Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 7

มาตรา ป.

วิ ที่สำคัญ เมื่อได้ไต่สวนแล้วให้ศาลตั้งผู้ร้องหรือบุคคลอื่น ซึ่ง


มาตรา 4 ในคดีอาญาซึ่งผู้เสียหายเป็นหญิงมีสามี หญิงนั้นมี ยินยอมตาม ที่เห็นสมควรเป็นผู้แทนเฉพาะคดี เมื่อไม่มีบุคคลใด
ผู้เสียหาย
สิทธิฟ้องคดีได้เอง โดยมิต้องได้รับอนุญาตของสามีก่อน เป็นผู้แทนให้ ศาลตั้งพนักงานฝ่ายปกครองเป็นผู้แทน
มาตรา 2 ในประมวลกฎหมายนี้ ภายใต้บังคับแห่ง มาตรา 5(2) สามีมีสิทธิฟ้อง ห้ามมิให้เรียกค่าธรรมเนียมในเรื่องขอตั้งเป็นผู้แทน
(4) "ผู้เสียหาย" หมายความถึง บุคคลผู้ได้รับความ คดีอาญาแทนภริยาได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตโดยชัดแจ้งจาก เฉพาะคดี
เสียหาย เนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้งบุคคล ภริยา
อื่นที่มีอำนาจจัดการแทนได้ดั่งบัญญัติไว้ใน มาตรา 4,5 และ 6 มาตรา 5 บุคคลเหล่านี้จัดการแทนผู้เสียหายได้ เขตอำนาจการสอบสวน
(7) "คำร้องทุกข์"หมายความถึง การที่ผู้เสียหายได้ (1) ผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบาลเฉพาะแต่ใน
มาตรา 18 ในจังหวัดอื่นนอกจากจังหวัดพระนครและจังหวัด
กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ความผิดซึ่งได้กระทำต่อผู้เยาว์หรือผู้ไร้ความสามารถซึ่งอยู่ใน
ธนบุรี พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ปลัดอำเภอ
ว่ามีผู้กระทำความผิดขึ้นจะรู้ตัวผู้กระทำความผิด หรือไม่ก็ตาม ความดูแล
และข้าราชการตำรวจ ซึ่งมียศตั้งแต่ชั้นนายร้อยตำรวจตรีหรือ
ซึ่งกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย และการกล่าวหา (2) ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน สามีหรือภริยาเฉพาะ
เทียบเท่านายร้อยตำรวจตรีขึ้นไป มีอำนาจสอบสวนความผิด
เช่นนั้นได้กล่าวโดยมีเจตนาจะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ แต่ ใ นความผิ ด อาญา ซึ ่ งผู ้ เ สี ย หายถู ก ทำร้ า ยถึ งตายหรื อ
อาญาซึ่งได้เกิด หรืออ้าง หรือเชื่อว่าได้เกิดภายในเขตอำนาจ
(8) "คำกล่าวโทษ" หมายความถึงการที่บุคคลอื่นซึ่ง บาดเจ็บจนไม่สามารถจะจัดการเองได้
ของตน หรือผู้ต้องหามีที่อยู่หรือถูกจับภายในเขตอำนาจของ
ไม่ใช่ผเู้ สียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ ว่ามีบุคคลรูต้ ัวหรือไม่ก็ (3) ผู้จัดการหรือผู้แทนอื่นๆ ของนิติบุคคล
ตนได้
ดี ได้กระทำความผิดอย่างหนึ่งขึ้น เฉพาะความผิดซึ่งกระทำลงแก่นิติบุคคลนั้น
มาตรา 3 บุคคลดังระบุไว้ใน มาตรา 4 ,5 และ 6มีอำนาจ สำหรับในจังหวัดพระนครและจังหวัดธนบุรี ให้
จัดการต่อไปนี้แทนผู้เสียหายตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา มาตรา 6 ในคดีอาญาซึ่งผู้เสียหายเป็ นผู้เยาว์ไม่มีผู้แทนโดย ข้าราชการตำรวจซึ่งมียศตั้งแต่ชั้นนายร้อยตำรวจตรีห รื อ
นั้นๆ ชอบธรรมหรือเป็นผู้ วิกลจริตหรือคนไร้ความสามารถ ไม่มีผู้ เทียบเท่านายร้อยตำรวจตรีขึ้นไป มีอำนาจสอบสวนความผิด
(1) ร้องทุกข์ อนุบาล หรือซึ่งผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบาลไม่สามารถจะ อาญาซึ่งได้เกิดหรืออ้าง หรือเชื่อว่าได้เกิดภายในเขตอำนาจ
