Professional Documents
Culture Documents
แนวข้อสอบ พรบ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
แนวข้อสอบ พรบ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
พระราชบัญญัติวธิ ีปฏิบัติราชการทางปกครอง
1. พระราชบัญญัติวธิ ี ปฏิบตั ิราชการทางปกครอง มิให้บงั คับใช้ แก่ขอ้ ใด
ก. รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี
ข. องค์กรที่ใช้อานาจตามรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ
ค. การพิจารณาของนายกรัฐมนตรี หรื อรัฐมนตรี ในงานทางนโยบายโดยตรง
ง. ถูกทุกข้อ
8. ผูย้ นื่ คาขอหรื อผูค้ ดั ค้านคาขอผูอ้ ยูใ่ นบังคับหรื อจะอยูใ่ นบังคับของคาสั่งทางปกครองและผูซ้ ่ ึ งได้เข้ามา
ในกระบวนการพิจารณาทางปกครองเนื่ องจากสิ ทธิ์ ของผูน้ ้ นั จะถูกกระทบกระเทือนจากผลของคาสั่งทาง
ปกครองเป็ นความหมายของ ข้อใด
ก. คู่พิพาท
ข. คู่กรณี
ค. ผูต้ อ้ งคาสั่งทางปกครอง
ง. ผูเ้ สี ยประโยชน์
9. ผูใ้ ดรักษาการตามพระราชบัญญัติน้ ี
ก. รัฐมนตรี ประจาสานักนายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรี วา่ การกระทรวงมหาดไทย
ค. นายกรัฐมนตรี
ง. รัฐมนตรี วา่ การกระทรวงกลาโหม
10. ผูร้ ักษาการ ตามพระราชบัญญัติน้ ี มีอานาจในการออก ................ เพื่อปฏิบตั ิ การตามพระราชบัญญัติ
นี้
ก. กฎกระทรวงและคาสั่ง
ข. กฎกระทรวงและประกาศ
ค. ประกาศและคาสั่ง
ง.ไม่มีขอ้ ถูก
24. การรั บ รองความถู ก ต้ อ งของค าแปลเป็ นภาษาไทยหรื อการยอมรั บ เอกสารที่ ท าขึ้ นเป็ น
ภาษาต่างประเทศให้เป็ นไปตาม.............
ก.หลักเกณฑ์ของเจ้าหน้าที่
ข. ระเบียบงานสารบรรณ
ค. ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดในกฎกระทรวง
ง. ถูกทุกข้อ
29. ในกรณี ที่คาสั่งทางปกครองเป็ นคาสั่งด้วยวาจาผูร้ ับคาสั่งนั้นร้องขอและการร้องขอได้กระทาโดยมี
เหตุอนั สมควรภายในกี่วนั นับตั้งแต่วนั ที่มีคาสั่งดังกล่าวเจ้าหน้าที่ผอู ้ อกคาสั่งต้องยืนยันคาสั่งเป็ นหนังสื อ
ก.3 วัน
ข.5 วัน
ค.7 วัน
ง.15 วัน
34. เมื่ อมี ค าสั่ งเป็ นหนัง สื อ เตื อน ทางปกครองให้ไ ปชาระเงิ น ถ้า ไม่ ได้บ ตั รตามคาเตื อนเจ้า หน้า ที่ มี
มาตรการบังคับทางการปกครองโดย
ก. นากาลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว เพื่อดาเนินคดี
ข. ยึดหรื ออายัดทรัพย์สินผูน้ ้ นั
ค. นาทรัพย์สินที่ยดึ หรื ออายัดทรัพย์สินผูน้ ้ นั ไปขายทอดตลาดเพื่อชาระเงินให้ครบถ้วน
ง.ถูกทั้ง ข. เเละ ค.
