Professional Documents
Culture Documents
รายงาน pdf3-2
รายงาน pdf3-2
รายงาน pdf3-2
เรื่อง โลจิสติกส์
จัดทาโดย
เสนอ
โรงเรียนสาขลาสุ ทธีราอุปถัมภ์
อาเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ
โลจิสติก (โลจีลกี )
ประวัติและวิวฒั นาการของโลจิสติกส์ (Evolution of Logistics)
ประวัติค วามเป็ นมาของโลจิ สติ กส์ อาจกล่ าวได้ว่าเกิ ดขึ้ นมาพร้ อมกับ การอุ บตั ิ ข้ ึ นของมนุ ษ ย์บ นโลกนี้
มนุ ษ ย์เป็ นสั ต ว์สั ง คมอยู่ก ันเป็ นกลุ่ ม ชุ ม ชน สั ง คม ประชาคมโลก ต่ า งต้องท ามาหากิ น ไปมาหาสู่ ก ัน
แลกเปลี่ ย นสิ นค้า วัฒ นธรรมขนบธรรมเนี ย มประเพณี รวมทั้ง มี ก ารต่ อ สู ้ ศึ ก สงคราม เพื่ อ แย่ง ชิ ง การ
ครอบครองทรั พยากรตามความปรารถนาของตน กิ จกรรมการเคลื่ อนย้ายและการจัดเก็บทรั พยากรของ
มนุษย์ลว้ นแล้ว แต่เป็ นงานการจัดการโลจิสติกส์ท้ งั สิ้ น
Logistic (โลจีสติกส์ )
Logistics ในปั จจุบนั ดูจะเป็ นคายอดฮิตที่เป็ นที่รู้จกั กันทั้งในระดับผูป้ ระกอบภาคเอกชนและภาครัฐ รวมไป
ถึงที่แพร่ หลายในระดับการศึกษาโดยมีการเรี ยนการสอนอยูท่ ้ งั ในระดับที่ต่ ากว่าปริ ญญาจนถึ งปริ ญญาเอก
โดยหน่ วยงานของรั ฐรวมไปถึ งหน่ วยงานเอกชนต่ างๆล้วนแต่มีก ารกาหนดวิสัย ทัศน์เกี่ ยวกับ Logistics
ทั้งสิ้ น อันที่จริ ง Logistics มี มานานแล้ว บ้างกล่ าวว่า รากศัพท์มาจาก LOG ซึ่ งแปลว่า ซุ ง หรื อ ท่อนไม้
และกลายเป็ น Logistics ทั้ง นี้ ก็ เนื่ องจากการขนส่ ง ของและคนในยุค โบราณใช้ไ ม้ซุ ง มาท าเป็ นเกวีย น
อย่างไรก็ดี อาจกล่าวได้วา่ มีต้ งั แต่สมัยเส้นทางสายไหมทางบกซึ่ งเชื่ อมตะวันตกกับจีนหรื อการค้นพบโลก
ใหม่ ต้ งั แต่ ศ ตวรรษที่ 16-17 โดยโคลัม บัส ผูค้ ้นพบทวีป อเมริ ก าใต้ และวอสโดดากามา นัก ส ารวจชาว
โปรตุเกสผูค้ น้ พบเส้นทางสายไหมทางทะเลของเครื่ องเทศ ในศตวรรษที่ 18 การปฏิวตั ิทางอุตสาหกรรมใน
ยุโรปได้ป รั บ เปลี่ ย นจากการค้า แบบพานิ ชนิ ย ม (Merchantinism) เศรษฐกิ จมี ก ารขยายตัวท าให้ตอ้ งการ
วัตถุดิบราคาถูกและการขยายตลาดในการระบายสิ นค้า ทาให้พฒั นามาสู่ เป็ นแบบทุนนิ ยม (Capitalism) ซึ่ ง
เน้นการแข่งขันและการค้าเสรี นิยม (Liberalism) ทาให้มีการขยายตัวทางการค้าแบบผูกขาดโดยบรรษัทข้าม
ชาติ มีการจัดระบบการจัดซื้ อและการขนส่ งวัตถุดิบจากประเทศที่เป็ นอาณานิ คม โดยการสร้างบริ ษทั ต่างๆ
ขึ้นมารองรับ เช่ น บริ ษทั อินเดี ยตะวันออก อาจกล่าวได้ว่ายุคล่าอาณานิ คมนั้น มีมูลเหตุจากความต้องการ
วัตถุดิบราคาถูกจากประเทศในโลกที่สาม โดยภาคธุ รกิจในฐานะผูม้ ี อิทธิ พลทางการเมืองได้เป็ นผูผ้ ลักดัน
ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็ นถึ งการมีระบบการจัดการด้านการขนส่ งและการจัดการที่เกี่ยวกับวัตถุ ดิบและสิ นค้า
จาก Place of Source Origin ไปสู่ Place of Consumer Origin ซึ่ งเป็ นส่ วนหนึ่งของนิยามของ Logistics
การจัดการโลจิสติกส์ (Logistics Mannagement) มีกาเนิ ดมาจากกองทัพอังกฤษก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 มี
การจัดระบบการส่ ง ก าลัง บ ารุ ง ทางทหาร มี ก ารสร้ า งสาธารณู ป การ เช่ น ถนน รถไฟ ท่ า เรื อ สนามบิ น
สถานที่จดั เก็บสิ นค้า รวมทั้งยานพาหนะที่ใช้ในการลาเรี ยงอาวุธยุทโธปกรณ์ การจัดการง
โลจิสติกส์มีการวิวฒั นาเรื่ อยมาจนถึงปลายศตวรรษที่19 สหรัฐอเมริ กาได้เริ่ มมีการกระจายสิ นค้าด้านพืชผล
ทางการเกษตรก็มีการแลก เปลี่ยนสิ นค้าโภคภัณฑ์กนั อย่างแพร่ หลายทัว่ ทวีปอเมริ กา ต่อมาประมาณปี ค.ศ.
