Professional Documents
Culture Documents
Action Research
Action Research
เพื่อพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้
ของผู้เรียนด้วยวิธี
Action Research
ดร.ภาวิณี รัตนคอน
ดร.ภาวิณี รัตนคอน
อาจารย์ประจำสาขาวิทยาศาสตร์ทั่วไป
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
อาจารย์กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
นักวิชาการ บรรณาธิการ
สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด
สำนักพิมพ์เอมพันธ์ จำกัด
สำนักพิมพ์ ไอดีซี พรีเมียร์ จำกัด
สำนักพิพม์ I Love CU
บริษัท เพชรประกาย จำกัด
การทำวิจัยในชั้นเรียน เพื่อพัฒนาผลลัพธ์
การเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธี Action research
? ? ?
. . ?
ไม . ยน
ทำ น เรี
ใ น ชั้
วิ จั ย
ง ทำ
ต้อ
https://www.youtube.com/watch?v=pPTj6hUKEL4
https://www.obec.go.th/archives/3108549 https://www.rn.ac.th/default/archives/13709
https://www.thairath.co.th/news/local/2703152 https://www.obec.go.th/archives/726678
วิ จั ย
ต้ องทำ
ที่ เรา พระราชบัญญัติการศึ กษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
หตุ
สาเ
มาตรา 30 ให้สถานศึ กษาพัฒนากระบวนการเรียน
การสอนที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการส่งเสริมให้ผู้สอน
สามารถวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียน
ในแต่ละระดับการศึ กษา
มาตรฐานวิชาชีพครู
การจัดการเรียนรู้
- พัฒนาหลักสูตร
- บูรณาการความรู้และศาสตร์การสอนที่พัฒนาผู้เรียน
- ดูแลช่วยเหลือผู้เรียนเป็นรายบุคคล
มาตรฐาน
- จัดกิจกรรม สร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ให้เหมาะสม
ด้านการปฏิบัติงาน
- ทำวิจัยและสร้างนวัตกรรม
- ปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ และมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมพัฒนาวิชาชีพ
พัฒนาผู้เรียน/เเก้ปัญหาผู้เรียนเป็นรายบุคคล
https://www.xn--12ca0ezbc4ai2ee1bzl.com/09/01/2022/pa-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9/
ความสำคัญของการวิจัยในชั้นเรียน
1. ให้โอกาสครูในการสร้างองค์ความรู้และทักษะการทำวิจัย
2. เป็นประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติโดยตรง
3. ช่วยทำให้เกิดการพัฒนาที่ต่อเนื่อง
4. ช่วยตรวจสอบวิธีการทำงานของครู
5. ทำให้ครูเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
ผู้วิจัย
กลุ่มผู้ใช้
เพื่อนร่วมงาน
งานวิจัย
นักวิชาการ
การทำวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้
ของผู้เรียนด้วยวิธี Action research
การแสวงหาความรู้เพื่อตรวจสอบประเด็นและ
ปัญหาในสถานที่ทำงานของตนเองเป็นการนำ
ความคิดไปปฏิบัติผ่านกระบวนการที่เป็นวงจร
Action research .. .
