CoatingtechniqueI (A)

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 65

เทคนิคการเคลือบผิว

Part I
การเคลือบโดยใช้ แปรง
การเคลือบโดยใช้ ลูกกลิง้
การเคลือบโดยใช้ วธิ ีเสปรย์
การเคลือบโดยใช้ วธิ ีทางเคมีไฟฟ้ า(electrodeposition)
Part II
การเคลือบโดยใช้ สีผงโดยการพ่นด้ วยเปลวความร้ อน
(Thermal Spray deposition)
การเคลือบโดยวิธี (chemical vapor deposition, CVD)

การเคลือบโดยกระบวนการ Sputter
การเคลือบผิวโดยการใช้ แปรง

แปรงทาสี ในท้ องตลาดมีหลากหลายชนิด:

หน้ าแคบและหน้ ากว้ าง

ด้ ามสั้ นและด้ ามยาว


ทาจากวัสดุ Nylon, polyester และ hog bristle
การเคลือบผิวโดยใช้ ลูกกลิง้

การเคลือบผิวโดยการใช้ ลูกกลิง้ เป็ นวิธีทเี่ ร็วในการเคลือบผิวโดยใช้ แรง


คน เหมาะสาหรับการเคลือบผิวสิ่ งก่ อสร้ างและอาคาร เช่ นผนัง หลังคา
การเคลือบผิวโดยวิธีเสปรย์

การเสปรย์ เป็ นวิธีทเี่ ร็วกว่ าการใช้ แปรงหรื อลูกกลิง้

มีอุปกรณ์ ทหี่ ลากหลายชนิดในการทาเสปรย์

ขนาดของละอองของเหลวจะขึน้ อยู่กบั ชนิดของ spray gun


การเคลือบผิวโดยวิธีเสปรย์
ข้ อเสี ยของการเคลือบผิวโดยวิธีเสปรย์ คือมีประสิ ทธิภาพในการ
เคลือบต่าเนื่องจากมีละอองของเหลวเพียงบางส่ วนเท่ านั้นที่ตกลงบน
พืน้ ผิวทีต่ ้ องการเคลือบ

มีละอองของเหลวบางส่ วนทีเ่ มื่อกระทบพืน้ ผิวแล้ วกระดอนหลุด


ออกไปและมีบางส่ วนทีต่ กเลยพืน้ ผิวทีเ่ คลือบ บางส่ วนทีต่ กก่ อนที่จะถึง
พืน้ ผิว ผลรวมทีเ่ กิดจากการสู ญเสี ยละอองของเหลวทีเ่ คลือบจะถูกนามา
คิดเป็ นเปอร์ เซ็นต์ ของสารเคลือบทีอ่ อกจาก spray gun แล้ วตกลงบน
พืน้ ผิวที่ต้องการเคลือบ (transfer efficiency)
ประสิ ทธิภาพในการเคลือบผิว

Type of Spray Gun Transfer Efficiency (%)


25
Air

Airless 40

Air-assisted airless 50

High volume, low pressure air 65

Electrostatic air 60-85


Electrostatic rotary 65-94
Air Spray Gun

Air spray guns จะทาให้ เกิดละอองของเหลวโดยใช้ การอัดอากาศ


ละอองสารเคลือบจะออกจากหัวฉีดโดยใช้ การอัดอากาศทีแ่ รงดัน ~ 250-
400 kPa (35-70 psi)
Air Spray Gun

ขนาดของละอองของเหลวจะถูกควบคุมโดย:

1. ความหนืดของสารเคลือบ
2. แรงดันอากาศ
3. ขนาดของรู ในหัวฉีด
4. ความดันที่บังคับให้ ของเหลวออกมาทางหัวฉีด

5. แรงตึงผิว
Airless Spray Gun
ของเหลวถูกทาให้ เป็ นละอองฝอยโดยไม่ ใช้ อากาศ แต่ ใช้ ความดันไฮดรอ
ลิกแทน

ของเหลวจะพุ่งออกจากหัวฉีดในลักษณะเป็ นแผ่ น ในขณะทีแ่ ผ่ น


ของเหลวเคลื่อนที่ห่างออกจากหัวฉีดก็จะมีลกั ษณะคล้ ายม่ านแล้ วก็แตก
ออกเป็ นหยดเล็กๆบริเวณตรงปลาย
Airless Spray Gun

ขนาดหยดของละอองของเหลวควบคุมโดย:

