Professional Documents
Culture Documents
ความไม่เป็นผลของพินัยกรรมหรือข้อกำหนดพินัยกรรม
ความไม่เป็นผลของพินัยกรรมหรือข้อกำหนดพินัยกรรม
จัดทาโดย
นายชิโนรส เกื้อคลัง รหัสนิสิต 651087016
นายรัชชานนท์ เพชรสุ วรรณ รหัสนิสิต 651087054
นายนันทวุฒิ หวังหลี รหัสนิสิต 651087543
เสนอ
อ.ดร.จันทราทิพย์ สุ ขุม
ความหมายของพินัยกรรม
พินยั กรรม คือ คาสั่งครั้งสุ ดท้าย ซึ่งแสดงเจตนากาหนดการเผื่อตายในเรื่ องทรัพย์สินหรื อ กิจการ
ต่าง ๆ ของผูท้ าพินยั กรรม เพื่อที่จะเกิดผลบังคับตามกฎหมายในเมื่อผูท้ าพินยั กรรมถึงแก่ความตาย โดยทา
แบบใดแบบหนึ่งที่กฎหมายกาหนดไว้ (ป.พ.พ. มาตรา ๑๖๔๖-๑๖๔๘)
เมื่อบุคคลใดถึงแก่ความตาย นอกจากทรัพย์มรดกจะตกทอดแก่ทายาทที่มีสิทธิตามกฎหมายซึ่ง
เรี ยกว่า “ทายาทโดยธรรม” แล้ว ทรัพย์มรดกของผูต้ ายยังตกทอดไปยังบุคคลอื่นได้โดยทางพินยั กรรมซึ่ง
เรี ยกว่า “ผูร้ ับพินยั กรรม”
ถ้าผูใ้ ดตายได้ทาพินยั กรรมไว้แต่พินยั กรรมนั้นจาหน่ายทรัพย์หรื อมีผลบังคับได้แต่เพียงบางส่ วน
แห่งทรัพย์มรดก ให้ปันส่วนที่มิได้จาหน่ายโดยพินยั กรรมหรื อส่วนที่มิได้จาหน่ายโดยพินยั กรรมหรื อส่วนที่
พินยั กรรมไม่มีผลบังคับให้แก่ทายาทโดยธรรมตามกฎหมาย จึงเห็นได้วา่ เมื่อผูต้ ายได้ทาพินยั กรรมไว้ ต้อง
แบ่งปันทรัพย์ตามข้อกาหนดในพินยั กรรม แต่เมื่อปรากฏว่าผูต้ ายมิได้พินยั กรรมไว้ หรื อทาพินยั กรรมไว้แต่
ไม่มีผลบังคับได้ให้ปันทรัพย์มรดกทั้งมรดกแก่ทายาทโดยธรรมนั้น จะเห็นได้วา่ กฎหมายให้ความสาคัญแก่
ผูร้ ับพินยั กรรมมากกว่าทายาทโดยธรรม เพราะโดยสภาพของพินยั กรรมเป็ นการแสดงเจตนาเผื่อตายในเรื่ อง
ทรัพย์สินของตนเองหรื อในการต่างๆอันจะให้เกิดผลบังคับได้ตามกฎหมายเมื่อตนถึงแก่ความตาย ชี้ให้เห็น
ว่ากฎหมายยังเคารพหลักเจตนาของบุคคลในการแสดงออกเพื่อเป็ นหลักประกันให้บุคคลเกิดความมัน่ ใจว่า
เมื่อตนเองถึงแก่ความไปแล้วเจตนาที่แสดงไว้เผื่อตายในระหว่างมีชีวิตจะได้รับการยอมรับปฏิบตั ิตามโดย
ครบถ้วน
โดยที่ผรู ้ ับพินยั กรรมเป็ นทายาทที่มีความสาคัญดังกล่าว ฉะนั้น เพื่อให้เป็ นการแน่นอนว่าเจตนา
กาหนดการเผื่อตายของผูท้ าพินยั กรรมที่แสดงไว้ในพินยั กรรมนั้นเป็ นเจตนาที่แท้จริ งของผูต้ าย กฎหมายจึง
ต้องกาหนดหลักเกณฑ์การทาพินยั กรรมไว้เป็ นพิเศษซึ่งแตกต่างจากการทานิติกรรมสัญญาอื่นๆ ทัว่ ไป และ
หากพินยั กรรมฉบับใดกรรมฉบับใดกระทาขึ้นโดยผิดหลักเกณฑ์ที่กฎหมายบัญญัติไว้ พินยั กรรมฉบับนั้นจะ
ไม่มีผลบังคับ