(2) เป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา หรือเข้าร่วมเป็นโจทก์ ทำการตามหน้าที่โดยเหตุหนึ่งเหตุใด รวมทั้งมีผลประโยชน์ ของตนหรือผู้ต้องหามีที่อยู่หรือถูกจับภายในเขตอำนาจของ
กับพนักงานอัยการ ขัดกันกับผู้เยาว์ หรือคนไร้ความสามารถนั้น ๆ ญาติของผู้นั้น ตนได้
(3) เป็นโจทก์ฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา หรือผู้มีประโยชน์ เกี่ยวข้องอาจร้องต่อศาลขอให้ตั้งเขาเป็น ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติใน มาตรา 19มาตรา
(4) ถอนฟ้องคดีอาญาหรือคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับ ผู้แทนเฉพาะคดีได้ 20 และ มาตรา 21 ความผิ ด อาญาได้ เ กิ ด ในเขตอำนาจ
คดีอาญา
พนั ก งานสอบสวนคนใด โดยปกติ ใ ห้ เ ป็ น หน้ า ที ่ พ นั ก งาน
(5) ยอมความในคดีความผิดต่อส่วนตัว
สอบสวนผู้นั้นเป็นผู้รับผิดชอบในการสอบสวนความผิดนั้นๆ
เพื่อดำเนินคดี เว้นแต่เมื่อมีเหตุจำเป็นหรือเพื่อความสะดวก พนักงานสอบสวนในท้องที่หนึ่งท้องที่ใดที่ มาตรา 150 ในกรณีที่จะต้องมีการชันสูตรพลิกศพให้
จึงให้พนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ผู้ต้องหามีที่อยู่หรือถูกจับ เกี่ยวข้องมีอำนาจสอบสวนได้ พนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ศพนั้นอยู่กับแพทย์ทาง
เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการสอบสวน นิติเวชศาสตร์ซึ่งได้รับวุฒิบัตรหรือได้รับหนังสืออนุมัติ
ในกรณีข้างต้นพนักงานสอบสวนต่อ ไปนี้
จากแพทยสภาทำการชันสูตรพลิกศพโดยเร็ว.... ทั้งนี้
ในเขตท้ อ งที ่ ใ ดมี พ นั ก งานสอบสวนหลายการ เป็นผู้รับผิดชอบในการสอบสวน
ให้ พ นั ก งานสอบสวนและแพทย์ ด ั ง กล่ า วทำบั น ทึ ก
ดำเนินการสอบสวนให้อยู่ในความรับผิดชอบของพนักงาน
(ก) ถ้ า จั บ ผู ้ ต ้อ งหาได้ แล้ ว คื อ พนั ก งาน รายละเอียดแห่งการซันสูตรพลิกศพทันที และให้แพทย์
สอบสวนผู้เป็นหัวหน้าในท้องที่นั้น หรือผู้รักษาการแทน
สอบสวนซึ่งท้องที่ที่จับได้อยู่ในเขตอำนาจ ตังกล่าวทำรายงานแนบท้ายบันทึกรายละเอีย ดแห่ง
มาตรา 19 ในกรณีดังต่อไปนี้ การชันสูตรพลิกศพด้วยภายในเจ็ ดวันนับแต่วันที่ได้รับ
(ข) ถ้าจับผู้ต้องหายังไม่ได้ คือ พนักงาน
(1) เป็ น การไม่ แ น่ ว ่ า การกระทำผิ ด อาญาได้ สอบสวนซึ่งท้องที่ที่พบการกระทำผิดก่อนอยู่ในเขต แจ้งเรื่อง ถ้ามีความจำเป็นให้ขยายระยะเวลาออกไปได้
กระทำในท้องที่ใด ในระหว่างหลายท้องที่ อำนาจ ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินสามสิบวัน แต่ต้องบันทึก
เหตุผลและความจำเป็นในการขยายระยะเวลาทุกครั้ ง
(2) เมื่อความผิดส่วนหนึ่งกระทำในท้องที่หนึ่ง แต่ มาตรา 148 เมื่อปรากฏแน่ชัด หรือมีเหตุอันควรสงสัย
ไว้ในสำนวนชันสูตรพลิกศพ รายงานดังกล่าวให้ถือเป็น
อีกส่วนหนึ่งในอีกท้องที่หนึ่ง ว่าบุคคลใดตายโดยผิดธรรมชาติ หรือตายในระหว่างอยู่
ส่ ว นหนึ ่ งของสำนวนชัน สู ตรพลิ กศพ และในกรณีที่
ในความควบคุมของเจ้าพนักงาน ให้มีการชันสูตรพลิก
(3) เมื่อความผิดนั้นเป็นความผิดต่อเนื่อง ความตายมิ ไ ด้ เ ป็ น ผลแห่ ง การกระทำผิ ด อาญา ให้
ศพ เว้นแต่ตายโดยการประหารชีวิตตามกฎหมาย
และกระทำต่อเนื่องกันในท้องที่ต่างๆ เกินกว่าท้องที่ พนั ก งานสอบสวนส่ ง สำนวนชั น สู ต รพลิ ก ศพไปยั ง
