ZENKIDS.

CO

1 2 3

ค้นพบเป้าหมาย ด้วยการรประเมินตัวเองโดยการ
การตั้งเป้าหมายช่วยให้เรารู้ว่าต้องทำอะไร เมื่อเราได้คำตอบแล้วมาสรุปดูเพื่อให้เข้าใจ
ตั้งคำถาม วิธีนี้ถูกพิจารณาทางวิทยาศาสตร์
และมีวิธีการเวลายังไง ความชัดเจนในเป้าหมาย ตัวเองและเห็นภาพชัดขึ้นว่า ตัวเราต้องการ
และจิตวิทยา( ทฤษฎี Self-Determination
ช่วยลดความสับสนและทำให้เป้าหมาย เป้าหมายอะไรมีขั้นตอนยังไงและเตรียมพร้อมยังไง
Theory )ทำให้เราทราบจุดอ่อนจุดแข็ง
มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น เมื่อเจอสถานการณ์ท้าทาย
ความสามารถ ของตัวเองนำไปสู่การตั้งเป้าหมายที่
เป็นไปได้และเราจะมีแรงกระตุ้นมากขึ้น เมื่อเราตั้ง
เป้าหมายสอดคล้องกับความสามารถหรือ
ค่านิยมของเรา

4 5
การตั้งเป้าหมายด้วย SMART GOALS
ช่วยเพิ่มโอกาสในความสำเร็จเพราะ
ขอบเขตชัดเจนและเข้าใจง่าย ช่วยกำหนด
แผนการเรียนการทำงานแลวัดผลและ
ติดตามได้
ตัวอย่างที่ผิดในการใช้ SMART Goals
1) S = เจาะจง เช่น ออกกำลังกายเพิ่มความ
แข็งแรง โดยการออกกำลังกายทุกวัน วันละ
30 นาที เป็นเวลา 3 สัปดาห์
❌ผิดเพราะ การระบุเป้าหมายการออก
กำลังกายเพิ่มความแข็งแรงแต่ไม่มีความ
ชัดเจนเรื่องวิธีหรือประเภทการออกกำลังกาย
2) M = วัดผลได้
เช่น ต้องการเพิ่มเกรดวิชาคณิตศาสตร์จาก
C เป็น A ในเวลา 2 สัปดาห์
❌ผิดเพราะ การเพิ่มเกรดจาก C มา A
ภายใน 2 สัปดาห์ะยะเวลาอาจจะไม่เพียงพอ
และเกิดความเครียดและความกดดัน
ZENKIDS.CO
5
3) A = ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้
เช่น ต้องการให้ได้คะแนนเต็มในทุกๆ
การสอบตลอดปีนี้
❌ผิดเพราะ เป้าหมายไม่ระบุว่าเป็น
คะแนนเต็มในแต่ละวิชาหรือระดับใด
เป็นการวัดความสำเร็จที่ไม่ชัดเจน
4) R = สอดคล้องเป้าระยะยาว
เช่น เรียนภาษาต่างประเทศ 3
ภาษาภายใน 6 เดือน
❌ผิดเพราะ เป้าหมายขาดการระบุวิธีวัดผลสำเร็จ
เช่น เมื่อใดถือว่าสำเร็จในการเรียนภาษาและ
ไม่ระบุว่าเรียนภาษาอะไร
5) T = เป็นผู้เชี่ยวชาญในการสื่อสารภาษาอังกฤษ
ภายใน 1 ชั่วโมง
❌ผิดเพราะ เป้าหมายขาดการระบุวิธีในการวัด
ความสำเร็จในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร
ภาษาอังกฤษและระยะเวลาสั้นเกินไป

6 7
ตัวอย่างที่ถูกในการใช้ SMART GOALS
1) S = เจาะจง เช่น ทำคะแนนเกรด A ในการสอบ
กลางภาควิชาชีววิทยาในเดือนหน้าให้สำเร็จ
ภายในภาคเรียนนี้
✔️ถูกเพราะ เป็นเป้าหมายที่เจาะจงมีกรอบ
เวลาที่ชัดเจนและเป็นไปได้
2) M = วัดผลได้
เช่น ฉันจะอ่านหนังสือ 10 เล่มหลากหลาย
ประเภทหนังสือและหัวข้อภายใน 6 เดือนถัดไป
✔️ถูกเพราะ มีการกำหนดที่ชัดเจนว่าต้องอ่าน
หนังสือกี่เล่มและระยะเวลาเท่าไหร่ซึ่งสามารถวัดผลได้
3) A = ตั้งเป้าหมายที่ทำได้จริง
เช่น ฉันจะพัฒนาทักษะการพูดในที่สาธารณะโดย
พรีเส้นงานอย่างมั่นใจให้กับ
เพื่อนในห้องเรียนเทอมนี้
ZENKIDS.CO
✔️ถูกเพราะ การพัฒนาทักษะการพูดในที่สาธารณะ
คือการฝึกฝนที่ช่วยให้เรามั่นใจมากขึ้นได้ เป็นเป้าหมายที่เหมาะสม
และให้ความสำเร็จได้
4) R = สอดคล้องเป้าหมายระยะยาว
เช่นฉันจะรักษาเกรดของฉันให้ได้เกรด 3.5หรือมากกว่านั้น
เพื่อโอกาสในการสอบชิงทุนเรียนต่อต่างประเทศ
✔️ถูกเพราะ โอกาสในการเรียนต่อหรือสอบชิงทุนเกรดมีผล
และมีส่วนเกี่ยวข้องในการรับเด็กสอบชิงทุน ซึ่งเป็น
เป้าหมายที่เกี่ยวข้องกัน
5) T = มีกรอบเวลาชัดเจน
เช่น ฉันจะพัฒนาทักษะการบริหารเวลาเพื่อให้การเรียนและ
เรื่องส่วนตัวสมดุลกันฉันจะบรรลุเป้าหมายภายใน 2 เดือน
✔️ถูกเพราะ การกำหนดระยะเวลา 2 เดือน มีระยะเวลาที่ชัดเจน
ในการฝึกฝนและการพัฒนาทักษะการบริหารเวลาอยู่ในระดับที่สามารถ
เป็นไปได้หรือทำได้ใน เวลา 2 เดือน