พินยั กรรมเป็ นนิติกรรมซึ่งจัดอยูใ่ นประเภทนิติกรรมฝ่ ายเดียว กล่าวคือ ย่อมสมบูรณ์เป็ นพินยั กรรม
เมื่อผูท้ าพินยั กรรมได้ทาพินยั กรรมถูกต้องตามที่กฎหมายกาหนดไว้โดยไม่ตอ้ งการเจตนาการยอมรับผูร้ ับ
พินยั กรรมแต่ผลของพินยั กรรมจะใช้บงั คับได้ก็ต่อเมื่อผูท้ าพินยั กรรมตายแล้ว ซึ่งต่างไปจากสัญญาให้โดย
เสน่หาตรงที่วา่ การให้เป็ นสัญญามีลกั ษณะเป็ นนิ ติกรรมสองฝ่ ายต้องมีผใู ้ ห้และผูร้ ับ ทั้งผูร้ ับต้องยอมรับเอา
ทรัพย์สินที่ให้น้ นั ด้วย
2
๒พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ
หลักเกณฑ์การทา
(๑). ต้องทาเป็ นเอกสาร คือ ทาเป็ นหนังสื อ โดยจะใช้ภาษาไทยหรื อภาษาต่างประเทศก็ได้
(๒). ผูท้ าพินยั กรรมต้องเขียนด้วยลายมือของตนเองทั้งฉบับจะพิมพ์ไม่ได้ เพราะฉะนั้นผูเ้ ขียนหนังสื อ
ไม่ได้ ไม่สามารถจะทาพินยั กรรมแบบนี้ได้ พินยั กรรมแบบนี้จะมีพยานหรื อไม่มีก็ได้ เพราะกฎหมายไม่ได้
ห้ามไว้
(๓). ต้องลงวัน เดือน ปี ในขณะที่ทาลงเพื่อพิสูจน์ความสามารถ และการทาก่อนหลังฉบับอื่น
(๔). ต้องลงลายมือชื่อผูท้ าพินยั กรรม จะใช้ลายพิมพ์นิ้วมือ หรื อแกงได หรื อเครื่ องหมายอย่างอื่นไม่ได้
(๕). การขูด ลบ ตก เติม หรื อการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ซึ่งพินยั กรรมนั้นย่อมไม่สมบูรณ์ เว้นแต่ผทู ้ า
พินยั กรรมจะได้ทาด้วยมือตนเอง และลงลายมือชื่อกากับไว้
- การขูด ลบ ตก เติม หรื อการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ที่มิได้ทาด้วยตนเอง หรื อลงลายมือชื่อ
กากับไว้เท่านั้นที่ไม่สมบูรณ์ ส่ วนข้อความเดิมหรื อพินยั กรรมยังคงใช้บงั คับได้ตามเดิม ไม่ทาให้โมฆะทั้ง
ฉบับ
๓ พินัยกรรมทาเป็ นเอกสารฝ่ ายเมือง
การขอทาพินยั กรรมเป็ นเอกสารฝ่ ายเมือง ผูร้ ้องสามารถยืน่ คาร้องขอให้กรมการอาเภอ (นายอาเภอ)
อาเภอใดก็ได้ ดาเนินการให้ตามความประสงค์ ดังนี้
คาอธิบายขั้นตอนการทาพินยั กรรมเป็ นเอกสารฝ่ ายเมือง
(๑.) ผูท้ าพินยั กรรม แจ้งข้อความที่ตนประสงค์จะให้ใส่ ไว้ในพินยั กรรมของตนแก่นายอาเภอต่อหน้า
พยานอีกอย่างน้อยสองคนพร้อมกัน
(๒.) นายอาเภอจดข้อความที่ผทู ้ าพินยั กรรมแจ้งให้ทราบแล้วนั้นลงไว้ และอ่านข้อความนั้น ให้ผทู ้ า
พินยั กรรมและพยานฟัง
(๓.) เมื่อผูท้ าพินยั กรรมและพยานทราบแน่ชดั ว่า ข้อความที่นายอาเภอจดนั้นเป็ นการถูกต้องตรงกัน กับที่
ผูท้ าพินยั กรรมแจ้งไว้แล้ว ให้ผทู ้ าพินยั กรรมและพยานลงลายมือชื่อไว้เป็ นสาคัญ
(๔.) ข้อความที่นายอาเภอจดไว้น้ นั ให้นายอาเภอลงลายมือชื่อ และลงวัน เดือน ปี จดลงไว้ดว้ ยตนเอง
