Professional Documents
Culture Documents
Final 10
Final 10
บทนำ
1.3 ขอบเขตกำรศึกษำ
กลุ่มของผูใ้ ช้ระบบงานขายออนไลน์ แบ่งเป็ น 2 กลุ่มคือ ผูด้ ูแลระบบและลูกค้า
1. Admin สามารถ ใช้งานในระบบขายออนไลน์ได้
1.1 สามารถจัดการข้อมูลของลูกค้าได้
1.2 สามารถจัดการข้อมูลของสิ นค้าได้
1.3 สามารถตรวจสอบการชาระเงินของลูกค้าได้
1.4 สามารถเพิ่ม ลบ แก้ไข ข้อมูลของสิ นค้าได้
2. ลูกค้าหรื อสมาชิก
2.1 สามารถเช็คข้อมูลการสั่งซื้อสิ นค้าได้
2.2 สามารถแจ้งชาระเงินได้
2.3 สามารถมีขอ้ มูลในการยืนยันการรับสิ นค้าได้
2
1.5 แผนกำรดำเนินงำน (Gantt Chart)
มิถุนำยน 62 กรกฎำคม 62 สิงหำคม 62 กันยำยน 62 ระยะเวลำ
รำยกำร ภำคเรียนที่ 1
1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4
อบรมการทาโครงการนักศึกษาปวช.3 และ 11-12 มิถุนายน
ปวส.2 62
เสนอหัวข้อ ATC.01โครงการ รอบที่ 1 14 มิถุนายน 62
เอกสารบทที่1
ประกาศผลหัวข้อโครงการ รอบที่ 1 17 มิถุนายน 62
เสนอหัวข้อโครงการ รอบที่ 2 19 มิถุนายน 62
ประกาศผลหัวข้อโครงการ รอบที่ 2 21 มิถุนายน 62
ลงทะเบียนหัวข้อออนไลน์ เสนออาจารย์ที่ 18-30 มิถุนายน
ปรึ กษาร่ วม ATC.02 62
ส่งเอกสารบทที่ 2 (ATC.04-05) 8-14 กรกฏาคม
62
ส่งเอกสารบทที่ 3 (ATC.04-05) 15-31 กรกฏาคม
62
สอบนา เสนอโครงการ (รอบเอกสารบท 17 สิ งหาคม 62
ที่1-3) ปวช.3 และปวส.2 ATC.03 ครั้งที่ 1
ประกาศผลสอบ (รอบเอกสาร) 22 สิ งหาคม 62
ส่งความคืบหน้าโปรแกรม 50% 9-15 กันยายน 62
ส่งความคืบหน้าโปรแกรม 60% 16-22 กันยายน 62
ส่งความคืบหน้าโปรแกรม 70% 23-30 กันยายน 62
3
1.6 เครื่ องมือที่ใช้
1. โปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 ในการสร้างเว็ปไซต์ขายสิ นค้าออนไลน์
2. โปรแกรม Adobe Photoshop CS6 ใช้ในการตัดต่อรู ปภาพและตกแต่งรู ปภาพ
3. ใช้ภาษาPHPในการเขียนโปรแกรม
4. โปรแกรม PHP My Admin ใช้ในการเก็บฐานข้อมูล
5.โปรแกรม Xampp ใช้ในการจาลองเครื่ อง Server
1.7 งบประมำณกำรดำเนินงำน
ลำดับ รำยกำร จำนวน รำคำ
1 กระดาษ 3 345
2 ค่าหมึกพิมพ์ 1 700
3 ค่าแผ่น CD 2 40
4 ตลับใส่แผ่นซีดี 1 50
5 ค่าเข้าเล่ม 1 250
รวมเป็ นเงิน 1,385
4
บทที่ 2
ระบบงานและทฤษฎีที่เกีย่ วข้ อง
2.1 ระบบงานในปัจจุบัน
6
2.2 ปัญหาระบบงานในปัจจุบัน
1. มีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
2. ราคาสูงกว่าปกติ
3. มีทางเลือกในการเลือกดูสินค้าน้อย
4. มีการติดต่อประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าทราบอย่างไม่มีประสิ ทธิภาพ
7
3.เก็บเงิน และนาฝาก เข้าบัญชีให้คุณได้โดยอัตโนมัติ
4.ทาให้ประหยัดค่าใช้จ่าย ในการจัดพิมพ์แคตาล็อก (กระดาษ) ออกมาเป็ นเล่ม ๆ และไม่ตอ้ ง
มาเสี ยเงิน และเวลาในการจัดส่งให้ลูกค้าทางไปรษณียอ์ ีก
5.แทนได้ท้ งั หน้าร้าน (Showroom) หรื อบูท (Booth) แสดงสิ นค้าของคุณที่มีคนทัว่ โลก
มองเห็น ไม่ตอ้ งเสี ยค่าเครื่ องบิน ไปออกงานแสดงสิ นค้าในต่างประเทศ
6.แทน และเพิ่มประสิ ทธิภาพ การบริ หารธุรกิจ ภายในของเราได้อีกมากมาย
ช่วงที่เกิดขึ้นในปั จจุบนั คือช่วงที่แข่งขันสมบูรณ์ จะเรี ยกง่าย ๆ คือช่วงที่เริ่ มแข่งขันกันดุเดือด
และเป็ นยุคที่รัฐบาลได้เข้ามาเกี่ยวข้อง ดูจากที่กระทรวงพาณิ ชย์ที่เริ่ มเข้ามาผลักดันให้ธุรกิจที่ตอ้ งการ
