Professional Documents
Culture Documents
Thai Oplot-T MBT
Thai Oplot-T MBT
ปรัชญา รร.ม.ศม.
“ฝึกอบรมวิชาการทหาร วิทยาการทันสมัย ธำรงไว้ซึ่งคุณธรรม”
ปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจ วัตถุประสงค์การดำเนินงานของสถานศึกษา เอกลักษณ์ อัตลักษณ์
๑. ปรัชญา
ทหารม้าเป็นทหารเหล่าหนึ่งในกองทั พบก ที่ใช้ม้าหรือสิ่งกำเนิดความเร็วอื่น ๆ เป็นพาหนะ เป็นเหล่าที่มีความสำคัญ และ
จำเป็นเหล่าหนึ่ง สำหรับกองทหารขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับเหล่าทหารอื่น ๆ โดยมีคุ ณ ลักษณะที่มีความคล่องแคล่ว
รวดเร็วในการเคลื่อนที่ อำนาจการยิงรุนแรง และอำนาจในการทำลายและข่มขวัญ อันเป็นคุณลักษณะที่สำคัญและ
จำเป็นของเหล่า โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า มีปรัชญาดังนี้
“ฝึกอบรมวิชาการทหาร วิทยาการทันสมัย ธำรงไว้ซึ่งคุณธรรม”
๒. วิสัยทัศน์
“โรงเรี ย นทหารม้ า ศู น ย์ ก ารทหารม้ า เป็ น ศู น ย์ ก ลางการเรี ย นรู้ วิ ช าการเหล่ า ทหารม้ า ที่ ทั น สมั ย
ผลิตกำลังพลของเหล่าทหารม้า ให้มีลักษณะทางทหารที่ดี มีคุณธรรม เพื่อเป็นกำลังหลักของกองทัพบก”
๓. พันธกิจ
๓.๑ วิจัยและพัฒนาระบบการศึกษา
๓.๒ พัฒนาคุณภาพครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
๓.๓ จัดการฝึกอบรมทางวิชาการเหล่าทหารม้า และเหล่าอื่นๆ ตามนโยบายของกองทัพบก
๓.๔ ผลิตกำลังพลของเหล่าทหารม้า ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
๓.๕ พัฒนาสื่อการเรียนการสอน เอกสาร ตำราของโรงเรียนทหารม้า
๓.๖ ปกครองบังคับบัญชากำลังพลของหน่วย และผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรต่างๆ ให้อยู่บนพื้นฐานคุณธรรม
จริยธรรม
๔. วัตถุประสงค์ของสถานศึกษา
๔.๑ เพื่อพัฒนาครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ให้กับผู้เข้า
รับการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๔.๒ เพื่อพัฒนาระบบการศึกษา และจัดการเรียนการสอนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
๔.๓ เพื่อดำเนินการฝึกศึกษา ให้กับนายทหารชั้นประทวน ที่โรงเรียนทหารม้าผลิต และกำลังพลที่เข้ารับการศึกษา
ให้มีความรู้ความสามารถตามที่หน่วย และกองทัพบกต้องการ
๔.๔ เพื่อพัฒนาระบบการบริหาร และการจัดการทรัพยากรสนับสนุนการเรียนรู้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
๔.๕ เพื่อพัฒนาปรับปรุงสื่อการเรียนการสอน เอกสาร ตำรา ให้มีความทันสมัยในการฝึกศึกษาอย่างต่อเนือ่ ง
๔.๖ เพื่ อ พั ฒ นา วิ จั ย และให้ บ ริ ก ารทางวิ ช าการ ประสานความร่ ว มมื อ สร้ า งเครื อ ข่ า ยทางวิ ช าการกั บ
สถาบันการศึกษา หน่วยงานอื่นๆ รวมทั้งการทำนุบำรุงศิลปวัฒธรรม
๕. เอกลักษณ์
“เป็ น ศู น ย์ ก ลางแห่ ง การเรี ย นรู้ ท างวิ ช าการ และผลิ ต กำลั ง พลเหล่ า ทหารม้ า อย่ า งมี คุ ณ ภาพเป็ น การ
เพิ่มอำนาจกำลังรบของกองทัพบก”
๖. อัตลักษณ์
“เด่นสง่าบนหลังม้า เก่งกล้าบนยานรบ”
คำนำ
เพื่อให้การฝึกสอน ขยายผล รถถัง BM OPLOT-T ให้กับกำลังพล ม.พัน.2 พล.ร. 2 รอ. เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
สมความมุ่งหมายของกองทัพบก โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า จึงได้จัดทำคู่มือช่างซ่อมบำรุงยานยนต์สายพาน
รถถัง BM OPLOT-T ขึ้นมาไว้ประกอบการสอน และให้หน่วยนำเป็นหลักฐานในการนำไปใช้ คู่มือเล่มนี้ได้แปลจาก
เอกสาร TANK BM OPLOT-T OPERATIONS MANUAL Part one 478DU9-T RE และ Part three 478DU9-T RE2
ของบริษัท KMDB ประเทศยูเครน ผู้แปลและเรียบเรียง ได้แก่ พ.อ.นพดล สุวรรณโชติ ประจำ ศม. ชรก. แผนกวิชาหลัก
ยิงและตรวจการณ์ กศ.รร.ม.ศม. แปล บทที่ 5,6,9,10,11,12 และ 13, พ.อ.นิติพัฒน์ รอดวงษ์ อจ.หน.วิชายานยนต์
กศ.รร.สพ.สพ.ทบ. แปล บทที่ 1,2 และ 3, พ.ท.อดิศักดิ์ เขียวอ่อ น อจ.แผนกวิชาอาวุธ กศ.รร.ม.ศม. แปล บทที่ 14
และ ร.ต.ดิษพงษ์ วรรณสินธพ ผบ.มว.ถ.ม.พัน.2 พล.ร.2 รอ. แปล บทที่ 4,7และ 8 โดยมี พ.อ.วันชาติ ผลไพบูลย์
ผอ.กศ.รร.ม.ศม. , พ.อ.บงกช อนันตพงษ์ อจ.หน.วิชายานยนต์ กศ.รร.ม.ศม., พ.อ.สุรเดช ชาเสน อจ.หน.วิช าหลัก
ยิงและตรวจการณ์ กศ.รร.ม.ศม. และ พ.อ.จิรวัฒน์ แก้วรุ่งโรจน์ อจ.หน.วิชาอาวุธ กศ.รร.ม.ศม. เป็นผู้ให้คำแนะนำ
และกำกับดูแล
พ.อ.
(ธนภูมิ วทัญญู)
รอง ผบ.รร.ม.ศม. ทำการแทน
ผบ.รร.ม.ศม.
สารบัญ
1. เครื่องกำเนิดกำลัง ................................................................................................................................................. 1-1
1.1 กล่าวทั่วไป ..................................................................................................................................................... 1-1
1.2 เครื่องยนต์ ...................................................................................................................................................... 1-1
1.3 ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง .............................................................................................................................. 1-2
1.3.1 ถังน้ำมันเชื้อเพลิง ............................................................................................................................... 1-4
1.3.2 ถังแยกอากาศออกจากน้ำมันเชื้อเพลิง ............................................................................................... 1-4
1.3.3 ถังถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ........................................................................................................................ 1-5
1.3.4 มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง ...................................................................................................................... 1-5
1.3.5 คันปิด – เปิดเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ................................................................................................. 1-5
1.3.6 ลิ้นกันน้ำมันเชื้อเพลิงไหลกลับ ........................................................................................................... 1-7
1.3.7 กรองน้ำมันเชื้อเพลิง .......................................................................................................................... 1-7
1.3.8 ปัม้ ป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง ...................................................................................................................... 1-8
1.3.9 ปัม้ น้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง .............................................................................................................. 1-8
1.3.10 หัวฉีด ................................................................................................................................................ 1-9
1.3.11 กลไกควบคุมการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง .............................................................................................. 1-9
1.3.12 คันเปิด-ปิดเลือกตำแหน่งจำกัดการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขับ ............................................ 1-11
1.3.13 เครื่องมือที่ใช้ในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง ........................................................................................... 1-12
1.3.14 หลักการทำงานของระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ................................................................................. 1-13
1.4 ระบบจ่ายลม ................................................................................................................................................. 1-14
1.4.1 กรองอากาศ ....................................................................................................................................... 1-14
1.4.2 หลักการทำงานของระบบจ่ายลม ....................................................................................................... 1-17
1.4.3 หลักการทำงานของระบบจ่ายลมในขณะลุยข้ามน้ำลึกและการขับรถใต้น้ำ ....................................... 1-17
1.4.4 ระบบแจ้งเตือนสำหรับความต้านทานที่ปิดกั้นระบบการป้อนลมให้เครื่องยนต์ ................................. 1-19
1.5 ระบบหล่อลื่น ................................................................................................................................................ 1-20
1.5.1 ถังน้ำมันหล่อลื่น ................................................................................................................................. 1-21
1.5.2 ปัม้ เพิ่มกำลังแรงดันน้ำมันหล่อลื่น ..................................................................................................... 1-21
1.5.3 การปั้มสูบป้อนน้ำมันหล่อลื่น ............................................................................................................. 1-21
1.5.4 กรองน้ำมันหล่อลื่นแบบแรงเหวี่ยง .................................................................................................... 1-22
1.5.5 เครื่องระบายความร้อนน้ำมันหล่อลืน่ ................................................................................................ 1-23
1.5.6 มาตรวัดระดับน้ำมันหล่อลื่น .............................................................................................................. 1-23
1.5.7 เครื่องวัดแสดงแรงดันน้ำมันหล่อลื่นต่ำสุด ......................................................................................... 1-24
1.5.8 หลักการทำงานของระบบหล่อลื่น ...................................................................................................... 1-24
1.6 ระบบระบายความร้อน .................................................................................................................................. 1-25
1.6.1 หม้อน้ำรังผึ้ง ....................................................................................................................................... 1-26
1.6.2 ถังรับน้ำล้น ......................................................................................................................................... 1-27
1.6.3 ลิ้นรักษาแรงดัน ................................................................................................................................ 1-27
1.6.4 ปัม้ น้ำ .................................................................................................................................................. 1-28
1.6.5 ตัวส่งสัญญาณวัดระดับสารระบายความร้อน ..................................................................................... 1-28
1.6.6 ตัวส่งสัญญาณวัดอุณหภูมิสารระบายความร้อนสูงสุด ........................................................................ 1-28
1.6.7 ลิ้นช่องทางลัดระบายแก๊สไอเสีย ........................................................................................................ 1-28
1.6.8 หลักการทำงานของระบบระบายความร้อน ....................................................................................... 1-29
1.6.9 ตัวส่งสัญญาณกระตุ้นการทำงานของพัดลมเครื่องทำความร้อนและปั้มน้ำเครื่องทำความร้อน .......... 1-30
1.7 ระบบนำเอาแก๊สไอเสียจากการเผาไหม้มาใช้งาน .......................................................................................... 1-30
1.8 ระบบอุ่นทำความร้อน ................................................................................................................................... 1-31
1.8.1 เครื่องทำความร้อน ............................................................................................................................ 1-32
1.8.2 หลักการทำงานของระบบอุ่นทำความร้อน ........................................................................................ 1-32
1.8.3 การทำความร้อนในห้องพลประจำรถ ................................................................................................ 1-33
1.9 ระบบลม ........................................................................................................................................................ 1-33
1.9.1 ระบบการสตาร์ทติดเครื่องยนต์ด้วยลม .............................................................................................. 1-36
1.9.2 อุปกรณ์หมุนผลิตลม .......................................................................................................................... 1-36
1.9.3 ระบบการฉีดพ่นทำความร้อนอย่างอัตโนมัติและการฉีดน้ำมันหล่อลื่น ............................................... 1-37
1.9.4 หลักการทำงานของระบบลม ............................................................................................................. 1-40
1.10 ระบบป้องกันระบบเครื่องยนต์ .................................................................................................................... 1-41
1.10.1 หลักการทำงานของระบบป้องกันระบบเครื่องยนต์ ........................................................................ 1-43
1.11 เครื่องยนต์ช่วย EA-10-1 ........................................................................................................................... 1-44
1.11.1 กล่าวทัว่ ไป ....................................................................................................................................... 1-44
1.11.2 เครื่องยนต์ดีเซล รายการ 468 -1 .................................................................................................... 1-45
1.11.3 เครื่องกำเนิดไฟ – มอเตอร์สตาร์ทติดเครื่องยนต์ ............................................................................ 1-47
1.11.4 ระบบระบายความร้อน EA-10-1 ................................................................................................... 1-48
1.11.5 ระบบหล่อลื่น EA-10-1 .................................................................................................................. 1-50
1.11.6 ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง EA-10-1 ...................................................................................................... 1-53
1.1.7 ระบบจ่ายลม EA-10-1 ..................................................................................................................... 1-55
1.11.8 ระบบไอเสีย EA-10-1 .................................................................................................................... 1-56
1.11.9 ระบบควบคุมและการตรวจสอบ EA-10-1 ..................................................................................... 1-57
2. การขับเคลื่อนตัวรถ ............................................................................................................................................... 2-1
2.1 ชุดหน่วยขับดันสายพาน ................................................................................................................................ 2-1
2.1.1 สายพาน .............................................................................................................................................. 2-1
2.1.2 ล้อขับสายพาน ................................................................................................................................... 2-2
2.1.3 ล้อกดสายพาน ................................................................................................................................... 2-2
2.1.4 ล้อรับสายพาน ................................................................................................................................... 2-3
2.1.5 ล้อปรับสายพาน ................................................................................................................................. 2-4
2.1.6 ตัวจัดปรับความตึงสายพาน ............................................................................................................... 2-4
2.2 การขับเครื่องวัดความเร็วรอบและชุดหน่วยส่งสัญญาณความเร็ว................................................................... 2-4
2.2.1 การขับเครื่องวัดความเร็วรอบ ............................................................................................................ 2-4
2.2.2 การขับชุดหน่วยส่งสัญญาณความเร็ว ................................................................................................ 2-5
2.3 ระบบรองรับน้ำหนัก ...................................................................................................................................... 2-6
2.3.1 ชุดการพยุงตัวรถ ................................................................................................................................ 2-6
2.3.2 เครื่องผ่อนอาการสะเทือน ................................................................................................................. 2-7
3. อุปกรณ์ไฟฟ้าในตัวรถ ........................................................................................................................................... 3-1
3.1 แหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า ................................................................................................................................ 3-7
3.1.1 ชุดเครื่องกำเนิดไฟ – สตาร์ทติดเครื่องยนต์ ....................................................................................... 3-8
3.1.2 แบตเตอรี่............................................................................................................................................. 3-14
3.2 การใช้พลังงานไฟฟ้า ...................................................................................................................................... 3-15
3.2.1 กลไกของการส่องสว่างภายนอก ........................................................................................................ 3-16
3.2.2 พัดลม และไฟส่องสว่างภายใน .......................................................................................................... 3-17
3.2.3 การใช้สญ ั ญาณไฟขับรถบนถนน ........................................................................................................ 3-18
3.2.4 สัญญาณแจ้งเตือนแสดงที่แผงเครื่องวัด ............................................................................................ 3-19
3.3 กลไกช่วยอุปกรณ์ไฟฟ้า .............................................................................................................................. 3-21
3.3.1 วงแหวนเลื่อนต่อวงจรไฟฟ้าป้อมปืน .................................................................................................. 3-21
3.3.2 แผงเครือ่ งวัดห้องพลขับ ..................................................................................................................... 3-21
3.3.3 ชุดหน่วย BK712M1-P-1T ................................................................................................................ 3-23
3.3.4 เครื่องมือวัดที่แผงเครื่องวัด ................................................................................................................ 3-24
3.3.5 การควบคุมข้อมูลที่แผงเครื่องวัด ....................................................................................................... 3-24
3.3.6 สถานะภาพการใช้งาน 1BUD – T ที่แผงเครื่องวัด ......................................................................................... 3-32
3.3.7 แผงเครือ่ งวัดควบคุมชุดหน่วยกำลังทำความร้อนอัตโนมัติและการฉีดน้ำมันหล่อลื่น...........................3-34
3.3.8 แผงเครือ่ งวัดเครื่องปรับอากาศ .......................................................................................................... 3-35
3.3.9 ชุดหน่วยกำลัง .................................................................................................................................... 3-37
3.3.10 บอร์ดการจ่ายกำลังไฟ ..................................................................................................................... 3-38
3.3.11 สายไฟรับสัญญาณ ,ขัว้ ไฟต่าง ๆและปลั๊กต่อไฟ .............................................................................. 3-39
3.4 หลักการทำงานของระบบจ่ายพลังงาน .......................................................................................................... 3-41
3.4.1 หลักการทำงานของระบบจ่ายพลังงานด้วยเครื่องยนต์หลัก ............................................................... 3-41
3.4.2 หลักการทำงานของระบบจ่ายพลังงานด้วยเครื่องยนต์ช่วย (APU) .................................................... 3-41
4. ระบบป้องกัน นชค. ............................................................................................................................................... 4-1
4.1 อุปกรณ์ตรวจจับรังสีและสารเคมี PRHR-M1 (RCAD).................................................................................... 4-2
4.1.1 แผงมาตรวัด B-1................................................................................................................................. 4-2
4.1.2 B-2 เซนเซอร์....................................................................................................................................... 4-4
4.1.3 แหล่งพลังงาน หน่วย B-3.................................................................................................................... 4-6
4.1.4 อุปกรณ์นำอากาศเข้า.......................................................................................................................... 4-6
4.2 อุปกรณ์ดบั เพลิงอัตโนมัติ B709 ..................................................................................................................... 4-7
4.3 แผงควบคุมและส่งสัญญาณอุปกรณ์ดับเพลิง P708 ....................................................................................... 4-8
4.4 กล่องควบคุมพัดลมระบายอากาศหน่วยกรองอากาศ KUV 401................................................................... 4-9
