Professional Documents
Culture Documents
คัมภีร์วิถีเซียน 0901-1300
คัมภีร์วิถีเซียน 0901-1300
มารโบราณเปนวามีผูบำเพ็ญเพียรกำลังจะเขามา แววตาโหดเ**ยมพลันสวางวาบ
แต ก ลั บ เก็ บ สี ห น าเ**ย มเกรีย มกลั บ ไป มองไปยั งลำแสงหลี ก หนี ที่ บิ น เข ามาด ว ย
ใบหนาไรความรูสึก
“ไมทราบวาทานไหนคือสหายที่เพิ่งออกมาจากการซื้อขายแลกเปลี่ยน ขานอยมี
เรื่องอยากจะปรึกษาสหายผูนั้นสักหนอย” ภิกษุกลอกตาไปมา จูๆ พลันเอยถามดวย
ใบหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม
ภิกษุผูนี้คือผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลาง ไมวาพลังยุทธหรือวาสมบัติที่
อยูในมือ ก็ดูเหมือนวาจะไมธรรมดา มินาเลาถึงไดกลาไลตามมาเพียงลำพัง ทวาอีก
ฝายมีเจตนาอะไรนั้น เหตุใดหานลี่จะไมรู แนนอนวาจึงครานจะไปสนใจคนผูนี้
ชั่วขณะที่ภิกษุผูนี้ก็ปรากฏตัวขึ้น ตั้งแตตนจนจบมารโบราณที่อยูดานขางกลับเอา
สองมือไพลหลังพลางแหงนหนาขึ้นมองทองฟา ไมเหลือบตามองคนผูนี้แมแตนิดเดียว
ทาทางเหมือนไมแยแส
ภิกษุเห็นพวกหานลี่ทั้งสองคนมีทาทีเชนนี้ ก็รูสึกโกรธเกรี้ยวขึ้นมา
ตองเขาใจวา ตั้งแตที่เขาบรรลุระดับกอกำเนิดแลว ก็อาศัยบาตรเพลิงโลหิตและ
ไมเทามังกรขด ทำใหผูบำเพ็ญเพียรในระดับเดียวกันที่พบเขารูสึกเกรงใจมากขึ้นเปน
พิเศษ เคยถูกคนดูถูกที่ไหนกันเลา
ทวาหานลี่และมารโบราณที่อยูเบื้องหนานั้นแยกไดอยางชัดเจนวาเปนผูบำเพ็ญ
เพี ย รระดั บ ก อ กำเนิ ด ขั้ น กลางและขั้ น ต น บวกกั บ ที่ มี ใบหน าคล า ยคลึ ง กั น เช น นี้
แนนอนวาเขาจึงคิดวาทั้งสองคนเปนพวกเดียวกัน หากปะทะกันหนึ่งตอสอง ถึงแม
เขาจะไมคิดวาตัวเองจะตองแพ แตหากสูรบกันโอกาสชนะก็มีไมมาก ดังนั้นถึงแมวาสี
หนาจะดูไมไดอยางสุดๆ แตตอนนั้นก็ทำไดเพียงฝนระงับความโกรธเกรี้ยวเอาไว ขบ
คิดแผนรายวาจะจัดการทั้งสองคนอยางไรอยางเงียบๆ
ภิกษุเห็นภาพฉากนั้น ก็อดที่จะตะลึงงันไมได
เขามั่ น ใจในเคล็ ด วิ ช าหลี ก หนี ข องตั ว เองมาก ถึ ง ได ไล ต ามหานลี่ ม าได อ ย า ง
รวดเร็วขนาดนี้
สามคนที่อยูดานหลังไมรูวามีความสามารถอะไร คนมากก็ตองใชพลังมาก กลับ
ยังมาชากวาเขาเพียงเล็กนอย
ดูเหมือนวาจะสัมผัสไดถึงสายตาที่ไมเปนมิตรของภิกษุ มารโบราณที่แตเดิมแหงน
หนาขึ้นหัวเราะกับทองฟาก็กมหนาลง สายตากวาดไปยังลำแสงหลีกหนีที่กำลังเขามา
ใกลทางนี้ ใบหนาเผยสีหนาหมดความอดทนออกมา
“ยุ งยากจริ งๆ แต เดิ ม คิ ด ว าจะมี พ วกก อ กวนแค ค นเดี ย ว คิ ด ไม ถึ งว าจะมี ค น
รนหาที่ ต ายมากมายถึ งเพี ย งนี้ ในเมื่ อ เป น เช น นั้ น ก็ ส งเจาไปตายก อ นก็ แ ล ว กั น ”
หลังจากเอยอยางเย็นชาเสร็จ รางของมารโบราณก็เปลงสีดำสวางวาบ ทันใดนั้นราง
ทั้งรางพลันกลายเปนลำแสงสีดำสายหนึ่ง พุงไปยังภิกษุ
มองเห็นเพียงมังกรอสรพิษพนลมหายใจสีเขียวออกมา แลวตะปบลำแสงสีดำของ
มารโบราณอยางรุนแรง ทวาลำแสงสีดำกลับสั่นคลอนเล็กนอย และสลายหายไปในชั่ว
พริบตา
ภิกษุเองก็เปนผูที่มีประสบการณในการตอสูมากมายคนหนึ่ง เมื่อเห็นภาพฉากนี้
พลันตกตะลึง สองมือพลันรายอาคมอยางรวดเร็วอยางไมตองขบคิด อาคมสีเขียว
หลายสายโจมตีเขาไปในมานเปลวเพลิงทั้งสี่ดานอยางตอเนื่อง ชั่วขณะนั้นเปลวเพลิง
พลันขยายใหญขึ้นกลางอากาศหลายเทา ชั่วครูก็กลายเปนเปลวเพลิงสีเขียวแดง สูง
ประมาณยี่สิบสามสิบจั้ง อานุภาพดุดันจนนาหวาดกลัว
มือหนึ่งของภิกษุยังตบไปที่ยามเก็บของอยางไมยอมแพ หยิบสมบัติคุมครองกาย
อีกชิ้นหนึ่งออกมา
แตในชั่วพริบตานั้น เรื่องแปลกประหลาดก็เกิดขึ้น!
รางของภิกษุที่อยูหางออกไปดานขางสองสามจั้ง มีลำแสงสีดำสวางวาบ แขนสีดำ
มวงสองแขนยื่นออกมาอยางรวดเร็วปานสายฟา ชั่วครูก็ทะลุผานมานเปลวเพลิงไป
คาดไมถึงวาจะไมหวาดกลัวเลยแมแตนอย
“เหวอ!”
หลังจากเสียงรองคร่ำครวญของทารกวิญญาณดังขึ้น พลันขี่อยูบนกระบี่บินสีทอง
ที่เปลงแสงสวางวาบ เคลื่อนยายจากซากศพที่แหลกละเอียดออกไปไกลยี่สิบกวาจั้ง
แตในตอนที่ลำแสงสีทองบนรางของทารกวิญญาณสวางวาบ คิดจะหนีออกไปให
ไกลกวาเดิมนั้น กลับไมมีโอกาสนั้นแลว
เสนไหมสีมวงสายหนึ่งสวางวาบจากดานหลังของทารกวิญญาณ ทารกวิญญาณ
รูสึกเพียงวาศีรษะรอนฉา อะไรสักอยางทะลุผานทายทอยมา เสียงกรีดรองแหลมสูง
ดังขึ้น ทารกวิญญาณราวกับสูญเสียกำลังทั้งหมดในทันทีอยางไรอยางนั้น ถูกเสนไหม
สีมวงกระชากกลับมาอยางไรซึ่งแรงตานทาน ชั่วครูก็จมหายเขาไปในเปลวเพลิงอยาง
ไรรองรอย
ตอนนั้นลำแสงหลีกหนีสามสายที่เพิ่งจะบินมาถึงระยะที่หางออกไปสองสามรอย
จั้ง ผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรในลำแสงหลีกหนี จึงเห็ น เหตุ การณ นี้ อ ยางชั ดเจน ชั่ วขณะนั้ น ผู
บำเพ็ ญ เพี ย รทั้ งสามคนพลั น ตกใจจนขวั ญ กระเจิ ง ไหนเลยจะกล าเข า มาใกล อี ก
หลังจากหมุนวนรอบหนึ่งแลว คาดไมถึงวาจะบินหนีกลับไปทางเดิมอยางรวดเร็วยิ่ง
กวาตอนมาเสียอีก
ทั้งสามคนลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นตน เดิมทีคิดวาทั้งสามคน
รวมมือกันจะวางแผนดีๆ ได ผลลัพธคือเมื่อเห็นผูบำเพ็ญเพียรขั้นกลางที่มีชื่อเสียง
อยางภิกษุเออรหั่ว ถูกทำลายกายเนื้ออยางโหดเ**ยมไปตอหนาตอตา ทั้งยังถูกจับ
ทารกวิญญาณ จะไมทำใหรูสึกหวาดกลัวไดอยางไร
ขณะที่หานลี่เผชิญหนากับการสังหารที่โหดเ**ยมของมารโบราณ ก็สูดลมหายใจ
เย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง จองเขม็งไปยังเปลวเพลิงที่อยูไกลออกไป ใบหนาเครง
ขรึมสลับกับสดใสไมแนนอน
เสียงหัวเราะแปลกประหลาดอันแหลมสูงดังออกมาจากเปลวเพลิง จากนั้นชั่ว
พริบตาเปลวเพลิงทั้งหมดก็สลายหายไป รางของมารโบราณปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
สิ่งที่ทำใหผูคนรูสึกจิตใจหนักอึ้งมากกวาเดิมก็คือ เมื่อปากของคนผูนี้เผยอขึ้น
นอยๆ ก็แลบลิ้นยาวๆ สีมวงความยาวสองสามฉื่อออกมา โคนลิ้นกระดกขึ้น ปลายลิ้น
ทะลุผานทารกวิญญาณภิกษุที่ไมรูวาเปนหรือตายไป ดวงตาคูนั้นไรซึ่งความรูสึก กำลัง
จองเขม็งมาทางหานลี่อยางเย็นเยียบ
“ขารู แตเดิมคิดจะชั่งน้ำหนักความสามารถของมารตนนี้และจิตวิญญาณหลัก
แตตอนนี้ดูแลวยังไมใชเวลาที่จะประมือกับเขา มันเสี่ยงเกินไป พวกเราไปกันเถิด”
หานลี่เอยขึ้นอยางราบเรียบ จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อ กระบี่บินสีทองที่หมุนโคจรอยู
เบื้องหนาสงเสียงหึ่งๆ ออกมา แลวถูกดูดเขาไปในแขนเสื้อทั้งหมด จากนั้นก็อาปาก
ออก พนโลหิตบริสุทธิ์ออกมาสองสามครั้ง หมอกโลหิตผืนใหญหอหุมเรือนรางของ
หานลี่เอาไวในชั่วพริบตา
แตแทบจะในเวลาเดียวกันนั้น เบื้องหนาของหานลี่พลันมีลำแสงสีดำสวางวาบ
เงารางที่นากลัวของมารโบราณที่แปลงกายแลวปรากฏขึ้นเบื้องหนาในพริบตา การ
เคลื่อนไหวของเขารวดเร็วกวาตอนที่ตอกรกับภิกษุผูนั้นเกือบครึ่ง เมื่อครูนั้นไมไดใช
กำลังเต็มอัตราเลย
แต ในตอนนั้ น เอง ในหั วของมารโบราณกลั บ มี เสี ย งหึ อ ย างเย็น ชาอย างหาใด
เปรียบดังขึ้น เสียงนี้ ราวกับ กรวยที่ ไรรูป ราง ถึ งแม วาจิตสัม ผัสของมารโบราณจะ
แข็งแกรงเปนอยางมาก ก็ยังรูสึกเจ็บปวดรวดราวในศีรษะ จนคำรามออกมาเบาๆ
การเคลื่อนไหวหยุดชะงักลง
ชั่วขณะนั้นมารโบราณพลันตะลึงงันอยูที่เดิม
“เงาลวงตาหลีก หนี นั่ น ไม ใช เคล็ ด วิช าลั บ ของเจามารป ก เหล็ ก หรือ เหตุ ใดผู
บำเพ็ญเพียรในแดนมนุษยถึงสำแดงเคล็ดวิชานี้ออกมาได ยุงยากไปหนอยแลว ไมสิ
เหมือนจะไมคอยเหมือนกันนัก!” เขาเอยพึมพำ เผยสีหนาขบคิดออกมา!
ถึงแมวาจะไมเหมือนสำนักมหาเอกหรือพรรคตาขายทมิฬที่มีการสืบทอดพรรค
ตอๆ กันมาตั้งแตสมัยโบราณ แตสองสามหมื่นปกอน อรหันตที่กอตั้งสำนักนี้ขึ้นมาก็
เคยสรางสามยอดยันตลับที่มีอานุภาพสั่นสะเทือนทั้งตาจิ้นขึ้นมา แมกระทั่งเกือบจะ
ทำใหสำนักในตอนนั้นติดอันดับหนึ่งในสิบสำนักที่ยิ่งใหญ สำนักนี้เองก็มีลูกศิษยอยู
หลายหมื่นคน เคยมีอำนาจในเขตนี้
สำนั ก ที่ ต กต่ ำ ลงขนาดนี้ นอกจากผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รของสำนั ก อื่ น ที่ ต กอยู ใ น
สถานการณเดียวกันแลว ก็ไมคอยมีผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงมาที่นี่ ลูกศิษยที่รับหนาที่
เขาเวรของสำนักยันตสวรรคในทุกวันนั้นจึงวางอยางสุดๆ ปกติแลวถาไมนั่งบำเพ็ญ
เพียร ก็จะพูดคุยเลนกัน
แตวันนี้ ลูกศิษยระดับฝกปราณที่เขาเวรอยูหนาประตูสองคนกลับทอดถอนใจ
ออกมาพรอมกัน ทาทางดูหดหู
“ศิษยพี่หลี่ขอรับ ยานรานคากำลังจะปดตัวลงแลวจริงๆ หรือ? ถึงแมวาขาจะเขา
มาในสำนักไดไมนาน แตก็รูวารายไดจากยานรานคาซานหยวนแทบจะกินจำนวน
ครึ่งหนึ่งของสำนักเรา ไมมีศิลาวิญญาณกองนี้ วันขางหนาเราจะยิ่งประคับประคอง
สำนักตอไปไดยากแลว” ลูกศิษยชายคนหนึ่งที่มีหนาตาหมดจดอายุประมาณสิบหก
สิบเจ็ดป พึมพำเอยถามอีกคน
“พรรคเก็บตะวัน? นี่…นี่ไมใชพรรคที่สำนักยันตสวรรคของพวกเราจะไปลวงเกิน
ได ดูแลวครั้งนี้สำนักของเราจะตองผานไปอยางยากลำบากแน” ลูกศิษยผูออนเยาว
ไดยินชื่อของพรรคเก็บตะวัน ก็รูสึกทอใจขึ้นมา
ถาหากรายไดในสำนักลดลง ศิลาวิญญาณที่ลูกศิษยอยางพวกเขาจะไดรับในทุกๆ
ป ก็จะลดลงเปนอยางมากเชนกัน
“ชางเถิด เรื่องนี้ไมใชสิ่งที่ลูกศิษยระดับต่ำอยางพวกเราสอดมือเขาไปยุงได ทุก
อยางตองใหเจาสำนักและเหลาอาวุโสจัดการเถิด ถึงอยางไรเสียตอใหสำนักของเราไม
ดีขนาดไหน ก็ดีกวาเปนผูบำเพ็ญ เพียรสันโดษมากนัก พวกเรารักษาการณ ที่ประตู
เมืองดีๆ เถิด อยาคุยเรื่องนี้เลย มิเชนนั้นหากถูกทานอาจารยลุงพบเขา แลวหักศิลา
วิญญาณเรา…เอ นั่นคืออะไร?” ชายหนุมถอนหายใจออกมา ราวกับเขาใจเรื่องนี้ แต
หลังจากที่เสมองไปบนทองฟานั้น จูๆ ก็พลันตกตะลึง
“ที่นี่คือสำนักยันตสวรรคแหงภูเขาไผขาวใชหรือไม?” ชายหนุมหนาตาธรรมดา
แตทาทางไมธรรมดา เหลือบมองประตูเขตหวงหามรางๆ ดานหลังทั้งสองคนแวบหนึ่ง
แลวเอยถามอยางราบเรียบ นั่นก็คือหานลี่ที่หายไปจากงานซื้อขายแลกเปลี่ยน ตอนนี้
ผานมาสี่เดือนแลว หลังจากที่หนีรอดพนเงื้อมมือของมารโบราณมา
“ที่นี่คือภูเขาไผขาว ทานอาวุโสมีธุระอันใดใหชนรุนหลังรับใชหรือไมขอรับ?”
ถึงแมวาลูกศิษยสองคนนี้จะมีพลังยุทธตื้นเขิน ดูไมออกวาพลังยุทธที่แทจริงของหานลี่
อยูขั้นไหน แตก็ตัดสินไดในชั่วพริบตาวา ผูบำเพ็ ญ เพียรที่อยูเบื้องหนาจะตองเปน
อาวุโสชนชั้นสูงระดับหลอมรวมขึ้นไปแน หลังจากมองสบตากันแวบหนึ่งแลว ชาย
หนุมก็รีบรอนกันทำความเคารพแลวเอยขึ้น
ผลลัพธคือเขาขมวดคิ้วเขาหากันเล็กนอย
หลังจากผานไปชั่วครู ดานหลังของลูกศิษยที่รักษาการณอยูก็มีลำแสงสีเหลือง
สวางวาบขึ้น จากนั้นประตูภูเขาสูงสิบกวาจั้งก็ปรากฏขึ้น
และดานในประตูก็มีผูบำเพ็ญเพียรอยูสองสามคน เดินเคียงไหลกันออกมา
ยิ่งผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นเขามาใกลลูกศิษยทั้งสองมากเทาไหร สายตาที่มองมา
ทางหานลี่ ก็แทบจะเปลี่ยนสีไปพรอมๆ กัน ชายชราสวมชุดผาไหมสีเหลืองคนหนึ่ง
รีบรอนชิงทำความเคารพหานลี่กอนคนแรก แลวเอยอยางนอบนอมวา
“ชนรุนหลังของเจาสำนักยันตสวรรคเยวเจิน ไมทราบวาทานอาวุโสใหเกียรติมา
ที่สำนักของพวกเรา จึงไมไดออกไปตอนรับ หวังวาทานอาวุโสจะไมถือสา!”
คนผู นี้ มี พ ลั งยุ ท ธอ ยู ในระดั บ สรางปราณ ถึ งแม วาจะไม มี ท างมองพลั งยุ ท ธที่
แทจริงของหานลี่ออกเชนกัน แตในฐานะที่เปนเจาสำนัก แนนอนวาประสบการณที่
ประสบพบพานมาจึงมี ม ากกวาที่ ลู ก ศิ ษ ย ทั้ งสองจะเที ย บเที ย มได ทั้ งยั งเคยพบผู
บำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ ก อ กำเนิ ด มาสองสามครั้ ง ดั ง นั้ น จึ ง สั ม ผั ส ได ถึ ง กลิ่ น อายอั น
แข็งแกรงบนตัวของหานลี่ และอดที่จะรูสึกหวาดกลัวไมได
ผูบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกรงทั่วๆ ไป เกรงวาแคชี้นิ้วก็สามารถสังหารสำนักเล็กๆ
อยางพวกเขาไดแลว ถึงตอนนั้นสำนักยันตสวรรคของพวกเขาจะประสบความสำเร็จ
หรือหายนะก็ยากจะคาดเดาแลว!
แตเดิมที่ไดรับยันตถายทอดเสียง เขาก็นึกวาเปนแคผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอม
รวมคนหนึ่งเทานั้น เพื่อปองกันสิ่งที่คาดไมถึง จึงสั่งคนใหไปเรียกอาวุโสคนเดียวใน
สำนักออกมาตอนรับ ทานอาจารยลุงระดับหลอมรวมผูนั้น แตตอนนี้ดูแลว คงเปน
การสอนจระเขวายน้ำแลว
“ไดรับ ฝากฝง? ชนรุน หลังเลอะเลื อนแล ว ทวาที่ นี่ ไม ใชที่ ที่ จะพู ดคุ ยกั น ท าน
อาวุโสเขาไปนั่งในภูเขา แลวคอยคุยรายละเอียดกันก็ยังไมสายนะขอรับ” เยวเจินได
ยินแลวจิตใจพลันผอนคลายลง จากนั้นก็เชิญหานลี่ขึ้นไปบนภูเขาดวยใจที่เตนระรัว
“เชิ ญ อาวุ โสเข า ไปข า งในขอรั บ ” เย ว เจิ น รู สึ ก ดี อ กดี ใจ รี บ ร อ นเบี่ ย งกายไป
ดานขาง เชิญหานลี่เขาไปกอน เปนการแสดงความเคารพนับถือ
หานลี่เองก็ไมเกรงใจ สาวเทาเดินเขาไปในประตูภูเขา
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ตางก็มีสีหนาเคารพนอบนอม เดินตามมาขางหลังอยาง
เชื่อฟง
สิ่งที่ทำใหหานลี่ตกตะลึงก็คือ ในตำหนักยังมีผูบำเพ็ญเพียรสองคนที่ไมไดสวม
อาภรณของสำนักยันตสวรรคนั่งอยู
หานลี่โบกมือไปมา สวนคนก็นั่งลงบนเกาอี้ตัวหนึ่งอยางไมเกรงใจ
“ใชแลว เชนนั้นขากับพี่หลูตองขอตัวกอน”
ผูบำเพ็ญเพียรสองคนนี้รีบรอนแสดงทาทีวาเขาอกเขาใจ และเผยสีหนาอิจฉาเปน
พิเศษออกมา จากนั้นทั้งสองคนก็คารวะหานลี่อีกครั้ง แลวถอยออกไปจากตำหนัก
“ชนรุนหลังไดยินจากศิษยหลานวามีชนชั้นสูงมาเยือนสำนักเรา คิดไมถึงวาจะ
เปนทานอาวุโสผูอยูในระดับกอกำเนิด ไมไดออกมาตอนรับ ชางเปนการเสียมารยาท
จริงๆ”
อาวุโสเพียงผูเดียวของสำนักยันตสวรรคผูนี้ มีใบหนาเคารพนอบนอม
เยวเจินและผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณคนอื่นๆ ไดยินอาวุโสแซเวินเอยเชนนี้
ก็พากันตกใจจนขวัญกระเจิง ความสงสัยสุดทายมลายหายไป ใชสายตาที่เคารพนบ
นอบมากยิ่งขึ้นมองมาทางหานลี่
ชายชราแซเวินไดยินแลวพลันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็หันหนาไปเอยอยางรูจัก
วางตัววา
“ศิษยหลานเยวเจาก็ไดยินที่ทานอาวุโสกลาวแลว เขามาดูเร็วเขาวาทานอาวุโส
เอาอะไรมาดวย ถาหากเปนของที่สูญ หายไปจากสำนั กเราจริงๆ พวกเราก็จำตอง
ขอขอบคุณทานอาวุโสอีกครั้ง”
ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือเองก็มีสีหนาตกตะลึง
“นาจะไมเปนไร ความจริงแลวเรื่องที่ขาและเจาสำนักของเจาไดพบกันนั้นเปน
เรื่ อ งบั ง เอิ ญ เรื่ อ งหนึ่ ง ยี่ สิ บ สามสิ บ ป ก อ น ข า บั ง เอิ ญ ประสบเคราะห ร า ยเฉก
เชนเดียวกับเจาสำนักของเจา ตอนนั้นขา…” หานลี่เลาเรื่องหมอกปศาจและอเวจี
ทมิฬอยางคราวๆ ใหฟงรอบหนึ่ง แนนอนวาสิ่งที่เกี่ยวกับตัวเองและอสูรอเวจีทมิฬนั้น
ไมไดแพรงพรายออกไปงายๆ จึงเอยอยางคราวๆ ไป ไมไดเอยถึงอะไรมากนัก
“คาดไมถึงวาในใตหลานี้จะมีสถานที่ที่อันตรายเชนนั้น ชางยากที่จะจินตนาการ
ไดจริงๆ มินาเลาตั้งแตหลายปกอนเปนตนมา บางครั้งจึงมีผูบำเพ็ญเพียรหายตัวไป
จากชายทะเลอยางแปลกประหลาด ที่แทก็เปนเพราะหมอกปศาจนี่เอง” ชายชราแซ
เวินไดฟงเรื่องที่วาในอเวจีทมิฬไมอาจใชลมปราณได ก็สูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไป
เฮือกหนึ่ง
เยวเจินเองก็เอยวาเห็นดวยอยูขางๆ อยางตอเนื่องเชนกัน
“บุญคุณที่ทานอาวุโสนำของมาสงพวกเรายังมิไดตอบแทนเลย เชนนั้นมิสูพักอยู
ที่ ส ำนั กเราสั กสองวัน เพื่ อ ให ส ำนั กของเขาได ต อ นรับ ในฐานะเจาบ านสั กหน อ ย”
ถึงแมวาชายชราแซเวินจะรูสึกดีใจที่ไดยันตลดวิญญาณกลับมา แตสิ่งที่สำคัญที่สุด
กลั บ เป น ชนชั้ น สู งที่ มี ค วามสั ม พั น ธ กั น ในเรื่ อ งยั น ต ล ดวิ ญ ญาณ จึ งเอ ย ปากอย าง
ลุกลี้ลุกลน
ไมตองพูดถึงเรื่องอื่น ขอแคมีคนรูวาสำนักของพวกเขาคบคากับผูบำเพ็ญเพียร
ระดับกอกำเนิดคนหนึ่ง เกรงวาตำแหนงของสำนักยันตสวรรคคงเพิ่มขึ้นจากสำนัก
เล็กๆ กลายเปนสำนักระดับกลางอยางรวดเร็ว แมกระทั่งปญหาที่กำลังประสบอยู ก็
อาจจะแกไขไดอยางไมตองหวง
“อยูอีกเดี๋ยว!” หานลี่หยักมุมปากขึ้น เผยทาทีอมยิ้มออกมา
“คั ม ภี รก ารเขี ย นยั น ต !” หานลี่ ได ยิ น แล วพลั น ตกตะลึ ง ขบคิ ด เล็ ก น อ ย แล ว
ใจเตนระรัว
หลังจากที่ชายชราแซเวินนิ่งอึ้ง ก็พยักหนาเห็นดวยอยางตอเนื่อง
“เอาเถิด ขานอยสนในการเขียนยันตจริงๆอยูที่สำนักทานอีกสองสามวันก็แลว
กัน” ตั้งแตที่หานลี่เรียนยันตลดวิญญาณแลว ก็รูสึกสนใจเคล็ดวิชาลับดานการเขียน
ยันตเปนอยางมาก หลังจากขบคิดแลว ในที่สุดก็พยักหนา
“เยี่ยมจริงๆ เลย! ชางเปนเกียรติจริงๆ ที่ทานอาวุโสยอมพักอยูในสำนักของเรา
ทานอาวุโสจะพักผอนกอนหรือไมขอรับ พรุงนี้คอย…” ชายชราแซเวิงมีใบหนายินดี
พลางเอยอยางระมัดระวัง
หานลี่พลันพยักหนา จากนั้นก็เดินตามคนผูนั้นออกไปจากตำหนัก
“มีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดคนหนึ่งเปนที่พึ่ง สำนักหงสวิญญาณจะตองถอย
รนไปแน ตอใหเปนพรรคเก็บตะวันก็ไมมีทางทำใหผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดไม
พอใจเพียงเพราะยานรานคาเล็กๆ แน แตเมื่อครูที่ฟงจากน้ำเสียงของทานอาวุโสหาน
แลว ดูเหมือนวาความสัมพันธของเขากับศิษยพี่อวิ๋นที่อเวจีทมิฬจะธรรมดาๆ จาก
ฐานะของอีกฝาย เขาจะชวยพวกเราโดยเปลาประโยชน ได อยางไร ตอให พ วกเรา
อยากมอบสมบัติเพื่อดึงเขาเอาไว ในสำนักของเราก็ไมมีสิ่งของใดๆ ที่เขาตาอาวุโส
หาน แตถาหากพลาดโอกาสนี้ไป ก็นาเสียดายเกินไปแลว” เยวเจินกลับเอยพึมพำ
พรอมกับหัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“เรื่องนี้ยุงยากหนอยจริงๆ” อาวุโสแซเวินเองก็ขมวดคิ้วขณะเอย
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นในตำหนักตางก็มองสบตากันแวบหนึ่ง แลวเผยสีหนากลุมใจ
ออกมาเชนกัน
และในตอนนั้น หานลี่ก็เดินตามผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนมาถึงหอคอยที่ไมสะดุด
ตาแหงหนึ่ง
หอคอยนี้แบงออกเปนสามชั้น ถูกปกคลุมไปดวยเขตอาคมตองหามสีเขียวออน
ชั้นหนึ่ง เมื่อหานลี่ตามผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนเขาไปในชั้นหนึ่งแลว ดานในก็มีชาย
ชราคนหนึ่งกำลังกมหนานั่งสมาธิอยูบนเตียง ในมือกุมคัมภีรมวนหนึ่งเอาไว ราวกับวา
กำลังสำรวจเนื้อหาในคัมภีร
“ศิษยหลานหลี่มีหนาที่ดูแลหอคอยคัมภีรโดยเฉพาะ รูจักคัมภีรในหอคอยนี้เปน
อยางดี” ครานี้ชายชราผูนั้นดูเหมือนวาจะถูกเสียงของผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนทำให
ตื่นจากภวังค จึงรีบรอนเก็บคัมภีร แลวกระโดดขึ้นมาในทันที พลางวิ่งเขามา
“ศิษยหลานหลี่?”
หลังจากที่หานลี่เห็นใบหนาของชายชราอยางชัดเจนแลว ดวงตาทั้งสองขางก็เต็ม
ไปดวยความตกตะลึง สีหนาแปลกประหลาด
“ขอรับ ศิษยหลานจะ...”
“ไมตอง ในเมื่อสหายผูนี้รูจักคัมภีรในหอคอยนี้เปนอยางดี ขาก็จะขอยืมแรงเขา
สักหนอย ใหเขาอยูที่นี่กับขาซักสองสามวันวันเถิด” จูๆ หานลี่พลันเอยเกิดขึ้นพรอม
กับหัวเราะเบาๆ ในเวลาเดียวกันก็เหลือบมองชายชราแวบหนึ่งดวยสายตามีเลศนัย
“เอ อ … ในเมื่ อ ท านอาวุโสสั่งเช น นี้ ชนรุน หลั งก็ น อ มรับ คำบั ญ ชาขอรับ ศิ ษ ย
หลานหลี่ โอกาสของเจาแลว ตองเชื่อฟงคำสั่งของทานอาวุโสหานนะ” ถึงแมวาผู
บำเพ็ญเพียรวัยกลางคนจะรูสึกสงสัยกับทาทีที่ทั้งสองแสดงออกมาเมื่อครู แต ‘ศิษย
หลานหลี่’ ผูนี้มีโอกาสไดอยูกับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดคนหนึ่งสองสามวันตาม
ลำพัง ก็ทำใหเขารูสึกอิจฉาจริงๆ ไมตองพูดถึงเรื่องอื่น แคชี้แนะเล็กๆ นอยๆ ก็อาจจะ
ทำใหผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำอยางพวกเขาไดรับประโยชนอยางไมมีที่สิ้นสุดแลว
ทวาเห็นไดชัดวาคำพูดของหานลี่มีเจตนาสงแขก เขาจึงไมกลารั้งรออยูที่นี่อีก
หลังจากออกคำสั่งกับชายชราอีกเล็กนอย ก็ถอยออกไปดวยความคลางแคลงใจ
เมื่อหานลี่เห็นเงารางของผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนหายลับไปจากหอคอยแลว ก็
หันหนาไปเหลือบตามองชายชรา เผยรอยยิ้มมีเลศนัยจางๆ ออกมา
ตอนที่ 962 ขาวลือระดับเทพแปลง
“ไมทราบวาขาควรจะเรียกทานวาศิษยพี่เซี่ยง หรือวาควรจะเรียกทานวาศิษยพี่หลี่
ดี?” หลังจากที่พิจารณาชายชราอยางละเอียดรอบหนึ่ ง จูๆ หานลี่ก็เอยขึ้นพรอม
รอยยิ้มเบิกบาน
“ท านอาวุโสหานพู ด อะไรกั น ชนรุ น หลั งไม ค อ ยเข าใจนั ก หรื อ ว าชนรุ น หลั ง
หนาตาเหมือนใครบางคนที่ทานอาวุโสรูจัก” หลังจากที่ชายชรากลอกตาไปมาสอง
สามครั้ง สีหนาแปลกประหลาดแตเดิมก็หายไป คาดไมถึงวาจะเอยพรอมกับหัวเราะ
อยางขอโทษออกมา
“เรื่องมาถึงขนาดนี้แลว ศิษยพี่เซี่ยงยังจะปกปดอีก ทานอยาลืมนะวาผูบำเพ็ญ
เพียรอยางพวกเราแคเคยพบกันครั้งหนึ่งก็จดจำไดอยางไมลืมเลือน ตอนนั้นในเขต
แดนทดสอบโลหิตตองหาม ลูกศิษยที่ประสบความสำเร็จของหุบเขาใบเฟงเหลืองมีแค
พวกเราไมกี่คน ถึงแมวาเรื่องจะผานมาหลายปแลว ขานอยจะจำคนผิดไดอยางไร”
หานลี่ขมวดคิ้ว ดวงตาทั้งสองขางหรี่ลงขณะเอย
ชายชราผูนี้คาดไมถึงวาจะเปนผูที่เคยอยูกลุมเดียวกันกับหานลี่ในการทดสอบ
โลหิตตอ งห าม นามวาอาวุโสเซี่ยงจือหลี่ ตอนนั้ น คนผูนี้ มี พ ลังยุท ธอ ยูในระดั บฝ ก
ปราณขั้นที่สิบ สุดทายก็ออกมาจากการทดสอบโลหิ ตได เคยทำให ผูบำเพ็ ญ เพี ยร
จำนวนไมนอยในที่นั้นตกตะลึง แตแคตอมาหานลี่นั้นแสดงออกไดอยางนาตกตะลึงยิ่ง
กวา จึงทำใหทุกคนมองขามคนผูนี้ไป
ตอนนั้นถึงแมวาหานลี่จะไมไดรูจักมักจี่อะไรกับศิษยพี่เซี่ยงผูนี้ แตตอนนั้นที่เห็น
คนผูนี้ออกมาจากเขตแดนตองหามได ก็รูสึกระมัดระวังตัวเปนอยางมาก และสัมผัสได
รางๆ วาในตัวของคนผูนี้มีความลับอะไรซอนอยู
ตอมาเมื่อหานลี่บรรลุระดับสรางปราณ และถูกรับเขาเปนลูกศิษยของหลี่หัวหยวน ก็
ไมเคยพบหนากับชายชราผูนี้อีก จึงคอยๆ ลืมคนผูนี้ไป หลังจากที่หกพรรคมารเขามา
รุกรานแควนเยวนั้น ก็ยังไมรูวาคนผูนี้เปนหรือตาย
แตสิ่งที่ เขาคิ ด ไมถึงก็คื อ เรื่อ งราวผ านมานานขนาดนี้ จะมาพบกัน อี กครั้งใน
สำนักเล็กๆ ของตาจิ้น หานลี่จะไมรูสึกตกตะลึงอยางมากไดอยางไร
ตองเขาใจวา ตอนนั้นที่ชายชราปรากฏตัวที่หุบเขาใบเฟงเหลืองก็มีอายุอานาม
ขนาดนั้นแลว ผานมาหลายปขนาดนี้ ไมตองพูดถึงวาอีกฝายเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับ
ฝกปราณ ตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณก็คงหมดอายุขัยกลายเปนเถาธุลี
ไปนานแลว แตตอนนี้ดูแลว คนผูนี้มีหนาตาเหมือนศิษยพี่เซี่ยง ที่เหมือนกับสองรอย
กวาปกอนอยางไรอยางนั้น นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกใจหายวาบ อยางนอยที่สุด ในการ
ทดสอบโลหิตตอนนั้น คนผูนี้ก็คงเปนพยัคฆที่สวมบทเปนหมู แตไมรูวาแอบปะปนเขา
ไปในนั้นเพราะมีเจตนาอะไร
หานลี่ ม องชายชราตาไม ก ะพริ บ ในหั ว มี ค วามคิ ด ต างๆ และผ านไปมาอย าง
รวดเร็วไมหยุด
“ในใตห ลานี้ มีเรื่อ งแปลกพิ สดารมากมาย ดู แ ล วในใต ห ล านี้ ค งมี ค นที่ ห น าตา
เหมือนชนรุนหลังทุกกระเบียดนิ้ว ทวาทานอาวุโสจำคนผิดแลว ชนรุนหลังแซหลี่ไมได
แซเซี่ยง มิเชนนั้น ถาหากมีความสัมพันธกับคนที่มีฐานะเหมือนทานอาวุโสจริงๆ ชน
รุนหลังจะไมยอมรับทำไม” ชายชรายังคงปฏิเสธวาไมใชตัวเอง ไมมีทาทีจะปริปาก
เลยสักนิด
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม แววตาประหลาดใจแวบผานไป
“ในเมื่อสหายกลาวเชนนี้ ผูแซหานก็อาจจะจำคนผิดไปจริงๆ ชางเถิด! สหาย
แนะนำคัมภีรเขียนยันตใหขาสักหนอยเถิด” หานลี่เงียบกริบไปชั่วครู คาดไมถึงวาสี
หนาจะผอนคลายลงพลางเปลี่ยนหัวขอบทสนทนา
“แหะๆ เชิญทานโปรดตามชนรุนหลังมาขอรับ ในเมื่อสำนักของขามีชื่อวาสำนัก
ยั น ต ส วรรค แน น อนว าต อ งมี คั ม ภี ร ก ารเขี ย นยั น ต ส ะสมอยู ไม น อ ย และคั ม ภี ร ที่
คอนขางลึกซึ้งจะอยูบนชั้นสอง ชนรุนหลังจะแนะนำใหทานอาวุโสเอง” ใบหนาของ
ชายชรายังมีรอยยิ้มประดับอยูไมเปลี่ยนแปลง จากนั้นก็นำหานลี่ขึ้นไปที่ช้ันสองอยาง
นอบนอมราวกับเปนเพียงลูกศิษยระดับต่ำธรรมดาๆ คนหนึ่ง
ชั้น สองและชั้น หนึ่ งตกแต งคอ นข างคล ายกั น เป น สถานที่ ที่ ใหญ นั กและมี ชั้ น
หนังสือเรียงรายกันอยูมากมาย
ตอนที่หานลี่รีบกวาดตามองไปรอบๆ รางของชายชราก็แวบหายไปอยางตอเนื่อง
อยามองวาเขามีทาทางอายุที่ไมนอย แตการเคลื่อนไหวคลองแคลวและปราด
เปรียว กะพริบวาบไปทางซายทีทางขวาที ยกมือหยิบคัมภีรเลมเล็กๆ ที่คุนเคยออกมา
จากนั้นก็หอบมาตรงหนาของหานลี่รวดเดียวอยางเหนื่อยหอบ เอยดวยทาทีเอาใจสี
หนาประจบสอพลอวา
“ทานอาวุโส นี่คือคัมภีรการเขียนยันตที่ถูกเก็บสะสมเอาไวในชั้นนี้ ชั้นสามก็ยังมี
อีก นิ ด หน อ ย ชนรุน หลังจะไปเอามาให ท านอาวุโสขอรับ ท านอาวุโสจะได ไม ต อ ง
เสียเวลาไปหา”
“ไมตองยุงยากขนาดนั้น คัมภีรพวกนี้ก็เพียงพอจะใหอานวันสองวันแลว คัมภีร
ของชั้นสาม เก็บไวใหผูแซหานไปดูเองเถอะ สหายไมจำเปนตองอยูที่นี่แลว เจาไปทำ
อะไรก็ทำเถิด” หานลี่ลูบคางไปมา พลางเอยดวยรอยยิ้มเบิกบาน
“เชนนั้นชนรุนหลังไมรบกวนการฝกบำเพ็ญเพียรของทานอาวุโสแลวขอรับ ถา
หากทานอาวุโสอยากสั่งการอะไร ก็เรียกชนรุนหลังไดทันทีนะขอรับ ชนรุนหลังจะรอ
อยูที่ชั้นลาง” ชราชราเอยพรอมกับรอยยิ้ม จากนั้นก็วางคัมภีรในมือลงบนชั้นวาง
ใกลๆ แลวคอยถอยออกไปจากชั้นสองอยางระมัดระวัง
มองเงารางของชายชราที่หายลับไป รอยยิ้มบนใบหนาของหานลี่คอยๆ หุบลง
กลับเผยทาทีเครงขรึมออกมา
“เปนอยางไรบาง ทานอาวุโสเทพขับเคลื่อนมองพลังยุทธของคนผูนั้นออกหรือไม?
เมื่อครูขาใชจิตสัมผัสฝนกวาดไปที่รางของคนผูนั้น ถึงแมวาจะมองออกวาพลังยุทธ
เปลือกนอกระดับฝกปราณของคนผูนี้ คือเคล็ดวิชาลวงตา แตกลับมองพลังยุท ธที่
แทจริงไมออก พลังยุทธจอมปลอมชั้นนั้น ทำใหรางกายวางเปลา นาประหลาดจริงๆ”
‘ขาก็เหมือนกัน ถึงแมวาจิตสัมผัสจะแข็งแกรงกวาเจาเปนอยางมาก แตกลับพบ
สถานการณเดียวกับเจาเลย’ เทพขับเคลื่อนสงเสียงที่เครงขรึมกลับมา
“เหตุใดถึงเกิดสถานการณเชนนี้ได หรือวาจิตสัมผัสของคนผูนั้นจะแข็งแกรงกวา
ทานอาวุโสเปนอยางมาก” หานลี่รูสึกตื่นตระหนก
‘แลวจะมีเรื่องเชนนี้เกิดขึ้นไมไดหรืออยางไรกันละ ในใตหลานี้ตอใหมีผูบำเพ็ญเพียรที่
มีจิตสัมผัสแข็งแกรงกวาขาอยูจริงๆ ก็ไมมีทางแข็งแกรงถึงขั้นนั้น อาศัยแคความคิดก็
สามารถปดบังการคนหาของขาไดแลว สถานการณเชนนี้ที่เคยเกิดขึ้น ไมนาแปลกใจ
เลยหากคนผูนั้นไมฝกฝนเคล็ดวิชาลับอะไรสักอยาง ก็คงมีสมบัติวิเศษที่สามารถลวง
ตาได และอาจจะเปนไปไดอีกอยางหนึ่ง ก็คือ...’ เทพขับเคลื่อนเอยไปพลางก็รูสึก
ลังเลขึ้นมา
“ก็คืออะไรหรือ?” หานลี่อดที่จะซักถามไมได
‘มีโอกาสเปนไปไดอีกอยางหนึ่ง ก็คือคนผูนี้บรรลุระดับเทพแปลงแลว ลมปราณ
ทั้งรางจึงแผออกมาที่กลามเนื้อ แมแตทารกวิญญาณก็ยังทำใหไรรูปรางไปไดภายใน
ระยะเวลาสั้นๆ แนนอนวาเจาไมมีทางพบความผิดปกติอะไรไดแน’ เทพขับเคลื่อน
คอยๆ เอยขึ้น
“ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง ทานอาวุโสไมไดลอเลนหรอกกระมัง” ถึงแมวา
หานลี่จะเยือกเย็นขนาดไหน เมื่อไดยินคำนี้ก็ยังตกใจจนหนาถอดสี
‘ถึงแมวาขาจะไมเคยบรรลุระดับเทพแปลง แตก็เคยศึกษาสิ่งที่เกี่ยวของกับระดับ
นี้มา ความสามารถเชนนี้เปนเพียงความสามารถขั้นพื้นฐานที่สุดของผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลง’ เทพขับเคลื่อนเอยอยางราบเรียบ
“ขาไมไดหมายความวาผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงไมมีความสามารถเชนนี้
แตผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงจะลงมาอยูบนโลกทำไม ไมไดบอกวาหลังจากบรรลุ
ระดับเทพแปลงแลวจะขึ้นไปอยูแดนวิญ ญาณไดหรอกหรือ?” หลังจากที่หานลี่สูด
หายใจลึกๆ เขาไปเฮือกหนึ่ง ในที่สุดก็เยือกเย็นลง
‘ถึงแมวาตอนนั้ น ขาจะท อ งเที่ ยวไปทั่ วยุท ธภพ แต ก็ไม เคยพบผูบ ำเพ็ ญ เพี ย ร
ระดับเทพแปลงสักคน แตสามารถรับรองไดวาในใตหลานี้มีผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพ
แปลงอยูจริงๆ และไมใชแคคนสองคน การมีพลังขึ้นไปแดนวิญญาณไดกับการขึ้นไป
ไดจริงๆ นั้นมันคนละเรื่องกัน สถานการณที่เปนรูปธรรมขาก็ไมแนใจนัก แตหลังจาก
ที่บรรลุระดับเทพแปลงแลว คนเหลานี้ไมเหมือนกับผูบำเพ็ญเพียรทั่วๆ ไป ที่มักจะ
เปดเผยนี้ตัวตอสาธารณชน มิเชนนั้นจะประสบกับหายนะ’ เทพขับเคลื่อนเอยอยาง
ฉงนสนเทห
“มีเรื่องเชนนี้ดวย! ทานอาวุโส ทานไมเคยเอยเรื่องนี้กับขามากอนเลย”หานลี่
พลันตกตะลึง
‘หึ เจายังไมบรรลุระดับกอกำเนิดขั้นปลายเลยดวยซ้ำ เรื่องเหลานี้บอกเจาไปจะ
มีประโยชนอะไร เหตุผลหลักๆ นั้นก็เพราะวาหลังจากเจาบรรลุระดับเทพแปลงแลว
ก็จะเขาใจเอง มิเชนนั้นคงไมไดอยูตั้งแตอดีตจนมาถึงปจจุบันหรอก ผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลงทั้งหมดตาง ก็เหมือนกับทำสัญญากันเอาไว ทั้งหมดจึงหายตัวไปใน
โลกของผูบำเพ็ญเพียร’ เทพขับเคลื่อนเอยอยางไมสบอารมณนัก
“นั่นมันก็ใช เชนนั้นผูที่อยูชนชั้นลางก็มีโอกาสจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพ
แปลงหรือ?” หานลี่หัวเราะอยางขมขื่นออกมา
‘ก็ อ าจจะเป น ไปได ต อ ให ไม ใช ร ะดั บ เทพแปลง คนผู นี้ ก็ ม อบความรู สึ ก น า
หวาดกลัวใหแกขา ขาวาเจาอยาไปลวงเกินเขาจะดีกวา’
“ทานอาวุโสเองก็รูสึกวาคนพวกนี้อันตรายสินะ ขานึกวาตัวเองคิดไปเองเสียอีก
ดังนั้นเมื่อครูตอนที่อยูชั้นหนึ่ง ถึงไดเปลี่ยนเรื่อง ในเมื่อคนผูนี้วิ่งไปถึงเทียนหนาน
แลวมาปรากฏตัวในตาจิ้น แถมยังใชฐานะลูกศิษยระดับต่ำ ดูแลวจะตองมีจุดประสงค
แน พวกเราทำเปนไมรูเรื่องจะดีกวา” หลังจากที่หานลี่ขบคิดแลวก็เอยขึ้น
‘ก็คงทำไดเพียงเทานี้ ทวาหากเปนไปได รีบออกจากสำนักยันตสวรรคใหไวที่สุด
จะดีกวา หากคนผูนั้นคือผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงจริงๆ แลวคิดจะสังหารคนปด
ปาก ชีวิตนอยๆ ของเจาก็ตกอยูในอันตรายแลว’ เทพขับเคลื่อนเอยเตือน
“ขารูผลไดผลเสียของมันอยูแลว ทวาหากรีบจากไปตอนนี้ เกรงวาจะเปนการยั่ว
ใหอีกฝายรูสึกเปนปฏิปกษ และทำใหเรื่องแยลง ขาวาอยูที่สำนักยันตสวรรคตามแผน
เดิมสักสองสามวันจะดีกวา ในเมื่อเขายอมฝงชื่อแซตัวเองหลบซอนตัวอยูที่นี่ ตอให
เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงจริงๆ ก็คงมีขอจำกัดอะไรสักอยางเหมือนที่ทาน
อาวุโสกลาว มิเชนนั้นจะหลบๆ ซอนๆ อยูที่นี่ทำไม จากพลังยุทธระดับเทพแปลง ใน
ใตหลานี้มีสถานที่ใดบางที่ไมอาจกาวเดินไดอยางองอาจ” หานลี่สั่นศีรษะอยางสงบ
‘เจาก็พูดมีเหตุผล ตาเฒาเองที่ขบคิดไมรอบคอบ’ เทพขับเคลื่อนหัวเราะแหงๆ
ออกมา เอยชื่นชมอยางหาไดยากออกมาประโยคหนึ่ง
‘ทวา สองสามวันที่ผานมานี้ เจาก็ฟนฟูโลหิตบริสุทธิ์ที่เสียหายไปจากการใชโลหิต
หลีกหนีไดพอสมควรแลว เริ่มหลอมหุนเชิดของตาเฒาไดแลวกระมัง’
เทพขับเคลื่อนเปลี่ยนหัวขอบทสนทนา พลางเอยอยางเฝารอ
“อืม ทานอาวุโสไมพูด ขาก็เตรียมวาหลังจากสังหารมังกรวารีชั่วรายสองสามตัว
นั่นแลวจะเริ่มหลอมหุนเชิดทันที ถึงอยางไรเสียเกล็ดของมังกรวารีเพลิงสีชาดนั่น ก็
จำตองไดมากอนแลวคอยวากัน สวนขนหงสดำนั่น กลับไมตองรีบรอน หลังจากหลอม
หุนเชิดเสร็จคอยจัดการเรื่องนี้” หานลี่ดูเหมือนวาจะมีแผนการอยูในใจตั้งนานแลว
จึงเอยออกมาอยางไมตองคิด
‘ฮาๆ! เชนนั้นก็ได กอนถึงชวงเวลาที่จำกัดของตาเฒา ไดเห็นหุนเชิด ก็นับวาไมมี
อะไรใหเสียใจแลว’ เทพขับเคลื่อนไดยินคำพูดนี้ ก็หัวเราะออกมาเสียงดังดวยความ
พึงพอใจ
หานลี่ไดยินแลวพลันหัวเราะนอยๆ ออกมา ไมไดกลาวอะไรอีก แตกลับสะบัด
แขนเสื้อ
ธงอาคมสองสามดามพุงออกมาจากแขนเสื้อ หลังจากหมุนวนรอบหนึ่งก็กระจาย
ออกไปทั้งสี่ทิศ ลำแสงสวางวาบ ธงอาคมทั้งหมดก็สลายหายไป เขตอาคมสีเขียวออน
ปรากฏขึ้นกลางอากาศ หอหุมทั้งหอคอยหลังหนึ่งเอาไวภายใน
ถึงแมวาในใจจะรูสึกวาอีกฝายไมอาจลงมือกับเขาในทันที แตเพื่อความรอบคอบ
เขาวางเขตอาคมปกปองเอาไวกอนดีกวาแลวคอยวากัน
หลังจากทำทุกอยางเสร็จแลว หานลี่ถึงไดเดินออกไปสองกาวอยางวางใจ หยิบ
คัมภีรที่เซี่ยงจือหลี่วางไวบนชั้นวางของออกมามวนหนึ่ง แผจิตสัมผัสเขาไปอานดู
เนื้อหาดานใน
ตอนที่ 963 ยันตลับกับมังกรวารีชั่วรายระดับแปด
หานลี่อยูในหอคัมภีรของสำนักยันตสวรรคสามวันสามคืน อานคัมภีรที่เกี่ยวของ
กับการเขียนยันตทั้งหมดไปหนึ่งรอบ ในนั้นมีเคล็ดวิชาลับของการเขียนยันตที่เปน
เอกลักษณอยูไมนอยจริงๆ เขาจึงคัดลอกสิ่งเหลานี้ไวชุดหนึ่งอยางไมเกรงใจ เพื่อจะได
ศึกษาอยางละเอียดอีกครั้งในยามวาง
และยิ่งไปกวานั้นหานลี่ยังเขาใจยันตลับอีกสองชนิดของสำนักยันตสวรรคจากใน
คัมภีรเหลานี้ ผลลัพธคือทำใหเขารูสึกตื่นตกใจ
ยันตแปลงวิญญาณ คือการนำยันตวิเศษใสเขาไปในรางกายโดยเฉพาะชนิดหนึ่ง
และฝกฝนมันในจุดตันเถียนทั้งวันทั้งคืน หลังจากนั้นก็จะใชยันตไดอยางไมมีที่สิ้นสุด
ยันตวิเศษชนิดนี้มีลักษณะคลายๆ กับสมบัติอาคม ถาหากฝกฝนถึงระดับหนึ่ง ก็ไม
จำเปนตองใชมือเทาทั้งสี่มาแบกรับการแวงกัดของเคล็ดวิชา
‘ยันตเกราะสวรรคหกชั้น’ เปนสิ่งที่ยืมพลังของยันตวิเศษมาผนึกไอวิญญาณฟาดินที่
อยูใกลๆ จนกลายเปนเคล็ดวิชาลับเกราะปองกันหกชั้น ขอแคมีไอวิญญาณฟาดินอยู
ตลอด เกราะปองกันหกชั้นก็จะสรางขึ้นใหมอยางตอเนื่องไมหยุด เปนหนึ่งในเขตวิชา
ลับที่ใชวิญ ญาณฟาดินเพียงไมกี่ชนิดโดยที่ไมตองมีพ ลังยุทธอยูในระดับเทพแปลง
นับเปนสิ่งที่นาตื่นตะลึง
ยันตแปลงวิญญาณหนึ่งในสามสุดยอดยันตลับ ขอแคบรรลุระดับหลอมรวมขึ้นไป
ก็สามารถใชเพลิงจิต วิญ ญาณหลอมรวมฝ กฝนได แ ล ว ดั งนั้ น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
หลอมรวมในอดีตของสำนักยันตสวรรคจึงจำเปนตองมีความสามารถนี้ ทวาอานุภาพ
ของยันตแปลงวิญญาณจะมากหรือนอย นอกจากตองดูพลังยุทธของผูบำเพ็ญเพียรที่
ฝกฝนยันตวิเศษชนิดนี้และระยะเวลาในการฝกฝนแลว ยังตองดูวัตถุดิบที่ใชเขียนยันต
และระดับของเจาของดวย
แตยันตเกราะสวรรคหกชั้นนั้นไมเหมือนกัน ขอแคเขียนออกมาได ไมวาผูใดก็
สามารถใชได และประสิทธิภาพของมันจะมากหรือนอย ก็ถูกกำหนดดวยไอวิญญาณ
ฟาดิน ไอวิญญาณยิ่งหนาแนนเทาไหร อานุภาพของยันตก็ยิ่งนาตื่นตะลึงขึ้นเทานั้น
แตตามบันทึกของอาวุโสสำนักยันตสวรรคในอดีตนั้น เคล็ดวิชายันตเกราะสวรรค
หกชั้นไดหายไปอยางลึกลับ ตั้งแตที่อรหันตยันตสวรรคละสังขารแลว นี้จึงทำใหผู
บำเพ็ญเพียรของสำนักยันตสวรรคในตอนนั้นตื่นตระหนก ตอมาชนชั้นสูงของสำนัก
ยันตสวรรคในรุนตอๆ มา ก็มองวาการตามหาเคล็ดวิชาลับนั้นกลับมาเปนสิ่งที่สำคัญ
ที่สุดของสำนัก แตกลับไมพบรองรอยเลยแมแตนอย ไมเคยไดอะไรกลับมา หลังจากที่
สำนักยันตสวรรคตกต่ำลง แนนอนวาจึงไมมีกำลังจะคนหาตอไปอีก เรื่องนี้จึงคอยๆ
ถูกลืมเลือนไป
สวนยันตลดวิญ ญาณนั้น เปนเพราะปญ หาดานวัตถุดิบ ตั้งแตคิดคนขึ้นก็มีคน
เขียนไดแคไมกี่คนเทานั้น
ดังนั้นถึงแมสำนักยันตสวรรคจะเรียกมันวาสามสุดยอดยันตลับ แตความจริงแลว
สิ่งที่มีประโยชนที่สุดก็มีเพียง ‘ยันตแปลงวิญญาณ’ เทานั้น
หานลี่อานคัมภีรเกี่ยวกับพวกนี้เสร็จ ก็รูสึกสนใจยันตวิเศษที่เหลืออีกสองชนิด
เป น อย า งมาก ไม ว า จะชนิ ด ไหนก็ ดู เหมื อ นว า จะมี ค วามสามารถไม น อ ยจริ ง ๆ
โดยเฉพาะยันตแปลงวิญญาณ คาดไมถึงวาจะสรางหายนะอันยิ่งใหญได นี่เปนวิธีที่ดี
ที่สุดในการรักษาชีวิตในบางชวงเวลา
สามวันผานไป หานลี่อานคัมภีรมวนสุดทายจบก็ลุกขึ้นจากเตียง บิดขี้เกียจไปมา
แผจิตสัมผัสลงไปที่ชั้นลาง สัมผัสไดวาเซี่ยงจือหลี่รออยูที่ชั้นหนึ่ง
หานลี่พลันขมวดคิ้ว
ศิษยพี่เซี่ยงผูนี้ทำใหเขากังวลใจอยูนาน สองสามวันนี้เขาประพฤติตัวดีเปนพิเศษ
นอกจากนั่งสมาธิฝกบำเพ็ญเพียรแลว ก็ไมไดทำอะไรอีก และไมไดออกจากหอคอย
แมแตกาวเดียว
ทวาสิ่งที่ทำใหเขารูสึกขบขันก็คือ ตั้งแตที่เขาอานคัมภีรวันแรก ดานนอกหอคอย
ก็ มี ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ สรางปราณสองสามคนของสำนั ก ยั น ต ส วรรค หมุ น เวี ย น
สับเปลี่ยนกันมารอเขาอยูที่ดานนอก ทาทางเหมือนกลัววาเขาจะจากไปอยางไมร่ำลา
อยางไรอยางนั้น
หลังจากขบคิดแลว
หานลี่ก็เดินลงไปดานลาง
“ทานอาวุโส ทานอานทั้งหมดจบแลวหรือ?” ชายชราเห็นหานลี่ปรากฏตัว ก็เก็บ
คัมภีรในมือทันที เอยขึ้นพรอมใบหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม
“อืม! อานหมดแลว สหายตามสบายเถิด!” หานลี่หั วเราะน อยๆ ออกมา เอย
อยางมีเลศนัย จากนั้นคนก็เดินออกไปจากหอคอยอยางสบายๆ
ชายชรามามองเงาแผ น หลั ง ของหานลี่ อ ยู ที่ เดิ ม ไม ข ยั บ เขยื้ อ น แววตาเปล ง
ประกายสวางวาบ แตทันใดนั้นก็ฟนฟูกลับมาเปนปกติ
จะวาไปแลวก็เปนเรื่องบังเอิญ ผูที่รอหานลี่อยูดานนอกในตอนนี้ คือผูบำเพ็ญ
เพียรแซหยางที่มาสงเขาผูนั้น
เมื่อเขาเห็นหานลี่ออกมา ก็คารวะพรอมเอยทักทายทันที และเชิญ หานลี่ไปที่
ตำหนักใหญอีกครั้งดวยทาทีเคารพนบนอบ
ในเมื่ออานคัมภีรล้ำคาของอีกฝาย ก็ตองเห็นแกหนาอีกฝายสักหนอย หานลี่จึง
พยักหนาและตอบตกลง
ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนจึงสงยันตถายทอดเสียงสายหนึ่งออกไปดวยความปติ
ยินดี และหานลี่ก็ตรงไปยังตำหนักใหญ
ผูที่รอหานลี่อยูที่ตำหนักใหญ นอกจากชนชั้นสูงของสำนักยันตสวรรคสองสามคน
ที่เคยพบหนากันครั้งที่แลวแลว ก็มีผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมที่แปลกหนาอีกสอง
คน เปนชายหนึ่งหญิงหนึ่ง อายุประมาณสี่สิบป
หลังจากชายชราแซเวินและพวกคารวะหานลี่แลว อาวุโสสำนักยันตสวรรคผูนี้ก็
แนะนำทันทีวา
“สองทานนี้คือสหายฉางจากภูเขาแสงทองและสหายเซี่ยจากหุบเขาตะวันกระจาง
สหายทั้งสองไดยินวาทานอาวุโสใหเกียรติมาเยี่ยมเยียนสำนักขา จึงตั้งใจมาคารวะ
ทานอาวุโส และไดรอทานอาวุโสอยูที่สำนักของขามาหนึ่งวันเต็มๆ แลว”
“ออ! ลำบากสหายทั้งสองแลว สองสามวันที่ผานมาผูแซหานศึกษาเคล็ดวิชาวิชา
ยันตอยู ทำใหสหายทั้งสองรอนานแลว” หานลีม่ ีสีหนาราบเรียบ ดูไมออกวากำลังดีใจ
หรือกำลังโกรธเกรี้ยวขณะเอย
“ที่ไหนกันเลาขอรับ! วันนี้ไดพบทานอาวุโส ถือวาเปนวาสนาของพวกเรา”
หลังจากที่บุรุษและสตรีสองคนนั้นกวาดตามองพลังยุทธของหานลี่ ชั่วขณะนั้น
พลันประสานมือคารวะดวยความตื่นตระหนกพรอมกัน ความจริงแลว ตอนแรกที่เจา
สำนักทั้งสองไดยินวา สำนักยันตสวรรคมีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดคนหนึ่งมา
เยือนนั้น ทั้งสองก็เชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่ง
ถึงอยางไรเสียสถานการณ ของสำนั กยัน ตสวรรค ทั้ งสองคนจะไม รูไดอ ยางไร
ถึงแมวาทั้ งสามสำนักจะเปน สำนักเล็กๆ เชน กัน และชวยเหลือกัน และกั น มาโดย
ตลอด สำนักยันตสวรรคก็ยังเปนสำนักที่ออนแอที่สุดในทั้งสามสำนัก ผูบำเพ็ญเพียร
ระดับกอกำเนิ ดจะมาที่สำนักเล็กๆ เชน นี้ ไดอยางไร ทวาหากมีความสัมพั นธกับผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดคนหนึ่ง ประโยชนที่จะไดรับไมตองพูดถึงก็รูดีกันอยูแลว
ทั้งสองคนไมมีทางนั่งอยูที่ สำนั กได จึงตรงมายังภู เขาไผขาวในคื น นั้ น เพื่ อมา
ยืนยันเรื่องนี้ดวยตัวเอง
ตอนนี้ไดพบกับหานลี่ที่มีพลังยุทธลึกล้ำจนไมอาจคาดเดาไดแลว แนนอนวาจึงไม
อาจรูสึกสงสัยหรือคลางแคลงใจไดอีก
หลังจากที่หานลี่นั่งลง และแสดงทาทีเชื้อเชิญเล็กนอยแลว ผูบำเพ็ญเพียรระดับ
หลอมรวมทั้งสามคนและเยวเจินถึงไดกลานั่งลงเชนกัน แนนอนวาผูบำเพ็ญ ระดับ
สรางปราณที่เหลือตางก็ทำไดเพียงยืนกมหนาลงต่ำอยูขางๆ
“ทานอาวุโสไดประโยชนอะไรจากในหอคัมภีรหรือไม ถึงแมวาหุบเขาของเราจะ
ไมเชี่ยวชาญในการเขียนยันต แตก็มีคัมภีรการเขียนยันตอยูเล็กนอย หากทานอาวุโส
หานสนใจละก็ ไปเยี่ยมชมดูสักครั้งไดนะเจาคะ” ถึงแมวาผูบำเพ็ญหญิงแซเซี่ยผูนั้น
จะมีหนาตาธรรมดาๆ แตน้ำเสียงกลับไพเราะเสนาะหู
“ไมจำเปนตองยุงยากขนาดนั้น ขามีธุระจริงๆ จำตองออกจากที่นี่ไปจวนหลินเจียง
แลว” หานลี่เหลือบมองสตรีผูนั้นแวบหนึ่งแลวหัวเราะอยางแผวเบาออกมา
“จวนหลินเจียง? หรือวาทานอาวุโสมาตามหามังกรวารีชั่วรายเหลานั้น”
บุรุษแซฉางอีกคน รองอุทานดวยความตกใจออกมา
“พวกเจารูไดอยางไร?” หานลี่หนาเปลี่ยนสี พลางเอยถาม
“ชวงนี้ผูบำเพ็ญเพียรที่จะไปจวนหลินเจียงตางก็มาเพราะมังกรวารีเหลานั้น ขาว
ของทานอาวุโส เกรงวาจะไมใชขาวลาสุดสินะ”
ผูบำเพ็ญเพียรแซฉางเอยอยางลังเลออกมา
“ขาไดขาวนี้มาจากยานรานคาเมื่อครึ่งปกอน ถึงไดรีบมาจากที่ที่อยูหางออกไป
หมื่นลี้ ไดยินวามังกรวารีชั่วรายเหลานั้นนาจะอยูในระดับเจ็ด คงจะไมถูกผูบำเพ็ญ
เพียรคนอื่นสังหารไปงายๆ หรอกกระมัง” หานลี่ที่มีสีห นาเครงขรึมขึ้น พลางเอย
อยางเชื่องชา
“เปลาขอรับ แตในการดักซุมเมื่อไมนานมานี้ ถึงแมวาจะสังหารมังกรวารีชั่วราย
ไดตัวหนึ่ง แตก็มีผูบำเพ็ญเพียรที่มาสังหารมังกรวารีถูกกลืนกินไปไมนอย แมกระทั่งผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดคนหนึ่งยังไดรับบาดเจ็บหนัก” อาวุโสเวินรีบรอนอธิบาย
“ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดก็ไดรับบาดเจ็บ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หานลี่รูสึก
ประหลาดใจเล็กนอย
“เพราะวาจูๆ ก็มีมังกรวารีสีฟาที่แปลงกายแลวระดับแปดตัวหนึ่งเพิ่มขึ้นมาใน
กลุมมังกรวารีชั่วรายเหลานั้น ผูบำเพ็ญเพียรแตเดิมที่คิดจะลอบโจมตีไมทันไดระวังตัว
จึงเสียเปรียบ ตอมาไดยินวาอาวุโสของสำนักมหาสมุทรทักษิณสองสามคนไดรวมมือ
กันโจมตี ถึงไดโจมตีจนฝูงมังกรวารีลาถอยไป แตก็ไมมีทางสังหารพวกมันไดอยาง
งายดาย มังกรวารีเหลานี้จึงตรงไปที่เกาะสองสามแหงตรงชายหาดเพื่อซอนตัว และ
ลอบโจมตีผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรที่ อยูตัวคนเดียวและเรือของคนธรรมดาไมห ยุด ตอนที่ ผู
บำเพ็ ญ เพี ยรระดั บ ก อ กำเนิ ด รวมมื อ กั น ไลต ามไป ก็ กระโจนเข าไปในสวนลึ กของ
มหาสมุทรและหลบหนีไป ชวงนี้ดูเหมือนวาความวุนวายจะยิ่งมากขึ้นเรื่อย จัดการได
ยากจริงๆ ได ยิ น วา เพราะเหตุ นี้ ส ำนั ก มหาสมุ ท รทั ก ษิ ณ จึ งได เชิ ญ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
ระดับสูงหลายคนมารวมตัวกันที่เกาะฉยงอิง เตรียมเปดประชุมเกี่ยวกับการสังหาร
มังกรวารีเหลานี้ ถึงอยางไรเสียมังกรวารีระดับแปด ก็หาไดยากอยางสุดๆ” ครั้งนี้ชาย
ชราแซเวินเอยนำ
“มังกรวารีระดับแปด?” หานลี่เอยพึมพำกับตัวเอง ในหัวกลับมีมังกรวารีระดับ
แปดที่ถูกเขาสังหารครั้งแรกสวางวาบขึ้น
ถึงแมจะบอกวาเปนอสูรปศาจระดับแปด แตสำหรับอสูรวิญญาณฟาดินนั้น เกรง
วาพละกำลังที่แทจริงของมังกรวารีระดับแปดนาจะเหนือกวาผูบำเพ็ญ เพียรระดับ
กอกำเนิดขั้นกลางขั้นหนึ่ง บวกกับที่อยูในมหาสมุทร ก็ยิ่งหลบหนีไดราวกับมัจฉาใน
สายธาร มินาเลาผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงจำนวนมากขนาดนี้ถึงไมอาจทำอะไรได
แตเขาไมไดมาเพื่อมังกรวารีสีฟา หลังจากพิจารณาเล็กนอยก็เอยถามขึ้นวา
“ขาจำไดวาหนึ่งในมังกรวารีชั่วรายเหลานั้นจะมีมังกรวารีเพลิงที่มีสีแดงอยูตัว
หนึ่ง ดูเหมือนวาจะเปนมังกรวารีเพลิงสีชาดในตำนาน อสูรปศาจตัวนี้อยูที่เกาะใน
มหาสมุทรหรือไม?”
“มังกรวารีเพลิงสีชาด...อืม มีมังกรวารีสีแดงตัวหนึ่งที่ อยูริมทะเลจริงๆ จะใช
มังกรวารีเพลิงสีชาดจริงหรือไมนั้นก็ไมคอยแนใจนัก” บุรุษแซฉางดูเหมือนวาจะรู
เรื่องนี้อยูไมนอย จึงตอบกลับอยางไมตองขบคิด
“นั่นก็เพียงพอแลว!” หานลี่พยักหนาดวยความพึงพอใจ
ผูบำเพ็ญเพียรในตำหนักใหญเห็นหานลี่มีสีหนาผอนคลายลง ก็รูสึกเบาใจลง
ตอนนั้น ชายชราแซเวินและอีกสองคนที่เหลือก็สบตา จูๆ ก็เอยถามอยางมีชั้นเชิงวา
“ทานอาวุโสหานมีพลังยุทธที่นาตกตะลึงเชนนี้ ไมทราบวากอนหนานี้ฝกบำเพ็ญ
เพียรอยูที่ใด คงเปนอาวุโสของพรรคใหญๆ พรรคไหนสักพรรคสินะ”
“หึๆ ผูแซหานมีตนกำเนิดที่คอนขางหางไกล และไมใชอาวุโสของพรรคในตาจิ้น
ไหนสักพรรค” แววตาของหานลี่สวางวาบ หลังจากเหลือบมองทั้งสามแวบหนึ่ง ก็อม
ยิ้มออกมา
ถูกสายตาที่เดาทางออกของหานลี่กวาดมองมา ชั่วขณะนั้นชายชราแซเวินและ
พวกก็ใจเตน แตหลังจากไดยินคำตอบก็อดที่จะตกตะลึงระคนดีใจไมได
“ทานอาวุโสศึกษายันตลดวิญญาณของสำนักขาแลว ไมทราบวาคิดวาวิชาเขียนยันตนี้
เปนอยางไร เขาตาทานอาวุโสหรือไม” หลังจากลังเลเล็กนอย ชายชราเวินก็เลยถาม
ขึ้นอีกครั้งดวยความระมัดระวัง
“สหายเวินมีอะไรก็พูดมาตรงๆ เถิด ไมตองออมคอมหรอก หรือวาเจาอยากใหผู
แซหานเขารวมสำนักของเจา” หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง พลางเอยอยางไม
เกรงใจ
“ทานอาวุโสโปรดอยาเขาใจผิดขอรับ ชนรุนหลังจะกลาคาดหวังถึงเพียงนั้นได
อยางไร ชนรุนหลังแคอยากถามวา ทานอาวุโสจะยอมเปนอาวุโสแขกผูมีเกียรติของ
สามสำนักเราหรือไม!”
เมื่อไดยินน้ำเสียงของหานลี่ดูไมคอยสบอารมณ นัก ชายชราแซเวินพลันตกใจ
เอยออกมาอยางไมสนใจอะไรอีก
“อาวุโสแขกผูมีเกียรติ!” แรกเริ่มหานลี่พลันตะลึงงัน ทันใดนั้นก็หรี่ตาทั้งสองขางลง
เรื่องของอาวุโสแขกผูมีเกียรตินั้น หานลี่รูมาบางเล็กนอย นี่เปนสิ่งที่สำนักเล็กๆ
ในต าจิ้ น เท านั้ น ถึ งจะมี เป น ตำแหน งพิ เศษที่ ส ำนั ก จัด ไวให ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รสั น โดษ
ระดับสูงโดยเฉพาะ ถึงแมวาฟงดูแลวจะไมตางอะไรกับอาวุโสนัก แตความจริงแลวทั้ง
สองตำแหนงกลับแตกตางกันเปนอยางมาก
อาวุโสแขกผูมีเกียรติสำหรับสำนักเล็กๆ นั้น เปนเพียงอาวุโสในนามเทานั้น ทั้งไม
ตองทำตามกฎของสำนัก และไมจำเปนตองฟงคำสั่งจากผูใดในสำนัก สิ่งที่ตองทำ
เพียงอยางเดียวก็คือ เมื่อสำนักเล็กๆ เหลานี้พ บปญ หาอะไร อาวุโสแขกผูมีเกียรติ
เหลานี้ก็จะลงมือชวยไดอยางเปดเผย แตการชวยเหลือเชนนี้ก็ไมไดมีการบังคับใดๆ
มันขึ้นอยูกับวาอาวุโสแขกผูมีเกียรติเหลานี้เปนคนดีหรือไม
แนนอนวาเพื่อเปนการตอบแทน อาวุโสแขกผูมีเกียรติเหลานี้จะไดรับเงินเดือน
และการดูแล แตกลับไมจำเปนตองเปนอาวุโสอยางเปนทางการเลยสักนิด แมกระทั่ง
บางคนยังอยูเหนือกวาอาวุโสธรรมดาๆ
สาเหตุที่มีสถานการณเชนนี้เกิดขึ้น แนนอนวาเปนเพราะสำนักเล็กๆ ในตาจิ้นมี
จำนวนมากเกินไป เทียบกับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดแลว ก็ปรากฏตัวอยูนอย
มาก ไมตองพูดถึงสำนักเล็กๆ เหลานี้ ตอใหเปนสำนักระดับกลางบางครั้งก็อาจจะไมมี
ผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดปรากฏตัว ภายใตสถานการณ เชนนี้ แนนอนวาจึงมี
เพี ย งต อ งพยายามดึ ง ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รสั น โดษระดั บ ก อ กำเนิ ด มาเป น ที่ พ่ึ ง พิ ง เพื่ อ
รับประกันความมั่นคงของสำนัก
ทวาผูบำเพ็ญเพียรสันโดษระดับสูงทั่วๆ ไป ไมชอบทำตามกฎของสำนักใดๆ แต
ประโยชนที่สำนักเหลานี้เสนอให กลับทำใหพวกเขาสนใจบางในบางครั้ง นี่ถึงไดมี
อาวุโสแขกผูมีเกียรติเกิดขึ้น ตำแหนงฐานะเชนนี้จึงไมมีในเทียนหนาน
ตอนที่ 964 มังกรวารีชั่วราย
หานลี่ไดยินเงื่อนไขที่สำนักสักยันตสวรรคเสนอขึ้นอยางระมัดระวัง มุมปากก็หยัก
ขึ้นเล็กนอย เผยรอยยิ้มจางๆ ออกมา
“ใหขาเปนอาวุโสแขกผูมีเกียรติของสามสำนักของพวกเจา พวกเจาคิดวาขาจะ
ยอมตกลงหรือ?”
“ชนรุนหลังรูวา สำนักเล็กๆ อยางพวกเราไมมีคุณสมบัติพอจะเซนไหวบูชาเหลา
ยอดฝมือชั้นสูง แตพวกเราแคอยากใหทานอาวุโสลงมือชวยแกไขปญหา ณ ตอนนี้
เทานั้น วันขางหนาจะเปนเพียงในนามก็ได มิกลารบกวนทานอาวุโสอีก” แตเดิมชาย
ชรามีทาทีไมสบายใจ แตเมื่อเห็นหานลี่ไมไดมีท าที โกรธเกรี้ยวก็รูสึกผอนคลายลง
พลางรีบรอนอธิบาย
“ความหมายของเจาคือ ขอแคลงมือชวยครั้งหนึ่ง วันขางหนาผูแซหานก็ไมตอง
ทำอะไรแลว?” แววตาของหานลี่เปลงประกายขณะเอย
“ใชแลวขอรับ พวกเราหมายความเชนนั้น แนนอนวาสามสำนักของพวกเราไมมี
ทางปลอยใหทานอาวุโสลงมืออยางเปลาประโยชนแน ในเมื่อทานอาวุโสสนใจเคล็ด
วิชาการเขียนยันต สำนักยันตสวรรคของพวกเราก็ยินดีจะมอบเคล็ดวิชายันตแปลง
วิญญาณใหกับทานอาวุโส ภูเขาแสงทองและหุบเขาตะวันกระจางก็จะมอบเคล็ดวิชา
ลับใหเชนกัน ยินดีใหทานอาวุโสไดเรียนรู นอกจากนี้พวกเรายังเตรียมศิลาวิญญาณไว
ประมาณสองสามหมื่นกอน หวังวาทานอาวุโสจะยอมรับมันไว”
เรื่องมาถึงขั้นนี้แลว ชายชราแซเวินจึงเอยเงื่อนไขออกมาเสียเลย เขารูดีวาตอให
ใชลูกไมอะไรกลับจะเปนการทำใหอีกฝายยิ่งโกรธเกรี้ยว ไมสูบอกไปตรงๆ จะดีกวา
“ศิลาวิญญาณสองสามหมื่นกอน?” หานลี่เผยรอยยิ้มจางๆ ออกมา
“ศิลาวิญญาณจำนวนนี้มันนอยไปหนอยจริงๆ ทวา วันขางหนาสามสำนักของ
พวกเราจะมอบศิลาวิญญาณเปนบรรณาการใหทานทุกปแน นอกจากนี้ สำนักของขา
ยังยินดีจะมอบยันตแปลงวิญญาณที่บรรพชนผูกอตั้งสำนักในตอนแรกสรางขึ้นดวย
ตัวเองใหดวย คิดดูแลวทานอาวุโสนาจะมีความสามารถมากพอในการหลอมฝกฝน
ยันตชนิดนี้ได” ชายชราแซเวินกัดริมฝปาก เสนอไมตายสุดทายออกมา
“บรรพชนผูกอตั้งสำนัก หรือวาหมายถึงอรหันตยันตสวรรค?” ในที่สุดหานลี่ก็
หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
“ใชแลวขอรับ สมบัติชิ้นนั้นแหละ ไมปดบังทานอาวุโส ถึงแมวายันตวิเศษแผน
นั้นจะเคยสำแดงอานุภาพในมือของทานบรรพชนสำนักขา แตนาเสียดายที่ศิษยชนรุน
หลังอยางพวกเราไรประโยชน กลับไมมีผูใดเคยหลอมฝกฝนสมบัติชิ้นนี้ได ฉะนั้นยันต
วิเศษแผนนี้จึงถูกสืบทอดกันมาในสำนักมาตั้งไมรูกี่ปตอกี่ปแลว พวกเราก็ไดแตมอง
อานุภาพของสมบัติชิ้นนี้ที่คอยๆ หายไปดวยความจนปญญา ถาหากทานอาวุโสเก็บไว
ใชไดก็เปนเรื่องที่ดีตอทั้งสองฝาย” คาดไมถึงวาครานี้เยวเจินจะเปนคนเอยขึ้น
“สำนักของเจามีสมบัติเชนนี้ ผูแซหานก็อยากจะเรียนรูสักหนอย!” หานลี่รูสึก
สนใจขึ้นมา
“ศิษยหลานเยวไปหยิบยันตวิเศษออกมาใหทานอาวุโสดูหนอย” ชายชราแซเวิน
เห็นหานลี่สนใจ ก็ออกคำสั่งอยางรอนรนทันที ถึงแมวาเขาจะเปนผูที่มีพลังยุทธสูง
ที่สุดในสำนักยันตสวรรค แตยันตวิเศษที่อรหันตยันตสวรรคเคยใชในปนั้น กลับทำได
แคครอบครองอยูในมือของเจาสำนักมาตั้งแตอดีต ดังนั้นถึงไดเอยเชนนี้ออกมา
“ขอรับ ทานอาจารยลุง!”
เยวเจินรูตัวดีเปนอยางมาก ฝามือตบไปที่ยามเก็บของทันที ลำแสงสีเขียวสวาง
วาบ กลองไมสีเหลืองออนปรากฏขึ้นในมือ แลวสงใหหานลี่ดวยทั้งสองมือ
หานลี่พลันขมวดคิ้ว และสะบัดมืออยางไมเกรงใจ ดูดกลองไมนั้นเขามาในมือ
พลางกมหนาลงพิจารณา
ผิวของกลองไมนั้นดูไมสะดุดตาเลยสักนิด ดูธรรมดาเปนอยางมาก ฝากลองยัง
แปะยันตวิเศษสีทองเรืองรองแผนหนึ่งเอาไว
หานลี่ขมวดคิ้ว มือหนึ่งปดไปบนฝากลอง ลำแสงวิญญาณสวางวาบ ยันตวิเศษ
รอนลงมาอยางเงียบเชียบ
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นที่มองดูฉากนี้อยูดานขางก็ไมไดรูสึกอะไร ชายชราแซอวิน
และอาวุโสระดับหลอมรวมทั้งสามคนกลับตกตะลึงขึ้นพรอมกัน
ฝมือการใชลมปราณดึงยันตวิเศษออกอยางงายดายเชนนี้ ไมใชสิ่งที่ผูบำเพ็ ญ
เพียรธรรมดาๆ จะทำได ไมเพียงพลังยุทธในรางจะตองแข็งแกรงในระดับหนึ่ง การ
ควบคุมลมปราณจะตองอยูในระดับที่สุดยอดจนนาเหลือเชื่ออีกดวย ขั้นตอนเชนนี้
พวกเขาเคยแต ได ยิ น มาเพี ย งเท านั้ น เวลานี้ เห็ น หานลี่ ใช มั น ด ว ยสี ห น าราบเรี ย บ
แนนอนวาจึงรูสึกเคารพยำเกรงหานลี่ขึ้นมาอีกหลายสวน
เมื่อฝากลองเปดออก ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในกลอง จากนั้นกลุมไอ
วิญญาณไมที่บริสุทธิ์ก็ทะลักออกมา
หานลี่พลันรูสึกตื่นตระหนก
จากที่ชายชราแซเวินกลาวเอาไว ยันตวิเศษมีอายุมากขนาดนี้อานุภาพของมัน
นาจะลดลงไปไมนอย แตตอนนี้ยังมีอานุภาพถึงเพียงนี้ ไมใชสมบัติธรรมดาๆ ดังคาด
ทวาสิ่งที่ทำใหหานลี่รูสึกยินดีก็คือ คิดไมถึงวายันตแปลงวิญญาณนี้จะเปนยันต
วิเศษธาตุไม มันชวยสงเสริมกับวิทยายุทธของเขาไดพอดี การหลอมฝกฝนมันก็งายขึ้น
มากแลว
ยันตวิเศษขนาดเทาฝามือแผนหนึ่ง มีสีเขียวมรกต แตรอบๆ ยังมีตัวอักษรสีทองเงิน
จางๆ อยู ดูลึกลับเปนพิเศษ แตสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของหานลี่ กลับเปนตรงใจกลาง
ของยันตวิเศษที่มีดวงไฟสีมวงออนกลุมเล็กๆ หมุนวนอยู พลางกะพริบวาบไมหยุด
หานลี่ชูมือหนึ่งขึ้น ทั้งฝามือถูกลำแสงสีเขียวชั้นหนึ่งหอหุมเอาไว นิ้วทั้งหาควา
ยันตวิเศษในกลองเอาไว
ลำแสงสวางวาบ ยันตวิเศษสั่นคลอน จูๆ ก็กลายเปนลำแสงสีเขียวสายหนึ่ง พุง
ออกมาจากกลอง
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม พลิกฝามือควาเอาไว
เงาฝามือลวงตาขางหนึ่งปรากฏขึ้น ควายันตวิเศษเอาไวในมือ ผูบำเพ็ญเพียรที่
เหลือยังไมทันไดรองอุทานดวยความตกใจ มือลำแสงก็หายวับไป ยันตวิเศษกลับถูก
หานลี่ดูดเขามาในมือแทน
“นี่คือยันตแปลงวิญ ญาณ มีความพิ เศษดังคาด ไดยิน วาตอนนั้ น อรหั นตยันต
สวรรคเองก็เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายคนหนึ่ง คิดดูแลวยันตแปลง
วิญญาณแผนนี้คงมีจิตวิญญาณดั้งเดิมที่แข็งแกรงมากของอรหันตยันตสวรรค ฉะนั้นผู
บำเพ็ญเพียรทั่วๆ ไปที่จะหลอมฝกฝนมันจึงไมใชเรื่องงาย และยิ่งไปกวานั้นถึงแมวา
จะหลอมฝกฝนสำเร็จ อานุภาพของยันตวิเศษก็คงลดลงเปนอยางมาก จำตองใชจิต
วิญ ญาณดั้งเดิมของตัวเองหลอมขึ้นใหมถึงจะได นี่ไมใชสิ่งที่จะทำสำเร็จไดภายใน
ระยะเวลาสั้นๆ เพียงไมกี่สิบป หากทำไมดี ก็อาจจะเสียเวลาไปเปนรอยป” จองเขม็ง
ไปยังยันตวิเศษที่บิดพลิ้วไปมาราวกับมัจฉาที่หวางนิ้ว หานลี่ก็คลี่ยิ้มออกมา
“เชนนั้นทานอาวุโสคิดวายันตแผนนี้…” ไดฟงหานลี่กลาวเชนนี้ ชายชราแซเวิน
มองสบตาคนอื่นๆ แวบหนึ่งแลว ก็เอยถามขึ้นดวยจิตใจที่หนักอึ้ง
“ทวา นั่นใชกับผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดขั้นตน แตขาอยูในขั้นกลางแลว
เคล็ดวิชาหลักที่ฝกฝนก็ธาตุไม การหลอมฝกฝนยันตแผนนี้จึงงายหนอย ของชิ้นนี้จึง
ถือ วามี ป ระโยชน สำหรับ ขา” หานลี่ ก ลับ เปลี่ ยนหั วข อ บทสนทนา เอ ยด วยสี ห น า
ราบเรียบ ความจริงแลวหานลี่ยังมีอีกประโยคที่ยังไมไดพูดออกไป ถึงแมวาการหลอม
ยันตวิเศษสองครั้งเชนนี้จะตองเสียเวลานาน แตหลังจากที่หลอมสำเร็จแลว อานุภาพ
จะตองเพิ่มขึ้นจากตอนแรกอยางแนนอน
“เชนนั้นทานอาวุโสก็ตกลงแลวใชไหมขอรับ” ชายชราแซเวินตอบกลับดวยความ
ตกตะลึงระคนดีใจ
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นที่เหลือในตำหนักไดยินตางก็มีสีหนาเต็มไปดวยความรอคอย
เชนกัน
“ตกลงหรือไมตกลงนั้นไมตองรีบรอน บอกมากอนสิวาเจาอยากใหขาชวยแกไข
ปญ หาอะไรแลวคอยวากัน ถาหากไมไดยุงยากนัก ขาจะลงมือสักครั้ง ก็ไมใชวาจะ
เปนไปไมได” หานลี่เอยอยางไมคิดเชนนั้น ในเวลาเดียวกันก็สะบัดขอมือเล็กนอย ไอ
วิญญาณกลุมหนึ่งหอหุมยันตวิเศษเอาไวขณะพุงกลับไปในกลองไม จากนั้นพลันกวัก
มือ ฝากลองปดลงอีกครั้ง
“นั่นมันแนนอนอยูแลว ความจริงแลวเรื่องนี้เปนเพียงเรื่องเล็กๆ นอยๆ สำหรับ
ทานอาวุโสเทานั้น เรื่องนี้มันเกี่ยวของกับยานรานคาของสามสำนักเรา สองสามวัน
กอน…” ชายชราแซเวินเห็นหานลี่มีทาทีตรึกตรองวาจะตกลงหรือไม ก็รูสึกดีอกดีใจ
เปนอยางมาก เริ่มเลาเรื่องยานรานคา และพรรคเก็บตะวันดวยความรอนรนออกมา
จนหมดเปลือก
หานลี่ตั้งใจฟงอยางนิ่งเงียบ!