ให้เกิ ดบนอิ น เทอร์ เ น็ ต นั้น เด่ น ขึ้ น ภายใต้ชื่ อรวม ๆ ว่า การพาณิ ช ย์อิเล็ ก ทรอนิ ก ส์ ซึ่ ง ต่ างก็ มี ส่ ว น
สนับ สนุ น ให้ ยุ ค นี้ เกิ ด ขึ้ น เร็ ว เพราะสามารถท าก าไรได้อ ย่ า งมหาศาล นอกจากนั้น แล้ว ยัง มี ก าร
หลอกลวงหลายอย่างเกิดขึ้นในยุคนี้ ฉะนั้นใครที่อยากทาธุ รกิจผ่านอินเทอร์ เน็ตควรศึกษาหาความรู ้
ก่อนและศึกษาให้ดี เพราะไม่ใช่วา่ อินเทอร์เน็ตราคาถูกแล้วจะมีบริ การที่ดีเสมอไป
ในการทา E-Commerce ไม่ใช่เป็ นเพียงช่องทางการจาหน่ ายสิ นค้า แต่ยงั หมายความรวมถึง
การนาเทคโนโลยีม าใช้ใ นกระบวนการทางธุ รกิ จ เพื่ อลดค่าใช้จ่าย ลดเวลาที่ สู ญเสี ย ไปโดยเปล่ า
ประโยชน์และเป็ นการช่วยเพิ่มประสิ ทธิ ภาพในการดาเนิ นธุ รกิจ รวมไปถึงการพัฒนาความสัมพันธ์
ระหว่างเจ้าของกับผูบ้ ริ โภคและผูค้ า้ ส่ง
ขั้นตอนการทาระบบ E-Commerce
ผูบ้ ริ โภคที่มีธุรกิจอยู่แล้ว มีความสนใจที่จะนาธุ รกิจเข้าสู่ ระบบ E-Commerce เริ่ มแรกควรที่
จะต้องเริ่ มจาก
1.เรี ยนรู ้ทางอินเทอร์เน็ต
2.ค้นหาสิ นค้าที่ตอ้ งการขาย โดยดูว่าสิ นค้าอะไร และเข้าไปดูว่าสิ นค้าที่คุณมี อยู่แล้วนั้น ใน
อินเทอร์เน็ตมีขายหรื อไม่
3.เลื อกประเภทในการท า E-Commerce และศึ ก ษาว่าใครเป็ นลูก ค้าของธุ ร กิ จ เพื่ อที่ จะได้
ออกแบบเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับลูกค้าที่ตอ้ งการ และมีคนเข้ามาดูเว็บไซต์มากขึ้น
4.ติดต่อที่ปรึ กษาต่าง ๆ ตามบริ ษทั ให้คาปรึ กษา
8
ขอบเขตของพาณิชย์อเิ ล็กทรอนิกส์
การกาหนดขอบเขตธุ รกิจเป็ นเรื่ องจาเป็ นอีกเรื่ องหนึ่ งที่ไม่ควรมองข้ามเพราะว่าจะช่วยให้เรา
สามารถประเมิ น สถานการณ์ ใ นอนาคตได้ ซึ่ งการที่ เ ราจะท า E-Commerce ได้ น้ ั น เราจะต้อ ง
ติดต่อสื่ อสารกับลูก ค้า ผ่า นทาง เว็บไซต์ ซึ่ งถ้าคุณวางขอบเขตของธุ รกิจไว้แล้ว เรื่ องการออกแบบ
เว็บไซต์จะง่ายขึ้น ในที่น้ ีหมายถึง เราจะ ได้ไม่ตอ้ งทาอะไรที่ มากเกินความจาเป็ น และสามารถวางแผน
ปรับปรุ งเว็บไซต์ให้ดีข้ ึนในอนาคตได้ง่ายซึ่ ง เราสามารถกาหนด ขอบเขตของธุ รกิจ E-Commerce ได้
เป็ น 2 รู ปแบบใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้
1. ทา E-Commerce แบบง่ายๆ และไม่เน้นความใหญ่โตมาก
1.1 กลุ่มเป้าหมายหลักเป็ นคนในประเทศ
1.2 ออกแบบเว็บไซต์แบบง่ายๆ สบายตา ตามสไตส์ของสิ นค้า และกลุ่มเป้ าหมาย ซึ่ งอาจใช้
เนื้อที่ฟรี หรื อแบบที่คิดค่าบริ การก็ได้
1.3 การแสดงสิ นค้าบนเว็บไซต์ สามารถออกแบบได้เอง
1.4 ใช้ร ะบบตะกร้ า ในการเก็ บ สิ น ค้า หรื อ ถ้า มี สิ น ค้า ไม่ ม ากนัก ก็ ใ ห้ใ ช้ก ารส่ ง Order ทาง
E-mail
1.5 รู ปแบบการชาระเงิน อาจใช้การโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ซึ่ งถือว่าเหมาะสมกับคนไทย
ส่วนใหญ่มากที่สุด
1.6 การจัดส่ง จะทาโดยส่งทางไปรษณียใ์ นรู ปแบบพัสดุ หรื อแบบ E.M.S
1.7 การขยายขอบเขตทางธุ รกิจอาจมีไม่มากนัก ดังนั้น เว็บไซต์ของคุณไม่จาเป็ นต้องทาเป็ น
เวอร์ชนั่ ภาษาอังกฤษ
2. ถ้าคุณต้องการทา E-Commerce แบบที่มีขนาดใหญ่
2.1 กลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็ นคนในประเทศ และคนต่างประเทศ
การออกแบบเว็บ ไซต์จ ะต้อ งมี ค วามน่ า เชื่ อ ถื อ ค่ อ นข้า งมาก อี ก ทั้ง ต้อ งให้ ค วามส าคัญ กับ การ