4.5 หน่วยกรองอากาศ......................................................................................................................................... 4-9
4.6 มาตรวัดความดันเกิน......................................................................................................................................4-11
4.7 เซนเซอร์ตรวจจับด้วยแสง............................................................................................................................. 4-12
4.8 เซนเซอร์ตรวจจับด้วยความร้อน ..................................................................................................................... 4-12
4.9 ถังดับเพลิง...................................................................................................................................................... 4-12
4.10 ตัวกระตุ้น..................................................................................................................................................... 4-13
4.11 ถังดับเพลิงเคลื่อนที่...................................................................................................................................... 4-14
4.12 การทำงานของระบบป้องกัน นชค............................................................................................................... 4-14
4.12.1 ระบบทำงานโดยคำสั่งสัญญาณ “NUC”'……………………………………………………………………......... 4-14
4.12.2 ระบบทำงานโดยได้รับคำสั่งสัญญาณ “RAD”.............................................................................. 4-14
4.12.3 ระบบทำงานโดยได้รับคำสั่งสัญญาณ “TOX”'……………………………………………………………..........4-14
4.12.4 ระบบทำงานเมื่อได้รับคำสั่งสัญญาณ “FIRE”.............................................................................. 4-15
4.12.5 การทำงานของระบบเมื่อได้รับสัญญาณคำสั่ง “FIRE” ในขณะทีข่ บั รถถังลุยข้ามน้ำลึก............... 4-16
4.12.6 การทำงานของระบบในกรณีสัญญาณทับซ้อนกัน........................................................................ 4-16
5. เครื่องปรับอากาศ ................................................................................................................................................... 5-1
5.1 วัตถุประสงค์ในการใช้เครื่องปรับอากาศ......................................................................................................... 5-1
5.2 ส่วนประกอบและการจัดเตรียมเครื่องปรับอากาศ.......................................................................................... 5-1
5.2.1 คอมเพรสเซอร์ – คอนเดนเซอร์ .......................................................................................................... 5-3
5.2.2 หีบควบคุมอากาศ................................................................................................................................ 5-4
5.2.3 ท่อนำความเย็น ................................................................................................................................... 5-6
5.3 การใช้งานเครื่องปรับอากาศ ........................................................................................................................... 5-6
6. ตัวรถและป้อมปืน ................................................................................................................................................... 6-1
6.1 แผ่นเกราะปฏิกิริยา......................................................................................................................................... 6-1
6.1.1 กฎในการจับถือแผ่นเกราะปฏิกิริยา .................................................................................................... 6-1
6.1.2 การติดตั้งแผ่นเกราะบนป้อมปืน.......................................................................................................... 6-3
6.1.3. การติดตั้งแผ่นเกราะ ERAE บนตัวรถ................................................................................................. 6-5
6.1.4 การถอดแผ่นเกราะ ERAE จากตัวรถและป้อมปืน............................................................................... 6-12
6.2 อุปกรณ์ในตัวรถและป้อมปืน .......................................................................................................................... 6-13
6.2.1 อุปกรณ์ในตัวรถและป้อมปืน ............................................................................................................... 6-13
6.2.2 การเปิดและการปิดฝาปิดช่องทางเข้า-ออกห้องพลขับจากด้านในรถถัง ............................................. 6-14
6.2.3 การทำความสะอาดเครื่องกลไกยกฝาปิดห้องพลขับ ........................................................................... 6-15
6.2.4 การใช้ช่องทางออกฉุกเฉิน ................................................................................................................... 6-16
6.2.5 การเปิดแผ่นปิดดาดฟ้าเหนือห้องเครื่องกำเนิดกำลัง ........................................................................... 6-17
6.2.6 การใช้งานที่นั่งพลขับ .......................................................................................................................... 6-23
6.2.7 การขึ้นรถหรือลงรถของพลขับเมื่อติดตั้งอุปกรณ์ IP -5 สิ่งอุปกรณ์ L-1 ใช้งาน.................................. 6-25
6.2.8 การใช้ฝาครอบป้องกันและหีบควบคุมของพลขับ ............................................................................... 6-25
6.2.9 การเปิดและปิดฝาปิดช่องทางเข้า-ออกป้อมปืน .................................................................................. 6-26
6.2.10 การใช้ตัวล็อคป้อมปืน ....................................................................................................................... 6-27
6.2.11 การหล่อลื่นรางหมุนป้อมปืนและเครือ่ งกลไกล็อคป้อมปืน ............................................................... 6-28
7. กฎและขั้นตอนการปฏิบัติสำหรับใช้อุปกรณ์สร้างที่กำบังตนเอง ............................................................................ 7-1
7.1 การเตรียมอุปกรณ์สำหรับใช้งาน .................................................................................................................... 7-1
7.2 การสร้างที่กำบังตนเอง ................................................................................................................................... 7-2
8. การขับรถถัง............................................................................................................................................................ 8-1
8.1 มาตรการรักษาความปลอดภัยและคำแนะนำทั่วไป ........................................................................................ 8-1
8.2 การติดเครือ่ งยนต์, การอุ่นเครื่องยนต์ และการดับเครื่องยนต์ ....................................................................... 8-3
8.2.1 การเตรียมการทั่วไปสำหรับติดเครื่องยนต์ในแบบอัตโนมัติและติดเครื่องยนต์ด้วยตนเอง ..................... 8-3
8.2.2 การติดเครื่องยนต์ด้วยไฟฟ้า................................................................................................................... 8-7
8.2.3 การติดเครื่องยนต์ด้วยลม ....................................................................................................................... 8-8
8.2.4 การติดเครื่องยนต์แบบผสม ................................................................................................................. 8-9
8.2.5 การติดเครื่องยนต์จากรถถังคันอื่น....................................................................................................... 8-9
8.2.6 การติดเครื่องยนต์ด้วยการพ่วงลาก ..................................................................................................... 8-10
8.2.7 ติดเครื่องยนต์ด้วยน้ำมันที่มีความหนืดต่ำ M-8B2C ............................................................................. 8-11
8.3 การอุ่นเครื่องยนต์ ........................................................................................................................................... 8-14
8.4 การติดเครือ่ งยนต์รถถังอยู่กับที่ ...................................................................................................................... 8-14
8.5 การควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และเครื่องเปลี่ยนความเร็ว .................................................................. 8-15
8.6 การดับเครื่องยนต์ ........................................................................................................................................... 8-16
9. คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญในการใช้รถถังปฏิบัติการภายใต้สภาวะฤดูร้อนและฤดูหนาว ....................................... 9-1
9.1 คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญในการใช้รถถังปฏิบัติการในสภาวะฤดูร้อน ........................................................... 9-1
9.1.1 การเตรียมการรถถังเพื่อปฏิบัติการภายใต้สภาวะฤดูร้อน ...................................................................... 9-1
9.1.2 วิธีการใช้งานรถถังภายใต้สภาวะฤดูร้อน ................................................................................................ 9-2
9.2 คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญในการใช้รถถังปฏิบัตกิ ารภายใต้สภาวะฤดูหนาว .................................................. 9-2
9.2.1 การเตรียมรถถังเพื่อปฏิบัติการภายใต้สภาวะฤดูหนาว .......................................................................... 9-3
9.2.2 วิธีการใช้งานรถถังภายใต้สภาวะฤดูหนาว.............................................................................................. 9-4
10. การปรนนิบัติบำรุงรถถังทางเทคนิค ..................................................................................................................... 10-1
10.1 ข้อระมัดระวังความปลอดภัย ........................................................................................................................ 10-1
10.2 แบบและห้วงระยะเวลาในการปรนนิบัติบำรุงทางเทคนิค ............................................................................ 10-2
10.3 คำแนะนำทั่วไป ............................................................................................................................................ 10-3
10.4 ขอบเขตของแบบการปรนนิบัติบำรุงที่ต่างกัน .............................................................................................. 10-4
10.4.1 การตรวจก่อนนำรถถังออกจากโรงเก็บรถ ........................................................................................... 10-4
10.4.2 การตรวจระหว่างหยุดพักชั่วขณะ ........................................................................................................ 10-8
10.4.3 การตรวจก่อนทำการยิงและหลังทำการยิง .................................................................................. 10-10
10.4.4 การปรนนิบัติบำรุงทางเทคนิคประจำวัน, การปรนนิบัติบำรุ่งหมายเลข 1 และหมายเลข 2 .........10-14
10.4.5 การปรนนิบัติบำรุงทางเทคนิคตามฤดูกาล................................................................................... 10-35
11. การหล่อลื่นเครื่องกลไกของรถถัง ......................................................................................................................... 11-1
11.1 คำแนะนำในการหล่อลืน่ ทั่วไป ................................................................................................................... 11-1
11.2 น้ำมันเชื้อเพลิง, น้ำมันหล่อลื่นและของเหลวชนิดพิเศษ…………………………………………………………………. 11-1
12. ตารางสรุปการจัดปรับค่าตัวแปรในการทำงาน .................................................................................................... 12-1
13. ชุดอุปกรณ์เครื่องมือและอะไหล่และความมุ่งหมาย ............................................................................................. 13-1
13.1 ชุดอุปกรณ์เครื่องมือและอะไหล่ประจำรถ ................................................................................................. 13-1
13.2 ชุดอุปกรณ์เครื่องมือและอะไหล่ประจำหน่วย............................................................................................ 13-1
13.3 แผนการบรรทุกชุดอุปกรณ์เครื่องมือและอะไหล่ และมาตรฐานของอุปกรณ์ ............................................ 13-1
13.4 การจัดเก็บสายเคเบิลลากจูง ...................................................................................................................... 13-5
14. การติดตั้งและการใช้งานชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด KMT-6……………………………………………………….…………………. 14-1
14.1 ความมุ่งหมาย …………………………………………………………………………………………………………………. 14-1
14.2 ข้อควรระมัดระวังความปลอดภัยเมือ่ ใช้งานชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด………………………………………….…. 14-1
14.3 การติดตั้งชุดกวาดล้างทุ่นระเบิดบนรถถัง……………………………..………………………………………………. 14-2
14.4 กล่องเครื่องมือ………………………………………………………………………. ……………………………………………..14-24
บทที่ 1 เครื่องกำเนิดกำลัง ( POWER PACK )
1.1 กล่าวทั่วไป ( General )
เครื่ อ งกำเนิ ด กำลั งเป็ น ระบบหนึ่ งที่ เกิ ด ขึ้ น จากการรวมกั น ของ องค์ ป ระกอบต่ า ง ๆ ซึ่ งประกอบไปด้ ว ย
เครื่องยนต์ และ ระบบต่าง ๆที่ช่วยทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ ดังนี้. - ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง,ระบบจ่ายลม, ระบบหล่อ
ลื่น,ระบบระบายความร้อน ,ระบบอากาศและการทำความร้อน
1.2 เครื่องยนต์ ( Engine )
อุปกรณ์กำเนิดกำลังที่ถูกนำมาใช้ในรถถังได้แก่เครื่องยนต์ดีเซลซึ่งใช้น้ำมันได้หลากหลายชนิด ( multi fuel ) 6
กระบอกสูบ 2 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยของเหลว ติดตั้งระบบ เทอร์โบ – ซุปเปอร์ชาร์ทเจอร์
( turbo – supercharging ) และมีเพลาส่งกำลังออกทั้ง 2 ด้าน
เครื่องยนต์จะประกอบด้วย เรือนสูบ, เพลาข้อเหวี่ยง, อ่างข้อเหวี่ยง, กระบอกสูบ, กลไกบังคับเลือกเกียร์,เครื่อง
อัดลม, ตัวเรือนแก๊สเทอร์ไบน์และชุดหน่วยองค์ประกอบอื่น ๆที่ติดตั้ง ร่วมกันดังนี้ : เครื่องกำเนิดไฟ –มอเตอร์สตาร์ทติด
เครื่องยนต์, ปั้มน้ำ, เครื่องอัดอากาศ TK 150, เครื่องควบคุมเครื่องกำเนิดไฟ, ปั้มเพิ่มกำลังน้ำมันเชื้อเพลิง, กรองน้ำมัน
เชื้อเพลิง, ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง, กรองน้ำมันหล่อลื่นแบบแรงเหวี่ยง
( Centrifugal oil filter), ปั้มจ่ายลม และองค์ประกอบอื่น ๆ
กระบอกสูบของเครื่องยนต์ถูกจัดวางแบบนอนตามขวาง และแต่ละกระบอกสูบได้จะทำเป็นช่องทางไว้หลายช่อง
เพื่อให้ไอดีไหลเข้าและให้ไอเสียไหลออก ที่ช่องไอดีไหลเข้าสร้างไว้โดยการเจาะรูกระบอกสูบให้อากาศไหลเข้าภายใน
กระบอกสูบได้ ส่วนช่องไอเสียมีไว้เพื่อให้แก๊สที่ถูกเผาไหม้ไหลออกจากกระบอกสูบ แก๊สไอเสียจากกระบอกสูบที่เกิดจาก
การเผาไหม้แล้วจะถูกส่งไปยังท่อร่วมไอเสียและไหลผ่านออกทางแก๊สเทอร์ไบน์
ในแต่ละกระบอกสูบจะมีลูกสูบ 2 สูบ ซึ่งหัวลูกสูบจะวางนอนตรงข้ามกันเพื่อทำหน้า ที่เป็นห้องเผาไหม้ในเวลาที่
ลูกสูบทั้ง 2 ข้างเคลื่อนที่เข้าหากันมากที่สุด
แต่ละลูกสูบ จะยึดติดกับเพลาข้อเหวี่ยงด้วยก้านสูบ ในระหว่างที่มีการเคลื่อนที่ในทำนองเดียวกัน ลูกสูบจะมี
หน้าที่เปิดและปิดช่องไอดีและช่องไอเสียด้วยการทำงานของกลไกจ่ายลม
ปั้มอัดลมใช้เป็นตัวอัดลมจ่ายเข้าไปในกระบอกสูบ ซึ่งการผลิตและจ่ายลมให้ในแต่ละกระบอกสูบด้วยปั้มอัดลมนี้
จะทำให้สามารถเพิ่มปริมาณอากาศที่เข้าไปในกระบอกสูบได้เป็นจำนวนมากและทำให้กำลังงานของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น
ตามไปด้วย
แก๊สเทอร์ไบน์ จะมีหน้าที่เปลี่ยนแปลงพลังงานความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้กลายเป็นพลังงานกลและใช้
พลังงานของแก๊สไอเสียมาขับปั้มอัดลม
เครื่องยนต์ติดตั้งอยู่กับแท่นรองรับเครื่องยนต์ ซึ่งแท่นรองรับเครื่องยนต์นี้ ไม่ต้องมีการจัดปรับตั้งศูนย์ แกนเพลา
ข้อเหวี่ยงเครื่องยนต์จะวางขวางอยู่โดยตรงกับแนวแกนตามยาวของรถถัง
เครื่องยนต์มีจุดวางยึดติดแน่นกับตัวรถอยู่ 3 จุด คือ ที่ปลอกรองรับด้านหลัง 2 จุด และที่ฝาประกับรองรับ
ด้านหน้า 1 จุด
1.3 ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ( Fuel Supply System )
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ( รูป 1.1 ) ประกอบด้วย ถังน้ำมันเชื้อเพลิง , ถังถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง , สวิทช์เลือกใช้
น้ำมันเชื้อเพลิง , สวิทช์ตัดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงถังใน , ปั้มเพิ่มกำลังน้ำมันเชื้อเพลิง , กรองน้ำมันเชื้อเพลิงเบื้องต้น , กรอง
หยาบ , กรองละเอียด , ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแก๊สโซลีนแบบแรงเหวี่ยง ( FP ) , ปั้มป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมสวิทช์, ถังแยก
อากาศออกจากน้ำมันเชื้อเพลิง , ลิ้นระบายแรงดัน , มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง ,ท่อทางต่าง ๆ
1,3,7,13 ถังน้ำมั นเชื้อเพลิ งถังใน , 2 คัน โยกสูบ ป้อนน้ำมัน เชื้อเพลิง 4 ถังน้ำมันเชื้อเพลิงบนช่องเก็บบรรจุ
กระสุน 5 ถังระบายถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง 6 ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ช่วย 8 กรองน้ำมันเชื้อเพลิงละเอียด 9 ถัง
แยกอากาศออกจากน้ำมันเชื้อเพลิงในถัง 10 ลิ้นกันน้ำมันเชื้อเพลิงไหลกลับ 11 กรองน้ำมันเชื้อเพลิงหยาบ 12 ปั้มป้อน
น้ำมันเชื้อเพลิง ( 896X ) 14 คันเปิด – ปิดเลือกใช้นำ้ มันเชื้อเพลิงถังนอก 15 ถังน้ำมันเชื้อเพลิงชุดนอก 16 คันปิด – เปิด
เลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 17 คันปิด – เปิด กรองน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องทำความร้อน
รูป 1.1 ผังแสดงระบบน้ำมันเชื้อเพลิง
น้ำมันเชื้อเพลิงที่นำมาใช้จ่ายให้กับเครื่องยนต์จะถูกบรรจุอยู่ในถังน้ำมันเชื้อเพลิงหลายถังซึ่งมีความจุ
น้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมดจำนวน 1,160 ลิตร
ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับเครื่องยนต์ได้จากกลุ่มถังน้ำมันเชื้อเพลิงต่าง ๆที่แยกกัน
อยู่แต่ละส่วนในตัวรถถังพร้อมกันกับกลุ่มถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ภายนอกรถถัง
ระบบน้ำมั นเชื้อเพลิ งสามารถจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับเครื่องยนต์ช่วยได้ด้วยการต่อสายปลดเร็วที่ติดตั้งไว้
ด้านบนกล่อง caterpillar เข้ากับท่อทางน้ำมันเชื้อเพลิงด้านข้างของกล่อง
การเติมน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถกระทำได้จากจุดเติมเพียงจุดเดียวโดยกระทำการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเหมือนกับ
การใช้ปั้มเติมน้ำมันเชื้อเพลิง
1.3.1 ถังน้ำมันเชื้อเพลิง ( Fuel Tanks )
ถังน้ามันเชื้อเพลิงใช้เป็นที่เก็บบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิง ถังน้ำมันเชื้อเพลิงถูกแบ่งออกเป็นถังที่อยู่ภายในและ
ภายนอกตัวรถ ทุกถังน้ำมันเชื้อเพลิงเชื่อมต่อถึงกันโดยใช้การไหลผ่านท่อทางถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง
ถังน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถใช้ร่วมกัน 2 กลุ่ม ( กลุ่มด้านหน้าตัวรถและกลุ่มด้านหลังตัวรถ )
ถังน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มด้านนอกตัวรถเชื่อมต่อกับถังน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มด้านหลังตัวรถโดยใช้ท่อทางต่อถึงกัน
ถังน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มด้านหน้ารถประกอบด้วย ถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านหน้า – ขวา 3 (รูป1.1) ความจุน้ำมัน
เชื้อเพลิง 93 ลิตร ,ถังน้ำมันเชื้อเพลิงบนช่องเก็บบรรจุกระสุน ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 90 ลิตร และถังน้ำมันเชื้อเพลิง
ด้านหน้า – ซ้าย 1 ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 140 ลิตร
ถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านหลัง – ซ้าย 13 ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 110 ลิตร ,ถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านหลัง – ขวา 7
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 140 ลิตร
ถั ง น้ ำ มั น เชื้ อ เพลิ ง ด้ า นนอกตั ว รถ 15 ความจุ น้ ำ มั น เชื้ อ เพลิ ง 587 ลิ ต รจะยึ ด ติ ด ไว้ กั บ ด้ า นบนกล่ อ ง
caterpillar และจะถูกกำหนดให้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นลำดับแรกหลังจากที่มีการต่อวงจรการไหลกับกลุ่มถังน้ำมัน
เชื้อเพลิงภายในตัวรถเข้าด้วยกัน
1.3.2 การแยกอากาศออกจากน้ำมันเชื้อเพลิงในถัง ( Air Removing Tank )
ที่ด้านหลังของตัวรถ จะมีถังแยกอากาศออกจากน้ำมันเชื้อเพลิง 9 , เพื่อคัดแยกกลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิงออกจาก
ฟองอากาศที่เกิดจากการปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงให้เครื่องยนต์ และแยกอากาศออกจากระบบน้ำมันเชื้อเพลิง
1.3.3 ถังระบายถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ( Drain Tank )
ถังระบายถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง 5 ต่อกับช่องอากาศในถังน้ำมันเชื้อเพลิงต่าง ๆ ด้วยความกดดันบรรยากาศและ
ท่อระบายอากาศในส่วนประกอบของเครื่องยนต์
ถังระบายถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ถูกติดตั้งไว้บนรถถังที่ด้านขวาหลังของถังน้ำมันเชื้อเพลิงในช่องเก็บบรรจุกระสุน
1.3.4 มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง ( Fuel Gauge )
มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงมีไว้เพื่อใช้วัดปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงในถังน้ำมันเชื้อเพลิงภายในตัวรถ
มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงประกอบด้วย เครื่องวัดปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง และมาตรวัดแสดงปริมาณน้ำมัน
เชื้อเพลิงที่แผงเครื่องวัด 1KPT-M (รูป 14.17 ) เครื่องวัดปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง ถูกติดตั้งไว้ในถังน้ำมันเชื้อเพลิงในช่อง
เก็บบรรจุกระสุน เพื่อใช้วัดจำนวนปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงในกลุ่มถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านหน้า และในถังน้ำมันเชื้อเพลิง
ด้านซ้ายเพื่อใช้วัดจำนวนปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงในกลุ่มถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านหลัง
แผงเครื่องวัด 1KPT-M ถูกติดตั้งไว้บนแผงเครื่องวัดห้องพลขับ(รูป 14.13 ) และมีเส้นสเกลอยู่ 2 เส้น
