Professional Documents
Culture Documents
Article 20190626110705
Article 20190626110705
Article 20190626110705
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
นายพงษ์ธวัฒน์ บุญพิทักษ์
วิทยากรปฏิบัติการ
กลุ่มงานกฎหมาย ๓ สานักกฎหมาย
บทความนี้ใช้เพื่อนาออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภา
รายการเจตนารมณ์กฎหมาย
สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
การแบ่งทรัพย์มรดกระหว่างทายาทโดยธรรม
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
นายพงษ์ธวัฒน์ บุญพิทักษ์
วิทยากร
สานักกฎหมาย สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ความเป็นมา
กฎหมายลักษณะมรดกของไทยมีที่มาจากจารีตประเพณีดั้งเดิม ซึ่งถือปฏิบัติกันมาแต่ครั้ง
โบราณนับตั้งแต่กรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ปรากฏข้อความในศิลาจาลึกตอนหนึ่งว่า “ไพร่ฟ้าหน้าใส ลูก
เจ้าลูกขุนผู้ใดแล้ ล้มตายหายกว่าเหย้าเรือนพ่อเชื้อ เสื้อคา มันช้างขอลูกเมียเยียข้าว ไพร่ฟ้าข้าไทย
ป่าหมากป่าพลูเชื้อมัน ไว้แก่ลูกมันสิ้น”
หมายความว่ า เมื่ อ บุ ค คลใดตายทรั พ ย์ ม รดกทั้ ง หมดไม่ ว่ า จะเป็ น บ้ า นเรื อ น เสื้ อ ผ้ า
เครื่องนุ่งห่ม สัตว์พาหนะ ข้าทาสบริวาร รวมทั้งที่ดินที่ครอบครองทาประโยชน์ปลูกหมากปลูกพลู ตก
ทอดไปยังบุตรทั้งสิ้น ญาติอื่นไม่ได้รับส่วนแบ่งมรดกเลย แต่ตามจารีตประเพณีในสมัยกรุงสุโขทัยบุตร
จะได้รับมรดกไม่เท่ากัน ส่วนแบ่งของบุตรแต่ละคนขึ้นอยู่กับว่าบุตรได้ทาคุณประโยชน์ ให้บิดามารดา
มากน้อยขนาดไหน เช่น บุตรที่ปรนนิบัติรับใช้บิดามารดาหรือบุตรที่บวชให้บิดามารดาจะได้รับมรดก
มากกว่าบุตรคนอื่น ๆ เป็นต้น1
ครั้นในสมัยกรุงศรี อยุธยา สมเด็จพระเอกาทศรถได้ทรงพระกรุณาโปรกเกล้าฯ ให้บัญญัติ
กฎหมายลักษณะมรดกขึ้นเป็ นลักษณ์อักษร เมื่อ พ.ศ.2155 รวม 51 มาตรา ต่อมาในสมัยกรุง
รัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้
กฎหมายเก่าที่มีมาแต่ครั้งโบราณ แล้วรวบรวมขึ้นเมื่อ พ.ศ.2347 เรียกว่า กฎหมายตราสามดวง ซึ่งมี
กฎหมายลักษณะมรดกรวมอยู่ด้วย และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราช
เมื่อ พ.ศ.2416 หมอบรัดเลย์ ได้พิมพ์ออกมาจาหน่าย 2 เล่ม เรียกว่า กฎหมาย 2 เล่ม หรือกฎหมาย
หมอบรัดเลย์ ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2444 พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ได้ทรงจัดบทใหม่
และได้ทรงอธิบายหมายเหตุไว้บ้าง ต่อจากกฎหมายลักษณะมรดก ก็มีประกาศและพระราชบัญญัติ
เกี่ยวกับกฎหมายลักษณะมรดกอีก ประกาศและพระราชบั ญญัติที่สาคัญก็คือ พระราชบัญญัติแก้ไข
เพิ่มเติมลักษณะมรดก รศ.121 ซึ่งบัญญัติถึงการแบ่งมรดกภาคญาติ และการแบ่งมรดกหญิงมีสามี