ประชาสัมพันธ์ที่เข้าถึงคนทัว่ โลกมากที่สุด
9
2.2 ระบบการสั่งซื้อ และจัดส่ งสิ นค้าต้องมีมาตรฐานที่คนทัว่ โลกส่ วนใหญ่ให้การยอมรับ และ
ต้องรวดเร็ วตรงตามกาหนด ซึ่ งทั้งหมดนี้ ตอ้ งเคร่ งครัดอย่างมากเพราะเกี่ยวเนื่องกับ ความไว้วางใจของ
ลูกค้าที่มีต่อเว็บไซต์ของคุณ
2.3 รู ปแบบการชาระเงิน ส่ วนมากจะเป็ นการชาระเงินด้วยบัตรเครดิต และต้องมีการรักษา
ความ ปลอดภัยในการใช้งานบัตรเครดิตให้ลูกค้าด้วย
ข้ อมูลสาคัญที่ควรมีอยู่ในเว็บไซต์
จุดประสงค์หนึ่ งของการสร้างเว็บไซต์ ก็เพื่อดึงดูดให้ผูค้ นเกิดความสนใจ ดังนั้นสิ่ งที่จะขาด
ไม่ได้เลย ก็คือข้อมูลสาคัญที่ผคู ้ นมักจะคาดหวังว่าจะได้เห็นเมื่อเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ นัน่ เอง ซึ่งได้แก่
1. รายละเอียดของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็ นรายละเอียดตามจริ ง
2. ข้อมูลเกี่ยวกับบริ ษทั หรื อสถานที่ผลิต-ขาย
3. ข้อมูลสาหรับการติดต่อ เช่น เชื่อ เบอร์โทร ช่องทางการติดต่ออื่นๆ
4. ข่าวสารความคืบหน้าต่างๆ หรื อเรื่ องราวอัพเดตที่น่าสนใจ
5. คาถามยอดนิยมต่างๆ
การออกแบบโครงสร้ างของเว็บไซต์
โครงสร้างเว็บไซต์ ก็คือการจัดลาดับของเนื้ อหาบนเว็บไซต์ออกเป็ นแผนผังที่ เข้าใจง่าย ว่า
ต้องการให้เว็บไซต์มีเนื้อหาอะไรบ้าง มีเว็บเพจอยูต่ รงไหน หน้าไหนบ้างที่จะนามาเชื่อมโยงถึงกัน หรื อ
กล่าวง่ายๆ ก็คือเหมือนการวางโครงเรื่ องก่อนจะเขียนเนื้ อหาให้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบนัน่ เอง ดังนั้น
การออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์จึงมีความสาคัญมาก ซึ่งก็สามารถทาได้หลากหลายรู ปแบบด้วยกัน แต่
มีแนวคิดหลักๆ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอยู่ 2 รู ปแบบ คือ
1. จัดโครงสร้างตามกลุ่มเนื้อหา (Content-based Structure)
2. จัดโครงสร้างตามกลุ่มผูช้ ม (User-based Structure)
การออกแบบเว็บไซต์ ต้องคานึงถึงอะไรบ้ าง
การออกแบบเว็บไซต์ที่ดีจะต้องคานึงถึงหลายๆ อย่างด้วยกัน โดยมี 9 ข้อหลักๆ ที่ควรคานึงถึง
ดังนี้
1.ความเรี ยบง่าย เว็บไซต์ที่ดีควรมีรูปแบบที่เรี ยบง่ายและไม่ซบั ซ้อน
2.ความสม่าเสมอ คือการเลือกใช้รูปแบบ กราฟิ ก โทนสี และการตกแต่งหรื อการแสดงผลต่างๆ
ในเว็บไซต์ให้เป็ นรู ปแบบเดียวกันหรื อคล้ายคลึงกันตลอดทั้งเว็บ
10
3.ความเป็ นเอกลักษณ์ เว็บไซต์ควรมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สามารถบ่งบอกได้ถึ งความเป็ น
บริ ษทั องค์กรหรื อแบรนต่าง ๆ
4.เนื้ อหา โดยเนื้ อหาที่นามาลงในเว็บ ควรเป็ นเนื้ อหาที่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บ หรื ออาจเป็ น
เนื้อหาที่ได้สาระ มีประโยชน์ สามารถดึงดูดความสนใจของผูค้ นได้ดี
5.ระบบเนวิเกชัน ควรออกแบบให้สามารถใช้งานได้ง่า ยและสะดวก สื่ อความหมายต่างๆ และ
อธิบายได้อย่างชัดเจน รวมถึงต้องมีรูปแบบ และลาดับรายการที่มีความสม่าเสมอ
6.ลักษณะเด่ น ส่ วนนี้ จะถื อเป็ นหน้าตาของเว็บไซต์เพื่อใช้ในการดึ งดู ดลูกค้า อาจออกแบบ
ลักษณะเด่นของเว็บให้ตรงกับ ความชอบส่ วนใหญ่ของกลุ่มเป้ าหมาย หรื อจะออกแบบให้ สัม พันธ์
ประเภทของเว็บ และคุณภาพขององค์ประกอบต่างๆ บนเว็บ
