Professional Documents
Culture Documents
Final Project.
Final Project.
Final Project.
นายชรินทร์ธร สวัสดิ์ล้น
รายงานโครงงานสหกิจศึกษานีเ้ ป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา
ตามหลักสูตรเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์กำลัง
ภาควิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์กำลัง
คณะวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
พ.ศ. 2565
โครงการกังหันน้ำผลิตพลังงานไฟฟ้า
บริเวณช่องระบายน้ำทะเลที่ PTT LNG (LMPT1)
HYDRO TURBINE GENERATOR FROM SEAWATER OUTFALL CHANNEL
PTTLNG(LMPT1) DESIGN PROJECT
นายชรินทร์ธร สวัสดิ์ล้น
รายงานสรุปการปฏิบัติงานสหกิจศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่ง
ของการศึกษาตามหลักสูตรเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์กำลัง
ภาควิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์กำลัง คณะวิทยาลัยเทคโนโลยีอตุ สาหกรรม
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
พ.ศ. 2565
ข
ชื่อโครงงานพิเศษ : โครงการกังหันน้ำผลิตพลังงานไฟฟ้าบริเวณช่องระบายน้ำทะเลที่
PTT LNG (LMPT1)
HYDRO TURBINE GENERATOR FROM SEAWATER
OUTFALL CHANNEL PTTLNG(LMPT1) DESIGN PROJECT
ชื่อ : นายชรินทร์ธร สวัสดิ์ล้น
อาจารย์ที่ปรึกษาสหกิจศึกษา : ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาสหกิจศึกษา
พนักงานที่ปรึกษา : ชื่อพนักงานที่ปรึกษา
ภาควิชา : ชื่อภาควิชา
ปีการศึกษา : 2565
บทคัดย่อ
โครงการนี้จัดทำเพื่อมุ่งเน้นนำเสนอการออกแบบและคำนวณของกังหันน้ำผลิตพลังงาน
ไฟฟ้าลักษณะคล้ายUndershot- waterwheel จากการที่ช่องระบายน้ำทะเลในบริเวณของบริษัท
PTT LNG(LMPT1) มีอัตราไหลของน้ำในช่องระบายตั้งแต่ 2.703 ถึง 11.037 𝑚3 /𝑠 มีระดับน้ำ
ไม่คงที่ หลักการคือเมื่อมีแรงของน้ำมากระทำบริเวณใบพัดของกังหันจนทำให้เกิดการหมุนเกิดขึ้น
โดยที่เพลาที่เชื่อมต่อกับกังหันจะมีชุดทดรอบของมูเล่ย์และสายพานติดตั้งอยู่เพื่อส่งถ่ายกำลังไปยัง
ระบบกำเนิดพลังงานไฟฟ้าก็คือมอเตอร์เหนี่ยวนำแบบ 3 เฟส ขนาด 22 kW โดยมีอัตราการทดรอบ
อยู่ที่ 158 เท่าเพื่อที่มอเตอร์เหนี่ยวนำจะสามารถแปลงพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ตามความเร็ว
คุณลักษณะของมอเตอร์ชนิดเหนี่ยวนำและเมื่อได้พลังงานไฟฟ้ามาแล้วจึงนำไปเชื่อมต่อกับชุดอุปกรณ์
Inverter เพื่อปรับความถี่, มุมเฟส และระดับแรงดัน เพื่อที่จะสามารถนำไปเชื่อมต่อกับระบบกริด
(On-Grid) เพื่อช่วยลดการใช้จ่ายและประหยัดพลังงานไฟฟ้าที่ใช้จ่ายให้กับหลอดไฟบริเวณตาม
ทางเดินของช่องระบายน้ำ การออกแบบและคำนวณกังหันน้ำชนิดนี้เป็นพลังงานที่สามารถสร้างจาก
ผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตโดยที่ไม่ต้องเสียงบประมาณเป็นจำนวนมากและยังสามารถประหยัด
พลังงานและลดค่าใช้จ่ายค่าไฟได้ด้วย
ค
กิตติกรรมประกาศ
รายงานโครงงานสหกิ จศึ กษานี้สำเร็ จลุ ล่วงได้ ด ้วยความกรุ ณาของ นาย ธนา ภั ศดาวงศ์
พนักงานพี่เลี้ยง, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนุศักดิ์ บิสลาม อาจารย์นิเทศประจำสาขาวิชาสหกิจศึกษา
และดร.วิโชค พรหมดวง อาจารย์ที่ปรึกษาประจำวิชาสหกิจศึกษา ที่กรุณาให้คำปรึกษา ความรู้
ข้อเสนอแนะ และอำนวยความสะดวกในการทำโครงงานสหกิจศึกษานี้ ตลอดจนแก้ไขข้อบกพร่อง
เพื่อให้โครงงานสหกิจศึกษานี้ มีความสมบูรณ์มากขึ้น กระผมจึงขอกราบขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้