การวิจัยในชั้นเรียนการทำวิจัยควบคู่ไปกับ
ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น จ ริ ง โ ด ย มี ค รู เ ป็ น ทั้ ง ผู้ ผ ลิ ต
งานวิจัยและผู้บริโภคงานวิจัย
รูปแบบการทำวิจัยในชั้นเรียนด้วยวิธี Action research
https://graduate.sru.ac.th/wp-content/uploads/2018/11/Action-Research-1.pdf
วงจรการวิจัย Action research
การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่เกิดในห้องเรียน
ปัญหาที่เกิดขึ้น
1. เป็นปัญหาที่ไม่กว้างเกินไป คืออะไร
2. มีวิธีแก้ปัญหาเเละเเหล่งที่ใช้
เป็นปัญหาของใคร
ศึกษาค้นคว้าที่จะนำมาวิเคราะห์
เเปลผลข้อมูล ส่งผลกระทบต่อใคร
3. เป็นปัญหาที่มีประโยชน์และ
มีความสำคัญระดับใด
ความสำคัญ สามารถใช้เพิ่มความรู้
ใหม่ๆ หรือเเก้ปัญหาผู้เรียนได้ ใครคือผู้รับผิดชอบหลัก
ตัวอย่าง
ปัญหาที่เกิดขึ้นคืออะไร นักเรียนมีทักษะความคิดสร้างสรรค์ต่ำ
เป็นปัญหาของใคร นักเรียนส่วนใหญ่
ส่งผลกระทบต่อใคร การสอนของครู
มีความสำคัญมาก เพราะทำให้นักเรียน
มีความสำคัญระดับใด
ขาดทักษะการคิด
คำถามการวิจัย
1. สาเหตุอะไรที่ทำให้นั กเรียนมีทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ต่ำ
2. แนวทางการเเก้ไขให้นั กเรียนมีทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์
จะทำอย่างไร
3. วิธีการสอนที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์
คืออะไร
4. วิธีที่จะนำมาใช้จะได้ผลหรือไม่ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
ทบทวนวรรณกรรม
ทบทวนวรรณกรรม
การทบทวนวรรณกรรมและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องจะช่วยกำหนด
กรอบแนวความคิดให้แก่ผู้วิจัยทั้งก่อนการทำวิจัย
ระหว่างดำเนินการวิจัย และภายหลังการเก็บข้อมูลเสร็จสิ้ น
ประโยชน์ของการทบทวนวรรณกรรม
เป็นการศึกษาตัวแปร เป็นการกำหนดขอบเขต
ช่วยในการกำหนด และกรอบแนวคิด เป็นการกำหนดภาพ
หรือประเด็นสำคัญ
ปัญหาหรือหัวข้อ ในการทำวิจัยที่มีความ รวมขององค์ความรู้
ที่เกี่ยวกับหัวข้อ
ในการวิจัย น่าเชื่อถือ จากประเด็น จากงานวิจัยที่มีอยู่
ที่ผู้วิจัยสนใจ หรือตัวแปรที่ได้ศึกษา
ช่วยในการอธิบาย
ช่วยป้องกัน
ความหมาย และ ช่วยกำหนด
การทำวิจัยซ้ำซ้อน
ความสัมพันธ์ของ สมมติฐานการวิจัย
จากงานวิจัยก่อนหน้า
ตัวแปรต่างๆได้ชัดเจน
หลักเกณฑ์การพิจารณาเอกสารที่เกี่ยวข้อง
ความเกี่ยวข้อง
1 เนื้อหาต้องเกี่ยวข้องหรือตรงกับเรื่องที่จะศึ กษา
ความทันสมัย
ถ้าเป็นเอกสารที่ทันสมัยที่สุด ไม่เกิน 5 ปี นับ
จากวันที่ค้นคว้า เว้นแต่หนังสือเก่าที่ยังมีคุณค่า 2