7.การใช้งานที่ไม่จากัด การทาเว็บไซต์ให้รองรับการเข้าใช้งานจากหลายระบบ ไม่ว่าจะเป็ น
การเข้าใช้งานจากเครื่ อง PC สมาร์ทโฟน หรื อการใช้บราวเซอร์ต่างๆ ในการเข้าใช้งาน
8.คุณภาพในการออกแบบ จาเป็ นต้องทาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็ นในเรื่ อง
ของการเรี ย บเรี ย งเนื้ อหาอย่างรอบคอบ การตรวจสอบความถู กต้องและการท าให้เว็บไซต์มี ความ
น่าเชื่อถือ
9.การเชื่ อมโยงไปยังลิ้งค์ต่าง ๆ ซึ่ งจะต้องเชื่ อมโยงไปยังหน้าเว็บที่ มีอยู่จริ ง และมี เนื้ อหาที่
เกี่ยวพันกัน และควรหมัน่ ตรวจสอบอยู่เสมอ ว่าระบบการเชื่อมโยงยังคงทางานได้ตามปกติและมีความ
ถูกต้อง แม่นยา อยูห่ รื อไม่
ส่ วนประกอบสาคัญบนหน้ าเว็บเพจ ที่ต้องมี
บนหน้าเว็บเพจ จะมีส่วนประกอบสาคัญที่จาเป็ นต้องมีอยู่ 3 ส่ วน ได้แก่
1. ส่วนหัวของหน้า (Header)
อยูต่ อนบนสุดของหน้าและเป็ นส่วนที่สาคัญที่สุด โดยจะต้องทาให้สามารถดึงดูดผูช้ มให้รู้สึก
อยากติดตามเนื้ อหาในเว็บไซต์
2. ส่ วนของเนื้อหา (Body)
อยูบ่ ริ เวณตอนกลางของหน้าเว็บ โดยจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาบนเว็บแบบคร่ าวๆ ซึ่งก็จะ
มีขอ้ ความ กราฟิ ก ตารางข้อมูลหรื อวิดีโอประกอบอยู่ และหากมีเมนูแบบเฉพาะกลุ่มก็จะถูกจัดไว้ใน
หน้านี้เช่นกัน
11
3. ส่วนท้ายของหน้า (Footer)
อยูล่ ่างสุดของหน้าเว็บซึ่ งจะมีหรื อไม่มีก็ได้ ส่ วนนี้จะแสดงถึงข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมเข้าไป เช่น
ข้อความที่แสดงถึงการเป็ นลิขสิ ทธิ์ ข้อมูลเจ้าของเว็บไซต์ วิธีการติดต่อและคาแนะนาต่างๆ เกี่ยวกับการ
ใช้งานเว็บไซต์อย่างถูกต้อง เป็ นต้น
12
5. ทราบที่มาที่ไปของข้อมูลที่ไหลไปในกระบวนการต่างๆ (Data and Process)
สัญลักษณ์ที่ใช้ในแผนภาพกระแสข้อมูล
13
Process และข้อมูลที่ส่งออกจาก Process ใช้ในการแสดงถึงการบันทึกข้อมูล การลบข้อมูล การแก้ไข
ข้อมูลต่างๆ
3.ตัว แทนข้อมู ล (External Agents) หมายถึ ง บุคคล หน่ วยงานในองค์กร องค์ก รอื่ นๆ หรื อ
ระบบงานอื่นๆ ที่อยู่ภายนอกขอบเขตของระบบ แต่มีความสัมพันธ์กบั ระบบ โดยมีการส่ งข้อมูลเข้าสู่
ระบบเพื่อดาเนินงาน และรับข้อมูลที่ผา่ นการดาเนินงานเรี ยบร้อยแล้วจากระบบ
4.แหล่ ง จัด เก็ บ ข้อ มู ล (Data Store) เป็ นแหล่ ง เก็ บ /บัน ทึ ก ข้อ มู ล เปรี ย บเสมื อ นคลัง ข้อ มู ล
(เที ย บเท่ า กับ ไฟล์ข ้อมู ล และฐานข้อมู ล ) โดยอธิ บ ายรายละเอี ย ดและคุ ณสมบัติเฉพาะตัวของสิ่ งที่
ต้องการเก็บ/บันทึก สัญลักษณ์ที่ใช้อธิบายคือสี่ เหลี่ยมเปิ ดหนึ่งข้าง
กฎของ Process
1.ต้องไม่ มี ข ้อมู ล รั บ เข้า เพี ย งอย่า งเดี ย ว โดยไม่ มี ก ารส่ ง ข้อมู ล ออกจากขั้นตอนการท างาน
(Process) เรี ยกข้อผิดพลาดชนิดนี้ว่า "Black Hole" เนื่องจากข้อมูลที่รับเข้ามาแล้วสู ญหายไป จากรู ป คือ
Process ที่มีขอ้ ผิดพลาดลักษณะนี้
2.ต้องไม่มีขอ้ มูลออกเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีขอ้ มูลเข้าสู่ Process เลย จากรู ป คือ Process 2.1.3
ที่มีขอ้ ผิดพลาดลักษณะนี้
3.ข้อมูลรับเข้าจะต้องเพียงพอในการสร้างข้อมูลส่ งออก กรณี ที่มีขอ้ มูลที่รับเข้าไม่เพียงพอใน
การสร้ า งข้อมู ล ส่ ง ออกเรี ย กว่า "Gray Hole" โดยอาจเกิ ดจากการรวบรวมข้อเท็จจริ งและข้อมูล ไม่