หลังจากผานไปหนึ่งเคอ หานลี่ก็กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไปจาก
ภูเขาไผเขียว ตรงไปยังทิศเหนือ
สองสามวันตอมา โลกผูบำเพ็ญเพียรของเขตหัวอวิ๋นก็มีเรื่องที่ไมเล็กและไมใหญ
นักแพรงพรายออกไป
จูๆ ก็มีผูบำเพ็ญเพียรแซหานที่เรียกตัวเองวาอาวุโสแขกผูมีเกียรติของสำนักยันต
สวรรค ผู ห นึ่ ง ปรากฏตั ว ที่ ป ระตู ข องพรรคเก็ บ ตะวั น ของพรรคสายมาร จาก
ความสามารถที่นาตกตะลึงของผูบำเพ็ ญ เพี ยรระดับกอกำเนิ ดขั้น กลางนั้ น ก็ตอสู
แลกเปลี่ยนประสบการณกับอาวุโสระดับกอกำเนิดเพียงหนึ่งเดียวของพรรคเก็บตะวัน
จนทำใหอีกฝายพายแพไปอยางงายดาย จากนั้นก็จากไปอยางสบายใจ
และวันที่สอง สำนักหงสวิญญาณที่ไดรับการสนับสนุนจากพรรคเก็บตะวันมาโดย
ตลอด ก็ยายยานรานคาจากแตเดิมที่อยูใกลกลับเขตไคเจียงออกไปไกลถึงหมื่นลี้ ไมใช
แค นั้ น พรรคเล็ก ๆ พรรคอื่ น ๆ ได ยิน ขาวนี้ ก็พ ากั น ตื่ น ตระหนก หลั งจากสอบถาม
รายละเอียดอยางชัดเจนแลว ก็ทยอยกันถอนกำลังออกจากใจกลางของเขตไคเจียงไป
หมื่นลี้ ทำใหพื้นที่ขนาดใหญ ตกเปนของสำนักยันตสวรรคและสำนักเล็กๆ ทั้งสาม
สำนัก
ตอนนี้ สำนักยันตสวรรค ภูเขาแสงทอง และสำนักตางๆ ตางก็ลืมตาอาปากได ผู
บำเพ็ญเพียรในสำนักตางก็รูสึกยินดีเปนอยางมาก อาวุโสเจาสำนักเหลานี้ก็ยิ่งรูสึกวา
บรรณาการครั้งนี้ไมเปลาประโยชน มีอาวุโสแขกผูมีเกียรติระดับกอกำเนิดขั้นกลางใน
นาม คิดดูแลวภายในระยะเวลารอยปอำนาจของทั้งสามสำนักคงเปลี่ยนไปจนแทบ
พลิกฝามือ
ในตอนนั้นเอง ในที่สุด ‘สำนักมหาสมุทรทักษิณ’ ผูซึ่งเปนสำนักอันดับหนึ่งของ
เขตหัวอวิ๋น ก็เปดฉากการตอสูกับมังกรวารี รวบรวมผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวม
ขึ้นไปสองรอยกวาคนไดภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงไมกี่วัน ผูบำเพ็ญเพียรระดับตอ
กำเนิดเองก็มีเกือบสิบกวาคน จากนั้นภายใตการรวมกลุมกับสำนักมหาสมุทรทักษิณ
ก็เริ่มแบงกลุมกันกวาดลางมหาสมุทรรอบๆ คนหาที่ซอนตัวของมังกรวารีเหลานั้นไป
ทั่วทุกสารทิศ
บางครั้งที่พบอสูรปศาจระดับต่ำก็สังหารทิ้ง ผูบำเพ็ญเพียรมนุษยในตอนนั้นจึงมี
พลังอำนาจเพิ่มขึ้นเปนอยางมาก มันหมายความวาทำทุกอยางเทาที่จะทำได
แตมังกรวารีเหลานั้นก็เจาเลหเพทุบายเปนอยางมาก เมื่อเห็นสถานการณไมคอย
ดี ก็เอาแตซอนตัวไมยอมออกมา ทำใหผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้ยุงวุนวายอยูหลายเดือน
แตกลับไมพบรองรอยของมังกรวารีรายกาจเหลานี้ ในที่สุดผูบำเพ็ญเพียรจำนวนหนึ่ง
ก็ทนไมไหวสลายตัวกลับไป
หลังจากผานมาอีกเดือนกวา ผูบำเพ็ญเพียรที่ยังคนหามังกรวารีชั่วรายก็เหลือ
เพียงรอยกวาคน ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดก็จากไปแลวหลายคน จึงเหลือเพียง
เจ็ดคนที่รับคำสั่งจากสำนักมหาสมุทรทักษิณเทานั้น
และในสถานการณเชนนี้ จำนวนคนของแตละกลุมจึงเริ่มไมเพียงพอ มังกรวารี
เห็นเชนนั้นจึงฉกฉวยลงมือบุกในทันใด ไมเพียงจะเริ่มโจมตีผูบำเพ็ญเพียรที่อยูตาม
ลำพัง แมกระทั่งมังกรวารีสีฟาระดับแปดตัวนั้นยังโจมตีกลุมผูบำเพ็ญเพียรที่สมาชิก
เหลือนอยไปสองสามกลุมดวย
ถึงแลววากลุมคนเหลานี้จะมีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดเปนผูนำ แตมังกรวารี
สีฟาระดับแปดนั้นมีความสามารถไมนอยจริงๆ มันสำแดงเคล็ดวิชาวารีหลีกหนีได
อยางยอดเยี่ยม หลังจากที่โจมตีในทุกๆ ครั้ง ก็จะหนีเขาไปแอบซอนอยูใตทองทะเล
ไมยอมพัวพันอยูนานนัก ผลลัพธคือไมเพียงจะทำใหอสูรเหลานั้นไมไดรับบาดเจ็บ แต
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมสองสามคนกลับถูกพวกมันกลืนกิน
เวลานี้ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือจึงรูสึกหวาดกลัว สำนักมหาสมุทรทักษิณยิ่งอยูใน
สถานการณขึ้นหลังเสือแลวลงไมได ภายใตความจนปญญานั้นก็ทำไดเพียงพยายาม
รวบรวมกำลังคน ถึงไดกลาสงคนออกทะเลตอไปได
และวันนี้ ก็มีกลุมผูบำเพ็ญเพียรสิบกวาคนที่มีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดเปน
ผู น ำ ค อ ยๆ บิ น ออกไปยั ง ท อ งทะเลและแผ จิ ต สั ม ผั ส ออกไปอย า งระมั ด ระวั ง
ตรวจสอบไปทั่วทุกหนแหง โดยเฉพาะในมหาสมุทร นั่นเปนสถานที่หลักที่ผูบำเพ็ญ
เพียรเหลานี้แผจิตผัสลงไป
ในกลุ ม ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รกลุ ม นี้ หานลี่ แ ปลงกายเป น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รวั ย กลางคน
หนาตาซีดขาวคนหนึ่ง บินอยูรั้งทายสุดของกลุมดวยทาทีไมรีบรอน อยามองวาเขามี
ใบหนาเครงขรึม แตในใจกลับรูสึกกลัดกลุมเปนอยางมาก
ตั้งแตที่การตอสูกับมังกรวารีเริ่มขึ้น หานลี่ก็ใชฐานะผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอม
รวมปะปนเขาไปในนั้น เพื่อเตรียมฉกฉวยประโยชนหากมีโอกาส แตคดิ ไมถึงเลยวาจะ
ไมไดอะไรเลยจนถึงตอนนี้
สองสามเดือนกอนนั้นก็ชางเถอะ ไมไดอะไรก็เปนเรื่องปกติ แตตั้งแตที่มังกรวารี
ชั่วรายปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง กลุมอื่นๆ ตางก็ถูกมังกรวารีชั่วรายลอบโจมตีครั้งสองครั้ง
แตกลุมผูบำเพ็ญเพียรที่เขาเขารวมนั้นกลับเปนกลุมเดียวที่ไมเคยประสบเหตุการณ
เชนนี้เลยสักครั้ง นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกหมดคำพูดจริงๆ และไมรูวาดวงเขาดีเกินไปหรือ
แยเกินไปกันแน
ตอนที่ 965 ปะทะมังกรวารี
ในตอนนี้พวกเขากำลังคนหาอยูที่ทางทิศตะวันตกของเกาะฉยงอิง อยูหางจาก
เกาะฉยงอิงประมาณสองสามหมื่นลี้
สองสามวันกอนก็มีกลุมผูบำเพ็ญเพียรถูกมังกรวารีสีฟาระดับแปดลอบโจมตีที่นี่
ถึงแมจะรูสึกวามังกรวารีตัวนี้เจาเลหถึงเพียงนี้ แตก็ไมนาจะรั้งรออยูที่นี่เพื่อใหพวก
เขาสังหารหรอก สำนักมหาสมุทรทักษิณก็ยังสงกลุมของพวกเขาออกมา เพื่อตามหา
ที่นี่อีกครั้ง ดูวาจะไดรับประโยชนอะไรที่คาดไมถึงหรือไม
เมื่ออยูตอหนาคนมากมายเชนนี้ แนนอนวาหานลี่ไมมีทางแผจิตสัมผัสออกไปเต็ม
อัตรา เพื่อหลีกเลี่ยงไมใหผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดสงสัย จึงแผจิตสัมผัสออกไป
ครอบคลุมบนผิวทะเลในอาณาบริเวณสิบลี้เทานั้น อาณาเขตแคนี้ก็เพียงพอจะทำให
เขาสัมผัสรองรอยของมังกรวารีชั่วรายลวงหนาไดแลว และไมตองกลัววาจะถูกมัน
ลอบโจมตี
ผูบำเพ็ ญ เพี ยรสิบกวาคนจะบิน อยูเบื้ องหน า ถึงแมวาทะเลผืน นี้ จะกวางใหญ
ไพศาล ผ านไปครึ่งวัน พวกเขาก็ ค น หาตามพื้ น ที่ ที่ ว างเอาไว ได ก ว าครึ่ งแล ว แต ก็
เหมือนกับที่คาดการณเอาไวคนกลุมนี้ไมไดรับประโยชนอะไรเลย
“นั่นอะไรนะ?” จูๆ ผูบำเพ็ญเพียรคนหนึ่งที่บินอยูเบื้องหนาก็รองอุทานออกมา
หานลี่ที่กำลังคนหาในมหาสมุทรอยางละเอียดไดยินแลวก็เงยหนาขึ้นไปตามเสียง
รองอุทาน
เห็นเพียง ณ ขอบฟาเบื้องหนา มีหมอกปศาจสีเทาผืนใหญหมุนวนเปนเกลียวอยู
ขนาดประมาณสองสามหมู กำลังพัดมาทางนี้
“เยี่ยมจริงๆ ในนั้นจะตองมีอสูรปศาจระดับสูงอยูเปนแน หามปลอยมันไป”
ชั่วขณะนั้นทามกลางฝูงชนพลันมีเสียงอื้ออึงดังขึ้น ผูบำเพ็ญ เพียรคนหนึ่งรอง
อุทานออกมาดวยความตกตะลึงระคนดีใจ
“ไมปกติ วันกอนมังกรวารีชั่วรายเหลานั้นไมไดเห็นเราก็หนีเตลิดเปดเปงหรือ
เหตุใดวันนี้กลับเปนฝายเขาหาพวกเรา ตองมีแผนอะไรแน” ผูบำเพ็ญเพียรอีกคนหนึ่ง
เผยทาทีสุขุมออกมา พลางเอยอยางลังเล
ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดที่เปนผูนำนั้นคือชายรางใหญวัยกลางคนสวมอาภรณสี
เหลืองทอง เมื่อไดยินคำพูดของคนทั้งสองก็ขมวดคิ้วแนน มองไปทางนั้นแวบหนึ่งตาม
สัญชาตญาณ ผลลัพธคือหนาเปลี่ยนสีไปในทันที พลางตะโกนอยางรอนรนวา
“ระวัง ทางอื่นก็มีอสูรปศาจกำลังพุงเขามาหาพวกเราเชนกัน”
เมื่ อ ไดฟ ง ผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรทั้ งหมดต างก็แ ตกตื่น ทยอยกัน พ น สมบั ติ อ าคมของ
ตัวเองออกมา เตรียมการป องกัน ตั ว ในเวลาเดี ย วกั น ก็ม องไปรอบๆ ด าน แต ไกล
ออกไปหมื่นลี้กลับไมมีเมฆหมอก ไหนเลยจะมีเงารางของอสูรปศาจสักกระผีก
ผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้มองสบตากันแวบหนึ่ง ตอนที่คิดจะซักถามชายรางใหญนั้น
ท อ งฟ ารอบด านก็ มี เสี ยงกรีด รอ งที่ แ หลมสูงของมั งกรวารีดั งขึ้น จากนั้ น จุ ดที่ ไกล
ออกไปก็มีเมฆปศาจหลากสีสันกลุมแลวกลุมเลาปรากฏตัวขึ้น หมุนวนติ้วๆ ไมหยุด
เผยใหเห็นรางของมังกรมังกรวารีรางๆ เกล็ดที่ดูดุดันเรียงรายอยูทั่วเรือนกาย พุงเขา
มาลอมรอบพวกเขาอยางรวดเร็ว
แตสิ่งเหลานี้ยังไมใชสิ่งสำคัญที่สุด สิ่งสำคัญก็คือหมอกปศาจที่ปรากฏตัวจากทาง
ตะวันตกและตะวันออกทั้งสองดานเห็ นไดชัดวาใหญ กวาหมอกปศาจทิ ศทางอื่น ๆ
หลายเทา แยกออกเปนสีฟาและสีแดง ดูสวยสดงดงามอยางที่สุด
“เปนไปไดอยางไร มีอสูรปศาจระดับแปดสองตัว?” ในระยะที่ประชิดเชนนี้ จาก
จิตสัมผัสของผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้ ก็สัมผัสไดถึงความนากลัวของปศาจอสูรที่อยูใน
หมอกปศาจทั้งสองกลุมทันที และมีคนรองอุทานออกมาพรอมกับหนาถอดสี
ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือเองก็หนาซีดขาว เผยแววตาตื่นตระหนกออกมา
เห็ น ได ชั ด วามั งกรวารีชั่ วรายเหล านี้ ไม รู ว าใช วิ ธี อ ะไรถึ งเรีย กอสู ร ระดั บ แปด
เชนเดียวกันออกมาอีกตัวได ตอนนี้กำลังลอบโจมตีพวกเขาทีละตัวๆ อยางไมพอใจ
ตั้งใจจะโจมตีโอบลอมกลุมผูบำเพ็ญเพียร
คาดไมถึงวาอาหารจานหลักจะมาถึงแลว!
“แตกตื่นอะไรกัน รีบสงยันตขอความชวยเหลือไปใหกลุมผูบำเพ็ญเพียรกลุมอื่น
และแยกกันตานทานศัตรูเดี๋ยวนี้ ถาหากมังกรวารีเหลานี้รวมตัวกัน ก็จะทำใหมีพลัง
คุกคามมากยิ่งขึ้น หามคิดหนีเอาตัวรอดเด็ดขาด จากเคล็ดวิชาวารีหลีกหนีของมังกร
วารีชั่วรายเหลานี้ พวกเรามีแตจะโดนสังหารที ละคนเท านั้ น ” ชายรางใหญ ระดั บ
กอกำเนิดผูนั้นยังคงรักษาความสุขุมเยือกเย็นเอาไวได หลังจากตะโกนดวยเสียงอันดัง
ออกมาก็ออกคำสั่งทันที
เมื่อไดฟง ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวม ณ ที่นั่นตางก็ใจชื้นขึ้น ชั่วขณะนั้นก็มี
อยูสองสามคนที่ปลอยยันตถายทอดเสียงสองสามสายขึ้นไปบนทองฟา
“ขาจะไปตอกรกับมังกรวารีชั่วรายระดับแปดหนึ่งในนั้น สวนอีกตัว ใหสองคนที่
มีความคลองตัวไปรั้งเอาไวกอน หามปะทะกับอสูรตัวนั้นโดยตรง แคถวงเวลาไวก็พอ
ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือก็ไปตอกรกับมังกรวารีชั่วรายระดับเจ็ด” จากนั้นชายรางใหญก็
เอยดวยน้ำเสียงเครงขรึม
แตครั้งนี้ผูบำเพ็ญเพียรทุกคนกลับมองสบตากันไปมา
ตอกรกับมังกรวารีระดับเจ็ดยังพอวา ถึงแมวาผูบำเพ็ญเพียรสวนใหญจะไมใชคู
ตอสูถาตอกรเพียงลำพัง แตก็มั่นใจไดวาจะรักษาชีวิตตัวเองเอาไวได ทวาจะใหพวก
เขาสองคนรวมมือกันตอกรกับมังกรวารีระดับแปดอีกตัวนั้น ไมใชเรื่องลอเลนหรอก
หรือ! ถึงแมจะใหไปถวงเวลา ผูบำเพ็ญ เพียรทั่วๆ ไปจะประมือกับอสูรปศาจระดับ
แปดไดนานเทาไหรกันเชียว
“สองคนไม ไหว เช น นั้ น สามคนก็ แ ลวกั น !” ชายรางใหญ ระดั บ ก อ กำเนิ ด เห็ น
สถานการณเชนนี้ ก็เพิ่มคนเขาไปคนหนึ่งอยางรอนใจ
ครั้งนี้เมื่อ เอยปาก จูๆ ก็มีเสียงแหวกอากาศพุ งมา ภาพฉากที่ ท ำให ทุ กคนตก
ตะลึงปรากฏขึ้น
เห็นเพียงจูๆ ดานขางก็มีผูบำเพ็ญเพียรที่มีหนาตาไมสะดุดตาคนหนึ่งพุงขึ้นไปบน
ทองฟา จากนั้นพลันกลายเปนสายรุงสีเขียวที่เจิดจาสาย ตรงไปยังหมอกสีเพลิงที่อยู
อีกดาน
“ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด แถมยังเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลาง!”
เกิดความวุนวายขึ้นทามกลางเหลาผูบำเพ็ญเพียร ทุกคนตางตกตะลึงระคนดีใจ
หลังจากที่ชายรางใหญระดับกอกำเนิดผูนั้นตะลึงงันแลวก็รูสึกดีอกดีใจเชนกัน
หรือวาสำนักมหาสมุทรทักษิณ สัมผัสไดถึงความผิดปกติ จึงจงใจจัดผูบำเพ็ญ เพียร
ระดับกอกำเนิดมาในกลุมของตนเพิ่มอีกคน
ในใจกำลังขบคิดเชนนั้น แตเมื่อเห็นหมอกปศาจเบื้องหนาจะรวมตัวเขาดวยกัน
ชายรางใหญก็ไมมีเวลาใหขบคิดอีก
หลังจากที่รางกายหมุนติ้วๆ แลวก็กลายเปนลำแสงสีฟากลุมหนึ่ง พุงไปหาหมอก
ปศาจสีฟาที่อยูอีกดาน
ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือเห็นผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดแยกกันไปตานทานกับ
อสูรปศาจระดับแปด ก็รูสึกมั่นใจขึ้นพลางแยกกันกลายเปนลำแสงหลีกหนีหลากสีสัน
พุงออกไปยังทิศทางที่เหลือ เพื่อขัดขวางหมอกปศาจเหลานั้นเอาไว
ไมนานทั่วทุกสารทิศก็มีลำแสงวิญญาณสวางวาบขึ้นพรอมกัน เสียงอึกทึกดังขึ้น
อยางตอเนื่องไมหยุด
ที่ไมเหมือนกับทิศทางอื่นก็คือ รางของหานลี่ที่ อยูในหมอกป ศาจกลับไมขยับ
เขยื้อน บนเรือนรางถูกเปลวเพลิงสีมวงออนชั้นหนึ่งหอหุมเอาไว รอบๆ ดานตางมี
ทะเลเพลิงลอมรอบราวกับกำลังจะถูกหลอมเหลวอยางไรอยางนั้น บางครั้งก็มีเสียง
เปรี๊ ย ะๆ ดั ง ออกมา เสี ย งเหล า นี้ เที ย บกั บ เสี ย งอั น น า ตกตะลึ ง ของทิ ศ อื่ น ๆ แล ว
แนนอนวาไมนับวามีคาอะไร
และดานตรงขามที่หางออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง อสูรปศาจครึ่งมังกรวารีครึ่งมนุษย
ที่อยูทามกลางเสาเพลิงก็กำลังมองมาทางเขาดวยความเย็นชา ถึงแมวารางของปศาจ
ตนนี้จะดูเหมือนบุรุษธรรมดาสามัญ แตทั่วเรือนกายกลับมีเกล็ดขนาดเทากำปนสีแดง
สดแวววาวเต็มไปหมด พลางพนเปลวเพลิงสีแดงเล็กๆ ออกมาภายนอก
“มังกรวารีเพลิงสีชาดดังคาด ดูแลวครั้งนี้ขาคงมาถูกที่แลวจริงๆ มังกรวารีเพลิงสีชาด
ระดับแปด แข็งแกรงกวาระดับเจ็ดเปนอยางมาก คิดดูแลวเกล็ดบนรางของเจา คงมี
ประสิทธิภาพยอดเยี่ยมสินะ” จูๆ หานลี่พลันฉีกยิ้มเบิกบานออกมา
“เจามาเพราะขาหรือ” แรกสุดมังกรวารีเพลิงสีชาดรางมนุษยผูนั้นพลันตกตะลึง
ทันใดนั้นแววตาก็ฉายแววสีเขียวสวางวาบ ปากใหญ ๆ เผยอออกพลางเอยขึ้น เผย
เขี้ยวแหลมคมสีขาวราวกับหิมะออกมา ทำใหผูคนอดที่จะสั่นสะทานไมได ในเวลา
เดียวกันเสาเพลิงรอบดานก็ขยายใหญขึ้นอีกสามสวน ดูคุกคามมากยิ่งขึ้น
แตอยามองวามังกรวารีตนมีรูปรางที่ดูนาโหดเหี้ยม ทวาในใจกลับรูสึกไมสบายใจ
ขึ้นมา
ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รมนุ ษ ย ที่ พุ ง เข า มาคนนี้ ไม เพี ย งจะเป น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นกลาง เปลวเพลิงสีมวงธาตุน้ำแข็งบนรางก็ยังลึกลับยากจะคาดเดา ไม
หวาดกลัวเพลิงปศาจที่มันฝกฝนอยางหนักมาหลายปเลยแมแตนอย ครั้งนี้จึงทำให
ความสามารถของมันไรประโยชนไปกวาครึ่ง
และยิ่งไปกวานั้นไมรูเพราะเหตุใด เมื่อเห็นทาทางสุขุมเยือกเย็นของหานลี่ มันก็
ยิ่งรูสึกใจกระตุกวาบ สัมผัสไดถึงหายนะที่ใกลเขามารางๆ ทำใหอสูรตนนี้ยิ่งรูสึกไม
สบายใจมากยิ่งขึ้น
“ในตอนที่ขามา ก็ไดยินมาวาที่นี่มีแคมังกรวารีเพลิงสีชาดระดับเจ็ดเทานั้น ยาม
นี้มีเจาแลว เชนนั้นก็ไมสนใจเจาตัวนั้นแลว ทวาเจาฝกฝนจนแปลงกายไดแลว ขาก็ไม
อยากจะสังหารเจานัก เอาอยางนี้ก็แลวกัน ถาหากเจายอมมอบเกล็ดชีวิตตรงแผงคอ
ให ข า สั ก สองสามเกล็ ด จากนั้ น ก็ พ าฝู ง มั ง กรวารี จ ากไป ข า ก็ จ ะไว ชี วิ ต เจ า เป น
อยางไร?” หลังจากที่หานลี่หัวเราะหึๆ ออกมาก็เอยดวยสีหนาราบเรียบ
“มอบเกล็ดชีวิตใหเจา โอหัง เปนแคผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางแคคน
เดียว ยังกลาบังอาจขนาดนี้ ใหขาเผาจนเปนจุณ ลงไปฝนหวานในยมโลกเถิด” มังกร
วารีเพลิงสีชาดตนนั้นไดยินคำพูดของหานลี่ ก็ระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา ราวกับ
จี้ใจดำอยางไรอยางนั้น
เกล็ดชีวิตคือสิ่งที่ติดตัวเหลามังกรวารีมาตั้งแตกำเนิด มีมากหรือนอยไมเทากัน
แต เมื่ อ โตขึ้ น เกล็ ด ชี วิต เหลานี้ จ ะมี จิ ต วิญ ญาณบริสุ ท ธิ์แ ละลมปราณของพวกมั น
จำนวนไมนอยบรรจุอยู แทบจะเปนรองจากแกนอสูร หากสูญเสียไป พลังยุทธของ
พวกมันก็จะลดลงกวาครึ่งในทันที แนนอนวานี่จึงเปนการยั่วโทสะของอสูรตนนี้ทันที
ภายใตความโกรธเกรี้ยวนั้น รางของอสูรตนนั้นพลันหมุนติ้วๆ กลางเสาลำแสง เสียง
‘ตูม’ ก็ดังขึ้นแผวเบา เสาเพลิงสลายออก มังกรวารีสีแดงลำตัวหนาหลายฉื่อยาวเจ็ด
แปดจั้งปรากฏขึ้นทามกลางเปลวเพลิง หลังจากที่มันโยนความกังวลทิ้งไปแลว ก็คิด
เพียงวาจะตองฉีกหานลี่ใหเปนชิ้นๆ แลวคอยใชเพลิงปศาจเผาใหเปนจุณเทานั้น
เมื่ออสูรตนนี้คืนรางอสูรปศาจออกมาแลวก็อาปากออกอยางดุดัน พนของเหลวสี
แดงสดราวกับหินหลอมเหลวสายหนึ่งออกมาพุงเขาใสหานลี่
หานลี่เห็นสถานการณเชนนั้นพลันขมวดคิ้วเล็กนอย
“แปรอัคคีหลอมเหลว ฝกฝนเพลิงปศาจมาไดถึงขั้นนี้ ถึงวาไมงายดายจริงๆ แตดู
แลว ขาคงตองลงมือเองแลว”
ปากเอยเชนนั้นแตหานลี่กลับไมกลาดูแคลน ชูมือขึ้นตบไปที่ทายทอย พนไขมุกสี
ขาวราวกับ หิ มะเม็ดหนึ่งออกมาจากปาก นั่ น ก็ คือสมบั ติอาคมไขมุกผลึกหิ ม ะธาตุ
น้ำแข็งที่หลอมเสร็จแลว
หลังจากที่ไขมุกเม็ดนี้ถูกพนออกมาจากปากก็ขยายขนาดขึ้น กลายเปนมีขนาด
เทากำปน พุงไปยังทิศตรงขาม ในเวลาเดียวกันหานลี่ก็คำรามดวยเสียงทุมต่ำออกมา
ยื่นมือออกไปชี้ไปยังไขมุกที่อยูไกลออกไป จูๆ เสียงไพเราะก็ดังขึ้น ไขมุกพนเปลว
เพลิงสีมวงกลุมใหญออกมา ชั่วครูก็กลายเปนมังกรวารีเพลิงสีมวงความยาวสองสาม
จั้ง ปากอมไขมุกผลึกหิมะขนาดใหญเอาไว
มังกรวารีที่กอตัวขึ้นกระโจนออกไปอยางไมเกรงใจทันที สะบัดหัวสะบัดหางไป
มาชนเขากับของเหลวเพลิงสีแดง
เสียง ‘โครม’ ดังขึ้น จากนั้นไอสีขาวพลันขยายใหญขึ้นอยางรวดเร็ว ชั่วครูก็กลืน
กินทั้งสองฝายเขาไป เห็นเพียงมังกรวารีสีมวงดูเหมือนวาจะกำลังใชไขมุกกลมๆ พน
เปลวเพลิงสีมวงกลุมแลวกลุมเลาออกมาอยางเลือนราง พลางบีบใหของเหลวเพลิง
สายนั้นลาถอยไป
มังกรวารีเพลิงสีชาดเห็นเชนนั้นก็เผยความหวาดกลัวออกมาในแววตา แตทันใด
นั้ น แววตาพลัน ฉายแววโหดเหี้ ยม แสงสี แ ดงสวางวาบขึ้น บนเรือ นราง ปากก็ รอ ง
คำรามเสียงดังแหลมๆ ออกมา
หานลี่ที่อยูทามกลางเสียงกรีดรองในทะเลเพลิงใกลๆ ชั่วครูเปลวเพลิงพลันหมุน
ติ้วๆ ไมหยุด จากนั้นก็พัดออกไป กลายเปนคลื่นพลิงขนาดยักษสูงสิบกวาจั้ง พุงเขา
มาจากทั้งสองฝงดวยทาทีดุดัน เขามากดหานลี่เอาไว
หานลี่เห็นเชนนั้นก็หัวเราะอยางเย็นชาออกมา ถูมือทั้งสองไปมาและแยกออกอีกครั้ง
ลำแสงสีมวงสวางวาบตรงตำแหนงใจกลาง เสียงที่ไพเราะเสนาะหูพ ลันดังขึ้น
ยอดเขาผลึกน้ำแข็งสูงยี่สิบสามสิบจั้งผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ดานบนมีลำแสงที่เย็นเยียบ
สีมวงจางๆ สวางวาบไมหยุด ชั่วครูก็ตานทานเปลวเพลิงจากทั้งสองฝงเอาไว
แตในตอนนั้นเอง รางของมังกรวารีเพลิงที่อยูไกลออกไปก็สั่นเทา รางกายหดเล็ก
ลงหลายเทา กลายเปนมีขนาดแคสองสามจั้ง
จากนั้นของเหลวเพลิงที่ปากของมันก็หยุดลง เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น คาดไมถึงวาจะ
กลายเปนลำแสงสีแดงสายหนึ่งพุงเขาไปหาหานลี่อยางรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็อยูหางอยู
เพียงยี่สิบกวาจั้ง พลางหยุดอยูเบื้องหนาของหานลี่ไมไกลนัก ในเวลาเดียวกันก็ชูกรง
เล็บทั้งสองขึ้น ทำทาจะโจมตี
แตเดิมมังกรวารีตัวนี้เห็นเพลิงปศาจไมไดผล ก็คิดจะอาศัยความแข็งแกรงของ
รางกายเขาใกลหานลี่ และตะปบหานลี่ใหถึงแกความตายอยางไมทันตั้งตัว
ตอนที่ 966 สังหารมังกรวารี
ชั่วพริบตาที่มองเห็นมังกรวารีเพลิงเขามาประชิดตัว หานลี่กลับเผยรอยยิ้มจางๆ
ออกมา นิ้วมือนิ้วหนึ่งในแขนเสื้อสั่นเทาเบาๆ ลำแสงสีแดงสายหนึ่งพุงออกมาจาก
ปลายนิ้ว สวางวาบและหายไปอยางไรรองรอย ในเวลาเดียวกันที่แผนหลังก็มีเสียงฟา
รองดังขึ้น ปกสีเงินขาวคูหนึ่งปรากฏขึ้นทันทีพรอมกับกระพือเบาๆ
ลำแสงสีเงินสวางจา กรงเล็บที่แหลมคมมีลำแสงสีแดงสดหอหุมเอาไวกำลังจะ
โจมตีเขามา ชั่วครูรางของหานลี่ก็สลายหายไปทามกลางลำแสง รางของมังกรวารี
เพลิงสีชาดแวบหายไป ชั่วขณะนั้นการโจมตีจึงผิดพลาด
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ขางหูของเขามีเสียงแหวกผานอากาศที่แหลมสูงดัง
แตไมดังนักดังขึ้น แตเข็มสีแดงแวววาวเลมหนึ่ง ก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศดานขาง
มังกรวารีตนนั้น แทงลงไปตรงหวางคิ้วของมังกรวารีเพลิงสีชาดอยางแมนยำ
ลำแสงสีแดงที่อยูรอบกายของมังกรวารีเพลิงสีชาดหมุนวนไมหยุด ทำไดเพียง
ตานทานสิ่งนี้เอาไวเพียงเล็กนอยเทานั้น แลวก็ถูกทะลวงเขามา เปนเข็มบินที่แหลม
คมเปนพิเศษเลมนั้นนั่นเอง
เข็มบินนั้นเงียบเชียบและรวดเร็วเปนพิเศษ ขณะที่มังกรวารีเพลิงสีชาดไมทันได
ตรวจสอบก็ถูกเข็มบินพุงเขามาขางกาย แนนอนวาจึงตกใจจนขวัญกระเจิง เขาทำได
เพียงพยายามเอียงศีรษะหลบการโจมตีอยางไมตองขบคิด แตกลับสายไปเสียแลว
เสียงทิ่มแทงดังขึ้นแผวเบาคราหนึ่ง ปากของอสูรตอนนี้รองคำรามอยางนาเวทนา
ออกมา กรงเล็บขางหนึ่งปดใบหนาที่ใหญโตกวาครึ่งเอาไว โลหิตไหลลงมาตามงามนิ้ว
คาดไมถึงวาเข็มบินจะเจาะทะลุผานใบหนาของมังกรวารีชั่วรายจนบินออกไปจากอีก
ดาน
ถึงแมวาเข็มบินเลมนี้จะแหลมคมเปนพิเศษ แตเปนเพราะตัวมันเองคือสิ่งที่ใช
แกนอสูรธาตุไฟหลอมขึ้นมา ฉะนั้นความสามารถที่ ติดตัวมาจึงไมอาจทำอันตราย
มังกรวารีตัวนี้ไดมากนัก แตเมื่อทะลุผานใบหน าไป เข็มบิ นเลมนี้ ก็ขยายขนาดขึ้น
หลายเทาในชั่วพริบตาภายใตการควบคุมดวยความคิดของหานลี่ ดังนั้นบนใบหนาจึง
มีรูขนาดใหญเทาหัวแมมืออยู และทำใหอสูรตนนี้เจ็บปวดอยางเกินทนเชนกัน
แตมังกรวารีเพลิงสีชาดยังไมทันไดเดือดดาล เสียงฟาผาก็ดังขึ้นจากดานหลัง ราง
ของหานลี่ปรากฏขึ้น สะบัดแขนทั้งสองในเวลาเดียวกัน ลำแสงสีทองความยาวสอง
สามจั้งสายหนึ่งพลันฟาดลงมาอยางรุนแรง
มังกรวารีเพลิงสีชาดรูสึกจิตใจหนักอึ้ง และไมสนใจความเจ็บปวดบนใบหนา หาง
มังกรวารีพลันมีลำแสงสีแดงสวางวาบ รางกายขยายใหญขึ้นสองสามเทา กวาดมาทาง
หานลี่อยางรุนแรงราวกับพัดขนาดยักษ คิดจะทุบหานลี่ใหกลายเปนเนื้อบดกอนโดย
ไมสนใจอะไรทั้งนั้น
หานลี่เห็นเชนนั้นพลางตะลึงคาง อสูรตนนี้คูควรกับที่เปนอสูรวิญ ญาณฟาดิน
จริงๆ ปฏิกิริยาตอบสนองวองไวอยางหาที่เปรียบมิได ภายใตการลอบโจมตีจากอัสนี
หลีกหนีของเขา ผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ คงรับมือไดทันเพียงไมกี่คน
เมื่อขบคิดเชนนั้น ความคิดก็เคลื่อนไหว กระบี่ลำแสงสีทองโนมเอียง สับลงมา
ตรงหางของมังกรวารี
ผลลัพธคือเมื่อทั้งสองสัมผัสกัน ลำแสงสีทองพลันแหวกผานลำแสงสีแดงไป และ
ฟนลงบนหางของมังกรวารีโดยตรง
มังกรวารีเพลิงสีชาดใจสั่นสะทาน รีบรอนรวบรวมพลังปศาจไวที่หาง ชั่วครูหาง
และเกล็ดก็เปลี่ยนเปนสีแดงสดแวววาว
หลั งจากเสี ย งอึ ก ทึ ก ดั งขึ้ น ลำแสงสี ท องและลำแสงสี โลหิ ต พลั น ประสานเข า
ดวยกัน รัศมีเจิดจาจนแสบตา หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง ลำแสงสีฟาสวางวาบในมาน
ตา ชั่วขณะนั้นพลันมองเห็นสถานการณอยางชัดเจน
เขารวมกระบี่บินหลายเลมเขาดวยกันเปนกระบี่สีทอง คาดไมถึงวาจะไมฟนหาง
มังกรวารีใหขาดในคราวเดียว แตหลังจากที่เฉือนเกล็ดออกแลว ก็ฟนลึกเขาไปในหาง
ของมังกรวารีแคหนึ่งในสามสวน ถูกกระดูกมังกรวารีที่แข็งแกรงของมันตานทาน
เอาไวชั่วคราว
แววตาของหานลี่พลันเปลงประกาย สองมือรายอาคม คิดจะดึงกระบี่บินกลับ
มาแลวสับลงมาอีกครั้ง แตตอนนั้นกลับมีแรงดูมหาศาลสงมาจากหางของมังกรวารี
กักกระบี่บินเอาไวที่เดิม ไมมีทางดีดตัวออกมาไดเลยแมแตนอย
“ไมมีสมบัติอาคม ดูสิวาเจาจะรับมืออยางไร!”
แววตาของมังกรวารีเพลิงสีชาดเผยรอยยิ้มเยาะอยางบาคลั่งออกมา หั นหน า
กลับไปและอาปาก ลำแสงสีแดงสวางจา ไขมุกกลมๆ ขนาดเทากำปนปรากฏขึ้นใน
ปากของมังกรวารีตนนั้น
“แกนอสูร” รูมานตาของหานลี่หดเล็กลง ชั่วขณะนั้นพลันจำของสิ่งนี้ไดทันที
ดูเหมือนวาอสูรตนนี้จะรูวาไมใชคูตอสูของเขาหากปะทะกันตรงๆ คาดไมถึงวาจะ
อาศัยโอกาสที่สมบัติอาคมถูกกักตัวอยู เตรียมพนแกนอสูรออกมาโจมตี
หลังจากที่หานลี่หนาเปลี่ยนสีแลว ปากก็รองตะโกนออกมา จูๆ รางกายพลันพรา
เลือน จากนั้นก็พลิ้วไหว หานลี่สามคนที่หนาตาเหมือนกันทุกระเบียบนิ้วปรากฏตัวขึ้น
อยางแปลกประหลาด ขณะยืนเรียงแถวหนากระดานกันอยู
แน น อนว า ภาพฉากนี้ ท ำให มั ง กรวารี เพลิ ง สี ช าดตกตะลึ ง ขณะยั ง ไม ทั น ได
แยกแยะวาคนไหนคือตัวจริงนั้น หานลี่ทั้งสามคนก็สะบัดแขนเสื้อพลางหัวเราะอยาง
เย็นชาขึ้นมาพรอมกัน ลำแสงสีทองความยาวสองสามฉื่อสามสายพุงออกมาจากแขน
เสื้อพรอมกัน และฟนลงไปที่มังกรวารีชั่วรายอยางโหดเหี้ยม
มังกรวารีชั่วรายพลันตกตะลึง เห็นเพียงลำแสงสีทองสามสายพุงเขามาจากทั้ง
สามทิศทางพรอมกัน มันรูสึกสับสนอลหมาน จนทำไดเพียงพนแกนอสูรออกไป ตรง
ไปหาลำแสงสีทองที่อยูตรงกลาง กรงเล็บที่แหลมคมและเปลงแสงสีแดงทั้งสองแยก
ออกเปนซายขวา ตะปบลำแสงสีทองที่เหลือทั้งสองสายเอาไว
ถึงแมวาจะเคยมีประสบการณกับอานุภาพกระบี่บินของหานลี่แลว แตมันก็ไมคิด
วาลำแสงสีทองสามสายของหานลี่จะเปนของจริงทั้งหมด จะตองเหมือนกับการตอกร
กับศัตรูสามคน ที่เปนของจริงหนึ่งและของปลอมอีกสองแน ถาหากแกนอสูรตานทาน
ของจริงเอาไวได แนนอนวามันก็ไมตองกังวลวาจะถึงแกชีวิต ถาหากเปนของปลอม
กรงเล็บของมันทั้งสองก็แข็งแกรงกวาหางมาก มันจะพยายามทำใหกรงเล็บขางหนึ่ง
ตานทานกระบี่บินที่แทจริงเอาไวชั่วคราว และใชแกนอสูรพนใสรางของหานลี่โดยตรง
สิ่งที่นาเสียดายก็คือความคิดของอสูรตนนี้ผุดขึ้นมาแคในใจเทานั้น เสียงอึกทึก
ครึกโครมดังขึ้น แกนอสูรที่กลายเปนลำแสงสีแดงโจมตีจนลำแสงสีทองลาถอยออกไป
สองสามจั้ง เผยใหเห็นรางที่แทจริงของกระบี่บิน
‘คาดไมถึงวากระบี่บินตรงกลางจะเปนของจริง’ มังกรวารีเพลิงสีชาดเห็นเชนนั้น
ก็ขบคิดอยางดีอกดีใจ แตเมื่อความคิดนี้เพิ่งจะผุดขึ้นมา ลำแสงสีทองอีกสองสายก็
สวางจาขึ้นมาพรอมกัน แลวกะพริบวาบ กรงเล็บทั้งสองพลันเย็นเยียบขึ้นพรอมกัน
จากนั้นความเจ็บปวดที่ยากจะบรรยายก็ถูกสงมา ชั่วพริบตากรงเล็บที่แหลมคมทั้ง
สองก็ถูกลำแสงสีทองฟนทิ้งไปกวาครึ่ง จากนั้นก็บินมาอยูเบื้องหนาของมังกรวารีชั่ว
รายอยางรวดเร็วปานสายฟา
“อาก” เสียงแหลมสูงของมังกรวารีดังขึ้น ลำแสงวิญญาณบนรางสวางวาบ และ
พุงหลบหลีกไป
แตในตอนนั้นเอง ใตฝาเทาของมันพลันมีดอกบัวสีมวงดอกหนึ่งผลิบานออกมา
เงาดอกบัวสวางวาบ ไอเย็นเยียบที่ผนึกทุกอยางพลันระเบิดออกมาทันที ชั่วขณะนั้น
มังกรวารีตัวนั้นกลันตกใจจนสะดุงโหยงดวยความหนาวสั่น รางกายอดที่จะหยุดชะงัก
ไมได
เพียงแคเสียเวลาไปเทานั้น ลำแสงสีทองสองสายก็ระเบิดลำแสงที่เจิดจาจนแสบ
ตาออกมา ลอมรอบหัวของมังกรวารีตัวนี้เอาไวและสับลงมาเปนรูปกากบาทไขว เสียง
ฉับดังขึ้น ศีรษะขนาดใหญกลิ้งหลุดจากตนคอ เกล็ดหนาๆ บนคอของมัน คาดไมถึงวา
จะไมสามารถตานทานการสับครั้งนี้ไดเลยแมแตนอย
ที่แท เมื่อครู นิ้วของหานลี่ที่ ซอ นอยูในแขนเสื้อ พลัน รายอาคมพรอ มกัน ผนึ ก
ลมปราณกวาครึ่งของรางเอาไวที่กระบี่บินทั้งสองเลม ทำใหอานุภาพที่นาหวาดกลัว
ของแกนทองคำสำแดงออกมา ชั่วพริบตากระบี่บินพลันกลายเปนอมตะ แทบจะไมมี
สิ่งไดตานทานได
ตอนนั้น หลังจากที่ ‘หานลี่’ อีกสองคนเปลงแสงสีเขียวสวางวาบ ชั่วครูก็สลาย
หายไปจากที่เดิมอยางไรรองรอย
ชั่วพริบตาที่หัวของมังกรวารีตกลงมานั้น การเคลื่อนไหวในมือของหานลี่ก็ไมหยุด
พักแมแตนอย ชี้ไปที่กระบี่บินทั้งสองเลมอีกครั้ง เสียงฟาฟาดดังสนั่น ประจุไฟฟาสี
ทองหนาๆ สองสายดีดออกมาจากกระบี่บินทั้งสองเลม กลายเปนตาขายสีทองผืนหนึ่ง
คลุมลงมา
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ซากของมังกรวารีที่ ถูกตัดหัวออกก็เป นแสงสีแดง
สวางวาบ มังกรวารีนอยสีแดงตัวหนึ่งพุงแหวกอากาศมาอยางลนลาน แตกลับพุงเขา
ไปในตาขายสีทองอยางพอดิบพอดี
รอจนมันสัมผัสไดวาไมถูกตองและคิดจะหนีนั้น ตาขายไฟฟาก็ประสานกัน ทำให
มันกลายเปนวิหคที่ติดอยูในกรงขัง
ตอนนั้นความกลาหาญของจิตวิญญาณมังกรวารีตนนั้นพลันหายวับไป พยายาม
พนเปลวเพลิงสีแดงกลุมแลวกลุมเลาออกมาจากปาก โจมตีไปยังตาขายสีทอง คิดจะ
ทะลวงหนีออกจากตาขาย
แตหานลี่ที่เตรียมการเอาไวอยูแลว กลับสงเสียงหึอยางเย็นชาออกมา ไมทำอะไร
อีก ตาขายไฟฟากับหดเล็กลงอยางรวดเร็ว หลังจากผานไปชั่วคูก็กักจิตวิญญาณมังกร
วารีนั้นเอาไวในที่แคบขนาดสองสามจั้ง หานลี่ไมเหมือนกับผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ ที่
จะระเบิดตาขายไฟฟาสังหารมันในทันที แตกลับพลิกฝามือ ขวดเล็กๆ สีเขียวปรากฏ
ขึ้นในมือ
ชูมือขึ้นกวักเรียกตาขายไฟฟา เสนไหมสีทองบางๆ จำนวนนับไมถวนพนออกมา
จากตาขาย ตรงเขาไปพัวพันตรงใจกลาง จิตวิญญาณมังกรวารีตัวนั้นพยายามดีดดิ้น
อยางสุดชีวิต แตที่เล็กๆ เชนนั้นไมมีทางที่ใหหลบหนี ชั่วครู ก็ถูกเสนไหมสีทองขนาด
เทากำปนรัดเอาไว และไมมีทางดีดดิ้นไดอีก
ตอนนั้นหานลี่พลันสะบัดขวดในมือไปทางกอนไหมสีทอง ลำแสงสีขาวผืนนึ่งพน
ออกมาจากขวด ชั่วพริบตาก็มวนเอากอนเสนไหมสีทองไวขางใน และดูดเขาไปในขวด
หานลี่ถึงไดมีสีหนาผอนคลายลง!
“ถึงแมวาเคล็ดวิชาเงาวิญญาณจะเปนเพียงเคล็ดวิชาเล็กๆ แตตอนที่ตอกรกับศัตรู
จริงๆ ก็มีประโยชนไมนอย มินาเลาภูเขาแสงทองถึงไดสืบทอดวิชาลับนี้ตอๆ กันมา”
หานลี่เอยพึ ม พำ ชูมือ ขึ้น ควาซากมั งกรวารีที่ ถูกเปลวเพลิ งห อ หุ ม เอาไวกลาง
อากาศ ชั่วขณะนั้นกระบี่บินอีกเลมหนึ่งก็บินออกมาจากหางของมังกรวารี จากนั้น
ศีรษะและรางก็ถูกหานลี่ใชยามเก็บของที่เตรียมเอาไวแลวดูดเขามา
สวนแกนอสูรระดับแปดที่ไรซึ่งเจานายนั้น แนนอนวาจึงไมถูกหานลี่ลืมเลือน ใช
กลองหยกใบหนึ่งเก็บเอาไวอยางระมัดระวัง
เมฆปศาจและทะเลเพลิงรอบๆ ดานในตอนนี้ที่ไมมีลมปราณของมังกรวารีเพลิงสี
ชาดคอยประคับประคองอีก แนนอนวาจึงคอยๆ สลายหายไป
หานลี่ถือโอกาสนี้กลอกตาไปมา มองไปยังการตอสูที่เหลือ ผลลัพธคือทำใหขมวด
คิ้วอยางไมคอยใสใจ
ผูบำเพ็ญเพียรหลอมรวมเหลานี้ยังพอวา อาศัยจำนวนคนที่มากกวามังกรวารีชั่ว
รายระดับเจ็ดเล็กนอย โจมตีจนพอสูสี และยังไมเผยทาทีตกเปนรองออกมา สวนชาย
รางใหญระดับกำเนิดอีกดาน กลับมีสถานการณที่ไมคอยดีนัก ถูกมังกรวารีสีฟาระดับ
แปดตัวนั้นไลบี้จนเสียเปรียบ และมีทาทีตานทานเอาไวไมไหว
“อสูรปศาจระดับแปด ไมใชสิ่งที่พบเห็นไดงายนัก กำจัดเจาตัวนั้นพรอมกันไป
เลยดีกวา” แววตาของหานลี่เปลงประกายเย็นเยียบ เอยพึมพำกับตัวเอง จากนั้น
ลำแสงสีเขียวก็สวางวาบขึ้นบนราง คิดจะบินหนีออกมา
‘เจาเด็กนอยหาน อยาละโมบเกิน ไปนั ก ขาสัมผั สได วา ผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรคนอื่ น
กำลั ง มุ ง มาที่ นี่ ถ า หากเจ า ยั ง เสี ย เวลาอยู ล ะก็ จะไปไม ได แ ล ว นะ คนของสำนั ก
มหาสมุทรทักษิณยอมเสียเวลามากมายขนาดนี้ลอมจับมังกรวารีช่ัวราย ก็เพื่ออสูร
ปศาจระดับแปด หากเจาฆามันทิ้งทั้งหมด พวกเขาก็คงไมยอมปลอยไปงายๆ’ จูๆ
เทพขับเคลื่อนพลันถายทอดเสียงมา
“คนของสำนักมหาสมุทรทักษิณ มาแลว ทำงานไดรวดเร็วจริงๆ เชนนั้นก็ชาง
เถอะ! ถึงแมวาจะนาเสียดายอยูเล็กนอย แตก็ไปกันเถอะ” หานลี่ไดยินแลวพลันตก
ตะลึง ใชจิตสัมผัสยืนยันเรื่องนี้แลวเอยดวยสีหนาเครงขรึม จากนั้นกอนที่หมอกปศาจ
จุดสุดทายจะหายไป เขาก็หายลับไปจากที่เดิม ใชการอำพรางกายออกไปจากที่นี่
อยางเงียบๆ
และในตอนนั้นมังกรวารีสีฟาระดับแปดตัวนั้นก็สัมผัสไดวามังกรวารีเพลิงสีชาดได
เพลี้ยงพล้ำแลว ภายใตความโกรธแคนอยางสุดๆ นั้น มันก็โจมตีออกมาอยางบาคลั่ง
โดยไมสนใจอะไรอีก ทำใหชายรางใหญที่แตเดิมถูกตอนอยู ตกอยูในอันตรายในทันที
ครั้งนี้ชายรางใหญจึงรองวาแยแลวออกมาในใจ ความคิดยอมถอยผุดขึ้นมาทันที
และในตอนนั้นเอง ตรงขอบฟาในจุดที่ไกลออกไปก็มีลำแสงวิญญาณสวางวาบขึ้น
สองจุดพรอมกัน จากนั้นกลุม ผูบำเพ็ญเพียรสองกลุมที่มีสมาชิกกลุมละสิบกวาคนก็พุง
เขามาจากทั้งสองฝง
ชั่วขณะที่มังกรวารีสีฟาระดับแปดเห็นสถานการณเชนนั้นก็รูวาซวยแลว รีบระงับ
ความโกรธเกรี้ยวในใจเอาไว ปากก็รองคำรามเสียงแหลมๆ ออกมา จากนั้นก็กระโจน
หายเขาไปในผิวน้ำโดยไมไดกลาวอะไรแมแตคำเดียว
มังกรวารีชั่วรายระดับเจ็ดที่เหลือไดยินเสียงนี้ก็พากันตกตะลึงเชนกัน แตตอนนั้น
ไมวาชายรางใหญหรือวาผูบำเพ็ญ เพียรที่เหลือ ก็ไมยอมใหมันพวกหนีไปงายๆ ชั่ว
ขณะนั้นก็พัวพันกับมันไมหยุด ไมยอมใหพวกมันหนีเขาไปในผิวน้ำโดยงาย
ตอนนั้นเอง การตอสูกลับยิ่งดุเดือดขึ้น…
แตหานลี่ไมสนใจการตอสูที่เหลือแมแตนอย หลังจากบินออกมาไดรอยลี้ก็เผย
ลำแสงหลีกหนีออกมา และบินหายเขาไปยังสวนลึกของมหาสมุทรโดยไมแมแตจะหัน
ศีรษะกลับมาอีก
เขาจำตองตามหาเกาะวิญญาณที่ไรผูคนเกาะหนึ่ง และเริ่มหลอมหุนเชิดของเทพ
ขับเคลื่อน
ตอนที่ 967 แยกวิญญาณ
แผนที่ของนานน้ำผืนนี้ หานลี่ซื้อมาตั้งนานแลว
เขามุงไปตามทิศทางที่มีผูบำเพ็ญเพียรอยูจำนวนนอย หลังจากบินมาไดครึ่งเดือน
ในที่สุดเขาก็รอนลงบนภูเขาเล็กๆ นิรนามแหงหนึ่ง
เกาะแห งนี้ ไม ใหญ นั ก มี ข นาดแค สี่ สิ บ ตารางกิ โลเมตร บนเกาะกลั บ มี ชี พ จร
วิญญาณคุณภาพย่ำแยที่ไมสะดุดตายาวเจ็ดแปดลี้อยูสายหนึ่ง
ถาหากอยูบนแผนดินจะตองถูกตระกูลเล็กๆ นิรนามสักแหงยึดครองแน แตมัน
อยูในมหาสมุทรที่มีอสูรปศาจกระจัดกระจายอยู ตระกูลที่ไมมีพลังอำนาจอะไรไหน
เลยจะกลายายมาอยูที่นี่
สวนผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงในตระกูลเล็กๆ นั้นก็ย่ิงไมสนใจชีพจรวิญญาณที่ไม
สะดุดตาเชนนี้ และยิ่งไปกวานั้นเกาะแหงนี้ยังไมไดตั้งอยูในนานน้ำ มันตั้งอยูในที่รก
รางและหางไกลเปนอยางมาก ดังนั้นจึงรกรางจนมาถึงทุกวันนี้
หานลี่กลับรูสึกพึงพอใจกับเกาะแหงนี้เปนอยางมาก ทันทีที่มาอยูบนเนินเขาก็
ปลอยกระบี่บินทั้งหมดออกมา เปดทางเปนที่กวางโลงขนาดใหญ จากนั้นก็ปลอยจวน
ความลับสวรรคออกมา
ชั่วขณะนั้นจวนขนาดเล็กที่วิจิตรงดงามหลังหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในครรลองสายตา
เพื่อความปลอดภัยหานลี่ไมเพียงกระตุนเขตอาคมที่ติดมากับจวนใหทำงาน ยัง
วางเขตอาคมอำพรางวงหนึ่งบริเวณรอบนอกของภูเขาเล็กๆ เรียกหมอกสีขาวผืนใหญ
ออกมา ปกคลุมยอดเขาในระยะสิบกวาลี้เอาไว ทำใหไมอาจมองเห็นจวนแหงนี้ได
โดยงาย
หลั ง จากจั ด การเรื่ อ งราวทุ ก อย า งเสร็ จ หานลี่ ถึ ง ได ย า ยแมลงวิ ญ ญาณและ
สมุนไพรวิญญาณที่พกติดตัวมาไปไวในหองแมลงและสวนสมุนไพร มังกรเกราะธรณี
ตัวนั้นก็ถูกลงอาคม แลวโยนเขาไปในหองอสูรหองหนึ่ง จากนั้นก็หอบวัตถุดิบจำนวน
มากเขาไปในหองลับหองหนึ่ง
“วัตถุดิบเหลานี้เพียงพอตอการหลอมหนึ่งครั้งเทานั้น ถาหากหลอมผิดพลาดใน
ชวงเวลาสำคัญก็ไมมีเวลาจะไปหาวัตถุดิบอื่นมาแทน อัตราการประสบความสำเร็จมี
เทาไหรนั้นก็ไมมั่นใจเลยจริงๆ ถึงอยางไรเสียก็เปนขาที่ลงมือหลอมแทนทานอาวุโส
จึงอาจจะมีจุดที่เขาใจผิดพลาด และอาจจะทำใหการหลอมลมเหลวได” เมื่อเดินเขา
มาในหองลับ หลังจากที่หานลี่พลิกฝามือดึงกระบอกไมไผที่ดานหลังมาอยูเบื้องหนา
แลว ก็เอยอยางราบเรียบ
“แนนอนวาเรื่องนี้ขารูดี กอนการหลอมขาจะอธิบายวิธีการหลอมอยางละเอียด
ใหเจาฟงรอบหนึ่ง แลวจะถามความรูที่เจาไดเรียนรูไปซ้ำอีกครั้ง หลังจากมั่นใจวาเจา
เขาใจทั้งหมดแลว ถึงจะใหเจาลงมือ กอนที่ขาจะอธิบาย ขาจะใหเจาอานคัมภีรมวนนี้
กอน ดานในเปนบันทึกคุณสมบัติรวมๆ ของหุนเชิดที่ขาจะหลอม เจาอานดูคราวๆ
กอ นแล วค อ ยวากั น ” เสี ยงของเทพขั บ เคลื่ อ นดั งออกมาจากกระบอกไม ไผ เขาดู
เหมือนวาจะขบคิดเรื่องนี้มานานแลว ทาทางดูเหมือนเตรียมการมาเรียบรอยแลว
จากนั้นฝากระบอกไมไผก็มีเสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น คัมภีรสีขาวมวนหนึ่งบินออกมาจาก
ดานใน และถูกหานลี่ควาเอาไวดวยมือขางหนึ่ง
“ในเมื่อทานอาวุโสมั่นใจ ชนรุนหลังก็วางใจแลว” หานลี่พยักหนาและไมไดเอย
อะไรใหมากความอีก ทันใดนั้นพลันนั่งขัดสมาธิแผจิตสัมผัสเขาไปในมวนคัมภีร
เวลาคอยๆ ไหลผานไป สีหนาของหานลี่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปมาไมหยุด มีทั้งตกใจ
ดีใจสุดทายก็เปลี่ยนเปนเครงขรึม
ไมรูวาผานไปนานเทาไหร หลังจากที่เขาพนลมหายใจยาวๆ มาเฮือกหนึ่ง ในที่สุด
ก็ดึงจิตสัมผัสกลับมาจากมวนคัมภีร แตก็ไมไดเอยอะไรออกมาในทันที กลับปดเปลือก
ตาทั้งสองขางลงนั่งสมาธิอยูที่เดิมพลางตรึกตรองอะไรสักอยาง
หลังจากผานไปหนึ่งเคอ หานลี่พลันลืมตาทั้งสองขางขึ้น สีหนาฟนฟูกลับมาเปน
ราบเรียบเชนเดิม
“ไมผิด ถาหากหลอมหุนเชิดตัวนี้ สำเร็จ อานุ ภ าพของมัน จะตองไรเที ยมทาน
อย า งแน น อน ขอแค มี ศิ ล าวิ ญ ญาณเพี ย งพอ หากต อ กรกั บ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นปลายก็นาจะไมตกเปนรอง แตมีจุดหนึ่งที่ขายังไมคอยเขาใจนัก หวังวา
ทานอาวุโสจะอธิบายใหฟงสักหนอย” ขบคิดเล็กนอย ในที่สุดหานลี่ก็เอยปากพูดขึ้น
“ในเมื่อคิดจะถายทอดวิชาหุนเชิดนี้ใหกับเจา แนนอนวาขาไมมีทางเก็บความลับ
อะไรไวไดอีก มีอะไรก็ถามมาเถิด” เทพขับเคลื่อนกลับเอยยังไมตองคิด
“ในเมื่อทานอาวุโสจะกลาวเชนนี้ชนรุนหลังก็จะไมเกรงใจแลวนะ จากความรู
เรื่องเคล็ดวิชาหุนเชิดที่ขาเรียนรูมากอนหนานี้ ยิ่งหลอหุนเชิดระดับสูงมากเทาไหรก็
ตองใชจิตวิญญาณบริสุทธิ์ที่ระดับสูงมากขึ้นเทานั้น หุนเชิดตัวนี้ของทานอาวุโสขาคิด
ไมออกจริงๆ วาควรจะใชจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของอสูรชนิดใด ถึงจะกระตุนอานุภาพ
ของหุนเชิดตัวนี้ได ตอใหเปนวิญญาณของอสรพิษเพลิงแดงระดับแปดที่ขาเพิ่งจับมา
ได เกรงวาก็ยังไมเหมาะสมกระมัง และกอนหนานี้ ทานอาวุโสก็ไมเคยเอยถึงเรื่องจิต
วิญญาณบริสุทธิ์มากอน นี่จึงทำใหชนรุนหลังไมคอยเขาใจนัก หรือวาทานอาวุโสมี
วิธีการอื่น?” หานลี่ขมวดคิ้วแลวเอยถามอยางเครงขรึม
“ขาก็นึกวาปญหาอะไร ที่แทก็เรื่องนี้นี่เอง เรื่องของจิตวิญญาณบริสุทธิ์นั้นตอนที่
ขาคิดคนวิธีการหลอมนี้ขึ้นมา ก็มีวิธีการแกไขแลว หากเจาไมถาม ขาก็คิดจะบอกเจา
อยูแลว มิเชนนั้น เกรงวาเจาจะไมมีทางหลอมไดอยางวางใจสินะ” เทพขับเคลื่อน
หัวเราะหึๆ ออกมาขณะเอย
“ทานอาวุโสลอเลนแลว ทวาหากคิดจะกระตุนอานุภาพของหุนเชิดอยางเต็ม
อัตราจริงๆ อยางนอยก็ตองใชจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของอสูรปศาจระดับเกา ชนรุนหลัง
สงสัยจริงๆ วาทานอาวุโสจะแกปญหาเรื่องนี้อยางไร” หานลี่หัวเราะแหงๆ ออกมา
พลางเอยอยางไมใสใจ
ในตอนที่ยังไมอธิบายเหตุผลที่สมเหตุสมผลกับเขา ตามนิสัยที่ละเอียดรอบคอบ
แลว ในใจของเขากลับรูสึกระแวดระวังขึ้นมา ถึงแมวาความสัมพันธที่ผานมากับเทพ
ขับเคลื่อนจะดูเหมือนเปนทั้งสหายและศิษยอาจารยกัน แตความระมัดระวังตัวนั้น
หานลี่ไมมีทางหละหลวมแน
“ไมจำเปนตองใชจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของอสูรปศาจ ถึงตอนนั้นแคเอาจิตวิญญาณ
บริสุทธิ์ของขาและหุนเชิดหลอมรวมกันก็พอแลว” น้ำเสียงของเทพขับเคลื่อนเครง
ขรึม ขณะเอยอยางราบเรียบ ราวกับวากำลังพูดเรื่องเล็กๆ เรื่องหนึ่งเพียงเทานั้น
“ใช จิ ต วิ ญ ญาณบริ สุ ท ธิ์ ข องท านอาวุ โส?” ชั่ ว ขณะนั้ น สี ห น า ของหานลี่ พ ลั น
เปลี่ยนสี เต็มไปดวยความตกตะลึง
“ทำไม เจารูสึกวาความแข็งแกรงของจิตวิญญาณขายังสูอสูรปศาจระดับเกาไมได
หรือ?” เทพขับเคลื่อนเอยอยางราบเรียบ
“นั่นไมใชอยูแลว แตเดิมทานอาวุโสก็เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย
ฝกฝนคาถาขับเคลื่อนจนทำใหจิตวิญญาณแข็งแกรง ตอใหเทียบกับผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลงก็เกรงวาจะไมตางกันเลยสักนิด แตทานอาวุโสไมอยากไปจุติใหมหรือ
หากจิตวิญญาณผสมเขากับหุนเชิดจะสูญเสียความเปนตัวเองทันที” หานลี่เอยอยาง
ลังเลใจ
“แนนอนวาตาเฒาตองจุติใหม หลังจากจุติแลวก็ไมรูวาจะไดอยูในเสนทางการ
บำเพ็ญเพียรอีกไหม!” หลังจากหัวเราะหึๆ ออกมาแลว เทพขับเคลื่อนก็เอยอยางไม
ลังเลแมแตนอย
“หมายความวาอยางไร ถาหากขาฟงไมผิดละก็ ทานอาวุโสคิดจะหลอมรวมกับ
หุนเชิดและยังไมคิดจะละทิ้งโอกาสในการจุติอีก หรือวาทานอาวุโสมีเคล็ดวิชาลับ
อะไรที่สามารถทำถึงขั้นนั้นได?” หานลี่ไดยินแลวพลันตะลึงงัน แตถึงอยางไรเสียก็
ไมใชผูบำเพ็ญเพียรทั่วๆ ไป จึงขบคิดคาดเดาออกมาอยางรวดเร็ว
“เจาเด็กนอยหาน เจานี้ชางชาญฉลาดเสียจริงๆ ขาหมายความเชนนี้ ตอนนั้น
เปนเพราะเคล็ดวิชาสงเทพจึงถูกกักเอาไวในหุนเชิด แนนอนวาก็ไมใชวาจะไมทำอะไร
เลย ขาเสียเวลาไปหลายพันปศึกษาวิธีเคลื่อนยายจิตวิญญาณบริสุทธิ์ออกจากหุนเชิด
โดยไมตองใชพลังลมปราณใดๆ ผลลัพธคือวิธีนี้มันยุงยากเกินไปและไมมีทางสำเร็จได
แตขากลับพบเคล็ดวิชาลับในการแยกจิตวิญญาณแทน เคล็ดวิชาแยกจิตวิญญาณนี้ไม
เหมือนกับการแยกความคิดจิตสัมผัสธรรมดาๆ เลยสักนิด เปนวิธีการแยกจิตวิญญาณ
ที่แทจริงของผูบำเพ็ญเพียรอยางเรา ถึงตอนนั้นขาจะแยกจิตวิญญาณบริสุทธิ์ออกเปน
สองสวน สวนหนึ่งหลอมรวมอยูในหุนเชิด อีกสวนหนึ่งนำความรูสึกและความทรงจำ
ไปใสไวในสิ่งของ เพื่อกลับไปยังเสนทางของวัฏสงสารอีกครั้ง” เทพขับเคลื่อนเองก็ไม
มีเจตนาจะปดบัง จึงอธิบายอยางไรกังวล
“วิธีเชน นี้ จ ะทำไดจ ริงๆ หรือ ? เกรงวาการแยกจิ ต วิญ ญาณคงจะไม ใช เรื่อ งที่
งายดายขนาดนั้นกระมัง” เมื่อหานลี่ไดยินวามีเคล็ดวิชาลับชนิดนี้ ก็เอยขึ้นดวยความ
ตื่นตระหนกอยางสุดๆ
“วางใจ ตาเฒาแคแยกพลังของจิตวิญญาณออกมาเทานั้น คงไมไดไปขัดขวางการ
จุติใหมอะไรของตาเฒามากนัก หลังจากละสังขารแลวพลังของจิตวิญญาณเหลานี้ก็จะ
สลายหายไป” เทพขับเคลื่อนเอยอยางราบเรียบ
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง อยางนั้นชนรุนหลังก็วางใจแลว” หานลี่ขบคิด เมื่อไมพบ
จุดที่มีปญหาอะไร ก็พยักหนาขณะเอยอยางใจกวาง
“เยี่ยม ในเมื่อไมมีปญหาแลว ตาเฒาก็จะเริ่มอธิบายขั้นตอนการหลอมสวนตางๆ
และจุดที่จำเปนตองพึงระวัง มาพูดถึงรางของหุนเชิดกันกอนเถอะ รางทั้งรางนั้นมี
แกนกลางอยูสิบกวาแหง วัตถุดิบที่จำเปนตองใชแบงออกเปน…” เทพขับเคลื่อนเองก็
ไมเกรงใจพลางอธิบายทันที
หานลี่รูสึกมีชีวิตชีวามากขึ้น แนนอนวาจึงตั้งใจฟงอยางละเอียด
เวลาคอยๆ ไหลผานไปวันแลววันเลา หานลี่อยูเพียงแตในหองลับโดยออกมาขาง
นอกนอยมาก เวลาสวนใหญหมดไปกับการใชจิตสัมผัสควบคุมการเคลื่อนไหวของหุน
เชิดวานรยักษสองสามตัวในจวน เพื่อเรงการเจริญเติบโตของสมุนไพรวิญญาณและ
เลี้ยงดูเหลาแมลงวิญญาณ
แตตะขาบเกล็ดน้ำคางหกปกสิบสองตัวนั้น นอกจากจะใหอาหารดวยหญาสีรุง
แลว ก็ปอนลูกกลอนวิญญาณหิมะใหมันคนละเม็ดดวยความฉลาดเฉียบแหลม เพื่อดู
วาหลังจากที่ พ วกมั น หลอมเสร็จ แล วจะมี ป ระสิ ท ธิภ าพอยางไร ถึงอยางไรเสี ย ยา
ลู ก กลอนชนิ ด นี้ ก็ มี ป ระโยชน กั บ เพลิ งตาข ายสี ม วงของเขาเป น อยางมาก คงจะมี
ประโยชนกับไอเย็นเยียบของตะขาบเกล็ดน้ำคางหกปกเชนเดียวกันถึงจะถูก
ผลลัพธคือหานลี่พบวา ยาลูกกลอนวิญญาณหิมะที่เขาตองใชเวลานานกวาสามสี่
เดือนถึงจะหลอมไดเม็ดหนึ่ง ถูกตะขาบเหลานี้หลอมจนเกลี้ยงภายในระยะเวลาหนึ่ง
เดือน และยิ่งไปกวานั้นไอวิญญาณที่พนออกมาก็มีอานุภาพเพิ่มขึ้นเปนอยางมาก
เชนนั้นแลว ภายใตความตกตะลึงและคนดีใจของหานลี่ เขาจึงเก็บยาลูกกลอน
วิญญาณหิมะที่จำเปนเอาไวกับตัว สวนที่เหลือก็มอบใหวานรยักษเอาไปปอนใหกับ
แมลงเหลานั้นทั้งหมด
สวนแมลงกลืนทองเหลานั้น ก็ปอนหญาสีรุงใหมันกินอยางตอเนื่อง ถึงแมวาจะไม
อาจกลาวไดวาไมเปลี่ยนแปลงเลยแมแตนอย แตระยะหางจากการโตเต็มวัยก็ยังอีก
ยาวไกล หานลี่เองก็ทำไดเพียงอดทนอดกลั้นเทานั้น
ครึ่งปผานไปอยางรวดเร็ว วันนี้หานลี่เพิ่งจะหลอมชิ้นสวนของหุนเชิดเสร็จภายใน
หองลับ ฟงคำพูดของเทพขับเคลื่อน เอาวัตถุดิบตางๆ มากองไวตรงหนา ใบหนาเต็ม
ไปดวยสีหนาแปลกประหลาด
“ทานวาของพวกนี้จะใสเขาไปในหุนเชิดไดหรือ?” หานลี่เอยถามพรอมกับขมวด
คิ้วเล็กนอย
“ใชแลว ประโยชนของสิ่งของพวกนี้ ขาเพิ่งจะนึกออก จะตองทำใหพลังของหุน
เชิดตัวนี้เพิ่มขึ้นอีกขั้นแนนอน” เทพขับเคลื่อนเอยอยางเยือกเย็น
“เพชรกระดูกมารเม็ดสุดทายนั้นก็ชางเถอะ บางทีทานอาวุโสอาจจะมีวิธีการหลอมทำ
ใหกลายเปนอาวุธที่สุดยอดสักอยางของหุนเชิดก็เปนได แตของที่เหลือนั้นเอาไวทำ
อะไรกันแน ขาไมเขาใจเลยสักนิด และมองไมออกดวยวาพวกมันมีประโยชนอยางไร”
หานลี่ชูมือขึ้นเล็กนอย ชี้ไปยังวัตถุดิบสองชิ้นที่กองอยูบนพื้นดวยความไมเขาใจ
สิ่งที่เขาชี้นั้น คือโซเงินบางๆ ที่เคยพันธนาการซากมารตนนั้นเอาไวและวัตถุดิบ
ชำรุดสองสามชิ้นที่คนพบในแหลงกำเนิดไอมาร สีเทาหมนๆ ไมสะดุดตาเลยสักนิด
“เพชรกระดูกมารก็เหมือนกับที่เจากลาวไว ตอนที่เจาไดมา ขาก็ลองขบคิดวาจะ
เอามันมาหลอมเปนสิ่งใด ถึงจะบอกวาเปนวัตถุดิบในการหลอมมีดมังกรมารเพียง
อยางเดียว แตถาหากนำมันไปหลอมเปนสมบัติสายมารชนิดอื่น ก็มีอานุภาพไมนอย
เหมือนกัน ขาจึงคิดจะนำไปมันไปหลอมเปนสมบัติชิ้นหนึ่ง เปนเครื่องมือสังหารของ
หุนเชิด สวนโซนั้นขาไดยินเจาบอกวามันสามารถตานทานการโจมตีของกระบี่บินแกน
ทองคำได ก็มีความคิดนี้ขึ้นมาในทันที ถึงแมวาขาจะไมรูวามันสรางมาจากอะไร แต
มันมีทรายรชตะผสมอยู สามารถเอามาหลอมเปนโลปองกันของใหหุนเชิดได สวนของ
ชำรุดเหลานี้ ขาเพิ่งคิดไดเมื่อสองสามวันกอน” เทพขับเคลื่อนเอยมาถึงตรงนี้ น้ำเสียง
ก็หยุดชะงักเผยสีหนาเครงขรึมออกมา
ตอนที่ 968 หลอมหุนเชิดสำเร็จ
“โคลนแปลงเทพ เคยไดยินหรือไม?” เทพขับเคลื่อนเอยถามดวยน้ำเสียงทุมต่ำ
“แนนอนวาเคยไดยิน โคลนแปลงเทพเลื่องชื่อวาเปนขี้ผึ้งลวงตา ไดยินวาสามารถ
เปลี่ยนแปลงรูปรางของยุทธภัณฑได หากไดรับความเสียหายแลวจะฟนฟูพลังกลับมา
ดังเดิมได ใชหลอมวัตถุดิบหายากที่สลับซับซอน หรือวาคือสิ่งนี้? แตไดยินวาโคลน
แปลงเทพเปนสีขาวราวกับหยกอยางไรอยางนั้น จะดูธรรมดาๆ ขนาดนี้ไดอยางไร”
หานลี่ตกตะลึงเล็กนอยจองเขม็งไปยังของชำรุดสองสามชิ้นนั้น พลางเอยถามดวย
ความตกตะลึง
“เจาเด็กนอย เจาไมตองสงสัยไป พวกนี้คือโคลนแปลงเทพจริงๆ แตผานการผสม
กับของสิ่งอื่นโดยผูบำเพ็ญเพียรโบราณมาแลว โคลนเทพที่หลอมขึ้นมาเปนพิเศษนั้น
ในสมัยโบราณถูกเรียกวาหยกญาณละมุน ในใตหลานี้มีผูบำเพ็ญเพียรที่รูจักพวกมัน
แคไมถึงสิบคนอยางแนนอน ขาเองก็อานขอมู ลของมัน มาจากจวนผูบ ำเพ็ ญ เพี ยร
โบราณเมื่อนานมาแลว และลืมไปตั้งนานแลว หากไมใชเพราะวาชวงนี้นึกถึงเรื่องหนึ่ง
ที่เกี่ยวกับเจาสิ่งนี้ ตอนนี้ก็คงยังไมอาจแยกแยะได” เทพขับเคลื่อนกลาว
“หยกญาณละมุน? มันแตกตางกับโคลนเทพธรรมดาๆ อยางไร?” หานลี่ครุนคิด
“เจาก็รูตั้งแตแรกแลวมิใชหรือ? หลังจากที่โคลนเทพชนิดนี้ถูกหลอมแลวไมเพียง
จะสามารถกระตุนประสิทธิภาพในการซอมแซมไดเปนอยางดี ยังสามารถดูดซับพลัง
การโจมตีของผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรไดอีกด วย เมื่ อ สัมผัสกับ การโจมตีที่ เป ยมไปดวยพลั ง
วิญญาณก็เพียงพอจะทำใหมันออนแอลงมากกวาครึ่ง จุดออนเพียงอยางเดียวก็คือมัน
หวาดกลัวการโจมตีโดยตรงของยุทธภัณฑ อยางไรเสียตัวมันเองก็ไมมีพลังปองกันใดๆ
อยูแลว แตเพียงเทานี้ ก็ทำใหมูลคาของโคลนชนิดนี้ไมไดดอยไปกวาแกนทองคำแลว”
เทพขับเคลื่อนอธิบาย
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง อยางนั้นทานอาวุโสคิดจะใชโคลนแปลงเทพนี้หลอมสวน
ใดของหุนเชิดหรือ?” หานลี่ไดยินวาหยกญาณละมุนมีประสิทธิภาพที่นาอัศจรรย ก็
เผยสีหนายินดีออกมา อดที่จะเอยซักถามไมได
“ยั ง ต อ งถามอี ก หรือ ! โคลนเทพนี้ เหมาะกั บ ทรายรชตะ แน น อนว า ต อ งเป น
วัตถุดิบอันยอดเยี่ยมที่ใชหลอมเปลือกของหุนเชิด ใชวัตถุดิบสองชนิดนี้หลอมเปลือก
นอก ก็ไม ตอ งใชสมบั ติ อ าคมป อ งกั น ตัวใดๆ แลว แดนมนุ ษ ยมีแ ค ไมกี่ คนหรอกที่
สามารถทำลายมันไดอยางงายดาย” เทพขับเคลื่อนเอยอยางทะนงตน
“ทำตามทานอาวุโสกลาวเถิดขอรับ” แนนอนวาหานลี่เห็นดวยอยางไมสงสัยเลย
แมแตนอย
“อืม ของเหลานี้อยาเพิ่งไปแตะตองมันกอนชั่วคราว หลอมสวนอื่นใหเสร็จกอน
แลวคอยวากัน เดาวาใชเวลาอีกหนึ่งปก็คงหลอมสวนตางๆ ไดเกือบหมดแลว จากนั้น
คอยผสานรวมกัน ตอนนี้หลอมสวนอื่นๆ ตอเถิด”
“ขอรับ” หานลี่ตอบรับพลางสะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีเขียวผืนหนึ่งพลันมวนพุง
ออกมา วัตถุดิบที่อยูบนพื้นลอยขึ้นในทันที
จากนั้นหานลี่ก็ตบไปบนยามเก็บของ กลองหยกที่บรรจุวัตถุดิบอื่นๆ พลันเรียง
รายอยูเบื้องหนา
เขาเริ่มหลอมวัตถุดิบสวนตอไปของหุนเชิด
วสันตฤดูพาดผานสารทฤดูย่ำเยือน วันเวลาคอยๆ เคลื่อนคลอยไป
ระยะเวลาปกวาสำหรับผูบำเพ็ญเพียรนั้นแทบจะผานไปในชั่วพริบตา
ชวงเวลานี้หานลี่นอกจากจะหลอมหุนเชิดแลว ตะขาบเกล็ดน้ำคางหกปกทั้งสิบ
สองตัวที่กินยาลูกกลอนวิญญาณหิมะไปเดือนละเม็ดก็บรรลุระดับขั้นอยางนาตกตะลึง
หลังจากลอกคราบแลว รางกายของตะขาบเหลานี้ไมเพียงจะใหญขึ้นกวาเดิมหลาย
เท า ในที่ สุ ด แผ น หลั งก็ มี ป ก น้ ำค างสี ข าวหิ ม ะคู ห นึ่ งงอกออกมา ความเร็ ว ในการ
กระพือปกไมเพียงจะเพิ่มขึ้น ยังเปลี่ยนเปนคลองแคลวเปนพิเศษ นี่นับวาเปนเรื่องที่
นายินดีอีกเรื่องหนึ่ง
ทวาหลังจากที่บรรลุระดับขั้นนี้แลว ประสิทธิภาพของยาลูกกลอนวิญญาณหิมะที่
มีตอตะขาบเกล็ดน้ำคางหกปกก็ลดลงเปนอยางมาก หางไกลจากคำวาพัฒ นาโดย
สิ้นเชิง นี่เปนผลกระทบที่เห็นไดอยางชัดเจน
วันนี้ หานลี่ยืนหลับตาอยูตรงใจกลางของหองลับ เบื้องหนามีวัตถุรูปรางมนุษย
เปลงแสงสีเงินแวววาวลอยอยูกลางอากาศ
นิ้วทั้งสิบของเขารายอาคมไปมาไมหยุด เสนไหมสีทองสิบสายพลันพุงออกไป ปก
ลงบนสวนตางๆ ของรางหุนเชิด สีหนาเครงขรึม
เหนื อ ศี ร ษะของหุ น เชิ ด สี เงิ น ขึ้ น ไปสองสามฉื่ อ กระบอกไม ไ ผ ก ระบอกนั้ น
เปลงแสงสีเขียวจางๆ ออกมาพลางหมุนโคจรอยางชาๆ
ไมรูวาผานไปนานเทาไหร หานลี่หนาเปลี่ยนสี นิ้วทั้งสิบหยุดลง ในที่สุดก็ลืมตา
ทั้งสองขางขึ้น
“ดู แ ล ว คงไม มี ป ญ หา ส ว นต า งๆ ของหุ น เชิ ด ผสานกั น ได อ ย า งสมบู ร ณ แ บบ
ประกอบสวนตางๆ ไดราบรื่นขนาดนี้ ชางอยูนอกเหนือความคาดหมายของขาจริงๆ”
หานลี่จองเขม็งไปยังเบื้องหนา เผยสีหนาดีอกดีใจออกมาขณะเอย
“หุ น เชิ ด นี้ เป น สิ่ งที่ ข าคิ ด ค น ขึ้ น มา เจ าหลอมมั น ขึ้ น ภายใต ก ารชี้ แ นะของข า
แนนอนวาจึงไมเกิดความผิดพลาดอะไร ในเมื่อทุกอยางเรียบรอยแลว คงจะเริ่มหลอม
รวมจิ ต วิ ญ ญาณบริ สุ ท ธิ์ ได แ ล ว ล ะ ” น้ ำ เสี ย งของเทพขั บ เคลื่ อ นลอยออกมาจาก
กระบอกไมไผ
“ทานอาวุโสจะทำเชนนี้จริงๆ หรือ ไมไตรตรองอีกสักหนอยหรือ? เคล็ดวิชาแยก
วิญญาณก็เปนสิ่งที่ทานอาวุโสใชเปนครั้งแรก ไมแนวามันอาจจะเกิดขอผิดพลาดอะไร
ขึ้น แลวสงผลกระทบตอวัฏสงสารของทานอาวุโสก็ได ยิ่งไปกวานั้นหากแยกวิญญาณ
แลว วิญญาณที่ไมสมบูรณของทานอาวุโสก็จะตองสลายหายไป ไมมีทางยืนหยัดตอไป
ไดอีกแน” เมื่อหานลี่ไดฟง สีหนาดีใจก็หายวับไป พลางเอยถามดวยความเครงขรึม
“หึๆ กวาครึ่งของชีวิตนี้ตาเฒาหมดไปกับเคล็ดวิชาหุนเชิด การทำใหจิตวิญญาณ
บริสุทธิ์ของตัวเองและหุนเชิดนี้หลอมรวมกันเปนหนึ่งเดียว นั่นคือความปรารถนาเดิม
ของตาเฒา อีกอยางตอใหตาเฒาไมสำแดงเคล็ดวิชาแยกวิญญาณ ก็มาถึงขีดจำกัด
แล ว มี อ ะไรให ต อ งลั งเลกั น เจ าไม ต อ งเกลี้ ย กล อ มตาเฒ าอี ก ถึ งอย างไรตาเฒ าก็
ถายทอดคาถาขับเคลื่อนที่เหลือใหเจาแลว หวังวาเจาจะสืบทอดตอไปได อยาทำให
มันหายสาบสูญไปละ” เทพขับเคลื่อนหัวเราะอยางแผวเบาออกมา เอยอยางไมใสใจ
แมแตนอย
หานลี่ไดยินคำนี้ ก็ขมวดคิ้วเขาหากัน หลังจากผานไปชั่วคูก็ถอนหายใจออกมา
เฮือกใหญ
“ในเมื่อทานอาวุโสใจแข็งเชนนี้ ชนรุนหลังก็จะไมพูดอะไรอีก หวังวาทานอาวุโส
จะกาวขามผานทุกอยางไปไดดวยดี”
เทพขับเคลื่อนหัวเราะออกมาดวยเสียงอันดังกอง จูๆ กระบอกไมไผก็เปนแสงสี
เขียวสวางวาบ แยกออกเปนสองสวนกลางอากาศ คนตัวเล็กๆ สีทองเรืองรองคนหนึ่ง
พลันปรากฏขึ้นตรงนั้น
คนตัวเล็กๆ ผูนี้คือหุนเชิดที่มีขนาดสองสามชุน วัตถุดิบจะเปนทองก็ไมใชไมก็ไมเชิง ดู
วิจิตรงดงามเปนพิเศษ เหมือนบุรุษวัยกลางคนที่ตัวหดเล็กลงรอยเทา หนาตาสงางาม
ตอนนี้ดวงตาของคนตัวเล็กเปลงแสงสีเขียวสวางวาบ พลางนั่งสมาธิลง
เสียงบริกรรมคาถาทุมต่ำดังขึ้นทันที ลำแสงสีเขียวเล็กๆ บินออกมาจากปากของ
คนตัวเล็ก กลายเปนมีขนาดเทากำปน หอหุมทั้งรางของเขาเอาไว
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ มุมปากของหานลี่พลันหยักขึ้น แตกลับไมไดเอยอะไร
ออกมา
จากนั้นเสียงบริกรรมคาถาพลันเรงเราขึ้นเรื่อยๆ ลำแสงสีเขียวคอยๆ เจิดจาขึ้น
ทำใหผูคนแทบจะไมอาจสบสายตาไปตรงๆ ได
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง หลังจากรูมานตาหดเล็กลงแลว ลำแสงสีฟาพลันสวาง
วาบไมหยุด
จากนั้นเทพขับเคลื่อนพลันตะโกนออกมาเสียงดังดวยความเจ็บปวด สั่นสะเทือน
ไปทั่วทั้งหองลับ
ภายใตหานลี่ที่หนาเปลี่ยนสีนั้น ลำแสงสีเขียวพลันแยกออกเปนสองสวน สวนที่
ใหญกวาลอยตรงไปหาหุนเชิดสีเงิน สวนที่เล็กกวาเปลงแสงสวางวาบ บินกลับเขาไป
ในปากของคนตัวเล็กเชนเดิม เผยใหเห็นรางหุนเชิดตัวเล็กอีกครั้ง
แตแคในตอนนี้คนตัวเล็กนั้นกมหนางุด ดวงตาทั้งสองหมนหมอง
หานลี่เห็นเชนนั้นก็ไมกลาดูแคลน ชี้นิ้วรายอาคมไปที่หุนเชิดสีเงินไมหยุด ชั่วขณะนั้น
รางมนุษยของหุนเชิดพลันอาปาก เสนไหมสีเงินบางๆ สิบกวาสายพุงออกมาจากปาก
ชั่วครูก็พุงเขาไปในกลุมลำแสงที่แยกออกกลุมหนึ่ ง แลวดึงคนตัวเล็กเขาไปในราง
จากนั้นหุนเชิดทั้งตัวก็เปลงลำแสงสีเงินสวางจาออกมา รางกายเริ่มสั่นคลอนไมหยุด
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม อาปากออกโดยไมพูดอะไร พนเปลวเพลิงสีมวงสายหนึ่ง
ออกมาจากปาก ชั่วครูก็โจมตีไปยังรางของหุนเชิด
เสียง ‘เปรี๊ยะ’ ดังขึ้น น้ำแข็งหนาชั้น หนึ่ งขยายตัวไปบนเรือนรางของหุ นเชิด
อยางรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็ผนึกหุนเชิดเอาไวในน้ำแข็ง กลายเปนกอนน้ำแข็งยักษ
ในตอนนั้นหานลี่ถึงไดผอนคลายลง เงยหนาขึ้นมองไปยังคนตัวเล็กที่อยูกลาง
อากาศแวบหนึ่ง ใบหนาเผยความกังวลเล็กๆ ออกมา
“ที่แทความรูสึกตอนแยกวิญญาณก็เปนเชนนี้นี่เอง ชางมหัศจรรยสุดๆ ผูบำเพ็ญ
เพียรที่มีประสบการณเชนนี้ในใตหลา เกรงวาคงมีแคขาเพียงคนเดียวกระมัง” จูๆ
เสียงหัวเราะอยางบาคลั่งของเทพขับเคลื่อนก็ดังออกมาจากรางคนตัวเล็ก แตเห็นได
ชัดวาน้ำเสียงออนระโหยโรยแรง ราวกับวากำลังปวยหนักอยางไรอยางนั้น
“ทานอาวุโส เปนอะไรหรือเปลาขอรับ?” หานลี่ไดฟงคำนี้ ก็อดไมไหวเอยถามขึ้น
“วางใจ ถึงแมวาหลังจากแยกวิญ ญาณแลว ขาจะยืนหยัดไดไมนานก็ตาม แต
ภายในสิบวันหรือครึ่งเดือนก็คงปลอดภัย เจารีบหลอมจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของหุนเชิด
นี้ใหเสร็จสมบูรณเถิด เชนนั้นขาถึงจะไดเห็นอานุภาพที่แทจริงของหุนเชิดตัวนี้กอนที่
จิตวิญญาณจะแหลกสลายไปได” เทพขับเคลื่อนกลับใชน้ำเสียงตื่นเตนดีใจเรงเรา
“นั่นมันแนนอนอยูแลว ทวากอนหนานั้นชนรุนหลังจะใชยันตคงวิญญาณชวยทำใหจิต
วิญญาณที่ชำรุดของทานอาวุโสมั่นคงกอน จะไดไมเกิดอะไรที่คาดไมถึงขึ้น” หานลี่
ขมวดคิ้วทั้งสอง สะบัดแขนเสื้อ ยันตวิเศษสีแดงโลหิตแผนหนึ่งพลันบินออกมาจากมือ
“ยันตคงวิญญาณนั้นเปนยันตท่ีหาไดยากมาก ใชกับคนที่ใกลจะตายอยางขานั้น
สิ้นเปลืองไปสักหนอยกระมัง” น้ำเสียงของเทพขับเคลื่อนประหลาดใจเล็กนอย
“ยันตแผนนี้ เปนยันตที่ขาพบในยานเก็บของของผูบำเพ็ญเพียรที่สังหารไปครั้งที่
แลวคนหนึ่ง ตอใหล้ำคาขนาดไหนก็ไดมาโดยไมเสียอะไร จึงไมมีอะไรตองเสียดาย”
หานลี่เอยอยางราบเรียบ จากนั้นก็สะบัดขอมือ ยันตสีโลหิตกลายเปนลำแสงสีโลหิต
สายหนึ่งพุงออกไปทันที โจมตีไปยังรางของหุนเชิดตัวเล็ก หมอกโลหิตกลุมหนึ่งระเบิด
ออก ถูกรางของคนตัวเล็กดูดซับเขาไปจนเกลี้ยงอยางรวดเร็ว
“ไมเลว รูสึกดีขึ้นมากแลว ทวา เจาเปนคนคิดใชยันตวิเศษแผนนี้เอง อยาหวังวา
ตาเฒาจะซาบซึ้งใจอะไรละ” น้ำเสียงของเทพขับเคลื่อนสดใสขึ้นหลายสวนทันที ตอบ
กลับดวยทาทางแปลกประหลาดเล็กนอย
“ไมหรอก นี่เปนแคการชวยเหลือกอนที่ทานอาวุโสจะสิ้นลมเทานั้น” หลังจากที่
หานลี่เงียบกริบไปชั่วครู ก็ตอบกลับอยางราบเรียบ
ขับเคลื่อนสงเสียงหึๆ ออกมาสองสามครั้ง จูๆ สองมือก็สะบัดไปทางกระบอกไม
ไผสองสวนที่อยูบนพื้น ชั่วขณะนั้นเสียง ‘พรึ่บ’ ก็ดังขึ้น กระบอกไมไผทั้งสองสวนบิน
เขามา ชั่วพริบตาก็ประกบรางของคนตัวเล็กเอาไวตรงกลาง กลับมาเปนกระบอกไม
ไผเชนเดิม จากนั้นกระบอกไมไผพลันลอยขึ้นกลางอากาศ ตั้งตระหงานอยูเบื้องหนา
ของหานลี่อีกครั้ง
ตอนนั้น หานลี่ไมรอใหเทพขับเคลื่อนไดพูดอะไรอีก มือหนึ่งก็สะบัดไปทางกอน
น้ำแข็งยักษ
ลำแสงสีมวงในกอนน้ำแข็งสวางวาบ น้ ำแข็งที่ เย็น เยียบบนหุ น เชิดรางมนุ ษ ย
คอยๆ ละลาย
หานลี่นั่งสมาธิลงอีกครั้ง มือหนึ่งสะบัดขึ้นเหนือศีรษะ จากนั้นนำแสงสีเขียวพลัน
สวางวาบ ทารกสีเขียวเขมคนหนึ่งปรากฏขึ้น บินตรงไปหาหุนเชิดรูปรางคน
……
สามเดือนผานไป บนเกาะนิรนามแหงหนึ่งที่หานลี่พำนักอยู พลันมีสายรุงสีเขียว
สายหนึ่งพุงแหวกอากาศขึ้นไป
เกาะไผขม เปนเกาะเล็กๆ แหงหนึ่งที่ไมไดมีชื่อเสียงอะไรในนานน้ำตาจิ้น ตลอด
ทั้งปถูกปกคลุมไปดวยหมอกสีฟาที่ลึกลับ
เจาของเกาะคือชายชรานามวาขูจู ถึงแมวาในโลกของผูบำเพ็ญเพียรแผนดินใหญ
จะไม มี ชื่ อ เสี ย งอะไร แต ส ำหรั บ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ ก อ กำเนิ ด ขั้ น ปลายภายใน
แผนดินใหญแลว สวนใหญจะรูจักคนผูนี้ และยิ่งไปกวานั้นยังรูสึกหวาดกลัวเจาของ
เกาะขูจูผูนี้เปนพิเศษ
ในบรรดาผูบำเพ็ญเพียรนอกมหาสมุทร
ชายชรานามว าขู จู มี ชื่ อ เสี ย งเป น อย างมาก ถึ ง แม ว า พลั งยุ ท ธ จ ะอยู ในระดั บ
กอกำเนิดขั้นกลาง แตเพราะอาศัยกระบี่บินไผยะเยือกสามรอยหกสิบสี่เลมและตน
หมอนสวรรคบนเกาะไผขม กลับถูกผูบำเพ็ญเพียรนอกมหาสมุทรมองวาเปนหนึ่งใน
สามเทพเซียนนอกมหาสมุทรที่ยังมีชีวิตอยู
สวนบนเกาะไผขมนั้น ก็มีเขตอาคมหมื่นพฤกษาคอยปกปองตนหมอนสวรรคอยู
ทั้งมหัศจรรยและแปลกประหลาด มันมีชื่อเสียงเขยาปฐพีในเหลาผูบำเพ็ญเพียรนอก
มหาสมุทรมาหลายหมื่นปแลว ตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายบุก
เขามาไปเขตอาคม ก็ตองสูญเสียพลังไปสามสวน
แตวันนี้บนเกาะที่วางเปลาแหงนี้ กลับมีแขกที่ไมไดรับเชิญผูหนึ่งมาเยือน
ตอนที่ 969 เกาะไผขม
หลังจากที่ลำแสงวิญญาณสวางวาบขึ้นที่ขอบฟาไกลๆ สายรุงสีเขียวยาวสองจั้ง
สายหนึ่ง ก็มาถึงกลางอากาศเหนือกลุมหมอกที่ทอดตัวยาวไปรอยลี้ดวยความรวดเร็ว
ปานสายฟา
หลังจากที่แสงหมนลงก็เผยรางของผูบำเพ็ญเพียรชายหนุมที่สวมชุดนักปราชญ
คนหนึ่งออกมา นั่นก็คือหานลี่
ด า นหลั ง เขามี ก ระบอกไม ไผ ส ะพายอยู กำลั ง มองพิ จ ารณาไปที่ ท ะเลหมอก
ดานลางไมหยุด ทุกแหงที่ดวงตาทั้งสองกวาดออกไป ลวนเปนสีขาวโพลน มองไมเห็น
อะไรเลยสักอยาง
หานลี่ขมวดคิ้ว ลำแสงสีฟาสวางวาบขึ้นในนัยนตา ผานไปชั่วครู สีหนาก็เครงขรึมขึ้น
“เกาะไผขมนี้สุดยอดดังคาด ถึงแมวาจะใชเนตรวิญญาณวารีวิญญาณกระจาง ก็
ไมอาจมองทะลุผานเขตอาคมลงไปได เขตอาคมหมื่นพฤกษานี้สมคำร่ำลือจริงๆ”
หานลี่เอยพึมพำกับตนเอง
“นั่นมันแนนอนอยูแลว ทวาขนหงสดำของเกาะไผขม จะทำใหอานุภาพของพัดสัตต
เปลวเพลิงที่เจาหลอมขึ้นเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง จึงไมมาไมได และยิ่งไปกวานั้นผูเฒาขูจูผู
นี้ ก็ดูเหมือนวาจะเปนคูตอสูที่ดีที่สุดในการทดสอบพลังของหุนเชิด ยิงปนนัดเดียวได
นกสองตัว” น้ ำเสียงที่ ออ นแรงของเทพขับ เคลื่ อนดั งออกมาจากกระบอกไม ไผ ดู
เหมือนวาจะออนแอมากกวาตอนที่เพิ่งแยกจิตวิญญาณเสียอีก
“ขารูแลว ดวยเหตุนี้เมื่อหลอมหุนเชิดเสร็จ จึงมาที่นี่ในทันที ทวา ทานจะทน
ตอไปไดอีกนานแคไหนหรือ?” หานลี่เอยถามอยางรูสึกกังวลใจ
“วางใจ มียันตคงวิญ ญาณของเจาคอยชวยประคองอยู หากไมเห็นอานุภาพที่
แทจริงของหุนเชิด ขาก็จะไมลองไปจุติใหมงายๆ แน” เทพขับเคลื่อนหัวเราะดวย
เสียงแผวเบาออกมา
หานลี่พยักหนา กมหนาลงมองทะเลหมอกใตฝาเทา จูๆ ก็หรี่ตาทั้งสองลง มือ
หนึ่งตบไปที่ยามเก็บของขางเอว
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพลันพุงออกมา เงารางคนพลิ้วไหว ผูบำเพ็ญ
เพียรวัยกลางคนใบหนาซีดขาว ที่ดูคลายคลึงกับหานลี่ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหนา
ผูบำเพ็ญ เพียรผูนี้สวมชุดสีเหลือง ผิวพรรณดุจหยก เมื่อพิ เคราะห เครื่องหน า
อยางละเอียดแลว ก็เห็นไดชัดวาเหมือนกับหุนเชิดตัวเล็กของเทพขับเคลื่อนอยางไร
อยางนั้น ดวงตาทั้งสองกลับฉายแววเย็นเยียบ สีหนาเย็นชา ไมมีรอยยิ้มเลยสักนิด
ถึงแมวาจะเคยเห็นมาไมรูกี่ครั้งตอกี่ครั้งแลว ชั่วพริบตาที่หุนเชิดปรากฏตัว หานลี่ก็ยัง
อดที่จะเหลือบมองแวบหนึ่งไมได
หยกญาณละมุนนั้นมหัศจรรยจริงๆ เดิมเปนสีเทาหมนๆ แตเมื่อผานการหลอมที่
เทพขับเคลื่อนสอนใหไปเล็กนอย ก็เปลี่ยนสีไปเหมือนกับผิวหนัง ทำใหหยกญาณ
ละมุนผสมเขากับทรายรชตะที่เปนวัตถุดิบหลักในการหลอมเปลือกหุนเชิด จากนั้น
มนุษยที่ดูเปนธรรมชาติก็ปรากฏขึ้นเบื้องหนา
และเพราะวาหยกญาณละมุนจะเปลี่ยนรูปลักษณไดตามอำเภอใจ บวกกับที่ผสม
จิ ต วิ ญ ญาณของตั ว เองเข าไปในหุ น เชิ ด นั้ น ภายใต ก ารควบคุ ม ของเขา หุ น เชิ ด ก็
สามารถพูดคุย และแสดงสีหนา ไดราวกับคนจริงๆ
ทวาปญหาเดียวของการใชหุนเชิดนี้ก็คือศิลาวิญญาณ หุนเชิดระดับสูงขนาดนี้
โดยปกติแลวใชศิลาวิญญาณระดับกลางมันก็ไมคอยจะเหมาะสมสักเทาไหร ภายใต
การขับเคลื่อนเต็มกำลังนั้น จะใชการโจมตีจากหุนเชิดนี้ไดเพียงไมกี่ครั้ง มีเพียงศิลา
วิญญาณระดับสูงเทานั้นถึงจะใชการโจมตีเต็มกำลังของหุนเชิดได
แตความหายากของศิลาวิญญาณระดับสูงนั้นก็ไมตองพูด ตอใหเปนหลังจากที่
หานลี่มาถึงตาจิ้นแลวก็ตาม ถึงแมยานรานคาทุกๆ แหงจะคอยจับตาดูของสิ่งนี้ แตก็
รวบรวมศิลาวิญญาณระดับสูงไดเพียงไมกี่กอนเทานั้น ถาหากจะใหหุนเชิดโจมตีเต็ม
อัตรา เดาวาศิลาวิญญาณระดับสูงหนึ่งกอนก็จะใชไดเพียงหนึ่งเคอเทานั้น
“ลงมือเถิด” หานลี่เอยปากอยางราบเรียบ
ไม ว า จะอย า งไรก็ ต าม ในเมื่ อ หลอมหุ น เชิ ด ขึ้ น มาได ก็ จ ะต อ งลองทดสอบ
ประสิทธิภาพดู
หุนเชิดชูมือทั้งสองขึ้นโดยไมไดเอยคำพูดใดๆ กางนิ้วทั้งหาออกเล็กนอย
ชั่วขณะนั้นลำแสงวิญญาณสีเขียวพลันรวมตัวอยูที่ใจกลางฝามืออยางรวดเร็ว ชั่ว
พริบตาก็รวมตัวกันจนมีขนาดเทาศีรษะสองกลุม เปลงแสงเจิดจา ดูดุดัน
เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น หุนเชิดสะบัดขอมือเล็กนอย กลุมลำแสงกลายเปนเสาลำแสง
สองสายพุงลงไป สวางวาบและหายวับไปทามกลางทะเลหมอก ราวกับดินโคลนที่จม
ลงสูมหาสมุทร
หานลี่มองทะเลหมอกดวยสีหนาราบเรียบ ไมไดเปลงคำพูดใดๆ ออกมา
หลังจากผานไปชั่วครู เสียงระเบิดกัมปนาทก็ดังขึ้น ทะเลหมอกที่เงียบสงบแตเดิม
พลันหมุนวนอยางบาคลั่ง จากนั้นพายุขนาดสองสามจั้งสองสายก็พุงออกมาจากทะเล
หมอก หมุนวนอยางรุนแรง ชั่วครูพ ลันกวาดทะเลหมอกในบริเวณนั้ น ออกไปเป น
ระยะรอยกวาจั้ง ราวกับอสรพิษรายที่พุงออกมาจากทะเลอยางไรอยางนั้น
แทบจะในชั่วพริบตาที่พายุปรากฏขึ้น ดานลางก็มีเสียงกรีดรองยาวๆ ปะปนกับสั้นๆ
ไมเทากันดังออกมา เสียงกรีดรองนั้นเต็มไปดวยความตื่นตระหนกระคนโกรธเกรี้ยว
หานลี่ ก วาดสายตาไปยั งทะเลหมอกที่ อ ยู เบื้ อ งล าง เกาะขนาดใหญ แ ห งหนึ่ ง
ปรากฏขึ้นรางๆ ทามกลางทะเลหมอกที่จางลงกวาเดิมเปนอยางมาก และเหนือเกาะ
เกาะนั้นก็มีมานลำแสงสีเขียวชั้นหนึ่งปกคลุมอยู แทบจะหอหุมกวาครึ่งเกาะเอาไว
ในตอนนั้ น เอง ท ามกลางม านลำแสงพลั น มี ล ำแสงหลากสี สั น สิ บ กว าสายพุ ง
ออกมา ตรงมายังตำแหนงของหานลี่ดวยความดุดัน
เห็นไดชัดวาการโจมตีเมื่อครูนี้ ทำใหผูบำเพ็ญเพียรบนเกาะตื่นตระหนกตกใจ
หานลี่มองไปปราดเดียว ก็มองออกวาพลังยุทธของผูบำเพ็ญเพียรกลุมนี้ผสมปะปนกัน
ไป มีทั้งผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณ และมีผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมดวย แต
ชายชราผูนำเพียงหนึ่งเดียวกลับมีพลังยุทธอยูในระดับหลอมรวมขั้นปลาย
“ทั้งสองทานเปนใคร เหตุใด...เอ ที่แทก็อาวุโสทั้งสอง ไมทราบวาผูอาวุโสทั้งสอง
มาที่เกาะขาดวยเรื่องอันใดหรือ?”