35. หน่วยงานของรัฐที่ออกคาสั่งให้ชาระเงินต้องดาเนิ นการยึดหรื ออายัดทรัพย์สินภายในกี่ปีนับแต่วนั ที่
คาสั่งทางปกครอง ที่กาหนดให้ชาระเป็ นที่สุด
ก.10 ปี
ข.12 ปี
ค.13 ปี
ง. ไม่มีขอ้ ถูก
2. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับพระราชบัญญัติน้ ี
ก. ผูร้ ับสนองพระบรมราชโองการ คือ นายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรี
ข. ตราขึ้นโดยคาแนะนาและยินยอมของรัฐสภา
ค. ตราขึ้นโดยสภานิติบญั ญัติแห่งชาติในยุครัฐประหาร
ง. พระราชบัญญัติน้ ีเรี ยกว่า "พระราชบัญญัติวธิ ี ปฏิบตั ิราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539"
3. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับพระราชบัญญัติฉบับนี้
ก. ไม่มีการแก้ไข
ข. พระราชบัญญัติวธิ ีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557
ค. พระราชบัญญัติวธิ ีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560
ง. พระราชบัญญัติวธิ ีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2561
4. หน่วยงานใดทาหน้าที่เป็ นสานักงานเลขานุการคณะกรรมการวิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง
ก. สานักงานคณะกรรมการวิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง
ข. สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ค. สานักงานอัยการสู งสุ ด
ง. สานักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
5. ข้อใดไม่ใช่อานาจหน้าที่ของคณะกรรมการวิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง
ก. ดาเนินการตามที่นายกรัฐมนตรี มอบหมาย
ข. ให้คาปรึ กษาแก่เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการปฏิบตั ิตามพระราชบัญญัติน้ ี
ค. ให้คาแนะนะเกี่ยวกับการดาเนินงานของเจ้าหน้าที่
ง. เสนอแนะการออกระเบียบตามพระราชบัญญัติน้ ี
6. เกี่ยวกับวาระดารงตาแหน่งในข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ประธานกรรมการมีวาระดารงตาแหน่ง 4 ปี
ข. กรรมการผูท้ รงคุณวุฒิมีวาระดารงตาแหน่ง 3 ปี
ค. ประธานกรรมการพ้นจากตาแหน่งเมื่อคณะรัฐมนตรี มีมติให้ออก
ง. กรรมการผูท้ รงคุณวุฒิพน้ จากตาแหน่งเมื่อต้องคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก
7. พระราชบัญญัติน้ ีใช้บงั คับแก่กรณี ใด
ก. การดาเนินงานตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
ข. ระยะเวลาอุทธรณ์ตามกฎหมายควบคุมอาคาร
ค. วิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง
ง. การดาเนินกิจการขององค์การทางศาสนา
8. ข้อใดมิใช่บทบาทสาคัญของเลขาธิ การคณะกรรมการกฤษฎีกาตามกฎหมายนี้
ก. ร่ วมพิจารณากับคณะกรรมการวิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง
ข. ให้คาแนะนาการปรับปรุ งปฏิบตั ิราชการทางปกครอง
ค. สนับสนุนฝ่ ายเลขานุการคณะกรรมการวิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง
ง. รับผิดชอบงานประชุมของคณะกรรมการวิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง
