Professional Documents
Culture Documents
หน่วยที่2พอลิเมอร์
หน่วยที่2พอลิเมอร์
ว๓๓๒๒๕
มัธยมศึกษาปี ที่ ๖
ภาคเรียนที่ ๒
ปี การศึกษา ๒๕๖๒
หน่ วยการเรียนรู้ในรายวิชาเคมี ๕
๑)พอลิเมอร์........................................................................8 %
๒) ปิ โตรเคมี.......................................................................8 %
๓) หัวข้อเพิ่มเติม................................................................14 %
สอบกลางภาค
20 %
หน่ วยการเรียนรู้ในรายวิชาเคมี ๕
๔) แนวข้อสอบ Onet, 9วิชา, Pat2...........................30 %
สอบปลายภาค
20 %
พอลิเมอร์
(Polymer)
4
หัวข้ อการเรียนรู้
5
1. ความรู ้เกี่ยวกับพอลิเมอร์
6
ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์
7
1.1 การเกิดพอลิเมอร์
8
ปฏิกริ ิยาพอลิเมอไรเซชัน แบ่ งเป็ น 2 ประเภทคือ
10 10
พอลิเมอร์ที่เกิดจากปฏิกิริยาแบบเติม
1. Polyethylene (PE) (ต่อ)
17 17
มอนอเมอร์ CH2 CH propylene
CH3
พอลิเมอร์ polypropylene
CH2 CH CH2 CH CH2 CH CH2 CH
CH3 CH3 CH3 CH3
19
พอลิเมอร์ที่เกิดจากปฏิกิริยาแบบควบแน่น
1. Polyethylene terephthalate (PET)
+
Dimethyl terephthalate Ethylene glycol Thermoplastic
20
20
พอลิเมอร์ที่เกิดจากปฏิกิริยาแบบควบแน่น
2. Polyamide (PA)
Copolymer
Homopolymer
21 21
พอลิเมอร์ที่เกิดจากปฏิกิริยาแบบควบแน่น
2. Polyamide (PA) (ต่อ)
สมบัต:ิ เหนียว ผิวเรียบ ทาความสะอาดง่าย แห้ งเร็ว ยืดหดได้ ทนต่อการขัดถู ทนต่อ
การใช้ งานนอกอาคาร
การนาไปใช้ : เชือก เส้ นด้ าย ถุงน่อง ชุดชั้นใน ชิ้นส่วนเครื่องจักรกล เช่น เฟื อง
เกียร์ ปลอกหุ้มสายไฟ เป็ นต้ น
22 22
พอลิเมอร์ที่เกิดจากปฏิกิริยาแบบควบแน่น
3. Polycarbonate (PC)
สมบัต:ิ เหนียว ใส ทนความ
ร้ อน ทนแรงกระแทก ไม่ช้ นื
ง่าย ติดไฟแล้ วดับเอง
การนาไปใช้ : กล่องบรรจุ
เครื่องมือ เครื่องโทรศัพท์ ขวด
นมเด็ก ภาชนะใสที่ใช้ แทน
เครื่องแก้ ว เป็ นต้ น
23 23
พอลิเมอร์ที่เกิดจากปฏิกิริยาแบบควบแน่น
4. Polyurethane (PU)
24 24
พอลิเมอร์ที่เกิดจากปฏิกิริยาแบบควบแน่น
4. Polyurethane (PU) (ต่อ)
26 26
พอลิเมอร์ที่เกิดจากปฏิกิริยาแบบควบแน่น
6. Polyureaformaldehyde (UF)
สมบัต:ิ แข็ง เปราะ ทนความร้ อนที่อณ
ุ หภูมสิ งู ทนสารเคมี
การนาไปใช้ : กาว แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ กาว โฟม เป็ นต้ น
7. Polymelamineformaldehyde (MF)
