Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 17

โครงงาน ิทยา า ตร ประเภท ิ่งประดิ ฐ

เรื่อง เครื่องดูดฝุนอเนกประ งค

ผูจัดทํา
เด็กชายทัก  เอี่ยม ุ รรณ ชั้นประถม กึ าปที่ 6
เด็กชายไชย ัฒน คํา าญ ชั้นประถม กึ าปที่ 6
เด็กชายเมธา มุทชัย ชั้นประถม กึ าปที่ 6

ครูที่ปรึก า
นาง า กนก รรณ เขีย นิล

โรงเรียน ัดเจาอาม
าํ นักงานเขตบางกอกนอย กรุงเทพม านคร
VDO ขันตอนการทํา
ารบัญ
เนื้อเรื่อง นา
กิตติกรรมประกาศ
บทคัดยอ
บทที่ 1 บทนํา
ที่มาและความ ําคัญ 1
วัตถุประ งค 1
ประโยชนที่คาดวาจะไดรับ 1
บทที่ 2 เอก ารที่เกี่ยวของ
ขวดพลา ติก ีเ ลือง 2
ายไฟ 2
ถานไฟฉาย 3
วิตชไฟฟา 3
มอเตอร 4
ขวดพล ติกใ 4-5
ายดูดพลา ติก 5
ทอพีวีซี 5
แผนตะแกรง 6
บทที่ 3 ขั้นตอนการทดลอง
วั ดุ อุปกรณ 7
ขั้นตอนการทดลอง 7-10
บทที่ 4 ผลการทดลอง
ผลการทดลอง 11
บทที่ 5 รุปผลการทดลองและขอเ นอแนะ
รุปผลการทดลอง 12
ขอเ นอแนะ 12
อางอิง 13
ชื่อโครงงาน เครื่องดูดฝุนอเนกประ งค
โครงงานประเภท ประเภท ิ่งประดิ ฐ
คณะผูจัดทํา เด็กชายทัก  เอี่ยม ุ รรณ ชั้นประถม กึ าปที่ 6
เด็กชายไชย ัฒน คํา าญ ชั้นประถม กึ าปที่ 6
เด็กชายเมธา มุทชัย ชั้นประถม กึ าปที่ 6

ครูที่ปรึก าโครงงาน คุณครูกนก รรณ เขีย นิล


ภาคเรียนที่ 1 ปการ ึก า 2563
กลุม าระการเรียนรู ิทยา า ตร โรงเรียน ัดเจาอาม ํานักงานเขตบางกอกนอย กรุงเทพม านคร

บทคัดยอ
โครงงาน ิทยา า ตรป ระเภท ิ่ งประดิ ฐ เรื่อง เครื่องดูดฝุ นอเนกประ งค มี มอเตอร ใบพั ด ายไฟ
ถานไฟฉาย ิตช ายดูดฝุนมาประดิ ฐเครื่องดูดฝุนอเนกประ งค
การนํา ั ดุอุปกรณ ํา รับการประดิ ฐ คือ มอเตอร ใบพัด ายไฟ ถานไฟฉาย ิตช จากนั้นแบงข ด
ออกเปน 2  น แล ใชมีดคัตเตอรตัดข ดพลา ติกออกเปน 2  น เจาะกนข ดพลา ติก  นทายของข ด เพื่อใ 
ระบายอากา ยิงปนกา ติดมอเตอรเขากับกนข ดที่เจาะรู จากนั้นตัดข ดพลา ติกเปนรูป งกลมเปนใ เทาๆกัน
แล ตัดใ  เปน ใบพัด นําใบพัดยึดติดกับ มอเตอร ติดรางถานและ ิตชเขากับเครื่องดูดฝุนตอ ายไฟเขาด ยกัน
ระ างรางถายและ ิตช  นข ด  นดาน นานํามาทําเปนตั ดูดฝุน โดยเจาะฝาข ดน้ําใ เปน งกลมแล นํา าย
ดูดฝุน อดเขาไปในฝายิงปนกา ใ แนน นํา อง  นมาประกอบกันและเชื่อม ายไฟทั้ง มดเขาด ยกัน จากนั้นเก็บ
ายไฟใ เรียบรอย ใ อยูในลัก ณะ งจรปด เครื่องดูดฝุนก็จะทํางานได
การนํา ั ดุตางๆ มาประดิ ฐ เครื่องดูดฝุนอเนกประ งค ซึ่ง ามารถนําไปใชงานไดจริง โดยเมื่อตอ งจร
เ ร็จใ แบตเตอรี่ กด ิต ชเปดแล ังเกต า มอเตอร มุนใบพัดก็ มุนจะดูดกระดา เขามาในตั เครื่อง การ ราง
เครื่องดูดฝุนอเนกประ งค จะมี ลักการทํางานเชนเดีย กับเครื่องดู ดฝุนไฟฟาในบาน เพียงแตชนิดขนาดมอเตอร
และแรงดันไฟฟาที่ใชจะตางกัน ซึ่งขนาดค ามเร็ และแรง มุนของมอเตอรก็จะแตกตางกันตามไปด ย
กิตติกรรมประกาศ