หรือยังไม่มีผู้แต่งใหม่
มีมาตรฐาน
3 ควรพิจารณาประวัติ ความมีชื่อเสียงของผู้แต่ง
หรือผู้เกี่ยวข้อง บรรณาธิการ สานักพิมพ์ ฯลฯ
แหล่งข้อมูลการสืบค้นวรรณกรรม
1. วรรณกรรมปฐมภูมิ (primary literature) 2. วรรณกรรมทุติยภูมิ (secondary literature)
คือ เอกสาร งานเขียนและสารสนเทศที่เจ้าของ คือ เอกสารและงานเขียน หรือสารสนเทศที่ได้
ผลงานเป็นผู้เสนอเอง จากวรรณกรรมปฐมภูมิหรือจากวรรณกรรมทุติยภูมิ
เพื่อนำไปสร้างกรอบแนวคิด ซึ่งตำราหรือบทความที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดที่จะทำวิจัย
ส่วนหนึ่ งจะได้จากแนวคิดของนักวิชาการที่ได้วางรากฐานการวิจัยเอาไว้แล้ว เช่น ทฤษฎี
การเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ แนวคิดในการกําหนดจุดมุ่งหมายทางการศึ กษาของบลูม และ
ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์
2. การทบทวนวรรณกรรมด้านผลงานการวิจัยที่เกี่ยวข้อง
จะช่วยให้ผู้วิจัยทราบว่าหัวข้อการวิจัยที่ตั้งใจจะลงมือทำการวิจัยนั้นได้มีผู้ใดทำมาแล้วบ้าง
ได้มีโอกาสตรวจสอบข้อมูล ได้แนวคิดใหม่ที่จะทำวิจัยให้แตกต่างไปจากผู้อื่นที่ได้ทำมาแล้ว
การนำเสนอผลการศึกษา
1
การศึ กษาเอกสาร 3
ที่เกี่ยวข้อง ต้องเริ่มด้วย นำเสนอโดยยึดตาม
การค้นคว้าจาก ตัวแปรหรือความ
แหล่งต่าง ๆ สั มพันธ์ระหว่างตัวแปร
2 ที่ศึ กษาเป็นหลัก
4
นำเอกสารที่ค้นคว้า
มาวิเคราะห์ เขียนเป็นหัวข้อหลัก
4 https://scholar.google.com/
ตัวอย่างการสืบค้นจากฐานข้อมูลต่างๆ
5 https://libgen.is/
กำหนดวัตถุประสงค์
กำหนดวัตถุประสงค์
แนวทางหรือทิศทางในการค้นหาคำตอบ เป็นการ
กำหนดว่าต้องการศึ กษาในประเด็นใดบ้างในเรื่องที่
ต้องการทำวิจัย รวมถึงเป็นการกำหนดขอบเขตการวิจัย
วัตถุประสงค์การวิจัยที่ดีต้องมีความสมเหตุสมผลและ
ใช้ภาษาที่ชัดเจน เข้าใจง่าย
ข้อสำคัญของการเขียนวัตถุประสงค์การวิจัย
วัตถุประสงค์
1. เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านที่ใช้อักษร ร ล ว ควบกล้ำ สำหรับนั กเรียน
ชั้นประถมศึ กษาปีที่ 6
2. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถของนักเรียนในการอ่านคำที่ใช้อักษร ร ล ว ควบกล้ำ
ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะ
3. เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการอ่านภาษาไทยของนักเรียน
ตัวอย่าง
วัตถุประสงค์
1. เพื่อเปรียบเทียบผลสั มฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนั กเรียน
ที่เรียนโดยการสอนมินิ คร์อสกับ การสอนตามคู่มือครู ของ สสวท.
2. เพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ตัวอย่าง
วิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบผลการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ระหว่างการสอนแบบโครงงาน
กับการสอนตามคู่มือครูของนักเรียนชั้นมัธยมศึ กษาปีที่1 ในกรุงเทพมหานคร
วัตถุประสงค์
1. เพื่อเปรียบเทียบผลสั มฤทธิทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ระหว่างการสอนแบบโครงงานกับการสอนตามคู่มือครู
2. เพื่อเปรียบเทียบเจตคติทางวิทยาศาสตร์ระหว่างการสอนแบบโครงงานกับการสอน
ตามคู่มือครู
กรอบแนวคิดการวิจัย
หลักเกณฑ์ในการเขียนกรอบแนวคิดการวิจัย
ตัวแปรแต่ละตัวที่เลือกศึ กษาต้องมีพื้นฐานเชิงทฤษฏีว่ามีความสัมพันธ์หรือ
1 เกี่ยวข้องกับสิ่ งที่ต้องการศึ กษา
มีความตรงประเด็นในด้านเนื้อหาสาระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านตัวแปรอิสระ
2 หรือตัวแปรที่ใช้ควบคุม
3 มีรูปแบบสอดคล้องวัตถุประสงค์ของการวิจัย
ระบุรายละเอียดของตัวแปรและสามารถแสดงความสัมพันธ์ของตัวแปรได้ชัดเจน
4 ด้วยสัญลักษณ์หรือแผนภาพ
ประโยชน์ของการสร้างกรอบแนวคิด
สร้างความชัดเจนใน
งานวิจัยว่าจะสามารถ เป็นแนวทางในการ
ตอบคำถามที่ศึ กษาได้ กำหนดความหมายตัวแปร
การสร้างเครื่องมือ และ
การเก็บรวบรวมข้อมูล
สามารถเชื่อมโยงไปสู่
ในการวิจัย
การกำหนดกรอบทิศทาง เป็นตัวชี้นำทำให้
การทำวิจัยได้เหมาะสม ผู้วิจัยเกิดความ
สามารถเข้าใจ ถูกต้อง โดยเฉพาะ มั่นใจว่างานวิจัย
แนวคิดสำคัญที่ เป็นไปในแนวทาง
วิเคราะห์ข้อมูล
แสดงถึงแก่นของ ที่สอดคล้องกับ
ปัญหาการศึ กษาใน วัตถุประสงค์
ระยะเวลาอันสั้น
ตัวอย่าง
วิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านคำควบกล้ำและเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาไทย
ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม
การจัดกิจกรรมการเรียน
ผลสัมฤทธิ์ทักษะ
การสอนโดยใช้ชุดการเรียนรู้
ทางด้านการอ่านคำควบกล้ำ
ด้านการอ่านคำควบกล้ำ
ตัวอย่าง
วิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธ์ทางการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบหมุนเวียนเลือดด้วย
การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ร่วมกับการใช้แบบจำลองของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึ กษาปีที่ 2
ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม
1 ตัวแปรต้น
ตัวแปรที่เกิดขึ้นมาก่อนและเป็นสาเหตุ หรือมีอิทธิพลให้ตัวแปรตาม
เปลี่ยนแปลงไป
ใช้แก้ปัญหาหรือพัฒนา
ใช้แก้ปัญหาหรือพัฒนาจิตใจ
ความรู้และทักษะ
ความรู้เเละทักษะ พัฒนาจิตใจ
ชื่อเรื่อง
การเปรียบเทียบผลการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์
ระหว่างการสอนแบบโครงงาน
กับการสอนตามคู่มือครูของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึ กษาปีที่1 ในกรุงเทพมหานคร
ตัวอย่าง
ชื่อเรื่อง
การพัฒนารู ปแบบการสอนเพื่อเสริม
สร้างสมรรถนะด้านเทคโนโลยี
ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ สำหรับนั กเรียน
ชั้นมัธยมศึ กษาปีที่ 3 โรงเรียนสาธิต
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนั นทา
การออกแบบการวิจัย
การออกแบบการวิจัย