คุณค่าและประโยชน์ของโครงงานสหกิจศึกษานี้ ขอมอบแด่บิดา มารดา และครูอาจารย์
ทุกท่านที่ได้อบรมสั่งสอนให้ความรู้แก่ผู้วิจัยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
นายชรินทร์ธร สวัสดิ์ล้น
ง
สารบัญ
หน้า
บทคัดย่อภาษาไทย ข
กิตติกรรมประกาศ ค
สารบัญ ง
สารบัญตาราง ฉ
สารบัญภาพ ช
บทที่ 1 บทนำ 1
1.1 ความสำคัญและที่มาของโครงงาน 1
1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 2
1.3 ขอบเขตของโครงงาน 2
1.4 ขั้นตอนการดำเนินงาน 3
1.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 3
บทที่ 2 ทฤษฎีและหลักการ 4
2.1 ทฤษฎีที่ 1 พลังงานน้ำ (water energy) 4
2.2 ทฤษฎีที่ 2 วัฏจักรของน้ำ (Water Cycle) 4
2.3 ทฤษฎีที่ 3 กังหันน้ำ (Water Turbine) 7
2.4 ทฤษฎีที่ 4 หลุก, ระหัดวิดน้ำ (Water Wheel) 11
2.5 ทฤษฎีที่ 5 ทฤษฎีเกี่ยวกับการคำนวณกำลังและพลังงานของน้ำ 14
บทที่ 3 วิธีการดำเนินการ 19
3.1 ขั้นที่ 1 ศึกษาหลักการการทำงานของระบบอุปกรณ์ 19
3.2 ขั้นที่ 2 ตรวจสอบลักษณะหน้างาน 19
3.3 ขั้นที่ 3 ออกแบบชิ้นงาน 20
3.4 ขั้นที่ 4 คำนวณหาความเร็วการไหลของน้ำ 24
3.5 ขั้นที่ 5 นำทุ่นไปลอยน้ำและบันทึกค่าเวลา 25
3.6 ขั้นที่ 6 นำค่าจากการคำนวณไป Simulation
เพื่อหาค่าประหยัดพลังงาน 32
จ
สารบัญ (ต่อ)
หน้า
บทที่ 4 ผลการทดลอง 33
4.1 ผลการทดลอง 1 33
4.2 ผลการทดลอง 2 37
บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ 40
5.1 สรุปผลการดำเนินงาน 40
5.2 ข้อเสนอแนะ 40
บรรณานุกรรม 41
ภาคผนวก 42
ประวัติผู้เขียนโครงงาน 43
ฉ
สารบัญตาราง
ตารางที่ หน้า
3-1 ตารางแสดงค่าเวลาที่ทุ่นลอยน้ำในระยะทาง 5 เมตร 26
ช
สารบัญภาพ
ภาพที่ หน้า
2-1 วัฏจักรของน้ำและการประยุกต์ใช้พลังงานจากน้ำ 5
2-2 แสดงตัวอย่างของกังหันน้ำแบงกิ 8
2-3 แสดงตัวอย่างของกังหันน้ำเพลตัน 8
2-4 แสดงตัวอย่างกังหันน้ำเทอร์โก 9
2-5 แสดงตัวอย่างกังหันน้ำฟรานซิส 10
2-6 แสดงตัวอย่างกังหันน้ำคาปลาน 10
2-7 แสดงตัวอย่างกังหันน้ำเดเรียซ 11
2-8 ล้อน้ำหรือหลุก ใช้สำหรับทดน้ำจากแหล่งน้ำไปยังจุดที่สูงกว่า 11
2-9 หลุกเปลีย่ นพลังงานจากน้ำมาเป็นพลังงานกลใช้สำหรับตำข้าว 12
2-10 กังหันหรือล้อน้ำแบบหลุกสูง 12
2-11 กังหันหรือล้อน้ำแบบหลุกกลาง 13
2-12 กังหันหรือล้อน้ำแบบหลุกต่ำ 13
2-13 ขนาดของช่องระบายน้ำ 14
2-14 มูเล่ย์ 16
2-15 หลักการสร้างสนามแม่เหล็กในช่องอากาศ 17
2-16 หลักการควบคุมวงจรเบื้องต้น 18
3-1 การวัดค่า Velocity Of Flow Rate และระดับน้ำในขณะนั้น และอ่านแบบพื้นที่
หน้าตัดของช่องระบายน้ำ 19
3-2 การออกแบบชิ้นงาน และคำนวณค่าพารามิเตอร์ 20
3-3 กังหันน้ำ 20
3-4 ทุ่นลอยน้ำรับน้ำหนักโครงสร้าง 21
3-5 ทุ่นวางเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้า 21
3-6 เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบเหนี่ยวนำ ขนาด 22kW 50 Hz. 6 pole 21
3-7 ท่อสแตนเลส 304 ขนาด 1 ’’ ยาว 2.5 เมตร
ท่อแสตนเลส 304 ขนาด ½ ’’ ยาว 2.5 เมตร 22
ซ
สารบัญภาพ (ต่อ)
ภาพที่ หน้า
3-8 V-Pulley SPA ขนาด 560 mm. Bushing ขนาด 1 ¼’’ 22
3-9 V-pulley SPA 450 mm. และ Bushing 2012 ขนาด ¾ ’’ 22
3-10 V-pulley SPA 40 mm. ขนาด ¾’’ 23
3-11 บ่ารองเพลา 23
3-12 สลิงไส้เชือก diameter 4 mm. 23
3-13 กล่องครอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 24
3-14 ทุ่นที่ใช้ทำการทดลอง 25
3-15 การทดลองนำทุ่นไปลอยน้ำ 25
3-16 มูเล่ย์ 28
3-17 หลักการทำงานของการเบรกโดยการลัดวงจร 32
4-1 การ Simulation ( ตัวแปรที่เกี่ยวข้อง ) 33
4-2 ตัวแปรที่เกี่ยวข้อง 36
1
บทที่ 1
บทนำ
1.