1870 ก็มีการจัดรู ปแบบการกระจายสิ นค้าด้านอุตสาหกรรมมาขึ้นเป็ นลาดับ และในปี ค.ศ. 1961 ปี เตอร์ ดรัก
เกอร์ ได้แต่ ง ตาราเรื่ อ ง "The Economy's Dark Continent" ได้ก ล่ า วถึ ง บทบาทส าคัญ ของการจัดการโลจิ
สติ กส์ ต่อระบบเศรษฐกิ จโลกในยุคนั้น ต่อมาปี ค.ศ. 1964 ก็ได้เกิ ดศาสตร์ ทางด้านการจัดการโลจิ สติกส์
(Logistics Management Science) อย่างเป็ นทางการขึ้นที่สหรัฐอเมริ กา
ความหมายของโลจิสติกส์ และการจัดการโลจิสติกส์
โลจิ ส ติ ก ส์ หรื อโลจิ ส ติ ก ส์ Logistics หมายถึ ง กิ จ กรรมที่ มี ก ารเคลื่ อนย้า ย จัดเก็ บ สิ นค้า วัส ดุ วัตถุ ดิ บ
เอกสาร จากที่หนึ่ งไปสู่ อีกที่หนึ่ ง ในระยะเวลาชัว่ คราวหรื อระยะเวลายาวนาน โดยมีความพยายามในการ
จัดการกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ ให้เกิดค่าใช้จ่ายโดยรวมต่าที่สุด
การจัดการโลจิสติกส์ ธุรกิจ หมายถึง กระบวนการวางแผน การปฏิบตั ิการและการควบคุม การเคลื่อนย้าย
และการจัดเก็บสิ นค้าอย่างมีประสิ ทธิ ภาพและประสิ ทธิ ผล รวมถึงการให้บริ การและสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง
ตั้งแต่จุดกาเนิดจนถึงจุดการบริ โภคสิ นค้า เพื่อวัตถุประสงค์ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า.
ความสาคัญของการจัดการโลจิสติกส์
"กองทัพเดินด้วยท้อง" เป็ นคาพูดของแม่ทพั นโปเลียน โบนาปาร์ ต แห่ งฝรั่งเศส ระหว่างปี พ.ศ. 2312-2364
นับ ว่า เป็ นค ากล่ า วที่ ย งั ใช้ไ ด้อยู่ใ นโลกโลกาภิ ว ฒ
ั น์ ปั จ จุ บ นั ถ้า จะมองให้ ลึ ก ลงไปแล้ว การท าธุ รกิ จ ก็
เปรี ยบเสมือนกับการทาสงคราม แต่เป็ นสงครามเศรษฐกิจที่ทุกฝ่ ายต้องการเป็ นผูช้ นะ เพื่อจะได้มาซึ่ งสิ ทธิ
การครอบครองทรัพยากรที่มากขึ้นและมากกว่าผูอ้ ื่น การทาธุ รกิ จในยุคแห่ งการแข่งขันที่ไร้พรมแดนนี้ ไม่
เพียงแต่จะต้องต่อสู ้กบั ภาวะวิกฤติ ทางเศรษฐกิ จที่กาลังโหมกระหนาเข้ามาทุกสารทิศ เรายังต้องต่อสู ้กบั
คู่แข่งขันที่แข็งแกร่ งทั้งในประเทศและต่างประเทศอี ก ด้วย และที่สาคัญยิ่งกว่านั้นคื อ จะต้องสร้ างความ
ประทับ ใจให้ ก ับ ลู ก ค้า อย่า งต่ อ เนื่ อ งและสม่ า เสมอ ด้ว ยเหตุ น้ ี เองจึ ง ต้อ งมี ร ะบบการจัด ส่ ง ก าลัง บ ารุ ง
(Logistics System) ที่ทรงประสิ ทธิ ภาพไว้คอยสนับสนุนธุ รกรรมขององค์การเพื่อตอบสนองความต้องการ
ของลูกค้าด้วยสิ นค้าแปลกใหม่ คุณภาพดี ราคายุติธรรม และบริ การที่เป็ นเลิศ
ป้าหมายทีส่ าคัญของ Logistics
1) ความรวดเร็ วในการส่ งมอบสิ นค้า (Speed Delivery)
2) การไหลลื่นของสิ นค้า (Physical Flow)
3) การไหลลื่นของข้อมูลข่าวสาร (Information Flow)
4) การสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของตลาด (Market Demand)
5) ลดต้นทุนในส่ วนที่เกี่ยวกับการดาเนินการเกี่ยวกับสิ นค้าและการดูแลและขนส่ งสิ นค้า (Cargoes Handling
& Carriage Cost)
6) เพิ่มศักยภาพและประสิ ทธิ ภาพของการแข่งขัน (Core Competitiveness)
ผู้เกีย่ วข้ องหลักในระบบโลจิสติกส์
ระบบโลจิสติกส์ มีผเู ้ กี่ยวข้องหลักแบ่งออกเป็ น 3 ฝ่ าย คือ ผูจ้ ดั ส่ งสิ นค้า ผูผ้ ลิต และลูกค้าโดยทั้ง 3
ฝ่ ายจะมีการติดต่อซึ่ งกันและกัน
ซึ่ งจะทาให้สินค้า หรื อบริ การเกิดการไหล หรื อเคลื่อนย้ายได้อย่างมีประสิ ทธิ ภาพ
ประเภทของการจัดการโลจิสติกส์
การจัดการโลจิ สติกส์ สามารถแบ่งเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ตามลักษณะของบทบาทหน้าที่มหภาค
ของประเทศได้ดงั นี้
1.การจัดการโลจิสติกส์ดา้ นการทหาร (Military Logistics Management) หมายถึงการจัดการการจัดส่ งกาลัง
บารุ งด้านการทหาร เช่ น ยุทโธปกรณ์ ปั จจัยสี่ การรักษาพยาบาลและสารสนเทศ เพื่อมุ่งหวังชัยชนะทาง
ทหารเป็ นสาคัญ
2.การจัดการโลจิสติกส์ ด้านวิศวกรรม (Engineering Logistics Management) หมายถึ งการจัดการด้านการ
วิศวกรรมจัดส่ งลาเรี ยง อันได้แก่การสร้าง การบูรณาการและการบารุ งรักษาสาธารณู ปการ ทั้งระบบขนส่ ง
ทางบก ทางน้ า ทางอากาศ และทางท่อ ระบบการจัดเก็บและระบบสารสนเทศ เพื่อมุ่งหวังความพร้ อมใน
ระบบการจัดเก็บและการจัดส่ งลาเรี ยงทั้งระบบเป็ น สาคัญ
3.การจัดการโลจิสติกด้านธุ รกิจ (Business Logistics Management) หมายถึ งการจัดการด้านการจัดเก็บและ