สมบู รณ์ หรื อการใช้ชื่อข้อมู ล รั บ เข้าและข้อมูล ส่ งออกผิดจากรู ปคือ Process 2.1.1 ที่ มี ข้อผิดพลาด
ลักษณะเช่นนี้ เนื่ องจากข้อมูลที่รับเข้ามามีเพียง ที่อยู่ของพนักงาน (Employee Address) แต่ไม่มีขอ้ มูล
กระแสเงินสดในธนาคารของลูกค้าที่เข้าสู่ Process ดังนั้นข้อมูลจึ งไม่เพียงพอที่ จะสร้ างเป็ นรายงาน
สถานะทางการเงินทางธนาคารของพนักงานได้ (Bank Statement)
4.การตั้งชื่ อ Process ต้องใช้คากริ ยา (Verb) เช่น Prepare Management Report, Calculate Data
สาหรับภาษาไทยใช้เป็ นคากริ ยาเช่นเดียวกัน เช่น บันทึกข้อมูลใบสั่งซื้อ ตรวจสอบข้อมูลลูกค้า คานวณ
เงินเดือน เป็ นต้น
กฎของ Data Flow
1. ชื่อของ Data Flow ควรเป็ นชื่อของข้อมูลที่ส่งโดยไม่ตอ้ งอธิบายว่าทางานอย่างไร
2. Data Flow ต้องมีจุดเริ่ มต้นหรื อสิ้ นสุ ดที่ Process เพราะ Data Flow คือข้อมูลนาเข้า (Inputs)
และข้อมูลส่งออก (Outputs) ของ Process
3. Data Flow จะเดินทางระหว่าง External Agent กับ External Agent ไม่ได้
14
4. Data Flow จะเดินทางจาก External Agent ไป Data Store ไม่ได้
5. Data Flow จะเดินทางจาก Data Store ไป External Agent ไม่ได้
6. Data Flow จะเดินทางระหว่าง Data Store กับ Data Store ไม่ได้
7. การตั้งชื่อ Data Flow จะต้องใช้คานาม เช่น Inventory Data, Goods Sold Data เป็ นต้น
กฎของ External Agents
1.ข้อ มู ล จาก External Agent จะวิ่ ง ไปสู่ อี ก External Agent หนึ่ ง โดยตรงไม่ ไ ด้ จะต้อ งผ่า น
Process ก่อนเพื่อประมวลข้อมูลนั้น จึงได้ขอ้ มูลออกไปสู่ อีก External Agent
2.การตั้งชื่อ External Agent ต้องใช้คานาม (Noun) เช่น Customer, Bank เป็ นต้น
การออกแบบระบบฐานข้ อมูล
หลักการบางอย่างเป็ นแนวทางสาหรับขั้นตอนการออกแบบฐานข้อมูล หลักการแรกคือข้อมูลที่
เกิดขึ้นซ้ า ๆ (หรื อเรี ยกว่าข้อมูลที่ซ้ ากัน) เป็ นสิ่ งไม่ดี เนื่ องจากเปลืองพื้นที่และเพิ่มความน่าจะเป็ นที่จะ
เกิดข้อผิดพลาดและความไม่สอดคล้องกัน หลักการที่สองคือความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูล
เป็ นสิ่ งสาคัญ ถ้าฐานข้อมูลของคุณมีขอ้ มูลที่ไม่ถูกต้อง รายงานใดๆ ที่ถึงข้อมูลจากฐานข้อมูลจะมีขอ้ มูล
ที่ไม่ถูกต้องเช่นเดียวกัน ส่ งผลให้การตัดใจใดๆ ที่คุณทาโดยอ้างอิงจากรายงานเหล่านั้นจะเป็ นข้อมูลที่
ผิดพลาด
การออกแบบฐานข้อมูลคือ
1.แบ่งข้อมูลของคุณลงในตารางตามหัวข้อเพื่อลดข้อมูลที่ซ้ ากัน
2.มอบการเข้าถึงข้อมูลที่จาเป็ นเพื่อใช้งานข้อมูลในตารางร่ วมกันตามจาเป็ น
3.ช่วยสนับสนุนและแน่ใจในความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลของคุณ
15
สัญลักษณ์ ในการออกแบบระบบฐานข้ อมูล
สัญลักษณ์ ชื่ อเรียก ความหมาย
สัญลักษณ์แทนกระบวนการต่างๆ เช่น
Process
การประกาศตัวแปร การบวก เป็ นต้น
Decision สัญลักษณ์เงื่อนไข
สัญลักษณ์ติดต่อกับผูใ้ ช้โดยการรับ
Data
ข้อมูลและแสดงข้อมูล
Display สัญลักษณ์แสดงผลออกจากจอภาพ
Connector สัญลักษณ์จุดเชื่อม
Arrow สัญลักษณ์เส้นทางการดาเนินงาน
16
ทฤษฎีโปรแกรม
Adobe Dreamweaver CS6
17
5. รองรั บ มัล ติ มี เดี ย เช่ นเสี ย ง กราฟิ ก และอนิ เมชั่นที่ ส ร้ า งโดยโปรแกรม Flash, Shockwave,
casino Firework เป็ นต้น
