ต รวมถึงผู้ผลิต ราย
ย่อย ทั้งนี้งบประมาณมาจากทั้ง เงิน สนับ สนุนและการระดมทุนจากธุ รกิจขนาดใหญ่แ ละสถาบั น
การเงิน และการสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่าสาหรับการฉายภาพยนตร์
มาตรการภาษี ลดหย่อนภาษีทั้งการผลิต การสร้างโรงฉายภาพยนตร์
การพัฒนาบุคลากร โดยตั้งสถาบัน KAFA (Korean Academy of Film Arts) เพื่อสอนวิ ช าชี พ
ด้านภาพยนตร์ สี่ด้าน คือ การกากับ การถ่ายภาพ แอนิเมชัน และการอานวยการสร้าง
การสร้างเครือข่ายภาพยนตร์ในเอเชีย และการให้ทุนผู้ผลิตภาพยนตร์รุ่นใหม่ในประเทศต่างๆ
การจัดทานโยบายเพื่อ การพั ฒนาภาพยนตร์ เกาหลี ใ ต้ทั้ งในและต่า งประเทศ โดยหน่วยงานคื อ
Korean Film Research Center จะทาหน้าที่รวบรวมข้อมูลสถิติภาพยนตร์และที่ เกี่ยวข้อ งและ
เผยแพร่ทั่วไป เพื่อการวิเคราะห์แผนการตลาด แผนการลงทุนในการส่งออก
การจั ด ท าแหล่ ง ข้อ มู ล ที่ เ กี่ย วกับ ภาพยนตร์ คื อ KOFA (Korean Film Achieve) ท าหน้ า ที่จัด
นิทรรศการ และแสดงข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์ เช่น ศิลปะ ประวัติศาสตร์ รวมภาพยนตร์เกาหลี
ใต้และต่างประเทศ
การจัดทา Korean Media Rating Board (KMRB) เพื่อการกาหนดเรตติ้งภาพยนตร์
การสนับสนุนการถ่ายทาภาพยนตร์ในเกาหลีใต้
15
ดังนั้น แนวทางการบริหารอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของประเทศไทยควรมองอุตสาหกรรมแบบองค์รวมและ
ผสมผสานการมองระหว่างมุมมองเชิงศิ ลปะและอุ ตสาหกรรมเข้าด้ วยกัน อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาพบว่า ส่วน
ใหญ่แล้วอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยยัง มุ่งให้ความสาคัญกับ ภาพยนตร์ในฐานะอุตสาหกรรมที่สร้าง “มูลค่า” เน้น
หารายได้ ทากาไรทางเศรษฐกิจ แต่ยังขาดการให้ความสาคั ญและการสนั บสนุ นภาพยนตร์ในมิ ติด้านศิล ปะ หรือ
การพัฒนา “คุณค่า” ในอุตสาหกรรม โดยกรมการสนเทศ กระทรวงเศรษฐการ เผยแพร่รายงานคณะกรร มการ
ศึกษาเรื่องการสร้างภาพยนตร์ ไทยและการนาภาพยนต์ ต่างประเทศเข้า มาฉายใน ประเทศไทย พ.ศ. 2515 ซึ่งเน้น
ข้ อ มู ล ด้ า นผู้ ผ ลิ ต ภาพยนตร์ จ านวนรายได้ ข องโรงภาพยนตร์ ระบบการจั ด จาหน่า ย สาย ส่ ง หนั ง ภาษีอากร
การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ปัญหาต่างๆ เช่น กระแสของภาพยนตร์ตะวันตก (อ้างถึงในอุณาโลม จันทร์รุ่ง
มณีกุล, 2561) แสดงให้เห็นถึ ง ความสนใจจากภาครั ฐที่ ให้ ค วามสนใจในอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์แ ละวี ดิ ทั ศ น์ ใ น
ฐานะแหล่งรายได้ทางเศรษฐกิจเป็นสาคัญ
อย่ า งไรก็ ต าม ตั้ ง แต่ พ.ศ. 2520 เป็ น ต้ น มาเริ่ มมี ง านวิ จั ย ที่ ตั้ ง ข้ อ สั ง เกตถึ ง ปั ญ หาของอุ ต สาหกรรม
ภาพยนตร์และวีดิทัศ น์ของประเทศไทยเพิ่ มมากขึ้น ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากทั้งการเติบ โตของการศึก ษาภาพยนตร์
ไทยในระดั บ บั ณฑิต ศึ ก ษา เริ่ มมี ก ารผนวกแนวคิ ดด้ า นศิ ล ปะและสานัก วิพากษ์ มาปรั บใช้ ในการศึ ก ษา ทั้ งการ
วิเคราะห์ปัจจัยที่ ส่ง ผลต่อ อุ ตสาหกรรม ความขัดแย้งระหว่างเจ้า ของทุ นกั บผู้ ผลิ ตที่ มุ่งเน้นผลิต ภาพยนตร์ ใ น เชิ ง
ศิ ล ปะ การขาดแคลนบทภาพยนตร์ ไปจนถึ ง ปั จ จั ย ด้ า นภาครั ฐ กลุ่ มผู้ บ ริ โ ภค เทคโนโลยี การเข้ า มาของ
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ Hollywood รวมถึงแนวคิดใหม่ๆ เช่น อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในปี พ.ศ. 2550 และการ
ตั้งคาถามถึงการกระจุก ตั วของอุต สาหกรรมภาพยนตร์ ตั้งแต่ระบบการผลิต จนถึงการเผยแพร่ และการฉาย ซึ่ง
ส่งผลต่อการครอบงาธุรกิจภาพยนตร์และกลายเป็นปัจจัยสกัดกั้นการเติบโตของอุต สาหกรรมภาพยนตร์ (ดูเพิ่มเติ ม
อุณาโลม จันทร์รุ่งมณีกุล, 2561)
ปี พ.ศ. 2560 นิยามของภาพยนตร์มีการเปลี่ย นแปลงจากเดิ มที่ หมายถึงแผ่น ฟิล์ มเพีย งอย่า งเดียว ขยาย
ไปสู่สื่อใกล้เ คี ยง เนื่องจากการพัฒ นาของเทคโนโลยี ในระบบดิจิ ทั ล ส่งผลให้เกิด การเผยแพร่ ข้า มสื่อ หรื อ มี ก าร
เชื่อมโยงกัน มุมมองต่อภาพยนตร์จึงมีการเชื่อมโยงไปสู่ซีรีส์ คาแรคเตอร์ และอื่นๆ
16
3. แนวทางและขอบเขตการศึกษา
3.1. แนวทางการศึกษา
จาแนกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ การวิเคราะห์เอกสาร การสัมภาษณ์ และการสนทนากลุ่มย่อย (Focus Group)
ส่วนที่ 1 การวิเคราะห์ สารวจเอกสาร งานวิจัย ตาราที่เกี่ยวข้ อ งกับ อุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ไ ทยและ
ต่ า งประเทศ เพื่ อ ส ารวจแนวคิ ด ปั ญ หา และต้ น แบบที่ ส ามารถน ามาประยุ ก ต์ ใ ช้ กั บ กรณี ข องประเทศไทย
โดยเฉพาะการสารวจกรณีตัวอย่างต้นแบบที่ดี (Best Practice) ของการบริหารจัดการภาพยนตร์ในต่างประเทศ
ส่ ว นที่ 2 การสั มภาษณ์ ผู้เ ชี่ ยวชาญด้ านอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ ไทย ตลอดโซ่ คุ ณค่ าของอุ ต สาหกรรม
ภาพยนตร์ ตั้งแต่ผู้เกี่ยวข้องด้านการผลิ ต การเผยแพร่ การฉาย และการบริโภค รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทั้ งจากภา ครั ฐ
ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อทาความเข้าใจข้ อจากั ด และปัญหาของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ก่อน
วิเคราะห์และนาเสนอแนวทางการแก้ไขข้อจากัดอย่างเหมาะสม
ส่วนที่ 3 การจัดสนทนากลุ่มย่อย ภายหลังจากการรวบรวม วิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูลที่ ได้จากการ
สัมภาษณ์ เพื่อหาแนวทางแก้ ไขปัญหาที่ เกิ ดขึ้ น โดยเชิญผู้เชี่ย วชาญด้า นอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ไ ทย เพื่อ ระดม
ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะในการวางแผนจัด ทายุ ท ธศาสตร์ก ารด าเนิน งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อ เสนอแน ะต่ อ
การบูรณาการให้การดาเนินงานของภาครัฐมีความสอดคล้อง และส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สาขาภาพยนตร์
ไทย
17
ต่างประเทศทีไ่ ด้มีการดาเนินงานในปัจจุ บัน เช่น หอภาพยนตร์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ย วและ
กีฬา และการสัมภาษณ์จากผู้เชี่ยวชาญ
(5) การกาหนดกรอบภารกิจ และบทบาทการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สาขาภาพยนตร์ ในฐานะ
หน่วยงานส่งเสริ ม และสนับสนุน เศรษฐกิ จสร้ างสรรค์ ข องประเทศ โดยสานักงานส่ งเสริ มเศรษฐกิ จสร้ างสรร ค์
(องค์การมหาชน) หรือ สศส.
การพิจารณาภาพยนตร์ ในฐานะพาณิช ย์ศิ ลป์ ให้ความสนใจ ต่อ กระบวนการต่างๆ ตลอดโซ่คุ ณค่ า ของ
อุตสาหกรรม ใน 3 ขั้น ได้แก่ ด้านการผลิต การเผยแพร่ และการบริโภค ซึ่งมุ่งประโยชน์ด้านผลกาไร นอกจากนี้
สามารถพิจารณาละเอียดเฉพาะในโซ่อุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ (The Film Value Chain) โดยขั้นตอนที่ 1 - 3 (ขั้น
การพั ฒ นาบท การหาแหล่ ง เงิ นทุ นหรื อการจัด การงบประมาณ และขั้ น การผลิ ต ) เป็ น ขั้ น ตอนที่ เ กี่ ยวข้ องกับ
ความคิดสร้างสรรค์และการผลิต ส่งผลให้ผู้กากับภาพยนตร์มีบทบาทสาคั ญในการกาหนดแนวทางศิล ปะควบคู่ กั บ
การเป็นผู้อานวยการสร้าง ในขณะที่ขั้นตอนที่ 4 - 6 (ขั้นตอนการจัดจาหน่าย ขั้นตอนการเผยแพร่ และขั้นตอน
การบริโภค) เป็นการบริหารจัดการหลัง กระบวนการผลิ ตภาพยนตร์ เ กี่ยวข้อ งกั บการตลาด การจัดจาหน่าย การ
ฉาย และการบริโภค ซึ่งเกี่ยวข้องกับเจ้าของภาพยนตร์ บริษัทสร้างภาพยนตร์หรือสตูดิโอ ยกเว้นภาพยนตร์กระแส
ทางเลื อ กหรื อ ภาพยนตร์ อิ ส ระที่ ผู้ ก ากับ ภาพยนตร์ และผู้ อ านวยการสร้า ง ที่ ต้ อ งทาหน้า ที่ บ ริห ารจัด การด้วย
นอกจากนี้ ในขั้นตอนการบริโภคสื่ อภาพยนตร์ยั งสั ม พัน ธ์กั บองค์ กรอื่ นๆ เช่น หอภาพยนตร์ และคณะกรร มการ
พิ จ ารณาภาพยนตร์ เนื่ อ งจากการเปลี่ย นแปลงของภู มิทัศ น์ สื่อ และเทคโนโลยี ดิ จิทั ล ส่ ง ผลให้รู ปแบบการจัด
จาหน่ายผ่านวีดิทัศน์ (เช่น วิดีโอเทป ซีดี ดีวีดี) ลดลงจากการจัดจาหน่ายในตลาดสื่ อภาพยนตร์ โดยปรับเปลี่ ย น
รูปแบบการเผยแพร่ผ่านโรงภาพยนตร์ และสื่อใหม่ (Streaming และ Over the Top หรือ OTT) เป็นหลัก
นอกจากการศึกษาความสร้า งสรรค์ ภายในอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ ข้ างต้น มีธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น
การรั บ จ้ า ง (Outsourcing) การบริ ก ารระหว่ า งการผลิ ต (Production) และการบริ ก ารหลั ง การผลิ ต (Post
production) รวมทั้ ง บริ ก ารถ่ า ยท าภาพยนตร์ต่ า งประเทศใน ประเทศไทยทั้ ง โดยภาคเอกชน และภาครัฐ มี
18
หน่วยงานส่งเสริมการถ่ายทาภาพยนตร์ใ นประเทศ การจัดเทศกาลภาพยนตร์และการประกาศรางวัล การแข่งขัน
การถ่ายทาภาพยนตร์สั้นในประเทศไทย การจัดฉายภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทาในประเทศไทย การสนับสนุน
เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
เมื่อพิจารณาจากบทบาทหน้า ที่ข อง สศส. ในการสนับสนุนและพั ฒนาอุ ตสาหกรรมสร้างสรรค์ สาขา
ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ การศึกษาวิจัยครั้งนี้จึงกาหนดขอบเขตและตัวแปรของการศึ กษาไว้ดั งนี้
19
โรงภาพยนตร์ ช่องทางสื่อสาธารณะ และสื่อใหม่ (เช่น Streaming และ Over the Top หรือ OTT) เป็นหลัก โดย
เน้นศึกษาผลิตเนื้อหาที่สร้างสรรค์ (Creative Contents) และแรงงานสร้างสรรค์ (Creative Labors)
3. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกั บภาพยนตร์ หมายถึง ธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มโดยใช้ ความคิ ดสร้า งสรรค์ เป็น ต้ น ทุ น
เพื่อผลิตเนื้อ หาที่ส ร้า งสรรค์ (Creative Contents) อันเกี่ยวเนื่ องกั บการพั ฒนาแรงงานสร้ างสรรค์ (Creative
Labors) อาทิ การจัดจ้างคนภายนอก (Outsourcing) การบริการระหว่างการผลิต (Production) และการบริการ
หลังการผลิต (Post Production) และการพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์ (Creative Space) เช่น กิจกรรมการให้บริการ
ถ่ายทาภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยทั้งโดยภาคเอกชน และภาครัฐ และการพัฒนาเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวทาง
วัฒนธรรม
4. ระบบนิเวศอุตสาหกรรมภาพยนตร์ หมายถึง ระบบสังคมและบรรยากาศที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
สาหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทรัพยากรมนุษย์และทรัพยากรใน
ท้องถิ่น การสร้างบรรยากาศที่กระตุ้นให้เ กิด ความคิ ดสร้างสรรค์ การสนับสนุนทางการเงิน กฎหมายและนโยบาย
การส่ ง เสริ มและก ากั บดู แ ลจากภาครัฐ บาล โดยเน้ นเฉพาะประเด็ น ปัญ หาอุ ป สรรคในการส่ งเสริมและพัฒนา
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์ และข้อเสนอแนะด้านยุทธศาสตร์ ความเป็นไปได้และโอกาสที่
เกี่ยวกับการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมและพัฒนา
20
การศึกษาข้อมูลเพื่อวางแนวทางการจัดทาแผนพัฒนาอุ ตสาหกรรมสร้างสรรค์สาขาภาพยนตร์และวี ดิ ทั ศ น์
มี วั ต ถุ ป ระสงค์ เ พื่ อ รวบรวมข้ อ มู ล และศึ ก ษาวิ เ คราะห์ เ อกสารวิ ชาการต่ างๆ ที่ เ กี่ ย วข้อ ง รวมทั้ ง การประมวล
สถานการณ์ ข้อจากัด ปัญหา อุปสรรค และปัจจัยผลกระทบต่อการดาเนินธุรกิจของผู้ประกอบการในอุ ตสาหกรรม
ภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ (Film and Video) อย่างเป็นระบบและสามารถนาไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม และเพื่ อ
จัดทาแนวทางการรวบรวมข้อมูลและสถิ ติที่ เกี่ยวข้อง ตลอดจนมุ่งพัฒนายุทธศาสตร์และข้ อเสนอแนะเชิ งนโยบาย
ในการส่งเสริมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสาหรับอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวี ดิทัศน์ (Film and Video)
2
https://www.flatpanelshd.com/news.php?subaction=showfull&id=1598597088
3
https://thestandard.co/sony-proposes-closure-of-cd-blu-ray-uk-distribution-plant/
4
https://www.brandage.com/article/10593/Samsung
5
https://voicetv.co.th/read/jMx01oPi0
21
Are Social ระบุว่า 2 ไตรมาสแรกของปี 2563 ทั่วโลกใช้งานระบบ Streaming เพื่อรับชมรายการต่างๆ เพิ่มขึ้ น
กว่าร้อยละ 54 และประเภท Digital Content ที่ได้รับความนิย มสูง ที่สุ ดจากผู้ บริโ ภค คือ การรับชมภาพยนตร์
และรายการโทรทัศน์ (ร้อยละ 28)6 ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ การศึกษาข้อมูลของอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์จึ งเน้ น ให้
ความสาคัญกับภาพยนตร์ที่เผยแพร่ผ่านระบบ Streaming
6
https://www.infoquest.co.th/thailand-media-landscape-2021/ott-tv
22
4. สถานการณ์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์
4.1 มูลค่าทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
รายงานประมวลผลมูลค่าทางเศรษฐกิจ ของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์จาแนกตามสาขาการผลิ ต และข้อมู ล
จานวนแรงงานที่อยู่ ในกลุ่ มอุต สาหกรรมสร้า งสรรค์ โดย ศูนย์บริการวิชาการเศรษฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานของอุต สาหกรรมสร้า งสรรค์ของประเทศไทย ปี 2560 รวม
ทั้งสิ้น 826,026 คน โดยมีแรงงานสร้า งสรรค์ใ นอุ ตสาหกรรมสาขาภาพยนตร์ และวี ดิทั ศน์ และสาขาซอฟต์ แ วร์
จานวน 69,250 คน หรือคิดเป็นร้ อยละ 8.4 ของแรงงานสร้า งสรรค์ ทั้ งหมด ขณะทีร่ ายได้ เ ฉลี่ ยของแรงงา นใน
อุตสาหกรรมสาขาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ และสาขาซอฟต์แวร์มีรายได้เฉลี่ย 12,873 บาทต่อคนต่อเดือน เห็นได้ว่า
อุ ต สาหกรรมสาขาภาพยนตร์ แ ละวี ดิ ทั ศ น์ และสาขาซอฟต์ แ วร์ เป็ น อุ ต สาหกรรมที่ มีมูล ค่ า และอั ต ราการ
เจริญเติบโตที่ค่อ นข้างน้อย เมื่อเทียบกับอุ ตสาหกรรมสร้างสรรค์สาขาอื่น และในด้านการจ้างงาน อุตสาหกรรม
สร้างสรรค์สาขาภาพยนตร์ และซอฟต์แวร์ นับเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ มีรายได้ เฉลี่ย ต่อ คนต่อ เดื อนน้ อยที่ สุ ด เป็ น
อันดับ 2 รองจากอุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรม
23
4.2 ผลประกอบการของอุตสาหกรรมภาพยนตร์
ลักษณะทั่วไปของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย มักให้ความสนใจต่อมิติด้านเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเน้นการสร้าง
รายได้ของภาพยนตร์ นอกจากนี้ จานวนการเข้ามาถ่ายทาภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นว่ า
อุตสาหกรรมภาพยนตร์สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศไทยจานวนมาก รวมถึงตัวชี้วัดอื่นๆ อาทิ ผลงานภาพยนตร์
ที่ ไ ด้ รั บ ความนิ ย มในต่ างประเทศ หรื อ รางวั ล ที่ ได้ รั บ จากหน่ วยงาน หรื อ สถาบั นระดั บ สากล เช่ น ภาพยนตร์
ทางเลือกของอภิชาตพงศ์ วีระเศรษฐกุล
ปั จ จุ บั น ข้ อ มู ล เชิ ง ปริมาณเกี่ ย วกั บ อุต สาหกรรมภาพยนตร์ ได้ แ ก่ สถิ ติ ต่ างๆ ซึ่ ง รวบรวมโดยสมาพันธ์
สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ไม่สามารถจัดเก็บได้ต่อเนื่อง บางรายการไม่เ ป็นปัจจุบัน และยังไม่มีแนวทางมาตรฐาน
ของระเบียบวิธีการจัดเก็บ ข้อ มูลดั งกล่าว จึงพบว่าข้อมูลบางรายการอาจไม่สอดคล้อ งกัน เนื่องจากแหล่งที่มาของ
ข้อมูลมีความหลากหลาย
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่สืบค้นได้ทางเว็บ ไซต์ ของสมาพัน ธ์ส มาคมภาพยนตร์แห่ งชาติ (2561) ข้อมูลสถิ ติ ที่
เกี่ยวข้องกับอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ป ระจาปี 2560 ประกอบด้วยข้อ มูล ที่น่าสนใจ ได้แก่ จานวนผู้ประกอบการ
มูลค่าและสัดส่วนรายได้ข องอุตสาหกรรมภาพยนตร์ รายได้จากการฉายภาพยนตร์ และผลประกอบการย้อ น หลั ง
ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ แสดงรายละเอียดดังนี้
24
จานวนผู้ประกอบการ
ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจานวนผู้ประกอบการในอุต สาหกรรมภาพยนตร์ลดลงจาก 13,276 ราย ในปี
2559 เหลือ 8,794 ราย ในปี 2560 โดยเฉพาะกลุ่ มธุร กิจผลิ ตและจัดจาหน่ายภาพยนตร์ ประเภทแผ่นบั น ทึ ก วี ดิ
ทัศน์ ซึ่งอาจเนื่องมาจากการเติบโตของระบบ Streaming นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจสนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ แ ละ
ธุรกิจการตัดต่อภาพยนตร์และเสียง ผู้ประกอบการสามารถต่อยอดและขยายธุรกิจสู่ การสนับสนุน อุตสาหกรรมอื่ น
เช่น โทรทัศน์ สอดคล้องตามการประมวลผลทางสถิ ติข องรายงานการจัด เก็ บสถิติ ข้อ มูล มู ลค่า อุ ตสาหกรร มคอน
เทนต์และฐานข้อ มู ลผู้ ประกอบการกิจ การในอุต สาหกรรมคอนเทนต์ ประจาปี 2563 ซึ่งรวบรวมโดย บริษัท ฐิติ
ธนฤติ จากัด สมาคมไทยธุรกิจอิ เล็ คโทรนิค บันเทิง สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แ ห่งชาติ และกระทรวงวัฒน ธรรม
(2564) ตารางที่ 3 ขยายขอบเขตจ านวนผู้ ป ระกอบการไปยั ง กลุ่ ม แอนิ เ มชั น รวมถึ ง สรุ ป ภาพรวมรายได้
อุตสาหกรรมภาพยนตร์และแอนิเมชันของประเทศไทย ดังนี้
25
ตารางที่ 4 จานวนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ไทยประจ าปี พ.ศ. 2561- พ.ศ. 2563 7
จานวนผู้ประกอบการ (ราย)
อุตสาหกรรมภาพยนตร์
2561 2562 2563
ธุรกิจการผลิตภาพยนตร์และวีดิทัศน์ N/A 1,006 1,031
ธุรกิจการเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์และรายการโทรทัศน์ N/A 62 62
ธุรกิจการดูแลสิทธิในการผลิตซ้าภาพยนตร์วีดิทัศน์และ N/A 32 32
รายการโทรทัศน์เพื่อจาหน่ายหรือเผยแพร่
ธุรกิจภายหลังการผลิตภาพยนตร์วีดิทัศน์และรายการโทรทัศน์ N/A 47 48
(Post-Production)
ธุรกิจการบริการตัดต่อภาพและเสียง (Visual and Sound Effect) N/A 173 176
ธุรกิจการบันทึกเสียงลงบนสื่อ (Sound Lab) N/A 173 173
ธุรกิจด้านการจัดฉายภาพยนตร์ N/A 70 70
ธุรกิจให้บริการชมภาพยนตร์ผ่านทางออนไลน์ N/A 11 11
(Movie Streaming Services)
ธุรกิจการจัดฉายภาพยนตร์นอกสถานที่ (ฉายหนังกลางแปลง) N/A N/A N/A
ธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์การถ่ายทาภาพยนตร์ N/A 59 59
ธุรกิจของบริษัทตัวแทนและสานักงานคัดเลือกนักแสดง N/A 416 422
ธุรกิจกลุ่มสนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ หรือให้บริการกองถ่ายทา N/A N/A 414
ภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย
(ประสานงานกองถ่ายต่างประเทศ)
ธุรกิจการบริการทาคอมพิวเตอร์กราฟฟิกแอนิเมชั่น N/A 223 227
และเทคนิคพิเศษ
ธุรกิจการผลิตซ้าสื่อบันทึก N/A N/A 183
ธุรกิจการขายส่งสื่อบันทึกเสียงและวีดิทัศน์ที่บันทึกข้อมูลแล้ว N/A N/A 92
7วิเคราะห์จากเอกสารรายงานการจัดเก็บสถิติข้อมูลมูลค่าอุตสาหกรรมคอนเทนต์และฐานข้อมูลผู้ประกอบการกิจการใน
อุตสาหกรรมคอนเทนต์ประจาปีพ.ศ. 2563 (บริษัทฐิติธนฤติจากัด สมาคมไทยธุรกิจอิเล็คโทรนิคบันเทิง สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์
แห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรม, 2564)
26
จานวนผู้ประกอบการ (ราย)
อุตสาหกรรมภาพยนตร์
2561 2562 2563
ธุรกิจการขายปลีกสื่อบันทึกเสียงเพลงและสื่อบันทึกวีดิ ทัศน์ใน N/A N/A 65
ร้านค้าเฉพาะ (ร้านคาราโอเกะ)
รวมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ N/A 2,272 3,065
27
ภาพที่ 4 แสดงจานวนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ไทยประจาปี พ.ศ. 2562 และ พ.ศ. 2563 8
ดังนั้น ตัวเลขผู้ประกอบการอุต สาหกรรมภาพยนตร์ ปี พ.ศ. 2563 คือ 3,065 ราย แม้ว่า ข้อมูลดังกล่ า ว
จะแสดงให้เห็นถึงนิ เวศอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ก ว้างขึ้ น แต่ จานวนกลับลดลงจากปี พ.ศ. 2560 คือ 8,794 ราย
หรือลดลงมากกว่าสองเท่า เหตุผลหลัก คือ การจัดจาหน่ายสื่อบันทึกเสียงและวีดิทัศน์ที่ลดลงไป
มูลค่าและสัดส่วนรายได้ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์
ในที่นี้ได้วิเคราะห์ รายได้ โดยใช้เ อกสาร 2 ส่วนคือ สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์ แห่ งชาติ ในปี พ.ศ. 2560
และเอกสารรายงานการจั ด เก็ บสถิติ ข้อ มู ล มูล ค่า อุต สาหกรรมคอนเทนต์แ ละฐานข้ อ มูล ผู้ป ระกอบการกิจ การใน
อุ ต สาหกรรมคอนเทนต์ ป ระจ าปี พ.ศ. 2563 (บริ ษั ท ฐิ ติ ธ นฤติ จ ากั ด สมาคมไทยธุ ร กิ จ อิ เ ล็ ค โทรนิ ค บันเทิง
สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรม, 2564) เป็นหลัก
8 เรื่องเดียวกัน
28
ตารางที่ 5 รายได้จากกิจกรรมต่างๆ ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ในปี พ.ศ. 2560
รวบรวมโดยสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ รายได้ (ล้านบาท)
การฉายภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ (กรุงเทพฯ ปริมณฑล และเชียงใหม่) 3,974.52
จาหน่ายเครื่องดื่มและสแน็กในโรงภาพยนตร์ 2,384
โฆษณาในโรงภาพยนตร์ 6,807
ธุรกิจบริการกองถ่ายทาต่างประเทศในประเทศไทย 3,074
Post production, Sound lab, Visual effect, Animation 7,000
การให้สิทธิ์เผยแพร่ภาพยนตร์ไทยในต่างประเทศ 200
การจาหน่ายวีดิทัศน์ภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ 1,000
การให้สิทธิ์ในการจาหน่ายสินค้าคาแรคเตอร์และการสร้างสรรค์งาน 1,600
รวม 26,039.52
9ประยุ ก ต์ จ ากเอกสารรายงานการจั ดเก็ บ สถิติข้ อ มูล มูล ค่ าอุ ตสาหกรรมคอนเทนต์ แ ละฐานข้ อ มูล ผู้ ประกอบการกิ จการใน
อุตสาหกรรมคอนเทนต์ประจาปีพ.ศ. 2563 (บริษัทฐิติธนฤติจากัด สมาคมไทยธุรกิจอิเล็คโทรนิคบันเทิง สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์
แห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรม, 2564)
29
รายได้ (ล้านบาท)
ธุรกิจในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
2561 2562 2563
ธุรกิจการดูแลสิทธิในการผลิตซ้าภาพยนตร์วีดิทัศน์
และรายการโทรทัศน์เพื่อจาหน่ายหรือเผยแพร่ N/A 563 N/A
ธุรกิจภายหลังการผลิตภาพยนตร์วีดิทัศน์และ
รายการโทรทัศน์ (Post-Production) N/A 486 N/A
ธุรกิจการบริการตัดต่อภาพและเสียง (Visual and
Sound Effect) N/A 1,474 N/A
ธุรกิจการบันทึกเสียงลงบนสื่อ (Sound Lab) N/A 1,013 N/A
ธุรกิจด้านการจัดฉายภาพยนตร์ N/A 16,373 N/A
ธุรกิจให้บริการชมภาพยนตร์ผ่านทางออนไลน์
(Movie Streaming Services) N/A N/A 38,604
ธุรกิจการจัดฉายภาพยนตร์นอกสถานที่ (ฉายหนัง
กลางแปลง) N/A N/A 180
ธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์การถ่ายทาภาพยนตร์ N/A 1,211 N/A
ธุรกิจของบริษัทตัวแทนและสานักงานคัดเลือก
นักแสดง N/A 2,520 N/A
ธุรกิจกลุ่มสนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ หรือ
ให้บริการกองถ่ายทาภาพยนตร์ต่างประเทศใน 3,139 4,864 1,748
ประเทศไทย (ประสานงานกองถ่ายต่างประเทศ)
ธุรกิจการบริการทาคอมพิวเตอร์กราฟฟิก แอนิ
N/A 1,801 N/A
เมชั่นและเทคนิคพิเศษ
อุตสาหกรรมแอนิเมชั่น 3,738 3,494 3,177
อุตสาหกรรมคาแรคเตอร์ 2,197 2,146 2,023
ธุรกิจการผลิตซ้าสื่อบันทึก N/A 1,539 N/A
ธุรกิจขายส่งสื่อบันทึกเสียงและวีดิทัศน์ที่บันทึก
N/A 2,695 N/A
ข้อมูลแล้ว
30
รายได้ (ล้านบาท)
ธุรกิจในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
2561 2562 2563
ธุรกิจขายปลีกสื่อบันทึกเสียงเพลงและสื่อบันทึกวี ดิ N/A 1,578 N/A
ทัศน์ในร้านค้าเฉพาะ (ร้านคาราโอเกะ)
รวมรายได้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ 9,074 52,642 45,732
31
ภาพที่ 6 แสดงมูลค่าและรายได้ของธุรกิจในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ร ะหว่างปี พ.ศ. 2562-2563
ข้อมูลรายได้จากการฉายภาพยนตร์
สาหรับข้อมูลรายได้จากการฉายภาพยนตร์ ใน ปี พ.ศ. 2560 ที่รวบรวมโดยสมาพัน ธ์ส มาคมภาพยนตร์
แห่งชาติ มีมูลค่าเท่ากับ 3,975 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ทสี่ ารวจจากโรงภาพยนตร์เฉพาะพื้ นที่กรุง เทพฯ ปริมณฑล
และจังหวัดใหญ่ๆ และรายได้จากการจาหน่ายให้แก่สายหนัง (ไม่ใช่รายได้ของทั้งประเทศ) จึงจาเป็นต้องพิจารณา
ข้อมูลดังกล่าวเพิ่ มเติ ม อาทิ การนับจานวนบัตรเข้าชมจริง ความถี่ในแต่ละรอบฉาย เพื่อประมวลผลข้ อมู ล ความ
นิยมของผู้บริโภคที่สอดคล้องตามความเป็นจริง
32
ตารางที่ 7 รายได้จากการฉายภาพยนตร์ ในปี พ.ศ. 2560 โดยสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์ แห่งชาติ
รายได้หน่วย : ล้านบาท
ประเภท รายได้จากการฉายภาพยนตร์ ร้อยละ
ภาพยนตร์ต่างประเทศ 3,537 89
ภาพยนตร์ไทย 438 11
จากรายงานการจัดเก็ บสถิ ติข้ อ มูล มู ลค่า อุ ตสาหกรรมคอนเทนต์แ ละฐานข้ อมู ลผู้ ประกอบการกิจ การใน
อุตสาหกรรมคอนเทนต์ป ระจาปี 2563 (บริษัทฐิติธนฤติจากั ด สมาคมไทยธุร กิจ อิ เล็ คโทรนิ คบั น เทิ ง สมาพั น ธ์
สมาคมภาพยนตร์ แห่ งชาติ และกระทรวงวั ฒนธรรม, 2564) พบว่า จานวนภาพยนตร์ที่จัดฉายในโรงภาพยนตร์
และรายได้จากการฉายภาพยนตร์มีแนวโน้ มลดลง เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 โดยปี 2562 มีภาพยนตร์เข้ า
ฉายในโรงภาพยนตร์ จานวน 306 เรื่อง และปี 2563 มีภาพยนตร์เข้าฉาย จานวนทั้งสิ้น 191 เรื่อง เป็นภาพยนตร์
ไทย 29 เรื่อง ลดลงจากเดิมซึ่งมีภาพยนตร์ไ ทยเข้าฉายปีล ะประมาณ 50 เรื่อง ทารายได้ประมาณ 299 ล้านบาท
คิดเป็นร้อยละ 26 สาหรับภาพยนตร์ต่างประเทศที่เ ข้าฉายในปี 2563 มีจานวน 162 เรื่อง คิดเป็นรายได้จานวน
868 ล้านบาท แบ่งเป็นภาพยตร์ จาก Hollywood ร้อยละ 48 ภาพยนตร์จากประเทศญี่ ปุ่นร้ อ ยละ 10 และ
ภาพยนตร์จากประเทศเกาหลีใต้ ร้อยละ 4 ทั้งนี้ ภาพยนตร์ไทยและภาพยนตร์จากต่างประเทศที่เข้าฉาย ปี 2563
มีรายได้รวมกัน 1,167 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเที ยบข้ อ มูล ในปี 2560 และ 2563 ซึ่งรวบรวมโดยสมาพั นธ์ สมาคมภาพยนตร์
แห่งชาติ พบว่า คนไทยยังคงนิยมบริโภคภาพยนตร์ต่างประเทศ ข้อมูลรายได้จากการฉายภาพยนตร์แสดงดังตาราง
ที่ 8 ดังนี้
33
ตารางที่ 8 รายได้จากการฉายภาพยนตร์ เปรียบเทียบปี 2560 และ ปี 2563
รายได้หน่วย : ล้านบาท
ปี 2560 ร้อยละ ปี 2563 ร้อยละ
ภาพยนตร์ต่างประเทศ 3,537 89 8,688 62
ภาพยนตร์ประเทศไทย 438 11 299 26
ผลประกอบการย้อนหลังของอุตสาหกรรมภาพยนตร์
ผลสารวจข้อมูลรายได้ และผลประกอบการของอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ โดยสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์
แห่งชาติ ระหว่าง ปี 2554 - 2560 และข้อมูลจากรายงานการจัดเก็บสถิ ติข้อ มูล มูลค่า อุตสาหกรรมคอนเทนต์ แ ละ
ฐานข้อมูลผู้ประกอบการกิจการในอุตสาหกรรมคอนเทนต์ ประจาปี 2563 (บริษัทฐิติธนฤติจากัด สมาคมไทยธุรกิ จ
อิ เ ล็ ค โทรนิ ค บั น เทิ ง สมาพั น ธ์ ส มาคมภาพยนตร์ แ ห่ ง ชาติ และกระทรวงวั ฒ นธรรม , 2564) ในช่ ว งปี 2562
รายละเอียดแสดงดังนี้
34
นอกเหนือจากตัว เลขจากสมาพัน ธ์ฯ และเอกสารรายงานการจัด เก็ บสถิติ ข้อ มูล มู ลค่า อุ ตสาหกรร มคอน
เทนต์และฐานข้อมูลผู้ประกอบการกิจการในอุตสาหกรรมคอนเทนต์ประจา ปี พ.ศ. 2563 (บริษัท ฐิติธนฤติ จากัด
สมาคมไทยธุรกิจอิเล็คโทรนิ คบัน เทิง สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์ แห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรม, 2564) สถิติที่
สะท้อนผลประกอบการจากนิ เวศอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์คื อ ธุรกิจบริการกองถ่า ยทาภาพยนตร์ ต่างประเทศใน
ประเทศไทย ถือว่า เป็นตัวเลขที่ เติ บโตสู งขึ้ น และมีองค์ กรที่ เ กี่ยวข้อ งโดยตรง คือ กองกิจการภาพยนตร์ (Thai
Film Board) กรมการท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทาให้มีตัวเลขรายได้เพิ่มเติม ดังนี้
35
4.3 ห่วงโซ่คุณค่าภาพยนตร์ไทยและธุรกิจที่เกี่ยวข้ อง
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย มีความเชื่อมโยงกันในห่วงโซ่คุ ณค่า (Value Chain) โดยสามารถจาแนกเป็ น
5 ส่วน ได้แก่ การพัฒนาภาพยนตร์ การผลิต การเผยแพร่ /จัดจาหน่าย การฉาย และการบริโภค ซึ่งการศึกษานี้
ได้ผนวกแนวคิดเรื่องศิลปะเข้าไว้ด้วย ส่งผลให้การวิเคราะห์ห่วงโซ่คุ ณค่า มีการแยกพิจารณาระหว่างอุตสาหกรรม
ภาพยนตร์ทั่วไปหรือ ภาพยนตร์ กระแสหลัก กับ ภาพยนตร์ ทางเลือ ก ซึ่งอาจไม่ได้ทารายได้ หรือทารายได้ต่ากว่ า
ภาพยนตร์ ก ระแสหลั ก แต่ ถื อ เป็น กลไกสาคัญ ของการพั ฒ นาหรือ สนับ สนุน อุต สาหกรรมภาพยนตร์ การสร้าง
ภาพลั ก ษณ์ แ ก่ ป ระเทศ และการก้ าวสู่ แนวคิ ด อุต สาหกรรมสร้า งสรรค์ รวมถึ ง การผนวกกระบวนการถ่ายทา
ภาพยนตร์ในประเทศไทย (Location Shooting) รวมเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการผลิต
จากแนวคิดของ McQuail (2010a) ซึ่งพิจารณาถึงปัจจัยที่ส่งผลต่ออุต สาหกรรม โดยเฉพาะปัจจัยภายใน
และภายนอก พบว่า ปัจจัยดังกล่าวจะมีผลต่อการดาเนินงานอุตสาหกรรมภาพยนตร์ รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่ง
จาแนกเป็น ภาคเอกชน ภาครัฐ สถาบันการศึกษา (Film School) สมาคม หรือ Union และต่างประเทศ แสดง
เป็น Ecosystem ดังภาพต่อไปนี้
36
จากข้อมูลองค์ป ระกอบของผู้ เกี่ ยวข้อ งในอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ ตามภาพที่ 8 นี้ สามารถนามาขยาย
เพิ่มเติมรายละเอียด รวมทั้งอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องได้ ดังแสดงในภาพที่ 9 รายละเอียดดังนี้
ภาพที่ 9 แสดงห่ ว งโซ่ คุณ ค่ า ของอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ ผนวกไปกั บผู้ ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง กั บกิ จ กรรม ข อง
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ (วิเคราะห์โดยคณะทางาน)
37
4.3.1 การพัฒนาภาพยนตร์ (Film Development)
การพัฒนาภาพยนตร์ จาแนกตามธุรกิจที่เกี่ยวข้องแบ่ง ได้เ ป็น 2 รูปแบบ คือ แบบสตูดิโอ และแบบอิส ระ
ดังนี้
ตารางที่ 10 การพัฒนาภาพยนตร์ 2 รูปแบบ (วิเคราะห์โดยคณะทางาน)
การพัฒนา
การดาเนินงาน ตัวอย่างองค์กร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ภาพยนตร์
1. แบบสตูดิโอ รับคาสั่ง หรือความ GDH, สหมงคลฟิล์ม, กระทรวงวัฒนธรรม
หรือหน่วยงาน ต้องการจากนายทุน/ ไฟว์สตาร์, (ให้ทุน) (ในปัจจุบันปรับเป็น
สตูดิโอ จากนั้น M Pictures กองทุนสื่อฯ)
มอบหมาย Producer กองทุนสื่อปลอดภัยและ
เป็นผู้ควบคุม และ สร้างสรรค์
คัดเลือกผู้กากับ การวางผลิตภัณฑ์ประกอบ
ภาพยนตร์ดาเนินงาน ฉาก (Product
ผลิต Placement) (เอกชน)
การจาหน่ายลิขสิทธิ์
นอกจากนี้ โดยทั่วไป ล่วงหน้าจากช่องทางอื่นๆ
(ส่วนใหญ่) สตูดิโอ เช่น ดีวีดี โทรทัศน์
มักดาเนินการ ออนไลน์ ในอดีตอาจมีกรณี
ทุกขั้นตอนเองทั้งหมด ของสายหนัง
ตั้งแต่ขั้นตอน การร่วมลงทุนใน
การพัฒนา ลักษณะร่วมผลิต (Co-
การผลิต การเผยแพร่ Production)
การฉาย และ การขอลิขสิทธิ์
การบริโภค เพื่อ
เป้าหมายด้านผลกาไร
2. แบบอิสระ ผู้กากับภาพยนตร์ มักเป็นผู้กากับหน้า กระทรวงวัฒนธรรม
สร้างสรรค์ภาพยนตร์ ใหม่ หรือผู้กากับ (ให้ทุน) ปัจจุบันปรับเป็น
ตามความต้องการ ภาพยนตร์นอก กองทุนสื่อฯ
ของผู้กากับฯ กระแส กองทุนสื่อปลอดภัยและ
สร้างสรรค์
38
การพัฒนา
การดาเนินงาน ตัวอย่างองค์กร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ภาพยนตร์
ส่วนใหญ่ประสบปัญหา ทุนจากต่างประเทศ
ด้านงบประมาณ และ การระดมทุน
การต่อรองกับธุรกิจ (Crowdfunding) และ
ต่างๆ การร่วมสร้างสรรค์ของกลุ่ม
คน (Crowd Sourcing)
การขอลิขสิทธิ์
39
ในอดีต แหล่งทุนที่สาคัญ คือ “สายหนัง” ซึ่งมีส่วนสาคัญในการกาหนดเนื้อ หาและแม้กระทั่ งนั กแสดงที่
ร่วมแสดงในภาพยนตร์ แต่ในปัจจุบัน การจาหน่ายลิขสิทธิ์ล่วงหน้า มักจะจาหน่ายผ่านดีวีดี โทรทัศน์ โดยเฉพาะ
ในช่ ว งเวลาหนึ่ง ระบบดี วี ดีส ามารถสร้างรายได้ จานวนมาก อย่ า งไรก็ ต าม เมื่ อ เกิ ด การเปลี่ ยนแปลงทางด้าน
เทคโนโลยี รายได้จากการจาหน่ายลิ ขสิ ทธิ์ผ่ านระบบดีวี ดี มีจานวนลดลง และการเผยแพร่ภาพยนตร์ผ่า นร ะบบ
ออนไลน์กลายมาเป็นระบบหลักที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
40
อย่างไรก็ตาม การหาแหล่งเงินทุนสนับสนุน นับเป็นอุปสรรคสาคัญ เช่นกรณีต่างประเทศ อาทิ ประเทศ
ฝรั่งเศสและประเทศเกาหลีใต้ มีกองทุนที่ให้การสนับสนุนการดาเนินการผลิต ภาพยนตร์ทางเลือก สาหรับประเทศ
ไทย เมื่อย้อนกลับไปพิจารณา พ.ร.บ.ภาพยนตร์แ ละวีดิ ทั ศน์ ปี 2551 พบว่ามีความพยายามที่จ ะกาหนดทุน แต่
ในทางปฏิบัติ เงินทุนสาหรับการผลิตภาพยนตร์ทางเลื อกกลับ มี จานวนน้อย ทาให้ผู้กากับภาพยนตร์ที่ มุ่ง เน้ น งาน
ศิลปะ ค่อนข้างมีปัญหาในการหาแหล่งเงินทุน โดยผู้กากับบางท่าน แก้ปัญหาด้วยการใช้เงินทุนส่วนตัวในการผลิ ต
ภาพยนตร์ หรือการหาเงินทุ นจากการระดมทุน (Crowd Funding) ซึ่งมักจะมาจากเว็ บ ไซต์ ได้แก่ IndieGoGo
และ KickStarter ตลอดจนการหาแหล่งเงินทุน ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นเพียงส่วนน้อ ย เมื่อเปรียบเทียบกั บปริ มาณ
หรือความสนใจของผู้กากับภาพยนตร์รุ่นใหม่ที่ศึกษาภาพยนตร์จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ภารกิ จ ส าคั ญ อี กด้ า นของภาครัฐ คื อ การให้ ค วามคุ้ มครองด้ านลิ ข สิท ธิ์ กั บผลงาน ทั้ ง ในกรณี ข องการ
จาหน่ายลิขสิทธิ์ล่วงหน้า รวมถึงการตรวจสอบและการขอลิ ขสิท ธิ์ เช่น เนื้อเรื่อง ดนตรี เพลงประกอบ และอื่น ๆ
โดยหน่วยงานที่มีหน้าที่กากับดูแล คือ กรมทรัพย์สินทางปัญญา และสานักงานตารวจแห่งชาติ
ส าหรั บ ส านั ก งานคณะกรรมการส่ง เสริมการลงทุ น (BOI) ซึ่ ง ช่ ว ยสนั บ สนุน การลงทุน ผลิ ต ภาพยนตร์
ภายใต้เงื่อนไขการสนับสนุนการลงทุ นบริ ษัทผู้ ผลิ ตภาพยนตร์ ซึ่งมีทุนจานวน 1 ล้านบาท (เงินหรือทุนสินทรั พย์ )
ซึ่งสาหรับผู้ผลิตรายย่อยหรือผู้ผลิตภาพยนตร์ทางเลือก คุณสมบัติไม่ตรงกับเงื่อนไขที่ กาหนด
41
4.3.2 การผลิต (Film Production)
การผลิตภาพยนตร์ มีขั้นตอนการดาเนิน งาน 3 ขั้นตอน ขั้นแรก ก่อนการผลิต คือ การวางแผน ซึ่งจะ
เกิดขึ้นหลังจากได้รับอนุมัติเงินทุนและบทภาพยนตร์ ต่อจากนั้นคือ การที่ผู้กากับร่วมกับผู้อานวยการสร้างวางแผน
จัดหาทีมงาน นักแสดง พื้นที่ การออกแบบการแต่ งกาย และการพัฒนาบทให้ส มบูร ณ์ พร้ อมสาหรับ การถ่ า ยท า
ขั้ น ตอนที่ 2 คื อ การถ่ า ยท า ทั้ ง นี้ ขั้ น ตอนแรกและขั้ น ตอนที่ 2 จะเกี่ ย วข้ อ งกั บ บริ ษั ท สนั บ สนุ น การถ่ายทา
ภาพยนตร์จากต่างประเทศ สาหรับขั้นตอนที่ 3 คือ การตัดต่อ ผสมภาพและเสียงให้ส มบูร ณ์ การดาเนินงานทั้ง 3
ส่วน ประกอบด้วยผู้เกี่ยวข้องหลัก 5 ส่วน แสดงดังตารางที่ 11 รายละเอียดดังนี้
42
กิจกรรม/ขั้นตอน การดาเนินงาน บริษัทที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- บริษัทโรงถ่ายภาพยนตร์
เช่น กันตนา มูฟวี่ ทาวน์,
พร้อมมิตร ฟิล์ม สตูดิโอ
3. หลังการผลิต การตัดต่อ การผสมภาพ - Film Lab ได้แก่ สยาม - การตรวจพิจารณา
