Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 7

ชีวิตจากนี้ ขอเธอนำทาง – บทที่ 29 พูดคุย

ฉันกลับไปที่อพาร์ทเม้นท์ อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ ฝังตัวในกองหมอน


พยายามหลับ

หลับไม่ลง นอนฟังเสียงน้ำไหลจากห้องน้ำ ตาเหม่อลอย

จนกู้เว่ยกอดฉันจากด้านหลัง “เซี่ยวเซี่ยว”

ฉันตอบ “นอนค่ะ นอน”

ตอนบ่าย คนสองคนนั่งบนโซฟา เขาดูทีวี ส่วนฉันอ่านบทความทางวิชาการบน


เว็บไซต์ CNKI*

“อ่านอะไรอยู่”

“รูปแบบการแตกของหิน”

นี่คือบทสนทนาเดียวที่เกิดขึ้นตลอด 2 ชั่วโมง

บ่ายสามเศษ ซานซานโทรมาชวนไปช้อปปิ้ง ฉันมองไปที่กู้เว่ยผู้กำลังนั่งเท้าคางชม


โฆษณาทีวี ก่อนจะตอบตกลง

กำลังจะออกจากบ้าน ฉันคิดอยู่ครู่หนึ่งและเดินไปหอมแก้มกู้เว่ย “ฉันไปแล้วค่ะ”

เขามองและโบกมือ “รีบกลับนะครับ”

––––––––––

สิ่งที่เรียกว่าการช้อปปิ้งของผู้หญิงสองคนคือการซื้อน้ำคนละแก้ว และนั่งเหม่อใน
แมคโดนัลค์
ภาพที่เห็นคงประหลาด เพราะคุณแม่โต๊ะข้าง ๆ หันมองเราหลายครั้ง

ฉันแตะมือซานซาน “มีอะไรหรือเปล่า” เพราะฉันนึกสาเหตุที่คนโผงผางอย่างเธอจะ


นั่งเหม่อลอยไม่ออก

แล้วซานซานก็ยกมือขึ้นปัดผมด้วยท่าทางเลิ่กลั่ก “ต้องทำขนาดไหนถึงจะเรียกได้ว่า
ผู้ชายคนนั้นดีกับเธอเกินธรรมดา”

“วัยนี้แล้วยังจะถามคำถามประเภทนี้อีก โดยทั่วไปก็คือ เขาจะทำเพื่อเธอมากเกิน


ปกติ ทำไม เธอสนใจใครอยู่หรือ”

“ใครสนใจยะ” ซานซานพูดอย่างจริงจัง “อย่าหลงไปกับเปลือกที่เคลือบด้วยน้ำตาล


ของระบบทุนนิยม” (สมัยเด็ก พวกเราเรียนอะไรกันนี่)

“อ้อ ที่แท้เป็ นคนรวย”

ซานซานส่งสายตามุ่งร้ายมา “เธอกำลังอินเลิฟ นี่กู้ไอคิวกลับมาครบหรือยัง”

ถึงตาฉันปัดผมด้วยท่าทางเลิ่กลั่กบ้าง “ปกติผู้ชายปฏิบัติกับแฟนเก่ายังไงเหรอ”

ซานซานสดชื่นขึ้นทันที “ทำไม พวกเขายังมีเยื่อใยเหรอ”

ฉันยักไหล่ เกาซีไม่อยู่ในสายตาฉันหรอก

“ฉันไม่สนใจคน ๆ นั้น แต่ฉันก็ควบคุมกู้เว่ยไม่ได้ ฉันกังวลแค่กู้เว่ยคิดยังไง”

ซานซานตบหลังมือฉันเบา ๆ “การเปิดใจกว้างเป็ นเรื่องดี แต่มันก็มีข้อยกเว้น เธอไม่


ได้อยู่กับเขาที่โรงพยาบาลตลอดเวลา ถ้าเธอไม่ล้างผู้หญิงคนนั้นจากใจหมอจน
หมดจด เธอจะทนดูเขาเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจงั้นเหรอ”
“เรื่องล้างก็ควรต้องล้าง แต่กู้เว่ยต้องเป็ นคนทำ” ฉันจะไม่เป็ นสาเหตุให้เขาลงมือ

“ว่าแต่ เกิดอะไรขึ้นกับพ่อน้ำตาลเคลือบระบบทุนนิยมของเธอ”

“. . . .”