ประกาศพระบรมราชโองการให้ยกเลิกกฎหมายลักษณะมรดก บทที่ 12 พระราชบัญญัติว่าด้วยการ
ทาพินัยกรรม พ.ศ.2475 เมื่อมีพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6
แล้ว ก็เป็นอันยกเลิกกฎหมายลักษณะมรดกไปในตัว
1
พรชัย สุนทรพันธ์, คาอธิบายกฎหมายลักษณะมรดก, กรุงเทพฯ : สานักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา,
2560. หน้า 1
๒
ขอบเขตการใช้กฎหมายลักษณะมรดก
บทบัญญัติของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 ลั กษณะมรดก ตั้งแต่ มาตรา
1599 ถึงมาตรา 1755 ใช้บังคับกับคดี แพ่งเกี่ยวกับมรดกได้ทั่วราชอาณาจักร ยกเว้น คดีแพ่ง
เกี่ยวกับมรดกที่เกิดขึ้นในเขตจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ใน
ทั้ ง 4 จั ง หวั ด นี้ นั บ ถื อ ศาสนาอิ ส ลาม ซึ่ ง มี ข นบธรรมเนี ย มประเพณี ที่ แ ตกต่ า งออกไป โดยมี
พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการใช้กฎหมายในเขตจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล พ.ศ.2489
มาตรา 3 บัญญัติว่า “ในการวินิจฉัยชี้ขาดคดีแพ่งเกี่ยวด้วยเรื่องครอบครัวและมรดกอิสลามศาสนิก
ของศาลชั้นต้นในจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล ซึ่งอิสลามศาสนิกเป็น ทั้งโจทก์จาเลยหรือ
เป็นผู้เสนอคาขอในคดีที่ไม่มีข้อพิพาท ให้ใช้กฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดกบังคับแทน
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการนั้น เว้นแต่บทบัญญัติว่าด้วยอายุความ
มรดก ทั้งนี้ ไม่ว่ามูลคดีเกิดขึ้นก่อนหรือหลังวันใช้พระราชบัญญัตินี้ ” ดังนั้น ถ้ามีข้อพิพาทเกี่ยวกับ
เรื่องมรดกเกิดขึ้นในเขต 4 จังหวัดภาคใต้ดังกล่าวและคดีต้องด้วยเงื่อนไขตามบทบัญญัติของกฎหมาย
ดั ง กล่ า วแล้ ว จะต้ อ งใช้ ก ฎหมายอิ ส ลามในเรื่ อ งมรดกแทนประมวลกฎหมายแพ่ ง และพาณิ ช ย์
บรรพ 63
2
ม.ล.เฉลิมชัย เกษมสันต์, คาอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยมรดก, กรุงเทพฯ : สานักอบรมศึกษา
กฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, 2556. หน้า 28
3
พรชัย สุนทรพันธ์, คาอธิบายกฎหมายลักษณะมรดก, กรุงเทพฯ : สานักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา,
2560. หน้า 3
๓
สาระสาคัญ
กองมรดกได้แก่
มาตรา 1600 “ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ กองมรดกของผู้ตาย
ได้แก่ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย ตลอดทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ เว้นแต่ตามกฎหมายหรือ
ว่าโดยสภาพแล้ว เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้”
ตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 1600 พอจาแนกให้เห็นว่ากองมรดกของผู้ตายนั้นได้แก่
1. ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย
2. สิทธิผู้ตาย
3. หน้าที่ของผู้ตาย
4. ความรับผิดชอบของผู้ตาย
ทรัพย์สิน มีความหมายตามมาตรา 138 คือทรัพย์และวัตถุไม่มีรูปร่าง ซึ่งอาจมีราคาและ
ถือเอาได้
ทรัพย์ มีความหมายตามมาตรา 137 คือ วัตถุมีรูปร่าง
ทรัพย์สินทุกชนิดที่ตกเป็นมรดกจึงไม่จากัดว่าจะเป็นสังหาริมทรัพย์ หรืออสังหาริมทรัพย์อาจ
เป็นวัตถุมีรูปร่างที่มีราคาและถือเอาได้ หรือเป็นวัตถุไม่มีรูปร่างที่มีราคาและถือเอาได้ก็ได้ เช่น ช้าง
ม้า สุกร โค กระบือ เสื้อผ้า แก้ว แหวน เงิน ทอง เป็นต้น
สิทธิ หมายความว่าประโยชน์ที่กฎหมายรับรองและคุ้มครองให้ สิทธิก็เป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่ง
หากมีราคาและถือเอาได้ สิทธิเป็นได้ทั้งบุคคลสิทธิและทรัพยสิทธิ เช่น สิทธิตามสัญญาเช่าซื้อ สิทธิใน
การไถ่ทรั พย์ ที่ขายฝาก สิ ทธิตามสั ญญาซื้อขาย ภาระจายอม สิ ทธิเหนือพื้นดิน สิ ทธิครอบครอง
ลิขสิทธิ์ สิทธิในเครื่องหมายการค้า เป็นต้น
หน้า ที่และความรั บผิด ของผู้ตาย ก็คือหนี้ของผู้ ตายนั่นเองซึ่งตกทอดไปยังทายาทด้ว ย
แต่ไม่ได้ห มายความว่าทายาทจะต้องรับผิ ดเป็นส่ว นตัว ในหนี้ทั้งหมด เมื่อผู้ ตายไม่มีทรัพย์สิ นพอ
ชาระหนี้ เพราะกรณีนี้บทบังคับของกฎหมายบัญญัติยกเว้นไว้ คือ
มาตรา ๑๖๐๑ ทายาทไม่จาต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอดได้แก่ตน
มาตรา ๑๗๓๔ เจ้าหนี้กองมรดกชอบแต่จะได้รับการชาระหนี้จากทรัพย์สินในกองมรดก
เท่านั้น4
ทรั พ ย์ สิ น ที่ เ ป็ น ทรั พ ย์ ม รดกของผู้ ต ายต้ อ งเป็ น ทรั พ ย์ สิ น ที่ มี อ ยู่ ก่ อ นหรื อ ขณะผู้ ต าย
ถึงแก่ความตาย เช่น ดอกผลของทรัพย์มรดกที่เกิดขึ้นภายหลังเจ้ามรดกตายไม่ใช่มรดก (คาพิพากษา
ศาลฎีกาที่ 370/2506, 678-680/2535 และ8485/2544) ทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรม
ยกทรัพย์ให้ผู้ใด ต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานต่าง ๆ ว่าเป็นทรัพย์ของผู้ตายหรือไม่ (คาพิพากษา
ศาลฎีกาที่ 583, 584/2535)5
4
กีรติ กาญจนรินทร์, คาอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 มรดก, กรุงเทพฯ : สานักอบรมศึกษา
กฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, 2560. หน้า 13
5
ม.ล.เฉลิมชัย เกษมสันต์, คาอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยมรดก, กรุงเทพฯ : สานักอบรมศึกษา
กฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, 2556. หน้า 35
๔
มรดกตกทอดแก่ใคร
เมื่อเจ้ามรดกตายมรดกย่อมตกทอดแก่ทายาทตามมาตรา 1599 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา
1602 วรรคหนึ่ง แล้ ว แต่กรณีว่าตายตามความเป็นจริงหรือตายโดยผลของกฎหมาย คือเป็นคน
สาบสูญ ถ้ามรดกไม่มีผู้รับก็ตกแก่แผ่นดินตามมาตรา 1753 นอกจากนี้ ทรัพย์สินของพระภิกษุ
