Professional Documents
Culture Documents
ข้อสอบสายงานป้องกันปราบปราม ชุดที่ 2 (1-50)
ข้อสอบสายงานป้องกันปราบปราม ชุดที่ 2 (1-50)
ข้อ 1 การตั้งจุดตรวจจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ใด
ข. ได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา ระดับผู้บังคับการตำรวจนครบาล/ภูธร
จังหวัดขึ้นไป
ค. ได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาหัวหน้าสถานีตำรวจ
ง. ถูกทุกข้อ
ข้อ 2 ข้อใดเรียงลำดับส่วนพื้นที่ปฏิบัติงานในจุดตรวจเริ่มต้นตั้งแต่รถเข้า
จุดตรวจก่อนหลังตามรูปแบบฝึ กยุทธวิธีได้ถูกต้อง
ก. เป็ นไปตามที่ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก
ข. เป็ นหลักยุทธวิธีทางการทหาร
ค. เป็ นไปตามหลักความพึงพอใจของผู้ปฏิบัติงาน
ข้อ 4 การอนุญาตให้ตั้งสิ่งกีดขวางบนทางได้อยู่ในกฎหมายใด
ก. พระราชบัญญัติขนส่ง
ข. พระราชบัญญัติรถยนต์
ค. พระราชบัญญัติทางหลวง
ง. พระราชบัญญัติการจราจรทางบก
ก. การดูหมิ่นซึ่งหน้าเจ้าพนักงาน
ข. การหมิ่นประมาทอันเป็ นความผิดในประมวลกฎหมายอาญา
ค. ใช้กำลังขัดขืนเจ้าพนักงาน
ง. กระทำให้เกิดอุปสรรคแก่การกระทำของเจ้าพนักงาน
ข. ไม่ผิด เพราะยังไม่มีการกระทำความผิดในประมวลกฎหมายอาญา
ค. ผิด เพราะเป็ นการขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่
โดยใช้กำลังประทุษร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรค
สอง
ก. “ไอ้ตำรวจเฮงซวย”
ข. “ไอ้ตำรวจหน้าโง่”
ค. “ไอ้ห่า”
ง. เป็ นการดูหมิ่นซึ่งหน้าทุกข้อ
ก. ถูกเกลียดชัง
ข. เสียชื่อเสียง
ค. ถูกดูหมิ่น
ง. เป็ นการหมิ่นประมาททุกข้อ
ข. ที่ทำการของพนักงานอัยการ
ง. ห้องทำงานของหัวหน้างาน
ก. แจ้งฝ่ ายปกครอง
ข. แจ้ง ผู้บังคับบัญชา
ค. ถอย
ง. จับตัว ผู้ต้องถูกจับไป
ก. ต้องรับสารภาพ
ก. หมายค้น
ข. หมายจับ
ค. หมายขัง
ง. บันทึกการจับกุม
ก. แจ้งข้อกล่าวหา
ข. ความจำเป็ น
ค. ความเร่งด่วน
ง. ความสำคัญ
ข. อัยการ
ค. ศาล
ง. ตำรวจ
กรณีศึกษาที่ 2
แดงเมาสุราส่งเสียงดังเดินเตะเก้าอี้และพูดจาระรานตำรวจทั้งสามทั้ง
ขณะที่อยู่ในร้านอาหารและขณะเดินกลับออกจากร้านซึ่งเป็ นความผิด
ตาม ป.อ.มาตรา 378 เสพสุราจนเป็ นเหตุให้เมาประพฤติวุ่นวายใน
สาธารณสถานและขณะเข้าจับกุมแดงขัดขวางการจับกุม
ข. ใช้วิธีการจับหรือความป้ องกันทั้งหลายเท่าที่เหมาะสมแก่พฤติการณ์
แห่งเรื่องในการจับนั้น
ก. ไม่ถูกต้อง เพราะใช้วิธีการจับไม่เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งเรื่องใน
การจับนั้น
ข. ถูกต้อง เพราะแดงจะมีท่าทีทำร้ายตำรวจ
ค. ถูกต้อง เพราะแดงขัดขวางในการจับกุม
ง. ถูกต้อง เพราะแดงเมามากและไม่ยอมให้จับกุมแต่โดยดี
ก. ผิด/ในข้อหาใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็ นเหตุให้เกิดอันตรายแก่
กายหรือจิตใจ ป.อ. มาตรา 391
ข. ผิด/ในข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็ นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
ของผู้อื่น ป.อ. มาตรา 295
ง. ไม่ผิดกฎหมายอาญา/มีความผิดทางแพ่งรับผิดละเมิดเท่านั้นเพราะ