จัดส่ งสิ นค้า คน สัตว์ สิ่ งของ จากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งตามที่มนุษย์ตอ้ งการ เพื่อมุ่งหวังความสาเร็ จทางธุ รกิจ
เป็ นสาคัญ
กิจกรรมหลักในการจัดการโลจิสติกส์
กิจกรรมต่างๆ ที่อยูใ่ นขอบข่ายการกระบวนการโลจิสติกส์ ประกอบด้วย
• งานบริ การลูกค้า
• การวางแผนเกี่ยวกับตาแหน่งที่ต้ งั ของอาคารโรงงาน คลังสิ นค้า
• การพยากรณ์และการวางแผนอุปสงค์
• การจัดซื้ อจัดหา
• การจัดการสิ นค้าคงคลัง
• การจัดการวัตถุดิบ
• การเคลื่อนย้ายวัตถุดิบ
• การบรรจุหีบห่อ
• การดาเนินการกับคาสั่งซื้ อ
• การขนของและการจัดส่ ง
• โลจิสติกส์ยอ้ นกลับ (อาทิเช่น การจัดการสิ นค้าคืน)
• การจัดการกับช่องทางจัดจาหน่าย
• การกระจายสิ นค้า
• คลังสิ นค้าและการเก็บสิ นค้าเข้าคลัง
• การจราจรและการขนส่ ง
• กิจกรรมการแปรรู ปเพื่อนากลับมาใช้ใหม่
• การรักษาความปลอดภัย
กิจกรรมของ Logistics
กิ จกรรมของโลจิ สติกส์ น้ นั จะมี ลกั ษณะที่ ประกอบไปด้วยกระบวนการต่างๆมากมาย ซึ่ งต่างทา
หน้าที่ในการสนับสนุนและส่ งเสริ มกิจกรรมของการผลิตและการตลาดเพื่อให้บรรลุเป้ าหมายซึ่ งได้กล่าวไว้
ข้างต้น กิจกรรมของโลจิสติกส์ อาจประกอบด้วย
1) การขนส่ ง และการเคลื่ อ นย้า ยสิ น ค้า (Transportation & Moving) รวมทั้ง ที่ เ กี่ ย วข้อ งกับ บรรจุ ภ ัณ ฑ์
(Packaging)
2) ตัว แทนการบริ หารการจัด ส่ ง และขนส่ ง ทั้ง ภายในประเทศและระหว่ า งประเทศ (Domestic &
International Transportation)
3) กระบวนการ Clearing สิ นค้า และพิธีการทางศุลกากร (Customs Broker)
4) การบริ หารจัดการคลัง สิ นค้าภายใน(Inventory Management)และงานที่ เกี่ ย วข้องกับ Flowของสิ นค้า ,
แรงงานและให้บริ การอุปกรณ์เครื่ องมือที่จาเป็ นในการเก็บรักษาสิ นค้า
5) การบริ ก ารคลัง สิ นค้า สาธารณะ (Public Warehouse Provider) และ การกระจายสิ น ค้า (Distribution
Center)
6) การบริ หารท่า เรื อ ,การจัดการสถานที่บรรจุสินค้า , การจัดการสถานี ขนส่ ง ICD , การได้สัมปทานที่
เกี่ยวกับการขนส่ ง
7) กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับมูลค่าเพิ่มทางการตลาดให้กบั ลูกค้า (Market Value Added) ได้แก่ การส่ งเสริ ม
การตลาด , การเป็ นตัวแทนในการจัดจาหน่ าย , การกาหนดความต้องการของตลาดและจัดการคาสั่งซื้ อ
(Market Ordering) การให้ขอ้ มูลเพื่อคาดคะเนและพยากรณ์การขาย (Sale Forcasting) ,การแบ่งบรรจุสินค้า
และ Packaging, การจัดเรี ยงสิ นค้าในห้างสรรพสิ นค้า ฯลฯ
การประสานงานกับฝ่ ายผลิ ต (Cooperate with Production) เพื่อประโยชน์ในการจัดการระบบโลจิสติกส์
ของกระบวนการผลิตสิ นค้า หรื องานสนับสนุนการผลิตอื่นๆ เช่น การป้ อนวัตถุดิบ ,การบริ การงานเกี่ยวกับ
การ ควบคุมคุณภาพสิ นค้าหรื อ QC ฯลฯ
9) การจัดการข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ
กิจกรรมในระบบโลจิสติกส์
ประกอบด้วย 2 ส่ วน คือ ส่ วนแรกเป็ นระบบสิ นค้าและข้อมูลที่ไหลเข้ามายังบริ ษทั เพื่อนามาใช้เป็ น
วัตถุดิบเพื่อการผลิตสิ นค้าเรี ยกว่า การจัดการพัสดุหรื อวัตถุดิบ และ ส่ วนที่ 2 จะขึ้นเมื่อผูผ้ ลิตผลิตสิ นค้าเสร็ จ
แล้วและสิ นค้าจะถูกส่ งไปยังลูกค้าเรี ยกว่า การจัดการการกระจายสิ นค้า
การจัดการพัสดุหรือวัตถุดิบ (Material Management) ประกอบด้ วยกิจกรรมต่ างๆดังนี้
การจัดหา (Sourcing)
การจัดซื้ อ (Purchasing Management)
การขนส่ งขาเข้า (Inbound Transportation)
การรับและการเก็บรักษาสิ นค้า (Receiving & Storage)
การจัดการสิ นค้าวัตถุดิบคงคลัง (Raw Material Inventory Management)
4. การจั ด การกิ จ กรรมผู ้ใ ห้ บ ริ การ Third – Party Logistics Service Providers ซึ่ งผู ้เ ขี ย นชอบใช้ ค าว่ า
Outsources เป็ นกิ จ กรรมที่ เ กี่ ย วข้อ งกับ การคัด สรร เลื อ กสรร Outsources ซึ่ งให้ บ ริ ก ารธุ ร กิ จ เกี่ ย วกับ
Logistics ซึ่ งหมายถึง ธุ รกิจผูใ้ ห้บริ การในกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ Logistics เช่น ผูใ้ ห้บริ การคลังสิ นค้า
, ผูใ้ ห้บริ การขนส่ งต่างๆ ทั้งการขนส่ งทางบก , ทางน้ า และทางอากาศ หรื อทางท่อ , ผูใ้ ห้บริ การ Packing
