Professional Documents
Culture Documents
คู่มือราชการสนาม 3-0 ว่าด้วย การปฏิบัติการยุทธ์ของ ทบ.
คู่มือราชการสนาม 3-0 ว่าด้วย การปฏิบัติการยุทธ์ของ ทบ.
(ร่าง)
คู่มือราชการสนาม ๓-๐
ว่าด้วย
การปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก
พ.ศ. ๒๕๕๗
วัตถุประสงค์การฝึกศึกษาของกองทัพบก
เป็นผู้นำ�ที่ดี มีคุณธรรม
มีความรูแ้ ละประสบการณ์ส�ำ หรับการในหน้าที่
แข็งแรงทรหดอดทนต่อการตรากตรำ�ทำ�งาน
คำ�นำ�
กองทัพบก เป็นก�ำลังรบทีต่ ดั สินผลของการสงครามทางบกในการปฏิบตั กิ ารยุทธ์รว่ มและ
การปฏิบัติการหลายชาติ (Multinational Operations) กองทัพบก จึงต้องใช้ความริเริ่มอย่าง
ห้าวหาญ รุกรบ เพื่อสร้างและรักษาแรงหนุนเนื่องในการรบ ควบคุมขอบเขต จังหวะเวลาของการ
ปฏิบัติการทุกรูปแบบ และการปฏิบัติการทางทหารที่นอกเหนือการสงคราม การที่กองทัพบกจะ
ปฏิบตั กิ ารตามหลักนิยมอันนีใ้ ห้ได้ผล ก�ำลังพลของกองทัพบกต้องได้รบั การฝึกมาเป็นอย่างดี ได้รบั
การสนับสนุนจากประชาชนภายในชาติ รวมทั้งมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ ก�ำลังพลทุก
ระดับต้องมีความรู้ เป็นผูน้ ำ� ทีเ่ ข้มแข็ง มีบคุ ลิกลักษณะทหารทีด่ ี วางตัวอย่างเหมาะสมเป็นทีเ่ ชือ่ ถือ
ของสังคม
วัตถุประสงค์
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ เป็นหลักนิยมหลักของกองทัพบก ส�ำหรับการปฏิบัติการทุก
รูปแบบ หลักนิยมเล่มนีไ้ ด้นำ� เสนอหลักการเกีย่ วกับการสงคราม โดยมุง่ เน้นต่อการท�ำสงครามทางบก
และการปฏิบัติการทางทหารอื่น ๆ ที่มิใช่สงครามทางภาคพื้นดิน ทั้งนี้เพื่อให้กองทัพบกสามารถ
ตอบสนองต่อการด�ำเนินนโยบายตามยุทธศาสตร์ความมัน่ คงแห่งชาติทมี่ คี วามหลากหลาย สามารถ
ด�ำรงสภาพการปฏิบัติการในสภาวะที่ต้องมีการปฏิบัติการที่ยาวนานได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของ
การปฏิบัติการร่วม หรือ การปฏิบัติการผสม
ขอบเขต
คู่มือสนาม ๓-๐ แบ่งเป็น สี่ภาค ภาคที่หนึ่ง (บทที่ ๑-๓) กล่าวถึง บทบาทกองทัพบกยาม
สงบ ยามขัดแย้ง ตลอดจนยามศึกสงคราม ภาคที่สอง (บทที่ ๔-๖) กล่าวถึง พื้นฐานของการปฏิบัติ
การทุกรูปแบบ การบังคับบัญชาการรบ ภาคที่สาม (บทที่ ๗-๑๐) กล่าวถึง การปฏิบัติการทุก
รูปแบบ ทั้งสี่ประเภท ได้แก่ รุก รับ เพื่อเสถียรภาพ และสนับสนุน ภาคที่สี่ (บทที่ ๑๑ และ ๑๒)
กล่าวถึง ความเหนือกว่าด้านสารสนเทศ และการช่วยรบ
การน�ำไปใช้
คูม่ อื ราชการสนาม ๓-๐ บ่งบอกถึงแนวทางการปฏิบตั ขิ องกองทัพบกในการปฏิบตั กิ ารทุก
รูปแบบ มีความสอดคล้องกับหลักนิยมการยุทธ์ร่วม จึงสามารถใช้เป็นคู่มือหลักส�ำหรับการศึกษา
ของกองทัพบก หลักนิยมและหลักสูตรการฝึกศึกษาของเหล่าและสายวิทยาการที่จะจัดท�ำขึ้นจะ
ต้องสอดคล้องกับแนวทางของคู่มือราชการสนาม ๓-๐ ก�ำลังพลทุกระดับจ�ำเป็นต้องอ่านและ
ท�ำความเข้าใจให้ถ่องแท้
กรมยุทธศึกษาทหารบก เป็นหน่วยรับผิดชอบในการยกร่างคู่มือราชการสนามฉบับนี้
โดยมี ศูนย์พัฒนาหลักนิยม และยุทธศาสตร์ กรมยุทธศึกษาทหารบก (ศพย.ยศ.ทบ.) เป็น
หน่วยงานหลักในการจัดเตรียมร่าง หากท่านต้องการเสนอข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ กรุณาส่งมา
ที่ศูนย์พัฒนาหลักนิยมและยุทธศาสตร์ กรมยุทธศึกษาทหารบก ถ.เทอดด�ำริ ดุสิต กรุงเทพฯ
๑๐๓๐๐ หมายเลขโทรศัพท์ ๐-๒๒๔๑-๔๐๓๙ ได้ ในเวลาท�ำการ หรือโดยทางอิเล็กทรอนิกส์ที่
http://www.srd-rta.net
ศูนย์พัฒนาหลักนิยมและยุทธศาสตร์
กรมยุทธศึกษาทหารบก
สารบัญ
หน้า
คำ�นำ�
ภาคที่ ๑ สภาพแวดล้อมในการปฏิบัติการ ๑
บทที่ ๑ กองทัพบกและบทบาทในการเป็นพลังอำ�นาจทางภาคพื้นดิน ๒
บทบาทของกองทัพบก ๒
ภารกิจของกองทัพบก ๓
สภาพแวดล้อมทางยุทธการ ๗
หลักนิยมและกองทัพบก ๑๔
การปฏิบัติการทุกรูปแบบ ๑๕
การฝึกเพื่อการปฏิบัติการทุกรูปแบบ ๑๗
ทหารและภาวะความเป็นผู้นำ� ๑๘
บทที่ ๒ การปฏิบัติการรวม ๒๑
ระดับของสงคราม ๒๑
การปฏิบัติการรวม ๒๖
ข้อพิจารณาสำ�หรับการปฏิบัติการรวม ๔๐
บทที่ ๓ การตอบโต้ทางยุทธศาสตร์ ๔๘
กกล.ทบ. ตอบโต้ทางยุทธศาสตร์ ๔๘
การปฏิบัติการแสดงกำ�ลังรบ ๖๗
ภาคที่ ๒ พื้นฐานของการปฏิบัติการทุกรูปแบบ ๗๙
บทที่ ๔ หลักพื้นฐานการปฏิบัติการทุกรูปแบบ ๘๐
องค์ประกอบอำ�นาจการรบ ๘๑
หลักพื้นฐานการปฏิบัติการของกองทัพบก ๙๐
โครงร่างการยุทธ์ ๙๘
ขีดความสามารถของกองทัพบก ๑๐๘
บทที่ ๕ การบัญชาการรบ ๑๑๖
ศิลปะของการบังคับบัญชา ๑๑๖
การกำ�หนดมโนทัศน์ การอธิบาย และการสั่งการ ๑๑๗
สารบัญ (ต่อ)
หน้า
บทที่ ๖ การปฏิบัติการทุกรูปแบบ ๑๓๗
แผน ๑๓๗
การเตรียมการ ๑๔๔
การปฏิบัติ ๑๔๗
การประเมินค่า ๑๖๖
ภาคที่ ๓ การปฏิบัติการทุกรูปแบบอย่างแตกหัก ๑๖๘
บทที่ ๗ การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก ๑๗๐
วัตถุประสงค์ของการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก ๑๗๐
การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุกในสงครามระดับยุทธการ และยุทธวิธี ๑๗๑
ลักษณะของการรบด้วยวิธีรุก ๑๗๒
การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุกภายในโครงร่างทางการยุทธ์ ๑๗๖
รูปแบบของการดำ�เนินกลยุทธ์ ๑๘๒
แบบของการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก ๑๘๘
การดำ�เนินการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก ๑๙๘
ผลกระทบของเทคโนโลยี ๒๐๖
บทที่ ๘ การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับ ๒๐๗
วัตถุประสงค์ของการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับ ๒๐๗
ลักษณะของการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับ ๒๐๘
แบบของการตั้งรับ ๒๑๐
การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับภายในกรอบการปฏิบัติระดับยุทธการ ๒๑๗
การปฏิบัติการตั้งรับ ๒๒๓
ผลกระทบของเทคโนโลยี ๒๓๑
บทที่ ๙ การปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ ๒๓๓
การรบปะทะและการตอบโต้ ๒๓๓
ลักษณะของการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ ๒๓๗
แบบของการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ ๒๓๙
ข้อพิจารณาสำ�หรับการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ ๒๕๑
สารบัญ (ต่อ)
หน้า
บทที่ ๑๐ การปฏิบัติการสนับสนุน ๒๕๖
คุณลักษณะของการปฏิบัติการสนับสนุน ๒๕๖
แบบของการปฏิบัติการสนับสนุน ๒๕๖
รูปแบบของการปฏิบัติการสนับสนุน ๒๖๐
ข้อพิจารณาในการปฏิบัติการสนับสนุน ๒๗๒
ภาคที่ ๔ การปฏิบัติการเสริมความสามารถ ๒๗๖
บทที่ ๑๑ ความเหนือกว่าด้านสารสนเทศ ๒๗๗
ลักษณะของความเหนือกว่าด้านสารสนเทศ ๒๗๘
สภาวะแวดล้อมด้านสารสนเทศ ๒๗๙
องค์ประกอบที่มีส่วนสนับสนุนความเหนือกว่าด้านสารสนเทศ ๒๘๒
การวางแผนและการเตรียมการ เพื่อบรรลุถึงความเหนือกว่า ๓๐๔
ด้านสารสนเทศ
การปฏิบัติที่เหนือกว่าด้านสารสนเทศ ๓๐๗
ผลกระทบจากเทคโนโลยี ๓๐๙
บทที่ ๑๒ การสนับสนุนทางการช่วยรบ ๓๑๑
วัตถุประสงค์ของการสนับสนุนทางการช่วยรบ ๓๑๒
ลักษณะของการสนับสนุนทางการช่วยรบ ๓๑๓
พันธกิจในการสนับสนุนทางการช่วยรบ ๓๑๕
การวางแผนและการเตรียมการในการสนับสนุนทางการช่วยรบ ๓๑๗
การดำ�เนินการด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบ ๓๒๖
ผลกระทบของเทคโนโลยี ๓๔๒
บทท้าย ๓๔๔
คู่มือราชการสนาม ๓-๐
การปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบกในสนาม
ภาคที่ ๑
สภาพแวดล้อมในการปฏิบัติการ
ตอนที่ ๑ กล่าวถึงบทบาทของกองทัพบกทั้งในยามสงบ ยามขัดแย้ง และยามสงคราม กองทัพบก
ให้ความส�ำคัญกับการรบเป็นล�ำดับแรก เพราะการมีขดี ความสามารถทีเ่ หนือกว่าในการสงครามทาง
พื้นดินเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของกองก�ำลังกองทัพบก ในการปฏิบัติการ
ทุกรูปแบบกองก�ำลังกองทัพบกเป็นส่วนส�ำคัญที่สุดในการปฏิบัติการรวมภาคพื้นดิน สามารถตอบ
สนองได้ในระดับยุทธศาสตร์ มีความพร้อมส�ำหรับปฏิบตั กิ ารได้ทนั ทีและด�ำรงสภาพการปฏิบตั กิ าร
ต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติการร่วม การปฏิบัติการผสม หรือการปฏิบัติระหว่างองค์กร
บทที่ ๑ กล่าวถึงบทบาทของกองทัพบกในการป้องกันประเทศ บทบาทในมิติหกมิติของสภาพ
แวดล้อมในการปฏิบัติการ (ภัยคุกคาม การเมือง การปฏิบัติการร่วม การสู้รบภาคพื้นดิน ข้อมูล
ข่าวสาร และเทคโนโลยี) รวมถึงการเตรียมการและการปฏิบัติการในสภาพแวดล้อมดังกล่าว
นอกจากนี้ยังจะได้กล่าวถึงภารกิจของกองทัพบกว่ามีกิจส�ำคัญอะไรบ้าง หลักนิยมของกองทัพบก
ในการปฏิบตั กิ ารทุกรูปแบบเป็นอย่างไร และในท้ายบทกล่าวถึงวิธที ผี่ นู้ �ำหน่วยจะหล่อหลอมก�ำลัง
พลให้เป็นหน่วยที่มีความมั่นใจ มีขีดความสามารถ โดยการฝึกที่หนักและสมจริง
บทที่ ๒ กล่าวถึงการปฏิบัติการรวมซึ่งประกอบด้วย การปฏิบัติการร่วม การปฏิบัติการผสม และ
การปฏิบัติการระหว่างองค์กร ในขอบเขตของการปฏิบัติการทุกรูปแบบ บทนี้ยังได้อธิบายถึงการ
ใช้กองก�ำลังกองทัพบกในการปฏิบัติการร่วมรวมถึงบทบาทส�ำคัญของเหล่าทัพอื่น ๆ
บทที่ ๓ กล่าวถึงความพร้อมในระดับยุทธศาสตร์รวมถึงความสามารถในการเคลื่อนย้ายก�ำลังรบ
(ความสามารถในการส่งก�ำลังรบไปยังพื้นที่) โดยจะอธิบายถึงคุณสมบัติว่าความพร้อมในระดับ
ยุทธศาสตร์เป็นอย่างไร มีข้อพิจารณาในการใช้อย่างไรบ้าง นอกจากนี้ยังจะอธิบายถึงลักษณะการ
ปฏิบัติการในการเคลื่อนย้ายก�ำลังรบและระบบปฏิบัติการร่วมที่สนับสนุนก�ำลังรบดังกล่าว รวมถึง
อธิบายให้เห็นแบบต่าง ๆ ของการปฏิบตั เิ พือ่ เข้าสูพ่ นื้ ทีป่ ฏิบตั กิ าร ในตอนท้ายจะกล่าวอย่างกว้าง ๆ
ถึงการรักษาความปลอดภัยในระหว่างเคลื่อนย้ายก�ำลังรบและการใช้ฐานปฏิบัติการระหว่างทาง
บทที่ ๑
กองทัพบกและบทบาทในการเป็นพลังอ�ำนาจทางภาคพื้นดิน
๑-๑ กองก�ำลังกองทัพบก๑ เป็นก�ำลังรบที่ตัดสินผลแพ้ชนะในสงครามทางบกของการ
ปฏิบัติการรบร่วมและการปฏิบัติการหลายชาติ กองทัพบก (ทบ.) จัดก� ำลังฝึก และจัดอาวุธ
ยุทโธปกรณ์ให้กบั กองก�ำลังของตนเพือ่ ท�ำการรบให้ชนะและเพือ่ ให้บรรลุวตั ถุประสงค์ของชาติตาม
ทีก่ ำ� หนด การรบและการชนะสงครามเป็นภารกิจส�ำคัญทีส่ ดุ ของกองทัพบก เป็นพันธกรณีทกี่ องทัพ
บกยืนหยัดรับใช้ชาติ ประชาชน และราชบัลลังก์โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ
บทบาทของกองทัพบก
๑-๒ การป้องปรามภัยคุกคาม๒ ก็เป็นอีกหน้าทีห่ นึง่ ของกองทัพบกนอกเหนือจากการรบ
เป้าหมายในการป้องปรามภัยคุกคามของกองทัพบกคือเจตจ�ำนงของผู้น�ำของประเทศที่อาจเป็น
ฝ่ายตรงข้ามและกลุม่ ทีไ่ ม่เป็นมิตร โดยการท�ำให้ผนู้ ำ� เหล่านัน้ เห็นว่าการคุกคามต่อประเทศไทยจะ
มีผลเสียต่อตนจนเกินกว่าจะยอมรับได้ ปัจจุบันภัยคุกคามของเรายังคงพึ่งพาก�ำลังทหารและก�ำลัง
ติดอาวุธที่มิใช่กองทัพประจ�ำการเพื่อรักษาอ�ำนาจและขยายอิทธิพลของตน กองก�ำลังกองทัพบก
ป้องปราม ด้วยการแสดงให้เห็นว่ามีขีดความสามารถที่เหนือกว่าที่จะท�ำลายการคุกคามนั้นได้
เมื่อจ�ำเป็น
๑-๓ ความพร้อมรบของกองทัพบกคือเครือ่ งมือป้องปรามทีด่ ที สี่ ดุ หน่วยต่าง ๆ ของกอง
ทัพบกที่วางอยู่ทั่วประเทศมีส่วนช่วยให้กองทัพบกสามารถรับมือกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นได้อย่าง
รวดเร็ว มีความพร้อมในการสนับสนุนส่วนราชการพลเรือนในการรับมือกับภัยพิบตั แิ ละภัยคุกคาม
อื่น ๆ รวมถึงมีส่วนช่วยในการพัฒนาทางการเมืองและเศรษฐกิจของท้องถิ่น ความร่วมมือด้านการ
ทหารกับประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประเทศก็มีส่วนช่วยให้ความมั่นคงในภูมิภาคมีเสถียรภาพ
ยิ่งขึ้น
๑
การปฏิบตั กิ ารร่วมจะมีการจัดก�ำลังจากเหล่าทัพอืน่ ๆ ซึง่ จะเรียกกองก�ำลังตามเหล่าทัพทีจ่ ดั อันได้แก่ กองก�ำลังกองทัพ
บก กองก�ำลังกองทัพเรือ กองก�ำลังกองทัพอากาศ และกองก�ำลังนาวิกโยธิน ที่ไม่เรียกว่ากองก�ำลังทางบกเพราะไม่ให้
สับสนกับกองก�ำลังนาวิกโยธินซึ่งอาจถือเป็นกองก�ำลังทางบกด้วย
๒
การป้องปรามภัยคุกคาม หมายถึงประเทศ หรือกลุ่มบุคคล/องค์กร ที่มิได้เป็นตัวแทนของประเทศใดประเทศหนึ่งตาม
กฎหมาย แต่อาจได้รับการสนับสนุนอย่างลับ ๆ หรือเปิดเผยโดยประเทศใดประเทศหนึ่ง ซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่จะเป็น
ภัยคุกคามต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ของประเทศไทย ถ้าเป็นกลุ่มที่มิใช่รัฐ หากใช้ความรุนแรงเป็นเครื่องมือ จะจัด
อยู่ในภัยคุกคามทั้งสิ้น
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 3
๑-๔ การให้ความส�ำคัญกับการรบท�ำให้หน่วยของกองทัพบกสามารถตอบสนองความ
ต้องการของผู้บัญชาการกองก�ำลังรบร่วมทั้งในยามสงบ ยามขัดแย้ง และยามสงคราม ในยาม
สงครามกองก�ำลังกองทัพบกเป็นก�ำลังหลักของกองก�ำลังทางบกที่น�ำเจตจ�ำนงของชาติไปหักล้าง
กับเจตจ�ำนงของข้าศึกในยามขัดแย้งกองทัพบกจะส่งก�ำลังรบเข้าพื้นที่ปฏิบัติการอย่างรวดเร็วเพื่อ
ป้องปรามฝ่ายตรงข้ามและป้องกันมิให้ฝา่ ยตรงข้ามมีความได้เปรียบทางยุทธการ และหากการป้อง
ปรามล้มเหลว กองก�ำลังกองทัพบกจะเอาชนะข้าศึกและยุตคิ วามขัดแย้งในลักษณะทีส่ อดคล้องกับ
วัตถุประสงค์ของชาติและท�ำให้เกิดเสถียรภาพทีย่ งั่ ยืนภายหลังความขัดแย้งได้ ความสามารถในการ
เคลื่อนย้ายที่รวดเร็วจะช่วยให้ผู้บัญชาการกองก�ำลังรบร่วมมีก�ำลังรบแตกหัก ณ เวลาและต�ำบลที่
ต้องการ ในยามสงบ กองทัพบกจะเตรียมก�ำลังให้พร้อมส�ำหรับการรบด้วยการฝึก รวมถึงการ
สนับสนุนหน่วยงานพลเรือนและองค์กรต่าง ๆ ในการรับมือและบรรเทาภัยพิบตั ิ ส่งเสริมบรรยากาศ
ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศด้วยการด�ำรงความสัมพันธ์กับกองทัพของประเทศเพื่อนบ้านและ
มิตรประเทศ
รายการกิจส�ำคัญยิ่งในภารกิจของกองทัพบก
- สร้างสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคง
- ตอบสนองต่อวิกฤติการณ์อย่างทันท่วงที
- การระดมสรรพก�ำลังของกองทัพบก
- การด�ำเนินการส่งก�ำลังรบไปยังพื้นที่ที่เกิดปัญหา
- ครองความเหนือกว่าในปฏิบัติการทางภาคพื้นดิน
- ให้การสนับสนุนต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน
- การมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ
ภารกิจของกองทัพบก
๑-๕ แม้กองทัพบกจะมีภารกิจในฐานะเป็นส่วนหนึง่ ของกองทัพไทยตามทีก่ ำ� หนดไว้ใน
รัฐธรรมนูญ แต่ประสบการณ์และความต้องการในระดับยุทธศาสตร์ท�ำให้กองทัพบกต้องมีกิจ
ส�ำคัญยิ่ง หน่วยทุกหน่วยของกองทัพบกก็ต้องพัฒนากิจส�ำคัญยิ่งของหน่วยตนขึ้น ทั้งนี้การปฏิบัติ
ตามกิจส�ำคัญยิ่งให้ส�ำเร็จจะต้องมีการบูรณาการหลักนิยม การฝึก การพัฒนาความเป็นผู้น� ำ
การจัด การบริหารทรัพยากร และก�ำลังพล อย่างต่อเนื่อง
๑-๖ กิจส�ำคัญยิ่งของกองทัพบกจะเป็นสิ่งบ่งบอกว่า ชาติจะใช้ก�ำลังทหารอย่างไรเพื่อ
ให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำ� หนดทั้งในยามสงคราม ยามขัดแย้ง และยามสงบ กองก�ำลังกองทัพบก
4 บทที่ ๑
แม้จะเน้นการปฏิบัติการทางบก แต่สามารถเสริมขีดความสามารถให้กับกองก�ำลังของเหล่าทัพ
อื่น ๆ ในการปฏิบัติการรวมได้ การปฏิบัติตามกิจส� ำคัญยิ่งของกองทัพบกยังจะช่วยเสริมการ
ป้องปรามฝ่ายตรงข้าม และหากการป้องปรามล้มเหลว ฝ่ายเราจะสามารถเอาชนะได้อย่างรวดเร็ว
น�ำสถานการณ์กลับคืนไปสู่ความมีเสถียรภาพที่ยั่งยืนหลังความขัดแย้ง ท�ำให้ผู้บัญชาการก�ำลังรบ
ร่วมมีทางเลือกในการปฏิบัติการเต็มรูปแบบ
๑-๗ ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ทหาร คือ กรอบในการใช้พลัง
อ�ำนาจทางทหารของชาติ กองทัพจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับกองทัพของประเทศอื่น ๆ ในขณะที่
ต้องด�ำรงความพร้อมรบสูงสุดเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การมีปฏิสัมพันธ์กับ
กองทัพอืน่ และการด�ำรงความพร้อมรบ คือปัจจัยส�ำคัญในการสร้างสภาวะแวดล้อมทีเ่ กือ้ กูลต่อการ
ส่งเสริมสันติภาพ การปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ก่อนที่ความขัดแย้งหรือภัยคุกคามจะเกิดขึ้น
การจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานชายแดนในระดับต่าง ๆ กับประเทศเพื่อนบ้าน จะช่วยให้
กองทัพของไทยกับเพื่อนบ้านสามารถร่วมกันแก้ไขปัญหาได้ตั้งแต่ในระดับท้องถิ่นจนถึงระดับผู้น�ำ
กองทัพ การวางก�ำลังอยู่ทั่วประเทศรวมถึงขีดความสามารถในการเคลื่อนย้ายที่รวดเร็วจะเป็น
หลักประกันในการแก้ปัญหาหากเกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้น
๑-๘ ความสัมพันธ์ระหว่างผูน้ ำ� กองทัพ การทูตฝ่ายทหาร การตัง้ คณะกรรมการชายแดน
ตลอดจนการฝึกร่วมและผสมกับมิตรประเทศ มีส่วนช่วยในการสร้างเสริมเสถียรภาพทั้งในระดับ
ทวิภาคีและพหุภาคี ช่วยลดความขัดแย้งและความหวาดระแวงที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี
๑-๙ ความสัมพันธ์ระหว่างผูน้ ำ� กองทัพ การทูตฝ่ายทหาร การตัง้ คณะกรรมการชายแดน
ตลอดจนการฝึกร่วมและผสมกับมิตรประเทศ อาจเรียกว่าการด�ำเนินการทางทหารในยามปกติ
เป็นการปฏิบัติที่ด�ำเนินการทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศเพื่อสร้างสภาวะที่เกื้อกูลต่อผล
ประโยชน์ของชาติ การด�ำเนินการดังกล่าวจะท�ำให้มติ รภาพของกองทัพไทยกับกองทัพของประเทศ
เพื่อนบ้านและพันธมิตรมีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ช่วยให้ลดความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน มีความ
ร่วมมือกัน ป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้งหรือมีกลไกทีส่ ามารถแก้ไขก่อนทีค่ วามขัดแย้งจะบานปลาย
ยิ่งขึ้น
๑-๑๐ การด�ำเนินการทางทหารยามปกติควรมีการวางแผนและปฏิบัติเช่นเดียวกับการ
ปฏิบตั กิ ารทางทหารอืน่ ๆ หน่วยปฏิบตั กิ ารพิเศษของกองทัพบกควรมีการด�ำเนินการในเรือ่ งนีเ้ ป็น
พิเศษ
๑-๑๑ กองก�ำลังรบร่วมจะถูกจัดตัง้ ขึน้ เพือ่ รับมือกับภัยคุกคามทีอ่ าจเกิดขึน้ ไม่วา่ จะเป็น
ภัยคุกคามในรูปแบบใด ความพร้อมรับมือในระดับยุทธศาสตร์ของกองก�ำลังกองทัพบกจะท�ำให้
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 5
หรือพันธุวิศวกรรม หากรัฐหรือกลุ่มที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อไทยครอบครองเทคโนโลยีดังกล่าวได้
ย่อมส่งผลต่อดุลยภาพด้านความมั่นคงของประเทศและภูมิภาคด้วย
๑-๒๗ กลุ่มที่มิใช่รัฐที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของไทยอาจใช้วิธีการอสมมาตร
เพือ่ ต่อสูก้ บั พลังอ�ำนาจของกองทัพ อาจมีการใช้อาวุธทัง้ ตามแบบและไม่ตามแบบเพือ่ ขยายอิทธิพล
และผลประโยชน์ของตนเพื่อสร้างความหวาดกลัวต่อประชาชน และเรียกร้องการสนับสนุนจาก
ภายนอก
๑-๒๘ ฝ่ายตรงข้ามแสวงหาโอกาสในการสร้างเงื่อนไขเพื่อประโยชน์ของตนเอง โดยจะ
พยายามเปลี่ยนแปลงลักษณะเงื่อนไขทางธรรมชาติของความขัดแย้งหรือพยายามใช้ขีดความ
สามารถซึง่ พวกเขาเชือ่ ว่าก่อให้เกิดความยุง่ ยากต่อกองก�ำลังของฝ่ายเราในการตอบโต้ ฝ่ายตรงข้าม
จะใช้สภาพภูมิประเทศที่สลับซับซ้อน สภาพแวดล้อมในสิ่งปลูกสร้าง เช่น ในเมือง และวิธีการกระ
จายก�ำลังขนาดเล็ก ๆ ออกไป ในลักษณะที่คล้าย ๆ กับการปฏิบัติการของเวียดนามเหนือ, อิรัก
และชาวเซิร์บน�ำมาใช้ เพื่อชดเชยความเสียเปรียบต่อฝ่ายเรา วิธีการที่น�ำมาใช้นี้ท�ำให้ฝ่ายเรายาก
ต่อการก�ำหนดเป้าหมายมากยิ่งขึ้น และอาจจะท�ำให้การใช้อาวุธที่มีความแม่นย�ำ และอ�ำนาจการ
ท�ำลายร้ายแรงของฝ่ายเราสูญเปล่าจากการโจมตีต่อเป้าหมายที่ไม่มีความส�ำคัญ โดยปกติฝ่ายตรง
ข้ามจะหาหนทางปฏิบัติในการต่อต้านฝ่ายเราในลักษณะต่าง ๆ ตามแนวความคิดเหล่านี้
- ด�ำเนินการปฏิบัติการเริ่มต้นด้วยการใช้ก� ำลัง และก่อให้เกิดการบาดเจ็บ
สูญเสียโดยไม่คาดคิด และเกินกว่าเกณฑ์ที่จะยอมรับได้
- ใช้ความพยายามในการควบคุมจังหวะการรบ สร้างเงือ่ นไขในการเอาชนะกอง
ก�ำลังฝ่ายเราที่ใช้เข้าปฏิบัติการ
- แปลงการปฏิบตั ไิ ปสูก่ รอบของการปฏิบตั เิ ชิงรับซึง่ หลีกเลีย่ งการรบขัน้ แตกหัก
สงวนรักษาขีดความสามารถไว้และสร้างความขัดแย้งให้ยืดเยื้อออกไป ถ้ามี
การใช้ก�ำลังของฝ่ายเราจะใช้ยุทธวิธีก่อการร้ายต่าง ๆ นานา และโจมตีใน
ลักษณะอื่น ๆ เพื่อท�ำลายการสนับสนุนจากทางสาธารณชน, จากพันธมิตร
หรือชาติสมาชิกที่ให้ความร่วมมือและเจตจ�ำนงในการสู้รบ
- ใช้เครื่องมือที่มีความทันสมัยในการด�ำเนินงานทางด้านการข่าวกรอง การ
เฝ้าตรวจและการลาดตระเวนที่ทันสมัย ตลอดจนการใช้อาวุธท�ำลายล้างสูง
ในการด�ำเนินการซุ่มโจมตีอย่างสลับซับซ้อน ท�ำลายระบบปฏิบัติการที่เป็น
หัวใจส�ำคัญ หรือท�ำให้เกิดการบาดเจ็บและสูญเสียจ�ำนวนมากทั้งภายในและ
ภายนอกยุทธบริเวณ
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 9
- ใช้ภูมิประเทศและสภาพพื้นที่ในสิ่งปลูกสร้างให้เป็นประโยชน์ในการกระจาย
หน่วยทหารราบยานเกราะและหน่วยยานเกราะ การรวมก�ำลังและกระจาย
ก�ำลังของฝ่ายตรงข้ามจะเป็นไปตามแต่โอกาสจะอ�ำนวย การด�ำเนินกลยุทธ์
ของฝ่ายตรงข้าม จะกระท�ำในห้วงเวลาที่ขีดความสามารถทางเทคโนโลยี
ถูกลดลง ฝ่ายตรงข้ามใช้ขีดความสามารถในการพรางที่ได้รับการปรับปรุงให้
ทันสมัย และการลวงต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
- รวมกลุ่มพันธมิตรของตนเพื่อต่อต้านการปฏิบัติการต่อฝ่ายเรา
- เสาะแสวงหาหรือพัฒนาปรับปรุงระบบเทคโนโลยีของตนให้มีความทันสมัย
เพื่อให้เกิดผลทางด้านการจู่โจมและจ�ำกัดห้วงเวลาในการปฏิบัติการที่เกิดขึ้น
ในพื้นที่เฉพาะฝ่ายตรงข้ามจะพยายามแสวงหาโอกาสในทุกหนทางเพื่อก่อให้
เกิดความได้เปรียบเหนือกองก�ำลังฝ่ายเราในทุกโอกาส เมื่อมีการตอบโต้
พวกเขาจะปรับตัวเพื่อเปลี่ยนสถานการณ์และสร้างเงื่อนไขตลอดจนแสวงหา
ทางเลือกที่เป็นไปได้ทั้งมวลในการหลีกเลี่ยงการถูกท�ำลายหรือถูกเอาชนะ
ในสภาพแวดล้อมและภัยคุกคามที่มีอยู่อย่างกว้างขวางนี้เป็นความท้าทาย
อย่างเฉพาะเจาะจงในปัจจุบัน กองก�ำลังทางบกต้องเอาชนะฝ่ายตรงข้าม
พร้อม ๆ ไปกับการป้องกันโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับการรบตาม
ความต้องการในการใช้งาน
มิติทางด้านการเมือง
๑-๒๙ ยุทธศาสตร์ความมัน่ คงแห่งชาติ (ยมช.) เป็นตัวก�ำหนดว่าประเทศไทยจะเผชิญกับ
ความท้าทายในสภาพแวดล้อมของโลกที่มีความไม่แน่นอน สลับซับซ้อน และเปลี่ยนแปลงอยู่
ตลอดเวลาได้อย่างไร ยมช.จะก�ำหนดแนวทางอย่างกว้าง ๆ ว่าจะใช้พลังอ�ำนาจของชาติเพื่อให้
บรรลุวัตถุประสงค์ของชาติได้อย่างไรส�ำหรับรายละเอียดในการก�ำหนดยุทธศาสตร์เป็นสิ่งที่อยู่
นอกเหนือขอบเขตของคู่มือเล่มนี้ อย่างไรก็ตาม ยุทธศาสตร์ทหารแห่งชาติที่ได้มาจากนโยบาย
ความมัน่ คงแห่งชาติ คือพืน้ ฐานส�ำหรับการใช้กำ� ลังทหารในสงครามและในการปฏิบตั กิ ารทางทหาร
อื่น ๆ ที่นอกเหนือจากสงคราม
๑-๓๐ ยมช.ระบุวา่ พลังอ�ำนาจทางทหารเป็นกิง่ หนึง่ ของพลังอ�ำนาจแห่งชาติ ผูน้ ำ� ทางการ
เมืองต้องมีความรู้ความสามารถในการใช้พลังอ�ำนาจทางทหารร่วมกับพลังอ�ำนาจอื่น ๆ อย่าง
ประสานสอด คล้องเพื่อให้ได้มาและรักษาซึ่งผลประโยชน์ของชาติ การปฏิบัติการทางทหารจึง
สะท้อนความหมายได้สองนัย นัยหนึ่งคือ ได้รับอิทธิพลจากแนวทางทางการเมืองของคณะรัฐบาล
และการใช้พลังอ�ำนาจด้านอื่น ๆ อีกนัยหนึ่งคือ มีอิทธิพลต่อแนวทางทางการเมืองของรัฐบาลและ
10 บทที่ ๑
จะลดเจตจ�ำนงและประสิทธิภาพการรบของข้าศึกและป้องกันมิให้ข้าศึกได้รับ
ข่าวสารส�ำคัญของฝ่ายเรา การปฏิบัติการข่าวสารเชิงรับจะช่วยป้องกันข่าวสารและระบบควบคุม
บังคับบัญชาของฝ่ายเรา ดังนั้นการครองความเหนือกว่าด้านข่าวสารแต่เนิ่น ๆ จะมีอิทธิพลต่อ
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 13
เพราะเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถซื้อหาได้ตามท้องตลาดทั่วไป ฝ่ายเราจึงต้องติดตามข่าวสาร
เพื่อให้เท่าทันเทคโนโลยี และสามารถรับมือหากฝ่ายตรงข้ามน�ำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาใช้
๑-๔๑ อย่างไรก็ตามฝ่ายที่ชนะในการปฏิบัติการทางพื้นดินไม่จ�ำเป็นต้องเป็นฝ่ายที่มี
เทคโนโลยีที่เหนือกว่าเสมอไป ฝ่ายที่ชนะคือฝ่ายที่ใช้อ�ำนาจก�ำลังรบอย่างชาญฉลาดต่างหากที่มัก
เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ ทหารที่มีความเชี่ยวชาญในหน้าที่ และผู้น�ำหน่วยที่มีประสิทธิภาพคือ
ปัจจัยตัดสินผลแพ้ชนะ ไม่ว่าจะเป็นการรบปะทะ การรบ หรือการทัพ ดังนั้นสิ่งส� ำคัญในการ
ปฏิบัติการทุกรูปแบบคือ ทหาร และผู้น�ำหน่วยจะต้องตระหนักรู้ถึงความส�ำคัญของเทคโนโลยี
ทันสมัย และสามารถในการผสมผสานคุณประโยชน์ของเทคโนโลยีทนั สมัยให้เข้ากับขีดความสามารถ
ของก�ำลังพล และผู้บังคับบัญชา
หลักนิยมและกองทัพบก
๑-๔๒ หลักนิยมเป็นสิ่งบ่งบอกถึงบทบาทของกองก�ำลังกองทัพบกที่มีต่อการปฏิบัติการ
รวมทัง้ ในการทัพ การยุทธ์ขนาดใหญ่ การรบ และการรบปะทะ หลักนิยมของกองทัพบกอธิบายถึง
แนวทางและบทบาทของกองก�ำลังกองทัพบกต่อการปฏิบตั กิ ารทุกรูปแบบภาคพืน้ ดิน เป็นหลักการ
ที่เสริมและสอดคล้องกับหลักนิยมร่วม หลักนิยมของกองทัพบกเป็นหลักการที่ผ่านการพิสูจน์
และกลั่นกรองมาแล้วว่าเชื่อถือได้ แต่มิได้บ่งบอกถึงวิธีการปฏิบัติอย่างละเอียด อย่างไรก็ตามหาก
มีจุดใดที่มีข้อขัดแย้งกันระหว่างหลักนิยมกองทัพบก และหลักนิยมร่วมให้ยึดถือปฏิบัติตามที่ระบุ
ในหลักนิยมร่วม
๑-๔๓ หลักนิยมครอบคลุมการปฏิบัติทุกแง่มุมของกองทัพบก ช่วยให้ก�ำลังพลเกิด
ความเข้าใจตรง กันไม่ว่าจะปฏิบัติงานอยู่ ณ ที่ใด และเป็นพื้นฐานในหลักสูตรการศึกษาของ
กองทัพบกทุกระดับ หลักนิยมกองทัพบกเป็นหลักการทีผ่ า่ นการพิสจู น์ มุง่ เน้นการใช้ประโยชน์จาก
เทคโนโลยี สอดรับกับภัยคุกคามและภารกิจในอนาคตมีรายละเอียดทีเ่ พียงพอส�ำหรับเป็นแนวทาง
ในการปฏิบตั แิ ต่กม็ คี วามยืดหยุน่ ส�ำหรับให้ผบู้ งั คับหน่วยทัง้ ในระดับยุทธวิธแี ละระดับยุทธการได้ใช้
ความริเริม่ อย่างเหมาะสมต่อสถานการณ์ อย่างไรก็ตามสิง่ ทีส่ ำ� คัญอย่างยิง่ ยวด คือ หลักนิยมจะเป็น
ประโยชน์และใช้ได้ผลก็ต่อเมื่อผู้บังคับหน่วยทุกเหล่า ทุกส่วน ทุกระดับชั้นต้องท� ำการกวดขัน
ด�ำเนินการให้ก�ำลังพลทุกนายได้ศึกษาจนเข้าใจอย่างถี่ถ้วน กระจ่างชัด และตรงกัน
๑-๔๔ รส. ๓-๐ เป็นคู่มือหลักของกองทัพบกที่กำ� หนดหลักการในการปฏิบัติการเอาไว้
โดยอธิบายถึงบทบาทของกองทัพบกว่าการปฏิบัติการทางยุทธวิธีและยุทธการนั้นเชื่อมโยงต่อ
เป้าหมายทางยุทธศาสตร์อย่างไร รวมถึงการปฏิบัติของกองก�ำลังกองทัพบกในการปฏิบัติการรวม
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 15
การปฏิบัติการรวม
การปฏิบัติการ
สนับสนุนร่วม
การปฏิบัติการ การปฏิบัติการ
ร่วมกับองค์กรของรัฐบาล การปฏิบัติการ ผสมนานาชาติ
ยุทธ์ร่วม
การปฏิบัติการ การปฏิบัติการ
ร่วมกับองค์กรที่ไม่ใช่ภาครัฐ ของสหประชาชาติ
ระดับของสงคราม
๒-๓ ระดับของสงครามเป็นมุมมองในเชิงหลักนิยมที่ท�ำให้เห็นการเชื่อมโยงระหว่าง
จุดมุ่งหมายทางยุทธศาสตร์กับการปฏิบัติทางยุทธวิธี ระดับของสงครามแบ่งออกเป็น ยุทธศาสตร์
ยุทธการ และยุทธวิธีแต่ระหว่างระดับไม่มีเส้นแบ่งที่ชัดเจน ความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของ
แต่ละระดับจะช่วยให้ ผบ.หน่วยมองเห็นภาพการปฏิบัติการได้ชัดเจน สามารถจัดสรรทรัพยากร
และแบ่งมอบกิจให้กับหน่วยต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น การจะบอกว่าการปฏิบัติใดเป็นการปฏิบัติระดับ
ยุทธศาสตร์ ยุทธการ หรือยุทธวิธี มิได้จ�ำกัดอยู่ที่ระดับหรือขนาดหน่วย แบบของยุทโธปกรณ์หรือ
ประเภทของกองก�ำลัง แต่อยู่ที่ผลของการปฏิบัติว่ามีส่วนช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ในแต่ละระดับ
อย่างไร (ดูรูป ๒-๒)
ระดับยุทธศาสตร์
๒-๔ ระดับยุทธศาสตร์เป็นระดับทีป่ ระเทศหรือกลุม่ ประเทศเป็นผูก้ ำ� หนดวัตถุประสงค์
และแนวทางด้านความมั่นคง และพัฒนาและใช้ทรัพยากรของชาติเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์
เหล่านั้น ยุทธศาสตร์ คือ ศาสตร์และศิลป์ในการพัฒนาและใช้กองทัพ และพลังอ�ำนาจของชาติ
อื่น ๆ ในลักษณะที่ประสานสอดคล้องเพื่อให้บรรลุซึ่งวัตถุประสงค์ของชาติหรือของกลุ่มประเทศที่
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 23
๑
การทัพ คือ การปฏิบตั กิ ารทางทหารหลาย ๆ การปฏิบตั กิ ารทีม่ งุ่ ไปสูก่ ารบรรลุความมุง่ หมายทางยุทธศาสตร์และยุทธการ
ภายในเวลาและพื้นที่ที่ก�ำหนด
๒
การยุทธ์ขนาดใหญ่ คือ การปฏิบัติทางยุทธวิธีหลาย ๆ การปฏิบัติ (การรบ การรบปะทะ การโจมตี ฯลฯ) ที่ปฏิบัติโดย
หน่วยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเป็นจากเหล่าทัพเดียวหรือจากหลายเหล่าทัพ มีการประสานกันทั้งในด้านสถานที่และเวลาเพื่อให้
บรรลุวัตถุประสงค์ในระดับยุทธการหรือบางครั้งอาจเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในระดับยุทธศาสตร์
24 บทที่ ๒
ที่จะสร้างสภาวะที่เกื้อกูลต่อการสนับสนุนหน่วยรอง ในขณะเดียวกันต้องคาดการณ์ถึงผลลัพธ์
จากการรบและการรบปะทะ๑ ที่ด�ำเนินอยู่แล้วเตรียมการขยายผลเพื่อให้เกิดความได้เปรียบทาง
ยุทธศาสตร์สูงสุด
๒-๘ ผบ.หน่วยในระดับยุทธการจะต้องด�ำรงการติดต่อกับผู้บังคับบัญชาในระดับ
ยุทธศาสตร์ของตนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทราบถึงแนวนโยบายและเพื่อความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่
ตรงกัน ความมั่นใจที่มีต่อกันในบรรดา ผบ.หน่วยและฝ่ายเสนาธิการจะช่วยให้เกิดความอ่อนตัว
ในการปรับเปลี่ยนสถานการณ์ทางยุทธวิธีที่เกิดขึ้น เนื่องจากผลการปฏิบัติทางยุทธวิธีมีอิทธิพล
ต่อการทัพ ผบ.หน่วยในระดับยุทธการจะต้องสร้างสภาวะที่เกื้อกูลต่อการรบและการรบปะทะ
ต้องสามารถขยายผลจากชัยชนะทางยุทธวิธีเพื่อให้เกิดความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ หรือ
ผ่อนหนักเป็นเบาในกรณีที่เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล�้ำทางยุทธวิธี
๒-๙ ยุทธศิลป์จะแปลงไปเป็นแผนยุทธการได้ด้วยการออกแบบระดับยุทธการ แผนที่
วางไว้ดีและน�ำไปปฏิบัติอย่างได้ผลจะสร้างสภาวะที่เกื้อกูลต่อการปฏิบัติระดับยุทธวิธีด้วยการ
สร้างความได้เปรียบให้แก่ฝ่ายเราและท� ำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียเปรียบ แผนที่อ่อนตัวจะช่วยให้
ผบ.หน่วยมีเสรีที่จะฉวยโอกาสหรือตอบโต้อย่างมีหรือขีดความสามารถของข้าศึกที่คาดไม่ถึง
การปฏิบัติที่อ่อนตัวช่วยให้หน่วยสามารถด�ำรงความริเริ่มและใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ทาง
ยุทธวิธีให้เกิดความได้เปรียบสูงสุด
๒-๑๐ หากปราศจากความส�ำเร็จในระดับยุทธวิธี การทัพก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย
ในระดับยุทธการได้ ปัจจัยส�ำคัญของยุทธศิลป์คือความสามารถในการรับรู้ว่าอะไรที่เป็นไปได้ใน
ระดับยุทธวิธีแล้วออกแบบแผนที่ท�ำให้การรบและการรบปะทะมีโอกาสที่จะประสบความส�ำเร็จ
สูงสุดในการสร้างผลลัพธ์ระดับยุทธการที่ต้องการ หากไม่มีการออกแบบการปฏิบัติระดับยุทธการ
ที่เหมาะสม เพื่อเชื่อมโยงเข้ากับความส�ำเร็จในระดับยุทธวิธีแล้ว การรบและการรบปะทะก็คือการ
ใช้ทรัพยากรที่สูญเปล่าที่ไม่สามารถน�ำไปสู่การบรรลุเป้าหมายระดับยุทธการได้ การเข้าใจอย่าง
ถ่องแท้ถึงความเป็นไปได้ว่าจะท�ำอย่างไรให้ประสบความส�ำเร็จในระดับยุทธวิธี และความสามารถ
ในการสร้างสภาวะทีจ่ ะท�ำให้เกิดความส�ำเร็จดังกล่าวจึงเป็นคุณสมบัตสิ ำ� คัญของ ผบ.หน่วยในระดับ
ยุทธการ ผบ.หน่วยระดับยุทธวิธีเองก็ต้องเข้าใจบริบทของระดับยุทธการซึ่งครอบคลุมการรบและ
การรบปะทะเช่นกัน ความเข้าใจดังกล่าวจะช่วยให้สามารถฉวยโอกาส (ทั้งที่คาดการณ์และมิได้
คาดการณ์) ที่มีผลต่อการบรรลุเป้าหมายระดับยุทธการหรือการเอาชนะความริเริ่มของข้าศึกได้
ผบ.หน่วยระดับยุทธการต้องมีทั้งความรู้และประสบการณ์ทั้งในระดับยุทธวิธีและระดับยุทธการ
๑
ดูค�ำอธิบาย ข้อ ๒-๑๒
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 25
การปฏิบัติการรวม
๒-๑๕ ในการปฏิบตั กิ ารรวม กกล.ทบ.ประสานสอดคล้องการปฏิบตั ขิ องตนกับการปฏิบตั ิ
ของหน่วยและผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อให้เกิดเอกภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ที่ผู้บังคับบัญชาต้องการ
ขีดความสามารถของเหล่าทัพ, หน่วยงานอื่น ๆ, รวมถึงก�ำลังของชาติอื่น จะช่วยเสริมจุดแข็ง
ชดเชยข้อจ�ำกัด และท�ำให้เกิดความลึกทัง้ ในระดับยุทธการและยุทธวิธใี ห้กบั กองก�ำลังกองทัพบกได้
การปฏิบัติการร่วม
๒-๑๖ การปฏิบัติการร่วมคือการปฏิบัติการที่มีกองก�ำลังจากสองเหล่าทัพขึ้นไปเข้าร่วม
ภายใต้ผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบเพียงคนเดียว การปฏิบัติการทางบกและการปฏิบัติการร่วม
เป็นการปฏิบัติที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยธรรมชาติแล้วการปฏิบัติการทางบกมักเป็นการ
ปฏิบัติการร่วม การปฏิบัติการร่วมจะท�ำให้ผู้บัญชาการก�ำลังรบร่วมโจมตีข้าศึกได้ตลอดทั่วทั้ง
ความลึกของพื้นที่ปฏิบัติการ ชิงความริเริ่ม ด�ำรงแรงหนุนเนื่อง และขยายผลจากความส�ำเร็จได้
การปฏิบตั กิ ารร่วมทีม่ ปี ระสิทธิภาพไม่จำ� เป็นว่าหน่วยทุกระดับจะต้องจัดแบบกองก�ำลังร่วม แต่จะ
ต้องเข้าใจถึงการปฏิบตั ทิ มี่ กี ารผนึกก�ำลังในทุกระดับ การผนึกก�ำลังทุกระดับมีความหมายมากกว่า
การผสมเหล่าแบบที่คุ้นเคยกัน แต่เป็นการน� ำเอาจุดแข็งและคุณลักษณะของกองก�ำลังแต่ละ
เหล่าทัพเพื่อส่งเสริมจุดแข็งและชดเชยจุดอ่อนซึ่งกันและกัน และจะท�ำให้เกิดอ�ำนาจก�ำลังรบที่
ทรงพลัง
๒-๑๗ ผู้บัญชาการกองก�ำลังรบร่วมเป็นผู้ก�ำหนดความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยต่าง ๆ ใต้
บังคับบัญชา ความสัมพันธ์ดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงไปตามขั้นของการทัพหรือการยุทธขนาดใหญ่
หรือเมื่อมีการก�ำหนดพันธกิจขึ้นใหม่ในระหว่างขั้นต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ก�ำลังทางเรือของกองก�ำลัง
รบร่วมมักจะเป็นหน่วยที่ได้รับการสนับสนุนเมื่อปฏิบัติการควบคุมทะเล กองก� ำลังทางอากาศ
ของกองก�ำลังรบร่วมมักเป็นหน่วยรับการสนับสนุนเมื่อปฏิบัติการต่อต้านทางอากาศ กองก�ำลัง
ทางบกอาจเป็นหน่วยสนับสนุนในขัน้ ใดขัน้ หนึง่ ของการทัพและเป็นหน่วยรับการสนับสนุนในขัน้ อืน่
เหล่าทัพอื่น
๒-๑๘ การปฏิบตั กิ ารในอนาคตจ�ำต้องใช้คณ
ุ ลักษณะและขีดความสามารถของเหล่าทัพ
ต่าง ๆ เพื่อสร้างอ�ำนาจก�ำลังรบที่มีประสิทธิภาพโดยการเสริมจุดแข็งและชดเชยจุดอ่อนซึ่งกัน
และกัน สงครามสมัยใหม่ทำ� ให้ไม่มีเหล่าทัพใดสามารถท�ำการรบได้โดยล�ำพัง การปฏิบัติการร่วม
ภายใต้ผู้บัญชาการกองก�ำลังรบร่วม
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 27
กองทัพอากาศ
๒-๑๙ อากาศยานของกองทัพอากาศเป็นยุทโธปกรณ์ที่มีความส�ำคัญยิ่งต่อการสร้าง
สภาวะที่เกื้อกูลต่อความส�ำเร็จทั้งก่อนและระหว่างการปฏิบัติการภาคพื้นดิน ขีดความสามารถ
ในการล�ำเลียงทางอากาศสามารถสนับสนุนการเคลื่อนย้ายกองก�ำลังทางบกได้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในช่วงขั้นต้นของการปฏิบัติการ การสนับสนุนด้วยอาวุธทางอากาศก็เป็นปัจจัยส�ำคัญที่น�ำมา
สู่ชัยชนะขั้นแตกหักในการปฏิบัติการทางพื้นดิน นอกจากนี้ก�ำลังทางอากาศยังมีขีดความสามารถ
อื่น ๆ ที่สนับสนุนการปฏิบัติการของกองก�ำลังทางบก เช่น พันธกิจที่เกี่ยวข้องกับข่าวสาร การ
ข่าวกรอง เฝ้าตรวจ และการลาดตระเวน
๒-๒๐ กองก�ำลังทางบกยังสามารถให้การสนับสนุนต่อผู้บัญชาการกองก�ำลังทางอากาศ
ได้ในเรื่องการใช้อากาศยานทหารบก การป้องกันภัยทางอากาศ ข่าวกรองทางทหาร และปืนใหญ่
สนาม ซึ่งการสนับสนุนดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการต่อต้านทางอากาศ การขัดขวาง, การ
ลาดตระเวน และการเฝ้าตรวจ ประสิทธิภาพในการขัดขวางทางอากาศและการสนับสนุนทางอากาศ
โดยใกล้ชดิ ขึน้ อยูก่ บั การบูรณาการการด�ำเนินกลยุทธ์ภาคพืน้ ดินเข้ากับแนวความคิดในการปฏิบตั ิ
ของกองก�ำลังรบร่วม ผู้บัญชาการกองก�ำลังทางบกต้องเข้าใจว่าการเอาชนะขีดความสามารถทาง
อากาศของข้าศึกมีความส�ำคัญอย่างยิ่งต่อความมีเสรีในการปฏิบัติการของตน
กองทัพเรือ และนาวิกโยธิน
๒-๒๑ กองทัพเรือและนาวิกโยธินปฏิบัติการในทะเลและพื้นที่ชายฝั่งทะเล พันธกิจหลัก
ของกองทัพเรือคือ การควบคุมทะเล และการแสดงแสนยานุภาพทางทะเล การควบคุมทะเล
หมายถึงเสรีในการใช้พนื้ ทีท่ างทะเลทีร่ วมถึงห้วงอากาศและใต้ผวิ น�ำ้ ในขอบเขตทีต่ อ้ งการ การปฏิบตั ิ
พันธกิจของกองทัพเรือช่วยให้ ทบ.สามารถเคลื่อนย้ายก�ำลังทางทะเลไปยังจุดที่ต้องการรวมถึง
การสนับสนุนในด้านอื่น ๆ เช่นการส่งก�ำลังบ�ำรุง การยิงสนับสนุน และการป้องกันภัยทางอากาศ
เป็นต้น
๒-๒๒ การแสดงแสนยานุภาพทางทะเลเป็นเสมือนการปฏิบัติการเชิงรุกระดับหนึ่ง
กองทัพเรือจะต้องก�ำหนดและป้องกันเส้นการคมนาคมทางทะเลทีส่ ำ� คัญต่อการปฏิบตั กิ ารของกอง
ก�ำลังรบร่วม หากจ�ำเป็นอาจต้องสนับสนุนการเคลื่อนย้ายทางทะเลให้กับ กกล.ทบ.ด้วย
28 บทที่ ๒
การบังคับบัญชา
๒-๒๗ คณะผู้บัญชาการทางทหาร เมื่อได้รับการจัดตั้ง จะใช้อ� ำนาจในการควบคุม
กองทัพสองด้านคือ ด้านการใช้ก�ำลังและด้านการเตรียมก�ำลัง ด้านการใช้ก�ำลังจะใช้อ�ำนาจ
จากกองบัญชาการแห่งชาติ ไปยังผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรวมลงไปถึงกองก�ำลังเหล่าทัพ
และกองก�ำลังทีเ่ ป็นหน่วยรอง สายการบังคับบัญชานีใ้ ช้ในการปฏิบตั กิ ารและการสนับสนุน ส�ำหรับ
การเตรียมก�ำลังจะผ่านจากคณะผูบ้ ญั ชาการทางทหาร ไปยังเหล่าทัพผ่านลงไปจนถึงหน่วยหลัก ๆ
การควบคุมทางธุรการและการบริหารกระท�ำโดยผู้บัญชาการของเหล่าทัพและกองก�ำลังเหล่าทัพ
ซึ่งความรับผิดชอบจะครอบคลุมไปถึงการรับบุคคลเข้าประจ�ำการ การบรรจุ การจัดให้มีอาวุธ
ยุทโธปกรณ์ การฝึกและการจัดก�ำลังให้กบั ผูบ้ ญ
ั ชาการหน่วยบัญชาการรวม แม้จะมีสายงานต่างกัน
หน่วยบริการจาก ทบ. (หน่วยปกติของ ทบ.) และ กกล.ทบ. ต่างก็ปฏิบตั งิ านภายใต้การบังคับบัญชา
ของผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรวม
ความสัมพันธ์ทางการบังคับบัญชา
๒-๒๘ ในระดับยุทธบริเวณ เมื่อกกล.ทบ.ปฏิบัติการนอกประเทศจะถูกบรรจุมอบ
ให้กับผู้บัญชาการกองก�ำลังรบร่วม ผู้บัญชาการกองก�ำลังรบร่วมอาจเป็นผู้บัญชาการหน่วย
บัญชาการรวม, ผบ.หน่วยบัญชาการรวมรอง หรือ ผบ.กองก�ำลังเฉพาะกิจร่วมที่ได้รับอ�ำนาจ
ให้ใช้การบังคับบัญชาแบบการบังคับบัญชาก�ำลังรบ หรือการควบคุมทางยุทธการ ต่อ ผบ.กอง
ก�ำลังรบร่วมจะให้แนวทางทางยุทธศาสตร์และประเด็นส�ำคัญทางยุทธการต่อกองก�ำลังเพื่อน�ำไป
พัฒนายุทธศาสตร์ วางแผนการทัพในยุทธบริเวณ จัดยุทธบริเวณ และก�ำหนดความสัมพันธ์ทางการ
บังคับบัญชา ผบ.กองก�ำลังรบร่วม วางแผน ปฏิบัติ และสนับสนุนการทัพในยุทธบริเวณสงคราม
การทัพยุทธบริเวณรอง การยุทธ์ขนาดใหญ่ และการรบ ความสัมพันธ์ทางการบังคับบัญชาร่วม
มีอยู่ ๔ แบบ คือ cocom, การควบคุมทางยุทธการในการควบคุมทางยุทธวิธี และสนับสนุน
(ดูรูป ๒-๓)
30 บทที่ ๒
หน่วยปกติของ ทบ.
๒-๓๔ ผบ. หน่วยปกติของ ทบ. คือ ผบ. หน่วยสูงสุดของ ทบ. ในพื้นที่รับผิดชอบของ
ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรวม ผบ.หน่วยดังกล่าวใช้อ�ำนาจบังคับบัญชาหน่วยของตนแบบการ
ควบคุมแบบบริหารซึง่ มีพนั ธกิจในการเตรียมก�ำลัง รักษาสถานภาพก�ำลัง ฝึก บรรจุอาวุธยุทโธปกรณ์
บริหารงานและสนับสนุนต่อ กกล.ทบ.ที่ขึ้นกับกองก�ำลังร่วมของหน่วยบัญชาการรวม ผู้บัญชาการ
หน่วยบัญชาการรวม การฝึกในยามปกติของกองก�ำลังกองทัพบกก็อยู่ในความรับผิดชอบของ
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 33
๒-๓๗ ผูบ้ ญ
ั ชาการ กกล.ทบ. อาจท�ำหน้าทีเ่ ป็นผูบ้ ญ ั ชาการกองก�ำลังภาคพืน้ ดิน (JFLCC)
อีกต�ำแหน่งหนึง่ ปกติถา้ ด�ำรงต�ำแหน่งในลักษณะนีผ้ บู้ ญ
ั ชาการ กกล.ทบ. จะมอบพันธกิจทีเ่ กีย่ วข้อง
กับเหล่าทัพบกให้กับรองผู้บัญชาการ อย่างไรก็ตามถ้าผู้บัญชาการ กกล.ทบ. เป็นผู้บัญชาการ
กองก�ำลังเฉพาะกิจร่วม กองบัญชาการหน่วยของ ทบ.รองลงมาจะเข้ารับผิดชอบหน้าที่ของ
กกล.ทบ. ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรวมอาจได้รับกองบัญชาการ กกล.ทบ.เพิ่มในกรณีนี้
๒-๓๘ กองบัญชาการ กกล.ทบ. อาจได้รบั หน่วยบัญชาการสนับสนุนยุทธบริเวณมาสมทบ
เพื่อท�ำหน้าที่ส่งก�ำลังบ�ำรุงในระดับยุทธการ
การปฏิบัติการหลายชาติ (การปฏิบัติการผสม)
๒-๓๙ การปฏิบตั กิ ารทางทหาร แม้บางครัง้ อาจปฏิบตั กิ ารได้โดยล�ำพัง แต่กแ็ สวงหาทาง
บรรลุผลประโยชน์ของชาติผ่านทางพันธมิตร และพันธมิตรชั่วคราวเท่าที่จะท� ำได้ กรณีตัวอย่าง
ของกองทัพสหรัฐฯ ในยุทธการโล่ทะเลทราย (Desert Shield) และพายุทะเลทราย (Desert Storm)
ก�ำลังทหารจากชาติต่าง ๆ ๓๖ ชาติ รวมกว่า ๘๐๐,๐๐๐ นาย ทุ่มเทแรงกายแรงใจและทรัพยากร
เพื่อต่อต้านกองทัพอิรัก การจัดตั้งพันธมิตรชั่วคราวท�ำให้ฝายเรามีก�ำลังเพิ่มขึ้น แบ่งเบาภาระใน
การท�ำสงคราม และเพิ่มความชอบธรรมแก่การปฏิบัติการให้บรรลุเป้าหมายระดับยุทธศาสตร์
ยุทธการโล่ทะเลทราย และพายุทะเลทรายแสดงให้เห็นถึงข้อดีของการปฏิบัติการหลายชาติที่
เหนือกว่าการปฏิบัติการเพียงชาติเดียว
๒-๔๐ การปฏิบัติการผสมด�ำเนินการภายใต้กรอบของพันธมิตร และพันธมิตรชั่วคราว
พันธมิตรทางทหาร เช่นองค์การสนธิสญ ั ญาปัองกันแอตแลนติคเหนือ หรือ นาโต ช่วยให้ชาติสมาชิก
มีเวลาในการก�ำหนดข้อตกลงและวัตถุประสงค์ระยะยาวร่วมกัน มีระบบปฏิบตั กิ ารทีส่ ามารถท�ำงาน
ร่วมกันได้ มีระเบียบปฏิบัติที่เป็นแนวทางเดียวกัน สามารถก�ำหนดแผนเผชิญเหตุเพื่อรับมือกับ
ภัยคุกคามในลักษณะที่เป็นการบูรณาการได้
๒-๔๑ ประเทศต่าง ๆ อาจจัดตัง้ พันธมิตรชัว่ คราวขึน้ เพือ่ วัตถุประสงค์ระยะสัน้ บ่อยครัง้
ที่การปฏิบัติการของพันธมิตรชั่วคราวด�ำเนินไปภายใต้กรอบของมติสหประชาชาติ การปฏิบัติการ
แบบพันธมิตรชั่วคราว ชาติสมาชิกตกลงที่จะส่งก�ำลังทหารเข้าร่วมแม้ว่าจะมีทรัพยากรที่ต่าง
ระบบกัน การปฏิบัติการในลักษณะพันธมิตรชั่วคราวมีข้อดีตรงที่ท�ำให้การปฏิบัติการนั้น ๆ มี
ความชอบธรรมมากขึ้น
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 35
การควบคุมบังคับบัญชาส�ำหรับการปฏิบัติการหลายชาติ (ผสม)
๒-๔๕ เอกภาพในการบังคับบัญชาเกิดขึ้นได้ยากในการปฏิบัติการหลายชาติ (ผสม)
อ�ำนาจในการบังคับบัญชาของผู้บัญชาการกองก�ำลังหลายชาติ เกิดขึ้นจากการตกลงระหว่าง
ชาติสมาชิก ซึ่งชาติแต่ละสมาชิกต่างก็มีข้อจ�ำกัดที่คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์
อาจจ�ำเป็นต้องให้กกล.ทบ.ขึ้นการควบคุมทางยุทธการต่อผู้บัญชาการกองก�ำลังชาติอื่น
๒-๔๖ เพือ่ เป็นการชดเชยจุดอ่อนในเรือ่ งเอกภาพในการบังคับบัญชา ผูบ้ ญ
ั ชาการจึงควร
ให้ความส�ำคัญกับเอกภาพในการปฏิบัติ ปัจจัยส�ำคัญในเรื่องนี้คือการสร้างฉันทามติ นโยบายทาง
การเมืองและการทหารของชาติสมาชิกอาจท�ำให้เกิดข้อจ�ำกัดในด้านการจัด องค์กรทีจ่ ดั ตัง้ มานาน
เช่นนาโตได้สนธิโครงสร้างการบังคับบัญชาที่แต่งตั้งนายทหารจากชาติที่ส่งก�ำลังเข้าร่วมเป็น
ผบ.หน่วย แต่จะอยู่ในระดับใดขึ้นอยู่กับก�ำลังและการสนับสนุนของชาตินั้น ๆ เจ้าหน้าที่ในระดับ
ต่าง ๆ ก็มีการสนธิ การบังคับบัญชาในการปฏิบัติการที่ชาติสมาชิกเป็นพันธมิตรชั่วคราวมีความ
ยุ่งยากมากกว่า เนื่องจากไม่มีโครงสร้างการจัดที่แน่นอน ซึ่งปกติจะค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไปตาม
สถานการณ์ โครงสร้างการบังคับบัญชาของการปฏิบัติการผสมมักจะมีอยู่ ๓ แบบ ด้วยกัน ได้แก่
การบังคับบัญชาแบบคู่ขนาน การบังคับบัญชาแบบโดยชาติหลัก และการบังคับบัญชาแบบผสม
๒-๔๗ การบังคับบัญชาแบบคู่ขนาน คือ การที่ชาติสมาชิกยังคงอ�ำนาจการบังคับบัญชา
ก�ำลังของตนไว้ การบังคับบัญชาแบบนี้เป็นการบังคับบัญชาที่ง่ายต่อการก�ำหนดและอาจเป็นวิธีที่
สอดรับกับความรู้สึกที่อ่อนไหวของชาติสมาชิกมากที่สุด อย่างไรก็ตามการบังคับบัญชาวิธีนี้อาจ
ท�ำให้เอกภาพในการปฏิบัติมีน้อยและควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด การตัดสินใจจะต้องท�ำผ่านการ
ประสานงานกับผู้น�ำระดับสูงทั้งทางการเมืองและการทหารของชาติสมาชิก ผู้นำ� ชาติที่เข้าร่วม
จึงต้องจัดตั้งสื่อกลางส�ำหรับการประสานงานขึ้น
๒-๔๘ การบังคับบัญชาโดยชาติหลัก เป็นการบังคับบัญชาที่ผู้บัญชาการกองก�ำลังผสม
มาจากชาติ ส มาชิ ก ที่ ส ่ ง ก� ำ ลั ง รบและทรั พ ยากรเข้ า ร่ ว มมากที่ สุ ด ชาติ ห ลั ก อาจใช้ โ ครงการ
การบังคับบัญชา และควบคุมของตนมาใช้และใช้ก�ำลังของชาติอื่นเป็นหน่วยรอง ผบ.หน่วยต่าง ๆ
อาจใช้ฝ่ายอ�ำนวยการจากชาติอื่นด้วยเพื่อประโยชน์ในการประสาน โดยปกติการบังคับบัญชาโดย
ชาติหลักจะมีลกั ษณะทีใ่ ช้ฝา่ ยอ�ำนวยการจากชาติหลักนัน้ ๆ เป็นหลักจ�ำนวนหนึง่ การบังคับบัญชา
แบบชาติหลักและการบังคับบัญชาแบบคู่ขนานอาจใช้ไปพร้อม ๆ กันภายในกองก�ำลังผสมแต่วิธีนี้
จะใช้เมือ่ ส่วนควบคุมของกองก�ำลังนานาชาติมาจากชาติสองชาติหรือมากกว่า ดังเช่นกรณีตวั อย่าง
ทีเ่ คยใช้ในกลุม่ พันธมิตรชัว่ คราวในสงครามอ่าว ก�ำลังของประเทศตะวันตกจะอยูภ่ ายใต้การน�ำของ
สหรัฐฯ ขณะที่ก�ำลังของชาติอิสลามอยู่ภายใต้การน�ำของซาอุดีอาระเบีย
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 37
๒-๖๑ ขีดความสามารถขององค์กรเอกชนจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรของฝ่ายทหารทีจ่ ะ
น�ำไปใช้ในงานกิจการพลเรือนได้มาก องค์กรเอกชนมักจะมีประสบการณ์ มีเครือข่ายและความ
สัมพันธ์กับคนในพื้นที่ งานที่องค์กรเหล่านี้มีหลายด้านเช่น การศึกษา การบรรเทาทุกข์ การดูแล
ผูอ้ พยพ และการพัฒนา เป็นต้น ส่วนใหญ่องค์กรเอกชนมักจะอยูใ่ นพืน้ ทีห่ รือเข้าถึงพืน้ ทีก่ อ่ นทหาร
ปฏิบัติงานท่ามกลางความเสี่ยง และยังคงอยู่ในพื้นที่ต่อไปหลังฝ่ายทหารถอนก�ำลัง การวางแผน
การปฏิบตั กิ ารทางทหารจึงต้องพิจารณาถึงบทบาทขององค์กรเหล่านีด้ ว้ ย เมือ่ มีการปฏิบตั กิ ารรวม
ผู้บัญชาการจะต้องพิจารณาถึงกิจกรรมขององค์กรเอกชนไปด้วย นอกเหนือจากเรื่องการรักษา
ความปลอดภัย ทรัพยากร และความต้องการในการสนับสนุน
ข้อพิจารณาส�ำหรับการปฏิบัติการรวม
๒-๖๒ หลักนิยมการปฏิบัติการร่วมระบุถึงการใช้ กกล.ทบ.ในการปฏิบัติการรวม การ
ปฏิบัติการแต่ละครั้งมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกันโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์และมุมมองของฝ่าย
ต่าง ๆ ที่เข้าร่วม การปฏิบัติการรวมมีข้อพิจารณาทั้งด้านการทหาร การเมือง และวัฒนธรรม
(ดูรูป ๒-๕) แต่ข้อพิจารณาดังกล่าวมิได้มีเพียงเท่านี้ เพียงแต่แสดงไว้เพื่อให้เห็นความส�ำคัญของ
ปัจจัยต่าง ๆ ที่จะท�ำให้การใช้ กกล.ทบ.ในการปฏิบัติการรวม
ข้อพิจารณาด้านการทหาร
๒-๖๓ ผูบ้ ญั ชาการจะพิจารณาถึงปัจจัยด้านการทหารในการปฏิบตั กิ ารรวมเช่นเดียวกับ
การปฏิบัติ การร่วม อย่างไรก็ตาม ชาติที่เข้าร่วมในการปฏิบัติการหลายชาติและองค์กรอื่น ๆ อาจ
ท�ำให้ปัจจัยที่จะต้องพิจารณามีความซับซ้อนมากขึ้น ปัจจัยต่อไปนี้เป็นปัจจัยที่ ผบ.หน่วยและ
ฝ่ายเสนาธิการควรพิจารณาเพิ่มเติมในการปฏิบัติการรวม
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 41
กระบวนการก�ำหนดเป้าหมายร่วม
๒-๖๔ ผูบ้ ญั ชาการกองก�ำลังร่วม เป็นผูก้ ำ� หนดว่ากองก�ำลังทางบกจะร่วมในกระบวนการ
ก�ำหนดเป้าหมายร่วมอย่างไร อาจมีการมอบอ�ำนาจในการก�ำกับดูแลให้กับ ผบ.หน่วยรองหรืออาจ
จัดตั้งคณะกรรมการเป้าหมายร่วมหรือคณะกรรมการเป้าหมายผสม ขึ้นก็ได้ คณะกรรมการ
เป้าหมายอาจท� ำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการบูรณาการหรือเป็นเพียงกลไกในการตรวจสอบ
นอกจากนีย้ งั จะต้องท�ำหน้าทีใ่ นการก�ำหนดแนวทางในการเป้าหมาย, ปรับปรุงรายการเป้าหมายร่วม
และศึกษาข่าวสารเป้าหมายจากแง่มุมด้านการทัพ คณะกรรมการเป้าหมายมิได้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง
กับการเลือกเป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่งเป็นการเฉพาะ
การประสานการยิงสนับสนุน
๒-๖๕ ผู้บัญชาการกองก�ำลังร่วมและผู้บัญชาการกองก�ำลังผสมปกติจะก�ำหนดพื้นที่
ปฏิบัติการให้ กับหน่วยรองของตน ภายในพื้นที่ปฏิบัติการดังกล่าวกองก�ำลังทางบกและกองก�ำลัง
ทางเรือมักเป็นกองก�ำลังที่รับการสนับสนุนและท�ำหน้าที่ในการประสานสอดคล้องการด�ำเนิน
กลยุทธ์, การยิง, และการขัดขวาง ผู้บัญชาการกองก�ำลังทางบกและกองก�ำลังทางเรือจะก�ำหนด
ล�ำดับความส�ำคัญของเป้าหมาย, ผลที่ต้องการ, และเวลาในการยิง อย่างไรก็ตามภารกิจทั้งหลาย
จะต้องมีส่วนช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกองก�ำลังร่วม
๒-๖๖ การประสานสอดคล้องการปฏิบัติการทั้งทางบก และทางเรือในพื้นที่ปฏิบัติการ
กับการปฏิบัติการร่วมเป็นเรื่องที่มีความส�ำคัญเป็นพิเศษ ผู้บัญชาการกองก�ำลังร่วมจะก�ำหนด
ความเร่งด่วนในการปฏิบัติการทั่วทั้งพื้นที่ปฏิบัติการร่วมเพื่ออ�ำนวยความสะดวกในการประสาน
สอดคล้อง รวมถึงพื้นที่ปฏิบัติการของแต่ละกองก�ำลังด้วย ผู้บัญชาการหน่วยที่ได้รับมอบพันธกิจที่
ต้องท�ำทัว่ ทัง้ ยุทธบริเวณจากผูบ้ ญ
ั ชาการกองก�ำลังร่วมจะประสานกับผูบ้ ญ ั ชาการกองก�ำลังทางบก
และกองก�ำลังทางเรือเมือ่ การปฏิบตั ขิ องตนเกิดขึน้ ภายในพืน้ ทีป่ ฏิบตั กิ ารของผูบ้ ญ
ั ชาการกองก�ำลัง
ทางบกหรือกองก�ำลังทางเรือนั้น ซึ่งอาจรวมถึงการโจมตีเป้าหมายด้วย
๒-๖๗ ผูบ้ ญ
ั ชาการ กกล.ทบ. จะต้องเข้าใจศักยภาพของการประสานสอดคล้องการด�ำเนิน
กลยุทธ์กับการขัดขวาง ต้องมองให้ออกถึงความเชื่อมโยงระหว่างการปฏิบัติการภายในพื้นที่
ปฏิบัติการทางบกกับการปฏิบัติการร่วมที่เกิดขึ้นนอกพื้นที่ปฏิบัติการทางบก จะต้องก� ำหนด
เป้าหมายในการขัดขวางนอกพื้นที่ปฏิบัติการทางบกที่สามารถสร้างสภาวะที่เกื้อกูลต่อการปฏิบัติ
การแตกหั ก ต้ อ งประสานการด�ำ เนิ น กลยุ ท ธ์ แ ละการขั ด ขวางทั้ ง ภายในและภายนอกพื้ น ที่
ปฏิบัติการทางบกที่ท�ำให้ข้าศึกตกอยู่ในสภาพที่เสียเปรียบ ต้องเข้าใจผลกระทบของการใช้
42 บทที่ ๒
ก�ำลังทางอากาศ และเมื่อจ�ำเป็นต้องสามารถใช้ทรัพยากรของตนสนับสนุนการปฏิบัติการขัดขวาง
ร่วมภายนอกพื้นที่ปฏิบัติการทางบกได้
๒-๖๘ การสนธิการยิงร่วมจ�ำต้องมีความเข้าใจและยึดถือมาตรการควบคุมการด�ำเนิน
กลยุทธ์และมาตรการควบคุมการประสานการยิงสนับสนุน (มคยส.) อย่างเคร่งครัด ผู้บัญชาการ
กองก�ำลังร่วมพัฒนามาตรการดังกล่าวตั้งแต่เนิ่นและเน้นย�ำ้ ให้ทุกฝ่ายยึดถืออยู่เสมอเพื่อให้การยิง
ทันเวลาและมีประสิทธิภาพ ผู้บัญชาการกองก�ำลังทางบกและกองก�ำลังสะเทินน�้ำสะเทินบกอาจ
ก�ำหนดแนวประสานการยิงสนับสนุน (นปยส.) ภายในพื้นที่ปฏิบัติการเพื่อให้เกิดความสะดวก
ต่อการปฏิบัติการทั้งในปัจจุบันและในอนาคตและเพื่อให้มีการคุ้มครองหน่วย นปยส. คือ มคยส.