เมื่อคนเหลานี้บินมาอยูเบื้องหนาของหานลี่ เดิมคิดจะเขามาเอาเรื่องดวยสีหนา
โกรธขึง
แตหลังจากผูบำเพ็ญเพียรที่เปนผูนำแผจิตสัมผัสออกไปแลว กลับพบวาหานลี่
คาดไมถึงวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางเหมือนกับผูเฒาขูจู แตดูไม
ออกวาหุนเชิดนั้นมีพลังยุทธอยูในระดับใด ใจพลันเตนระรัว น้ำเสียงจึงออนลง
“ขานอยไดยินชื่อเสียงของสหายขูจูมาเนิ่นนานแลว ครั้งนี้จึงมาเยี่ยมเยียนสัก
หนอย สหายไปรายงานใหขานอยหนอยไดหรือไม” หานลี่เอยพรอมกับหัวเราะนอยๆ
ดวยดวงตาไมกะพริบ
“ชางโชครายจริงๆ ทานอาจารยเพิ่งจะกักตนบำเพ็ญเพียรไปเมื่อสองสามปกอน
และไมยอมพบแขก หากสหายทั้งสองมีธุระจริงๆ ละก็ สามารถคุยกับชนรุนหลังได
เรื่องราวตางๆ ในเกาะไผขมนั้นขานอยเปนคนตัดสินใจ” หลังจากผูบำเพ็ญเพียรที่เปน
ผูนำตกตะลึงแลว ก็รีบรอนเกิดขึ้นดวยรอยยิ้มเสียใจ
“สหายขูจูกักตนบำเพ็ ญ เพี ยร ช างน าเสี ยดายจริงๆ แต ในเมื่ อ เจาตั ดสิ น ใจได
เชนนั้นก็ดี ขาไดยินวาเกาะของทานเลี้ยงหงสดำโบราณตัวหนึ่งเอาไว เปนเรื่องจริง
หรือไม” หานลี่กะพริบตาพลางเอยถามดวยสีหนาราบเรียบ
“หงสดำ? ผูอาวุโสมีเจตนาอันใด” ผูบำเพ็ญเพียรที่เปนผูนำใจหายวาบ
“ไมมีอะไรหรอก ขานอยแคกำลังหลอมสมบัติอยูชิ้นหนึ่ง และจำเปนตองใชขน
หางของหงสดำสามเสน ขานอยยอมใชแกนอสูรระดับเจ็ดดวงหนึ่งและแกนอสูรระดับ
หกสามดวงแลกกับมัน ไมทราบวาสหายจะยอมตกลงหรือไม” หานลี่เพิ่งจะเอยจบ
ดวยสีหนาราบเรียบก็สะบัดแขนเสื้อ กลองหยกสี่กลองบินออกมาจากแขนเสื้อ พลาง
ลอยอยูเบื้องหนาของเขา
นิ้วชี้ไปที่กลองหยกกลางอากาศสองสามครั้ง ฝากลองเปดออก เผยใหเห็นแกน
อสูรสี่ดวงที่มีสีสันหลากหลายขางใน ดวงหนึ่ งมี ขนาดค อนขางใหญ อีกสามดวงมี
ขนาดเล็กกวาเล็กนอย
“แลกกับขนหงส?”
ความตองการของหานลี่อยูนอกเหนือความคาดหมายของผูบำเพ็ญเพียรที่เปน
ผูนำ เขาจึงอดที่จะตะลึงงันเล็กนอยไมได
“ใชแลว หงสดำของเกาะทานนาจะเปนวิหควิญญาณระดับเจ็ด ขานอยยอมเอา
แกนอสูรออกมาจำนวนมากขนาดนี้ ก็เพื่อแสดงออกถึงความจริงใจ” หานลี่หุบยิ้ม
เผยสีหนาเครงขรึมออกมา
“ถึงแมวาหงสดำจะเปนวิหควิญญาณโบราณ การใชแกนอสูรเหลานี้มาแลกกับวิหค
วิญญาณ แนนอนวาเหลือเฟอ ทวาเรื่องนี้ ชนรุนหลังเกรงวาจะไมอาจยอมตกลงได”
ชายชราที่เปนผูนำมีสีหนาเครงขรึมสลับสดใสอยูนาน แลวจึงสายศีรษะดวยความลังเล
หานลี่ไดยินคำตอบ แววตาก็เย็นเยียบ มองไปยังคนผูนั้นดวยความเย็นชา ไม
เปลงคำพูดใดๆ ออกมา
ชายชราที่เปนผูนำเห็นหานลี่มีสีหนาไมเปนมิตร ก็รูสึกจิตใจหนักอึ้ง รีบรอนเอย
ปากอธิบาย
“ผูอาวุโสโปรดอยาเขาใจผิด ไมใชวาชนรุนหลังไมเห็นแกหนาผูอาวุโส แตหงสดำ
ของเกาะเรากำลังกักตนเพื่อบรรลุระดับอยู ไมอาจสูญเสียพลังยุทธใดๆ ไดจริงๆ”
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง แตขาจำเปนตองใชขนของหงสดำจริงๆ เอาอยางนี้ก็แลว
กัน ขาจะเพิ่มแกนอสูรระดับเจ็ดใหอีกดวง นี่พอจะชดเชยความเสียหายของเกาะเจา
ไดหรือไม” หลังจากที่หานลี่ตะลึงงัน ก็ขมวดคิ้ว แลวพลิกฝามือ หยิบกลองหยกอีกใบ
ออกมา
ตอนนั้นผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดของเกาะไผขม ก็อดที่จะมองสบตากันไมได!
“ทำไม เช น นี้ เกาะของเจ าก็ ยั งไม ย อมตกลงอี ก หรือ ” หานลี่ เครงขรึม ขึ้ น ใช
สายตาเย็นเยียบจองเขม็งไปยังกลุมผูบำเพ็ญเพียรเบื้องหนา
“เรื่องนี้เปนเรื่องใหญนัก ชนรุนหลังไมมีทางตัดสินใจไดจริงๆ เอาอยางนี้ก็แลวกัน
ผูอาวุโสรอประเดี๋ยว ขาจะลองเสี่ยงโดนทานอาจารยตำหนิ สงยันตถายทอดเสียงเขา
ไปในหองลับ ดูวาทานอาจารยจะตอบวาอยางไร” ผูบำเพ็ญเพียรที่เปนผูนำถูกสายตา
ของหานลี่ ก วาดมองมาก็ สั่ น สะท าน หลั งจากกวาดสายตาไปที่ หุ น เชิ ด ร างมนุ ษ ย
ดานขางอีกครั้ง ในที่สุดก็กัดฟนเอยขึ้น
ถาหากเปนเพราะเขาจัดการเรื่องราวอยางไมเหมาะสม สรางศัตรูใหกับเกาะไผขม
อยางเปลาประโยชน กลับไปเกรงวาคงโดนลงโทษไมนอยเชนกัน
“เยี่ยม ขาจะรอเจาสักหนอยก็ได” หานลี่ถึงไดพยักหนาสีหนาผอนคลายลง
ผลลัพธคือชายชราปลอยยันตถายทอดเสียงสายหนึ่งออกไปดังคาด บอกกลาว
เรื่ อ งราวการแลกเปลี่ ย นของหานลี่ เอาไว อ ย า งละเอี ย ด จากนั้ น ก็ ป ล อ ยกลั บ ไป
แนนอนวาหนึ่งในนั้นจะตองบอกถึงความนากลัวของพลังยุทธหานลี่และหุนเชิดรูปราง
มนุษยเอาไวดวย และทำใหเขาจำใจตองทำเชนนี้
หานลี่รออยูไมนานนัก ตอนที่เขากำลังเอามือไพลหลังพิจารณาเขตอาคมกลาง
อากาศของเกาะไผขมอยางละเอียดนั้น จูๆ ก็มีเสียงที่แหบแหงและวังเวงดังขึ้น
“ที่แทก็มีสหายระดับกอกำเนิดมาเยี่ยมเยียนนี่เอง ตาเฒาไมไดออกไปตอนรับ
ตั้งแตไกลๆ หวังวาจะหายทั้งสองจะไมถือสา เชิญสหายทั้งสองเขามาที่หอหงสสวรรค
ในเกาะเถิด ตาเฒาจะออกจากการบำเพ็ญตบะไปพบแขก” จากน้ำเสียงนี้ดูออกไดวา
อีกฝายก็คือผูเฒาขูจู ประโยคแรกนั้นพูดกับหานลี่ สวนประโยคหลังนั้นออกคำสั่งกับ
ลูกศิษย
“ขอรับ ทานอาจารย! ผูอาวุโสทั้งสอง เชิญตามชนรุนหลังมาขอรับ ทานอาจารยอยาก
พบผูอาวุโสทั้งสองดวยตัวเอง” ชายชรารีบรอนประสานมือเขาหากันทำความเคารพ
นอมรับคำสั่งกลางอากาศ จากนั้นก็หันหนามา เอยกับหานลี่ดวยใบหนาเปอนยิ้ม
“เยี่ยม ผู แ ซห านเองก็ได ยิน ชื่ อ เสี ย งของเกาะนี้ ม าเนิ่ น นานแล ว อยากจะเป ด
ประสบการณดูสักครั้ง” หลังจากที่หานลี่กวาดสายตาไปบนรางของหุนเชิดดานขาง
แวบหนึ่ง ก็ตอบรับดวยสีหนาไมเปลี่ยนแปลง จากนั้นก็รอนลงมาบนเกาะและตามผู
บำเพ็ญเพียรเหลานั้นเขาไปพรอมกับหุนเชิด
มีหุนเชิดระดับกอกำเนิดขั้นปลายคอยชวยเหลือ หานลี่ก็มั่นใจวาถึงแมอีกฝายจะ
เปดใชเขตอาคมหมื่นพฤกษา ก็ไมมีทางกักเขาเอาไวได ดังนั้นจึงเขามาในพื้นที่ของอีก
ฝายอยางไมหวาดกลัว
ชั่วพริบตา คนกลุมนั้นก็บินเขามาในเกาะจากชองโหวที่เปดออกโดยอัตโนมัติของ
มานลำแสง
เมื่อหานลี่บินเขามาดานใน ชั่วขณะนั้นพลันสัมผัสไดถึงกลิ่นไอวิญญาณที่โชยมา
จากนั้นสิ่งที่เขามาอยูในครรลองสายตาดานลางก็เปน ตนไมขนาดยักษ สีเขียวชอุม
ต น ไม เหล านี้ สู งใหญ จ ริงๆ แต ล ะต น สู งประมาณสามสี่ รอ ยจั้ง และเห็ น ได ชั ด วามี
มากมายหลายชนิด ทุกชนิดลวนเปนตนไมล้ำคาที่พบเห็นไดยากในภายนอก
ทามกลางปาผืนนี้ มีตนไมที่สูงกวาตนอื่นๆ อยูสิบกวาตน เปนตนหมอนสีมวงที่ดู
มหัศจรรย เรียงรายอยูทามกลางผืนปาดูเปนธรรมชาติที่นาพิศวง
“นี่ คื อ ต น หม อ นสวรรค ข องเกาะท านหรื อ ? ไม ได มี เพี ย งต น เดี ย วหรือ แค นั บ
คราวๆ ก็มีสิบกวาตนแลว!” หานลี่ขมวดคิ้ว จูๆ ก็เอยถามชายชราที่อยูขางกาย
แตชายชราที่กำลังแอบมองหุนเชิดรูปรางมนุษยสองสามครั้งนั้น ก็กำลังขบคิดวา
เหตุใด ‘ผูอาวุโส’ ผูนี้ถึงไมยอมพูดจา ใบหนาเรียบเฉย หรือวาจะเปนคนที่ชอบเก็บตัว
คนหนึ่ง?
ตอนที่ 970 ผูเฒาขูจู
“ทานอาวุโสคงไมทราบวาตนหมอนสวรรคเหลานี้มีรากเดียวกัน อันที่จริงก็นับวา
เปนตนเดียวกัน” เรื่องนี้ก็ไมใชความลับอะไร ชายชราจึงอธิบายใหฟงอยางไมปดบัง
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ไดยินมานานแลววาตนหมอนสวรรคจัดอยูในสามมหาไมเทวา
ที่แทก็มีรูปรางเชนนี้นี่เอง ทำใหผูแซหานไดเปดประสบการณจริงๆ” หานลี่เอยพรอม
กับสงเสียงจุๆ พลางชื่นชมวาอัศจรรย
ภูเขาเล็กๆ ขนาดความสูงสองสามรอยจั้งลูกหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหนา และจากใจ
กลางของภู เขาลู ก นี้ ก็ มี ห อคอยน อ ยใหญ จ ำนวนมากสรางขึ้ น อยู รอบๆ ทั้ งยั งมี ผู
บำเพ็ญเพียรสัญจรไปมาไมหยุด
“พวกเจาไปไดแลว ไปทำธุระของตัวเองเถิด ทานอาวุโสทั้งสองนั้น ขาจะนำทาง
ไปเอง” ตอนนั้นเอง ชายชราก็มองไปทางผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือแลวโบกมือออกคำสั่ง
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นไดยินตางก็ขานรับ และทยอยกันแยกตัวไปทันที
หานลี่และหุนเชิดตามชายชราขึ้นไปยังยอดเขา ที่นั่นมีตำหนักขนาดใหญที่สราง
ขึ้นจากไมตั้งอยู ขนาดพื้นที่ไมเล็กเลยทีเดียว สวนดานนอกประตูตำหนัก มีผูบำเพ็ญ
เพียรสวมเกราะสีเขียวสี่คนยืนอยูตรงนั้น ทุกคนลวนถือขวานยาวที่มีรูปรางหนาตา
เหมือนกันเอาไว
ชายชรานำหานลี่และพวกทั้งสองรอนลงบนประตูทางเขาตำหนักไม ผูบำเพ็ญ
เพียรทั้งสี่คนนั้นมีสีหนาเรียบเฉยไมสะทกสะทาน ราวกับหุนเชิดอยางไรอยางนั้น
หานลี่หยักมุมปากขึ้น รูสึกตกใจเล็กนอย
ถึงแมวาทั้งสี่คนนี้จะมีพลังยุทธอยูแคระดับสรางปราณ แตไอวิญญาณไมบริสุทธิ์ที่
อยูบนเรือนรางก็เหนือกวาผูบำเพ็ญเพียรในระดับเดียวกัน และยิ่งไปกวานั้นหานลี่
มองปราดเดียวก็รูวา ไมวาจะเปนเกราะสงครามหรือวาขวานยาว ก็เปนยุทธภัณฑธาตุ
ไมระดับสุดยอด แปลกจริงๆ
ดูเหมือนวาจะมองความตกใจของหานลี่ออก ชายชราจึงเอยอธิบายพรอมกับรอยยิ้ม
“คนเหลานี้ลวนเปนองครักษวิญญาณไมที่ทานอาจารยฝกฝนเองกับมือ อาศัย
พลังของตนหมอนสวรรคฝกฝนเคล็ดวิชาการตอสูโดยเฉพาะ ถึงแมวาพลังยุทธจะไม
สูงนัก แตก็เชี่ยวชาญการตอสูแบบกลุม หากทานอาวุโสมีโอกาสละก็ ลองชี้แนะสัก
หนอยก็ไดนะขอรับ”
“อืม แตกตางจากผูบำเพ็ญเพียรทั่วไปจริงๆ” หานลี่พยักหนา
ชายชราเห็นหานลี่มีทาทีเงียบขรึม แนนอนวาก็ไมไดพูดอะไรใหมากความอยาง
รูจักวางตัว
โครงสรางของตำหนักไมไมไดซับซอนนักนอกจากหองโถงใหญแลวก็มีเพียงปก
ขางหองหนึ่งเทานั้น ดังนั้นเมื่อหานลี่และพวกเดินเขาไปในหองโถง ก็พบเงารางสูง
ใหญที่หันหลังใหพวกเขายืนอยูกลางหองโถงทันที สวมชุดคลุมยาวสีเขียว ผมขาวราว
กับหิมะ
ชายชราเห็นเงารางของคนผูนี้ก็โนมตัวลงทำความเคารพดวยสีหนาเปลี่ยนสียก
ใหญ จากนั้นจึงขยับไปยืนตัวตรงอยูดานขางสองมือทั้งสองประสานกันไวเบื้องหนา
“สหายคื อ ผู เฒ า ขู จู ห รือ ?” หานลี่ จ อ งเขม็ ง ไปยั งเงาแผ น หลั งของคนผู นี้ ด ว ย
ดวงตาไมกะพริบ
“ใชแลวตาเฒาก็คือขูจู ทานทั้งสองหนาตาไมคุนเลย หรือวาจะเปนสหายที่มา
จากแผน ดิ น ใหญ ขอบั งอาจถามแซ ท านได ห รือ ไม ?” หลั งจากที่ ผูที่ สวมชุ ดสี เขี ย ว
หัวเราะออกมาแลว ก็หันกายกลับมา
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง เห็นเพียงไรฟนขาวสะอาดกับริมฝปากแดงระเรื่อของ
คนผมขาว หนาตาออนโยน คาดไมถึงวาจะเปนเด็กหนุมอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดป
แตแคบนใบหนามีไอสีเขียวออนๆ ปกคลุมอยูชั้นหนึ่ง
เมื่อเห็นรูปรางของอีกฝาย หานลี่พลันตกตะลึง
ผูเฒาขูจูผูนี้คาดไมถึงวาจะเปนเหมือนกับเขาอยางไรอยางนั้น คือใชเคล็ดวิชาคง
ความเยาววัย ชางอยูนอกเหนือความคาดหมายของเขาจริงๆ แตเดิมเขาอีกวาจะเห็น
ชายชราที่ใบหนาเต็มไปดวยริ้วรอยเสียอีก
ถึงแม วาผูเฒ าขูจูจ ะฉีกยิ้ม เล็ก ๆ แต เมื่ อ เห็ น หน าตาของหานลี่ ชั ด เจน แววตา
ประหลาดใจก็ฉายวาบขึ้นมา
“เราสองคนไมใชผูบำเพ็ญเพียรนอกมหาสมุทร ขานอยแซหาน ผูนี้คือศิษยพี่ของ
ขานอย แซลี่ ครั้งนี้ที่บุมบามมาเยี่ยมเยือน หวังวาสหายจะไมถือสา” หานลี่เอยอยาง
มีมารยาท
“ไมหรอก! สหายทั้งสองไมใชคนธรรมดา มาถึงเกาะของขาได เกาะของขาก็ไม
ทันไดตอนรับ สหายลี่ผูนี้มีพลังยุทธที่ลึกล้ำยากจะคาดเดา คาดไมถึงวาตาเฒาจะไม
อาจคาดเดาระดับพลังยุทธของเขาได ชางทำใหตาเฒาไดเปดประสบการณครั้งใหญ
จริงๆ” ผูเฒาขูจูพิจารณาหานลี่และหุนเชิดสองสามครั้ง แลวเอยขึ้นพรอมรอยยิ้ม
เห็นไดชัดวาเจาของเกาะผูนี้มองวาหุนเชิดของหานลี่คือผูบำเพ็ญเพียรที่ฝกฝน
เคล็ดวิชาลับอะไรสักอยาง และรูสึกตื่นตกใจเปนอยางมาก
“สหายถอมตนเกินไปแลว ชื่อเสียงของสหายขูจู พวกเราทั้งสองไดยินมาหนาหู”
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา
“หึๆ สหายทั้งสองเชิญนั่งลงชิมชาผลหมอนที่มีเพียงบนเกาะของขากอนเถิด”
ผูเฒาขูจูหัวเราะนอยๆ ออกมา เชิญหานลี่และพวกทั้งสองนั่งลง
หลังจากเสียงปรบมือ ‘แปะๆ’ ดังขึ้น ทันใดนั้นผูบำเพ็ญเพียรหญิงวัยเยาวสอง
สามคนที่ถือถาดน้ำชาเอาไวก็เดินเขามาในตำหนักทันที ชงชาวิญญาณสีเขียวออนกา
หนึ่งใหทั้งสามคน และถอยออกไปจากตำหนักไมอยางนอบนอม
“ชาผลหมอน หรือวาเกี่ยวของกับตนหมอนสวรรค?” หานลี่กมหนาลงมองชา
วิญญาณบนโตะ สัมผัสไดถึงไอวิญญาณธาตุไมที่เต็มเปยมในชา ก็เอยถามพรอมกับ
หนาเปลี่ยนสี
“ดวงตาของสหายชางมีแววจริงๆ มันทำมาจากใบของตนหมอนสวรรคจริงๆ มี
ประสิทธิภาพในการเบิกเนตร นอกจากเกาะของขาแลว ไมมีที่ไหนที่มีชาชนิดนี้แน”
ผูเฒาขูจูเอยอยางภาคภูมิใจ
“เชนนั้น ขานอยคงตองชิมสักหนอยแลว” แววตาของหานลี่สวางวาบ เขาใชจิต
สัมผัสตรวจสอบชาวิญญาณในถวยอยางละเอียด หลังจากมั่นใจวาไมมีปญหาอะไร
แลว ก็หยิบถวยชาขึ้นมาอยางไมเกรงใจและจิบเขาไปอึกหนึ่ง
“สหายลี่ ไมชอบชานี้หรือ?”
หุนเชิดรางมนุษยนั่งอยูบนเกาอี้ดวยสีหนาราบเรียบ ไมไดแตะตองถวยชาบนโตะ
ผูเฒาขูจูจึงเอยถามขึ้นอยางรูสึกประหลาดใจ
“หลังจากที่ขาเริ่มจำศีล นอกจากในจวนของตนเองแลว ก็ไมดื่มกินอะไรทั้งนั้น”
หุนเชิดรางมนุษยเอยอยางเย็นชา วาจาไรซึ่งความเกรงใจ
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ขานอยเสียมารยาทแลว” แววตาของผูเฒาขูจูฉายแววไม
สบอารมณเล็กนอย แตก็สลายหายไป ปกปดเอาไวไดเปนอยางดี
ผูบำเพ็ญเพียรที่กลาพูดเชนนี้ตอหนาเจาของแนนอนวาจะตองมั่นใจอยูหลายสวน
หรือวาคนที่อยูเบื้องหนาคือผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายจริงๆ
ผูเฒาขูจูมีความคิดเชนนี้แวบผานไปในหัว ในใจกลับรูสึกหวาดกลัวหุนเชิดมากขึ้น
“ที่ พ วกเราทั้ งสองมาที่ นี่ สหายขู จู น าจะทราบแล ว กระมั ง ไม ท ราบว าสหาย
คิดเห็นอยางไรกับการแลกเปลี่ยนที่ผูแซหานเสนอให?” หานลี่เองก็ชิมชาไปอีกสอง
สามจิบ แลววางถวยชาลงขณะเอยขึ้นอยางเชื่องชา
“ไมปดบังสหายทั้งสอง การแลกเปลี่ยนนี้ทำใหตาเฒาลำบากใจจริงๆ หงสดำตัว
นั้นกำลังอยูในชวงเวลาสำคัญของการบรรลุระดับขั้น ตอใหสหายทั้งสองเอาแกนอสูร
ออกมามากกวานี้ ขานอยก็ไมยอมแลกกับขนหงสดำอยูดี มิเชนนั้นการบรรลุจุดคอ
ขวดครั้งหนาของวิหควิญญาณก็ไมรูวาจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร” ผูเฒาขูจูขมวดคิ้วเผยสี
หนาลำบากใจออกมา
“เอยเชนนั้น แสดงวาสหายขูจูไมเห็นดวยกับเรื่องนี้สินะ” หานลี่เมมริมฝปาก
ใบหนากลับไมไดเผยสีหนาประหลาดใจอะไรออกมา
“หึๆ หากขาจะปฏิเสธจริงๆ ละก็ เกรงวาจะหายทั้ งสองคงไม ยอมกลับไปมื อ
เปลาสินะ เชนนี้ก็แลวกัน ผูบำเพ็ญเพียรอยางพวกเรามีความสามารถยิ่งใหญ ขานอย
สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณความสามารถกับสหายทั้งสองได ถาหากสหายคน
ใดคนหนึ่ ง ทำให ข า น อ ยเพลี้ ย งพล้ ำ ได ในการต อ สู ตาเฒ า ก็ จ ะตอบตกลงกั บ การ
แลกเปลี่ยนนี้ ถาสหายทั้งสองทำไมได…”
“หากทำไมได ขาและพี่ลี่จะจากไปในทันที ไมมีทางเอยถึงเรื่องนี้แนนอน” หานลี่
เอยอยางไมลังเลแมแตนอย
“เยี่ยม คำไหนคำนั้น ตาเฒาไมไดแลกเปลี่ยนประสบการณกับใครมาเกือบรอยป
แลว สหายทั้งสองใครจะลงมือกอนละ?” ผูเฒาขูจูกวาดตามองพวกทั้งสองไปมาสอง
ครั้งแลวเอยพรอมกับอมยิ้ม
“หากจะหายไมรังเกียจละก็ แลกเปลี่ยนกับผูแซลี่สักหนอยเปนอยางไร?” หานลี่
มีสีหนาไมเปลี่ยนแปลง ควบคุมหุนเชิดดานขางที่เขาแยกจิตสัมผัสออกไปควบคุมให
เอยปากขึ้นอยางเชื่องชา
“เยี่ยม ขานอยรูสึกสนใจเคล็ดวิชาของพี่ลี่จริงๆ พวกเราไปประลองกันบนยอด
เขากันเถิด เชิญสหาย!” ผูเฒาขูจูเห็นวาตนเองไมสามารถมองทะลุพลังยุทธที่แทจริง
ของผูที่จะลงมือได ใบหนาก็อดที่จะเผยความเครงขรึมเล็กนอยออกมาขณะยืนขึ้นจาก
เกาอี้ไมได
หานลี่และหุนเชิดรูปรางมนุษยเองก็ลุกขึ้นยืนเชนกัน
ชายชราที่ยืนประสานมือเอาไวเบื้องหนาดานขางในตอนนี้ ก็ทนไมไหวเผยสีหนา
ตื่นเตนออกมา การตอสูของผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด ไมใชสิ่งที่ผูใดจะมีโอกาส
ชมไดงายๆ จริงๆ
ผานไปชั่วครู หานลี่ก็อยูลอยกลางอากาศเหนือยอดเขาขึ้นไปรอยกวาจั้งดวยสี
หนาเยือกเย็น และเบื้องหนาของเขาหางออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง ก็มีหุนเชิดรางมนุษย
และผูเฒาขูจูยืนอยู
สวนที่เหลือรอบๆ นั้น ก็มีผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมเจ็ดแปดคนที่ไดขาวก็
รีบแจนมารายลอมอยู ดวงตากลมโตคูนั้นจองเขม็งไปยังสถานการณที่เกิดขึ้นกลาง
อากาศ
“ไป”
ปากของผูเฒาขูจูคำรามดวยเสียงทุมต่ำออกมา สองมือพลันรายอาคม จูๆ ก็มีไอ
เย็นเยียบที่แสบตาสวางจาขึ้นทั่วเรือนราง ในเวลาเดียวกันลำแสงสีเขียวรอยกวาสายก็
พุงออกมา เมื่อลำแสงเหลานี้ปรากฏตัวก็ขยายใหญ ขึ้น กลางสายลม ชั่วพริบตา ก็
กลายเปนเขตอาคมกระบี่บินสีเขียวออนรอยกวาเลมดูดุดัน
หลั ง จากกระบี่ เปล ง แสงสว า งวาบ กระบี่ บิ น ทั้ ง หมดก็ เรี ย งแถวเป น รู ป ร า ง
ประหลาดๆ บินวนอยูเหนือศีรษะของผูเฒาขูจูไมหยุด แฝงเอาไวดวยจิตสังหาร
หานลี่ที่เห็นเชนนั้น สีหนาราบเรียบแตเดิมก็แข็งคาง
“เขตอาคมกระบี่ ผูเฒาขูจูฝกฝนกระบี่บินไดจำนวนมากขนาดนี้ มีความสามารถ
ดานเขตอาคมกระบี่ดังคาด” ถึงแมวาหานลี่จะคาดเดาเอาไวตั้งนานแลว แตเมื่อเห็น
ดวยตาของตัวเองก็ยังรูสึกตกตะลึงอยูเล็กนอย
‘จุๆ เจาเด็กนอยหาน ดูแลวคนผูนี้คงมีความสามารถจริงๆ เชนนั้นก็นาจะทำให
หุนเชิดแสดงความสามารถออกมามากกวาเดิมไดอีกสักหนอยกระมัง เริ่มแรก ลองใช
พลังปองกันของหุนเชิดกอนแลวคอยวากัน’ น้ำเสียงที่ตื่นเตนของเทพขับเคลื่อนดังขึ้น
ดูแลวเขาคงรูสึกมั่นใจในความสามารถของหุนเชิดตัวนี้อยางเต็มเปยม
“อืม! เขาใจแลว”
ใช วัต ถุ ดิ บ ที่ ล้ ำค าไปตั้ งมากมายขนาดนี้ บ นหุ น เชิ ด หานลี่ ก็ รู สึ ก ตั้ งตารอคอย
เชนกัน ภายใตความคิดนั้น หุนเชิดรูปรางมนุษยก็เริ่มเคลื่อนไหว
มองจากที่ไกลๆ ออกไป เห็นเพียงหุนเชิดอาปากออก พนโลยักษขนาดเทาฝามือ
ออกมา ลำแสงวิ ญ ญาณสว า งวาบ กลายเป น โล ยั ก ษ สี เงิ น ต า นทานอยู เบื้ อ งหน า
จากนั้นมือทั้งสองของหุนเชิดก็รายอาคม บนใบหนามีอักษรหลากสีสัน ปรากฏขึ้น
อยางฉับพลัน จากนั้นเกราะปองกันหาสีสันชั้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้นจากอักขระเหลานั้น
ชั่วครูก็หอหุมทั้งเรือนรางเอาไว
“เอ! หรือวาสหายมาจากสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ของหนานเจียง เคล็ดวิชาชนิดนี้ดู
เหมือนวาจะเปนเคล็ดวิชาอักขระวิญญาณที่มีชื่อเสียงของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์”
ผูเฒาขูจูเห็นความแปลกประหลาดบนใบหนาของหุนเชิด ก็เอยถามขึ้นดวยความ
ตะลึงงัน
“ไมใช” ถึงแมหานลี่จะไดยินคำนี้แลวใจกระตุกวาบ แตกลับควบคุมหุนเชิดให
ตอบกลับดวยอยางไรความรูสึก
“ออ ที่แทขานอยก็มองผิดไป แตดูจากความสามารถของสหายแลว คลายกับ
เคล็ดวิชาอักขระวิญญาณเปนอยางมาก” แววตาของผูเฒาขูจู ฉายแววประหลาดใจ
ตอบกลับดวยเสียงราบเรียบ เห็นไดชัดวาไมคอยเชื่อคำพูดของหุนเชิดรางมนุษย
แตก็ไมไดซักถามอะไรตอ เมื่อเห็นหุนเชิดเตรียมการปองกันและไมไดเคลื่อนไหว
ไมมีทาทีจะโจมตี ก็อดที่จะรูสึกโกรธแค นไม ได รูสึกถูกดูแคลนอยูเล็กๆ ทั น ใดนั้ น
ใบหนาพลันเครงขรึม ปากก็บริกรรมคาถาดวยเสียงทุมต่ำออกมา
กระบี่ บิ น ทั้ ง หมดเหนื อ ศี ร ษะขานรั บ พร อ มกั น จากนั้ น กระบี่ บิ น ทั้ ง หมดก็
สั่ น คลอน ไอกระบี่ ย าวสองสามจั้ ง ร อ ยกว า สายพ น ออกมาจากเขตอาคมกระบี่
กลายเป น เงากระบี่ ที่ ห นาแน น พุ ง ไปด า นตรงข า ม ระหว า งทางก็ ผ นึ ก รวมตั ว กั น
กลายเปนลำแสงเย็นเยียบ ที่เจิดจาจนแสบตา
ตอนที่ 971 ธนูเพลิงอัสนี
หุนเชิดรางมนุษยเห็นกระบี่แสงเขามาโจมตี ก็ไมไดเคลื่อนไหวอะไรมากนัก แคชี้
ไปยังโลสีเงินที่อยูเบื้องหนา ชั่วขณะนั้นโลพลันเปลงแสงวิญญาณสวางวาบออกมาก
ทันใดนั้นก็ผนึกรวมตัวกันกลายเปนโลแสงที่มีขนาดใหญมากกวาของจริงสองสามเทา
ประกายแสงสีขาวโพลนพุงออกมารับการโจมตีเอาไว
ผลลัพธคือภายใตการจับจองของหานลี่ กระบี่แสงโจมตีไปยังโลแสงอยางไมปราณี
หลังจากเสียงระเบิดดังกัมปนาทขึ้น แสงสีขาวอันเย็นเยียบก็กะพริบวาบไมหยุด
คาดไมถึงวาโลแสงที่ดูเหมือนกอนหินยักษธรรมดาๆ จะตานทานกระบี่แสงเหลานี้
เอาไวไดโดยไมสั่นคลอนเลยแมแตนอย ดูเหมือนวาจะตานทานไดอยางสบายๆ
ผูเฒาขูจูหนาเปลี่ยนสี ใบหนาของหานลี่ฉายแววตกตะลึงเล็กนอย
‘ดูแลวพลังของโลรชตะ จะเปนไปตามที่คาดไว ถึงแมวาจะเปนสมบัติที่หลอมขึ้น
ใหม และใชเวลาในการหลอมไมน านนั ก แตก็ตานทานการโจมตีของสมบั ติอาคม
ธรรมดาๆ ได ดูแลวคงไมมีปญหาอะไรเลย ทวาสามารถกระตุนพลังปองกันไดถึงขั้นนี้
ก็มีเพี ยงหุนเชิดตัวนี้เทานั้นที่ทำได ถาหากเจาควบคุ มโลนี้ เอง สำแดงอานุ ภ าพได
ครึ่งหนึ่งก็ถือวาไมเลวแลว’ เทพขับเคลื่อนเอยขึ้น
“นั่นมันแนนอนอยูแลว ผูบำเพ็ญเพียรอยางพวกเราจะกระตุนความสามารถของ
สมบัติอาคมถึงขั้นนี้ไดอยางไร หลักๆ แลวตองดูวาอานุภาพของสมบัติอาคมนั้นมี
เทาไหร ลมปราณที่ใสเขาไปในสมบัติอาคมนั้นมีมากหรือนอย รวมทั้งการควบคุมที่
แมนยำดวย สามารถกักเก็บลมปราณไดเทาไหร สำแดงครั้งหนึ่งใชลมปราณเทาไหร
ถึงจะฝกฝนทั้งหมดได การบรรลุระดับขั้น ก็เปนแคการผานขั้นตอนเหลานี้ไปทีละขั้น
เทานั้น หุนเชิดนี้ใชวัตถุดิบที่ล้ำคาตางๆ หลอมขึ้น ในครั้งหนึ่งสามารถบรรจุลมปราณ
เขาไปไดเทาไหร ก็มากเกินกวาขาสามเทาแลว แนนอนวาขาจึงไมอาจเทียบได”
หานลี่ตอบกลับอยางไมแปลกใจเลยแมแตนอย
หลังจากที่ผานการชี้แนะเรื่องเคล็ดวิชาหุนเชิดจากเทพขับเคลื่อนดวยตัวเองแลว
ความรู เรื่ อ งเคล็ ด วิ ช าหุ น เชิ ด ของเขาก็ อ ยู ในระดั บ ที่ สู งอย างสุ ด ๆ แม ว าจะสู เทพ
ขับเคลื่อนไมได แตไมไดดอยไปกวาปรมาจารยดานการหลอมหุนเชิดทานอื่นๆ ในใต
หลาแนนอน
‘หึๆ ถึงแมวาโลรชตะจะถูกเจาหลอมขึ้นและมอบใหหุนเชิดใชอีกที แตตอนที่เจา
หลอมนั้ น ก็ได ยึด ตามลัก ษณะพิ เศษของหุ น เชิ ด รางมนุ ษ ย แต เดิม คุ ณ ประโยชน ก็
แตกตางจากสมบัติอาคมทั่วไปอยูแลว ลมปราณที่เจาบรรจุเขาไปในโลก็เหมือนกับหุน
เชิด ยังคงไมมีทางกระตุนพลังทั้งหมดของสมบัติอาคมชิ้นนี้ได’ เทพขับเคลื่อนเอย
อยางราบเรียบ
ครั้งนี้ หานลี่พลันพยักหนา และไมไดเอยปากอะไรอีก
เพราะวาผูเฒาขูจูที่อยูไกลออกไปกำลังกระตุนกระบี่แสงอีกครั้ง หลังจากที่เห็นวา
ไมมีทางทำอะไรโลแสงได ในที่สุดก็เรงปฏิกิริยาของเขตอาคมกระบี่เหนือหัว สำแดง
ความสามารถดานการโจมตีอีกชนิดออกมา
เห็นเพียงเขาชี้ไปยังกระบี่บินทั้งหมดที่อยูกลางอากาศ กระบี่บินเปลงเสียงรอง
คำรามออกมา ทั้งหมดราวกับถูกชักนำอยางไรอยางนั้น พุงไปยังทิศทางหนึ่งพรอมกัน
ลำแสงกระบี่สวางวาบ วงลอกระบี่เสนผาศูนยกลางสองสามจั้งปรากฏขึ้นกลางอากาศ
หลังจากที่ผูเฒาขูจูรายอาคมโจมตีออกมาสองสามสายอยางตอเนื่องกันแลว จูๆ
วงลอกระบี่ก็หมุนวนรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ ชั่วพริบตาตรงใจกลางก็เปลงแสงเจิดจาออกมา
เสาลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกมาจากใจกลาง โจมตีไปยังโลแสงอยางรุนแรง
เสียงทุมต่ำดังขึ้น ลูกบอลลำแสงสีเขียวลูกหนึ่งพลันพุงปะทะลงบนผิวของโลแสง
ลูกบอลลำแสงนี้มีขนาดใหญอยางหาที่เปรียบไมได ชั่วครูก็กดจนใจกลางของโล
แสงเวาบุมลงไป และยิ่งไปกวานั้นก็เปลี่ยนรูปไปอยางรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็ทำให
โลแสงตานทานเอาไวไมไหว
ตอนนั้นหุนเชิดรางมนุษยกลับชูมือขึ้น ชี้ไปยังโลสีเงิน โลแสงสลายหายไปโดย
อัตโนมัติ กลายเปนจุดลำแสงสีขาวเล็กๆ
แตเดิมลูกบอลลำแสงที่ถูกตานทานเอาไวก็กดลงมาดานลางอยางรุนแรง ปะทะ
กับผิวของโลยักษสีเงินโดยตรง โลสีเงินพลันสั่นคลอน ไมไดถูกลูกบอลลำแสงโจมตี
จนแตกละเอี ย ด แต ชั่ ว พริ บ ตากลั บ มี ล ำแสงราวกั บ วารี สี เงิ น พุ ง ออกมา ผิ ว โล
เปลี่ยนเปนโปรงใสราวกับกระจก ภายใตลำแสงสีเงินที่สาดสองลงมา ลูกบอลลำแสง
พลันสั่นคลอน ลำแสงสีเขียวจำนวนนับไมถวนถูกดีดออกไปทั้งสี่ทิศ ชั่วพริบตาลูก
บอลลำแสงก็เล็กลงกวาเดิมเกือบครึ่ง
จากนั้นโลสีเงินก็บิดเบี้ยว ผิวโลเปลงแสงสีเงินสวางจา กลุมแสงที่เหลือถูกดีด
ออกไป หลังจากสวางวาบกลางอากาศก็ระเบิดออก หายวับไป
ผูเฒาขูจูสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง ไมมีทางปกปดแววตาตกตะลึง
ไดอีกครั้ง จองเขม็งไปยังหุนเชิดดานตรงขาม สีหนาเครงขรึมขึ้น
ถึงแมวาการโจมตีเมื่อครูจะไมใชอานุภาพทั้งหมดของเขตอาคมกระบี่ แตอีกฝาย
อาศัยแคโลอันเดียว ก็ตานทานการโจมตีทั้งหมดไดงายๆ ความสามารถลึกล้ำยากจะ
คาดเดาแนนอน จากนี้จะกระตุนแรงกดของเขตอาคมกระบี่หรือไม เขาก็อดที่จะลังเล
ขึ้นมาไมได
‘เอาละ โลรชตะมีอานุภาพเชนนี้ เกราะปองกันเบญจธาตุก็ไมตองทดสอบแลว
ใชหยกเบญจธาตุกระตุนเกราะปองกันนี้เลย อานุภาพไมมีทางดอยกวาโลอันนี้แน
ตอนนี้ลองทดสอบพลังการโจมตีของหุนเชิดเถิด’ เทพขับเคลื่อนดูเหมือนวาจะพึ ง
พอใจในอานุภาพของโลสีเงินเปนอยางมาก
“เขาใจแลว” หานลี่ตอบกลับอยางราบเรียบ
หุนเชิดรางมนุษยตอบสนองดวยการเปลงแสงสีมวงสวางวาบที่ ดวงตาทั้ งสอง
ทันใดนั้นพลันใชมือทั้งสองถูเขาดวยกันโดยไมไดเอยอะไรออกมา ลำแสงสีแดงกลุม
หนึ่งปรากฏขึ้นในมือ จากนั้นลำแสงที่เจิดจาก็สวางวาบขึ้น คันธนูสีแดงปรากฏขึ้นตรง
กลางระหวางฝามือ
มีขนาดเล็กหลายชุน วิจิตรตระการตาเปนพิเศษ!
คันธนูคาดไมถึงวาจะเปลี่ยนรูปเปนมังกร แมแตเกล็ดของมันก็ยังมองเห็นไดอยาง
ชัดเจน
“ธนูทะลวงมังกร!” ผูเฒาขูจูเห็นธนูดามนั้น ก็รองอุทานออกมาอยางไรสุมเสียงทันที
“นี่ไมใชธนูทะลวงมังกร แตเป น ธนู เพลิงอัสนี ที่ ขาน อยลอกเลียนแบบขึ้น ! ขอ
เตื อ นสหายก อ นนะ ธนู นี้ ใช เอ็ น มั งกรวารี ห ลอมขึ้ น เช น เดี ย วกั น แต อ านุ ภ าพนั้ น
เหนือกวาธนูทะลวงมังกร” หุนเชิดรางมนุษยมีสีหนาราบเรียบ ปากกลับเอยสิ่งที่ทำให
ผูเฒาขูจูหนักใจขึ้นมา
จากนั้นมือหนึ่งของหุนเชิดพลันเคลื่อนไหว ควาคันธนูเล็กๆ สีแดงนั้นไวในมือ
หลังจากทีเ่ สียงฟารองดังขึ้น อีกมือหนึ่งกลับมีลูกธนูสีเขียวมรกตดอกหนึ่งปรากฏขึ้นที่
หวางนิ้ว
เสียงบริกรรมคาถาที่กระชั้นดังออกมาจากปาก
ชั่วขณะนั้นธนูสีแดงและลูกธนูพลันเปลงแสงเจิดจาออก จากนั้นขนาดก็ขยาย
ใหญขึ้นพรอมกัน ชั่วพริบตาก็กลายเปนธนูขนาดปกติ อักขระบนตัวมันเปลงแสงเจิด
จา ตัวคันธนูมีเปลวเพลิงสีแดงสดกลุมหนึ่งหอหุมธนูสีแดงเอาไว สวนลูกธนูสีเขียวก็
เปลงแสงสีทองเจิดจา ประจุไฟฟาหลายสายดีดออกมาจากลูกธนู เสียงฟารองคำราม
ดังขึ้นอยางตอเนื่อง
หุนเชิดขึ้นลูกธนูกับคันธนูอยางคุนเคย คอยๆ ดึงสายธนูเล็งไปดานตรงขาม ยังไมทัน
ไดปลอยมือประจุไฟฟาสีทองและเปลวเพลิงสีแดงก็หลอมรวมกัน เสียงอึกทึกดังขึ้น
จากนั้นแรงกดดันวิญญาณที่ไมไดปกปดก็ระเบิดออกมาจากทั่วราง แผกระจายไป
รอบดานราวกับคลื่นยักษ
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมที่คอยเฝาดูการตอสูเหลานั้น ถูกคลื่นพลังวิญญาณ
พุงเขามา รูสึกเพียงวาสูดลมหายใจเขาดวยความตึงเครียด เกราะปองกันของแตละ
คนสั่นคลอนไมแนนอน บางคนที่มีพลังยุทธต่ำตอยก็พากันถอยหางออกไปพรอมกับ
หนาเปลี่ยนสี
“หยุดมือ! ไมตองประลองแลว ตาเฒายอมแพ!” หลังจากที่ผูเฒาขูจูสัมผัสไดถึง
ไอวิญญาณที่หุนเชิดปลอยออกมา ในที่สุดก็รองตะโกนออกมาดวยสีหนาขาวซีด คาด
ไมถึงวาจะเปนฝายยอมแพกอน
แตขณะที่เอยเชนนั้น เขากลับสำแดงการปองกันออกมาอยางไมประมาท มือหนึ่ง
พลิ ก ฝ า มื อ แผ น ป า ยสามเหลี่ ย มแผ น หนึ่ ง พุ ง ออกมา หลั ง จากขยายใหญ แ ล ว ก็
เปลงแสงสีเขียวแดงเหลืองสามสีสวางวาบตานทานอยูเบื้องหนาเขา ในเวลาเดียวกันก็
กวักมือเรียกกรงลอกระบี่ที่อยูกลางอากาศ กรงลอกระบี่เปลงเสียงคำรามออกมาแลว
กลายเปนกระบี่บินรอยเลม หมุนโคจรรอบตัวเขาไปมาไมหยุด
ผูเฒาขูจูมีทาทีเครงขรึม จนทำใหหานลี่รูสึกประหลาดใจเล็กนอย คิ้วขมวดเขาหา
กันถายทอดเสียงไปหาเทพขับเคลื่อน
“ธนูเพลิงอัสนีนี้มีอานุภาพยิ่งใหญขนาดนั้นเลยหรือ ดูเหมือนวาจะทำใหทานผู
นั้นตึงเครียดได”
‘สามารถใชลมปราณเทากับระดับกอกำเนิดขั้นปลายไดหนึ่งครั้ง สมบัติอาคมใดๆ
ก็ไม อ าจดู แ คลนได และยิ่ งไปกวานั้ น คั น ธนู แ ละลูก ธนู ของเจาก็ ไม ใชของธรรมดา
อันหนึ่งใชกระดูกและเอ็นของมังกรวารีเพลิงแดงหลอมขึ้น อีกอันหนึ่งคือไผอัสนีสีทอง
อานุภาพของสมบัติอาคมชุดนี้ ไมธรรมดาอยางแนนอน ทำใหอีกฝายรูสึกหวาดกลัว ก็
ไมใชเรื่องแปลกอะไร ถึงอยางไรเสียเขาก็ไมใชผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย
หากเจาอยากใหหุนเชิดสำแดงกำลังเต็มอัตรา หากปลอยธนูนี้ออกไป สี่ในสิบสวนก็
เดาวาสามารถสังหารเจาของเกาะไผขมผูนี้ได อยากสังหารอีกฝายหรือไม?’
เทพขับเคลื่อนเอยพรอมกับหัวเราะอยางเย็นชาออกมา
“สี่สวน ชางเถิด ขนหงสดำนั่นสำคัญที่สุด ถาหากไมสำเร็จละก็ อีกฝายอาจจะ
เปดใชงานอาคมบนเกาะ นั่นจะยิ่งยุงยากเขาไปใหญ อีกฝายมีชื่อเสียงขนาดนี้ก็นาจะ
มีความสามารถในการปองชีวิตตัวเองที่พวกเราไมรู อยากอเรื่องจะดีกวา ขาเองก็ไมใช
ผูที่ชอบสังหารคนอื่น ยิ่งไมสนใจการสังหารคนอื่นอยางไมมีเหตุผล แตแคไมมีทาง
ทดสอบพลังโจมตีของหุนเชิดที่แทจริงไดแลว” หานลี่สั่นศีรษะขณะเอยในใจ
‘นั่นก็ชวยอะไรไมได ขาไดเห็นมันกดผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดชั้นปลายสุด
ของขั้นกลางคนหนึ่งไดอยางงายดายเชนนี้ นั่นก็หมายความพลังของหุนเชิดไมไดดอย
ไปกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายจริงๆ ไมเสียดายอะไรแลว นับวาไมทำ
ใหเวลากวาครึ่งชีวิตของขาเสียเปลาไป’ เทพขับเคลื่อนถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
เอยพึมพำกับตัวเอง
หานลี่ไดฟงแลวแววตาก็หมนหมองลง
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ไอวิญญาณที่นาตกตะลึงบนรางของหุนเชิดก็คอยๆ
หายไป คันธนูลดระดับลง กลับมามีขนาดเทาเดิมทามกลางลำแสงวิญ ญาณ เปลว
เพลิงและประจุไฟฟาสีทองหายลับไปพรอมกัน
ผูเฒาขูจูเห็นภาพนี้ก็ผอนคลายลง สัมผัสไดถึงเหงื่อเย็นๆ ที่แผนหลัง
ชวงเวลาที่ธนูเล็งมาทางเขา เขาก็สัมผัสไดถึงอันตรายจากการเพลี้ยงพล้ำและถูก
สังหารในทันที ดังนั้นจึงยอมออนขอยอมแพโดยพลัน ตอนนี้ ไมวาอีกฝายจะสำแดง
ความสามารถหรือวาพลังวิญญาณที่นากลัว เขาก็มั่นใจไดวาอีกฝายคือผูบำเพ็ญเพียร
ระดับกอกำเนิดขั้นปลาย
ดุูแลวที่เขาออกมาจากการกักตนเพราะสองคนนี้มาหา ก็เปนเรื่องที่ชาญฉลาด
แลวจริงๆ เขาไมคิดวาเขตอาคมหมื่นพฤกษาบนเกาะจะตานทานผูบำเพ็ญ เพียรที่
โกรธเกรี้ยวคนหนึ่งได และยิ่งไปกวานั้น ยังมีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดในระดับ
เดียวกับตนอยูดวยอีกคนหนึ่ง
หลังจากขบคิดเชนนั้น เมื่อผูเฒาขูจูเห็นอีกฝายเก็บสมบัติอาคมเขาไป ก็เก็บกระบี่บิน
และปายกลับมา เรียกหานลี่และพวกทั้งสองใหบินกลับเขาไปในตำหนักไมอีกครั้ง
ครั้งนี้ เจาของเกาะไผเขียวผูนี้มีทาทีเกรงใจมากขึ้นเปนพิเศษ ออกคำสั่งใหชาย
ชราระดับหลอมรวมขั้นปลายผูนั้น ไปนำสมบัติติดตัวเขาชิ้นหนึ่งมา และไปดึงขนของ
หงสดำมาดวย สวนตนเองนั้นก็พยายามตีสนิทกับหานลี่และพวก พลางซักถามประวัติ
ความเปนมาของพวกเขาอยางออมๆ ถึงอยางไรเสียผูบำเพ็ญเพียงระดับกอกำเนิดขั้น
ปลายในตาจิ้นก็มีอยูตั้งมากมาย แตกลับไมมีใครที่มีขอมูลตรงกับหุนเชิดรางมนุษยผูนี้
แนนอนวาจึงทำใหรูสึกตกตะลึงระคนสงสัย
ฃหุนเชิดรางมนุษยนั่งอยูบนเกาอี้ดวยสีหนาราบเรียบไมเปลงคำพูดใดๆ ออกมา
สักคำ หานลี่ก็หัวเราะคิกคักกับเจาของเกาะผูนี้ พูดคุยเลนไปเรื่อยๆ อยูชั่วครู และไม
เผยประวัติความเปนออกมาเลยสักนิด
ทำใหผูเฒาขูจูผูนี้หัวเราะอยางขมขื่น และทำไดเพียงจนปญญาอยางสุดๆ
หลังจากที่ผานไปหนึ่งเคอ ชายชราก็ถือกลองหยกเดินเขามา วางลงเบื้องหนา
ทานอาจารยของเขาดวยสีหนานอบนอม
หลังจากที่ผูเฒาขูจูกวาดสายตามาทางหานลี่และพวกทั้งสองแลวก็สะบัดแขนเสื้อ
กลองหยกบินมาหาหานลี่โดยอัตโนมัติ
ตอนนั้นเขาก็ดูออกวาถึงแมผูบำเพ็ญเพียรแซลี่จะมีพลังยุทธที่นาตกตะลึง แตก็ดู
เหมือนวาจะไมยอมคบคาสมาคมกับใคร ดังนั้นจึงยอมแลกเปลี่ยนกับหานลี่โดยตรง
อยางรูจักวางตัว
หานลี่รับกลองมาอยางไมเกรงใจ เปดฝากลองออก ชั่วขณะนั้นลำแสงสีแดงพลัน
สวางจาขึ้นจนแสบตา
เขาหรี่ตาทั้งสองขางลง ใบหนาอดที่จะเผยความยินดีออกมาไมได
ผานไปชั่วครูหานลี่ก็พาหุนเชิดรางคนบินออกมาจากเกาะไผขม กลายเปนสายรุง
สองสายพุงแหวกอากาศออกไป
ชั่วพริบตา ลำแสงหลีกหนีก็หายลับไปจากขอบฟาอยางไรรองรอย
ตอนที่ 972 สยบอสูร
ผานไปสามวัน หานลี่ก็มาปรากฏตัวบนเกาะรกรางนิรนามอีกแหงหนึ่ง
เขายืนอยูบนกอนหินยักษริมเกาะกอนหนึ่ง มองไปยังหุนเชิดรางคนเล็กๆ ของ
เทพขับเคลื่อน สีหนาเครงขรึม
“ทานอาวุโสจะละสังขารจริงๆ หรือ จากสภาพการณของทานอาวุโสถายังมีวิธียืด
จิตวิญญาณของทานไปไดอีกสักเดือนสองเดือน” หานลี่เอยอยางเชื่องชา
“อยูอีกไมก่ีวันสำหรับขาจะมีความแตกตางอะไรกันละ? เจาอยาลำบากเลย หาก
กลับคืนสูวัฏสงสารได ก็เปนเรื่องที่ดีสำหรับขาอีกเรื่องหนึ่ง” หุนเชิดตัวเล็กสั่นศีรษะ
พลางเอยอยางราบเรียบ
“ในเมื่อเปนเชนนั้น ชนรุนหลังก็ไมอยากพูดมากแลว หวังวาเสนทางการกลับคืน
สู วั ฏ สงสารของท านอาวุ โสจะมี โอกาสได เข าสู โลกของการบำเพ็ ญ เพี ย รอี ก ครั้ ง ”
น้ำเสียงของหานลี่ทุมต่ำ
“หนทางการกลับคืนวัฏสงสารมันงายดายเสียที่ไหนกันเลา ตอใหมีโอกาสจริงๆ
ชาติตอไปจะไดอยูในรางมนุษยหรือเปลาก็พูดยาก เออใช เจาเด็กนอยหาน! ตอนแรก
ที่ขาชวยเจาศึกษาวิธีการหลอมพัดสัตตเปลวเพลิง เจาเคยรับปากขาเอาไวเรื่องหนึ่ง
นาจะยังจำไดสินะ” จูๆ เทพขับเคลื่อนก็เอยถึงเรื่องนี้
“จำไดแนนอนอยูแลว แตแคทานอาวุโสไมเคยกลาวถึง ชนรุนหลังก็นึกวาทาน
อาวุโสลืมเรื่องนี้ไปเสียแลว”
หานลี่เอยพรอมกับหัวเราะยังขมขื่นออกมา
“ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แลว คำขอนี้ก็อยาใหเสียเปลาไปเลย คำขอของขานั้นงายมาก ถา
หากเปนไปไดละก็ ขาหวังวาเจาจะไปยังปลายสุดของทิศตะวันตกเพื่อแยงนิกายพันไผ
กลับมา สงลูกศิษยผูดูแลคนหนึ่งไปดูแลนิกายนี้ และสืบทอดตอไปแทนขา อยาปลอย
ใหคำสอนของขาหายสาบสูญไป ตอนนี้ผูที่ดูแลนิกายพันไผ ไมใชลูกศิษยของตาเฒา
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ตาเฒาก็ไมสบายใจจริงๆ”
เทพขับเคลื่อนหัวเราะหึๆ ออกมาขณะเอย
“ไมมีปญหา ถึงตอนนั้น ขาจะรับลูกศิษยที่มีคุณสมบัติโดดเดนมาสักคนหนึ่ง ถายทอด
เคล็ ด วิช าหุ น เชิ ด ของท านอาวุโสให และให เขาสื บ ทอดตำแหน งผู น ำนิ ก ายพั น ไผ
ตอไป” หานลี่ตอบรับอยางไมตองคิด
“หึ ๆ เจ า กล า วเช น นี้ ตาเฒ า ก็ ส บายใจแล ว ตาเฒ า สลั ก เคล็ ด วิ ช าลั บ และ
ประสบการณตางๆ ที่เรียนรูมาทั้งหมดไวในคัมภีรที่มีชื่อวา ‘คัมภีรสมบัติขับเคลื่อน’
คัม ภี รนี้ อ ยูในถ้ำโชคนภา เนื้ อ หาในคั ม ภี รนั้ น เจ าเรีย นรูได เท าไหรก็เท านั้ น ก็ แ ล ว
จากนั้นก็นำคัมภีรนี้ไปมอบใหลูกศิษยผูสืบทอดนิกายพันไผ นี่ถึงจะเปนมรดกที่แทจริง
ของขา” เทพขับเคลื่อนหัวเราะดวยเสียงอันดังกึกกอง
ทันใดนั้นคนตัวเล็กก็อาปากออก ลำแสงสีเขียวขนาดเทากำปนกลุมหนึ่งลอยขึ้น
ไปบนฟา จากนั้นเสียงบริกรรมคาถาที่ทุมต่ำก็ดังขึ้นอยางตอเนื่องทามกลางทองฟา
ลำแสงสีเขียวขยายใหญขึ้นอยางรวดเร็ว ชั่วพริบตา ก็มีขนาดเสนผาศูนยกลาง
สองสามจั้งลอยอยูสูงขึ้นไปยี่สิบสามสิบจั้ง ลำแสงเจิดจาสวางวาบ หานลี่ที่กำลังจับตา
มองทุกอยางอยูดวยความเครงขรึม ก็อดที่จะหรี่ตาลงไมได
เสียงบริกรรมคาถาหยุดลง รอบดานเงียบสงัด แตช่ัวครูลำแสงก็หดเล็กลงและ
ระเบิดออกดัง ‘ตูม’ ทองฟาผืนเล็กๆ ถูกจุดลำแสงสีเขียวเล็กๆ ปกคลุม ดูแลวงดงาม
ตระการตา
เมื่อมองเห็นทุกอยาง ในที่สุดใบหนาของหานลี่ก็เผยความหมนหมองเศราโศกออกมา
เทพขับเคลื่อนปรมาจารยกอตั้งสำนักผูยิ่งใหญ ไมมีอยูแลว
เขาแหงนหนามองขึ้นไปบนทองฟา เงียบกริบไมรูนานเทาไไหร หลังจากที่ถอน
หายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ก็กมศีรษะลง กลอกตาไปมา ตกลงบนหุนเชิดตัวเล็กที่ยังคง
ลอยอยูเบื้องหนา
มันที่สูญเสียจิตวิญญาณในครานี้ ไรซึ่งพลังชีวิตในทันที
เขาสะบัดแขนเสื้อเบาๆ ลำแสงสีเขียวพุงพาดผานคนตัวเล็กพลันสลายหายไป
จากนั้นก็ชูมือขึ้นอีกครั้งตบไปที่กระบอกไมไผตรงแผนหลัง ชั่วขณะนั้นคัมภีรสองสาม
มวนก็บินออกมาจากกระบอกไมไผ รอนลงกลางฝามือ หานลี่แผจิตสัมผัสเขาไปใน
คัมภีรเหลานี้ ดานในมีบันทึกประสบการณของเทพขับเคลื่อนดังคาด ไมเพียงเคล็ด
วิชาลับตางๆ ที่มีมากมาย ยังมีเรื่องลึกลับในโลกของผูบำเพ็ญเพียรอีกจำนวนมาก
อานไปไดเพียงชั่วครู เขาก็เก็บคัมภีรเหลานี้เขาไปในยามเก็บของ จากนั้นใบหนา
ก็เผยสีหนาขบคิดออกมา จมเขาสูภวังคแหงความคิด
ตอนนี้หลอมหุนเชิดสำเร็จแลว ขั้นตอไปก็คือเริ่มหลอมพัดตรีเปลวเพลิง ถาหาก
หลอมพัดนี้ได เขาก็นาจะมีกำลังตอกรกับมารโบราณไดแลว
แตแคการหลอมพัดตรีเปลวเพลิงคอนขางยุงยากนิดหนอย วัตถุดิบทั้งหมดลวน
ตองอาศัยเพลิงแทสามชนิดจากคน ฟา และดิน ถึงจะหลอมพัดตรีเปลวเพลิงได
ตอนแรกในพิธีของสำนักรอยฝมือนั้น หานลี่ก็รูสึกสนใจชีพจรเพลิงของสำนักรอย
ฝมือ ความจริงแลวเขาสนใจเพลิงธรณี ของพวกเขา และเคยคิดจะยืมเพลิงธรณี มา
หลอมวัตถุดิบสวนหนึ่ง ตอนนี้ในเมื่อคนอยูที่ตาจิ้นแลว เรื่องนี้จึงไมอาจเปนไปได
ถาหากตองการหลอมวัตถุดิบสวนของเพลิงธรณี ก็มีเพียงตองหาบอเพลิงธรณีบริสุทธิ์
ตาจิ้นนั้นมีชีพจรเพลิงธรณีอยูไมนอย แมกระทั่งจุดที่มีชื่อเสียงบางแหงก็ไมได
ตั้งอยูในสำนักตางๆ แตตั้งอยูในที่รกรางหางไกลที่มีไอวิญญาณเบาบาง ดังนั้นการจะ
ตามหาแหลงเพลิงธรณีจึงไมใชเรื่องที่ยากเย็นอะไรนัก
สวนเพลิงมนุษยนั้นก็คือเพลิงแทที่ผูบำเพ็ญเพียรฝกฝนได เพลิงจิตวิญญาณของผู
บำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวม เพลิงทารกของผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด ลวนเปน
เพลิงประเภทนี้ นี่ไมใชปญหา
ปญหาเดียวก็คือ วัตถุดิบที่เหลือที่จำตองใชเพลิงสวรรค
ตามในบันทึกในคัมภีร สิ่งที่เรียกวาเพลิงสวรรคความจริงแลวคือเพลิงของอัสนีสวรรค
จำตองอยูในอากาศที่มีฝนฟาคะนอง เพลิงอัสนีก็จะกอตัวขึ้นโดยอัตโนมัติ และใช
เพลิงนี้หลอมวัตถุดิบวิญญาณออกมาอีกที
จำตองการโอกาสที่เหมาะสม ตอนแรกหานลี่เคยใชเมล็ดอัสนีสวรรค จะวาไป
แลวก็เปนการยืมเพลิงอัสนีฟาดินมาหลอมสมบัติ แตแคเมล็ดอัสนีสวรรคจำตองใช
พลังอัสนี และวัตถุดิบวิญญาณที่เขาหลอมก็ตองอาศัยพลังอัสนีเปลี่ยนเปนเพลิงอัสนี
ขอแค มี เงื่ อ นไขครบ เดาว า ใช เวลาแค ส องสามเดื อ น ก็ น า จะหลอมวั ต ถุ ดิ บ
วิญญาณทั้งหมดได สำหรับเขาแลว พัดตรีเปลวเพลิงลอกเลียนแบบนั้น ประสบปญหา
ก็เพียงแคเวลาเทานั้น
และเวลานั ด พบกับ ชายชราแซ ฟู ของพรรคเก ายมโลกที่ ห นานเจี ย ง ก็ ใกล เข า
มาแลว
ถึ ง แม ว า หานลี่ จ ะกลุ ม ใจกั บ การนั ด พบกั น ของทั้ ง สองฝ า ย และไม ไ ด ใ ห
ความสำคัญอะไรนัก แตที่หนานเจียงนั้นมีภูเขาอสรพิษเงินอยูลูกหนึ่ง ภูเขาลูกนี้มี
เพลิงภูเขาพนออกมา เปนชีพจรเพลิงที่มีชื่อเสียงในตาจิ้น ผูบำเพ็ญเพียรจำนวนไม
นอยตางวิ่งไปที่ภูเขาลูกนั้นเพื่อหลอมสมบัติอาคมโดยเฉพาะ ที่นั่นจึงมีประโยชนใน
การหลอมวัตถุดิบวิญญาณของเขา และไดพบกับชายชราแซฟูพอดี
เขาจึงรูสึกสนใจผูที่ตองการพบตนเองอยูเล็กนอย
จะว า ไปแล ว จุ ด ประสงค ห ลั ก ที่ เขามาก็ ส ำเร็ จ ไปแล ว ครึ่ ง หนึ่ ง ที่ เ หลื อ ก็
จำเปนตองไปตามหาคาถาคลายผนึกวิญญาณของพรรคตาขายทมิฬ และชิงกระบี่บิน
ที่อยูในมือของมารโบราณทั้งสองเลมกลับมา จะไดถือโอกาสมองหาและรวบรวมแกน
ทองคำ ดูวาจะรวบรวมกระบี่บินอีกชุดหนึ่งไดครบหรือไม
ขบคิดอยูนาน ในที่สุดหานลี่ก็ตัดสินใจ ทวากอนหนานั้น ก็ยังมีอีกสองเรื่องที่ตอง
จัดการ
ทันใดนั้นเขาพลันกลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงไปยังชีพจรวิญญาณเล็กๆ
บนเกาะ จากนั้นก็ปลอยจวนความลับสวรรคออกมาบนภูเขาเล็กๆ ลูกนั้น วางเขต
อาคมอำพรางจวนเล็กนอย สวนคนก็เดินเขาไปในหองลับหองหนึ่ง
เขาเสียเวลาไปหาหกวันกับการหลอมยันตแปลงวิญญาณที่ไดมาจากสำนักยันต
สวรรคใหเขาไปในราง จากนั้นก็นั่งสมาธิอยูบนฟูก ดึงยามเก็บอสูรวิญญาณใบหนึ่ง
ออกมาจากเอว จากนั้นก็โยนขึ้นไปกลางอากาศ ผลลัพธคือปากถุงเปดออก ลำแสงสี
ขาวหมุนวนเปนเกลียวพุงออกมา อสูรปศาจสีเหลืองขนาดสองสามฉื่อตัวนึ่งปรากฏขึ้น
บนพื้น
นั่นก็คือมังกรเกราะธรณีที่ถูกจับเปนมาเมื่อหลายปกอน
อสูรตัวนี้ มีรูปรางคลายกับตัวนิ่มเปนอยางมาก รางกายเต็มไปดวยยันตอาคม
หลากสีสัน แขนขาทั้งสี่ยังมีเข็มสีทองเปลงประกายสองสามเลมปกอยู นอนหมอบอยู
กับพื้นไมขยับเขยื้อน
เมื่อหานลี่ปลอยมันออกมา หลังจากที่ดวงตาเล็กๆ ทั้งสองหมุนติ้วๆ ไปมาอยาง
รวดเร็วแลว ก็มองไปทางหานลี่และเผยทาทางนาสงสารออกมา
ดูแลวการถูกกักอยูในยามเก็บอสูรวิญญาณสองสามป ในที่สุดความดุรายของอสูร
ตนนี้ก็ลดลงไปไมนอย
“ไมตองแสรงทำเปนบา เจาเปนอสูรระดับเจ็ดแลว สติปญญาตองสูงสง นาจะฟง
ภาษามนุษยออกถึงจะถูก ขามีเวลาจำกัด ไมอาจเสียเวลาได จะพูดตรงๆ ก็แลวกัน ถา
หากเจายอมศิโรราบใหขา ก็ปลอยจิตสัมผัสออกมา ใหขาสำแดงเคล็ดวิชาลับลงบนตัว
เจา ถาหากเจาไมยินยอม ขาก็จะสังหารเจาทิ้งทันที รางกายของเจามีเกราะเกล็ดและ
แกนอสูรระดับเจ็ด คงมีมูลคาไมนอย” หานลี่เอยอยางเครงขรึม
มังกรเกราะธรณีรางกายสั่นสะทาน แววตาฉายแววหวาดกลัวสวางวาบ แตทันใด
นั้นก็ใชสีหนาโกรธเกรี้ยวจองเขม็งมาที่หานลี่ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“เปนอสูรวิญญาณของขาดีกวาเปนทาสของผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ยิ่งนัก อายุขัย
ของอสูรอยางพวกเจามากกวามนุษยอยางพวกเรา ขาไมไดมีเจตนาจะใหเจาเปนอสูร
วิญ ญาณสืบทอด เพี ยงแครับใชขาในตอนที่ ยังมี ชีวิตอยูเท านั้ น ถึงตอนนั้ น หากขา
บรรลุแดนวิญญาณหรือวาเพลี้ยงพล้ำตายไป เจาก็จะเปนอิสระในทันที” หานลี่มองไป
ยังในแววตาของอสูรตอนนี้แลวเอยอยางไมเกรงใจ
มังกรเกราะธรณีไดยินคำพูดนี้ก็ดูเหมือนวาจะตะลึงงัน ทันใดนั้นแววตาพลันเปลง
ประกายสวางวาบไมหยุด ใบหนาอสูรเคยแววลังเลเหมือนกับมนุษยออกมา
หานลี่เห็นเชนนั้นก็หยักมุมปากขึ้นพรอมกับอมยิ้ม จูๆ มือหนึ่งก็ตบไปที่ยามเก็บ
ของ ขวดเล็กๆ สีเขียวมรกตขวดหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ
ลำแสงสีมวงสวางวาบ ชวงวินาทีนั้นเปลวเพลิงสีมวงชั้นหนึ่งก็หอหุมฝามือที่รอง
ขวดเล็กๆ ใบนั้นเอาไว ในเวลาเดียวกันนั้นฝาขวดก็ลอยพุงขึ้นไป ลำแสงที่เย็นเยียบ
กลุมหนึ่งพุงออกมาจากขวด อุณหภูมิของหองลดลงอยางรวดเร็ว
มังกรเกราะธรณีถูกไอเย็นเยียบกระตุน ถึงแมวาจะมีเกล็ดคอยปกปองรางกายอยู
ก็ยังอดที่จะสั่นสะทานไมได ในเวลาเดียวกันแววตาก็ฉายแววตกตะลึงระคนสงสัย
หานลี่สะบัดฝามือ ของเหลวสีเงินหยดหนึ่ งลอยขึ้นมาจากปากขวดท ามกลาง
ความเย็นเยียบ หลังจากปรากฏตัวที่ปากขวดแลวก็ผนึกรวมกันเปนไขมุกทันที พลาง
หมุนติ้วๆ อยูตรงนั้นไมหยุด
เมื่อเห็นไขมุกสีเงินเม็ดนั้น ชั่วขณะนั้นแววตาของมังกรเกราะธรณีก็แข็งคาง ทำ
จมูกฟุตฟต จูๆ ปากก็เปลงเสียงคำรามของอสูรที่ยากจะเขาใจออกมา ดูเหมือนวาจะ
กำลังตื่นเตนเปนพิเศษ
“ดูแลวเจาคงรูจักสิ่งนี้สินะ เชนนั้นก็ดี ขอแคเจายอมเปนอสูรวิญญาณของขา ถึง
ตอนนั้นไขกระดูกเย็นเยียบในขวดนี้ก็จะแบงใหเจาสองหยด ใหเจาไดมีโอกาสขามผาน
ทัณฑอัสนีเปลี่ยนราง ตอนนี้ก็เสนอเงื่อนไขแลว คงตองดูแลวละวาเจาจะเลือกอะไร”
หานลี่เอยอยางเย็นชา
มังกรเกราะธรณี ยังคงจองเขม็งไปที่ไขกระดูกเย็นเยียบที่กลายเปนไขมุกสีเงิน
อยางไมวางตา ใบหนาหดเล็กลง สีหนาลังเล ดูเหมือนวากำลังตัดสินใจอะไรสักอยางที่
ยากมากอยู
ชั่วครูเห็นอสูรปศาจยังคงไมแสดงทาทีใดๆ ออกมา หานลี่ก็สงเสียงเหอะออกมา
ดวยความเย็นชาและไมไดพูดอะไรอีก เก็บขวดเล็กๆ เขาไป มือหนึ่งโบกสะบัด ชั่ว
ขณะนั้นลำแสงเปลวเพลิงสีมวงพลันสวางวาบขึ้นบนมือ เปลวเพลิงผนึกรวมตัวเขา
ดวยกัน กระบี่เปลวเพลิงสีมวงเลมหนึ่งคอยๆ ปรากฏขึ้นบนฝามือของเขา
นิ้วทั้งหาเคลื่อนไหวเล็กนอย กระบี่เพลิงสั่นสะเทือนขณะพุงออกมาจากฝามือ
ตรงไปหามังกรเกราะธรณี
มังกรเกราะธรณีเห็นภาพฉากนี้พลันหนาเปลี่ยนสี ชั่วพริบตากระบี่เพลิงก็มาอยู
เหนือศีรษะของมัน หลังจากก็สับลงมาอยางไมรีบรอน ในที่สุดพลังวิญญาณที่นากลัว
ซึ่งผสมอยูในกระบี่ก็ทำให มันอาปากออกดวยความหวาดกลัว และเปลงเสียงรอ ง
ครวญครางออกมา
ตอนที่ 973 ภูเขาแมงปองคู
ผานไปชั่วครู หานลี่ก็เก็บหอคอยความลับสวรรคกลับมา ขับเคลื่อนลำแสงหลีก
หนีตรงไปยังแผนดินใหญ เพราะวาไมจำเปนตองคนหาอะไรแลว หลังจากผานไปครึ่ง
เดือน เขาก็กลับมาถึงบนแผนดิน
หานลี่ไมไดไปที่สำนักยันตสวรรคอีก แตตรงไปที่หนานเจียง
ระหว า งทางเขาบิ น ๆ หยุ ด ๆ ใช เพลิ ง ทารกหลอมวั ต ถุ ดิ บ วิ ญ ญาณที่ เ ป น
สวนประกอบของพัดตรีเปลวเพลิงไปดวย
แตสิ่งที่นาเสียดายก็คือระหวางทางไมไดพบกับบรรยากาศฝนฟาคะนองใดๆ จึง
ไมอาจรวบรวมพลังของเพลิงอัสนีได นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกกลัดกลุมเล็กนอย
ทวา เขาก็ไมไดรีบรอน ที่หนานเจียงนั้นเต็มไปดวยปาไม อากาศรอนชื้น ขอแค
ฝนตกก็มีฟาฝาอยูแลว ดังนั้นปญหาเรื่องการรวบรวมเพลิงอัสนีหากไปถึงหนานเจียงก็
นาจะรวบรวมไดในไมชา
ผานไปสี่เดือน ในที่สุดหานลี่ก็ขามผานเขตตางๆ ไปสองสามเขตแลว ลำแสงหลีก
หนีจึงมาปรากฏตัวที่เขตหนานเจียง
หนานเจี ย งเป น สถานที่ เพี ย งไม กี่ แ ห งในใต ห ล าที่ ไม ได ถู ก สำนั ก ใหญ ๆ ยึ ด กุ ม
ทรัพยากรในเขตนี้จึงถูกสำนักระดับกลางสิบกวาแหงแบงกันครอบครองอยู
ถึงแม วาปกติ แ ล วสำนั กเหลานี้ จ ะขั ดแย งกั น อยู ภ ายใน แต ห ากวัน หนึ่ งมี กลุ ม
อำนาจอื่นๆ ลุกลามเขามาในหนานเจียง ก็จะรวมมือกันตานทานศัตรูทันที ถึงแมวา
จะเปนสำนักใหญๆ อยางมารธรรมะสิบกวาสำนักเหลานั้น ก็ยังไมมีทางรุกรานเขามา
ได จึงเหมือนกับกอตั้งตนเปนแควนแหงหนึ่งในตาจิ้น
หากจะเกิดสถานการณตอตานสำนักตางๆ ในหนานเจียงเชนนี้ ก็จะเกี่ยวของกับ
เคล็ดวิชาที่ฝกฝน
เคล็ดวิชาที่สำนักเหลานี้ฝกฝน ลวนเปนเคล็ดวิชาสายพิษที่พบเห็นไดนอยมากในโลก
ของผูบำเพ็ญเพียร ไมเพียงจะเชี่ยวชาญในการใชพิษ ควบคุมแมลงแลว เคล็ดวิชาดาน
การสาปแชงก็เยี่ยมยอดอีกดวย หากผูบำเพ็ญเพียรในระดับเดียวกันตอสูกับพวกเขา
และไมทันระวังตัวก็อาจจะโดนพิษประหลาดๆ ได นับเปนเรื่องที่ยากจะปองกันจริงๆ
นี่ก็เปนสาเหตุห ลักๆ ที่ สำนักใหญ ๆ เหลานั้ น ไม ยอมปะทะกับ สำนั กต างๆ ใน
หนานเจียงงายๆ มิเชนนั้นหากสำนักใหญๆ รวมมือกันตอสูทำใหอีกฝายไดรับบาดเจ็บ
หนัก ก็ไมใชวาจะไมอาจแยงชิงเขตนี้ได
เมืองวังวนเมฆาตั้งอยูทางทิศตะวันตกของหนานเจียง ภูเขาแมงปองคูคือชีพจร
วิญญาณที่หายากแหงหนึ่งในจวนวังวนเมฆา อาณาบริเวณกวางกวาสองสามรอยลี้ มี
หมอกพิษปกคลุมอยูตลอดทั้งป หากไมใชผูมีพลังยุทธล้ำลึกหรือกินยาวิเศษกันหมอก
พิษมากอน ก็ไมมีทางเขาไปในภูเขาลูกนี้ได
และภูเขาลูกนี้ก็มีชื่อเสียงในหนานเจียงเปนอยางมาก เพราะวาเปนสถานที่ที่มี
หมอกพิษ ในภูเขาไมเพียงจะมีสมุนไพรพิษที่มีมูลคาไมธรรมดาอยูหลายชนิด ยิ่งไป
กวานั้นยังเปนแหลงกำเนิดของปองพิษอยางหางเหล็กและเสนแดงสองชนิด นับเปน
แมลงวิญญาณชั้นยอดที่ผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำในทองที่ตางก็สำแดงเคล็ดวิชาควบคุม
แมลงกับมัน
เมื่อหานลี่มาถึงบริเวณของภูเขาลูกนี้ นั่นก็คือชวงเวลาที่ภูเขาแมงปองคูมีหมอก
พิษปกคลุมอยูหนาแนนที่สุดในรอบป รอบๆ ภูเขาจึงมีผูบำเพ็ญเพียรรวมตัวกันอยู
จำนวนมาก เพราะวามีเพียงชวงเวลานี้ที่แมลงปองพิษสองชนิดจะออกมาหาอาหาร
นอกถ้ำ ชางเปนโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการไลจับแมลงพิษเหลานี้จริงๆ
ทวาผูบำเพ็ญ เพียรเหลานี้ตางอยูในระดับฝกปราณ บางครั้งก็มีผูบำเพ็ญ เพียร
ระดับสรางปราณสองสามคนปะปนอยูดวย ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมขึ้นไปนั้น
ตางก็ไมสนใจภูเขาชีพจรวิญญาณลูกนี้เลยแมแตนอย ปกติแลวผูบำเพ็ญเพียรระดับสูง
จะไมมาที่ภูเขาแหงนี้
การที่อาวุโสระดับกอกำเนิดขั้นกลางเชนหานลี่มาปรากฏตัวที่นี่ หากถูกผูบำเพ็ญ
เพียรคนอื่นๆ พบเขา แนนอนวาจะเปนการดึงดูดความวุนวายเขามาไมนอย ดังนั้น
หานลี่จึงไมไดหยุดอยูใกลๆ กับภูเขาในทันที แตกลับบินตรงเขาไปในหมอกพิษ
ตอนนี้รางเขาถูกลำแสงวิญญาณสีเขียวกลุมหนึ่งหอหุมเอาไว หมอกพิษสีชมพูจึง
ถูกตานทานอยูภายนอกอยางงายดาย
หมอกพิ ษ เหลานี้ ห นาแน น เป น พิ เศษ บางครั้งยังมี แ มลงพิ ษ บิ น เขาออกไปมา
สำหรับผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำแลวเรียกไดวาแทบจะเปนอันตรายถึงชีวิต แตสำหรับ
หานลี่แลวนั่นไมมีคาพอใหสนใจ หลังจากแยกแยะทิศทางแลวก็ตรงไปยังใจกลางของ
ภูเขาทันที
แม ว า ตอนแรกชายชราแซ ฟู จ ะเอ ย ถึ ง ชื่ อ ภู เขาแมงป อ งคู กลั บ ไม ไ ด อ ธิ บ าย
ตำแหนงที่ละเอียด แตไปที่ยอดเขาหลักของภูเขาแมงปองคูกอนก็คงไมผิดแน
จากที่บินอยูกลางอากาศบางครั้งหากพบกับผูบำเพ็ญเพียรสองสามคนละก็ หานลี่ก็จะ
บินแฉลบผานพวกเขาไปยังไมสนใจ จากความเร็วของเขา ผูบำเพ็ญ เพียรระดับต่ำ
เหลานี้จึงไมอาจสัมผัสอะไรได
แตตอนที่หานลี่บินไปพลางนั้น ก็ขบคิดถึงคำเชิญของชายชราแซฟูไปพลาง วา
เขามีจุดประสงคอะไรกันแน
จูๆ ดานขางก็มีเสียงกรีดรองอันนาเวทนาดังขึ้น
“ราชันยแมงปอง แมงปองหางเหล็กกลายพันธุ ทุกคนรีบหนีเร็ว” เสียงแหบแหง
ของบุรุษที่เต็มไปดวยความตกตะลึงระคนหวาดกลัวดังขึ้น จากนั้นเสียงระเบิดและ
เสียงกรีดรองของแมลงประหลาดๆ ก็ดังขึ้นพรอมกัน ดูเหมือนวาจะอยูหางจากเขาไม
มากนัก
หานลี่หนาเปลี่ยนสีหันหนาไปมองทางทิศทางนั้นแวบหนึ่ง ลำแสงสีฟาสวางวาบ
ในแววตา
เสียง ‘พรึ่บๆ’ ดังแหวกอากาศมาอยางตอเนื่อง จากนั้นเงารางของบุรุษและสตรีสอง
สามคนก็ปรากฏขึ้นทามกลางหมอกพิษ ดูเหมือนวาจะกำลังบินตรงเขามาหาหานลี่
ปลายเทาของคนเหลานี้ชี้ลงพื้น กระโดดทีหนึ่งไปไกลไดประมาณสองสามจั้ง ทาทาง
กำลังสำแดงเคล็ดวิชาตัวเบาอยู
“เอ!” แตเดิมหานลี่มีสีหนาเย็นชา หลังจากที่สายตาเลื่อนไปบนรางของสตรีผู
หนึ่งแลวก็อดที่จะรองอุทานออกมาเบาๆ ไมได ลำแสงหลีกหนีจึงหยุดชะงักลง
จากนั้นเขาพลันสะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีเขียวผืนใหญพุงออกมาจากแขนเสื้อ ทุก
แหงที่พุงผานตางกวาดหมอกพิษออกไปจนเกลี้ยง ชั่วพริบตาบรรยากาศรอบๆ ดานก็
สดใสในระยะยี่สิบสามสิบจั้ง
และในชวงวินาทีนั้นเงารางคนสองสามคนก็กระโจนเขามา เมื่อเห็นสถานการณที่
แปลกประหลาดเชนนี้ก็หยุดชะงักฝเทาลงดวยความตกใจ
ยังไมทันรอใหพวกเขามีปฏิกิริยาตอบสนองอะไร หานลี่ก็ใชมือหนึ่งควาไปกลาง
อากาศทางทิ ศที่ พ วกเขาอยู เมื่อ มือ ลำแสงสีเขีย วขางหนึ่ งปรากฏขึ้น กลางอากาศ
ทามกลางหมอกพิษและตะปบลงไปอยางรุนแรง สิ่งของสีดำสนิทถูกมือใหญยักษควา
ไว จากนั้นก็หมุนวนโคจรรอบหนึ่งแลวบินกลับมา หยุดลงเบื้องหนาของหานลี่
คาดไมถึงวาจะเปนแมงปองยักษขนาดสองสามฉื่อตัวหนึ่ง เปลือกแมลงเปลงแสง
สี ด ำออกมา ด า นหลั ง ของมั น มี ห างยาวครึ่ ง ฉื่ อ งอกออกมา ตะขอตรงปลายหาง
เปลงแสงสีมวงออกมา ดูเหมือนวาจะมีพิษที่รายแรงอยางหาที่เปรียบมิได
นั่นก็คือแมงปองหางเหล็กกลายพันธุที่ไลลาเหลาผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำเหลานี้อยู
แมงปองตัวนี้นาจะเปนอสูรปศาจระดับสอง แตภายใตการจับกุมดวยมือลำแสง
นั้น ก็ไมมีทางดีดตัวออกไดเลยแมแตนอย ทำไดเพียงเปลงเสียงรองประหลาดๆ ที่ไร
เรี่ยวแรงออกมาจากปากเทานั้น
ผูบำเพ็ญเพียรสองสามคนเหลานี้ถูกทุกอยางที่เกิดขึ้นทำใหตกตะลึงจนอาปาก
คาง มองไปทางหานลี่ที่อยูทามกลางหมอกสีเขียวกลางอากาศ ทาทางไมรูวาควรทำ
ตัวอยางไรดี
“หลังจากจากกั น ที่ เมื อ งจิ้น เหตุ ใดสหายหวังถึ งมาปรากฏตั วที่ นี่ แม น างเฉา
สบายดีสินะ?” ลำแสงบนตัวของหานลี่สลายหายไป เอยกับผูบำเพ็ญเพียรหญิงคน
หนึ่งดวยใบหนาราบเรียบ
“เจาคือสหายหาน ไมสิ ทานอาวุโสหาน! ตอนนี้ศิษยนองหญิงเฉายังอยูที่เมืองจิ้น
ไมไดออกมาพรอมกับชนรุนหลัง ชนรุนหลังมาตามหาสมุนไพรบนภูเขากับเหลาสหาย
รวมวิถี” ตอนแรกผูบำเพ็ญหญิงที่สวมชุดสีเหลืองคนหนึ่งพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็
เผยสีหนาดีอกดีใจออกมา คาดไมถึงวาจะไดพบกับศิษยพี่หญิงหวังของเฉาเมิ่งหรง
นอกเมืองจิ้นเชนนี้
หลังจากที่หานลี่จากไปเพราะเสียงเพรียกของกระบี่ในวันนั้น แนนอนวาสตรีผูนี้
ก็รูฐานะผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงของหานลี่ ดังนั้นหลังจากที่จำหานลี่ไดแลว แนนอนวา
ก็ไมกลาทำทาทีตามอำเภอใจเหมือนกอนหนาอีกแลว ทันใดนั้นก็ประสานมือคารวะ
อยางชนรุนหลังทันที สีหนานอบนอมเปนพิเศษ
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ เห็นสตรีแซหวังรูจักกับผูบำเพ็ญเพียรที่มีความสามารถ
เกรี ย งไกรที่ อ ยู ก ลางอากาศ ก็ รูสึ ก ผ อ นคลายลงและทยอยกั น คารวะแสดงความ
ขอบคุณ
ทวา คนเหลานั้นรวมทั้งสตรีแซหวัง ตางก็คิดวาหานลี่คือผูบำเพ็ญ เพียรระดับ
หลอมรวม ผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดสำหรับพวกเขาแลว เปนสิ่งที่อยูหางไกล
เกินไปนัก จึงคิดวาไมอาจรูจักมักจี่ดวยได
“ทานลุงของเจาคือแมทัพใหญแหงจูหนาน เหตุใดสหายตองเสี่ยงอันตรายมาหา
ตามหาสมุนไพรเหลานี้” หานลี่ไดฟงวาเฉาเมิ่งหรงสบายดี ก็พยักหนาเหลือบตามอง
แมงปองยักษแวบหนึ่ง แลวขมวดคิ้วขณะเอย
“ถึงแมวาตระกูลของชนรุนหลังจะนับวาร่ำรวย มีศิลาวิญญาณสะสมอยูนิดหนอย
แตคุณสมบัติของขานั้นธรรมดา ภายในตระกูลจึงไมอยากเสียศิลาวิญญาณใหชนรุน
หลังเทาใดนัก” สตรีแซหวังหนาซีดขาว พลางหัวเราะอยางขมขื่นขณะเอย
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ความจริงแลวคุณสมบัติของเจาก็ไมไดถือวาย่ำแยอะไร
นัก ระดับสรางปราณก็ไมใชวาจะไมมีหวัง และการบังเอิญมาพบกับขาอีกครั้ง ก็นับวา
เจามีวาสนากับขา แมลงพิษตัวนี้มอบใหเจาก็แลวกัน ขายังมีธุระตองรีบไป พวกเจา
ดูแลตัวเองเถิด” หานลี่เอยเชนนี้ออกมา พลางชี้ไปที่มือลำแสง
ชั่วขณะนั้นเสียง ‘ตูม’ พลันดังขึ้น มือลำแสงก็กลายเปนประกายแสงสีเขียวเล็กๆ
และสลายหายไป หลังจากที่รางของแมงปองยักษคลอนเล็กนอย ก็แข็งคางขณะรวง
ตกลงมาอยูเบื้องหนาของเหลาผูบำเพ็ญเพียร ไมขยับเขยื้อนเรากับตายแลวอยางไร
อยางนั้น
“ทานอาวุโส ขา...”