และเสียง พัฒนาฟิล์ม จากัด บริษัท ภาพยนตร์ กระทรวง
Technicolor (Thailand) วัฒนธรรม
- บริษัทด้านตัดต่อภาพ - บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์
และเสียง ได้แก่ กันตนา ต่างประเทศทีใ่ ห้ความ
โพสต์ โปรดักชั่น, สนใจต่อการจัดจ้างบริษัท
Oriental Post, The ของประเทศไทยในการ
Post Bangkok ดาเนินการหลังการผลิต
- บริษัทด้านแอนิเมชัน (การตัดต่อ เทคนิคพิเศษ
และเทคนิคพิเศษ ได้แก่ และแอนิเมชัน)
Digital Magic, The -กระทรวงแรงงาน และ
Monk Studio, วิธิตา สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ
แอนิเมชัน, กันตนา
แอนิเมชัน, Imagimax
- บริษัทด้านเพลง ดนตรี
- รวมถึงบริษัทที่อาจทา
หน้าที่เช่น การทา AD
หรือเสียงบรรยายภาพ
4. การสนับสนุน การประสานกับบริษัท บริษัทประสานงานถ่ายทา - กองกิจการภาพยนตร์
การถ่าย ผลิตภาพยนตร์ ภาพยนตร์ ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยว
ภาพยนตร์ใน ต่างประเทศ และประสาน Indochina Productions, และกีฬา (Film Office)
ประเทศ กับรัฐบาลเพื่อขออนุญาต VS Service, Living ซึ่งมีบทบาทในการขอ
การถ่ายทา การประสาน Films อนุญาตการถ่ายทา
กับ ทีมผลิตภาพยนตร์ ภาพยนตร์ในประเทศไทย
(production house) และการให้การสนับสนุน
ตลอดจน โรงแรม การถ่ายทา
43
กิจกรรม/ขั้นตอน การดาเนินงาน บริษัทที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ร้านอาหาร การท่องเที่ยว - กรมสรรพากร (ภาษี)
เพื่อบริการกองถ่าย - กองตรวจคนเข้าเมือง
- อุทยานแห่งชาติ ป่าไม้
ฯลฯ
-กระทรวงแรงงาน และ
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ
5. การพัฒนา หน่วยงานเอกชน เช่น M กระทรวงวัฒนธรรม Film
ผู้ผลิต Picture School และ และสมาคม
ต่างๆ ได้แก่ สมาคมผู้
กากับภาพยนตร์ไทย
สมาคมภาพยนตร์อิสระ
ไทย สมาคมวิชาชีพ
ภาพยนตร์และดิจิทัลมีเดีย
44
สร้างรายได้ และกาไรเพิ่มเติมจากการให้บริการงานอื่นๆ เช่น งานโฆษณา งานถ่ายทาละครโทรทัศน์ เป็นต้น ได้อีก
ด้วย) ตัวอย่างบริษัททีเ่ กี่ยวข้องกับขั้นตอนการผลิตภาพยนตร์ แสดงดังนี้
(1) ขั้นตอนก่อนการผลิต
บริษัทดาเนินการสร้างภาพยนตร์ หรือ Production Company หรือ Production Service Company
เป็นบริษัทที่เน้นรับจ้างผลิตภาพยนตร์ ได้แก่ บริษัท จอกว้าง ซึ่งมักจะรับงานของ GDH บริษัท บาแรมยู มักจะรับ
งานของ สหมงคลฟิล์ม เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีบริษัทรับจ้างอิสระอื่น ๆ ได้แก่ ซีเนมาเซีย เป็นต้น
เอกสารรายงานการจัดเก็บสถิติข้อมูลมูลค่าอุตสาหกรรมคอนเทนต์แ ละฐานข้อมูล ผู้ประกอบการกิจการใน
อุตสาหกรรมคอนเทนต์ ประจาปี 2563 (บริษัท ฐิติธนฤติ จากัด สมาคมไทยธุร กิจ อิเ ล็ คโทรนิ คบั นเทิง สมาพั น ธ์
สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรม, 2564) ระบุตัวอย่างผู้ประกอบการธุรกิจ การผลิ ตภาพยนตร์
และวีดิทัศน์ เพิ่มเติมรายชื่อ ผู้ประกอบการที่ ขยายช่ องทางสู่ภาคโทรทัศน์ และคอนเทนต์อื่ นๆ จานวนรวม 1,031
ราย รายละเอียดแสดงดังตารางที่ 12
45
ตารางที่ 12 ตัวอย่างรายชื่อผู้ประกอบการธุรกิจ การผลิ ตภาพยนตร์แ ละวีดิทัศน์ 11
ตัวอย่างรายชื่อนิติบุคคลผู้ประกอบการธุร กิจการผลิตภาพยนตร์ และวี ดิทั ศน์
1. บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จากัด 14. บริษัท ต้องตา ฟิล์ม จากัด
2. บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จากัด 15. บริษัท วินไนน์ อินเตอร์แอคทีฟ จากัด
3. บริษัท ฟีโนมีนา จากัด 16. บริษัท เดอะฟิล์ม แฟคตอรี่ จากัด
4. บริษัท หับโห้หิ้น บางกอก จากัด 17. บริษัท เชลล์ฮัท เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จากัด
5. บริษัท เบนีโทน ฟิล์มส์ จากัด 18. บริษัท ดีแล่น ฟิล์ม จากัด
6. บริษัท ไฟว์สตาร์โปรดักชั่น จากัด 19. บริษัท ซุปเปอร์แมน จากัด
7. บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จากัด 20. บริษัท จอยลัคคลับ ฟิล์มเฮาส์ จากัด
8. บริษัท บูลเล็ท โปรดักชั่น จากัด 21. บริษัท จัมโบ้ เอ จากัด
9. บริษัท สองมือ โปรดักชั่น จากัด 22. บริษัท เอ็กแซ็กท์ ซีเนริโอ จากัด
10. บริษัท มาโช แมงโก้ จากัด 23. บริษัท บิงโก บิงโก จากัด
11. บริษัท อิมเมชั่น มีเดีย ครีเอชั่น จากัด 24. บริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จากัด
12. บริษัท มี เทเลวิชั่น จากัด 25. บริษัท เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์ จากัด
13. บริษัท บิ๊กบลู โปรดักชั่น จากัด
11 รวบรวมจากเอกสารรายงานการจัดเก็บสถิติข้อมูลมูลค่าอุตสาหกรรมคอนเทนต์และฐานข้อมูลผู้ประกอบการกิจการในอุตสาหกรรมคอนเทนต์
ประจาปีพ.ศ. 2563 (บริษัทฐิติธนฤติจากัด สมาคมไทยธุรกิจอิเล็คโทรนิคบันเทิง สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรม ,
2564)
46
ตารางที่ 13 ตัวอย่างรายชื่อผู้ประกอบการของธุรกิ จบริ ษัท ตัว แทนและสานั กงานคั ดเลื อกนัก แสดง 12
ตัวอย่างรายชื่อนิติบุคคลด้านผู้ ประกอบการของธุร กิจบริษัทตัว แทนและสานักงานคัดเลื อกนั กแสดง
1. บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนลจากัด 6. บริษัท วันไนน์เจมส์ จากัด
2. บริษัท อุรัสยา แมเนจเมนท์ จากัด 7. บริษัท บริบูรณ์อุดม จากัด
3. บริษัท เฮโล โปรดักส์ชั่น จากัด 8. บริษัท วินเนอร์รอยัล โกลด์ จากัด
4. บริษัท เอสเอ็มพี มีเดีย จากัด 9. บริษัท ทีโออีวาย จากัด
5. บริษัท วันสตาร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จากัด
(2) ขั้นตอนการถ่ายทา
ขั้นตอนการถ่ายทา เป็นการดาเนินงานต่อเนื่องจากช่วงแรกแล้ ว บริษัทที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย โรงถ่าย
ทาภาพยนตร์ และบริษัทสนับสนุนอุปกรณ์
- โรงถ่ายทาภาพยนตร์ เป็นธุรกิจให้เช่าสถานที่ถ่ายทาภาพยนตร์ อาจมีทั้งบ้านโบราณ ท้องพระ
โรง ทุ่งนา ได้แก่ บริษัทกันตนา มูฟวี่ทาวน์ และบริษัทพร้อมมิตรสตูดิโอ เป็นต้น
- บริ ษั ท สนั บ สนุ น อุ ป กรณ์ หรื อ ให้ เ ช่ า อุ ป กร ณ์ หรื อ Rental House หรื อ Production
Equipment Rental House เช่น บริษัท Gear Head, Light Hose, และ Cinerent เป็นต้น บริษัทดังกล่าว ทา
หน้าที่ให้เช่าอุปกรณ์ทุกประเภท เช่น กล้อง ไฟ อุปกรณ์บันทึกเสียง รวมถึงจัดหาผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมอุป กรณ์
ต่างๆ โดยบริษัทเหล่านี้อาจมีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตภาพยนตร์ไทย ภาพยนตร์ต่างประเทศ และสื่ออื่นๆ ด้วย
เอกสารรายงานการจัดเก็บสถิติข้อมูลมูลค่าอุตสาหกรรมคอนเทนต์แ ละฐานข้อมูล ผู้ประกอบการกิจการใน
อุตสาหกรรมคอนเทนต์ ประจาปี 2563 (บริษัท ฐิติธนฤติ จากัด สมาคมไทยธุร กิจ อิ เล็ คโทรนิ คบั นเทิ ง สมาพัน ธ์
สมาคมภาพยนตร์แ ห่ง ชาติ และกระทรวงวั ฒ นธรรม, 2564) ระบุข้อมูลผู้ป ระกอบการของธุร กิจ ให้ เช่ าอุ ป กรณ์
การถ่ายทาภาพยนตร์ รวม 59 ราย ตัวอย่างดังตารางที่ 14
12 เรื่องเดียวกัน
47
ตารางที่ 14 ตัวอย่างรายชื่อผู้ประกอบการของธุรกิ จให้เช่า อุปกรณ์การถ่ายทาภาพยนตร์ 13
รายชื่อนิติบุคคลผู้ประกอบการของธุรกิ จให้เช่า อุปกรณ์การถ่ายท า
1. บริษัท มีเดีย วิชั่น (1994) จากัด 6. บริษัท เล็กไฮไลท์ 2008 จากัด
2. บริษัท ไลท์เฮ้าส์ ฟิล์ม เซอร์วิส จากัด 7. บริษัท เจเอสเอส โปรดักชั่น จากัด
3. บริษัท บ้าน ริก จากัด 8. บริษัท ไทยบันเทิง ไลท์ติ้ง ฟิล์ม เซอร์วิส จากัด
4. บริษัท มุมกล้อง จากัด 9. บริษัท คาเมร่าบี จากัด
5. บริษัท กันตนา โปรดักชั่น เซอร์วิส จากัด 10. บริษัท บี.เจ.เจ.โปรดักชั่น จากัด
(3) ขั้นตอนหลังการผลิต
บริ ษั ท ที่ เ กี่ ย วข้ อ งในกระบวนการหลั ง การถ่ า ยท าภาพยนตร์ หรื อ Post-Production House/ Post
Production Service ทาหน้าที่ปรับแต่งสี ภาพ เสียง การตัดต่อ เทคนิคพิเศษต่างๆ การทาบทบรรยาย และการ
พากย์ เ สี ย ง อย่ า งใดอย่ า งหนึ่ ง หรื อ ด าเนิ น การทั้ ง ระบบ ได้ แ ก่ บริ ษั ท สยามพั ฒ นาฟิ ล์ ม จ ากั ด และบริ ษั ท
Technicolor (Thailand) จากัด เป็นต้น
อีกกลุ่มหนึ่งจะเน้ นความเชี่ ยวชาญเฉพาะทาง ได้แก่ การตัดต่อภาพและเสีย ง เช่น บริษัท กันตนาโพสต์
โปรดักชัน (ไทยแลนด์) จากัด บริษัท Oriental Post จากัด และบริษัท The Post Bangkok จากัด เป็นต้น ทั้งนี้
บางบริษัท อาจเน้นด้านแอนิเมชันและเทคนิคพิเ ศษ เช่น บริษัท กันตนา แอนิเมชัน จากัด บริษัท วิธิตา แอนิเมชัน
จากัด บริษัท Digital Magic จากัด และบริษัท The Monk Studio จากัด เป็นต้น โดยจะเห็นได้ว่ า บริษัทผลิ ต
แอนิเมชันของประเทศไทย มีสถานะเป็น ปลายน้าของกระบวนการผลิต เป็นการรับงานมาผลิ ต หรือพัฒนาต่ อ
มากกว่าเป็นผู้ริเริ่มโครงการภาพยนตร์ตั้งแต่แรก
ประเด็นที่น่าสนใจ คือ บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์จากต่า งประเทศนิ ย มใช้ บริ การบริ ษัท ในประเทศไทยเพื่ อ
ดาเนินงานในส่วนขั้นตอนหลังการผลิตค่อนข้างมาก เนื่องจากความสามารถของคนไทย ประกอบกับปัจจัยค่าแรงที่
ไม่สูงเมื่อ เทีย บกั บ คุ ณภาพผลงาน เกิดเป็นนโยบายประสานความร่ว มมื อให้ เกิ ด การลงทุน ร่ว มกัน หรือจูงใจให้
ต่างประเทศใช้ บริ การ หรือจ้างงานบริษัทผลิ ตของไทย เช่น การภาพยนตร์การ์ตูน เป็นต้น (ดูเพิ่มเติม รักสานต์
วิวัฒน์สินอุดม)
บริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ กระบวนการหลั ง การผลิ ต ได้แก่ บริษัทด้านเพลง ดนตรี และบริษัททาเสี ย ง
บรรยายภาพ หรือ AD (Audio Description) สาหรับผู้พิการทางสายตา
นอกจากนั้ น เอกสารรายงานการจั ด เก็ บ สถิ ติ ข้ อ มู ล มู ล ค่ า อุ ต สาหกรรมคอนเทนต์ แ ละฐาน ข้ อ มู ล
ผู้ ป ระกอบการกิ จ การในอุ ต สาหกรรมคอนเทนต์ ป ระจ าปี 2563 (บริ ษั ท ฐิ ติ ธ นฤติ จ ากั ด สมาคมไทยธุ ร กิ จ
13 เรื่องเดียวกัน
48
อิ เ ล็ ค โทรนิ ค บั น เทิ ง สมาพั น ธ์ ส มาคมภาพยนตร์ แ ห่ ง ชาติ และกระทรวงวั ฒ นธรรม , 2564) รวบรวมข้ อ มู ล
ผู้ประกอบการหลังการผลิต จาแนกเป็น 4 ส่วน ได้แก่
ตารางที่ 15 ตัวอย่างรายชื่อผู้ประกอบการของธุรกิจภายหลังการผลิตภาพยนตร์วีดิทัศน์และรายการโทรทัศน์ 14
รายชื่อนิติบุคคลผู้ประกอบการของธุรกิ จภายหลังการผลิตภาพยนตร์วี ดิทั ศน์แ ละรายการโทรทั ศน์
1. บริษัท เดอะมั้งค์ สตูดิโอ จากัด 6. บริษัท ซิกท์เซ้นซ์ เมจิคอล จากัด
2. บริษัท ไอ-ยูโนะ (ประเทศไทย) จากัด 7. บริษัท จิ๊งคซ์ ฟิล์ม เฮ้าส์
3. บริษัท เอสดีไอ มีเดีย (ประเทศไทย) จากัด 8. บริษัท ฮิวแมน ฟาร์ม วีเอฟเอ็กซ์ สตูดิโอ จากัด
4. บริษัท สไลเดอร์ โปรดักชั่น จากัด 9. บริษัท บิ๊ก โคลส - อัพ จากัด
5. บริษัท พี.ซี.เธียร์เทอร์ จากัด
2. ผู้ประกอบการธุ รกิจ การบริ การตัด ต่ อภาพและเสี ยง (Visual and Sound Effect) จานวน 176 ราย
ตัวอย่างแสดงดังตารางที่ 16
14 เรื่องเดียวกัน
15
เรื่องเดียวกัน
49
3. ผู้ประกอบการธุรกิจการบันทึกเสีย งลงบนสื่อ (Sound Lab) จานวน 173 ราย ตัวอย่างแสดงดังตาราง
ที่ 17
16 เรื่องเดียวกัน
17 เรื่องเดียวกัน
50
(4) บริษัทผู้ให้บริการ Support การถ่ายทาภาพยนตร์ในประเทศหรือประสานงานกองถ่ายต่างประเทศ
ตามแนวคิดของอุต สาหกรรมสร้า งสรรค์ สามารถขยายขั้นตอนการผลิ ตสู่ก ารให้การบริการการถ่า ยท า
ภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยหรือการประสานงานกองถ่ายต่างประเทศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอื่ น ๆ
ทั้งด้านภาพยนตร์และด้านการท่องเที่ยวและบริการ สาหรับบริษัทที่ให้บริการด้านการถ่ายทามีหน้าที่ประสานการ
ท างานระหว่ างบริ ษั ทต่ างประเทศกั บหน่ วยงานรั ฐ บาล ได้ แ ก่ กองกิ จ การภาพยนตร์แ ละวี ดิ ทั ศ น์ต่ างประเทศ
(Thailand Film Office) กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทั้งนี้ เนื่องจากการถ่ายทาภาพยนตร์
ในประเทศไทย ตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทั ศน์ ปี 2551 จาเป็นต้องมีการขออนุญาตการถ่ายทา การพิจารณา
บทภาพยนตร์ก่อนการถ่ายทาภาพยนตร์
51
ตารางที่ 19 ตั ว อย่ า งรายชื่ อ ผู้ ประกอบการของธุ ร กิ จ กลุ่ ม สนั บสนุ น การผลิ ตภาพยนตร์ ใ นประเทศไทย
(ประสานงานกองถ่ายต่างประเทศ) 18
รายชื่อผู้ประสานงานในนามนิติบุคคล รายชื่อผู้ประสานงานในนามบุคคลธรรมดา
1. บริษัท กู๊ดดี้ ฟิล์ม (ไทยแลนด์) จากัด 1. นายปิยะ เปสตันยี
2. บริษัท เบนีโทน (ประเทศไทย) จากัด 2. นายภควัต สุพรรณขันธ์
3. บริษัท เดอ วอร์เรนท์ พิคเจอร์ จากัด 3. ม.ล.ทศวรรณ เทวกุล
4. บริษัท เดอะ ซิกซ์ เอลลิเม้นท์ จากัด 4. นางสาวกานต์พิชชา พงศ์กุลพัฒน์
5. บริษัท ที-เกต จากัด 5. นายเจษฎา เนตร์รุ่ง
6. บริษัท สปิเนล จากัด 6. นางสาวนนทกร มุตตามระ
7. บริษัท ไทย ออกซิเดนทัล โพรดักชั่นส์ จากัด 7. นางสาวผ่องพรรณ จอมศักดิ์
8. บริษัท นากายา โชว์แต่ง จากัด 8. นายเศกศิลป์ จิตตกิจ
9. บริษัท บิ๊กด็อก โปรดักชั่น จากัด 9. นางสาวภคกนก คนหลัก
10. บริษัท โซก้า เอเซีย จากัด 10. นายเทวัญ ฉัตรดารง
กล่าวโดยสรุป
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ไทยโดยเฉพาะภาพยนตร์กระแสหลั ก มีลักษณะการดาเนิน ธุรกิจ ที่ เน้น ผลก าไร
บริษัทที่ลงทุนเป็นบริษัทใหญ่ และจ้างงาน (ต่อ) บริษัทรายย่อย หรือ Production House ส่งผลให้ลิขสิทธิ์ทั้งหมด
เป็นของบริษัทใหญ่ โดยลิขสิทธิ์ของบทภาพยนตร์ส่วนใหญ่มัก เป็นของบริษั ทเจ้าของทุน มีผู้เขียนบทบางคนอาจได้
ลิขสิทธิ์ในบางส่วน โดยเฉพาะหากเป็นผู้ริ เริ่ ม สร้างสรรค์ และคิดเนื้อหาเองทั้ งหมด อย่างไรก็ตามปัจจุบัน เริ่มมี
บริษัทสตูดิโอบางแห่ งจ่ายค่าตอบแทนผู้ เขียนบทเป็ นรายเดื อน เริ่มต้นที่ประมาณ 15,000 บาท/เดือน และหาก
การเขียนบทดังกล่าว มีการทางานร่วมกันเป็นทีม (ใช้นักเขียนจานวนมาก) รายได้โดยเฉลี่ยที่นักเขียนบทในที มแต่
ละคนได้รับจะมีสัดส่วนลดลง (ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ 25 พ.ค. 64)
18 เรื่องเดียวกัน
52
ส าหรั บ กรณี ข องภาพยนตร์ท างเลือ ก ซึ่ ง มุ่ ง เน้ น คุ ณค่ า ทางศิ ล ปะ หรื อ การสื่ อ สารประเด็ น ทางสังคม
มากกว่าภาพยนตร์กระแสหลัก รายได้จากภาพยนตร์ อาจไม่มากเท่าภาพยนตร์กระแสหลัก ซึ่งกลุ่มผู้ผลิตภาพยนตร์
ทางเลือก ต้องเผชิญกั บ การต่ อสู้ กั บระบบธุร กิจ ที่ มุ่ง เน้ นผลกาไร หากไม่ได้รั บเงิ นทุ นสนับ สนุ น อาจส่ งผลให้ ไม่
สามารถผลิตภาพยนตร์ทางเลือกต่อได้ ทาให้ศิลปะภาพยนตร์อาจลดลง และหายไปจากตลาด
53
หน่วยงานที่
อุตสาหกรรม ลักษณะการดาเนินงาน องค์กรธุรกิจ
เกี่ยวข้อง
การจัดจาหน่าย นาภาพยนตร์จากประเทศไทย - สตูดิโอ
ไปยังตลาด ไปจาหน่ายในตลาด - Extra Virgin
ต่างประเทศ ต่างประเทศ
54
มีสัดส่วนประมาณร้อ ยละ 65 (อนงค์นาฏ รัศมีเวียงชัย กุล , 2558) สัดส่วนที่เหลื อร้ อยละ 35 คือ บริษัทนาเข้ า
ภาพยนตร์อิสระ เช่น บริษัทในเครือสหมงคลฟิ ล์ม เช่น มงคลเมเจอร์ มงคลภาพยนตร์ หรือบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ ส
(M Picture) โมโนฟิล์ม (Mono Film) ซึ่งต้องอาศัยการต่อรองกั บเจ้าของลิขสิ ทธิ์รายอื่น ๆ เพื่อให้ได้ภาพยนตร์ ที่
ต้องการ (หรืออาจไม่ต้องการ) หรือเป็นการซื้อภาพยนตร์แบบเหมารวม (Package) ทั้งนี้ ภาพยนตร์ที่นาเข้ามาแล้ว
จะนาไปจัดจาหน่ายในโรงภาพยนตร์ห ลัก ๆ ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลั ก แต่ในพื้นที่ต่างจังหวั ดจะจั ดจาหน่ า ย
ผ่าน “สายหนัง” และสายหนังเร่ (รายละเอียดจะกล่าวถึงในหัวข้อสายหนัง)
ตารางที่ 21 ตัวอย่างรายชื่อผู้ประกอบการของธุรกิจการเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์และรายการโทรทัศน์ 19
19 เรื่องเดียวกัน
55
3. ระบบสายหนัง อาจกล่าวได้ว่า ระบบนี้มีเฉพาะในประเทศไทย เป็นระบบที่มีมาตั้ งแต่อ ดี ตเนื่อ งจาก
ความห่างไกลเชิง พื้ น ที่ การนาภาพยนตร์ (รูปแบบฟิล์ม) ออกจาหน่ายในโรงภาพยนตร์ ต่า งจั ง หวั ด ต้องอาศั ย
ตัวกลางในท้องถิ่น หรือที่เรียกว่า “สายหนัง” ที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่ต่า งจังหวัดหรื อโรงภาพยนตร์ ต่างจั ง หวั ด
มากที่สุด แบ่งตามแต่ละพื้นที่ (ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียง 4 สาย) (ชญาณิน ธนสุขถาวร, 2556) คือ
- สายเหนื อ และแปดจั ง หวั ด รอบกรุง เทพฯ ได้ แ ก่ นครปฐม สุ พรรณบุ รี กาญจนบุรี ราชบุ รี เพชรบุรี
ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร และสายเหนือ เรียกว่า “สายธนา” มาจากตระกูล “ธนารุ่งโรจน์”
เจ้าของโรงภาพยนตร์ธนาซีนีเพล็กซ์ (Thana cineplex) และค่ายภาพยนตร์พระนครฟิล์ม
- สายใต้ ภายใต้การควบคุมของ “โคลีเซียมฟิล์ม” โดยโรงภาพยนตร์โคลีเซียซีนีเพล็กซ์
- สายตะวันออก ควบคุมโดย “สมานฟิล์ ม” ของตระกู ล ทองร่ มโพธิ์ และดาเนิน กิจ การโรงภาพยนตร์
มัลติเพล็กซ์ในนาม SF Cinema หรือ SF
- สายอีสาน รวมสระบุรี มี 2 บริษัท ได้แก่ “มูวี่ พาร์ทเนอร์ เนวาดา” (Nevada) และไฟว์สตาร์
ทั้ ง นี้ จุ ด เด่ น ของการมี ส ายหนั ง คื อ ท าให้ ภ าพยนตร์ ก ระจายสู่ พื้น ที่ ทั่ ว ประเทศได้ อ ย่ า งรวดเร็วขึ้น
ภาพยนตร์ทจี่ าหน่ายให้สายหนังจะเป็นการ “จาหน่ายสิทธิ์” ในลักษณะ “จาหน่ายขาด” และตกลงราคากับผู้ผ ลิ ต
เองหรือตัวแทนจัดจาหน่าย การจาหน่ายสายหนัง เป็นการคาดการณ์ เพราะอาจจาหน่ายราคาหนึ่งแต่เมื่อฉายกลั บ
ได้กาไร (บางครั้งอาจขาดทุน) กาไรที่ได้ไม่ต้องให้คืนกั บผู้ผ ลิต รวมถึง เมื่อแบ่งตามภูมิภาค อาจทาให้เกิดการฉาย
ภาพยนตร์เฉพาะภาคได้ เช่น กรณีสายหนังอีสาน (ผู้ผลิตคือ “ผู้บ่าวไทบ้าน”)
สาหรับข้อจากัดของการมีสายหนัง คือ การผูกขาด ซึ่งนอกจากสายหนังแล้ว ยังมีระบบ “สายหนังเร่” ที่
ฉายหนังเร่ไปตามพื้นที่ต่างๆ ระบบนี้จะซื้อ “กากหนัง” หรือภาพยนตร์ที่ฉายผ่านสายหนังมาแล้วนาไป “เร่” ฉาย
ตามพื้นที่ต่างๆ กากหนังมีคุณภาพที่ไม่ดีนักและจะฉายไปเรื่อยๆ จนไม่อาจฉายได้หรือไม่มีผู้ชม ซึ่งถือได้ว่าเป็นการ
สร้างรายได้และทากาไรอีกทางหนึ่ง
4. การจัดจาหน่ายภาพยนตร์สู่ต่างประเทศ ในอดีตเป็นการติดต่อจากบริษัทภาพยนตร์ต่างประเทศเพื่ อ น า
ภาพยนตร์ จ ากประเทศไทยไปฉายในต่ า งประเทศ ได้ แ ก่ Europacorp, Golden Network, Fortissimo แต่
ปัจจุบัน สตูดิโอเริ่มจัดจาหน่ายเอง โดยเฉพาะภาพยนตร์ที่ต่างประเทศสนใจ
56
ส า หรั บ ภา พยน ตร์ กร ะแสทา งเลื อ ก เริ่ ม มี บ ริ ษั ท Extra Vergin, Mosquito Film Distribution
ประสานงานติดต่อนาภาพยนตร์ไปฉายต่างประเทศ แต่ทั้งนี้เนื่องจากค่าลิขสิทธิ์มีมูล ค่าน้อย เช่น การเผยแพร่ผ่าน
ช่ อ งทางเทศกาลภาพยนตร์ต่ างประเทศ ซึ่ ง ท ารายได้ ค่ อ นข้ างน้อ ย และอาจได้ เ พี ยงแค่ ค่า ธรรมเนี ยมการฉาย
(Screening Fee) จึงทาให้ผู้ผลิตภาพยนตร์หรือผู้กากับภาพยนตร์จาเป็นต้องติดต่อ ด้วยตนเอง
57
ตารางที่ 22 ช่องทางการฉายภาพยนตร์ในประเทศไทย (วิเคราะห์โดยคณะทางาน)
อุตสาหกรรม ลักษณะการดาเนินการ องค์กรธุรกิจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โรงภาพยนตร์ - โรงภาพยนตร์กระแส บริษัทเมเจอร์, เอส เอฟ - กระทรวงวัฒนธรรม
หลักมักจะผูกขาดจาก - ค่าลิขสิทธิ์โรง และ
เจ้าใหญ่ VPF จากต่างประเทศ
- มีโรงภาพยนตร์ศิลปะ - หอภาพยนตร์
จานวนน้อย ไม่นับรวม - โรงเรียนหรือสถาบัน
โรงภาพยนตร์ใน การสอนภาพยนตร์
สถาบันการศึกษา
ดีวีดี การนาภาพยนตร์ บริษัทโรส แมงป่อง - กรมสรรพากร
เผยแพร่ผ่านบ้าน แต่ และอืน่ ๆ -กระทรวงวัฒนธรรม
เริ่มตกต่า
อื่นๆ ได้แก่ การฉายตาม การนาภาพยนตร์ - กรมสรรพากร
โทรทัศน์ โรงแรม ฯลฯ เผยแพร่ผ่านช่องทาง -กสทช. (กรณีการฉาย
อื่นๆ แต่จะหลังจาก ในโทรทัศน์)
การเผยแพร่ผ่านดีวีดี
Streaming จัดฉายภาพยนตร์และ Netflix, iFlix, Hooq, - บริษัท Netflix จาก
นาไปสู่การผลิต TureID, MonoMaxx ต่างประเทศ
ภาพยนตร์ - กรมสรรพากร
-กสทช. (ควรมี
บทบาทในการกากับ
ดูแลอย่างไร)
เทศกาลภาพยนตร์ การนาภาพยนตร์ฉาย - กระทรวงวัฒนธรรม - กระทรวงพาณิชย์
ในเทศกาล ซึ่งมีเพื่อ (เฉพาะภาพยนตร์ - สถานทูต
เผยแพร่แล้วยังเกี่ยวกับ อาเซียน) - เทศกาลภาพยนตร์
ตลาดภาพยนตร์ - รายย่อย ในต่างประเทศ
58
สาหรับช่องทางการฉายผ่านเทศกาลภาพยนตร์ ภาพยนตร์ไทยมักผลิตเพื่อการฉาย โดยขาดการวางแผน
เรื่องการสร้างช่อ งทางการตลาดภาพยนตร์ และการพัฒ นาผู้ ผ ลิต รายละเอียดของช่ องทางการฉายภาพยน ตร์
อธิบายได้ดังต่อไปนี้
1. โรงภาพยนตร์ สามารถแบ่งได้ตามเกณฑ์ ดังนี้
- โรงภาพยนตร์ที่ไ ม่ใ ช่รู ปแบบธุ รกิจ ได้แก่ โรงภาพยนตร์ในมหาวิ ทยาลัย สถานทูต และหอภาพยน ตร์
เป็นต้น
- โรงภาพยนตร์รูปแบบธุรกิ จ เน้นโรงภาพยนตร์ ขนาดใหญ่ ภายใต้การดูแลของบริษั ทขนาดใหญ่ ได้แ ก่
บริษัทในเครือเมเจอร์ เครือเอสเอฟ (SF) ซึ่งมักขยายกิจการไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ด้วย เช่น การผลิต สายส่ง ส่งผลให้เกิ ด
การกีดกัน และจากัดโอกาสของการเผยแพร่ภาพยนตร์โดยเฉพาะภาพยนตร์กระแสทางเลื อก หรือ ภาพยนตร์นอก
กระแส แต่เนื่องจากวิกฤติสถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบัน ทาให้เริ่มมีการขยายช่อ งทางการฉายผ่านช่อ งทาง
อื่นๆ โดยเฉพาะระบบออนไลน์
ทั้งนี้ รายได้ของการฉายภาพยนตร์ได้จากการแบ่งสัดส่ วนร้อยละ หรือเรียกว่า Flat Late เป็นอัตราที่ต้อ ง
จ่ายเท่ากัน หรือร้อยละ 50 : 50 แต่หากเป็นภาพยนตร์ กระแสทางเลือ กอาจได้ รับ ในสัด ส่ว นที่ น้อ ยกว่า รวมถึ ง
สัดส่วนที่ได้รับ อาจแตกต่า งกัน ในแต่ล ะสัป ดาห์ โดยเจ้า ของภาพยนตร์ต้ อ งจ่ายเงิน ค่า VPF (Virtual Print Fee)
หรือค่าธรรมเนียมสาหรับการฉายภาพยนตร์ระบบดิจิทัลให้กับโรงภาพยนตร์ อีกด้วย
นอกจากผู้เล่นรายใหญ่ที่ได้ก บริษัทเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ และเอสเอฟ แต่ในความเป็นจริงยังมีบริษัทอื่นๆ อีก
ดังเอกสารรายงานการจั ด เก็ บ สถิ ติ ข้อ มู ล มู ลค่ าอุ ต สาหกรรมคอนเทนต์แ ละฐานข้ อ มูล ผู้ ประกอบการกิจ กา รใน
อุตสาหกรรมคอนเทนต์ประจาปี พ.ศ. 2563 (บริษัทฐิติธนฤติจากัด สมาคมไทยธุรกิจอิเล็คโทรนิคบัน เทิง สมาพันธ์
สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรม, 2564) ได้ระบุถึงผู้ประกอบการของธุรกิจด้านโรงภาพยน ตร์ มี
จานวน 70 ราย ดังตัวอย่างตามตารางที่ 23 นี้
20 เรื่องเดียวกัน
59
อย่างไรก็ตาม จากวิกฤตสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ตั้งแต่ปี 2563 เรื่อยมาถึงปัจจุบัน (2564) โรง
ภาพยนตร์ได้รับผลกระทบในการปิด โรงภาพยนตร์เ พื่อป้ องกันโรคระบาด ในทางกลับกันกลับทาให้เกิด การเติ บ โต
ของระบบออนไลน์ มากขึ้ น ซึ่งทาให้การตั้ง คาถามถึ งอานาจหรื ออิ ทธิ พลของโรงภาพยนตร์ ในอนาคตว่า จ ะมี อ ยู่
หรือไม่ จากการสัมภาษณ์เ ชิง ลึก และการระดมความคิด เห็ นจากผู้เ ชี่ยวชาญ คณะทางานพบว่ามี ความคิ ดเห็ น ใน
สองทิศทาง ทิศทางแรก มีความเห็นว่าโรงภาพยนตร์จะยั งคงมี อิทธิ พลต่ออุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ต่อ ไป ขณะที่อี ก
ด้านมีความเห็นว่า โรงภาพยนตร์จาเป็นต้องปรับตัว เพื่อที่จะสามารถดารงอยู่ได้ ต่อไปในอนาคต
60
ตารางที่ 24 ตั ว อย่ า งรายชื่ อ ผู้ ประกอบการของธุ ร กิ จ การดู แ ลสิ ท ธิ ในการผลิ ตซ้ าภาพยนตร์ วีดิทั ศน์ และ
รายการโทรทัศน์เพื่อจาหน่า ยหรือ เผยแพร่ 21
รายชื่อนิติบุคคลผู้ ประกอบการของธุร กิจการดู แลสิท ธิในการผลิ ตซ้ าภาพยนตร์วีดิทัศน์แ ละรายการโทรทั ศ น์
เพื่อจาหน่ายหรือเผยแพร่
1. บริษัท เอส เอฟ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จากัด 7. บริษัท อาร์ท้อป มีเดีย (ไทยแลนด์) จากัด
2. บริษัท มูฟวี่ พาร์ทเนอร์ จากัด 8. บริษัท ซันเดย์ สทิล เวิร์คกิ้ง จากัด
3. บริษัท ออนป้า อินเตอร์เนชั่นแนล จากัด 9. บริษัท มงคล เมเจอร์ จากัด
4. บริษัท มีเดียเพล็กซ์ สตูดิโอ จากัด 10. บริษัท มูฟวี่ ก็อปปี้ไรท์ (ไทยแลนด์) จากัด
5. บริษัท ฮัน มีเดีย คัลเจอร์ จากัด
6. บริษัท ดิจิตอล ครีเนอร์จี จากัด
2. ผู้ประกอบการของธุรกิจการขายส่ งสื่อ บันทึ กเสีย งและวี ดิทั ศน์ที่ บันทึก ข้อ มูลแล้ วมีจานวน 92 ราย ดัง
ตัวอย่างตามตารางที่ 25 นี้
ตารางที่ 25 ตัวอย่างรายชื่อผู้ประกอบการของธุรกิจการขายส่งสื่อบันทึกเสียงและวีดิทัศน์ที่บันทึกข้อมูลแล้ว 22
รายชื่อนิติบุคคลผู้ประกอบการของธุรกิ จการขายส่งสื่ อบัน ทึกเสียงและวี ดิทั ศน์ ที่บัน ทึกข้อมู ลแล้ว
1. บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จากัด (มหาชน) 6. บริษัท ทูซีบรอดคาส จากัด
2. บริษัท สวีท แอนด์ คูล เอเจนซี่ (1999) จากัด 7. บริษัท เอ็มพีโอ เอสซีเอ็ม จากัด
3. บริษัท แคททาลิสท์ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จากัด 8. บริษัท อินสไปร์มิวสิค จากัด
4. บริษัท เจเนซิส มีเดียคอม จากัด 9. บริษัท เอ็ม วี ดี จากัด
5. บริษัท เอ็กซ์ เอ็กซ์ แอล พาวเวอร์ ซาวด์ จากัด
21 เรื่องเดียวกัน
22 เรื่องเดียวกัน
61
ฉายหลังจากที่ภาพยนตร์ออกฉายในโรงภาพยนตร์ไ ม่นานนัก หรือเช่นในช่วงวิกฤติสถานการณ์ COVID-19 อาจจะ
เข้าฉายก่อน
ปัจจุบันระบบสตรีมมิ่ง มีขนาดใหญ่ กระทั่งสามารถสนับสนุนทุนในการผลิ ตภาพยนตร์โ ดยตรงได้อี ก ด้ ว ย
ดังกรณีของ Netflix ซึ่งจะส่งผลต่ออานาจการควบคุมเนื้อหาและวิธี การทางานแบบตะวันตก นอกจากนี้ ยังเกิดข้อ
กังวลเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ระบบการคุ้มครองลิขสิทธิ์ และอัตราการจ่ายค่าตอบแทน ที่อาจเกิดปัญหาในอนาคต
23 เรื่องเดียวกัน
62
5. เทศกาลภาพยนตร์ โดยหลั ก การเทศกาลภาพยนตร์ เ ป็ นทั้ ง แหล่ ง ฉายภาพยนตร์ และเป็ น ตลาด
ภาพยนตร์ หรือ Film Market ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรม และการยกระดับผู้ชมให้มีความเข้าใจ และ
เห็นโลกภาพยนตร์มากขึ้น การให้รางวัล และการเผยแพร่วัฒนธรรมของชาติ (Kerrigan, 2017 และพันธ์ธัมม์ ทอง
สั ง ข์ , 2551) ส าหรั บ ประเทศไทย มิ ติ ที่ ข าดหายจากเทศกาลภาพยนตร์ คื อ Film Market และการพั ฒ นา
อุตสาหกรรม เช่น การเป็นพื้นที่พบปะกันของกลุ่มผู้ผลิตภาพยนตร์ การพัฒนาโครงการภาพยนตร์ใหม่ ๆ
ปัจจุบัน เทศกาลภาพยนตร์ในประเทศไทยซึ่ งจัดขึ้นปี ละครั้ง ดาเนินการโดยกระทรวงวัฒนธรรม เน้นการ
ฉายภาพยนตร์ อ าเซี ย น (Bangkok ASEAN Film Festival) โดยที่ ผ่ า นมาการจั ด เทศกาลภาพยนตร์ Bangkok
International Film Festival จะเน้ น ภาพยนตร์ นานาชาติ และมี ก ารจัด การประกวดภาพยนตร์ เช่ น สุ พรรณ
หงส์ทองคา โดยสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ และชมรมวิจารณ์บันเทิง แต่ ไม่เน้นการจัดฉายภาพยนตร์
นอกจากนี้ มีการจัดเทศกาลภาพยนตร์ขนาดเล็ก เช่น โรงเรียนหรือสถาบันมักจะจัดเทศกาลภาพยนตร์ สั้ น
ของนักศึกษา ได้แก่ “หนังกางจอ” ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “คอหนัง” ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” เป็น
ต้น รวมทั้ง มีการจัดเทศกาลภาพยนตร์ในต่างประเทศ โดยกระทรวงพาณิชย์ และสถานทูตไทยประจาต่างประเทศ
เพื่อส่งเสริมเทศกาลภาพยนตร์ การเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศ และการเปิดพื้นที่ให้ต่างประเทศได้ ช ม
ภาพยนตร์จากประเทศไทย รวมถึงการส่งเสริมการจัดจาหน่ายภาพยนตร์ไทย
ภายใต้กิจกรรมการฉายภาพยนตร์ จะพบว่า ภาคธุรกิจทั้งภายในประเทศ (บริษัทที่เกี่ยวกับโรงภาพยนตร์
และดีวีดี) และธุรกิจภายนอกประเทศ (บริษัทจัดการ/จัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ ลิขสิทธิ์โรงภาพยนตร์ VPF และ
บริษัทสตรีมมิ่งในระดับ ต่างประเทศ เช่น Netflix) มีบทบาทสาคัญไม่ ต่างจากห่ว งโซ่อุป ทานของการเผยแพร่ / จั ด
จ าหน่ า ย ส าหรั บ ภาครั ฐ ที่ เ ข้ า มาเกี่ ย วข้ อ งจะมี ทั้ ง ด้ า นการควบคุ ม ก ากั บ ดู แ ล เช่ น กระทรวงวั ฒ นธร ร ม
กรมสรรพากร รวมถึง กสทช. และด้านการให้ความสนับ สนุน เช่น กระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงกระทรวงพา ณิ ช ย์
สถานทูต ซึ่งจัดเทศกาลภาพยนตร์
63
ตารางที่ 27 แนวทางการบริโภคภาพยนตร์ในประเทศไทย (วิเคราะห์โดยคณะทางาน)
เป้าหมาย การดาเนินงาน องค์กรธุรกิจที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานสนับสนุน
การส่งเสริมการตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ สตูดิโอดาเนินการเอง หรือ สื่อมวลชน (ช่วยเผยแพร่ละ
เริ่มตั้งแต่ก่อนการผลิต การจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษา ประชาสัมพันธ์ข้อมูล)
ภาพยนตร์ (เพื่อการ หรือบริษัทโฆษณา
จาหน่ายภาพยนตร์) ประชาสัมพันธ์ และบริษัท
จนกระทั่งขั้นตอนสุดท้ายคือ R&D ดาเนินการ
เมื่อภาพยนตร์เข้าฉาย และ
ผู้ชมได้รับชมภาพยนตร์
ดังกล่าวนั้น (จบ) แล้ว
การพัฒนาผู้ชม การสารวจผู้ชม และ Film Doc Club - หอภาพยนตร์
การยกระดับความรู้เกี่ยวกับ - Film School
ภาพยนตร์แก่ผู้ชม - นักวิจารณ์ภาพยนตร์
64
2) การพัฒนาผู้ชม เป็นแนวคิดใหม่ที่ตั้ งอยู่บ นฐานของการให้ความสาคัญ กับภาพยนตร์ในมิ ติศิ ลปะ ที่ให้
ความสนใจทั้งฝ่ายการผลิต และผู้ชม แนวคิดดังกล่าวเกิดขึ้น ในยุโรป โดยเน้นการพัฒนาผู้ชมตั้ งแต่ร ะดับโรงเรี ย น
ดังนั้น หากเข้าใจผู้ชม พร้อมกับการยกระดั บ และพัฒนาความรู้ด้านศิล ปะภาพยนตร์แ ก่ ผู้ ชม จะช่วยให้สามารถ
ส่งเสริมอุต สาหกรรมภาพยนตร์ ให้ เ ติบ โตได้ สาหรับประเทศไทย องค์กรที่รับผิ ดชอบภารกิจ ดั งกล่า วนี้ คือ หอ
ภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2542 ทาหน้าที่รวบรวมข้อมูลด้านภาพยนตร์ และพัฒนาผู้ช มให้ มี
ความรู้ความเข้าใจศาสตร์ของภาพยนตร์ ผ่านการฉายภาพยนตร์ ทั้งในหอภาพยนตร์และการออกตระเวนฉายผ่ า น
รถโรงภาพยนตร์ การจัดเทศกาลภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์และนิทรรศการด้านภาพยนตร์ การจัด “โรงเรียนหนัง” การ
พัฒนาศูนย์ข้อมูลด้านภาพยนตร์ และการประชุมการเสวนาทางวิชาการ เป็นต้น (กาจร หลุยยะพงศ์, 2563)
65
4.4 ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
4.4.1 ประเภทของผู้มีส่วนได้ส่ว นเสี ย
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์โดยจาแนกเป็น 8 กลุ่ม ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบและองค์ ก ร
ได้แก่ อุตสาหกรรม สหภาพ รัฐ เอกชน องค์กรต่างประเทศ ผู้ชม สื่อมวลชน นอกจากนั้นยังขยายไปสู่นักการเมื อ ง
ซึ่งอาจเป็นกลุ่มคนที่อาจมองข้ามไปในการวิเคราะห์ห่ว งโซ่ คุ ณค่า และได้แสดงให้เห็นความเกี่ยวข้องกับห่ว งโซ่ และ
ตัวอย่างองค์กร ดังตารางที่ 28 ต่อไปนี้
66
ตารางที่ 28 ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ (วิเคราะห์โดยคณะทางาน)
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ความเกี่ยวเนื่องในโซ่อุปทาน ตัวอย่างองค์กร
ขั้นตอนในห่วงโซ่คุณค่า พัฒนา ผลิต เผยแพร่ ฉาย บริโภค
1.ภาคอุตสาหกรรม
ภาพยนตร์
1.1 สตูดิโอ x x x x x GDH สหมงคลฟิล์ม M Picture
1.2 ผู้ผลิตภาพยนตร์อิสระ x x x x x อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล
อโนชา สุวิชากรพงศ์
1.3.บริษัท Production x บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ ได้แก่ จอ
House กว้าง, บาแรมยู,
Transformation, ซีนีมาเซีย และ
Happy Ending Film ของนวพล
ธารงรัตนฤทธิ์
- บริษัทหรือ Agency ด้าน
นักแสดง
- บริษัทขนาดเล็กที่ดูแลด้านเสื้อผ้า
หน้าผม
ธุรกิจที่เกี่ยวกับหรือสนับสนุน x - บริษัทให้เช่าอุปกรณ์ เช่น Gear
การผลิต Head, Light House, Cinerent,
VS Service
- บริษัทโรงถ่ายภาพยนตร์ เช่น
กันตนา มูฟวี่ ทาวน์, พร้อมมิตร
ฟิล์ม สตูดิโอ
หลังการผลิต x - Film Lab ได้แก่ สยามพัฒนา
(Post production) ฟิล์ม จากัด บริษัท Technicolor
(Thailand)
- บริษัทด้านตัดต่อภาพและเสียง
ได้แก่ กันตนา โพสต์ โปรดักชั่น,
Oriental Post, The Post
Bangkok
67
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ความเกี่ยวเนื่องในโซ่อุปทาน ตัวอย่างองค์กร
- บริษัทด้านแอนิเมชัน และเทคนิค
พิเศษ ได้แก่ Digital Magic, The
Monk Studio, วิธิตา แอนิเมชัน,
กันตนา แอนิเมชัน, Imagimax
- บริษัทด้านเพลง ดนตรี
- รวมถึงบริษัทที่อาจทาหน้าที่เช่น
การทา AD หรือเสียงบรรยายภาพ
1.4 บริษัทสนับสนุนการถ่าย x - Indochina Productions
ทาภาพยนตร์ต่างประเทศ - VS Service
- Living Films
- Benetone Films
1.5 บริษัทจัดจาหน่าย
1.5.1 ต่างประเทศ กลุ่มเมเจอร์ และอิสระ
x
1.5.2 ในประเทศ x สตูดิโอในประเทศ
1.5.3 สายหนังและหนังเร่ x - สายเหนือและแปดจังหวัดรอบ
กรุงเทพฯ เรียกว่า “สายธนา”
- สายใต้ ภายใต้การควบคุมของ
“โคลีเซียมฟิล์ม”
- สายตะวันออก ควบคุมโดย
“สมานฟิล์ม”
- สายอีสาน ซึ่งรวมสระบุรี มีบริษัท
สองแห่งคือ “มูวี่ พาร์ทเนอร์
เนวาดา” (Nevada) และไฟว์สตาร์
1.5.4 จาหน่ายภาพยนตร์ x Extra Virgin, Mosquito film
ต่างประเทศ Distribution
1.6.บริษัทฉาย
1.6.1 โรงภาพยนตร์ Major, SF, House,
x สถาบันการศึกษา
68
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ความเกี่ยวเนื่องในโซ่อุปทาน ตัวอย่างองค์กร
1.6.2 ดีวีดี x แมงป่อง Right Beyond,
Catalyst, Rose Media
1.6.3 ช่องทางอื่นๆ x การจาหน่ายตามช่องทางต่างๆ เช่น
โรงแรม โทรทัศน์
1.6.4 Streaming/OTT x Netflix, iFlix
1.6.5 เทศกาลภาพยนตร์ x - กระทรวงวัฒนธรรม
- สถาบันการศึกษา เช่น ภาพยนตร์
นักศึกษา “กางจอ” “คอหนัง”
อนึ่ง มีการจัดการประกวด ได้แก่
สุพรรณหงส์ทองคา โดยสมาพันธ์
สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ
1.7. ผู้ชม
1.7.1 การประชาสัมพันธ์ -สตูดิโอทาเอง
x -บริษัทรับผลิตงาน
และ R&D
1.7.2 การพัฒนาผู้ชม x - หอภาพยนตร์
- Film school
- นักวิจารณ์ภาพยนตร์
- Film Doc Club
2. สมาคมวิชาชีพ/ สหภาพ x x x - สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์
แห่งชาติ
- สมาคมผู้กากับภาพยนตร์
- ชมรมวิจารณ์บันเทิง
- สมาคมวิชาชีพภาพยนตร์และ
ดิจิทัลมีเดีย
- สมาคมภาพยนตร์อิสระไทย
3.รัฐ - คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิ
3.1 กระทรวงวัฒนธรรม x x x x ทัศน์แห่งชาติ (film board)
69
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ความเกี่ยวเนื่องในโซ่อุปทาน ตัวอย่างองค์กร
-กลุ่มเลขานุการคณะกรรมการ
ภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ
สานักงานปลัด กระทรวงวัฒนธรรม
(ผลักดันนโยบาย)
- สานักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิ
ทัศน์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
กระทรวงวัฒนธรรม
3.2 กระทรวงการท่องเที่ยว x - กองกิจการภาพยนตร์
และกีฬา
3.3 กรมสรรพากร x x x x x - เก็บภาษี ลดภาษี
3.4 สานักงานคณะกรรมการ x x - สนับสนุนการผลิต
ส่งเสริมการลงทุน (BOI) - สนับสนุนการฉายในต่างประเทศ
3.5 สถานทูต x -สนับสนุนตลาดภาพยนตร์
3.6. กระทรวงพาณิชย์ x ต่างประเทศ ปกป้องทรัพย์สิน
3.7 กรมทรัพย์สินทางปัญญา x x X X -ลิขสิทธิ์
3.8 ตม. ศุลกากร x - ทา work permit ได้แก่ กรม
3.9 หน่วยงานที่เกี่ยวกับการ x อุทยาน กรมป่าไม้
อนุมัติสถานที่ถ่ายทา
ภาพยนตร์
3.10 หอภาพยนตร์ x สนับสนุนด้านองค์ความรู้
ฐานข้อมูล ภาพยนตร์ การฉาย
และการพัฒนาผู้ชม
3.11 Film School x x x x x มหาวิทยาลัยรัฐ เช่น จุฬาฯ
ธรรมศาสตร์ ศิลปากร มศว.
