วัคซีนป‡องกันโรคเร�ม

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 8

วัคซีน 573

วัคซ�นป‡องกันโรคเร�ม 43
พรเทพ สวนดอก

บทนํา ชองปากและผิวหนังเหน�อระดับเอวขึน้ ไป ในขณะที่ HSV-2


มักกอโรคบริเวณอวัยวะเพศและผิวหนังระดับต่ํากวาเอว
ประวัติและความสําคัญของโรคเริม อยางไรก็ตามไวรัสทั้ง 2 สายพันธุสามารถเกิดโรคสลับ
Herpes simplex virus (HSV) เปนไวรัสกอโรค ตําแหน�งจากขางตนได HSV-2 เปนสาเหตุสําคัญของการ
ที่สําคัญชนิดหนึ�งในมนุษย เกิดการติดเชื้อที่พบไดบอย ติดเชื้อในทารกแรกคลอด คิดเปนรอยละ 75 และ HSV-1
ไดแก herpetic gingivostomatitis และ genital herpes เปนสาเหตุไดรอยละ 252 โครงสรางของ HSV ดังรูปที่ 1
ตลอดจนเกิดความพิการและรุนแรงถึงแกชีวิต ไดแก con-
genital herpes infection, neonatal herpes infection, ระบาดวิทยา: อุบัติการณและปจจัยเสี่ยง
herpes keratitis และ herpes simplex virus encephalitis HSV ทั้ง 2 สายพันธุติดตอไดทางการสัมผัส โดย
ลักษณะที่สําคัญของการติดเชื้อไวรัสHSV คือการติดเชื้อ ผูที่ติดเชื้อทั้งที่มีอาการและไมมีอาการสามารถแพรเชื้อ
แบบซอนเรน (latent infection) สามารถแพรกระจายไวรัส ไปยังผูอื่นได อัตราการติดเชื้อในทารกแรกคลอด 1 ตอ
ไปสูผูอื่นโดยที่ผูติดเชื้อยังไมแสดงอาการ (asymptomatic 5,000 – 20,000 คนของทารกแรกเกิดมีชพี ผูป ว ย เอชไอวี
viral shedding) และมีการติดเชือ้ ซ้าํ ในผูท เี่ คยติดเชือ้ มากอน ที่มีการติดเชื้อ HSV รวมดวย มีอัตราการแพรเชื้อเอชไอวี
ไดตลอดชีวิต (reactivation)1 เพิ�มมากขึ้นไดถึง 6 เทา3

โรคเริม (การติดเชื้อ Herpes simplex virus) พยาธิกําเนิด


ลักษณะทีส่ าํ คัญของการติดเชือ้ HSV ไดแก ความ
เชื้อกอโรค สามารถของไวรัส ที่อยู ใ นร างกายผูติดเชื้อไปไดตลอด
Herpes simplex virus อยูใ น family Herpesviridae หลังจากที่มีการติดเชื้อครั้งแรกแลว เกิดภาวะ persistent
เปน double-stranded DNA enveloped virus แยกยอย latent infection และสามารถเกิ ด โรคซ้ํ า ขึ้ น ใหม ไ ด
ตามคุณสมบัติทางอณูชีววิทยาเปน subfamily Alpha- ตลอดช ว งชี วิ ต โดยเฉพาะเมื่ อ ภู มิ คุ ม กั น ของร า งกาย
herpesvirinae ประกอบดวย herpes simplex virus type 1 ลดลง ทารกแรกคลอดมักติดเชือ้ จากมารดาชวงการคลอด
และ 2 โดยมี varicella zoster virus อยูใน subfamily เปนสวนใหญ แตสามารถติดเชื้อไดตั้งแตในครรภจนถึง
เดียวกัน และมี subfamily อืน่ ๆ ไดแก Beta-herpesvirinae หลังคลอด กรณ�ที่มารดาติดเชื้อเปนครั้งแรก (primary
(ประกอบดวย cytomegalovirus, human herpes virus 6 infection) ทารกมีโอกาสติดเชือ้ ไดสงู ถึงรอยละ 33-50 กรณ�
และ 7) และ Gamma-herpesvirinae (ไดแก Epstein-Barr ทีม่ ารดาเคยติดเชือ้ มากอน (secondary infection) ทารกมี
virus และ human herpes virus 8) โอกาสติดเชือ้ ลดลงเหลือนอยกวารอยละ 5 โดยมารดาอาจ
HSV-1 มั ก ทํ า ให เ กิ ด การติ ด เชื้ อ ของใบหน า จะแสดงอาการหรือไมมีอาการใดระหวางการตั้งครรภ ได
574 วัคซีน วัคซ�นที่อยู‹ระหว‹างการว�จัย