การกำหนดแผนการเเละวิธีการ จุดมุ่งหมาย
ดำเนิ นงานอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ 1. เพื่อให้ได้คำตอบของปัญหาวิจัย
กำหนดปัญหาวิจัย การวางตัวเเปร ที่ถูกต้อง
การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ 2. เพื่อควบคุมความเเปรปรวนของ
ข้อมูล และการสรุปผล ตัวเเปรในการวิจัย
องค์ประกอบของการออกแบบการวิจัย
ข้อความที่ระบุความสัมพันธ์ระหว่างตัวเเปร
หรือแนวคิด ซึ่งผู้วิจัยต้องการจะทดสอบว่าเป็น
ความจริงหรือไม่ เป็นข้อความที่คาดคะแนคำตอบ
หรือทำนายไว้ล่วงหน้าอย่างสมเหตุสมผลมีความ
สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และกรอบแนวคิดของ
การวิจัย
ลักษณะของสมมติฐานที่ดี
1. สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของการวิจัย 4. สมเหตุสมผลตามทฤษฎี หลักการและ
จุดมุ่งหมายต้องการศึ กษาอะไร สมมุติฐาน เหตุผล สภาพที่เป็นจริงที่ยอมรับกันทั่วไป
ก็ควรตั้งให้อยู่ในลักษณะแนวทางเดียวกัน
สมมติฐาน
1. นักเรียนชั้นประถมศึ กษาปีที่ 4 ที่ได้รับการฝึกทักษะ เรื่อง การคูณ มีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนสูงขึ้น
2. นักเรียนชั้นประถมศึ กษาปีที่ 4 ที่ได้รับการฝึกทักษะเรื่องการคูณ มีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ สูงกว่าร้อยละ 60 ทุกคน
ตัวอย่าง
ชื่อเรื่อง
การพัฒนาพฤติกรรมการเรียนให้มีความรับผิดชอบของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ในรายวิชาชีววิทยา
สมมติฐาน
การพัฒนาพฤติกรรมการเรียนให้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของนักเรียน ทำให้
สามารถพัฒนา ศั กยภาพด้านพฤติกรรมและการเรียนให้ดีขึ้น
รูปแบบการวิจัย
รูปแบบการวิจัย
การวิจัยเชิงปริมาณ การวิจัยเชิงคุณภาพ
ลักษณะ ความมุ่งหมาย
1. มีการจัดกระทำก้บตัวเเปรต้น 1. เพื่อค้นหาข้อเท็จจริงของสาเหตุที่ทำให้เกิดผล
2. มีการควบคุมตัวเเปรแทรกซ้อน 2. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลของ
3. มีการออกแบบการทดลองเพื่อให้เกิด ปรากฏการณ์ต่าง ๆ
ความเที่ยงตรงภายในและภายนอก 3. เพื่อนำผลการวิจัยไปสร้างเป็นกฎเกณฑ์ สูตรทฤษฎี
4. เพื่อวิเคราะห์หรือค้นหาข้อบกพร่องของงานต่างๆ
เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขหรือพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ
ยิ่งขึ้น
5. เพื่อนำผลการทดลองไปใช้
รูปแบบการวิจัยเชิงทดลอง
ERIMENT
RE – EXP ใช้กลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียวและไม่มีการสุ่ม
แบบ P
DESIGN
X O เลือกตัวอย่างมา 1 กลุ่ม
หรือ 1 คน
โดย X หมายถึง การจัดกระทำ (Treatment)
O หมายถึง ตัวแปรตาม (Dependent Variable)
ให้นวัตกรรม
แบ่งตามผู้ใช้ประโยชน์
โดยตรง
นวัตกรรมสาหรับครู นวัตกรรมสาหรับนักเรียน
แผนการสอน บทเรียนสาเร็จรูป แบ่งตามลักษณะของ
คู่มือครู ชุดฝึกปฏิบัติ นวัตกรรม
แบ่งตามขอบข่ายการพัฒนา
ด้านการบริหารจัดการเรียนการสอน
ด้านการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ แบ่งตามพฤติกรรมและ
คุณลักษณะ
ด้านการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม
ด้านแก้ปัญหาหรือ ด้านแก้ปัญหาหรือพัฒนา
ด้านสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน พัฒนาความรู้ ทักษะ จิตใจ