เชียงใหม่ ฯลฯ
มหาวิทยาลัยเอกชน เช่น ม.
กรุงเทพฯ ม.รังสิต
70
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ความเกี่ยวเนื่องในโซ่อุปทาน ตัวอย่างองค์กร
3.12 กระทรวงแรงงงาน และ x น่าจะเข้ามาดูแลเรื่องกฎหมาย
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ แรงงาน สวัสดิภาพแรงงาน
ภาพยนตร์ และยกระดับวิชาชีพ
4.ภาคเอกชน
4.1 กลุ่มสปอนเซอร์ x สนับสนุนทาภาพยนตร์
4.2 กลุ่มโรงแรม อาหาร x
ท่องเที่ยว/ชุมชน
4.3 Film doc club x
4.4 เพลง ดนตรี x
4.5 character x
5. องค์กรต่างประเทศ x X x x x - บริษัทภาพยนตร์ต่างประเทศ
- องค์กรภาพยนตร์ต่างประเทศ
เช่น CNC, KOFIC ซึ่งจะเกี่ยวข้อง
กับการให้ทุน เทศกาลภาพยนตร์
6. ผู้ชม x (สัมพันธ์กับหัวข้อ 1.7. ผู้ชม)
7. สื่อมวลชนและนักวิจารณ์ x
8. นักการเมือง x x x x x
71
4.4.2 การวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย (Stakeholder Analysis) ในอุตสาหกรรม
จากการศึกษาพบว่าสามารถจาแนกผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมความเกี่ยวข้อ งได้แสดงดั งภาพที่ 11 นี้
72
การนาชุมชนเข้ามามีส่ว นร่ว มสนับ สนุนทุ น หรือการอานวยความสะดวก การเอื้อเฟื้อสถานที่และปัจจัย ต่างๆ ที่
จาเป็นต่อการถ่ายทาภาพยนตร์ รวมถึงกลุ่มธุรกิจที่ได้รั บผลสืบ เนื่อ ง ทั้งการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจ
บันเทิงกลุ่มเพลง ดนตรี แฟชั่น และคาแรคเตอร์ เป็นต้น
ตารางที่ 29 สถานการณ์/ปัญหาของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไ ทย
ห่วงโซ่การผลิต สถานการณ์/สภาพปัญหาในปัจจุ บัน
การพัฒนาและ บริษัทใหญ่มีเงินทุนในการผลิตผลงานคุณภาพ
ผลิตภาพยนตร์ ภาพยนตร์อิสระได้รับการสนับสนุนเงินทุน และการยอมรับน้อยกว่าภาพยนตร์
กระแสหลัก
เอกภาพของผู้ประกอบการค่อนข้างต่า มีการรวมตัวกันอย่างหลวมๆ
บทภาพยนตร์ขาดคุณภาพ นาเสนอเนื้อเรื่องซ้าๆ
นโยบายภาครัฐเป็นอุปสรรคต่อการทางานของกองถ่ายทาภาพยนตร์จาก
ต่างประเทศ
Film Board เป็นหน่วยงานตรวจบทภาพยนตร์ของกองถ่ายทาภาพยนตร์จาก
ต่างประเทศ
การแข่งขันอย่างรุนแรงของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศเพื่ อนบ้าน
สวัสดิการของแรงงาน ผู้ปฏิบัติงานอยู่ในระดับต่า
การเผยแพร่ ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์
73
ห่วงโซ่การผลิต สถานการณ์/สภาพปัญหาในปัจจุ บัน
และการฉาย การขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ
การไม่มีช่องทางที่สนับสนุนให้เกิดการซื้อและจาหน่ายภาพยนตร์เหมือนเช่นใน
เทศกาลภาพยนตร์
การผูกขาดของโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่
การเติบโตของ Streaming Service ครองส่วนแบ่งการตลาด และลดบทบาทของ
โรงภาพยนตร์
ภาพยนตร์จาก Hollywood ยึดครองพื้นที่ในโรงภาพยนตร์
ผู้ชม ความนิยมดูภาพยนตร์ต่างประเทศมากกว่าภาพยนตร์ ไทย
ภาพยนตร์ทางเลือกของไทยได้รับการยอมรับน้อย
การเติบโตของ Streaming ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการชมภาพยนตร์
เงื่อนไขด้านเศรษฐกิจ (ราคาตั๋วภาพยนตร์ค่อนข้างแพง)
การขาดงานวิจัยและบทวิเคราะห์การตลาดที่เหมาะสม/ต่อ เนื่อง เกี่ยวกับการ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคในการชมภาพยนตร์ไทย
ภาครัฐ การขาดนโยบายสนับสนุน และเอื้อต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม
ความซ้าซ้อนในการดาเนินงานของหน่วยงานกากับดูแลภาครัฐ
การสนับสนุนงบประมาณจานวนน้อย และมีเงื่อนไขที่จากัด
การขาดความเข้าใจเกี่ยวกับมูลค่าของอุตสาหกรรม และความกังวลเรื่องความ
เสี่ยงในการให้ทุนแก่เอกชน (ขาดทุน)
การทางานร่วมกับเอกชนค่อนข้างน้อย
นโยบายการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ทาให้ภาพยนตร์ไทยไม่พัฒนา
หน่วยงานกากับดูแลของภาครัฐ แต่ละหน่วยงานมีภารกิจทีไ่ ม่ได้มุ่งเน้นการ
ส่งเสริมเฉพาะด้านภาพยนตร์อย่างจริงจัง
ฐานข้อมูล ข้อมูลที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม มีการจัดเก็บแบบแยกส่วนตามวัตถุประสงค์ของ
หน่วยงานที่รวบรวม ทาให้ข้อมูลกระจัดกระจายไม่มีหน่วยงานกลางที่รวบรวม
ข้อมูลให้เป็นระบบ
การไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลบางประเภทได้
การขาดข้อมูลที่สาคัญต่ออุตสาหกรรม อาทิ ช่องทางการติดต่อบุคลากร อัตรา
ค่าตอบแทนแรงงานในสาขาอาชีพต่างๆ ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และแหล่ง
สนับสนุนเงินทุน เป็นต้น
74
ห่วงโซ่การผลิต สถานการณ์/สภาพปัญหาในปัจจุ บัน
ข้อมูลบางส่วนขาดความน่าเชื่อถือ
75
ห่วงโซ่การผลิต จุดเด่น
ภาครัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์
ภาครัฐตระหนักถึงความสาคัญของการบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกันในแต่ละหน่วยงาน
ฐานข้อมูล ข้อมูลบางส่วนที่มีการรวบรวมไว้ แต่ไม่ได้รับการเผยแพร่
ข้อมูลทั่วไปของอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่สามารถสืบค้นได้ทางอินเตอร์เน็ต
การจัดเก็บรวบรวมข้อมูล แยกตามวัตถุประสงค์การใช้งานของแต่ละหน่วยงาน
ตารางที่ 31 เป้าหมายในอนาคตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไ ทย
ห่วงโซ่การผลิต เป้าหมายในอนาคต
การพัฒนาและ การส่งเสริมบทภาพยนตร์ และมาตรฐานการผลิตให้เทียบเท่าระดับสากล
ผลิตภาพยนตร์ การสร้าง และพัฒนานักเขียนบทที่มีทักษะฝี มือ สามารถผลิตผลงานที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น
การให้เสรีในการนาเสนอเนื้อหา
การส่งเสริมโอกาสให้ผู้ผลิตภาพยนตร์หน้าใหม่และกลุ่มอิสระได้แสดงฝีมือ
กองถ่ายภาพยนตร์จากประเทศไทยและต่างประเทศควรได้รับการปฏิบัติด้ วยมาตรฐาน
ที่เทียบเคียงกัน
การส่งเสริมให้มีทุนสาหรับพัฒนาและผลิตภาพยนตร์มากขึ้น
การเผยแพร่และ การกาหนดนโยบายสนับสนุนการเผยแพร่ภาพยนตร์อย่างเสรี
การฉาย ภาครัฐควรสนับสนุนและผลักดันภาพยนตร์ไทยให้สามารถเผยแพร่ได้ สู่ช่องทาง หรือ
Platform ต่างๆ ที่หลากหลาย
การพิจารณาจัดให้มีเทศกาลภาพนยตร์ประจาประเทศ
การเพิ่มพื้นที่สาหรับกิจกรรมพิเศษในการฉายภาพยนตร์
การกาหนดสัดส่วนของ Screen Quota สาหรับภาพยนตร์ไทย ให้มีโอกาสเข้าฉายใน
โรงภาพยนตร์ได้เพิ่มมากขึ้น
การส่งเสริมให้โรงภาพยนตร์เครือใหญ่ ช่วยสนับสนุนภาพยนตร์ไทย
ผู้ชม สัดส่วนการชมภาพยนตร์ไทยเพิ่มมากขึ้น
การปรับเปลี่ยนทัศนคติเชิงบวกต่อภาพยนตร์ไทยเพิ่ มมากขึ้น
การเข้าใจภาพยนตร์ในเชิงศิลปะเพิ่มมากขึ้น
ภาครัฐ ภาครัฐควรทาความเข้าใจและผสานความร่วมมือกับภาคเอกชนมากขึ้น
การผลักดันนโยบายที่เอื้อให้เกิดความสะดวกต่ อการทางานของบุ คลากรในอุตสาหกรรม
76
ห่วงโซ่การผลิต เป้าหมายในอนาคต
การจัดสรรเงินทุนสาหรับผู้ผลิตภาพยนตร์หน้าใหม่และกลุ่มอิสระ
การแต่งตั้งหน่วยงานเฉพาะเพื่อดูแล และลดความซับซ้อนในขั้นตอนการดาเนินงาน
การทางานร่วมกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญจากภาคอุตสาหกรรมในองค์กรภาครัฐ
ฐานข้อมูล การจัดตั้งศูนย์รวบรวมข้อมูลที่มีระบบ เป็นปัจจุบัน และสะดวกต่อการสืบค้นข้อมูล
การพัฒนาฐานข้อมูลในรูปแบบที่องค์กรหรือบุคลากร (ที่ได้รับมอบหมายหรือมีหน้าที่
เกี่ยวข้อง) สามารถปรับ/แก้ไขข้อมูลได้ ผ่านการ Login ยืนยันตัวตนด้วย Profile ที่
ได้รับการตรวจสอบแล้ว
การพัฒนาฐานข้อมูลด้านพฤติกรรมผูบ้ ริโภคภาพยนตร์ เพื่อวิเคราะห์และพัฒนา
คุณภาพสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดผู้ชมภาพยนตร์กลุ่ มเป้าหมาย
จากนั้น นาข้อมูลที่ร วบรวมได้ มาวิ เคราะห์จุ ด เด่น และสภาพปั ญ หา โดยใช้ SWOT เพื่อนาไปสู่ก าร หา
โอกาสของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย
77
- อัตราค่าตอบแทนแรงงานอยู่ในเกณฑ์ที่ เหมาะสม เมื่อเทียบกับฝีมือของบุ คลากรจากประเทศอื่น ๆ ใน
ภูมิภาคเอเซีย รวมทั้ง อุปนิสัยของบุคลากรที่เกี่ยวข้ องต่า งๆ ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์มีความขยัน เอาใจใส่ และ
ไม่เกี่ยงงาน (จาเริญลักษณ์ ธนะวังน้อย, 2555 และเศรษฐา วีระธรรมานนท์ และอารีรัตน์ ใจประดับ , 2562)
- สถานที่ถ่ายทาในประเทศไทย และคุณภาพของการบริการ เป็นที่ประทับใจของนักลงทุน เมื่อเทียบกั บ
ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวัน ออกเฉีย งใต้ (จาเริญลักษณ์ ธนะวังน้อย, 2555 และเศรษฐา วีระธรรมานนท์
และอารีรัตน์ ใจประดับ, 2562) แต่อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า ประเทศข้า งเคี ยงต่างๆ เริ่มให้ความสนใจ
พัฒนาศักยภาพเพื่อแข่งขั นชิง ส่วนแบ่ง การตลาดในอุ ตสาหกรรมผลิ ตภาพยนตร์ โดยมีแนวทางที่ใกล้ เคีย งกั บไทย
อาทิ การแข่งขันด้านภาษี ได้แก่ การเพิ่มสัดส่วนมาตรการการลดหย่อนภาษี เป็นต้น
สาหรับสภาพปั ญหาของอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ ไทย จาแนกตามห่ว งโซ่ คุ ณค่า ของอุ ตสาหกรรม และ
โครงสร้ า งพื้ น ฐานต่ า งๆ ซึ่ ง เกี่ ย วข้ อ งกั บ องค์ ก รที่ ใ ห้ ก ารสนั บ สนุ น อุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ ทั้ ง ภาครั ฐ และ
ภาคเอกชน ประกอบด้วย
1) การพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์
- การสนับสนุนเงินลงทุนแก่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทย มีสัดส่วนที่ค่อนข้างต่าเมื่อเทียบกับ ประเทศที่
ประสบความสาเร็จในอุตสาหกรรมนี้ อาทิ ประเทศฝรั่งเศสและประเทศเกาหลีใ ต้ รวมถึงเงินทุนสนับสนุนส าหรั บ
ภาพยนตร์กระแสทางเลื อ ก ซึ่งแม้จะมี แนวโน้ ม เข้ าชิ งรางวั ลระดั บนานาชาติก็ ตาม ส่งผลให้ภาพยนตร์ ก ร ะแส
ทางเลือกต้องหาแหล่ง ทุนภายนอกประเทศ หรือใช้ทุนส่วนตัว หรือใช้ระบบการร่ว มระดมทุ น (Crowdfunding)
เป็นต้น ซึ่งเป็นการยากและทาให้ปริมาณการผลิตภาพยนตร์ลดน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด
- การสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของภาครั ฐ ค่อนข้างจากัดในกรอบนิยามของศิลปะและวั ฒนธรรม
ที่กาหนดโดยภาครัฐ โดยยังไม่ครอบคลุมประเด็นทางวัฒนธรรมที่เป็นกระแสนิย ม หรือที่ประชาชนนิยม ทาให้พื้นที่
ของภาพยนตร์ศิลปะ ภาพยนตร์สารคดี และภาพยนตร์ทางเลือกมีสัดส่วนน้อย
- เนื้อหาภาพยนตร์ไม่หลากหลาย บทภาพยนตร์ขาดความน่าสนใจ ขาดความคิดสร้างสรรค์ในการพั ฒ นา
บทให้มีความแปลกใหม่ จึงมีเพียงบทภาพยนตร์ที่ เป็น สูตรสาเร็จของตลาด นอกจากนี้ อัตราค่าตอบแทนแรงงาน
ของนักเขียนบทค่อนข้างต่า จึงอาจไม่จูงใจให้เกิดการพัฒนาและสร้างสรรค์งาน
- จานวนสตูดิโอขนาดใหญ่ มีน้อ ย และให้ความสนใจเพีย งภาพยนตร์ที่ ประสบความสาเร็จ และคา ดหวั ง
รายได้หรือผลกาไรได้เท่านั้น
- บริษัทหรือผู้ผลิต ภาพยนตร์ ขนาดเล็ กไม่ ได้ รับ การสนับ สนุ น เนื่องจากข้อจากัด ที่ร ะบุตามเงื่อ นไขการ
สนับสนุนเงินทุน กาหนให้บริษัทฯ ต้องมีเงินลงทุนหรือสินทรัพย่รวม 1 ล้านบาท
78
2) การผลิตภาพยนตร์ รวมถึงการถ่ายทาภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย
- แม้บุคลากรมีคุณภาพ แต่ปัญหาสาคัญ คือ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรระหว่างกระบวนการทางานหรื อ
ช่วงเวลาการปฏิบัติ งานมีน้ อย การขาดแรงจูงใจในการทางาน บุคลากรส่วนใหญ่รับ งานในรูป แบบของฟรี แ ลนซ์
(Freelance)
- การขาดการพัฒนาทั ก ษะของบุ คลากร อาทิ ทักษะด้านภาษาอัง กฤษ ทักษะการทางานด้ านการผลิ ต
ภาพยนตร์ กระบวนการตัดต่อ กระบวนการ Post-production ต่างๆ ทักษะความรู้ด้านเศรษฐกิจ การตลาด เป็น
ต้น ทั้งนี้ รูปแบบการพัฒนาสามารถทาได้ หลายลั กษณะ ทั้งการฝึกอบรม การดูงาน และการให้ทุนการศึกษาเพื่ อ
เรียนรู้ในกระบวนงานที่สนใจ หรือเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน
- การขาดการพัฒนาเครือข่าย โดยเฉพาะการรวมตัว ในรูปแบบสมาชิกสมาคม ชมรม หรือสหภาพแรงงาน
เพื่อการต่อรอง หรือเรียกร้องผลประโยชน์ต่างๆ ของสมาชิก
- การถ่ายทาภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย เมื่อเทียบกับต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศใกล้ เ คี ย ง
โดยรอบ ซึ่งมีประเด็นด้านของภาษี การลดหย่อนภาษี โดยเฉพาะภาษีนักแสดงที่น้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน
- โรงถ่ายภาพยนตร์ในไทยมีจากัด เนื่องจากเป็นลงทุนทีส่ ูง รวมทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่จาเป็นและได้
มาตรฐานมีราคาค่อนข้างสูง
- มาตรฐานวิชาชีพของบุ คลากรในอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ และการจัดตั้งองค์ก รดู แลผลประโยชน์ ท าง
วิชาชีพแก่บุคลากรที่ร่วมเป็นสมาชิก
3) การแพร่กระจายภาพยนตร์
- ภาพยนตร์มักจะนาเข้า มาจากฮอลลีวู้ดเป็นหลัก
- การผูกขาดทางธุรกิจ ทั้งการจัดจาหน่ายจากต่างประเทศ ในประเทศ และที่สาคัญ คือ ระบบสายหนัง ที่
มีอานาจในการซื้อ-ขายสิท ธิ์ภาพยนตร์ เ พื่อ นาออกฉายในพื้ นที่ ส่งผลให้ตัวเลขรายได้จ ากการฉายภาพยน ตร์ ไ ม่
สอดคล้องกับความเป็นจริง
4) การฉายภาพยนตร์
- ธุรกิจการฉายภาพยนตร์ เช่น โรงภาพยนตร์ ดีวีดี และสตรีมมิ่ง เป็นธุรกิจที่ค่อนข้างผูกขาดและทาก าไร
อย่างมาก ส่งผลให้ภาพยนตร์กระแสทางเลือกมีโอกาสที่จ ะออกฉายได้น้อย
- กรณีของโรงภาพยนตร์
- ไม่มีโรงภาพยนตร์หรือช่องทางการฉายภาพยนตร์กระแสทางเลือกมากนัก
- โรงภาพยนตร์ ขนาดใหญ่ คิดค่าใช้จ่ายในการเข้าฉาย โดยมีสัดส่วนร้อ ยละ 50 - 50 (ไม่ร วม
ค่าธรรมเนียมบริ การเครื่อ งฉาย (Virtual Print Fee: VPF) หรือค่าใช้จ่ายสาหรั บการฉายระบบดิจิทั ล ) ส่งผลให้
79
ภาพยนตร์รายย่อยเกิดปัญหา ตามมาด้วยการเรียกร้องให้โรงภาพยนตร์เว้นการเก็บ ค่าธรรมเนี ยมบริการเครื่องฉาย
ทั้งนี้ อุณาโลม จันทร์รุ่งมณีกุล (2560) ให้ความเห็นว่า ธุรกิจโรงฉายภาพยนตร์ มีอั ตราการเติบโตสู ง สวนทางกั บ
ธุรกิจผลิตภาพยนตร์ที่แบกรับค่าใช้จ่ายจานวนมาก และเติบโตได้ค่อนข้างช้า หรือน้อยกว่ามาก
5) การบริโภคภาพยนตร์
การขาดการพัฒนาผู้ชมอย่างมีระบบ และเป็นรูปธรรม
6) โครงสร้างของอุตสาหกรรมภาพยนตร์
1. ภาครัฐเน้นบทบาทด้านการกากับ และควบคุม อาทิ การตรวจพิจารณาบทหรือเนื้อหาภาพยนตร์ ส่งผล
ให้เกิดข้อจากัดในการพัฒ นาหรื อสร้า งสรรค์ เนื้ อหาภาพยนตร์ เ พื่อ เลี่ ยงการถู กระงั บหรื อเซ็น เซอร์ผ ลงาน รวมถึ ง
กฎหมายที่เกี่ยวข้อ งกั บการถ่ายทาภาพยนตร์ ต่ างประเทศในประเทศไทย มีกระบวนการที่ เกี่ ยวข้อ งจานวน มาก
และใช้ระยะเวลาค่อ นข้า งมากตั้ งแต่การขออนุ ญาตเข้าใช้ พื้นที่ เ พื่อ ถ่ายทาภาพยนตร์ การตรวจสอบเนื้อ หาและ
ความเหมาะสมของบทภาพยนตร์ ส่งผลต่อต้นทุนการดาเนินงานในการผลิตภาพยนตร์
2. มาตรการสนั บ สนุ นภาพยนตร์ ไ ทยโดยภาครัฐ มี ค่ อ นข้างจ ากั ด อาทิ การสนั บสนุ นทุ น การพัฒนา
บุคลากร การกาหนดบทลงโทษทางกฎหมาย ฯลฯ
3. หน่วยงานต่างๆ ภายในองค์กรภาครั ฐที่ เ กี่ยวข้อ งดู แลด้านอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ กระจายในหลาย
ส่วนงาน กระทรวง กรม ทาให้ขาดเอกภาพในการผลัก ดันนโยบายส่ง เสริ มและสนับ สนุน อุต สาหกรรมภาพยนตร์
อย่างเป็นรูปธรรม
4. มาตราการจูงใจด้านภาษี สาหรับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ค่อนข้างน้อย
5. สถาบันการศึกษาที่มีหลักสูตรการเรียนการสอนด้านภาพยนตร์ ยังไม่สามารถตอบสนองความต้ องการ
ทางธุรกิจของอุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างเป็นรูปธรรม
80
6. การขาดความเชื่อ มโยงในการพั ฒ นาอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ ระหว่ างภาครัฐ (ซึ่ ง ท าหน้ าที่ กาหนด
นโยบาย) ภาคเอกชน (ซึ่งเป็นเสมือนกลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สาคั ญ) และภาคการศึกษาหรือ Film School
(ซึ่งเป็นแหล่งบ่มเพาะและสร้างแรงงานในการผลักดันให้เกิด การผลิตผลงานที่ มีคุ ณภาพ)
7. การขาดแนวทางบริหารจั ดการ รวบรวมและเก็ บข้ อ มู ลอย่า งเป็น ระบบ (ฐานข้อมูล) สาหรับใช้ เ ป็ น
เครื่องมือในการวิเคราะห์ กาหนดนโยบายและแผนการดาเนินงานต่างๆ ทั้งนี้ ข้อมูลที่รวบรวมได้ควรประกอบด้วย
- ข้อมูลทั่วไปของผู้ชม (กลุ่มเป้าหมาย) ตั้งแต่จานวนผู้ชมภาพยนตร์แบ่งตามอายุ รายได้ เพศ
การศึกษา เป็นต้น
- รายได้ (ประมาณการณ์) ของภาพยนตร์แต่ละประเภท แต่ละเรื่อง
(ปั จ จุ บั น มี ข้ อ มู ล รายได้ ข องภาพยนตร์ที่ ร วบรวมได้ จ ากโรงภาพยนตร์ใ นกรุง เทพฯ และ
จังหวัดใหญ่ๆ ทีม่ ีความเติบโตทางเศรษฐกิจ
- ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการตลาด สาหรับการวางแผนผลิตภาพยนตร์
- องค์ความรู้ที่สาคัญ ต่างๆ เกี่ยวกับภาพยนตร์ ซึ่งครอบคลุมทั้งระบบนิ เวศของอุต สาหกรรม
อาจครอบคลุมประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ และงานวิจัยด้านภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง
8. การบริหารจัดการปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์
81
4.5.2 โอกาสของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ไทย
82
จุดอ่อนของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ได้แก่
(1) บทและเนื้อหาภาพยนตร์ไม่หลากหลาย
(2) การขาดแหล่งเงินทุน สนั บสนุน การผลิ ตภาพยนตร์ ทั้ง กระแสหลักและกระแสทางเลื อกที่เ น้น มุ มมอง
ด้านศิลปะ ทาให้แนวโน้มการผลิตภาพยนตร์ส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดกระแสหลัก
(3) การผูกขาดในการเผยแพร่และจาหน่ายภาพยนตร์ในระบบนิ เวศ ตั้งแต่การผลิต การเผยแพร่ และการ
ฉาย/จาหน่าย ผู้ผลิตรายใหม่หาโอกาสแสดงผลงานค่อนข้างยาก
(4) การขาดการพัฒนาบุคลากร ทั้งผูผ้ ลิตและผู้ชมภาพยนตร์ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพยนตร์ไ ม่ พัฒ นาก้า วไกล
ในกรณีของผู้ผลิต นอกจากการพัฒนาความรู้ ยังหมายรวมถึงมาตรฐานวิชาชีพ และการยกระดับแรงงาน อันจะทา
ให้เกิดข้อกาหนดด้านเวลาการทางาน รายได้ และสวัสดิการคุ้มครองที่ได้มาตรฐาน
(5) การขาดฐานข้ อ มู ล ซึ่ ง หมายรวมถึ งข้ อ มู ล เบื้อ งต้ นเกี่ ย วกั บ สถิ ติ ภ าพยนตร์ ภาพยนตร์ บุ ค ลากรที่
เกี่ยวข้อง และอื่นๆ
(6) การขาดการเชื่ อมโยงเครือ ข่ ายทั้ ง หมดเข้ าด้ ว ยกั น ทั้ งฝั่ ง ของผู้ ผ ลิ ต รั ฐ Film School และชมรม
สมาคม ทาให้พลังในการผลักดันเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงไม่มากพอ
(7) มาตรการทางกฎหมาย ไม่ทันสมัย เช่น กรณีมาตรการภาษี ลดหย่อนภาษี ในด้านของการส่งเสริมการ
ถ่ายทาภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย
(8) รัฐให้ความสาคัญด้านการควบคุมมากกว่าการสนั บสนุน โดยพิจารณาได้จากกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ควบคุ ม
ภาพยนตร์
(9) การขาดหน่วยงานที่ช่วยผลักดันในด้านนโยบาย (Policy) ถึงแม้จะมี Film board แต่การผลักดันยังไม่
เกิดผลเท่าที่ควร
(10) การละเมิดลิขสิทธิ์
83
(5) การขยายตัวของอุตสาหกรรมข้างเคียง เช่น ซีรีส์ การ์ตูน คาแรคเตอร์ และอื่นๆ
(6) การมีองค์กรภาพยนตร์ต่างประเทศให้การสนับสนุน โดยเฉพาะในเรื่องทุนการพัฒนาภาพยนตร์
(7) การร่วมลงทุน (Co Production) ระหว่างประเทศ
84
5. กรณีตัวอย่างอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในต่างประเทศ
เมื่อศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์ทั้งข้ อจากั ด ปัญหา จุดเด่น จุดด้อย โอกาส และอุปสรรคของอุ ตสาหกรรม
ภาพยนตร์ไทยจากเอกสารวิชาการต่างๆ และจากการสัมภาษณ์ ความเห็นของผู้ เชี่ย วชาญแล้ว ขั้นต่อมา คือ การ
เปรียบเทียบกรณี ศึก ษาต้น แบบที่ ดี (Best Practice) สาหรับหาแนวทางเพื่ อ การพั ฒนาอุ ตสาหกรรมและร ะบบ
ฐานข้อมูลจากต่างประเทศ เพื่อนาประเด็นที่เป็นจุด เด่นของนานาประเทศมาเป็นบทเรียนเพื่ อช่วยวางแผนพั ฒ นา
ศักยภาพอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สาขาภาพยนตร์ และวี ดิทั ศน์ ข องประเทศไทยตามกรอบคิด เศรษฐกิจ สร้างสรรค์
เพื่อนามาใช้ประโยชน์ต่ อการกาหนดแผนพั ฒนาและฐานข้ อ มูลการพั ฒนาเศรษฐกิจสร้า งสรรค์ สาขาภาพยนตร์
ของประเทศไทย
85
ลาดับ ประเทศ จานวนที่ผลิต (เรื่อง) ปีที่เก็บข้อมูล
5 สหรัฐอเมริกา 660 2017
6 เกาหลีใต้ 339 2016
7 ฝรั่งเศส 300 2017
8 สหราชอาณาจักร 285 2017
9 สเปน 241 2017
10 เยอรมัน 233 2017
25 เรื่องเดียวกัน
86
การศึกษานี้ แบ่งกรณีศึกษาประเทศต้นแบบโดยใช้เกณฑ์ ดังนี้
1) บทเรียนการพัฒนาอุต สาหกรรมเกมจากประเทศที่ ประสบความสาเร็จ คณะทางานเลือ กศึ ก ษา
ประเทศ สหรัฐอเมริกา ประเทศอังกฤษ ประเทศอินเดีย ประเทศเกาหลี
2) ประเทศที่ มีลั ก ษณะและกิจ กรรมด้า นอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์เ ทีย บเคีย งกั บ ประเทศไทย เช่น
ประเทศไนจีเรีย หรืออยู่ในภูมิภาคเดียวกัน จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่ามีประเทศในภูมิภาค เช่น ประเทศไนจี เรี ย
ประเทศสิง คโปร์ และประเทศอิน โดนีเซีย และประเทศเวีย ดนาม ทีม่ ีแนวทางการส่ง เสริ มพัฒ นาอุ ตสาหกรรม
ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ที่น่าสนใจ
5.1 กรณีศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกา
Hollywood คือ พื้นที่ในประเทศสหรั ฐอเมริ กาที่ เป็ นสั ญลั ก ษณ์ข องอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ ร ะดั บ โลก
และเป็นต้นแบบแก่ประเทศอื่นๆ26 ในการดาเนินธุรกิจภาพยนตร์ที่สร้างกาไรมหาศาล Hollywood มีจุดเริ่มต้ น ที่
นครแองเจลิส ปี ค.ศ. 1910 ในยุคทีก่ ารถ่ายทาภาพยนตร์ ใช้สถานที่ถ่ายทาในประเทศสหรั ฐอเมริกาซึ่ งถูก ปิ ด กั้ น
ด้วยสิทธิบัตรของโทมัส เอดิสัน ทาให้ในการผลิต จัดจาหน่าย หรือจัดแสดงภาพยนตร์แต่ละครั้งจะต้ องผ่านการขอ
อนุมัติจากบริษัทของเอดิสั นก่อ น ทาให้ผู้ผลิตภาพยนตร์เ คลื่ อนย้ายไปยั งรัฐ แคลิฟอร์ เนีย เพื่อหลบเลี่ยงกฏหมาย
ดังกล่าว นอกจากนี้ สภาพอากาศและสถานที่โ ดยรอบ มีปัจจัยที่เอื้อต่ อ การถ่ายทาภาพยนตร์ Hollywood จึง
กลายเป็ น จุ ด ศู นย์ กลางของอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ อ เมริ กั น โดยในยุค ทองของ Hollywood มี ส ตู ดิ โ อถ่ า ยทา
ภาพยนตร์ขนาดใหญ่ จานวน 5 แห่ง ที่ผลิตภาพยนตร์ เองและมีนั กแสดงในสั งกั ดของตั วเอง ได้แก่ Paramount,
RKO, 20th Century Fox, Metro-Goldwyn-Mayer (MGM) และ Warner Bros ซึ่งการผลิตภาพยนตร์ ทั้ ง หมด
ขึ้นตรงต่อสตูดิโอทั้ง 5 นี้
26 แปลจาก https://www.u-s-history.com/pages/h3871.html
27 แปลจาก https://www.classichollywoodcentral.com/background/the -studio-system/
87
ภาพยนตร์ แ ละการฉาย ด้ ว ยกลยุท ธ์ ก ารด าเนิ นธุ ร กิจ รูป แบบนี้ ช่ ว ยให้ ส ตู ดิโ อ สามารถเพิ่ มยอดจาหน่ ายของ
ภาพยนตร์ ซึ่ ง เรีย กกั นว่ าการจาหน่ ายภาพยนตร์แ บบเป็ นก้ อ น (Block Booking) หรื อ การจ าหน่า ยภาพยนตร์
หลากหลายประเภทใน Package เดียว เช่นในหนึ่งการซื้อจะต้องได้ภาพยนตร์ ฟอร์ มใหญ่ผ สมภาพยนตร์ที่น่า สนใจ
น้อยกว่าหรือมีการผลิตคุณภาพต่ากว่า (B movie) รวมกันไปซึ่งถูกมองว่าเป็นการผูกขาดแบบหนึ่ง ปัจจุบัน สตูดิโอ
ทั้ง 5 พัฒนาและปรับเปลี่ยนมาเป็น Universal Pictures, Paramount Pictures, Warner Bros. Pictures, Walt
Disney Pictures และ Columbia Pictures
องค์ ป ระกอบอื่ น ๆ ที่ ส ร้ า งความยิ่ ง ใหญ่ แ ก่ อ าณาจั ก ร Hollywood คื อ การก่ อ ตั้ ง บริ ษั ท บั น ทึ ก เสียง
Capitol Records, การสร้าง Hollywood Walk of Fame ในปี ค.ศ. 1960 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสรรเสริญ ศิ ล ปิ น
คนสาคัญในวงการบันเทิง ในปี ค.ศ. 2001 มีการเปิด The Dolby Theatre ซึ่งกลายเป็น Kodak Theatre ที่ใช้ใน
การจัดพิธีแจกรางวัล Oscar นอกจากนั้นยังมีการรวมตั วกัน ของสถานีโ ทรทั ศน์แ ละเครือ ข่ายเคเบิ ลที วีที่ มาตั้ ง ใน
บริ เ วณเดี ย วกั น เช่ น CBS, MTV, Comedy Central, และ BET ในปี ค.ศ.2014 ท าให้ Hollywood กลายเป็น
ศูนย์รวมขององค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านอุ ตสาหกรรมความบันเทิง
28 https://www.statista.com/statistics/187122/movie-releases-in-north-america-since-2001/
88
ภาพที่ 13 แสดงจานวนของภาพยนตร์ที่ ฉายในประเทศสหรั ฐ อเมริ กาและประเทศแคนาดา ในปี ค.ศ.
2020 มีจานวนต่ากว่า ปี ค.ศ.. 2019 ถึงร้อยละ 66 เนื่องจากภาพยนตร์ที่จ ะเข้าโรงหลายเรื่อ งถูก เลื่อ นออกไป
เพราะวิกฤต COVID-19ในขณะที่จานวนภาพยนตร์ที่เข้าฉายมีจานวนเพิ่มขึ้น อย่างต่ อเนื่อ งโดยเฉพาะในช่ วงปี ค.ศ
.. 2013-2019 ด้ า นการวิจั ยของสมาคมภาพยนตร์แ ห่ ง อเมริ ก า (MPA)29 รายงานว่า จานวนโดยประมาณของ
ภาพยนตร์อเมริกันที่เข้า สู่ขั้น ตอนการถ่ายทาคิด เป็นจานวน 447 เรื่อง ซึ่งลดลงกว่าร้อยละ 45 จากปี ค.ศ. 2019
เนื่องด้วยวิกฤต COVID-19 ซึ่งส่งผลให้การถ่ายทาต้อ งหยุด กลางคันและในบางกรณีการถ่ายทาต้ อ งยกเลิ ก ไปใน
ที่สุด ในตารางที่ 34 แสดงอันดับภาพยนตร์ Hollywood ซึ่งถูกผลิตในช่ว งปี ค.ศ.. 2007 เป็นต้นไปโดยจ ะเป็ น
ภาพยนตร์จากสตูดิโอใหญ่ที่ใช้เงินทุนมหาศาล และได้รายได้มากว่าร้อยละ 60
29 https://deadline.com/2021/03/box-office-vodi-19-mpa-report-1234717209/
30 https://www.boxofficemojo.com/chart/top_lifetime_gross/
31 Litvak, Isaiah, U.S. Film Commissions & Hollywood, 2007, The IEDC Economic Development Journal, p.5-8
89
สินค้าและการบริการมี แนวโน้ มที่จ ะถู กผลิต ผ่านกิจกรรมในแนวดิ่ ง ลาดับของกิจกรรมลัก ษณะนี้ จ ะพบ
เห็นได้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์แบบ Hollywood การสร้างภาพยนตร์จะเริ่มด้วย การที่โปรดิวเซอร์เสาะหาสิ ท ธิ
ของภาพยนต์ เช่นการจ้างผู้เขียนบทภาพยนตร์ มาเขียนบทเพื่ อให้ไ ด้มาในซึ่ งสิ ทธิ ของภา พยนตร์ เรื่อ งนั้น ในจุดนี้
โครงการนั้นจะอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและด้านการเงิน “Development and Finance” โดยโปรดิวเซอร์ได้ห า
เงินทุนและผู้กากับ, ดาราและทีมงานที่ต้องการร่วมทางาน มีการจัดตารางและต้นทุน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทาในขั้นตอน
นี้ การตัดสินใจว่าจะให้ไฟเขียวต่อผลิตภาพยนตร์หรือไม่จะจบลงในส่วนนี้
การตัดสินใจเลือกสถานที่ในการถ่ายทาของ Hollywood
การตัดสินใจเลือกสถานที่ ในการถ่ายทาขึ้น อยู่ กับ หลายปัจจัย ด้ว ยกั น โปรดิวเซอร์และทีมงานจะท าการ
ประเมินอย่างละเอีย ดเกี่ยวกั บองค์ประกอบของราคาและสิ่ง ที่จาเป็น ในการถ่ายทาในโครงการนั้น ๆ พูดง่ายๆก็ คื อ
เมื่อต้นทุนยิ่งจากัด ยิ่งมีข้อต่อรองมากขึ้น ยิ่งโปรดิวเซอร์หาทางลดต้นทุนได้มากเท่าไหร่ เงินที่จะเหลือเพื่อการ ท า
การตลาดก็มากขึ้น เท่ านั้น โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1) Above-The-Line นั้นรวม โปรดิวเซอร์,ผู้กากับ , ลิขสิท ธิ์
ของภาพยนตร์, นักเขียนบท และผู้แสดงนา ซึ่งมักจะเป็ นราคาที่ เปลี่ย นแปลงไม่ไ ด้ และ 2) Below-The-Line
รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ เช่น ค่ากองและค่าเครื่องอานวยความสะดวก รวมถึงการเช่าอุปกรณ์จะอยู่ในกลุ่ม
90
การทาให้การผลิตภาพยนตร์ให้ตรงตามความต้องการก็เป็น ปัญหาที่ยาก รวมถึงปัญหาในด้านศักยภาพใน
ด้านต่างๆ เช่น โครงสร้าง, คุณภาพของกองถ่าย และสถานที่ ที่ สามารถเข้าถึงได้และใช้ งานได้ ผลกระทบจากผู้
แสดงและความคิ ดสร้า งสรรค์เ ข้า มามี บทบาทเมื่ อ ต้ องตั ดสิ นใจเรื่อ งสถานที่ ถ่ายทา ซึ่งเกี่ยวข้อ งกับ เรื่ อ งรา วใน
ภาพยนต์, ผู้กากับที่เลือกเอาไว้ และดารานักแสดงที่อยู่ในสถานที่ๆ ได้วางแผนไว้ และผลกระทบต่อความสามารถ
ของโปรดิเซอร์ในการควบคุมการถ่ายทา
องค์กรที่เกี่ยวข้องกับ Hollywood
1. สมาคมภาพยนตร์แห่งอเมริกา 33 (The Motion Picture Association หรือ MPA) รับหน้าที่
เป็ น ตั ว แทนของผู้ผ ลิ ตและจัด จาหน่ ายภาพยนตร์รายใหญ่ข องประเทศสหรั ฐ อเมริ ก า ได้ แ ก่ สตู ดิ โ อใหญ่ทั้ง 5
(Paramount Pictures, Sony Pictures, Universal Pictures, Walt Disney Studios, Warner Bros) และ
บริการสตรีมมิ่ง Netflix
สมาคมนี้ ก่ อ ตั้ ง ขึ้ น ในปี ค.ศ. 1922 มี วั ต ถุ ป ระสงค์ มุ่ง สนั บ สนุน อุ ต สาหกรรมภาพยนตร์และ
โทรทัศน์โดยส่งเสริมการคุ้ มครองทรั พย์สิน ทางปัญ ญา ขยายการเข้าถึงตลาด พยายามทาให้ผู้รักการชมภาพยนตร์
ทั่วโลก ตระหนักถึงความสาคัญของการปกป้องเนื้ อหาและลดการละเมิดลิ ขสิทธิ์ รวมถึงความพยายามในการจากั ด
การแชร์ ง านลิ ขสิ ท ธิ์ ผ่ า นการแชร์ไ ฟล์ แ ละผ่ านการสตรี ม และตั้ ง แต่ ปี ค.ศ. 1968 MPA ได้ จั ด ตั้ ง Code and
Rating Administration หรื อ CARA ซึ่ ง ท าหน้ า ที่ จั ด เรตติ้ ง ส าหรั บ ภาพยนตร์ ที่ จั ด แสดงและจั ด จ าหน่ ายเชิง
พาณิชย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา
32 รายงานฉบับนี้ใช้อัตราการแลกเปลี่ ยน ณ วันที่ 1 กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2564 คือ 32.023 บาท ต่อ 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ
33 https://www.motionpictures.org/who-we-are/
34 https://www.afi.com/
91
ในการอนุรักษ์มรดกภาพยนตร์ของประเทศสหรัฐ อเมริกา ให้การศึกษาแก่นักทาภาพยนตร์และให้ เกียรติ ศิล ปิ น ที่ มี
ผลงานสาคัญ AFI ได้รับการสนับสนุนจากองค์การกองทุน เพื่อ ศิล ปะแห่ง ชาติ (National Endowment for the
Arts) สมาคมภาพยนตร์ แ ห่ ง อเมริ ก า (Motion Picture Association of America) และมู ล นิ ธิ ฟอร์ ด (Ford
Foundation) โดยกลุ่มคณะกรรมการประกอบไปด้วยนักประวัติ ศาสตร์ภาพยนตร์ นักแสดงและผู้กากับกิตติ มศั ก ดิ์
ที่ เ ป็ น ตั ว แทนให้ กั บ ฝั่ ง ศิ ล ปะและด้ า นวิช าการ ทางสถาบัน ได้ มีก ารจัด การฝึ ก นัก ท าภาพยนตร์ภ ายใต้ ชื่ อ AFI
Conservatory และมีการสะสมแหล่ งข้อ มูล ทางวิ ชากร และทางประวัติศาสตร์ เกี่ย วกับ ภาพยนตร์ ที่เรีย กกว่า AFI
Catalog รวมถึงการจัดเทศกาลภาพยนตร์ สารคดี AFI DOCS ซึ่งเป็นแสดงฉายภาพยนตร์ ที่ไ ม่เ อากาไรที่ใหญ่ ที่ สุ ด
ในโลก
35 https://www.sagaftra.org/about
36 https://afci.org/about-afci/#about-us
92
5. สถาบั น ศิ ล ปะภาพยนตร์แ ละวิ ทยาการ 37 (The Academy of Motion Picture Arts and
Sciences หรื อ AMPAS) เป็ น สถาบั น ที่จั ด งานแจกรางวั ล Oscar หรื อ Academy Awards ก่ อ ตั้ ง ขึ้ น ในปี ค.ศ.