8 9
แบ่งเเป้าหมายป็นเป้าหมายย่อย
ช่วยเพิ่มความชัดเจน ขอบเขตและกำหนด
เป้าหมายที่เป็นไปได้ อีกทั้งช่วยวางแผนงาน
ขั้นตอนและเพิ่มโอกาสสำเร็จได้มากขึ้น
Zenkids.co
10
แนะนำวิธีการ Breaks down goalร
ตั้งเป้าหมายหลักหรือ main goals
ซึ่งอาจเป็นเป้าหมายในการเรียน หรือการ
เตรียมตัวสำหรับอาชีพในอนาคต เช่นปรับปรุง
คะแนนในวิชาคณิตศาสตร์
แบ่งเป้าหมายย่อยๆ ที่สามารถทำได้
ภายในเวลาที่กำหนด ให้มีจำนวนน้อยและขอบ
เขตชัดเจน เช่น ฝึกแก้โจทย์ที่เกี่ยวข้องกับ
บทเรียนที่ต้องการปรับปรุง
ระบุขั้นตอนตามหลัก Smart Goal เช่น นำขั้นตอนการตั้งเป้าหมายที่เราวางแผนไว้
ทำแบบฝึกหัดและโจทย์ที่ต้องการปรับปรุง นำมาใส่ใน weekly หรือ daily planner เพื่อให้เรา
วันละ30 นาที ทุกวันเป็นเวลา 1 เดือนเพื่อ ติดตามและดำเนินการตามเป้าหมายและมีการวางแผนที่
ฝึกทักษะในการแก้ปัญหาและเราสามารถติด ชัดเจนโดยสามารถกำหนดวันที่และเวลาที่ต้องการทำ
ตามและประเมินผลได้ในเวลาที่กำหนด ป้าหมายในแต่ละข้อ
 Zenkids.co

7 ๅๅ 12

ติดตามความคืบหน้าของเป้าหมายโดย ในระหว่างการตั้งเป้าหมายหรือการลงมือทำเรา ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราทำสำเร็จเป็นสิ่งสำคัญ

การใช้ แผ่นงาน Goals Tracker สิ่งนี้ช่วยให้เรา
เห็นความคืบหน้าของตัวเอง ช่วยเพิ่มแรงจูงใจ
เมื่อเราเห็นความก้าวหน้าของตัวเองไปเรื่อยๆทำให้
เรารู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อเราติดตามและตรวจสอบ
เป้าหมายเป็นประจำทำให้เราเห็นผลลัพธ์และสิ่งที่
เราต้องปรับปรุง เราสามารถปรับเปลี่ยนได้
เมื่อจำเป็น
อาจเจออุปสรรค ปัญหาระหว่างทาง
( overcome obstacles )
เราจึงต้องมีแผนการสำหรับการแก้ปัญหาที่จะ
เกิดขึ้นโดยการใช้แผ่นงาน Goal Reflection
หรือการทบทวนเป้าหมาย เพื่อให้เราสามารถ
วางแผนรับมือกับปัญหาที่เจอระหว่างทาง
พร้อมพัฒนาและปรับปรุง
ทำให้เรารับรู้ถึงความสามารถของตัวเอง ช่วยเพิ่ม
ความมั่นใจและสร้างแรงจูงใจที่ดี สามารถใช้แผ่น
งาน Mission Completed เป็น check list ในการ
ให้รางวัลตัวเองเมื่อเราทำสำเร็จตามที่เราตั้งเป้าไว้
เช่นการให้รางวัลตัวเอง หรือใช้ reward stickers
เปะเพื่อบ่งบอกถึงความสำเร็จที่เราของเราที่เพิ่มขึ้น
ในแต่ละก้าว