Download as doc, pdf, or txt
Download as doc, pdf, or txt
You are on page 1of 4

แก้ปัญหาน้ำรั่ว

1. น้ำฝนจากหลังคาหรือเทอเรสชั้นบน ต้องระวังอะไรข้างล่าง

น้ำคือของเหลวที่มีธรรมชาติต้องไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ หลังคาและเทอเรส ชั้นบนก็เป็ นสิ่งที่อยู่สูง


ดังนั้น น้ำจึงต้องไหลจากหลังคาหรือเทอเรสข้างบนลงมาข้าง ล่างเป็ นธรรมดา เวลาฝนตก ก็จะมีน้ำ
มากมายที่จะไหลโดยตรงจากหลังคาหรือ เทอเรสลงมาข้างล่าง ....แล้วเราไม่น่าจะมีอะไรอยู่ข้างล่าง
ละครับ ก็คงมีอยู่ ๒ อย่าง ที่คิดว่าเราอาจจะต้องวางแผนไว้ล่วงหน้า
๑. ต้นไม้ โดยเฉพาะต้นไม้ขนาดเล็ก เพราะถ้าต้นไม้เหล่านี้โดนน้ำตกลงมา หนักๆเข้า รากก็จะลอย
ออกจากพื้นดินหรือรากก็จะเน่า ดอกไม้ใบไม้ที่ถูก กระแสน้ำกระแทกเข้าก็จะหักงอเหี่ยวเฉา นับว่าไม่
คุ้มจริงๆ
๒. พื้นแข็งๆเรียบๆ เช่น พื้นปูนพื้นถนนเป็ นต้น การที่น้ำตกลงมาแรงๆและ กระทบโดยตรงกับพื้นเหล่า
นี้ น้ำก็จะกระเด็น กระเซ็นออกทางด้านข้าง บาง ครั้งออกไปไกลตั้งหลายเมตร ไปเลอะเทอะจุดต่างๆ
ที่เราไม่อยากจะให้โดน ต้องออกมาเช็ด ทำความสะอาดทุกครั้งหลังฝนตก ซึ่งเป็ นเรื่องที่ไม่สนุกเลย
วิธีการป้องกันแนวที่น้ำเทลงมาจากหลังคาหรือระเบียงเหล่านี้ ก็คือ จัดทำ แนวกรวดหรือหินก้อน
เล็กๆ ที่สามารถระบายน้ำให้ไหลผ่านออกไปได้อยู่ที่ ด้านล่างบริเวณที่น้ำตกลงมา กรวดหรือหินก้อน
เล็กๆนี้จะทำให้น้ำกระเด็น ไปไม่ไกล อีกทั้งยังทำให้น้ำไหลระบายออกไปได้อย่างสะดวกด้วย
2. ดาดฟ้ าน้ำขัง ทำหลังคาคลุมเลยดีไหม

เกือบครึ่งหนึ่งของอาคารพาณิชย์บ้านเรา มักจะมีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับดาด ฟ้า และ ปัญหาใหญ่ อย่าง