พบวามารดามีอาการแสดงระหวางการตั้งครรภและขณะ ในวัยรุนและผูใหญ มีแผลตุมน้ําใส มีอาการปวดบริเวณ


คลอดเพียงรอยละ 25 เทานั้น เชื้อมีระยะฟกตัวตั้งแต เยื่อบุอวัยวะเพศและ perineum
2 วันถึง 2 สัปดาห ผูปวยที่ติดเชื้อครั้งแรก สามารถตรวจ Herpetic whitlow เปนอาการแสดงของ HSV ใน
พบเชือ้ ในรอยโรคและสามารถแพรเชือ้ ไดนาน 1-2 สัปดาห เด็กที่ชอบดูดนิ้วมือ ทําใหเชื้อแพรกระจายจากแผลในชอง
ผูปวยที่ติดเชื้อซ้ํา ตรวจพบเชื้อในรอยโรคที่แพรเชื้อไดลด ปากไปที่นิ้วมือ เกิดแผลหรือตุมน้ําอักเสบ
ลงเหลือประมาณ 3-5 วัน4 Herpes encephalitis เกิดไดัทั้ง primary และ
recurrent infection มักพบในเด็กโตหรือวัยรุน มีไขสูง
อาการทางคลินิก กระสับกระสาย ซึมลง พฤติกรรมผิดปกติ และมักมีอาการ
สามารถแบงการติดเชื้อตามกลุมอายุไดเปน ชักรุนแรงที่ควบคุมไดยาก มีอาการผิดปกติของระบบ
1. ทารกแรกเกิด (Neonatal herpes simplex ประสาทเฉพาะที่ (focal neurologic) มี อั ต ราการ
infection) มีอาการแสดงของการติดเชื้อได 3 แบบคือ เสียชีวิตสูง ตรวจน้ําไขสันหลังมีภาวะ pleocytosis เปน
การติดเชือ้ แบบแพรกระจาย (disseminated infection) ซึง� lymphocytes เดนและพบ erythrocytes รวมดวยไดบอย
มีความรุนแรงมากที่สุด สามารถติดเชื้อไดทุกระบบของ ภาวะแทรกซอนอื่นๆที่พบไดแก trigeminal neuralgia,
รางกาย โดยเกิดโรคในปอดและตับไดบอ ยทีส่ ดุ การติดเชือ้ Bell’s palsy, ascending myelitis และ postinfectious
ของระบบประสาท (central nervous system infections) encephalomyelitis
มักมีอาการชักและซึมอยางรุนแรง การติดเชือ้ ของผิวหนัง
ตาและชองปาก (skin eyes and mouth, SEM) เปนการ การวินิจฉัย
ติดเชือ้ เฉพาะที่ โดยเปนตุม แดงในชวงแรกและกระจายเปน กรณ� ที่ มี อาการแสดงทางผิ ว หนั ง ช ว ยในการ
ตุมน้ําใสตามผิวหนัง ตา และปากในระยะถัดไป อัตราการ วินิจฉัยไดมาก อยางไรก็ตามการติดเชื้อแบบไมมีอาการ
