Professional Documents
Culture Documents
ทับหลังปราสาทหนองหงส์เขาหัวโล้น
ทับหลังปราสาทหนองหงส์เขาหัวโล้น
ทับหลังปราสาทหนองหงส์เขาหัวโล้น
“2 ทับหลังคืนสู่มาตุภูมิเตรียมจัดในพิพิธภัณฑ์ฯ”
ความสำเร็จของการทวงคืนทับหลังปราสาทหนองหงส์ และปราสาทเขาโล้นครั้งนี้
@ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
“นับเป็นเวลามากกว่า 50 ปี ที่ทับหลังทั้งสองของไทยได้จากถิ่นกำเนิดไปไกลถึง
สหรัฐอเมริกา ในวันนี้ทับหลังทั้งสองได้เดินทางกลับมาถึงไทยแล้ว ณ ท่าอากาศยาน
สุวรรณภูมิ โดยในวันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2564 เวลา 17.00 น. รัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายอิทธิพล คุณปลื้ม จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธี
บวงสรวงต้อนรับทับหลังทั้ง 2 รายการ ในวาระที่ได้กลับคืนมาสู่ประเทศไทย ณ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพมหานคร โดยจะเตรียมการจัดพิธีรับมอบ
อย่างเป็นทางการต่อไป เร็วๆ นี้”
/////////////////
รีรัมย์ 8 ส.ค.-ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ เป็นโบราณวัตถุชิ้นหนึ่งที่คณะ
กรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย มีความ
มั่นใจว่าจากหลักฐานทั้งภาพถ่ายและเอกสารวิชาการที่พบว่าทับหลังชิ้นนี้เคยอยู่ใน
ประเทศไทย จะสามารถประสานกับทางการสหรัฐ เพื่อติดตามกลับสู่ประเทศได้
ภาพถ่ายปราสาทหนองหงส์ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ หลังฝั่งด้านทิศใต้ เมื่อครั้งยังมี
ทับหลังติดอยู่เหนือกรอบประตู จากหนังสือของกรมศิลปากรชื่อ โครงการและรายงาน
การสำรวจและขุดแต่งโบราณสถานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ.2502 ถ่าย
โดยนายมานิต วัลลิโภดม อดีตหัวหน้ากองโบราณคดี กรมศิลปากร เป็ นหลักฐานที่
แสดงให้เห็นว่า ทับหลังที่ปรากฏในภาพ ตรงกับที่นำไปจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์
เอกชนสหรัฐ จากหลักฐานทางวิชาการและรูปแบบของทับหลังจำหลักเป็นพระยมทรง
กระบือเหนือเศียรเกียรติมุข ทำให้นักวิชาการเชื่อว่าน่าจะเป็ นทับหลังชิ้นเดียวกับที่
เคยอยู่ในไทย
ราสาทหนองหงส์ สร้างด้วยอิฐ ตั้งบนฐานก่อศิลาแลง ประกอบด้วยปรางค์ 3 หลัง
ตรงกลางเป็ นปราสาทองค์ประธาน คาดว่ามีอายุอยู่ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 16
ปัจจุบันพบว่าทับหลังของปราสาททั้ง 3 หายไป ชาวบ้านโนนดินแดงเล่าว่า ช่วงปี
พ.ศ.2500 เคยเข้ามาบริเวณนี้ แต่ไม่เคยทราบว่ามีปราสาทและมีทับหลังอยู่
อีกหนึ่งหลักฐานคือ ข้อความที่พบในหนังสือของกรมศิลป์ ฯ ให้ข้อมูลทับหลังจาก
ปราสาททั้ง 3 หลัง มีสาระสำคัญตอนหนึ่งว่า “กรอบประตูปรางค์เป็นหินทราย….
