Professional Documents
Culture Documents
Infographic เคมี
Infographic เคมี
Infographic เคมี
ปฏิกิริยาเคมีบางชนิดอาจมีหลายขั้นตอน จึงมีสมการเคมีที่เกี่ยวข้องหลายสมการ เช่น การถลุงโลหะสังกะสี ทำได้โดยนำซิงค์ออกไซด์และผงคาร์บอนไปเผาที่อุณหภูมิประมาณ 1120 องศาเซลเซียส ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นมี 2 ขั้นตอน เขียนสมการเคมีได้ดังนี้
จะเห็นว่าสมการ (1) และ (2) มีความเกี่ยวข้องกัน โดยมีสาร CO ที่เป็นตัวร่วมของทั้ง 2 สมการ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน ถ้าต้องการรวมสมการเคมีทั้งสองทำได้โดยทำจำนวนโมลของสารที่เป็นตัวร่วมของทั้ง 2 สมการให้เท่ากัน แล้วนำไปหักล้างกัน ดังนี้
สมการ (2) × 2 ;
สมการ (1) + (3) ;
คำนวณปริมาตรของ HCN
รวมสมการเคมีโดย ทำจำนวนโมลของสารที่เป็นตัวร่วมของทั้ง 2 สมการให้เท่ากัน ในที่นี้คือ NO จึงคูณสมการ (2) ด้วย 2 ดังนี้ ปริมาตรของ HCN =
สมการ (2) × 2 ; =
สมการ (1) + (3) ; ดังนั้นถ้าใช้แก๊สออกซิเจน 15.0 ลิตรจะเกิดก๊าซไฮโดรเจนไซไนส์ 12.0 ลิตร
สารกำหนดปริมาตร
ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวันหรือในอุตสาหกรรม การผลิตสารเคมีชนิดต่างๆ โดยทั่วไป จะมีปริมาตรของสารตั้งต้นบางชนิดมากกว่าอัตราส่วนที่ทำปฏิกิริยาพอดีกันตามสมการเคมี สารตั้งต้นที่ทำปฏิกิริยาหมดก่อนสารอื่น
จะเป็นสารที่กำหนดปริมาณที่เกิดขึ้น เรียกว่า " สารกำหนดปริมาตร " ส่วนสารตั้งต้นที่มีปริมาตรมากเกินพอดี จะทำปฏิกิริยาไม่หมดและเหลืออยู่ในปฏิกิริยา ซึ่งเราสามารถใช้สารกำหนดปริมาณเพื่อคำนวณปริมาณผลิตภัณฑ์และสารที่เหลือได้ ดังตัวอย่าง
ถ้าโลหะแมกนีเซียม (MG) จำนวน 6.000 โมล ทำปฏิกิริยากับแก๊สออกซิเจน (O2) จำนวน 2.500 โมล จงคำนวณ
วิธีทำ
1) สารกำหนดปริมาณ และจำนวนโมลของสารที่เหลือ 2) มวลของแมกนีเซียมออกไซด์ที่เกิดขึ้น
หาสารกำหนดปริมาณ หาสารกำหนดปริมาณ
จากสมการเคมี MG : O2 = 2 : 1 ดังนั้นคำนวณจำนวนโมลของ O2 เมื่อใช้ MG 6.000 MOL ได้ดังนี้ จากข้อ 1) สารกำหนดปริมาณคือ O2 จึงใช้จำนวนโมลของ O2 ในการคำนวณ
โมลของ O2 = ระบุแฟกเตอร์เปลี่ยนหน่วยที่จะใช้
= มวลของ MGO =
นั่นคือ ถ้าใช้แก๊สออกซิเจน 2.500 โมล ต้องใช้โลหะแมกนีเซียม 5.000 โมล =
ซึ่งน้อยกว่าปริมาตรที่โจทย์กำหนดไว้ ; มีโลหะแมกนีเซียมเหลืออยู่ ดังนั้นแก๊สออกซิเจนเป็นสารกำหนดปริมาณ ดังนั้น แมกนีเซียมออกไซด์ที่เกิดขึ้นมีมวล 201.5 กรัม
หาจำนวนโมลของสารที่เหลือ
จากข้อ 1. พบว่าต้องใช้โลหะแมกนีเซียม 5.000 โมล และมีโลหะแมกนีเซียม 6.000 โมล
; มีโลหะแมกนีเซียมเหลือ 6.000 MOL - 5.000 MOL = 1.000 MOL
ผลได้ร้อยละ
ปริมาณของผลิตภัณฑ์ที่คำนวณได้จากสารกำหนดปริมาณตามสมการเคมี เรียกว่า " ผลได้ตามทฤษฎี " แต่ในทางปฏิบัติปริมาณของผลิตภัณฑ์ที่เกิดจริง เรียกว่า " ผลได้จริง " ส่วนใหญ่มีค่าน้อยกว่าผลได้ตามทฤษฎีซึ่งอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย
ประสิทธิภาพของการทำปฏิกิริยาอาจวัดได้จากการเปรียบเทียบ ผลได้จริงกับผลได้ตามทฤษฎีเป็นร้อยละ เรียกว่า " ผลได้ร้อยละ " ซึ่งมีความสัมพันธ์ดังนี้ ผลได้ร้อยละ = ผลได้จริง (กรัมหรือกิโลกรัม)
× 100
ตัวอย่าง ผลได้ตามทฤษฎี (กรัมหรือโมล)
ถ้านำเบนซิน (C6H6) จำนวน 15.6 กรัม มาทำปฏิกิริยากับกรดไนทริก (HNO3) จำนวนมากเกินพอ พบว่าเกิดไนโตรเบนซิน (C6H5NO2) 18.0 กรัม จงหาผลได้ร้อยละ
วิธีทำ
หามวลของไนโตรเบนซินตามทฤษฎี
คำนวณมวลของ C6H5NO2 จาก C6H6 15.6 G ได้ดังนี้
มวลของ C6H5NO2 =
=
นั่นคือ มวลของไนโตรเบนซินตามทฤษฎีเท่ากับ 24.6 กรัม
หาผลได้ร้อยละ
ผลได้ร้อยละ = ผลได้จริง (กรัมหรือกิโลกรัม)
× 100
ผลได้ตามทฤษฎี (กรัมหรือโมล) นางสาวสุวภัทร สัสดีเดช เลขที่4 ม.4/6
=
=
ดังนั้น ปฏิกิริยานี้มีผลได้ร้อยละเท่ากับ 73.2