เกิดโรคเทากันในทั้ง 3 แบบ และสามารถมีอาการแสดง แสดงทางผิวหนังและการติดเชื้อในระบบประสาท อาศัย
รวมกันได กรณ�ที่ไมมีอาการแสดงทางผิวหนังอาจทําให การสงตรวจทางหองปฏิบัติการเพิ�มเติม โดยการตรวจ
วินิจฉัยไดยาก มีขอควรระวังในทางปฏิบัติที่ควรนึกถึง ทางชีวโมเลกุล polymerase chain reaction (PCR) ซึ�ง
และรักษาแบบการติดเชื้อ HSV ทันทีในทารกแรกเกิดที่มี เปนการตรวจหา DNA จัดเปน gold standard การ
อาการแสดงของการติดเชือ้ แบบเซพสิส ภายในชวงสัปดาห ตรวจอื่นๆที่ ใชวินิจฉัยไดแก การตรวจหา แอนติเจน
แรกของชีวิต มีภาวะตับอักเสบรุนแรงโดยที่เพาะเชื้อไม โดยวิธี enzyme immunoassay (EIA) การเพาะเชื้อ
พบแบคทีเรีย และทารกแรกเกิดที่มีอาการแสดงของภาวะ ไวรัส ดู cytopathogenic effect (CPE) ซึ�งพบไดเร็ว
สมองอักเสบในชวง 2-4 สัปดาห โดยมีไขสูง ดูดนมนอย ภายใน 1-3 วันหลังการติดเชื้อ สิ�งสงตรวจที่สามารถ
ลง ชัก ซึม และตรวจมีความผิดปกติของน้ําไขสันหลัง5 ตรวจหาเชื้อไดแก น้ําไขสันหลัง เลือด ตุมน้ําที่ผิวหนัง
2. วัยเด็กจนถึงวัยรุน และผูใ หญ (Children beyond ป ส สาวะ โดยถ า สามารถตรวจพบเชื้ อ ได เ ร็ ว ภายใน
neonatal period and adolescents) การติดเชื้อครั้งแรก 48 ชั�วโมงมักเปนการติดเชื้อจริง ไมไดเกิดจากภาวะ
มักมีอาการนอย หรืออาจไมแสดงอาการเลย โดยผูติดเชื้อ colonization หรื อ การปนเป อ น (contamination)
HSV-1 ที่มีอาการแสดงของ gingivostomatitis มีแผล การตรวจชนิด Tzank smear โดยขูดเน�อ้ เยือ่ ทีฐ่ านของแผล
เจ็บมากในชองปาก เหงือกและเยื่อบุชองปาก อาจมีไข ยอมพบ multinucleated giant cells ชวยในการวินจิ ฉัย แต
และตอมน้ําเหลืองบริเวณ submandibular โตและอักเสบ มีความไวและความจําเพาะต่ํา
ได สวน HSV-2 ทําใหเกิด genital herpes พบไดบอย
บทที่ 43 วัคซ�นป‡องกันโรคเร�ม วัคซีน 575