สิ นค้า ฯลฯ ซึ่ งผูป้ ระกอบการที่จะเข้าสู่ Logistics ที่มีประสิ ทธิ ภาพได้จะต้องเข้าใจถึงวิธีการบริ หารจัดการ
Subcontractors หรื อ การจ้า งบุ ค คลภายนอกที่ เ รี ย กว่ า Outsourcing ซึ่ งจะต้อ งมี วิ ธี ก ารและการจัด การ
Outsources (ซึ่ งอาจเป็ นผูใ้ ห้ บ ริ ก าร Logistics Provider เช่ น คลัง สิ น ค้า , ขนส่ ง หรื อ DC) ให้ก ลายเป็ น
Business Partners (หุ ้นส่ วนทางธุ ร กิ จ) และใช้เ ป็ นกลยุ ท ธ์ ที่ ส าคัญ ในการท าธุ รกิ จให้มี ก ารปรั บ เปลี่ ย น
กระบวนทัศน์ (Paradigm) ในการเพิ่มประสิ ทธิ ภาพการแข่งขัน (Competitioness)
การจัด การ “RIMS” ทั้ง 4 ปั จ จัย นั้น การจัด การความสั ม พัน ธ์ (Relation Management) จึ ง เป็ นงานที่ มี
ความสาคัญสู งสุ ด ซึ่งจะต้องศึกษาถึง CRM หรื อการจัดการความสัมพันธ์กบั ลูกค้า (Customers Relationship
Management) ซึ่ งปั จจุบนั ถือเป็ นหัวใจของการจัดการทางการตลาดสมัยใหม่ ถ้ามี ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
การจัดการ “RIMS” ก็ จะง่ ายขึ้ นอย่างมาก ในบางทฤษฎี อาจจะเรี ย กว่า 5 FIRMS คื อเพิ่ม ปั จจัย Fund คื อ
รายได้หรื อทุน ซึ่ งใช้ในการดาเนิ นการใน Logistics & Supply แต่ผเู ้ ขียนเห็นว่า Fund ควรจัดอยูใ่ น Finance
Function ซึ่ งจะมีร ายละเอี ยดที่ ม าก โดยเอกสารนี้ มุ่ งท าความเข้า ใจกับผูศ้ ึ กษาในฐานะเป็ นตาราพื้นฐาน
ของโลจิสติกส์ เท่านั้น จะเห็ นได้ว่าโลจิสติกส์ เป็ น Cost Centers คือ เป็ นการใช้ระบบที่เรี ยกว่าต้นทุนรวม
ศูนย์ แต่ก็อย่าไปสนจนเหมาเอาว่าค่าใช้จ่ายทั้งหลายทั้งปวง ทั้งในด้านบริ หารและการผลิตเหมาะสมเป็ น
ค่าใช้จ่ายของ Logistics ไปเสี ยทั้งหมด อาจกล่าวได้วา่ กระแสที่เกิดจากการตลาดยุคใหม่ที่เรี ยกว่าโลกาภิวตั น์
(Market Globalization) ซึ่ งเป็ นตลาดในยุคโลกไร้ พรมแดน โดยมีกลไกการค้า World Trade Organization
หรื อ WTO เป็ นองค์กรโลกในการกาหนดกติกาของการค้าโลกโดยโลจิสติกส์ จะมีส่วนผลักดันให้เกิด Value
Chain เพิ่ ม Productivity และความต้อ งการของลู ก ค้า ที่ ห ลากหลายในลั ก ษณะเป็ น Total Integrated
Marketing นาไปสู่ การวางตาแหน่งของธุ รกิจบนการค้าของโลก เพื่อที่จะให้สามารถตอบสนองต่อกลไกของ
โลกทีเ่ กีย่ วข้ องกับปัจจัย ดังต่ อไปนี้
1) World Class Marketing การตลาดและการแข่งขันระดับโลก
2) International Transport การขนส่ งระหว่างประเทศ
3) Globalization Rule & Trading Systems กฎเกณฑ์การค้าโลก
4) Territory Procedure กระบวนการที่เกี่ยวกับเขตแดน
5) International Law กฎหมายระหว่างประเทศ
6) Global Change Management การบริ หารการเปลี่ยนแปลงของโลก
จากที่ ก ล่ า วมาทั้ ง หมด จะเห็ น ได้ ว่ า Logistics นั้ น ประกอบด้ ว ยกระบวนการหลายอย่ า ง ซึ่ ง แต่ ล ะ
กระบวนการนับเป็ นองค์ ประกอบของระบบที่ต้องมีการประสานให้ แต่ ละกิจกรรมสามารถทางานสอดคล้อง
กันอย่ างบู รณาการ (Intergration) โดย Key Factor หรื อองค์ ประกอบที่เป็ นกุญแจของ Logistics จะต้ อง
เกี่ยวข้ องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้ องกับการจัดเก็บสิ นค้ า (Storage) และการเคลื่อนย้ าย – กระจายสิ นค้ า
(Moving & Distribution) จาก Point of Origin ไปสู่ Point of Consumption ของปัจจัยอย่างน้ อย ดังต่ อไปนี้
1. วัตถุดิบ (Raw Material)
2. สิ นค้าสาเร็ จรู ป (Finished Goods)
3. การจัดการข้อมูลข่าวสาร (Information Flow)
4. กิจกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายและขนส่ งสิ นค้า (Moving & Transportation)
5. กิจกรรมมูลค่าเพิม่ (Value Added Activities)
บทบาทโลจิสติกส์
โลจิสติกส์เป็ นกุญแจสาคัญในระบบเศรษฐกิจสองแนวทาง คือ
• โลจิสติกส์ เป็ นรายจ่ายที่สาคัญสาหรับธุ รกิจต่างๆ และจะส่ งผลกระทบและได้รับผลกระทบจากกิจกรรม
อื่น ในระบบเศรษฐกิ จ การปรับปรุ งประสิ ทธิ ผลของกระบวนการด้านโลจิสติกส์ จะส่ งผลโดยตรงต่อการ
ปรับปรุ งสภาพเศรษฐกิจโดยรวมให้ดีข้ ึนได้
• โลจิ ส ติ ก ส์ ไ ด้รองรั บ การเปลี่ ย นแปลงและกระบวนการของธุ รกรรมทางเศรษฐกิ จ และได้ก ลายเป็ น
กิจกรรมสาคัญในด้านการสนับสนุนการขายเสมือนหนึ่งเป็ นสิ นค้าและบริ การด้วย