1. ความเร็วของของเหลวเมื่อเคลื่อนผ่ านหัวฉีดเทียบกับความเร็วอากาศ

2. ความหนืด

3. ความตึงผิว
Airless Spray Gun
การเคลือบแบบเสปรย์ โดยทีไ่ ม่ ใช้ อากาศจะเคลือบได้ เร็วกว่ าแบบใช้
อากาศ อย่ างไรก็ตามการเคลือบแบบนีจ้ ะให้ ความหนาที่มากกว่ าแบบใช้
อากาศ
การเคลือบแบบนีจ้ ะไม่ มีอากาศมาปะปนกับละอองของเหลวซึ่งทา
ให้ ขนาดหยดของเหลวมีขนาดใหญ่ กว่ า และมีการระเหยของตัวทาละลาย
ออกไปน้ อยกว่ า
การเคลือบโดยไม่ ใช้ อากาศจะช่ วยลดการสู ญเสี ยของเหลวทีเ่ มื่อใช้ พ่น
ลงบนวัตถุทมี่ รี ู ปร่ างไม่ สมา่ เสมอ แต่ อย่ างไรก็ตามการเคลือบแบบไม่ ใช้
อากาศสามารถก่ อให้ เกิดปัญหาเมื่อนามาใช้ กบั สารเคลือบทีม่ ีนา้ เป็ นตัวทา
ละลาย เพราะทีถ่ ูกอัดด้ วยความดันสู งจะมีปริมาณอากาศละลายอยู่น้อยแต่
เมื่อพ่นออกมาที่แรงดันต่าจะทาให้ อากาศที่ละลายในของเหลวออกมาเกิด
ฟองได้ ง่าย
Electrostatic Spraying
การเคลือบแบบนีเ้ ป็ นการเสปรย์ สารเคลือบลงไปบนชิ้นงานภายใต้ สนามไฟฟ้ า
ทีเ่ กิดระหว่ างละอองของเหลวกับตัวชิ้นงาน โดยของเหลวทีม่ ปี ระจุตรงข้ ามกับ
ประจุบนชิ้นงานจะวิง่ เข้ าหาชิ้นงาน สนามไฟฟ้ าทีใ่ ส่ เข้ าไปไม่ มผี ลต่ อขนาด
ละอองของเหลว การเคลือบแบบนีจ้ ะให้ การสู ญเสี ยสารเคลือบน้ อยกว่ าวิธีเสปรย์
แบบอื่น
สายไฟจะถูกฝังอยู่ในหัวของ spray gun สนามไฟฟ้ า~ 50-125
จะถูกส่ งผ่ านไปยังสายไฟ สนามไฟฟ้ าจะทาให้ อากาศตรงบริเวณปลาย
สายไฟแตกตัวเป็ นประจุ เมื่อละอองของเหลวผ่ านเข้ าสู่ บริเวณนีก้ จ็ ะรับe-
เกิดเป็ นประจุลบ วัตถุทตี่ ้ องการจะเคลือบต่ อเข้ ากับสายดิน เมื่อของเหลวเข้ า
ใกล้ วตั ถุทมี่ ขี ้วั แตกต่ างกันก็จะดึงดูดกัน
Electrostatic Spraying

การเคลือบแบบนีจ้ ะมีการสู ญเสี ยสารเคลือบน้ อยกว่ าวิธีเสปรย์ แบบ


อื่นเนื่องจากเกิดการโอบล้ อมสารเคลือบบริเวณรอบๆsubstrate ขึน้ อยู่
กับความเป็ นประจุของละอองของเหลวซึ่งขึน้ อยู่กบั ค่ าการนาไฟฟ้ าของ
สารเคลือบ ถ้ าค่ าการนาไฟฟ้ าของสารเคลือบมีค่าต่าก็จะไม่ สามารถดึง
ประจุจากตัวทาละลายได้ ดี โดยเฉพาะในกรณีของ aliphatic
hydrocarbon

การเคลือบโดยวิธีนี้ substrate ต้ องนาไฟฟ้ าด้ วย มิเช่ นนั้นจะไม่ เกิด


ประจุทตี่ ่ างขั้วทีผ่ วิ ของ substrate เมื่อต่ อกับสายดิน
Hot Spray

เนื่องจากของเหลวทีจ่ ะถูกเสปรย์ ได้ น้ันต้ องมีค่าความหนืดทีต่ า่ อยู่


ทีป่ ระมาณ0.05 - 0.15 Pa.s จึงจะให้ ขนาดละอองของเหลวที่
เหมาะสม ซึ่งอาจเกิดปัญหาขึน้ ได้ ในกรณีทสี่ ารเคลือบเป็ นสารละลายของ
พอลิเมอร์ ทมี่ นี า้ หนักโมเลกุลสู งจะทาให้ ของเหลวหนืดมากจะเกิดละออง
ของเหลวน้ อย
วิธี hot spray จะมีการเพิม่ อุปกรณ์ ให้ ความร้ อนต่ อเข้ ากับหัวฉีดซึ่ง
จะทาให้ ของเหลวมีอุณหภูมเิ พิม่ ขึน้ 38-65 C เมื่ออุณหภูมิเพิม่ ของเหลว
จะมีค่าความหนืดลดลงก็จะทาให้ ได้ ปริมาณละอองของเหลวเพิม่ ขึน้ ตาม
ต้ องการ
Hot Spray

สารเคลือบจะถูกให้ความร้อนเพื่อให้ความหนืดลดลงแทนการเพิ่มปริ มาณตัว
ทาละลาย

บางครั้งอาจไม่ใช้ตวั ทาละลายเลยเช่นพอลิยรู ิ เทน จะให้ความร้อน


เพื่อปรับให้มีความหนืดตามต้องการ.
Arc Spray

การเคลือบผิวโดยใช้สารเคลือบที่เป็ นโลหะ จะใช้ electric arc

จะเร็ วกว่าการทา gas spray และให้การยึดติดที่ดีเนื่องจากใช้


อุณหภูมิสูงช่วยในขณะเสปรย์
Metal Spraying

การประยุกต์ ใช้ วธิ ีเสปรย์ กบั สารเคลือบทีเ่ ป็ นโลหะ เช่ น Zn หรื อ


Al บนพืน
้ ผิวที่เตรียมแล้ ว (ขัดผิว) โลหะจะถูกพ่ นในลักษณะกึง่
เหลวโดยผ่ านกระแสไฟ ถ้ าสารเคลือบเป็ นผงก็ผ่านเปลวไฟหรื อ
electric arc ซึ่งจะทาให้ ตกลงสู่ พืน ้ ผิวโดย การพ่ นอากาศ
แรงดันสู ง
Dip Coating

การเคลือบผิวโดยวิธีจ่ ุมเป็ นวิธีทงี่ ่ าย substrate จะถูกจุ่มลงใน


สารละลายของสารเคลือบจากนั้นก็จะถูกดึงออกจากของเหลว ของเหลว
ส่ วนเกินก็จะตกกลับลงสู่ ภาชนะบรรจุสารเคลือบ

ขณะที่ของเหลวส่ วนเกินหยดกลับลงไปก็จะเกิดฟิ ล์ มขึน้ ที่ผวิ


substrate ความหนาของสารเคลือบบน substrate บริเวณตอนต้ นจะ
มีความหนามากกว่ าตอนปลาย
Dip Coating Process
The Flow Coating

