Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 25

วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค.

59) 1
23 Apr 2021

วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59)


วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม 2559 เวลา 8.30 - 10.00 น.

ตอนที่ 1 แบบปรนัย 5 ตัวเลือก เลือก 1 คาตอบทีถ่ กู ที่สดุ จานวน 10 ข้อ ข้อละ 2 คะแนน รวม 20 คะแนน
1 1
1. 1−√5 + 3−√5 มีคา่ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. − 15 2. 13 3. 12
4. 2√5 5. −2 + 2√5

𝑓(4)−𝑓(−4)
2. ถ้า 𝑓(𝑥) = | |𝑥 − 3| − 3 | แล้ว 2
มีคา่ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. −2 2. −1 3. 0 4. 2 5. 4

3. กาหนดให้ ABC เป็ นรูปสามเหลีย่ มหน้าจั่ว ซึง่ มีดา้ น AB = AC ถ้า AB และ BC ยาวเท่ากับ 10 และ 12 หน่วย
ตามลาดับ แล้ว tan 𝐵 มีคา่ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 35 2. 34 3. 45 4. 5
4
5. 4
3
2 วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59)

4. จานวนจริง 𝑥 ที่สอดคล้องกับสมการ 5𝑥+1 + 5𝑥 + 5𝑥−1 = 155√5 เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้


1. − 15 2. − 25 3. 1
2
4. 5
2
5. 5

5. ให้ 𝑆 เป็ นเซตของจานวนเต็ม 𝑚 ซึง่ ทาให้กราฟของ 𝑦 = 𝑥 2 + 𝑚𝑥 + 16 ไม่ตดั แกน X


จานวนสมาชิกของ 𝑆 เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 15 2. 16 3. 17 4. 18 5. 19

6. ถ้า 𝑎𝑛 = 4𝑛 + 3 แล้วผลบวก 20 พจน์แรกของลาดับนี ้ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้


1. 900 2. 930 3. 950 4. 980 5. 1000
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59) 3

7. กาหนดให้ 𝑎1 , 𝑎2 , 𝑎3 , … , 𝑎𝑛 เป็ นลาดับเรขาคณิต ถ้า 𝑎7 − 𝑎5 = 50 และ 𝑎6 + 𝑎5 = 25


แล้วอัตราส่วนร่วมของลาดับนีเ้ ท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. −3 2. −2 3. −1 4. 2 5. 3

8. จากการสารวจครอบครัวในหมูบ่ า้ นแห่งหนึง่ เกี่ยวกับจานวนสุนขั ที่ จานวนสุนขั (ตัว) ความถี่สมั พัทธ์


แต่ละครอบครัวเลีย้ งไว้ ได้เป็ นตารางแจกแจงความถี่สมั พัทธ์ดงั นี ้ 0 0.30
1 0.30
ถ้าสุม่ ครอบครัวจากการสารวจมา 1 ครอบครัว แล้วความน่าจะเป็ น 2 0.25
3 0.10
ที่ครอบครัวนัน้ เลีย้ งสุนขั มากกว่า 2 ตัว เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ 4 0.05
1. 0.15 2. 0.25 3. 0.30
4. 0.40 5. 0.45

X
9. กาหนดเส้นทางจาก X ไปยัง Y เป็ นไปตามลูกศรของแผนภาพต่อไปนี ้
จานวนวิธีในการเดินทางจาก X ไปยัง Y มีทงั้ หมดเท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ A B C
1. 3 2. 4
D E
3. 5 4. 6
5. 7 Y
4 วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59)

10. ข้อสอบแบบเลือกตอบคาตอบชุดหนึง่ มี 5 ข้อ แต่ละข้อมี 5 ตัวเลือก และมีตวั เลือกที่ถกู เพียงตัวเลือกเดียว


ถ้านายสบโชคเดาคาตอบแต่ละข้ออย่างสุม่ ข้อละ 1 ตัวเลือก ความน่าจะเป็ นที่นายสบโชคจะเดาคาตอบผิดหมด
ทุกข้อเท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1 5 1 5 2 5 3 5 4 5
1. (5) 2. (4) 3. (5) 4. (5) 5. (5)

ตอนที่ 2 แบบปรนัย 5 ตัวเลือก เลือก 1 คาตอบทีถ่ กู ที่สดุ จานวน 20 ข้อ ข้อละ 4 คะแนน รวม 80 คะแนน
11. กาหนดให้ 𝑎 = 999 ∙ 10100 𝑏 = 998 ∙ 10101 𝑐 = 9100 ∙ 1099
ข้อใดต่อไปนีถ้ กู ต้อง
1. 𝑎 < 𝑏 < 𝑐 2. 𝑎 < 𝑐 < 𝑏 3. 𝑏 < 𝑎 < 𝑐
4. 𝑐 < 𝑏 < 𝑎 5. 𝑐 < 𝑎 < 𝑏

12. นักเรียนชัน้ ม.6 ห้องหนึง่ มีอยู่ 𝑛 คน เมื่อจบการศึกษา มีเงินส่วนกลางของห้องเหลืออยู่ 6,500 บาท จึงนาเงินไปซือ้
เสือ้ รุน่ ราคาตัวละ 235 บาท มาแจกคนละ 1 ตัว แล้วนาเงินทีเ่ หลือมาแบ่งคืนคนละเท่าๆกัน ปรากฏว่าได้เงินคืนคน
ละ 𝑛 บาท พอดี ข้อใดต่อไปนีถ้ กู ต้อง
1. 10 < 𝑛 < 20 2. 20 < 𝑛 < 30 3. 30 < 𝑛 < 40
4. 40 < 𝑛 < 50 5. 50 < 𝑛 < 60
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59) 5

13. จานวนเต็ม 𝑥 ที่สอดคล้องกับอสมการ (𝑥 − 5)2 − |𝑥 − 5| < 30 มีจานวนทัง้ หมดเท่ากับข้อใดต่อไปนี ้


1. 9 2. 10 3. 11 4. 12 5. 13

14. จานวนคาตอบทัง้ หมดของสมการ 2𝑥 = 2𝑥 − 𝑥 2 เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้


1. 0 (ไม่มีคาตอบ) 2. 1 3. 2
4. 3 5. มากกว่า 3

1
15. จุดที่กราฟ 𝑦 = 2
(42𝑥+1 ) − 16 ตัดแกน X คือจุดในข้อใดต่อไปนี ้
1. (− 34 , 1) 2. (− 12 , 0) 3. 1
( 2 , 0)
4. ( 34 , 0) 5. ( 54 , 0)
6 วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59)

A
16. จากรูป ถ้า ̂ B = DB
AD ̂C = 90°
̂ C = 30°
BD
BC = 2 หน่วย
B 12√2
และ AD = 12√2 หน่วย
2
แล้ว ̂D
sin BA เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ 30°
C D
1 1 1 √2 2
1. 5
2. 4
3. 3
4. 9
5. 9

17. กาหนดให้รูปสามเหลีย่ ม ABC มีมมุ C เป็ นมุมฉาก ถ้าด้านทัง้ สามของรูปสามเหลีย่ มมีความยาวเรียงกันจากน้อยไป


มากเป็ นลาดับเลขคณิต แล้ว cos A + cos B มีคา่ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 57 2. 67 3. 1 4. 76 5. 75

18. จากการสารวจนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึง่ จานวน 500 คน พบว่าแต่ละคนเป็ นสมาชิกของชมรมดนตรีไทย หรือ


ชมรมดนตรีสากล หรือชมรมศิลปะอย่างน้อยหนึง่ ชมรม
ถ้า มีนกั เรียน 220 คน เป็ นสมาชิกของชมรมศิลปะอย่างเดียว
มีนกั เรียน 90 คน เป็ นสมาชิกทัง้ ชมรมดนตรีไทยและชมรมดนตรีสากล
มีนกั เรียนทีเ่ ป็ นสมาชิกชมรมดนตรีสากลไม่เกิน 100 คน
แล้วจานวนนักเรียนที่เป็ นสมาชิกของชมรมดนตรีไทยมีอย่างน้อยที่สดุ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 90 คน 2. 120 คน 3. 150 คน
4. 220 คน 5. 270 คน
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59) 7

19. ชาวประมงคนหนึง่ สังเกตแสงไฟฉายจากประภาคารแห่งหนึง่ ได้ดงั นี ้


วินาทีที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 …
แสงไฟ สว่าง สว่าง มืด สว่าง มืด สว่าง สว่าง มืด สว่าง มืด สว่าง สว่าง …

ถ้าลักษณะการส่องสว่างของแสงไฟจากประภาคารแห่งนีม้ ีรูปแบบที่แน่นอนตายตัว
แล้วในวินาทีที่ 97, 98 และ 99 การส่องสว่างของแสงไฟจะเป็ นดังข้อใดต่อไปนี ้
1. สว่าง สว่าง มืด 2. สว่าง มืด สว่าง 3. มืด สว่าง สว่าง
4. มืด มืด สว่าง 5. มืด สว่าง มืด

