Download as docx, pdf, or txt
Download as docx, pdf, or txt
You are on page 1of 7

บทสวดพาหุงฯ ที่เราหลายๆคนท่องได้แล้ว และบางคนกำลังหัดท่อง ชื่อเต็มๆมีชื่อว่า "ชัยมงคลคาถา" เป็ นบทสวดมนต์ที่เรียง

เรียงขึ้นถึงเหตุการณ์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราได้ชนะพญามารในช่วงต่างๆ ถึง 8 เหตุการณ์ ตั้งแต่วันตรัสรู้ธรรม จนถึง


เหตุการณ์ผกาพรหม เป็ นต้น ซึ่งตามตำนานนั้น สมเด็จพระนเรศวรมหาราชของเราทรงสวดบทนี้ทุกครั้งเพื่อใช้ในการปกครอง
บ้านเมืองและทำราชการสงคราม เพื่อให้มีชัยเหนืออริราชศัตรู อย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเอาชัยชนะเหนือพญามารผู้ใจ
บาปได้
ในบทที่ 1 เป็ นเหตุการณ์ช่วงผจญมาร ซึ่งมีเรื่องว่าในวันตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระยามารยกพลเสนามาร
ใหญ่หลวงมา พระยามารผู้นิรมิตแขนได้ตั้งพัน ถืออาวุธครบมือ ขี่ช้างชื่อ ครีเมข พร้อมด้วยเสนามารโห่ร้องมา แต่พระสัมมาสัม
พุทธเจ้าก็สามารถเอาชนะพญามารได้ด้วยการระลึกถึงบารมีทั้ง 30 ทัศ ที่ทรงเคยลำเพ็ญมาในอดีต

ในบทที่ 2 เรื่องเล่าว่า มียักษ์ตนหนึ่ง ชื่ออาฬะวกะ เป็ นผู้มีจิตกระด้างและมีกำลังยิ่งกว่าเทวดาทั้งปวง อาฬะวกะยักษ์ผู้มีจิต


กระด้าง ปราศจากความยับยั้ง พยายามเข้ามาประทุษร้ายพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ตลอดรุ่ง แต่พระองค์ก็สามารถปราบทิฏฐิ
ของยักษ์ตนนี้ลงได้

ในบทที่ 3 มีเรื่องว่าเมื่อพระเทวทัตทรยศต่อพระพุทธเจ้า ได้จัดการให้คนปล่อยช้างสาร ที่กำลังตกมันชื่อนาฬาคีรี เป็ นช้าง


เมามัน โหดร้ายเหมือนไฟไหม้ป่ า มีกำลังเหมือนจักราวุธ เพื่อมาทำร้ายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เมื่อช้างมาถึง ด้วยพระบริสุทธิ
คุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ทำให้ช้างนาฬาคีรี ได้สติและทำความเคารพต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ในบทที่ 4 เป็ นเรื่องขององคุลีมาลซึ่งพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี ท่านเทศน์เอาไว้ใน 69 กัณฑ์ อย่างที่เรารู้


กันแพร่หลาย คือ องคุลีมาลนั้นอาจารย์บอกไว้ว่า ถ้าฆ่าคนและตัดนิ้วมือมาร้อยเป็ นสร้อยคอ ให้ได้ครบพัน ก็จะมีฤทธิ์เดชยิ่ง
ใหญ่ องคุลีมาลฆ่าคนและตัดนิ้วมือได้ 999 เหลืออีกนิ้วเดียวจะครบพัน ก็มาพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ก็ทรงสามารถ
ทรมานทิฏฐิองคุลีมาลเลิกเป็ นโจร ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้อมตะวาจาเกิดขึ้น คือ "เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด" และองคุลี
มารโจรก็ได้ออกบวชเป็ นพระอรหันต์ในที่สุด
ในบทที่ 5 หญิงคนหนึ่งมีนามว่า จิญจมาณวิกา ใส่ร้ายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการวางแผนให้ผู้คนเข้าใจผิด โดยในเวลา
เย็นที่ชาวบ้านเดินออกจากวัดเชตวัน นางจืญจมาณวิกา ก็จะเดินเข้าวัดไป และในช่วงเช้าที่ชาวบ้านเข้าวัด ก็จะทำทีเป็ นเดินสวน
ทางออกมา จนระยะเวลาผ่านไปไลานเดือน จึงเอาไม้กลมๆ ใส่เข้าที่ท้องแล้วก็ไปเที่ยวปล่อยข่าวให้เล่าลือว่าตั้งครรภ์กับพระ
สัมมาสัมพุทธพุทธเจ้า ซึ่งก็ทรงเอาชนะด้วยวิธีสงบ ระงับพระทัยในท่ามกลางหมู่คน ให้ความจริงปรากฏแก่คนทั้งหลายว่าเป็ น
เรื่องกล่าวร้ายใส่โทษพระองค์โดยแท้
ในบทที่ 6 เป็ นเรื่องที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเอาชนะสัจจะกะนิครนถ์ ผู้มีนิสัยละทิ้งความสัตย์ใฝ่ ใจจะยกย่องถ้อยคำของ
ตนให้สูงประหนึ่งว่ายกธงเป็ นผู้มืดมัวเมา เป็ นคนเจ้าโวหาร เข้ามาโต้ตอบกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์จีงตรัสเทศนาสั่ง
สอนสัจจะกะนิครนถ์ดังกล่าว