สเกล สเกลซ้าย เป็นของถังน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มหลัง, สเกลขวา เป็นของถังน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่ม
หน้า สำหรับการส่งสัญญาณบอกจำนวนน้ำมันเชื้อเพลิงในถังอยู่ในระดับต่ำสุด
นั่นคือไฟแสดงติดขึ้นบนแผงเครื่องวัด1KPT-M และแจ้งเตือนให้พลขับทราบว่าจำนวนน้ำมันเชื้อเพลิงในถังอยู่ใน
ระดับต่ำสุด มีปริมาณน้อยกว่า 300 ลิตร
1.3.5 คันปิด – เปิดเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ( Fuel Cocks )
จะมี คันปิด – เปิดเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิง อยู่ในรถถังจำนวน 3 ตัว ดังนี้.-
คันปิด –เปิดเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 14 ต่อวงจรการไหลของน้ำมันเชื้ อเพลิง ( และตัดวงจรการไหลของ
น้ำมันเชื้อเพลิง ) ในถังน้ำมันเชื้อเพลิงภายนอกตัวรถ คันปิด – เปิดเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงนี้จะติดตั้งอยู่ด้านบนของพื้นรถ
หน้าถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านหลัง
คันปิด – เปิดเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 16 มีไว้เพื่อตัด – ต่อ แบ่งแยกการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของถังน้ำมัน
เชื้อเพลิงกลุ่มหน้าหรือกลุ่มหลัง หรือใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกถัง และต่อท่อจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับเครื่องยนต์ และสำหรับ
ตัดวงจรการไหลของน้ำมันเชื้อเพลิงในขณะที่มีการหยุดจอดรถถังทิ้งไว้เป็นเวลานาน คันปิด – เปิด เลือ กใช้น้ำมัน
เชือ้ เพลิงนี้จะติดตั้งไว้บนฐานรองรับที่ด้านซ้ายของห้องพลขับ
คันโยกหมุ นของคันปิด – เปิดเลือกใช้น้ำมัน เชื้อเพลิงสามารถหมุนได้ด้วยมือ 360 องศา และติดแน่นอยู่ใน
ตำแหน่ง 1 ใน 4 ตำแหน่ง ดังนี้.-
ALL TANKS ลูกศรบนคันโยกจะอยู่ในตำแหน่ง ชี้ตำ่ ,น้ำมันเชื้อเพลิงสามารถถูกนำมาใช้ได้ทุกถังน้ำมันเชื้อเพลิง
FRONT ลูกศรบนคันโยกจะอยู่ในตำแหน่ง ชี้ไปข้างหน้า ( ชี้ในทิศทางเดียวกันกับรถถัง ) ,น้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูก
นำมาใช้จากกลุ่มถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านหน้า
REAR ลูกศรบนคันโยกจะอยู่ในตำแหน่ง ชี้ไปข้างหลัง ,น้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกนำมาใช้จากกลุ่มถังน้ำมันเชื้อเพลิง
ด้านหลัง
TANKS DISCONNECTED ลูกศรบนคันโยกอยู่ในตำแหน่ง ชี้ขึ้นบน, จะไม่มีการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงจากถังน้ำมัน
เชื้อเพลิงให้กับเครื่องยนต์;
คันปิด – เปิด กรองน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องทำความร้อน 17 ถูกออกแบบสร้างไว้สำหรับต่อวงจรการไหลน้ำมัน
เชื้อเพลิงไปสู่ท่อน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องทำความร้อนและมีหน้าที่กรองน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อจ่ายให้กับระบบเครื่องทำ
ความร้อน ด้วยเหตุนี้ในหลักการทำงานของคันปิด –เปิดกรองน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องทำความร้อนจึงไม่จำเป็นต้องมีการ
ปรนนิบัติบำรุง
1.3.6 ลิ้นกันน้ำมันเชื้อเพลิงไหลกลับ ( Return Valve )
ลิ้นกันน้ำมันเชื้อเพลิงไหลกลับ 10 ( รูป 1.1 ) ติดตั้งอยู่ในท่อทางน้ำมันเชื้อเพลิงระหว่างถังแยกอากาศ
ออกจากน้ำมันเชื้อเพลิง 9 กับ กรองน้ำมันเชื้อเพลิงหยาบ 11 ลิ้นกันน้ำมันเชื้อเพลิงไหลกลับนี้มีไว้เพื่อจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง
ใช้ในระบบซึ่งเกิดจากการใช้มือโยกปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงในเบื้องต้นและปั้มจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ได้อย่างเพียงพอ อีกทั้งทำ
หน้าที่ป้องกันการเกิดฟองอากาศในระบบน้ำ มันเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานและเมื่อความดันในถัง
แยกอากาศออกจากน้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่มขึ้นถึง 0.4 บาร์ ลิ้นกันน้ำมันเชื้อเพลิงไหลกลับ จะเปิดระบายถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง
จากถังแยกอากาศออกจากน้ำมันเชื้อเพลิงกลับเข้าไปที่กรองน้ำมันเชื้อเพลิงหยาบ
1.3.7 กรองน้ำมันเชื้อเพลิง ( Fuel Filters )
กรองน้ำมันเชื้อเพลิงหยาบ 11 (รูป 1.1) มีหน้าที่ในการทำความสะอาดและกรองดักเศษสิ่งสกปรกที่เจือ
ปนอยู่ในน้ำมันเชื้อเพลิงในเบื้องต้นให้ออกจากน้ำมันเชื้อเพลิง
กรองน้ำมันเชื้อเพลิงหยาบติดตั้งอยู่ในห้องเครือ่ งยนต์ , ด้านล่างซ้ายบนแผ่นเกราะพื้นของรถถัง
กรองน้ำมันเชื้อเพลิงละเอียด 8 มีไว้เพื่อการทำความสะอาดและกรองดักเศษสิ่งสกปรกที่เล็กมากๆ
ที่เจือปนอยู่ในน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะส่ง -จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับปั้มน้ำมันเชื้อเพลิ งเครื่องยนต์ กรอง
น้ำมันเชื้อเพลิงละเอียด ติดตั้งอยู่บนตัวเรือนเครื่องยนต์และจะประกอบด้วยไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีขนาดและจำนวน
เท่ากัน ซึ่งอยู่ในตัวเรือนอลูมิเนียม จำนวน 3 ชุด
กรองน้ำมันเชื้อเพลิงละเอียดเป็นอุปกรณ์ที่ใช้แสดงให้เห็นว่าเกิดความแตกต่ างกันของความดันในการ
กรองน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นในไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อกรองน้ำมันเชื้อเพลิงละเอียดเกิดการอุดตัน ( แสดงให้เห็น
โดยการมีไฟติดขึ้นที่บนแผงเครื่องวัดของห้องพลขับ) ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงต้องได้รับการซ่อมเปลี่ยนใหม่
1.3.8 ปั้มป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง ( Fuel Feed Pumps )
ปั้ม ป้ อนน้ำมั น เชื้อเพลิงด้วยมือ ใช้สำหรับ บรรจุเติมน้ ำมันเชื้อเพลิงให้ไหลไปตามท่ อทางจ่ายให้ กับ
เครื่องยนต์ก่อนที่จะทำการสตาร์ทติดเครื่องยนต์ และไล่ฟองอากาศออกจากระบบ
ปั้มป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยมือ ติดตัง้ อยู่ในห้องพลขับที่บนแผ่นฐานรองรับด้านซ้ายมือของพลขับ
ปั้ ม น้ ำมั น เชื้อ เพลิ งแก๊ ส โซลี น ไฟฟ้ าแบบแรงเหวี่ย ง ( The electric gasoline centrifugal ) ( FP )
มีหน้าที่ในการบรรจุเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้ไหลไปตามท่อทางจ่ายให้กับระบบก่อนที่น้ำมันเชือ้ เพลิงจะเข้าไปในเครื่องยนต์ ,
ด้วยการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับหัวฉีดในขณะใช้ทำความร้อนและเพิ่มแรงดันขึ้นอย่างต่อเนื่องในท่อจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง
ให้กับปั้มเพิ่มกำลังน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อแก๊สโซลีนถูกใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแก๊สโซลีน ไฟฟ้าแบบแรง
เหวี่ยง ( FP ) จะมีหน้าที่ในการส่ง - จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับเครื่องยนต์ช่วย ในขณะที่เครื่องยนต์ช่วยถูกใช้งานด้วย
ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแก๊สโซลีนไฟฟ้าแบบแรงเหวี่ยง ( FP ) ติดตั้งอยู่ในฐานรองของถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านหน้าซ้าย
ปั้มป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง 12 ( 896X ) มีหน้าที่ในการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้แรงดันอากาศที่ผ่านเข้า
มายัง กรองน้ำมันเชื้อเพลิงละเอียดกับปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูงเพื่อป้องกันการเกิดการเป็นช่องฟองอากาศ ในระบบ
น้ำมันเชื้อเพลิง และเพื่อให้เครื่องทำม่านควัน ( SSE ) ทำงานได้ดี ปั้มป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงติดตั้งอยู่บนเครื่องยนต์
1.3.9 ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง ( High Pressure Fuel Pumps )
ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง เป็นตัววัดปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผลิต - จ่ายออกมาและมีหน้าที่รักษา
ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ให้คงที่ตลอดเวลาที่เครื่องยนต์ทำงาน รวมทั้งดำรงสภาพการส่ง - จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับ
หัวฉีดตามวงรอบการทำงานของเครื่องยนต์
ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแบบลู กสูบ ( plunger- type ) มีจำนวน 6 ตัว ติดตั้งเป็นส่วนหนึ่งของปั้มน้ำมัน
เชื้อเพลิงแรงดันสูงเครื่องยนต์
1.3.10 หัวฉีด ( Nozzles )
หัวฉีด มีหน้าที่ฉีด – ทำน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นฝอยละอองส่งเข้าไปในห้องเผาไหม้ เครื่องยนต์จะใช้
หั วฉีด แบบปิ ด อยู่ ทั้ งหมดจำนวน 24 หั ว ( แต่ ละกระบอกสู บ จะมี หั วฉีด ด้ านบน 2 หั วและด้ านล่ าง 2 หั ว )หั วฉี ด
ประกอบด้วย ตัวเรือนทำฝอยละอองน้ำมันเชื้อเพลิง ,ลิ้นกันกลับแบบลูกปืนและตัวเรือนลิ้นกับกลับ
1.3.11 กลไกควบคุมการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง ( Fuel Feed Control Drive )
กลไกควบคุมการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเครื่องกลไกทางกล , ติดตั้งไว้โดยใช้การส่งสัญญาณในตำแหน่ง
ที่ เหมาะสมกับการป้อนน้ำมันเชือ้ เพลิง
การบังคับควบคุมให้เครื่องกลไกควบคุมการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงทำงานประกอบด้วยแป้นคันเร่ง 4 , (
รูป 1.2 ) ตัวส่งสัญญาณในตำแหน่งที่เหมาะสมกับการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง 3 , คันเร่งมือ 12 , ก้านต่อ 5, 7, 10, 11
และ 13 ,นั่นคือ จะต่อกับแป้นคันเร่งและคันเร่งมือ โดยใช้คันโยกที่ควบคุมการทำงานด้วย ของเหลวร่วมกับทางกลและ
ไฟฟ้า ( electric – hydro mechanical regulator )
การป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงให้เครื่องยนต์ทำงาน ประกอบไปด้วยกลไกดับเครื่องยนต์ 9 ที่ถูกออกแบบมาให้
เครื่องยนต์ดับโดยอัตโนมัติภายหลังจากการเกิดไฟไหม้ , เมื่อได้รับคำสั่ง “ A ”จากระบบการป้องกันร่วมและ จากปุ่มกด
EES ที่สร้างไว้ให้มีอยู่ที่แผงเครื่องวัดของผู้บังคับรถ ( รูป 5.9 )
สัญญาณที่ส่งมาจากตัวส่งสัญญาณในตำแหน่งที่เหมาะสมกับการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงจะผ่านมายังชุด
หน่วยอิเลคทรอนิกของ CMCS ทำให้ชุดหน่วยอิเลคทรอนิกเกิดการทำงาน ในองค์ประกอบย่อยของตัวส่งสัญญาณใน
ตำแหน่งที่เหมาะสมกับการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงคือ สวิทช์จำกัดปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงจะทำงานเมื่อแป้นคันเร่ง ถูกปลด
ออกมาจนกระทั่งอยู่ในตำแหน่งปลดสุด สิ่งนี้จะเป็นเหตุให้ชุดหน่ว ยสัญญาณอิเลคทรอนิก CMCS ถูกบังคับให้ต่อกำลังใน
ตำแหน่งเกียร์ที่สูงกว่าของเครื่องเปลี่ยนความเร็ว ซึ่งตัวกันกระแทก ( DAMPER ) 6 จะถูกใช้ในการรับแรงกระแทกนี้
ในทันทีและผลจากการบังคับแป้นคันเร่งของพลขับทำให้ตัวส่งสัญญาณในตำแหน่งที่เหมาะสมกับการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิ ง
ทำงานไปพร้อมกันอย่างรวดเร็วด้วย
การจัดปรับกลไกควบคุม การป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงจะกระทำได้ต้องมีความมั่นใจว่า มีการจ่ายน้ำมัน
เชื้อเพลิงเสร็จเรียบร้อยแล้วและกลไกควบคุมการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง อยู่ในตำแหน่งการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด
ในลำดับขั้นตอนแรก ควรอยู่ในตำแหน่งดับเครื่องยนต์ และในลำดับขั้นตอนที่ 2 ต้องเร่งรอบความเร็ว
ของเครื่องยนต์สูงสุดที่ 2,950 รอบต่อนาที
1,2 สลักเกลียว 3 ตัวส่งสัญญาณในตำแหน่งที่เหมาะสมกับการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง 4 แป้นคันเร่ง 5,7,10,11,13 ก้านต่อ
6 ตัวกันกระแทก 8 สปริงดึงกลับ 9 กลไกดับเครื่องยนต์ 12 คันเร่งป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยมือ 14 เพลาขับ 15 คันโยก
รูป 1.2 กลไกควบคุมการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง
1.3.12 คันเปิด-ปิดเลือกตำแหน่งจำกัดการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขับ( Drive to fuel feed limiter )
เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่าเครื่องยนต์สามารถทำงานได้ในทุกระดับความสูงของบรรยากาศ (ความสูง
เหนือ 1000 ม.เหนือระดับน้ำทะเล ) การควบคุมเครื่องยนต์กระทำได้โดยการติดตั้งคันเปิด -ปิดเลือกตำแหน่ง จำกัดการ
ป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขับ ( FFL )
กลไกการทำงานของการจำกัดการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขับ ( FFL ) เป็นระบบทางกล,ติดตั้งอยู่
ในห้องเครื่องกำเนิดกำลังที่ด้านข้างซ้าย
การจั ด ปรั บ การทำงานในตำแหน่ ง ที่ ต้ อ งการกระทำได้ โดยใช้ ก ารจั ด ปรั บ ที่ รู ใ นแผ่ น ดาดฟ้ า รถ
( the top deck )
เมื่อใช้งานรถถังในสภาพแวดล้อมปกติจนถึงความสูง 1000 ม.เหนือระดับน้ำทะเล ปลายเข็มชี้บอก
ตำแหน่ง บนคันเปิด-ปิดเลือกตำแหน่งจำกัดการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขับ ( FFL ) ควรอยู่ในตำแหน่ง “ P ”
โดยไม่ต้องคำนึงถึงชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้งาน
เมื่อใช้งานรถถัง ที่ระดับความสูงมากกว่า 1000 ม. ถึง 2000 ม. ปลายเข็มชี้บอกตำแหน่ง 3 ของคัน
เปิ ด -ปิ ด เลือ กตำแหน่ งจำกัดการป้ อ นน้ ำมั น เชื้อ เพลิงที่ ใช้ ในการขั บ ( FFL ) ( รูป 1.3 ) ควรอยู่ ในตำแหน่ ง “ 1 ”
และที่ระดับความสูงเกินกว่า 2000 ม. ควรอยู่ในตำแหน่ง “ 2 ”
1 ฐานรองรับ 2 คันโยกเปิด – ปิดเลือกตำแหน่ง 3 เข็มชี้บอกตำแหน่ง 4 หน้าปัด 5, 8,10 ก้านต่อ 6 สลักเกลียว 7 คาน
รองรับ 9 คานรองรับ 11 คานควบคุม 12 ตำแหน่งพัก “ 1 ” 13 ตำแหน่งพักปกติ
รูป 1.3
1.3.13 เครือ่ งมือที่ใช้ในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง ( Fuel Filling Device )
เครื่องมือที่ใช้ในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงมีไว้เพื่อใช้สำหรับการเติมบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงโดยการต่อท่อร่วม
ถึงกัน ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงสามารถไหลเข้าไปยังถังน้ำมันเชื้อเพลิงอื่นที่แยกกันอยู่หรือสามารถไหลเข้าไปในถังน้ำมัน
สำรองได้ เครื่องมือที่ใช้ในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงประกอบด้วย ปั้มเติมน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมคันโยกเปิด – ปิด 2
(รูป 1.1 ) กรองน้ำมันเชื้อเพลิงแบบสามารถเติมบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงได้
คันโยกเปิด – ปิดสำหรับเติมน้ำมันเชื้อเพลิง มี 3 ตำแหน่ง : FUEL , WATER , DRAIN คันโยก เปิด –
ปิดอยู่ในตำแหน่ง DRAIN เมื่อปลายของคันโยก 2 ที่ต่อกับตัวหยุดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงตกลง
คันโยกเปิด – ปิดสำหรับเติมน้ำมันเชื้อเพลิง จะต้องตั้งไว้อยู่ในตำแหน่ง FUEL ตลอดเวลา
กรองน้ำมันเชื้อเพลิงใช้สำหรับทำความสะอาดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการปัม้ ป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงทางกล
และมีสิ่งสกปรกเจือปนมากับน้ำมันเชื้อเพลิง
1.3.14 หลักการทำงานของระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Supply System Operation )
ในระหว่างที่เครื่องยนต์ทำงานปั้มเพิ่มกำลังป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง 12 ( 896X ) จะปั้มน้ำมันเชื้อเพลิง
ออกจากกลุ่มถังน้ำมันเชื้อเพลิงต่าง ๆที่ต่อเชื่อมถึงกันให้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ โดยน้ำมัน
เชื้อเพลิงจะถูกส่ง-จ่ายไหลไปตามลำดับดังนี้. จาก คันโยกเปิด -ปิดเลือกตำแหน่งการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 16 ,ปั้มเพิ่มกำลัง
น้ำมันเชื้อเพลิงด้วยมือ , ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแก๊สโซลีนแบบแรงเหวี่ยง, กรองน้ำมันเชื้อเพลิงหยาบ 11,กรองน้ำมันเชื้อเพลิง
ละเอียด 8, และปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูงจะจ่ายป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีแรงดันสูงและมี
จำนวนปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงพอกับความต้องการให้กับหัวฉีด เพื่ออัดฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นฝอยละอองจ่ายลงไป
ในกระบอกสูบของเครื่องยนต์ตามลำดับการจุดระเบิด
องค์ประกอบที่ทำหน้าที่ในการส่ง -จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ( การไหลของน้ำมันเชื้อเพลิง ) และใช้ในการ
ระบายความร้อนน้ำมั น เชื้อเพลิ งให้ เย็น ลง องค์ป ระกอบนั้ นคือ ลิ้น แบ่งแยกอากาศออกจากน้ ำมัน เชื้อเพลิงในถัง 9
( SSE VALVE ) ( รูป 1.1 )
น้ำมันเชื้อเพลิงและอากาศที่ไหลปนกันผ่านเข้าไปในปั้มป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง จากช่องตัดจ่ายการปั้มป้อน
น้ำมันเชื้อเพลิงจะทำให้น้ำมันเชื้ อเพลิงถูกปล่อยให้ไหลผ่านลิ้นแบ่งแยกอากาศออกจากน้ำมันเชื้อเพลิงในถังเข้าไปยังถัง
แบ่งแยกอากาศด้วย และจากนั้นมันจะไหลผ่านท่อทางน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านหลังขวา 7 เมื่อแรงดัน
ในถังแบ่งแยกอากาศออกจากน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ลิ้นกันน้ำมันไหลกลับ 10 จะเปิดและทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงไหลไปสู่
กรองน้ำมันเชื้อเพลิงหยาบ และจากนั้นจะไหลเข้าไปในปั้มเพิ่มกำลังน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ 12
ดังนั้นน้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกใช้งานให้หมดไป,ถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลือถังอื่นๆจะเริ่มไหลบรรจุเติมน้ำมัน
เชื้อเพลิงด้วยการใช้แรงดันบรรยากาศในถังถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง 5 ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของคันโยก ปิด – เปิด
เลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 14 ที่ต้องการจะให้อากาศจากถังถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงไหลเข้าไปถังน้ำมันเชื้อเพลิงภายนอก 15
หรือเข้าไปในถังน้ำมันเชื้อเพลิงภายในด้านหลังซ้าย 13 ,และจากนั้น จะไหลเข้าไปสู่ถังน้ำมันเชื้อเพลิงภายในถังอื่นๆ
1.4 ระบบจ่ายลม ( Air Supply System )
ระบบจ่ายลมเครื่องยนต์มีหน้าที่กรองดักฝุ่นผงละอองเศษสิ่งสกปรกที่เจือปนมากับอากาศก่อนที่จะเข้าไปใน
เครื่ อ งยนต์ กรองอากาศจะทำงาน 3 ขั้ น ตอนในการไล่ ฝุ่ น ผงละอองเศษสิ่ งสกปรกที่ เจื อ ปนออกไป ขั้ น ตอนแรก
ประกอบด้วย ถังดักเศษฝุ่นผงละอองสิ่งสกปรกที่เจือปนไอดีด้วยตะแกรงกรอง , ขั้นตอนที่ 2 และ 3 จะทำงานโดยการใช้
กรองอากาศโลหะแบบวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ จำนวน 2 ขั้นตอน ( A two – stage cassette air cleaner ) ในการ
กรองดักเศษฝุ่นผงละอองสิ่งสกปรกที่เจือปนไอดีออกไป
ระบบจ่ายลมประกอบด้วย กรองอากาศ 5 ( รูป 1.4 ) ท่อดูด –ไล่ฝุ่นผงละอองสิ่งสกปรกที่เจือปนมากับอากาศ 4
ถังดักเศษฝุ่นผงละอองสิ่งสกปรกที่เจือปนไอดีด้วยตะแกรงกรองและแรงเฉื่อย ดูด – พ่นเศษฝุ่นผงละอองสิ่งสกปรกที่เจือ
ปนมากับอากาศออกไป และที่ท่อทางของตัวส่งสัญญาณแจ้งเตือนการอุดตันของอากาศในระบบจ่ายลม แสดงว่า เกิดการ
อุดตันโดยมีความต้านทานสูงสุด 11 จะใช้หลักการทำงานในทำนองเดียวกัน
1.4.1 กรองอากาศ ( Air Cleaner )
ต้องมีความมั่นใจว่า อากาศที่สะอาดบริสุทธิ์ ( AC ) ไม่มีเศษฝุ่นผงละอองสิ่งสกปรกเจือปนที่ได้จากการ
ปั้มจ่ายลมเข้าไปใช้งานในเครื่องยนต์
กรองอากาศติ ด ตั้ ง อยู่ ในห้ อ งเครื่ อ งยนต์ ที่ ด้ า นซ้ า ยของรถถั ง และต่ อ เข้ า กั บ ซุ ป เปอร์ ช าร์ ท เจอร์
เครื่องยนต์ ( the engine supercharger ) ด้วยการใช้ก้านต่อยึดไว้
มีลำดับขั้นตอน 2 ขั้นตอนในการกรองอากาศ ขั้นตอนแรก การกรองดักเศษฝุ่นผงละอองออกจาก
อากาศจะสามารถทำให้อากาศสะอาดบริสุทธิ์ได้ 99.78 % และหลังจากการกรองอากาศในขั้นตอนครั้งที่ 2 กรองทำ
ความสะอาดอากาศเท่าที่มีอยู่จะมีความสะอาดบริสุทธิ์เท่ากับ 99.85 %
กรองอากาศ ประกอบด้วย หลอดบังคับทิศทางการไหลของลมแบบไหลวน ( cyclone ) 3 ( รูป 1.4 )
ถังดักฝุ่นผงละอองเศษสิ่งสกปรก 7 ,กรองอากาศแบบโลหะวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ( cassettes ) 2 , กรองอากาศ
แบบโลหะวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ตัวบน ( head ) 6 , ท่อดูด –พ่นเศษฝุ่นผงละอองสิ่งสกปรก 4 , สำหรับท่อดูด –พ่น
ฝุ่นผงละอองเศษสิ่งสงปรก ประกอบด้วย ท่อหัวฉีดที่มีความดันแตกต่างกัน 2 ท่อ และต้องมั่นใจว่า การดูดเอาเศษฝุ่นผง
ละอองออกจากถังดักฝุ่นผงละอองเศษสิ่งสกปรกเป็นไปตามระบบการทำงานของเครื่องยนต์
1 กรองดักเศษสิ่งสกปรกชนิดใช้แผงเหล็กเส้นกับตะแกรงด้านใน 2 กรองอากาศแบบโลหะวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ
3 หลอดบังคับทิศทางการไหลของลมแบบไหลวน 4 ท่อดูด –พ่นฝุ่นผงละอองเศษสิ่งสงปรก 5 ตัวเรือนกรองอากาศ
6 กรองอากาศแบบแบบโลหะวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ตัวบน 7 ถังดักฝุ่นผงละอองเศษสิ่งสกปรก 8 ท่อไอดีไหลเข้า
9 ถั ง ท่ อ กรองดั ก ฝุ่ น ผงละอองเศษสิ่ ง สกปรก 10 ตะแกรงกรองตั ว ในท่ อ ดู ด -พ่ น ฝุ่ น ผงละอองเศษสิ่ ง สกปรก
11 ตัวส่งสัญญาณแสดงการอุดตันอากาศในท่อไอดี
รูป 1.4 ผังแสดงวงจร ระบบจ่ายลม
หลอดบังคับทิศทางการไหลของลมแบบไหลวน ประกอบด้วยหลอดบังคับทิศทางการไหลของลมแบบ
ไหลวน จำนวนหลายร้อยหลอด ( 341 หลอด ) ต่อร่วมกับถังดักฝุ่นผงละอองเศษสิ่งสกปรกและท่อดูด –พ่นฝุ่นผงละออง
เศษสิ่งสงปรก มันมีหน้าที่ในการกรองอากาศในขั้นตอนแรกของระบบกรองอากาศ
เพื่อป้องกันไม่ให้มีสิ่งแปลกปลอมเจือปนเข้าไปในท่อไอดีไหลเข้าของหลอดบังคับทิศทางการไหลของลม
แบบไหลวน ดังนั้นตระแกรงกรองแบบถอดได้จึงถูกสร้างไว้ในหลอดบังคับทิศทางการไหลของลมแบบไหลวน
ที่ภายในด้านบนของตัวเรือนกรองอากาศ จะมีกรองอากาศแบบโลหะวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ อยู่ 2
ชุด และในแต่ละชุดจะมีกรองอากาศแบบโลหะวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ โดยกรองอากาศแบบโลหะวางเรียงซ้อนกัน
เป็นชั้น ๆ ตัวล่างจะมีความหนาของโลหะที่ทำเป็นชั้นกรองจำนวนมากกว่า กรองอากาศตัวบน
กรองอากาศแบบโลหะวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ มีหน้าที่ในการกรองดักเศษฝุ่นผงละอองสิ่งสกปรกที่
เจือปนในขั้นตอนที่ 2 แต่ละกรองอากาศแบบโลหะวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ นี้จะประกอบด้วย ตัวเรือนและปลอกหุ้ม
กรองอากาศแบบโลหะวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ที่ตัวเรือนกรองอากาศแบบโลหะวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ จะบรรจุ
โลหะที่เป็นขดลวดตะแกรงถีว่ างซ้อนทับกันจำนวนมากไว้
ประเก็นสักหลาดจะถูกใส่ไว้เป็นซีลระหว่างกรองอากาศแบบโลหะวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ตัวบนกับ
กรองอากาศแบบโลหะวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ตัวล่างภายในตัวเรือนกรองอากาศ เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศที่ไม่บริสุทธิ์
ถูกดูดเข้าไปใช้ในระบบ
ถังดักฝุ่นผงละอองเศษสิ่งสกปรกพร้อมตระแกรงกรองจะถูกออกแบบมาเพื่อการเก็บฝุ่นผงละอองเศษสิ่ง
สกปรกที่เกิดจากการจ่ายลมเข้าไปสู่หลอดบังคับทิศทางการไหลของลมแบบไหลวนและทำหน้าที่กรองอากาศในเบื้องต้น
กรองอากาศถูกซีลยึดต่อกับท่อไอดีและถังถังดักฝุ่นผงละอองเศษสิ่งสกปรกด้วยปลอกยางรอง
1.4.2 หลักการทำงานของระบบจ่ายลม ( Air Supply System Operation )
ในระหว่างการทำงานของเครื่องยนต์ เป็นไปได้ยากที่จะเกิดการติดค้างของอากาศที่เข้าไปในถังดักฝุ่นผง
ละอองเศษสิ่งสกปรกและเหล่ามวลอากาศจะไหลเข้ าไปสู่ตระแกรงกรองอากาศตัวในกับตระแกรงตาข่ายแบบถอดได้ใน
หลอดบังคับทิศทางการไหลของลมแบบไหลวน
บรรดาชิ้นส่วนของฝุ่นผงละอองเศษสิ่งสกปรกขนาดใหญ่และสิ่งแปลกปลอม,ที่ไหลเข้ามาปนกับอากาศ
จะถูก ดั ก ไว้โดยตระแกรงกรองอากาศตั วในและตกลงไปสู่ ถั งท่ อ กรองดั ก ฝุ่ น ผงละอองเศษสิ่ งสกปรก 9 ( รูป 1.4 )
และถูกดูด -พ่นออกไปโดยท่อดูด -พ่น ฝุ่นผงละอองเศษสิ่งสกปรก 10
อากาศจะไหลไปสู่การทำความสะอาดด้วยแรงเหวี่ยงในหลอดบังคับทิศทางการไหลของลมแบบไหลวน
ของตัวกรองอากาศ
ฝุ่นผงละอองเศษสิ่งสกปรกที่เจือปนมากับอากาศจะถู กดูดแยกออกไปจากถังดักฝุ่นผงละอองเศษสิ่ง
สกปรก 7 ของตัวกรองอากาศ ด้วยท่อดูด – พ่นฝุ่นผงละอองเศษสิ่งสงปรก 4