𝑥+3 , 𝑥<1
20. กาหนดให้ 𝑓(𝑥) = { 4𝑥 2 , 𝑥 ≥ 1
ถ้า 𝑓(𝑓(𝑐)) = 9 แล้ว 𝑐 มีคา่ อยูใ่ นช่วงในข้อใดต่อไปนี ้
1. (−2, −1) 2. (−1, 0) 3. (0, 1)
4. (1, 2) 5. (2, 3)

21. ถ้าสมการ 𝑦 = 𝑎𝑥 2 + 𝑏𝑥 + 𝑐 มีกราฟดังรูป Y


พิจารณาข้อความต่อไปนี ้
ก. 𝑎 > 0 ข. 𝑏 > 0
ค. 𝑐 < 0 ง. 𝑐 − 𝑎 > 0 X
0
จานวนข้อความทีถ่ กู ต้อง เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 0 (ไม่มีขอ้ ความใดถูก) 2. 1 3. 2
4. 3 5. มากกว่า 3
8 วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59)

22. ถ้า 𝑎>1 แล้วช่วง (0, 𝑎) เป็ นสับเซตของเซตคาตอบของอสมการในข้อใดต่อไปนี ้


1. 2
𝑎𝑥 − 𝑎 < 0 2. 𝑎𝑥 2 + 𝑎 < 0 3. 𝑎𝑥 − 𝑎2 < 0
4. 𝑎𝑥 + 𝑎2 < 0 5. 𝑎2 𝑥 − 𝑎 < 0

23. ด.ญ. ปาหนัน ได้รางวัลจากการแข่งขันตอบปั ญหาทางคณิตศาสตร์เป็ นเงิน 1,800 บาท เธอตัง้ ใจจะออมเงินและ
นามารวมกับเงินรางวัลที่ได้ เพื่อซือ้ หนังสือนวนิยายชุดหนึง่ ราคา 3,700 บาท ถ้าในวันแรก ด.ญ. ปาหนัน ออมเงิน
ไว้ 10 บาท และในวันต่อๆมาจะออมเพิ่มจากวันก่อนหน้าวันละ 10 บาท ทุกๆวัน แล้วจานวนวันที่นอ้ ยที่สดุ ที่ ด.ญ.
ปาหนันต้องออมเงินเพื่อให้พอซือ้ หนังสือชุดดังกล่าว เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 17 วัน 2. 18 วัน 3. 19 วัน
4. 20 วัน 5. 21 วัน

24. กาหนดให้ 𝑎1 , 𝑎2 , 𝑎3 , … , 𝑎10 เป็ นลาดับเลขคณิตซึง่ มีผลต่างร่วมเท่ากับ 13


และ 𝑏𝑛 = 8𝑎𝑛 เมื่อ 𝑛 = 1, 2, 3, … , 10
ถ้า 𝑏1 ∙ 𝑏2 ∙ 𝑏3 ∙ … ∙ 𝑏10 = 215 แล้ว 𝑏1 + 𝑏2 + 𝑏3 + … + 𝑏10 เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 5111
64
2. 7227
4
3. 1023
8
4. 8661
64
5. 2027
8
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59) 9

25. บริษัทแห่งหนึง่ มีพนักงานจานวน 120 คน และมีคา่ เฉลีย่ เลขคณิตของอายุพนักงานเท่ากับ 25 ปี โคยค่าเฉลีย่ เลข


คณิตของอายุพนักงานชายและพนักงานหญิงเป็ น 21 ปี และ 27 ปี ตามลาดับ ถ้า 𝑛 คือจานวนพนักงานหญิง
แล้ว 𝑛 มีคา่ อยูใ่ นช่วงใดต่อไปนี ้
1. [70 , 72] 2. [73 , 75] 3. [76 , 78]
4. [79 , 81] 5. [82 , 84]

26. ข้อมูลที่กาหนดให้ตอ่ ไปนี ้ ทุกชุดมีคา่ เฉลีย่ เลขคณิตเท่ากับ 10


ชุด A : 8 , 9 , 9 , 10 , 10 , 10 , 11 , 11 , 12
ชุด B : 7 , 8 , 8 , 9 , 10 , 11 , 12 , 12 , 13
ชุด C : 6 , 7 , 8 , 9 , 10 , 11 , 12 , 13 , 14
ถ้าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลชุด A , B และ C เท่ากับ 𝑎 , 𝑏 และ 𝑐 ตามลาดับ แล้วข้อใดต่อไปนีถ้ กู ต้อง
1. 𝑎 < 𝑏 < 𝑐 2. 𝑎 < 𝑐 < 𝑏 3. 𝑏 < 𝑐 < 𝑎
4. 𝑏 < 𝑎 < 𝑐 5. 𝑐 < 𝑏 < 𝑎

27. แผนภาพ ต้น-ใบ ต่อไปนี ้ เป็ นคะแนนสอบของผูส้ มัครงาน จานวน 39 คน ของบริษัทแห่งหนึง่


3 0 4 5 6 6
4 1 3 3 6 7 8 8
5 2 4 5 5 7
6 0 1 1 4 4 5 9
7 1 2 2 3 3 6 7 7
8 1 3 5 8 9
9 1 2

ถ้าผูท้ ี่ได้รบั คัดเลือกเข้าทางานต้องมีคะแนนตัง้ แต่เปอร์เซ็นไทล์ที่ 85 ขึน้ ไป แล้วค่าเฉลีย่ เลขคณิตของคะแนนสอบ


ของผูท้ ี่ได้รบั คัดเลือก เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 87 คะแนน 2. 88 คะแนน 3. 89 คะแนน
4. 90 คะแนน 5. 90.67 คะแนน
10 วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59)

28. จากผลการสอบวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชัน้ ม.4 ซึง่ ประกอบด้วยห้อง ม.4/1 และ ม.4/2 ที่มีจานวนนักเรียนห้อง


ละ 40 คน เท่ากัน ได้ผลสรุปของคะแนนสอบเป็ นแผนภาพกล่องดังนี ้
คะแนนสอบห้อง ม.4/1
15 80
40 55 70

คะแนนสอบห้อง ม.4/2
40 95
50 60 80

ถ้าในการสอบครัง้ นีค้ รูให้ระดับคะแนน 1 แก่ผทู้ ี่สอบได้คะแนนน้อยกว่า 40 คะแนน


และให้ระดับคะแนน 4 แก่ผทู้ ี่สอบได้คะแนนมากกว่า 80 คะแนน
แล้วพิจารณาข้อความต่อไปนี ้
ก. พิสยั ของคะแนนสอบของนักเรียนชัน้ ม.4 เท่ากับ 80 คะแนน
ข. นักเรียนชัน้ ม.4 ที่ได้ระดับคะแนน 1 มีไม่เกิน 10 คน
ค. นักเรียนชัน้ ม.4 ที่ได้ระดับคะแนน 4 มีไม่เกิน 10 คน
ง. ค่าเฉลีย่ เลขคณิตของคะแนนสอบของนักเรียนชัน้ ม.4 เท่ากับ 57.5 คะแนน
จานวนข้อความทีถ่ กู ต้อง เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 0 (ไม่มีขอ้ ความใดถูก) 2. 1 3. 2
4. 3 5. มากกว่า 3

29. ให้ 𝑥 เป็ นจานวนเต็มบวก จากข้อมูลที่เป็ นคะแนนสอบวิชาสถิติ ซึง่ มีคะแนนเต็ม 20 คะแนน ของนักเรียนจานวน
10 คน เป็ นดังนี ้ 10 , 𝑥 , 11 , 10 , 15 , 12 , 14 , 10 , 13 , 16
ถ้าข้อมูลชุดนีม้ มี ธั ยฐานมากกว่าฐานนิยมอยู่ 2 แล้วค่าเฉลีย่ เลขคณิตของคะแนนสอบวิชาสถิตขิ องนักเรียนกลุม่ นี ้
เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 10 คะแนน 2. 11 คะแนน 3. 11.5 คะแนน
4. 12 คะแนน 5. 12.3 คะแนน

30. กล่องใบหนึง่ บรรจุฉลากซึง่ เขียนหมายเลข 100 , 101 , 102 , … , 998 , 999 ไว้ฉลากละหนึง่ หมายเลข
ถ้าสุม่ หยิบฉลาก 1 ใบจากกล่อง ความน่าจะเป็ นที่ฉลากที่หยิบมามีผลคูณของเลข 3 หลัก เป็ นจานวนคู่ เท่ากับข้อ
ใดต่อไปนี ้
1. 12 2. 23 29
3. 36 4. 7790
5. 3136
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59) 11