เป็ นสาคัญว่า พินยั กรรมนั้นได้ทาถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่ระบุไว้ขา้ งต้น แล้วประทับตราตาแหน่ง ไว้เป็ น
สาคัญ
- การทาพินยั กรรมแบบเอกสารฝ่ ายเมือง ไม่จาเป็ นต้องทาในที่วา่ การอาเภอหรื อกิ่งอาเภอเสมอไป
ถ้าผูท้ าร้องขอจะทานอกที่วา่ การอาเภอหรื อกิ่งอาเภอก็ได้ เมื่อทาพินยั กรรมเสร็ จแล้ว ถ้าผูท้ าพินยั กรรม ไม่มี
ความประสงค์จะขอรับเอาไปเก็บรักษาเองโดยทันทีแล้ว ให้เป็ นหน้าที่ของนายอาเภอจัดเก็บรักษา
5
การตกไปของข้ อกาหนดในพินัยกรรม
มาตรา ๑๖๙๘ ข้อกาหนดพินยั กรรมนั้น ย่อมตกไป
(๑) เมื่อผูร้ ับพินยั กรรมตายก่อนผูท้ าพินยั กรรม
(๒) เมื่อข้อกาหนดพินยั กรรมเป็ นผลใช้ได้ต่อเมื่อเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่งสาเร็จลง และผูร้ ับพินยั กรรมตาย
เสี ยก่อนเงื่อนไขสาเร็ จ หรื อปรากฏเป็ นที่แน่นอนอยูแ่ ล้วว่าเงื่อนไขนั้นไม่อาจจะสาเร็ จได้
(๓) เมื่อผูร้ ับพินยั กรรมบอกสละพินยั กรรม
(๔) เมื่อทรัพย์สินทั้งหมดที่ยกให้สูญหาย หรื อถูกทาลายโดยผูท้ าพินยั กรรมมิได้ต้ งั ใจในระหว่างที่ผทู ้ า
พินยั กรรมยังมีชีวิตอยู่ และผูท้ าพินยั กรรมมิได้ได้มาซึ่งของแทน หรื อซึ่งสิ ทธิที่จะเรี ยกค่าทดแทนในการที่
ทรัพย์สินนั้นสู ญหายไป
มาตรา ๑๖๙๙ ถ้าพินยั กรรม หรื อข้อกาหนดในพินยั กรรม เกี่ยวกับทรัพย์สินรายใดเป็ นอันไร้ผลด้วยประการ
ใด ๆ ทรัพย์สินรายนั้นตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมหรื อได้แก่แผ่นดิน แล้วแต่กรณี
มีหลักกฎหมาย ดังนี้
๑. ตามอนุมาตรา (๑) เมื่อผูร้ ับพินยั กรรมตายก่อนผูท้ าพินยั กรรม ดังนี้ขณะที่ผทู ้ าพินยั กรรมตาย
พินยั กรรมมีผลบังคับตามมาตรา ๑๖๗๓ นั้น ผูร้ ับพินยั กรรมไม่มีสภาพบุคคลโดยตายไปก่อนแล้ว จึงไม่
อาจเป็ นทายาทได้ตามมาตรา ๑๗๓๔ และเนื่องจากผูร้ ับพินยั กรรมอาจไม่เป็ นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดก
ผูท้ าพินยั กรรม ดังนั้น ผูส้ ื บสันดานของผูร้ ับพินยั กรรมจึงไม่มีสิทธิรับมรดกแทนที่ตามมาตรา ๑๖๓๙ ,
๑๖๔๒ ทรัพย์สินตามข้อกาหนดจึงตกไปและตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดกตามมาตรา ๑๖๒๐ ,
๑๖๙๙
ฎีกาที่ ๘๑๕/๒๔๙๒ พินยั กรรมยกทรัพย์ท้ งั หมดให้แก่บุคคลสองคนให้ได้คนละครึ่ งและระบุวา่
คนอื่นจะเรี ยกร้องขอแบ่งปันทรัพย์ไม่ได้น้ นั เมื่อปรากฏว่าผูร้ ับพินยั กรรมคนหนึ่งตายก่อนผูท้ า
พินยั กรรม ข้อกาหนดในพินยั กรรมที่ยกให้คนที่ตายย่อมตกไปตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๖๙๘ (๑) และต้อง