ทีก่ ำ� หนดขึน้ หรือปรับปรุงโดยผูบ้ ญ
ั ชาการกองก�ำลังทางบก และกองก�ำลังสะเทินน�ำ้ สะเทินบกภายใน
พื้นที่ปฏิบัติการของตนโดยมีการปรึกษากับหน่วยเหนือ หน่วยรอง หน่วยสนับสนุน และหน่วยทีอ่ าจ
ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว นปยส.จะอ�ำนวยความสะดวกกับการโจมตีอย่างรวดเร็ว
ต่อเป้าหมายผิวพื้นตามเหตุการณ์ที่อยู่เลยมาตรการควบคุมออกไป นปยส. ใช้กับการยิงทุกชนิด
ทั้งที่มีฐานยิงทั้งบนพื้นดิน และในทะเล การประสานการโจมตีที่เลย นปยส. ออกไปมีความส�ำคัญ
เป็นพิเศษต่อผู้บัญชาการหน่วยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยทางอากาศ หน่วยทางพื้นดิน และ
หน่วยปฏิบัติการพิเศษ
๒-๖๙ การโจมตีเป้าหมายทีอ่ ยูเ่ ลย นปยส. ออกไปจะต้องแจ้งให้หน่วยทีไ่ ด้รบั ผลกระทบ
ก่อนเพือ่ ลดความสูญเสียของฝ่ายเดียวกัน ทัง้ บนพืน้ ดินและในอากาศ ยกเว้นบางสถานการณ์เท่านัน้
ที่การโจมตีดังกล่าวสามารถกระท�ำได้แม้จะไม่สามารถประสานกันได้แต่จะเกิดความเสี่ยงต่อการ
สูญเสียของฝ่ายเดียวกันและสิน้ เปลืองทรัพยากร ในพืน้ ทีท่ อี่ ยูภ่ ายใน นปยส. ผูบ้ ญ
ั ชาการกองก�ำลัง
ทางบกและกองก�ำลังสะเทินน�้ำสะเทินบกเป็นผู้ควบคุมการโจมตีจากอากาศสู่พื้นและพื้นสู่พื้น
ตัวอย่างเช่น การโจมตีทางอากาศภายในเขตทีไ่ ม่เกิน นปยส. ไม่วา่ จะเป็นการสนับสนุนทางอากาศ
โดยใกล้ชิดหรือการขัดขวางทางอากาศจะต้องปฏิบัติตามข้อก�ำหนด เช่น โดยผู้ควบคุมอากาศยาน
หน้าหรือชุดควบคุมทางอากาศยุทธวิธี เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับอนุมัติให้ท�ำการโจมตี การควบคุม
ดังกล่าวกระท�ำผ่านทางฝ่ายยุทธการหรือโดยกรรมวิธีที่ก�ำหนดไว้
๒-๗๐ นปยส. มิใช่เส้นแบ่งเขต หน่วยทีจ่ ดั ตัง้ นปยส.จะต้องประสานสอดคล้องการปฏิบตั ิ
ทัง้ สองด้านของ นปยส. ออกไปจนถึงเขตสิน้ สุดพืน้ ทีป่ ฏิบตั กิ าร การจัดตัง้ นปยส. มิได้หมายความว่า
พื้นที่ที่เลย นปยส.ออกไปเป็น “พื้นที่ยิงเสรี” เมื่อมีการโจมตีเป้าหมายที่อยู่เลย นปยส. ออกไป
การโจมตีนั้นจะต้องไม่ท�ำให้เกิดผลเสียต่อฝ่ายเราทั้งก่อนถึงแนว บนแนว และเลยแนวออกไป
การโจมตีเลยแนวออกไปจะต้องสอดคล้องกับความเร่งด่วน เวลา และผลลัพธ์ ทีผ่ บู้ ญ ั ชาการก�ำหนด
รวมทั้งต้องมีการลดความขัดแย้งกับหน่วยรับการสนับสนุนทุกครั้งที่ท�ำได้
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 43
การป้องกันภัยทางอากาศและขีปนาวุธ
๒-๗๑ ผู้บัญชาการป้องกันภัยทางอากาศประจ�ำพื้นที่ (ผบ.ปภอ.พท.) เป็นผู้ก�ำหนด
กฎการรบปะทะ และมอบภารกิจในการป้องกันภัยทางอากาศให้กบั หน่วย ปภอ. และขีปนาวุธระดับ
ยุทธการ ผบ.กกล.ทบ. เสนอความต้องการผ่านทางผู้บัญชาการกองก�ำลังร่วมไปยังผู้บัญชาการ
กองก�ำลังทางอากาศและ ผบ.ปภอ.พท. เมือ่ ก�ำหนดแผน ปภอ. และขีปนาวุธของตน เมือ่ ผูบ้ ญ ั ชาการ
กองก�ำลังร่วมแบ่งมอบทรัพยากรของ ทบ. ให้กบั กกล.ทางอากาศ ส�ำหรับภารกิจต่อต้านทางอากาศ
ทรัพยากรเหล่านั้นจะท�ำการสนับสนุนโดยตรงให้กับ กกล.ทางอากาศ ปกติกองทัพน้อยจะควบคุม
หน่วย ปภอ. ในอัตราของตน ผูบ้ ญ
ั ชาการกองก�ำลังร่วม อาจแต่งตัง้ ผูบ้ ญ
ั ชาการกองก�ำลังทางอากาศ
ร่วม/ผสมเป็น ผบ.ปภอ.พท. อีกต�ำแหน่งหนึ่งก็ได้
การท�ำงานเป็นทีมและความไว้วางใจ
๒-๗๒ ในการปฏิบัติการรวม ผบ.หน่วยจะต้องพึ่งพาความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ ความรู้
การท�ำงานเป็นทีมของหน่วยต่าง ๆ ที่เข้าร่วมการท�ำงานเป็นทีมและความไว้วางใจสามารถท�ำให้
เกิดขึน้ ได้หลาย ๆ วิธี ประการแรกคือ ทัง้ ตัว ผบ.หน่วยและฝ่ายเสนาธิการจะต้องสร้างความสัมพันธ์
ส่วนตัวกับ ผบ.หน่วยและฝ่ายเสนาธิการของหน่วยอื่น ๆ ที่เข้าร่วม ต้องสร้างบรรยากาศที่แต่ละ
ฝ่ายมีความเคารพซึ่งกันและกัน รู้จักผู้ร่วมงานอื่น ๆ เช่นเดียวกับรู้จักฝ่ายตรงข้าม การท�ำงาน
เป็นทีมก็มีความส�ำคัญ สามารถท�ำให้เกิดขึ้นได้ผ่านการฝึก การซ้อมรบและการมอบภารกิจที่
เหมาะสมกับขีดความ สามารถของหน่วย การสร้างการท�ำงานเป็นทีมและความไว้วางใจเป็นสิ่งที่
ต้องใช้เวลาและความอดทนของแต่ละฝ่าย ถ้าท�ำให้เกิดขึ้นได้จะท�ำให้ทุกฝ่ายเกิดความเชื่อมั่น
และมีเอกภาพในการปฏิบัติ
หลักนิยม, การจัด, และการฝึก
๒-๗๓ หลักนิยมทางทหารของแต่ละชาติมีความแตกต่างกัน บางหลักนิยมเน้นการรุก
บางหลักนิยมเน้นการตั้งรับ เมื่อกองทัพไทยเข้าร่วมปฏิบัติการกับกองก�ำลังชาติอื่น ต้องก�ำหนด
หน่วยให้เหมาะกับภารกิจ ผบ.หน่วยจะต้องเข้าใจความแตกต่างของหลักนิยมและผลกระทบของ
ความแตกต่างนั้น ในการปฏิบัติการร่วมและการปฏิบัติการหลายชาติ ผบ.หน่วยต้องรู้ว่าหลักนิยม
และการจัดมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด การน�ำหน่วยบางหน่วยออกจากโครงสร้างการจัดอาจมี
ผลถึงอ�ำนาจการรบของหน่วยนั้นและท�ำให้หน่วยท�ำการรบในลักษณะที่ไม่สอดคล้องกับหลักนิยม
ดังนัน้ การปรับเปลีย่ นโครงสร้างการจัดของหน่วยต้องท�ำด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิง่ นอกจากนี้
ผบ.หน่วยต้องเข้าใจถึงระดับการฝึกของ กกล.ต่าง ๆ ที่เข้าร่วม ทบ. ของแต่ละชาติมิได้มีทรัพยากร
การฝึกเหมือนกัน หน่วยระดับเดียวกันแต่ต่างประเทศกันจะมีขีดความสามารถไม่เท่ากัน
44 บทที่ ๒
ยุทโธปกรณ์
๒-๗๔ ยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีทตี่ า่ งกันจะมีผลท�ำให้เกิดระบบทีผ่ สมผสานกันในกอง
ก�ำลังร่วมหรือกองก�ำลังหลายชาติ ระดับของความทันสมัย มาตรฐานการซ่อมบ�ำรุง ความคล่องแคล่ว
และระดับการปฏิบตั งิ านร่วมกันได้ของแต่ละชาติจะมีความต่างกัน ผบ.หน่วยของกองก�ำลังร่วมและ
กองก�ำลังหลายชาติอาจต้องชดเชยในด้านความแตกต่างดังกล่าว เครื่องมือสื่อสารที่ติดต่อกันไม่ได้
ความต้องการการช่วยรบทีต่ า่ งกัน ความสามารถในการเคลือ่ นทีใ่ นภูมปิ ระเทศของยานพาหนะ ล้วน
เป็นอุปสรรคส�ำคัญ กองก�ำลังของบางชาติอาจใช้ระบบอาวุธเช่นเดียวกันกับฝ่ายศัตรูซึ่งท�ำให้
มาตรการป้องกันการยิงจากฝ่ายเดียวกันมีความส�ำคัญมากขึ้น อย่างไรก็ตามขีดความสามารถของ
บางชาติอาจชดเชยจุดอ่อนของบางชาติได้ ผบ.หน่วย เมือ่ จะวางก�ำลังหรือมอบภารกิจให้หน่วยต้อง
แสวงประโยชน์ในเรื่องดังกล่าว
ข้อพิจารณาทางการเมือง
๒-๗๕ ข้อพิจารณาทางการเมืองเป็นสิง่ ส�ำคัญในการปฏิบตั กิ ารรวม เอกภาพในการปฏิบตั ิ
ในสภาพแวดล้อมของการปฏิบัติการหลายชาติและการปฏิบัติระหว่างองค์กรจะต้องให้ความสนใจ
ในเรือ่ งนีต้ ลอดเวลา ผบ.หน่วยต้องรูถ้ งึ เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของผูม้ สี ว่ นร่วม ต้องเข้าใจว่าการ
ควบคุมของแต่ละรัฐบาลต่อกองก�ำลังของตนอาจมีผลกระทบต่อความส�ำเร็จของภารกิจ แต่ก็
ต้องพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความเห็นพ้องกันในบรรดาผู้น�ำแต่ละระดับรวมไปถึงผู้น�ำ
ทางการเมืองของชาติที่เข้าร่วมด้วย
เป้าหมายและวัตถุประสงค์
๒-๗๖ รัฐต่าง ๆ กระท�ำการใด ๆ ก็เพื่อผลประโยชน์ของตน การปฏิบัติการทางทหาร
ของชาติใด ๆ ก็ลว้ นมีเหตุผลของชาตินนั้ ๆ เป้าหมายของชาติตา่ ง ๆ อาจท�ำให้สอดคล้องกันได้ดว้ ย
การก�ำหนดยุทธศาสตร์ร่วม แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่เหมือนกัน ชาติต่าง ๆ อาจมีแรงจูงใจไม่
เหมือนกันแต่วตั ถุประสงค์ในภาพรวมสามารถก�ำหนดขึน้ ได้และท�ำให้บรรลุได้และได้รบั การยอมรับ
จากชาติสมาชิก การรวมกลุม่ เป็นพันธมิตรและพันธมิตรชัว่ คราวจะประสบความส�ำเร็จได้ขนึ้ อยูก่ บั
การมีวัตถุประสงค์ร่วมกัน การย�้ำจุดร่วมสามารถลดความขัดแย้งและด�ำรงความเป็นปึกแผ่นไว้ได้
การควบคุมกองก�ำลังของแต่ละชาติ
๒-๗๗ กองก�ำลังและหน่วยงานส่วนใหญ่มีขีดความสามารถในการสื่อสารโดยตรงจาก
พื้นที่ปฏิบัติ การไปยังผู้น�ำรัฐบาลของตน ขีดความสามารถดังกล่าวเกื้อกูลต่อการประสานงาน
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 45
ขั้นการวางแผน หากเป็นการปฏิบัติการนอกประเทศจะต้องมีข้อตกลงเกี่ยวกับสถานภาพของ
ทหารไทยกับประเทศเจ้าบ้านเสียก่อน หรือถ้าเป็นการปฏิบัติการภายใต้กรอบสหประชาชาติก็จะ
ต้องมีข้อตกลงที่เรียกว่า “สถานภาพข้อตกลงของภารกิจ” เมื่อจะต้องปฏิบัติงานที่อาจคาบเกี่ยว
กับการรักษากฎหมาย ผบ.หน่วยจะต้องมีระบบและระเบียบปฏิบัติไว้ ถ้าในพื้นที่ไม่มีหน่วยงาน
บังคับใช้กฎหมายอยู่ ผบ.หน่วยอาจใช้กำ� ลังทหารหรือใช้ขดี ความสามารถของสมาชิกอืน่ ปฏิบตั กิ าร
บังคับใช้กฎหมายเป็นการชั่วคราวก็ได้
บทที่ ๓
การตอบโต้ทางยุทธศาสตร์
๑
การแสดงก�ำลังรบ (Power Projection) ความสามารถในการแสดงองค์ประกอบพลังอ�ำนาจแห่งชาติด้านการทหาร
จากภาคพื้นทวีปสหรัฐอเมริกา หรือภาคพื้นอื่น เพื่อตอบสนองความต้องการส�ำหรับการปฏิบัติการทางทหาร ปฏิบัติการ
แสดงก�ำลังรบเริ่มจากการระดมสรรพก�ำลัง การเคลื่อน ย้ายและการถอนก�ำลัง ณ ภาคพื้นทวีปสหรัฐอเมริกาหรือมาตุภูมิ
สหรัฐอเมริกา
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 49
ตามความต้องการที่จะสร้างขีดความสามารถในการบรรลุจุดมุ่งหมายของหน่วยสนับสนุนทางการ
ช่วยรบ ในขณะเดียวกัน ทบ. จะต้องลงทุนกับระบบใหม่ ซึ่งช่วยลดความต้องการสนับสนุน
และการปรับปรุงคุณลักษณะทีเ่ กีย่ วกับการขนส่ง และการด�ำรงสถานภาพก�ำลังทหาร ยุทโธปกรณ์
และวัสดุอุปกรณ์ในตัวเองอย่างเป็นวงรอบ
๓-๕ การมุ่งต่อ การตอบโต้ทางยุทธศาสตร์ คือ ความส�ำเร็จทางการยุทธ์ การวางก�ำลัง
และการขยายก�ำลัง ทบ. อย่างรวดเร็วท�ำให้ผู้บัญชาการกองก�ำลังยุทธ์ร่วม มีเครื่องมือในการน�ำ
ก�ำลังทางภาคพื้นดิน เข้าสู่ยุทธบริเวณที่มีความขัดแย้งในลักษณะเฉพาะทางการยุทธ์ ด้วยการให้
ค�ำแนะน�ำเพียงเล็กน้อย การตอบโต้ในลักษณะนี้ท�ำให้ผู้บัญชาการกองก�ำลังยุทธ์ร่วมมีขีดความ
สามารถในการชิงลงมือกระท�ำการก่อนในการป้องปรามฝ่ายตรงข้าม, จัดรูปแบบสถานการณ์ให้
เอื้ออ�ำนวย, และท�ำการสู้รบจนมีชัยชนะได้หากการป้องปรามนั้นล้มเหลว กกล.ทบ. ที่สามารถ
ตอบโต้ได้ท�ำให้เกิดทางเลือกขึ้นมาอย่างทันท่วงทีในการครอบครองและได้รับความริเริ่มทางการ
ยุทธ์กลับคืนมาใหม่ กกล.ทบ.ท�ำการเสริม และเพิ่มเติมก�ำลังให้กับเหล่าทัพอื่น ๆ ด้วยหน่วย
ก�ำลังรบ หน่วยสนับสนุนการรบ และหน่วยสนับสนุนทางการช่วยรบซึ่งสามารถปรับตัวด�ำเนินการ
เข้าสัประยุทธ์ และใช้ก�ำลังเพื่อสร้างผลกระทบอย่างแตกหักได้
คุณสมบัติของ กกล.ทบ.ตอบโต้ทางยุทธศาสตร์
๓-๖ คุณสมบัติ ๗ ประการ
ของกองก� ำ ลั ง ตอบโต้ ท างยุ ท ธศาสตร์ คุณสมบัติของกองก�ำลังตอบโต้ทางยุทธศาสตร์
ขั บ เคลื่ อ นความต้ อ งการทั้ ง ทางด้ า น - ตอบโต้อย่างฉับพลัน (Responsive)
- ความสามารถในการวางก�ำลัง (Deployable)
โครงสร้างกองทัพใหม่ และทางการยุทธ์
- ว่องไว (Agile)
ทบ. ออกแบบก�ำลังรบใหม่ตามลักษณะ - ความสามารถรอบตัว (Versatile)
ดังกล่าว โครงสร้างการจัดยุทโธปกรณ์ - การท�ำลายล้าง (Lethal)
และการฝึก รวมถึง หลักนิยมในการน�ำ - ความสามารถในการอยูร่ อดในสนามรบ (Survivable)
ก�ำลังเข้าท�ำการรบ ฐานส่งการแสดงพลัง - ความสามารถในการด�ำรงความต่อเนือ่ ง (Sustainable)
อ�ำนาจ ซึ่งจะต้องประกอบไปด้วย ระบบ
การบังคับบัญชาและการควบคุม ระบบการข่าวกรอง ระบบการเฝ้าตรวจและระบบการลาดตระเวน
หาข่าว ตลอดจนระบบการขนส่งร่วมที่เป็นตัวก�ำหนดคุณสมบัติพื้นฐานของกองก�ำลังตอบโต้ทาง
ยุทธศาสตร์
๓-๗ ปฏิบัติการแต่ละปฏิบัติการมีลักษณะแตกต่างกัน กล่าวคืออาจจะไม่มีล�ำดับ
ขัน้ ตอนในทางอุดมคติทมี่ เี พียงหนึง่ เดียวเท่านัน้ ทีท่ �ำให้คณ
ุ สมบัตทิ งั้ ๗ ประการนีไ้ ด้ผลอย่างสมบูรณ์
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 51
ออกแบบความพร้อมทางภารกิจอย่างระมัดระวังเพื่อให้สอดคล้องกับคุณลักษณะความพร้อมตาม
ที่ต้องการ
ความสามารถในการวางก�ำลัง
๓-๑๑ ความสามารถในการวางก�ำลังเป็นการผสมผสาน การฝึก สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
ก�ำลังทหาร และยุทโธปกรณ์ในการเข้าวางก�ำลังด้วยความรวดเร็วและมีพลัง โดยมีหน่วยสนับสนุน
ในพืน้ ทีร่ องรับให้ ผูบ้ งั คับบัญชาควรมีมมุ มองด้านการวางก�ำลังทีม่ ากกว่าการน�ำคน และยุทโธปกรณ์
ขึน้ รถ เรือ และเครือ่ งบิน ผูบ้ งั คับบัญชาควรมองการณ์ไกลถึงกระบวนการทัง้ หมด โดยวาดมโนภาพ
ที่มีการเริ่มต้นด้วยการเข้าวางก�ำลังหน่วยในทางยุทธการอย่างสมบูรณ์แบบในยุทธบริเวณ และ
วางแผนการย้อนหลังต่อทีต่ งั้ การวางก�ำลังล่วงหน้าของหน่วย ผูบ้ งั คับบัญชาจะรวบรวมรายละเอียด
ในการวางก�ำลังไว้ในระเบียบปฏิบัติประจ�ำของหน่วย โดยที่แผนการต่าง ๆ มุ่งประเด็นไม่เพียงแต่
ล�ำดับขั้นของการปฏิบัติเท่านั้น แต่ยังมองถึงกลุ่มก้อนของก� ำลังรบในแต่ละภาพเหตุการณ์ที่
แตกต่างกันอีกด้วย การซักซ้อมการวางก�ำลังเกิดขึ้นบ่อยครั้งเท่าใดก็ได้ตามแต่เวลาจะอ�ำนวยให้
ผู้บังคับบัญชา และผู้น�ำหน่วยรอง จะท�ำการลาดตระเวนพื้นที่การวางก�ำลังล่วงหน้า เพื่อส�ำรวจ
สิ่งอ�ำนวยความสะดวกในการวางก�ำลัง และเส้นทาง ตลอดจนทบทวนการเผชิญเหตุการณ์ต่าง ๆ
โดยเน้นที่ความริเริ่ม และความรับผิดชอบของผู้น� ำหน่วยระดับรองลงไปซึ่งถือเป็นสิ่งจ� ำเป็น
ในระหว่างการวางก�ำลัง หน่วยงานด้านข่าวกรองทั้งหมด สนับสนุนการวางก�ำลังให้เป็นไปด้วย
ความง่ายด้วยความพร้อม และความสามารถในการรวบรวมข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับ
ข้าศึกหรือฝ่ายตรงข้าม การด�ำเนินกรรมวิธีสิ่งเหล่านั้นเข้าไปในการข่าวกรอง และการกระจาย
ข่าวกรองนั้นให้เป็นข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้อง
ว่องไว
๓-๑๒ ความว่องไว เป็นหลักการในการปฏิบตั กิ ารของ ทบ. เช่นเดียวกับ คุณลักษณะของ
ก�ำลังรบตอบโต้อย่างฉับพลัน การตอบโต้อย่างฉับพลัน คือ การที่ก�ำลังรบส่วนหนึ่งมีความว่องไว
และสามารถด�ำรงสถานภาพก�ำลังรบ มีความคล่องแคล่วเพียงพอต่อการบรรลุภารกิจ ข้อจ�ำกัดเกีย่ ว
กับการขนย้ายทีม่ อี ยูก่ ดดันให้ผบู้ งั คับบัญชาต้องสร้างสมดุลความต้องการทางภารกิจซึง่ เป็นเหมือน
การแข่งขันกันกับบางกรณีของเงื่อนไขบางประการอันเป็นนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาขึ้น ความ
ว่องไวยังเป็นความต้องการซึ่งต้องการให้ผู้บังคับบัญชาคาดการณ์ถึงขอบเขตของงานทั้งหมด
รวมถึงขีดความสามารถในการทีบ่ รรลุสงิ่ เหล่านัน้ ท้ายทีส่ ดุ ก�ำลังรบทีม่ คี วามว่องไว คือความสามารถ
ทัง้ ทางร่างกาย และจิตใจในการทีจ่ ะแปรเปลีย่ นแบบของการปฏิบตั กิ ารทัง้ ภายใน และระหว่างแบบ
การปฏิบัติการโดยปราศจากการสูญเสียความหนุนเนื่อง ผู้บังคับบัญชาพัฒนาสภาพจิตใจจาก
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 53
ความสามารถในการอยู่รอด
๓-๑๕ ความอยูร่ อดในสนามรบ เป็นการผนวกเอาเทคโนโลยี และวิธกี ารซึง่ สามารถท�ำให้
เกิดการพิทักษ์ก�ำลังรบได้อย่างสูงสุด ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนความสามารถในการอยู่รอดในสนามรบ
ก�ำลังรบที่มีอ�ำนาจการท�ำลายล้างสูงสามารถโจมตีข้าศึกได้ก่อนที่ข้าศึกจะโจมตี และตอบโต้ต่อ
ข้าศึกได้ในกรณีจ�ำเป็น
องค์ประกอบของอ�ำนาจก�ำลังรบ
- การด�ำเนินกลยุทธ์
- การยิง
- ความเป็นผู้น�ำ
- การพิทักษ์หน่วย
- ข้อมูลข่าวสาร
ทางด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบด้วยการรับการสนับสนุนจากหน่วยในพื้นที่หรือหน่วยงาน
อื่น ๆ รวมถึงการว่าจ้างผู้ประกอบการในพื้นที่
ข้อพิจารณาของการตอบโต้อย่างฉับพลันในทางยุทธศาสตร์
๓-๑๘ การประยุกต์ศิลปะของการตอบโต้อย่างฉับพลันในทางยุทธศาสตร์นั้น จะต้องมี
ความเข้าใจในหลักการ ข้อพิจารณาในเรื่องของการตอบโต้อย่างฉับพลันในทางยุทธศาสตร์
ข้อพิจารณาเหล่านี้ เป็นส่วนขยายและเสริมให้คุณสมบัติของ กกล.ทบ. ตอบโต้ทางยุทธศาสตร์มี
ความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
การคาดการณ์ล่วงหน้า
๓-๑๙ ผู้บังคับบัญชาคาดการณ์การปฏิบัติการในอนาคต พร้อมทั้งท�ำการฝึกหน่วยเพื่อ
เตรียมพร้อม และเพื่อเตรียมการเข้าวางก�ำลังตลอดจนการเตรียมหน่วยเพื่อรองรับกับความ
เปลี่ยนแปลงของภารกิจใด ๆ ก็ตามที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ถ้าหน่วยได้รับการก�ำหนดภารกิจ
ยามปกติในการป้องกันประเทศ และรักษาความมั่นคงในพื้นที่ที่ก�ำหนดในฐานะกองก�ำลังป้องกัน
พืน้ ที่ หรือภารกิจมุง่ เน้นเรือ่ งดังกล่าว การเตรียมการทางด้านจิตใจและร่างกายตลอดจนการวางแผน
เรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้ล่วงหน้าอย่างยาวนานก่อนที่จะมีการเตรียมพร้อม และการเข้าวางก�ำลัง
ระบบข่าวกรองช่วยให้ผบู้ งั คับบัญชาสามารถคาดการณ์การปฏิบตั กิ ารในอนาคตโดยการเตรียมการ
ทางยุทธศาสตร์ผ่านทางตัวชี้วัด และการแจ้งเตือนทางยุทธวิธีตลอดจนการด�ำรงความพร้อมทาง
ด้านการข่าวกรอง การปฏิบัติที่เกี่ยวข้องรวมถึงการฝึกเฉพาะตามภารกิจ และตามลักษณะภูมิภาค
โดยเน้นหนักในเรือ่ งความริเริม่ หรือการปรับตัว การจัดองค์กรด้านการบังคับบัญชา และการควบคุม
ส�ำหรับการปฏิบัติการเข้าสู่สนามรบ การด�ำเนินการฝึกฝ่ายอ�ำนวยการ การออกค�ำสั่งและการจัด
เตรียมแผนที่ การศึกษาโครงสร้างพืน้ ฐานทีม่ อี ยู่ การประสานงานกับองค์กรต่าง ๆ ทีเ่ กีย่ วข้อง และ
การฝึกตามระเบียบปฏิบัติประจ�ำในการวางก�ำลัง การปฏิบัติเหล่านี้อ�ำนวยให้หน่วยต่าง ๆ ท�ำการ
วางก�ำลังรบได้รวดเร็วยิ่งขึ้น หากปราศจากการฝึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้อาจจะท�ำให้การ
วางก�ำลังนั้นช้าลงได้
๓-๒๐ การตกลงใจเกี่ยวกับ ขนาด, การประกอบก�ำลัง, โครงสร้าง และล�ำดับขั้นตอนใน
การวางก�ำลัง สร้างเงือ่ นไขให้กบั ความส�ำเร็จในยุทธบริเวณ ในทางอุดมคติ ผูบ้ งั คับบัญชาก�ำหนดการ
ตัดสินใจทีเ่ ป็นไปอย่างมีศกั ยภาพก่อนทีจ่ ะถึงเหตุการณ์จริง การวางแผนไว้กอ่ นล่วงหน้าพัฒนาทาง
เลือกให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทเี่ ป็นไปได้ การฝึกอย่างสม�่ำเสมอจะช่วยกลัน่ กรองแนวความคิด
และกระบวนการ อย่างไรก็ตามธรรมชาติของการปฏิบัติการสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างเฉพาะ
เจาะจงก่อนการปฏิบัติ ผู้บังคับบัญชาต้องประกันได้ว่าแผนการ และการตกลงใจของพวกเขา
56 บทที่ ๓
การประกันถึงขีดความสามารถที่สอดคล้องกับการผสมผสาน และการจัดล�ำดับอย่างเหมาะสม
ในแต่ละล�ำดับชั้น การปรับก�ำลังรบตามภารกิจ รวมถึงการแบ่งสรรก�ำลัง, การเพิ่มเติมก�ำลัง, และ
การกลั่นกรองแก้ไขก�ำลัง (force allocation, force augmentation, force refinement)
- การปรับฝ่ายเสนาธิการตามภารกิจ ผู้บังคับบัญชาปรับหน่วยและฝ่าย
เสนาธิการต่าง ๆ ทัง้ ในเรือ่ งของขนาดและการจัดองค์กร เพือ่ ให้สอดคล้องกับ
สภาวการณ์ตามภารกิจ ฝ่ายเสนาธิการในยามปกติแบบมาตรฐานนัน้ อาจจะมี
ความยุ่งยากมากในสภาวการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเฉพาะเจาะจงทั้งใน
เรื่องขนาดและการจัด เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์นั้น ตัวอย่างเช่น ฝ่าย
เสนาธิการและกองบัญชาการกองพลยานเกราะที่ ๑ ประสบปัญหาความยุ่ง
ยากในการเปลี่ยนแปลงสภาพทางด้านบทบาทการแสดงตนในการเข้าด�ำเนิน
งานเป็นกองบัญชาการหน่วยเฉพาะกิจ (ดูรูปที่ ๓-๓) เพื่อให้ได้มาซึ่งก�ำลังพล
ที่จ�ำเป็นต่อการด�ำเนินงานของฝ่ายเสนาธิการ กองบัญชาการหน่วยเฉพาะกิจ
ระบุความต้องการไปยังกองบัญชาการหน่วยเหนือของตนทันที การร้องขอนี้
คือการเพิ่มเติมก�ำลังพลทั้งที่ด�ำเนินการโดยกองบัญชาการหน่วยเหนือ หรือ
จากการส่งผ่านค�ำขอขึ้นไปตามสายการบังคับบัญชา
- การจัดเฉพาะกิจ การปรับก�ำลังรบตามภารกิจไม่ได้มีความหมายเหมือนกับ
การจัดเฉพาะกิจ (task organizing) ขณะที่การปรับก�ำลังรบเป็นวิธีการที่
ต้องการให้สอดคล้องกับขีดความสามารถของก�ำลังตามที่จ�ำเป็นต่อการบรรลุ
ภารกิจ การจัดเฉพาะกิจเป็นการสร้างองค์กรที่มีความสัมพันธ์ทางการบังคับ
บัญชาอย่างชัดเจนเพื่อบรรลุกิจต่าง ๆ ด้วยตัวเอง
การสนับสนุนทางการช่วยรบ
๓-๓๓ การสร้างอ�ำนาจก�ำลังรบแตกหักต้องการ การสร้างสมดุลระหว่างหน่วยสนับสนุน
ทางการช่วยรบกับหน่วยก�ำลังรบ และหน่วยสนับสนุนการรบ การบรรลุถึงความสมดุลที่ถูกต้อง
เป็นศิลปะของผูบ้ งั คับบัญชาในการพยายามทีจ่ ะขยายอ�ำนาจก�ำลังรบ ขณะทีข่ ดี ความสามารถทาง
ด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบเท่านั้นที่จ�ำเป็นต่อการวางก�ำลังเข้าท�ำการรบ การสนับสนุน
ทางการช่วยรบที่มากเกินไปสร้างความกังวลให้กับ กกล.ทบ.
64 บทที่ ๓
ปัจจัยที่กระทบต่อการปฏิบัติการสนับสนุนทางการช่วยรบ
• ข้าศึกที่คุกคาม
• ขนาดของก�ำลังฝ่ายเรา
• สภาวการณ์ของยุทธบริเวณ
• นโยบายการเคลื่อนย้ายในยุทธบริเวณ
• ความต้องการด้านการ สสช.ของกองก�ำลังที่รับการสนับสนุน
• โครงสร้างพื้นฐานด้าน สสช.
• สิ่งอุปกรณ์ในยุทธบริเวณที่น�ำมาใช้ได้
• การสนับสนุนของชาติเจ้าบ้าน
• สัญญาว่าจ้างการสนับสนุนในยุทธบริเวณ
• การได้มาและข้อตกลงระหว่างเหล่าทัพ
คุณลักษณะของการแสดงก�ำลังรบ
๓-๔๐ วัตถุประสงค์ของการแสดงก�ำลังรบ เป็นการปฏิบตั กิ ารต่าง ๆ ในขัน้ แตกหักทีเ่ ป็น
ไปอย่างรวดเร็วเพื่อจะเอาชนะข้าศึกก่อนที่จะเผชิญหน้ากับ กกล.ทบ. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนั้นยังต้องการให้เห็นถึงการแสดงก� ำลังรบอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลของ
กกล.ทบ. ด้วยการน�ำเอาประสิทธิผลและประสิทธิภาพทั้งมวลของการแสดงก�ำลังรบ ที่แสดง
ให้เห็นคุณลักษณะสีป่ ระการคือ ความแม่นย�ำ, การประสานสอดคล้อง, ความเร็ว, และข้อมูลข่าวสาร
70 บทที่ ๓
การยาตราหน่วยที่มีความพร้อมรบเข้าวางก�ำลังในยุทธบริเวณก่อนข้าศึกจะพร้อมสู้รบ หรือท�ำให้
ข้าศึกไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ในยุทธบริเวณได้จะก่อให้เกิดความได้เปรียบต่อข้าศึกเสมอ
๓-๔๔ ความเร็ว เป็นมากกว่าระยะทางต่อชั่วโมง มันเป็นการบรรลุถึง ความหนุนเนื่อง
ที่ประกอบด้วยส่วนประกอบของทรัพยากรในการขนย้ายร่วมที่สมบูรณ์ ปริมาณการส่งออกไปยัง
พื้นที่อย่างสม�ำ่ เสมอโดยทางบก ทางเรือ และทางอากาศที่ต่อเนื่อง ในภาพของขีดความสามารถ
ทางยุทธการ ความเร็วเป็นอัตราเร็วของกระบวนการทัง้ หมดในการแสดงก�ำลังรบ จากการวางแผน
ไปสู่การเข้าวางก�ำลังรบประชิดกัน ความเร็วขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ซึ่งรวมถึงการขยาย
ตัวอย่างสูงสุดของคุณลักษณะอื่น ๆ ของการแสดงก�ำลังรบ ปัจจัยบางประการได้รับการสร้างขึ้น
ก่อนการเข้าวางก�ำลังรบจะเริม่ ขึน้ การวางแผนทีเ่ ป็นตัวอย่างในปัจจัยต่าง ๆ อย่างเช่นการด�ำรงอยู่
ของเครื่องมือในการวางแผนที่มีประสิทธิภาพ และการด�ำรงอยู่ในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ของหน่วย ซึ่งช่วยให้การปฏิบัติดำ� เนินต่อไปข้างหน้าอย่างราบรื่น การแบ่งสรรทรัพยากรเพื่อการ
พัฒนาการฝึกส่งผลให้เจ้าหน้าทีเ่ คลือ่ นย้ายของหน่วยทีไ่ ด้รบั การฝึก และได้มกี ารเตรียมการส�ำหรับ
ระบบความปลอดภัย และการบรรทุกทีม่ ปี ระสิทธิภาพ การรายงานอย่างถูกต้อง ในเรือ่ งของก�ำหนด
เวลา ขีดความสามารถในการส่งออกซึ่งมาถึงพื้นที่ และการขนขึ้นจากท่าขนส่ง หรือท่าเรือ (POD)
ซึ่งท�ำให้เกิดความแม่นย�ำในการผสมผสาน, การประสานสอดคล้อง, และข้อมูลข่าวสารที่ตรงกับ
ประเด็ น ปั ญ หา ปั จ จั ย เหล่ า นี้ และปั จ จั ย อื่ น ๆ ล้ ว นสนั บ สนุ น ต่ อ เรื่ อ งของความเร็ ว ทั้ ง สิ้ น
ความประสานสอดคล้อง และข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้อง และตรงประเด็น มีผลต่อความเร็วของ
การปฏิบัติการเสมอ
ข้อมูลข่าวสารตรงประเด็นที่เกี่ยวข้อง
๓-๔๕ ความส�ำเร็จในการแสดงก�ำลังรบ ผู้บังคับบัญชาต้องท�ำการผสมผสานความรู้
ในเรื่องของกระบวนการเข้าท�ำการวางก�ำลัง การใช้วิจารณญาณ และข้อมูลข่าวสารตรงประเด็นที่
เกีย่ วข้อง ผูบ้ งั คับบัญชาทีเ่ ข้าวางก�ำลังท�ำการรบมีชว่ งเวลาสัน้ ๆ ในการท�ำการตกลงใจ ซึง่ เป็นการ
ก�ำหนดการด�ำเนินงานในเรื่องของการเข้าวางก�ำลัง และทางเลือกที่เป็นไปได้ในการใช้ก� ำลัง
เข้าท�ำการรบในห้วงเวลานัน้ การตัดสินใจหลายครัง้ เป็นสิง่ ทีเ่ ป็นไปไม่ได้ หรือยากทีจ่ ะเปลีย่ นแปลง
การจัดท�ำทางเลือกทีถ่ กู ต้อง ต้องการข้อมูลข่าวสารทีต่ รงประเด็นปัญหา ตัวอย่างเช่น ข้อมูลข่าวสาร
และความเข้าใจในเรื่องของ ข้อมูลก�ำลังรบและการวางก�ำลังตามขั้นเวลา (ขกวขว.) เป็นเรื่องที่
ไม่อาจหลีกเลี่ยงเมื่อได้มีการก�ำหนดประเด็นความเร่งด่วน ก�ำหนดล�ำดับขั้นตอน ตัดสินใจว่าจะ
ใช้เวลาอย่างไร และการก�ำหนดล�ำดับความเร่งด่วน ข้อมูลข่าวสารที่ตรงประเด็นปัญหาอ�ำนวยให้
72 บทที่ ๓
ข้อมูลก�ำลังรบและการวางก�ำลังตามขั้นเวลา (ขกวขว.)
TPFDD เป็นส่วนหนึ่งของฐานข้อมูล ระบบการวางแผนและการปฏิบัติยุทธ์ร่วมเชิง
บูรณาการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนปฏิบัติการ TPFDD จะมีข้อมูลก�ำลังรบและการ
วางก�ำลังตามขั้นเวลา (ขกวขว.) (time – phased force data) โกดังอุปกรณ์ที่ไม่เกี่ยวข้อง
กับหน่วย (nonunit – related cargo) และข้อมูลก�ำลังพล ตลอดจนข้อมูลการเคลื่อนย้าย
ในแผนการปฏิบัติการ รวมถึงสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
- หน่วยที่เข้าที่ตั้งเรียบร้อยแล้ว (In-place unit)
- หน่วยที่จะได้รับการวางก�ำลัง (unit to be deployed)
- ล�ำดับขั้นตอนที่พึงประสงค์ในการมาถึงพื้นที่ (Desired sequence for arrival)
- เส้นทางการเคลื่อนย้ายของหน่วยที่จะวางก�ำลัง (Routing of forces to be
deployed)
- ข้อมูลการเคลื่อนย้าย (Movement data)
- ประมาณการสิ่งอุปกรณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วย (nonunit – related cargo)
- การเคลื่อนย้ายบุคลากรที่จะเคลื่อนย้ายพร้อม ๆ กับการวางก�ำลังเข้าท�ำการรบ
(Personnel movements to be conducted concurrently with the force
deployment)
TPFDD ยังประกอบด้วยการประมาณการของความต้องการการขนส่งร่วม (common
– user transportation requirements) และความต้องการให้บรรลุวัตถุประสงค์โดยการ
บรรจุมอบ (assigned) หรือการให้ทรัพยากรทางด้านการขนส่งไปขึ้นสมทบ (attached)
การรักษาความปลอดภัยให้กับการปฏิบัติการแสดงก�ำลังรบ
๓-๕๕ ข้าศึกจะแสดงท่าทีในการขัดขวางการเข้าวางก�ำลังไม่ให้เป็นไปอย่างราบรื่น
การคุกคามต่อก�ำลังที่เข้าวางก�ำลังรบ อาจจะรวมถึงการใช้อาวุธตามแบบที่มีความทันสมัย อาวุธ
อานุภาพท�ำลายล้างสูง หรือทุ่นระเบิดทางพื้นดินและทางทะเล ท่าเรือและท่าอากาศยานในการ
ขนถ่ายเป็นเป้าหมายที่มีความล่อแหลมเฉพาะเนื่องจากมันเป็นจุดแรกในการเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการ
ของก�ำลังรบ และยุทโธปกรณ์ การปฏิบัติการ ณ ท่าขนถ่ายมีความเกี่ยวข้องในการเป็นเป้าหมายที่
บอบบาง ยิง่ ไปกว่านัน้ มันมีความส�ำคัญต่อก�ำลังทหาร และยุทโธปกรณ์ ก�ำลังพลทีใ่ ห้การสนับสนุน
ของชาติเจ้าบ้าน ผู้รับรับจ้างตามสัญญา และเจ้าหน้าที่พลเรือนอาจจะก�ำลังท�ำงานอยู่ ณ ที่นั้น
เป้าหมายที่ให้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่านี้ล้วนอยู่ภายในพิสัยการปฏิบัติของข้าศึกทั้งสิ้น การโจมตีที่
ประสบผลส�ำเร็จต่อท่าขนถ่ายนี้สามารถท�ำให้เกิดผลกระทบส�ำคัญต่อความหนุนเนื่องในการแสดง
ก�ำลังรบได้ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับเพ่งเล็งต่อการระวังป้องกันซึ่งลดความล่อแหลมนั้น เพื่อ
หลีกเลี่ยงภัยคุกคามต่อการปฏิบัติการเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการ ก� ำลังรบอาจจะปฏิบัติการผ่าน
ทางฐานทัพระหว่างทาง๑
ฐานระหว่างทาง
๓-๕๖ ฐานระหว่างทาง เป็นฐานทีม่ กี ารจัดตัง้ ขึน้ และจัดให้มกี ารรักษาความปลอดภัยขึน้
ใกล้กบั พืน้ ทีป่ ฏิบตั กิ าร (แต่มไิ ด้อยูใ่ นพืน้ ทีป่ ฏิบตั กิ าร) ฐานระหว่างทางเป็นพืน้ ทีพ่ กั รอชัว่ คราวก่อน
จะเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการจริง อาจใช้เพื่อการปฏิบัติการด�ำรงสถานภาพของกองก�ำลังในพื้นที่
ปฏิบัติการ ในกรณีที่ดีที่สุด ฐานที่มีการรักษาความปลอดภัยได้ดีที่สุด คือ พื้นที่ที่อยู่ในพื้นที่
ปฏิบัติการ แต่ไม่ใช่ว่าจะโชคดีเสมอไป สถานการณ์ซึ่งบังคับการวางก� ำลังอาจจะปฏิเสธความได้
เปรียบในเรือ่ งของการจัดตัง้ ฐานภายในพืน้ ทีป่ ฏิบตั กิ าร เมือ่ มีการตกลงใจว่าจะปฏิบตั กิ ารผ่านทาง
ฐานระหว่างทาง ผูบ้ ญ ั ชาการกองก�ำลังยุทธ์รว่ มจะวางน�ำ้ หนักความต้องการในการด�ำรงสถานภาพ
กับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
๓-๕๗ ปกติแล้ว ฐานระหว่างทางมีที่ตั้งอยู่ภายในยุทธบริเวณ อยู่นอกพื้นที่ปฏิบัติการ
ฐานระหว่างทางจัดตัง้ ขึน้ ในระยะทีพ่ น้ จากอาวุธยิงทัง้ ทางยุทธการและทางยุทธวิธี และอยูน่ อกเขต
อิทธิพลทางการเมืองของประเทศนั้น ๆ อีกด้วย ในกรณีว่าที่ใดที่ก�ำลังรบต้องการรักษาความ
ปลอดภัยพื้นที่ยึดอาศัย ฐานระหว่างทางอาจจะเป็นความส�ำคัญยิ่งต่อความส�ำเร็จ การใช้ฐาน
๑
ฐานระหว่างทาง ทีต่ งั้ ชัว่ คราวใช้สำ� หรับก�ำลังรบพักรอก่อนการส่งก�ำลังรบเข้าไปในพืน้ ทีป่ ฏิบตั กิ าร แนวความคิดเกีย่ วกับ
ฐานระหว่างทางนี้เป็นแนวความคิดเสริมส�ำหรับรองรับการส่งก�ำลังออกปฏิบัติการนอกประเทศ และเพื่อการศึกษาแนว
ความคิดของสหรัฐฯ ส�ำหรับการฝึกผสมเท่านัน้ การน�ำหลักการนีไ้ ปประยุกต์ใช้จงึ ควรพิจารณาใช้อย่างเหมาะสม
78 บทที่ ๓
“ศิลปะในการยุทธ์มีองค์ประกอบแน่นอนและหลักการตายตัว เราต้องมีทฤษฎีเหล่านั้น
และศึกษาให้จดจ�ำ มิฉะนั้นก็ไปไม่ถึงไหน”
เฟรดเดอริค มหาราช
๔-๑ หลั ก นิ ย มในการปฏิ บั ติ ก ารเต็ ม รู ป แบบขึ้ น อยู ่ กั บ หลั ก การพื้ น ฐานที่ แ น่ น อน
หลักการพืน้ ฐานดังกล่าวท�ำให้ได้แนวความคิดส�ำหรับการปฏิบตั กิ ารในสนามเช่นเดียวกับการพัฒนา
ความเป็นผูน้ ำ� ในชัน้ เรียน เป็นพืน้ ฐานส�ำหรับการสร้าง การใช้ และการด�ำรงสภาพก�ำลังรบของ ทบ.
กล่าวคือ ความรู้เกี่ยวกับหลักพื้นฐานและการน�ำไปประยุกต์ใช้ช่วยให้ กกล.ทบ. เป็นหน่วยที่ท�ำให้
เกิดผลเด็ดขาดในการปฏิบัติการทางทหารทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
๔-๒ หลักพื้นฐานถือเป็นแนวทางส�ำหรับการปฏิบัติการเต็มรูปแบบ (ดูรูป ๔-๑)
องค์ประกอบอ�ำนาจก�ำลังรบเป็นปัจจัยส�ำคัญในการท�ำให้เกิดอ�ำนาจก�ำลังรบ ในการปฏิบัติการ
ทางบก ผู้บังคับหน่วยใช้องค์ประกอบอ�ำนาจก�ำลังรบดังกล่าวผสมผสานกันเพื่อท�ำให้เกิดผลต่อ
การปฏิบตั กิ ารทีเ่ หนือกว่าข้าศึกหรืออุปสรรค โดยยึดหลักการสงคราม เป็นแนวทางหลักการสงคราม
เกิดจากการกลัน่ กรองประสบการณ์ทผี่ า่ นมา นอกจากนี้ ทบ.ยังมีหลักปฏิบตั กิ ารทีม่ ที งั้ รูปแบบและ
เนื้อหาที่ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติการเต็มรูปแบบ หลักปฏิบัติการดังกล่าวมีอยู่ในหลักนิยมของ
ทบ. ส�ำหรับโครงร่างการยุทธ์เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติของ กกล.ทบ. ในเรื่องเวลา สถานที่ และ
วัตถุประสงค์ เมื่อน�ำมาใช้กับหลักปฏิบัติการ ทบ. โครงร่างการยุทธ์จะท�ำให้ผู้บังคับหน่วยมี
แนวความคิดเบือ้ งต้นส�ำหรับการใช้อำ� นาจก�ำลังรบ ผูบ้ งั คับหน่วยใช้และผสมผสานขีดความสามารถ
ของก�ำลังรบผสมเหล่าได้หลายแบบ ทั้งเป็นส่วนเสริม เพิ่มเติมก�ำลัง หรือใช้ในลักษณะอสมมาตร
เพื่อให้บังเกิดผลเด็ดขาดในการปฏิบัติการทางทหารทุกรูปแบบ
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 81
พื้นฐานการปฏิบัติการของกองทัพบก
องค์ประกอบอ�ำนาจก�ำลังรบ
๔-๓ ความส�ำเร็จในการปฏิบัติการทั้งปวงขึ้นอยู่กับขีดความสามารถในการรบของ
กกล.ทบ. ไม่ว่าการปฏิบัติการนั้นจะเป็นการใช้พลังอ�ำนาจในการท�ำลายหรือไม่ก็ตาม อ�ำนาจ
ก�ำลังรบคือขีดความสามารถในการรบที่หน่วยทหารใช้ต่อข้าศึก ซึ่งอาจใช้ไปทั้งในการท�ำลายหรือ
ขัดขวางหรือทั้งสองอย่าง ผู้บังคับหน่วยเป็นผู้ผสมผสานองค์ประกอบอ�ำนาจก�ำลังรบ ซึ่งได้แก่
การด�ำเนินกลยุทธ์, อ�ำนาจการยิง, ความเป็นผูน้ �ำ, การป้องกัน, และข่าวสาร เพือ่ เอาชนะข้าศึกและ
อุปสรรคที่เกิดขึ้น (ดูรูปที่ ๔-๒) การเอาชนะข้าศึกฝ่ายเราจะต้องลดอ�ำนาจก�ำลังรบของฝ่ายข้าศึก
ให้นอ้ ยกว่าอ�ำนาจก�ำลังรบของฝ่ายเราให้ได้ โดยฝ่ายเราต้องประสานสอดคล้ององค์ประกอบอ�ำนาจ
ก�ำลังรบให้เหนือกว่าข้าศึก ณ ต�ำบลและเวลาที่ต้องการผลแตกหัก การใช้อ�ำนาจก�ำลังรบที่เน้น
เฉพาะจุดจะช่วยให้การปฏิบัติการประสบความส�ำเร็จและป้องกันมิให้ข้าศึกรวมอ�ำนาจก�ำลังรบที่
เป็นปึกแผ่นต่อต้านต่อฝ่ายเราได้ ช่วยลดการสูญเสียของฝ่ายเราและท�ำให้การปฏิบัติภารกิจยุติลง
ภายในเวลาอันรวดเร็ว
82 บทที่ ๔
การด�ำเนินกลยุทธ์
๔-๔ การด�ำเนินกลยุทธ์ คือ การใช้ก�ำลังด้วยการเคลื่อนที่ประกอบกับการยิงหรือ
ประกอบกับศักยภาพในการยิงเพื่อให้อยู่ในที่ที่ได้เปรียบข้าศึก การด�ำเนินกลยุทธ์คือ เครื่องมือที่
ผูบ้ งั คับหน่วยใช้รวมอ�ำนาจก�ำลังรบเพือ่ ให้เกิดการจูโ่ จม แรงโถมกระแทก แรงหนุนเนือ่ ง และความ
เหนือกว่าข้าศึก
การด�ำเนินกลยุทธ์ระดับยุทธการ
๔-๕ การด�ำเนินกลยุทธ์ระดับยุทธการเป็นการน�ำ กกล.ทบ. และทรัพยากรไปวางไว้ ณ
สถานที่ที่เกิดความได้เปรียบในระดับยุทธการอย่างทันเวลา ซึ่งเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องใช้การ
สนับสนุนจากเหล่าทัพและกองก�ำลังของชาติอื่น การวางก�ำลังและการเคลื่อนย้ายก�ำลังภายใน
ยุทธบริเวณอาจเป็นการด�ำเนินกลยุทธ์ระดับยุทธการได้ถ้าฝ่ายเรามีความได้เปรียบด้านที่ตั้งและมี
อิทธิพลต่อผลของการทัพหรือการรบ
๔-๖ ผูบ้ งั คับหน่วยจะต้องหาโอกาสเป็นฝ่ายได้เปรียบระดับยุทธการด้านทีต่ งั้ ก่อนทีก่ าร
รบจะเริ่มขึ้นและขยายผลจากความส�ำเร็จทางยุทธวิธีจากความได้เปรียบนั้นเพื่อให้บรรลุผลระดับ
ยุทธการทีต่ อ้ งการ หากเป็นไปได้จะต้องด�ำเนินกลยุทธ์ระดับยุทธการเพือ่ ให้ได้เปรียบด้านทีต่ งั้ ก่อน
ทีข่ า้ ศึกจะปฏิบตั ิ หรือชิงลงมือก่อนการด�ำเนินกลยุทธ์เพือ่ ประกันได้วา่ หากข้าศึกจะเคลือ่ นทีจ่ ะต้อง
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 83
และการรับหากข้าศึกเห็นชัดเจนว่าตนต้องถูกท�ำลายอย่างแน่นอนจะท�ำให้ข้าศึกยอมแพ้ ใน
การปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ กกล.ทบ. ใช้ความเหนือกว่าในการรบระยะใกล้เพื่อให้เกิดอิทธิพล
ต่อการปฏิบัติของข้าศึก ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด ขีดความสามารถของ กกล.ทบ. ในการรบระยะใกล้
รวมกับเจตนาที่จะใช้ขีดความสามารถดังกล่าว เป็นปัจจัยที่มีผลเด็ดขาดในการเอาชนะข้าศึกหรือ
ควบคุมสถานการณ์
อ�ำนาจการยิง
๔-๑๑ อ�ำนาจการยิงคือ พลังในการท�ำลายขีดความสามารถและเจตจ�ำนงในการสู้รบ
ของข้าศึก อ�ำนาจการยิงกับการด�ำเนินกลยุทธ์เป็นสิ่งที่เสริมซึ่งกันและกัน โดยอ�ำนาจการยิงจะ
ขยายผลของการด�ำเนินกลยุทธ์โดยการท�ำลายก�ำลังและจ�ำกัดขีดความสามารถในการตอบโต้ของ
ข้าศึก การด�ำเนินกลยุทธ์ท�ำให้การใช้อ�ำนาจการยิงมีอ�ำนาจการท�ำลายมากขึน้ แม้วา่ ในบางขัน้ ของ
การปฏิบตั อิ งค์ประกอบหนึง่ อาจส�ำคัญกว่าอีกองค์ประกอบหนึง่ แต่การปฏิบตั กิ ารทัง้ หลายต้องมีการ
ประสานสอดคล้ององค์ประกอบทั้งสองเสมอ การปรากฏหรือการคุกคามว่าจะใช้องค์ประกอบใด
องค์ประกอบหนึ่งจะมีผลต่ออีกองค์ประกอบ หากขาดซึ่งองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่ง
การปฏิบตั กิ ารจะไม่บงั เกิดผลแตกหัก แต่ถา้ หากใช้ผสมผสานกันอย่างลงตัวแล้ว นอกจากจะสามารถ
ท�ำลายก�ำลังข้าศึกที่มีขนาดใหญ่กว่าฝ่ายเราได้แล้ว ยังเป็นการป้องกันให้กับฝ่ายเดียวกันด้วย
๔-๑๒ อ�ำนาจการยิงคือ ปริมาณการยิงที่อาวุธ, หน่วย หรือระบบอาวุธสามารถท�ำการ
ยิงออกไป การยิงท�ำให้เกิดผลกระทบเชิงสังหารและไม่สังหาร การยิงจะรวมถึงพันธกิจในการยิง
สนับสนุนเพียงอย่างเดียวหรือใช้รว่ มกับการด�ำเนินกลยุทธ์ ระยะยิง ความสามารถ และความแม่นย�ำ
ของระบบอาวุธสมัยใหม่ (ทัง้ อาวุธยิงเล็งตรงและเล็งจ�ำลอง) รวมกับระบบค้นหาเป้าหมายท�ำให้การ
ยิงมีอ�ำนาจในการท�ำลายมากกว่าในยุคก่อน ๆ ความสามารถเหล่านี้ท�ำให้ผู้บังคับหน่วยสร้าง
ผลกระทบได้ทั่วทั้งพื้นที่ปฏิบัติการของตน ดังนั้นผู้บังคับหน่วยจะต้องประสานสอดคล้องการยิง
ทั้งระดับยุทธวิธีและระดับยุทธการเพื่อสนับสนุนให้การปฏิบัติภารกิจของตนบรรลุผลส�ำเร็จ
การยิงระดับยุทธการ
๔-๑๓ การยิงระดับยุทธการคือ การใช้ระบบอาวุธทั้งที่มีผลเชิงสังหารและไม่สังหารของ
ผูบ้ งั คับหน่วยเพือ่ ให้ผลจากการยิงนัน้ น�ำไปสูก่ ารบรรลุวตั ถุประสงค์ของการทัพและการยุทธขนาดใหญ่
การยิงระดับยุทธการเป็นองค์ประกอบที่ส�ำคัญส�ำหรับการวางแผนในระดับยุทธการ อาวุธหรือ
ระบบอาวุธที่มิได้ใช้สนับสนุนการด�ำเนินกลยุทธ์ระดับยุทธวิธีมักถูกใช้ในการยิงระดับยุทธการ
ผู้บังคับหน่วยใช้การยิงระดับยุทธการต่อเป้าหมายที่มีผลต่อการทัพหรือการยุทธ์ขนาดใหญ่
การวางแผนการยิงระดับยุทธการจะรวมถึงการแบ่งมอบเครื่องมือทั้งของเหล่าทัพและชาติอื่น
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 85
วินัยสนาม
๔-๒๔ องค์ประกอบที่สองของการป้องกันคือ วินัยสนามจะช่วยป้องกันก�ำลังพลทั้งทาง
กายภาพและทางจิตใจจากผลกระทบของสภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมในสนามรบที่เลวร้ายอาจ
ลดทอนความเข้มแข็งทัง้ ทางร่างกายและขวัญของทหารได้เร็วกว่าการปฏิบตั ขิ องข้าศึก การฝึกบุคคล
ท�ำการรบและการเตรียมการทีด่ จี ะท�ำให้ก�ำลังพลสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดกี ว่า
ประชาชนในพื้นที่ก็ได้
๔-๒๕ ผูบ้ งั คับหน่วยต้องใช้มาตรการทัง้ ปวงเพือ่ ท�ำให้กำ� ลังพลมีสขุ ภาพและขวัญก�ำลังใจ
ที่ดี การปฏิบัติดังกล่าวจะรวมไปถึงการป้องกันมิให้ยุทโธปกรณ์และสิ่งอุปกรณ์ได้รับความเสียหาย
หรือสูญหาย ต้องก�ำกับดูแลให้มนั่ ใจว่าก�ำลังพลได้รบั การสนับสนุนในด้านสุขภาพ (รวมถึงเวชกรรม
ป้องกัน) หากมีการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยก็สามารถกลับเข้าท�ำหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว ต้องมีระบบ
ซ่อมบ�ำรุง, การส่งกลับ และการทดแทนหรือการซ่อมบ�ำรุงที่รวดเร็ว ผู้บังคับหน่วยในระดับยุทธวิธี
ต้องเอาใจใส่สุขภาพพื้นฐานของทหารและป้องกันมิให้เกิดการป่วยเจ็บโดยไม่จ�ำเป็น
ความปลอดภัย
๔-๒๖ องค์ประกอบที่สามของการป้องกันคือ ความปลอดภัย สภาวะแวดล้อมใน
การปฏิบตั กิ ารมักท�ำให้กำ� ลังพลต้องตกอยูใ่ นความเสีย่ งทัง้ ต่อชีวติ และสุขภาพ และท�ำให้การท�ำงาน
ของอาวุธยุทโธปกรณ์มปี ญ ั หา ก�ำลังพลจึงต้องรูข้ ดี ความสามารถและข้อจ�ำกัดของระบบอาวุธทีต่ น
เกี่ ย วข้ อ ง ผู ้ บั ง คั บ หน่ ว ยต้ อ งเข้ า ใจวิ ธี ก ารใช้ ร ะบบดั ง กล่ า วอย่ า งถู ก ต้ อ ง ในการออกแบบ
การปฏิบัติการ ผู้บังคับหน่วยจะต้องพิจารณาถึงข้อจ�ำกัดในเรื่องความอดทนของมนุษย์ ต้อง
เทียบเคียงถึงข้อดีของการปฏิบัติการที่ต้องด�ำรงจังหวะกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ในการรบ
ความเหนื่อยล้าจะท�ำให้ความตื่นตัวและปฏิกิริยาในการตอบโต้ของทหารลดลง อุบัติเหตุ การ
สูญเสียอ�ำนาจก�ำลังรบและโอกาสทางยุทธวิธีจึงอาจเกิดขึ้นได้ง่าย การเอาใจใส่จากผู้บังคับบัญชา
ทุกระดับและความมีวินัยจะช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวได้ ความปลอดภัยเกิดจากการปฏิบัติตาม
กฎระเบียบและมาตรฐานในระหว่างการฝึกอย่างเคร่งครัด ผูบ้ งั คับหน่วยจึงต้องค�ำนึงถึงความเสีย่ ง
ที่อาจเกิดขึ้นในการปฏิบัติการและก�ำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด
เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านั้น
การหลีกเลี่ยงความสูญเสียการยิงจากฝ่ายเดียวกัน
๔-๒๗ องค์ประกอบที่สี่ของการป้องกันคือ การหลีกเลี่ยงความสูญเสียจากการยิงของ
ฝ่ายเดียวกัน อ�ำนาจการท�ำลายของระบบอาวุธสมัยใหม่รวมกับความรุนแรงและจังหวะการรบที่
แปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วท�ำให้การปฏิบัติการเกิดความเสี่ยงต่อการสูญเสียจากอาวุธของ
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 89
หลักความมุ่งหมาย
“การปฏิบัติการทางทหารต้องมีความมุ่งหมายที่ชัดเจน ปฏิบัติได้ และมีผลเด็ดขาด”
๔-๓๕ ในระดับยุทธการและยุทธวิธี ความมุ่งหมาย หรือวัตถุประสงค์เป็นสิ่งประกันว่า
การปฏิบัติทั้งปวงมุ่งไปสู่เป้าประสงค์ของหน่วยเหนือ หลักความมุ่งหมายเป็นสิ่งที่ผลักดันกิจกรรม
ทางทหารทัง้ ปวง เมือ่ จะปฏิบตั ภิ ารกิจใด ผูบ้ งั คับหน่วยต้องเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่าผลลัพธ์ทตี่ อ้ งการ
คืออะไรและมีผลกระทบอย่างไร ในระดับยุทธศาสตร์ หมายถึง การมีวิสัยทัศน์ว่าผลสุดท้าย
ทีต่ อ้ งการในยุทธบริเวณคืออะไร ซึง่ มักจะมีมติ ทิ างการเมืองรวมอยูด่ ว้ ย ผูบ้ งั คับหน่วยจะต้องเข้าใจ
ผลลัพธ์ทางการเมืองคืออะไร และการปฏิบัติการทางทหารจะช่วยให้บรรลุผลลัพธ์นั้นได้อย่างไร
๔-๓๖ ผู้น�ำทหารไม่อาจจะแยกความมุ่งหมายออกจากข้อพิจารณาที่เป็นข้อจ�ำกัดและ
ความถูกต้องทางกฎหมายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพและการปฏิบัติ
การสนับสนุน การใช้ก�ำลังทหารเพื่อให้บรรลุความมุ่งหมายจะต้องมีความชอบธรรมและสมเหตุ
สมผลกับเป้าประสงค์ วัตถุประสงค์ทางทหารจะต้องสอดคล้องกับการยอมรับได้ของหน่วยงานกลุม่
และรัฐบาลในพื้นที่ปฏิบัติการ หากปราศจากความชอบธรรมและความถูกต้องทางกฎหมายแล้ว
ปฏิบัติการทางทหารจะไม่ได้รับการสนับสนุน และจะไม่สามารถบรรลุความมุ่งหมายได้
๔-๓๗ ผูบ้ งั คับหน่วยต้องมีความมุง่ มัน่ อดทนเพือ่ ให้ภารกิจส�ำเร็จ การรุกและการรบอาจ
ก่อให้เกิดสภาวะทีเ่ กือ้ กูลต่อความส�ำเร็จในระยะสัน้ แต่การปฏิบตั กิ ารเพือ่ เสถียรภาพและการปฏิบตั ิ
การสนับสนุนที่ต้องใช้เวลานานอาจต้องการผลลัพธ์ในระดับยุทธศาสตร์ที่ยั่งยืนและเป็นรูปธรรม
โดยปกติผู้บังคับหน่วยมักต้องการส่งก�ำลังเข้าพื้นที่ ปฏิบัติภารกิจให้ส�ำเร็จแล้วถอนก�ำลังกลับ
โดยเร็ว แต่ทั้งนี้ก็ต้องประเมินเป้าหมายและวัตถุประสงค์ระยะยาวในระดับชาติด้วย
หลักการรุก
“ชิงความริเริ่ม รักษาความริเริ่ม และขยายผลจากความริเริ่มนั้น”
๔-๓๘ การรุ ก เป็ น ปั จ จั ย ส� ำ คั ญ ต่ อ การบรรลุ ผ ลส� ำ เร็ จ ที่ เ ด็ ด ขาด เป็ น หั ว ใจของ
การปฏิบัติการ การรุกเป็นการปฏิบัติที่ส่งผลต่อลักษณะ ขอบเขต และจังหวะของการปฏิบัติการ
บีบบังคับให้ข้าศึกต้องตอบโต้ ผู้บังคับหน่วยใช้การรุกเพื่อน�ำเจตจ�ำนงของตนไปหักล้างเจตจ�ำนง
ของข้าศึก หรือเพือ่ น�ำเจตจ�ำนงของตนไปแก้ไขสถานการณ์ การปฏิบตั กิ ารรุกท�ำให้ฝา่ ยเรามีเสรีใน
การปฏิบัติที่จำ� เป็นต่อความส�ำเร็จ ขยายผลจากจุดอ่อน และรับมือต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
ไปอย่างรวดเร็วหรือที่คาดไม่ถึง
92 บทที่ ๔
หลักการรวมก�ำลัง
“รวมอ�ำนาจก�ำลังรบ ณ ต�ำบลและเวลาที่ต้องการผลแตกหัก”
๔-๓๙ ผูบ้ งั คับหน่วยต้องรวมอ�ำนาจก�ำลังรบให้เหนือกว่าข้าศึกอย่างมากหรือเพือ่ ควบคุม
สถานการณ์ ณ ต�ำบลและเวลาเพื่อผลส�ำเร็จหรือเพื่อผลในการสร้างสรรค์ ลักษณะการรวมก�ำลัง
อาจเป็ น การรวมอ� ำ นาจก� ำ ลั ง รบต่ อ เป้ า หมายหลาย ๆ เป้ า หมายพร้ อ ม ๆ กั น หรื อ จะ
รวมองค์ประกอบอ�ำนาจก�ำลังรบทัง้ ปวงต่อเป้าหมายเดียว ซึง่ การรวมอ�ำนาจก�ำลังรบทัง้ สองลักษณะ
จะเป็นตัวชี้ขาดสถานการณ์ที่ผู้บังคับหน่วยต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อ
ระบบการตั้งรับของข้าศึกอย่างมากก่อนที่ข้าศึกจะตอบโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๔-๔๐ กกล.ทบ. ในปัจจุบนั สามารถรวมผลอ�ำนาจก�ำลังรบได้อย่างรวดเร็วและรุนแรงโดย
ไม่จ�ำเป็นต้องรวมก�ำลังขนาดใหญ่อย่างในอดีต แต่มิได้หมายความเป็นการรวมอ�ำนาจการยิง
แต่เพียงอย่างเดียว การด�ำเนินกลยุทธ์ที่รวดเร็ว และความเข้าใจสถานการณ์ของหน่วยยังเป็น
ปัจจัยเสริมให้การใช้อ�ำนาจการยิงมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากท�ำได้ดังกล่าวการปฏิบัติการเพียง
การปฎิบัติการเดียวอาจมีผลต่อความส�ำเร็จของทั้งการทัพได้
๔-๔๑ ผู ้ บั ง คั บ หน่ ว ยจะรวมอ� ำ นาจก� ำ ลั ง รบให้ มี ผ ลท� ำ ลายความเป็ น ปึ ก แผ่ น ต่ อ
องค์ประกอบส�ำคัญของข้าศึก แต่การรวมผลอ�ำนาจก�ำลังรบบางเรื่องอาจเป็นจุดอ่อนในบางพื้นที่
บางเวลา อ�ำนาจก�ำลังรบที่วางกระจายในพื้นที่อาจเป็นท�ำให้การรวมผลของอ�ำนาจก�ำลังรบให้
ทันเวลาท�ำได้ยาก การปฏิบัติการจึงต้องมีทั้งที่กระท�ำพร้อมกันและท�ำไปตามล�ำดับเพื่อให้เกิด
ผลกระทบที่พึงประสงค์ ณ ต�ำบลและเวลาที่ต้องการได้
หลักการออมก�ำลัง
“แบ่งมอบก�ำลังรบแต่น้อยที่สุดเท่าที่จ�ำเป็นให้กับความพยายามรอง”
๔-๔๒ การออมก�ำลังเป็นหลักการที่ตรงข้ามกับหลักการรวมก�ำลัง เป็นการยอมรับ
ความเสี่ยง ณ พื้นที่ที่ก�ำหนดเพื่อให้เกิดความเหนือกว่าอย่างมากต่อการปฏิบัติหรือพื้นที่ที่ต้องการ
ผลแตกหัก ผู้บังคับหน่วยต้องไม่ปล่อยให้หน่วยใดหน่วยหนึ่ง หรือปัจจัยอ�ำนาจก�ำลังรบอันใด
อันหนึ่งว่างไว้โดยไม่มีวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เมื่อถึงเวลาต้องปฏิบัติ ก� ำลังทุกส่วนจะต้องมี
หน้าที่ที่จะต้องท�ำ
หลักด�ำเนินกลยุทธ์
“ท�ำให้ข้าศึกอยู่ในต�ำแหน่งที่เสียเปรียบด้วยการใช้อ�ำนาจก�ำลังรบอย่างอ่อนตัว”
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 93
หลักการจู่โจม
“โจมตีข้าศึก ณ ต�ำบล เวลา และด้วยลักษณะที่ข้าศึกมิได้เตรียมการรับมือไว้ก่อน”
๔-๔๗ การจูโ่ จมเป็นผลมาจากการปฏิบตั ใิ นลักษณะทีข่ า้ ศึกไม่คาดคิด เป็นตัวขยายอ�ำนาจ
ก�ำลังรบที่ส�ำคัญแต่จะมีผลเพียงชั่วคราว ฝ่ายเราไม่จ�ำเป็นต้องปฏิบัติการโดยข้าศึกไม่รู้ตัว แต่ต้อง
ท�ำให้ข้าศึกรู้ตัวช้าหรือไม่สามารถตอบโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยที่เกื้อกูลต่อการจู่โจมได้แก่
ความเร็ว ความเหนือกว่าด้านข่าวสาร และวิธีการอสมมาตร
หลักความง่าย
“แผนต้องชัดเจน ไม่ซับซ้อน ค�ำสั่งต้องสั้น และทุกฝ่ายเข้าใจได้ง่าย”
๔-๔๘ แผนและค�ำสัง่ ต้องง่าย และตรงไปตรงมา แผนทีง่ า่ ย ค�ำสัง่ ทีส่ นั้ และชัดเจนจะช่วย
มิให้เกิดการเข้าใจผิดและเกิดความสับสน ปัจจัย METT-TC คือ ตัวก�ำหนดว่าจะท�ำให้แผนและ
ค�ำสั่งง่ายระดับใด แต่แผนที่ง่ายและปฏิบัติได้ทันเวลาย่อมดีกว่าแผนที่ละเอียดซับซ้อนและปฏิบัติ
ได้ช้า ผู้บังคับหน่วยทุกระดับต้องประเมินระหว่างข้อดีของแผนที่มีแนวความคิดซับซ้อนกับข้อเสีย
ที่อาจเกิดจากการที่หน่วยรองไม่เข้าใจ และปฏิบัติตามไม่ได้
๔-๔๙ การปฏิบตั กิ ารหลายชาติยงิ่ ท�ำให้หลักความง่ายมีความส�ำคัญยิง่ ขึน้ ความแตกต่าง
ด้านภาษา, หลักนิยม และวัฒนธรรมเป็นปัจจัยที่ท� ำให้การปฏิบัติการมีความซับซ้อนยุ่งยาก
แผนและค�ำสั่งที่ง่ายจะช่วยลดความสับสนที่เป็นธรรมชาติในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ นอกจากนี้
หลักความง่ายยังสามารถน�ำไปใช้กับการปฏิบัติที่มีองค์กรอื่น ๆ ทั้งของรัฐบาลและองค์กรเอกชน
เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
หลักพื้นฐานการปฏิบัติการของกองทัพบก
๔-๕๐ หลักพื้นฐานการปฏิบัติการของ ทบ. ซึ่งได้แก่ ความริเริ่ม, ความว่องไว, ความลึก,
ความประสานสอดคล้อง และความสามารถรอบด้าน เกิดมาจากหลักการสงคราม ถือเป็นปัจจัย
ที่น�ำมาสู่ความส�ำเร็จในการปฏิบัติการ แม้ว่าการใช้หลักพื้นฐานดังกล่าวมิได้เป็นหลักประกันว่า
การปฏิบัติการต้องประสบความส�ำเร็จ แต่หากมิได้น�ำไปใช้แล้วย่อมจะเกิดความเสี่ยงต่อความ
ล้มเหลวเป็นอย่างยิ่ง
ความริเริ่ม
๔-๕๑ ความริเริม่ มีทงั้ องค์ประกอบทีเ่ ป็นเรือ่ งการปฏิบตั กิ ารและปัจเจกบุคคล ในแง่ของ
การปฏิบัติการ ความริเริ่มเป็นการก�ำหนดเงื่อนไขในการปฏิบัติทั่วทั้งสนามรบหรือการปฏิบัติการ
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 95
ว่าจะใช้ก�ำลังต่อข้าศึกอย่างไร ผู้บังคับหน่วยออกแบบโครงร่างการยุทธ์เพื่อการบรรลุภารกิจ
ด้วยการก�ำหนดและจัดวางองค์ประกอบทั้งสามแล้วใช้โครงร่างการยุทธ์นี้เป็นศูนย์รวมอ�ำนาจ
ก�ำลังรบ
การจัดยุทธบริเวณ
๔-๗๐ โครงร่างการยุทธ์ของ กกล.ทบ. ขึน้ อยูก่ บั การจัดยุทธบริเวณของผูบ้ ญ
ั ชาการหน่วย
บัญชาการรวม ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรวมที่รับผิดชอบพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ปฏิบัติการภายใน
พื้นที่รับผิดชอบของตนตามที่ได้รับ จากนั้นจะก�ำหนดเขตสงคราม, ยุทธบริเวณ เขตสงคราม และ
เขตภายใน ผู้บัญชาการกองก�ำลังร่วมในทุกระดับอาจก�ำหนดพื้นที่ปฏิบัติการรองขึ้น (ดูรูปที่ ๔-๓)
การแบ่งมอบและความรับผิดชอบเกี่ยวกับพื้นที่ในยุทธบริเวณปฏิบัติการได้มีการอธิบายไว้แล้ว
ในหลักนิยมการปฏิบัติการร่วม
๔-๗๑ ผูท้ มี่ อี ำ� นาจในการก�ำหนดยุทธบริเวณสงครามคือ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงกลาโหม
โดยความเห็นชอบของสภากลาโหมมีอ�ำนาจก�ำหนดพื้นที่ที่จ�ำเป็นต่อการปฏิบัติการทางทหารเป็น
ยุทธบริเวณ และก�ำหนดพื้นที่ส่วนที่เหลือเป็นเขตภายใน (พระราชบัญญัติ จัดระเบียบราชการ
กระทรวงกลาโหม พ.ศ. ๒๕๕๑) ยุทธบริเวณจะครอบคลุมพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการท�ำสงคราม
ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ปกติยุทธบริเวณจะไม่ครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการของ
ผูบ้ ญ
ั ชาการรวมและมักจะประกอบด้วยยุทธบริเวณ มากกว่าสองยุทธบริเวณขึน้ ไป ผูบ้ ญ ั ชาการรวม
มักจะเป็นผู้มอบยุทธบริเวณให้กับหน่วยรองของตน
พื้นที่ปฏิบัติการ
ส่งก�ำลังออก
พื้นที่สนใจ
สภาพแวดล้อม พื้นที่อิทธิพล
ด้านข่าวสาร
ที่ตั้งปกติ
ห้วงการรบ
๔-๗๗ ห้วงการรบประกอบด้วยสภาพแวดล้อม ปัจจัย และเงื่อนไขที่ผู้บังคับหน่วยต้อง
เข้าใจเพื่อการใช้อ�ำนาจก�ำลังรบอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันหน่วย หรือปฏิบัติภารกิจให้ส�ำเร็จ
ห้วงการรบจะรวมไปถึงพื้นที่ทางบก ทะเล อากาศ ครอบคลุมถึงก�ำลังฝ่ายเราและข้าศึก สิ่งอ�ำนวย
ความสะดวก ลมฟ้าอากาศ ภูมิประเทศ ย่านความถี่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และสภาพแวดล้อมด้าน
ข่าวสารภายในพื้นที่ปฏิบัติการและพื้นที่สนใจ (ดูรูปที่ ๔-๕)
102 บทที่ ๔
การจัดสนามรบ
๔-๘๒ ผู้บังคับหน่วยวาดมโนทัศน์ห้วงสนามรบของตน และก�ำหนดในใจว่าจะวางก�ำลัง
ของตนอย่างไร ขั้นตอนนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการแสวงข้อตกลงใจทางทหารด้วย การจัด
สนามรบเป็นการแบ่งมอบก�ำลังในพืน้ ทีป่ ฏิบตั กิ ารโดยเน้นทีว่ ตั ถุประสงค์ การจัดสนามรบประกอบ
ด้วยการจัดประเภทการปฏิบัติการออกเป็น ๓ ประเภทคือ แตกหัก สร้างสภาวะ และด�ำรง
สภาพ ส่วนต่าง ๆ ที่เป็นส่วนประกอบของการจัดสนามรบต้องปฏิบัติเพื่อมุ่งไปสู่วัตถุประสงค์
เดียวกัน ผู้บังคับหน่วยต้องจัดก�ำลังให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ด้วยการก�ำหนดว่าการปฏิบัติของ
หน่วยใดเป็นการปฏิบัติแตกหัก, สร้างสภาวะ หรือด�ำรงสภาพ การตกลงใจดังกล่าวจะกลายเป็น
พื้นฐานของแนวความคิดในการปฏิบัติ ในบางสถานการณ์ผู้บังคับหน่วยอาจต้องก�ำหนดพื้นที่
ปฏิบัติการว่าเป็นพื้นที่ทางลึก, ระยะใกล้ และส่วนหลัง การก�ำหนดดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ใน
การปฏิบัติการในพื้นที่ที่ติดกัน, เป็นแนว และมีข้าศึกที่ชัดเจน
การปฏิบัติการแตกหัก
๔-๘๓ การปฏิบัติการแตกหักเป็นการปฏิบัติการที่มุ่งไปสู่การบรรลุกิจที่ได้รับมอบจาก
หน่วยเหนือโดยตรง การปฏิบัติการแตกหักจะเน้นไปที่การบรรลุผลลัพธ์ของการยุทธ์ขนาดใหญ่
การรบ และการรบปะทะ มีการปฏิบัติการแตกหักส�ำหรับหน่วยเพียงการปฏิบัติการเดียวเท่านั้น
ในการปฏิบัติการแตกหักหนึ่ง ๆ อาจมีการปฏิบัติหลายแห่งกระท�ำพร้อม ๆ กันทั่วทั้งพื้นที่
ปฏิบัติการก็ได้ ผู้บังคับหน่วยวางน�้ำหนักให้กับการปฏิบัติการแตกหักด้วยการใช้อ�ำนาจก�ำลังรบ
สูงสุด และออมก�ำลังส�ำหรับการปฏิบัติการสร้างสภาวะ
๔-๘๔ ในการรุกและการรับ การปฏิบัติการแตกหักมักจะเน้นไปที่การด�ำเนินกลยุทธ์
แต่ถ้าเป็นช่วงการระดมสรรพก�ำลังหรือวางก�ำลังหรือในการปฏิบัติการสนับสนุนเช่นการช่วยเหลือ
ด้านมนุษยธรรม หน่วยที่ปฏิบัติการแตกหักมักจะเป็นหน่วยสนับสนุนการช่วยรบ
การปฏิบัติการสร้างสภาวะ (การปฏิบัติการสร้างสภาวะที่เกื้อกูล)
๔-๘๕ การปฏิบตั กิ ารสร้างสภาวะในทุกระดับหน่วยเป็นการปฏิบตั กิ ารทีส่ ร้างหรือรักษา
สภาวะทีเ่ กือ้ กูลต่อการปฏิบตั กิ ารแตกหัก การปฏิบตั กิ ารสร้างสภาวะจะรวมไปถึงการปฏิบตั ทิ มี่ ผี ล
ทั้งสังหาร และไม่สังหารทั่วทั้งพื้นที่ปฏิบัติการ การปฏิบัติการสร้างสภาวะจะส่งผลต่อขีดความ
สามารถและก�ำลังหรือมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของข้าศึก โดยจะใช้ปัจจัยอ�ำนาจก�ำลังรบทั้งปวง
เพื่อลดขีดความสามารถของข้าศึก การปฏิบัติการสร้างสภาวะอาจเกิดขึ้นก่อนหรือพร้อม ๆ กับ
104 บทที่ ๔
- การระวังป้องกันฐานและพื้นที่ส่วนหลัง ซึ่งรวมถึงมาตรการและการปฏิบัติ
ต่าง ๆ เพื่อป้องกันที่ตั้งและพื้นที่จากการปฏิบัติเพื่อขัดขวางประสิทธิภาพ
ในการท�ำงาน การระวังป้องกันฐานและพืน้ ทีส่ ว่ นหลังมีองค์ประกอบ ๔ ประการ
คือ การข่าวกรอง, การป้องกันฐานและกลุม่ ฐาน, การปฏิบตั ขิ องก�ำลังตอบโต้,
และการปฏิบัติของกองก�ำลังทางยุทธวิธีในพื้นที่ส่วนหลัง (กยล.)