รายงานการจัดทําโครงงาน ิทยา า ตรฉบับนี้ ําเร็จและ มบูรณเปนรูปเลมด ยค ามกรุณา และเอาใจใ 


เปนอยางดี จากคุณครูกนก รรณ เขีย นิล ครูที่ปรึก าโครงงานที่ไดกรุณาใ คําปรึก า และขอเ นอแนะ ตลอด
ทั้ งการตร จแก ไขรายงานฉบั บ นี้ ใ  ํ า เร็ จ มบู ร ณ ยิ่ งขึ้ น ทางคณะผู จั ด ทํ าจึ งขอขอบพระคุ ณ เป น อย าง ู งไ 
ณ โอกา นี้
ขอขอบพระคุณ ทานผูอําน ยการ และคุณครูโรงเรียน ัดเจาอามทุกทาน ที่ไดใ กําลังใจตลอดจนอําน ย
ค าม ําเร็จใ บังเกิดขึ้น
ุดทายนี้ขอขอบคุณผูปกครอง คุณพอ คุณแมที่เปนกําลังใจ และใ ค ามช ยเ ลือในการเก็บร บร ม
ขอมูลและใ คําแนะนําในการทําโครงงานครั้งนี้ใ  ําเร็จลุล งด ยดีตลอดมา
1

บทที่ 1

บทนํา
ที่มาและความ ําคัญของปญ า
การ ึก าในปจจุบัน ตามแน ทางของพระราชบัญญัติการ ึก าแ งชาติ พ. . 2542 ตองยึด ลัก า “ผูเรียน
ทุกคนมีค าม ามารถในการเรียนรูและพัฒนาตนเองไดและถือ าผูเรียนมีค าม ําคัญที่ ุดกระบ นการจัดการ ึก า
ตอง งเ ริมใ ผูเรียน ามารถพัฒนาตนเองไดตามธรรมชาติและเต็มตาม ักยภาพ” ซึ่งตรงกับ ิธีที่เรียน า เนน
ผูเรียนเปน ูนยกลาง ผู อนมีค าม ําคัญในฐานะที่เปนผูชี้แนะแน ิธีเรียนรูแบบตางๆและอธิบายค ามรูพื้นฐานใ 
ผูเรียนเขาใจ ํา รับเปนพื้นฐานที่จะ ึก าคนค าตอไปไดด ยตนเอง ตาม ิธีเรียนรูที่ไดรับการชี้แนะและพัฒนาเปน
ิธีเรียนรูของตนเอง
ื่อน ัตกรรมการเรียนการ อนและแ ลงการเรียนรูนับเปน ิ่ง ําคัญอยางยิ่งในการ งเ ริม การเรียนรูใ กับ
ผูเรียน ซึ่งนอกจากจะ รางค าม นใจใฝรูในการเรียนแล ยังทําใ ผูเรียนไดมีค ามรูค ามเขาใจมากยิ่งขึ้นอีกด ย
พลังงานไฟฟานั บเปน เนื้ อ า นึ่งในการเรียนการ อน ิทยา า ตรที่ผูเรียนมักจะขาดค ามรูค ามเขาใจที่
ถูกตองกับการนํา ลักการนี้มาใชในการตอ งจรไฟฟา ทั้งนี้เนื่องมาจากโรงเรียน  นใ ญขาด ื่อน ัตกรรม
การเรียนการ อนที่จะช ย งเ ริมค ามรูค ามเขาใจกับผูเรียนอยางเปนรูปธรรม
ดังนั้นในฐานะที่เปนครูผู อนราย ิชา ิทยา า ตรไดตระ นักและเ ็นถึงค าม ําคัญของการจัดการเรียนการ
อน จึงจัดทํา ื่อน ัตกรรมเครื่องดูดฝุนอเนกประ งค โดยมีผูเรียนมี  นร มในการประดิ ฐ เพื่อเปน ื่อน ัตกรรม
การเรียนการ อนที่จะช ย งเ ริมค ามรูค ามเขาใจใ กับผูเรียนมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเปนแน ทางใ กับครูผู อนใน
การนําไปประดิ ฐปรับปรุงและพัฒนา ื่อน ัตกรรมการเรียนการ อนตอไป