ผลิตภัณฑ์ ทตี่ ้ องการเคลือบจะเคลื่อนผ่ านสารเคลือบที่ติดบนแปรง


ลูกกลิง้ สารเคลือบทีต่ ดิ บนแปรงลูกกลิง้ ก็จะถูกถ่ ายให้ กบั substrate
จากนั้นจะถูกปล่ อยให้ แห้ งในอากาศ.
Vacuum coating process

ภายในตู้เคลือบจะถูกทาให้ เกือบเป็ นสุ ญญากาศด้ วยการดูดเอา


อากาศออกสารเคลือบทีเ่ ป็ นของเหลวจะถูกปล่ อยเข้ าไปในตู้แล้ วเกิดการ
ระเหยเป็ นไอของสารเคลือบ วัตถุทตี่ ้ องการเคลือบถูกส่ งผ่ านเข้ าไปในตู้
เคลือบโดยสายพานแล้ วเคลื่อนออกมาตามสายพานเพื่อไปยังตู้อบ
Electroplating

Electroplating คือกระบวนการ
เคลือบผิวด้ วยโลหะโดยใช้ กระแสไฟฟ้ า
ซึ่งโลหะทีเ่ คลือบอาจจะนามาใช้ เคลือบบน
substrate ทีน ่ าไฟฟ้ า (โลหะ)หรื อไม่
นาไฟฟ้ าก็ได้ (พลาสติก,ไม้ , หนัง) ซึ่ง
ชนิดหลังนั้นพืน้ ผิวจะต้ องถูกทาให้ นา
ไฟฟ้ าก่ อนด้ วยการเคลือบด้ วยกราไฟต์ ,
แลคเกอร์ ทนี่ าไฟฟ้ า, การเคลือบด้ วยไอ
ของสารที่นาไฟฟ้ า
WHAT IS ELECTROPLATING?

กระบวนการ Electroplating ได้ ถูกใช้ ครั้งแรกคือเมื่อ 200 ปี ก่ อน ใน


กระบวนการนีจ้ ะมีการผ่ านกระแสไฟฟ้ าเข้ าไปในสารละลายอิเลคโตรไลต์ โดย
substrate ทีจ ่ ะถูกเคลือบจะอยู่ทขี่ ้วั อิเล็กโตรดนั่นเอง ซึ่งกระบวนการอิเล็ค
โตรเพลทติงจะเกิดขึน้ เพราะนา้ จะทาให้ สารทีล่ ะลายอยู่แตกตัวเป็ นอิออนบวก
และอิออนลบ จากนั้นอิออนจะถูกดึงดูดไปยังขั้วอิเล็กโตรดทีม่ ปี ระจุตรงข้ าม
แล้ วกลายเป็ นกลางโดยการให้ หรื อรับอิเล็กตรอน โดยทัว่ ไป substrate ที
ต้ องการจะเคลือบโลหะจะถูกนามาใช้ เป็ นขั้วลบหรื อคาโทด โดยที่ ขั้วอาโนดจะ
เกิดการกร่ อนออกไปของโลหะ
WHY ELECTROPLATE?

กระบวนการelectroplating ถูกนามาใช้ เคลือบโลหะทั้งทีบ่ ริสุทธิ์และ


ทีผ่ สม เพื่อความสวยงามหรื อเพื่อการใช้ งาน สารประกอบ
nickel/chromium ซึ่งเรารู้ จก ั กันในนามของ chrome plating
นอกจากนีย้ งั มี copper, brass (an alloy), bronze (an alloy)
และ zinc ทีถ่ ูกนามาใช้ เคลือบเพื่อความสวยงาม
สาหรับการประยุกต์ ใช้ งานในด้ านวิศวกรรมได้ มกี ารนาเอา zinc, tin,
nickel, "hard" chromium, silver และ gold มาใช้ รวมทั้งโลหะ
ผสมอื่นๆ ได้ แก่ การทาให้ พืน้ ผิวทนต่ อการสึ กกร่ อน, การเปลีย่ นคุณสมบัติ
ของพืน้ ผิวเช่ นค่ าการเหนี่ยวนาให้ นาไฟฟ้ า ค่ าการนาไฟฟ้ า และความทนต่ อ
การกัดกร่ อน สาหรับการนามาทาเป็ นเครื่ องประดับตกแต่ งโลหะที่นามาใช้
ได้ แก่ ทอง เงิน และโรเดียม
การทา electroplating จะทาใน plating bath โดยมีโลหะที่
ต้ องการเคลือบ (เช่ น เงิน, ทอง) ละลายอยู่ในรู ปของไอออนบวก โดย
สารละลายใน plating bath จะเป็ นสารละลายทีน่ าไฟฟ้ าได้ และจะมี
การต่ อไฟฟ้ ากระแสตรงเข้ าไป substrate ทีจ่ ะนามา plate จะถูก
นามาใช้ ทาเป็ นขั้วคาโทดหรื อขั้วลบซึ่งจุมอย่ ใน plating bath โดยจะมี
อิเล็กโตรดทีใ่ ช้ เป็ นขั้วบวกหรื อ อาโนดจะถูกจุ่มทีป่ ลายอีกข้ างหนึ่งของ
plating bath แหล่ งจ่ ายไฟได้ แก่ หม้ อแปลงซึ่งจะเปลีย่ นไฟฟ้ า
กระแสสลับให้ เป็ นไฟฟ้ ากระแสตรง e- ไหลจากขั้วบวกไปยังขั้วลบ
ไอออนของโลหะทีม่ ปี ระจุบวก จะเคลื่อนทีไ่ ปยังคาโทดขั้วลบทีม่ ี e- เกิน
อยู่ ซึ่งโลหะอิออนจะรับ e- แล้ วกลายเป็ นโลหะเคลือบผิวคาโทดส่ วนไอ
อนลบจะวิง่ ไปทีข่ ้วั บวกหรื ออาโนด
Electrodeposition or Electroplating

Faraday’s Laws of electrolysis are basic to electrodeposition.


