Professional Documents
Culture Documents
8. กรดคาร์บอกซิลิกและอนุพันธ์ (Carboxylic acids and their derivatives) แก้ไข 2
8. กรดคาร์บอกซิลิกและอนุพันธ์ (Carboxylic acids and their derivatives) แก้ไข 2
แผนบริหารการสอนประจำสัปดาห์ที่ 11 และ 12
รายละเอียด
1. สมบัติทางกายภาพ โครงสร้าง ประโยชน์ และโทษของสารประกอบกรดคาร์บอกซิลิ ก
และอนุพันธ์
2. การอ่านชื่อของสารประกอบกรดคาร์บอกซิลิก และอนุพันธ์
3. การเตรียมสารประกอบกรดคาร์บอกซิลิก และอนุพันธ์
4. ปฏิกิริยาของสารประกอบกรดคาร์บอกซิลิก และอนุพันธ์
จำนวนชั่วโมงที่สอน 6 ชั่วโมง
กิจกรรมการเรียนการสอน
1. บรรยาย อภิปราย ซักถาม
2. ทำแบบฝึกหัดประจำบทเรียน
3. สืบค้นข้อมูลจากหนังสือ และสื่อออนไลน์
4. ทำข้อสอบ
สื่อการสอน
1. power point เรื่อง สารประกอบกรดคาร์บอกซิลิก และอนุพันธ์
2. เอกสารประกอบการสอนประจำบทเรียน
3. แบบฝึกหัดประจำบทเรียน
4. สื่อออนไลน์ หนังสือ text book
5. คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต
แผนการประเมินผลการเรียนรู้
1. สังเกตการตอบคำถาม และการมีส่วนร่วมในการอภิปราย
2. การสอบย่อย
3. ตรวจแบบฝึกหัดประจำบทเรียน
4. ตรวจข้อสอบ
เนื้อหาที่จะสอน
1. สมบัติทางกายภาพ โครงสร้าง ประโยชน์ และโทษของสารประกอบกรดคาร์บอกซิลิ ก
และอนุพันธ์
2. สามารถอ่านชื่อสารประกอบกรดคาร์บอกซิลิก และอนุพันธ์
3. อธิบายการเตรียมสารประกอบกรดคาร์บอกซิลิก และอนุพันธ์
4. อธิบายปฏิกิริยาของสารประกอบกรดคาร์บอกซิลิก และอนุพันธ์
บทที่ 8
กรดคาร์บอกซิลิก และอนุพันธ์ (Carboxylic acids and their derivatives)
การอ่านชื่อ สมบัติทางกายภาพ ปฏิกิริยาการเตรียม และปฏิกิริยาของกรดคาร์บอกซิลิก
………………………………………………………………………………………………
กรดคาร์บอกซิ ลิก (carboxylic acids) คือสารประกอบที่มีหมู่คาร์บอกซิล (-COOH) กรด
คาร์บอกซิลิกนี้สามารถทำปฏิกิริยาแล้วเกิดอนุพันธ์หลายชนิดได้แก่ แอซิดครอไรด์ (acid chlorides)
หรือ แอซิล ครอไรด์ (acyl chlorides) แอซิดแอนไฮไดรด์ (acid anhydrides) เอสเทอร์ (esters)
แอไมด์ (amides) และไนทริล (nitriles)
ตัวอย่าง
Terephthalic
427 3.5 4.8
acid
8.1.2 การเรียกชื่ออนุพันธ์ของกรดคาร์บอกซิลิก
1. การเรียกชื่อสารประกอบแอซิดครอไรด์ (Acid chloride)
การเรียกชื่อตาม IUPAC การเรียกชื่อตามชื่อกรดคาร์บอกซิลิก แต่จะตัดคำว่า –oic
acid ออก แล้วเปลี่ยนเป็น –oyl halide เช่น
3. การเรียกชื่อสารประกอบเอสเทอร์ (Esters)