18
โปรแกรม AppServ
ภาษา PHP
19
PHP คือภาษาคอมพิวเตอร์ จาพวก scripting language ภาษาจาพวกนี้ คาสั่งต่างๆจะเก็บอยู่ใน
ไฟล์ที่ เ รี ย กว่ า script และเวลาใช้ง านต้อ งอาศัย ตัว แปรชุ ด ค าสั่ ง ตัว อย่ า งของภาษาสคริ ป ต์ ก็ เ ช่ น
JavaScript, Perlเป็ นต้น ลักษณะของ PHP ที่แตกต่างจากภาษาสคริ ปต์แบบอื่นๆ คือ PHP ได้รับการ
พัฒนาและออกแบบมา เพื่อใช้งานในการสร้างเอกสารแบบ HTMLโดยสามารถสอดแทรกหรื อแก้ไข
เนื้ อหาได้โดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงกล่าวว่า PHP เป็ นภาษาที่เรี ยกว่า Server-side หรื อ HTMLembedded
scripting language นั้นคือในทุกๆ ครั้ งก่ อนที่ เครื่ องคอมพิ วเตอร์ ซ่ ึ งให้บ ริ การเป็ น Web server จะส่ ง
หน้าเว็บเพจที่เขียนด้วย PHP ให้เรามันจะทาการประมวลผลตามคาสั่งที่มีอยูใ่ ห้เสร็ จเสี ยก่อนแล้วจึงค่อย
ส่ งผลลัพธ์ที่ได้ให้เราผลลัพธ์ที่ได้น้ นั ก็คือเว็บเพจที่เราเห็นนั่นเอง ถือได้ว่า PHP เป็ นเครื่ องมือที่สาคัญ
ชนิ ดหนึ่ งที่ช่วยให้เราสามารถสร้าง Dynamic Webpages (เว็บเพจที่มีการโต้ตอบกับผูใ้ ช้) ได้อย่างมี
ประสิ ทธิ ภาพและมี ลูกเล่นมากขึ้น PHP เป็ นผลงานที่เติบโตมาจากกลุ่มของนักพัฒนาในเชิ งเปิ ดเผย
รหัสต้นฉบับ หรื อ Open Source ดังนั้น PHP จึงมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ ว และแพร่ หลายโดยเฉพาะ
อย่ า งยิ่ ง เมื่ อ ใช้ร่ ว มกับ Apache Webserver ระบบปฏิ บัติ อ ย่า งเช่ น Linuxหรื อ FreeBSD เป็ นต้น ใน
ปัจจุบนั PHP สามารถใช้ร่วมกับ Webserver หลายๆตัวบนระบบปฏิบตั ิการอย่างเช่น Windows 7/8/10
ข้อดีของภาษาPHP
1. ใช้ได้ฟรี
2. ง่ายต่อการศึกษา เพราะมีรูปแบบโครงสร้างที่ไม่ซบั ซ้อน
3. เรี ยนรู ้ง่ายเนื่องจากPHPฝั่งเข้าไปในHTMLและใช้โครงสร้างและไวยากรณ์ภาษาง่ายๆ
4. เร็วและมีประสิ ทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อใช้กบั Apache Webserver เพราะไม่ตอ้ งใช้โปรแกรมจาก
ภายนอก
20
5. ใช้ร่วมกับ XML ได้ทนั ที
6. ใช้กบั ระบบแฟ้มข้อมูลได้
7. ใช้กบั ข้อมูลตัวอักษรได้อย่างมีประสิ ทธิภาพ
8. ใช้กบั โครงสร้างข้อมูลแบบ Scalar,Array,Associativearray
9. ใช้กบั การประมวลผลภาพได้
10. มีประสิ ทธิภาพสูงและเสถียรภาพสามารถพัฒนาเว็บแอพพลิเคชัน่ ตั้งแต่เว็บไซต์ขนาดเล็กไป
จนถึงขนาดใหญ่ได้
ภาษา SQL
ทฤษฎีสี
22
ลักษณะกระทบต่อสายตาให้เห็นเป็ นสี มีผลถึงจิตวิทยา คือมีอานาจให้เกิดความเข้มของแสงที่
อารมณ์ แ ละความรู ้ สึ ก ได้ การที่ ไ ด้เ ห็ น สี จ ากสายตาสายตาจะส่ ง ความรู ้ สึ ก ไปยัง สมองท าให้เ กิ ด
ความรู ้สึก ต่างๆตามอิทธิพลของสี เช่น สดชื่น ร้อน ตื่นเต้น เศร้า สี มีความหมายอย่างมากเพราะศิลปิ น
ต้องการใช้สีเป็ นสื่ อสร้างความประทับใจในผลงานของศิลปะและสะท้อนความประทับใจนั้นให้บงั เกิด
แก่ผูด้ ูมนุ ษย์เกี่ยวข้องกับสี ต่างๆ อยู่ตลอดเวลาเพราะทุกสิ่ งที่อยู่รอบตัวนั้นล้วนแต่มีสีสันแตกต่างกัน
มากมาย สี เป็ นสิ่ งที่ควรศึกษาเพื่อประโยชน์กบั ตนเองและ ผูส้ ร้างงานจิตรกรรมเพราะ เรื่ องราวองสี น้ นั
มีหลักวิชาเป็ นวิทยาศาสตร์ จึงควรทาความเข้าใจวิทยาศาสตร์ ของสี จะบรรลุผลสาเร็ จในงานมากขึ้น ถ้า