9. ข้อใดคือความหมายของคาสั่งทางปกครอง
ก. การใช้อานาจของเจ้าหน้าที่ เช่น การออกกฎ
ข. การใช้อานาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ เช่น การไม่อนุญาต
ค. การใช้อานาจของเจ้าหน้าที่ เช่น คาสั่งวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
ง. การออกคาสัง่ ของเจ้าหน้าที่ตามสัญญาก่อสร้าง
10. ข้อใดคือความหมายของวิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง
ก. การเตรี ยมการและการดาเนินการของเจ้าหน้าที่
ข. มีวตั ถุประสงค์เพื่อจัดให้มีคาสั่งทางปกครองหรื อกฎ
ค. รวมถึงการดาเนินการใดๆ ในทางปกครองตามพระราชบัญญัติน้ ีดว้ ย
ง. ถูกทุกข้อ
18. ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. ขั้นตอนการอุทธรณ์ตอ้ งเป็ นไปตามพระราชบัญญัติน้ ี เพราะเป็ นหลักเกณฑ์ที่ประกันความเป็ น
ธรรมและมีมาตรฐานในการปฏิบตั ิราชการ
ข. ระยะเวลาการอุทธรณ์ตอ้ งเป็ นไปตามกฎหมายเฉพาะกาหนด
ค. ขั้นตอนและระยะเวลาการอุ ทธรณ์ ตอ้ งเป็ นไปตามพระราชบัญญัติน้ ี เพราะเป็ นหลักเกณฑ์ที่
ประกันความเป็ นธรรมและมีมาตรฐานในการปฏิบตั ิราชการ
ง. ขั้นตอนและระยะเวลาการอุทธรณ์ตอ้ งเป็ นไปตามกฎหมายเฉพาะกาหนด
19. วันใช้บงั คับพระราชบัญญัติวธิ ีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ค. วันพ้นกาหนด 180 วัน นับแต่วนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ง. วันพ้นกาหนด 180 วัน นับแต่วนั ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เฉลย
1.ตอบ ค. (ดูมาตรา 7 วรรคสอง)
2.ตอบ ค. (ดูคาปรารภ)
3.ตอบ ข. (พระราชบัญญัติวิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557 ประกาศในราชกิ จจา
นุเบกษา เล่ม 131 ตอนที่ 89 ก วันที่ 30 ธันวาคม 2557)
4.ตอบ ข. (ดูมาตรา 10)
5.ตอบ ง. (ดูมาตรา 11 (4) เสนอแนะการตราพระราชกฤษฎีกา ออกกฎกระทรวง/ประกาศ)
6.ตอบ ก. (ดูมาตรา 8 และมาตรา 76)
7.ตอบ ค. (ดูมาตรา 3 และมาตรา 4)
8.ตอบ ข. (ดูมาตรา 4 มาตรา 10 มาตรา 11)
9.ตอบ ข. (ดูมาตรา 5)
10.ตอบ ง. (ดูมาตรา 5)
11.ตอบ ก. (ดูมาตรา 7)
12.ตอบ ค. (ดูมาตรา 7)
13.ตอบ ข. (ดูมาตรา 5)
14.ตอบ ก. (ดูมาตรา 6)
15.ตอบ ค. (ดูมาตรา 5)
16.ตอบ ง. (ดูมาตรา 4 วรรคท้าย)
17.ตอบ ง. (ดูมาตรา 4 (4))
18.ตอบ ง. (ดูมาตรา 3)
19.ตอบ ง. (ดูมาตรา 2)
20.ตอบ ค. (ประกาศในราชกิ จจานุ เบกษาเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2539 และมีผลใช้บงั คับเมื่อวันที่ 14
พฤษภาคม 2540 เป็ นต้นไป ซึ่ งเป็ นวันที่ พน้ กาหนด 180 วัน นับแต่วนั ถัดจากวันประกาศในราชกิ จจา
นุเบกษา)
ชุดที่ 3
1. พระราชบัญญัติวิธีปฏิบตั ิวิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง ไม่ใช่บงั คับองค์กรหรื อหน่วยราชการตามข้อ
ใด
ก. รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี
ข. การดาเนินงานตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
ค. การดาเนินกิจการทางศาสนา