สมบัต:ิ ทนสารเคมี กันนา้ ได้ ดี
การนาไปใช้ : แผงวงจรเส้ นใยผ้ าเพื่อกันนา้ หูหม้ อ หูกระทะ ถ้ วย จาน เป็ นต้ น
27 27
28
1.2 ประเภทของพอลิเมอร์แบ่งตามชนิดของมอนอเมอร์
ก. โฮโมพอลิเมอร์ (Homopolymer)
“พอลิเมอร์ที่ประกอบด้วยมอนอเมอร์ชนิดเดียวกัน เช่น แป้ง (ประกอบด้วยมอนอเมอร์ที่เป็ นกลูโคสทั้งหมด)
พอลิเอทิลีน PVC (ประกอบด้วยมอนอเมอร์ ที่เป็ นเอทิลีนทั้งหมด)”
29
ข.โคพอลิเมอร์ (Copolymer) หรื อ เฮเทอโรพอลิเมอร์ (Heteropolymer)
“พอลิเมอร์ที่ประกอบด้วยมอนอเมอร์ ต่างชนิดกันมารวมกันเป็ นสายโซ่พอลิเมอร์ เช่นโปรตีน (ประกอบด้วย
มอนอเมอร์ที่เป็ นกรดอะมิโนต่างชนิดกัน ) พอลิเอสเทอร์ พอลิเอไมด์ เป็ นต้น”
30
กรณี ของพอลิเมอร์ที่มาจากโมโนเมอร์ 2 ชนิด สามารถแบ่งได้ตามลักษณะการจัดเรี ยง
ข-1. โคพอลิเมอร์แบบสลับ (Alternating copolymers)
“ในสายโซ่โมเลกุลของพอลิเมอร์ประกอบด้วยโมโนเมอร์ A และโมโนเมอร์ B เรี ยงสลับกันไปอย่างมี
ระเบียบ”
31
ข-3. โคพอลิเมอร์แบบบล็อค (Block copolymers)
“ในสายโซ่โมเลกุลพอลิเมอร์ประกอบด้วยโมโนเมอร์ A และโมโนเมอร์ B ซึ่งแต่ละโมโนเมอร์ ท้งั 2
ชนิดพบว่าอยูก่ นั เป็ นกลุ่ม ๆ ในสายโซ่พอลิเมอร์ ”
32
สรุ ปการแบ่งชนิดตามการจัดเรี ยงของมอนอเมอร์
33
2. โครงสร้างของพอลิเมอร์
2.1 พอลิเมอร์แบบเส้น (Chain length polymer)
“พอลิเมอร์ ที่เกิดจากมอนอเมอร์ สร้างพันธะต่อกันเป็ นสายยาว โซ่พอลิเมอร์ เรี ยงชิ ดกัน มากกว่าโครงสร้าง
แบบอื่น ๆ จึงมีความหนาแน่น และจุดหลอมเหลวสูง มีลกั ษณะแข็งขุ่น เหนียวกว่า โครงสร้างอื่น ๆ
ตัวอย่างเช่น PVC พอลิสไตรี น พอลิเอทิลีน ดังภาพ”
34
2.2 พอลิเมอร์แบบกิ่ง (Branched polymer)
“เป็ นพอลิเมอร์ ที่เกิดจากมอนอเมอร์ยดึ กันและแตกกิ่งก้านสาขา มีท้ งั โซ่สันและโซ่
้ ยาว กิ่งที่แตกจาก พอลิเมอร์
ของโซ่หลักทาให้ไม่สามารถจัดเรี ยงโซ่พอลิเมอร์ ให้ชิดกันได้มาก จึงมีความหนาแน่นและจุดหลอมเหลวต่า
ยืดหยุน่ ได้ ความเหนียวต่า โครงสร้างเปลี่ยนรู ปได้ง่ายเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น ตัวอย่างพอลิเอทิลีนชนิดความ
หนาแน่นต่า”
polyethylene terepthalate
35
2.3 พอลิเมอร์แบบร่ างแห (Cross -linked polymer)
“เป็ นพอลิเมอร์ ที่เกิดจากมอนอเมอร์ ต่อเชื่ อมกันเป็ นร่ างแห พอลิเมอร์ชนิ ดนี้ มีความแข็งแกร่ ง และเปราะหัก
ง่าย ตัวอย่าง เบกาไลต์ เมลามีน ใช้ทาถ้วยชาม ดังภาพ”
ตัวอย่างชามเมลามีน
36
พอลิเมอร์ที่มีสายโซ่สัน้ แสดงสมบัติพอลิเมอร์เป็ นของเหลวหนืด แสดงโครงสร้างดังรู ป
