บทเสภาสามัคคีเสวก

ตอนสามัคคีเสวกและตอนวิศวกรรมมา
เป็ นบทเสภาสําหรับขับอธิบายนํ าเรื่อง
ในการฟ อนรําตอนตางๆ
เพื่อใหพิณพาทยไดพักเหนื่ อย

ทีมาของเรือง
พระราชนิพนธ์ใน
“บทเสภาขับระหว่างชุดระบําสามัคคีเสวก” พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ลักษณะคําประพันธ์ เส - วก = ข้าราชการในราชสํานัก
เปนกลอนสุภาพ/กลอนแปด
ตอนบทสามัคคีเสวก
กล่าวถึงความสมานสามัคคีของหมูร่ าชเสวก
ชาติใดทีมีการรบราฆ่าฟนกัน ชาตินนจะไม่
ั มเี วลาทีจะมา
ให้มคี วามมันคงจงรักภักดี ซือตรง ขยันขัน
สนใจศิลปะ แต่ถา้ ชาติบา้ นเมืองสงบก็มเี วลามาสนใจและนิยม
แข็งในการทํางาน รักษาเกียรติของ
งานศิลปะแขนงต่างๆ เพราะศิลปะเปนสิงทีน่าชืนชม ให้
ข้าราชการ การแสดงเรมด้วยราชเสวก
คุณค่าทางด้านจิตใจ ใครทีไม่รก ั งานศิลปะก็เหมือนกับคนปา
๒๘ หมู่ ออกมาสวนสนามหมูล ่ ะ ๑ คู่
ดังนันงานช่างทุกชนิดจึงเปนงานทีชาติไทยเราสมควรทีจะส่ง
จบแล้วทุกคนร้องเพลงแสดงความจงรัก
เสรมและพัฒนาให้กา้ วหน้าไปให้ทด ั เทียม
ภักดีพร้อมกัน
ประเทศอืนๆ
กล่าวสรรเสรญพระวศวกรรม
ตอนวศวกรรมมา
เทพแห่งงานศิลป การก่อสร้างและการช่าง
ชาติใดทีมีศก
ึ สงคราม
นานา กล่าวถึงความสําคัญของศิลปะ
ประชาชนย่อมไม่มจี ต ิ ใจสนใจความงดงามของศิลปะ
ของชาติ การแสดงระบําเรมด้วย
แต่หากชาติใด บ้านเมืองสงบสุขปราศจากสงคราม
พระวศวกรรมออกมาร่ายรํา ต่อจากนัน
ประชาชนก็จะทํานุบํารุ งการศิลปกรรมทังปวงให้เจรญรุ ง่ เรอง
นางวจิตเลขาออกมารําทําท่าวาดภาพถวาย
ประเทศไทยของเรานันเห็นคุณค่าของงานช่างศิลป
หลังจากนัน พระรู ปการออกมาร่ายรําทําท่า
เช่น ช่างปน ช่างเขียน ช่างสถาปตย์ ช่างทองรู ปพรรณ ช่าง
ปนรู ปถวาย จากนันเปนการแสดงอาวุธ
เงิน ช่างถมและช่างอัญมณี ซึงเราควรสนับสนุนงานช่างศิลป
ต่างๆ และจบด้วยระบํานพรัตน์ซงเปน
ึ
ไทยให้กา้ วหน้ารุ ง่ เรองอย่าให้ดอ้ ยน้อยหน้ากว่านานาประเทศ
อัญมณี
ทัง ๙ ชนิด มาจับระบํามารําโคม

ช่างปน ช่างเขียน ช่างทอง

พระวศวกรรมา
พระพิฆเนศ
ช่างถม ช่างอัญมนี ช่างเงิน เทวดา “นายช่างใหญ่”
เทพเจ้า “แห่งความสําเร็จ”
ของพระอินทร์