วัตถุประ งค
1. เพื่อ ราง ื่อน ัตกรรมการเรียนการ อนเครื่องดูดฝุนอเนกประ งค
2. เพื่อเรียนรูการตอ งจรไฟฟาเบื้องตน
3. เพื่อใ ผูเรียนมี  นร มในกิจกรรมการเรียนการ อนมากยิ่งขึ้น

ประโยชนที่คาดวาจะไดรับ
1. เปนการนํา ั ดุตางๆมาประยุกตใชใ เกิดประโยชน
2. เปนการเรียนรูการตอ งจรไฟฟาเบื้องตน
3. ช ยใ นักเรียนมีค ามรู ค ามเขาใจและ นุก นานในการเรียนมากขึ้น
2
บทที่ 2

เอก ารที่เกี่ยวของ
1. ขวดพลา ติก ีเ ลือง

ภาพแ ดงขวดพลา ติก ีเ ลือง


ลัก ณะของขวดพลา ติก ีเ ลือง
โปลีเอททีลีน (Polyethylene) ยอวา PE มีน้ํา นักเบาในรูปของแผนบาง ามารถพับงอไดดี มีความ นา
มากขึ้นจะคงรูปรับแรงดึงและแรงอัดไดนอย มีความยืดตัวได ูงถึง 500 เปอรเซ็นต ฉีกขาดยาก มีลัก ณะคลายขี้ผึ้ง
ไมเกาะติดน้ํา เปนฉนวนไฟฟาไดดีมาก โดยทั่วไป โปลีเอททีลีน มีลัก ณะใ เมื่อเปนแผ นบางจะมี ีขุน เมื่อความ
นาเพิ่มขึ้น ามารถทํ าเปน ี ตาง ๆ ไดตามตองการ การใชประโยชน โปลี เอททีลีน มีปริมาณการใช ู ง ุดใน
พลา ติกประเภทเทอรโมพลา ติก แมราคาตอปอนดจะไมถูกที่ ุด แตเพราะมีน้ํา นักเบากวาจึง ามารถผลิตได
ปริมาณมาก นิย มใชทําถุงบรรจุอา ารและเ ื้ อผา ตุกตาเด็กเล น ดอกไมพลา ติก ภาชนะบรรจุในครัว ถาดทํา
น้ําแข็งในตูเย็น ขวดและภาชนะบรรจุของเ ลว พลา ติกคลุมโรงเพาะชํา ายเคเบิล แผนกันความชื้นในอาคารและ
ของใชราคาถูกอีกมากมาย
2. ายไฟ

ภาพแ ดง ายไฟ
ลัก ณะของ ายไฟ
ายไฟฟ า เป น อุ ป กรณ ที่ ใช  งพลั งงานไฟฟ าจากที่ นึ่งไปยังอี กที่ นึ่ งโดยกระแ ไฟฟาจะ เปน ตัว นํ า
พลังงานไฟฟาผานไปตาม ายไฟจนถึงเครื่องใชไฟฟา ายไฟทําดวย ารที่ยอมใ กระแ ไฟฟาผานได เรียกวาตัวนํา
ไฟฟ า และตั ว นํ า ไฟฟ า ที่ ใช ทํ า ายไฟเป น โล ะที่ ย อมใ  ก ระแ ไฟฟ า ผ า นได ดี ลวดตั ว นํ า แต ล ะชนิ ด ยอมใ 
3