โลจิ ส ติ ก ส์ เป็ นการเพิ่ มอรรถโยชน์ท างด้า นเวลาและสถานที่ โดยให้มี การนาสิ นค้า ที่ ลู กค้าต้องการเพื่ อ
บริ โภคหรื อเพื่ อการผลิ ตไปยังสถานที่ที่ตอ้ งการ ในเวลาที่ตอ้ งการ ในสภาพที่ตอ้ งการ และในต้นทุนที่
ต้องการ
บทบาทของ Logistics ทีม่ ีต่อแต่ ละ Sector อาจมีได้ ดังต่ อไปนี้
1. บทบาทของ Logistics ที่มีต่อภาคธุ รกิจ
1) Economy of Scale & Speed ทาให้ธุรกิ จเป็ นการผลิ ตและส่ งมอบสิ นค้าแบบพอดี กบั ความต้องการของ
ลูกค้า
2) Cost Efficient มีตน้ ทุนการผลิตที่ต่า
3) Competitiveness มีความสามารถทางการแข่งขันที่ดีกว่า
2. บทบาทของ Logistics ที่มีต่อภาคการส่ งออก
1) ท าให้มี ก ารจัด การวัต ถุ ดิ บ และการเคลื่ อ นย้า ยสิ น ค้า เป็ นแบบ Just In Time ได้รั บ ความเชื่ อ ถื อ จาก
ต่างประเทศ
2) เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน โดยลดต้นทุนด้าน Logistics ไม่น้อยกว่า 10-15% หรื อประมาณ 96,000 ล้าน
บาทต่อปี (ปี 2547 มูลค่าส่ งออกของไทย USD 80,000 ล้าน คิดเป็ นต้นทุนโลจิสติกส์ 640,000 ล้านบาท)
3) ช่วยส่ งเสริ มให้มีการค้าชายแดนได้อย่างมีประสิ ทธิ ภาพ และ ประสิ ทธิ ผล
3. บทบาทของ Logistics ที่มีต่อภาคราชการ
1) เพื่อให้มีการกระจายงบประมาณได้อย่างรวดเร็ ว
2) เป็ นการใช้งบประมาณอย่างมีประสิ ทธิ ภาพ
3) สนองนโยบายประชาชนเป็ นศูนย์กลาง (Citizen Center)
4. บทบาทของ Logistics ที่มีต่อภาคเกษตร
1) เคลื่อนย้ายผลิตผลไปสู่ ตลาดอย่างรวดเร็ ว
2) ลดต้นทุนรวมของผลิตผล
3) ลดความเสี ยหายจากการเน่าเสี ย
4) มีการพัฒนารู ปแบบ Packaging และ ศูนย์กระจายสิ นค้า
5) ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ Update เพื่อกาหนดพื้นที่การเกษตร
6) เกษตรกรมีความเป็ นอยูท่ ี่ดี
5. บทบาทของ Logistics ที่มีต่อภาคสังคม
1) ช่วยกระจายสิ นค้าของธุ รกิจรากหญ้า และ OTOP ได้อย่างรวดเร็ ว
2) ลดต้นทุน Logistics ของ SMEs โดยวิธี Cost Sharing
3) ประชาชนได้บริ โภคสิ นค้าที่ดีและมีตน้ ทุนต่า
4) ลดอุบตั ิภยั ที่เกิดจากการขนส่ ง
5) เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม
ลักษณะของ Logistics แยกออกเป็ น 2 แบบ ดังนี้
1. ลักษณะกิ จกรรมเคลื่ อนย้ายสิ นค้าแบบแยกส่ วน เป็ นลักษณะการดาเนิ นงาน โดยกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ
การเคลื่ อนย้ายสิ นค้า จะแยกออกเป็ นส่ วนๆ โดยไม่มีการสอดประสานกัน ต่างกิจกรรมก็จะดาเนิ นไปตาม
ภาระกิจหรื อหน้าที่ของตนเอง เช่น หน่วยงานจัดซื้ อ ก็จะซื้ อสิ นค้าไปตามรู ปแบบที่เคยปฏิบตั ิมาในอดีต โดย
ไม่ได้ซ้ื อไปตามการคาดคะเนความต้องการของฝ่ ายการตลาด การขนส่ งสิ นค้า ก็เน้นไปที่ความสะดวกของ
ตนเองไม่ได้คานึ งถึ งความต้องการของลูกค้า ส่ วนการจัดการด้านคลังสิ นค้าก็เน้นที่เป็ นแบบเก็บ Stock ไว้
เผื่อเหลือเผื่อขาดหรื อเป็ น Buffer Stock ที่มาก เพื่อป้ อนฝ่ ายผลิต ขณะที่ฝ่ายผลิตเอง ก็ยงั เน้นการผลิตที่เป็ น
Economic of Scale คือ ผลิ ตเอามากเข้าว่า เพื่อที่จะได้มีอานาจในการต่อรองราคาวัตถุดิบ ซึ่ งการดาเนิ นการ
ทั้งหมดเหล่านี้ เป็ นตัวอย่างที่ให้เห็นว่าในแต่ละกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ นค้า การเคลื่อนย้ายสิ นค้า และลูกค้า
ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์เชิ งระบบที่จะสอดประสานกัน โดยกิจการมีการลงทุนในต้นทุนคงที่หรื อ Fix Asset และ
ในสิ นค้าคงคลังที่สูง ทาให้มีตน้ ทุนสู ง ก็จะทาให้ความได้เปรี ยบทางด้านต้นทุนที่ไม่อาจแข่งขันกับธุ รกิจที่มี
ระบบการจัดการกับธุ รกิจแบบ Logistics เนื่องจากมีความเสี ยเปรี ยบทั้งในส่ วนที่เป็ น Cost และในส่ วนที่เป็ น
Speed ในการผลิตและการส่ งมอบและมีตน้ ทุนรวมที่สูงกว่า
2. ลักษณะการเคลื่อนย้ายสิ นค้าแบบบูรณาการ (Integration Logistics) จะเป็ นรู ปแบบที่มีกระบวนการในการ
เคลื่อนย้ายสิ นค้าที่เป็ นองค์รวมในการจัดการ วัตถุดิบ Raw Material และสิ นค้า (Goods) จาก Supply Source
จนไปถึง Demand Source คือไปถึงผูบ้ ริ โภคหรื อผูซ้ ้ื อในลักษณะแบบ Just In Time โดยแต่ละกิจกรรมจะมี
ปฏิ สัมพันธ์ เชิ งระบบในการสอดประสานกัน โดยอาศัยข้อมูลข่าวสาร (Information Flow) การคาดคะเน
ความต้องการของลู กค้า (Demand Predictive) และการลดต้นทุ นที่ เกิ ดจากการลงทุนในทรั พ ย์สิ น Fixed