W = I. t Eq
F
W = weight of deposit in grams
I = current flow in amperes
t = time in seconds
Eq = Eqivalent weight of deposited element
F = Faraday constant (96500 coulombs)

% Electrode Efficiency = 100 x actual weight of deposit


Theoretical weight of deposit
ความหนาของชั้นโลหะที่ข้วั อิเล็กโทรดสามารถหาจากเวลาในการทา
plating และปริมาณไอออนของโลหะใน bath เทียบกับ current
density ยิง่ ทา plating นานก็จะยิง่ ได้ ช้ ันความหนามาก โดยทั่วไป
ความหนาที่ได้ จาก electroplating ของ Au จะอยู่ทปี่ ระมาณ 10-20
ไมครอน ลักษณะของวัตถุทถี่ ูกเคลือบจะมีผลต่ อชั้นความหนา ถ้ าวัตถุมี
ลักษณะเป็ นเหลีย่ มบริเวณขอบจะมีความหนามากกว่ าตรงบริเวณด้ าน
เนื่องจากกระแสไฟที่ผ่านไปยังขอบจะมีความหนาแน่ นมากกว่ าบริเวณ
ด้ าน
Cathode Current Efficiencies of Various Plating Solution

Deposit Electrolyte Range, % Deposit Electrolyte Range, %

Ag CN 100 In Acid or CN 30-50

Au Acid Zn Acid ~95


Neutral 50-100 CN 50-80
CN
Cd CN 85-95 Pb Acid 95-100

Cr CrO3/H2SO4 10-15 Rh Acid 10-50

Cu acid SO4 97-100 Sn Acid 90-95


CN (high eff) 90-95 Alkaline 70-95
P2O7 ~100

Fe Acid 90-98 Ni Acid 93-98


E = E + RT ln ax(products)
nF ay (reactants)

E =observed EMF, potential diff (V)


E= std. EMF
R = gas constant, 8.314 (j.K-1mol-1)
T = absolute temperature, K
n = valence change (e- transfer)
F = Faraday, 96,500 Coulombs
a = activity

E = E + (0.059/n) log a (or log c approx.)


การเคลือบด้ วย electroplating จะไม่ สามารถกลบเกลื่อนร่ องรอยของ รอย
ขีดข่ วนหรื อพวกรู ทเี่ กิดบนพืน้ ผิวของ substrate ได้ ทั้งยังทาให้ ร่องรอย
เหล่ านีเ้ ห็นเด่ นชัดขึน้ ดังนั้นควรกาจัดรอย defect บน substrate ก่ อนทาการ
plating

เนื่องจากการเคลือบแบบนีม้ ีความบางมากดังนั้นการทา surface


treatment เช่ น chemical etching, glass bead blasting ที่
ก่ อให้ เกิดความขรุขระ จะไม่ ทาให้ ความขรุขระของพืน้ ผิวเปลีย่ น
สาหรับโลหะทีน่ ิยมใช้ เคลือบเพื่อความสวยงามได้ แก่ ทอง, เงิน, นิกเกิล,
พาลาเดียม, แพลททินัม, รู ทเิ ดียม และ โรเดียม
สาหรับสารเคลือบทีใ่ ช้ ในงานวิศวกรรมได้ แก่ ทองเหลือง แคดเมียม แส
ตนเลส ทองแดง ทองคา นิกเกิล เงิน ดีบุก และ สั งกะสี
Concentration Polarization

การเพิม่ ของความเข้ มข้ นของไอออนบวกที่ข้วั อาโนด เป็ นผลจากการ


การละลาย และการลดของความเข้ มข้ นไอออนบวกที่ข้วั คาโทด เป็ นผลจาก
การเกิดผลึก ผลทีเ่ กิดจากความเข้ มข้ นที่เปลีย่ นแปลงเรียกว่ า
concentration polarization ซึ่งถูกควบคุมโดยการถ่ ายเทมวล
+ Current
-
Source

e- e-
Ca>>Cs>>Cc
+++ ++
+
+++
+++ ++
+++ +
+++ ++
+++ ++
+++ +
+++ ++
++
Anodic concentration polarization โดยมากเป็ นผลจาก
การเกิดออกซิเจนซึ่งจะไปทาปฏิกริ ิยากับ electrode เกิดเป็ น oxide
film ซึ่งจะไปเพิม
่ ค่ าความต้ านทานของโลหะทีข่ ้วั อิเล็กโทรด.
Cathodic concentration polarization เป็ นผลมาจากการ
เกิด H2 ซึ่งเป็ นปฏิกริ ิยาข้ างเคียงทาให้ ค่า pH เพิม่ ทีข่ ้วั คาโทดทาให้ เกิด
การตกตะกอนของสารประกอบออกไซด์ หรื อไฮดรอกไซด์ และบางทีกอ็ าจ
เกิด deposit ร่ วม
2H+ + 2e- 2Hadsorbed H2(gas molecule)
Basic Electrolyte Controlled
Additives Plating variables
composition
Brightening pH
Leveling Impurities C.D.
Anti-pitting Temperature
Grain refining Agitation Time
Composition and
Stress relieving structure of
Current
deposit Characteristics
Impurities DC-% ripple
PR
Physical Mechanical IC
Properties Properties Asymetrical AC
Density Hardness pulse
Coefficient of Ductility
thermal expansion Tensile Strength
Electrical Stress
Resistance Modulus of
elasticity