- การควบคุมการเคลื่อนย้าย ซึ่งรวมถึงการวางแผน การก�ำหนดเส้นทาง การ
ก�ำหนดเวลา และการควบคุมการเคลื่อนย้ายทั้งบุคคลและสิ่งของที่จะเข้ามา
ในพื้นที่ปฏิบัติการ, เคลื่อนย้ายภายในพื้นที่ปฏิบัติการ, และออกจากพื้นที่
ปฏิบัติการ สิ่งส�ำคัญในการควบคุมการเคลื่อนย้ายคือ ต้องด�ำรงการควบคุม
ตลอดเวลา, การท�ำให้เส้นการคมนาคมใช้งานได้อยู่เสมอ การจัดการต�ำบล
รับเข้าและต�ำบลส่งผ่าน รวมถึงการได้รับการสนับสนุนจากประเทศเจ้าบ้าน
เมื่อต้องปฏิบัติการนอกประเทศ
- การจั ด การพื้ น ที่ หมายถึ ง การแบ่ ง มอบพื้ น ที่ การก� ำ หนดพื้ น ที่ ร วมพล
การก�ำหนดที่ตั้งให้หน่วยและกิจกรรม รวมถึงการจัดกลุ่มที่ตั้งหน่วยเป็นฐาน
และกลุ่มฐานเมื่อจ�ำเป็น
- การพัฒนาโครงสร้างพืน้ ฐาน การพัฒนาดังกล่าวหมายถึงการสร้างทัง้ ชัว่ คราว
และถาวร การดัดแปลง หรือการจัดให้มีสิ่งอ�ำนวยความสะดวกส�ำหรับการ
สนับสนุนและควบคุมหน่วยทหาร การพัฒนาโครงสร้างพืน้ ฐานจะเน้นไปทีก่ าร
ปรับปรุงเพือ่ ความปลอดภัยของสิง่ อ�ำนวยความสะดวก รวมถึงการควบคุมและ
การซ่อมแซมความเสียหายเป็นพื้นที่ด้วย
๔-๙๐ ขณะที่การปฏิบัติการด�ำรงสภาพไม่อาจแยกออกจากการปฏิบัติการแตกหัก และ
การปฏิบัติการสร้างสภาวะ แต่โดยตัวมันเองมักจะไม่ใช่การปฏิบัติการแตกหัก ในการปฏิบัติการ
สนับสนุนบางครั้ง หน่วยสนับสนุนการช่วยรบอาจเป็นส่วนที่มีผลแตกหักของ กกล.ทบ. การปฏิบัติ
การด�ำรงสภาพมิได้เกิดขึ้นเฉพาะในพื้นที่ส่วนหลังเท่านั้นแต่เกิดขึ้นทั่วทั้งพื้นที่ปฏิบัติการ ความ
ล้มเหลวของการด�ำรงสภาพมักจะมีผลให้ภารกิจต้องล้มเหลวไปด้วย การปฏิบัติการด�ำรงสภาพจะ
เป็นตัวก�ำหนดว่า กกล.ทบ. จะฟื้นฟูก�ำลังหรือขยายผลจากความส�ำเร็จได้รวดเร็วเพียงใดด้วย
๔-๙๑ ในระดับยุทธการ การปฏิบัติการด�ำรงสภาพจะให้ความส�ำคัญกับการเตรียมการ
ทัพหรือการยุทธ์ขนาดใหญ่ในขัน้ ต่อไป ส่วนในระดับยุทธวิธจี ะเน้นการรักษาจังหวะของการปฏิบตั ิ
การทั้งสิ้นเพื่อประกันว่าก�ำลังฝ่ายเราเป็นฝ่ายได้เปรียบในทุก ๆ โอกาสที่เกิดขึ้น
106 บทที่ ๔
ความพยายามหลัก
๔-๙๒ ในการจัดสนามรบไม่วา่ จะเป็นการปฏิบตั กิ ารแตกหัก การปฏิบตั กิ ารสร้างสภาวะ
และการปฏิบตั กิ ารสนับสนุน ผูบ้ งั คับหน่วยจะต้องก�ำหนดความพยายามหลักและมีการปรับเปลีย่ น
ความพยายามหลักนี้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ความพยายามหลักหมายถึง การปฏิบัติ, หน่วย,
หรือพื้นที่ที่ผู้บังคับหน่วยก�ำหนดว่ามีความส�ำคัญต่อพันธกิจในเวลานั้นมากที่สุด และแบ่งมอบ
ทรัพยากรและล�ำดับความเร่งด่วนให้กับความพยายามหลักนั้น ๆ ความพยายามหลักสามารถ
เปลี่ยนแปลงได้ตามเจตนารมณ์และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
๔-๙๓ ความพยายามหลักไม่จำ� เป็นต้องเป็นการปฏิบตั กิ ารแตกหักเสมอไป ผูบ้ งั คับหน่วย
ต้องคาดการณ์ถงึ การเปลีย่ นความพยายามหลักในการปฏิบตั กิ ารและบรรจุเอาไว้ในแผนของตน แต่
การเปลี่ยนการปฏิบัติการแตกหักจะต้องมีการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ แผนตามล�ำดับ หรือ
แผนใหม่เสียก่อน การปฏิบตั กิ ารสร้างสภาวะอาจเป็นความพยายามหลักก่อนทีจ่ ะมีการปฏิบตั กิ าร
แตกหัก อย่างไรก็ตามเมื่อในขั้นการปฏิบัติการ การปฏิบัติการแตกหักจะกลายเป็นความพยายาม
หลักของการปฏิบัติการนั้น ๆ
พื้นที่ระยะใกล้ พื้นที่ทางลึก และพื้นที่ส่วนหลัง
๔-๙๔ แม้วา่ การปฏิบตั กิ ารจะมีลกั ษณะทีไ่ ม่เป็นแนวมากขึน้ แต่กอ็ าจมีบางสถานการณ์
ที่ผู้บังคับหน่วยต้องก�ำหนดให้การปฏิบัติการของตนไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติการแตกหัก, สร้าง
สภาวะ, และด�ำรงสภาพมีขอบเขตพื้นที่ที่ชัดเจน (ดูรูปที่ ๔-๖) โดยปกติการปฏิบัติการที่เป็นแนว
มักจะเกี่ยวข้องกับก�ำลังรบตามแบบและเน้นหน่วยด�ำเนินกลยุทธ์หน่วยภาคพื้นดินมีเส้นแบ่งเขต
ร่วมกันและมีทิศทางการวางก� ำลังที่ต่อต้านก� ำลังฝ่ายข้าศึกที่มีการจัดคล้าย ๆ กัน มีก� ำลัง
ฝ่ายเดียวกันหรือภูมิประเทศให้การป้องกันต่อปีก หรือการปฏิบัติการสนับสนุนการช่วยรบ ในการ
ปฏิบัติการหลายชาติบางครั้ง ขีดความสามารถและหลักนิยมของกองก�ำลังแต่ละชาติอาจท�ำให้มี
ความจ�ำเป็นต้องแบ่งพื้นที่ให้กับ แต่ละกองก�ำลังในพื้นที่ปฏิบัติการ ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้บังคับ
หน่วยจะต้องก�ำหนดพื้นที่เป็นพื้นที่ระยะใกล้ พื้นที่ทางลึก และพื้นที่ส่วนหลังให้ชัดเจน
๔-๙๕ พืน้ ทีร่ ะยะใกล้คอื พืน้ ที่ ทีห่ น่วยก�ำลังปะทะอยูก่ บั ข้าศึก หรือกองหนุนทางยุทธวิธี
ของทัง้ สองฝ่ายถูกส่งเข้าท�ำการรบ หากเป็นการวางแผนหมายถึงพืน้ ที่ ทีผ่ บู้ งั คับหน่วยก�ำหนดให้การ
รบระยะใกล้เกิดขึน้ ปกติแล้วพืน้ ทีก่ ารรบระยะใกล้สำ� หรับหน่วยด�ำเนินกลยุทธ์หน่วยใดหน่วยหนึง่
จะเริ่มตั้งแต่เส้นเขตหลังของหน่วยรองของหน่วยด�ำเนินกลยุทธ์นั้นไปจนถึงเส้นเขตหน้าของหน่วย
ด�ำเนินกลยุทธ์นนั้ ผูบ้ งั คับหน่วยจะวางแผนปฏิบตั กิ ารแตกหักด้วยการวางก�ำลังหน่วยด�ำเนินกลยุทธ์
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 107
ก�ำลังรบผสมเหล่า
๔-๑๐๑ ก�ำลังรบผสมเหล่าเป็นหลักพื้นฐานทหารม้าการจัดและการปฏิบัติการของ
กกล.ทบ. ก�ำลังรบผสมเหล่าเป็นการใช้เหล่าต่าง ๆ ของ ทบ. เช่น ทหารราบ ปืนใหญ่สนาม
ทหารช่าง หน่วยป้องกันภัยทางอากาศ หน่วยบิน อย่างประสานสอดคล้องและพร้อมเพรียงกัน
เพื่อให้บังเกิดผลต่อฝ่ายข้าศึก แทนที่จะใช้แต่ละเหล่าแยกกันหรือเรียงล�ำดับกัน เป้าหมายสูงสุด
ในการจัดดังกล่าวคือ ความส�ำเร็จในการปฏิบัติการร่วมและการปฏิบัติการผสมเหล่า การจัด
ก�ำลังรบผสมเหล่าจะช่วยให้ผู้บังคับหน่วยจัดหน่วยของตนให้สมบูรณ์พร้อมทั้งส่วนก�ำลังรบ
ส่วนสนับสนุนการรบ และส่วนสนับสนุนการช่วยรบ ที่สามารถปฏิบัติเพื่อให้บรรลุภารกิจเดียวกัน
ได้
ความสัมพันธ์ทางการบังคับบัญชาและสนับสนุน
๔-๑๐๒ ผู้บังคับหน่วยสร้างก�ำลังรบผสมเหล่าโดยใช้ความสัมพันธ์ทางการบังคับบัญชา
เป็นเครื่องมือ (ดูรูปที่ ๔-๗) ความสัมพันธ์ทางการบังคับบัญชาเป็นสิ่งก�ำหนดความรับผิดชอบและ
อ�ำนาจหน้าที่ของหน่วย ความสัมพันธ์ทางการสนับสนุนเป็นสิ่งก�ำหนดวัตถุประสงค์ ขอบเขต
และผลที่ต้องการเมื่อให้หน่วยหนึ่งสนับสนุนต่ออีกหน่วยหนึ่ง
110 บทที่ ๔
การเสริมและการเพิ่มเติมผลกระทบ
๔-๑๐๓ เหล่าต่าง ๆ ของ ทบ. มีขีดความสามารถที่ช่วยเสริมซึ่งกันและกัน หากใช้อย่าง
เหมาะสมจะท�ำให้ข้าศึกตกอยู่ในสภาพทีเ่ สียเปรียบ ข้าศึกที่พยายามหลีกเลี่ยงการปฏิบัตแิ บบหนึ่ง
จะต้องเผชิญกับการปฏิบัติอีกแบบหนึ่ง ตัวอย่างของการเสริมผลกระทบเช่น ในการตั้งรับ ฝ่ายรุก
ใช้การยิงจ�ำลองเพือ่ ข่มฝ่ายตัง้ รับขณะทีม่ กี ารด�ำเนินกลยุทธ์เพือ่ โอบและท�ำลาย ถ้าฝ่ายตัง้ รับจะใช้
การเคลือ่ นทีเ่ พือ่ หลีกเลีย่ งการถูกโอบก็จะต้องเสีย่ งกับการถูกท�ำลายด้วยการยิงจ�ำลองนัน้ แต่ถา้ ไม่
เคลื่อนที่ก็ต้องเสี่ยงกับการถูกโอบและถูกท�ำลายเช่นกัน
๔-๑๐๗ ความส�ำเร็จในการเสริมและการเพิ่มเติมผลกระทบจ�ำเป็นต้องมีการประสาน
สอดคล้อง ความริเริ่ม และความหลากหลาย การปฏิบัติที่มีการประสานสอดคล้องเป็นพื้นฐาน
ของการเสริมและการเพิ่มเติมผลกระทบ ผู้บังคับหน่วยจะใช้ระบบต่าง ๆ ณ พื้นที่และเวลาใด ๆ
อย่างมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ระบบต่าง ๆ มีการผนึกก�ำลังซึ่งกันและกัน ความริเริ่มของผู้นำ� จะท�ำให้
หน่วย และระบบมีเอกภาพไม่วา่ สถานการณ์จะเปลีย่ นแปลงไปอย่างไรหรือแม้แต่ในยามทีไ่ ม่สามารถ
สั่งการต่อหน่วยรองได้ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผู้น� ำหน่วยจะ
ต้องปรับหรือพัฒนาการใช้หน่วยและระบบที่มีอยู่เพื่อท�ำให้ข้าศึกตกอยู่ในสภาพที่เสียเปรียบ
หากมีการปรับหรือพัฒนาการใช้หน่วยและระบบอย่างเหมาะสมแล้วจะท�ำให้เกิดผลกระทบใน
ลักษณะอสมมาตรที่กองก�ำลังรบร่วมพึงประสงค์ต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของหน่วยเหนือ
ความเป็นอสมมาตร
๔-๑๐๘ ความเป็นอสมมาตรคือความแตกต่างกันในเรื่องการจัด ยุทโธปกรณ์ หลักนิยม
ขีดความสามารถ และค่านิยมระหว่างกองทัพของประเทศต่าง ๆ ที่เข้าปฏิบัติการ ผู้บัญชาการ
กองก�ำลังรบร่วมจะต้องจัดระบบให้การปฏิบัติที่มีลักษณะทั้งสมมาตร และอสมมาตรเข้าด้วยกัน
เพือ่ ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของฝ่ายเราเข้าปฏิบตั ติ อ่ จุดอ่อนของฝ่ายข้าศึก และเพือ่ ให้ฝา่ ยเรามีเสรี
114 บทที่ ๔
สะเทินน�้ำสะเทินบกที่สามารถคุกคามต่อกองก�ำลังของอิรัก ในคูเวตด้วยการโจมตีขนาดใหญ่
จากอ่าวเปอร์เซีย อิรักซึ่งไม่มีก�ำลังทางเรือจึงต้องโยกย้ายก�ำลังถึงหกกองพลเพื่อมาวางป้องกัน
แนวชายฝั่งเอาไว้ การคุกคามด้วยศักยภาพในการโจมตีสะเทินน�้ำสะเทินบก ช่วยตรึงก�ำลังอิรัก
ดังกล่าวอยู่กับที่ เปิดโอกาสให้การรุกทางพื้นดินของกองก�ำลังพันธมิตรชั่วคราวสามารถโอบและ
ท�ำลายกองพลดังกล่าวของอิรัก ได้ในที่สุด
๔-๑๑๒ โอกาสของการโจมตีแบบอสมมาตรจะเพิม่ ขึน้ เมือ่ กองก�ำลังตามแบบของสหรัฐฯ
ทั้งทางทะเล ทางบก ทางอากาศ และอวกาศด�ำรงความเหนือกว่าอย่างต่อเนื่อง การโจมตีดังกล่าว
อาจขัดขวางการปฏิบัติทางยุทธวิธีได้เพียงแค่เวลาสั้น ๆ แต่อย่างไรก็ตาม ผลสืบเนื่องทั้งในระดับ
ยุทธการและยุทธศาสตร์อาจมีมากกว่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ
และการปฏิบัติการสนับสนุน ตัวอย่างเช่น ในเหตุการณ์วางระเบิดในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน
ปี พ.ศ. ๒๕๒๖ (ค.ศ. ๑๙๘๓) และการวางระเบิดตึก โคบาร์ ทาวเวอร์ (Khobar Towers)
ในซาอุดีอาระเบีย ในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ (ค.ศ. ๑๙๙๖) ที่ผู้ก่อการร้ายใช้รถบรรทุกระเบิด ท�ำให้ทหาร
สหรัฐฯ เสียชีวิตจ�ำนวนมาก การโจมตีทั้งสองครั้งก็มีลักษณะที่เป็นอสมมาตรในแง่ของอาวุธและ
ค่านิยม นอกจากนี้การปฏิบัติการทั้งสองแห่งถือเป็นการปฏิบัติการต่อที่หมายทางทหารที่ฝ่าย
ก่อการร้ายหวังผลทางการเมือง ยิ่งถ้ามีการคุกคามด้วยอาวุธที่มีอ�ำนาจท�ำลายล้างสูงความเสี่ยง
ที่จะเกิดความเป็นอสมมาตรก็ยิ่งสูงขึ้นเป็นทวีคูณ
๔-๑๑๔ การโจมตีแบบอสมมาตรก่อให้เกิดความเสี่ยงทั้งต่อก�ำลังฝ่ายเราและฝ่ายข้าศึก
ในการต่อต้านการโจมตีแบบอสมมาตร ฝ่ายที่เสียเปรียบจะต้องปรับเปลี่ยนกฎการใช้ก�ำลัง การจัด
หลักนิยม การฝึก หรือยุทโธปกรณ์ให้เหมาะสม ยิ่งระดับหน่วยสูงเท่าใดยิ่งต้องใช้เวลาในการลด
ความเสียเปรียบนานขึน้ เท่านัน้ ทบ.สามารถลดจุดอ่อนและผลกระทบจากการโจมตีแบบอสมมาตร
ด้วยการจัด การฝึก และการประกอบอาวุธยุทโธปกรณ์ที่อ่อนตัวต่อสถานการณ์ มาตรการป้องกัน
เช่นการระวังป้องกันทางกายภาพและการระวังป้องกันในการปฏิบัติการจะช่วยลดผลกระทบจาก
โจมตีทเี่ ป็นอสมมาตรได้ ขีดความสามารถในการป้องกัน นชค.ในระดับยุทธวิธกี เ็ ป็นเครือ่ งมือในการ
ป้องปรามการโจมตีได้เป็นอย่างดี ผู้บังคับหน่วยต้องคาดการณ์ในเรื่องการโจมตีแบบอสมมาตรไว้
เสมอและใช้มาตรการป้องกันเพือ่ ลดความได้เปรียบของข้าศึกให้มนี อ้ ยทีส่ ดุ อีกทัง้ ยังต้องทราบและ
ขยายผลขีดความสามารถของฝ่ายเราที่มีความเป็นอสมมาตรต่อข้าศึกได้ในเวลาเดียวกัน
บทที่ ๕
การบัญชาการรบ
๕-๔ การบั ญ ชาการรบที่ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพต้ อ งใช้ ก ารตั ด สิ น ใจที่ ทั น เวลา และมี
ประสิทธิภาพมากกว่าข้าศึก ความส�ำเร็จในเรื่องนี้มักขึ้นอยู่กับความเหนือกว่าด้านข่าวสาร การใช้
ข่ า วสารซึ่ ง เป็ น องค์ ป ระกอบอ� ำ นาจก� ำ ลั ง รบและการใช้ ดุ ล พิ นิ จ ที่ ดี จ ะท� ำ ให้ ก ารตั ด สิ น ใจ
มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้บังคับหน่วยจะต้องรู้ว่า จะต้องตัดสินใจเมื่อใด และตัดสินใจในเรื่องอะไร
ทั้งนี้จะต้องพิจารณาคุณภาพของข่าวสารประกอบกันด้วย นอกจากนี้ ผู้บังคับหน่วยจะต้อง
คาดการณ์และเข้าใจว่าหลังจากตัดสินใจแล้วจะต้องท�ำอะไรหรือมีอะไรเกิดขึ้น เพราะบางเรื่องไม่
สามารถล้มเลิกหลังจากที่ได้ตัดสินใจไปแล้ว
๕-๕ การบัญชาการรบจึงขึ้นอยู่กับทักษะและการปฏิบัติของผู้น� ำว่าจะท�ำให้การ
ตัดสินใจมีประสิทธิภาพเพียงใด สิ่งท้าทายส�ำหรับผู้น�ำหน่วยคือ ปริมาณข่าวสารที่มี ซึ่งจะต้อง
ถูกน�ำมาใช้ในการก�ำหนดมโนทัศน์ของการปฏิบัติการ การอธิบายเจตนารมณ์ และการก�ำกับการ
ปฏิบัติของหน่วยรอง การก�ำหนดมโนทัศน์ของการปฏิบัติการเป็นสิ่งที่ต้องกระท�ำอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งผู้บังคับหน่วยต้องเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน สถานการณ์ในอนาคต และประเมินความแตกต่าง
ของสถานการณ์ทั้งสองได้ และเตรียมก�ำหนดการปฏิบัติที่ส�ำคัญ ๆ ที่เชื่อมโยงสถานการณ์ทั้งสอง
ได้ ผู้บังคับหน่วยต้องยอมรับความเสี่ยงที่ได้ใคร่ครวญแล้วเพื่อชิง หรือด�ำรงความริเริ่มเอาไว้
ต้องประเมินข้อดีข้อเสียระหว่างความเสี่ยงกับโอกาสแล้วประยุกต์ให้เข้ากับวิสัยทัศน์ของตน
๕-๖ ในการแปลงวิสยั ทัศน์ของผูบ้ งั คับหน่วยไปเป็นการปฏิบตั ิ ฝ่ายเสนาธิการและหน่วย
รองจะต้องเข้าใจวิสัยทัศน์นั้นเสียก่อน ผู้บังคับหน่วยอธิบายวิสัยทัศน์ของตนไว้ในการให้แนวทาง
ในการวางแผนและเจตนารมณ์ผู้บังคับบัญชา โดยให้รายละเอียดเพียงพอที่ฝ่ายเสนาธิการและ
หน่วยรองจะน�ำไปวางแผน และเตรียมการได้ การบังคับบัญชาคือ การสัง่ การ ผูบ้ งั คับหน่วยสัง่ การ
เพือ่ ให้การปฏิบตั กิ ารของหน่วยทัง้ การปฏิบตั กิ ารหลัก, การรบ และการรบปะทะ เพือ่ บรรลุผลลัพธ์
ที่ตนต้องการ โดยการ
- มอบภารกิจ
- จัดล�ำดับความเร่งด่วนและการแบ่งมอบทรัพยากร
- ประเมินและยอมรับความเสี่ยง
- ตัดสินใจว่าจะปรับเปลี่ยนเมื่อใดและอย่างไร
- ตัดสินใจใช้กองหนุน
- ดู, ฟัง, และเข้าใจความต้องการของหน่วยรองและหน่วยเหนือ
- น�ำและกระตุ้นหน่วยให้ปฏิบัติภารกิจให้ส�ำเร็จ
118 บทที่ ๕
๕-๑๑ เพื่อการจัดวิสัยทัศน์ของผลลัพธ์ที่ต้องการท�ำให้ผู้บังคับบัญชาต้องมีความเข้าใจ
สถานการณ์ในห้วงการรบอย่างชัดเจน ดังนี้ ภารกิจคืออะไร ? ขีดความสามารถ และการปฏิบัติที่
เป็นไปได้ของข้าศึกคืออะไร ? ลักษณะของพื้นที่ปฏิบัติการเป็นอย่างไร ? ลมฟ้าอากาศและ
ภูมิประเทศนั้นเกื้อกูลต่อฝ่ายเราหรือฝ่ายข้าศึก ? เวลาที่มีอยู่ ? ปัจจัยด้านการสนับสนุนทางการ
ช่วยรบที่ส�ำคัญที่สุดได้แก่อะไร ? บทบาทของพลเรือนต้องด�ำเนินการอะไรบ้าง ? โครงสร้างของ
ห้วงการรบนี้จะเกิดขึ้นในระหว่างการวิเคราะห์ภารกิจ (ดู รส. ๕-๐) นอกจากนี้ผู้บังคับบัญชา
ต้องมั่นใจในหลักการสงคราม, หลักของการปฏิบัติและประสบการณ์ของผู้บังคับบัญชาปัจจัย
METT-TC
ปัจจัย METT-TC
๕-๑๒ METT-TC เป็นปัจจัยส�ำคัญส�ำหรับใช้ในการประเมินและก�ำหนดมโนทัศน์ ซึง่ ได้แก่
ภารกิจ, ข้าศึก, ภูมิประเทศและลมฟ้าอากาศ, ก�ำลังและการสนับสนุนที่มีอยู่, เวลาที่มีอยู่, และ
ข้อพิจารณาด้านพลเรือน ปัจจัยห้าข้อแรกเป็นสิง่ ทีค่ นุ้ เคยกันดีและได้ใช้กนั มาเป็นเวลานาน ส�ำหรับ
ปัจจัยข้อพิจารณาด้านพลเรือนนับเป็นปัจจัยใหม่ที่จำ� เป็นในการปฏิบัติการทางทหารเต็มรูปแบบ
ผู้บังคับหน่วยใช้ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ช่วยในการก�ำหนดมโนทัศน์ ประกอบกับการใช้ประมาณการ
ของฝ่ายอ�ำนวยการช่วยเสริมควบคู่กัน
ก้าวหน้าของการปฏิบัติการตลอดเวลา ผู้บังคับหน่วยระดับยุทธการจะต้องประเมินวัตถุประสงค์
ของการปฏิบัติการขนาดใหญ่และการทัพเทียบกับมาตรการวัดประสิทธิภาพและผลลัพธ์ในระดับ
ยุทธศาสตร์อย่างต่อเนื่อง
๕-๒๗ จุดศูนย์ดุล จุดศูนย์ดุลอาจหมายถึง คุณลักษณะ, ขีดความสามารถ หรือที่ตั้ง ที่
ท�ำให้ก�ำลังทหารมีเสรีในการปฏิบัติ, มีความเข้มแข็งทางกายภาพ หรือมีขวัญก�ำลังใจในการสู้รบ
การท�ำลายจุดศูนย์ดุลหรือท�ำให้จุดศูนย์ดุลหมดสภาพคือ วิธีที่ท�ำให้ประสบชัยชนะได้ดีที่สุด
ฝ่ายข้าศึกก็รบั รูว้ า่ จุดศูนย์ดลุ ของตนคือ อะไรและย่อมมีการป้องกันเป็นอย่างดี ดังนัน้ การใช้วธิ กี าร
ทางตรงอาจไม่ได้ผลหรืออาจต้องมีการสูญเสียมาก ผู้บังคับหน่วยจึงต้องมองหาวิธีการหลาย ๆ วิธี
ทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อจัดการกับจุดศูนย์ดุลของฝ่ายข้าศึก
๕-๒๘ จุดศูนย์ดุลเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่สำ� คัญในการออกแบบการทัพและการปฏิบัติ
การขนาดใหญ่ เมือ่ ระบุจดุ ศูนย์ดลุ ได้แล้ว จุดศูนย์ดลุ จะกลายเป็นสิง่ ส�ำคัญทีถ่ กู ระบุถงึ ในเจตนารมณ์
ผู้บังคับบัญชาและการออกแบบยุทธการ ผู้บังคับหน่วยระดับสูงระบุจุดศูนย์ดุลด้วยศัพท์ทางทหาร
เช่น ที่หมายและภารกิจ
๕-๒๙ ผู้บังคับหน่วยไม่เพียงแต่พิจารณาถึงจุดศูนย์ดุลของข้าศึกเพียงอย่างเดียว แต่จะ
ต้องรูแ้ ละป้องกันจุดศูนย์ดลุ ของฝ่ายตนด้วย กรณีตวั อย่าง ในระหว่างสงครามอ่าว หน่วยบัญชาการ
กลางของสหรัฐฯ ระบุวา่ กองก�ำลังพันธมิตรชัว่ คราวคือจุดศูนย์ดลุ จึงใช้มาตรการต่าง ๆ เพือ่ ป้องกัน
จุดศูนย์ดุลดังกล่าว การวางระบบป้องกันขีปนาวุธในยุทธบริเวณก็เป็นหนึ่งในมาตรการป้องกัน
ดังกล่าว
๕-๓๐ จุดแตกหักและที่หมาย จุดแตกหักอาจเป็นภูมิประเทศ, เหตุการณ์เฉพาะ หรือ
ระบบที่ช่วยให้ผู้บังคับหน่วยมีความได้เปรียบอย่างมากเหนือข้าศึกและมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อผล
ของการเข้าตีหรือตั้งรับ จุดแตกหักมิใช่จุดศูนย์ดุล แต่เป็นสิ่งส�ำคัญต่อการโจมตีหรือป้องกัน
จุดศูนย์ดุล ปกติสถานการณ์อาจท�ำให้เกิดจุดแตกหักหลาย ๆ จุดเกินกว่าที่จะควบคุม ท�ำลาย หรือ
ท�ำให้หมดสภาพได้ดว้ ยทรัพยากรทีม่ อี ยู่ การเลือกจุดแตกหักทีส่ ง่ ผลให้จดุ ศูนย์ดลุ ของฝ่ายตรงข้าม
ถู ก ท� ำ ลายหรื อ หมดสภาพอย่ า งรวดเร็ ว และมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพถื อ เป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของยุ ท ธศิ ล ป์
(Operational Art) จุดแตกหักจึงมีผลต่อการออกแบบยุทธการ และช่วยให้ผู้บังคับหน่วยก�ำหนด
ที่หมายหรือวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน มีผลเด็ดขาด และสามารถปฏิบัติได้
๕-๓๑ บางครั้งจุดแตกหักอาจเป็นที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ เช่น ท่าเรือ, เครือข่ายหรือปม
คมนาคม หรือฐานปฏิบตั กิ าร จุดแตกหักทางภายภาพอืน่ ๆ อาจได้แก่องค์ประกอบของก�ำลังข้าศึก
124 บทที่ ๕
เพื่อหลีกเลี่ยงจุดผกผันดังกล่าว หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็สามารถจัดก�ำลังรบให้มีความเข้มแข็ง
มากที่สุดได้ทันการ
๕-๓๙ ในการปฏิบัติการ ที่การปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพและการปฏิบัติการสนับสนุนมี
ความส�ำคัญกว่าเรื่องอื่น จุดผกผันอาจเกิดขึ้นจากการที่เจตจ�ำนงของชาติลดน้อยลง การสนับสนุน
จากประชาชนหดหาย เกิดค�ำถามถึงความชอบธรรมในการปฏิบตั กิ าร หรือเกิดการบาดเจ็บล้มตาย
อย่างมากมาย ส่วนใหญ่จุดผกผันมักเกิดขึ้นเมื่อก� ำลังทหารต้องควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่
ทีก่ ว้างเกินไปเมือ่ เทียบกับก�ำลังทีม่ อี ยู่ หรือเมือ่ ทรัพยากรไม่เพียงพอหรือไม่สามารถให้การสนับสนุน
ได้ทนั เวลา กรณีดงั กล่าว ความล้มเหลวเล็ก ๆ อาจลุกลามเป็นความพ่ายแพ้ หรือเกิดการตืน่ ตระหนก
ทางการเมือง จนท�ำให้ไม่สามารถสนับสนุนการปฏิบัติการต่อไปได้
๕-๔๐ ระยะถึง การเข้าถึง และการหยุดระดับยุทธการ การออกแบบการยุทธ์ที่ดีต้อง
ท�ำให้ระยะถึง การเข้าถึง และการหยุดระดับยุทธการมีความสมดุลเพื่อให้กองก�ำลังบรรลุภารกิจ
ก่อนที่จะถึง จุดผกผัน ผู้บังคับหน่วยต้องประเมินสถานภาพทั้งทางกายภาพและทางจิตวิทยา
ของกองก�ำลังทัง้ ฝ่ายเราและฝ่ายข้าศึก คาดการณ์ถงึ จุดผกผัน และวางแผนการหยุดระดับยุทธการ
เมื่อจ�ำเป็น เมื่อใช้กำ� ลังไปแล้วต้องมีการประเมินความเสี่ยง แต่ทั้งนี้ต้องตั้งเป้าที่จะขยายระยะถึง
ออกไปในขณะที่หลีกเลี่ยงจุดผกผันและการหยุดระดับยุทธการไม่ให้เกิดขึ้น
๕-๔๑ ระยะถึงทางยุทธการ หมายถึงระยะทางที่สามารถจะน�ำพลังอ�ำนาจทางทหารไป
ใช้ได้อย่างแตกหักได้ ระยะถึงทางยุทธการสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ปัจจัยที่มี
อิทธิพลต่อระยะถึงทางยุทธการได้แก่ อ�ำนาจก�ำลังรบ, ขีดความสามารถในการด�ำรงสภาพ,
สภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ที่แยกก�ำลังฝ่ายเราและฝ่ายข้าศึกจากกัน กกล.ทบ. สามารถขยาย
ระยะถึงทางยุทธการออกไปได้ด้วยการก�ำหนดที่ตั้งให้กับหน่วย กองหนุน ฐานปฏิบัติการ และการ
สนับสนุนไปข้างหน้า การเพิ่มระยะยิงของระบบอาวุธ การใช้วินัยการส่งก�ำลัง และการปรับปรุง
เส้นการคมนาคม
๕-๔๒ การเข้าถึงทางยุทธการ เป็นลักษณะทีผ่ บู้ งั คับหน่วยโจมตีตอ่ จุดศูนย์ดลุ ของข้าศึก
การเข้าถึงทางตรงหมายถึง การใช้อ�ำนาจก�ำลังรบต่อจุดศูนย์ดุลของข้าศึกหรือต่อจุดที่เป็นความ
เข้มแข็งหลักการเข้าถึงโดยอ้อมเป็นการโจมตีต่อจุดศูนย์ดุลข้าศึกด้วยการใช้อ�ำนาจก�ำลังรบต่อ
จุดแตกหักหลายจุดเพื่อหลีกเลี่ยงจุดที่ข้าศึกเข้มแข็งที่สุด หากเป็นไปได้ ผู้บังคับหน่วยจะเลือกใช้
การเข้าถึงทางอ้อม ด้วยการด�ำเนินกลยุทธ์ทหี่ ลีกเลีย่ งจุดแข็งและลิดรอนขีดความสามารถของข้าศึก,
หลี ก เลี่ ย งการปะทะหากสถานการณ์ ไ ม่ เ กื้ อ กู ล หรื อ เมื่ อ การรบไม่ ส ่ ง ผลกระทบที่ ส� ำ คั ญ ต่ อ
การปฏิบัติการ การเข้าถึงทางยุทธการที่มีประสิทธิภาพคือการท�ำให้เกิดผลกระทบที่ส�ำคัญต่อ
128 บทที่ ๕
จะช่วยให้ผู้บังคับหน่วยต่าง ๆ แลกเปลี่ยนข่าวสารและความเห็นได้สะดวกยิ่งขึ้นและมองภาพ
การยุทธ์ร่วมกัน ในท�ำนองเดียวกันข่าวสารและความเห็นของฝ่ายอ�ำนวยการในรูปแบบของการ
ประมาณการก็มีส่วนช่วยให้การวิเคราะห์สถานการณ์มีความแม่นย�ำมากขึ้น ผู้บังคับหน่วยจึงต้อง
กระตุ้นให้ฝ่ายอ�ำนวยการจัดหาข่าวสารที่จ�ำเป็นต่อการก�ำหนดวิสัยทัศน์ของตนด้วย
ประสบการณ์และดุลพินิจของผู้บังคับหน่วย
๕-๕๘ ผู้บังคับหน่วยจะพิจารณาบริบทของการปฏิบัติการ ความสัมพันธ์ของ กกล.ทบ.
ภายในกองก�ำลังร่วม และบทบาทและภารกิจที่ได้รับจากผู้บัญชาการกองก�ำลังร่วม ประสบการณ์
และความเข้าใจสถานการณ์คือปัจจัยส� ำคัญที่มีอิทธิพลต่อมโนทัศน์ในการออกแบบยุทธการ
หน่วยต่าง ๆ ของ กกล.ทบ. จะน�ำแนวทางที่ผู้บัญชาการ กกล.ทบ. ก�ำหนดไปจัดท�ำเป็นแผน
เตรียมการปฏิบัติ และประเมินการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง
๕-๕๙ ดุลพินจิ เป็นปัจจัยพืน้ ฐานในการพิจารณาใช้อำ� นาจก�ำลังรบให้เหมาะสมกับสถานการณ์
ในสภาวะที่ประสบการณ์มีส่วนช่วย ผู้บังคับหน่วยต้องใช้ทั้งประสบการณ์ สัญชาตญาณ ดุลพินิจ
และข้อเสนอแนะของฝ่ายอ�ำนวยการและหน่วยรองเพื่อก�ำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ ในหลาย ๆ ครั้ง
ค�ำตอบในการแก้ปัญหายาก ๆ อาจได้จากการศึกษาประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นสิ่งส�ำคัญต่อการพัฒนา
ความเป็นทหารอาชีพ ในบางสถานการณ์ ผู้บังคับหน่วยขนาดเล็กหรือพลทหารอาจคิดค้นวิธีแก้
ปัญหาทางยุทธวิธไี ด้ เมือ่ หนทางแก้ปญ ั หาถูกเสนอขึน้ มา ผูบ้ งั คับหน่วยต้องน�ำมาพิจารณาและตกลง
ใจปฏิบัติให้เหมาะสม
การอธิบาย
๕-๖๐ ในการอธิบายการปฏิบัติการ ผู้บังคับหน่วยใช้กรอบยุทธการ และองค์ประกอบ
การออกแบบยุทธการ เพื่อเชื่อมโยง การปฏิบัติการแตกหัก การปฏิบัติการสร้างสภาวะ และ
การปฏิบัติการด�ำรงสภาพให้เข้ากับเวลาและพื้นที่ ในการปฏิบัติการทุกครั้ง วัตถุประสงค์และเวลา
คือ ตัวก�ำหนดการแบ่งมอบพื้นที่ ผู้บังคับหน่วยต้องแจกแจงประเด็นทั้งสองให้ชัดเจนเท่าที่
สถานการณ์จะอ�ำนวยให้ อีกทั้งต้องเน้นย�้ำให้เข้าใจว่า การปฏิบัติการทั้งแตกหัก สร้างสภาวะ และ
ด�ำรงสภาพ เกี่ยวข้องกับการบรรลุวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติการทั้งปวงได้อย่างไร นอกจากนี้ยัง
จะต้องจัดพืน้ ทีท่ งั้ ทางลึก ระยะใกล้ และส่วนหลังในการจัดสนามรบด้วย ไม่วา่ ผูบ้ งั คับหน่วยจะมอง
ว่าการปฏิบัติการครั้งนั้นเป็นแบบเป็นแนวหรือไม่เป็นแนวหรือไม่ก็ตาม การใช้กรอบยุทธการร่วม
กับองค์ประกอบการออกแบบยุทธการจะเป็นเครือ่ งมือทีส่ ามารถอธิบายการปฏิบตั ไิ ด้ดี นอกจากนี้
ผู้บังคับหน่วยอธิบายวิสัยทัศน์ของตนไว้ใน เจตนารมณ์ผู้บังคับบัญชา และแนวทางในการวางแผน
โดยการใช้ค�ำที่เหมาะกับลักษณะของภารกิจและประสบการณ์ของตน
132 บทที่ ๕
เจตนารมณ์ผู้บังคับบัญชา
๕-๖๑ ผู้บังคับหน่วยแสดงวิสัยทัศน์ของตนในรูปแบบของเจตนารมณ์ผู้บังคับบัญชา
ฝ่ายอ�ำนวยการและหน่วยรองน�ำเอาเจตนารมณ์ผู้บังคับบัญชามาแปลงความคิดให้เป็นการปฏิบัติ
ออกมาเป็นแผนและค�ำสั่ง เจตนารมณ์ผู้บังคับบัญชาเป็นข้อความที่สั้นและชัดเจนว่าหน่วยจะต้อง
ท�ำอะไร มีสภาวะหรือเงื่อนไขอะไรบ้างเกี่ยวกับข้าศึกและภูมิประเทศที่หน่วยต้องท�ำให้ส�ำเร็จเพื่อ
ให้บรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการ เจตนารมณ์นี้ผู้บังคับหน่วยต้องเป็นผู้ประเมินด้วยตนเองว่าจะปฏิบัติ
ภารกิจให้สำ� เร็จได้อย่างไร ซึง่ บางครัง้ อาจต้องใช้สญ
ั ชาตญาณเข้ามาช่วย ในขัน้ ตอนสุดท้าย ผูบ้ งั คับ
หน่วยต้องแสดงเจตนารมณ์ของตนด้วยตนเองไม่ว่าจะเป็นโดยข้อเขียนหรือวาจา
๕-๖๒ เจตนารมณ์ผู้บังคับบัญชาและภารกิจ คือแนวทางที่หน่วยรองต้องน�ำไปปฏิบัติ
เพือ่ ให้บรรลุภารกิจแม้ไม่มคี �ำสัง่ เมือ่ มีโอกาสส�ำคัญเกิดขึน้ การปฏิบตั ขิ องหน่วยรองต้องมุง่ ไปสูก่ าร
บรรลุเจตนารมณ์ เพราะเจตนารมณ์จะระบุสภาวะและเงื่อนไขที่หน่วยจะต้องท�ำให้ได้เพื่อน�ำไปสู่
ผลลัพธ์ที่ต้องการ หนทางปฏิบัติทุก ๆ หนทางต้องยึดสภาวะและเงื่อนไขที่กำ� หนด ซึ่งอาจได้แก่
จังหวะ ห้วงเวลา ผลกระทบต่อข้าศึก ผลกระทบต่อฝ่ายเรา และภูมิประเทศส�ำคัญ
แนวทางในการวางแผน
๕-๖๓ จากวิสยั ทัศน์ ผูบ้ งั คับหน่วยจะต้อง ระบบปฏิบัติการในสนามรบ
พัฒนาและให้แนวทางในการวางแผน แนวทางใน - ข่าวกรอง
การวางแผนอาจเป็นแนวความคิดอย่างกว้าง ๆ หรือ - การด�ำเนินกลยุทธ์
ลงไปในรายละเอียดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ไม่ว่า - การยิงสนับสนุน
จะเป็ น แบบใด แนวทางในการวางแผนเป็ น การ - การป้องกันภัยทางอากาศ
ถ่ายทอดสาระส�ำคัญของวิสยั ทัศน์ของผูบ้ งั คับหน่วย - ความคล่องแคล่ว/การต่อต้านความ
เป็นการปฏิบัติ ประสบการณ์และดุลพินิจจะเป็น - การสนับสนุนทางการช่วยรบ
ปัจจัยช่วยให้แนวทางในการวางแผนนี้เป็นที่ เข้าใจ - การบังคับบัญชาและการควบคุม
ได้งา่ ย ครอบคลุมรายละเอียดทีจ่ �ำเป็น ผูบ้ งั คับหน่วย
ต้องชี้น�ำให้ฝ่ายอ�ำนวยการวางแผนให้สอดคล้องกับแนวทางนี้ ขณะเดียวกันก็ต้องเปิดโอกาสให้
คิดค้นหาทางเลือกอื่น ๆ ด้วย
การสั่งการ
๕-๖๔ ผู้บังคับหน่วยและฝ่ายอ�ำนวยการพัฒนาแนวความคิดในการปฏิบัติและประสาน
สอดคล้องระบบปฏิบัติการสนามรบโดยยึดถือเจตนารมณ์ผู้บังคับบัญชาเป็นแนวทาง ระบบปฏิบัติ
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 133
การบังคับบัญชา และควบคุม
๕-๗๑ การบั ง คั บ บั ญ ชา
และควบคุ ม มี อ งค์ ป ระกอบหลั ก การบังคับบัญชาและการควบคุม เป็น การด�ำเนิน
๒ อย่างคือ ผูบ้ งั คับบัญชา และระบบ งานในเรือ่ งของอ�ำนาจหน้าทีแ่ ละการสัง่ การอ�ำนวยการ
การบังคับบัญชาและควบคุม ระบบ โดยผู้บังคับบัญชาที่ได้ออกแบบอย่างเหมาะสมในเรื่อง
การบังคับบัญชาและควบคุมประกอบ ของ การสมทบและการบรรจุมอบก�ำลังรบเพือ่ บรรลุผล
ไปด้ ว ย ระบบการติ ด ต่ อ สื่ อ สาร, ส�ำเร็จในภารกิจ พันธกิจด้านการบังคับบัญชาและการ
ระบบข่ า วกรอง และเครื อ ข่ า ย ควบคุมได้รับการปฏิบัติด้วยการจัดการในเรื่องของ
คอมพิวเตอร์ ซึง่ จะเป็นเครือ่ งมือช่วย ก� ำ ลั ง พล, การจั ด ยุ ท โธปกรณ์ , การติ ด ต่ อ สื่ อ สาร,
ให้ผบู้ งั คับบัญชาสามารถน�ำหน่วยได้ สิ่งอ�ำนวยความสะดวก, และระเบียบปฏิบัติ, ที่ใช้โดย
ทุ ก ที่ ใ นสนามรบ ช่ ว ยให้ ผู ้ บั ง คั บ ผู้บังคับบัญชาในการวางแผน, การสั่งการอ�ำนวยการ,
หน่ ว ยมี ข ่ า วสารในการตั ด สิ น ใจ การประสานงาน, และการควบคุมก�ำลังรบและการ
ก ร ะ จ า ย อ� ำ น า จ แ ล ะ ป ร ะ ส า น ปฏิบัติการให้บรรลุภารกิจ
สอดคล้องระบบปฏิบัติการสนามรบ
ยิ่งกว่านั้น ระบบบังคับบัญชาและควบคุมช่วยให้ผู้บังคับหน่วยสามารถปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติการ
ในอนาคตได้ในยามที่ต้องเพ่งเล็งความสนใจต่อการรบในปัจจุบัน ฝ่ายอ�ำนวยการเป็นผู้ช่วย
ผู้บังคับบัญชาในการสั่งการต่อหน่วย และแบ่งมอบทรัพยากรตามเจตนารมณ์ผู้บังคับบัญชาที่ให้ไว้
นอกจากนี้ยังต้องรายงานสถานการณ์ทั้งฝ่ายเราและฝ่ายข้าศึกและให้ข้อเสนอแนะเมื่อจ�ำเป็นต้อง
ให้ผู้บังคับบัญชาตัดสินใจ ผู้บังคับหน่วยจะต้องใช้ความริเริ่มและสนธิพันธกิจทางทหารทั้งปวง
ผ่านทางระบบบังคับบัญชาและควบคุมให้มุ่งไปสู่วัตถุประสงค์เดียวกันคือ การบรรลุภารกิจ
๕-๗๒ สิ่งส�ำคัญในระบบบังคับบัญชาและควบคุมคือ ระบบการติดต่อสื่อสารที่เชื่อถือได้
การบัญชาการรบทีม่ ปี ระสิทธิภาพจ�ำเป็นต้องอาศัยระบบสือ่ สารทีเ่ ชือ่ ถือได้เพือ่ ท�ำให้ผบู้ งั คับหน่วย
ควบคุมจังหวะในการปฏิบัติการ อย่างไรก็ตามรูปแบบการบัญชาการรบที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว
ของผู้บังคับหน่วยมีความส�ำคัญกว่าระบบการติดต่อสื่อสาร การวางแผนการสื่อสารที่ดีช่วยให้
ผู้บังคับหน่วยมีทางเลือกหลายทางในการส่งข่าวสารในยามวิกฤต และช่วยให้ผู้บังคับหน่วย
ขยายผลจากความส� ำเร็จทางยุทธวิธี และคาดการณ์ต่อการปฏิบัติในอนาคตได้ นอกจากนี้
การวางแผนการติดต่อสื่อสารยังเป็นปัจจัยส�ำคัญในการด�ำรงหรือขยายระยะถึงทางยุทธการด้วย
136 บทที่ ๕
ผลกระทบจากบุคลิกส่วนตัวของผู้บังคับหน่วย
๕-๗๓ การบัญชาการเกิดขึ้น ณ ที่อยู่ของผู้บังคับหน่วย ซึ่งอาจจะเป็นที่บัญชาการ,
ขณะร่วมไปกับการแทรกซึมในเวลากลางคืนของหน่วยทหารราบเบา หรืออยูใ่ นยานพาหนะในการ
ปฏิบัติการแตกหัก ผู้บังคับหน่วยต้องใช้การกระตุ้นต่อก�ำลังพลด้วยการแสดงตนเป็นตัวอย่าง กับ
การด�ำรงความต่อเนือ่ งในการบังคับบัญชาและควบคุมอย่างสมดุล แม้แต่ยามทีม่ รี ะบบบังคับบัญชา
ควบคุมที่ทันสมัย ผู้บังคับหน่วยก็ต้องค�ำนึงถึงที่อยู่ของตนว่าจะเกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติการ
และแสวงประโยชน์จากสถานการณ์ได้ทนั ต่อเหตุการณ์หรือไม่ ในการปฏิบตั ทิ างยุทธวิธขี นาดใหญ่
หรือในหน่วยระดับยุทธการ ทีบ่ ญ ั ชาการมักจะให้ความส�ำคัญกับการวางแผนและการส่งข่าวสารได้
อย่างสะดวกและทันเวลา เพราะฉะนั้นระบบข่าวสาร หรือ สารสนเทศ ฝ่ายอ�ำนวยการ และการ
เข้าใจภาพการยุทธ์ร่วมกัน (ภยร.) คือ มองภาพเดียวกัน จะช่วยเสริมขีดความสามารถของผู้บังคับ
หน่วยในการวาดภาพความเป็นไปได้ และตระหนักถึงโอกาสต่าง ๆ แต่ก็มีบางครั้งที่การปรากฏตัว
ของผู้บังคับหน่วยก็ยังมีความจ�ำเป็น ควรต้องมีการวางแผนรองรับในกรณีดังกล่าว และความเป็น
ไปได้ส�ำหรับการสูญเสียผู้บังคับหน่วยไป ที่อยู่ของผู้บังคับหน่วยทุกระดับจึงไม่เพียงแต่สามารถ
บัญชาการรบได้ แต่ต้องรับรู้สถานการณ์การรบได้อีกด้วย บางครั้งก็เป็น ณ ที่บัญชาการ และ
บางครั้งต้องอยู่กับผู้บังคับหน่วยรอง และก�ำลังพล
๕-๗๔ เจตจ�ำนงที่แน่วแน่ของผู้บังคับหน่วยเป็นปัจจัยส�ำคัญที่ผลักดันการปฏิบัติของ
หน่วยให้ผ่านความเหนื่อยยากและอันตรายในการรบไปสู่การบรรลุภารกิจได้ การรบย่อมมีความ
ผิดพลาดและการสูญเสีย ขีดความสามารถของผูบ้ งั คับหน่วยและก�ำลังพลจะลดลงเมือ่ ความทรหด
อดทนของร่างกายถึงขีดจ�ำกัด หากเผชิญกับข้าศึกที่มีความเชี่ยวชาญและมุ่งมั่น ทหารอาจถึงจุดที่
คิดว่า “ท�ำไม่ได้” หรือ “ไปต่อไม่ไหว” ณ จุดนี้เองที่เจตจ�ำนงและการปรากฏตัวของผู้บังคับหน่วย
จะเป็นแรงกระตุ้นที่ส�ำคัญ
บทที่ ๖
การปฏิบัติการทุกรูปแบบ
ไว้ขั้นต้น ฝ่ายเสนาธิการจะรวมความต้องการข่าวสารส�ำคัญยิ่งของผู้บังคับบัญชาเข้าไว้ในส่วนที่
เหมาะสมของแผน และส่งความต้องการข่าวสารส�ำคัญยิง่ ของผูบ้ งั คับบัญชาดังกล่าวไปยังหน่วยรอง
๖-๖ แผนจะให้อิสระและแนวทางแก่หน่วยรองในการใช้ความริเริ่มภายในขอบเขตของ
เจตนารมณ์ผู้บังคับบัญชา ตัวอย่างเช่น หน่วยบินและหน่วยด�ำเนินกลยุทธ์ภาคพื้นดินอาจจะโจมตี
เพื่อลดขีดความสามารถของระบบเครื่องส่งอาวุธอานุภาพท�ำลายล้างสูงของข้าศึกที่มีการก�ำหนด
ที่ตั้งไว้ โดยที่ไม่ต้องระบุภารกิจไว้ว่าต้องท�ำอะไร ณ เวลานั้น ส�ำหรับการปฏิบัติการบางครั้ง อาจ
ต้องการการควบคุมที่เข้มงวดต่อหน่วยรอง อย่างไรก็ตามผู้บังคับบัญชาต้องแน่ใจว่าแผนยังคงมี
ความอ่อนตัวเท่าที่เป็นไปได้ และมีการควบคุมน้อยที่สุดตามต้องการให้ภารกิจประสบผลส�ำเร็จ
ผูบ้ งั คับบัญชาจะต้องสนับสนุนให้หน่วยรองสามารถครองความริเริม่ ได้ดว้ ยแผนและการอ�ำนวยการ
ที่จะท�ำให้เกิดแนวทางในทุกโอกาสที่เกี่ยวข้อง
การวางแผนระดับยุทธการและยุทธวิธี
๖-๗ การวางแผนมีลักษณะเป็นพลวัต และมีความต่อเนื่อง (ดู รส. ๕-๐) การวางแผน
ระดั บ ยุ ท ธการจะเพ่ ง เล็ ง ต่ อ การพั ฒ นาแผนส� ำ หรั บ การทั พ , การทั พ รอง และการปฏิ บั ติ
การยุทธ์ขนาดใหญ่ ผู้บัญชาการรบจะพัฒนาแผนการทัพของยุทธบริเวณ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์
ระดับยุทธศาสตร์ของยุทธบริเวณ, ของชาติ และของหลาย ๆ ชาติ ปกติหน่วยบัญชาการรวมรอง
จะพัฒนาแผนการทัพรองหรือปฏิบัติการตามแผนที่จะบรรลุต่อวัตถุประสงค์ทางยุทธศาสตร์ของ
ยุทธบริเวณ ผู้บัญชาการกองก�ำลังเฉพาะกิจร่วม อาจจะพัฒนาแผนการทัพรอง หากภารกิจมี
ความต้องการ การปฏิบัติการทางทหารที่มีขอบเขต, ขนาด, ความสลับซ้อน และระยะเวลาอย่าง
เพียงพอ ปกติผบู้ ญ
ั ชาการ กกล.ทบ. จะพัฒนาแผนการต่าง ๆ ส�ำหรับการปฏิบตั กิ ารยุทธ์ขนาดใหญ่
ซึ่งสนับสนุนต่อแผนการทัพ
๖-๘ ในการปฏิบัติการยุทธ์ขนาดใหญ่ ผบ.ทบ. เลือกที่จะท�ำการรบหรือปฏิเสธการรบ,
ตัดสินใจว่าจะใช้อะไรในการท�ำให้เกิดความส�ำเร็จและล้มเหลวในระดับยุทธวิธี และแนะน�ำ
ผู ้ บั ญ ชาการก� ำ ลั ง รบร่ ว มเกี่ ย วกั บ ความต้ อ งการระยะยาวและภาพของการปฏิ บั ติ ก ารของ
ผู้บัญชาการ กกล.ทบ. ทั้งนี้ โดยทั่ว ๆ ไปแผนการทัพจะก่อให้เกิดกลุ่มของเป้าหมายในระยะยาว
ทีต่ อ้ งมีขนั้ การปฏิบตั อิ ย่างชัดเจน ซึง่ ปกติแผนการทัพจะก่อให้เกิดแนวความคิดในการปฏิบตั ทิ วั่ ๆ
ไปส� ำ หรั บ แผนการทั พ ทั้ ง หมดและค� ำ สั่ ง ปฏิ บั ติ ก ารจะมี เ ฉพาะขั้ น ตอนเริ่ ม ต้ น ของการทั พ
การวางแผนส�ำหรับการปฏิบัติการยุทธ์ขนาดใหญ่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการวางแผนส�ำหรับ
การทัพทั้งหมด แต่มีขอบเขตที่ลดลง ถึงแม้ว่าการปฏิบัติการยุทธ์ขนาดใหญ่จะไม่ใช่ขั้นเริ่มต้น
ของการทัพ แต่การวางแผนส�ำหรับการปฏิบตั กิ ารยุทธ์ขนาดใหญ่เป็นไปในลักษณะทีเ่ ป็นการปฏิบตั ิ
140 บทที่ ๖
ตามแผนเผชิ ญเหตุและการปฏิบัติการต่อไป หรื อ เป็ น การปฏิ บั ติ ต ามล�ำ ดั บ ขั้ น ที่ อ าจเริ่ ม ขึ้ น
อย่างยาวนาน ก่อนที่จะมีการปฏิบัติจริง
๖-๙ การวางแผนระดับยุทธการและระดับยุทธวิธจี ะเสริมซึง่ กันและกัน แต่มจี ดุ มุง่ หมาย
แตกต่างกัน การวางแผนระดับยุทธการเป็นการเตรียมการส�ำหรับกิจกรรมระดับยุทธวิธีในรูปแบบ
ที่เป็นที่ต้องการ การวางแผนระดับยุทธการจะแสวงหาวิธีการที่จะสนับสนุนและขยายความส�ำเร็จ
ระดับยุทธวิธอี ย่างต่อเนือ่ ง การปฏิบตั กิ ารยุทธ์ขนาดใหญ่จะขึน้ อยูก่ บั การใช้การปฏิบตั ริ ะดับยุทธวิธี
อย่างเหมาะสม เพื่อบรรลุความมุ่งประสงค์ระดับยุทธศาสตร์หรือระดับยุทธการในสภาพแวดล้อม
เฉพาะทีม่ ตี อ่ ฝ่ายตรงข้ามซึง่ มีการเปลีย่ นแปลงอยูต่ ลอดเวลา การวางแผนระดับยุทธวิธจี ะเน้นความ
อ่อนตัวและทางเลือก ขอบเขตการวางแผนส�ำหรับการปฏิบัติระดับยุทธวิธีนั้นจะสั้นกว่าระดับ
ยุทธการในเชิงเปรียบเทียบ การวางแผนทีส่ ามารถท�ำความเข้าใจได้อาจมีความเป็นไปได้สำ� หรับการ
เข้าปะทะครั้งแรก หรือขั้นตอนแรกของการรบเท่านั้น การปฏิบัติที่ส�ำเร็จจะขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ
ของข้าศึกและสภาพแวดล้อม ศิลปะของการวางแผนระดับยุทธวิธีอยู่ที่การคาดการณ์และการ
พัฒนาการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุและการปฏิบัติการต่อไปรวมถึงการปฏิบัติตามล�ำดับขั้น
๖-๑๐ การบรรยายสรุปเป็นสิ่งส�ำคัญ ดังนั้น ความเร็วมีผลต่อการปฏิบัติของฝ่าย
เสนาธิการ จึงต้องหลีกเลี่ยงการใช้เวลาที่มากเกินไปในการพัฒนาแผนที่มีความยาวซึ่งบรรจุ
รายละเอียดที่ไม่เกี่ยวข้องเอาไว้ เมื่อแผนมาถึงมือผู้ใช้ช้าเกินไป จะท�ำให้หน่วยรองสามารถท�ำได้
เพียงเป็นผู้ตอบโต้เท่านั้น เพื่อประหยัดเวลา และท� ำแผนให้สั้นลงนั้นผู้บังคับบัญชาและฝ่าย
เสนาธิการต้องคาดการณ์เกี่ยวกับความต้องการด้านการสนับสนุน และคาดคะเนทางเลือกต่าง ๆ
กองบัญชาการในแต่ละระดับควรวางแผนคู่ขนานกับกองบัญชาการหน่วยเหนือและหน่วยรอง
การวางแผนคู่ขนานจะเป็นการแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างกองบัญชาการให้เร็วขึ้น และควรจะ
ใช้ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ผู้บังคับบัญชาขยายผลด้านเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความเข้าใจใน
สถานการณ์และความเร็วของการวางแผน
๖-๑๑ มีระเบียบปฏิบัติในการวางแผนตามหลักนิยมอยู่ ๒ ประการ ในหน่วยที่มีการจัด
ฝ่ายเสนาธิการอย่างเป็นทางการ กระบวนการแสวงข้อตกลงใจทางทหารช่วยผู้บังคับบัญชาและ
ฝ่ายเสนาธิการพัฒนาประมาณการ, แผนและค�ำสั่ง กระบวนการแสวงข้อตกลงใจทางทหารนั้น
จะจัดให้มีล�ำดับการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล และความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชาและฝ่าย
เสนาธิการ กระบวนการแสวงข้อตกลงใจทางทหารก่อให้เกิดโครงร่างร่วมกันส�ำหรับฝ่ายเสนาธิการ
ซึ่งสนับสนุนการใช้การวางแผนคู่ขนานอย่างสูงสุด ในระดับยุทธวิธีต�่ำที่สุดที่ผู้บังคับบัญชาจะไม่มี
ฝ่ายเสนาธิการ ผลที่ได้ต่อมาก็คือ ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ� หน่วยรองจะใช้ระเบียบการน�ำหน่วย
ทัง้ สองมาตรการมีจดุ ส�ำคัญอยูท่ คี่ วามสามารถของผูบ้ งั คับบัญชาทีจ่ ะวาดภาพและให้ค�ำอธิบายการ
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 141
ควรประกอบด้วยโครงร่างการด�ำเนินกลยุทธ์และแนวความคิดในการยิง แนวความคิดของการปฏิบตั ิ
การจะขยายหนทางปฏิบัติที่เลือกไว้ของผู้บังคับบัญชาและแสดงถึงแต่ละส่วนของก�ำลังจะร่วมมือ
กันปฏิบัติเพื่อบรรลุภารกิจได้อย่างไร ในขณะเจตนารมณ์ของผู้บังคับบัญชาจะเพ่งเล็งต่อผลลัพธ์
สุดท้าย แต่แนวความคิดในการปฏิบตั จิ ะเพ่งเล็งต่อวิธกี ารทีก่ ารปฏิบตั กิ ารใช้และประสานสอดคล้อง
ระบบปฏิบัติการในสนามรบเพื่อแปลงการวาดภาพการรบและผลลัพธ์สุดท้ายไปสู่การปฏิบัติ
ผู้บังคับบัญชาต้องแน่ใจว่า แนวความคิดในการปฏิบัตินั้นตรงกันกับเจตนารมณ์ผู้บังคับบัญชาและ
ของหน่วยเหนือกว่า ๒ ระดับ
การจัดการความเสี่ยง
๖-๑๙ การจัดการความเสี่ยง คือ กระบวนการที่ระบุ, ประเมินค่าและควบคุมความเสี่ยง
ทีเ่ กิดจากปัจจัยทางการยุทธ์ และด�ำเนินการตัดสินใจอย่างรอบคอบ ทีจ่ ะสร้างสมดุลระหว่างต้นทุน
ส�ำหรับความเสี่ยงกับผลประโยชน์ของภารกิจ การจัดการความเสี่ยงจะท�ำให้ผู้น�ำมีกลไกอย่างเป็น
ระบบทีจ่ ะพิสจู น์ทราบความเสีย่ งทีเ่ กีย่ วเนือ่ งกับหนทางปฏิบตั ใิ นระหว่างการวางแผน ผูบ้ งั คับบัญชา
ผสมผสานการจัดการความเสีย่ งเข้าไว้ในทุก ๆ แง่มมุ ของการปฏิบตั กิ าร ระหว่างการวางแผนผูบ้ งั คับ
บัญชาจะระบุ, ประเมินค่าและประเมินความเสี่ยง ผู้บังคับบัญชาจะน�ำเสนอข้อพิจารณาเกี่ยวกับ
ความเสีย่ งในรูปของแนวทาง แนวทางเกีย่ วกับความเสีย่ งจะมีผลกระทบต่อการพัฒนาหนทางปฏิบตั ิ
แนวทางเกี่ยวกับความเสี่ยงจะมีผลกระทบต่อการใช้องค์ประกอบบางประการของแผนแบบทาง
ยุทธการเช่น ผลลัพธ์สุดท้าย, การก�ำหนดที่หมาย และเส้นปฏิบัติการ การจัดการความเสี่ยงจะมี
อิทธิพลต่อการจัดเฉพาะกิจ มาตรการควบคุมและแนวความคิดในการปฏิบัติการ การยิง และการ
สนับสนุนทางการช่วยรบ ระหว่างการปฏิบัติการประเมินค่าเกณฑ์เสี่ยงจะช่วยผู้บังคับบัญชาให้
ด�ำเนินการตัดสินใจอย่างมีความรอบคอบ โดยพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงการจัดเฉพาะกิจ, การ
เปลี่ยนแปลงความเร่งด่วนของความพยายามและการสนับสนุน และการจัดรูปการปฏิบัติการใน
อนาคต การจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพจะก่อให้เกิดผลลัพธ์เกี่ยวกับการบรรลุภารกิจด้วย
ค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด
ค�ำสั่ง
๖-๒๐ ค�ำสั่ง เป็นการแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ เมื่อเป็นไปได้ผู้บังคับบัญชาจะให้คำ� สั่ง
ด้วยตัวเองในลักษณะแบบตัวต่อตัว แต่ถ้าไม่สามารถกระท�ำได้ การใช้วีดิทัศน์ทางไกล หรือ
เครื่องมือการติดต่อสื่อสารอื่น ๆ ก็สามารถใช้ทดแทนได้ ผู้บังคับปัญหาจะต้องให้หน่วยรองของตน
มีเสรีการปฏิบตั มิ ากทีส่ ดุ , จัดให้มคี ำ� สัง่ แบบมอบภารกิจ เมือ่ ปฏิบตั คิ ำ� สัง่ แบบมอบภารกิจจะเป็นการ
144 บทที่ ๖
การเตรียมการของหน่วย
๖-๒๓ ความช�ำนาญในการสู้รบซึ่งได้รับการพัฒนาและท�ำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจาก
การฝึกก่อให้เกิดพื้นฐานของความส�ำเร็จในภารกิจ หาก ทบ. ปราศจากขีดความสามารถที่จะต่อสู้
และด�ำเนินการเพื่อให้ได้รับชัยชนะ การส่งหน่วยของเหล่าทัพนั้นเข้าสู่ยุทธบริเวณจะท�ำให้
หน่วยนัน้ ๆ อยูใ่ นเกณฑ์เสีย่ งทีย่ อมรับไม่ได้ หน่วยทีม่ คี วามพร้อมรบสามารถปรับเปลีย่ นความพร้อม
ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ไม่มีการสู้รบ หน่วยที่ไม่ได้ฝึกจนถึงมาตรฐานจะไม่สามารถอยู่รอด
ในสถานการณ์รบ ความรู้ วินัย ความสามัคคีและความช�ำนาญทางเทคนิคนั้นมีความจ�ำเป็นต่อการ
เอาชนะฝ่ายข้าศึกเป็นพื้นฐานส�ำหรับความส�ำเร็จในสภาพแวดล้อมที่คล้ายกับการถูกดึงออกจาก
สนามรบตัง้ แต่ระยะไกล ขีดความสามารถด้านการรบของ กกล.ทบ. เป็นพืน้ ฐานส�ำหรับการปฏิบตั ิ
ทั้งหมด ในการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ ภัยของก�ำลังฝ่ายตรงข้ามอาจยับยั้งการขยายตัว ในการ
ปฏิบัติการสนับสนุน ภัยคุกคามอาจเกิดขึ้นก่อนความรุนแรงและการไม่ปฏิบัติที่ขัดหลักกฎหมาย
๖-๒๔ จังหวะการรบ อาจจะไม่อ�ำนวยให้ผู้บังคับบัญชาสามารถถอนรูปขบวนทั้งหมด
เพื่อการจัดก�ำลังใหม่และการฝึกเพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตาม การสร้างหน่วยมูลฐานของ ทบ. ท�ำให้
ผู้บังคับบัญชาสามารถก�ำหนดหน่วยเพื่อการฝึกขณะที่ส่วนอื่น ๆ ยังคงปฏิบัติภารกิจต่อไป การฝึก
ที่เกิดขึ้นพร้อม ๆ กันนี้อาจเกิดขึ้นในพื้นที่การฝึกที่ก�ำหนดในยุทธบริเวณ ณ ที่ซึ่งหน่วยรับการ
สนับสนุนเพิม่ เติมทางด้านการซ่อมบ�ำรุง ขณะทีก่ ำ� ลังด�ำเนินการฝึกเป็นรายบุคคลและเป็นภาพรวม
ของหน่วย การสร้างพื้นที่ส� ำหรับการฝึกนั้นเป็นทั้งความจ� ำเป็นและเป็นสิ่งที่ท้าทายส� ำหรับ
ผู้บังคับบัญชาของ ทบ.
