Professional Documents
Culture Documents
รายงาน
รายงาน
เรื่ อง …การฆ่าตัวตายและมุมมองในศาสนาอิสลาม...
สมาชิก
นายภูริณัฐ พลจร 6513601001550
เสนอโดย
ผูช้ ่วยศาสตราจารย์เกียรติศกั ดิ์ ดวงจันทร์
คํานํา
รายงานฉบับนี้ เป็ นส่ วนหนึ่งของรายวิชา GEHU102 ปรัชญา ศาสนาและพุทธทาสศึกษา จัดทําขึ้นโดยมี
วัตถุประสงค์ให้ผทู ้ ี่สนใจที่จะศึกษาค้นคว้า เรี ยนรู ้เกี่ยวกับการฆ่าตัวตายและมุมมองในศาสนาอิสลามศึกษา
เรี ยนรู ้และค้นคว้าเพื่อประโยชน์ โดยเนื้ อหาประกอบด้วยความหมายของการฆ่าตัวตาย ปัจจัยเสี่ ยง โรค การ
พนัน ฯลฯ เป็ นต้น
ขอขอบคุณผูช้ ่วยศาสตร์ตราจารย์เกียรติศกั ดิ์ ดวงจันทร์ อาจารย์ที่ปรึ กษาที่ได้ให้คาํ แนะนําและให้คาํ ปรึ กษา
ในการจัดทํารายงานฉบับนี้ให้ครบถ้วนสมบูรณ์มากยิง่ ขึ้นผูจ้ ดั ทําหวังเป็ อย่างยิง่ ว่ารายงานฉบับนี้จะเป็ น
ประโยชน์แก่ผทู ้ ี่สนใจที่จะศึกษาค้นคว้าหาความรู ้ไม่มากก็นอ้ ย
คณะผูจ้ ดั ทํา
สมาชิกในกลุ่ม
สารบัญ
เรื่อง หน้ า
คานา A
สารบัญ B
การฆ่าตัวตาย 1
คาจากัดความและปัจจัยเสี่ยง 2-8
โรคทางจิตใจ 9
การใช้ สารเสพติด 10
วิธีการฆ่าตัวตาย 11
ศาสนาอิสลาม 12-16
เชิ งนามธรรม 17
การฆ่ าตัวตาย
การฆ่าตัวตาย หรื อ อัตฆาตกรรม หรื อ อัตวินิบาตกรรม เป็ นการกระทําให้ตนเองถึงแก่ความตายอย่างตั้งใจ
การฆ่าตัวตายมักเกิดจากภาวะซึมเศร้า ซึ่งเกิดจากความผิดปกติทางจิต เช่น โรคซึมเศร้า โรคอารมณ์สองขั้ว
โรคจิตเภท ความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบกํ้ากึ่ง[9] โรคพิษสุรา หรื อการใช้สารเสพติด[4] ปัจจัยที่ทาํ ให้
เกิดความเครี ยดเช่นความลําบากทางการเงิน หรื อปัญหากับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลก็มีส่วนเช่นกัน
ความพยายามป้องกันการฆ่าตัวตายหมายรวมถึงการจํากัดการฆ่าตัวตายด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ปื น และสารพิษ
การรักษาอาการทางจิตและการใช้สารเสพติด และการปรับปรุ งสถานะทางการเงิน แม้วา่ บริ การที่ปรึ กษา
สายด่วนจะมีทวั่ ไป แต่แทบไม่มีหลักฐานว่าวิธีน้ ี จะมีประสิ ทธิภาพ
วิธีการฆ่าตัวตายที่พบได้บ่อยที่สุดแตกต่างกันไปตามประเทศและส่ วนหนึ่งจะขึ้นกับความเป็ นไปได้ วิธีการ