Corrosion Resistance
Magnetic Properties
ขั้นตอนในการทา electroplating
1. ทาความสะอาดพืน้ ผิวคือการกาจัดสิ่ งปนเปื้ อนออกจากพืน้ ผิว(นา้ มัน, สิ่ ง
สกปรก)
2. การจุ่มลงในกรด หรื อ การเตรียมพืน ้ ผิว เพื่อทาให้ เป็ นกลางและละลายเอา
ฟิ ล์ มทีเ่ ป็ นเบส (metal oxide) หรื อสนิมทีต่ ดิ อยู่บนพืน้ ผิวออก
3. การกัดพืน ้ ผิว หรื อ กระตุ้นพืน้ ผิว เพื่อกาจัดเอาโลหะที่ปนเปื้ อนออก หรื อ เพื่อ
แลกเปลีย่ นธาตุบางชนิดกับโลหะ Si ใน Al alloy หรื อ Ni, Cr ในสแตนเลส หรื อ
เพื่อกาจัดชั้นออกไซด์ ทเี่ คลือบผิวออก
4. การทาให้ พืน ้ ผิวเสถียร วัสดุบางชนิดจะมีความว่ องไวต่ อการออกซิไดซ์ โดย O2
ในอากาศเช่ น Al alloy, Mg,Ti ดังนั้นจึงต้ องมีการป้ องกันพืน้ ผิวด้ วยการเคลือบ
ชั้นบางๆของสารบางชนิดโดยจะเคลือบโลหะทับบนชั้นนีอ้ กี ที
วัตถุทจี่ ะทาการ plate จะถูกห้ อยหรื อแขวนไว้ บนราวโลหะ จากนั้นก็จะ
จุ่มตัวราวแขวนพร้ อมวัตถุลงไปในสารละลายอิเล็กโตรไลต์ ใส่ ไฟฟ้ า
กระแสตรงมายังวัตถุโดยให้ เป็ นขั้วลบ สารละลายอิเล็กโตรไลต์ รวมทั้ง
อุณหภูมิ และกระแสไฟฟ้ าจะต้ องถูกควบคุมเพื่อให้ การเคลือบมีความ
สม่าเสมอ เมื่อใส่ กระแสเข้ าไปจะมีโลหะจากสารละลายไปเคลือบบนผิววัตถุ
และมีการละลายของโลหะอาโนดสู่ สารละลาย ถ้ าใช้ ข้วั อาโนดทีไ่ ม่ ละลายเช่ น
Cr หรื อ Au สารละลายอิเล็กโตรไลต์ ทห ี่ มดไปจะต้ องถูกชดเชยโดยการเติม
เพิม่ ไปในรู ปสารละลาย เมื่อ plate เสร็จแล้ วก็จะทาการล้ าง ทาให้ แห้ ง
ตรวจสอบและบรรจุ เมื่อเราทาการ plate สั งกะสี ผิวของสั งกะสี จะทา
ปฏิกริ ิยากับอากาศแล้ วจะถูกกัดกร่ อนอย่ างรวดเร็ว เพื่อป้ องกันสั งกะสี จะถูก
จุ่มในสารละลาย chromate เป็ นเวลา 2-3 นาที ก่ อนจะทาการ plate
การเลือกชนิดสารเคลือบ
Primary Function Most Widely Representative Application
of Coating Used Coating
Corrosion Zn, Cd Sacrificial coatings, fasteners,
Resistance hardware fittings
Sn Food Container
Ni, Cr Food processing equipment
Decorative Cu/Ni/Cr Househole appliances,
composite automotive trim

Dielectrics Brass (Cu-Zn)


Jewelry
Ag, Au, Rh
Condesers
Anodized oxide
coatings of Al & Capaciors
Ti, Ta Coatings

Electroforms Ni, Cu, Fe (Cr), Radar “plumbing” screens,


Co composites bellows, containers, molds
Primary Function Most Widely Representative Application
of Coating Used Coating
High temp, oxidation Cr, Rh, Pd, Pt, Air and spacecraft
resistance Au, Ni Electronic Device
Diffusion Barrier
Maskant Cr, Rh, Pd, Pt, Selective carburizing, nitriding
Au, Ni Etch Resists
Reflectors Ag, Rh, Cr, Visible light reflectors
Au Infra-red reflectors

Salvage Cu, Ni, Cr, Mismachined, worn parts


Fe
Soldering, Pb, Sn, Sn-Pb, Containers, printed circuit
Bonding And other electronic assemblies
Cu, Ag, Au, Sn-
and chassis
Ni, Cd, Ni
Air and space craft, hydraulics
Wear Resistance Ni, Cr, E-Ni, Electronic contacts
Hard Anodizing
การเคลือบผิวโลหะผสม

Deposited either electrolytically or (more prevalently)


Ni-P
electrolessly for its hardness, wearability and corrosion
resistance and as non-magnetic undercoat on computer
hard disks

Co-Ni For decorative plating, magnetic applications


electroforming (molds for plastics)

Co-P For hard magnetics, sometimes ans ternary alloys


containing Ni, Fe, Zn, W, Mo, etc.
การเคลือบผิวโลหะผสม
Cu-Zn Brasses ranging from red brass to white brass,
primarily decorative and for rubber bonding

Cu-Sn Bronzes, decorative, antiquing and as corrosion


resistant undercoats substituting for a copper strike
Sn-Pb Compositions ranging from 5% Sn to 65% Sn.
Applications include bearings, corrosion resistant
coatings, solderable coatings and etch-resists in
electronic assemblies
Au-Co, Hardened gold alloy deposits used for elctronic
Au-Ni contacts and wearing surfaces
Sn-Ni For corrosion resistance and solderability