การเรียกชื่อตามระบบ IUPAC นั้น จะเรียกส่วนที่มาจากแอลกอฮอล์ก่อน ตามด้วย
ส่วนที่ได้จากกรดคาร์บอกซิลิก แต่เปลี่ยนชื่อท้ายจาก –ic acid ไปเป็น –ate เช่น
4. การเรียกชื่อสารประกอบแอไมด์ (Amide)
สารประกอบแอไมด์ ส ามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิดได้แก่ แอไมด์ ช นิดปฐมภูมิ
(primary amides, 1°) แอไมด์ชนิดทุติยภูมิ (secondary amides, 2°) และแอไมด์ชนิดตติยภู มิ
(tertiary amides, 3°)
ตัวอย่าง
8.2.1 คุณสมบัติทางกายภาพของกรดคาร์บอกซิลิก
กรดคาร์บอกซิลิกเป็นโมเลกุลที่มีขั้ว สามารถเกิดพันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุล
ระหว่างกรดคาร์บอกซิลลิกเอง หรือกับตัวทำละลาย เช่น น้ำ หรือแอลกอฮอล์ได้ จุดเดือดจะสูงกว่า
สารประกอบแอลกอฮอล์ แอลดีไฮด์ หรือคีโทน เนื่องจากจะอยู่เป็น dimer เช่น
ความสามารถในการ
ชื่อกรดคาร์บอกซิลิก จุดเดือด (oC) จุดหลอมเหลว (oC) ละลาย g/100 g H2O
at 25 oC
Formic acid 101 8
Acetic acid 118 17
ละลายได้ดี (∞)
Propanoic acid 141 -22
Butanoic acid 164 -8
Hexanoic acid 205 -1.5 1.0
Octanoic acid 240 17 0.06
Decanoic acid 270 31 0.01
Benzoic acid 249 122 0.4 (6.8 ที่ 95 oC)
ที่มา: Hart, H., Hadad, C. M., Craine, E. L., & Hart, J. D. 2011, P. 291
8.2.2 คุณสมบัติทางกายภาพของอนุพันธ์ของกรดคาร์บอกซิลิก
1. คุณสมบัติทางกายภาพของเอสเทอร์
เอสเทอร์เป็นสารประกอบที่มีขั้ว แต่ไม่มีพันธะ O-H ดังนั้นจึงไม่สามารถเกิด
พันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุลได้ ทำให้จุดเดือดของสารประกอบเอสเทอร์ต่ำกว่าของกรดคาร์บอก
ซิลิก และแอลกอฮอล์ เอสเทอร์เป็นสารประกอบที่มีกลิ่นหอม ซึ่งมักจะเป็นสารประกอบที่อยู่ใน
ดอกไม้ หรือ ผลไม้บางชนิด เช่น
กลิ่นดอกนมแมว กลิ่นกล้วยหอม
2. คุณสมบัติทางกายภาพของแอไมด์
สารประกอบแอไมด์เป็นสารประกอบที่มีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวสูง จุดเดือด
ของแอไมด์ จะมีค่าใกล้เคียงกับของกรดคาร์บอกซิลิ ก สารประกอบแอไมด์ที่มีพันธะ N-H จะสามารถ
เกิดพันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุลได้ นอกจากนั้นการมีขั้วของโมเลกุลของสารประกอบแอไมด์ทำให้
มีแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลที่แข็งแรง
ตัวอย่าง
2. ปฏิกิริยาออกซิเดชันของสารประกอบแอลคิลเบนซีน (Oxidation of
alkybenzenes)
สารประกอบแอลคิลเบนซีน สามารถถูกออกซิไดซ์โดยใช้ KMnO4 ในสภาวะที่เป็น
เบสโดยให้ความร้อนควบคู่กันไป จะได้กรดคาร์บอกซิลิกเป็นผลิตภัณฑ์