สื่อ ใช้หลักจิตวิทยาเข้ามา
ร่วม เพื่อเปลี่ยนแปลง
วัสดุ
พฤติกรรมผู้เรียนให้
กระบวนการ เพิ่มหรือลด เช่น แรง
จูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ความ
เทคนิค วิธีการ รับผิดชอบ
นวัตกรรมที่นิยมใช้
2 เป็นเทคนิค วิธีการ
1 คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI )
http://nasan.ac.th/workteacher-detail_16422
ตัวอย่าง นวัตกรรมการสอนออนไลน์
2 ระบบการจัดบทเรียน (LMS )
ตัวอย่าง นวัตกรรมการสอนออนไลน์
3 เอกสารการสอนแบบ Online
https://www.liveworksheets.com/w/en/english-language/2030345
https://www.liveworksheets.com/w/th/phasaithy-prathmsueksa/1392623
ตัวอย่าง นวัตกรรมการสอนออนไลน์
4 การใช้ Application
เครื่องมือการวิจัย
เครื่องมือการวิจัย
ประกอบด้วย 4 แบบ
1. แบบทดสอบ (Test)
2. แบบสอบถาม (Questionnaire)
3. แบบสัมภาษณ์ (Interview)
4. แบบสังเกต (Observation)
แบบทดสอบ แบบสอบถาม
เป็นการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับความรู้ความสามารถ เป็นการรวบรวมข้อมูลโดยส่งแบบสอบถาม
ของบุคคล ให้กลุ่มเป้าหมายตอบกลับ
https://exercise-exam.blogspot.com/2023/09/thai-m3-book1-5.html https://www.slideshare.net/tuktuktum/ss-56566970
แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต
เป็นการเก็บข้อมูลโดยอาศัยการสัมภาษณ์ เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยผู้วิจัย
เผชิญหน้ากันระหว่างผู้สัมภาษณ์กับผู้ให้ เข้าไปสังเกตพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย
สัมภาษณ์
https://northnfe.blogspot.com/2019/08/ED256212.html http://www.oryornoi.com/
คุณภาพของเครื่องมือที่ต้องตรวจสอบ
คุณภาพของเครื่องมือที่ต้องตรวจสอบ มี 5 ด้าน
1. ความเที่ยงตรง (validity)
2. ความเชื่อมั่น (reliability)
3. ความเป็นปรนัย (objectivity)
4. ความยากง่าย (Difficulty เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ p)
5. อำนาจจำแนก (Discrimination เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ r)
คุณภาพของเครื่องมือที่ต้องตรวจสอบ
1. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เป็นแบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรียน
2. แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า เป็นแบบทดสอบให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจ/ประเมินนวัตกรรม
และใช้วัดเจตคติของนักเรียน
https://www.slideshare.net/AonNarinchoti/ss-37115937
https://nuiphen.files.wordpress.com/2014/08/0000001.gif
ขั้นตอนการตรวจคุณภาพแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
1. ผู้เชี่ยวชาญไม่ต่่ำกว่า 3 คน พิจารณาความตรงเชิงเนื้อหา
คือ พิจารณาว่าข้อสอบแต่ละข้อตรงตามจุดประสงค์หรือไม่
อาจใช้วิธีการ Rovinelli และ Hambleton หรือวิธีการหา IOC
(Index of Item–Objective Congruence)
2. นำไปทดลองใช้กับกลุ่มทดลอง
3. หาค่าความยากง่าย (p)
4. หาอำนาจจำแนก (r)
ขั้นตอนการตรวจคุณภาพแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า
1. ไม่ต้องหาค่าความยากง่าย แต่ต้องหาค่าอำนาจจำแนกรายข้อ