ในบทที่ 7 เป็ นเรื่องที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โปรดให้พระมหาโมคคัลลานะ อัครมหาสาวกไปต่อสู้เอาชนะพญานาคชื่อ นันโท


ปนันทะผู้มีฤทธิ์มาก และมีเล่ห์เหลี่ยมในการต่อสู้มากมาย ซึ่งพระมหาโมคคัลลานะก็ได้ใช้ฤทธิ์เนรมิตกายเป็ นพญานาค ไปปราบ
นนันโทปนันทะนาคราช ผู้มีฤทธิ์มากให้พ่ายแพ้ไป

ในบทที่ 8 เป็ นเรื่องที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเอาชนะ ผกาพรหม ผู้มีทิฏฐิแรงกล้าสำคัญว่าตนเป็ นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด


ประกอบด้วยคุณอันบริสุทธิ์ รู้แจ้งโลก โดยผลัดกันซ่อนผลัดกันหา ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแปลงกายให้เล็กเท่าธุลีแล้วเดิน
จงกรมอยู่บนมวยผมของผกาพรหม ในที่สุดเมื่อผกาพรหมหาไม่พบจึงได้ยอมลดทิฏฐิมานะ และฟั งธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธ
เจ้า

ถวายพรพระ (แปล)
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นซึ่งเป็ นผู้ไกลจากกิเลส เป็ นผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองโดยชอบ
เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นเป็ นผู้ไกลจากกิเลส และตรัสรู้ด้วยพระองค์เองโดยชอบเป็ นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะเป็ นผู้ไปแล้ว
ด้วยดี
เป็ นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้งเป็ นผู้สามารถฝึ กบุรุษที่สมควรฝึ กได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่าเป็ นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็ นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ด้วยธรรม เป็ นผู้มีความเจริญผู้จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ดังนี้.
พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว เป็ นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเองเป็ นสิ่งที่ปฏิบัติได้และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล เป็ นสิ่ง
ที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่าท่านจงมาดูเถิดเป็ นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว เป็ นสิ่งที่ผู้รู้พึงรู้ได้เฉพาะตน ดังนี้
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใดปฏิบัติดีแล้วพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใดปฏิบัติตรงแล้วพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระ
ภาคเจ้าหมู่ใดปฏิบัติธรรมเป็ นเครื่องออกจากทุกข์แล้วพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใดปฏิบัติสมควรแล้วได้แก่ บุคคลเหล่านี้คือ คู่แห่ง
บุรุษ ๔ คู่ นับเรียงตัวบุรุษได้ ๘ บุรุษ นั่นแหละพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ท่านเป็ นผู้ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา เป็ นผู้ควรแก่สักการะ
ที่เขาจัดไว้ต้อนรับเป็ นผู้ควรรับทักษิณาทาน เป็ นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี เป็ นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้
๑.พระจอมมุนี ทรงชนะพญามารผู้เนรมิตแขนมากตั้งพัน ถืออาวุธครบมือ ขี่ช้างครีเมขละ มาพร้อมกับเหล่าเสนามารซึ่งโห่
ร้องกึกก้อง ด้วยธรรมวิธีมีทานบารมี เป็ นต้น,ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
๒.พระจอมมุนี ทรงชนะยักษ์ชื่อ อาฬวกะ ผู้มีจิตหยาบกระด้าง ผู้ไม่มีความอดทนมีความพิลึกน่ากลัวกว่าพญามาร ซึ่งได้เข้า
มาต่อสู้อย่างยิ่งยวดจนตลอดคืนยันรุ่ง ด้วยวิธีทรมานอันดี คือ ขันติ ความอดทน, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่ง
พระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