อากาศที่ถูกทำความสะอาดในเบื้องต้นแล้วในหลอดบังคับทิศทางการไหลของลมแบบไหลวนจะไหล
ไปสู่ ก รองอากาศแบบโลหะวางเรีย งซ้ อ นกั น เป็ น ชั้ น ๆ และเป็ น การกรองอากาศครั้ งสุ ด ท้ ายก่ อ นที่ จ ะไหลเข้ าไปใน
เครื่องยนต์
1.4.3 หลั ก การทำงานของระบบจ่ า ยลมในขณะลุ ย ข้ า มน้ ำ ลึ ก และการขั บ รถใต้ น้ ำ ( Air Supply System
Operation when Driving under Water and Fording )
เมื่อต้องการนำรถลุยข้ามน้ำลึกปลายท่อถังดักฝุ่นผงละอองเศษสิ่งสกปรกของกรองอากาศ และแผ่นตระ
แกรงกรองตัวในจะถูกปิดแน่นและอากาศจะไหลผ่านทางชุดท่อไอดี ( AIU ) เข้าไปในหลอดบังคับทิศทางการไหลของลม
แบบไหลวน อากาศไหลลัดเข้าถังดักฝุ่นผงละอองเศษสิ่งสกปรกพร้อมตระแกรงกรอง และหลังจากนั้นจะผ่านกรองอากาศ
แบบโลหะวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ เข้าไปสู่เครื่องยนต์
คำเตือน ในขณะที่ท่อไอดีถูกติดตั้งอยู่ในตำแหน่งบนสุด ไฟแสดงการอุดตันของกรองอากาศ
จะติดขึ้นที่แผงเครื่องวัด ( ICP ) ( รูป 1.5 ) และไม่ได้หมายความว่า กรองอากาศ ( AC ) เกิดการอุดตัน
1ถั งน้ ำมั น หล่ อ ลื่ น 2 ฝาปิ ด ถ่ ายน้ ำมั น หล่ อ ลื่ น – เหล็ ก วั ด 3 กรองไอดี 4 ,5,9,11,13,15,19, ท่ อ ทางต่ าง ๆ7 กรอง
น้ำมันหล่อลื่นแบบละเอียด 8 ตัวส่งสัญ ญาณแรงดันต่ำสุด 10 ตัวลดแรงดัน 12,20 ลิ้นระบายถ่ายน้ำมันหล่อลื่น 14
เครื่องยนต์ดีเซล 16 ปั้มน้ำมันหล่อลื่น 17 ลิ้นระบายลดแรงดัน 18 ตัวเปลี่ยนแปลงความร้อน น้ำมันหล่อลื่น – ของเหลว
รูป 1.16 ผังแสดงระบบหล่อลืน่ EA – 10 – 1
ระบบน้ ำมั น เชื้ อเพลิ ง EA – 10 – 1 ( รูป 1.19 ) ประกอบด้ วย ถั งน้ ำมั น เชื้อ เพลิ ง 1, ปั้ ม น้ ำมั น
เชื้อเพลิงแก๊สโซลีนแบบแรงเหวี่ยง 3, กรองน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหยาบ 4, ปั้มสูบป้อนน้ำมันเชื้ อเพลิง 5, กรองน้ำมัน
เชื้อเพลิงแบบละเอียด 6, ปั้มสูบป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง 8, กรองน้ำมันเชื้อเพลิงแบบละเอียด 9 , ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดัน
สูง 10, หัวฉีด 11, หัวพ่นฝอยละออง 12, ลิ้นลดแรงดัน 13 , ถังน้ำมันเชื้อเพลิงหลัง 14
1 ถังน้ำมันเชื้อเพลิง 2 ปัม้ น้ำมันเชื้อเพลิงแก๊สโซลีนแบบแรงเหวี่ยง 3 ปั้มสูบป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยมือ 4 กรองน้ำมัน
เชื้อเพลิงแบบหยาบ 5 ปัม้ สูบป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง 6 กรองน้ำมันเชื้อเพลิงแบบละเอียด 7 ME
8 ปั้มสูบป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง 9กรองน้ำมันเชื้อเพลิงแบบละเอียด 10 ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง 11หัวฉีด ,
12 หัวพ่นฝอยละออง , 13 ลิ้นลดแรงดัน , 14 ถังน้ำมันเชื้อเพลิงหลัง
รูป 1.19 ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง EA – 10 – 1
กรองน้ำมันเชื้อเพลิงแบบละเอียด ( รูป 1.20 ) ประกอบด้วย ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง 1, ตั วเรือน 2, ฝา
ปิด 4, สลักเกลียวปิด 6 และชิ้นส่วนอื่น ๆ
ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน ( รูป 1.18 ) น้ำมันเชื้อเพลิงถูกทำความสะอาดโดยกรองน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ
หยาบ 4 และกรองน้ำมันเชื้อเพลิงแบบละเอียด 6 ,น้ำมันเชื้อเพลิงจะไหลจากถังน้ำมันเชื้อเพลิงหลัง 14 ด้วยการปัม้ มา
จากปั้มสูบป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง 8, ผ่าน กรองน้ำมันเชื้อเพลิงแบบละเอียด 9 , เข้าสูป่ ั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง 10 ,และ
หัวฉีด 11 ส่วนน้ำมันที่เหลือเกินความต้องการจะไหลกลับจากการปั้มเข้าไปสู่ถังน้ำมันเชื้อเพลิง 1 , ด้วยเหตุนี้น้ำมัน
เชื้อเพลิงบางส่วนจะถูกส่งไปที่หัวฉีด 11 สำหรับการระบายความร้อนที่หัวฉีดด้วย
1 ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง 2 ตัวเรือน 3 แหวนรอง 4 ฝาปิด 5 ,7,11 ประเก็น 6 สลักเกลียวปิด 8 สลักเกลียวยึดตัว
เรือน 9 ยางรอง 10 สลักเกลียว; ยึดตัวกรองดักน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่สะอาด 6 ตัวกรองดักน้ำมัน เชื้อเพลิงที่ไม่
สะอาด
รูป 1.20 กรองน้ำมันเชื้อเพลิงแบบละเอียด EA – 10 – 1
1.11.7 ระบบจ่ายลม EA – 10 – 1 ( EA – 10 – 1 Air Supply system )
ระบบจ่ายลม มีหน้าที่ในการผลิตจ่ายลมให้กับเครื่องยนต์
การดูดลมเข้ามาใช้งานจะเพิ่มมากขึ้นด้วยการเคลื่อนที่ของกลุ่มก้านสูบและลูกสูบของเครื่องยนต์ดีเซล
ผ่านทางไส้กรองอากาศ 2, ซึ่งไส้กรองอากาศจะทำความสะอาดกรองดักเศษฝุ่นผงละอองที่มากับอากาศ,ไหลผ่านท่อ
อากาศ 1 เข้ามาสู่ท่อร่วมไอดีจากนั้นมันจะไหลเข้าไปสู่กระบอกสูบต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ดีเซล
ระบบท่อระบายอากาศในเครื่องยนต์ดีเซลจะต่อผ่านท่อระบายอากาศเข้ากับท่ออากาศและเครื่องส่ง
สัญญาณส่งถ่ายความดันที่จำกัดไว้ของกรองอากาศ
1 ท่ออากาศ 2 ไส้กรองอากาศ 3 สลักล๊อค
รูป 1.21 ระบบจ่ายลม EA – 10 – 1 ( EA – 10 – 1
1.11.8 ระบบแก๊สไอเสีย EA – 10 – 1 ( EA – 10 – 1 Exhaust Gas system )
วัตถุประสงค์ของระบบแก๊สไอเสีย คือ ใช้แยกแก๊สไอสียออกจากเครื่องยนต์ดีเซล และประกอบด้วย
หม้อเก็บเสียง 1 และ ฉนวนกันความร้อน 2
หม้อเก็บเสียงถูกเชือ่ มไว้ติดกับห้องหม้อเก็บเสียง
ด้วยเหตุผลสำหรับความปลอดภัยจากภัยที่เกิดจากไฟไหม้และลดการสูญเสียความร้อนในองค์ประกอบ
ของ หม้อเก็บเสียงจะปุกันความร้อนไว้ด้วยฉนวนกันความร้อน นั่นคือ ฉนวนกันความร้อน จะใช้ติดตั้งไว้ระหว่าง พื้น ตัว
เรือนกับตัวเรือนด้านนอก
หม้อเก็บเสียง จะยึดติดกับเรือนสูบเครื่องยนต์โยตรง นั่นคือ ถูกยึดด้วยแกนสลักเกลียว 5 กับแป้น
เกลียว 4 ช่วงรอยต่อรับแรงขันของหม้อเก็บเสียงจะใส่ประเก็นเหล็กเสริมใยแอสเบสตอส ( iron – asbestos ) 3 ไว้
1 หม้อเก็บเสียง 2 ฉนวนกันความร้อน 3 ประเก็น 4 แป้นเกลียว 5 แกนสลักเกลียว
รูป 1.22 ระบบแก๊สไอเสีย EA – 10 – 1
1.11.9 ระบบควบคุมและการตรวจสอบ EA – 10 – 1 ( EA – 10 – 1 Check and Control system )
ระบบควบคุมและการตรวจสอบ ถูกออกแบบมาสำหรับการควบคุมรูปแบบการทำงานและควบคุม
รูปแบบ การทำงานของเครื่องยนต์ช่วย ( APU )
ระบบควบคุมและการตรวจสอบ นั่นคือการใช้คันควบคุมและแผงเครื่องวัดแสดงผล (รูป1.5) ซึ่งจัดไว้.ใช้
ในการเปิดฝาปิดของพลขับและชุดหน่วย 1 KBU – MT ,จัดไว้ในตัวตัดวงจรของถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านขวาที่ใช้สำหรับ
การทำงานของเครื่องยนต์ช่วย ( APU ) ในรูปแบบดังนี้
การอุ่นทำความร้อนอากาศในท่อทางอากาศเข้าเครื่องยนต์ดีเซลที่อุณหภูมิต่ำ
การหมุนติดเครื่องยนต์ดีเซลหลังจากหยุดพักเป็นเวลานาน
การสตาร์ทติดเครื่องยนต์ดีเซล ;
การต่อภาระกรรมเครื่องยนต์ช่วยกับเครือ่ งกำเนิดไฟ – มอเตอร์สตาร์ทติดเครื่องยนต์ ( APU - SG ) ที่
อุณหภูมิระบบระบายความร้อน ( CL ) เกินกว่า 288 K ( 15 C )
การตัดวงจรภาระกรรมจากเครื่องยนต์ช่วยกับเครื่องกำเนิดไฟ–มอเตอร์สตาร์ทติดเครื่องยนต์( APU -
SG ) กับการเกิดสัญญาณอุณหภูมิของ CL ( EA – 10 – 1 ) ที่แสดงบนแผงเครื่องวัดสูงขึ้นถึง 388 +.- 3 K ( 115 +, -
3 C ) ( เมื่อระบบใช้เติมด้วยสารกันแข็ง 378 + , - K ( 105 + , - 3 C )
การดับเครื่องยนต์ดีเซล ( EA – 10 – 1 ) ในกรณีฉุกเฉิน ,เมื่ออุณหภูมิ CL มากกว่า 391 K ( 118 C )
การดับเครื่องยนต์ดีเซล
บทที่ 2
การขับเคลื่อนตัวรถ ( RUNNING GEAR )
การขับเคลื่อนตัวรถมีไว้เพื่อให้ยานยนต์เคลื่อนที่กับผ่อนอาการสะเทือนและพยุงรองรับการเคลื่อนที่ขึ้นๆลงๆ
ในขณะมีการเคลื่อนที่ของตัวรถ มันประกอบด้วยชุดหน่วยขับดันสายพานและระบบการรองรับน้ำหนัก
2.1 ชุดหน่วยขับดันสายพาน ( Track Propulsion Unit )
ชุดหน่วยขับดันสายพานใช้ในการทำให้ยานยนต์เกิดกี่เคลื่อนที่โดยการจ่ายกำลังแรงบิดผ่านจากเครื่องเปลี่ยน
ความเร็วในยานยนต์ไปสู่ล้อขับสายพานทั้ง 2 ข้างและสายพานที่จับเกาะดันพื้นดิน
ชุดหน่วยขับดันสายพานประกอบด้วย ล้อขับสายพาน 2 ข้าง ,สายพาน 2 เส้น , ล้อกดสายพาน 12 ล้อ,
ล้อปรับสายพาน 2 ล้อพร้อมคานรับแรงบิด , และ ล้อรับสายพาน 10 ล้อ
2.1.1 สายพาน ( Track )
สายพานประกอบด้วยแผ่นข้อต่อยางรองสายพานจำนวน 80 ตัว แผ่นข้อต่อยางรองสายพาน 13 ( รูป
2.1 ) ประกอบด้วย ข้อต่อยางรองใน 2 อันพร้อมสลักยึด 2 ตัว 14 ที่อัดเกี่ยวยึดติดอยู่ในยางรองสายพาน แผ่นข้อต่อยาง
รองสายพานยึดติดต่อกับเดือนนำสายพาน 12 ด้วยก้านเดือยนำสายพานที่ตรงกลางและยึดด้วยข้อต่อสายพาน 15 ที่ด้าน
ปลายทั้ง 2 ด้าน แรงลากจูงถูกส่งผ่านจากล้อขับสายพานไปสู่สายพานโดยผ่านทางข้อต่อสายพาน
สำหรับการขับรถถังบนถนนพื้นแข็ง,รถถังสามารถใส่สายพานแบบใช้ยางรองสายพานถอดเปลี่ยนได้ยาง
รองสายพานในชุด SPTA kit ประกอบด้วย เหล็กกันลื่น ( grousers ) ซึง่ ติดตั้งไว้สำหรับการเคลื่อนที่รถบนถนนน้ำแข็ง
และ/หรือ บนถนนที่มีอัตราการยึดเกาะพื้นต่ำ
ผังแสดงการประกอบเหล็กกันลื่นบนสายพานแสดงไว้ในรูป 2.1
บทที่ 3
อุปกรณ์ไฟฟ้าในตัวรถ ( ELECTRIC EQUIPMENT )
ชิ้นส่วนหลักของส่วนที่ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเพื่อเป็นแหล่งกำเนิดและจ่ายไฟของพลังงานไฟฟ้า,เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้
หลัก ๆ ในยานยนต์, ส่วนที่ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าจะใช้การต่อวงจรแบบสายเดียว ,คือใช้ขั้วลบลงดินกับตัวรถถัง
ชุดเครื่องมืออุปกรณ์ไฟฟ้าจะต่อวงจรภายในกันด้วยสายไฟฟ้าที่ประกอบมาจากโรงงานผู้ผลิตโดยใช้สายไฟที่
สามารถป้องกันและต้านทานความร้อนได้ สายไฟต่อเข้ากับแผงเครื่องวัดในทำนองเดียวกับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ซึ่งจะถูก
ประกอบขึ้นโดยการใช้ไฟฟ้าคู่และปลอกสายไฟ
ที่บนรถถังจะใช้สายไฟฟ้า 2 สาย ( กรณีฉุกเฉิน ) สำหรับไฟส่องสว่างในห้องพลขับและหลอดโคมไฟแบบนำพา
ไปได้ที่ต่อกับสวิทช์ไฟหลักของแบตเตอรี่ ( BS ) ในตำแหน่ง ปิด
อุปกรณ์ไฟฟ้าของห้องหอรบและห้องผู้บงั คับรถถูกแสดงให้เห็นในรูป 3.1
1 เครื่องแปลงมาตรวัดระดับน้ำมันหล่อลื่น 2 เครื่องควบคุม RN505M1-1T 3 ชุดหน่วย ABU602
4 ชุดหน่วย 1KVO 5 สวิทช์พร้อมกับแผงเครื่องวัด ESD 6 โคมไฟส่องสว่างฉุกเฉิน 7 ชุดหน่วย AS37T
8 เครื่องรับสัญญาณสตาร์ทเครื่องยนต์จากภายนอก 9 สวิทช์แบตเตอรี่ 10 ชุดหน่วยเลือกใช้ระบบป้องกันนิวเคลียร์เคมี
ชีวะรังสี BK712M1-V-1T 11 ชุดหน่วย BK712M1-3-1T 12 ชุดหน่วย BK712M1-ST 13 แผงเครื่องวัด
PNP02 14 ที่เก็บแบบเตอรรี่ 15 แผงเครื่องวัดห้องพลขับ 16 แผงไฟส่องสว่าง 17 ,27 ไฟพรางบอกตำแหน่งหน้า
18 แตร 19 ไฟหน้าพร้อมกับฝาปิดพรางขับ 20 เข็มทิศหมุนเวียนโดยตรง ( directional gyro ) 21 ชุดหน่วย
BSP610 22 เต้าเสียบฉุกเฉินกับเครื่องหมุนเวียนระบายอากาศ 23 แผงเครื่องวัด 1KVI 24 แผงเครื่องวัด PAS 25 ไฟอิน
ฟาเรด 26 แผงเครื่องวัด PST602 28 แผงเครื่องวัด PIU
29 แผงไฟส่องสว่าง 30 ตัวตัดต่อวงจรสำหรับวงจรไฟส่องสว่าง 31 สวิทช์เครื่องหมุนเวียนระบายอากาศ 32 ชุดหน่วย
จ่ายกำลัง 33 แผงเครื่องวัดควบคุมชุดหน่วยจ่ายกำลังอัตโนมัติ 34 วงแหวนเลื่อนต่อวงจรไฟฟ้า
ป้อมปืน 35 ตัวสัมผัสและกล่องรีซิสเตอร์ 36 ชุดหน่วย 1KBU-MT
รูป 3.1 อุปกรณ์ไฟฟ้าของห้องหอรบและห้องผู้บังคับรถ
ในห้องหอรบและห้องผู้บังคับรถ ( รูป 3.1 ) ถูกติดตั้งไว้ด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ดังนี้
-เครื่องแปลงมาตรวัดระดับน้ำมันหล่อลื่น ( 1 ) ติดตั้งอยู่ที่ บนฝาครอบในห้องหน่วยกำเนิดกำลัง PPC
ที่ ด้านซ้ายหลังถังน้ำมันเชื้อเพลิง
-เครื่องควบคุม RN505M1-1T ( 2 ) ติดตั้งอยู่ที่ด้านล่างฝาครอบห้องเครื่องยนต์ในช่องด้านซ้ายของถัง
น้ำมัน เชื้อเพลิง
-ชุดหน่วย ABU602 ( 3 ) ติดตั้งอยู่ที่ในช่องของถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านซ้าย
-ชุดหน่วย 1KVO ( 4 ) ติดตั้งอยู่ที่บนด้านซ้ายของถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านซ้าย
- สวิทช์พร้อมกับแผงเครื่องวัด ( 5 ) ติดตั้งอยู่ที่ด้านหลังขวาจากพลขับ
-โคมไฟส่องสว่างฉุกเฉิน ( 6 ) ติดตั้งอยู่ที่ด้านหลังจากพลขับ
-ชุดหน่วย AS37T ( 7 ) ติดตั้งอยู่ที่บนดาดฟ้าห้องเครื่องกำเนิดกำลังที่ด้านซ้ายหลังจากพลขับ
-เครื่องรับสัญญาณสตาร์ทเครื่องยนต์จากภายนอก ( 8 ) ติดตั้งอยู่ที่บนดาดฟ้าห้องเครื่องกำเนิดกำลังที่
ด้านซ้าย หลังจากพลขับ
-สวิทช์แบตเตอรี่ ( 9 ) ติดตั้งอยู่ที่บนดาดฟ้าห้องเครื่องกำเนิดกำลังที่ด้านซ้ายจากพลขับ
-ชุดหน่วยเลือกใช้ระบบป้องกันนิวเคลียร์เคมีชีวะรังสี BK712M1-V-1T ( 10 ) ติดตั้งอยู่บนฐานรองรับ
แผง เครื่องวัด กับอุปกรณ์ควบคุมสตาร์ทกับด้านซ้าย จากพลขับ
-ชุดหน่วย BK712M1-3-1T ( 11 ) ติดตั้งอยู่บนลาดเอียงแผงเครื่องวัดกับด้านซ้ายจากพลขับ
-ชุดหน่วย BK712M1-ST ( 12 ) ติดตั้งอยู่บนลาดเอียงแผงเครื่องวัดกับด้านซ้ายจากพลขับด้านหลังชุด
หน่วย เลือกใช้ระบบป้องกันนิวเคลียร์เคมีชีวะรังสี BK712M1-V-1T
-แผงเครื่องวัด PNP02 ( 13 ) ติดตั้งอยู่ที่เหนือแผงเครื่องวัดห้องพลขับ
-ที่เก็บแบบเตอรรี่ ( 14 ) ติดตั้งอยู่ที่ด้านล่างกับด้านซ้ายจากพลขับ
-แผงเครื่องวัดห้องพลขับ ( 15 ) ติดตั้งอยู่ที่ด้านซ้ายจากพลขับบนฐานรองรับของเครื่องกรองน้ำมัน
เชื้อเพลิง
-แผงไฟส่องสว่าง ( 16 ) ติดตั้งอยู่ที่ตัวแผ่นลาดเอียงเหนือพลขับ
-ไฟพรางบอกตำแหน่งหน้า ( 17 , 27 ) ติดตั้งอยู่ที่บนตัวแผ่นลาดเอียงด้านนอกของด้านข้างตัวรถขวา
และซ้ายที่ระดับบังโคลน
-แตร ( 18 ) ติดตั้งอยู่ที่บนฐานตัวป้องกันของไฟหน้าซ้าย
- ไฟหน้าพร้อมกับฝาปิดพรางขับ ( 19 ) ติตั้งอยู่ที่ในตัวป้องกันนิรภัยที่ด้านหน้าซ้ายของหน่วยวัดแบบ
ถอดได้
-เข็มทิศหมุนเวียนโดยตรง( directional gyro ) ( 20 ) ติดตั้งอยูบ่ นด้านหน้าแผ่นลาดเอียงที่หน้าซ้าย
จากพลขับ
-ชุดหน่วย BSP610 ( 21 ) ติดตั้งอยู่ที่บนถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านซ้ายใต้เข็มทิศหมุนเวียนโดยตรง(
directional gyro )
-เต้าเสียบฉุกเฉินกับเครื่องหมุนเวียนระบายอากาศ ( 22 ) ติดตั้งอยู่บนด้านหน้าแผ่นลาดเอียงที่หน้าซ้าย
จากพลขับ
-แผงเครื่องวัด 1KVI ( 23 ) ติดตั้งอยู่ที่ช่องระหว่างการเปิดฝาปิดในด้านหน้าของพลขับใต้แผงเครื่องวัด
PAS
-แผงเครื่องวัด PAS ( 24 ) ติดตั้งอยู่ที่ช่องระหว่างการเปิดฝาปิดในด้านหน้าของพลขับ
-ไฟอินฟาเรด ( 25 ) ติดตั้งอยู่ที่หน่วยวัดแบบถอดได้ที่ด้านหน้าขวาในตัวป้องกันนิรภัย
-แผงเครื่องวัด PST602 ( 26 ) ติดตั้งอยู่ที่ก้านต่อถอยหลังที่ด้านขวาล่างจากพลขับ
-แผงเครื่องวัด PIU ( 28 ) ติดตั้งอยู่ที่ช่องระหว่างการเปิดฝาปิดในด้านซ้ายจากพลขับ
-แผงไฟส่องสว่าง( 29 ) ติดตั้งอยู่ที่ตัวป้องกันนิรภัยของคานรับแรงบิดตัวที่ 2 ที่ด้านล่างขวาจากพลขับ
-ตัวตัดต่อวงจรสำหรับวงจรไฟส่องสว่าง ( 30 ) ติดตั้งอยู่บนด้านหน้าขวาถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ด้านล่าง
ขวาจากพลขับ
-สวิทช์เครื่องหมุนเวียนระบายอากาศ ( 31 ) ติดตั้งอยู่บนดาดฟ้าตัวรถจากพลขับ
-ชุดหน่วยจ่ายกำลัง ( 32 ) ติดตั้งอยูท่ ี่บนด้านซ้ายช่องห้องเก็บแบตเตอรี่
-แผงเครื่องวัดควบคุมชุดหน่วยจ่ายกำลังอัตโนมัติ ( 33 ) ติดตั้งอยู่ที่บนด้านซ้ายช่องห้องเก็บแบตเตอรี่
-วงแหวนเลื่อนต่อวงจรไฟฟ้าป้อมปืน ( 34 ) ติดตั้งอยู่ที่ด้านล่างตามแกนหมุนของป้อมปืน
-ตัวสัมผัสและกล่องรีซิสเตอร์ ( 35 ) ติดตัง้ อยู่บนด้านข้างซ้ายใกล้กับตัวทำความร้อน
-ชุดหน่วย 1KBU-MT ( 36 ) ติดตั้งอยู่ที่ในช่องของถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านขวา
อุปกรณ์ไฟฟ้าขององค์ประกอบชุดหน่วยกำลังแสดงให้เห็นในรูป 3.2
1 เต้าเสียบฉุกเฉินและไฟพรางบอกตำแหน่งขวา 2 ตัวส่งสัญญาณระดับของเหลวสารระบายความร้อน
3 ตัวรับสายพานกว้านไถทุ่นระเบิด ( TWMP ) และไฟพรางบอกตำแหน่งซ้าย 4 ตัวแปลงไฟแรงเคลื่อนสูง
5 ชุดรหัสแสดงรูปร่าง 6 กลไกเลือกสวิทช์ระบายความร้อนเครื่องกำเนิดไฟ-สตาร์ทเตอร์ ( SG ) 7 เครื่องกำเนิด
ไฟ-สตาร์ทเตอร์ของเครื่องยนต์หลัก
รูป 3.2 อุปกรณ์ไฟฟ้าขององค์ประกอบชุดหน่วยกำลัง
ในองค์ประกอบชุดหน่วยกำลังจะประกอบด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้
-เต้าเสียบฉุกเฉินและไฟพรางบอกตำแหน่งขวา ( 1 ) ติดตัง้ อยู่ที่บนฐานรองรับจากด้านข้างขวาของ
ส่วนประกอบของตัวรถ
-ตัวส่งสัญญาณระดับของเหลวสารระบายความร้อน ( 2 ) ติดตัง้ อยูจ่ ุดเติมของถังรับน้ำล้นที่ ดาดฟ้าห้อง
หน่วยกำเนิดกำลัง ( PPC )
-ตัวรับสายพานกว้านไถทุ่นระเบิด ( TWMP ) และไฟพรางบอกตำแหน่งซ้าย ( 3 ) ติดตั้งอยู่ที่บน
ฐานรองรับจากด้านข้างซ้ายของส่วนหลังของตัวรถ
- ตัวแปลงไฟแรงเคลื่อนสูง ( 4 ) ติดตั้งอยู่บนฐานรองรับด้วยด้านข้างของบนหีบเฟืองเครื่องเปลี่ยน
ความเร็ว ( GB )ซ้าย
-ชุดรหัสแสดงรูปร่าง ( 5 ) ติดตั้งอยู่ที่บนฐานรองรับด้วยด้านข้างของบนหีบเฟืองเครื่องเปลี่ยนความเร็ว(
GB )ขวาจากตัวแปลงไฟแรงเคลื่อนสูง
- กลไกเลือกสวิทช์ระบายความร้อนเครื่องกำเนิดไฟ-สตาร์ทเตอร์ ( SG ) ติดตั้งอยู่ที่ฝาครอบห้องหน่วย
กำเนิดกำลัง ( PPC ) ที่ด้านหน้าข้างจากชุดอากาศไหลเข้า
-เครื่องกำเนิดไฟ-สตาร์ทเตอร์ของเครื่องยนต์หลัก ( 7 ) ติดตั้งอยู่บนเครื่องยนต์โดยตรง
อุปกรณ์ไฟฟ้าเบื้องต้นของป้อมปืน แสดงให้เห็น ในรูป 3.3
1 ,10 ไฟส่องมองหน้า 2 โคมไฟส่องบอกตำแหน่ง 3 ตัวต่อไฟ DFE 4 ไฟวัดระยะหน้า 5 ,14 โคมไฟ
6,7 ไฟแสดงการทำงานกล้องเล็งตรวจการณ์ 8 เต้าเสียบฉุกเฉิน 9 บอร์ดจ่ายไฟส่องสว่าง 11,16 เครื่องหมุนเวียน
ระบายอากาศ 12,20 บอร์ดจ่ายไฟสำหรับไฟส่องสว่าง 13,21 บอร์ดจ่าย 15 กรองอากาศใช้ไฟฟ้า
17 ชุดหน่วยจ่ายไฟ 18 แผงเครื่องวัดเครื่องทำความเย็น 19 บอร์ดจ่าย PNK
รูป 3.3 อุปกรณ์ไฟฟ้าเบื้องต้นของป้อมปืน
3.1 แหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า ( Sources of electric energy )
แหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าจะประกอบด้วย ชุดเครื่องกำเนิดไฟ-สตาร์ทติดเครื่องยนต์ที่ทำงานแบบกำเนิดไฟและ
การเก็บไฟของแบตเตอรี่ ( SB )
3.1.1 ชุดเครื่องกำเนิดไฟ – สตาร์ทติดเครื่องยนต์ ( Starter – generator set )
ชุดเครื่องกำเนิดไฟ – สตาร์ทติดเครื่องยนต์ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ไฟฟ้าสตาร์ทติดเครื่องยนต์หลัก( ME )
และอุปกรณ์ไฟฟ้าเครื่องยนต์ช่วย ( APU ) , ใช้จ่ายกำลังไฟฟ้าและประจุไฟเก็บเข้าแบตเตอรี่ ในระหว่างที่เครื่องยนต์
หลัก ( ME ) และจ่ายให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าเครื่องยนต์ช่วย ( APU ) ทำงาน
ชุดเครื่องกำเนิดไฟ – สตาร์ทติดเครื่องยนต์ ประกอบด้วย เครื่องยนต์หลัก( ME ), เครื่องกำเนิดไฟ –
สตาร์ทติดเครือ่ งยนต์ ,เครื่องกำเนิดไฟ – สตาร์ทติดเครื่องยนต์สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า ( EE ) , และอุปกรณ์ควบคุมการ
สตาร์ทติดเครื่องยนต์ ( SCE )
ชุดเครื่องกำเนิดไฟ – สตาร์ทติดเครื่องยนต์ติดตั้งอยู่บนเครื่องยนต์ , เครื่องกำเนิดไฟ – สตาร์ทติด
เครื่องยนต์ติดตั้งอยู่บนเครื่องยนต์เครือ่ งยนต์ช่วย ( APU ) ติดตั้งอยู่ที่บนตัวเรือนชุดส่งกำลังอัตโนมัติ ตำแหน่งที่ติดตั้งอยู่
ในองค์ประกอบชุดอุปกรณ์กู้ซ่อมบนบังโคลน และอุปกรณ์ควบคุมการสตาร์ทติดเครื่องยนต์ประกอบด้วย เครื่องควบคุม
แรงเคลื่อน RN505M1-1T ติดตั้งอยู่บนพื้นล่างที่ฝาครอบเครือ่ งยนต์และชุดของหน่วย BK712M1-1-02Tชุดอุปกรณ์กู้
ซ่อม
เมื่อการสตาร์ทติดเครื่องยนต์หลักทำงาน,อุปกรณ์ควบคุมการสตาร์ทติดเครื่องยนต์จะใช้ในการเปิด
สวิทช์ต่อ กำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่อัตโนมัติเพื่อใช้ในการสตาร์ทติดเครื่องยนต์โดยจ่ายกำลังไฟฟ้าแรงเคลื่อน 48 โวลต์
และใช้จ่ายไฟฟ้าที่พักเก็บไว้ที่แรงเคลื่อน 24 โวลต์
ในแบบการกำเนิดไฟทำงานอุปกรณ์ไฟจะใช้ในการต่อกำลังของการผลิตกำลังงานไฟฟ้าจ่ายเป็นหลัก
ให้กับ ยานยนต์เมื่อกำลังไฟมีแรงเคลื่อนไฟฟ้าเกินความต้องการ เครื่องควบคุมแรงเคลื่อน ( SB ) จะต่อกำลังจ่ายไฟฟ้า
ให้ระบบ,และเมื่อแรงเคลื่อนไฟฟ้าน้อยกว่าค่าที่กำหนดไว้เครื่องควบคุมแรงเคลื่อน( SB )จะตัดการจ่ายไฟฟ้าใน ทำนอง
เดียวกันกับการควบคุมแรงเคลื่อนไฟฟ้าหลักในยานยนต์และกำลังไฟฟ้าจะถูกควบคุมไว้อย่างจำกัดในการ ผลิต
กำลังไฟฟ้าของเครื่องยนต์ช่วย (APU)ที่ผลิตได้ในระหว่างการทำความร้อนเพิ่มขึ้นในเครื่องยนต์ช่วย(APU)
อุปกรณ์ควบคุมและสตาร์ทติดเครื่องยนต์ถูกออกแบบมาดังนี้.
-จัดไว้สำหรับการสตาร์ทติดเครื่องยนต์หลัก
-จัดไว้สำหรับการสตาร์ทติดเครื่องยนต์หลักในขณะทีใ่ ช้แบบการควบคุมฉุกเฉิน
-จัดไว้ใช้ในการสวิทช์เปิดกลไกต่อกำลังในขณะสตาร์ทติดเครื่องยนต์ช่วย ( APU )
-จัดไว้ใช้จ่ายกำลังไฟฟ้าให้กับรถถังโดยเครื่องควบคุมแรงเคลื่อนไฟฟ้าหลักในยานยนต์
-จัดไว้ใช้ตัดวงจรไฟเพื่อต่อต้านป้องกันการลัดวงจรในระบบไฟที่ใช้งาน
-จัดไว้ใช้สตาร์ทติดเครื่องยนต์หลักในรถถังคันอื่นแบบเดียวกันด้วยการใช้วิธีต่อวงจรสตาร์ทติด
ภายนอกตัวรถ
-การดำรงรักษาแรงเคลื่อนที่ใช้งานในยานยนต์ แรงเคลื่อนหลักอยู่ในช่วงประมาณ 26.5 -
28.5 โวลต์ ในระหว่างที่เครื่องยนต์หลัก ( ME )และเครื่องยนต์ช่วย ( APU ) ทำงาน
หมายเหตุ : การดำรงรักษาแรงเคลื่อนที่ใช้งานในยานยนต์ ในระหว่างที่มีการทำงานนั้น การผลิตกำลังไฟฟ้าจะ
ถูกควบคุมไว้โดยเครื่องควบคุมแรงเคลื่อนไฟฟ้า RN 505M1-1T
ส่วนประกอบหลักของชุด SCE มีดังต่อไปนี้.
- เครื่องควบคุมแรงเคลื่อนไฟฟ้า RN 505M1-1T ( รูป 3.4 )
- ไฟแสดงผล:
- ME oil minimal pressure;
- ME CL max. temperature.
- สวิทช์กดการทำงานใหม่อีกครั้งหนึ่ง:
OIL INJECT – BLOWER WASHING;
OIL PUMP – ENGINE OIL PUMP;
OIL DRAIN – TOW OIL PUMP ).
- สวิทช์ปลดการทำงาน:
FUEL PUMP – PETROL;
MAN ENGINE – START AUTO.
- ปุ่มกดสำหรับ:
AIP START;
ENGINE STARTER;
EMERGENCY ENGINE STOP.
- ปลั๊กเสียบต่อสำหรับ :
RECHARGING ;
ЕXTERNAL START;
TEST .
-แรงดันน้ำมันหล่อลื่นเครือ่ งยนต์
-แรงดันน้ำมันหล่อลื่นหีบเฟืองเกียร์เครื่องเปลี่ยนความเร็ว
-ความเร็วรถ
-ความเร็วการหมุนเพลาข้อเหวี่ยงเครื่องยนต์
ในแบบการแสดงช่วย ( รูป 3.15 )
2) ปุ่มต่าง ๆ :
MODE ใช้สำหรับการเปิดสวิทช์เลือกการทำงานที่บนแผงเครื่องวัดระหว่างการแสดงผลหลัก(แสดงผลระยะ
ยาว ) และชุดเพิ่มเติม ( แสดงผลด้วยดิจิตอล ) แบบของการแสดงผลเป็นพื้นฐานของการวัด
TEST ใช้สำหรับการทดสอบการทำงานของชุดส่งสัญญาณและชุดหน่วยควบคุม ความสำเร็จของการคำนวณ
แปลงข้อมูลการทดสอบการทำงานออกมาที่บนจอแสดงผล จะเกี่ยวข้องกับผลการทดสอบต่าง ๆ ( รูป 3.16 )
การทำงานของผลการทดสอบต่าง ๆบนจอแสดงผลประกอบด้วย ดังต่อไปนี้ ชื่อของอุปกรณ์ที่ถูกการควบคุม
และสถานะภาพของอุปกรณ์เหล่านั้น (ปกติ,ผิดปกติ,หยุดการทำงาน,เกิดการลัดวงจร,และไม่สามารถติดต่อสื่อสารได้)
การเลื่อนเข้าตำแหน่งมากเกินไป ที่แสดงเป็นแบบพื้นฐานถูกกระทำโดยใช้การกดปุ่มแบบ MODE หรือการกด
ปุ่ม TEST ทดสอบตามลำดับขั้นตอน
รูป 14 แผงเครื่องวัดเครื่องปรับอากาศ
ในแผงเครื่องวัดหน้าเครื่องปรับอากาศติดตั้งองค์ประกอบต่าง ๆดังนี้.
-สวิทช์เลือกตำแหน่งสำหรับการหมุนเปิดเครื่องปรับอากาศ
-สวิทช์หมุนเปิดของแบบการทำงาน
-ไฟแสดงผลการส่งสัญญาณ
-ไฟแสดงสีเขียวติดขึ้นที่ “ VENTILATION ” ใช้สำหรับการแสดงผลแบบการทำงานของการ
ไหลเวียนดูด อากาศเข้า
รูป 14 ชุดหน่วยกำลัง
3.3.10 บอร์ดการจ่ายกำลังไฟ ( Distributing board )
บอร์ดการจ่ายกำลังไฟ ของผู้บังคับรถและพลยิงถูกออกแบบมาสำหรับใส่ตัวตัด –ต่อวงจรไฟอัตโนมัติ
ของแบบ ACB ( รูป 3.20 และ3.21 ) บอร์ดนี้ถูกโรงงานสร้างมาในลักษณะกล่องโลหะที่ติดตั้งตัวตัด-ต่อวงจร ACB ไว้
จำนวน 10 ตัว ACB จะติดตัง้ ไว้ในบอร์ดนี้ ฝาครอบป้องกันใช้ในการป้องกันก้านคันโยกของ ACB เกิดการชำรุดเสียหาย
จากการใช้มือจับโยกหรือเกิดเหตุอุบัติเหตุขึ้นในขณะการเปิดสวิทช์เลือกตำแหน่ง ตัวตัด –ต่อวงจร ( ACB ) ทุกตัวจะถูก
ปิดไว้ด้วย แผ่นบานพับและสปริงดันกลับ ซึ่งควรจะอยู่ในตำแหน่งเปิดในระหว่างใช้รถถัง
รูป 3.20 บอร์ดการจ่ายไฟของผู้บังคับรถ รูป 3.21 บอร์ดการจ่ายไฟของพลยิง
บทที่ 4
ระบบป้องกัน นชค. ( NBC PROTECTION SYSTEM )
ระบบป้องกัน นชค. ถูกออกแบบเพื่อป้องกันพลประจำรถและอุปกรณ์ตา่ ง ๆ ภายในตัวรถจากอันตรายของระเบิด
นิวเคลียร์, กัมมันตภาพรังสี, อาวุธเคมีและสารชีวภาพ พร้อมด้วยระบบดับเพลิงอัตโนมัติในรถถัง
ด้วยวัตถุประสงค์ของตามหน้าที่ ระบบประกอบด้วยอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากอาวุธ นชค. และอุปกรณ์ดับเพลิง
ภายในรถ
นอกเหนือจากตัวรถและป้อมปืน ที่สามารถป้องกันอันตรายจากคลื่นกระแทกและฉายรังสี ระบบป้องกัน นชค.