เฉลย
1. 3 7. 5 13. 3 19. 2 25. 4
2. 2 8. 1 14. 1 20. 1 26. 1
3. 5 9. 4 15. 4 21. 2 27. 2
4. 4 10. 5 16. 1 22. 3 28. 4
5. 1 11. 5 17. 5 23. 3 29. 5
6. 1 12. 2 18. 5 24. 3 30. 5

แนวคิด
1 1
1. 1−√5 + 3−√5 มีคา่ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. − 15 2. 1
3
3. 1
2
4. 2√5 5. −2 + 2√5
ตอบ 3
1 1 3−√5 + 1−√5
1−√5
+ 3−√5 =
(1−√5)(3−√5)
4−2√5
= 3−√5−3√5+5
4−2√5
= 8−4√5
ดึง 2 ออกจากตัวส่วน ให้เศษส่วนตัดกันได้
4−2√5
=
2(4−2√5)
1
=
2

2. ถ้า 𝑓(𝑥) = | |𝑥 − 3| − 3 | แล้ว 𝑓(4)−𝑓(−4)


2
มีคา่ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. −2 2. −1 3. 0 4. 2 5. 4
ตอบ 2
แทน 𝑥 = 4 จะได้ 𝑓(4) = | |4 − 3| − 3 | แทน 𝑥 = −4 จะได้ 𝑓(−4) = | |−4 − 3| − 3 |
=|| 1 |−3| = | | −7 | − 3 |
=| 1 −3| =| 7 −3|
=| −2 | =| 4 |
= 2 = 4
𝑓(4)−𝑓(−4) 2−4 2
ดังนัน้ 2
= 2
= − 2 = −1

3. กาหนดให้ ABC เป็ นรูปสามเหลีย่ มหน้าจั่ว ซึง่ มีดา้ น AB = AC ถ้า AB และ BC ยาวเท่ากับ 10 และ 12 หน่วย
ตามลาดับ แล้ว tan 𝐵 มีคา่ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 35 2. 34 3. 45 4. 54 5. 43
ตอบ 5
ลากส่วนสูง AD A

จากสมบัติ ∆ หน้าจั่ว ส่วนสูงจะแบ่งครึง่ ฐาน ดังนัน้ BD = DC = 12


2
= 6 ดังรู ป
10 10
จากด้านชุดพีทากอรัส 3, 4, 5 ขยายเป็ น 6, 8, 10 จะได้ ℎ = 8 ℎ
ข้าม ℎ 8 4
ดังนัน้ tan 𝐵 = ชิด = BD
= 6
= 3 B C
6 D 6
12 วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59)

4. จานวนจริง 𝑥 ที่สอดคล้องกับสมการ 5𝑥+1 + 5𝑥 + 5𝑥−1 = 155√5 เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้


1. − 15 2. − 25 3. 1
2
4. 5
2
5. 5
ตอบ 4
5𝑥+1 + 5𝑥 + 5𝑥−1 = 155√5
ดึงตัวร่วม 5𝑥
5𝑥 (51 + 1 + 5−1 ) = 155√5
1
5𝑥 ( 6 + ) = 155√5
5
31
5𝑥 ( ) = 155√5
5
5𝑥 = 25√5
1
𝑥
5 = 52 52
5 ฐานเหมือนกัน คูณกัน → เอาเลขชีก้ าลังมาบวกกัน
5𝑥 = 52
5
𝑥 = 2

5. ให้ 𝑆 เป็ นเซตของจานวนเต็ม 𝑚 ซึง่ ทาให้กราฟของ 𝑦 = 𝑥 2 + 𝑚𝑥 + 16 ไม่ตดั แกน X


จานวนสมาชิกของ 𝑆 เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 15 2. 16 3. 17 4. 18 5. 19
ตอบ 1
หาจุดตัดแกน X ต้องแทน 𝑦 = 0 แล้วแก้สมการ → ถ้าไม่ตดั แกน X แสดงว่า สมการที่ได้จะต้องไม่มีคาตอบ
แทน 𝑦 = 0 จะได้ 0 = 𝑥 2 + 𝑚𝑥 + 16 สมการ 𝑎𝑥 2 + 𝑏𝑥 + 𝑐 = 0
ซึง่ จะไม่มีคาตอบเมื่อ 𝑏 − 4𝑎𝑐 < 0
2
𝑏 2 − 4𝑎𝑐 > 0 → มี 2 คาตอบ
𝑚2 − 4(1)(16) < 0
𝑏 2 − 4𝑎𝑐 = 0 → มี 1 คาตอบ
𝑚2 − 64 < 0
(𝑚 + 8)(𝑚 − 8) < 0 𝑏 2 − 4𝑎𝑐 < 0 → ไม่มีคาตอบ

+ − + → จะมีที่เป็ นจานวนเต็มคือ −7, −6, −5, … , 5 , 6 , 7


−8 8 ซึง่ มีทงั้ หมด = 7 − (−7) + 1 = 15 จานวน

6. ถ้า 𝑎𝑛 = 4𝑛 + 3 แล้วผลบวก 20 พจน์แรกของลาดับนี ้ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้


1. 900 2. 930 3. 950 4. 980 5. 1000
ตอบ 1
แทน 𝑛 = 1, 2, … , 20 จะได้ 20 พจน์แรกคือ 4(1) + 3 , 4(2)+ 3 , 4(3) + 3 , … , 4(20) + 3
= 7 , 11 , 15 , … , 83
แต่ละพจน์เพิม่ ทีละ 4 → เป็ นลาดับเลขคณิต
𝑛
จากสูตรอนุกรมเลขคณิต 𝑆𝑛 = (𝑎1 + 𝑎𝑛 )
2
จะได้ผลบวก 20 พจน์แรก = 20 2
(7 + 83) = 900
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59) 13

7. กาหนดให้ 𝑎1 , 𝑎2 , 𝑎3 , … , 𝑎𝑛 เป็ นลาดับเรขาคณิต ถ้า 𝑎7 − 𝑎5 = 50 และ 𝑎6 + 𝑎5 = 25


แล้วอัตราส่วนร่วมของลาดับนีเ้ ท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. −3 2. −2 3. −1 4. 2 5. 3
ตอบ 5
สังเกตว่าสมการที่โจทย์ให้ ประกอบด้วย 𝑎5 , 𝑎6 , 𝑎7
จากสมบัติของลาดับเราขาคณิต พจน์ถดั ไป = พจน์ก่อนหน้า × 𝑟 ดังนัน้ 𝑎6 = 𝑎5 𝑟 และ 𝑎7 = 𝑎5 𝑟 2
แทนในสมการที่โจทย์ให้ : 𝑎7 − 𝑎5 = 50 𝑎6 + 𝑎5 = 25
𝑎5 𝑟 2 − 𝑎5 = 50 𝑎5 𝑟 + 𝑎5 = 25
𝑎5 (𝑟 2 − 1) = 50 𝑎5 (𝑟 + 1) = 25
𝑎5 (𝑟 + 1)(𝑟 − 1) = 50

25 (𝑟 − 1) = 50
𝑟−1 = 2
𝑟 = 3

8. จากการสารวจครอบครัวในหมูบ่ า้ นแห่งหนึง่ เกี่ยวกับจานวนสุนขั ที่ จานวนสุนขั (ตัว) ความถี่สมั พัทธ์


แต่ละครอบครัวเลีย้ งไว้ ได้เป็ นตารางแจกแจงความถี่สมั พัทธ์ดงั นี ้ 0 0.30
1 0.30
ถ้าสุม่ ครอบครัวจากการสารวจมา 1 ครอบครัว แล้วความน่าจะเป็ น 2 0.25
3 0.10
ที่ครอบครัวนัน้ เลีย้ งสุนขั มากกว่า 2 ตัว เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ 4 0.05
1. 0.15 2. 0.25 3. 0.30
4. 0.40 5. 0.45
ตอบ 1
จานวนแบบที่เลืย้ งมากกว่า 2 ตัว
𝑃(เลีย้ งมากกว่า 2 ตัว) =
จานวนแบบทัง้ หมด
จานวนแบบที่เลืย้ ง 3 ตัว + จานวนแบบที่เลืย้ ง 4 ตัว
=
จานวนแบบทัง้ หมด ความถี่
จานวนแบบที่เลืย้ ง 3 ตัว จานวนแบบที่เลืย้ ง 4 ตัว
ความถี่สมั พัทธ์ =
จานวนข้อมูลทัง้ หมด
= +
จานวนแบบทัง้ หมด จานวนแบบทัง้ หมด
= ความถี่สมั พัทธ์ทเี่ ลีย้ ง 3 ตัว + ความถี่สมั พัทธ์ทเี่ ลีย้ ง 4 ตัว
= 0.10 + 0.05 = 0.15
14 วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59)