1927 โดยเป็นองค์กรสากลระดับโลกที่รวมบุคลากรที่ประสบความสาเร็จในวงการภาพยนตร์ไ ว้กว่า 9,000 คนที่มา
ร่วมกันตัดสินว่าภาพยนตร์ในแต่ละปีเรื่องไหนมีความเหมาะสมในการได้รับรางวั ล
6. ในประเทศสหรัฐอเมริกายังมีเทศกาลภาพยนตร์กระจายตัวอยู่ในหลายรัฐ ที่ให้ ความสนใจกั บ
ภาพยนตร์ที่แตกต่างกันเป็นมีเ อกลัก ษณ์ของตนเองโดยเทศกาลเหล่านี้ถู กก่อนตั้งโดย ดารานักแสดง หรือองค์กรที่
ให้การสนับสนุนทางด้านภาพยนตร์ อย่างเช่น New York Film Festival, Sundance Film Festival, South by
Southwest Festival หรือ Los Angeles Film Festival ซึ่งเทศกาลเหล่า นี้เ ปิด โอกาสให้ ภาพยนตร์น อกกร ะแส
และภาพยนตร์อิสระได้เป็นที่รู้จักต่อสาธารณชนและสร้างความหลากหลายให้ กับวงการภาพยนตร์มากขื้น
สูตรสาเร็จของ Hollywood
Ganna Pogrebna38,39 นักวิจัยจากมหาวิ ทยาลัย Birmingham ได้ศึกษาบทภาพยนตร์ จานวน 6,147
เรื่อง ในช่วงปี ค.ศ. 1935 - ค.ศ. 2018 ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ไ ด้รับ ความนิยมสูง และค้นพบโครงเรื่องที่ก ร ะตุ้ น
อารมณ์และทารายได้สู งสุ ด คือ เรื่องของ “คนตกที่นั่งลาบาก” ซึ่งเล่าเรื่องจากอารมณ์ ที่ต่าสุด มาสู งสุง เช่น The
Godfather, The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring หรือ The Sixth Sense เป้าหมายการวิจัย
คือ ทาความเข้าใจความต้องการของผู้ช ม โดยนักวิทยาศาสตร์ แบ่งภาพยนตร์ตามรูปแบบอารมณ์ 6 ประเภท ซึ่ง
ประสบความสาเร็จใน Box Office ผลการวิจัยเผยว่า เรื่องคนตกที่นั่งลาบากที่มีแนวทางสุข – เศร้า - สุข เป็นสูตร
สาเร็จที่ทาเงินได้ในภาพยนตร์ทุก ประเภท โดยมียอดการลงทุนประมาณ 40.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และสามารถท า
รายได้โดยเฉลี่ย 54.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ภาพยนตร์ ชีว ประวั ติที่ เล่า เรื่ องคนจนกลายเป็น คนรวยมา เป็ น
อันดับต้นๆ แต่ยังไม่ประสบความสาเร็จเท่าภาพยนตร์ลี้ ลับสอบสวน ในประเภทภาพยนตร์ตลก โครงเรื่องแนวคน
รวยกลายเป็นคนจนที่ปิดฉากด้วยความเศร้าประสบความสาเร็จน้อยที่สุ ด
37 https://www.oscars.org/academy-story
38 Ganna Pogrebna, 2019, Improving productivity in Hollywood with data science: Using emotional arcs of movies to drive
product and service innovation in entertainment industries, University of Birmingham
39 https://www.bbc.com/news/entertainment-arts-46385657
93
มูลค่าด้านพื้นที่สร้างสรรค์
นอกจากการมีสตูดิโอภาพยนตร์ ที่ขึ้นชื่ อแล้ ว Hollywood สามารถเรียกนักท่องเที่ย วให้ เข้า ไปมีส่ว นร่ ว ม
ในประสบการณ์ ข อง Hollywood จากการจัดทัวร์ ไปยั งแต่ ล ะสตู ดิโ อ (Studio Tour) โดยสตูดิโอรายใหญ่ เช่น
Paramount, Warner Bros และ Universal รวมถึงการจัด ทัว ร์ช มบ้านดารา (Hollywood Star Tour)40 ซึ่งพา
นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมหน้าบ้านของดาราดัง ทั่วเมือ ง และการสร้าง Hollywood Hall of Frame41 ที่มีการวางแผ่ น
หินรูปดาวจารึก ชื่ อของนั กแสดง และรูปพิ มพ์ผ่า มื อ ของบุ ค คลที่ มีชื่ อ เสี ย งในวงการบัน ทิ ง หรือการมี Chinese
Theatre42 ที่มาพร้อมเอกลั ก ษณ์ภายนอกที่โ ดดเด่ น ทาให้กลายเป็น สถานที่ ที่นักท่องเที่ย วทั่ วโลกสนใจเข้ า มา
สัมผัสประสบการณ์ความรู้สึก และความเป็น Hollywood
สถาบันศิลปะภาพยนตร์ และวิทยาการ (The Academy of Motion Picture Arts and Sciences หรือ
AMPAS) ด าเนิ น การจัด งานแจกรางวัล ออสการ์ วางแผนตั้ ง Academy Museum of Motion Pictures 43 เพื่ อ
เป็นสถาบันแนวหน้าที่อุทิศ ให้ กับผลงานทางศิลปะและวิท ยาศาสตร์ข องภาพยนตร์ ซึ่งจะมีการจัดฉายภาพยนตร์
โลก โดยเน้นเรื่องราวที่สะท้อนศิลปะ ประวัติศษสตร์ เทคโนโลยี ศิลปินและผลกระทบทางสังคม
บุคลากรของ Hollywood
รูปแบบการทางานของ Hollywood คือ การจัดทีมเฉพาะกิจขึ้ นส าหรั บ การถ่ ายทาที่ ใหญ่แ ละซั บ ซ้ อ น
โดยระดมทักษะเฉพาะ และความเชี่ยวชาญเฉพาะของบุ คลากรแต่ล ะคน มาร่วมกันทางานภายใต้กรอบระยะเวลา
และทรัพยากรด้านเงินทุน ที่จากั ด แต่มีความยืดหยุ่นสูง การดาเนินงานจึงต้องเคร่ ง ครัดและมี วินัย สอดคล้องกั บ
ค่าตอบแทนที่ได้รับซึ่ งสู งกว่า งานประเภทเดียวกัน ภายนอกกองถ่า ยทาภาพยนตร์ อันเนื่องจากความเป็นสหภาพ
ของ Hollywood ทาให้สามารถต่อรองค่าตอบแทนได้สูงกว่า อาทิ ช่างไฟที่ทางานในกองถ่ายได้ค่าแรง 35 เหรียญ
สหรัฐต่อชั่วโมง ซึ่งสูงกว่าค่าแรงของช่างไฟทั่วไปถึง ร้อยละ 4044
40 https://www.hollywoodcitytours.com/?gclid=Cj0KCQjw2tCGBhCLARIsABJGmZ6doFt7jAg9Inoi-HJFPEs6uO4L8KXVvZddz-XT-
Lsjr0VncmVxOYYaAsKaEALw_wcB
41 https://walkoffame.com/
42 http://www.tclchinesetheatres.com/
43 https://www.academymuseum.org/en/
44 Davidson, Adam, What Hollywood Can Teach Us About the Future of Work, 2015, New York Times Magazine
94
5.2 กรณีศึกษาประเทศอินเดีย
ประเทศอินเดีย ให้ความสาคัญกับอุตสาหกรรมภาพยนต์ และครองตาแหน่งการผลิตภาพยนตร์ในปริ มาณ
ที่สูงเป็นอันดับหนึ่งของโลกในทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับ Hollywood อินเดียมีคาที่ใช้สื่อแทนอุ ตสาหกรรม
ภาพยนตร์อินเดีย ซึ่งเป็นการนาชื่อเมืองบอมเบย์ มาผสมกับคาว่า Hollywood เป็น Bollywood จากสถิติจานวน
ภาพยนตร์อินเดียที่ผลิตขึ้นต่อ ปี เห็นได้ว่ามีจานวนเพิ่มมากขึ้นเกือบทุกปี (ตารางที่ 35) โดยภาพยนตร์ที่ทารายได้
ในช่วง 100 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป (ตารางที่ 36) ซึ่งใน 5 อันดับภาพยนตร์ทาเงินที่ผสมผสานระหว่างภาพยนตร์ ด
ราม่าและแอ๊คชั่นอิงประวัติศาสตร์ แต่ส่วนที่ทาให้ภาพยนตร์อินเดี ยได้รับการจดจาคือนาการร้อ งเล่น เต้นระบาเข้ า
ไปผสมเพื่อใช้ในการเล่า เรื่อ งภาพยนตร์ ของ Bollywood ให้รับการยอมรับทั้งในประเทศและในระดั บสากล และ
นับเป็นประเทศที่ผลิตภาพยนตร์ในจานวนที่มากเป็นอั นดับ ต้นๆ โดยผลิตภาพยนตร์เป็นอันดับหนึ่ งของโลกในช่ ว ง
ปี ค.ศ.. 2016 - 201945 ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปี ค.ศ. 2019 จานวนภาพยนตร์มีจานวนมากถึง 2,449 เรื่อง
45 https://www.screenaustralia.gov.au/fact-finders/international-context/world-rankings/feature-films-and-cinemas
46 https://www.cbfcindia.gov.in/main/publications.html
47 https://www.boxofficeindia.com/report-details.php?articleid=4396
95
การสนับสนุนจากภาครัฐ
ในปี พ.ศ. 2504 48 รัฐบาลจัดตั้งสถาบันภาพยนตร์ข องประเทศอิน เดีย Film and Television Institute
of India หรือ FTII) เพื่อฝึกฝนและพัฒนาผู้กากับหน้าใหม่ และแต่งตั้งคณะกรรมการภาพยนตร์ฝ่ายการเงิน (Film
Finance Commission หรือ FFC) รวมกับองค์กรพัฒนาภาพยนตร์แห่ งชาติของประเทศอิ นเดีย (National Film
Development Corporation of India หรือ NFDC) เพื่อช่วยสนับสนุน เงิ นทุน สาหรับ การผลิ ต ภาพยนตร์ อิ ส ระ
และภาพยนตร์ ทดลอง รวมทั้ ง หอภาพยนตร์แ ห่ง ชาติ (National Film Archive) ซึ่ ง ก่ อ ตั้ ง ขึ้ น ในปี พ.ศ. 2507
องค์กรทั้งหมดนี้ ต่างมุ่งสนับสนุนภาพยนตร์ที่ เปิ ดตั วครั้ งแรก และภาพยนตร์ที่ไม่ใช้ ดาราดั งร่ว มแสดง นอกจากนี้
รัฐบาลประเทศอิน เดีย ได้ พยายามยกระดั บ ภาพยนตร์ อิน เดีย เข้ าสู่ งานประเภทศิ ล ปะ อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก
ภาพยนตร์ ถูกมองเป็นผลิตภัณฑ์สาหรั บผู้ มีฐานะปานกลางถึง ดี ในขณะที่ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศอิ น เดี ย
ยังมีฐานะยากจน การเข้าถึงภาพยนตร์จึ ง เป็ น ไปได้ค่ อนข้า งยาก กระทั่งในช่ ว งปลายศตวรรษที่ 20 มีการผลิ ต
ภาพยนตร์คุ ณภาพปานกลางจานวนมาก เพื่อตอบสนองการรั บ ชมภายในประเทศมากขึ้น พร้อมการนาภา ษา
ท้องถิ่นมาใช้ในภาพยนตร์จานวนรวมถึ ง 16 ภาษา ทาให้ภาพยนตร์เป็นสื่อที่แ พร่ห ลายในประเทศอิ นเดียในเวลา
ต่อมา
ต่อมารัฐบาลประเทศอินเดียได้ก่ อตั้ งคณะกรรมการกลางการรับรองภาพยนตร์ Central Board of Film
Certificate (CBFC)49 ซึ่งอยู่ภายใต้ก ระทรวงสารสนเทศและการกระจายเสีย ง (Ministry of Information and
Broadcasting) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทาหน้าที่ตรวจพิจารณาภาพยนตร์ทั้ งในประเทศและภาพยนตร์ที่นา เข้ามาฉาย
ในประเทศ โดยดาเนินการตามพระราชบัญญั ติภาพยนตร์ ปี ค.ศ. 1952 ภาพยนตร์ที่เข้าฉายในประเทศอินเดี ย ทุ ก
เรื่องต้องผ่านการตรวจสอบดูแลของคณะกรรมการที่ไ ด้รับการแต่ งตั้งจากภาครัฐ หน่วยงานกลางตั้งอยู่ที่มุมไบและ
มีหน่วยงานย่อย 9 แห่งกระจายตามหั ว เมื อ งต่ างๆ ทั่วประเทศ CBFC มีเป้าหมาย50 ในการเสนอความบัน เทิ ง ที่
ปลอดภัยและเหมาะสมต่อสาธารณชนตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์ปี ค.ศ. 1952 และกฎหมายทางภาพยนตร์ที่จัดตั้งในปี
ค.ศ. 1983 พร้อมจัดประชุมร่วมกับผู้ผลิตภาพยนตร์เพื่อหารือแนวทางในการดาเนินงานที่มีประสิทธิภาพ
48 https://www.britannica.com/art/history-of-the-motion-picture/India
49 https://www.cbfcindia.gov.in/main/about-us.html
50 https://www.cbfcindia.gov.in/main/vision-and-mission.html
96
องค์กรพัฒนาภาพยนตร์ แห่ งชาติ ของประเทศอิ นเดี ย51 (National Film Development Corporation
of India หรือ NFDC) ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1975 เพื่อเป็นศูนย์กลางการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับภาพยนตร์ข องปร ะเทศ
อินเดีย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่ง เสริ ม บูรณาการและจัดการดาเนินการเกี่ยวกับ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ มีหน้าที่ ใน
การให้ทุนสาหรับการผลิต และการจัดจาหน่าย ภายใต้โครงสร้างการปฏิบัติ งานของกระทรวงสารสนเทศและการ
กระจายเสียง (Ministry of Information and Broadcasting) นอกจากนั้น NFDC ได้จัดตั้งหน่วยงานพิเ ศษเพื่ อ
ดูแลด้านต่างๆ ดังนี้
1. ภาพยนตร์ ข องประเทศอิ น เดี ย (Cinemas of India หรื อ COI)52 เป็ น ช่ อ งทางต่ อ ยอดจาก
NFDC เริ่มก่อตั้งในปี ค.ศ.2012 เพื่อช่วยในการนาเสนอและส่งเสริ มภาพยนตร์อิน เดีย ที่เป็นผลงานของชาวอิ น เดี ย
COI ทาหน้าที่เชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ร่ว มกับนัก ผลิต ภาพยนตร์หน้าใหม่ นอกจากนั้น COI
เป็นพื้นที่ในการฉายภาพยนตร์แบบ Video-on-Demand (VOD) เพื่อให้บริการ Streaming ภาพยนตร์อินเดีย สู่ ผู้
ที่สนใจในทุกภูมิภาคทั่วโลก
2. ตลาดภาพยนตร์ Film Bazaar53 เป็นตลาดภาพยนตร์ที่ ใหญ่ที่ สุด ในเอเซีย ใต้ จัดตั้งขึ้น ในปี
พ.ศ. 2550 เพื่อสนับสนุนการร่ว มมือ ในงานสร้างสรรค์ทางภาพยนตร์ข องกลุ่ มผู้ ผลิ ตภาพยนตร์จากเอเซียใต้ แ ละ
ต่างประเทศ โดยมีการรวมตั วของผู้ ซื้อ และผู้ จาหน่ายภาพยนตร์จากทั่ วโลกเป็ นประจาทุ ก ปี ใช้เวลาปีละ 5 วัน
จุดมุ่งหมายสาคัญของตลาดภาพยนตร์ คือ การค้นพบ สนับสนุน และนาเสนอเนื้อหาและบุคลากรที่มีความสามารถ
ด้านการผลิตภาพยนตร์และการจัดจาหน่าย ที่มาจากฝั่งเอเซียใต้
3. นอกจากนี้ NFDC ได้ เ ปิ ด ช่ อ งทางการจั ด หาอุป กรณ์ ที่ เ กี่ ยวเนื่อ งกั บการถ่ ายท าภาพยนตร์
ให้กับกองถ่ายจากต่างประเทศ ผ่านทาง Vendor Enlistment Portal54 ซึ่งให้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิ ต
ภาพยนตร์ เช่น สื่อประชาสัมภาษณ์ หรือการออกแบบเวปไซต์ เป็นต้น
แหล่งเงินทุน
แหล่งเงินทุนสาหรั บการผลิ ตภาพยนตร์ ได้รับจากองค์กรพั ฒนาภาพยนตร์แ ห่ง ชาติ ของประเทศอิ น เดี ย
(National Film Development Corporation of India หรือ NFDC) ช่วยจัดหาแหล่งเงิน ทุน เพื่อ สนั บสนุ น การ
สร้างภาพยนตร์ หรือการจัดหาผู่ร่วมลงทุนสร้างภาพยนตร์ (Co-Production) โดยรับหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงาน
ส่วนกลางให้กับทุกฝ่าย
51 https://www.nfdcindia.com/
52 https://www.cinemasofindia.com/#terms/about
53 https://filmbazaarindia.com/about/
54 https://nfdcempanelment.com/
97
NFDC จัดกองทุนขึ้นในหลากหลายรู ปแบบ อาทิ ในปี พ.ศ. 2560 องค์กรพัฒนาภาพยนตร์แ ห่ง ชาติ ข อง
ประเทศอินเดียหรือ NFDC ได้จัดตั้ง Cine Arristes Welfare Fund of India หรือ CAWFI55 เป็นกองทุนสวัสดิการ
สาหรับเชิญให้ผู้สนใจผลิตภาพนยตร์ สมัครเพื่อรับการคัดเลือกรับเงินทุนสนับสนุน โดยเงินทุนดังกล่าว มาจากกาไร
ที่รวบรวมได้จากภาพยนตร์อินเดียชื่อดังเรื่อง Gandhi
การพัฒนาบุคลากร
องค์กรพัฒนาภาพยนตร์แ ห่งชาติข องประเทศอิน เดี ย (National Film Development Corporation of
India หรือ NFDC)56 ให้การส่งเสริมกิจกรรมหรือ การจัดแข่ งขัน เพื่ อค้น หาผู้ผลิ ตภาพยนตร์ หน้าใหม่ โดยให้โอกาส
แก่ผู้สนใจผลิตภาพยนตร์ และผู้ที่ต้องการหาทุ น รวมทั้ง จัดการอบรมให้ ความรู้เ กี่ย วกั บวิ ชาชี พ ด้านภาพยน ตร์
อาทิ การอบรมนักเขียนบท57 FDC Screenwriters’ Lab ซึ่งดาเนินการต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 14 ในปี พ.ศ. 2564
เพื่อมุ่งหานักเขียนบทเข้า รับการอบรมจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
ปี พ.ศ. 2503 ประเทศอินเดี ยได้ก่ อ ตั้ง สถาบั น สาหรับ สอนการผลิ ตภาพยนตร์ ชื่อว่า สถาบันภาพยนตร์
และโทรทั ศ น์ แ ห่ ง ประเทศอิน เดี ย (Film and Television Institute of India หรื อ FTII)58 โดยรั ฐ บาลประเทศ
อินเดียให้การสนับสนุน สถาบันดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ของสถานที่ถ่ายทา Prabhat Studio เมืองปูเน่ พื้นที่ ซึ่งเป็น
จุดเริ่มต้นแห่งการส่งเสริ มการถ่า ยทาภาพยนตร์ แก่ส ถาบันศึ กษา FTII และเป็นหนึ่งในสตูดิโอถ่ายทาที่เ ก่าแก่ ที่ สุ ด
ของโลก FTII เป็นสถานศึกษาที่ผลิตบุคลากรคุณภาพซึ่งได้รับรางวัลทั้งระดับ ประเทศและนานาชาติอย่างต่อ เนื่อง
เนื้อหาภาพยนตร์ที่ทาเงิน
ภาพยนตร์อินเดีย ดึ งดู ด ผู้ช มจากทั่ว โลกผ่ านดาราดั งอย่าง Akshay Kumar ซึ่งได้รับค่าตอบแทนถึ ง 35
ล้านเหรียญสหรัฐและ Salman Khan ที่มีค่าตอบแทน 37 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย FICCI รายงานว่าอุตสาหกรรม
ภาพยนตร์อินเดียเติบโต ร้อยละ 27 ในปี พ.ศ. 2560 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากรายงานของ Deloitte
India and the Motion Picture Distributors Association ปี พ.ศ. 256059 พบว่ า ประเทศจี น ให้ ค วามสนใจ
ภาพยนตร์ Bollywood อย่างมาก กระทั่งสามารถทารายได้ 120 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยภาพยนตร์ฮินดีได้รับความ
นิ ย มสู ง สุ ด คิ ด เป็ น ร้ อ ยละ 40 ของตลาดภาพยนตร์ นอกจากนี้ รายงานระบุ ว่ า การเปลี่ ย นแปลงส าคั ญของ
อุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียเกิดจาก 5 ปัจจัยสาคัญ ได้แก่
55 https://www.nfdcindia.com/news/2017/40
56 https://www.nfdcindia.com/news/
57 https://www.nfdcindia.com/uploads/post/0851690001617779189.pdf
58 https://www.ftii.ac.in/p/about-ftii
59 https://www.mpa-apac.org/wp-content/uploads/2018/05/India-ECR-2017_Final-Report.pdf
98
1. การให้คุณค่าต่ อบทภาพยนตร์ มากขึ้ น โดยภาพยนตร์อิน เดียหลายเรื่ อ งที่ ผลิ ตขึ้ นระหว่ า งปี
พ.ศ. 2560 - 2561 สามารถครองตลาดด้วยการใช้บทภาพยนตร์ ถึงแม้ว่าจะมีการนาดาราดัง เช่น Akshay Kumar
และ Amitabn Bachchan ร่วมแสดงเพื่อ ดึง ดู ดผู้ช มด้ว ยก็ ตาม การให้ความสาคัญกั บบทภาพยนตร์ เป็น แนวโน้ ม
สาคัญที่คาดว่าจะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องในอนาคต
2. รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจ OTT จากการเติบโตและครอบครองตลาดของบริการสตรี มมิ่ ง อย่ า ง
Amazon Prime เปิดโอกาสให้โปรดิวเซอร์ได้รับรายได้เพิ่มขึ้น
3. การได้ส่วนแบ่งจากตลาดต่างประเทศ รายได้สุทธิของ Box Office ของภาพยนตร์ต่างประเทศ
เพิ่มขึ้นจากร้อ ยละ 6 ในปี พ.ศ. 2556 เป็นร้อยละ 10 ในปี พ.ศ. 2559 ส่วนแบ่งที่เพิ่ มขึ้น เกิดจากการลงเสี ย ง
พากย์เป็นภาษาอิน เดี ยในภาพยนตร์ Hollywood รวมทั้ง มีส่วนในการเพิ่ มเงิ นในการโฆษณาและการสร้า งโรง
ภาพยนตร์อีกด้วย
4. การเติบโตของภาพยนตร์ ท้อ งถิ่ น : เหตุผลที่ทาให้ภาพยนตร์ ท้อ งถิ่ นได้รับ ความนิ ย มมา กขึ้ น
คือ จานวนที่เพิ่มขึ้นของภาพยนตร์ท้ องถิ่ น นอกจากนั้น คือ การเพิ่มจานวนโรงฉายภาพยนตร์ ที่ มาพร้ อ มหน้ า จอ
ความคมชัดสูง (ประมาณ 14-15 โรงภาพยนตร์) สุดท้าย คือ เนื้อหาภาพยนตร์ที่แหวกแนวและเข้าถึง คนดูใ น พื้ น ที่
ท้องถิ่นได้มากขึ้น
สถานที่ถ่ายทาและเทศกาลภาพยนตร์
จากการศึกษาพบว่า มีการสร้าง Film City ทั่วประเทศอิน เดีย เช่น Mumbai Film City60 เมืองมุ ม ไบ
Ramoji Film City เมือง Hyderabad หรือ Innovative Film City เมือง Bengaluru สถานที่ถ่ายทาเหล่านี้มีการ
บริหารจัดการโดย Maharashtra Film, State and Cultural Development Corporation Ltd. ซึ่งเป็นองค์ ก ร
ของรัฐบาลท้องถิ่น เป็นศูนย์กลางการผลิตและการถ่า ยทาภาพยนตร์ อิน เดีย เป็นที่ตั้งของโรงถ่ายภาพยนตร์ แ ละ
บริ ษั ท ผู้ ส ร้ า งภาพยนตร์ร ายสาคั ญ เกื อบทั้ งหมดของประเทศอิน เดี ย รวมทั้ ง มี ก ารบริห ารจัด การอ านวยความ
สะดวกด้านสถานที่ถ่า ยทา ทั้งแบบกลางแจ้ง และในสตู ดิโ อที่ มีพื้น ที่ก ว่า 9,000 ตารางเมตร อุปกรณ์การถ่ า ยท า
บุคลากร เจ้าหน้าที่ และอื่นๆ เพื่ออานวยความสะดวกแก่การสร้างภาพยนตร์ สร้างรายได้ประมาณ 400 ล้าน
เหรียญสหรัฐต่อปี ที่สาคัญ Film City ยังมีส่วนในการส่งเสริมการท่ องเที่ย ว โดยการนานักท่องเที่ยวมาเยี่ ย มชม
ภายในสถานที่ถ่ายทาภาพยนตร์ Bollywood ที่ได้รับความนิยม
เทศกาลภาพยนตร์ Indian Panorama International Film Festival61 มีเป้าหมายเพื่ อ เปิ ด พื้น ที่ ใ ห้ แ ก่
ภาพยนตร์ จ ากทั่ว โลกได้แ สดงออกถึง ศิ ล ปะของการผลิต ภาพยนตร์ และส่ ง เสริมการผลิ ต ภาพยนตร์ ให้ มีการ
แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และวัฒนธรรมของประเทศอิน เดีย กับนานาประเทศ เชื่อมโยงและเข้าใจบริบททางสั ง คม
60 http://www.filmcitymumbai.org/
61 https://filmfreeway.com/IndianPanoramaInternationalFilmFestival
99
และวัฒนธรรมร่วมกัน รวมทั้งสนับสนุนความสัมพันธ์อันดีจากการทางานร่วมในสายงานผลิตภาพยนตร์ โดยเปิดให้
ผู้ชมและคนรักภาพยนตร์ได้เข้าร่วมงานอย่างเสรี
5.3 กรณีศึกษาจากประเทศอังกฤษ
62ประเทศอั ง กฤษมี บ ทบาทส าคั ญ ในอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ ม าเป็ น เวลาหลายศตวรรษ และเป็ น
แหล่ ง ก าเนิ ด ของภาพยนตร์ ที่ เป็ น ส่ วนหนึ่ง ของงานศิ ล ปะซึ่ ง มี ยุค ทองอยู่ใ นช่ว ง ปี ค.ศ. 1940 เอกลั ก ษณ์ ของ
อุตสาหกรรมภาพยนตร์อัง กฤษมี ความเที ยบเคีย งกับ Hollywood โดยประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ของ
อังกฤษ และอเมริกามีแนวโน้มที่จะแข่งขัน กันอย่างเห็นได้ชั ด ในด้านภาพยนตร์ สตูดิโอจาก Hollywood ได้ลงทุน
กับภาพยนตร์อัง กฤษกว่า 1 พันล้านปอนด์ เพื่อผลิตภาพยนตร์ ฟอร์ มใหญ่ ในปี พ.ศ. 2563 นอกจากนี้ ประเทศ
อังกฤษ มีนโยบายดึงดู ดการถ่ายทาภาพยนตร์ อิน เดี ย เข้า มาถ่า ยทา ณ ฐานการผลิต 12 แห่งในประเทศอั ง กฤษ
รวมถึงวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ งของประเทศอัง กฤษช่วยสร้างความหลากหลาย ซึ่งช่วยผลักดันการส่งออกผลิ ตภั ฒ ฑ์ ท าง
วัฒนธรรมและการเล่าเรื่องด้วยการร่วมมือกัน ระหว่างนานาชาติ
รัฐบาลประเทศอัง กฤษมุ่ งมั่ นสนั บสนุน อุต สาหกรรมดิจิทั ลและอุต สาหกรรมสร้างสรรค์ ให้ เป็น ส่วนหนึ่ ง ที่
สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งเสริมค่านิยมทางวั ฒนธรรมและสั งคม ยิ่งไปกว่านั้นคือการสร้างแรงจู ง
ใจทางด้านการเงินสาหรับการถ่ายทาภาพยนตร์ โดยมีการให้ทุนสนับสนุนจากสาธารณะผ่านทางสถาบันภาพยนตร์
อังกฤษ (British FiIm Institute หรือ BFI), และองค์กรอื่น ๆ ในระดับประเทศและภู มิภาค เช่น Screen Skills,
Into Film, the British Council, the BBC และ Channel 4 เพื่ อ การพั ฒ นาและส่ง เสริมบุ ค ลากรที่ มีค วามคิด
สร้ า งสรรค์ แ ละความสามารถเฉพาะด้ าน เพื่ อ ท างานด้ า นธุ ร กิ จและการพั ฒ นาผู้ ชม นอกจากนี้ การจั ดฉาย
ภาพยนตร์ มีหลายช่องทางอย่าง เช่น ตลาด Video on Demand ที่ประเทศอังกฤษมี พัฒนาการมากที่สุด ในแทบ
ทวีปยุโรป รวมถึงการใช้เครือข่าย 4G ที่แสดงให้เห็นถือความร่ วมมือระหว่างโทรทัศน์แ ละภาพยนตร์ กับภาคส่วน
เทคโนโลยี
เศรษฐกิจและภาพยนตร์อังกฤษ
ภาพที่ 14 แสดงรายได้โดยรวมของภาพยนตร์อั งกฤษระหว่างปี พ.ศ. 2553 และ พ.ศ. 2562 ในขณะที่
รายได้โดยรวมมีความผันผวน รายได้จากการเข้าชมในโรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้น ไม่มากนักตั้ งแต่ปี พ.ศ. 2555 ในขณะที่
รายได้ จ ากดิ จิ ทัล เพิ่ มสู งขึ้ นอย่ างต่ อ เนื่ อ งตั้ง แต่ ปี พ.ศ. 2553 จากข้ อ มู ล แสดงให้ เ ห็ นถึ งอิ ท ธิ พลของการรับชม
ภาพยนตร์ในรูปแบบดิจิทัลที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น
62 แปลจาก https://www.thecreativeindustries.co.uk/site-content/industries-tv-film-tv-film-why-the-uk
100
ภาพที่ 14 รายได้ของภาพยนตร์อังกฤษจากปีพ.ศ. 2553-256163
ในปี พ.ศ. 2562 ภาพยนตร์อังกฤษทารายได้โ ดยรวม 10.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มจากปี พ.ศ. 2561
จานวน 9.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภาพยนตร์อิสระจากประเทศอังกฤษมีรายได้ 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี พ.ศ.
2562 ทั้ ง นี้ ภาพยนตร์ อั ง กฤษที่ มีร ายได้ สู ง สุ ด ในปี พ.ศ. 2562 จาก Box Office ทั่ ว โลก คื อ Avengers :
Endgame มีมูลค่า 2.4 พันล้านเหรียญสหรั ฐ และภาพยนตร์อิสระที่ไ ด้รายได้สู งสุ ด คือ Downton Abbey เป็น
จานวน 176 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก ซึ่งตัวเลขนี้แสดงให้ เห็น ถึง ความสาคัญของภาพยนตร์ก ระแสหลักและนอก
กระแสที่นับเป็นองค์ประกอบสาคัญของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ทาเงินให้แ ก่ประเทศอั งกฤษ
101
จานวนภาพยนตร์ที่สร้างรายได้สู งสุ ดทั่ วโลกจากจานวนทั้ งหมด 200 เรื่อง มีการจาแนกสัดส่วน โดย 26
เรื่อง มีการวางโครงเรื่องและตัวละครที่สร้างสรรค์โดยนัก เขียนชาวอัง กฤษ และมีนักแสดงชาวอังกฤษได้รับแสดงใน
บทนาและสมทบ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 67.5 จากภาพยนตร์ที่สร้างรายได้สูงสุดทั่วโลกจานวน 200 เรื่อง
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 - 2562 ผู้กากับชาวอังกฤษได้ร่ว มทางานกับภาพยนตร์ 31 เรื่องจากทั้งหมด 200
เรื่องที่สร้างรายได้สูงสุดทั่ วโลกในช่วงเดีย วกัน นอกจากนี้ ภาพยนตร์อังกฤษและนักแสดงชาวอังกฤษได้รับรา งวั ล
เกี่ยวกับภาพยนตร์รวม 27 รางวัลใหญ่
(อ้างอิงจาก UK Film economy (2020), https://www.bfi.org.uk/industry-data-insights/statistical-
yearbook)
ความโดดเด่นของสถานที่และการอานวยความสะดวก
ประเทศอั ง กฤษได้ รั บ ความสนใจด้ า นสถานที่ ถ่ า ยท าที่ มีค วามหลากหลาย ทั้ ง ความเป็ น เมื อ งหลวง
ประวัติศาสตร์ และความเป็นธรรมชาติ เช่น Game of Thrones ซึ่งถ่ายทา ณ ตอนเหนือของไอร์ แลนด์ สถานที่
ถ่ายทาต่างๆ ในประเทศอังกฤษ ช่วยสนับสนุนและกระตุ้นการท่องเที่ ยวโดยเชื่อ มโยงกั บภาพยนตร์ ต่างๆ ที่ได้รับ
ความนิยม โดยทารายได้มูลค่ากว่า 600 ล้านปอนด์ ในปี พ.ศ. 2559 ส่งเสริมให้เกิด การจ้า งงานและสร้างรายได้
จากภาษี ทั้งนี้ สัดส่วนของผู้ทเี่ ดิน ทางเข้ามาท่ องเที่ ยวในประเทศสกอตแลนด์ ได้รั บอิ ทธิ พลมาจากโทรทั ศ น์ แ ละ
ภาพยนตร์ คิ ด เป็ น ร้ อ ยละ 8 นอกจากนี้ มี ก ารจั ด ทั ว ร์ ส ตู ดิ โอ Warner Brothers65 ชื่ อ Harry Potter Studio
Tour ในปี พ.ศ. 2562 โดยมีการสร้างและออกแบบโดยสมาชิกกองถ่ายที่ทางานในภาพยนตร์ซีรี ส์ รวมถึงการใช้ชุด
แสดง การจัดทัวร์นี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมได้กว่า 12 ล้านคน
การส่งเสริมบุคลากร
ประเทศอังกฤษมี การเรียนการสอนเกี่ ยวกั บภาพยนตร์ และโทรทั ศน์ ที่ไ ด้รับ การยอมรับ ในระดั บโลกจาก
หลายสถาบัน อาทิ London Film School และ National Film and Television School (NFTS)66 อุตสาหกรรม
การสร้างเทคนิคพิเศษทางภาพ (Visual Effect) ได้เบิกทางสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ ในประเทศอังกฤษ โดย NFTS มีการ
สอนหลักสูตรที่ครอบคลุมเชื่อมโยงตั้งแต่ภาพยนตร์ โทรทัศน์และวีดิโอเกม ซึ่งมีส่วนที่เจาะลึกในศาสตร์องค์ค วามรู้
ต่างๆ ที่จาเป็นต่ออุตสาหกรรมบันเทิงโดยรวม
65 https://www.wbstudiotour.co.uk/
66 https://nfts.co.uk/
102
เงินทุน
67 Chapain (2017) กล่าวว่าการลดหย่อนภาษีสาหรับภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์และแอนิเมชั่นได้ท าให้
การถ่ายทาในประเทศอั งกฤษมีแ รงดึง ดูด มากขึ้น ในขณะที่ปีพ.ศ. 2563 ภาพยนตร์อังกฤษกว่า 300 เรื่องได้ก าร
ถ่ า ยท าเสร็ จ สิ้ น ซึ่ ง ได้ รั บ การผ่ อ นผั น ภาษี ด้ ว ยค่ า ใช้ จ่ า ยของ ประเทศอั ง กฤษเป็ น จ านวน 2.5 พั น ล้ า นปอนด์
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้รับการสนับสนุน จากรัฐบาลประเทศอังกฤษจาก พ.ร.บ. ภาพยนตร์ (Cinematography
Films Act) ที่ร่างขึ้นในปีพ.ศ. 2470 ช่วงปีพ.ศ. 2543 อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศอั งกฤษได้รับเงินทุ น จาก
หลายหน่วยงานของรัฐบาล เช่น หน่วยงานสาธารณะและแหล่งเงินจากยุโรป โดยคณะกรรมการภาพยนตร์อั ง กฤษ
(UK Film Council) ซึ่งในปัจจุบันคือสถาบันภาพยนตร์อังกฤษ (BFI) รับหน้าที่เป็นช่องทางหลักด้านการสนับ สนุ น
จากรัฐบาล ที่นอกเหนือจากการลดหย่อนภาษี ซึ่งคณะกรรมการภาพยนตร์อัง กฤษส่ง เสริ มกิจกรรมในหลายเวที ที่
เกี่ยวข้องกับ Value Chain ของภาพยนตร์ รวมถึงองค์กรอื่นที่สนับสนุนอยู่ ในระดับประเทศและท้ องถิ่น โดยรวม
สาธารณชนได้ใช้เงินเพื่อ สนับสนุน อุต สาหกรรมภาพยนตร์แ ละวีดิโ อโดยร้อยละ 56 ให้แก่การผลิตและถ่ายทาร้ อ ย
ละ 12 ให้แก่การจัดจาหน่ายและนาออกฉาย และการฝึกฝนทัก ษะและการศึ ก ษาอยู่ที่ ร้ อยละ 14 ซึ่งการฝึก ฝน
ทั ก ษะเป็ น องค์ ป ระกอบส าคั ญ ที่ อ ยู่ ใ นยุ ท ธศาสตร์ ก าร พั ฒ นาฝึ ก ฝนทั ก ษะใน ช่ ว งปี พ.ศ. 2543 ที่ มีชื่ อ ว่ า
A Bigger Future โดยมีหลายองค์กรที่มอบปริญญาบัตรด้านวิชาการและการเรียนการสอนในหลักสูตรภาพยนตร์
องค์กรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์อังกฤษ
1. สถาบันภาพยนตร์ประเทศอังกฤษ (The British Film Institute /BFI)68 ก่อตึ้งขึ้นมาในปีพ.ศ.
2476 เป็นผู้จัดสรรกองทุนล๊อตเตอรี่แห่งชาติให้กับภาพยนตร์ ซึ่งลงทะเบียนเป็นองค์กรการกุศลโดยได้รับ พร ะบรม
ราชานุญาต (Royal Charter) BFI ซึ่งได้รับช่วงต่อจากคณะกรรมการภาพยนตร์ อัง กฤษ (UK Film Council) ในปี
พ.ศ. 2554 โดยรับหน้าที่สนับสนุนและอนุรั ก ษ์ภาพยนต์ โทรทัศน์และภาพเคลื่ อนไหวในประเทศอัง กฤษ โดยใช้
กองทุ น ล๊ อ ตเตอรี่ (lottery fund) ในการส่ ง เสริมการถ่า ยท าภาพยนตร์ การจั ดจ าหน่า ยและการให้ก ารศึกษา
ทางด้านภาพยนตร์ BFI ได้รับการสนับสนุนโดย กระทรวง ดิจิทัล วัฒนธรรม สื่อ และการกีฬาของประเทศอั ง กฤษ
(Department for Digital, Culture, Media and Sport หรื อ DCMS) ซึ่ ง เป็ น หน่ ว ยงานที่ ดู แ ลการขั บ เคลื่ อน
อุ ต สาหกรรมสร้ า งสรรค์ หน้ า ที่ ข อง BFI คื อ การท าการกุ ศ ลทางวั ฒ นธรรมผ่ า นทางดู แ ลรั ก ษาและจั ด แสดง
ภาพยนตร์โลกสู่ส าธารณชนทางโรงภาพยนตร์ เทศกาลภาพยนตร์และทางออนไลน์ รวมทั้งดูแลคลั งภาพยนตร์
นานาชาติขนาดใหญ่ เสาะหานักทาภาพยนตร์รุ่นใหม่ และทางานร่วมกับรัฐบาลและคนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
เพื่อทาให้ประเทศอังกฤษเติบโตอย่างสร้างสรรค์ทั้งในและต่างประเทศ
67
Chapain, Caroline, 2017, Innovation Dynamic in the Film Industry: The Case of the Soho Cluster in London, p.12-13
68
British Film Institute (BFI), https://www.bfi.org.uk/
103
2. คณะกรรมการอุตสาหกรรมสร้างสรรค์69 (Creative Industries Council /CIC) เป็นองค์กรที่
ทางานร่วมกันระหว่างรัฐบาล ธุรกิจสร้างสรรค์และองค์กรสร้า งสรรค์ อื่น ๆ ซึ่งเน้นในส่วนที่ทาให้ประเทศอั ง กฤษมี
การเติบโต อย่างเช่นการเข้าถึงเงินทุน ทักษะ ตลาดการส่งออก กฏหมาย ทรัพย์สินทางปัญญา และสาธารณูปโภค
ต่ า งๆ รวมถึ ง การสนั บ สนุน โอกาสทางด้ านอื่ นๆ เช่ น การสร้ างความหลากหลายและการมี ส่ ว นร่ ว มของคนใน
อุตสาหกรรม
3. รางวั ล สถาบั น ศิ ลปะภาพยนตร์แ ละโทรทัศ น์ แห่ ง ประเทศอัง กฤษ 70 (British Academy of
Film and Television Arts /BAFTA) ถูกจัดตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2490 เพื่อให้เชิดชูและให้ เกีย รติ ศิล ปินชาวอั ง กฤษที่
สร้างผลงานดีเด่นทางด้านภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศ
Model ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์อังกฤษ
Chapain (2017)71 เสนอว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ดาเนินงานใน 2 รูปแบบ ได้แก่
1) สตูดิโอภาพยนตร์อังกฤษและสหรัฐ อเมริกา ซึ่งผลิตภาพยนตร์ในรูปแบบดั้ง เดิ มและรู ป แบบ
จัดจาหน่ายโดยมีตัวแทนเป็นบริษัทใหญ่จากทางอเมริกัน
2) ภาพยนตร์อังกฤษอิ สระที่ผ ลิต โดยบริ ษัท เล็ก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต จัดจาหน่ายและการ
บริการทางภาพยนตร์ ซึ่งรูปแบบดังกล่าวนี้ อาจมีข้อจากัดด้านการจัดจาหน่าย เนื่ องจากประเทศสหรั ฐอเมริ ก ามี
ศักยภาพด้านการจัดจาหน่ายในระดับนานาชาติมากกว่า จึงอาจครองส่วนแบ่งของการจาหน่ายภาพยนตร์ดังกล่าว
ทั้ ง นี้ การฉายภาพยนตร์ ใ นประเทศอั ง กฤษพึ่ ง พาผู้ จั ด จ าหน่ า ย จาก 5 หน่ ว ยงาน ได้ แ ก่ Odeon,
Cineworld, Vue, National Amusements และ Ward Anderson ซึ่งเป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์ คิดเป็นสัด ส่ ว น
ร้อยละ 74 ของโรงภาพยนตร์ทั้งหมด
69
https://www.thecreativeindustries.co.uk/about-us
70
British Academy Film Awards, https://www.bafta.org/film
71 Chapain, Caroline, 2017, Innovation Dynamic in the Film Industry: The Case of the Soho Cluster in London, p.12-13
104
ความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์แ ละโทรทัศน์ในประเทศอั งกฤษ ตั้งอยู่บนพื้นฐานด้านทักษะและ
ความชานาญของการผลิตภาพยนตร์ โดยรวมการผลิตภาพยนตร์แ ละวิดีโ อ และกระบวนการหลังการผลิต (Post-
production) เป็นสัดส่วนร้ อยละ 92 ของภาพยนตร์ใ นปี พ.ศ. 2553 นอกจากนี้ ประเทศอัง กฤษได้ ผลิ ต ดา รา
นั ก แสดง ผู้ ก ากั บ และโปรดิ วเซอร์ คุ ณภาพจานวนมาก ซึ่ ง เป็ น ที่รู้ จัก และได้ รับ การยอมรั บ จากทั่ วโลก รวมถึง
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ และวิ ดีโอต่า งได้รับประโยชน์จากสตูดิ โอขนาดใหญ่แ ละกลาง รวมถึงขนาดเล็กบางแห่ ง ที่
สร้างสรรค์บุคลกรและผลงานทางด้านการถ่ายทาภาพยนตร์และ Post-Production
5.4 กรณีศึกษาจากประเทศเกาหลีใต้
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ในประเทศเกาหลีใ ต้ ในช่ ว งเวลา 20 ปีที่ผ่านมาถือว่า มีการเติบ โตที่ร วดเร็ ว และ
แข็งแรงในเชิงการผลิตและการส่งออก จนภาพยนตร์เกาหลี ใต้ได้เข้า มาแบ่ ง พื้นที่ทางการตลาดไปจากมหาอานาจ
ทางภาพยนตร์อย่าง Hollywood รวมถึงการประกาศความสาเร็จในเวทีภาพยนตร์ร ะดั บโลกจากการชนะรา งวั ล
ออสการ์ครั้งที่ 92 ในปี พ.ศ. 2563 ของภาพยนตร์เรื่อง Parasite กากับโดย บงจุนโฮ โดยเป็นภาพยนตร์เรื่องแรก
ที่ชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ย ม ด้วยการดาเนินเรื่องในภาษาที่ไม่ ใช่ภาษาอังกฤษ ด้วยจุดเด่นในหลายๆด้าน จึง
ทาให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลีใต้กลายเป็นผู้เล่นคนสาคัญในตลาดภาพยนตร์โลก
72
https://www.statista.com/statistics/859817/south-korea-movie-export-value/
105
ตารางที่ 37 จานวนภาพยนตร์เกาหลีใต้ที่ ผลิตและเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ระหว่างปี พ.ศ. 2558 - 256373
ปี พ.ศ. จานวนภาพยนตร์เกาหลีใต้ที่ ผลิตและเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ (เรื่อง)
2558 226
2559 195
2560 216
2561 236
2562 256
2563 134
การสนับสนุนจากภาครัฐ
อุตสาหกรรมภาพยนตร์เ กาหลี ใต้ไ ด้ปรั บเปลี่ยนมาเป็นโยบายในรู ปแบบสนับ สนุน ภายใต้สภาภาพยนตร์
เกาหลี Korean Film Council (KOFIC)74 ซึ่งเป็นองค์กรพิเศษที่ ถูกรับรองโดยกระทรวงวัฒ นธรรม กระทรวงกีฬ า
และการท่องเที่ยว และรัฐบาลประเทศเกาหลีใ ต้ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2516 มีหน้าที่สนับสนุนภาพยนตร์เ กาหลี ใ ต้
อย่างเต็มตัว โดยคานึงว่าภาพยนตร์ เป็น ศิล ปะที่ เป็น ตัว แทนของประเทศเกาหลีใ ต้ รวมถึงความพยายามผลั ก ดั น
การเติบโตของภาพยนตร์เอเซียเข้าสู่ตลาดโลก KOFIC ให้การสนับสนุนในส่วนต่างๆ ดังนี้
1. การสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนา โดยตั้งใจวางแผนและพัฒนาภาพยนตร์เ กาหลีใ ต้ ผ่าน
การจัดหา นักเขียน ผู้กากับ โปรดิวเซอร์ และบริษัทผลิตภาพยนตร์ เข้าสู่ตลาดภาพยนตร์ รวมทั้งต้องการขยาย
โอกาสในการผลิตภาพยนตร์ให้หลากหลาย และจัดหาสิ่งจาเป็นในการผลิตภาพยนตร์อื่นๆ อีกด้วย
2. การสนับสนุนการลงทุ นและการผลิ ต ในประเทศ โดยการส่ง เสริ มการสร้า งภาพยน ตร์ ที่ มี
ความเป็นเอกลักษณ์และค้นหาผู้กากับที่จ ะเป็นแนวหน้าให้กั บวงการภาพยนตร์เกาหลี ใต้
3. การสนั บ สนุ น การจั ด จ าหน่ า ยภาพยนตร์ ซึ่ ง KOFIC มุ่ ง ที่ จ ะสร้ า งความหลากหลายใน
วัฒนธรรมภาพยนตร์และเผยแพร่ คุ ณค่าของภาพยนตร์ผ่านทางการขยายรากฐานของการจั ด จาหน่ายภาพยนตร์
ศิลปะหรือภาพยนตร์อิสระ และจัดตั้งเทศกาลภาพยนตร์ที่หลากหลาย
4. สนับสนุนการส่งออกภาพยนตร์ โดยส่งภาพยนตร์ เกาหลี ใต้ เ พื่อ เข้ าร่ว มเทศกาลภาพยนตร์
และโครงการอื่นๆในต่า งประเทศ รวมถึงการโปรโมทลักษณะของการให้บริ การจับ คู่ธุรกิจ อีก ด้วย โดยมีการจัด ตั้ ง
การร่วมมือของรัฐบาลประเทศเกาหลีใ ต้และอาเซียน Asean-Rok Film Partnership75 ที่จัดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ.