ทัว่ ไปได้แก่ การแขวนคอ การวางยาด้วยสารฆ่าสัตว์รังควาน และอาวุธปื น การฆ่าตัวตายคร่ าชีวิตคน
842,000 คนใน ค.ศ. 2013 ขึ้นจาก 712,000 คนใน ค.ศ. 1990ทําให้เป็ นสาเหตุการตายอันดับที่ 10 ทัว่ โลก
อัตราการฆ่าตัวตายสําเร็จพบในผูช้ ายมากกว่าผูห้ ญิงโดยผูช้ ายมีแนวโน้มฆ่าตัวตายมากกว่าผูห้ ญิง 3-4 เท่า มี
การฆ่าตัวตายที่ไม่ถึงแก่ชีวิตประมาณ 10-20 ล้านครั้งทุกปี ความพยายามฆ่าตัวตายที่ไม่ถึงแก่ชีวิตมัก
ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ และความพิการระยะยาว ความพยายามดังกล่าวนี้มกั พบในคนอายุนอ้ ยและผูห้ ญิง
ทรรศนะที่มีต่อการฆ่าตัวตายมีหลายประเด็น เช่น ด้านศาสนา เกียรติยศ และความหมายของชีวิต ศาสนาอับ
ราฮัมมองการฆ่าตัวตายว่าเป็ นการดูหมิ่นพระเจ้าเนื่องจากความเชื่อเกี่ยวกับสิ่ งศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิต ในยุคซะมุ
ไรในญี่ปุ่น เซ็ปปุกุจดั เป็ นหนึ่งในวิธีการไถ่โทษสําหรับความผิดพลาด หรื อเป็ นการประท้วงรู ปแบบหนึ่ง
พิธีสตี ซึ่งปัจจุบนั เป็ นสิ่ งผิดกฎหมาย คาดหวังให้หญิงม่ายบูชายัญตนเองบนกองฟื นเผาศพของสามี ทั้ง
สมัครใจหรื อจากความกดดันจากครอบครัวและสังคมขณะที่ในอดีต การฆ่าตัวตายและความพยายามฆ่าตัว
ตาย เป็ นอาชญากรรมต้องโทษ แต่ปัจจุบนั ในประเทศตะวันตกมิเป็ นเช่นนั้นแล้ว แต่ยงั ถือว่าเป็ น
อาชญากรรมในหลายประเทศ ในศตวรรษที่ 20 และ 21 มีการฆ่าตัวตายที่เป็ นการบูชายัญตนเองเกิดขึ้นบาง
โอกาสเป็ นสื่ อกลางการะท้วง และคะมิกะเซะและการระเบิดฆ่าตัวตายเกิดขึ้นเป็ นยุทธวิธีทางทหารหรื อการ
ก่อการร้าย
คําจํากัดความ
การฆ่าตัวตาย หรื อการฆ่าตัวตายสมบูรณ์แบบ เป็ น "การกระทําที่ปลิดชีพตน" ความพยายามฆ่าตัว
ตาย หรื อพฤติกรรมเสี ยงต่อการฆ่าตัวตายคือการทําร้ายตนเองโดยมีความปรารถนาว่าจะจบชีวิตตน แต่ไม่ถึง
แก่ความตาย การฆ่าตัวตายแบบมีผชู ้ ่วย เกิดขึ้นเมื่อมีคนคนหนึ่งนําพาความตายมาให้อีกคนอีกคนทางอ้อม
โดยการให้คาํ แนะนําหรื อวิธีการฆ่าตัวตายการฆ่าตัวตาย ซึ่งคนอีกคนมีบทบาทหลักในการนําพาความตาย
มาสู่คนคนหนึ่ง การเกิดความคิดฆ่าตัวตายเป็ นความคิดในการจบชีวิตคนคนหนึ่งแต่ไม่ตอ้ งใช้ความพยายาม
เพื่อทําการดังกล่าว
