Download as doc, pdf, or txt
Download as doc, pdf, or txt
You are on page 1of 10

บันทึกตกลงระงับข้อพิพาทและประนีประนอมยอมความ

บันทึกที่ สภ.โคก
กระชาย
วันที่ 2
มกราคม ๒๕๖๗
วันนี้คู่กรณีจำนวน ๒ ฝ่ ายมีรายนามดังต่อไปนี้คือ
“คู่กรณีฝ่ ายที่ 1” ได้แก่ ชื่อ: นายโชคชัย ผะกาทอง เลขประจำตัว : 1
3108 00186 68 6 อายุ: 28 ปี เชื้อชาติ: ไทย สัญชาติ: ไทย อาชีพ: รับจ้าง ที่
อยู่: 25 หมู่ 11 ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โทรศัพท์: 098-154-4181
เกี่ยวกับคดี: ผู้เสียหายและบุตรของนางปลอก ผะกาทอง อายุ ๕๖ ปี (ผู้เสียชีวิต
จากอุบัติเหตุครั้งนี้)
“คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒” ได้แก่ ชื่อ: นายสังคม สุนทรพระ เลขประจำตัว : 3
3108 00386 01 1 อายุ: 50 ปี เชื้อชาติ: ไทย สัญชาติ: ไทย อาชีพ: รับจ้าง ที่
อยู่: 147 หมู่ 8 ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โทรศัพท์: 0821338670
เกี่ยวกับคดี: เป็ นตัวแทนของผู้ต้องหา ชื่อ: นายอภินันท์ งามแสง เลขประจำตัว: 1
3108 00081 01 9 อายุ: 37 ปี เชื้อชาติ: ไทย สัญชาติ: ไทย อาชีพ: เกษตรกร ที่
อยู่: 94 หมู่ 8 ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์โทรศัพท์: 082-133-8670
ทั้ง ๒ ฝ่ ายได้มาแสดงเจตนาระงับข้อพิพาทและประนีประนอม ชดเชยค่า
สินไหมทดแทน ต่อหน้าพนักงานสอบสวน และพยาน คือ นายประกิจ เตียก
ประโคน ,นายสมบุญ โพธิ์เงิน ซึ่งบุคคลตามที่กล่าวมข้างต้น ได้มาร่วมเป็ น
พยานในการเจรจา ชดเชยค่าสินไหมทดแทน ในกรณีอุบัติเหตุ เมื่อวันที่ 22
ธันวาคม 2566 เวลา 11.30 น. ที่บริเวณถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ที่11 ต.สาย
ตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต คือ นางปลอก ผะกาทอง อายุ
๕๖ ปี โดยคู่กรณีได้มาตกลงต่อหน้าพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรโคก
กระชาย อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ประจำวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๗ เวลา 16.45
น. โดย คู่กรณีฝ่ ายที่ 1 ได้เรียกร้องให้ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ ชำระเงินค่าสินไหม
ทดแทน เป็ นจำนวนเงิน 2,000,000 บาท (สองล้านบาทถ้วน) แต่เนื่องจาก คู่
กรณีฝ่ ายที่ ๒ อ้างว่ายังไม่สามารถชำระได้เนื่องจากมีเงินไม่พอชำระ แต่ทั้ง่นี้
ได้แสดงความประสงค์ที่จะ ชดเชยเงินค่าสินไหมทดแทน เป็ นจำนวนเงิน 170,000
บาท (หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นบาท ทั้งนี้ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ ช่วยเหลือในงานฌาปณกิจ
ไปแล้ว เป็ นจำนวน 30,000 บาท (สามหมื่นบาทถ้วน) ตามที่กล่าวมา
ทั้งหมด คู่กรณีฝ่ ายที่ 1 ประสงค์ที่จะได้รับการชำระตามจำนวนที่เรียกร้องไปแล้ว
ข้างต้น จึงไม่สามารถตกลง เจรจาไกล่เกลี่ย ได้แต่อย่างใด และขอให้พนักงาน
สอบสวนดำเนินคดีผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป
ร.ต.อ.กฤษฎา ปาประโคน รอง สว.(สอบสวน) สภ.โคกกระชาย ได้รับแจ้ง
และเป็ นพยานในการประนีประนอมยอมความ ตามประสงค์ของคู่กรณีทั้งสองฝ่ าย
แล้ว
อ่านให้ฟั งแล้วให้อ่านเองรับว่าถูกต้องจึงลงลายมือชื่อไว้เป็ นหลักฐาน