2562 เพื่อให้เกิดการร่วมมือกันในการผลิตภาพยนตร์ระหว่างรัฐบาลประเทศเกาหลี ใต้และประเทศกลุ่มอาเซียน
73
https://www.koreanfilm.or.kr/eng/films/index/filmsList.jsp
74
https://www.koreanfilm.or.kr/eng/kofic/intro.jsp
75
https://www.koreanfilm.or.kr/eng/main/arfp.html
106
5. สนับสนุนเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการถ่ายทา พยายามเสาะหาเทคโนโลยีที่เหมาะกับการสร้ า ง
ภาพยนตร์ที่มีคุณภาพ
6. ดู แ ลด้ า นนโยบายภาพยนต์ องค์ ก ร KOFIC ได้ ท าการศึ ก ษานโยบายที่ ช่ ว ยในการสร้าง
สภาพแวดล้ อ มที่ เ หมาะสมต่ อ การแข่ ง กั น ทางด้ า นภาพยนตร์ พร้ อ มทั้ ง หาทางออกให้ แ ก่ ปั ญ หาที่ เ กิ ด ขึ้นใน
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศ
7. การสร้าง Korean Academy of Film Arts (KAFA)76 ในปี พ.ศ. 2527 องค์กร KOFIC ให้
สร้าง KAFA มาเพื่อฝึกฝนและสร้างบุคลากรที่ทางานด้านสร้างสรรค์ทางภาพยนตร์ โดยมีการจัดการเรียนการสอน
ผลิตและกากั บภาพยนตร์ แอนนิเมชั่น การถ่ายทาภาพ และในปี พ.ศ. 2549 มีหลักสูตรขั้นสู ง ที่ข ยายขอบเขต
การศึกษาโดยนานักศึกษามาเข้าร่วมในวงการภาพยนตร์และจัด การผลิตภาพยนตร์ยาว (Feature) จานวน 4 เรื่อง
ต่อปี ซึ่งภาพยนตร์ที่ผลิตเหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกส่ง เข้าร่ว มเทศกาลภาพยนตร์ทั้ งในและต่างประเทศ โดยได้ชนะรางวั ล
มากมาย ในปัจจุบัน KAFA มีผู้สาเร็จการศึก ษากว่า 700 คนและเป็นสถาบัน ให้ การศึก ษาด้านภาพยนตร์ อั น ดั บ
ต้นๆ ของประเทศ
8. การสร้าง KOFIC Namyangju Studio77 ซึ่งเป็นศูนย์ก ลางการถ่ายทาภาพยนตร์ แบบครบ
วงจร อันประกอบด้วยโรงถ่ายทาภาพยนตร์แ บบในร่มและกลางแจ้ ง ห้องบันทึกเสียง ห้องตัดต่อ และศูนย์เรีย นรู้
เกี่ ย วกั บ ภาพเพื่ อ ใช้ ใ นการท างานภาพยนตร์ รวมถึ ง พิ พิธ ภั ณฑ์ ภ าพยนตร์ (Film Culture Museum) ซึ่ ง ได้
กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อแสดงอุ ปกรณ์ ที่ใช้ในการสร้างแอนนิเ มชั่น 3D ผู้ที่เข้าชมสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการ
พัฒนาการด้านเทคโนโลยีไปพร้อมๆกับกระบวนการการผลิตภาพยนตร์
การสนับสนุนบุคลากร
ประเทศเกาหลีใต้มีการลงทุนสร้างสถาบันเพื่ อพั ฒนาทรัพยากรมนุ ษย์ในเชิงคุ ณภาพ ทั้งในส่วนของภาครั ฐ
และภาคเอกชน โดยภาครัฐได่ก่อตั้ งสถาบันการศึ กษาเฉพาะทางที่ หลากหลายเช่ น KAFA ซึ่งเป็นโรงเรียนเฉพาะ
ทางด้านภาพยนตร์ เพื่อฝึกฝนอบรมผู้ ผ ลิต ภาพยนตร์ค นรุ่น ใหม่ใ ห้ก ลายเป็น มื ออาชี พ และทางเอกชนมี ก าร ตั้ ง
School of Film, TV and Multimedia ที่ ส อนการถ่ า ยท าภาพยนตร์ แ ละการผลิ ต สื่ อ ต่ า งๆ ภายใต้ Korean
National University of Arts78 เพื่ อ สร้ า งต้ น ทุ น ให้ กั บ ผู้ ที่ ส นใจศึ ก ษาด้ า นภาพยนตร์ ซึ่ ง มี ผ ลต่ อ คุ ณภาพของ
ภาพยนตร์เกาหลีใต้ในระยะยาว
นอกจากนั้น KOFIC ได้จัดโครงการเพื่ อส่ ง เสริ มกลุ่ มนั ก แสดง เช่นในช่วงโควิ ด ได้มีการจัด ตั้ง Korean
Actors 20079 ซึ่งเป็นการคัด เลือ ก 100 นักแสดงหญิง และ 100 นักแสดงชาย ที่เป็นตัวแทนวงการภาพยนตร์
76
http://114.202.2.227/english/index.do
77
https://www.koreaetour.com/kofic-namyangju-studios/
78 https://www.karts.ac.kr/en/main.do
79 https://theactorispresent.kr/
107
เกาหลีใต้ โดยพิจารณาจากเกณฑ์รางวัลที่เคยได้รับทั้ งในประเทศและระดับนานาชาติ อิทธิพลใน Box office และ
การมีส่วนร่วมของพวกเขาในภาพยนตร์นานาชาติ 200 นักแสดงที่ได้รับการคัดเลือกจะถูก การเผยแพร่สู่สาธาร ณะ
ในเดือน ผ่านเว็บไซต์ที่จัดทาขึ้นพิเศษ ซึ่งนาเสนอประวัติโดยละเอียดของนักแสดงแต่ล ะคน ทางสภาการภาพยนตร์
เกาหลี ต้องการส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์สู่ตลาดต่างประเทศ
กองทุน
ดร. อมร ถุงสุวรรณ (2560) 80 กล่าวไว้ว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ขับเคลื่อนได้ ด้วยกองทุน ซึ่งแยกออกเป็ น
3 กองทุนที่ใช้ในการผลิตภาพยนตร์
1. กองทุนสภาภาพยนตร์ เกาหลี กองทุนทั้งหมดปีล ะ 52 ล้านเหรียญสหรั ฐ แบ่งเป็น 12 ล้าน
เหรียญสหรัฐเพื่อ สร้า งภาพยนตร์ 11.6 ล้านเหรียญสหรัฐในการส่ งเสริ มโรงภาพยนตร์แ ละบริ ษัท ภาพยนตร์ กู้ ยื ม
และ 28.4 ล้านใช้เพื่อส่งเสริมการดาเนินงานของสถาบันศิลปะและภาพยนตร์และ Namyangju Studio
2. กองทุนที่เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลภาพยนตร์ นานาชาติปูซานหรื อ Pusan Promotion Plan
(PPP) ซึ่งเป็นกองทุนร่ ว มระหว่า งรั ฐและเอกชนในการให้ การสนั บสนุน เงิน อย่างน้อยปีล ะ 2,000 ดอลลาร์ แก่
ภาพยนตร์เอเซีย ที่อ ยู่ในขั้น เตรีย มงาน ถ่ายทา หรือขั้นตอนหลัง การถ่ายทา โดยภาพยนตร์ ที่ไ ด้รั บคั ด เลื อกเข้ า
โครงการจะมีโอกาสในการเจรจาระดมทุ นจากผู้ สร้างจากที่วโลก กองทุนนี้เน้นการให้ความช่ วยเหลือ ด้านการ เงิ น
และด้านต่างๆ ทั้งภาพยนตร์ของประเทศเกาหลีใต้และภาพยนตร์ประเทศทางเอเซียเป็นสาคัญ
3. กองทุน PIFF Asian Network of Documentary (AND Asia Project) เป็นกองทุนที่ให้ก าร
สนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ ประเภทสารคดี ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่ อสร้างความเข้าใจอันี่ ทางวั ฒนธรรมประเภทไม่
แสวงหากาไร โดยแบ่งเป็นสองประเภทคือ ประเภทที่ความยาวไม่ต่ากว่า 50 นาทีและความยาวไม่เกิน 30 นาที ซึ่ง
ให้สิทธิ์ขอทุนแก่ นักสร้างภาพยนตร์สั้น ที่มีโครงการสร้างภาพยนตร์สั้นเชิงสารคดี
80 ดร.
อมร ถุงสุวรรณ (2560). งานวิจ ัยนวัตกรรมการพัฒนาสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามคุณค่าเชิงคุณธรรมของธุรกิจ คุณธรรมของธุรกิจภาพยนตร์ไทยเพื่อเสริมสร้าง
เศรษฐกิจ สร้างสรรค์, หน้า 21
108
สถานที่การถ่ายทา
นอกจากการสร้ างโรงถ่ ายทาภาพยนตร์ หลายแห่ ง ในประเทศเกาหลี ใต้ เช่ น โรงถ่ าย Busan Cinema
Studios เพื่ อ ให้ บ ริ ก ารให้ เ ช่ าโรงภาพยนตร์ พร้อ มอุ ป กรณ์ อ านวยความสะดวกในการท างาน ส าหรั บผู้ กากับ
ภาพยนตร์ นักสร้างภาพยนตร์อิสระ นักเรียน นักศึกษา ในราคามาตรฐาน ซึ่งเป็นการจัดหาความรู้และสร้างโอกาส
ในการฝึกฝนให้แก่บุคคลากรรุ่นใหม่ที่จ ะเข้าสู่ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ เกาหลี ใ ต้ Netflix81 ผู้ให้บริการสตรีมมิ่ง คอน
เทนต์ระดับโลก ได้ประกาศเซ็นสัญญาเช่าสตู ดิโ อเพื่อ การผลิ ตผลงาน original content ในระยะยาว 2 แห่งนอก
กรุงโซล ในเมืองพาจู และ ยอนชอน ได้ระบุว่าการเช่าสตูดิโอ 2 แห่ง นั่นคือ YCDSMC – Studio 139 ที่ประกอบ
ไปด้วย 6 พื้นที่ถ่ายทา และพื้นที่รองรับอื่นๆ ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 9,000 ตารางเมตร และ Samsung Studio
ที่จะมี 3 พื้นที่ถ่ายทา พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 7,000 ตารางเมตร นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ถึง ปี พ.ศ. 2563 Netflix ได้
ลงทุนใน Content เกาหลี กว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐพร้อมด้ว ยผลงานการผลิ ตจากประเทศเกาหลีใ ต้ มากกว่า
80 ผลงาน และมีผู้ชมจากทั่วโลก ซึ่งการจัดเตรียมสตูดิ โอทั้ ง 2 แห่งนี้เป็นการแสดงออกถึ งเจตจานงของ Netflix
ในการลงทุนในระบบนิเวศสร้างสรรค์ (Creative Ecosystem) ของประเทศเกาหลีใต้ในระยะยาว
นอกจากนั้ น หน่ ว ยพั ฒ นาภาพยนตร์ อ ย่ า ง Busan Cinema Venture Center 82 ซึ่ ง เป็ น สถานที่ จั ด
เทศกาลภาพยนตร์ภูซาน Busan International Film Festival (BIFF) มีพื้นที่ ที่ประกอบโดยโรงภาพยนตร์ข ยาย
ใหญ่ที่พร้อมจัดงานแสดวขนาดใหญ่ ที่ เกี่ย วข้ องกับภาพยนตร์ และบั นเทิง อื่น ๆ รวมทั้งการให้เช่าอุป กรณ์เ กี่ ย วกั บ
การถ่ายทาภาพยนตร์และสถานที่เพื่อฝึกอบรมบุคลกร เพื่อจัดการคุณภาพยนตร์ทางการจัดการความรู้ใ ห้แต่นั ก ท า
ภาพยนตร์รุ่นใหม่
การอานวยความสะดวก แนวทางสนับสนุน
กฎหมายของเกาหลี ใ ต้ไ ด้เ น้นส่ ง เสริ มและสนับ สนุน อุต สาหกรรมภาพยนตร์ โดยมีการประกาศใช้ Film
Promotion Law และได้จัดตั้ง KOFIC ขึ้นเพื่อทาหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุน อุตสาหกรรมภาพยนตร์โ ดยตรง ทา
ให้การดาเนินงานไปได้อย่างต่อเนื่อ ง โดยประธานและคณะกรรมการของ KOFIC มีความเชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์
ทาให้การปฏิบัติงานเพื่อส่ง เสริ มด้านภาพยนตร์เ กาหลี ใ ต้ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามความต้ องการ
ของอุตสาหกรรม
81
https://about.netflix.com/th/news/expanding-our-presence-in-korea-netflix-production-facilities
82
https://english.busan.go.kr/bsfilm01
109
รัฐบาลเกาหลีใต้ส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ด้ วยมาตรการที่ เป็นรูปธรรม Kim (2007) 83
กล่าวว่าระบบ screen quota ได้ถูกนาเสนอผ่านกฎหมายภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2509 โดยมีการบังคับจานวนวั น ที่
ภาพยนตร์เกาหลีใต้ต้องเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ มากกว่า 90 วันต่อปีและได้รับการเพิ่ มขึ้น เป็น 121 วัน และ146
วันในปี พ.ศ. 2527 ต่อมาในปี พ.ศ. 2529 บุคลากรในวงการภาพยนตร์ต้องการความเป็นเสรีในการผลิตภาพยนตร์
จึงเรียกร้องให้การยกเลิกระบบเซ็นเซอร์และพัฒนามาตรการที่ใช้ ในการส่ง เสริมภาพยนตร์ เกาหลีใ ต้เ พื่อตอบรั บ กั บ
การเข้ า มาของ Hollywood ซึ่ ง เป็ น จุ ด เริ่ มต้ น ท าให้ เ กิด กฎหมาย Film Promotion Law ขึ้ น ในปี พ.ศ. 2538
บั ง คั บ ใช้ โ ดยสภาภาพยนตร์เ กาหลี ห รือ KOFIC เพื่ อ ให้ เ สรี ภ าพต่ อ อุ ต สาหกรรมภาพยนตร์แ ละท าให้น โยบาย
ส่งเสริมภาพยนตร์นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น
83
Kim Hyae-joon (2007) A History of Korean Film Policies, https://www.koreanfilm.or.kr, p.335
84 https://www.kmdb.or.kr/eng/main
110
5.5 กรณีศึกษาจากประเทศฝรั่งเศส
เมื่อมองประเทศไทยเปรียบเทียบกับ ประเทศฝรั่ งเศส มีความใกล้เคียงกันในหลายด้านทั้งจานวนประชากร
และขนาดพื้นที่ประเทศ โดยประเทศฝรั่งเศสมีประชากร 67 ล้านคน ในขณะที่ประเทศไทยมีประชากร 69 ล้านคน
(วัดเมื่อปี พ.ศ. 2562) อีกทั้งขนาดของประเทศฝรั่ ง เศสวั ดได้ 643,801 ตร.กม.และประเทศไทยวั ด ได้ 513,120
ตร.กม. และหากย้อนไปดูจุดกาเนิดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศฝรั่งเศส จะเห็นได้ว่าภาพยนตร์ฝรั่ ง เศส
นั้นเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมประจาชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศหวงแหนแต่ต้ องการอนุรัก ษ์ไว้ เสมือนมรดกของชาติ
แง่มุมนี้ถือว่ามีแนวทางที่ ใกล้ เคี ยงกับที่ ประเทศไทย 85ภาพยนตร์ฝรั่งเศสอยู่คู่ กับ ประเทศฝรั่ งเศสมากกว่า 100 ปี
ตั้งแต่ August และ Louis Lumière สร้างเทคโนโลยีทางภาพยนตร์ขึ้ นใน ค.ศ. 1895 หรือปลายศตวรรษที่ 19
รวมถึง นักทาภาพยนตร์ชั้นครู อย่า ง Georges Méliès ที่ได้สร้างภาพยนตร์ที่ มีกลไกเหมือ นมายากล (A Trip To
The Moon) ที่กลายเป็นหนึ่งในผลงานอมตะในประวัติ ศาสตร์ภาพยนตร์ ในแง่การเคลื่อนไหวทางภาพยนตร์ที่ โ ดด
เด่นคือ กระแสต่อต้านการทาภาพยนตร์สู ตร Hollywood จากการรวมตัวของนั กทาภาพยนตร์ค ลื่นลู กใหม่ ห รื อ
French New Wave ที่ได้ผลิตผู้กากับเช่น Jean-Luc Godard และ François Truffaut รวมถึงนักวิจารณ์และนั ก
สร้างภาพยนตร์อย่าง André Bazin ผู้ก่อตั้ง นิตยสารภาพยนตร์ฝรั่ง เศส Cahiers du Cinéma โดยองค์รวมของ
อุตสาหกรรมมีความตั้งใจทาให้ภาพยนตร์เป็ นสิ่งที่ กระตุ้นปัญ ญาและสุนทรียภาพทางศิลปะ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจาก
การก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ อย่าง Cinémathèque (หอภาพยนตร์) ในประเทศฝรั่งเศส
ภาพยนตร์ที่ถูกผลิตขึ้น ในประเทศฝรั่ งเศส มีจานวนเพิ่มขึ้นอย่า งต่ อเนื่อ งในช่วง 10 ปี โดยมีสัดส่วนเป็ น
ภาพยนตร์ฝรั่งเศสถึงร้อยละ 70 และภาพยนตร์ต่างประเทศอยู่ในส่วนเพีย งแค่ประมาณร้อยละ 25 ซึ่งเห็นได้ชัดว่ า
ความสม่าเสมอทางสัดส่วนนี้เปิดโอกาสให้เ กิดภาพยนตร์สัญชาติฝรั่งเศสเข้า มาเติ มเต็ มในตลาดภาพยนตร์ไ ด้จานวน
มาก
85 https://www.britannica.com/place/France/The-cinema
86 ศูนย์ภาพยนตร์และภาพเคลื่อนไหวแห่งชาติ
111
การสนับสนุนจากภาครัฐ
หน่วยงานที่อยู่ภ ายใต้ กระทรวงวั ฒนธรรมประเทศฝรั่ ง เศส ที่รับบทบาทในการสนับ สนุ นอุ ต สาหกร รม
ภาพยนตร์ฝรั่งเศสมีชื่ อว่า ศูนย์ภาพยนตร์และภาพเคลื่อ นไหวแห่ งชาติ 87 (Centre national du cinéma et de
l’image animée หรือ CNC) ถูกก่อตั้งในปี 2489 โดยหน่วยงานนี้ มีห น้า ที่กากั บ ดูแ ลกิจ การทั้ งหมดที่ เกี่ ย วกั บ
ภาพยนตร์ ทั้งด้านกฎหมายและการดาเนิ นการ รวมถึงการจัดสรรทุนที่ได้จากการจัดเก็บภาษีที่เ กี่ยวข้ องกับ ธุ ร กิ จ
ทางด้ า นภาพและเสี ย ง คุ ณภาณุ อารี (2563) 88 กล่ า วว่ า “ผู้ ผ ลิ ต ที่ โ ปรเจ็ ค ผ่ า นการคั ด เลื อ กจะต้ อ งเสนอ
งบประมาณสร้างเพื่อให้ทาง CNC พิจารณาอนุมัติวงเงิน และการสนับสนุนผ่านการลดภาษีการผลิตภาพยนตร์ ซึ่ง
ผู้สร้างภาพยนตร์ที่ เลื อ กขอการสนั บสนุนประเภทนี้ จ ะได้รับ โอกาสการคืน ภาษี (Tax Rebate) ประมาณร้ อ ยละ
20-30” 89 ในส่วนอื่นๆ CNC ยังร่วมกับองค์กรอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลื อผู้ ผลิ ตภาพยนตร์จากทั่ว โลก เช่น ในปี พ.ศ.
2562 สถาบัน Palestine Film Institute (PFI)90 ซึ่งมีหน้าที่ในการให้ทุ น อนุรักษ์และส่ง เสริ มภาพยนตร์ข องรั ฐ
ปาเลสไตน์ ได้ร่วมมือกับ CNC ในการจัด workshop ด้านการผลิตร่ว (Co-Production) ที่ตลาดภาพยนตร์ ข อง
เทศกาลเมืองคานส์ โดยเป็นการจับคู่โปรเจ็คภาพยนตร์จาก 2 ประเทศให้ได้ทางานร่วมกัน หรือในปี พ.ศ. 2555 มี
การจัดกองทุน World Cinema Support91 โดยสถาบันฝรั่งเศส92 (Institut Français) โดยการให้ทุนภาพยน ตร์
ต่างประเทศที่ ต้อ งการผลิ ตร่ ว มกั บประเทศฝรั่ง เศส โดยต้องมี การผลิ ตถ่า ยท าระหว่า งบริ ษั ทที่ อยู่ ตั้ งในปร ะเทศ
ฝรั่งเศสและบริษัทที่อยู่ต่างประเทศ พร้อมการกากับโดยผู้กากับจากต่างประเทศและถ่ายทานอกประเทศฝรั่ง เศส
หน่วยงาน UniFrance93 ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2492 รับหน้าที่ในการส่งเสริ มภาพยนตร์ฝ รั่ง เศสให้ ไปทั่ ว โลก
หน่วยงานนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ CNC โดยมีสมาชิกกว่า 1,000 คน ประกอบด้วยบุค ลากรในวงการภาพยนตร์
จากทุกภาคส่วน เช่น โปรดิเซอร์ภาพยนตร์ขนาดยาวและสั้น ผู้ส่งออก ฝ่ายขาย ผู้กากับ นักแสดง หรือนักเขียนบท
UniFrance ได้ เ ข้ า ร่ ว มในเทศกาลภาพยนตร์ โ ลกในทุก ปี เ พื่ อ น าเสนอภาพยนตร์ ฝ รั่ง เศสสู่ต ลาดโลกและสร้าง
เครือข่ายเชื่อมโยงกับองค์การส่งเสริมภาพยนตร์ในยุโรป (European Film Promotion)
87 https://www.cnc.fr/web/en/about/support
88 https://filmclubthailand.com/articles/special-scoop/film-policy-2france/
89 https://www.cnc.fr/web/en/publications/results-2017_557488
90 https://www.cnc.fr/web/en/pficnc-coproduction-workshop-at-the-72nd-cannes-film-festival--call-for-feature-film-
projects_947901
91 https://www.cnc.fr/web/en/news/world-cinema-support_113775
92 https://www.if.institutfrancais.com/en/our-actions
93 https://en.unifrance.org/corporate
112
ช่องโทรทัศน์ Canal+ ที่มีใบอนุญาติการกระจายเสียงเพื่อสนั บสนุน การผลิ ตภาพยนตร์โ ดยเฉพาะ โดยมี
การจัดช่องพิเศษ คือ Canal+ Cinéma เพื่อจัดฉายภาพยนตร์ฝรั่ง เศสและยุ โรป ซึ่งได้กลายเป็นช่องทางที่รั ฐ บาล
ใช้เพื่อส่งเสริมภาพยนตร์ในยุ โรปและฝรั่ง เศส โดยมีการลงทุนล่าสุดถึง 205 ล้านเหรียญสหรัฐ94 ในการทาสัญญา
จากปี พ.ศ. 2562 ถึง ปี พ.ศ. 2566 ซึ่งถือว่าเป็นข้อผูกมัดที่ใ ช้เ ม็ด เงิน สูงสาหรั บหน่ว ยงานการกระจายเสีย งที่ ไ ด้ มี
การลงทุนกับภาพยนตร์ภายในประเทศ นอกจากนั้น Canal + ยังมีสตูดิโอ Studiocanal ที่เปิดโอกาสให้มีการผลิ ต
ภาพยนตร์ได้ 4 เรื่องต่อปี (อ้างอิง Elsa Keslassy จาก Variety.com)
94 https://variety.com/2018/film/global/french-pay-tv-group-canal-plus-renews-agreement-with-french-film-industry-1203023188/
95 https://www.cnc.fr/web/en/publications/results-2017_557488
113
การสนับสนุนด้านเงินทุน
หน่ ว ยงาน CNC 96รั บ หน้ า ที่ ให้ เ งิ นช่ วยเหลื อ เพื่ อการผลิต ภาพยนตร์ใ นประเทศฝรั่ง เศสใน 2 ลั ก ษณะ
ด้วยกันคือ
1. เงินทุนแบบให้ตามปกติ (Automatic Aid) ซึ่งจะมีการพิจารณาจากผลงานที่ผ่านมาของผู้ผ ลิ ต
ภาพยนตร์ ทั้งในด้านจานวนผู้เข้าชมในโรงภาพยนตร์ และทางโทรทัศน์ โดยเงินช่วยเหลือในกลุ่ มนี้จ ะให้ กับ ผู้ ผ ลิ ต
ภาพยนตร์ชาวฝรั่งเศส ภาพยนตร์ฝรั่งเศส และการผลิตร่วมหรือการลงทุนร่วมของประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น
2. เงินช่วยเหลือแบบคั ดสรร (Selective Aid) โดยระบบ Avance sur Recette97 ที่เริ่มใช้ ใ นปี
พ.ศ. 2503 เป็นเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย ที่ สามารถชาระคืนด้วยเงินที่ มาจากรายได้ ซึ่งโปรเจ็คต้องผ่านการพิจาร ณา
จากคณะกรรมาธิ การ Commission d’Avance sur Recettes เพื่ออนุมัติทุน เป้าหมายของกองทุนนี้ คือ การจั ด
ขึ้นเพื่อส่งเสริมการผลิตภาพยนตร์เรื่องแรกและภาพยนตร์อิส ะที่ประสบปัญหาในการเสาะหาเงินทุน
96 https://ditp.go.th/contents_attach/67030/55000848.pdf
97 https://www.cnc.fr/professionnels/aides-et-financements/cinema/production/avance-sur-recettes-avant-realisation_191260
98 https://www.indiewire.com/2020/04/unifrance-saving-french-film-industry-1202224994/
114
การสนับสนุนบุคลากร
หน่ ว ยงาน UniFrance99 มี ส่ ว นของการให้ บ ริ ก าร ด้ า นข้ อ มู ล เกี่ ย วกั บ ช่ อ งทางติ ด ต่ อ บุ ค ลา กร ใน
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งที่ อยู่ในประเทศฝรั่ง เศสและนอกประเทศในทุกภาคส่ว นไม่ว่าเป็น นักข่าว ผู้กากับ ฝ่าย
ขาย ผู้จัดจาหน่ายภาพยนตร์ หรือนักแสดง และยังมีการให้ข้อมู ลติ ดต่อ บริษั ทที่ เชี่ยวชาญในด้านต่า งๆ ที่เกี่ยวกั บ
ภาพยนตร์ฝรั่งเศสอีกด้วย
การจัดตั้งสมาคมนัก วิจารณ์ภาพยนตร์ชื่ อ French Union of Film Critics ซึ่งเป็นผู้จัดตั้ง La Semaine
de la Critique100 ที่มีสมาชิกจานวน 244 คนที่ประกอบด้วยนักเขียน นักวิจารณ์ภาพยนตร์ นักข่าวสายภาพยนตร์
โดยมีเป้าหมายเพื่อ ดารงความสัมพัน ธ์ระหว่างสมาชิกและปกป้ องดูแลความสนใจ จรรยาบรรณ และเสรีภาพของ
การวิพากษ์วิจ ารณ์ ภาพยนตร์ ซึ่งเกี่ยวข้อ งกับ อิ สรภาพในการแสดงความคิ ด เห็ น ทั้งนี้สมาคมต้ องการส่ ง เสริ ม
ความคิดสร้า งสรรค์ทางด้านภาพยนตร์ ในพื้น ที่ ต่างๆ อย่างต่อเนื่ อง ผ่านการมอบรางวั ลให้แ ก่ผ ลงานที่โ ดดเด่ น
ประจาปี รวมถึงการเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการในเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ ที่จัดขึ้นภายในประเทศ
ในประเทศฝรั่ ง เศสมี มหาวิ ทยาลัย และสถาบั นการศึก ษามากมายที่ก่ อ ตั้ง ขึ้น มาเพื่ อฝึ ก ฝนบุ คลากร เพื่ อ
ป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างเช่น สถาบัน International Film & Television School of Paris101 ที่ถูก
ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2515 ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจด้านภาพยนตร์เข้าศึ กษาได้ในหลายระดับตั้ งแต่ปริญ ญาตรี จ นถึ ง
ระดับปริญญาโทโดยมีการมุ่งเน้นการปฎิบัติและมีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
สถานที่การถ่ายทา
หน่วยงาน Film France102 เป็นองค์ที่ได้รับงินทุนจากรัฐผ่านการสนับสนุนโดย CNC หน่วยงานนี้มีหน้า ที่
ในการส่ ง เสริ มประเทศฝรั่ ง เศสให้ เ ป็น จุด หมายของบริษั ท ถ่ ายทาภาพยนตร์จ ากต่ างประเทศและผู้ ส นใจผลิต
ภาพยนตร์ในประเทศฝรั่ง เศส รวมถึงการเป็น เครือ ข่ายให้ส มาคมภาพยนตร์ท้ อ งถิ่น ไปทั่ว โลก ผ่า นการให้ข้ อ มู ล
เกี่ยวกับสถานที่ถ่ายทา บุคลากรทางภาพยนตร์ กองถ่าย อัตราการจ้างงาน และเครื่องอานวยความสะดวกใน การ
ถ่ายทาต่างๆ นอกจากนั้น Film France ให้ความช่วยเหลือในการติดต่อประสานงานหน่วยงานที่เหมาะสมเกี่ ย วกั บ
ในอนุญาติทางาน และการขอใบอนุญาติถ่ายทาภาพยนตร์ รวมถึง อัตราค่าแรง อุปกรณ์ในด้านสตูดิโ อและ Post
Production รวมทั้ ง การจั ด สรรข้ อ มู ลเกี่ ย วกั บ โอกาสในการร่ว มผลิ ต และช่ ว ยเหลือ โปรดิ ว เซอร์ ต่ า งประเทศที่
99 https://en.unifrance.org/corporate#les-longs-metrages
100 https://www.semainedelacritique.com/en/french-union-of-film-critics
101 https://www.eicar.fr/en/master-bachelor-in-
filmmaking/?gclid=CjwKCAjw2ZaGBhBoEiwA8pfP_pG7ojiuWNjrUgGBmzK97odAkEUB5mVnYSDjuBaYmfNp VCPa-zT0LBoC-
qEQAvD_BwE
102 https://locations.filmfrance.net/ และแปลจาก https://www.filmfrance.net/v2/gb/home.cfm?choixmenu=qui
115
ต้องการสมั ครขอคืน ภาษีสาหรั บการถ่า ยท าในต่า งประเทศ หรือ Tax Rebate for International Production
(TRIP)103 ซึ่งจากที่เคยให้แรงจูงใจทางภาษีที่ร้อยละ 30 มีการให้เพิ่มมาร้อยละ 10 จากถ่ายทาด้วยเงิน 2 ล้านยูโร
Cité du Cinéma104 เป็นโรงภาพยนตร์ที่ ตั้ง อยู่ ในใจกลางกรุ ง ปารีส ที่ก่ อ ตั้ง โดยผู้ กากั บและโปรดิว เซอร์
Luc Besson ซึ่งมีมาตรฐานเท่า เทีย มกับสตู ดิโอใหญ่ ในโรมหรือ Pinewood ในกรุงลอนดอนโดยมีการก่อ ตั้ ง ในปี
พ.ศ. 2555 หลังจากใช้สถานที่เพื่อถ่ายทาภาพยนตร์ ฝรั่งเศสชื่อดั ง LEON ผู้กากับ Luc Besson ได้เปลี่ยนสถานที่
รกร้างให้กลายเป็นศูนย์กลางของการถ่ายทาภาพยนตร์แห่งสาคัญในยุโรป
103 https://www.cnc.fr/documents/71205/151986/The+TRIP+and+10%25+VFX+Bonus+Guide.pdf/78d4c00f-227d-56f5-b009-
154896245908
104 http://www.citeducinema.org/
105 https://www.cnc.fr/web/en/publications/results-2017_557488
106
ศูนย์ภาพยนตร์และภาพเคลื่อนไหวแห่งชาติ
116
การอานวยความสะดวก แนวทางสนับสนุน
เทศกาลภาพยนตร์ เ มื อ งคานส์ ซึ่ ง มี อ ายุม า 72 ปี คุ ณ ก้ อ ง ฤทธิ์ ดี 107กล่ า วไว้ ว่า เป็ น เทศกาลเกิ ดมา
สาหรับคนในอุตสาหกรรมและเป็น เทศกาลต้น แบบเพื่อ คนในวงการภาพยนตร์ เทศกาลนี้มีจุดประสงค์เ พื่อ ดึ ง ดู ด
ความสนใจและส่งเสริมภาพยนตร์ในองค์รวม โดยมุ่งพัฒนาภาพยนตร์และกระตุ้นอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์รอบโลก
พร้อมกับการเชิดชูภาพยนตร์ในระดับนานาชาติ ซึ่ งเป็นหน้าที่หลักของการดาเนินการเทศกาล108 นอกจากเทศกาล
ภาพยนตร์เมืองคานส์แ ล้ว ประเทศฝรั่งเศสยั งจัด เทศกาลภาพยนตร์ ที่แตกย่ อยออกไปทั้ งที่ใ ห้ค วามสนใจในร ะดั บ
นานาชาติและเฉพาะกลุ่มเช่น Festival Pocket Film109 ที่สนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ผ่านโทรศัพท์มือถือ
โครงการ French Tech Ticket110 เป็นหนึ่งการรณรงค์ส่งเสริมด้านธุรกิจที่ เกี่ย วข้องกับนวั ตกรรมโดย
เป็นการเชิญให้ผู้ เข้า ร่ว มโครงการเพื่ อไปใช้ชี วิ ตในปารีส ประเทศฝรั่ งเศสเป็น เวลาประมาณ 1 ปี เพื่อเก็บ เกี่ ย ว
วัฒนธรรมประเทศฝรั่งเศสแล้ว นาไปเผยแพร่ ซึ่งเป็นกรณีที่ Streaming Service ในชื่อ FilmDoo111 ได้รับโอกาส
เข้าร่วมโดยทางโครงการเปิ ดโอกาสให้ FilmDoo ได้เสาะหาภาพยนตร์ ฝรั่ง เศสเข้ามาเผยแพร่บน Platform เพื่อ
ส่งเสริมวัฒนธรรมและภาพลักษณ์ของประเทศฝรั่ง เศส (ข้อมูลจากบทสัมภาษณ์ของคุณ Weerada Sucharitkul ผู้
ก่อตั้ง FilmDoo)
ประเทศฝรั่ ง เศสมี ก ารจั ด สรรสถานที่ ต่ างๆ ในประเทศเพื่ อ จั ด กิ จ กรรมและส่ ง เสริ ม อุ ต สาหกรรม
ภาพยนตร์ในรูปแบบที่สร้างสรรค์แตกต่างกันไป เช่น ในปี พ.ศ. 2563 การจัดกิจกรรมการล่องเรือชมภาพยนตร์ ที่ มี
ชื่อว่า ‘Cinéma Sur l’eau’ หรือ โรงภาพยนตร์บนน้า 112 เพื่อกระตุ้นการกลับมาของวัฒนธรรมการชมภาพยนตร์
ที่หายไปกว่า 1 ปีจากภัยโควิท โดยงานนี้ซึ่งเป็นส่ วนหนึ่ งของงานประจาปี ‘Paris Plages’ โดยใช้บรรยากาศริ ม
แม่ น้ าแซน (Seine River) เป็ น จุ ด สนใจในการดึ ง ดู ด คนรั ก ภาพยนตร์ เ ข้ ามาร่ วมประสบการณ์ ใ หม่ ใ นการชม
ภาพยนตร์
107
https://gqthailand.com/culture/article/why-the-cannes-film-festival-matters
108
https://www.festival-cannes.com/en/qui-sommes-nous/festival-de-cannes-1
109
https://www.facebook.com/PocketFilmFest/
110
https://www.gouvernement.fr/en/french-tech-ticket
111 https://www.filmdoo.com/
112 https://www.marketingoops.com/exclusive/trending-exclusive/paris-floating-cinema-socially-distant-electric-boats/
117
5.6 ปัจจัยความสาเร็จของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จากประเทศต้ นแบบทั้ง 5 ประเทศ
ข้อมูลที่ได้จากการศึก ษา สามารถสรุปองค์ประกอบสาคั ญ และปัจจัยความสาเร็จของประเทศต้ น แบบ
(แสดงดังตารางที่ 38) โดยอธิบายได้ดังนี้
5.6.1 ภาพรวมของอุตสาหกรรมภาพยนตร์
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่
1) การพิ จ ารณาอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ใ นฐานะเป็น ธุ รกิ จ ซึ่ ง ประเทศที่ มีแ นวทางดาเนิน นโยบายใน
รู ป แบบดั ง กล่ า วนี้ ได้ แ ก่ ประเทศเกาหลี ใต้ ประเทศสหรัฐ อเมริก า และประเทศอิ นเดี ย โดยเห็ น ได้ชั ด เจนว่า
ประเทศอิ น เดี ย และประเทศเกาหลี ใ ต้ รั บ อิ ท ธิ พล และน าแบบอย่ างความส าเร็ จ ของ Hollywood ประเทศ
สหรัฐอเมริกา มาประยุกต์ใช้ โดยเน้นการผลิตภาพยนตร์เพื่อการส่งออก รวมถึงการส่งเสริมและผลักดันให้บุคลากร
สามารถแสดงศั กยภาพในเวทีโ ลก เพื่อสร้างการยอมรับ ในระดั บ สากลแก่ ภาพยนตร์แ ละผู้ ที่ มีส่ วนเกี่ย วข้ อ งกั บ
ภาพยนตร์ นอกจากนี้ ความมุ่งมั่ นทุ่ มเทในการผลิ ตภาพยนตร์ คุ ณภาพจานวนมาก โดยมีเอกลั กษณ์ ที่ สา มารถ
เข้าถึงกลุ่มคนจานวนมากได้ นับเป็นปัจจัยความสาเร็จของการบริหารจัด การอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ในฐาน ะเป็ น
ธุรกิจ ซึ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
2) การพิจารณาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในฐานะเป็นส่ วนหนึ่ งของการดารงไว้ซึ่ งวั ฒนธรรมอันดี ของชาติ
ให้ประชาชนในประเทศตระหนักถึ งคุ ณค่า และเอกลักษณ์เฉพาะตนของแต่ล ะประเทศ รวมทั้ง ให้ความสาคัญ กั บ
ความเป็นศิลปะของภาพยนตร์ ซึ่งประเทศที่มีแนวทางดาเนินนโยบายในรูป แบบดังกล่าวนี้ ได้แก่ ประเทศฝรั่ง เศส
และประเทศอั ง กฤษ โดยประเทศอั ง กฤษมี ก ารเชื่ อ มโยงกับ Hollywood เพื่ อ เป็ น ส่ ว นช่ ว ยในการผลัก ดันด้าน
การตลาด
5.6.2 หน่วยงานที่รับผิดชอบ
ประเทศต้นแบบทั้ง 5 ประเทศ มีการจัดตั้งหน่วยงานพิเ ศษทาหน้าที่ สนับ สนุน และผลักดันอุตสาหกรรม
ภาพยนตร์โดยตรง โดยหน่วยงานดัง กล่า วนี้ ดาเนินงานภายใต้บ ทบาท และอานาจหน้าที่ที่ได้ รับ มอบหมา ยเพื่ อ
ขับเคลื่อนนโยบาย และผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์สู่เ ป้าหมายที่ภาครั ฐและเอกชนได้ต กลงร่ วมกันไว้ ให้ส าเร็ จ
ลุล่วงอย่างรวดเร็วและราบรื่น ผ่านการพิจารณาและตัดสินใจจากบุ คลากรที่ มีความเข้าใจอุ ตสาหกรรมเป็นอย่ า งดี
นอกจากนี้ หน่ ว ยงานฯ ยั ง ได้ รั บ การสนั บ สนุ น งบประมาณจากรั ฐ บาล โดยมี ตั ว อย่ า งขององค์ ก รที่ ป ระสบ
ความสาเร็จ ในการดาเนิ นงาน และได้รับ การยอมรั บ อาทิ KOFIC ของประเทศเกาหลี ใ ต้ หรือระบบสตูดิ โ อใน
ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
118
5.6.3 ความคิดสร้างสรรค์
อุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ข องแต่ ล ะประเทศ มี วิ วั ฒ นาการการเติ บ โตผ่ านการสร้ างสรรค์ เนื้ อ หาที่เป็น
เอกลักษณ์ ทั้งบทภาพยนตร์ หรือเทคนิ คการถ่ ายทารู ปแบบเฉพาะ นอกจากนี้ มีการผลิตภาพยนตร์ ที่ มี ค วาม
หลากหลายเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชมแต่ล ะกลุ่ม ที่แตกต่างกัน รวมทั้ง การศึกษาวิจัยเพื่อหาวิเคราะห์ แนวทาง
หรือรูปแบบการผลิตภาพยนตร์ให้ได้รับความนิ ยมในระดั บสากล หรือการยอมรับจากทั่ว โลก รวมถึงประเทศที่ เ น้ น
การอนุรักษ์วัฒนธรรม เช่น ประเทศฝรั่งเศส และประเทศอังกฤษ มีการนาเสนอกิจกรรมซึ่งทาให้การชมภาพยนตร์
กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประชาชนภายในประเทศ
5.6.4 แนวทางการสนับสนุน
ประกอบด้วย 3 แนวทาง ดังนี้
เงินทุน : เงินหมุนเวียนเพื่อขับเคลื่อนอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ ในประเทศต้นแบบทั้ ง 5 ประเทศ คือ
เงินที่ได้รับจากรัฐบาลโดยความร่ว มมื อกับภาคเอกชน เป็นเงินที่ภาครัฐส่งมอบให้กับหน่ วยงานพิเ ศษเพื่อ ใช้จั ด สรร
ให้เกิดประโยชน์ต่ อการผลิต ภาพยนตร์อย่า งต่ อเนื่อ ง เช่น การลดหย่อนภาษีสาหรับกองถ่ายฯ ที่เข้ามาถ่ายทาใน
ประเทศ การให้ทุนแก่นักผลิตภาพยนตร์หน้า ใหม่ หรือการตั้งกองทุนล๊อตเตอรี่ เพื่ อนาเงิน กลับ เข้าระบบการ ผลิ ต
ภาพยนตร์ในประเทศ
สถานที่ แ ละการสนับ สนุ นอื่ น ๆ: การจั ด สรรพื้ น ที่ เ พื่ อ จั ด ตั้ ง สตู ดิ โอถ่ า ยท าภาพยนตร์ และโรง
ภาพยนตร์ นั บ เป็ น แนวทางหนึ่ ง ในการส่ ง เสริม ให้ อุ ต สาหกรรมการผลิ ต ภาพยนตร์ ใ นประเทศมี ค วามเติบโต
นอกจากนี้ ยังเป็นการยกระดับศักยภาพด้านการผลิต และดึงดูดให้กองถ่ายต่างประเทศเข้ามาถ่ายทาภาพยนตร์ ใ น
ประเทศนั้นๆ ด้วย อีกทั้ง สถานที่เหล่านี้ ยังสามารถพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ
เช่ น เดี ย วกั บ Hollywood หรื อ เช่ น ประเทศเกาหลี ใ ต้ มีก ารก าหนด Screen Quota เพื่ อ ให้ มีพื้น ที่ ส าหรั บ
ภาพยนตร์เกาหลีใต้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์อย่างทั่วถึง
119
ในขณะที่ การสนับสนุนอื่น ๆ อาทิ การรวบรวมข้ อ มูล และจัดทาระบบฐานข้ อ มูล ภาพยนตร์ อ ย่ า ง
ต่อเนื่องครบถ้วน เพื่อเป็นแหล่งสืบค้นข้อมูลสาหรับนั กลงทุน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งเพื่อประโยชน์
ต่อการศึกษาวิจัยเชิงวิชาการและเชิง การตลาดนับว่า มี ความสาคัญ และเป็นปัจจัยสาคัญที่ผลักดัน ให้อุ ตสาหกรรม
ภาพยนตร์ เติบโตและประสบความสาเร็จได้อย่างยั่งยืน
120
ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ อินเดีย
เชื่อมโยงกับ CNC หน่วยงานพิเศษ ตลาด และได้รับ ด้านความคิด แยกเป็นท้องถิ่น
ส่งเสริมเฉพาะ ประกอบด้วย การสนับสนุน สร้างสรรค์ อย่างชัดเจน
ด้านอนุรักษ์ บุคลากรจาก จากภาครัฐ ส่งเสริมภาพยนตร์
ภาพยนตร์และ วงการภาพยนตร์ มีกฎหมายควบคุม ในแง่วัฒนธรรม
ส่งเสริม มุ่งเป้าส่งออก การละเมิดลิขสิทธิ์ มากกว่าเศรษฐกิจ
ด้านวัฒนธรรม ภาพยนตร์ ที่เข้มงวด
สู่เวทีโลก มีสมาคมอิสระ
ต้องการให้ ดูแลในภาคส่วน
ภาพยนตร์ สาคัญ
เป็นสินค้าส่งออก มีหน่วยงานกลาง
ทาหน้าที่ส่งออก
และจัดจาหน่าย
ภาพยนตร์ไป
ต่างประเทศ
จัดเทศกาล สะท้อนภาพลักษณ์ ทาวิจัยสารวจ ติดตามนวัตกรรม สร้างสรรค์
ภาพยนตร์ ของประเทศ ความต้องการ ใหม่ๆ เอกลักษณ์ของ
ที่หลากหลาย ผ่านเนื้อหา ของตลาด ผสมผสาน ภาพยนตร์ให้เป็นที่
ทั่วประเทศ ภาพยนตร์ สร้างรูปแบบ สื่อภาพยนตร์ จดจา และยากต่อ
จัดกิจกรรม วิจัยเพื่อเสาะหา ภาพยนตร์ เพื่อต่อยอด การลอกเลียนแบบ
เพื่อส่งเสริม ภาพยนตร์ ที่ครองใจตลาด กับช่องทาง หรือ สร้างเอกลักษณ์
วัฒนธรรม ที่เหมาะสม วิเคราะห์ และ Platform ต่างๆ พิเศษแก่ภาพยนตร์
ความคิดสร้างสรรค์
การชมภาพยนตร์ กับการส่งออก ทาการตลาด อาทิ สวนสนุก ด้วยภาษา และ
ภาพยนตร์ หรือนวนิยาย ความเป็นท้องถิ่น
แบบครบวงจร (Local)
จัดเทศกาล ขยายช่องทางการ
ภาพยนตร์ที่ เผยแพร่สู่
หลากหลาย Platform ต่างๆ
สนับสนุนการ
พัฒนา
บทภาพยนตร์
หน่วยงานใหญ่ รัฐบาลมอบ สตูดิโอใหญ่เป็น การลดหย่อนภาษี หน่วยงานย่อยของ
(CNC) จัดสรร เงินทุนให้ เจ้าของทุน แหล่งเงินทุนจาก รัฐ มุ่งส่งเสริม
สนับสนุน
แนวทาง
เงินทุน
121
ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ อินเดีย
แก่การผลิต ไปจัดสรรตาม สตูดิโอย่อยที่เป็น สตูดิโอขนาดใหญ่
ภาพยนตร์ในหลาย สมควร เครือของสตูดิโอ และ บริษัทเอกชน
รูปแบบ รัฐไม่ก้าวก่ายการ ใหญ่ เป็นเจ้าของทุน
รัฐบาลให้โอกาสขอ ทางานของ ช่วยป้องกันการ สถาบันทางการเงิน
คืนภาษี หน่วยงานพิเศษ ขาดทุน อนุมัติเงินกู้ให้กับ
รัฐบาลให้เงิน เงินทุนจากคนใน ผู้ประกอบการ
ช่วยเหลือธุรกิจ วงการและ
และ สปอนเซอร์
บุคลากรในวงการ กองทุนช่วยเหลือ
ภาพยนตร์ในช่วง ภาพยนตร์อิสระ
วิกฤต
มีการมอบรางวัล มีการจัดอบรม มีการมอบรางวัล มีการมอบรางวัล มีสถาบันการศึกษา
ให้กับผลงาน และหลักสูตรการ ให้กับผลงาน ให้กับผลงาน เฉพาะทาง
ภาพยนตร์ที่มี เรียนการสอนด้าน ภาพยนตร์ที่มี ภาพยนตร์ที่มี กระจายอยูท่ ั่วไป
คุณภาพ และความ ภาพยนตร์จากมือ คุณภาพ และความ คุณภาพ และความ ในเมืองหลวง
โดดเด่น อาชีพ ทั้งในและ โดดเด่น โดดเด่น มีแนวทาง
มีหน่วยงาน ต่างประเทศ มีหน่วยงาน สมาคมส่งเสริม การส่งเสริมดารา
รวบรวมช่องทาง ส่งเสริมบุคลากรให้ รวบรวมช่องทาง และปกป้อง ให้มีชื่อเสียง และ
บุคลากร
122
ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ อินเดีย
มีการจัดเก็บข้อมูล ในรูปแบบ Screen มีโรงภาพยนตร์ มาใช้สถานที่ถ่าย
และสรุปรายงาน Quota ขนาดใหญ่และ ทา
เกี่ยวกับ มีการจัดเก็บข้อมูล ขนาดเล็ก
อุตสาหกรรมทุกปี อย่างเป็นระบบ เพื่อรองรับผู้ชมที่
มีโรงภาพยนตร์ (ฐานข้อมูล) หลากหลาย
จานวนมาก และมี ครบถ้วนในที่เดียว ฐานข้อมูลทาง
การจัดฉาย ภาพยนตร์ที่
ภาพยนตร์ที่ สมบูรณ์
หลากหลาย
123
ภาพที่ 19 การถอดบทเรียนจากประเทศต้น แบบและข้อจ ากั ดของประเทศไทย (วิเคราะห์โดยคณะทางาน)
124
6. ข้อเสนอแผนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย
6.1 แผนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยที่ผ่านมา
พิจารณาจากแผนยุทธศาสตร์ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไ ทย จานวน 4 แผน ซึ่งจัดทาโดยหน่วยงานของรั ฐ