การรักษา HSV ที่ผานมายังไมประสบผลสําเร็จเทาที่ควรเน��องจาก


ยาหลักในการรักษา HSV ไดแก acyclovir, ขอจํากัดดังน�้9-13
valacyclovir, famciclovir โดย valacyclovir เปน L-valyl ester • HSV มีการติดเชื้อแบบซอนเรนภายใน neuron
ของ acyclovir ซึง� มีระดับยาในเลือดสูงกวาการรับประทาน ซึ�งปองกันการถูกทําลายจากระบบภูมิคุมกันของรางกาย
ยา acyclovir สวน famciclovir ถูกเปลี่ยนเปน penciclovir วัคซีนที่มีประสิทธิภาพดีตองสามารถกําจัดไวรัสตั้งแตเริ�ม
อยางรวดเร็วภายหลังการรับประทาน เกิดการติดเชื้อระดับเยื่อบุผิว (epithelium) กอนที่จะผาน
1. โรคติดเชื้อ HSV ชนิดรุนแรง ไดแก neonatal เขาสูการเกิด axonal uptake
HSV infection, HSV encephalitis ยา acyclovir จัดเปนยา • HSV สามารถแบงตัว (replicate) ภายในเยือ่ บุผวิ
หลักที่ใชในการรักษา กลไกการออกฤทธิ์เปน nucleoside ไดเร็วมาก สามารถแพรกระจายเชือ้ ไปยังเยือ่ บุผวิ ใกลเคียง
inhibitor ของ herpes DNA polymerase ขนาดยาที่ใช ไดรวดเร็วภายใน 24 ชั�วโมงหลังเริ�มติดเชื้อ
60 มก./กก./วัน แบงฉ�ด 3 ครั้งตอวัน ใหระยะเวลานาน 14 • วัคซีนปองกัน HSV ตองสามารถปองกันไดทั้ง
วันสําหรับการติดเชื้อ SEM และนาน 21 วันสําหรับการติด HSV-1 และ HSV-2 และควรใหตั้งแตอายุนอย เน��องจาก
เชื้อของระบบประสาทหรือการติดเชื้อแบบแพรกระจาย6 HSV-1 เริ�มติดเชื้อไดตั้งแตอายุนอย
2. โรคติดเชื้อ HSV ที่ผิวหนังและเยื่อบุ กรณ�ผู • HSV มีกลไกที่หลากหลายในการปองกันการถูก
ปวยมีภาวะภูมิคุมกันบกพรอง ควรให acyclovir แบบฉ�ด ทําลายโดยระบบภูมิคุมกันของรางกายไดแก การสราง
การใช topical acyclovir อาจชวยทําใหแผลหายเร็วขึน้ แต โปรตีนเพื่อยับยั้งการถูกทําลายโดย T-lymphocyte วัคซีน
ไมสามารถทดแทนการใชยาฉ�ด ปจจุบัน HSV มีการดื้อ ที่ดีควรกระตุนทั้ง T-cell (cellular response) และ B-cell
ตอยา acyclovir มากขึ้น โดยเฉพาะผูปวยภาวะภูมิคุมกัน (antibody response) อยางไรก็ตามเน�อ� งจากไวรัสมีการก
บกพรองซึ�งมักไดรับยา acyclovir เปนระยะเวลานาน ควร ระจายไดเร็วกวาระดับ แอนติบอดี ที่ขึ้น ทําใหปองกันได
ใช foscarnet แทนในผูปวยที่มีการดื้อยา7 ไมเต็มที่
3. โรคติดเชื้อ HSV ที่อวัยวะเพศ กรณ�ที่มีการติด • เน�อ� งจาก HSV มีการติดเชือ้ แบบซอนเรนภายใน
เชือ้ ครัง้ แรก มักมีอาการนอย แตเชือ้ HSV สามารถติดเชือ้ neuron ทําใหสามารถมี reactivate ไดบอย และเกิดภาวะ
แบบซอนเรนภายใน neuron และมี reactivate ไดบอย ติดเชื้อซ้ําไดหลายครั้ง วัคซีนที่ดีควรปองกันระยะ latent
เกิดภาวะติดเชือ้ ซ้าํ ไดหลายครัง้ (recurrent infections) จึง infection ไดดวย เน��องจากผูปวยสามารถแพรเชื้อไดโดย
ควรรักษาในทุกรายที่มีอาการแสดงในครั้งแรก ควรใหยา ไมมีอาการ
acyclovir รับประทานภายใน 6 วันหลังแสดงอาการ • การวิจยั ตองสามารถหากลไกการตอบสนองทาง
สามารถลดอาการแสดงและลด viral shedding ได 3-5 ภาวะอิมมูโนวิทยาทีด่ ตี อ ไวรัสและสามารถทราบถึงการกระ
วัน กรณ�ติดเชื้อซ้ํา ยา acyclovir รับประทานภายใน 2 วัน ตุนภูมิคุมกันที่เหมาะสมได
ทําใหหายไดเร็วขึ้น 1 วัน8 • การพัฒนาวัคซีนตองหารูปแบบการบริหาร
วัคซีน (mode of delivery) ที่เหมาะสมเพื่อตอบสนอง
การกระตุนทางภูมิคุมกันที่ดีที่สุด มีการศึกษาของการใช
วัคซีนปองกันโรคเริม
lipopeptide ในการวิจัยวัคซีนชนิด needle-free mucosal
การวิจยั วัคซีนปองกันการติดเชือ้ ไวรัส HSV อาศัย vaccine โดยกระตุนเยื่อบุผิวโดยตรงโดยไมตองฉ�ด ซึ�ง
องคความรูทางวิทยาภูมิคุมกันรวมกับความกาวหนาทาง สามารถกระตุน CD8 และ CD4 ไดดี14,15
เทคโนโลยีอณูชีววิทยา การวิจัยวัคซีนปองกันการติดเชื้อ
576 วัคซีน วัคซ�นที่อยู‹ระหว‹างการว�จัย