ลงชื่ อ ............................................. คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ (ฝ่ ายผู้เสีย


หาย)
( นายโชคชัย ผะกาทอง)

ลงชื่ อ ............................................... คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ (ฝ่ ายผู้


ต้องหา)
( นายสังคม สุนทรพระ )

ลงชื่อ ............................................... พยาน ลงชื่อ


............................................... พยาน
( นายประจิตร เตียกประโคน) ( นาย
สมบุญ โพธิ์เงิน )

ล ง ชื่ อ ร .ต .อ . .............................................
พงส./พยาน/บันทึก/อ่าน
( กฤษฎา ปาประโคน )
รอง สว.(สอบสวน) สภ.โคกกระชาย
บันทึกตกลงระงับข้อพิพาทและประนีประนอมยอมความ
บันทึกที่ สภ.โคก
กระชาย
วันที่ ๙
มกราคม ๒๕๖๗
วันนี้คู่กรณีจำนวน ๒ ฝ่ ายมีรายนามดังต่อไปนี้คือ
“คู่กรณีฝ่ ายที่ 1” ได้แก่ ชื่อ: นายโชคชัย ผะกาทอง เลขประจำตัว : 1
3108 00186 68 6 อายุ: 28 ปี เชื้อชาติ: ไทย สัญชาติ: ไทย อาชีพ: รับจ้าง ที่
อยู่: 25 หมู่ 11 ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โทรศัพท์: 098-154-4181
เกี่ยวกับคดี: ผู้เสียหายและบุตรของนางปลอก ผะกาทอง อายุ ๕๖ ปี (ผู้เสียชีวิต
จากอุบัติเหตุครั้งนี้)
“คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒” ได้แก่ ชื่อ: นายสังคม สุนทรพระ เลขประจำตัว : 3
3108 00386 01 1 อายุ: 50 ปี เชื้อชาติ: ไทย สัญชาติ: ไทย อาชีพ: รับจ้าง ที่
อยู่: 147 หมู่ 8 ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โทรศัพท์: 0821338670
เกี่ยวกับคดี: เป็ นตัวแทนของผู้ต้องหา ชื่อ: นายอภินันท์ งามแสง เลขประจำตัว: 1
3108 00081 01 9 อายุ: 37 ปี เชื้อชาติ: ไทย สัญชาติ: ไทย อาชีพ: เกษตรกร ที่
อยู่: 94 หมู่ 8 ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์โทรศัพท์: 082-133-8670
ทั้ง ๒ ฝ่ ายได้มาแสดงเจตนาระงับข้อพิพาทและประนีประนอม ชดเชยค่า
สินไหมทดแทน ครั้งที่๒ ต่อหน้าพนักงานสอบสวน และพยาน คือ นายประจิตร
เตียกประโคน ,นายสมบุญ โพธิ์เงิน ซึ่งบุคคลตามที่กล่าวมาข้างต้น ได้มาร่วม
เป็ นพยานในการเจรจา ชดเชยค่าสินไหมทดแทน ในกรณีอุบัติเหตุ เมื่อวันที่
22 ธันวาคม 2566 เวลา 11.30 น. ที่บริเวณถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ที่11
ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต คือ นางปลอก ผะกา
ทอง อายุ ๕๖ ปี โดยคู่กรณีได้มาตกลงต่อหน้าพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจ
ภูธรโคกกระชาย อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ประจำวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๗ เวลา
16.45 น. โดย คู่กรณีฝ่ ายที่ 1 ได้เรียกร้องให้ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ ชำระเงินค่า
สินไหมทดแทน เป็ นจำนวนเงิน 2,000,000 บาท (สองล้านบาทถ้วน) แต่
เนื่องจาก คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ อ้างว่ายังไม่สามารถชำระได้เนื่องจากมีเงินไม่พอชำระ
แต่ทั้ง่นี้ ได้แสดงความประสงค์ที่จะ ชดเชยเงินค่าสินไหมทดแทน เป็ นจำนวนเงิน
170,000 บาท (หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นบาท ทั้งนี้ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ ช่วยเหลือในงาน
ฌาปณกิจไปแล้ว เป็ นจำนวน 30,000 บาท (สามหมื่นบาทถ้วน) ตามที่
กล่าวมาทั้งหมด คู่กรณีฝ่ ายที่ 1 ประสงค์ที่จะได้รับการชำระตามจำนวนที่เรียก
ร้องไปแล้วข้างต้น จึงไม่สามารถตกลง เจรจาไกล่เกลี่ย ได้แต่อย่างใด และขอ
ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีผู้ต้องหาตามกฎหมายถึงที่สุด
ร.ต.อ.กฤษฎา ปาประโคน รอง สว.(สอบสวน) สภ.โคกกระชาย ได้รับแจ้ง
และเป็ นพยานในการประนีประนอมยอมความ ตามประสงค์ของคู่กรณีทั้งสองฝ่ าย
แล้ว
อ่านให้ฟั งแล้วให้อ่านเองรับว่าถูกต้องจึงลงลายมือชื่อไว้เป็ นหลักฐาน