๓.พระจอมมุนี ทรงชนะช้างตัวประเสริฐชื่อ นาฬาคิรี ที่ตกมันและแสนจะดุร้าย ประดุจไฟป่ าจักราวุธและสายฟ้ า ด้วยวิธีรด
ลงด้วยน้ำ คือ ความมีพระทัยเมตตา, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
๔.พระจอมมุนี ทรงใช้ฤทธิ์ทางใจชนะโจรชื่อ องคุลิมาล ผู้แสนจะดุร้าย มีฝี มือฉกรรจ์ ถือดาบวิ่งไล่พระองค์ไปสิ้นระยะทาง ๓
โยชน์, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
๕.พระจอมมุนี ได้เอาชนะคำกล่าวใส่ร้ายของนางจิญจมาณวิกา ซึ่งทำอาการเหมือนดั่งตั้งครรภ์ เพราะเอาท่อนไม้กลมผูกไว้ที่
หน้าท้อง ด้วยวิธีที่งดงาม คือ ความสงบพระทัยในท่ามกลางมหาชน, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธ
ชัยมงคลนั้นเถิดฯ
๖.พระจอมมุนีทรงรุ่งเรืองด้วยประทีปคือปั ญญาได้ทรงชนะสัจจกนิครนถ์ผู้เป็ นคนมืดบอดมีอัธยาศัยไม่ยอมรับความจริงมีใจ
คิดแต่จะยกตนข่ม, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
๗.พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจอมมุนี ทรงโปรดให้พระโมคคัลลานเถระพุทธชิโนรส ไปปราบนันโทปนันทนาคราช ผู้มีความรู้ผิด มี
ฤทธิ์มาก ด้วยวิธีให้แสดงฤทธิ์ทรมานให้สิ้นฤทธิ์, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
๘.พระจอมมุนี ได้เอาชนะพระพรหมผู้มีนามว่า ท้าวพกาพรหม ผู้มีฤทธิ์ คิดว่าตนเป็ นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์ ผู้ถูก
อสรพิษคือทิฏฐิที่ตนถือผิดรึงรัดไว้ด้วยเทศนาญาณวิธี, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
บุคคลใดมีปั ญญา ไม่เกียจคร้าน สวดและระลึกถึงพระพุทธชัยมงคล ๘ คาถาเหล่านี้ ทุกๆ วัน บุคคลนั้นจะพึงละความจัญไร
อันตรายทั้งหลายทุกอย่างเสียได้ และเข้าถึงความหลุดพ้น คือ พระนิพพานอันบรมสุขฯ

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระผู้ทรงเป็ นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทรงประกอบด้วยพระมหา


กรุณา ทรงบำเพ็ญพระบารมีทั้งปวง เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ ทรงบรรลุพระสัมโพธิญาณ
อันสูงสุด ด้วยการกล่าวสัจจวาจานี้ ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน

ขอท่านจงมีชัยชนะในชัยมงคลพิธี ดุจพระจอมมุนีผู้ยังความปี ติยินดีให้เพิ่มพูนแก่ชาวศากยะ


ทรงมีชัยชนะมาร ณ โคนต้นมหาโพธิ์ทรงถึงความเป็ นเลิศยอดเยี่ยม ทรงปี ติปราโมทย์อยู่เหนืออชิ
ตบัลลังก์อันไม่รู้พ่าย ณ โปกขรปฐพี อันเป็ นที่อภิเษกของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ฉะนั้นเถิด

เวลาที่กำหนดไว้ดี งานมงคลดี รุ่งแจ้งดี ความพยายามดี ชั่วขณะหนึ่งดี ชั่วครู่หนึ่งดี การบูชาดี


แด่พระสงฆ์ผู้บริสุทธิ์ กายกรรมอันเป็ นกุศล วจีกรรมอันเป็ นกุศล มโนกรรมอันเป็ นกุศล ความ
ปรารถนาดีอันเป็ นกุศล ผู้ได้ประพฤติกรรมอันเป็ นกุศล ย่อมประสบความสุขโชคดี เทอญ

ขอสรรพมงคลจงมีแก่ท่าน ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาท่าน ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า


ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ท่านทุกเมื่อ

ขอสรรพมงคลจงมีแก่ท่าน ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาท่าน ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ขอ


ความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ท่านทุกเมื่อ

ขอสรรพมงคลจงมีแก่ท่าน ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาท่าน ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ ขอ


ความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ท่านทุกเมื่อ

You might also like