หนึ่งขึ้นไป การตายโดยผิดธรรมชาตินั้น คือ พนักงานอัยการเมื่อเสร็จสิ้นการชันสูตรพลิกศพโดยเร็ว
และให้พนักงานอั ยการดำเนิน การต่อไปตามมาตรา
(4) เมื่อเป็นความผิดซึ่งมีหลายกรรมกระทำ (1) ฆ่าตัวตาย
156
ลงในท้องที่ต่างๆ กัน
(2) ถูกผู้อื่นทำให้ตาย
(5) เมื่อความผิดเกิดขึ้นขณะผู้ต้องหากำลัง
(3) ถูกสัตว์ทำร้ายตาย
เดินทาง
(4) ตายโดยอุบัติเหตุ
(6) เมื่อความผิดเกิดขึ้นขณะผู้เสียหายกำลัง
เดินทาง (5) ตายโดยยังมิปรากฏเหตุ
การจับ การค้น (2) เมื่อพบบุคคลหนึ่งแทบจะทันทีทันใดหลังจาก อำนาจใช้ ว ิ ธ ี ห รื อ ความป้ อ งกั น ทั ้ ง หลายเท่ า ที ่ เ หมาะแก่
การกระทำผิด ในถิ่นแถวใกล้เคียงกับ ที่เกิดเหตุ นั้น และมี พฤติการณ์แห่งเรื่องในการจับนั้น
มาตรา 78 พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจะจับผู้ใดโดยไม่
สิ่งของที่ได้มาจากการกระทำผิด หรือมีเครื่องมืออาวุธหรือ
มีหมายจับหรือคำสั่งของศาลนั้นไม่ได้ เว้นแต่ มาตรา 84 เจ้าพนักงานหรือราษฎรผู้ทำการจับ
วัตถุอย่างอื่นอันสันนิษฐานได้ว่าได้ใช้ในการกระทำผิด หรือมี
ต้องเอาตัวผู้ถูกจับไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนตาม
(1) เมื่อบุคคลนั้นได้กระทำความผิดซึ่งหน้าดั่ง ร่องรอยพิรุธเห็นประจักษ์ที่เสื้อผ้าหรือเนื้อตัวของผู้นั้น
มาตรา 83 โดยทันที และเมื่อถึงที่นั้นแล้ว ให้ส่งตัวผู้ถูกจับแก่
บัญญัติไว้ใน มาตรา 80
มาตรา 83 ในการจับนั้น เจ้าพนักงานหรือราษฎรซึ่งทำการ พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจของที่ทำการของพนักงาน
(2) เมื่อพบบุคคลโดยมีพฤติการณ์อันควรสงสัยว่า จับต้องแจ้งแก่ผู้ที่จะถูกจับนั้นว่าเขาต้องถูกจับ แล้วสั่งให้ผู้ถูก สอบสวนดังกล่าวเพื่อดำเนินการดังต่อไปนี้
ผู้นั้นน่าจะก่อเหตุร้ายให้เกิดภยันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน จับไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ ถ ูกจับ
(1) ในกรณีที่เจ้าพนักงานเป็นผู้จับให้เจ้าพนักงาน
ของผู้อื่นโดยมีเครื่องมือ อาวุธหรือวัตถุอย่างอื่นอันสามารถ พร้อมด้วยผู้จับ เว้นแต่สามารถนำไปที่ทำการของพนักงาน
ผู้จับนั้นแจ้งข้อกล่าวหา และรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุแห่งการ
อาจใช้ในการกระทำความผิด สอบสวนผู้ ร ั บ ผิ ดชอบได้ ใ นขณะนั ้ น ให้ น ำไปที ่ ท ำการของ
จับให้ผู้ถูกจับทราบ ถ้ามีหมายจับให้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบและ
(3) เมื่อมีเหตุที่จะออกหมายจับบุคคลนั้นตาม พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบดังกล่าวแต่ถ้าจำเป็นก็ให้จับตัว
อ่านให้ฟังและมอบสำเนาบันทึกการจับแก่ผู้ถูกจับนั้น
มาตรา 66 (2) แต่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจรอให้ศาล ไป
(2) ในกรณีที่ราษฎรเป็นผู้จับ ให้พนักงานฝ่าย
ออกหมายจับบุคคลนั้นได้ ในกรณี ท ี ่ เจ้ า พนั ก งานเป็ น ผู ้ จ ั บ ต้ อ งแจ้ ง ข้ อ
ปกครอง หรือตำรวจซึ่งรับมอบตัวบันทึกชื่ออาชีพ ที่อยู่ของผู้
(4) เป็นการจับผู้ต้องหาหรือจำเลยที่หนีหรือจะ กล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบ หากมีหมายจับให้แสดงต่อผู้ถูกจับ
จับ อีกทั้งข้อความและพฤติการณ์แห่งการจับนั้นไว้ แล้วให้ผู้