ที ่ไ ด้ม าระหว่า งอยู ่ใ นสมณเพศตกเป็น ของวัด เมื ่อ พระภิก ษุม รณภาพตามมาตรา 1623
สรุป ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิช ย์ บรรพ 6 มรดก ได้บัญ ญัติเ กี่ย วกับ ทรัพ ย์สิน
สิทธิ หน้าที่และความรับ ผิดของเจ้ามรดกที่จะตกทอดไว้ 4 กรณี ดังนี้
1. ตกทอดแก่ทายาทตามมาตรา 1620 ประกอบมาตรา 1599 วรรคหนึ่งหรือมาตรา
1602 วรรคหนึ่งแล้ว แต่ก รณี อาจจะเป็นทายาทโดยสิทธิตามกฎหมายที่เรียกว่า “ทายาทโดย
ธรรม” หรือโดยพินัยกรรม ที่เรียกว่า “ผู้รับพินัยกรรม” ตามมาตรา 1603
2. ตกทอดแก่วัดที่พระภิกษุซึ่งมรณภาพมีภูมิลาเนาตามมาตรา 1623
3. ตกทอดแก่มูลนิธิตามมาตรา 1768
๕
4. ตกทอดแก่แ ผ่น ดิน เมื่อ ไม่มีท ายาทหรือ จัด ตั้ง มูล นิธิ ไ ม่ไ ด้ต ามพินัย กรรมตามมาตรา
17536
ข้อสังเกตเพิ่มเติม
1. เจ้า มรดกจะต้อ งเป็น บุค คลธรรมดาเท่า นั้น แต่ท ายาทอาจเป็น ได้ทั้ง บุค คลธรรมดา
หรือ นิติบุค คลก็ไ ด้ โดยบุค คลธรรมดาจะต้อ งเป็น ผู้มีค วามสามารถเป็น ทายาทได้ อ ยู่ใ นขณะที่
เจ้ามรดกตาย ตามมาตรา 1604 และนิติบุคคลจะต้องมีสภาพเป็นนิติบุคคลอยู่ในเวลาที่ เจ้า
มรดกถึงแก่ความตาย
2. มรดกของเจ้า มรดกย่อ มตกทอดแก่ท ายาททัน ทีที่เ จ้า มรดกตาย โดยทายาทไม่ต้อ ง
แสดงเจตนาสนองรับ
3. การแบ่ง ทรัพ ย์ม รดกของทายาทโดยธรรม ต้อ งเป็น ไปตามบทบัญ ญัติข องกฎหมาย
มาตรา 1629 ถึง มาตรา 1645 ถ้า เป็นการรับพินัยกรรมในฐานะผู้รับพินัยกรรมก็ต้ องเป็นไป
ตามที่พินัยกรรมกาหนด
ทายาท
ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิช ย์ บรรพ 6 ได้แ บ่ง ประเภทของทายาทผู้มีสิท ธิไ ด้รับ
มรดกไว้เป็น 2 ประเภท ดังที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 1603 คือ
1. ทายาทที่มีสิทธิตามกฎหมาย เรียกว่า “ทายาทโดยธรรม”
2. ทายาทที่มีสิทธิตามพินัยกรรม เรียกว่า “ผู้รับพินัยกรรม”
ทายาทโดยธรรม
มาตรา ๑๖๒๙ ทายาทโดยธรรมมีหกลาดับเท่ านั้น และภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๑๖๓๐
วรรค ๒ แต่ละลาดับมีสิทธิได้รับมรดกก่อนหลังดังต่อไปนี้ คือ
(๑) ผู้สืบสันดาน
(๒) บิดามารดา
(๓) พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
(๔) พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน
(๕) ปู่ ย่า ตา ยาย
(๖) ลุง ป้า น้า อา
คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นก็เป็นทายาทโดยธรรม ภายใต้บังคับของบทบัญญัติพิเศษแห่งมาตรา
๑๖๓๕
ทายาทโดยธรรม หมายถึง ทายาทที ่ก ฎหมายบัญ ญัต ิไ ว้ว ่า ให้ม ีส ิท ธิร ับ มรดกของ
เจ้า มรดกเมื่อ เจ้า มรดกตาย ถือ ว่า เป็น การรับ มรดกโดยผลของกฎหมาย แม้ว ่า ตนเองจะไม่
ประสงค์รับมรดกก็ตาม
6
กีรติ กาญจนรินทร์, คาอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 มรดก, กรุงเทพฯ : สานักอบรมศึกษา
กฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, 2560. หน้า 40
๖
1. ขณะที่เ ด็ก เกิด บิด ามารดามิไ ด้จ ดทะเบีย นสมรสกัน แต่ห ลัง จากเด็ก เกิด แล้ว บิด า
มารดาได้สมรสกัน
2. จดทะเบียนรับรองบุตร หมายถึงการจดทะเบียนรับเด็กซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติ
จดทะเบีย นครอบครัว และต้อ งอยู่ภ ายใต้เ งื่อ นไขของประมวลกฎหมายแพ่ง และ
พาณิชย์ เช่น จะต้องได้รับความยิน ยอมของเด็กและมารดาเด็ก
3. ศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร เช่น อาจฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้เป็นบุตรของชาย
ส่ว นผลของการเป็นบุตรที่ชอบในภายหลังนั้น มาตรา 1557 ได้บัญญัติว่า การเป็นบุตร
โดยชอบด้ว ยกฎหมายตามาตรา 1547 ให้มีผ ลนับ แต่วัน ที่เ ด็ก เกิด แต่ทั้งนี้จะอ้างเป็นเหตุเสื่ อม
สิทธิของบุคคลภายนอกผู้ทาการโดยสุจริตในระหว่างเวลาตั้งแต่เด็กเกิดจนถึงเวลาที่บิดามารดาได้
สมรสกันหรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตรหรือศาลพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นบุตรไม่ได้
บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว
ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานและเป็นทายาทโดยธรรม ลาดับที่ 1 ตามมาตรา 1629 (1) และ
มาตรา 1627 ตามบทบัญญัติในมาตราดังกล่าวบุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้วถือว่าเป็น
ผู้สืบ สัน ดาน ดัง เช่น บุต รของภริย าที่ไ ม่ไ ด้จ ดทะเบีย นสมรสที่บิด าส่ง เสีย เลี้ย งดู ให้ใ ช้น ามสกุล
บิด าเป็น ผู้แ จ้งเกิด เรีย กชายว่าบิดา รับ บุต รอยู่ใ นทะเบีย นบ้า น และแสดงออกอย่างเปิดเผยว่า
เป็นบุตร เช่นนี้ ถือว่าเป็นบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว จึงเป็นผู้สืบสันดานและเป็นทายาท
โดยธรรมลาดับที่ 1 ของเจ้ามรดก
การรับรองนั้นกฎหมายไม่ได้กาหนดแบบพิธีไว้ ฉะนั้น การรับรองจึ งต้องดูตามพฤติการณ์
เป็น เรื่อ ง ๆ ไปว่า การประพฤติป ฏิบัติที่บิด ามีต่อ บุต รนั้น เป็น ที่เ ปิด เผยถึง ขนาดวิญ ญูช นจะพึง
เข้า ใจได้ ห รือ ไม่ว่า บิด าได้รับ รองแล้ว และการประพฤติป ฏิบัติที่บิด ามีต่อ บุต รนั้น จะต้อ งเป็น ที่
เปิดเผย หากไม่เปิดเผย หรือการเป็นเพียงการปฏิบัติกันอย่างลับ ๆ ดังนี้ย่อมถือไม่ได้ว่าบิดาได้
รับรองแล้ว
บุตรบุญบุญธรรม
หมายถึงบุตรที่มิใช่ญาติสืบสายโลหิตของผู้รับบุตรบุ ญธรรมหรือมิใช่บุตรโดยกาเนิดของ
ผู้รับ บุต รบุญ ธรรม แต่ผู้รับ บุต รบุญ ธรรมแต่นามาเลี้ย งเป็น บุต รซึ่ง ประมวลกฎหมายแพ่ง และ
พาณิช ย์ มาตรา 1627 ให้ถือ เป็นผู้สืบสันดานเหมื อนบุตรที่ช อบด้ว ยกฎหมาย ดังนั้นจะเห็น ว่า