ประกอบได้ด้วย (รูปที่ 4.1) :
- อุปกรณ์ตรวจจับรังสีและสารเคมี PRHR-M1 (RCAD-M1) ПРХР-М1
- อุปกรณ์ดับเพลิงอัตโนมัติ (Б709)
- อุปกรณ์ควบคุมและส่งสัญญาณ (П708)
- กล่องควบคุมการทำงานของพัดลมกรองอากาศ (КУВ401)
- หน่วยกรองและระบายอากาศ (ФВУ)
- มาตรวัดแรงดันเกิน
- 10 เซนเซอร์ตรวจจับด้วยแสงและความร้อนten
- 4 เซนเซอร์ตรวจจับด้วยความร้อน
- 4 ถังดับเพลิง
- กลไกกระตุ้นการทำงาน
- สายไฟและท่อ
1 – อุปกรณ์ตรวจจับรังสีและสารเคมี RCAD-M1; 2 – จุดทางเข้าของอากาศภายนอก; 3 – ถังดับเพลิง; 4 – แผงควบคุม
PK43-2M; 5 – หน่วยกรองอากาศ; 6 – มาตรวัดแรงดันเกิน; 7 – เซนเซอร์วัดความร้อน; 8 – กลไกดับเครื่องยนต์ ESM;
9 – วาล์วเป่าลม SG; 10 – ถังดับเพลิงเคลื่อนที่; 11 – แผงควบคุมระบบดับเพลิงและสัญญาณเตือน; 12 – หน่วย
ดับเพลิงอัตโนมัติ; 13 – กล่องควบคุมพัดลมกรองอากาศ; 14 – เซนเซอร์ตรวจจับด้วยความร้อนและแสง
4.1.4 อุปกรณ์นำอากาศเข้า
อุปกรณ์นำอากาศเข้า
อุปกรณ์นำอากาศเข้า (รูปที่ 4.4) ทำหน้าที:่
- ป้องกันเซนเซอร์จากการผ่านเข้ามาของน้ำ ที่ระดับน้ำ 350 มม. สูงเหนืออุปกรณ์นำอากาศเข้า เมื่อ
อุปกรณ์ตรวจจับ นชค. ทำงาน
- กำจัดฝุ่นออกจากอากาศและเป่าฝุ่นออก
- ทำความร้อนให้อากาศก่อนที่จะถูกส่งไปยังอุปกรณ์เซนเซอร์
- พ่นอากาศออกสู่บรรยากาศหลังจากผ่านการวิเคราะห์แล้ว
เมื่ออุปกรณ์ตรวจจับ นชค. ไม่ทำงาน, ทางเข้า-ออกอากาศของอุปกรณ์นำอากาศเข้าจะถูกปิดด้วยฝาปิด
ยาง หมายเลข 5 (รูปที่ 4.4 พืน้ ที่รอบ ๆ ท่ออากาศถูกทำความสะอาดโดยแรงดันลมจากระบบทำความสะอาดด้วยลมของ
พลขับ
การถ่ายน้ำที่สะสมในอ่างระหว่างการทำงานของอุปกรณ์ตรวจจับ นชค. อุปกรณ์นำอากาศเข้ามีช่องถ่าย
ที่ก้นถ้วย ซึ่งมีจุกปิดไว้ (หมายเลข 4)
1-ไซโคลน; 2-ถ้วย; 3-ฝาปิด; 4-จุกปิด; 5-ฝาครอบท่อเข้า; 6-เกราะป้องกัน; a-ช่องทางไหลของอากาศ
4.5 หน่วยกรองอากาศ
หน่วยกรองอากาศ มีไว้สำหรับทำความสะอาดอากาศภายนอกจากสารปนเปื้อนพิษ, ฝุ่นกัมมันตรังสี, ละออง
ชีวภาพ เพื่อป้อนอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ภายในห้องพลประจำรถและสร้างแรงดันอากาศภายในห้องให้สูงกว่าภายนอก ทั้งยัง
ระบายอากาศภายในห้องพลประจำรถในขณะทำการยิงและหลังจากสารดับเพลิงถูกใช้งานด้วย
หน่วยกรองอากาศ (รูปที่ 4.7) ประกอบด้วย:
- พัดลมระบายอากาศ
- กรองดูดสาร
- ระบบของวาล์ว
1-วาล์วอากาศเข้า; 2-วาล์วเป่าฝุ่นออก; 3-พัดลมระบายอากาศ; 4- lobe valve; 5-คลิปล็อก; 6-กรองดูดสาร; 7-ท่อ; 8-
วาล์ว; 9-กล่องวาล์ว
4.6 มาตรวัดความดันเกิน
มาตรวัดความดันเกิน (รูปที่ 4.8) มีไว้สำหรับตรวจสอบแรงดันเกินในขณะปัจจุบันภายในห้องพลประจำรถในรถถัง
การตรวจสอบระดับความดันเกิน, คลายเกลียวของจุกปิดขณะที่หน่วยกรองอากาศทำงานและกดตัวเรือนมาตรวัด
ความดันเกิน, ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อปริมาตรภายในรถถังกับบรรยากาศ ถ้ามีแรงดันอากาศภายในรถถังมากกว่า 35 มม.ของ
แรงดันน้ำ ลูกบอลจะถูกดันขึ้นไปในท่อสูต่ ำแหน่งด้านบน นั่นหมายถึงหน่วยกรองอากาศกำลังทำงานและคุณสมบัติการ
ป้องกันของห้องพลประจำรถอยู่ในสภาพดี
4.7 เซนเซอร์ตรวจจับด้วยแสง
เซนเซอร์ตรวจจับด้วยแสงแปลงแสงและรังสีความร้อนของเปลวไฟไปสู่สัญญาณไฟฟ้าและส่งไปยังอุปกรณ์อัตโนมัติ
ของระบบดับเพลิง
เซนเซอร์ตรวจจับด้วยแสดงถูกติดตัง้ อยู่ภายในห้องพลประจำรถ:
- 1 ตัว ที่ด้านหน้าห้องพลขับ
- 2 ตัว ข้างกลุม่ ถังดับเพลิง 3 ถัง
- 1 ตัว ที่ด้านขวาใต้รางบรรทุกกระสุนของระบบบรรจุกระสุนอัตโนมัติ
- 1 ตัว ด้านล่างใกล้กับเครื่องทำความร้อน
- 2 ตัว ข้างที่เก็บกระสุนด้านหลังใต้กลไกบรรจุกระสุนอัตโนมัติ
- 2 ตัว อยู่ด้านซ้ายใต้กลไกบรรจุกระสุนอัตโนมัติ
- 1 ตัว ข้างถังดับเพลิงที่ 4
4.8 เซนเซอร์ตรวจจับด้วยความร้อน
เซนเซอร์ตรวจจับด้วยความร้อนถูกติดตั้งอยู่ในห้องเครื่องยนต์:
- 1 ตัว อยู่ทางด้านซ้ายใกล้ปั๊มน้ำด้านหลัง
- 1 ตัว บนถังน้ำมันเครื่องยนต์
- 1 ตัว อยูบ่ ริเวณฝาครอบเกียร์บ็อกด้านซ้าย
- 1 ตัว อยู่บริเวณฝาครอบเกียร์บ็อกด้านขวา
4.9 ถังดับเพลิง
ถังดับเพลิง (รูปที่ 4.9) ภายในบรรจุสารดับเพลิงซึ่งเป็นสารประกอบ Halon 13B1 (114B2)
ตัวถังถูกทาสีเครื่องหมายแสดงให้รู้ถึงน้ำหนักและวันที่ชั่ง ตัวถังอัดสารภายใต้แรงดันซึ่งป้องกันการไหลด้วย
วงจรไฟฟ้าบริเวณทางออกของถังดับเพลิง หลังจากที่ไฟสว่างติด สัญญาณจะถูกกำหนดให้ทำงานตามลำดับของถัง
ดับเพลิง สัญญาณออกจากแผงควบคุมอุปกรณ์ดับเพลิง เพื่อช่วยตรวจสอบน้ำหนักของสารที่อยู่ภายในถัง
รูปที่ 4.9 – ถังดับเพลิง
4.10 ตัวกระตุน้
ตัวกระตุ้นระบบป้องกัน นชค. ประกอบด้วย (รูปที่ 4.1):
- กลไกดับเครือ่ งยนต์
- วาล์วเป่าลมของ starter generator
- วาล์วหน่วยกรองอากาศ
- หัวปล่อยสารของถังดับเพลิง
กลไกดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ จะหยุดการทำงานของเครื่องยนต์โดยตัดการจ่ายน้ำมันเมื่อได้รับคำสั่งจากระบบ
ป้องกัน หรือเมื่อกดปุ่มหยุดการทำงานเครื่องยนต์บนแผงควบคุมของ ผบ.รถ
สำหรับการติดเครื่องยนต์หลังจากกลไกดับเครื่องยนต์ทำงานแล้ว ให้ตั้งคันตั้งรอบเครื่องยนต์ (คันตั้งการจ่ายน้ำมัน
ด้วยมือ) และคันเร่งกลับมายังตำแหน่งเริ่มต้น
วาล์ว starter generator นำอากาศมาเป่า starter generator ที่มาจากห้องพลประจำรถ ในสภาวะปกติ หรือ
จากภายในห้องเครื่องยนต์ โดยสัญญาณจากอุปกรณ์ตรวจจับ นชค.
หัวปล่อยสารของถังดับเพลิง จะปล่อยสารดับเพลิงสู่ห้องพลประจำรถหรือห้องเครื่องยนต์ โดยสัญญาณไฟไหม้จาก
เซนเซอร์ตรวจจับด้วยแสงและความร้อน
4.11 ถังดับเพลิงเคลื่อนที่
สำหรับการดับเพลิงที่ขนาดไม่ใหญ่มาก มีถงั ดับเพลิงภายในบรรจุสารคาร์บอนไดออกไซด์ (หมาเลข 10 รูปที่ 4.1)
เก็บไว้ใกล้กับที่นั่งของ ผบ.รถ
บทที่ 5 เครื่องปรับอากาศ
5.1 วัตถุประสงค์ในการใช้เครื่องปรับอากาศ (Air conditioner purpose)
ระบบปรับอากาศได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับระบายอากาศและทำความเย็นให้กับห้องหอรบของพล
ประจำรถ เมื่อใช้งานระบบปรับอากาศในโหมด “ระบายอากาศ (Ventilation)'' ระบบจะทำงานโดยอาศัยกำลังไฟจาก
แบตเตอรี่เมื่อเปิดสวิตช์ไฟหลักไปที่ตำแหน่ง ''ON'' สำหรับการใช้งานในโหมด ''ทำความเย็น (Cooling)'' จำเป็นต้องติด
เครื่องยนต์หลักหรือใช้แหล่งจ่ายไฟจากภายนอก
มีระบบเครื่องปรับอากาศอยู่ 2 ตัวในรถถัง เครื่องปรับอากาศเครื่องแรกติดตั้งอยู่กับตัวรถและถูก
ออกแบบไว้สำหรับใช้งานในห้องพลขับ เครื่องที่ 2 ติดตั้งอยู่ในป้อมปืนและออกแบบไว้สำหรับปรับอากาศในห้องหอรบ
อุปกรณ์เครื่องปรับอากาศแต่ละเครื่องได้จัดเตรียมการใช้งานไว้อย่างเพียงพอในสภาวะที่ห้องหอรบอยู่ในระบบปิดป้อม
และสามารถปฏิบัติงานได้พร้อมกันทั้งสองเครื่องหรือใช้งานเพียงเครื่องเดียว การควบคุมการใช้งานเครื่องปรับอากาศที่ติด
ตั้งอยู่กับตัวรถจะควบคุมจากที่นั่งของพลขับ และเครื่องปรับอากาศที่ตดิ ตั้งในป้อมปืนจะควบคุมจากทีน่ ั่งของผบ.รถ
5.2 ส่วนประกอบและการจัดเตรียมเครื่องปรับอากาศ (Components and arrangement of air
conditioners)
เครื่องปรับอากาศคือเครื่องจักรที่ทำการควบแน่นไอน้ำให้กลายเป็นน้ำแข็งโดยจะแยกส่วนที่ว่างออกจาก
กันด้วยคอมเพรสเซอร์ทขี่ ับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์หลักดังต่อไปนี:้
- คอยล์ร้อนคอมเพรสเซอร์ (CCU) จะติดตั้งอยู:่ ผนังด้านขวาของห้องหอรบในป้อมปืน บนแคร่
รถในห้องพลขับติดตั้งอยู่ด้านหน้าขวาของตัวรถของแหล่งจ่ายกำลัง ในตัวคอยล์ร้อนที่สร้างจากโรงงานจะทำเป็นรูพร้อม
กับตะแกรงป้องกันสำหรับให้อากาศหมุนวนผ่านอุปกรณ์คอนเดนเซอร์ของคอยล์ร้อน ในการลุยข้ามเครื่องกีดขวางที่เป็น
น้ำชุดคอยล์ร้อนจะทำให้น้ำท่วมไหลผ่านได้
- หีบควบคุมอากาศ (AHU) จะติดตั้งอยู่: บนเพดานป้อมปืนใต้แผ่นเกราะป้องกัน, ในห้องพล
ขับจะติดตั้งอยู่กับตัวรถทางด้านขวาของช่องเก็บถังน้ำมันเชื้อเพลิง
- หีบควบคุมเครื่องปรับอากาศ
- หีบเครื่องจ่ายกำลังไฟเครื่องปรับอากาศ
- ท่อทางเดินและขั้วต่อสายไฟจะวางอยู่ระหว่างตัวเครื่องปรับอากาศ
1. ตัวกระจายความเย็น (diffuser), 2. ท่อทางเดิน (pipelines), 3. หีบควบคุมการกระจายอากาศ (air diffusion
panel), 4. เครื่องระบายอากาศ (ventilator), 5. เครือ่ งจ่ายอากาศ (air handling unit), 6. เครื่องตรวจจับ
แรงดัน (pressure sensor), 7. ห้องคอยล์รอ้ น (CCU compartment), 8. compressor-condenser unit.
รูปที่ 5.1 การจัดเตรียมเครื่องปรับอากาศติดตั้งกับแคร่รถ (Arrangement of air conditioner into chassis)
ช่องใส่บนดาดฟ้าของป้อมปืน 1 16 16
รูปที่ 6.4 ซองใส่แผ่นเกราะ ERSAE สำหรับแผงติดตั้ง M (Cassette with ERAE for cells M)
รูปที่ 6.5 ซองใส่แผ่นเกราะ ERAE สำหรับแผงติดตั้ง P (Cassette with ERAE for cells P)
ตารางที่ 6.2 จำนวนของแผ่นเกราะ ERAE บนโมดูลด้านหน้า (Number of ERAEs of the front module)
จำนวน
จำนวน จำนวนช่องใน
แผง ซองใน จำนวนแผ่นเกราะ จำนวนแผ่นเกราะ
แผง แต่ละซองใส่
ติดตัง้ แผง HSCHKV-34P ในแผงติดตั้ง HSCHKV-34P
ติดตัง้ แผ่นเกราะ
ติดตัง้
K 6 1 2 2 12
M 10 1 3 3 30
P 8 1 4 4 32
รูปที่ 6.7 ช่องใส่แผ่นเกราะ ERAE สำหรับแผงติดตั้ง A (Cassette with ERAE for cells A)
รูปที่ 6.10 ช่องใส่แผ่นเกราะ ERAE สำหรับแผงติดตั้ง H (Cassettes with ERAE for cells H)
ตารางที่ 6.3 จำนวนของแผ่นเกราะ ERAE ในแผ่นกำบังด้านข้างของตัวรถ (Quantity of ERAE in the hull side
screens)
จำนวนช่อง จำนวนแผ่นเกราะ จำนวนแผ่นเกราะใน จำนวนแผ่นเกราะ
จำนวน
แผง ใส่แผ่น ในช่องใส่แผ่นเกราะ แผงติดตั้ง ทั้งหมด
แผง
ติดตั้ง เกราะใน HSCHKV- HSCHKV- HSCHKV- HSCHKV- HSCHKV- HSCHKV-
ติดตั้ง
แผงติดตั้ง 34P 19 A 34P 19 A 34P 19 A
2 2 4 40
A 10
4 2 8 80
1 2 2 4
C 2
2 2 4 8
1 4 4 24
B 6
2 4 8 48
1 6 6 12
H 2
2 6 12 24
6.6.4 การถอดแผ่นเกราะ ERAE จากตัวรถและป้อมปืน (Removal of ERAE in hull and turret)
ให้ทำการถอดแผ่นเกราะในทางตรงกันข้ามกับการใส่
สำหรับการถอดแผ่นเกราะ ERAE ออกจากแผงติดตั้งให้ใช้เครื่องมือพิเศษที่เป็นขอเกี่ยวที่มีอยู่ในกล่อง
เครื่องมือของพลประจำรถทีเ่ ก็บไว้ในชุดเล็กของ SPTA
ในขณะที่ทำการถอดแผ่นเกราะ ERAE จากกรอบใส่แผ่นเกราะด้านข้างของส่วนประกอบที่ 4 และ 5 ผ่าน
ทางช่องถ่ายน้ำโดยดึงแผ่นเกราะ ERAE ที่อยู่ในส่วนประกอบในแนวระดับด้วยขอเกี่ยว
การถอดแผ่นเกราะ ERAE ออกจากรถถังจะต้องตรวจสอบเพื่อค้นหาสาเหตุ revealrejectioncriteriaand
faults
การชำรุดเสียหายของแผ่นเกราะ ERAE ในระหว่างปฏิบัติงานที่จะต้องทำเครื่องแจ้งการชำรุดเพื่อเก็บแยก
ต่างหากตามมาตรฐานและส่งคืนไปยังคลังเก็บกระสุน
การหักงอของแผ่นเกราะ ERAE ในขณะปฏิบัติงานควรทำความสะอาดและเช็ดแห้ง
ภายหลังจากตรวจสอบแผ่นเกราะ ERAE ทีน่ ำออกมาแล้วจะต้องจัดวางด้วยรูปแบบมาตรฐาน
ปิดและผนึกกล่องเก็บแผ่นเกราะ ERAE ทีจ่ ะต้องนำส่งคืนคลังกระสุน
6.2 อุปกรณ์ในตัวรถและป้อมปืน (Hull and turret equipment)
6.2.1 อุปกรณ์ในตัวรถและป้อมปืน (Opening and closing of the driver’s hatch from outside the tank)
สำหรับการเปิดช่องทางเข้า-ออกจากภายนอกให้ปฏิบัติดังนี้:
− คลายจุกเกลียวหมายเลข 1 (รูปที่ 6.11) โดยใช้เครื่องมือล็อคฝาปิดช่องทางเข้า-ออก ยกฝาปิด
หมายเลข 3 ของช่องทางเข้า-ออกโดยการหมุนแป้นปรับหมายเลข 2 ตามเข็มนาฬิกาจนกระทั่งหยุดเอง
กดลงเมื่อต้องการถอด
1. ฝาปิด (cover), 2. สายรัด (fastener), 3. คันจับ (handle), 4. เชือก (rope), 5. กลอนยึด (hinge), 6. กระเดื่อง
กลอน (latch), 7 ก้านเหล็ก (rod)
รูปที่ 6.12 ฝาปิดช่องทางออกฉุกเฉิน (Emergency escape hatch)
6.2.5 การเปิดแผ่นปิดดาดฟ้าเหนือห้องเครื่องกำเนิดกำลัง (Opening of the top deck plate above power
pack compartment)
การเปิดแผ่นปิดดาดฟ้า:
− ติดตั้งคันบังคับท่อบายพาสแก๊สลงในตำแหน่งอยู่กับที่ “COOLING” หรือ “HEATING”;
− ถอดถังสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงติดตั้งแผ่นปิดบนดาดฟ้าเพื่อป้องกันแผ่นกำบังฉนวนกันความร้อน
ชำรุด;
− ถอดแผ่นกำบังด้านหลังหมายเลข 1 (รูปที่ 6.13);
1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 แผ่นกำบัง (screen)
รูปที่ 6.13 ฉนวนกันความร้อนแผ่นปิดดาดฟ้าห้องเครื่องกำเนิดกำลัง
(Power pack compartment top deck plate thermal insulation)
− คลายสลักเกลียวยึดบานเกล็ดตัวนอกและลดบานเกล็ดลง
− ใช้ประแจคลายน็อต 20 ตัว ทีย่ ึดดาดฟ้ากับตัวรถออกด้วยแรง 478B.95.010sb และ 432.95.139-2 sb
− สอดแชลงเข้าไปในท่อหมายเลข 10 (รูปที่ 6.14)
− ยกแผ่นปิดดาดฟ้าด้วยพลประจำรถ 2 นาย โดยใช้แชลงยกขึ้นจนกระทั่งเปิดอยู่ในตำแหน่งขัด
กลอน
− ถอดแชลงออก
− สอดแท่งเหล็กหมายเลข 11 (6.15) ซึ่งใช้ยึดติดเพื่อความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานกับเครื่อง
กำเนิดกำลัง
− ใช้แผ่นปิด 476.35.200sb (จากกล่องเครื่องมือ SPTA) เพื่อปิดท่อแก๊สติดยึดด้วยเหล็กตัวยูพร้อม
กับแหวนบนก้านเหล็กd.