หลบหนีในระหว่างถูกปล่อยชั่วคราวตาม มาตรา 117 พร้อมทั้งแจ้งด้วยว่า ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็
จับลงลายมือชื่อกำกับไว้ เป็นสำคัญเพื่อดำเนินการแจ้งข้อ
ได้ และถ้อยคำของผู้ถูกจับนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานใน
มาตรา 80 ที่เรียกว่าความผิดซึ่งหน้านั้น ได้แก่ความผิดซึ่ง กล่าวหาและรายละเอียดแห่งการจับให้ผู้ถูกจับทราบและแจ้ง
การพิจารณาคดีได้ และผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะพบและปรึกษา
เห็นกำลังกระทำ หรือพบในอาการใดซึ่งแทบจะไม่มีความ ให้ผู้ถูกจับทราบด้วยว่าผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การ
ทนายความ หรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความ ถ้าผู้ถูกจับประสงค์
สงสัยเลยว่าเขาได้กระทำผิดมาแล้วสดๆ ก็ได้ และถ้อยคำของผู้ถูกจับอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการ
จะแจ้ งให้ ญ าติ ห รื อ ผู ้ ซ ึ ่ งตนไว้ ว างใจทราบถึ งการจั บ กุ มที่
พิจารณาคดีได้
อย่างไรก็ดีความผิดอาญาดั่งระบุไว้ในบัญชีท้าย สามารถดำเนินการได้โดยสะดวกและไม่เป็นการขัดขวางการ
ประมวลกฎหมายนี้ ให้ถือว่าความผิดนั้นเป็นความผิดซึ่งหน้า จับหรือการควบคุมผู้ถูกจับดำเนินการได้ตามสมควรแก่กรณี เมื่อได้ดำเนินการตามวรรคหนึ่งแล้วให้พนักงาน
ในกรณีดังนี้ ในการนี้ให้เจ้าพนักงานผู้จับนั้นบันทึกการจับดังกล่าวไว้ด้วย ฝ่ายปกครองหรือตำรวจ ซึ่งมีผู้นำผู้ถูกจับมาส่งแจ้งให้ผู้ถูกจับ
ทราบถึงสิทธิตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 7/1 รวมทั้งจัดให้ผู้ถูก
(1) เมื่อบุคคลหนึ่งถูกไล่จับดั่งผู้กระทำโดยมีเสียง ถ้าบุคคลซึ่งจะถูกจับขัดขวางหรือจะขัดขวางการ
จับสามารถติตต่อกับญาติหรือผู้ซึ่งผู้ถูกจับไว้วางใจเพื่อแจ้งให้
ร้องเอะอะ จั บ หรื อ หลบหนี หรื อ พยายามจะหลบหนี ผ ู ้ ท ำการจั บ มี
ทราบถึงการจับกุมและสถานที่ที่ถูกควบคุมได้ในโอกาสแรก (2) เมื่อปรากฎความผิดซึ่งหน้ากำลังกระทำ มาตรา 66 เหตุที่จะออกหมายจับได้มีดังต่อไปนี้
เมื่อผู้ถูกจับมาถึงที่ทำการของพนักงานสอบสวนตามวรรค ลง ในทีร่ โหฐาน
(1) เมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่ าบุคคลใด
หนึ่ง หรือถ้ากรณีผู้ถูกจับร้องขอให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือ
(3) เมื่อบุคคลที่ได้กระทำความผิดซึ่งหน้าขณะที่ น่าจะได้กระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่าง
ตำรวจเป็นผู้แจ้ง ก็ให้จัดการตามคำร้องขอนั้นโดยเร็ว และให้
ถูกไล่จับหนีเข้าไป หรือมีเหตุอันแน่นแฟ้นควรสงสัยว่าได้เข้า สูงเกินสามปี หรือ
พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจบันทึกไว้ ในการนี้มิให้เรียก
ไปซุกซ่อนตัวอยู่ในที่รโหฐานนั้น
ค่าใช้จ่ายใต ๆ จากผู้ถูกจับ (2) เมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลใด
(4) เมื่อมีพยานหลักฐานตามสมควรว่าสิ่งของที่มี น่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่า
ในกรณีที่จำเป็น เจ้าพนักงานหรือราษฎรซึ ่งทำ
ไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยการกระทำความผิดหรือได้ใช้ จะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือ
การจับจะจัดการพยาบาลผู้ถูกจับเสียก่อนนำตัวไปส่งตาม
หรื อ มี ไว้ เ พื ่ อ จะใช้ ใ นการกระทำความผิ ด หรื อ อาจเป็ น ก่อเหตุอันตรายประการอื่น
มาตรานี้ก็ได้
พยานหลักฐานพิสูจน์การกระทำความผิ ดได้ซ่อนหรืออยู่ใน
ถ้าบุคคลนั้นไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หรือไม่
ถ้อยคำใด ๆ ที่ผู้ถูกจับให้ไว้ต่อเจ้าพนักงานผู้จับ นั้น ประกอบทั้งต้องมีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากการเนิ่นช้า
มาตามหมายเรียกหรือตามนัดโดยไม่มีข้อแก้ตัวอันควร
หรื อ พนั ก งานฝ่ า ยปกครองหรื อ ตำรวจในชั ้ น จั บ กุ ม หรื อ กว่าจะเอาหมายค้นมาได้สิ่งของนั้นจะถูกโยกย้ายหรือทำลาย
ให้สันนิษฐานว่าบุคคลนั้นจะหลบหนี
รับมอบตัวผู้ถูกจับ ถ้าถ้อยคำนั้นเป็นคำรับสารภาพของผู้ เสียก่อน
ถู ก จั บ ว่ า ตนได้ ก ระทำความผิ ด ห้ า มมิ ใ ห้ ร ั บ ฟั ง เป็ น
(5) เมื่อที่รโหฐานนั้นผู้จะต้องถูกจับเป็นเจ้าบ้าน
พยานหลั ก ฐาน แต่ ถ ้ า เป็ น ถ้ อ ยคำอื ่ น จะรั บ ฟั ง เป็ น
และการจับนั้นมีหมายจับหรือจับตามมาตรา 78
พยานหลักฐานในการพิสูจน์ความผิดของผู้ถูกจับได้ต่อเมื่อ
ได้มีการแจ้งสิทธิตามวรรคหนึ่ง หรือตามมาตรา 83 วรรค การใช้อำนาจตาม (4) ให้พนักงานฝ่ายปกครอง
สอง แก่ผู้ถูกจับแล้วแต่กรณี หรือตำรวจผู้ค้ นส่งมอบสำเนาบันทึกการตรวจค้นและบัญชี
ทรัพย์ที่ใด้จากการตรวจค้น รวมทั้งจัดทำบันทึกแสดงเหตุผล
มาตรา 92 ห้ามมิให้ค้นในที่รโหฐานโดยไม่มีหมายค้ นหรือ
ที่ทำให้สามารถเข้าคันได้เป็นหนังสือให้ไว้แก่ผู้ครอบครอง
คำสั่งของศาล เว้นแต่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเป็นผู้
สถานที่ที่ถูกตรวจค้น แต่ถ้าไม่มีผู้ครอบครองอยู่ ณ ที่นั้นให้
ค้น และในกรณีต่อไปนี้
ส่งมอบหนังสือดังกล่าวแก่บุคคลเช่นว่านั้นในทันทีที่กระทำได้
(1) เมื่อมีเสียงร้องให้ช่วยมาจากข้างในที่รโหฐาน และรีบรายงานเหตุผลและผลการตรวจค้นเป็นหนังสือต่อ
หรื อ มีเ สีย งหรือ พฤติก ารณ์ อื ่น ใดอัน แสดงได้ ว่ ามีเหตุร้าย ผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไป
เกิดขึ้นในที่รโหฐานนั้น
สอบสวนสามัญ พิสูจน์แล้วจะเป็นผลเสียต่อผู้ต้องหาหรื อผู้เสียหายนั้น (4) ยึ ด ไว้ ซ ึ ่ ง สิ ่ ง ของที ่ ค้ น พบหรื อ ส่ ง มาดั ง กล่ า วไว้ ใ น
แล้วแต่กรณี อนุมาตรา (2) และ (3)
มาตรา 131/1 ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้พยานหลักฐาน
ทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามมาตรา 131 มาตรา 132 เพื่อประโยชน์แห่งการรวบรวมหลัก ฐาน ให้ มาตรา 133 พนั ก งานสอบสวนมี อ ำนาจออกหมายเรี ย ก
ให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจให้ ทำการตรวจพิ ส ู จ น์ พนักงานสอบสวนมีอำนาจดังต่อไปนี้ ผู้เสียหาย หรือบุคคลใดซึ่งมีเหตุอันควรเชื่อว่าถ้อยคำของเขา
บุ ค คลวั ต ถุ หรื อ เอกสารใด ๆ โดยวิ ธ ี ก ารทาง อาจเป็นประโยชน์แก่คดีให้มาตามเวลาและสถานที่ในหมาย
(1) ตรวจตัวผู้เสียหายเมื่อผู้นั้นยินยอม หรือตรวจตัวผู้ต้องหา
วิทยาศาสตร์ได้ แล้วให้ถามปากคำบุคคลนั้นไว้
หรื อ ตรวจสิ ่ ง ของหรื อ ที ่ ท างอั น สามารถอาจใช้ เ ป็ น
