Professional Documents
Culture Documents
ระบบ ย่อยอาหาร สสวท ป.5-6 2
ระบบ ย่อยอาหาร สสวท ป.5-6 2
ระบบ ย่ อยอาหาร
1
โรงเรี ยนกวดวิ ช าอั พ เกรดเอ็ ด ดู เ คชั4 น (ครู ปุ๋ ย)
1.ปากและอวัยวะภายในช่ องปาก
เมื-ออาหารผ่านเข้าสู่ ปาก ฟันจะมีหน้าที-ในการบดเคีCยวอาหารให้มีขนาดเล็กลง จากนัCนลิCนจะทํา
หน้าที-ในการคลุกเคล้าอาหารให้เข้ากันรวมกับนํCาลายเพื-อทําให้อาหารเกิดการอ่อนตัวและไม่
ติดกันมากเกินไป
ฟันจะมี 2 ชุด คือฟันนํCานม จะเริ- มมีในเด็กอายุประมาณ 6 เดือน และจะครบ 20 ซี- เมื-ออายุ
ประมาณ 3 ปี ส่ วนฟันแท้จะมีอายุเริ- มประมาณ 6 ปี และจะครบ 32 ซี เมื-ออายุประมาณ 20 ปี
ลิน3
นอกจากจะช่วยในการคลุกเคล้าอาหารแล้ว ยังมีหน้าที-สาํ คัญ คือ การรับรส สามารถรับรู ้รสได้ 4
อย่าง คือ ขม เปรีC ยว เค็ม และหวาน ส่ วนเผ็ด ไม่ใช่รส จะเป็ นอาการของการร้อนหรื อแสบลิCน
เท่านัCน
ต่ อมนํา3 ลาย
จะผลิตนํCาลายได้ถึงวันละ 1-1.5 ลิตร ต่อมนํCาลาย มี 3 คู่ ด้วยกัน คือ1.บริ เวณข้างกกหู ทัCง 2 ข้าง
สร้างนํCาลายชนิดใสเพียงอย่างเดียว และมีขนาดใหญ่ที-สุด ถ้าเกิดอาการอักเสบจะเกิดอาการบวม
แดง เรี ยกอาการนีCวา่ คางทูม บริ เวณนีCจะผลิตนํCาลายประมาน 25 % ของนํCาลายทัCงหมด
2.บริ เวณใต้ขากรรไกร สร้างนํCาลายชนิดใสและเหนียว แต่มีนC าํ ลายชนิดใสมากกว่าจะผลิตนํCาลาย
ประมาณ 70 % ของนํCาลายทัCงหมด
3.บริ เวณใต้ลิCนสร้างนํCาลายชนิดใสและเหนียว แต่มีนC าํ ลายชนิดเหนียวมากกว่าจะผลิตนํCาลาย
ประมาณ 5 % ของนํCาลายทัCงหมด
นํา3 ลายประกอบด้ วย
1.เอนไซม์อะไมเลส ช่วยย่อยสลายคาร์โบไฮเดรต
2.นํCา เป็ นตัวทําละลายสารอาหาร
3.นํCาเมือก
2
โรงเรี ยนกวดวิ ช าอั พ เกรดเอ็ ด ดู เ คชั4 น (ครู ปุ๋ ย)
3
โรงเรี ยนกวดวิ ช าอั พ เกรดเอ็ ด ดู เ คชั4 น (ครู ปุ๋ ย)
โครงสร้ างเหล่านี @มีบทบาทในการรับรู้รสหลัก ๆ F อย่าง คือ เค็ม เปรี ย@ ว ขม หวาน และอุมะมิ ซึง4 เมื4อรวมกันก็จะเป็ นรสชาติของ
สิง4 ที4อยูใ่ นปาก มีขา่ วลอยว่า มีสว่ นต่าง ๆ ของลิ @นที4รับรสโดยเฉพาะ ๆ แต่ความจริ งลิ @นทังหมดสามารถรั
@ บรสได้ ทกุ รส ผ่านช่อง
เล็ก ๆ ในเนื @อเยื4อของลิ @นซึง4 เรี ยกได้ วา่ รูรับรส (taste pore)
อ่านต่อได้ ที4 https://board.postjung.com/1245095
4
โรงเรี ยนกวดวิ ช าอั พ เกรดเอ็ ด ดู เ คชั4 น (ครู ปุ๋ ย)
2.หลอดอาหาร
เป็ นอวัยวะที-อยูต่ ่อจากช่องปากไปเชื-อมต่อกับกระเพาะอาหาร เมื-ออาหารเคลื-อนตัวเข้าสู่ หลอดอาหาร
ผนังหลอดอาหารจะบีบตัวเพื-อให้อาหารลงไปสู่ กระเพาะอาหาร บริ เวณนีCจะไม่เกิดการย่อย แต่ในการ
บีบตัวของหลอดอาหารนัCนอาจจะส่ งผลต่อขนาดของอาหารให้มีขนาดเล็กลงเล็กน้อย
3.กระเพาะอาหาร
เมื-ออาหารเข้าสู่ กระเพาะอาหาร ผนังของกระเพาะอาหารจะขับนํCาย่อยออกมาย่อยอาหาร พร้อมทัCงบีบรัด
อาหารให้เกิดการคลุกเคล้ากับนํCาย่อย ส่ วนใหญ่บริ เวณกระเพาะอาหารจะย่อยอาหารประเภทโปรตีน
อาหารจะอยูใ่ นกระเพาะอาหารประมาณ 3-4 ชัว- โมง ในสภาวะที-เป็ นกรด