หลังกลางจำหลักเป็ นรูปพระอินทร์ขี่ช้างเอราวัณเหนือเศียรเกียรติมุข…และคำ
บรรยายที่พบ ด้านทิศใต้จำหลักพระยมทรงกระบือ ทั้งหมดเป็นศิลปะเขมรที่พบใน
ไทย เรียกว่า แบบเกลียง หรือแบบคลัง และจากหลักฐานทั้งหมดบ่งชี้ว่า ทับหลังที่พบ
เคยอยู่ในไทย และถูกลักลอบขนออกไปอย่างผิดกฎหมาย
เมื่อได้รับคืนโบราณวัตถุจากต่างประเทศ นอกจากจะนำกลับไปตั้งไว้ยังสถานที่แหล่ง
กำเนิดแล้ว ส่วนหนึ่งถูกนำมาจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เป็น
แหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ เช่น พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ศิลปะเขมรโบราณ
อายุราว 1,000 ปี ชิ้นนี้ เป็ นของกลางที่ศาลพิพากษาให้ตกเป็นทรัพย์สินของแผ่น
ดิน แสดงให้เห็นถึงการลักลอบค้าโบราณวัตถุที่มีมาตั้งแต่ในอดีต
////////////////
บอร์ดติดตามโบราณวัตถุฯ เห็นชอบแนวทางรับมอบคืน"ทับหลังปราสาทหนองหงส์-
ทับหลังปราสาทเขาโล้น" เชิญนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในเดือนพ.ค.นี้ นำมาจัด
แสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างพ.ค.-ก.ค.นี้เผยอเมริกาส่งคืน
โบราณวัตถุเพิ่มเติมอีก 13 รายการ
บอร์ดติดตามโบราณวัตถุฯ เห็นชอบแนวทางรับมอบคืน“ทับหลังปราสาทหนองหงส์-
ทับหลังปราสาทเขาโล้น” เชิญนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในเดือนพ.ค.นี้ นำมาจัด
แสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างพ.ค.-ก.ค.นี้เผยอเมริกาส่งคืน
โบราณวัตถุเพิ่มเติมอีก 13 รายการ มาถึงไทยพร้อมกับทับหลังทั้ง 2 รายการ รวม
ทั้งหมด 15 รายการ
///////////////////
๑. กรณีทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ จ. บุรีรัมย์ และทับหลังจากปราสาทเขาโล้น
จ.สระแก้ว ที่จัดแสดงอยู่ที่ The Asian Art Museum เมืองซานฟรานซิสโก
โดยได้มีการประสานงานกับสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ
(Homeland Security Investigations: HSI) ของสหรัฐอเมริกาผ่าน
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส มาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม
๒๕๕๙ โดยกรมศิลปากรจะส่งหนังสือร้องขอ เพื่อทวงคืนทับหลังทั้ง ๒ รายการ พร้อม
หลักฐานให้กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อส่งให้สำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่ง
มาตุภูมิของสหรัฐอเมริกาดำเนินการต่อไป
///////////////
หลังจากถูกตรวจสอบพบว่าเป็ นทับหลังที่ถูกขโมยไปและถูกเก็บไว้ภายในพิพิธภัณฑ์
ศิลปะเอเชีย ในนครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา
ยืนยันว่าโบราณวัตถุนั้นมีถิ่นกำเนิดในไทย และได้ถูกลักลอบนำออกไปโดยวิธีการที่
ผิดกฎหมาย…
เหลือในส่วนกระบวนการส่งคืน
การได้รับทับหลังทั้ง 2 รายการคืนครั้งนี้ นับเป็ นหนึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญภายใต้
การดำเนินงานแบบบูรณาการระดับชาติ
ตลอดจนความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน และความตระหนัก
ถึงคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมที่ได้ถูกลักลอบนำออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย เป็น
แนวปฏิบัติที่สหรัฐได้ดำเนินการในฐานะมิตรประเทศ โดยในการจัดพิธีส่งมอบอย่าง
เป็นทางการจะทำหนังสือเชิญนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีรับมอบ หลังจากนั้น