ลงชื่ อ ............................................. คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ (ฝ่ ายผู้เสีย


หาย)
( นายโชคชัย ผะกาทอง)

ลงชื่ อ ............................................... คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ (ฝ่ ายผู้


ต้องหา)
( นายสังคม สุนทรพระ )

ลงชื่อ ............................................... พยาน ลงชื่อ


............................................... พยาน
( นายประจิตร เตียกประโคน) ( นาย
สมบุญ โพธิ์เงิน )
ล ง ชื่ อ ร .ต .อ . .............................................
พงส./พยาน/บันทึก/อ่าน
( กฤษฎา ปาประโคน )
รอง สว.(สอบสวน) สภ.โคกกระชาย

-๒-

ข้อ๑. ตามที่ คู่กรณีทั้งสองฝ่ ายได้เกิดข้อพิพาทกันสืบเนื่อง


มาจาก เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๒ เวลาประมาณ ๒๒.๓๐
นาฬิกา ขณะที่ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ ขับรถยนต์คันหมายเลข
ทะเบียน ศจ-๗๕๗๕ กทม. และ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ ขับ
รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน บง-๗๖๐๙ สิงห์บุรี มาตามถนน
รัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. จาก บริเวณสี่แยก
ห้วยขวาง มุ่งหน้า สี่แยกรัชดาลาดพร้าว แล้วเกิดพิพาททะเลา
วิวาทกัน เนื่องมาจากเหตุการณ์ขับรถ กระทั่งรถของทั้งสองฝ่ ายขับ
ผ่านมาถึงสี่แยกรัชดา-ลาดพร้าว ซึ่งมีสะพานข้ามแยก คู่กรณี
ฝ่ ายที่ ๑ ได้ขับรถไปตามถนนใต้สะพาน ส่วนคู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ ได้
ขับรถเพื่อจะขึ้นสะพาน ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปื นไม่ทราบขนาด
ยิงเข้าที่รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน บง-๗๖๐๙ สิงห์บุรี ของคู่
กรณีฝ่ ายที่ ๒ จำนวน ๓ นัด เป็ นเหตุให้ กระจกห้องโดยสาร
และ ตัวถังรถยนต์ของคู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ เสียหาย คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒
จึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ให้ติดตามตัว
คนร้าย และ/หรือ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ ในข้อหา พยายามฆ่า และ ฐาน
ความผิด พรบ.อาวุธปื น จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ซึ่งพนักงานสอบน
สวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ดำเนินคดีและสืบสวนหาตัวคนร้าย มา
ดำเนินคดีแล้วตาม ปจว.ข้อ........เวลา..................ลงวัน
ที่.........................แล้วนั้น
ข้อ ๒. ในการตกลงกันวันนี้ เพื่อประสงค์ที่จะมุ่ง
ร ะ งั บ ข้ อ พิ พ า ท ที่ เ กิ ด ขึ้น ทั้ง ห ม ด ใ ห้ เ ส ร็ จ สิ้น ไ ป ใ น ลั ก ษ ณ ะ
ประนีประนอมยอมความกัน มิใช่เป็ นการยอมรับว่า คู่กรณีฝ่ าย
ที่ ๑ กระทำผิด ตามที่ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ ร้องทุกข์ , กล่าวหา แต่
อย่างใด
ลงชื่อ ............................................. คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑

ลงชื่อ ............................................. คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒

ลงชื่อ. ............................................. พยาน


( .......................................... )

ลงชื่อ ... ............................................. พยาน


(..............................................)

ลงชื่อ ร.ต.ท. ................................................พยาน

ล ง ชื่ อ ร .ต .ท . .............................................
พงส./พยาน/บันทึก/อ่าน

-๓-
ข้อ๓.หลังเกิดเหตุ คู่กรณีทั้งสองฝ่ ายได้พูดจาและทำความตกลงกัน
จนเข้าใจกันดีแล้ว จึงไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีต่อกันอีกต่อไป และ
ไม่ติดใจเอาความกันอีกต่อไป จึงมาแสดงเจตนายุติข้อพิพาทไม่เอา
ความกันต่อหน้าพนักงานสอบสวนในวันนี้ โดย คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑
ยืนยันว่า ไม่ได้เป็ นผู้ใช้อาวุธปื นยิงรถของคู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ แต่
อย่างใด เหตุที่มาพบพนักงานสอบสวนวันนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์
ใจ แต่เนื่องจากตามวันเวลาเกิดเหตุ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ ได้มีปากเสียง
กับคู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ เล็กน้อย และ เพื่อเป็ นการบรรเทาความเสียหาย
ให้แก่คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ จากเหตุที่มีปากเสียงกัน คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑
ตกลงมอบเงินจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนบาท) ให้แก่ คู่
กรณีฝ่ ายที่ ๒ เพื่อช่วยเหลือชดเชย จากเหตุที่ รถยนต์ของ คู่กรณี
ฝ่ ายที่ ๒ ได้รับความเสียหาย ตลอดจนชดเชยความเสียหายอื่ นที่
เกิดขึ้นจากมูลเหตุตามข้อ ๑ ตามหลักมนุษยธรรม โดย คู่กรณี
ฝ่ ายที่ ๑ จะมอบเงินจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ให้แก่คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒
เป็ นเงินสด ในวันนี้ ที่ สน.สุทธิสาร ต่อหน้าพนักงานสอบสวน.
ข้อ๔. คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ หลังจากได้พบหน้าคู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ แล้ว
ยืนยันว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ ไม่ใช่คนร้าย
ที่ใช้อาวุธปื นยิงรถของคู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ แต่ย่างใด อีกทั้งหลังจากได้
พูดจาทำความตกลงและปรับความเข้าใจ กับ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ กรณี
ที่มีปากเสียงกันแล้ว จึงเข้าใจว่าเป็ นเรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้น ดัง
นั้น คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ จึงไม่ติดใจที่จะร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
ให้ดำเนินคดีกับคู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ อีกต่อไป และ ไม่ติดใจเอาความกับ
คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ อีกต่อไป ไม่ว่าในทางแพ่งหรือทางอาญานับแต่วัน
นี้เป็ นต้นไป โดยจะถอนคำร้องทุกข์ไปจากพนักงานสอบสวนในวันนี้
เพื่ อมิให้ดำเนินคดีกับคู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ และ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒
ตกลงรับเงินจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนบาท) จากคู่กรณี
ฝ่ ายที่ ๑ เพื่อช่วยเหลือชดเชย จากเหตุที่ รถยนต์ของ คู่กรณีฝ่ ายที่
๒ ได้รับความเสียหาย ตลอดจนชดเชยความเสียหายอื่นที่เกิดขึ้น
จากมูลเหตุตามข้อ ๑ ตามหลักมนุษยธรรม โดย คู่กรณีฝ่ าย
ที่ ๒ ได้รับเงินจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท จากคู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ เป็ น
เงินสด แล้ว ในวันนี้ ที่ สน.สุทธิสาร ต่อหน้าพนักงานสอบสวน.
ลงชื่อ ............................................. คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑

ลงชื่อ ............................................. คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒

ลงชื่อ. ............................................. พยาน


( .......................................... )

ลงชื่อ ... ............................................. พยาน


(..............................................)