X
9. กาหนดเส้นทางจาก X ไปยัง Y เป็ นไปตามลูกศรของแผนภาพต่อไปนี ้
จานวนวิธีในการเดินทางจาก X ไปยัง Y มีทงั้ หมดเท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ A B C
1. 3 2. 4
D E
3. 5 4. 6
5. 7 Y
ตอบ 4
เขียนนับ จะได้ 6 แบบ ดังนี ้
X X X X X X

A A B B B B C C

D D D E E E

Y Y Y Y Y Y

หรือจะนับจานวนแบบย้อนจากปลายทางมารวมกันก็ได้ (จานวนแบบที่ตน้ ลูกศร = จานวนแบบที่ปลายลูกศร รวมกัน)


6

1 1 1 4 1 1 4 1

1 1 1 1 1 1 1 1

1 1 1 1 1

10. ข้อสอบแบบเลือกตอบคาตอบชุดหนึง่ มี 5 ข้อ แต่ละข้อมี 5 ตัวเลือก และมีตวั เลือกที่ถกู เพียงตัวเลือกเดียว


ถ้านายสบโชคเดาคาตอบแต่ละข้ออย่างสุม่ ข้อละ 1 ตัวเลือก ความน่าจะเป็ นที่นายสบโชคจะเดาคาตอบผิดหมด
ทุกข้อเท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1 5 1 5 2 5 3 5 4 5
1. (5) 2. (4) 3. (5) 4. (5) 5. (5)
ตอบ 5
จานวนแบบทัง้ หมด : มี 5 ข้อแต่ละข้อเลือกได้ขอ้ ละ 5 แบบ → จานวนแบบทัง้ หมด = 5 × 5 × 5 × 5 × 5 = 55
จานวนแบบที่ผิดหมด : มี 5 ข้อ แต่ละข้อมีตวั เลือกทีถ่ กู ตัวเลือกเดียวเดียว → อีก 4 ตัวเลือก คือผิด
ดังนัน้ แต่ละข้อมีวิธีผิดได้ 4 แบบ → จานวนแบบที่ผิดหมด = 4 × 4 × 4 × 4 × 4 = 45
45 4 5
จะได้ความน่าจะเป็ นที่ผิดหมด = 55
= (5)
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59) 15

11. กาหนดให้ 𝑎 = 999 ∙ 10100 𝑏 = 998 ∙ 10101 𝑐 = 9100 ∙ 1099


ข้อใดต่อไปนีถ้ กู ต้อง
1. 𝑎 < 𝑏 < 𝑐 2. 𝑎 < 𝑐 < 𝑏 3. 𝑏 < 𝑎 < 𝑐
4. 𝑐 < 𝑏 < 𝑎 5. 𝑐 < 𝑎 < 𝑏
ตอบ 5
หารทอนทุกตัวให้ได้มากที่สดุ ก่อนแล้วค่อยเทียบ (ต้องหารด้วย 998 ∙ 1099) ดังนี ้
𝑎 = 999 ∙ 10100 𝑏 = 998 ∙ 10101 𝑐 = 9100 ∙ 1099
999 ∙10100 998 ∙10101 9100 ∙1099 หารตลอดด้วย 998 ∙ 1099
998 ∙1099 998 ∙1099 998 ∙1099
1 1 2 2
9 ∙ 10 10 9
90 100 81
จะเห็นว่า 81 < 90 < 100 ดังนัน้ 𝑐<𝑎<𝑏

12. นักเรียนชัน้ ม.6 ห้องหนึง่ มีอยู่ 𝑛 คน เมื่อจบการศึกษา มีเงินส่วนกลางของห้องเหลืออยู่ 6,500 บาท จึงนาเงินไปซือ้
เสือ้ รุน่ ราคาตัวละ 235 บาท มาแจกคนละ 1 ตัว แล้วนาเงินทีเ่ หลือมาแบ่งคืนคนละเท่าๆกัน ปรากฏว่าได้เงินคืนคน
ละ 𝑛 บาท พอดี ข้อใดต่อไปนีถ้ กู ต้อง
1. 10 < 𝑛 < 20 2. 20 < 𝑛 < 30 3. 30 < 𝑛 < 40
4. 40 < 𝑛 < 50 5. 50 < 𝑛 < 60
ตอบ 2
มี 𝑛 คน ซือ้ เสือ้ คนละตัว ตัวละ 235 บาท → คิดเป็ นเงิน 235𝑛 บาท
ดังนัน้ หลังซือ้ เสือ้ จะเหลือเงินส่วนกลาง = 6500 − 235𝑛 บาท
แบ่งเงินทีเ่ หลือคืนให้ 𝑛 คน คนละเท่าๆกัน → จะได้เงินคืนคนละ 6500−235𝑛 𝑛
บาท
โจทย์บอกว่าได้คืนคนละ 𝑛 บาท ดังนัน้ 6500−235𝑛
= 𝑛
𝑛
6500 − 235𝑛 = 𝑛2
0 = 𝑛2 + 235𝑛 − 6500
0 = (𝑛 + 260)(𝑛 − 25)
𝑛 = −260 , 25
เนื่องจาก 𝑛 แทนจานวนคน จะเป็ นลบไม่ได้ → จะได้ 𝑛 = 25

13. จานวนเต็ม 𝑥 ที่สอดคล้องกับอสมการ (𝑥 − 5)2 − |𝑥 − 5| < 30 มีจานวนทัง้ หมดเท่ากับข้อใดต่อไปนี ้


1. 9 2. 10 3. 11 4. 12 5. 13
ตอบ 3
เนื่องจาก 𝑘 2 = |𝑘|2 (เพราะเป็ นบวกเท่าๆกัน) ดังนัน้ (𝑥 − 5)2 = |𝑥 − 5|2
แทนในอสมการ (𝑥 − 5)2 − |𝑥 − 5| < 30
|𝑥 − 5|2 − |𝑥 − 5| < 30
เปลี่ยนตัวแปร ให้ 𝑎 = |𝑥 − 5|
𝑎2 − 𝑎 < 30
2
𝑎 − 𝑎 − 30 < 0
(𝑎 + 5)(𝑎 − 6) < 0

+ − + จะได้ −5 < 𝑎 < 6


−5 6 ดังนัน้ −5 < |𝑥 − 5| < 6
16 วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59)

แต่คา่ สัมบูรณ์เป็ นลบไม่ได้ ดังนัน้ 0 ≤ |𝑥 − 5| < 6

เป็ นจริงเสมอ −6 < 𝑥 − 5 < 6


−1 < 𝑥 < 11 จะได้ 𝑥 = 0, 1, 2, … , 10 ทัง้ หมด 11 ค่า

14. จานวนคาตอบทัง้ หมดของสมการ 2𝑥 = 2𝑥 − 𝑥 2 เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้


1. 0 (ไม่มีคาตอบ) 2. 1 3. 2
4. 3 5. มากกว่า 3
ตอบ 1
สังเกตว่าฝั่งซ้าย 2𝑥 เป็ นเอกซ์โพเนนเชียล แต่ฝ่ ังขวา 2𝑥 − 𝑥 2 เป็ นพหุนาม จึงไม่สามารถแก้สมการแบบปกติได้
→ จะใช้กราฟมาช่วยในการแก้สมการ โดยดูวา่ กราฟ 𝑦 = 2𝑥 และกราฟ 𝑦 = 2𝑥 − 𝑥 2 ตัดกันที่จด ุ ไหนบ้าง
𝑦 = 2 เป็ นเอกซ์โพเนนเชียล → กราฟจะผ่านจุด (0, 1) เสมอ
𝑥

→ เทียบกับ 𝑦 = 𝑎 𝑥 จะได้ฐาน 𝑎 = 2 เป็ นแบบฐาน > 1 เป็ นฟั งก์ชนั เพิ่ม


𝑦 = 2𝑥 − 𝑥 2 เป็ นฟั งก์ชน ั กาลังสอง → เทียบกับ 𝑦 = 𝑎𝑥 2 + 𝑏𝑥 + 𝑐 จะได้ 𝑎 = −1 , 𝑏 = 2 , 𝑐 = 0
→ 𝑎 เป็ นลบ จะเป็ นพาราโบลาคว่า
𝑏 4𝑎𝑐 − 𝑏2 2 4(−1)(0)−2 2
→ จุดยอด (− 2𝑎 , 4𝑎 ) = (− 2(−1) , 4(−1) ) = (1 , 1)
→ จุดตัดแกน Y แทน 𝑥 = 0 จะได้ 𝑦 = 2(0) − 02 = 0 → ตัดที่ (0, 0)
นาข้อมูลที่ได้ มาวาดกราฟทัง้ สอง ลงบนแกนเดียวกัน จะได้ดงั รูป 𝑦 = 2𝑥
เนื่องจาก 𝑦 = 2𝑥 เป็ นฟั งก์ชนั เพิม่ ทีผ่ า่ น (0, 1)
แต่ 𝑦 = 2𝑥 − 𝑥 2 มีจดุ สูงสุดอยูท่ ี่ (1, 1) และผ่าน (0, 0) (0, 1)
(1, 1)
กราฟทัง้ สอง จึงไม่มวี นั ตัดกันได้
ดังนัน้ สมการ 2𝑥 = 2𝑥 − 𝑥 2 จึงเป็ นสมการที่ไม่มีคาตอบ 𝑦 = 2𝑥 − 𝑥 2

