เฉลย เคมี Net Sat

150 ความฉลาดรู้เฉพาะด้านเคมี
เฉลยละเอียดความฉลาดรู้เฉพาะด้านเคมี ปี 2565
ข้อ ตอบ ข้อ ตอบ ข้อ ตอบ ข้อ ตอบ ข้อ ตอบ
1 4 6 3 11 2 16 4 21 4
2 - 7 3 12 4 17 4 22 2
3 3 8 1 13 4 18 1 23 3
4 2 9 2 14 3 19 2 24 4
5 4 10 1 15 2 20 3 25 2
ข้อ 1 ตอบ 4
วิธีคิด ตอบ ข้อ 4 เพราะ ่าจากโจทย์แ ดงค่านัย ำคัญ 5 ตั คือ 3, 7, 8, 9 และ 2 เมื่อเอาเลข
นัย ำคัญ 3 ตั 3.7892 จะปัดเลข 9 จะปัดขึ้นเป็น 3.79 ซึ่งตรงกับข้อ 4
ข้อ 1 ผิด เพราะ เป็นการใช้อุปกรณ์ที่ผิด ไม่ ามารถใช้ข ดปรับปริมาตรในการเตรียม
ารละลายได้ ค รใช้เพื่อปรับปริมาตร ารเท่านั้น
ข้อ 2 ผิด เพราะ น้ำเกลือมีจุดเดือดที่ ูงมากก ่าน้ำ (100อง า) ดังนั้นไม่ ามารถใช้
เทอมอมิเตอร์ในการ ัดและค บคุมอุณ ภูมิจนถึงจุดเดือดได้ เพราะ
เทอมอมิเตอร์มีขีด ูง ุดเพียงแค่ 100 ℃ อุปกรณ์จึงไม่เ มาะ ม
ข้อ 3 ผิด เพราะ รูป E ไม่ใช่ข ดรูปชมพู แต่เป็นข ด ัดปริมาตร
ข้อ 2 ตอบ ไม่มีข้อใดถูก

วิธีคิด ข้อที่ใกล้เคียงที่ ุดคือ ข้อ 2 ากเปลี่ยนจาก 3.16 mg เป็น 3.16 g จึงจะได้ 0.4 Molar
𝑔 0.4×50
=
158.03 1000
g = 3.16 𝑔 แต่ บีกเกอร์ C คือ 3.16 mg ดังนั้น ไม่มีข้อใดถูก
www.alist-academy.net
ความฉลาดรู้เฉพาะด้านเคมี 151
วิธีคิด
จากกราฟ A : m = 10 V = 20
จากกราฟ B : m = 15 V = 15
𝑚
จากราฟเมื่อคำน ณค าม นาแน่นโดยใช้ ูตร 𝐷 =
𝑣
𝑫𝑨 = 𝟎. 𝟓 g/cm3
𝑫𝑩 = 𝟏 g/cm3
ปริมาตร าได้จาก ูตร V = ก ้าง × ยา × ูง
ข้อ 1 จากรูป A : m = 20 V = 15 𝐷𝐴 = 1.3
จากรูป B : m = 15 V = 15 𝐷𝐵 = 1
ข้อ 2 จากรูป A : m = 10 V = 20 𝐷𝐴 = 0.5