การเตรียมการเป็นรายบุคคล
๖-๒๕ ก่อนที่จะมีการจัดก�ำลังเข้าท�ำการรบ ก�ำลังพลจะเตรียมการเพื่อการปฏิบัติ
หลายครัง้ หน่วยของ ทบ. จะได้รบั การเพิม่ เติมก�ำลังและการทดแทนก�ำลังพลระหว่างการเตรียมการ
เพื่อการจัดก�ำลังเข้าท�ำการรบ ผู้บังคับบัญชาจะให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการรบ และการเตรียม
การของก�ำลังพลเหล่านี้ และเพื่อผสมผสานครอบครัวของก�ำลังพลเหล่านี้เข้าไว้ในกลุ่มสนับสนุน
นอกจากการเตรียมการทดแทนส�ำหรับการปรับรูปขบวนเข้าสู่การรบแล้ว ผู้บังคับบัญชาต้องแน่ใจ
ว่าหน่วยที่ได้รับมอบก�ำลังเพิ่มเติมนั้นจะต้องน�ำก�ำลังเหล่านั้นเข้าไว้ในชุดการปฏิบัติอย่างรวดเร็ว
กฎการใช้ก�ำลัง
๖-๒๖ ความต้องทางการยุทธ์, นโยบาย และกฎหมายจะเป็นสิง่ ทีก่ ำ� หนดกฎการใช้กำ� ลัง
กฎการใช้ก�ำลังตระหนักถึง สิทธิในการป้องกันตนเอง สิทธิและข้อบังคับของผู้บังคับบัญชาใน
146 บทที่ ๖
การปฏิบัติ
๖-๒๙ การปฏิบตั ิ คือ การกระท�ำร่วมกันเพือ่ ให้ได้มาและด�ำรงรักษาไว้ซงึ่ ความริเริม่ สร้าง
และด� ำ รงรั ก ษาแรงหนุ น เนื่ อ งและขยายผลแห่ ง ความส� ำ เร็ จ หลั ก การ “ความริ เ ริ่ ม ” เป็ น
หลักพื้นฐานของความส�ำเร็จในการปฏิบัติการต่าง ๆ แต่การยึดครองความริเริ่มเพียงประการเดียว
ยังไม่เป็นการเพียงพอ การระดมยิงด้วยอาวุธกระสุนที่มีความแม่นย�ำอย่างทันทีทันใดอาจจะก่อให้
เกิดการจูโ่ จม และท�ำให้ฝา่ ยข้าศึกสูญเสียระเบียบ แต่ถา้ ไม่ดำ� เนินการตามด้วยการปฏิบตั ทิ รี่ วดเร็ว
ความได้เปรียบก็จะหายไปทีละเล็กละน้อย และจะไม่เหลืออยู่อีกต่อไป การปฏิบัติการที่ส�ำเร็จผล
ด�ำรงรักษาแรงหนุนเนือ่ งทีเ่ กิดขึน้ โดยความริเริม่ และขยายผลแห่งความส�ำเร็จตามเจตนารมณ์ของ
ผู้บังคับบัญชา
การยึดครองและด�ำรงรักษาความริเริ่ม
๖-๓๐ ความริเริ่มนั้นให้จิตวิญญาณแก่ทุกการปฏิบัติการในการรุก ในทางยุทธการ
การยึดครองความริเริ่มนั้นต้องการ ผู้น�ำจะต้องคาดการณ์เหตุที่ก�ำลังของตนสามารถมองเห็นได้
และขยายผลของโอกาสนั้น ๆ ได้เร็วกว่าฝ่ายข้าศึก ทันทีที่พวกเขาครอบครองความริเริ่ม กกล.ทบ.
จะขยายโอกาสที่ได้สร้างขึ้น ความริเริ่มนั้นต้องการความพยายามอย่างสม�่ำเสมอในการที่จะบังคับ
ให้ฝ่ายข้าศึกต้องปฏิบัติตามความมุ่งประสงค์ และตามจังหวะของฝ่ายเรา ขณะที่ยังด�ำรงรักษาเสรี
ในการปฏิบตั ขิ องฝ่ายเราเอาไว้ได้ ในมุมมองของผูน้ �ำ ผูบ้ งั คับบัญชาจะใช้ความห้าวหาญ อย่างมาก
และด�ำเนินการตัดสินใจอย่างมีเหตุผลภายใต้สภาพเงือ่ นไขทีไ่ ม่แน่นอน เจตนารมณ์ของผูบ้ งั คับบัญชา
และการรุกรบของหน่วยรองจะสร้างสภาพเงื่อนไขส�ำหรับการใช้ความริเริ่มอย่างเข้มงวด
๖-๓๑ ฝ่ายข้าศึก ได้มาและด�ำรงรักษาความริเริ่มจะบังคับให้ กกล.ทบ. กลายเป็นฝ่าย
ตอบโต้ต่อความเข้มแข็ง และขีดความสามารถแบบอสมมาตรของฝ่ายข้าศึก วิธีการของฝ่ายข้าศึก
ทีจ่ ะพยายามท�ำนีป้ ระกอบด้วย ความพยายามทีจ่ ะลดทอนเทคโนโลยี และความเหนือกว่าทางด้าน
การจัดหน่วยของฝ่ายเรา การปรับเปลี่ยนจังหวะให้เหมาะกับขีดความสามารถของข้าศึก และ
ลดทอนความทนทานของ กกล.ทบ. ดังนั้น กกล.ทบ. ต้องครองความริเริ่มทันทีทันใดที่เป็นไปได้
และทุ่มเทให้เกิดการกระท�ำตลอดทั้งการปฏิบัติการ กกล.ทบ. จะบังคับให้ฝ่ายตรงข้ามปฏิบัติตาม
รูปแบบที่ฝ่ายเราก�ำหนดขึ้น การตอบโต้ต่อการปฏิบัติฝ่ายตรงข้ามจะยอมยกความริเริ่มให้กับ
ฝ่ายเรา และเปิดเผยตนเองต่อการขยายผลเมือ่ ฝ่ายข้าศึกมีความผิดพลาด หรือล้มเหลวทีจ่ ะตอบโต้
อย่างรวดเร็วเพียงพอ
148 บทที่ ๖
การเริ่มการปฏิบัติ
๖-๓๒ ผูบ้ งั คับบัญชาจะสร้างสภาพเงือ่ นไข เพือ่ การยึดครองความริเริม่ โดยการปฏิบตั กิ าร
หากไม่มกี ารปฏิบตั ดิ งั กล่าว การได้มาซึง่ ความริเริม่ ก็เป็นไปไม่ได้ เมือ่ มีการเผชิญหน้ากับสถานการณ์
ที่ไม่แน่นอนจะมีความโน้มเอียงโดยธรรมชาติที่จะเกิดความลังเล และจะท�ำการรวบรวมข่าวสารที่
มากกว่าเดิม เพื่อลดความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม การก�ำจัดความไม่แน่นอนให้หมดไปได้
การรอคอยอาจจะเพิ่มความไม่แน่นอน โดยท�ำให้ฝ่ายข้าศึกมีเวลาที่จะยึดครองความริเริ่ม มัน
ห่ า งไกลเกิ น ไปที่ จ ะจั ด การกั บ ความไม่ แ น่ น อนโดยการกระท�ำ และการพั ฒ นาสถานการณ์
เมือ่ สถานการณ์ทไี่ ม่ชดั เจนเกิดขึน้ ทันทีทนั ใด ผูบ้ งั คับบัญชาจะต้องสร้างความชัดเจนด้วยการปฏิบตั ิ
ไม่ใช่การนั่งรอ และท�ำการรวบรวมข่าวสาร
๖-๓๓ ผูบ้ งั คับบัญชาจะระบุเวลาและสถานทีท่ ผี่ บู้ งั คับบัญชาสามารถรวมผลกระทบของ
อ�ำนาจก�ำลังรบเพื่อให้เกิดความได้เปรียบ เพื่อเป็นการบังคับการตอบโต้ท�ำให้ผู้บังคับบัญชาต้อง
จัดการบางสิ่งบางอย่างต่อฝ่ายข้าศึกอย่างเช่น เอาใจใส่ต่อ จุดศูนย์ดุลของข้าศึก หรือจุดแตกหักที่
จะน�ำไปสู่จุดศูนย์ดุลของฝ่ายข้าศึก ผู้บังคับบัญชาริเริ่มการปฏิบัติไปสู่การตอบโต้ตามล� ำดับ
ซึ่งสุดท้ายจะเป็นการลดทางเลือกของฝ่ายข้าศึกจนไม่มีทางเลือก แต่ละการพัฒนาสถานการณ์
ให้ก้าวหน้าออกไป และลดจ�ำนวนของความเป็นไปได้ในการน� ำมาเป็นข้อพิจารณาลง ดังนั้น
จึงเป็นการลดความไม่แน่นอนของฝ่ายเรา แต่ละเวลาที่ข้าศึกต้องตอบโต้ความไม่แน่นอนของ
พวกเขาจะเพิ่มขึ้น การพัฒนาสถานการณ์โดยการบังคับให้ข้าศึกตอบโต้เป็นสิ่งจ� ำเป็นในการ
ครอบครอง และรักษาไว้ซึ่งความริเริ่ม
๖-๓๔ การปฏิบตั นิ นั้ ไม่ใช่เป็นการรุกเพียงอย่างเดียว การส่งกองก�ำลังเข้าปฏิบตั กิ ารอาจ
จะริเริม่ ให้ฝา่ ยข้าศึกต้องเป็นฝ่ายตอบโต้ การเคลือ่ นย้ายก�ำลังรวมทัง้ การลวงทางทหารนัน้ สามารถ
เป็นกลไกที่ท�ำให้ฝ่ายข้าศึกต้องเป็นฝ่ายตอบโต้อยู่เสมอ ๆ ผู้บังคับบัญชาอาจจะยับยั้ง หรือชักน�ำ
การปฏิบัติของฝ่ายข้าศึกที่ต้องการด้วยการเริ่มต้นการเตรียมการตั้งรับ การลาดตระเวน จะท�ำให้
ผู้บังคับบัญชาทุก ๆ ระดับสามารถได้มา และด�ำรงการปะทะกับฝ่ายข้าศึกได้ การลาดตระเวนก่อ
ให้เกิดการพัฒนาสถานการณ์ เกิดการพิทักษ์ก� ำลังจากการจู่โจมและด� ำรงรักษาความริเริ่ม
การปฏิบตั ปิ ระกอบด้วยกิจกรรมการพิทกั ษ์กำ� ลังรบทีป่ อ้ งกัน หรือลดภัยคุกคามเฉพาะของฝ่ายข้าศึก
การสร้าง และการใช้โอกาสให้เกิดประโยชน์
๖-๓๕ สถานการณ์ต่าง ๆ เสนอวิธีการปฏิบัติที่ดีกว่า เพื่อบรรลุผลส�ำเร็จ กุญแจที่น�ำไป
สูก่ ารได้มาซึง่ โอกาสก็คอื การเฝ้าติดตามห้วงการรบตามแนวทางของวัตถุประสงค์ และเจตนารมณ์
ของผู้บังคับบัญชาอย่างต่อเนื่อง ความล้มเหลวที่จะเข้าใจถึงโอกาสนั้นเป็นลักษณะของการปฏิบัติ
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 149
ของฝ่ายข้าศึกที่ยอมแพ้ต่อความริเริ่ม ความต้องการข่าวสารที่ส�ำคัญยิ่งของผู้บังคับบัญชาต้อง
ประกอบด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ที่สนับสนุนต่อการยึดครอง และรักษาความริเริ่มไว้ ซึ่งก�ำลังพล
สามารถค้นหาโอกาสต่าง ๆ ตามที่ได้พัฒนาขึ้น
๖-๓๖ ผูบ้ งั คับบัญชาจะสนับสนุนให้หน่วยรองปฏิบตั กิ ารภายใต้เจตนารมณ์ ของผูบ้ งั คับ
บัญชาตามโอกาสที่เกิดขึ้น การวาดภาพ การสื่อสารเจตนารมณ์ที่ชัดเจน และบรรยากาศของ
การบังคับบัญชาจะน�ำไปสู่การปฏิบัติเพื่อความริเริ่มของหน่วยรอง กระบวนการในกรรมวิธีข้อมูล
ข่ า วสารแบบดิ จิ ต อล ภาพการยุ ท ธ์ ร ่ ว มกั น และความเข้ า ใจในสถานการณ์ นั้ น จะส่ ง เสริ ม
ความสามารถของผู้บังคับบัญชา ในการตระหนักถึงความเป็นไปได้ จัดท�ำภาพของโอกาส และ
แบ่งสรรสิ่งดังกล่าวกับหน่วยอื่น ๆ
ประเมินค่าและการด�ำเนินการกับความเสี่ยง
๖-๓๗ ความไม่แน่นอนและความเสี่ยงนั้นเป็นลักษณะที่มีอยู่ในทุก ๆ การปฏิบัติการ
ทางทหาร ความรอบรู้ และการปฏิบัติตามโอกาสนั้นเป็นวิธีของการด� ำเนินการกับความเสี่ยง
การประมาณการอย่างมีเหตุมีผล และการตั้งใจในการยอมรับความเสี่ยงไม่ใช่การเสี่ยงโชค การ
พิจารณาก�ำหนดเกณฑ์เสี่ยงอย่างรอบคอบ การวิเคราะห์ และการลดอันตรายให้เหลือน้อยที่สุด
เท่าที่เป็นไปได้ และการปฏิบัติตามแผนที่มีการก�ำกับดูแลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอันตรายดังกล่าว
จะสนับสนุนต่อการใช้ก�ำลังทหารอย่างประสบผลส�ำเร็จ ในทางกลับกันการเสี่ยงโชคเป็นสิ่งที่
ไม่ฉลาดที่จะเสี่ยงต่อการบรรลุผลส�ำเร็จของการปฏิบัติการทั้งหมดส�ำหรับเหตุที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
เพียงเหตุการณ์เดียว ผู้บังคับบัญชาประเมินค่าความเสี่ยงในลักษณะของการขยายขนาดของ
ความเสี่ยงโดยการตอบค�ำถาม ๓ ข้อดังนี้
- ข้าพเจ้าได้ท�ำให้ความเสี่ยงต่อการสูญเสียเหลือน้อยที่สุดหรือยัง ?
- ข้าพเจ้าตกอยู่ในการเสี่ยงต่อความส�ำเร็จของการปฏิบัติการหรือไม่ ?
- ข้าพเจ้าตกอยู่ในการเสี่ยงที่จะท�ำลายก�ำลังของตัวเองหรือไม่ ?
๖-๓๘ เมื่อผู้บังคับบัญชาได้ใช้โอกาสนั้นก็ต้องยอมรับเกณฑ์เสี่ยง ความกล้าหาญนั้น
เป็นตัวเร่งที่สามารถท�ำให้สถานการณ์กลับตาลปัตรได้ด้วยการมีอิทธิพลต่อการรับรู้ด้วยตัวมันเอง
เกีย่ วกับฝ่ายข้าศึก ความกล้าหาญเป็นสิง่ ทีข่ ดั ขวางความมุง่ ประสงค์ทจี่ ะรอคอยการเตรียมการ และ
การประสานสอดคล้องอย่างสมบูรณ์แบบ เวลาทีใ่ ช้ในการแจกจ่ายค�ำสัง่ ทีส่ มบูรณ์ตลอดทัว่ ทัง้ ฐาน
อาจจะเป็นเครื่องมือที่จะท�ำให้โอกาสสูญเสียไป ทั้งนี้มันเป็นการดีกว่าที่จะท�ำการสรุปเฉพาะสาระ
ส�ำคัญอย่างรวดเร็ว ท�ำให้สิ่งต่าง ๆ นั้นเคลื่อนไหว และส่งรายละเอียดตามไปภายหลัง ผู้น�ำจะ
150 บทที่ ๖
การกดดันฝ่ายข้าศึก
๖-๔๒ การกดดันนั้นเกิดขึ้นมาจากจังหวะ ระดับ และความเข้มข้นของกิจกรรมที่น�ำไป
ใช้กับก�ำลังฝ่ายข้าศึกที่ไม่ถูกรบกวน ทันทีที่ กกล.ทบ. เผชิญกับการปะทะ กกล.ทบ. จะด�ำรงการ
ปะทะนั้นไว้ การกดดันอย่างสม�่ำเสมอ และการเปลี่ยนแปลงอย่างทันทีไปสู่การขยายผลจะท�ำให้
ฝ่ายข้าศึกไม่มีเวลาที่จะสร้างสมดุล และตอบโต้ได้ทันเวลา การหยุดทางยุทธการ ไม่ว่าจะเป็นไป
ด้วยความตั้งใจ และที่ได้มีการออกแบบขึ้นมาเพื่อปรับปรุงลักษณะของการสนับสนุนทางการ
ช่วยรบ หรือด�ำรงความเป็นระเบียบไว้ อาจจะก่อให้เกิดอันตรายที่แท้จริงได้ ซึ่งรวมถึงการสูญเสีย
ผลประโยชน์จากการรุกที่มีศักยภาพ กกล.ทบ. ท�ำการกดดันอย่างไม่ลดละ และฉกฉวยโอกาสไว้
๖-๔๓ ผู้บังคับบัญชาที่มีการปรับตัวอยู่เสมอจะคาดการณ์ถึงความต้องการในการด�ำรง
รักษาก�ำลังรบทีว่ างก�ำลังอยูใ่ นต�ำแหน่งทีม่ คี วามเหมาะสม ต่อการขยายผลและการปฏิบตั ทิ ตี่ อ่ เนือ่ ง
ขณะทีก่ �ำลังด�ำเนินกลยุทธ์นั้นมีความช้าลง และเข้าใกล้ถงึ จุดผกผัน ผู้บงั คับบัญชาจะต้องพิจารณา
วิถีทางที่ดีที่สุดที่จะด�ำรงรักษาจังหวะ และด�ำรงการกดดันฝ่ายข้าศึกอย่างต่อเนื่อง ผู้บังคับบัญชา
สามารถผลัดเปลี่ยนหน่วยน�ำด้วยก�ำลังที่มีความสดชื่น เพิ่มเติมก�ำลังให้กับหน่วยน�ำ หรือประยุกต์
ใช้การยิงทีม่ คี วามแม่นย�ำต่อเป้าหมายในทางลึก ตราบเท่าทีห่ น่วยทีก่ ำ� ลังรบปะทะกันอยูน่ นั้ สามารถ
ด�ำรงรักษาการกดดัน และยังไม่ถึงจุดผกผัน การเพิ่มเติมก�ำลังเป็นสิ่งพึงประสงค์ในการปฏิบัติโดย
ทัว่ ๆ ไปส�ำหรับการส่งมอบการรบ การยิงในระดับยุทธการอาจจะสร้างโอกาสครัง้ ใหม่ ส�ำหรับการ
กดดันข้าศึกโดยสนับสนุนต่อการด�ำเนินกลยุทธ์
การควบคุมจังหวะการรบ
๖-๔๔ ความเร็วส่งเสริมการจู่โจม และสามารถชดเชยการขาดแคลนก�ำลัง ความเร็วจะ
ขยายผลกระทบของความส�ำเร็จในการครองความริเริ่ม การปฏิบัติด้วยจังหวะที่มีความเร็ว ท�ำให้
กกล.ทบ. สามารถก่อปัญหาใหม่ให้กับฝ่ายข้าศึกได้ก่อนที่ฝ่ายข้าศึกจะสามารถแก้ปัญหาที่เป็นอยู่
ในปัจจุบันได้ จังหวะที่มีความรวดเร็วไม่ควรถดถอยลงไปโดยปราศจากการไตร่ตรอง ปกติการแจ้ง
ข่าวที่เลวร้าย และการปฏิบัติแบบเร่งด่วนนั้นจะขัดขวางการผสมผสานอ�ำนาจก�ำลังรบอย่างมี
ประสิทธิภาพ และการปฏิบัติดังกล่าวอาจจะน�ำไปสู่การสูญเสียโดยไม่จำ� เป็น สภาพเงื่อนไขของ
ก�ำลังฝ่ายข้าศึกนั้นเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดระดับของการประสานสอดคล้องที่จ�ำเป็น เมื่อเผชิญหน้ากับ
ข้าศึกที่มีความสมัครสมานสามัคคี และมีวินัย ผู้บังคับบัญชาอาจจะชะลอจังหวะให้ช้าลงเพื่อจัดให้
มีการประสานสอดคล้องเกิดขึ้น ขณะที่ก�ำลังฝ่ายข้าศึกสูญเสียความเหนียวแน่น ผู้บังคับบัญชาจะ
เพิ่มจังหวะการปฏิบัติ และแสวงหาทางที่จะเร่งให้สภาพขวัญและลักษณะทางกายภาพของ
ฝ่ายข้าศึกถึงจุดพังพินาศเร็วขึ้น
152 บทที่ ๖
ขยายผลของความส�ำเร็จ
๖-๔๕ ท้ายที่สุด มีเพียงความส�ำเร็จที่บรรลุผลลัพธ์สุดท้ายที่ก�ำหนดเท่านั้น เพื่อเป็นการ
พิจารณาก�ำหนดถึงการขยายผลของความส�ำเร็จระดับยุทธวิธี และระดับยุทธการ ผู้บังคับบัญชา
ประเมินค่าการขยายผลของความส�ำเร็จระดับยุทธวิธี และระดับยุทธการ ในรูปของเจตนารมณ์ของ
ผู้บังคับบัญชาหน่วยเหนือ อย่างไรก็ตาม แผนแบบทางยุทธการจะเชื่อมโยงวัตถุประสงค์ตลอดเส้น
ปฏิบตั กิ าร ความส�ำเร็จจะเกิดขึน้ ได้ในวิธกี ารทีไ่ ม่คาดคิดในแผน ผูบ้ งั คับบัญชาอาจได้วตั ถุประสงค์
ในวิธีการที่ไม่คาดคิด ความส�ำเร็จจะส่งสัญญาณการประเมินค่าอย่างรวดเร็ว เพื่อตอบค� ำถาม
เหล่านี้ :
- ความส�ำเร็จนั้นได้ก่อให้เกิดโอกาสที่บรรลุถึงที่หมายได้ง่ายกว่าหรือไม่
- ความส�ำเร็จนั้นได้แนะน�ำถึงเส้นปฏิบัติการอื่น ๆ หรือไม่
- ความส�ำเร็จนั้นเป็นเหตุให้ผู้บังคับบัญชาต้องเปลี่ยนแปลงเจตนารมณ์ทั้งหมด
หรือไม่ ?
- หน่วยก�ำลังรบควรจะเปลี่ยนไปสู่ขั้นต่อไปหรือไม่ ?
- หน่วยก�ำลังรบควรจะเร่งขั้นการปฏิบัติหรือไม่ ?
๖-๔๖ เกีย่ วกับการยุทธ์นนั้ ความส�ำเร็จอาจจะส่งสัญญาณถึงการเปลีย่ นผ่านไปสูข่ นั้ ตอน
ต่อไป ของการทัพ หรือการปฏิบตั กิ ารยุทธ์ขนาดใหญ่ ในทางอุดมคติลำ� ดับขัน้ ทีเ่ หมาะสมนัน้ พร้อม
อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ล�ำดับขั้นที่ได้มีการเตรียมการไว้แล้ว ยังต้องการ การกลั่นกรองปรับปรุง
อย่างรวดเร็ว เพือ่ สะท้อนความเป็นจริงของความส�ำเร็จทีแ่ ท้จริง ผูบ้ งั คับบัญชาจะต้องมองเห็นความ
ต้องการทีน่ อกเหนือจากปัจจุบนั ผูบ้ งั คับบัญชาใช้เครือ่ งมือทุก ๆ ประเภททีเ่ ป็นไปได้เพือ่ ขยายการ
ปฏิบัติการของพวกเขาในเวลา และพื้นที่เพื่อการสร้างความส�ำเร็จอย่างถาวร ผู้บังคับบัญชาต้องมี
ความเข้าใจว่าพวกเขาต้องด�ำรงรักษาแรงหนุนเนื่อง และความริเริ่มเพื่อชัยชนะอย่างรวดเร็ว และ
เด็ดขาด
๖-๔๗ การขยายผลต้องการ การประเมินค่าและความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของการ
ปฏิบัติการด�ำรงความต่อเนื่อง การด�ำรงสถานภาพ การสนับสนุนทางการช่วยรบจะก่อให้เกิด
เครื่ อ งมื อ ที่ จ ะขยายผลของความส�ำ เร็ จ และเปลี่ ย นแปลงการขยายผลไปสู ่ ผ ลลั พ ธ์ ที่ แ ตกหั ก
การปฏิบัติการด�ำรงความต่อเนื่อง การด�ำรงสถานภาพ จะด�ำรงรักษาเสรีในการปฏิบัติที่จ�ำเป็น
เพือ่ ก่อให้เกิดความได้เปรียบในด้านโอกาส ผูบ้ งั คับบัญชายังคงต้องตระหนักถึงสถานภาพของหน่วย
อย่างเต็มที่ และคาดการณ์เกี่ยวกับความต้องการด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบของสิ่งอุปกรณ์
ทั้ง ๕ ประเภท เพื่อพิจารณาก�ำหนดความลึกของกองก�ำลังเหล่าทัพที่จะขยายผลของความส�ำเร็จ
ได้
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 153
การสร้างความเหนือกว่า
๖-๕๗ การปฏิบัติการแตกหักประสานสอดคล้องระบบปฏิบัติการในสนามรบเพื่อสร้าง
ความเหนือกว่า ณ จุดแตกหักในพื้นที่ปฏิบัติการ ความเหนือกว่านั้นเป็นได้ทั้งปริมาณหรือคุณภาพ
ในความแตกต่ า งกั น ของระบบปฏิ บั ติ ก ารในสนามรบที่ ก�ำ ลั ง รบที่ มี ค วามแข็ ง แกร่ ง กว่ า จะมี
อ�ำนาจเหนือฝ่ายตรงข้าม ความเหนือกว่าอาจจะประยุกต์ใช้ส�ำหรับองค์ประกอบของอ�ำนาจก�ำลัง
รบหนึ่งหรือทั้งหมด จังหวะการปฏิบัติที่รวดเร็ว การปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือสารสนเทศ
เชิงรุก และการยิงทีม่ อี ำ� นาจทางการสังหารจะต้องผสมผสานกันเพือ่ รบกวนระบบการบังคับบัญชา
และการควบคุ ม ของฝ่ า ยข้ า ศึ ก และสร้ า งเงื่ อ นไขของความเหนื อ กว่ า ด้ า นข้ อ มู ล ข่ า วสาร
หรือสารสนเทศ การยิงสนับสนุน, ขีดความสามารถในการพิทักษ์ก�ำลังรบ และการด�ำเนินกลยุทธ์
จะลดทอนการยิงสนับสนุนของฝ่ายข้าศึก การรับการสนับสนุนจากการยิงเล็งจ�ำลอง และการยิง
ร่วมท�ำให้ก�ำลังด�ำเนินกลยุทธ์สามารถเข้าประชิดฝ่ายข้าศึก และสามารถท�ำลายฝ่ายข้าศึกได้อย่าง
สมบูรณ์ด้วยการสู้รบระยะใกล้หรือการรบประชิด
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 157
การด�ำรงความต่อเนื่องของอ�ำนาจก�ำลังรบ
๖-๕๘ ผู้บังคับบัญชาพัฒนาความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของการด�ำรงความต่อเนื่อง
ของการปฏิบัติการอย่างถ่องแท้ ผู้บังคับบัญชาจะสร้างความสมดุลระหว่างความกล้าหาญ และ
ความรอบคอบในรูปแบบของการสนับสนุนทางการช่วยรบ และระบบปฏิบัติการสนามรบอื่น ๆ
การด�ำรงความต่อเนื่องของการปฏิบัติการเป็นระดับส�ำคัญในการพิจารณาก�ำหนด การเข้าถึงและ
ระยะถึงทางยุทธการ การปฏิบัติการด� ำรงความต่อเนื่องจะสร้างพลังอ� ำนาจของ กกล.ทบ.
ให้ยนื หยัดอยูไ่ ด้ และสร้างความล�้ำลึกของการปฏิบตั กิ าร การปฏิบตั กิ ารด�ำรงความต่อเนือ่ งจะท�ำให้
ผู้บังคับบัญชาสามารถรวมผลกระทบของอ�ำนาจก�ำลังรบที่กระท�ำซ�้ำไปซ�้ำมา และด�ำรงเสรีใน
การปฏิบัติไว้
ใช้การผสมผสานที่ปรับเปลี่ยนง่าย
๖-๕๙ ขณะทีผ่ บู้ งั คับบัญชาวาดภาพโครงร่างสนามรบ และแผนแบบทางยุทธการของตน
ผู้บังคับบัญชาพิจารณาการรวมการผสมผสานพื้นที่ปฏิบัติการที่ติดกันและไม่ติดกัน เข้ากับ
การปฏิบัติการที่เป็นแนวและไม่เป็นแนว ผู้บังคับบัญชาเลือกการผสมผสานที่เหมาะสมกับ
สถานการณ์ และความประสงค์ของการปฏิบัติการ การรวมพื้นที่ปฏิบัติการที่ติดกันและไม่ติดกัน
กับการปฏิบตั กิ ารทีเ่ ป็นแนวและไม่เป็นแนวจะสร้างสรรค์การผสมผสานไว้เป็น ๔ แบบ (ดูรปู ที่ ๖-๓)
ฝ่ายเราเป็นข้อพิจารณาส�ำคัญในการตัดสินใจที่จะใช้การจัดสนามรบและแผนแบบทางยุทธการ
แบบนี้ กรณีตัวอย่างในโซมาเลีย ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ (ค.ศ. ๑๙๙๒) โดย กองทัพสหรัฐอเมริกา
การปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพแบบไม่เป็นแนว และการปฏิบัติการสนับสนุนในพื้นที่ปฏิบัติการที่
แยกกันอย่างกว้างขวางรอบ ๆ เมืองคิสมายู (Kismayu) และโมกาดิชู (Mogadishu)
ข้อพิจารณาด้านการยุทธ์ที่มีความสลับซับซ้อน
๖-๖๔ กกล.ทบ. ปฏิบัติการทุกรูปแบบ ในสภาพแวดล้อมที่มีข้อพิจารณาด้านการยุทธ์ที่
สลับซับซ้อน การปฏิบัติการทั้งปวงเต็มไปด้วยความท้าทายประกอบอยู่ อย่างไรก็ตามข้อพิจารณา
ด้านการยุทธ์ที่มีความสลับซับซ้อนเหล่านี้ต้องการการเอาใจใส่เป็นพิเศษจากผู้บังคับบัญชาและ
ฝ่ายเสนาธิการในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
- สภาพแวดล้อมทางนิวเคลียร์ ชีวะ และเคมี
- ประชาชนในท้องถิ่นและบุคคลผู้ผลัดถิ่น
- ภัยคุกคามไม่ตามแบบ
- การปฏิบัติในสิ่งปลูกสร้าง
สภาพแวดล้อมทางนิวเคลียร์ ชีวะ และเคมี
๖-๖๕ ภัยคุกคามของอาวุธอานุภาพท�ำลายล้างสูงสามารถเปลีย่ นแปลงสภาพเงือ่ นไขของ
ยุทธบริเวณได้อย่างเต็มที่ และท�ำให้เกิดความต้องการเกี่ยวกับการพิทักษ์ก�ำลังรบหลักที่ส�ำคัญ
ส่วนใหญ่วัตถุประสงค์หลักของผู้บัญชาการกองก�ำลังรบร่วม คือ การป้องปราบยับยั้งการน�ำอาวุธ
อานุภาพท�ำลายล้างสูงเข้าสูก่ ารรบ และถ้าหากการป้องปราบยับยัง้ นัน้ ล้มเหลว ก็จะต้องมีการค้นหา
และท�ำลายอาวุธอานุภาพท�ำลายล้างสูงของข้าศึกก่อนที่ฝ่ายข้าศึกจะใช้อาวุธดังกล่าว ศักยภาพ
ของการท�ำลายหรือการเปื้อนพิษต่อโครงสร้างพื้นฐานโดยอาวุธด้านนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี นั้นท�ำให้
เกิดการเพิ่มความต้องการของ กกล.ทบ. ในการที่จะต้องปฏิบัติการได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใน
และรอบ ๆ สภาพแวดล้อมที่เปื้อนพิษนั้น ความพร้อมรบของ กกล.ทบ. ที่จะปฏิบัติการใน
สภาพแวดล้ อ มของนิ ว เคลี ย ร์ ชี ว ะ เคมี จะเป็ น การป้ อ งปราบยั บ ยั้ ง ฝ่ า ยข้ า ศึ ก จากการใช้
อาวุธอานุภาพท�ำลายล้างสูง และสนับสนุนให้ กกล.ทบ. กล้าทีจ่ ะท�ำการหาหนทางในการแก้ปญ ั หา
เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดจากการแก้แค้นในระดับยุทธศาสตร์ลงได้
๖-๖๖ การปฏิบัติการในสภาพแวดล้อมของนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี ต้องการการเตรียมการ
อย่างรอบคอบ วัคซีนจะให้การป้องกันก�ำลังพลส�ำหรับอาวุธชีวะบางประเภท แต่การฉีดวัคซีนอาจ
จ�ำเป็นต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์เพื่อการป้องกันให้แก่ผู้รับวัคซีนได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นการป้องกัน
ต่ออาวุธเหล่านี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่ทำ� ให้หน่วยมีความพร้อมรบอย่างต่อเนื่อง
160 บทที่ ๖
อยู่ในการเสี่ยงที่จะใช้อาวุธอานุภาพท�ำลายล้างสูงซึ่งจะมีผลต่อก�ำลังของฝ่ายข้าศึกอีกด้วย
กกล.ทบ. กระจายก�ำลังให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และรวมก�ำลังอย่างรวดเร็วและกระท�ำการ
ดังกล่าวเท่าทีจ่ ำ� เป็นต่อการรวมผลกระทบ การปฏิบตั กิ ารทีไ่ ม่เป็นแนวจะท�ำให้ กกล.ทบ. วางก�ำลัง
ในทางลึกในพืน้ ทีป่ ฏิบตั กิ ารของข้าศึก ซึง่ จะมีความยุง่ ยากต่อการตัดสินใจเกีย่ วกับกรรมวิธเี กีย่ วกับ
เป้าหมายของ กกล.ทบ. การโจมตีที่แม่นย�ำจะท�ำลายระบบการบังคับบัญชา และการควบคุม
ตลอดจนระบบสนับสนุนทางการช่วยรบของฝ่ายข้าศึก ผูบ้ งั คับบัญชาเน้นการพิทกั ษ์กำ� ลังทัง้ เชิงรุก
และเชิงรับ ผู้บังคับบัญชาจะกระจายพื้นที่รวมพล และหน่วยสนับสนุนทางการช่วยรบ ระบบการ
ข่าวกรอง การเฝ้าตรวจ การลาดตระเวนจะเพ่งเล็งต่อการก�ำหนดที่ตั้ง และพิสูจน์ทราบขีดความ
สามารถทางด้านอาวุธอานุภาพท�ำลายล้างสูงของฝ่ายข้าศึก หน่วยลาดตระเวนจะด�ำเนินการค้นหา
และท�ำเครือ่ งหมายส�ำหรับพืน้ ทีอ่ นั ตราย และพืน้ ทีเ่ ปือ้ นพิษ การวางแผนนัน้ จะพิจารณาการโจมตี
ตอบแทนหรือการโจมตีก่อนด้วยมาตรการเชิงรุกอื่น ๆ ประกอบด้วย การตอบโต้ทางอากาศ
การยิงทีม่ คี วามแม่นย�ำต่อระบบอาวุธอานุภาพท�ำลายล้างสูงของฝ่ายข้าศึก และการปฏิบตั กิ ารข้อมูล
ข่าวสาร หรือสารสนเทศเชิงรุก
ประชาชนในท้องถิ่นและผู้พลัดถิ่น
๖-๗๑ กกล.ทบ. สร้างโอกาสส�ำหรับความส�ำเร็จด้วยการรวมการสนับสนุนจากประชาชน
ในท้องถิ่นและผู้พลัดถิ่น หลายครั้งที่ กกล.ทบ. ปฏิบัติการในพื้นที่ปฏิบัติการที่มีลักษณะของ
ความสับสนอลหม่านและไร้กฎระเบียบ กกล.ทบ. อาจจะพบกับประชาชนทีม่ วี ฒ ั นธรรมหลากหลาย
และมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่อาจสนับสนุน เป็นปรปักษ์ หรือยังคงชื่นชม และต่อต้านต่อ
กกล.ทบ. ในการปฏิบัติการใด ๆ ก็ตาม กกล.ทบ. มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับพลเรือนผู้พลัดถิ่น
หรือบุคคลที่ไม่ทราบสถานะชัดเจน ผู้บังคับบัญชาจะพิสูจน์ทราบสถานะของประชาชนเหล่านี้
และออกแบบการปฏิบัติการด้วยความส�ำนึกในการที่จะให้การพิทักษ์ต่อพวกเขาเหล่านั้น
๖-๗๒ ผู้บังคับบัญชาอาศัยข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของกลุ่มและความเชื่อ
เพื่อประกันว่าการปฏิบัติที่น�ำมาใช้สอดคล้องกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของผู้บัญชาการ
ก�ำลังรบร่วม การปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือสารสนเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในองค์ประกอบ
ด้านการปฏิบัติการจิตวิทยา และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง (การประชาสัมพันธ์ และการปฏิบัติการ
พลเรือนทหาร) ช่วยให้ผบู้ งั คับบัญชามีอทิ ธิพลต่อการรับรู้ และเข้าใจตลอดจนทัศนคติของประชาชน
ในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ในบางครั้ง การปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือสารสนเทศ และกิจกรรมที่
เกี่ยวข้อง อาจจะก่อให้เกิดการปฏิบัติการแตกหักได้ ความส�ำคัญของอิทธิพลจากความแปรเปลี่ยน
ด้านพลเรือนที่ส่งอิทธิพล ขึ้นอยู่กับภารกิจ และวัตถุประสงค์ของก�ำลังรบ
162 บทที่ ๖
การปฏิบัติการในเมือง
๖-๗๕ การปฏิบัติการในเมือง ประกอบด้วย การปฏิบัติการรุก การปฏิบัติการรับ
การปฏิบตั กิ ารเพือ่ เสถียรภาพ และการปฏิบตั กิ ารสนับสนุน ทีด่ ำ� เนินไปในภูมปิ ระเทศทีม่ คี วามสลับ
ซับซ้อน และภูมิประเทศทางธรรมชาติที่ติดต่อกัน ในพื้นที่ ที่มนุษย์สร้างขึ้น และมีประชาชนอยู่
อย่างหนาแน่นเป็นคุณลักษณะส�ำคัญ โลกเป็นสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ในรูปแบบที่มีประชาชนอยู่
อย่างหนาแน่น กกล.ทบ. ปฏิบัติการในเมือง ในพื้นที่ ที่กว้างใหญ่มีประชาชนอยู่หนาแน่น ซึ่งก่อให้
เกิดปัญหาอย่างส�ำคัญในกวาดล้างฝ่ายข้าศึก การฟื้นคืนสภาพการให้บริการ และ การจัดการ
ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับประชาชน สภาพภูมิประเทศและความใกล้ชิดกับเรื่องของการปฏิบัติไม่ใช่
การรบนั้นจะลดประสิทธิภาพของอาวุธและเครื่องมือตรวจจับที่มีเทคโนโลยีอันทันสมัย ดังนั้น
เมืองนั้นค่อนข้างจะเป็นการรบทางภาคพื้นดินที่ฝ่ายข้าศึกที่อ่อนแอกว่าพยายามที่จะใช้ลดความ
ได้เปรียบของ กกล.ทบ. ที่มีมากกว่าในภูมิประเทศเปิด
๖-๗๖ จากมุมมองทางด้านการวางแผน ผูบ้ งั คับบัญชาจะค�ำนึงถึงเมืองไม่ใช่เพียงแต่เป็น
ภูมิประเทศเท่านั้น แต่ต้องเป็นสิ่งที่เป็นองค์รวมทางด้านพลวัต ที่ประกอบด้วยก�ำลังของฝ่ายศัตรู
ประชาชนในท้องถิ่น และโครงสร้างพื้นฐาน การวางแผนส�ำหรับการปฏิบัติการต่าง ๆ ในพื้นที่
สิง่ ปลูกสร้างต้องการ การเตรียมสนามรบด้านการข่าวอย่างรอบคอบ ด้วยการเน้นเฉพาะส่วนส�ำคัญ
ต่อความเป็นธรรมชาติที่มีลักษณะเป็นสามมิติเป็นพิเศษ และโครงสร้างทางสังคมของประชาชน
อย่างประณีต การวางแผนเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการช่วยรบต้องค�ำนึงถึง การเพิ่มขึ้นของการ
บริโภค ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นต่อเส้นหลักการคมนาคม และการคาดการณ์ถึงการสนับสนุนต่อการ
ปฏิบัติการที่ไม่ใช่การรบ ผู้บังคับบัญชาจะพัฒนา กฎการใช้ก�ำลังอย่างรอบคอบ และปรับเปลี่ยน
กฎเหล่านั้นไปสู่สถานการณ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่อย่างหลากหลายตามความจ�ำเป็น และเพื่อประกันว่า
ก�ำลังพลมีความเข้าใจในกฎการใช้ก�ำลังดังกล่าวอย่างชัดเจน
๖-๗๗ การปฏิบัติการในเมือง จะบีบอัดขอบเขตพื้นที่ปฏิบัติการทางยุทธวิธีให้แคบลง
และต้องการ การผสมผสานก�ำลังรบผสมเหล่า ณ หน่วยระดับเล็ก ๆ หน่วยต่าง ๆ ต้องการ
การเตรียมการอย่างรอบคอบ และการซักซ้อมการปฏิบตั ิอย่างละเอียดถีถ่ ้วนเพือ่ ความช�ำนาญการ
ในการใช้เทคนิคของชุดรบผสมเหล่าที่เหนือกว่าในทุก ๆ พื้นที่ปิด และต้องมีการประสานงานกัน
อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ ใช้ชุดรบผสมเหล่า และมีการพิทักษ์ระบบการสนับสนุนทางการช่วยรบ
อย่างรอบคอบ การปฏิบัติการในเมือง จะมีการสนับสนุนทางการช่วยรบที่เข้มข้น ความต้องการ
สิ่งอุปกรณ์จ�ำนวนมาก และการสนับสนุนต่อก�ำลังพลและส่วนที่ไม่ใช่การรบที่ต้องเปลี่ยนที่ตั้ง
จากการปฏิบัติการ
164 บทที่ ๖
การปฏิบัติการที่ตามมา
๖-๗๘ การปฏิ บั ติ ก ารทั้ ง ปวงเกี่ ย วข้ อ งกั น อย่ า งเป็ น ธรรมชาติ ทางความมุ ่ ง หมาย
และประเภทการปฏิบัติการ การปฏิบัติการที่บรรลุผลส�ำเร็จจะสร้างสภาพเงื่อนไขใหม่ ซึ่งน�ำไป
สู่การเปลี่ยนแปลงส�ำคัญในสถานการณ์ จุดศูนย์ดุลใหม่หรือจุดศูนย์ดุลที่มีการเปลี่ยนแปลงจาก
พื้นฐานเดิมอาจจะปรากฏขึ้นมา ปกติสภาพเงื่อนไขใหม่จะเป็นสิ่งที่ริเริ่มล�ำดับขั้นต่อไป
การเปลี่ยนผ่าน
๖-๗๙ การเปลี่ ย นผ่ า น เป็ น ลั ก ษณะส� ำ คั ญ ของช่ ว งระหว่ า งการปฏิ บั ติ ก ารที่ ก� ำ ลั ง
ด�ำเนินไป และการปฏิบัติเต็มขนาดของการปฏิบัติที่แตกออกไป และการปฏิบัติที่ตามมาหลายครั้ง
ที่การเปลี่ยนผ่านแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนจากการปฏิบัติการประเภทหนึ่ง เช่น จากการรุกไป
สูก่ ารปฏิบตั กิ ารเพือ่ เสถียรภาพ ณ หน่วยระดับต�ำ่ การเปลีย่ นผ่านเกิดขึน้ เมือ่ รูปขบวนหนึง่ เคลือ่ นที่
ผ่านรูปขบวนอืน่ ตัวอย่างเช่น เมือ่ หน่วยต้องเจาะแนวเครือ่ งกีดขวาง ผูบ้ งั คับบัญชาจะพิจารณาการ
เปลี่ยนผ่านจากการปฏิบัติการในปัจจุบันไปสู่การปฏิบัติการในอนาคตแต่เนิ่นในกระบวนการ
วางแผน ผู้บังคับบัญชาด�ำเนินการจัดเรียงล�ำดับในการเปลี่ยนแปลงนั้น ก็ถือเป็นตัวอย่างหนึ่ง
ซึง่ มักมีการเปลีย่ นแปลงบ่อย ๆ ปกติโครงสร้างการบังคับบัญชาจะเกีย่ วข้องเสมอ เพือ่ ให้สอดคล้อง
กับการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ ตัวอย่างเช่น กองก�ำลังเฉพาะกิจร่วมอาจจะจบสิ้นลง และ
ก�ำลังรบจะกลับไปสู่การบังคับบัญชาของหน่วยเหนือของตน ความต้องการด้านการยุทธ์สำ� หรับ
กกล.ทบ. อาจจะถูกส่งไปให้กับผู้บังคับบัญชาคนใหม่ ผู้ซึ่งจะท�ำภารกิจหลังความขัดแย้งให้ด�ำเนิน
ต่อไป ถึงแม้ว่า กกล.ทบ. บางส่วนเตรียมการที่จะด�ำเนินการปรับรูปขบวนเข้าสู่การรบใหม่
๖-๘๐ การเปลี่ ย นแปลงสถานการณ์ ท างยุ ท ธศาสตร์ นั้ น ต้ อ งการ การปรั บ เปลี่ ย น
ความเข้มแข็ง และการประกอบก�ำลังของกองก�ำลังที่ถูกส่งเข้าสู่การปฏิบัติการ เมื่อประเภทของ
การปฏิบัติหลักมีการเปลี่ยนแปลง อย่างเช่น จากการรุกไปสู่การปฏิบัติเพื่อเสถียรภาพ ถือเป็น
ตัวอย่างหนึง่ ประเภทของหน่วยทีถ่ กู ส่งเข้าสูก่ ารปฏิบตั กิ ารตัง้ แต่เริม่ ต้นอาจจะไม่มคี วามเหมาะสม
อีกต่อไป ขณะที่กองก�ำลังใหม่แต่ละกองก�ำลังเตรียมการเพื่อการปฏิบัติการ ผู้บัญชาการก�ำลัง
รบร่วมและผูบ้ งั คับ บัญชาของส่วนก�ำลังทัพบกจะปรับแต่ง กกล.ทบ. ให้สอดคล้องกับความต้องการ
ของภารกิจและข้อจ�ำกัดของยุทธบริเวณ ก�ำลังที่เป็นก�ำลังเริ่มต้นการปฏิบัติการอาจจะเป็นเพียง
ก�ำลังที่จัดวางไว้อยู่ในยุทธบริเวณเมื่อการปฏิบัติการยุติลงเท่านั้น
๖-๘๑ การเปลี่ยนผ่านเป็นการปฏิบัติตามล�ำดับขั้น (sequel) ที่เกิดขึ้นระหว่างประเภท
ของการปฏิบัติการ ผู้บังคับบัญชาคาดการณ์ และวางแผนส�ำหรับการเปลี่ยนผ่านในฐานะเป็น
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 165
การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุกในสงครามระดับยุทธการ และยุทธวิธี
๗-๓ ผู้บังคับบัญชาในระดับยุทธการด�ำเนินงานในการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก ใน
การทั พ และการยุ ท ธ์ ข นาดใหญ่ เพื่ อ ให้ บ รรลุ ผ ลกระทบบนพื้ น ฐานการปฏิ บั ติ ท างยุ ท ธวิ ธี
ผูบ้ ังคับบัญชาเหล่านี้จะมุง่ ความสนใจไปที่การรบด้วยวิธรี ุกทางภาคพื้นดิน และจะเป็นผู้ก�ำหนดว่า
วัตถุประสงค์ หรือที่หมายใด ที่จะช่วยให้บังเกิดชัยชนะขั้นเด็ดขาด พื้นที่ปฏิบัติการใดจะเป็นพื้นที่
ปฏิบัติ ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยรองเมื่อมีปัจจัยเวลา พื้นที่ และวัตถุประสงค์มาเกี่ยวข้อง และ
จะวางความพยายามอย่างแตกหักไว้ ณ ที่ใด ผู้บังคับบัญชาระดับยุทธการจะมอบพื้นที่ปฏิบัติการ
ให้ กั บ ผู ้ บั ง คั บ บั ญ ชาในระดั บ ยุ ท ธวิ ธี ร วมถึ ง ก�ำ หนดความสั ม พั น ธ์ ท างการบั ง คั บ บั ญ ชา และ
การสนับสนุนให้กับผู้บังคับบัญชาเหล่านั้น ผู้บังคับบัญชาระดับยุทธวิธีจะน�ำหน่วยท�ำการรบด้วย
วิธรี กุ เพือ่ ให้บรรลุวตั ถุประสงค์ อันได้แก่ การท�ำลายก�ำลังกองก�ำลังข้าศึก หรือยึดครองภูมปิ ระเทศ
ที่ท�ำให้เกิดผลกระทบในระดับยุทธบริเวณตามที่ผู้บังคับบัญชาในระดับยุทธการต้องการ
การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก ในระดับยุทธการ
๗-๔ ระดับยุทธการ การรบด้วยวิธรี กุ ท�ำการเข้าตีทงั้ โดยตรงหรือโดยอ้อมต่อจุดศูนย์ดลุ
ของข้าศึก ผูบ้ งั คับบัญชาท�ำสิง่ นีโ้ ดยการเข้าตีตอ่ จุดแตกหักของข้าศึก ทัง้ โดยการกระท�ำทีพ่ ร้อมกัน
หรือตามล�ำดับขั้นตอน ผลกระทบเป็นกลุ่มก้อนของกองก� ำลังรบร่วมและกองก�ำลังหลายชาติ
อ�ำนวยให้ฝ่ายเข้าตีในการครองความริเริ่ม ฝ่ายเราท�ำการปิดกั้นเสรีในการปฏิบัติ รบกวนแหล่ง
พลังด้านความแข็งแกร่ง และสร้างเงื่อนไขส�ำหรับความส�ำเร็จทางยุทธการและทางยุทธวิธี
๗-๕ การให้ความส�ำคัญกับเอกภาพในความพยายามของ ผูบ้ งั คับบัญชาระดับยุทธการ
ระบุวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน และเพิ่มเติมความสัมพันธ์ระหว่างก�ำลังต่าง ๆ ของหน่วยรองด้วย
การลดความท้ า ทายจากการปฏิ บั ติ ก ารร่ ว มกั น และขี ด ความสามารถในระบบการควบคุ ม
ผู้บังคับบัญชาปรับแต่งก�ำลังรบของพวกเขาเพื่อบรรลุถึงผลกระทบอย่างเด็ดขาด พวกเขาจัดสรร
กองก�ำลังรบร่วม และหลายชาติอย่างเพียงพอต่อการบรรลุถึงวัตถุประสงค์ของพวกเขา
๗-๖ ผู้บังคับบัญชาระดับยุทธวิธีแสวงประโยชน์จากคุณสมบัติ และขีดความสามารถ
ของกองก�ำลังร่วม/ผสม โดยจะประสานสอดคล้องกองก�ำลังเหล่านี้ให้เหมาะสมกับเวลา พื้นที่
ทรัพยากร วัตถุประสงค์ และการปฏิบตั ิ เพือ่ ให้เกิดผลกระทบจากการรวมอ�ำนาจก�ำลังรบ ณ ต�ำบล
ที่ต้องการชัยชนะขั้นเด็ดขาด ผู้บังคับบัญชาระดับยุทธวิธี จะอ�ำนวยการรบโดยเป็นส่วนหนึ่งของ
การยุทธ์ขนาดใหญ่ การรบจะมีความสัมพันธ์กันในเชิงจุดประสงค์สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ
ผู้บังคับบัญชาในระดับยุทธการ
172 บทที่ ๗
การรวมก�ำลัง
๗-๑๔ การรวมก�ำลัง คือ การรวมอ�ำนาจก�ำลังรบที่เหนือกว่าเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์
อย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาจะต้องใช้ดุลพินิจระหว่างความจ�ำเป็นในการรวมอ�ำนาจก�ำลังรบ
ให้เหนือกว่าข้าศึกกับความต้องการกระจายก�ำลังเพือ่ ลดความล่อแหลมในการเป็นเป้าหมายส�ำคัญ
ความก้าวหน้าและความทันสมัยที่ช่วยให้หน่วยมีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ ทั้งทางพื้นดิน
และทางอากาศ การค้นหาเป้าหมาย การยิงระยะไกลทีม่ คี วามแม่นย�ำสูง จะช่วยให้ฝา่ ยเข้าตีสามารถ
จะรวมอ�ำนาจก�ำลังรบได้อย่างรวดเร็ว ระบบควบคุมบังคับบัญชาท�ำให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบ
ข่าวสารที่ช่วยในการตัดสินใจว่าเมื่อใดจึงจะควรรวมอ�ำนาจก�ำลังรบ
๗-๑๕ ผู้บังคับบัญชาที่ท�ำการเข้าตีปรับแต่งก�ำลังของตนและมุ่งความสนใจอย่างเข้มข้น
ต่อก�ำลังของข้าศึกด้วยการใช้การกระจายก�ำลัง การรวมก�ำลัง การลวงทางทหาร และการเข้าตี
อย่างผสมผสานกัน การกระจายก�ำลังจะท�ำให้ขา้ ศึกต้องขยายแนวตัง้ รับออกไปและเป็นการลดมิให้
ฝ่ายเราตกเป็นเป้าหมายขนาดใหญ่จากการยิงของข้าศึกได้ การรวมก�ำลังอย่างรวดเร็วด้วยการใช้
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 175
เส้นหลักการรุกที่สอบเข้าหากันจะท�ำให้ฝ่ายรุกมีอ�ำนาจก�ำลังรบที่เหนือกว่าข้าศึก ณ ต�ำบลที่
ต้องการผลการรบแตกหัก หลังจากการเข้าตีประสบความ ส�ำเร็จ ผู้บังคับบัญชายังคงท�ำการ
รวมก�ำลังเพือ่ ใช้ประโยชน์จากแรงหนุนเนือ่ งของก�ำลังรบ แต่ถา้ ประสบปัญหาการคุกคามจากข้าศึก
อีกก็อาจจะกระจายก�ำลังกันออกไปอีก ผู้บังคับบัญชาควรใช้วิธีการที่เหมาะสมกับสถานการณ์
ในขณะนัน้ เพือ่ การปกป้องหน่วย และด�ำรงรักษาแรงหนุนเนือ่ งในการปฏิบตั กิ ารรบด้วยวิธรี กุ เอาไว้
จังหวะการรบ
๗-๑๖ การควบคุมและปรับเปลี่ยนจังหวะการรบเป็นสิ่งที่จำ� เป็นในการด�ำรงความริเริ่ม
เอาไว้ ในระดับยุทธการ จังหวะการรบที่เร็วกว่าจะอ�ำนวยให้ฝ่ายเข้าตี ท�ำการขัดขวางแผนการ
ตั้งรับของข้าศึกโดยบรรลุผลลัพธ์ได้เร็วกว่าข้าศึกจะสามารถท�ำการตอบโต้ได้ ในระดับยุทธวิธี
จังหวะการรบที่เร็วกว่าจะช่วยให้ฝ่ายเข้าตีเจาะผ่านเครื่องกีดขวาง แนวตั้งรับ และท�ำลายก�ำลัง
ข้าศึกในทางลึกได้ก่อนที่ข้าศึกจะตอบโต้ได้ทัน
๗-๑๗ ผูบ้ งั คับบัญชาปรับจังหวะการรบให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางยุทธวิธี และการ
สนับสนุนการช่วยรบที่จ�ำเป็น หรือเมื่อโอกาสในทางการยุทธ์เกื้อกูลต่อการประสานสอดคล้อง แต่
จะต้องไม่ให้สูญเสียโอกาสในการท�ำลายข้าศึกไป จังหวะการรบที่รวดเร็วขึ้นอยู่กับการตัดสินใจที่
รวดเร็ว และจะท�ำให้ข้าศึกไม่มีโอกาสหยุดพัก และสร้างโอกาสได้อย่างต่อเนื่อง
๗-๑๘ การเพิ่มจังหวะการรบท�ำให้ผู้บังคับบัญชาสามารถด�ำรงรักษาแรงหนุนเนื่อง
ในการเข้าตีไว้ได้ ผูบ้ งั คับบัญชาต้องก�ำหนดแนวทางในการเข้าตีทดี่ ที สี่ ดุ ท�ำการวางแผนการปฏิบตั ิ
รองรับทุกขั้นตอนในเชิงลึก พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนไปเป็นการปฏิบัติการแบบอื่น ๆ และรวมก�ำลัง
รบผสมเหล่าอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บังคับบัญชาและฝ่ายอ�ำนวยการต้องประกันว่าการปฏิบัติการ
การสนับสนุนทางการช่วยรบจะต้องมีประสิทธิภาพพอที่จะไม่ทำ� ให้การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุกถึง
การผกผัน เมื่อการรบเริ่มขึ้นฝ่ายเข้าตีต้องเข้าตีอย่างรุนแรง ท�ำการติดตามหน่วยลาดตระเวนหรือ
เคลื่อนที่ผ่านช่องว่างอย่างรวดเร็วก่อนที่ฝ่ายตั้งรับจะฟื้นตัว ฝ่ายเข้าตีต้องโยกย้ายอ�ำนาจก�ำลังรบ
อย่างรวดเร็วเพือ่ ขยายช่องเจาะ กดดันทางปีกเปิดของข้าศึก และเพิม่ เติมก�ำลังด้านทีป่ ระสบความ
ส�ำเร็จ ก�ำลังฝ่ายเราเข้าตีทางลึกโดยใช้การยิงและการด�ำเนินกลยุทธ์เพื่อท�ำลายความเป็นปึกแผ่น
ในการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับ และสร้างชัยชนะเหนือระบบควบคุมบังคับบัญชาข้าศึก ขณะที่ฝ่าย
เข้าตีด�ำรงจังหวะการรบให้เร็วกว่าข้าศึก ฝ่ายเข้าตีต้องระมัดระวังไม่ให้จังหวะการรบเร็วกว่าขีด
ความสามารถในการควบคุมและบังคับบัญชาของตน ผูบ้ งั คับบัญชาฝ่ายเข้าตีตอ้ งไม่ปล่อยให้ขา้ ศึก
มีโอกาสฟื้นตัวจากภาวะตะลึงงันจากการโจมตีในครั้งแรกและต้องป้องกันไม่ให้ข้าศึกรวมอ�ำนาจ
ก�ำลังรบต่อต้านการปฏิบัติการรบแตกหักของฝ่ายเรา
176 บทที่ ๗
ความห้าวหาญ
๗-๑๙ ความห้าวหาญ คือ การมีแผนที่ง่ายไม่ซับซ้อนแต่ลงมือปฏิบัติอย่างแข็งแกร่ง
ความห้าวหาญของผู้บังคับบัญชาดูได้จากการก�ำหนดแผนที่กล้าเสี่ยงและสามารถท�ำให้เกิดผล
การรบแตกหักได้ ผู้บังคับบัญชาแสดงความห้าวหาญโดยการใช้อ�ำนาจก�ำลังรบอย่างรุนแรง
ในการนี้จะต้องรู้ว่าเมื่อใดสมควรต้องเสี่ยงและลงมือปฏิบัติตามแผนโดยไม่ลังเล จะต้องขจัดความ
ไม่แน่นอนด้วยการลงมือท�ำการปฏิบัติการข่าวสารที่ไม่สมบูรณ์สามารถชดเชยได้ด้วยการช่วงชิง
ความริเริ่มและกดดันการสู้รบกับฝ่ายข้าศึก ความห้าวหาญจะท� ำให้ทหารเกิดแรงกระตุ้นที่จะ
เอาชนะความยากล�ำบากและการเสี่ยงอันตราย
การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุกภายในโครงร่างทางการยุทธ์
๗-๒๐ ผู้บังคับบัญชาท�ำการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก ภายในโครงร่างทางการยุทธ์ (พื้นที่
ปฏิบัติการ, ห้วงการรบ และการจัดหน่วยในสนามรบ) ผู้บังคับบัญชาประสานสอดคล้องหน่วย
ของตนให้เข้ากับเวลา พื้นที่ ทรัพยากร วัตถุประสงค์ และการปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลการรบแตกหัก
พร้อมกัน หรือตามล�ำดับขั้น รวมถึงการปฏิบัติการจัดรูปแบบ และการปฏิบัติการด�ำรงสภาพใน
เชิงลึก (ดูรูปที่ ๗-๑) ในบางสถานการณ์ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ก�ำหนดพื้นที่ทางลึก พื้นที่การรบ
ระยะใกล้ และพื้นที่ส่วนหลังด้วย
การปฏิบัติการรบแตกหักในการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก
๗-๒๑ การปฏิบัติการรบแตกหักในการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก คือ การเข้าตีที่ท�ำให้เกิด
ผลลัพธ์ขั้นสุดท้ายของการยุทธ์ขนาดใหญ่ การรบ และการรบปะทะ ในระดับยุทธการ การปฏิบัติ
การรบแตกหัก คือการปฏิบัติการที่บรรลุเป้าหมายของแต่ละขั้นตอนของการทัพ การปฏิบัติการ
ทางพืน้ ดินภายในการทัพอาจรวมถึงขัน้ ต่าง ๆ หลายขัน้ ด้วยกันโดยทีใ่ นแต่ละขัน้ ก็มกี ารปฏิบตั กิ าร
รบแตกหักอยู่ ผลของการปฏิบัติการรบแตกหักจะบังเกิดผลอย่างมากต่อความส� ำเร็จของการทัพ
ในระดับยุทธวิธกี ารปฏิบตั กิ ารรบแตกหัก หรือการรบปะทะมีผลให้บรรลุวตั ถุประสงค์ของภารกิจที่
หน่วยเหนือก�ำหนด ผู้บังคับบัญชาประสบความส�ำเร็จในการปฏิบัติการรบแตกหัก ได้ด้วยการรบ
ประชิด ที่สามารถท�ำลายข้าศึกได้ ท�ำให้ข้าศึกหมดความตั้งใจในการต้านทานการสู้รบ ยึดครอง
รักษา และแย่งยึดภูมิประเทศคืนมาได้
๗-๒๒ ผู้บังคับบัญชาเพิ่มน�้ำหนักให้กับการปฏิบัติการรบแตกหัก ด้วยการแบ่งมอบ
ทรัพยากรเพิ่มเติมและใช้ความเชี่ยวชาญในการด�ำเนินกลยุทธ์ ตัวอย่างเช่น ผู้บังคับบัญชาอาจจะ
ตรึงก�ำลังบางส่วนของข้าศึกไว้ดว้ ยการเข้าตีตรงหน้า (การปฏิบตั กิ าร) ขณะทีก่ �ำลังส่วนใหญ่ท�ำการ
โอบเพื่อยึดครองจุดแตกหัก (มีผลต่อการแพ้ - ชนะ) ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะใช้การยิง
สนับสนุนเพิ่มเติมและกองหนุนเมื่อไหร่ และที่ไหน ในบางครั้งอาจปรับเปลี่ยนล�ำดับความเร่งด่วน
ในการยิงสนับสนุนใหม่หากจ�ำเป็น โดยหน่วยด�ำเนินกลยุทธ์เป็นผู้ก�ำหนดที่ตั้งเพื่อให้สามารถ
รวมอ�ำนาจการยิงไปยังข้าศึกได้
๗-๒๓ ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ก�ำหนดกองหนุนเพื่อให้มีอ�ำนาจก�ำลังรบเพิ่มเติม ณ ต�ำบล
และเวลาที่ต้องการผลแตกหัก ยิ่งสถานการณ์ไม่ชัดเจนกองหนุนยิ่งต้องมีขนาดใหญ่ เมื่อสั่งใช้กอง
หนุนไปแล้ว ผู้บังคับบัญชาต้องตั้งกองหนุนขึ้นใหม่ ขนาดและที่ตั้งของกองหนุนขึ้นอยู่กับ
- ภารกิจในที่เป็นไปได้ การปฏิบัติที่แตกออกไปและที่ตามมา
- แบบของการด�ำเนินกลยุทธ์
- หนทางปฏิบัติที่เป็นไปได้ของข้าศึก
- ระดับความไม่แน่นอนของสถานการณ์
178 บทที่ ๗
ความห้าวหาญ – การตีตลบที่อินชอน
วันที่ ๒๕ มิ.ย. พ.ศ. ๒๔๙๐ (ค.ศ. ๑๙๕๐) เกาหลีเหนือรุกรานเกาหลีใต้ดว้ ยก�ำลังทหาร
ถึ ง เดื อ นสิ ง หาคม กองทั พ เกาหลี เ หนื อ ก็ ยึ ด ครองพื้ น ที่ ส ่ ว นใหญ่ ข องคาบสมุ ท รเกาหลี
ไว้ได้โดยทีก่ ำ� ลังของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ถกู กดดันให้รวมกันอยูภ่ ายในพืน้ ทีแ่ คบ ๆ หลังแม่นำ�้
นักดง และแม่น�้ำนาม เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนที่ก�ำลังทั้งสองฝ่ายขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด วันที่
๑๕ ก.ย. ขณะที่ก�ำลังทั้งสองฝ่ายยังรบกันอย่างดุเดือดอยู่ทางใต้ ทน.ที่ ๑๐ ได้ใช้ก� ำลัง
๒ กองพล ท�ำการยกพลขึ้นบกที่อินชอน ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรเกาหลีเหนือ
กรุงโซลขึ้นไปเล็กน้อย การตีตลบระดับยุทธการครั้งนี้มีชื่อว่า ยุทธการโครไมต์ (Operational
Chromites) ท� ำให้กองทัพเกาหลีเหนือถูกจู่โจมอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว ในเวลาเดียวกัน
เครื่องบินรบของสหประชาชาติ ก็ท� ำการทิ้งระเบิดใส่ทหารเกาหลีเหนือตามล� ำน�้ำนักตง
เพือ่ สนับสนุนการปฏิบตั กิ ารรุกโต้ตอบของกองทัพสนามที่ ๘ ในห้วงวันต่อ ๆ มา ทหารอเมริกนั
และ นย. เกาหลีใต้ ก็ท�ำการปฏิบัติการรุกไปยังกรุงโซล ก�ำลังส่วนที่เหลือของ ทน.ที่ ๑๐
ยึดพื้นที่ โซล ซูวอน และตัดเส้นทางส่งก�ำลังของเกาหลีเหนือได้ ไม่นานก�ำลังจาก ทบ. ก็ท�ำ
การปฏิบัติการรุกผ่านภูมิประเทศยากล�ำบากด้วยความเร็วเฉลี่ยวันละ ๑๐ ไมล์ การถอยของ
ทหารเกาหลีเหนือเริ่มไร้ระเบียบ ถึงเดือน ต.ค. พ.ศ. ๒๔๙๐ (ค.ศ. ๑๙๕๐) ทหารเกาหลีเหนือ
ก็แตกเป็นส่วนย่อย ๆ มุ่งหน้าไปทางพรมแดนด้านแมนจูเรีย และโซเวียต
กองหนุนช่วยให้ผู้บังคับบัญชามีเครื่องมือไว้รับมือกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
การมอบภารกิจให้กองหนุนควรให้เฉพาะที่จำ� เป็นต่อการเตรียมการส�ำหรับภารกิจที่ได้รับ ผู้สั่งใช้
กองหนุนต้องเป็นผู้บังคับบัญชาที่สั่งจัดกองหนุนเท่านั้น ยกเว้นว่าผู้บังคับบัญชาผู้นั้นจะสั่ง
มอบอ�ำนาจให้กับผู้ใดผู้หนึ่ง
การปฏิบัติการจัดรูปแบบในการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก
๗-๒๔ การปฏิบตั กิ ารจัดรูปแบบการรบ ในการปฏิบตั กิ ารรบด้วยวิธรี กุ เป็นการสร้างสรรค์
ให้เกิดเงือ่ นไขทีจ่ ะน�ำไปสูค่ วามส�ำเร็จในการปฏิบตั กิ ารรบแตกหัก การปฏิบตั กิ ารจัดรูปแบบการรบ
จะรวมไปถึ ง การโจมตีทางลึกเพื่อสร้างสภาวะที่ ไ ด้ เ ปรี ย บและเพื่ อ ป้ อ งกั น ก� ำลั ง ของฝ่ า ยเรา
ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติการจัดรูปแบบสภาวการณ์ด�ำเนินโดยการเข้าติดพันข้าศึกในเวลาพร้อม ๆ กัน
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 179
ต้องใช้ความระมัดระวังในการกวาดล้างด้วยการยิงให้มาก ไม่ว่าจะเป็นการยิงเล็งตรงหรือการยิง
จ�ำลอง
รูปแบบของการด�ำเนินกลยุทธ์
๗-๒๙ การปฏิบตั กิ ารรบด้วยวิธรี กุ มี แบบของการด�ำเนินกลยุทธ์อยู่ ๕ แบบ คือ การโอบ
การตีตลบ การแทรกซึม การตีเจาะ และการตีตรงหน้า ปกติมกั จะมีการใช้ผสมผสานกันแต่ในแต่ละ
แบบจะมีลักษณะเฉพาะในการเข้าตีข้าศึกต่างกัน แต่ละแบบจะมีความยุ่งยากต่อฝ่ายเข้าตีและมี
อันตรายต่อฝ่ายตั้งรับต่างกัน ผู้บังคับบัญชาก�ำหนดการเลือกใช้แบบของการด�ำเนินกลยุทธ์โดย
พิจารณาวิเคราะห์จากปัจจัย METT-TC
การโอบ
๗-๓๐ การโอบ เป็นแบบของการด�ำเนินกลยุทธ์ทฝี่ า่ ยเข้าตีหาทางหลีกเลีย่ งก�ำลังรบหลัก
ของข้าศึกโดยการยึดทีห่ มายทีอ่ ยูด่ า้ นหลังเพือ่ ท�ำลายก�ำลังรบหลักของข้าศึกในทีม่ นั่ ปัจจุบนั นัน้ เสีย
ในระดับยุทธวิธี การโอบจะเน้นที่การยึดครองภูมิประเทศ ท�ำลายก�ำลังข้าศึกที่ก�ำหนดและตัดเส้น
ทางการถอนตัวของข้าศึก (ดูรูปที่ ๗-๒) การโอบจะหลีกเลี่ยงพื้นที่ด้านหน้าของข้าศึกซึ่งเป็นพื้นที่
ทีก่ ำ� ลังข้าศึกเข้มแข็งและรวมอ�ำนาจการยิงได้งา่ ย การโอบปีกเดียวเป็นการโอบปีกด้านใดด้านหนึง่
เพียงด้านเดียวขณะทีก่ ารโอบสองปีกจะท�ำการโอบต่อปีกทัง้ สองด้านพร้อมกัน การโอบทัง้ สองแบบ
สามารถพัฒนาเป็นการโอบล้อมได้
๗-๓๑ การที่จะโอบข้าศึก ผู้บังคับบัญชาต้องหารือท�ำให้ปีกข้างใดข้างหนึ่งของข้าศึก
เป็นปีกที่ท�ำการโอบได้ บางครั้งข้าศึกที่ทำ� การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก อาจท�ำให้ปีกเปิดขึ้นโดย
ไม่รู้ตัวหรือในกรณีที่เป็นพื้นที่ปฏิบัติการที่ไม่ต่อเนื่องกัน การผสมผสานการยิงสนับสนุนกับก�ำลัง
ทางอากาศอาจท�ำให้ข้าศึกถูกโดดเดี่ยวอยู่ในภูมิประเทศที่ไม่เกื้อกูลจนท�ำให้ปีกบางด้านล่อแหลม
ต่อการโอบได้
๗-๓๒ ฝ่ายเข้าตีอาจท�ำให้ปีกของข้าศึกล่อแหลมต่อการโอบได้ ถ้าหากรุกด้วยทิศทางที่
ข้าศึกไม่คาดคิด การโอบทางดิง่ (การปฏิบตั กิ ารส่งทางอากาศ หรือเคลือ่ นทีท่ างอากาศ) เป็นตัวอย่าง
หนึ่งของการปฏิบัติการจัดรูปแบบ ฝ่ายเข้าตีท�ำให้ข้าศึกสนใจแต่พื้นที่ด้านหน้าด้วยการใช้การยิง
อย่างผสมผสาน และการจัดรูปแบบ หรือการเข้าตีเพื่อหันเหความสนใจ จากนั้นจะด�ำเนินกลยุทธ์
ต่อปีกและด้านหลังแล้วรวมอ�ำนาจก�ำลังรบต่อจุดอ่อนก่อนทีข่ า้ ศึกจะปรับทิศทางในการปฏิบตั กิ าร
รบด้วยวิธีรับได้ทัน
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 183
การตีตลบ
๗-๓๔ การตีตลบ เป็นรูปแบบของการด�ำเนินกลยุทธ์ ณ ทีซ่ งึ่ ก�ำลังทีท่ ำ� การเข้าตีแสวงหา
หนทางในการหลีกเลี่ยงที่ตั้งการวางก�ำลังตั้งรับหลักของข้าศึกโดยการเข้ายึดครองที่หมายที่อยู่ใน
ส่วนหลังของข้าศึกและเป็นเหตุให้ข้าศึกท�ำการถอนตัวออกไปจากที่มั่นในปัจจุบันของพวกเขา
หรือถอนก�ำลังหลักไปเผชิญหน้ากับภัยคุกคาม (ดูรูปที่ ๗-๓) ภัยคุกคามหลักต่อส่วนหลังของข้าศึก
บังคับให้ข้าศึกท�ำการโจมตีหรือถอนตัวไปสู่ส่วนหลัง ดังนั้น “การตีตลบ” จึงเป็นการท�ำให้พวกเขา
ออกจากที่มั่นในการตั้งรับของพวกเขา ปกติการตีตลบต้องการความลึกเป็นอย่างมากกว่ารูปแบบ
ในการด�ำเนินกลยุทธ์อย่างอื่น การยิงสนับสนุนในทางลึกที่น�ำมาใช้เป็นความส�ำคัญที่เพิ่มขึ้นมา
มันช่วยในการปกป้องก�ำลังที่ท�ำการโอบและการโจมตีจากข้าศึก กรณีตัวอย่าง ปฏิบัติการโครไมท์
เป็นการโจมตีสะเทินน�้ำสะเทินบกทีเ่ มืองอินชอน ระหว่างสงครามเกาหลี ด้วยเป็นการตีตลบทีถ่ อื ว่า
คลาสสิก ซึ่งบรรลุทั้งผลกระทบทางยุทธศาสตร์และยุทธการ
การแทรกซึม
๗-๓๕ การแทรกซึม เป็นแบบของการด� ำเนินกลยุทธ์ที่หน่วยเข้าตีท� ำการเคลื่อนที่
อย่างลับ ๆ เข้าไปยังพื้นที่ที่ข้าศึกยึดครองเพื่อท�ำการยึดพื้นที่ที่ได้เปรียบทางด้านหลังข้าศึก โดย
ปรากฏแต่เพียงก�ำลังขนาดเล็กต่อการยิงในการตั้งรับของข้าศึกเท่านั้น (ดูรูปที่ ๗-๔) ความจ�ำเป็น
ที่จะต้องหลีกเลี่ยงการตรวจจับของข้าศึกท�ำให้หน่วยแทรกซึมต้องมีขนาดเล็ก ปกติการแทรกซึม
เพียงอย่างเดียวมักไม่อาจเอาชนะข้าศึกได้ ผู้บังคับบัญชามักใช้การแทรกซึมเพื่อโจมตีที่มั่นข้าศึกที่
มีการป้องกันอย่างเบาบาง เพือ่ โจมตีทางปีกหรือด้านหลังต่อทีม่ นั่ ข้าศึกทีม่ กี ารป้องกันอย่างแข็งแรง
เพื่อเข้ายึดภูมิประเทศที่เกื้อกูลต่อการรบแตกหัก หรือเพื่อขัดขวางการปฏิบัติการด�ำรงสภาพของ
ข้าศึก โดยปกติแล้วหน่วยทีท่ ำ� การแทรกซึมจะแบ่งเป็นหน่วยย่อย ๆ ขนาดเล็กเพือ่ ท�ำการแทรกซึม
จากนั้นจึงรวมก�ำลังกันเพื่อปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบต่อไป
การเจาะ
๗-๓๖ การเจาะ เป็นแบบของการด�ำเนินกลยุทธ์อกี แบบหนึง่ ทีห่ น่วยเข้าตีพยายามทะลวง
ผ่านช่องแคบ ๆ ในแนวการวางก�ำลังเพื่อรบกวน ขัดขวาง ระบบการตั้งรับของข้าศึก (ดูรูปที่ ๗-๕)
การเจาะจะใช้เมื่อไม่สามารถโอบปีกของข้าศึกหรือเมื่อเวลาไม่เกื้อกูลให้ใช้การด�ำเนินกลยุทธ์
แบบอื่น ๆ ได้ ความส�ำเร็จในการเจาะอาจท�ำให้ปีกของข้าศึกล่อแหลมหรือท�ำให้ฝ่ายเข้าตีสามารถ
รุกเข้าไปยังพื้นที่ส่วนหลังของข้าศึกได้ เนื่องจากการเจาะเป็นการเข้าปฏิบัติตรงหน้าแนววางก�ำลัง
ข้าศึก จึงมักจะเสี่ยงต่อการสูญเสียมากกว่าการโอบ การตีตลบและการแทรกซึม
๗-๓๗ การรวมอ�ำนาจก�ำลังรบอย่างรวดเร็วและความห้าวหาญ มีความส�ำคัญอย่างยิ่ง
ในระหว่างการเจาะ ผู้บังคับบัญชาต้องรวมอ�ำนาจการยิงจากระบบอาวุธทุกชนิด ณ บริเวณที่เจาะ
เพื่อเปิดช่องการเจาะในขั้นแรกให้ได้ จากนั้นจึงท�ำการขยายช่องเจาะด้วยการโอบหน่วยข้าศึก
ณ บริเวณบ่าการเจาะแล้วส่งก�ำลังผ่านเข้าไปยึดที่หมายด้านหลังของข้าศึก หรือท�ำลายข้าศึก
ในแนวตั้งรับเป็นส่วน ๆ ก�ำลังที่ท�ำการเจาะช่องจะต้องเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันมิให้ข้าศึก
ตีโต้ตอบต่อปีกของตน ก�ำลังทีเ่ คลือ่ นทีต่ ดิ ตาม จะท�ำการขยายช่องทีเ่ จาะและยึดรักษาบ่าการเจาะ
ในทุกขัน้ ตอนการยิงทางลึกจะต้องกระท�ำต่อระบบอาวุธยิงเล็งจ�ำลองของข้าศึก หน่วยข้าศึกบริเวณ
บ่าการเจาะและหน่วยตีโต้ตอบของข้าศึก ก�ำลังส่วนอื่น ๆ ของฝ่ายเราจะตรึงข้าศึกที่อาจขัดขวาง
การเจาะด้วยการเข้าตี การยิง การเข้าตีลวง หรือ การแสดงลวง
แบบของการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก
๗-๔๑ การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก มีอยู่ ๔ แบบ ด้วยกัน คือ การเคลื่อนที่เข้าปะทะ
การเข้าตี การขยายผล และการไล่ติดตาม ผู้บังคับหน่วยจะใช้การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก ทั้งสี่
แบบนีต้ ามล�ำดับและผสมผสานกันเพือ่ ให้เกิดอ�ำนาจก�ำลังรบสูงสุด ตัวอย่างเช่น การเข้าตีทปี่ ระสบ
ความส�ำเร็จอาจน�ำไปสูก่ ารขยายผล และการขยายผลอาจน�ำไปสูก่ ารไล่ตดิ ตามหรืออาจมีการเข้าตี
ประณีต หลังจากการไล่ติดตามเพื่อให้ข้าศึกถูกท�ำลายโดยสิ้นเชิง หรือในบางกรณีอาจใช้การ
เข้าตีระหว่างที่มีการไล่ติดตามเพื่อท�ำให้การถอนตัวของข้าศึกชักช้าลง
๗-๔๒ ผู้บังคับบัญชาใช้แบบของการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุกทั้งสี่แบบทั้งผสมผสาน
หรือตามล�ำดับเพื่อให้เกิดความได้เปรียบอย่างสูงสุดต่อข้าศึก การเข้าตีไม่จ�ำเป็นต้องน�ำไปสู่
การขยายผลและการไล่ติดตามเสมอไป ตัวอย่าง เช่น การเข้าตีเพื่อท�ำลายการเข้าตี การเข้าตีลวง
และการแสดงลวง มักจะไม่พัฒนาไปสู่การขยายผล อย่างไรก็ตามสถานการณ์อาจเอื้ออ�ำนวยให้
ผู้บังคับบัญชาขยายผลจากความส�ำเร็จที่มิได้คาดคิดด้วยการเข้าตีอย่างเต็มขนาด
๗-๔๓ ผู้บังคับบัญชาต้องรู้ว่าการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก และการรับหลาย ๆ แบบอาจ
เกิดพร้อม ๆ กันโดยไม่สามารถบอกช่วงของการเปลี่ยนแปลงได้ หน่วยอาจต้องใช้การเข้าตี
เพื่อท�ำลายการเข้าตีหรือการเข้าตียับยั้ง ในขณะที่ท�ำการตั้งรับเพื่อหน่วงเหนี่ยวจังหวะการรบของ
ข้าศึกให้ชา้ ลงจนกว่าหน่วยจะพร้อมทีจ่ ะเข้าตี ขณะทีห่ น่วยเตรียมการเพือ่ เปลีย่ นการปฏิบตั กิ ารรบ
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 189
๑
การเดินระยะใกล้ การรุกของหน่วยรบเมือ่ การปะทะโดยตรงกับข้าศึกใกล้จะเกิดขึน้ ก�ำลังทหารจะอยูใ่ นรูปขบวนรบทัง้ หมด
หรือบางส่วน การเดินระยะใกล้จะสิน้ สุดเมือ่ ปะทะกับข้าศึกทางพืน้ ดิน หรือเมือ่ ก�ำลังทหารได้เข้าต�ำบลออกตีแล้ว
190 บทที่ ๗
การเคลื่อนที่เข้าปะทะ
๗-๔๕ การเคลือ่ นทีเ่ ข้าปะทะ คือ แบบของการปฏิบตั กิ ารรบด้วยวิธรี กุ ทีม่ คี วามประสงค์
จะคลี่คลายสถานการณ์ เพื่อเข้าท�ำการปะทะ หรือเพื่อกลับเข้าปะทะกับข้าศึกใหม่ หน่วยที่ท�ำ
การเคลื่อนที่เข้าปะทะควรจะเข้าปะทะกับข้าศึกด้วยก�ำลังแต่น้อยที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ เมื่อเกิดการ
ปะทะ ผู้บังคับบัญชาจะมีทางเลือก ๕ หนทาง ด้วยกันได้แก่ การเข้าตี ตั้งรับ อ้อมผ่าน รั้งหน่วง
หรือถอนตัว
๗-๔๖ การเคลื่อนที่เข้าปะทะจะประสบความส�ำเร็จได้ หน่วยจะต้องมีความคล่องแคล่ว
ในการเคลือ่ นที่ ความห้าวหาญ และอ�ำนาจก�ำลังรบ เพือ่ ให้เกิดการปะทะและคลีค่ ลายสถานการณ์
อย่างรวดเร็ว หลักพื้นฐานที่น�ำมาใช้มีอยู่ ๖ ประการ ด้วยกันคือ
- มุ่งความพยายามไปที่การค้นหาข้าศึก
- เริ่มเข้าปะทะด้วยก�ำลังน้อยที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ ให้ความส�ำคัญในการพิทักษ์
ก�ำลังรบ
- ก�ำลังทีเ่ ริม่ ปะทะควรมีขนาดเล็ก คล่องแคล่ว และมีความสมบูรณ์ในตัวเองเพือ่
ป้องกันมิให้กำ� ลังส่วนใหญ่ตอ้ งติดพันกับการรบแตกหักในพืน้ ทีท่ ขี่ า้ ศึกเป็นฝ่าย
เลือก หากท�ำได้เช่นนี้จะท�ำให้ผู้บังคับบัญชามีความอ่อนตัวในการคลี่คลาย
สถานการณ์
- ท�ำการจัดเฉพาะกิจให้หน่วยและใช้รปู ขบวนทีเ่ กือ้ กูลต่อการวางก�ำลังและเข้า
ตีได้อย่างรวดเร็วในทุกทิศทาง
- จัดให้หน่วยอยู่ในระยะที่สามารถสนับสนุนซึ่งกันและกันได้เพื่อความอ่อนตัว
ในการรับมือต่อสถานการณ์
- เมื่อปะทะแล้วต้องด�ำรงการปะทะไว้ตลอด
๗-๔๗ ผูบ้ งั คับบัญชาต้องจัดให้หน่วยสามารถท�ำการระวังป้องกันรอบตัว ซึง่ ปกติจะต้อง
มีสว่ นระวังป้องกันทัง้ ทางด้านหน้า ทางปีก และทางด้านหลัง ส่วนทีเ่ ป็นหน่วยน�ำควรเป็นหน่วยรบ
ผสมเหล่า ท�ำหน้าที่ในการค้นหาที่ตั้งและตรึงข้าศึก ในระดับกองพล และกองทัพน้อย กอง
ระวังหน้าจะเป็นหน่วยรบผสมเหล่าทีม่ คี วามสมบูรณ์ในตัวเอง แต่หน่วยทีม่ ขี นาดเล็กลงมาก็ควรจะ
จัดตามก�ำลังที่มีอยู่ ส่วนระวังป้องกันมักจะอยู่ห่างออกไปในระยะที่สามารถท�ำให้ก�ำลังส่วนใหญ่
มีเวลาและพืน้ ทีส่ ำ� หรับตอบโต้การปฏิบตั ขิ องข้าศึก ส่วนระวังป้องกันปีกและทางด้านหลังมักจะอยู่
ในระยะที่ก�ำลังส่วนใหญ่สามารถสนับสนุนได้ ส่วนระวังป้องกันหน้าและปีกจะต้องท� ำการลาด
ตระเวนอย่างต่อเนือ่ ง ท�ำการข่มหรือท�ำลายก�ำลังข้าศึกขนาดเล็กเพือ่ มิให้คกุ คามต่อก�ำลังส่วนใหญ่
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 191
กองระวังหน้าจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วหน้าก�ำลังส่วนใหญ่แต่จะต้องไม่ให้ไกลเกินระยะสนับสนุน
จากก�ำลังส่วนใหญ่ ปกติกองระวังหน้ามักจะจัดแยกไปจากก�ำลังส่วนใหญ่ แต่ส่วนระวังป้องกันปีก
และหลังมักอยู่ในความควบคุมของก�ำลังส่วนใหญ่นั้น
การรบปะทะ
๗-๕๐ การรบปะทะ เป็นการปฏิบัติการรบที่เกิดขึ้นเมื่อหน่วยที่กำ� ลังเคลื่อนที่เกิดการ
ปะทะกับข้าศึก ณ เวลาและสถานทีซ่ งึ่ มิได้คาดคิดมาก่อน ปกติลกั ษณะเช่นนีม้ กั จะเกิดกับการปฏิบตั ิ
การของหน่วยขนาดเล็ก แต่กอ็ าจเกิดขึน้ กับหน่วยขนาดกองพลน้อย หรือหน่วยทีใ่ หญ่กว่าได้ถา้ หาก
การข่าว การเฝ้าตรวจ และการลาดตระเวน ไม่มปี ระสิทธิภาพ การรบปะทะอาจเกิดขึน้ ได้เมือ่ ก�ำลัง
ทั้ ง สองฝ่ า ยรู ้ ว ่ า มี ฝ ่ า ยตรงข้ า มอยู ่ ใ นพื้ น ที่ แ ละตั ด สิ น ใจเข้ า ตี แ ม้ ไ ม่ ท ราบที่ ตั้ ง ที่ แ น่ น อนของ
ฝ่ายตรงข้าม ทันทีที่เกิดการปะทะ ผู้บังคับบัญชาต้องรีบแสวงความได้เปรียบในทันที ความเร็วใน
การเคลือ่ นทีแ่ ละการปฏิบตั บิ วกกับอ�ำนาจการยิงทัง้ การยิงเล็งตรงและเล็งจ�ำลองเป็นสิง่ ส�ำคัญทีจ่ ะ
ช่วยให้มีความได้เปรียบเหนือข้าศึก เพื่อด�ำรงแรงหนุนเนื่องหน่วยน�ำควรจะอ้อมผ่านหรือตรงเข้า
ท�ำลายหากข้าศึกมีการต้านทานเบาบาง เสรีในการด�ำเนินกลยุทธ์เป็นความได้เปรียบอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม ผู้บังคับบัญชาอาจตัดสินใจท�ำการตั้งรับเร่งด่วนถ้าหากข้าศึกมีกำ� ลังมากกว่าหรือ
เมื่อภูมิประเทศเกื้อกูลประโยชน์ต่อฝ่ายเรา
การเข้าตี
ประเภทของการเข้าตี
๗-๕๑ การเข้าตี เป็นการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก - เร่งด่วน
เพือ่ ท�ำลายหรือเอาชนะข้าศึกหรือเพือ่ ยึดและรักษาภูมปิ ระเทศ - ประณีต
หรือทั้งสองอย่างรวมกัน การเข้าตีเป็นการผสมผสานการ - ความมุ่งหมายพิเศษ
เคลื่อนที่สนับสนุนด้วยการยิงเล็งตรงและเล็งจ�ำลอง การเข้าตี • ท�ำลายการเข้าตี
สามารถเป็นได้ทงั้ การปฏิบตั กิ ารจัดรูปแบบ หรือการปฏิบตั กิ าร • ตีโต้ตอบ
รบแตกหัก การเข้าตีอาจเป็นได้ทั้งการเข้าตีเร่งด่วน และการ • ตีโฉบฉวย
เข้าตีประณีต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวลาที่มีอยู่ส�ำหรับการประเมิน • ซุ่มโจมตี
สถานการณ์ การวางแผน และการเตรียมการ ผู้บังคับบัญชาใช้ • ตีลวง
การเข้าตีเร่งด่วนเมือ่ สถานการณ์จ�ำเป็น ต้องใช้ก�ำลังเท่าทีม่ อี ยู่ • แสดงลวง
และมีเวลาเตรียมการน้อย การเข้าตีประณีตใช้เมือ่ มีเวลาในการ
วางแผนและประสานการเตรียมการ การเข้าตีทุกแบบล้วนมี
หลักพื้นฐานเหมือนกัน ความส� ำเร็จในการเข้าตีขึ้นอยู่กับการรวมและใช้อ� ำนาจก�ำลังรบที่มี
ประสิทธิภาพ
การเข้าตีเร่งด่วน
๗-๕๓ ผู้บังคับบัญชาใช้การเข้าตีเร่งด่วนเพื่อแสวงหาโอกาสท�ำลายข้าศึกหรือเพื่อชิง
ความริเริ่ม แต่โอกาสดังกล่าวจะเกิดขึ้นในเวลาเพียงสั้น ๆ เท่านั้น ปกติมักจะเกิดขึ้นในระหว่าง
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 193
การปฏิบัติการรบแตกหักนั้น ปกติการเข้าตีลวงจะเข้าตีต่อที่หมายจ�ำกัดที่อยู่ไม่ลึกนักและมักจะ
กระท�ำก่อนหรือระหว่างการปฏิบตั กิ ารรบแตกหัก กรณีตวั อย่าง ในระหว่างยุทธการพายุทะเลทราย
หน่วยของกองพลทหารม้าที่ ๑ ท� ำการเข้าตีลวงบริเวณ RUQI ก่อนวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์
ค.ศ. ๑๙๙๑ โดยมีความมุง่ หมายทีจ่ ะตรึงก�ำลังในแนวรบของอิรกั และท�ำให้ผบู้ งั คับบัญชาของอิรกั
เชื่อว่าการปฏิบัติการรบแตกหัก ของฝ่ายพันธมิตรจะกระท�ำตามแนว WADI AL-BATIN
๗-๖๕ การแสดงลวง เป็นแบบของการเข้าตีเพือ่ ลวงข้าศึกเกีย่ วกับสถานที่ และเวลาของ
การปฏิ บั ติ ก ารรบแตกหัก โดยการท� ำให้เห็น ก� ำ ลั ง ของกองก�ำ ลั ง ที่ ด�ำเนิ น การแสดงก�ำ ลั ง จะ
ไม่พยายามปะทะกับข้าศึก การแสดงลวง ถือเป็นการปฏิบตั กิ ารจัดรูปแบบ โดยต้องการท�ำให้ขา้ ศึก
เข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับเจตนารมณ์ของฝ่ายเรา การแสดงลวงจะเกื้อกูลต่อการปฏิบัติการรบแตกหัก
โดยการตรึงหรือหันเหความสนใจของข้าศึกไปจากการปฏิบตั กิ ารรบแตกหัก ผูบ้ งั คับบัญชาจะปล่อย
ให้ข้าศึกตรวจพบการแสดงก�ำลังแต่ต้องไม่ให้ข้าศึกทราบเจตนารมณ์ที่แท้จริงของฝ่ายเรา ถ้า
การแสดงก�ำลังท�ำให้ข้าศึกเปิดเผยจุดอ่อน ผู้บังคับบัญชาอาจใช้การเข้าตีแบบอื่น ๆ ได้ทันที
การขยายผล
๗-๖๖ การขยายผล เป็นแบบของการปฏิบตั กิ ารรบด้วยวิธรี กุ ทีม่ กั จะเกิดขึน้ หลังจากการ
เข้าตีประสบความส�ำเร็จ การขยายผลมีวัตถุประสงค์เพื่อท�ำให้ข้าศึกเสียระเบียบตลอดความลึก
ด้วยการท�ำให้ขา้ ศึกถูกแบ่งแยกเป็นหน่วยย่อย ๆ จนกระทัง่ ข้าศึกไม่มที างเลือกเป็นอย่างอืน่ นอกจาก
ยอมแพ้หรือหนี ผู้บังคับบัญชาที่ท�ำการขยายผลต้องใช้ความรุกรบ ความริเริ่ม และความกล้าหาญ
การขยายผลอาจเกิดขึ้นเฉพาะต�ำบลหรืออาจเป็นการปฏิบัติการขนาดใหญ่ได้ การขยายผลเฉพาะ
ต�ำบลจะใช้ความได้เปรียบจากโอกาสทางยุทธวิธีที่เกิดขึ้น ไม่ว่าโอกาสนั้นจะคาดการณ์ได้ล่วงหน้า
หรือไม่ก็ตาม ปกติกองพล และหน่วยระดับสูงกว่ามักจะวางแผนขยายผลขนาดใหญ่ไว้เป็น
แผนที่แตกออกไปหรือแผนการปฏิบัติที่ตามมาเป็นล�ำดับขั้น
๗-๖๗ การเข้าตีทสี่ ามารถท�ำลายข้าศึกลงได้อย่างสิน้ เชิงนัน้ เกิดขึน้ ได้ยาก ปกติขา้ ศึก จะ
พยายามผละออกจากการปะทะ ถอนตัว หรือจัดการตั้งรับขึ้นใหม่ให้เร็วที่สุด ในการปฏิบัติการ
ขนาดใหญ่ ข้าศึกอาจรวมก�ำลังต่อต้านฝ่ายเข้าตีด้วยการโยกย้ายหน่วยมาจากพื้นที่ ที่มีการรบไม่
รุนแรงนักหรือไม่กส็ งั่ ใช้กองหนุน ในระหว่างการขยายผล ผูบ้ งั คับหน่วยจะใช้การเข้าตีหลาย ๆ แห่ง
พร้อม ๆ กันทั่วทั้งพื้นที่ปฏิบัติการ เพื่อไม่ให้ข้าศึกได้มีโอกาสตั้งตัว
๗-๖๘ ในระหว่างการเข้าตี ผู้บังคับบัญชาต้องคอยแสวงหาโอกาสที่จะขยายผลอยู่
ตลอดเวลา สิ่งบอกเหตุที่หน่วยสามารถจะท�ำการขยายผลได้ก็คือ
- จับข้าศึกเป็นเชลยได้เป็นจ�ำนวนมากหรือข้าศึกทั้งหน่วยยอมแพ้
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 197
- หน่วยของข้าศึกแตกพ่ายหลังจากการปะทะขั้นต้น
- การปฏิบัติการตั้งรับของข้าศึกขาดความเป็นระเบียบ
- จับผู้บังคับบัญชาข้าศึกได้ หรือผู้บังคับบัญชาข้าศึกไม่อยู่กับหน่วย
๗-๖๙ ผู้บังคับบัญชาต้องวางแผนขยายผลไว้ส�ำหรับการเข้าตีทุกครั้งเสมอ ยกเว้นว่า
กองบัญชาการหน่วยเหนือจะห้ามมิให้กระท�ำหรือสถานการณ์ไม่เกือ้ กูล การขยายผลจะท�ำให้ขา้ ศึก
ตกอยูภ่ ายใต้ความกดดัน รวมก�ำลังกันไม่ตดิ ขาดขวัญและก�ำลังใจในการต่อสู้ เมือ่ ความเป็นปึกแผ่น
ของข้าศึกถูกท�ำลายลง ฝ่ายเข้าตีจะโจมตีต่อเป้าหมายที่ป้องกันมิให้ข้าศึกรวมก�ำลังกันขึ้นใหม่
ฝ่ า ยเข้ า ตี จ ะต้ อ งเข้ า ตี อ ย่ า งรวดเร็ ว ต่ อ ที่ บั ง คั บ การ ตั ด เส้ น ทางถอย โจมตี ก องหนุ น ข้ า ศึ ก
ปืนใหญ่สนาม หน่วยสนับสนุนการรบ และหน่วยสนับสนุนการช่วยรบที่ส�ำคัญ
๗-๗๐ โอกาสในการขยายผลเฉพาะต�ำบลอาจเกิดขึ้นในพื้นที่ ที่มิใช่เป็นความพยายาม
หลัก ผู้บังคับบัญชาจะต้องปรับจังหวะให้หน่วยรองเพื่อฉกฉวยความได้เปรียบจากโอกาสที่เกิดขึ้น
ในขณะที่ความพยายามหลักยังคงกดดันข้าศึกอยู่ต่อไป การขยายผลเฉพาะต�ำบลหลาย ๆ แห่ง
พร้อมกันอาจเปลี่ยนเป็นการขยายผลขนาดใหญ่ที่กลายเป็นการปฏิบัติการรบแตกหักได้
๗-๗๑ ความส�ำเร็จในการขยายผลจะมีความส�ำคัญเป็นพิเศษหลังจากการเข้าตีประณีตที่
ผู้บังคับบัญชายอมรับความเสี่ยงในพื้นที่อื่นเพื่อที่จะรวมอ�ำนาจก�ำลังรบส�ำหรับการปฏิบัติการรบ
แตกหัก ถ้าไม่สามารถขยายผลอย่างรุกรบจากความส�ำเร็จของการปฏิบัติการรบแตกหัก อาจเปิด
โอกาสให้ข้าศึกค้นพบจุดอ่อนของฝ่ายเราและขยายผลจนได้ความริเริ่มกลับคืนไป
๗-๗๒ ถ้าเป็นไปได้หน่วยที่เป็นหน่วยน�ำควรจะเป็นหน่วยที่ท�ำการขยายผลก่อน แต่ถ้า
ท�ำไม่ได้ ผู้บังคับบัญชาจะส่งหน่วยใหม่ที่สดชื่นกว่าเข้าไปเป็นหน่วยน�ำ การขยายผลจ�ำเป็นต้อง
ใช้ความรุกรบทัง้ ทางจิตใจและทางร่างกายเพือ่ เอาชนะความยากล�ำบากทีเ่ กิดขึน้ จากเทคนิคเขมือบ
ความมืดสภาพอากาศที่เลวร้าย โอกาสในการยิงกันเอง และเวลาในการปฏิบัติการที่ยืดออกไป
๗-๗๓ ความส�ำเร็จในการขยายผลท�ำให้ข้าศึกขวัญเสีย รวมกันไม่ติด ผู้บังคับบัญชา
ที่ท�ำการขยายผลต้องคาดการณ์ว่าจะมีการขยายผลและเตรียมเปลี่ยนเป็นการไล่ติดตาม หน่วย
สนับสนุนการช่วยรบต้องพร้อมตลอดเวลาที่จะสนับสนุนในทุกโอกาสที่เปิดให้
การไล่ติดตาม
๗-๗๔ การไล่ตดิ ตาม เป็นแบบของการรบด้วยวิธรี กุ ทีต่ อ้ งการท�ำลายข้าศึกทีก่ ำ� ลังหนีดว้ ย
การจับกุมหรือตัดเส้นทางถอย การไล่ติดตามเป็นการปฏิบัติการรบแตกหัก ที่กระท�ำต่อจากการ
เข้าตีหรือการขยายผลที่ประสบความส�ำเร็จ ปกติจะเกิดขึ้นเมื่อข้าศึกไม่สามารถจัดการตั้งรับใหม่
198 บทที่ ๗
เสียแรงหนุนเนื่อง ผู้บังคับบัญชาต้องสามารถคาดการณ์สถานการณ์ทั้งของฝ่ายเราและฝ่ายข้าศึก
ล่วงหน้าได้ การตัดสินใจที่ทันเวลาก็มีความส�ำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน
๗-๙๘ ผูบ้ งั คับบัญชาเพิม่ จังหวะการรบได้โดยการใช้การลาดตระเวน แบ่งมอบหน่วยปืน
ใหญ่และหน่วยสนับสนุนการรบ บางครั้งอาจต้องให้หน่วยหนึ่งท�ำการเคลื่อนที่ผ่านหน่วยอื่น ลด
เวลาที่หน่วยต้องตกอยู่ภายใต้การยิงของข้าศึกให้น้อยที่สุด การเข้าตีจะประสบความส�ำเร็จได้ก็ต่อ
เมือ่ หน่วยเข้าตียดึ ทีห่ มายได้กอ่ นทีข่ า้ ศึกจะตัง้ ตัวติด และก่อนทีจ่ ะพิสจู น์ทราบก�ำลังเข้าตี และรวม
อ�ำนาจก�ำลังรบต่อต้านฝ่ายเราได้ ฝ่ายเข้าตีจะต้องท�ำให้ฝ่ายตั้งรับเสียความสมดุลให้นานที่สุดและ
ด�ำรงแรงหนุนเนื่องอยู่ตลอดเวลาที่เข้าตี
๗-๙๙ การข่าวกรอง เฝ้าตรวจ และการลาดตระเวน และการจัดการสารสนเทศ จะช่วย
ให้ผู้บังคับบัญชาได้รับข่าวสารที่เกี่ยวข้องอย่างเพียงพอที่จะใช้ในการเข้าตี ผู้บังคับบัญชาต้องเข้าตี
ทันทีที่มีข่าวสารเพียงพอถึงแม้ว่าจะไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ก็ตาม ผู้บังคับบัญชาสามารถจะชิงความ
ริเริ่มได้โดยการเข้าตีแม้ว่าจะปราศจากภาพทางการยุทธ์ในรายละเอียดหรือ ภาพการยุทธ์ร่วมกัน
ก็ตาม
๗-๑๐๐ การเข้าตีอย่างหนักหน่วงและรุนแรงจะท�ำลายความเป็นปึกแผ่นในการตั้งรับ
ของข้าศึก การยิงทีม่ คี วามแม่นย�ำสูงและการปฏิบตั กิ ารข่าวสาร จะช่วยให้ฝา่ ยเข้าตีลดประสิทธิภาพ
ของหน่วยระวังป้องกันของข้าศึก ท�ำให้ระบบควบคุมบังคับบัญชาและการสนับสนุนการช่วยรบหมด
ประสิทธิภาพ ท�ำให้ขา้ ศึกเข้าใจไขว้เขวถึงทีห่ มายทีแ่ ท้จริงของฝ่ายเข้าตี ผลกระทบเหล่านีจ้ ะท�ำให้
ข้าศึกลังเลในการตัดสินใจ ขณะที่ฝ่ายเข้าตีโจมตีที่หมายย้ายการยิง ตรึงข้าศึกในทางลึก และ
ขัดขวางการใช้กองหนุน ไม่วา่ วัตถุประสงค์ในการเข้าตีจะเพือ่ ท�ำลายก�ำลังข้าศึกหรือยึดภูมปิ ระเทศ
การปฏิบัติของฝ่ายเข้าตีจะต้องไม่ช้าลงจนกว่าจะบรรลุภารกิจ จังหวะการรบที่รวดเร็วยังจะช่วย
ส่งเสริมให้การระวังป้องกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น
๗-๑๐๑ ผูบ้ งั คับบัญชาจะต้องสนธิการยิงกับการด�ำเนินกลยุทธ์เข้าด้วยกันตลอดห้วงการ
ปฏิบตั กิ ารรบด้วยวิธรี กุ โดยจะต้องมีการวางแผนและประสานกันอย่างละเอียดระหว่างหน่วยเข้าตี
และหน่วยสนับสนุน การปฏิบัติที่ถูกต้องตรงตามก� ำหนดและการควบคุมการยิงสนับสนุนที่มี
ประสิทธิภาพ ทหารราบเดินเท้าจะต้องเคลื่อนที่ตามหลังการยิงไปอย่างกระชั้นชิด ส่วนหน่วย
ยานเกราะจะเข้าตีโดยมีปนื ใหญ่ท�ำการยิงวิถโี ค้งสนับสนุน หน่วยเคลือ่ นทีท่ างอากาศ หรือหน่วยส่ง
ทางอากาศจะลงบนที่หมายหรือใกล้กับที่หมายให้มากที่สุดในทันทีที่ฝ่ายเรายิงข่มด้วยปืนใหญ่
และอาวุธป้องกันภัยทางอากาศได้ เมือ่ ฝ่ายเข้าตีเข้าใกล้ขา้ ศึกจะต้องรวมอ�ำนาจการยิงอย่างรุนแรง
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 205
และเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ความเร็วในขั้นนี้เป็นสิ่งที่ส�ำคัญอย่างยิ่งในการลดความสูญเสียและ
หลีกเลีย่ งการหยุดชะงัก อาวุธป้องกันภัยทางอากาศและก�ำลังทางอากาศจะท�ำลายก�ำลังทางอากาศ
ของข้าศึกที่คุกคาม หน่วยบินโจมตีของฝ่ายเราโจมตีกองหนุนและก�ำลังข้าศึกที่ยังไม่ได้เข้าท�ำ
การรบเพื่อโดดเดี่ยวข้าศึกที่ก� ำลังปะทะ เพื่อสร้างสภาวการณ์ที่เกื้อกูลต่อการรบในอนาคต
และป้องกันมิให้ข้าศึกใช้หนทางปฏิบัติอื่น ๆ
๗-๑๐๒ ฝ่ายเข้าตีต้องเคลื่อนที่ผ่านที่หมายไปอย่างรวดเร็วเพื่อท�ำลายก�ำลังข้าศึกส่วน
ทีย่ งั หลงเหลืออยู่ แต่กย็ งั ต้องระมัดระวังการตอบโต้ทงั้ จากหน่วยด�ำเนินกลยุทธ์ หน่วยยิงสนับสนุน
หรือก�ำลังทางอากาศ การระวังป้องกันเป็นสิ่งส�ำคัญเนื่องจากฝ่ายเข้าตีอยู่ในภูมิประเทศที่ฝ่าย
ตั้งรับคุ้นเคย ฝ่ายเข้าตีจะเสริมความมั่นคง ณ ที่หมาย จัดระเบียบใหม่เพื่อรับมือกับการตีโต้ตอบที่
อาจจะเกิดขึน้ เตรียมปฏิบตั ภิ ารกิจใหม่ หรือเข้าตีตอ่ ไป หากสถานการณ์เกือ้ กูล ผูบ้ งั คับบัญชาอาจ
จะเริม่ ขยายผล โดยอาจจะใช้หน่วยเข้าตีเดิมหรือใช้หน่วยทีเ่ คลือ่ นทีต่ ดิ ตามท�ำการส่งผ่าน ณ บริเวณ
ที่หมาย บางครั้งอาจต้องท�ำการปรับก�ำลังใหม่ เพื่อให้หน่วยบางหน่วยกลับคืนสู่สภาพพร้อมรบ
ปกติก�ำลังที่ท�ำการเข้าตีอาจท�ำการปรับก�ำลังในขณะ ที่หน่วยเคลื่อนที่ติดตามท�ำการเข้าตีผ่านไป
ข้างหน้า
๗-๑๐๓ ผู้บังคับบัญชามักใช้หน่วยที่ยังสดชื่นท�ำการเข้าตีผ่านเพื่อด�ำรงความหนุนเนื่อง
ในการเข้าตีเอาไว้ การใช้หน่วยเคลือ่ นทีต่ ดิ ตามจะช่วยให้หน่วยเข้าตีหน่วยเดิมได้มโี อกาสพัก ท�ำการ
เพิ่มเติมสิ่งอุปกรณ์ หรือเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่อื่นเพื่อเตรียมปฏิบัติภารกิจใหม่ การใช้หน่วยใหม่
มักนิยมกระท�ำเมือ่ การเข้าตีถงึ ขัน้ ขยายผลหรือไล่ตดิ ตาม แต่บางครัง้ อาจจ�ำเป็นต้องใช้ระหว่างการ
เข้าตีถ้าหน่วยเข้าตีเดิมไม่สามารถยึดที่หมายได้ ปกติผู้บังคับบัญชาจะใช้หน่วยใหม่เข้าท�ำการรบ
โดยการเข้าตีผ่านเพื่อรักษาจังหวะการรบและหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักโดยไม่จ�ำเป็น การเข้าตีผ่าน
อาจเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการเข้าตีได้เริ่มขึ้นแล้วและควรกระท�ำอย่างปกปิดจากข้าศึก
๗-๑๐๔ การเข้าตีผ่าน และการผลัดเปลี่ยนเพื่อการเข้าตีจะต้องมีการเตรียมการและ
วางแผนอย่างละเอียด การวางแผนการเข้าตีผ่านจะต้องมีการก�ำหนดหลักเกณฑ์ในการโอนการรบ
ระหว่างหน่วยทีเ่ ข้าตีผา่ นและหน่วยถูกผ่าน กองบัญชาการหน่วยเหนือของหน่วยทัง้ สองจะก�ำหนด
มาตรการควบคุมในการผ่านส่วนผู้บังคับบัญชาหน่วยรองทั้งสองหน่วยท�ำการประสานกันใน
รายละเอียด ในระหว่างการส่งผ่าน หน่วยที่ถูกผ่านจะให้การสนับสนุนกับหน่วยผ่านทุกอย่างเท่าที่
สามารถจะท�ำได้ หน่วยที่ถูกผ่านจะสนธิแผนการยิงของตนทั้งการยิงเล็งตรงและการยิงจ�ำลองเข้า
กับแผนการยิงสนับสนุนของหน่วยผ่าน
206 บทที่ ๗
ผลกระทบของเทคโนโลยี
๗-๑๐๕ เทคโนโลยีท�ำให้วิธีการรบของกองทัพในยุคใหม่เปลี่ยนแปลงไป เทคโนโลยี
สารสนเทศช่วยให้ผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาเห็นภาพการยุทธ์ร่วมกันได้อย่างเหมาะสม
ส�ำหรับหน่วยของตน ท�ำให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับเข้าใจสถานการณ์ได้ดีขึ้น การปฏิบัติการของ
หน่วยจึงมีพื้นฐานจากข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องมากกว่าเมื่อก่อน ผู้บังคับบัญชาจึงสามารถน�ำหน่วย
อยู่ข้างหน้าได้โดยที่ยังคงได้รับข่าวสารและยังติดต่อกับระบบควบคุมบังคับบัญชาได้ ความเข้าใจ
สถานการณ์และการเห็นภาพการปฏิบตั กิ ารร่วมกัน ช่วยให้ผบู้ งั คับบัญชาสามารถประสานสอดคล้อง
หน่วยต่าง ๆ ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ได้
รวดเร็ว ในขณะเดียวกันหน่วยรองก็สามารถเห็นภาพสถานการณ์และใช้ความริเริ่มเพื่อให้บรรลุ
เจตนารมณ์ของหน่วยเหนือโดยมิต้องรอให้หน่วยเหนือมีค�ำสั่ง
๗-๑๐๖ ความเข้าใจสถานการณ์ทเี่ กิดจากการเห็นภาพการปฏิบตั กิ ารร่วมกัน ท�ำให้การ
ด�ำเนินกลยุทธ์เปลีย่ นไปทัง้ ก่อนและระหว่างการเข้าตี ภาพการปฏิบตั กิ ารร่วม ท�ำให้ กกล.ทบ. พึง่ พา
การเคลื่ อ นที่ เ ข้าปะทะและการรบปะทะเพื่อ ให้ ไ ด้ ข ่ า วสารเพี ย งพอส�ำหรั บ การเข้ า ตี น ้ อ ยลง
หน่วยรบสมัยใหม่อาจรับทราบข่าวสารและคลี่คลายสถานการณ์ได้โดยไม่ต้องเคลื่อนที่เข้าปะทะ
เลยก็ได้ เครื่องมือลาดตระเวนและเฝ้าตรวจที่ทันสมัยท�ำให้เราเห็นภาพข้าศึกได้ดีขึ้น ขณะที่ระบบ
การยิงที่แม่นย�ำและการปฏิบัติการข่าวสารท�ำลายความเป็นปึกแผ่นของข้าศึก หน่วยลาดตระเวน
และระวังป้องกันจะท�ำการปะทะกับข้าศึกก็ต่อเมื่อต้องการข่าวสารซึ่งเครื่องมือรวบรวมข่าวสาร
ท�ำไม่ได้ ผู้บังคับบัญชาใช้หน่วยด�ำเนินกลยุทธ์เข้าที่ตั้งเพื่อเริ่มการเข้าตีก่อนที่ก�ำลังส่วนใหญ่จะ
เริ่มปะทะ ลักษณะเช่นนี้เมื่อการเข้าตีเปิดฉากขึ้นจะท�ำให้ข้าศึกตั้งตัวไม่ทัน
๗-๑๐๗ การปะติดปะต่อข่าวสารทีไ่ ด้จาก ระบบควบคุมบังคับบัญชา การข่าวกรอง ลาด
ตระเวน และเฝ้าตรวจ และระบบการสนับสนุนการช่วยรบ จะช่วยเพิ่มจังหวะการรบและเพิ่มทาง
เลือกในการรุกให้กับฝ่ายเข้าตี ความรู้ความเข้าใจต่อก�ำลังทั้งฝ่ายข้าศึกและฝ่ายเราท�ำให้การเข้าตี
สามารถจะเริ่มขึ้นหลาย ๆ จุดได้ ผู้บังคับบัญชาอาจโยกย้ายก�ำลังจากพื้นที่หนึ่งไปยังพื้นที่อื่นเพื่อ
ฉวยประโยชน์จากโอกาสที่เปิดให้ การปฏิบัติการที่ไม่เป็นแนว ในพื้นที่ปฏิบัติการที่ไม่ต่อเนื่องกัน
มักจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ เส้นปฏิบัติการมักจะมีความสัมพันธ์กันในทางวัตถุประสงค์มากกว่าห้วงพื้นที่
ดังนัน้ หน่วยอาจอ้อมผ่านข้าศึกบางหน่วยเพือ่ จะรวมอ�ำนาจก�ำลังรบ ณ จุดแตกหัก การขยายผลจาก
โอกาสทีเ่ กิดจากการประมวลข่าวสารเป็นสิง่ หนึง่ ทีจ่ ะท�ำให้ฝา่ ยเข้าตีมคี วามริเริม่ เหนือกว่าข้าศึกได้
บทที่ ๘
การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับ
Little Minds Try To Defend Everything At Once, But Sensible People Look
At The Main Point Only; They Parry The Worst Blows And Stand A Little Hurt If
Thereby Avoid A Greater One. If You Try To Hold Everything, You Hold Nothing.
๘-๑ กกล.ทบ. จะท�ำการตัง้ รับจนกว่าจะมีกำ� ลังเข้มแข็งพอทีจ่ ะเข้าตี การปฏิบตั กิ ารรบ
ด้วยวิธีรับ มีจุดมุ่งหมายเพื่อเอาชนะการเข้าตีของข้าศึก รอเวลา ออมก�ำลัง หรือเพื่อสร้างสภาวะที่
เกื้อกูลต่อการเข้าตี ล�ำพังการตั้งรับเพียงอย่างเดียวไม่สามารถส่งผลแตกหักต่อการรบได้ ดังนั้น
วัตถุประสงค์ของการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับ จึงควรมุ่งไปที่การสร้างอุปสรรคต่อการรุกและท�ำให้
กกล.ทบ. ชิงความริเริ่มกลับคืนมา ถึงแม้ว่าการรบแตกหักมักจะต้องมาจากการรุก แต่บางครั้ง
การปฏิบตั กิ ารรับก็มคี วามจ�ำเป็น ผูบ้ งั คับบัญชาอาจท�ำการตัง้ รับเพือ่ ซือ้ เวลา เพือ่ รักษาภูมปิ ระเทศ
เพื่อสร้างสภาวะที่เกื้อกูลต่อการปฏิบัติการอื่น ๆ เพื่อติดพันข้าศึก หรือเพื่อลดทอนทรัพยากรของ
ข้าศึก
วัตถุประสงค์ของการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับ
๘-๒ วัตถุประสงค์ของการปฏิบตั กิ ารรับก็เพือ่ เอาชนะการเข้าตีของข้าศึก ก�ำลังทีท่ ำ� การ
ตั้งรับจะรอให้ข้าศึกเป็นฝ่ายเข้าตีจากนั้นก็เอาชนะการเข้าตีด้วยการท� ำให้การเข้าตีนั้นด้อย
ประสิทธิภาพลง การรอคอยการเข้าตีมิได้เป็นกิจกรรมในทางอ้อม ผู้บังคับบัญชาของ ทบ.ควร
เฝ้ามองก�ำลังรบของข้าศึก เพื่อท�ำการโจมตีและลิดรอนข้าศึกก่อนที่การรบประชิดจะเกิดขึ้น
๘-๓ ปกติการตัง้ รับจะท�ำให้ได้เวลา ออมก�ำลัง และพัฒนาสถานการณ์ทเี่ กือ้ กูลต่อการ
กลับเป็นฝ่ายปฏิบัติการรุกใหม่ ดังนั้น การยุทธ์ขนาดใหญ่ และการทัพต่าง ๆ จะผสมผสาน
การปฏิบัติการรับเข้ากับการปฏิบัติการรุก การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับในระดับยุทธการ จึงมักมี
การรุก การปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ และการปฏิบัติการสนับสนุนรวมอยู่ด้วย
๘-๔ ในระหว่างการแสดงก�ำลังรบ การตั้งรับโดยหน่วยในยุทธบริเวณหรือหน่วยที่เพิ่ง
มาถึงจะท�ำให้กองก�ำลังรบร่วม/ผสม สามารถด�ำรงความริเริ่มเอาไว้ได้ ถ้าสภาวะไม่เกื้อกูลต่อ
การรุก ก�ำลังส่วนแรกที่มาถึงยุทธบริเวณจะท�ำการป้องกันพื้นที่ยึดอาศัย ในระหว่างที่ผู้บัญชาการ
หน่วยรบร่วมสัง่ สมอ�ำนาจก�ำลังรบ ก�ำลังส่วนนีจ้ งึ ควรมีอำ� นาจก�ำลังรบเพียงพอทีจ่ ะป้องปราม โจมตี
หรือตั้งรับอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
208 บทที่ ๘
ลักษณะของการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับ
๘-๕ การตั้งรับจะประสบความส�ำเร็จได้ต้องมีลักษณะที่รุกรบ ต้องใช้การยิงทั้งการ
ยิงเล็งตรง การยิงเล็งจ�ำลอง การยิงจากทางอากาศ การปฏิบัติการข่าวสาร และการใช้ก�ำลังภาค
พื้นดินโจมตีข้าศึก การตั้งรับจะต้องใช้อ�ำนาจการยิง ใช้การพิทักษ์ก�ำลังรบ และการด�ำเนินกลยุทธ์
ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อเอาชนะข้าศึก บางหน่วยท�ำการยึดพื้นที่และบางหน่วยต้องใช้ความ
คล่องแคล่วท�ำการเคลื่อนที่เพื่อมิให้ข้าศึกเป็นฝ่ายครองความริเริ่ม ผู้บังคับบัญชาที่ตั้งรับจะต้อง
คอยแสวงหาโอกาสที่จะกลับเป็นฝ่ายรุกอยู่ตลอดเวลา
๘-๖ ขณะที่ก�ำลังรบสมัยใหม่จะต้องน�ำหลักการตั้งรับมาประยุกต์ใช้อยู่เสมออย่าง
ต่อเนือ่ ง ระบบเทคโนโลยีชนั้ สูงจะเป็นปัจจัยทีท่ �ำให้ผบู้ งั คับบัญชาด�ำเนินการพัฒนาวิธกี ารตัง้ รับได้
การเข้าใจสถานการณ์ทั้งฝ่ายข้าศึกและฝ่ายเราอย่างแจ่มแจ้ง และการหลอมรวมในเรื่องของ
การบังคับบัญชาและการควบคุมเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยเทคโนโลยีทางด้านการข่าวกรอง การเฝ้าตรวจ
และการลาดตระเวน การยิงด้วยระบบอาวุธทีแ่ ม่นย�ำตัง้ แต่ระยะไกล และการสนับสนุนทางการช่วย
รบ ท�ำให้การตั้งรับแบบคล่องตัว มีอานุภาพในการท�ำลายล้างและประสิทธิผลมากกว่าที่เป็นมา
ถ้าหากท�ำได้ ผู้บังคับบัญชาก�ำลังรบที่ทันสมัยจะใช้การตั้งรับแบบคล่องตัว เนื่องจากการตั้งรับ
แบบนี้เป็นการใช้อ�ำนาจก�ำลังรบอันแข็งแกร่งของ ทบ. ที่ท�ำให้เกิดความได้เปรียบสูงสุด
๘-๗ การตั้งรับที่มีประสิทธิภาพจะใช้ก�ำลังทั้งแบบคล่องตัวและแบบยึดพื้นเข้าปะทะ
กับข้าศึก มันเป็นการผสมผสานอ�ำนาจก�ำลังรบของส่วนต่าง ๆ เพือ่ บัน่ ทอนความเข้มแข็งของข้าศึก
และสร้างสภาวการณ์ส�ำหรับการตีโต้ตอบ ฝ่ายตั้งรับจะแสวงหาโอกาสที่จะเพิ่มเสรีในการด�ำเนิน
กลยุทธ์ในขณะที่ขัดขวางมิให้ฝ่ายเข้าตีมีเสรีในการด�ำเนินกลยุทธ์ การสูญเสียที่เพิ่มขึ้นจะท�ำให้
ฝ่ายเข้าตีออ่ นแอลงและความริเริม่ จะกลับเป็นของฝ่ายตัง้ รับ โอกาสในการตีโต้ตอบก็จะเกิดขึน้ แต่
โอกาสที่จะท�ำการตีโต้ตอบอาจจะด�ำรงอยู่ได้ไม่นาน ดังนั้นฝ่ายตั้งรับจะต้องท�ำการตีโต้ตอบอย่าง
รวดเร็วและรุนแรงเพื่อบีบบังคับให้ข้าศึกถึงจุดผกผันไม่สามารถด�ำรงการเข้าตีต่อไปได้ ปัจจัยแห่ง
ความส� ำ เร็ จ ในการปฏิ บั ติ ก ารด้ ว ยวิ ธี รั บ ประกอบด้ ว ย การเตรี ย มการ การระวั ง ป้ อ งกั น
การแบ่งแยกและท�ำลาย การท�ำให้เสียระเบียบ (Disruption) การรวมก�ำลัง และความอ่อนตัว
การเตรียมการ
๘-๘ การตั้งรับเป็นแบบของการรบที่มีความแข็งแกร่ง ฝ่ายตั้งรับเป็นฝ่ายที่เข้าถึงพื้นที่
ปฏิบัติการก่อนฝ่ายเข้าตีและสามารถใช้เวลาที่มีอยู่ในการเตรียมการตั้งรับด้วยการศึกษาพื้นที่
เลือกที่มั่นที่สามารถจะท�ำการยิงไปยังแนวทางเคลื่อนที่ ที่ฝ่ายเข้าตีอาจจะใช้ นอกจากนี้ฝ่ายตั้งรับ
ยังสามารถใช้เครื่องกีดขวางตามธรรมชาติที่มีอยู่ผสมผสานกับเครื่องกีดขวางที่สร้างขึ้นเพื่อบีบ
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 209
ให้ขา้ ศึกเคลือ่ นทีเ่ ข้าสูพ่ นื้ ทีโ่ จมตี ฝ่ายตัง้ รับจะประสานและซักซ้อมการปฏิบตั ขิ องหน่วยภาคพืน้ ดิน
ท�ำความคุ้นเคยกับภูมิประเทศ อีกทั้งยังสามารถวางหน่วยระวังป้องกันและหน่วยลาดตระเวนได้
ทั่วทั้งพื้นที่ การเตรียมการเหล่านี้จะช่วยเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการตั้งรับได้ การเตรียมการจะ
กระท�ำอย่างต่อเนื่องและจะสิ้นสุดลงเมื่อฝ่ายตั้งรับท�ำการร่นถอย หรือเมื่อการรบเริ่มขึ้น อย่างไร
ก็ตามแม้ การรบระยะใกล้ เริ่มขึ้นการเตรียมการในทางลึกก็ยังคงด�ำเนินต่อไป
การระวังป้องกัน
๘-๙ ผู้บังคับบัญชารักษาความปลอดภัยให้กับหน่วยโดยการปฏิบัติการระวังป้องกัน
การพิทักษ์ก�ำลังรบ และการปฏิบัติการข่าวสาร การปฏิบัติการระวังป้องกันจะช่วยลวงข้าศึก
ในเรือ่ งทีต่ งั้ ความเข้มแข็ง และจุดอ่อนของฝ่ายเรา อีกทัง้ ยังช่วยป้องกันหรือเอาชนะการลาดตระเวน
ของข้าศึกอีกด้วย มาตรการที่ใช้ในการระวังป้องกันจะช่วยในการแจ้งเตือนแต่เนิ่น การแบ่งแยก
และท�ำลายการเข้าตีของข้าศึกตั้งแต่เนิ่นและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง การพิทักษ์ก� ำลังรบ ช่วยใน
การอนุรักษ์ก�ำลังรบ การปฏิบัติการข่าวสารเชิงรุก ด้วยการแสดงก�ำลังรบที่ของฝ่ายเราให้ข้าศึก
เข้าใจผิดและการลวงผูบ้ งั คับบัญชาฝ่ายข้าศึกไปสูค่ วามผิดพลาด ด้วยการปฏิบตั กิ ารลวง การปฏิบตั ิ
การระวังป้องกัน และการสงครามอิเล็กทรอนิกส์ มาตรการเหล่านี้สนับสนุนต่อการรักษาความ
ปลอดภัยของก�ำลังที่เป็นฝ่ายตั้งรับ
การแบ่งแยกและท�ำลาย
๘-๑๐ ฝ่ายตัง้ รับขัดขวางจังหวะและการประสานสอดคล้องของฝ่ายเข้าตีดว้ ยการปฏิบตั ิ
ที่มีวัตถุประสงค์ในการป้องกันมิให้ฝ่ายเข้าตีสามารถรวมอ�ำนาจก�ำลังรบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความพยายามในการปฏิบัติการแบ่งแยกและท�ำลายจะต้องกระท�ำทุกวิถีทางเพื่อมิให้ข้าศึก
เตรียมการและที่ส�ำคัญที่สุดยิ่งคือมิให้มีโอกาสเข้าตี วิธีการที่ใช้จะรวมถึงการเอาชนะหรือการ
เบีย่ งเบนหน่วยลาดตระเวนข้าศึก ท�ำลายหรือรบกวนรูปขบวนข้าศึก แยกหน่วยของข้าศึกออกจากกัน
และโจมตีหรือขัดขวางระบบการปฏิบัติการของข้าศึก ฝ่ายตั้งรับจะต้องไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายเข้าตี
มีเวลาเตรียมการ จะใช้การเข้าตีท�ำลายการเข้าตี ก่อนทีข่ า้ ศึกจะรวมอ�ำนาจก�ำลังรบได้ และใช้การ
ตีโต้ตอบก่อนข้าศึกจะเสริมความมั่นคงได้ ฝ่ายตั้งรับจะใช้การปฏิบัติการข่าวสารเชิงรุกต่อระบบ
ควบคุมบังคับบัญชาข้าศึกและจะต้องขัดขวางข้าศึกในทางลึกอย่างต่อเนื่อง
การรวมก�ำลัง
๘-๑๑ ฝ่ายตัง้ รับต้องแสวงหาโอกาสทีจ่ ะรวมอ�ำนาจก�ำลังรบให้เหนือ กว่าข้าศึก ณ ต�ำบล
และเวลาที่ต้องการชัยชนะขั้นเด็ดขาด เพื่อให้เกิดความได้เปรียบ ณ ต�ำบลแตกหัก ฝ่ายตั้งรับอาจ
210 บทที่ ๘
ผู้บังคับบัญชาต้องคิดว่าก�ำลังโจมตีนี้เป็นส่วนที่ใช้ท�ำการรบตลอดห้วงเวลาปฏิบัติการ และมีกิจ
ที่ต้องท�ำคือ วางแผน เตรียมการ และปฏิบัติการรบแตกหัก ซึ่งก็คือการตีโต้ตอบ ฝ่ายตั้งรับจะดึง
ฝ่ายเข้าตีเข้ามาในภูมิประเทศที่เกื้อกูลให้ก�ำลังโจมตีท�ำการตีโต้ตอบจากทิศทางที่ฝ่ายเข้าตีคาด
ไม่ถึง ฝ่ายตั้งรับกดดันด้วยการตีโต้ตอบด้วยก�ำลังที่มีอานุภาพเหนือกว่าอย่างท่วมท้นและรุนแรง
๘-๑๘ ในการวางแผนการตีโต้ตอบ ก�ำลังโจมตี เป็นก�ำลังที่จัดไว้ส�ำหรับการ
ผูบ้ งั คับบัญชาต้องพิจารณาหนทางปฏิบตั ขิ อง ปฏิบัติ การแตกหัก ในการตั้งรับแบบคล่องตัว
ข้าศึก ที่ตั้งที่เป็นไปได้ของก�ำลังที่เป็นส่วน ปกติจะจัดให้มอี ำ� นาจก�ำลังรบสูงสุดเท่าทีห่ น่วย
ติดตาม อีกทัง้ ต้องตัดสินใจว่าควรจะวางก�ำลัง จะพึงมี ณ เวลาที่ท�ำการเข้าตี
โจมตีไว้ทใี่ ด จะเลือกใช้เส้นทางหรือแนวทาง
เคลือ่ นทีใ่ ด รวมถึงการยิงสนับสนุน และท�ำให้เสียระเบียบ หรือโจมตีตอ่ ส่วนติดตาม เพือ่ แยกข้าศึก
ออกจากกัน นอกจากนีย้ งั ต้องใช้การลวง การรักษาความปลอดภัยการปฏิบตั กิ ารเพือ่ ลดประสิทธิภาพ
การลาดตระเวนของข้าศึกด้วย
๘-๑๙ ถ้ามีก�ำลังเพียงพอ ผู้บังคับบัญชาควรจะจัดกองหนุนไว้ด้วยนอกเหนือจากก�ำลัง
โจมตี กองหนุนถือเป็นก�ำลังที่ยังไม่ได้ใช้และอาจมอบกิจหลาย ๆ อย่างให้ได้ การจัดกองหนุน
จะช่วยให้การตั้งรับเกิดความอ่อนตัว กองหนุนสามารถให้การสนับสนุนแก่กำ� ลังที่ท�ำการตั้งรับอยู่
ในแนวรบ เมื่อผู้บังคับบัญชาสั่งใช้ก�ำลังโจมตี และกองหนุนยังไม่ติดพันธกิจส�ำคัญอื่น กองหนุน
ก็สามารถใช้เป็นหน่วยขยายผลต่อจากก�ำลังโจมตีได้
การตั้งรับแบบยึดพื้นที่
๘-๒๐ การตั้งรับแบบยึดพื้นที่ เป็นแบบของการตั้งรับที่มีวัตถุประสงค์เพื่อขัดขวางมิให้
ข้าศึกเข้าถึงภูมิประเทศที่ก�ำหนดไว้ในห้วงเวลาที่ก�ำหนด แทนที่จะเป็นการท�ำลายข้าศึกเพียง
อย่างเดียว (ดูรูปที่ ๘-๒) การตั้งรับแบบนี้ก�ำลังส่วนใหญ่จะวางไว้ในที่มั่นตั้งรับ พื้นที่โจมตีและ
จะจัดกองหนุนเคลื่อนที่เร็วไว้เพื่อรักษาพื้นที่ ความส�ำเร็จในการตั้งรับแบบนี้ขึ้นอยู่กับการควบคุม
ที่อ่อนตัวและมีประสิทธิภาพ การประสานสอดคล้องและ การแบ่งมอบอ�ำนาจการยิง ส่วนระวัง
ป้องกันจะวางไว้ตามแนวทางเคลื่อนที่ ที่คาดว่าข้าศึกจะใช้ ความเร่งด่วนในการใช้กองหนุนจะอยู่
ที่การตีโต้ตอบ แต่กิจอื่น ๆ ที่อาจมอบให้กองหนุนได้แก่ สกัดกั้นการเจาะของข้าศึก เพิ่มเติม
ก�ำลังให้กับส่วนอื่น ๆ การตั้งรับแบบยึดพื้นที่อาจใช้เป็นส่วนหนึ่งของการตั้งรับแบบคล่องตัว
ขนาดใหญ่ได้
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 213
การถอนตัว
๘-๒๓ การถอนตัว เป็นการร่นถอยแบบหนึง่ โดยหน่วยบางส่วนหรือทัง้ หมดจะท�ำการผละ
ออกห่างจากข้าศึก เพื่อสงวนก�ำลังรบ น�ำหน่วยไปปฏิบัติภารกิจใหม่ หรือหลีกเลี่ยงการรบใน
สภาพที่ไม่พึงปรารถนา ระหว่างการถอนตัวอาจจะมีการกดดันจากข้าศึกหรือไม่ก็ได้ และใน
หน่วยระดับยุทธวิธี หน่วยอาจท�ำการถอนตัวโดยล�ำพังหรือได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยอื่น
๘-๒๔ ในหน่วยระดับกองพลและกองทัพน้อย ผูบ้ งั คับบัญชาจะจัดก�ำลังออกเป็น ๒ ส่วน
คือ ส่วนระวังป้องกัน และก�ำลังส่วนใหญ่ ส่วนระวังป้องกันมีหน้าที่ป้องกันมิให้ข้าศึกขัดขวางการ
ถอนตัวของก�ำลังส่วนใหญ่ ก�ำลังส่วนใหญ่จัดก�ำลังอยู่หลังส่วนระวังป้องกัน และเคลื่อนที่ออก
ห่างจากข้าศึก ส่วนระวังป้องกันยังคงอยู่ระหว่างข้าศึกและก�ำลังส่วนใหญ่ตลอดจนท�ำการปกปิด
การเตรียมการและการเคลือ่ นย้ายของก�ำลังส่วนใหญ่ ถ้าข้าศึกตรวจจับการถอนตัวไม่ได้ ส่วนระวัง
ป้องกันก็จะยังคงอยู่ในพื้นที่เพื่อปกปิดการถอนตัวต่อไปจนกว่าก�ำลังส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะที่
ปลอดภัยจากการกระท�ำของข้าศึก จากนั้นส่วนระวังป้องกันจึงเคลื่อนที่เข้าประจ�ำที่มั่นซึ่งเตรียม
เอาไว้ตามล�ำดับ ถ้าข้าศึกตรวจพบการถอนตัวและเข้าโจมตี ส่วนระวังป้องกันจะรบหน่วงเวลาเพื่อ
ให้ก�ำลังส่วนใหญ่ถอนตัวออกไป หน่วยที่อยู่ในก�ำลังส่วนใหญ่อาจเพิ่มเติมก�ำลังให้กับส่วนระวัง
ป้องกันได้ถา้ จ�ำเป็น ซึง่ หน่วยดังกล่าวอาจต้องรบหน่วงเวลาหรือท�ำการตัง้ รับด้วยถ้าการปฏิบตั ขิ อง
ส่วนระวังป้องกันล้มเหลวในการชะลอการเคลื่อนที่ของข้าศึก
๘-๒๕ ผู้บังคับบัญชาต้องวางแผนและใช้หน่วยอื่น ๆ ได้แก่ ก�ำลังทางอากาศ กองหนุน
ทางภาคพื้นดิน หน่วยยิงสนับสนุน และหน่วย ปภอ. กองหนุนของกองพลและกองทัพน้อยจะอยู่
ใกล้กับหน่วยของก�ำลังส่วนใหญ่เพื่อช่วยเหลือด้วยการยิงและการด�ำเนินกลยุทธ์ถ้าจ�ำเป็นบางครั้ง
กองหนุนอาจต้องเข้าตีเพื่อท�ำลายการเข้าตี เพื่อท�ำลายความเป็นระเบียบและรั้งหน่วงข้าศึกหรือ
เพื่อช่วยให้ก�ำลังส่วนใหญ่ผละออกจากวงล้อม หรือผละออกจากก�ำลังรบปะทะอย่างแตกหักได้
๘-๒๖ ผู้บังคับบัญชาใช้การปฏิบัติการข่าวสาร และการปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย
ในการถอนตัวเพือ่ ป้องกันมิให้ขา้ ศึกได้ขา่ วสารหรือได้ขา่ วสารผิด ๆ เกีย่ วกับฝ่ายเราหน่วยทีถ่ อนตัว
ควรหลี ก เลี่ ย งการเคลื่ อ นย้ า ยก�ำ ลั ง รบก่ อ นเวลาอั น เหมาะสม หรื อ หลี ก เลี่ ย งกิ จ กรรมที่ อ าจ
เปิดเผยให้เห็นถึงสัญญาณในการถอนตัว เช่น การย้ายหน่วยสนับสนุนการรบและหน่วยสนับสนุน
การช่วยรบ การวางเครื่องกีดขวาง หรือการท�ำลายเส้นทางที่อาจจะเป็นสัญญาณในการถอนตัว
นอกจากนี้ยังต้องใช้การปฏิบัติการข่าวสารเชิงรุก ซึ่งรวมถึงมาตรการต่าง ๆ ในการปกปิดการ
เตรียมการในการถอนตัว เพื่อช่วงชิงความริเริ่มจากข้าศึกด้วย
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 215
- มีแผนในการเตรียมการที่เกื้อกูลต่อความรวดเร็ว และการปฏิบัติการที่ได้รับ
การควบคุม
- ป้องกันมิให้ข้าศึกได้ข่าวสารการเคลื่อนย้ายของหน่วย
- ปรับปรุงการข่าวกรองให้ทันสมัยอยู่เสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจู่โจม
- การผสมผสานการลวงกับการรบหน่วงเวลาเพื่อป้องกันมิให้ข้าศึกเข้าประชิด
ฝ่ายเราด้วยก�ำลังที่เหนือกว่า
การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับภายในกรอบการปฏิบัติระดับยุทธการ
๘-๓๔ ผู้บังคับบัญชาใช้ กรอบการปฏิบัติ (พื้นที่ปฏิบัติการ ห้วงการรบ และการจัด