15. จุดที่กราฟ 𝑦 = 12 (42𝑥+1 ) − 16 ตัดแกน X คือจุดในข้อใดต่อไปนี ้


1. (− 34 , 1) 2. (− 12 , 0) 3. 1
( 2 , 0)
4. ( 34 , 0) 5. ( 54 , 0)
ตอบ 4
หาจุดตัดแกน X ต้องแทน 𝑦 = 0 → จะได้ 0 = 12 (42𝑥+1 ) − 16
1
16 = 2 (42𝑥+1 )
32 = 42𝑥+1
25 = (22 )2𝑥+1
25 = 24𝑥+2
5 = 4𝑥 + 2
3
4
= 𝑥 → จะได้จดุ ตัดคือ ( 34 , 0 )
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59) 17

A
16. จากรูป ถ้า ̂ B = DB
AD ̂C = 90°
̂ C = 30°
BD
BC = 2 หน่วย
B 12√2
และ AD = 12√2 หน่วย
2
แล้ว ̂D
sin BA เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้ 30°
C D
1 1 1 √2 2
1. 5
2. 4
3. 3
4. 9
5. 9
ตอบ 1
ข้าม BD
̂D =
sin BA
ฉาก
=
AB
→ ต้องหา BD กับ AB มาแทน
ข้าม BC
จาก ∆BCD จะได้ tan 30° = ชิด = BD
1 2
=
√3 BD
BD = 2√3
2 2
ใช้พีทากอรัสที่ ∆BAD จะได้ AB = √BD2 + AD2 = √(2√3) + (12√2)
= √ 12 + 288 = √300 = 10√3
BD 2√3 1
ดังนัน้ ̂D =
sin BA
AB
=
10√3
=
5

17. กาหนดให้รูปสามเหลีย่ ม ABC มีมมุ C เป็ นมุมฉาก ถ้าด้านทัง้ สามของรูปสามเหลีย่ มมีความยาวเรียงกันจากน้อยไป


มากเป็ นลาดับเลขคณิต แล้ว cos A + cos B มีคา่ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 57 2. 67 3. 1 4. 76 5. 75
ตอบ 5
เนื่องจากด้านทัง้ สาม เรียงเป็ นลาดับเลขคณิต 𝑑≥0
สมมติให้ดา้ นที่สนั้ ที่สดุ = 𝑥
จะได้ความยาวด้านเรียงจากน้อยไปมาก คือ 𝑥 , 𝑥 + 𝑑 , 𝑥 + 2𝑑
สมมติให้ผลต่างร่วม = 𝑑
ด้านยาวทีส่ ดุ คือ
∆ABC เป็ น ∆ มุมฉาก → พีทากอรัส จะได้ 𝑥 2 + (𝑥 + 𝑑)2 = (𝑥 + 2𝑑)2
𝑥 2 + 𝑥 2 + 2𝑑𝑥 + 𝑑2 = 𝑥 2 + 4𝑑𝑥 + 4𝑑2 ด้านตรงข้ามมุมฉาก
𝑥 2 − 2𝑑𝑥 − 3𝑑2 = 0
(𝑥 − 3𝑑)(𝑥 + 𝑑) = 0
𝑥 = 3𝑑 , −𝑑
แต่ 𝑥 = −𝑑 ไม่ได้ เพราะ 𝑑 ≥ 0 แต่ 𝑥 ต้องเป็ นบวก (เพราะ 𝑥 เป็ นความยาวด้าน) → จึงสรุปได้วา่ 𝑥 = 3𝑑
แทน 𝑥 = 3𝑑 ในความยาวด้านทัง้ สาม → 𝑥 , 𝑥 + 𝑑 , 𝑥 + 2𝑑
3𝑑 , 3𝑑 + 𝑑 , 3𝑑 + 2𝑑
3𝑑 , 4𝑑 , 5𝑑
5𝑑 จะเป็ นด้านตรงข้ามมุมฉาก (เพราะยาวที่สดุ ) แต่ 3𝑑 กับ 4𝑑 ยังไม่รูว้ า่ เป็ นด้านไหน → วาดรูปได้ 2 แบบ
B B 3𝑑 4𝑑 7𝑑 7
รูปแรก : cos A + cos B =
5𝑑
+
5𝑑
=
5𝑑
=
5
5𝑑 5𝑑 4𝑑 3𝑑 7𝑑 7
4𝑑 3𝑑 รูปสอง : cos A + cos B = 5𝑑
+ 5𝑑 = 5𝑑
= 5
7
A 3𝑑 C A 4𝑑 C จะเห็นว่า ทัง้ สองรูป ได้คาตอบเท่ากัน คือ 5
18 วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59)

18. จากการสารวจนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึง่ จานวน 500 คน พบว่าแต่ละคนเป็ นสมาชิกของชมรมดนตรีไทย หรือ


ชมรมดนตรีสากล หรือชมรมศิลปะอย่างน้อยหนึง่ ชมรม
ถ้า มีนกั เรียน 220 คน เป็ นสมาชิกของชมรมศิลปะอย่างเดียว
มีนกั เรียน 90 คน เป็ นสมาชิกทัง้ ชมรมดนตรีไทยและชมรมดนตรีสากล
มีนกั เรียนทีเ่ ป็ นสมาชิกชมรมดนตรีสากลไม่เกิน 100 คน
แล้วจานวนนักเรียนที่เป็ นสมาชิกของชมรมดนตรีไทยมีอย่างน้อยที่สดุ เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 90 คน 2. 120 คน 3. 150 คน
4. 220 คน 5. 270 คน
ตอบ 5
ไทย สากล ไทย สากล ไทย สากล
ลบ เหลือ
− =
ศิลปะ ศิลปะ ศิลปะ
ทัง้ หมด 500 คน ศิลปะอย่างเดียว 220 คน 500 − 220 = 280
จะได้ 𝑛(ไทย ∪ สากล) = 280
แทนค่า 𝑛(ไทย ∪ สากล) = 280 ลงในสูตร Inclusive – Exclusive ดังนี ้
𝑛(ไทย ∪ สากล) = 𝑛(ไทย) + 𝑛(สากล) − 𝑛(ไทย ∩ สากล)
โจทย์กาหนด
280 = 𝑛(ไทย) + 𝑛(สากล) − 90
370 − 𝑛(ไทย) = 𝑛(สากล)
โจทย์ให้ ชมรมดนตรีสากล ไม่เกิน 100 คน
370 − 𝑛(ไทย) ≤ 100
270 ≤ 𝑛(ไทย)

จะได้ ชมรมดนตรีไทย ≥ 270 คน → อย่างน้อย 270 คน

19. ชาวประมงคนหนึง่ สังเกตแสงไฟฉายจากประภาคารแห่งหนึง่ ได้ดงั นี ้


วินาทีที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 …
แสงไฟ สว่าง สว่าง มืด สว่าง มืด สว่าง สว่าง มืด สว่าง มืด สว่าง สว่าง …

ถ้าลักษณะการส่องสว่างของแสงไฟจากประภาคารแห่งนีม้ ีรูปแบบที่แน่นอนตายตัว
แล้วในวินาทีที่ 97, 98 และ 99 การส่องสว่างของแสงไฟจะเป็ นดังข้อใดต่อไปนี ้
1. สว่าง สว่าง มืด 2. สว่าง มืด สว่าง 3. มืด สว่าง สว่าง
4. มืด มืด สว่าง 5. มืด สว่าง มืด
ตอบ 2
สังเกตว่า แสงไฟ วนซา้ แบบเดิมทุกๆ 5 วินาที โดยรูปแบบการซา้ คือ “สว่าง สว่าง มืด สว่าง มืด”
และเนื่องจาก 97, 98 และ 99 หารด้วย 5 เหลือเศษ 2, 3 และ 4 ตามลาดับ
ดังนัน้ วินาทีที่ 97, 98 และ 99 จะมีแสงไฟเหมือนกับวินาทีที่ 2, 3 และ 4 นั่นคือ สว่าง มืด สว่าง
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59) 19