สตรีผู นี้ ดี อ กดี ใจ ตอนที่ ก ำลั งคิ ด จะเอ ย ขอบคุ ณ นั้ น รอบกายของหานลี่ พ ลั น
เปลงแสงสีเขียวสวางจา แลวสลายหายไปทามกลางหมอกพิษ คำพูดขอบคุณของสตรี
แซหวัง จึงทำไดเพียงติดอยูที่ปากเทานั้น
สวนเหลาผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นที่อยูดานขาง ก็มองไปยังแมงปองยักษกลายพันธุที่
อยูบนพื้นพรอมกับเผยสีหนาอิจฉาออกมา
ทวาแมงปองตัวนี้ก็เปนสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงมอบใหถึงแมวาพวกเขาจะมี
ความคิดชั่วรายแตกลับไมกลาแยงชิงแมงปองยักษตัวนี้จริงๆ จึงทำไดเพียงเบิกตามอง
สตรีแซหวังแปะยันตวิเศษสองสามแผนลงบนตัวของแมลงพิษ แลวถึงไดเก็บมันเขาไป
ในยามเก็บอสูรวิญญาณดวยความดีอกดีใจ
และในตอนนั้นเองเสียงฟารองก็ดังขึ้นจากบนทองฟา จากนั้นหมอกพิษที่แตเดิม
ปกคลุมไปทั่วทองฟาก็หมุนวน จากนั้นก็มีพายุที่บาคลั่งซึ่งไมรูวามาจากไหนพัดเขามา
ระลอกหนึ่ง คาดไมถึงวาจะเปาพัดหมอกพิษสีแดงเขมกลางอากาศจนสลายหายไป
ทำใหมองเห็นเมฆสีดำที่รออยูกลางอากาศรางๆ ทาทางเหมือนจะมีฝนฟาคะนอง
“ฝนตกพอดีเลย” ตอนนี้หานลี่มองเห็นยอดเขาสีดำสนิทอยูลิบๆ เงยหนาขึ้นมอง
ไปแวบหนึ่งแลวเอยพึมพำขึ้น
จากนั้นก็กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไปยังยอดเขา
เสียงฟารองคำรามดังขึ้นสองสามครั้ง ชั่วขณะนั้นฝนหาใหญก็โปรยปรายลงมา
จากทองฟา หมอกพิษรอบๆ ดานถูกพายุฝนกระหน่ำลงมา จนทำใหเคลื่อนตัวลงต่ำ
อยางรวดเร็ว ทั้งหมดลดระดับลงไปอยูเหนือพื้นดินแคไมกี่จั้ง ยอดเขาอื่นๆ ที่อยูไกล
ออกไป ก็เผยออกมาจากทามกลางฟาฝน
ลำแสงบนรางของหานลี่หมนแสงลง รอนลงบนกอนหินยักษกอนหนึ่งบนยอดเขา
ภายใตการปกคลุมของลำแสงวิญญาณ บนเรือนรางจึงไมเปยกปอน ทวาหางจากกอน
หินยักษไมไกล กลับมีผูบำเพ็ญเพียรเจ็ดแปดคนรวมตัวกันอยูตรงนั้น มีระดับสราง
ปราณสองคน สวนที่เหลือลวนอยูในระดับฝกปราณ
คนเหลานี้ตางสวมผาโพกศีรษะ ลวนแตงกายเหมือนผูบำเพ็ญเพียรในทองที่ พวก
เขามองไปทางหานลี่ที่จูๆ ก็มาปรากฏตัวอยูบนยอดเขาดวยความตื่นตกใจ พลันหัน
กลับมองสบตากันอยางอดไมได
หานลี่กวาดสายตาไปบนเรือนรางของคนเหลานั้น ทันใดนั้นก็ระเบิด ไอวิญญาณ
ที่ น าตกตะลึ งออกมาจากเรือ นราง สะบั ด แขนเสื้ อ ผ า ปากก็ เอ ย ด วยความเย็ น ชา
ออกมา
“ไสหัวไป!”
ลมพายุรุนแรงพลันพัดเขามา ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งหมุนวน
ผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นตื่นตระหนก บางก็ปลอยเกราะปองกันออกมาตานทาน
บางก็รีบรอนขับเคลื่อนยุทธภัณฑข้ึนไปบนอากาศ แตหลังจากที่ลำแสงสวางวาบ ทุก
คนก็ถูกลำแสงสีเขียวนั้นมวนเขาไปอยางไมมีขอยกเวน จากนั้นก็ถูกสลัดออกไปไกล
ยี่สิบสามสิบจั้งราวกับน้ำเตาที่หมุน ควาง แตละคนตกอยูในที่ นั่งลำบากอยางสุดๆ
ใบหนาหวาดผวา
ตอนนี้ ค นเหล า นั้ น ไหนเลยจะไม รู ว า พบกั บ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ สู ง ที่ มี
ความสามารถเกรียงไกร ทันใดนั้นก็วิ่งลงมาจากภูเขาทันทีโดยไมพูดอะไร ผูบำเพ็ญ
เพียรระดับสรางปราณสองคนแอบตรวจสอบพลังยุทธของหานลี่เล็กนอย สีหนาก็ยิ่ง
ซีดขาวไรสีโลหิตกวาเดิมขณะขับเคลื่อนยุทธภัณฑจากไปอยางมิกลารั้งรอใดๆ
หานลี่จับจองคนเหลานี้ที่กลายเปนจุดสีดำๆ ในที่สุดก็หายลับไปจากยอดเขา ถึง
ไดชักสายตากลับมาดวยสีหนาราบเรียบขณะเงยหนามองบนทองฟา
เวลานี้เมฆสีดำกำลังปกคลุมอยูทั่วทองฟา อสรพิษสีเงินกำลังเริงระบำ เสียงฟา
รองดังขึ้นอยางตอเนื่องไมหยุด!
ตอนที่ 974 แขกผูมาเยือน
หลังจากเสียงคำรามดังขึ้น ความกลัดกลุมใจของหานลี่ตั้งแตที่เทพขับเคลื่อนจาก
ไปก็ดูเหมือนวาจะคลายลง จากนี้เขาตองเก็บอัสนีสวรรค แนนอนวาจึงไมอยากใหผู
บำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ เขามาขัดขวาง
หลังจากถอนหายใจออกมายาวๆ เฮือกหนึ่ง เขาก็ตบไปที่ยามเก็บของ ธงอาคม
หลากสี สั น สองสามด ามปรากฏขึ้ น ในมื อ ใช มื อ หนึ่ งโบกสะบั ด ธงเหล านั้ น บิ น พุ ง
ออกไปทั้งสี่ทิศสวางวาบแลวมุดหายเขาไปใตดินอยางไรลองลอย
หานลี่เงยหนาขึ้นมองบนทองฟ าที่ แลบไปมาไม หยุด มุมปากหยักขึ้น เล็กน อย
ทันใดนั้นลำแสงวิญญาณบนรางพลันสวางวาบ รางกายลอยขึ้นไปกลางอากาศ หาง
จากพื้นสามสิบกวาจั้ง
สองมือพลันรายอาคม ผนึกเปนสัญลักษณประหลาดๆ เสียงบริกรรมคาถาลึกลับ
ดังออกจากปากของหานลี่
ชั่วขณะนั้นดานลางพลันมีลำแสงหลากสีสันกะพริบวาบ
หลังจากเสียงอึกทึก ‘ครืนๆ’ ดังขึ้น เสาลำแสงสองสามสายก็ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน
กลายเปนธงใหญยักษขนาดหนาเทาปากชามสองสามดาม ตั้งตระหงานอยูบนพื้นดิน
ไมขยับเขยื้อน
เสียงบริกรรมคาถาของหานลี่ไมหยุดลงเลยแมแตนอย ธงอาคมที่อยูดานลางก็
ปลอยเสนไหมจากไอวิญญาณออกมาทามกลางเสียงบริกรรมคาถา และคอยๆ ผนึก
รวมตัวกันจนมีเสนผาศูนยกลางสิบกวาจั้ง
ทามกลางลำแสงเหลานี้ มีอักขระตางๆ วนไปมาในเขตอาคมไมหยุด ทั้งเขตอาคม
ตกอยูในสภาวะถูกกระตุน
และชั่วพริบตาที่เขตอาคมปรากฏขึ้น กลางอากาศในบริเวณนั้นที่ดูเหมือนวาจะ
ไมมีฟาผาได ก็เหมือนจะไดรับผลกระทบอะไรสักอยาง เสียงฟารองดังถี่กระชั้นขึ้น
เรื่อยๆ ฟาแลบคอยๆ เขามาใกลตำแหนงของหานลี่มากขึ้นเรื่อยๆ
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง ปากที่บริกรรมคาถาอยูหยุดชะงักชั่วคราว พลิกฝามือ
ในมือมีขวดหยกสูงสองสามชุนปรากฏขึ้น
ขวดใบนี้เขาเอาไวเก็บอัสนีสวรรค เพื่อหลอมยุทธภัณฑโดยเฉพาะ
โยนขวดนี้ขึ้นไปเบาๆ เมื่อขวดใบเล็กถูกปลอยออกไปกลางอากาศ ก็ใชอาคมสี
เขียวสายหนึ่งโจมตีไปที่ขวดใบนั้น
หลังจากที่ขวดหยกหมุนควางสองสามครั้ง ปากขวดก็ชี้ขึ้นไปบนฟาไมขยับเขยื้อน
ตอนนั้นหานลี่ถูมือทั้งสองเขาดวยกัน แลวชูมือขึ้นพรอมกัน ประจุไฟฟาสีทอง
หนาๆ สองสายพุงออกมาและโจมตีไปยังกนขวดพรอมกัน
หลังจากเสียงฟาผาดังกอง ภาพฉากที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้น
ขวดหยกสั่นคลอนเล็กนอย ประจุไฟฟาสีทองสองสายจมหายเขาไปในขวดอยาง
ไรรองรอย จากนั้นหานลี่ก็ตะโกนดวยเสียงทุมต่ำออกมา พลางชี้ไปกลางอากาศ
เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองสายหนึ่งพุงออกมาจากปากขวด กลายเปน
หอกสายฟายาวสองสามจั้งเลมหนึ่งที่กะพริบวาบอยูบนขวดหยก ชี้ไปทางทองฟาสีดำ
ทะมึน และในชั่วพริบตานั้น ประจุไฟฟาสีเงินสายหนึ่งก็ฟาดลงมาจากทองฟา โจมตี
ไปยังหอกสีทองอยางพอดิบพอดี
หอกสีทองพลันสั่นคลอน ชั่วขณะนั้นประจุไฟฟาสีเงินจึงถือโอกาสลดระดับลง ชั่ว
พริบตาก็จมหายเขาไปในปากขวดอยางไรรองรอย
เชนนั้น ประจุไฟฟาสายแลวสายเลาก็ถูกเขตอาคมดูดเขามาอยางตอเนื่อง และ
ถูกอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายดูดเขาไปในขวดหยกอยางงายดาย
ผานไปหนึ่งชั่วยาม หลังจากที่ขวดหยกเก็บประจุไฟฟาสายหนึ่งเขาไปแลว ก็เริ่ม
เปลงเสียงรองคำรามราวกับพายุคลั่งออกมา
หานลี่ไดยินเสียงนี้ ก็อดที่จะเผยสีหนาดีอกดีใจออกมาไมได ชูมือขึ้นควาไปกลาง
อากาศที่วางเปลา
หอกสายฟาสีทองรอนลงมาโดยอัตโนมัติ ขวดหยกบินลงมาจากกลางอากาศ ถูก
ดูดเขามาในมือ
หานลี่สะบัดแขนเสื้อในไปทางทองฟาอยางรวดเร็ว ขวดที่มีลักษณะไมแตกตาง
จากใบแรกปรากฏขึ้นกลางอากาศเชนกัน หอกสีทองเสียบเขาไปอีกครั้ง และเก็บอัสนี
สวรรคเขาไปในขวดตอ
เวลานี้ เขาถึงไดพิจารณาขวดในมืออยางละเอียด
เห็นเพียงของสิ่งนี้สั่นคลอนไปมาทามกลางเสียงคำรามต่ำๆ ไมหยุด ปากขวดมี
ลำแสงสี เงิน เจิด จ าแสบตาสวางวาบ ท าทางเหมื อ นจะพุ งออกมาจากปากขวดได
ตลอดเวลา
เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น ยันตสีทองแผนหนึ่งพลันแปะลงบนตัวมัน เสียงที่ดังมาจาก
ปากขวดหยุดลง ชั่วพริบตาลำแสงสีเงินก็หมนหมองลง
หานลี่ปดฝาขวดใหดี แลวเก็บเขาไปในยามเก็บของอยางระมัดระวัง
จากนั้นก็เงยหนาไปมองสถานการณทุกอยางบนทองฟาตอ
หลังจากผานไปเกือบครึ่งวัน แมจะเก็บอัสนีสวรรคไปอยางตอเนื่องถึงสี่ขวด แต
เมฆฝนบนทองฟาก็ยังคงไมมีทาทีจะลดลง รอบๆ ดานกลับยิ่งเปนสีเหลืองเรืองรอง
มากขึ้นเรื่อยๆ
หานลี่ขบคิดในใจ หลังจากเก็บขวดที่ลอยอยูกลางอากาศอีกครั้ง ก็คงจะหยุดไดแลว
อัสนีเหลานี้เพียงพอตอการเปลี่ยนเปนเพลิงอัสนีเพื่อใชหลอมวัตถุดิบวิญญาณแลว
ในตอนนั้นเอง เขาพลันหนาเปลี่ยนสี เงยหนาขึ้นมองไปที่ขอบฟาอีกดานอยาง
กะทันหัน
เห็นเพียงบนทองฟามืดครึ้มในจุดที่ไกลออกไปมีลำแสงวิญญาณสวางวาบ สายรุง
สีขาวสายหนึ่งปรากฏขึ้น พลางบินเขามา
แววตาของเขาเปลงประกายสองครั้ง สีหนาก็เครงขรึมขึ้น
ลำแสงเขตอาคมที่อยูดานลางทั้งสี่พ ลันรวมตัวกัน หานลี่ที่รอบกายมีลำแสงสี
เขียวพลันลอยขึ้นกลางอากาศ เหนือศีรษะมีประจุไฟฟาสีเงินกะพริบวาบไปมาอยาง
บาคลั่ง และรวมตัวเขาดวยกันสายแลวสายเลา
สถานการณเชนนี้ ชางสะดุดตานัก
แนนอนวาเจาของสายรุงสีขาวเห็นภาพนั้นทั้งหมด หลังจากลำแสงหลีกหนีสวาง
วาบสองสามครั้งแลว ก็ตรงมาทางหานลี่ ชั่วครู เมื่อหางจากหานลี่ไปสามสิบกวาจั้ง
สายรุงก็หมนแสงลง เผยรางของสตรีที่สวมชุดชาววังคนหนึ่งขึ้น
สตรีผูนี้มีรางกายอรชรออนแอน หนาตาสะอาดหมดจด ดวงตาสดใสคูนั้นฉาย
แววออนโยน ราวกับวาเพิ่งจะเปนสาวแรกรุนอยางไรอยางนั้น
แตสิ่งที่ทำใหผูคนประหลาดใจก็คือ ชุดชาววังที่อยูบนรางของสตรีผูนี้ไมรูวาใช
วัตถุดิบที่ล้ำคาอะไรทอขึ้น ไมเพียงจะเปลงแสงสีเงินวูบวาบสุกสกาวออกมา ยังมีไอ
เย็นเยียบสีขาวหลายสายโคจรไปมารอบๆ ไมหยุด ทำใหสตรีผูนี้ดูราวกับเปนเทพธิดา
อยางไรอยางนั้น ไมมีทาทีไมเปนมิตรแมแตนอย
หานลี่แผจิตสัมผัสออกไป ในใจพลันรูสึกตกตะลึง คาดไมถึงวาอีกฝายจะเปนผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางเหมือนกับเขา
หลังจากที่สตรีผูสวมชุดชาววังกวาดสายตามาบนเรือนรางของหานลี่ ก็ฉีกยิ้มเบิก
บานออกมา
“ขาคือไปเหยาอี๋จากเกาะอเวจีเหนือ สหายก็ไดรับคำเชิญจากสหายฟูสินะ?”
น้ำเสียงของสตรีผูนี้นุมนวลมีเสนหชวนฟง
“เกาะอเวจีเหนือ หรือวาสหายไปคือผูบำเพ็ญเพียรของวังราตรีเหนือ?” หานลี่
รูสึกประหลาดใจ พลางเอยดวยความตกตะลึง
“ขาคืออาวุโสสายนอกของวัง วังของขาตั้งอยูในดินแดนที่หางไกล คิดไมถึงวา
สหายจะรูสึกสำนักของขา ขอถามแซของสหายไดหรือไม?” สตรีผูสวมชุดชาววังเผย
รอยยิ้มจางๆ ออกมา
“ข าน อ ยแซ ห าน เป น เพี ย งผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รสั น โดษจากนอกมหาสมุ ท รเท านั้ น
ชื่อเสียงของวัง ผูแซหานไดยินมาหนาหูแลว” หานลี่ฟนฟูสีหนากลับมาเปนราบเรียบ
“ผูบำเพ็ญเพียรนอกมหาสมุทร! สหายหานรูจักสามเซียนนอกมหาสมุทรหรือไม?
มีตนกำเนิดมาจากสหายทั้งสามทานนี้หรือ?” ไปเหยาอี๋กลอกดวงตาสดใสไปมา พลาง
เอยถามพรอมยิ้มนอยๆ
“ไมรูจัก ขานอยไมคอยคบคาสมาคมกับผูใดนัก ฝกฝนอยูเพียงในเกาะมาแตไหน
แตไร” หานลี่ตอบกลับอยางไมลังเลแมแตนอย
“ที่ แ ท ก็ เป น เชน นี้ นี่ เอง ข าบุ ม บ ามไป สหายเก็ บ อั สนี สวรรค อยากให เหยาอี๋
ชวยเหลือไม”
“ขอบคุณความหวังดีของสหาย ขานอยเก็บใกลจะเสร็จแลว นี่เปนขวดสุดทาย
แลวละ”
“เชนนั้น ขาก็ขอนั่งสมาธิบนยอดเขาสักหนอย”
ไปเหยาอี๋ไดยินหานลี่เอยเชนนี้ก็ไมไดฝนใจ ทันใดนั้นลำแสงหลีกหนีก็หมุนวน
ตรงไปยังกอนหินยักษอีกกอนหนึ่งแลวรอนลงมาทันที
เมื่อนางปรากฏตัวบนพื้น หวางนิ้วก็ปลอยยุทธภัณฑรมคันหนึ่งออกมาอยูเหนือศีรษะ
หลังจากของสิ่งนี้หมุนโคจรอยูกลางอากาศ ก็ปลอยลำแสงสีขาวผืนใหญออกมา
ทันที ตานทานพายุฝนในระยะสิบจั้งเอาไวภายนอก สตรีผูนี้ถึงไดนั่งสมาธิลงดวยสี
หนาราบเรียบ
ลำแสงเย็นเยียบสวางวาบขึ้นในมือ สิ่งของขนาดเทาฝามือปรากฏขึ้นในมือของนาง
หานลี่มองไปแวบหนึ่ง ก็เห็นของสิ่งนั้นอยางชัดเจน คาดไมถึงจะเปนหยกสีขาว
โพลนราวกับหิมะ ดานบนมีลำแสงเย็นเยียบกะพริบวาบ โปรงใสและแวววาว สวยงาม
มากกวาหยกงามธรรมดาๆ
‘หยกน้ำแข็ง’
ความคิดของหานลี่เคลื่อนไหวไปมา จำของล้ำคาชนิดนี้ได ขวดไขกระดูกเหมันต
ที่ไดมาใบนั้นบังเอิญมีตนกำเนิดมาจากหยกน้ำแข็งหมื่นปเขาพอดี
เวลานี้สตรีผูสวมชุดชาววังถือหยกน้ำแข็งนั้นเอาไวดวยมือทั้งสองมือ ดวงตาคูงาม
ปดลงพลางเขาสูภวังคแหงสมาธิ
ดูแลววรยุทธของสตรีผูนี้ ถาไมใชธาตุน้ำแข็งที่บริสุทธิ์ ก็คงเปนเคล็ดวิชาเหมันตทมิฬ
อะไรประเภทนี้ มิเชนนั้น คงไมอาศัยพลังเย็นเยียบของหยกกอนนี้มาฝกพลังยุทธ
หรอก มันมีประสิทธิภาพคลายกับยาลูกกลอนวิญญาณหิมะ แตแคหยกน้ำแข็งชนิดนี้
ตอใหมีคุณสมบัติที่ดีขนาดไหน ก็ไมมีทางเทียบกับยาลูกกลอนวิญญาณหิมะได
หานลี่มีสีหนาราบเรียบ แตกลับระมัดระวังตัวจากสตรีผูนี้ขึ้นอีกสองสามสวนตาม
จิตสำนึก
คิดดูแลวที่วังราตรีเหนือยอมตอสูกับอสูรปศาจระดับสูงมาหลายชั่วอายุคน และ
ไมยอมปลอยไขกระดูกเหมันตออกไป ก็เห็นไดชัดวาวังนี้เห็นความสำคัญของของสิ่งนี้
ขนาดไหน ถาหากทำใหสตรีผูนี้รูวาสมบัติประจำวังอยูที่ตัวเอง จะตองเกิดปญหาใหญ
แน
เมื่อขบคิดเชนนี้ หานลี่ก็ชักสายตากลับมา จองเขม็งขวดเล็กๆ ที่อยูกลางอากาศ
ใบหนาไรความรูสึก
หลังจากนั้นไมนาน หลังจากเก็บอัสนีสวรรคมาเต็มขวดที่หาแลว ทันใดนั้นหานลี่
พลันเก็บยุทธภัณฑในทันที บินลงมาจากทองฟาอยางเชื่องชา และรอนลงตรงใจกลาง
ของเขตอาคม
จากนั้นก็รายอาคมออกไปสองสามสาย โจมตีไปยังธงอาคมรอบๆ ชั่วขนาดนั้น
เขตอาคมตองหามก็เกิดความเปลี่ยนแปลง กางมานลำแสงสีเขียวเขมสายหนึ่งออกมา
หอหุมรางของเขาเอาไว
หานลี่นั่งสมาธิลงในเขตอาคมเชนกัน หลับตาลงเขาสูสมาธิอยูตรงขามกับสตรีที่
สวมชุดชาววัง อยูตอหนานางเชนนี้ เขาไมยอมหลอมวัตถุดิบอะไรแน
เชนนั้น บนยอดเขานอกจากเสียงฟารองคำรามแลว ก็กลายเปนเงียบสงัด
พายุ ฝ นกระหน่ ำ ลงมาหนึ่ ง วั น หนึ่ ง คื น เต็ ม ๆ ถึ ง ได ค อ ยๆ สลายหายไป เมื่ อ
แสงอาทิตยสาดสองลงมาจากทองฟาอีกครั้ง อากาศก็เปลี่ยนเปนรอนชื้นทันที หมอก
พิษคอยๆ ปรากฏขึ้นจากบนผิวดิน ปกคลุมภูเขาทั้งลูกเอาไวอีกครั้ง
มดแมลงตางๆ ที่แตเดิมพากันกลับรัง ก็ทยอยกันผุดขึ้นมาจากพื้นดินอีกครั้ง
หานลี่แผจิตสัมผัสออกไปอยางชาๆ สัมผัสสิ่งตางๆ ในระยะยี่สิบสามสิบจั้ง ทุก
แหงที่จิตสัมผัสกวาดออกไป ไมวาจะเปนการเขนฆาโรมรันของเหลามดแมลงตาม
ธรรมชาติ หรือวาดอกไมและผลไมที่กำลังหลนลงสูพื้นดิน ก็สัมผัสไดอยางชัดเจน
เขาเหมือนกับพระภิกษุที่กำลังเขาสูสมาธิอยางไรอยางนั้น ไมขยับเขยื้อน
บางครั้งที่มีผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำถลันเขามา เมื่อเห็นพลังยุทธที่นาตกตะลึงของ
หานลี่และไปเหยาอี๋ก็ไมตองเอยอะไรอีก ผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้ตางทยอยกันวิ่งหนีหัว
ซุกหัวซุนพรอมกับใบหนาที่เปลี่ยนสีไปยกใหญ ไมกลารั้งรออยูแมเพียงชั่วครู
ดังนั้นการนั่งสมาธิของหานลี่และสตรีที่สวมชุดชาววัง จึงผานไปสามวันสามคืน
เชาตรูวันที่สี่ ในที่สุดก็มีผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงมาถึงยอดเขาหลัก
ครั้งนี้ผูที่มาคือชายรางใหญ ราวกับหอคอยเหล็กกลา หนาตาอัปลักษณ แปลก
ประหลาด รอบกายเปลงแสงสีดำสนิทออกมา
ไมรูวาคนผูนี้ฝกฝนวรยุทธใด ตอนที่มานั้นคาดไมถึงวาจะเหยียบอยูบนตะพาบ
ยักษสีเขียวตัวหนึ่ง ลอยตามลมจนมาถึงที่นี่
ชายรางใหญเห็นหานลี่และไปเหยาอี๋ก็หัวเราะออกมาทันที หาที่นั่งบนยอดเขา
และนั่งลงโดยไมไดพูดอะไร ทวาเขาไมไดมีเจตนาจะหลับตาลงทำสมาธิ แตกลับควัก
ตำราสีทองเรืองรองมวนหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ คาดไมถึงวาจะอานตำราพรอมกับ
สายหัวไปมา
ทาทางเหมือนหนอนหนังสือเชนนี้ ชางแตกตางจากรูปรางและหนาตาดีจริงๆ มัน
ดูนาขันเล็กนอย หานลี่และไปเหยาอี๋มองไปแลวกลับแสรงทำเปนไมเห็น และเอาแต
นั่งสมาธิอยูเงียบๆ ตรงที่เดิม
แตความจริงแลวหานลี่กลับขมวดคิ้วในใจ
ชายร า งใหญ ก็ เหมื อ นจะอยู ใ นระดั บ ก อ กำเนิ ด ขั้ น กลางเหมื อ นกั น ดู แ ล ว
จุดประสงคที่ชายชราแซฟูนัดพวกเขามา คงจะพิเศษมากจริงๆ คาดไมถึงวาผูบำเพ็ญ
เพียรระดับกอกำเนิดขั้นตนจะไมมีคุณสมบัติเพียงพอใหเขารวม
ตอนที่ 975 ลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกกับมาทมิฬ
หลังจากที่ชายรางใหญมาถึง ภายในระยะเวลาสั้นๆ ก็ยังไมมีผูบำเพ็ญเพียรคนอื่น
มาถึง ทั้งสามคนตางก็ทำธุระของตัวเอง ไมวาผูใดก็ไมมีทาทีจะเอยสนทนากับผูอื่น
ผานไปเกือบครึ่งเดือน ตอนที่หมอกพิษจางหายไปเกือบครึ่ง ตรงขอบฟาถึงไดมี
ลำแสงหลีกหนีที่นาตกตะลึงปรากฏขึ้น สายรุงสองสายมาพรอมๆ กัน ตรงมายังยอด
เขาราวกับฝกซอมมาแลว
หลังจากที่ลำแสงหลีกหนีหมุนโคจรอยูเหนือศีรษะของทั้งสามคนรอบหนึ่ง ก็รอน
ลงตรงใจกลางของทั้ งสามคนอยางพอดิบ พอดี บุ รุษคนหนึ่ งและสตรีคนหนึ่งพลัน
ปรากฏตัวขึ้น
บุรุษนั่นก็คือชายชราแซฟูของพรรคเกายมโลก สวนสตรีนั้นคือสตรีผูงดงามสวม
อาภรณสีดำ คิ้วดกดำ แตใบหนากลับเย็นชา
“สหายทั้งสามตางมาตามนัด ชางเปนเกียรติของผูแซฟูจริงๆ แตเดิมขานอยยัง
เตรียมใจไววาจะมีสหายที่ไมมา เวลานี้คงไมตองแลว” ชายชราแซฟูกวาดสายตามา
ทางหานลี่และพวกทั้งสามคน ใบหนาเต็มไปดวยความดีอกดีใจขณะเอย
สตรีสวมชุดดำที่อยูขางกายเขา กลับนิ่งเฉยไมพูดอะไรออกมาแมแตคำเดียว
“ถึงแมวาครั้งนี้ขานอยจะมา แตหากขานอยไมสนใจสิ่งที่พี่ฟูพูด ผูแซหยวนก็จะ
สะบัดกนจากไปทันที ขานอยกำลังอยูในชวงเวลาสำคัญของการบรรลุจุดคอขวด ไมมี
เวลามาเสียเวลากับเรื่องเล็กๆ เชนนี้”
หลังจากที่ชายรางใหญหัวเราะอยางเย็นชาออกมา ก็เอยอยางไมเกรงใจ
“พี่หยวนโปรดวางใจ! สหายพบสหายหานและสหายไปทั้งสองแลว หรือยังคง
กลัววาผูแซฟูจะหลอกลวงอะไรอีก? กอนหนานั้น ขาแนะนำพวกทานใหรูจักกันกอน
ดีกวา ทานผูนี้คือศิษยนองหญิงของขานอยฉางจื่อฟาง อาวุโสสายในของพรรคเกา
ยมโลก ในฐานะที่พี่หยวนเปนเจาถิ่น มีตนกำเนิดจากสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์แหงหนาน
เจียง ครั้งนี้มีเพียงตองอาศัยสถานที่นี้แลว สหายหานคือผูบำเพ็ญเพียรสันโดษจาก
นอกมหาสมุทร มีความสามารถที่นาตกตะลึง สวนสหายไป…” ชายชราแซฟูชี้ไปที่
หานลี่และพวก และแนะนำใหแตละคนรูจักกัน
เมื่อไดยนิ ชายชราแซฟูบอกวาหานลี่มีความสามารถที่นาตกตะลึง แววตาของชาย
รางใหญและไปเหยาอี๋ก็วาบประกายประหลาดใจพลางมองมาที่เขาแวบหนึ่ง
หลังจากที่หานลี่ไดยินแลวก็พลันตกตะลึงและขมวดคิ้วมุน
“สหายชมเกิ น ไปแล ว ข าน อ ยมี พ ลั งยุ ท ธ ธ รรมดาๆ เท านั้ น ไม รู จ ะเรี ย กว ามี
ความสามารถที่นาตกตะลึงไดอยางไร” หานลี่เอยดวยสีหนาราบเรียบ
“สหายจะปดบังทำไมอีก ผูแซฟูไดยินมาวา สหายไมเพียงจะสังหารผูเฒาเสี้ยวผู
บำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดขั้นตน ที่ เมืองจิ้น หลังจากงานซื้อขายใตดิน จบลง ยัง
แสดงตัวออกมาสังหารภิกษุเออรหั่วผูมีชื่อเสียงเลื่องลืออีก พลังยุทธของสหายสูงสง
ขนาดนี้ ยังไมมีคาพอใหพูดถึงอีกรึ?” ชายชราแซฟูเอยอยางมีเลศนัยออกมา
“สหายหานสังหารภิกษุเออรห่ัวรึ?” ชายรางใหญแซหยวนหนาเปลี่ยนสี ขณะหัน
หนาไปจองหานลี่
ไปเหยาอี๋กลอกตาไปมา เผยสีหนาตื่นตระหนกออกมาเชนเดียวกัน
มีเพียงสตรีผูงดงามที่สวมชุดสีดำผูนั้นที่ดูเหมือนวาจะรูเรื่องนี้อยูแลว จึงมีทาที
ราวกับทองไมรูรอน
“พี่ฟูคงเขาใจผิดแลว ขาเคยสังหารผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นตนที่ไมรูจัก
ผิดชอบชั่วดีคนหนึ่งในเมืองจิ้น แตขาไมไดลงมือกับภิกษุผูนั้น เปนฝมือของผูบำเพ็ญ
เพี ย รอี ก คนหนึ่ ง สหายคิ ด ว า ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รสั น โดษคนหนึ่ ง อย า งข า น อ ย จะมี
ความสามารถที่เกรียงไกรเชนนั้นหรือ?” หานลี่หัวเราะอยางขมขื่นออกมา เอออยาง
จนปญญา
“ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รอี ก คนหนึ่ ง ? ข า ได ยิ น มาจริ ง ๆ ว า ตอนนั้ น มี ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รที่
หนาตาคลายคลึงกันสองคนตอกรกับภิกษุเออรหั่วพรอมกัน หรือวาตอนนั้นคนที่ลงมือ
ไมใชสหายจริงๆ?” สีหนาไมใสใจของชายชราแซฟูคลายลง แตปากกลับดูเหมือนวา
จะไมคอยเชื่อถือนัก
“พี่ฟูอาจจะมองขานอยสูงสงเกินไป ถาหากผูแซหานมีกำลังสังหารผูบำเพ็ญเพียร
ระดับกอกำเนิดขั้นกลางไดในชั่วพริบตา ตอนแรกจะหลบหนีเจาพวกคนของพรรคตา
ขายทมิฬทำไม หากจากไปอยางทะนงเลย ผูใดจะกลาลงมือหามปราม” หานลี่ลูบคาง
ไปมา พลางเอยอยางราบเรียบ
“สหายพูดมีเหตุผล ทวาถึงแมวาผูเฒาเสี้ยวจะมีพลังยุทธไมสูงนัก แตก็เจาเลห
เพทุบายและเชี่ยวชาญการหลบหนี สหายสังหารเขาได ก็ไมธรรมดาเชนกัน ใชแลว
ไมทราบวาผูบำเพ็ญ เพียรที่สังหารภิกษุเออรหั่วในวันนั้นรูจักกับสหายหานหรือไม
หรือวาเปนผูบำเพ็ญเพียรจากนอกมหาสมุทรที่ไมคอยออกมาทองโลก จุๆ พลังยุทธ
อยูในขั้นปลายเชน นี้กลับ ไมมีชื่อเสียง คงมีเพี ยงตองมาจากนอกมหาสมุท ร ถึงจะ
เปนได” ชายชราแซฟูสงเสียงจุๆ ออกมาสองสามครั้ง ดูเหมือนวาจะสนใจมารโบราณ
ในวันนั้น
“ขาก็เคยไดยินมา วันนั้นหลังจากที่งานประมูลจบลง หางจากการซื้อขายใตดิน
ไมไกลนัก ก็มีมารประหลาดสองหัวสี่แขนที่ดูเหมือนปศาจตนหนึ่งปรากฏขึ้น คาดไม
ถึงวาจะกลืนกินผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดไปหลายคน
ไดยินวาหากไมใชเพราะผูบำเพ็ญเพียรผูยิ่งใหญที่คอยดูแลงานซื้อขายอยูลงมือ
ขับไลมารประหลาดตนนั้นไป ผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นคงจะเพลี้ยงพล้ำทั้งหมด พี่หาน
มีประสบการณเรื่องนี้หรือไม?” จูๆ ชายรางใหญแซหยวนก็เอยปากถามขึ้น
“ผูบำเพ็ญ เพียรที่สังหารภิกษุเออรหั่วนั้นเคยพบหนากับขานอยเพี ยงไมกี่ครั้ง
เรียกไมไดวาตนกำเนิดเดียวกัน สวนเรื่องมารประหลาดนั่น นาจะเกิดขึ้นหลังจากที่ขา
จากไปแล ว ข า น อ ยไม รู เรื่ อ งนี้ เลย” หานลี่ ส า ยศี ร ษะ ตอบกลั บ ด ว ยสี ห น า ไม
เปลี่ยนแปลง
“เชนนี้นี่เอง ชางนาเสียดายจริงๆ มิเชนนั้น ถาหากตามหาสหายผูนี้ได พวกเราก็
อาจจะมั่นใจไดมากขึ้น” ชายชราแซฟูหัวเราะแหงๆ ออกมาสองสาม ดูเหมือนวาจะ
กลาวถึงเรื่องนี้อีกอยางไมไดใสใจนัก
ชายรางใหญแซหยวนกลับเหลือบตามองดวยสีหนาสงสัย
ในตอนนั้นเอง ไปเหยาอี๋ก็อยาเผยอริมฝปากบางๆ ออกและเอยวา
“สหายฟู สองสามปกอนที่นัดขามาที่นี่ ก็ควรจะบอกรายละเอียดไดแลวไมใช
หรือ หากไมใชเพราะติดหนี้บุญคุณสหายในอดีตอยูไมนอย ก็คงไมถอมาไกลถึงขนาด
นี้หรอก”
“นั่ น มั น แน น อนอยูแ ล ว ทวาเรื่อ งนี้ ไม ธรรมดา วางเขตอาคมก อ นดี กวา แล ว
ขานอยจะคอยๆ อธิบายกับเหลาสหายอยางละเอียด” ชายชราแซฟูเอยปากตอบรับ
จากนั้ น พลั น ดี ด นิ้ วทั้ งสิ บ ไปทั้ งสี่ ด าน เพลิ งลำแสงสี เขี ย วเข ม สิ บ กว าสายพลั น พุ ง
ออกไป
เสียง ‘ตูมๆ’ ดังขึ้น เพลิงสีเขมระเบิ ดออก กลายเป น หมอกสีเขียวหลายกลุม
สวางวาบแลวหายวับไป
หานลี่พลันแผจิตสัมผัสออกไป บรรยากาศรอบๆ มีเขตอาคมเคลื่อนไหวอยูอยาง
บางเบาดั งคาด ถึ งแม จ ะไม รูวาเขตอาคมนี้ มี คุ ณ สมบั ติ อ ย างไร แต อี ก ฝ ายสำแดง
ออกมาไดอ ยางงายดายเชนนี้ เขาก็ยังใจหายวาบ อดที่ จะประเมิน ชายชราแซฟู นี้
สูงขึ้นไมได
ไมใชแคหานลี่ ไปและหยวนทั้งสองคนก็ใชจิตสัมผัสกวาดไปที่เขตอาคมเชนกัน
ชายชรารอบคอบขนาดนี้ ในใจจึงอดที่จะรูสึกสนใจขึ้นมาเล็กนอยไมได
“เรื่องนี้ความจริงแลวตาเฒาเริ่มแผนการมาตั้งแตสามสิบกวาปกอนแลว ตอนนี้เพิ่งจะ
มีโอกาสไดทำอยางเต็มที่ ดังนั้นจึงไดเชิญ เหลาสหายมาเพื่อขอความชวยเหลือ ไม
ทราบวาเราจะหายเคยไดยินยาลูกกลอนมหัศจรรยโบราณอยางยาลูกกลอนหลอเลี้ยง
ทารกบางหรือไม?” ชายชราแซฟูถอนหายใจยาวๆ ออกมา พลางเอยอยางเครงขรึม
“ยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารก?” ไปเหยาอี๋และชายรางใหญรูสึกงุนงง ไมมีความรู
เกี่ยวกับยาลูกกลอนชนิดนี้เลยแมแตนอย
แตเมื่อหานลี่ไดยินก็หนาเปลี่ยนสี เผยสีหนาขบคิดออกมา ดูเหมือนวาจะกำลัง
ครุนคิดอะไรอยู
“ทำไม สหายหานรูจักยาลูกกลอนชนิดนี้หรือ?” ชายรางใหญเห็นสีหนาของหาน
ลี่ ก็อดไมไหวเอยถามขึ้น
“อืม รูจักอยูนิดหนอยแตไมมากนัก ยาลูกลอนหลอเลี้ยงทารกดูเหมือนวาจะเปน
ยาลูกกลอนประจำสำนักโบราณในอดีตกาล ไดยินวายาลูกกลอนชนิดนี้มีประโยชนตอ
ทารกของผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดเปนอยางมาก มันทำใหบรรลุจุดคอขวดได
อยางงายดาย สำหรับเหลาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดอยางพวกเราแลว ถือวาเปน
ยาวิเศษ แตแคสำนักนี้ไรการสืบทอดมาตั้งแตในยุคโบราณแลว วิธีการปรุงยาจึงหาย
สาบสูญไป โลกของผูบำเพ็ญเพียรในตอนนี้จึงมีผูที่รูจักยาลูกกลอนชนิดนี้อยูไมมาก
นัก” หลังจากที่หานลี่ขบคิดอยูชั่วครู ก็เอยขึ้นอยางเชื่องชา
หากเขาไม ใช ป รมาจารย ด านการปรุ งยา และยิ่ งไปกว านั้ น ยั งเคยอ านคั ม ภี ร
โบราณมามากมายก็คงไมอาจรูจักยาชนิดนี้ได
ชายรางใหญและไปเหยาอี๋ไดยินคำพูดของหานลี่ ก็เผลอสีหนาตกตะลึงระคนดีใจ
ออกมา ชายรางใหญเอยซักถามชายชราทันทีอยางอดรนทนรอไมไหว
“ที่พี่ฟูเอยถึงเรื่องนี้ หรือวามีขาวคราวของยาลูกกลอนชนิดนี้
ต อ งเข า ใจว า หลั ง จากที่ บ รรลุ ร ะดั บ ก อ กำเนิ ด แล ว โดยปกติ วิ ธี ก ารหรื อ ยา
ลูกกลอนที่จะทำใหบรรลุระดับกอกำเนิดนั้นหายากจนนาเศราใจ
ไมมีใครยอมปริปาก แมกระทั่งกับญาติที่สนิทที่สุดก็ไมอาจเปดเผยมันงายๆ
ผานมาเนิ่นนานขนาดนี้ สิ่งของเหลานั้นคงจะหายสาบสูญไปแลวกวาครึ่ง ความ
เปนไปไดเพียงเล็กนอยก็คือสภาพแวดลอมของโลกผูบำเพ็ญเพียรเปลี่ยนแปลงไปมาก
จนไมอาจใชได
โลกของผูบำเพ็ญเพียรในตอนนี้ นอกจากของเหนือชั้นในตำนานสองสามอยาง
แล ว ผู บ ำเพ็ ญ เพี ยรระดั บ ก อ กำเนิ ด ที่ จ ะบรรลุ จุด คอขวดได ก็ มี เพี ย งต อ งอาศั ย ยา
ลูกกลอนเพิ่มพลังยุทธเทานั้น ดังนั้นเมื่อชายรางใหญไดฟงประสิทธิภาพของยาหลอ
เลี้ยงทารกก็อดที่จะตื่นเตนขึ้นมาไมได
“หึๆ คิดไมถึงวาพี่หานจะรูจักยาลูกกลอนชนิดนี้ ชางทำใหตาเฒาประหลาดใจ
จริงๆ ไมเลว นั่นเกี่ยวของกับยาลูกกลอนชนิดนี้จริงๆ เพราะวาตาเฒาไดวิธีปรุงยามา
หลอเลี้ยงทารกมาเมื่อรอยกวาปกอน” ชายชราแซฟูเผยสีหนาภาคภูมิใจออกมา
“สหายฟูมีวิธีการปรุงยานี้จริงๆ หรือ?” ชายรางใหญกำมือทั้งสอง แกมดำคล้ำอด
ที่จะมีแสงสีแดงจางๆ ขึ้นมาไมได แววตาเต็มไปดวยความดีอกดีใจอยางบาคลั่ง
ไปเหยาอี๋และหานลี่ไดฟงก็มองสบตากันแวบหนึ่ง ตางก็ปกปดสีหนาดีใจเอาไวไม
มิดเชนกัน
“ใชแลว ตาเฒามีวิธีการปรุงยา และยิ่งไปกวานั้นตาเฒายังเชี่ยวชาญในการปรุงยา ขอ
แคมีวัตถุดิบครบ การปรุงยาหลอเลี้ยงทารกก็ไมใชปญหา” ชายชราแซฟูพยักหนา
อยางไมลังเล
“ทำไม ฟงจากที่พี่ฟูพูด ดูเหมือนวาวัตถุดิบจะหายากนะ หรือวาที่เรียกพวกเรามา ก็
เพราะเรื่องนี้” หานลี่ขมวดคิ้ว เอยถามดวยความเครงขรึม
“พี่หานชาญฉลาดดังคาด หากไมใชเพราะยังขาดวัตถุดิบหลัก ตาเฒาคงปรุงยา
หลอเลี้ยงทารกไปตั้งหลายปแลว ครั้งนี้ ก็เพราะวัตถุดิบเหลานี้ ถึงไดจะยืมพลังของ
เหลาสหาย”
“ผานมาหลายปแลว พี่ฟูใชฐานะอาวุโสของพรรคเกายมโลกก็ยังไมไดวัตถุดิบ
ชนิดนี้มา ดูแลววัตถุดิบชิ้นนี้คงจะหายากจริงๆ” ไปเหยาอี๋ขมวดคิ้วขณะเอย
“มันก็เรียกวาหายากไมไดนักหรอก แตเดิมตาเฒาคิดวาของสิ่งนี้ถูกทำลายจน
หมดสิ้นไปจากแดนมนุษยแลว และคิดวาสูตรปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงวิญญาณนี้ไมมี
ประโยชนแลว แตคิดไมถึงวา จะไปพบรองรอยของสิ่งนี้พอดี ถึงไดคิดจะปรุงยาชนิดนี้
ขึ้นมา” ชายชราหัวเราะขมขื่นออกมาขณะเอย
“เอาละ พี่ฟูไมตองออมคอมแลว วัตถุดิบที่ตองการคือสิ่งใด ก็พูดมาเถิด” ชาย
รางใหญแซหยวนทนไมไหวเอยซักถามขึ้น
“ตองการเลือดของมาทมิฬ!” ชายชราเอยออกมาตรงๆ
“มาทมิฬ? แดนมนุษยของพวกเรามีอสูรวิญญาณเชนนี้ที่ไหนกันเลา สหายไปพบ
ที่ไหนหรือ?” หานลี่พลันตกใจ สองตาหรี่ลงขณะซักถาม
ไปเหยาอี๋และชายรางใหญไดยิน ก็มองสบตากันเชนกัน
“หึๆ แตเดิมตาเฒาก็คิดวาในแดนนี้ไมมีอสูรวิญญาณชนิดนี้ตั้งนานแลว แตเมื่อ
สามสิบปกอน ตาเฒาบังเอิญไปพบกับรองรอยของมาทมิฬอยางไมไดตั้งใจ และยิ่งไป
กวานั้นยังอยูในหนานเจียง” ชายชราหัวเราะหึๆ ออกมา เผยสีหนาลึกล้ำยากจะคาด
เดาออกมา
ตอนที่ 976 หนากระดาษของแมน้ำยมโลก
“ในเมื่อสหายหารังของมาทมิฬพบแลวยังนัดหมายพวกเรามาที่นี่ หรือวาสหาย
พบความยุงยากอะไร?” หลังจากที่ทุกคนเงียบขรึมไปชั่วครู ชายรางใหญแซหยวนก็
เปนผูเอยปากถามขึ้น
“ถึงแมวามาทมิฬจะมาเยือนอยางไรเงาจากไปไรรองรอย และเชี่ยวชาญในการใช
เคล็ดวิชาอำพราง แตขอแคมีเวลาเพียงพอ การจับมันไวสำหรับตาเฒาก็ไมใชเรื่องยาก
นัก แตสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคาดไมถึงวารังของมันจะอยูในถ้ำจันทราตะวันของหุบเขา
หมื่นพิษ” ในที่สุดชายชราแซฟูก็เอยเรื่องที่ทำใหตนเองไมรูจะทำอยางไรอยูหลายสิบ
ปออกมา
“ถ้ำจันทราตะวัน?” ครั้งนี้ชายรางใหญอดที่จะสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไป
เฮือกหนึ่งไมได ไปเหยาอี๋เองก็หนาซีดขาวลงในชั่วพริบตา
มีเพียงหานลี่ที่ไมเคยไดยินมากอน จึงเอยถามดวยความประหลาดใจวา
“ถ้ำจันทราตะวันอะไรหรือ นากลัวขนาดนั้นเลยหรือ?”
“สหายหานไมรูจักถ้ำจันทราตะวันหรือ? ขาเกือบจะลืมไปแหนะ พี่หานเปนผู
บำเพ็ญเพียรจากนอกมหาสมุทร ไมรูจักก็ไมแปลก ถ้ำจันทราตะวันเปนหนึ่งในเจ็ด
สถานที่อันตรายซึ่งเปนยอมรับกันโดยดุษณี ของตาจิ้นอยางพวกเรา หากผูบำเพ็ ญ
เพียรธรรมดาๆ เขาไปในนั้น ก็ไมอาจออกมาได” ไปเหยาอี๋รองอุทานออกมา แลว
อธิบายใหหานลี่ฟงอยางงายๆ
“อันตรายขนาดนี้ ที่นั่นมีอะไรพิเศษหรือ?” หานลี่รูสึกสนอกสนใจขึ้นมา พลาง
เอยซักถาม
“ถ้ำจันทราตะวันนั้น แนนอนวาเขาไปแลวจะมีพลังอำนาจของดวงตะวันและ
จันทราขวางกั้นเอาไวอยู ไมตองพูดถึงสิ่งอื่น แตในถ้ำจะมีพายุทมิฬอันรายกาจพัดเขา
มาไมหยุดตลอดทั้งป ตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด หากถูกพัดเขาก็จะทำ
ใหจิตวิญญาณของทารกวิญญาณสลายหายไป และกลับไปเกิดใหม จึงยิ่งไมตองถูกถึง
สถานที่มืดทมิฬที่สุดของถ้ำแหงนี้ จะมีไอวิญญาณที่ชั่วรายมารวมตัวกันอยูตลอดทั้งป
และมีภูตผีที่รายกาจตางๆ ถือกำเนิดขึ้นมากมาย หากเขาไป ตอใหตานทานพายุทมิฬ
ได ก็อาจจะถูกภูตผีจำนวนมากฉีกทึ้งจนรางแหลกละเอียด” ชายชราแซฟูเปนฝายเอย
อธิบายใหหานลี่ฟง
“หึ ยิ่งไปกวานั้น ถ้ำจันทราตะวันยังตั้งอยูในใตดินที่ลึกลงไปหลายพันจั้ง ในนั้นมี
ทางเดินนอยใหญที่ทะลุถึงกันตัดสลับไปมา โถงถ้ำตางๆ จึงมีอยูมากมาย กอนหนานี้มี
ผูบำเพ็ญเพียรโชคดีเขาไปถึงสวนที่ลึกที่สุด แตกลับไมมีทางสำรวจไดวามันกวางใหญ
แคไหน หากแผจิตสัมผัสออกไป ก็จะถูกพายุทมิฬตานทานเอาไว จึงไมตางอะไรจาก
คนธรรมดาคนหนึ่ง แมกระทั่งยังมีคนเลาลือกัน มาตลอดวา สวนลึกที่ สุดของถ้ำมี
ราชันภูตผีที่ทรงพลังอยางสุดๆ ซอนตัวอยู แตแคไมมีใครเคยไปตรวจสอบเทานั้น ถึง
อยางไรเสียตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรที่ยิ่งใหญก็ไมยอมเสี่ยงอันตรายเขาไปในสวนที่ลึก
ที่สุดหรอก” ชายรางใหญสงเสียงหึออกมาขณะเอย
“กอนหนานี้นอกจากเหมืองแรระดับต่ำแลว ในถ้ำก็ไมมีของมีคาอะไร ทุกคนจึง
มองวาที่นั่นเปนถ้ำเหมืองแรที่ถูกทอดทิ้งในอดีตเทานั้น และไมมีผูใดเคยเขาไปในนั้น
แตตอนนี้พี่ฟูไปพบมาทมิฬในนั้น ดูแลวถ้ำจันทราตะวันคงจะไมไดเปนอยางที่กลาว
ไมแนวาดานในอาจจะมีของล้ำคาใหคนหาจริงๆ ก็ได” คิ้วดำขลับของไปเหยาอี๋คลาย
ลงขณะเอยเสริม
“ผานมาหลายปขนาดนี้ จากความสามารถของพี่ฟูก็ยังไมมีทางจับมาทมิฬได
เห็นไดชัดวาถ้ำแหงนี้ไมใชสถานที่ที่สวยงามจริงๆ ถึงแมวาดานในจะมีสมบัติล้ำคา
อะไรอยูจ ริงๆ ก็คงตองเอาชีวิตมาเสี่ยง”
หลังจากที่หานลี่มีประสบการณจากสถานที่อันตรายอยางพระราชวังนภาสูญ หุบ
เขามารโบราณตางๆ มา แนนอนวาจึงรูความอันตรายในนั้นดี จึงสาดน้ำเย็น*เขาใส
อยางไมเกรงใจเลยสักนิด
“จุดนี้ตาเฒาเองก็รู ดังนั้นขานอยจึงไดเตรียมการมาหลายสิบป และตั้งใจหลอม
สมบัติอาคมที่ใชควบคุมภูตผีขึ้นมาโดยเฉพาะสองสามชิ้น และยิ่งไปกวานั้นเพื่อให
ตานทานพายุวิญญาณจันทราได ผูแซฟูจึงเอาไขมุกยมโลกมวงของพรรคขามาดวย มี
ไขมุกนี้อยูกับตัว ถึงแมวาจะไมกลากลาววาจะตานทานพายุทมิฬได แตก็เพียงพอจะ
ทำใหอานุภาพของพายุนี้ลดลงไปครึ่งหนึ่ง เหลาสหายก็นาจะปลอดภัยไรอันตราย”
ชายชราแซฟูเอยอยางมั่นใจเปนพิเศษ
“ไขมุกยมโลกมวง?”
ชายรางใหญและไปเหยาอี๋ไดยินชื่อของสมบัติชิ้นนี้ ก็พากันหนาเปลี่ยนสี
นี่เปนหนึ่งในสามสมบัติประจำพรรคของพรรคเกายมโลก!
“เปนอยางไร? ขานอยเตรียมการรอบคอบขนาดนี้ หากทั้งสามสหายชวยอยาง
เต็มแรงละก็ ตอใหขานอยพบกับราชันภูตผีที่รายกาจ พวกเราหาคนก็นาจะตอกรไหว
ขอแค จั บ ม า ทมิ ฬ ได ตาเฒ า จะใช อ สู ร วิ ญ ญาณนี้ ป รุ ง ยาหล อ เลี้ ย งทารกทั น ที
รับ ประกั น วาเหล าสหายจะได รับ คนละหนึ่ งเม็ ด ยาลู ก กลอนชนิ ด นี้ เป น ยาล างไข
กระดูกเพี ยงครั้งเดี ยว ต อให ป รุงออกมาได ม ากกวานี้ ทุ ก คนก็ กิน ได แค คนละเม็ ด
เทานั้น จึงไมจำเปนตองกังวลวาตาเฒาจะทำอะไรที่ไมดี สวนจะไดประโยชนอะไรมา
จากขางลางนั่น ก็แลวแตวาสนาของทุกทานแลว” ชายชราแซฟูเอยอยางเชื่องชา
หานลี่และพวกทั้งสามคนตางเงียบกริบไมพูดอะไร ถึงแมวาเมื่อครูชายรางใหญ
จะแสดงทาทีตื่นเตน แตตอนนี้ก็ยังมีสีหนาขบคิด
“ในเมื่อพี่ฟูเตรียมการมาแลว เหตุใดตองมาเชิญพวกเราสามคนดวย? หากกลาว
วาเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลาง พรรคของทานคือหนึ่งในสิบพรรคปศาจ
ที่ยิ่งใหญ จะหามาสักสองสามคนไมไดเลยหรือ” ไปเหยาอี๋มวนเสนผมสีดำขลับที่ปรก
อยูตรงหนาผาก พลางเอยถามอยางราบเรียบ
เมื่อไดฟงคำถามเชนนี้ หานลี่พลันหนาเปลี่ยนสี ชายรางใหญเองก็ตองจองเขม็ง
ไปยังใบหนาของชายชราแซฟู ทั้งสองคนดูเหมือนจะสนใจวาชายชราจะตอบคำถามนี้
อยางไรเปนพิเศษ
“ใหคนในพรรคชวยเหลือ? สำหรับคนอื่นแลวอาจจะเปนไปได แตสำหรับตาเฒา
แลวไมไดอยางเด็ดขาด เปนเพราะบุญคุณความแคนในอดีตของสำนักเรื่องหนึ่ง ผูแซฟู
และผูบำเพ็ญเพียรระดับเดียวกันหลายคนในสำนักตางก็โกรธแคนกัน นอกจากศิษย
นองหญิงฉางแลว เกรงวาที่เหลือคงรอใหตาเฒาเพลี้ยงพล้ำไปจริงๆ ไมไหวแลว ตอให
พวกเขายอมช ว ย ตาเฒ า ก็ ยั ง กั ง วลว า พวกเขาจะตลบหลั ง ” ชายชรามี ใ บหน า
โหดเหี้ยมฉายแวบผานไป เผยใหเห็นสีหนาโกรธเกรี้ยวออกมาขณะเอย
หานลี่พลันตะลึงงัน
เชนนี้มันจะตางอะไรกันกับไมไดอธิบายละ ผูใดจะรูวาจริงหรือเท็จ ทวาอีกฝาย
กลาวเชนนี้ พวกเขาก็ไมกลาซักถามตอ ทุกคนจึงตกอยูในความเงียบอีกครั้ง
“การจะบุกเขาไปในถ้ำจันทราตะวันนั้นเปนเรื่องที่ใหญจริงๆ ขาตองขบคิดใหดี
เช น นั้ น เอาอย า งนี้ ก็ แ ล ว กั น อี ก สามวั น ข า จะให ค ำตอบกั บ สหายเป น อย า งไร?”
หลังจากที่ไปเหยาอี๋กมหนาลงครุนคิด ก็เงยหนาขึ้นเอยเชนนี้ออกมา
“สามวัน? แนนอนวาได หลังจากนี้ครึ่งปถ้ำจันทราตะวัน ถึงจะอยูในชวงที่พายุุ
จันทราออนแอที่สุดในรอบยี่สิบป ลงไปใตดินในชวงเวลานั้นจะเหมาะสมที่สุด และยิ่ง
ไปกวานั้น เหลาสหายก็คงตองไปเตรียมสมบัติอาคมพิเศษจำนวนหนึ่งเพื่อใชตอกรกับ
ภูตผีเชนเดียวกัน
ดังนั้นตอใหเหลาสหายตอบรับ ก็ตองรอปครึ่งปถึงจะเขาไปในถ้ำได แตกอนจะถึง
เวลานั้ น ข า ก็ อ ยากให เ หล า สหายใช โ ลหิ ต บริ สุ ท ธิ์ เ ขี ย นคำสาบานเอาไว บ น
หนากระดาษแมน้ำยมโลกเสียกอน ที่ขานอยใชจิตใจคนต่ำชามาวัดจิตใจวิญูชนกอน
เชนนี้ เปนเพราะไมอยากใหเรื่องของยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกและมาทมิฬแพรง
พรายออกไป” ชายชราแซฟูหัวเราะนอยๆ ออกมา สะบัดแขนเสื้อ หนากระดาษสี
เหลืองกรอบที่มีเปลวเพลิงสีดำหอหุมอยูแผนหนึ่งพลันปรากฏขึ้นตอหนาคนเหลานั้น
“หนากระดาษของแมน้ำยมโลก? ก็คือหากผิดคำสาบาน ก็จะตองประสบกับ
ยุทธภัณฑมารที่ชั่วรายชิ้นนั้นสินะ ของสิ่งนี้ไมไดสาบสูญไปเมื่อหลายรอยปแลวหรือ”
ชายรางใหญไดยิน ก็รองอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหงทันที
หานลี่ไดยินคำนี้ ก็พลันตื่นตระหนกเชนกัน
“ยุทธภัณฑมารชิ้นนี้เปนสิ่งที่ขานอยตั้งใจใชศิลาวิญญาณจำนวนมากซื้อมาจาก
งานซื้อขายใตดิน ประสิทธิภาพของสิ่งนี้ไมไดยิ่งใหญ ดุจในตำนาน แตก็ทำใหเหลา
สหายรักษาสัญญาไดในระยะเวลาสั้นๆ ในปนั้นเฟงเทียนหังแหงสำนักมารสวรรคจบ
ชีวิตลงอยางไร สหายหานอาจจะไมรู แตสหายไปสหายหยวนก็นาจะทราบดีสินะ! เฟง
เทียนหังก็เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางเชนกัน ขาคิดวาสหายทั้งสามคง
ไมอยากทดลองหรอกกระมัง” ชายชราแซฟูเอยอยางราบเรียบ
“เยี่ยม มีของดีอยางยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกเชนนี้ ผูแซหยวนไมกลาปลอยไป
งายๆ แน หลังจากนี้ครึ่งปผูแซหยวนจะมาตามนัดแนนอน” ชายรางใหญมีสีหนาดำ
คล้ำสลับกับสดใสไมแนนอนอยูชั่วครู แลวเอยขึ้นอยางตัดสินใจแลว
จากนั้นเขาก็กวักมือเรียกหนากระดาษสีดำ ดูดของสิ่งนั้นมาอยูเบื้องหนาหาง
ออกไปสองสามฉื่อ แลวอาปากพนโลหิตบริสุทธิ์ออกมา ลอยอยูเบื้องหนากระดาษ
ชายรางใหญยื่นนิ้วชี้ออกไป แตะลงบนโลหิตบริสุทธิ์แลวเขียนอักขระโบราณลง
บนหนากระดาษอยางไปอยางรวดเร็ว
หลังจากผานไปชั่วครูนิ้วก็หยุดชะงัก หัวกะโหลกที่มีเขี้ยวสีเขียวก็ปรากฏขึ้นทามกลาง
เปลวเพลิงสีดำ หลังจากสงยิ้มชั่วรายใหชายรางใหญแลวก็สูดลมหายใจเขา ตัวอักษร
โลหิตคอยๆ บินเขาไปในหนากระดาษ และหายเขาไปในปากของหัวกะโหลกทันที
ทันใดนั้นหัวกะโหลกพลันกลายเปนควันสีเขียวกลุมหนึ่ง แลวสลายหายไปในชั่ว
พริบตา
เมื่อเห็นภาพฉากที่แปลกประหลาดเชนนี้ หานลี่ก็ใจเตนตึกตัก
ชายชราแซฟูเก็บหนากระดาษลงไป หลังจากกมหนาลงตรวจสอบรอบหนึ่ง ก็เผย
สีหนาพึ่งพอใจออกมา แลวหันหนาไปหาไปเหยาอี๋
หลั ง จากที่ ส ตรีผู นี้ ลั ง เลเล็ ก น อ ยก็ ชู มื อ ขึ้ น รั บ กระดาษแผ น นี้ ม าด ว ยความจน
ปญญาเชนกัน ทำตามรอบหนึ่ง หลังจากนั้นหัวกะโหลกก็ปรากฏขึ้นเชนกัน แลวสลาย
หายไปอยางแปลกประหลาด
หลังจากที่ชายชรามองไปทางหานลี่ หานลี่ก็พนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ถึงแมจะรูสึกหวาดกลัวกับของที่ไมรูจักรายละเอียดนั้น แตตอนนี้ไมวาจะมอง
อยางไรก็ไมมีทางเลือกอื่น
เขาชี้ไปที่หนากระดาษแผนนั้นดวยใบหนาไรความรูสึก ชั่วขณะนั้นของสิ่งนั้น
พลันบินมาอยูตรงหนาของเขา
มองหนากระดาษแผนนั้นดวยความเครงขรึมเล็กนอย เขาก็กัดปลายลิ้นตัวเอง
พนโลหิตสดๆ กลุมหนึ่งออกมา ใชโลหิตสดๆ เขียนคำสาบานวาจะไมแพรงพรายเรื่อง
ของวันนี้ออกไปทันที ลำแสงสีโลหิตพลันสวางวาบ หัวกะโหลกผูที่เคยปรากฏตัวแลว
สองครั้งปรากฏตัวขึ้นทามกลางเปลวเพลิงสีดำอีกครั้ง
หลังจากที่มันฉีกยิ้มชั่วรายออกมา ตอนที่มันอาปาก จูๆ รางกายของหานลี่ก็มี
การเคลื่อนไหว เสียงคำรามประหลาดๆ พลันดังขึ้น เสียงไมดังนัก แตกลับทำใหผู
บำเพ็ญเพียรที่อยูที่นั่นไดยินอยางชัดเจน
ชายชราและพวกเองก็ไมมีปฏิกิริยาตอบสนองที่แปลกประหลาดอะไร
เมื่อหัวกะโหลกไดยินคำพูดนี้ ใบหนาก็บิดเบี้ยวในทันที หลังจากคำรามดวยเสียง
ทุมต่ำที่ยากจะเขาใจออกมา ก็สลายหายไปราวกับวากำลังตื่นตกใจจนหนีหัวซุกหัวซุน
อยางไรอยางนั้น
ชายชราแซฟู ชายรางใหญและคนทั้งสี่คนจึงอดที่จะตกตะลึงจนตาคางไมได
หานลี่มีสีหนาแปลกประหลาดแฝงอยูเล็กนอย หลังจากสูดลมหายใจเขาไปเฮือก
หนึ่ง ก็สะบัดแขนเสื้อไปทางหนากระดาษ และเอยปากอยางราบเรียบในเวลาเดียวกัน
“ขานอยไมไดขบคิดอะไร ก็ยอมตกลงวาจะมาตามนัดของสหาย แตของสิ่งนี้ดูจะ
ขัด แย งกั บ ของที่ อ ยูในรางของข า จึงไม อ าจเขีย นคำสาบานได แต ผู แ ซ ห านเป น ผู
บำเพ็ญเพียรสันโดษ จากนี้ครึ่งปจะมาอยูที่หนานเจียงไมจากไปไหน และจะไมบอก
เรื่องนี้กับผูใดทั้งนั้น ของสิ่งนี้ไมตองใชหรอก”
ตอนนั้น หนากระดาษของแมน้ำยมโลกถูกลำแสงสีเขียวผืนหนึ่งรองเอาไวพลาง
พุงกลับเขาไปหาชายชราแซฟู
ชายชราแซฟูควาหนากระดาษเอาไว ใบหนายังมีสีหนาตกตะลึงแฝงอยู ตอนนั้น
ไมรูวาจะจัดการเรื่องนี้อยางไร ตองเขาใจวานอกจากหนากระดาษของแมน้ำยมโลก
สมบัติอาคมที่แปลกประหลาดเชนนี้ เขาก็ไมมีวิธีที่จะรับประกันวาอีกฝายจะไมแพรง
พรายเรื่องของยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกออกไปจริงๆ
“ศิษยพี่ฟู ขารูสึกวาคำพูดของสหายหานนั้นมีเหตุผล หนากระดาษของแมยมโลก
ไมตองใชหรอก ขาเชื่อวาสหายหานจะไมผิดคำพูด” สตรีผูงดงามสวมชุดสีดำที่ตั้งแต
ตนจนจบก็ไมยอมปริปากใดๆ ราวกับคนเปนใบ ก็เอยปากขึ้นในตอนนั้น
น้ ำเสี ย งของสตรีผู นั้ น แหบแห ง แต ก็ เต็ ม ไปด ว ยความเย ายวนที่ อ ธิบ ายไม ถู ก
ดวงตาสดใสกลอกไปมาเล็กนอย ทั้งเรือนรางเผยเสนหที่ลนเหลือออกมา
สวนสตรีผูงดงามที่สวมชุดสีดำก็กำลังบริกรรมคาถา กระบี่บินสีแดงสามเลมพลัน
สั่นคลอนอยางรุนแรง คาดไมถึงวาจะรวมตัวกันจากสามเปนหนึ่ง กลายเปนกระบี่
ยักษยาวสองสามจั้ง ไอกระบี่พลันตวัดฟนลงมาอยางรุนแรง
ชายรางใหญแซหยวนเก็บปายหยกในมือดวยสีหนาราบเรียบ ขวดน้ำเตาสีฟาใบ
หนึ่งปรากฏขึ้นในมือ พนหมอกสีมวงที่หนาแนนเปนพิเศษออกมา คอยๆ ลอยไปดาน
ตรงขาม และไมรูวามีผลลัพธเชนไร
หานลี่เห็นคนที่เหลือสำแดงความสามารถทั้งหมดออกมา ก็ขมวดคิ้วเล็กนอย
สะบัดแขนเสื้อเบาๆ เสนสีแดงสายหนึ่งสวางวาบแลวสลายหายไปจากแขนเสื้อ
ภายใตการโจมตีที่ถาโถมเขามา ถึงแมวาหมาปายักษจะมีความสามารถไมนอยก็
ยังรูสึกวาตานทานตอไปไมไหว โซเพลิงกลางอากาศและกระบี่ยักษสีแดงสดผสมเขา
ดวยกัน เพลิงซากศพถูกกดใหถอยออกไปทันที หมอกหนาๆ สีมวงเองก็ลอยเขามา
ทันที
ถึงแมวาซากหมาปาจะมีสติปญญาไมสูงสงนัก แตสัญชาตญาณของหมาปาก็ยังคง
ทำใหมันรูสึกอันตราย ทันใดนั้นรอบกายพลันเปลงแสงสีเขียวสวางวาบ รางกายหด
เล็กลง จากนั้นขนดานหลังพลันลุกชัน เมื่อเสียงคำรามทุ มต่ำดังขึ้น ลำแสงสีเขียว
จำนวนนับไมถวนพลันพุงออกมา คาดไมถึงวาจะปกคลุมทั้งหาคนเอาไว
เวลานี้อยูนอกเหนือความคาดหมายของพวกเขา แตก็ไมกลาดูแคลนพลางทยอย
กันสำแดงความสามารถออกมาตานทานลำแสงสีเขียวเหลานี้ ทำใหการโจมตีในมือ
หลีกเลี่ยงไมไดที่จะผอ นกำลังลง แต เพี ยงชั่วพริบ ตาที่ เสียเวลาไปนั้ น ซากหมาป า
กลายพันธุพลันหันหลัง ชั่วครูก็วิ่งกลับไปทางเดิมอยางรวดเร็ว
เวลานี้ ชายชราและพวกพลันอดที่จะตกตะลึงไมได
ตอนที่ 985 เสนไหมวิญญาณพิฆาต
ในตอนนั้นเอง ลำแสงสีแดงพลันสวางวาบ เข็มสีแดงเลมหนึ่งพลันปรากฏขึ้นที่
ดานขางหมาปายักษอยางแปลกประหลาด
หลังจากสวางวาบอีกครั้ง เข็มบินพลันกลายเปนเสนไหมสีแดงสายหนึ่งปกลงไป
บนเปลวเพลิงสีเขียวที่ปกปองหมาปายักษเอาไว
หลังจากที่เสียง ‘สวบ’ ดังขึ้น เสนไหมที่แหลมคมเปนพิเศษก็ทะลุผานเปลวเพลิง
สีเขียวไป
ภายใตความตกตะลึงของหมาปายักษ มันสะบัดหัวไปมาอยางสุดแรง แตก็ยังคง
ถูกเสนไหมสีแดงเจาะเขาไปที่ตนคอ และทะลุออกจากอีกดาน
ปากเปลงเสียงรองคำรามออกมาดวยความเจ็บปวด ชั่วขณะนั้นเทาทั้งสี่ของซาก
หมาปาพลันมีไอสีดำพุงออกมา ชั่วครูก็จมหายเขาไปในพายุทมิฬอยางไรรองรอย
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ชายชราและพวกก็พากันดีอกดีใจ
“ตามไป!”
ไม รู ว า ผู ใ ดเป น คนตะโกน ลำแสงวิ ญ ญาณบนร า งของพวกเขาก็ ส ว า งวาบ
ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีไลตามไป
แตในตอนนั้นเอง จูๆ ขางเอวของหานลี่พลันมีเสียงรองคำรามออกมา
น้ำเสียงไมดังนัก แตหานลี่กลับพลิกฝามือพรอมกับหนาเปลี่ยนสี ไอกระบี่สีเขียว
ขจีสองสามสายพลันพุงสลับตัดกันออกมา โจมตีไปยังพื้นดินที่หางออกไปสิบกวาจั้ง
อยางรุนแรง
เสียงตึงตังดังขึ้น พื้นดินพลันเปลงแสงทมิฬสวางวาบ มือสีดำสนิทสองสามมือ
ปรากฏขึ้นอยางแปลกประหลาด เพี ยงนิ้ วมื อ ขยับ ก็ดีดกระบี่ ลำแสงสองสามสาย
ออกมาอยางงายดาย
จากนั้นที่นั่นพลันมีลมพายุทมิฬ พัดแรง เงารางคนพลิ้วไหวสามเงาปรากฏขึ้น
รางๆ นั่นก็คือซากแหงที่ปรากฏตัวแลวครั้งหนึ่งตรงทางทางแยก
ไมรูวาพวกมันมีแผนการอะไร คาดไมถึงวาจะหลบหลีกเขตอาคมที่ทางแยก แลว
ตามคนเหลานี้มา และซอนตัวอยูไมยอมออกมาอยางแนบเนียน
แตเมื่อหานลี่และพวกกำลังจะจากไป ซากแห งตนหนึ่ งก็เผยกลิ่น อายออกมา
กลับทำใหอสูรวิญญาณครวญที่อยูในยามของหานลี่สัมผัสได ถึงไดถูกบีบใหเผยตัว
ถึงแมวาซากแหงเหลานี้จะผอมแห งเชน กัน แตความสูงนั้น ไมเหมือนกัน จาก
ความทรงจำอันยอดเยี่ยมของหานลี่ แนนอนวาจึงจำซากตนหนึ่งที่คุนตาได มันนาจะ
เปนกลายเปนเถาถานไปแลว
หานลี่อดที่จะหนาเปลี่ยนสีไมได สตรีชุดดำผูงดงามที่อยูดานขางและไปเหยาอี๋
เองก็รองอุทานออกมาดวยคามตกใจ
“ซากแหงเหลานี้กลับมามีชีวิตไดอยางไร ตอนที่ขาพบมัน มันดูเหมือนตายไปแลว”
คาดไมถึงวาจะเปนน้ำเสียงของสตรีชุดดำผูงดงาม ดูแลวตอนที่นางอยูในถ้ำอื่นคง
จะพบซากแหงอีกตัว
สวนความตกตะลึงของไปเหยาอี๋นั้น แนนอนวามาจากสาเหตุเดียวกันกับหานลี่
ใบหนาเผยสีหนาตกตะลึงระคนสงสัยออกมา
“ทำไม พวกเจารูจักภูตผีเหลานี้หรือ ตอนนี้อยาเพิ่งสนใจเรื่องอื่น การไลตามมาทมิฬ
นั้นเปนเรื่องที่สำคัญที่สุด สหายหาน ศิษยนองหญิงฉาง เจาสองคนอยูตอกรกับภูตผี
เหลานี้กอน คนที่เหลือและขาจะไลตามไป ถาหากมันหลบซอนไปอีกครั้งจะหายาก”
ถึงแมวาชายชราแซฟูจะรูสึกประหลาดใจกับการปรากฏตัวของซากศพแหงทั้งสาม แต
กลับคิดจะจับมาทมิฬกอนแลวคอยวากัน
ในความคิดของเขา ไมวาจะเป น หานลี่และศิษยน องหญิ งตอกรกับซากหลอม
ประหลาดสามตัวนี้ หรือวาพวกเขาสามคนตอกรกับซากหมาปาตัวนั้นก็ไมมีปญหา
คนอื่นๆ ก็ไมไดมีทาทีปฏิเสธ
หลังจากที่สตรีชุดดำผูงดงามตอบรับและหานลี่ก็พยักหนาแลว ชายชราแซฟูและ
พวกทั้งสามก็ไมลังเลอีกกลายเปนลำแสงหลีกหนีพุงออกไป ไลตามหมาปายักษและ
หายลับไปทามกลางพายุทมิฬ
หลังจากที่ห านลี่เก็บเข็มบินที่กลายเป นผลึกแลว ก็ยืน เคียงบากับสตรีชุดดำผู
งดงาม มองไปยังซากแหงสองสามตนนั้นอยางเย็นชา
ถึงแมวาความสามารถเดิมของภูตผีจะแปลกประหลาด แตซากศพที่ถูกอัสนีเทวา
ทำลายไปกลั บ ปรากฏขึ้ น อี ก ครั้ ง ช า งน า เหลื อ เชื่ อ จริ ง ๆ ดั ง นั้ น หานลี่ จึ ง มี สี ห น า
ราบเรียบ แตในใจกลับมีความระมัดระวังเพิ่มขึ้นอีกสองสามสวน
ในฐานะที่สตรีผูงดงามเปนอาวุโสของพรรคเกายมโลก จึงรูจักวรยุทธสายภูตผีปศาจ
อยูอยูจำนวนมาก และไมกลาดูแคลนซากแหงเหลานี้เชนกัน ถึงแมวากระบี่ยักษสีแดง
ที่โคจรอยูเหนือศีรษะจะเปลงแสงอันเจิดจาออกมา นางก็ไมไดคิดจะบุมบามลงมือ
พวกหานลี่ทั้งสองเยือกเย็นขนาดนี้ แตซากศพที่อยูตรงหนาเห็นอีกสามคนจากไป
ไกลแลวกลับระงับความเยือกเย็นเอาไวไมอยู
รางตรงกลางที่คอนขางใหญสาวเทายาวๆ ไปขางหนาสองกาว แลวอาปากออก
ในเวลาเดียวกันพน เสนไหมบางๆ สีเทาออกมาจากปาก ตรงไปหาสตรีผูงดงาม
“รนหาที่ตาย!” สตรีผูงดงามมีสีหนาเครงขรึม ปากก็รองหึออกมาอยางเย็นชา
จากนั้นก็ชี้ไปยังกระบี่ยักษที่อยูเหนือศีรษะ
กระบี่ยักษสับลงมาจากกลางอากาศ ไอกระบี่สีแดงสดสายหนึ่งฟนลงมาอยาง
รุนแรง
ในความคิดของสตรีผูนี้ เสนไหมบางๆ ที่ไมสะดุดตาเหลานี้มากสุดก็ถูกหลอมมา
จากไอมาร เคล็ดวิชาธาตุไฟนาจะควบคุมมันไดดี
ผลลัพธคือ กลับมีภาพที่นาตกตะลึงปรากฏขึ้น!
หลังจากเสียง ‘สวบ’ ดังขึ้น เสนไหมสีเทาก็ทะลุผานลูกไฟไปราวกับไมมีอะไร
ขวางกั้นอยู จากนั้นแสงเพลิงพลันสวางวาบ ลูกไฟหายไปจากกลางอากาศ ชั่วพริบตา
ก็ถูกเสนไหมบางๆ ดูดซับไปจนเกลี้ยง
สวนกระบี่แสงสีแดงที่ตามมาติดๆ แลวสับลงมายังภูตตนนั้นก็ไมไดตางอะไรจาก
ลูกไฟนัก หลังจากทำใหเสนไหมสีเทาเหนียวทนทานขึ้นแลว ก็ถูกดูดหายไปอยางไร
รองรอยเชนกัน
เมื่อเสนไหมนี้ไมไดหยุดชะงักและพุงมาอยูเบื้องหนาของสตรีชุดดำผูงดงาม นาง
พลันมีสีหนาตกตะลึง สะบัดแขนเสื้อ โลเล็กๆ สีเขียวปรากฏขึ้น ลำแสงสวางวาบ โล
อันนั้นขยายใหญขึ้นสองสามเทาพลางตานทานอยูเบื้องหนาของนาง
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น กระบี่ยักษเลมนั้นที่อยูกลางอากาศก็สวางวาบแลว
ฟนลงมา
เคล็ดวิชาที่สรางขึ้นจากลมปราณอาจจะถูกดูดซับไปได แตเปนสมบัติอาคมที่แต
เดิมมีความสามารถในการโจมตีอยูแลวจะไมเกิดเหตุการณเชนนั้นขึ้นอีกแนนอน เวลา
นี้สตรีชุดดำผูงดงามมีความคิดเชนนี้
ดั ง ที่ คิ ด ไว เมื่ อ กระบี่ ยั ก ษ ฟ น ลงมาถื อ เส น ไหมสี เทา ชั่ ว ขณะนั้ น ก็ ท ำให มั น
หยุดชะงักและอดที่จะดิ้นกระตุกซ้ำๆ ไมได
ภายใตความดีอกดีใจของสตรีผูงดงาม ตอนที่กำลังคิดจะกระตุนความสามารถของ
กระบี่ เสนไหมสีเทากลับพราเลือน คาดไมถึงวาจะกลายเปนเสนไหมสีเทารอยเสน
เสนไหมทั้งหมดพลันพลิกตวัดไปมา ชั่วพริบตาก็รัดกระบี่ยักษเอาไวอยางแนนหนา
จากนั้นเสนไหมทมิฬที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้นบนเสนไหมสีเทา ลำแสงสีแดง
บนกระบี่และลำแสงทมิฬสัมผัสกัน แลวทยอยกันหดเล็กลง ผิวของกระบี่ยักษเริ่ม
เปลี่ยนจากสีแดงเปนสีดำทีละนิดๆ ทาทางเหมือนจะถูกกลืนกิน
สตรีแซฉางและกระบี่เลมนั้นเชื่อมโยงจิตใจเขาดวยกัน เวลานั้นจึงชะงัก
ตอนนั้น สตรีชุดดำผูงดงามพลันจิตใจหนักอึ้ง ตบไปที่ยามเก็บของอยางไมตองคิด
สมบัติราวกับกรงลอชิ้นหนึ่งพลันปรากฏขึ้นในมือ
แตไมทันไดรอใหนางใชมันเปนเครื่องสังเวยแทนกระบี่บินของตน จูๆ ดานขางก็มี
เสียงฟาผาดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองที่แสบตาสายหนึ่งพุงออกมา โจมตีไปยังกระบี่ยักษ
อยางพอดิบพอดี
เสียงฟาผาดังขึ้น เสนไหมสีเทาขาดออกเปนทอนๆ ทามกลางลำแสงสีทอง กระบี่
ยักษเปนอิสระอีกครั้ง!
“ขอบพระคุณความชวยเหลือของพี่หาน!”
สตรีผูงดงามเอยปากขอบคุณดวยความดีใจอยางรวดเร็ว จากนั้นพลันรายคาถา
กระบี่บินกลายเปนลำแสงสีแดงสามสายพุงกลับมา หายเขาไปในแขนเสื้ออยางไร
รองรอย
หลังจากที่หานลี่โจมตีแทนอีกฝายนั้น กลับไมสนใจความมีมารยาทของสตรีผูนี้
ทวาจองเขม็งไปยังกลางอากาศ พลางขมวดคิ้วแนน
เพราะวาตรงขามมีซากแหงรองคำรามอยู เสนไหมสีเทาที่แตเดิมโจมตีจนแตก
กระจายออกคาดไมถึงวาจะผนึกรวมตัว ชั่วครูก็ฟนฟูกลับมาเปนเสนไหมบางๆ อีก
ครั้งดังเดิม
เวลานี้รางของซากแหงอีกสองตนก็เดินโยกเยกเขามา ทาทางเหมือนจะเขามา
พรอมกัน
สตรีชุดดำผูงดงามมองเห็นภาพฉากนั้น สีหนาก็ไมไดดีเทาไหรนัก แตหลังจากที่
สายตาหยุดชะงักที่เสนไหมสีเทา ลำแสงในหัวก็สวางวาบพลางนึกอะไรขึ้นได
“ไหมวิญญาณพิฆาต ของเหลานี้ไมใชไอวิญญาณของซากศพ คือไอวิญญาณของ
ซากสังหาร” นางรองอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหง สีหนาซีดขาวเปนพิเศษ
“ไอวิญญาณของซากสังหาร?”
หานลี่ ไ ด ฟ ง ชื่ อ นี้ ก็ รู สึ ก คุ น หู เ ล็ ก น อ ย หลั ง จากขบคิ ด แล ว ก็ นึ ก ถึ ง บั น ทึ ก
ประสบการณของเทพขับเคลื่อนที่เพิ่งอานไปไดไมนานทันที
เมื่อนึกถึงรายละเอียดแลว ชั่วขณะนั้นพลันพลันมีสีหนาเครงขรึมลง ของสิ่งนี้เปน
หนึ่งในความสามารถของภูตผีที่ผูบำเพ็ญเพียรนอยคนนักจะรูจัก
ซากสังหาร ชื่อตรงตัวอยูแลว ของสิ่งนี้แตเดิมคือไอสังหาร แตแคไมใชไอสังหาร
ธรรมดาๆ ก็เทานั้น หลังจากคนที่มีความแคนอยูเต็มอกตายลง ไอสังหารจะยังไม
สลายไปและจะผสานกันกับไอของซากศพกลายเปนสัตวประหลาด
วากันวากอตัวขึ้นยากเปนพิเศษ อยางนอยที่สุดก็ตองเปนซากศพของผูบำเพ็ญ
เพียรระดับหลอมรวมขึ้นไป และยังมีเงื่อนไขอีกมากมาย ถึงจะมีโอกาสผนึกรวมตัวกัน
ได แตเมื่อไอของซากสังหารกอตัวขึ้นแลว ก็จะกลายเปนอมตะ และยิ่งไปกวานั้นยัง
สามารถดูดซับไอวิญญาณเบญจธาตุและทำลายสมบัติอาคมตางๆ ได ชางประหลาด
จริงๆ นับเปนหนึ่งในความสามารถที่สุดยอดที่สุดของเหลาภูตผี
สวนเสนไหมวิญญาณพิฆาต ถึงแมวาเขาจะไมเคยไดยินมากอน แตดูแลวก็นาจะ
อาศัยไอของซากสังหารสำแดงความสามารถออกมา มินาละถึงไดจัดการยากขนาดนี้
ดู แ ล ว ถึ ง แม ว า อั ส นี เทวาป ด เป า ภยั น ตรายของเขาจะสามารถทำให มั น แตก
กระจายออกไปได แตก็ไมมีทางกำจัดมันจนสิ้นซาก
ในชั่วพริบตาที่หานลี่เขาใจเรื่องราวทุกอยางแจมแจงชัดเจน ซากแหงสามตัวกลับ
ยื่นมือทั้งสองขางออกไปพรอมกัน ดีดนิ้วทั้งสิบ ปลายนิ้วแตละนิ้วมีเสนไหมสีเทาๆ พุง
ออกมา
สตรีชุดดำผูงดงามสูดลมหายใจเขาไปเฮือกหนึ่ง ปลอยกรงลอในมือออกมา ใน
เวลาเดียวกันก็บริกรรมคาถา
หลั ง จากที่ ก รงล อ หมุ น กลางอากาศ จู ๆ ก็ มี ล ำแสงวิ ญ ญาณเจ็ ด สี พุ ง ออกมา
กลายเปนมานลำแสงชั้นหนึ่งหอหุมพวกหานลี่ทั้งสองคนเอาไว
“ลำแสงวิญญาณเจ็ดสี! สมบัติอาคมสำนักพุทธ!”
มือของหานลี่ที่แตเดิมชูขึ้น ประจุไฟฟาสีทองสวางวาบ เมื่อเห็นสถานการณ นี้
กลับอดที่จะหยุดชะงักการกระทำไมได และเผยสีหนาตกตะลึงออกมา
เสนไหมวิญญาณพิฆาตเหลานี้มหัศจรรยอยางหาที่เปรียบมิได ชั่วพริบตาก็โจมตี
ไปยังมานลำแสงเจ็ดสี แตคาดไมถึงวาจะถูกตานทานเอาไวดานนอก ไมถูกทิ่มแทงจน
ทะลุผาน
หานลี่กลับไมไดตกตะลึง แตเดิมเคล็ดวิชาสำนักพุทธก็มีความสามารถในการควบคุม
ภูตผีอยูแลว ถึงแม วาเสน ไหมวิญ ญาณพิ ฆาตจะรายกาจขนาดไหน แต เมื่ อ พบกั บ
ลำแสงวิญญาณสำนักพุทธก็ไมอาจทำลายได แตในฐานะอาวุโสแหงพรรคสายมารของ
สตรีผูงดงามผูนี้ คาดไมถึงวาจะมีสมบัติสำนักพุทธดวย นี่จึงยิ่งทำใหหานลี่รูสึกตกใจ
ซากแหงสามตนเห็นเสนไหมวิญญาณพิฆาตไมไดผล กลับไมยอมหยุดพัก พลัดสบัดนิ้ว
ทั้ งสิ บ ชั่ วขณะนั้ น เส น ไหมสี เทาจำนวนนั บ ไม ถว นพลั น ปรากฏขึ้ น จากทั่ ว ทั้ งสี่ ทิ ศ
จากนั้นก็เขาปะทะพัวพันกับมานลำแสงเจ็ดสีชั้นแลวชั้นเลา ทาทีเหมือนจะกักทั้งสอง
เอาไวขางใน
แววตาของหานลี่ฉายแววเย็นเยียบ สองมือประกบเขาดวยกันและชูขึ้นอีกครั้ง
ประจุไฟฟาสีทองหนาๆ หลายสายพลันพุงออกมาจากฝามือ โจมตีไปยังมานลำแสง
หลังจากเสียง ‘ปงๆ’ ดังขึ้น ตาขายสายฟาสีทองชั้นหนึ่งพลันปรากฏขึ้นที่ภายนอก ชั่ว
พริบตาก็โจมตีเสนไหมสีเทาที่อยูภายนอกจนกลายเปนไอสีเทา และหายลับไป
ซากแหงทั้งสามเห็นเชนนั้น กลับไมไดใสใจเลยแมแตนอย ในมือยังคงพนเสนไหม
วิญญาณพิฆาตออกมาไมหยุด ที่ถูกไอสีเทาโจมตีจนสลายไปก็ฟนฟูกลับมาอีกครั้ง
“สหายฉาง ปลดมานแลวออกไป!” หานลี่เอยขึ้นสั้นๆ
เสียงฟาผาดังขึ้นอีกครั้ง ดานหลังของเขามีปกสีเงินคูหนึ่งปรากฏขึ้น
สตรีชุดดำผูงดงามไดยินคำพูดของหานลี่ แตเดิมคิดจะเอยปากหาม ทวาเมื่อเห็น
สถานการณที่แปลกประหลาดของหานลี่ก็กลืนคำพูดลงไปในทันที ชั่วขณะนั้นมาน
ลำแสงพลันแยกออกเปนสองสวน
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ปกทั้งสองพลันกระพือ หานลี่หายลับไปทามกลาง
ลำแสงสีเงิน
สามซากศพผานการเบิกสติปญญาแลวนั้นมือพลันหยุดชะงักตามสัญชาตญาณ
สายตาอดที่จะเหลือบซายแลขวาไมได แตตอมา ดานหลังของพวกมันหางออกไปสอง
สามจั้ง ประจุไฟฟาสีเงินพลันสวางวาบ รางของหานลี่ปรากฏขึ้น สามซากศพดีดนิ้วทั้ง
สิบอยางไมตองขบคิด เสนไหมสีเทายี่สิบสามสิบสายพุงเขามาหานลี่
หานลี่ไมไดหลบหลีก แตอาปากออก พนลำแสงสีทองสามสายออกมาจากปาก
อยางตอเนื่อง โจมตีไปยังสามซากศพ
ตอนที่ 986 ยักษปกเงิน
จากความเร็วแลว เห็นไดชัดวาแสงสีทองที่หานลี่พนออกมานั้นเร็วกวาเสนไหม
เหลานั้น หลังจากเสียงฟบๆ ดังขึ้น กระบี่เลมเล็กสีทองเรืองรองสามเลมก็ปกลงไป
กลางอกของซากศพทั้งสาม
และในเวลาเดี ย วกั น นั้ น เส น ไหมวิญ ญาณพิ ฆ าตก็ ม าอยู เบื้ อ งหน าของหานลี่
ตองการจะโอบรัดรางของเขา
แตหานลี่กลับคำรามดวยเสียงทุมต่ำออกมา ชั่วครูรางกายก็มีลำแสงเจ็ดสีชั้นหนึ่ง
ปรากฏขึ้น เสนไหมสีเทาที่โจมตีไปยังตัวเขา ชั่วขณะนั้นพลันถูกกั้นเอาไวภายนอก
“ลำแสงวิญ ญาณเจ็ด สี ” สตรีชุด ดำผู งดงามที่ อ ยู ไกลออกไปเห็ น สถานการณ
เชนนั้น ก็อดที่จะตกตะลึงไมได
หานลี่กลับชี้ไปยังสามซากศพที่โยกเยกไปมาดวยความใบหนาไรความรูสึก
เสียงฟาผาดังขึ้นสามครั้ง ประจุไฟฟาสีทองพลันพุงออกมาจากกระบี่เลมเล็กสาม
เลมในเวลาเดียวกัน ชั่วพริบตาขายสายฟ าพลัน ห อหุ มสามซากศพเอาไว เวลานั้ น
ประจุไฟฟาพลันวิ่งแลนไปทั่วทั้งสี่ทิศ
ชั่ ว ขณะนั้ น สามซากศพไม แ ม แ ต จ ะส ง เสี ย งใดออกมา ร า งกายระเบิ ด ออก
ทามกลางประจุไฟฟาสีทองและหายวับไป กลับมีไอสีดำสนิทสามกลุมปรากฏขึ้นอีก
ครั้งทามกลางแสงสีทอง
ไอเหลานี้ถูกประจุไฟฟาสีทองมุงทำลายไมหยุด กลับยังผนึกรวมกันอีกครั้งภายใต
อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายราวกับวาเปนสิ่งที่ฆาไมตายอยางไรอยางนั้น
หานลี่เห็นเชนนั้นพลันขมวดคิ้ว
“นี่ถึงจะเปนรางที่แทจริงของซากหลอมเหลานี้ คาดไมถึงวาพวกมันจะหลอมรวม
ไอของซากสังหารเขากับรางตัวเอง เวลานี้เกรงวาจะไมมีทางสังหารพวกมันได ทำได
เพียงใชเขตอาคมตองหาม ผนึกพวกมันไวชั่วคราว” สตรีชุดดำผูงดงามเห็นหานลี่ทำ
สำเร็จ ก็ เก็ บ ม านลำแสงที่ พุ งเข ามาด วยความดี อ กดีใจทั น ที เมื่ อ เห็ น สถานการณ
เชนนั้น จึงเอยปากแนะนำ
“อยาทำอะไรใหยุงยากเลย ยังไมรูวาภูตผีเหลานี้มีความสามารถพิเศษอะไร เขตอาคม
ธรรมดาๆ เกรงวาจะไมอาจผนึกได ใหเรื่องหลักเสร็จสิ้น เรื่องอื่นๆ ก็เสร็จสิ้นเถิด”
“เรื่องหลักเสร็จสิ้น เรื่องอื่นๆ ก็เสร็จสิ้น?”