1.1 ความสำคัญและที่มาของโครงงาน
1.3 ขอบเขตของโครงงาน
1.3.1 ออกแบบโมเดลชิ้นงาน
1.3.2 จำลองและคำนวณค่าพลังงานที่ผลิตได้
1.3.3 Simulation ค่าพลังงานที่สามารถผลิตได้
1.3.4 ออกแบบรายการวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้
3
1.4 ขั้นตอนการดำเนินงาน
1.4.1 ศึกษาหลักการการทำงานของระบบอุปกรณ์เช่น หลักการทำงานของกังหันน้ำแบบห
ลุกต่ำ, หลักการทำงานของเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าแบบเหนี่ยวนำ,ระบบสายพาน
ส่งกำลัง และอัตราการทดความเร็ว และคุณสมบัติต่างๆของวัสดุอุปกรณ์ แต่ละชนิด
1.4.2 ตรวจสอบสภาพหน้างานและวัดค่า Volumetric Flow Rate ของระดับน้ำในขณะนั้น
และวัดขนาดของช่องระบายน้ำ
1.4.3 คำนวณค่า ทอร์ค ความเร็วรอบ และพลังงานกลที่เกิดขึ้นเพื่อนำมาจำลองหาค่า
พลังงานที่สามารถผลิตได้
1.4.4 นำค่าพลังงานทีจ่ ำลองมาคำนวณถึงค่าการประหยัดพลังงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย
1.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.5.1 ได้ฝึกการออกแบบชิ้นงานให้เข้ากับ ลักษณะหน้างาน และใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ เข้ากับ
ลักษณะหน้างาน
1.5.2 มี ค วามรู ้ แ ละเข้ า ใจเกี ่ ย วกั บ อุ ป กรณ์ ท ี ่ น ำมากขึ ้ น เช่ น หลั ก การทำงานของ
Induction machine, การเลื อ กใช้ ป ระเภทในการส่ ง กำลั ง , อั ต ราทดความเร็ ว
เป็นต้น
1.5.3 ฝึกความคิดที่เป็นระบบไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการวางแผนการปฏิบัติงานให้เสร็จ
ตามระยะเวลาที ่ ก ำหนด หรื อ จะเป็ น เรื ่ อ งของการออกแบบแล้ ว ต้ อ งคำนึ ง ถึ ง
ในอนาคต เช่น ความปลอดภัยของผู้ใช้ , การป้องกันอุปกรณ์ , การยืดระยะเวลา
การใช้งาน เป็นต้น
1.5.4 เป็ น แนวทางให้ บ ริ ษ ั ท ใช้ ใ นการผลิ ต พลั ง งานจากแหล่ ง น้ ำ ทิ ้ ง และใช้ ท รั พ ยากร
อย่างคุ้มค่าโดยไม่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม
4
บทที่ 2
ทฤษฎีและหลักการ
ประเทศไทยกับการใช้พลังงานน้ำประเทศไทยเป็นประเทศที่มีปริมาณน้ำที่สามารถใช้
หมุนเวียนภายในประเทศรายปี( Annual Internal Renewable Water Resources) ค่อนข้างน้อย
เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ทวีปเอเชียเองก็ถือว่าเป็นทวีปที่มีปริมาณน้ำต่อหัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
ของทั้งโลก โดยประเทศไทยมีปริมาณน้ำหมุนเวียนในประเทศเฉลี่ยไม่ถึง 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อคน
ต่อปี ซึ่งใกล้เคียงกับอินเดียและปากีสถาน แต่ถ้านับรวมปริมาณน้ำที่ได้จากแม่น้ำระหว่างประเทศแล้ว
จะมีปริมาณน้ำหมุนเวียนประมาณ 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อคนต่อปี ในขณะที่ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ ยใน
ประเทศไทยจัดอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างน้อยคือประมาณ 1,630 มิลลิเมตรต่อปี ดังนั้นจากข้อมูลปริมาณ
น้ำที่กล่าวมาแล้วนั้นจะเห็นว่าศักยภาพของพลังงานน้ำของประเทศไทยถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำ
6
แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ปริมาณน้ำอยู่เกณฑ์ค่อนข้างต่ำก็ไม่เป็นปัญหาในการใช้พลังงานจากน้ำ เพราะ
การใช้พลังงานจากน้ำนั้นเป็นแค่เพียงการนำเอาพลังงานจากน้ำนั้นออกมาใช้ ไม่ได้เป็นการทำให้เกิด
การสิ้นเปลืองน้ำหรือทำให้น้ำหมดไป (กชกร ธานีวัฒน์. 2547)
ในปัจจุบันประเทศไทยใช้ไฟฟ้าจากการผลิตด้วยพลังงานน้ำประมาณร้อยละ 5-6 ของ
ปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานน้ำเป็นเพียงแหล่งผลิตไฟฟ้าเสริม
ให้กับระบบไฟฟ้าของประเทศในช่วงที่มีการใช้ไฟฟ้าสูง หรือที่เรียกว่า ปริมาณการใช้สู งสุด (Peak
Load)เพราะโรงไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ (Hydro Power Plant) มีความสามารถในการเดินเครื่องได้
รวดเร็วและสามารถหยุดเดินเครื่องได้ทุกเวลาตามความต้องการ ซึ่งต่างกับโรงไฟฟ้าที่ใช้ซากดึกดำ
บรรพ์เป็นเชื้อเพลิงต้องใช้เวลานานในการเริ่มเดินเครื่อง สำหรับหน่วยงานหลักของประเทศไทยที่ทำ
หน้าที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำคือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยมีโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่
อยู่ในความรับผิดชอบ 20 แห่ง ทั่วประเทศ และมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้นประมาณ 2.9 จิกะวัตต์
(กชกร ธานีวัฒน์. 2547)
ในส่วนของรัฐบาลไทยได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการใช้พลังงานน้ำเพื่อการผลิตไฟฟ้า
โดยได้กำหนดโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็กและขนาด เล็กมาก
(Small/MicroHydropower) ซึ่งจะมีกำลังการผลิตรวม 350 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมีโครงการย่อย ๆ
ประกอบ เช่น โครงการติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าท้ายเขื่อนชลประทานที่มีอยู่แล้ว โครงการปรับปรุง
ประสิทธิภาพเขื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำ และโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำแห่งใหม่ สำหรับ
โครงการที่ได้เริ่มต้นไปแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2547 คือโครงการติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้าท้ายเขื่อนและอาคาร
บังคับน้ำของกรมชลประทาน จำนวน 33 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีกำลังการผลิต รวม 154 เมกะวัตต์
(กชกรธานีวัฒน์. 2547) จากนโยบายนี้ผลพลอยได้ที่จะติดตามมา คือการส่งเสริมอุตสาหกรรมการ
ผลิตกังหันน้ำและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งเดิมก็มีอยู่บ้างแต่ยังไม่ได้รับการส่งเสริมเท่าที่ควร
นั้นคือจะเป็นการยกระดับให้เป็นอุตสาหกรรมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เรียกว่า เอส เอ็ม
อี (SMEs) ตามนโยบายการส่งเสริมธุรกิจและอุตสาหกรรมขนาดย่อมของรัฐบาลให้มีความเจริญเติบโต
และยั่งยืนต่อไป
ข้อดีของการใช้พลังงานน้ำ
สำหรับข้อดีของการประยุกต์ใช้พลังงานน้ำสามารถสรุปได้ดังนี้
1 เนื่องจากน้ำมีวัฏจักรเป็นธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อเราใช้พลังงานจากน้ำแล้ว น้ำที่ถูกใช้แล้วจะ