Ni-Fe As substitute for nickel plating (decorativ), soft magnetics


on computer heads (Permalloy)
Electroless Deposition

กระบวนการ Electroless plating ต่ างจากกระบวนการ


electroplating ปกติ ตรงทีจ ่ ะไม่ มีการใส่ กระแสไฟฟ้ า โลหะทีเ่ คลือบจะ
เกิดปฏิกริ ิยา รีดกั ชั่น โดยรับ e- จากตัวรีดวิ ซ์ ในสารละลาย

catalytic
M n+ + ne- (supplied by RA) M + reaction product
surface
Electroless plating
ให้ ผวิ เคลือบทีค่ ่ อนข้ างสมา่ เสมอโดยไม่ หนาตรงบริเวณมุมหรื อส่ วนที่
นูน และไม่ บางเกินตรงส่ วนทีเ่ ว้ าลงไป
ผิวเคลือบจะมีลกั ษณะรู พรุนน้ อยจึงทนต่ อการกัดกร่ อนดีกว่ าวิธี
electroplate

ตัว substrate อาจเป็ นโลหะ หรื อ อโลหะก็ได้ อาจนาไฟฟ้ าหรื อไม่ นา


ไฟฟ้ าก็ได้ รวมทั้งพอลิเมอร์ (พลาสติก) เซรามิกส์ แก้ ว ก็สามารถนามา
เคลือบได้ ด้วยวิธีนี้
ไม่ ต้องใช้ กระแสไฟฟ้ า
ผิวเคลือบทีไ่ ด้ จะมีคุสมบัตเิ ฉพาะตัว นทางเคมี ทางกล ทางกายภาพ และ
คุณสมบัตแิ ม่ เหล็ก
ข้ อเสี ยของวิธี electroless plating:

1. สารละลายไม่ ค่อยเสถียร

2. มีราคาแพง

3. ใช้ เวลาเคลือบนาน

4. ต้ องเปลีย่ นสารละลายในอ่ างเคลือบบ่ อย

5. จะต้ องดูแลอย่ างใกล้ ชิดถ้ าต้ องการให้ ทาซ้าแล้ วได้ ผล


เหมือนเดิม
ในอุตสาหกรรมการเคลือบนิกเกิล โดยวิธี electroless plating จะนิยม
มากกว่ าelectroplating เนื่องจากจะให้ สมบัติทางกายภาพของผิวเคลือบที่
ดีกว่ า (ความสม่าเสมอ, การทนต่ อการกัดกร่ อน,ความลื่น) นอกจากนี้
electroless plating ยังใช้ เคลือบผิวโลหะในกรณีที่ electroplating ไม่
สามารถทาได้ เช่ นวัตถุทไี่ ม่ นาไฟฟ้ าเช่ นพลาสติก การทา electroless
plating จะทาการจุ่มพืน ้ ผิวลงในสารเคมี โดย e- จะได้ รับจากตัวรีดวิ ซ์ ไม่ ใช่
จากกระแสไฟฟ้ า ตัวอย่ างเช่ น

NiSO4 +2NaH2PO3 + 2H2O → Ni + 2NaH2PO3 + H2+H2SO4


ตัวรีดวิ ซ์ ทใี่ ช้ ในกระบวนการ electroless plating นอกจากจะให้
e- ในกระบวนการรีดก ั ชั่นแล้ วก็ยงั สามารถเกิดการเคลือบร่ วมกับนิกเกิล
ทาให้ คุณสมบัตขิ องนิกเกิลดีขนึ้ เช่ น sodium hypophosphite ถูก
ใช้ เป็ น reducing agent จะได้ สารเคลือบเป็ นโลหะผสมของ นิกเกิล
ฟอสฟอรัส นอกจากเกลือของนิเกิล ( โดยทัว่ ไป nickel sulphate)
และสารรีดวิ ซ์ อื่นก็ยงั มี สารประกอบเชิงซ้ อนหลายชนิด สารบัฟเฟอร์ ตัว
stabilizer/inhibitor ในอ่ างเคลือบ ทั้งนีเ้ พื่อควบคุม นิกเกิลไอออน
และกระบวนการเคลือบ
เนื่องจากปฏิกริ ิยาข้ างเคียงของนิกเกิลในการทา electroless plating
เช่ นการเกิดแก๊ สไฮโดรเจนและจะเกิด sodiumorthophosphite หลังจากที่
เคลือบชั้นนิกเกิลไปประมาณ 6-8 ชั้นปริมาณ orthophosphite ในอ่ าง
เคลือบอาจสู งถึง 20% และอาจทาให้ สารละลายในอ่ างเคลือบขุ่นเนื่องจากการ
ตกตะกอนของ orthophosphite ซึ่งทาให้ ผวิ เคลือบมีความขรุขระ การทน
ต่ อการกัดกร่ อนไม่ ดี และนาไปสู่ การเสื่ อมสภาพ
ในขณะทีเ่ กิดกระบวนการ plating สารละลายของ nickel sulphate
และ sodium hypophosphite จะค่ อยๆลดลงเรื่ อยๆ ดังนั้นจึงต้ องมีการ
เติมเพิม่ ไปเพื่อรักษาความสมดุลของสารเคมีในอ่ างเคลือบ และต้ องมีการเติม
ammonia หรื อ sodium hydroxide เพื่อรักษา pH ของสารละลาย ซึ่ง
จะทาให้ เกิดการสะสมของ sodium และ sulphate ไอออนขึน้ รวมทั้ง
orthophosphite เมื่อเวลาผ่ นไป อัตราในการ plate จะลดลงจาก 18
mm/hr เหลือเพียง 10 mm/hr ถ้ าไม่ มีวธ ิ ีกาจัดสารประกอบเหล่ านีก้ จ็ ะทา
ให้ การเกิดปฏิกริ ิยา electrolysis สิ้นสุ ดลงและต้ องทิง้ สารละลายในทีส่ ุ ด
ซึ่งจุดนีเ้ ป็ นข้ อด้ อยของการทา electroless platingปัจจุบันมีความ
พยายามทีจ่ ะยืดอายุสารละลายในอ่ างเคลือบ และการทาให้ สารละลายในอ่ าง
เคลือบกลับมาใช้ ได้ อกี ครั้ง
Schematic of a single membrane pair electrodialysis cell
for the regeneration of a spent electroless nickel bath
กระบวนการทาความสะอาดในการทา electroless plating