𝑥+3 , 𝑥<1
20. กาหนดให้ 𝑓(𝑥) = { 4𝑥 2 , 𝑥 ≥ 1
ถ้า 𝑓(𝑓(𝑐)) = 9 แล้ว 𝑐 มีคา่ อยูใ่ นช่วงในข้อใดต่อไปนี ้
1. (−2, −1) 2. (−1, 0) 3. (0, 1)
4. (1, 2) 5. (2, 3)
ตอบ 1
𝑓 𝑓
ข้อนี ้ เราต้องหาว่า 9 “ย้อน 𝑓 กลับไปสองครัง้ ” ได้ 𝑐 เท่ากับเท่าไหร่
โดยจะหาอินเวอร์สของ 𝑓 แล้วแทน 9 กลับไป 2 ครัง้ ดังรูป 𝑐 𝑓(𝑐) 𝑓(𝑓(𝑐)) = 9

จะหาอินเวอร์ส โดยแทน 𝑓(𝑥) ด้วย 𝑦 แล้วเปลีย่ น 𝑥 เป็ น 𝑦 เปลีย่ น 𝑦 เป็ น 𝑥 อินเวอร์ส อินเวอร์ส
โดยจะแยกคิดเป็ นกรณี ตามการแบ่งกรณีของ 𝑓(𝑥) ดังนี ้
สูตรบน สูตรล่าง
𝑦 = 𝑥 + 3 เมื่อ 𝑥 < 1 เมื อ
่ 𝑥 < 1 จะได้ 𝑦 < 4 𝑦 = 4𝑥 2 เมื่อ 𝑥≥1 เมื่อ 𝑥 ≥ 1 จะได้ 𝑦 ≥ 4
𝑦 = 𝑥 + 3 เมื่อ 𝑥 < 1 , 𝑦 < 4 𝑦 = 4𝑥 2 เมื่อ 𝑥≥1, 𝑦≥4
สลับ 𝑥, 𝑦 สลับ 𝑥, 𝑦
𝑥 = 𝑦 + 3 เมื่อ 𝑦 < 1 , 𝑥 < 4 𝑥 = 4𝑦 2 เมื่อ 𝑦≥1, 𝑥≥4
𝑥−3 = 𝑦 เมื่อ 𝑦 < 1 , 𝑥 < 4 𝑥
√ = 𝑦 เมื่อ 𝑦≥1, 𝑥≥4
4

(ไม่ตอ้ งเป็ น ±√ เพราะ 𝑦 เป็ นบวก)


𝑥−3 , 𝑥<4
รวมสองกรณี จะได้อินเวอร์สคือ 𝑦 = { 𝑥
√4 , 𝑥≥4

9 3
หาอินเวอร์สรอบแรก : แทน 𝑥=9 → เนื่องจาก 9≥4 ต้องใช้สตู รล่าง จะได้ 𝑦 = √4 = 2

หาอินเวอร์สรอบสอง : แทน 𝑥 = 32 → เนื่องจาก 32 < 4 ต้องใช้สตู รบน จะได้ 3


𝑦 = 2 − 3 = −2
3

ดังนัน้ 𝑐 = − 32 ซึง่ จะอยูใ่ นช่วง (−2 , −1) ในข้อ 1

21. ถ้าสมการ 𝑦 = 𝑎𝑥 2 + 𝑏𝑥 + 𝑐 มีกราฟดังรูป Y


พิจารณาข้อความต่อไปนี ้
ก. 𝑎 > 0 ข. 𝑏 > 0
ค. 𝑐 < 0 ง. 𝑐 − 𝑎 > 0 X
0
จานวนข้อความทีถ่ กู ต้อง เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 0 (ไม่มีขอ้ ความใดถูก) 2. 1 3. 2
4. 3 5. มากกว่า 3
ตอบ 2
ก. กราฟเป็ นพาราโบลาคว่า จะสรุปได้วา่ 𝑎 เป็ นลบ → ก. ผิด
𝑏 4𝑎𝑐−𝑏 2
ข. ค่า 𝑏 จะปรากฏในสูตรจุดยอด ( − 2𝑎 ,
4𝑎
)
𝑏
จะเห็นว่า จุดยอดของพาราโบลา อยูใ่ นจตุภาคที่ 2 ซึง่ จะมีคา่ 𝑥 เป็ นลบ ดังนัน้ −
2𝑎
ต้องเป็ นลบ
𝑏
ดังนัน้ 2𝑎 ต้องเป็ นบวก
𝑏
แต่จากข้อ ก. ได้วา่ 𝑎 เป็ นลบ ดังนัน้ 𝑏 ต้องเป็ นลบ จึงจะทาให้ 2𝑎 เป็ นบวกได้ → ข. ผิด
20 วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59)

ค. ค่า 𝑐 จะเกี่ยวข้องกับจุดตัดแกน Y เพราะเมื่อแทน 𝑥 = 0 จะได้ 𝑦 = 𝑎(02 ) + 𝑏(0) + 𝑐 = 𝑐


นั่นคือ พาราโบลาจะตัดแกน Y ที่ (0, 𝑐)
ซึง่ จากรูปกราฟจะเห็นว่ากราฟตัดแกน Y ที่ดา้ นบน ซึง่ จะได้พิกดั 𝑦 เป็ นบวก ดังนัน้ จะได้ 𝑐 เป็ นบวก → ค. ผิด
ง. จากข้อ ค. จะได้ 𝑐 เป็ นบวก และจากข้อ ก. จะได้ 𝑎 เป็ นลบ ซึง่ จะได้ −𝑎 เป็ นบวก
ดังนัน้ 𝑐 − 𝑎 = 𝑐 + (−𝑎) = บวก + บวก > 0 → ง. ถูก

22. ถ้า 𝑎 > 1 แล้วช่วง (0, 𝑎) เป็ นสับเซตของเซตคาตอบของอสมการในข้อใดต่อไปนี ้


1. 𝑎𝑥 2 − 𝑎 < 0 2. 𝑎𝑥 2 + 𝑎 < 0 3. 𝑎𝑥 − 𝑎2 < 0
4. 𝑎𝑥 + 𝑎2 < 0 5. 𝑎2 𝑥 − 𝑎 < 0
ตอบ 3
1. 𝑎𝑥 2 − 𝑎 < 0 ÷𝑎 ตลอด (ไม่ตอ้ งกลับน้อยกว่า 2. 𝑎𝑥 2 + 𝑎 < 0
2
𝑥 −1 < 0 เป็ นมากกว่าเพราะ 𝑎 เป็ นบวก)
(𝑥 + 1)(𝑥 − 1) < 0 ทัง้ 𝑎𝑥 2 และ 𝑎 ไม่เป็ นจานวนลบ
จึงไม่สามารถบวกกันแล้ว < 0 ได้
+ − + จะได้เซตคาตอบ = (−1, 1) ดังนัน้ เซตคาตอบ = ∅
−1 1

3. 𝑎𝑥 − 𝑎2 < 0
÷𝑎 ตลอด
4. 𝑎𝑥 + 𝑎2 < 0
÷𝑎 ตลอด
𝑥−𝑎 < 0 𝑥+𝑎 < 0
𝑥 < 𝑎 𝑥 < −𝑎
จะได้เซตคาตอบ = (−∞, 𝑎) จะได้เซตคาตอบ = (−∞, −𝑎)

5. 𝑎2 𝑥 − 𝑎 < 0
÷𝑎2 ตลอด
1
𝑥−𝑎 < 0
1
𝑥 <
𝑎
1
จะได้เซตคาตอบ = (−∞, 𝑎) → เมื่อ 𝑎 > 1 จะเห็นว่า (0, 𝑎) เป็ น สับเซตของ (−∞, 𝑎) ในข้อ 3.