ถูกปล่อยกลับไปสู่แหล่งธรรมชาติ จะมีการระเหยกลายเป็นไอเมื่อได้รับพลังงานความร้อนจากดวง
7
อาทิตย์ และเมื่อไอน้ำรวมตัวเป็นเมฆก็จะตกลงมาเป็นน้ำฝนหมุนเวียนกลับมาทำให้เราสามารถใช้
พลังงานน้ำได้ตลอดไปไม่สิ้นสุด
2 การใช้พลังงานจากน้ำเป็นการใช้เฉพาะส่วนที่อยู่ในรูปพลังงาน ซึ่งไม่ใช่เป็นเนื้อมวลสาร
ดังนั้นเมื่อใช้พลังงานไปแล้วเนื้อมวลสารของน้ำก็ยังคงเหลืออยู่ น้ำที่ถูกปล่อยออกมายังมีปริมาณและ
คุณภาพเหมือนเดิม สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีกมากมาย เช่น เพื่อการชลประทาน
การเกษตร และการอุปโภคบริโภค หรือรักษาระดับน้ำในแม่น้ำให้มีความลึกพอต่อการเดินเรือ เป็นต้น
3 การสร้างเขื่อนเป็นการเก็บกักน้ำเอาไว้ใช้ในช่วงที่ไม่มีฝนตก ทำให้ได้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ซึ่ง
สามารถประกอบอาชีพด้านประมง หรือใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้ และในบางโอกาส
ก็ยังสามารถใช้ไล่น้ำเสียในแม่น้ำลำคลอง ที่เกิดจากการปล่อยของโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ หรือช่วย
ไล่น้ำทะเลในเวลาที่นํ้าทะเลหนุนสูงขึ้นมาได้อีกด้วย
4 ระบบของพลังงานน้ำเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถดำเนินการผลิตพลังงานไฟฟ้า
ได้ในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถควบคุมให้สามารถผลิตพลังงานออกมาได้ใกล้เคียงกับความ
ต้องการ ทำให้การผลิตและการใช้พลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
5 อุปกรณ์ต่างๆ ของระบบพลังงานน้ำส่วนใหญ่จะมีความทนทานสูง มีอายุการใช้งานนาน
6 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในการใช้พลังงานน้ำค่อนข้างต่ำ เพราะไม่ต้องสิ้นเปลืองค่า
เชื้อเพลิง และเนื่องจากไม่มีการปล่อยมลพิษจึงไม่ต้องจ่ายค่ากำจัดมลพิษ
เมื่อแรงจากน้ำมากระทำบริเวณใบพัดของกังหันเมื่อกังหันมีการหมุนทำให้เกิดแรงบิดขึ้น สามารถ
คำนวณได้จากสูตร 𝑇 =𝑟 ×𝐹
𝑇 : แรงบิด ( 𝑁𝑚 )
𝑟 : รัศมีของกังหัน ( 𝑚 )
𝐹 : แรงของน้ำที่มากระทำบริเวณใบพัด สามารถคำนวณได้จาก
𝐹 = 𝜌 × 𝐴 × 𝑉2
𝜌 : ค่าความหนาแน่นของน้ำ ( 𝐾𝑔/𝑚3 )
𝐴 : พื้นที่หน้าตัดของช่องระบายน้ำ ( 𝑚2 )
𝑉 : ความเร็วการไหลของน้ำ (𝑚/𝑠)
เมื่อมีการหมุนเกิดขึ้น การหมุนนี้จะเกิดเป็นวงกลมตามลักษณะโครงสร้างของกังหันและจะมีความเร็ว
𝑉 × cos (𝜃)
ที่เป็นเส้นรอบวงกลมเกิดขึ้นสามารถคำนวณได้จาก 𝑈 =
2
𝑈 : ความเร็วเส้นรอบวงของกังหันที่เกิดขึ้น (𝑚/𝑠)
𝑉 : ความเร็วการไหลของน้ำ (𝑚/𝑠)
𝜃 : มุมระยะห่างของใบพัดแต่ละใบพัด
เมื่อได้ความเร็วเส้นรอบวงของกังหันแล้วสามารถนำมาหาจำนวนความเร็วรอบเพื่อนำไปเข้า
กระบวนการทดอัตราความเร็ว สามารถคำนวณได้จาก
60 × 𝑈
𝑁=
𝜋 × 𝑂𝐷𝑡𝑢𝑟𝑏𝑖𝑛𝑒
𝑁 : จำนวนความเร็วรอบ (RPM)
𝑈 : ความเร็วเส้นรอบวงของกังหันที่เกิดขึ้น (𝑚/𝑠)
𝑂𝐷𝑡𝑢𝑟𝑏𝑖𝑛𝑒 : เส้นผ่านศูนย์กลางของกังหัน
เมื่อมีการหมุนเกิดขึ้นและมีแรงบิดเกิดขึ้นของกังหันสามารถคำนวณหากำลังทางกลของกังหันได้จาก
𝑃𝑤ℎ𝑒𝑒𝑙 = 𝑇 × 𝜔 × 𝑍
𝑃𝑤ℎ𝑒𝑒𝑙 : กำลังทางกลของกังหัน ( 𝑊 )
𝑇 : แรงบิด ( 𝑁𝑚 )
𝑍 : จำนวนใบพัด
16