เพื่อการใช้ งานระยะยาว และเป็ นการ ลดค่ าใช้ จ่ายจะต้ องทาให้


electroless unit ใช้ งานได้ นานทีส ่ ุ ด การทา electodialysis เป็ นการ
ช่ วยยืดอายุของ plating bath เพื่อไม่ ให้ เกิด waste เลยจะต้ องทาการ
รีดวิ ซ์ orthophosphite ทีเ่ ป็ นผลพวงจาก electroless ให้ กลับมาเป็ น
hypophosphite เหมือนเดิม
Electroless treatments consist of plating the metal by
immersion of items in a salt solution of the metal to be deposited.
These give hard deposits on steel or aluminum and can also be
used as an electrolytic metallizing undercoat on plastics
(electroless nickel - electroless copper).
Electrolytic treatments make it possible to lay thin layers of
metal with special properties (such as corrosion protection or
decorative appearance) onto other metals or plastics, or to impart
hardness, or conductibility. These deposits are generally
executed on fully automated production lines.
การทา electrocoating

พืน้ ฐานของการทา electrocoat ก็คือวัสดุทมี่ ปี ระจุไฟฟ้ าต่ างกันจะ


ดึงดูดกัน วัสดุทจี่ ะทาการเคลือบจะถูกทาให้ มปี ระจุตรงข้ ามกับอนุภาคสาร
เคลือบทีแ่ ขวนลอยทีอ่ ยู่ในอ่ างเคลือบ อนุภาคของสารเคลือบจะถูกดึงดูดเข้ าหา
วัสดุทที่ าการเคลือบด้ วยแรงทางไฟฟ้ าแล้ วเกิดเป็ นฟิ ล์ มขึน้ ที่ผวิ จนกระทั่งได้
ความหนาตามต้ องการ
Anodic
ในการทาanodic electrocoating ชิ้นส่ วนทีจ่ ะทาการเคลือบจะถูกทา
ให้ เป็ นขั้วอาโนด (ขั้วบวก) ซึ่งจะดึงดูดอนุภาคของสารเคลือบทีเ่ ป็ นประจุลบ
ในอ่ างเคลือบ

Cathodic
ในการทาcathodic electrocoating, ชิ้นงานจะถูกทาให้ เป็ นขั้วคาโทด
(ขั้วลบ) และดึงดูดอนุภาคสารเคลือบทีเ่ ป็ นประจุบวกในอ่ างเคลือบ
Anodizing

การทา Anodizing คือกระบวนการทางไฟฟ้ าเคมีซึ่งชิ้นส่ วนที่ทาการ


เคลือบจะถูกทาให้ เป็ นขั้วอาโนด (ขั้วบวก) และถูกจุ่มอยู่ในสารละลายอิเล็ก
โตรไลต์ ทเี่ หมาะสม จะมีการให้ กระแสไฟฟ้ าที่มากพอทีจ่ ะทาให้ เกิดการแตก
ตัวของ O2 ทีเ่ กาะที่ผวิ โดยโลหะจะทาปฏิกริ ิยากับ O2- แล้ วเกิดเป็ น
สารประกอบออกไซด์
การประยุกต์ ใช้ การเคลือบผิวแบบอาโนดิก
1. เพื่อปกป้ องพืน้ ผิว- ป้ องกันการกัดกร่ อน, ป้ องกันการสึ กหรอและทน
ต่ อแรงเสี ยดทาน
2. เพื่อความสวยงาม- จะใช้ สารเคลือบทีใ่ สบนพืน ้ ผิวทีข่ ดั เพื่อทาให้ ผวิ นั้นมี
ลักษณะเป็ นเงามัน, หรื อใช้ สารเคลือบทีเ่ ป็ นสี เช่ นสี ย้อมต่ างๆ.
3. ใช้ เป็ นสี รองพืน้ สาหรับสี หรื อ สารเคลือบทีเ่ ป็ นอินทรีย์
4. ใช้ เป็ นชั้นรองพืน้ สาหรับเคลือบ

5.ใช้ ในงานพิเศษ- โดยทาให้ มีสมบัติเฉพาะอย่ างเช่ นใช้ เคลือบเพื่อให้ ทน


ความร้ อน, เคลือบเพื่อให้ เกิดการหักเหแสง, เคลือบเพื่อใช้ เป็ นตัวเก็บประจุ
ชนิดของฟิ ล์ มอาโนดิก
ชนิดของฟิ ล์ มอาโนดิกจะถูกจัดแบ่ งตามชนิดของตัวทาละลายใน
สารละลายอิเล็กโตรไลต์ ถ้ าฟิ ล์ มทีเ่ ตรียมในกรดซัลฟุริกหรื อกรด chromic
ถ้ าใช้ กรด phosphoric จะให้ ออกไซด์ ทมี่ รี ู พรุนมากขึน้ เนื่องจากเป็ นตัว
electrolyte ทีแ่ รง มักนิยมใช้ เตรียมพืน ้ ผิวเพื่อให้ มีการยึดติดทีด่ ี รวมทั้ง
เคลือบผิวก่ อนทาการ plate อะลูมเิ นียม เนื่องจากจะทาให้ อะลูมเิ นียมติดดี
เนื่องจากมี mechanical locking ในขณะที่ถ้าใช้ อเิ ล็กโตรไลต์ ที่อ่อนเช่ น
tartaric acid, ammonium tartrate, boric acid, borate
compounds, citric acid เป็ นต้ น จะไม่ มีฤทธิ์กด
ั กร่ อนตัวออกไซด์ ทอี่ า
โนด ดังนั้นฟิ ล์ มจึงไม่ มรี ู พรุนจะใช้ เคลือบเพื่อป้ องกันพืน้ ผิว เช่ นใช้ เคลือบทา
ตัวเก็บประจุ
การทา Anodizing มี 3 แบบ