กระแ ไฟฟาผานไดตางกัน ตั นําไฟฟาที่ยอมใ กระแ ไฟฟาผานไดมากเรียก ามีค ามนําไฟฟามาก รือมีค าม


ตานทานไฟฟานอย ล ดตั นําจะมีค ามตานทานไฟฟาอยูด ย โดยล ดตั นําที่มีค ามตานทานไฟฟามากจะยอม ใ 
กระแ ไฟฟาผานไดนอย
3. ถานไฟฉาย

ภาพแสดงถานไฟฉาย
ลักษณะของถายไฟฉาย
แบตเตอรี่ (อังกฤ : Battery) เปน อุป กรณ ที่ ประกอบด ย เซลล ไฟฟ าเคมี นึ่ งเซลล รือมากก า ที่มีการ
เชื่ อ มต อ ภายนอกเพื่ อ ใ  กํ า ลั ง งานกั บ อุ ป กรณ ไฟฟ า แบตเตอรี่ มี ขั้ บ ก (อั ง กฤ : anode) และ ขั้
ลบ (อั งกฤ : cathode) ขั้ ที่ มี เครื่ อ ง มายบ กจะมี พ ลั ง งาน ั ก ย ไฟฟ า ู งก  า ขั้ ที่ มี เครื่ อ ง มายลบ ขั้ ที่ มี
เครื่อง มายลบคือแ ลงที่มาของอิเล็กตรอนที่เมื่อเชื่อมตอกับ งจรภายนอกแล อิเล็กตรอนเ ลานี้จะไ ลและ ง
มอบพลังงานใ กับอุปกรณภายนอก เมื่อแบตเตอรี่เชื่อมตอกับ งจรภายนอก าร อิเล็กโทรไลต มีค าม ามารถที่
จะเคลื่อนที่โดยทําตั เปนไอออน ยอมใ ปฏิกิริยาทางเคมีทํางานแล เ ร็จในขั้ ไฟฟาที่อยู างกัน เปนการ  งมอบ
พลังงานใ กับ งจรภายนอก กาเคลื่อนไ ของไอออนเ ลานั้นที่อยูในแบตเตอรี่ที่ทําใ เกิดกระแ ไ ลออกจาก
แบตเตอรี่เพื่อปฏิบัติงาน ในอดีตคํา า "แบตเตอรี่" มายถึงเฉพาะอุปกรณที่ประกอบด ยเซลล ลายเซลล แตการ
ใชงานไดมีการพัฒนาใ ร มถึงอุปกรณที่ประกอบด ยเซลลเพียงเซลลเดีย
4. สวิตชไฟฟา

ภาพแสดงสวิตชไฟฟา
ลักษณะของสวิตชไฟฟา
 นประกอบพื้นฐานของ ิตชจะมี  นที่เรียก า นา ัมผั อยูภายในซึ่งคลายกับ ะพานเชื่อมใ 
กระแ ไฟฟาไ ลใน งจรไฟฟาได ิตชทํา นาที่เปด ปด งจรไฟฟา ทําใ  งจรไฟฟาเกิดการทํางานอยู 2 ลัก ณะ
คือ งจรเปดและ งจรปด งจรเปด คือลัก ณะที่ นา ัมผั ของ ิตชไมเชื่อมตอกันทําใ กระแ ไฟฟาไม ามารถ
ไ ลไปใน งจรได และ งจรปด คือ การที่ นา ัมผั ของ ิตชเชื่อมตอกันทําใ กระแ ไฟฟาไ ลใน งจรได
4
5. มอเตอร