กระทำไปตามอำนาจหน้าที่
ข้อ 19. มาตรา 80 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา วรรคสอง
บัญญัติให้เมื่อตำรวจพบบุคคลหนึ่งแทบจะทันทีทันใดหลังจากการกระทำ
ผิดในถิ่นแถวใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุและคนนั้นมีสิ่งของที่ได้มาจากการกระ
ทำผิดหรือมีเครื่องมือ อาวุธหรือวัตถุอย่างอื่น อันสันนิษฐานได้ว่าได้ใช้ใน
การกระทำผิดหรือมีร่องรอยพิรุธเห็นประจักษ์ที่เสื้อผ้าหรือเนื้อตัวของผู้
นั้น ตำรวจมีอำนาจจับตามข้อใด
ก. เป็ นความผิดซึ่งหน้าโดยอ้อม
ข. กฎหมายให้ถือว่าเป็ นความผิดซึ่งหน้า
ค. ความผิดที่มีเหตุฉุกเฉินอย่างยิ่ง
ง. ถูกทุกข้อ
ง. ถูกทุกข้อ
ก. ทองที่ขโมยมา
ข. ผลไม้
ค. ธนบัตร
ง. รถจักรยานยนต์
ข. ยาเสพติด
ค. ทองที่ขโมยมา
ง. รถยนต์
ข้อ 33 ข้อใดคือเหตุสงสัยของการค้นตัวบุคคลในที่สาธารณะ
ก. เห็นตำรวจแล้ววิ่งหนี
ข. เดินมาตามปกติ
ค. บุคคลที่เคยทะเลาะ
ง. เด็กนักเรียน
ก. กฎหมายเรื่องการค้นตัวบุคคล ใช้กับกรณีค้นรถยนต์รวมด้วย
ข. มีกฎหมายแยกต่างหาก
ค. ค้นรถยนต์ต้องมีหมาย
ง. ทำการค้นรถยนต์ไม่ได้
ข้อ 35. ถ้าตำรวจเห็นว่า มีบุคคลจะขัดขวาง หรือทำให้ การค้นไม่ประสบ
ผลสำเร็จ ตำรวจมีอำนาจอย่างไร
ก. จับกุม บุคคลดังกล่าว
ข. ขอให้ศาลออกหมายขัง
ค. ควบคุมตัวไว้เท่าที่จำเป็ น เพื่อไม่ให้ขัดขวางการค้น
ง. แจ้งญาติให้มารับตัวไปสถานีตำรวจ
ค. ขนเฉพาะที่เจ้าของยินยอมเท่านั้น
ง. ใช้สายตาในการค้นหา
ก. พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ
ข. พนักงานฝ่ ายปกครองและพนักงานอัยการ
ค. พนักงานสอบสวนและศาล
ง. พนักงานฝ่ ายปกครองหรือตำรวจ
ก. ตั้งแต่ระดับสี่ขึ้นไป
ข. ตั้งแต่ระดับสอง
ค. ระดับใดก็ได้
ง. ตั้งแต่ระดับสาม
49.กรณีเรื่องมีผู้เข้ามาสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่สาธารณสถาน เช่น
ด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัด หรือห้องรับแจ้งความตามสถานีตำรวจ
สอบถามเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลทางราชการ การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่
ตำรวจ หรือการดำเนินการต่างในระหว่างสืบสวนหรือสอบสวนคดีต่างๆ
ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตอบคำถาม ต้องพิจารณา ผู้เข้ามาติดต่อ
สอบถามอย่างไร
ก. เป็ นบุคคลที่ได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงาน
ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องนั้นๆ หรือไม่
ข. เป็ นบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้ได้รับความเสียหายหรือได้รับผลก
ระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจให้มาติดต่อสอบถามหรือไม่
ค. เป็ นเรื่องที่สามารถตอบได้และต้องการตอบ กระทำได้แต่ถ้าการตอบ
ในเรื่องนั้นๆ ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อความเสียหายของทางราชการ และ
ละเมิดถึงผู้อื่น และไม่ใช่เป็ นการสัมภาษณ์ ให้ข่าว ยกเว้นหัวหน้าสถานี
ตำรวจ
ง. ถูกทุกข้อ
ง. ถูกทุกข้อ