ปัจจัยเสี่ ยง
3. ปัจจัยด้านสังคม
3.1 การมีเพื่อนที่เคยมีประวัติพยายาม ฆ่าตัวตาย หรือการทาตัวแปลกแยกจากสังคม การศึกษา
longitudinal survey พบว่าการ มีเพื่อนที่มีประวัติฆ่าตัวตาย เพิ่มความเสี่ยงต่อการ พยายามฆ่าตัวตาย ใน
วัยรุ่นชาย วัยรุ่นหญิง เป็ น 1.67 เท่าหรื อการแยกตัวจากสังคม มีความเสี่ยงทาให้ วัยรุ่นหญิง พยายามฆ่า
ตัวตาย 2 เท่า
3.2 การเลียนแบบ (copy cat) สื่ อมีผล ทําให้วยั รุ่ นเกิดการเลียนแบบพฤติกรรมการฆ่าตัวตาย ในเรื่ องวิธีการ
และการที่สื่อแสดงให้เห็นว่าวัยรุ่ นที่ ฆ่าตัวตายได้สาํ เร็จ มีชื่อเสี ยง เป็ นวัยรุ่ นที่ได้รับความ สนใจให้
ความสําคัญ ทําให้วยั รุ่ นอยากฆ่าตัวตายเพื่อ ทําให้ตนมีชื่อเสี ยงด้วย34 มีการศึกษาที่ศึกษาความ สัมพันธ์
ระหว่างสารคดีที่เกี่ยวข้องการฆ่าตัวตาย กับการฆ่าตัวตายของวัยรุ่ น มี systematic review การศึกษาที่มี
รายงานว่าสื่ อมีความเกี่ยวข้องกับการ ฆ่าตัวตาย จํานวน 56 เรื่ อง ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าสื่ อมีผล ต่อการฆ่าตัว
ตาย อย่างไรก็ตาม ผูว้ ิจยั ได้ระบุวา่ รายงาน ที่นาํ มาวิเคราะห์ อาจมีอคติในการรายงาน อีกทั้งไม่ได้ เป็ น
ตัวแทนของข้อมูลการฆ่าตัวตายที่ปรากฎในองค์กร สํานักงานที่รับผิดชอบ และมีแนวโน้มที่อาจจะรายงาน
เกินความเป็ นจริ งเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย เช่น การใช้ วิธีการ ฆ่าตัวตายให้ตายสําเร็ จที่พบได้นอ้ ยในชีวิตจริ ง
โรคทางจิตใจ
โรคทางจิตใจเกิดขึ้น ณ เวลาที่ฆ่าตัวตายด้วยพิสัยตั้งแต่ 27% จนถึงมากกว่า 90%]ใน
บรรดาคนที่เคยเข้ารับการรักษาทางจิต ความเสี่ ยงในการฆ่าตัวตายสําเร็ จในช่วงชีวิตอยูท่ ี่
ประมาณ 8.6%ประชาชนครึ่ งหนึ่งที่เสี ยชีวิตจากการฆ่าตัวตายอาจเป็ นโรคเกี่ยวกับความหดหู่
หากมีโรคทางจิตใจอย่างน้อยหนึ่งชนิด เช่น โรคอารมณ์สองขั้ว เพิ่มความเสี่ ยงที่จะฆ่าตัวตายถึง
20 เท่าโรคอื่น ๆ เช่น โรคจิตเภท (14%) ความผิดปกติดา้ นบุคลิกภาพ (14%)]โรคอารมณ์สองขั้ว
[
และความผิดปกติที่เกิดหลังความเครี ยดที่สะเทือนใจ คนที่เป็ นโรคจิตเภทราว 5% เสี ยชีวิตจาก
การฆ่าตัวตายความผิดปกติเกี่ยวกับการกินเป็ นอีกภาวะหนึ่งที่มีความเสี่ ยงสู ง