ง. ถูกทุกข้อ
2. ข้อใดเป็ นคาสั่งทางปกครอง
ก. คาสั่งของเจ้าหน้าที่ ซ่ ึ งใช้อานาจตามกฎหมายในการสั่งและมี ผลกระทบต่อสถานภาพของ
สิ ทธิหรื อหน้าที่ของบุคคล
ข. การอนุญาตหรื อไม่อนุญาตอันก่อให้เกิดสิ ทธิ หรื อระงับซึ่ งสิ ทธิ ของบุคคล
ค. การวินิจฉัยของเจ้าหน้าที่อนั มีผลกระทบต่อสถานภาพของสิ ทธิ หรื อหน้าที่ของบุคคล
ง. ถูกทุกข้อ
8. บุคคลข้อใดที่ทาตามหน้าที่เลขานุการในคณะกรรมการวิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง
ก. เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข. เลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ค. ข้าราชการของสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เลขาธิ การคณะกรรมการกฤษฎีกาแต่งตั้ง
ง. ข้าราชการของสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เลขาธิ การคณะรัฐมนตรี แต่งตั้ง
10. หน่ วยงานที่ ทาหน้าที่ สานัก งานเลขานุ การของคณะกรรมการวิธี ปฏิ บตั ิ ราชการทางปกครอง คื อ
หน่วยงานในข้อใด
ก. สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข. สานักงานคณะกรรมการรัฐมนตรี
ค. สานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรื อน
ง. กรมการปกครอง
12. เจ้าหน้าที่ตามข้อใดทาการพิจารณาทางปกครองได้
ก. เป็ นคู่กรณี ในคดี
ข. เป็ นเจ้าหนี้หรื อลูกหนี้ หรื อเป็ นนายจ้างของคู่กรณี
ค. เป็ นผูบ้ งั คับบัญชาของคู่กรณี
ง. เป็ นผูบ้ งั คับบัญชาของคู่กรณี ในคดี
19. คู่กรณี มีสิทธิ ขอตรวจดูเอกสารที่จาเป็ นต้องรู ้เพื่อการโต้แย้งสิ ทธิ หรื อชี้ แจงหรื อป้ องกันสิ ทธิ ของตน
ได้ การขอ ดังกล่าวไม่รวมถึงการขอในข้อใด
ก. ขอตรวจดูเอกสารต้นร่ างคาวินิจฉัย ในขณะที่ยงั ไม่ได้ทาคาสั่งทางปกครอง
ข. ขอสาเนาเอกสารที่เป็ นพยานหลักฐานทั้งหมด
ค. ขอดูหลักฐานที่เจ้าหน้าที่เก็บรักษาไว้
ง. มีสิทธิขอดูได้ทุกกรณี
20. รู ปแบบคาสั่งทางการปกครองในข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ทาเป็ นหนังสื อ
ข. เป็ นคาสั่งด้วยวาจาก็ได้
ค. สั่งทางจดหมายอิเล็คทรอนิกส์
ง. คาสั่งทางปกครองอาจใช้รูปแบบได้ท้ งั ข้อ ก , ข และข้อ ค
23. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการอุทธรณ์คาสั่งทางปกครอง
ก. ให้คู่กรณี อุทธรณ์คาสั่งทางปกครองต่อเจ้าหน้าที่ทาคาสั่งภายใน 15 วันนับแต่วนั ที่ได้รับแจ้ง
คาสั่ง
ข. การอุทธรณ์คาสั่งทางปกครองสามารถอุทธรณ์ดว้ ยวาจาได้
ค. การอุทธรณ์ไม่เป็ นเหตุให้ทุเลาการบังคับตามคาสั่งทางปกครอง
ง. เจ้าหน้าที่ตอ้ งพิจารณาคาอุทธรณ์และแจ้งผูอ้ ุทธรณ์ภายในไม่เกิน 30 วันนับแต่วนั ที่ได้รับการ
อุทธรณ์
24. ในการพิจารณาอุทธรณ์ เจ้าหน้าที่มีอานาจพิจารณาในประเด็นตามข้อใด
ก. พิจารณาในประเด็นปัญหาข้อเท็จจริ ง
ข. พิจารณาประเด็นปัญหาข้อกฎหมาย
ค. พิจารณาความเหมาะสมของการทาคาสั่งทางการปกครอง
ง. ถูกทุกข้อ
3.ในกรณี ที่ มี ก ารยื่นค าขอหลายคาขอนั้นมี ข ้อความท านองเดี ย วกัน สามารถที่ จะระบุ บุ ค คลใดเป็ น