ได้แก่ สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสั งคมแห่ง ชาติ (2551) กระทรวงวัฒนธรรม (2560-2564)
และสานักงานส่ ง เสริ มวิ สาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่ อ ม (สสว.) รวมถึงแผนยุท ธศาสตร์ที่ เ ฉพาะเจาะจงด้ า น
แอนิเมชัน โดยรักศานต์ วิวัฒน์สินอุดม (2554) เพื่อที่จะทาให้ทราบทั้งแนวคิ ดและวิธี การดาเนิน งาน อันจะนามา
ปรับใช้กับการพัฒนาและเสนอแนะแนวทางจั ดทาแผนยุทธศาสตร์ กลุ่ม Creative Content ครั้งนี้ โดยมีประเด็ น
สรุปแสดงดังตารางที่ 39
113 https://sme.go.th/upload/mod_download/Summary%20Film%20Final%20Report-20171113111120.pdf
125
โครงการศึกษา ยุทธศาสตร์การพัฒนา ยุทธศาสตร์การส่งเสริม โครงการจัดทา
เพื่อจัดทายุทธศาสตร์ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ยุทธศาสตร์และ
การพัฒนาธุรกิจ แอนิเมชันไทย และวีดิทัศน์ของประเทศ แผนปฏิบัติการส่งเสริม
ภาพยนตร์ไทย (2551) เพื่อการแข่งขัน ไทย ระยะที่ 3 วิสาหกิจขนาดกลางและ
โดย สานักงานคณะกรรมการ ระดับนานาชาติ (2554) (ปี พ.ศ.2560-2564) ขนาดย่อม สาขา
พัฒนาการเศรษฐกิจ โดย รักศานต์ วิวัฒน์สินอุดม โดย กระทรวงวัฒนธรรม ภาพยนตร์และวีดิทัศน์
และสังคมแห่งชาติ (มปป) 113
โดย สานักงานส่งเสริม
วิสาหกิจขนาดกลาง
และขนาดย่อม
สร้างความหลากหลายของ
เนื้อหา)
2 การเสริมสร้างความ การเพิ่มปริมาณและ ส่งเสริมและพัฒนาตลาด พัฒนาไปสู่สถานที่ถ่ายทา
เข้มแข็งอุตสาหกรรม คุณภาพภาพยนตร์ ภาพยนตร์ ทั้งในและ ภาพยนตร์ครบวงจรระดับ
(รวมกลุ่มผู้ผลิต สนับสนุน แอนิเมชันของประเทศไทย ต่างประเทศ โลก (พัฒนาบุคลกร
ภาพยนตร์ที่มีคุณภาพและ (เช่น การร่วมผลิต) อุปกรณ์ พัฒนาภาพลักษณ์
หลากหลาย การเข้าถึง ของประเทศไทย ยกระดับ
แหล่งเงินทุน-กองทุน One-stop-service)
ภาพยนตร์ ส่งเสริม
เทคโนโลยี กฎหมาย
ลิขสิทธิ์ วิจัยเพื่อพัฒนา
ธุรกิจ)
3 การพัฒนาบุคลากร การสร้างผู้จัดจาหน่าย ส่งเสริมและปกป้อง เสริมสร้างศักยภาพของ
(พัฒนาหลักสูตรภาพยนตร์ แอนิเมชันในประเทศไทย ทรัพย์สินทางปัญญา ผู้ประกอบการสู่การเป็น
ในสถาบันการศึกษา การตั้ง ผู้นาการให้บริการ Post
ศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพ Production
ร่วมมือด้านวิชาการและ
การประกอบอาชีพ
ทุนการศึกษา)
126
โครงการศึกษา ยุทธศาสตร์การพัฒนา ยุทธศาสตร์การส่งเสริม โครงการจัดทา
เพื่อจัดทายุทธศาสตร์ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ยุทธศาสตร์และ
การพัฒนาธุรกิจ แอนิเมชันไทย และวีดิทัศน์ของประเทศ แผนปฏิบัติการส่งเสริม
ภาพยนตร์ไทย (2551) เพื่อการแข่งขัน ไทย ระยะที่ 3 วิสาหกิจขนาดกลางและ
โดย สานักงานคณะกรรมการ ระดับนานาชาติ (2554) (ปี พ.ศ.2560-2564) ขนาดย่อม สาขา
พัฒนาการเศรษฐกิจ โดย รักศานต์ วิวัฒน์สินอุดม โดย กระทรวงวัฒนธรรม ภาพยนตร์และวีดิทัศน์
และสังคมแห่งชาติ (มปป) 113
โดย สานักงานส่งเสริม
วิสาหกิจขนาดกลาง
และขนาดย่อม
4 การพัฒนาการตลาด การตลาดภาพยนตร์ ส่งเสริมความร่วมมือการ
สนับสนุนการฉายและการ
(การมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ แอนิเมชันประเทศไทยใน ร่วมลงทุนภาพยนตร์ และกระจายภาพยนตร์จาก
ตลาดภาพยนตร์ สนับสนุน ภูมิภาค ธุรกิจถ่ายทาภาพยนตร์ ประเทศไทยอย่างมี
มาตรการตลาดเชิงรุก เช่น ต่างประเทศในประเทศไทยประสิทธิภาพและยั่งยืน
Road show การจัด film (ส่งเสริมการลงทุน แก้(พัฒนาผู้ชมตลาด การ
fest การร่วมือกับโรง กฎหมายที่ไม่เอื้อแก่การ
สนับสนุนการกระจายและ
ภาพยนตร์ส่งเสริมการฉาย ถ่ายทา) ฉายภาพยนตร์ ธุรกิจโรง
ภาพยนตร์) ภาพยนตร์กระจาย
ภาพยนตร์กระแสทางเลือก
ส่งเสริมภาพยนตร์ไปยัง
ต่างประเทศ)
5 การส่งเสริมธุรกิจการถ่าย การเพิ่มกลุ่มผู้ชมแอนิเมชัน พัฒนาขีดความสามารถ พัฒนาศักยภาพพื้นฐานของ
ทาภาพยนตร์ต่างประเทศ ในประเทศไทย (เช่น การ ของอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมภาพยนตร์
ในประเทศไทย จัดเทศกาลภาพยนตร์ ภาพยนตร์ของประเทศไทย และวีดิทัศน์ (เน้นพัฒนา
(ประชาสัมพันธ์ประเทศ แอนิเมชันในประเทศไทย) (การบริหารจัดการ โครงสร้างพื้นฐาน แหล่ง
ไทย สนับสนุนมาตรการ ฐานข้อมูล โครงสร้าง เงินทุน ฐานข้อมูล
ส่งเสริมการลงทุน พัฒนา พื้นฐาน) กฎหมาย ปกป้องคุ้มครอง
ศักยภาพบุคลากรที่ ทรัพย์สินทางปัญญา
เกี่ยวเนื่อง พัฒนาขีด ปรับปรุงหน่วยงานรัฐ)
ความสามารถของธุรกิจ
เช่น post production
127
โครงการศึกษา ยุทธศาสตร์การพัฒนา ยุทธศาสตร์การส่งเสริม โครงการจัดทา
เพื่อจัดทายุทธศาสตร์ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ยุทธศาสตร์และ
การพัฒนาธุรกิจ แอนิเมชันไทย และวีดิทัศน์ของประเทศ แผนปฏิบัติการส่งเสริม
ภาพยนตร์ไทย (2551) เพื่อการแข่งขัน ไทย ระยะที่ 3 วิสาหกิจขนาดกลางและ
โดย สานักงานคณะกรรมการ ระดับนานาชาติ (2554) (ปี พ.ศ.2560-2564) ขนาดย่อม สาขา
พัฒนาการเศรษฐกิจ โดย รักศานต์ วิวัฒน์สินอุดม โดย กระทรวงวัฒนธรรม ภาพยนตร์และวีดิทัศน์
และสังคมแห่งชาติ (มปป) 113
โดย สานักงานส่งเสริม
วิสาหกิจขนาดกลาง
และขนาดย่อม
ธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ และ
อื่นๆ)
6 การเพิ่มช่องทาง
การนาเสนอภาพยนตร์
แอนิเมชันในประเทศไทย
(การฉายในโรง การผลิตดีวี
ดี อินเทอร์เน็ต)
7 การใช้นโยบายสนับสนุน
และมาตรการทางกฎหมาย
ภาพยนตร์แอนิเมชันใน
ประเทศไทย (เช่น ลิขสิทธิ์)
128
ส าหรั บ แนวทางจั ด ท าแผนยุ ท ธศาสตร์ จ ากการศึ ก ษารวบรวมข้ อ มู ล ครั้ ง นี้ มี ขั้ น ตอนการวิ เ คราะห์
ดาเนินงาน และเสนอแนะ โดยมีความเห็น จากการสั มภาษณ์ ผู้ เกี่ ยวข้อ งในอุต สาหกรรม และการประชุ ม หารื อ
ร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ ยวข้อ งทั้ งภาครั ฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อให้เกิดความเข้าใจสภาพปั ญ หา
ของอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ อ ย่ า งชั ด เจน และสามารถแก้ ข้ อ จ ากั ด อุ ป สรรค และปั ญ หาของบุ ค ลากรใน
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีประเด็นนาเสนอที่สาคัญ ดังนี้
129
ภาพที่ 20 แสดงที่มาของการพัฒนาของแผนยุท ธศาสตร์ (วิเคราะห์โดยคณะทางาน)
130
6.3 แผนพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กลุ่ม Creative Content
(จากการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลโดยคณะทางาน)
วิสัยทัศน์ (Vision)
การพัฒนาอุตสาหกรรมสร้า งสรรค์สาขาภาพยนตร์ ของประเทศไทยให้ ก้าวไปสู่ก ระแสโลกเพื่ อเพิ่ มมู ล ค่ า
ทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางวัฒนธรรม ภายในระยะเวลา 5 ปี (2564 – 2568)
ยุทธศาสตร์สนับสนุน (4P)
3) การพัฒนาคน (Creative People)
4) การพัฒนาการผลิต (Creative Production)
5) การพัฒนาสถานที่ (Creative Place)
6) การพัฒนาธุรกิจ (Creative Promotion หรือ Creative Business)
รายละเอียดดังนี้
1) ยุ ท ธศาสตร์ ด้า นการพั ฒนาโครงสร้ า งอุ ตสาหกรรม ( Creative Film Structure) เป็ น
ยุทธศาสตร์ที่ให้ค วามสนใจต่อ การปรับ เปลี่ ยนโครงสร้ างอุต สาหกรรมภาพยนตร์ ทั้งการบูรณาการความร่ ว มมื อ
ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ การพัฒนาและปรับแนวทางการจัดสรรทุนสนับ สนุนแก่ภาคอุต สาหกรรม และ
การทบทวนกฎหมายที่ เกี่ ยวข้ องกั บ อุต สาหกรรมภาพยนตร์ ทั้งด้านเนื้อ หา การคุ้มครองลิ ขสิ ทธิ์ การเผยแพร่
ผลงาน และแนวทางการดูแลแรงงานสร้างสรรค์
2) ยุทธศาสตร์ ด้านการพั ฒนาฐานข้ อมู ลภาพยนตร์ (Creative Film Database) เพื่อเป็ น
ประโยชน์ต่อการนาไปใช้วิเคราะห์ หรือวางแผนงานในการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านต่างๆ
3) ยุ ท ธศาสตร์ ด้า นการพั ฒนาแรงงานและกลุ่ มเครื อ ข่า ย (Creative People) ครอบคลุ ม
ตั้งแต่ต้นน้าถึงปลายน้ าของ Ecosystem ได้แก่ ผูส้ ร้าง พัฒนา และผลิตคอนเทนต์ ผู้ชม การยกระดับมาตรฐาน
วิชาชีพ รวมถึงการประสานเครือข่ายความร่วมมือด้านภาพยนตร์ในส่วนต่างๆ
131
4) ยุ ท ธศาสตร์ ด้า นการพั ฒนาการผลิ ต (Creative Production) จะให้ ค วามสนใจต่ อการ
พัฒนาด้านการผลิตภาพยนตร์ ตั้งแต่การหาทุน การผลิต และหลังการผลิต ทั้งในกรณีของภาพยนตร์ ที่เน้ น ศิ ล ปะ
และทั่วไป
5) ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาพื้ นที่ ถ่ายทาภาพยนตร์ในประเทศไทย (Creative Place) หรือ
พื้นที่การถ่ายทา จะให้ความสนใจต่อ การถ่า ยทาภาพยนตร์ ต่า งประเทศในประเทศไทย เพราะถือว่าเป็น แหล่ ง
รายได้สาคัญและการช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในทางอ้อม
6) ยุ ท ธศาสตร์ ด้า นการพั ฒนาตลาด (Creative Promotion หรื อ Business) คื อ การให้
ความสนใจมิติ ด้านหลั ง การผลิ ตทั้ งหมด นับตั้งแต่การฉาย การจัดจาหน่าย การส่งเสริมการ จาหน่ าย เพื่อทาให้
ภาพยนตร์ไทยได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ทั้งในด้านการจาหน่ายและการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ชาติ
132
ตารางที่ 40 ข้อเสนอสาหรับยุทธศาสตร์ เป้าหมายและดัชนี สาหรั บแผนพั ฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สาขา
ภาพยนตร์และวีดิทัศน์
ยุทธศาสตร์ เป้าหมายการดาเนินงาน ดัชนีชี้วัดความสาเร็จ
1. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา พัฒนาระบบนิเวศ และโครงสร้าง เกิดการบูรณาการด้านความ
โครงสร้างอุตสาหกรรม ของอุตสาหกรรม รวมทั้งองค์กรที่มี ร่วมมือ และการดาเนินงานเพื่อ
(Creative Film Structure) ส่วนเกี่ยวข้องในการกากับดูแล เพื่อ พัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์
สนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ให้ ภายในระยะเวลา 3 ปี
เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
2. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา ผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูล เกิดการบูรณาการความร่วมมือ
ฐานข้อมูลภาพยนตร์ และการบูรณาการความร่วมมือเพื่อ ในการพัฒนาและจัดทาระบบ
(Creative Film Database) พัฒนาระบบฐานข้อมูล สาหรับใช้ ฐานข้อมูล เพื่อให้บริการข้อมูล
ประโยชน์ในการส่งเสริม ด้านภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องใน
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย อุตสาหกรรม ภายในระยะเวลา
3 ปี
3. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา พัฒนา และยกระดับมาตรฐาน บุคลากรในสาขาวิชาชีพ ได้รับ
บุคลากรและการเชื่อมโยง/สร้าง วิชาชีพผู้ผลิตภาพยนตร์ในประเทศ การยกระดับศักยภาพ และ
ความเข้มแข็งให้กับเครือข่าย รวมทั้งผู้ชม พร้อมสร้างความ ทักษะมาตรฐานการปฏิบัติงาน
(Creative People) เชื่อมโยงให้กับเครือข่ายผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงการสร้างความเชื่อมโยง
ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งในและ ระหว่างเครือข่ายให้เกิดขึ้น
ต่างประเทศ อย่างน้อย 3 เครือข่าย
4. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา สนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ไทย 1) จานวนภาพยนตร์ไทย
การผลิตภาพยนตร์ไทย (Creative เพิ่มขึ้นร้อยละ 20
Production) 2) ภาพยนตร์ไทยได้รับรางวัล
ระดับนานาชาติ อย่างน้อยปีละ
1 เรื่อง
5. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาพื้นที่ สนับสนุนการจัดหา/จัดเตรียม ยกระดับรายได้จากการถ่ายทา
ถ่ายทาภาพยนตร์ในประเทศไทย สถานที่หรือพื้นที่สาหรับถ่ายทา ภาพยนตร์ในประเทศไทย
(Creative Place) ภาพยนตร์ในประเทศไทย เพิ่มขึ้น ร้อยละ 8-10 ใน
ระยะเวลา 5 ปี
133
ยุทธศาสตร์ เป้าหมายการดาเนินงาน ดัชนีชี้วัดความสาเร็จ
6. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาตลาด การสนับสนุนช่องทางในการเผยแพร่ เกิดช่องทางการเผยแพร่
(Creative Promotion/Business) การจาหน่าย และการตลาด ภาพยนตร์ผ่านระบบออนไลน์
ภาพยนตร์ไทยทั้งในและต่างประเทศ จานวน 1 Platform และ
ส่งเสริมการจัดเทศกาล
ภาพยนตร์ ระดับนานาชาติ
ปีละ 1 ครั้ง
จากนั้ น แปลงแผนยุ ท ธศาสตร์ แ ละเป้ าหมายสู่ ก ลยุ ท ธ์ หรื อ แนวทางการด าเนิ นงาน และการจัดทา
แผนงาน/โครงการ ที่สอคล้องกับตัวชี้วัดสาคัญที่กาหนดขึ้น แสดงรายละเอียดดังภาพที่ 23 ดังนี้
134
กลยุทธ์ และโครงการตามแผนยุทธศาสตร์ ดังต่อไปนี้
1. ยุทธศาสตร์ ด้านการพั ฒนาโครงสร้า งอุ ตสาหกรรม (Creative Film Structure) ประกอบด้วย 3
กลยุทธ์ดาเนินงาน และโครงการดังภาพที่ 24
135
ยุทธศาสตร์ที่ 1 ตัวอย่างแนวทางการจัดทาโครงการผลักดันการพัฒนาองค์กรอิสระเพื่อดูแลงานด้านภาพยนตร์
ยุทธศาสตร์ที่ 1 : โครงการผลักดันการพัฒนาองค์กรอิสระเพื่อดูแลงานด้านภาพยนตร์
รายละเอียดและการดาเนินงาน :
การผลักดันให้ เกิ ด การจั ด ตั้ งองค์ก รอิ สระ114 เพื่อผลักดัน ให้ หน่ วยงานทุ กภาคส่ว นที่ มีหน้า ที่รับ ผิ ด ชอบ
เกี่ยวข้องด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์สามารถปฎิบัติ งานได้ อย่างมี ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ผ่านกระบวนการวิเคราะห์
และกลั่นกรองโดยคณะทางานฯ ที่มีความรู้ความเข้าใจในระบบโครงสร้า งของอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ไ ทย อย่ า ง
แท้จริง เพื่อสามารถกาหนดนโยบายหรือแนวทางเชื่อมโยงความร่ว มมื อกับหน่ว ยงานที่เ กี่ยวข้อ งได้ อย่างเหมา ะสม
ทั้งนี้ โดยมีข้อพิจารณา ได้แก่
1) วิเคราะห์และกาหนดเป้าหมายภารกิจหน่วยงานอย่างชัดเจน
2) วางโครงสร้างองค์กร และกาหนดกรอบหน้าที่ ความรับผิดชอบ และภารกิจของหน่วยงานให้สอดคล้ อ ง
กับเป้าหมาย
3) กาหนดโครงสร้า งบุ คลากรบริหารงาน (Board) ซึ่งควรคัด เลือ กบุค ลากรจากหน่ว ยงานที่ มีบ ทบาท
หน้าที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เพื่อให้เกิดความเชื่อ มโยงในการดาเนินงาน อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นต้น นอกจากนี้ สิ่งที่สาคัญคือผู้บริหารต้อ งมี ความรู้ และความเข้าใจภารกิ จ
งานด้านการพัฒนาส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างแท้จริง
136
4) พิจารณาแหล่งเงินทุนสนับสนุนทั้ งการดาเนินงาน และการส่งเสริมให้เกิ ดการขั บเคลื่อนกิจกรรมต่ า งๆ
ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ตัวอย่างกรณีศึกษาในต่างประเทศทุนสนับสนุน มาจากภาษีบันเทิงหรือ ตั๋วภาพยนตร์
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
การสนับสนุนการดาเนินงานขององค์กรอิสระ ให้สามารถขับเคลื่อนและสร้า งมู ลค่า เพิ่ มแก่ อุต สาหกรรม
ภาพยนตร์ไทยอย่างเป็นรูปธรรม
ตัวอย่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หอภาพยนตร์ กระทรวงพาณิ ช ย์ กระทรวงต่ างประเทศ กระทรวงการท่ อ งเที่ ย วและกี ฬา กระทรวง
วัฒนธรรม กระทรวงการคลัง และ Film School
หลักพิจารณาเพิ่ มเติ ม อ้างอิงตามแนวคิด ศ.นพ.ประเวศ วะสี คือ ความรู้ สังคม และนโยบาย สาหรับ
พิจารณาประกอบการผลักดันให้เกิดองค์กรจัดการด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์โ ดยเฉพาะ
1) ความรู้ หมายถึง การมีระบบฐานข้ อมู ล ที่จาเป็ นเกี่ย วกับ อุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ อาทิ รายได้ หรือ
มูลค่าของอุตสาหกรรม หรือเศรษฐศาสตร์ภาพยนตร์ เป็นต้น
2) สังคม หมายถึง ความร่วมมื อหรื อการสนั บสนุ นจากภาคีเ ครื อข่า ยที่ เกี่ ยวข้ อ งหรื อ มีส่ วนร่ วม ทั้งส่ว น
ราชการ และเอกชน รวมทั้ง การให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนผ่าน Social Campaign เพื่อการมีส่วนร่ว มใน
การสนับสนุนการดาเนินงานขององค์กร
3) นโยบาย หมายถึง การดาเนินงานประสานควบคู่กับฝ่ายนโยบาย หรือส่วนการเมือง และสื่อมวลชนใน
ลักษณะ Media Advocacy เพื่อผลักดันให้เกิดการยอมรับในหน่วยงานใหม่
กลยุทธ์ที่ 2 การพัฒนากระบวนการจั ดสรรทุ น และการสนั บสนุ น ทุน ให้ กั บผู้ ผลิ ตภาพยนตร์ แต่ ละ
ระดับอย่างเหมาะสม ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ (การผลิต เผยแพร่ ฉาย รวมถึงงานวิจัยด้าน
ภาพยนตร์) ผ่านการดาเนินงานโครงการศึก ษาและวิ เคราะห์แ นวทางการจั ดตั้งกองทุน ภาพยนตร์ โดยแยกกั บ
หน่วยงานอิสระ (ในกลยุทธ์ที่ 1) แต่ดาเนินงานร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพของการส่งเสริ มอุตสาหกรรมภาพยนตร์
137
กลยุทธ์ที่ 3 การพิจารณาทบทวนกฎหมายเกี่ยวกั บอุ ตสาหรรมภาพยนตร์ให้มี ความเป็น ปัจ จุบัน และ
สอดคล้ อ งกั บการดาเนิ น ธุ ร กิ จ ในรู ปแบบที่ ปรั บเปลี่ ย นไปอย่ า งมากในยุ คเทคโนโลยี ดิจิ ทั ล โดยด าเนินการ
ทบทวน พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ปี พ.ศ. 2551 ให้สอดคล้องกับแนวทางดาเนินปัจจุบันครอบคลุมตลอดทั้ ง โซ่
อุปทานของอุตสาหกรรมภาพยนตร์เริ่มตั้งแต่การผลิต การถ่ายทาภาพยนตร์ในประเทศไทย (Location Shooting)
การเผยแพร่ การฉาย (โรงภาพยนตร์ การทา Screen Quota ระบบ Streaming การตรวจพิจารณาภาพยน ตร์ )
และการบริ โภค ซึ่ ง ปรั บตั ว จากสื่ อ ภาพยนตร์ สู่ สื่อ โทรทัศ น์ และสื่ อ ออนไลน์ โดยมี หน่ วยงานที่เ กี่ ยวข้ อง ได้แก่
กสทช. กระทรวง ICT รวมทั้งหน่วยงานรับผิดชอบด้านพาณิชย์ อาทิ ภาษี ลิขสิทธิ์ และกฎหมายอื่นๆ ในประเด็นที่
เกี่ยวข้องกั บการจ้า งงาน มาตรฐานการทางาน ค่าตอบแทนรายได้ และสวัสดิการ โดยกระทรวงแรงงาน และ
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ
ภายใต้ ก ลยุ ท ธ์นี้ มี โ ครงการสาคั ญ ได้ แ ก่ การวิ เคราะห์ แ ละทบทวนเพื่ อ การปรั บปรุ งกฎหมายให้
สอดคล้องกั บการดาเนิ นธุ รกิ จในรู ปแบบที่ ปรั บเปลี่ย นไปในปั จจุ บัน โดยมุ่งเน้นการจัดตั้ งที มงานเพื่ อพิ จาร ณา
วิเคราะห์ และทบทวนข้อ กฎหมายที่ เกี่ ยวข้อ งกั บอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ ทีก่ ากับดูแลโดยหลายหน่ วยงาน ให้มี
ความเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
ทั้ ง นี้ งบประมาณส าหรับ การด าเนิน งานยุ ท ธศาสตร์ ที่ 1 ประมาณการณ์ โ ดยคร่ าว 10,000,000 บาท
เนื่องจากโครงการที่ ดาเนิน งานภายใต้ ยุท ธศาสตร์ ดั งกล่า ว มุ่งเน้นการศึกษาและวิเ คราะห์ ผล เพื่อผลักดันให้ เ กิ ด
การพั ฒ นาโครงสร้ า งอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ ซึ่ ง อ้ า งอิ ง จากงบประมาณการศึ ก ษา “โครงการทบทวนและ
ประเมินผลกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ปี พ.ศ. 2544 - 2564”115 ที่มีความใกล้เคียงกัน
115 https://bit.ly/397Y7vj
138
2. ยุทธศาสตร์ด้านการพั ฒนาฐานข้ อมูลภาพยนตร์ (Creative Film Database) ประกอบด้วยกลยุท ธ์
และโครงการดังภาพที่ 26 ต่อไปนี้
139
ภาพที่ 28 แสดงผลวิเคราะห์เปรียบเทีย บรายละเอีย ดข้อมูลที่มีการจัดเก็บของแต่ละประเทศ
140
ภาพที่ 29 แสดงรายละเอียดข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์โ ดยหน่วยงานต่างๆของประเทศไทย
จากการวิเคราะห์ทั้งหมดนามาสู่กลยุทธ์และโครงการ ดังต่อไปนี้
กลยุทธ์ที่ 1 การพัฒนาฐานข้ อมูลด้ านการตลาด (รายได้ตัวเลขที่เ ป็นจริ ง และฐานผู้ชม อย่างน้อยราย
ไตรมาส) ข้ อ มู ล เหล่ า นี้ จ ะน าไปใช้ ใ นการพั ฒ นาอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์โ ดยตรง ทั้ ง การคาดหมายการผลิต
ภาพยนตร์ อย่างไรก็ดี ฐานข้อมูลด้านการตลาดที่สาคัญ มากที่สุ ดคื อ รายได้ของภาพยนตร์ รวมถึงเศรษฐศา สตร์
ภาพยนตร์ที่จะต้องสะท้อนให้ เห็น มูลค่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ทั้งหมดที่ส่งผลต่อ มูล ค่าเศรษฐกิจโดยรวมยั ง ไม่ พบ
ตัวเลขในหัวข้ อนี้ สาหรับตัวเลขรายได้นั้น พบว่า ที่ผ่านมาสมาพันธ์ ส มาคมภาพยนตร์ แห่ งชาติ เป็ นผู้ ดาเนิ น งาน
ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม แต่อาจเป็นตัวเลขที่มีการประมาณการและไม่ชัด เจน
ด้วยเหตุนี้ จึงจาเป็นต้องมีการสนับสนุน “ทุน” ในการพัฒนาตัวเลขรายได้ รวมถึงเศรษฐศาสตร์ภาพยนตร์
ให้ชัดเจน เพื่อที่ว่าจะเป็นตัวเลขในการดาเนินงานพัฒนาองค์ กรอิสระ
กลยุ ท ธ์ ที่ 2 การพั ฒนาฐานข้ อ มู ลด้ า นภาพยนตร์ รวมถึ ง “บทภาพยนตร์ ” เพื่ อ ที่ จ ะน ามาพัฒนา
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ในแง่ของการที่ผู้ผลิต ผู้ชม ศึกษาและเรียนรู้เพื่อยกระดับการพัฒนาภาพยนตร์ในอนาคต
ทั้งนี้ ข้อมูลในส่วนแรก หอภาพยนตร์ ได้ดาเนินการไปบ้างแล้ว แต่ในส่วนบทภาพยนตร์โดยเฉพาะบทภาพยนตร์
สมัยใหม่ยังไม่ได้ดาเนินการ
141
กลยุทธ์ที่ 3 การพัฒนาระบบ Steaming ภาพยนตร์ไทย (ดังกรณีของอาร์เจนตินา) เพราะการได้รับ ชม
ภาพยนตร์ก็เท่ากับการได้เรียนรู้อันจะนาไปสูการพัฒนาทั้งผู้ผลิตและผู้ช ม ในกรณีนี้ ยังไม่มีองค์กรใดดาเนินการ
กลยุทธ์ที่ 4 การพัฒนาฐานข้อ มู ลผู้ ผลิ ตและแรงงานสร้า งสรรค์ข องอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ รวมถึ ง
film school ข้อมูลนี้บางส่วน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงกระทรวงวัฒนธรรมได้ดาเนินการบ้างแล้ว
กลยุ ท ธ์ ที่ 5 การพั ฒนาฐานข้ อ มู ลด้ า นการถ่ า ยท าภาพยนตร์ ในประเทศไทย ข้ อ มู ล นี้ กระทรวงการ
ท่องเที่ยวและกีฬา ได้ดาเนินการไปบ้างแล้ว
กลยุทธ์ที่ 6 การพัฒนาฐานข้อมู ลด้า นองค์ ความรู้ภ าพยนตร์ (ทั้งในและต่างประเทศ) ข้อมูลนี้บางส่ ว น
หอภาพยนตร์ได้ดาเนินการไปบ้างแล้ว
เนื่ อ งจากกลยุ ท ธ์ ข้ างต้ น เป็ นเสมื อ นเนื้อ หาส าหรั บฐานข้ อ มู ล ดั ง นั้ น โครงการที่อ ยู่ ภ ายใต้ กลยุ ทธ์จึง
ประกอบไปด้วย 4 โครงการ ดังนี้
โครงการที่ 1 การให้ ทุ น สนั บสนุ น การดาเนิ น การด้ า นฐานข้ อ มู ล การตลาด โดยเฉพาะ
ฐานข้อมูลกับรายได้ของภาพยนตร์ ตลอดจนเศรษฐศาสตร์ภาพยนตร์ที่ แสดงถึงมู ลค่า ทางเศรษฐกิ จในประเทศ
ข้อมูลชุดนี้จะมีค วามสาคั ญอย่า งมากต่อ การดาเนิน งานก่ อตั้ งองค์ กรภาพยนตร์ และการนาไปใช้กับอุต สาหกรรม
ภาพยนตร์
โครงการที่ 2 การให้ ทุ น สนั บสนุ น องค์ ความรู้ด้า นภาพยนตร์ จะมุ่ ง เน้ น การจัด สรรทุน เพื่อ
พัฒนาความรู้เกี่ยวกับภาพยนตร์
โครงการที่ 3 การสารวจและพั ฒนาหน่ ว ยงานรั บผิ ดชอบด้ า นการพั ฒนาและเชื่ อ ม โยง
ฐานข้ อ มู ลในด้ า นต่ า งๆ (6 ด้ า นข้ างต้ น) โดยหน่ว ยงานนี้จ ะต้ องมี ห น้า ที่ คื อ จั ด เก็ บ เชื่ อ มโยง เผยแพร่ และ
วิเคราะห์ เพื่อยกระดับข้อมูลเพื่อการนาไปใช้ ทั้งนี้ ขอยกตัวอย่างรายละเอียดโครงการเพิ่มเติ ม ดังนี้
142
ภาพที่ 30 แสดงตัวอย่างแนวทางการพัฒนาฐานข้อมูลสาขาภาพยนตร์แ ละวี ดิทั ศน์ (วิเคราะห์โดยคณะทางาน)
ยุทธศาสตร์ที่ 2 : ตัวอย่างโครงการการพัฒนาฐานข้อมูลสาขาภาพยนตร์และวีดิทัศน์
รายละเอียดและการดาเนินงาน :
โครงการดังกล่าวมุ่ งเน้นการพั ฒนาระบบการจั ด เก็บ และบริ หารจั ดการฐานข้ อ มูล ด้านภาพยนตร์แ ละวี ดิ
ทัศน์ที่มีประสิทธิภาพและสามารถนาไปใช้ประโยชน์ ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยการดาเนินการสาคัญเพื่อให้โครงการ
สาเร็จตามเป้าหมาย ได้แก่
1) การพัฒนาฐานข้อมูลด้านการตลาด (รายได้ตัว เลขที่เป็นจริง ฐานผู้ชมอย่างน้อยรายไตรมาส)
และที่สาคัญคือ การต้องพัฒนาตัวเลขของเศรษฐศาสตร์ ภาพยนตร์ที่ สามารถทาให้เห็นมูลค่าเศรษฐกิจภาพยนตร์
และเทียบกับมูลค่าโดยรวม
2) การพัฒนาฐานข้อมูลด้านภาพยนตร์เพิ่มข้อมูลของบทภาพยนตร์
3) การพัฒนาระบบ streaming เพื่อภาพยนตร์ไทย เพื่อพัฒนาทั้งผู้ผลิตและผู้ช ม ดาเนินการโดย
รัฐร่วมกับเอกชน
4) การพัฒนาฐานข้อ มู ลผู้ ผลิ ตและแรงงานสร้า งสรรค์ ของอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ร วมถึ ง film
school
5) การพัฒนาฐานข้อมูลด้านการถ่ายทาภาพยนตร์ในประเทศไทย
6) การพัฒนาฐานข้อมูลด้านองค์ความรู้ภาพยนตร์ให้ครบถ้วน ทั้งในและต่างประเทศ
143
โดยในการนาเสนอฐานข้อมูล ควรทาให้ เป็น One Stop Site ที่รวบรวมข้อมูลจากหลายหน่วยงานไว้ ใ นที่
เดียวโดยมีการจัด แบ่ งประเภทชัด เจน และเปิดช่อ งทางเข้า ถึง ข้อ มู ลที่ หายาก เช่น บทภาพยนตร์และสถิติ ต่ า งๆ
รวมถึง การเปิดโอกาสให้บุคลากรหรือหน่วยงานในอุ ตสาหกรรมสามารถใช้ Login เพื่อเข้าไปอัพเดทข้อ มูลได้ แ บบ
Real Time ตลอดจนนาเสนอข้อมูลทั้งภาษาไทยและอังกฤษในหลากหลายรูปแบบ เช่น บทความและคลิปวีดิโอ
144
โครงการที่ 4 การสร้างระบบเพื่อ สามารถนาข้ อมู ลดั งกล่า วไปใช้ ไ ด้แ ละสามารถปรั บเปลี่ ยนให้ทั นสมัย ซึ่งจะ
หมายรวมถึงระบบการเชื่อมโยงข้อมูลแล้ว ยังเป็นระบบที่ สามารถ Steaming ภาพยนตร์ได้อีก
งบประมาณส าหรั บ การด าเนิน งานยุท ธศาสตร์ที่ 2 ประมาณการไว้ ที่ 51,000,000 บาท โดยอ้ า งอิง
งบประมาณจาก TOR โครงการพัฒนาระบบการบริ หารจั ดการฐานข้ อ มูล ขนาดใหญ่ (Big Data) และระบบการ
วิเคราะห์ข้ อ มู ล (Data Analytics) สาหรับกรมบั ญ ชีก ลาง116 เพราะ โครงการดัง กล่า ว มีขอบเขตการทา งา นที่
คล้ายคลึงกับโครงการที่ผู้วิจัยนาเสนอ โดยขอบเขตการดาเนินงานประกอบด้ วย การรวบรวมข้อมูล ออกแบบและ
พัฒนาระบบ Big Data ระบบการแสดงผล เป็นต้น
116
https://bit.ly/3tObXMW
145
ยุทธศาสตร์ ด้า นที่ 3 การพัฒนาคนและเครือข่ าย ถือได้ว่าเป็นยุทธศาสตร์ ที่เ กี่ยวข้องกับ คน ทั้งในกรณี
ของคนท างาน (ซึ่ ง จะต้ อ งขยายมิ ติ ข องคนท างานด้ านภาพยนตร์ ให้ ไ ปสู่สื่ อ ที่ เ กี่ ยวข้ อง หรื อ สื่ อ เสี ยงและภาพ
ทั้งหมด) ผู้ชม และเครือข่าย ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์นี้จะประกอบไปด้วยกลยุทธ์ 6 กลยุทธ์ (โดยกลยุทธ์แรก เป็นกลยุทธ์
ที่สาคัญมากที่สุด นั่นคือ การพัฒนาวิชาชีพภาพยนตร์) และโครงการภายใต้กลยุทธ์ 13 โครงการ
กลยุทธ์ที่ 1 การพัฒนาวิชาชีพภาพยนตร์ เพื่อยกระดับวิชาชีพที่เป็นมาตรฐานสากล และสวัสดิการต่างๆ
กลยุทธ์นี้จะมุ่งเน้นการทาให้วิชาชีพภาพยนตร์ไ ด้รับการยอมรับ มีมาตรฐาน เพื่อทั้งการจ้างาน ระบบสวัสดิการ ใน
ส่วนนี้กระทรวงแรงงานและสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพจะก้าวมามีบทบาทอย่างมาก
117 https://www.tpqi.go.th/
146
โครงการที่ 3 การให้ทุนการศึกษา
งบประมาณสาหรับยุทธศาสตร์ที่ 3 กลยุทธ์ที่ 2 ประมาณการไว้ที่ 18,000,000 บาท โดยอ้างอิงจากการ
สนับสนุนของ KOFIC ที่จัดสรรงบประมาณจานวน 520,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อเยียวยาและช่วยเหลือ บุค ลากรใน
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ใ นช่ ว ง COVID-19 ทั้งการให้ความรู้ ผ่านการฝึ กอบรมเพื่ อ ยกระดับ พัฒนา และขยาย
ทักษะของบุคลากร118
118 https://en.unesco.org/creativity/covid-19/kofic-fund-supporting-film-industry
119 https://btfp.nbtc.go.th/portfolio/2561/1427.aspx
147
ภาพที่ 33 แสดงตั ว อย่ า งโครงการจั ดตั้ ง Hub เพื่ อ เชื่ อ มโยงการท างานของหน่ ว ยงานรั ฐ (วิ เ คราะห์ โดย
คณะทางาน)
148
ตัวอย่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้ อง: กระทรวงพาณิชย์ หอภาพยนตร์ กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ ย ว
และกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน และ Film School
โครงการที่ 2 การผลั ก ดั น ให้ เกิ ด หน่ ว ยงานที่ มี อ านาจในการเชื่ อ ม โยง ซึ่ ง หากมี อ งค์ ก ร
ภาพยนตร์อิสระก็จะเป็นหนึ่งในหน่วยงานย่อยในนั้น
กลยุ ท ธ์ ที่ 5 การสร้ า ง Hub เพื่ อ เชื่ อ มประสานการท างานหน่ ว ยงานของรั ฐ เอกชน (รวมถึ ง
sponsorship) วิ ช าชี พ และ Film School โดยท าให้ เ ป็ น ทั้ ง ภาพรวมและแยกย่ อ ย ทั้ ง นี้ ชมรมที่ ยั ง ไม่ เ คย
ปรากฏแต่น่าที่จะสนับ สนุน ให้ เกิ ด เพื่อผลัก ดัน การดาเนินงานอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ ได้แก่ นักทาภาพยนตร์ ใ น
พื้ น ที่ ต่ า งจั ง หวั ด Film School และเครื อ ข่ า ยผู้ ช ม ส าหรั บการเชื่อ มโยงกลุ่มรายย่อ ย ก็ มีเ ป้ า หมายให้ เ กิดการ
ประสานการทางานเช่นกัน ดังเช่น การเชื่อมระหว่างผู้ผลิตและฝ่ายฉายเพื่อการเจรจาต่อรองการฉาย โดยโครงการ
ที่สนับสนุนการดาเนินงานของกลยุทธ์นี้ ประกอบด้วย 2 โครงการ ได้แก่
โครงการที่ 1 การรวบรวมการทางานและประสานงานของรั ฐ วิชาชีพ เอกชน และ Film
School โดยอาจมีการจัดประชุม การทา MOU
โครงการที่ 2 การผลักดันให้เกิ ด หน่ว ยงานที่ มีอ านาจในการเชื่ อมโยง ทั้งนี้อาจเป็นหน่วยงาน
เดียวกันกับกลยุทธ์ที่ 4 เพื่อให้เกิดการประสานงานเป็นหนึ่งเดียวกัน
120 https://bit.ly/3hDsbn4
149
4. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาการผลิต (Creative Production) ประกอบด้วยกลยุทธ์ และโครงการดั ง
ภาพที่ 32 ดังต่อไปนี้
ภาพที่ 34 แสดงยุ ท ธศาสตร์ ด้า นการพั ฒนาการผลิ ตภาพยนตร์ ในประเทศไทย (Creative Production)
(วิเคราะห์โดยคณะทางาน)
ยุ ท ธศาสตร์ ด้า นที่ 4 การพั ฒนาการผลิ ต ถื อได้ ว่ า เป็ น ยุ ทธศาสตร์ที่ เกี่ ย วข้ อ งกั บ การผลิต ภาพยนตร์
นับตั้งแต่การพัฒนาภาพยนตร์ การผลิต หลังการผลิต ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์นี้จะประกอบไปด้วยกลยุทธ์ 4 กลยุทธ์ และ
โครงการภายใต้กลยุทธ์ 5 โครงการ
กลยุ ท ธ์ ที่ ห นึ่ ง การพั ฒนากองทุ น การผลิ ตภาพยนตร์ (โดยอาจจ าแนกทั้ ง การให้ ทุ น ก่ อ น หลั ง จั ด
จาหน่าย) ทั้งภาพยนตร์ศิลปะและอุ ตสาหกรรม และยังหมายรวมสื่อ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กองทุนนี้อาจสัมพั น ธ์
กันกับกองทุนภาพยนตร์ที่จัดตั้งขึ้นในแผนยุทธศาสตร์แรก เพื่อมิให้เกิดองค์กรที่หลากหลายหรือซ้าซ้อน
กองทุนนี้ อาจคล้ายคลึงกับกรณีของ CNC ของประเทศฝรั่งเศส ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐ และเงิน
สนับสนุนมาจากส่วนแบ่งรายได้ตั๋วภาพยนตร์ แล้วนามาจัดสรรทุน ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการผลิต การจัด
จาหน่าย นอกจากนั้น ยังเป็นทุนที่มิได้ให้เปล่าวทั้งหมดแต่อาจให้ยืม ร่วมลงทุน และมีการคืนทุนหลังจากการได้ผล
กาไร
นอกจากนั้น ยังมีข้อเสนอว่า นอกจากการให้ทุนแล้ว ยังต้องพิจารณาไปสู่การให้ที่ องค์กรจะมีลิ ขสิ ท ธิ์ ใ น
การดาเนินการจัดฉายภาพยนตร์ด้วย เพื่อให้ผลงานที่ผลิตแล้วนั้นสามารถเผยแพร่ด้วย
ภายใต้ ก ลยุ ท ธ์ ที่ ห นึ่ ง นี้ มี โ ครงการคื อ การวิ เคราะห์ แ ละจั ดตั้ ง กองทุ น สนั บสนุ น การผลิ ต
ภาพยนตร์
150
กลยุทธ์ที่ 2การพัฒนาการลงทุน Co-Production เป็นกลยุทธ์ที่ส่งเสริมการลงทุนระหว่างประเทศ โดย
จะทาหน้าที่เป็นเสมือนหน่วยงานกลางในการช่วยประสานระหว่างเอกชนของประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึง
อาจให้การสนับสนุนในด้านต่างๆ อันจะทาให้เกิดการลงทุนภาพยนตร์ในประเทศมากขึ้น
ภายใต้กลยุท ธ์ นี้ มีโครงการ คือ การวิเคราะห์แ ละการจั ดตั้ง หน่ วยงานดาเนิ นงานด้ าน Co-
Production ทาหน้าที่เสมือน Hub โดยทาหน้าที่สนับสนุน
กลยุทธ์ที่ 3 การพัฒนาเนื้อหาให้ห ลากหลายและเชื่อมโยงในลัก ษณะ Creative Content (เช่น เชื่อม
ระหว่างภาพยนตร์ ซีรีส์ การ์ตูน คาแรคเตอร์) และนาไปสู่การพัฒนาบทภาพยนตร์ที่มี เอกลัก ษณ์
อย่างไรก็ดี ข้อควรระวังคือ อาจต้องไม่ใช่เน้นเฉพาะการเชื่อมโยง เพราะกลยุทธ์นี้ยังต้องให้ความสาคั ญ ต่ อ
เนื้อหาที่หลากหลายหรือวัฒนธรรมที่มีความแตกต่าง
กลยุทธ์นี้ประกอบด้วยโครงการ 2 โครงการ ดังนี้
โครงการที่ 1 การวิเคราะห์ เนื้ อ หาให้ มี ความหลากหลายและเชื่ อมโยงเพื่ อ นาไปสู่ ก าร ผ ลิ ต
ภาพยนตร์
ยุ ท ธศาสตร์ ที่ 4 : ตั ว อย่ า งโครงการ Creative Content สร้ า งมู ลค่ า จากการเชื่ อ มโยงหลายช่อ งทาง และ
เนื้อหาหลากหลาย
รายละเอียดและการดาเนิน การ:
151
โครงการนี้มุ่งเพิ่มมู ลค่าของ Content ผ่านทางการส่งเสริมการสร้างเรื่ องราวจากความคิด สร้างสรรค์ ทั้ง
ในแง่ของ (1) เนื้อหาที่มีความหลากหลาย เปิดกว้างต่อนิยามวัฒ นธรรมและศิล ปะ นอกจากนั้น ยังขยายไปสู่ (2)
เนื้อหาที่มีลักษณะเชื่ อ มโยง (Intertextuality) เช่น เนื้อหาจากวรรณกรรมที่ถู กดั ดแปลงสู่สื่ อภาพยนตร์ หรือการ
ปรับ Content เดิมให้เป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์ โดยการใช้แก่นเรื่องเดียวกัน แต่มีการขยายหรือย่นย่อการเล่าเรื่ อ งให้
เหมาะสมกับ สื่อ ที่แ ตกต่า งกัน อีกทั้ง (3) ผลักดันการใช้ความคิด สร้างสรรค์ที่ สามารถแปรรูปให้ เหมาะกั บ สื่ อ ใน
หลายรูปแบบผ่านการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แนวทางการทางาน คือ (1) การศึกษา Content ที่หลากหลายและเชื่อ มโยง ตลอดจนกลยุทธ์ในการน า
Content เชื่อมไปที่สื่อต่า งๆ และมุ่งสู่การผลิ ตได้จริ ง (2) การร่วมเป็นเจ้าภาพในการจั ดประกวดการสร้า งสร รค์
Content ที่มีเนื้อหาหลากหลายและเชื่อ มโยง (3) การจัดสัมนาพู ด คุยในหั วข้ อ ดัง กล่ าวร่ ว มกั บหน่ว ยงานส า คั ญ
อื่นๆ (4) การเป็น Hub ที่เชื่อมหน่วยงานทั้ งผู้ ผลิ ต ผู้จัดจาหน่าย Platform ต่างๆ เพื่อทาให้หน่วยงานเหล่ า นั้ น
เล็งเห็นมูลค่าทางธุรกิจและเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้ทาข้อตกลงทางธุรกิจร่วมกัน
ผลลัพธ์ที่คาดหวังหลังการจัดโครงการ คือ การเกิด Content ทีม่ ีความหลากหลาย และการเกิด Content
ทีพ่ ร้อมส่งออกในหลายช่อ งทางตามความต้อ งการของผู้ ที่สนใจนาเนื้ อหาเหล่านั้น ไปเผยแพร่ ผลอีกด้านหนึ่ ง คื อ
การกระตุ้นให้ผู้ผลิ ต Content วางแผนการเผยแพร่ เนื้อ หาในหลายช่อ งทาง โดยตระหนักรู้ถึงหนทางในการ เพิ่ ม
มูลค่า Content ได้ในระยะยาว หรือนาเนื้อหาไปต่อยอดได้ ในอนาคต และสุดท้ายคือผลที่ สามารถวัดได้จากการ
เพิ่มมูลค่าของความคิดสร้างสรรค์ด้านการผลิต เนื้อหาในประเทศไทย
ตั ว อย่ า งหน่ ว ยงานที่ เกี่ ย วข้ อ ง: สมาพั น ธ์ ส มาคมภาพยนตร์ แ ห่ ง ชาติ กระทรวงวั ฒ นธรรม สมาคมผู้ ก ากั บ
ภาพยนตร์ไทย สมาคมภาพยนตร์อิสระไทย และบริษัทผลิตภาพยนตร์ ในประเทศไทยอื่นๆ
152
งบประมาณ ใช้ ง บประมาณร่ ว มกั บยุ ท ธศาสตร์ ที่ 1 เนื่ อ งจากเป็น เรื่อ งการศึ กษาเกี่ย วกับ การจัดตั้ง
หน่วยงาน และยุทธศาสตร์ที่ 3 กลยุทธ์ที่ 3 การพัฒนาทุนความรู้แก่ผู้ชมเพื่อสร้างรสนิยมผู้ชมให้หลากหลาย