ที่นิยมมีสองวิธี คือ หาโดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์อย่างง่ายและหาโดยใช้
t-test
2. ความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาใช้วิธีการให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาตัดสิน
เป็นรายข้อ ส่ วนความเที่ยงตรงเชิงโครงสร้างใช้วิธีการเดียว
กับแบบทดสอบวัดผลสั มฤทธิ์
3. หาความเชื่อมั่น ใช้วิธีของ Cronbach เรียกว่า"สัมประสิทธิ์แอลฟา"
การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ
ความเที่ยงตรง (Validity) เป็นความแม่นยำของเครื่องมือในการวัดสิ่ งที่ต้องการจะวัด
และคะแนนที่ได้จากเครื่องมือที่มีความตรงสูงสามารถบอกถึง
สภาพที่แท้จริงและพยากรณ์ได้ถูกต้องแม่นยำ
ประเภทความเที่ยง
1. ความเที่ยงตรงเชิงเนื้ อหา หมายถึง คุณสมบัติของข้อคำถามที่ สามารถวัดได้ตรงตาม
เนื้ อหาและพฤติกรรมที่ต้องการวัด
2. ความเที่ยงตรงเชิงโครงสร้าง เป็นการตรวจสอบความสอดคล้องระหว่างเนื้อหาที่วัดกับ
จุดประสงค์ที่ต้องการจะวัดโดยให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาว่าข้อคำถามวัดได้ ตรงตามจุดประสงค์
ที่ต้องการจะวัดหรือไม่ วิธีนี้เป็นการหาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับจุดประสงค์
(Item-Objective Congruence Index : IOC)
การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ
ความเที่ยงตรง (Validity) ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับวัตถุประสงค์
(Item-Objective Congruence Index : IOC)
โดยใช้ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน
ซึ่งจะพิจารณาให้คะแนนข้อสอบ
แต่ละข้อดังนี้
+1 เมื่อแน่ใจว่า ข้อคำถามนั้น
สอดคล้องกับจุดประสงค์
0 เมื่อไม่แน่ใจว่า ข้อคำถามนั้น
สอดคล้องกับจุดประสงค์
-1 เมื่อแน่ใจว่า ข้อคำถามนั้นไม่
ค่า IOC ต้องมีค่าตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไปจึงจะใช้ได้
สอดคล้องกับจุดประสงค
การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ
ความเชื่อมั่น (reliability) ความคงที่ในการวัด กล่าวคือ ไม่ว่าจะวัดกี่ครั้ง
จะได้ผลคงที่เสมอ โดยค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบใดๆ
มีค่าอยู่ระหว่าง .00 ถึง 1.00
ประเภทความเชื่อมั่น
1. ความเชื่อมั่นแบบความคงที่ เป็นวิธีสอบซ้ำด้วยเครื่องมือฉบับเดิม แล้วนำผลการวัดทั้งสองครั้งมาหาค่าสัมประสิทธิ์
สหสัมพันธ์ ถ้ามีความสัมพันธ์สูง แสดงว่า มีความเชื่อมั่นสูง
2. ความเชื่อมั่นแบบความเท่าเทียมกัน ความสอดคล้องกันของคะแนนจากการวัดในช่วงเวลาเดียวกันโดยใช้ข้อสอบ
เหมือนกัน คำนวณค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างคะแนนที่วัดได้จากคนกลุ่มเดียวกันด้วยเครื่องมือ 2 ฉบับ
3. ความเชื่อมั่นแบบความสอดคล้องภายใน เป็นการหาความเชื่อมั่นโดยการหาความคงที่ ภายในโดยใช้แบบทดสอบ
ชุดเดียวและสอบครั้งเดียว แต่แบ่งข้อสอบเป็น 2 ส่วน คือ ข้อคู่ และข้อคี่ หรือใช้วิธีของ Kuder-Richardson (KR – 20/
KR – 21)
การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ
ความเป็นปรนัย (objectivity) เป็นความสอดคล้องกันในเรื่องของคำถาม ค่าของคะแนน
หรืออันดับที่ที่วัดได้ ตลอดจนการแปลงค่าคะแนน
เป็นผลประเมินในการตัดสินคุณค่าก็สอดคล้องตรงกัน
เมื่อ .. .