ตัวแทนร่ วมได้ ในกรณี เช่นนี้ตอ้ งมีผลู ้ งชื่อร่ วมเกินกว่ากี่คน
ก. เกินสามสิ บคน ข. เกินห้าสิ บคน
ค. เกินห้าร้อยคน ง. เกินหนึ่งพันคน
7.จากข้อข้างต้น อาจมีการชาระค่าปรับทางปกครองในอัตราไม่เกินเท่าใดต่อวัน
ก. 5,000 บาท/วัน
ข. 10,000 บาท/วัน
ค. 15,000 บาท/วัน
ง. 20,000 บาท/วัน
8.การแจ้งคาสั่งทางปกครองโดยวิธีส่งทางไปรษณี ยต์ อบรับ ให้ถือว่าได้รับแจ้งเมื่อครบกาหนดกี่วนั นับ
แต่วนั ส่ ง ทั้งในกรณี ภายในประเทศและต่างประเทศ
ก. 3 วัน, 7 วัน ข. 5 วัน, 7 วัน
ค. 7 วัน, 15 วัน ง. 15 วัน, 30 วัน
ชุดที่ 5
1. พระราชบัญญัติวิธีปฏิบตั ิวิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง ไม่ใช่บงั คับองค์กรหรื อหน่วยราชการตามข้อ
ใด
ก. รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี
ข. การดาเนินงานตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
ค. การดาเนินกิจการทางศาสนา
ง. ถูกทุกข้อ
13. หน่ วยงานที่ ทาหน้าที่ สานัก งานเลขานุ การของคณะกรรมการวิธี ปฏิ บตั ิ ราชการทางปกครอง คื อ
หน่วยงานในข้อใด
ก. สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ข. สานักงานคณะกรรมการรัฐมนตรี
ค. สานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรื อน ง. กรมการปกครอง
14. กรรมการในคณะกรรมการวิธีปฏิ บตั ิราชการทางปกครองที่ คณะรั ฐมนตรี แต่งตั้งมี วาระการดารง
ตาแหน่ง คราวละกี่ปี
ก. 2 ปี ข. 3 ปี ค. 4 ปี ง. 5 ปี
16. เจ้าหน้าที่ตามข้อใดทาการพิจารณาทางปกครองได้
ก. เป็ นคู่กรณี ในคดี ข. เป็ นเจ้าหนี้ หรื อลูกหนี้ หรื อเป็ นนายจ้างของ
คู่กรณี
ค. เป็ นผูบ้ งั คับบัญชาของคู่กรณี ง. เป็ นผูบ้ งั คับบัญชาของคู่กรณี ในคดี
17. เจ้าหน้าที่ในข้อใดที่จะทาการพิจารณาทางปกครองไม่ได้
ก. เป็ นคู่หมั้นของคู่กรณี ข. เป็ นญาติของคู่กรณี
ค. เป็ นนายจ้างของคู่กรณี ง. ทุกข้อที่กล่าวมาจะทาการพิจารณาทางปกครองไม่ได้
21. ในกรณี ที่ มี คู่ ก รณี เ กิ น ห้ า สิ บ คนยื่ น ค าขอให้ มี ค าสั่ ง ทางปกครองในเรื่ อ งเดี ย วกัน โดยไม่ มี ก าร
กาหนดให้บุคคลใด เป็ นตัวแทนร่ วมของตน ให้เจ้าหน้าที่ในเรื่ องนั้นแต่งตั้งบุคคล ดังข้อใดเป็ นตัวแทน
ร่ วมของบุคคลดังกล่าว
ก แต่งตั้งบุ คคลที่คู่กรณี คดั เลื อกเป็ นตัวแทนร่ วม ข แต่งตั้งบุคคลที่คู่กรณี แต่งตั้งขึ้นเป็ น
ตัวแทนร่ วม
ค แต่งตั้งคู่กรณี ฝ่ายข้างมากเห็นชอบเป็ นตัวแทนร่ วม ง แต่งตั้งคู่กรณี ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
เป็ นตัวแทนร่ วม
27. คู่กรณี มีสิทธิ ขอตรวจดูเอกสารที่จาเป็ นต้องรู ้เพื่อการโต้แย้งสิ ทธิ หรื อชี้ แจงหรื อป้ องกันสิ ทธิ ของตน
ได้ การขอดังกล่าวไม่รวมถึงการขอในข้อใด
ก. ขอตรวจดูเอกสารต้นร่ างคาวินิจฉัย ในขณะที่ยงั ไม่ได้ทาคาสั่งทางปกครอง
ข. ขอสาเนาเอกสารที่เป็ นพยานหลักฐานทั้งหมด
ค. ขอดูหลักฐานที่เจ้าหน้าที่เก็บรักษาไว้
ง. มีสิทธิขอดูได้ทุกกรณี