Asset และใน Stock สิ นค้า โดยการสร้างมูลค่าเพิ่ม Value Added ในตัวสิ นค้าและบริ การ ซึ่ งเป็ นลักษณะ
ที่เรี ยกว่าการจัดการแบบ Logistics ซึ่ งจะทาให้มีตน้ ทุนรวมที่ดีกว่า ก่อให้เกิดมีความได้เปรี ยบในการแข่งขัน
(โปรดดูภาพที่ 2) ทั้งนี้ ขอ้ แตกต่างที่ สาคัญระหว่างการจัดการเคลื่ อนย้ายสิ นค้าที่ จะเป็ น Logistics ได้น้ นั
จะต้องมีการจัดการให้ทุกกระบวนการมีความเป็ นปฏิสัมพันธ์ต่อกัน และต้องเป็ นแบบเชิ งระบบ (Systems)
คือมีกฎเกณฑ์ มีการวางแผนที่เป็ นระบบเชิงวิทยาศาสตร์
การขนส่ ง (Transportation) ในการจัดการโลจิสติกส์
การเคลื่อนย้ายสิ นค้าจากสถานที่หนึ่งเช่นสถานที่ผลิตไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่งและทาให้เกิดความ
เสี ยหายน้อยที่สุด ถ้าในความหมายของโลจิสติกส์ การขนส่ ง หมายถึ ง การวางแผนและบริ หารจัดการเพื่อ
ลาเลียงสิ่ งของจากจุดหนึ่ งไปยังอีกจุดหนึ่ งการขนส่ งมีความสาคัญอย่างมากต่อการดาเนิ น การทางตลาดทา
ให้ความเจริ ญขึ้นอย่าง รวดเร็ ว มีการขายอย่างกว้างขวาง
รู ปแบบการขนส่ ง
รู ป แบบการขนส่ ง นั้นมี ใ ห้เลื อกมากมายไม่ ว่า จะเป็ นทางบก ทางน้ า หรื อทางอากาศ การที่ จะ
เลื อกใช้ก ารขนส่ ง ในแต่ ล ะแบบนั้นจะต้องค านึ ง ถึ ง ข้อดี ข้อเสี ย ของแต่ ล ะรู ป แบบการขนส่ ง ก่ อนจึ ง จะ
ตัดสิ นใจ
การขนส่ งทางบก
การขนส่ งในเกือบทุกกรณี จะต้องอาศัยการขนส่ งทางถนนเพราะเป็ นการขนส่ งที่สามารถจะเข้าถึง
ต้นทางและปลายทางได้และสะดวกรวดเร็ วส่ วนมากใช้การขนส่ งทางบก
ข้ อดีของการขนส่ งทางบก
1.ไม่ตอ้ งมีการขนถ่ายซ้ า (ในกรณี ที่ขนส่ งทางถนนตลอดเส้นทาง)
2.ให้บริ การได้อย่างรวดเร็ ว เพราะค่อนข้างเดินทางได้เร็ ว
3.สามารถรักษาต้นทุนบรรจุภณั ฑ์ให้ต่าได้
ข้ อเสี ยของการขนส่ งทางบก
1.ต้นทุนค่อนข้างสู ง เพราะขนส่ งได้ทีละไม่มาก
2.ข้อจากัดด้านถนน ไปได้เท่าที่ถนนจะไปถึง เช่นไม่สามารถจะข้ามทวีป
การขนส่ งทางนา้
การขนส่ งทางน้ าจะใช้เรื อสิ นค้าที่มีขนาดใหญ่ขนส่ งสิ นค้าได้ทีละมากๆ
ข้ อดีการขนส่ งทางนา้
1.ต้นทุนต่อหน่วยต่า เพราะเรื อมีขนาดใหญ่และใช่พลังงานขับเคลื่อนต่อน้ าหนักต่า
2.ขนส่ งสิ นค้าขนาดใหญ่ได้ สามารถรองรับสิ นค้าได้เกือบทุกชนิด
3.มีความปลอดภัยมากเพราะใช้ความเร็ วต่า
ข้อเสี ยการขนส่ งทางน้ า
1.ใช้ระยะเวลายาวนาน
2.ต้องให้มีปริ มาณมากเพียงพอ ไม่มีความคุม้ ค่าหากต้องขนส่ งทีละน้อย
3.ต้องมีการขนถ่ายซ้ า โดยทัว่ ไปเรื อไม่สามารถเข้าถึงจุดรับส่ งสิ นค้าได้
4.ความเสี ยหายจากการขนถ่ายสิ นค้าซ้ า
การขนส่ งทางรถไฟ
การขนส่ ง เส้ นทางตายตัวดัง นั้นจึ ง ต้องมี ปริ ม าณการใช้ที่ สู งจึ ง จะเกิ ดความคุ ม้ ค่ า ในการสร้ า ง
เส้นทางหนึ่งๆขึ้นมาเหมาะสาหรับการขนส่ งสิ นค้าปริ มาณมากและในระยะทางไกล
ข้ อดีการขนส่ งทางรถไฟ
1.ต้นทุนค่อนข้างต่า สามารถขนส่ งได้ทีละมากๆ
2.ขนส่ งได้ทุกสภาพดินฟ้ าอากาศ
3.สะดวก เพราะมีตหู ้ ลายชนิดให้เลือกเพื่อความเหมาะสมกับสิ นค้าและมีความปลอดภัยสู ง
ข้อเสี ยการขนส่ งทางรถไฟ
1.ใช้ระยะเวลานานต้องมีการขนถ่ายซ้ า เพราะต้องมีการขนส่ งจากสถานีรถไฟไปยังจุดปลายทาง
2.ต้นทุนบรรจุภณั ฑ์สูงเพราะว่าระวางสิ นค้าจาเป็ นต้องทนแรงกระแทกสู ง
3.ความยืดหยุน่ มีนอ้ ย เพราะมีเส้นทางตายตัว
การขนส่ งทางอากาศ
การขนส่ งโดยใช้เครื่ องบินการขนส่ งในรู ปแบบนี้จึงมักจากัดอยูใ่ นรู ปแบบของหี บห่อ
ข้ อดีการขนส่ งทางอากาศ
1.ความรวดเร็ วสู ง และมีเวลาที่ชดั เจน
2.สามารถรักษาต้นทุนบรรจุภณั ฑ์ให้ต่าได้
ข้อเสี ยการขนส่ งทางอากาศ
1.ราคาที่สูงมาก จนทาให้ไม่สามารถนามาใช้กบั สิ นค้าที่มีตน้ ทุนต่าได้
2.ข้อจากัดของขนาดของสิ นค้า ขนาดบรรจุของเครื่ องบินจากัดเมื่อเทียบกับเรื อ
3.ต้องมีการขนถ่ายซ้ า ต้องมีการขนส่ งจากสนามบินไปยังจุดส่ งปลายทาง
การพัฒนาประเทศไทย ด้ วยระบบโลจิสติกส์ (Logistics)
การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ของประเทศไทยมีหน่ วยงานของรัฐบาลที่เกี่ ยวข้องหลายองค์กรที่ร่วมกัน
ประชุ ม หารื อ ประสานงานระดมสมองแก้ปั ญ หา เพื่ อ เปิ ดมิ ติ ใ หม่ ใ ห้ ก ับ ระบบการขนส่ ง สิ น ค้า อาทิ
กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ งชาติ