23. ด.ญ. ปาหนัน ได้รางวัลจากการแข่งขันตอบปั ญหาทางคณิตศาสตร์เป็ นเงิน 1,800 บาท เธอตัง้ ใจจะออมเงินและ
นามารวมกับเงินรางวัลที่ได้ เพื่อซือ้ หนังสือนวนิยายชุดหนึง่ ราคา 3,700 บาท ถ้าในวันแรก ด.ญ. ปาหนัน ออมเงิน
ไว้ 10 บาท และในวันต่อๆมาจะออมเพิ่มจากวันก่อนหน้าวันละ 10 บาท ทุกๆวัน แล้วจานวนวันที่นอ้ ยที่สดุ ที่ ด.ญ.
ปาหนันต้องออมเงินเพื่อให้พอซือ้ หนังสือชุดดังกล่าว เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 17 วัน 2. 18 วัน 3. 19 วัน
4. 20 วัน 5. 21 วัน
ตอบ 3
วันแรก ออม 10 บาท วันต่อๆมาออมเพิม่ วันละ 10 บาท → ดังนัน้ วันที่ 2 ออม 20 บาท , วันที่ 3 ออม 30 บาท , …
จะเห็นว่าเงินออมในแต่ละวันเพิม่ เป็ นลาดับเลขคณิต (เงินออมวันแรก 𝑎1 = 10 บาท และ เพิ่มวันละ 𝑑 = 10 บาท)
ดังนัน้ เมื่อผ่านไป 𝑛 วัน จะหาผลรวมเงินออมได้จากสูตรอนุกรมเลขคณิต 𝑆𝑛 = 𝑛2 (2𝑎1 + (𝑛 − 1)𝑑)
𝑛
= 2 (2(10) + (𝑛 − 1)(10)
= 10𝑛 + 𝑛(𝑛 − 1)(5)
= 5𝑛2 + 5𝑛
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59) 21

ปาหนัน จะซือ้ นิยายได้เมื่อ เงินรางวัลตอบปั ญหา+ เงินออม ≥ ราคานิยาย


1800 + 5𝑛2 + 5𝑛 ≥ 3700
5𝑛2 + 5𝑛 − 1900 ≥ 0
𝑛2 + 𝑛 − 380 ≥ 0
(𝑛 + 20)(𝑛 − 19) ≥ 0

+ − + → แต่ 𝑛 คือจานวนวัน ต้องเป็ นจานวนเต็มบวก


−20 19 จะได้ 𝑛 น้อยสุดที่เป็ นคาตอบได้ คือ 19 วัน

24. กาหนดให้ 𝑎1 , 𝑎2 , 𝑎3 , … , 𝑎10 เป็ นลาดับเลขคณิตซึง่ มีผลต่างร่วมเท่ากับ 13


และ 𝑏𝑛 = 8𝑎𝑛 เมื่อ 𝑛 = 1, 2, 3, … , 10
ถ้า 𝑏1 ∙ 𝑏2 ∙ 𝑏3 ∙ … ∙ 𝑏10 = 215 แล้ว 𝑏1 + 𝑏2 + 𝑏3 + … + 𝑏10 เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 5111
64
2. 7227
4
3. 1023
8
4. 8661
64
5. 2027
8
ตอบ 3
จาก 𝑏1 ∙ 𝑏2 ∙ 𝑏3 ∙ … ∙ 𝑏10 = 215 𝑏 = 8𝑎𝑛
𝑛
8𝑎1 ∙ 8𝑎2 ∙ 8𝑎3 ∙ … ∙ 8𝑎10 = 215
8𝑎1 +𝑎2 +𝑎3 + … +𝑎10 = 215
𝑛
10 1
(2𝑎1 +(10−1)( ))
𝑆𝑛 = (2𝑎1 + (𝑛 − 1)𝑑)
2
82 3 = 215
810𝑎1 +15 = 215
(23 )10𝑎1 +15 = 215
23(10𝑎1 +15) = 215
30𝑎1 + 45 = 15
𝑎1 = −1
1 2 1
จาก 𝑎1 = −1 และ 𝑑=3 จะได้ลาดับ 𝑎1 , 𝑎2 , 𝑎3 , … คือ −1 , − 3 , − 3 , …
2 1 𝑏𝑛 = 8𝑎𝑛
จะได้ลาดับ 𝑏1 , 𝑏2 , 𝑏3 , … คือ 8 −1
, 8 −
3 , 8 −
3 ,…
2 1
= (23 )−1 (23 )−3
, , (23 )−3 ,…
−3 −2 −1
= 2 , 2 , 2 ,…
1 1 1
= 8
, 4
, 2
,…

จะเห็นว่าลาดับ 𝑏1 , 𝑏2 , 𝑏3 , … เป็ นลาดับเรขาคณิตที่มีพจน์แรก = 18 และอัตราส่วนร่วม 𝑟 = 2


1 10
𝑎1 (𝑟 𝑛 −1) (2 −1) 1
จากสูตรอนุกรมเรขาคณิต 𝑆𝑛 = 𝑟−1
จะได้ 𝑏1 + 𝑏2 + 𝑏3 + … + 𝑏10 = 8
2−1
= 8
(1024 − 1)
1023
= 8
22 วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59)

25. บริษัทแห่งหนึง่ มีพนักงานจานวน 120 คน และมีคา่ เฉลีย่ เลขคณิตของอายุพนักงานเท่ากับ 25 ปี โคยค่าเฉลีย่ เลข


คณิตของอายุพนักงานชายและพนักงานหญิงเป็ น 21 ปี และ 27 ปี ตามลาดับ ถ้า 𝑛 คือจานวนพนักงานหญิง
แล้ว 𝑛 มีคา่ อยูใ่ นช่วงใดต่อไปนี ้
1. [70 , 72] 2. [73 , 75] 3. [76 , 78]
4. [79 , 81] 5. [82 , 84]
ตอบ 4
มีพนักงาน 120 คน เป็ นหญิง 𝑛 คน ดังนัน้ เป็ นชาย 120 − 𝑛 คน
𝑁 𝑥̅
𝑁ชาย 𝑥̅ ชาย + 𝑁หญิง 𝑥̅หญิง
จากสูตรค่าเฉลีย่ ถ่วงนา้ หนัก จะได้ 𝑥̅รวม = ชาย 120 − 𝑛 21
𝑁ชาย + 𝑁หญิง
(120−𝑛)(21) + (𝑛)(27)
หญิง 𝑛 27
25 = 120 รวม 120 25
25(120) = (120)(21) − 21𝑛 + 27𝑛
25(120) − (120)(21) = 6𝑛
(120)(25 − 21) = 6𝑛
(20)( 4 ) = 𝑛
80 = 𝑛 → อยูใ่ นช่วง [79, 81]

26. ข้อมูลที่กาหนดให้ตอ่ ไปนี ้ ทุกชุดมีคา่ เฉลีย่ เลขคณิตเท่ากับ 10


ชุด A : 8 , 9 , 9 , 10 , 10 , 10 , 11 , 11 , 12
ชุด B : 7 , 8 , 8 , 9 , 10 , 11 , 12 , 12 , 13
ชุด C : 6 , 7 , 8 , 9 , 10 , 11 , 12 , 13 , 14
ถ้าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลชุด A , B และ C เท่ากับ 𝑎 , 𝑏 และ 𝑐 ตามลาดับ แล้วข้อใดต่อไปนีถ้ กู ต้อง
1. 𝑎 < 𝑏 < 𝑐 2. 𝑎 < 𝑐 < 𝑏 3. 𝑏 < 𝑐 < 𝑎
4. 𝑏 < 𝑎 < 𝑐 5. 𝑐 < 𝑏 < 𝑎
ตอบ 1
2
จะใช้สตู ร 𝑠 = √∑(𝑥𝑖𝑁−𝑥̅ ) คานวณ 𝑎, 𝑏, 𝑐 ออกมาก็ได้ แต่ขอ้ มูลในข้อนีส้ ามารถเรียง 𝑎, 𝑏, 𝑐 ได้โดยไม่ตอ้ งคานวณ
เนื่องจากส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เป็ นค่าที่ขนึ ้ กับระยะห่างของข้อมูลแต่ละตัว กับ 𝑥̅
ดังนัน้ ยิ่งมีขอ้ มูลที่หา่ งจาก 𝑥̅ มาก ก็จะยิ่งทาให้ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานมีคา่ มาก
𝑥̅
ชุด A 8 9 9 10 10 10 11 11 12
ชุด B 7 8 8 9 10 11 12 12 13
ชุด C 6 7 8 9 10 11 12 13 14

จะเห็นว่า ข้อมูลชุด A จะเกาะกลุม่ กันอยูแ่ ถวๆ 𝑥̅ มากกว่า ในขณะที่ขอ้ มูลชุด C มีการกระจายออกห่างจาก 𝑥̅ มากที่สดุ
ดังนัน้ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของชุด A จะน้อยที่สดุ ในขณะทีข่ อ้ มูลชุด C จะมีสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานมากที่สดุ
ดังนัน้ 𝑎 < 𝑏 < 𝑐
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59) 23

27. แผนภาพ ต้น-ใบ ต่อไปนี ้ เป็ นคะแนนสอบของผูส้ มัครงาน จานวน 39 คน ของบริษัทแห่งหนึง่


3 0 4 5 6 6
4 1 3 3 6 7 8 8
5 2 4 5 5 7
6 0 1 1 4 4 5 9
7 1 2 2 3 3 6 7 7
8 1 3 5 8 9
9 1 2

ถ้าผูท้ ี่ได้รบั คัดเลือกเข้าทางานต้องมีคะแนนตัง้ แต่เปอร์เซ็นไทล์ที่ 85 ขึน้ ไป แล้วค่าเฉลีย่ เลขคณิตของคะแนนสอบ