Type I From chromic acid solutions

Type II From sulfuric acid solutions

Type III From cold sulfuric acid processes


(plus additives) producing thicker
deposits.(for wear and abrasion
resistance)
Rack Brightening
Clean Mechanical
Etch Chemical
Alkaline/Acid Cold Rinse
Electrochemical
Type II Anodize Type II
CrO3- 3-10 w/o
H2SO4- 10-20 w/o
0.15-0.5 A/dm2
1-2 A/dm2
1.5-5 A/ft2
40(-50) V 10-20 A/ft2
10-20 V
32-50 C (90-120 F)
21-30 C (70-85 F)
Cold Rinse
Dye
Special Sealing
Cold Rinse Hot Rinse Seal Dichromate or Silicate
or Other (98-100 C)
Dye Sealing
Ni or Co acetate

Hot Rinse Dry/Unrack Hot Rinse


Limiting
Film Corrosion Adhesion/
Condition Thickness Hardness Resistance Porosity Dye Adsorption
Temperature
increased
Current
Density
increased
Anodizing
Time
increased
Acid
Concentration
increased
Use of less
aggressive
electrolyte
Alloy
homogeneity
increased
การเคลือบผิวแบบ anodic นิยมเคลือบผิวทั้งด้ านในด้ านนอก
จะให้ ผวิ เคลือบทีม่ ีสีสวยงามและมัน การเคลือบอิพอกซีโดยวิธี anodic
coating จะให้ ผวิ ทีท ่ นต่ อการกัดกร่ อนดี ที่นิยมใช้ เคลือบผิวภายนอกใน
งานเคลือบผิวรถยนต์ เหล็กก่ อสร้ างเป็ นต้ น ส่ วนการเคลือบอะคริ ลกิ จะใช้
ในงานเคลือบภายใน ส่ วนใหญ่ ใช้ เคลือบเฟอร์ นิเจอร์ ในสานักงานที่ทาด้ วย
เหล็ก ชั้นเหล็ก มุ้งลวด และไม้ แขวนเสื้ อ การเคลือบผิวด้ วยวิธี cathodic
จะให้ ผวิ เคลือบทีม่ ีสมบัติที่ดี ทนการกัดกร่ อนและทนทานต่ อสภาวะ
แวดล้ อมนอกอาคารได้ ดี การเคลือบอิพอกซี โดยวิธีคาโทดิกจะให้ ผวิ ทีท่ น
การกัดกร่ อนและทนสารเคมีได้ ดมี กั นิยมใช้ ในอุตสาหกรรมรถยนต์
เครื่ องใช้ ไฟฟ้ า การเคลือบอะคริลกิ โดยวิธี cathodic จะให้ การทนแสง
UV และทนทานต่ อสภาวะแวดล้ อมภายนอกดี รวมทั้งทนต่ อการกัดกร่ อน
มักนิยมใช้ เคลือบอุปกรณ์ และเฟอร์ นิเจอร์ ทใี่ ช้ ในสวน เครื่ องใช้ ทาง
การเกษตร ล้ อรถ เป็ นต้ น
ข้ อดีของการทา electrocoating

การเคลือบแบบนีท้ ดี่ กี ว่ าวิธีเคลือบผิวแบบอื่นก็คือจะมีประสิ ทธิภาพการ


เคลือบทีด่ ี มีความหนาสม่าเสมอถึงแม้ ว่าตัว substrate จะมีรูปทรงที่
ซับซ้ อน โดยไม่ มีฟองอากาศ ความหนาของสารเคลือบสามารถปรับได้ จาก
การปรับค่ าความต่ างศักย์ ระบบการเคลือบแบบ electrocoating
สามารถทาให้ เป็ นระบบอัตโนมัติได้ ทาให้ ได้ ผลผลิตมากและรวดเร็วในราคา
ทีต่ ่า รวมทั้งให้ ค่า transfer efficiency สู ง รวมทั้งไม่ มสี ารระเหยง่ าย
ใช้ อุณหภูมแิ ละเวลาในการ cure ต่า
โดยทัว่ ไปการเคลือบแบบ electrocoat จะให้ ผวิ เคลือบทีม่ ี
ลักษณะมัน, ทนต่ อสภาวะแวดล้ อม, ทนต่ อการกัดกร่ อน, ทนต่ อสารเคมี
และรอยเปื้ อน, ทนต่ อการแตกหัก, มีการเคลือบบริเวณขอบได้ ด,ี มีความ
แข็งดี
การเคลือบอะคริลกิ โดยวิธี cathodic electrocoats จะได้ ผวิ
เคลือบทีท่ นต่ อการกัดกร่ อนและการทนทานต่ อสภาะแวดล้ อมภายนอก
อาคารดี (ทนแสง UV) ซึ่งการทา electrocoat จะเข้ าไปทดแทนระบบ
การเคลือบผิวแบบเดิมทีใ่ ช้ primer กับ top coat ทาให้ ประหยัด การ
เคลือบแบบ wet coating และ powder coating มีแนวโน้ มทีส่ าร
เคลือบบริเวณขอบจะหลุดออกเมื่อโดนนา้ จึงทาให้ ป้องกันการกัดกร่ อนได้
ไม่ ดี ข้ อดีของวิธี electrocoat ก็คือสามารถควบคุมความหนาของฟิ ล์ ม
ตรงขอบได้ ดจี ึงทาให้ ทนต่ อการกัดกร่ อน

You might also like