คำเตือน! ห้ามเด็ดขาด ห้ามปฏิบัติงานในห้องเครื่องกำเนิดกำลังโดยการยกและล็อคแผ่นปิดดาดฟ้าโดย
ไม่ติดตั้งแท่งเหล็กค้ำพร้อมกับฝาครอบ
1. ตะแกรง (grid), 2. บานเกล็ด (louvers), 3. หม้อระบายน้ำมันเครื่อง (oil radiators), 4. หม้อน้ำ (water
radiators), 5. ท่อรวม (manifold), 6. อ่างระบายน้ำมัน (expansion tank), 7. หัวฉีด (diffuser), 8. ห้องส่วนผสม
(mixing chamber), 9. ท่อหลายทาง (branch pipe), 10. ท่อสำหรับใส่แชลง (pipe for crow bar), 11. ท่อแก๊ส
บายพาส (bypass gas duct), 12. สลักยึดแผ่นปิดดาดฟ้าด้านบน (top deck plate fastening bolt), 13. ตะแกรง
ปิดหีบทำความสะอาดอากาศขั้นต้น (grid over the primary air cleaning bunker), 14. แผ่นปิดเครื่องทำความ
สะอาดอากาศ (cover over the aircleaner), 15. แผ่นปิดดาดฟ้า (top deck plate)
การปิดแผ่นปิดดาดฟ้า:
− การถอดแผ่นปิดท่อแก๊สและการปลดลวดออกจากแหวนของเหล็กค้ำ
− ใส่แชลงและยกแผ่นปิดดาดฟ้าถอดเหล็กค้ำหมายเลข 11 ออกมา (รูปที่ 6.15)
− หมุนสลักกลอนไปทางด้านขวาของแกนเพลา และยึดไว้กบั บานพับที่อยู่ติดกับสลักกลอน
− ปล่อยขอยึดด้านซ้ายแล้วลดแผ่นเกราะดาดฟ้าลง ปลดขอยึดออกจากบานพับ
− ใช้แชลงกดแผ่นปิดดาดฟ้าไว้กับตัวรถ ยึดไว้ด้วยสลัก แล้วขันแน่นสลักตามลำดับที่แสดงไว้ในแผนผัง (รูป
ที่ 6.16) ขั้นแรกให้ขันสลักหมายเลข 1...8 ทางด้านขวาและด้านซ้ายอย่างน้อยสามรอบเพื่อทำให้แน่นจากนั้นใส่สลัก
หมายเลข 9...20 แล้วขันให้แน่นกับด้านหน้าและด้านหลังโดยหมุนสามรอบ ขันสลักแต่ละตัวให้แน่นอีกครั้ง
− นำแชลงออก
− ยกและยึดบานเกล็ดด้านนอกด้วยสลักยึด
− ติดตั้งแผ่นกำบังฉนวนความร้อนโดยยึดไว้ด้วยสลัก ผนึกลวดสลักกับตัวหนีบบนแผ่นปิดดาดฟ้า
ในกรณีที่ต้องใช้แรงเพิ่มขึ้นในการยกแผ่นปิดดาดฟ้า ให้ติดตั้งแขนค้ำตามที่กล่าวไว้ใน “คูม่ ือการใช้งานเครื่องมือ
พิเศษและเครือ่ งกลไก”
สำหรับการปล่อยไอเสียในระหว่างใช้งานเครื่องยนต์เมื่อยกแผ่นปิดดาดฟ้าอยู่ให้ติดตั้งตัวปรับต่อท่อเพิ่มหมายเลข
12 (จาก SPTA) ระหว่างแผ่นปิดดาดฟ้าและท่อแก๊ส ดังนี:้
− ติดตั้งเหล็กค้ำหมายเลข 11 ทางด้านขวา
− ในขณะที่หมุนเหล็กค้ำยันด้วยสิ่วเหล็กหรือ tommy bar ให้ยกแผ่นปิดดาดฟ้าให้ได้มุม ที่ช่วยให้สามารถ
ติดตั้งท่อเพิ่มหมายเลข 12 ได้
− ถอดแผ่นปิดออกจากท่อแก๊ส และติดตั้งท่อเพิ่มเข้าไปในช่องติดตั้ง
− หมุนตัวท่อให้ติดแน่นกับฝาครอบของท่อเพิ่มเพื่อจะไม่ทำให้ครีบของท่อแก๊สชำรุด
การถอดตัวปรับต่อท่อเพิ่ม:
− หมุนเหล็กค้ำยันเพื่อยกแผ่นปิดดาดฟ้าให้ได้มุมตัวท่อ เพื่อช่วยให้สามารถถอดตัวปรับต่อท่อได้
− ถอดท่อเพิ่มออก
การเปิดแผ่นบานเกล็ดระบายอากาศบนหม้อน้ำ:
− ถอดแผ่นกำบังฉนวนความร้อนด้านหน้าสองชิ้นหมายเลข 2 และ 3 ออก (รูปที่ 6.13)
− คลายสลักยึดแผ่นบานเกล็ดออก
− เปิดแผ่นบานเกล็ดด้านหน้าโดยใช้คันจับยกขึ้นไปจนถึงมุม 120 จนกระทั่งหยุด
− เปิดแผ่นบานเกล็ดด้านหน้าโดยใช้คันจับยกขึ้นด้วยมุม 35 และติดตั้งเสาค้ำไว้ด้านใต้อยู่ทางด้านขวาของ
แผ่นปิดดาดฟ้า
การปิดแผ่นบานเกล็ดระบายอากาศให้ทำย้อนกลับกัน
1. คันเลื่อนเครื่องกลไก (lever mechanism), 2. เหล็กโค้ง (arc), 3. พนังพิง (seat back), 4. โครงที่นั่ง (frame),
5. เครื่องกลไกกระเดื่องกลอนยึด (latch mechanism), 6. ส่วนติดตั้งกระเดื่องกลอน (latch sector), 7. ซี่เฟือง
ล็อค (comb), 8. คันล็อคทางสูง (vertical lock handle), 9. เบาะรองนั่ง (seat cushion), 10. คันล็อคทางระดับ
(horizontal lock handle), 11. คานรับแรงบิด (torsion bars)
รูปที่ 6.17 ที่นงั่ พลขับ (driver’s seat)
ในกรณีที่ต้องการเลื่อนเบาะที่นั่งไปตามแนวของตัวรถถัง
− ให้ถอดเหล็กโค้งหมายเลข 2 เลื่อนแป้นปรับไปตามแกนของเหล็กโค้ง
− ถอดพนังพิงหมายเลข 3 โดยพับพนักพิงและนำออกจากฐานติดตั้งเบาะรองนั่งหมาย 9 ออกทาง
ร่อง
− เลื่อนคันล็อคทางสูงหมายเลข 10 โดยการเลือ่ นเบาะหมายเลข 9 ไปทางด้านหน้าและถอดออก
− ทำความสะอาดเหล็กนำบนเบาะรองนั่งและรางเลื่อนบนโครงที่นั่งหมายเลข 4 ทำความสะอาด
โคลน,สี และใช้ไขข้น AMS -3
− ประกอบที่นั่งกลับโดยกระทำย้อนกลับกัน
การโค้งงอของพนักพิงโดยใช้แรงดันเหล็กโค้งของโครงสร้างหมายเลข 2
ที่นั่งสามารถจัดปรับได้สามตำแหน่งเพื่อความสะดวกสบายของพลขับ
7.2 การสร้างที่กำบังตนเอง
478DU9-T RE2
478DU9-T RE2
ลำดับ ลักษณะงาน ความต้องการทางเทคนิคและคำแนะนำทีเ่ กี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานให้สมบูรณ์ เครื่องมือและวัสดุที่ต้องนำมาใช้
10 ตรวจสอบขั้วต่อสายเคเบิลและ เครื่องมือติดต่อสื่อสารภายในและภายนอกจะต้องช่วน้ให้พลประจำรถติดต่อสื่อสารได้ง่าย ใช้ประแจขนาด 12 มม.จากชุดอุปกรณ์
สายดินของชุดวิทยุ VRC-950 เครื่องมือประจำรถ
และ VRC-6020, ความหยุ่นตัว
ของเครื่องผ่อนแรงของเสาอากาศ
และถ้าจำเป็นให้ขันน๊อตเครื่อง
ผ่อนแรงเสาอากาศให้แน่น
ตรวจสอบการทำงานของระบบ
เครื่องติดต่อภายในรถถังของพล
ประจำรถ AVSK-1T, การได้ยิน,
ภาครับของชุดวิทยุ
11 ก่อนติดเครื่องยนต์ให้ทำการ การเก็บประจุไฟของแบตเตอรี่ในฤดูหนาวจะต้องมีค่าอย่างน้อยที่สุด 75 % ในฤดูร้อนอย่าง
17-6
478DU9-T RE2
ระบบเครื่องยนต์
ลำดับ ลักษณะงาน ความต้องการทางเทคนิคและคำแนะนำทีเ่ กี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานให้สมบูรณ์ เครื่องมือและวัสดุที่ต้องนำมาใช้
13 ตรวจสอบระบบทำฉากควันด้วย เมื่อดำเนินการตรวจสอบให้ปฏิบัติตามคำแนะนำตามคู่มือเล่มนี้ในรายการที่ 11.5.2.1
ตนเองโดยใช้ระบบทดสอบ
อุปกรณ์ด้วยตัวเอง
14 ตรวจสอบระบบต่อต้านการใช้ เมื่อดำเนินการตรวจสอบให้ปฏิบัติตามคำแนะนำตามคู่มือเล่มนี้ในรายการที่ 11.5.3
อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์นำทาง
15 ตรวจให้แน่ใจว่ากระจกหัวระบบ ตัวเรือนกระจกและตัวกระจายแสงจะต้องสะอาด ใช้ผ้าทำความสะอาดจากชุดเครื่องมือ
ShILI และกระจกของเครื่องให้ ถ้าจำเป็นให้ทำความสะอาดด้วยผ้าทำความสะอาด อุปกรณ์ประจำรถ
แสงสว่างของระบบต่อต้านการใช้
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นำทาง
สะอาด
16 ตรวจสอบการทำงานของหีบ ขจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากผิวพื้นภายนอกโดยใช้ผ้าฝ้ายทำความสะอาดที่อ่อนนุ่ม ผ้าฝ่ายทำความสะอาดจากชุดเครื่องมือ
ควบคุม 1KPI-MT ตรวจให้แน่ใจว่าหีบควบคุมอยู่ในสภาพสมบูรณ์ อุปกรณ์ประจำรถ
17-7
478DU9-T RE2
478DU9-T RE2
Продолжение таблицы 10.3
10.4.2 การตรวจระหว่างหยุดพักชั่วขณะ (Check during a halt)
ตารางที่ 10.3 – การตรวจระหว่างหยุดพักชั่วขณะ
เครื่องทำความสะอาดเด้วยลม
- บานเกล็ดเหนือแผ่นปิดของหม้อ
ระบายน้ำ, และแผ่นบานเกล็ด
ป้องกันลิ้นควบคุมซุปเปอร์ชารต์
3 ตรวจสอบสภาพส่วนประกอบ อนุญาตให้ทำการขับเคลื่อนรถถังต่อไปได้จนหมดวันทำการ:
ของชุดเฟืองขับเคลื่อนด้วย - ถ้าสลักยางของยางรองสายพานชำรุด, สลักคด (แต่ไม่ได้ทำให้ข้อต่อหลุดออกจากเฟือง
สายตา ขับ), ปลายด้านหนึง่ ของข้อต่อหายไปหรือเหล็กนำสายพานสองตัวที่ไม่ได้อยู่ติดกันหลุดไป
จากสายพาน
- ถ้ากระบอกผ่อนแรงสะเทือน 3 ตัวไม่ทำงาน (แต่ไม่มากกว่าข้างละ 2 ตัว) การตรวจสอบ
การทำงานของกระบอกผ่อนแรงสะเทือนทำได้โดยการทดสอบอุณหภูมิ, ถ้าตัวกระบอกไม่มี
ความร้อนในระหว่างปฏิบัติงาน แสดงว่ากระบอกผ่อนแรงสะเทือนไม่ทำงาน
478DU9-T RE2
Продолжение таблицы 10.3
ลำดับ ลักษณะงาน ความต้องการด้านเทคนิคและคำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานให้สมบูรณ์ เครื่องมือและวัสดุที่ต้องนำมาใช้
4 ตรวจสอบพื้นที่ของช่องทางเข้า ดำเนินการตรวจสอบเมื่อใช้ชุดอุปกรณ์ PRKhR-M1 โดยเปิดสวิตช์ใช้งานตามสภาวะเงื่อนไขของ
ของอากาศของอุปกรณ์ป้องกัน เกหลวสกปรกและหิมะ ถ้าช่องทางเข้าอากาศถูกปิดกั้นด้วยสิ่งสกปรก, หิมะ ฯลฯ ให้ทำความ
การนำไอดีเข้าของชุดอุปกรณ์ สะอาด
PRKhR-M1 ด้วยสายตา
5 ตรวจสอบการทำงานของ เมื่อเปิดสวิตช์ไฟหลัก ไฟสัญญาณเตือน “1B”, “2B”, “3B” และ “4B” บนหีบควบคุม
วงจรไฟฟ้าของเครื่องยิงลูกระเบิด ระบบการยิงป้องกันและแผงไฟสัญญาณ P708 จะสว่างขึ้นครึ่งหนึง่ ของแสงสว่าง
ควันของระบบการยิงป้องกัน
6 ถ่ายน้ำออกจากตัวแยกไอน้ำ- การถ่ายน้ำออกด้วยมือ, กดแป้นสวิตช์ สีเขียวบนแผงอุปกรณ์ค้างไว้ 3-5 วินาที ไอน้ำ
และ-น้ำมันเครือ่ ง จะถูกระบายออกมาโดยอัตโนมัติทุก 605 วินาที -vการใช้งานเครื่องยนต์หลัก(เริ่มจาก
การติดเครื่องยนต์) หลังจากดับเครือ่ งยนต์หลัก และลดอุปกรณ์นำเข้าไอดีลงแล้ว
เมื่อจัดปรับสวิตช์ DFE–FFE ไปที่ตำแหน่ง DFE หรือเมื่อยกท่ออุปกรณ์นำเข้าไอดีขึ้น, น้ำที่
17-9
จับตัวกันอยู่จะไม่สามารถถ่ายออกมาได้
478DU9-T RE2
10.4.3 การตรวจก่อนทำการยิงและหลังทำการยิง (Check before firing and after firing)
ตารางที่ 10.4 – การตรวจก่อนทำการยิงและหลังทำการยิง
478DU9-T RE2
ลำดับ ลักษณะงาน ความต้องการด้านเทคนิคและคำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานให้สมบูรณ์ เครื่องมือและวัสดุที่ต้องนำมาใช้
การปรนนิบัติบำรุงยุทธภัณฑ์ก่อนทำการยิง (Maintenance of the armament before firing)
1 ตรวจสอบปืนใหญ่: ตรวจสภาพของ ขจัดปัญหาข้อขัดข้องที่ตรวจพบ แส้ทำความสะอาดปืนใหญ่ KBA3-
เรือนเครื่องปิดท้าย, แท่งลูกเลื่อน, 42.29.000, ดอกแส้ปืนใหญ่ KBA3-
และถาดนำกระสุน ถ้าจำเป็นให้ทำ 42.26.000, pole 1250, tie-rod 1250
ความสะอาดฝุ่นและสิ่งสกปรก (3 pcs) – นำมาจากชุดเครื่องมืออุปกรณ์
ของปืนใหญ่ประจำรถ, ผ้าทำความสะอาด
และไขข้นหล่อลื่น GOI-54p
2 ตรวจสอบเครื่องกลไกรับแรงถอย การตรวจจะต้องดำเนินการโดยผู้ที่ชำนาญด้านปืนใหญ่ตามคำแนะนำที่กล่าวไว้ในรายการ อุปกรณ์เติมน้ำมันปืใหญ่รถถัง KBA3-
และส่งปืนกลับเข้าที่ ที่2.1.12. 42.08.000, ประแจ LP-519-4, tip KBA3-
42.09.000, T-joint KBA3-42.10.000,
มาตรวัดแรงดัน DM2002-AS, ท่อเติมน้ำมัน
17-10
478DU9-T RE2
6 ตรวจสอบระดับน้ำมันบนอ่างเก็บ ระดับน้ำมันจะต้องอยู่ระหว่างขีดสองขีด ถ้าจำเป็นให้ทำการเติม
น้ำมันชดเชยของเครื่องบรรจุ
กระสุนอัตโนมัติ
7 ตรวจการทำงานของเครื่องบรรตุ หมุนรางขนส่งกระสุน 2-3 ช่องเก็บไปทางซ้าย หลังจากนั้นหมุนไปทางขวาโดยใช้การ
กระสุนอัตโนมัติโดยการหมุนราง ขับเคลื่อนด้วยมือ ขจัดปัญหาที่พบถ้ามีข้อบกพร่อง
ขนส่งกระสุน
8 ตรวจการทำงานของระบบอาวุธนำ วิธีการในการตรวจสอบมีอยู่แล้วใน “คู่มือการใช้งานภาค 4” (478DU9-T RE3) และ “คูม่ ือ
วิถี และระบบวงจรร่วมปืนและ การใช้งานภาค 5” (478DU9-T RE4)
ระบบควบคุมการยิง
9 ตรวจการทำงานของวงจรลั่นไก, ดำเนินการตรวจสอบหลังจากแน่ใจว่าอาวุธไม่ได้บรรจุกระสุนเท่านั้น
วงจรลั่นไกปืนใหญ่ด้วยไฟฟ้า และ
วงจรลั่นไกปืนกลด้วยไฟฟ้า
17-11
478DU9-T RE2
478DU9-T RE2
การปรนนิบัติบำรุงยุทธภัณฑ์หลังทำการยิง (Maintenance of the armament after firing)
1 ทำความสะอาด, ตรวจสอบ และ ทำความสะอาดจนกระทั่งเศษทองแดงในลำกล้องปืนใหญ่และปืนกลร่วมแกนและเขม่า แส้ทำความสะอาดปืนใหญ่ KBA3-
หล่อลื่นปืนใหญ่และปืนกล คาร์บอนที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ หมดไป 42.29.000, ดอกแส้ KBA3-42.26.000,
pole 1250, tie-rod 1250 (3 pcs), ท่อ
ถ่ายน้ำมัน KBA3-42.08.000 – จากชุด
เครื่องมืออุปกรณ์ปืนใหญ่ประจำรถ,
ประแจขนาด 2227 จากชุดเครื่องมือ
ประจำรถถัง, ผ้าฝ้ายทำความสะอาด, ผ้า
ทำความสะอาด, น้ำมัน RChS, ปลอก
กระสุนที่ทำการยิงแล้ว, ไขข้น GOI-54p
2 ทำความสะอาด, ตรวจสอบ และ ทำความสะอาดเครื่องยิงของระบบทำฉากควันด้วยตนเองในกรณีต่อไปนี้: แส้ทำความสะอาด
หล่อลื่นเครื่องยิงระเบิดควันของ - หลังการยิงท่อเดี่ยว – โดยไม่ถอดประกอบแยกชุดหน้าสัมผัส AZhIYu.306597.001, ประแจ
ระบบทำฉากควันด้วยตัวเอง - หลักการยิง 25-30 นัด – โดยถอดประกอบชุดหน้าสัมผัสและถอดแหวนยึด AZhIYu.764431.001, ค้อน, ไขควง, คีม
ปากแบนจากชุดเครื่องมืออุปกรณ์ประจำ
รถ
3 ฝาครอบจากชุดเครื่องมืออุปกรณ์ประจำ
ใส่ฝาครอบอาวุธ
รถ
478DU9-T RE2
10.4.4 การปรนนิบัติบำรุงทางเทคนิคประจำวัน, การปรนนิบัติบำรุ่งหมายเลข 1 และหมายเลข 2 (Daily technical maintenance, technical maintenance No. 1
17-12
and No. 2)
หมายเหตุ – งานที่ต้องทำจะใช้เครื่องหมาย “+”, ในขณะที่งานที่ไม่ต้องทำใช้เครื่องหมาย “-”
ตาราง 10.5 – การปรนนิบัติบำรุงทางเทคนิคประจำวัน, การปรนนิบัติบำรุงหายเลข 1 และหมายเลข 2
แบบของการปบ.
ลำดับ ลักษณะงาน ความต้องการดานเทคนิคและคำแนะนำในการปฏิบัตงิ านให้สมบูรณ์ เครื่องมือและวัสดุที่ต้องนำมาใช้
DTM TO-1 TO-2
1 ทำความสะอาดฝุ่น, ดินโคลน, + + + ล้างรถถังเมื่อดับเครื่องยนต์แล้วเท่านั้น เมื่อล้างรถถังให้จัดปรับท่อ
และหิมะด้านนอกและด้านใน บายพาสไอเสียไปที่ตำแหน่ง COOLING ยกท่ออุปกรณ์นำเข้าไอดีขึ้น
รถถัง ทำความสะอาดฝุ่นโคลน โดยกดปุ่มสวิตช์สีแดง (“AIR INTAKE DEVICE PIPE UP”) แล
เครื่องหมายที่สร้างขึ้นบนปากลำ กดค้างไว้จนกระทั่งไฟสัญญาณติดทั้งสองแถว และ การ
กล้องปืนของอุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบ เตรียมการป้องกันน้ำเข้าห้องเครื่องกำเหนิดกำลัง, ใช้ผ้าใบกันน้ำ
ตัวเอง (Tarpaulin) ปิดท่ออุปกรณ์นำอากาศเข้า ตรวจให้แน่ใจว่าได้ติดตั้งฝา
ครอบป้องกันช่องทางเข้าของอากาศของอุปกรณ์นำเข้าไอดี PRKhR-M1
17-13
ในขณะเดียวกันให้ปิดปากลำกล้องปืนกลร่วมแกนและช่องยิงปืนกล KT-
7.62 ปากลำกล้องปืนใหญ่ และเครื่องวัดความเร็วลม เครื่องยิงลูก
ระเบิดของระบบสร้างฉากควันด้วยตนเองจะต้องปิดด้วยฝาครอบ
หลังจากล้างรถถังเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ถอดผ้าใบกันน้ำออกจากท่อไอดี
ลดท่อลง แล้วกดปุ่มสวิตช์สีเขียว (“AIR INTAKE DEVICE PIPE
DOWN”) กดค้างไว้จนกระทั่งไฟสัญญาณสีเขียวสองแถว และ
478DU9-T RE2
สว่างขึ้น
478DU9-T RE2
แบบของการปบ.
ลำดับ ลักษณะงาน ความต้องการดานเทคนิคและคำแนะนำในการปฏิบัตงิ านให้สมบูรณ์ เครื่องมือและวัสดุที่ต้องนำมาใช้
DTM TO-1 TO-2
2 ถ่ายน้ำออกจากเครื่องดักไอน้ำ + + + ดำเนินการงานนี้ในฤดูหนาวเท่านั้น ใช้ประแจขนาด 17 มม.จากชุดเครื่องมือ
และแยกน้ำมันเครื่องของ ดำเนินการงานนี้เมื่อเครื่องยนต์ทำงานและท่ออุปกรณ์นำเข้าไอดีลดลง อุปกรณ์ประจำรถ
คอมเพรสเซอร์ และจากเครื่องดัก โดยการกดปุ่มสวิตช์ไฟสีเขียวค้างไว้ (“AIR INTAKE PIPE
ไอน้ำจากระบบอากาศ DOWN”) ประมาณ 3-5 วินาที
คลายฝาครอบลิ้นถ่ายอากาศออก หมุนล้อลิ้นควบคุม 1-2 รอบแล้วขัน
ฝาครอบกลับที่เดิม
3 ตรวจแรงดันในระบบของถังลม + + + ก่อนดับเครื่องยนต์ต้องแน่ใจได้ว่า ได้เติมลมในถังลมจนกระทั่งได้ค่า
แรงดัน 13.2-14.7 MPa (132-147 kgf/cm2) เมื่อได้แรงดันแล้วให้ปิด
ลิ้นควบคุมถังลม
4 เติมน้ำมันเชื้อเพลิงใหกับระบบ + + + ตรวจน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่: ประแจแหวน 2741 มม., ประแจฝา
- ถังน้ำมันเชือ้ เพลิงด้านใน – ใช้มาตรวัด ครอบ tap,ประแจปากตาย 4146 มม.
- ถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านนอก – ใช้ไม่บรรทัดวัดซึ่งเชื่อมต่อติดอย่กับฝาปิด , ประแจแหวน 2441 มม,ประแจปาก
17-14
478DU9-T RE2
แบบของการปบ.
ลำดับ ลักษณะงาน ความต้องการดานเทคนิคและคำแนะนำในการปฏิบัตงิ านให้สมบูรณ์ เครื่องมือและวัสดุที่ต้องนำมาใช้
DTM TO-1 TO-2
6 ระบบหล่อลื่น: + + + หลังจากเติมน้ำมันเครื่องระบบแล้วให้ตรวจระดับน้ำมันเครื่องโดยใช้ ใช้ประแจแหวน 2741 มม., บรรทัด
- ตรวจระดับน้ำมันเครื่องในอ่างเก็บ บรรทัดวัดระดับ วัดระดับ, กรองพร้อมskeep, ถัง, ผ้า
โดยใช้มาตรวัดระดับบนแผงอุปกรณ์ ฝ้ายทำความสะอาดจากชุดอุปกรณ์
ของพลขับ และถ้าจำเป็นให้ทำการ เครื่องมือประจำรถ
เติมน้ำมันเครื่องในอ่างเก็บ
- ล้างกรองน้ำมันเครื่องแบบแรง - + + ล้างด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใข้งานแล้ว
เหวี่ยง
- เปลี่ยนน้ำมันเครื่องระบบหล่อลื่น - - + ถ้าเติมด้วยน้ำมันเครื่องชนิดอื่น ต้องได้รับการผสมกับส่วนทีเ่ หลืออยู่โดยไม่ ใช้ประแจพิเศษจากชุดอุปกรณ์เครื่องมือ
เครื่องยนต์ (เมื่อเปลี่ยนให้ทำการ ต้องถ่ายน้ำมันเครื่องออก การปฏิบัติให้ล้างกรองน้ำมันเครื่องแบบแรง ของเครื่องยนต์ (12, 14 และ 17 มม.)
ล้างกรองน้ำมันเครื่องนำเข้าอ่างเก็บ เหวี่ยงสองตัวใหญ่: ตัวแรก – เมื่อทำการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง; ตัวที่สอง – ประแจหัวกรองน้ำมันเครื่อง, ไขควงปาก
น้ำมันเครื่องยนต์) หลังจากใช้งานเครื่องยนต์มาแล้ว 50 ชม. แบน จากชุดอุปกระเครื่องมือประจำรถ.
- ตรวจระดับน้ำมันเครื่องในอ่างเก็บ + + + ระดับน้ำมันเครื่องหลังจากปั๊ม้ำมันออกจากห้องเฟืองเกียร์แล้วสองครั้ง ใช้ประแจแหวน 2741 มม.และ
น้ำมันเครื่องของเครื่องเปลี่ยน จะต้องอยู่ใกล้กับขีด 53-55 ลิตรบนบรรทัดวัด. ห้ามขับเคลื่อนรถถัง
17-15
478DU9-T RE2
แบบของการปบ.
ลำดับ ลักษณะงาน ความต้องการดานเทคนิคและคำแนะนำในการปฏิบัตงิ านให้สมบูรณ์ เครื่องมือและวัสดุที่ต้องนำมาใช้
DTM TO-1 TO-2
- เปลี่ยนน้ำมันเครื่องในระบบ - + + ใช้บรรทัดวัดระดับทำการตรวจระดับน้ำมันเครื่องหลังจากเปลี่ยนน้ำมัน ใช้ประแจ 2741 มม., 32 มม., ท่อถ่าย
ควบคุมไฮโดรลิกและระบบหล่อ ล้างกรองด้วยน้ำมันเชื้เพลิงที่ใช้งานแล้ว น้ำมัน, ประแจแหวน 12 มม., ถัง, ไขควง
ลื่น (โดยล้างกรองบนอ่างเก็บ ปากแบน, ผ้าฝ้ายทำความสะอาดจาดชุด
น้ำมันเครื่อง– กรองเติมน้ำมัน, อุปกรณ์เครื่องมือประจำรถ
กรองช่องทางเดินเมื่อปั๊มน้ำมัน
และกรองช่องหัวฉีดน้ำมันเครื่อง
– และเปลี่ยนแผ่นกรองของกรอง
น้ำมันละเอียด
7 ระบบระบายความร้อน: + + + ตรวจระดับน้ำยาหล่อเย็นเมือ่ ไม่ได้ใช้งานเครื่องยนต์ เมื่อบรรทัดวัด
- ตรวจสอบระดับน้ำยาหล่อเย็น ระดับต่ำกว่าพื้นผิวของน้ำยาหล่อเย็น ปลยด้านบนของส่วนที่เป็นขีด
(ถ้จำเป็นให้เติมน้ำยาในระบบ) ของบรรทัดวัดระดับจะต้อง:
ถ้าปรากฏว่าน้ำยาหายไปอย่าง – เมื่ออุณหภูมิของระบบระบายความร้อนสูงกว่า 323 K (50 C) –
ต่อเนื่อง, แรงดันในระบบระบาย อยู่ระหว่างขีดหมายเลข "1" และ "2" บนบรรทัดวัดระดับ, 30-40 มม.
ความร้อนต่ำกว่า 0.37 MPa บนไม้บรรทัด
2
(3.7 kgf/cm ), ให้ตรวจสอบ – เมื่ออุณหภูมิของระบบระบายความร้อนต่ำกว่า 323 K (50 C) –
ระบบลิ้นควบคุมระบายไอน้ำเมื่อ อยู่ระหว่างขีดหมายเลข "2" และ "3" บนบรรทัดวัดระดับ, 40-50 บนไม้
ปรากฏว่าระดับแรงดันในอยู่ต่ำ บรรทัด
กว่า (0.01-0.02) MPa ขจัดการรั่วซึมที่พบ แรงดันระบบที่อุณหภูมิไม่สูงกว่า 353 K (80 C)
[(0.1-0.2) kgf/cm2] ลิ้นควบคุมไอน้ำจะต้องเปิดที่แรงดัน 0.32-0.37 MPa (3.2-3.7
kgf/cm2).
17-16
478DU9-T RE2
แบบของการปบ.
ลำดับ ลักษณะงาน ความต้องการดานเทคนิคและคำแนะนำในการปฏิบัตงิ านให้สมบูรณ์ เครื่องมือและวัสดุที่ต้องนำมาใช้
DTM TO-1 TO-2
8 เปลี่ยนแกนลิ้นควบคุมระบายไอ - - + ล้างแกนทีถ่ อดออกและเปลี่ยนใหม่ด้วยอะไหล่
น้ำ (นำมาจากชุดอุปกรณื
เครื่องมือ)
Power pack compartment
9 ตรวจให้แน่ใจว่าไม่มีรอยรั่วใน + + + ตรวจสอบฝาครอบท่อทางเดินไอเสียและปลั๊กถ่ายด้านใต้ของห้องเฟือง ใช้ประแจแหวน 19 และ 32 มม.จากชุด
ระบบเครื่องยนต์, อุปกรณ์ เกียร์ด้วยสายตา, หลังจากปฏิบัติงานมาแล้วทุกๆ 500-600 กม. ให้เปิด อุปกรณ์เครื่องมือประจำรถ
ควบคุมไฮโดรลิก และเครื่อง ฝาห้องเครื่องกำเนิดกำลังบนดาดฟ้า ตรวจสอบอุปกรณ์และเครื่อง
ประกอบชุดเครื่องเปลี่ยน ประกอบชุดต่างๆ ว่าไม่มีการรั่วไหล อนุญาตให้มีช่องทางระบายความ
ความเร็ว ร้อนกับน้ำมันเครื่องใต้ช่องตรวจสอบปั๊มน้ำของเครื่องยนต์และหม้อ
กำเนิดไอเสียใต้คอมเพรสเซอร์ได้
ถ้าตรวจพบการรั่วไหล, ให้ทำความสะอาดจุดที่รั่วและขจัดสาเหตุของ
การรั่วนั้นให้หมด ไม่อนุญาตให้มีการหยดของๆ เหลวในช่องตรวจของ
ปั๊มเมื่อดับเครื่องยนต์แล้ว
10 ตรวจและทำความสะอาดบาน + + + ถ้ามีน้ำมันเครือ่ ง ให้เช็ดออกและตรวจท่อแยกของระบบหมุนวน ถ้ามี ประแจแหวนขนาด 14 มม., สายรัดท่อ
เกล็ดป้องกันหม้อกรองอากาศ. น้ำมันเครื่องให้ทำความสะอาดหม้อกรองอากาศและล้างให้สะอาด 17 มม., ประแจ 19 มม., ประแจฝา
ครอบ, ไขควง – จากชุดอุปกรณ์
เครื่องมือประจำรถ, อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับ
ล้างหม้อกรองอากาศ – จากชุดอุปกรณ์
เครื่องมือประจำหน่วย
11 ตรวจปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงในห้อง + + + ถ้าตรวจพบรอยรั่วใดๆ, ให้ขนั ปั๊มและท่อทางเดินให้แน่น ใช้ประแจ 17 ,, ประแจ 1719 มม.