หนึ่งก็คือ ปัญหาของ น้ำขังน้ำรั่ว ที่ดาดฟ้า หลายท่านจึงคิดที่ จะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุด้วยวิธีกรรมแบบ
ปลายเหตุ คือ จะทำหลังคาคลุมดาดฟ้าเสีย เลย ทำให้ดาดฟ้า ซึ่งโดยปกติแล้วทำหน้าที่เป็ นหลังคา
คลุมอาคาร เปลี่ยนหน้าที่มา เป็ นตัวอาคารธรรมดาที่มีหลังคา (จริงๆ) คลุมไป ซึ่งนับว่าเป็ นวิธีการ
แก้ไขที่ถูกต้อง และน่าสนใจ แต่การแก้ปัญหาดาดฟ้าน้ำรั่วด้วยการทำหลังคาคลุมนี้ เป็ นการแก้
ปัญหาอันอาจจะไปสร้างปัญหาให้ตนเองอีกอย่างน้อยก็ ๒ ประการ คือ ประการแรก เป็ นปัญหาทาง
ด้านกฎหมาย เพราะการทำ หลังคาคลุมดาดฟ้า นั้นถือว่าเป็ นการก่อสร้างดัดแปลงอาคารอย่างหนึ่ง
และการก่อสร้างดัดแปลงอาคาร ที่มีพื้นที่เกินกว่า ๕ ตารางเมตร หลวงท่านถือว่าจะต้องขออนุญาต
ทำการก่อสร้างดัด แปลง ดังนั้น หากเราก่อสร้างหลังคาคลุมไปเลยโดยไม่ขออนุญาต ก็จะถือว่าเรา
ทำ ผิดกฎหมาย ต้องถูกลงโทษครับ
ปัญหาประการที่สองก็คือ เรื่องความแข็งแรงของโครงสร้าง ทั้งโครงสร้าง ของหลังคาเองและ
โครงสร้างที่จะมารองรับหลังคาของเรา ปัญหาโครงสร้างของ หลังคาก็คือ เราต้องไม่ลืมว่า หลังคาที่
เราใช้คลุมดาดฟ้านั้นเป็ นหลังคาที่อยู่บนที่สูง มีลมพัดผ่านแรงกว่าลมที่พัดในระดับพื้นดินธรรมดา
เมื่อลมพัดแรงและหลังคานั้น เปิดโล่ง ลมก็อาจจะพัดเอาหลังคานั้นลอยขึ้นและเกิดความเสียหาย
เหมือนกับตอน ที่เราเดินกางร่มตอนฝนตกแล้วมีลมพัดแรงๆ บางทีลมก็จะพัดจนตัวเราเกือบจะ ลอย
ขึ้นจากพื้น หรือลมก็จะพัดจนร่มที่เราถือนั้นลอยหลุดไป หรือหากเราจับได้ แม่นมั่น ร่มที่แข็งแรงของ
เราก็อาจจะหักหรือฉีกขาดได้ อาการที่เกิดขึ้นกับร่มนั้นก็ เหมือนกับหลังคาดาดฟ้าของท่าน หาก
ออกแบบหรือก่อสร้างแข็งแรงไม่พอ ก็อาจจะ หลุดลอยหรือแตกหักเสียหายได้ จะเป็ นอันตรายทั้งตัว
ท่านและทั้งอาคารเพื่อนบ้าน ได้ครับ
ส่วนปัญหาความแข็งแรงของโครงสร้างที่รองรับหลังคา ก็เป็ นอีกปัญหาหรือ ข้อควรระวังอีกอย่างหนึ่ง
ทีเดียว เพราะหลังคานั้นมีน้ำหนักไม่น้อย ยิ่งตอนลมพัด ผ่าน ก็จะยิ่งสร้างน้ำหนักดันกดเข้ามาอีก
(ภาษาวิศวกรเขาเรียกว่า Wind Load) ถ้าโครงสร้างของอาคารเราไม่ได้เตรียมการเอาไว้ก่อนล่วง
หน้า อาคารเราก็ใช้โครง สร้างหนักเกินกว่าที่ได้ออกแบบเตรียมการไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะทำให้เกิด
ปัญหาต่อเนื่อง มายังโครงสร้างชั้นอื่นๆของอาคารด้วย
3. อย่าลืมรูระบายน้ำที่วงกบหน้าต่างอลูมิเนียม

สถาปนิก วิศวกร ผู้ก่อสร้าง ทั้งหลายเอย วงกบอลูมิเนียมและวงกบไม้ แม้บางครั้งจะดูคล้ายกัน แต่ความแตก


ต่างที่ชัดเจนก็คือวงกบไม้นั้นเป็ นวัสดุตันๆ แต่วงกบอลูมิเนียมนั้นมันกลวงข้างใน ดังนั้น ยามเมื่อฝนตกหรือมี
น้ำสาดมาที่หน้า ต่างหรือประตู หากเป็ นวงกบไม้ น้ำก็จะไม่มีโอกาสขังอยู่ในตัววงกบ (เพราะเป็ นไม้ ตัน) แต่
ถ้าเป็ นอลูมิเนียมแล้วมีน้ำขังอยู่ (น้ำเข้าได้ทางรูน๊อตต่างๆ หรือการบาก ประกบของกล่องอลูมิเนียม) ก็ต้อง
มั่นใจว่าน้ำเหล่านั้นสามารถที่จะระบาย หรือ Drain ออกสู่ภายนอก (ทางด้านนอกอาคารได้) มิเช่นนั้นน้ำที่ขัง
อยู่จะพยายามวิ่ง ออกมาทางอื่นที่ท่านไม่ประสงค์จะให้มันไหลออกทางนั้น โดยสรุปก็คือ การตรวจสอบ
ความเรียบร้อยของประตูหน้าต่างอลูมิเนียม ในส่วนที่จะถูกน้ำได้ จะต้องพิจารณาตรวจสอบรูหรือช่อง หรือ
ทางระบายน้ำที่จะ ไหลออกมาจากวงกบอลูมิเนียมนั้นด้วยนะ ขอรับ