ภาพแสดงมอเตอร
ลักษณะของมอเตอร
มอเตอรไฟฟา ( ังกฤ : electric motor) เปน ุปกรณไฟฟาที่แปลงพลังงานไฟฟาเปน
พลังงานกล การทํางานปกติข งม เต รไฟฟา วนใ ญ เกิดจากการทํางานรวมกันระ วาง นามแมเ ล็กข ง
แม เ ล็ ก ในตั ว ม เต ร และ นามแม เ ล็ ก ที่ เกิ ด จากกระแ ในขดลวดทํ า ใ  เกิ ด แรงดู ด และแรงผลั ก ข ง
นามแมเ ล็กทั้ง ง ในการใชงานตัว ยางเชน ใน ุต า กรรมการขน งใช ม เต รฉุดลาก เปนตน น กจากนั้น
แล ว ม เต รไฟฟ ายัง ามารถทํ างานไดถึง งแบบ ได แก การ รางพลั งงานกล และ การผลิ ต พลั งงานไฟฟ า
ม เต รไฟฟาถูกนําไปใชงานที่ ลาก ลายเชน พัดลม ุต า กรรม เครื่ งเปา ปม เครื่ งมื เครื่ งใชในครัวเรื น
และดิ กไดรฟ ม เต รไฟฟา ามารถขับเคลื่ นโดยแ ลงจายไฟกระแ ตรง (DC) เชน จากแบตเต รี่, ยานยนต รื
วงจรเรียงกระแ รื จากแ ลงจายไฟกระแ ลับ (AC) เชน จากไฟบาน ินเว รเต ร รื เครื่ งปนไฟ ม เต ร
ขนาดเล็ก าจจะพบในนา ิกาไฟฟา ม เต รทั่วไปที่มีขนาดและคุณลัก ณะมาตรฐาน ูงจะใ พลังงานกลที่ ะดวก
ํา รับใชใน ุต า กรรม ม เต รไฟฟาที่ใ ญที่ ุดใช ํา รับการใชงานลากจูงเรื และ การบีบ ัดท งน้ํามันและ
ปมป ูบจัดเก็บน้ํามันซึ่งมีกําลังถึง 100 เมกะวัตต ม เต รไฟฟา าจจําแนกตามประเภทข งแ ลงที่มาข งพลังงาน
ไฟฟา รื ตามโครง รางภายใน รื ตามการใชงาน รื ตามการเคลื่ นไ วข งเ าตพุต และ ื่น ๆ
ุป กรณ เช น ขดลวดแม เ ล็ ก ไฟฟ า และลํ าโพงที่ แปลงกระแ ไฟฟ าใ  เป น การเคลื่ นไ ว แตไม ได ร าง
พลังงานกลที่ใชงานได จะเรียกถูกวา actuator และ transducer ตามลําดับ คําวาม เต รไฟฟานั้น ต งใช ราง
แรงเชิงเ น(linear force) รื แรงบิด(torque) รื เรียก ีก ยางวา มุน (rotary) เทานั้น
6. ขวดพลาสติกใส

ภาพแสดงขวดพลาสติกใส
ลักษณะของขวดพลาสติกใส
พลาสติก เปน ารประก บ ินทรียที่ ังเคราะ ขึ้นใชแทนวั ดุธรรมชาติ บางชนิดเมื่ เย็นก็แข็งตัว เมื่ ถูก
ความร นก็  นตัว บางชนิดแข็งตัวถาวร มี ลายชนิด เชน ไนล น ยางเทียม ใชทํา ิ่งตาง ๆ เชน เ ื้ ผา ฟลม
ภาชนะ วนประก บข งยานพา นะ พลา ติกแบงไดเปน 2 ประเภทดังนี้
1. ภาชนะบรรจุชนิดแข็ง (rigid container) เชน ขวดน้ํามันพืช ขวดนม กล งโฟมและถาดพลา ติก
5
2. ภาชนะบรรจุชนิดออนตั ได (flexible container) เชน ถุงใ น้ําแข็ง ถุงขนม ถุง ิ้ ทั้ง ลาย ร มทั้ง
ฟลม ออา าร
ภาชนะพลา ติกที่ใชบรรจุอา ารมีมาก แตในที่นี้จะเนนเฉพาะข ดพลา ติกชนิดแข็ง ซึ่งมีประโยชนใช อย
อยางก างข างเทานั้น ข ดพลา ติก ามารถนํากลับมาใชงานใ มได
7. สายดูดพลาสติก