ได้มอบหมายให้กรมศิลปากรนำโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการมาจัดแสดงภายใน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าชมต่อไป
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการจะเร่งดำเนินการติดตามทวงคืนโบราณวัตถุอีกกว่า 50
รายการที่อยู่ในบัญชี ซึ่งอยู่ในขั้นตอนที่คณะอนุกรรมการวิชาการได้ดำเนินการพิสูจน์
เพื่อจัดส่งหลักฐานเกี่ยวกับที่มาที่มีความชัดเจน ว่ามีการลักลอบนำออกนอก
ประเทศไทยไปจริง และพิสูจน์ได้ว่าเป็ นของไทย เช่นเดียวกับโบราณวัตถุทั้ง 2
รายการที่มีหลักฐานและภาพถ่ายว่าเคยอยู่ในประเทศไทยทั้งที่ปราสาทเขาโล้น
จ.สระแก้ว และปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์
“นับเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่เป็ นรูปธรรมทั้งกระบวนการที่เริ่มจากนโยบายของ
รัฐบาล และเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยและสหรัฐ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้น วธ.เองได้
เคยมีการหารือกับเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยในการพบปะกันด้านวัฒนธรรม
โดยมีการหารือกันในการช่วยกันดูงานทางศิลปวัฒนธรรมที่อาจจะถูกลักลอบนำมา
ทั้งกรณีลักลอบออกนอกประเทศและลักลอบนำเข้ามาในไทยก็ขอให้ประสานความ
ร่วมมือกัน เช่น เอกอัครราชทูตเปรู ปากีสถาน อิหร่าน ประจำประเทศไทย”
นายอิทธิพลกล่าว
กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกับกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมอย่าง
ใกล้ชิด เพื่อขอรับข้อมูลการศึกษาทางวิชาการพร้อมหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น รายงาน
การสำรวจของกรมศิลปากร ภาพถ่ายของทับหลังฯ ตัวอย่างเอกสารอนุญาตใน การ
ส่งออกโบราณวัตถุ เป็ นต้น เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวน จนสามารถพิสูจน์ได้ว่า
โบราณวัตถุทั้ง 2 รายการนั้นมีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย และได้ถูกลักลอบนำออกไป
โดยผิดกฎหมาย
/////
ดร.ทนงศักดิ์ หาญวงษ์ นักวิชาการอิสระ ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดี และหัวหน้ากลุ่ม
สำนึก 300 องค์ ซึ่งเป็ นหนึ่งในคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่าง
ประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย เล่าเบื้องหลังการทวงคืนทับหลังทั้ง 2 ชิ้นว่า ทับหลัง
2 ชิ้น เป็ นส่วนหนึ่งของการทวงคืนกรุพระจากปราสาทปลายบัด 2 ที่อยู่ใน
อ.ประโคนชัย ระหว่างที่กำลังขุดค้นข้อมูลเรื่องนี้ น้องเจ้าของเพจ “ท่องเที่ยวไปกับ
นายเอก” ได้ไปเจอทับหลังที่พิพิธภัณฑ์ “ชอง มูน ลี”
อย่างไรก็ดี เสาอิงกรอบประตูและกรอบประตูหินทรายก็ดูอาจจะเก่าแก่กว่าระยะนี้
อายุของปราสาทอิฐแห่งนี้ยังไม่สู้แน่นอนนัก มีจารึกสลักอยู่บนกรอบประตูด้านใต้และ
ด้านเหนือบ่งถึง พ.ศ.1559 แต่เสาอิงประตูและกรอบประตูหินทรายเหล่านี้อาจจะ
นำมาจากปราสาทหลังอื่นที่เก่าแก่กว่านี้ก็ได้
ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์และสระแก้ว ออกมา
เคลื่อนไหวสนับสนุนการทวงคืน นักวิชาการจำนวนมากเข้าเป็ นแนวร่วม ร่วมกันนำ
เสนอแนวทางการทวงคืน และทวงถาม ความคืบหน้าจากภาครัฐ กระทั่งเดือน
พฤษภาคม 2560 วีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในขณะ
นั้น เห็นชอบให้ติดตามทวงคืนโบราณวัตถุอย่างเป็ นระบบ โดยให้ทำงานร่วมกับ
กระทรวงการต่างประเทศ กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงผู้ทรง
คุณวุฒิ เร่งประสานไปยังสถานทูตไทยในประเทศต่างๆ ช่วยตรวจสอบโบราณวัตถุ
ไทยในต่างแดน