ตัวอย่าง
ตัวอย่าง
ตัวอย่าง
ตัวอย่าง
ตัวอย่าง
ตัวอย่าง
ตัวอย่าง
ตัวอย่าง
ปฏิกิริยานี้ใช้ในการทดสอบว่าเป็นกรดคาร์บอกซิลิก โดยการให้กรดคาร์บอกซิลิกทำ
ปฏิกิริยากับ NaHCO3 หากเป็นกรดคาร์บอกซิลิกจะเกิดฟองก๊าซของ CO2 และเมื่อเติมกรด HCl จะ
ได้กรดคาร์บอกซิลิกกลับคืนมา
2. ปฏิกิริยารีดักชัน (Reduction)
ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ท ี ่ ไ ด้ จ ากปกิ ก ิ ร ิ ย ารี ด ั ก ชั น ของกรดคาร์ บ อกซิ ล ิ ก คื อ สารประกอบ
แอลกฮอล์ชนิดปฐมภูมิ ซึ่งตัวรีดิวซ์ที่ใช้ได้แก่ LiAIH4 (Lithium aluminum hydride, LAH)
ตัวอย่าง
ความว่องไวในการทำปฏิกิริยาของอนุพันธ์ของกรดคาร์บอกซิลิก สามารถจัดลำดับ
จากมากไปน้อยดังนี้ คือ แอซิดคลอไรด์ คือ แอซิดแอนไฮไดรด์ เฮสเทอร์ และแอไมด์ ซึ่งเรียงลำดับ
ตามการมี leaving group ที่ดีจากมากไปหาน้อย
1. ปฎิกิริยาของสารประกอบแอซิคคลอไรด์
แอซิดคลอไรด์เป็นอนุพันธ์ที่ว่องไวในการทำปฏิกิริยามากที่สุด และนิยมใช้ในการ
เตรียมอนุพันธ์ตัวอื่นๆ สามารถเกิดปฏิกิริยาดังต่อไปนี้
A. ปฏิกิริยากับน้ำ (hydrolysis)
เมื่อสารประกอบแอซิดคลอไรด์ ทำปฏิกิริยากับน้ำจะได้กรดคาร์บอกซิลิกเป็นผลิตภัณฑ์
เช่น
2. ปฏิกิริยาของสารประกอบแอซิดแอนไฮไดรด์
ปฏิ ก ิ ร ิ ย าของสารประกอบแอซิ ด แอนไฮไดรด์ จะคล้ า ยคลึ ง กั บ ปฏิ ก ิ ร ิ ย าของ
สารประกอบแอซิดคลอไรด์ ซึ่งได้แก่
A. ปฏิกิริยากับน้ำ (hydrolysis)
เมื่อสารประกอบแอซิดแอนไฮไดรด์ ทำปฏิกิริยากับน้ำจะได้กรดคาร์บอกซิลิกเป็นผลิตภัณฑ์
เช่น
3. ปฏิกิริยาของสารประกอบเอสเทอร์
ปฏิกิริยาของสารประกอบเอสเทอร์มีดังต่อไปนี้คือ
A. ปฏิกิริยาซาพอนิฟิเคชัน (saponification)
ปฏิ ก ิ ร ิ ย าซาพอนิ ฟ ิ เ คชั น (saponification) เป็ น ปฏิ ก ิ ร ิ ย าที ่ ใ ช้ ใ นการทำสบู ่ ค ำว่ า sapo
หมายถึง สบู่ในปฏิกิริยานี้ เมื่อเอสเทอร์ ทำปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสในเบส จะได้แอลกอฮอล์กับเกลือของ
กรดคาร์บอกซิลิก เป็นผลิตภัณฑ์
B. ปฏิกิริยากับน้ำ (hydrolysis)
สารประกอบเอสเทอร์ ส ามารถทำปฏิ กิริ ยากับน้ำ ได้ ในสภาวะทั้งกรด และเบส เรียกว่ า
ปฏิกิริ ย าสปอนนิ ฟิเคชัน (saponification) โดยที่จะได้ผลิตภัณฑ์ คือ กรดคาร์บอกซิลิก
D. ปฏิกิริยารีดักชัน
เมื ่ อ ทำปฏิ ก ิ ร ิ ย ารี ด ั ก ชั น ของเอสเทอร์ โดยใช้ ต ั ว รี ด ิ ว ซ์ ค ื อ LiAIH4 จะได้ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ คื อ