บังคับตามมาตรา ๑๖๙๙ ประกอบกับมาตรา ๑๖๒๐ วรรค ๒ กล่าวคือ มรดกส่ วนที่ยกให้คนที่ตายนั้นย่อ
มตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมของผูท้ าพินยั กรรมไม่ใช่ตกได้แก่ผรู ้ ับพินยั กรรมอีกคนหนึ่งทั้งหมด (ฎีกาที่
๑๑๖๐/๒๔๙๗ ในมาตรา ๑๖๘๔ , ฎีกาที่ ๔๗๘/๒๕๐๑)
ฎีกาที่ ๒๗๘๔/๒๕๑๕ เจ้ามรดกทาพินยั กรรมยกที่ดินแปลงหนึ่งให้ ท. ซึ่งเป็ นบุตรแต่ ท. ตายก่อน
เจ้ามรดก ข้อกาหนดเกี่ยวกับที่ดินแปลงนี้จึงเป็ นอันตกไปตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๖๙๘ (๑) และต้องบังคับ
11
คาพิพากษาย่อ
คาพิพากษาศาลฎีกาที่ 11034/2553 แม้ศาลชั้นต้นกาหนดประเด็นข้อพิพาทเพียงว่า พินยั กรรมปลอม
หรื อไม่โดยมิได้กาหนดประเด็นว่า พินยั กรรมเป็ นโมฆะหรื อไม่ แต่ปัญหาเรื่ องแบบของพินยั กรรมเป็ น
ปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรี ยบร้อยของประชาชน และโจทก์ก็บรรยายฟ้องมาด้วยว่า พยานใน
พินยั กรรมไม่รู้เห็นขณะทาพินยั กรรมอันเป็ นการยกเรื่ องแบบพินยั กรรมมาเป็ นข้อต่อสู้ดว้ ย เมื่อมีขอ้ เท็จจริ ง
ดังกล่าวในการดาเนินกระบวนการพิจารณา ศาลจึงมีอานาจหยิบยกปัญหาว่าพินยั กรรมเป็ นโมฆะขึ้นวินิจฉัย
ได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคสอง ป.พ.พ. มาตรา 1656 วรรคแรก บัญญัติกาหนดแบบของพินยั กรรม
แบบธรรมดาไว้วา่ ผูท้ าพินยั กรรมแบบที่เป็ นหนังสื อนั้นต้องมีพยานอย่างน้อยสองคนและพยานจะต้องลง
ลายมือชื่อรับรองลายมือชื่อของผูท้ าพินยั กรรมไว้ในขณะนั้นเป็ นสาคัญ ดังนั้น การที่พยานไม่วา่ คนใดคน
หนึ่งหรื อทั้งสองคนในพินยั กรรมลงลายมือชื่อในพินยั กรรมโดยไม่เห็นเหตุการณ์ขณะทาพินยั กรรม แต่มา
ลงลายมือชื่อในภายหลัง ก็ยอ่ มไม่ชอบด้วยบทบัญญัติกฎหมายมาตราดังกล่าวและทาให้พินยั กรรมเป็ น
โมฆะไปในทันทีตาม ป.พ.พ. มาตรา 1705 แม้ต่อมาภายหลังพยานในพินยั กรรมมาสอบถามผูท้ าพินยั กรรม
และได้ความว่าผูท้ าพินยั กรรมมีความประสงค์จะทาพินยั กรรมจริ ง ก็ไม่มีผลทาให้พินยั กรรมที่เป็ นโมฆะไป
แล้วกลับกลายเป็ นพินยั กรรมที่มีผลสมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายไปได้
17
บรรณานุกรม
1.หนังสื อ ย่อหลักกฎหมายมรดก ศาสตราจารย์ ดร.ไพโรจน์ กัมพูสิริ
2.หนังสื อ การจัดการมรดกด้วยตนเอง รองศาสตราจารย์ ดร.ประทีป ทับอัตตานนท์
3.ความเสี ยเปล่าของพินยั กรรมสถาบันนิติธรรมาลัย สื บค้นจาก www.drthawip.com
4.ข้อกาหนดพินยั กรรม สื บค้นจาก www.psthailaw.com
5. พินยั กรรม สื บค้นจาก closelawyer.co.th