ภาพแสดงสายดูดพลาสติก
ลักษณะของสายดูดพลาสติก
เทอรโมพลาสติก (Thermoplastic) รือเรซิน เปนพลา ติกที่ใชกันแพร ลายที่ ุด ไดรับค ามรอนจะออน
ตั และเมื่อเย็น ลงจะแข็งตั ามารถเปลี่ ยนรูปได พลา ติกประเภทนี้โครง รางโมเลกุล เปนโซตรงยา มีการ
เชื่อมตอระ างโซพอลิเมอรนอยมาก จึง ามารถ ลอมเ ล รือเมื่อผานการอัดแรงมากจะไมทําลายโครง ราง
เดิม ตั อยาง พอลิเอทิลีน พอลิโพรพิลีน พอลิ ไตรีน มี มบัติพิเ คือ เมื่อ ลอมแล ามารถนํามาขึ้นรูปกลับมาใช
ใ มได ชนิดของพลา ติกใน ตระกูลเทอรโมพลา ติก
8. ทอพีวีซี

ภาพแสดงทอพีวีซี
ลักษณะของทอพีวีซี
ทอ PVC คือ ทอที่ทําขึ้นจากโพลิไ นิลคลอไรด โดยไมผ มพลา ติกไซเซอร ซึ่งชื่ออยางเปนทางการที่ได
ระบุใน มอก. คือ ทอพี ีซีแข็ง แตคนทั่ ไปนั้นจะรูจักมักคุนกันในชื่อทอ PVC กันมากก า โดยในปจจุบันทอชนิดนี้
เปนที่นิยมอยางมากใน งการกอ ราง เพราะด ยคุณ มบัติที่ดี ลายอยางไม าจะเปน คุณ มบัติที่มีค ามเ นีย
ยืด ยุนตั ไดดี ทนตอแรงดันน้ํา ทนตอการกัดกรอน ไมเปนฉน นนําไฟฟาเพราะไมเปนตั นําไฟฟา เปน ั ดุไม
ติ ด ไฟ น้ํ า นั ก เบาอี ก ทั้ งยั งราคาถู ก อี ก ด ย ท อ PVC จึ งถู ก นํ ามาใช ในงาน ลาย ๆ ระบบ อาทิ เช น ระบบ
ประปา ระบบงานรอย ายไฟฟา ระบบงานระบายน้ําทางการเก ตร/อุต า กรรม
6
9. แผนตะแกรงเ ล็ก

ภาพแ ดแผนตะแกรงเ ล็ก


ลัก ณะของแผนตะแกรงเ ล็ก
ตะแกรงเ ล็กฉีก คือ แผนโล ะที่ทําใ เปนรูในลัก ณะระดึงออกและยึดเปนรูปตาขาย ี่เ ลี่ยมขา ลาม
ตัด รือรูปรังผึ้ง โดยมีทุกจุดตอของรูยึดตอกันอยางแข็งแรงตลอดทั้งแผน การผลิตตะแกรงฉีกไมใชการเชื่อม รือ
การเจาะรู ตะแกรงฉีกจึงมีลัก ณะระเปนเ ล็กเนื้อเดีย กันทุกรู และตลอดทั้งแผน จึงมีค ามแข็งแรง ูงยากที่จะ
ทํางานใ ขาด รือ ลุดจากกัน
คุณ มบัติที่ดีของตะแกรงเ ล็กฉีก
1. แข็งแรงทนทาน
ทุกจุดตอของรูตะแกรงฉีกเปนเนื้อเ ล็กเดีย กัน มด ไมใชการถักรู ดังนั้นตะแกรงฉีกจึงแข็งแรงก าล ดตา
ขายถักมาก เพราะล ดตาขายถักตัดขอเดีย ก็ ลุด มด แตการที่จะทําลายตะแกรงฉีกนั้น จะตองตัดออกใ ขาดที
ละเ น และโดยปกติตะแกรงฉีกจะแข็งแรง ูงมากก าที่จะใช ิ่งมีคมขนาดเล็กตัดขาดได จึงมีค ามปลอดภัย ูงใน
การทําเปนรั้ ระเบียงกันตก รือ โตรเก็บของ นอกจากนี้ตะแกรงฉีกยังมีค ามแข็งแรง ูง รับน้ํา นักบรรทุกบน
แผนและแรงกระแทกไดดีมากและไมบิดงอเ ียรูปไดงาย จึงทําใ โครง รางเ ล็กมีค ามแข็งแรง ูง
2. ะดวกในการซอมบํารุงและการทําความ ะอาด
รูของตะแกรงฉีกจะเปนชองใ แ ง างและอากา ผาน ทําใ  ิ่งปลูก รางดู าง โปรงตา ไมมืดทึบ
นอกจากนี้ ตะแกรงฉีกยังช ยปองกันการ ะ มของฝุนและ ิ่ง กปรกตกคางบนพื้นทางเดินด ย อีกทั้งตะแกรงฉีกยัง
มีรูใ น้ําไ ลผาน ทําใ ไมคอยเปน นิม ตางกับการใชเ ล็กแผนลายที่น้ํา ามารถขังได ซึ่งทําใ เกิด นิม
3. ใ ความปลอดภัย
พื้นผิ ของตะแกรงฉีก มี ันนูน ช ยปองกันอันตรายจากการลื่นลม เมื่อเจอน้ํา รือน้ํามันบนพื้น
4. ประ ยัดเวลาในการกอ ราง
น้ํา นักแผนตะแกรงฉีกเบาก าเ ล็กแผนลาย รือล ดตะแกรงเ ล็ก ําเร็จรูปมาก ทําใ  ะด กร ดเร็ ใน
การเคลื่อนยาย และยังประ ยัดเ ลาในการเชื่อมเ ล็กทําใ การกอ รางเร็ ขึ้น
7
บทที่ 3