บุตรบุญธรรม ถือเป็น ผู้สืบ สัน ดานและเป็นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดกลาดับที่ 1 ตามมาตรา
1629 (1) ซึ่งการรับบุตรบุญธรรมนั้นจะต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิ ชย์และ
พระราชบัญ ญัติก ารรับ เด็ก เป็น บุต รบุญ ธรรมด้ว ย เมื่ อ ดาเนิน การตามขั้น ตอนบทบัญ ญัติ ข อง
กฎหมายแล้ว ย่อมถือว่าบุตรบุญธรรมเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย
๘
2. บิดามารดา
บิดามารดาที่อยู่ในฐานะทายาทโดยธรรม ลาดับที่ 2 ของเจ้ามรดกต้องเป็นบิดามารดาที่
ชอบด้วยกฎหมาย
สาหรับมารดาผู้ให้กาเนิด นั้น แม้ว่าจะคู่ส มรสจะชอบด้ว ยกฎหมายหรือไม่ก็ตาม บุตรที่
เกิดมาจากมารดาย่อมเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายเสมอตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1546 ดังนั้น มารดาผู้ให้กาเนิดย่อมเป็นทายาทโดยธรรมลาดับที่ 2 ของบุตรเสมอ
บิด าที่ชอบด้วยกฎหมาย หมายถึงผู้ที่สมรสกับมารดาตามกฎหมาย รวมถึงบิดาที่เข้ามา
มีค วามสัม พัน ธ์ต่อ บุต รในภายหลัง ตามมาตรา 1547 เท่า นั้น กล่า วคือ จดทะเบีย นสมรสกัน
ภายหลังบุตรเกิด จดทะเบียนรับรองบุตร และศาลมีคาพิพากษาว่าเป็นบุตร
ข้อสังเกต บิดาที่รับรองบุตรนอกกฎหมายโดยพฤตินัย ไม่ถือเป็นบิดาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
อย่า งเช่น กับ บุตรที่บิ ดารับ รองตามมาตรา 1627 เนื่อ งจากไม่มีบทบัญญัติใดของกฎหมายที่ให้
การรับรองไว้ ดังนั้น แม้บิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจะรับรองบุตรนอกกฎหมายโดยพฤตินัยก็ตาม
ก็ไม่ทาให้บิดาที่ไม่ช อบกฎหมายเป็นบิดาที่ช อบด้ว ยกฎหมาย ดังนั้น บิดาที่ไม่ช อบด้ว ยกฎหมาย
ย่อมไม่ถือเป็นทายาทโดยธรรม ตามมาตรา 1629 (2)
ผู ้ร ับ บุต รบุญ ธรรม ไม่ม ีส ิท ธิไ ด้ร ับ มรดกของบุต รบุญ ธรรมเมื ่อ บุต รบุญ ธรรมตาย
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1598/29 ที่บัญญัติว่า “การรับบุตรบุญธรรมไม่
ก่อให้เกิดสิทธิรับมรดกของบุตรบุญธรรมในฐานะทายาทโดยธรรมเพราะเหตุการณ์รับบุตรบุญธรรม
นั้น” จะเห็น ได้ว่า การรับ บุต รบุญ ธรรมไม่ก่อ ให้ เ กิด สิท ธิใ นการรับ มรดกของผู้รับ บุตรบุญธรรม
แต่บิดามารดาที่ช อบด้ว ยกฎหมาย (บิดามารดาโดยกาเนิด) ของบุตรบุญธรรมยัง มีสิทธิรับมรดก
ของบุตรบุญธรรม
3. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
พี่น้องร่ว มบิดามารดาเดียวกัน ไม่มีปัญหาเรื่องความชอบด้วยกฎหมายของบิดามารดาที่
ถือ กาเนิด เพราะมาตรา 1546 ให้ถือ ว่า หญิง ผู้ใ ห้กาเนิด แก่เ ด็ก ทุก คนเป็น มารดาที่ช อบด้ว ย
กฎหมายของเด็กทุกคน แม้จะเกิดจากหญิงไม่ได้สมรสกับชายก็ตาม
ดังนั้น พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ที่เป็นทายาทโดยธรรม ลาดับที่ 3 ถือกันตามความ
เป็นจริง