28. รู ปแบบคาสัง่ ทางการปกครองในข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ทาเป็ นหนังสื อ ข. เป็ นคาสั่งด้วยวาจาก็ได้
ค. สั่งทางจดหมายอิเล็กทรอนิ กส์ ง. คาสั่งทางปกครองอาจใช้รูปแบบได้ท้ งั ข้อ ก ,
ข และข้อ ค
32. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการอุทธรณ์คาสั่งทางปกครอง
ก. ให้คู่กรณี อุทธรณ์ คาสั่งทางปกครองต่อเจ้าหน้าที่ทาคาสั่งภายใน 15 วันนับแต่วนั ที่ ได้รับแจ้ง
คาสั่ง
ข. การอุทธรณ์คาสั่งทางปกครองสามารถอุทธรณ์ดว้ ยวาจาได้
ค. การอุทธรณ์ไม่เป็ นเหตุให้ทุเลาการบังคับตามคาสั่งทางปกครอง
ง. เจ้าหน้าที่ตอ้ งพิจารณาคาอุทธรณ์ และแจ้งผูอ้ ุทธรณ์ ภายในไม่เกิ น 30 วันนับแต่วนั ที่ได้รับการ
อุทธรณ์
35. ผูว้ ่า ราชการจัง หวัด มี ค าสั่ ง ให้นายแดงกรรมการองค์ก รปกครองส่ วนท้องถิ่ นแห่ ง หนึ่ ง พ้นจาก
ตาแหน่ง นายแดงต้องการอุทธรณ์ จะยืน่ อุทธรณ์ต่อใคร Act.
ก. ผูว้ า่ ราชการจังหวัดที่ออกคาสั่งนั้น ข. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ค. รัฐมนตรี วา่ การกระทรวงมหาดไทย ง. ศาลปกครอง
5.ตอบ ก. จากข้อ2.
6. ตอบ ง. (๒) การอื่นที่กาหนดในกฎกระทรวง
“กฎ” หมายความว่า พระราชกฤษฎี ก า กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ข้อบัญญัติท ้องถิ่ น ระเบี ย บ
ข้อบังคับ หรื อบทบัญญัติอื่นที่มีผลบังคับเป็ นการทัว่ ไป โดยไม่มุ่งหมายให้ใช้บงั คับแก่กรณี ใดหรื อบุคคล
ใดเป็ นการเฉพาะ
ไม่รวมพระราชบัญญัติ
7.ตอบ. ง.
11.ตอบ ค. จากข้อ 9.
12.ตอบ. ค.
13.ตอบ. ก.
19ตอบ ง.มาตรา ๒๑ บุ ค คลธรรมดา คณะบุ ค คล หรื อนิ ติบุ ค คล อาจเป็ นคู่ ก รณี ใ นการพิ จารณาทาง
ปกครองได้ตามขอบเขตที่ สิ ท ธิ ข องตนถู ก กระทบกระเทื อนหรื ออาจถู ก กระทบกระเทื อนโดยมิ อาจ
หลีกเลี่ยงได้
20.ตอบ ก. มาตรา ๒๕ ในกรณี ที่มีการยื่นคาขอโดยมีผลู ้ งชื่ อร่ วมกันเกินห้าสิ บคนหรื อมีคู่กรณี เกินห้าสิ บ
คนยื่นคาขอที่มีขอ้ ความอย่างเดียวกันหรื อทานองเดียวกัน ถ้าในคาขอมีการระบุให้บุคคลใดเป็ นตัวแทน
ของบุ คคลดังกล่ า วหรื อมี ขอ้ ความเป็ นปริ ยายให้เข้าใจได้เช่ นนั้น ให้ถือว่าผูท้ ี่ ถูกระบุ ชื่อดังกล่ า วเป็ น
ตัวแทนร่ วมของคู่กรณี เหล่านั้น
ในกรณี ที่มีคู่กรณี เกินห้าสิ บคนยื่นคาขอให้มีคาสั่งทางปกครองในเรื่ องเดียวกัน โดยไม่มีการกาหนดให้
บุคคลใดเป็ นตัวแทนร่ วมของตนตามวรรคหนึ่ ง ให้เจ้าหน้าที่ในเรื่ องนั้นแต่งตั้งบุคคลที่คู่กรณี ฝ่ายข้างมาก
เห็นชอบเป็ นตัวแทนร่ วมของบุคคลดังกล่าว ในกรณี น้ ี ให้นามาตรา ๒๔ วรรคสอง และวรรคสาม มาใช้
บังคับโดยอนุโลม
ตัวแทนร่ วมตามวรรคหนึ่งหรื อวรรคสองต้องเป็ นบุคคลธรรมดา
คู่กรณี จะบอกเลิ กการให้ตวั แทนร่ วมดาเนิ นการแทนตนเมื่ อใดก็ได้แต่ตอ้ งมีหนังสื อแจ้งให้เจ้าหน้าที่
ทราบและดาเนินการใด ๆ ในกระบวนการพิจารณาทางปกครองต่อไปด้วยตนเอง
ตัวแทนร่ วมจะบอกเลิกการเป็ นตัวแทนเมื่อใดก็ได้ แต่ตอ้ งมีหนังสื อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบกับต้องแจ้งให้
คู่กรณี ทุกรายทราบด้วย
21.ตอบ. ค.