สนามรบ) ในการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับ (ดูรูปที่ ๘-๓) โดยกรอบนี้จะอยู่บนพื้นฐานของปัจจัย
METT-TC และความเข้าใจห้วงการรบของผู้บังคับบัญชาเอง นอกจากนี้ยังจะต้องมีการปฏิบัติการ
แตกหักในการจัดรูปแบบ และด�ำรงสภาพอย่างพร้อมกัน และตามล�ำดับ โดยการประสานสอดคล้อง
หน่วยก�ำลังรบต่าง ๆ ให้ปฏิบตั กิ ารได้อย่างกลมกลืนกันทัง้ ในเรือ่ งเวลา พืน้ ที่ ทรัพยากร วัตถุประสงค์
และการปฏิบัติ ผู้บังคับบัญชาอาจก�ำหนดพื้นที่การรบทั้งทางลึก ระยะใกล้ และส่วนหลัง เมื่อการ
ด�ำเนินการปฏิบัติการมีลักษณะทั่วไปเป็นแนว และต่อเนื่องกัน
๘-๓๕ หากมีช่องว่างเกิดขึ้นภายในพื้นที่ปฏิบัติการที่ไม่ต่อเนื่องกันผู้บังคับบัญชาต้อง
ขัดขวางมิให้ข้าศึกมีเสรีในการเคลื่อนที่ภายในช่องว่างเหล่านั้น พื้นที่ใดที่ไม่มีก�ำลังวางอยู่ต้อง
มอบหมายให้หน่วยใดหน่วยหนึ่งรับผิดชอบพร้อมทั้งแบ่งมอบอ�ำนาจก�ำลังรบให้ พื้นที่ใดที่มิได้
แบ่งมอบให้หน่วยรอง พื้นที่นั้นจะอยู่ในความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาหน่วยนั้นเอง แต่ไม่ว่า
หน่วยรองจะวางก�ำลังใกล้กนั หรือแยกออกจากกันอย่างไร ผูบ้ งั คับบัญชาต้องมองภาพการตัง้ รับว่า
เป็นเสมือนกับปฏิบัติการที่เป็นหนึ่งเดียวในภาพรวม พวกเขาต้องท�ำการรบด้วยการปฏิบัติแตกหัก
จัดรูปแบบเพื่อสร้างสภาวการณ์ และด� ำรงสภาพ ในฐานะที่เป็นการปฏิบัติการที่เป็นอันหนึ่ง
อันเดียวกันเพื่อวัตถุประสงค์เพียงประการเดียว นั่นคือ เอาชนะการเข้าตีและเปลี่ยนไปสู่การรุก
ให้เร็วที่สุด
การปฏิบัติการแตกหักในการตั้งรับ
๘-๓๖ การปฏิบตั กิ ารแตกหักในการตัง้ รับ เป็นการปฏิบตั กิ ารเอาชนะการเข้าตีของข้าศึก
ในการตัง้ รับแบบคล่องตัว การตีโต้ตอบโดยก�ำลังโจมตี คือ การปฏิบตั กิ ารแตกหัก ถ้าผูบ้ งั คับบัญชา
รู้สถานการณ์ข้าศึกดีเท่าไหร่ การก�ำหนดน�้ำหนักให้กับการตีโต้ตอบก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เท่านั้น ส�ำหรับการตั้งรับแบบยึดพื้นที่ การปฏิบัติการแตกหักคือ การเอาชนะข้าศึกในพื้นที่โจมตี
ผู้บังคับบัญชาจะดึงข้าศึกให้เข้าสู่พื้นที่โจมตีเพื่อให้ฝ่ายตั้งรับท�ำลายข้าศึกด้วยการรวมอ�ำนาจ
การยิง เครื่องกีดขวาง และทรัพยากรอื่น ๆ
๘-๓๗ ไม่วา่ จะเป็นการตัง้ รับแบบคล่องตัวหรือแบบยึดพืน้ ที่ ผูบ้ งั คับบัญชาจะต้องก�ำหนด
ส่วนที่เป็นความพยายามหลักเสมอ และประสานสอดคล้องระบบปฏิบัติการในสนามรบ เพื่อ
สนับสนุนความพยายามหลักนั้น หากจ�ำเป็นอาจจะต้องย้ายความพยายามหลักด้วยการเพิ่มเติม
ก�ำลังรบและรวมผลกระทบต่าง ๆ ผู้บังคับบัญชาที่ท�ำการตั้งรับอาจจะเปลี่ยนแปลงความพยายาม
หลักซ�้ำแล้วซ�้ำเล่าเพื่อเอาชนะการเข้าตี ถ้าผู้บังคับบัญชาสามารถจะคาดการณ์ปฏิบัติของข้าศึกได้
ถูกต้อง ผูบ้ งั คับบัญชาสามารถปฏิบตั ติ ามแผนของพวกเขาส�ำหรับการปฏิบตั กิ ารแตกหักได้แม้วา่ จะ
ต้องเปลีย่ นความพยายามหลัก ปกติผบู้ งั คับบัญชาก�ำหนดการปฏิบตั กิ ารแตกหักเป็นความพยายาม
หลัก ณ จุดแตกหักเสมอ
๘-๓๘ กองหนุนจะช่วยให้ผู้บังคับบัญชาเกิดความอ่อนตัวสามารถรองรับสถานการณ์ที่
ไม่แน่นอนได้ ทันทีที่กองหนุนถูกสั่งใช้ กองหนุนจะกลายเป็นความพยายามหลักทันที และ
ผูบ้ งั คับบัญชาจะต้องจัดตัง้ กองหนุนขึน้ ใหม่จากก�ำลังทีย่ งั ไม่ได้ใช้หรือก�ำลังส่วนในพืน้ ที่ ทีถ่ กู คุกคาม
น้ อ ยกว่ า ผู ้ บั งคับบัญชาควรด� ำรงให้มีกองหนุ น ตลอดห้ ว งการปฏิ บั ติ ก าร ภารกิ จ โดยทั่ ว ไป
ของกองหนุนได้แก่ การตีโต้ตอบ การเพิ่มเติมก�ำลัง การปิดกั้น และท�ำลายข้าศึกที่เจาะเข้ามา
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 219
ผู้บังคับบัญชาควรหลีกเลี่ยงการมอบกิจอื่นใดแก่กองหนุนนอกเหนือจากกิจทั้งหลายที่ต้องการ
เพื่อการสนับสนุนการวางแผนและการเตรียมการที่ได้เตรียมไว้ส�ำหรับภารกิจของพวกเขา การใช้
กองหนุนควรใช้ในการเพิ่มเติมก�ำลัง หรือเพื่อท�ำให้เกิดชัยชนะมากกว่าจะป้องกันความพ่ายแพ้
แนวความคิดในการปฏิบัติ จะเป็นตัวก�ำหนดภารกิจหลักให้กับกองหนุน ปกติผู้บังคับบัญชาจะ
สงวนอ�ำนาจในการสั่งใช้กองหนุนไว้เอง ยกเว้นจะก�ำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
การปฏิบัติการสร้างสภาวะที่เกื้อกูล
๘-๓๙ การปฏิบัติการจัดรูปแบบเพื่อสร้างสภาวที่เกื้อกูลกระท�ำพร้อม ๆ กันทั่วทั้งพื้นที่
ปฏิบัติการ และจะให้การสนับสนุนต่อการปฏิบัติการแตกหัก ของฝ่ายตั้งรับด้วยการท�ำให้ข้าศึก
ไม่สามารถท�ำการรบตามแผนที่วางไว้ได้ การปฏิบัติการจัดรูปแบบเพื่อสร้างสภาวการณ์จะเลือก
ยึดรอน หรือ ข่มระบบปฏิบัติการในสนามรบของข้าศึก ขัดขวางการประสานสอดคล้องของข้าศึก
อย่างมีประสิทธิภาพได้ การปฏิบัติการข่าวสาร จะก�ำหนดสภาวะการรับรู้ของข้าศึกและสามารถ
สร้างอิทธิพลต่อการตัดสินใจในการเข้าตี การยิงที่สนับสนุนต่อการปฏิบัติการจัดรูปแบบเพื่อสร้าง
สภาวการณ์ที่กระท�ำต่อเป้าหมายค่าสูงก็เป็นการปฏิบัติการจัดรูปแบบเพื่อสร้างสภาวการณ์ด้วย
เช่นกัน การปฏิบัติการจัดรูปแบบเพื่อสร้างสภาวการณ์อื่น ๆ ได้แก่
- การปฏิ บั ติ ก ารเพื่ อ ความคล่ อ งแคล่ ว ในการเคลื่ อ นที่ และต่ อ ต้ า นความ
คล่องแคล่วในการเคลื่อนที่
- การปฏิบัติการลาดตระเวนและการระวังป้องกัน
- การยิงทั้งจากทางอากาศและอาวุธยิงเล็งจ�ำลองอย่างแม่นย�ำจากระยะไกล
- การผ่านแนว (ไปข้างหน้าและมาข้างหลัง)
- การปฏิบตั ขิ องก�ำลังทีท่ ำ� การตรึงข้าศึกซึง่ เกือ้ กูลต่อการเพือ่ สนับสนุนการปฏิบตั ิ
การแตกหัก
- การเคลื่อนย้ายของหน่วยซึ่งเกื้อกูลให้การปฏิบัติการจัดรูปแบบเพื่อสร้าง
สภาวการณ์และการปฏิบัติการแตกหักอื่น ๆ เป็นไปด้วยความสะดวก
- การปฏิบัติของกองหนุนก่อนจะถูกสั่งใช้
220 บทที่ ๘
การปฏิบัติการจัดรูปแบบของกองพลน้อยที่ ๒ ซาอุดีอาระเบียเนชันนั่ลการ์ด
ที่คาฟจี
(2D Sang Brigade At Khafji)
การตั้งรับมักจะมีนัยส�ำคัญทางการเมืองแฝงอยู่ อย่างในคืนวันที่ ๒๙ ม.ค. ๑๙๙๑
กองพลยานเกราะที่ ๕ ของอิรักท�ำการรุกเพื่อหยั่งเชิงตามแนวพรมแดนซาอุหลายแห่ง หน่วย
ของกองพลน้อยที่ ๒ ของซาอุดีอาระเบียเนชันนั่ลการ์ด (ซึ่งมีที่ปรึกษาและหน่วยติดต่อของ
สหรัฐฯ ที่ท�ำหน้าที่ประสานการขอปืนเรือและการโจมตีทางอากาศ) เข้าปะทะที่เมืองคาฟจี
ฝ่ายอิรกั ยึดเมืองได้ หน่วยลาดตระเวน น.ย.สหรัฐฯ สองหน่วยถูกตัดขาด และก็เล็ดลอดออกมาได้
วันรุ่งขึ้น กองพลน้อยที่ ๒ SANG เข้าตีเพื่อยึดคาฟจีคืนแต่ไม่ส�ำเร็จ วันที่ ๓๑ ม.ค. ๑๙๙๑
กองพลน้อยเข้าตีอีกครั้งและสามารถยึดคาฟจีคืนได้ส�ำเร็จในวันที่ ๑ ก.พ. ๑๙๙๑
แม้การรบที่คาฟจีจะเป็นการปฏิบัติทางยุทธวิธีเล็ก ๆ แต่มันก็ท�ำให้ผู้บัญชาการยุทธ
บริเวณเกิดความมัน่ ใจว่า ก�ำลังของอิรกั ไม่มขี ดี ความสามารถในการปฏิบตั กิ ารทีม่ คี วามซับซ้อน
ได้ ซ�้ำยังเป็นจุดอ่อนต่อการโจมตีทางอากาศ เรื่องนี้ท�ำให้ฝ่ายพันธมิตรเกิดความเชื่อมั่นในการ
ปฏิบัติงานร่วมกันซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นนัยส�ำคัญยิ่งทางยุทธศาสตร์
การปฏิบัติการด�ำรงสภาพในการตั้งรับ
๘-๔๑ ในการตัง้ รับการปฏิบตั กิ ารด�ำรงสภาพจะเกิดขึน้ ทัว่ ทัง้ พืน้ ทีป่ ฏิบตั กิ าร การปฏิบตั ิ
การเพื่อด�ำรงสภาพได้แก่ การสนับสนุนการช่วยรบ การระวังป้องกันฐานและพื้นที่ส่วนหลัง
การบ�ำรุงรักษาเส้นหลักการคมนาคม การควบคุมการเคลื่อนย้าย และการจัดการพื้นที่ การปฏิบัติ
เหล่านี้จะช่วยให้ผู้บังคับบัญชาสามารถด�ำรงเสรีในการปฏิบัติและสามารถท�ำการตั้งรับได้อย่าง
ต่อเนื่อง
๘-๔๒ การระวังป้องกันให้กับการปฏิบัติการด�ำรงสภาพเป็นสิ่งส�ำคัญที่ผู้บังคับบัญชา
ต้องพิจารณา โดยผู้บังคับบัญชาจะต้องจัดระเบียบหน่วยและภูมิประเทศเพื่อท�ำให้การปฏิบัติการ
ด�ำรงสภาพมีความปลอดภัย สามารถรักษาเสรีในการปฏิบัติอยู่ได้ ผู้บังคับบัญชาจัดกลุ่มกองก�ำลัง
ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการด�ำรงสภาพเข้าไว้ในรูปของฐาน และกลุ่มฐานเพื่อการป้องกัน
และการรักษาความปลอดภัย ฐานและกลุ่มฐานจัดไว้ให้สามารถป้องกันตนเองได้ ผู้บังคับบัญชา
ก�ำหนดก�ำลังตอบโต้ และก�ำลังทางยุทธวิธีเพื่อเพิ่มเติมขีดความสามารถของกลุ่มฐานเหล่านั้นใน
การป้องกันตนเอง (ดู รส. ๓-๙๐ ; รส. ๓-๑๐๐.๗)
222 บทที่ ๘
การปฏิบัติการตั้งรับ
๘-๔๖ ผู้บังคับบัญชาต้องประเมินสถานการณ์และเริ่มวางแผนก่อนจะตัดสินใจว่าจะ
ตั้งรับอย่างไร การก�ำหนดแนวความคิดในการปฏิบัติที่ง่าย ไม่ซับซ้อน และอ่อนตัวเพื่อรับมือกับ
การเข้าตีของข้าศึกได้ทุกที่เป็นปัจจัยส�ำคัญต่อความส�ำเร็จในการตั้งรับ การตั้งรับในระดับยุทธการ
จะใช้การตั้งรับทั้งสามแบบ ถ้าผู้บังคับบัญชาไม่ถูกจ�ำกัดให้ท�ำการรักษาพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเป็นการ
เฉพาะก็ควรจะดึงข้าศึกให้ลึกเข้ามาในพื้นที่ปฏิบัติการของฝ่ายเราแล้วท�ำการโจมตีทางปีกหรือ
ด้านหลังของข้าศึก ถ้าสภาวะเกื้อกูลฝ่ายเราอาจจะใช้การเข้าตีท�ำลายการเข้าตีก็ได้
การวางแผนการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับ
๘-๔๗ ในการวางแผนตั้งรับ ผู้บังคับบัญชาระดับยุทธการจะต้องก�ำหนดจุดศูนย์ดุล
ทั้งของฝ่ายเราและข้าศึก จุดแตกหัก และวิธีการเข้าตีที่ข้าศึกน่าจะใช้ ผู้บังคับบัญชาจะคาดการณ์
ต�ำบลทีน่ า่ จะเป็นจุดแตกหักในการเข้าตีของข้าศึก ท�ำอย่างไรถึงจะเอาชนะการรบแตกหัก ณ จุดนัน้
ได้โดยทีฝ่ า่ ยเรายังคงด�ำรงความเป็นปึกแผ่นในการตัง้ รับอยูไ่ ด้ ผูบ้ งั คับบัญชาระดับยุทธการจะต้อง
แบ่งมอบทรัพยากร ก�ำหนดพืน้ ทีป่ ฏิบตั กิ ารให้กบั หน่วยรองในระดับยุทธวิธี ตัดสินใจเลือกเวลาและ
สถานที่ในการท�ำการตั้งรับที่มีความแข็งแกร่งทั้งของฝ่ายเราและฝ่ายข้าศึกให้สอดคล้องกัน
๘-๔๘ ผูบ้ งั คับบัญชาต้องพิจารณาปัจจัย METT-TC ในการวางแผนตัง้ รับ การเลือกทีม่ นั่
จะต้องบีบบังคับให้ข้าศึกต้องสูญเสียมากหากท�ำการเข้าตีหรือถ้าจะอ้อมผ่านก็ต้องใช้เวลามาก
วางแผนการปฏิบตั กิ ารข่าวสาร เพือ่ ครองความเหนือกว่าด้านข่าวสาร ช่วยให้ฝา่ ยเราปกปิดและลวง
ข้าศึกได้ง่าย ท�ำให้การประสานสอดคล้องของข้าศึกขาดประสิทธิภาพ นอกจากนี้จะต้องวางแผน
การตั้งรับและการปฏิบัติการรุกโต้ตอบในทางลึกของเวลา พื้นที่ และวัตถุประสงค์
ภารกิจ
๘-๔๙ ภารกิจของหน่วยได้จากแนวความคิดในการปฏิบตั ขิ องกองบัญชาการหน่วยเหนือ
ผู้บังคับบัญชาต้องท�ำความเข้าใจว่าการตั้งรับของตนมีความส�ำคัญต่อความส�ำเร็จของหน่วยเหนือ
อย่างไร ลักษณะตามธรรมชาติของพืน้ ทีป่ ฏิบตั กิ ารและภารกิจในขัน้ ต่อไปจะมีผลกระทบต่อภารกิจ
ที่ผู้บังคับบัญชามอบให้ต่อหน่วยรอง
ข้าศึก
๘-๕๐ ผู้บังคับบัญชาและฝ่ายอ�ำนายการจะประเมินข้าศึกในเรื่องขีดความสามารถใน
การรุก ความล่อแหลม และลักษณะการออกแบบการปฏิบัติการ ในระดับยุทธวิธี ผู้บังคับบัญชา
224 บทที่ ๘
ก�ำลังและการสนับสนุนที่มีอยู่
๘-๕๗ ขณะที่ผู้บังคับบัญชาวาดภาพการปฏิบัติโดยรวมอยู่นั้น จะต้องพิจารณาขีดความ
สามารถของก�ำลังทีต่ นมีอยู่ การท�ำงานเป็นทีม สภาพการฝึก และประสบการณ์ของผูน้ ำ� ด้วยอ�ำนาจ
การยิง ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ การพิทักษ์ก�ำลังรบ สุขภาพทหาร ขวัญ และการฝึกล้วน
มีสว่ นส�ำคัญในการตัดสินใจว่าควรจะตัง้ รับอย่างไร ความแตกต่างระหว่างหน่วยในเรือ่ งการจัดและ
ยุทโธปกรณ์ ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ การฝึก และความเป็นผู้นำ� ท�ำให้หน่วยบางส่วน
เหมาะสมกับภารกิจแตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น ในการปฏิบัติการผสมระหว่างกองก�ำลังของ
ชาติต่าง ๆ การตั้งรับบางลักษณะอาจมีความจ�ำเป็นอันเนื่องมาจากความภูมิใจหรือผลประโยชน์
ของชาติ ฝ่ายตัง้ รับจะใช้ประโยชน์จากความเข้มแข็งสัมพัทธ์ในทางยุทธวิธแี ละขีดความสามารถ ซึง่
อ�ำนวยให้ฝ่ายตั้งรับมีความได้เปรียบเหนือฝ่ายเข้าตี สิ่งเหล่านี้อาจจะรวมถึงหน่วยเคลื่อนที่
ทางอากาศ ฮ.โจมตี ประสบการณ์การรบเวลากลางคืน อาวุธยิงระยะไกลที่มีความแม่นย�ำสูง
การข่าวกรอง และการบังคับบัญชาการรบ
เวลาที่มีอยู่
๘-๕๘ ปัจจัยส�ำคัญอีกประการหนึ่งในการตั้งรับคือ เวลาที่มีอยู่ส�ำหรับการเตรียมการ
การตั้งรับจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากหน่วยตั้งรับมีเวลาในการวางแผนการปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็น
การปฏิบัติการแตกหัก การปฏิบัติการจัดรูปแบบ และการปฏิบัติการด�ำรงสภาพ อีกทั้งต้องมีเวลา
ในการด�ำเนินการลาดตระเวน น�ำก�ำลังเข้าประจ�ำและเสริมความมัน่ คงให้ทมี่ นั่ วางแผนการยิง วาง
เครื่องกีดขวาง ประสานการด�ำเนินกลยุทธ์เข้ากับการยิงและการช่วยรบ ตลอดจนการซักซ้อม
ผู้บังคับบัญชาทุกระดับต้องใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่าที่เวลาที่มีอยู่จะอ� ำนวยให้
และต้องก�ำหนดความเร่งด่วนในการสนับสนุนทีค่ วรจะให้กบั หน่วยทีไ่ ด้รบั กิจทีม่ คี วามส�ำคัญมากทีส่ ดุ
๘-๕๙ หากจ�ำเป็น หน่วยขนาดเล็กควรได้รับการฝึกให้สามารถท�ำการตั้งรับโดยมีการ
เตรียมการแต่น้อยได้ อย่างไรก็ตามการตั้งรับจะแข็งแรงได้จะต้องใช้เวลาในการจัดหน่วยและการ
เตรียมการ ผู้บังคับบัญชาอาจใช้หน่วยก�ำบังท�ำการรบหน่วงเวลา หรือใช้หน่วยทางพื้นดินหรือทาง
อากาศท�ำการเข้าตีทำ� ลายการเข้าตี เพือ่ ให้กำ� ลังส่วนใหญ่มเี วลาในการตัง้ รับ การขาดแคลนในเรือ่ ง
ของเวลาและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ อย่างเช่น ท�ำเนียบก�ำลังรบ ความพยายามหลัก
และวัตถุประสงค์หรือทีห่ มายของข้าศึก อาจจะเป็นผลทีบ่ งั คับให้ ผูบ้ งั คับบัญชาจะต้องก�ำหนดกอง
หนุนขนาดใหญ่เอาไว้หรือยอมรับความเสี่ยงที่มากขึ้น มันอาจจะก�ำหนดแบบของการตั้งรับที่จะใช้
อีกด้วย
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 227
ข้อพิจารณาด้านพลเรือน
๘-๖๐ กฎหมายระหว่างประเทศและข้อพิจารณาทางด้านศีลธรรมท�ำให้ กกล.ทบ. ต้อง
ค�ำนึงถึงผลกระทบของการปฏิบัติการที่มีต่อประชาชนพลเรือนด้วย การตั้งรับที่กระท�ำ ณ แนว
พรมแดนระหว่างประเทศอาจบีบบังคับให้การตั้งรับมีความลึกน้อยกว่าที่ผู้บังคับบัญชาต้องการ
ปัจจัยทางด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมืองอาจท�ำให้ผู้บังคับบัญชามีทางเลือกไม่มากนัก
โครงสร้างพืน้ ฐานด้านการคมนาคมทีม่ คี วามส�ำคัญทางเศรษฐกิจอาจท�ำให้หน่วยไม่สามารถท�ำการ
แบ่งแยกและท�ำลายการเคลือ่ นทีข่ องข้าศึกได้ หากจ�ำเป็นต้องมีการท�ำลายพืน้ ที่ ทีม่ คี วามส�ำคัญต่อ
พลเรือน ฝ่ายตัง้ รับต้องมัน่ ใจว่าผูน้ �ำพลเรือนและประชาชนเข้าใจถึงความจ�ำเป็นทีห่ น่วยต้องท�ำด้วย
๘-๖๑ การปฏิบตั กิ ารในพืน้ ทีป่ ฏิบตั กิ ารทีม่ พี ลเรือนอาศัยอยูม่ ากอาจท�ำให้หน่วยต้องแบ่ง
ก�ำลังส่วนหนึ่งไปใช้ในการปฏิบัติการสนับสนุน หน่วยอาจต้องใช้ทรัพยากรบางส่วนเพื่อใช้ในการ
อพยพประชาชนที่อาจได้รับอันตรายจากการรบ ผู้บังคับบัญชาต้องใช้มาตรการควบคุมในการยิง
สนับสนุนแบบจ�ำกัดเพือ่ สนับสนุนมาตรการประสานงานในการป้องกันสิง่ อ�ำนวยความสะดวกและ
พืน้ ทีข่ องฝ่ายพลเรือน ซึง่ ประกอบด้วย การใช้ กฎการใช้กำ� ลัง (ดู รส. ๓ - ๐๙) กกล.ทบ. ต้องค�ำนึง
ถึงการเคลื่อนย้ายของพลเรือนเมื่อมีการวางสนามทุ่นระเบิดเสมอ
การเตรียมการตั้งรับ
๘-๖๒ การเตรียมการในการตั้งรับควรกระท�ำแต่เนิ่นเท่าที่ท�ำได้และด�ำเนินไปอย่าง
ต่ อ เนื่ อ งตลอดห้ ว งการปฏิ บั ติ ก าร การวางแผนคู ่ ข นานจะช่ ว ยให้ ห น่ ว ยต่ า ง ๆ ทุ ก ระดั บ
หน่ ว ยบั ญ ชาการสามารถเตรี ย มการได้ พ ร้ อ ม ๆ กั น ขณะที่ ฝ ่ า ยอ�ำ นวยการวางแผนอยู ่ นั้ น
ผู้บังคับบัญชาจะท�ำการลาดตระเวนด้วยตนเอง การเห็นและการเดินตรวจพื้นที่ตั้งรับด้วยตนเอง
เป็นสิ่งส�ำคัญยิ่งที่ไม่มีอะไรทดแทนได้ กิจกรรมที่กระท�ำในการเตรียมการจะช่วยให้ผู้บังคับบัญชา
ทุกระดับปรับแผนให้ดีขึ้นพร้อม ๆ กันไป หน่วยทุกระดับกลั่นกรองแผนของตนในแบบคู่ขนาน
๘-๖๓ การซักซ้อมอย่างถีถ่ ว้ นจะช่วยให้การปฏิบตั ติ ามแผนทีว่ างไว้มปี ระสิทธิภาพยิง่ ขึน้
ในหน่วยระดับยุทธวิธี การซักซ้อมมักจะกระท�ำบนพืน้ ทีส่ งู ทีส่ ามารถมองเห็นครอบคลุมพืน้ ทีป่ ฏิบตั ิ
การที่ท�ำการรบแตกหักส่วนใหญ่ได้ อาจมีการใช้ภูมิประเทศจ�ำลองหรือแผนที่ประกอบ ในระดับ
ยุทธการอาจต้องใช้การจ�ำลองยุทธหรือการแก้ปัญหาที่บังคับการ กรณีตัวอย่าง ยุทธการส�ำคัญใน
อดีต ไม่วา่ จะเป็นยุทธการ Just Cause, ยุทธการ Desert Shield และยุทธการ Uphold Democ-
racy ล้วนมีการซักซ้อมก่อนปฏิบตั กิ ารจริง การฝึกร่วมมักจะเป็นการซักซ้อมในระดับยุทธการ การ
ซักซ้อมจะช่วยให้ผู้บังคับบัญชาและฝ่ายอ�ำนวยการของหน่วยรองได้มีโอกาสทบทวนว่าหน่วย
228 บทที่ ๘
การบังคับบัญชาการรบ
๘-๖๖ ผูบ้ งั คับบัญชาจะต้องวางตัวเองอยู่ ณ ต�ำบลและเวลาวิกฤติ ส�ำหรับการตัง้ รับอาจ
หมายถึงการเคลื่อนที่ไปกับหน่วยตีโต้ตอบหรืออยู่กับกองหนุนที่เข้าท�ำการรบ ผู้บังคับบัญชาควร
คาดการณ์และจัดให้มเี ครือ่ งมือควบคุมบังคับบัญชาในระหว่างทีต่ นก�ำลังเคลือ่ นทีเ่ พือ่ มิให้การบังคับ
บัญชาขาดช่วง
การปฏิบัติการทางลึก
๘-๖๗ ไม่วา่ จะเป็นการตัง้ รับแบบคล่องตัวหรือยึดพืน้ ที่ ผูบ้ งั คับบัญชาจะอ�ำนวยการยุทธ์
พร้อมกันทัว่ ทัง้ ความลึกเพือ่ ประกันความส�ำเร็จให้การปฏิบตั กิ ารแตกหัก การปฏิบตั กิ ารจัดรูปแบบ
พร้อมกันทั่วทั้งพื้นที่ปฏิบัติการจะจ�ำกัดหนทางปฏิบัติของข้าศึก ขัดขวางการประสานสอดคล้อง
และกระทบต่อการปฏิบัติของหน่วยเคลื่อนที่ติดตาม การลาดตระเวน เฝ้าตรวจ ระวังป้องกัน
ก�ำลังทางอากาศ และหน่วยปฏิบัติการพิเศษล้วนแต่มีบทบาทส�ำคัญในการตั้งรับ ในขณะที่ฝ่ายเข้า
ตีเคลื่อนที่เข้ามา ก�ำลังเหล่านี้จะคอยเฝ้าระวังการปฏิบัติและติดตามหน่วยที่เข้าท�ำการรบ ก�ำหนด
แนวทางเคลื่อนที่ที่จะใช้ ระบุภัยคุกคามที่อันตรายที่สุด เพื่อให้ก�ำลังส่วนใหญ่มีเวลาในการปฏิบัติ
การเจาะของข้าศึก
๘-๖๘ ผู้บังคับบัญชาใช้เครื่องมือทั้งปวงที่มีอยู่เพื่อสกัดกั้น๑ หรือท�ำลายการเจาะของ
ข้าศึก ในการตั้งรับแบบยึดพื้นที่ ผู้บังคับบัญชาปิดกั้น๒ และกวาดล้างการเจาะให้เร็วที่สุด ส่วนใน
การตั้งรับแบบคล่องตัว ผู้บังคับบัญชาอาจยินยอมให้ข้าศึกเจาะเข้ามาในพื้นที่ที่ก�ำหนดไว้เพื่อใช้
ก�ำลังโจมตีของฝ่ายเราเข้าท�ำลาย ผู้บังคับบัญชาอาจเปลี่ยนความพยายามหลักของฝ่ายเรา
เพื่อตอบโต้การปฏิบัติของข้าศึกหรือเพื่อสร้างสภาวการณ์ที่เกื้อกูลต่อการปฏิบัติการแตกหัก
กรณีเช่นนี้อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนเส้นแบ่งเขต สั่งใช้กองหนุนพร้อมกับจัดตั้งกองหนุนใหม่
รวมถึงการปฏิบัติตามแผนที่แตกออกไป/ส�ำรองเป็นแผนเริ่มต้นด้วย
๑
สกัดกัน้ (Contain) ๑. การกระท�ำเพือ่ หยุด, เกาะ, หรือโอบล้อมก�ำลังข้าศึกหรือเป็นการกระท�ำทีเ่ ป็นเหตุให้ขา้ ศึกต้องทุม่ เท
การปฏิบตั ทิ งั้ มวล ณ พืน้ ทีซ่ งึ่ ฝ่ายเราเป็นผูก้ ำ� หนดไว้ รวมทัง้ เป็นการปฏิบตั เิ พือ่ ป้องกันไม่ให้ขา้ ศึกถอนตัวเพือ่ น�ำก�ำลังไปใช้
ในพืน้ ทีอ่ นื่ ๒. เป็นกิจทางยุทธวิธที กี่ ระท�ำเพือ่ จ�ำกัดการเคลือ่ นทีข่ องข้าศึก น.๔๓๕
๒
ปิดกัน้ (Block) ๑. ก�ำหนดให้หน่วยกระท�ำเพือ่ ขัดขวางไม่ให้ขา้ ศึกเข้าสูพ่ นื้ ทีท่ กี่ ำ� หนด หรือเพือ่ ป้องกันมิให้ขา้ ศึกปฏิบตั ใิ น
ทิศทางหรือแนวทางเคลือ่ นทีท่ กี่ ำ� หนดไว้ การปฏิบตั ดิ งั กล่าวอาจเป็นการปฏิบตั ใิ นห้วงเวลาใดโดยเฉพาะ หน่วยทีไ่ ด้รบั ภารกิจ
นีอ้ าจจะต้องรักษาภูมปิ ระเทศและยอมรับการโจมตีทไี่ ด้ใคร่ครวญไว้แล้ว ๒. เป็นประสิทธิผลของเครือ่ งกีดขวางซึง่ ผสมผสาน
กับแผนการยิงสนับสนุนเพือ่ ขัดขวางไม่ให้ฝา่ ยตรงข้ามเข้าตีตามแนวทางการเคลือ่ นทีท่ กี่ ำ� หนดไว้โดยเฉพาะ หรือเพือ่ ป้องกัน
มิให้ขา้ ศึกออกจากพืน้ ทีโ่ จมตีทกี่ ำ� หนด น.๔๓๕
230 บทที่ ๘
การปิดล้อมและการตีฝ่าวงล้อม
๘-๖๙ ในบางโอกาสหน่วยอาจถูกตัดขาดจากฝ่ายเดียวกัน หากเป็นเช่นนี้ ผู้บังคับหน่วย
อาวุโสในหน่วยที่ถูกตัดขาดจะท�ำหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชาก�ำลังที่ถูกตัดขาดและท�ำการประเมินหา
ทางท�ำการตั้งรับ ผู้บังคับบัญชาที่ท�ำหน้าที่นี้จะรวบรวมก�ำลังจัดหน่วยขึ้นมาใหม่ ท�ำการเสริม
ความมั่นคง และตัดสินใจว่าหน่วยเหนือที่อยู่ขึ้นไปต้องการให้หน่วยที่ถูกปิดล้อมนั้นตีฝ่าวงล้อม
ออกมาหรือตัง้ รับอยูก่ บั ที่ ถ้าหน่วยสามารถตีฝา่ วงล้อมออกมาได้และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ
หน่วยเหนือก็จะต้องกระท�ำเสียก่อนที่ข้าศึกจะปิดกั้นเส้นทางถอย
๘-๗๐ ในการตีฝ่าวงล้อม หน่วยจะต้องก�ำหนดหรือจัดหน่วยเพื่อเปิดช่องเจาะในขณะที่
ก�ำลังในวงล้อมท�ำการตั้งรับต่อไป เมื่อเจาะช่องได้แล้ว ก�ำลังที่ตั้งรับจะผละจากการปะทะแล้ว
เคลื่อนที่ติดตามหน่วยเจาะเพื่อรวมกับก�ำลังฝ่ายเดียวกัน ถ้าหน่วยตีฝ่าวงล้อมออกมาไม่ได้จะต้อง
ท�ำการตัง้ รับต่อไปขณะทีผ่ บู้ งั คับบัญชาท�ำการประสานเพือ่ รอการบรรจบกับก�ำลังทีจ่ ะมาช่วยต่อไป
การป้องกันการปฏิบัติการด�ำรงสภาพ
๘-๗๑ การด�ำรงสภาพทีต่ อ่ เนือ่ งไม่หยุดชะงักจะช่วยให้หน่วยสามารถปฏิบตั กิ ารได้อย่าง
ต่อเนือ่ งและประกันถึงเสรีในการด�ำเนินกลยุทธ์ การคุกคามต่อการปฏิบตั กิ ารด�ำรงสภาพอาจท�ำให้
ฝ่ายเราต้องเปลี่ยนย้ายที่ตั้งหน่วยหรือสิ่งอ�ำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก�ำลังตอบโต้มาจาก หน่วย
สนับสนุนการช่วยรบ และหน่วยสนับสนุนการส่งก�ำลังบ�ำรุง มีความรับผิดชอบในการตอบโต้
ภัยคุกคามที่มาจากหน่วยทางยุทธวิธีขนาดเล็ก ถ้าก�ำลังตอบโต้ไม่เพียงพอรับมือกับภัยคุกคาม
ผูบ้ งั คับบัญชาอาจใช้ก�ำลังรบทางยุทธวิธี เนือ่ งจากภัยคุกคามทีเ่ กิดขึน้ ต่อการปฏิบตั กิ ารด�ำรงสภาพ
สามารถบีบให้หน่วยต้องดึงอ�ำนาจก�ำลังรบมาจากการปฏิบัติการแตกหักได้ ดังนั้นผู้บังคับบัญชา
จะวางน�้ำหนักความต้องการอย่างระมัดระวังส�ำหรับการเปลี่ยนแปลงต่อผลที่ตามมาและตัดสินใจ
ว่าพื้นที่ใดจะยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น
อาวุธที่มีอ�ำนาจท�ำลายสูง๑ (อทส.)
๘-๗๒ อาวุธทีม่ อี ำ� นาจท�ำลายสูง เมือ่ ปรากฏขึน้ จะเป็นภัยคุกคามทีเ่ ป็นอันตรายอย่างยิง่
ในยุทธบริเวณ นอกจากจะมีศักยภาพในการท�ำลายที่มั่นที่แข็งแรงที่สุดแล้วยังเป็นอุปสรรคต่อการ
๑
อาวุธทีม่ อี ำ� นาจท�ำลายสูง อาวุธต่าง ๆ ทีม่ ขี ดี ความสามารถในการท�ำลายขัน้ ร้ายแรงและ/หรือถูกใช้ในลักษณะทีจ่ ะท�ำลาย
พลเมืองจ�ำนวนมากได้ อาวุธทีม่ อี ำ� นาจท�ำลายสูง อาจเป็นอาวุธนิวเคลียร์ เคมีชวี ะ และรังสี แต่ไม่หมายรวมถึงเครือ่ งมือใน
การขนส่งหรือขับเคลือ่ นอาวุธนัน้ ซึง่ เครือ่ งมือเหล่านีเ้ ป็นส่วนของอาวุธทีส่ ามารถแยกจากตัวอาวุธและแยกตัวเองออกเป็น
ส่วน ๆ ได้
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 231
๙-๑ ผูบ้ ญ
ั ชาการรบใช้ กกล.ทบ. ตามมติของสหประชาชาติ ปฏิบตั กิ ารเพือ่ เสถียรภาพ
นอกราชอาณาจั ก รเพื่ อ ปกป้ อ งและส่ ง เสริ ม ผลประโยชน์ ข องชาติ กกล.ทบ. ได้ รั บ การฝึ ก
มีอาวุธยุทโธปกรณ์และการจัดเพื่อควบคุมดินแดน ประชากร และสถานการณ์ได้เป็นเวลานาน
ขีดความสามารถของ กกล.ทบ. ทั้งในเชิงกว้างและเชิงลึก จะช่วยให้ผู้บัญชาการรบมีทางเลือกที่
ยืดหยุ่นที่ส�ำคัญในการที่จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการในยุทธบริเวณได้อย่างสอดคล้อง
๙-๒ การปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ เพื่อปกป้องและส่งเสริมผลประโยชน์ของชาติโดย
การสร้างอิทธิพลต่อภัยคุกคามและสภาพแวดล้อมทั้งในแง่มิติด้านการเมือง และสารสนเทศ ซึ่งจะ
รวมถึงกิจกรรมในการพัฒนา การสร้างความร่วมมือในยามสันติและการบังคับใช้กำ� ลัง เมือ่ เกิดเหตุ
วิกฤต กกล.ทบ. จะบรรลุเป้าหมายในการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพโดยการเข้าไปมีการรบปะทะ
และการตอบโต้ กิจกรรมทางทหารทีส่ นับสนุนการปฏิบตั กิ ารเพือ่ เสถียรภาพมักจะมีความหลากหลาย
ต่อเนื่อง และกินเวลายาวนาน ทั้งนี้ก็เพื่อส่งเสริมและด�ำรงความมีเสถียรภาพในระดับภูมิภาค
๙-๓ แม้ ว ่ า ภารกิ จ หลั ก ของ กกล.ทบ. คื อ การรบ แต่ กกล.ทบ. ก็ ถู ก ใช้ ไ ปใน
การปฏิบัติการ เพื่อเสถียรภาพหลายครั้งทั้งในประวัติศาสตร์และในปัจจุบัน แม้แต่ในสงคราม
ในยุทธบริเวณหลัก กกล.ทบ. ก็ยังต้องมีการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพไม่ว่าจะเป็นในระหว่างที่มี
การรบหรือการรบสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม การที่ไทยมียุทธศาสตร์ในการส่งเสริมเสถียรภาพในภูมิภาค
โดยการสนับสนุนให้เกิดความมัน่ คงและความมัง่ คัง่ แสดงว่า กกล.ทบ. จะต้องเกีย่ วข้องในการปฏิบตั ิ
การเพื่อเสถียรภาพในอนาคตต่อไป
การรบปะทะ และการตอบโต้
๙-๔ การมี ป ฏิ สั ม พั น ธ์ จ ะเกิ ด ขึ้ น ภายในบริ บ ทของยุ ท ธศาสตร์ ยุ ท ธบริ เ วณของ
ผู้บัญชาการรบ (ดูรูป ๙-๑) ผู้บัญชาการรบใช้ก�ำลังทหารเพื่อเสริมหรือเพิ่มเติมให้กับเครื่องมือของ
พลังอ�ำนาจของชาติดา้ นอืน่ ๆ แผนการรบปะทะในยุทธบริเวณ จะเป็นกรอบทีผ่ บู้ ญ ั ชาการรบใช้ใน
การมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานในภูมิภาคในการร่วมมือด้านกิจกรรมทางทหารและการพัฒนา
โดยวัตถุประสงค์ของกิจกรรมตามแผนการรบปะทะในยุทธบริเวณ จะช่วยบรรเทาเหตุวกิ ฤติกอ่ นที่
สถานการณ์จะเลวร้ายลงไปจนถึงขั้นที่ต้องใช้การบีบบังคับหรือแทรกแซงด้วยก�ำลังทหาร
234 บทที่ ๙
การด�ำเนินการทางทหารในยามปกติ
๙-๕ ผูบ้ ญ
ั ชาการรบสร้างสภาวะทีพ่ งึ ประสงค์ในพืน้ ทีร่ บั ผิดชอบโดยการใช้ การด�ำเนิน
การทางทหารในยามปกติ โดยหมายถึง กิจกรรมทางทหารที่มีชาติอื่น ๆ เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อสร้าง
สภาวะด้านความมั่นคงในยามสันติ กิจกรรมดังกล่าวจะรวมถึงโครงการและการฝึกที่ทหารไทย
กระท�ำร่วมกับชาติอื่น ๆ เพื่อจัดรูปแบบสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศ และปรับปรุงความเข้าใจ
ซึง่ กันและกันกับระหว่างประเทศอืน่ ๆ และปรับปรุงความสามารถในการปฏิบตั งิ านร่วมให้ชาติภาคี
สนธิสัญญา หรือชาติที่มีศักยภาพในการเป็นพันธมิตรสามารถปฏิบัติการร่วมกับกองทัพไทยได้
กิจกรรมในการด�ำเนินการทางทหารในยามปกติ จะต้องก�ำหนดให้สามารถสนับสนุนวัตถุประสงค์
ของผูบ้ ญั ชาการรบตามทีก่ �ำหนดไว้ใน แผนการรบในยุทธบริเวณ ผูบ้ ญ ั ชาการรบประสานสอดคล้อง
แผนปฏิสัมพันธ์ในยุทธบริเวณของฝ่ายเราเข้ากับแผนของประเทศ และแผนการป้องกันภายใน
รวมทัง้ ยุทธศาสตร์การพัฒนาเพือ่ สนับสนุนวัตถุประสงค์ของยุทธบริเวณ กกล.ทบ. จะมีสว่ นช่วยใน
การปฏิบตั ติ ามแผนเหล่านัน้ ปกติมกั จะร่วมกับก�ำลังทหารของประเทศเจ้าบ้านและด้วยการประสาน
งานกับองค์กรพลเรือน โดยมีวัตถุประสงค์ในการใช้ก�ำลังเพื่อ การด�ำเนินการทางทหารในยามปกติ
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 235
คือ
- เปิดการติดต่อสื่อสาร (Open Communication)
- เพิ่มความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกัน
- เสริมสร้างความเป็นทหารอาชีพในภูมิภาค
- เป็นตัวอย่างในการแสดงบทบาทของทหารในการเสริมสร้างประชาธิปไตย
การติดต่อทางทหารกับทหารแบบต่างตอบแทนเป็นวิธกี ารหลักของ การด�ำเนินการ
ทางทหารในยามปกติ ตัวอย่างได้แก่ การฝึกผสมนานาชาติ การแลกเปลี่ยนการฝึกเป็นบุคคล
โครงการและการฝึกทางการแพทย์และทางการช่าง และการแลกเปลีย่ นข่าวสารของฝ่ายอ�ำนวยการ
แนวความคิดแบบต่างตอบแทนจะรวมถึงก�ำลังทหารของชาติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในทุกด้านของ
ผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นไทย ประเทศเจ้าบ้าน และชาติอื่น ๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วม
๙-๖ แม้ว่า การด�ำเนินการทางทหารในยามปกติ จะมีลักษณะเป็นการพัฒนา แต่
กิจกรรมในการด�ำเนินการทางทหารในยามปกติ จะช่วยในการเสริมสร้างเสถียรภาพในภูมิภาคได้
การด�ำเนินการทางทหารในยามปกติได้มี การวางแผน การเตรียมการ การปฏิบตั ิ และการประเมินผล
เช่นเดียวกับการปฏิบตั กิ ารเพือ่ เสถียรภาพอืน่ ๆ อย่างไรก็ตาม การด�ำเนินการทางทหารในยามปกติ
จะใช้การปฏิบตั ใิ นเชิงความร่วมมือเพือ่ ให้บรรลุวตั ถุประสงค์ของผูบ้ ญ
ั ชาการรบเท่านัน้ ความส�ำเร็จ
ในการด�ำเนินการทางทหารในยามปกติ จะช่วยให้ก� ำลังทหารของไทยหลีกเลี่ยงการใช้วิธีการ
ด�ำเนินการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพในเชิงการบังคับด้วยก�ำลัง
การตอบโต้
๙-๗ ผูบ้ ญ
ั ชาการรบตอบสนองต่อค�ำสัง่ ของผูบ้ ญ ั ชาการรบร่วม เมือ่ มีเหตุวกิ ฤติเกิดขึน้
ถ้าการแก้ไขวิกฤติการณ์เกิดขึน้ จากภัยคุกคามภายนอกประเทศไปยังคูส่ ญ ั ญาในเชิงภูมภิ าคของไทย
ผู้บัญชาการรบจะใช้ก�ำลังเพื่อป้องปรามการรุกราน และส่งสัญญาณว่าไทยจะปฏิบัติตามพันธกรณี
การส่ง กกล.ทบ. ไทยไปท�ำการฝึกในคูเวตก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของการตอบโต้ บางกรณีเสถียรภาพ
ในภูมิภาคอาจท�ำให้ไทยต้องคง กกล.ทบ. ไว้เพื่อประกันว่าคู่กรณีจะปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้ให้ไว้
หลังความขัดแย้งยุติลง การปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพที่ตอบสนองต่อเหตุวิกฤตเป็นแผนเผชิญเหตุ
ขนาดเล็กซึง่ อาจจะรวมทัง้ การพัฒนาและการบังคับด้วยก�ำลัง การปฏิบตั กิ ารพัฒนาจะช่วยส่งเสริม
เจตจ�ำนงและความสามารถของรัฐบาลประเทศเจ้าบ้านในการเอาใจใส่ประชาชนของตนเองมากขึน้
การปฏิบัติการบังคับใช้ด้วยก�ำลังต้องใช้ก�ำลังที่ออกค�ำสั่งไว้อย่างระมัดระวัง หรือภัยคุกคามของ
ก�ำลังรบที่จะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคง
236 บทที่ ๙
การตอบโต้ อย่างรวดเร็วและการป้องกัน
๙-๘ องค์ประกอบส�ำคัญของการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพที่ประสบความส�ำเร็จคือ
ความสามารถในการตอบโต้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงต้นหรือระหว่างเกิดเหตุวิกฤติ การส่งก� ำลังที่มี
ขนาดเพียงพอเข้าไปในพืน้ ทีใ่ นทันทีตงั้ แต่เหตุวกิ ฤติเกิดขึน้ อาจท�ำให้ไม่ตอ้ งส่งหน่วยขนาดใหญ่ตาม
เข้าไปอีก การแทรกแซงทีไ่ ด้ผลยังสามารถปฏิเสธมิให้ฝา่ ยตรงข้ามมีเวลาสร้างเงือ่ นไขให้เป็นไปตาม
ทีพ่ วกเขาต้องการหรือบรรลุถงึ วัตถุประสงค์ในการท�ำลายเสถียรภาพอีกด้วย การส่งก�ำลังทีไ่ ว้วางใจ
ได้เข้าปฏิบัติการอย่างทันท่วงทีคือ ก้าวแรกที่สามารถจะยับยั้งหรือหมดโอกาสในการคุกคามได้
อย่างไรก็ตามการส่งก�ำลังเข้าไปเพียงอย่างเดียวยังไม่อาจประกันความส�ำเร็จได้ การยับยั้งการ
คุกคามทีไ่ ด้ผลจะต้องท�ำให้ฝา่ ยตรงข้ามเชือ่ ว่าก�ำลังทีส่ ง่ เข้าไปสามารถจะท�ำการปฏิบตั กิ ารแตกหัก
ได้ ไม่ว่าจะเป็นการรุกหรือตั้งรับ
การคงก�ำลังและการป้องปราม
๙-๙ การคงก�ำลัง กกล.ทบ. ไว้จะช่วยส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นใน
เรื่องเกี่ยวกับโครงการทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจที่ก� ำหนดขึ้นเพื่อลดสาเหตุของความไม่มี
เสถียรภาพที่สามารถเติบโตขึ้น การคงก�ำลังอาจเป็นไปในแบบของการตั้งฐานทัพในพื้นที่เขตหน้า
หรือวางก�ำลัง หรือก�ำหนดหน่วยรับผิดชอบไว้ล่วงหน้า กกล.ทบ. สามารถจะจัดตั้งและคงก�ำลัง
ได้นานเท่าที่ผู้บัญชาการรบร่วมสั่งการ การคงก�ำลังของกกล.ทบ. ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของ
แผนการรบปะทะในยุทธบริเวณ มักจะช่วยป้องกันมิให้สถานการณ์ทคี่ อ่ นข้างไร้เสถียรภาพยกระดับ
ลุกลามไปเป็นสงครามได้
๙-๑๐ กกล.ทบ. เป็นก�ำลังส�ำคัญในการป้องปรามในยุทธบริเวณ การคงก�ำลังภาคพืน้ ดิน
ที่เข้มแข็งและขีดความสามารถของกองก�ำลังภาคพื้นดินคือ สัญญาณให้พันธมิตรและฝ่ายตรงข้าม
เห็นว่าไทยพร้อมปฏิบัติตามพันธกรณี อย่างไรก็ตามหากการป้องปรามไม่ได้ผล ก�ำลังที่คงอยู่ใน
พื้นที่นั้นจะต้องฉับไวเพียงพอที่จะเปลี่ยนสถานะไปเป็นการรบได้ทุกเวลา ถ้าเป็นไปได้กำ� ลัง
ป้องปรามต้องสามารถปฏิบัติการแตกหักได้ในทันที แต่ถ้าอ�ำนาจก�ำลังรบยังไม่เพียงพอก็จะต้อง
ปฏิบัติการจัดรูปแบบการรบระหว่างที่ก�ำลังเพิ่มเติมถูกส่งเข้ามา
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 237
กรณีตัวอย่าง การคงก�ำลังในเกาหลี-การป้องปรามอย่างต่อเนื่อง
(Ongoing Deterrence- Forward Presence In Korea)
เขตปลอดทหารที่แบ่งเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือออกจากกันยังคงเป็นพื้นที่ ที่มีกำ� ลัง
ทหารวางอยูห่ นาแน่นทีส่ ดุ ในโลก กกล.ทบ. สหรัฐฯ ในฐานะทีเ่ ป็นส่วนหนึง่ ของ กกล.ร่วม/ผสม
ยังคงรักษาเสถียรภาพในภูมิภาคไว้ได้ด้วยการคงก�ำลังไว้ในพื้นที่ ความพร้อมรบของทหาร
เกาหลีใต้และสหรัฐฯ ช่วยป้องปรามมิให้เกาหลีเหนือบุกโจมตีเกาหลีใต้เอาไว้ได้ กกล.ทบ. จะ
รวมถึงกองบัญชาการกองทัพสนาม ก�ำลังทั้งประจ�ำการและกองหนุน กองพลทหารราบหนึ่ง
กองพล กองพลน้อยบินสองกองพลน้อย กองพัน ปภอ. (เพทริออท) หน่วย สสก. และ สสช.
อื่น ๆ ทหารสหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะร่วมท� ำการฝึกภายใต้รหัส Ulchi Focus Lens
เพื่อซักซ้อมการปฏิบัติการตามแผนการทัพที่วางไว้ การฝึกท�ำให้ทั้งผู้บัญชาการหน่วย และ
ฝ่ายอ�ำนวยการมีโอกาสในการฝึกการสนธิก�ำลังระหว่างก�ำลังที่คงอยู่ในพื้นที่กับก�ำลังที่ถูก
ส่งเข้ามาเพิ่มเติม กกล.ทบ. สหรัฐฯ ที่ประจ�ำการอยู่ในเกาหลีใต้คือตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็น
เจตนาในการป้องปรามของสหรัฐฯ
ลักษณะของการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ
๙-๑๑ กกล.ทบ. ด�ำเนินการปฏิบตั กิ ารเพือ่ เสถียรภาพภายใต้สภาพแวดล้อมทีเ่ ปลีย่ นแปลง
ไปตลอดเวลา ปกติการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพมักเป็นการปฏิบัติการที่ไม่เป็นแนว และมีพื้นที่
ปฏิบตั กิ ารทีไ่ ม่ตอ่ เนือ่ งกัน การปฏิบตั กิ ารดังกล่าวต้องใช้กำ� ลังพล และเวลาอย่างมาก ผูบ้ งั คับบัญชา
จึงต้องวิเคราะห์แต่ละภารกิจและปรับโครงร่างการปฏิบัติการ องค์ประกอบในการออกแบบ
ทางการยุทธ์ ปัจจัย METT-TC ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ส่วนใหญ่มักอาศัยแบบเส้นปฏิบัติการ
เชิงตรรกะเพื่อมองภาพการปฏิบัติการและอธิบายในรูปแบบของการปฏิบัติการแตกหัก การจัด
รูปแบบเพื่อสร้างสภาวการณ์ หรือการปฏิบัติการด�ำรงสภาพ อย่างไรก็ตาม การจะก�ำหนดว่าจะใช้
การปฏิบัติการแบบใดที่จ�ำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเมืองมักจะเป็นความท้าทายที่
มากกว่าในสถานการณ์ที่ต้องการในการปฏิบัติการ การรบไม่ว่าจะเป็นการรุกหรือตั้งรับ ดังนั้น
ผลสุดท้ายอาจจะเป็นความยุ่งยากได้
๙-๑๒ ในระหว่างการปฏิบัติการทุกครั้ง ผู้บังคับบัญชาจะต้องประเมินสถานการณ์ในแง่
ของความเกีย่ วข้องซึง่ กันและกัน และการประยุกต์ใช้ ปัจจัย METT-TC อย่างไรก็ตามในการปฏิบตั ิ
การเพื่อเสถียรภาพ ผู้บังคับบัญชามักต้องประยุกต์ใช้ ปัจจัย METT-TC แตกต่างไปจากที่พวกเขา
กระท�ำในการปฏิบตั กิ ารรุกหรือการตัง้ รับ ตัวอย่างหนึง่ คือ “ข้าศึก” อาจเป็นภัยคุกคามทีค่ ลุมเครือ
238 บทที่ ๙
แบบของการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ
๑. การปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ
๒. การป้องกันภายในให้กับมิตรประเทศ
๓. การช่วยเหลือด้านความมั่นคง
๔. การช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม และการช่วยเหลือประชาชน
๕. การสนับสนุนการปฏิบัติการต่อต้านยาเสพติด
๖. การต่อสู้กับการก่อการร้าย
๗. การปฏิบัติการอพยพประชาชนที่ไม่เกี่ยวกับการสู้รบ
๘. การควบคุมอาวุธ (ในกรอบการปฏิบัติของ ทบ.)
๙. การแสดงก�ำลัง
การปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ
๙-๑๘ การปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ จะครอบคลุมทั้งการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ และ
การปฏิบัติการบังคับให้เกิดสันติภาพ เพื่อสนับสนุนมาตรการทางการทูตในการสร้างและด�ำรง
240 บทที่ ๙
การปฏิบัติการรักษาสันติภาพ
๙-๒๐ การปฏิบัติการรักษาสันติภาพ เป็นการปฏิบัติการที่ได้รับการยินยอมจากคู่กรณี
ในความขัดแย้งนั้น ๆ โดยปกติการปฏิบัติจะเป็นการก�ำกับดูแล (MONITOR) และอ�ำนวยความ
สะดวกในการปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อตกลงหยุดยิง การหย่าศึก หรือข้อตกลงอื่น ๆ หรือการ
สนับสนุนความพยายามทางการทูตเพือ่ ให้บรรลุขอ้ ตกลงทางการเมืองในระยะยาว (ดูคมู่ อื หลักนิยม
การยุทธ์ร่วม ; รส. ๓-๐๗ ; รส. ๓-๐๗.๓) ตัวอย่างหนึ่ง คือการปฏิบัติงานของคณะผู้สังเกตการณ์
จากชาติต่าง ๆ ในคาบสมุทรไซนาย ปกติการปฏิบัติการรักษาสันติภาพจะมีลักษณะของการ
สังเกตการณ์ (Observing) การก�ำกับดูแล (Monitoring) การเป็นที่ปรึกษา (Supervising) และ
การช่วยเหลือคู่กรณี (Assisting) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้ กกล.ทบ. ปฏิบัติการรักษา
สันติภาพจะต้องได้รับการยินยอมจากคู่กรณีในความขัดแย้ง องค์กรระหว่างประเทศ หรือองค์กร
ในภูมิภาค การใช้ก�ำลังหรือการข่มขู่ว่าจะใช้ก�ำลังจะกระท�ำได้เฉพาะป้องกันตัวเอง หรือเมื่อไม่มี
ทางเลือกอื่นใดแล้วเท่านั้น ดังนั้นการครองความเหนือกว่าด้านสารสนเทศ จึงมีความส�ำคัญอย่าง
ยิ่งระหว่างการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ เพราะการครองความเหนือกว่าด้านสารสนเทศ จะช่วย
ในการพิทักษ์หน่วยช่วยให้เข้าใจสถานการณ์ และช่วยในการปฏิบัติการของหน่วยรองที่เกี่ยวข้อง
กับความพยายามในการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ
การบังคับให้เกิดสันติภาพ
๙-๒๑ การบังคับให้เกิดสันติภาพ เป็นการใช้ก�ำลังทหารหรือข่มขูว่ า่ จะใช้ก�ำลัง ปกติมกั ได้
รับอ�ำนาจจากองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อบีบให้ปฏิบัติตามมติการแก้ปัญหาหรือเพื่อใช้มาตรการ
คว�ำ่ บาตรเพือ่ ท�ำให้เกิดสันติภาพและความสงบเรียบร้อย ไม่เหมือนกับการรักษาสันติภาพ การบังคับ
ให้เกิดสันติภาพไม่จำ� เป็นต้องได้รับความยินยอมจากคู่กรณีที่ขัดแย้งกัน แต่มีจุดมุ่งหมายในความ
พยายามเหมือนกันคือ การด�ำรงหรือน�ำสันติภาพกลับคืนมาและเพื่อการสนับสนุนความพยายาม
ทางการทูตให้บรรลุข้อตกลงทางการเมืองในระยะยาว กรณีตัวอย่าง คือ ยุทธการ Restore Hope
ในโซมาเลีย ระหว่างปี ค.ศ. ๑๙๙๒ - ๙๓ กองก�ำลังที่ปฏิบัติการบังคับให้เกิดสันติภาพจะต้องมี
ความสามารถในการใช้อ�ำนาจก�ำลังรบทีพ่ อเพียงส�ำหรับการป้องกันตัว และเพือ่ ท�ำให้ภารกิจบรรลุ
ผลส�ำเร็จ หน่วยจะต้องเตรียมพร้อมทีจ่ ะเปลีย่ นการปฏิบตั ไิ ปเป็นการรักษาสันติภาพ ปกติการบังคับ
ให้เกิดสันติภาพมักจะเกี่ยวข้องกับหนึ่งหรือมากกว่าในเรื่องของการปฏิบัติการรอง ๖ ประการดังนี้
- บังคับให้คู่กรณีที่ขัดแย้งแยกออกจากกัน
- จัดตั้งและให้ค�ำแนะน�ำในเรื่องของการพิทักษ์พื้นที่
- การคว�่ำบาตรและการก�ำหนดเขตห้ามเข้า
- การห้ามการเคลื่อนย้ายหรือรับประกันการเคลื่อนย้าย
242 บทที่ ๙
- ฟื้นฟูหรือด�ำรงความสงบเรียบร้อย
- ป้องกันในเรื่องของการให้ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม
การปฏิบัติการสนับสนุนความพยายามทางการทูต
๙-๒๒ กกล.ทบ. สามารถปฏิบัติการสนับสนุนความพยายามทางการทูตเพื่อท� ำให้เกิด
สันติภาพและความสงบเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นก่อนระหว่าง หรือหลังความขัดแย้ง การปฏิบัติการ
ดังกล่าวจะรวมถึงการทูตเชิงป้องกัน การท�ำให้เกิดสันติภาพ และการสร้างสันติภาพ (ดูหลักนิยม
การยุทธ์รว่ ม) ตัวอย่างเช่น กกล.ทบ. สนับสนุนการทูตเชิงป้องกัน โดยการวางก�ำลังหรือแสดงก�ำลัง
เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้เกิดความขัดแย้ง การสนับสนุนต่อ การท�ำให้เกิดสันติภาพ มักจะรวมถึง
การติดต่อระหว่างทหารกับทหาร การซ้อมรบ การวางก�ำลังตั้งแต่ยามสงบ และการช่วยเหลือด้าน
ความมั่นคง กกล.ทบ. ให้การสนับสนุนในการสร้างสันติภาพ เช่นเดียวกัน การป้องกันภายในให้กับ
มิตรประเทศ (FOREIGN INTERNAL DEFENSE: FID) ในระยะยาว การปฏิบัติการทางทหารที่
สนับสนุนในส่วนของกิจกรรมทางการทูตเป็นการปรับปรุงโอกาสส�ำหรับความส�ำเร็จโดยการน�ำมา
ซึ่งความน่าเชื่อถือในการกระท�ำทางการทูต และแสดงถึงความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาเพื่อบรรลุถึง
การจัดตั้งข้อตกลงทางการเมืองที่สามารถด�ำรงอยู่ได้
การป้องกันภายในให้กับมิตรประเทศ
๙-๒๓ การป้องกันภายในให้กับมิตรประเทศ คือ การที่รัฐบาลของประเทศหนึ่งใช้
หน่วยงานทั้งพลเรือนและทหารเข้าร่วมในโครงการของอีกรัฐบาลหนึ่งเพื่อปลดปล่อยหรือป้องกัน
สังคมของประเทศนั้นจากการบ่อนท�ำลาย ภาวะไร้กฎหมาย และการก่อความไม่สงบ (ดูหลักนิยม
การยุทธ์ร่วม ; รส. ๓-๐๗) ในการนี้ต้องใช้พลังอ�ำนาจของชาติในทุก ๆ ด้าน และสามารถเกิดขึ้น
ครอบคลุมย่านการปฏิบตั กิ ารทางทหารทุกแบบ การป้องกันภายในให้กบั มิตรประเทศ เป็นโครงการ
หลักในการสนับสนุนมิตรประเทศให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามแบบต่าง ๆ ได้ สามารถส่งเสริม
เสถียรภาพโดยการช่วยเหลือประเทศเจ้าบ้านให้สามารถจัดตั้งองค์กร หรือหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อ
สนองตอบความต้องการของประชาชน กกล.ทบ. ที่มีส่วนร่วมในการป้องกันภายในให้กับมิตร
ประเทศ มักจะให้คำ� แนะน�ำหรือช่วยเหลือหน่วยทหารของประเทศเจ้าบ้านในการด�ำเนินการปฏิบตั ิ
การ หน่วยที่มักจะใช้ใน การป้องกันภายในให้กับมิตรประเทศ มักเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษของ
ทบ. (ดู รส. ๓-๐๕) อย่างไรก็ตาม การป้องกันภายในให้กับมิตรประเทศ ควรจะเป็นการปฏิบัติการ
ร่วมไม่ว่าจะเป็นการวางแผน การเตรียมการ และการปฏิบัติ ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่า แต่ละส่วน
เหล่าทัพและส่วนพันธกิจต่าง ๆ มีเป้าหมายเป็นไปในทางเดียวกันและสนับสนุนซึ่งกันและกัน
ประเภทของการ การป้องกันภายในให้กับมิตรประเทศ ได้แก่
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 243
- การสนับสนุนทางอ้อม
- การสนับสนุนโดยตรง (ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรบ)
- ท�ำการรบเพือ่ สนับสนุนการปฏิบัติของประเทศเจ้าบ้าน
การสนับสนุนทางอ้อม
๙-๒๔ การสนับสนุนทางอ้อมจะเน้นไปที่การเพิ่มขีดความสามารถของประเทศเจ้าบ้าน
ให้สามารถพึ่งตนเอง สร้างโครงสร้างพื้นฐานให้แข็งแกร่ง ด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจและขีดความ
สามารถทางการทหาร โดยการให้ความช่วยเหลือในโครงการด้านความมั่นคง การฝึกผสม และ
โครงการแลกเปลี่ยน การสนับสนุนทางอ้อมเป็นการเพิ่มความชอบธรรมให้กับรัฐบาลของประเทศ
เจ้าบ้านและช่วยแก้ปัญหาภายในได้ดีขึ้น (ดูหลักนิยมการยุทธ์ร่วม)
การสนับสนุนโดยตรง (ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรบ)
๙-๒๕ การสนับสนุนโดยตรงแบบไม่เกีย่ วข้องกับการรบ เป็นการใช้ กกล.ทบ. เพือ่ ให้การ
ช่วยเหลือโดยตรงต่อพลเรือนหรือทหารของประเทศเจ้าบ้าน การสนับสนุนโดยตรงได้แก่ การปฏิบตั ิ
การพลเรือน-ทหาร การข่าวกรอง การติดต่อสื่อสาร และการส่งก�ำลังบ�ำรุง ปกติการสนับสนุน
โดยตรงจะไม่มีการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์หรือการฝึกให้กับหน่วยทหารของประเทศเจ้าบ้าน (ดูหลัก
นิยมการยุทธ์ร่วม)
การปฏิบัติการสู้รบ
๙-๒๖ การรบ จะรวมถึงการรุกและการตัง้ รับทีป่ ฏิบตั โิ ดย กกล.ทบ. เพือ่ สนับสนุนประเทศ
เจ้าบ้านในการต่อสูก้ บั ผูก้ อ่ การร้ายและผูก้ อ่ ความไม่สงบ ปกติการใช้ กกล.ทบ. ท�ำการรบมักจะเป็น
มาตรการชั่วคราว การป้องกันภายในให้กับมิตรประเทศ มักจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะ
เป็นประชาชนไทย องค์กรระหว่างประเทศ และประชาชนของประเทศเจ้าบ้าน การโฆษณาชวนเชือ่
ของฝ่ายตรงข้ามมักหยิบประเด็นการมีกองก�ำลังต่าง ๆ ชาติอยู่ในประเทศเพื่อโจมตีหรือลดความ
น่าเชื่อถือของรัฐบาลประเทศเจ้าบ้านและประเทศไทย การเข้าปฏิบัติการโดยตรงของ กกล.ทบ.