𝜔 : ความเร็วเชิงมุม ( 𝑟𝑎𝑑/𝑠 )
2𝜋 × 𝑁
ความเร็วเชิงมุมสามารถหาได้จาก 𝜔=
60
𝑁 : จำนวนความเร็วรอบ (RPM)
เมื่อได้จำนวนความเร็วรอบแล้วจำเป็นต้องนำมาทดอัตราความเร็วเพื่อให้ได้ความเร็วที่เหมาะสม
สำหรับคุณลักษณะของชุดกำเนิดพลังงานไฟฟ้าแบบเหนี่ยวนำ ในชุดส่งถ่ายกำลังของกังหันน้ำบาง
แบบได้ใช้ระบบทดรอบสองครั้ง หรือมากกว่า ซึ่งในการหาอัตราการทดรอบ ก็ทำนองเดียวกับระบบ
ทดรอบครั้งเดียว ดังรูปภาพที่ 14
จากการทดแบบดังรูป สามารถคำนวณได้จากสูตร
𝑁4 𝐷1 × 𝐷3
=
𝑁1 𝐷2 × 𝐷4
𝑁1 : ความเร็วของมูเล่ย์ตัวที่ 1
𝑁4 : ความเร็วของมูเล่ย์ตัวที่ 4
𝐷1 : ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของมูเล่ย์ตัวที่ 1
𝐷2 : ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของมูเล่ย์ตัวที่ 2
𝐷3 : ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของมูเล่ย์ตัวที่ 3
𝐷4 : ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของมูเล่ย์ตัวที่ 4
17
ในสภาวะแรกเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเหนี่ยวนำจะทำงานในโหมดมอเตอร์ไฟฟ้าเหนี่ยวนำ แล้วทำการหมุน
โรเตอร์ด้วยตัวต้นกำลัง (Prime mover) ให้มีความเร็วรอบสูงกว่าความเร็วซิงโครนัส จะทำให้ แรงบิด
เหนี่ยวนำ กลับทิศทางและทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าเหนี่ยวนำเปลี่ยนเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เหนี่ยวนำเมื่อ
หมุนโรเตอร์ให้มีความเร็วรอบเกินค่าความเร็วซิงโครนัส (Ns) ค่าสลิปจะเป็นลบและเมื่อ เครื่องกำเนิด
ไฟฟ้ า เหนี ่ ย วนำถู ก หมุ น ด้ ว ยแรงบิ ด มากขึ ้ น จะทำให้ ไ ด้ ก ำลั ง งานมากขึ ้ น เนื ่ อ งจาก Induction
Machine ไม่มีขดลวดสนามแยกต่างหาก (โรเตอร์เป็นแบบ Squirrel-cage) ดังนั้นเมื่อ Induction
Machine ทำงานเป็ น Induction Generator จึ ง ไม่ ส ามารถจ่ า ยกำลั ง งานรี แ อคที ฟ (var) แต่
Induction Generator จะเป็นตัวรับกำลังงานรีแอคทีฟ (var) จากภายนอก เพื่อที่จะนำไปสร้าง
สนามแม่เหล็กในช่องอากาศ คุณสมบัติของ Induction Machines ในโหมดการทำงานต่างๆ แสดง
ดังภาพที่ 2.15
หลักการควบคุมเบื้องต้น
เมื่อความเร็วที่ผ่านการทดความเร็วมีค่าที่สู งระบบควบคุมจะต้องมีสัญญาณความเร็วจาก
Tachometer ที่วัดความเร็วและส่งสัญญาณไปยัง Controller ให้ควบคุมการทำงานของ Contactor
เพื ่ อ ลั ด วงจรของเครื ่ อ งกำเนิ ด พลั ง งานไฟฟ้ า เพื ่ อ หน่ ว งและลดความเร็ ว เพื ่ อ ป้ อ งกั น การเกิ ด
Overspeed และ Overheat ของอุปกรณ์
บทที่ 3
วิธีการดำเนินการ
3.
ระดับน้ำในวันที่มีปริมาณการส่งออกLNGน้อย
ลักษณะดังนี้
อาจจะต้องวัดจากขนาด
มอเตอร์จริงเพื่อนำไปสั่ง
ประกอบขึน้
จากสูตร ; 𝑄 =𝐴 ×𝑉
(9732 / 3600) = (0.8 x 4) x V
V =0.845 𝑚/𝑠
นำค่าความเร็วที่คำนวณมาทำการทดลองวัดค่าความเร็วการไหลของน้ำ นำทุ่นขนาด 7 g. ไป
ลอยน้ำและจับเวลาเมื่อทุ่นลอยถึงระยะ 5 เมตร
S (ระยะทางทำการทดลอง) = 5m.
V (ความเร็วของน้ำจากการคำนวณ) = 0.845 m/s
T (เวลาที่วัดได้เมื่อทุ่นลอยถึงระยะ 5 เมตร)
0.845 = 5/t
เพราะฉะนั้นเวลาที่ต้องจับได้อยู่ที่ ; t = 5.9 s.