22.ตอบ ค. มาตรา ๒๖ เอกสารที่ ยื่นต่อเจ้า หน้า ที่ ให้จดั ท าเป็ นภาษาไทย ถ้า เป็ นเอกสารที่ ท าขึ้ นเป็ น
ภาษาต่างประเทศ ให้คู่กรณี จดั ทาคาแปลเป็ นภาษาไทยที่มีการรับรองความถูกต้องมาให้ภายในระยะเวลา
ที่เจ้าหน้าที่กาหนด ในกรณี น้ ี ให้ถือว่าเอกสารดังกล่าวได้ยื่นต่อเจ้าหน้าที่ในวันที่เจ้าหน้าที่ได้รับคาแปล
นั้น เว้นแต่เจ้าหน้าที่จะยอมรับเอกสารที่ทาขึ้นเป็ นภาษาต่างประเทศ และในกรณี น้ ี ให้ถือว่าวันที่ได้ยื่น
เอกสารฉบับที่ทาขึ้นเป็ นภาษาต่างประเทศเป็ นวันที่เจ้าหน้าที่ได้รับเอกสารดังกล่าว
การรับรองความถูกต้องของคาแปลเป็ นภาษาไทยหรื อการยอมรับเอกสารที่ ทาขึ้นเป็ นภาษาต่างประเทศ
ให้เป็ นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดในกฎกระทรวง
23.ตอบ ข. มาตรา ๒๗ ให้เจ้าหน้าที่แจ้งสิ ทธิ และหน้าที่ในกระบวนการพิจารณาทางปกครองให้คู่กรณี
ทราบตามความจาเป็ นแก่กรณี
ถ้าคาขอหรื อคาแถลงมีขอ้ บกพร่ องหรื อมีขอ้ ความที่อ่านไม่เข้าใจหรื อผิดหลงอันเห็นได้ชดั ว่าเกิ ด
จากความไม่รู้หรื อความเลินเล่อของคู่กรณี ให้เจ้าหน้าที่แนะนาให้คู่กรณี แก้ไขเพิ่มเติมให้ถูกต้อง
24.ตอบ. ง.มาตรา ๒๘ ในการพิจารณาทางปกครอง เจ้าหน้าที่อาจตรวจสอบข้อเท็จจริ งได้ตามความ
เหมาะสมในเรื่ องนั้น ๆ โดยไม่ตอ้ งผูกพันอยูก่ บั คาขอหรื อพยานหลักฐานของคู่กรณี
25.ตอบ. ง.มาตรา ๒๙ เจ้าหน้าที่ตอ้ งพิจารณาพยานหลักฐานที่ตนเห็ นว่าจาเป็ นแก่การพิสูจน์ขอ้ เท็จจริ ง
ในการนี้ ให้รวมถึงการดาเนินการดังต่อไปนี้
(๑) แสวงหาพยานหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง
(๒) รับฟังพยานหลักฐาน คาชี้แจง หรื อความเห็นของคู่กรณี หรื อของพยานบุคคลหรื อพยานผูเ้ ชี่ ยวชาญที่
คู่กรณี กล่าวอ้าง เว้นแต่เจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็ นการกล่าวอ้างที่ไม่จาเป็ นฟุ่ มเฟื อยหรื อเพื่อประวิงเวลา
(๓) ขอข้อเท็จจริ งหรื อความเห็นจากคู่กรณี พยานบุคคล หรื อพยานผูเ้ ชี่ยวชาญ
(๔) ขอให้ผคู ้ รอบครองเอกสารส่ งเอกสารที่เกี่ยวข้อง
(๕) ออกไปตรวจสถานที่
คู่กรณี ตอ้ งให้ความร่ วมมือกับเจ้าหน้าที่ ในการพิสูจน์ขอ้ เท็จจริ ง และมี หน้าที่ แจ้งพยานหลักฐานที่ตน
ทราบแก่เจ้าหน้าที่