4. พี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน
พี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน ที่เป็นทายาทลาดับที่ 4 ต้องถือตามความเป็นจริง
5. ปู่ ย่า ตา ยาย
ปู่ ย่า ตา ยาย หมายถึงบุพการีโดยตรงขึ้นไปเท่านั้น ได้แก่ บิดามารดา ของบิดาหรือของ
มารดา แต่ไม่หมายรวมไปถึงพี่น้องร่วมบิดามารดาของปู่ ย่า ตา ยาย
ยังมีปัญหาว่า การเป็นปู่ ย่า ตา ยาย จะต้องเป็น ปู่ ย่า ตา ยาย ที่ชอบด้วยกฎหมายด้ว ย
หรือไม่ ยังมีความเห็นต่างออกเป็น 2 แนว กล่าวคือ
๙
การแบ่งมรดกระหว่างทายาทโดยธรรม
การแบ่งมรดกระหว่างทายาทโดยธรรม มีข้อพิจารณาดังนี้
1. ต้องพิจารณาก่อนว่า เจ้ามรดกทาพินัยกรรมหรือไม่ หากทาไว้มีผลบังคับหรือไม่ หรือ
พินัยกรรมนั้นจาหน่ายทรัพย์หรือไม่ หรือมีผลบังคับได้แต่เพียงบางส่วนแห่งทรัพย์มรดก ตามมาตรา
1620 หรือผู้รับพินัยกรรมได้สละมรดกหรือไม่ ตามมาตรา 1618 หรือพินัยกรรมหรือข้อกาหนดใน
พินัยกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินรายใดเป็นอันไร้ผลหรือไม่ ตามาตรา 1699
2. เมื่อพิจารณาตามข้อ 1 แล้ว มีทรัพย์มรดกเหลืออยู่เพียงใด ก็จัดแบ่งแก่ทายาทโดยธรรม
ต่อไป
3. เจ้ามรดกตายในขณะที่คู่สมรสยังมีชีวิตหรือไม่ ถ้ามีก็ดาเนินการตามมาตรา 1625 (1)
ก่อน คือเจ้ามรดกมีสินส่วนตัว สินสมรสอย่างไร ถ้าเป็นสินสมรสต้องแบ่งสินสมรสให้คู่สมรสได้ส่วน
เท่ากันตาม มาตรา 1533 เพราะมาตรา 1625 (1) 7
เมื่อมีการแบ่งทรัพย์สินระหว่างคู่สมรสแล้ วทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ตายที่มีอยู่ย่อมเป็นทรัพย์
มรดกที่จะแบ่งปันให้แก่ทายาทผู้มีสิทธิต่อไปซึ่งทายาทโดยธรรมมีอยู่ 2 ประเภท คือ ทายาทโยธรรมที่
เป็นญาติและที่เป็นคู่สมรส ส่วนทายาทโดยธรรมชั้นใด ลาดับใดจะมีสิทธิรับมรดกก่อนหลังเช่นไรย่อม
เป็นไปตามที่กฎหมายกาหนด
7
ม.ล.เฉลิมชัย เกษมสันต์, คาอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยมรดก, กรุงเทพฯ : สานักอบรมศึกษา
กฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, 2556. หน้า 137
๑๐
สรุป
บรรณานุกรม
หนังสือ
เฉลิมชัย เกษมสันต์, ม.ล.. คาอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยมรดก. พิมพ์ครั้งที่ 8,
กรุงเทพมหานคร: สานักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, 2556.
พรชัย สุนทรพันธ์. คาอธิบายกฎหมายลักษณะมรดก. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพมหานคร: สานักอบรม
ศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, 2560.
กีรติ กาญจนรินทร์ . คาอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 มรดก. พิม พ์ครั้งที่ 3.
กรุงเทพมหานคร: สานักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, 2560.
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์