ของผูท้ ี่ได้รบั คัดเลือก เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 87 คะแนน 2. 88 คะแนน 3. 89 คะแนน
4. 90 คะแนน 5. 90.67 คะแนน
ตอบ 2
𝑃85 จะอยูต่ วั ที่ 85(𝑁+1)
100
85(39+1)
= 100 = 34
ดังนัน้ ผูไ้ ด้รบั คัดเลือก คือ ข้อมูลตัวที่ 34 ไปจนถึงตัวสุดท้าย (= ตัวที่ 39)
34 35 นับจากตัวสุดท้ายย้อนขึน้ มาจนถึงตัวที่ 34
8 1 3 5 8 9 จะได้ผไู้ ด้รบั คัดเลือก จะมี 83 , 85 , 88 , 89 , 91 , 92
9 1 2 36 37
38 39 จะได้คา่ เฉลีย่ = 83 + 85 + 88 +6 89 + 91 + 92 = 528
6
= 88
24 วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59)

28. จากผลการสอบวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชัน้ ม.4 ซึง่ ประกอบด้วยห้อง ม.4/1 และ ม.4/2 ที่มีจานวนนักเรียนห้อง


ละ 40 คน เท่ากัน ได้ผลสรุปของคะแนนสอบเป็ นแผนภาพกล่องดังนี ้
คะแนนสอบห้อง ม.4/1
15 80
40 55 70

คะแนนสอบห้อง ม.4/2
40 95
50 60 80

ถ้าในการสอบครัง้ นีค้ รูให้ระดับคะแนน 1 แก่ผทู้ ี่สอบได้คะแนนน้อยกว่า 40 คะแนน


และให้ระดับคะแนน 4 แก่ผทู้ ี่สอบได้คะแนนมากกว่า 80 คะแนน
แล้วพิจารณาข้อความต่อไปนี ้
ก. พิสยั ของคะแนนสอบของนักเรียนชัน้ ม.4 เท่ากับ 80 คะแนน
ข. นักเรียนชัน้ ม.4 ที่ได้ระดับคะแนน 1 มีไม่เกิน 10 คน
ค. นักเรียนชัน้ ม.4 ที่ได้ระดับคะแนน 4 มีไม่เกิน 10 คน
ง. ค่าเฉลีย่ เลขคณิตของคะแนนสอบของนักเรียนชัน้ ม.4 เท่ากับ 57.5 คะแนน
จานวนข้อความทีถ่ กู ต้อง เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 0 (ไม่มีขอ้ ความใดถูก) 2. 1 3. 2
4. 3 5. มากกว่า 3
ตอบ 4
แต่ละส่วนของแผนภาพกล่อง จะคิดเป็ น 14 ของข้อมูลทัง้ หมด
เนื่องจากมีนกั เรียนห้องละ 40 คน → จะได้สว่ นละ 40
4
= 10 คน ดังรู ป

10 10
10 10 คะแนนสอบห้อง ม.4/1
15 80
40 55 70
10 10 10 คะแนนสอบห้อง ม.4/2
10
40 95
50 60 80

ก. น้อยสุด → อยูห่ อ้ ง 4/1 = 15 คะแนน


มากสุด → อยูห่ อ้ ง 4/2 = 95 คะแนน ดังนัน้ พิสยั = มากสุด − น้อยสุด = 95 − 15 = 80 → ก. ถูก
ข. ได้ระดับ 1 คือคะแนนน้อยกว่า 40 คะแนน ซึง่ จะเห็นว่าห้อง 4/1 มี 10 คน แต่หอ้ ง 4/2 ไม่มีเลย
รวมทัง้ สองห้อง มี 10 คน → ไม่ได้มีมากกว่า 10 คน ดังนัน้ ข. ถูก
ค. ได้ระดับ 4 คือคะแนนมากกว่า 80 คะแนน ซึง่ จะเห็นว่าห้อง 4/1 ไม่มีเลย แต่หอ้ ง 4/2 มี 10 คน
รวมทัง้ สองห้อง มี 10 คน → ไม่ได้มีมากกว่า 10 คน ดังนัน้ ค. ถูก
ง. แผนภาพกล่อง จะบอกแค่ 𝑥min , Q1 , Q2 , Q3 , 𝑥max
ซึง่ หากข้อมูลไม่ได้แจกแจงแบบปกติ จะไม่สามารถสรุปเกี่ยวกับ 𝑥̅ ได้ → ง. ผิด
วิชาสามัญ คณิตศาสตร์ 2 (ธ.ค. 59) 25

29. ให้ 𝑥 เป็ นจานวนเต็มบวก จากข้อมูลที่เป็ นคะแนนสอบวิชาสถิติ ซึง่ มีคะแนนเต็ม 20 คะแนน ของนักเรียนจานวน
10 คน เป็ นดังนี ้ 10 , 𝑥 , 11 , 10 , 15 , 12 , 14 , 10 , 13 , 16
ถ้าข้อมูลชุดนีม้ มี ธั ยฐานมากกว่าฐานนิยมอยู่ 2 แล้วค่าเฉลีย่ เลขคณิตของคะแนนสอบวิชาสถิตขิ องนักเรียนกลุม่ นี ้
เท่ากับข้อใดต่อไปนี ้
1. 10 คะแนน 2. 11 คะแนน 3. 11.5 คะแนน
4. 12 คะแนน 5. 12.3 คะแนน
ตอบ 5
เรียงข้อมูลจากน้อยไปมาก (ไม่รวม 𝑥 ที่ยงั ไม่รู)้ จะได้ 10 , 10 , 10 , 11 , 12 , 13 , 14 , 15 , 16
จะเห็นว่ามี 10 ซา้ กันสามตัว แต่คา่ อื่นไม่ซา้ เลย ดังนัน้ ไม่วา่ 𝑥 จะเป็ นอะไร ก็จะซา้ ไม่ชนะ 10 → จะได้ฐานนิยม = 10
โจทย์กาหนดให้ มัธยฐานมากกว่าฐานนิยมอยู่ 2 → จะได้มธั ยฐาน = 12
จากข้อมูลที่โจทย์กาหนด ถ้าไม่นบั 𝑥 จะเห็นว่า 12 อยูต่ าแหน่งตรงกลางของข้อมูลพอดี
10 , 10 , 10 , 11 , 12 , 13 , 14 , 15 , 16

แต่ถา้ เพิ่ม 𝑥 เข้าไปอีกหนึง่ ค่า ไม่วา่ เพิ่มตรงไหน ก็จะทาให้ 12 ไม่อยูต่ รงกลางอีกต่อไป (ยกเว้นเมื่อ 𝑥 = 12)
แต่ 12 ต้องเป็ นมัธยฐาน ต้องอยูต่ รงกลางของข้อมูล จึงสรุปได้วา่ 𝑥 ต้องเท่ากับ 12 เท่านัน้
จะได้คา่ เฉลีย่ = 10 + 10 + 10 + 11 + 1210 + 12 + 13 + 14 + 15 + 16
=
123
10
= 1.23

30. กล่องใบหนึง่ บรรจุฉลากซึง่ เขียนหมายเลข 100 , 101 , 102 , … , 998 , 999 ไว้ฉลากละหนึง่ หมายเลข
ถ้าสุม่ หยิบฉลาก 1 ใบจากกล่อง ความน่าจะเป็ นที่ฉลากที่หยิบมามีผลคูณของเลข 3 หลัก เป็ นจานวนคู่ เท่ากับข้อ
ใดต่อไปนี ้
1. 12 2. 23 29
3. 36 4. 77 90
5. 31
36
ตอบ 5
ผลคูณเป็ นเลขคู่ จะนับยาก เพราะเป็ นได้หลายแบบ (แค่มี “อย่างน้อย 1 หลัก” เป็ นเลขคู่ ก็จะได้ผลคูณเป็ นเลขคู)่
จะเห็นว่านับแบบตรงข้ามง่ายกว่า → ผลคูณเป็ นเลขคี่เมื่อ “ทุกหลัก” เป็ นจานวนคี่
เลขคี่ มี 1, 3, 5, 7, 9 ทัง้ หมด 5 แบบ ดังนัน้ จานวนฉลากที่ทงั้ 3 หลักเป็ นเลขคี่ = 5 × 5 × 5 = 125 ใบ
และจากจานวนฉลากทัง้ หมด = 999 − 100 + 1 = 900 ใบ
ดังนัน้ จานวนฉลากที่ผลคูณเลข 3 หลักเป็ นเลขคู่ = 900 − 125 = 775 ใบ
จะได้ความน่าจะเป็ น ที่ฉลากมีผลคูณเลข 3 หลักเป็ นเลขคู่ = 775
900
= 36
31

เครดิต
ขอบคุณ ข้อสอบ และเฉลยคาตอบ จาก อ.ปิ๋ ง GTRmath
ขอบคุณ คุณ Chalermpong ChokkijchaiView
และ คุณ คณิต มงคลพิทกั ษ์สขุ (นวย) ผูเ้ ขียน Math E-book
และ น้อง บุญช่วย ฤทธิเทพ ที่ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร

You might also like