พยานหรื อพยานผูเ้ ชี่ ยวชาญที่ เจ้าหน้าที่เรี ยกมาให้ถอ้ ยคาหรื อทาความเห็ นมีสิทธิ ได้รับค่าป่ วยการตาม
หลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดในกฎกระทรวง
26.ตอบ ข.มาตรา ๓๐ ในกรณี ที่คาสั่งทางปกครองอาจกระทบถึงสิ ทธิ ของคู่กรณี เจ้าหน้าที่ตอ้ งให้คู่กรณี
มีโอกาสที่จะได้ทราบข้อเท็จจริ งอย่างเพียงพอและมีโอกาสได้โต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานของตน
ความในวรรคหนึ่ งมิให้นามาใช้บงั คับในกรณี ดงั ต่อไปนี้ เว้นแต่เจ้าหน้าที่จะเห็นสมควรปฏิบตั ิเป็ นอย่าง
อื่น
(๑) เมื่อมีความจาเป็ นรี บด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดความเสี ยหายอย่างร้ายแรงแก่ผหู ้ นึ่งผูใ้ ด
หรื อจะกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ
(๒) เมื่ อจะมี ผ ลทาให้ระยะเวลาที่ กฎหมายหรื อกฎก าหนดไว้ในการท าค าสั่ ง ทางปกครองต้องล่ าช้า
ออกไป
(๓) เมื่อเป็ นข้อเท็จจริ งที่คู่กรณี น้ นั เองได้ให้ไว้ในคาขอ คาให้การหรื อคาแถลง
(๔) เมื่อโดยสภาพเห็นได้ชดั ในตัวว่าการให้โอกาสดังกล่าวไม่อาจกระทาได้
(๕) เมื่อเป็ นมาตรการบังคับทางปกครอง
(๖) กรณี อื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
ห้า มมิ ใ ห้เ จ้า หน้า ที่ ใ ห้โอกาสตามวรรคหนึ่ ง ถ้า จะก่ อให้ เ กิ ดผลเสี ย หายอย่า งร้ า ยแรงต่ อ ประโยชน์
สาธารณะ
27.ตอบ ก . มาตรา ๓๑ คู่ กรณี มี สิท ธิ ข อตรวจดู เอกสารที่ จาเป็ นต้องรู ้ เพื่อการโต้แย้ง หรื อชี้ แจงหรื อ
ป้ องกันสิ ทธิ ของตนได้ แต่ถา้ ยังไม่ได้ทาคาสั่งทางปกครองในเรื่ องนั้น คู่กรณี ไม่มีสิทธิ ขอตรวจดูเอกสาร
อันเป็ นต้นร่ างคาวินิจฉัย
การตรวจดูเอกสาร ค่าใช้จ่ายในการตรวจดูเอกสาร หรื อการจัดทาสาเนาเอกสารให้เป็ นไปตามหลักเกณฑ์
และวิธีการที่กาหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๓๒ เจ้าหน้าที่อาจไม่อนุ ญาตให้ตรวจดูเอกสารหรื อพยานหลักฐานได้ ถ้าเป็ นกรณี ที่ตอ้ งรักษาไว้
เป็ นความลับ
28.ตอบ ง.มาตรา ๓๔ คาสั่งทางปกครองอาจทาเป็ นหนังสื อ หรื อ วาจา หรื อโดยการสื่ อความหมายใน
รู ปแบบอื่นก็ได้ แต่ตอ้ งมีขอ้ ความหรื อความหมายที่ชดั เจนเพียงพอที่จะเข้าใจได้
29.ตอบ ง.
34.ตอบ ข.
35.ตอบ ก.