สตรีผูงดงามมีสีหนาประหลาดใจ ยังไมทันไดเขาใจความหมาย จูๆ หานลี่พลัน
ตบไปที่ยามเก็บอสูรวิญญาณขางเอว ลำแสงสีดำสายหนึ่งพุงออกมา หลังจากหมุนวน
หนึ่งรอบก็ตกลงสูพื้น เผยใหเห็นวานรนอยที่เปลงรัศมีสีดำออกมา
นั่นก็คืออสูรวิญญาณครวญ!
หลังจากที่อสูรตัวนั้นถูกซากศพทำใหตกใจตื่น ก็รูสึกตื่นเตนคึกคะนองอยูตลอด
หลังจากปรากฏกายก็ไมรอใหหานลี่ไดออกคำสั่ง จมูกใหญ ๆ ของมันสงเสียงเหอะ
พรอมกับพุงไปดานหนาทันที ชั่วขณะนั้นพลันพนลำแสงออกมาจากจมูก ชั่วครูก็มวน
เอาไอสีดำในประจุไฟฟาสีทองเขาไป จากนั้นก็หดเล็กลงแลวตวัดกลับเขามาในปาก
อันใหญโตของอสูรตัวนั้นอยางงายดาย
หลั งจากที่ อ สู ร วิญ ญาณครวญกลื น ลงไปหลายคำ ก็ เอามื อ ตบหนั งท อ งทั น ที
กระโดดโลดเตนดวยความดีอกดีใจ ดูเหมือนวาจะตื่นเตนดีใจเปนพิเศษ!
สตรีผูงดงามที่อยูดานขางมองเห็นแลวพลันตกตะลึงจนอาปากคาง!
อสูรวิญญาณที่กลืนกินภูตผีได ถึงแมวาในใตหลานี้จะมีอยูไมมากนัก แตก็ไมใชวาจะ
ไมมี แตตัวที่เหมือนกับวานรนอยเบื้องหนาซึ่งสามารถกลืนกินภูตผีจากซากไอสังหาร
ไดอยางสบายๆ นั้น นางไมเคยไดยินมากอน และยิ่งไปกวานั้นดูเหมือนวาจะมีเพียง
วานรวิญ ญาณเนตรมรกตในตำนานเท านั้ น ที่ สามารถทำได แต ลักษณะของมั น ไม
เหมือนกับวานรนอยที่อยูเบื้องหนาเลยแมแตนอย
ขณะที่สตรีผูงดงามกำลังตกตะลึง หานลี่ก็มองอสูรวิญญาณครวญ หลังจากพบวา
มันไมแตกตางจากเดิมเลยแมแตนอยก็วางใจ เขาไมไดเก็บอสูรตนนั้นอีกครั้งในทันที
แตหลังจากขบคิดแลว ก็กวักมือ
ชั่วขณะนั้นหลังจากที่อสูรวิญญาณครวญพลิกกลับมาดวยความเชื่อฟง ก็นั่งยองๆ
อยูบนไหลของหานลี่ไมขยับเขยื้อน
“ไปกันเถิด ไมรูวาพวกพี่ฟูนั้นจับมาทมิฬกันไดหรือยัง” หานลี่มองไปยังสตรีชุด
ดำผูงดงามแวบหนึ่ง แลวเอยอยางราบเรียบ
“นาจะไดแลวกระมัง ซากหมาปาถูกพี่หานทำใหไดรับบาดเจ็บ ไมอาจหนีไปได
ไกลนัก และยิ่งไปกวานั้นยังมีสหายหยวนและไปสองคนคอยชวยเหลือ” สตรีแซฉาง
ฝนระงับความสนใจที่มีตออสูรวิญญาณครวญเอาไว แลวตอบกลับพรอมกับอมยิ้ม
หานลี่หัวเราะออกมา ตอนที่กำลังคิดจะเอยปากนั้น รางกายกลับสั่นสะทาน จูๆ
ในเวลาเดียวกันสตรีผูงดงามที่อยูเบื้องหนาพลันหนาเปลี่ยนสี
หลังจากที่ทั้งสองมองสบตากับแวบหนึ่งดวยความตกตะลึงแลว หานลี่ก็สะบัด
แขนเสื้อ สตรีผูนั้นลูบไปที่ยามเก็บของ พลิกฝามือจานอาคมใบหนึ่งพลันปรากฏขึ้น
และมองไปทางดานบน
“สัญลักษณของสหายหยวนหายไปแลว สหายฉาง ของเจาเปนอยางไร?” หานลี่
สูดลมหายใจเขาเฮือกหนึ่ง เงยหนาเอยถามดวยความเครงขรึม
“สัญลักษณบนรางของสหายหยวนที่ขานั้นก็หายไปแลว หรือวาสหายหยวนเกิด
เรื่องแลว? แตพวกเขาเพิ่งจะแยกกับพวกเราไดไมนาน!” สตรีชุดดำผูงดงามมีสีหนาไม
อยากจะเชื่อ
“ไมแนใจนัก พี่ฟูอาจจะพบกับศัตรูที่แข็งแกรง หรือสหายหยวนไมทันไดระวังไป
ติดกักดักอะไรเขา เขตอาคมบางอยางก็สามารถตัดขาดสัญลักษณจากลมปราณของ
พวกเราได” หานลี่ตอบกลับดวยสีหนาเยือกเย็น
“สหายหานพูดถูก พวกเรารีบไปดูเถิด จากสัญลักษณแลว ศิษยพี่ฟูนาจะอยูไม
ไกลนัก” สตรีชุดดำผูงดงามเอยอยางรอนรน
แนนอนวาหานลี่พลันพยักหนาอยางไมมีความเห็น
จากนั้นทั้งสองพลันกลายเปนลำแสงหลีกหนีสองสายพุงออกไปจากที่นี่ ตรงไป
ตามเสนทางเดิม
หลังจากที่บินเลี้ยวไปตามทางเดินเจ็ดแปดครั้งอยางตอเนื่องเปนระยะสิบกวาลี้
เบื้องหนาของทั้งสองก็สวางจา ตรงหนามีที่วางปรากฏขึ้น ทุกแหงลวนเปนกองแรศิลา
ที่ถูกทิ้งไว
ภายใตความระมัดระวังตัวของทั้งสอง ชั่วขณะนั้นพลันผอนความเร็วลง
แตหลังจากที่บินออกมาไดรอยกวาจั้ง กลับไมมีแรศิลา แตมีจัตุรัสเล็กๆ ปรากฏ
ขึ้นแทน
ตรงกลางจั ตุ รั ส คื อ ไผ ยั ก ษ สี เขี ย วมรกตกอหนึ่ ง ต น ไผ สู ง เสี ย ดถ้ ำ ไม เห็ น ยอด
ดานลางมีเขตอาคมขนาดยักษวางอยู แทบจะครอบครองพื้นที่ทุกตารางนิ้วในจัตุรัส
และทั้งสี่ดานก็มีเสาหินสูงใหญสิบกวาตน ทุกตนมีซากศพแหงสีดำสนิทที่ถูกโซเหล็ก
พันธนาการเอาไวตนละหนึ่งซาก เหมือนกับซากศพสามซากที่หานลี่พบมากอนหนานี้
อยางไรอยางนั้น หนาอกถูกเปดออก
สิ่ ง ที่ ท ำให ห านลี่ แ ละสตรี ผู ง ดงามตกตะลึ ง ก็ คื อ ใต ก อไผ สี เขี ย วมรกตมี สั ต ว
ประหลาดที่มีขนสีเขียวปกคลุมเรือนรางอยู ตัวประหลาดตัวนั้นนั่งลงตรงนั้น มือหนึ่ง
ถือซากศพไรหัวเอาไว กำลังกมหนาลงกัดกินอะไรสักอยางอยางเอร็ดอรอย ดูจาก
อาภรณของซากศพแลว เห็นไดชัดวาเปนชายรางใหญแซหยวนอยางไมตองสงสัย
ดานขางตัวประหลาดขนสีเขียวมีสัตวประหลาดตัวใหญยักษอยูตัวหนึ่ง คือหมา
ปายักษที่เคยพบกอนหนา กำลังกัดกินอะไรสักอยางอยูเชนกัน เห็นไดชัดวาในกรงเล็บ
ที่แหลมคมของมันคือตะพาบวิญญาณตัวนั้นของชายรางใหญแซหยวน เวลานั้นมันไร
ซึ่งพลังชีวิต และตายแลวเชนกัน
สวนมาทมิฬนั้นยังคงหมอบอยูบนศีรษะของหมาปายักษไมขยับเขยื้อน
เมื่อเห็นเหตุการณเหลานี้ หานลี่พลันตกตะลึง!
สตรีชุดดำผูงดงามสีหนาซีดขาวขณะกวาดสายตาไปรอบๆ จากนั้นปากก็อดที่รอง
อุทานออกมาดวยเสียงต่ำๆ และแหบแหงไมได
“ศิษยพี่ฟู!”
สตรีผูนั้นจองเขม็งไปบนทองฟา ใบหนาเต็มไปดวยความหวาดกลัว
หานลี่มองตามไป ถึงไดพบวากลางอากาศเหนือจัตุรัสทั้งสองฝง มีสิ่งที่เหมือนกับ
รังไหมสีเทาลอยนิ่งอยู ดานนอกมีเสน ไหมสีเทาเป นชั้น ๆ เห็ น ไดชัดวาคือเสนไหม
วิญญาณพิฆาตที่เคยพบมากอนหนานี้ แตความหนาแนนของรังไหมเชนนี้ ซากศพแหง
กอนหนาไมมีทางเทียบไดแน
สวนในรังไหมทั้ งสอง มี เสี ย งระเบิ ด ป งป งดั งขึ้ น ไม ห ยุ ด อี ก อั น กลั บ เงีย บกริ บ
บางครั้งก็มีผลึกลำแสงเปนเสนๆ พุงออกมา
ดูแลวชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋คงจะแคถูกกักเอาไว ยังคงมีชีวิตอยูในนั้น
แตชั่วครู ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นกลางทั้งสามก็คนตายหนึ่งถูกกักสอง
หานลี่ยังคงรักษาความเยือกเย็นในภายนอกเอาไว แตความตกตะลึงในใจนั้นแคคิดก็รู
แลว
ถึงแมวาสตรีผูงดงามสวมชุดดำจะเปนหวงชายชราแซฟู แตก็รูวาตอนนี้ไมใชโอกาสใน
การชวยเหลือ หลังจากมองรังไหมสีเทาไปสองแวบ นางก็ชักสายตากลับมา แตแขน
เรียวก็สะบัดออกอยางไมใสใจ มือหนึ่งควากรงลอสำนักพุทธเอาไวในมืออีกครั้ง
แตตัวประหลาดขนสีเขียวนั้นไมสนใจทั้งสองคน แคตั้งหนาตั้งหนากินไมหยุด
หลังจากเสียง ‘แควก’ ดังขึ้น แขนขางหนึ่งถูกตัวประหลาดขนสีเขียวฉีกออก
แลวกลืนลงไปในทองจนเกลี้ยง
มองเห็นซากศพของชายรางใหญแซหยวนเลือนรางไป รูมานตาของหานลี่พลัน
หดเล็กลง ดวงตาทั้งสองมีลำแสงสีฟาสวางวาบ
และในตอนนั้นเอง อสูรวิญญาณครวญที่หมอบอยูบนไหลก็เปลงเสียงกรีดรอง
แหลมสูงออกมา ขนที่ ห ลั งลุ ก ชั น จอ งเขม็ งไปยั งตั วประหลาดขนสี เขี ย วพลางทำ
ทาทางจะโจมตี
แตไขมุกวิญญาณครวญในรางของหานลี่กลับสัมผัสไดถึงความตื่นเตนดีใจของ
อสูรตนนี้ในเวลาเดียวกัน คาดไมถึงวากวาครึ่งจะมีความหวาดกลัวอยูในนั้น ราวกับวา
พบศัตรูโดยธรรมชาติอะไรสักอยาง
หานลี่ระมัดระวังตัวมากขึ้น
แตในตอนนั้น เมื่อตัวประหลาดขนสีเขียวไดยินเสียงกรีดรองของอสูรวิญญาณ
ครวญ การเคลื่อนไหวในมือกลับหยุดชะงัก จากนั้นพลันสะบัดมือ เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น
จากทางซากศพทันที ชั่วครูก็บินออกไปยี่สิบกวาจั้ง ถึงไดรอนลงบนพื้นอีกครั้ง
หานลี่และสตรีผูงดงามเห็นเชนนั้น ก็หนาเปลี่ยนสีไปอีกครั้ง
ตัวประหลาดขนสีเขียวตัวนี้ชางโอหังนัก!
มันยืนขึ้นอยางไมรีบรอนรอน และเงยหนาขึ้นมองมา
หานลี่ถึงไดมองเห็นรูปรางของตัวประหลาดขนสีเขียวอยางชัดเจน
มองปราดเดียวก็เห็นวาใบหนาของตัวประหลาดตัวนี้มีปากแหลมๆ แกมเหมือนลิง
ราวกั บ วานรตั ว หนึ่ ง อย า งไรอย า งนั้ น แต ห ากพิ จ ารณาอย า งละเอี ย ดจะรู ว า ไม
เหมือนกัน
ไมมีวานรตัวไหนที่มีเขี้ยวยาวโงงโผลออกมานอกปากสองสามชุน และยังแหลม
คมอยางหาที่เปรียบมิไดเชนนี้ และยิ่งไปกวานั้นตัวประหลาดตัวนั้นกลับมีโลหิตสดๆ
อยูเต็มปาก ดวงตาทั้งสองกลับเปลงประกายสีขาว คาดไมถึงวาจะดูเหมือนไมมีลูกตา
อยางไรอยางนั้น ชางเปนภาพที่แปลกประหลาดจริงๆ
สิ่งที่ใหหานลี่สนใจก็คือ หลังจากที่ตัวประหลาดตนนี้ยืนขึ้น ดานหลังของมันกลับ
มีกอนนูนสูงๆ สองอันปรากฏขึ้น ราวกับซาลาเปาไสเนื้อสองลูกอยางไรอยางนั้น
ตัวประหลาดขนสีเขียวกวาดสายตาไปบนรางของทั้งสอง แววตาแข็งคาง จอง
เขม็งไปยังอสูรวิญญาณครวญบนไหลของหานลี่เขม็ง ในเวลาเดียวกันใบหนายังเผยสี
หนาแปลกประหลาดออกมา ราวกับวาตกตะลึง และดูเหมือนวาจะงงงวย
อสูรวิญญาณครวญถูกตัวประหลาดขนสีเขียวจองเขม็ง ไมใชแคบางจุดในแผน
หลัง ขนทั่วเรือนกายพลันลุกชั้น
จากนั้นพลันกระโจนออกไป มันกระโดดมาอยูหางจากเบื้องหนาของหานลี่สองสามจั้ง
หลังจากสองมือพยายามออกแรงตบไปที่ ห น าอกนั้ น ลำแสงสีดำรอบกายสวางจา
รางกายขยายใหญขึ้น
ชั่วพริบตา วานรยักษที่โหดเหี้ยมสูงสิบกวาจั้งก็ปรากฏตัวขึ้นในถ้ำ ลวดลายภูตผี
อัปลักษณสีโลหิตบนแผนหลังชัดเจนขึ้นเปนพิเศษ ราวกับมีชีวิตขึ้นมาอยางไรอยางนั้น
หลังจากที่อสูรวิญญาณครวญเปลี่ยนไป ตัวประหลาดขนสีเขียวที่อยูตรงขามกลับดู
เหมือนวาจะสัมผัสอะไรได รางกายถอยรนไปหลายกาว ในเวลาเดียวกันไหลทั้งสองก็
สั่นเทา
เสียง ‘พรึ่บ ๆ’ ดังขึ้น ตรงกอ นซาลาเปาทั้ งสองมี ป กขนาดสองจั้ งงอกออกมา
ดานบนมีลำแสงสีเงินแวววาว เปลงประกายจนแสบตา
“ยักษปกเงิน!”
สตรีชุดดำผูงดงามเรียกชื่อออกมาแทบจะในเวลาเดียวกันที่ตัวประหลาดขนสี
เขียวสงเสียงรองครวญครางออกมา แววตางดงามมีความตกตะลึงและลนลาน
หานลี่ใบหนาซีดขาวไปเล็กนอย
ยักษ ป กเงิน คือซากหลอมที่ เป น รองแคซ ากจัน ทรารางทองที่ ดำรงอยูในแดน
มนุษยเทานั้น หากเปลี่ยนคำพูดก็คือ นี่คือสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถนากลัวไมตาง
อะไรกับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลาย
ในตำนาน ถาหากผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายและมันตอสูกันละก็
กวาครึ่งผูที่พายแพคงเปนฝงมนุษย
เพราะมันพัฒนาจากซากเทวัญมาเปนซากหลอมชนิดนี้ ภายใตปกสีเงินที่กระพือ
นั้น ก็สามารถบินขึ้นไปยังดินแดนอันไกลโพน และลงไปยังแมน้ำเหลืองในยมโลกได มี
ความสามารถทางดานเคล็ดวิชาหลีกหนีธาตุลมและดินโดยธรรมชาติ และยิ่งไปกวา
นั้นไมเพียงเรือนกายจะฟนแทงไมเขา พลังไรขีดจำกัด ยังเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาลวงตา
อีกดวย
ดวงตาสีเงินไมมีลูกตาดำคูนั้น ทำใหผูบำเพ็ญเพียรที่มีจิตใจไมกลาแกรงหลงใหล
ไปอยางงายดาย และเชื่อฟงคำสั่งอยางไมรูตัว
ขอมูลเกี่ยวกับยักษปกเงินสวางวาบในหัวของหานลี่อยางรวดเร็ว ทุกครั้งที่นึกขึ้น
ไดสวนหนึ่ง ริมฝปากของเขาก็จะเมนแนนขึ้นสวนหนึ่ง
“คิดไมถึงวา หลังจากมาสามตัว จะยังมีอีกสองเขามาสงถึงประตู ขาจำไมไดแลว
วา ไมไดกินโลหิตสดๆ มากี่ป ดูแลวครั้งนี้ คงจะกินอิ่มในทีเดียว” ดานหลังยักษปกเงิน
มีปกคูหนึ่งงอกออกมา ไมหวาดกลิ่นอายของอสูรวิญญาณครวญอีกตอไป กลับขบ
เขี้ยวเคี้ยวฟนขณะพนคำพูดของมนุษยออกมา
น้ำเสียงชัดเจนเปนพิเศษ แทบจะเหมือนกับมนุษยอยางไรอยางนั้น
ตอนที่ 987-1 เคล็ดวิชาเนตรสีเงินลวงตา
หานลี่ไดยินคำพูดนี้ มุมปากก็หยักขึ้นเล็กนอยอยางไมใสใจ แตจูๆ สองมือพลันชูขึ้น
กระบี่เลมเล็กสองเลมสวางวาบแลวพุงออกไปในทันที เปาหมายก็คือรังไหมยักษ
สีเทาสองรังนั้น
หลังจากที่รูวาอสูรที่อยูเบื้องหนารับมือไดยากนั้น หานลี่ก็คิดจะชวยสองคนที่
เหลือกอนทันที ถาหากทั้งสี่คนรวมมือกันละก็ โอกาสชนะจะตองสูงขึ้นอยางแนนอน
ยักษปกเงินที่อยูตรงขามเห็นฉากนั้น รางกายพลันไมไหวติง แตมุมปากกลับเผย
รอยยิ้มเย็นชาออกมา
ภายใตดวงตาสีเงินที่เปลงแสงสวางวาบออกมานั้น ระหวางรังไหมสีเทาสองรัง
พลันมีมือใหญสีเทามือหนึ่งปรากฏขึ้น ควากระบี่แสงสีทองสองเลมเอาไวดวยความ
มหัศจรรยอยางหาที่เปรียบมิได
หานลี่ไมทั น ไดระวังตัว คาดไม ถึงวาจะทำให กระบี่ บิ น สองเล ม นั้ น ถู กเสน ไหม
วิญญาณทมิฬที่แปลงเปนมือยักษกุมเอาไวขางใน
ถึงแมวาหานลี่จะรูสึกตกใจ แตก็ไมไดรอนรน ความคิดเคลื่อนไหว ในมือสีเทาทั้ง
สองมีเสียงฟาผาดังขึ้น ลำแสงสีทองสวางวาบ กระบี่บินทั้งสองเลมปลอยอัสนีเทวาปด
เป าภยั น ตรายออกมา ชั่ ว ครูก็ โจมตี เส น ไหมวิ ญ ญาณทมิ ฬ จนแตกเป น เสี่ ย งๆ ชั่ ว
พริบตาก็หนีออกมาจากพันธนาการได
แตในตอนนั้นเอง เสนไหมสีเทาที่หนาแนนพลันบินออกมาจากรังไหมสีเทาอีกรัง
รัดเอาไวชั้นแลวชั้นเลา แทบจะในเวลาเดียวกัน นั้น ไอสีเทากลุมแลวกลุมเลาก็แผ
ออกมาจากมือยักษ และผนึกรวมตัวกันเปนเสนไหมอีกครั้ง
กระบี่บินสีทองสองเลมในตอนนี้ คาดไมถึงวาจะถูกปดตายอยูในนั้น
หานลี่พลันขมวดคิ้วสอง มือที่อยูในแขนเสื้อกำหมัดแนน ชั่วขณะนั้นทั่วเรือนราง
พลัน เปลงแสงสีทองสวางวาบ เสีย งฟ ารองดั งสนั่ น ขึ้น ตาข ายไฟฟ าสีท องชั้ น หนึ่ ง
ปรากฏขึ้นบนรางจนทำใหเขาดูเหมือนเทพอัสนีอยางไรอยางนั้น!
ยักษปกเงินที่แตเดิมจองเขม็งไปยังอสูรวิญญาณครวญ พลันเลื่อนสายตาไปจอง
หานลี่ดวยความเครงขรึม ใบหนาเผยสีหนาประหลาดใจออกมา
“นาสนใจดี คาดไมถึงวาจะกำจัดเสนไหมวิญญาณทมิฬของขาได รางแยกซาก
ทมิ ฬ ทั้ ง สามของข า ก็ ถู ก เจ า ทำลายแล ว สิ น ะ” ซากหลอมป ก เงิน เอ ย ขึ้ น อย า งไร
ความรูสึก
“ขาเปนผูสังหารจริงๆ คาดไมถึงวาภาษาที่เจาพูดจะเหมือนกับมนุษยอยางพวก
เรา ดูแลวคงมีสติปญญาสูงสงมาก และรูจักขอไดเปรียบเสียเปรียบกระมัง เรื่องอื่นขา
จะไมพูดมาก ถาหากเจายอมสงมาทมิฬตัวนั้นให และปลอยสหายรวมวิถีทั้งสองของ
ขานอยไป พวกเราก็จะยอมถอยออกจากตรงนี้” หานลี่มองไปยังซากศพของชายราง
ใหญแซหยวนแวบหนึ่ง และยื่นมือออกไปชี้ที่มาทมิฬที่อยูอีกดาน แลวเอยอยางเย็นชา
ในตอนนั้นเอง หลังจากที่อสูรวิญญาณครวญที่กลายเปนวานรยักษเปลงเสียงรอง
คำรามต่ำๆ ออกมา ลวดลายปศาจดานหลังก็เปลงแสงสีโลหิตที่เจิดจาจนแสบตา และ
เผยทาทีคุกคามออกมาสองสามสวน
“สิ่งเล็กๆ ที่พวกเจาตองการ มันไดอยูแลว ปลอยสหายรวมวิถีของเจา และให
พวกเจาหนีไป ก็ไมใชวาจะพิจารณาไมได” ยักษปกเงินเอยอยางไมลังเล
“เจาตกลงจริงๆ หรือ?” สตรีชุดดำผูงดงามที่ปลอยกรงลอออกไปกลางอากาศ
แลว ไดยินคำพูดนี้ ก็มีสีหนาดีอกดีใจ
หานลี่กลับเงียบกริบไรคำพูด
“ขายอมตกลงหลายเงื่อนไขเชนนี้ พวกเจาแคตองตอบรับเงื่อนไขของขาเพียงขอ
เดียว พวกเจาออกจากที่นี่ แตอสูรวิญญาณตัวนี้ตองทิ้งไวที่นี่” ยักษปกเงินยื่นนิ้วที่มี
ขนสีเขียวออกมา ชี้ไปยังวานรยักษสีดำ ดวงตาสีเงินกลอกไปมาขณะเอย
สตรีชุดดำผูงดงามไดยินพลันตกตะลึง รูสึกประหลาดใจเปนอยางมาก
“ใหทิ้งอสูรวิญญาณของขา? เจาคงฝนไปกระมัง!” หานลี่กลับหัวเราะอยางเย็น
ชาออกมา
“เชนนั้นพวกเจาก็อยาไปเลย อยูเปนอาหารของขาที่นี่เถิด” ยักษปกเงินเห็นหาน
ลี่ปฏิเสธ ทันใดนั้นใบหนาโหดเหี้ยมก็ชักสีหนา ชั่วครูเขี้ยวที่มุมปากพลันยาวขึ้นสอง
สามเทา ในเวลาเดียวกันดวงตาทั้งสองก็เปลงแสงสีเงินหมื่นสายออกมา
“ระวังเคล็ดวิชาลวงตาของมัน!”
จู ๆ เสี ย งของชายชราแซ ฟู ท่ี เอ ย เตื อ นก็ ดั ง ขึ้ น มาจากรั งไหมสี เทารั งหนึ่ ง แต
น้ำเสียงกลับออนแรง และยิ่งไปกวานั้นเสียงพลันขาดหวง
แตประโยคนี้ เห็นไดชัดวาสายไปแลว
ดวงตาเจิดจาเปลงแสงสีเงินออกมา ถึงแมวาหานลี่จะมีเนตรวิญญาณวารีกระจาง
ดวงตาทั้งสองก็ยังหลับตาลงตามจิตสำนึก
สตรีผูงดงามที่ สวมชุดสีดำเห็ น ลำแสงนั้ น ก็ยิ่ งรูสึกวิงเวียนยิ่งกวาเดิ ม จำต อ ง
หลับตาคูนั้นลงทันที
“แยแลว!” ชั่วพริบตาที่ดวงตาทั้งสองขางปดลง หานลี่ก็รองอุทานออกมาในใจ
ผลลัพธคือตอนที่ทั้งสองลืมตาขึ้นอีกครั้ง บรรยากาศรอบดานก็เปลี่ยนไป
ไมเพียงแคจัตุรัส รังไหมสีเทาตางก็หายไปอยางไรรองรอย รอบดานเหลือเพียง
หมอกที่หนาแนน สวนยักษปกเงินยิ่งไมรูวาอยูตรงไหน
“เคล็ดวิชาลวงตา ดูเหมือนวาระดับจะไมไดต่ำตอยเลย!” หานลี่เอยพึมพำ
“ไมต่ำตอยจริงๆ หรือไม ก็ตองลองทดสอบดูถึงจะรู” สตรีชุดดำผูงดงามกลับ
ขมวดคิ้วดำขลับขณะเอยขึ้น
สตรีผูนั้นที่เปนหวงชายชราแซฟูดูเหมือนวาจะออนแอลงเปนพิเศษ และไมยอม
รอตอไปอีก ชิงชี้ไปยังกรงลอสำนักพุทธเหนือศีรษะ
เสียง ‘ฟวๆ’ ดังขึ้น!
กรงลอพลันเปลงแสงเจิดจา พนเสาลำแสงเจ็ดสีสองสามสายออกมา ชั่วครูก็จม
ลงไปในมานหมอก และเลือนหายไปอยางไรรองรอย แตก็ดูเหมือนโคลนที่จมเขาไปใน
มหาสมุทรอยางไรอยางนั้น ไมมีปฏิกิริยาตอบสนองเลยแมแตนอย
สตรีผูงดงามมีสีหนาเครงขรึม ดึงยามเก็บอสูรวิญ ญาณขางเอวใบหนึ่งออกมา
อยางไมตองขบคิด หลังจากโยนขึ้นไปกลางอากาศดวยความรวดเร็วแลว สองมือพลัน
รายอาคม
ชั่วขณะนั้นปากยามพลันสั่นคลอน ลำแสงสีแดงสดกลุมหนึ่งพุงออกมาจากดาน
ใน กลายเปนอสรพิษติดปกกลุมหนึ่ง
ขนาดของอสรพิษบินกลุมนี้ไมใหญนัก มีขนาดแคสองสามฉื่อ แตทุกตัวลวนสวม
รัดเกลาเอาไว เรือนกายของอสรพิ ษเป น สีแดงแวววาว มองปราดเดียวก็รูวาไม ใช
อสรพิษวิญญาณธรรมดาๆ
สตรีผูงดงามบริกรรมคาถา คาดไมถึงวาจะรายอาคมใหอสรพิษบินทั้งหมดปลอย
ลำแสงสีแดงหลายสายออกมา
ชั่วขณะนั้นอสรพิษบินพลันอาปากออก ลูกไฟจำนวนนับไมถวนถูกพนออกมา
จากปากและขยายใหญขึ้นในชั่วพริบตา จากนั้นก็เผาไหม ทะเลเพลิงผืนใหญกอตัวขึ้น
ในชั่วพริบตา และเริ่มลุกลาม
มองเห็นการกระทำของสตรีผูงดงาม หานลี่ก็ไมไดลงมือหรือเอยปากหามปราม
กลับถือโอกาสนี้ มองไปรอบๆ ดวยแววตาไรความรูสึก ลำแสงสีฟาสวางวาบในรูมาน
ตาไมหยุด
คลื่นเพลิงสูงสองสามจั้งชั่วพริบ ตาพลัน กอตั วขึ้น ท องฟ าแตเดิ มที่ เป น สีเทาก็
เปลี่ยนเปนสีดำสนิท
แสงสีเงินพลันสวางวาบ ทามกลางหมอกสีดำมีเนตรปศาจยักษสองดวงปรากฏขึ้น แต
ละดวงมีขนาดสองสามจั้ง เปลงแสงเงินออกมา เนตรสีเงินที่ไมมีลูกตาดำของยักษปก
เงินปรากฏขึ้นอยางกะทันหัน และไมรูวาใชภาพลวงตาใดถึงไดมีขนาดใหญขนาดนี้
เสี ย งหั ว เราะประหลาดๆ ดั ง ‘เคี๊ ย กๆ’ พลั น ส ง ออกมา จากนั้ น เนตรยั ก ษ ก็
เปลงแสงสีเงินผืนใหญออกมา โจมตีไปยังทะเลเพลิงทั้งบนและลางอยางพอดิบพอดี
ภาพฉากที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้น!
ทุ ก แห งที่ แ สงสี เงิน กวาดออกไปไม วาจะเป น เปลวเพลิ งอั น เชี่ ย วกราดหรือ ว า
อสรพิษบิน เมื่อถูกกวาดออกไปก็หายวับไปอยางไรรองรอย ราวกับระเหยไปกลาง
อากาศอยางไรอยางนั้น
ชั่วพริบตาทะเลเพลิงผืนนั้นก็หายวับไป
เมื่อเห็นเหตุการณที่นาเหลือเชื่อเชนนี้ หานลี่ก็ไมไดหนาเปลี่ยนสี สตรีชุดดำผูงดงาม
กลับหนาเปลี่ยนสีขณะปลอยกระบี่สีแดงอีกสายหนึ่งออกมา ฟนลงไปที่เนตรสีเงิน
กลางอากาศอยางตอเนื่อง กลับดูเหมือนวาจะเปนการงมพระจันทรในแมน้ำ คาดไม
ถึงวาจะไมมีผลเลยแมแตนอย
เวลานี้ สตรีผูงดงามพลันรูสึกจิตใจหนักอึ้ง
เห็ น ไดชัดวาเคล็ดวิชาลวงตานี้ รายกาจนั ก ดู เหมื อ นวาจะเหนื อ กวาที่ สตรีผูนี้
คาดการณเอาไว นางไมมีความมั่นใจวาจะกำจัดมันไดเลยแมแตนอยแลว
ตอนนั้นกลางอากาศพลันมีเสียงหัวเราะประหลาดดังขึ้นอยางตอเนื่อง เสียงดังขึ้น
เรื่อยๆ คอยๆ เหมือนกับฟาผาขึ้นเรื่อยๆ และในเวลาเดียวกันนั้น เนตรสีเงินก็ปรากฏ
ขึ้นอยางตอเนื่อง ทุกดวงตางมีขนาดใหญยักษเชนเดียวกัน
หลังจากผานไปชั่วครู ไมเพียงทองฟาจะเต็มไปดวยเนตรปศาจ แมกระทั่งมาน
หมอกรอบดานก็ยังมีแสงสีเงินกะพริบวาบ
จากนั้นเนตรปศาจทั้งหมดพลันเปลงแสงสีเงินออกมา และเปลี่ยนรูปรางไปใน
เวลาเดียวกัน กลายเปนจันทรครึ่งเสี้ยวที่แลดูบริสุทธิ์ จากนั้นไอสีดำรอบๆ ดานก็สง
เสียงกรีดรอ งออกมาพรอมกัน เสียงฝเท าหนั กอึ้งก็ ดังขึ้น อยางตอ เนื่ อง ราวกั บตั ว
ประหลาดอะไรสักอยางกำลังจะกระโจนออกมาจากมานหมอก
“พี่หาน ทานมีวิธีทำลายเคล็ดวิชานี้หรือไม!” ในที่สุดสตรีชุดดำผูงดงามก็ทนไม
ไหวหันมาเอยถาม
นางคิ ด ดี แ ล ว ถ าหากแม แ ต ห านลี่ ที่ ลึ ก ลั บ อย างสุ ด ๆ ยั งไม อ าจทำอะไรได ก็
อาจจะตองใชโลหิตบริสุทธิ์สำแดงเคล็ดวิชาลับสักชนิดออกมาแลว!
หานลี่ไมไดตอบกลับสตรีผูนั้นในทันที แตชูมือหนึ่งขึ้น ประจุไฟฟาสีทองสายหนึ่ง
ปรากฏขึ้นบนแขน
หลังจากเสียงฟาผาดังขึ้น ประจุไฟฟาพลันสวางวาบ โจมตีไปยังจันทรเสี้ยวสีเงิน
ที่ปรากฏขึ้นกลางมานหมอกอยางพอดิบพอดี
หลังจากเสียงตึงตังดังขึ้น จันทรเสี้ยวและประจุไฟฟาพลันระเบิดออกพรอมกัน
พระจันทรสีเงินดวงอื่น ๆ แทบจะมี แสงสีเงิน จำนวนนั บ ไม ถวนกระจายตัวออกมา
พรอมกัน รอบดานเปลี่ยนเจิดจาจนแสบตาอีกครั้ง
สตรีผูงดงามที่สวมชุดสีดำรูสึกเพียงวาโลกหมุน อดที่จะกะพริบดวงตาคูงามไมได
แตรอจนสติกลับมามั่นคงอีกครั้ง กลับพบวาตัวเองมาปรากฏตัวขึ้นที่จัตุรัสอีกครั้งแลว
หมอกสีดำอะไร จันทราสีเงินอะไรตางก็ไมมี
สตรีผูงดงามพลันผอนคลายลง นางที่มีประสบการณมาเฟองฟู ไมไดตกตะลึงกับ
สิ่งนี้มากนัก
แต ต รงข า ม ยั ก ษ ป ก เงิ น กำลั ง ยื น อยู ใ ต ต น ไผ สี เขี ย วมรกตราวกั บ ว า ไม เคย
เคลื่อนไหวมากอน แตดานหลังของมันกลับมีปกสีเงินงอกออกมาตานทานเอาไวเบื้อง
หนา กำลังตานทานประจุไฟฟาสีทองที่สงเสียงเปรี้ยงปรางอยูตรงหนา ดวงตาทั้งสอง
จองเขม็งไปยังหานลี่ที่อยูดานขางดวยความเย็นชา
สิ่งที่สตรีผูงดงามสนใจก็คือ ในมือที่มีขนสีเขียวของตัวประหลาดนี้ ถือกระจกสีดำ
สนิทบานหนึ่งสองมายังทั้งสองคนตอนไหนก็ไมรู
กระจกบานนี้ไมใหญนัก แตมันเปลงแสงสีดำของปศาจออกมา ทำใหผูคนเห็น
แลวรูสึกเหมือนถูกดูดจิตวิญญาณทั้งหมดเขาไปอยางไรอยางนั้น ชางมีไอมารอยูเต็ม
เปยมจริงๆ
“ทานหาตำแหนงของขาเจอไดทามกลางเคล็ดวิชาลวงตา ประหลาดจริงๆ ขามี
กระจกลวงจันทรปศาจคอยชวย อยางนอยที่สุดอานุภาพของเคล็ดวิชาเนตรสีเงินลวง
ตาก็จะตองเพิ่ มขึ้นมากกวาครึ่ง ไมใชสิ่งที่ จิตสัมผัสที่ แข็งแกรงจะมองทะลุผานได
ทามกลางเคล็ดวิชาลวงตาเมื่อครูดวงตาของเจาดูแปลกๆ หรือวาฝกฝนเคล็ดวิชาลับ
เกี่ยวกับเนตรวิญ ญาณมา?” ยักษปกเงินเอยอยางราบเรียบ ปกสีเงินกระพือขึ้นลง
อยางตามอำเภอใจ ประจุไฟฟาสีทองถูกดีดออกไปดานขางอยางงายดาย
หานลี่ไดยินคำพูดนี้ กลับหัวเราะอยางเย็นชาออกมา ไมไดมีทาทีจะตอบอีกฝาย
แตกลับสะบัดแขนเสื้อ ชั่วขณะนั้นในแขนเสื้อพลันมีเสียงรองอันไพเราะดังขึ้น กระบี่
เลมเล็กสีทองหลายสิบเลมทะลักออกมาราวกับหมูมัจฉา กลายเปนลำแสงสีทองเริง
ระบำอยูเบื้องหนา ในเวลาเดียวกันดานหลังก็มีเสียงฟารองดังขึ้น ปกสีเงินขาวคูหนึ่ง
ปรากฏขึ้น
สวนหานลีน่ ั้นก็ไมยอมหยุดพัก หลังจากสูดลมหายใจเขาไปลึกๆ เฮือกหนึ่งแลว ก็
อาปากออก พนไขมุกสีขาวราวกับหิมะที่ถูกเพลิงสีมวงกลุมหนึ่งหอหุมเอาไวออกมา
มั น หมุ น ติ้ วๆ อยู เบื้ อ งหน าไม ห ยุ ด ชั่ ว พริ บ ตาที่ ไข มุ ก เม็ ด นี้ ป รากฏขึ้ น อุ ณ หภู มิ ที่
รอนแรงของทั้งจัตุรัสพลันลดลงอยางรวดเร็ว ราวกับวาทำใหผูคนเหมือนตกอยูใน
สถานที่ที่มีหิมะปกคลุมอยางไรอยางนั้น
เห็นแสงกระบี่บินที่หานลี่ปลอยออกมาในตอนแรก ยักษปกเงินยังคงทำเปนทอง
ไมรูรอน แตเมื่อดานหลังของหานลี่มีปกนกปรากฏขึ้น ตัวประหลาดตัวนั้นก็มีสีหนา
ตกตะลึง เมื่อไขมุกผลึกหิมะที่ถูกเพลิงตาขายทมิฬสีมวงหอหุมเอาไวก็ปรากฏขึ้น และ
เผยอานุภาพที่นากลัวออกมาเชนกัน ในที่สุดมันก็มีสีหนาเครงขรึม
การเคลื่อนไหวของหานลี่ยังไมหยุด จากนั้นพลันโยนยามเก็บอสูรวิญญาณใบหนึ่ง
ขึ้นไปกลางอากาศ แมลงเกราะสีทองฝูงใหญบินออกมาจากปากถุง กลายเปนเมฆสี
ทองลอยอยูกลางอากาศ สองมือพลันรายอาคม ลำแสงวิญญาณเจ็ดสีชั้นหนึ่งปรากฏ
ขึ้นรอบกาย ในเวลาเดียวกันพลันพลิกฝามือทั้งสอง กระจกสีมวงบานหนึ่งกลายเปน
ลำแสงสีมวงกลุมหนึ่งเปลงแสงสะทอนออกมา
หานลี่ ในตอนนี้ นอกจากเครื่อ งมื อ สั งหารแลว ก็ นั บ ได วาสำแดงสมบั ติ อ าคม
ออกมาจนหมดแลว
การเผชิ ญ หน า กั บ ซากเทวั ญ ที่ อ าจจะร า ยกาจยิ่ ง กว า ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นปลาย เขาไมกลาประมาทเลยแมแตนอย
ตอนที่ 987-2 กระจกลวงจันทรปศาจ
สตรีชุดดำผูงดงามที่อยูดานขางเห็นหานลี่ควบคุมสมบัติไดมากมายขนาดนี้ ชั่ว
ขณะนั้นก็รูสึกมีชีวิตชีวาขึ้น
นางพลันชูมือปลอยโลเล็กๆ สีเขียวออกไปตานทานเอาไวเบื้องหนา แลวตบไปที่
ยามเก็บของ ชั่วขณะนั้นสมบัติที่มีรูปรางเหมือนผี้เสือสองชิ้นก็พุงออกไป เริงระบำอยู
เบื้องหนาของนาง ราวกับมีชีวิตอยางไรอยางนั้น
สตรีผูนี้คือผูบำเพ็ญ เพียรระดับกอกำเนิ ดขั้นกลาง แนน อนวาจึงไมไดมีสมบั ติ
อาคมเพียงเทานี้ แตในการตอสูของผูบำเพ็ญเพียรนั้นไมไดหมายความวายิ่งเอาสมบัติ
อาคมออกมามากเทาไหรจะยิ่งไดเปรียบมากเทานั้น ถึงแมวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรที่มี
สมบัติอาคมมากมายขนาดไหน หลังจากถึงขีดสูงสุดในการใชจิตสัมผัสควบคุมแลว ก็
ไมอาจใชสมบัติอาคมชิ้นอื่นๆ ไดอีก ถึงอยางไรเสียในการตอสูนอกจากตองอาศัย
สมบัติอาคมแลว ตนเองก็ตองเก็บจิตสัมผัสเอาไวสำแดงเคล็ดวิชาสวนหนึ่งดวย สวน
จะเก็บจิตสัมผัสเอาไวเทาไหร ก็แลวแตสถานการณของบุคคล
ถาหากรูสึกวาสมบัติของตนเองเฉียบแหลม เคล็ดวิชาออนแอกวา แนนอนวาก็
ตองแบงจิตสัมผัสไปกับการสำแดงสมบัติอาคมมากกวา แตถาหากสมบัติอาคมนั้น
ธรรมดาๆ แตความสามารถของเคล็ดวิชานั้นทรงพลัง ก็จะตองเหลือจิตสัมผัสเอาไวใช
สำแดงเคล็ดวิชา
นอกจากนี้แลว สมบัติอาคมยิ่งทรงพลังเทาใดก็จะตองใชจิตสัมผัสมากขึ้นเทานั้น
นี่ก็เปนสาเหตุที่ผูบำเพ็ญ เพียรระดับหลอมรวมที่ใชสมบัติโบราณมีอยูเพียงไมกี่คน
และถึงแมวาผูบำเพ็ญเพียรจะมีจิตสัมผัสแข็งแกรงขนาดไหน ก็จะเลือกสมบัติอาคมที่
มีอานุภาพมากที่สุดออกมาใชตอกรกับศัตรูเพียงสองสามชนิดเทานั้น หานลี่ปลอย
สมบัติอาคมออกมามากมายภายในครั้งเดียว ตอใหไมเหลือจิตสัมผัสไว ก็ทำใหเห็นวา
มีจิตสัมผัสที่แข็งแกรงมากแลว
แตไมรอใหห านลี่และพวกรวมมือกัน ยักษ ปกเงิน ก็มีสีห นาโหดเหี้ ยมฉายแวว
สวางวาบ จูๆ รอบกายพลันแผกลิ่นอายที่ยิ่งใหญออกมา จากนั้นรางกายพลันโคงงอ
ฝามือโจมตีไปยังดานลางอยางรุนแรง
เสียง ‘ปง’ ดังขึ้น มือที่มีเล็บแหลมคมกางนิ้วทั้งหาออกขณะกดลงไปบนพื้นดิน
หานลี่และสตรีผูดงามพลันตกตะลึง ยังไมทันไดเขาใจวาอีกฝายมีเจตนาอะไร
เสียงที่ดังสนั่นก็ดังขึ้นทั่วทั้งจัตุรัส ชั่วขณะนั้นเขตอาคมยักษบนพื้นดินพลันเปลงแสง
หลากสีสันออกมา ซากศพแหงที่ถูกมัดเอาไวรอบดานบนเสาหินพลันสั่นคลอน
“แยแลว!” หานลี่หนาเปลี่ยนสี กระพือปกดานหลังทั้งสองขางอยางไมตองคิด
รางกายและสมบัติอาคมรอบตัวหายวับไปจากที่เดิม ที่เดิมเหลือเพียงแมลงกลืนทองที่
กลายเปนเมฆสีทองและอสูรวิญญาณครวญเทานั้น
ยักษปกเงินเห็นเชนนั้นพลันหัวเราะออกมาอยางบาคลั่ง หลังจากที่พนลำแสงสีดำ
กลุมหนึ่งออกมาจากราง ปกก็ขยับแลวหายไปจากที่เดิม
เสียง ‘ปง’ ดังสนั่นขึ้นที่มุมหนึ่งของเขตอาคม ลำแสงสีดำกลุมหนึ่งและลำแสงสี
เงินปรากฏขึ้นพรอมกัน เมื่อทั้งสองปะทะเขาดวยกันก็เกิดเปนลำแสงหมื่นสาย และ
แผกระจายพุงออกไปพรอมกัน เงารางคนมีปกสองคนปรากฏขึ้น นั่นก็คือหานลี่และ
ยักษปกเงิน
และในชวงเวลาที่เสียไปนั้น ซากศพแหงบนเสาหินรอบดานก็แผกลิ่นอายสีดำเปน
กลุมๆ ออกมา จากนั้นพลันกลายเปนลำแสงสีดำกลุมแลวกลุมเลาพุงขึ้นไปบนทองฟา
ชั่วพริบตามานลำแสงขนาดใหญสีดำสนิทชั้นหนึ่ง ก็ปกคลุมไปทั่วทั้งจัตุรัส
ทางหนีทีไลของหานลี่และพวกถูกตัดขาด คาดไมถึงวาจะติดอยูในมานลำแสง
สตรีชุดดำผูงดงามเห็นเขตอาคมประหลาดปรากฏขึ้นก็รูสึกมีลางสังหรณ ไมดี
เชนกัน จึงกลายเปนลำแสงหลีกหนีสายหนึ่งพุงออกไปดานนอก แตจากความเร็วของ
นางนั้นเมื่อพุงออกไปไดยี่สิบกวาจั้งมานลำแสงก็ปรากฏขึ้น ทำไดเพียงหยุดลำแสง
หลีกหนีลงอยางจนปญญา สีหนาพลันดำคล้ำสลับกับสดใสไมแนนอน
หานลี่มองยักษปกเงินทามกลางลำแสงสีดำ สีหนาทะมึนทึบ รูสึกหงุดหงิดอยูเล็กๆ
เพราะวาแขนขาทั้งสี่และลำคอของยักษปกเงินในตอนนี้ มีวงแหวนสีโลหิตหาวง
ปรากฏขึ้ น พร อ มกั น ด า นบนเปล ง แสงแวววาวออกมาไม ห ยุ ด เห็ น ได ชั ด ว า เป น
ยุทธภัณฑคุมขังอะไรสักอยาง
“เจาไมมีทางออกจากที่นี่ไดจริงๆ ดวย มิเชนนั้นจากความสามารถของเจาจะ
ยอมอยูที่นี่ไมยอมออกไปไหนไดอยางไร แตแคคิดไมถึงวา เขตอาคมนี้ไมตองใชศิลา
วิญญาณก็ถูกเจากระตุนใหทำงานได คงจะไมมีทางออกจากเขตอาคมนี้ไดสินะ!”
หานลี่พนลมหายใจออก ขณะเอยอยางเย็นชา
ตอนนี้ลำแสงของเขตอาคมคอยๆ หายไป แตเสาหินของมานลำแสงรอบๆ ดาน
กลับถูกไอสีดำหุมเอาไว ลำแสงที่พนออกมาทั้งหมดไมออนแอลงเลยแมแตนอย
“หึๆ! เขตอาคมกักมารนี้สรางขึ้นเพื่อใชกักขังขาโดยเฉพาะจริงๆ แตแคคนที่วาง
เขตอาคมนีใ้ นตอนแรกคิดไมถงึ วา ผานมาหลายปขนาดนี้ เขตอาคมนี้จะออนแอลงจน
ถูกขานำมาใช ถึงแมวาขาจะถูกกักขังไมใหออกไปจากที่แหงนี้ แตพวกเจาก็เขามาติด
กับเชนกัน” หลังจากที่ยักษปกเงินกระพื อป กทั้งสอง ก็เปลงเสียงหัวเราะอยางพึ ง
พอใจออกมา
แววตาของหานลี่ฉายประกายเย็นเยียบ อสูรวิญญาณครวญที่อยูดานลางพลันสง
เสียงเหอะขึ้นจมูก พนลำแสงสีเหลืองเจิดจากลุมหนึ่งออกมา พุงไปทางซากเทวัญที่อยู
กลางอากาศ ชั่วพริบตาก็มาอยูเบื้องหนาดวยความรวดเร็ว
เสียงหัวเราะของยักษปกเงินพลันหยุดชะงัก ปกทั้งสองพลันกระพือกอนที่รางจะ
สัมผัสกับลำแสง และหายลับไปจากที่เดิม
แตตอมา ตัวประหลาดนั้นกลับปรากฏตัวขึ้นบนตนไผสีเขียวอีกครั้ง
ทวาอสูรวิญญาณครวญพลันสะบัดหัว ลำแสงสีเหลืองยังคงไลตามไปอยางไมลดละ
ครานี้กลับไปกระตุนความดิบเถื่อนในดวงตาสีเงินของยักษปกเงินเขาใหแลว เขา
ถลึงตาทั้งสองขาง สองปกกระพืออยางฉับพลัน ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเงินจำนวนนับไม
ถวนพลันพุงออกมาจากปก ปะทะเขากับลำแสงสีเหลืองของอสูรวิญญาณครวญที่พุง
เขามาอยางพอดิบพอดี ลำแสงสีเหลืองที่แตเดิมนาจะตอกรกับเคล็ดวิชาภูตผีไดอยาง
ไมมีปญหาถูกลำแสงสีเงินเหลานี้ตานทานไว มิอาจคุกคามไดเลยแมแตนอย
ถึ ง แม ว า หานลี่ จ ะรู ว า ยั ก ษ ป ก เงิ น ไม ใ ช ซ ากหลอมธรรมดาๆ แต เ มื่ อ เห็ น
สถานการณเชนนี้ก็อดที่จะใจหายวาบไมได
ยักษปกเงินเห็นภาพฉากนั้น ความรูสึกหวาดกลัวที่มีอยูแตเดิมก็หายไปกวาครึ่ง
หลังจากหัวเราะอยางบาคลั่งแลวรางกายก็แวบหายไปทามกลางลำแสงสีดำกลุมหนึ่ง
แลวปรากฏขึ้นกลางอากาศเหนือหัวอสูรวิญญาณครวญอยางฉับพลัน จากนั้นก็อาปาก
ออก กำลังพนลำแสงสีดำอะไรสักอยางออกมาจากปาก
แตในตอนนั้นเอง จูๆ มันพลันไดยินเสียงหึ่งๆ ดังขึ้นเหนือหัว จึงเงยหนาขึ้นดวย
ความตกใจ และพนลำแสงสีดำสนิทราวกับน้ำหมึกออกมา โจมตีไปยังเมฆสีทองขนาด
สองสามจั้งที่กำลังลดระดับลงมาโจมตี นั่นก็คือพวกแมลงกลืนทองของหานลี่
หลังจากที่ห านลี่ขับ เคลื่อนอัสนี ห ลีกหนี ออกไป ฝูงแมลงเหลานั้ น กลับ คางอยู
กลางอากาศไม ขยับ เขยื้อ น ตอนนี้ ซ ากเทวัญ มาปรากฏตั วรอบๆ พวกมั น ภายใต
ความคิดของหานลี่ แนนอนวาจึงโจมตีไปอยางไมเกรงใจ
แตลำแสงสีดำนั่นก็เปนถึงไอซากศพที่ ยักษ ปกเงิน ฝกฝนมาตั้งไมรูกี่ห มื่น ป ไม
เพียงจะเปนสิ่งที่สกปรกโสมมอยางสุดๆ ยิ่งไปกวานั้นยังแฝงพิ ษซากศพที่รายกาจ
เอาไว อีกดวย
ถึงแมวาแมลงกลืนทองจะมีรางกายแข็งแกรงดุจเหล็กกลาและไมหวั่นกลัวพิษ
ตางๆ แตภ ายใตไอซากศพที่ โถมเขามา ตางก็ ท ยอยกัน รวงลงมาราวกั บ ห าฝน ชั่ ว
พริบตาฝูงแมลงก็ลดลงไปหนึ่งในสามสวน
ภายใตความตกตะลึงของฝูงแมลงกลืนทอง ทั้งหมดตางแตกกระเจิง ไมรวมตัว
เข าด วยกั น อี ก แต ชั่ วพริบ ตาที่ ช วยสนั บ สนุ น นั้ น อสู รวิ ญ ญาณครวญก็ มี ป ฏิ กิ ริย า
ตอบสนองกลับมา หลังจากสงเสียงเหอะแลวลำแสงสีเหลืองกลุมหนึ่งก็พุงออกมาอีก
ครั้ง
ยักษปกเงินกลับกระพือปกดวยสีหนาราบเรียบ รางกายปรากฏขึ้น ไกลออกไป
สิบกวาจั้ง
ลำแสงสีเหลืองจึงพบกับความวางเปลา
และในตอนนั้นเอง จุดเดิมที่ยักษปกเงินยืนอยู ก็มีลำแสงสีเงินสวางวาบ หานลี่
ปรากฏตัวขึ้นทามกลางเสียงฟาผา
เขาสะบัดแขนเสื้อโดยไมพูดอะไร กระบี่บินทั้งหมดกลายเปนลำแสงสีทองผืน
ใหญพุงไปหายักษปกเงิน ในเวลาเดียวกันกระจกสีมวงเหนือศีรษะ ก็เปลงแสงสวาง
วาบ พ นลำแสงสีมวงสายหนึ่งออกมาไลตามแสงกระบี่ ไป หานลี่ดีดนิ้วในแขนเสื้อ
อยางเงียบเชียบ ลำแสงสีแดงสายหนึ่งสวางวาบแลวหายลับไป
จากนั้นเขาถึงไดเหลือบตามองพื้นดวยใบหนาไรความรูสึก เห็นเพียงแมลงกลืน
ทองที่ แ ต เดิ ม รวงหล น ลงพื้ น สยายป ก ออก ส งเสี ย งหึ่ งๆ พลางบิ น วนขึ้ น มากลาง
อากาศอีกครั้ง แตแคดูออนแรง และดูเหมือนวาจะออนแอลงเล็กนอย
หานลี่ถึงไดผอนคลายลง
เวลานั้น สตรีชุดดำผูงดงามซึ่งอยูไมไกลนัก ก็ถือโอกาสนี้ชี้ไปยังหยกผีเสื้อสีขาว
สองกอนนั้น
หยกผีเสื้อสองกอนพลันขยายใหญขึ้นทามกลางกลุมแสงสีขาว กลายเปนมีขนาด
เทาคนคนหนึ่ง จากนั้นพลันกระพรือปกสองสามครั้ง พายุสลาตันสีขาวโพลนสองกลุม
พลันกอตัวขึ้นเบื้องหนาของสตรีผูงดงาม
จากนั้นทามกลางเสียงบริกรรมคาถาของสตรีผูงดงาม พายุสลาตันพลันกลายเปน
อสรพิษลมสีขาวสองตัว กระโจนเขาไปหายักษปกเงินอยางรุนแรง
เห็นการลอบโจมตีพุงเขามาในเวลาเดียวกันมากมายขนาดนี้ ยักษปกเงินกลับเบะ
ปากหัวเราะอยางชั่วราย ชูมือทั้งสองขึ้น มือขางหนึ่งมีกระจกลวงจันทรปศาจชิ้นนั้น
ปรากฏขึ้น อีกมือหนึ่งมีเสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น ดวงแสงขนาดเทากำปนดวงหนึ่งพลัน
ปรากฏขึ้น
ดวงแสงนี้เปนสีเทาคลุมเครือ พลางกะพริบแสงสีทมิฬลึกลับสวางวาบ
ตัวประหลาดนั้นมองไปยังแสงกระบี่สีทองที่โจมตีเขามากอนดวยความเย็นชา
แลวพลันประกบมือทั้งสองเขาดวยกันอยางไมลังเลแมแตนอย คาดไมถึงวาดวงแสงจะ
จมหายเขาไปในกระจกบานนั้นอยางไรรองรอย ทันใดนั้นลำแสงสีดำพลันสวางวาบ
ดวงแสงจำนวนนับไมถวนเหมือนกับกอนหนาทุกระเบียบนิ้วทะลักออกมาจากดานใน
แลวรวมตัวเขาดวยกันอยางรวดเร็ว
ชั่วพริบตา ดวงแสงยักษเสนผาศูนยกลางสองสามจั้งพลันปรากฏขึ้น หอหุมยักษปก
เงินเอาไวอยางไมเกรงใจ
ลำแสงสีทองที่แสบตาสวางวาบ แสงกระบี่ฟนลงไปบนดวงแสงอยางรุนแรง
หลังจากเสียง ‘ปง’ ดังขึ้น ดวงแสงยักษพลันแตกออกราวกับฟองอากาศอยางไร
อยางนั้น แตหลังจากแตกออกแลว ก็กลายเปนดวงแสงเล็กๆ จำนวนมาก
แตลำแสงสีทองกลับสวางวาบแลวเคลื่อนผานรางของยักษปกเงินไป หลังจาก
ลำแสงสีทองกะพริบวาบ กระบี่บินยี่สิบสามสิบเลมก็พัวพันเขาดวยกันเปลงประกาย
สวางวาบ ซากเทวัญตนนั้นถูกสับละเอียดเปนชิ้นๆ จากนั้นแสงกระบี่ก็พุงออกมาจาก
ดวงแสงเล็กๆ เหลานั้น
เมื่อเห็นเหตุการณนี้ หานลี่ไมไดดีใจแตกลับตื่นตระหนก เขาไมเชื่อวา อาศัยแค
กระบี่บินจะสังหารตัวประหลาดตนนั้นได
ภาพฉากที่นาเหลือเชื่อปรากฏขึ้นทันทีดังคาด
ดวงแสงเล็กๆ เหลานั้นพลันรวมตัวกันที่จุดศูนยกลางในเวลาเดียวกัน ผสมเขากับ
ดวงแสงยักษอีกครั้ง ซากที่กระจัดกระจายพลันลางเลือน ยักษปกเงินปรากฏตัวขึ้น
ทามกลางดวงแสงยักษอีกครั้งอยางไรซึ่งอาการบาดเจ็บ ราวกับวาไมเคยมีเรื่องเชนนี้
เกิดขึ้นอยางไรอยางนั้น
หานลี่ขมวดคิ้ว
ตอนนั้น ลำแสงสีมวงที่ดานหลังและอสรพิษพายุสองตัวของสตรีชุดดำผูงดงาม ก็
โจมตีออกไปอยางบาคลั่ง
ภาพฉากที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้นเชนกัน
ดวงแสงยักษปริแตกออกอีกครั้ง ยักษปกเงินถูกมังกรพายุและลำแสงฉีกจนเปน
ชิ้ น ๆ อี ก ครั้ ง แต ห ลั ง จากที่ ด วงแสงกลั บ มาอยู ที่ เดิ ม ซากเทวั ญ นั้ น ก็ ป รากฏขึ้ น
ทามกลางดวงแสงอีกครั้งอยางไรซึ่งอาการบาดเจ็บ ราวกับเปนอมตะอยางไรอยางนั้น
ยักษปกเงินมองมาทางทั้งสองคนดวยรอยยิ้มเยาะ และไมไดกระทำการอื่น แต
กระจกสีดำในมือของเขากลับมีดวงแสงพุงออกมาในบางครั้ง ทำใหขนาดของดวงแสง
ยักษกวางถึงสิบกวาจั้ง และยังขยายใหญขึ้นอยางรวดเร็ว
หานลี่มีสีหนาเครงขรึมปรากฏขึ้น ถึงแมจะไมรูวา สถานการณที่ถูกลำแสงสีเงิน
หอหุมเอาไวเปนอยางไร แตจะตองไมใชเรื่องดีอยางแนนอน
สตรีชุดดำผูงดงามก็กำลังตกตะลึงอยูในเวลาเดียวกัน แตสองมือกลับรายอาคม
อยางไมตองขบคิด ควบคุมมังกรพายุสองตัวใหทำการโจมตีระลอกที่สอง
ชั่วขณะนั้นหลังจากที่มังกรพายุสองตัวหมุนวน ก็กระโจนเขาหาดวงแสงอีกครั้ง
และถูกทำใหแตกกระจายออกอยางงายดาย ยักษปกเงินเองก็ถูกสังหารทิ้งราวกับเงา
ลวงตาลงอีกครั้งอยางงายดาย แตครานี้มังกรพายุกลับไมไดออกจากดวงแสง แตอา
ปากออก พ น มี ดพายุสีขาวโพลนจำนวนนั บ ไม ถวนออกมาจากปาก ตรงไปทั่ วทุ ก
ทิศทาง ชั่วขณะนั้นไมรอใหดวงแสงเล็กๆ เหลานี้ผนึกรวมตัวกันอีกครั้ง ก็ถูกโจมตี
แตกกระจายออกไปอีกครั้ง ตอนนั้น ใจกลางของดวงแสงเดิม พลันมีพายุโหมกระหน่ำ
เสียงกรีดรองแหลมสูงดังขึ้น
หานลี่ไมไดกระตุนกระบี่บินทั้งหมดที่โคจรอยูรอบๆ ใหเขารวมการโจมตี แตดวงตา
กลับหรี่ลงจับตาดูทุกอยางโดยไมเอยคำพูดใดๆ รูมานตาเปลงแสงสีฟาสวางวาบ
ตอนที่ 988 วิธีการโจมตีที่เด็ดขาด
“ไมถูก รีบหยุดเร็วเขา มังกรพายุของเจาเล็กลงไมนอยแลว” จูๆ หานลี่พลันหนา
เปลี่ยนสี หันหนาไปตะโกนใสสตรีชุดดำผูงดงาม
ความจริ ง แล ว ไม ต อ งเตื อ น สตรี ผู ง ดงามก็ สั ม ผั ส ได ถึ ง ความผิ ด ปกติ อ ยู ลึ ก ๆ
หลังจากไดยินเสียงของหานลี่ ชั่วขณะนั้นพลันตกตะลึงสองมือพลันรายอาคม มีดพายุ
ที่อยูตรงปากมังกรพายุหยุดลง ชั่วครูก็คำรามและพุงออกมาจากดวงแสง หลังจาก
หมุนวนหนึ่งรอบก็ลอยคางอยูกลางอากาศ
ขนาดของมังกรพายุสองตัวนั้นเล็กลงกวาครึ่งดังคาด และดวงแสงที่ถูกโจมตีจน
แตกละเอียดเปนเมล็ดถั่วเหลืองนั้น ชั่วพริบตาที่มังกรพายุบินออกไปก็ผนึกรวมตัวกัน
อีกครั้ง
เวลานี้ดวงแสงยักษมีขนาดประมาณสามสิบกวาจั้งแลว แทบจะกินพื้นที่ในมาน
ลำแสงไปหนึ่งในสามสวน
และทามกลางดวงแสงนั้น มีเสียงหั วเราะอยางเย็น ชาดังขึ้น ยักษ ป กเงิน ที่ ถือ
กระจกลวงจันทรปศาจพลันปรากฏตัวขึ้น ใบหนาประดับไปดวยรอยยิ้มเย็นชา
เมื่อมองมาถึงตรงนี้ หานลี่พลันถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
สถานการณเชนนี้ เขาเคยประสบมาแลวตอนปะทะกับผูสืบทอดหกวิถีตอนที่อยู
ในมหาสมุทรดาวคลั่ง
ตอนนั้นเวินเทียนเหรินสำแดงสมบัติอาคมพิเศษชนิดหนึ่งออกมา สามารถหลบ
อยูในเมฆสีมวง ทำใหบรรยากาศบิดเบี้ยว กระบี่บินของเขาไมอาจทำอะไรอีกฝายได
สุดท ายเขาก็อาศัยความเผด็จการของประหารมารทมิ ฬ ถึงได ฝน ทลายเขตอาคม
ตองหามนั้นได และฟนแขนของอีกฝายทิ้งไปขางหนึ่ง
ดู แ ล ว ที่ ยั ก ษ ป ก เงิ น ใช ใ นครั้ ง นี้ เดาว า ก็ ค งไม ต า งอะไรกั น นั ก แต ร ะดั บ
ความสามารถจะตองไมใชสิ่งที่ผูสืบทอดหกวิถีจะเทียบเทียมไดแน
แตประหารมารทมิฬนั้น เปนเพราะหานลี่ยุงอยูกับการฝกบำเพ็ญเพียร จึงไมไดผนึก
หลอมเอาไว ทวาถามีวิธีการที่เด็ดขาดเชนเดียวกัน ก็นาจะทำลายเคล็ดวิชานี้ลงได
นาเสียดายที่กระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆาของเขาไมสามารถสรางเขตอาคมมหากระบี่
ทองคำได มิเชนนั้นยักษปกเงินที่กำลังสำแดงพลังอยูจนไมอาจขยับไดเชนนี้ หากถูก
กักอยูในเขตอาคมกระบี่ ตอใหดวงแสงแปลกประหลาดขนาดไหน ก็ตองตายโดยไม
ตองสงสัย
หลังจากที่หานลี่ตัดสินใจ ชั่วพริบตาก็มีความคิดหนึ่งปรากฏขึ้น
ทันทีที่เขาสูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง มือหนึ่งก็ตบไปที่ยามเก็บของ อีกมือ
หนึ่ งพลัน พลิก ฝ ามื อ ยัน ต วิเศษสีแ ดงชาดแผน หนึ่ งปรากฏขึ้ น ตรงกลางฝามื อ ตั ว
อักษรบนยันตแผนนั้นไหลโคจรไปมาไมหยุดราวกับเปลวเพลิง และมีอสรพิษสีแดงตัว
เล็กตัวหนึ่งอยูรางๆ คาดไมถึงวาจะเปนยันตลดวิญญาณ
ยันตวิเศษแผนนี้คือยันตที่หานลี่ใชจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของมังกรวารีเพลิงสีชาด
ระดับแปดตัวนั้นหลอมขึ้นมาในชวงที่หลอมพัดตรีเปลวเพลิง ดวยเหตุนี้จึงมาสายไป
สองสามวัน จนเกือบจะพลาดวันรวมตัวกันกับชายชราแซฟูและพวกที่หุบเขาหมื่นพิษ
และหลังจากที่มีประสบการณหลอมแลวครั้งหนึ่ง คุณสมบัติในครั้งนี้จึงแข็งแกรง
กวาครั้งกอนเปนอยางมาก ทำใหเพิ่มลมปราณไดมากกวายันตลดวิญญาณครั้งกอน
ฝามือของหานลี่ตบลงไปบนรางโดยไมลังเลแมแตนอย ยันตวิเศษสีแดงเพลิงสวาง
วาบแลวหายเขาไปในรางกายอยางไรรองรอย
เงาอสรพิษลวงตาตัวหนึ่งปรากฏขึ้นที่แผนหลัง ชั่วขณะนั้นพลันเขาสิงรางหานลี่
หานลี่อยูทามกลางลำแสงสีแดงกลุมหนึ่ง ศีรษะมีเขางอกออกมา รางกายสวน
หนึ่งมีเกล็ดสีแดงเพลิงปรากฏขึ้น ชั่วครูก็กลายเปนครึ่งคนครึ่งมังกรวารี ลมปราณทั่ว
สรรพางคกายเพิ่มขึ้นไปอยูในจุดยอดสุดของระดับกอกำเนิดขั้นกลาง
“สหายหาน!”
“เอ!”
ไมวาจะสตรีชุดดำผูงดงามหรือวายักษปกเงิน เมื่อเห็นหานลี่แปลงกาย ตางก็อดที่
จะรองอุทานออกมาไมได เห็นไดชัดวาตางก็ไมเคยมีประสบการณกับยันตลดวิญญาณ
มากอน!
หลังจากที่ ยักษ ป กเงินสัมผัสได วาพลังยุ ท ธของหานลี่ เพิ่ ม ขึ้น อยางบ าคลั่ง ชั่ ว
ขณะนั้นก็หุบรอยยิ้มเยาะที่มุมปาก
ในตอนนั้น สองมือของหานลี่พลันผนึกเขาหากัน กระบี่บินสีทองยี่สิบสามสิบเลม
ที่แตเดิมวนเวียนอยูดานนอกดวงแสงพลันโผขึ้นไปบนทองฟาพรอมกัน หลังจากหมุน
วนรอบหนึ่งก็เปลงเสียงรองที่ไพเราะเสนาะหูออกมา จากนั้นพลันสั่นคลอน แบงตัว
จากหนึ่งเลมเปนหกเลม
กระบี่ลำแสงสีทองเกือบสองรอยเลมพลันทะลักออกมา จากนั้นพลันรวมตัวกัน
อยูที่จุดจุดหนึ่ง
ชั่วพริบตา ลำแสงสีทองกลุมหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ เจิดจาจนแสบตา
ราวกับอาทิตยยามเที่ยงวัน
เมื่อหมนแสงลง กระบี่ยักษสิบกวาจั้งเลมหนึ่ง ก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศเหนือดวง
แสงเป น สี ท องเรื อ งรอง ตั ว กระบี่ มี พ ลั งอำนาจคุ ก คาม ถึ งแม ว ายั ก ษ ป ก เงิน ที่ อ ยู
ดานลางก็ยังหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
เมื่อเห็นกระบี่ยักษรวมตัวกัน หานลี่ก็ชี้ไปยังไขมุกผลึกหิมะที่หนาอกทันที
ไขมุกเม็ดนั้นสงเสียง ‘ฟ ว’ ออกมา กลายเป น ลำแสงสีมวงสายหนึ่ งพุ งไปทาง
กระบี่ยักษ
แทบจะในเวลาเดียวกัน ความคิดของเขาก็เคลื่อนคลอย รายอาคมใสกระบี่ยักษ
เสียง ‘เปรี้ยง’ พลันดังกัมปนาทขึ้น!
จูๆ กระบี่ยักษพลันมีประจุไฟฟาหนาเทาแขนปรากฏขึ้น ประจุไฟฟาจำนวนนับ
ไมถวนหอหุมกระบี่ทั้งเลมเอาไวขางใน เวลานั้นลำแสงสีทองพลันรัดแนนทั่วตัวกระบี่
เสียงฟาผาดังขึ้นไมหยุด
และในเวลาเดียวกันกับที่หานลี่กระตุนอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย ไขมุกผลึกหิมะ
ก็พุงมาที่ดามจับของกระบี่ยักษ หลังจากแสงสีมวงสวางวาบ ไขมุกก็จมหายเขาไป
อยางไรรองรอย ทันใดนั้นเปลวเพลิงสีมวงที่แปลกประหลาดชั้นหนึ่งก็เริ่มแพรกระจาย
จากดามกระบี่ขึ้นไป พัวพันเขาดวยกันกับประจุไฟฟาสีทองบนกระบี่ยักษจนเกิดแสง
วิบวับ ราวกับยุทธภัณฑของเทพเซียนอยางไรอยางนั้น
ยักษปกเงินเห็นเชนนั้น ใบหนาพลันดูไมได ขนบนใบหนาเริ่มเปลี่ยนซีดขาว
เวลานั้นดวงแสงยักษพลันครองพื้นที่กวาครึ่งของมานลำแสงเอาไว หานลี่และ
สตรีผูงดงามชุดดำตางจำใจตองถอยรนไป ทวาเมื่อเห็นกระบี่ยักษกลางอากาศ สีหนา
ของสตรีผูงดงามชุดดำนั้นตกตะลึงมากกวายักษปกเงินเสียอีก ในหัวมีความคิดตางๆ
แลนผานไปไมหยุด
การโจมตีท่ีนากลัวเชนนี้ คิดดูแลวผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขั้นปลายก็ไม
กลารับการโจมตีนี้ตรงๆ แน
“ทลาย” ในขณะที่สตรีผูงดงามกำลังตื่นตระหนก หานลี่ก็พนคำพูดที่เย็นชาออกมา
กระบี่ยักษนั้นนำพาเสียงฟ าผาดังเสียดแกวหู มาดวย ในเวลาเดียวกัน ก็ปลอย
กระบี่ลำแสงสีทองยาวสองสามจั้งออกมา
กระบี่ เล ม นี้ ยั ง ไม ทั น ได สั ม ผั ส กั บ ดวงแสง พลั ง กดดั น บนตั ว กระบี่ ก็ ท ำให มั น
สั่นคลอนไมหยุด
ลำแสงสีทองสวางวาบ กระบี่ยักษพลันสับลงมา ดวงแสงถูกไอวิญญาณบีบจน
แตกกระจายออก
หลั งจากรอให ล ำแสงสลายหายไป ดวงแสงกลั บ ไรซึ่ งเงารางคน ยั ก ษ ป ก เงิน
ปรากฏขึ้นในจุดที่อยูไกลออกไป จองเขม็งมายังกระบี่ยักษดวยสีหนาดุราย
ภายใตแรงกดดันของกระบี่ยักษ ในที่สุดตัวประหลาดตัวนี้ก็ไมกลารับการโจมตี
ของหานลี่ตรงๆ เมื่อกระบี่ยักษเขามาใกล ก็กระพือปกสีเงินหนีออกมา
ทวากระจกลวงจันทรปศาจเองกลับหยุดพนลำแสง ลมปราณถูกกำจัดทิ้ง ดังนั้น
หลังจากที่ดวงแสงยักษถูกทำลายไป ก็ไมอาจฟนฟูกลับมาเปนสภาพเดิมไดอีก
แววตาของยักษปกเงินเปลงประกายสวางวาบ ตอนที่กำลังขบคิดวาจะสำแดง
ความสามารถอะไรออกมานั้น จูๆ ดานหลังก็มีเสียงแหวกอากาศที่แหลมสูงดังขึ้น
จากนั้นเสนไหมสีแดงสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นดานหลังเขาหางออกไปสองสามจั้ง กะพริบ
วาบหมายจะทะลุผานทายทอยของเขา
ความสามารถของยักษปกเงินถือวาเปนคูแขงที่สมน้ำสมเนื้อกับระดับกอกำเนิด
ขั้นปลาย จิตสัมผัสจึงไมไดแยนัก ถึงแมวาเสนไหมสีแดงจะปรากฏขึ้นอยางฉับพลัน
แตมันก็รีบตวัดปกกลับไปตานทานอยูเบื้องหลังไดทัน โดยที่ไมแมแตจะหันกลับมา
เสียง ‘ตูม’ พลันดังขึ้น สิ่งที่อยูนอกเหนือความคาดหมายของตัวประหลาดก็คือ
เสนไหมสีแดงที่โจมตีไปบนปกสีเงินคาดไมถึงวาจะกลายเปนลูกไฟยักษและระเบิด
ออก ทำใหยักษปกเงินใจหายวาบ!
แตทันใดนั้นเขาก็พบวาลูกไฟนี้เปนเพียงภาพลวงตา ไมอาจทำอะไรเขาได ทันใด
นั้นพลันรูสึกผอนคลายลง! แตหลังจากที่แสงเพลิงพลันดับลง ดานในกลับวางเปลา
เสนไหมสีแดงหายลับไปอยางไรรองรอย
หลังจากที่ยักษปกเงินกำลังตกใจ คิดจะใชจิตสัมผัสคนหานั้น เบื้องหนากลับมี
เสียงฟาผาดังขึ้น กระบี่ยักษหมุนวนเปนเกลียวขึ้นไปกลางอากาศ และพุงลงมาอีกครั้ง
สตรีผูงดงามชุดดำรายอาคมกระตุนอยูไกลๆ มังกรพายุสองตัวบินมาอยูเหนือซาก
เทวัญตอนไหนก็ไมรู หลังจากหมุนโคจรหนึ่งรอบ ก็สะบัดหัวสะบัดหางอาปากออก
มีดพายุจำนวนนับไมถวนพุงลงมาอยางหนาแนน
ครานี้ ยักษปกเงินในเวลานี้ไมอาจขบคิดเรื่องอื่นได
พลันสะบัดมือ กระจกลวงจันทรปศาจยังคงอยูเบื้องหนาไมไหวติง จากนั้นสองมือ
ก็ควาไปกลางอากาสที่วางเปลาทางกระบี่ยักษดวยสีหนาเครงขรึม ชั่วขณะนั้นเสนไหม
วิญญาณพิฆาตสองเสนกลางอากาศพลันกลายเปนมือยักษ ขนาดประมาณสองสามจั้ง
โบกมือตานกระบี่ยักษเอาไวดวยทาทีที่ไมออนแอเลยแมแตนอย
เวลานี้มันไมอาจดีดตัวหลบไดเหมือนเมื่อครู จึงตองตรวจสอบอานุภาพของกระบี่
ยักษเลมนี้กอนแลวคอยวากัน
และในเวลาเดียวกัน ป กสีเงินของตัวประหลาดตัวนี้ ก็ขยายใหญ ขึ้น หลายเท า
กลายเปนมานสีเงินผืนหนึ่งตานทานเหนือศีรษะเอาไว
หลังจากเสียง ‘ตูม’ ดังขึ้น การโจมตีของมีดพายุบนมานสีเงินก็ถูกดีดออกไปอีก
ทางอยางงายดาย
เมื่อมือยักษและกระบี่ยักษสัมผัสกัน ก็เกิดเสียง ‘ตูมๆ’ ดังขึ้น กระบี่เลมนั้นอาศัย
อานุภาพที่ทำผูคนตกตะลึงตวัดสับลงมาจนมือยักษขางหนึ่งสลายหายไป แตกระบี่
ลำแสงเองก็ออนแอลงกวาครึ่ง
เมื่อสับลงมาครั้งที่สอง ทั้งสองกลับกระเด็นออกไปอยางควบคุมไมอยู ทาทาง
เหมือนไมออนขอใหกัน
และในเวลาเดียวกันกับที่กระบี่ยักษสับลงมายังมือขางที่สองก็มีเสียงดังสนั่นขึ้น
เสนไหมสีแดงที่สลายหายไปคาดไมถึงวาจะปรากฏตัวขึ้นอยางแปลกประหลาด อยู
ตรงตำแหนงทรวงอกของยักษปกเงินอยางพอดิบพอดี
เมื่อสับลงมาครั้งที่สอง ทั้งสองกลับกระเด็นออกไปอยางควบคุมไมอยู ทาทาง
เหมือนไมออนขอใหกัน
“แยแลว!” ยักษปกเงินใจหายวาบ มือหนึ่งที่มีขนปกคลุมตะปบไปเบื้องหนาอยาง
รีบรอน แตกลับสายไปแลว
เสนไหมสีแดงพลันกะพริบวาบ เสียง ‘ฟว’ ดังขึ้น พลันพุงทะลุผานกระจกลวง
จันทรปศาจไป แตทันใดนั้นก็ถูกมือที่มีขนขางหนึ่งควาเอาไว การเคลื่อนไหวรวดเร็ว
ดุจสายฟา
กระจกสีด ำเล็ก ๆ บานนั้ น หลั งจากส งเสี ยง ‘เปรี๊ยะ’ ออกมา ทั น ใดนั้ น พลั น
กลายเปนลำแสงสีดำกลุมหนึ่งแลวก็ระเบิดออก
“เจากลาทำลายกระจกสมบัติของขา!” ยักษปกเงินเห็นกระจกลวงจันทรปศาจ
ถูกทำลาย รางกายก็สั่นเทิ้ ม ใบหน าเผยสีห น าโกรธเกรี้ยวอยางสุดๆ ออกมาทั นที
สมบัติกระจกชิ้นนี้ดูเหมือนวาจะมีความหมายลึกซึ้งกับเขา แมแตเข็มบินที่มือซึ่งเต็ม
ไปดวยขนควาจับเอาไวนั้นมีเปลวไฟลุกโชนอยูดานบนจนเปลี่ยนเปนสีแดงสดราวกับ
หัวแรง มันในตอนนี้กลับทำเปนมองไมเห็น
หานลี่รูสึกตื่นตระหนก!
จุดประสงคในการลอบโจมตีสมบัติกระจกชิ้นนี้ของเขานั้นงายมาก เปนเพราะมัน
สอดประสานกับเคล็ดวิชาลวงตาของตัวประหลาดนี้และทำใหรับมือไดยาก ถึงได
ตัดสินใจเชนนี้
ยามนี้เมื่อเผชิญหนากับความโกรธเกรี้ยวของยักษปกเงิน หานลี่พลันรูสึกแปลกใจ แต
การเคลื่อนไหวในมือกลับไมหยุดพักแมแตนอย ภายใตการรายอาคม กระบี่ยักษสีทอง
ที่แตเดิมหมนแสงลงไปจำนวนมาก พลันมีเสียง วูบ’ ดังขึ้น และแยกออกจากกัน
กระบี่ลำแสงเกือบสองรอยเลมกลายเปนตาขายกระบี่ขนาดยักษ สับลงมาพรอม
กัน ลงมืออยางไมปรานีแมแตนอย!
ถาหากอีกฝายกลาใชปกสีเงินตานทานละก็ เขาก็ไมรังเกียจที่จะใชกระบี่บินที่
ผสมแกนทองคำสับอีกฝายใหเปนชิ้นๆ ในพริบตา และหลังจากที่ไขมุกผลึกหิมะเม็ดนี้
หมุนติ้วๆ วิหคเพลิงขนาดเทากำปนสองสามตัวก็บินออกมาจากไขมุก จากนั้นพลัน
รอนลงอยางสงางาม
แตถึงแมวายักษปกเงินจะโกรธแคน แตกลับไมไดถูกหลอกจนเขามารับการโจมตี
ของหานลี่ พลันกระพือปกสีเงิน คนก็ปรากฏขึ้นอีกแหงหนึ่ง จองเขม็งมายังหานลี่ดวย
ใบหนาโหดเหี้ยมดุราย ดวงตาสีเงินเริ่มแดงก่ำ
“เดิมทีไมอยากเสียปราณแทมากนัก แคคิดจะใชเคล็ดวิชาลวงตาจับเจาเทานั้น
แต ต อนนี้ ข าเปลี่ ย นใจแล ว ข าจะต อ งจั ด การเจ าด วยตั ว เอง กระชากจิ ต วิ ญ ญาณ
บริสุทธิ์ของเจาออกมา และกลืนกินอยางชาๆ” ยักษปกเงินเอยดวยใบหนาชั่วราย
หลังจากที่รางของมันแวบหายไปก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเหนือซากหมาปา กระทืบ
เทาลงไปบนหัวหมาปาโดยไมพูดอะไร ปกสีเงินคูนั้นกระพือสองสามครั้งและเปลงแสง
สีเหลืองชั้นหนึ่งออกมา
จากนั้ น แม แ ต ค นและหมาป าก็ จ มหายเข าไปใต ดิ น อย างเงีย บเชี ย บ ราวกั บ ผี
อยางไรอยางนั้น!
“ลี้ธรณี!” หานลี่ขมวดคิ้วในทันที ชี้ไปยังกระบี่บินและสมบัติไขมุก สมบัติทั้งหมด
บินกลับมาพรอมกัน
และในตอนนั้ น ใต ดิ น กลั บ มี เสี ย งตึ งตั งดั งขึ้ น อย างต อ เนื่ อ ง เขตอาคมทั้ งเขต
สั่นคลอนอยางรุนแรง จากนั้นพลันมีลำแสงสีเหลืองและไอสีดำทะลักออกมาจากจุด
ตางๆ ของเขตอาคม ในสวนลึกของใตดินก็มีเสียงกรีดรองคำรามของยักษปกเงินดังขึ้น
ราวกับเจ็บปวดมากอยางไรอยางนั้น
ตอนนี้สตรีผูงดงามชุดดำมีสีหนาเครงขรึมสลับกับสดใสไมแนนอน มองหานลี่
แลวกมหนาลงมองเขตอาคมบนพื้น หลังจากขบคิดเล็กนอย ก็กัดฟน คนพุงไปที่รัง
ไหมสีเทารังหนึ่ง ระหวางทางนางชูมือขึ้น สมบัติอาคมรูปรางเหมือนกรรไกรอันหนึ่ง
พุงออกมาจากมือ
สมบัติชิ้นนี้มีลำแสงบริสุทธิ์เรืองรอง ดูเหมือนวาจะแหลมคมเปนพิเศษ!
ตอนที่ 989 ซอนตัวในพายุ
แคลงมือกรรไกรก็กลายเปนลำแสงสีสองสายหนึ่ง เห็นไดชัดวาสตรีชุดำผูงดงามคิดจะ
ใชสมบัติชิ้นนี้กรีดเสนไหมวิญญาณพิฆาต เพื่อชวยชายชราแซฟูกอนแลวคอยวากัน
หานลี่กลับขมวดคิ้ว!
ชวยคนนั้นได แตการบินออกไปเอง และยืดระยะหางออกจากเขานั้นไมใชเรื่องที่
ดีอะไร
ผลลัพธคือเงารางคนสีเขียวสายหนึ่งพลันพุงออกมา หลังจากสวางวาบก็ตานทาน
อยูเบื้องหนารังไหมยักษ มือเปลือยเปลาตะปบออกไป กรงเล็บลำแสงสองสามสายพุง
ออกมา ชั่วครูก็ทะยานออกไปโจมตีกรรไกรสีทอง
ตอนแรกหานลี่และสตรีชุดดำผูงดงาม ตางก็คิดวานั่นคือยักษปกเงิน แตรอจน
ลำแสงหมนลง เมื่อเห็นใบหนาของอีกฝายชัดเจนแลว พลันตกตะลึง
เงารางสีเขียวนั้นคาดไมถึงวาจะเปนรางมนุษยหัวหมาปา ดวงตาทั้งสองเปนสีแดง
ก่ำ นั่นคือหมาปายักษที่เคยพบกอนหนานี้ แตแคไมรูวาถูกสำแดงเคล็ดวิชาอะไร ไม
เพียงจะกลายเปนมนุษย ยิ่งไปกวานั้นรางกายยังหดเล็กลงหลายเทา ใบหนาโหดเหี้ยม
มองไปยังสตรีชุดดำผูงดงาม
แตสิ่งที่ทำใหหานลี่สนใจก็คือ มาทมิฬแตเดิมที่อยูบนศีรษะของหมาปากลับหายไป
อยางไรรองรอย หรือวาอสูรวิญญาณตัวนี้อาศัยอยูใตดิน หรือวาซอนตัวอยูที่อื่น
แนนอนวาในหัวของหานลี่ขบคิดเชนนี้ ลำแสงสีฟาสวางวาบขึ้นในแววตา กวาด
ตามองไปรอบๆ ตามจิตสำนึก
ผลลัพธคือหนาพลันเปลี่ยนสียกใหญทันที ตะโกนไปทางสตรีชุดดำผูงดงามดวย
ความรอนรน
“ระวังดานหลัง!”
จากนั้นเขาพลันดีดนิ้วทั้งสิบอยางไมตองคิด ไอกระบี่สีเขียวสิบกวาสายพุงตรงไป
หาสตรีชุดดำผูงดงาม
เมื่อไดยินเสียงตะโกนของหานลี่ ชั่วขณะนั้นสตรีผูงดงามที่มีประสบการณในการ
ตอสูเฟองฟูพลันใจหายวาบ
นางชี้ไปยังโลอันเล็กสีเขียวที่อยูเบื้องหนาอยางไมตองคิด โลพลันกะพริบหายไปอยู
ดานหลัง ในเวลาเดียวก็รวบรวมลมปราณทั่วราง กรงลอเหนือศีรษะเปลงแสงสวางจา
ลำแสงวิญญาณเจ็ดสีละลายหายเขาไปในลำแสงวิญญาณที่ปกปองราง และชั่วครูก็
ขยายใหญขึ้นหลายเทา
ในเวลาเดียวกันกับที่สตรีผูงดงามเตรียมการปองกันนั้น เงารางคนสีทองจางๆ
สายหนึ่งก็สวางวาบและปรากฏขึ้นเบื้องหลังของสตรีผูงดงาม
นั่นก็คือยักษปกเงิน!
รูปรางของซากเทวัญเปลี่ยนไปเปนอยางมาก ขนสีเขียวทั่วรางหายไป กลายเปน
เกล็ดสีทอง ปกสีเงินที่แผนหลังเปลงแสงสีเขียวและขาวสองสีออกมา ดวงตาสีเงิน
มีนัยตาสีทองจางๆ ปรากฏขึ้น แตสิ่งที่ทำใหผูคนตกตะลึงก็คือ ไอซากเทวัญของยักษ
ปกเงินนั้นหายไป สัมผัสไมไดถึงพลังชีวิตใดๆ เมื่อแผจิตสัมผัสออกไป ก็รูสึกราวกับวา
มันเปนแครางของวิญญาณอากาศเทานั้น
หลั ง จากที่ ตั ว ประหลาดปรากฏขึ้ น ก็ ชู มื อ หนึ่ ง ขึ้ น โดยไม ได เอ ย อะไรออกมา
รางกายไมขยับ แตแขนกลับขยายใหญขึ้นหลายเทา
กรงเล็บแหลมคมสีดำปลอยลำแสงสีทองยาวสองสามชุนออกมา และควาตะปบ
ไปยังโลอันเล็กสีเขียวที่ปรากฏขึ้นดานหลังสตรีผูงดงามอยางพอดิบพอดี
โลอันนั้นเพิ่งจะปรากฏก็ขยายใหญขึ้น พลางเปลงลำแสงวิญญาณออกมา ราวกับ
วามั่นคงและแข็งแกรงอยางไรอยางนั้น
แตภาพฉากที่เหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น!
ยักษปกเงินมองโลอันนั้นราวกับไมมีอยู ลำแสงสีทองสวางวาบขึ้นบนแขน คาดไม
ถึงวากรงเล็บที่แหลมคมจะทะลุผานออกไปอยางเงียบเชียบ แลวตะปบลงใสเกราะ
ลำแสงที่หอหุมรางของสตรีชุดดำผูงดงามเอาไว
เสียงปริแตกดังขึ้น กรงเล็บลำแสงชะงักไปเล็กนอย ฉีกลำแสงวิญญาณออกราว
กับกระดาษ
หลังจากเสียง ‘สวบ’ พลันดังขึ้น กรงเล็บลำแสงจมหายเขาไปในทรวงอกของ
สตรีผูนั้น หัวใจของนางพลันแหลกละเอียดเปนชิ้นๆ ทะลุผานไปอีกครั้งอยางงายดาย
หานลี่เห็นเชนนั้น จิตใจพลันหนักอึ้ง ถูกซากเทวัญที่มีพลังไรขีดจำกัดเขาใกลตัว
เชนนี้ เปนเรื่องที่ถึงแกชีวิตดังคาด
ไอกระบี่สีเขียวในเวลานี้พลันพุงออกจากจุดที่ไกลออกไป แตกลับถูกปกของยักษ
ป ก เงิ น โบกตวั ด พลั น แตกกระจายออกเป น แสงสี เขี ย วและขาวสองสี ทว า การ
ชวยเหลือของหานลี่นั้น ไมไดเสียเปลา ในที่สุดก็ดึงเวลาใหสตรีผูงดงามได
สตรีผูนี้ถือโอกาสที่ลำแสงสีแดงปรากฏขึ้นที่ตรงหนาผาก ทารกวิญญาณขนาด
สองสามชุนปรากฏขึ้นตรงนั้น
ทารกวิญญาณรางกายเปลือยเปลาคนนี้ มีใบหนางดงามเหมือนนาง แตสองมือ
กลับถือกระบี่บินขนาดสองสามชุนเอาไว แทบจะปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกัน มันตื่น
ตระหนกพรอมกับลำแสงสีแดงที่สวางวาบ ควบคุมกระบี่บินใหเคลื่อนตัวออกไปสิบ
กวาจั้ง
เพียงกะพริบวาบสองสามครั้งก็หนีไปไดแลว
ยักษปกเงินในครากลับหัวเราะอยางดุราย โยนซากศพไปอีกทาง ที่เดิมจึงวางเปลา
เงารางคนจางๆ ปรากฏขึ้นขางๆ ทารก อาปากออก พนเสนไหมสีเทาออกมา
หอหุมทารกวิญญาณที่ตองการจะหลีกหนีอีกครั้งอยางพอดิบพอดี
“สหายหาน ชวยดวย!”
ทารกวิญญาณของสตรีผูงดงามรองขอความชวยเหลือกับหานลี่อยางรอนรน และ
ยิ่งไปกวานั้นยังขับเคลื่อนกระบี่บินชนกับตาขายทั้งสี่ดาน แตถาหากกายเนื้อของเขา
นางยังอยู บางที อ าจจะมีโอกาสสับ ตาข ายเส น ไหมทิ้ ง แต เวลานี้ เหลื อ เพี ย งทารก
วิญญาณของนางเทานั้น ไมเพียงลมปราณที่เสียไป ยังพบกับเสนไหมวิญญาณพิฆาตที่
สามารถดูดซับลมปราณเบญจธาตุอีกดวย แนนอนวาจึงถูกเสนไหมดีดกลับไป
ยักษปกเงินเองก็ไมปลอยโอกาสใหสตรีผูนั้น ทันทีที่ตาขายเสนไหมเพิ่งพุงออกมา
มื อ ข า งหนึ่ ง ก็ ต ะปบลงมากลางอากาศ มื อ ยั ก ษ สี เทาพลั น ปรากฏขึ้ น คว า ทารก
วิญญาณและตาขายเอาไวในมือ
หลังจากนั้นลำแสงสีเทาพลันสวางวาบ รังไหมสีเทาขนาดสองสามฉื่อปรากฏขึ้น
กลางอากาศอยางกะทันหัน
เวลานี้รางของยักษปกเงินถึงไดชัดเจนขึ้น จากนั้นแสงสีเทาก็กะพริบคราหนึ่ง
หลังจากเหลือบตามองหานลี่แวบหนึ่งแลว ก็เปลงเสียงหัวเราะอยางเย็นชาออกมา
“เหอะๆ ขายังคิดวาเจาใชอัสนีหลีกหนีชวยคนไดเสียอีก คิดไมถึงวาจะทำไดเพียง
ปกปองตัวเอง!”