จากรูป B : m = 15 V = 20 𝐷𝐵 = 0.75
ข้อ 3 จากรูป A : m = 10 V = 20 𝐷𝐴 = 0.5

จากรูป B : m = 15 V = 15 𝐷𝐴 = 1
ข้อ 4 จากรูป A : m = 15 V = 20 𝐷𝐴 = 0.75

จากรูป B : m = 15 V = 15 𝐷𝐴 = 1
วิธีคิด ข้อ 4 ตอบข้อ 2 เพราะ คุณ มบัติตรงกับชนิดของ าร J คือ ารละลายมีอนุภาคขนาดเล็ก
ที่ ุด (น้อยก ่า 10−7 ) ไม่ตกตะกอนและไม่กระเจิงแ ง
K ารแข นลอยด์ อนุ ภ าคขนาดใ ญ่ (มากก ่ า 10−4 ) ตกตะกอน และทึ บ แ ง
H เป็น ารคอลลอยด์ อนุภาคขนาดปานกลาง ไม่ตกตะกอนและกระเจิงแ ง
ข้อ 1 ผิด เพราะ J เป็น ารละลายไม่ใช่ ารแข นลอยด์ เพราะไม่ตกตะกอน ารแข น
ลอยด์มีอนุภาคขนาดใ ญ่ (มากก ่า 10−4 ) ต้องตกตะกอน
K ไม่ใช่ ารคอลลอยด์ เนื่องจากมีการตกตะกอนเกิดขึ้น และ H ไม่ใช่ ารละลาย เนื่องจาก
ารละลายไม่ ามารถกระเจิงแ งได้
ข้อ 3 และ 4 ผิด เพราะ J เป็น ารละลายไม่ใช่ ารคอลลอยด์ มีอนุภาคเล็ก และไม่เกิด
การกระเจิงแ ง แต่ ารคอยลอยด์จะเกิดการกระเจิงของแ งเนื่องจากค ามขุ่นของ าร
วิธีคิด ตอบข้อ 4 เนื่องจากเมื่อเกลือแกง (NaCl) ละลายในน้ำโมเลกุลของน้ำ (H2O) จะเข้ามา
ล้อมรอบ Na+ โดย ันฝั่งที่เป็นขั้ ลบ (O) เข้า า และ ล้อมรอบ Cl- โดย ัน ่ นที่เป็นบ ก (H) เข้า
า ซึ่ง อดคล้อง กับภาพที่ 4 มากที่ ุด
ข้อ 1 ผิด เพราะ น้ำไม่ค รแยกออก ไม่ค รแตกตั ออกเป็น O และ H
ข้อ 2 และ ข้อ 3 ผิด เพราะ NaCl ไม่ได้แตกออกจากกันอย่างที่ค รจะเป็น
วิธีคิด ตอบ 3 เพราะ ่า ถุงเซโลเฟน ามารถใ ้ ารละลายผ่านได้ (น้ำ) แต่ ไม่ใ ้คอลลอยด์ผ่าน
(ไข่ขา )
ชุดที่ 1 น้ำผ่านเข้าในถุง แต่ไข่ขา ออกมาไม่ได้
ชุดที่ 2 น้ำผ่านออกจากถุง แต่ไข่ขา เข้าไปไม่ได้
ซึ่ง อดคล้องกับรูปที่ 3 มากที่ ุด
วิธีคิด ข้อที่ 1 ผิด เพราะมี I มากเกินไป เนื่องจาก I ไปเป็น PbI2 แล้
ข้อที่ 2 ผิด เพราะ ไม่มี I เ ลือในบีกเกอร์
ข้อที่ 4 ผิด เพราะ ไม่มี I เ ลือในบีกเกอร์
จาก มการ
Pb(NO3)2 + 2KI → PbI2 + 2KNO3
(ตะกอน) ละลายน้ำได้ดี
จากข้อมูลที่โจทย์กำ นดใ ้จะแ ดงใ ้เ ็น ่าใช้ KI มากเกินพอซึ่ง มายถึง KI ค รที่จะ
เ ลือเมื่อปฏิกิริยา ิ้น ุดลง (K+, I-) และจะได้ ารผลิตภัณฑ์ KNO3 (K+, NO3-) และพบตะกอน
PbI2 ซึ่ง อดคล้องกับรูป 3 มากที่ ุด
วิธีคิด ∆ = 10 =7
(1 : 0.7)
(จากรูปแทน 0.1 = 1)
ค รที่จะเ ลือ ∆ 3 อัน จาก มการเนื่องจากเป็น ารที่มากเกินพอ
2HCl + CaCO3 → CaCl2 + H2O + CO2
เทียบหาโมลของ
HCl และ CaCO3
MoleHCl = MoleCaCO3
𝐶𝑉 𝑔
=
1000 𝑀𝑤
100××10 70.06
=
1000 100.87
1 mole = 0.7 mole
HCl เป็น ารตั้งต้นที่มากเกินพอ ทำใ ้เ ลือ HCl 0.3 mole ซึ่ง อดคล้องกับรูปที่ 1 มากที่ ุด
วิธีคิด ตอบข้อ 2 เพราะ F มีค่า IE ูงก ่า Xe และ Xe มี e̅ ตั ุดท้ายอยู่ที่ 5p