ภาพที่ 36 แสดงยุ ท ธศาสตร์ ด้า นการพั ฒนาพื้ น ที่ ก ารถ่ า ยท าภาพยนตร์ ใ นประเทศ (Creative Place )
(วิเคราะห์โดยคณะทางาน)
ยุ ท ธศาสตร์ ด้ า นที่ 5 การพั ฒนาพื้ น ที่ ถ่ า ยท าภาพยนตร์ ใ นประเทศไทย ถื อ ได้ ว่ า เป็ น ยุ ท ธศาสตร์ที่
เกี่ยวข้องกับการถ่ายทาภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์นี้จะประกอบไปด้ วยกลยุ ทธ์ 4 กล
ยุทธ์ และโครงการภายใต้กลยุทธ์ 5 โครงการ
กลยุทธ์ที่หนึ่ง การพัฒนา One Stop Service เพื่อการถ่ายทาภาพยนตร์ในประเทศไทย สืบเนื่องจาก
ปัญหาการประสานการทางานด้านการถ่ายทาในประเทศไทยที่มีห น่วยงานต่างๆ จานวนมาก จึงน่าจะมีหน่วยงาน
กลางที่ทาหน้าที่รับผิดชอบประสานงานเป็นหลัก
ภายใต้กลยุทธ์นี้ มีโครงการ คือ การวิเคราะห์และผลั กดั น One Stop Service
153
กลยุทธ์ที่ 2การพัฒนาสถานที่ ถ่า ยท าและสตู ดิโอภาพยนตร์ในประเทศไทยให้มีลัก ษณะยั่งยื น โดยให้
ชุมชนมีส่วนร่วมในลักษณะ Film Council โดยอาจเริ่มต้นจากระดับภูมิภาคให้ในแต่ล ะภู มิภาคมีศูน ย์กลางและ
มีส่วนร่วมในการบริหารการถ่ายทาภาพยนนตร์ (คล้ายกับกรณีประเทศญี่ปุ่น)
ภายใต้กลยุทธ์ที่สองนี้ มีโครงการ คือ การวิเคราะห์ แ ละผลั ก ดัน สถานที่ ถ่า ยท าและสตู ดิโ อใน
ประเทศไทยให้มีลักษณะยั่งยืนโดยให้ชุมชนมี ส่วนร่วม ซึ่งอธิบายเพิ่มเติมดังโครงการต่ อไปนี้
154
และผู้ต้องการลงทุนสร้างสตูดิโอจากทั้งในและต่างประเทศ
155
ภาพที่ 38 แสดงตัวอย่ างโครงการสร้ างองค์ ความรู้ เกี่ย วกับมู ลค่า ด้ านการถ่า ยทาภาพยนตร์ ในประเทศไทย
(วิเคราะห์โดยคณะทางาน)
121 https://www.hollywoodreporter.com/news/general-news/singapore-offers-funding-international-productions-1259397/
156
6. ยุทธศาสตร์ ด้า นการพั ฒนาตลาด (Creative Promotion หรือ Business) ประกอบด้วยกลยุ ท ธ์
และโครงการดังรูปภาพดังต่อไปนี้
157
โครงการที่ 2 การจัดประชุมเครื อข่า ยโรงภาพยนตร์ เพื่อการเจรจาเกี่ยวกับโควต้า และสั ด ส่ ว น
การฉายภาพยนตร์
โครงการที่ 3 การให้ทุนแก่โรงภาพยนตร์ เพื่อเป็นช่องทางในการจัดฉายภาพยนตร์ที่ไ ม่มีโ อกาส
ฉายในโรงทั่วไป
122 https://en.unesco.org/creativity/covid-19/kofic-fund-supporting-film-industry
123 https://www.creativescotland.com/__data/assets/pdf_file/0006/52746/Film-Festivals-Guidance-Aug-2018.pdf
158
กลยุทธ์ที่ 4 การสนับสนุนการส่งออกภาพยนตร์ ไทย
ภายใต้กลยุทธ์นี้ มีโครงการ คือ การวิเคราะห์และผลั กดั นหน่วยงานที่รั บผิ ดชอบการส่ง ออกภาพยนตร์
ไทย
กลยุทธ์ที่ 5 การสนับสนุน การทา Promotion โดยเน้นทั้งการจาหน่า ยและการสร้ างภาพลั ก ษณ์ ข อง
ประเทศ เช่น การทาให้คนต่างประเทศรู้จัก ความเชี่ ยวชาญการท าภาพยนตร์ ผี หรือภาพยนตร์กระแสทางเลื อ ก
การดาเนินงานสามารถทาได้ทั้งเชิงรับและเชิงรุก เช่น การทา Tool Kits ของภาพยนตร์ไทยไปเสนอต่างประเทศ
159
เปิดช่องทางออนไลน์หรื อ Portal เพื่อนาเสนอตัวอย่างภาพยนตร์ใน Toolkit ที่ สามารถค้นหาผ่านทางเวปไซต์ ที่
จัดตั้งขึ้นได้ ส่วนข้อมูลภาพยนตร์ที่ถูกรวบรวมใน Toolkit สามารถดาวน์โหลดได้ผ่านทางเวปไซต์เดียวกัน
โครงการนี้สามารถทาให้สัมฤทธิ์ผลผ่านทางการประสานงานระหว่างหน่วยงานรัฐและผู้ผลิ ตจากฝั่ง เอกชน
ที่รับผิดชอบในการคัด เลือ กภาพยนตร์ เ พื่อ จัด ทา Toolkit หรือการเป็นเจ้าภาพการจั ดสั มนาพู ด คุย เกี่ย วกั บ การ
คัดเลือกภาพยนตร์เข้าสู่ Toolkit ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการทาการจัดหรือขยายพื้นที่อ อนไลน์ส าหรั บ
การค้ น หาและดาวน์โ หลดไฟล์ ข้อ มู ล เกี่ ยวข้อ งของThailand Cinema Toolkit ผลลั พธ์ ที่ ค าดหวั ง หลั ง การจัด
โครงการ คือจานวนผู้สนใจจัดเทศกาลภาพยนตร์ ไทยเพิ่ มมากขึ้นเนื่ องจากการได้ เห็น ตัว เลือ กภาพยนตร์ที่ ไ ด้ ผ่ า น
การคัดกรองมาแล้ ว ในแง่ภาพลักษณ์ คื อการที่ ภาพยนตร์จาก Toolkit ช่วยทาให้ประเทศไทยเป็นที่ รู้จัก มา กขึ้ น
และสุดท้ายคือการฉายภาพยนตร์ไทยเพิ่มมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
ตัวอย่างหน่วยงานที่ เกี่ ยวข้ อง: หอภาพยนตร์ กระทรวงวัฒนธรรม ผู้ผลิตจากฝั่งเอกชน กระทรวงพาณิชย์ และ
กระทรวงต่างประเทศ
125 https://www.gov.uk/government/news/7-million-global-screen-fund-launched
160
นอกจากนั้น จากการทา Focus Group เมื่อพิจารณาสิ่งที่ควรดาเนินการเป็นลาดับต้นๆ 4 ลาดับ ได้แก่
ลาดับแรก ก็คือ กลยุทธ์การผลักดันองค์กรอิ สระ ที่จะดูแลระบบนิเวศภาพยนตร์ทั้งหมด
ล าดั บ ที่ 2 คื อ กลยุ ท ธ์ ด้า นการรวบรวมฐานข้ อ มูล รายได้ ภ าพยนตร์ รวมถึ งเศรษฐศาสตร์
ภาพยนตร์ เพื่อที่จะเป็นข้อมูลสาคัญในการผลักดันองค์กรอิสระในข้อแรก
ลาดับที่ 3 คือ กลยุทธ์การยกระดั บวิชาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเหตุการณ์วิกฤติโรคร ะบาด
COVID-19ผู้เกี่ยวข้องกับแวดวงภาพยนตร์ ควรได้รั บการช่ วยเหลื อ ทั้งเรื่องเงินสนับสนุนดารงชี พ สวัสดิการต่า งๆ
เช่น วัคซีน ที่เทียบเท่ากับวิชาชี พอื่ นๆ ซึ่งอาจต้องประสานระหว่า งสมาคมวิ ชาชี พ และภาครัฐ ได้แก่ กระทรวง
แรงงาน และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ
ลาดับที่ 4 คือ กลยุทธ์การสร้าง Hub เพื่อประสานการทางานของหน่วยงานรั ฐ เพื่อประสาน
การดาเนินงานของรัฐที่กระจัดกระจาย
อย่ า งไรก็ ดี ที มประเมิ น ได้ นายุท ธศาสตร์ ทั้ ง 6 ด้ า น และน าแผนกลยุท ธ์ ทั้ง หมด 28 กลยุ ท ธ์ มาให้ค่า
น้าหนัก โดยเทียบแกนสองแกน คือ แกนตั้ง ความยาก-ง่ายของการดาเนินงาน และแกนนอน ผลกระทบที่เกิ ด ขึ้ น
หากดาเนินงานสาเร็จคือ สูง และต่า เพื่อจะได้ทราบว่า ควรจะดาเนินงานหรือทุ่มทรั พยากรไปในจุด ใด และได้ผ ล
มาดังภาพที่ 41 นี้
ภาพที่ 41 ระดับความยาก-ง่ายและระดับผลกระทบในการดาเนินงาน
161
ส่วนที่ 1 เป็นส่วนที่มี ลัก ษณะการท างานที่ย ากแต่ ไ ด้ ผลกระทบสูง ในส่วนนี้อาจต้องใช้ร ะยะเวลาการ
ท างานที่ ค่ อ นข้ า งยาวนาน (ประมาณ 5 ปี ห รื อ มากกว่ า นั้ น ) และรวมถึ ง การใช้ ท รั พยากรทั้ ง ด้ านบุ ค คลและ
งบประมาณจานวนมาก แต่หากประสบผลสาเร็จ ย่อ มทาให้อุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ก้ าวไปข้า งหน้าอย่ างรวด เร็ ว
เพราะจะมุ่งเน้นการจัด การโครงสร้า งตั้ งแต่รากฐาน ไม่ต่างจากตัวอย่างการทางานของต่างประเทศ เช่น ประเทศ
ฝรั่งเศส และประเทศเกาหลี ใต้ นอกจากนั้น ยังเป็นส่วนที่ภาคอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ให้ ความสนใจอยากร่ ว มมื อ
ทางานแต่อาจยังไม่มีเจ้าภาพ จึงอาจต้องระดมพลังในการทางานทาให้ต้องใช้ระยะเวลาระดับ หนึ่ง
ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องและกลยุทธ์ รวม 8 กลยุทธ์ มีดังนี้
ยุทธศาสตร์ A : Creative Film Structure ทั้งสามกลยุทธ์คือ A.1 การพัฒนาองค์กรอิสระ A.2 การ
พัฒนากองทุนรวม A.3 การพัฒนากฎหมาย
ยุ ท ธศาสตร์ D: Creative Production โดยมี ก ลยุ ท ธ์ คื อ D.3 การพั ฒ นากองทุ น การผลิต
ภาพยนตร์
ยุทธศาสตร์ E: Creative Place โดยมีกลยุทธ์ คื อ E.1 การทา one stop service การถ่าย
ทาภาพยนตร์ในประเทศไทย E.2 การทา studio และ E.3 การทามาตรการลดภาษีส าหรั บ
การถ่ายทาในประเทศไทย
ยุทธศาสตร์ F: Creative Promotion/Business F.4 การส่งออกภาพยนตร์
ส่วนที่ 3 เป็นส่วนที่ ท างานง่า ยและผลกระทบสูง คือ เป็นส่วนที่มีก ารทางานที่ไ ม่ ยากนั กและมี ค วาม
เป็ น ไปได้ ใ นการด าเนิ น งานโดยอาจใช้ ระยะเวลาไม่ ถึ ง 3 ปี หากแล้ ว เสร็ จ จะส่ ง ผลกระทบต่ อ อุ ต สาหกรรม
ภาพยนตร์ที่ดีขึ้น (Quick Win)
ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง จานวน 16 กลยุทธ์ จะมีดังต่อไปนี้
ยุทธศาสตร์ B : Creative Film Database ซึ่งจะประกอบด้วยกลยุท ธ์ทั้ ง B.1-B.6 ซึ่งจะมุ่งเน้ น การ
ดาเนินงานด้านฐานข้อมูลภาพยนตร์ทั้งหมด อาจมีทั้งการหาข้อมูลใหม่ เช่น รายได้และเศรษฐศาสตร์
ภาพยนตร์ และการเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ที่มีอยู่ประสานเข้าด้วยกัน
162
ยุทธศาสตร์ C: Creative People โดยจะมีกลยุท ธ์ที่ เ กี่ย วข้ อง คือ C.1 การพัฒนาวิชาชีพ C.3 การ
พัฒนาทุนความรู้ C.4 การสร้าง Hub เครือข่ายภาครัฐที่ ทางานด้านภาพยนตร์ C.5 การสร้าง Hub
เครือข่ายด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งหมด
ยุทธศาสตร์ D: Creative Production โดยมีกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อ งคื อ D.2 การพัฒนา Co-Production
D.3 การพัฒนาเนื้อหาเชื่อมโยง และ D.4 การส่งเสริม Post-Production
ยุ ท ธศาตร์ F: Creative Promotion/Business โดยมี ก ลยุ ท ธ์ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งคื อ F.1 การพั ฒ นาโรง
ภาพยนตร์ F.2 การพัฒนาระบบ Streaming และ F.5 การสนับสนุนการ Promotion ภาพยนตร์
ส่วนที่ 4 เป็นส่วนที่ทางานง่ายแต่ อาจมี ผลกระทบต่า หมายถึง ทาได้แต่อาจคุ้มค่าน้อย เมื่อเทียบกับส่ว น
ที่ 3
ภายใต้ส่วนนี้ประกอบไปด้วยยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ จานวน 3 กลยุทธ์ ดังนี้
ยุทธศาสตร์ C : Creative People ประกอบด้วยสองกลยุท ธ์คื อ C.2 การพัฒนาผู้ชม และ C.6 การ
สร้าง Hub เครือข่ายภาพยนตร์กับต่างประเทศ
ยุ ท ธศาสตร์ E: Creative Place คื อ กลยุ ท ธ์ E.4 การพั ฒ นาความรู้ ด้ านการถ่า ยท าภาพยนตร์ใน
ประเทศไทย
สาหรับข้อเสนอแนะของทีม ประเมิน คือ อาจต้องเริ่มดาเนินงานในส่วนที่ 3 ก่อน ซึ่งจะง่ายและเห็ น ผล
โดยเร็ ว และที่ ส าคั ญ คื อ ผลจากการด าเนิ นงานนั้น จะช่ ว ยเป็ น พื้ น ฐานส าคั ญ ส าหรั บ การท างานในส่ วนอื่นๆ
โดยเฉพาะการผลั ก ดั น ในส่ ว นที่ 1 ซึ่ ง ถึ ง แม้ จ ะมี ค วามยากก็ ต ามแต่ จ ากการ Focus Group และสั มภาษณ์
ผู้เชี่ยวชาญก็มองว่า ควรจะต้องดาเนินงานไปพร้อมๆ กัน เพียงแต่ว่า อาจใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน ต้องการพลัง
ในการทางานสูงทั้งฟากของประชาชน ภาคี ความรู้ และนโยบาย
4. ผู้เกี่ยวข้องกับการดาเนินงานด้านภาพยนตร์
จากแผนยุทธศาสตร์ใหม่นี้พบว่า เป็นแผนที่ต้องการให้เกิด การผลั กดัน องค์กรใหม่ โดยมีข้อสันนิษฐานว่ า
หากมีองค์กรใหม่ ก็สามารถเป็น กลไกหลั กในการผลั กดั นเป้าหมายให้ อุ ตสาหกกรรมภาพยนตร์ไ ทยก้า วไปไกลได้
มากกว่า
อย่างไรก็ดี หากวิเคราะห์เพิ่มเติ มว่า ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวนี้มีผู้ ที่เกี่ย วข้อ งกับแผนยุทธศาสตร์ นี้
อย่ า งน้ อ ยสองฟาก คื อ ฟากของ CEA ซึ่ ง เป็ น องค์ ก รใหม่ และอี ก ฟากหนึ่ ง เป็ น องค์ ก รเดิ มที่ เ คยท างานด้าน
ภาพยนตร์มาก่อน ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งสองส่วนนี้น่าจะมีส่วนที่จะช่วยผลักดัน แผนฉบับดังกล่าว
หากมองในฟากของคนที่ทางานมาก่ อน ก็จะพบว่า ทั้งภาครัฐและเอกชน มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม
ดังรูปภาพดังต่อไปนี้
163
ภาพที่ 42 แสดงภาครัฐและเอกชน มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์
จากรูปภาพจะเห็นทั้ งภาครั ฐ และเอกชนที่ทางานเกี่ย วกั บภาพยนตร์ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิ ต การตลาด
หรือโปรโมชั่น และการบริโภค ทั้งนี้ หากจาแนกแยะแยะหน้าที่โดยละเอียดจะได้ดังภาพดัง ต่อไปนี้
164
ภาพที่ 43 แสดงหน้าที่รับผิดชอบของหน่วยงานภาครั ฐ
ภาพที่ 44 แสดงหน้าที่รับผิดชอบของหน่วยงานเอกชน
165
ในขณะที่บทบาทความรั บผิ ดชอบของ สศส. หรือ CEA เกี่ยวข้องกับการสนับ สนุ นเศรษฐกิจ สร้า งสร รค์
ดังนี้
1. ส่ ง เสริ มและพั ฒ นาศั ก ยภาพของเศรษฐกิ จ สร้ า งสรรค์ แ ละปั จ จั ย สนั บ สนุ น การพั ฒ นาเศรษฐกิ จ
สร้างสรรค์เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาและยกระดับเศรษฐกิจ
2. ส่งเสริมและสนั บ สนุ นการพั ฒนาความคิ ด สร้า งสรรค์ และนวั ต กรรมให้ แก่ ชุมชน สาธารณชน และ
สถาบันการศึกษา
3. ส่งเสริมและพั ฒนาพื้ นที่ ที่เ อื้ อต่ อ บรรยากาศสร้า งสรรค์ และการเริ่ มต้น ธุร กิจใหม่ รวมทั้งพัฒนาย่ า น
เศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้น
4. พั ฒ นาผู้ ป ระกอบการและส่ ง เสริ มให้ เ กิ ดการน ากระบวนการคิ ด เชิง สร้ างสรรค์ ไปใช้ ในการพัฒนา
ผลิตภัณฑ์และสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ
5.เป็นศูนย์กลางการรวบรวมและพั ฒนาข้ อ มูลและสถิ ติ ที่เ กี่ยวกับ เศรษฐกิจ สร้างสรรค์ เพื่อการตัดสิ น ใจ
เชิงนโยบายและเพื่อสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์การสร้างนวัตกรรม และ
6 ส่งเสริมและประสานความร่ ว มมือ กับ หน่ วยงานภาครั ฐ ภารเอกชน และหน่วยงานต่า งประเทศหรื อ
ระหว่างประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดองค์ ค วามรู้ ด้านความคิด สร้างสรรค์ที่จ ะนาไปสู่ เศรษฐกิจสร้า งสรรค์
ของประเทศ
จากข้อมูลบทบาทภารกิจของหน่วยงานต่างๆ ที่รวบรวมมาข้างต้น สามารถแสดงช่องว่างของการเชื่อมโยง
บทบาทความรับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แสดงดังภาพที่ 45
166
ภาพที่ 45 แสดงช่องว่างการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ไทย (วิเคราะห์โดยคณะทางาน)
167
ยุทธศาสตร์ที่ 4 ยุทธศาสตร์ ด้านการพัฒนาการผลิต (Creative Production): สศส. ควรจะมีบทบาท
ในสามด้านคือ 1.การพัฒนาเนื้อ หาให้ห ลากหลายและเชื่ อ มโยง (D.3) ทีมประเมิ นเห็น ว่า น่าจะเป็นจุดเด่ น ของ
สศส. ที่ทางานด้านเนื้อหาและจะสร้างจุดต่างกับการพั ฒนาเนื้อ หาของหน่ วยงานอื่น ๆ โดยเน้นการเชื่อมโยงเนื้ อ หา
จากสื่ อ ต่ า งๆ เข้ า ด้ วยกั น ส าหรับ อี กสองด้ าน ดู เ หหมื อ นว่า น่ า จะเป็ นส่ ว นที่ ยัง ไม่ มีใ ครเป็น เจ้าภาพอย่ างเป็น
ทางการ และเป็นงานที่ไม่ยากนัก คุ้มค่าต่ อการดาเนิน งาน คือ 2. การเป็นหน่วยงานกลางประสานการลงทุน และ
3.การเป็นหน่วยสนับสนุนจ้างงานด้าน Post Production (D.4)
ยุทศาสตร์ที่ 5 ยุทธศาสตร์ ด้า นการพั ฒนาพื้ นที่ ถ่า ยทาภาพยนตร์ในประเทศไทย (Creative Place):
สศส. ควรจะมีบทบาทในสองด้าน คือ (1) การพัฒนาความรู้ความเข้าใจด้านการถ่ายทาภาพยนตร์ในประเทศไทย
(E.4) ถึงแม้จะเป็นกลยุท ธ์ที่อาจส่ง ผลกระทบไม่ มากนั กแต่ก็ เป็ นสิ่ง ที่ภาคีส่ วนถ่ายทาภาพยนตร์ ในประเทศไทยที่
เป็นภาคีของ สศส. ให้ความสนใจและทาไม่ยากนัก น่าจะเป็นการลงทุนที่ได้ ผล และ (2) การผลักดันให้เกิด studio
โดยชุมชนมีส่วนร่วม (E.2) แม้จะเป็นกลยุทธ์ที่ค่อ นข้างยาก แต่ก็เกี่ยวข้องกับกระทรวงท่ องเที่ย วและกีฬา รวมถึง
ภาคีชุมชนต่างๆ น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่ทาให้เกิดการประสานงานร่วมกัน
ยุทธศาสตร์ที่ 6 ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาตลาด (Creative Promotion หรือ Business): สศส. ควร
จะมีบทบาทในด้านการสนับสนุ นการทา Promotion (F.5) โดยเน้นทั้งการจาหน่ายและการสร้างภาพลัก ษณ์ ข อง
ประเทศ ซึ่งในส่วนนี้ทีมประเมินเห็นว่า เป็นจุดเด่นของ สศส. อยู่แล้ว
168
ยุทธศาสตร์ที่ 4 ยุทธศาสตร์ด้านการพั ฒนาการผลิ ต (Creative Production) : กองทุนสื่อสร้างสรรค์
และปลอดภั ย และกระทรวงวัฒ นธรรม จะมี ส่ ว นร่ว มในการจัด ตั้ งกองทุน การผลิ ตภาพยนตร์ (ซึ่ ง อาจร่ วมกับ
กองทุนภาพยนตร์ในยุทธศาสตร์แรกหรือแยกออกมาต่างหากก็ได้)
ยุทศาสตร์ที่ 5 ยุทธศาสตร์ ด้า นการพั ฒนาพื้ นที่ ถ่า ยทาภาพยนตร์ในประเทศไทย (Creative Place):
กระทรวงการท่อ งเที่ย วและกีฬา จะเข้ามามีส่วนร่ว มดาเนินการในการผลั กดั น One Stop Service สาหรับการ
ถ่ายทาภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย และการดาเนินการด้านสตูดิโอในประเทศไทย
ยุทธศาสตร์ที่ 6 ยุทธศาสตร์ด้านการพั ฒนาตลาด (Creative Promotion หรือ Business): กระทรวง
วั ฒ นธรรม สามารถมี ส่ ว นร่ว มในการกระตุ้ น ให้ เ กิด การพั ฒ นาช่ อ งทางการฉาย ทั้ ง โรง streaming และ film
festival และกระทรวงพาณิชย์จะก้าวมามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการส่งอออกภาพยนตร์ ไปต่างประเทศ
169
1. บทบาทแรก Foster and Educator หรือผู้ผลักดันหรือ บ่มเพาะ
บทบาทนี้ ในด้านหนึ่งจะหมายถึ งการที่ช่ว ยผลั กดัน องค์ก รอิสระเพื่อสนับสนุนภาพยนตร์แบบบูร ณาการ
ซึ่งอาจเป็นบทบาทที่ค่อนข้างใช้พลังการดาเนินงานค่อนข้างสูง เพราะจะต้องทางานกับระดับนโยบาย
ในอีกด้านหนึ่ง บทบาทในกลุ่มนี้จะเป็นผู้บ่ มเพาะ ซึ่งอาจไม่ใช้พลังมากนัก เพราะจะมุ่ งเน้ นในระดั บ สั ง คม
ได้แก่ การสนับสนุนการ Promotion ภาพยนตร์ในต่างประเทศ การสนับสนุนเกี่ยวกับความเข้าใจด้านการถ่า ยท า
ภาพยนตร์ในประเทศไทย และการพัฒนาเนื้อหาให้มีความหลากหลายและเชื่อ มโยง
170
7. ฐานข้อมูล
แผนการจัดทาฐานข้อมู ลสาหรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สาขาภาพยนตร์และวีดิทัศน์
แผนการจั ด ท าฐานข้ อ มู ล เป็ น การอธิ บ ายรายละเอี ย ดเพิ่ มเติ มของยุท ธศาสตร์ การพั ฒ นาฐานข้อมูล
สาหรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สาขาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ข องประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เ พื่ อเก็ บรวบร วม
ข้อมูลอย่างเป็นระบบ และง่ายต่อการสืบค้น การวิเคราะห์ วิจัย เพื่อประโยชน์ในการประเมินสถานการณ์การตลาด
และกระแสความนิยมต่างๆ ทางธุรกิจ รวมถึงเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์แนวโน้ มการปรับ เปลี่ยนของตลา ดสู่ ยุ ค
ดิจิทัล ซึ่งการนาเสนอ แบ่งออกเป็น 4 หัวข้อ ได้แก่
7.1 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการจัดทาฐานข้อมูล
7.2 กรอบแนวคิดการจัดทาฐานข้อมูล
7.3 หน่วยงานที่มีการจัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย
7.4 กรณีศึกษาต้นแบบด้านการจัดทาฐานข้อมูลจากต่างประเทศ
7.5 สรุปแนวทางการจัดทาฐานข้อมูลและข้อเสนอแนะการประยุกต์ใช้ฐานข้อ มูล
171
หรือเนื้อหาสาคัญอื่นๆ เป็นต้น ผ่านการรวบรวมด้วยวิธีต่างๆ อาทิ การค้นคว้า การนับ การวัด หรือการสังเกต และ
นาเสนอในรูปแบบตัวเลข รูปภาพ ตาราง คลิปวิดีโอ และข้อความ เป็นต้น
7.1.2 วัตถุประสงค์ของการจัดทาฐานข้อมูลอุตสาหกรรมภาพยนตร์
การจัดทาฐานข้ อ มู ลอุ ต สาหกรรมสร้า งสรรค์ สาขาภาพยนตร์แ ละวี ดิ ทั ศน์ มีวัตถุประสงค์ เ พื่ อ ก าหนด
ขอบเขตและโครงสร้ า งของฐานข้ อ มู ล ที่ มีป ระสิ ท ธิ ภาพ เพื่ อ ให้ เ กิ ด ประโยชน์สู ง สุ ด ต่ อการน าไปใช้ เ ป็ นข้ อมูล
ประกอบการพิจารณา วิเคราะห์ วิจัยต่างๆ สาหรับ องค์กร บุคลากรหรือผู้สนใจโดยทั่วไปในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักของการจัดทาฐานข้อมูลอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย มีดังนี้
(1) เพื่อเป็นแหล่งให้บริการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุ ตสาหกรรมสร้างสรรค์ สาขาภาพยนตร์
(2) เพื่อเป็นศูนย์กลางข้อมูลที่เชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน
(3) เพื่อเป็นแหล่ง รวบรวมข้อ มู ลของการศึก ษา ค้นคว้า วิเคราะห์ และวิจัย รวมทั้ง เป็นแหล่ง รวม
องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไ ทย
(4) เพื่อให้บริการข้อมูลที่มีประโยชน์ต่ อผู้ประกอบธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญ บุคลากร และผู้ที่สนใจเกี่ยวกั บ
ภาพยนตร์ ในการนาไปใช้วิเคราะห์สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่อ ไป
7.2.1 แนวคิดการจัดทาฐานข้อมูลอุตสาหกรรมภาพยนตร์
โครงสร้ า งของฐานข้อ มู ล ซึ่ ง เปรี ย บเสมื อ นศู น ย์ร วมของข้ อมู ล เกี่ ย วกั บ อุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ ควร
พิจารณาให้มีความถูกต้อ งครบถ้วน สมบูรณ์ของข้อมูล สาหรับให้บริการต่อ นักวิชาการ ผู้ประกอบธุรกิจ บุคลากร
ในอุตสาหกรรม และบุคคลทั่วไปที่สนใจได้ใช้ประโยชน์ รวมทั้ง สาหรับเป็นแหล่งอ้างอิงข้อมูลให้องค์กรภาครั ฐ และ
เอกชน สามารถน าข้ อ มู ล ไปใช้ ป ระกอบการพิ จ ารณา และตั ด สิ น ใจเชิ ง นโยบาย ในการส่ ง เสริมและก าหนด
แนวทางการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่อุตสาหกรรมภาพยนตร์
172
โดยแบ่งข้อมูลของฐานข้อมูลออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ข้อมูลเชิงคุณภาพ และข้อมูลเชิงปริมาณ กล่าวคือ
1) ข้อมูลเชิงคุณภาพ คือ ข้อมูลที่แสดงสถานภาพ คุณสมบัติ และลักษณะของผลิต ภัณฑ์ หรือบริการงาน
สร้างสรรค์แต่ละประเภท ที่เกี่ยวข้องกับบุ คลากร และผู้ประกอบการที่ มีส่วนในการพั ฒนาผลิ ตภั ณฑ์แ ละบริ ก าร
สร้างสรรค์ รวมถึงองค์ค วามรู้ที่ ใช้ ในการต่อ ยอดและส่ ง เสริ มสนับ สนุ นอุ ต สาหกรรมสร้า งสรรค์ใ นอนาคต โดย
จัดเก็บข้อมูลตามประเภทดังต่อไปนี้
ผลิตภัณฑ์ หรือการบริการงานสร้างสรรค์ เช่น ประเภทของผลิตภัณฑ์และบริการ
บุคลากร หรือผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม เช่น ประวัติบุคลากร ช่องทางการติดต่อ
องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น แนวโน้มของอุตสาหกรรม
2) ข้อมูลเชิง ปริ มาณ เป็นการรวบรวมข้ อ มู ลอุ ต สาหกรรมสร้า งสรรค์ ในเชิ ง ตัว เลข ทั้งในภาพรวม และ
การแจกแจงรายละเอี ยดตามประเภทผลิ ต ภั ณฑ์ บริ ก าร บุ ค ลากร และผู้ ป ระกอบการที่ เ กี่ ยวข้ อ ง เพื่ อ แสดง
ทิศทาง แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้น โดยจัดเก็บข้อมูลตามประเภทดังต่อไปนี้
ผลิตภัณฑ์ หรือการบริการ เช่น มูลค่าการลงทุนในอุตสาหกรรม มูลค่าโดยรวมของอุตสาหกรรม
มูลค่าการนาเข้า-ส่งออก มูลค่าผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท
บุคลากร หรือผู้ประกอบการ เช่น จานวนบุคลากรและผู้ประกอบการที่เกี่ ยวข้อง จานวนบุคลากร
ในแต่ละสาขาวิชาชีพ ภาพรวมของตลาดแรงงาน
โดยแนวคิดการรวบรวมข้อมูลข้างต้นจะนามาใช้ในการจัดกลุ่มข้อ มูลของแต่ล ะอุต สาหกรรมต่ อไป
173
7.2.2 กรอบแนวคิดการออกแบบฐานข้อมู ลอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์
ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
1) ศึกษาและรวบรวมข้ อ มูลที่ มีอยู่ใ นระบบฐานข้ อ มูล เดิ มของอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ ทั้งจากหน่วยงาน
ภาครัฐและเอกชน การทบทวนนโยบายและแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ รวมถึงการนากรณีศึกษาจาก
ต่างประเทศ มาเป็นแนวทางในการกาหนดขอบเขตของข้ อมูล ที่สาคัญ ต่อการพั ฒนาอุต สาหกรรมภาพยนตร์ พร้อม
ทั้งศึกษาความต้องการของภาครัฐและเอกชนในการนาฐานข้อมูลนี้ไปใช้ประโยชน์
2) วิ เ คราะห์ ช่ อ งว่ า งของข้ อ มู ล ที่ ต้ อ งการการเติ มเต็ ม โดยวิ เ คราะห์ ข้ อ มู ล จากการสั มภาษณ์ เ ชิ งลึก
ผู้เกี่ยวข้องในอุ ต สาหกรรม เพื่อนามาเพิ่ มเติ มหรือ ปรับ ปรุ งฐานข้ อ มูลที่ มีอยู่ ในปัจจุบั น ให้มีค วามเหมาะสม และ
สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
3) การออกแบบฐานข้ อ มูล ซึ่งนาผลการวิเคราะห์ ช่อ งว่า งของข้อ มู ล มาออกแบบและจัด ระเบียบข้ อ มู ล
ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไ ทยให้ เหมาะสม และสอดคล้องตามกรอบแนวคิด การจัด กลุ่ มข้ อมู ลข้างต้น พร้อมทั้ ง
เสนอแนวทางการใช้ ป ระโยชน์ และการบู ร ณาการเชื่ อ มโยงข้ อ มู ล กั บ หน่ ว ยงานต่ า งๆ ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง ให้ เ กิ ด
ประสิทธิภาพสูงสุด
126 https://www.m-culture.go.th/filmcommittee/main.php?filename=index
174
ประเภทของข้อมูลทีเ่ กี่ยวกับภาพยนตร์ไทย ที่หน่วยงานดาเนินการจัดเก็บ ดูแล และเผยแพร่ ได้แก่
ข้อมูลโครงการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวี ดิทัศน์
รายงานผลการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ระยะที่ 3 ครึ่งระยะ
ยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ร ะยะที่ 3 (ปี พ.ศ. 2560- 2564)
70 สุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 (E-Book)
ช่องยูทูป CONTENT THAILAND CHANNEL
2. กระทรวงพาณิชย์127
กระทรวงพาณิชย์ได้รวบรวมและเผยแพร่ข้ อ มูลเกี่ยวกั บอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์บนเว็บไซต์ข องกระทรวง
ได้แก่ ข้อมูลบริษัท/ห้างหุ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์128
โดยการเข้ า ใช้ ง าน คลิ ก เว็ บ ไซต์ https://datawarehouse.dbd.go.th/ จากนั้ น น าชื่ อ บริษั ท หรื อเลข
ทะเบียนบริษัท ไปค้นหาข้อมูล ซึ่งฐานข้อมูลที่กระทรวงพาณิชย์รวบรวมไว้ประกอบด้วย
ชื่อนิติบุคคล
เลขทะเบียนนิติบุคคล
สถานะนิติบุคคล
วันที่จดทะเบียนจัดตั้ง
ทุนจดทะเบียน
รายชื่อคณะกรรมการ และชื่อกรรมการที่ลงชื่อผูกพัน
ที่ตั้งบริษัท
งบแสดงฐานะการเงินของบริษัท
มูลค่าหุ้นและสัดส่วนการลงทุนของบริษัทนั้นๆ จาแนกตามสัญชาติ
127 https://datawarehouse.dbd.go.th/
128 ฐานข้อมูลนี้ เป็นฐานข้อมูลของบริษัท/ห้างหุ้นส่วน ทุกแห่งที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์
175
3. กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทั ศน์ ต่างประเทศ129
กรมการท่อ งเที่ย ว มีภารกิจที่เ กี่ย วข้ อ งกั บ ด้านภาพยนตร์ คื อ ส่งเสริมและสนั บ สนุ นกิ จการภาพยนตร์
ต่ า งประเทศในราชอาณาจัก ร โดยหน่ว ยงานที่รั บ ผิด ชอบคื อ กองกิ จ การภาพยนตร์ แ ละ วี ดิ ทั ศ น์ ต่ างประเทศ
ประเภทข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์ไทยที่หน่วยงานดังกล่าวจัดเก็บและเผยแพร่ ได้แก่
ข้อมูลภาพรวมเกี่ยวกับประเทศไทย
ข้อมูลทีจ่ าเป็นต่างๆ เช่น ภาษี วีซ่า ใบอนุญาตทางาน ฯลฯ
ข้อมูลขั้นตอนสาหรับ กองถ่า ยทาภาพยนตร์ ต่างประเทศที่ จ ะขออนุ ญาตเข้า มาถ่ายทาภาพยน ตร์ ใ น
ประเทศไทย
ข้อมูล Incentive สาหรับกองถ่ายต่างประเทศที่จะเข้ามาถ่ายทาภาพยนตร์ในประเทศไทย
4. หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)130
หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานของรั ฐ ทาหน้าที่เสมือนหอสมุ ด พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ ซึ่ง
เก็บรวบรวมภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ รวมทั้ง สิ่งเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และวี ดิทั ศน์ เพื่ออนุรักษ์ไว้เป็ นทรั พย์ สิ น
ทางปัญญา และมรดกทางศิล ปวั ฒนธรรมของชาติ โดยนาออกให้บริการแก่ประชาชน และผู้สนใจทั่วไปได้ศึ ก ษา
ค้นคว้า และชื่นชม หรือใช้ประโยชน์อย่างสะดวก
ข้อมูลที่หอภาพยนตร์จัดเก็บและเผยแพร่เกี่ยวกับภาพยนตร์ ได้แก่ ฟิล์มภาพยนตร์ ภาพยนตร์รูปแบบไฟล์
ดิจิทัล สื่อบันทึกภาพและเสียงประเภทต่างๆ และสิ่งเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์
ส่วนที่ 2 หน่วยงานเอกชน
1. กลุ่มนิตยสารภาพยนตร์ ส่วนใหญ่เผยแพร่ผ่านช่องทางเฟสบุ๊ก
นิ ต ยสาร STARPICS (ปั จ จุ บั น ไม่ มี ก ารพิ ม พ์ จ าหน่ า ยแล้ ว แต่ ยั ง มี ช่ อ งทางเผยแพร่ ท างเฟสบุ๊ ก
https://www.facebook.com/Starpics
นิตยสาร FILMAX (ปัจจุบันไม่มีการพิมพ์จาหน่ายแล้ว)
นิตยสาร เอนเตอร์เทน131
นิตยสาร BIOSCOPE (ปัจจุบันไม่มีการพิมพ์จาหน่ายแล้ว แต่ยังมีช่องทางเผยแพร่ ทางเฟสบุ๊ ก แต่ว่า
ไม่ได้มีการอัพเดตข้อมูลมาตั้งแต่ เดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2563)132
129
http://www.thailandfilmoffice.go.th/
130
https://www.fapot.or.th/main/index
131
https://www.facebook.com/Entertainmagazine
132
https://www.facebook.com/BioscopeMagazine
176
2. เพจต่างๆ ที่อัพเดตข้อมูลข่าวสารในวงการภาพยนตร์ (ส่วนใหญ่เป็นข่าวทั่วไปเกี่ยวกับภาพยนตร์ หรือรีวิว
ภาพยนตร์ ไม่ใช่ข้อมูลเชิงสถิติ)
GDH133
Kanin The Movie134
นักเลงโรงหนัง135
หนังโปรดของข้าพเจ้า 136
อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก137
เทพเจ้าคอนเน็ตโต้138
ตั๋วร้อน ป๊อปคอร์นชีส139
JUST ดู IT.140
หมื่นทิพ141
Jediyuth.com142
3. เว็บไซต์ที่เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับวงการภาพยนตร์ อาทิ
https://moviewthai.com/
https://www.beartai.com/category/lifestyle/movies
https://jediyuth.com/
133
https://www.facebook.com/gdh559
134
https://www.facebook.com/KaninTheMovie
135
https://www.facebook.com/TheaterGangster/
136
https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms/
137
https://www.facebook.com/overhyp/
138
https://www.facebook.com/cornettogod/
139
https://www.facebook.com/TuaronPopcorncheese/
140
https://www.facebook.com/JustDooItTH/
141
https://www.facebook.com/10000tip/
142
https://www.facebook.com/jediyuthcom/
177
7.4 กรณีศึกษาด้านฐานข้อมูลจากต่างประเทศ
หลังจากการศึกษาฐานข้ อ มูลของอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ ไทย ที่มีการจัดเก็บ โดยหน่ว ยงานภาครั ฐ และ
เอกชน ดังที่ได้นาเสนอไปข้า งต้นแล้วนั้ น ในส่วนต่อมาจะเป็น การยกกรณี ศึก ษาด้านฐานข้ อ มูล ของต่ างปร ะเทศ
เพื่ อ วิ เ คราะห์ ก ระบวนการจั ด เก็ บ ข้ อมู ล รายละเอีย ดข้ อมู ล ที่ ถู ก จัด เก็ บ รวมถึ ง รู ปแบบวิธี ก ารนาเสนอ โดยมี
วัตถุประสงค์ ในการศึ ก ษาเพื่อ เป็น ต้น แบบ หรือแนวทางที่จ ะน ามาปรับ ใช้ กั บกระบวนการออกแบบฐานข้ อ มู ล
สาหรับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยต่อไป
178
ประเทศเกาหลีใต้ และประเทศฝรั่งเศส โดยในส่วนต่อไปจะเป็นการให้รายละเอียดการจั ดเก็บ ข้อ มูลของหน่วยงาน
ในแต่ละประเทศ ดังนี้
7.4.1 กรณีศึกษาฐานข้อมูลประเทศเกาหลีใต้
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ใ นประเทศเกาหลีใ ต้ในช่ว งเวลา 20 ปีที่ผ่านมาถือว่ามีก ารเติ บโตที่ร วดเร็ ว และ
แข็งแรงในเชิงการผลิตและการส่ งออก โดยอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของประเทศเกาหลีใ ต้ มีส่วนสาคัญ ของกร ะแส
คลื่ น เกาหลี หรื อ Hallyu ที่ แ ผ่ ข ยายไปทั่ว โลก โดยภาพยนตร์เ กาหลี ใ ต้ โดดเด่ นในด้ า นส่ ง ผ่านวั ฒนธรรม และ
ภาพลักษณ์ของประเทศที่ ก้าวข้า มผ่านกาแพงภาษา ซึ่งมีข้อพิสูจน์มาจากการคว้ารางวั ลออสการ์สาขาภาพยนตร์
ยอดเยี่ยมในปี พ.ศ. 2563 และยังมีภาพยนตร์จากประเทศเกาหลีใ ต้อีก มากมายที่ ได้รั บการยอมรั บและเป็น ที่ รู้ จั ก
ทั่วโลก ความสาเร็จของอุต สาหกรรมภาพยนตร์ เกาหลี ใ ต้นั้น มาจากการได้รับ การสนั บสนุ นจากรั ฐบาล ที่มีความ
เข้าใจในอุตสาหกรรมและเปิ ดกว้างต่ อความคิ ด สร้างสรรค์ใ ห้กั บคนในวงการภาพยนตร์ ซึ่งเป็นการส่งเสริ ม ที่ มา
พร้อมกับเงินทุน และการสร้างระบบฐานข้อมูลที่ส มบูร ณ์แบบให้กับอุ ตสาหกรรมเพื่ อใช้ในการพั ฒนาอุตสาหกรรม
ภายในประเทศและการส่งเสริมการส่งออกผลงานภาพยนตร์และบุ คลากรไปสู่ต่างประเทศอีก ด้วย
179
ภาพที่ 49 แสดงตัวอย่างหน้าเว็ปไซต์ของ KOFIC
180
รายชื่ อ บริ ษั ท (Companies Directory) ใช้ วิ ธี ก ารสื บ ค้ น เรี ย งตามตามตั ว อั ก ษร โดยให้
รายละเอี ย ดเกี่ ย วกั บ ความเชี่ ยวชาญของหน่ ว ยงานนั้ น ๆ เช่ น Production หรื อ Distribution รวมถึ ง รายชื่อ
ภาพยนตร์ที่เป็นผลงานของบริษัทด้วย
รายชื่อเทศกาลภาพยนตร์ (Festival Directory) รายละเอียดเทศกาลภาพยนตร์ทั้ งหมดของ
ประเทศเกาหลีใต้ พร้อมช่วงเวลาจัดเทศกาล
รายชื่อตลาดภาพยนตร์ (Market Directory) ให้รายละเอียดเกี่ยวกับตลาดสาหรับภาพยนตร์
แต่ละขั้นตอน ตั้งแต่ Pre-production จนถึงขั้นตอนการจัดจาหน่าย และเป็นแหล่งรวมการพบปะกัน ของทุ ก ภาค
ส่วนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
รายละเอียดภาพยนตร์ที่เข้าฉาย (In Cinemas) โดยมีการแบ่งเป็นรายละเอียดภาพยนตร์ แ ละ
โรงภาพยนตร์ที่ฉาย ซึ่งมีการแยกว่าฉายด้วยซับ ไตเติ้ ลภาษาอั งกฤษหรื อการฉายในรูปแบบภาพย นตร์ อิสระ (Art
House)
รายละเอียด Box Office ซึ่งนาเสนอข้อมูลเป็นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี
การร่วมมือผลิต (Co-Production) โดยแบ่งข้อมูลเป็น 4 ส่วน ได้แก่
(1) บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ พร้อมช่องทางการติดต่อ
(2) การให้แรงจูงใจทางด้านภาษีส ถานที่ถ่ายทา (Location Incentive) โดยมีการแจก
แจงรายละเอียดสาหรับการเข้าร่วม โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลไปใช้งานได้ในรูปแบบไฟล์ PDF
(3) รายละเอียดสมาคมภาพยนตร์ ท้อ งถิ่น พร้อมรายละเอีย ดเกี่ยวกับจุ ดเด่นของแต่ ล ะ
พื้นที่ การให้แรงจูงใจทางด้านภาษี และช่องทางติดต่อ
(4) ข้ อ ตกลงในการร่ ว มมื อ ผลิ ต (Co-Production Agreements) โดยสามารถดาวน์
โหลดข้อตกลงทางด้านกฎหมายของประเทศอื่น ออกมาได้ในรูปแบบไฟล์ PDF ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลี
(2) การให้องค์ความรู้และข่าวสาร
มีการรวบรวมข่าวที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เกาหลี ใต้และสภาภาพยนตร์เกาหลี
บทความน าเสนอการรายงานข้อ มู ล รายได้ Box Office และประเด็ น ที่ น่ า สนใจในวงการ
ภาพยนตร์ (Feature)
การรวบรวมบทสัมภาษณ์ของบุคลากรจากวงการภาพยนตร์
มี ก ารสร้ า ง K-Cinema Library เพื่ อ เป็ น บรรณานุ ก รมดิ จิ ทั ล ที่ สามารถสื บ ค้ น ภาพยนตร์
เกาหลีใต้ได้
การนาเสนอกรณีศึกษาในด้านการผลิ ตร่ว ม (Ko-Production Case Study) กับคู่ค้าอื่น ซึ่งที่
มีการแยกส่งแบ่งทางการลงทุนที่ชัดเจน
181
เปิดให้ดาวน์โหลดสื่อ สิ่ง พิ มพ์ วารสารเกี่ยวกับภาพยนตร์ (Korean Cinema Today) ในส่วน
ของหนังสือ จะมี การแยกเป็ นภาพยนตร์ เกาหลี ใต้ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ เ กาหลี ซึ่ งให้รายละเอี ย ดทางตั ว เลข
ประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เกาหลีใต้ โดยทุกเอกสารสามารถนาเอามาใช้งานได้ในรูปแบบ ไฟล์ PDF
182
จากการค้นคว้าข้อ มู ลบนเว็บ ไซต์ ของ KOFA พบว่ามีการนาเสนอข้อ มู ลในลั กษณะของการอนุรั ก ษ์ เ พื่ อ
จุดประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า ตามรูปแบบของหอภาพยนตร์ในรูปแบบ Cinematheque ที่มีทั้งการเก็บบู ร ณะ