“ไปชวยคน? หากชวยได ขาก็จะชวย แตเมื่ อครูไปแล วเกรงวาจะเป น การนำ
ตนเองไปติดกับก็เทานั้น เหนือหัวเจายังมีตาขายยักษอยูอีกผืนหนึ่ง ตอนนี้ก็สามารถ
เก็ บ กลั บ มาได แ ล ว” หานลี่ มี สี ห น าไม เปลี่ ย นแปลง กลั บ เอ ย ออกมาเรีย บๆ หนึ่ ง
ประโยค
“เจาดูออกแลว? ดูแลวเจาคงมองทะลุผานภาพลวงตาของขาได คงไมใชโชคชวย
จริงๆ” ใบหนาของยักษปกเงินฉายแววตกตะลึง
เวลานี้ เหนือหัวของเขาสูงขึ้นไปสิบกวาจั้ง มีตาขายสีเทาปรากฏขึ้น โดยไมรูวา
ตัวประหลาดตนนี้ใชวิธีการใด คาดไมถึงวาจะซอนรองรอยของตาขายยักษผืนใหญได
อยางแนบเนียน
ถาหากไมใชเพราะเนตรวิญญาณวารีกระจางของหานลี่อยูในระดับที่เหมาะสม ก็
คงไมมีทางดูกับดักนี้ออกจริงๆ
ทวาถึงแมจะไมมีตาขายนี้ หานลี่ก็คงไมทำงายๆ
การแปลงรางของยักษปกเงินครั้งนี้ ชางแปลกประหลาดๆ จริง ไมเพียงสามารถ
เก็บซอนไอซากศพรอบกายไดอยางมิดชิด เคล็ดวิชาหลีกหนียังยอดเยี่ยมกวาเมื่อครู
มาก แทบจะหลบซอนอยูในพายุได
ถาหากไมใชเพราะเขาใชเนตรวิญญาณ เกรงวาอีกฝายมาอยูดานหนาก็ยังไมพบ
รองรอยของเขา และยิ่งไปกวานั้นการโจมตีของยักษปกเงินเมื่อครู คาดไมถึงวาจะ
สามารถทะลุผานสมบัติปองกันตัวของสตรีชุดดำผูงดงามอยางงายดาย นี่จึงทำใหใจ
หายวาบ และรูสึกประหลาดใจ
ยักษปกเงินเห็นหานลี่ไมตกหลุมพราง ก็สงเสียงเหอะออกมาดวยความเย็นชา
แลวชูมือขึ้นกวักเรียกซากมนุษยครึ่งหมาปา
ซากหมาปาเห็นเชนนั้นก็บินเขามาทันที ชั่วพริบตามาหยุดอยูที่ดานขางซากเทวัญ
จากนั้นซากหมาปาพลันเอียงศีรษะ จองเขม็งมาทางหานลี่ดวยความโหดเหี้ยม
แตในตอนนั้นเอง จูๆ ดานลางของหานลี่กลับมีเสียงรองคำรามดังขึ้น คาดไมถึง
วาอสูรวิญญาณครวญจะทุบอกแสดงอำนาจออกมา
การตอสูเมื่อครู นอกจากตอนแรกเริ่มแลว มันก็ถูกหานลี่ใชความคิดหยุดการ
เคลื่อนไหวเอาไว นี่จึงทำใหอสูรตัวนี้มองเห็นยักษปกเงินบินอยูเหนือหัวแตกลับไมมี
ทางลงมือได ในใจจึงรูสึกกลัดกลุมไมนอย เวลานี้มองเห็นซากหมาปาเขามาก็แยก
เขี้ยวยิงฟนใสมันอยางไมเกรงใจ
เมื่อซากหมาปาไดยิน ชั่วขณะนั้นพลันเผยสีหนาหวาดกลัวออกมา มองไปทาง
อสูรวิญญาณครวญดวยแววตาหวาดกลัว
ยักษปกเงินเห็นเชนนั้นพลันมีสีหนาเครงขรึม แตหลังจากที่ดวงตากลอกไปมา
สองสามรอบแลว จูๆ พลันอาปากออก พนไขมุกกลมๆ สีเทาเม็ดนั้นออกมา และควา
ไขมุกเม็ดนั้นเอาไว พลิกฝามือแลวโยนออกไป คาดไมถึงวาจะโยนไขมุกเม็ดนั้นเขาไป
ในปากของซากหมาปา
เมื่อซากหมาปารางคนกลืนกินไขมุกลงไป ทันใดนั้นก็หันหลังกลับไปพนไอสีเทา
ออกมา ไอซากศพแผขยาย ชั่วขณะนั้นความดุรายพลันเพิ่มขึ้น
หานลี่ทำเปนมองไมเห็นทุกอยาง กลับถือโอกาสนี้กลับมองไปทางโลสีเขียวของ
สตรีผูงดงาม
สมบัติที่สูญเสียเจาของนี้ ลอยอยูกลางอากาศไมขยับเขยื้อน ลำแสงสีเขียวบนผิว
โลเปลงรัศมีเปนมันวาวเหมือนตอนแรกเริ่ม
หานลี่ขมวดคิ้ว เลื่อนสายตาไปมา แลวตกลงบนเกล็ดสีทองจางๆ บนเรือนราง
ของยักษปกเงิน จูๆ พลันหนาเปลี่ยนสี ดูเหมือนวาจะนึกอะไรขึ้นได
และในตอนนั้นเอง ยักษปกเงินก็เงยหนาขึ้นเปลงเสียงรองคำรามยาวๆ ออกมา
จากนั้นรางกายพลันแวบหายไป และสลายหายไปกลางพายุ
ซากหมาปาตัวนั้นพลันเปลงเสียงรองคำราม ปากก็พนเพลิงซากศพออกมา คาด
ไมถึงวาจะกระโจนไปหาอสูรวิญญาณครวญทางดานลาง
อสูรวิญญาณครวญสะบัดหัวอยางไมตองคิด จมูกพนลำแสงสีเหลืองออกมา
แมวาซากหมาปาจะกลืนกินไขมุกเพิ่มพลังแลว ความรูสึกหวาดกลัวที่มีตออสูร
วิญญาณครวญนั้นลดลง แตก็ยังคงไมกลาเขาใกลลำแสงสีเหลืองเลยแมแตนอย
ทันใดนั้นรางกายพลันเลือนราง ชั่วครูก็กลายเปนเงาลวงตาสองสามสายลอมรอบ
อสูรวิญญาณครวญเอาไว เพราะวารางกายหดเล็กลง จึงทำใหลำแสงหลีกหนีของซาก
หมาปานั้นมหัศจรรยอยางหาที่เปรียบมิได ลำแสงสีเหลืองในตอนนี้กลับตามไมทัน
แตซากหมาปาก็ไมกลาเขาใกล เพราะวาอสูรตัวนี้ยังพนลำแสงเทวาออกมาจาก
จมูกอยางตอเนื่องอยางระวังตัว ทำใหลำแสงสีเหลืองกลายเปนมานลำแสงชั้นหนึ่ง
หอหุมรางกายอันใหญโตของตนเองเอาไว กำปนสองกำปนพลันรายรำไมหยุด จาก
ความใหญโตของอสูรวิญญาณครวญวานรยักษ แนนอนวากำปนก็ไมนอยเลย ถึงแมวา
ซากหมาปาจะกำเนิดขึ้นมาจากซากหลอม เกรงวาก็คงรูสึกทนไมไหว
ตางฝายตางชิงประชันกันอยางไมยอมลดละ
ในเวลาเดียวกันที่อสูรวิญญาณครวญถูกขวางเอาไว รางของยักษปกเงินและหานลี่ก็
กะพริบวาบ ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ คนหนึ่งไลตามคนหนึ่งถอยหนีราวกับภูตผี
อยางไรอยางนั้น
ปกที่ แผนหลังของหานลี่มีป ระจุไฟฟ าแล น พลานอยู เสีย งฟ าผ าดั งขึ้น ไม ห ยุ ด
รางกายกะพริบวาบปรากฏขึ้นอีกที่หนึ่งอยางไมมีกฎเกณฑ หลังจากผานไปชั่วครูก็
อาจจะปรากฏตัวที่ ทิศตะวันตก ชั่วครูก็ปรากฏตัวที่ ทิ ศตะวัน ออก ต อมาก็อาจจะ
ปรากฏตัวขึ้นในจุดที่สูงขึ้นไป ตอมาก็ปรากฏตัวขึ้นสูงกวาพื้นดินสองสามจั้ง
แตยักษปกเงินนั้นกลับไมรูวาใชความสามารถใด ปกคูนั้นพลันเปลงแสงสีเขียว
ขาวออกมา รางกายเลือนรางราวกับไมมีอยู แตคาดไมถึงวาจะตามรองรอยอัสนีหลีก
หนีของหานลี่มาอยางไมลดละ
ไมนานนัก หานลี่ก็รูสึกรับไมไหวแลว
เห็นไดชัดวาเคล็ดวิชาพายุหลีกหนีของอีกฝายเหนือกวาอัสนีหลีกหนีของเขามาก
แต ล ะครั้ ง ที่ เข า ประชิ ด มาก็ ใกล ขึ้ น เรื่ อ ยๆ ในตอนที่ เขาก า วเท า ออกไปก า วหนึ่ ง
กลายเปนประจุไฟฟาสีทองแวบหายไป ยักษปกเงินก็ตามมาติดๆ
จูๆ เมื่อรางของหานลี่ปรากฏตัวกลางอากาศสูงขึ้นอีกครั้ง ก็ไมไดกระพือปกจาก
ไปในทันที กลับชี้ไปยังไขมุกผลึกหิมะเบื้องหนา ชั่วขณะนั้นไขมุกเม็ดนี้พลันหมุนติ้วๆ
พนเปลวเพลิงสีมวงผืนใหญออกมาทั่วทุกสารทิศ ในเวลาเดียวกันกระบี่บินสีทองหลาย
สิบเลมก็หมุนวนรอบๆ กาย และระเบิดแสงกระบี่เปนกลุมๆ ออกมา หอหุมทั่วทุก
แหงในระยะสิบกวาจั้งเอาไว
เมื่อวางเขตอาคมทั้งหมดเสร็จ จุดที่หางจากหานลี่ไปหาถึงหกจั้ง ก็มีพายุเกิดขึ้น
กลางอากาศ เงารางจางๆ รางหนึ่งปรากฏขึ้นตรงนั้น
ชั่วขณะนั้นเปลวเพลิงสีมวงและลำแสงกระบี่พลันหอหุมรางของคนผูนั้นเอาไว
พรอมกัน
หานลี่ชูมือขางหนึ่งขึ้น เสียงฟาผาดังกึกกอง ประจุไฟฟาสีทองหนาๆ เสนหนึ่งก็
ปรากฏขึ้นพันรอบทอนแขน และกระโจนตัวออกมาราวกับงูเหลือมสายฟาตัวหนึ่ง
ยักษ ป กเงิน เห็ น พลังเชน นั้ น ก็ตกตะลึง แตเกล็ดบนรางพลัน สั่น คลอน ระเบิ ด
ลำแสงสีทองออกมา
จากนั้นมานลำแสงสีทองเรืองรองพลันปรากฏขึ้น ปกปองยักษปกเงินเอาไว
เสียงอึกทึกครืนครั่นพลันดังขึ้น ลำแสงกระบี่ เปลวเพลิงสีมวง ประจุไฟฟาสีทอง
ตามกันมาติดๆ พรอมระเบิดลำแสงเจิดจาออกมา ชั่วครูมานลำแสงสีทองก็จมหายเขา
ไปดานใน
ตอนที่ 990 ทองหลีกหนีกับเพลิงน้ำแข็งบริสุทธิ์
ครั้งนี้ หลังจากที่เสียงฟาผาดังขึ้นหานลี่ก็สลายหายไปจากที่เดิม หางออกไปยี่สิบ
กวาจั้งมีประจุไฟฟาสวางวาบ รางของหานลี่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แตพอปรากฏตัวขึ้น
หานลี่ก็จองเขม็งไปยังจุดที่มีแสงระเบิดออกดวยสีหนาเครงขรึม
ภายใต เนตรวิญ ญาณวารีก ระจ างนั้ น เขาพลั น มองเห็ น สถานการณ ต างๆ ใน
ลำแสงไดอยางชัดเจน
แตเดิมกระบี่บินไผเขียวตัวตอเมฆาที่ผสมแกนทองคำเขาไปนาจะแหลมคมอยาง
ไรเทียมทาน แตเมื่อกระบี่บินที่กลายเปนแสงกระบี่เหลานี้ฟนลงไปบนเกราะปองกันสี
ทอง กลับถูกดีดออกมาอยางงายดาย ใหความรูสึกเหมือนยังไมไดแสดงอานุภาพของ
กระบี่บินออกมา ก็ถูกเกราะปองกันแสงอาศัยพลังที่ยิ่งใหญดีดออกมา
สวนงูเหลือมสายฟาที่แปลงมาจากอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายซึ่งดานบนเกราะ
ปองกันแสงนั้น กลับทำใหเกราะปองกันแสงเพียงแคสั่นคลอนเทานั้น ไมไดทำใหแตก
สลายไป
แตหลังจากทีเพลิงสีมวงตกลงมายังเกราะลำแสงสีทองนั้น…
แววตาหานลี่พลันเปลงประกายเย็นชา หลังจากที่แสงหมนลงแลว จุดที่อยูไกล
ออกไปก็มีกอนน้ำแข็งยักษสีมวงออนปรากฏขึ้นกอนหนึ่ง แตเกราะปองกันแสงสีทอง
และยักษปกเงินกลับถูกแชแข็งอยูขางในพรอมกัน
ยักษปกเงินปลอดภัยไรอันตรายอยูภายในเกราะปองกัน แตสีหนากลับตกตะลึง
เห็นไดชัดวามันคิดไมถึงวาเปลวเพลิงสีมวงจะสามารถแชแข็งเกราะปองกันสีทองได
ทวา ในเมื่อไมไดแชแข็งรางกายของมัน การที่ตัวประหลาดตัวนี้จะหนีออกมาก็
เปนเรื่องที่งายดาย
ยักษปกเงินใชสองมือกดลงไปที่เกราะปองกันสีทอง และเปลงแสงสีทองจำนวน
นับไมถวนออกมาจากเกราะปองกัน คาดไมถึงวาจะทะลุออกมาจากรูเล็กๆ รูหนึ่งบน
กอนน้ำแข็ง
น้ำแข็งสีมวงทั้งกอนพลันแตกออก
หานลี่ใจหายวาบ พลางยื่นมือออกไป หลังจากที่กระบี่บินทั้งหมดหมุนวนหนึ่ง
รอบก็บินกลับมาในทันที
หลังจากผานไปชั่วครูรางของยักษปกเงินก็หายแวบไป รางมาปรากฏตัวขึ้นที่ดาน
นอกน้ำแข็งสีมวงอยางงายดาย หลังจากนั้นมันก็ใชสายตาที่เย็นชาจนฆาคนไดจอง
มายังหานลี่แวบหนึ่ง แลวชูมือขึ้น
บนมีมือมีลำแสงสีทองเรืองรอง ดวงแสงสีทองดวงหนึ่งปรากฏขึ้น
แตในตอนนั้น หานลี่กลับเอยปากออกมาวา
“ในที่สุดตอนนี้ขาก็มั่นใจแลววา นอกจากลี้ธรณีและพายุหลีกหนีแลว เจาก็ยังใช
เคล็ ด วิช าทองหลี ก หนี ได จากที่ ข าได ยิ น มา เคล็ ด วิ ช าทองหลี ก หนี นี้ ต อ ให เป น ผู
บำเพ็ญเพียรมนุษยอยางพวกเราก็ยังรูจักเพียงไมกี่คน สวนซากหลอมนั้น ในใตหลานี้
มีเพี ยงซากจัน ทรารางทองในตำนานเท านั้ น ที่ มีความสามารถนี้ หรือวาเจาเริ่ม จะ
บรรลุระดับแลว?”
หานลี่เอยจบ แววตาก็มองไปยังเกล็ดสีทองออนบนรางของมันสองครั้ง
เมื่อไดยินหานลี่เอยถามเชนนี้ ยักษปกเงินก็ตกใจ แตทันใดนั้นก็หัวเราะอยางบา
คลั่งพลางสงเสียงเหอะดวยความเย็นชาออกมา
“เหอะ! ขาเริ่มจะบรรลุระดับขั้นตั้งแตหมื่นปกอนแลว หากผูบำเพ็ญเพียรระดับ
กอกำเนิดขั้นกลางอยางพวกเจารวมมือกันละก็ อาจจะเปนไปได แตตอนนี้เหลือเจา
เพียงคนเดียว ตอใหมีความสามารถหนอย ก็เปนเพียงการกระทำที่โงเขลาเทานั้น”
เมื่อเอยจบ ยักษปกเงินก็กระพือปกทั้งสองอีกครั้งและหายไป ชั่วขณะนั้นคาดไม
ถึงวาปกสีเงินขาวนั่นจะกลายเปนสีทองออน กลิ่นอายชีวิตที่สูงสงระเบิดออกมาราว
กับไมไดถูกปกปดเอาไวอีกแลว แรงกดมหาศาล แมแตมานลำแสงขนาดใหญของเขต
อาคมที่กักมันเอาไวก็ดูเหมือนวาจะสั่นคลอน
รูมานตาของหานลี่หดเล็กลง กลิ่นอายพลังปราณสายนี้แข็งแกรงวาผูบำเพ็ญ เพียร
ระดับกอกำเนิดขั้นปลายที่เขาเคยพบมากนัก สามมหาผูบำเพ็ญเพียรของเทียนหนาน
ไมอาจเทียบเทียมได
ขุมพลังเดียวที่จะสามารถกดดันซากเทวัญนี้ได คงจะมีเพียงมารโบราณทั้งสองที่
เคยพบในหุบเขามารโรยแลว
หานลี่รูสึกตกตะลึง แตสิ่งที่แสดงออกมากลับเป น เพี ยงการถามหยั่งเชิงอยาง
ราบเรียบวา
“ตอใหเจาเริ่มพัฒนาระดับขั้นมานานแลว แตติดอยูในสถานที่ไรฟาไรตะวันเชนนี้
ก็ไมอาจดูดซับความบริสุทธิ์ของจันทราทมิฬได ตอใหฝกฝนอีกหมื่นปเจาก็ไมอาจทำ
สำเร็จ ตอนนี้มากสุดเจาก็แครูจักวิชาทองหลีกหนีเพียงผิวเผินเทานั้น ก็แคเคล็ดวิชาที่
เมื่อใชแลวดูแปลกประหลาด แตหากพบกับสมบัติอาคมที่ไมไดผสมวัตถุดิบธาตุทองลง
ไป เคล็ดวิชาเหลานี้ก็ไมมีประโยชนแลว”
หานลี่เอยเชนนี้ ในหัวกลับมีสถานการณที่อีกฝายทะลุผานเกราะสีเขียวหลีกหนี
และกระบี่บินทั้งหมดของตัวเองออกมาได ในใจพลันรูสึกคิดหนัก ถึงอยางไรเสียสมบัติ
อาคมในตอนนี้ ก็มีอยูจำนวนนอยมากที่ไมไดผสมวัตถุดิบธาตุทองลงไป
“หึๆ อยางนั้นหรือ? เชนนั้นเจาลองลิ้มรสของมันหนอยเปนอยางไร ทวา ขาไม
อยากไลกันไปมา การโจมตีตอจากนี้ เจาก็ยอมมอบชีวิตมาแตโดยดีเถิด”
ยักษปกเงินไมเอยกับหานลี่ใหมากความอีก มือหนึ่งถือดวงแสงสีทองที่แสบตา
กลุมหนึ่งเอาไว อีกมือหนึ่งกลับกางนิ้วทั้งหาออกและชูมือขึ้น ยิงออกไปยังเสาหินสี
ทองที่มีซากศพแหงอยูดานบนทั้งสี่ทิศ
ชั่วพริบตา เสาหินพลันพลันสวางวาบและจมหายเขาไปในซากศพแหงทั้งหมด
อยางไรรองรอย
หานลี่ไมทันไดปองกัน ใบหนาจึงอดที่จะเครงขรึมไมได ในใจก็รูสึกวาซวยแลว
ตรงเสาหิ น มี เสี ย งกั ม ปนาทลอยมาดั ง คาด โซ ต รวนหลายเส น พลั น ร ว งหล น
ซากศพแหงตางลืมตาสีเขียมรกตทั้งสองขึ้น และเดินโคลงเคลงออกมาจากเสาหิน
แต ซ ากทั้ งหมดกลั บ เดิ น ออกมาได ส องสามก าวก็ ยื น อยู ที่ เดิ ม ไม ข ยั บ ในเวลา
เดียวกันก็มองมาทางหานลี่ที่อยูกลางอากาศดวยสีหนาไรความรูสึก
“มีซากสังหารแปลงกายคอยชวยเหลือมากมายขนาดนี้ เจาไมมีโอกาสชนะแลว
หากยอมใหจับแตโดยดี วิญญาณก็อาจจะเจ็บนอยหนอย!” ยักษปกเงินยืนอยูที่เดิม
และเอยกับหานลี่อยางเย็นชา
แววตาของหานลี่กวาดไปที่ซากศพแหงทั้งสี่ทิศ สีหนาพลันเครงขรึม หลังจาก
ผานไปชั่วครูถึงไดถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“คิดไมถึงวา ครั้งนี้จะมีโอกาสใหใชสมบัติอาคมนี้จริงๆ ไมรูวาเจาโชคราย หรือ
นับวาขาโชคดีเกินไปกันแน!” หานลี่เอยพึมพำจนแทบไมไดยินออกมา แลวตบไปที่
ยามเก็บของที่วิจิตรงดงามเปนพิเศษใบหนึ่งอยางไมลังเลอีก
เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น ลำแสงขนาดเทากำปนกลุมหนึ่งพุงออกมาจากยาม หลังจาก
หมุนวนหนึ่งรอบ ก็ตกลงสูมือของหานลี่ เผยใหเห็นพัดขนนกที่ดูแปลกตาเลมหนึ่ง
พัดเลมนี้มีขนาดหลายชุน แยกออกเปนสีทองเงินและแดงสามสี แตดานบนนั้นมี
อักขระวิญญาณเรียงรายเปนชั้นๆ จนแนนขนัดไปหมด เพียงสะบัดเล็กนอยลำแสง
สามสีก็เปลี่ยนไปมาไมแนนอน อักขระวิญญาณจำนวนนับไมถวนไหลทะลักออกมาใน
เวลาที่แตกตางกัน ทำใหผูคนเห็นแลวรูสึกเวียนหัวตาลาย
มองปราดเดียวก็รูแลววาสมบัติชิ้นนี้ไมธรรมดา
เวลานี้ยักษปกเงินที่อยูตรงขามกลับสำแดงอานุภาพของตนเองเสร็จแลว และชิง
ลงมือกอน
ปากของมันเปลงเสียงตะโกนออกมา โยนดวงแสงในมือออกไปกลางอากาศ
หลังจากดวงแสงสีทองหมุนติ้วๆ ชั่วขณะนั้นก็เปลงลำแสงสีทองหมื่นสายออกมา
เมื่อลำแสงสีทองเหลานี้พุงตัวออกจากดวงแสง ลำแสงวิญญาณก็พลันสวางวาบ
ทันที คาดไมถึงวาจะกลายเปนเข็มสีทองจำนวนนับไมถวน หลังจากที่เข็มสีทองเหลานี้
หมุนโคจรรอบๆ ดวงแสง ก็ตรงมาปกคลุมเหนือศีรษะของหานลี่
เวลานั้น ครึ่งหนึ่งของทองฟาพลันเปลงแสงสีทองเรืองรอง โจมตีเขามาราวกับหา
ฝนอยางไรอยางนั้น ทำใหหานลี่ไมอาจหลบหลีกได
และซากศพแหงที่อยูดานลางเสาหินทั้งสี่ ก็ชูมือทั้งสองขึ้นพรอมกัน พนเสนไหม
วิญญาณพิฆาตจำนวนนับไมถวนออกมาจากปลายนิ้วอยางตอเนื่อง พัวพันกันอยูกลาง
อากาศต่ำๆ
ชั่วพริบตาขายยักษที่กวางกวายี่สิบสามสิบจั้ง ก็รวมตัวกันอยูดานลางของหานลี่
เปลงแสงสีเทาขมุกขมัว แผขยายขึ้นไปกลางอากาศอยางไมเกรงใจเลยแมแตนอย
ตาขายผืนนี้ใหญขนาดนี้ ไอสังหารที่แฝงอยูก็นาตกตะลึงเปนพิเศษ ถาหากเปนผู
บำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ เกรงวายังไมทันมาถึงรางกาย ก็คงจะถูกไอสังหารบนตาขาย
ทำใหมือไมออนไปแลว สูญเสียการควบคุมลมปราณ และทำไดเพียงยอมใหจับแตโดย
ดีเทานั้น
เพียงแตรางของหานลี่นั้นเองก็เต็มไปดวยไอสังหารเชนกัน บวกกับที่เคยฝกฝน
คาถาราชันกระจาง แนนอนวาจึงไมแยแสไอสังหารเหลานี้
แต พ ลังของอี ก ฝ ายยิ่งใหญ ขนาดนี้ โจมตี เข ามาราวกั บ ตาขายฟ าอวนสวรรค
อยางไรอยางนั้น ถึงแมวาจะเปนหานลี่ก็ยังรูสึกตกตะลึง
ทันใดนั้นเขาพลันมีสีหนาเครงขรึม สองมือถูเขาดวยกัน
ชั่วขณะนั้นหลังจากลำแสงสวางวาบ พัดตรีเปลวเพลิงก็กลายเปนมีขนาดสองสามฉื่อ
มือหนึ่งของหานลี่กุมพัดเอาไว ผนึกลมปราณทั่วราง สะบัดพัดไปดานลางอยาง
รุนแรง
ผลลั พ ธคื อ เรื่อ งที่ ท ำให ห านลี่ ต กใจพลั น เกิ ด ขึ้ น เขารูสึ ก เพี ย งว าลมปราณทั่ ว
รางกายไหลไปตามการโจมตีดวยพัดเลมนี้ คาดไมถึงวาชั่วครูจะถูกดูดเอาไปกวาครึ่ง
ทำใหเขาตกใจจนเกือบจะโยนพัดเลมนี้ทิ้งไป
โชคดีที่หลังจากพัดตรีเปลวเพลิงเปลงเสียงรองออกมา ลมปราณภายในรางก็หยุดลง
ทันที จากนั้นพัดเลมนั้นพลันสั่นคลอน เปลวเพลิงสามสีกลุมหนึ่งทะลักออกมาจากพัด
จากนั้นเปลวเพลิงทั้งหมดก็ผนึกรวมตัวกันที่ศูนยกลาง คาดไมถึงวาจะกลายเปนหงส
เพลิงขนาดสองสามจั้งตัวหนึ่ง ขนยาวสีทองเงินแดงสามสี ตรงเขาไปหาตาขายยักษ
ภาพฉากที่แปลกประหลาดนั้นแมแตหานลี่เองก็ตกตะลึง ทวาทันใดนั้นก็ไมสนใจ
เรื่องอื่น แตเดิมเขาคิดจะโบกพัดไปทางเข็มสีทองเหลานั้น เวลานี้ลมปราณกลับไม
เพียงพอ จึงทำไดเพียงดึงความสนใจชี้ไปที่กระบี่บินทั้งหมดที่อยูเบื้องหนา
ชั่วขณะนั้นกระบี่บินทั้งหมดก็เปลงแสงสีทองออกมา เริงระบำดวยความรวดเร็ว
ดอกบัวสีทองผลิบานไปรอบๆ ตัวหานลี่ ชั่วครูก็ปกคลุมรางของหานลี่เอาไวขางใน
แตเขาไมไดห ยุดพั ก อาปากออก พ น โลหิ ตที่ บ ริสุท ธิ์อ อกมาใสไขมุกผลึกหิ ม ะ
เหนือศีรษะ
ผลลัพธคือไขมุกผลึกหิมะพลันสั่นคลอน พนเปลวเพลิงสีมวงเขมออกมา
ภายใตการกระตุน ดวยอาคม เปลวเพลิ งนั้ น พลั น หมุ น วนล อมรอบหานลี่ ดวย
ความรวดเร็ว อุณหภูมิรอบกายลดลงอยางรวดเร็ว เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น
กำแพงน้ำแข็งสูงสิบกวาจั้ง ปรากฏตัวขึ้นรอบๆ หานลี่ในเวลาเดียวกันที่เปลว
เพลิงสีมวงสลายออก ดานบนเปลงแสงสีมวงสวางวาบ ปกปองเขาเอาไวขางในอยาง
แนนหนา
เวลานี้แสงสีทองผืนใหญพลันสวางวาบ ในที่สุดเสนไหมสีทองจำนวนนับไมถวน
พลันพุงมาอยูเบื้องหนากำแพงน้ำแข็ง
เสียง ‘กึกๆๆ’ พลันดังขึ้น!
หลังจากที่ลำแสงสีทองและลำแสงสีมวงปะทะเขาดวยกัน ผิวของกำแพงน้ำแข็งก็มี
ลำแสงสีทองปรากฏขึ้นทันที และฝงลึกลงไปจนเปนรูลึกขนาดสองสามชุนเต็มไปหมด
ภายใตการโจมตีจากเสนสายสีทองอยางตอเนื่อง และปกคลุมเอาไวชั้นแลวชั้นเลา
ถึงแมวากำแพงน้ำแข็งของหานลี่จะหนาหลายจั้ง แตก็ถูกทำใหบางลงหลายฉื่อใน
ชั่วพริบตา
เขาหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
เพียงแตหานลี่หลับไมรูวา ยักษปกเงินที่อยูตรงขามเห็นภาพฉากนี้เขาก็ตกตะลึง
เชนกัน
ตองเขาใจวา ถึงแมวาเข็มบินสีทองเหลานี้ของมันจะใชลมปราณธาตุทองสรางขึ้น
แตลมปราณเหลานี้ไมใชสิ่งที่สูญเสียพลังไปแลวจะฟนฟูขึ้นมาใหมได ซึ่งชวงเวลาที่เขา
ถูกกักขังอยูที่นี่ ก็ทำการหลอมแรศิลาธาตุทองนิรนามไปทีละนิดๆ กอนหนึ่ง
ลมปราณที่พิเศษเหลานี้ผานการหลอมรวมโดยใชเพลิงซากศพของเขามาหลายพันป
อานุภาพจึงไมธรรมดา และเมื่อกลายเปนสมบัติอาคมรูปรางเข็มแลว ก็ยิ่งแหลมคม
เปนพิเศษ
ทวาเวลานี้เขาโหมโจมตีเขาไปอยางมืดฟามัวดิน คาดไมถึงวาจะไมมีทางทำอะไร
ได แนนอนวาจึงทำใหรูสึกแปลกใจ ตองเขาใจวา กอนหนานี้ไมนานเขาเพิ่งจะใชแสงสี
ทองโจมตีจนทำใหน้ำแข็งสีมวงแหลกละเอียดไป
แนนอนวายักษปกเงินไมรู เปลวเพลิงสีมวงที่หานลี่ใชโลหิตบริสุทธิ์กระตุนนั้น
ไมใชเพลิงตาขายสีมวงธรรมดาๆ หลังจากที่กินยาลูกกลอนวิญญาณหิมะไปไมหยุด
และอาศัยพลังของไขมุกผลึกหิมะคอยชวยเหลือ ตั้งแตนั้นเพลิงนั่นก็กลายเปนเปลว
เพลิงที่บริสุทธิ์ แทบจะหลอมรวมกับเพลิงตาขายสีมวงทั้งหมดจนกลายเปนไอเหมันต
แน น อนวาเพลิ งตาข ายทมิ ฬ ธรรมดาๆ จึ งไม อ าจเที ย บเที ย มได ทว าเพื่ อ เป น การ
กระตุนเพลิงนี้ ภายใตสถานการณ ที่มีลมปราณไมเพียงพอนั้น หานลี่ก็จำใจตองใช
โลหิตบริสุทธิ์มาฝนกระตุนมัน
เวลานี้สวนหัวของหงสเพลิงสามสีที่เกิดจากพัดของหานลี่เอง ก็พุงเขาไปในตา
ขายยักษสีเทาที่อยูดานลาง
เสนไหมวิญญาณพิฆาตที่กอตัวเปนตาขายยักษสีเทาพลันเปลงแสงสวางวาบ พน
เสนไหมสีเทาจำนวนนับไมถวนออกมาโดยตรง และรัดรึงหงสเพลิงที่ดูแลวตัวไมใหญ
นักเอาไว
ชั่วพริบตาเสนไหมที่หนาแนนก็แผกระจายปรกฟาคลุมตะวัน แทบจะปกคลุมราง
ของวิหคตัวนี้เอาไวทั้งหมด
หงสเพลิงเปลงเสียงรองอันเยอหยิ่งออกมา หลังจากหมุนวนหนึ่งรอบ ก็ระเบิด
ลำแสงเทวาที่นาเวียนหัวชวนตาลายออกมา ทามกลางลำแสงที่นาเวียนหัวนี้ แสงสี
ทอง สีเงิน สีแดง ทั้งสามสีก็หมุนวนไปมาไมหยุด อักขระที่ยากจะเขาใจพลันปรากฏ
ขึ้น เผยใหเห็นความงดงามเปนพิเศษ
และเมื่อเสนไหมวิญญาณพิฆาตเหลานี้พุงเขาไปในลำแสงที่นาเวียนหัวตาลายนั่น
ภาพฉากที่นาเหลือเชื่อก็ปรากฏขึ้น!
ตอนที่ 991 อานุภาพของพัด
เสนไหมสีเทาจำนวนนับไมถวนตางสั่นคลอน และหยุดนิ่งอยูทามกลางลำแสง
จากนั้นก็สวางวาบแลวกลายเปนไอสีเทา พลันหายไปอยางเงียบเชียบ ตาขายเสนไหม
ดูหนาแนนเปนราวกับหิมะที่ละลายในฤดูใบไมผลิ และคอยๆ หายไป
ในตอนนั้นเอง หงสเพลิงสามสีถึงไดเริ่มโจมตีอยางแทจริง สยายปกทั้งสองออก
กลายเปนดวงแสงยักษกะพริบวิบวับ จูๆ ก็ขยายใหญขึ้น
แทบจะในชั่วพริบตา กรงลอลำแสงสีท อง สีเงิน และสีแดงสามสีก็ปรากฏขึ้น
กลางอากาศต่ำๆ ขนาดที่ใหญโตคาดไมถึงวาจะหอหุมตาขายนยักษเอาไวขางใน ผิว
ของกรงลอมีอักขระสามสีไหลเวียนไปมาไมหยุด ใหญหนอยมีขนาดประมาณสองสาม
จั้ง เล็กหนอยก็มีขนาดประมาณสองสามฉื่อ ทุกลายอักขระลวนเปนอักษรโบราณที่
ยากจะเขาใจ ทำใหผูคนเห็นแลวรูสึกเคารพนบนอบ
ภาพฉากงดงามที่เกิดขึ้นตอมา ทำใหหานลี่ที่อยูกลางอากาศและยักษปกเงินตาง
กมหนาลงมองดวยความตกใจ
ผลลัพธคือลำแสงพลันสวางวาบ กรงลอขนาดยักษปรากฏออกมาแคชั่วอึดใจ ก็
หายไปกลางอากาศ
เมื่อมันหายไป ตาขายยักษสีเทาเสนผาศูนยยี่สิบสามสิบจั้งผืนนั้นก็ดูเหมือนวาจะ
ไมไดเคยปรากฏตัวขึ้นที่นั่นมากอนอยางไรอยางนั้น
ปกที่แผนหลังของยักษปกเงินพลันกระพือปกอยางไมรูตัว ใบหนาแข็งคางอยาง
ไมอยากจะเชื่อ ตองเขาใจวาตาขายเสนไหมยักษคือไอสังหารซากศพเกือบทั้งหมดที่
มันฝกฝนและหลอมรวมกันขึ้นมา ตอนนี้ภายในรางของซากศพแหงจึงเหลือพลังเพียง
นอยนิดเทานั้น ทำไดเพียงฝนประคับประคองซากสังหารแปลงกลายใหเคลื่อนไหว
เทานั้น ไมอาจทำการโจมตีอะไรที่รายกาจไดอีก
การโจมตีดวยพัดของอีกฝาย เปนการกำจัดความสามารถที่มันฝกฝนมาอยาง
หนักหลายเดือนหลายป และความนากลัวของพลังวิญญาณจากกรงลอสามสีเมื่อครู
ถาหากเขาถูกกักอยูในนั้น กวาครึ่งคงโชครายมากกวาโชคดี
นี่ไมใชปญหาที่วาในลำแสงมีเปลวเพลิงต่ำหรือสูงเกินไปแลว แตในนั้นมีกฎของ
ฟาดินผสมอยู มีเพียงระดับเทพแปลงเทานั้นถึงจะสัมผัสกับพลังฟาดินได
ถึงแมวามันจะยังไมพัฒนาระดับขั้นจนเหมือนกับซากจันทรารางทอง แตก็อยูที่
เสนขอบนี้มาหลายปแลว ทางดานความรูสึกและประสบการณนั้นแนนอนวามีแลว
การโจมตีเมื่อครูผสมพลังของฟาดินเอาไวเพียงนอยนิด แตก็ทำใหยักษปกเงิน
รูสึกจิตใจหนักอึ้ง พัดในมือของอีกฝายคือสมบัติอะไรกันแน เหตุใดถึงไดนากลัวเชนนี้
แตเดิมจากความสามารถและพลังยุทธของอสูรตนนี้ ถาหากในมือมีสมบัติระดับ
สุดยอดอะไรที่เกื้อหนุนกันกับเคล็ดวิชาที่ฝกฝน ก็ไมจำเปนตองหวาดกลัวการโจมตี
เชนนี้ แตนาเสียดายที่ตั้งแตมันเริ่มมีสติปญญาเปนของตนเองนั้น ก็ถูกกักขังอยูในเขต
อาคมตลอด ไหนเลยจะมีโอกาสและวัตถุดิบ มาหลอมสมบั ติอาคมที่ เหมาะสมกั บ
ตัวเอง
หากไม ใช เพราะต อ มามี ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รเข ามาในถ้ ำ ถู ก มั น สั งหารทิ้ ง ไปอย า ง
ตอเนื่อง และอาศัยรางของพวกเขามาบวงสรวงโลหิตฝกฝนซากสังหารแปลงกายนั้น
การกระทำของมันคงถูกควบคุมเอาไวแลว
ถึงแมวามันจะไดสมบัติมากมายมาจากผูบำเพ็ญเพียรที่ตายไป แตก็มีอยูเพียงไมกี่
ชิ้นที่เขาตา สิ่งเดียวที่ทำใหมันพอใจคงเปนกระจกลวงจันทรปศาจบานนั้น และเพราะ
มีสมบัติเพียงชิ้นเดียวเทานั้นที่สามารถหยิบมาใชได จึงทำใหมันทุมเทโลหิตจำนวนนับ
ไมถวน จนกระทั่งมีเคล็ดวิชาดีๆ สองสามอยางที่จำเปนตองอาศัยสมบัติชิ้นนี้ถึงจะ
สำแดงออกมาได
ดังนั้นเมื่อถูกการโจมตีของหานลี่ทำลาย ถึงไดทำใหมันโกรธเกรี้ยวเปนพิเศษ
ในตอนที่ยักษปกเงินกลอกตาไปมา ในใจก็รูสึกหวาดกลัว หานลี่มองเห็นอานุภาพ
ของพัดตรีเปลวเพลิง แนนอนวาก็รูสึกดีอกดีใจ เมื่อมองเห็นกำแพงน้ำแข็งเบื้องหนา
ของตนเองถูกเข็มสีทองทำลายไปกวาครึ่งอยางตอเนื่อง ก็พลิกฝามืออยางไมลังเลอีก
ควักขวดเล็กๆ ออกมาจากยามเก็บของ
หานลี่เปดฝาขวดออก เทใสปาก ชั่วขณะนั้นของเหลววิญญาณหมื่นปหยดหนึ่ง
พลันไหลเขาปาก
ภายใตการทำงานของฤทธิ์ยา จึงทำใหชีพจรภายในรางบริสุทธิ์ขึ้นเปนจำนวน
มาก ชั่วขณะนั้นลมปราณของเขาพลันฟนฟูกลับมาเปนดังเดิม
หลังจากเก็บขวดใบนั้นไป หานลี่ก็สัมผัสไดถึงลมปราณในรางกายที่ เต็มเปยม
พลางเหลือบมองยักษปกเงินที่อยูไกลออกไปแวบหนึ่ง พัดตรีเปลวเพลิงในมือที่ลอย
หมุนติ้วๆ ถูกควาเอาไวอีกครั้ง
จากนั้นลำแสงบนพัดพลันสวางจา เริ่มกะพริบวาบเปนอักษรสามสี
ครั้งนี้ หานลี่เตรียมจะจัดการศัตรูที่อยูเบื้องหนาใหสิ้นซาก
นี่ก็โชคดีที่อีกฝายถูกลงอาคมไว จึงไมอาจออกจากที่นี่ได มิเชนนั้นถึงแมวาพัด
เลมนี้จะมีอานุภาพที่มหัศจรรยอยางหาที่เปรียบมิได แตถาอีกฝายคิดจะหลบหลีก ใช
เคล็ดวิชาหลีกหนีทะยานรางออกไปไกลๆ เขาก็จนปญญาเชนกัน
ยักษปกเงินที่อยูตรงขามเห็นภาพนั้นพลันหนาเปลี่ยนสี
การโจมตีเมื่อครูของพัดเลมนี้เผยใหเห็นอานุภาพและขอบเขตของมัน บวกกับมี
มานแสงอยูกลางอากาศเปนขอจำกัด มันจึงทำไดเพียงตานเอาไวเทานั้น
หลังจากรองวาแยแลวในใจ ยักษปกเงินก็กัดฟนชี้ไปยังดวงแสงสีทองที่ขนาดเล็ก
ลงไปไมนอยกลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นดวงแสงสีทองพลันหยุดเปลงลำแสงสีเหลืองออกมาในทันที หลังจาก
สวางวาบก็จมหายเขาไปในรางของยักษปกเงิน ทันใดนั้นเกราะปองกันสีทองเรืองรอง
พลันปรากฏขึ้น
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ซากเทวัญตนนั้นก็อาปากออกอยางไมลังเลยแมแต
นอย พนไอซากศพสีดำออกมา ไอทุกกลุมมีลำแสงทมิฬที่แปลกประหลาดกะพริบวาบ
หลังจากผานไปชั่วครูก็กลืนกินเกราะปองกันสีทองเขาไปขางใน
หานลี่เห็นเชนนั้น พลันหัวเราะอยางเย็นชาออกมา ใสลมปราณทั้งรางเขาไปใน
พัด แตจูๆ เขตอาคมดานลางก็สั่นคลอนอยางรุนแรงโดยไมมีเคาลางมากอน จากนั้น
เขตอาคมทั้งเขตก็มีเสนแสงลอยตวัดไปมา หลังจากมานแสงสีเทาสวางวาบ ก็สลาย
หายไปจากที่เดิมอยางไรรองรอย
หานลี่พลันตะลึงงัน การเคลื่อนไหวในมือหยุดลง
แตยังไมทันไดรอใหเขาเขาใจวาเกิดเรื่องอะไรขึ้น สิ่งที่นาตกตะลึงยิ่งกวาก็ปรากฏขึ้น
เห็นเพียงดานนอกของเขตอาคมในจุดที่ไกลออกไป มีลำแสงวิญญาณที่เจิดจาจน
แสบตาพุ งออกมาจากรอยแยกบนพื้ น ดิ น เขตอาคมขนาดใหญ ยิ่ งกว าปรากฏขึ้ น
ลอมรอบเขตอาคมเดิมเอาไว ดานบนมีศิลาวิญญาณเกือบรอยกอนฝงอยู ชั่วพริบตาก็
ผสมเขากับเขตอาคมเดิม กลายเปนเขตอาคมใหม
“นี่คือ…”
จากทักษะดานเขตอาคมของหานลี่ จึงตกตะลึงแคเพียงเล็กนอย ทันใดนั้นก็รูจัก
เขตอาคมนี้ในทันที มันคือเขตอาคมสงตัวขนาดยักษอันหนึ่ง และยิ่งไปกวานั้นยังกำลัง
ถูกกระตุนอยู
เวลานี้ หานลี่พลันมีจิตใจหนักอึ้ง
มีแตผีเทานั้นที่รูวาเจาสิ่งนี้จะสงเขาไปที่ไหน ทันใดนั้นเขาพลันเก็บกำแพงน้ำแข็ง
กลับมาจนมือไมเปนพัลวัน ดานหลังมีเสียงฟาผาดังขึ้น คนก็ใชอัสนีหลีกหนีทะยาน
รางออกจากขอบเขตของเขตอาคมสงตัวทันที
แตเห็นไดชัดวาการเคลื่อนไหวของหานลี่นั้นสายไปแลว
ชั่วพริบตาเขตอาคมรอบดานพลันเปลงเสียงรองออกมา ตรงกลางในระยะรอยกวาจั้ง
ระเบิดลำแสงสีขาวที่แสบตาออกมา จากนั้นลำแสงพลันหมนลง ที่เดิมลวนวางเปลา
หานลี่ ยักษปกเงิน และทุกอยางลวนหายลับไปอยางไรรองรอย
ไมมีใครรูวา สถานการณเชนเดียวกันก็เกิดขึ้นพรอมกันในสามเขตการปกครองที่
คนรูจักของตาจิ้น
นอกจากยักษปกเงินแลว ยังมีตัวประหลาดนิรนามอีกสามตน ถูกเขตอาคมยักษ
สงตัวไป
และผูที่กอเรื่องทุกอยางนี้ กลับเปนกลุมผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยในทะเลสาบ
เล็กๆ นิรนามสักแหงบนหนานเจียง
แตในตอนนั้น กลางอากาศเหนือทะเลสาบเล็กๆ นั้น ผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงของ
ตระกูลเยี่ยที่รวมตัวกันอยูบนผิวทะเลสาบ ก็กำลังวุนวายเปนพัลวัน
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ไมไดบอกวาหลังจากวางเขตอาคมแลว จะสามารถอำพราง
ความเสียหายของเขตอาคมไดหรือ แลวการอำพรางเขตอาคมเลา? เกิดขอผิดพลาดที่
เขตอาคม หรือวากระตุนไมไดกันแน? เกิดเหตุการณเชนนี้ขึ้นในยามนี้ ผูบำเพ็ญเพียร
หลายพันคนตางก็มองเห็นอยางชัดเจน อีกไมนานก็จะเรียกผูบำเพ็ญเพียรอีกหลายคน
ใหมาที่นี่ เจาคิดจะใหตระกูลเยี่ยถูกทำลายลางรึ!” กลางอากาศเหนือทะเลสาบเล็กๆ
ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมผูน้ันใชมือหนึ่งควาคอเสื้อของชายชราผมขาวคนหนึ่งเอาไว
พลางตะโกนออกมาดวยสีหนาเขียวคล้ำ
ดานหลังของเขาหางออกไปสองสามจั้ง ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยคนอื่นๆ ตางมีสี
หนาดำคล้ำและเครงขรึมเปนพิเศษ
ใจกลางของทะเลสาบเล็กๆ นั้น มีเสาลำแสงสีขาวนวลที่หนาอยางสุดๆ เสาหนึ่ง
พุงขึ้นไปบนทองฟา เสาลำแสงนั้นมีเสนผาศูนยกลางประมาณสามสิบจั้ง ราวกับเสา
สวรรคที่สูงเสียดฟา
และจุดที่ไกลออกไปรอบๆ ดาน มีเสาลำแสงที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วหกเสา
ปรากฏขึ้น ลอมรอบทะเลสาบเล็กๆ เอาไว ดูสะดุดตาอยางสุดๆ
เมื่อเห็นเชนนั้น มินาเลาผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมถึงไดโกรธเกรี้ยวขนาดนี้
“ขาไมรู เมื่อวานเพิ่งจะตรวจสอบการปกปดเขตอาคมแทๆ วันนี้ก็กำชับลูกศิษย
ใหไปเปดเขตอาคมแลว” ชายชราผมขาวคือปรมาจารยดานเขตอาคมที่ดูแลการแกไข
ผนึกของตระกูลเยี่ยโดยเฉพาะ เขาเอยขึ้นดวยสีหนาตกตะลึงและรอนรนทันที
“พี่รอง ปลอยศิษยหลานหลิงหลงกอนเถิด! เขาทุมเทกับการกำจัดเขตอาคมนี้ไป
ไมนอย เรื่องที่เปนไปไมไดเกิดขึ้นกับเขา จะตองมีสาเหตุอะไรแน! พวกเจาไปดูการอำ
พรางเขตอาคมเหลานั้ น ซิ ถาหากไม มีการกระตุ น ก็ ก ระตุ น เสี ย ถาหากเกิ ดความ
ผิดพลาดที่เขตอาคม ก็จัดการเสีย ถาหากภายในระยะเวลาสั้นๆ สามารถซอมแซม
เขตอาคมเหลานี้ได พวกเรารวมมือพรอมกันสังหารผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดในระยะพัน
ลี้ก็ไดแลว” ผูพูดคือนักปราชญคนหนึ่งอายุประมาณสามสิบกวาๆ สวมชุดสีขาว ผิว
ขาวเนียนดุจหยก แตคำพูดที่เอยออกมากลับโหดเหี้ยมเปนพิเศษ
แตเมื่อนักปราชญเอยคำนี้ออกมา ไมเพียงผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมที่ไดยินคำนี้
ก็ปลอยคอเสื้อของชายชราผมขาวออกในทันที อาวุโสตระกูลเยี่ยสองสามคนที่ถูก
นักปราชญชี้ตางก็คอมตัวลงตอบรับทันที
“ขอรับ ทานอาวุโส”
จากนั้นคนสองสามคนก็ตรงไปคนละทิศละทางทันที
ผูบำเพ็ญเพียรวัยเยาวที่หนาตาดูหมดจด คาดไมถึงวาจะเปนอาวุโสอันดับหนึ่ง
ของตระกูลในตาจิ้น!
หลังจากที่นักปราชญไดยินก็หันหนาไปเอยถามชายชราผมขาว
“การอำพรางเขตอาคมเกิดปญหา การกำจัดผนึก นาจะเกิดอะไรขึ้นกระมัง”
น้ำเสียงของนักปราชญฟงไมออกวารูสึกอยางไร หลังจากที่ชายชราผมขาวสั่นเทิ้ม
ดวยความหวาดกลัวแลว ก็เอยตอบรับทันที
“รายงานทานอาวุโส ไมมีปญหาอยางแนนอน! ผนึกของภูเขาคุนอูถูกเปดรอย
แยกเอาไว และรอยแยกก็เล็กลงเรื่อยๆ แมกระทั่งภายในเวลาหนึ่งป รอยแยกทั้งหมด
ก็คงหายไป”
“อืม! เชนนั้นก็ดี รวบรวมผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำในตระกูลเจาเดี๋ยวนี้ เตรียมถอย
ทัพเถิด พวกเจาก็อยากลับไปในตระกูล ใหไปซอนในที่ที่เตรียมกันไว ไมวาผูใดหาก
กลาเปดเผยตัวตนในระยะเวลาหนึ่งป ก็จัดการตามกฎทันที!” นักปราชญวัยเยาวเอย
อยางราบเรียบ
ชายชราผมขาวพลันใจหายวาบ ทันใดนั้นพลันเอยปากตอบรับ จากนั้นรางก็รอน
ลงบนผิวของทะเลสาบ จมหายเขาไปอยางไรรองรอย
บำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยคนอื่นๆ ในตอนนี้ก็ฟนฟูสีหนากลับมาเปนราบเรียบ ตาง
ยืนรออยางเงียบๆ อยูที่เดิม
สถานที่ที่อำพรางเขตอาคมเหลานี้อยูไมไกลนัก บวกกับความเร็วของผูบำเพ็ญ
เพียงระดับกอกำเนิด ไปกลับครั้งหนึ่งจึงใชเวลาเพียงชั่วครู
ผลลัพธคือเวลาผานไปหนึ่งกาน้ำชา อาวุโสตระกูลเยี่ยที่ไปตรวจสอบเหลานั้นก็มี
หนึ่งคนบินกลับมา แตคนนี้กลับมีสีหนาตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว
“ทานอาวุโส แยแลว! ขาตรวจสอบเขตอาคมนั้น พบวาถูกคนทำลายไปแลว ลูก
ศิษยที่คอยดูแลเขตอาคมอยูดานในก็หายไปอยางไรรองรอย”
เมื่อไดยิน นักปราชญพลันมีสีหนาเครงขรึม แววตาเย็นเยียบวาบประกายฉาย
ออกไปรอบๆ ดาน ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือไดยิน ก็พากันหนาเปลี่ยนสี จากนั้นพลันเกิด
เสียงอื้ออึงขึ้น
ตอนที่ 992 ปรากฏการณความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ
ไมนานนัก รอจนผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือที่ไปตรวจสอบกลับมา สถานการณที่ทุก
คนรายงานตางเหมือนกับคนแรกอยางไรอยางนั้น ลวนบอกวาเขตอาคมถูกทำลาย ลูก
ศิษยที่ควบคุมเขตอาคมอยูก็หายไป
เวลานี้ ทุ กคนลวนรูวาเกิ ด ป ญ หาใหญ ขึ้น แล ว ผู บ ำเพ็ ญ เพี ยรของตระกู ล เยี่ ย
ทั้งหมดพากันเงียบกริบ
“ในรัศมีรอยลี้ของที่นี่ นอกจากผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยของพวกเราแลว ก็ไมมี
ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รคนอื่ น ถ าหากมี ค นเข ามาทำลายที ห ลั ง เวลาที่ ค นพวกนั้ น ลงมื อ ก็
บังเอิญเกินไปหนอยแลว พวกเราเพิ่งจะทำลายผนึกลง ทางนั้นก็มีคนทำอะไรกับการ
อำพรางในทันที ดูแลวคงเปนปญหาภายในของพวกเราแลว” นักปราชญเอยพรอมกับ
หัวเราะอยางเย็นชาขึ้น
“คนของตัวเอง!”
“เป น ไปไม ไ ด ก ระมั ง ! ที่ นี่ ล ว นเป น คนของตระกู ล เยี่ ย จะทำเรื่ อ งเช น นี้ ไ ด
อยางไร?”
“ลวนเปนคนของตระกูลเยี่ย? มันก็ไมแน มิใชวามีคนหนึ่งที่ไมไดใชแซเยี่ยอยู
หรอกหรือ!”
หลังจากถกเถียงกันแลว ทันใดนั้นก็มีคนเอยเชนนี้ออกมา
เมื่อไดยิน ผูบำเพ็ญเพียรกวาครึ่งก็ใจเตนระรัวพลางมองไปทางคนผูหนึ่ง
คนผูนั้นมีหนาตาธรรมดาๆ สีหนาราบเรียบ นั่นก็คือมารโบราณที่แปลงกลายเปน
มนุษยผูบำเพ็ญเพียร
“อาวุโสหานคือคนที่ขาเชื้อเชิญมาดวยตนเอง และยิ่งไปกวานั้นยังอยูกับทานลุง
เจ็ดตลอด อยาเดาซี้ซั้ว” อาวุโสตระกูลเยี่ยกลับเอยปากตำหนิ
“ใชแลว สหายหานอยูกับตาเฒ าตลอดจริงๆ เราสองคนกำลังพู ดคุยกันอยาง
สนุกสนาน!” คนประหลาดผูนำใหญผูนั้นเอยขึ้นอยางราบเรียบ
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ไดฟงคนประหลาดเอยเชนนี้ แนนอนวาเพราะความรูสึก
เชื่อมั่นที่มีอยูอยางเต็มเปยมตออาวุโสตระกูลเยี่ยผูนี้ จึงทำใหความสงสัยหายไปปลิด
ทิ้งทันที
เวลานี้นักปราชญกลับออกคำสั่งกับผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมวา
“พี่รอง เจาไปตรวจสอบที่กนทะเลสิ ดูวานอกจากลูกศิษยที่หายตัวไปเหลานั้น
ยังมีใครหายไปหรือไม”
“เขาใจแลว!” ผูบำเพ็ญ เพียรหนาเหลี่ยมเอยปากตอบรับ จากนั้น ก็กลายเป น
ลำแสงหลีกหนีสายหนึ่ง จมหายเขาไปในผิวทะเลสาบอยางไรรองรอย
“เหล า อาวุ โส พวกเราก็ เตรี ย มตั ว เถิ ด ถึ ง แม ว า ที่ นี่ จ ะมี ส ถานการณ ที่ แ ปลก
ประหลาดเกิดขึ้น ไมมีทางปดบังตอไปไดอีก แตภายในระยะเวลาสั้นๆ ก็คงไมมีขุม
อำนาจอื่นมาคุกคามพวกเรา แตเดิมหนานเจียงก็มีไมมีสำนักที่ใหญโตอะไรตั้งอยู ตอ
ให ผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรคนอื่น ๆ รีบ มาที่ นี่ ก็ จ ำเป น ต อ งใช เวลาสิ บ กวาวัน หรือ ครึ่งเดื อ น
ถึงแมจะไมรูวาเกิดอะไรขึ้นในภูเขาคุนอู แตพวกเราตองขุดเอาสมบัติลับขางในออกมา
ใหเร็วที่สุด โดยเฉพาะสมบัติสะทานฟาสองชิ้นนั้น จะตองไดมาภายในระยะเวลาสั้นๆ
มีเพียงเชนนี้ ตอใหแผนการของเราถูกผูอื่นลวงรู ก็มีพลังปกปองตนเอง มิเชนนั้น ไม
เพียงแผนการที่วางไวหลายรอยปจะตองสูญเปลา ตระกูลเยี่ยยังอาจจะเกิดหายนะ
ครั้งใหญ! ไมอาจปลอยใหเหตุการณเชนนั้นเกิดขึ้นแน” นักปราชญชุดขาวเอยกับคน
อื่นๆ อยางเครงขรึม
“ขอรับ ทานอาวุโส!” อาวุโสคนอื่นๆ ในตระกูลเยี่ยไดยิน หลังจากใจหายวาบ ก็
ตอบรับขึ้นพรอมกัน
หลังจากรออยูชั่วครู ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมและชายชราชุดขาวก็บินออกมา
จากกนทะเลพรอมกัน
ผูบำเพ็ญเพียรหนาเหลี่ยมมาอยูเบื้องหนาของนักปราชญชุดขาว และเอยดวยสี
หนาเครงขรึมวา
“นองสาม ปรมาจารยเขตอาคมดานลางหายไปสองคน คือหลานของตระกูลหา
และตระกูลสิบสอง หรือวาเจาสองคนนั้นกลาขายตระกูล?”
“เหอะ! ขายตระกูลใหกับศัตรูนั้นไมแน แตอาจจะถูกผูใดคนวิญญาณแลวสังหาร
กระมัง พวกเขาหายไปตอนไหน?” นักปราชญสงเสียงเหอะดวยความเย็นชาขณะเอย
ถาม
“สองวันแลวกระมัง สองคนนี้รับหนาที่ดูแลเขตอาคมที่ไกลที่สุด ตอนนั้นก็ไมมี
ใครสงสัย จนวันนี้ตอนที่ลูกศิษยทั้งหมดมารวมตัวกัน ถึงไดพบวาสองคนนี้หายไป
อยางไรรองรอย” ครั้งนี้ ชายชราผมขาวจึ งตอบกลั บ พรอมกั บ เหงื่อที่ ผุดขึ้ น มาบน
ใบหนา
“ดูแลวปญหาคงอยูที่สองคนนั้นจริงๆ ทวา ไมวาจะเปนอยางไรก็ตาม ยามนี้ไม
สำคัญแลว รอจนพวกเราเขาไปในภูเขาคุนอูไดแลว ปรมาจารยดานเขตอาคมและลูก
ศิ ษ ย ส ายในทั้ ง หมดก็ แ ยกกั น เสี ย อ อ ใช แ ล ว มั่ น ใจว า ผนึ ก รอยแยกเอาไว แ ล ว ใช
หรือไม?” นักปราชญเอยถามอยางเย็นชา
“ใชเขตอาคมตามหาพบแลว อยูทางทิศเหนือลึกลงไปใตดินยี่สิบลี้ ลึกลงไปจาก
พื้นดินพันจั้งนาจะมีรอยแยกที่ยาวประมาณยี่สิบสามสิบจั้งอยูรอยหนึ่ง เหลาอาวุโส
เขาไปก็ไดแลว” ชายชราผมขาวตอบกลับอยางรีบรอน
“นำทางเถิด พวกเราออกเดินทาง” นักปราชญเอยอยางไมลังเล
“ขอรับ ทานอาวุโส!” ชายชราผมขาวคอมตัวลงตอบรับ
ชั่วขณะนั้นกลุมผูบำเพ็ญ เพียรเกาคนก็ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนี ตรงไปยังทิ ศ
เหนือ ผานไปชั่วครู ลำแสงหลีกหนีก็มาถึงกลางอากาศเหนือปาหนาทึบยี่สิบลี้ ตนไมที่
อยูดานลางเขียวชอุมและเรียงรายกันแนนขนัด
ชายชราผมสีขาวหยุดลำแสงหลีกหนี หลังจากกวาดตามองไปรอบๆ ดาน ถึงได
พลิกฝามือ ในมือมีจานอาคมสีเงินออนปรากฏขึ้น
หลังจากขยับปากบริกรรมคาถา ชายชรก็าใชอาคมสายหนึ่งโจมตีไปบนจานอาคม
ชั่วขณะนั้นดานบนพลันเปลงแสงสวางวาบ อักขระจุดลำแสงตางๆ ปรากฏขึ้น
“ใชแลว ที่นี่แหละ!” ชายชราผมขาวมองจานอาคมอยูชั่วครู ก็เอยอยางมั่นใจมาก
“เยี่ ย ม! น อ งหญิ ง เก า ปล อ ยอสู ร วิ ญ ญาณออกมา พวกเราลงไปกั น เถิ ด ”
นักปราชญหันหนาไป เอยกับนักพรตหญิงชราคนหนึ่งที่อยูดานหลัง
นักพรตหญิงผูนั้นเอยตอบรับ ตบไปที่ยามเก็บอสูรวิญญาณ ลำแสงสีเหลืองสาย
หนึ่งพุงออกมาจากดานใน ทันใดนั้นพลันขยายใหญขึ้น ชั่วพริบตาก็กลายเปนตะขาบ
พันขายาวสิบกวาจั้งตัวหนึ่ง พนไอสีเขียวออกมาจากปาก ดูนากลัวเปนอยางมาก
ไม ต อ งให ผู ใ ดเอ ย อะไรอี ก นอกจากชายชราผมสี ข าวแล ว ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
ตระกูลเยี่ยทั้งหมดตางก็ทยอยกันบินมาอยูบนแผนหลังของตะขาบ
นั ก พรตหญิ ง ชราตะโกนด ว ยเสี ย งทุ ม ต่ ำ ออกมา รอบกายของตะขาบยั ก ษ
เปลงแสงสีเหลืองเปนเกราะปองกันออกมา ทันใดนั้นก็หอหุมรางของผูบำเพ็ญเพียร
ทั้งหมดเอาไว จากนั้นรางของตะขาบพลันโบกสะบัด พุงลงไปใตดิน
เมื่อรางอันใหญโตของตะขาบสัมผัสกับพื้นดิน ก็จมหายเขาไปขางในอยางเงียบ
เชียบ ชั่วพริบตาก็หายไปอยางไรรองรอย
คาดไมถึงวาจะเปนอสูรปศาจที่เชี่ยวชาญเคล็ดวิชาลี้ธรณี
ชายชราผมขาวหยุดชะงักอยูกลางอากาศชั่วครู เห็นวาผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ย
ไมมีทาทีจะกลับมาอีก ถึงไดพนลมหายใจออกมายาวๆ เฮือกหนึ่ง แลวหันหลังบิน
กลับไป
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น กลางอากาศหางจากตรงนั้นไปสองรอยลี้ ผูบำเพ็ญ
เพียรสวมชุดสีฟา ผาคลุมหนาสีแดงสองสามคนกำลังมองเสาลำแสงสีขาวนวลเจ็ดเสา
ที่พุงขึ้นไปบนทองฟาซึ่งอยูไกลออกไป แลวมองสบตากัน
“นี่คืออะไร ชางเปนปรากฏการณที่นาตกตะลึงจริงๆ” ชายหนุมอายุยี่สิบกวาป
คนหนึ่งเอยขึ้นอยางตกใจ
“ไม วาจะเป น อะไร จะต อ งไม ใช เรื่อ งธรรมดาแน ศิ ษ ย น อ งอวี๋ เจ ารีบ กลั บ ไป
รายงานเรื่องนี้ใหทานอาจารยทราบ ขาจะพาศิษยนองที่เหลือไปดู!” ผูบำเพ็ญเพียร
หนาดำที่เปนผูนำ พลันออกคำสั่งอยางเครงขรึม
ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รอี ก คนหนึ่ งได ยิ น คำพู ด นี้ ชั่ ว ขณะนั้ น ก็ ต อบรั บ และขั บ เคลื่ อ น
ยุทธภัณฑจากไป
สวนคนที่เหลือก็บินไปทางทะเลสาบเล็กๆ นั่น โดยมีผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคน
เปนผูนำดวยความรวดเร็ว
ในจุดที่ไกลออกไป ตรงจุดที่มีภูเขาสูงใหญตั้งตระหงานอยู มีผูบำเพ็ญเพียรรอย
กวาคนที่สวมเสื้อผาหลากหลายรวมตัวกันอยู ผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้ลวนมีพลังยุทธไม
สูงนัก สวนใหญลวนอยูในระดับฝกปราณ แมแตระดับสรางปราณก็มีอยูเพียงไมกี่คน
คาดไมถึงวากลุมผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำจะมารวมตัวกันอยูที่นี่
ถึ ง แม ว า คนพวกนี้ จ ะมี พ ลั ง ยุ ท ธ ตื้ น เขิ น แต ก็ ม องเห็ น เสาลำแสงที่ ส ะดุ ด ตา
เหลานั้นอยางชัดเจน ตอนนั้นทุกคนที่ยืนอยูบนศิลายักษ บางก็ขับเคลื่อนยุทธภัณฑ
อยูกลางอากาศก็ทยอยกันมองมาทางเสาลำแสงดวยความตกตะลึง
ตรงตีนภูเขารกรางนิรนามแหงหนึ่ง ชายชรารางอวบคนหนึ่งยืนอยูดานนอกประตู
หินที่เปดอยูครึ่งบาน มองไปยังเสาลำแสงสองสามตนบนทองฟา ใบหนามีแผนการ
สถานการณเชนเดียวกัน จากผูบำเพ็ญเพียรตัวเล็กๆ ตระกูลเยี่ยที่อยูตรงใจกลาง
ของทะเลสาบไปจนถึงในระยะสองสามพั นลี้ตางถูกเสาลำแสงที่น ากลัวนี้ท ำให ตก
ตะลึง ไมวาจะเปนผูบำเพ็ญ เพียรจากตระกูลที่อยูใกลๆ หรือผูบำเพ็ญเพียรสันโดษ
ตางก็ทยอยกันบินมาที่เสาลำแสง
ไมนานนัก ที่นี่ก็มีขาวลือวามีสมบัติวิเศษถือกำเนิดขึ้น และแพรงพรายออกไปยัง
ทั่วทั้งหนานเจียงดวยความรวดเร็ว
หลังจากผานไปสองสามวัน แมกระทั่งในเขตใกลๆ ก็ยังไดยินขาวคราวนี้
ตอนนั้น ทั้งหนานเจียงพลันเกิดเปนความวุนวายขึ้นทันที!
และในตอนที่ผูบำเพ็ญเพียรจากตระกูลเยี่ยลงไปใตดินนั้น หานลี่ก็ยืนอยูตรงใจ
กลางเขตอาคมสงตัวขนาดใหญแหงหนึ่งในที่ที่ไมรูจักชื่อ รอบดานมีกำแพงหินหยาบๆ
ขนาดใหญ ราวกับวาเปนถ้ำหินยอยขนาดยักษ
เวลานี้เขากำลังมองไปยังสิ่งของที่ อยูตรงฝาเท าดวยสีห น ากลัดกลุม วงแหวน
กลมๆ ที่มีรอยแตกอยูสองสามรอย ดานบนเปลงแสงสีแดงโลหิตแวววาวออกมา แลว
ยังมีลำแสงวิญญาณสวางวาบอยูจางๆ
นั่นคือยุทธภัณฑที่ใชกักยักษปกเงินแตเดิมสองสามชิ้น
เวลานี้วงแหวนกลมๆ เหลานี้ลวนชำรุด สวนยักษปกเงินกลับไรรองรอย ผลลัพธ
คือไมตองขบคิดก็รูแลว
เมื่อครุนคิดมาถึงตรงนี้ หานลี่พลันเลื่อนสายตา กลับมองลงไปที่ระหวางเอวของตน
ตรงนั้นมียันตวิเศษสีเขียวแผนหนึ่งแปะอยู เปลงแสงวิญญาณจางๆ ออกมา
ลวดลายของยันตแผนนี้หานลี่คุนเคยมาก กลับเปนยันตสงตัวที่หาไดยากอยาง
สุดๆ แผนหนึ่ง
ประเภทของยันตเชนนี้ เขาเคยเห็นตอนสงตัวที่มหาสมุทรดาวคลั่ง แตวาในตอน
นั้นเปนเพียงแคกระดาษยันตแผนหนึ่งเทานั้น
หานลี่ขมวดคิ้ว พลิกฝามือ ในมือมีแผนปายสีฟ าปรากฏขึ้น นั่นก็คือแผนปาย
เคลื่อนยายที่ไดมาเมื่อนานมาแลว
ตอนที่เขาถูกสงตัวออกมา ก็ไมรูวาจะถูกสงตัวไปที่ใด กลัววาจะถูกสงตัวออกไป
ไกลเกินไปและถูกแรงกดของชั้นบรรยากาศฉีกทึ้งรางกาย ดังนั้นชั่วพริบตานั้นจึงหยิบ
แผนปายออกมา กำไวในมือ
แตคิดไมถึงเลยวา ในเวลาเดียวกันกับที่ลำแสงวิญญาณสงตัวปรากฏขึ้นนั้น กลับ
มียันตวิเศษปรากฏขึ้นที่เอวของเขา แมแตโอกาสจะหลบหลีกก็ยังไมมี
และไมรูวาเปนเพราะเขตอาคมสงตัวยักษนี้มีจุดที่พิเศษอะไรบางอยาง หรือวาผู
บำเพ็ญเพียรที่วางเขตอาคมนี้ในปนั้นจะวางไดอยางแยบยล ทวายันตสงตัวโบราณ
เชนนี้ จะตองไมเหมือนกับในปจจุบันแน คุมคาใหศึกษาเปนอยางมาก
เมื่อขบคิดเชนนั้น หานลี่ก็ชูมือขึ้นควายันตวิเศษเอาไว แตยังไมทันรอใหปลายนิ้ว
ของเขาสั ม ผั ส กั บ สิ่ ง นั้ น ยั น ต วิ เศษก็ เปล ง เสี ย ง ‘ครื น ๆ’ ออกมาแล ว สลายออก
กลายเปนสะเก็ดไฟ
เขาพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็หัวเราะอยางขมขื่นออกมา
ยั น ต ส งตั ว นี้ ส รางขึ้ น อย างยากลำบาก ลมปราณที่ อ ยู ในยั น ต ค าดไม ถึ ง ว าจะ
เพียงพอใหพวกเขาสงตัวไดเพียงครั้งเดียว ดูแลวยันตสงตัวอื่นๆ ก็ไมมีทางรักษาไวได
เชนกัน
อื่นๆ ที่หานลี่พูดถึง กลับเปนอสูรวิญญาณครวญที่อยูดานขางของเขาหางออกไปไม
ไกลนักรวมทั้งรังไหมสีทองสองรังที่แขวนอยูกลางอากาศ ก็ถูกแปะยันตเอาไวเชนกัน
เวลานี้ เขาเงยหน าขึ้น มองไปชั่ วครู ยั น ต วิเศษสองสามแผ น นั้ น ก็ ค อ ยๆ สลาย
หายไปอยางที่คิดไว
สวนซากหมาป าตัวนั้ น ก็ก ลายเป น ซากศพที่ แ ท จ ริงในที่ สุด โดยอสู รวิญ ญาณ
ครวญที่ขยายรางจนมีขนาดสองสามจั้ง กำลังทุบอกกระโดดไปมาบนซากหมาปาไม
หยุด ทาทางตื่นเตนดีใจเปนพิเศษ
จะวาไปแลวก็เปนเพราะหมาปาตัวนั้นโชคราย ตั้งแตที่สงตัวออกมา คาดไมถึงวา
จะติดอยูขางกายของหานลี่ และจิตสัมผัสของหานลี่ก็แข็งแกรงเกินไป พอหายจาก
อาการวิงเวียนจากการสงตัวด วยเขตอาคมแล ว แน น อนวาจึงใช อั สนี เทวาป ด เป า
ภยันตรายโจมตีไปยังหมาปาตัวอยางรุนแรงโดยไมเกรงใจ ทำใหมันไดรับบาดเจ็บหนัก
บวกกับที่อสูรวิญญาณครวญพนลำแสงสีเหลืองออกมาในทันที ชั่วพริบตาก็ดูดซับ
ไอมารบนรางของซากหมาปาไปจนเกลี้ยง แนนอนวาจัดการหมาปายักษตัวนี้ไดอยาง
งายดาย สวนยักษปกเงินนั้นดูเหมือนวาจะไมสนใจหมาปาตัวนี้ ไมมีทาทีจะตอสูกับ
หานลี่ตอ
ในที่สุดตัวประหลาดที่ไดรับอิสระก็ถือโอกาสนี้สำแดงพายุหลีกหนี ซอนอยูใน
พายุและหนีออกจากที่นี่ไป
ตอนที่ 993 ภูเขายักษเสียดฟา
หานลี่ไมไดไลลายักษปกเงินเชนกัน ประการหนึ่งคือเมื่อเผชิญหนากับอีกฝายที่
ไมไดถูกกักเอาไว อาศัยเพียงพัดตรีเปลวเพลิงนั้ นก็ไมมีท างสังหารอีกฝายไดอยาง
งายดาย อีกประการหนึ่งคือ…
เขากลอกตาไปมองอสูรวิญญาณครวญแวบหนึ่ง พลันเผยยิ้มนอยๆ ออกมา
มือขางหนึ่งของอสูรตัวนี้ กำลังกำสิ่งของสีขาวโพลนพลางเขยาไปมาไมหยุด
หากเพงพินิจมอง คาดไมถึงวาจะเปนมาตัวเล็กๆ สีขาวนวลตัวหนึ่ง สองตาเปนสี
เขียวมรกต ขนาดประมาณครึ่งฉื่อ เห็ น ได ชัดวานั่ น คื อ จุ ดประสงค ที่ เขายอมเสี่ ย ง
อันตรายในครั้งนี้ มาทมิฬผูเชี่ยวชาญการอำพรางกาย
จะวาไปแลวอสูรวิญญาณตัวนี้ก็ชางโชคราย
ตอนที่สงตัวมาในตอนแรก อสูรวิญ ญาณตัวนี้ก็กลับมาซอนกายอยูบนรางของ
ซากหมาปาอีกครั้ง ผลลัพธคือซากหมาปาถูกอสูรวิญญาณครวญใชลำแสงสีเหลืองที่
พนออกมาจากจมูกมวนเขามา มันจึงถูกมวนเขามาดวยพรอมกัน
ถาหากไมใชเพราะหานลี่มีสายตาที่เฉียบแหลม ตะโกนใหอสูรวิญญาณหยุดไดทัน
อสูรวิญญาณตัวนั้นก็เกือบจะถูกอสูรวิญญาณครวญกลืนเขาไปในทองแลว
สวนกระบี่บินสองเลมที่แตเดิมถูกกักเอาไว ในตอนที่สงตัว ก็ถือโอกาสที่ยักษปก
เงินไมทันไดระวังตัว ใชความคิดดึงกลับมาจากเขตอาคม สวนทารกของสตรีชุดดำผู
งดงามที่ถูกเสนไหมวิญญาณทมิฬกักเอาไวนั้น กลับถูกยักษปกเงินกลืนลงไปในทอง
กอนการสงตัว
สิ่งเดียวที่ทำใหเขากลัดกลุมก็คือ เข็มบินผลึกแปลงชิ้นนั้นของเขา คาดไมถึงวาจะ
ถูกยักษปกเงินควาไว และเอาไปดวย
โชคดีที่สมบัติชิ้นนี้ถึงแมวาจะไมใชสมบัติประจำกาย แตก็เปนสิ่งที่เขาเคยหลอม
เชนกัน อีกฝายจึงไมอาจควบคุมสมบัติชิ้นนี้ไดภายในระยะเวลาสั้นๆ และเวลานี้ก็ยัง
ไมมีโอกาสแยงคืนกลับมา
ยามนี้ หานลี่กวาดสายตาไปรอบๆ ดาน ลักษณะถ้ำของที่นี่และที่เดิมมีลักษณะ
คลายคลึงกัน แตไมมีพายุทมิฬ กลับมีไอวิญญาณที่เต็มเปยมจนนาตกตะลึง คาดไมถึง
วาจะเปนถ้ำขนาดใหญ และยิ่งไปกวานั้นดูเหมือนวาจะเปนชีพจรวิญญาณระดับสุด
ยอดอะไรสักอยาง
นี่จึงทำใหเขารูสึกประหลาดใจ
หานลี่กมหนาลงมองเขตอาคมตรงฝาเทาอีกครั้ง
จากทักษะดานเขตอาคมของเขามองปราดเดียวก็รูวา เขตอาคมสงตัวยักษนี้ถึงแมวา
จะใหญกวาเขตอาคมสงตัวที่เขาเคยพบ แตเห็นไดชัดวาเปนแคเขตอาคมสงตัวทาง
เดียวเทานั้น นั่นก็หมายความวา เขาถูกสงตัวมาที่นี่ แตกลับไมมีทางอาศัยเขตอาคม
สงตัวนี้สงตัวกลับไปที่เดิมได
เมื่อเขาใจวาเกิดอะไรขึ้น หานลี่พลันขมวดคิ้ว
จากนั้นสายตาพลันกวาดไปในรังไหมยักษทั้งสอง ดานในยังคงมีไอวิญ ญาณที่
แข็งแกรงตอบสนองอยู ดูแลวชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋จะยังมีชีวิตอยู
หลังจากลังเลเล็กนอย เขาก็กวักมือเรียกอสูรวิญญาณครวญ ดูดมาทมิฬเขามาใน
มือของตนเอง จากนั้นก็แปะยันตวิเศษกักขังลงไปสองสามแผน แลวโยนเขาไปในยาม
เก็บอสูรวิญญาณ
หลังจากทำทุกอยางเสร็จ หานลี่ถึงไดชูมือทั้งสองขึ้น ประจุไฟฟ าสีทองหนาๆ
สองสายพุงออกไป โจมตีไปยังรังไหมสีเทา
ชั่วขณะนั้นเสียงตูมตามพลันดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองกลายเปนตาขายไฟฟาสีทอง
สองผืนหอหุมรังไหมยักษเอาไว
เวลานั้นลำแสงสีทองพลันเจิดจา เสียงฟาผาดังขึ้นไมหยุด
ไม มี ยั ก ษ ป ก เงิน คอยควบคุ ม ชั่ ว ขณะนั้ น เส น ไหมวิญ ญาณทมิ ฬ จึ งสลายออก
ทามกลางลำแสงสีทองชั้นแลวชั้นเลา
ในที่สุดหลังจากเสียง ‘ปง’ ดังขึ้นสองครั้ง รังไหมทั้งสองก็ระเบิดออกตามลำดับ
ดานในมีบุรุษผูหนึ่งและสตรีผูหนึ่งบินออกมา นั่นก็คือชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋
แตแคสองคนนี้ลวนมีสีหนาซีดขาว ใบหนาดูไมไดอยางสุดๆ
ไมวาจะเปนผูใด ถูกเสนไหมวิญญาณทมิฬดูดลมปราณไปเปนเวลานานขนาดนั้น
คิดดูแลวก็คงทุกขทน สูญเสียลมปราณไปจำนวนมากอยางแนนอน
“ขอบพระคุณพี่หานที่ชวยเหลือ!” หลังจากที่ชายชราแซฟูมีสีหนาผอนคลายลง
สองมือก็ประสานกันพลางเอย
“ครั้ ง นี้ ห ากไม ใช เพราะพี่ ห านมี ค วามสามารถเกรี ย งไกร เกรงว า พวกเราคง
ประสบหายนะกันทั้งหมดแน ผูใดจะรูวาในถ้ำจันทราตะวันจะมียักษปกเงินตัวหนึ่ง
ซอนอยู พวกเราและสหายหยวนไมทันไดระวังตัว ถูกตัวประหลาดที่ซอนอยูตัวนั้น
ลอบโจมตี สหายหยวนถูกมันฉีกทึ้งทารกตอหนา จนจบชีวิต” ไปเหยาอี๋เองก็คารวะ
หานลี่ แลวเอยพรอมรอยยิ้มขมขื่น
หานลี่ไดฟงคำพูดนี้ ก็ยิ้มบางๆ ออกมาเทานั้น
ถึงแมวาทั้งสองคนจะดูเหมือนวาซาบซึ้งใจ แตหานลี่ก็ยังมองความหวาดกลัวใน
สวนลึกของแววตาทั้งสองออก
อยางไรเสียถึงแมวาสองคนนี้จะถูกกักอยูในรังไหม แตประสบการณที่หานลี่ลงมือ
กับยักษปกเงินนั้น พวกเขาก็ไดเห็นอยางชัดเจน
หานลี่ตอกรกับยักษปกเงิน แมกระทั่งสุดทายยังทำใหซากสวรรคหนีไปดวยความ
หวาดกลั ว ทั้ งสองคนรวมมื อ กั น ก็ ไม ใช คู ต อ สู ข องเขาแน บวกกั บ ที่ ถู ก ส งตั วไปยั ง
สถานที่ ลึ ก ลั บ ที่ ไม รู จั ก ชื่ อ เวลานี้ มี เพี ย งแค ส ามคนไม มี ค นอื่ น ใด ในใจจึ งรู สึ ก ไม
ปลอดภัยขึ้นมา
ตอนนี้หากหานลี่มีเจตนาราย ทั้งสองคนก็รูวาตองพานพบโชครายมากกวาโชคดีแน
แตหานลี่แคเอายามเก็บอสูรวิญญาณที่มีมาทมิฬอยูในนั้น โยนใหชายชราแซฟู
แลวเอยอยางราบเรียบวา
“มาทมิฬอยูในนั้น อยางอื่นขาจะไมพูดถึง ถาหากหลอมยาลูกกลอนหลอเลี้ยง
ทารกไดมากหนอย ก็เหลือไวใหขาสองเม็ดก็พอแลว ทั้งสองตกลงหรือไม?”
“สองเม็ด? ไมมีปญ หา ขอแคไดมากหนอย ผูแซฟู จะตองเก็บไวให พี่ห านแน ”
ชายชราแซฟูรูสึกผอนคลายลง พลางเอยปากตอบรับ
“ขาเองก็ไมมีความเห็นอะไร ละอายใจยิ่งนัก ครั้งนี้ขาไมไดชวยอะไรเลย ตองให
พี่หานลงมือทั้งหมด ใหสหายมากหนอย ก็เปนสิ่งที่สมควรแลว” ไปเหยาอี๋ไดยินคำพูด
นี้ ก็ตกลงพรอมกับยิ้มบางๆ
“อืม เชนนั้นก็ดี! ตอนนี้สหายทั้งสองนั่งพักกอนเถิด ขาจะไปดูกอนวาที่นี่คือที่
ไหนกันแน” หานลี่มองไปยังทางออกเพียงหนึ่งเดียวแวบหนึ่ง แลวหรี่ตาลงขณะเอย
“พี่หานไปเถิด เราสองคนสูญเสียลมปราณไปไมนอย ขอนั่งสมาธิกอน” ชายชรา
แซฟูไรซึ่งความคิดเห็น
หลังจากที่ไปเหยาอี๋ก็พยักหนา พลันนั่งสมาธิลง
หานลี่หัวเราะออกมา รอบกายเปลงแสงสีเขียวสวางวาบ กลายเปนลำแสงหลีก
หนีสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไป ในเวลาเดียวกันก็แผจิตสัมผัสออกไป เพื่อไมใหยักษปก
เงินที่ซอนตัวอยูไกลๆ ลอบโจมตีเขา
เขากลับไมกลัววาสองคนนั้นจะแยงมาทมิฬไป สัญลักษณบนรางของทั้งสองคนที่
เขาทิ้งไว ยังเหลืออีกสองสามวันถึงจะสลายไป
ขอแคทั้งสองคนเคลื่อนไหว แนนอนวาจะถูกเขาพบรองรอยไดในทันที
หานลี่ไมใชนักปราชญ ความคิดสังหารคนเพื่อแยงชิงของ จึงสวางวาบขึ้นในหัวเมื่อครู
แตเขาก็ศึกษายาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกมานอยจริงๆ ตอใหไดสูตรปรุงยามา
หลอมเองกับมือ อัตราการประสบความสำเร็จก็ไมสูงนักแนนอน และไมวาจะอยางไร
ทั้งสองคนก็สรางความประทับใจตอเขาไดไมเลวนัก หานลี่จึงไมไดมีเจตนาจะฆาทิ้ง
ดังนั้นหลังจากขบคิดแลว เขาถึงไดลงมือปลอยทั้งสองคนออกมา
เมื่อออกมาจากสิ่งที่เหมือนหองโถงแลว ดานนอกก็เปนขั้นบันไดหินสีเขียวสายหนึ่ง
ตรงไปดานบน คาดไมถึงวามองปราดเดียวจะไมสามารถมองเห็นยอดของมันได
หรือวาพวกเขาเขามาในสวนที่ลึกที่สุดของภูเขา?
แมจะประหลาดใจเล็กนอย แตลำแสงหลีกหนีของหานลี่ก็ไมหยุดพักเลยแมแตนอย
พลางบินขึ้นไปดานบน แตหลังจากนั้นไมนาน หานลี่ก็ตกตะลึง
นานขนาดนี้ เบื้องหนายังคงเปนขั้นบันไดเหมือนเดิม นาเหลือเชื่อจริงๆ
ตองเขาใจวาถึงแมจะบินมาไมนานนัก แตจากความเร็วของเขา ระยะทางขนาดนี้
มันนากลัวเกินไปแลว หากไมใชเพราะเขาแผจิตสัมผัสออกไปรอบๆ อีกครั้ง และไม
พบรองรอยของเขตอาคมใดๆ ก็แทบจะคิดวาตนเองติดอยูในเขตอาคม
ผูใดจะสรางทางเดินที่ยาวขนาดนี้กัน?
หลังจากที่หานลี่บินมาอีกสองสามลี้ดวยความกลัดกลุมใจ ในที่สุดก็มองเห็นแสง
สวางที่ทางออก ในใจจึงรูสึกผอนคลายลง
หลังจากบินมาตามทางเดิน หานลี่ก็รูสึกวาเบื้องหนาสวางจา คนมาปรากฏตัวบน
แท น หิ น ยั ก ษ บนพื้ น มี ศิ ล าสี เขี ย วกองอยู เต็ ม ไปหมด มองปราดเดี ย วก็ รู ว า กว า ง
ประมาณเกือ บพั น จั้ง เมื่ อ สูด ลมหายใจเขาไปเฮือ กหนึ่ ง สู ดกลิ่น หอมของหมู ม วล
ดอกไมเขาไปเต็มปอด
ไอวิญญาณดูเหมือนวาจะสดชื่นมากกวาที่เขตอาคมหลายสวน
เมื่อกวาดตาไปเบื้องหนา ใบหนาของหานลี่ก็ยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกที่ที่กวาดสายตาไป ตรงปลายของแทนหินคาดไมถึงวาจะมีภูเขาขนาดใหญตั้ง
ตระหงานอยู
เขามองไปตามภูเขา ถึงไดพบวาบนทองฟาคาดไมถึงวาจะมีทางเดินสีขาวจางๆ
สายหนึ่ง เขาหันกายไปในทันที ดูแลวมองปราดเดียวก็มองเห็นทางเดินแลว
ดานหลังคาดไมถึงวาจะมีภูเขาเชนเดียวกันอีกลูกหนึ่ง ตั้งอยูตรงขามกัน กักเขา
เอาไวตรงกลาง
แทนหินยักษที่ฝาเทาคาดไมถึงวาจะเปนทางเดินหุบเขาที่ลึกอยางหาที่เปรียบมิได
หานลี่เงยหนาขึ้นมองอยูนาน แลวถึงไดมองไปทั้งสองฝง นอกจากผาสูงชันที่คด
เคี้ยวแลว ก็ไมมีอะไรอีก
หานลี่ไมไดขบคิดอะไรมากนัก กลายเปนลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพุงขึ้นไปกลาง
อากาศทันที
หลั ง จากบิ น มาสองสามพั น จั้ ง ในที่ สุ ด หานลี่ ก็ อ อกจากหน า ผา แต ห ลั ง จาก
พิจารณาไปเล็กนอย ก็เผยสีหนาไมอยากจะเชื่อออกมา จากนั้นก็ขับเคลื่อนลำแสง
ออกไปอยางรวดเร็ว บินอยูรอบๆ อยูนาน ถึงไดบินกลับมาที่เดิม
แตใบหนากลับเต็มไปดวยสีหนาตกตะลึงที่ปดไมมิด!