ในกรณีความผิดอาญาที่มีอัตราโทษจำคุก พยานหลักฐานได้ ให้รวมทั้งทำภาพถ่าย แผนที่ หรือภาพวาด การถามปากคำนั้น พนักงานสอบสวนจะให้ผู้ให้
อย่างสูงเกินสามปี หากการตรวจพิสูจน์ตามวรรคหนึ่ง จำลองหรือพิมพ์ลายนิ้วมือ ลายมือหรือลายเท้า กับให้บันทึก ถ้อยคำสาบานหรือปฏิญาณตัวเสียก่อนก็ได้และต้องปฏิบัติ
จำเป็นต้องตรวจเก็บตัวอย่างเลือด เนื้อเยื่อ ผิวหนัง รายละเอียดทั้งหลายซึ่งน่าจะกระทำให้คดีแจ่มกระจ่างขึ้น ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยพยานบุคคล
เส้นผมหรือขน น้ำลาย ปัสสาวะอุจจาระ สารคัดหลั่ง
ในการตรวจตัวผู้เสียหายหรือผู้ต้องหาตามวรรค ห้ามมิให้พนักงานสอบสวนตักเตือนพูดให้ท้อใจ
สารพั น ธุ ก รรมหรื อ ส่ ว นประกอบของร่ า งกายจาก
หนึ ่ ง หากผู ้ เ สี ย หายหรื อ ผู ้ ต ้ อ งหาเป็ น หญิ ง ให้ จ ั ด ให้ เจ้ า หรือใช้กลอุบายอื่นเพื่อป้องกันมิให้บุคคลใดให้ถ้อยคำ ซึ่ง
ผู้ต้องหา ผู้เสียหายหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ให้พนักงาน
พนักงานซึ่งเป็นหญิงหรือหญิงอื่นเป็นผู้ตรวจ ทั้งนี้ ในกรณีที่มี อยากจะให้ด้วยความเต็มใจ
สอบสวนผู้รับผิดชอบมีอำนาจให้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
เหตุอันสมควร ผู้เสียหายหรือผู้ต้องหาจะขอนำบุคคลใดมาอยู่
ดำเนินการตรวจดั่งกล่าวได้ แต่ต้องกระทำเพียงเท่าที่ ในคดี ค วามผิ ด เกี ่ ย วกั บ เพศ การถามปากคำ
ร่วมในการตรวจนั้นด้วยก็ได้
จำเป็ น และสมควรโดยใช้ ว ิ ธ ี ก ารที ่ ก ่ อ ให้ เ กิ ด ความ ผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิง ให้พนักงานสอบสวนซึ่งเป็นหญิงเป็นผู้
เจ็บปวดน้อยที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ ทั้งจะต้องไม่เป็น (2) ค้นเพื่อพบสิ่งของ ซึ่งมีไว้เป็นความผิด หรือได้มาโดยการ สอบสวน เว้นแต่ผู้เสียหายนั้นยินยอมหรือมีเหตุจำเป็นอย่าง
อันตรายต่อร่างกายหรื ออนามัย ของบุค คลนั้ น และ กระทำผิด หรือได้ใช้หรือสงสัยว่าได้ใช้ในการกระทำผิด หรือ อื่น และให้บันทึกความยินยอมหรือเหตุจำเป็นนั้นไว้ ทั้งนี้
ผู้ต้องหา ผู้เสียหายหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องให้ความ ซึ่งอาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ แต่ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติ ผู้เสียหายจะขอให้บุคคลใดอยู่ร่วมในการถามปากคำนั้นด้วยก็
ยินยอม หากผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายไม่ยินยอมโดยไม่มี แห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยค้น ได้
เหตุอันสมควรหรือผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายกระทำการ (3) หมายเรียกบุคคลซึ่งครอบครองสิ่ งของ ซึ่งอาจใช้ เ ป็ น มาตรา 133 ทวิ ในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศความผิดเกี่ยวกับ
ป้องปัดขัดขวางมิให้บุคคลที่เกี่ยวข้องให้ความยินยอม พยานหลักฐานได้ แต่บุคคลที่ถูกหมายเรียกไม่จำต้องมาเอง ชีวิตและร่างกายอันมิใช่ความผิดที่เกิดจากการชุลมุนต่อสู้
โดยไม่ม ีเ หตุ อ ั นสมควร ให้ ส ั น นิ ษ ฐานไว้ เบื ้อ งต้ นว่า เมื่อจัดส่งสิ่งของมาตามหมายแล้ว ให้ถือเสมือนว่าได้ปฏิบัติ ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพความผิดฐานกรรโชก ชิงทรัพย์และ