เครื่องยนต์ทั้งหมดโดยตรวจทาง จากชุดอุปกรณ์เครื่องมือประจำรถ
ช่องตรวจในฝาครอบปั๊มน้ำมัน
เชื้อเพลิง
478DU9-T RE2
แบบของการปบ.
ลำดับ ลักษณะงาน ความต้องการดานเทคนิคและคำแนะนำในการปฏิบัตงิ านให้สมบูรณ์ เครื่องมือและวัสดุที่ต้องนำมาใช้
DTM TO-1 TO-2
12 ขันน๊อตข้อต่อท่อน้ำมันเชื้อเพลิง - + + ดำเนินการทำงาน โดยถอดฝาครอบปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ สายรัดท่อ 19 มม., ประแจ 1719
แรงดันสูง, น๊อตยึดท่อน้ำมันเชื้อ มม., ประแจ 19 มม., ประแจหัวครอบ
17-17
478DU9-T RE2
เชื้อเพลิงแรงดันสูง (ใต้ฐานติด ระยะระหว่างฐนติดตั้งและเหล็กหนีบฐานติดตั้งจากปลอกสลักยึด อุปกรณ์เครื่องมือประจำรถ
ตั้ง); ถ้ามีการชำรุดให้เปลี่ยนลูก ด้านข้าง
ยางใหม่จากชุดอุปกรณ์เครื่องมือ
13 ขันแน่นสายรัดข่อต่อท่อ, ระบบ - + + สายรัดท่อแยกจะต้องขันให้แน่น ไขควง,ประแจขันสายรัด (8 มม.) , คีม
หายใจ, และซุปเปอร์ชาร์ตของ ไม่อนุญาตให้มนี ้ำมันเครื่องรั่วออกจากด้านใต้ของท่อยางของระบบ ปากแบน 1012 และ 1417 มม.จาก
เครื่องยนต์พร้อมท่อตัวล่างและ ระบายอากาศ ชุดอุปกรณ์เครื่องมือประจำรถ
ตัวบนของอุปกรณ์
- ช่องดีดฝุ่นของหม้อกรองอากาศ
- อุปกรณ์จ่ายอากาศไปยังใบพัด
ชดเชยและข้อต่อตัวล่างของท่อไอ - + +
ดี
- + +
478DU9-T RE2
แบบของการปบ.
ลำดับ ลักษณะงาน ความต้องการดานเทคนิคและคำแนะนำในการปฏิบัตงิ านให้สมบูรณ์ เครื่องมือและวัสดุที่ต้องนำมาใช้
DTM TO-1 TO-2
15 ตรวจข้อต่อท่อแยกไอดี “ท่อ - + + ถ้ามีไอดีร่วั ตามแนวระดับของท่อไอดี ให้ตรวจสภาพของประเก็น ค้อน, ไขควงจากชุดอุปกรณ์เครื่องมือ
17-18
478DU9-T RE2
20 เปลี่ยนฝาครอบด้านบนท่อไอดี - + + ถ้าปลายปะเก็นไหม้ให้เปลี่ยนปะเก็น 476.83.030sb-1 และ ประแจ 17 มม. ผ้าฝ้ายทำความสะอาด,
17-19
478DU9-T RE2
ตรวจเครื่องตรวจวัด P319D1 ดำเนินการตรวจหลังจากล้างกรองอากาศแบบหมุนวนของหม้อกรองอากาศ ตรวจหลังการติดตั้งในรถในสภาพที่จอด
แล้ว อยู่กับที่
22 ล้างท่อทางเดินของคอมเพรส + - - ดำเนินกดการล้างหลังทุกๆ 20-30 ชม.ทำงานของเครื่องยนต์ในระหว่าง ผ้าทำความสะอาดจากชุดอุปกรณ์
เซอร์ซุปเปอร์ชาร์ตเครื่องยนต์ การปรนนิบัติบำรุงประจำวันตามลำดับของการปฏิบัติงาน: ประจำรถ
- จอดรถถังบนพื้นที่โล่งเพื่อป้องกันมิให้มีสิ่งปิดกั้นไอเสียเพื่อให้ระบาย
ได้อิสระ
- ติดเครื่องยนต์เดินเบาให้หมุนด้วยความเร็ว 1800-1900 รอบ/นาที
และอุณหภูมิระบายความร้อนและน้ำมันเครื่อง 343-363 K (70-90
C), โดยกดผลักกระเดื่องสวิตช์ “OIL INJECT – BLOWER
WASHING” (รูปที่ 14.1) ในตำแหน่ง “BLOWER WASHING” ค้างไว้
10 นาที หลังจากหมุนปิดกระเดื่องสวิตช์ ให้เดินเครื่องต่อไปอีก 3-5
นาที ดบเครื่องยนต์และใช่ผ้าเช็ดหม้อกรองอากาศช่องระบายฝุ่น
478DU9-T RE2
ห้องหอรบ (Fighting compartment)
23 เปลี่ยนกรองดูดซับของหม้อกรอง - - + เปลี่ยนกรอง โดยการถอดรางขนส่งกระสุนและหมุนป้อมไปอยู่ในตำแหน่ง ประแจ 14 และ 12 มม.จากชุดอุปกรณ์
17-20
478DU9-T RE2
และสัญญาณเตือน (P708) ระบบจะทำงานถ้าไฟเตือนติดส่างขึ้นบน
หีบควบคุม
- การทำงานของวงจรของเครื่อง - + + วงจรจะทำงานถ้าสัญญาณหฟติดสว่างขึ้นบนหีบควบคุม ชุดอุปกรณ์ทดสอบจากชุดอุปกรณ์
ตรวจจับความร้อน เครื่องมือประจำหน่วย
17-21
478DU9-T RE2
31 ตรวจการยึดจับของล๊อคที่นั่งพลขับ + + + ถ้าจำเป็นให้ทำความสะอาดคับบังคับเครื่องกลไกของที่นั่ง ผ้าฝ้ายทำความสะอาดจากชุดอุปกรณ์
ในตำแหน่งบนและตำแหนงล่าง เครื่องมือประจำรถ
32 ตรวจการทำงานของกรองและช่อง + + + หลังจากปฏิบัติงานกับรถถังที่เปิดเครื่องเป่าลมที่อุณหภูมิของอากา
ระบายอากาศของเครื่องเป่าลม แวดล้อมต่ำกว่าศูนย์องศา ให้เปิดสวิตช์ทิ้งไว้ 10-15 นาที
และลิ้นควบคุมโดยเปิดสวิตช์ใช้งาน
33 ถอดเครื่องป้องกันลิ้นเครื่องเป่าลม - + + ดำเนินการทำความสะอาดโดยไม่ต้องถอดลิ้นควบคุมเครือ่ งเป่า ถ้า ประแจแหวน 22 มม. ประแจหัวครอบ,
และทำความสะอาดพื้นผิว จำเป็นให้ ขจัดสิ่งสกปรกออกจากฐานลิ้นควบคุมให้หมด แปรงทำความสะอาด, ผ้าฝ้ายจากชุด
Ffpiv[9ecsojลิ้นควบคุมเพื่อขจัด เมื่อทำการประกอบลิ้นควบคุม ตรวจให้แน่ใจว่าใส่แหวนยางรองเข้า อุปกรณ์เครื่องมือประจำรถ
สิ่งแปลกปลอมและดินโคลน กับก้านลิ้นไว้ถูกต้อง (ปลายด้านล่างของปลอกยางจะต้องเข้าอยู่ใน
ช่องของปลอกรับก้านลิ้นพอดี) และใส่แหนบลิ้นไว้อย่าถูกต้อง
(ด้านล่างของแหนบจะต้องอยู่ตรงกึ่งกลางของลิ้น,ด้านบนอย่ตรงกับ
ช่องรับเครื่องป้องกันลิ้นควบคุม)
478DU9-T RE2
34 ถ่ายไอน้ำตกค้างออกจากอุปกรณ์ + + + ถ่ายไอน้ำหลังจากที่ใช้งานรถถังภายใต้สภาพฝุ่นและฝนเมื่อเปิดสวิตช์ ใช้ประแจ 17 มม., ประแจพิเศษและผ้า
PRKhR-M1 อ่างกรองแบบหมุนวน ใช้งานไปที่ตำแหน่ง ON ทำความสะอาดจากชุดอุปกรณ์เครื่องมือ
ประจำรถ
17-22
478DU9-T RE2
37 ตรวจการขันแน่นของปลั๊กที่ขันล้อ - + + ดูรายการที่ 7.11 ประแจ 434.95.146; ก้านต่อประแจ
ปรับสายพาน 432.95.200sb-1 และ 432.95.265,
ประแจ 432.95.315sb-1 จากชุดอุปกรณ์
เครื่องมือประจำหน่วย
38 เติมน้ำมันหล่อลื่นภายในช่องว่าง - + + เติมน้ำมันหล่อช่องว่างช่องละ 500 กรัม ประแจแหวน 2641 มม.จากชุดอุปกรณ์
ของเฟืองขับขั้นสุดท้าย เครื่องมือประจำรถ
กระบอกฉีดอัดแรง 478DU2.95.212sb
17-23
ผนึกกั้นออกจากตัวกระบอกเครื่องรับแรง และถอดก้านพร้อมเหล็กนำ
ออกจากระบอกสูบ เปลี่ยนผนึกของก้านกระบอกสูบด้วยผนึกอันใหม่
และดำเนินการประกอบย้อนกลับกับที่กล่าวมาแล้วตามลำดับ ถ้า
จำเป็นให้เปลี่ยนสลักยึดก้านกระบอกสูบ
ติดตั้งแป้นบนก้านกระบอกสูบโดยใช้กรวย เมื่อดำเนินการประกอบ
ต้องระมัดระวังฝุ่นและสิ่งสกปรกเข้าไปในตัวเรือน ถ้าไม่สามารถติดตั้ง
กระบอกเครื่องรับแรงที่ใช้งานได้โดยการเปลี่ยนผนึกกั้นน้ำมันบนก้าน วิธกี ารเปลี่ยนผนึกได้ให้คำอธิบายไว้แล้ว
สูบได้ ให้เปลี่ยนกระบอกสูบเครื่องรับแรงใหม่ โดยเปลี่ยนผนึกแหวน ในการให้คำแนะนำในการใช้เครื่องมือและ
432.52.026sb-2 และแหวนรอง 432.52.091 อันใหม่ สิ่งประดิษฐ์อุปกรณ์
478DU9-T RE2
41 ตรวจความถี่ในการสึกหรอของ + + + ห้ามดำเนินการตรวจจนกว่าจะถึงการปรนนิบัติบำรุงทางเทคนิค แผ่นวัด 478DU2.90.001 จากชุดอุปกรณ์
ฟันเฟืองล้อขับสายพาน หมายเลข 1 ให้ทำการตรวจด้วยสายตา พิจารณาความสึกโดยการใช้ เครื่องมือประจำรถ
แผ่นวัดบนความหนาของฐานฟันเฟืองบนฐานด้านนอกของแหวนล้อ ลำดับขั้นในการติดตั้งล้อขับสายพานได้
ขับ (มีเครื่องหมาย “O”) ถ้าช่องว่างระหว่างเฟืองที่แผ่ยนวัดขนาดเท่า กล่าวไว้ในการใช้เครื่องมือและสิ่งประดิษฐ์
“22” สามารถเข้าไปได้ระหว่างน๊อตซี่เฟืองกับพื้นที่บนแหวนล้อขับ อุปกรณ์
สายพาน (the counterbore intended for the nut and the
working area of the drive sprocket ring profile) ให้ทำการถอด
เปลี่ยนล้อขับสลับข้างกันโดยการหมุน 180 เมื่อติดตั้งล้อขับสายพาน
ใหม่ ตรวจสอบการขันแน่นของสลักห้องเฟืองเกียร์ (ถ้าจำเป็นให้ขัน
ใหม่ให้แน่น)
หลังจากติตั้งล้อขับสายพานใหม่แล้ว ไม่ต้องวัดค่าการสึกหรอของซี่
ฟันเฟืองอีก ถ้าเหล็กนำสายพานสัมผัสกับดุมล้อขับหรือถ้ามีซี่ฟันเฟือง
หักสามซี่ (อยูต่ ิดกัน) ให้เปลี่ยนแหวนล้อขับใหม่ (นำมาจาชุด
17-25
อุปกรณ์หลัย)
รถถังทั้งคัน (The whole vehicle)
42 ตรวจการทำงานของอุปกรณ์ + + + ให้ดำเนินการตรวจเมื่อระบบแรงดันลมน้อยกว่า 12 MPa ผ้าฝ้ายทำความสะอาดจากชุดอุปกรณ์
ควบคุมแรงดันของระบบจ่ายลม 2
(120 kgf/cm ), ล๊อคป้อมปืน, ปืนใหญ่อยู่ดา้ นหน้า (เยื้องไปทางขวา เครือ่ งมือประจำรถ
9-100 ให้สัมพันธ์กับแนวยาวของตัวรถ) และปิดดาดฟ้าห้องเครื่อง
กำเนิดกำลัง การตรวจจะทำโดยการกดปุ่สวิตช์สีแดง (AIR
INTAKE DEVICE PIPE) จนกระทั่งไฟสัญญาณสีแดงสองดวงติดสว่าง
ขึ้น และ จากนั้น ฝาปิดห้องทำความสะอาดอากาศและลิ้น
ระบายหม้อทำความสะอาดจะปิดลง และท่ออุปกรณ์นำเข้าอากาศจะ
ยกตัวสูงขึ้น การลดท่ออากาศลงให้กดปุ่มสวิตช์สีเขียว ค้างไว้
จนกระทั่งไฟสีเขียวสองดวง และ จะติดสว่างขึ้น จากนั้นฝา
ปิดห้องทำความสะอาดาอากาศและลิ้นระบายหม้อทำความสะอาดจะ
เปิดขึ้น และท่ออุปกรณ์นำเข้าอากาศจะลดตัวลง
478DU9-T RE2
78DU9-T RE2
43 ตรวจสอบระดับของเหลวในอ่าง + + + ระดับของเหลวในอ่างจะต้องอยู่ใกล้กับขอบของคอช่องเติมของเหลว ประแจ 2736 มม. 3236 มม.,
ของระบบทำความสะอาดด้วยน้ำ ถ้าจำเป็นให้เติมของเหลวลงไปในระบบด้วยน้ำหรือของเหลวที่จุด skeep, กรอง, ถัง, ท่อเติม, ผ้าฝ้ายทำ
และแรงลม และการทำงานของ เยือกแข็งต่ำ เมื่อเปิดลิ้นคันบังคับแรงดันและลิ้นของถัง จะทำงานล้าง ความสะอาดจากชุดอุปกรณ์เครื่อ
ระบบ กระจกหัวกล้อง มือประจำรถ
44 ตรวจการทำงานของอุปกรณ์ให้แสง + + + ตรวจโดยการเปิดสวิตช์ใช้งาน ขจัดสาเหตุติดขัดถ้ามี
สว่างภายในและภายนอกรถถัง
45 ตรวจให้แน่ใจว่าปลั๊ก, ฝาผิดช่อง + + + ปลั๊กและฝาปิดช่องทางต่างๆ จะต้องติดตั้งอยู่ในที่ของตัวเอง ประแจแหวนพิเศษ 2741 มม., ประแจ
ทางเข้าออกตัวรถ และฝาปิด แหวน 1417 มม., 1922 มม., ถุงใส่
อุปกรณ์อื่นๆ มีอยู่และใช้งานได้ ประแจง, ชแลงพิเศษจากชุดอุปกรณ์
เครื่องมือประจำรถ
46 ตรวจสภาพและการขันแน่นของ + + + ปลอกกระจายความร้อนแต่ละส่วนจะต้องอยู่กับที่ เปลี่ยนปลอกส่วนที่
ปลอกกระจายความร้อนของปืน ชำรุดใหม่ (นำมาจากชุดอุปกรณ์อะไหล่ประจำหน่วย)
ใหญ่
17-26
478DU9-T RE2
49 ทำความสะอาดฝุ่นและดินโคลน + + + ขจัดสาเหตุติดขัดที่ตรวจพบ
และแน่ใจได้ว่าตัวเรือน, หีบควบคุม
, ขั้วต่อต่างๆ และหน่วยควบคุม
1KPI-MT ไม่ชำรุด
ตรวจการทำงานโดยการเปิดสวิตช์
ใล้งาน
50 ทำความสะอาดฝุ่นและดินโคลน + + + ถอดฝาครอบป้องกันออก เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวภายนอกของ ผ้าฝ้ายทำความสะอาดและผ้าสะอาดจาก
ออกจากผิวพื้นของโคมไฟกรองแสง เครื่องแพร่สัญญาณของระบบต่อต้านการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกนำ ชุดอุปกรณ์เครื่องมือประจำรถ
ระบบต่อต้านการใช้อุปกรณ์อิเล็ก ทาง โดยใช้ผ้าฝ้ายทำความสะอาดและผ้าเช็ดที่สะอาด
ทรอนิกนำทางและหัวระบบ ShILI ปิดฝาครอบป้องกัน
51 ตรวจระบบการทำฉากควันด้วย + + + ดำเนินการทำงานตามที่กล่าวไว้จตามต้องการในรายการที่ 11.5.2.1 อุปกรณ์ทดสอบ
ตัวเองโดยใช้อุปกรณ์ทดสอบตัวเอง ของคู่มือเล่มนี้
52 ตรวจการทำงานของระบบต่อต้าน - + + ดำเนินการทำงานตามต้องการที่กล่าวไว้ในรายการที่ 11.5.3 ของคู่มือ อุปกรณ์ทดสอบ
การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกนำทาง เล่มนี้
17-27
478DU9-T RE2
78DU9-T RE2
54 ตรวจสภาพอุปกรณ์และฝาปิดและ + + + ดำเนินการโดยการตรวจด้วยสายตา
สภาพของเครื่องขันตรึงต่างๆ บน ขจัดสาเหตุติดขัดที่ตรวจพบ
ช่องเก็บแผ่นเกราะปฏิกิริยาที่ติด
ตั้งอยู่บนแผ่นเกราะด้านหน้าของตัว
รถ, แผ่นกำบังด้านข้างตัวรถ,
ส่วนประกอบที่ติดตั้งและช่องเก็บบน
ป้อมปืน, ตรวจการขันตรึงของแผ่น
เกราะปฏิกิริยาที่ถอดได้บนป้อมปืน
และแผ่นกำบังด้านข้างตัวรถ
55 ทำการสุ่มตรวจแผ่นเกราะปฏิกิริยา, - + + ตรวจสอบแผ่นเกราะปฏิกิริยาจากส่วนที่ผิดรูปบิดเบี้ยวและด้านข้าง เครื่องมือที่ใช้งานในการติดตั้งแผ่นเกราะ
17-28
478DU9-T RE2
ความต้องการด้านเทคนิคและคำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน
ลำดับ ลักษณะงาน เครื่องมือและวัสดุที่ต้องนำมาใช้
ให้สมบูรณ์
ร้อนเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับฤดูหนาว ในพื้นที่ที่อุณหภูมติ ่ำกว่า 243 หรือท่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิง,ถัง, คีมปากแบน, ผ้า
K (–30 C) ให้เปลี่ยนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับฤดูร้อนเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ฝ้ายทำความสะอาดจากชุดอุปกรณ์เครื่องมือ
สำหรับพื้นที่อาร์กติก หลังการเปลี่ยนน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว ให้ติด ประจำรถ
เครื่องยนต์และเดินเครื่องยนต์ไว้ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ใช้งาน
น้ำมันเชื้อเพลิงฤดูร้อนเหลืออยู่ให้หมด
2 ตรวจสภาพและการทำงานของระบบ แรงดันระบบระบายความร้อน 0.37 MPa (3.7 kgf/cm2) และตรวจ ใช้ปนะแจแหวน 2441 มม., ประแจปากตาย
ระบายความร้อน การตอบสนองการทำงานของลื่นระบายไอน้ำ ไม่อนุญาตให้เกิดรอยรั่ว 1012 มม., 1417 มม., ประแจแหวน 8 มม.
17-29
478DU9-T RE2
ไกดับเครื่องยนต์, ให้ถอดผนึกจากสวิตช์ ANTIFREEZE , และจัดปรับ
ตำแหน่งของสวิตช์ ANTIFREEZE แล้วใส่ผนึกลงไปบนสวิตช์
5 ตรวจการทำงานของระบบอุ่นไอดีและ ติดเครื่องอุ่นไอดีและเดินเครื่องประมาณ 3-5 นาที ตรวจการทำงานของ
ระบบทำความร้อนห้องพลประจำรถ เครื่องทำความร้อนห้องพลประจำรถโดยการเปิดสวิตช์ใช้งาน
6 ตรวจการทำงานของระบบเผาไหม้ของ ดำเนินการตรวจโดยเปิดสวิตช์ระบบเผาไหม้ของเครื่องทำความร้อน
เครื่องทำความร้อนอัตโนมัติ และระบบ อัตโนมัติและระบบหัวฉีดน้ำมันเครื่อง (ก่อนทำการติดเครื่องยนต์) และ
หัวฉีดน้ำมันเครื่อง ฟังเสียงการทำงานของระบบ
478DU9-T RE2
7 ตรวจสภาพของผ้าใบกันน้ำ ถ้าจำเป็นให้ทำการซ่อม
การเตรียมรถถังเพื่อปฏิบัตกิ ารภายใต้สภาพฤดูร้อน (To prepare the tank for operation under summer conditions)
9 เติมระบบน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยน้ำมัน อนุญาตให้เหลือน้ำมันดีเซลสำหรับฤดูหนาวไว้ในถังน้ำมันเชื้อเพลิงจนกว่า ประแจแหวน 2741 มม., ท่อถ่ายน้ำมัน, ท่อเติม
เชื้อเพลิงฤดูร้อน จะใช้หมดไป ถ้าเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับพื้นที่อาร์กติ กให้เปลี่ยนด้วย น้ำมันเชื้อเพลิง, ถัง, คีมปากแบน, ผ้าฝ้ายทำความ
น้ำมันเชื้อเพลิงฤดูร้อน สะอาดจากชุดอุปกรณ์เครื่องมือประจำรถ
10 เปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นในระบบระบายความ ถ่ายน้ำยาขจุดเยือกแข็งต่ำและเติมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ประแจแหวน 2741 มม., ประแจปากตาย
ร้อนและในระบบทำความสะอาดด้วยน้ำ สะอาด โดยเติมผ่านกรองอ่อนโดยการเติมสาร 3 ชนิดผสมลงไป ระบบ 1417 มม., ท่อถ่ายน้ำ, ถัง, skeep, บรรทัดวัด
และแรงลม ทำความสะอาดด้วยน้ำและแรงลมให้เติมด้วยน้ำสะอาดอย่างเดียว ระดับจากชุดอุปกรณ์เครื่องมือประจำรถ
บนแผงเครื่องกลไกดับเครื่องยนต์ ถอดผนึกจากสวิตช์ ANTIFREEZE แล้ว
17-30
478DU9-T RE2
478DU9-T RE2
11-
157
478DU9-T RE2
11-
158
478DU9-T RE2
11-
160
478DU9-T RE2
11-
161
478DU9-T RE2
เครื่องอุดรอยรัว่ (Putties):
- หลัก (main):
ZZK-3u GOST 19538- ร้อน Hermeton AZ (TWT 2 กก. ถังแรงดันสูง
74 และหนาว 10/83), Poland เมื่อเตรียม
UE 130 Ca 5 (CS 285), การลุยน้ำลึก
Romania
11-
162
478DU9-T RE2
บทที่ 12 ตารางสรุปการจัดปรับค่าตัวแปรในการทำงาน
(SUMMARY TABLE OF OPERATING ADJUSTMENT PARAMETERS)
ตารางที่ 12.1 – การทำงานและการจัดปรับค่าตัวแปร (Operating and adjustment parameters)
ลำดับ ค่าตัวแปรที่กำหนดให้ มิติ (มม.)
1 เครื่องควบคุมการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง (รูปที่ 5.3)
1.1 ช่องว่างระหว่างสลักของเครื่องป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยมือและผนัง 1-6
ด้านหน้าของช่องของก้านยึดหมายเลข 13
1.2 ช่องว่างระหว่างคันบังคับหมายเลข 15 ของเร็กกูเรเตอร์ไฮดรอลิกเชิงกล 1,3-1,6 เมื่อเครื่องยนต์เย็น
ของปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงและตัวจำกัดสูงสุดในการหยุด
2 เครื่องกลไกจำกัดการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง (รูปที่ 5.4)
2.1 ช่องว่างระหว่างหัวก้านยึดหมายเลข 10 ทีเ่ ชื่อมต่อกับคันบังคับหมายเลข 2-4
11 ของเรกกูเรเตอร์น้ำมันเชื้อเพลิง และก้านยึดแนวนอนหมายเลข 8
2.2 ช่องว่างระหว่างคันบังคับหมายเลข 7 และแขนค้ำตัวล่างหมายเลข 6
เมื่อเครื่องกลไกจำกัดการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิง ถูกจัดปรับไปอยู่ใน 6+−00,,15
15
ตำแหน่งที่ 1
3 การไม่ใช้คลัช์ Declutching drive (ดู หัวข้อที่ 6.3.1)
3.1 เครื่องหมายบนแป้นคลัตช์ไม่ตรงกับเครื่องหมายบนเครื่องกลไกควบคุม ไม่มากกว่า 0,5
ด้านซ้ายของตัวรถ
11-
163
478DU9-T RE2
ชุดอุปกรณ์เครื่องมือและอะไหล่ประจำหน่วยจะอยู่บนยานพาหนะของหน่วย และใช้สำหรับซ่อมและปรนนิบัติบำรุง
รถถังโดยพลประจำรถหรือชุดซ่อมของหน่วยร่วมกับพลประจำรถ
แผนการบรรทุกชุดอุปกรณ์เครื่องมือและอะไหล่ภายในและภายนอกของรถถัง แบบมาตรฐานตามที่กำหนดไว้ในรูปที่
13.1-13.4
11-
164
478DU9-T RE2
with driver's hood), 8. ถุงใส่อุปกรณ์ 3 ชิ้น (bag for three IPZh-1U devices)
9 – basket. 10 – towing cable (2 pcs.);
ด้านหน้า
11-
165
478DU9-T RE2
11-
166
478DU9-T RE2
11-
167
478DU9-T RE2
11-
168
478DU9-T RE2
1 – จุกปิด (plug); 2 – จุกปิด (plug); 3 – แหวน (washer); 4 – สกรู (screw); 5 – ฝาครอบ (cover);
6 – สลัก (bolt)
11-
169
478DU9-T RE2
1 – สกรู (stop screw); 2 – สลักหัวผ่า (spring-type cotter pin); 3 – แหวนยึด (locking washer);
4 – สลัก (bolt); 5 – ฐานยึดด้านขวา (right bracket); 6 – สลักหมุน; 7 – ฐานยึดด้านซ้าย (left bracket)
11-
170
478DU9-T RE2
ต่อท่อ (10) (229.03.17SB) ไปยังวาล์ว (9) ต่อท่อ (13) (229.03.16SB) เข้ากับรีดิวเซอร์ (12) จากทางด้านของ
“B” (ความดันสูง) จะมีเครื่องหมายที่รีดิวเซอร์
ต่อชุดประกอบ 229.03.04SB เข้ากับสลัก (17) และวาล์ว (14)
ขันข้อต่อระบบลมทั้งหมดของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด
ใช้เข็มขัด (11) (229.06.38SB) ยึดท่อ (10) และสายไฟของกล่องจ่ายกระแสไฟฟ้า เข้ากับโครงยึดซึ่งติดตั้งอยู่บนถัง
น้ำมันร่วมกับราวเก็บกระสุน
ความดันในระบบลมของรถถังต้องอยู่ที่ 13 MPa (130 กก./ลบ.ซม.) ความดันที่ลดลง ที่ยอมรับได้ หลังจาก 30
วินาทีไปแล้ว ต้องไม่เกิน 2.5MPa (25 กก./ลบ.ซม.).