4. สถาปนิกเอย ....ไม่จำเป็ น อย่ามีวงกบอลูมิเนียมบานเลื่อนเลย .....เด๋อนะ

หน้าต่างหรือประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมเวลาเราเปิดหรือ
ปิด จะเป็ นแรงที่ กระทำทางตั้งและไม่มีแรงเหวี่ยงแบบ
บานเปิดปิดทั่วไป ดังนั้น วงกบอลูมิเนียมจึง ไม่ได้ช่วยใน
การรับแรง ซึ่งเราเองนั้นสามารถออกแบบให้ไม่ต้องมี
วงกบได้ ขอเป็ น เพียงแถบอลูมิเนียมสำหรับรับตัวบาน
และทำร่องไว้ให้บานนั้นเข้าที่ก็พอ ซึ่งจะเกิด ประโยชน์
ตามมาอีก ๓ ประการคือ ประการแรก น่าจะดูสวยงามไม่
เทอะทะ ประการ ที่สอง จะป้องกันน้ำฝนได้ดีกว่า
เนื่องจากมีรอยต่อน้อย (ถ้ามีวงกบก็จะมีรอยต่อ ระหว่าง
วงกับกับผนังและรอยต่อระหว่างวงกบกับบาน แต่ถ้าเป็ น
แถบอย่างเดียว แถมสามารถหุ้มออกมาป้องกันน้ำได้ดี
กว่าวงกบธรรมดา) ประการสุดท้ายก็คือ "ประหยัดเงิน
เจ้าของบ้าน" ได้ เพื่อเขาจะได้มีเงินมาจ่ายค่าวิชาชีพเรา
ยังไงครับ ....ความสุ่มเสี่ยงต่อการชักดาบโดยเจ้าของบ้านใจร้ายก็น่าจะน้อยลง ....โอม เพี้ยงงงงง !!!
5. ท่านอาจจะเลือกวิธี "พกปื น" สู้กับฝนก็ได้ครับ

บ้านหลายหลังที่มีรูมีรอยแตกเล็กๆตามผนังหรือช่อง
หน้าต่าง ตามรอยต่อ ของผนังกับเสาและคาน ซึ่ง
บางครั้งเราไม่มีเวลา (หรืองบประมาณ) ที่จะแก้ไข
ได้ที่ ต้นเหตุ จะตามช่างมาซ่อมแซมหรือก็อาจจะ
ไม่ใช่เรื่องง่ายนักในตอนนี้ แต่ฝนก็จะ มาแล้ว หรือ
กำลังอยู่ในฤดูฝนพอดี หากปล่อยทิ้งไว้ไม่แก้ไข
เฉพาะหน้า น้ำฝนก็ต้อง ไหลเข้ามาทำความรำคาญ
และความเสียหายให้กับท่านแน่นอน ดังนั้น ท่านก็น่า
จะมี วัสดุอุดประสานรอยจำพวกซิลิโคนหรืออาครีลิค
เอาไว้ เพื่ออุดรอยเหล่านี้ ซึ่งท่านน่า จะทำได้ด้วยตัว
เอง (โดยเฉพาะในจังหวะที่เศรษฐกิจไม่ดี) แต่การที่
ท่านจะใช้วัสดุ ประสานที่มีความยืดหยุ่นและอยู่ในหล
อดแข็งๆนี้ได้ ท่านจะต้องมีอุปกรณ์การ "ฉีด" ซึ่ง
ภาษาช่างทั่วไปเขาเรียกกันว่า "ปืน" ซึ่งราคาไม่แพง
เลยครับ .....บางครั้ง ท่านอาจจะต้อง "พกปืน" ไว้ในบ้านของท่านสักชุด เพื่อช่วยเหลือตัวเองในการต่อสู้
ป้องกันน้ำฝนไม่ให้ไหลเข้ามาในบ้านท่าน

You might also like