วัตถุประสงคของการใหวัคซีนปองกันการติดเชื้อ HSV16 • DNA vaccines


1. เพือ่ ปองกันการติดเชือ้ (prophylactic vaccine) วัคซีนที่ประกอบดวย recombinant HSV glyco-
• ปองกันการติดเชือ้ ระยะแรก (primary infection) protein และ adjuvant ชนิดใหมไดแก deacylated mono-
สามารถยับยั้งไวรัสตั้งแตระยะแบงตัวในเซลของ genital phosporyl lipid A จัดเปนวัคซีนชนิดแรกที่มีประสิทธิภาพ
tract ในการติดเชื้อ genital herpes ในการปองกันการติดเชื้อ genital herpes11 และเปนกุญแจ
• ปองกันการติดเชื้อแบบซอนเรนในเซลประสาท ที่สําคัญในการศึกษาและเขาใจถึงวิทยาภูมิคุมกันของการ
• ปองกันการแสดงอาการของโรค (symptomatic ติดเชื้อ HSV
infection)
• ปองกันการติดเชื้อซ้ํา วั ค ซี น ป อ งกั น การติ ด เชื้ อ HSV ที่ มี ก ารศึ ก ษาพั ฒ นา
2. เพือ่ ลดความรุนแรงหลังการติดเชือ้ (therapeutic ในปจจุบัน
vaccine)17 • Live-attenuated/replication impaired
• ลดการเกิดอาการทางคลินิกจากการติดเชื้อซ้ํา - R7020 Pasteur Merieux
ไดแก recurrent genital herpes - ICP10DPK AuRx Inc.
• ลดการแพรของเชื้อไวรัสไปยังผูอื่นจากภาวะ • Killed/viral component
viral shedding การศึกษาพัฒนาวัคซีนปองกันการติดเชื้อ - HSV-2 GS Merck,
HSV ไดเริ�มตนมากวา 2 ทศวรรษ โดยมีการศึกษาตั้งแต Sharpe & Dohme
live-attenuated viral vaccine, killed vaccine ตลอด - Biocine™ Chiron
จน subunit vaccine ซึ�งใช purified viral protein รวม (gD2/gB2/MF59)
กับ adjuvant ชนิดตางๆ จนถึงการศึกษาในปจจุบันซึ�ง - Herpvac™ GlaxoSmithKline11
ใชความกาวหนาของเทคโนโลยีวิทยาศาสตรการแพทย (gD2/MPL-alum)
ไดแก heterologous viral vector expressing HSV
protein, replication-impaired HSV vaccine ตลอดจน ชนิดของวัคซีนปองกันการติดเชื้อ HSV (รูปที่ 2)
DNA vaccineดังตอไปน�้ 1. Inactivated or component vaccine
รูปแบบทีม่ กี ารศึกษาในอดีตแตไมประสบผลสําเร็จ วั ค ซี น กลุ ม น�้ ไ ด แ ก killed viral vaccine,
• Inactivated whole virus subunit vaccine โดยใช purified viral protein
• Subunit vaccine (detergent solubilized) derivates หรือ recombinant proteins มีความปลอดภัย
• Live-attenuated vaccine (passaged) สูงกวา live-attenuated vaccine เน��องจากไมมี virulent
รูปแบบที่อยูระหวางการศึกษาในปจจุบัน strain เหลืออยู อยางไรก็ตามวัคซีนกลุม น�ก้ ระตุน ภูมคิ มุ กัน
• Recombinant HSV proteins ไดนอ ยกวาสาเหตุจากระดับความเขมขนของ glycoprotein
• Synthetic peptides ที่นอยเกินไปและตองการ adjuvant เพื่อเพิ�มการกระตุน
• Lived-attenuated vaccines (specific ภูมิคุมกัน (booster reactivity) ซึ�งทําใหเกิดผลขางเคียง
mutations) ไดสูงเชน อาการเจ็บบริเวณที่ฉ�ด18
• Replication-impaired vaccines 2. Live-attenuated HSV vaccine
• Heterologous viral vectors expressing ผลิตจากไวรัสตัวเปนที่ทําใหออนกําลัง สามารถ
HSV antigens กระตุ น ให เ กิ ด ระดั บ ภู มิ ต า นทานสู ง กว า inactivated
บทที่ 43 วัคซ�นป‡องกันโรคเร�ม วัคซีน 577