ไม่เข้าใจเรื่ องสี ดีพอสมควร ถ้าได้ศึกษาเรื่ องสี ดีพอแล้ว งานศิลปะก็จะประสบความสมบูรณ์เป็ นอย่างยิง่
ทฤษฎีสีมี 3 ขั้น
ทฤษฎีสีข้นั ที่ 1 คือ แม่สี ได้แก่ สี แดง สี เหลือง สี น้ าเงิน
23
สี แดง ผสมกับสี น้ าเงิน ได้สีม่วง
สี เหลือง ผสมกับสี น้ าเงิน ได้สีเขียว
ทฤษฎีสีข้นั ที่ 3 คือ สี ที่เกิดจากสี ข้นั ที่ 1 ผสมกับสี ข้นั ที่ 2 ในอัตราส่ วนที่เท่ากัน จะได้สีอื่น ๆอีก 6 สี คือ
รู ปที่ 2.5 แสดงสี ที่แม่สีผสมกันขั้นที่2
24
สี โทนร้อน หมายถึง ชุดสี ที่ประกอบด้วย สี ส้มเหลือง สี ส้ม สี ส้มแดง สี แดง และสี ม่วงแดง สี
วรรณะร้อนให้ความรู ้สึกตื่นตา มีพลัง อบอุ่น สนุกสนาน และดึงดูดความสนใจได้ดี โครงสี ร้อนนี้สภาพ
โดยรวมจะมีความกลมกลืนของสี มากควรมีสีเย็นมาประกอบบ้างทาให้ภาพมีความน่าสนใจมากขึ้น
สี โทนเย็น หมายถึง ชุดสี ที่ประกอบด้วยสี เขียวเหลือง สี เขียว สี เขียวน้ าเงิน สี น้ าเงิน และสี ม่วง
น้ าเงิน โครงสี เย็นให้ความรู ้สึกสุ ภาพ สงบ ลึกลับ เยือกเย็น ในทางจิตวิทยาสี เย็นมีความสัมพันธ์กับ
ความรู ้สึกหดหู่ เศร้า โครงสี เย็นควรมีสีร้อนแทรกบ้างจะทาให้ผลงานดูน่าสนใจมากขึ้น
ระบบงานที่เกีย่ วข้อง
นายวรพงศ์ อังคารชุนและนายปฎิภาน เพ็ชรพราว (2562) โครงการขายสิ นค้าออนไลน์ประเภท
รองเท้าผูช้ าย การจัดทาโครงการนี้ เพื่อพัฒนาเว็บไซต์การซื้ อขายสิ นค้าออนไลน์ ที่สามารถนาไปใช้ใน
ชีวิตประจาวันได้และมีระบบในการ Login มีการสมัครสมาชิก มีการออกแบบเว็บไซต์ Banner , Logo
และปุ่ มที่ใช้ในการทางาน มีระบบ Login เพื่อเลือกซื้อสิ นค้าและวิธีการชาระเงิน
นางสาวณัฐวรรณ ยังศิริและนายวนัสพงษ์ ศรแก้ว (2561) โครงการขายสิ นค้าออนไลน์ประเภท
น้ าหอม การจัดทาโครงการนี้เพื่อให้เว็บไซต์น้ ีสามารถเป็ นประโยชน์ต่อผูท้ ี่สนใจและผูท้ ี่เข้ามาชมได้
นายภัทรกร อัฐมีเดชและนายวราวุธ ขบวนกล้า (2561) โครงการขายสิ นค้าออนไลน์ ประเภท
สัตว์เลี้ยงเพื่อนรักตัวน้อย โคตรการนี้จดั ทาเพื่อศึกษาการออกแบบเว็บขายสิ นค้าและเพื่อพัฒนาเว็บไซต์
ในการเขียนโปรแกรมเชื่อมต่อฐานข้อมูลด้วยภาษา PHP
25
บทที่ 3
การออกแบบระบบงานด้วยคอมพิวเตอร์
3.1 การออกแบบผังโครงสร้ างเว็บไซต์ Site map
27
2. Flow Chart การสมัครสมาชิก
28
3. Flow Chart การเข้าสู่ ระบบ
29
4. Flow Chart การสั่งซื้อสิ นค้า
30
3.3 การออกแบบภาพบริบท Context Diagram
31
3.4 แผนภาพการไหลของข้ อมูล (Data Flow Diagram)
1. Data Flow Diagram Level 0
32
2. Data Flow Diagram Level 1 Process 1
33
3. Data Flow Diagram Level 1 Process 2
34
4. Data Flow Diagram Level 1 Process 3
35
5. Data Flow Diagram Level 1 Process 4
36
6. Data Flow Diagram Level 1 Process 5
37
7. Data Flow Diagram Level 1 Process 6
38
3.5 การออกแบบแผนภาพความสั มพันธ์ ของข้ อมูล (Entity Relationship Diagram)
ชื่อผู้เข้า ช้ ชื่อ-นามสก ล
สินค้า N M
ซื้อ สมาชิก อีเมล์
N เบอร์โทร
1
รายการสั่งซื้อ
ยืนยัน
1
1
ข้อ มูลสั่งซื้อ
39
พจนานุกรมข้ อมูล Data Dictionary
ออกแบบฐานข้อมูลระบบขายสิ นค้าออนไลน์ประเภท สิ นค้ารองเท้าผูช้ าย
1.ตารางข้อมูลสมาชิก
Field Name Type Field Side Description หมายเหต
ชื่อฟิ ลด์ ชนิดของข้อมูล ขนาดฟิ ลด์ ช้เก็บข้อมูล
Username char 20 ชื่อผูเ้ ข้า ช้ PK.