ตอนแรก ฉันไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไร แต่ไม่นาน


ก็พบว่า ฉันมองเรื่องนี้ง่ายเกินไป

––––––––––

กลับไปเมือง X หลังวันหยุดราชการ เพราะต้องนำเสนอวิทยานิพนธ์กับโปรเจ็คพร้อม


กัน ฉันจึงแวะไปหารุ่นพี่ที่สถาบันวิจัยเพื่อถามข้อมูล ขากลับฉันนึกได้ว่าไม่ได้พบ
หมอมาหลายวันแล้ว จึงแวะไปโรงพยาบาล เฉินชงบอกว่าหมอลงคลินิกตรวจคนไข้

นี่เป็ นครั้งแรกที่ฉันไปหาเขาที่ตึกผู้ป่ วยนอก เกือบห้าโมงเย็นแล้ว คนไข้ค่อนข้าง


บางตา ขณะฉันขึ้นบันไดเกือบถึงคลินิก ฉันเห็นผู้ชายและผู้หญิงสวมเสื้อกาวน์สีขาว
ยืนอยู่ที่ปลายโถงทางเดิน คนนึงก้มหน้า คนนึงเงยหน้า ยืนใกล้ชิดกัน ฉันรู้สึกแก้มชา
เป็ นเรื่องงาน ก็แค่เรื่องงาน

ป๋ านเมี่ยนจวินมองจากห้องทำงานของเขาและเห็นฉันกำลังยืนดูเหตุการณ์ เขาพาตัว
เองมาหาฉันด้วยสีหน้ามีความสุข และพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “มาจับคนนอกใจเหรอ”

ฉันมองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ คุณมีความแค้นกับกู้เว่ยหรือ ทำไมพูดอะไรพล่อย


แล้วเขาก็ยิ้มและพูดว่า “มีคนประเภทที่กลัวว่าโลกนี้จะสงบสุขเกินไป พวกเขามีชื่อว่า


“ตัวก่อกวน” เขาไม่สนใจใบหน้าบึ้งตึงของฉัน และหมุนตัวจากไป

––––––––––
ฉันเอาถุงลูกเกาลัดป่ าไปวางบนโต๊ะกู้เว่ย เฉินชงยิ้ม “ทำไมทำหน้าหมดแรงแบบนั้น”

ฉันยิ้มตอบและพยักเพยิดบอกลา

บนรถประจำทาง กู้เว่ยโทรมาด้วยเสียงร้อนรน “คุณอยู่ที่ไหน”

“ระหว่างทางกลับมหาวิทยาลัย”

ปลายทางทั้งสองเงียบกริบ ฉันลูบขมับ “กู้เว่ย มีบางเรื่องที่เราต้องใคร่ครวญก่อน ฉัน


จะวางสายแล้ว”

หลายวันต่อมา ชีวิตฉันหมุนเป็ นวงกลม ไปตึกทดลอง-ห้องสมุด-เข้าห้องติว-หอพัก


การสื่อสารกับกู้เว่ยลดลงเหลือเพียง “ราตรีสวัสดิ์” ก่อนเข้านอนทุกคืน

––––––––––

ในเดือนพฤศจิกายน อากาศเย็นลงเรื่อย ๆ ช่วงนั้นซานซานโทรมาสองครั้ง พูดจา


อ้อมไปอ้อมมาและถูกฉันตัดบททั้งสองครั้ง ในที่สุดเสี่ยวเช่าก็ถามว่า “อาเซี่ยว เธอ
โอเคนะ”

ฉันพลิกวารสารธรณีวิทยาที่อยู่ในมือและพูดว่า “โอเคสิ”

ตอนที่ฉันอยู่กับสองสาวซึ่ง “บังเอิญ” ผ่านมา โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“มาคุยกัน”

“ประชุมอยู่”

เราสามคนมองตากัน
“ได้ ถ้าคุณกำลังยุ่ง…” เขาวางสาย

2 ชั่วโมงต่อมา โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง

ฉันกระแอม “ยังไม่เสร็จ…”

“เสี่ยวเช่าเพิ่งเดินผ่านผมไป”

“. . . .”