จะกลาววาอยางไรดี มีแคคำวา ‘มหึมา’ อยูในหัวของหานลี่
จะวาไปแลว หานลี่ก็นับวาเคยเห็นภูเขาที่ใหญโตมหึมามาก็ไมนอย ที่ใหญที่สุดก็
คงเปนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่เมืองดาวจรัสฟาของมหาสมุทรดาวคลั่ง ความสูงของภูเขาลูกนี้
ราวกับเสาที่สูงเสียดฟา คาดไมถึงวาจะแบงออกเปนแปดสิบชั้น ใหผูบำเพ็ ญ เพียร
จำนวนมากไดตั้งถ้ำพำนัก แคนี้ก็รูแลววาภูเขาลูกนี้ใหญโตขนาดไหน
และตอนนี้เขาก็อยูบนภูเขายักษที่ดูเหมือนวาจะไมไดดอยไปกวาภูเขาศักดิ์สิทธิ์
ลูกนั้นเทาใดนัก บางทีอาจจะใหญกวา ‘ภูเขาศักดิ์สิทธิ์’ ลูกนั้นเปนอยางมาก แตเขาก็
ไมอาจเปรียบเทียบได
เพราะวาเมื่อเขาเงยหนาขึ้นมอง ก็พบวามันเต็มไปดวยสีเขียวขจี มองไมเห็นสวน
ปลาย สิ่งที่เรียกวาหนาผานั้น เปนแครอยแยกเล็กๆ ใตฝาเทาเทานั้น
แตแคนี้ไมสามารถทำใหหานลี่ตื่นตระหนกขนาดนี้ สิ่งที่ทำใหเขาหมดคำพูดก็คือ
ภูเขาลูกใหญขนาดนี้ยังอยูในเขตอาคมยักษ
ขอแคเอียงคอมองออกไปนอกภูเขา ก็มองเห็นมานแสงสีขาวโพลนที่สูงเสียดฟา
ไดทันที ไรขอบเขต ราวกับวาภูเขายักษทั้งลุกถูกหอหุมเอาไวขางใน
ราวกับเปนผลงานอันยิ่งใหญ ถึงแมวาหานลี่จะเพี ยงแคขบคิด ก็ยังรูสึกวาตก
ตะลึง! นี่ไมใชสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรโบราณจะทำไดแน
มองไปยั ง ม า นลำแสงที่ ไ ม รู ว า อยู ห า งออกไปเท า ไหร หลั ง จากที่ ห านลี่ ลั ง เล
เล็กนอย ก็ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีตรงไปยังขอบฟา
หลังจากผานไปหนึ่งกาน้ำชาเต็มๆ หานลี่จึงไดมาถึงเบื้องหนาของมานแสงสีขาว
เขาควบคุมลำแสงหลีกหนี มาหยุดอยูเบื้องหนามานแสงที่ดูโปรงใสอยางมาก
หลังจากเขาใกลแลว หานลี่ก็พิจารณามานหนาๆ ที่ไมรูวาหนาเทาไหรอยูนาน จูๆ
ก็บินกลับไปอยางไมหันกลับมามองอีก เขาไมตองลงมือทดสอบ ก็สัมผัสไดวาเขต
อาคมนี้ มี ล มปราณที่ น ากลั ว แฝงอยู ไม ต อ งพู ด ถึ งว าเขาเป น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นกลาง เกรงวาตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง ก็ไมมีทางใชแรง
มหาศาลฝนทะลายกำแพงแหงแสงนั้นได
ระหวางทางที่บินกลับภูเขายักษ เมื่อหานลี่มองไปยังจุดที่ไกลออกไปของภูเขานี้
ก็ยังคงมองไมเห็นวามันใหญขนาดไหน ทวาตั้งแตที่พบภูเขาลูกนี้จนถึงตอนนี้ก็ยังคง
เงียบสงัด ไมมีเสียงใดๆ เลยแมแตน อย ทั้ งไมมีเสียงเพรียกของวิห คและไม มีเสียง
คำรามของอสูรตางๆ ราวกับวาเปนภูเขาที่ตายไปแลวอยางไรอยางนั้น
แต ไ อวิ ญ ญาณที่ เ ป ย มล น ในภู เ ขา กลั บ ทำให ทุ ก อย า งดู ส มจริ ง เช น นั้ น
สถานการณที่แปลกประหลาดเชนนี้ คาดไมถึงวาจะใหความรูสึกอันตรายอยางสุดๆ
กับหานลี่
ในที่สุดหานลี่ก็มีสีหนาเครงขรึมขณะบินกลับมายังหนาผา และกลับไปยังถ้ำที่มี
เขตอาคมสงตัวเดิม
ตอนที่ 994 หมอกสีมวง
เมื่อกลับมาถึงในถ้ำ ชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋ยังคงนั่งสมาธิอยูอยางซื่อสัตย
หานลี่เองก็ไมไดมีเจตนาจะรบกวนพวกเขา หลังจากลังเลเล็กนอยก็ใชมือหนึ่งตบ
ไปที่ยามเก็บของครั้งหนึ่ง ธงอาคมและจานอาคมตั้งหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ เขาโยนพวก
มันขึ้นกลางอากาศอยางไมใสใจเลยสักนิด
ชั่วขณะนั้นลำแสงหลากสีสันพลันพุงออกไปทั้งสี่ทิศ สวางวาบแลวจมหายเขาไป
ในถ้ำทั้งสี่ดาน ชั่วพริบตานั้นเขตอาคมงายๆ พลันกอตัวขึ้น
เขตอาคมนี้นอกจากจะมีประสิท ธิภาพในการบดบั งแลว หากมีศัตรูบุกเขามา
ภายในถ้ำ ก็มีประสิทธิภาพในการแจงเตือนดวย
คนที่เหลืออีกสองคนทำเปนมองไมเห็นการกระทำของหานลี่ นั่งอยูที่เดิมไมขยับ
เขยื้อน
หานลี่เห็นเชนนั้นก็หัวเราะนอยๆ ออกมา จากนั้นก็นั่งสมาธิลงตรงมุมหนึ่งของถ้ำ
และหลับตาเขาสูสมาธิเชนกัน
หลังจากผานไปหนึ่ งวัน หนึ่ งคืน ลมปราณของชายชราแซ ฟู แ ละไป เหยาอี๋ ถึ ง
คอยๆ ฟนฟูกลับมา
หลังจากทีท่ ั้งสองหยัดกายลุกขึ้นนั้น หานลี่ก็เปลี่ยนสีหนา ลืมตาทั้งสองขางขึ้น
“สหายทั้งสองฟนฟูลมปราณจนเต็มเปยมแลวหรือ?” เขาเอยถามอยางราบเรียบ
“ขอบพระคุณ พี่หานมากที่คอยปกปอง ลมปราณของขาและพี่ฟู ฟนฟูกลับมา
พอควรแลว” ไปเหยาอี๋ฉีกยิ้มขณะเอยตอบ
“พี่หานออกไปสำรวจแลวรอบหนึ่ง รูหรือไมวาที่นี่คือที่ใด?” ชายชราแซฟูกลับ
มองใจกลางของเขตอาคมยักษแวบหนึ่ง แลวอดไมไหวเอยถามขึ้น
“ไมแนใจนัก แตพวกเรานั้นอยูกลางภูเขายักษ รอบดานลวนถูกวางเขตอาคมไว
ดูเหมือนวาการจะออกไปนั้นไมใชเรื่องงาย” หานลี่เอยอยางสงบ
“ภู เขายั ก ษ ? พี่ ห านเป น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รจากมหาสมุ ท ร ไม คุ น กั บ ชื่ อ ภู เขาบน
แผนดิน ก็เปนเรื่องปกติ แตบางทีผูแซฟูอาจจะรูจัก” ชายชราแซฟูกลับดวงตาเปลง
ประกาย เอยอยางมั่นใจเปนอยางมาก
“หึๆ เชนนั้นหรือ? ในเมื่อพี่ฟูกลาวเชนนี้ อยางนั้นก็ลองออกไปดูกอนแลวคอยวา
กันเถิด” หานลี่หัวเราะหึๆ ออกมา เอยอยางไมคิดเชนนั้นออกไป
“ฟงจากน้ำเสียงของพี่หาน หรือวาภูเขาลูกนี้มีจุดที่พิเศษอะไร ขาเองก็จะออกไป
ดูสักรอบ” ไปเหยาอี๋กลับฟงอะไรออกในทันที ดวงตาสดใสเปลงประกายขณะเอย
หานลี่พยักหนาดวยสีหนาราบเรียบ
เขาเผยออกมาแล ว ว ามี ค วามสามารถเหนื อ กว าทั้ ง สอง แน น อนว าตอนนี้ จึ ง
กลายเปนผูนำไปโดยปริยาย
ดังนั้น หลังจากที่ชายชราและไปเหยาอี๋มองสบตากันแวบหนึ่งแลว ทันใดนั้นก็
กลายเปนลำแสงหลีกหนีสองสาย บินออกไปจากถ้ำ
หานลี่นั่งอยูที่เดิมไมไดหยัดกายลุกขึ้น แตกลับพลิกฝามือ จานอาคมสะกดรอย
กลับปรากฏขึ้นบนมือ
แววตากวาดไปบนจานอาคม ดานบนมีจุดแสงสีขาวดวงหนึ่งและสีดำดวงหนึ่งที่
เปลงประกายชัดเจนเปนอยางมาก
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง มองไปยังจานอาคมใบนั้นโดยไมปริปาก
หลังจากที่ไมรูวาผานไปนานเทาไหร เขาพลันขมวดคิ้ว ลำแสงสวางวาบขึ้นบนมือ
จานอาคมหายวับไป หลังจากผานไปชั่วครู ลำแสงพลันกะพริบวาบขึ้นที่ปากถ้ำ ชาย
ชราแซฟูและไปเหยาอี๋บินกลับมา
แตแคทั้งสองคนที่ปรากฏตัวเบื้องหนาของหานลี่นั้น มีสีหนาที่ไมคอยดีนัก
“เปนอยางไรบาง สหายทั้งสองพบอะไรหรือไม?” หานลี่หยักมุมปากขึ้น เผยสี
หนาอมยิ้มออกมา
ถึงแมวาเขาจะไมคอยคุนเคยกับตาจิ้นนัก แตถาหากมีภูเขาวิญญาณขนาดใหญ
เชนนี้จริงๆ เขาจะไมรูจักไดอยางไร
ดังคาด เมื่อหานลี่เอยประโยคนี้ออกไป ชายชราแซฟูก็หัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“พี่หานอยาลอเลียนเลย ภูเขาลูกมหึมาขนาดนี้ อยาพูดวาขานอยเคยพบมากอนเลย
แมแตไดยินก็ยังไมเคยมากอน ขายังไมมั่นใจแมกระทั่งวาตอนนี้พวกเรายังอยูในตาจิ้น
หรือไมเลย” เอยจบ ชายชราก็เผยสีหนาเปนกังวลออกมา
“ใช ภูเขามหึมาขนาดนี้ หากอยูในตาจิ้น ขาตองเคยไดยินมาบางแนนอน” คิ้วดำ
ขลับของไปเหยาอี๋เองก็ขมวดมุน
“อาจจะกระมัง ถึงแมจะไมรูวาเขตอาคมดานนอกนั้นคืออะไร และสถานการณ
ดานนอกภูเขาเปนอยางไร แตเขตอาคมสงตัวนี้จะตองเปนสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรโบราณ
สรางขึ้นอยางแนนอน การที่จูๆ เขตอาคมก็เริ่มทำงานสงตัวพวกเรา และแมแตยักษ
ปกเงินก็ถูกสงตัวมาที่นี่ อาจจะเปนเพราะระหวางการตอสูไปสัมผัสกับเขตตองหาม
อะไรสักอยางในเขตอาคมเขา หรือไมก็อาจจะเปนเพราะเหตุผลอื่นที่เรายังไมรู ทวา
เรื่องนั้นไมสำคัญแลว ตอนนี้พวกเราตองปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกกอน จากนั้น
คอยตรวจสอบภูเขาลูกนี้อีกที สหายทั้งสองคิดอยางไร?”
หานลี่เอยอยางเยือกเย็น
“พี่ห านพู ดมีเหตุผล ไอวิญ ญาณที่ นี่ ห นาแน น ขนาดนี้ อยูที่ นี่ น านหน อยก็ไม มี
ปญหา และยิ่งไปกวานั้นตอใหภูเขาลูกนี้มีอะไรแปลกๆ จริง มีพี่หานอยูก็ไมตองกังวล
แลว ไมแนวาอาจจะเปนวาสนาของพวกเราก็ไดนะ?” ชายชราแซฟูเงียบกริบไปชั่วครู
ก็ฉีกยิ้มเบิกบานขณะเอย
ไปเหยาอี๋เองก็ใฝฝนถึงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกอยางสุดๆ แนนอนวาจึงไม
โตแยงเรื่องนี้ ดังนั้นจึงพยักหนา
“พี่ฟูชมเกินไปแลว! ทั้งสองทานคงพบแลวสินะ ไมรูวาเปนเพราะเขตอาคมดานนอก
หรือเปลา จิตสัมผัสของพวกเราจึงถูกกดเอาไว แผจิตสัมผัสออกไปไดแคสองสามลี้
เทานั้น และภูเขาลูกนี้ก็ใหญมหึมาขนาดนี้ ตอใหพวกเราสามคนลงมือพรมอกัน ก็ไมรู
วาตองใชเวลาเทาไหรถึงจะตรวจสอบทั้งหมดได” จูๆ หานลี่พลันเปลี่ยนหัวขอบท
สนทนา
“ใชแลว ขาเองก็พบเรื่องนี้ตั้งนานแลว และยิ่งไปกวานั้นในภูเขายังมีกลิ่นอาย
ของความตายหนาแนนขนาดนี้ แปลกจริงๆ กวาครึ่งคงไมใชสถานที่ที่ปลอดภัยอะไร”
ไปเหยาอี๋เอยก็เอยเชนนี้ออกมา
“ไมวาภูเขาลูกนี้จะเปนอยางไร ที่นี่มีไอวิญญาณหนาแนนขนาดนี้ มันมีประโยชนตอ
การปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกเปนอยางมาก พวกเราปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยง
ทารกกอนเถิด” ชายชราแซฟูกลับหัวเราะแหงๆ ออกมาสองสามครั้งขณะเอย
แนนอนวาหานลี่และไปเหยาอี๋ไมมีขอคิดเห็น ดังนั้นพวกเขาจึงวางเขตอาคมรวม
วิญญาณในถ้ำทันที จากนั้นก็วางเขตอาคมปองกันอีกสองสามจุด และชายชราแซฟูก็
เริ่มปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารก
ชวงเวลานั้น หานลี่และไปเหยาอี๋ก็ไมไดออกไปดานนอกอีก แตคอยรักษาการณ
อยูดานขางดุจผูคุมกัน
ถึงอยางไรเสียการปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกสำหรับทั้งสองคนก็สำคัญอยาง
หาที่เปรียบมิไดจริงๆ ตอใหภูเขาลูกนี้มีอะไรที่แปลกประหลาด พวกเขาในเวลานี้ก็ไม
คิดจะสนใจ
ในตอนที่หานลี่และพวกรอใหยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกออกมาจากหมอนั้น
ตรงแนวสันเขาของภูเขายักษ ในศาลาหินแหงหนึ่ง กลับมีผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ย
กลุมหนึ่งรวมตัวกันอยู
พวกเขากวาครึ่งลวนนั่งสมาธิอยูแถวๆ ศาลาหิน มือทั้งสองกำศิลาวิญญาณเอาไว
ขางละกอน ดูเหมือนวาจะกำลังฟนฟูพลังลมปราณ
นักปราชญชุดขาวที่อยูในฐานะอาวุโสมากที่สุดของตระกูลเยี่ย กลับลอยอยูกลาง
อากาศเหนือศิลาหิน ทอดสายตามองไปยังบันไดหินที่ทอดตัวยาวไปตามภูเขาซึ่งอยู
ไกลออกไป
บันไดหินนี้ใชหินสีขาวนวลสรางขึ้น มองจากไกลๆ ดูเหมือนวาจะเปนบันไดที่
วิจิตรงดงามมาก แตเมื่อเขาไปดูใกลๆ บันไดหินสีขาวนี้กวางใหญจนนาตกตะลึงจริงๆ
กวางประมาณหาสิบถึงหกสิบจั้ง
และไมวาจะมองขึ้นไปแคไหน หรือวากมลงมองไปดานลาง บันไดหินก็สูงระฟา
จมหายเขาไปในมานหมอกสีขาวโพลน ไมอาจมองเห็นอะไรได
นักปราชญลอยอยูกลางอากาศดวยสีหนาไรความรูสึก ไมขยับเขยื้อน
ไมนานนัก จูๆ ก็มีลำแสงสวางวาบที่ขอบฟา สายรุงที่นาตกตะลึงสายหนึ่งปรากฏ
ขึ้น พุงลงมาหาศาลาหินจากบนทองฟา ตอนนั้นนักปราชญถึงไดหนาเปลี่ยนสี มองไป
ยังลำแสงหลีกหนีสายนั้น ชั่วพริบตา สายรุงที่นาตกตะลึงสีเหลืองออนก็มาอยูเบื้อง
หนาของนักปราชญ ลำแสงพลันหมนลง เผยใหเห็นรางของตัวประหลาดผูนำทานนั้น
นั่นก็คือ ‘ทานอาเจ็ด’ ของตระกูลเยี่ย
“เจาเด็กนอยสาม ขาตรวจสอบอยางละเอียดแลว หลังจากบินขึ้นตามบันไดไป
ยี่สิบสามสิบลี้ จะมีประตูเมืองอยู ดูเหมือนวาจะเปนประตูหมื่นเซียนที่มีชื่อเสียงเกรียง
ไกร แตประตูนี้ถูกปดผนึกเอาไว ไมอาจทลายเขตอาคมได” คนประหลาดเอยอยาง
เครงขรึม
“ประตูหมื่นเซียน! เชนนั้นก็ไมผิดแลว ไดยินวาในปนั้น บนภูเขาคุนอูมีผูบำเพ็ญ
เพียรโบราณอาศัยอยูมากกวาหมื่นคน มีเพียงตองผานประตูนั้นไป ถึงจะเปนถ้ำพำนัก
ของผูบำเพ็ญเพียรบนภูเขาคุนอู” นักปราชญถอนหายใจยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่ง สี
หนาผอนคลายลง
“ทวาดูจากเขตอาคมที่ผนึกประตูนั้นเอาไว ดูเหมือนวาจะไมธรรมดาเลย รีบลง
มือจะดีกวา! พวกเราไมมีเวลาใหเสียแลว” คนประหลาดมองลงไปหาผูบำเพ็ญเพียรที่
กำลังพักผอนอยูที่ศาลา แลวกลับขมวดคิ้วขณะเอย
“แนนอนวาขาทราบเรื่องนี้ แตตอนนี้คนอื่นๆ สูญ เสียลมปราณไปเปนจำนวน
มาก จำเปนตองพักผอนกอน ตอใหขาและทานอาเจ็ดไมเปนไร ที่นี่ก็ไมใชสถานที่ที่
ปลอดภัยอะไร จำเปนตองใหเหลาอาวุโสคอยคุมกัน ไมอาจแยกกันได” นักปราชญ
เอยอยางหมดความอดทนเล็กนอย
“นั่นมันก็ใช! คิดไมถึงวาการขามผานผนึกรอยแยกมาจะเปนเรื่องที่ยุงยากขนาดนี้
โชคดีที่ครั้งนี้ผูที่มาลวนเปนผูบำเพ็ ญ เพี ยรระดับกอกำเนิดขึ้นไป มิเชน นั้ นคงมี คน
เพลี้ยงพล้ำไปจริงๆ” คนประหลาดเองก็ถอยหายใจออกมา
นักปราชญ ไดยินแลวก็ฉีกยิ้ม แตในตอนที่ กำลังคิดจะเอยปากเอยอะไรอีกนั้ น
พลันหนาเปลี่ยนสี มองไปที่จุดหนึ่งทันที
“อะไรหรือ?” คนประหลาดพลันตกตะลึง อดที่จะถามขึ้นไมได
“ดูเหมือนวาจะมีเสียงอะไรสักอยาง ดังมาจากทางนั้น” นักปราชญเอยอยางเครงขรึม
“เสียง?” คนประหลาดรูสึกตกตะลึงรคนสงสัยเล็กนอย โคจรลมปราณรอบกาย
ขางหูมีเสียงคำรามของอสูรดังแววเขามา ดูเหมือนวาจะเปนราชสีหหรือพยัคฆ และก็
ดูเหมือนวาจะเปนเสียงของมังกร และยิ่งไปกวานั้นเสียงยังดังขึ้นเรื่อยๆ
“นี่คืออะไร ดูเหมือนวาจะมีอะไรสักอยางเขามาจริงๆ!” แววตาของคนประหลาด
ฉายแววเย็นชาสวางวาบ มือหนึ่งพลิกฝามือ ในมือมีวัตถุที่เปลงแสงสีเงินสวางวาบชิ้น
หนึ่งปรากฏขึ้น
นักปราชญเองก็มองไปยังจุดที่ไกลออกไป ดวยดวงตาที่ไมกะพริบ!
หลังจากผานไปชั่วครู จุดที่ไกลออกไปก็มีเมฆหมอกสีมวงผืนหนึ่งปรากฏขึ้น และ
กำลังตรงมาทางนี้ เสียงคำรามของอสูรก็ดังมาจากเมฆหมอกผืนนั้น
ชั่วพริบตบา หมอกสีมวงก็บินเขามาใกล หางจากศิลาหินแครอยกวาจั้ง
นักปราชญ และคนประหลาดมองเห็ น เงาดำๆ ที่ ซอนอยูในเมฆหมอก ดวงตา
ปศาจสีแดงก่ำขนาดเทากำปนคูหนึ่งกำลังจองมายังทั้งสองคน มันเต็มไปดวยโทสะ
และความกระหายเลือด เห็นไดชัดวาไมมีความเปนมิตร
คนประหลาดมีสีหนาเครงขรึม ชูมือหนึ่งขึ้น
ลำแสงสีเงินกลุมหนึ่งพุงออกมาจากมือ จากนั้นก็สวางวาบแลวหายลับไปอยางไร
รองรอย
แตในตอนนั้นเอง หลังจากเสียง ‘เปรี้ยง’ ดังขึ้นกลับมีกรงเล็บยักษขางหนึ่งยื่น
ออกมาจากเมฆหมอกดวยความรวดเร็วปานสายฟาฟาด บนกรงเล็บเปลงแสงสีเงิน
สวางวาบ
เสียงคำรามของอสูรในเมฆหมอกดังขึ้น คาดไมถึงวากรงเล็บยักษน้ันจะจับลำแสง
สีเงินเอาไว และเผยรางเดิมออกมา คาดไมถึงวาจะเปนกระสวยจิ๋วสีเงิน ขนาดสอง
สามชุน เปลงแสงวิบวับ
แตบ นกรงเล็บยักษ กลับมีโลหิ ตสีเขี ยวหยดติ๋ งๆ ชั่วขณะนั้ น สัตวป ระหลาดใน
หมอกสีมวงก็เปลงเสียงคำรามดวยความเจ็บปวดออกมา ทันใดนั้นแววตาคูนั้นพลัน
ฉายประกายโหดเหี้ยม
จูๆ หมอกสีมวงก็เบาบางลง ชั่วพริบตาเมฆหมอกก็หายไป เหลือเพียงดวงตาที่
โหดเหี้ยมสองขางหลังจากกะพริบตาสองสามครั้ง ก็เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไป
คนประหลาดและนักปราชญเห็นเชนนั้น ก็พากันหนาเปลี่ยนสี
คาดไมถึงวาจะเปนสัตวประหลาดที่เชี่ยวชาญเคล็ดวิชาอำพราง! ตอนนี้มันอยูใน
ภูเขาลูกนี้ จิตสัมผัสของพวกเขาถูกจำกัด การตอกรกับอสูรเชนนี้ เปนสิ่งที่ปวดหัว
อยางสุดๆ
หลังจากที่ทั้งสองคนมองสบตากันแวบหนึ่ง ก็ดูเหมือนวาสำแดงความสามารถ
ออกมาพรอมกัน
คนประหลาดอาปากออก พนกระบี่บินสีเหลืองเลมหนึ่งออกมา หลังจากหมุนวนหนึ่ง
รอบก็กลายเปนกระบี่ยักษขนาดสองสามจั้งเลมหนึ่ง จากนั้นกระบี่เลมนั้นก็เปลงแสง
สวางวาบ หลังจากเริงระบำอยูกลางอากาศเล็กนอย ก็พนไอกระบี่ที่เจิดจาจนแสบตา
จำนวนนับไมถวนออกมา ชั่วพริบตาก็ปกคลุมในอาณาบริเวณยี่สิบสามสิบจั้งเอาไว
สวนนักปราชญก็เสียงหึอยางเย็นชาออกมา สะบัดแขนเสื้อ ธงเล็กๆ สีเขียวดาม
หนึ่งปรากฏขึ้นในมือ จากนั้นก็โยนไปที่ฝาเทา ชั่วขณะนั้นไอหมอกสีเขียวกลุมหนึ่ง
พลันทะลักออกมาจากธงอยางบาคลั่ง ชั่วพริบตาก็กลายเปนกลุมหมอกขนาดใหญ
ปกปองกลุมผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยที่อยูที่ศาลาหินดานลางเอาไว
ตอนที่ 995 สำนักพิษศักดิ์สิทธิ์
หลังจากเสียง ‘ฟวๆ’ ดังขึ้น หางจากศาลาหินไปสามสิบกวาจั้งก็มีลำแสงสวาง
วาบขึ้น หลังจากที่ไอกระบี่สองสายกวาดผานไปแลว หมอกสีมวงก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
แตครั้งนี้ ตัวประหลาดที่อยูในหมอกกลับดูเหมือนวาจะถูกทำใหโกรธเกรี้ยวจนถึงขีด
สุดแลว
ภายใตการกูรองคำรามดวยความโกรธเกรี้ยวนั้น ไอหมอกพลันสลายหายไป คาด
ไมถึงวาจะเผยรางของอินทรีหัวราชสีหมีปกวิหคสี่ปกออกมา
วิหคตัวนี้กางปกทั้งสี่ที่มีขนาดใหญหาหกจั้งออก รอบกายมีลำแสงสีมวงโคจรอยู
ทาทางดุรายอยางสุดๆ
“อสูรวิหคราชสีห!”
เมื่อมองเห็นรูปรางของวิหคตัวนี้ชัดเจน คนประหลาดก็รองอุทานออกมาดวย
น้ำเสียงแหบแหง
นักปราชญหนาเปลี่ยนสี พลันสะบัดแขนเสื้อ มีดบินสีดำแดงเลมหนึ่งพุงออกมา
สับลงมาที่วิหคปศาจอยางรุนแรง
จะวาไปแลวก็แปลก แตเดิมวิหคปศาจที่มีทาทีดุดัน เมื่อเห็นมีดบินเลมนี้กลับเผย
สีหนาหวาดกลัวออกมา อาปากที่เปนเหมือนกับบอโลหิตออก พนวงแหวนลำแสงสี
มวงเปนชั้นๆ ออกมา โจมตีไปยังมีดบินอยางพอดิบพอดี
หลังจากที่เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น ลำแสงสีดำที่อยูทามกลางลำแสงสีมวง คาดไม
ถึงวามีดบินจะทะลวงมานแสงวงแหวนสิบกวาชั้นไปราวกับผากระบอกไมไผ แตทุก
ครั้งที่สับลงไป ก็ทำใหลำแสงสีดำของมีดบินออนแอลงไปหนึ่งสวน ในที่สุดตอนที่เขา
ใกลวิหคปศาจในระยะสองสามจั้ง ก็เปลี่ยนเปนสีดำที่หมองหมน ถูกวงแหวนสีมวง
สองสามชั้นตานทานเอาไว
วิหคปศาจเห็นเชนนั้นพลันดีใจ ตอนที่กำลังคิดจะสำแดงความสามารถกักขังมีด
เลมนี้อีกครั้งนั้นเอง
นักปราชญที่อยูไกลออกไปก็อาปากออกเชนกัน พนโลหิตบริสุทธิ์กลุมหนึ่งออกมา
จากนั้นสองมือของเขาพลันรายอาคมอีกครั้ง ชี้ไปที่โลหิตบริสุทธิ์นั้นอยางรวดเร็วสอง
สามครั้ง
ชั่วขณะนั้นโลหิตบริสุทธิ์พลันกลายเปนอักขระสีโลหิตอยางรวดเร็ว และหายวับ
ไปกลางอากาศ
มีดบินระเบิดลำแสงที่เจิดจาจนแสบตาออกมาอีกครั้ง ชั่วครูก็ทำใหวงแหวนสีมวง
ที่อยูรอบๆ ทั้งหมดแตกกระจาย สวางวาบแลวไปอยูเบื้องหนาของวิหคปศาจ และสับ
ลงมาอยางโหดเหี้ยม
วิหคปศาจพลันตกตะลึง ปกทั้งสี่สยายออกพรอมกันและพุงไปดานหลัง ชั่ววินาที
นั้นก็ทำไดเพียงชูกรงเล็บยักษขางหนึ่งออกมาตานทานไว
ผลคือโลหิตสีเขียวพลันสาดกระเซ็น ถึงแมวาชั่วขณะนั้นมีดบินจะถูกตานทานไว
แตกรงเล็บที่แหลมคมนั้นก็ถูกกรีดออกเล็กนอย ภายใตมีดลำแสงที่กวาดเขามา
ตอนนั้น วิหคปศาจพลันเงยหัวขนาดใหญ ขึ้น ปากก็เปลงเสียงรองคำรามที่ดัง
สนั่นออกมา เสียงคำรามนี้ดูเหมือนวาจะสั่นสะเทือนฟาดิน คาดไมถึงวาจะทำใหหูของ
นักปราชญและคนประหลาดดับไปแวบหนึ่ง รางกายอดที่จะสั่นคลอนไมได
แตภาพฉากที่นาเหลือเชื่อ ก็เกิดขึ้นในทันใด
เมื่อเสียงคำรามดังขึ้น คลื่นสีทองที่โปรงใสก็ถูกพนออกมาจากปากของหัวราชสีห
โจมตีไปยังมีดบินอยางพอดิบพอดี
ผลลัพธคือเมื่อมีดบินสีดำสัมผัสกับคลื่นสีทอง ชั่วขณะนั้นก็ราวกับถูกโจมตีดวย
กำลังมหาศาลอยางไรอยางนั้น ชั่วครูก็โจมตีกระเด็นออกไป
สวน ‘ทานอาเจ็ด’ ผูนั้นที่กำลังควบคุมกระบี่แสงสีเหลืองสองสามสายเพื่อชวย
มีดบินโจมตี สถานการณ ยิ่งแยเขาไปใหญ กระบี่แสงเขาไปใกลคลื่นสีท องไดเพี ยง
เล็กนอย จากนั้นก็คอยๆ สลายตัวออกทีละชุนๆ ชั่วพริบตาก็หายวับไป เปนเพราะ
เปลี่ยนเสียงคำรามเปนคลื่นสีทอง สีหนาของวิหคปศาจจึงออนแรงลงมา
หลังจากที่มันถลึงตาใสนักปราชญแวบหนึ่งดวยความโหดเหี้ยมแลว ก็สยายปกทั้ง
สองออก ชั่วขณะนั้นบนปกพลันมีเสียงฟาผาดังขึ้นพรอมกัน จากนั้นรางกายพลันราง
เลือน และสลายหายไปทามกลางประจุไฟฟา ตอมา กลับปรากฏตัวขึ้นหางออกไป
สามสิบกวาจั้ง คาดไมถึงวาเชี่ยวชาญในเคล็ดวิชาอัสนีหลีกหนีเชนกัน
ทวา ตอนนี้วิหคปศาจไมกลาหยุดยั้งเลยแมแตนอย กลายเปนลำแสงสีมวงสาย
หนึ่งพุง ออกไปยังจุดที่ไกลออกไป
ชั่วพริบตา มันก็หายไปจากขอบฟาโดยไมแมแตจะหันหัวกลับมา
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ คนประหลาดถึงไดถอนหายใจยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่ง
แตเมื่อเลื่อนสายตาไป มองเห็นนักปราชญมีสีหนาซีดขาว ก็อดที่จะเอยถามดวยความ
ตกตะลึงไมได
“เจาเด็กนอยสาม เปนอะไรหรือไม? แตเดิมการควบคุมมีดโลหิตทมิฬก็เปนเรื่อง
ที่ตองสูญเสียลมปราณไปจำนวนมากอยูแลว เจายังใชโลหิตบริสุทธมาเพิ่มอานุภาพ
ของมันอีก” คนประหลาดเอยดวยความกังวลใจ
“ไม เป น ไรขอรั บ แค สู ญ เสี ย ปราณแท ไปเท า นั้ น อสู ร วิ ห ราชสี ห เป น วิ ห คที่ มี
ชื่อเสียงดานความชั่วรายในสมัยโบราณ ความสามารถเหนือกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับ
กอกำเนิดขั้นปลายอยางพวกเราสามสวน ถาหากไมจับมันใหทันเวลา ตอกรไปมาคง
เปนเรื่องที่ไมดีนัก ตอนนี้มันไดรับความเจ็บปวดเล็กนอย ก็นาจะไมมารบกวนพวกเรา
งายๆ แลว” นักปราชญสูดลมหายใจเขาเฮือกหนึ่ง พลางสั่นศีรษะ
“นั่นมันก็ใช วิหคชั่วรายในยุคโบราณเชนนี้ปกติแลวมีรางกายที่แข็งแกรงดุจเหล็กกลา
ถาหากไมใชมีดโลหิตทมิฬประจำตระกูลเยี่ยของพวกเรา สมบัติอาคมทั่วๆ ไปคงไม
อาจทำรายอสูรวิหคราชสีหได เปนเรื่องที่รับมือยากจริงๆ” คนประหลาดไดยิน ก็เผย
สีหนาวางใจออกมา
นักปราชญหัวเราะนอยๆ ออกมา สายตามองไปยังหมอกสีเขียวดานลางแวบหนึ่ง
เห็นผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยที่ถูกการมาของอสูรวิหคราชสีหทำใหตกใจตื่น ก็กลับมา
เยือกเย็นขึ้นอีกครั้ง
ทันใดนั้นเขาพลันพยักหนา หลังจากเอยกับคนประหลาดอีกสองสามประโยค ก็
กระโจนลงในศาลาหินดานลาง หลับตาลงพลางนั่งสมาธิ
การควบคุ ม สมบั ติ ที่ สื บ ทอดกั น มาอย า งมี ด โลหิ ต ทมิ ฬ เมื่ อ ครู ทำให สู ญ เสี ย
ลมปราณไปไมนอย นักปราชญจึงถือโอกาสนี้ฟนฟูพลังยุทธไวกอนจะดีกวา
ในตอนที่ตระกูลเยี่ยและพวกของหานลี่อยูในใจกลางของภูเขายักษนั้น ใตภูเขา
ยักษลูกหนึ่งที่อยูใกลๆ กับหุบเขาหมื่นพิษ ในหุบเขาที่ไมสะดุดตาลูกหนึ่ง มีเงารางคน
สีขาวหาคนยืนเรียงกันอยูที่ทางเขาหุบเขา ตรงขามของพวกเขาคือผูบำเพ็ญเพียรสวม
ชุดสีดำสองคน กำลังรายงานอะไรสักอยางอยูดวยความเคารพนบนอบ
“เกิดปรากฏการณที่นาตกตะลึงขึ้นหรือ?” ไมรูวาคำพูดที่แปลกประหลาดนี้ดัง
ออกมาจากจุดไหน น้ำเสียงแข็งกระดางเล็กๆ แตฟงไมออกวาเปนบุรุษหรือวาสตรี
“ขอรับ ทานอาวุโส ใกลๆ กับทะเลสาบนิรนามของจวนผูอวิ๋น ที่นั่นมีเสาลำแสง
ที่นาตกตะลึงเจ็ดสาย พุงขึ้นไปบนทองฟา” ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีดำผูหนึ่งตอบ
กลับเชนนี้ออกมา
“เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อใด? พบอะไรหรือไม?” เจาของน้ำเสียงนั้นดูเหมือนวาจะรูสึก
สนใจเปนอยางมาก
“สี่ วั น ก อ นขอรั บ ลู ก ศิ ษ ย ข องสำนั ก ข า ได ข า วมา ก็ ใช ยั น ต ถ า ยทอดเสี ย งมา
รายงานในทันที ไดยินวาใตเสาลำแสงสองสามตนนั้นมีผนึกขนาดใหญจนหาที่เปรียบ
มิไดอยูจุดหนึ่ง เพราะวาผนึกคอนขางใหญเกินไป ตอนนี้จึงยังไมมั่นใจนักวาตำแหนง
ของผนึกอยูที่ใด แตไดยินวาสำนักตางๆ ในหนานเจียงตางตกตะลึงกับปรากฏการณนี้
ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดตางกำลังรีบมา” ผูบำเพ็ญเพียรอีกคนเอยตอบอยาง
นอบนอม
“เสาลำแสงเจ็ดตน! ฟงดูเหมือนลมปราณที่รั่วไหลออกมาจากการทลายเขตอาคม
เลย แตนาตกตะลึงเชนนี้ ก็คุมคาที่ขาจะวิ่งไปดูสักรอบหนึ่ง แตวา สองสามวันกอน
พวกเจาบอกวาผูเฒาฟูแหงพรรคเกายมโลกปรากฏตัวใกลๆ หุบเขาหมื่นพิษ แตจนถึง
ตอนนี้กลับยังไมมีขาวคราว พวกเจาไดรับขาวมาผิดหรือไม แมแตคนผูนั้นพวกเจายัง
หาไมพบ ยิ่งไมตองพูดถึงการตามหาเจาเด็กแซหานนั่นเลย” น้ำเสียงนั้นเย็นเยียบเปน
อยางมาก
“ทานอาวุโสโปรดระงับโทสะกอน ขาวที่พวกเราไดรับมาคือ มีผูบำเพ็ญเพียรเห็น
ผูเฒาฟูตรงไปทางนั้นจริงๆ จากนั้นก็หายตัวไปแถวๆ หุบเขาหมื่นพิษ” ผูบำเพ็ญเพียร
ชุดดำสองคนเผยสีหนาลนลานออกมา หนึ่งในนั้นเอยอยางขอรับโทษในทันที
“ในหุบเขาหมื่นพิษมีรองรอยการเคลื่อนไหวของผูบำเพ็ญเพียรจริงๆ แตนอกจาก
ถ้ำจันทราตะวันที่ขาไมเคยลงไปแลว สถานที่อื่นในหุบเขาก็เคยตรวจสอบมาหมดแลว
มันไมมีคนอยูในหุบเขานั้น เจาคงไมไดอยากบอกขาวา ผูเฒ าฟู ลงไปในถ้ำจัน ทรา
ตะวันหรอกนะ ถาหากเปนเชนนั้นละก็ ขาเองก็เคยรักษาการณอยูที่นั้นชวงหนึ่ง และ
นาจะไดขาวอะไรมาบางถึงจะถูก นอกเสียจากวาผูเฒาฟูจะอยากลงไปในถ้ำจันทรา
ตะวันเพื่อใชชีวิตบั้นปลายในนั้น”
ผูบำเพ็ญเพียรชุดดำทั้งสองคนไดฟงคำนี้ ก็เอยพึมพำขึ้นสองสามประโยค ครานั้น
ไมรูวาควรจะตอบอยางไร ใบหนามีเหงื่อเม็ดเปงผุดขึ้นมา
“ชางเถิด ชวงนี้ พวกเจาสืบเรื่องพวกนี้ไดก็ไมใชเรื่องงายแลว ใหเวลาพวกเจาอีก
หนอยก็แลวกัน สงคนไปตรวจสอบหุบเขาลูกนั้น ขาจะไปที่จวนผูอวิ๋นกอน พวกเจาก็
ออกไปแจงอาวุโสอูและอาวุโสเซียวใหไปที่นั่นกับขา คนมากจะทำอะไรสะดวกกวา”
“ขอรับ ทานอาวุโส!” ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีดำสองคนถึงไดผอนคลายลง แลว
คอมตัวลงตอบรับ
เสียงนั้นกลับไมไดเอยอะไรอีก เงารางสีขาวหาสายพลันจางลง และพุงขึ้นไปบน
ทองฟาพรอมกัน ชั่วพริบตาลำแสงหลีกหนีก็พุงแหวกอากาศออกไป
ในเวลาเดียวกันนั้น ณ ขอบฟาเหนือทุงหญารกรางใกลๆ กับจวนผูอวิ๋น ผูบำเพ็ญ
เพียรกลุมหนึ่งกำลังบินตรงมาทางทะเลสาบ
ผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้มียี่สิบกวาคน ทุกคนตางสวมชุดสีฟา มีผาสีแดงโพกหัว สี่
คนที่ บิ น อยู ห น าสุ ด มี พ ลั งยุ ท ธอ ยู ในระดั บ ก อ กำเนิ ด โดยเฉพาะผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รวั ย
กลางคนหนึ่งที่ใบหนาเต็มไปดวยริ้วรอย ยิ่งมีพลังยุทธอยูในขั้นปลายสุดของระดับ
กอกำเนิดขั้นกลาง กลิ่นอายรอบกายเย็นเยียบจนนาตกตะลึง ใหความรูสึกอันตราย
อยางสุดๆ
“ศิษยพี่ฮัว ครั้งนี้ตองกระทำการใหญโตขนาดนี้จริงๆ หรือ? คาดไมถึงวาจะพาลูก
ศิษยกวาครึ่งของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรามาดวย หากเกิดขอผิดพลาด จะทำให
สำนักของเราเสียหายอยางหนัก” ชายชราระดับกอกำเนิดขั้นตนอีกคนหนึ่ง เอยกับผู
บำเพ็ญเพียรวัยกลางคนที่ใบหนาเต็มไปดวยริ้วรอยที่อยูทามกลางลำแสงหลีกหนีดวย
ความกังวล
“ถาหากสมบัติวิเศษธรรมดาๆ ปรากฏขึ้น ขาคงไมเสี่ยงอันตรายขนาดนี้ แตครั้งนี้
กลับมีโอกาสเปนอยางมากที่จะอยูในภูเขาคุนอูในตำนาน เพื่อสมบัติลับในภูเขาลูกนั้น
ความเสี่ยงครั้งนี้มันคุมคาที่จะเสี่ยงนัก” ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนเอยดวยความตก
ตะลึง
“ภูเขาคุนอู? คือภูเขาที่สำนักของเราตามหามาโดยตลอดหรือ?” ชายชราผมสี
ดอกเลาอีกคนหนึ่ง เอยดวยความตกตลึง
“ใช เรื่องนี้ หลังจากที่ศิษยนองบรรลุระดับกอกำเนิด ขาก็เคยกลาวไปแลวครั้ง
หนึ่ง ในสมัยโบราณภูเขาลูกนี้คือหนึ่งในภูเขาวิญญาณไมกี่ลูกที่ดำรงอยูในแดนมนุษย
ถึงแมจะไมรูวาเปนเพราะเหตุผลใด ถึงไดถูกผูบำเพ็ญเพียรโบราณใชความสามารถที่
ยิ่งใหญปดผนึกเอาไว แตสมบัติลับในภูเขาลูกนั้นจะตองมีมากมายอยางไมตองสงสัย
และทานบรรพชนปูที่กอตั้งสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา ความจริงแลวก็คือทายาท
ของผูบำเพ็ญเพียรโบราณที่ผนึกภูเขาลูกนี้ แตก็รูเรื่องที่ปดผนึกภูเขาลูกนี้ไมมากนัก รู
เพียงวาปดผนึกภูเขาลูกนี้เอาไวที่ใดสักแหงในหนานเจียง ดังนั้นถึงไดกอตั้งสำนักเรา
ขึ้นที่หนานเจียง และตามหารองรอยของภูเขาลูกนี้มาโดยตลอด แตนาเสียดายที่ตอน
นั้นทานบรรพชนปูไมเคยไดรับขาวคราวอะไร เรื่องนี้จึงกลายเปนเรื่องลับที่ถายทอด
กั น มาในเหล าอาวุโสเท านั้ น ” หลั งจากที่ ริ้วรอยบนใบหน าของผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รวั ย
กลางคนเปลงแสงสีเขียวมรกตสวางวาบ ก็เอยขึ้นอยางเย็นชา
“แตศิษยพ่ีฮัวรูไดอยางไรวาปรากฏการณในครั้งนี้คือสัญญาณการปรากฏตัวของ
ภูเขาคุนอู อาจจะเปนสมบัติลับชิ้นอื่นก็ไดนะ?” ชายชราคิ้วหนาที่เอยถามครั้งแรก
เอยถามอยางตกใจระคนสงสัยเล็กนอย
“หึๆ ตอนนั้นนอกจากทานบรรพชนปูจะบอกวาภูเขาคุนอูตั้งอยูที่ใดสักแหงใน
หนานเจียงแลว ในมือยังมีไขมุกญาณสัมผัสที่เขาหลอมขึ้นเองกับมืออยูเม็ดหนึ่ง ไขมุก
นี้ถูกสรางขึ้นเพื่ อภู เขาคุนอูโดยเฉพาะ มั น สามารถสัมผัสได ถึงศิ ลาเซียนเทวัญ ที่ มี
ชื่อเสียงในภูเขากอนนั้นได ขอแคภูเขาลูกนี้ปรากฏตัวขึ้น ไขมุกวิญญาณก็จะสัมผัสได
ในทันที และกอนหนานี้สองสามวัน จูๆ ไขมุกที่อยูในศาลสักการะของทานบรรพชนปู
เม็ดนี้ก็สงเสียงรองขึ้น ขาก็รูทันทีวาภูเขาคุนอูปรากฏตัวขึ้นแลว ตอใหไมมีลูกศิษยใน
สำนักมารายงานเรื่องปรากฏการณประหลาด ขาก็จะสงคนไปตรวจสอบทุกแหงใน
หนานเจียงทันที”
“เชนนี้นี่เอง!” ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดสามคนที่เหลือ จึงถึงบางออขึ้นมา
จากนั้นก็เผยสีหนาตื่นเตนดีใจออกมา
“นาเสียดายที่ศิษยพี่หยวนไมอยูในสำนัก มิเชนนั้นหากหาอาวุโสของสำนักพิษ
ศักดิ์สิทธิ์อยางพวกเรารวมมือกันละก็ การเคลื่อนไหวนี้จะตองปลอดภัยขึ้นแนนอน”
ชายชราผมสีดอกเลากลับถอนหายใจออกมา
“หลังจากที่ศิษยนองหยวนออกไปครั้งนั้น กลับมาก็ดูลึกลับ ตอนนี้ไมรูวาอยูที่ใด
ไมมีทางติดตอได ทวา ขาไดออกคำสั่งไปแลว หากลูกศิษยพบศิษยนองหยวน ก็จะให
เขามารวมตัวกับพวกเราในทันที ตอนนี้สิ่งที่พวกเราตองทำ ก็คือถือโอกาสที่สำนัก
อื่นๆ ยังไมรูเรื่องของภูเขาคุนอู เขาไปในภูเขากอน และรีบชิงสมบัติสวนใหญออกมา
ใหเร็วที่สุดแลวคอยวากัน ไมรูวา การปรากฏตัวของภูเขาลูกนั้นในครั้งนี้ เปนเพราะ
ผนึกสูญเสียประสิทธิภาพเอง หรือวาเกิดจากผูบำเพ็ญเพียร ถาหากเปนอยางหลังละก็
การเดินทางของเราในครั้งนี้คงตองระวังตัวเพิ่มขึ้นแลว” ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคน
เอยไปพลาง สีหนาก็เครงขรึมขึ้น
ตอนที่ 996 แบงยา
แนนอนวาผูบำเพ็ญเพียรกลุมนี้ของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ไมรูวาศิษยนองหยวนที่
พวกเขาพูดถึงนั้นไดจบชีวิตลงในปากของยักษปกเงินแลว ดังนั้นหลังจากพูดคุยกันอีก
เล็กนอย พวกเขาก็เรงความเร็วของลำแสงหลีกหนี ใหเร็วกวาเดิมเพื่อเรงเดินทาง
ไปถึงไวขึ้นสักวันหนึ่งสำหรับพวกเขาแลวนั้น เปนสิ่งที่มีประโยชนอยางมาก
ณ จวนผูอวิ๋น ในทะเลสาบเล็กๆ มีผูบำเพ็ญเพียรที่พลังยุทธหลากลายสองสาม
รอยคนกำลังรวมตัวกันอยูเปนกองทัพ
หนึ่งในนั้นมีอยูจำนวนไมนอยที่ บิน อยูบนท องฟ า โดยมีเสาลำแสงเจ็ดตนเป น
ศูนยกลาง พลางคนหาอะไรสักอยางอยูอยางเงียบๆ
บนพื้นเองก็มีผูบำเพ็ญเพียรที่มียันตลี้ธรณีและคนที่ใชเคล็ดวิชาลี้ธรณีอยูไมกี่คน
กำลั ง ผลุ บ ๆ โผล ๆ อยู เป น บางครั้ ง และกำลั ง พู ด คุ ย อะไรสั ก อย า งกั บ สหายร ว ม
เดินทางที่อยูบนพื้นดินดวยความตื่นเตนดีใจ เห็นไดชัดวาตราผนึกยักษที่ซอนตัวอยูใต
ดินถูกคนพบแลว
ตรงขามกับตราผนึกยักษนี้ รอยแยกสายหนึ่งที่ถูกตระกูลเยี่ยฝนใชเขตอาคมแยกออก
กลับยังไมถูกคนพบตำแหนงที่แนชัด แตถึงจะเปนเชนนั้น ก็ยังทำใหผูบำเพ็ญเพียร
เหลานี้ตื่นเตนดีใจเปนพิเศษ คนเหลานี้ตางทยอยกันสงยันตถายทอดเสียงออกไปให
ตระกูลหรือสำนักของตัวเอง บางก็เหาะจากไปในคืนนั้น เพื่อไปรายงานเรื่องนี้ดวย
ตัวเอง
ผูบ ำเพ็ ญ เพี ยรที่อยูที่ นี่ในตอนนี้ มี ผูที่ มี พ ลังยุท ธระดับสรางปราณเป น ผูน ำ ผู
บำเพ็ญเพียรระดับฝกปราณและระดับหลอมรวมตางก็มีไมมากนัก สวนใหญในนั้น
ลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษที่พบปรากฏการณนี้ดวยความบังเอิญ และเขามาดู อีก
ส วนหนึ่ งคื อ สายลั บ จากขุ ม อำนาจน อ ยใหญ ที่ อ ยู ใกล ๆ ได ยิ น ข าวลื อ จึ งรีบ รุด มา
ตรวจสอบ
สวนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดในตอนนี้กลับยังไมมีผูใดพบเห็น
นั่นก็ไมแปลก แตเดิมทะเลสาบเล็กๆ แหงนี้ก็เปนสถานที่ที่รกรางเปลาเปลี่ยว
รอบๆ ทั้งไมมีภูเขาและแมน้ำขนาดใหญ จึงไมมีสำนักผูบำเพ็ญ เพียรหรือตระกูลผู
บำเพ็ญเพียรที่คอนขางใหญตั้งอยู ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดจึงไมวิ่งมาที่รกราง
เปลาเปลี่ยวเชนนี้อยางไมมีเหตุผล
แมแตกลุมผูบำเพ็ญเพียรของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ไดยินขาวนี้และรีบรุดมาในทันทีก็
ยังตองใชเวลาเดินทางสองวัน
ทวาผูบำเพ็ญเพียรสันโดษสวนใหญที่มีพลังยุทธต่ำตอย หลังจากที่พบผนึกยักษใตดิน
ที่ยากจะจินตนาการแลว ถึงแมวาจะรูสึกอาลัยอาวรณ แตก็จากไปตามลำดับดวย
ความชาญฉลาด
พวกเขารูดี ไมวาผนึกดานลางจะมีของมีคาขนาดไหน การตอสูแยงชิงระดับนี้ก็
ไมใชสิ่งที่พวกเขาจะเขารวมได หากอยูตอไป แลวเกิดถูกลูกหลงจากการตอสูของผู
บำเพ็ญเพียรระดับสูง นั่นจะยิ่งโชครายเขาไปใหญ
แนนอนวาก็มีผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำที่ยังไรเดียงสาไมยอมจากไป ประการหนึ่ง
คือพวกเขาอยากรูวาผนึกใตดินนั้นคืออะไรกันแน อีกประการหนึ่งก็เพราะหวังพึ่ ง
โชคชะตา ถึงแมจะรูวาพลังยุทธของตัวเองไมสูงสง แตหากโชคดี ก็อาจจะไดประโยชน
อะไรบาง จึงอยากลองเสี่ยงดวงดูสักตั้ง ดังนั้นในตอนนี้ ที่นี่จึงเกิดความวุนวาย สวน
ใหญลวนเปนคนที่เปนคนคิดไมซื่อ
ทว าทั้ งหมดนี้ สำหรับ หานลี่ ที่ อ ยู ในภู เขายั ก ษ ใต ผ นึ ก นี้ มี ค วามเกี่ ย วข อ งกั น
เล็กนอย
เวลานี้เขาและไปเหยาอี๋กำลังจองเขม็งไปยังชายชราแซฟูที่นั่งสมาธิอยูตรงกลาง
ถ้ำ เปลือกตาไมกะพริบเลยแมแตนอย
หากพูดวาจองเขม็งไปยังชายชรา ความจริงแลวสูบอกวาจองเขม็งไปยังเตาหลอม
ยาสีทองเบื้องหนาของชายชราจะถูกกวา เตาใบนี้ลอยสูงจากพื้นสามฉื่อ มันกำลัง
หมุนรอบตัวเองอยางชาๆ กลางอากาศต่ำๆ
ชายชราแซฟูกำลังพนเพลิงทารกสีเขียวมรกตออกมา สองมือก็รายอาคมนิรนาม
โจมตีใสเตาหลอมยาใบนั้นไมหยุด ทุกอาคมที่โจมตีเขาไปที่เตาหลอมยาซึ่งถูกหอหุมไว
ดวยเปลวเพลิงสีเขียว ตางก็เกิดเปนลำแสงหาสี เผยใหเห็นสีสันงามตา
และกลิ่นหอมของยาที่สงออกมาจากเตานั้น ชางหอมหวานเยายวน ทำใหผูคน
รูสึกเบิกบานและสุขใจ
ชายชรารายอาคมเร็วขึ้นเรื่อยๆ สีหนาก็ยิ่งเครงขรึมขึ้นเรื่อยๆ เห็นไดชัดวาถึง
ชวงเวลาสำคัญในการปรุงยาแลว
หานลี่ที่อยูดานขาง ดูเหมือนวาจะมีสีหนาราบเรียบ แตในใจกลับรูสึกตึงเครียด
เล็กๆ เชนกัน
เลือดมาทมิฬตัวนั้นและวัตถุดิบที่หายากอื่นๆ ตางถูกโยนเขาไปในเตาหลอมยา
อยางตอเนื่องในระยะเวลาสองสามวันที่ ผานมา ถาหากยาลูกกลอนเตานี้ลมเหลว
พวกเขาก็ไมมีเลือดมาทมิฬตัวที่สองใหใชปรุงยาแลว
ดังนั้นถึงแมวาเขาจะรูวาชายชราแซฟูมั่นใจในการปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารก
เปนอยางมาก แตตอนนี้ที่เห็นวายาลูกกลอนกำลังจะสำเร็จ ในใจก็อดที่จะขบคิดถึง
ประโยชนและความสูญเสียที่ตนเองจะไดรับไมได
ไปเหยาอี๋ที่อยูดานขาง ถึงแมวาจะมีสีหนาไมไดตกตะลึงเชนกัน แตดวงตาคูนั้น
กลับฉายแววรุมรอนขึ้นในบางครั้ง เผยใหเห็นเจตนาการครุนคิดถึงประโยชนและ
ความสูญเสียของสตรีผูนี้ออกมาอยางไมตองสงสัย
จูๆ เตาหลอมยาพลันหยุดชะงัก และหยุดหมุนวน ในเวลาเดียวกันก็เปลงเสียง
รองออกมา ตอนนั้นกลิ่นหอมของยาพลันตลบอบอวลมากขึ้นอีกสามสวน
ชายชราแซฟูดวงตาเปลงประกาย อาคมในมือและเพลิงทารกในปากหยุดชะงัก
พรอมกัน พลิกฝามือหนึ่งขึ้นอีกครั้ง ในมือมีขวดน้ำเตาเล็กๆ สีแดงสดปรากฏขึ้น มันมี
ขนาดเพียงสี่หาชุนเทานั้น
อีกมือหนึ่งพลันดีดนิ้ว เสียง ‘เปาะ’ ดังขึ้น ลำแสงสีขาวสายหนึ่งถูกดีดออกไป
โจมตีไปยังฝาเตา
ผลลัพธคือฝาเตาพลันสั่นคลอน และไถลตกลงมา
เสียงรองในเตาหลอมยาหยุดชะงัก ทันใดนั้นพลันมีดวงแสงขนาดเทากำปนหา
ดวงพุงออกมาจากในนั้น และทามกลางดวงแสงสีขาวเหลานั้นก็มียาลูกกลอนสีเขียว
ขนาดเทาหัวแมมือดวงละหนึ่งเม็ด สีเขียวมรกต เปลงประกาย
หลังดวงแสงเหลานี้หมุนวนอยูภายในเตาหลอมยารอบหนึ่ง ตางก็พรอมใจกันพุง
กระจายตัวออกไปรอบดาน ตองการจะหนีไป
แตชายชราแซฟูที่เตรียมการเอาไวกอนแลวก็สะบัดขวดน้ำเตาที่อยูในมือดวย
ความรวดเร็ว ลำแสงสายหนึ่งพุงออกมาจากในนั้น หลังจากเปลงแสงสวางวาบ ก็มวน
เอาดวงแสงทั้งหมดเขาไปขางใน เก็บเอาไวภายในน้ำเตา
“เอาละ สำเร็จแลว!” ชายชราถึงไดถอนหายใจออกมายาวๆ เฮือกหนึ่ง หันหนา
ไป ใบหนาเต็มไปดวยรอยยิ้มขณะเอยกับหานลี่
“ลำบากพี่ฟูแลว คิดไมถึงวาจะหลอมยาลูกกลอนออกมาไดหาเม็ดจริงๆ แตเดิม
ขายังกลัววาจะหลอมไดนอยมาก!” ไปเหยาอี๋หยัดกายลุกขึ้น เอยดวยความปติยินดี สี
หนาแดงระเรื่อ เผยเสนหอันนาเยายวนออกมา
“วัตถุดิบที่ผูแซฟูเตรียมเอาไวในตอนแรก สามารถหลอมไดประมาณหาหกเม็ด มิ
เชนนั้น ตอนแรกตาเฒาคงไมกลาเชิญสหายมาหาคนหรอก สิ่งที่นาเสียดายก็คือ ศิษย
นองหญิงฉางและสหายหยวนกลับโชครายเพลี่ยงพล้ำไปดวยเหตุนี้” ชายชราหุบยิ้ม
บนใบหนา
เห็ น ได ชั ด ว า ความสั ม พั น ธ ข องชายชรากั บ สตรี ชุ ด ดำผู ง ดงามนั้ น ไม ธ รรมดา
ถึงแมวาผูบำเพ็ญเพียรสวนใหญจะพบเจอความเปนตายมานับครั้งไมถวน แตเมื่อปรุง
ยาสำเร็จ ศิษยนองหญิงฉางผูนั้นกลับตองจบชีวิตลงดวยเหตุนี้ ก็อดที่จะรูสึกจิตใจ
หมนหมองไมได
เมื่อไดยินชายชรากลาวเชนนี้ สีหนาดีอกดีใจของไปเหยาอี๋ก็หายวับไป พลางถอน
หายใจออกมาเบาๆ เฮือกหนึ่งเชนกัน
หานลี่กลับมีสีหนาไมเปลี่ยนแปลง แตก็เงียบกริบไมไดเอยอะไรออกมา
“สหายไป เจานาจะมีกลองธาตุไมอยู ทางที่ดีที่สุดอยาใชกลองหยกธรรมดาบรรจุ
มันเลย ประสิทธิภาพของยาจะสูญเสียไปอยางงายดาย และยาลูกกลอนชนิดนี้ก็มีฤทธิ์
มากไปหนอย ถาหากกินเขาไปในทันที อยางนอยที่สุดก็ตองกักตนบำเพ็ญเพียรไปครึ่ง
ป ถึงจะหลอมฤทธิ์ยาหมด มิเชนนั้นผลลัพธจะลดลงไปจำนวนมาก” ชายชรามีสีหนา
เจ็บปวดฉายแวบผานไปอยางรวดเร็ว ไตรตรองขวดน้ำเตาที่อยูในมือพลางเอยกับไป
เหยาอี๋ดวยสีหนาราบเรียบ
“กลองไมนั้นมี ยาลูกกลอนนี้ล้ำคาขนาดนี้ ขาไมกินในทันทีแน” ไปเหยาอี๋ฉีกยิ้ม
เบิกบาน พลิกฝามือ กลองไมสีเหลืองใบหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ
ชายชราพลันพยักหนา ดีดไปที่กนน้ำเตาโดยไมพูดอะไร ชั่วขณะนั้นลำแสงสีแดง
พลันหมุนเปนเกลียวออกมา ดวงแสงสีขาวดวงหนึ่งก็พุงตรงไปหาไปเหยาอี๋
ไปเหยาอี๋ถือกลองไมเอาไว อีกมือหนึ่งก็ควาไปทางยาลูกกลอนกลางอากาศ
ยาลูกกลอนกลายเปนลำแสงสีขาวสายหนึ่งถูกดูดเขาไปในกลองไม
ไปเหยาอีพ๋ ิจารณายาลูกกลอนในกลองอยางละเอียดสองสามครั้ง เมื่อสัมผัสไดถึง
พลังวิญญาณที่แฝงอยูในยาลูกกลอนอยางชัดเจน ถึงไดเก็บกลองไมลงไปดวยความดี
ใจอยางลนเหลือ จากนั้น ปากก็เอยบอกชายชราวาไมตองขอบคุณ
ชายชราไดยินแลวพลันหัวเราะออกมา ยื่นมือออกไปควานหาของในยามเก็บของ
ที่ขางเอว คาดไมถึงวาจะมีกลองไมสีเขียวปรากฏขึ้น
จากนั้นทามกลางสายตาแปลกใจของไปเหยาอี๋ คาดไมถึงวาเขาจะเทยาลูกกลอน
เม็ ด หนึ่ งออกมาจากน้ ำเต าเช น กั น วางลงไปในกล อ งไม จากนั้ น ก็ เก็ บ ลงไปทั น ที
จากนั้นก็หัวเราะแหงๆ ใหหานลี่ คาดไมถึงวาเขาจะชูมือขึ้น โยนน้ำเตาสีแดงสดขวด
นั้นใหหานลี่
ถึงแมวาหานลี่จะรับน้ำเตาขวดนั้ น มาตามจิตสำนึ ก แตใบหน าก็เผยสีห น าตก
ตะลึงออกมาเล็กนอย
“สหายมีเจตนาใดหรือ? ดูเหมือนวาขานอยจะขอยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกกับ
สหายแคสองเม็ดเทานั้น!” หานลี่ขมวดคิ้ว ขณะเอยอยางเชื่องชา
“ผูแซฟูมิใชคนละโมบ ครั้งนี้โชคดีรอดตายมาไดและยังไดยาลูกกลอนอีก ลวน
อาศัยกำลังของสหายทั้งนั้น ศิษยนองของขานอยก็เพลี้ยงพล้ำไปแลว ผูแซฟูตองการ
ยาลูกกลอนเพียงเม็ดเดียวเทานั้น หากพี่หานไมรังเกียจละก็ เอายาลูกกลอนสามเม็ดนี้
ไปเถิด” คาดไมถึงวาชายชราจะเอยดวยความราบเรียบ
เมื่อไดฟงคำพูดของชายชรา หานลี่ก็มองน้ำเตาในมือ และพิจารณาชายชราอีก
สองครั้ง และอดที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ไมได
ชายชรากำลังคิดอะไรอยู ขาก็พอจะเดาได ดูแลวอาวุโสของพรรคเกายมโลกผูนี้
คงรูสึกวาที่ปรุงยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกสำเร็จได ตัวเองนั้นมีประโยชนนอยมาก
ยังคงกลัววาหานลี่จะเปลี่ยนเปนศัตรู ดังนั้นถึงไดใชวิธีการยอมขาดทุนเพื่อหลีกเลี่ยง
หายนะ กัดฟนยอมมอบยาลูกกลอนหลอเลี้ยงทารกอีกเม็ดหนึ่งใหเขา
ประการหนึ่งก็เปนการแสดงความบริสุทธิ์ใจที่มีตอหานลี่ อีกประการหนึ่ง ก็คือ
ลดความอยากสังหารของหานลี่ที่มีตอตนใหเหลือนอยที่สุด ขอแคหานลี่ไมใชพวกที่ไร
ความปรานี รับยาเม็ดนี้ไป กวาครึ่งคงไมมีจิตคิดสังหารเขาอยางไมซื่ออีก
มีเรื่องดีๆ เชนนี้เขาหาตลอดทั้งป แนนอนวาหานลี่ไมมีทางปฏิเสธ
“ในเมื่อพี่ฟูกลาวเชนนี้ ผูแซหานก็จะไมปฏิเสธ”
หานลี่เองก็ไมเกรงใจ ลำแสงในมือสวางวาบ น้ำเตาสีแดงสดที่อยูในมือหายวับไป
อยางไรรองรอย
หากไมรับยาลูกกลอนนี้จริงๆ เกรงวาคงทำใหชายชราและพวกทั้งสองรูสึกระแวง
และคิดเพอเจอไปเรื่อย
“ฮาๆ พี่ ห าน เหตุใดตองสุภาพขนาดนั้ น พวกนี้ ลวนเป น สิ่งที่ สหายสมควรจะ
ไดรับ” ชายชราแซฟูหัวเราะหึๆ สีหนาผอนคลายลงดังคาด
แนนอนวาไปเหยาอี๋ก็เขาใจถึงเจตนา และอมยิ้มไมพูดอะไรอยูดานขาง
ความสัมพันธระหวางทั้งสามคน จึงผอนคลายลง
“ในเมื่อปรุงยาเสร็จแลว พวกเราก็รีบไปหาทางออกกันเถิด จะไดตรวจสอบภูเขา
ลูกนี้ไปดวย ไมแนวาอาจจะมีประโยชนอื่นก็เปนได” ชายชราเหลือบมองไปทางปาก
ทางเขาถ้ำ แลวเอยแนะนำ
แตเมื่อเอยประโยคนี้ออกไป จูๆ ทั้งภูเขาก็สั่นสะเทือน จากนั้นเสียงอึกทึกก็ดังขึ้น
มาจากกำแพงหินทั้งสี่ดาน ทั้งยังตอเนื่องไมหยุด
ภายใตความตกตะลึงของทั้งสามคน ก็อดที่จะมองสบตากันไมได!
“ภูเขาลูกนี้มีคนอื่นอยูหรือ?” ไปเหยาอี๋เมมริมฝปาก ปากก็อุทานออกมาดวย
ความตกตะลึงระคนสงสัย
“ไม แ น ห รอก อาจจะเป น ยั ก ษ ป ก เงิน ที่ ห นี ไปก็ ได !” ชายชรากลั บ ส ายศี ร ษะ
ใบหนาเผยสีหนาโกรธแคนออกมา เห็นไดชัดวานึกถึงเรื่องที่สตรีชุดดำผูงดงามตองมา
ตายดวยเงื้อมมือของอสูรตนนี้
“ไมวาจะใชหรือไม! หลังจากที่พวกเราออกไปจะตองระวังตัวหนอย พวกเราสาม
คนรวมมือกัน นาจะไมตองหวาดกลัวอะไร” หลังจากที่หานลี่เงียบกริบไปชั่วครู กลับ
เอยออกมาอยางราบเรียบ
จากนั้นเขาพลันสะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีเขียวผืนหนึ่งพุงออกมาจากแขนเสื้อ
ทุกแหงที่ลำแสงนั้นกวาดผานไป เขตอาคมตางๆ ที่ถูกวางไวในถ้ำตางถูกกำจัด
ออก ธงอาคมและจานอาคมเหลานี้พุงออกมาจากกำแพงใตดิน ชั่วพริบตาก็หายเขา
ไปในแขนเสื้อของหานลีอ่ ยางไรรองรอย
“ไปกันเถิด! ออกไปจากที่นี่กอนแลวคอยวากัน!”
หานลี่ พ ลั น เก็ บ ลำแสงเหล านั้ น รอบกายก็ เปล งลำแสงวิญ ญาณออกมาทั น ที
กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งอยางไมลังเลแมแตนอย และพุงออกนอกถ้ำไป
หลั ง จากที่ ช ายชราและไป เหยาอี๋ ม องสบตากั น แวบหนึ่ ง แล ว ก็ ไ ม ก ล า รั้ ง รอ
ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีตามไปติดๆ
ตอนที่ 997 ศิลาจารึก
เมื่อพวกชายชราทั้งสองบินออกมาจากทางเดินที่ทอดยาวอยางหาที่เปรียบแลว
หานลี่ก็ลอยตัวสูงขึ้นไปอยูกลางอากาศดานนอกทางเดิน มองไปยังยอดสุดของหุบเขา
พลางเงีย่ หูฟงอะไรสักอยาง
เวลานี้พวกชายชราทั้งสองถึงไดพบวา หลังจากออกมาขางนอก เสียงอึกทึกที่ได
ยินกลับเบาลง ถาหากไมใชวาทั้งสามคือผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด ความสามารถ
ในการไดยินสูงสงกวาคนอื่น เกรงวาเสียงนี้ที่เขามาในโสตประสาทคงเปนเหมือนลม
ออนๆ ที่โชยมาเขาหูเทานั้น
"ดูเหมือนวาจะดังมาจากทางนั้น และยิ่งไปกวานั้นยังอยูไกลมาก ถาหากไมใช
เพราะที่นี่ถูกเขตอาคมผนึกเอาไวจนกลายเปนมิติตัดขาด พลังแรงสะทอนจึงมีมาก
เกินไป พวกเราคงไมมีทางไดยิน” หลังจากที่ชายชราแซฟูไดฟงอยูชั่วครู ก็ขมวดคิ้ว
พลางเอยขึ้น
“ในเมื่อพวกเราไมคุนเคยกับทุกอยางของที่นี่ เชนนั้นลองไปดูกอนเถิด ถึงอยางไร
เสียก็ยังดีกวามุงไปอยางไรจุดหมาย แนนอนวาทางที่ดีที่สุดพวกเราสำแดงเคล็ดวิชา
อำพรางระหวางเดินทางดีกวา พยายามอยาใหผูอื่นพบเห็นพวกเราเขา” หานลี่เอียง
ศีรษะมองทั้งสองคนแวบหนึ่ง พลางเอยแนะนำ
แนนอนวาพวกชายชราแซฟูไมมีขอคิดเห็น ทันใดนั้นทั้งสองพลันตกปากรับคำ
สองมือของชายชราเริ่มรายอาคม จูๆ บนรางก็เปลงแสงสีเขียวผืนใหญออกมา
จากนั้นลำแสงพลันหมนหมองลง รางของชายชราเลือนรางทันที ในที่สุดก็กลายเปน
เงาสีเขียวจางๆ สายหนึ่ง ถาหากไมพินิจมอง ก็ไมมีทางพบการดำรงอยูของเขาจริงๆ
แนนอนวานี่เปนเพราะภูเขาลูกนี้กดจิตสัมผัสเอาไว ถาหากอยูนอกภูเขาลูกนี้ เคล็ด
วิชาการอำพรางนี้คงลดประสิทธิภาพลงไปมากสำหรับผูบำเพ็ญเพียรในระดับเดียวกัน
ไปเหยาอี๋กลับชูมือเรียวขึ้น หวางนิ้วมีลำแสงเย็นเยียบสวางวาบ แผนปายโปรงใส
ราวกับ สรางมาจากผลึกน้ ำแข็งปรากฏขึ้น ชู แผ น ป ายขึ้ น ดวยมื อ ขางหนึ่ง ในเวลา
เดียวกันสตรีผูนี้ก็รายคาถาที่ไพเราะเสนาะหูออกมา ชั่วพริบตาลำแสงสีเงินผืนใหญก็
ถูกพนออกมาจากแผนปาย หอหุมเงารางอรชนออนแอนของสตรีผูนั้นเอาไวในพริบตา
จากนั้นลำแสงพลันสวางวาบ รางของไปเหยาอี๋หายวับไปกลางอากาศ
เมื่อเห็นทั้งสองสำแดงความสามารถออกมาตามลำดับ เพื่อปกปดรองรอยของ
ตนเอง หานลี่ก็หัวเราะเบาๆ ไมไดเคลื่อนไหวใดๆ ลำแสงวิญญาณบนรางสวางวาบ
เล็กนอย จูๆ กลิ่นอายพลังชีวิตพลันหายไปจนเกลี้ยง
ไมวาชายชราแซฟูหรือไปเหยาอี๋ที่ยืนอยูเบื้องหนาของหานลี่ อาศัยเพียงจิตสัมผัส
ก็แทบจะคิดวางเบื้องหนานั้นไรผูคน
เวลานี้ พวกชายชราทั้งสองตางพากันตกตะลึง
ในตอนนั้นหานลี่ถึงไดควักยันตวิเศษอำพรางกายแผนหนึ่งออกมาอยางไมรีบรอน
จากนั้นพลันแปะไปบนราง ชั่วขณะนั้นรางกายพลันหายวับไป
“ออกเดินทาง!” หานลี่ตะโกนดวยเสียงทุมต่ำออกมา ทันใดนั้นทั้งสามคนก็หมุน
ตัวลอยขึ้นไปกลางอากาศ
ทามกลางสถานที่ลึกลับที่ไมคุนเคยแหงนี้ ทั้งสามคนจึงไมกลาบินไวนัก ความเร็ว
แทบจะไวกวาเคล็ดวิชาตัวเบาเพียงเล็กนอย ตรงไปยังสถานที่ที่มีเสียงดังสงมา
ระหวางทางที่ทั้งสามคนบินไป สถานที่ทุกแหงที่บินผานลวนเต็มไปดวยตนไมใบ
หญาที่เขียวขจี และไอวิญญาณที่เต็มเปยม
แทบจะทุกแหง ลวนเปนสถานที่ฝกบำเพ็ญ เพียรที่ยอดเยี่ยมในแดนมนุษย ถา
หากอยูภายนอก ไมรูวาจะมีสำนักบำเพ็ญเพียรกี่แหงที่แยงชิงกัน
แตที่นี่ กลับมีอยูดาษดื่น!
หลังจากผานไปครึ่งชั่วยาม หานลี่และพวกทั้งสามก็ไมไดพบสิ่งผิดปกติ และไมได
เผยสีหนาดีอกดีใจอะไรออกมา
ระหวางทางมีกลิ่นอายแหงความตายหนาแนนไปหมด ไมมีสิ่งมีชีวิตเลยแมแต
นอย ทำใหพวกเขารูสึกไมปลอดภัย และรูสึกกดดันเปนอยางมาก
“พี่หาน พวกทานรูสึกไหม? ที่นี่มีไอวิญญาณยอดเยี่ยมขนาดนี้ แตพวกเราบินมา
นานขนาดนี้ ระหวางทางกลับไมพ บตนไมหรือหญ าวิญ ญาณสักตน ลวนเปนเพี ยง
ตนไมใบหญาธรรมดาๆ มันผิดปกติไปหนอย” ไปเหยาอี๋เอยปากดวยความลังเล
“ขาก็สังเกตอยู ถึงแมวาไอวิญญาณที่นี่จะไมเลวนัก แตยิ่งขึ้นไปมากเทาไหร ไอ
วิญญาณก็ยิ่งเต็มเปยมมากขึ้นเทานั้น จุดนี้เหมือนกับภูเขาวิญญาณที่อยูภายนอก ดู
แลวแตเดิมผูบำเพ็ญเพียรคงจะคิดวาขางบนภูเขาลูกนี้นั้นเหมาะสมกับการปลูกหญา
วิญญาณมากกวา จึงจงใจทำเชนนี้” หานลี่กลับไมไดมีสีหนาตกตะลึง แคเอยอยาง
ราบเรียบเทานั้น
“ไอวิญญาณเต็มเปยมกวาที่นี่!” ไปเหยาอี๋ตกตะลึงเล็กนอย
ถึงอยางไรเสียไอวิญญาณที่นี่ ก็ทำใหนางรูสึกวาเปนสถานที่ที่ฝกบำเพ็ญเพียรได
อยางยอดเยี่ยมที่สุดแลว
“พี่หาน ถาหากยอดเขาแหงนี้มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการฝกบำเพ็ญเพียรที่ดีกวา
จริงๆ พวกเราก็อาจจะไมตองรีบออกไป ลองฝกบำเพ็ ญ เพี ยรอยูที่ นี่สักหน อยเป น
อยางไร”
ชายชราแซฟูฟงหานลี่กลาวเชนนี้ ก็รูสึกสนใจ
“พี่ ฟู คงไมไดคิด วาที่ นี่ เป น ภู เขาวิญ ญาณธรรมดาๆ จริงๆ สิน ะ สถานที่ ที่ มี ไอ
วิญญาณหนาแนนขนาดนี้ ถาหากเปนสถานที่ที่ฝกบำเพ็ญเพียรไดอยางปลอดภัย จะ
ถูกผูบำเพ็ญเพียรละทิ้งทำไม ถาหากออกไปไดละก็ ผูแซหานจะไมรั้งรออยูเปนแน”
หานลี่หัวเราะอยางเย็นชาขณะเอย
เมื่อไดยินหานลี่กลาวเชนนี้ ชายชราแซฟูพลันหนาเปลี่ยนสีไปหลายครั้ง ในที่สุดก็
หัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“พี่หานพูดมีเหตุผล ที่นี่ไมใชสถานที่ที่จะใชฝกบำเพ็ญเพียรไดอยางสงบสุขจริงๆ
เปนเพราะผูแซฟูละโมบในไอวิญญาณของที่นี่ จึงเลอะเลือนไป”
“มันก็โทษที่พี่ฟูคิดเชนนี้ไมไดหรอก ไมใชแคสหายที่มีความคิดนี้ เมื่อครูขาก็มี
ความคิดนี้เชนกัน ถึงอยางไรเสียหากใชสถานที่เชนนี้ในการฝกบำเพ็ญเพียร ก็สามารถ
ลดเวลาการนั่งสมาธิของพวกเราไปไมนอยแลว” ไปเหยาอี๋เอยอยางรูสึกเสียดาย
หานลี่ยิ้มนอยๆ ออกมา ตอนที่กำลังคิดจะกลาวอะไรนั้น แววตาที่กวาดลงไป
ดานลางอยางไมไดตั้งใจกลับทำใหหนาเปลี่ยนสีไปโดยพลัน ชั่วพริบตาก็หยุดลำแสง
หลีกหนีลง
รูมานตาของเขาเปลงแสงสีฟาสวางวาบพลางจองเขม็งไปยังดานขาง
ชายชราและไปเหยาอี๋รูสึกประหลาดใจเล็กนอย พลางมองสายตาของหานลี่ไป
เห็ น เพี ยงในจุดที่ อยูคอนขางไกลออกไปมี ห มอกสี ขาวหมุ น วนเป น เกลี ยว มั น
คอนขางเลือนราง แตในสถานการณที่มีหมอกปกคลุมเชนนี้ ระหวางทางทั้งสามคน
กลับเคยเห็นมาแลวสองสามครั้ง และไมไดรูสึกผิดปกติใดๆ แตทุกครั้งกลับไมอาจเขา
ไปตรวจสอบในมานหมอกนั้นได
“ไปดูสักหนอยเถิดวาที่นั่นมีอะไร บางทีอาจจะมีประโยชนตอพวกเรา” หานลี่
แววตาเปลงประกาย พลางเอยเชนนี้ออกมา จากนั้นลำแสงหลีกหนีพลันเปลี่ยนไป พุง
เขาไปในหมอกสีขาว
ชายชราและไปเหยาอี๋รูสึกประหลาดใจ แตก็รูวาหานลี่ไมใชคนที่ไมมีเหตุผล จึง
ตามไปอยางไมลังเล
ผลลัพธคือรอจนพวกเขาเดินเขาไปในหมอกสีขาว กลับตื่นตะลึง
เห็นเพียงในหมอก มีบันไดหินสีขาวกวางใหญที่ทอดตัวขึ้นไปบนภูเขา ทอดตัว
ยาวไกลจนสุดลูกหูลูกตา และดานขางของบันไดมานหมอกนี้ กลับมีศิลาจารึกสีขาว
นวลแผนหนึ่งตั้งตระหงานอยู มันมีความสูงประมาณสิบกวาจั้ง กวางประมาณสามจั้ง
เห็นหานลี่ยืนเอามือไพลหลังอยูหนาแผนปาย กำลังอานอะไรสักอยางบนนั้นดวย
ความตกตะลึงอยูกอนแลว
“ทำไม พี่หานพบอะไรหรือ?” หลังจากที่ชายชรารอนลงมาบนพื้น ก็เอยถามดวย
ความประหลาดใจ
“เวลานี้ ในที่สุดก็รูแลววาภูเขาลูกนี้คือที่ใด สหายทั้งสองมาดูเถิด! ศิลาจารึกแผน
นี้สลักความเปนมาของภูเขาลูกนี้เอาไวพอดี”
หานลี่หันหนาไปเอยดวยน้ำเสียงเครงขรึม
“ออ ขาดูหนอย!”
ชายชราไดฟงแลวก็รูสึกมีชีวิตชีวา ทันใดนั้นพลันสาวเทากาวออกไป ไปเหยาอี๋
เองก็ขยับตามมา
ผลลัพธคือหลังจากที่ทั้งสองกวาดสายตาไปบนศิลาจารึกแลว ก็เขาใจอยางแจมแจง
เพราะวาบนแผนศิลามีตัวอักษรโบราณอยูสองตัว อักษรสีทองที่ถูกเขียนดวย
ลายมือหวัดๆ แตงดงาม
“คุน อู! หรือ วานี่ คื อ ภู เขาคุ น อู ในตำนาน!” ชายชราแซ ฟู เห็ น ตั วอั ก ษรโบราณ
ทันใดนั้นก็เอยปากรองอุทานออกมา
สตรีนามวาไปเหยาอี๋ ใชมือหนึ่งปดปาดเอาไว ดวงตาสดใสเผยสีหนาตกตะลึง
ออกมาเชนกัน
“ใชแลว นาจะเปนภูเขาคุนอู ในสมัยโบราณ ภูเขาลูกนี้มีชื่อเสียงเปนอยางมาก
เปน สถานที่ ศักดิ์สิท ธิ์ในการฝกบำเพ็ ญ เพี ยรของผูบ ำเพ็ ญ เพี ย รโบราณ และดูจาก
ระดับความหนาแนนของไอวิญญาณและขนาดของพื้นที่แลว ก็นาจะเปนภูเขาคุนอูไม
ผิด แน แต ในตำนาน ภู เขาลู ก นี้ ไม ได ถู ก ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รโบราณนำไปแดนวิ ญ ญาณ
หรือไมก็เพราะการตอสูของผูบำเพ็ญเพียรจนทำใหมันจมลมไปใตแมน้ำเหลืองแลว
หรือ! สถานที่เชนนี้จะมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ไดอยางไร?” ไปเหยาอี๋จองเขม็งไปยังศิลา
จารึกพลางเอยพึมพำ ทาทางไมอยากจะเชื่อ
“สหายไป เรื่องเหลานั้นเปนเพียงตำนาน ดูแลวสถานการณที่แทจริงนาจะไมรูวา
เปนเพราะเหตุใดภูเขาลูกนี้จึงถูกผนึกเอาไว และพวกเราสามคนก็ไปสัมผัสกับเขต
อาคมโบราณเขาพอดี จึงถูกสงมาที่นี่อยางแปลกประหลาด! จากชื่อเสียงของภูเขาลูก
นี้ ถ้ำพำนักของผูบำเพ็ญเพียรโบราณที่อยูที่นี่คงมีมากมายจนนับไมถวนแน ขอแค
พวกเราตามหา จะตองไดประโยชนอะไรบางแน” ชายชราแซฟูฟนฟูกลับมาอยาง
รวดเร็ว แตน้ำเสียงยังคงเต็มไปดวยความตกตะลึงระคนดีใจ
“อาจจะกระมั ง แต ดู จ ากสถานการณ ที่ ป ด ผนึ ก ภู เขาลู ก นี้ นั้ น ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
โบราณเหลานั้นคงจะเตรียมตัวละทิ้งภูเขาลูกนี้ไป ขาไมคิดวาในถ้ำพำนักของผูบำเพ็ญ
เพียรโบราณเหลานั้น จะมีของอะไรมากนัก ดูจากศิลาจากรึกแผนนี้ ถึงแมวาจะถูก
สรางขึ้นอยางหยาบๆ แตก็ตั้งตระหงานอยูที่นี่ตั้งไมรูกี่ปตอกี่ปแลว ดูซับไอวิญญาณ
ฟาดินไปมากมายขนาดนี้ นาจะกลายเปนสมบัติวิเศษชิ้นหนึ่งไปแลว”
หานลี่สั่นศีรษะ จากนั้นก็กาวไปขางหนา ยื่นมือออกไปตบที่ศิลาจารึกเบาๆ สอง
สามครั้ง แววตาเปลงประกายขณะเอย
“อะไรนะ ศิลาจารึกแผนนี้คือสมบัติ?” ชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋พลันตกตะลึง
ทันใดนั้นก็พิจารณาศิลาจารึกแผนนี้ใหมอีกครั้ง ทันใดนั้นก็รูสึกหมดคำพูด
ไมวาจะมองอยางไรศิลาจารึกแผนนี้ก็เปนเพียงศิลาจารึกสีเขียวธรรมดาๆ ถึงแม
จะบอกวามีไอวิญญาณ แตก็ไมมีทางเทียบกับวัตถุดิบในการหลอมยุทธภัณฑระดับต่ำ
ที่สุดไดเลยแมแตนอย!
พวกเขาสองคนอดที่จะใชสายตาแปลกๆ จองไปยังหานลี่แวบหนึ่งไมได
“หึๆ ดูแลวสหายทั้งสองคงไมเชื่อ ทวา ขานอยวินิจฉัยแนชัดแลว” หานลี่หยักมุม
ปากขึ้น สีหนาดูราบเรียบ แตความจริงแลวกลับรูสึกกลัดกลุมอยูในใจ
เพราะไมตองพูดถึงวาสองคนที่อยูดานขางนั้นมองอะไรไมออก แมแตเขาเองก็
มองอะไรไมออกเชนกัน สาเหตุที่กลาวเชนนั้นกลับเปนเพราะแตเดิมมังกรเกราะธรณี
ที่อ ยูในยามเก็บ อสูรวิญ ญาณนิ่ งๆ เมื่ อเข าใกลศิลาจารึกจูๆ ก็รูสึกฉุน เฉีย วและไม
ปลอดภัยขึ้นมา
มันสงเสียงรองออกมาไมหยุด เตือนวาของสิ่งนี้ไมธรรมดา
หานลี่ใชแมกระทั่งเนตรวิญญาณวารีกระจางตรวจสอบแผนศิลาจารึกนี้รอบหนึ่ง
ก็ยังคงไมพบความผิดปกติ ในใจจึงรูสึกเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่ง แตจากนิสัยที่ยอมสังหาร
แตไมยอมปลอยไปของเขานั้น หลังจากที่หานลี่ลังเลเล็กนอย กลับทำใจดีสูเสือกลาว
คำพูดที่ลึกล้ำยากจะคาดเดาออกมา
ทันทีที่เขามีขอแกตัวแลว ฝามือก็กดลงไปบนแผนศิลา ชั่วพริบตาพลันปลอยแสง
สีเขียวออกมา
ศิลาจารึกสั่นคลอน พลันเริ่มหดเล็กลงทามกลางลำแสง
เมื่อเห็นมันหดเล็กลงกวาเดิมครึ่งหนึ่ง หานลี่ก็ขมวดคิ้ว มือหนึ่งก็มวนลำแสงนั้น
ไว คิดจะถือศิลาจารึกแผนนั้นขึ้นมาเก็บไวในยามเก็บของ
แตเมื่อศิลาจารึกถูกถือขึ้นมาเหนือพื้นสองสามฉื่อ ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น
ดูเหมือนวาศิลาจารึกสีเขียวธรรมดาๆ จะสงเสียงหึ่งๆ ขึ้น จากนั้นพลันเปลงแสง
สีขาวนับหมื่นสายออกมา
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น จูๆ หานลี่พลันรูสึกวามันหนักอึ้ง คาดไมถึงวาลำแสง
จะไมมีทางผนึกควบคุมศิลาจารึกแผนนี้ได หลังจากเสียง ‘ตึง’ ดังขึ้น มันพลันตกลงที่
เดิม คลายกับเปนของที่หนักราวๆ หมื่นชั่งตกลงบนพื้นอยางไรอยางนั้น ทำใหพื้นดิน
รอบขางสั่นไหว
พวกหานลี่ทั้งสามที่ถูกแรงสั่นสะเทือนจนทำใหหูอื้อ พลันพบวาบนพื้นดินใตศิลา
จารึกใระยะยี่สิบสามสิบจั้งกลับมีรอยแยกขนาดหนึ่งชุนปรากฏขึ้นเต็มไปหมด
“นี่คือ?” หานลี่รูสึกจิตใจหนักอึ้ง ชั่วขณะนั้นดวงตาพลันหรี่ลงเล็กนอย
ตอนที่ 998 ผลึกศิลาจารึก
“เอ! ผิวของผลึกศิลา?” ยังไมทันรอใหหานลี่มองออกวาเกิดอะไรขึ้น ชายชราแซฟูที่
อยูดานขางกลับชี้ไปที่ดานหลังของแผนศิลาจารึกดวยสีหนาตกตะลึง
หานลี่พลันขมวดคิ้ว หากเขาจำไมผิดละก็ ดานหลังของศิลาจารึกนั้นวางเปลา ไม
มีอะไรเลย
ทวา ชายชราไมมีทางทำอะไรแบบนี้อยางไมมีเหตุผลแน ทันใดนั้นรางกายพลัน
แวบหายไป คนมาปรากฏที่ดานหลังของแผนศิลาจารึก และหันหลังใหกับหานลี่
หลังจากที่กวาดสายตาไปแลว หานลี่เองก็ตกตะลึง
เห็นเพียงดานหลังของศิลาจารึกมีรอยแตกเปนเสนๆ แตในรอยแตกที่คอนขางลึก
นั้น มีลำแสงสีฟาสดใสสองออกมา
“ศิลาวิญญาณ?” หานลี่แววตาสวางวาบ รูสึกไมคอยมั่นใจนัก
จูๆ นิ้วทั้งสิบของเขาพลันรายอาคม ไอกระบี่สีเขียวสิบกวาสายพลันพัวพันเขา
ดวยกัน ชั่วพริบตาก็กลายเปนลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งหอหุมศิลาจารึกเอาไวครึ่งหนึ่ง
ตอนนั้นเศษผงของศิลาจารึกพลันปลิววอน รอบๆ ลวนเต็มไปดวยฝุนสีเทาขมุกขมัว
แต จ ากความแหลมคมของไอกระบี่ ห านลี่ ชั่ ว ครู แสงสี ฟ า ก็ ป รากฏออกมา
ทามกลางกระบี่แสง และยิ่งไปกวานั้นยังเจิดจามากขึ้นเรื่อยๆ
ผลลัพธคือเมื่อหานลี่หยุดมือ แสงสีเขียวก็คอยๆ หายวับไป เผยใหเห็นศิลาจารึก
ที่ถูกเขาคอยๆ กลึงออก ตรงกลางของศิลาจารึกมีผลึกสีฟาเขมกอนหนึ่งฝงอยู ราวกับ
วาแตเดิมก็ถูกฝงเอาไวตรงกลางอยูแลว
ผลึกศิลานี้มีขนาดความยาวสองสามฉื่อ สีฟาสดใส เปลงแสงเรืองรองเปนพิเศษ
ถึงแมวาจะไมไดเผยรูปรางทั้งหมดออกมา แตก็ดูเหมือนวาจะมีรูปรางเปนสี่เหลี่ยม
แบนๆ
ผลึกศิลาจารึกสีเขียวทั้งกอนดูเหมือนวาจะเปนเพียงเกราะหนาๆ ของผลึกศิลานี้
เทานั้น
“ไมใชศิลาวิญญาณ ถึงแมวาจะดูเหมือนกับศิลาวิญญาณธาตุน้ำก็ตาม แตสิ่งผสม
อยูดานในกลับไมใชไอวิญญาณธาตุน้ำ” ดวงตาที่งดงามของไปเหยาอี๋กะพริบปริบๆ
สองครั้ง แลวเอยอยางมั่นใจในทันที
“ไมใชศิลาวิญ ญาณจริงๆ ไมมี ผูใดใชศิลาวิญ ญาณหลอมเจาสิ่งนี้ และยังจารึก
ตัวอักษรเอาไวหรอก นี่ดูเหมือนวาจะเปนจารึกแผนหนึ่ง” หานลี่จองเขม็งไปยังสวนที่
เปลือยเปลาของผลึกศิลา มองตัวอักษรโบราณที่เวานูนเปลงแสงระยิบระยับอยูบนผิว
ของมัน แลวพนลมหายใจออกมาเบาๆ เฮือกหนึ่ง
จากนั้นเขาก็รวบรวมลมปราณรอบกายอยางไมลังเลอีก มือหนึ่งควาไปที่ผลึกศิลา
กลางอากาศ ชั่วขณะนั้นอุงมือแสงสีเขียวขางหนึ่งพลันปรากฏขึ้นเบื้องหนาของแผน
ศิลา นิ้วทั้งหายื่นเขาไปเบื้องหนาราวกับตะขอ ควาสวนยอดของผลึกศิลาเอาไว และ
ออกแรงยกขึ้นดานบน
หนักอึ้งอยางหาใดเปรียบดังคาด แตหานลี่ที่เตรียมตัวไวแลววาในครั้งนี้จะอาศัย
พลังความแข็งแกรงของลมปราณฝนดึงผลึกศิลาออกมาจากศิลาจารึกใหได
ผลึกศิลาสีฟาเขมกอนหนึ่ง พลันปรากฏขึ้นเบื้องหนาของหานลี่ ดานบนมีอักขระ
หมุนเวียนไปมา เปลงลำแสงสีฟาจางๆ ออกมา
หานลี่ ม องอั ก ษรบนนั้ น อย า งละเอี ย ด พลางใจเต น ระรั ว แต ใบหน า กลั บ ไม
เปลี่ยนแปลง สองมือพลันรายอาคม ชี้ไปยังผลึกศิลาอยางรวดเร็ว
ชั่วขณะนั้นผลึกศิลาพลันสั่นสะเทือนและหดเล็กลง เพียงพริบตาก็กลายเปนสิ่งที่
มีรูปรางเหมือนกอนอิฐขนาดครึ่งฉื่อ และสงเสียง ‘พรึ่บ’ ออกมา จมหายเขาไปใน
แขนเสื้อของหานลี่อยางไรรองรอย
ถึงแมวาชายชราและไปเหยาอี๋จะรูสึกสนใจผลึกศิลาเชนกัน แตเห็นหานลี่ไมคิด
จะหยิบสิ่งนี้ออกมาใหพวกเขาดู ก็ไมไดเอยเรื่องนี้ขึ้นอีกอยางรูจักวางตัว หลังจากที่ทั้ง
สองปรึกษากับหานลี่เล็กนอยแลว ทันใดนั้นก็ตัดสินใจเดินขึ้นบันไดไป
เวลานี้พวกเขามั่นใจแลววา เสียงที่ดังมานั้น ดังมาจากบนภูเขาอยางแนนอน
ทันใดนั้นทั้งสามคนก็อำพรางกายอีกครั้ง และออกบินไป
แน น อนวาหานลี่ ไม รูว า เสี ย งที่ พ วกเขาได ยิ น นั้ น ความจริงแล ว เป น เสี ย งที่ ผู
บำเพ็ญเพียรทั้งหมดของตระกูลเยี่ยซึ่งอยูบนยอดเขาที่มีบันไดทอดตัวยาวออกไปตั้ง
ไมรูเทาไหร กำลังทุมเทแรงกายแรงใจทลายเขตอาคม
แตระยะหางระหวางทั้งสองนั้น กลับไมไดใกลกันเหมือนที่พวกเขาคิด ตรงกลาง
ยังกั้นไวดวยแนวเขตอาคมสายหนึ่งกวาจะมาถึงจุดที่ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยอยู
ถึงอยางไรเสียตำแหนงถ้ำที่พวกเขาถูกเขตอาคมสงตัวมา ก็อยูต่ำกวาตำแหนง
รอยแยกที่ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ยกำหนดไวมาก
เวลานี้ คนประหลาดและอาวุโสระดับกอกำเนิดขั้นปลายของตระกูลเยี่ยทั้งสอง
กำลังเรียงแถวลอยอยูกลางอากาศเหนือหนาผาไมขยับเขยื้อน
และห างออกไปไม ไกลนั ก ด านล างของพวกเขา ผู บ ำเพ็ ญ เพี ยรคนอื่ น ๆ ของ
ตระกูลเยี่ยก็กำลังยืนวางเขตอาคมชั่วคราวตามจุดๆ ตางของตนเองอยู กำลังอาศัย
อานุภาพของเขตอาคมควบคุมยุทธภัณฑตางๆ พยายามโจมตีไปยังปายหินเลือนราง
ขนาดยักษบนบันไดหินเบื้องหนา
มารโบราณเองก็ปะปนอยูในเหลาผูบำเพ็ญเพียรตระกูลเยี่ย ควบคุมกระบี่บินสีดำ
สนิทที่เรียกมาจากไหนไมรู พลางโจมตีไปยังปายหินดวยใบหนาไรความรูสึกเชนกัน
คาดไมถึงวาแผนปายนี้จะปลอยลำแสงนับหมื่นสายออกมาโดยอัตโนมัติ คาดไมถึงวา
จะรับการโจมตีทั้งหมดเอาไวได ราวกับวาเปนสมบัติวิเศษชิ้นหนึ่งอยางไรอยางนั้น
“เจาเด็กนอยสาม! เจาคาดการณ สิวาตองใชเวลาเทาไหร ถึงจะสามารถทลาย
ประตูห มื่น เซียนได” คนประหลาดมองไปยังแผ น ป ายเบื้ องหน าที่ ถูกลำแสงต างๆ
หอหุมเอาไว พลางหันหนาไปถามนักปราชญชุดขาว สีหนากังวลขึ้นหนึ่งสวน
“นาจะใชเวลาอีกหนึ่งวันหนึ่งคืน แผนปายนี้จัดการยากกวาที่ขาคิดไวมากนัก
มินาเลาประตูหมื่นเซียน จึงมีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญในอดีตกาล” นักปราชญกลับเยือกเย็น
เปนพิเศษ ตอบกลับดวยน้ำเสียงเครงขรึม
“พวกเราเสียเวลากับแผนปายนี้นานเกินไปแลว ถาหากเจากับขาไปชวยพวกเขา
ไดอีกแรงละก็ อยางนอยเวลาในการทลายเขตอาคมก็นาจะลดลงไปครึ่งหนึ่ง” คน
ประหลาดที่เปนผูนำเอยอยางกลัดกลุม แตรางกายกลับไมขยับเขยื้อน และไมมีทาที
จะลงมือจริงๆ
“ถึงแมวาบนภูเขาลูกนี้จะมีอสูรจำพวกราชสีหวิหคโบราณปรากฏตัว แตแนนอนวาขา
ก็ไดเตรียมการปองกันเอาไวแลว หวังวาหากทลายเขตอาคมสายไปวันสองวัน ทั้งสอง
คนจะรักษาระดับลมปราณเอาไวได ทานอาเจ็ด อดทนกอนเถิด! พวกเขาเพิ่งจะเขามา
ในภู เขาลู ก นี้ ได แ ค ไม กี่ วั น เวลายั ง เหลื อ อี ก ยาวไกล หากเร ง ไปจะไม ได ดั่ ง หวั ง !”