vaccine อยางไรก็ตามขอเสียของวัคซีนชนิดน�้ ไดแก การมี reactivity interference เน�อ� งจากการมีภมู คิ มุ กันตอ
ความปลอดภัยเน��องจากสามารถเกิด recombination กับ specific viral vector มากอนมีผลลดการกระตุนภูมิคุมกัน
circulating wild-type HSV strain ไดในรางกายและยังมี จากวัคซีน13
ขอจํากัดในเรื่องความคงทนของการเก็บรักษา19 6. HSV DNA vaccine
3. Recombinant viral protein vaccine ผลิตจาก plasmid ของ HSV gene กระตุน
พัฒนาโดยการใช HSV glycoprotein ไดแก ใหเกิดภูมิคุมกันทั้ง humoral-mediated และ cellular-
gB และ gD ผานกระบวนการ recombinant DNA กับ mediated อยางไรก็ตามการศึกษาในสัตวทดลองพบ
Escherichia coli วัคซีนที่มีการศึกษาไดแก ว า ยั ง มี ข อ จํ า กั ด ในประสิ ท ธิ ภาพการป อ งกั น โรค 22 ซึ� ง
• Biocin™ (Chiron) ประกอบด ว ย HSV ได มี ก ารศึ ก ษาการใช cytokine/chemokine gene
glycoprotein gB และ gD โดยมี MF59 เปน adjuvant ไดแก CCR7 ligands เพื่อเพิ�มประสิทธิภาพการกระตุน
สามารถกระตุนใหเกิด neutralizing antibody ตอ HSV-2 ภูมิคุมกันตอไป วัคซีนที่มีการศึกษาในมนุษยแลวไดแก
แตไมสามารถปองกันการติดเชื้อ genital herpes ได20 gD2 DNA vaccine (GENEVAX™, Apollon, USA)23-25
• Herpvac™ (GlaxoSmithKline) ประกอบดวย
HSV glycoprotein gD โดยมี alum และ 2-O-deacylated-
monophosphoryl lipid A (MPL) เปน adjuvant ซึ�งเปน
สรุป
วัคซีนเดียวในปจจุบันที่มีประสิทธิภาพปองกันการติดเชื้อ การศึ ก ษาวิ จั ย และพั ฒ นาวั ค ซี น ป อ งกั น การ
HSV-2 ในมนุษย โดยสามารถกระตุนใหเกิดภูมิคุมกันทั้ง ติดเชื้อไวรัสกลุมเฮอรปส ยังเปนสิ�งที่ทาทายตอวงการ
humoral-mediated และ cellular-mediated แตไดผล วิทยาศาสตรการแพทย ขอมูลการตอบสนองทางภูมคิ มุ กัน
ปองกัน genital herpes เฉพาะในผูหญิงที่ไมมีแอนติบอดี ตอการติดเชื้อไวรัสเปนกุญแจที่สําคัญในการผลิตวัคซีน
ตอทั้ง HSV-1 และ HSV-2 กอนเขาการศึกษาเทานั้น ไม เพื่ อ ป อ งกั น การติ ด เชื้ อ ทั้ ง ในระยะแรกและการติ ด เชื้ อ
ไดผลในผูห ญิงทีม่ แี อนติบอดีตอ HSV-1 กอนเขาการศึกษา ซ้ํา วัคซีนตองกระตุนใหรางกายสรางภูมิคุมกันไปตลอด
และไมไดผลในผูชายทั้งหมด11 ชีวิต (lifelong immunity) ซึ�งตางจากการติดเชื้อโดย
4. Peptide vaccine ธรรมชาติที่มีภูมิคุมกันชั�วคราว การศึกษาพบวาความ
พั ฒ นาจาก HSV-specific T และ B cell หลากหลายของ antigenic protein การใช recombinant
immunodominant epitopes ไดแก LEAPS vaccine protein vaccine และ polytopes (genes representing
(ligand epitope antigen presentation system) มีขอดี antigenic epitopes) ในการผลิต DNA vaccine รวมกับ
เรื่องความปลอดภัย แตมีขอจํากัดในการหา peptide ที่ การใช adjuvant ตลอดจน vector ชนิดใหมๆ สามารถ
กระตุนใหเกิดภูมิคุมกันไดดีที่สุด21 กระตุนการตอบสนองทางภูมิคุมกันไดดีขึ้น การศึกษาใน
5. Heterologous viral vectors expressing ปจจุบันยังคงดําเนินตอและคนพบความรูใหมๆของวิทยา
HSV antigens ภูมิคุมกันในการปองกันการติดเชื้ออยางตอเน��อง ความ
เปนการใชเทคนิค genetic engineering ในการ สามารถในการปองกันการติดเชือ้ ระหวางสายพันธุท ตี่ า งกัน
ประกอบ HSV antigen เขากับ foreign live recombinant (cross protection) ระหวาง HSV-1 และ HSV-2 ยังเปน
viral vector ไดแก vaccinia virus, adenovirus, varicella ประเด็นที่ตองการคําตอบ การกระตุนของภูมิคุมกันโดย
zoster virus (Oka vaccine strain) มีประสิทธิภาพดีใน ระบบอื่นๆไดแก CD8 T-lymphocyte และ natural killer
การปองกันโรคในสัตวทดลอง แตมีขอจํากัดที่สําคัญคือ cell ตลอดจน mucosal และ innate immunity ยังเปน
578 วัคซีน วัคซ�นที่อยู‹ระหว‹างการว�จัย