37
Structure and Properties
• พอลิเมอร์แบบเส้น
Thermoplastic
• พอลิเมอร์แบบกิ่ง
• พอลิเมอร์แบบร่างแห่ Thermoset
http://www.mech.utah.edu/~rusmeeha/labNotes/degPix/structure.gif 38
3. การนาพอลิเมอร์ไปใช้ประโยชน์
3.1 พลาสติก
“เป็ นสารประกอบอินทรี ยท์ ี่สงั เคราะห์ข้ ึนใช้แทนวัสดุธรรมชาติ พลาสติกบางชนิดเมื่อเย็นก็แข็งตัว เมื่อถูก
ความร้อนก็อ่อนตัว พลาสติกบางชนิดแข็งตัวถาวร”
พลาสติกแบ่งออกเป็ น 2 ประเภทตามเกณฑ์การเปลี่ยนแปลงเมื่อได้รับความร้อน
3.1.1 เทอร์ โมพลาสติก (Thermoplastic)
“เป็ นพลาสติกที่ใช้กนั แพร่ หลายที่สุด ได้รับความร้อนจะอ่อนตัว และเมื่อเย็นลงจะแข็งตัว สามารถเปลี่ยน
รู ปได้พลาสติกประเภทนี้โครงสร้างโมเลกุลเป็ นโซ่ตรงยาว มีการเชื่อมต่อระหว่างโซ่พอลิเมอร์นอ้ ย มีสมบัติ
พิเศษคือ เมื่อหลอมแล้วสามารถนามาขึ้นรู ปกลับมาใช้ใหม่ได้”
39
ตัวอย่างเทอร์โมพลาสติก
โพลิเอทิลีน (Polyethylene: PE)
“มีลกั ษณะขุ่น และทนความร้อนได้พอควร ใช้ทาํ ถุงพลาสติกหรือทําตุ๊กตา ใช้เป็ นส่วนประกอบของ
รถยนต์และฉนวนกันความร้อน”
40
โพลิสไตรี น (Polystyrene: PS)
“มีลกั ษณะโปร่ งใส เปราะ ทนต่อกรดและด่าง ไอน้ าและอากาศซึ มผ่านได้พอควร ใช้ทาชิ้นส่ วนอุปกรณ์
ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เครื่ องใช้สานักงาน”
41
3.1.2 เทอร์ มอเซตติง (Thermosetting)
“เป็ นพลาสติกที่มีโครงสร้างแบบตาข่าย หรื อร่ างแห ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิทนความร้อนและ
ความดัน ไม่อ่อนตัวและเปลี่ยนรู ปร่ างไม่ได้ แต่ถา้ อุณหภูมิสูงก็จะแตกและไหม้เป็ นขี้เถ้าสี ดา”
ตัวอย่างเทอร์มอเซตติง
42
43
เมลามีน - ฟอร์มาลดีไฮด์เรซิน (Melamine - formaldehyde resin)
“มีลกั ษณะแข็งมาก ไม่หลอมละลาย มีผิวหน้าที่แข็งทนต่อการขีดข่วนและทนต่อการเกาะของคราบน้ า
ชากาแฟได้ดี ดังนั้นจึงนิยมนามาทาภาชนะพวกจานชามต่าง ๆ”
44
3..2 ยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์
3.2.1. ยางธรรมชาติ
“เป็นสารพอลิเมอร์ชนิดหนึ่งซึ่งได้มาจาก
ต้นไม้ น้ ายางธรรมชาติจะมีลกั ษณะเป็ นสี ขาว
เหมือนน้ านม ยางธรรมชาติ เกิดจากโมเลกุล
ของไอโซปรี นหลาย ๆ โมเลกุลมาต่อกันเป็ น
สายพอลิเมอร์ ”
45
ยาง
น้ ายางสด สี ขาวข้นคล้ายนม มีสารเจือปน
เติมNH3 ป้ องกันการบูด ป้ องกันการจับตัว
เติมกรดแอซิติก/กรดฟอร์มิกเจือจาง แยกเนื้อยางจากน้ ายาง
ยาง
ยางดิบ
ข้อดี : ยืดหยุน่ สูง (แรงแวนเดอร์วาลส์) ต้านแรงดึงสูง ทนต่อการขัด