เอนไซม์หรื อนํCาย่อยในกระเพาะอาหาร จะมีกรดไฮโดรคลอริ กและเพปซิน ซึงย่อยอาหารประเภท
โปรตีนจะได้ เพปไทด์
ส่ วนโปรตีนที-ได้จากนํCานมจะถูกเอนไซม์ เรนนิน
***ดังนัCนการย่อยที-กระเพาะอาหารจะมีการย่อยเฉพาะโปรตีนเท่านัCน
5
โรงเรี ยนกวดวิ ช าอั พ เกรดเอ็ ด ดู เ คชั4 น (ครู ปุ๋ ย)
6
โรงเรี ยนกวดวิ ช าอั พ เกรดเอ็ ด ดู เ คชั4 น (ครู ปุ๋ ย)
5.ลําไส้ ใหญ่
อาหารที)ผา่ นเข้าสู่ ลาํ ไส้ใหญ่ ส่ วนมากจะอยูใ่ นรู ปกากอาหาร ซึ)งในลําไส้ใหญ่จะไม่มีการย่อยอาหาร แต่จะมี
การดูดซึมนํ$า วิตามิน เกลือแร่ และกลูโคส หลังจากนั$นกากอาหารที)ถูกดูดซึมแล้วจะเคลื)อนที)เข้าสู่ ไส้ตรง
และถูกขับออกทางทวารหนัก
กากอาหารถ้าเกิดอาการลักษณะร่ างกายขับถ่ายไม่สะดวกหรื อไม่ตรงเวลาจะทําให้ร่างกายดูดนํ$าในปริ มาณที)
มากในบริ เวณลําไส้ใหญ่จะส่ งผลทําให้กากอาหารเกิดการแข็งตัวจะเกิดอาการท้องผูกและจะส่ งผลทําให้
เป็ นโรคริ ดสี ดวงทวาร
วิธีป้องกันและบํารุงรักษาอวัยวะในระบบย่ อยอาหาร
1.ทําความสะอาดปากและฟันหลังรับประทานอาหาร
2.รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
3.รับประทานอาหารที-สะอาด สุ กใหม่ๆ มีประโยชน์ รสไม่จดั รับประทานอาหารจําพวกผักผลไม้
4.เคีCยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน ไม่กดั อาหารที-แข็งเกินไป
5.ไม่ออกกําลังกายหลังรับประทานอาหารเสร็ จใหม่ๆ
6.ขับถ่ายทุกวันและฝึ กเป็ นประจํา
7.ทําจิตใจให้ร่าเริ ง ไม่เคร่ งเครี ยดจนเกินไป
7
โรงเรี ยนกวดวิ ช าอั พ เกรดเอ็ ด ดู เ คชั4 น (ครู ปุ๋ ย)
เด็กไม่เจริ ญเติบโต
เรตินอล ตับ นํ+ามันตับปลา ไข่ นม เนย ผัก
ช่วยในการเจริ ญเติบโต
และผลไม้ที:มีสีเขียว
บํารุ งสายตา ผิวหนังแห้ง หยาบ
(A) และเหลือง
มองไม่เห็นในที:สลัว
แคลซิเฟอรอล นม เนย ไข่ ตับ จําเป็ นในการสร้างกระดูกและ
ฟัน ช่วยเพิ:มอัตราการดูดซึม โรคกระดูกอ่อน
(D) นํ+ามันตับปลา แคลเซียมและฟอสฟอรัส
แอลฟา โทโคเฟอรอล ทําให้เม็ดเลือดแดงแข็งแรง
ผักสี เขียว นํ+ามันจากพืช เช่น โรคโลหิ ตจาง หญิงมีครรภ์อาจทํา
นํ+ามันรํา นํ+ามันถัว: เหลือง ให้แท้งได้ ผูช้ ายอาจเป็ นหมัน
(E) และไม่เป็ นหมัน
แอลฟา ฟิ ลโลควิโนน
ผักสี เขียว ตับ ช่วยในการแข็งตัวของเลือด เลือดแข็งตัวช้ากว่าปกติ
(K)
ละลายในนํา<
8
โรงเรี ยนกวดวิ ช าอั พ เกรดเอ็ ด ดู เ คชั4 น (ครู ปุ๋ ย)
9
โรงเรี ยนกวดวิ ช าอั พ เกรดเอ็ ด ดู เ คชั4 น (ครู ปุ๋ ย)
ฮีโมโกลบิน
ในเม็ดเลือดแดง
เป็ นส่ วนประกอบของ ในเด็กทําให้สติปัญญา
อาหารทะเล เกลือสมุทร ฮอร์โมนไทรอกซิ น ซึ9งผลิต เสื9 อม ร่ างกายแคระแกรน
ไอโอดีน
จาก ในผูใ้ หญ่
เกลือเสริ มไอโอดีน
ต่อมไทรอยด์ จะทําให้เป็ นโรคคอพอก
10
โรงเรี ยนกวดวิ ช าอั พ เกรดเอ็ ด ดู เ คชั4 น (ครู ปุ๋ ย)
11
โรงเรี ยนกวดวิ ช าอั พ เกรดเอ็ ด ดู เ คชั4 น (ครู ปุ๋ ย)
12
โรงเรี ยนกวดวิ ช าอั พ เกรดเอ็ ด ดู เ คชั4 น (ครู ปุ๋ ย)
13
โรงเรี ยนกวดวิ ช าอั พ เกรดเอ็ ด ดู เ คชั4 น (ครู ปุ๋ ย)
*********************
14