ข้อ 1 ผิด เพราะ e̅ ตั ุดท้ายอยู่ 5p ไม่ใช่ 4p
ข้อ 3 และข้อ 4 ผิด เพราะ F มีค่า IE ูงก ่า Xe
วิธีคิด ตอบข้อ 1 เพราะ Cl จัดเรียงอิเล็กตรอนได้ 2 8 7 ต้องการรับ 1 อิเล็กตรอน จาก Ca
เพื่อใ ้ครบตามกฎออกเตด และเปลี่ยนไปเป็น Cl-
Ca จัดเรียงอิเล็กตรอนได้ 2 8 8 2 ต้องการใ ้ 2 อิเล็กตรอนจาก Ca เพื่อใ ้ครบตามกฎ
ออกเตด และเปลี่ยนไปเป็น Ca2+
ข้อ 2 ผิด เพราะ การจัดเรียงอิเล็กตรอนของ Ca และ Cl ไม่ถูกต้อง
ข้อ 3 ผิด เพราะ การจัดเรียงอิเล็กตรอนของ Ca และ Cl ไม่ถูกต้อง และ Cl เป็นอโล ะ
ซึ่งมีคุณ มบัติเป็นตั รับอิเล็กตรอน รือตั ออกซิไดซ์ที่ดีจะไม่ใ ้อิเล็กตรอนกับ Ca ที่เป็นโล ะซึ่งมี
คุณ มบัติเป็นตั จ่ายอิเล็กตรอน รือตั รีดิ ซ์ที่ดีจะไม่รับอิเล็กตรอน
ข้อ 4 ผิด เพราะการจัดเรียงอิเล็กตรอนของ Ca และ Cl ไม่ถูกต้อง
วิธีคิด พันธะโล ะเป็นภายในโมเลกุลซึ่งเกี่ย ข้องกับ การเคลื่อนย้าย อิเล็กตรอน อิ ระของ
อะตอมโล ะอิเล็กตรอนเคลื่อนที่ได้อย่างอิ ระเทียบได้กับทะเลอิเล็กตรอน (Sea of Electrons)
ล้อมรอบไอออนบ ก ซึ่ง อดคล้องกับรูป 2 มากที่ ุด
วิธีคิด เนื่องจากการละลายเป็นการทที่ไอออน ลุดออกมาแล้ ถูกล้อมรอบด้ ยโมเลกุลของน้ำ
(H2O) และมีการคายพลังงานค ามร้อนออกมา เรียก ่า พลังงานไฮเดชัน (Hydration energy)
วิธีคิด จากกฎ แก๊ ในอุดมคติ PV = nRT R, P, V, T คงที่
𝑔 กรัม
ดังนั้น n n = =
𝑀𝑤 ม ลโมเลกุล
20 23
nc = = 1 𝑛𝐸 = = 0.5
20 46
ดังนั้นแก๊ D ค รมีม ลโมเลกุลเป็น 32
32
ทำใ ้ 𝑛𝐷 = = 1 mole
32
ซึ่งตรงกับข้อ 4 𝑂2 = 32 g
วิธีคิด ข้อ 1 ผิด เพราะ โมเลกุลของจะอยู่แก๊ อยู่ ่างกัน ทำใ ้แรงดึงดูดและแรงผลักระ ่าง
โมเลกุลน้อยมาก จนถือได้ ่าไม่มีแรงกระทำต่อกัน
ข้อ 2 ผิด เพราะ NO2 มีโมลน้อยที่ ุดค รที่จะมีค ามเร็ เฉลี่ยในการเคลื่อนที่ต่ำก ่า