ประวัติของความพยายามฆ่าตัวตายเป็ นตัวทํานายการฆ่าตัวตายสมบูรณ์แบบที่ใหญ่ที่สุด
การฆ่าตัวตายประมาณ 20% เคยมีความพยายามฆ่าตัวตายมาก่อน และในจํานวนผูท้ ี่พยายามฆ่า
ตัวตายนั้น มีผทู ้ ี่ฆ่าตัวตายสําเร็ จภายในเวลาหนึ่งปี เพียง 1 %[และฆ่าตัวตายสําเร็ จภายใน 10 ปี
เพียง 5%การกระทําที่เป็ นการทําร้ายตนเองมักไม่ใช่ความพยายามฆ่าตัวตาย และคนที่ทาํ ร้าย
ตนเองส่ วนมากไม่มีความเสี่ ยงที่จะฆ่าตัวตาย คนที่ทาํ ร้ายตนเองบางคนตัดสิ นใจจบชีวิตด้วยการ
ฆ่าตัวตายจริ ง และความเสี่ ยงของการทําร้ายตนเองและการฆ่าตัวตายอาจทับซ้อนกัน
การฆ่าตัวตายสมบูรณ์ประมาณ 80%ผูท้ ี่ฆ่าตัวตายได้พบกับหมอภายในเวลาหนึ่งปี ก่อน
เสี ยชีวิต 45%ของจํานวนนี้พบหมอในหนึ่งเดือนก่อนหน้า ผูท้ ี่ฆ่าตัวตายสําเร็ จประมาณ 25-40%
ใช้บริ การสุ ขภาพจิตในเวลาหนึ่งปี มาก่อน
การใช้สารเสพติด
1. หลักการศรัทธา
2. หลักจริ ยธรรม
3. หลักการปฏิบตั ิ
หลักการศรัทธา
สติปัญญาและสามัญสํานึกจะพบว่า จักรวาลและมวลสรรพสิ่ งทั้งหลายที่มีอยู่ มิได้อุบตั ิข้ นึ มาด้วย
ตัวเอง เป็ นที่แน่ชดั ว่า สิ่ งเหล่านี้ได้ถูกอุบตั ิข้ ึนมาโดยพระผูส้ ร้าง ผูท้ รงสู งสุ ดเพียงพระองค์เดียว ที่ไม่แบ่ง
ภาค หรื อแบ่งแยกเป็ นสิ่ งใด ไม่ถูกบังเกิด ไม่ถูกกําเนิด และไม่ให้กาํ เนิดบุตร ธิดาใด ๆ ผูท้ รงสร้าง และ
บริ หารสรรพสิ่ งด้วยอํานาจและความรอบรู ้ที่ไร้ขอบเขต ทรงกําหนดกฎเกณฑ์ที่โดยทัว่ ไปไม่มีการ
เปลี่ยนแปลงหรื อไว้ทวั่ ทั้งจักรวาลหรื อที่เข้าใจว่าเป็ น"กฎธรรมชาติ" ทรงขับเคลื่อนจักรวาลด้วยระบบที่
ละเอียดอ่อน มีเป้าหมาย ซึ่งไม่มีสรรพสิ่ งใดถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร้สาระ
พระผูเ้ ป็ นเจ้าผูท้ รงเมตตา ทรงสร้างมนุษย์ข้ นึ มาอย่างประเสริ ฐจะเป็ นไปได้อย่างไร ที่พระองค์จะ
ปล่อยให้มนุษย์ดาํ เนินชีวิตอยูไ่ ปตามลําพัง โดยไม่ทรงเหลียวแล หรื อปล่อยให้สังคมมนุ ษย์ และสิ่ งมีชีวิต
กําเนิดขึ้น แล้วดําเนินไปตามยถากรรมของตัวเอง สภาวะแวดล้อมที่สิ่งมีชีวิตดํารงอยูจ่ ึงเป็ นความพอดีอย่าง
ทีสุดที่ผใู ้ ช้ปัญญา ไม่สามารถอธิบายได้ดว้ ย"ความบังเอิญ" สอดคล้องตามทฤษฎีความน่าจะเป็ นทาง
คณิตศาสตร์