ข้อเท็จจริงเป็นไปตามผลการตรวจพิสูจน์ที่หากได้ตรวจ ตามหมาย ปล้ น ทรั พ ย์ ต ามประมวลกฎหมายอาญา ความผิ ด ตาม
กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี
ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการในการป้องกันและ ภายใต้บังคับแห่งมาตรา 139 การถามปากคำเด็ก ที่เหมาะสมสำหรับเด็กและสามารถป้องกันมิให้ผู้ต้องหาที่เป็น
ปราบปรามการค้าหญิงและเด็กความผิดตามกฎหมายว่าด้วย ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานสอบสวนจัดให้มีการบังทึ กภาพ เด็กนั้นเห็นตัวบุคคลที่จะทำการชี้ตัว
สถานบริ ก าร หรื อ คดี ความผิ ดอื ่น ที ่ม ี อั ตราโทษจำคุ ก ซึ่ ง และเสียงการถามปากคำดังกล่าวซึ่งสามารถนำออกถ่ายทอด
มาตรา 134 เมื่อผู้ต้องหาถูกเรียก หรือส่งตัวมาหรือเข้าหา
ผู้เสียหายหรือพยานที่เป็นเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปี ร้องขอ ได้อย่างต่อเนื่องไว้เป็นพยาน
พนักงานสอบสวนเอง หรือปรากฎว่าผู้ใดซึ่งมาอยู่ต่อหน้าเจ้า
การถามปากคำผู้เสียหายหรือพยานที่เป็นเด็กอายุไม่เกินสิบ
ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนอย่างยิ่งซึ่งมีเหตุอันควรไม่ พนักงานเป็นผู้ต้องหา ให้ถาม ชื่อตัว นามสกุล สัญชาติ บิดา
แปดปีให้พนักงานสอบสวนแยกกระทำเป็นส่วนสัดในสถานที่
อาจรอนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์บุคคลที่เด็กร้องขอ มารดา อายุ อ าชี พ ที ่ อ ยู่ ที ่ เ กิ ด และแจ้ งข้ อ หาให้ ท ราบถึง
ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก และให้มีนั กจิตวิทยาหรือนักสังคม
และพนักงานอัยการเข้าร่วมในการถามปากคำพร้อมกันได้ ให้ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำที่กล่าวหาว่าผู้ต้องหาได้กระทำ
สงเคราะห์ บุคคลที่เด็กร้องขอ และพนักงานอัยการร่วมอยู่
พนักงานสอบสวนถามปากคำเด็กโดยมีบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ผิด แล้วจึงแจ้งข้อหาให้ทราบ
ด้วยในการถามปากคำเด็กนั้นและในกรณีที่นักจิตวิทยาหรือ
ตามวรรคหนึ่งอยู่ร่วมด้วยก็ได้ แต่ต้องบันทึกเหตุที่ไม่อาจรอ
นั ก สั งคมสงเคราะห์ เ ห็ น ว่ า การถามปากคำเด็ ก คนใดหรือ การแจ้งข้อหาตามวรรคหนึ่ง จะต้องมีหลักฐาน
บุคคลอื่นไว้ในสำนวนการสอบสวน และมิให้ถือว่าการถาม
คำถามใด อาจจะมีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจเด็กอย่าง ตามสมควรว่าผู้นั้นน่าจะได้กระทำผิดตามข้อหานั้น
ปากคำผู้เสียหายหรือพยานซึ่งเป็นเด็กในกรณีดังกล่าวที่ได้
รุนแรง ให้พนักงานสอบสวนถามผ่านนักจิตวิ ทยาหรื อ นั ก ผู ้ ต ้ อ งหามี ส ิ ท ธิ ไ ด้ ร ั บ การสอบสวนด้ ว ยความ
กระทำไปแล้วไม่ชอบด้วยกฎหมาย
สั ง คมสงเคราะห์ เ ป็ น การเฉพาะตามประเด็ น คำถามของ รวดเร็ว ต่อเนื่อง และเป็นธรรม
พนั ก งานสอบสวนโดยมิ ใ ห้เ ด็ ก ได้ ย ิน คำถามของพนั ก งาน มาตรา 133ตรี ในกรณีที่พนักงานสอบสวนมีความจำเป็นต้อง
จัดให้ผู้เสียหายหรือพยานที่เป็นเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปีชี้ตัว พนักงานสอบสวนต้องให้โอกาสผู้ต้องหาที่จะแก้
สอบสวนและห้ามมิให้ถามเด็กซ้ำซ้อนหลายครั้งโดยไม่มีเหตุ