ขั้นตอนการทดลอง
วัสดุ อุปกรณ
1. ข ดพลา ติก ีเ ลือง 2. มอเตอร 3. ายไฟ
4. ิตช 5. ปนกา 6. รางถาน
7. แผนตะแกรงเ ล็ก 8. ถานไฟฉาย 9. ข ดพลา ติกใ
10. ายดูดพลา ติก 11. ทอพี ีซี 12. กรรไกร
13. มีดคัตเตอร 14. ไมบรรทัด 15. เทปกา
16. ั แรง
ขั้นตอนการประดิษฐเครื่องดูดฝุนอเนกประสงค มีดงั นี้
1. ึก าเกี่ย กับ งจรไฟฟาและออกแบบ ื่อการเรียนการ อนเครื่องดูดฝุนอเนกประ งค
2. จัด า จัดเตรียม ั ดุอุปกรณ ํา รับการประดิ ฐ
3. ประดิ ฐเครื่องดูดฝุนอเนกประ งค ตามขั้นตอนดังนี้
3.1 จัดเตรียม ั ดุอุปกรณ ํา รับการประดิ ฐ

3.2 ใชแบงข ดออกเปน 2  น แล ใชมีดคัตเตอรตัดข ดพลา ติกออกเปน 2  น จากนั้นเจาะกนข ด


พลา ติก เพื่อใ ระบายอากา
8
3.3 ตัดขวดพลา ติดใ เปนวงกลม แลววัดแบงครึ่งใ เทาๆกันใ ไดเปน 8 วน จากนั้นใชกรรไกรตัดทั้ง 8 วนใ 
เปนใบพัดแลวบิดใ เปนเกลียว

3.4 ตอ ายไปเขากับมอเตอร นํามอเตอรที่ยึดติดกับฝาขวดน้ําแลว อด ายไฟเขาไปในรูขวดพลา ติกที่เจาะไวรู


ใดก็ไดแลวใชปนยิงกาวทาบริเวณฝาขวดน้ํา จากนั้นนําไปติดที่ขวดพลา ติกที่ตัดและเจาะรูไว

3.5 ใช ัวแรงเจาะรูตรงกลางที่ใบพัด จากนั้นนําไปใ ที่มอเตอร แลวยึดติดใบพัดเขากับมอเตอร โดยการยิงปนกาว


ใ แนน

3.6 นําฝาขวดน้ํามาเจาะใ เปนรูวงกลมใ ญ แลวนํา ายดูดพลา ติกมาเชื่อมเขาดวยกัน ใชปนกาวทายึดติดใ แนน

3.7 นําเทปกาวติดเขากับตะแกรงเ ล็กแลวดัดใ เปนวงกลมตามรูป แลวนํามาติดเขากับอุปกรณที่เตรียมไวใ แนน


9
3.8 นําทอพีวีซีมาเชื่อมตอกันทําเปนดานจับเครื่องดูดฝุน แลวยิงปนกาวยึดติดดามจับกับตัวเครื่องดูดฝุนใ แนน

3.9 นํา ายไปตอเขากับ วิตชไฟฟา แลวเก็บ ายไฟเพื่อความ วยงาม โดยการ อด ายไฟเขาไปในดานจับ


