"ขอโทษนะคะ แม่"

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 2

Thitcha Pattanapamorn (Matoom) sec 2 ธิตชา พัฒนาภมร (มะตูม) ม.


“ขอโทษนะคะ แม่ ”
“คนจนไม่ใช่คนเลวนะลูก” แต่หากเป็ นเช่นนั้น แล้วทาไมทุกคนจึงจ้องมองฉันด้วยสายตาที่เต็ม
ไปด้วยความรังเกียจ ทาไมไม่เคยมีใครอยากเป็ นเพื่อนหรื อเข้าหาฉันเลย ทาไม ขนาดในโลกที่กว้าง
ใหญ่เพียงนี้ ยังไม่มีใครที่อยู่เคียงข้างฉันมาโดยตลอด ทาไม หนูจึงต้องรู ้สึกโดดเดี่ยวขนาดนี้
ทาไมละคะ แม่?
ฉันเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ฉันไม่เคยเลย ที่จะมีของเล่น หรื อเสื้ อผ้าที่หรู หรา เหมือนที่เด็ก
คนอื่นเขามีกัน แต่ถึงเป็ นเช่นนี้ ฉันก็ไม่เคยรู ้สึกอิจฉา หรื อน้อยใจ เพราะคุณพ่อและคุณแม่พูดกับฉัน
เสมอว่า “อย่าเสียใจไปเลยนะลูก สิ่ งที่มีคุณค่ามากที่สุดในชีวิต ไม่ใช่สิ่งทีเ่ ราสามารถจับได้ดว้ ยมือ แต่
เป็ นสิ่ งที่เราสามารถรู ้สึกได้ดว้ ยใจ ครอบครัวเรา แม้จะไม่ได้มีทรัพย์สินเงินทองอะไรมากมาย แต่เราก็มี
ความรัก ความอบอุ่น แค่น้ ีก็พอแล้วลูก” ไม่ว่ากี่ปีจะผ่านไป ฉันก็ไม่เคย และไม่มีวนั ที่จะลืมคาพูดนี้
แต่ก่อน ไม่ว่าเราจะลาบากเพียงใด ฉันก็ไม่เคยรู ้สึกกังวลเลยแม้แต่นอ้ ย เพราะฉันคิดว่า ยังไง ฉัน
ก็มีพ่อ มีแม่อยู่เคียงข้างฉันอยู่ดี แต่เมื่อคุณพ่อเสี ยชีวิตไปในปี ที่ผ่านมา และคุณแม่ประสบอุบตั ิเหตุ จึง
ไม่สามารถทางานได้ ชีวิตที่แต่ก่อนเคยเต็มไปด้วยความสุ ขและความสดใสของฉัน กลับกลายเป็ นชีวิต
ที่รู้จกั แต่ความลาบาก และความเจ็บปวด
“ขอโทษนะลูก ที่แม่ดูแลหนูไม่ได้” คุณแม่พูดด้วยเสี ยงที่อ่อนแอ ฉันก็ได้แต่ยิ้ม เพราะหากพูด
อะไร ก็กลัวว่าน้ าตาจะไหล ฉันอยากกอดแม่ และบอกแม่ว่า “ไม่เป็ นไรหรอกแม่ แม่ไม่ตอ้ งห่วง หนูสิ
ต้องขอโทษที่ไม่สามารถช่วยแม่ได้มากกว่านี้ ขอโทษที่ไม่สามารถดูแลแม่ให้ดี เหมือนที่แม่ดูแลหนู
ตอนหนูอายุยงั น้อย หากหนูเจ็บแทนแม่ได้ ไม่ว่ามันจะเจ็บปวดเพียงใด หนูก็จะยอม” ขอโทษนะคะ แม่
เพราะฉันอายุเพียง ๑๔ ปี จึงยังไม่สามารถหางานทาได้ เมื่อเวลาผ่านไป อาหาร และยาก็เริ่ มหมด
ลง จนสุ ดท้ายแล้ว เราไม่มีอะไรเหลือเลย พอถึงจุดนั้น ฉันก็เริ่ มกังวลมากขึ้น และตัดสิ นใจว่า หากฉัน
และแม่อยากอยู่รอด ฉันก็คงต้องขโมยเงินของคนอื่นแล้ว
วันต่อมา ฉันตื่นมาก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น และรี บเดินออกจากบ้าน ฉันปั่ นจักรยานไปจนถึงร้าน
กาแฟร้านหนึ่ง กว่าจะถึง ก็เสี ยเวลาไปแล้ว ๒ ชัว่ โมง เมื่อเห็นคนเริ่ มเดินเข้าไปนั่งในร้าน ฉันก็เดินตาม
พวกเขาไป ในขณะที่เหลือบตามองคนรอบข้าง ฉันหยุดขางๆ โต๊ะของผูช้ ายคนหนึ่ง เขาอ่านหนังสื ออยู่
กระเป๋ าสตางค์ของเขา วางไว้อยู่บนโต๊ะ ฉันก็รีบคว้ากระเป๋ าใบนั้น และวิ่งออกจากร้าน แต่ฉันคงวิ่งเร็ ว
ไม่พอ เพราะผ่านไปไม่ถึง ๓ นาที พนักงานในร้านก็วิ่งตามจับฉันได้ เมื่อตารวจมาถึง ฉันก็ถูกจับตัว
“แต่คุณไม่เข้าใจ! ฉันทาเพราะฉันไม่เหลืออะไรจริ งๆ! ฉันไม่ได้เลือกที่จะทาแบบนี้” ฉันตะโกน
ดังสะท้าน
ตารวจคนหนึ่ง หันมามองฉันด้วยสายตาที่เย็นชา และพูดว่า “คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะ
เป็ นคนดี หรื อคนเลวได้ และจากที่ผมเห็น คุณเลือกที่จะเป็ นคนเลว คนจนอย่างคุณ ก็เหมือนกันหมด
แหละ ขี้ขโมย”
ฉันพยายามควบคุมอารมณ์และตอบว่า “แต่ฉันไม่ได้มีทางเลือก ฉันไม่ได้ทาเพราะความสนุก แต่
ฉันทาเพราะความต้องการ เราไม่ได้เลือกที่จะเกิดมา และลาบาก ไม่ได้เลือกที่จะถูกคนอื่นดูถูก คนจน
ไม่ใช่คนเลว”

You might also like