“หลินจือเซี่ยว เราเป็ นแบบนี้มากว่าอาทิตย์แล้ว แม้แต่ฆาตกรยังได้รับการไต่สวน


อย่างเป็ นธรรม คุณจะ… ให้ผมไปรับคุณนะครับ” เขายิ่งพูด ใจฉันยิ่งหลอมละลาย

ฉันใช้ปากกาลากเส้นบนกระดาษเรื่อยเปื่ อย “ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับคุณ”

“งั้นก็ไม่ต้องพูด”

“ได้ บ๊ายบาย” ฉันวางสายเนียน ๆ ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร ดังนั้น ได้แต่


มุดหัวหลบไปสักพัก

ยี่สิบนาทีต่อมา กู้เว่ยยืนอยู่ข้างหลังฉัน

ฉันคิดว่าผู้ชายคนนี้คงคุ้นกับมหาวิทยาลัยของฉันอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อมีผู้ช่วยเป็ น
คนทรยศชื่อเสี่ยวเช่า

เขาชี้นิ้วไปที่เส้นซึ่งฉันวาดไว้และเงยหน้าขึ้น “เกาะไฮ่หนานกับเกาะไต้หวัน”

ฉันพยายามจะเก็บกระดาษแผ่นนั้น แต่เขาชิงหยิบมันไปและพูดว่า “ให้ผมนะครับ”


ฉันมองดูสุภาพบุรุษที่นั่งอยู่ตรงหน้า จู่ ๆ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็น “เราควรไปกินข้าว
ก่อนคุย หรือคุยแล้วไปกินข้าว”

ฉันใช้ปากกาเคาะบนกระดาษ “ขึ้นกับว่า เรื่องที่คุณจะเล่ายาวหรือสั้น”

กู้เว่ยดันแว่นขึ้น “คุณอยากฟังตั้งแต่ต้นหรือแค่ตอนจบ”

ฉันเงียบไป 5 วินาที “ตอนจบ”

“เพื่อนร่วมงานที่อยู่คนละแผนกในโรงพยาบาลเดียวกัน” เขายืนขึ้นและยื่นมือมาให้
ฉัน “ไปเถอะ ได้เวลากินข้าวแล้ว”

“แค่นั้น”

“ทำไมครับ คุณต้องการอะไรอีก” กู้เว่ยเริ่มโมโห “ผมไม่ได้กินอะไรเป็ นชิ้นเป็ นอันมา


อาทิตย์นึงแล้ว ในฐานะหมอผ่าตัดกระเพาะผมจะปล่อยให้กระเพาะของตัวเองมี
ปัญหาไม่ได้ คุณตัวเบาแค่นี้ เชื่อไหมว่าผมกินคุณได้ทั้งตัวเลย”

––––––––––

ตอนที่ฉันกำลังวุ่นวายกับการกินสเต๊ก ฉันมองดูหน้าเย็นราวน้ำแข็งของกู้เว่ยและมีด
ที่ส่งเสียงครืดคราดเมื่อกระทบจาน จู่ ๆ ก็รู้สึกถึงเภทภัย

ฉันกระแอม “หมอ คุณทำตัวอันธพาลไปหรือเปล่า”

กู้เว่ยเหลือบตาขึ้นมองและเอื้อมมือมาหยิบจานของฉันไปหั่นเนื้อให้อย่างกราดเกรี้ยว
“ผมว่าผมเป็ นสุภาพบุรุษเกินไปด้วยซ้ำ”

*****************************************
ข้อความพิเศษ

หมอ: ใช่ คุณตัวเบา พร้อมจะไปตามลม จนผมแทบคลั่ง

(ทะเลาะกันเป็ นเรื่องที่เหนื่อยมาก ทว่า การเปิดใจคุยกันเหนื่อยกว่า)

หมอ: แต่คุณเหนื่อยกับการกินเลย

(เมื่อมีอาหารและเครื่องดื่มเพียงพอ คุณถึงจะมีแรงพูดเรื่องความรู้สึก ^_^ )

*****************************************

*CNKI = China National Knowledge Infrastructure เว็บไซต์ที่เป็ นแหล่งข้อมูล


ทางวิชาการออนไลน์ เช่น งานวิจัยระดับปริญญาเอก ปริญญาโท หนังสือพิมพ์
หนังสือสถิติต่าง ๆ ประจำปี ฯลฯ

กู้เว่ยร้ายกาจจริง ใช้การโมโห&งอแงแทนการง้อหลินจือเซี่ยว พอนึกภาพตามก็รู้สึก

ว่าหมากตานี้ตึงมืออยู่ แต่พอนึกหน้าใครบางคนแสดงฉากหั่นสเต๊กแล้ว…

You might also like