(สศช.) สานักงบประมาณ กรมศุลกากร การท่าเรื อแห่งประเทศไทย (กทท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อ
ร่ วมกันทาให้ระบบโลจิสติกส์ เป็ นรู ปธรรม อย่างเช่น บันทึกข้อตกลงความร่ วมมือในการขนส่ ง (Port - to -
Door ) และ Door - to - Port ข้อตกลงเพิ่มประสิ ทธิ ภาพของขนส่ งสิ นค้า และข้อตกลง การนาส่ งสิ นค้าและ
พัสดุภณั ฑ์ด่วนถึงมือผูร้ ับส่ วนยุทธศาสตร์ ทางอากาศนั้น มี 3 ยุทธศาสตร์หลัก คือ
- Global Distination Network โดยขยายเครื อข่ายเส้นทางบินครอบคลุมทัง่ โลก เป็ นศูนย์กลางโลจิสติกส์
ของสิ นค้า ในกลุ่มประเทศจีเอ็มเอส และเอเซี ยใต้
- พัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติให้เป็ นประตูระดับโลกโดยให้สนามบินสุ วรรณภูมิเป็ นประตูสู่ ระดับโลก
โดยให้สนามบินเชียงใหม่และภูเก็ตเป็ นประตูสู่ภูมิภาค
- เป็ นศูนย์กลางของโลจิสติกส์ ของโลกด้านอาหาร ผัก ผลไม้สด ดอกไม้ แฟชัน่ ชิ้ นส่ วนอิ เล็กทรอนิ กส์
อะไหล่รถยนต์ และเครื่ องประดับ การแข่งขันในตลาดโลกนับวันยิ่งทวีความรุ นแรงมากขึ้นเรื่ อยๆความ
รวมเร็ ว และต้นทุนที่ถูกลงเป็ นปั จจัยสาคัญที่จะทาให้เกิ ดความได้เปรี ยบเสี ยเปรี ยบ เพราะประเทศไทยมี
ต้นทุนการขนส่ งสิ นค้าสู งถึง 25-30 % จึงต้องเร่ งแก้ปัญหา นอกเหนื อจากการร่ วมมือกับประทรวงการคลัง
เพื่อวางแผนในการกาหนดแผนพัฒนา โลจิสติกส์ ระดับประเทศแล้ว ส่ วนของกระทรวงคมนาคมจะ
ดูวา่ มีศูนย์กระจายสิ นค้าคลังสิ นค้าที่รวบรวมสิ นค้าแล้วดูวา่ จะส่ งไปถึงปลายทางได้อย่างไร แต่เดิมเคยคิดว่า
จะให้มีคลังสิ นค้า 4 มุมเมือง แต่ก็ไม่ประสบความสาเร็ จเท่าที่ควร ขณะนี้ กาลังดูรูปแบบที่เหมาะสมแล้ว
จะนามาผสมผสานกับการขนส่ งในหลายรู ปแบบ ทั้งทางรถยนต์ รถไฟ เรื อ มาเชื่ อมโยงกัน เพื่อให้สินค้า
ขนส่ งได้เร็ วที่สุดในราคาถูกที่สุด
หากเป็ นการขนส่ งทางอากาศต้องเป็ นสิ นค้าที่มีราคาแพง บรรจุภณ ั ฑ์ที่สวยงาม ต้องการความรวดเร็ วหรื อ
เป็ นสิ นค้าเทกอง โดยเฉพาะสิ นค้าเกษตรต่างๆ ก็ตอ้ งขนส่ งทางเรื อ การบริ หารจัดการเพื่อความรวดเร็ วนั้น
สาคัญ แต่วา่ การขนส่ งให้ตน้ ทุนถูกก็สาคัญเช่นกันแล้วแต่สินค้าแบบไหน แต่ตอ้ งมีการบริ หารจัดการสิ นค้า
คงคลัง เพราะโลจิสติกส์ คือการควบคุมทุกอย่าง ซึ่ งเรามีขอ้ มูลแล้วว่าสิ นค้าแต่ประเภทจะขนส่ งทางไหน
บ้างจึงจะคุม้ ค่าที่สุด
กระทรวงคมนาคมได้ วางยุทธศาสตร์ ในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ไว้ ท้ งั ทางภาคพืน้ และทางอากาศโดย
ในทางภาคพืน้ นั้น มี 4 ยุทธศาสตร์ หลัก คือ
1. พัฒนาท่าเรื อไทยให้เป็ นประตูไปสู่ ภูมิภาคโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ( ร.พ.ท . )
จะต้องขยายขีดความสามารถของสถานะบรรจุและแยกสิ นค้ากล่อง ( ไอซี ดี ) ให้มากขึ้น ขณะที่องค์กร
ขนส่ งสิ นค้า และพัสดุภณั ฑ์ (ร.ส.พ.) ต้องตั้งสถานีบรรจุและขนถ่ายตูส้ ิ นค้า เพื่อการนาเข้าและส่ งออกย่าน
พหลโยธิ น ส่ วน กทท. ก็ตอ้ งปรั บปรุ งท่าเที ยบเรื อให้รองรั บเรื อ Roll on-Roll off ระหว่างประเทศได้
ควบคู่ไปกับพัฒนาท่าเทียบเรื อภูมิภาคให้เข็มแข็งมากขึ้น
2. พัฒนาศูนย์รวบรวมและกระจายสิ นค้า
โดยตั้งฮับประจาภาค เพื่อประสานระบบขนส่ งให้สมบรู ณ์โดยมีโครงการที่จะพัฒนาย่านคอนเทนเนอร์ ใน
ภูมิภาคไปยังปลายทาง
3. พัฒนาวิธีการขนส่ งไปสู่ ระบบรางทางน้ า และทางท่อ
เพื่อให้การขนส่ งมีปริ มาณมากขึ้น แต่สามารถลดต้นทุนการขนส่ ง และประหยัดพลังงาน ซึ่ งสานักงาน
นโยบายและแผนการขนส่ งและจราจร (สนข.) ได้เริ่ มศึกษา เพื่อพัฒนาระบบรางน้ า และท่อให้เกิดความ
เชื่ อมโยงกันแล้ว ส่ วน ร.ฟ.ท. นั้น ก็ตอ้ งเร่ งก่อสร้างทางคู่ในช่ วงชุ มทางเส้นทางขนส่ งสิ นค้ามายังท่าเรื อ
แหลมฉบังให้มากขึ้นด้าน บทด. ต้องเร่ งส่ งเสริ มใช้เรื อ Roll on-Roll off ให้มากขึ้นเช่นกัน
4. พัฒนาระบบเกี่ยวข้องกับการจัดการด้านโลจิสติกส์
สาหรั บระบบการขนส่ งทางภาคพื้น เพื่อให้บริ การแบบ Door - to - Door ซึ่ ง ได้ต้ งั คณะกรรมการโลจิ
สติกส์ แห่ งชาติข้ ึนมาแล้ว เพื่อให้เป็ นเจ้าภาพในการดาเนิ นการทั้งหมด พร้อมทั้งปรับปรุ งกฎระเบียบของ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีข้ นั ตอนมากๆ ให้นอ้ ยลงนาระบบไอทีเข้ามาใช้มากขึ้น การสนับสนุนให้ประชาชน