เครื่องดูดฝุน

3.10 ยิงปนกาวที่รางถาน จากนั้นนําไปติดที่ดามจับของเครื่องดูดฝุน แลวตอ ายไฟเขากับรางถาน

3.11 นํา ายไฟที่ตอเชื่อมกับ วิตชไฟฟามา อดเขากับดามจับ แลวนํา ายไฟที่ วิตชไฟฟาและรางถานมาเชื่อมตอ


กัน จากนั้นเก็บ ายไฟใ เรียบรอย

3.12 นํา วนประกอบทั้ง อง วนมา วมเขากับเครื่องดูดฝุน ตกแตงโดยการทําลอรถแลวยิงปนกาวยึดติดกับ


เครื่องดูดฝุน เพื่อความ วยงามและเวลาวางเครื่องดูดฝุนจะไมลมไปมา
10
3.13 จากนั้นกดสวิตชเครื่องดูดฝุนนําไปทดสอบและใชงานไดแลว
11
บทที่ 4

ผลการทดลอง
โครงงาน ิทยา า ตรป ระเภท ิ่งประดิ ฐ เครื่องดูดฝุนอเนกประ งค เปนการนําถานไฟฉาย มอเตอร
ใบพัด ายไฟ และ ิตช ายดูดฝุนมาประดิ ฐเครื่องดูดฝุนอเนกประ งค ซึง่ ามารถนําไปใชไดจริง คือ เมื่อใ ถาน
ในรางถาน จากนั้นเชื่อม ายไฟใ ตอกับ ิตชและมอเตอรเรียบรอยแล ซึ่งเมื่อตอเรียบรอยแล จะไดอุปกรณไฟฟา
ที่อยูใน งจรเปด และเมื่อกด ิตช อุปกรณไฟฟาที่อยูใน งจรเปดจะเปน งจรปด จะทําใ กระแ ไฟฟาไ ลครบ
งจร จึงทําใ มอเตอร มุนและ ามารถดูดเ กระดา ได
12
บทที่ 5

สรุปผลการทดลอง และขอเสนอแนะ
สรุปผลการทดลอง
โครงงาน ิทยา า ตรประเภท ิ่งประดิ ฐ เครื่องดูดฝุนอเนกประ งค เปนการนําถานไฟฉาย มอเตอร
ใบพัด ายไฟ ิตช ายดูดฝุนมาประดิ ฐเครื่องดูดฝุนอเนกประ งค ซึ่ง ามารถนําไปใชงานไดจริง โดยเมื่อตอ
งจรเ ร็จใ  แบตเตอรี่ กด ิต ชเป ดแล ั งเกต า มอเตอร จ ะ มุ น ใบพัด มุ น จะทํ าใ  เ กระดา ถู กดูดเข า
เครื่องดู ดฝุ น การ รางเครื่ องดู ดฝุ น อเนกประ งค จะมี ลั กการทํ างานเช นเดีย กับ เครื่องดู ดฝุ น ไฟฟ าในบ าน
เพียงแตชนิดขนาดมอเตอรและแรงดันไฟฟาที่ใชจะตางกัน ซึ่งขนาดค ามเร็ และแรง มุนมอเตอร ก็จะแตกตางกัน
ตามไปด ย

ขอเสนอแนะ
1. ค รระมัดระ ังในการตัด ายไฟ รือตัดข ดพลา ติก เพราะอาจบาดมือได
2. อาจจะใช ั ดุอื่นในการประดิ ฐเครื่องดูดฝุนอเนกประ งคได
3. ค รระมัดระ ังในการใชปนกา เพราะอาจเกิดอันตรายได
4. ค รมีครู รือผูปกครองดูแลขณะประดิ ฐเครื่องดูดฝุนอเนกประ งค
13
อางอิง
www.google.co.th
https://enchemcom1po.wordpress.com/plastic-AD/
http://www.xn--12c1bd9an0a9a1dua6i8c.net/81/
https://sites.google.com/site/plastic9911/pvc/pvc-pipe-blue
https://www.siampeerless.com/81.html
https://th.wikipedia.org/wiki/94
https://th.wikipedia.org/wiki/94
https://th.wikipedia.org/wiki/ 81

You might also like