ข้อ 4 ผิด เพราะ เ ตุผลไม่ อดคล้อง NO2 มีโมลน้อยที่ ุดทำใ ้มีพื้นที่เยอะ ุด
ไม่เกี่ย กับแรงระ ่างโมลเลกุล
หาก X และ Y คือความดัน Px และ Py
วิธีคิด ตอบ 2 เพราะ ตามกฎ Guy – Lussas อุณ ภูมิแปรผันตรงกับค ามดัน ากลด 𝑇 ทำ
𝑃 ลดลงเช่นกัน ดังนั้น Px < Py
ข้อ 1 ถูกเมื่อเพิ่มปริมาตร Vy > Vx จากกฎของบอยล์ค ามดันแปรผกผันกับปริมาตร
ดังนั้นเมื่อ Vy > Vx ทำใ ้ Px > Py
ข้อ 3 เมื่อเพิ่มปริมาตร Vy ทำใ ้ Vy > Vx ดังนั้น Px > Py
ข้อ Px > Py เช่นเดีย กันกับข้อ 1 และ ข้อ 3
วิธีคิด จากภาพแ ดงจำน นของ A และ B แ ดงใ ้เ ็น ่า A = 8, B = 4 ตั
[ผลิตภัณฑ์]𝑛
ค่าคงที่ (K) = [
ารตั้งต้น]𝑚
4 4
= = = 0.0625
(8)2 64
K < 1 ซึ่งตรงกับข้อที่ 4 มากที่ ุด
วิธีคิด ข้อ 4 ไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นปฏิกิริยาคายค ามร้อน ากเพิ่มอุณ ภูมิจะทำใ ้
เกิดปฏิกิริยาย้อนกลับมากขึ้นค รเป็นดัง มการนี้ M + พลังงานตาม ลักการของเลอชา
เตอลิเย เมื่อเพิ่มอุณ ภูมิในปฏิกิริยาคายค ามร้อนจะทำใ ้เกิดปฏิกิริยาย้อนกลับ
วิธีคิด ตอบข้อ 1 จากข้อมูลที่โจทย์มานั้น 𝑡𝐴 ค รมากก ่า 𝑡𝐵 ดังนั้นทำใ ้ 𝑡𝐵 > 𝑡𝐴 ไม่
ถูกต้อง
ข้อ 2, ข้อ 3 และข้อ 4 ถูกต้องและ อดคล้องกับการทดลอง
วิธีคิด II. ถูกต้อง
III. ผิด ไม่เท่ากันเ มอ
IV. ผิด ไม่ อดคล้องกับตารางที่ใ ้มา
V. ถูกต้อง
วิธีคิด ตอบตำแ น่ง Y เพราะเป็นจุด มมูลซึ่ง มายถึงกรดทำปฏิกิริยาพอดีกับเบ และมี pH
เป็นกลางมากที่ ุด ซึ่งตรงกับจุด Y ของกราฟ
วิธีคิด ตอบ 4 เพราะเป็นข้อเดีย ที่แ ดงถึงการเติมเบ (OH- รือ ไฮดรอกไซด์ไอออน) ลงไปใน
HC2H3O2 ทำใ ้ ารละลายมี pH เพิ่มเพิ่ม ูงขึ้นจาก 4.73 เป็น 4.77
วิธีคิด ข้อ 1 ผิด เพราะ มีค่า 𝐸 ° น้อยก ่าต้องเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (จ่ายอิเล็กตรอน) ไม่ใช่