25
เมื่อนำค่าเวลามาบันทึกจะได้ว่า
ตารางที่ 3.1 แสดงค่าเวลาที่ทุ่นลอยน้ำในระยะทาง 5 เมตร
หากำลังของน้ำที่ในช่องระบาย กำลังของน้ำในที่นี้จะเป็นกำลังที่มากระทำบริเวณใบพัด
กังหันสามารถคำนวณได้จาก 𝑃𝑐ℎ𝑎𝑛𝑒𝑙 = 𝜌 × 𝑔 × ℎ × 𝑄
และนำค่า 𝐹 ที่ได้มาแทนในสมการหาแรงบิดจะได้ว่า
𝑇 = 2342.002 × 0.31
𝑇 = 726.021 𝑁
เมื่อกังหันหมุนจะเกิดความเร็วเส้นรอบวงกลมขึ้น สามารถคำนวณได้จาก
𝑉 × cos (𝜃)
𝑈=
2
𝑉 คือ ค่าความเร็วการไหลของน้ำซึ่งได้ค่านี้มาแล้วจากการคำนวณข้างต้นมีค่า
เท่ากับ 0.845 𝑚/𝑠
𝑈 = 0.21125 𝑚/𝑠
สามารถนำค่าของความเร็วเส้นรอบวงมาคำนวณหาจำนวนความเร็วรอบได้จากสูตร
60 ×𝑈
𝑁= ซึ่งค่า 𝑈 คือค่าความเร็วเส้นรอบวงซึ่งคำนวณมาแล้วจากสมการข้างต้น
𝜋 × 𝑂𝐷𝑡𝑢𝑟𝑏𝑖𝑛𝑒
มีค่าเป็น 0.21125 𝑚/𝑠 ส่วนค่า 𝑂𝐷𝑡𝑢𝑟𝑏𝑖𝑛𝑒 คือค่าเส้นผ่านศูนย์กลางของกังหัน มีค่าเป็น 0.62
𝑚 แทนค่าในสมการได้ดังนี้
60 ×0.21125
𝑁=
𝜋 ×0.62
𝑁 = 6.505 RPM
28
เมื่อมีการหมุนเกิดขึ้นและมีแรงบิดเกิดขึ้นของกังหันสามารถคำนวณหากำลังทางกลของกังหันได้จาก
𝑃𝑤ℎ𝑒𝑒𝑙 = 𝑇 × 𝜔 × 𝑍
𝑇 ค่าแรงบิดของระบบซึ่งได้ค่านี้จากการคำนวณข้างต้นแล้วมีค่า 726.021 Nm
2𝜋 × 𝑁
𝜔 คือค่าความเร็วเชิงมุม ซึ่งคำนวณได้ จาก 𝜔 = ค่า 𝑁 คือจำนวนรอบที่
60
เกิดขึ้นซึ่งคำนวณจากสมการข้างต้นไว้แล้ว มีค่าที่ 6.505 RPM เมื่อนำมาค่านี้แทนในสมการ
ความเร็วเชิงมุมจะมีค่า 0.681 rad/s
เมื่อได้จำนวนความเร็วรอบแล้วจำเป็นต้องนำมาทดอัตราความเร็วเพื่อให้ได้ความเร็ว ที่เหมาะสม
สำหรับคุณลักษณะของเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าแบบเหนี่ยวนำ ในชุดส่งถ่ายกำลังของกังหันน้ำบาง
แบบได้ใช้ระบบทดรอบสองครั้ง หรือมากกว่า ดังรูป
𝐷1 : ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของมูเล่ย์ตัวที่ 560 𝑚𝑚
𝐷2 : ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของมูเล่ย์ตัวที่ 40 𝑚𝑚
𝐷3 : ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของมูเล่ย์ตัวที่ 450 𝑚𝑚
𝐷4 : ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของมูเล่ย์ตัวที่ 40 𝑚𝑚
จากตัวแปรข้างต้นสามารถหาความเร็วรอบของมูเล่ย์ตามของตัวสุดท้ายได้จากสูตร
𝑁4 𝐷1 × 𝐷3
=
𝑁1 𝐷2 × 𝐷4
𝑁4 𝐷1 ×𝐷3
แทนค่าในสมการข้างต้น =
𝑁1 𝐷2 × 𝐷4
𝑁4 560×450
จะได้ว่า =
6.505 40×40
𝐴 = 5.904 𝑚2
𝑉 = 1.869 𝑚/𝑠
𝑁 = 14.385 RPM
สามารถคำนวณได้จากสมการ 𝐹 = 𝜌 × 𝐴 × 𝑉 2
โดยที่ 𝐴 มีค่า = 5.05 𝑚2 และ 𝑉 มีค่า = 1.36 𝑚/𝑠 ค่าคงตัว 𝜌 มีค่า = 1025 𝑘𝑔/𝑚3
แทนสมการจะได้ว่า 𝐹 = 1025 × 5.05 × 1.362
บทที่ 4
ผลการทดลอง
4.1 ผลการทดลองที่ 1
นำตัวแปรที่เกี่ยวข้องมาทำการทดลองหาค่าพลังงานที่สามารถผลิตได้โดยใช้โปรแกรม MATLAB
Simulink ทั้งกรณีที่น้ำมี Volumetric flowrate 11.037 𝑚3 /𝑠 และ 2.073 𝑚3 /𝑠