สามารถสร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือและความชอบธรรมของรัฐบาลและกองก�ำลังรักษา
ความปลอดภัยของประเทศเจ้าบ้านได้ การช่วยเหลือต้องท�ำให้กองทัพของประเทศเจ้าบ้านสามารถ
ควบคุมสถานการณ์ และสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับประชาชนของประเทศเขาได้เอง
๙-๒๗ การป้องกันภายในให้กบั มิตรประเทศ ส่วนใหญ่จะเน้นไปทีก่ ารให้ความช่วยเหลือ
ประเทศเจ้าบ้านป้องกันการก่อความไม่สงบอย่างฉับไวไม่ให้เกิดขึ้น ถ้าการก่อความไม่สงบเกิดขึ้น
แล้วหรือมาตรการป้องกันไม่ได้ผล การป้องกันภายในให้กบั มิตรประเทศ จะเน้นไปทีก่ ารก�ำจัด การ
244 บทที่ ๙
การช่วยเหลือด้านความมั่นคง
๙-๓๑ การช่วยเหลือด้านความมั่นคงหมายถึง กลุ่มของโครงการต่าง ๆ ที่สนับสนุน
วัตถุประสงค์และนโยบายของไทยด้วยการให้ความช่วยเหลือด้านการป้องกันในรูปแบบต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นการฝึก และการให้การสนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศในลักษณะอื่น ๆ
โดยการให้เปล่า กู้ยืม การให้เครดิต หรือขายด้วยเงินสด ตัวอย่างหนึ่งคือ โครงการขายเครื่องมือ
อุปกรณ์ทางทหารให้แก่ต่างประเทศ การให้ทุนการศึกษาทางด้านการทหารแก่ประเทศต่าง ๆ
กองทุนช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ กกล.ทบ. สนับสนุนงานด้านนีด้ ว้ ยการจัดชุดท�ำการฝึก การจัดก�ำลัง
246 บทที่ ๙
และการฝึกในการซ่อมบ�ำรุง หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม
เป็นต้น
การช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม และการช่วยเหลือพลเรือน
๙-๓๒ โครงการช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมและพลเรือน ประกอบด้วยการช่วยเหลือที่ก่อ
ให้เกิดการประสานสอดคล้องกับการฝึก และการปฏิบัติการทางทหาร โดยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ
ทบ. แล้ว การปฏิบัติการช่วยเหลือฯ อยู่ในอ�ำนาจของ รมว.กห. แต่ ทบ. เป็นผู้วางแผนและใช้งบ
ประมาณอย่างเหมาะสม การปฏิบัติการช่วยเหลือฯ จะต้องส่งเสริมผลประโยชน์ด้านความมั่นคง
ทั้งของไทยและประเทศเจ้าบ้าน ท�ำให้หน่วยและทหารมีความพร้อมรบทางยุทธการในการน�ำไป
ปฏิบัติภารกิจ การปฏิบัติการช่วยเหลือฯ นี้ต่างจากการช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมและการบรรเทา
ทุกข์จากภัยพิบัติภายใต้การปฏิบัติการช่วยเหลือด้านมนุษยชนจากต่างประเทศตรงที่ การปฏิบัติ
การช่วยเหลือฯ นี้เป็นกิจกรรมที่มีการวางแผนด้วยการก� ำหนดวงเงินงบประมาณเฉพาะไว้
อย่างจ�ำกัด ปกติจะก�ำหนดขอบเขตของการปฏิบัติการช่วยเหลือฯ ไว้ดังนี้
- การช่วยเหลือด้านการแพทย์ ทันตกรรม การสัตวแพทย์ ในพื้นที่ชนบทของ
ประเทศเจ้าบ้าน
- การก่อสร้างระบบการจราจรบนพื้นดินขนาดเล็ก
- การขุดเจาะบ่อน�้ำ การก่อสร้างสิ่งอ�ำนวยความสะดวกด้านสุขอนามัยพื้นฐาน
- การก่อสร้างและซ่อมแซมสิ่งอ�ำนวยความสะดวกสาธารณะขนาดเล็ก
- กิจกรรมพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการตรวจค้นและเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมถึงการให้
การศึกษา การฝึกอบรม และการช่วยเหลือทางเทคนิค
การสนับสนุนการปฏิบัติการต่อต้านยาเสพติด
๙-๓๓ รัฐบาลได้มนี โยบายทีแ่ น่ชดั
ให้การค้ายาเสพติด เป็นภัยต่อความมั่นคง การสนับสนุนต่อการปฏิบัติการต่อต้านยาเสพติด
- การค้นหาและเฝ้าติดตาม
ของชาติ ยาเสพติดไม่เพียงจะเป็นภัยต่อ
- สนับสนุนประเทศเจ้าบ้าน
ความมัน่ คงของชาติเท่านัน้ แต่ยงั เป็นภัยต่อ - การบังคับบัญชา, ควบคุม, การติดต่อสื่อสารและ
เสถียรภาพของมิตรประเทศอีกด้วย ทบ. ได้ คอมพิวเตอร์
มี ส ่ ว นร่ ว มในการปฏิ บั ติ ก ารต่ อ ต้ า น - การข่าวกรอง, การวางแผน, การ สสช., การฝึกและ
ยาเสพติด โดย กกล.ทบ. อาจจะถูกใช้ใน การสนับสนุนด้านก�ำลังพล
หลาย ๆ ปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนองค์กร - การค้นคว้า, พัฒนาและการแสวงหา
อื่น ๆ ที่รับผิดชอบในการค้นหา ขัดขวาง - การลาดตระเวน
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 247
การต่อต้านการก่อการร้าย
๙-๓๖ การต่อต้านการก่อการร้าย เป็นมาตรการเชิงรุก ที่น�ำมาใช้เพื่อป้องกัน ป้องปราม
และตอบโต้ ต่อการก่อการร้าย กกล.ทบ. จะเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ
ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งจะรวมไปถึงการโจมตี และการตีโฉบฉวย ต่อองค์กรและ
สิ่งอ�ำนวยความสะดวกของผู้ก่อการร้าย การต่อต้านการก่อการร้าย เป็นภารกิจเฉพาะส�ำหรับ
หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่ปฏิบัติงานภายใต้การควบคุมของ ผู้บัญชาการรบร่วม ผู้บังคับบัญชา
ก�ำลังรบตามแบบทีใ่ ช้กำ� ลังต่อฝ่ายก่อการร้ายทีป่ ฏิบตั กิ ารอยูใ่ นพืน้ ทีป่ ฏิบตั กิ ารของตนถือว่าเป็นการ
ปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุกตามแบบ มิใช่เป็นการปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย
การต่อสู้การก่อการร้าย
๙-๓๗ การต่อสู้การก่อการร้าย เป็นมาตรการเชิงรับ ที่ใช้เพื่อลดความล่อแหลมหรือ
จุดอ่อนของบุคคลและทรัพย์สินจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ซึ่งจะรวมถึงการใช้ก�ำลังทหาร
ในท้องถิ่นเข้าท�ำการตอบโต้และสกัดกั้นอย่างจ�ำกัดด้วย การต่อสู้การก่อการร้าย เป็นสิ่งที่หน่วย
ทุกหน่วยต้องน�ำมาพิจารณาในระหว่างการปฏิบัติการทางทหารทุกประเภท การกระท�ำของฝ่าย
ก่อการร้ายต่อก�ำลังทหารของไทยอาจมีผลกระทบทางยุทธศาสตร์ได้ (ดูหลักนิยมการยุทธ์ร่วม ;
รส. ๓-๐๗.๒) ผูบ้ งั คับบัญชาต้องใช้มาตรการในการรักษาความปลอดภัยทุกอย่างทีจ่ �ำเป็นเพือ่ ท�ำให้
ภารกิจบรรลุและป้องกันหน่วยจากการก่อการร้าย ก�ำลังพลที่มิได้อยู่ในหน้าที่หรือในระหว่างการ
ลาพักมักจะเป็นจุดอ่อนต่อการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ก�ำลังพลและครอบครัวที่มิได้อยู่ในพื้นที่ ที่มี
การป้องกันมักเป็นเป้าหมายที่ผู้ก่อการร้ายนิยมโจมตี ผู้บังคับบัญชาต้องพยายามลดจุดอ่อนมิให้
ก�ำลังพลเป็นเป้าหมายของการสังหารหรือการจับเป็นตัวประกัน การปฏิบัติโดยทั่วไปในการต่อสู้
การก่อการร้าย ได้แก่
- การประสานงานกับหน่วยงานรักษากฎหมายในพื้นที่
- ก�ำหนดที่ตั้งหน่วยในที่ ที่ปลอดภัยหรือป้องกันได้ง่าย และเสริมความแข็งแรง
ของที่ตั้งหน่วย
- ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพเพือ่ ป้องกันมิให้บคุ คลภายนอก
เข้าถึงหรือเข้าสู่ที่ตั้งได้ง่าย
- ใช้มาตรการป้องกันอาชญากรรมและการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพใน
การป้ อ งกั น การขโมยอาวุ ธ กระสุ น บั ต รประจ�ำ ตั ว หรื อ อุ ป กรณ์ อื่ น ๆ
ของหน่วย
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 249
การควบคุมอาวุธ
๙-๔๑ การปฏิบัติการของ กกล.ทบ. ในการควบคุมอาวุธมักเป็นการปฏิบัติการเพื่อ
สนับสนุนสนธิสัญญาควบคุมอาวุธ หรือองค์กรที่มีอำ� นาจในการควบคุมอาวุธ กกล.ทบ. สามารถ
สนับสนุนการปฏิบัติดังกล่าวได้ด้วยการก�ำหนดที่ตั้ง การยึด หรือท�ำลายอาวุธที่มีอานุภาพ
ท�ำลายล้างสูง
๙-๔๒ กกล.ทบ. อาจท�ำการควบคุมอาวุธเพื่อป้องกันมิให้ความขัดแย้งขยายตัวและ
ลดปัญหาการไร้เสถียรภาพ การปฏิบัติดังกล่าวอาจรวมถึงการออกข้อบังคับ การรวบรวม การ
จั ด เก็ บ และการท� ำลายอาวุธและกระสุนตามแบบอาจช่ ว ยป้ อ งปรามมิ ใ ห้ เ กิ ด ความขั ด แย้ ง
ขึน้ ใหม่ได้ ขีดความสามารถบางประการของ กกล.ทบ. เช่นด้านการช่าง การถอดท�ำลายวัตถุระเบิด
จะเป็นประโยชน์ส�ำหรับการปฏิบัติในเรื่องนี้มาก
การแสดงแสนยานุภาพ
การแสดงแสนยานุภาพ เป็นการปฏิบัติ
๙-๔๓ การแสดงแสนยานุภาพ มีเหตุผลด้วย การที่ก�ำหนดเพื่อแสดงให้เห็นถึงวิธีการ
กัน ๓ ประการ คือ หนึ่งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเป็น แก้ปัญหาของกกล.ทบ. ซึ่งเกี่ยวกับการ
แสดงให้เห็นก�ำลังรบที่เข้าท�ำการรบใน
หลักประกันให้กบั พันธมิตร, เพือ่ ป้องปรามผูร้ กุ รานทีเ่ ป็น
ความพยายามทีจ่ ะแก้ปญั หาสถานการณ์
ไปได้ และเพื่ อ ให้ ไ ด้ ม าหรื อ เพิ่ ม อิ ท ธิ พ ลให้ ม ากขึ้ น
เฉพาะ ซึ่งถ้าหากปล่อยให้ดำ� เนินอยู่ต่อ
การแสดงแสนยานุภาพ เป็นการก�ำหนดการใช้ ทางเลือก ไปได้อาจจะเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์
โดยการป้องปรามที่อ่อนตัว การแสดงแสนยานุภาพ หรือวัตถุประสงค์แห่งชาติ
ได้รับการออกแบบ เพื่อแสดงการคุกคามอย่างเฉพาะ
เจาะจงและมีความน่าเชื่อถือต่อผู้ลุกลาม หรือผู้รุกรานที่เป็นไปได้ การแสดงให้เห็นความเข้มแข็ง
และความสามารถของก�ำลังรบจะเป็นสัญญาณไปถึงฝ่ายรุกรานว่าไทยจะไม่ลังเลที่จะใช้ก�ำลัง
ผู้บัญชาการรบร่วม ควรก�ำหนดทางเลือกในการวางก�ำลังในแผนเผชิญเหตุเอาไว้ด้วย
๙-๔๔ ส�ำหรับ กกล.ทบ. การแสดงแสนยานุภาพจะเป็นการวางก�ำลัง หรือการเสริมสร้าง
ก�ำลังรบ การเพิม่ ความพร้อมรบ และกิจกรรมให้กบั หน่วยทีก่ ำ� หนด หรือการแสดงขีดความสามารถ
ทางการยุทธ์โดยหน่วยที่อยู่ในภูมิภาคอยู่แล้ว การแสดงแสนยานุภาพที่มีประสิทธิภาพต้องท�ำให้
เห็นว่าก�ำลังของเรามีขีดความสามารถที่จะปฏิบัติภารกิจให้ส�ำเร็จ และปฏิบัติการได้อย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าจะไม่มีเจตนาที่จะด�ำเนินการจริง แต่การแสดงแสนยานุภาพสามารถยกระดับขึ้นได้โดย
ไม่คาดคิด หน่วยที่ได้รับภารกิจให้แสดงแสนยานุภาพต้องคาดว่าอาจจะต้องท�ำการรบและต้อง
เตรียมการให้พร้อม การปฏิบัติทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับการแสดงก�ำลังรบไปยังพื้นที่เพื่อท�ำการรบจะ
เกี่ยวข้องโดยตรงกับการวางก�ำลังเพื่อแสดงแสนยานุภาพ
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 251
ข้อพิจารณาส�ำหรับการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ ข้อพิจารณาส�ำหรับการปฏิบัติการเพื่อ
- ประสานและใช้ประโยชน์ร่วมจากหน่วยงานต่าง ๆ เสถียรภาพ
การปฏิบัติการร่วมและผสม ๙-๔๕ การด�ำเนินการปฏิบตั กิ ารเพือ่
- เพิ่ ม ขี ด ความสามารถและความชอบธรรมให้ กั บ
ประเทศเจ้าบ้าน
เสถียรภาพก็เป็นเช่นเดียวกับ การด�ำเนิน
- เข้าใจถึงศักยภาพและผลกระทบที่ไม่คาดคิดทั้งจาก การปฏิบัติการรุก การตั้งรับ และการ
บุคคลและหน่วยขนาดเล็ก ปฏิบัติการสนับสนุน ขณะที่การปฏิบัติ
เพือ่ เสถียรภาพแต่ละครัง้ อาจแตกต่างกัน
- แสดงให้เห็นขีดความสามารถทีจ่ ะใช้ก�ำลังโดยไม่แสดง
การคุกคาม แต่กรรมวิธีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กรรมวิธี
- ปฏิบัติอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันเหตุลุกลาม การสร้างวิสัยทัศน์ การอรรถาธิบาย การ
- ใช้ก�ำลังอย่างระมัดระวังและเหมาะสม สั่งการ การแสวงข้อตกลงใจทางทหาร
และระเบี ย บการน� ำ หน่ ว ยก็ ค งเป็ น
เช่นเดียวกัน ข้อพิจารณาต่อไปนี้เป็นส่วนเสริมของกรรมวิธีดังกล่าว และจะช่วยผู้บังคับบัญชาให้
สามารถพัฒนาแนวความคิดและแผนการที่ผ่านการปรับ (TAILORED CONCEPTS) ส�ำหรับการ
ปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพได้
การประสานการใช้ประโยชน์จากการปฏิบัติระหว่างองค์กรการปฏิบัติการร่วมและผสม
๙-๔๖ เอกภาพในความพยายามจะมีขึ้นได้ต้องมีการประสานกันระหว่างหน่วยงาน
ต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา การปฏิบัติเพื่อเสถียรภาพต้องการผู้บังคับบัญชาที่ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์
ณ จุดที่สายการบังคับบัญชา และพื้นที่รับผิดชอบอาจไม่ชัดเจน เรื่องนี้เป็นเรื่องส�ำคัญเนื่องจาก
หน่วยทหารมักจะมีบทบาทในการให้การสนับสนุนมากกว่าเป็นหน่วยรับการสนับสนุน ดังนั้น
ผูบ้ งั คับบัญชาจึงต้องประสานและสนธิกจิ กรรมทัง้ ฝ่ายทหารและพลเรือนเข้าด้วยกัน ขณะเดียวกัน
ผู้บังคับบัญชาต้องให้องค์กรอื่น ๆ เข้าใจวัตถุประสงค์และแผนการปฏิบัติการของฝ่ายทหารอย่าง
ชัดเจน ด้วยการประสานจะช่วยให้เอกภาพในความพยายาม และการท�ำงานเชิงบูรณาการอย่างมี
ประสิทธิผลได้ในสภาพแวดล้อมที่ขาดเอกภาพในการบังคับบัญชา อีกทั้งยังจะช่วยให้การปฏิบัติ
ตามกิจกรรมของหน่วยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมีความสอดคล้องกันด้วย
๙-๔๗ กองบัญชาการทัง้ ระดับยุทธการ และยุทธวิธวี างแผนการปฏิบตั ขิ องตน เพือ่ เสริม
แผนการปฏิบตั ขิ องรัฐบาลและหน่วยองค์กรเอกชน ศูนย์ประสานงาน เช่น ศูนย์ปฏิบตั กิ ารพลเรือน-
ทหาร (ศปพท.) เป็นผู้ท�ำหน้าที่หลักในเรื่องนี้ ศปพท. จะเป็นศูนย์รวมผู้แทนของหน่วยงานต่าง ๆ
การประสานงานและการปฏิบัติด้วยความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ คือ สิ่งจ�ำเป็นในการรวม
ผลกระทบต่าง ๆ ของหน่วย องค์กร และก�ำลังรบให้บรรลุวัตถุประสงค์ของชาติ และของชาติ
252 บทที่ ๙
การปฏิบัติของก�ำลังพลเป็นรายบุคคลอาจมีผลกระทบในระดับยุทธศาสตร์ได้ การรับรู้หรือการ
ตระหนักถึงปัญหาจ�ำเป็นต้องได้รับการฝึก สร้างความมีวินัย และองค์ความรู้ ให้ทั้งผู้บังคับบัญชา
และก�ำลังพลทุกระดับ ก�ำลังพลทุกคนต้องเข้าใจบริบททางยุทธการและยุทธศาสตร์ของภารกิจและ
ผลทีต่ ามมาจากการกระท�ำทีเ่ ป็นไปได้ของพวกเขา ทัง้ ในทางการทหาร การเมือง และตามกฎหมาย
๙-๕๒ การปฏิบตั เิ พือ่ เสถียรภาพจะเกิดขึน้ ท่ามกลางสายตาของสาธารณชน สิง่ นีร้ วมถึง
การเฝ้ามองจากผู้ที่จับตามองเราซึ่งจะมีทั้งประเทศเจ้าบ้าน ประชาชนทั้งในประเทศและใน
ประชาคมระหว่างประเทศ ตลอดจนสื่อมวลชน ผู้ที่คัดค้านความพยายามในการปฏิบัติการเพื่อ
เสถียรภาพจึงอาจฉวยโอกาสหยิบยกเอาเหตุการณ์เล็กน้อยเพือ่ ชิงความได้เปรียบในทางยุทธศาสตร์
ได้ การปฏิบัติที่ขาดวินัยหรือการใช้ก�ำลังที่ไม่เหมาะสมจะท�ำให้เกิดผลเสียต่อการปฏิบัติเป็นเวลา
นานนับเดือนนับปีได้ ดังนั้น การกระท�ำที่เป็นการท�ำลายสภาพแวดล้อมธรรมชาติหรือวัฒนธรรม
อาจจะน�ำมาซึ่งผลในทางลบซึ่งต้องเอาชนะมันให้ได้
แสดงให้เห็นขีดความสามารถที่จะใช้ก�ำลังโดยไม่แสดงการคุกคาม
๙-๕๓ กกล.ทบ. ที่ปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพต้องมีขีดความสามารถในการท�ำการรบ
อย่างน้อยในระดับที่ป้องกันตนเองได้ ความพร้อมรบนั้นจะเตรียมการไว้ทั้งการปฏิบัติการรุกและ
การตัง้ รับเป็นสิง่ จ�ำเป็นทีต่ อ้ งแสดงให้เห็นในลักษณะทีไ่ ม่เป็นการคุกคาม เจตนารมณ์คอื การแสดง
ความแข็งแกร่งและการแก้ปญ ั หาโดยมิให้การตอบโต้ทไี่ ม่พงึ ประสงค์เกิดขึน้ ตัวอย่างเช่น จุดประสงค์
ของการแสดงแสนยานุภาพ ควรเป็นไปเพื่อป้องปราม มิใช่ยั่วยุให้ฝ่ายตรงข้ามลงมือโจมตี
๙-๕๔ ภายในข้อจ�ำกัดของภารกิจ การแสดงให้เห็นขีดความสามารถนีก้ ระท�ำได้ดว้ ยการ
ฝึกการรบอย่างสม�ำ่ เสมอ ในการฝึกควรก�ำหนดสถานการณ์ทตี่ อ้ งใช้อาวุธ ระดับหน่วยก�ำลังรบ และ
กฎการใช้ ก� ำ ลั ง ด้ ว ยความต้ อ งการที่ ส อดคล้ อ งกั บ การรั ก ษาความปลอดภั ย การปฏิ บั ติ ก าร
ผู้บังคับบัญชาต้องให้ก�ำลังพลและฝ่ายที่เกี่ยวข้องทราบถึงทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งในทางกว้างและ
ทางลึก แต่ไม่ควรแสดงให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นถึงขีดความสามารถทั้งหมดที่ฝ่ายเรามีอยู่ อย่างไรก็ตาม
การแสดงให้ เห็ น ความแข็ง แกร่ ง ในการรุก และรั บ สามารถป้ อ งปรามมิ ใ ห้ เ กิ ด การเผชิ ญ หน้ า
โดยตรงได้
254 บทที่ ๙
ปฏิบัติอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันเหตุลุกลาม
๙-๕๕ ลักษณะธรรมชาติของการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพอาจจ�ำกัดการใช้วิธีการและ
ทรัพยากรที่มีอยู่ในการที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ทางทหาร แต่ กกล.ทบ. ต้องไม่ปล่อยให้ข้อจ�ำกัดที่
เกิ ด ขึ้ น ท� ำ ให้ ป ระสิ ท ธิ ภ าพของหน่ ว ยลดลง กกล.ทบ. จะต้ อ งปฏิ บั ติ ก ารด้ ว ยความรวดเร็ ว
และมุ่งมั่น มิฉะนั้นฝ่ายตรงข้ามอาจคิดว่าฝ่ายเราอ่อนแอหรือลังเล การระมัดระวังมากเกินไปอาจ
ท�ำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือในความพยายามเพื่อเสถียรภาพของฝ่ายเรา กกล.ทบ. จะต้อง
ปฏิบัติการให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางทหารอย่างเข้มแข็ง และใช้พลังอ�ำนาจทางทหารอย่างเต็มที่
เมื่อจ�ำเป็น นี่มิได้หมายความว่าทหารจะต้องใช้ความรุนแรงหรือก้าวร้าว แต่ที่ใดที่จ�ำเป็นต้อง
ใช้กำ� ลัง ผูบ้ งั คับบัญชาต้องประกันว่าจะท�ำการใช้กำ� ลังรบอย่างทันท่วงทีและต้องบังเกิดผลเด็ดขาด
ในลักษณะที่สามารถยุติวิกฤติการณ์และป้องกันมิให้เกิดการเผชิญหน้าขึ้นใหม่
ใช้ก�ำลังอย่างระมัดระวังและเหมาะสม
๙-๕๖ การที่หน่วยจะปฏิบัติการได้อย่างเด็ดขาดนั้นจะต้องเลือกใช้ก�ำลังอย่างเหมาะสม
ผูบ้ งั คับบัญชาต้องมัน่ ใจได้วา่ หน่วยของพวกเขาใช้ก�ำลังอย่างเพียงพอ และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์
ของฝ่ายเรา ผูบ้ งั คับบัญชาใช้อ�ำนาจก�ำลังรบอย่างเหมาะสมกับภารกิจภายในข้อก�ำหนดอย่างจ�ำกัด
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 255
ทางกฎหมายและทางการเมือง ผู้บังคับบัญชาพิจารณาความต้องการที่จะป้องกันการสูญเสียโดย
ไม่จ�ำเป็น จ�ำแนกระหว่างนักรบและผู้ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ และลดการสูญเสียชีวิต และการสร้าง
ความเสียหายให้กับทรัพย์สิน ข้อพิจารณาเหล่านี้จะเป็นข้อจ�ำกัดและตัวก�ำหนดระดับของก�ำลังที่
ใช้ได้ การใช้ก�ำลังที่มากเกินไปหรือตามอ�ำเภอใจไม่ถือเป็นวิจารณญาณที่เหมาะสม มันอาจน�ำไปสู่
ความต้องการให้มีการเพิ่มก�ำลังมากยิ่งขึ้นในการรักษาระดับของความสงบเรียบร้อยเดิมตลอดจน
สูญเสียความเห็นชอบและการสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่อีกด้วย
๙-๕๗ ในทางกลับกัน การใช้กำ� ลังน้อยเกินไปเป็นอันตรายต่อความน่าเชือ่ ถือ การใช้กำ� ลัง
น้อยเกินไปท�ำให้ฝ่ายตรงข้ามฮึกเหิมและสร้างความไม่มั่นใจให้เกิดขึ้นในใจของกลุ่มที่ได้รับการ
ปกป้อง ผู้บังคับบัญชาระดับยุทธการต้องก�ำหนดกฎการใช้ก�ำลังเพื่อเป็นแนวทางในการใช้อ�ำนาจ
ก�ำลังรบทางยุทธวิธีให้กับหน่วย โดยปกติแล้ว ผู้บังคับบัญชาที่อยู่ในพื้นที่ถือว่าดีที่สุดในการเป็น
ผู้ก�ำหนดระดับการใช้ก�ำลังตามต้องการให้สอดคล้องกับกฎการใช้ก�ำลังที่ก�ำหนดไว้
๙-๕๘ เมือ่ เป็นไปได้เครือ่ งมือทีม่ ไิ ด้ใช้ในทางสังหารสามารถเป็นเครือ่ งมือเสริมชนิดหนึง่
แต่จะทดแทน การใช้เครื่องมือแบบดั้งเดิมไม่ได้ การใช้เครื่องมือที่มิได้ใช้ในการสังหารเพียงแต่ช่วย
ให้ผู้บังคับบัญชามีทางเลือกในการเผชิญกับสถานการณ์ ณ สถานที่ที่ไม่ได้มีการรับรองให้ใช้กำ� ลัง
ที่สามารถท�ำการสังหารได้ อย่างไรก็ตาม ทหารแต่ละคนต้องรักษาขีดความสามารถในการใช้อาวุธ
ที่มีอ�ำนาจการสังหารเฉพาะในการป้องกันตัวเท่านั้น
บทที่ ๑๐
การปฏิบัติการสนับสนุน
ก็ตาม ขีดความสามารถในการรบก็มีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะใช้ในการปฏิบัติการสนับสนุน
ภายในประเทศและการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อต่างประเทศ ก�ำลังของ ทบ. เป็นก�ำลังทีม่ วี นิ ยั
ยอดเยี่ยม มีการจัดทีเ่ หมาะสม มีความอ่อนตัว และระเบียบปฏิบตั ติ า่ ง ๆ ทีส่ ามารถปรับเปลีย่ นได้
หน่วยต่าง ๆ ของ ทบ. มีสายการบังคับบัญชาในทางพันธกิจ มีระบบการติดต่อสื่อสารที่เชื่อถือได้
และมีการฝึกและมียุทโธปกรณ์ที่ดีสามารถปฏิบัติการในสภาพแวดล้อมที่ยากล�ำบากได้เป็น
เวลานานโดยทรัพยากรที่มีอยู่ของตน ทบ. สามารถเคลื่อนย้ายก�ำลังขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว
เข้าสู่พื้นที่ ที่ต้องการความช่วยเหลือโดยใช้การขนส่งทางทหาร นอกจากนี้ทหารช่างของ ทบ.
หน่วยพัฒนา ทหารสารวัตร เสนารักษ์ ขนส่ง หน่วยบิน และหน่วยปฏิบตั กิ ารกิจการพลเรือน ก็เป็น
หน่วยที่มีคุณค่าอย่างยิ่งส�ำหรับการปฏิบัติการสนับสนุน
รูปแบบของการปฏิบัติการสนับสนุน
๑๐-๑๒ ระหว่างการปฏิบัติการสนับสนุนภายในประเทศ ทบ. จะด�ำเนินการปฏิบัติการ
บรรเทาทุกข์ สนับสนุน การจัดการผลกระทบสืบเนื่องจาก เคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์ และระเบิด
แรงสูง สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายของฝ่ายพลเรือน และการช่วยเหลือชุมชนในการช่วยเหลือ
ด้านมนุษยธรรมต่อต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นการบรรเทาทุกข์ที่เกิดจากภัยพิบัติ แต่ก็อาจจะมี
การปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการผลกระทบที่ตามมาภายหลังการเกิดการแพร่กระจายจาก
นชค. การระเบิดขนาดใหญ่ และการช่วยเหลือชุมชนด้วยก็ได้ กกล.ทบ. เกีย่ วข้องในการปฏิบตั กิ าร
สนับสนุนที่ด�ำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทับซ้อนกันก็ได้
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 261
การปฏิบัติการบรรเทาทุกข์
๑๐-๑๓ ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ รัฐบาล ส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานต่าง ๆ ของประเทศ
เจ้าบ้านจะเป็นผูร้ บั ผิดชอบในการฟืน้ ฟูการบริการพืน้ ฐานทีจ่ ำ� เป็นแก่ประชาชนทีป่ ระสบภัย ในการ
สนับสนุนหน่วยงานหรือ
การบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรม
๑๐-๑๕ การบรรเทาทุ ก ข์ ด ้ า นมนุ ษ ยธรรมจะเน้ น ไปที่ ม าตรการช่ ว ยชี วิ ต ซึ่ ง เป็ น
ความจ�ำเป็นเร่งด่วนของประชาชนที่ตกอยู่ในภาวะวิกฤติ โดยปกติมักจะเป็นการให้การช่วยเหลือ
ทางด้านการแพทย์ อาหาร น�้ำ ยารักษาโรค เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ที่พัก และเชื้อเพลิงส�ำหรับการ
ประกอบอาหารและให้ความอบอุ่น ในบางกรณีอาจจะต้องท�ำการขนย้ายประชาชนผู้ได้รับผลกระ
ทบออกจากพื้นที่ ที่ประสบภัยพิบัติ หน่วยงานบรรเทาทุกข์ของพลเรือนทั้งของรัฐ และองค์กรที่
ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ เป็นหน่วยที่เหมาะสมที่สุดส�ำหรับการบรรเทาทุกข์ดังกล่าว ปกติ กกล.ทบ.
สามารถด�ำเนินการการบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรม และช่วยส่งเสริมความพยายามในการปฏิบัติ
ของหน่วยงานพลเรือน
การสนับสนุนภายในประเทศต่อการจัดการผลสืบเนื่องจากเคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์และระเบิด
แรงสูง
๑๐-๑๖ อุบัติภัยที่เกิดจากสารนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี รังสี และการระเบิดขนาดใหญ่ อาจ
เกิดขึ้นด้วยความประมาทเลินเล่อของบุคคลหรือเกิดจากการก่อวินาศกรรม ที่อาจก่อให้เกิดความ
เสียหายต่อชีวติ และทรัพย์สนิ อย่างมหาศาลได้ กกล.ทบ. สนับสนุนหน่วยงานพลเรือนในการป้องกัน
ดินแดน ประชากร และโครงสร้างพืน้ ฐานของประเทศก่อนทีก่ ารโจมตีจะเกิดขึน้ ด้วยการสนับสนุน
หน่วยงานดังกล่าวในการเตรียมการและการป้องกันพื้นที่หรือทรัพยากรส�ำคัญ เมื่อได้รับค�ำสั่งจาก
กองบัญชาการกองทัพไทย กกล.ทบ. สามารถตอบสนองต่อการป้องกันอุบตั ภิ ยั ทีเ่ กิดจากสาร นชค.
และการระเบิดขนาดใหญ่รวมถึงการจัดการกับผลที่เกิดขึ้นกับอุบัติภัยดังกล่าวได้
264 บทที่ ๑๐
กรณีตัวอย่าง กองก�ำลังเฉพาะกิจร่วมแอนดรูว์
การบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติในแผ่นดินสหรัฐฯ
วันที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ (ค.ศ. ๑๙๙๒) พายุเฮอริเคนแอนดรูว์กระหน�่ำชายฝั่ง
ตอนใต้ของฟลอริดาด้วยความเร็วเกินกว่า ๑๔๐ ไมล์ต่อชั่วโมง ก่อให้เกิดความเสียหายเป็น
แนวกว้างถึง ๓๕ ไมล์ ทางตอนใต้ของเมืองไมอามี บ้านถูกท�ำลายไป ๖๕,๐๐๐ หลัง ประชาชน
ที่ไม่มีน�้ำ ไฟฟ้า และโทรศัพท์ใช้ ซากปรักหักพังปิดกั้นถนนเกือบทุกสายในพื้นที่นั้นท�ำให้การ
ช่วยเหลือของรถพยาบาลและรถดับเพลิง และรถอาหารเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างยากล�ำบาก
ในฐานะที่ เ ป็ น หน่ ว ยในการบรรเทาทุ ก ข์ จ ากภั ย พิ บั ติ ห น่ ว ยหนึ่ ง ของกลาโหม
กองทัพบกสหรัฐฯ จึงต้องการให้หน่วยบัญชาการก�ำลังรบ และกองทัพสนามที่ ๒ ให้จัดตั้งกอง
ก�ำลังเฉพาะกิจร่วมแอนดรูว์ขึ้น กองพลส่งทางอากาศที่ ๘๒ ได้รับค� ำสั่งเตือนและส่งก�ำลัง
ส่วนแรกหนึ่งกองพันไปยังฟลอริดาในอีกเก้าชั่วโมงต่อมา สี่สิบแปดชั่วโมงหลังจากนั้นก็มีก�ำลัง
เพิม่ เติมส่งไปจากฟอร์ท แบรก รัฐนอร์ท แคโรไลนา และจากกองพลภูเขาที่ ๑๐ จากรัฐนิวยอร์ก
ภายในห้าวัน กองก�ำลังเฉพาะกิจร่วมแอนดรูว์ก็มีก�ำลังจากกองทัพบกสหรัฐฯ ๙,๕๐๐ นาย
กองทัพเรือ ๓,๔๐๐ นาย นาวิกโยธิน ๘๐๐ นาย และกองทัพอากาศ ๑,๐๐๐ นาย ที่มาจาก
ทั้งก�ำลังประจ�ำการและกองหนุน
กองก�ำลังเฉพาะกิจร่วมแอนดรูว์ทำ� งานประสานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้ง
จากรัฐบาล องค์การบริหารส่วนท้องถิน่ ทุกระดับ สามารถช่วยเหลือผูป้ ระสบภัยทัง้ ในด้านทีพ่ กั
อาศัย อาหาร โดยการจัดตั้งสถานีช่วยเหลือ ๒๔ แห่ง ผลิตอาหารได้ถึงวันละ ๓๕,๐๐๐ มื้อ
นอกจากนี้กองก�ำลังเฉพาะกิจร่วมยังได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลืออีกสี่แห่งเพื่อสร้างเต็นท์พักอาศัย
ชัว่ คราวการแพทย์ น�ำ้ ดืม่ การซ่อมแซมบ้าน และแจกจ่ายสิง่ ของทีไ่ ด้รบั บริจาค หน่วยบัญชาการ
ยุทธภัณฑ์ทหารบกแจกจ่ายเสื้อผ้า น�้ำบรรจุขวด และอาหาร ขณะที่หน่วยแพทย์ให้การ
ช่วยเหลือในด้านจิตใจ เวชกรรมป้องกัน การสัตวบาล ผลงานของ กองก�ำลังทัพบกสหรัฐฯ
มีส่วนช่วยเป็นอย่างมากในการบรรเทาทุกข์เพื่อให้ประชาชนผู้ประสบภัยได้กลับไปใช้ชีวิต
ในสภาพเดิมได้
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 265
การเตรียมการป้องกันภายใน
๑๐-๑๗ หน่วยงานทีท่ ำ� หน้าทีป่ ระสานการเตรียมการป้องกันคือ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย
กองทัพบก (ศปก.ทบ./ศบภ.ทบ.) ที่ประสานความพยายามในการเตรียมพร้อมกับ ศูนย์บรรเทา
สาธารณภัยกองทัพไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กกล.ทบ. มี
บทบาทส�ำคัญในการช่วยเหลือความพยายามในการเตรียมการภายในประเทศ ทั้งในระดับท้องถิ่น
ภูมภิ าค และส่วนกลาง ความพยายามเหล่านีส้ ร้างขึน้ ได้ดว้ ยการสร้างความเข้มแข็งในความช�ำนาญ
ของหน่วยงานพลเรือนที่มีอยู่ด้วยการท�ำการฝึก พวกเขายังจัดการเรื่องการช่วยเหลือด้านความ
เชี่ยวชาญที่จ�ำเป็นในการตอบสนองต่ออุบัติภัยด้านนิวเคลียร์ ชีวะ หรือเคมี ที่เกิดขึ้น กกล.ทบ.
จัดการฝึกเพือ่ ส่งเสริมขีดความสามารถในการตอบสนองเหตุฉกุ เฉินให้กบั จังหวัด และองค์กรบริหาร
ท้องถิ่นอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อว่าพวกเขาจะสามารถตอบสนองต่ออุบัติการณ์ได้ ข้อตกลงร่วมระหว่าง
องค์กรจะก�ำหนดให้ท�ำการจัดตั้งองค์กร และผู้ประสานงานการเตรียมพร้อมภายในประเทศ
๑๐-๑๘ ภายใต้การควบคุมองค์กรทีก่ ำ� หนด ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก มีหน้าที่
ท�ำการฝึกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการรับมือกับเหตุฉุกเฉินล�ำดับแรก และเจ้าหน้าที่จัดการ
เหตุฉกุ เฉิน รวมถึงเจ้าหน้าทีข่ องท้องถิน่ และของจังหวัด ในการรับมือกับการกระท�ำการก่อการร้าย
เกี่ยวกับ นิวเคลียร์ ชีวะ เคมี และการระเบิดขนาดใหญ่ ทหาร และหน่วยกรมแพทย์ทหารบก
กรมวิทยาศาสตร์ทหารบกมีความเกี่ยวข้องกับการน� ำโครงการการฝึกในเมืองไปใช้ตามที่ได้
รับมอบอ�ำนาจ ดังนั้น กรมแพทย์ทหารบก กรมวิทยาศาสตร์ทหารบกเป็นผู้ปฏิบัติการร่วมอย่าง
ใกล้ชิดกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขจากส่วนกลาง จังหวัด และท้องถิ่น น�ำเสนอหลักสูตรในเรื่อง
เกี่ยวกับการจัดการด้านการแพทย์ในส่วนของผู้ป่วยเจ็บจาก นิวเคลียร์ ชีวะ และเคมี
การคุ้มครองทรัพย์สินส�ำคัญยิ่ง
๑๐-๑๙ ฝ่ายที่ไม่เป็นมิตรอาจท�ำการโจมตีต่อสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความส�ำคัญต่อสังคม
รัฐบาล และทหาร การโจมตีเหล่านี้สามารถรบกวนการค้าของฝ่ายพลเรือน การปฏิบัติงานของ
รัฐบาล และขีดความสามารถทางการทหาร ทีต่ งั้ ทีส่ �ำคัญรวมถึงทีต่ งั้ ทางการสือ่ สารและโทรคมนาคม
แหล่งผลิตไฟฟ้า โรงพยาบาล และสิง่ อ�ำนวยความสะดวกด้านการรักษาพยาบาล คลังก๊าซและน�ำ้ มัน
สถาบันการเงิน และธนาคาร การขนส่ง ประปา หน่วยงานให้บริการประชาชนในยามฉุกเฉิน และ
ความต่อเนือ่ งของรัฐบาล ทีต่ งั้ ใดทีม่ คี วามส�ำคัญอย่างเฉพาะเจาะจงของฝ่ายพลเรือนมีความจ�ำเป็น
ที่จะต้องด�ำเนินการปฏิบัติการทางทหาร การยึดถือหลักคุณธรรมและความซื่อสัตย์ ความสามารถ
266 บทที่ ๑๐
การสนับสนุนการต่อต้านการก่อการร้าย
๑๐-๒๔ เมือ่ ได้รบั ค�ำสัง่ จากรัฐบาล/หน่วยบัญชาการรบร่วม หน่วยทหารให้การสนับสนุน
กับองค์กรที่เป็นผู้น�ำอาจจะปฏิบัติร่วมกับกระทรวงยุติธรรมเพื่อจัดเตรียมการสนับสนุนต่อการ
ตอบโต้/การปราบปรามการก่อการร้าย กกล.ทบ. อาจให้การสนับสนุนในเรือ่ งการขนส่ง ยุทโธปกรณ์
การฝึก และก�ำลังพล เมือ่ มีผกู้ อ่ การร้ายปฏิบตั กิ ารคุกคาม กกล.ทบ. อาจถูกใช้เพือ่ ตอบโต้การก่อการ
ร้าย การแสดงขีดความสามารถในการด�ำเนินการในปฏิบตั กิ ารเหล่านีช้ ว่ ยในการรักษาเขตแดนของ
สหรัฐฯ จากการตกเป็นเป้าหมายได้
การสนับสนุนการปฏิบัติการต่อต้านยาเสพติด
๑๐-๒๕ กระทรวงยุติธรรมโดยการด�ำเนินงานของหน่วยงานป้องกันและปราบปราม
ยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักในการบังคับใช้กฎหมายยาเสพติดของประเทศไทย
อาชญากรรมที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ ยาเสพติ ด มั ก จะมี ผ ลกระทบต่ อ อ�ำ นาจการปกครองของท้ อ งถิ่ น
และรัฐบาล องค์กรที่บังคับใช้กฎหมาย ณ ทุกระดับเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการปราบปรามยาเสพติด
ตามกฎหมายซึง่ จะจ�ำกัดขอบเขตการปฏิบตั กิ ารสนับสนุนในการต่อต้านยาเสพติดของ ทบ. ไว้อย่าง
เข้มข้น แต่กฎหมายยังไม่ก�ำหนดการจัดการเกี่ยวกับการใช้ก�ำลังส�ำรอง ในการปฏิบัติการต่อต้าน
ยาเสพติดเอาไว้
๑๐-๒๖ หน่ ว ยบั ญ ชาการรวม กฎหมายไม่ได้อนุญาตให้ทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง
โดยตรงกับการกระท�ำในการจับกุม, ค้นหา, ยึด หรือ
กองบัญชาการกองทัพไทยมีความรับผิดชอบ
การกระท�ำอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน เว้นเสียแต่ว่าได้รับ
ในการต่ อ ต้ า นยาเสพติ ด ในบางส่ ว นหรื อ อ�ำนาจตามกฎหมาย
ทั้ ง หมด โดยท� ำ การประสานงานในการ
สนับสนุนทางทหารต่อการปฏิบัติการระหว่างองค์กรในการต่อต้านยาเสพติดภายในประเทศ
การสนับสนุนทั่วไป
๑๐-๒๗ กฎหมาย และบางมาตราอนุญาตให้ก�ำลังทหารสนับสนุนเพิ่มเติมแก่หน่วยงาน
รักษากฎหมายของพลเรือนได้อย่างจ�ำกัด ฝ่ายทหารอาจสนับสนุนด้วยการให้ข่าวสาร จัดเตรียม
เครื่องมือ สิ่งอ�ำนวยความสะดวก และการบริการอื่น ๆ ข้อจ�ำกัดอื่น ๆ ตามรัฐธรรมนูญในข้อตกลง
เกีย่ วกับอ�ำนาจหน้าทีข่ องกระทรวงกลาโหม ซึง่ อนุญาตเฉพาะประเภทของการสนับสนุนทางทหาร
ปกติเกี่ยวกับความพยายามด้านการปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ
270 บทที่ ๑๐
แบ่งมอบทรัพยากรอย่างแท้จริงเพื่อบรรลุสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ปกติความพยายามขั้นต้น
จะต้องเน้นไปที่การท�ำให้การบริการส�ำคัญยิ่งกลับคืนสู่สภาพปกติ อันได้แก่ การแจกจ่ายอาหาร
และน�้ำ การช่วยเหลือทางการแพทย์ การผลิตไฟฟ้า การค้นหาและช่วยชีวิต การดับเพลิง และงาน
ชุมชนสัมพันธ์ บางกรณีอาจต้องท�ำงานที่มีความเร่งด่วนต�่ำกว่าให้ส�ำเร็จเสียก่อนงานที่มีความ
เร่งด่วนสูง ตัวอย่างเช่น กกล.ทบ. อาจจะต้องท�ำฟืน้ ฟูบริการไฟฟ้าอย่างจ�ำกัดให้ใช้งานได้กอ่ นทีจ่ ะ
ท�ำให้ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลใช้การได้หรือการเปิดการบริการที่พักอาศัยชั่วคราว
๑๐-๓๘ ผูบ้ งั คับบัญชาประเมินความต้องการเพือ่ ตัดสินใจว่าจะใช้ทรัพยากรทีม่ อี ยูจ่ �ำกัด
ให้เกิดผลประโยชน์สงู สุดต่อคนส่วนใหญ่อย่างไร และทีไ่ หนดี ในบางกรณีความสามารถและเทคนิค
ทางด้านการลาดตระเวนการรบสามารถน�ำมาใช้ได้ ตัวอย่างเช่น การใช้อากาศยานไร้คนขับสามารถ
ส�ำรวจเส้นทางที่จะใช้อพยพและใช้ค้นหาที่ตั้งของกลุ่มผู้อพยพ หน่วยที่ใช้เสริมขีดความสามารถ
ได้แก่ หน่วยกิจการพลเรือน ชุดอาสาสมัครประเมินความเสียหาย รวมทัง้ องค์กรต่าง ๆ ในการปฏิบตั ิ
ระหว่างองค์กร ประเทศเจ้าบ้าน และองค์กรที่ไม่ใช่ภาครัฐ สามารถเพิ่มเติมก�ำลังและเสริมวิธีการ
ในการรวบรวมข่าวสารทีเ่ ป็นมาตรฐาน การผสมผสานเครือ่ งมือในการรวบรวมข่าวสารทัง้ ตามแบบ
และไม่ตามแบบ ช่วยให้ผู้บังคับบัญชาได้รับความเข้าใจอย่างชัดแจ้งในเรื่องของสถานการณ์และ
ปรับแผนตามอย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น
ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานอื่น
๑๐-๓๙ การปฏิบัติการสนับสนุนภายในประเทศและการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่
ต่างประเทศปกติจะเป็นการปฏิบัติการร่วมระหว่างเหล่าทัพและระหว่างองค์กร การปฏิบัติการ
ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อต่างประเทศมักเป็นการปฏิบตั กิ ารหลายชาติ ดังนัน้ โอกาสทีจ่ ะท�ำงาน
ซ�้ำซ้อนกันและจุดประสงค์สวนทางกันจึงมีมาก ดังนั้นเอกภาพในความพยายาม จึงต้องมีการสร้าง
ความเข้าใจให้ตรงกันเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และแนวทางระหว่างองค์กรทั้งหมดเป็นอย่างน้อยที่สุด
การประกันให้เกิดเอกภาพในความพยายามและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพต้องการ
การประสานงานอย่างสม�่ำเสมอ ในการปฏิบัติการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อต่างประเทศ ทบ.
สามารถส่งเสริมเรือ่ งเอกภาพในความพยายามโดยการจัดตัง้ ศูนย์ปฏิบตั กิ ารพลเรือน-ค�ำรวจ-ทหาร
(ศป.พตท.) ในการปฏิบัติการสนับสนุนภายในประเทศ กองทัพจะจัดตั้งส่วนต่าง ๆ เช่น ส่วนติดต่อ
ส่วนสนับสนุนในการวางแผน ที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคให้กับองค์กรที่เป็นแกนน�ำ
ด้วยการสร้างสัมพันธ์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้บังคับบัญชาก�ำหนดได้ว่า ณ จุดใดที่วัตถุประสงค์หรือแผน
ต่าง ๆ ของพวกเขาส่งเสริมหรือขัดแย้งกับวัตถุประสงค์หรือแผนต่างขององค์กรอืน่ ๆ แต่ละขีดความ
สามารถของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะเป็นความต้องการอย่างต่อเนื่อง
274 บทที่ ๑๐
จัดตั้งมาตรการเพื่อวัดประสิทธิภาพ
๑๐-๔๐ ผูบ้ งั คับบัญชาต้องก�ำหนดมาตรการเพือ่ วัดประสิทธิภาพร่วมระหว่างองค์กร และ
รัฐบาลทีเ่ ป็นผูร้ บั การสนับสนุน การจัดตัง้ มาตรการเพือ่ วัดประสิทธิภาพดังกล่าวจะเป็นการวัดความ
ส�ำเร็จของภารกิจ การวัดประสิทธิภาพมุ่งเน้นไปที่สภาวการณ์และกิจกรรมของผู้รับการสนับสนุน
มาตรการเหล่านัน้ จะต้องมีลกั ษณะ ชัดเจน วัดได้จริง และเชือ่ มโยงเหตุและผล ซึง่ จะช่วยให้ผบู้ งั คับ
บัญชาเข้าใจและวัดความก้าวหน้าและความส�ำเร็จในการปฏิบัติได้ ตัวอย่างเช่น ในการปฏิบัติการ
เพื่อบรรเทาทุกข์จากทุพภิกขภัย มาตรการวัดประสิทธิภาพก็คือ ปริมาณอาหารที่ได้แจกจ่าย
ออกไป แต่กรณีแบบนีอ้ าจยอมรับได้แค่ระดับหนึง่ มาตรการทีด่ กี ว่าน่าจะเป็นปริมาณสารอาหารที่
แจกจ่ายโดยวัดเป็นแคลอรี่ต่อคนต่อวัน หรือวัดด้วยอัตราการเสียชีวิตที่ลดลงจากการขาดอาหาร
แต่การจะใช้มาตรการใดให้ได้ผลขึ้นอยู่กับสถานการณ์ซึ่งจะต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่ให้เข้ากับ
สถานการณ์และแนวทางที่เปลี่ยนไป
ส่งมอบให้กับหน่วยงานพลเรือนทันทีที่เป็นไปได้
๑๐-๔๑ จังหวะเวลาและความเป็นไปได้ในการถ่ายโอนความรับผิดชอบในการควบคุม
จากฝ่ายทหารไปยังฝ่ายพลเรือนขึน้ อยูก่ บั ข้อพิจารณาส�ำคัญทางภารกิจ ซึง่ มีขอ้ พิจารณาส�ำคัญสอง
ประการด้วยกัน ประการแรก คือ หน่วยงานพลเรือนนั้นมีขีดความสามารถในการปฏิบัติงานต่อไป
โดยไม่ต้องมีการสนับสนุนจาก ทบ. และความต้องการในการใช้ก�ำลังของ ทบ. สนับสนุนต่อ
การปฏิบัติการอื่น ๆ ผู้บังคับบัญชาระบุข้อพิจารณาและรวมถึงข้อพิจารณาอื่น ๆ ของฝ่ายพลเรือน
ในกระบวนการวางแผนแต่เนิน่ ๆ เท่าทีเ่ ป็นไปได้ ผูบ้ งั คับบัญชาท�ำการพิจารณาเป้าหมายระยะยาว
ของผู้น�ำฝ่ายพลเรือนและชุมชนที่พวกเขาช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ขณะที่เป้าหมายเร่งด่วนของ
การปฏิบัติการสนับสนุนคือ การบรรเทาความทุกข์ยากและความทุกข์ทรมาน และเป้าหมายสูงสุด
คือ การสร้างสภาวการณ์ที่จ�ำเป็นส�ำหรับการปฏิบัติการของฝ่ายพลเรือนที่ก�ำลังตามมา กิจกรรม
การถ่ายโอนความรับผิดชอบไปสู่หน่วยงานพลเรือนและการถอนก�ำลังของ ทบ. เป็นสัญญาณที่ดี
ต่อประชาชนที่ได้รับการสนับสนุนและ ทบ. สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าชุมชนได้รับการฟื้นฟูอย่างพอเพียง
ส�ำหรับการที่หน่วยงานพลเรือนจะกลับมาท�ำการควบคุมใหม่ ซึ่งชีวิตก�ำลังกลับสู่ปกติสุข และนั่น
หมายถึง ทบ.ประสบความส�ำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบในภารกิจสนับสนุน
ภาคที่ ๔
การปฏิบัติการเสริมความสามารถ
บทนี้จะศึกษาในเรื่องระดับของการปฏิบัติการที่สามารถปฏิบัติได้ ผู้บังคับบัญชาจะ
สั่งการให้มีการปฏิบัติเพื่อสนับสนุนภารกิจการรุก รับ การปฏิบัติการเพื่อให้เกิดเสถียรภาพ และ
การสนับสนุนการรบ เป็นการปฏิบัติเพื่อด�ำรงความต่อเนื่อง มักจะน�ำไปใช้ในการปฏิบัติการ
ทางทหารที่ไม่ใช่สงคราม
บทที่ ๑๑ จะกล่าวถึงกองทัพบกจะปฏิบัติภารกิจอย่างไรเพื่อให้ได้มาซึ่งความเหนือกว่าด้าน
สารสนเทศ อธิบายถึงความจ�ำเป็นของกองทัพที่จะสามารถมองเห็นภาพสนามรบของตน เข้าใจ
สถานการณ์ในสนามรบและสามารถท�ำการริเริม่ ก่อนฝ่ายตรงข้าม นอกจากนัน้ จะกล่าวถึงลักษณะ
ของความเหนือกว่าทางด้านสารสนเทศและสภาวะแวดล้อมของข่าวสาร อธิบายถึงองค์ประกอบ
ของความเหนือกว่าด้านสารสนเทศ ข่าวกรอง การลาดตระเวน และการเฝ้าตรวจ การจัดการด้าน
ข่าวสาร และการปฏิบัติการสารสนเทศรวมถึงการปฏิบัติการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อธิบายถึงลักษณะ
ที่ส�ำคัญของขั้นตอนในการให้ได้มาซึ่งความเหนือกว่าด้านสารสนเทศ และสรุปถึงผลกระทบที่เกิด
จากเทคโนโลยีทางข่าวสารในองค์ประกอบของความเหนือกว่าด้านสารสนเทศ
บทที่ ๑๒ จะกล่าวถึงการสนับสนุนการช่วยรบ อธิบายถึงวัตถุประสงค์ของการสนับสนุนการช่วย
รบและงานทีต่ อ้ งกระท�ำในการสนับสนุนการช่วยรบ อธิบายถึงการปฏิบตั ใิ นการสนับสนุนการช่วย
รบเพือ่ สนับสนุนการปฏิบตั กิ ารทัง้ ๔ แบบของกองทัพบก นอกจากนัน้ จะกล่าวถึงการสนับสนุนโดย
บุคคลในชาติ การสนับสนุนการช่วยรบในการรบร่วมรบผสม กองก�ำลังผสมนานาชาติ ผลกระทบที่
เกิดขึน้ จาก “ระยะถึงทางการยุทธ์” และความสามารถในการด�ำรงสถานภาพหรือความต่อเนือ่ ง ใน
ตอนท้ายจะกล่าวถึงผลกระทบของเทคโนโลยีในการสนับสนุนการช่วยรบ
การปฏิบตั กิ ารส่งเสริมความสามารถ เป็นงานในหน้าทีก่ ารบังคับบัญชาและเป็นศิลปะในการปฏิบตั ิ
ภารกิจ โดยตัวมันเองแล้วไม่สามารถจะประกันได้ว่าภารกิจจะประสบความส�ำเร็จ แต่ถ้าขาดไปก็
อาจท�ำให้ภารกิจล้มเหลวได้
บทที่ ๑๑
ความเหนือกว่าด้านสารสนเทศ
“การคาดเดาเจตนารมณ์ของฝ่ายตรงข้าม การท�ำนายความคิดของฝ่ายตรงข้าม การ
เก็บง�ำความคิดและเจตนารมณ์ของฝ่ายเรา การท�ำให้ฝ่ายตรงข้ามคิดไปในทางที่ผิดด้วยการลวง
การใช้กลอุบาย แผนทีร่ ดั กุม และการสูร้ บภายใต้สภาวะทีเ่ หมาะสม จึงเป็นศิลปะในการท�ำสงคราม”
นโปเลียน
๑๑-๑ ฝ่ายทีม่ สี ารสนเทศทีด่ กี ว่าและสามารถน�ำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ย่อมท�ำให้
ได้เปรียบฝ่ายตรงข้าม หน่วยที่บรรลุผลในการใช้ข้อดีและประสิทธิภาพของข่าวสารจะท�ำให้ได้
เปรียบทางข่าวสาร ซึ่งจะท�ำให้เกิดผลต่อการปฏิบัติของฝ่ายตรงข้ามทั้งทัศนคติ การตัดสินใจ และ
การด�ำเนินการต่าง ๆ ความเหนือกว่าด้านสารสนเทศเป็นความได้เปรียบทางยุทธการ ซึ่งได้มาจาก
ความสามารถในการรวบรวมข่าวสาร การด�ำเนินกรรมวิธตี อ่ ข่าวสาร และการกระจายข่าวสารอย่าง
ต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็แสวงหาประโยชน์และลดประสิทธิภาพในการแสวงประโยชน์หรือขัด
ขวางความสามารถของฝ่ายตรงข้ามในการกระท�ำดังกล่าว ผู้บังคับบัญชาจะใช้ประโยชน์จากความ
เหนือกว่าด้านสารสนเทศให้เกิดประโยชน์สงู สุดเพือ่ ให้บรรลุภารกิจ ในระหว่างปฏิบตั กิ ารเพือ่ ความ
เหนือกว่าด้านสารสนเทศนัน้ จะต้องไม่หยุดนิง่ อยูก่ บั ที่ ทุกฝ่ายจะต้องป้องกัน ปกปิดสารสนเทศของ
ตัวเอง และแสวงประโยชน์จากความได้เปรียบดังกล่าว รวมทัง้ ต้องป้องกันและลดขีดความสามารถ
ของฝ่ายตรงข้ามไม่ให้ได้รบั ทราบสารสนเทศของตน ความได้เปรียบในเรือ่ งของความเหนือกว่าด้าน
สารสนเทศในการปฏิบัติการสามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ เริ่มตั้งแต่ความสามารถในการสร้าง
ภาพการยุทธ์และเข้าใจในบริบทของมันได้เป็นอย่างดี จนถึงความสามารถในการจัดรูปแบบสภาวะ
แวดล้อมของสนามรบ ด้วยการปฏิบัติการสารสนเทศเชิงรุก
๑๑-๒ จากประโยชน์ของความเหนือกว่าด้านสารสนเทศนี้ เกีย่ วข้องกับการที่ กกล.ทบ.
สามารถที่จะเห็นได้ก่อน เข้าใจได้ก่อน และกระท�ำก่อน ซึ่งท�ำให้ กกล.ทบ. ต้องมีความเข้าใจและ
มองเห็นประโยชน์ รวมทั้งต้องมีความคิดริเริ่มในการปฏิบัติให้ได้ก่อนฝ่ายตรงข้าม กกล.ทบ. จะ
ไม่สามารถพัฒนาให้เกิดความเหนือกว่าด้านสารสนเทศได้ ถ้ายังคงปฏิบตั กิ ารเฉพาะการต่อต้านการ
ปฏิบัติของฝ่ายตรงข้ามเพียงอย่างเดียว ความเหนือกว่าด้านสารสนเทศต้องการผู้บังคับบัญชาที่มี
ความคิดริเริ่ม และมองเห็นความส�ำคัญของสารสนเทศเป็นส่วนหนึ่งของอ�ำนาจก�ำลังรบของตน
ต้องมีความเชื่อมั่นต่อผู้ใต้บังคับบัญชาที่ให้สารสนเทศที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งต้องมีการด�ำเนินการ
อย่างต่อเนื่อง ในเรื่อง การวางแผน การเตรียมการ การปฏิบัติการ และการประเมินค่า ในการให้
ได้มาซึ่งความเหนือกว่าด้านสารสนเทศนั้น ผู้บังคับบัญชาจะต้องท�ำการประสานสอดคล้องและ
278 บทที่ ๑๑
การ ความเหนือกว่าด้านสารสนเทศจะช่วยให้ผู้บังคับบัญชามีการตัดสินใจที่รวดเร็วและดีกว่า
ฝ่ายตรงข้าม ในขณะเดียวกันเมือ่ ฝ่ายตรงข้ามและข้าศึกไม่สามารถทีจ่ ะรักษาความหนักแน่นมัน่ คง
อยู่ได้ ก็จะท�ำให้ต้องเผชิญกับปัญหาใหม่ ๆ ก่อนที่พวกเขาสามารถแก้ปัญหาที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ด้วยการรักษาความเหนือกว่าด้านสารสนเทศในจังหวะการรบที่มีความรวดเร็ว จะเป็นอุปสรรค
ทีส่ ำ� คัญในการตัดสินใจของฝ่ายตรงข้าม เอือ้ อ�ำนวยให้ฝา่ ยตรงข้ามถูกท�ำลายได้งา่ ยขึน้ ในการปฏิบตั ิ
การเพื่อเสถียรภาพและการปฏิบัติการสนับสนุนนั้น ความเหนือกว่าด้านสารสนเทศจะช่วยให้
ก�ำลังรบที่วางไว้คาดการณ์ปัญหาและความต้องการ มันยังท�ำให้ผู้บังคับบัญชาสามารถควบคุม
เหตุการณ์และสถานการณ์ได้ตงั้ แต่ตน้ ด้วยก�ำลังทีน่ อ้ ยลง รวมทัง้ สามารถสร้างสภาวการณ์ทจี่ �ำเป็น
ต่อการบรรลุผลลัพธ์ขั้นสุดท้าย
๑๑-๖ ฝ่ายตรงข้ามจะเฝ้าติดตามเพื่อขยายโอกาสความได้เปรียบในด้านสารสนเทศที่
มีอยูด่ ว้ ยวิธกี ารต่าง ๆ ขณะทีพ่ ยายามขัดขวางความเหนือกว่าด้านสารสนเทศต่อฝ่ายเรา เนือ่ งจาก
กองก�ำลังของฝ่ายตรงข้ามมีการปรับตัวเองอย่างสม�่ำเสมอและสถานการณ์ต่าง ๆ ค่อย ๆ ปรากฏ
ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความเหนือกว่าด้านสารสนเทศมีความเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังไม่ยั่งยืน
ถาวรอีกด้วย ความเหนือกว่าด้านสารสนเทศอย่างสมบูรณ์แบบเป็นสิง่ ทีเ่ ป็นไปไม่ได้ ผูบ้ งั คับบัญชา
จะต้องรีบประเมินคุณค่าของสารสนเทศต่อความต้องการในการจัดท�ำข้อตกลงใจ ซึ่งลักษณะการ
ประเมินนีจ้ ะต้องท�ำการประมาณการภาพการยุทธ์ของข้าศึกทีถ่ กู ต้อง ผูบ้ งั คับบัญชาต้องหลีกเลีย่ ง
ความพึงพอใจในการใช้เครื่องมือหรือเทคโนโลยีทางทหารบางอย่าง ต้องมีความระมัดระวังว่า
ฝ่ายตรงข้ามอาจมีโอกาส หรือมีการตอบโต้ หรือเปิดเผยแหล่งข่าวที่ได้เปรียบของฝ่ายเรา ท�ำการ
ปิดกั้นแหล่งเหล่านั้น หรืออาจใช้แหล่งข่าวของเราในการลวง
๑๑-๗ ผู้บังคับบัญชาจะต้องระลึกไว้เสมอว่า ถ้าไม่สามารถเห็นภาพการรบและสั่งการ
ในการปฏิบัติการตามที่ก�ำหนดไว้เพื่อให้บรรลุผลและด�ำรงไว้ซึ่งสารสนเทศนั้น พวกเขาอาจจะ
สูญเสียมันไป ผู้บังคับบัญชาแสวงประโยชน์จากขีดความสามารถในความได้เปรียบของสารสนเทศ
และการข่าวกรอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของอ�ำนาจก�ำลังรบ พวกเขาต้องพยายามแสวงหาหนทาง
ในการปรับปรุงความเข้าใจในสถานการณ์ของพวกเขาและท�ำการประเมินความได้เปรียบนั้นของ
ข้าศึก พวกเขาจะต้องรูว้ า่ การสูญเสียความเหนือกว่าด้านสารสนเทศ อาจท�ำให้สญ
ู เสียความคิดริเริม่
ในการรบ
สภาวะแวดล้อมด้านสารสนเทศ
๑๑-๘ สภาวะแวดล้อมของสารสนเทศคือ การรวมกันขององค์ประกอบหลายอย่าง ได้แก่
บุคคล องค์กรหรือระบบซึ่งท�ำการรวบรวมข่าวสาร ด�ำเนินกรรมวิธี หรือกระจายข่าวสาร รวมทั้ง
280 บทที่ ๑๑
กรณีตัวอย่าง ความเหนือกว่าด้านสารสนเทศในสงครามอ่าว
ในความเห็นของผูส้ งั เกตการณ์ทางทหารนัน้ ในสงครามอ่าวจะมุง่ ความสนใจไปทีร่ ะบบ
สารสนเทศแบบบูรณาการ การปฏิบัติการและการด�ำเนินการในสงครามรูปแบบใหม่จะใช้การ
ปฏิบตั กิ ารทางอากาศ ท�ำให้ระบบการควบคุมบังคับบัญชาทัง้ ในพืน้ ทีอ่ ริ กั และคูเวตขัดข้อง ท�ำให้
ระบบการป้องกันภัยทางอากาศหมดประสิทธิภาพและการตอบสนองทั้งในระดับยุทธการและ
ยุทธวิธลี ดประสิทธิภาพลง เมือ่ การปฏิบตั กิ ารทางอากาศเริม่ ต้นขึน้ นัน้ กองทัพทีส่ ามก็สามารถ
ควบคุมพื้นที่ทางตอนใต้ของชายแดนคูเวตไว้ได้ ภายใต้การโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วง
และต่อเนื่อง ท�ำให้กองทัพซาอุดีอาระเบียและกองทัพฝรั่งเศสสามารถคุ้มครองพื้นที่ตามแนว
ชายแดน ในขณะเดียวกันกองก�ำลังของสหรัฐฯ ก็เคลื่อนย้ายไปทางด้านตะวันตก โดยกองพล
ที่ ๗ และ ๑๘ เคลื่อนก�ำลังเข้าสู่พื้นที่ที่ยังมีการต่อต้าน ในขณะที่ศูนย์ควบคุมบังคับบัญชาของ
สหรัฐฯ ก็ปฏิบัติการลวงทั้งทางทะเลและทางภาคพื้นดิน และในขั้นตอนสุดท้ายได้ท�ำการลวง
โดยใช้กองพลทหารม้าที่ ๑ ปฏิบัติการในพื้นที่ วัลดี อัล-บาติน (Waldi Al – Batin)
ก่อนการรุกทางภาคพื้นดินซึ่งเป็นส่วนสนับสนุนจะเริ่มต้นขึ้น ต้องให้แน่ใจว่าทางด้าน
ปีกขวาของกองทัพอิรักได้รุกเข้าไปทางด้านตะวันตกของคูเวต รวมทั้งข่าวจากทางหน่วยรบ
พิเศษและการลาดตระเวนทางอากาศยุทธวิธกี ช็ ว่ ยสนับสนุนเหตุการณ์ดงั กล่าว แล้วในวันที่ ๒๓
ก.พ. ๑๙๙๑ หน่วยทั้งสองก็สามารถควบคุมพื้นที่ตามแนวชายแดนและขยายการลาดตระเวน
ทั้งทางภาคพื้นดินและทางอากาศเข้าไปในประเทศอิรักได้สำ� เร็จ ภายใต้การโจมตีทางอากาศ
อย่างหนักหน่วงและต่อเนือ่ ง ท�ำให้สามารถตรึงและสังหารก�ำลังของกองทัพอิรกั ได้เป็นจ�ำนวน
มาก หน่วยนาวิกโยธินและกองพลทหารม้าที่ ๑ ยังท�ำการลวงต่อไป เพื่อดึงความสนใจของ
กองทัพอิรักไปทางด้านตะวันออก กองทัพที่ ๓ เคลื่อนย้ายก�ำลังไปยังพื้นที่ที่มีการต่อต้านทาง
ตะวันตกของ วัลดี อัล-บาติน (Waldi Al – Batin) จากความผิดพลาดของอิรัก เมื่อ ๒๔๐๔๐๐
ก.พ. พ.ศ. ๒๕๓๔ (ค.ศ. ๑๙๙๑) กองก�ำลังผสมนานาชาติก็สามารถบุกเข้าคูเวตและอิรัก
ได้ส�ำเร็จ และสามารถบรรลุภารกิจในการเอาชนะกองทัพที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ ๔ ของโลก
ได้ในเวลาเพียง ๔ วัน หลังจากนั้น
ภายหลังจากสงครามสงบลง พล.ท.บอกดานอฟ (Bogdanov) เสนาธิการของสถาบัน
การศึกษาทางยุทธศาสตร์ของอดีตสหภาพโซเวียตได้ย�้ำว่า อิรักนั้นได้พ่ายแพ้ตั้งแต่สงครามยัง
ไม่เริม่ ขึน้ สงครามครัง้ นีเ้ ป็นสงครามของสารสนเทศ สงครามอิเล็กทรอนิกส์ การควบคุมบังคับ
บัญชาและสงครามต่อต้านสารสนเทศ กองทัพอิรักนั้นเปรียบเสมือนกองทัพที่หูหนวกและ
ตาบอด
282 บทที่ ๑๑
องค์ประกอบที่มีส่วนสนับสนุนความเหนือกว่าด้านสารสนเทศ
๑๑-๑๑ ผู้บังคับบัญชาจะอ�ำนวยการผ่านองค์ประกอบ ๓ อย่างที่พึ่งพาซึ่งกันและกันใน
การสนับสนุนเพื่อบรรลุถึงความเหนือกว่าด้านสารสนเทศ (ดูรูปที่ ๑๑-๑)
- ข่าวกรอง การเฝ้าตรวจ และการลาดตระเวน (ขฝล.)
- การจัดการสารสนเทศ
- ปฏิบัติการสารสนเทศ (รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง)
การเฝ้าตรวจ
๑๑-๑๙ การเฝ้าตรวจจะเกีย่ วข้องกับการสังเกตการณ์อย่างต่อเนือ่ งในพืน้ ที่ เพือ่ รวบรวม
ข่าวสารในพื้นที่ที่กว้างขวางและการให้ความสนใจ การเฝ้าตรวจจะท�ำให้ได้ข่าวสารที่มีคุณค่า
๑๑-๒๐ กกล.ทบ. ในทุ ก ระดั บ จะได้ รั บ
การเฝ้าตรวจ เป็นการสังเกตการณ์อย่างเป็น
ข่ า วกรอง โดยอาศั ย สารสนเทศจากระบบการ
ระบบทัง้ ทางอากาศ ภาคพืน้ ดิน หรือใต้ผวิ พืน้
สถานที่ บุคคลหรือสิ่งของ โดยการมอง ฟัง ใช้ เฝ้าตรวจแห่งชาติ ของก�ำลังยุทธ์ร่วม ทบ. รวมทั้ง
จากระบบการเฝ้ า ตรวจเชิ ง พาณิ ช ย์ ระบบการ
เครือ่ งมือทางอิเล็กทรอนิกส์ การถ่ายภาพ หรือ
เครื่องมืออื่น ๆ เฝ้าตรวจแห่งชาติและในยุทธบริเวณจะเพ่งเล็งไปที่
ข่าวสารที่เป็นที่ต้องการของผู้บัญชาการรบ และจัด
เตรียมสารสนเทศให้แก่ทกุ เหล่าทัพส�ำหรับการปฏิบตั กิ ารในยุทธบริเวณ การเฝ้าตรวจในยุทธบริเวณ
อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้นักวิเคราะห์ก�ำหนดที่ตั้งและการวางก�ำลังโดยประมาณกองก�ำลังทาง
ภาคพืน้ ดินของฝ่ายข้าศึกได้ เมือ่ มีโอกาสฐานการเฝ้าตรวจทีใ่ กล้เคียงกับเวลาจริง เช่น ระบบเรดาร์
โจมตีเป้าหมายและเฝ้าตรวจร่วมซึ่งสามารถแสดงให้เห็นถึงเป้าหมายที่กำ� ลังเคลื่อนไหว ยิ่งไปกว่า
นั้น หน่วยที่ท�ำการเฝ้าตรวจในระยะไกล สามารถจัดเตรียมสารสนเทศที่ถูกต้องและทรงคุณค่า
เป็นอย่างยิ่ง
๑๑-๒๑ ถึงแม้วา่ ฝ่ายเรามีความได้เปรียบในเครือ่ งมือเฝ้าตรวจก็ตาม ผูบ้ งั คับบัญชาควร
จะตั้งสมมติฐานว่าข้าศึกยังมีเครื่องมือในการเฝ้าตรวจอย่างพอเพียงเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น ฝ่าย
ข้าศึกอาจซื้อเครื่องมือถ่ายภาพที่มีความคมชัดสูงจากระบบงานทางด้านอวกาศเชิงพาณิชย์มาใช้
งาน หรือในทางเลือกที่ประชาชนในท้องถิ่นอาจรายงานความเคลื่อนไหวของกองทัพให้หน่วยข่าว
กรองของฝ่ายข้าศึกได้
การลาดตระเวน
๑๑-๒๒ การลาดตระเวนเป็นการรวบรวมข่าวสารและสามารถให้เหตุผลข่าวกรอง
ในปัจจุบัน หรือคาดเดาส�ำหรับอนาคตได้ หน่วยลาดตระเวนจะแตกต่างจากหน่วยอื่นตรงที่ได้รับ
การออกแบบมาเพื่อใช้ในการรวบรวมข่าวสาร
๑๑-๒๓ ข่าวสารทีร่ วบรวมมาได้โดยเครือ่ งมืออืน่ ๆ นอกเหนือจากการลาดตระเวนจะมี
คุณค่าในทางยุทธการและยุทธวิธเี ป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ทรัพยากรเหล่านัน้ อาจจะไม่สอดคล้อง
กับความต้องการหรือแม่นย�ำ หรืออยูใ่ นระดับรายละเอียดทีเ่ พียงพอกับความต้องการ ความเร่งด่วน
ทางยุทธการภายในยุทธบริเวณอาจเป็นตัวจ�ำกัดขีดความสามารถของผูบ้ งั คับบัญชาทางภาคพืน้ ดิน
288 บทที่ ๑๑
๑๑-๓๓ ผลลัพธ์ของสารสนเทศที่เกี่ยวข้องจะได้มาจากการก�ำหนดความหมายให้กับ
ข้อมูลเพื่อช่วยให้เกิดความเข้าใจ การด�ำเนินกรรมวิธีเป็นการเปลี่ยนข้อมูลดิบให้เป็นข่าวสาร
จากการก�ำหนดความหมายต่อมัน การวิเคราะห์และการประเมินค่าเปลี่ยนรูปโฉมของข่าวสาร
ให้เป็นความรู้ซึ่งจะได้รับการน�ำเสนอต่อผู้บังคับบัญชาในฐานะเป็นสารสนเทศ เมื่อผู้บังคับบัญชา
น�ำวิจารณญาณมาใช้ต่อความรู้นั้น มันก็จะกลายเป็นความเข้าใจ ความเข้าใจช่วยให้สามารถ
ตัดสินใจอย่างมีความรู้ในการจัดท�ำด้วยข้อมูลการใช้ข้อมูลที่มีความสมบูรณ์เพียงเล็กน้อย การ
ผสมผสานกับเจตจ�ำนง และความเข้าใจท�ำให้เกิดการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ
๑๑-๓๔ สารสนเทศทีเ่ กีย่ วข้องเป็นสิง่ ไม่ยงั่ ยืน ถ้าไม่ได้ถกู ส่งออกไปและปฏิบตั ดิ ว้ ยความ
รวดเร็ว สารสนเทศนั้นอาจล้าสมัย และอาจบิดเบือนความเข้าใจสถานการณ์ของผู้บังคับบัญชา
กลุ่มของข้อมูลและข่าวสารที่มีเป็นจ�ำนวนมากอาจจะท่วมท้นที่บัญชาการได้ หากปราศจากการ
จัดการสารสนเทศทีม่ ปี ระสิทธิภาพ ข่าวสารส�ำคัญยิง่ จะด�ำเนินไปผิดทาง ล่าช้า หรือถูกกลบเกลือ่ น
ไปกับข้อมูลเข้าออกทีม่ อี ยูเ่ ป็นประจ�ำและถูกมองข้ามไป ระบบสารสนเทศสามารถช่วยในการจัดการ
ข้อมูลที่มีอยู่เป็นจ�ำนวนมากได้ แต่จะไม่สามารถกระท�ำได้หากผู้บังคับบัญชาไม่ได้ก�ำหนดความ
ต้องการข่าวสารของพวกเขาไว้ โยงใยความต้องการข่าวสารของพวกเขาไว้ในเจตนารมณ์ของพวกเขา
และปรับปรุงข้อมูลดังกล่าวให้มีความทันสมัยตลอดเวลา เหมือนเป็นการคลี่คลายการปฏิบัติการ
ประเภทของสารสนเทศ
๑๑-๓๕ การจัดการสารสนเทศเป็ น การบีบ ช่ องว่ างระหว่ า งสารสนเทศที่ มี อยู ่ กับ
สารสนเทศทีผ่ บู้ งั คับบัญชาต้องการ การจัดการสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพอ�ำนวยความสะดวก
ให้เกิดการกระจายในเรือ่ งของสารสนเทศทีเ่ กีย่ วข้องเป็นไปด้วยความรวดเร็ว การจัดการสารสนเทศ
ก�ำหนดลักษณะของสารสนเทศออกเป็นสี่ประเภท คือ ความต้องการข่าวสารเฉพาะเจาะจง หัวข้อ
ข่าวสาร ตามนัยส�ำคัญ ช่องว่าง และข่าวสารที่ท�ำให้เกิดความวุ่นวาย
- ความต้องการข่าวสารเฉพาะเจาะจง เป็นความต้องการที่ผู้บังคับบัญชา
ก�ำหนดเป็นการเฉพาะ ความต้องการนี้อาจจะมาจากข้อเท็จจริง การ
ประมาณการหรือสมมติฐาน
- ความต้องการข่าวสารตามนัยส�ำคัญ เป็นชิ้นส่วนส�ำคัญของสารสนเทศซึ่ง
ผู้บังคับบัญชาไม่ได้ร้องขอเป็นการเฉพาะ ในการปฏิบัติการทุกรูปแบบอาจ
วาง กกล.ทบ. ในสถานการณ์ซงึ่ อยูน่ อกเหนือประสบการณ์ของผูบ้ งั คับบัญชา
ผู้บังคับบัญชาอาจจะไม่ล่วงรู้ที่จะรับองค์ประกอบของสารสนเทศ บางอย่าง
พวกเขาอาจจะไม่รู้เลยว่าพวกเขาต้องการชิ้นส่วนของสารสนเทศ หรืออาจ
292 บทที่ ๑๑
หัวข้อข่าวสารส�ำคัญของฝ่ายเรา (หขส.ฝ่ายเรา)
๑๑-๔๒ ถึงแม้วา่ หัวข้อข่าวสารส�ำคัญของ
ฝ่ายเรา (หขส.ฝ่ายเรา) ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ ตขสผ. หัวข้อข่าวสารส�ำคัญของฝ่ายเรา (หขส.ฝ่าย
เรา) คือ ข่าวสารที่มีความส�ำคัญของฝ่ายเรา
แต่จะกลายเป็นความเร่งด่วนของผู้บังคับบัญชาก็
เมื่ อ ฝ่ า ยตรงข้ า มทราบจะท� ำ ให้ ต กอยู ่ ใ น
ต่อเมื่อเขาได้ก�ำหนดขึ้น หขส.ฝ่ายเรา ซึ่งช่วยให้ อันตราย หรือเกิดความล้มเหลวในภารกิจหรือ
ผู ้ บั ง คั บ บั ญ ชาเข้ า ใจว่ า ผู ้ บั ง คั บ บั ญ ชาของข้ า ศึ ก ท�ำให้เกิดขีดจ�ำกัดในการปฏิบตั ิ และต้องมีการ
ต้องการทราบอะไรเกี่ยวกับก�ำลังฝ่ายเราและท�ำไม ป้องกันจากการตรวจการณ์ของฝ่ายตรงข้าม
ถึ ง ต้ อ งการทราบ (ดู รส. ๖-๐) พวกมั น บอก
ผู้บังคับบัญชาว่าอะไรที่ไม่สามารถจะยอมให้ตกอยู่ในอันตรายได้ ตัวอย่างเช่น ผู้บังคับบัญชา
อาจจะตกลงใจว่าถ้าฝ่ายข้าศึกค้นพบความเคลื่อนไหวของกองหนุน การปฏิบัติการก�ำลังตกอยู่ใน
ความเสี่ยง ในกรณีเช่นนี้ ที่ตั้งและการเคลื่อนย้ายกองหนุนจะกลายเป็น หขส.ฝ่ายเรา สนับสนุน
การปฏิบตั กิ ารสารสนเทศเชิงรับ และเมือ่ เป็นเช่นนัน้ อาจจะกลายเป็น ความต้องการข่าวสาร หขส.
ฝ่ายเรา จะท�ำให้เกิดพื้นฐานส�ำหรับท�ำการประเมินคุณภาพความเข้าใจสถานการณ์ของข้าศึก
ในทางอ้อม ถ้าข้าศึกไม่ทราบองค์ประกอบของ หขส.ฝ่ายเรา เป็นการลดระดับประสิทธิภาพ
ความเข้าใจในสถานการณ์ของพวกเขา
ภาพการยุทธ์ร่วมกัน (ภยร.)