บุ ค คลใด ให้ พ นั ก งานสอบสวนจั ด ให้ ม ี ก ารชี ้ ต ั ว บุ ค คลใน ข้อหาและที่จะแสดงข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์แก่ตนได้
อันสมควร
สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับเด็กและสามารถป้องกันมิให้บุคคล มาตรา 134/1 ในคดีที่มีอัตราโทษประหารชีวิตหรือในคดีที่
ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องแจ้ง
ซึ่งจะถูกชี้ตัวนั้นเห็นตัวเด็ก โดยให้มีนักจิตวิทยาหรือนักสังคม ผู้ต้องหามีอายุไม่เกินสิบแปดปีในวันที่พนักงานสอบสวนแจ้ง
ให้นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์บุคคลที่เด็กร้องขอ
สงเคราะห์ บุคคลที่เด็กร้องขอ และพนักงานอัยการร่วมอยู่ ข้ อ หา ก่ อ นเริ ่ ม ถามคำให้ ก ารให้ พ นั ก งานสอบสวนถาม
และพนักงานอัยการทราบรวมทั้งแจ้งให้ผู้เสียหายหรือพยาน
ด้วยในการชี้ตัว บุคคลนั้น เว้นแต่มีเหตุจำเป็นไม่อาจหาหรือ ผู้ต้องหาว่ามีทนายความหรือไม่ ถ้าไม่มีให้รัฐหาทนายความให้
ที่เป็นเด็กทราบถึงสิทธิตามวรรคหนึ่งด้วย
รอบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้และเด็กไม่ประสงค์จะให้มีหรือ รอ
ในคดีที่มีอัตราโทษจำคุก ก่อนเริ่มถามคำให้การ
นั ก จิ ต วิ ท ยาหรื อ นั ก สั ง คมสงเคราะห์ หรื อ บุคคลดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ให้พนักงานสอบสวนบันทึกเหตุ
ให้พนักงานสอบสวนถามผู้ต้องหาว่ามีทนายความหรือไม่ ถ้า
พนักงานอัยการที่เข้าร่วมในการถามปากคำอาจถูกผู้เสียหาย ดังกล่าวไว้ในสำนวนการสอบสวนด้วย
ไม่มีและผู้ต้องหาต้องการทนายความ ให้รัฐหาทนายความให้
หรือพยานซึ่งเป็นเด็กตั้งรังเกียจได้หากมีกรณีดังกล่ า วให้
ในกรณีการชี้ตัวผู้ต้องหาที่เป็นเด็กอายุไม่เกินสิบ
เปลี่ยนตัวผู้นั้น
แปดปี ให้ พ นั ก งานสอบสวนจั ด ให้ มี ก ารชี ้ ต ั ว ในสถานที่
มาตรา 134/2 ให้นำบทบัญญัติในมาตรา 133 ทวิมาใช้บังคับ “ มันอาจดูเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้เสมอ
โดยอนุโลมแก่การสอบสวนผู้ต้องหาที่เป็นเด็กอายุไม่เกินสิบ
แปดปี จนกระทั่งมันสำเร็จ”
มาตรา 134/3 ผู้ต้องหามีสิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่ งตน
ไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำตนได้
มาตรา 134/4 ในการถามคำให้การผู้ต้องหา ให้พนักงาน
สอบสวนแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบก่อนว่า
(1) ผู ้ ต ้ อ งหามีสิ ท ธิ ที ่ จะให้ ก ารหรื อ ไม่ ก ็ ได้ ถ้ า
ผู ้ ต ้ อ งหาให้ ก าร ถ้ อ ยคำที ่ ผ ู ้ ต ้ อ งหาให้ ก ารนั ้ น อาจใช้ เ ป็ น By ลีโอ & บิ๊ก
พยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้
(2) ผู ้ ต ้ องหามีสิ ท ธิ ใ ห้ท นายความหรื อผู ้ซ ึ่งตน
ไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำตนได้
เมื ่ อ ผู ้ ต ้ อ งหาเต็ ม ใจให้ ก ารอย่ า งใดก็ ใ ห้ จ ด
คำให้การไว้ ถ้าผู้ต้องหาไม่เต็มใจให้การเลยก็ให้บันทึกไว้
ถ้อยคำใดๆ ที่ผู้ต้องหาให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวน
ก่อนมีการแจ้งสิทธิตามวรรคหนึ่ง หรือก่อนที่จะดำเนินการ
ตามมาตรา 134/1 มาตรา134/2 และมาตรา 134/3 จะรับ
ฟังเป็น พยานหลักฐานในการพิสูจน์ความผิดของผู้นั้นไม่ได้

You might also like