นักปราชญเอยอยางสุขุม
“นั่ น มั น ก็ ใช ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ ก อ กำเนิ ด ของสำนั ก อื่ น ๆ ต อ ให เคลื่ อ นไหว
รวดเร็วขนาดไหน รอจนมาถึงที่น่ี และตามหารอยแยกของผนึก เขามาในภูเขาก็ยัง
ตองใชเวลา ทวา แคประตูหมื่นเซียนบานนี้ ก็ทำใหพวกเราเสียเวลาไปมากขนาดนี้ ขา
เกรงวาเขตอาคมที่เราจะพบตอจากนี้ จะยิ่งรับมือยากมากยิ่งขึ้น” คนประหลาดถอน
หายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“ทานอาจเจ็ดไมตองกังวล ตระกูลเยี่ยของพวกเราวางแผนดำเนินการครั้งนี้มานาน
แนนอนวาจะตองขบคิดเรื่องทลายเขตอาคมอยางแนนอน ชวงปที่ผานมานี้ ในตระกูล
ไดรวบรวมสมบัติลับที่ใชทลายเขตอาคมโดยเฉพาะมาไดสองสามชนิด แตแคตอนนี้ยัง
ไมถึงเวลาใหใช” นักปราชญหัวเราะหึๆ ออกมา เผยใหเห็นความมั่นใจเปนพิเศษ
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง เชนนั้นตาเฒาก็วางใจแลว” ตัวประหลาดหัวโตไดยินคำนี้
ก็มีสีหนาผอนคลายลง
จากนั้น ทั้งสองคนที่อยูกลางอากาศก็มองภาพการทลายเขตอาคมอยางเงียบๆ
ไมไดกลาวอะไรออกมา แตไมนานนัก จมูกของตัวประหลาดก็ขยับฟุตฟต สีหนาเครง
ขรึมขึ้นในฉับพลัน
เขาดีดนิ้วไปยังอากาศที่วางเปลาโดยไมไดกลาวอะไรออกมา ชั่วขณะนั้นไอกระบี่
สีเหลืองหลายสาย พลันพุงออกไปอยางไมมีเคาลางมากอน ชั่วครูก็หอหุมตนไมขนาด
ใหญในระยะยี่สิบสามสิบจั้งเอาไว
ผลลัพธคือใตตนไมเกิดพายุลูกเล็กๆ ขึ้น สัตวประหลาดขนสีเขียวที่แผนหลังมีปก
สีเงินงอกออกมา ปรากฏขึ้นตรงนั้น
สัตวประหลาดไมขยับ แมแ ตมื อ ป กคูนั้ น แคกระพื อ กระบี่ แสงสองสามสายก็
กระเด็นออกมาอยางงายดาย
จากนั้นเสียงรองที่แสบแกวหูพ ลันดังขึ้น มันใชสายตาอันเย็นเยียบพิจารณาผู
บำเพ็ ญ เพี ย รตระกู ล เยี่ ย ด า นล า งสองสามครั้ ง แล ว มองไปยั ง นั ก ปราชญ แ ละคน
ประหลาดที่เปนผูนำ ปกทั้งสองพลันสยายออกอยางเงียบเชียบดวยความคาดไมถึง
และพุงไปดานหลังทันที หลังจากสวางวาบสองสงามครั้ง ปกสีเงินของสัตวประหลาดก็
กลายเปนพายุอีกครั้ง แลวสลายหายไป
“ขาไมไดตาฝาดไปสินะ! เคล็ดวิชาวายุหลีกหนีอันสูงสง คาดไมถึงวาจะอาศัยวายุ
อำพรางกายได เจาสิ่งนี้ดูเหมือนวาจะเปนยักษปกเงินในตำนาน ถาหากบนรางของมัน
ไมมีกลิ่นอายซากศพอยูจางๆ ละก็ ขาก็เกือบจะถูกลวงตาไปดวยแลว” คนประหลาด
ที่เปนผูนำไมไดไลตามไป แตสีหนากลับเครงขรึมขึ้น
“กลิ่นอายซากศพ? ขาไมเห็นจะสัมผัสไดเลย มีเพียงทานอาเจ็ดที่ฝกฝนเคล็ดวิชา
พาหนะโลหิต ถึงไดมีความสามารถที่เฉียบแหลมเชนนี้ ทวาไมใชแคนั้น เจายักษปก
เงินตัวนี้ดูเหมือนวาจะมีสติปญญาสูงสงไมเบา” นักปราชญจองเขม็งไปยังจุดที่ยักษปก
เงินหายไป สีหนาดูไมไดเล็กนอย
“ภูเขาคุนอูเลื่องชื่อวาเปนสถานที่ของเซียนมิใชหรือ ทำไมสิ่งที่พวกเราพบกลับ
เปนอสูรพยัคฆวิหคและซากเทวัญอันรายกาจเลา! โชคดีที่พวกเราสองคนรวมมือกัน
ถาหากมาคนเดียวละก็ เกรงวาจะอันตรายเปนอยางมาก” คนประหลาดที่เปนผูนำ
รางกายแวบหายไปเล็กนอย พลันขมวดคิ้วขณะเอย
“สถานที่ของเซียน เปนแคความคิดของคนในอดีตเทานั้น ภูเขาคุนอูในตอนนี้ ถูก
ปดผนึกลงโดยไมรูสาเหตุ มันแปลกไปหนอยจริงๆ แตเรื่องนี้ไมมีผลกับพวกเรา การ
เดินทางของพวกเราครั้งนี้ ก็เพื่อสมบัติสะทานฟา เรื่องอื่นๆ ไมจำเปนตองซักถามให
มากความ” นักปราชญเงียบกริบไปชั่วครู ถึงไดเอยขึ้นอยางเชื่องชา
“จะกลาวเชนนี้ก็ได แตถาหากป ศาจตนนี้ ไมมีสติปญ ญา ตอใหพ ลังยุทธสูงสง
ขนาดนี้ ก็ไมมีอะไรตองกังวล แตเจายักษปกเงินตัวนี้คาดไมถึงวาจะมีสติปญ ญาที่
สูงสงขนาดนี้ พวกเราตองระวังปศาจตนนี้ใหมาก อยาใหมันทำลายแผนของพวกเรา”
คนประหลาดที่เปนผูนำกลับเอยดวยสายตาเย็นเยียบ
“ขอบพระคุณ สำหรับคำเตือนของท านอาเจ็ด ขาจะระวังป ศาจตนนี้ ให ม าก”
นักปราชญพยักหนา เอยดวยน้ำเสียงเครงขรึมขึ้นหลายสวน
ในตอนที่ตระกูลเยี่ยพบกับยักษปกเงิน และกำลังจะไลปศาจตนนี้ใหลาถอยไปนั้น
กลางอากาศเหนือศาลาหินที่ผูบำเพ็ญ เพียรตระกูลเยี่ยเคยพั กผอน ตรงมานอาคม
หนาๆ ที่ดูธรรมดาๆ จูๆ ก็มีลำแสงสวางวาบ จากนั้นศีรษะที่เต็มไปดวยผมสีขาวก็ยื่น
เขามา เขาๆ ออกๆ ดูตลกขบขัน
หลังจากที่คนผูนี้พบวาที่นี่ไมมีคน รางกายก็ทะลุเขามาอยางไมเกรงใจ แสงสีเงิน
กะพริบ วิบ วับ ปรากฏออกมาจากม านอาคมกอ นที่ จ ะผสานรวมกั น จนเป น รางคน
จากนั้นคนผูนี้ก็เหยียบลงไปบนจานลำแสงยักษแผนหนึง่ คอยๆ บินตรงไปยังศาลาหิน
และรอนลงเหนือศาลาหิน ยืนอยูตรงนั้นอยางนิ่งงัน
เวลานี้เองคนผูนี้ถึงไดชูคอขึ้น เผยใหเห็นใบหนาที่เต็มไปดวยริ้วรอย แตกลับมี
ดวงตาเล็กๆ ที่ปลิ้นปลอน
คาดไมถึงวาจะเปนผูเฒานอยลึกลับนามวาเซี่ยงจือหลี่!
“นี่คือภูเขาคุนอู จุๆ! ไอวิญญาณไมธรรมดาดังคาด ทวาใครมันรนหาที่ ถึงกับกลา
เปดผนึกภูเขานี้กันนะ หากปลอยเขาออกมา นั่นไมวาอยากจะใหทั้งตาจิ้นถูกเขาฝงรึ?
ตาเฒาเองก็โชคราย ดันอยูแถวๆ นี้ จะทำเปนไมรูไมเห็นก็ไมได” เซี่ยงจือหลี่มองไป
รอบๆ ดานแวบหนึ่ง ชั่วขณะนั้นพลันไดยินเสียงอึกทึกครึกโครม ผลลัพธคือทนไมไหว
จนตองย่ำฝาเทากนดาอยูบนศาลาหินทันที ใบหนาเต็มไปดวยความหงุดหงิด
“ในเมื่อรูแลววาที่นี่มันคือสถานที่เฮงซวย เจายังกลามา ขาก็นับถือความกลาของ
เจาจริงๆ” หลังจากที่เซี่ยงจือหลี่หยุดกนดา ขางหูก็มีเสียงหวานหยดยอยของสตรีดัง
ขึ้น น้ำเสียงนุมนวลนาฟง ราวกับเทพธิดาอยางไรอยางนั้น
แตเซี่ยงจือหลี่ไดยินเสียงนี้ กลับรูสึกเย็นเยียบ ราวกับโลหิตทั้งหมดพลันแข็งตัว
อยางไรอยางนั้น
“ทานอาวุโส ทาน...ทานออกมาแลว!” ผูเฒานอยกลืมน้ำลายเหนียวๆ เขาไปอึก
หนึ่ง คาดไมถึงวาจะเอยขึ้นมาอยางติดอาง
“ออกมา? ขาควรจะออกมาไดตั้งไมรูกี่หมื่นปกอนแลว เพียงแตวาในปนั้นสามผูเฒา
คุนอูใชกำลังของคนนับหมื่นเพื่อวางเขตอาคมชั้นสุดทาย ไมใชอะไรที่ขาคนเดียวจะ
เป ดผนึ กไดจ ริงๆ มิ เชน นั้ น ไม อ ยางนั้ น ข าคงออกมานานแล ว จะรอจนถึ งตอนนี้
ทำไม” น้ำเสียงของสตรียังคงออนหวานอยางหาที่เปรียบมิได แตเซี่ยงจือหลี่กลับมีสี
หนาซีดขาวอยางหาที่เปรียบมิได
ตอนที่ 999 ปรากฏการณอัศจรรย
“เปนไปไมได! ภายใตแรงกดจากสมบัติวิญญาณสะทานฟาสองชิ้น ในแดนนี้ไม
อาจมีคนที่สามารถทลายเขตอาคมเกาอรหันตสยบมารได และยิ่งไปกวานั้นผนึกก็มี
รอยแยกออกมาแลว หากทานอาวุโสหนีออกมาไดจริงๆ ละก็ คงออกจากภูเขาลูกนี้ไป
ตั้งนานแลว จะอยูที่นี่ตอทำไม กวาครึ่งคงเพราะทานอาวุโสหนีออกมาไดแคจิตสัมผัส
เทานั้น คิดจะใหชนรุนหลังตกใจจนลาถอยไปสินะ” หลังจากที่เซี่ยงจือหลี่ตกตะลึง
แลว ทันใดนั้นก็นึกอะไรได ฟนฟูสีหนากลับมาเปนปกติในชั่วพริบตา
“เจารูเรื่องเขตอาคมเกาอรหันตสยบมารและสมบัติสะทานฟา! หรือวาคือชนรุน
หลังของสามผูเฒาคุนอู?” ถึงแมวาเสียงของสตรีผูนั้นจะยังไพเราะนาฟง แตคำพูด
กลับเย็นชาขึ้นหลายสวน
“ชนรุนหลังไมใชชนรุนหลังของทานอาวุโสคุนอูทั้งสาม แตเรื่องของทานอาวุโส ใน
แดนนี้มีคนรูอยูสองสามคนจริงๆ ชนรุนหลังก็บังเอิญเปนหนึ่งในนั้น” เซี่ยงจือหลี่เอย
ไปพลาง มองไปรอบๆ ดานไปมาไมหยุดไปพลาง ทาทางเหมือนกำลังระมัดระวังตัว
“เหอะ! ไมตองหาอะไรหรอก รางของขายังไมหลุดออกมาจริงๆ แตก็จะไมปลอย
โอกาสใหเจาหนีไปไดแน เจาอยูที่นี่อยางวานอนสอนงายสักสองสามเดือนเถิด”
สตรีผู นั้ น เพิ่ งเอ ย คำพู ด ที่ เย็ น ชาจบ อากาศเหนื อ ศาลาหิ น ก็ บิ ด เบี้ ย ว จากนั้ น
ระลอกคลื่นสีขาวโพลนก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ จูๆ ทามกลางระลอกคลื่นพลันมี
ลำแสงหาสีพุงมาหอหุมรางของผูเฒานอยเอาไว
“ปรากฏการณอัศจรรย!” เซี่ยงจือหลี่เห็นภาพฉากนี้เขาก็หนาเปลี่ยนสี ลำแสงสี
เงินรอบกายระเบิดออกอยางไมตองคิด กลายเปนลำแสงหลีกหนีสายหนึ่งพุงออกไป
แตลำแสงหาสีนั้นพลันหมุนวนเล็กนอย ชั่วขณะนั้นพลังแรงดูดมหาศาลกลุมหนึ่ง
ก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ทำใหลำแสงหลีกหนีของชายชราหยุดชะงัก
จากนั้นลำแสงสายนั้นพลันหมุนวน ชั่วพริบตารางของเซี่ยงจื่อหลี่พลันหายวับไป
จากที่เดิมอยางไรรองรอย ราวกับวาคนผูนี้ไมเคยผานมากอนอยางไรอยางนั้น
“ดูจากทาทางแลวคงจะหลับลึกไปอีกระยะหนึ่ง ผูบำเพ็ญเพียรที่มาถึงที่นี่ไดมาก
เทาไหรก็ยิ่งดีมากขึ้นเทานั้น! หวังวาวันที่ตื่นขึ้น จะเปนวันที่ขาหนีออกมาไดจริงๆ! เจา
คุณอูทั้งสาม ขาจะใหเจาไดรูถึงสิ่งแลกเปลี่ยนที่ผนึกขาเอาไว! ถึงวันนั้น หึๆ…” สตรีผู
นั้นเอยพึมพำอยางออนแรง แลวหัวเราะหึๆ อยางบาคลั่ง จากนั้นเสียงก็เงียบไป
เจ็ดวันผานไป ในขณะที่ตระกูลเยี่ยกำลังโจมตีประตูหมื่นเซียน และลวงล้ำเขาไป
ในเขตอาคมลวงตาที่สูงกระจางอันหนึ่งอีกครั้ง หานลี่และพวกทั้งสามเองก็ถูกเขต
อาคมประหลาดๆ สายหนึ่งตานทานเอาไว ณ ที่ใดสักแหงหนึ่งบนบันไดเชนกัน จึงจำ
ใจตองขบคิดหาวิธีทลายเขตอาคมอยางยากลำบาก บนพื้นดินตรงสถานที่ที่ผนึกตั้งอยู
นั้น รอบๆ ทะเลสาบเล็กๆ นิรนามกลับเกิดความครึกครื้นไมธรรมดาขึ้น
ผูบำเพ็ญเพียรที่รวมตัวกันอยูท่ีนั่นมีเกือบพันคน เรียงรายอยูรอบๆ ในระยะยี่สิบ
สามสิบลี้ แมกระทั่งผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดก็ยังมีสิบกวาคน ผูที่สะดุดตาที่สุด
คื อ สี่ อ าวุ โ สของสำนั ก พิ ษ ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ที่ ยื น เรี ย งกั น อยู บ นฝ ง ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดที่เหลือตางก็เคลื่อนไหวเพียงลำพัง เห็นไดชัดวาไดยินขาวลือจึงไดรีบรุดมา
ตอนนี้เบื้องหนาของเหลาอาวุโสของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ มีลูกศิษยในสำนักคนหนึ่ง
กำลังรายงานอะไรสักอยางอยู
“ทานอาวุโส พวกเราคนหาผนึกที่อยูใตดินไปกวาครึ่งและพอจะพบเคาลางแลว
ขอรับ หางจากพื้นดินลงไปยี่สิบกวาลี้ ที่นั่นถูกคนจงใจวางเขตอาคมลวงตาอะไรสัก
อยางเอาไว ลูกศิษยที่เชี่ยวชาญในเรื่องเขตอาคม กำลังพยายามทลายเขตอาคมอยู
ถึงแมวาจะเปนเพียงอาคมชั่วคราว แตเปนเพราะคนที่วางเขตอาคมนี้มีทักษะสูงสง
ดังนั้นการทลายเขตอาคมจึงจำเปนตองใชเวลาขอรับ” ลูกศิษยที่สวมผาโพกศีรษะคน
หนึ่ง เอยอยางนอบนอม
“มีความคืบหนาก็ดีแลว พวกเรามาถึงที่นี่หลายวันแลว ถาหากหาทางเขาของ
ผนึกไมเจอ นั่นถึงจะเรียกวายุงยาก ทวาพวกเจาตองระวัง อยาใหคนอื่นๆ พบการ
เคลื่อนไหวของพวกเจา กลับไปกอนเถิด หากทลายเขตอาคมลวงตาไดแลวตองมา
รายงานพวกเราทันที” ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนที่ใบหนามีริ้วรอยพนลมหายใจยาวๆ
ออกมาเฮือกหนึ่ง พลางออกคำสั่ง
“ขอรับ!” ลูกศิษยผูนั้นคอมตัวลงตอบรับ จากนั้นก็ยื่นมือออกไปควักยันตลี้ธรณี
แผนหนึ่งออกมา ตบไปที่ราง รางกายพลันจมหายไปใตดินอยางไรรองรอย
เวลานี้อาวุโสของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์อีกคน พลันเอยปากขึ้นวา
“ศิษยพี่ฮัว อยากังวลนักเลย หนานเจียงของพวกเราไมมีผูบำเพ็ญ เพียรระดับ
กอกำเนิดขั้นปลาย ตอใหผูบำเพ็ญเพียรของสำนักอื่นๆ รีบมา พวกเราสี่คนรวมมือกัน
ก็ไมตองกลัวผูใดแลว”
“มันก็จริง แตทุกวันที่เสียไป ผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงที่รีบมาที่นี่ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
และหนานเจียงก็ไมไดมีเพียงสำนักเราเทานั้นที่ครอบครอง มีสำนักอื่นๆ ที่ไมไดดอย
ไปกวาสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา ถาหากพวกเขามาถึงกอนที่พวกเราเขาไปละก็
จะตองแยแน และยิ่งไปกวานั้นยิ่งเสียเวลามากขึ้น เกรงวาสิบพรรคมารธรรมะก็จะยิ่ง
สอดมือเขามายุงกับเรื่องนี้” ชายวัยกลางคนแซฮัวพลันเอยอยางเครงขรึม
เมื่อไดฟง อาวุโสสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือตางก็ไมคิดเชนนั้น บางก็กลับเผยสี
หนาไมสบายขึ้นมาเล็กๆ
และในตอนนั้นเอง จูๆ ผูบำเพ็ญเพียรแซฮัวก็รองเอออกมาเบาๆ แหงนหนาขึ้น
มองทองฟาอีกดาน
คนที่เหลือพลันตกตะลึง และหันมองไปเชนกัน
เห็นเพียงขอบฟามีลำแสงสวางวาบ กลุมหมอกสีเทาผืนใหญปรากฏขึ้นที่ขอบฟา
จากนั้นก็บินตรงเขามา ดวยความเร็วที่นาตกตะลึง
จิตสัมผัสของอาวุโสสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่คนสัมผัสไดถึงแรงกดที่นาตกตะลึง
จากไอหมอกนั่น ตางก็อดที่จะนาเปลี่ยนสีไมได
ชั่วพริบตากลุมหมอกก็มาอยูเหนือทะเลสาบเล็กๆ จากนั้นพลันมีเสียงอึกทึกดัง
ขึ้น หลังจากที่กลุมหมอกระเบิดออกและสลายหายไปอยางไรรองรอยแลว บนทองฟา
กลับมีเงาสีขาวจางๆ หาสายปรากฏขึ้น ทุกเงารางลวนรางเลือน ไมขยับเขยื้อน
“หามารใจเดียว!” ผูบำเพ็ญเพียรแซฮัวสีหนาแข็งคาง
“หามาร? หรือวาคือรางแยกของมารเฒาเฉียนแหงพรรคตาขายทมิฬ?” อาวุโสคน
หนึ่งของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์เองก็มีสีหนาเขียวคล้ำขณะรองอุทานออกมาอยางแผวเบา
“หึ! นอกจากมารเฒาตนนั้นแลว ในใตหลานี้จะมีผูใดฝกฝนเคล็ดวิชามารระดับนี้
ได? รางที่แทจริงของมารเฒาเฉียนสามารถสิงอยูในมารตนไหนก็ได นอกเสียจากวาจะ
มีเวลาสังหารมารทั้งหาพรอมกัน มิเชนนั้นเขาก็แทบจะเปนสิ่งที่ฆาไมตาย” ผูบำเพ็ญ
เพียรวัยกลางคนแซฮัวสงเสียงหึดวยความเย็นชา และเอยออกมาเบาๆ ดูเหมือนวาจะ
หวาดกลัวอยางสุดๆ
“ขาก็วาเปนผูใดที่รูจักรางแปลงทั้งหาของผูแซเฉียนขนาดนี้ ที่แทก็สหายฮัวแหง
สำนักพิษศักดิ์สิทธิ์นี่เอง คิดไมถึงวาสหายจะนำกำลังคนในสำนักมาที่นี่ หรือวารูอะไร
เกี่ยวกับผนึกพวกนี้?” เสียงที่แผวเบาดังออกมาจากทองฟา แตกลับลอยละลองไม
แนนอน ทำใหผูคนไมอาจยืนยันตำแหนงได
“เหอะๆ พี่ เฉี ย นล อ เล น แล ว ผู แ ซ ฮั ว จะรูอ ะไรได แค ที่ นี่ อ ยู ใกล กั บ สำนั ก พิ ษ
ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราเทานั้น ขานอยจึงพาสหายรวมสำนักมาดูสักหนอย วาแตพี่เฉียน
เปนถึงอาวุโสของพรรคตาขายทมิฬ เหตุใดถึงวางจนมาที่นี่ได” ผูบำเพ็ญเพียรแซฮัว
สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง พลางตอบกลับพรอมรอยยิ้มฝนๆ
“ออ เชนนี้นี่เอง ขาจำไดวาสำนักที่อยูใกลที่นี่ที่สุด ดูเหมือนวาจะเปนพรรคแปลง
เซียน! ไมทราบวาสำนักของเจายายที่ตั้งตอนไหนหรือ? สวนผูแซเฉียนนั้น แคมาทำ
ธุระที่หนานเจียง และบังเอิญมาพบกับเรื่องนาสนุกก็เทานั้น”
อาวุโสของพรรคตาขายทมิฬผูนี้เอยพรอมกับอมยิ้ม ทาทางไมเชื่อถือคำพูดของผู
บำเพ็ญเพียรวัยกลางคนเลยสักนิด
“แตเดิมขานึกวาจากฐานะผูมีชื่อเสียงอยางพี่เฉียน จะไมออกจากพรรคงายๆ
เสียอีก ไมทราบวามีเรื่องใดกระทบสหายหรือ ถึงไดตองลงมืองเองเชนนี้” ผูบำเพ็ญ
เพียรแซฮัวหัวเราะแหงๆ ออกมา พลางเอยซักถามหนึ่งประโยค
“ไมมีอะไรหรอก แคมาจัดการผูตอตานที่หนีมาในหนานเจียงเทานั้น ผูแซเฉียน
แคจัดการอยางเงียบๆ เทานั้น”
“ใชหรือ? ผูแซฮัวคงคิดมากไป”
ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รแซ ฮั ว และมารเฒ าเฉี ย นเอ ย ถามและตอบกลั บ คนละประโยค
จากนั้ น ก็ ป ด ปากเงีย บพรอ มกั น เวลานั้ น บรรยากาศระหว างทั้ ง สองพลั น แปลก
ประหลาดไปเล็กนอย
“พบแลว ทางทิศเหนือของผนึกไมไกลนักมีรอยแยกอยูสายหนึ่ง สามารถเขาไป
ได คนของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์กำลังทลายเขตอาคมที่ทางเขา!”
อีกดานบนทะเลสาบ เงารางคนสายหนึ่งโผลออกมาจากพื้นดิน และบินเขามา
จากจุดที่ไกลออกไป พรอมกับตะโกนเสียงดัง
ชั่วครูเสียงนี้ก็ทำใหผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดที่อยูรอบๆ ตกใจ
เวลานี้จุดที่คนผูนั้นโผลออกมา ก็มีลูกศิษยสวมผาโพกศีรษะสีแดงสวมชุดสีฟา
สองสามคนบินออกมา ไลตามผูบำเพ็ญเพียรผูนั้นมาดวยความตกตะลึงระคนโกรธ
เกรี้ยว แตผูบำเพ็ญเพียรที่หนีมาผูนั้นก็ดูเหมือนวาจะฝกฝนเคล็ดวิชาหลีกหนีที่พิเศษ
อะไรสักอยาง ลำแสงหลีกหนีจึงรวดเร็วอยางหาใดเปรียบ ชั่วพริบตาก็หนีไปได
ชั่วขณะนั้นสีหนาของผูบำเพ็ญเพียรแซฮัวและพวกพลันดูไมไดอยางสุดๆ
“ฮาๆ ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ผูแซเฉียนเคยศึกษาเรื่องเขตอาคม อาจจะชวยลูก
ศิษยของสำนักเจาไดอีกแรง ขานอยจะไปดูสักหน อย” มารเฒ าเฉียนหั วเราะฮาๆ
อยางบาคลั่งออกมา ทันใดนั้นเงารางสีขาวหาสายก็หลีกลี้ไปดานลางพรอมกัน ชั่ว
พริบตาก็จมหายไปในผิวน้ำ และหายไปอยางไรรองรอย
“ไป มารเฒาเฉียนนั้นโหดเหี้ยมนัก อยาปลอยใหเขาทำรายลูกศิษยในสำนักของเรา”
ผูบำเพ็ญเพียรแซฮัวมีสีหนาเขียวคล้ำ ทันใดนั้นพลันพลิกฝามือ ธงเล็กๆ สีเหลือง
ที่เตรียมไวตั้งนานแลวพลันปรากฏขึ้นบนมือ
เพี ย งสะบั ด เล็ ก น อ ย เมฆสี เหลื อ งกลุ ม หนึ่ ง ก็ ห อ หุ ม ร า งของคนในสำนั ก พิ ษ
ศักดิ์สิทธิ์เอาไว พาทุกคนจมหายเขาไปใตดิน พวกเขาตางก็หายไปอยางไรรองรอย
ไมใชแคมารเฒาเฉียนและคนของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ เมื่อผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือได
ยินคำพูดนี้ก็ทยอยกันมุดลงไปใตดิน ชั่วพริบตาผูบำเพ็ญเพียรรอบๆ ก็ลดจำนวนลงไป
กวาครึ่ง บนพื้นจึงเหลือเพียงไมกี่คน แนนอนวาผูบำเพ็ญเพียรที่ใชเคล็ดวิชาลี้ธรณีไม
เปนและผูที่ไมมีสมบัติลี้ธรณี ตางก็ทำไดเพียงจองตาปริบๆ เทานั้น
ทิศเหนือของทะเลสาบหางออกไปยี่สิบลี้ ลึกลงไปใตดินพันจั้ง มีรอยแยกหวงมิติ
เวลาขนาดใหญสีดำสนิทอยูรอยหนึ่ง ลำแสงที่เจิดจาจนแสบตาสวางวาบไมหยุดอยู
ตรงเสนขอบของหวงเวลานั้น และดานลางของพวกมันกลับมีมานแสงสีขาวโพลนที่ไร
ขอบเขตอยู มานแสงนี้ไมเพียงจะหนาจนหาที่เปรียบมิได
บนมานแสงกลับมีประจุไฟฟาที่นาตกตะลึงเปนชั้นๆ วิ่งพลาน เมื่อมีคนเขาไปใกล
ก็จะมีประจุไฟฟาหนาๆ สายหนึ่ง พุงออกมาโจมตีอยางไมเกรงใจเลยแมแตนอย
ผูที่โชคดีหนอยก็หลบได หากหลบไมพนก็ทำไดเพียงตานทานเอาไว ผลลัพธคือ
ตางก็ถูกโจมตีลงบนลำแสงวิญญาณที่หอหุมรางจนกะพริบวาบไมหยุด เวลานั้นจึงไมมี
ผูใดกลาเสี่ยงเขาไปใกลอีก แตมานแสงที่ผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นจับจองอยูนั้นกลับไมมี
ประจุไฟฟาเปลงออกมา แตก็มีลูกศิษยของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ที่สวมชุดสีฟาพันผาโพก
ศีรษะสีแดงเจ็ดแปดคนรักษาการณอยูตรงนั้น ทุกคนลวนมีสีหนาเครงขรึมขณะยืนคุม
เชิงอยูกับผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้ ไมยอมปลอยใหคนอื่นๆ เขาใกลไดงายๆ เชนนั้น พวก
เขาจึงถูกผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือกนดา แตก็ไมมีใครลงมือตามอำเภอใจ
ถึงอยางไรเสียสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ก็มีชื่อเสียงไมนอยในหนานเจียง และผูบำเพ็ญเพียรที่
อยูที่นี่แปดเกาสวนตางก็เปนผูบำเพ็ญเพียรทองถิ่นของหนานเจียง แนนอนวาจึงไมมี
ผูใดกลาหาเรื่องใสตัวงายๆ แตในเมื่อมีคนหวาดกลัวชื่อเสียงของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์
แนนอนวาก็มีคนที่ไมเลื่อมใสสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ ผลลัพธคือมีลำแสงสีแดงสายหนึ่งพุง
ออกมาจากฝูงชน น้ำเสียงที่เย็นชาประโยคหนึ่งดังขึ้น
“ไปใหพน ตาเฒาจะเขาไป” ถึงแมวาน้ำเสียงของผูพูดจะแกชรา แตดูเหมือนวา
จะเต็มไปดวยโทสะ เอยปากออกมาอยางไมเกรงใจเลยแมแตนอย
“อาวุโสผูนี้ ที่นี่คือสถานที่ที่สำนักของขาเปนผูคนพบ ทานอาจารยอาสองสาม
ทานของสำนักเราอยูแถวนี้ ทานอาวุโสโปรด…” เมื่อเห็นวามีผูบำเพ็ญ เพียรระดับ
กอกำเนิดออกตัว ลูกศิษศระดับหลอมรวมคนหนึ่งของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ก็ทำไดเพียง
ใชชื่อเสียงของอาวุโสประจำสำนัก เอยอะไรออกมาอยางใจดีสูเสือ
“ฮาๆ ตอใหฮัวเทียนฉีอยูที่นี่ ตาเฒาก็จะตองเขาไปใหได” เงารางคนในลำแสงสี
แดงหัวเราะอยางเย็นชาออกมา ทันใดนั้นพลันชูมือขึ้น ชั่วขณะนั้นลำแสงที่เจิดจาสาย
หนึ่งพลันสวางวาบขึ้นกลางฝามือ
ตอนที่ 1000 อรหันตสี่กำจาย
“จริงรึ! ไมทราบวาลูกศิษยผูนี้ของตาเฒา ไปลวงเกินพี่เจิ้งเวยอยางไรหรือ คาดไม
ถึงวาจะทำใหสหายตองลงมือสั่งสอนเองถึงเพี ยงนี้?” ในตอนนั้น เอง จูๆ จุดที่ ไกล
ออกไปก็มีเสียงราบเรียบดังขึ้น จากนั้นลำแสงหลีกหนีหลากสีสันหลายสายก็พุงเขามา
ชั่วพริบตาก็มาถึงเบื้องหนาของเหลาลูกศิษยของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์
คนที่พูด เผชิญหนากับเงารางของในลำแสงสีแดงดวยสีหนาแข็งทื่อ เปนผูบำเพ็ญ
เพียรแซฮัวนั่นเอง
“ที่แทก็พี่ฮัวนี่เอง ผูแซเจิ้งเสียมารยาทแลว เมื่อครูขานอยแคลอเลนกับลูกศิษย
ของท า นเท า นั้ น ไหนเลยจะรั ง แกผู ที่ อ อ นแอกว า ได !” ช า งอยู น อกเหนื อ ความ
คาดหมายของผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ที่อยูในเหตุการณนั้นโดยแท ผูบำเพ็ญเพียรที่ดู
ดุดันในลำแสงสีแดง เห็นอาวุโสสองสามทานของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์มาถึง คาดไมถึงวา
จะหัวเราะกลบเกลื่อนแทน ราวกับเปนคนละคน คาดไมถึงวาจะไมเห็นแกหนาตนเอง
เลยสักนิด
“หึๆ ผูนี้คือสหายเจิ้งเวยอรหันตสี่กำจายที่มีชื่อเสียงสินะ เวลานี้มีโอกาสไดพบ
ชางยิ่งใหญสมคำร่ำลือจริงๆ!” เสียงหัวเราะดังออกมาจากอีกดาน จากนั้นเบื้องหนา
ของทุ ก คนพลั น พราเลื อ น ระหว างลำแสงสี แ ดงและผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รของสำนั ก พิ ษ
ศักดิ์สิทธิ์ก็มีเงารางสีขาวโพลนเพิ่มขึ้นมา ยืนอยูตรงนั้นราวกับกระบอกไมไผก็ไมปาน
“หามารใจเดียว! ที่แทก็พี่เฉียนของพรรคตาขายทมิฬนี่เอง!” เสียงของผูบำเพ็ญ
เพียรที่อยูทามกลางลำแสงสีแดงพลันเปลี่ยนไป ดูเหมือนวาจะตกตะลึงเปนอยางมาก
“พูดไดดี ชื่อเสียงของพี่เจิ้งก็ไมไดดอยไปกวาขาเลยแมแตนอย!” มารเฒาเฉียน
หัวเราะออกมายกใหญ
ประโยคที่กลาวออกมานั้นไมผิดนัก จะวาไปแลวอรหันตสี่กำจายผูนี้ ก็นับวาเปน
ผูที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในโลกของผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้น
แตนั่นไมไดหมายความวาคนผูนี้มีความสามารถเกรียงไกรอะไร แตเปนเพราะคน
ผูนี้เปนตัวอยางของคนปลิ้นปลอนชอบใชกำลังรังแกผูที่ออนแอกวา เมื่อเผชิญหนากับ
ผูบำเพ็ญเพียรที่มีพลังยุทธต่ำกวาตน เขาก็จะโหดเหี้ยมไรความปรานี ไมสนใจเหตุผล
เมื่อพบผูบำเพ็ญเพียรที่มีพลังยุทธเหนือกวา เขาก็จะยอมแพและประจบสอพลอทันที
ไม เห็ น แก ห น าของตนเองเลยแม แ ต น อ ย แต เมื่ อ มี โอกาส คนผู นี้ ก็ จ ะเปลี่ ย นสี ไร
ความรูสึกในทันที มักจะถือโอกาสที่ผูคนตกอยูในอันตราย ซ้ำเติมทันที
คนเชนนี้ แนนอนวาจะตองลวงเกินผูบำเพ็ญเพียรตางๆ ไปไมนอย แมกระทั่งผู
บำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดดวยกันยังโกรธเกลียดเขาจนกัดฟนกรอด แตถึงแมวาคน
ผูนี้จะเปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษระดับกอกำเนิดขั้นตน วิทยายุทธที่ฝกฝนก็เปนวิชาที่
เพิ่มระดับพลังไดงายที่สุด แตความสามารถกลับอัศจรรยแตกตางกับเคล็ดวิชา อีกทั้ง
ยังไดรับสมบัติวิเศษโบราณ ‘แสเหาะเหินจตุรทิศ’ มาชิ้นหนึ่งดวยความบังเอิญ ภายใต
การสำแดงสิ่ ง นี้ อ อกมา ความเร็ ว ของเขาก็ ไม ต า งอะไรกั บ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นปลาย
และยิ่งไปกวานั้นตอมาคนผูนี้ยังฝกฝนเคล็ดวิชาลับประจำตัวอีกสองสามชนิด
บวกกับที่ไมคอยลวงเกินผูบำเพ็ญเพียรที่รายกาจอยางระดับกอกำเนิดขั้นกลางขึ้นไป
ดังนั้นถึงแมวาจะถูกคนไมนอยโกรธเกลียดจนเขากระดูกดำ แตกลับรอดมาไดจนถึง
ทุกวันนี้ กลายเปนหนึ่งในไมกี่คนที่มีชื่อเสียงฉาวโฉในโลกของผูบำเพ็ญเพียรตาจิ้น
คนประเภทนี้ แนนอนวาฮัวเทียนฉีนั้นไมมีทางทำดีดวย กลับเปนมารเฒาเฉียนที่
ดูจะรูสึกสนใจคนผูนี้เปนอยางมาก ทวาเมื่ออรหันตสี่กำจายผูนี้เห็นอาวุโสของพรรค
ตาขายทมิฬปรากฏตัว ทันใดนั้นก็หัวเราะไปพลาง เริ่มถอยหลังไปหาฝูงชนไปพลาง
ราวกับหนูที่เห็นแมวอยางไรอยางนั้น
เมื่อเห็นอีกฝายมีทาทีหวาดกลัวเชนนี้ มารเฒาเฉียนจึงลืมความคิดที่จะเอยอะไร
กับเขาอีก แตกลับใชน้ำเสียงอมยิ้มพูดกับฮัวเทียนฉีวา
“พี่ฮัว ลูกศิษยของสำนักทานคอยรักษาการณ อยูที่นี่ หรือวาคิดจะกันขานอย
เอาไวภายนอก?”
“พี่เฉียนลอเลนแลว สำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราไหนเลยจะกลากีดกันสหายเฉียน
ตอใหเปนสหายคนอื่น ขาก็ไมมีเจตนาจะปดบัง แคที่นี่ในตอนนี้ถูกเขตอาคมลวงตาปก
คลุมเอาไว สำนักขาจึงคิดจะทลายเขตอาคมลงกอน จากนั้นคอยใหเหลาสหายเขาไป
เพื่อไมใหสหายติดอยูในนั้น”
ฮัวเทียนฉีเงียบกริบไปชั่วครู แววตาเปลงประกายขณะเอย
“ออ ผูแซเฉียนเขาใจความหวังดีของสำนักทานผิดไปจริงๆ ทวาเขตอาคมลวง
ตาจิ๊บจอยแคนี้ ขวางทางขานอยไมไดห รอก ตอนนี้ผูแซเฉียนอยากเขาไปแลว ไม
ทราบวาสหายคิดอยางไร?” มารเฒาเฉียนหัวเราะอยางเย็นชาออกมา พลางเอยตอน
“ไมมีปญ หา ขอแคพี่เฉียนทะลวงเขตอาคมเขาไปได ขานอยไมมีทางขัดขวาง
แมแตนอยแน” ฮัวเทียนฉีดูเหมือนวาจะยอมปลอยแลว จึงเอยอยางไมลังเลแมแต
นอย และโบกมือเปนสัญญาณใหลูกศิษยเปดทางใหในทันที
ถึงแมวาอาวุโสที่เหลือทั้งสามคนของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์จะไมเขาใจ แตเพราะ
ความเชื่อมั่นที่มีตอฮัวเทียนฉี ผูใดจึงไมกลาพูดอะไร
ลูกศิษยระดับหลอมรวมสองสามคน ก็ยิ่งเปดทางให หลีกไปอยูดานขางอยางเชื่อฟง
“เชนนั้นขานอยไปกอนละ” มารเฒาเฉียนหัวเราะอยางบาคลั่งออกมา เงาสีขาว
หาสายสวางวาบแลวพุงไปยังมานแสงสีขาว ชั่วพริบตาเงาสีขาวบนมานแสงสีฟาชั้น
นั้นก็คอยๆ สลายหายไป
“ยังมีสหายคนอื่น คิดจะทะลวงเขตอาคมเขาไปหรือ ไม ผู แซ ฮัวจะไม ขัดขวาง
เชนกัน” ฮัวเทียนฉีรอจนมานแสงฟนฟูกลับมาเปนสงบราบเรียบ ริ้วรอยบนใบหนาก็
กระตุก เอยกับผูบำเพ็ญเพียรที่อยูรอบๆ อยางเชื่องชา
การกระทำของฮัวเทียนฉี กลับทำใหกลุมผูบำเพ็ญเพียรที่แตเดิมกำลังกาวราว
มองสบตากัน แมแตอรหันตส่ีกำจายเจิ้งเวยเมื่อครูที่หลบอยูในฝูงชน ก็ยังเงียบกริบไม
สงเสียงใดๆ
เมื่อครูทุกคนตางคิดวาสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ตองการยึดครองทางเขาเอาไวแตเพียง
ผูเดียว แนนอนวาจึงเกิดความคิดเปนศัตรูขึ้น คิดอยากจะเขาไปในผนึก แตตอนนี้อีก
ฝ า ยยอมถอยออกมาเป ด ทางให ยิ่ ง ไปกว า นั้ น ด า นในยั ง มี ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
กอกำเนิดขั้นปลายคนหนึ่งอยูเบื้องหนา กลับทำใหพากันรูสึกระมัดระวังตัวขึ้น ไมตอง
พูดถึงวาเขตอาคมลวงตานั้นจะทลายยากหรือไม หากอาวุโสของพรรคตาขายทมิฬผู
นั้น เกิดจิตสังหารขึ้นในเขตอาคมลวงตา ในบรรดาพวกเขาจะมีใครตานทานไดกันเลา
แนนอนวาจึงเกิดความลังเล
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ ฮัวเทียนฉีก็เผยรอยยิ้มเยาะออกมา ทันใดนั้นก็ไมสนใจ
ผูอื่นอีก หันกายไปออกคำสั่งกับลูกศิษยในสำนักวา
“พวกเจาไมตองรักษาการณที่น่ีแลว เขตอาคมลวงตานั่น หากพวกเรารวมมือกัน
ใชเวลาเพียงนิดหนอยก็นาจะทลายเขาไปได พวกเจากลับไปบนพื้นดินเถอะ”
“ขอรับ ทานอาวุโส!” ลูกศิษยระดับหลอมรวมของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์เจ็ดแปดคน
คอมตัวลงรับคำสั่ง จากนั้นก็บินขึ้นไปขางบนโดยไมแมแตจะหันศีรษะกลับมาอีก ชั่ว
พริบตาก็หายลับไป
จากนั้นภายใตการเรียกของฮัวเทียนฉี อาวุโสของสำนักพิษศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่คนก็กาว
เขาไปในเขตอาคมลวงตาพรอมกัน หลังจากลำแสงสวางวาบ พวกเขาก็หายวับไป
ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือตางพากันสงเสียงอื้ออึงขึ้น
พวกเขาสวนใหญลวนเปนผูที่เดินทางมาเพียงลำพัง ตอใหมีสหายรวมเดินทางมา
ดวย มากสุดก็แคผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมสองสามคนเทานั้น ไหนเลยจะกลา
เขาไปในเขตอาคม
ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดที่เหลือสองสามคนตางก็เปนผูที่มาตามลำพัง และ
พากันเผยสีหนาขบคิดออกมา
มองเห็นวาทางเขาไมมีผูใดมาขัดขวางแลว ที่นี่กลับเงียบกริบ
“สหายผูน้ี ไมสูรวมมือกันสองคนเขาไปเปนอยางไร?” ทามกลางฝูงชน อรหันตสี่
กำจายปรากฏตัวขึ้นเบื้องหนาชายชราสูงใหญคนหนึ่งอยางลับๆ ลอๆ พลางเอยพรอม
กับหัวเราะเบาๆ
“เขาไปกับเจา? อยาดีกวา สหายมีชื่อเสียงเกรียงไกร ขานอยไดยินมาเนิ่นนานแลว!”
ชายรางใหญระดับกอกำเนิดไดยินคำพูดของเจิ้งเวย ทันใดก็คอนปะหลักปะเหลือก
ทาทางไมสบอารมณ
“เหตุใดสหายจะตองปฏิเสธดวย ขาวา ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดที่อยูที่นี่
นอกจากเราสองคนแลว ที่เหลืออีกสามคนก็ดูเหมือนวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรสันโดษที่
หนาตาไมคุนเคย ถาหากพวกเรารวมมือกัน ก็ไมตองกลัวมารเฒาเฉียนและคนของ
สำนักพิษศักดิ์สิทธิ์แลว” เจิ้งเวยยังคงไมใสใจ พลางเอยดวยสีหนาเบิกบาน
“เหอะ เจาไปชวนคนอื่นกอนแลวแลวคอยมาหาขานอยเถิด” ชายรางใหญไดยิน
แลวพลันใจเตน แตอีกฝายมีชื่อเสียงฉาวโฉจริงๆ จึงเอยเงื่อนไขของตัวเองออกมา
อยางไมตองคิด
“ได ขอแคสหายรับปากก็พอ คนอื่นๆ มอบใหเปนหนาที่ของผูแซเจิ้งเถิด”
เจิ้งเวยตบแผนอกของตนเองเปนการรับประกัน ทันใดนั้นก็บินไปหาชายชราที่มี
ลำแสงสีมวงรอบกายทามกลางสายตาตกตะลึงระคนสงสัยของชายรางใหญ
“สหายผูน้ี คิดจะเขาไปขางในหรือไม? ขานอยและสหายทางนั้นปรึกษากันแลววา จะ
ชวนสหายอีกสามทานมาเขารวมการเดินทาง ไมทราบวานายทานจะยอมเขารวม
หรือไม?” ยังไมรอใหชายชราเผยสีหนาตกตะลึงที่ตองเผชิญหนากับแขกที่ไมไดรับเชิญ
ออกมา เจิ้งเวยก็เผยรอยยิ้มจนตาหยีออกมา
ชายชราขมวดคิ้ว จองไปที่เจิ้งเวยแวบหนึ่งดวยความเย็นชา ถึงไดเงยหนาไปมอง
ชายรางใหญที่อยูอีกดานแวบหนึ่ง และประสานสายตาประหลาดใจกับชายรางใหญที่
มองมาพอดี
หลังจากที่สายตาสอดประสานกันแลว ทันใดนั้นชายรางใหญก็เผยสีหนาถึงบาง
ออออกมา มุมปากหยักรอยยิ้มจางๆ ขึ้น
หลังจากนั้นไมนาน ผูบำเพ็ญเพียรสันโดษระดับกอกำเนิดหาคนที่ไมรูจักมักจี่กัน
มากอน ก็เขาไปในเขตอาคมลวงตาพรอมกัน เชนนั้น ผูบำเพ็ญ เพียรระดับสูงที่อยู
ภายนอก ก็หายไปจนหมด
……
ในตอนที่ผูบำเพ็ ญ เพี ยรระดับกอกำเนิ ดจำนวนมากเขาไปในเขตอาคมลวงตา
พรอมกันนั้น หานลี่กลับมองไปรอบๆ พรอมกับดวงตาที่เปลงแสงสีฟาไมหยุด
เวลานี้เขาอยูในหวงมิติที่ดูเหมือนความฝนอยางไรอยางนั้น รอบดานลวนเต็มไป
เมฆหมอกหลากสีสัน ดานบนไมมีทองฟา ดานลางไมมีพื้นดิน คาดไมถึงวาจะลอยอยู
กลางอากาศ
“นี่มันที่บาอะไรกัน บินอยางไรก็บินไมพนสักที ทั้งไมมีเขตอาคมปรากฏตัว และ
ไมเหมือนกับเคล็ดวิชาลวงตา! หรือวาตองถูกกักอยูที่นี่จริงๆ” หานลี่เอยพึมพำกับ
ตัวเอง สีหนากลัดกลุมอยางเห็นไดชัด
เมื่ อ สองสามวั น ก อ น ทั้ ง สามคนพบก อ นหิ น อยู ข า งบั น ไดด ว ยความบั ง เอิ ญ
ดานบนมีสมุนไพรวิญญาณที่หายากมาตนหนึ่งปรากฏอยู ทันใดนั้นชายชราแซฟูก็เขา
ไปเด็ดทันที
ผลลัพธคือ เมื่อชายชราดึงตนสมุนไพรนั้นออกมา ชั่วขณะนั้นกลับไปสัมผัสกับ
เขตอาคมตองหามอะไรสักอยางเขา หานลี่รูสึกเพียงวาเบื้องหนาพรามัว คาดไมถึงวา
จะมาปรากฏตัวที่นี่เพียงลำพัง
ไปเหยาอี๋และชายชราแซฟู กลับหายไปอยางไรรองรอย
เมื่อเผชิญ หนากับเขตอาคมตองหาม ถึงแมวาหานลี่จะไมถึงกับเรียกไดวาเปน
ปรมาจารยดานเขตอาคม แตก็เคยศึกษาเรื่องเขตอาคมโบราณมาเชนกัน แนนอนวา
ตอนแรกจึงไมหวาดกลัวอะไร
แตไมนานนัก หานลี่กลับรูสึกวาแยแลว
เพราะวาเขาไมแนใจแมกระทั่งวาที่นี่ใชเคล็ดวิชาลวงตาหรือไม รูเพียงวาไมวาตัวเอง
จะบินไปนานเทาไหร สิ่งที่ปรากฏอยูเบื้องหนาก็ยังคงเหมือนเดิม และเนตรวิญญาณ
วารีกระจางนั้นก็ใชไปตั้งนานแลว ผลลัพธคือไมพบอะไรที่ผิดปกติเลยแมแตนอย
สวนการใชสมบัติอยางกระบี่บินโจมตีนั้น ก็ลองใชไปหมดแลว ผลลัพธคือเมื่อ
โจมตี อ อกไปแล ว ก็ โจมตี ไกลออกไปอย างไม มี ขี ด จำกั ด จากนั้ น พลั งก็ แ ตกสลาย
หายไป ไมมีทางโจมตีอะไรได เชนนั้น ไมวาการโจมตีของเขาจะเฉียบแหลมขนาดไหน
ก็ไมมีประโยชนเลยสักนิด หลังจากที่หานลี่ลอยอยูกลางอากาศอยูนาน ก็ยังคงไมได
อะไร ในที่สุดตอนนี้ก็หยุดลง
หลังจากที่ดวงตาทั้งสองของเขาหรี่ลงจมเขาสูภวังคความครุนคิด จูๆ ก็นั่งสมาธิลง
หลับตาทั้งสองขางลงเบาๆ ในหัวเริ่มมีเขตอาคมมหัศจรรยโบราณตางๆ ที่เคยศึกษา
ในอดีตปรากฏขึ้น หลังจากพิจารณาอยางละเอียดอีกรอบแลว ก็คนหาวามีเขตอาคม
ประเภทใดที่คลายกันบางพอจะทลายเขตอาคมนี้ออกไปได
เวลาคอยๆ เคลื่อนคลอยผานไป รางของหานลี่ไมขยับเขยื้อน ราวกับรูปแกะสลัก
ไมอยางไรอยางนั้น หลังจากที่เวลาผานไปไมรูเทาไหร ในที่สุดหานลี่ก็หนาเปลี่ยนสี
คอยๆ ลืมตาทั้งสองขางขึ้น สายตาทอดมองไปที่เมฆดานลาง
“จุๆ! ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง เปนเชนนี้ดังคาด” สายตาของหานลี่มีความแปลก
ประหลาดอยูเล็กนอย พลางเอยพึมพำกับตนเองเบาๆ
ตอนที่ 1001 พบกันโดยบังเอิญ
หานลี่ยืนขึ้นอยางเชื่องชา มือหนึ่งควาเมฆสีแดงที่อยูกลางอากาศใกลๆ เอาไว ชั่ว
ขณะนั้นภาพลวงตามือยักษสีเขียวขางหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ควาเมฆเอาไวใน
มือแนน
เสียงบริกรรมคาถาทุมต่ำดังขึ้น!
หานลี่จองเขม็งไปยังมือยักษ สองมือผนึกเขาหากันเปนสัญลักษณโบราณ ปากก็
บริกรรมคาถาออกมา
หลังจากที่ มือ ยักษ สั่น คลอนแลว นิ้ วทั้ งห าพลั น กางออก ชั่ วครูก็กุม เมฆสี แดง
เอาไวกลางฝามือ แสงสีเขียวสวางจา ชั่วพริบตามือยักษก็กลายเปนดวงแสงที่เจิดจา
จนแสบตาดวงหนึ่ง แตทันใดนั้นหานลี่พลันอาปากออก พนเพลิงทารกสีเขียวออกมา
จากปาก ชั่วครูก็ลอยเขามาพัวพันรอบดวงแสง ทันใดนั้นเปลวเพลิงที่แผดเผาก็กลืน
กินดวงแสงเขาไปอยางรวดเร็ว หอหุมดวงแสงดวงนั้นเอาไวขางใน
เวลานี้หานลี่ถึงไดสลายอาคมในมือ มองไปที่ดวงแสงดวยสีหนาไรความรูสึก ไม
ปริปากออกมาสักคำ หลังจากผานไปตั้งไมรูเทาไหร หลังจากที่มุมปากของหานลี่หยัก
ขึ้น จูๆ พลันสะบัดไปที่เปลวเพลิงกลางอากาศ ลำแสงสายหนึ่งพุงออกไป ทันใดนั้น
เปลวเพลิงก็มอดดับไป เผยใหเห็นไขมุกกลมๆ สีแดงออนเม็ดหนึ่ง
“ดูแลวคงไมผิดแน! วิธีการลวงตาที่สามารถซุกซอนสิ่งของระดับสูงขนาดนี้เอาไว
ได มีเพียงผูบำเพ็ญเพียรโบราณเทานั้นที่ทำไดจริงๆ ทวาผูบำเพ็ญเพียรที่เขาใจเขต
อาคมนี้ ตอใหเปนในสมัยโบราณก็มีเพียงไมกี่คนสินะ? โชคดีที่คัมภีรที่ซินหรูอินมอบ
ให มีเขตอาคมที่คลายกันชนิดหนึ่ง มิเชนนั้นก็ไมรูวิธีทลายเขตอาคมจริงๆ ดูแลวตอ
จากนี้คงตองเพิ่มอานุภาพของเนตรวิญญาณใหแข็งแกรงขึ้นแลว ถาหากสามารถใช
ของเหลววิญ ญาณกระจางไดอยางตอเนื่องสักรอยกวาป ก็นาจะสามารถมองทะลุ
เคล็ดวิชาลวงตาระดับสุดยอดไดกระมัง”
หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ทาทางกลัดกลุมที่เนตรวิญญาณของตัวเองไม
สามารถมองทะลุผานเขตอาคมนี้ไดเปนอยางมาก
เขาไมสนใจไขมุกสีแดงที่ลอยอยูกลางอากาศไมขยับเขยื้อนอีก สายตามองไป
รอบๆ ดานหนึ่งรอบ จองเขม็งไปยังหมอกสีฟา ความือยักษขางหนึ่งเอาไวเชนกัน และ
พนเพลิงทารกออกไปอีกครั้ง
เวลานี้ ชั่วพริบตาเมฆหมอกพลันหายไปทามกลางเปลวเพลิง หานลี่ไมมีสีหนา
แปลกใจเลยสักนิด ทันใดนั้นพลันควาเมฆอีกกลุมเอาไวทันที หลังจากที่ลมเหลวไป
สองรอบ ในที่สุดก็หลอมไขมุกสีฟาเม็ดหนึ่งได
เชนนั้น หลังจากเสียเวลาไปครึ่งวัน ก็หลอมไขมุกสีเหลือง สีเขียว และสีทองสามเม็ด
สำเร็จ จากนั้ นหานลี่ก็เริ่มกวักมือเรียกไขมุ กหลายเม็ดนั่ น ดวยสีห น าเครงขรึม ชั่ว
ขณะนั้นไขมุกกลมๆ ที่แตเดิมลอยอยูพลันพุงเขามา
ทันใดนั้นนิ้วทั้งสิบพลันรายอาคมดึงดูด ไขมุกกลมๆ หมุนวนรอบตัวเขา และยิ่ง
ไปกวานั้นยังเร็วขึ้นเรื่อยๆ คอยๆ กลายเปนวงแหวนกลมๆ หาสีสายหนึ่ง บนวงแหวน
เปลงลำแสงวิบวับออกมา เผยใหเห็นความลึกลับอยางสุดๆ
“ไป!” หานลี่ขมวดคิ้วทั้งสอง ปากก็คำรามดวยเสียงทุมต่ำออกมา
เมื่อการเคลื่อนไหวบนนิ้วทั้งสิบหยุดลง วงแหวนกลมๆ หาสีพลันกระจายออก
ไขมุกหมุนโคจรเปนเสนทางที่ยากจะคาดเดา และดีดออกไปรอบๆ ดานพรอมกัน
ชั่วพริบตา ไขมุกก็บินมาถึงหาสถานที่ที่ดูไมไดเชื่อมโยงกันเลยแมแตนอย หมุน
ติ้วๆ ไปมาไมหยุด ในเวลาเดียวกันไขมุกก็เปลี่ยนรูปหดเล็กลงเปนรูปรางประหลาดๆ
ในตอนที่สองตาของหานลี่หรี่ตาลงนั้น เสียงปงปงพลันดังขึ้น ไขมุกกลมๆ ทั้งหา
ระเบิดออกพรอมกัน ลำแสงหลากสีสันปรากฏขึ้น สวางวาบจนแสบตา ราวกับวา
กลางอากาศมีดวงอาทิตยประหลาดหาดวงปรากฏขึ้นพรอมกัน
ถึงแมวาหานลี่จะหลับตาทั้งสองขางลงตามจิตสำนึก ไมกลาสบตากับลำแสงหาสี
นั้นตรงๆ
แตในตอนที่ลำแสงทั้งหาสีรวมตัวเขาดวยกัน ชั่วพริบตานั้นก็ทอแสงไปทั่วทั้งทองฟา
บรรยากาศรอบด านเปลี่ ย นไป ทั น ใดนั้ น เบื้ อ งหน าพลั น พราเลื อ น รางของหานลี่
ปรากฏขึ้นบนบันไดหินที่คุนเคย และไมไกลนักก็คือศิลายักษที่มีสมุนไพรวิญญาณงอก
อยูที่พวกเขาเคยเห็นนั่นเอง
“สหายหาน!”
“พี่หาน!”
เสียงรองอุทานของชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ดังขึ้นดานขางของหานลี่
หานลี่เลื่อนสายตาไป ถึงไดพ บไป เหยาอี๋และชายชราแซฟู คาดไมถึงวาจะมา
ปรากฏตัวขึ้นหางออกไปสองสามจั้ง ทั้งสองมีสีหนาทอแทเปนอยางมาก แตเวลานี้
กลับมีสีหนาตกตลึงระคนดีใจ
“สหายทั้งสองก็หนีออกมาได!” หานลี่เอยอยางราบเรียบ
“พี่หานเปนคนโจมตีเขตอาคมประหลาดๆ นั่นสินะ! ตาเฒาไมเคยเห็นเขตอาคม
เช น นี้ ม าก อ น นึ ก ว า จะถู ก กั ก อยู ที่ นั่ น จนตายเสี ย อี ก !” ชายชราแซ ฟู เอ ย อย า ง
หวาดกลัวสุดๆ
เห็นไดชัดวาอาวุโสพรรคเกายมโลกผูนี้กำลังเสียเปรียบใหกับเขตอาคมประหลาด
นั้นไมนอย ทาทางเหมือนสูญเสียลมปราณไปจำนวนมาก
“สถานการณของขาและพี่ฟูนั้นไมไดแตกตางกันนัก ขาเองก็หมดหนทางในเขต
อาคมนั้นเชนกัน ครั้งนี้ ตองขอบคุณพี่หานที่ทลายเขตอาคมแลว” ไปเหยาอี๋เองก็เอย
ขึ้นพรอมกับหัวเราะอยางขมขื่น ใบหนางดงามเผยสีหนาซาบซึ้งออกมา
“ไมเปนไรหรอก ขาเองก็แคบังเอิญไดยินเขตอาคมชนิดนี้มาเทานั้น ถึงไดสามารถ
ทลายมันได เขตอาคมโบราณชนิดนี้เปนชนิดที่พบเห็นไดยากมากชนิดหนึ่ง สมุนไพร
ต น ที่ พี่ ฟู เด็ ด ขึ้ น มา ถ า หากข า จำไม ผิ ด ละก็ น า จะเป น ภาพลวงตาที่ ส ร างขึ้ น จาก
ยุทธภัณฑชนิดหนึ่ง เกรงวาสหายคงโดนหลอกอยูไมนอย” หานลี่เอยพรอมกับหัวเราะ
หึๆ ออกมา
“สรางจากภาพลวงตา คงไมใชมั้ง ตอนนั้นขา...เอ นี่คืออะไร” ชายชราแซฟูไดยิน
คำพูดของหานลี่พลันตกตะลึง เอยอยางเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่งไปพลาง ควักกลองหยก
ออกมาจากยามเก็บของไปพลาง
ผลลั พ ธคื อ ด านในไม มี ส มุ น ไพรวิ ญ ญาณใดๆ กลั บ เป น เพี ย งหยกสมประสงค
ธรรมดาๆ กอนหนึ่งเทานั้น
ชั่วขณะนั้นชายชราพลันตกตะลึงจนตาคาง
“ความจริงแลวตอนที่พวกเราสามคนเหยียบไปบนกอนหินยักษกอนนั้น ก็ถูกเขต
อาคมลวงตาหลอกลวงแลว สมุนไพรที่สหายเด็ดมานั้นเปนแคสิ่งที่ใชกระตุนเขตอาคม
ที่รายกาจที่สุดเทานั้น ไมอยางนั้นสหายลองดูตรงนั้นอีกครั้งสิ!” หานลี่แววตาเปลง
ประกาย ชี้ไปยังกอนหินยักษ
ชายชราและไปเหยาอี๋ไดยินแลวพลันมองตามไป เห็นเพียงบนกอนหินยักษ มีตน
เจียงกั่ว (เบอรรี่ สีมวงอยูตนหนึ่ง
“ผูบำเพ็ญเพียรโบราณเหลานี้ชางชั่วรายนัก คาดไมถึงวาจะวางกับดักที่รายกาจ
ขนาดนี้ไว พวกเขาคิดอะไรอยูกันแน!” ชายชรารูสึกอับอายเปนอยางยิ่งทันที
ไปเหยาอี๋เองก็เผยอริมฝปากขึ้น ทาทางตะลึงงัน
“สหายทั้ งสองมิ ต อ งตกใจหรอก เดิ ม ที เขตอาคมโบราณเช น นี้ ก็ จ ำเป น ต อ งมี
ยุทธภัณฑเชนนี้เพื่อทำใหผูที่ติดเขาไปในเขตตองหามเขาไปสัมผัสดวยตัวเอง ถึงจะ
สำแดงอานุภาพทั้งหมดออกมาได แนนอนวาจะมีรูปรางเชนนี้ และเขตอาคมเหลานี้
ข าก็ แ ค ท ลายได ชั่ ว คราวเท านั้ น ไม ส ามารถกำจั ด ให สิ้ น ซากได ” หานลี่ เอ ย อย า ง
ราบเรียบ
“ภูเขาคุนอูนี้ไมเหมือนกับภูเขาเซียนเลย เหมือนกับบ อมังกรถ้ำพยัคฆชัดๆ!”
ชายชรามองเห็นวาสมุนไพรในมือนั้นหายไปแลว แนนอนวาก็รูสึกเจ็บปวด
“จากนี้คงตองระวังใหมากกวาเดิม ที่นี่ไมใชซากปรักหักพังของผูบำเพ็ญเพียรโบราณ
ธรรมดาๆ หากมีเรื่องประหลาดอะไร ทางที่ดีที่สุดก็อยาเคลื่อนไหวซี้ซั้ว เพื่อไมใหเกิด
หายนะขึ้น ครั้งนี้ ขานอยบังเอิญทลายเขตอาคมออกมาได แตครั้งตอไปผูแซหานก็ไม
มั่นใจนัก สหายทั้งสองคงรูความหมายของขานอย” หานลี่แววตาเปลงประกายสอง
สามครั้ง น้ำเสียงเครงขรึมเล็กนอย จูๆ ก็เย็นชาขึ้น
“เรื่อ งนี้ ...จากนี้ ผู แ ซ ฟู จ ะไม เคลื่ อ นไหวสุ ม สี่ สุ ม ห าอี ก ” ชายชราแซ ฟู หั ว เราะ
ออกมาแหงๆ อยางรูสึกกระดากอาย การเด็ดสมุนไพรวิญญาณในครั้งนี้ เขาคอนขาง
บุมบามไปจริงๆ
ไปเหยาอี๋เองก็พยักหนาอยางเหมอลอย
“ในเมื่อสหายทั้งสองเขาใจแลว พวกเราก็ไปกันเถิด เสียงบนภูเขาหยุดไปแลว พวกเรา
เองก็เสียเวลาไปหลายวันแลว บางทีคนอื่นๆ อาจจะไปถึงยอดเขาแลวกระมัง” หานลี่
หันหนาไปมองยอดเขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็บินนำหนาขึ้นไปบนบันไดกอนอีกครั้ง
ไปเหยาอี๋และพวกทั้งสองคนจึงเดินตาม
ครานี้ ไมไดพบความยุงยากอะไรอีก หลังจากผานไปสองสามชั่วยาม ในที่สุดทั้ง
สามที่ บิ น ผ านเสาขนาดใหญ ม าสองสามต น ก็ ม าถึ งศาลาหิ น ที่ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รของ
ตระกูลเยี่ยเขามาในวันนั้น วันนั้นเซี่ยงจือหลี่เองก็สลายหายไปจากในนี้
เมื่อมองเห็นดานขางของศาลาหิน ชายชราและไปเหยาอี๋ก็ไมไดรูสึกอะไร แตหาน
ลี่กลับรองเอออกมาเบาๆ จูๆ ก็จองเขม็งไปยังพื้นดินบางจุดดานนอกศาลา หยุดชะงัก
ฝเทาลง
ชายชราและพวกทั้งสองเห็นเชนนั้น ก็อดที่จะมองตามไปพรอมกันไมได ผลลัพธ
คือทั้งสองเองก็พบความผิดปกติตรงจุดนั้น
บนพื้นดินที่ออนนุม มีรอยเทาจางๆ รอยหนึ่ง ถาหากไมสังเกต ก็อาจจะมองขาม
ไปไดงายๆ จริงๆ
“มีผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นมาที่นี่ดังคาด!” ไปเหยาอี๋อุทานออกมาเบาๆ คิ้วดำขลับ
ขมวดแนนขณะเอย
“ไมใชแคน้ัน เจาดูภูเขาลูกนั้น!” หลังจากที่ชายชราเอยพึมพำ และกวาดตาไป
ตรงจุดหนึ่งขางๆ ศาลาหินแวบหนึ่งขณะเอย
บนภูเขาหินลูกนี้ มีรอยแยกยาวประมาณสองสามจั้งรอยหนึ่ง แคบและลึก แค
มองก็รูวาเปนรองรอยของกระบี่ที่รายกาจอยางสุดๆ นี่คือรองรอยของกระบี่สีเหลืองที่
ทานอาเจ็ดแหงตระกูลเยี่ยปลอยออกมาและทิ้งรองรอยเอาไวอยางไมไดตั้งใจ
“รอยกระบี่นี้ดูใหมมาก ดูแลวที่นี่ไมใชแคมีคนแตดูเหมือนวาจะประมือกันแลว
หรือวาคือยักษปกเงินตัวนั้น?” ไปเหยาอี๋กลอกตาไปมาขณะเอย
“อาจจะกระมัง! ดูแลวคนเหลานี้ คงเดิน ขึ้น มาตามบั น ไดหิ น เชน นั้ น ก็ ดี มี คน
เปดทางแทนพวกเราแลว พวกเราก็ลดความยุงยากลงไปอีก” หานลี่กลับเอยอยาง
ราบเรียบเปนพิเศษ
ชายชราแซฟูไดยินคำนี้ก็ยิ้มออกมา แตขณะกำลังจะเอยอะไรนั้น จูๆ รอบๆ ก็มี
มานแสงสีขาวสวางวาบ เงารางคนสีขาวโพลนบินออกมาจากดานใน
เพราะวาตำแหนงที่เงารางคนปรากฏขึ้นนั้นอยูตรงขามกับหานลี่และพวกทั้งสาม
คนพอดี แนนอนวาจึงถูกพวกเขามองเห็นอยางชัดเจน ผลลัพธคือหานลี่และไปเหยาอี๋
พลันตกตะลึงระคนดีใจในทันที
เขาสองคนคิดไมถึงเลยวา ทางออกที่ตัวเองตามหานั้น จะอยูใกลถึงเพียงนี้
ทวาชายชราแซฟูที่อยูดานขางเห็นเงารางสีขาวนี้ กลับหนาเปลี่ยนสีไปยกใหญ
“หามารใจเดียว รางแปลงมารของมารเฒาเฉียน!” หานลี่ไดยินชื่อนี้พลันตกตะลึง
ถึงแมจะรูสึกวาเหมือนเคยไดยินคำวาหามารใจเดียวจากที่ไหนมากอน แตตอนนั้นก็
นึกไมออกวามารเฒาเฉียนคือผูใดกันแน เมื่อไปเหยาอี๋ไดยินคำนี้ กลับเผยสีหนาซีด
ขาวออกมา และในตอนนั้ น ก็ มี เสี ย ง ‘พรึ่ บ ๆ’ ดั ง ขึ้ น อย า งต อ เนื่ อ ง เงาร า งคนที่
เหมือนกันอีกสี่เงาก็ทะลุออกมาจากมานลำแสงสีขาว
เงารางคนสีขาวจางๆ หาสาย ยืนเคียงไหลกันอยูอยางนั้น สายตาที่แข็งทื่อทั้งสิบ
ดวงจองมาที่หานลี่และพวกที่อยูตรงขามพรอมกัน
“อาวุโสพรรคตาขายทมิฬ!” เมื่อเห็นรูปรางประหลาดของทั้งหาคน ในที่สุดหานลี่
ก็นึกถึงประวัติความเปนมาของอีกฝายออก ชั่วพริบตานั้นสีหนาพลันดูไมได
“ที่แทก็สหายฟูนี้เอง ชางบังเอิญจริงๆ! มินาละลูกนองของผูแซเฉียนตามหาสหายไป
ทั่วอยางไรก็ไมพบ ที่แทก็เขามาในนี้กอนนี่เอง เซียนทานนี้ดูจากเครื่องแตงกายแลว
เปนเอกลักษณมาก หรือวาคือผูบำเพ็ญเพียรของวังราตรีเหนือ ขานอยและฮูหยินหลิ่ว
ของสำนักทานนับวาเปนสหายเกากัน สวนสหายคนสุดทายนั้น จุๆ! หรือวาคือพี่หาน
ที่มีตนกำเนิดมาจากเทียนหนาน พี่หาน เจาปลอยใหพรรคของขาและธิดาเทพเทียน
หลานตามหาตั้งนาน!” ตอนแรกเสียงของมารเฒาเฉียนเต็มไปดวยความประหลาดใจ
ทันใดนั้นก็หัวเราะอยางบาคลั่งออกกมาดวยความตกตะลึงระคนดีใจ
ตอนที่ 1002 ปะทุจิตสังหาร
เมื่อไดยินคำวาหานลี่และเทียนหนาน ชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋ตางก็เผยสีหนา
ประหลาดใจเล็กๆ ออกมา อดไมไดที่จะมองไปทางหานลี่แวบหนึ่งดวยความสงสัย
หานลี่กลับทำแคมองไปยังเงารางสีขาวทั้งหาสายที่อยูไกลออกไปดวยสีหนาเครง
ขรึมไมปริปากใดๆ
ตองเขาใจวาเขาเคยสังหารอาวุโสระดับกอกำเนิดขั้นกลางของพรรคตาขายทมิฬ
คนหนึ่งดวยมือของตัวเอง แมแตสมบัติประจำพรรคอยางธงตาขายภูตผีก็ยังถูกเขา
แยงชิงมาดามหนึ่ง แนนอนวาจึงไมอาจใชวิธีการพูดเปลี่ยนศาตรายุทธใหกลายเปนผา
แพรหยก*อะไรไดอีก และยิ่งไปกวานั้น แตเดิมเขาก็อยากไดวิธีแกคาถาผนึกวิญญาณ
จากพรรคตาขายทมิฬอยูแลว และคาถาชนิดนี้ ก็มีเพียงผูนำพรรคและอาวุโสผูหนึ่งที่
อยูเบื้องหนาเทานั้นที่รู
เชนนั้น แตเดิมหานลี่วางแผนไววาหลังจากเสร็จสิ้นธุระครั้งนี้ ก็จะหาวิธีเอาชนะ
ผูนำพรรคตาขายทมิฬ
แตตอนนี้กลับโชครายจนไดพบกับอีกฝายที่นี่ดวยความบังเอิญ ภายใตความไม
ทันระวังตัวของหานลี่ ก็เคยขบคิดถึงโอกาสที่จะบังเอิญพบกับอีกฝายที่นี่อยูเงียบๆ
แลว อยางไรเสียทั้งสองคนนั้นก็เปนถึงผูมีอำนาจสูงสงของพรรคตาขายทมิฬ โอกาสที่
จะตามหาอีกฝาย ก็มีไมมากนักจริงๆ
ในสงครามระหวางเขากับยักษปเงินซึ่งมีพลังเทียบเทากับอาวุโสระดับกอกำเนิด
ขั้นปลายนั้น เจาตัวประหลาดนั่นไมมีสมบัติอาคมที่เหมาะมือ ในตัวก็ยังมีเขตอาคม
ผนึกอยู เขาจึงเกือบสังหารมันได แมตอนนั้นเขาจะยังใชความสามารถออกมาไมหมด
หุนเชิดรางมนุษยยังไมไดใช แตก็ยังไมมั่นใจวาเมื่อเผชิญหนากับผูบำเพ็ญเพียรสาย
มารระดับกอกำเนิดขั้นปลายแลวจะสามารถเอาชนะไดหรือไม
แตถึงแมหามารใจเดียวจะมีชื่อเสียงยิ่งใหญ ทวาการกำราบเคล็ดวิชาสายมารของ
อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายของเขานั้น ก็ยังทรงพลังหาใดเปรียบ
ในตอนที่ความคิดของหานลี่กำลังเคลื่อนไหวอยางรวดเร็วราวกับสายฟา ขบคิดถึงขอ
ไดเปรียบเสียเปรียบซ้ำไปซ้ำมานั้น สองมือของเงาตรงกลางในกลุมมเงารางสีขาวทั้ง
หาที่อยูไกลออกไปก็พลันรายอาคม แสงสีเทารอบกายสวางวาบ ผูบำเพ็ญเพียรที่สวม
ชุดคลุมสีเทาคนหนึ่งกะพริบวาบออกมาจากเงารางสีขาว ขั้นตอนการปรากฏกายที่
แปลกประหลาดนั้น ทำใหผูคนรูสึกวาเหมือนภูตผีอยางไรอยางนั้น
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีเทามีไอสีเทาจางๆ ปกคลุมใบหนาอยู ไมมีทางมองเห็น
ใบหนาที่แทจริงได แตดูจากศีรษะที่มีเสนผมสีดอกเลาแซมอยูและเครื่องแตงกายนั้น
ก็เห็นไดชัดวาเปนอาวุโสที่อายุอานามไมนอยคนหนึ่ง
ร า งที่ แ ท จ ริ ง ของมารเฒ า เฉี ย นคาดไม ถึ ง ว า จะแยกออกจากร า งมารที่ สิ ง อยู
ปรากฏตัวขึ้นแลว
เวลานี้ ไมใชแคหานลี่ แมแตชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋ก็ยังรูสึกระแวดระวังขึ้น
ดวงตาจองเขม็งไปยังมารเฒาไมกะพริบ อยากรูวาอาวุโสของพรรคตาขายทมิฬผู
นี้คิดจะทำอะไรกันแน
แตมารเฒาก็ไมไดเอยปากพูดอะไร แตกลับใชมือหนึ่งตบไปที่เอว ธงเล็กๆ สีดำ
สนิทราวกับหมึกปรากฏขึ้นในมือ จากนั้นก็สะบัดไปทางตำแหนงที่หานลี่และพวกทั้ง
สามยืนอยูเบาๆ
ชายชราหนาเปลี่ยนสี มือขางหนึ่งควาสมบัติชิ้นหนึ่งเอาไวในทันที
รอบกายของไปเหยาอี๋เปลงแสงเย็นเยียบสวางวาบ ชั่วพริบตารางกายก็ถูกหอหุม
เอาไวดวยลำแสงวิญญาณ
แตหานลี่กลับขมวดคิ้ว ไมไดเคลื่อนไหวใดๆ หวางคิ้วเผยความเย็นชาออกมา
“แปลกจริง แปลก…” ธงเล็ ก ๆ ด ามนั้ น แค เปล งแสงสี ด ำสวางวาบ แต ไม มี มี
ปฏิกิริยาใดๆ อีก นี่จึงทำใหมารเฒาพึมพำกับตัวเองไมหยุด ดูเหมือนวาจะประหลาด
ใจเล็กนอย
“พี่ เฉียน นี่ มันหมายความวาอยางไร? เอาธงตาข ายภู ตผีอ อกมา คิ ดจะลงมื อ
หรือ? หรือวาคิดจะกอสงครามระหวางสองพรรค!” ถึงแม วาชายชราแซ ฟู จะรูสึก
หวาดกลัวมารเฒาเฉียนมาก แตทางดานพวกเขาก็มีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดถึง
สามคน โดยเฉพาะหานลี่ที่มีความสามารถลึกล้ำยากจะคาดเดา จึงไมคอยหวาดกลัว
อีกฝายนัก
“สองครามระหวางสองพรรค? ไม สนใจหรอก ผูแซ เฉีย นแค มีเรื่องเก าๆ ต อ ง
จัดการกับสหายหานเทานั้น ไมเกี่ยวของกับทั้งสองทาน ถาหากยอมจากไปในตอนนี้
ผูแซเฉียนก็จะไมสรางความลำบากใจอยางแนนอน” หลังจากที่มารเฒาเฉียนกวาด
สายตาไปบนรางของทั้งสามแลว ก็เอยขึ้นอยางราบเรียบ
“คำพูดของสหายเฉียนมีนัยถึงขา ผูแซหานเองไดยินชื่อเสียงของหามารใจเดียว
มาเนิ่นนานแลว กำลังคิดจะแลกเปลี่ยนกับสหายอยูพอดี!” หานลี่หัวเราะออกมา คาด
ไมถึงวาจะคลอยตามในทันที
เมื่อไดฟงคำพูดของทั้งสอง ชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋ก็มองสบตากัน
มารเฒาเฉียนเองก็ตกตะลึง สายตาเย็นชากวาดไปมาบนเรืองรางของหานลี่หลายครั้ง
“เรื่องนี้...พี่เฉียน! ถึงแมวาขานอยจะรูวาสหายหานและพรรคของทานมีเรื่องราว
ตอกัน แตอยาลงมือที่นี่เลย มันไมคอยเหมาะกระมัง พี่เฉียนไมอยากคนหาสมบัติใน
ภูเขานี้หรือ?” ชายชราแซฟูขมวดคิ้วพลางเอยชักจูง
นั่นไมใชเพราะเขาอยากจะปกปองหานลี่จริงๆ แตแคภูเขาคุนอูดูแลวอันตราย
เปนอยางมาก พันธมิตรที่ทรงพลังอยางหาไดยากเชนนี้ แนนอนวาจึงไมอยากใหเกิด
เรื่องที่คาดไมถึงขึ้น และยิ่งไปกวานั้นมีเพียงการดึงหานลี่มาเปนพวกได เขาถึงจะไม
โดดเดี่ยว ไมตองกลัววามารเฒาเฉียนผูนี้จะกลับกลอกตั้งตนเปนศัตรู
“ภูเขาลูกนี้ ผูแซเฉียนตองคนหาแนนอนอยูแลว แตสหายหานผูนี้คือคนที่พรรค
ของขาตามหามาเนิ่นนานแลว และไมอาจปลอยไปได ขากับสหายหานจะตัดสินเรื่อง
นี้กันกอนแลวคอยวากันก็แลวกัน ทำไม พี่ฟูอยากสอดมือเขามายุงเรื่องนี้หรือ?”
มารเฒาเฉียนหัวเราะอยางเย็นชาออกมา
“นอกภูเขาลูกนี้ พี่เฉียนและสหายหานมีความแคนตอกัน ขานั้นจะไมซักถาม แต
ที่นี่ พวกเราสามคนกำลังรวมมือ กัน ค น ภู เขาลูกนี้ อยู เกรงวาจะไม อ าจปล อ ยให พี่
เฉียนสมหวังได” หลังจากที่ดวงตาคูงามของไปเหยาอี๋กลอกไปมาชั่วครู ก็เอยออกมา
อยางเด็ดขาด
สำหรับสตรีผูนี้ ก็กลัววาจะสูญเสียตัวชวยที่ยิ่งใหญอยางหานลี่ไป และทำใหตัวเองตก
อยูในอันตราย แนนอนวาสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สตรีผูนี้และชายชราแซฟูเห็นหานลี่มี
ความสามารถเกรียงไกรขนาดนี้ จึงไมคิดวาหานลี่จะหวาดกลัวมารเฒาเฉียนจริงๆ
มิเชนนั้น นางจะกลาเอยวาจาเชนนี้ออกไปหรือไม ก็เปนเรื่องที่พูดยากแลว
เมื่อเผชิญหนากับความแข็งกราวของชายชราแซฟูและไปเหยาอี๋ แววตาเย็นเยียบ
ในดวงตาของผูที่สวมชุดสีเทาก็สวางวาบ พลันกวาดสายตาที่ดูเหมือนจะสามารถเชือด
เฉือนหัวใจและอวัยวะภายในไดออกไป
แตไมวาจะเปนชายชราแซฟูหรือวาไปเหยาอี๋ ก็ลวนไมใชผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ
ถึงแมวาจะรูสึกตื่นตกใจอยูเงียบๆ แต ใบหน ากลับ เผยเพี ยงสีห น าขลาดกลั วเล็กๆ
ออกมาเทานั้น
“ได เห็นแกหนาของสหายทั้งสอง ตาเฒาก็ไมใชวาจะไมอาจเก็บเรื่องนี้ไวกอนได
แตสมบัติของพรรคขา ตกอยูในมือของคนผูนี้ จำตองเอาออกมามอบใหขาเดี๋ยวนี้ มิ
เชนนั้น ตอใหวันนี้ตองสูญ เสียปราณแทไปจำนวนมาก ก็จำตองสูกับสหายทั้งสาม
แลว” มารเฒาเฉียนเก็บสายตาเย็นชากลับไป พลางเอยอยางราบเรียบ
“สมบัติ? ทานหมายถึงธงตาขายภูตผีนะหรือ?” หานลี่หัวเราะฮาๆ ออกมา เอย
อยางไมเกรงใจ
“สมบัติชิ้นนั้นแหละ ตอนนั้นอาวุโสสี่ของพรรคขาเพลี่ยงพล้ำตองตายไปในเทียน
หนาน ธงดามนั้ น ก็น าจะตกอยูในมื อ ของสหายสิน ะ ขอแคคืน มั น มาตอนนี้ ขาจะ
ปลอยเจาไปชั่วคราว” มารเฒาเฉียนเอยดวยน้ำเสียงโหดเหี้ยม
“ปลอยขาไป? สหายชางโอหังนัก ธงตาขายภูตผีนั้นขาคืนใหทานได แตตองมี
เงื่อนไขขอหนึ่ง ไมทราบวาพี่เฉียนจะยอมฟงหรือไม!” หลังจากที่หานลี่เงียบกริบไปชั่ว
ครู จูๆ ก็เงยหนาขึ้นมองทองฟา มุมปากหยักรอยยิ้มเยาะออกมาขณะเอย
“เงื่อนไข? เจาสังหารอาวุโสสี่ของพรรคขา เอาสมบัติที่สืบทอดกันมาของพรรค
ขาไป ยังกลามาตั้งแงกับตาเฒาอีกหรือ! เจาคิดวาตาเฒาไมกลาเอาชีวิตเจารึ?”
มารเฒ าเฉียนหัวเราะอยางโกรธเกรี้ยว เงาสีขาวหาสายดานหลังสั่นคลอน ใน
เวลาเดียวก็ลอยขึ้นมาดานหนา ชั่วครูก็ยืนอยูเบื้องหนามารเฒาเฉียน
ชั่วพริบตาบรรยากาศพลันตึงเครียดขึ้นในทันที
ชายชราแซ ฟู ที่ อ ยู ด านข า งได ยิ น แล ว พลั น ตกตะลึ งยกใหญ เผยสี ห น า แปลก
ประหลาดออกมา
เรื่องที่อาวุโสสี่ของพรรคตาขายทมิฬหายไปอยางไมมีเหตุผล ในฐานะที่เปนหนึ่ง
ในสิบพรรคสายมาร พรรคเกายมโลกก็รูมาบางไมนอย
แตตาเฒาคิดไมถึงเลยวา ผูบำเพ็ญเพียรสายมารที่มีชื่อเสียงไมนอยในพรรคสายมาร
จะมาตายดวยน้ำมือของหานลี่ ดูเหมือนวาแมแตธงตาขายภูตผีที่มีชื่อเสียงเกรียงไกร
ของพรรคตาขายทมิฬ ก็ยังตกอยูในมื อ ของเขา มิ น าล ะมารเฒ าเฉีย นผูนี้ ทั้ งที่ รูวา
ตอนนี้ไมใชโอกาสในการตอสูที่ดีที่สุด ก็ไมยอมปลอยสหายหานของพวกเขาไป
สวนประวัติ ค วามเป น มาที่ ห านลี่ ป กป ด เอาไววาไม ใชผู บ ำเพ็ ญ เพี ยรจากนอก
มหาสมุทรแตเปนผูบำเพ็ญเพียรจากเทียนหนานนั้น ไมคุมคาใหพูดถึงเลยจริงๆ!
“เหอะ! คืนใหพรรคทาน สหายเฉียนก็พูดงาย ไมทราบวาอาวุโสสี่ของพรรคทาน
วิ่งไปเทียนหนานของพวกเราอยางไมมีเหตุมีผลเพราะเหตุใดหรือ และแอบยังลงมือ
กับคูบำเพ็ญเพียรของขานอยอีก นายทานคิดวาขาจะมอบธงดามนั้นใหงายๆ หรือ?”
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม จูๆ ก็เอยขึ้นอยางเยือกเย็น
“สาเหตุที่อาวุโสสี่ไปเทียนหนานรวมทั้งเหตุใดถึงตายดวยน้ำมือของเจา ตาเฒาไมสน
และไมอยากรูดวย แตสมบัติที่สืบทอดตอกันมาของพรรคขา ตาเฒาจะตองเอากลับมา
ใหได มิเชนนั้น พรรคตาขายทมิฬของพวกเราจะเอาหนาไปไวที่ไหน?” มารเฒาเอย
ตัดบท
“เชนนั้น สหายเฉียนก็ไมอยากฟงเงื่อนไขของขาเลยสักนิดสินะ!” รูมานตาทั้งสอง
ของหานลี่หดเล็กลง เผยแววตาบาคลั่งออกมา
“ฮาๆ เงื่อนไข? ถาหากเจาเป นอาวุโสใหญ ของสิบ พรรค บางที ตาเฒ าอาจจะ
อยากฟงสักหนอย แตเจาเปนเพียงผูบำเพ็ญเพียรเล็กๆ คนหนึ่งจากเทียนหนาน จะ
คูควรอะไรใหตาเฒาพูดคุยดวย?” มารเฒาเฉียนเงยหนาขึ้นหัวเราะกับทองฟาอยาง
บาคลั่ง ระเบิดไอทมิฬบนเรือนรางออกมาจากนั้นรางกายพลันแวบหายไป ชั่วครูก็จม
หายเขาไปในเงารางสีขาวสายหนึ่งอยางไรรองรอย
ชั่วขณะนั้นเงารางสีขาวหาสายพลันเปลงแสงออกมา ชั่วพริบตาดวงตาที่แตเดิมไร
แววโกรธเกรี้ย วก็ เผยสี ห น าบ าคลั่ งและกระหายเลื อ ดออกมา ชั่ ว ครู ก็ เปลี่ ย นเป น
อันตรายอยางสุดๆ
“แยแ ล ว! ขาเกื อ บลื ม ไป มารเฒ าผู นี้ ฝก ฝน ‘มหายุท ธฝน อารมณ ตั ด สวรรค ’
เคล็ดวิชานี้เนนหนักในเรื่องอารมณ คำพูดคุกคามของพวกเราเมื่อครูสงผลยอนกลับ
ทำใหมารเฒาผูนี้โกรธแลว” เมื่อเห็นมารเฒาเฉียนมีทาทีบาคลั่ง ชายชราแซฟูถึงไดนึก
อะไรขึ้นมาได ชั่วขณะนั้นพลันเอยขึ้นอยางรูสึกเสียใจในภายหลัง
ไปเหยาอี๋ไดยินแลวคิ้วดำขลับพลันขมวดเขาหากัน แตก็ชูมือขึ้นอยางไมตองคิด
ทันใดนั้นก็กลายเปนมีดบินผลึกน้ำแข็งเลมหนึ่งหมุนวนขึ้นไปบนฟา ชั่วพริบตาพลัน
กลายเปนลำแสงสีขาวสายหนึ่งหมุนวนติ้วๆ ลอยอยูเหนือหัว
หานลี่มีสีหนาราบเรียบพลางหรี่ตาทั้งสองขางลง มือที่ซอนอยูในแขนเสื้อพลัน
เคลื่อนไหว พัดตรีเปลวเพลิงปรากฏขึ้นในมือ อีกมือหนึ่งกดไปที่ยามเก็บของอยาง
เงียบเชียบ ชั่วพริบตาจิตสัมผัสก็ระบุเปาหมายอยูที่หุนเชิดเงารางคน
เขาตัดสินใจแลว ขอแคขยับมือทั้งสอง ถือโอกาสที่มารเฒาถูกชายชราและไปเหยาอี๋
ดึงความสนใจเอาไว ปลอยเครื่องมือสังหารออกมาพรอมกันในทันที เพื่อถือโอกาสนี้
ทำใหอีกฝายไดรับบาดเจ็บหนักในพริบตา
ถึ งแม ว าจะไม มี ท างเอาชี วิ ต ของอี ก ฝ ายได แต ก็ ท ำให พ ลั งยุ ท ธ ข องเขาได รั บ
บาดเจ็บหนัก ครั้งตอไปเมื่อเผชิญหนากับอาวุโสของพรรคตาขายทมิฬอีกครั้ง จะได
สรางเงื่อนไขได
ถึงอยางไรคาถาผนึกวิญญาณของหนานกงหวั่น ก็เปนเรื่องหนึ่งที่หานลี่ไมเคยลืม
ขอแคไดวิธีแกคาถานี้มา เขาถึงจะวางใจได ตอใหไมมีที่ยืนในตาจิ้น วันขางหนาตอง
พบกับการไลสังหารจากผูบำเพ็ญ เพียรของพรรคตาขายทมิฬทั้งวันทั้งคืน เขาก็ไม
เสียดาย
และในตอนนี้ ปากของมารทั้งหานั้นก็เปลงเสียงคำรามประหลาดๆ ออกมาพรอม
กัน จากนั้นรางกายก็พลันจางลงในชั่วพริบตา หากมองจากที่ไกลๆ เงารางสีขาวนี้ก็ดู
เหมือนวาจะกลายเปนควันจางๆ หาสาย จากนั้นรางกายพลันยืดยาวขึ้น กำลังจะ
กระโจนลงมาดวยความโหดเหี้ยม
แตในตอนนั้นเอง เงารางสีขาวแตเดิมที่อยูบนมานแสงก็ทะลวงออกมา จูๆ เสียง
ระเบิดกัมปนาทก็ดังขึ้น แสงสีเงินที่เจิดจากลุมหนึ่งสาดสองออกมาจากตรงนั้น ลำแสง
นั้นเจิดจาจนแสบตา
ยังไม รอให ห านลี่ แ ละพวกเขาใจวาเกิ ด อะไรขึ้ น เสี ย ง ‘พรึ่บ ๆ’ ก็ ดั งขึ้ น ท ามกลาง
ลำแสงสี เงิ น ไม ห ยุ ด ลำแสงหลี ก หนี เกื อ บสิ บ สายพุ ง ออกมาจากด า นในติ ด ๆ กั น
ลำแสงหลีกหนีทยอยกันหมนแสงลง รอบๆ มีเงารางคนปรากฏขึ้นมากกวาเดิม