๑๑-๔๓ ภาพการยุทธ์ เป็นการแสดงผลเพียงหนึง่ เดียวของสารสนเทศทีเ่ กีย่ วข้องภายใน
พื้นที่สนใจของผู้บังคับบัญชา โดยการร่วมมือ แบ่งปัน ปรับแต่งสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง ในแต่ละ
ระดับของหน่วยจะจัดท�ำภาพการยุทธ์ร่วมแยกจากกัน ภาพการยุทธ์ร่วมกัน (ภยร.) เป็นภาพการ
ยุทธ์ที่ได้รับการปรับให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ และขึ้นอยู่กับข้อมูลและข่าวสารที่ใช้ร่วมกัน
โดยหน่วยบัญชาการมากกว่าหนึง่ หน่วย ภาพการยุทธ์รว่ มถูกแสดงผลด้วยมาตราส่วนและระดับของ
รายละเอียดทีส่ อดคล้องกับความจ�ำเป็นของหน่วยบัญชาการในแต่ละระดับเฉพาะ ระบบการบังคับ
บัญชาและการควบคุมท�ำการหลอมรวมข่าวสารจากหลาย ๆ แหล่งข่าว ในขณะทีร่ ะบบสารสนเทศ
จะก่อให้เกิดความรวดเร็วในการกระจายข่าวสารที่แสดงผลในรูปแบบที่สะดวกในการใช้งานและ
ท�ำความเข้าใจได้ง่าย
๑๑-๔๔ ในแต่ละระดับหน่วยบัญชาการที่แตกต่างกันต้องการสารสนเทศที่แตกต่างกัน
ทั้งในระดับของความแม่นย� ำและในรายละเอียด การน� ำเสนอสารสนเทศในรูปแบบที่แสดง
ความหมายด้วยภาพช่วยให้เกิดการซึมซับได้คล้ายคลึงกัน การจัดการสารสนเทศก่อให้เกิด
สารสนเทศที่เกี่ยวข้องเสมือนเป็นการแสดงผลในเชิงความหมายได้ดีกว่าข้อมูลเป็นกลุ่มก้อน
296 บทที่ ๑๑
ในบางเวลา ระดับความเข้าใจในสถานการณ์ระหว่างหน่วยที่มีความทันสมัยกับหน่วยที่มีความ
ทันสมัยน้อยกว่าอาจจะแปรผันตามเวลา ผูบ้ งั คับบัญชาตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างหน่วยงาน
องค์การต่าง ๆ และปรับระเบียบปฏิบัติตลอดจนภารกิจของหน่วยรองให้สอดคล้องตามไปด้วย
การจัดการสารสนเทศในปฏิบัติการเต็มย่านของความขัดแย้ง
๑๑-๔๘ การจัดการสารสนเทศเป็นความรับผิดชอบทางการบังคับบัญชา แผนการจัดการ
สารสนเทศจะสร้างความรับผิดชอบและท�ำให้เกิดค�ำแนะน�ำในการจัดการสารสนเทศ แผนการ
จัดการข่าวสารเป็นแนวความคิดในการปฏิบัติของผู้บังคับบัญชาในการจัดการควบคุมข่าวสาร
แผนการจัดการสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพจะครอบคลุมขอบเขตทั้งหมดของการปฏิบัติการ
ส่วนงานฝ่ายอ�ำนวยการที่ได้รับการก�ำหนดจะท�ำหน้าที่กลั่นกรองแผนและก่อให้เกิดการจัดการ
สารสนเทศในองค์รวม
การปฏิบัติการสารสนเทศ
๑๑-๔๙ การปฏิบัติการสารสนเทศ เป็นการ
การปฏิบัติการสารสนเทศ เป็น การปฏิบัติที่ ปฏิบตั กิ ารจัดรูปแบบเพือ่ สร้างสภาวการณ์ (shaping
ท�ำให้เกิดผลกระทบต่อฝ่ายตรงข้ามและสร้าง operations) ซึ่งสร้างสรรค์และสงวนรักษาโอกาส
อิ ท ธิ พ ลต่ อ กระบวนการตั ด สิ น ใจของผู ้ อื่ น ส�ำหรับการปฏิบัติการรบแตกหัก การปฏิบัติการ
สารสนเทศ และระบบสารสนเทศ ขณะ
สารสนเทศมีทงั้ เชิงรุกและเชิงรับ กิจกรรมทีเ่ กีย่ วข้อง
ที่ ท� ำ การปกป้ อ งสารสนเทศ และระบบ
สารสนเทศ ของฝ่ายเรา
ที่สนับสนุนการปฏิบัติการสารสนเทศ ได้แก่ การ
ประชาสัมพันธ์ และการปฏิบัติการพลเรือน-ทหาร
(ปพท.)
๑๑-๕๐ คุณค่าของการปฏิบัติการสารสนเทศไม่ได้อยู่ในผลกระทบที่เกี่ยวกับการที่
ฝ่ายข้าศึกส่งผ่านข้อมูลได้ดีอย่างไร คุณค่าที่แท้จริงของการปฏิบัติการสารสนเทศเป็นเพียงการได้
รับการวัดโดยผลกระทบของพวกมันต่อความสามารถในการปฏิบัติการทางทหารของข้าศึก
ผู้บังคับบัญชาใช้การปฏิบัติการสารสนเทศเพื่อโจมตีกระบวนการแสวงข้อตกลงใจ สารสนเทศ
และระบบสารสนเทศของข้าศึก การปฏิบัติการสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพอ�ำนวยให้รวม
ผลกระทบอย่างมาก ณ จุดแตกหักได้เร็วกว่าฝ่ายข้าศึก การปฏิบตั กิ ารสารสนเทศถูกใช้เพือ่ ขัดขวาง
ท�ำลาย ลดประสิทธิภาพ ต่อต้าน ลวง ขยายผล
และสร้างอิทธิพลต่อความสามารถของข้าศึกใน การปฏิบัติการสารสนเทศเชิงรุก เป็นการรวม
การด�ำเนินการบังคับบัญชาและการควบคุม ใน ขีดความสามารถและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ก�ำหนดและ
การสร้างผลกระทบนี้ กองก�ำลังฝ่ายเราใช้ความ ให้การสนับสนุน และได้รับการสนับสนุนซึ่งกันและ
พยายามที่ จ ะสร้ า งอิ ท ธิ พ ลต่ อ การรั บ รู ้ กันโดยการข่าวกรอง เพือ่ สร้างผลกระทบต่อผูท้ ำ� การ
ตัดสินใจของฝ่ายข้าศึกหรือเพื่อสร้างอิทธิพลต่อ
สถานการณ์ของข้าศึก
ผู้อื่น ๆ หรือส่งเสริมวัตถุประสงค์เฉพาะ
๑๑-๕๑ เช่นเดียวกัน การปฏิบตั กิ าร การปฏิบัติการสารสนเทศเชิงรับ เป็นการรวม
สารสนเทศและกิจกรรมทีเ่ กีย่ วข้อง จะมีผลกระ และประสานงานในเรือ่ งของนโยบายและระเบียบวิธี
ปฏิบัติ การปฏิบัติการ บุคลากรและเทคโนโลยี่ เพื่อ
ทบต่อความรู้สึกนึกคิดและทัศนคติของผู้อื่นที่
การปกป้ อ งและป้ อ งกั น สารสนเทศและระบบ
อยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการ ซึ่งรวมถึง ประชากรใน สารสนเทศของฝ่ายเรา การปฏิบัติการสารสนเทศ
ท้องถิ่น บุคคลผู้อพยพ และผู้น�ำพลเรือน การ เชิงรับประกันถึงความทันเวลา ความถูกต้อง และ
ปฏิบัติการสารสนเทศเป็นการปฏิบัติการจัด การเข้าถึงสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ท� ำการ
รู ป แบบเพื่ อ สร้ า งสภาวการณ์ ซึ่ ง ช่ ว ยให้ ปฏิเสธโอกาสของฝ่ายตรงข้ามในการใช้ประโยชน์
ผู ้ บั ง คั บ บั ญ ชาสามารถสร้ า งเงื่ อ นไขได้ ต าม จากสารสนเทศ และระบบสารสนเทศของฝ่ายเรา
ที่พึงปรารถนาไม่ใช่เพียงแค่การปฏิบัติการรบ เพื่อวัตถุประสงค์ของพวกเขา
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 299
และการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ หรือมีอ�ำนาจในการคัดง้างมันให้เกิดความเป็นฝ่ายได้เปรียบ
ต่อพวกเขา สุดท้ายเป้าหมายการปฏิบัติการสารสนเทศจะพุ่งเป้าไปที่ผู้น�ำ และกระบวนการ
ตกลงใจของฝ่ายตรงข้ามในพื้นที่ปฏิบัติการ
การปฏิบัติการสารสนเทศเชิงรับ
๑๑-๕๕ การปฏิบัติการสารสนเทศเชิงรับ ปกป้องการปฏิบัติการสารสนเทศของฝ่ายเรา
ที่เกี่ยวข้อง และขัดขวางโอกาสของฝ่ายตรงข้ามต่อสารสนเทศและระบบสารสนเทศของฝ่ายเรา
การปฏิบัติการสารสนเทศเชิงรับจ�ำกัดความล่อแหลมของระบบควบคุมบังคับบัญชา
องค์ประกอบของการปฏิบัติการสารสนเทศ
องค์ประกอบของการปฏิบัติการสารสนเทศ
๑๑-๕๖ การปฏิบัติการสารสนเทศ
- การลวงทางทหาร
เชิงรุกและเชิงรับที่เป็นไปอย่างผสมผสานเป็น - การต่อต้านการลวง
สิ่งจ�ำเป็นอย่างยิ่งต่อการประสบความส�ำเร็จ - การรักษาความปลอดภัยการปฏิบัติการ
กิจกรรมหรือการปฏิบัติการทั้งหลายประกอบ - การรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ
กันขึ้นเป็นการปฏิบัติการสารสนเทศ ซึ่งแต่ละ - การสงครามอิเล็กทรอนิกส์
องค์ ป ระกอบต่ อ ไปนี้ อ าจจะมี ก ารน� ำ ไป • การโจมตีทรงอิเล็กทรอนิกส์
ประยุกต์ใช้ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ • การปกป้องทางอิเล็กทรอนิกส์
• การสนับสนุนการสงครามอิเล็กทรอนิกส์
๑๑-๕๗ การลวงทางทหาร การลวง - การประกันสารสนเทศ
ทางทหารรวมถึงมาตรการที่ได้รับการก�ำหนด - การท�ำลายทางกายภาพ
ขึน้ เพือ่ น�ำฝ่ายตรงข้ามและฝ่ายข้าศึกไปสูค่ วาม - การปฏิบัติการจิตวิทยา
ผิดพลาด โดยการหลอกลวง บิดเบือน หรือการ - การตอบโต้การโฆษณาชวนเชื่อ
- การต่อต้านข่าวกรอง
ปลอมแปลง จุดมุ่งหมายของมันคือเพื่อสร้าง - การโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์
อิทธิพลต่อความเข้าใจในสถานการณ์ของฝ่าย - การป้องกันเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ข้ า ศึ ก และชั ก น� ำ พวกเขาไปสู ่ ก ารปฏิ บั ติ ใ น
ลักษณะซึ่งเป็นไปตามที่กองก�ำลังฝ่ายเราต้องการ
๑๑-๕๘ การต่อต้านการลวง การต่อต้านการลวงรวมถึงความพยายามต่าง ๆ ในการ
ปฏิเสธ ลบล้าง ท�ำให้เป็นกลาง หรือลดผลกระทบ รวมทั้งการได้เปรียบจากการปฏิบัติการลวงของ
ฝ่ายตรงข้าม การต่อต้านการลวงจะสนับสนุนการปฏิบัติการสารสนเทศเชิงรุก โดยการลดอันตราย
ของผลกระทบจากการลวงของฝ่ายข้าศึก ส่วนในเชิงรับการต่อต้านการลวงท�ำการพิสจู น์ทราบความ
พยายามของฝ่ายข้าศึกในการน�ำกองก�ำลังฝ่ายเราไปสู่ความผิดพลาด
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 301
การปฏิบัติที่เหนือกว่าด้านสารสนเทศ
๑๑-๗๙ ความเหนือกว่าด้านสารสนเทศ จะช่วยให้สามารถท�ำการได้อย่างเด็ดขาดและ
เป็นส่วนเสริมซึ่งกันและกันโดยการกระท�ำนั้นในทางกลับกันด้วย การปฏิบัติการสารสนเทศบรรลุ
ผลกระทบนีเ้ มือ่ เป็นส่วนเสริมเพิม่ เติมให้กบั การปฏิบตั กิ ารอืน่ ๆ ตัวอย่างเช่น การรบกวนสัญญาณ
อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการรบกวนต่อก�ำลังฝ่ายข้าศึกทีอ่ ยูใ่ นลักษณะท�ำการตัง้ รับอยูแ่ ต่ไม่เผชิญ
กับการโจมตี อย่างไรก็ตามการเผชิญหน้ากับ กกล.ทบ. ทีด่ �ำเนินกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็ว การรบกวน
สัญญาณอย่างมีประสิทธิภาพจะลดประสิทธิภาพการบังคับบัญชาและการควบคุมของข้าศึก
ตลอดจนการประสานสอดคล้องสามารถรบกวนขัดขวางการปฏิบัติการของข้าศึกอย่างเฉพาะ
เจาะจงได้
308 บทที่ ๑๑
การปฏิบัติการในพื้นที่ปฏิบัติการที่ไม่ต่อเนื่องกัน
๑๑-๘๐ พื้นที่ปฏิบัติการที่ไม่ต่อเนื่องกันท้าทายผู้บังคับบัญชาในการใช้ประสิทธิภาพ
ตลอดจนการจินตนาการของหน่วยงานทางด้านการข่าวกรอง หน่วยลาดตระเวนและระบบการระวัง
ป้องกันและเฝ้าตรวจ เมือ่ ท�ำการปฏิบตั กิ ารในพืน้ ทีป่ ฏิบตั กิ ารทีไ่ ม่ตอ่ เนือ่ งกัน ผูบ้ งั คับบัญชาเพ่งเล็ง
การปฏิบตั กิ ารรวบรวมข่าวสารพืน้ ทีร่ ะหว่างรูปขบวนการวางก�ำลัง หน่วยลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ
จะควบคุมพื้นที่ ที่อยู่ระหว่างพื้นที่ปฏิบัติการที่ไม่ต่อเนื่อง เมื่อพื้นที่ ที่ต้องการให้ครอบคลุมเกิน
ขีดความสามารถของหน่วยลาดตระเวนผู้บังคับบัญชาประสานงานส�ำหรับการครอบคลุมเพิ่มเติม
ด้วยหน่วยของกองก�ำลังยุทธ์รว่ มหากเป็นไปได้ เมือ่ จ�ำเป็นผูบ้ งั คับบัญชามอบกิจให้กบั ก�ำลังรบส่วน
อื่น ๆ ในการส่งเสริมหน่วยลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ
ความริเริ่มของหน่วยรอง
๑๑-๘๑ ผูบ้ งั คับบัญชาจะบรรลุภารกิจได้นนั้ จะขึน้ อยูก่ บั หน่วยความริเริม่ ของหน่วยรอง
ถึงแม้จะยังไม่มีค�ำสั่งการหรือภาพการยุทธ์ร่วมกัน (ภยร.) ก็ตาม เทคโนโลยีด้านสารสนเทศจะส่ง
เสริมการปฏิบัติการของ ทบ. แต่ไม่ได้เข้ามาจัดการกับมัน ในบางครั้งก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ใน
กรณีทรี่ ะบบสารสนเทศจะล้มเหลว ทัง้ จากตัวเองหรือการกระท�ำของฝ่ายข้าศึก ผูบ้ งั คับบัญชาพัฒนา
และสื่อสารวิสัยทัศน์ของพวกเขาไปยังหน่วยรองอย่างชัดเจนเพียงพอที่จะอ�ำนวยให้หน่วยรอง
กระท�ำการได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น หน่วยรองต่าง ๆ ส่งเสริมเพิ่มเติมความริเริ่มด้วยการประสาน
งานอย่างต่อเนื่องและด้วยการรักษาการรายงานติดต่อกับผู้บังคับบัญชาหน่วยเหนือไว้ตลอดเวลา
เพราะว่ า กกล.ทบ. ต้ อ งสามารถปฏิ บั ติ ก ารได้ ถึ ง แม้ จ ะไม่ มี ภ าพการยุ ท ธ์ ร ่ ว มกั น (ภยร.)
ผู้บังคับบัญชาอาวุโสหลีกเลี่ยงการควบคุมหน่วยรองมากเกินไป
๑๑-๘๒ ขีดความสามารถของระบบสารสนเทศใหม่ ๆ ช่วยให้หน่วยรองกล้าที่จะด�ำเนิน
ความริเริ่มอย่างมีวินัย ภาพการยุทธ์ร่วมกัน (ภยร.) จะช่วยให้หน่วยรองสามารถเข้าถึงสารสนเทศ
เช่นเดียวกับผู้บังคับบัญชาของพวกเขา และปรับแต่งมันให้เป็นไปตามความต้องการของหน่วยรอง
หน่วยรองทีท่ ราบเจตนารมณ์ของผูบ้ งั คับบัญชาสามารถกระท�ำการได้บนพืน้ ฐานของภาพการยุทธ์
ร่วมกัน (ภยร.) มีความเชื่อมั่นว่าผู้บังคับบัญชาของพวกเขาจะเข้าใจว่าก�ำลังท�ำอะไร และท�ำท�ำไม
สารสนเทศที่สมบูรณ์มากกว่าเดิมอ�ำนวยให้ผู้น�ำที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดีท�ำการตัดสินใจได้ดี
ยิ่งขึ้น กองก�ำลังซึ่งผู้บังคับบัญชามีการตัดสินใจที่ดีในระดับหน่วยต�่ำสุดจะปฏิบัติได้เร็วกว่าผู้บังคับ
บัญชาทีท่ ำ� การตัดสินใจด้วยการรวมศูนย์อ�ำนาจ เมือ่ เป็นเช่นนัน้ หน่วยจะมีความว่องไวและสามารถ
ฉกฉวยโอกาสได้ในทันที่ ที่ปรากฏขึ้น เมื่อหน่วยรองรายงานการปฏิบัติของพวกเขา รายงาน
เหล่านั้นจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของภาพการยุทธ์ร่วมกัน (ภยร.) องค์ประกอบของก�ำลังรบจะได้รับ
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 309
วัตถุประสงค์ของการสนับสนุนทางการช่วยรบ
๑๒-๓ การสนับสนุนทางการช่วยรบเป็นองค์ประกอบหลักในการปฏิบตั กิ ารด�ำรงสภาพ
ศิลปะของการสนับสนุนการช่วยรบเกี่ยวข้องกับการแผ่ขยายก�ำลังที่ตอบสนองในทางยุทธศาสตร์
ซึ่งก่อเกิดอ�ำนาจก�ำลังรบอย่างเด็ดขาด การประยุกต์ใช้ศิลป์ของการสนับสนุนทางการช่วยรบ
อย่างสมบูรณ์แบบจะต้องมีการประสานสอดคล้องระหว่างผูบ้ งั คับบัญชาระดับยุทธการและผูบ้ งั คับ
บัญชาระดับยุทธวิธีอย่างเหมาะสมกับหน่วยบัญชาการสนับสนุนทางการช่วยรบของพวกเขา การ
ประสานสอดคล้องความต้องการทางยุทธการ และยุทธวิธอี ย่างมีประสิทธิภาพท�ำให้ผบู้ งั คับบัญชา
ก�ำลังรบสามารถริเริม่ ปฏิบตั กิ ารด�ำรงสภาพรวมทัง้ สามารถขยายระยะถึงทางยุทธการของพวกเขา
ให้เพิ่มขึ้น
๑๒-๔ การปฏิบตั กิ ารเข้าถึงการสนับสนุนทางการช่วยรบเกีย่ วข้องกับการวางต�ำแหน่ง
ที่มั่นทางยุทธการ และประสิทธิผลในการใช้ทรัพยากรและขีดความสามารถด้านการสนับสนุน
ทางการช่วยรบที่มีอยู่จากฐานการผลิตไปสู่ทหารในสนามรบ (ดูรูปที่ ๑๒-๑) การปฏิบัติการต่าง ๆ
ทีไ่ ปถึงของการสนับสนุนทางการช่วยรบ ท�ำให้ผบู้ งั คับบัญชาก�ำลังรบสามารถท�ำการขยายระยะถึง
ทางยุทธการ และท�ำการวางก�ำลังและใช้กำ� ลังทางทหารเข้าท�ำการรบได้พร้อม ๆ กัน โดยปราศจาก
การชะงักงัน การปฏิบตั ิการต่าง ๆ ที่ไปถึงของการสนับสนุนทางการช่วยรบ เป็นการรวมทัง้ ศาสตร์
และศิลป์เข้าไว้ในตัวของผู้ปฏิบัติ การปฏิบัติการต่าง ๆ ที่ไปถึงของการสนับสนุนทางการช่วยรบ
ลดร่องรอยของการสนับสนุนทางการช่วยรบในยุทธบริเวณ โดยการวางก�ำลังในการสนับสนุน
ทางการช่วยรบที่จ�ำเป็นไว้ในพื้นที่ปฏิบัติการให้น้อยที่สุดและสร้างความเชื่อมโยงตลอดจนใช้
ประโยชน์จากแหล่งสนับสนุนต่าง ๆ ที่น�ำมาใช้ได้ทั้งมวล การปฏิบัติการต่าง ๆ ที่ไปถึงของการ
สนับสนุนทางการช่วยรบ รวมถึงการใช้ฐานระหว่างทาง ฐานการวางก�ำลังส่วนหน้า การวางคลัง
อุปกรณ์ไว้ล่วงหน้า การปฏิบัติการต่าง ๆ ที่ไปถึงของการสนับสนุนทางการช่วยรบ หลักการ
ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับฐานแยก และการปฏิบัติการแบบหน่วยแยกย่อย (Modular Operation)
โดยจะใช้ประโยชน์จากแหล่งทรัพยากรด้านการสนับสนุนที่มีอยู่ให้มากที่สุดเพื่อด�ำรงไว้ซึ่งความ
ต่อเนื่อง
๑๒-๕ การสนธิการสนับสนุนทางการช่วยรบทุกระดับของสงคราม ผ่านทางระบบการ
แจกจ่ายที่คล่องตัวอย่างต่อเนื่อง ทหารกองประจ�ำการ และกองหนุน ข้าราชการกลาโหมพลเรือน
และข้าราชการพลเรือนของ ทบ. ลูกจ้าง เครือ่ งมือในการยุทธ์รว่ มและหลายชาติ ทัง้ หมดนีจ้ ะจัดการ
สนับสนุนการช่วยรบเข้าไปภายในเขตยุทธบริเวณ การปฏิบัติการสนับสนุนทางการช่วยรบท�ำให้
ผู้บังคับบัญชาสามารถสร้างอ�ำนาจก�ำลังรบส�ำหรับใช้ก�ำลังในการปฏิบัติการจัดรูปแบบเพื่อสร้าง
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 313
สภาวการณ์ และการปฏิบัติการแตกหักภายในเวลาที่ต้องการและในจังหวะที่รวดเร็วก่อนที่ฝ่าย
ข้าศึกสามารถที่จะตอบโต้ได้ทัน
ลักษณะของการสนับสนุนทางการช่วยรบ
๑๒-๖ ผูบ้ งั คับบัญชารบวาดภาพ และอธิบายถึงแนวคิด ของการสนับสนุนทางการช่วย
รบร่วมกับผูบ้ ญ ั ชาการทีร่ บั ผิดชอบด้านสนับสนุนการช่วยรบ เพือ่ ช่วยอธิบายข้อพิจารณาทีต่ อ้ งการ
ในการด�ำเนินการปฏิบัติการต่าง ๆ อย่างประสบผลส�ำเร็จทั้งในด้านการวางแผน การเตรียมการ
การปฏิบัติการ และการประเมินผล ผู้บังคับบัญชามองลักษณะของการสนับสนุนทางการช่วยรบ
จากมุมมองทีม่ กี ารผสมผสานตลอดโครงร่างทางการยุทธ์ในทุก ๆ ด้าน มีการวางแผนอย่างพิถพี ถิ นั
ตามแนวทาง และให้การช่วยเหลือฝ่ายเสนาธิการในการพัฒนาแผนการสนับสนุน (รส. ๔-๐ ได้
อภิปรายถึงความสัมพันธ์ระหว่างการส่งก�ำลังบ�ำรุงร่วมกับหลักด้านก�ำลังพลร่วม และลักษณะของ
การสนับสนุนทางการช่วยรบ ใน ทบ.) ลักษณะของการสนับสนุนทางการช่วยรบเป็นส่วนน้อยมาก
ทีจ่ ะมีอทิ ธิพลเท่าเทียมกัน รวมทัง้ มีความส�ำคัญทีแ่ ตกต่างกันไปตามสถานการณ์ ผูบ้ งั คับบัญชาระบุ
ลักษณะของ การสนับสนุนทางการช่วยรบว่ามีล� ำดับความเร่งด่วนในระหว่างการปฏิบัติการ
เนื่องจากเป็นพื้นฐานในการเตรียมแนวคิดในเรื่องของการสนับสนุนทางการช่วยรบ ลักษณะของ
การสนับสนุนทางการช่วยรบมีดังต่อไปนี้
- การตอบสนอง การตอบสนองเป็นลักษณะทีส่ �ำคัญของการสนับสนุนทางการ
ช่วยรบซึ่งหมายถึงการสนับสนุนอย่างถูกต้อง ณ เวลาและสถานที่ที่ถูกต้อง
การตอบสนองรวมถึงความสามารถในการมองเห็นความต้องการในทางการ
ยุทธ์ล่วงหน้า นอกจากนี้ยังเกี่ยวเนื่องกับการพิสูจน์ทราบ สะสม รักษา
ทรัพยากรในระดับน้อยที่สุด ขีดความสามารถและข้อมูลที่จ� ำเป็นต่อการ
บรรลุความต้องการในการสนับสนุน ในทางตรงกันข้ามกองก�ำลังที่สะสม
ยุทโธปกรณ์ และมีก�ำลังพลส�ำรองอย่างเพียงพอในการก�ำหนดการเผชิญ
เหตุการณ์ที่เป็นไปได้ ซึ่งโดยทั่วไปจะริเริ่มก่อนฝ่ายข้าศึก
- ความง่าย ความง่ายหมายถึง การหลีกเลี่ยงความซับซ้อนทั้งในเรื่องการ
วางแผนและการปฏิบตั งิ านด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบ ค�ำสัง่ แบบมอบ
ภารกิจ การฝึก การซักซ้อมการปฏิบัติ และการใช้ระเบียบปฏิบัติประจ�ำ
เป็นการสนับสนุนในเรื่องของความง่าย
- ความอ่อนตัว หลักส�ำคัญของความอ่อนตัวขึน้ อยูก่ บั ความช�ำนาญในการปรับ
โครงสร้างและกระบวนการในการสนับสนุนทางการช่วยรบตามสถานการณ์
ภารกิจ และแนวความคิดในการปฏิบัติการที่เปลี่ยนแปลงไป แผน และการ
314 บทที่ ๑๒
ผู้บังคับบัญชาและเข้าใจความประสานสอดคล้องในส่วนของแผนสนับสนุน
ทางการช่วยรบโดยละเอียด การสนธิรวมถึง การประสานงาน และการ
สนับสนุนซึ่งกันและกันระหว่างหน่วยงานด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบ
ของ ทบ. การยุทธ์ร่วม การปฏิบัติการหลายชาติ การปฏิบัติการระหว่าง
องค์กร
ลักษณะของการสนับสนุนทางการช่วยรบ ได้รับการสนธิทั่วทั้งโครงร่างทาง
ยุทธการอย่างทั่วถึง พวกมันเป็นแนวทางในการวางแผนอย่างรอบคอบ รวมทั้งช่วยให้นายทหาร
ฝ่ายเสนาธิการท�ำการพัฒนาแผนการสนับสนุนทางการช่วยรบ (ดูคู่มือการยุทธ์ร่วมที่เกี่ยวกับ
การส่งก�ำลังบ�ำรุง บก.ทท. ; รส. ๔-๐)
พันธกิจในการสนับสนุนทางการช่วยรบ
๑๒-๗ การสนับสนุนทางการช่วยรบประกอบด้วยพันธกิจต่าง ๆ ทีเ่ กีย่ วข้องกันสัมพันธ์
ระหว่างกัน การวางแผน การจัดการ และการด�ำเนินการในการสนับสนุนเกี่ยวข้องกับการประสาน
สอดคล้องและการบูรณาการพวกมันเข้าไว้ดว้ ยกันในทุก ๆ ระดับของการปฏิบตั กิ าร พันธกิจในการ
สนับสนุนทางการช่วยรบที่ส�ำคัญประกอบด้วย
- การซ่อมบ�ำรุง หมายถึง การรักษาวัสดุอุปกรณ์ ให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานหรือ
ในสภาพที่ใช้ปฏิบัติการได้ รวมถึงการส่งอุปกรณ์กลับไปใช้งานในหน่วย
หรื อ ปรั บ ปรุ ง และยกระดั บ ขี ด ความสามารถของอุ ป กรณ์ นั้ น ให้ ดี ยิ่ ง ขึ้ น
(รส. ๓-๐๔.๕๐๐ ; รส. ๔-๓๐.๒)
- การขนส่ง การเคลื่อนย้าย หรือการส่งหน่วย บุคลากร ยุทโธปกรณ์ และ
สิ่งอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนแนวความคิดในการปฏิบัติ (ดูคู่มือการยุทธ์ร่วมที่
เกี่ยวกับการส่งก�ำลังบ�ำรุง บก.ทท. ; รส. ๔-๒๐)
- การส่งก�ำลัง การจัดหา, การจัดการ, การรับ, การจัดเก็บ, และการแบ่งประเภท
สิ่งอุปกรณ์ ต้องการการจัดการและการด�ำรงรักษาให้แก่ก�ำลังของ ทบ.
การส่งก�ำลังยังครอบคลุม การหมุนเวียน, การแลกเปลี่ยน และ/หรืออ�ำนาจ
ในการควบคุมทางบัญชีอีกด้วย (ดูคู่มือการยุทธ์ร่วมที่เกี่ยวกับการส่งก�ำลัง
บ�ำรุง บก.ทท. ; รส. ๔-๒๐)
- การสนับสนุนทางการแพทย์ การคงไว้ซึ่งก�ำลังรบโดยการป้องกันโรคภัยไข้
เจ็บที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการสู้รบ การด�ำเนินการต่อผู้บาดเจ็บในสนามรบ
ให้การบริการทางการแพทย์ในส่วนหน้า การจัดเตรียมเส้นทางระหว่างการ
ส่งกลับสายแพทย์ การประกันว่ามี สป. สายแพทย์ และเครื่องมือทางการ
316 บทที่ ๑๒
ทางการช่วยรบภายในยุทธบริเวณ ผู้บังคับหน่วยสนับสนุนทางการช่วยรบจะช่วยผู้บังคับบัญชา
ก� ำ ลั ง รบในการพั ฒ นาแผนสนั บ สนุ น การช่ ว ยรบ บนพื้ น ฐานวิ สั ย ทั ศ น์ แ ละเจตนารมณ์ ข อง
ผู้บังคับบัญชาที่เหนือกว่า ผู้บังคับบัญชาก�ำลังรบวาดภาพว่าสิ่งใดที่ต้องการกระท�ำเพื่อสนับสนุน
แนวคิดในการปฏิบัติการของพวกเขา และถ่ายทอดวิสัยทัศน์และเจตนารมณ์นั้นไปสู่ผู้บังคับหน่วย
สนับสนุนทางการช่วยรบของพวกเขา ผู้บังคับบัญชาและฝ่ายเสนาธิการด้านการสนับสนุนทางการ
ช่วยรบพัฒนาแนวความคิดในการสนับสนุนทางการช่วยรบ หลังจากนั้น ฝ่ายเสนาธิการสั่งการกับ
หน่ ว ยรองเพื่ อ ลงมื อ ปฏิ บั ติ ใ นการสนั บ สนุ น ให้ เ ป็ น ไปตามแนวความคิ ด ในการปฏิ บั ติ ก าร
การสนับสนุนจากคลังเก็บสิ่งอุปกรณ์ที่มีอยู่ล่วงหน้า จากความพร้อมของทรัพยากรด้านการ
สนับสนุนทางการช่วยรบในยุทธบริเวณ ในประเทศเจ้าบ้านและการสนับสนุนที่มีอยู่ของนานาชาติ
รวมทั้งการสนับสนุนที่ได้รับจากองค์กรอื่น ๆ กระบวนการในการสนับสนุนทางการช่วยรบนี้จะท�ำ
ในทุก ๆ ระดับของหน่วยบัญชาการ
การวางแผนการสนับสนุนทางการช่วยรบ
๑๒-๑๐ โดยภาพรวม ผู้บังคับบัญชาจะสนธิการวางแผนทางการยุทธ และการวางแผน
สนับสนุนการช่วยรบผ่านทางภาพการยุทธ์ร่วมกัน (ภยร.) ผู้บังคับบัญชาต้องการข้อมูลข่าวสาร
ด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบที่ทันการณ์เพื่อใช้ในการวางแผนอย่างมีประสิทธิภาพ นายทหาร
ฝ่ายเสนาธิการช่วยเหลือผูบ้ งั คับบัญชาโดยการก�ำหนดความต้องการด้านการสนับสนุนทางการช่วย
รบในรายละเอียดระหว่างการวิเคราะห์ภารกิจ ผูว้ างแผนด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบใช้ปจั จัย
ทีเ่ กีย่ วข้องกับการวางแผนเพือ่ ระบุปริมาณของความต้องการ การวางแผนคูข่ นานในกลุม่ เสนาธิการ
ที่ท�ำการพัฒนาแผนการสนับสนุนทางการช่วยรบซึ่งก่อให้เกิดการสนับสนุนอย่างเพียงพอต่อการ
สร้างอ�ำนาจการรบที่จ�ำเป็นในแต่ละขั้นของการปฏิบัติการ แผนด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบ
จะคาดการณ์ความต้องการการสนับสนุนใน และช่วงระยะการปฏิบตั กิ าร และผูป้ ฏิบตั กิ ารด้านการ
สนับสนุนทางการช่วยรบรับผิดชอบต่อการปรับเปลี่ยนส่วนของผู้บังคับบัญชาก�ำลังรบที่กระท�ำใน
ระหว่างการปฏิบัติการ การวางแผนด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบยินยอมให้ผู้บังคับบัญชา
ท�ำการปรับแต่งทางการยุทธ์ได้ในขณะที่ก�ำลังรบยังคงสร้าง และรักษาไว้ซึ่งอ�ำนาจก�ำลังรบอย่าง
ต่อเนื่อง
ล�ำดับความเร่งด่วนในการสนับสนุนทางการช่วยรบ
๑๒-๑๑ ผูบ้ งั คับบัญชาก�ำลังรบลดการใช้ทรัพยากรทีม่ อี ยูอ่ ย่างจ�ำกัดโดยการจัดตัง้ ล�ำดับ
ความส�ำคัญในการสนับสนุนทางการช่วยรบ และก�ำกับความเร่งด่วนในการสนับสนุน จากนั้น
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 319
- ได้ให้การสนับสนุนทางการช่วยรบในระดับที่เหมาะสมกับสถานที่และระยะ
ต่าง ๆ ของการปฏิบัติการหรือไม่
- ก�ำลังสร้างระดับของการสนับสนุนทางการช่วยรบที่เหมาะสม ณ สถานที่ที่
ถูกต้องในแต่ละระยะของการปฏิบัติการหรือไม่ ?
- สามารถด�ำรงก�ำลังรบทัง้ หมดไว้พร้อม ๆ กันได้ตลอดการปฏิบตั กิ ารหรือไม่ ?
- ลักษณะของการสนับสนุนทางการช่วยรบใดที่มีลำ� ดับความเร่งด่วนในแต่ละ
ขั้นของการปฏิบัติการ ? และล�ำดับความเร่งด่วนนั้นได้รับการก�ำหนดไว้ใน
แผนหรือไม่ ?
- เครือข่ายการแจกจ่ายมีอยูใ่ นทีท่ เี่ หมาะสมกับการท�ำให้เกิดความต่อเนือ่ งใน
ด�ำรงสภาพหรือไม่ ?
- เราสามารถท�ำให้เกิดระยะถึงทางยุทธการ และความสามารถในการด�ำรง
สภาพทางยุทธการได้เพียงพอส�ำหรับการปฏิบัติการที่พร้อมกัน และการ
ปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องหรือว่าเราจะยอมรับการหยุดชั่วคราวทางยุทธการ
หรือไม่ ?
- เราบรรลุถึงความสมดุลระหว่างก�ำลังรบ ก�ำลังในการสนับสนุนการรบ และ
ก� ำลังในการสนับสนุ น ทางการช่ ว ยรบด้ ว ยการขยายระยะถึ ง และความ
สามารถในการด�ำรงสภาพทางยุทธการของเราออกไปอย่างสูงสุดหรือไม่ ?
- ถ้าต้องการแผนส�ำหรับการฟื้นฟูก�ำลังรบคืออะไร ?
- เราได้ปรับปัจจัยด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบทีม่ อี ทิ ธิพลต่อระยะถึงและ
ความสามารถในการด�ำรงสภาพทางยุทธการด้วยการขยายประสิทธิภาพของ
ระบบการแจกจ่ายและเส้นทางคมนาคมหรือไม่ ?
- ได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งอ�ำนวยความสะดวก ทรัพยากรและแหล่งที่สามารถ
ให้การสนับสนุนที่มีอยู่หรือไม่ ?
- ได้จัดสรรทรัพยากร และจัดตั้งล�ำดับความเร่งด่วนในการสนับสนุนทางการ
ช่วยรบแล้วหรือไม่ ?
- ได้มกี ารก�ำหนดความรับผิดชอบ และจัดท�ำการบังคับบัญชา และการควบคุม
ที่จ�ำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามแผนการสนับสนุนหรือไม่ ?
322 บทที่ ๑๒
การเตรียมการด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบ
๑๒-๑๕ ผูบ้ งั คับบัญชาก�ำลังรบจัดเตรียมห้วงการรบ โดยการสนธิสว่ นก�ำลังด้านยุทธการ
และการสนับสนุนทางการช่วยรบเข้าด้วยกัน ผู้บังคับหน่วยสนับสนุนทางการช่วยรบจะให้การ
ช่วยเหลือโดยการรับ การจัดการ และการแจกจ่าย ทรัพยากรที่ระบุในระหว่างการวางแผน การ
ต่ อ รองกั บ ข้ อ ตกลงเกี่ ย วกั บ การสนั บ สนุ น จากชาติ เ จ้ า บ้ า น การรั บ เหมาหรื อ ท� ำ สั ญ ญาตาม
สถานการณ์ และข้อตกลงทวิภาคีอนื่ ๆ เช่น ข้อตกลงเกีย่ วกับการจัดหา และการบริการแลกเปลีย่ น
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในด้านนี้ การเตรียมการด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบยัง
รวมถึงการประสานงานกับผูจ้ ดั การด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบในระดับยุทธศาสตร์เพือ่ ให้ได้
มาซึ่งการเข้าถึงคลังที่จัดวางไว้ล่วงหน้า หรือใช้ทรัพยากรของที่ได้มาจากข้อตกลงระดับชาติ ที่ตั้ง
ของฐานการสนับสนุน และเส้นหลักการคมนาคมได้รบั การจัดตัง้ และปรับปรุงให้สอดคล้องกับความ
ต้องการทางยุทธการ โครงสร้างพื้นฐานยุทธบริเวณ การสนับสนุนจากชาติเจ้าบ้าน การสนับสนุน
ทางการช่วยรบจากหลายประเทศ และการสนับสนุนจากการรับเหมา หรือคูส่ ญ ั ญาเป็นสิง่ ส�ำคัญยิง่
ในแผน และการปฏิบัติการสนับสนุนทางการช่วยรบของ ทบ. การสนับสนุนแต่ละอย่างล้วน
ก่อให้เกิดการด�ำรงสภาพอ�ำนาจก�ำลังรบ
โครงสร้างพื้นฐานของยุทธบริเวณ
๑๒-๑๖ กกล.ทบ. จัดวางการสนับสนุนทางการช่วยรบอย่างเพียงพอเพือ่ การด�ำเนินการ
ปฏิบัติการต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในยุทธบริเวณ จ�ำนวนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความสามารถของ
สิง่ อุปกรณ์ทมี่ กี ารจัดวางไว้ลว่ งหน้า ในการปฏิบตั กิ ารทีย่ ดื ยาว ก�ำลังพลด้านการสนับสนุนทางการ
ช่วยรบ จะวางแผนและจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานในยุทธบริเวณที่จ�ำเป็นต่อการสร้างฐานการ
สนับสนุน ฐานการสนับสนุนจะเป็นสิง่ ส�ำคัญยิง่ ในช่วงระยะเวลาอันยาวนาน เพิม่ การตอบสนองและ
ความสามารถในการด�ำรงความต่อเนือ่ ง ปกติสงิ่ อ�ำนวยความสะดวกทีต่ อ้ งการทัง้ ปวงจะไม่มใี นช่วง
เริ่มต้นของการปฏิบัติการ ขีดความสามารถในการอ� ำนวยความสะดวกอาจจะไม่เพียงพอหรือ
ถูกท�ำลาย การปรับปรุงขีดความสามารถของฐานในยุทธบริเวณอาจต้องวางก�ำลังของหน่วยทหาร
ซ่อมบ�ำรุง ทหารช่าง หรือ กองก�ำลังทีป่ ฏิบตั กิ าร ณ ต�ำบลปลายทาง ฝ่ายอ�ำนวยการสนับสนุนตาม
สัญญาจ้าง นายแพทย์ การเงิน กฎหมาย กิจการพลเรือน และบุคลากรด้านการบริหารจัดการ
ทรัพยากรเป็นกลุม่ แรกทีถ่ กู ส่งไปในพืน้ ทีเ่ พือ่ เตรียมการให้เข้าถึงการใช้ขดี ความสามารถของประเทศ
เจ้าบ้าน ณ ฐานปฏิบัติการสนับสนุน และฐานที่พักรอ ความต้องการด้านขีดความสามารถในการ
สนับสนุนทางการช่วยรบมีความส�ำคัญเป็นพิเศษในช่วงแรกของการปฏิบัติการ เมื่อท�ำการรับ
พักรอ และการเคลื่อนย้ายไปข้างหน้า และการสนธิคือ ความส�ำคัญยิ่งที่ตามมา
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 323
ทางการช่ ว ยรบที่ ต ้ อ งการ และวิ ธี ที่ ใ ช้ ใ นการจั ด การกั บ มั น นั้ น แตกต่ า งกั น ไปประเภทของ
การปฏิบัติการ
กรณีตัวอย่าง การสนับสนุนของผู้รับเหมาในบอลข่าน
บอลข่านเป็นส่วนหนึง่ ของพืน้ ทีป่ ฏิบตั กิ ารในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ (ค.ศ. ๑๙๙๕) ก�ำลังทหาร
ของกองทัพบกจ�ำนวน ๒๕,๐๐๐ คน ถูกส่งไปประจ�ำการที่บอสเนียภายใต้สถานการณ์ที่ไม่
แน่นอน ในช่วงฤดูหนาวที่เลวร้ายที่สุดในห้วง ๑๐๐ ปี ผู้บังคับบัญชารบของกองทัพบก เข้าใจ
ว่า ยุทธบริเวณในบอสเนียไม่มีความพร้อม และต้องการการสนับสนุนจากการเพิ่มการส่งก�ำลัง
บ�ำรุงพลเรือนของหน่วยบัญชาการด้านยุทโธปกรณ์ แผนในครัง้ นัน้ ต้องการให้มกี ารสร้างฐานทัพ
ระหว่างทางที่ โคโซโว และแทสซา ในประเทศฮังการี ขณะที่หน่วยเตรียมพร้อมก่อนเข้าสู่เขต
ยุทธบริเวณ หน่วยส่งก�ำลังบ�ำรุงจากกองบัญชาการกองทัพบกที่ ๒๑ ก�ำหนดความต้องการ และ
รองฝ่ายเสนาธิการด้านส่งก�ำลังบ�ำรุงของสหรัฐฯ และยุโรปติดต่อด้านทีพ่ กั อาหาร การซักผ้าที่
บริการอาบน�ำ้ การสุขาภิบาล การขนส่ง การสร้างฐานทัพ และล่าม ในฐานทัพระหว่างทางก่อน
เดินทาง ผู้รับเหมาจัดหาบริการที่คล้ายคลึงกันในบอสเนีย ในขณะที่ฐานทัพต่าง ๆ มากมาย
สนับสนุนด้านก�ำลังพล รถบรรทุกรับเหมาจะขนอุปกรณ์ในการสร้างตึก ปูนหินกรวด และสิ่ง
อุปกรณ์ในการก่อสร้าง รวมทั้งอาหารน�้ำ และสิ่งจ�ำเป็นอื่น ๆ เช่นเดียวกันกับการปฏิบัติการที่
ผ่านมาผูบ้ งั คับบัญชาจะรับผิดชอบทัง้ หมดด้านความต้องการของทหาร อย่างไรก็ตามผูร้ บั เหมา
ได้ด�ำเนินการโดยตรงเพื่อด�ำรงไว้ซึ่งการสนับสนุนด้านโครงสร้างจนสิ้นสุดการปฏิบัติการ
การสนับสนุนทางการช่วยรบในการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก
๑๒-๒๗ ผู้บังคับบัญชาก�ำลังรบจะพิจารณาว่าโครงร่างทางการยุทธ์ และการสนับสนุน
ทางการช่วยรบมีผลกระทบต่อกันและกันอย่างไรระหว่างการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก การตัดสินใจ
ของผู้บังคับบัญชาที่จะสู้ในแบบพร้อม ๆ กัน หรือแบบตามล�ำดับขั้นตอน ด้วยการปฏิบัติการ
เป็นแนว หรือไม่เป็นแนวอาจขึ้นกับขีดความสามารถด้านสนับสนุนการช่วยรบ การปฏิบัติการ
สนับสนุนทางการช่วยรบอาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการตัดสินใจนั้น ตัวอย่างเช่น ใน
การปฏิบัติการแบบเป็นแนว ผู้บังคับบัญชาอาจรักษาความปลอดภัยทรัพยากรด้านการสนับสนุน
ทางการช่วยรบทีต่ งั้ อยูบ่ นภาคพืน้ ดินตามแนวเส้นหลักการคมนาคม โดยใช้หน่วยด�ำเนินกลยุทธ์ ใน
การปฏิบัติการแบบไม่เป็นแนว ผู้บังคับบัญชาอาจจะเคลื่อนย้ายการสนับสนุนทางการช่วยรบที่
328 บทที่ ๑๒
ตั้งรับในปฏิบัติการอื่น ๆ ความต้องการอาจน้อยลงกว่าเดิมแต่ระยะทางระหว่างหน่วยอาจเพิ่มขึ้น
ในการปฏิบตั กิ ารเพือ่ เสถียรภาพ การสนับสนุนแบบรับเหมาจะเหมาะสมมากกว่าเมือ่ เทียบกับการ
ปฏิบัติการอื่น ๆ การรับเหมาอาจเหมาะกับกิจกรรมด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบ เช่น
การบริการด้านอาหาร ขวัญและก�ำลังใจ สวัสดิการ และสันทนาการ ที่พัก การขนส่ง น�้ำอุปโภค
การซักแห้ง และซ่อมแซมเสื้อผ้าเป็นสิ่งส�ำคัญมากในการที่จะสนธิการสนับสนุนไม่เพียงแต่กับ ทบ.
และชาติพันธมิตรเท่านั้น แต่ควรกระท�ำร่วมกับองค์กรที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐอีกด้วย สป.๔
และการสนับสนุนการท�ำลายล้างวัตถุระเบิดอาจเป็นจุดส�ำคัญในการปฏิบัติการเพื่อเสถียรภาพ
การสนับสนุนทางการช่วยรบในการปฏิบัติการสนับสนุน
๑๒-๓๔ ในการปฏิบตั กิ ารแบบสนับสนุน ก�ำลังด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบอาจจะ
ด�ำเนินการปฏิบัติการแตกหัก การปฏิบัติการสนับสนุนเกี่ยวข้องกับการจัดการระดับสูงเชิง
เปรียบเทียบในเรื่องของการสนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนทางการช่วยรบที่เกี่ยวข้องกับ
พลเรือน ตัวอย่างเช่น ผู้บังคับบัญชามอบภารกิจในการช่วยบรรเทาภัยพิบัติ เช่น กรณีตัวอย่างการ
ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุเฮอริเคนในสหรัฐฯ และเหตุการณ์สึนามิในประเทศไทย ซึ่งมีที่อยู่
อาศัยจ�ำนวนหลายพันหลังคาเรือนถูกท�ำลาย ดังนั้น อาจต้องจัดหา น�้ำ อาหาร การบริการทางการ
แพทย์ และไฟฟ้าให้แก่ประชาชนในพืน้ ทีท่ กี่ ระจายวงกว้างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร ในการปฏิบตั ิ
การสนับสนุนอื่น ๆ เช่น ภารกิจการช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ที่มีน�้ำท่วมหรือแห้งแล้ง
กองก�ำลังต้องเผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บ และความหิวโหย การปฏิบตั กิ ารสนับสนุนอย่างเช่น การปฏิบตั ิ
เหล่านีเ้ กีย่ วข้องกับการจัดการด้านการให้บริการทีส่ นองความต้องการเร่งด่วนให้กบั กลุม่ เป้าหมาย
ในเวลาที่จ�ำกัดจนกว่าหน่วยงานพลเรือนจะสามารถเข้ามาท�ำหน้าที่แทนต่อไปได้ การแจกจ่าย
อาหาร น�ำ้ สิง่ อุปกรณ์ และการบริการในสนาม เป็นกิจกรรมหลักเสมอ การสนับสนุนด้านสุขอนามัย
ในการรบ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การจัดหาสิ่งที่จ� ำเป็นขั้นพื้นฐาน และการสร้าง
หรือท�ำการปรับปรุงสุขภาพพื้นฐานและบริการสุขาภิบาล ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่ส�ำคัญเช่นเดียวกัน
การขาดแคลนพื้นที่ตามถนนที่สามารถใช้การได้อาจต้องใช้พึ่งพาต่ออากาศยานเป็นอย่างมาก
กกล.ทบ. ที่เหมาะสมที่สุดในการที่จะบรรลุภารกิจที่ซับซ้อนในสภาวการณ์ที่ยุ่งยากเหล่านี้คือ
การจัดหน่วยงานด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบ
๑๒-๓๕ ผู้บังคับบัญชาก�ำลังรบต้องท�ำอย่างไรที่จะเข้าถึงการจัดการด้านการสนับสนุน
ต่อหน่วยงานพลเรือนทีก่ ระทบต่อแนวความคิดในการสนับสนุนทางการช่วยรบ ผูบ้ งั คับบัญชาและ
ฝ่ายเสนาธิการด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบใช้แนวคิดเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการช่วยรบที่
สอดคล้องกับความต้องการทางภารกิจตามล�ำดับความเร่งด่วนที่ผู้บังคับบัญชาก�ำลังรบระบุไว้
332 บทที่ ๑๒
ผู้จัดหาระดับชาติและการสนับสนุนยุทธศาสตร์แห่งชาติ
๑๒-๔๕ การสนับสนุนทางการช่วยรบระดับชาติเป็นการสนับสนุนในระดับยุทธศาสตร์
ด�ำเนินการจัดการโดยฐานทางเศรษฐกิจแห่งชาติ ซึ่งรวมถึงกระทรวงกลาโหม และผู้จัดหาของ
กองทัพแห่งชาติ ในระดับยุทธศาสตร์แห่งชาติ ฝ่ายเสนาธิการร่วม และผู้จัดการด้านการสนับสนุน
ทางการช่วยรบแห่งชาติมุ่งประเด็นถึงความพร้อมรบ และการสนับสนุนต่อการปฏิบัติการแสดง
ก�ำลังรบ ผู้จัดการด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบหลักแห่งชาติซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติการของ
ทบ. ประกอบด้วย หน่วยส่งก�ำลังบ�ำรุงกลาโหม กรมส่งก�ำลังบ�ำรุงทหารบก กรมแพทย์ทหารบก
และกรมการเงิน และส�ำนักงานปลัดบัญชี ทบ. บรรลุภารกิจด้านความพร้อมรบโดยการด�ำเนินการ
แบบวันต่อวัน ตามความรับผิดชอบที่ก�ำหนดไว้ การสนับสนุนทางการช่วยรบของ ทบ. ในความ
รับผิดชอบประกอบด้วย การส่งก�ำลัง การประกอบก�ำลัง การบริหาร การด�ำรงสภาพก�ำลังรบ
การท�ำให้ความรับผิดชอบทั้งมวลสอดคล้องกันเป็นความจ�ำเป็นอย่างยิ่งในการด�ำรงรักษาระดับ
ความพร้อมรบไว้อย่างเหมาะสม
การขยายระยะถึงทางยุทธการและความสามารถในการด�ำรงสภาพ
๑๒-๔๖ การปฏิบตั กิ ารต่าง ๆ ให้บรรลุระยะถึงทางยุทธการ และระยะถึงในการสนับสนุน
ทางการช่วยรบมีความเกีย่ วข้องกับองค์ประกอบของยุทธศิลป์ ผูบ้ งั คับบัญชาฝึกฝนในเรือ่ งระยะถึง
ทางยุทธการ และการปฏิบัติการสนับสนุนทางการช่วยรบเพื่อขยายห้วงการรบ ในเรื่องของเวลา
และพื้นที่ครอบคลุมพิสัยของการปฏิบัติการสนับสนุนทางการช่วยรบที่มีประสิทธิภาพมีความ
ต้องการในการขยายความลึกและช่วงระยะเวลาในส่วนของการปฏิบัติเต็มย่านของความขัดแย้ง
ผู้บังคับบัญชาท�ำการศึกษาปัจจัยต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลผลต่อระยะถึงทางยุทธการ และความสามารถ
ในการด�ำรงสภาพ เพียงแต่มีความเข้าใจในปัจจัยเหล่านี้โดยละเอียดจะอ�ำนวยให้ผู้บังคับบัญชา
ท�ำความเข้าใจว่าจะปฏิบัติการสนับสนุนทางการช่วยรบอย่างไร จึงจะก่อให้เกิด และด�ำรงรักษา
อ�ำนาจก�ำลังรบไว้ได้
๑๒-๔๗ การสนับสนุนทางการช่วยรบยังช่วยขยายระยะถึงทางยุทธการโดยการเข้าถึง
เบือ้ งหลังผูจ้ ดั หาของประเทศ เช่น กรณีตวั อย่าง หน่วยบัญชาการยุทโธปกรณ์ ทบ. หน่วยบัญชาการ
สนับสนุนการปฏิบัติการของหน่วยบัญชาการยุทโธปกรณ์ ทบ. ของสหรัฐฯ ได้ส่งหน่วยแยกออกไป
ประจ�ำอยู่ ณ ประเทศเกาหลี เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ยุโรป หน่วยที่ส่งไปข้างหน้านี้รวมถึง
ศูนย์ปฏิบัติการสนับสนุนในสนาม ทบ. สหรัฐฯ หน่วยเหล่านี้จะด�ำรงสภาพยุทโธปกรณ์ของ ทบ.
สหรัฐฯ ในยุทธบริเวณ ลดภาระด้านการยกขนทางยุทธศาสตร์และร่องรอยการส่งก�ำลังบ�ำรุงในยุทธ
บริเวณ ด้วยเป็นความต้องการ หน่วยบัญชาการส่วนหน้าของหน่วยบัญชาการยุทโธปกรณ์ ทบ.
336 บทที่ ๑๒
และทางอากาศ ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างกองก�ำลังทางทหารกับฐานปฏิบัติการที่ให้การสนับสนุนกับ
พวกเขา และรวมถึงสิ่งอุปกรณ์ ก�ำลังพล ยุทโธปกรณ์ และการเคลื่อนก�ำลังทหาร การก�ำหนด
เส้นหลักการคมนาคม และการให้การรักษาความปลอดภัยในการใช้เส้นหลักนั้นเป็นภาระหน้าที่
ของผู้บังคับบัญชา เส้นหลักการคมนาคมและทรัพย์สินต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่บนเส้นหลักนั้นต้องได้รับ
การปกป้อง เส้นหลักการคมนาคมประกอบด้วยศูนย์รวมของเครือข่าย สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
หลักเกณฑ์ตา่ ง ๆ การเตรียมการ และหน่วยเส้นหลักการคมนาคมจะเชือ่ มต่อระหว่างฐานการด�ำรง
สภาพทางยุทธศาสตร์ไปยังฐานการสนับสนุนระดับยุทธการ และจากฐานการสนับสนุนระดับ
ยุทธการไปยังรูปขบวนทางยุทธวิธี เส้นหลักการคมนาคมหลาย ๆ เส้นทางต้องการก�ำลังเพิม่ ขึน้ เป็น
อย่างมากในการรักษาความปลอดภัยต่อเส้นทางเหล่านั้น
๑๒-๕๓ การสนับสนุนและรักษาความปลอดภัยเส้นหลักการคมนาคมมีความส�ำคัญยิ่ง
ต่ อ การปฏิ บั ติ ก ารสนั บ สนุ น ทางการช่ ว ยรบ และอาจกระทบต่ อ การจั ด สรรอ� ำ นาจก� ำ ลั ง รบ
ความสามารถในการรักษาความปลอดภัยให้กับเส้นหลักการคมนาคมเป็นข้อพิจารณาที่ส�ำคัญ
ในการก�ำหนดวัตถุประสงค์ทางการยุทธ์ เส้นหลักการคมนาคมทั้งหลายต้องการการเอาใจใส่เป็น
พิเศษเฉพาะในเรื่อง การปฏิบัติการที่ไม่เป็นแนว การสลับ หรือการปฏิบัติการขัดขวางอย่างง่าย ๆ
(episodic or easily interdicted operations) นอกจากนี้การรักษาความปลอดภัยเส้นหลักการ
คมนาคมและการสนับสนุนช่วยให้มีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพในเรื่องของระบบการแจกจ่าย
ซึ่งอ�ำนวยให้เกิดการจัดส่งสิ่งอุปกรณ์ตรงตามเวลา และขยายระยะถึงทางยุทธการ
๑๒-๕๔ สถานที่ ที่ผู้บังคับบัญชาก�ำลังรบสร้างฐานการสนับสนุนจะมีผลต่อหนทางของ
การทัพและแผนการสนับสนุน ปกติพนื้ ทีย่ ดึ อาศัย ได้รบั การจัดตัง้ ใกล้กบั ท่าเรือหรือท่าอากาศยาน
ที่ส�ำคัญ พื้นที่ดังกล่าวต้องการให้เกิดความสะดวกในการเข้าถึงอย่างง่ายเพื่อการขนส่งทางทะเล
และทางอากาศ มีพนื้ ทีเ่ พียงพอในการเก็บรักษา และการกระจาย สะดวกในการล�ำเลียงสิง่ อุปกรณ์
และง่ายต่อการเข้าถึงเส้นทางคมนาคมอื่น ๆ กุญแจส�ำคัญสู่ความส�ำเร็จในเรื่องของแผนการ
สนับสนุนทางการช่วยรบคือ ขีดความสามารถของระบบแจกจ่ายในการที่จะรับ การเก็บรักษา
การบริหารจัดการ การด�ำรงรักษา การส่งออก และการเคลื่อนย้ายวัสดุอุปกรณ์ และก�ำลังพลไปยัง
กิจกรรมและหน่วยต่าง ๆ ณ เวลาที่ถูกต้อง ระบบการแจกจ่ายที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้
ผูบ้ งั คับบัญชาท�ำการสร้าง และด�ำรงอ�ำนาจก�ำลังรบทีจ่ ำ� เป็นไว้สำ� หรับแต่ละขัน้ ของการปฏิบตั กิ าร
การปรับเปลี่ยนปัจจัย
๑๒-๕๕ ผู้บังคับบัญชาปรับเปลี่ยน และสร้างสมดุลต่อปัจจัยด้านการสนับสนุนทางการ
ช่วยรบบนพื้นฐานของวิสัยทัศน์และเจตนารมณ์ของผู้บังคับบัญชาเอง ผู้บังคับบัญชาสามารถ
340 บทที่ ๑๒
ผลกระทบของเทคโนโลยี
๑๒-๖๒ เพือ่ สร้างและด�ำรงไว้ซงึ่ อ�ำนาจก�ำลังรบ ผูบ้ งั คับบัญชาด�ำเนินการปฏิบตั กิ ารทุก
รูปแบบต้องการ การสนับสนุนทางการช่วยรบที่ตอบสนอง อ่อนตัว และเป็นหน่วยแยกสมบูรณ์ใน
ตัวเอง กุญแจส�ำคัญในการที่จะบรรลุเป้าหมายในการผสมผสานก�ำลังด้านการสนับสนุนทางการ
ช่วยรบอย่างเหมาะสมได้รับการปรับปรุงการบริหารจัดการในเรื่องของระบบข้อมูลข่าวสารและ
ระบบการแจกจ่าย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในทรัพยากรด้านการมองเห็น การติดต่อสื่อสาร
การควบคุมและการบังคับบัญชา และวิธีการแจกจ่ายได้เพิ่มระยะถึงในการสนับสนุนทางการ
ช่วยรบ และช่วยให้ระบบการสนับสนุนสามารถท�ำการจัดเตรียมได้อย่างรวดเร็วโดยลดร่องรอย
การสนับสนุนทางการช่วยรบ ในการเพิ่มผลลัพธ์ในการส่งก�ำลังที่รวดเร็วกว่าเดิม และลดความ
ต้องการทั้งมวลส�ำหรับการสนับสนุนทางการช่วยรบในยุทธบริเวณ
๑๒-๖๓ การพัฒนาเทคโนโลยีด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบจะท�ำให้เกิดองค์กรการ
สนับสนุนทางการช่วยรบซึ่งคือหน่วยแยกที่มีความสมบูรณ์ในตัวเองมีทรัพยากรที่มองเห็นได้
และยังตอบสนองความต้องการของผู้บังคับหน่วยสนับสนุนทางด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบ
ได้ดีกว่าเดิม การพัฒนาด้านเทคโนโลยีมุ่งเน้นในด้านต่อไปนี้
- มีระบบอาวุธกระสุนที่มีความละเอียดแม่นย�ำและมีขนาดความกว้างปาก
ล�ำกล้องเท่ากัน
- แคร่รถในตระกูลเดียวกัน และมียุทโธปกรณ์ที่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
- สนับสนุนยานพาหนะในการล�ำเลียง ขีดความสามารถในการใส่และบรรจุ
เทคโนโลยียังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยขึ้นกับเงินทุนและทรัพยากรที่มีอยู่
การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบและการทดสอบในสนามจะช่วยให้
ผู้บังคับบัญชาสามารถสร้างและด�ำรงรักษาอ�ำนาจก�ำลังรบได้เร็วและมีอ�ำนาจตัดสินชี้ขาดมากกว่า
แต่กอ่ น ผูบ้ งั คับบัญชาเตรียมการทีจ่ ะรวมพลังขีดความสามารถของเทคโนโลยีสมัยใหม่ในด้านการ
สนับสนุนทางการช่วยรบเมื่อจ�ำเป็นต้องใช้ก�ำลัง
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 343
การใช้พลังทางด้านเทคโนโลยี ในสถานการณ์จริงของการสนับสนุนทางการช่วยรบ
ในสงครามทะเลทรายช่วงต้นปี พ.ศ. ๒๕๓๓ (ค.ศ. ๑๙๙๐) ข้อมูลทางด้านการส่งก�ำลัง
บ�ำรุงส่งผ่านโดยการใช้ แผ่นดิสก์ผ่านเข้าสู่คอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในเขตที่ห่างออกไป มันเป็น
วิธีการที่ดีมากกว่าเดิมแต่ต้องใช้เวลาและทรัพยากรมาก
ในช่วงปลายปี พ.ศ. ๒๕๓๓ (ค.ศ. ๑๙๙๐) นายทหารส่งก�ำลังบ�ำรุง ได้รบั ประโยชน์มาก
จากการก้าวกระโดดทางเทคโนโลยี ในระหว่างทีพ่ ยายามในการปฏิบตั กิ ารร่วมในปี พ.ศ. ๒๕๓๘
(ค.ศ. ๑๙๙๕) หน่วยบัญชาการทหารสื่อสารที่ ๕ ได้สร้างหุ่นยนต์ที่ใช้ในการสื่อสารซึ่งเชื่อมกับ
หน่วยสนับสนุนการช่วยรบเข้ากับฐานส่งก�ำลังบ�ำรุงในประเทศเยอรมนี ทหารฝ่ายสนับสนุนการ
ช่ ว ยรบใช้ ก ารมองเห็ น ที่ ไ ม่ ต ่ อ เนื่ อ งในการติ ด ตามสิ่ ง อุ ป กรณ์ เ ครื่ อ งมื อ และก� ำ ลั ง พล
หน่วยสนับสนุนการช่วยรบ ใช้ระบบการจัดการสารสนเทศมาตรฐานของกองทัพบกในการ
แลกเปลีย่ นข้อมูลแบบฉับพลัน เป็นครัง้ แรกทีผ่ บู้ งั คับบัญชา และนายทหารส่งก�ำลังบ�ำรุงเข้าถึง
วางแผน และสั่งการด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบในทุกระดับของการปฏิบัติการ
ในการปฏิบัติการร่วม คลื่นความถี่วิทยุติดตามอุปกรณ์ซึ่งส่งจากภาคพื้นทวีปไปสู่เขต
ยุทธบริเวณและสามารถทีจ่ ะบอกถึงสิง่ ของทีบ่ รรจุไว้ในภาชนะบรรจุได้ มีภาชนะบรรจุอนั หนึง่
ที่ไปถึง ทาสซาประเทศฮังการีมีกลิ่นที่เป็นอันตราย อาจไม่ปลอดภัยที่จะเปิดบรรจุ ก�ำลังพล
จากหน่วยขนส่งสินค้าใช้เทคโนโลยีคลืน่ วิทยุในการอ่านป้ายและพบว่าเป็นผงของกรดแบตเตอรี่
และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ทหารฝ่ายสนับสนุนการช่วยรบได้เปิดภาชนะนั้นอย่างระมัดระวัง
และพบว่าเป็นกล่องบรรจุกรดที่ฉีกขาดในระหว่างการขนส่ง
นอกเหนือจากคลืน่ ความถีว่ ทิ ยุ นายทหารส่งก�ำลังบ�ำรุงยังใช้ระบบป้องกันและควบคุม
ด้านการขนส่งเพือ่ ก�ำหนดต�ำแหน่งในการฝึกและป้องกันกองทหาร หน่วยนีท้ �ำให้ผบู้ งั คับบัญชา
สามารถติดตามทหารและอุปกรณ์ เพิ่มการป้องกันกองก� ำลัง และสั่งการซ�้ำในช่วงที่มีการ
เคลื่อนที่ ระยะเวลาน้อยกว่า ๕ ปีหลังจากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ที่เทคโนโลยีมีความส�ำคัญ
ในการเพิ่มศักยภาพด้านการส่งก�ำลังบ�ำรุงเพื่อการสนับสนุนกองก�ำลังของกองทัพบกได้อย่าง
รวดเร็วและแม่นย�ำ
344 บทท้าย
บทท้าย
คณะอนุกรรมการพิจารณาและจัดท�ำร่างหลักนิยม รส. ๓-๐ ว่าด้วย การปฏิบัติการยุทธ
ของกองทัพบก ได้รับการแต่งตั้งโดย จก.ยศ.ทบ./ประธานคณะกรรมการปรับปรุงพัฒนาหลักนิยม
และยุทธศาสตร์ของ ทบ. ตามค�ำสั่งคณะกรรมการปรับปรุงพัฒนาหลักนิยมและยุทธศาสตร์ของ
ทบ. ที่ ๓/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๒๕ เม.ย. ๕๕ มีองค์ประกอบ ดังนี้
๑. พล.ต.ธนากร ทองศุข ประธานอนุกรรมการ (ผอ.ศพย.ยศ.ทบ.)
๒. พ.อ.สรชัช วรปัญญา รอง ประธานอนุกรรมการ (รอง ผอ.ศพย.ยศ.ทบ.)
๓. พ.อ.พชรวัฒน์ ธนพรานสิงห์ อนุ ก รรมการ/ผู ้ แ ทน วทบ. (ผช.อจ.อ� ำ นวยการ
ส่วน วทบ.)
๔. พ.อ.วรยุทธ อ้นเพียร อนุกรรมการ/ผู้แทน รร.สธ.ทบ. (อจ.หก.รร.สธ.ทบ.)
๕. พ.อ.ศักดิ์เสมา พงศ์กลัด อนุกรรมการ/ผู้แทน กพ.ทบ. (ฝสธ.ประจ�ำ กพ.ทบ.)
๖. พ.อ.วัชรวิทย์ ณรงค์พันธุ์ อนุกรรมการ/ผู้แทน ขว.ทบ. (ผอ.กศ.รร.ขว.ทบ.)
๗. พ.อ.ทรงพล รัตนโกเศรษฐ อนุกรรมการ/ผูแ้ ทน ยก.ทบ. (นปก. ประจ�ำ ยก.ทบ.)
๘. พ.อ.ธนภูมิ ดวงแก้ว อนุกรรมการ/ผู้แทน กบ.ทบ. (รอง ผอ.กอง กบ.ทบ.)
๙. พ.อ.ณัฎฐพล ดิษยบุตร อนุกรรมการ/ผู้แทน กร.ทบ. (รอง ผอ.กนผ.กร.ทบ.)
๑๐. พ.อ.ไพบูลย์ คุม้ กลิน่ วงษ์ อนุกรรมการ/ผูแ้ ทน สปช.ทบ. (นปก. ประจ�ำ สปช.ทบ.)
๑๑. พ.อ.สามารถ คงสาย อนุกรรมการ/ผู้แทน ศร. (รอง ผอ.กวก.ศร.)
๑๒. พ.อ.ณัฏฐชัย บุญมาก อนุกรรมการ/ผู้แทน ศม. (รอง ผอ.กวก.ศม.)
๑๓. พ.อ.อ�ำภรณ์ คงนวล อนุกรรมการ/ผู้แทน ศป. (หน. วิชาการ กวก.ศป.)
๑๔. พ.อ.สัมพันธ์ ทับเพ็ชร อนุกรรมการ/ผู้แทน ศสพ. (หน.ผวช.ศสพ.)
๑๕. พ.ท.เฉลิมพล สุขศรี อนุกรรมการ/ผู้แทน กช. (รอง ผอ.กวก.กช.)
๑๖. พ.อ.บงกช ศรีสังข์ อนุกรรมการ/ผู้แทน สส. (อจ.หน.วสว.รร.ส.สส.)
๑๗. พ.อ.อิสระ สมัย อนุ ก รรมการ/ผู ้ แ ทน กยข.ยศ.ทบ. (หน.แผนก
กยข.ยศ.ทบ.)
๑๘. พ.อ.วิสันต์ ทองอร่าม อนุกรรมการ/ผูแ้ ทน กศ.ยศ.ทบ. (รอง ผอ.กศ.ยศ.ทบ.)
๑๙. พ.อ.พลวุฒ ล�ำเจียก อนุกรรมการ/ผูแ้ ทน กฝ.ยศ.ทบ. (รอง ผอ.กฝ.ยศ.ทบ.)
๒๐. พ.อ.สุรตั แสงสว่างด�ำรง อนุกรรมการ/เลขานุการ (ผอ.กพล.ศพย.ยศ.ทบ.)
๒๑. พ.อ.กฤตติภูมิ หอมหวล อนุกรรมการ/ผู้ช่วยเลขานุการ (รอง ผอ.กพล.ศพย.
ยศ.ทบ.)
คู่มือราชการสนาม ๓-๐ ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของกองทัพบก 345
มีการด�ำเนินการและอ�ำนาจหน้าที่
๑. อ�ำนาจหน้าที่ พิจารณา แก้ไข เพิ่มเติม ปรับปรุง เนื้อหาร่างหลักนิยมหลัก รส. ๓-๐
ว่าด้วย การปฏิบัติการยุทธ์ของ ทบ. ว่ามีความเหมาะสมส�ำหรับใช้กับ ทบ. ไทย สามารถน�ำมาใช้
เป็นกรอบแนวทางให้หน่วย/เหล่าสายวิทยาการที่เกี่ยวข้องพัฒนาเป็นหลักนิยมของเหล่าได้ และ
เสนอให้ จก.ยศ.ทบ./ประธานคณะกรรมการปรับปรุงพัฒนาหลักนิยม และยุทธศาสตร์ของ ทบ.
น�ำเรียน ผบ.ทบ. (ผ่าน ยก.ทบ.) พิจารณาเพื่อประกาศใช้เป็นหลักนิยมของ ทบ.
๒. ให้ประธานอนุกรรมการพิจารณาและจัดท�ำร่างหลักนิยมหลัก รส. ๓-๐ ว่าด้วย การ
ปฏิบัติการยุทธ์ของ ทบ. มีอ�ำนาจเชิญผู้แทนหน่วยที่เกี่ยวข้องหรือบุคคลอื่น ๆ เข้าร่วมประชุมได้
ตามความเหมาะสม
หมายเหตุ ระหว่างการด�ำเนินการพิจารณาจัดท�ำร่างหลักนิยม รส. ๓-๐ ว่าด้วย การปฏิบตั กิ ารยุทธ
ของกองทัพบก ได้ปรับเปลี่ยนคณะอนุกรรมการฯ ในต�ำแหน่งส�ำคัญสองต�ำแหน่งดังนี้
๑. ต�ำแหน่ง ประธานอนุกรรมการ เปลีย่ นจาก พล.ท.ไพรัช ขยันส�ำรวจ (ผอ.ศพย.ยศ.ทบ.
เดิม) เป็น พล.ต.ธนากร ทองศุข (ด�ำรงต�ำแหน่งเดิม รอง ผบ.รร.สธ.ทบ. และเป็น ผู้แทน รร.สธ.
ทบ.) เนื่องจากปรับย้ายมาด�ำรงต�ำแหน่ง ผอ.ศพย.ยศ.ทบ.
๒. ต�ำแหน่ง รอง ประธานอนุกรรมการ เปลี่ยนจาก พ.อ.ยุทธ์นเรศ พัทธะเศรษฐี
(รอง ผอ.ศพย.ยศ.ทบ. เดิม) เป็น พ.อ.สรชัช วรปัญญา (ด�ำรงต�ำแหน่งเดิม รอง ผบ.วทบ.) เนือ่ งจาก
ปรับย้ายมาด�ำรงต�ำแหน่ง รอง ผอ.ศพย.ยศ.ทบ.
๓. ต�ำแหน่ง อนุกรรมการ/ผู้แทน รร.สธ.ทบ. เปลี่ยนจาก พล.ต.ธนากร ทองศุข
(รอง ผบ.รร.สธ.ทบ. เดิม) เป็น พ.อ.วรยุทธ อ้นเพียร เนื่องจากแทน พล.ต.ธนากร ทองศุข