รีดักชัน (รับอิเล็กตรอน) ซึ่งไม่ อดคล้องกับรูป
ข้อ 3 ผิด เพราะ มีค่า 𝐸 ° น้อยก ่าต้องเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ไม่ใช่รีดักชันซึ่งไม่
อดคล้องกับรูป
ข้อ 4 ผิด เพราะ Mg ทำ น้าที่เป็นตั ใ อ้ ิเล็กตรอน
วิธีคิด ข้อ 1 ผิด เพราะ เ ตุผลไม่ถูกต้อง มบูรณ์
ข้อ 2 ผิด เพราะ เ ตุผลไม่ถูกต้อง มบูรณ์
ข้อ 3 ถูก เพราะ Aldehyde และ ketone จะมี Bb จุดเดือดที่ ุดก ่า Alkane เพราะ
เป็นโมเลกุลที่มีขั้ ทำใ ้มีแรงยึดเ นี่ย ระ ่างโมเลกุลที่ ูงก ่า Alkane ที่เป็นโมเลกุลที่ไม่มีขั้
ketone > มีจุดเดือดมากก ่า Aldehyde เนื่องจากมีขั้ ที่ ูงก ่าทำใ ้จุดเดือดเพิ่ม ูงก ่า
เมื่อเรียงลำดับจุดเดือด ketone > Aldehyde > Alkane
ดังนั้นข้อที่ถูกต้องที่ ุดคือข้อ 3
วิธีคิด ตอบข้อ 4 เพราะ ใ ้เ ตุผลที่เป็นประจัก ์พยานถูกต้องและมีค าม มบูรณ์มากที่ ุด
วิธีคิด ข้อ 2 พอลิเมอร์แบบเ ้นจะมีจุด ลอมเ ล ูงก ่าแบบกิ่งเพราะพอลิเมอร์เรียงชิดติดกัน
มากก ่าโครง ร้างแบบอื่น จึงมีค าม นาแน่นและจุด ลอมเ ล ูงมาก และถุง ู ิ้ มีมอนอเมอร์
เป็น พอลีพอพิลีน ซึ่งมีโครง ร้างแบบโซ่ตรง จึงเป็นข้อที่ มบูรณ์มากที่ ุด
ข้อ 1 ถูก แต่ไม่ มบูรณ์เท่าข้อที่ 2
ข้อ 3 ผิด เพราะ เ ตุผลผิด ค าม นาแน่นมาจากโครง ร้างที่เรียงชิดติดกัน
ข้อ 4 ผิด เพราะ โครง ร้างของ B มีค ามแข็งแรงและเ นีย มากก ่าเนื่องจาก B มี
โครง ร้างแบบโซ่ยา ทำใ ้พอลิเมอร์เรียงชิดติดกันทำใ ้มีค าม นาแน่น ูงก ่า A
Mock exam NETSAT: 93
Mock exam NETSAT
1. 15
1.
2.
3.
4.
:3
www.ALIST-ACADEMY.net
2. AB 5
30)
1 2 3 4 5
A 25 25 25 25 25
B 28 29 30 31 32
1. A
2. A
3. B
4. B
:4 A
B
3.
1. 43.00 4
2. 43.0 2
3. 43.00 2
4. 43.0 3
4 1
1-9
0
0 1-9
- 0
4. mol/L
1. NaOH 2 50 ml
250 ml
2. KOH 5.6 30 ml
500 ml
3. HCl 2 mol/L 10 ml 500 ml
90 ml
4. HBr 20 mol/L 10 ml 500 ml
4
1
C = 0.2 mol/L
C = 0.2 mol/L
3 C1V1 = C2V2
2x10 = C2x100
C2 = 0.2
4 C1V1 = C2V2
20x10 = C2x500
C2 = 0.4
5. Q, R S
mol/kg) oC)
- A
1 B
2 -4.65
1 0.42
2 C
1. A 0 B = 0.42 C = -4.65
2. A=0 B = -4.43 C = -5.07
3. A = 5.49 B = 0.42 C = -4.65
4. A = 5.49 B = -4.43 C = -5.07
1 mol/kg B = 0.42
2 mol/kg C = -4.65
mol/kg
1 mol/kg 5.07 oC A
0 1 mol/kg 5.07 oC
A 5.07 = 0.42 A = 5.49
6.
AgCl
AgCl
4
2AgNO3(aq) + CaCl2(aq) 2AgCl(s) + Ca(NO3)2(aq)
AgCl AgCl
Ca(NO3)2
Ca2+ : NO3- = 1 : 2
7.
c d
b e g
a
f
A-G
11 22 33 45
1 H FON
b
acef
dg
8.
1. F
2. C
3. N IE O
4.
3 5 6 IE
6 P4 5 P3
1 F
2 7 4 1
4
9.
K L M N
850 ° C 1,800 ° C 1,008 ° C 100 ° C
A. K
B. L
C. M
D: N
E. : N D
1 A, D 2 A, B, 3 C,D 4 B,C
1 :
:
:
B: L NaCl
C: M
E:
10.
kJ/mol) (kJ/mol)
A 650 750
B 850 800
C 950 1000
1. C
2. B
3. A
4. A B C
2 E=E E
11 CaCO3 120 HCl 20 mol/L 100 ml
1
CaCO3(s) + 2HCl(aq) CaCl2(aq) + H2O(l) + CO2(g)
(mol) 0 0 0
- 1.0 - 2.0 + 1.0 +1.0 +1.0
0.2 0 1.0 1.0 1.0
CO2 CaCO3 CaCl2
CaCO3 : CaCl2 = 1:5
12.
1
X>Y
3
(
3
1.
2.
3.
4.
13 .
1
10 30 oC 60 oC 20
2
3 A 2
B B 2 A
4 A B A B
2 atm 3 atm 5 atm
4
1. oC
2.
3. B 4 A
4. =
14.
A B
C D
t
1. tA > tB
2. tc > tA
3. tD < tA
4. tC > tD
2
.
2. (
3.
4
C A C A
2 tC < t A
15.
Mg(s) + 2HCl(aq) MgCl2(aq) + H2(g)
HCl
Mg 15
HCl
Mg 5
1. Mg HCl
2.
3.
4.
3
16.
A B C
mol dm³
A B mol dm³ s
1 0 010 0 010 20
2 0 010 0 020 40
3 0 030 0 020 12 0
1. r k A
2. r k B
3. r k A B²
4. r k A B
4 2-3 A 3 3
A 1
1-2 B 2 2
A 1
17. H (g) + I 2 HI(g)