ลงชื่อ ร.ต.ท. ................................................พยาน

ล ง ชื่ อ ร .ต .ท . .............................................
พงส./พยาน/บันทึก/อ่าน

-๔-
ข้อ๕. เพื่อให้ ข้อพิพาทที่ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ ได้ร้องทุกข์ต่อพนักงาน
สอบสวน ให้ดำ เนินคดีกับ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ ซึ่งอยู่ระหว่างการ
สอบสวนของพนักงานสอบสวน ยุติเสร็จสิ้นไป สมดังเจตนายุติข้อ
พิพาทของ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ จะให้การ
ยืนยันต่อพนักงานสอบสวนว่า “คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ ไม่ใช่คนร้ายที่ใช้
อาวุธปื นยิงรถคู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ ตามวันเวลาเกิดเหตุแต่อย่างใด”
ข้อ ๖. หาก คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ ผิดสัญญาฉบับนี้ไม่ว่าด้วยเหตุ กล่าว
คือ นำคดีอาญามาฟ้ องคู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ ก็ดี , ใช้สิทธิเรียกร้องฟ้ อง
ร้องคู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ ต่อเจ้าพนักงานก็ดี , ใช้สิทธิร้องทุกข์ต่อ
พนักงานสอบสวนในภายหลังอีกก็ดี หรือ ใช้สิทธิเรียกร้องไม่ว่าใน
ทางใดๆ ต่อคู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ ก็ดี คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒ จะต้อง ชดใช้เงิน
จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท พร้อม เบี้ยปรับอีก ๒๐๐,๐๐๐ บาท รวม
๓๐๐,๐๐๐ บาท คืนให้แก่ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ ภายใน ๓๐ วัน นับ
แต่วันที่ผิดสัญญา หรือใช้สิทธิเรียกร้อง
ข้อ ๗. พนักงานสอบสวน ได้อ่านบันทึกฉบับนี้ให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ าย
ฟั ง และ ให้อ่านเอง แล้ว คู่กรณีทั้งสองฝ่ าย ตกลงที่จะเข้าผูกพัน
ตามบันทึกข้อตกลง และ ประนีประนอมยอมความกัน จึงได้ลง
ลายมือชื่อไว้เป็ นหลักฐานต่อหน้าพนักงานสอบสวน แล้ว นับแต่
เวลานี้
ข้อ ๘. บันทึกฉบับนี้ จัดทำ ขึ้น ๓ ชุด ๑ ชุด มีจำ นวน ๔
แผ่น มีข้อความถูกต้องตรงกัน มอบให้ คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑ คู่กรณี
ฝ่ ายที่ ๒ ฝ่ ายละ ๑ ชุด และพนักงานสอบสวนเก็บรักษาไว้
จำนวน ๑ ชุด
คู่กรณีอ่านข้อความแล้ว ยืนยันเข้าตกลงตามบันทึกจึง
ลงชื่อไว้เป็ นหลักฐานทุกแผ่นแล้ว
นับแต่เวลานี้

ลงชื่อ ............................................. คู่กรณีฝ่ ายที่ ๑

ลงชื่อ ............................................. คู่กรณีฝ่ ายที่ ๒

ลงชื่อ. ............................................. พยาน


( .......................................... )

ลงชื่อ ... ............................................. พยาน


(..............................................)

ลงชื่อ ร.ต.ท. ................................................พยาน


ล ง ชื่ อ ร .ต .ท . .............................................
พงส./พยาน/บันทึก/อ่าน

You might also like