และการจัดฉายภาพยนตร์คลาสสิ กอมตะ รวมถึงการจัดแสดงงานศิล ปะเกี่ย วกับ ภาพยนตร์ ต่างๆ ในลักษณะของ
พิพิธภัณฑ์ รวมถึงการให้บริการด้านข้อมูลและการจัดจาหน่ายที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ ต่างๆ ที่ข้อแจกแจงรายละเอีย ด
ดังนี้
KOFA ท าหน้ า ที่ ใ นการเป็ น สถานที่ ส ถานที่ เ ก็ บ สะสมบู ร ณะภาพยนตร์ ผลิ ต ภั ท ฑ์ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ
ภาพยนตร์และการจัดฉายภาพยนตร์ที่ได้รับบูรณะ โดยเป็นเปิดพื้นที่ให้แก่ภาพยนตร์คลาสสิกและภาพยนตร์ ศิ ล ปะ
จากในแต่ต่างประเทศ โดยมีจุดมุ่ง หมายเพื่ อส่ ง เสริ มคุ ณค่า ของภาพยนตร์อ มตะไม่ไ ด้ถู ก ทาลายและถู ก ลื มจาก
สายตาผู้ชม รวมถึงภาพยนตร์ที่หาชมได้ยากอีกด้วย ซึ่งในส่วนนี้มีการเปิดให้จองตั๋วเข้าชมภาพยนตร์ในช่อ งทางตรง
หรือออนไลน์
ห้ อ งสมุ ด ภาพยนตร์ ที่ เ ปิ ด โอกาสให้นั กวิ ช าการด้า นภาพยนตร์ และคนรัก ภาพยนตร์เ ข้ ามาใช้สื่อที่
เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ไว้ในที่เดียวกัน ซึ่งอยู่ในรูปแบบ DVD, VHS หรือ Blue-rays และสื่อสิ่งพิมพ์ของภาพยนตร์
ที่ถูกผลิตขึ้นภายในประเทศ ในส่วนภาพยนตร์คลาสสิกและภาพยนตร์ อิสระสามารถเข้าชมได้ ในระบบ Video On
Demand โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ที่
https://www.kmdb.or.kr/vod/main (เวปไซต์เป็นภาษาเกาหลีทั้งหมด)
พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ เป็นส่วนจัดการแสดงนิทรรศการภาพยนตร์เ กาหลี ใต้ ที่แบ่ งไว้ตามช่ว งเวลาและ
ประเภทเช่น นิทรรศการเกี่ย วกั บ วิชาชี พทางภาพยนตร์ การจัดแสดงรางวั ล ทางภาพยนตร์ หรือประวัติศ า สตร์
ภาพยนตร์เกาหลีใต้
การเปิ ด ให้ บ ริ การเช่ ายืมภาพยนตร์เ กาหลี ใ ต้ โดยมี จุ ด ประสงค์ เ พื่ อ ให้ ความสะดวกต่ อ การจัดฉาย
ภาพยนตร์ทั่วโลก โดยมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ที่จาเป็นและช่องทางการติดต่ อ
Korean Movie Database หรือ KMDB เป็นส่วนของฐานข้อมูลที่ใช้ในการสืบค้น ข้อมู ลภาพยนตร์ เ ก่ า
ที่ ไ ด้ รั บ การบู ร ณะ โดยภาพยนตร์ ส่ ว นใหญ่ มีก าร ให้ ลิ ง ค์ เ ข้ า ชมภาพยนตร์ รู ป แบบเต็ มได้ ท าง Youtube ที่
https://www.youtube.com/channel/UCvH6u_Qzn5RQdz9W198umDw
(ข้อมูลเป็นภาษาเกาหลี ภาพยนตร์ที่เผยแพร่ไม่มีซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษ)
การจัดจาหน่ายหนังสือการศึกษาเกี่ยวกับภาพยนตร์และตัวภาพยนตร์ในรูปแบบ DVD
183
ภาพที่ 51 แสดงตัวอย่างฐานข้อมูลของ KOFA
สรุปรายละเอียดการจัดเก็บและนาเสนอข้อมูลภาพยนตร์ของประเทศเกาหลีใต้
จากการศึกษาเว็บไซต์ของหน่ วยงาน KOFIC และ KOFA ในประเด็นเกี่ยวกับการจั ดเก็ บและการนา เสนอ
ข้อมูลนั้น จะเห็นว่าทั้งสองหน่ วยงาน มีลักษณะที่คล้า ยคลึง กัน กล่าวคือทั้งสององค์ก รมี ความต้อ งการให้ ค วามรู้
เกี่ ย วกั บ ภาพยนตร์ เ กาหลี ใ ต้ โดยผ่ า นการสร้ า งฐานข้ อ มู ล เพื่ อ สื บ ค้ น การให้ ค วามรู้ ถึ ง ประวั ติ ศ าสตร์ ข อง
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ รวมถึงการแนะนาหนัง สือ บทความงานเขีย นต่า งๆที่ เ กี่ยวข้ องกับ การศึก ษาภาพยน ตร์
อย่างไรก็ตาม 2 หน่วยงานมีบทบาทและภารกิจที่แตกต่างกันบางส่วน อธิบายดังตารางที่ 41
184
KOFIC KOFA
น าเสนอสถิ ติ ร ายได้ Box office ภาพรวมของ มีการจัดเก็บข้ อ มูล และผลิ ตภั ณฑ์ที่ เ กี่ยวข้ อ งกั บ
อุตสาหกรรม และจานวนภาพยนตร์ที่เข้าฉา ยใน ภาพยนตร์ เช่น สิ่งของประกอบฉาก
รูปแบบตัวเลข มีการจัดแสดงในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์
มุ่งนาเสนอข้อมูลของภาพยนตร์ร่วมสมัยเป็ น ส่ ว น
ใหญ่ พร้ อ มความเคลื่ อ นไหวของอุ ต สาหกรรม
ภาพยนตร์ในปัจจุบัน
น าเสนอข้ อ มู ล เชิ ง ลึ ก จากการสั ม ภาษ ณ์ แ ล ะ
กรณีศึกษาด้านการร่วมมือผลิต
ภาพที่ 52 แสดงฐานข้อมูลภาพยนตร์ในประเทศเกาหลีใต้
185
7.4.2 กรณีศึกษาฐานข้อมูลประเทศฝรั่งเศส
อุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ใ นประเทศฝรั่ ง เศส มี ส ถานการณ์ ที่ ค ล้ ายคลึ งกั บ อุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ใน
ประเทศไทยค่อนข้างมาก เนื่องด้วยการมองภาพยนตร์เป็ นสื่ อที่ส ะท้อนวัฒนธรรมของประเทศ มากกว่าการเป็ น
ผลิตภัณฑ์ทางเศรษฐกิจ เพื่อส่ งออกจาหน่า ยต่างประเทศ รวมถึงจานวนประชากรของประเทศฝรั่ง เศสที่ มีป ริ มาณ
ใกล้เคียงกับประเทศไทย (67 ล้านคนในปี 2564) อีกทั้งประเทศฝรั่งเศสมุ่งการผลิตภาพยนตร์ที่มี เอกลัก ษณ์ พร้อม
ต่ อ ต้ า นการครอบง าจากประเทศมหาอ านาจอย่ างประเทศสหรัฐ อเมริก า ด้ ว ยเหตุ ผ ลนี้ก ารจัด ฐานข้ อ มู ลของ
ประเทศฝรั่งเศสเหมาะสมในการเป็นต้นแบบให้แก่ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย
186
(3.1) ข้ อ มู ล เชิ ง สถิ ติ อี ก ชุ ด หนึ่ ง จะเป็ น ข้ อ มู ล เชิ ง สถิ ติ ที่ แ บ่ ง แยกเป็ น ภาคส่ ว น ( Sectoral
Statistics) ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้สามารถดาวน์โหลดออกมาใช้งานได้ในรู ปแบบ Excel โดยแยกแยะออกเป็นประเภท
ดังต่อไปนี้
ข้อมูลเชิงสถิติของโรงภาพยนตร์ในด้านการเข้าชมและภาพยนตร์ที่กาลัง เข้าโรงฉาย
การส่งออกภาพยนตร์ (Distribution) โดยวัดเป็น เป็น จานวนรายได้ที่ มีการจาแน กเป็ น
ภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก
การจั ด แสดงภาพยนตร์ (Film Exhibition) เป็ น ข้ อ มู ล ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ จ านวนข้ อ มู ล
โดยทั่วไปเกี่ ยวกั บจานวนที่นั่ ง ในโลกภาพยนตร์ ผู้ให้บริการ หรือการสนับสนุน อุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ รวมถึ ง
จานวนโรงภาพยนตร์ที่มีอยู่ในประเทศโดย เป็นต้น
จานวนผู้ชมภาพยนตร์ (Movie-going public) โดยแยกตาม อายุ เพศ อาชีพ และถิ่น ที่
อยู่
การผลิตรายการโทรทัศน์ ซึ่งมีการแบ่งข้อมูลตามประเภทได้ แก่ Animation สารคดี และ
รายการโทรทัศน์ทั่วไป
ค่าใช้จ่ายต่อครัวเรือนกับภาพยนตร์และวีดิทัศน์
รายได้ ข องภาพยนตร์ แ ละวี ดิ ทั ศ น์ โดยมี ก ารแบ่ ง ตามประเทศ เนื้ อ หา ประเภทของ
ภาพยนตร์ และประเภทของสื่อทั้งภาพยนตร์และวีดิ ทัศน์
การรวบรวมข้อมูลทางสถิติของภาพยนตร์จากต่างประเทศ เช่น ทวีปยุโรป ประเทศญี่ปุ่ น
ประเทศอิตาลี ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศออสเตรเลีย ประเทศสเปน และประเทศอังกฤษ โดยให้ข้อมูลตัวเลข
อย่างละเอียด เช่นส่วนแบ่งการตลาดในประเทศ การเข้าชม จานวนภาพยนตร์ที่ถูกผลิตต่อปี เป็นต้น
(3.2) จานวนผู้เข้าชมภายนตร์ (Theater Admission) ซึ่งเป็นการรายงานข้ อ มูล ในจ า นวน
ผู้ ช มจ าแนกเป็ น รายเดื อ น รวมทั้ ง ส่ ว นแบ่ ง การตลาด ( Market Share) ที่ มีก ารจ าแนกเป็ น ภาพยนตร์สั ญชาติ
ฝรั่ ง เศส ภาพยนตร์ สั ญ ชาติ อ เมริกั น และสั ญ ชาติ อื่ นๆ ทั้ ง นี้ สิ่ ง ที่ น่ าสนใจที่เ กี่ ย วข้ อ งกั บข้ อ มู ล จานวนผู้ เ ข้าชม
ภาพยนตร์คือหน่วยงานมีการจาแนกจานวนผู้เข้าชมภาพยนตร์จาแนกตามจานวนผู้เ ข้าชมตั้งแต่ เช่น ภาพยนตร์ที่
มีผู้ชมมากกว่า 5 แสนคนขึ้นไป 1 ล้านคนขึ้นไป 3 ล้านคนขึ้นไป เป็นต้น
(3.3) ในส่ ว นถั ด ไปที่ เ ป็ น ข้อ มู ล เชิ ง สถิ ติ คื อ Movie-going population "Barometer”
เป็นข้อมูลที่นาเสนอจานวนผู้ชมเช่น เดีย วกันแต่จ ะเน้น กับข้อ มูล เชิ งประชากรของผู้ เข้าชมภาพยนตร์ เช่น การเข้า
ชมภาพยนตร์ ที่ จ าแนกตามเพศ ตามอายุ อาชี พ ความถี่ ใ นการเข้ าชมภาพยนตร์ รวมทั้ ง สถานที่ ที่ เ ข้ ารับชม
ภาพยนตร์ เป็นต้น
187
(4) ทุ น สนั บ สนุ น ให้ ข้ อ มู ล และเอกสารสารที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ โครงการที่ เ ปิ ด โอกาสให้ ผู้ ส ร้ า ง
ภาพยนตร์สามารถสมัครเพื่อยืน ข้อ เสนอในการรับ เงิน ทุนสนับสนุ นโดยในหมวดนี้ จะมี การแนบเอกสารเพื่อ ให้ ผู้ ที่
สนใจสามารถอ่านรายละเอียดหรือเข้าไปสมัครได้จากเว็บไซต์นี้ได้ อย่างสะวด
(5) ข้ อ มู ล สั ญ ญาการผลิ ต ภาพยนตร์ ร่ ว ม (Coproduction Agreement) เป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของ
เว็ บ ไซต์ ที่ น าเสนอเนื้อ หาที่เ ผยแพร่ สัญ ญาที่ป ระเทศลงนามร่ วมกั บ ประเทศอื่น ๆ เพื่ อ การพั ฒ นาและการผลิต
ภาพยนตร์ร่วมกัน อาทิ สัญญาร่วมกับประเทศเยอรมันในด้านกฎระเบียบข้ อบังคั บหรือสภาพตลาดตามจริง สัญญา
ร่วมกับประเทศจอร์เจียในด้านการผลิตภาพยนตร์ร่ว มกัน ตลอดจนการแลกเปลี่ยนภาพยนตร์ระหว่างสองประเทศ
เป็นต้น
(6) การลดหย่อนภาษี (Tax Rebate) เพื่อให้ผู้ที่ผลิตภาพยนตร์ หรือรายการโทรทัศน์ แอนิเมชั น
เว็บไซต์ หรือละครชุด (Series) เป็นต้น โดยต้องเป็น โครงการต้ อ งมีอ งค์ป ระกอบที่ เกี่ ยวข้ องกับ วั ฒนธรร มหรื อ
มรดกและดินแดนที่เกี่ยวข้องกับประเทศฝรั่งเศสหรือยุโรป
อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ดั งกล่า วนั้ นเป็น ฐานข้ อ มูล ที่ ได้ รับ การจัด เอาไว้ เ อาเป็น ระบบและสามารถเข้า ถึ ง ได้
โดยง่ายซึ่งทาให้ผู้ผลิตภาพยนตร์หรือผู้ที่เ กี่ยวข้ องกับ อุตสาหกรรมทั้ งทางตรงและทางอ้อ มสามารถนาข้ อมูลนี้ ไ ปใช้
ในการคาดการณ์หรือวิเคราะห์ให้เห็นภาพรวมของอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์โดยรวม อย่างไรก็ตามจากการศึกษาชุ ด
ข้อมูลโดยเฉพาะข้อ มูล เชิง สถิติ นั้นพบว่าไม่ค่ อยได้รับ การอั พเดตและเป็น ชุดข้ อมู ลที่ ค่อนข้า งเก่าและอาจจะไม่ เ ข้ า
กับบริบทที่การเผยแพร่ เ นื้อ หาผ่า นโครงข่ายอิ นเทอร์ เน็ ต เข้า มามี บทบาทอย่า งมากต่ อ การรั บ ชมภาพยน ตร์ ใ น
ปัจจุบัน
188
ภาพที่ 53 แสดงตัวอย่างฐานข้อมูลด้านสถิ ติของ CNC
ภาพที่ 54 แสดงฐานข้อมูลภาพยนตร์ในประเทศฝรั่งเศส
189
7.5 แนวทางการจัดฐานข้อมูลที่ควรมีเพิ่มเติมสาหรั บอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย
จากข้ อ มู ล ที่ ไ ด้ รั บ จากการสั มภาษณ์ เ ชิ ง ลึก และการประชุ มระดมสมองกั บ ผู้ เ ชี่ ยวชาญด้ านต่ างๆ ใน
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ พบว่า ฐานข้อมูลที่มีประสิทธิ ภาพ ครบถ้วน และทันสมัย จะเอื้อประโยชน์ต่อการพั ฒ นา
วงการภาพยนตร์ข องประเทศไทยในหลายมิ ติ ทั้ ง ในด้ า นการพั ฒ นาบุ ค ลากรในอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ การ
ตัดสินใจลงทุน การช่วยเหลือและเยียวยาคนในอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ไ ด้อย่า งทั่วถึ ง และเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม
สิ่งที่เป็นจุดอ่อนสาคัญ คือ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ของประเทศไทยยั งไม่ มีฐานข้ อ มูล ที่เ ป็นระบบ ข้อมูลยัง ขาด
ความครบถ้ ว นในหลายมิ ติ ฐานข้ อ มู ลที่ มี ได้ รั บ การจัด เก็ บและดู แลโดยหลายหน่ ว ยงาน ซึ่ ง แต่ ละหน่ว ยงานก็
ดาเนินการจัดเก็บข้อมูลตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน และไม่ได้มีการเก็บอย่างต่ อเนื่อ ง รวมทั้งฐานข้อมูลยัง ไม่ มี
การเชื่อมโยงกันอีกด้วย ทาให้ข้อมูลที่มีอยู่มีลักษณะกระจัดกระจาย นาไปใช้ประโยชน์ต่อได้ยาก
1. ฐานข้อมูลทางการตลาดและรายได้
ในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลด้านการตลาดที่ส มบูรณ์ พร้อ มเพีย ง โดยเฉพาะเรื่องรายได้ที่แน่ชัด พฤติกรรมและ
รสนิยมของผู้ชม ทั้งนี้เป็นเพราะหลายปัจจัย หลายประการ อาทิการแข่งขันเข้มข้นในธุรกิจ ภาพยนตร์ ระบบสาย
หนัง กลยุทธ์ทางการตลาดที่ เ ป็น ความลั บ การขาดหน่วยงานกลางจั ด เก็ บ การขาดกฎหมายบั งคั บ การเปิ ด เผย
รายได้
ประการแรกข้อมู ลด้านรายได้ ไม่ มีการเก็ บรวบรวมอย่า งเป็น กิจจะลั กษณะ แต่มักเป็นการประมา ณการ
หรือคาดการณ์โดยผู้ เชี ยวชาญในอุต สาหกรรม สื่อมวลชน และนักวิจารณ์ภาพยนตร์ ยกตัวอย่างเช่น รายได้จาก
การจาหน่ายบัตร (Box office) ทีส่ ื่อมวลชน หรือ เวปไซต์ ภาพยนตร์ และโรงฉายรายงานกันอยู่นั้น มีวิธีเก็บข้อมู ล
จากการสอบถามตัวเลขคร่าวๆ จากโรงภาพยนตร์ หรือค่ายภาพยนตร์ต่างๆ แล้วก็มาจัดลาดับ เรียบเรียงเอง เป็น
ตัวเลขที่พอให้เห็นภาพรวม หรือตัวเลขสมมติที่ขาดหลั กฐานรองรับ จึงอาจจะไม่สะท้อนรายได้ภาพยนตร์ที่ ชั ด เจน
นอกจากนี้ปริมาณรายได้รวมที่นาเสนอก็ไม่ ได้บ อกจานวนตั๋ ว และ ราคาตั๋วที่แท้จริง เพราะแต่ละโรงในแต่ละเขตก็
ตั้งราคาตั๋วแตกต่างกัน นอกจากนี้ ข้อมูลรายได้ในปัจจุบันจะมีเฉพาะข้อ มูลของโรงในเขตกรุง เทพฯ และปริมณฑล
ไม่มีตัวเลขรายได้จากสายหนัง (ซึ่งตามปกติจะจ่ายค่ายภาพยนตร์หรือเจ้าของภาพยนตร์ ครั้งเดี ยว แต่นาภาพยนตร์
ไปฉายตามจังหวัด ต่างๆ แล้วเก็บรายได้ตามข้อ ตกลงกัน เอง) ไม่มีการเก็บสถิ ติย้ อนหลัง ตามหลักการตลาด การ
190
ทราบรายได้ที่แท้จ ริง จะช่ วยให้ สามารถวางแผนการเผยแพร่แ ละจั ดจาหน่ายภาพยนตร์ไ ด้ อย่า งมีป ระสิ ท ธิ ภ าพ
ดังนั้นการประมาณการรายได้เช่นนี้จึงเป็นข้อมูลไม่สมบูร ณ์ และไม่ครอบคลุมผลรายได้ทั้งประเทศ
นอกจากนี้ อุ ต สาหกรรมนี้ ยัง ขาดข้ อมู ล ที่ เ กี่ย วกับ พฤติ ก รรมของและรสนิ ยมของผู้ช ม ตั้ ง แต่ ป ระเภท
ภาพยนตร์ที่ชอบดู ความถี่การชมภาพยนตร์ ฐานข้อมูลที่มีใ นปัจ จุบัน ไม่รู้ว่ ากลุ่มไหนดู ภาพยนตร์ ไทย กลุ่มอายุ
เท่าไร ไม่มีข้อมูลจากโรงภาพยนตร์ ว่าภาพยนตร์แ นวไหนเป็น ที่นิย มในแต่ ล ะเดือ น (ยกเว้นการจ้างบริษัท วิจั ย ท า
รายงานศึกษาเป็นครั้งคราวแต่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เพราะเป็นข้อมูลลับของแต่ละส่วนงาน) และควรมีการศึกษา
ช่องทางการสื่อสารของผู้ บริโ ภคด้ วย เช่น ผู้ชมไปจ่ายเงินซื้ อ ตั๋ว เพราะเงื่ อนไขใด เพราะชื่นชอบ หรือ โปรโมชั่ น
ราคาตั๋ว เพราะความรู้สึกของผู้ชมต่อภาพยนตร์จริงๆ หรือเพราะการบอกปากต่อปาก หรือเพราะบทวิจารณ์ ดังนั้น
ข้อมูลที่จะช่วยให้วางแผนการตลาดได้อย่างบรรลุผล เช่น การเปิดเผยจานวนตั๋วที่จาหน่ายได้ทั้งภาพยนตร์ไทยและ
ต่างประเทศ การศึกษาพฤติกรรมของและรสนิยมของผู้ช ม เพราะจะทาให้ทราบว่าผู้ชมนิยมดูภาพยนตร์อะไร ชอบ
ภาพยนตร์แนวไหน และทาให้นายทุน ค่ายภาพยนตร์เห็นเทรนด์เ กี่ยวกับ พฤติกรรมของและรสนิย มของผู้ช ม ซึ่ง
ข้อมูลเหล่านี้ เ ป็น ส่ว นสาคั ญในการกาหนดทิ ศ ทางของผู้รั บ ชมภาพยนตร์ และส่วนแบ่ งการตลาดที่ มีผ ลต่ อ การ
วางแผนพัฒนาและการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์
191
ปัจจุบัน สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แ ห่ง ชาติ เป็นแหล่งข้อมูล หลั กสาหรับรายได้ภาพยนตร์ป ระจาปี ใน
ระดับหนึ่งแต่ยังขาดความสมบูรณ์ และการอั พเดตให้ทัน สมั ย ด้วยเหตุนี้ ผู้เชี่ยวชาญจึงเห็ นว่าควรมี หน่วยงานกลาง
ในจัดเก็บข้อมูลรายได้ และข้อมูลทางการตลาด พฤติกรรมของและรสนิยมของผู้ชม เพื่อช่วยให้มีฐานข้อมูลเปิด เผย
ต่อสาธารณะสาหรับการกาหนดแนวโน้มการตลาด ทานายพฤติกรรมผู้บริโภค และแนวทางการผลิตเนื้อหาที่เป็ น ที่
นิยม อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริง การเปิดเผยที่รายได้และกลยุทธ์ข้อมูลทางการตลาดของธุรกิจ อาจถือว่าเป็นการ
เปิดเผยความลับของบริษัทค่ายภาพยนตร์ และโรงฉายภาพยนตร์ และอาจมีผลกระทบหลายอย่าง เช่น การจัดเก็บ
ภาษีสรรพากร การรู้กลยุทธ์การแข่งขันในอุตสาหกรรม ดังนั้นจึงอาจจะต้องพิจารณาเรื่องการมีกฎหมายบั งคับ การ
เปิดเผยรายได้ภาพยนตร์อย่างประเทศสหรัฐ อเมริกา ซึ่งก็ใช้เวลานานอยู่นานในการที่จะพัฒนากฎหมายเพื่อ บั ง คั บ
ให้บริษัทภาพยนตร์ต่างๆ ค่ายภาพยนตร์ หรือโรงภาพยนตร์ เปิดเผยยอดตัวเลขจริงได้
2. ฐานข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์ไทย รวมถึงภาพยนตร์ที่เข้าฉายในประเทศ
การท าฐานข้ อ มู ล รวมส าหรั บ ภาพยนตร์ (Database) ที่ ค่ อ นข้ า งละเอี ย ดเป็ น เรื่ อ งส าคั ญ ปั จ จุ บันใน
ประเทศไทยมี ก ารจั ด ท าฐานข้ อ มู ล เกี่ ย วกั บภาพยนตร์ ไ ทยตามวั ต ถุ ป ระสงค์ เ ฉพาะ เช่ น โรง ภาพยนตร์ ค่ าย
ภาพยนตร์ มีข้อมูลภาพยนตร์ที่ เข้าฉายในลั กษณะโฆษณาประชาสัมพัน ธ์ สื่อบันเทิงและเวปไซต์ภาพยนตร์ ไ ทยมี
การเก็บข้อมูลที่กระจัดกระจายตามความสนใจของผู้ สื่อข่า วและตามความนิย มของผู้ ชม ในขณะที่หอภาพยนตร์ มี
การจัดเก็บข้อมูลภาพยนตร์ไทยเพื่อ การศึก ษาและการอนุรักษ์ เป็นระบบที่สุ ดแต่ยั ง มีข้อ มูลไม่ ครบถ้ว น นอกจากนี้
ยังมีมีฐานข้อมูลหรื อระเบี ยนการจั ดฉาย รายได้ของภาพยนตร์ต่า งประเทศที่ เข้าฉายในประเทศตามช่ องทางและ
พื้นที่ต่างๆ จากการสัมภาษณ์แ ละสนทนากลุ่ ม พบว่าแม้ ว่า มีผู้ พยายามจัด ทา แต่ยังไม่เห็นเป็นรู ปเป็นร่า ง และมี
ลั ก ษณะต่ า งคนต่ า งท า ผู้ เ ชี่ ย วชาญจึง เห็ น ควรที่ จะมี ศู น ย์ ก ลางในการจั ด สร้ างฐานข้ อ มู ล ส าหรับ ภาพยนตร์ที่
ครบถ้วนมีประสิทธิภาพ
กระบวนการจัด ท าฐานข้ อ มู ล ควรครอบคลุมตามห่ วงโซ่ คุ ณ ค่ า ตั้ ง แต่ ก ารผลิ ต การจัด จาหน่าย การ
เผยแพร่ และการบริ โ ภค เช่ น รายละเอี ย ดภาพยนตร์ ก่ อ นการผลิ ต ระหว่ า งการผลิ ต และผลิ ต เสร็ จ แล้ ว มี
รายละเอียดภาพยนตร์ เช่น รายชื่อภาพยนตร์ไทยพร้อมทั้งเรื่องย่ อ นักแสดง ผู้กากับ ผู้ผลิต ภาพนิ่ง คลิปตัวอย่า ง
ปีที่ฉาย ประเทศที่ฉาย ระดับความเหมาะสมของภาพยนตร์ เป็นต้น แม้กระทั่งการทาเทศกาลภาพยนตร์ ก็ ค วรมี
การจัดเก็บข้อมูลให้เป็นระบบเพื่อใช้เป็นหลั กฐานและเอกสารสาคัญในการศึกษา ค้นคว้าภาพยนตร์ไทยต่อไป
นอกจากนี้ ควรมีระบบการจั ดเก็บ ฟิ ล ม์ภาพยนตร์ ที่ เข้า ถึง ง่ายและเป็ นระบบ ยกตัวอย่างเช่นการแปลง
ฟิ ล์ มเก่ า ใหเป็ น ข้ อ มู ล ดิ จิ ทั ล (Digital File) ส าหรั บ ค้ น คว้ า ข้ อ มู ล และท าวิ จั ย การจั ด ท าข้ อ มู ล เรื่ อ งลิ ข สิ ท ธิ์
(Copyright Protection) เพื่อป้องกันภาพยนตร์ถู กละเมิด ลิข สิท ธิ์ การเก็บภาพยนตร์หรื อ ฟุต เทจดิบ ไว้ ที่ผู้ ส ร้ า ง
192
ขณะเดียวกันก็ส่งไปให้หน่วยจัดเก็บ อื่นๆ เพื่อเป็นฐานสารอง (Backup) เช่น บริจาคให้หอภาพยนตร์ เพื่อเป็นฟิ ล์ ม
สารอง และอนุญาตให้น าไปใช้ เผยแพร่ เ พื่อ ประโยชน์ สาธารณะในบางกรณี ไ ด้ การบริหารจัดการแพลตฟอร์ ม
หลากหลายทีข่ ้อมูลถูกเก็บ ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี ที่ใช้ เพื่ อการผลิ ตภาพยนตร์ เช่นด้วยกล้องดิจิทัล หรือ ใช้ม้ว น
ฟิลม์ ซึ่งตามปกติภาพยนตร์ ฟอร์ มใหญ่ อาจจะมีข้ อ มูล เหล่ านี้แ ต่ถ้า ภาพยนตร์เ ล็ก ๆ จะไม่บันทึกข้อ มูล แบบนี้ ซึ่ง
เป็นข้อมูลทีม่ ีประโยชน์ต่อผู้ ที่ต้อ งการศึ กษาเรื่ องภาพยนตร์ รูปแบบของไฟล์ รูปแบบการทางาน รุ่นของกล้องที่ใ ช้
ถ่าย บริษัทถ่ายทา หรือสาเนาของภาพยนตร์ถูกเก็บไว้ที่ไหน หรือภาพยนตร์ถูกนาออกฉายในต่างประเทศ คืออะไร
ประเทศอะไรบ้าง การจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงให้ เห็นว่า วงจรชีวิต ของภาพยนตร์ไ ม่ไ ด้อยู่ แค่ ตัวภาพยนตร์ เ อง
แต่อยู่ที่ว่าเกิดมาจากไหน มีผลกระทบอะไร และได้ฝากความรู้ความทรงจาเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้ภายหลังอย่างไร
143
https://www.fapot.or.th/main/about/history
193
บริการข้อมูลเชิงลึกอย่างไร รวมถึงการเข้าถึงฐานข้อมูลผ่านระบบบอกรับสมัครสมาชิก หรือให้ สาธารณชนใช้ ไ ด้ ฟรี
โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
3. ฐานข้อมูลเกี่ยวกับแรงงานสร้างสรรค์และบริษัทในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
การมีฐานข้อมูลแรงงานสร้า งสรรค์ จะช่วยให้ทราบว่ามีแรงงาน หรือ ผู้มีความสามารถในกองถ่ายเท่ า ไร
เพื่อประเมิ น การค่า ตอบแทนและค่า ใช้จ่า ยที่ ส ะท้อ นเม็ด เงิน ที่ ห มุน อยู่ ในเศรษฐกิจ อย่ างถู กต้ อ ง แต่ข้อมู ล ด้ า น
มาตรฐานแรงงาน การว่าจ้างบุคลากรในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยยังเป็นสิ่งที่ขาดหาย ผู้เชี่ยวชาญจึงเสนอแผนที่
จะทาฐานข้อมูลของแรงงานสร้างสรรค์ (Creative Talents) บุคลากรคนไทยที่อยู่ในตาแหน่ งงานต่างๆ บุคลากร
ในกองถ่าย จานวนผู้เชี่ยวชาญและประสบการณ์ใ นแต่ ล ะสาขา ผลงานที่เป็น ที่ป ระจั ก ษ์ห รื อยอมรั บ ในวงการ
สถานที่ติดต่อ รวมทั้งการกาหนดมาตรฐานค่าแรงขั้นต่าของแต่ละส่วนในห่ วงโซ่ คุณค่า ค่าตอบแทนในแต่ละแผนก
เพื่อช่วยให้ตัดสินใจว่าจะว่าจ้างใคร เพราะการผลิตภาพยนตร์แต่ละประเภทจะมีวิธี การทางานที่ไม่เหมือนกัน
4. ฐานข้อมูลด้านแหล่งทุน
การรวบรวมข้อมูลด้านแหล่ง ทุนสาหรั บผลิ ตและเผยแพร่ภาพยนตร์ เป็นประเด็นที่มีการเรียกร้ องเช่ น กั น
เพราะยังไม่มีการรวบรวบอย่างเป็นทางการและเป็นระบบระเบียบบนเว็บไซต์เ ดียวที่จะช่วยเป็น ศูนย์รวมข้ อมูล ด้ า น
แหล่งทุน ในปัจจุบันคนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์จ ะหาข้อ มูลหลัก ๆ เกี่ยวกับแหล่งเงินทุน จากสานักงานกองทุ น
พัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และ กระทรวงวัฒนธรรม ข้อมูลที่เหลือกระจัดกระจายอยู่เวปหน่วยงาน องค์กร
ต่างที่มีโครงการเฉพาะกิจสาหรับให้ทุนสร้างภาพยนตร์ตามเงื่ อนไขและข้อกาหนดต่างๆ และสื่อสังคมออนไลน์ เช่น
194
Facebook ซึ่งเป็นกลุ่มที่สร้างขึ้นมาสื่อสารกันเองภายในกลุ่ม หรือแหล่งทุนจากต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษหรื อ
ภาษาต่างประเทศจึงเป็นข้อจากั ดสาหรับ คนไทยในอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ หลายๆท่าน และหลายโอกาส บุคคลที่
ได้รับทุนจึงมักเป็นคนเดิม หรือมีชื่อเสียง เพราะมีผลงานเดิมที่ประสบความสาเร็จเป็น เครื่องยืนยัน ในขณะที่คนรุ่ น
ใหม่อาจจะเสียเปรียบกว่าในการเข้าถึงแหล่งทุน
5. ฐานข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ ที่เหมาะกับการถ่ายทาภาพยนตร์ในประเทศไทย
กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ย วและกีฬา เป็นหน่วยงานรฐที่ทาหน้าที่อ นุมัติใ นเรื่ องการขอใช้
พื้นที่ถ่ายทาในประเทศไทย ร่วมกับหน่วยงานรั ฐบาลและเอกชนอื่น ๆ เวปไซต์ของกรมมี สถิ ติรายไตรมาสแสดง
จานวนผู้ที่ได้รับอนุญาตและจานวนเงินลงทุน รวมทั้งแรงจูงใจต่างๆ อาทิ ส่วนลดและการคืนเงิน (Rebate) (ตามที่
อธิบายในบทที่ 3) แต่ยังขาดความครบถ้วนด้านข้อมูลรูปภาพสถานที่ถ่ายทาและรายละเอียดที่ ช่วยในการตัด สิ น ใจ
ของผู้ที่จะขออนุ ญาตเข้า มาถ่ายทาในประเทศไทย จึงเป็นภาระของเอกชนหรื อคนกลางที่ ประสานกั บกองถ่ า ย
ต่างประเทศในการเสนอรูปภาพให้เลื อก ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่ อยเช่น สภาพทางภูมิศาสตร์ข องสถานที่นั้ น เป็น
ทะเลหรือเกาะ ระบบโลจิสติกส์เหมาะสมกับกองถ่ายขนาดใหญ่ ๆ หรือไม่ มีที่พักและสิ่งอานวยความสะดวกหรื อ ไม่
และมีระบบการจัดเก็บภาษีอย่า งไร เขาก็ไม่เลือกบางทีมันไม่ ครบ เพราะสุดท้ายแล้วเนี่ย แต่ภายในระบะเวลาครึ่ ง
ชั่วโมงเขาไม่สามารถเดินทางไปถึงได้
อย่างไรก็ดี ข้อมูลเหล่านี้ มักเป็น ข้อ มู ลของบริษั ท แต่ ล ะแห่ง ซึ่ ง มีกาหนดมาตรฐานไม่ เหมื อนกัน และไม่
เปิดเผยในวงธุรกิจ แต่เป็นค่าจ้างค่าตอบแทนที่ ตกลงกันเป็นรายกรณี ผู้เชี่ยวชาญจึงเห็นควรที่ จะมี มาตรฐานการ
ว่าจ้างและจัด การที่ เ ป็น ราคากลาง หรือมี สหภาพของอุต สาหกรรมภาพยนตร์ เ พื่ อ พิทั ก ษ์สิ ท ธิข องสมาชิ ก เช่น
ค่าตอบแทนทีมช่างไฟควรเป็น เท่านั้ นเท่า นี้ต่ อชั่วโมง นักแสดงควรเป็นเท่า นั้นเท่านี้ โลเคชั่นควรเป็นสถาน ที่ แ บบ
ไหน ถึงจะไม่รบกวนผู้อื่น คิดราคาต่อชั่วโมงเป็นเท่าไหร่ ต้องมีค่าจิปาถะอะไรบ้าง เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถตัด สิ น ใจ
คิดราคาต้นทุนการผลิตโดยรวมได้แม่นยามีประสิทธิภาพมากขึ้ น และจะไม่เกิดปัญหาราคากลางที่ไ ม่เป็น ธรรมแปร
195
ผันตามประเภทงานหรื อบุ ค คล เช่นทีมงานช่างภาพที่ทางานให้กองถ่ายภาพยนตร์ โฆษณา (ซึ่งมีเงินทุนสูง) จะได้
ค่าตอบแทนกองถ่ายภาพยนตร์น้อยกว่า ทั้งๆที่ทาหน้าที่เดิม และเงื่อนไขการทางานใกล้เคียงกัน
1. ควรจัดตั้งหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบการบริหารจัดการฐานข้อมูล
ในประเทศไทยมีหน่วยงานของรัฐ ที่ทาหน้าที่ กากับ ดูแล และส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ในด้านของ
ฐานข้อมูล จะพบว่าหน่วยงานต่างๆ ได้จัดทาฐานข้อมูล ตามวั ตถุ ประสงค์ การใช้ งานของหน่ว ยงานตนเอง และมี
หลายกรณีที่เป็นการจัดเก็บข้อ มูลเฉพาะกิจ กล่าวคือ จัดเก็บรวบรวมข้อมูลเฉพาะเรื่อ งและระยะเวลาที่ หน่ว ยงาน
ตนเองต้องใช้เท่านั้น
นอกจากนี้ ฐานข้อมูลของแต่ละหน่วยงานก็ยั งไม่เชื่ อมโยงกัน ทาให้การนาไปใช้ต่อทาได้ยาก ดังนั้น สิ่งที่
ควรดาเนินการ คือ การจัดตั้งหน่วยงานกลางที่รั บผิ ด ชอบการบริหารจั ดการฐานข้ อ มู ล โดยหน่วยงานดั ง กล่ า ว
จาเป็นต้องมีทั้งอานาจ หน้าที่ และทรัพยากรที่เหมาะสมเพื่อ ดาเนินงาน หากมีหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบโดยตรง
ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องการกระจัดกระจายของข้อ มูล และทาให้ข้อมูลได้รับการจัดเก็บอย่างครบถ้วน ตรง
ตามเป้าหมาย และนาไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม
2. ควรจัดเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างครบถ้วนและหลากหลาย
ปั ญ หาหนึ่ ง ที่ ผู้ ให้ สั มภาษณ์ เ ชิง ลึ ก ได้ ส ะท้ อ นออกมาร่ว มกั น คื อ ข้ อ มู ล ที่ จั ด เก็ บ นั้น ไม่ ค รบถ้ว นและไม่
หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลรายได้การจาหน่ายภาพยนตร์ หรือ Box Office ที่มีการรวบรวมไว้เฉพาะใน
พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริ มณฑลเท่านั้น ยังขาดตัวเลขรายได้การจาหน่ายภาพยนตร์ในต่างจัง หวัด นอกจากนี้
ในส่วนของข้อมูลที่จาเป็นและเป็นประโยชน์ด้านอื่นๆ ก็ยังกระจัดกระจาย ไม่ครบถ้วน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับบุคลากร
ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ชมภาพยนตร์ เป็นต้น
3. ควรมีการนาเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบและปรับปรุงข้อ มูลที่นาเสนออย่างต่อเนื่ อง
ฐานข้ อ มู ล ที่ มีค วรถู กรวบรวมและนาเสนออย่ างเป็ นระบบ เข้ า ถึ ง และค้ น หาได้ ง่ า ย รวมทั้ ง ควรมีการ
ปรับปรุงฐานข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เสมอ เนื่องจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
196
7.5.3 แนวทางการดาเนินงานการจัดทาฐานข้ อมูลของอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์
จากการศึกษาข้อมูลโดยการสั มภาษณ์ เชิ งลึ ก การประชุมระดมความคิด เห็น และการศึกษาเปรียบเที ย บ
ฐานข้อมูลอุตสาหกรรมภาพภาพยนตร์ ของประเทศไทย เปรียบเทียบกับประเทศเกาหลีใ ต้ และประเทศฝรั่ ง เศส
คณะผู้วัยพบว่าสิ่งที่ควรดาเนินการ คือ การจัดตั้งหน่วยงานกลางที่มีอานาจ หน้าที่ และทรัพยากรที่เหมาะสม เพื่อ
ทาหน้าที่บริหารจัดการฐานข้อ มู ลของอุ ตสาหกรรมภาพยนตร์ เพื่อแก้ไขปั ญหาในเรื่ องการกระจัด กระจายของ
ข้ อ มู ล และท าให้ ข้ อ มู ล ได้รั บการจัด เก็ บอย่ างครบถ้ว น ตรงตามเป้ าหมาย และน าไปใช้ ประโยชน์ ไ ด้ อย่ างเป็น
รูปธรรม โดยหน่วยงานดังกล่าว ควรดาเนินการ ดังนี้
1) กาหนดวัตถุประสงค์การใช้งานข้อมูลที่ชัดเจน
โดยให้ครอบคลุ มผู้ มีส่ วนได้ เ สียทุ กภาคส่ว นได้ มีส่ วนร่ ว มในการออกแบบการจัด เก็ บและนาเสนอข้ อ มู ล
ทั้งนี้ หน่วยงานดังกล่ าว ควรเริ่มต้นจากการกาหนดวัต ถุประสงค์ การใช้ งานข้ อ มูล ที่ชั ด เจน ครอบคลุม โดยต้ อ ง
สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอุต สาหกรรมภาพยนตร์ในมิ ติต่า งๆ นอกจากนี้ ควรเปิดโอกาสให้ผู้ มีส่ว นได้ เ สี ย
จากทุ ก ภาคส่ว นได้ มีส่ วนร่ว มในการออกแบบการจัด เก็ บ และการน าเสนอข้อ มู ล เพื่ อ ให้ ก ารเก็ บ ข้อ มู ล มี ค วาม
ครบถ้วนในทุกมิติ และข้อมูลที่เก็บรวบรวมมา สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้จริง
2) จัดเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างครบถ้วนทุกมิติ
การจัดเก็บรวบรวมข้อ มูล ของหน่ วยงานดั ง กล่าว ควรพิจารณาให้มีความครบถ้วนในทุ ก มิติ ตลอดห่ ว งโซ่
มูลค่าของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เช่น ข้อมูลบุคลากรทุก สาขาในอุต สาหกรรมภาพยนตร์ ข้อมูลบริษัทต่า งๆใน
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ข้อมูลรายได้ของภาพยนตร์ทั้ งของประเทศไทยและต่างประเทศครอบคลุ มทุ กจังหวัด ทั่ว
ประเทศไทย ข้ อ มู ล ผู้ ช ม ข้ อ มู ล ด้ า นการศึ ก ษาในสาขาภาพยนตร์ ข้ อ มู ล ทุ น สนับ สนุน จากทั้ งในประเทศและ
ต่างประเทศ เป็นต้น
3) นาเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่าย
ฐานข้อมูลอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของประเทศไทยยั งมี ลักษณะกระจัดกระจาย เข้าถึงได้ยาก นาไปใช้งาน
ต่ อ ได้ ย าก ดั ง นั้ น ฐานข้ อ มู ลที่ จะพั ฒ นาขึ้ นใหม่ นั้น ควรที่จ ะนาเสนอข้ อ มู ล ในรูป แบบที่เ ข้ าถึ งได้ ง่ าย กล่าวคือ
เว็บไซต์ของหน่ วยงานกลางที่ จ ะจั ดตั้ งขึ้ น ควรเป็นเว็บไซต์ หลั ก ในการนาเสนอข้อ มู ล (ไม่กระจัดกระจายอยู่ ใ น
หลายเว็บไซต์) ข้อมูลควรถูกนาเสนออย่างเป็นระบบ โดยจัดแบ่งหมวดหมู่ไว้อย่า งชัด เจน ข้อมูลควรถูกนาเสนอใน
รูปแบบที่ผู้ใช้งานสามารถรับชมในระบบออนไลน์ และนาไปใช้งานต่อได้ส ะดวก นอกจากนี้ ในหน้าเว็บไซต์ ค วรมี
การนาเสนอทั้งภาษาไทยและภาษาอัง กฤษ โดยเฉพาะข้ อ มูล ที่ ต้อ งถู ก ใช้ งานโดยชาว ต่างประเทศ ควรจะมี ก าร
นาเสนอเป็นภาษาอังกฤษให้ครบถ้วน
197
4) มีระบบการค้นหาข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
เพื่อให้ง่ายและสะดวกต่อ ผู้ใช้ฐานข้ อมู ล ควรมีการพัฒนาระบบการค้นหาขั้นสูง (Advanced Search) ทา
ให้ผู้ใช้งานสามารถตีกรอบการค้นหาให้จากัดลงได้ ค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
5) มีการปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เสมอ
นอกจากการเก็บรวบรวม และนาเสนอข้อมูลที่มีประสิทธิภาพแล้ว สิ่งที่สาคัญอีกประการคือ การปรับปรุง
ข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เ สมอ หน่วยงานที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ ควรมีผู้รับผิดชอบในการติ ดตาม เก็บรวบรวมและนาเสนอ
ข้อมูลเป็นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี โดยพิจารณาความถี่ในการนาเสนอให้สอดคล้ องกับปร ะเภท
ข้อมูลที่นาเสนอ
198
บรรณานุกรม
199
บริษัทฐิติธนฤติจากั ด สมาคมไทยธุ รกิ จอิ เล็ ค โทรนิค บัน เทิง สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แ ห่ งชาติ และกระทรวง
วั ฒ นธรรม. 2564. เอกสารรายงานการจั ด เก็ บ สถิ ติ ข้ อ มู ล มู ล ค่ า อุ ต สาหกรรมคอนเทนต์ แ ละฐานข้อ มูล
ผู้ประกอบการกิจการในอุตสาหกรรมคอนเทนต์ประจาปี 2563. เอกสารอัดสาเนา.
ประสพ เรียงเงิน. (บรรณาธิการ). 2559. ยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์แ ละวีดิทั ศน์ร ะยะที่ 3 (ปี
พ.ศ. 2560-2564). กรุงเทพฯ: สานักงานกิจการโรงพิมพ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
พันธ์ธัมม์ ทองสังข์. 2551. ผู้อานวยการสร้างภาพยนตร์ (เพื่อการแสวงหาการลงทุน ต่า งประเทศ). ใน สามารถ
จันทร์สูรย์ (บรรณาธิการ). การบริหารจัดการงานอุตสาหกรรมวัฒนธรรม. หน้า 3-81. กรุงเทพฯ: เซเว่น พริ้น
ติ้ง กรุ๊ป.
พระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ปี พ.ศ. 2551.
รักศานต์ วิวัฒน์สินอุดม. 2551. ทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย: กรณีศึกษาการวางแผนการตลาด
ของภาพยนตร์ไทย. ใน วารสารนิเทศศาสตร์. ปีที่ 26 ฉ.1 : 45-70.
รักศานต์ วิวัฒน์สินอุดม. 2554. ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์แอนนิ เ มชัน ไทยเพื่อ การแข่ ง ขั น ใน
ระดับนานาชาติ. ใน วารสารนิเทศศาสตร์. ปีที่ 29 ฉ.4 : 118-149.
ศุภวุฒิ สายเชื้อ และคณะ. 2552. ทาไมต้องเศรษฐกิจสร้างสรรค์. กรุงเทพฯ: คอนแทรค พับลิชชิ่ง.
เศรษฐา วีระธรรมานนท์ และอารีรัตน์ ใจประดับ. 2562. ศักยภาพของประเทศไทยด้านธุรกิจการถ่ายทาภาพยนตร์
ต่างประเทศในประเทศไทย: การวิเคราะห์วิสาหกิจขนาดกลางและย่อ ม (SME) ที่เกื้อหนุนธุรกิจการถ่ า ยท า
ภาพยนตร์ ต่ า งประเทศในประเทศไทย. ใน วารสารนิ เ ทศศาสตร์ ธุ รกิ จ บั ณฑิ ต . ปี ที่ 13 ฉ.1 (มกราคม-
มิถุนายน): 12-42.
*สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์ แห่ง ชาติ . 2564. สถิติและมูลค่าอุต สาหกรรมคอนเทนต์บัน เทิ งประจาปี พ.ศ. 2560.
www. mpc.or.th (อันนี้ลองดูว่าจะอ้างอย่างไรในwebsite)
สมสุข หินวิมาน. 2558. แนวคิดและแนวทางการวิเคราะห์ธุรกิจสื่อสารมวลชน. ใน สมสุข หินวิมาน (บรรณาธิการ).
ธุรกิจสื่อสารมวลชน. หน้า 33-78. กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสัง คมแห่งชาติ . 2551. รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาเพื่อจั ด ท า
ยุทธศาสตร์การพัฒนาธุรกิจภาพยนตร์ไทย. กรุงเทพฯ: อัดสาเนา.
อนงค์นาฏ รัศมีเวียงชัย. 2558a. ธุรกิจภาพยนตร์. ใน สมสุข หินวิมาน (บรรณาธิการ). ธุรกิจสื่อสารมวลชน. หน้า
273-311. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
อนงค์นาฏ รัศมีเวียงชัย. 2558b. การพัฒนาโครงการสร้างภาพยนตร์นอกกระแส. ใน เอกสารการสอนชุดวิชา การ
บริหารงานภาพยนตร์. หน้า 12-1-12-42. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
อุ ณาโลม จั น ทร์ รุ่ ง มณี กุ ล . 2558. การบริ ห ารงานภาพยนตร์ น อกกระแส. ใน เอกสารการสอนชุ ด วิ ช า การ
บริหารงานภาพยนตร์. หน้า 13-1-13-58. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
200
อุณาโลม จันทร์รุ่งมณีกุ ล.2560. 120 ปี ธุรกิจภาพยนตร์ไ ทยในมิ ติป ระวั ติ ศาสตร์แ ละเศรษฐกิจ และสัง คมไทย.
กรุงเทพฯ: ศักดิ์โสภาการพิมพ์.
อุษา ไวยเจริญ. 2550. การควบรวมกิจการในธุรกิจโรงภาพยนตร์. งานวิจัยเฉพาะเรื่อง เศรษฐศาสตร์มหาบั ณฑิ ต
(เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
เอฟฟินิตี้ (Effinity) และ สสว. มปป. รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจั ดทายุท ธศาสตร์แ ละแผนปฏิบั ติการส่ ง เสริ ม
วิสาหกิจขนาดกลางและย่อมสาขาภาพยนตร์. เอกสารอัดสาเนา
201