H (g) t = H (g)
1 2
3 4
1
H H
HI I H
H H
18.
1.
2.
3.
4.
4
1.
2.
3.
19. Pb² PbS

Pb² (aq ) + H S(aq ) PbS(s) + 2H (aq)
PbS
1. NaOH
2.
3. H S
4.
1
= PbS
PbS
20. CH3COOH 2.0 mol/L 100 ml

CH3COOK 2.0 mol/L 100 ml KOH pH
NaOH
pH
1. CH3COO- (aq) + H2O(l) CH3COOH (aq) + OH- (aq)
2. CH3COOH (aq) + H2O(l) CH3COO- (aq) + H3O+ (aq)
3. CH3COO- (aq) + H3O+ (aq) CH3COOH (aq) + H2O(l)
4. CH3COOH (aq) + OH- (aq) CH3COO- (aq) + H2O(l)
4
CH3COOH (aq) + H2O(l) CH3COO- (aq) + H3O+ (aq)
21. Na2SO3 10.00 cm3 HCl

0.10 mol/dm3
0 5.0 10.0 15.0 20.0 25.0 30.0 35.0 40.0 45.0 ( HCl)
pH
pH
.0-4.6
8.3-10.0
1. 1
2. 2
3. Na2SO3 0.20 mol/dm3
4.
Na2SO3+ HCl H2O + SO2+ NaCl
3 : Na2SO3
aCaVa = bCbVb
20 ml 1x0.1x20 = 1xCbx10
Cb. = 0.2
1
2 pH 4.7
4 1
Na2SO3+ HCl NaHSO3 + NaCl
22.
Cu Zn
CuSO4 ZnSO4
Cu Cu2+ + 2e- E0 = -0.34

Zn Zn2+ + 2e- E0 = 0.76
1. Cu Zn
2. Cu2+ Zn2+
3. Zn2+ Cu2+
4. Cu Zn
2 E0
Cu2+ + 2e- Cu- E0 = 0.34 re)
Zn2+ + 2e Zn E0 = -0.76 ( ox)
: E0 reduction E0 oxidation
1 Cu E0
2 Zn Cu
4 Cu Zn
23. ABC
1: A>B>C
2:A B KMnO4 C
1. A A
2. A B KMnO4
3. C Cl2/CCl4
4. A>B>C A>B>C
3 ABC alkyne alkene alkane

1. A KMnO4
2.
3. alkyne > alkane > alkene
alkane alkene alkyne Aromatic

7A
/ / X
(Cl2 , Br2)
X / / X
KMnO4/H+
aromatic > alkyne > alkene > alkane
24.
g/mol)
46
74
72
A.
B.
C.
1 A,B 2C 3 C,D 4 B,D
4
A.
B.
C.
D.
25.
A B C
1. A
2. C
3. A
4. ABC
4 B
1.
2.

เฉลย เคมี Net Sat

Uploaded by

Document Information

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

เฉลย เคมี Net Sat

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

150 ความฉลาดรู้เฉพาะด้านเคมี

ข้อ 2 ตอบ ไม่มีข้อใดถูก

g = 3.16 𝑔 แต่ บีกเกอร์ C คือ 3.16 mg ดังนั้น ไม่มีข้อใดถูก

ข้อ 2 จากรูป A : m = 10 V = 20 𝐷𝐴 = 0.5

ข้อ 3 จากรูป A : m = 10 V = 20 𝐷𝐴 = 0.5

ข้อ 4 จากรูป A : m = 15 V = 20 𝐷𝐴 = 0.75

วิธีคิด ตอบข้อ 2 เพราะ F มีค่า IE ูงก ่า Xe และ Xe มี e̅ ตั ุดท้ายอยู่ที่ 5p

วิธีคิด ข้อ 1 ผิด เพราะ มีค่า 𝐸 ° น้อยก ่าต้องเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (จ่ายอิเล็กตรอน) ไม่ใช่

Mock exam NETSAT

11 CaCO3 120 HCl 20 mol/L 100 ml

17. H (g) + I 2 HI(g)

19. Pb² PbS

20. CH3COOH 2.0 mol/L 100 ml

21. Na2SO3 10.00 cm3 HCl

Cu Cu2+ + 2e- E0 = -0.34

3 ABC alkyne alkene alkane

alkane alkene alkyne Aromatic

1 A,B 2C 3 C,D 4 B,D

You might also like