หันมาใช้ระบบขนส่ งมวลชนให้มากขึ้น สาหรับการขนส่ งคนโดยเฉพาะระบบรางมีเพียง 42 ก.ม. เท่านั้น
โดยรัฐบาลมีโครงการที่จะก่อสร้ างการขนส่ งด้วยระบบรางให้ครบ 200 ก.ม. ภายใน 6 ปี โดยมีวงเงิน
ลงทุน 400,000 ล้านบาท การพัฒนาระบบโลจิสติ กส์ ในประเทศไทยจะก้าวหน้าไกลเที ยบเท่ากับนานา
อารยประเทศได้หรื อไม่น้ นั ไม่ได้ข้ ึนอยูก่ บั รัฐบาล หรื อกระทรวงคมนาคมเท่านั้น แต่ข้ ึนอยูก่ บั ความร่ วมมือ
ของหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน และปั จจัยต่างๆที่เป็ นตัวแปลของต้นทุนในการ
ขนส่ ง ระบบการจัดเก็บ และคลังสิ นค้าที่กลายเป็ นอุปสรรค แต่ถึงอย่างไรเพื่อประเทศไทยแล้ว รัฐบาล
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง สนข. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังคงระดมสมองคิดหาวิธีวางแผนพัฒนา ระบบโลจิ
สติกส์ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้ระบบการขนส่ งและคมนาคมมีความสะดวกรวดเร็ ว ถูกที่ มีตน้ ทุนต่า
การจัดการโลจิสติกส์ ระดับโลก
• เหตุใดจึงต้องมีการจัดการโลจิสติกส์ระดับโลก
–บริ ษทั ต่างๆ ทั้งเล็ก กลางใหญ่ต่างมีความต้องการดาเนินธุ รกิจระหว่างประเทศ
–ศักยภาพของตลาดต่างประเทศมีมาก
–กาลังการผลิตในปั จจุบนั เหลืออยู่ ต้องการระบายสิ นค้าสู่ ต่างประเทศ
–สิ นค้าในประเทศเริ่ มเสื่ อมคลาย แต่ยงั เติบโตได้ในต่างประเทศ
–หลบเลี่ยงการแข่งขันภายในประเทศจากบริ ษทั ข้ามชาติ
–การขยายการลงทุนสู่ ต่างประเทศ ช่วยลดค่าแรงงาน ลดภาษี
–ลดความเสี่ ยงเนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
เหตุผลเหล่านี้ทาให้ธุรกิจต้องหันมาให้ความสาคัญกับโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ
ร้อยละยอดขายภายนอกประเทศของบริ ษทั ข้ามชาติช้ นั นา
มูลค่าโลจิสติกส์ในแต่ละประเทศ
รู ปแบบการดาเนินงานโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ
International business
• กิจกรรมการตลาดที่ดาเนินข้ามเขตของประเทศ หรื อค้าข้ามพรมแดน
–ตัวอย่าง การส่ งออกทัว่ ๆไป การจัดกิจกรรมการตลาดในต่างประเทศ
• กิจกรรมและความรับผิดชอบ
–จัดเตรี ยมกิจกรรมทางการตลาดที่มีความสะดวกและความเคยชิ นที่ตอ้ งการไปยังประเทศอื่นๆ โดยขึ้นอยู่
กับความแตกต่างของสภาวะแวดล้อม เช่น ภาษา เวลา
–การสนับสนุนและการประเมินความพยายามทางการตลาด
Multinational corporation
• กลุ่ ม ความร่ วมมื อทางธุ รกิ จหลายประเทศ มี ก ารขยายจากธุ รกิ จระหว่า งประเทศ ลงทุ นและควบคุ ม
มากกว่า 1 ประเทศ
• กิ จ กรรมการตลาดที่ ด าเนิ น อยู่ใ นต่ า งประเทศโดยบริ ษ ัท ในประเทศที่ มี ค วามแตกต่ า งจากกิ จ กรรม
ภายในประเทศ
–ตัวอย่าง เช่น บริ ษทั CP ดาเนินกิจการอยูใ่ นประเทศจีน
• กิจกรรมและความรับผิดชอบ
–การสร้าง ปฏิบตั ิการและควบคุมกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อบรรลุวตั ถุประสงค์ของกิจการ
–ต้องเผชิญกับความต้องการและความจาเป็ นของตลาดเป้ าหมายหรื อส่ วนตลาด
Global company
• การประสานงาน การประสมประสาน การควบคุ มกิ จกรรมการตลาดที่มีความแน่ นอน โดยมีเป้ าหมาย
ของกิจการเพื่อให้ได้รับพร้อมกันทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ
• มีการบูรณาการการตลาดที่แตกต่างกันให้เป็ นหนึ่งเดียว โดยมองโลกเป็ นตลาดเดียวกัน
–ตัวอย่าง เช่ น การพัฒนาสิ นค้าหนึ่ งตาบล หนึ่ งผลิ ตภัณฑ์ หรื อผลิตภัณฑ์ที่มี Brand ระดับโลก เช่ น Coca
Cola , Gillette , 3M
• กิจกรรมและความรับผิดชอบ
–พยายามประสานความพยายามทางการตลาดทั้งการตลาดระหว่างประเทศและการตลาดต่างประเทศ โดย
การรักษายอดขายและตาแหน่งทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างสอดคล้อง
Transnational company
บริ ษทั ที่โอนความรับผิดชอบไปยังประเทศที่ลงทุน มีดว้ ยกันหลายลักษณะ
Export
การส่ งออก คือ การขายสิ นค้าจากประเทศตนเองไปยังประเทศอื่น โดยมากมักใช้บริ การตัวกลางในการ
ขนส่ ง เรี ยกว่าผูร้ ับจัดการขนส่ ง (Freight Forwarder) ผูก้ ระจายสิ นค้า (Distributor) และบริ ษทั ซื้ อมาขายไป
(Trading Company)
ข้ อดี คือ ลดความเสี่ ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ แต่มี