หัวขอที่ทาทายในการวิจัย คําตอบสุดทายของวัคซีนที่มี Curr Med Res Opin. 2005;21:1577-82.


ประสิทธิภาพทีด่ ที สี่ ดุ อาจตองประกอบดวยทุกอยางขางตน 4. Cunningham AL, Diefenbach RJ, Miranda-
Saksena M. The cycle of human herpes simplex virus
infection: virus transport and immune control. J Infect
Dis. 2006;194(Suppl 1):S11-8.
5. Whitley R, Arvin A, Prober C, Corey L,
Burchett S, Plotkin S, Starr S, et al. Predictors of
morbidity and mortality in neonates with herpes
simplex virus infections. The National Institute of
Allergy and Infectious Diseases Collaborative Antiviral
Study Group. N Eng J Med. 1991;324:450-4.
รูปที่ 1 โครงสรางและองคประกอบของ HSV 6. Kimberlin DW, Lin CY, Jacobs RF, Powell
(จากเอกสารอางอิงหมายเลข 26) DA, Corey L, Gruber WC, et al. Safety and efficacy of
high-dose intravenous acyclovir in the management
of neonatal herpes simplex infections. Pediatrics.
2001;108:230-8.
7. Saral R. Management of mucocutaneous
herpes simplex virus infections in immunocompromised
patients. Am J Med. 2005:95;231-45.
รูปที่ 2 ชนิดของวัคซีนปองกันการติดเชื้อ HSV 8. Snoeck R, De Clercq E. New treatments for
(จากเอกสารอางอิงหมายเลข 2) genital herpes. Curr Opin Infect Dis. 2002;15:49-55.
9. Bernstein DI, Stanberry LR. Herpes simplex
เอกสารอางอิง virus vaccines. Vaccine. 1999;17:1681-9.
1. American Academy of Pediatrics. Herpes 10. Stanberry LR, Cunningham AL, Mindel A, Scott
simplex. In: Pickering LK, editor. 2009 Red Book: LL, Spruance SL, Aoki FY, et al. Prospects for control of
Report of Committee on Infectious Diseases. 28th ed. herpes simplex virus disease through immunization.
Elk Grove Vilage, IL: American Academy of Pediatrics; Clin Infect Dis. 2000;30:549-66.
2009. p.363-73. 11. Stanberry LR, Spruance SL, Cunningham
2. Cunningham AL, Mindel AL, Dwyer AL, Bernstein DI, Mindel A, Sacks S, et al. Glycoprotein-
DE. Global epidemiology of sexually transmitted D-adjuvant vaccine to prevent genital herpes. N Engl
diseases. In: Stanberry LR, Bernstein DI. Sexually J Med. 2002;347:1652-61.
Transmitted Diseases: Vaccines, Prevention 12. Jones CA, Cunningham AL. Vaccination
and Control. London: Academic Press; 2001. strategies to prevent genital herpes and neonatal
p.3-42. herpes simplex virus (HSV) disease. Herpes.
3. Leone P. Reducing the risk of transmitting 2004;11:12-7.
genital herpes: advances in understanding and therapy. 13. Dasgupta G, Chentoufi AA, Nesburn AB,
บทที่ 43 วัคซ�นป‡องกันโรคเร�ม วัคซีน 579