พระองค์ทรงขจัดความสงสัยเหล่านี้ ด้วยการประทานกฎการปฏิบตั ิต่าง ๆ ผ่านบรรดาศาสดา ให้มา
สั่งสอนและแนะนํามนุษย์ไปสู่ การปฏิบตั ิ สําหรับการดําเนินชีวิต แน่นอนมนุษย์อาจมองไม่เห็นผล หรื อ
ได้รับประโยชน์จากการทําความดี หรื อได้รับโทษจากการทําชัว่ ของตนในชีวิตบนโลกนี้ ที่เป็ นเพียงโลก
แห่งการทดสอบ โลกแห่งการตอบแทนที่แท้จริ งยังมาไม่ถึง
จากจุดนี้ทาํ ให้เข้าใจได้ทนั ทีวา่ ต้องมีสถานที่อื่นอีก อันเป็ นสถานที่ตรวจสอบการกระทําของมนุษย์
อย่างละเอียดถี่ถว้ น ถ้าเป็ นความดีพวกเขาจะได้รับรางวัลเป็ นผลตอบแทน แต่ถา้ เป็ นความชัว่ ก็จะถูกลงโทษ
ไปตามผลกรรมนั้น ศาสนาได้เชิญชวนมนุษย์ไปสู่ หลักการศรัทธา และความเชื่อมัน่ ที่สัตย์จริ ง พร้อม
พยายามผลักดันมนุษย์ ให้หลุดพ้นจากความโง่เขลาเบาปัญญา ระบอบการกดขี่ การแบ่งชั้นวรรณะ และ
บังเกิดสันติสุขของมนุษยชาติโดยรวมในที่สุด
หลักจริยธรรม
ศาสนาสอนว่า ในการดําเนินชีวิตจงเลือกสรรเฉพาะสิ่ งที่ดี อันเป็ นที่ยอมรับของสังคม จงทําตนให้
เป็ นผูด้ าํ รงอยูใ่ นศีลธรรม พัฒนาตนเองไปสู่การมีบุคลิกภาพที่ดี เป็ นคนที่รู้จกั หน้าที่ ห่วงใย มีเมตตา มีความ
รัก ซื่อสัตย์ต่อผูอ้ ื่น รู ้จกั ปกป้ องสิ ทธิของตน ไม่ละเมิดสิ ทธิของผูอ้ ื่น เป็ นผูม้ ีความเสี ยสละไม่เห็นแก่ตวั และ
หมัน่ ใฝ่ หาความรู ้ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็ นคุณสมบัติของผูม้ ีจริ ยธรรม ซึ่งความสมบูรณ์ท้ งั หมดอยูท่ ี่ความ
ยุติธรรม
หลักการปฏิบัติ
ศาสนาสอนว่า กิจการงานต่าง ๆ ที่จะทํานั้น มีความเหมาะสมกับตนเองและสังคม ขณะเดียวกันต้อง
ออกห่างจากการงานที่ไม่ดี ที่สร้างความเสื่ อมเสี ยอย่างสิ้ นเชิง
ส่ วนการประกอบคุณงามความดีอื่น ๆ การถือศีลอด การนมาซ และสิ่ งที่คล้ายคลึงกับสิ่ งเหล่านี้ เป็ น
การแสดงให้เห็นถึงการเป็ นบ่าวที่จงรักภักดี และปฏิบตั ิตามบัญชาของพระองค์ กฎเกณฑ์และคําสอนของ
ศาสนา ทําหน้าที่คอยควบคุมความประพฤติของมนุษย์ ทั้งที่เป็ นหลักศรัทธา หลักปฏิบตั ิและจริ ยธรรม
เราอาจกล่าวได้วา่ ผูท้ ี่ละเมิดคําสั่งต่าง ๆ ของศาสนา มิได้ถือว่าเขาเป็ นผูท้ ี่ศรัทธาอย่างแท้จริ ง หากแต่
เขากระทําการต่าง ๆ ไปตามอารมณ์และความต้องการใฝ่ ตํ่าของเขาเท่านั้นเอง