1 – สายเคเบิ้ ล สำหรั บ ยก (lifting wire rope); 2 - holder with units; 3 – สายเคเบิ้ ล (wire rope)
229.07.06SB; 4 – ข้อต่อรูปข้อศอก (angle joint); 5 – กระบอกลม (pneumatic cylinder); 6 – ท่อ (pipe-
line 229.03.02SB); 7 – โครงยึด (cramp); 8 – ข้อต่อ (connecting pipe 229.03.024); 9 – วาล์ว (valve);
10 - ท่อ (pipe-line 229.03.17SB); 11 – เข็มขัดยึด (belt 229.06.38SB); 12 - รีดิวเซอร์ (reducer);
13 - ท่อ (pipe-line 229.03.16SBม); 14 – วาล์ว (technical maintenance valve); 15 – ประเก็น (gasket
229.03.003); 16 – ส ลั ก ยึ ด ท่ อ (connecting pipe bolt 229.03.002); 17 – ส ลั ก (special bolt
229.03.006); 18 – สลัก (bolt M24x1,5-70); 19 - ประเก็น (gasket 229.03.007)
11-
171
478DU9-T RE2
14.3.1.2 การติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด
คลายจาน (13) ออกจากสายไฟ (6, 7) (229.07.08SB, 229.07.09SB) (รูปที่ 14.4), ถอดจุกปิด (12) และดึง
สายไฟเข้าไปยังน็อตยึด (23); แล้วดึงสายไฟอันยาว (7) (229.07.09SB) ไปยังน็อตยึด (23) และไปยังท่อบนแผ่นด้านหน้าของ
หลังคาของรถถัง
ยึดบูช (21) ของสายไฟ (6, 7) โดยใช้สกรู (22)
ใส่จาน (13) บนปลายสายไฟ (6, 7) และยึดปลายสายไฟไว้ที่กล่องจ่ายไฟ (18) ด้วยสกรู (14) พร้อมแหวน
ชนิดแหนบ (15); ติดตั้งหน้าสัมผัสของสายไฟ (6) ในช่อง Sh5 (Ш5), และติดตั้งหน้าสัมผัสของสายไฟ (7) ในช่อง Sh6 (Ш6)
ของกล่องจ่ายไฟ (18)
ใส่จุกปิดยาง (12) บนสายไฟ (6, 7) และใช้จุกปิดยางปิดรูที่ท่อ
ดึ งสายไฟของกล่ อ งจ่ า ยกระแสไฟ (18) ไปยั งรู ที่ แ ผ่ น ด้ านบนของหลั งคาของรถถั ง (ทางขวาของช่ อ ง
ทางเข้าออกของพลขับ)
ยึ ด กล่ อ งจ่ า ยกระแสไฟฟ้ า (18) บนหลั ง คาของรถถั ง ด้ ว ยสลั ก มาตรฐาน (16) และสลั ก พิ เศษ (17)
(229.03.006).
ถอดฝาปิดออกจากข้อต่อของแผงควบคุม (11) และสายไฟของกล่องจ่ายกระแสไฟฟ้า (18) และใส่ฝาปิดไว้ที่
กล่องเครื่องมือ
11-
172
478DU9-T RE2
ต่อสายไฟของกล่ องจ่ายกระแสไฟฟ้ า (18) ไปยังข้ อต่ อ Sh2 (Ш2) ของแผงควบคุม (11) ต่อ สายไฟสตาร์ท จาก
ภายนอก (3) (229.07.01SB-2) เข้ากับข้อต่อ Sh1 (Ш1)
ในห้องพลขับของรถถัง ให้คลายจุกเดรนออกจากพื้น และเก็บจุกเดรนไว้ที่กล่องเก็บเครื่องมือ
ติดตั้งแผงควบคุม (11) (รูปที่ 14.5) ของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิดบนพื้นล่างของรถถังและยึดด้วยสลัก (4) (M16x1, 5-
25.46.019) พร้อมแหวน (5) ที่รูเดรนบนพื้นล่างของรถถัง
จัดให้สวิทช์ ADN ของแผงควบคุม (รูปที่ 14.5) อยู่ที่ตำแหน่ง OFF
ปิดสวิทช์แบตเตอรี่ของรถถัง และยืดสายไฟ (3) ด้วยการช่วยเหลือของ “Wire KMT-6” (478DU9. 95. 050sb), ต่อ
เข้ากับข้อต่อ EXTERNAL START ซึ่งติดตั้งอยู่บนกล่อง BK712M1-3-1T ต่อสายไฟ “ขั้วลบ” ไปที่ตัวรถถัง (ปุ่มติดตั้งอยู่บน
หลังคาตัวรถถังใกล้กับกล่อง BK712M1-3 )
ปลดสายไฟของไฟใหญ่ของรถถังจากไฟหลักของรถ
ถอดไฟใหญ่และยึดไฟใหญ่บนโครงติดตั้ง (8) (229.06.10-1SB), ให้นำโครงติดตั้งออกมาจากกล่องเครื่องมือ
ติดตั้งโครงติดตั้ง (8) พร้อมไฟใหญ่ด้วยสายรัดและยึดโครงติดตั้งด้วยสลัก (9) (M24x1,5-32) พร้อมแหวนชนิดแหนบ
(10) (24.65G).
ต่อไฟใหญ่เข้ากับไฟหลักของรถ ด้วยสายไฟ (2) (229.06.26-1SB).
ยึดสายไฟ (2) บนแผงป้องกันไฟใหญ่ด้วยกลอนยึด
ในการจ่ายพลังงานไฟฟ้าไปยังแผงควบคุมของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด KMT-6 หลังจากติดเครื่องยนต์แล้ว จำเป็นต้อง
เปิดสวิทช์ตัดต่อวงจรไฟฟ้า EXTERNAL START บนกล่อง BK 712M -3-1T ให้อยู่ที่ตำแหน่ง on
Rear view
11-
173
478DU9-T RE2
14.3.1.3 การติดตั้งกล่องสำหรับเก็บชุดเครื่องมือของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด
คลายจุกปิดสี่อันพร้อมแหวนจากเบาะรอง ที่ติดตั้งอยู่บนด้านหลังตัวรถ และใส่จุกปิดพร้อมแหวนไว้ในกล่อง
เครื่องมือ
ถอดเบาะรองออกจากกล่ องเครื่อ งมือ ของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด (ถ้าติดตั้งไว้ ) และใส่เบาะรองไว้ในกล่อง
เครื่องมือประจำรถถัง
ใช้ส ลั ก (7) (229.06.050) พร้อมแหวนชนิ ดแหนบ (18) (24.65G) ยึดกล่องเครื่องมื อของชุดกวาดล้างทุ่ น
ระเบิด บนเบาะรองด้านบนของห้องเครื่องกำเนิดกำลัง
ยึดกว้านไว้บนฝาปิดกล่องเครือ่ งมือของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิดด้วยน็อตยึด
ใส่เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับติดตั้งชุดกวาดล้างทุ่นระเบิดไว้ในกล่องเครื่องมือชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด
และกล่องเครื่องมือประจำรถ
14.3.1.4 การติดตั้งคราดของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด
การติดตั้งคราดของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด (รูปที่ 14.6) ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้
- จอดรถถังให้แขนค้ำของคราดอยู่ประมาณกึ่งกลางฐาน คราดต้องติดตั้งบนหัวรับแกน และเครื่องกวาด
ล้างทุ่นระเบิด (ABMSD) ต้องอยู่ในตำแหน่งเดินทาง
- คลายสกรู 1 (รูปที่ 14.2) จนกระทั่งสกรูแตะกับด้านล่างของฐาน 5
- ติดตั้งแขนค้ำ (2) พร้อมกว้าน (3) (229.06.14SB) บนฐานของเครื่องกลไก พร้อมนำสลิง (229.03.06SB)
ตามความยาวที่ต้องการ โดยใช้หัว (4) (229.06.05SB) ยึดกับชะแลง 6 (226.06.034) จากกล่องเครื่องมือชุดกวาดล้างทุ่น
ระเบิด
- ต่อเชื่อมขอยึดของสลิง (7) ที่ด้านบนของเพลา ยกคราดไปยังตำแหน่งความสูงที่ต้องการ และติดตั้งคราด
ในฐานติดตั้งของเครื่องกลไก และนำเดือยหมุน (8) ออกจากคราด
- ใส่เดือยหมุน (8) เข้าในรูของฐานติดตั้งและแขนค้ำของคราดและยึดไว้ด้วยสลักหัวผ่าแบบแหนบ 9
- คลายสกรู (1) (รูปที่ 14.2) จนกระทั่งสกรูแตะกับแขนค้ำของคราด
- ไขว้กว้าน (3) (รูปที่ 14.6) กับแขนค้ำ (2) บนฐานติดตั้ง (7) (รูปที่ 14.2) และปฏิบัติเช่นเดียวกัน ให้ติดตั้ง
คราดอันที่สองของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด
- หลังจากใส่คราดบนรถถังแล้ว, ให้ใส่กว้าน (3), หัว (4), และชะแลง (6) ในกล่องเครื่องมือชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด ให้
ยึดแขนค้ำกว้าน (3)
- จอดรถให้ด้านหน้ารถถังอยู่บนพื้นที่ที่ขุดลึกลงไปในดิน (ขุดลึกลงไปจากระดับพื้นดิน 500 มม.) หรือให้ยกด้านหน้า
ของตัวรถขึ้น
- ถอดล็อคแกนหัวยึดจากคราดและจัดให้คราดต่ำลงอยู่ในตำแหน่งใช้งานต่ำสุดด้วยมือ โดยการกดที่แผ่นเหยียบ
- จัดให้แกนกระบอกลมอยู่ในตำแหน่งล่าง
- ดึงสลิงของคราดออก (1) (รูปที่ 14.3) ผ่านไปยังลูกรอก (2) (229.03.05SB) ของกระบอกลม
- ต่อสลิง (3) ของกระบอกลม (5) ไปยังลูกรอก (2) และยึดสลักไว้ด้วยสลักหัวผ่าแบบแหนบ
- ลากสลิงด้วยการใช้เครื่องมือบนลูกรอกของกระบอกลม แกนของกระบอกลมจะถูกดึงเข้าไปยังกระบอกสูบ
- ถอดฝาครอบออกจากหน้าสัมผัสของคราด และเก็บฝาครอบไว้ที่กล่องเครื่องมือชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด
- ต่อสายไฟคราดชุดกวาดล้างทุ่นระเบิดไปยังข้อต่อสายไฟของน็อตที่เชื่อมไว้ (23) (Figure 14.4).
11-
174
478DU9-T RE2
1 – สกรู (screw); 2 – แขนค้ ำ (support); 3 – กว้ า น (winch); 4 – หั ว ชะแลง (head); 5 – ฐานติ ด ตั้ ง
(bracket); 6 – ชะแลง (crowbar); 7 – สลิง (wire rope); 8 – เดือยหมุน (pivot); 9 – สลักหัวผ่า
(cotter pin); 10 – หัวรับแกน (strainer)
14.3.1.5 การตรวจสอบระบบไฟฟ้าและระบบอากาศของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด
การตรวจสอบระบบไฟฟ้าและระบบอากาศของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด ให้ปฏิบัติดังนี้
- ติดเครื่องยนต์และเพิ่มแรงดันอากาศในระบบลมให้สูงถึง 11 MPa (110 กก./ตร.ซม.)
- เปิดวาล์ว (14) (Figure 14.3);
- เปิดวาล์ว (9) ของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด และจัดคันบังคับของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิดไปที่ตำแหน่ง “O”
(open) คราดต้องอยู่ในตำแหน่งเดินทาง และถูกล็อคให้อยู่กับที่ด้วยกลไกล็อค
- จัดส่วนประกอบต่างๆให้อยู่ในตำแหน่งใช้งาน ปิดวาล์ว (9)
- เปิดสวิทช์ battery ของรถถัง เปิดสวิทช์ ADN บนแผงควบคุมชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด แล้วกดปุ่ม KNIFE
SECTIONS ค้างไว้ 10-20 วินาที ส่วนปฏิบัติการของคราดต้องอยู่ในตำแหน่งใช้งาน
ปฏิบัติซ้ำขั้นตอนข้างบนสองหรือสามครั้ง
จัดให้ส่วนปฏิบัติการของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิดไปยังตำแหน่งเดินทาง และยึดคราดไว้ด้วยหัวรับแกน
11-
175
478DU9-T RE2
11-
176
478DU9-T RE2
11-
177
478DU9-T RE2
ตาราง 14.1
รายการตรวจ วิธกี ารตรวจ เครื่องมือ
ตรวจการยึ ด แน่ น ของคราดกั บ ฐาน ตรวจสภาพด้วยสายตา เกี่ยวกับสภาพ ชะแลง (Standard crowbar)
ติดตั้ง การยึ ด แน่ น ของเดื อ ยที่ ห มุ น ได้ ซึ่ งยึ ด (434.91.470)
แขนค้ำของคราด
14.3.4.2 การปรนนิบัติบำรุงประจำวัน
ตาราง 14.2
รายการตรวจ วิธีการตรวจ เครื่องมือ
ทำความสะอาดและล้ างชุดกวาดล้าง ก่อนล้าง ให้ท ำความสะอาดชุดกวาด
ทุ่นระเบิด ล้างทุ่นระเบิด นำคราบสกปรกและสิ่ง
แปลกปลอมออก (ถ้ามี)
ให้ตรวจสภาพและตรวจสภาพเพิ่มเติม
ดังต่อไปนี้
11-
178
478DU9-T RE2
และของรถถัง
14.3.4.2 การปรนนิบัติบำรุงหมายเลข 1
การปรนนิบัติบำรุงหมายเลข 1 กระทำเพื่อตรวจสภาพทางเทคนิคของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด และเป็นการ
เตรียมใช้งานครั้งต่อไปของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด หลังจากที่รถวิ่งมาแล้ว 500 กม. หรือหลังจากที่รถวิ่งมาแล้ว 15 กม. พร้อม
คราดที่จัดอยู่ในตำแหน่งใช้งาน การตรวจที่เกี่ยวข้องกับการปรนนิบัติบำรุงหมายเลข 1 ต้องกระทำเมื่อทำการปรนนิบัติบำรุง
รถถัง
ตาราง 14.3
รายการตรวจ วิธีการตรวจ เครื่องมือ
ให้ ทำการปรนนิบั ติ บำรุงประจำวัน
ชุ ด กวาดล้ า งทุ่ น ระเบิ ด และตรวจ
สภาพเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
14.3.5 ระเบียบปฏิบัติการเก็บรักษาชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด
ถ้ าเก็ บ รั ก ษาหน่ ว ยอุ ป กรณ์ ไฟฟ้ า และระบบลมของชุ ด กวาดล้ างทุ่ น ระเบิ ด เป็ น ระยะเวลาสั้ น ๆ หรื อ เป็ น
ระยะเวลายาวนาน ต้องเก็บไม่ให้ถูกฝนและไม่ให้ถูกแสงแดดโดยตรง
เมื่อเตรียมการเก็บรักษาชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด จำเป็นต้องนำคราบสกปรกและสิ่งแปลกปลอมออกจากกลไก
ของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด ถ้าสีถลอก ให้ทาสีชุดกวาดล้างทุ่นระเบิดในบริเวณที่สีถลอก
เมื่อเตรียมการเก็บชุดกวาดล้างทุ่นระเบิดเป็นระยะเวลาสั้นๆ ให้หล่อลื่นใบมีดและผานไถด้วยน้ำมันหล่อลื่น เมื่อ
เตรียมการเก็บรักษาเป็นระยะเวลานานๆ ให้ทาไขข้นและทาสีชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด
เมื่อเตรียมการเก็บรักษาชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด ให้ปฏิบัติขั้นตอนดังต่อไปนี้
− ทำความสะอาดคราบสกปรกของกลไกต่างๆ ถ้าสีถลอก ให้ทาสี
− เมื่ อ เตรี ย มการเก็ บ ชุ ด กวาดล้ า งทุ่ น ระเบิ ด เป็ น ระยะเวลาสั้ น ๆ ให้ ห ล่ อ ลื่ น ใบมี ด และผานไถด้ ว ย
น้ำมันหล่อลื่น เมื่อเตรียมการเก็บรักษาเป็นระยะเวลานานๆ ให้ทาไขข้นและทาสีชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด
14.3.6 การขนส่งชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด KMT-6
The Ural-375, ZIL-157, ZIL-131, or KrAZ-214 สามารถขนส่งชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด KMT-6 ได้สองชุด โดย
ไม่มีการยึดตรึงหน่วยและส่วนประกอบบนคาร์โกของรถบรรทุก ผังการบรรทุกชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด KMT-6 สองชุดแสดงไว้
ในรูปที่ 14.6.
ก่อนบรรทุก จำเป็นต้องจัดให้คราดของชุดกวาดล้างวัตถุระเบิดอยู่ในตำแหน่งเดินทาง ด้วยการใช้หัวรับแกน
รถถังที่ติดตั้งชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด สามารถขนส่งด้วยรถพ่วง แต่ต้องบรรทุกบนคาร์โกด้วยการหันกลับ
เมื่อรถถังที่ติดตั้งชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด KMT-6 ขนส่งทางรถไฟ รถถังจะยึดตรึงบนรถไฟ โดยปฏิบัติตามคู่มือ
การใช้งานรถถัง
เพลาสี่ตัวของที่ยึดตรึงบนรถไฟ สามารถบรรทุกรถถังได้หนึ่งคันพร้อมชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด โดยจัดคราดชุด
กวาดล้างทุ่นระเบิดให้อยู่ในตำแหน่งเดินทาง และยึดไว้ด้วยหัวรับแกน และปีกพับได้ของใบมีดต้องยึดไว้ด้วยลวด (load
binders).
เมื่อขนส่งชุดกวาดล้างทุ่ นระเบิด KMT-6 ซึ่งเก็บไว้ในกล่อง จำนวน 12 ชุดบรรทุกไว้ในที่เก็บบรรทุกสี่เพลาบนรถไฟ
ตัวอย่างการบรรทุกแสดงไว้ในรูปที่ 14.7
เมื่อขนส่งชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด KMT-6 ซึ่งไม่ได้เก็บไว้ในกล่อง จำนวน 8 ชุดบรรทุกไว้ในที่เก็บบรรทุกสี่เพลาบนรถไฟ
ตามผังการบรรทุก (รูปที่ 14.8)
11-
180
478DU9-T RE2
1 – on the Ural-375 truck; 2 – on the ZIL -157 truck; 3 – on the ZIL-131 truck;
4 – on the KrAZ-214 truck
11-
181
478DU9-T RE2
5 –ปีกพับได้ (collapsiblewing);6–สลัก(bolt);7–ฝาปิด(cover);
8 – ฐาน (base); 9 – คานรับแรงบิด (torsion bar); 10 – ผานไถเพิ่มเติม (additional ploughshare);
11–เ ห ล็ ก ยึ ด ( res) ;12–ค า น รั บ แ ร ง บิ ด ( torsionbar) ;13–ฐ า น ( base) ;
14 – สลัก (pin); 15 – เหล็กนำ (guide); 16 – ฝาปิด (cover); 17 – ตัวเรือน (housing); 18 – สลัก (pin)
ห้ามเลี้ยวรถอย่างเร็วหรือเลี้ยวทันทีทันใด เมื่อขับรถถังที่มีคราดอยู่ในตำแหน่งใช้งาน
ก่อนออกเดินทาง จำเป็นต้องยึดคราดด้วยหัวรับแกนและขันแน่นคราด ดังนั้นจะไม่มีช่องว่างระหว่างกลไกค้ำจุนและ
เพลา และตัดการเชื่อมต่อทางไฟฟ้าแผงควบคุมจากไฟหลักของรถ (สวิทช์ ADN ของแผงควบคุมต้องอยู่ในตำแหน่ง OFF)
ระหว่างเดินทาง ผบ.รถต้องตรวจการณ์ภูมิประเทศ (ถนน) และคอยเตือนพลขับเกี่ยวกับเครื่องกีดขวางที่ปรากฏ
เมื่อขับรถถังที่ติดตั้งชุดกวาดล้างวัตถุระเบิดในเวลากลางคืน ผบ.รถต้องตรวจการณ์ภูมิประเทศ ด้วยการใช้กล้องตรวจ
การณ์เวลากลางคืนตลอดเส้นทางการเคลื่อนที่ และใช้เครื่องติดต่อภายในรถควบคุมการปฏิบัติของพลขับ
ก่อนข้ามลำน้ำ สำหรับรถถังที่ติดตั้งชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด ให้ใช้ผงสำหรับอุดรู ZZK-3U ซีลกลไกเพลายึด, รูเดรนใน
กระบอกลม และช่องว่างระหว่างแกนและฝาปิดของกระบอกลม
11-
183
478DU9-T RE2
เมื่อคาดว่าจะวิ่งผ่านสนามทุ่นระเบิด ฝาปิดช่องทางเข้าออกของรถถังที่ติดตั้งชุดกวาดล้างทุ่นระเบิดต้องปิดแน่น
คราดจะเปลี่ยนจากตำแหน่งเดินทางไปยังตำแหน่งใช้งานโดยพลขับ ตามคำสั่งของผบ.รถ (ก่อนหน้านั้นให้ถอดหัว
รับแกนและติดตั้งหัวรับแกนบนสลักเพลา)
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของรถถังที่ติดตั้งชุดกวาดล้างทุ่นระเบิดในการวิ่งผ่านสนามทุ่นระเบิด ต้องอยู่ที่ 6 ถึง 15
กม./ชม. (ใช้เกียร์ 1หรือr 2 ) การเคลือ่ นที่ต้องเป็นเส้นตรงถ้าเป็นไปได้
เมื่อกวาดทุ่นระเบิดบนพื้นดินแข็ง ให้ถอดผานไถออกจากล้อ และเก็บไว้ในกล่องเครื่องมือชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด
หลังจากข้ามสนามทุ่นระเบิด ต้องจัดคราดชุดกวาดล้างทุ่นระเบิดให้อยู่ในตำแหน่งเดินทาง
รถถังที่ติดตั้งชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด สามารถลากจูงวิธีเดียวกับรถถังปกติ แต่มุมเลี้ยวของรถจะต้องไม่เกิน 45°
14.4 กล่องเครื่องมือ
14.4.1 กล่องเครื่องมือประจำชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด
กล่องเครื่องมือประจำชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด ได้อธิบายไว้ในตารางที่ 14.4
ตาราง 14.4
จำนวน
รายการ หมายเลข ตำแหน่งที่ติดตั้ง หมายเหตุ
(อัน)
11-
184
478DU9-T RE2
จำนวน
รายการ หมายเลข ตำแหน่งที่ติดตั้ง หมายเหตุ
(อัน)
11-
185
478DU9-T RE2
จำนวน
รายการ หมายเลข ตำแหน่งที่ติดตั้ง หมายเหตุ
(อัน)
แผ่นรอง 201.07.55 2 ในกล่ อ งที่ ป ระกอบด้ ว ยอุ ป กรณ์
ไฟฟ้า
14.4.2 กล่องเครื่องมือช่างประจำหน่วยของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด
กล่องเครื่องมือช่างประจำหน่วยของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด จะนำมาใช้เมื่อทำการปรนนิบัติบำรุงหมายเลข 1
หรือใช้ในการซ่อมบำรุงตามปกติและใช้เสริมกับเครื่องมือประจำชุดกวาดล้างทุ่นระเบิด เครื่องมือช่างประจำหน่วยของชุด
กวาดล้างทุ่นระเบิดจะเก็บไว้ในกล่อง 229.08.08SB.
11-
186
478DU9-T RE2
เครื่องมือช่างประจำหน่วยของชุดกวาดล้างทุ่นระเบิดอธิบายไว้ในตาราง 14.5.
ตาราง 14.5
จำนวน
หมายเลข รายการ หมายเหตุ
(อัน)
229.01.07SB สลิงเพลา 2
229.01.18SB รีเลย์ 1
229.01.20SB สายไฟ 2
229.03.02SB ท่อ 1
229.03.06SB สลิงของกระบอกสูบ 2
229.03.17SB ท่อ 1
229.03.21SB วาล์วอากาศ 1
229.07.07SB กล่องจ่ายกระแสไฟฟ้า 1
229.07.08SB สายไฟอันขวา 1
229.07.09SB สายไฟอันซ้าย 1
229.01.041 แหนบอันซ้าย 1
229.01.046 แหนบอันขวา 1
229.02.001R แผ่นอันนอกของคานรับแรงบิด 8
229.02.002R แผ่นอันในของคานรับแรงบิด 32
11-
187
478DU9-T RE2
จำนวน
หมายเลข รายการ หมายเหตุ
(อัน)
229.02.013R ผานไถตัวนอกซ้าย 1
229.02.014R ผานไถตัวกลางซ้าย 1
229.02.015R ผานไถตัวในซ้าย 1
229.02.060R ผานไถตัวในขวา 1
229.02.061R ผานไถตัวกลางขวา 1
229.02.062R ผานไถตัวนอกขวา 1
229.03.002 สลักยึดข้อต่อ 6
229.03.003 ประเก็น 30
229.03.004 สลักพิเศษ 1
229.03.005 ประเก็น 10
229.03.006 สลักพิเศษ 1
229.03.007 ประเก็น 10
229.05.010 สลัก 10
229.06.050 สลัก 20
229.06.090 ผานไถ 2
229.06.091 สลัก 2
IL611-150-70 รีดิวเซอร์ 1
11-
188
478DU9-T RE2
11-
189