ความหนาแน่นของน้ำทะเล ( กรณีระดับน้ำต่ำ )
พื้นที่หน้าตัดของช่องระบายน้ำ
34
พื้นที่หน้าตัดของช่องระบายน้ำ
อัตราการไหลของปริมาณน้ำ ( กรณีระดับน้ำต่ำ )
กังหัน ( กรณีระดับน้ำต่ำ )
35
รอบการหมุนของกังหันRPM ( กรณีระดับน้ำต่ำ )
แปลงเป็น RPM
จะได้ที่ 6.5 RPM
อัตราการทดความเร็ว
ความเร็วเมื่อผ่านการทดความเร็ว
แปลงเป็น RPM
จะได้ที่ 1032 RPM
36
พลังงานและความเร็วกังหันแปรผันตรงกันจึงทาให้พลังงานที่
ผลิตได้เริ่มต้นจาก 0 และเพิ่มขึน้ จนถึงค่าความเร็วคงตัว
4.2 ผลการทดลองที่ 2
อัตราการไหลของปริมาณน้ำ ( กรณีระดับน้ำสูง )
38
กังหัน(กรณีระดับน้ำสูง)
รอบการหมุนของกังหันRPM(กรณีระดับน้ำสูง)
39
ความเร็วเมื่อผ่านการทดความเร็ว
บทที่ 5
สรุปผลและข้อเสนอแนะ
4.
5.1 สรุปผลการดำเนินงาน
จากการออกแบบชุดจำลองโครงการกังหันน้ำผลิตพลังงานไฟฟ้าบริเวณช่องระบายน้ำ
ที่บริษัท PTT LNG(LMPT1) มีปริมาณการไหลอยู่ที่ 2.703 – 11.037 𝑚3 /𝑠 ซึ่งถ้าเลือกใช้เครื่อง
กำเนิดไฟฟ้าขนาดที่ 22kW สามารถผลิตไฟที่ปริมาณการไหลต่ำสุดอยู่ที่ 17.6 kW และปริมาณการ
ไหลมากที่สุดอยู่ที่ 21.34 kW เมื่อนำค่าพลังงานที่สามารถผลิตได้มาเฉลี่ย แล้ว จะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่
19.47 kW เมื่อนำมาคำนวณการประหยัดค่าใช้จ่ายจะได้ว่า
1วั น สามารถผลิ ต พลั ง งานได้ 19.47𝑘𝑊 × 13 = 253.11 𝑘𝑊ℎค่ า ไฟ
1kAWh = 4.1 บาท ต้องการทราบว่าระยะเวลาคืนทุนจากการสร้างที่มีมูลค่า 203,300 บาทได้จาก
203300
= 191 วัน หรือประมาณ 6 เดือน 11 วัน สามารถคืนทุนได้ ซึ่งเป็นการผลิตพลังงาน
253.11×4.2
ไฟฟ้าที่ไม่ก่อเกิดมลพิษและเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับการใช้
พลังงานได้ด้วย
5.2 ข้อเสนอแนะ
5.2.1 ควรศึกษาและวิจัยในวิธีอื่นๆ เพื่อที่อาจจะเพิ่มประสิทธิภาพของการออกแบบนี้ให้ดี
ยิ่งๆขึ้นไป ในอนาคตขอบเขตงานหรือความต้องการใช้งานอาจจะมากขึ้น จึงต้องออกแบบมาให้
ครอบคลุมกับความต้องการและมีความปลอดภัยมากขึ้น และผลิตพลังงานไฟฟ้าได้มากขึ้น ทั้งนี้
นอกจากประสิทธิภาพการใช้งานจะมากขึ้นแล้วยังเป็นการเพิ่มพูนความรู้ และยกระดับงานวิจัยนี้ให้
สูงขึ้นด้วย
5.2.2 ทรัพยากรหมุนเวียนเหล่านี้ล้วนเกิดประโยชน์ อย่างมากในการผลิตพลังงานเพื่ อ
นำมาใช้งานต่างๆล้วนเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ไม่ก่อเกิดมลพิษ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
5.2.3 ควรศึกษาเพิ่มเติมเพื่อลดขัน้ ตอนของการใช้ระบบส่งกำลังกลให้น้อยกว่านี้
5.2.4 ควรจัดทำการวิจัยชนิดทุ่นวัดความเร็วน้ำ เพื่อความเที่ยงตรงของอุปกรณ์วัดมากกว่านี้
41
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
43
ประวัติผู้จัดทำ