r แทน ค่าอำนาจจำแนก
r = PH - PL
สูตร PH แทน จำนวนคนที่ตอบถูกในกลุ่มสูง
n
PL แทน จำนวนคนที่ตอบถูกในกลุ่มต่ำ
n แทน จำนวนคนในกลุ่มสูงหรือกลุ่มต่ำ
กิจกรรม brainstorming วิเคราะห์ชั้นเรียน
วิเคราะห์ปัญหา ค้นหาสาเหตุ
วิเคราะห์ผลกระทบ คำตอบ
กิจกรรม brainstorming วิเคราะห์ชั้นเรียน
วิเคราะปัญหา
วิเคราะห์ผลกระทบ บทนำ
ค้นหาสาเหตุ
เราต้องทำอะไรบ้าง ตัวเเปรต้น
คำตอบ วิธีดำเนินการ
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสำเร็จแล้ว ตัวเเปรตาม
การเขียนบทความวิจัย
เพื่อตีพิมพ์ลงในวารสาร
การเขียนบทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์ลงในวารสาร
3 เป็นการเสนอปัญหาและการกำหนดขอบเขตของปัญหาและวัตถุประสงค์การวิจัย เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจถึงปัญหา
การวิจัย โดยอาจยกสถานการณ์มาประกอบและบอกเหตุผลว่าทำไมปัญหานี้ จึงต้องนำมาแก้ไข และงานวิจัยนี้ จะช่วย
ให้เกิดประโยชน์ อะไรได้ อาจรวมวัตถุประสงค์ หรือแยกการเขียนวัตถุประสงค์การวิจัย แล้วแต่รูปแบบของแต่ละ
วารสารจะกำหนด
การเขียนบทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์ลงในวารสาร
4 เป็นการเขียนเพื่อให้ทราบว่าข้อมูลของงานวิจัยนี้ถูกรวบรวมหรือถูกสร้างขึ้นได้อย่างไร โดยนำข้อมูลที่อยู่ในขอบเขต
การวิจัย เช่น ประชากรกลุ่มตัวอย่างตัวแปรที่ศึกษา ระยะเวลา กรอบแนวคิด เครื่องมือ รวมทั้งกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล
5 เป็นการเขียนเพื่อแสดงผลที่ได้จากการทำวิจัย และถอดความหมายจากผลการทดลองหรือข้อมูลที่ได้มาจากการวิเคราะห์
อาจนำเสนอด้วยรูปแบบที่ง่ายต่อความเข้าใจ เช่น รูปตาราง แผนสถิติ แผนภาพ หรือคำบรรยายที่ชัดเจนตามวัตถุประสงค์การวิจัย
7 เป็นการนำเสนอว่าผลจากการวิจัยนั้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเหตุการณ์จริงได้อย่างสมเหตุสมผล
และมีแนวโน้มว่าจะเป็นไปได้ โดยทั่วไปจะเขียนเป็น 2 แนวทาง คือ
1) ข้อเสนอแนะการนำผลการวิจัยไปใช้
2) ข้อเสนอแนะที่สืบเนื่องจากผลวิจัย
8 เป็นการแสดงรายการหลักฐานต่าง ๆ ที่นำมาใช้ประกอบการเขียนบทความ
แหล่งสารสนเทศ
เพื่อการตีพิมพ์
แหล่งสารสนเทศเพื่อการตีพิมพ์
วารสารที่มีคุณภาพ สามารถตรวจสอบได้จากฐานข้อมูล และ แหล่งสารสนเทศ
เพื่อการตีพิมพ์ ดังนี้
ฐานข้อมูล Scopus
2 ตรวจสอบรายชื่อวารสารได้ที่ https://www.scopus.com/
https://scholar.google.com/หางานวิจัยและการอ้างอิง
https://www.turnitin.com/ ตรวจสอบการคัดลอกผลงานทางวิชการ
https://app.akarawisut.com/ตรวจสอบการลอกเลียนวรรณกรรมทางวิชาการ
งานวิจัยจะสำเร็จได้ จากการ .. .
Vision & Mission
“เปิดใจ” และ “ลงมือทำ”
THANK YOU