Password char 10 รหัสผูเ้ ข้า ช้
Name char 40 ชื่อ-นามสกล
Email char 30 อีเมล์
Telephone char 10 โทรศัพท์
ตารางที่ 3.1 ตารางข้อมูลสมาชิก
2.ตารางข้อมูลสิ นค้า
Field Name Type Field Side Description หมายเหต
ชื่อฟิ ลด์ ชนิดของข้อมูล ขนาดฟิ ลด์ ช้เก็บข้อมูล
ID Int 10 รหัสสิ นค้า PK.
prd_name varchar 20 ชื่อสิ นค้า
prd_detail varchar 40 รายละเอียดสิ นค้า
prd_price varchar 5 ราคาสิ นค้า
prd_img varchar 15 รู ปสิ นค้า
ตารางที่ 3.2 ตารางข้อมูลสิ นค้า
40
3.ตารางข้อมูลรายละเอียดสั่งซื้อ
Field Name Type Field Side Description หมายเหต
ชื่อฟิ ลด์ ชนิดของข้อมูล ขนาดฟิ ลด์ ช้เก็บข้อมูล
ref_id_order Int 11 รหัสสิ นค้า PK.
ref_id_prd Int 11 ชื่อสิ นค้า
Number Int 11 ลาดับสิ นค้า
Price Int 11 ราคาสิ นค้า
ตารางที่ 3.3 ตารางข้อมูลรายละเอียดสั่งซื้อ
41
3.6 การออกแบบ Story Board
42
รู ปที่ 3.17 แสดงหน้า Login
43
รู ปที่ 3.19 แสดงหน้าสิ นค้า
44
รู ปที่ 3.21 แสดงหน้าวิธีการสั่งซื้อ
45
3.7 การออกแบบสิ่งนาเข้า (Input Data)
1. ข้อมูลสมาชิก
2. ข้อมูลสิ นค้า
3. การเลือกซื้อสิ นค้า
4. การยืนยันการสั่งซื้อ
46
บทที่ 4
การพัฒนาระบบขายสินค้าออนไลน์ ประเภท รองเท้ าผู้ชาย
รู ปที่ 4.2 โปรแกรมติดตั้ง (setup wizard) ของ XAMPP จะเริ่ มทางาน ให้คลิก Next.
48
รู ปที่ 4.3 ให้คลิกเลือก MySQL, FileZilla และ phpMyAdmin (ให้มีเครื่ องหมาย “ถูก” ในช่องที่
อยูด่ า้ นหน้าของตัวเลือกทั้ง 3 โมดูล (Module)
49
รู ปที่ 4.5 กระบวนการเตรี ยมการเสร็ จสิ้ นแล้ว การติดตั้ง XAMPP กาลังจะเริ่ ม ให้คลิก Next
เพื่อดาเนินการต่อ
50
รู ปที่ 4.7 ให้คงเครื่ องหมาย “ถูก” ในช่องสี่ เหลี่ยมนั้นไว้ แล้วคลิก Finish
51
การตั้งค่า MySQL Database
รู ปที่ 4.9 Control panel ของ XAMPP เปิ ดอยูแ่ ล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม Admin หลัง MySQL
52
รู ปที่ 4.11 การตั้งชื่อ database จะใช้ชื่ออะไรก็ได้ตามถนัด
53
4.4 วิธีการใช้ งาน
เข้าไปที่โปรแกรม Chrome ตรงช่อง Url ให้ใส่ http://localhost/wasunant/index.php แล้วกด Enter
55
หน้า Login เป็ นหน้าที่ผใู ้ ช้งานจะต้องทาการพิมพ์ Username และ Password เพื่อทาการ Login
เข้าสู้เว็บไซต์ได้เลย แต่ถา้ ผูเ้ ข้าใช้งานคนใดไม่ได้เป็ นสมาชิก ให้ทาการกดปุ่ ม สมัครสมาชิก เพื่อทาการ
สมัครสมาชิก
56
จากนั้น User หรื อ ผูใ้ ช้ก็สามารถทาการเลือกซื้อสิ นค้าภายในเว็บไซต์ได้ และมีปุ่ม ตะกร้า
สิ นค้า กับ วิธีการชาระเงิน เพิ่มเข้ามาในหน้า User
57
รู ปที่ 4.30 แสดงหน้าใบเสร็จ
หากผูใ้ ช้ชาระเงินเสร็ จสิ้ น สามารถส่ งหลักฐานการชาระเงิน เช่น สลิปเงิน ได้ทางหน้า User contact
58
หน้าคณะผูจ้ ดั ทา
59
บทที่ 5
สรุปผลการทาโครงการ
5.1 สรุปผลโครงการ
1. ได้เว็บไซต์ที่ผศู ้ ึกษานั้น มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับเว็บไซต์ขายของออนไลน์
2. ได้รู้ถึงการใช้โปรแกรมต่าง ๆ จากการทาโครงการ
3. ได้เว็บไซต์ที่ผใู ้ ช้เว็บไซต์สามารถล็อกอินเข้าระบบได้จริ ง
4. ได้เรี ยนรู ้การใช้เว็บไซต์ในชีวิตประจาวันมากขึ้น
5. ได้เรี ยนรู ้ระบบการจัดการร้านค้าภายในเว็บไซต์
6. ได้เรี ยนรู ้การจัดทาเว็บไซต์
7. ได้ฝึกฝนทักษะในการเขียนโค้ดและการออกแบบเว็บไซต์
5.2 ปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินการ
1. ผิดพลาดเกี่ยวกับฐานข้อมูลบ่อยครั้ง
2. แบ่งเวลางานไม่ดี ทาให้โปรแกรมสาเร็จช้าและไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร
3. ช่วงแรกยังไม่ชานาญในการใช้โปรแกรมจึงเกิดความล่าช้า
4. โค้ดปัญหาไม่สามารถ Run ได้ โค้ดทับซ้อนกันเปิ ดไม่ติด
5. การติดต่อสื่ อสารระหว่างกลุ่มไม่ต่อเนื่องทาให้งานล่าช้าและผิดแผนที่วางไว้
61
5.3 สรุปเวลาการทางานจริง (Gantt Chart)
62
5.4 สรุปค่ าใช้ จ่ายในการดาเนินงานจริง
63