สารประกอบแอลกอฮอล์ ชนิดปฐมภูมิ เช่น
4. ปฏิกิริยาของสารประกอบแอไมด์
ปฏิกิร ิยาของสารประกอบแอไมด์ ที่สำคัญเช่น ปฏิกิริยากับน้ำ (hydrolysis) ซึ่ง
ผลิตภัณฑ์ที่ได้ คือ กรดคาร์บอกซิลิก โดยสามารถทำปฏิกิริยานี้ได้ ทั้งในกรดและเบส เช่น
นอกจากนั้นสารประกอบแอไมด์ สามารถเกิดปฏิกิริยารีดักชันใด้สารประกอบแอมีนเป็นผลิตภัณฑ์
54
63
70
32
-5
-11
จุดหลอมเหลว
กรดไขมัน
(oC)
-44
-49
ตกตะกอน
ตกตะกอน
สรุป
กรดคาร์บอกซิลิก (carboxylic acids) เป็นหมู่ฟังก์ชันหนึ่งที่สามารถสังเคราะห์โมเลกุล หรือ
หมู่ฟังก์ชันอื่นได้หลากหลาย โดยเรียกสารผลิตภัณฑ์ที่มีที่มาจากกรดคาร์บอกซิกลิก ที่เป็นสารตั้งต้น
ว่า อนุพันธ์ (derivatives) ของกรดคาร์บอกซิลิก
ชื่อ IUPAC ของกรดคาร์บอกซิกลิก อ่านเหมือนแอลเคน แต่ตัดตัว e ตัวสุดท้ายออก แล้วเติม
-oic acid
กรดคาร์บอกซิลิก เป็นกรดอ่อนว่ากรดอนินทรีย์ แต่มีความเป็นกรดแรงกว่า แอลกอฮอล์
การสังเคราะห์กรดคาร์บอกซิลิกมีหลายวิธี เช่น (1) ปฏิกิริยิกซิเดชันของแอลคิลเบนซีน
(2) ออกซิ เ ดชั น ของแอลกอฮอล์ ป ฐมภู ม ิ แ ละ แอลดี ไ ฮด์ (3) ปฏิ ก ิ ร ิ ย าของ CO2 กั บ Grignard
reagents (carboxylation) เป็นต้น
ปฏิกิริยาของกรดคาร์บอกซิลิก เช่น (1) การเสียโปรตอนที่มีความเป็นกรด (acidic proton)
(2) ปฏิกิริยาการที่ของหมู่ acyl ที่คาร์บอนิล (3) ปฏิกิริยาการแทนที่ ที่ตำแหน่ง คาร์บอน และ
(4) ปฏิกิริยารีดักชัน
..............................................................................................................................................
2. วาดโครงสร้างของสารต่อไปนี้
5. เขียนผลิตภัณฑ์หลักของปฏิกิริยาต่อไปนี้
5.1
5.2
5.3
5.4
5.5
5.6
6. เขียนกลไกการเกิดปฏิกิริยานี้
6.1
6.2
6.3
6.4
อ้างอิง
1. ขวัญใจ กนกเมธากุล. (2554). เคมีอินทรีย์เบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 2). ขอนแก่น : ขอนแก่นการพิมพ์.
2. พิชญา ตระการรุ่งโรจน์. (2547). เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมีอินทรีย์. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
สุรนารี.
3. Hart, H., Hadad, C. M., Craine, E. L., & Hart, J. D. Organic Chemistry. (2011).
California: Brooks/Cole, Cengage Learning.
4. McMurry, J. Organic Chemistry. (2012). California: Brooks/Cole, Cengage Learning.
5. Solomons. G. T. W., & Fryhle. C. (2011). Organic Chemistry. New Jersey: John Wiley
& Sons, Inc.