Wechsler SL, BenMohamed L. New concepts in herpes D. DNA immunization against experimental genital
simplex virus vaccine development: notes from herpes simplex virus infection. J Infect Dis.
battlefield. Expert Rev Vaccines. 2009;8:1023-35. 1996;173:800-7.
14. Deprez B, Sauzet JP, Boutillon C, 23. Mertz GJ, Ashley R, Burke RL, Benedetti J,
Martinon F, Tartar A, Sergheraert C, et al. Com- Critchlow C, Jones CC, et al. Double-blind,
parative efficiency of simple lipopeptide constructs placebo-controlled trial of a herpes simplex virus type 2
for in vivo induction of virus-specific CTL. Vaccine. glycoprotein vaccine in persons at high risk for genital
1996;14:375-82. herpes infection. J Infect Dis. 1990;161:653-60.
15. BenMohamed L, Belkaid Y, Loing E, 24. Eo SK, Lee S, Kumaraguru U, Rouse BT.
Brahimi K, Gras-Masse H, Druilhe P. Systemic Immunopotentiation of DNA vaccine against herpes
immune responses induced by mucosal administration simplex virus via co-delivery of plasmid DNA expressing
of lipopeptides without adjuvant. Eur J Immunol. CCR7 ligands. Vaccine. 2001;19:4685-93.
2002;32:2274-81. 25. Cunningham AL, Mikloska ZM. The
16. Koelle DM, Corey L. Recent progress holy grail: immune control of human herpes simplex
in herpes simplex virus immunobiology and vaccine virus infection and disease. Herpes. 2001;8(Suppl 1)
research. Clin Microbiol Rev. 2003;16:96-113. :6A-10A.
17. Hosken NA. Development of a therapeutic 26. Stanberry LR. Clinical trials of prophylactic
vaccine for HSV-2. Vaccine. 2005;23:2395-8. and therapeutic herpes simplex virus vaccines. Herpes.
18. Ashley R, Mertz GJ, Corey L. Detection 2004;11(Suppl 3):161A-9A.
of asymptomatic herpes simplex virus infections after
vaccination. J Virol. 1987;61:264-8.
19. Sedarati F, Javier RT, Stevens JG.
Pathogenesis of a lethal mixed infection in mice with
two non-neuroinvasive herpes simplex virus strains.
J Virol. 1988;62:3037-9.
20. Corey L, Langenberg AG, Ashley
R, Sekulovich RE, Izu AE, Douglas JM Jr, et
al. Recombinant glycoprotein vaccine for the
prevention of genital HSV-2 infection: two
randomized controlled trials. Chiron HSV Vaccine
Study Group. JAMA. 1999;282:331-40.
21. Goel N, Rong Q, Zimmerman D, Rosenthal
KS. A L.E.A.P.S. heteroconjugate vaccine containing
a T cell epitope from HSV-1 glycoprotein D elicits Th1
responses and protection.Vaccine. 2003;21:4410-20.
22. Bourne N, Stanberry L, Bernstein DI, Lew
76 วัคซีน ความรูŒทั่วไปเกี่ยวกับวัคซ�น

You might also like