ถู เป็ นฉนวนที่ดี ทนน้ า น้ ามันจากพืช สัตว์
ข้อเสี ย : ไม่ทนต่อน้ ามันเบนซินและตัวทาละลายอินทรี ย ์ เหนียวและ
อ่อนตัวเมื่อได้รับความร้อน แข็งและเปราะเมื่ออุณหภูมิต่ากว่า T ห้อง
46 46
โครงสร้ างทางเคมีของเนื้อยาง
พอลิบิวทาไดอีน BR
49 49
พอลิคลอโรพรีน CR, chloroprene
chloroprene polychloroprene
50 50
ยางSBR styrene butadiene rubber
C6H5 C6H5
CH2 = CH - CH = CH2 + CH2 = CH (- CH2 - CH = CH - CH2 - CH2 - CH -)n
butadiene styrene SBR
ยางเอสบีอาร์ทนต่อการขัดถูและเกิดปฏิกิริยากับ o2ได้ยากกว่ายางธรรมชาติ
ยืดหยุน่ ต่า ส่วนใหญ่ใช้ทายางรถยนต์ มีราคาถูก ถ้าเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ไรเซชันที่
อุณหภูมิต่าจะเรี ยกว่า Cold rubber ใช้สาหรับทายางที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานหนัก
เช่น ส้นรองเท้า ยางปูพ้นื ถุงเท้ายาง และ สายรัด เป็ นต้นใช้ในการผลิตสายพาน พื้น
รองเท้า ฉนวนหุม้ สายไฟท่อยาง
51
**ส่วนมากจะถูกนาไปใช้ในอุตสาหกรรมผลิตยางยานพาหนะขนาดเล็ก
51
ยาง IR cis-1,4-polyisoprene
สมบัตคิ ล้ ายยางธรรมชาติ แต่ แข็งน้ อยกว่ า (ไม่ เป็ น cis isomer ทั้งหมด)ความ
ทนทานต่ อแรงดึงตา่ กว่ ายางธรรมชาติเล็กน้ อย และราคาก็สูงกว่ า
52 52
3..3 เส้นใยธรรมชาติและเส้นใยสังเคราะห์
3.3.1. เส้นใยธรรมชาติ
53
3.3.2.เส้นใยสังเคราะห์
ไนลอน (Nylon)
“สารไนลอนเป็ นพอลิเมอร์ชนิดหนึ่ง ซึ่งถูกพัฒนามาจากการสังเคราะห์ยาง ประโยชน์ของไนลอน
สามารถใช้แทนผ้าไหม ทาเสื้ อผ้า ใช้ทาพรม หวีแปรงผมและเครื่ องใช้สุขภัณฑ์ต่างๆ”
เรยอน (Rayon)
“มนุษย์ได้มีการปรับปรุ งเส้นใยเรยอนให้มีประสิ ทธิภาพการใช้งานให้ดีข้ ึน โดยการนาเอาเซลลูโลสมา
ทาปฏิกิริยากับคาร์บอนซัลไฟด์และโซเดียมไฮดรอกไซด์”
54
เส้นใย
เส้นใย เส้นใยกึ่ง
เส้นใยสังเคราะห์
ธรรมชาติ สังเคราะห์
พอลิอะคริ
พืช สัตว์ แร่ธาตุ พอลิ พอลิ
เรยอน โลไนไตรด์ อื่นๆ
เซลลูโลส โปรตีน ใยหิน เอไมด์ เอสเทอร์
เซลลูโลสอะซิเตต: เซลลูโลส+
ดี : ระบายอากาศดี ใส่สบาย อะซิติก ไนลอน ดาครอน ทําเส้น
เสีย : ผ้าฝ้ายเป็ นรา ทําเส้นใย แผ่นพลาสติกฉนวน 6,6 ใยทําเชือก และ
ผ้าไหมหดตัวเมื่อร้อน ชืน้ หุม้ สายไฟ 6, 10 ฟิ ลม์
ลินิน ป่ าน ต้องทอมือ เรยอน :คล้ายเส้นใยพืช สัตว์ ทนจุลินทรย์ เชื้อรา ทนสารเคมี
ผลิตผ้า มัน ย้อมติดง่าย ทนความร้อน แสง ซักง่าย แห้งเร็ ว
ซับเหงื่อดี ทําเสือ้ ผ้าฤดูรอ้ น
55
เตรียม: คิวปรามโมเนียมเรยอน